📜
ปุคฺคลปฺตฺติปกรณ-มูลฏีกา
๑. มาติกาวณฺณนา
๑. ธมฺมสงฺคเห ¶ ¶ ติกทุกวเสน สงฺคหิตานํ ธมฺมานํ วิภงฺเค ขนฺธาทิวิภาคํ ทสฺเสตฺวา ตถาสงฺคหิตวิภตฺตานํ ธาตุกถาย สงฺคหาสงฺคหาทิปฺปเภทํ วตฺวา ยาย ปฺตฺติยา เตสํ สภาวโต อุปาทาย จ ปฺาปนํ โหติ, ตํ ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ฉ ปฺตฺติโย’’ติอาทินา ปุคฺคลปฺตฺติ อารทฺธา. ตตฺถ เย ธมฺเม ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมาเน อสภาวสมูหวเสน อุปาทาย ‘‘ปุคฺคโล, อิตฺถี, ปุริโส, เทโว, มนุสฺโส’’ติอาทิกา ปุคฺคลปฺตฺติ โหติ, เตสํ อฺเสฺจ พาหิรรูปนิพฺพานานํ สสภาวสมูหสสภาวเภทวเสน ปฺาปนา สภาวปฺตฺตีติ ขนฺธปฺตฺติอาทิกา ปฺจวิธา เวทิตพฺพา. ตาย ธมฺมสงฺคหาทีสุ วิภตฺตา สภาวปฺตฺติ สพฺพาปิ สงฺคหิตา โหติ. ปุคฺคลปฺตฺติ ปน อสภาวปฺตฺติ. ตาย จ สมยวิมุตฺตาทิปฺปเภทาย สตฺตสนฺตานคเต ปริฺเยฺยาทิสภาวธมฺเม อุปาทาย ปวตฺติโต ปธานาย ‘‘วิหาโร มฺโจ’’ติอาทิกา จ สพฺพา อสภาวปฺตฺติ สงฺคหิตา โหติ.
เอตฺตาวตา ¶ จ ปฺตฺติ นาม วิชฺชมานปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺติ จ. ตา เอว หิ โวมิสฺสา อิตรา จตสฺโสติ. ตสฺมา ตาสํ ทสฺสเนน อิมสฺมึ ปกรเณ สพฺพา ปฺตฺติโย ทสฺสิตาติ เวทิตพฺพา. ขนฺธาทิปฺตฺตีสุ ปน ฉสุ อฺตฺถ อทสฺสิตปฺปเภทํ อิเธว จ ทสฺสิตปฺปเภทํ ปุคฺคลปฺตฺตึ อุปาทาย อิมสฺส ปกรณสฺส ปุคฺคลปฺตฺตีติ นามํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เย ธมฺเม อิธ ปฺเปตุกาโมติ ปฺตฺติยา วตฺถุภาเวน ทสฺเสตุกาโมติ อธิปฺปาโย. น หิ เอตสฺมึ ปกรเณ ปฺาปนํ กโรติ, วตฺถูหิ ปน ปฺตฺติโย ทสฺเสตีติ.
ขนฺธาติ ¶ ปฺาปนาติ อิทํ ขนฺธาติ รูปํ ปถวีติอาทิกา สพฺพาปิ สามฺปฺปเภทปฺาปนา นาม โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปฺาปนาติ เอตสฺส ปน ทสฺสนา ปนาติ เอเต ทฺเว อตฺถา, เตสํ ปกาสนา นิกฺขิปนาติ. ตตฺถ ‘‘รูปกฺขนฺโธ…เป… อฺาตาวินฺทฺริยํ สมยวิมุตฺโต’’ติอาทินา อิทเมวํนามกํ อิทเมวํนามกนฺติ ตํตํโกฏฺาสิกกรณํ โพธนเมว นิกฺขิปนา, น ปฺเปตพฺพานํ มฺจาทีนํ วิย านสมฺพนฺธกรณํ. โย ปนายํ ‘‘นามปฺตฺติ หิ ทสฺเสติ จ เปติ จา’’ติ กตฺตุนิทฺเทโส กโต, โส ภาวภูตาย กรณภูตาย วา นามปฺตฺติยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ ทิฏฺตาย ปิตตาย จ ตํนิมิตฺตตํ สนฺธาย กโตติ เวทิตพฺโพ.
วิชฺชมานปฺตฺตีติอาทินา วจเนน ปาฬิยํ อนาคตตํ สนฺธาย ‘‘ปาฬิมุตฺตเกนา’’ติอาทิมาห. กุสลากุสลสฺเสวาติ กุสลากุสลสฺส วิย. วิชฺชมานสฺสาติ เอตสฺส อตฺโถ สโตติ, ตสฺส อตฺโถ สมฺภูตสฺสาติ. วิชฺชมานสฺส สโตติ วา วิชฺชมานภูตสฺสาติ อตฺโถ. ตเมวตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สมฺภูตสฺสา’’ติ. เตน อวิชฺชมานภาวํ ปฏิกฺขิปติ. ตถา อวิชฺชมานสฺสาติ ยถา กุสลาทีนิ อกุสลาทิสภาวโต, ผสฺสาทโย จ เวทนาทิสภาวโต วินิวตฺตสภาวานิ วิชฺชนฺติ, ตถา อวิชฺชมานสฺส เย ธมฺเม อุปาทาย ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ อุปลทฺธิ โหติ, เต อปเนตฺวา เตหิ วินิวตฺตสฺส อิตฺถิอาทิสภาวสฺส อภาวโต อสมฺภูตสฺสาติ อตฺโถ. ยํ ปเนตสฺส ‘‘เตนากาเรน อวิชฺชมานสฺส อฺเนากาเรน วิชฺชมานสฺสา’’ติ อตฺถํ เกจิ วทนฺติ, ตตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปฺตฺติทุเก วุตฺตเมว. อวิชฺชมาเนปิ สภาเว โลกนิรุตฺตึ อนุคนฺตฺวา อนภินิเวเสน จิตฺเตน ‘‘อิตฺถี, ปุริโส’’ติ คหณสพฺภาวา ‘‘โลกนิรุตฺติมตฺตสิทฺธสฺสา’’ติ อาห. สาภินิเวเสน ปน จิตฺเตน คยฺหมานํ ปฺจมสจฺจาทิกํ น สภาวโต, นาปิ สงฺเกเตน สิทฺธนฺติ ‘‘สพฺพากาเรนปิ ¶ อนุปลพฺภเนยฺย’’นฺติ วุตฺตํ. ตาสุ อิมสฺมึ…เป… ลพฺภนฺตีติ อิมสฺมึ ปกรเณ สรูปโต ติสฺสนฺนํ อาคตตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
ยถาวุตฺตสฺส ปน อฏฺกถานยสฺส อวิโรเธน อาจริยวาทา โยเชตพฺพา, ตสฺมา ปฺเปตพฺพฏฺเน เจสา ปฺตฺตีติ เอตสฺส สภาวโต อวิชฺชมานตฺตา ปฺเปตพฺพมตฺตฏฺเน ปฺตฺตีติ อตฺโถ. ปฺเปตพฺพมฺปิ หิ สสภาวํ ตชฺชปรมตฺถนามลาภโต น ปรโต ลภิตพฺพํ ¶ ปฺตฺตินามํ ลภติ, นิสภาวํ ปน สภาวาภาวโต น อตฺตโน สภาเวน นามํ ลภตีติ. สตฺโตติอาทิเกน นาเมน ปฺปิตพฺพมตฺตฏฺเน ปฺตฺตีติ นามํ ลภติ, นิสภาวา จ สตฺตาทโย. น หิ สสภาวสฺส รูปาทีหิ เอกตฺเตน อฺตฺเตน วา อนุปลพฺภสภาวตา อตฺถีติ.
