📜
กถาวตฺถุปกรณ-มูลฏีกา
คนฺถารมฺภกถาวณฺณนา
กถานํ ¶ ¶ วตฺถุภาวโตติ กถาสมุทายสฺส ปกรณสฺส อตฺตโน เอกเทสานํ โอกาสภาวํ วทติ. สมุทาเย หิ เอกเทสา อนฺโตคธาติ. เยน ปกาเรน สงฺเขเปน อเทสยิ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มาติกาปเนเนว ปิตสฺสา’’ติ อาห.
นิทานกถาวณฺณนา
อนุปาทิเสสาย นิพฺพานธาตุยา ปรินิพฺพายีติ ปรินิพฺพานเมว ปรินิพฺพานสฺส ปรินิพฺพานนฺตรโต วิเสสนตฺถํ กรณภาเวน วุตฺตํ. ยาย วา นิพฺพานธาตุยา อธิคตาย ปจฺฉิมจิตฺตํ อปฺปฏิสนฺธิกํ ชาตํ, สา ตสฺส อปฺปฏิสนฺธิวูปสมสฺส กรณภาเวน วุตฺตาติ. ทุพฺพลปกฺขนฺติ น กาฬาโสกํ วิย พลวนฺตํ, อถ โข เอกมณฺฑลิกนฺติ วทนฺติ. ธมฺมวาทีอธมฺมวาทีวิเสสชนนสมตฺถาย ปน ปฺาย อภาวโต ทุพฺพลตา วุตฺตา. เตสํเยวาติ พาหุลิยานเมว ¶ , พหุสฺสุติกาติปิ นามํ. ภินฺนกาติ มูลสงฺคีติโต มูลนิกายโต วา ภินฺนา, ลทฺธิยา สุตฺตนฺเตหิ ลิงฺคากปฺเปหิ จ วิสทิสภาวํ คตาติ อตฺโถ.
มูลสงฺคหนฺติ ปฺจสติกสงฺคีตึ. อฺตฺร สงฺคหิตาติอาทีสุ ทีฆาทีสุ อฺตฺร สงฺคหิตโต สุตฺตนฺตราสิโต ตํ ตํ สุตฺตํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา อฺตฺร อกรึสูติ วุตฺตํ โหติ. สงฺคหิตโต วา อฺตฺร อสงฺคหิตํ สุตฺตํ อฺตฺร กตฺถจิ อกรึสุ, อฺํ วา อกรึสูติ อตฺโถ. อตฺถํ ธมฺมฺจาติ ปาฬิยา อตฺถํ ปาฬิฺจ. วินเย นิกาเยสุ จ ปฺจสูติ วินเย จ อวเสสปฺจนิกาเยสุ จ.
‘‘ทฺเวปานนฺท ¶ , เวทนา วุตฺตา มยา ปริยาเยนา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๒.๘๙) ปริยายเทสิตํ. อุเปกฺขาเวทนา หิ สนฺตสฺมึ ปณีเต สุเข วุตฺตา ภควตาติ อยฺเหตฺถ ปริยาโย. ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา อุเปกฺขา เวทนา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๔๙-๒๕๑) นิปฺปริยายเทสิตํ. เวทนาสภาโว หิ ติวิโธติ อยเมตฺถ นิปฺปริยายตา. ‘‘สุขาปิ เวทนา อนิจฺจา สงฺขตา’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๑๒๓) นีตตฺถํ. ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๓๒) เนยฺยตฺถํ. ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหิ ชมฺพุทีปกา มนุสฺสา อุตฺตรกุรุเก จ มนุสฺเส อธิคฺคณฺหนฺติ เทเว จ ตาวตึเส’’ติอาทิกํ (อ. นิ. ๙.๒๑) อฺํ สนฺธาย ภณิตํ คเหตฺวา อฺํ อตฺถํ ปยึสุ. ‘‘นตฺถิ เทเวสุ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติอาทิกํ (กถา. ๒๗๐) สุตฺตฺจ อฺํ สนฺธาย ภณิตํ อตฺถฺจ อฺํ ปยึสูติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทิ (ปุ. ป. มาติกา ๔.๒๔) พฺยฺชนจฺฉายาย สณฺหสุขุมํ สฺุตาทิอตฺถํ พหุํ วินาสยุํ.
