📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

อภิธมฺมปิฏเก

ปฺจปกรณ-มูลฏีกา

ธาตุกถาปกรณ-มูลฏีกา

คนฺถารมฺภวณฺณนา

ธาตุกถาปกรณํ เทเสนฺโต ภควา ยสฺมึ สมเย เทเสสิ, ตํ สมยํ ทสฺเสตุํ, วิภงฺคานนฺตรํ เทสิตสฺส ปกรณสฺส ธาตุกถาภาวํ ทสฺเสตุํ วา ‘‘อฏฺารสหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ พลวิธมนวิสยาติกฺกมนวเสน เทวปุตฺตมารสฺส, อปฺปวตฺติกรณวเสน กิเลสาภิสงฺขารมารานํ, สมุทยปฺปหานปริฺาวเสน ขนฺธมารสฺส, มจฺจุมารสฺส จ โพธิมูเล เอว ภฺชิตตฺตา ปรูปนิสฺสยรหิตํ นิรติสยํ ตํ ภฺชนํ อุปาทาย ภควา เอว ‘‘มารภฺชโน’’ติ โถมิโต. ตตฺถ มาเร อภฺเชสิ, มารภฺชนํ วา เอตสฺส, น ปรราชาทิภฺชนนฺติ มารภฺชโน. มหาวิกฺกนฺโต มหาวีริโยติ มหาวีโร.

ขนฺธาทโย อรณนฺตา ธมฺมา สภาวฏฺเน ธาตุโย, อภิธมฺมกถาธิฏฺานฏฺเน วาติ กตฺวา เตสํ กถนโต อิมสฺส ปกรณสฺส ธาตุกถาติ อธิวจนํ. ยทิปิ อฺเสุ จ ปกรเณสุ เต สภาวา กถิตา, เอตฺถ ปน เตสํ สพฺเพสํ สงฺคหาสงฺคหาทีสุ จุทฺทสสุ นเยสุ เอเกกสฺมึ กถิตตฺตา สาติสยํ กถนนฺติ อิทเมว เอวํนามกํ. เอกเทสกถนเมว หิ อฺตฺถ กตนฺติ. ขนฺธายตนธาตูหิ วา ขนฺธาทีนํ อรณนฺตานํ สงฺคหาสงฺคหาทโย นยา วุตฺตาติ ตตฺถ มหาวิสยานํ ธาตูนํ วเสน ธาตูหิ กถา ธาตุกถาติ เอวํ อสฺส นามํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ทฺวิธา ติธา ฉธา อฏฺารสธาติ อเนกธา ธาตุเภทํ ปกาเสสีติ ธาตุเภทปฺปกาสโนติ. ตสฺสตฺถนฺติ ตสฺสา ธาตุกถาย อตฺถํ. อ-กาเร อา-การสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. ‘‘ยํ ธาตุกถ’’นฺติ วา เอตฺถ ปกรณนฺติ วจนเสโส สตฺตนฺนํ ปกรณานํ กเมน วณฺณนาย ปวตฺตตฺตาติ เตน โยชนํ กตฺวา ตสฺส ปกรณสฺส อตฺถํ ตสฺสตฺถนฺติ อ-การโลโป วา. นฺติ ตํ ทีปนํ สุณาถ, ตํ วา อตฺถํ ตํทีปนวจนสวเนน อุปธาเรถาติ อตฺโถ. สมาหิตาติ นานากิจฺเจหิ อวิกฺขิตฺตจิตฺตา, อตฺตโน จิตฺเต อาหิตาติ วา อตฺโถ.

คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑. มาติกาวณฺณนา

๑. นยมาติกาวณฺณนา

. โก ปเนตสฺส ปกรณสฺส ปริจฺเฉโทติ? น โส อิธ วตฺตพฺโพ, อฏฺสาลินิยํ (ธ. ส. อฏฺ. นิทานกถา) ปกรณปริจฺเฉโท วุตฺโต เอวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จุทฺทสวิเธน วิภตฺตนฺติ วุตฺต’’นฺติ. ขนฺธาทีนํ เทสนา นียติ ปวตฺตียติ เอเตหิ, ขนฺธาทโย เอว วา นียนฺติ ายนฺติ เอเตหิ ปกาเรหีติ นยา, นยานํ มาติกา อุทฺเทโส, นยา เอว วา มาติกาติ นยมาติกา. เอเตสํ ปทานํ มูลภูตตฺตาติ ‘‘มูลมาติกา’’ติ วตฺตพฺพานํ สงฺคหาสงฺคหาทีนํ จุทฺทสนฺนํ ปทานํ ขนฺธาทิธมฺมวิภชนสฺส อิมสฺส ปกรณสฺส มูลภูตตฺตา นิสฺสยภูตตฺตาติ อตฺโถ.

๒. อพฺภนฺตรมาติกาวณฺณนา

. ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทีหิ รูปกฺขนฺธาทิปทานิ ทสฺสิตานิ, ปฏิจฺจสมุปฺปาทวจเนน จ เยสุ ทฺวาทสสุ องฺเคสุ ปจฺเจกํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทสทฺโท วตฺตติ, ตทตฺถานิ ทฺวาทส ปทานิ ทสฺสิตานีติ เตสํ ตถาทสฺสิตานํ สรูเปเนว ทสฺสิตานํ ผสฺสาทีนฺจ ปทานํ วเสน อาห ‘‘ปฺจวีสาธิเกน ปทสเตนา’’ติ. ตตฺถ กมฺมุปปตฺติกามภวาทีนํ อิธ วิภตฺตานํ ภาวนภวนภาเวน ภเว วิย โสกาทีนํ ชรามรณสฺส วิย อนิฏฺตฺตา ตนฺนิทานทุกฺขภาเวน จ ชรามรเณ อนฺโตคธตาย ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส ทฺวาทสปทตา ทฏฺพฺพา. เอตฺถ จ ปาฬิยํ ภินฺทิตฺวา อวิสฺสชฺชิตานมฺปิ สติปฏฺานาทีนํ ภินฺทิตฺวา คหณํ กโรนฺโต เตสํ ภินฺทิตฺวาปิ วิสฺสชฺชิตพฺพตํ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ.

นยมาติกาทิกา ลกฺขณมาติกนฺตา มาติกา ปกรณนฺตราสาธารณตาย ธาตุกถาย มาติกา นาม, ตสฺสา อพฺภนฺตเร วุตฺโต วิภชิตพฺพานํ อุทฺเทโส อพฺภนฺตรมาติกา นามาติ อิมมตฺถํ ปกาเสนฺโต ‘‘อยฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ อวตฺวาติ ยถา ‘‘สพฺพาปิ…เป… มาติกา’’ติ อยํ ธาตุกถามาติกโต พหิทฺธา วุตฺตา, เอวํ อวตฺวาติ อตฺโถ. ธาตุกถาย อพฺภนฺตเรเยวาติ จ ธาตุกถามาติกาย อพฺภนฺตเรเยวาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตทาเวณิกมาติกาอพฺภนฺตเร หิ ปิตา ตสฺสาเยว อพฺภนฺตเร ปิตาติ วุตฺตา . อถ วา เอวํ อวตฺวาติ ยถา ‘‘สพฺพาปิ…เป… มาติกา’’ติ เอเตน วจเนน ธาตุกถาโต พหิภูตา กุสลาทิอรณนฺตา มาติกา ปกรณนฺตรคตา วุตฺตา, เอวํ อวตฺวาติ อตฺโถ. ธาตุกถาย อพฺภนฺตเรเยวาติ จ อิมสฺส ปกรณสฺส อพฺภนฺตเร เอว สรูปโต ทสฺเสตฺวา ปิตตฺตาติ อตฺโถ. สพฺพสฺส อภิธมฺมสฺส มาติกาย อสงฺคหิตตฺตา วิกิณฺณภาเวน ปกิณฺณกตา เวทิตพฺพา.

๓. นยมุขมาติกาวณฺณนา

. นยานํ ปวตฺติทฺวารภูตา สงฺคหาสงฺคหวิโยคีสหโยคีธมฺมา นยมุขานีติ เตสํ อุทฺเทโส นยมุขมาติกา. จุทฺทสปิ หิ สงฺคหาสงฺคหสมฺปโยควิปฺปโยคานํ โวมิสฺสกตาวเสน ปวตฺตาติ เยหิ เต จตฺตาโรปิ โหนฺติ, เต ธมฺมา จุทฺทสนฺนมฺปิ นยานํ มุขานิ โหนฺตีติ. ตตฺถ สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทาทีสุ สจฺจาทีหิปิ ยถาสมฺภวํ สงฺคหาสงฺคโห ยทิปิ วุตฺโต, โส ปน สงฺคาหกภูเตหิ เตหิ วุตฺโต, น สงฺคหภูเตหิ, โสปิ ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา อายตนสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติอาทินา ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพธมฺมุทฺธาเร ตตฺถาปิ ขนฺธาทีเหว สงฺคเหหิ นิยเมตฺวา วุตฺโต, ตสฺมา ‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห’’ติ วุตฺตํ. ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพธมฺมุทฺธาเรปิ ปน ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนสุ จ รูปกฺขนฺธาทีนํ อรณนฺตานํ ยถาสมฺภวํ สมฺปโยควิปฺปโยคา จตูเหว ขนฺเธหิ โหนฺตีติ ‘‘จตูหิ สมฺปโยโค,จตูหิ วิปฺปโยโค’’ติ วุตฺตํ.

นนุ จ วิปฺปโยโค รูปนิพฺพาเนหิปิ โหติ, กสฺมา ‘‘จตูหิ วิปฺปโยโค’’ติ วุตฺตนฺติ? รูปนิพฺพาเนหิ ภวนฺตสฺสปิ จตูเหว ภาวโต. น หิ รูปํ รูเปน นิพฺพาเนน วา วิปฺปยุตฺตํ โหติ, นิพฺพานํ วา รูเปน, จตูเหว ปน ขนฺเธหิ โหตีติ จตุนฺนํ ขนฺธานํ รูปนิพฺพาเนหิ วิปฺปโยโคปิ วิปฺปยุชฺชมาเนหิ จตูหิ ขนฺเธหิ นิยมิโต เตหิ วินา วิปฺปโยคาภาวโต. โส จายํ วิปฺปโยโค อนารมฺมณสฺส, อนารมฺมณอนารมฺมณมิสฺสเกหิ มิสฺสกสฺส จ น โหติ, อนารมฺมณสฺส ปน มิสฺสกสฺส จ สารมฺมเณน, สารมฺมณสฺส สารมฺมเณน อนารมฺมเณน มิสฺสเกน จ โหตีติ เวทิตพฺโพ.