กิรีฏํ มกุฏํ, ตํ อสฺส อตฺถีติ กิรีฏี. เอตสฺมิฺจ อาจริยวาเท อนูเนน ลกฺขเณน ภวิตพฺพนฺติ สพฺพสโมโรโธ กาตพฺโพ. ทุติยํ ตติยนฺติ เอวํปการา หิ อุปนิธาปฺตฺติ อุปนิกฺขิตฺตกปฺตฺติ จ สงฺขาตพฺพปฺปธานตฺตา ฉปิ ปฺตฺติโย ภชตีติ ยุตฺตํ วตฺตุํ, อิตรา จ ยถาโยคํ ตํ ตํ ปฺตฺตินฺติ. ทุติยํ ตติยํ ทฺเว ตีณีติอาทิ ปน สงฺขา นาม กาจิ นตฺถีติ ตาสํ อุปาทาสนฺตติปฺตฺตีนํ อวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ, อิตราสฺจ อุปนิธาปฺตฺตีนํ ยถานิทสฺสิตานํ อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติภาวํ มฺมาโน อาห ‘‘เสสา อวิชฺชมานปกฺขฺเจว อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปกฺขฺจ ภชนฺตี’’ติ. ทุติยํ ตติยํ ทฺเว ตีณีติอาทีนํ อุปนิธาอุปนิกฺขิตฺตกปฺตฺตีนํ อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติภาวเมว มฺติ. ยฺหิ ปมาทิกํ อเปกฺขิตฺวา ยสฺส เจกาทิกสฺส อุปนิกฺขิปิตฺวา ปฺาปียติ, ตฺจ สงฺขานํ กิฺจิ นตฺถีติ. ตถา สนฺตติปฺตฺติยา จ. น หิ อสีติ อาสีติโก จ วิชฺชมาโนติ.
เอกจฺจา ภูมิปฺตฺตีติ กามาวจราทิปฺตฺตึ สนฺธายาห. กามาวจราที หิ สภาวธมฺมาติ อธิปฺปาโย. กาโมติ ปน โอกาเส คหิเต อวิชฺชมาเนนวิชฺชมานปฺตฺติ เอสา ภวิตุํ อรหติ, กมฺมนิพฺพตฺตกฺขนฺเธสุ คหิเตสุ วิชฺชมาเนนวิชฺชมานปฺตฺติ. ยถา ปน วจนสงฺขาตาย วจนสมุฏฺาปกเจตนาสงฺขาตาย วา กิริยาย ภาณโกติ ปุคฺคลสฺส ปฺตฺติ วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติปกฺขํ ภชติ, เอวํ กิโส ถูโลติ รูปายตนสงฺขาเตน สณฺาเนน ปุคฺคลาทีนํ ปฺาปนา วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติ ภวิตุํ อรหติ. สณฺานนฺติ ¶ วา รูปายตเน อคฺคหิเต อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติ. รูปํ ผสฺโสติอาทิกา ปน วิชฺชมานปฺตฺติ รุปฺปนาทิกิจฺจวเสน กิจฺจปฺตฺติยํ, ปจฺจตฺตธมฺมนามวเสน ปจฺจตฺตปฺตฺติยํ วา อวโรเธตพฺพา. วิชฺชมานาวิชฺชมานปฺตฺตีสุ จ วุตฺตาสุ ตาสํ โวมิสฺสตาวเสน ¶ ปวตฺตา อิตราปิ วุตฺตาเยว โหนฺตีติ อยมฺปิ อาจริยวาโท สพฺพสงฺคาหโกติ ทฏฺพฺโพ.
๒. ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทิกสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยตฺตเกน ปฺาปเนนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยาวตา ปฺจกฺขนฺธาติ ยาวตา รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธติ ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ, เอตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ, เอวํ ปาฬิโยชนํ กตฺวา สงฺเขปปฺปเภทวเสน อยํ อตฺโถ วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ. ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ, ‘‘ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ หิ อิมสฺส อตฺโถ ‘‘ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ปฺจกฺขนฺธาติ วา’’ติ เอเตน ทสฺสิโต, ‘‘ยาวตา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทิกสฺส ปน ‘‘ปเภทโต รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทิเกนาติ. ตตฺถ รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธติ ปเภทนิทสฺสนมตฺตเมตํ. เตน อวุตฺโตปิ สพฺโพ สงฺคหิโต โหตีติ ‘‘ตตฺราปิ รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ วา เอตฺถ ปาฬิยา อตฺถโยชนา – ‘‘ยาวตา’’ติ อิทํ สพฺเพหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ยตฺตกา ปฺจกฺขนฺธา, ตตฺตกา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ. ยตฺตโก ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ตปฺปเภทานฺจ รูปกฺขนฺธาทีนํ ปเภโท, ตตฺตโก ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติยา ปเภโทติ ปกรณนฺตเร วุตฺเตน วตฺถุเภเทน ขนฺธปฺตฺติยา ปเภทํ ทสฺเสติ. เอส นโย ‘‘ยาวตา อายตนาน’’นฺติอาทีสุปิ.
๗. เอกเทเสเนวาติ อุทฺเทสมตฺเตเนวาติ อตฺโถ.
มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นิทฺเทสวณฺณนา
๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๑. ฌานงฺคาเนว ¶ ¶ วิโมกฺโขติ อิมินา อธิปฺปาเยนาห ‘‘วิโมกฺขสหชาเตน นามกาเยนา’’ติ. เยน หิ สทฺธินฺติอาทินา ปมํ สมงฺคิภาวตฺถํ วิวรติ. ผสฺเสนปิ ผุฏฺาเยว นามาติ เอเตน ‘‘อปิเจสา’’ติอาทินา วุตฺตํ ทุติยํ สมฺผสฺเสน ผุสนตฺถํ, อิตเรหิ อิตเร การณตฺเถ. สมงฺคิภาวผุสนการณภาวา หิ ผุสนาติ วุตฺตาติ. ปุนปิ ปมตฺถเมว ทุพฺพิฺเยฺยตฺตา วิวรนฺโต ‘‘ตตฺราสฺสา’’ติอาทิมาห. เปตฺวา ตานิ องฺคานิ เสสา อติเรกปณฺณาสธมฺมาติ เอตฺถ เวทนาโสมนสฺสินฺทฺริยานิ สงฺคหิตานีติ อาห ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตี’’ติ. เอวํ สติ เวทนาโสมนสฺสินฺทฺริเยหิ สุขสฺส ผุสิตพฺพตฺตา ติณฺณฺจ เตสํ อนฺตฺตา เตเนว ตสฺส ผุสนา อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, เวทยิตาธิปติยฏฺเหิ อุปนิชฺฌายนภาวปฏิลาภสฺส วุตฺตตฺตา. อถ วา เปตฺวา ตานิ องฺคานีติ องฺคานํ พหุตฺตา พหุวจนํ. เตสุ ปน ปจฺเจกมฺปิ โยชนา กาตพฺพา ‘‘วิตกฺกํ เปตฺวา’’ติอาทินา. ตตฺถ ‘‘สุขํ เปตฺวา’’ติ อิมิสฺสา โยชนาย เสสา ตโย ขนฺธา โหนฺติ, อิตราสุ จตฺตาโรติ. สพฺพโยชนาสุ จ ตโย อนฺโต กตฺวา ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
๒. โย อสมยวิโมกฺเขน เอกจฺเจหิ อาสเวหิ วิมุตฺโต อสมยวิโมกฺขูปนิสฺสยลาเภน จ สาติสเยน สมยวิโมกฺเขน, โส เอว สมยวิมุตฺโต. โส หิ เตน วิมุตฺโต ฌานลาภี เสกฺโข รูปารูปภวโต อปุนราวฏฺฏโก กามราคาทีหิ ตถาวิมุตฺโตว โหตีติ สมยวิมุตฺตปฺตฺตึ ลทฺธุํ อรหติ. ปุถุชฺชโน ปน ฌานลาภี ปุนราวฏฺฏกธมฺโม ปุน กามราคาทิสมุทาจารภาวโต วิมุตฺโต นาม น โหตีติ สมยวิมุตฺตปฺตฺตึ นารหติ, เตน โส ¶ ‘‘สมยวิมุตฺโต’’ติ น วุตฺโต. อรหโต ปน อปริกฺขีณา อาสวา นตฺถิ, ยโต วิมุจฺเจยฺย. ทิฏฺธมฺมสุขวิหารมตฺตา หิ ตสฺส อฏฺ วิโมกฺขาติ. ตสฺมา ตสฺส น อฏฺ วิโมกฺขา สมยวิมุตฺตปฺตฺติภาวสฺส อสมยวิมุตฺตปฺตฺติภาวสฺส วา การณํ. ตทการณภาวเมว ทสฺเสตุํ ¶ ‘‘น เหว โข…เป… วิหรตี’’ติ วุตฺตํ, น สุกฺขวิปสฺสกสฺเสว อสมยวิมุตฺตภาวํ ทสฺเสตุนฺติ ทฏฺพฺพํ. สพฺโพปิ หิ อรหา อสมยวิมุตฺโตติ. พาหิรานนฺติ โลกุตฺตรโต พหิภูตานํ, โลกิยานนฺติ อตฺโถ.