วินยคมฺภีรนฺติ วินเย คมฺภีรฺจ เอกเทสํ ฉฑฺเฑตฺวาติ อตฺโถ. กิเลสวินเยน วา คมฺภีรํ เอกเทสํ สุตฺตํ ฉฑฺเฑตฺวาติ อตฺโถ. ปติรูปนฺติ อตฺตโน อธิปฺปายานุรูปํ สุตฺตํ, สุตฺตปติรูปกํ วา อสุตฺตํ. เอกจฺเจ อฏฺกถากณฺฑเมว วิสฺสชฺชึสุ, เอกจฺเจ สกลํ อภิธมฺมปิฏกนฺติ อาห ‘‘อตฺถุทฺธารํ อภิธมฺมํ ฉปฺปกรณ’’นฺติ. กถาวตฺถุสฺส สวิวาทตฺเตปิ อวิวาทานิ ฉปฺปกรณานิ ปิตพฺพานิ สิยุํ, ตานิ นปฺปวตฺตนฺตีติ หิ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ฉปฺปกรณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ. ตติยสงฺคีติโต วา ปุพฺเพ ปวตฺตมานานํ วเสน ‘‘ฉปฺปกรณ’’นฺติ วุตฺตํ ¶ . อฺานีติ อฺานิ อภิธมฺมปกรณาทีนิ. นามนฺติ ยํ พุทฺธาทิปฏิสํยุตฺตํ น โหติ มฺชุสิรีติอาทิกํ, ตํ นิกายนามํ. ลิงฺคนฺติ นิวาสนปารุปนาทิวิเสสกตํ สณฺานวิเสสํ. สิกฺกาทิกํ ปริกฺขารํ. อากปฺโป านาทีสุ องฺคฏฺปนวิเสโส ทฏฺพฺโพ. กรณนฺติ จีวรสิพฺพนาทิกิจฺจวิเสโส.
สงฺกนฺติกสฺสปิเกน นิกาเยน วาเทน วา ภินฺนา สงฺกนฺติกาติ อตฺโถ. สงฺกนฺติกานํ เภทา สุตฺตวาที อนุปุพฺเพน ภิชฺชถ ภิชฺชึสูติ อตฺโถ. ภินฺนวาเทนาติ ภินฺนา วาทา เอตสฺมินฺติ ภินฺนวาโท, เตน อภินฺเนน ¶ เถรวาเทน สห อฏฺารส โหนฺตีติ วุตฺตํ โหติ. ภินฺนวาเทนาติ วา ภินฺนาย ลทฺธิยา อฏฺารส โหนฺติ, เต สพฺเพปิ สหาติ อตฺโถ. เถรวาทานมุตฺตโมติ เอตฺถ เถร-อิติ อวิภตฺติโก นิทฺเทโส. เถรานํ อยนฺติ เถโร. โก โส? วาโท. เถโร วาทานมุตฺตโมติ อยเมตฺถ อตฺโถ.
อุปฺปนฺเน วาเท สนฺธาย ‘‘ปรปฺปวาทมถน’’นฺติ อาห. อายตึ อุปฺปชฺชนกวาทานํ ปฏิเสธนลกฺขณภาวโต ‘‘อายติลกฺขณ’’นฺติ วุตฺตํ.
นิทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาวคฺโค
๑. ปุคฺคลกถา
๑. สุทฺธสจฺจิกฏฺโ
๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา
๑. มายาย ¶ ¶ อมณิอาทโย มณิอาทิอากาเรน ทิสฺสมานา ‘‘มายา’’ติ วุตฺตา. อภูเตน มณิอุทกาทิอากาเรน คยฺหมานา มายามรีจิอาทโย อภูตฺเยฺยาการตฺตา อสจฺจิกฏฺา. โย ตถา น โหติ, โส สจฺจิกฏฺโติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘มายา…เป… ภูตตฺโถ’’ติ. อนุสฺสวาทิวเสน คยฺหมาโน ตถาปิ โหติ อฺถาปีติ ตาทิโส เยฺโย น ปรมตฺโถ, อตฺตปจฺจกฺโข ปน ปรมตฺโถติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนุสฺสวา…เป… อุตฺตมตฺโถ’’ติ.
ฉลวาทสฺสาติ อตฺถีติ วจนสามฺเน อตฺถีติ วุตฺเตหิ รูปาทีหิ สามฺวจนสฺสาติ อธิปฺปาโย. ‘‘โส สจฺจิ…เป… ลทฺธึ คเหตฺวา อามนฺตาติ ปฏิชานาตี’’ติ วจนโต ปน ‘‘ฉลวาทสฺสา’’ติ น สกฺกา วตฺตุํ. น หิ ลทฺธิ ฉลนฺติ. โอกาสํ อททมาโนติ ปติฏฺํ ปจฺฉินฺทนฺโต. ยทิ สจฺจิกฏฺเน อุปลพฺภติ, รูปาทโย วิย อุปลพฺเภยฺย, ตถา อนุปลพฺภนียโต น ตว วาโท ติฏฺตีติ นิวตฺเตนฺโตติ อธิปฺปาโย. ตํ สนฺธายาติ ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติ เอตฺถ วุตฺโต โย สจฺจิกฏฺโ, โส สปฺปจฺจยาทิภาเวน ทีปิโต ‘‘รูปฺจ อุปลพฺภตี’’ติอาทีสุ อาคโต ธมฺมปฺปเภโทติ ทสฺเสติ.