๔. ลกฺขณมาติกาวณฺณนา

. สงฺคโหเยว สงฺคหนโย. สภาโค. วิสภาโคติ เอตสฺส ‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห’’ติ เอเตน, ‘‘จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโค’’ติ เอเตนปิ วิสุํ โยชนา กาตพฺพา. เตน สงฺคโห อสงฺคโห จ สภาโค วิสภาโค จ ภาโว, ตถา สมฺปโยโค วิปฺปโยโค จาติ อยมตฺโถ วิฺายติ. ยสฺส วา สงฺคโห จ อสงฺคโห จ, โส ธมฺโม สภาโค วิสภาโค จ, ตถา ยสฺส สมฺปโยโค วิปฺปโยโค จ, โสปิ สภาโค วิสภาโค จาติ. ตตฺถ เยน รูปกฺขนฺโธ…เป… มโนวิฺาณธาตูติ ธมฺมา คณนํ คจฺฉนฺติ, โส รุปฺปนาทิโก สมานภาโว สงฺคเห สภาคตา, เอกุปฺปาทาทิโก สมฺปโยเค เวทิตพฺโพ.

๕. พาหิรมาติกาวณฺณนา

. เอวํ ธาตุกถาย มาติกโต พหิ ปิตตฺตาติ ‘‘สพฺพาปิ…เป… มาติกา’’ติ เอเตน ปนากาเรน พหิ ปิฏฺิโต ปิตตฺตาติ อตฺโถ. เอเตน วา ปนากาเรน กุสลาทีนํ อรณนฺตานํ อิธ อฏฺเปตฺวา ธาตุกถาย มาติกโต พหิ ปกรณนฺตรมาติกาย อิมสฺส ปกรณสฺส มาติกาภาเวน ปิตตฺตา ตถา ปกาสิตตฺตาติ อตฺโถ.

สงฺคโห อสงฺคโหติอาทีสุ สงฺคโห เอกวิโธว, โส กสฺมา ‘‘จตุพฺพิโธ’’ติ วุตฺโตติ? สงฺคโหติ อตฺถํ อวตฺวา อนิทฺธาริตตฺถสฺส สทฺทสฺเสว วุตฺตตฺตา. สงฺคโห อสงฺคโหติอาทีสุ สทฺเทสุ สงฺคหสทฺโท ตาว อตฺตโน อตฺถวเสน จตุพฺพิโธติ อยฺเหตฺถตฺโถ. อตฺโถปิ วา อนิทฺธาริตวิเสโส สามฺเน คเหตพฺพตํ ปตฺโต ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติอาทีสุ ‘‘สงฺคโห’’ติ วุตฺโตติ น โกจิ โทโส. นิทฺธาริเต หิ วิเสเส ตสฺส เอกวิธตา สิยา, น ตโต ปุพฺเพติ. ชาติสทฺทสฺส สาเปกฺขสทฺทตฺตา ‘‘ชาติยา สงฺคโห’’ติ วุตฺเต ‘‘อตฺตโน ชาติยา’’ติ วิฺายติ สมฺพนฺธารหสฺส อฺสฺส อวุตฺตตฺตาติ ชาติสงฺคโหติ รูปกณฺเฑ วุตฺโต สชาติสงฺคโห วุตฺโต โหติ.

เอตฺถ นยมาติกาย ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห, สมฺปโยโค วิปฺปโยโค’’ติ อิเม ทฺเว ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพธมฺมวิเสสํ อนิทฺธาเรตฺวา สามฺเน ธมฺมานํ ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนนยอุทฺเทสา, อวเสสา นิทฺธาเรตฺวา. ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิต’’นฺติ หิ ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ อสงฺคหิต’’นฺติ วตฺตพฺเพ เอกสฺส อสงฺคหิตสทฺทสฺส โลโป ทฏฺพฺโพ. เตน สงฺคหิตวิเสสวิสิฏฺโ โย อสงฺคหิโต ธมฺมวิเสโส, ตนฺนิสฺสิโต อสงฺคหิตตาสงฺขาโต ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนนโย อุทฺทิฏฺโ โหติ, ‘‘สงฺคหิเตนา’’ติ จ วิเสสเน กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย ตติยาทีสุ ทสมาวสาเนสุ นยุทฺเทเสสุ ฉฏฺวชฺเชสุ. เตสุปิ หิ วุตฺตนเยน ทฺวีหิ ทฺวีหิ ปเทหิ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพธมฺมวิเสสนิทฺธารณํ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ อนฺติมปทสทิเสน ตติยปเทน ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนนยา อุทฺทิฏฺาติ. ตตฺถ จตุตฺถปฺจเมสุ กตฺตุอตฺเถ กรณนิทฺเทโส, สตฺตมาทีสุ จ จตูสุ สหโยเค ทฏฺพฺโพ, น ทุติยตติเยสุ วิย สมานาธิกรเณ วิเสสเน. ตตฺถ หิ สภาวนฺตเรน สภาวนฺตรสฺส วิเสสนํ กตํ, เอเตสุ ธมฺมนฺตเรน ธมฺมนฺตรสฺสาติ. เอกาทสมาทีสุ ปน จตูสุ อาทิปเทเนว ธมฺมวิเสสนิทฺธารณํ กตฺวา อิตเรหิ ปุจฺฉนวิสฺสชฺชนนยา อุทฺทิฏฺา. วิเสสเน เอว เจตฺถ กรณวจนํ ทฏฺพฺพํ. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานฺหิ นิสฺสยภูตา ธมฺมา สงฺคหิตตาทิวิเสเสน กรณภูเตน สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตาทิภาวํ อตฺตโน วิเสเสนฺตีติ.

วิกปฺปโตติ วิวิธกปฺปนโต, วิภาคโตติ อตฺโถ. สนฺนิฏฺานวเสนาติ อธิโมกฺขสมฺปโยควเสน. สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตา จ สพฺเพ จ จิตฺตุปฺปาทา สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตสพฺพจิตฺตุปฺปาทา, เตสํ สาธารณวเสนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อธิโมกฺโข หิ สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตานํ จิตฺตุปฺปาทานํ สาธารณวเสน วุตฺโต, อิตเร สพฺเพสนฺติ. ตตฺถ สาธารณา ปสฏา ปากฏา จาติ อาทิโต ปริคฺคเหตพฺพา, ตสฺมา เตสํ สงฺคหาทิปริคฺคหตฺถํ อุทฺเทโส กโต, อสาธารณาปิ ปน ปริคฺคเหตพฺพาวาติ เตสุ มหาวิสเยน อฺเสมฺปิ สงฺคหาทิปริคฺคหํ ทสฺเสตุํ อธิโมกฺโข อุทฺทิฏฺโ. ‘‘สนฺนิฏฺานวเสน วุตฺตา’’ติ จ ธมฺมสงฺคหวณฺณนายํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺเค จ วจนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สนฺนิฏฺานวเสน เย วุตฺตา, เตสํ สพฺเพสํ สาธารณโตติ ปน อตฺเถ สติ สาธารณาสาธารเณสุ วตฺตพฺเพสุ โย อสาธารเณสุ มหาวิสโย อธิโมกฺโข, ตสฺส วเสน วุตฺตสพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณโต ผสฺสาทโย สพฺพสาธารณาติ อธิโมกฺโข จ อสาธารเณสุ มหาวิสโยติ กตฺวา วุตฺโต อฺสฺส ตาทิสสฺส อภาวาติ อยมธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ.

ชีวิตินฺทฺริยํ ปเนตฺถ รูปมิสฺสกตฺตา น วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ, จิตฺเตกคฺคตา ปน อสมาธิสภาวา สามฺสทฺเทเนว สามฺวิเสสสทฺเทหิ จ สมาธิสภาวา วิเสสสทฺทวจนียํ อฺํ พฺยาเปตพฺพํ นิวตฺเตตพฺพฺจ นตฺถีติ อนฺพฺยาปกนิวตฺตกสามฺวิเสสทีปนโต ตสฺเสว ธมฺมสฺส เภททีปเกหิ วตฺตพฺพา, น สุขาทิสภาวา เวทนา วิย วุตฺตลกฺขณวิปรีเตหิ สามฺวิเสสสทฺเทเหว, ตสฺมา ‘‘จิตฺเตกคฺคตา’’ติ อยํ สามฺสทฺโท สมาธิสภาเว วิเสสสทฺทนิรเปกฺโข ปวตฺตมาโน สยเมว วิเสสสทฺทมาปชฺชิตฺวา อสมาธิสภาวเมว ปกาเสยฺย, อิตโร จ สมาธิสภาวเมวาติ ทฺวิธา ภินฺนา จิตฺเตกคฺคตา อสาธารณา เจว อปฺปวิสยา จาติ อิธ อุทฺเทสํ น อรหติ. อภินฺนาปิ วา ผสฺสาทีนํ วิย ปากฏตฺตาภาวโต อฺธมฺมนิสฺสเยน วตฺตพฺพโต จ สา ชีวิตฺจ น อรหตีติ น อุทฺทิฏฺาติ.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นิทฺเทสวณฺณนา

๑. ปมนโย สงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา

๑. ขนฺธปทวณฺณนา

. ขนฺธายตนธาตุโยมหนฺตเร อภิฺเยฺยธมฺมภาเวน วุตฺตา, เตสํ ปน สภาวโต อภิฺาตานํ ธมฺมานํ ปริฺเยฺยตาทิวิเสสทสฺสนตฺถํ สจฺจานิ, อธิปติยาทิกิจฺจวิเสสทสฺสนตฺถํ อินฺทฺริยาทีนิ จ วุตฺตานีติ สจฺจาทิวิเสโส วิย สงฺคหาสงฺคหวิเสโส จ อภิฺเยฺยนิสฺสิโต วุจฺจมาโน สุวิฺเยฺโย โหตีติ ‘‘ตีหิ สงฺคโห. ตีหิ อสงฺคโห’’ติ นยมุขมาติกา ปิตาติ เวทิตพฺพา. เอวฺจ กตฺวา ‘‘จตูหี’’ติ วุตฺตา สมฺปโยควิปฺปโยคา จ อภิฺเยฺยนิสฺสเยน ขนฺธาทีเหว ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชิตาติ. รูปกฺขนฺโธ เอเกน ขนฺเธนาติ เย ธมฺมา ‘‘รูปกฺขนฺโธ’’ติ วุจฺจนฺติ, เตสํ ปฺจสุ ขนฺเธสุ รูปกฺขนฺธภาเวน สภาคตา โหตีติ รูปกฺขนฺธภาวสงฺขาเตน, รูปกฺขนฺธวจนสงฺขาเตน วา คณเนน สงฺคหํ คณนํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ยฺหิ กิฺจี’’ติอาทิ. รูปกฺขนฺโธติ หิ สงฺคหิตพฺพธมฺโม ทสฺสิโต. เยน สงฺคเหน สงฺคยฺหติ, ตสฺส สงฺคหสฺส ทสฺสนํ ‘‘เอเกน ขนฺเธนา’’ติ วจนํ. ปฺจสุ ขนฺธคณเนสุ เอเกน ขนฺธคณเนน คณิโตติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. ยสฺมา จ ขนฺธาทิวจเนหิ สงฺคโห วุจฺจติ, ตสฺมา อุปริ ‘‘ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติอาทึ วกฺขตีติ.