๓. อรูปกฺขนฺธนิพฺพานมตฺตวาจโก อรูปสทฺโท น โหตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘รูปโต อฺ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. จิตฺตมฺชูสนฺติ สมาธึ. อภิฺาทีนฺหิ ธมฺมานํ ปาทกภาเวน สมาธิ มฺชูสาสทิโส โหติ. อทฺธานํ ผริตุนฺติ ทีฆกาลํ พฺยาเปตุํ, ปวตฺเตตุนฺติ อตฺโถ. ‘‘สมฺมชฺชิตพฺพ’’นฺติ จินฺเตตฺวา ตตฺถ อาทรสฺส อกตตฺตา วตฺตเภโทติ เวทิตพฺโพ. เอวํ วตฺตเภทมตฺเตน นฏฺา ปน สมาปตฺติ กามจฺฉนฺทาทีหิ นฏฺา วิย น กิฺเจน ปจฺจาหริตพฺพา โหติ มนฺทปาริปนฺถกตฺตา, ตสฺมา วตฺตสมิตกรณมตฺเตเนว ปจฺจาหริตพฺพตฺตา ‘‘อปฺเปนฺโตว นิสีที’’ติ อาห.
๔. อตฺตโน อนุรูเปน ปมาเทน วีตินาเมนฺตานมฺปิ สมาปตฺติ น กุปฺปตีติ ปริหีโน นาม น โหติ, ตสฺมึ ตสฺมึ พฺยาสงฺเค ปฏิสํหฏมตฺเต สมาปชฺชิตุํ สมตฺถตายาติ อธิปฺปาโย. ‘‘กิสฺส ปน, ภนฺเต, ขีณาสวสฺส ภิกฺขุโน ลาภสกฺการสิโลโก อนฺตรายายาติ? ยา หิสฺส สา, อานนฺท, อกุปฺปา เจโตวิมุตฺติ, นาหํ ตสฺสา ลาภสกฺการสิโลกํ อนฺตรายาย วทามิ. เย จ ขฺวสฺส, อานนฺท, อปฺปมตฺตสฺส อาตาปิโน ปหิตตฺตสฺส วิหรโต ทิฏฺธมฺมสุขวิหารา อธิคตา, เตสาหมสฺส ลาภสกฺการสิโลกํ อนฺตรายาย วทามี’’ติ สุตฺเต (สํ. นิ. ๒.๑๗๙) ปน สมเยน สมยํ อาปชฺชเนน ปริหริตพฺพานํ สมาปตฺติสุขวิหารานํ ตสฺมึ ตสฺมึ พฺยาสงฺคกาเล อนิปฺผตฺติโต ลาภสกฺการสิโลโก อนฺตราโยติ วุตฺโตติ อธิปฺปาเยนสฺส เตน อวิโรโธ เวทิตพฺโพ.
๕. ธมฺมานํ…เป… ปีติ เอตฺถ ‘‘ธมฺเมหี’’ติ วตฺตพฺพํ. อิธ หิ ตาหิ สมาปตฺตีหิ ปริหาเยยฺยาติ ธมฺเมหิ ปุคฺคลสฺส ปริหานมฺปิ อปริหานมฺปิ วุตฺตํ. ตตฺถ จ ปุคฺคลสฺส ปมาทมาคมฺม ตา สมาปตฺติโย กุปฺเปยฺยุนฺติ ธมฺมานํ กุปฺปนํ อกุปฺปนฺจ วุตฺตํ, ปุคฺคลสฺส ปน ปริหานธมฺมานเมว ¶ วินาโสติ วจนนานตฺตมตฺเตน วจนตฺถนานตฺตมตฺเตน วา ปริยายนฺตรตา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.
๗-๘. เจตนา ¶ สมาปตฺติเจตนา ตทายูหนา จ. อนุรกฺขณา สมาปตฺติอุปการานุปการปริคฺคาหิกา ปฺาสหิตา สติ. ตาหิ เจติยมานอนุรกฺขิยมานสมาปตฺตีนํ ภพฺพา เจตนาภพฺพา อนุรกฺขณาภพฺพา.
๑๐. ปุถุชฺชนโคตฺตนฺติ ปุถุชฺชนสิกฺขํ, ปุถุชฺชนคตา ติสฺโส สิกฺขา อติกฺกนฺตาติ อตฺโถ. ตา หิ สํโยชนตฺตยานุปจฺเฉเทน ‘‘ปุถุชฺชนสิกฺขา’’ติ วุจฺจนฺตีติ.
๑๑. อรหตฺตมคฺคฏฺโ จ วฏฺฏภยโต ปฺุพฺเพเคน อุพฺพิชฺชนฺโต อุทฺธมฺภาคิยสํโยชเนหิ อุปรโตติ ภยูปรโต นามาติ อาห ‘‘สตฺต เสกฺขา ภยูปรตา’’ติ.
๑๒. ภวงฺคปฺาวิรหิตา ‘‘วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา’’ติ อิมินา คหิตาติ ติเหตุกปฏิสนฺธิกา เกจิ ‘‘ทุปฺปฺา’’ติ อิมินา คยฺหนฺตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปฺปฏิลทฺธมคฺคผลูปนิสฺสยา’’ติ. ปฺาย หิ วินา น ตทุปนิสฺสโย อตฺถีติ.
๑๔. ยตฺถ นิยตานิยตโวมิสฺสา ปวตฺติ อตฺถิ, ตตฺเถว นิยตธมฺมา โหนฺตีติ อุตฺตรกุรูสุ ตทภาวา นิยโต นาม นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยา ปน อุตฺตรกุรุกาน’’นฺติอาทิมาห.