‘‘เตน ¶ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ วตฺวา ‘‘เตนากาเรนา’’ติ วทโต อยมธิปฺปาโย – สจฺจิกฏฺปรมตฺถากาเรน อุปลพฺภมานํ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภมานํ นาม โหตีติ. อฺถา ตโตติ ตสฺส เตนากาเรนาติ วตฺตพฺพํ สิยา. โก ปเนติสฺสา ปุริมปุจฺฉาย จ วิเสโสติ? ปุริมปุจฺฉาย สตฺตปฺาสวิโธ ธมฺมปฺปเภโท ยถา ภูเตน สภาวตฺเถน อุปลพฺภติ, เอวํ ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ วุตฺตํ. อิธ ปน ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺภมาโน โส ธมฺมปฺปเภโท เยน รุปฺปนาทิสปฺปจฺจยาทิอากาเรน อุปลพฺภติ, กึ เตนากาเรน ปุคฺคโลปิ ¶ อุปลพฺภตีติ เอส วิเสโส. ยถา ปน รูปํ วิย ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺภมานา เวทนา น รุปฺปนากาเรน อุปลพฺภติ, เอวํ ธมฺมปฺปเภโท วิย ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺภมาโน ปุคฺคโล น รุปฺปนาทิสปฺปจฺจยาทิอากาเรน อุปลพฺภตีติ สกฺกา ปรวาทินา วตฺตุนฺติ อโจทนียํ เอตํ สิยา. อวชานนฺจ ตสฺส ยุตฺตนฺติ นิคฺคโห จ น กาตพฺโพ. ธมฺมปฺปเภทโต ปน อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา ธมฺมปฺปเภทากาเรเนว โจเทติ. อวชานเนเนว นิคฺคหํ ทสฺเสติ. อนุชานนาวชานนปกฺขา สามฺวิเสเสหิ ปฏิฺาปฏิกฺเขปปกฺขา อนุโลมปฏิโลมปกฺขา ปมทุติยนยาติ อยเมเตสํ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
‘‘เตน วต เร วตฺตพฺเพ’’ติ วทนฺโต วตฺตพฺพสฺส อวจเน โทสํ ปาเปตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘นิคฺคหสฺส ปาปิตตฺตา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เอวเมตํ นิคฺคหสฺส จ อนุโลมปฏิโลมโต จตุนฺนํ ปาปนาโรปนฺจ วุตฺตตฺตา อุปลพฺภตีติอาทิกํ อนุโลมปฺจกํ นามา’’ติ วุตฺตํ, อนุโลมปฏิโลมโต ปน ทฺวีหิ ปนาหิ สห สตฺตเกน ภวิตพฺพํ, ตํวชฺชเน วา การณํ วตฺตพฺพํ. ยํ ปน วกฺขติ ‘‘ปนา นาม ปรวาทีปกฺขสฺส ปนโต ‘อยํ ตว โทโส’ติ ทสฺเสตุํ ปนมตฺตเมว โหติ, น นิคฺคหสฺส วา ปฏิกมฺมสฺส วา ปากฏภาวกรณ’’นฺติ (กถา. อฏฺ. ๒). เตนาธิปฺปาเยน อิธาปิ ปนาทฺวยํ วชฺเชติ. ยถา ปน ตตฺถ ปฏิกมฺมปฺจกภาวํ อวตฺวา ปฏิกมฺมจตุกฺกภาวํ วกฺขติ, เอวมิธาปิ นิคฺคหจตุกฺกภาโว วตฺตพฺโพ สิยา. สุทฺธิกนิคฺคหสฺส ปน นิคฺคหปฺปธานตฺตา อุทฺเทสภาเวน วุตฺโต นิคฺคโหว วิสุํ วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. เย ปน ‘‘อยถาภูตนิคฺคหตฺตา ตตฺถ ปฏิกมฺมํ วิสุํ น วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, เตสํ ทุติเย วาทมุเข นิคฺคหจตุกฺกภาโว ปฏิกมฺมปฺจกภาโว จ อาปชฺชติ.