อสงฺคหนยนิทฺเทเสติ อิทํ ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติ เอตสฺเสว นยสฺส เอกเทสนยภาเวน วุตฺตํ, น นยนฺตรตายาติ ทฏฺพฺพํ. รูปกฺขนฺธมูลกาเยว เจตฺถ ทุกติกจตุกฺกา ทสฺสิตาติ เอเตน เวทนากฺขนฺธมูลกา ปุริเมน โยชิยมาเน วิเสโส นตฺถีติ ปจฺฉิเมเหว โยเชตฺวา ตโย ทุกา ทฺเว ติกา เอโก จตุกฺโก, สฺากฺขนฺธมูลกา ทฺเว ทุกา เอโก ติโก, สงฺขารกฺขนฺธมูลโก เอโก ทุโกติ เอเต ลพฺภนฺตีติ ทสฺเสติ. เตสํ ปน เภทโต ปฺจกปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานนฺตรํ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนํ กาตพฺพํ สํขิตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, วุตฺตนเยน วา สกฺกา าตุนฺติ ปาฬึ น อาโรปิตนฺติ.

อายตนปทาทิวณฺณนา

๔๐. ยสฺมาจ ทุกติเกสูติ ยทิปิ เอกเกปิ สทิสํ วิสฺสชฺชนํ, เอกเก ปน สทิสวิสฺสชฺชนานํ จกฺขุนฺทฺริยโสตินฺทฺริยสุขินฺทฺริยาทีนํ ทุกาทีสุ อสทิสวิสฺสชฺชนํ ทิฏฺํ. น เหตฺถ จกฺขุโสตจกฺขุสุขินฺทฺริยทุกานํ อฺมฺสทิสวิสฺสชฺชนํ, นาปิ ทุเกหิ ติกสฺส, อิธ ปน ทุกฺขสมุทยทุกฺขมคฺคทุกานํ อฺมฺํ ติเกน จ สทิสํ วิสฺสชฺชนนฺติ ทุกติเกสฺเวว สทิสวิสฺสชฺชนตํ สมุทยานนฺตรํ มคฺคสจฺจสฺส วจเน การณํ วทติ.

๖. ปฏิจฺจสมุปฺปาทวณฺณนา

๖๑. ‘‘ปุจฺฉํ อนารภิตฺวา อวิชฺชา เอเกน ขนฺเธน, อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา เอเกน ขนฺเธนา’’ติ ลิขิตพฺเพปิ ปมาทวเสน ‘‘อวิชฺชา เอเกน ขนฺเธนา’’ติ อิทํ น ลิขิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สรูเปกเสสํ วา กตฺวา อวิชฺชาวจเนน อวิชฺชาวิสฺสชฺชนํ ทสฺสิตนฺติ. สพฺพมฺปิ วิปากวิฺาณนฺติ เอตฺถ วิปากคฺคหเณน วิเสสนํ น กาตพฺพํ. กุสลาทีนมฺปิ หิ วิฺาณานํ ธาตุกถายํ สงฺขารปจฺจยาวิฺาณาทิปเทหิ สงฺคหิตตา วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทนิทฺเทเส ‘‘วิปากา ธมฺมา’’ติ อิมสฺส วิสฺสชฺชนาสทิเสน เตสํ วิสฺสชฺชเนน ทสฺสิตา, อิธ จ นามรูปสฺส เอกาทสหายตเนหิ สงฺคหวจเนน อกมฺมชานมฺปิ สงฺคหิตตา วิฺายตีติ.

๗๑. ชายมานปริปจฺจมานภิชฺชมานานํ ชายมานาทิภาวมตฺตตฺตา ชาติชรามรณานิ ปรมตฺถโต วินิพฺภุชฺชิตฺวา อนุปลพฺภมานานิ ปรมตฺถานํ สภาวมตฺตภูตานิ, ตานิ รูปสฺส นิพฺพตฺติปากเภทภูตานิ รุปฺปนภาเวน คยฺหนฺตีติ รูปกฺขนฺธธมฺมสภาคานิ, อรูปานํ ปน นิพฺพตฺติอาทิภูตานิ รูปกลาปชาติอาทีนิ วิย สหุปฺปชฺชมานจตุกฺขนฺธกลาปนิพฺพตฺติอาทิภาวโต เอเกกภูตานิ เวทิยนสฺชานนวิชานเนหิ เอกนฺตปรมตฺถกิจฺเจหิ อคยฺหมานานิ สงฺขตาภิสงฺขรเณน อเนกนฺตปรมตฺถกิจฺเจน คยฺหนฺตีติ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมสภาคานิ, ตถา ทุวิธานิปิ ตานิ จกฺขายตนาทีหิ เอกนฺตปรมตฺถกิจฺเจหิ อคยฺหมานานิ นิสฺสตฺตฏฺเน ธมฺมายตนธมฺมธาตุธมฺเมหิ สภาคานิ, เตน เตหิ ขนฺธาทีหิ สงฺคยฺหนฺตีติ ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหี’’ติอาทิมาห.

ปมนยสงฺคหาสงฺคหปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยนโย สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๗๑. สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทนิทฺเทเส ยํ ตํ อุทฺเทเส อสงฺคหิตตาย ปุจฺฉิตพฺพํ วิสฺสชฺชิตพฺพฺจ สงฺคหิตตาวิสิฏฺํ อสงฺคหิตํ ธมฺมชาตํ นิทฺธาริตํ, ตเทว ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา อายตนธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติ อาห. สพฺพตฺถ ขนฺธาทิสงฺคหสามฺานํ นิจฺจํ วิเสสาเปกฺขตฺตา เภทนิสฺสิตตฺตา จ ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานํ สวิเสสาว ขนฺธาทิคณนา สุทฺธา. ตตฺถ สงฺคหิเตนอสงฺคหิตวจนมตฺเตน ธมฺมวิเสสสฺส นิทฺธาริตตฺตา ตีสุ สงฺคเหสุ เอเกน ทฺวีหิ วา เย สงฺคหิตา หุตฺวา อฺเหิ อสงฺคหิตา, เตเยว ธมฺมา ‘‘ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา อายตนธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา’’ติ เอตฺตเกเนว ทสฺเสตพฺพา สิยุํ, เตสํ ปน เอวํวิธานํ อสมฺภวา นยมาติกาย จ อพฺภนฺตรพาหิรมาติกาเปกฺขตฺตา อุทฺเทเสปิ ยํ ยํ รูปกฺขนฺธาทีสุ อรณนฺเตสุ สงฺคาหกํ, ตํ ตํ อเปกฺขิตฺวา สงฺคหิเตนอสงฺคหิตํ นิทฺธาริตนฺติ วิฺายตีติ เตน เตน สงฺคาหเกน ยถานิทฺธาริตํ ธมฺมํ นิยเมตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘จกฺขายตเนนา’’ติอาทิมาห. ยตฺถ หิ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพธมฺมวิเสสนิทฺธารณํ นตฺถิ, ตสฺมึ ปมนเย ฉฏฺนเย จ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพภาเวน, อิตเรสุ จ ยํ ยํ ปุจฺฉิตพฺพวิสฺสชฺชิตพฺพํ นิทฺธาริตํ, ตสฺส ตสฺส นิยามกภาเวน รูปกฺขนฺธาทโย อรณนฺตา อุทฺทิฏฺาติ.

ตตฺถ ‘‘จกฺขายตเนน…เป… โผฏฺพฺพธาตุยา’’ติ กตฺตุอตฺเถ กรณนิทฺเทโส ทฏฺพฺโพ, ‘‘ขนฺธสงฺคเหน อายตนสงฺคเหน ธาตุสงฺคเหนา’’ติ กรณตฺเถ. เอตฺถ จ เยน เยน สงฺคาหเกน ขนฺธาทิสงฺคเหสุ เตน เตน สงฺคเหตพฺพาสงฺคเหตพฺพํ อฺํ อตฺถิ, ตํ ตเทว สงฺคาหกาสงฺคาหกภาเวน อุทฺธฏํ. รูปกฺขนฺเธน ปน ขนฺธสงฺคเหน สงฺคเหตพฺโพ อฺโ ธมฺโม นตฺถิ, ตถา เวทนากฺขนฺธาทีหิ , น จ โส เอว ตสฺส สงฺคาหโก อสงฺคาหโก วา โหติ. ยฺจ ‘‘รูปกฺขนฺโธ เอเกน ขนฺเธน สงฺคหิโต’’ติ วุตฺตํ, ตฺจ น ตสฺเสว เตน สงฺคหิตตํ สนฺธาย วุตฺตํ, รูปกฺขนฺธภาเวน ปน รูปกฺขนฺธวจเนน วา คหิตตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ปกาสิโตยมตฺโถ.

ยทิ จ โส เอว เตน สงฺคยฺเหยฺย, สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส – ‘‘เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา อายตนสงฺคเหน สงฺคหิตา ธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ สมฺปยุตฺตา’’ติอาทิ วตฺตพฺพํ สิยา, น จ วุตฺตํ, ตสฺมา ยถา จิตฺตํ จิตฺเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตฺจ น โหติ, เอวํ รูปกฺขนฺโธ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิโต อสงฺคหิโต จ น โหติ, ตถา เวทนากฺขนฺธาทโย เวทนากฺขนฺธาทีหิ. น หิ โส เอว ตสฺส สภาโค วิสภาโค จาติ. เตเนว น เอกเทสา วิย สมุทายสฺส, สมุทาโย เอกเทสานํ สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ. ยถา รูปกฺขนฺโธ จกฺขายตนาทีนํ, ธมฺมายตนํ เวทนากฺขนฺธาทีนํ, สรณา ธมฺมา จตุนฺนํ ขนฺธานํ. สมุทายนฺโตคธานฺหิ เอกเทสานํ น วิภาโค อตฺถิ, เยน เต สมุทายสฺส สมุทาโย จ เตสํ สภาโค วิสภาโค จ สิยาติ, ตถา น สมุทาโย เอกเทสสภาควิสภาคานํ สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ. ยถา ธมฺมายตนํ สุขุมรูปสภาคสฺส เวทนาทิวิสภาคสฺส จ รูปกฺขนฺเธกเทสสฺส ขนฺธสงฺคเหน, ชีวิตินฺทฺริยํ รูปารูปชีวิตสภาควิสภาคสฺส รูปกฺขนฺเธกเทสสฺส สงฺขารกฺขนฺเธกเทสสฺส จ ชีวิตวชฺชสฺส ขนฺธสงฺคเหเนว. น หิ เอกเทสสภาคํ สมุทายสภาคํ, นาปิ เอกเทสวิสภาคํ สมุทายวิสภาคนฺติ, ตสฺมา สติปิ อตฺตโต อตฺตนิ อนฺโตคธโต อตฺเตกเทสสภาคโต จ อฺสฺส อสงฺคาหกตฺเต สงฺคาหกตฺตเมว เอเตสํ นตฺถิ, เยน สงฺคหิตสฺส อสงฺคาหกา สิยุนฺติ สงฺคาหกตฺตาภาวโต เอว เอวรูปานํ อคฺคหณํ เวทิตพฺพํ.