๑๖. เตรสสุ สีเสสุ ปลิโพธสีสาทีนิ ปวตฺตสีสฺจ ปริยาทิยิตพฺพานิ, อธิโมกฺขสีสาทีนิ ปริยาทกานิ, ปริยาทกผลํ โคจรสีสํ. ตฺหิ วิสยชฺฌตฺตผลวิโมกฺโขติ. ปริยาทกสฺส มคฺคสฺส ผลสฺส จ อารมฺมณํ สงฺขารสีสํ สงฺขารวิเวกภูโต นิโรโธติ ปริยาทิยิตพฺพานํ ปริยาทกผลารมฺมณานํ สห วิย สํสิทฺธิทสฺสเนน สมสีสิภาวํ ทสฺเสตุํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๘๗) เตรส สีสานิ วุตฺตานิ. อิธ ปน ‘‘อปุพฺพํ อจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจา’’ติ วจนโต เตสุ กิเลสปวตฺตสีสานเมว วเสน โยชนํ กโรนฺโต ‘‘ตตฺถ กิเลสสีส’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ปวตฺตสีสมฺปิ วฏฺฏโต วุฏฺหนฺโต มคฺโค จุติโต อุทฺธํ อปฺปวตฺติกรณวเสน ยทิปิ ปริยาทิยติ ¶ , ยาว ปน จุติ, ตาว ปวตฺติสพฺภาวโต ‘‘ปวตฺตสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ ¶ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยตี’’ติ อาห. กิเลสปริยาทาเนน ปน อตฺตโน อนนฺตรํ วิย นิปฺผาเทตพฺพา ปจฺจเวกฺขณวารา จ กิเลสปริยาทานสฺเสว วาราติ วตฺตพฺพตํ อรหนฺติ. ‘‘วิมุตฺตสฺมึ วิมุตฺตมิติ าณํ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๗๘; สํ. นิ. ๓.๑๒, ๑๔) วจนโต หิ ปจฺจเวกฺขณปริสมาปเนน กิเลสปริยาทานํ สมาปิตํ นาม โหติ. ตํ ปน ปริสมาปนํ ยทิ จุติจิตฺเตน โหติ, เตเนว ชีวิตปริสมาปนฺจ โหตีติ อิมาย วารจุติสมตาย กิเลสปริยาทานชีวิตปริยาทานานํ อปุพฺพาจริมตา โหตีติ อาห ‘‘วารสมตายา’’ติ. ภวงฺคํ โอตริตฺวา ปรินิพฺพายตีติ เอตฺถ ปรินิพฺพานจิตฺตเมว ภวงฺโคตรณภาเวน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๑๗. มหาปโยโคติ มหากิริโย วิปตฺติกรณมหาเมฆุฏฺานาการวินาโส. ติฏฺเยฺยาติ วินาโส นปฺปวตฺเตยฺยาติ อตฺโถ.
๑๘. อรณียตฺตาติ ปยิรุปาสิตพฺพตฺตา.
๒๐. ยาย กตกิจฺจตา โหติ, ตาย อคฺควิชฺชาย อธิคตาย เตวิชฺชตาภาโว นิปฺปริยายตา, สา จ อาคมนวเสน สิทฺธา สาติสยา เตวิชฺชตาติ อาห ‘‘อาคมนียเมว ธุร’’นฺติ.
๒๒. ตตฺถ จาติ นิมิตฺตตฺเถ ภุมฺมํ, สพฺพฺุตฺาณปฺปตฺติยา อาธารภาเว วา. ตตฺเถว หิ สพฺพฺุตํ ปตฺโต นาม โหตีติ.
๒๓. อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสูติ จ อนนุสฺสุเตสุ สจฺเจสูติ อตฺโถ.
๒๔. ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทิเก (ม. นิ. ๒.๒๔๘; ๓.๓๑๒; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙; ธ. ส. ๒๔๘) นิโรธสมาปตฺติอนฺเต อฏฺ วิโมกฺเข วตฺวา ‘‘ยโต โข, อานนฺท, ภิกฺขุ อิเม อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, อานนฺท, ภิกฺขุ อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ ยทิปิ มหานิทานสุตฺเต ¶ วุตฺตํ, ตํ ปน อุภโตภาควิมุตฺตเสฏฺวเสน วุตฺตนฺติ อิธ กีฏาคิริสุตฺตวเสน สพฺพอุภโตภาควิมุตฺตสงฺคหตฺถํ ‘‘อฏฺ สมาปตฺติโย สหชาตนามกาเยน ปฏิลภิตฺวา วิหรตี’’ติ อาห. กีฏาคิริสุตฺเต ¶ หิ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, เอกจฺโจ ปุคฺคโล เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปา, เต กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ปุคฺคโล อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๘๒) อรูปสมาปตฺติวเสน จตฺตาโร อุภโตภาควิมุตฺตา วุตฺตา, อุภโตภาควิมุตฺตเสฏฺโ จ วุตฺตลกฺขโณปปตฺติโตติ. กายสกฺขิมฺหิปิ เอเสว นโย.
ปฺาย จสฺส ทิสฺวา อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตีติ น อาสวา ปฺาย ปสฺสนฺติ, ทสฺสนการณา ปน ปริกฺขีณา ทิสฺวา ปริกฺขีณาติ วุตฺตา. ทสฺสนายตฺตปริกฺขยตฺตา เอว หิ ทสฺสนํ ปุริมกิริยา โหตีติ. นามนิสฺสิตโก เอโสติ เอโส อุภโตภาควิมุตฺโต รูปโต มุจฺจิตฺวา นามํ นิสฺสาย ิโต ปุน ตโต มุจฺจนโต ‘‘นามนิสฺสิตโก’’ติ วตฺวา ตสฺส จ สาธกํ สุตฺตํ วตฺวา ‘‘กายทฺวยโต สุวิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต’’ติ อาหาติ อตฺโถ. สุตฺเต หิ อากิฺจฺายตนลาภิโน อุปสีวพฺราหฺมณสฺส ภควตา นามกายา วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโตติ มุนิ อกฺขาโตติ.
ปมตฺเถรวาเท ทฺวีหิ ภาเคหิ วิมุตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต, ทุติยตฺเถรวาเท อุภโต ภาคโต วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโตติ, ตติยตฺเถรวาเท ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโตติ อยเมเตสํ วิเสโส. ตตฺถ วิมุตฺโตติ กิเลเสหิ วิมุตฺโต, กิเลสวิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทเนหิ วา กายทฺวยโต วิมุตฺโตติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อรูปาวจรํ ปน นามกายโต จ วิมุตฺตนฺติ นีวรณสงฺขาตนามกายโต วิมุตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตฺหิ นีวรณทูรีภาเวน นามกายโต รูปตณฺหาวิกฺขมฺภเนน รูปกายโต จ วิมุตฺตตฺตา เอกเทเสน อุภโตภาควิมุตฺตํ นาม โหตีติ อรหตฺตมคฺคสฺส ปาทกภูตํ อุภโตภาควิมุตฺตนามลาภสฺส การณํ ภวิตุํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๒๕. เอเตสุ หิ เอโกปิ อฏฺวิโมกฺขลาภี น โหตีติ อุภโตภาควิมุตฺตภาวสฺส การณภูตํ รูปกายโต วิมุตฺตํ เอกมฺปิ วิโมกฺขํ ¶ อนธิคโตติ อธิปฺปาโย. อรูปาวจเรสุ หิ เอกมฺปิ อธิคโต อุภโตภาควิมุตฺตภาวการณปฏิลาภโต อฏฺวิโมกฺเขกเทเสน เตน ตํนามทาเน ¶ สมตฺเถน ‘‘อฏฺวิโมกฺขลาภี’’ตฺเวว วุจฺจติ. เตนาห ‘‘อรูปาวจรชฺฌาเนสุ ปนา’’ติอาทิ.