๒. อตฺตนา อธิปฺเปตํ สจฺจิกฏฺเมวาติ สมฺมุติสจฺจํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย. วกฺขติ หิ ¶ ‘‘สุทฺธสมฺมุติสจฺจํ วา ปรมตฺถมิสฺสกํ วา สมฺมุติสจฺจํ สนฺธาย ‘โย สจฺจิกฏฺโ’ติ ปุน อนุโยโค ปรวาทิสฺสา’’ติ (กถา. อฏฺ. ๖). ตตฺถ ยทิ ปรวาทินา อตฺตนา อธิปฺเปตสจฺจิกฏฺโ สมฺมุติสจฺจํ, สมฺมุติสจฺจากาเรน ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ วทนฺเตน สมานลทฺธิโก นปฺปฏิเสธิตพฺโพ, กถา เอวายํ นารภิตพฺพา. อถ สกวาทินา อตฺตนา ¶ จ อธิปฺเปตสจฺจิกฏฺํเยว สนฺธาย ปรวาที ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติอาทิมาหาติ อยมตฺโถ. สกวาทินา สมฺมุติสจฺจํเยว สจฺจิกฏฺโติ อธิปฺเปตนฺติ อาปชฺชติ. ยทิ อุภยํ อธิปฺเปตํ, ปุน ‘‘สมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานิ วา เอกโต กตฺวาปิ เอวมาหา’’ติ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. ยทิ จ ทฺเวปิ สจฺจานิ สจฺจิกฏฺปรมตฺถา, สจฺจิกฏฺเกเทเสน อุปลทฺธึ อิจฺฉนฺเตน ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติอาทิ อนุโยโค น กาตพฺโพ, น จ สจฺจิกฏฺเกเทเสน อนุโยโค ยุตฺโต. น หิ เวทยิตากาเรน อุปลพฺภมานา เวทนา รุปฺปนากาเรน อุปลพฺภตีติ อนุยฺุชิตพฺพา, น จ ปรวาที รุปฺปนาทิสภาวํ ปุคฺคลํ อิจฺฉติ, อถ โข สจฺจิกฏฺปรมตฺถเมวาติ. ปรมตฺถสจฺจโต อฺสฺมึ สจฺจิกฏฺเ วิชฺชมาเน นาสฺส ปรมตฺถสจฺจตา อนุยฺุชิตพฺพา. อสจฺจิกฏฺเ สจฺจิกฏฺโวหารํ อาโรเปตฺวา ตํ สนฺธาย ปุจฺฉตีติ วทนฺตานํ โวหริตสจฺจิกฏฺสฺส อตฺตนา อธิปฺเปตสจฺจิกฏฺตา น ยุตฺตา. โวหริตปรมตฺถสจฺจิกฏฺานฺจ ทฺวินฺนํ สจฺจิกฏฺภาเว วุตฺตนโยว โทโส. สมฺมุติสจฺจากาเรน อุปลพฺภมานฺจ ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺเภยฺย วา น วา. ยทิ ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺภติ, ปุคฺคโลปิ อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนาติ อนุชานนฺโต นานุยฺุชิตพฺโพ. อถ น ภูตสภาวตฺเถน, ตํวินิมุตฺโต สมฺมุติสจฺจสฺส สจฺจิกฏฺปรมตฺถากาโร น วตฺตพฺโพ อสิทฺธตฺตา. วกฺขติ จ ‘‘ยถา รูปาทโย ปจฺจตฺตลกฺขณสามฺลกฺขณวเสน อตฺถิ, น เอวํ ปุคฺคโล’’ติ. ตสฺมา มคฺคิตพฺโพ เอตฺถ อธิปฺปาโย.
ทฺวินฺนํ สจฺจานนฺติ เอตฺถ สจฺจทฺวยากาเรน อนุปลพฺภนียโต อนฺุเยฺยเมตํ สิยา, น วา กิฺจิ วตฺตพฺพํ. ยถา หิ เอกเทเสน ปรมตฺถากาเรน อนุปลพฺภนียตา อนุชานนสฺส น การณํ, เอวํ เอกเทเสน สมฺมุติยากาเรน อุปลพฺภนียตา ปฏิกฺเขปสฺส จาติ มคฺคิตพฺโพ เอตฺถาปิ อธิปฺปาโย. นุปลพฺภตีติ วจนสามฺมตฺตนฺติ นุปลพฺภตีติ อิทเมว วจนํ อนฺุาตํ ปฏิกฺขิตฺตฺจาติ เอตํ ฉลวาทํ นิสฺสายาติ อธิปฺปาโย. ยถา อุปลพฺภตีติ เอตสฺเสว อนุชานนปฏิกฺเขเปหิ อหํ นิคฺคเหตพฺโพ, เอวํ นุปลพฺภตีติ เอตสฺเสว อนุชานนปฏิกฺเขเปหิ ตฺวนฺติ เอวํ สมฺภวนฺตสฺส สามฺเน อสมฺภวนฺตสฺส กปฺปนํ ปเนตฺถ ฉลวาโท ¶ ภวิตุํ อรหติ. เตน นุปลพฺภตีติ วจนสามฺมตฺตํ ฉลวาทสฺส การณตฺตา ‘‘ฉลวาโท’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. วจนสามฺมตฺตฺจ ฉลวาทฺจ ¶ นิสฺสายาติ วา อตฺโถ. ปนา นิคฺคหปฺปฏิกมฺมานํ ปากฏภาวกรณํ น โหตีติ อิทํ วิจาเรตพฺพํ. น หิ ปกฺขฏฺปเนน วินา ปุริมํ อนุชานิตฺวา ปจฺฉิมสฺส อวชานนํ, ปจฺฉิมํ วา อวชานนฺตสฺส ปุริมานุชานนํ มิจฺฉาติ สกฺกา อาโรเปตุนฺติ.