ยํ ปน ‘‘ธมฺมายตนํ อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา จตูหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๒๕), ‘‘จกฺขายตนฺจ โสตายตนฺจ เอเกน ขนฺเธน สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๒๖) จ วุตฺตํ, น เตน เอกเทสานํ สมุทายสงฺคาหกตฺตํ, สมุทายสฺส จ เอกเทสสงฺคาหกตฺตํ ทสฺเสติ, จตุกฺขนฺธคณนเภเทหิ ปน ธมฺมายตนสฺส คเณตพฺพาคเณตพฺพภาเวน ปฺจธา ภินฺนตํ, จกฺขายตนาทีนํ เอกกฺขนฺธคณเนน คเณตพฺพตาย เอกวิธตฺจ ทสฺเสติ. สงฺคาหกาสงฺคาหกนิรเปกฺขานํ คเณตพฺพาคเณตพฺพานํ ตํตํคณเนหิ คณนทสฺสนมตฺตเมว หิ ปมนโย กมฺมกรณมตฺตสพฺภาวา, ทุติยาทโย ปน สงฺคาหกาสงฺคาหเกหิ สงฺคหิตาสงฺคหิตานํ อคณนาทิทสฺสนานิ กตฺตุกรณกมฺมตฺตยสพฺภาวา . ตถา ปมนเย ตถา ตถา คเณตพฺพาคเณตพฺพภาวสงฺขาโต ตํตํขนฺธาทิภาวาภาโว สภาควิสภาคตา , ทุติยาทีสุ ยถานิทฺธาริตธมฺมทสฺสเน สงฺคาหกสงฺคเหตพฺพานํ สมานกฺขนฺธาทิภาโว สภาคตา, ตทภาโว จ วิสภาคตา. ปุจฺฉาวิสฺสชฺชเนสุ ตํตํขนฺธาทิภาวาภาโว เอวาติ อยเมเตสํ วิเสโสติ.

สมุทยสจฺจสุขินฺทฺริยสทิสานิ ปน เตหิ สงฺคเหตพฺพเมว อตฺถิ, น สงฺคหิตํ อสงฺคเหตพฺพนฺติ อสงฺคาหกตฺตาภาวโต น อุทฺธฏานิ. ทุกฺขสจฺจสทิสานิ เตหิ วิสภาคสมุทายภูเตหิ อเนกกฺขนฺเธหิ ขนฺธสงฺคเหน สงฺคเหตพฺพํ, อิตเรหิ อสงฺคเหตพฺพฺจ นตฺถีติ สงฺคาหกตฺตาสงฺคาหกตฺตาภาวโต. เอวํ สงฺคาหกตฺตาภาวโต อสงฺคาหกตฺตาภาวโต อุภยาภาวโต จ ยถาวุตฺตสทิสานิ อนุทฺธริตฺวา สงฺคาหกตฺตาสงฺคาหกตฺตภาวโต จกฺขายตนาทีเนว อุทฺธฏานีติ เวทิตพฺพานิ. ตตฺถ ‘‘จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา’’ติ จกฺขายตนวชฺชา รูปธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา, น รูปกฺขนฺโธติ. น หิ เอกเทโส สมุทายสงฺคาหโกติ ทสฺสิตเมตนฺติ.

อฏฺกถายํ ปน ขนฺธปเทนาติ ขนฺธปทสงฺคเหนาติ อตฺโถ, น สงฺคาหเกนาติ. ‘‘เกนจิ สงฺคาหเกนา’’ติ อิทํ ปน อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ. ตํ ปน รูปกฺขนฺธาทีสุ น ยุชฺชตีติ ตํ วิสฺสชฺชนํ รูปกฺขนฺธาทีสุ สงฺคาหเกสุ น ยุชฺชตีติ อตฺโถ. รูปกฺขนฺเธน หิ…เป… สงฺคหิโตติ เอเตน นเยน จกฺขายตเนน รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโต, โส จ อฑฺเฒกาทสหิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิโต นาม นตฺถีติ เอวํ จกฺขายตนาทีนิปิ น คเหตพฺพานีติ อาปชฺชตีติ เจ? นาปชฺชติ. น หิ อฺมตฺตนิวารณํ เอวสทฺทสฺส อตฺโถ, อถ โข สงฺคาหกโต อฺนิวารณํ. โส จาติอาทิ จ น นิรเปกฺขวจนํ, อถ โข สงฺคาหกาเปกฺขนฺติ. กถํ? รูปกฺขนฺเธน หิ รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโตติ ยถา จกฺขายตเนน จกฺขายตนโต อฺมฺปิ ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตํ อตฺถิ, ยํ อายตนธาตุสงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ โหติ, น เอวํ รูปกฺขนฺเธน รูปกฺขนฺธโต อฺํ ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตํ อตฺถิ, ยํ อายตนธาตุสงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ สิยา, รูปกฺขนฺเธน ปน รูปกฺขนฺโธว ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิโตติ อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต. สิยา ปเนตํ ‘‘โส เอว รูปกฺขนฺโธ รูปกฺขนฺเธน อายตนธาตุสงฺคเหหิ อสงฺคหิโต โหตู’’ติ, ตํ นิวาเรนฺโต อาห ‘‘โส จ อฑฺเฒกาทสหิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิโต นาม นตฺถี’’ติ . เอตฺถ จ ‘‘รูปกฺขนฺเธนา’’ติ อาเนตฺวา วตฺตพฺพํ. ตตฺถ รูปกฺขนฺโธ รูปกฺขนฺธสฺส วา ตเทกเทสานํ วา จกฺขาทีนํ อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคาหโก อสงฺคาหโก จ น โหตีติ อิมินา ปริยาเยน อสงฺคหิตตาย อภาโว วุตฺโตติ ยุชฺชติ, น รูปกฺขนฺเธน รูปกฺขนฺธสฺส ตเทกเทสานํ วา อฑฺเฒกาทสหิ อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคหิตตาย. น หิ สา สงฺคหิตตา อตฺถิ. ยทิ สิยา, สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺโธปิ อุทฺธริตพฺโพ สิยา. เตน หิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ รูปกฺขนฺโธ ตเทกเทโส วา สงฺคหิตา สิยุํ, อตฺถิ จ เตสํ วิปฺปยุตฺตตาติ.

เอวํ อสงฺคหิตตาย อภาวโต เอตานิ, อฺานิ จาติ เอตฺถาปิ จกฺขายตนาทีหิ วิย เอเตหิ อฺเหิ จ สงฺคหิตานํ อสงฺคหิตตาย อภาวโต เอตานิ อฺานิ จ ยถา วา ตถา วา เอตานิ วิย อยุชฺชมานวิสฺสชฺชนตฺตา เอวรูปานิ ปทานิ สงฺคาหกภาเวน น คหิตานีติ อธิปฺปาโย.

ตตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘รูปกฺขนฺเธน หิ รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโต’’ติ, ตํ เตเนว ตสฺส สงฺคหิตตฺตาสงฺคหิตตฺตาภาวทสฺสเนน นิวาริตํ. ยฺเหตฺถ อคฺคหเณ การณํ วุตฺตํ, ตฺจ สติปิ สงฺคหิตตฺเต อสงฺคหิตตาย อภาวโตติ วิฺายมานํ สมุทยสจฺจาทีสุ ยุชฺเชยฺย สติ เตหิ สงฺคหิเต ตทสงฺคหิตตฺตาภาวโต. รูปกฺขนฺธาทีหิ ปน สงฺคหิตเมว นตฺถิ, กุโต ตสฺส อสงฺคหิตตา ภวิสฺสติ, ตสฺมา สงฺคาหกตฺตาภาโว เอเวตฺถ อคฺคหเณ การณนฺติ ยุตฺตํ. สงฺคหิตตฺตาภาเวน อสงฺคหิตตฺตํ ยทิปิ รูปกฺขนฺธาทินา อตฺตโน อตฺตนิ อนฺโตคธสฺส อตฺเตกเทสสภาคสฺส จ นตฺถิ, อฺสฺส ปน อตฺถีติ น ทุกฺขสจฺจาทีสุ วิย อุภยาภาโว เจตฺถ อคฺคหเณ การณํ ภวิตุํ ยุตฺโตติ. ธมฺมายตนชีวิตินฺทฺริยาทีนฺจ ขนฺธจตุกฺกทุกาทิสงฺคาหกตฺเต สติ น เตสํ สงฺคหิตานํ เตหิ ธมฺมายตนชีวิตินฺทฺริยาทีหิ อายตนธาตุสงฺคเหหิ อสงฺคหิตตา นตฺถีติ อสงฺคหิตตาย อภาโว อเนกนฺติโก, ตสฺมา ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว อคฺคหิตานํ อคฺคหเณ, คหิตานฺจ คหเณ การณํ เวทิตพฺพนฺติ.

อนิทสฺสนํ ปุนเทว สปฺปฏิฆนฺติ เอตฺถ อนิทสฺสนนฺติ เอเตน ‘‘สนิทสฺสนสปฺปฏิฆ’’นฺติ เอตฺถ วุตฺเตน สปฺปฏิฆสทฺเทน สทฺธึ โยเชตฺวา อนิทสฺสนสปฺปฏิฆา ทสฺสิตา. ปุนเทวาติ เอเตน ตตฺเถว อวิสิฏฺํ สนิทสฺสนปทํ นิวตฺเตตฺวา คณฺหนฺโต สนิทสฺสนทุกปทํ ทสฺเสติ. ‘‘จกฺขายตเนน จกฺขายตนเมเวกํ สงฺคหิต’’นฺติ อิทํ น สกฺกา วตฺตุํ. น หิ ‘‘จกฺขายตเนน จกฺขายตนํ อายตนสงฺคเหน สงฺคหิต’’นฺติ จ ‘‘อสงฺคหิต’’นฺติ จ วตฺตพฺพนฺติ ทสฺสิโตยํ นโยติ. เอวํ สพฺพตฺถ ตสฺเสว สมุทาเยกเทสานฺจ สงฺคาหกสงฺคหิตนฺติ วจเนสุ อสงฺคาหกอสงฺคหิตนฺติ วจเนสุ จ ตทวตฺตพฺพตา โยเชตพฺพา. อสงฺคาหกตฺตาภาวโต เอว หิ จกฺขายตนาทีนิ จกฺขายตนาทีหิ อสงฺคหิตานีติ น วุจฺจนฺติ, น สงฺคาหกตฺตาภาวโตติ.

ทุติยนยสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยนโย อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๗๙. อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺเธน ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิเตสุ เวทนาทีนํ ติณฺณํ ขนฺธานํ นิพฺพานสฺส จ สุขุมรูเปน สห อายตนธาตุสภาคตฺเต สติปิ น สุขุมรูปเมว รูปกฺขนฺโธติ รูปกฺขนฺเธน อายตนธาตุสภาคตฺตํ นตฺถิ, ตสฺมา น เตน ตานิ อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคหิตานิ. น เกวลํ สงฺคหิตาเนว, อสงฺคหิตานิปิ เตน ตานิ เตหิ สงฺคเหหิ น โหนฺเตว ตเทกเทเสน สุขุมรูเปน อายตนธาตุสภาคตฺตา, สงฺคหิตาภาโว เอว ปน อิธาธิปฺเปโต, วิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทีหิ ปน อสงฺคหิตา น เต เตหิ กถฺจิ สมฺมิสฺสาติ สพฺพถา เต เตหิ น สงฺคหิตา. ทุกฺขสจฺจาทีหิ จ ปฺจกฺขนฺธสมุทายภูเตหิ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตํ นิพฺพานํ รูปกฺขนฺเธน วิย อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคหิตํ เตหิ น โหติ, ตสฺมา สงฺคาหกตฺตาภาวโต เอว เอวรูปานํ อสงฺคาหกภาเวน อคฺคหณํ เวทิตพฺพํ, สนิพฺพานปฺจกฺขนฺธสมุทายภูตานํ ปน อพฺยากตธมฺมาทีนํ อสงฺคาหกตฺตาภาวโตว. น หิ ตํ กฺจิ อตฺถิ, ยสฺส เต ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคาหกา สิยุํ, น จ อตฺตโน เอกเทโส อตฺเตกเทสสภาโค จ อตฺตนา อสงฺคหิโต โหตีติ อตฺตนา อสงฺคหิตสงฺคาหกตฺตา ปน เวทนากฺขนฺธาทีนํ คหณํ กตนฺติ.

ยํ ปน อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘เย ธมฺมายตเนน สงฺคหิตา’’ติ, ตํ น สกฺกา วตฺตุํ. ธมฺมายตเนน หิ น โกจิ ธมฺโม เกนจิ สงฺคเหน สงฺคหิโต อตฺถิ วิสภาคกฺขนฺธนิพฺพานสมุทายตฺตา , ขนฺธสงฺคเหน สยเมว อตฺตโน สงฺคาหกํ น โหตีติ อายตนธาตุสงฺคเหหิ จ สงฺคาหกตฺตาภาวโตติ ทสฺสิโตยํ นโยติ เอตสฺส ธมฺมายตนคณเนน คณิตาติ อตฺโถ. ยานิ…เป… คหิตานีติ เอเตน วิฺาณสมฺมิสฺสํ ธมฺมายตเนกเทสํ ทีเปนฺตานิ อิทฺธิปาทาทิปทานิ, โอฬาริกรูปสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺตานิ รูปกฺขนฺธาทิปทานิ, สพฺเพน สพฺพํ ธมฺมายตนํ อทีเปนฺตานิ วิฺาณกฺขนฺธจกฺขายตนาทิปทานิ, สกลธมฺมายตนทีปกานิ ธมฺมายตนาทิปทานิ จ วชฺเชตฺวา ธมฺมายตเนกเทสํ อฺายตเนน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺตานิ คหิตานีติ ทสฺเสติ.

ตติยนยอสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถนโย สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๙๑. สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทนิทฺเทเส ยสฺมา ยถา ทุติยตติยนยา ติณฺณํ สงฺคหานํ สงฺคหณาสงฺคหณปฺปวตฺติวิเสเสน ‘‘สงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ, อสงฺคหิเตน สงฺคหิต’’นฺติ จ อุทฺทิฏฺา, เนวํ จตุตฺถปฺจมา. สงฺคหณปฺปวตฺติยา เอว หิ สงฺคหิเตน สงฺคหิตํ อุทฺทิฏฺํ, อสงฺคหณปฺปวตฺติยา เอว จ อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตนฺติ, ตสฺมา สงฺคหณปฺปวตฺติวิเสสวิรเห สงฺคหิตธมฺมาสงฺคหิตธมฺมวิเสเส นิสฺสิตา เอเต ทฺเว นยาติ เอตฺถ เกนจิ สงฺคหิเตน ธมฺมวิเสเสน ปุน สงฺคหิโต ธมฺมวิเสโส สงฺคหิเตน สงฺคหิโต สงฺคหิตตาย ปุจฺฉิตพฺโพ วิสฺสชฺชิตพฺโพ จ, ตเมว ตาว ยถานิทฺธาริตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมุทยสจฺเจน เย ธมฺมา ขนฺธ…เป… สงฺคหิตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา ขนฺธ…เป… สงฺคหิตา’’ติ อาห. เอตฺถ จ เย ตีหิปิ สงฺคเหหิ น สงฺคาหกา รูปกฺขนฺธวิฺาณกฺขนฺธธมฺมายตนทุกฺขสจฺจาทีนิ วิย, เย จ ทฺวีหายตนธาตุสงฺคเหหิ อสงฺคาหกา จกฺขายตนาทีนิ วิย, เย จ เอเกน ขนฺธสงฺคเหเนว ธาตุสงฺคเหเนว จ น สงฺคาหกา เวทนาทิกฺขนฺธนิโรธสจฺจชีวิตินฺทฺริยาทีนิ วิย จกฺขุวิฺาณธาตาทโย วิย จ, เต ธมฺมา สงฺคาหกตฺตาภาวสพฺภาวา สงฺคาหกภาเวน น อุทฺธฏา, ตีหิปิ ปน สงฺคเหหิ เย สงฺคาหกา, เต สงฺคาหกตฺตาภาวาภาวโต อิธ อุทฺธฏา. เตหิ สงฺคหิตาปิ หิ เอกนฺเตน อตฺตโน สงฺคาหกสฺส สงฺคาหกา โหนฺติ, ยสฺส ปุน สงฺคโห ปุจฺฉิตพฺโพ วิสฺสชฺชิตพฺโพ จาติ.

อฏฺกถายํ ปน สกเลน หิ ขนฺธาทิปเทนาติ สกลวาจเกน รูปกฺขนฺธาทิปเทนาติ อตฺโถ. ยํ ปเนตํ วุตฺตํ ‘‘ยํ อตฺตโน สงฺคาหกํ สงฺคณฺหิตฺวา ปุน เตเนว สงฺคหํ คจฺเฉยฺยา’’ติ, ตํ เตน ขนฺธาทิปเทนาติ เอวํ อโยเชตฺวา ตํ อฺํ สงฺคหิตํ นาม นตฺถีติ เอวํ น สกฺกา วตฺตุํ. น หิ เยน ยํ สงฺคหิตํ, เตเนว ตสฺส สงฺคโห ปุจฺฉิโต วิสฺสชฺชิโต, น จ ตสฺเสว, อถ โข เตน สงฺคหิตสฺสาติ. ยถา เวทนา สทฺโท จ ขนฺโธ อายตนฺจ, น เอวํ สุขุมรูปํ, ตํ ปน ขนฺธายตนานํ เอกเทโสว, ตสฺมา ‘‘สุขุมรูเปกเทสํ วา’’ติ อวตฺวา ‘‘สุขุมรูปํ วา’’ติ วุตฺตํ. สพฺพตฺถ จ อฺเน อสมฺมิสฺสนฺติ โยเชตพฺพํ. ยมฺปิ เจตํ วุตฺตํ ‘‘ตเทว เยหิ ธมฺเมหิ ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิตํ, เต ธมฺเม สนฺธายา’’ติ, ตมฺปิ ตถา น สกฺกา วตฺตุํ. น หิ สงฺคหิเตน สงฺคหิตสฺส สงฺคหิเตน สงฺคโห เอตฺถ ปุจฺฉิโต วิสฺสชฺชิโต จ, อถ โข สงฺคโหว, ตสฺมา เอเกน ขนฺเธนาติ เอเกน ขนฺธคณเนนาติ อยเมเวตฺถ อตฺโถ, น สงฺคาหเกนาติ. น หิ เอโก ขนฺโธ อตฺตโน เอกเทสสฺส สงฺคาหโกติ.

จตุตฺถนยสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมนโย อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา

๑๙๓. อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทนิทฺเทเสปิ วุตฺตนเยเนว ยถานิทฺธาริตธมฺมทสฺสนํ เวทิตพฺพํ. เอตฺถ จ สสุขุมรูปวิฺาณสหิตธมฺมสมุทายา เย เต ทุกฺขสจฺจอนิทสฺสนอปฺปฏิฆอเจตสิกานุปาทาสทิสา สติปิ เอเกน ทฺวีหิ วา สงฺคเหหิ เกสฺจิ อสงฺคาหกตฺเต ตีหิปิ อสงฺคเหตพฺพสฺส อภาวโต ปริปุณฺณสงฺคหาสงฺคาหกา น โหนฺติ, อพฺยากตธมฺมสทิสา เกนจิ สงฺคเหน อสงฺคเหตพฺพภาวโต อสงฺคาหกา เอว น โหนฺติ, เตน เต อสงฺคาหกภาเวน น อุทฺธฏา, อิตเร ปน ตพฺพิปริยาเยน อุทฺธฏาติ.

ยํ ปน อฏฺกถายํ ‘‘ตาทิเสน หิ ปเทน นิพฺพานํ ขนฺธสงฺคหมตฺตํ น คจฺเฉยฺยา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ทุกฺขสจฺจํ สนฺธาย วุตฺตํ. อนิทสฺสนอปฺปฏิเฆสุ ปน อสงฺคาหเกสุ นิพฺพานํ อนฺโตคธํ, น จ ตเทว ตสฺส อสงฺคาหกนฺติ. สทิสวิสฺสชฺชนานํ วเสน สโมธาเนตฺวา กเตหิ สทฺธินฺติ เอวํ กเตหิ ทุติยปฺหาทีหิ สทฺธึ ปมปฺหนามรูปปฺหาทโย สพฺเพปิ จตุตฺตึส โหนฺตีติ อตฺโถ. ยํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ ปทํ, ตเทวาติ รูปกฺขนฺธาทิวิเสสกปทํ วทติ, น นิทฺธาริเต ปุจฺฉิตพฺพธมฺเม. เต หิ ลกฺขณโต ทสฺสิตา, น ปเทน สรูปโตติ. ตตฺถ ตเทวาติ เอว-สทฺเทน น ตํ กทาจิ สงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ น โหตีติ อุทฺธฏสฺเสว อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตภาเว นิยตตํ อฺสฺส จ อนิยตตํ ทสฺเสตีติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ตเทว เยหิ อสงฺคหิต’’นฺติ เอตฺถ หิ ‘‘นิยมโต’’ติ สกฺกา วจนเสโส โยเชตุนฺติ. อถ วา ตเทวาติ ปุจฺฉาย อุทฺธฏเมว เอวํปการเมว หุตฺวา เยหิ อสงฺคหิตนฺติ ตสฺส ปุจฺฉาย อุทฺธฏภาเวน เอวํ อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตภาวนิยมนตฺโถ เอว-สทฺโท, น อฺสฺส อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตตานิวารณตฺโถติ ทฏฺพฺโพ. ปุจฺฉาย อุทฺธฏฺหิ อฺสหิตํ อสหิตฺจ อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ โหติ. รูปกฺขนฺธาทีนิ หิ อฺสหิตานิ วิฺาณกฺขนฺธาทีนิ อสหิตานีติ.