๒๖. ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ ผุฏฺานํ อนฺโต ผุฏฺนฺโต, ผุฏฺานํ อรูปาวจรชฺฌานานํ อนนฺตโร กาโลติ อธิปฺปาโย. อจฺจนฺตสํโยเค เจตฺถ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ. ผุฏฺานนฺตรกาลเมว สจฺฉิกโรติ สจฺฉิกาตพฺโพปาเยนาติ วุตฺตํ โหติ. ‘‘เอกมนฺตํ นิสีที’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๖๕) วิย ภาวนปุํสกํ วา เอตํ. โย หิ อรูปชฺฌาเนน รูปกายโต นามกาเยกเทสโต จ วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน วิมุตฺโต, เตน นิโรธสงฺขาโต วิโมกฺโข อาโลจิโต ปกาสิโต วิย โหติ, น ปน กาเยน สจฺฉิกโต. นิโรธํ ปน อารมฺมณํ กตฺวา เอกจฺเจสุ อาสเวสุ เขปิเตสุ เตน โส สจฺฉิกโต โหติ, ตสฺมา โส สจฺฉิกาตพฺพํ นิโรธํ ยถาอาโลจิตํ นามกาเยน สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขีติ วุจฺจติ, น ตุ วิมุตฺโตติ เอกจฺจานํ อาสวานํ อปริกฺขีณตฺตา.
๒๗. ทิฏฺตฺตา ปตฺโตติ เอเตน จตุสจฺจทสฺสนสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิโรธสฺส ปตฺตตํ ทีเปติ. ‘‘ทิฏฺนฺตํ ปตฺโต’’ติ วา ปาโ, ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อนนฺตรํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ปมผลโต ปฏฺาย หิ ยาว อคฺคมคฺคา ทิฏฺิปฺปตฺโตติ.
๒๘. อิมํ ปน นยํ ‘‘โน’’ติ ปฏิกฺขิปิตฺวาติ เอตฺถ ทิฏฺิปฺปตฺตสทฺธาวิมุตฺตภาวปฺปตฺตานํ ปฺานานตฺตํ วุตฺตํ, น ปน เยน วิเสเสน โส วิเสโส ปตฺโต, โส วุตฺโตติ อิมํ โทสํ ทิสฺวา ปฏิกฺเขโป กโตติ ทฏฺพฺโพ. อาคมฏฺกถาสูติ จ วจเนน อาคมนียนานตฺตสนฺนิฏฺานเมว ถิรํ กโรตีติ เวทิตพฺพํ. สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ เอเตน สพฺพถา อวิมุตฺตสฺสปิ สทฺธามตฺเตน วิมุตฺตภาวํ ทสฺเสติ. สทฺธาวิมุตฺโตติ วา สทฺธาย อธิมุตฺโตติ อตฺโถ.
๒๙. ปฺํ วาเหตีติ ปฺํ สาติสยํ ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. ปฺา อิมํ ปุคฺคลํ วหตีติ นิพฺพานาภิมุขํ คเมตีติ อตฺโถ.
๓๑. เอวํ ¶ มคฺคกฺขเณปีติ อยํ อปิ-สทฺโท กสฺมา วุตฺโต, นนุ อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน สมนฺนาคโต มคฺคกฺขเณ เอว โหตีติ ตทา เอว โสตาปนฺโน นามาติ อาปนฺนนฺติ? นาปนฺนํ ¶ . มคฺเคน หิ อตฺตนา สทิสสฺส อฏฺงฺคิกสฺส วา สตฺตงฺคิกสฺส วา ผลสฺส โสโตติ นามํ ทินฺนนฺติ เตนปิ สมนฺนาคตสฺส โสตาปนฺนภาวโต, โสเตน วา มคฺเคน ปวตฺเตตุํ อปริหีเนน ผลฏฺโปิ สมนฺนาคโต เอว นาม, น จ เตน ปมมคฺคกฺขเณ วิย โสโต สมาปชฺชิยมาโน, ตสฺมา สมาปนฺนโสตตฺตา ปมผลโต ปฏฺาย ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ วตฺตุํ ยุตฺโต. วุตฺตฺหิ ‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, มยิ อเวจฺจปฺปสนฺนา, สพฺเพ เต โสตาปนฺนา. เตสํ โสตาปนฺนานํ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๖๔). ตตฺถ ทุติยผลฏฺาทีนํ วิสุํ นามํ อตฺถีติ ปมผลฏฺโ เอว อิตเรหิ วิเสสิยมาโน ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ วตฺตุํ ยุตฺโตติ โส เอว อิธาธิปฺเปโต. ปฏิลทฺธมคฺเคน พุชฺฌตีติ เอเตน ปฏิลทฺธมคฺคสฺส จตุสจฺจปจฺจเวกฺขณาทีนํ อุปนิสฺสยภาวํ ทสฺเสติ. สมฺโพธิ ปรํ อยนํ นิสฺสโย เอตสฺสาติ หิ สมฺโพธิปรายโณติ. ทุติเยนตฺเถน สมฺโพธิ ปรํ อยนํ คติ เอตสฺสาติ สมฺโพธิปรายโณ.
๓๒. เกวเลน กุลสทฺเทน มหากุลเมว วุจฺจตีติ อาห ‘‘มหาโภคกุเลสุเยว นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ’’ติ.
๓๓. ขนฺธพีชํ นาม ปฏิสนฺธิวิฺาณํ. อิหฏฺกนิชฺฌานิกวเสเนว อิมสฺมึ าเน กถิตาติ สชฺฌานโก อชฺฌตฺตสํโยชนสมุจฺเฉเท อกเตปิ อนาคามิสภาโค อนาวตฺติธมฺโม อิธ คณนูปโค น โหติ, เหฏฺา อุปริ จ สํสรณโก กามภวคโต หีนชฺฌานโก อิธ คณนูปโคติ อธิปฺปาโย.
๓๔. ยํ วตฺตพฺพนฺติ ‘‘ทฺวีหิ การเณหิ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ’’ติอาทิ ยํ วตฺตพฺพํ สิยาติ อตฺโถ.
๓๖. อุปปนฺนํ วา สมนนฺตราติ อุปปนฺนํ วา เอเตน ปุคฺคเลน โหติ, อถ สมนนฺตรา อริยมคฺคํ สฺชเนติ. อปฺปตฺตํ วา เวมชฺฌํ อายุปฺปมาณนฺติ อายุปฺปมาณํ ตสฺส ปุคฺคลสฺส เวมชฺฌํ อปฺปตฺตํ โหติ, เอตฺถนฺตเร อริยมคฺคํ ¶ สฺชเนตีติ อยเมตฺถ ปาฬิอตฺโถ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘อปฺปตฺวา ปพฺพตํ นที’’ติ วิย อายุปฺปมาณํ เวมชฺฌํ อปฺปตฺตํ วา หุตฺวาติ ปรสทฺทโยเค ปรโต ภูโต หุตฺวา สทฺโท วจนเสสภูโต ปยุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
๓๗. อุปหจฺจาติ ¶ เอตสฺส อุปคนฺตฺวาติ อตฺโถ, เตน เวมชฺฌาติกฺกโม กาลกิริโยปคมนฺจ สงฺคหิตํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌ’’นฺติอาทิ.