๓. ตวาติ, ปฏิชานนฺตนฺติ จ ปจฺจตฺเต สามิอุปโยควจนานีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตฺวํเยว ปฏิชานนฺโต’’ติ อาห.
๔-๕. จตูหิ ปาปนาโรปนาหิ นิคฺคหสฺส อุปนีตตฺตาติ ‘‘ทุนฺนิคฺคหิตา จ โหม, หฺจี’’ติอาทินา ตยา มม กโต นิคฺคโห, มยา ตว กโต นิคฺคโห วิย มิจฺฉาติ เอวํ เตน อนุโลมปฺจเก จตูหิ ปาปนาโรปนาหิ กตสฺส นิคฺคหสฺส เตน นิยาเมน ทุกฺกฏภาวสฺส อตฺตนา กตนิคฺคเหน สห อุปนีตตฺตา อนิคฺคหภาวสฺส วา อุปคมิตตฺตาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เอวเมว เตน หิ ยํ นิคฺคณฺหาสิ หฺจิ…เป… อิทํ เต มิจฺฉาติ เอตสฺส อนิคฺคหภาวนิคมนสฺเสว นิคฺคมนจตุกฺกตา เวทิตพฺพา.
อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา
๗-๑๐. ‘‘อตฺตโน ลทฺธึ นิสฺสาย ปฏิฺา ปรวาทิสฺสา’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ปรมตฺถวเสน ปุคฺคลสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺรายํ ปฏิกฺเขโป อตฺตโน ลทฺธิยา ยทิ กโต, ปรมตฺถโต อฺเน สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ อยมสฺส ลทฺธีติ อาปชฺชติ. ตถา จ สติ นายํ สมฺมุติสจฺจวเสน อุปลทฺธึ อิจฺฉนฺเตน นิคฺคเหตพฺโพ. อถ อตฺตโน ลทฺธึ นิคฺคูหิตฺวา ปรสฺส ลทฺธิวเสน ปฏิกฺขิปติ, ปุริมปฏิฺาย อวิโรธิตตฺตา น นิคฺคเหตพฺโพ. น หิ อตฺตโน จ ปรสฺส จ ลทฺธึ วทนฺตสฺส โทโส อาปชฺชตีติ. อตฺตโน ¶ ปน ลทฺธิยา ปฏิชานิตฺวา ปรลทฺธิยา ปฏิกฺขิปนฺเตน อตฺตโน ลทฺธึ ฉฑฺเฑตฺวา ปรลทฺธิ คหิตา โหตีติ นิคฺคเหตพฺโพติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย สิยา.
ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา นิฏฺิตา.
สุทฺธสจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. โอกาสสจฺจิกฏฺโ
๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา
๑๑. สพฺพตฺถาติ ¶ สพฺพสฺมึ สรีเรติ อยมตฺโถติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สรีรํ สนฺธายา’’ติ. ตตฺถาติ ตสฺมึ สํขิตฺตปาเ. ยสฺมา สรีรํ สนฺธาย ‘‘สพฺพตฺถ น อุปลพฺภตี’’ติ วุตฺเต สรีรโต พหิ อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปจฺจนีเก ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺสาติ เอเตน น เกนจิ สภาเวน ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. น หิ เกนจิ สภาเวน อุปลพฺภมานสฺส สรีรตทฺาวิมุตฺโต อุปลทฺธิโอกาโส อตฺถีติ.