อวเสสา สงฺคหิตาติ อิทํ อวเสสา อสงฺคหิตา น โหนฺตีติ เอวํ ทฏฺพฺพํ. เตหิปิ วิฺาณธมฺเมหิ เต รูปธมฺมาว ตีหิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตาติ ปุจฺฉาย อุทฺธฏา ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคาหกา หุตฺวา อสงฺคหิตาติ อธิปฺปาโย. อนุทฺธฏา เวทนาทโยปิ หิ อสงฺคหิตา เอวาติ. เอตฺถ จ ปเม นเย เวทนาทโยปิ วิฺาเณน อสงฺคหิตาติ วุตฺตา, ทุติเย รูปธมฺมาวาติ อยํ วิเสโส. เวทนาทโย หิ รูปวิฺาเณเหว ขนฺธาทิสงฺคเหน อสงฺคหิตาติ โอฬาริกรูเปหิ วิฺาเณน จ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตาติ อตฺโถ. รูเปกเทโส หิ เอตฺถ รูปคฺคหเณน คหิโตติ.

๑๙๖. จตุตฺถปฺเห จกฺขายตนํ เวทนาทีหิ จตูหีติ เอตฺถ จกฺขายตนนฺติ เอเตน ปุจฺฉาย อุทฺธฏํ อสงฺคาหกํ ทสฺเสตีติ ทฏฺพฺพํ. จกฺขายตเนน ปน อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตานิ ทส โอฬาริกายตนานิ น จกฺขายตนเมวาติ. ‘‘รูปฺจ ธมฺมายตน’’นฺติอาทินา เยหิ ธมฺเมหิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ ตํ วิฺาณเมว โหติ, อสงฺคหิเตน เตน อสงฺคหิตฺจ วิฺาณวชฺชํ สพฺพํ เตว ธมฺเม อุทาเนติ. สทิสวิสฺสชฺชนา หิ เอกโต อุทาเนตฺวา ทสฺเสตพฺพา. ตตฺถ ปเมน รูปกฺขนฺเธน สทิสวิสฺสชฺชเนสุ เอกโต อุทาเนตฺวา ทสฺสิเตสุ อฺเ วิสทิสวิสฺสชฺชนา นยทาเนน ทสฺสิตา โหนฺติ. เตนาห ‘‘รูปฺจ ธมฺมายตนนฺติ…เป… อฺเนากาเรน สงฺขิปิตฺวา ทสฺสิตา’’ติ. ตตฺถ ทฺเว ภวาติ อสฺเกโวการภวา. ทฺเวติ พาหิรุปาทาธมฺเม เอว สนฺธาย วุตฺตํ. เยน อสงฺคาหเกน อสงฺคหิเตน อสงฺคหิตํ ปุจฺฉิตพฺพํ วิสฺสชฺชิตพฺพฺจ ปริจฺฉิชฺชติ, โส รูปกฺขนฺธาทิโก ตสฺส ปุจฺฉาวิสฺสชฺชนานฺจ นิสฺสยภาวโต ‘‘วิสโย’’ติ วุตฺโต, ยถาทสฺสิตสฺส ปน อุทฺทานสฺส นยทานมตฺตตฺตา ‘‘นโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ทฺเววีสนโย จา’’ติปิ ปาโ, ทฺเววีสปทิโก เอส นโย จาติ อตฺโถ.

ปฺจมนยอสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉฏฺนโย สมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา

๒๒๘. สมฺปโยควิปฺปโยคปเท ยํ ลพฺภติ, ยฺจ น ลพฺภติ, ตํ สพฺพํ ปุจฺฉาย คหิตนฺติ อิทํ น รูปกฺขนฺธาทีนิ ปทานิ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข สมฺปโยคปทํ วิปฺปโยคปทฺจาติ เวทิตพฺพํ. รูปกฺขนฺธาทีสุ หิ ยํ ธมฺมายตนาทิปทํ น ลพฺภติ, ตํ ปุจฺฉายปิ น คหิตํ. สมฺปโยคปทํ ปน รูปกฺขนฺธาทีสุ อลพฺภมานมฺปิ ‘‘รูปกฺขนฺโธ กติหิ…เป… สมฺปยุตฺโต’’ติ เอวํ ปุจฺฉาย คหิตํ, เวทนากฺขนฺธาทีสุ ลพฺภมานํ, วิปฺปโยคปทํ ปน สพฺพตฺถ ลพฺภมานเมวาติ. รูปธมฺมานํ ปน รูเปน นิพฺพาเนน วา, นิพฺพานสฺส จ รูเปน สทฺธึ สมฺปโยโค นาม นตฺถีติ เอกุปฺปาทาทิสภาคตาย อภาวโต สมฺปโยคํ นิวาเรนฺเตน สา เอว เอกุปฺปาทาทิตา เอเตสํ วิสภาคตาติ ตทภาวโต วิปฺปโยโคปิ นิวาริโต เอว โหตีติ ทฏฺพฺโพ. จตูสุ หิ ขนฺเธสุ วิชฺชมานา เอกุปฺปาทาทิตา เตสํ อฺมฺํ สภาคตา โหติ รูปนิพฺพาเนหิ เตสํ เตหิ จ รูปนิพฺพานานํ วิสภาคตา จ, น จ รูเปกเทสสฺส นิพฺพานสฺส วา สา เอกุปฺปาทาทิตา อตฺถิ, ยา รูเปกเทเสน รูเปกเทสนิพฺพานานํ นิพฺพาเนน จ รูปสฺส วิสภาคตา สิยา. เตเนว ‘‘จตูหิ วิปฺปโยโค’’ติ วุตฺตนฺติ.

สตฺตสุวิฺาณธาตูสุ เอกายปิ อวิปฺปยุตฺเตติ ยถา รูปภโว ตีหิ วิฺาณธาตูหิ, เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา ปฺจหิ, อวิตกฺกอวิจารา เอกาย วิปฺปยุตฺเต อนารมฺมณมิสฺสเก ธมฺเม ทีเปนฺติ, เอวํ อทีเปตฺวา เอกายปิ วิปฺปยุตฺเต อโหนฺเต สตฺตหิปิ สมฺปยุตฺเต สตฺตปิ วา ตา ทีเปนฺตีติ อธิปฺปาโย. อวิปฺปยุตฺเตติ หิ เย วิปฺปยุตฺตา น โหนฺติ, เต ธมฺเมติ วุตฺตํ โหติ, น สมฺปยุตฺเตติ. เตน ยานิ ตาหิ สมฺปยุตฺเต ทีเปนฺติ ธมฺมายตนาทิปทานิ, ยานิ จ สมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตภาเวหิ นวตฺตพฺพํ ทีเปนฺติ อเจตสิกาทิปทานิ, ยานิ จ สมฺปยุตฺตนวตฺตพฺพานิ ทีเปนฺติ ทุกฺขสจฺจาทิปทานิ, เตสํ สพฺเพสํ อนารมฺมณมิสฺสกธมฺมทีปกานํ อคฺคหณํ วุตฺตํ โหติ. น หิ อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพวิฺาณธาตุตํสมฺปยุตฺตตทุภยสมุทายานํ ขนฺธายตนธาตูสุ เกนจิ สมฺปโยโค วิปฺปโยโค วา อตฺถีติ.

ยทิ เอวํ วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส ‘‘กุสเลหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา’’ติ น วตฺตพฺพํ. อกุสลาพฺยากตา หิ อนารมฺมณมิสฺโสภยธมฺมาติ? น, ยถาวุตฺตสมุทายานํ ขนฺธาทีเหว สมฺปโยควิปฺปโยคาภาววจนโต. ขนฺธาทโย หิ ตเทกเทสา ตเทกเทสฺสมุทายา จ, สมุทาเยกเทสานฺจ วิภาคาภาวโต น สภาควิสภาคตา อตฺถิ, เตน เตสํ ขนฺธาทีหิ สมฺปโยควิปฺปโยคาภาโว โหติ. กุสลา ปน ธมฺมา อกุสลาพฺยากเตหิ วิภตฺตา, เต จ กุสเลหิ, น เตสํ สมุทาเยกเทสภาโว ตเทกเทสฺสมุทายภาโว วา, ตสฺมา ขนฺธาทีนิ อนามสิตฺวา วิปฺปยุตฺตตามตฺเตน ยถานิทฺธาริตธมฺมทสฺสเน กุสเลหิ อิตเรสํ, อิตเรหิ จ กุสลานํ วิปฺปโยโค น น โหติ วิสภาคตาสพฺภาวโตติ เตสํ อฺมฺวิปฺปยุตฺตตา วุตฺตา. เอส นโย สพฺเพสุ เอวรูเปสุ.

อุทฺทาเน ปน อฏฺารส ตโต ปเรติ อิทํ ‘‘โสฬสา’’ติ วตฺตพฺพํ, เตวีสนฺติ อิทฺจ ‘‘เอกวีส’’นฺติ. สพฺพตฺถ จ กาลสนฺตานเภทรหิตารหิตพหุธมฺมสโมธานานํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูนํ เอกเทสา สมุทยสจฺจเวทนากฺขนฺธาทโย เอกเทสสมฺมิสฺสา จ อิทฺธิปาทาทโย อนารมฺมเณหิ อสมฺมิสฺสา รูปกฺขนฺธาทโย จ สารมฺมเณหิ อสมฺมิสฺสา สมฺปโยคีวิปฺปโยคีภาเวน สมานกาลสนฺตาเนหิ จ เอกเทสนฺตเรหิ วิภตฺตา เอว คหิตาติ เตหิ เต เกหิจิ เอกเทสนฺตเรหิ วิภตฺเตหิ ยถาโยคํ สมฺปโยคํ วิปฺปโยคฺจ ลภนฺติ. อตฺถิ หิ เตสํ เอกุปฺปาทาทิตา สภาคตา วิสภาคตา จาติ. เตน ตตฺถ ตตฺถ ‘‘เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺต’’นฺติ จ, ‘‘เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺต’’นฺติ จ วุตฺตํ. ภินฺนกาลสมุทายา เอว ปน เวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺธา วตฺตมานา จ เอเกกธมฺมา เอว, ตสฺมา เตสํ สมานกาลสฺส วิภชิตพฺพสฺส อภาวโต น สุขินฺทฺริยาทีนิ เวทนากฺขนฺธสฺส วิภาคํ กโรนฺติ, จกฺขุวิฺาณธาตาทโย จ วิฺาณกฺขนฺธสฺส มนายตนสฺส จ. เตน ‘‘สุขินฺทฺริยํ เอเกน ขนฺเธน เกหิจิ วิปฺปยุตฺต’’นฺติ, ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุ เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา’’ติ จ เอวมาทิ น วุตฺตํ, ขนฺธายตนวิภาควิรหิตมฺปิ ปน วิฺาณํ ธาตุวิภาเคน วิภตฺตเมว วุตฺตนฺติ ‘‘จกฺขุวิฺาณธาตุ…เป… มโนวิฺาณธาตุ โสฬสหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา’’ติ วุตฺตํ, เอวเมวํ อินฺทฺริยวิภาเคน วิภตฺตานํ สุขินฺทฺริยาทีนํ ‘‘สุขินฺทฺริเยน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา’’ติอาทีสุ ยถาโยคํ วิปฺปโยโค ทฏฺพฺโพ, นาวิภตฺตสฺส เวทนากฺขนฺธสฺสาติ.