๔๐. อุทฺธํวาหิภาเวนาติ อุทฺธํ วหตีติ อุทฺธํวาหี, ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตํ วา, ตสฺส ภาโว, เตน อุทฺธํวาหิภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. อวิเหสุ อุทฺธํโสโต ยทิปิ ตตฺถ ปรินิพฺพายี น โหติ, ยตฺถ วา ตตฺถ วา คนฺตฺวา ปรินิพฺพายตุ, ปรินิพฺพายิโน ปน ตสฺส อสงฺขารปรินิพฺพายิตา สสงฺขารปรินิพฺพายิตา จ อตฺถีติ ตตฺถ ทส อนาคามิโน วุตฺตา, เอวํ อตปฺปาทีสุปิ. อนุปหจฺจตลาติ อปฺปตฺตตลา. อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีนํ ลหุสาลหุสคติกา เอว ปริตฺตวิปุลติณกฏฺฌาปกปปฺปฏิกาสทิสตา เวทิตพฺพา, น อุปฺปชฺชิตฺวาว นิพฺพายนกาทีหิ อธิมตฺตตา วิย สมุทฺทํ ปตฺวา นิพฺพายนกโต อนธิมตฺตตา วิย จ อนฺตรา อุปหจฺจปรินิพฺพายีหิ อุทฺธํโสตโต จ อธิมตฺตานธิมตฺตตา. เต เอว หิ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายิโนติ. ตโต มหนฺตตเรติ วจนํ ติณกฏฺฌาปนสมตฺถปปฺปฏิกาทสฺสนตฺถํ, น อธิมตฺต นาธิมตฺตทสฺสนตฺถนฺติ.
โน จสฺส โน จ เม สิยาติ อวิชฺชาสงฺขาราทิกํ เหตุปฺจกํ โน จ อสฺส, วิฺาณาทิกํ อิทํ ผลปฺจกํ วตฺตมานํ โน จ เม สิยาติ อตฺโถ. เตน อตีตภวสํสิทฺธิโต ทุกฺขสมุทยโต อิมสฺส ทุกฺขสฺส ปวตฺติทสฺสนโต ปจฺจยสมุทยฏฺเน ขนฺธานํ อุทยทสฺสนปฏิปตฺติ วุตฺตา โหติ. น ภวิสฺสติ, น เม ภวิสฺสตีติ ยทิ เอตรหิ เหตุปฺจกํ น ภวิสฺสติ, อนาคเต ผลปฺจกํ น เม ภวิสฺสตีติ อตฺโถ. เอเตน ปจฺจยนิโรธฏฺเน วยทสฺสนปฏิปตฺติ วุตฺตา โหติ, เอตรหิ อนาคเต จ อตฺตตฺตนิยนิวารณวเสน สฺุตาปฏิปตฺติ วา จตูหิปิ วุตฺตา. ยทตฺถีติ ยํ อตฺถิ. ภูตนฺติ สสภาวํ นิพฺพตฺตํ วา ยถาทิฏฺอุทยพฺพยํ ยถาทิฏฺสฺุตํ วา ขนฺธปฺจกํ ปริกปฺปิตอิตฺถิปุริสสตฺตาทิภาวรหิตํ นามรูปมตฺตนฺติ อตฺโถ. วิวฏฺฏานุปสฺสนาย วิวฏฺฏมานโส ตํ ภูตํ ปชหามีติ ¶ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ, สงฺขารุเปกฺขาาเณน อุเปกฺขโก โหตีติ วุตฺตํ โหติ.
ภเว น รชฺชติ, สมฺภเว น รชฺชตีติ อวิสิฏฺเ วิสิฏฺเ จ ภเว น รชฺชตีติ เกจิ วทนฺติ. ปจฺจุปฺปนฺโน ปน ภโว ภโว, อนาคโต ชาติยา คหเณน คหิโต สมฺภโวติ เวทิตพฺโพ. อถ วา ภโวติ ภูตเมว วุจฺจติ, สมฺภโว ตทาหาโร, ตสฺมึ ทฺวเย น รชฺชตีติ เสกฺขปฏิปตฺตึ ทสฺเสติ ¶ . ภูเต หิ สสมฺภเว จ วิราโค เสกฺขปฏิปตฺติ. ยถาห ‘‘ภูตมิทนฺติ, ภนฺเต, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสติ, ภูตมิทนฺติ ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ทิสฺวา ภูตสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. ตทาหารสมฺภวนฺติ ยถาภูตํ…เป… ทิสฺวา ตทาหารสมฺภวสฺส นิพฺพิทาย…เป… ปฏิปนฺโน โหติ. ตทาหารนิโรธาย ยํ ภูตํ, ตํ นิโรธธมฺมนฺติ ยถาภูตํ…เป… ทิสฺวา นิโรธธมฺมสฺส นิพฺพิทาย วิราคาย นิโรธาย ปฏิปนฺโน โหติ. เอวํ โข, ภนฺเต, เสกฺโข โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๓๑). อถุตฺตรีติ อถ เอวํ อรชฺชมาโน อุตฺตริ สนฺตํ ปทํ นิพฺพานํ อนุกฺกเมน มคฺคปฺาย สมฺมา ปสฺสติ, ตฺจ ขฺวสฺส ปทํ น สพฺเพน สพฺพํ สจฺฉิกตํ จตุตฺถมคฺเคเนว สจฺฉิกาตพฺพสฺส ตสฺส เตน อสจฺฉิกตตฺตา.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา
๖๓. กสฺสจิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา กสฺสจิ กถฺจิ อวิมุตฺโต กามภโว อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจโยติ อชฺฌตฺตํ นาม. ตตฺถ พนฺธนํ อชฺฌตฺตสํโยชนํ, เตน สมฺปยุตฺโต อชฺฌตฺตสํโยชโน.
๘๓. การเณน วินา ปวตฺตหิตจิตฺโต อการณวจฺฉโล. อนาคตมฺปิ ปโยชนํ อเปกฺขมาโน ปุริมคฺคหิตํ ตํ กตํ อุปาทาย กตฺู เอว นาม โหติ, น ปุพฺพการีติ อาห ‘‘กริสฺสติ เม’’ติอาทิ. ตโมโชติปรายโณ ปฺุผลํ อนุปชีวนฺโต เอว ปฺุานิ กโรตีติ ‘‘ปุพฺพการี’’ติ วุตฺโต. ‘‘อิณํ เทมี’’ติ สฺํ กโรตีติ เอวํสฺํ อกโรนฺโตปิ กโรนฺโต วิย โหตีติ อตฺโถ.
๘๖. อจฺฉมํสํ ¶ ลภิตฺวา สูกรมํสนฺติ น กุกฺกุจฺจายตีติ อจฺฉมํสนฺติ ชานนฺโตปิ สูกรมํสนฺติ น กุกฺกุจฺจายติ, มทฺทิตฺวา วีติกฺกมตีติ วุตฺตํ โหติ.
๙๐. ติตฺโตติ นิฏฺิตกิจฺจตาย นิรุสฺสุกฺโก.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๑. เสสสํวรเภเทนาติ ¶ มโนสํวรเภเทน, สติสํวราทิเภเทน วา. อกุสลสีลสมนฺนาคเมนาติ ‘‘กตเม จ ถปติ อกุสลา สีลา? อกุสลํ กายกมฺมํ อกุสลํ วจีกมฺมํ ปาปโก อาชีโว’’ติ วุตฺเตหิ สมนฺนาคเมน. ตสฺส หิ…เป… เอวํ สาสงฺกสมาจาโร โหตีติ เอวํ สาสงฺโก สมาจาโร โหตีติ อตฺโถ.
๙๔. สมานวิสยานํ ปุคฺคลานํ วิเสสทสฺสนวเสน ‘‘กายสกฺขี’’ติอาทิกํ วุตฺตํ.
๑๐๗. สมาธิ วา อาทีติ โลกุตฺตรธมฺมา หิ ปรมตฺถโต สาสนนฺติ ตทตฺโถ ปาทกสมาธิ ตสฺส อาทิ วุตฺโต, ตทาสนฺนตฺตา วิปสฺสนา, ตสฺส มูเลกเทสตฺตา มคฺโค.