๓. กาลสจฺจิกฏฺโ
๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา
๑๒. ปุริมปจฺฉิมชาติกาลฺจาติ มชฺฌิมชาติกาเล อุปลพฺภมานสฺส ตสฺเสว ปุริมปจฺฉิมชาติกาเลสุ อุปลทฺธึ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย. เสสํ ปมนเย วุตฺตสทิสเมวาติ อิเมสุ ตีสุ ปเม ‘‘สพฺพตฺถา’’ติ เอตสฺมึ นเย วุตฺตสทิสเมว, กึ ตํ? ปาสฺส สํขิตฺตตาติ อตฺโถ. อิธาปิ หิ ยสฺมา ‘‘สพฺพทา น อุปลพฺภตี’’ติ วุตฺเต เอกทา อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปจฺจนีเก ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺสาติ โยเชตพฺพนฺติ.
๔. อวยวสจฺจิกฏฺโ
๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา
๑๓. ตติยนเย ¶ จ ยสฺมา ‘‘สพฺเพสุ น อุปลพฺภตี’’ติ วุตฺเต เอกสฺมึ อุปลพฺภตีติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปจฺจนีเก ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺสาติ โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘ตาทิสเมวา’’ติ.
โอกาสาทิสจฺจิกฏฺโ
๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา
๑๔. ตตฺถ อนุโลมปฺจกสฺสาติอาทิมฺหิ อนุโลมปฺจกนฺติ นิคฺคหปฺจกํ, ปจฺจนีกนฺติ จ ปฏิกมฺมํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ อนุโลมปฺจกสฺส ‘‘สพฺพตฺถ ¶ ปุคฺคโล นุปลพฺภตี’’ติอาทิกสฺส อตฺโถ ‘‘สพฺพตฺถ ปุคฺคโล นุปลพฺภตี’’ติอาทิปาฬึ สํขิปิตฺวา อาคเต สรูเปน อวุตฺเต ‘‘ยสฺมา สรีรํ สนฺธายา’’ติอาทินา (กถา. อฏฺ. ๑๑) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ, ปจฺจนีกสฺส จ ‘‘สพฺพตฺถ ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติอาทิกสฺส ปฏิกมฺมกรณวเสน วุตฺตสฺส อตฺโถ ปฏิกมฺมาทิปาฬึ สํขิปิตฺวา อาทิมตฺตทสฺสเนน อาคเต ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติอาทิมฺหิ อนุโลเม ‘‘สพฺพตฺถาติ สรีรํ สนฺธาย อนุโยโค สกวาทิสฺสา’’ติอาทินา (กถา. อฏฺ. ๑๑) วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อถ วา ตตฺถาติ ยํ อารทฺธํ, ตสฺมินฺติ เอวํ อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ตตฺถ เตสุ ตีสุ มุเขสูติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อนุโลมปฺจกมูลกา เจตฺถ สพฺพานุโลมปจฺจนีกปฺจกปาฬิ อนุโลมปฺจกสฺส ปาฬีติ วุตฺตา, ตถา ปจฺจนีกานุโลมปฺจกปาฬิ จ ปจฺจนีกสฺส ปาฬีติ. ตํ สํขิปิตฺวา ปฏิกมฺมวเสน อาคเต สรูเปน อวุตฺเต ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภตี’’ติอาทิเก ปจฺจนีเก ‘‘อุปลพฺภตี’’ติอาทิเก อนุโลเม จ อตฺโถ เหฏฺา สุทฺธิกสจฺจิกฏฺเ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.
สจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา
๑๗-๒๗. รูปาทีหิ ¶ สทฺธึ สจฺจิกฏฺสํสนฺทนนฺติ สจฺจิกฏฺสฺส ปุคฺคลสฺส รูปาทีหิ สทฺธึ สํสนฺทนํ, สจฺจิกฏฺเ วา รูปาทีหิ สทฺธึ ปุคฺคลสฺส สํสนฺทนนฺติ อธิปฺปาโย. ปุคฺคโล รูปฺจาติ จ-การสฺส สมุจฺจยตฺถตฺตา ยถา รูปนฺติ เอวํ นิทสฺสนวเสน วุตฺโต อตฺโถ วิจาเรตพฺโพ. รูปาทีหิ อฺโ อนฺโ จ ปุคฺคโล น วตฺตพฺโพติ ลทฺธิ สมโย. ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ อพฺยากตเมตํ ภควตา’’ติอาทิกํ (สํ. นิ. ๔.๔๑๖) สุตฺตํ. อนฺุายมาเน ตทุภยวิโรโธ อาปชฺชตีติ อิมมตฺถํ สนฺธายาห ‘‘สมยสุตฺตวิโรธํ ทิสฺวา’’ติ.