๒๓๕. ยถา ตํสมฺปโยคีภาวํ สนฺธาย ‘‘สมุทยสจฺจํ ตีหิ ขนฺเธหิ สมฺปยุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวํ ตํวิปฺปโยคีภาวํ สนฺธาย ‘‘ตีหิ ขนฺเธหิ วิปฺปยุตฺต’’นฺติ กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? อวิภาเคหิ เตหิ วิปฺปโยควจนสฺส อยุตฺตตฺตา. วิภาเค หิ สติ สมุทยสจฺจํ สุขทุกฺขโทมนสฺสินฺทฺริเยหิ มโนวิฺาณธาตุโต อฺวิฺาณธาตูหิ วิปฺปยุตฺตนฺติ ยุตฺตํ วตฺตุํ วิภาเคเนว วิสภาคตาย สงฺคหิตตฺตา, วิภาครหิเตหิ ปน เวทนากฺขนฺธาทีหิ น ยุตฺตํ, เตหิ วิชฺชมาเนหิ วิชฺชมานสฺส สมุทยสฺส วิสภาคภาวาภาวโต. ยฺหิ อนุปฺปนฺนา ธมฺมา วิย อามฏฺกาลเภทํ น โหติ สงฺขตํ อุทฺธริตพฺพํ, ตํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวํ นิสฺสาย สมฺปโยคีวิปฺปโยคีภาเวน อุทฺธรียติ, ตฺจ วิภาครหิเตหิ ขนฺธาทีหิ สงฺขเตหิ ปจฺจุปฺปนฺนภาวเมว นิสฺสาย อนามฏฺกาลเภเท อตฺถิตาย เอว นิสฺสิตพฺพตฺตา. อวิชฺชมานสฺส หิ อวิชฺชมาเนน, อวิชฺชมานสฺส จ วิชฺชมาเนน, วิชฺชมานสฺส จ อวิชฺชมาเนน สมฺปโยโค นตฺถิ, วิปฺปโยโค ปน อวิชฺชมานตาทีปเก เภเท คหิเต เตเนว วิสภาคตาปิ คหิตา เอวาติ โหติ . เภเท ปน อคฺคหิเต เตน เตน คหเณน วิสภาคตาย อคฺคหิตตฺตา สติ สภาคตฺเต วิชฺชมานตาย เอว ธมฺมานํ สภาคสฺส ปริจฺฉินฺทนโต วิชฺชมานตา ทสฺสิตาติ เอกุปฺปาทาทิภาวสงฺขาตา สภาคตาปิ คหิตา เอว โหติ. ตสฺสา จ คหิตตฺตา สมฺปโยโคว ลพฺภติ, น วิปฺปโยโค, ตสฺมา สมุทยสจฺจํ เวทนากฺขนฺธาทีหิ สมฺปยุตฺตตฺเตน วุตฺตํ, น วิปฺปยุตฺตตฺเตนาติ. เอส นโย มคฺคสจฺจาทีสุปีติ.

๒๖๒. ‘‘ทุติยชฺฌานวิจารฺหิ เปตฺวา เสสา อวิตกฺกวิจารมตฺตา’’ติ อฏฺกถาวจนํ เย ปธานา วิตกฺโก วิย โกฏฺาสนฺตรจิตฺตุปฺปาเทสุ อลีนา, เต เอว อิธ อวิตกฺกวิจารมตฺตาติ อธิปฺเปตาติ ทสฺเสติ. เตเนว หิ อนนฺตรนเย สมุทยสจฺเจน สมานคติกา น สวิตกฺกสวิจาเรหีติ เต น คหิตา. ทสโมสานนเยสุ จ เตหิ วิปฺปยุตฺเตหิ วิปฺปยุตฺตานํ เตหิ วิปฺปยุตฺตานฺจ โสฬสหิ ธาตูหิ วิปฺปโยโค อฏฺารสสงฺคหิโต จ วุตฺโต. วิตกฺกสหิเตสุปิ ปน เตสุ คหิเตสุ สพฺเพปิ เต วิจาเรน สมฺปยุตฺตาติ ‘‘เอเกน ขนฺเธน เกหิจิ สมฺปยุตฺตา’’ติ สกฺกา วตฺตุํ. โส หิ สมุทาโย วิจารํ วชฺเชตฺวา อฺเน เกนจิ สมฺปยุตฺโต น โหติ. น หิ ตเทกเทสสฺส วิตกฺกสฺส วิจารโต อฺเน สมฺปโยโค สมุทายสฺส โหติ. ยถา นานาจิตฺตุปฺปาเทสุ อุปฺปชฺชมานานํ อิทฺธิปาทานํ สมุทายสฺส อิทฺธิปาทสฺส เอกเทสานํ ตีหิ ขนฺเธหิ สมฺปโยโค สมุทายสฺส น โหติ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพํ. ยถา ปน เตสุ เอโกปิ เวทนาสฺากฺขนฺเธหิ สงฺขารกฺขนฺเธกเทเสน จ อสมฺปยุตฺโต นาม นตฺถีติ สมุทายสฺส เตหิ สมฺปยุตฺตตา วุตฺตา, เอวมิธาปิ วิจาเรน อสมฺปยุตฺตสฺส อวิตกฺกวิจารมตฺตสฺส กสฺสจิ อภาวโต สมุทายสฺส เตน สมฺปยุตฺตตา น น สกฺกา วตฺตุํ. น หิ อวิตกฺกวิจารมตฺตานํ ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกาทีนํ วิย สมฺปยุตฺตตา น วตฺตพฺพา. ยถา หิ ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุเกสุ เกจิ สงฺขารกฺขนฺเธกเทเสน โมเหน สมฺปยุตฺตา, เกจิ อสมฺปยุตฺตาติ น สมุทาโย เตน สมฺปยุตฺโต, นาปิ อฺโ โกจิ ธมฺโม อตฺถิ, เยน โส สมุทาโย สมฺปยุตฺโต สิยาติ ‘‘ทสฺสเนนปหาตพฺพเหตุกา ธมฺมา สมฺปยุตฺตาติ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ภาวนายปหาตพฺพเหตุกสเหตุกาทโยปิ. น ปเนวํ เยน อวิตกฺกวิจารมตฺตสมุทาโย สมฺปยุตฺโต สิยา, ตํ นตฺถิ อวิตกฺกวิจารมตฺเตสุ กสฺสจิ วิจาเรน อสมฺปยุตฺตสฺส อภาวา, ตสฺมา เต ‘‘สมฺปยุตฺตา’’ติ น น วตฺตพฺพาติ. สพฺพตฺถ จ เอกธมฺเมปิ เกหิจีติ พหุวจนนิทฺเทโส สงฺขาย อนิยมิตตฺตา กโตติ เวทิตพฺโพ.

ฉฏฺนยสมฺปโยควิปฺปโยคปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมนโย สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๐๖. สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺธาทโย เตหิ สมฺปยุตฺตาภาวโต น คหิตา. สมุทยสจฺจาทีนิ สติปิ เตหิ สมฺปยุตฺเต, สมฺปยุตฺเตหิ จ วิปฺปยุตฺเต สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตานํ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยคาภาวโต. น หิ สมุทยสจฺเจน สมฺปยุตฺเตหิ โลภสหคตจิตฺตุปฺปาเทหิ วิปฺปยุตฺตานํ ตโต อฺธมฺมานํ ขนฺธาทีสุ เกนจิ วิปฺปโยโค อตฺถิ. นนุ จ เต เอว จิตฺตุปฺปาทา จตฺตาโร ขนฺธา อฑฺฒทุติยานิ อายตนานิ อฑฺฒทุติยา ธาตุโย จ โหนฺตีติ เตหิ วิปฺปโยโค วตฺตพฺโพติ? น, ตทฺธมฺมานํ ขนฺธาทิภาวโต. น หิ เต เอว ธมฺมา จตฺตาโร ขนฺธา, อถ โข เต จ ตโต อฺเ จ, ตถา อฑฺฒทุติยายตนธาตุโยปิ. น จ ตทฺสมุทาเยหิ อฺเ วิปฺปยุตฺตา โหนฺติ สมุทาเยกเทสานํ เอกเทสฺสมุทายานฺจ วิปฺปโยคาภาวโต. เอส นโย มคฺคสจฺจสุขินฺทฺริยาทีสุ. อวิตกฺกวิจารมตฺเตสุปิ นิรวเสเสสุ อธิปฺเปเตสุ เตสํ สวิตกฺกสวิจารสมานคติกตฺตา อคฺคหเณ การณํ น ทิสฺสติ.

อฏฺกถายํ ปน เอวรูปานีติ ยถา รูปกฺขนฺเธ วิสฺสชฺชนํ น ยุชฺชติ, เอวํ เยสุ อฺเสุปิ น ยุชฺชติ, ตานิ วิสฺสชฺชนสฺส อโยเคน ‘‘เอวรูปานี’’ติ วุตฺตานิ, น สมฺปยุตฺตาภาเวนาติ ทฏฺพฺพํ. ยานิ ปน ปทานิ ธมฺมธาตุยา สมฺปยุตฺเต ธมฺเม ทีเปนฺตีติ เอเตน เวทนากฺขนฺธาทิปทานิ ทสฺเสติ, วิฺาณฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสนฺติ วิฺาณกฺขนฺธมนายตนาทิปทานิ. ตตฺถ อฺเน อสมฺมิสฺสนฺติ อสมฺปยุตฺเตน อสมฺมิสฺสนฺติ อตฺโถ. อทุกฺขมสุขายเวทนายสมฺปยุตฺตปทานิปิ หิ สมฺปยุตฺเตหิ สมฺมิสฺสวิฺาณทีปกานิ อิธ คหิตานีติ. เอเตน จ ลกฺขเณน เอวรูปาเนว คหิตานีติ ทสฺเสติ, น เอวรูปานิ คหิตาเนวาติ สมุทยสจฺจาทิอิทฺธิปาทาทิปทานํ อสงฺคหิตตฺตา. ‘‘อถ ผสฺสสตฺตกํ จิตฺตํ สห ยุตฺตปเทหิ สตฺตา’’ติ ปุราณปาโ, อยํ ปน อูโนติ กตฺวา ‘‘อถ ผสฺสสตฺตกํ, ติเก ตโย สตฺต มหนฺตเร จา’’ติ ปาโ กโต.