๑๐๘. อุจฺฉงฺโค วิย อุจฺฉงฺคปฺโ ปุคฺคโล ทฏฺพฺโพติ อุจฺฉงฺคสทิสปฺตาย เอว ปฺา วิย ปุคฺคโลปิ อุจฺฉงฺโค วิย โหติ, ตสฺมึ ธมฺมานํ อจิรฏฺานโตติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. วกฺขติ หิ ‘‘อุจฺฉงฺคสทิสปฺโติอตฺโถ’’ติ.
๑๐๙. ยถา จ อุจฺฉงฺคสทิสา ปฺา, เอวํ นิกฺกุชฺชกุมฺภสทิสา ปฺา เอวาติ ทฏฺพฺโพ, ตตฺถ ธมฺมานํ อนวฏฺานโต.
๑๑๓. จิรฏฺานโต ถิรฏฺานโต จ ปาสาณเลขสทิสา ปราปราธนิพฺพตฺตา โกธเลขา ยสฺส โส ปาสาณเลขูปมสมนฺนาคโต ปาสาณเลขูปโมติ วุตฺโต, เอวํ อิตเรปิ.
๑๑๘. สุตาทิวตฺถุรหิโต ¶ ตุจฺฉมาโน นโฬ วิยาติ ‘‘นโฬ’’ติ วุจฺจติ, โส อุคฺคโต นโฬ เอตสฺสาติ อุนฺนโฬ.
๑๒๒. ‘‘สีลกถา จ โน ภวิสฺสตี’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ สีลกถาภวนํ ปมารมฺโภปิ ทุสฺสีเลน สห น โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห เนว สีลกถา โหตี’’ติ.
๑๒๓. ตตฺถ ¶ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ อนุคฺคเหตพฺเพ ปฺาย โสเธตพฺเพ จ วฑฺเฒตพฺเพ จ อธิกสีลํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนปฺาย อนุคฺคณฺหาติ นามาติ อตฺโถ.
๑๒๔. คูถกูโป วิย ทุสฺสีลฺยนฺติ เอเตน ทุสฺสีลฺยสฺส คูถสทิสตฺตเมว ทสฺเสติ.
๑๓๐. โน จ สมฺมา ปฺเปตุํ สกฺโกนฺตีติ เยภุยฺเยน น สกฺโกนฺตีติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ, อุปฺปนฺเน ตถาคเต ตสฺมึ อนาทริยํ กตฺวา สมาปตฺตึ อุปฺปาเทตุํ วายมนฺตสฺส อสมตฺถภาวํ วา. ติตฺถิยา วา ปูรณาทโย อธิปฺเปตา.
ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๓๓. ปเรน กตํ ทุสฺสีลฺยํ อาณตฺติยา อตฺตนา จ ปโยเคน กตนฺติ อาณตฺติยา ปาปสฺส ทายาโท ‘‘ตโต อุปฑฺฒสฺส ทายาโท’’ติ วุตฺโต.
๑๔๕. อยนฺติ ‘‘เตสุ ปโม’’ติอาทิกํ นยํ วทติ.
๑๔๘. เทสนาย ธมฺมานํ าณสฺส อาปาถภาวสมฺปาทนํ าณุคฺฆาฏนํ. สห อุทาหฏเวลายาติ อุทาหฏเวลาย สทฺธึ ตสฺมึ กาเล อนติกฺกนฺเต เอวาติ อตฺโถ.
๑๕๒. ตนฺติ อนนฺตรวจนํ วทติ. ‘‘กตโม โลโก’’ติ วุตฺเต ‘‘ปฺจุปาทานกฺขนฺธา’’ติ มหนฺตํ อตฺถํ สงฺคหิตฺวา ิตวจนํ อตฺถยุตฺตํ. ลุชฺชตีติ โลโกติ การณยุตฺตํ.
๑๕๖. สหิตาสหิตสฺสาติ ¶ สหิตาสหิเตติ อตฺโถ, สหิตาสหิตสฺส ปริจฺฉินฺทเนติ วา ¶ . ทฺเวเยวาติ ทุติยจตุตฺถาเยว. เทสกสาวกสมฺปตฺติยา โพเธตุํ สมตฺถตาย สภาวธมฺมกถิกา, สจฺจธมฺมกถิกาติ อตฺโถ.
๑๕๗. กุสลธมฺเมหิ จิตฺตสฺส วาสนาภาวนา วาสธุรํ. อยํ ปาปปุคฺคโลติ จตุตฺโถ วุตฺโต, น ปโม. ปโม หิ อวิสํวาเทตุกาโม เวรฺชพฺราหฺมณสทิโส อธิปฺเปโตติ.
๑๕๙. ปุคฺคเลปิ อริยานํ อภิกฺกมนาทิสทิสตาติ ปุคฺคเล อภิกฺกมนาทีนํ อริยานํ อภิกฺกมนาทิสทิสตาติ อตฺโถ, อริยานํ อภิกฺกมนาทินา ปุคฺคลสฺส สทิสตาติ วา สทิสาภิกฺกมนาทิตาติ อตฺโถ.
๑๖๖. ทุสฺสีลํ ‘‘ทุสฺสีโล’’ติ วทนฺโต ภูตํ ภาสติ นาม. ปาณาติปาเตน ทุสฺสีลํ อทินฺนาทาเนน ทุสฺสีโลติ อวตฺวา ปาณาติปาเตเนวาติ วทนฺโต ตจฺฉํ ภาสติ นาม. ยมิทํ ‘‘กาเลนา’’ติ วุตฺตํ, ตตฺร ตสฺมึ วจเน, โย ‘‘กาเลน ภณตี’’ติ วุตฺโต, โส กีทิโสติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘กาลฺู โหตี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยมิทํ กาเลนาติ วุตฺตํ, ตตฺร โย ปุคฺคโล’’ติอาทิมาห.
๑๖๘. อาคมนวิปตฺติ นาม กมฺมํ, ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ สุกฺกโสณิตํ. ปวตฺเต, ปวตฺตสฺส วา ปจฺจยา ปวตฺตปจฺจยา, อาหาราทโย. โชเตตีติ โชติ, อาโลโก. กุลสมฺปตฺติยาทีหิ โชตมาโน จ โชติ วิยาติ โชติ.
๑๗๓. ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณาปิ เยหิ กิเลเสหิ วิมุตฺโต อวิมุตฺโต จ, เตสํ ทสฺสนวเสน วิมุตฺติทสฺสนเมว โหตีติ อาห ‘‘วิมุตฺติาณทสฺสนํ เอกูนวีสติวิธํ ปจฺจเวกฺขณาณ’’นฺติ.
๑๗๔. ยานิ กานิจิ ตนฺตาวุตานนฺติ ตนฺตาวุตานํ วตฺถานํ ยานิ กานิจิ วตฺถานีติ วุตฺตํ โหติ. สายํ ตติยํ อสฺสาติ สายตติโย. อนุยฺุชนํ อนุโยโค. ตํ อนุยุตฺโตติ อุปโยควจนํ ทฏฺพฺพํ, ภาวนปุํสกํ วา.