ธมฺมโตติ ปาฬิโต. ‘‘ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สํขิตฺตานิ. ปรวาที…เป… ทสฺสิตานี’’ติ วทนฺเตหิ ปุคฺคโล นุปลพฺภติ…เป… อาชานาหิ ปฏิกมฺมนฺติ ¶ เอตฺถ อาชานาหิ นิคฺคหนฺติ ปาโ ทิฏฺโ ภวิสฺสติ. อฺตฺตํ ปฏิชานาปนตฺถนฺติ ยถา มยา อฺตฺตํ วตฺตพฺพํ, ตถา จ ตยาปิ ตํ วตฺตพฺพนฺติ อฺตฺตปฏิฺาย โจทนตฺถนฺติ อตฺโถ. สมฺมุติปรมตฺถานํ เอกตฺตนานตฺตปฺหสฺส ปนียตฺตาติ อพฺยากตตฺตาติ อตฺโถ. ยทิ ปนียตฺตา ปฏิกฺขิปิตพฺพํ, ปเรนปิ ปนียตฺตา ลทฺธิเมว นิสฺสาย ปฏิกฺเขโป กโตติ โสปิ น นิคฺคเหตพฺโพ สิยา. ปโร ปน ปุคฺคโลติ กฺจิ สภาวํ คเหตฺวา ตสฺส ปนียตฺตํ อิจฺฉติ, สติ จ สภาเว ปนียตา น ยุตฺตาติ นิคฺคเหตพฺโพ. สมฺมุติ ปน โกจิ สภาโว นตฺถิ. เตเนวสฺส เอกตฺตนานตฺตปฺหสฺส ปนียตํ วทนฺโต น นิคฺคเหตพฺโพติ สกวาทินา ปฏิกฺเขโป กโตติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย ยุตฺโต.
สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา
๒๘-๓๖. อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา จาติ อิทฺจ ทฺวินฺนํ สมานตา โน อฺตฺตสฺส การณํ ยุตฺตํ, อถ โข วิสุํ อตฺตโน สภาเวน สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน อุปลพฺภนียตาติ ¶ วิจาเรตพฺพํ. ‘‘เอกวีสาธิกานี’’ติ ปุริมปาโ, วีสาธิกานีติ ปน ปิตพฺพํ.
๓๗-๔๕. ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติ สุตฺตํ อนุชานาเปนฺเตน อุปลทฺธิ อนุชานิตา โหตีติ มฺมาโน อาห ‘‘อุปลทฺธิสามฺํ อาโรเปตฺวา’’ติ. วีสาธิกานิ นว ปฏิกมฺมปฺจกสตานิ ทสฺสิตานีติ เอเตน สุทฺธิกสํสนฺทเนปิ ‘‘อาชานาหิ ปฏิกมฺม’’มิจฺเจว ปาโติ วิฺายติ. ยฺจ วาทมุเขสุ สุทฺธิกสจฺจิกฏฺเ ‘‘ปฏิกมฺมจตุกฺก’’นฺติ วุตฺตํ, ตมฺปิ ‘‘ปฏิกมฺมปฺจก’’นฺติ.
โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา
๔๖-๕๒. เอกธมฺมโตปิ ¶ อฺตฺตํ อนิจฺฉนฺโต รูปาทิเอเกกธมฺมวเสน นานุยฺุชิตพฺโพ. สมุทายโต หิ อยํ อฺตฺตํ อนิจฺฉนฺโต เอกเทสโต อนฺตฺตํ ปฏิกฺขิปนฺโต น นิคฺคหารโห สิยาติ เอตํ วจโนกาสํ นิวตฺเตตุํ ‘‘อยฺจ อนุโยโค’’ติอาทิมาห. สกลนฺติ สตฺตปฺาสวิโธ ธมฺมปฺปเภโท ปุคฺคโลติ วา ปรมตฺถสจฺจํ ปุคฺคโลติ วา เอวํ สกลํ สนฺธายาติ อตฺโถ. เอวํ สกลํ ปรมตฺถํ จินฺเตตฺวา ตนฺติวเสน อนุโยคลกฺขณสฺส ปิตตฺตา สกลปรมตฺถโต จ อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวา สจฺจิกฏฺเน ปุคฺคเลน ตโต อฺเน น ภวิตพฺพนฺติ ‘‘รูปํ ปุคฺคโล’’ติ อิมํ ปฺหํ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส นิคฺคหาโรปนํ ยุตฺตนฺติ อตฺโถ.