๓๐๙. ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทเนว สทฺธึ วิปฺปยุตฺตานํ วเสนาติ อิทํ ปุจฺฉาย อุทฺธฏปเทน สมฺปยุตฺเตหิ วิปฺปยุตฺตา เตน สทฺธึ วิปฺปยุตฺตา โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ปาฬิอุทฺทานคาถายํ ทฺเว จ มเนน ยุตฺตา, วิตกฺกวิจารณาติ มโนธาตุยา เอกนฺตสมฺปยุตฺตา ทฺเว วิตกฺกวิจาราติ สวิตกฺกปทํ สวิจารปทฺจ ทสฺเสติ.

สตฺตมนยสมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมนโย วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๑๗. วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส รูปกฺขนฺธาทีหิ วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตเมว ยถานิทฺธาริตํ นตฺถีติ ‘‘รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา’’ติ อวตฺวา ‘‘รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ…เป… สมฺปยุตฺตาติ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. เตน รูปกฺขนฺเธน วิปฺปยุตฺตานํ เกนจิ ขนฺธาทินา สมฺปโยคาภาวโต ยถานิทฺธาริตํ วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตเมว นตฺถิ, กุโต ตสฺส ปุน ขนฺธาทีหิ สมฺปยุตฺตตาติ ทสฺเสติ.

อฏฺมนยวิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมนโย สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๑๙. สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนายํ ยํขนฺธาทิวเสนาติ สมาสปทํ อิทํ ทฏฺพฺพํ, ยสฺส ขนฺธาทิโน วเสนาติ อตฺโถ. ตสฺเสวาติ จ ตสฺเสว ขนฺธาทิโนติ อตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ อิธ สมฺปยุตฺตํ วุตฺตํ, ตํ รูปกฺขนฺธาทีสุ อรณนฺเตสุ เยน เวทนากฺขนฺธาทินา สมฺปยุตฺตํ, ปุน ตสฺเสว เวทนากฺขนฺธาทิโน ขนฺธาทีหิ สมฺปโยคํ ปุจฺฉิตฺวา วิสฺสชฺชนํ กตํ . ตฺหิ อตฺตนา สมฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺตตฺตา ‘‘สมฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺต’’นฺติ นิทฺธาริตนฺติ. รูเปน วาติ เอเตน นิโรธสจฺจอปฺปจฺจยอสงฺขเตหิปิ อโยโค วุตฺโต โหตีติ ทฏฺพฺโพ, ตถา รูปมิสฺสเกหิ วาติ เอเตน อนุปาทินฺนอนุปาทานิยาทีหิ นิพฺพานมิสฺสเกหิปิ. วกฺขติ หิ ‘‘นิพฺพานํ ปน สุขุมรูปคติกเมวา’’ติ. สพฺพารูปกฺขนฺธสงฺคาหเกหีติ วตฺตมานานเมว สมฺปโยโค ลพฺภตีติ วตฺตมาเนสุ เอกมฺปิ ธมฺมํ อนปเนตฺวา อวิกลจตุกฺขนฺธสงฺคาหเกหิ อรูปภวาทีหีติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขโป – เย สมฺปโยคํ น ลภนฺติ รูปกฺขนฺธาทโย, เต สพฺเพ น คหิตา, อิตเร จ เวทนากฺขนฺธาทโย สพฺเพ คหิตาติ.

นวมนยสมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๓๕๓. วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทนิทฺเทเส อคฺคหิเตสุ ธมฺมายตนาทิธมฺมา อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพจิตฺตุปฺปาทคตธมฺมภาวโต เตหิ วิปฺปยุตฺตสฺส อภาวา น คหิตา, ทุกฺขสจฺจจตุมหาภวอพฺยากตาทิธมฺมา เตหิ วิปฺปยุตฺเตหิ วิปฺปยุตฺตานํ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยคาภาวโตติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพติ.

ทสมนยวิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. เอกาทสมนโย สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๔๐๙. เอกาทสมนยวณฺณนายํ ‘‘เต จ เสเสหิ ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกน มนายตเนน สตฺตหิ วิฺาณธาตูหี’’ติ เอเตสํ ปทานํ ‘‘สมฺปยุตฺตา นามา’’ติ เอเตน สห สมฺพนฺโธ. ‘‘เกหิจี’’ติ เอตสฺส ปนตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารกฺขนฺเธ ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ เปตฺวา ตณฺห’’นฺติ เอเตน ‘‘เต จา’’ติ วุตฺเต สมุทยสจฺเจน ขนฺธาทิสงฺคเหน สงฺคหิตธมฺเม วิเสเสตฺวา เตสํ เอว วิเสสิตานํ อตฺตวชฺเชหิ เสเสหิ สงฺขารกฺขนฺเธ ตณฺหาย ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ จ ตณฺหาย เวทนาสฺากฺขนฺเธหิ สมฺปโยคารเหหิ สมฺปยุตฺตตํ สนฺธายาห ‘‘เสเสหิ สมฺปยุตฺตตฺตา เกหิจิ สมฺปยุตฺตา นามา’’ติ.

เอกาทสมนยสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวาทสมนโย สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา

๔๑๗. ทฺวาทสมนเย จ นวมนเย วิย สมฺปโยคารหาว ลพฺภนฺตีติ อาห ‘‘เตเยว อุทฺธฏา’’ติ.

ทฺวาทสมนยสมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เตรสมนโย อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา

๔๔๘. เตรสมนยวณฺณนายํ เยหิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตํ วิฺาณเมว โหติ, เต ปาฬิยํ ‘‘รูปฺจ ธมฺมายตน’’นฺติอาทิอุทฺทานคาถาย ทสฺสิตา พาวีส ธมฺมา ‘‘รูปกฺขนฺเธน สทิสปฺหา ธมฺมา’’ติ วุตฺตา. เยหิ ปน ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตานิ อรูปภเวน วิย โอฬาริกายตนาเนว โหนฺติ, เต วุตฺตาวเสสา สพฺเพ อิธ อุทฺธฏา ‘‘อรูปภเวน สทิสา’’ติ วุตฺตา. เสสาติ เสสา ปฺจมนเย อาคตา เวทนากฺขนฺธาทโย สติปิ อสงฺคาหกตฺเต อิธ วิสฺสชฺชนํ น รุหนฺตีติ น อุทฺธฏา. เย ปน อสงฺคาหกา เอว น โหนฺติ ทุกฺขสจฺจาทิธมฺมา, เตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ยถา ปน เวทนากฺขนฺธาทโย น รุหนฺติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เวทนากฺขนฺเธน หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เตสฺจ สมฺปโยโค นาม นตฺถีติ รูปารูปธมฺมานํ อสมฺปโยเคหิ โวมิสฺสตาย สมฺปโยโค นตฺถีติ อตฺโถ.

ยทิ ปน เต กทาจิ อสพฺพวิฺาณธาตุสมฺปยุตฺตา อรูปธมฺมา รูปธมฺมา จ สิยุํ, น เตสํ วิปฺปโยโค นตฺถีติ ‘‘วิปฺปโยโค จ นตฺถี’’ติ น วุตฺตํ, น เวทนากฺขนฺเธน อสงฺคหิตานํ วิปฺปโยคสฺส อตฺถิตายาติ เวทิตพฺพํ. อุภยาภาวโต หิ เวทนากฺขนฺธาทโย อิธ น รุหนฺตีติ. เอวํ ปเนตฺถ สิยา ‘‘เวทนากฺขนฺเธน หิ ขนฺธาทิวเสน อนารมฺมณมิสฺสกา สตฺตวิฺาณธาตุธมฺมา อสงฺคหิตา โหนฺติ, เตสฺจ สมฺปโยโค วิปฺปโยโค จ นตฺถี’’ติ. อนารมฺมณสหิตานฺหิ สพฺพวิฺาณธาตูนํ สพฺพวิฺาณธาตุสมฺปยุตฺตานํ ตทุภยธมฺมานฺจ เวทนากฺขนฺธาทิวิฺาณกฺขนฺธาทิจกฺขายตนาทีหิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ อสงฺคหิตานํ สมฺปโยควิปฺปโยคาภาโว อรุหเณ การณํ. ชาติวิปฺปโยคภูมิกาลสนฺตานวิปฺปโยคโต จตุพฺพิโธ วิปฺปโยโค. ตตฺถ ชาติวิปฺปโยโค ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา’’ติอาทิ, ภูมิวิปฺปโยโค ‘‘กามาวจรา, รูปาวจรา’’ติอาทิ, กาลวิปฺปโยโค ‘‘อตีตา ธมฺมา, อนาคตา ธมฺมา’’ติอาทิ, สนฺตานวิปฺปโยโค ‘‘อชฺฌตฺตา ธมฺมา, พหิทฺธา ธมฺมา’’ติอาทิ. เอวํ วิปฺปโยโค จตุธา เวทิตพฺโพ.

เตรสมนยอสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. จุทฺทสมนโย วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา

๔๕๖. จุทฺทสมนเย ธมฺมายตนาทีนํ อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพจิตฺตุปฺปาทคตธมฺมภาวโต วิปฺปโยคสฺส อรุหณํ ทฏฺพฺพํ. ชาติอาทิตฺตยสฺส เจตฺถ ธมฺมสภาวมตฺตตฺตา น กถฺจิ สมฺปโยโค วิปฺปโยโค จ รุหติ อชฺฌตฺตพหิทฺธธมฺมานํ สพฺพธมฺมสโมธานตฺตา, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาทีนํ อนารมฺมณมิสฺสกสพฺพจิตฺตุปฺปาทตฺตา. ทุกฺขสจฺจาทิธมฺมาว อิธ เตหิ วิปฺปยุตฺตานํ สงฺคหาสงฺคหสพฺภาวา คหิตาติ.

ปาฬิอุทฺทานคาถายํ สมุจฺเฉเท น ลพฺภนฺตีติ ปริโยสาเน นเย น ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ. โมฆปุจฺฉเกน จาติ อลพฺภมานา จ เต โมฆปุจฺฉเกน เหตุนา น ลพฺภนฺติ เตสํ ปุจฺฉาย โมฆตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา โมฆปุจฺฉโก อฏฺโม นโย, เตน จ สห โอสานนเย เอเต ธมฺมา วิปฺปโยคสฺสปิ อภาวา สพฺพถาปิ น ลพฺภนฺตีติ อตฺโถ.

จุทฺทสมนยวิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธาตุกถาปกรณ-มูลฏีกา สมตฺตา.