๑๗๘. ตตฺถ ¶ ¶ สิกฺขนภาเวนาติ สิกฺขาย สาชีเว จ สิกฺขนภาเวน. สิกฺขํ ปริปูเรนฺโตติ สีลสํวรํ ปริปูเรนฺโต. สาชีวฺจ อวีติกฺกมนฺโตติ ‘‘นามกาโย ปทกาโย นิรุตฺติกาโย พฺยฺชนกาโย’’ติ วุตฺตํ สิกฺขาปทํ ภควโต วจนํ อวีติกฺกมนฺโต หุตฺวาติ อตฺโถ. อิทเมว จ ทฺวยํ ‘‘สิกฺขน’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ สาชีวานติกฺกโม สิกฺขาปาริปูริยา ปจฺจโย. ตโต หิ ยาว มคฺคา สํวรปาริปูรี โหตีติ. วินาสนภาวโตติ หึสนภาวโต. หลิทฺทิราโค วิย น ถิรกโถ โหตีติ เอตฺถ กถาย อฏฺิตภาเวน หลิทฺทิราคสทิสตา เวทิตพฺพา, น ปุคฺคลสฺส.
๑๗๙. ทารุมาสโกติ เย โวหารํ คจฺฉนฺตีติ อิติ-สทฺเทน เอวํปกาเร ทสฺเสติ. อฺํ ทสฺเสตฺวา อฺสฺส ปริวตฺตนนฺติ ทสคฺฆนกํ วตฺถยุคํ ทสฺเสตฺวา ตสฺส อชานนฺตสฺส ปฺจคฺฆนกสฺส ทานํ.
๑๘๑. อวิกิณฺณสุขนฺติ รูปาทีสุ สุภาทิปริกปฺปนวเสน อวิสฏสุขํ.
๑๘๗. ขนฺธธมฺเมสุ อนิจฺจาทิวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา มคฺคผลลาเภน ปฏิลทฺธา นาม โหติ ตทลาเภน อนวฏฺานโตติ มคฺคผลลาภี เอว ‘‘อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาลาภี’’ติ วุตฺโต, มคฺคผลาณเมว จ อธิกปฺาภาวโต จตุสจฺจธมฺเม สพฺพธมฺมสฺส วเร นิพฺพาเน เอว วา วิสิฏฺทสฺสนภาวโต จ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาติ ทฏฺพฺพา.
๑๘๙. สุเตน อนุปปนฺโนติ ยถาสุเตน วา อตฺเถน วา น สมนฺนาคโตติ อตฺโถ.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๑๙๑. ปมปฺจเก อุทฺเทเสเนว ปุคฺคลวิภาโค วิฺายตีติ ยถา เตสุ ปฏิปชฺชิตพฺพํ ¶ , ตาย ปฏิปตฺติยา เต วิภชนฺโต ‘‘ตตฺร ยฺวาย’’นฺติอาทิมาห. อารมฺภสทฺโทติ อารมฺภกิริยาวาจโก สทฺโทติ อตฺโถ. ผลุปฺปตฺติยา ¶ มคฺคกิจฺจํ นิฏฺิตํ โหตีติ ‘‘มคฺคกิจฺจวเสน ผลเมว วุตฺต’’นฺติ อาห. อายาจนสาธูติ น ปสํสนาทิสาธูติ อตฺโถ.
๑๙๒. อาทิโต เธยฺยํ เปตพฺพํ อาเธยฺยํ, ทสฺสนสวนปฏิวจนทานวเสน มุเขน วิย ปวตฺตํ คหณํ มุขนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตํ มุขํ อาเธยฺยํ, คหณตฺถํ ปกติมุขเมว วา อาเธยฺยํ ยสฺส โส อาเธยฺยมุโข, อวิจาเรตฺวา อาทิกถาย เอว ปิตคหโณติ วุตฺตํ โหติ.
๑๙๙. ควา ขีรํ อคฺคมกฺขายตีติ น เอวํ สมฺพนฺโธ, อุปฺปตฺติโต ปน ปฺจ โครเส ทสฺเสตฺวา เตสุ สปฺปิมณฺฑสฺส อคฺคภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘ควา ขีร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘คาวิโต ขีรํ นาม โหตี’’ติอาทิ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๒. ฉกฺเก เอกนฺตโต ปากฏา สมฺมาสมฺพุทฺธาทโย เต ยถาวุตฺตคุณา ปุคฺคลาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ เตน ทฏฺพฺโพ’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เตนาติ สามํ สจฺจาภิสมโย ตตฺถ จ สพฺพฺุตปฺปตฺติพเลสุ จ วสิภาวปฺปตฺตีติ เอเตน สพฺเพน สมุทิเตน. ‘‘สพฺพฺุตฺาเณนา’’ติ ปน วุตฺเต สพฺพมิทํ สงฺคหิตํ โหติ สามํ สจฺจาภิสมเยน พเลสุ จ วสิภาวปฺปตฺติยา จ วินา สพฺพฺุตฺาณสฺส อภาวา, ตสฺมา อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพฺุตฺาเณนา’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ตตฺถ อนาจริยเกน อตฺตนา อุปฺปาทิเตนาติ วจเนน สพฺพฺุตฺาณสฺส สาจริยกตฺตํ ปรโต อุปฺปตฺติฺจ ปฏิเสเธติ, น สาจริยกํ ปเรหิ อุปฺปาทิตฺจ สพฺพฺุตฺาณํ. น หิ ตํ ตาทิสํ นิวาเรตพฺพํ อตฺถีติ.
ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๓. สทฺธา ¶ ¶ นาม สาธุลทฺธิกาติ อุมฺมุชฺชตีติ เอเตน กุสเลสุ ธมฺเมสุ อนฺโตคธา, โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ วา อธิโมกฺขภูตา สทฺธา สาธูติ อุมฺมุชฺชมานํ กุสลํ ทสฺเสติ, เอวํ หิรียาทีสุ จ. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ เอตฺถ ภุมฺมนิทฺเทโส ตทนฺโตคธตาย ตทุปการตาย วา เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ อุมฺมุชฺชติ สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสูติอาทินา สทฺธาทีนํ อุมฺมุชฺชนปฺาย สทฺธาทีนํ อุปฺปตฺตึ ทสฺเสติ. เตเนว ‘‘ตสฺส สา สทฺธา เนว ติฏฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สาหุ สทฺธา กุสเลสุ ธมฺเมสู’’ติ วา อุมฺมุชฺชนสฺส อุปการกํ อานิสํสทสฺสนํ วตฺวา ‘‘อุมฺมุชฺชตี’’ติ เอเตน สทฺธาสงฺขาตเมว อุมฺมุชฺชนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ. จงฺกวาเรติ รชกานํ ขารปริสาวเน. เอกกมฺมนิพฺพตฺตา ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติสนฺตติ เอโก จิตฺตวาโรติ จุติโต อนนฺตโร ยถาคหิโต ทุติโย โหตีติ อาห ‘‘ทุติยจิตฺตวาเรนา’’ติ. อุมฺมุชฺชิตฺวา ิตาทโย จตฺตาโร ตาย ตาย ชาติยา อรหตฺตํ อสจฺฉิกโรนฺตา อเนเก ปุคฺคลา เวทิตพฺพา, สจฺฉิกโรนฺโต ปน เอโกปิ ปุพฺพภาเค ตติยปุคฺคลาทิภาวํ อาปชฺชิตฺวา อนฺเต สตฺตมปุคฺคโล โหตีติ.
สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทสกนิทฺเทสวณฺณนา
๒๐๙. ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺาติ เอตฺถ เย โสตาปนฺนาทโย รูปารูปภเว อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เต อิธ วิหาย นิฏฺาปกฺขํ ภชมานาปิ อชฺฌตฺตสํโยชนานํ อสมุจฺฉินฺนตฺตา ปุถุชฺชนสาธารเณ จ าเน อุปปตฺติยา น คหิตา. อสาธารณฏฺานุปฺปตฺติวเสน ปน อนฺตราปรินิพฺพายีอาทโย เอว ‘‘อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพาติ.
ทสกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปุคฺคลปฺตฺติปกรณ-มูลฏีกา สมตฺตา.