สภาควินิพฺโภคโตติ รูปโต อฺสภาคตฺตาติ วุตฺตํ โหติ. สพฺพธมฺมาติ รูปวชฺเช สพฺพธมฺเม วทติ. ‘‘รูปสฺมึ ปุคฺคโล’’ติ เอตฺถ นิสฺสยวินาเส วินาสาปตฺติภเยน ปฏิกฺขิปตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อุจฺเฉททิฏฺิภเยน เจวา’’ติ. ตีสุ ปน สมยวิโรเธน ปฏิกฺเขโป อธิปฺเปโต. น หิ โส สกฺกายทิฏฺึ อิจฺฉติ, อปิจ สสฺสตทิฏฺิภเยน ปฏิกฺขิปตีติ ยุตฺตํ วตฺตุํ. สกฺกายทิฏฺีสุ ¶ หิ ปฺเจว อุจฺเฉททิฏฺิโย, เสสาสสฺสตทิฏฺิโยติ. อฺตฺร รูปาติ เอตฺถ จ รูปวา ปุคฺคโลติ อยมตฺโถ สงฺคหิโตติ เวทิตพฺโพ.
จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิฏฺิตา จ สํสนฺทนกถาวณฺณนา.
๘. ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา
๕๔. ปจฺจนีกานุโลเมติ อิทํ ยํ วกฺขติ ‘‘ฉลวเสน ปน วตฺตพฺพํ ‘อาชานาหิ ปฏิกมฺม’นฺติอาที’’ติ (กถา. อฏฺ. ๕๔), เตน ปน น สเมติ. ปจฺจนีกานุโลเม หิ ปจฺจนีเก ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ วตฺตพฺพํ, น ปน ‘‘ปฏิกมฺม’’นฺติ.
ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. วจนโสธนวณฺณนา
๕๕-๕๙. ปุคฺคโล ¶ อุปลพฺภตีติ ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเตติ เอตฺถ ตเทว เอกตฺตํ ปเรน สมฺปฏิจฺฉิตํ อสมฺปฏิจฺฉิตนฺติ วิจาเรตพฺพเมตํ. ปุคฺคลสฺส หิ อวิภชิตพฺพตํ, อุปลพฺภตีติ เอตสฺส วิภชิตพฺพตํ วทนฺโต วิภชิตพฺพาวิภชิตพฺพตฺถานํ อุปลพฺภติปุคฺคล-สทฺทานํ กถํ อตฺถโต เอกตฺตํ สมฺปฏิจฺเฉยฺยาติ? ยถา จ วิภชิตพฺพาวิภชิตพฺพตฺถานํ อุปลพฺภติ-รูป-สทฺทานํ ตํ วิภาคํ วทโต รูปํ กิฺจิ อุปลพฺภติ, กิฺจิ น อุปลพฺภตีติ อยํ ปสงฺโค นาปชฺชติ, เอวํ เอตสฺสปิ ยถาวุตฺตวิภาคํ วทโต ยถาอาปาทิเตน ปสงฺเคน น ภวิตพฺพนฺติ มคฺคิตพฺโพ เอตฺถ อธิปฺปาโย.
๖๐. ‘‘สฺุโต ¶ โลกํ อเวกฺขสฺสู’’ติ (สุ. นิ. ๑๑๒๕) เอเตน อตฺถโต ปุคฺคโล นตฺถีติ วุตฺตํ โหตีติ อาห ‘‘นตฺถีติปิ วุตฺต’’นฺติ.
วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ปฺตฺตานุโยควณฺณนา
๖๑-๖๖. รูปกายาวิรหํ สนฺธาย ‘‘รูปกายสพฺภาวโต’’ติ อาห. ‘‘รูปิโน วา อรูปิโน วา’’ติ (อิติวุ. ๙๐) สุตฺเต อาคตปฺตฺตึ สนฺธาย ‘‘ตถารูปาย จ ปฺตฺติยา อตฺถิตายา’’ติ. วีตราคสพฺภาวโตติ กามีภาวสฺส อเนกนฺติกตฺตา กามธาตุยา อายตฺตตฺตาภาวโต จ ‘‘กามี’’ติ น วตฺตพฺโพติ ปฏิกฺขิปตีติ อธิปฺปาโย.
๖๗. กายานุปสฺสนายาติ การณวจนเมตํ, กายานุปสฺสนาย การณภูตาย เอวํลทฺธิกตฺตาติ อตฺโถ. อาหจฺจ ภาสิตนฺติ ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีรนฺติ อพฺยากตเมตํ มยา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๒๘) อาหจฺจ ภาสิตํ.
ปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. คติอนุโยควณฺณนา
๖๙-๗๒. ‘‘ทสฺเสนฺโต ¶ ‘เตน หิ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’ติอาทิมาหา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ทสฺเสนฺโต ‘น วตฺตพฺพํ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’ติอาทิมาหา’’ติ ปน ภวิตพฺพํ, ทสฺเสตฺวาติ วา วตฺตพฺพํ.
๙๑. เยน รูปสงฺขาเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉตีติ เอตฺถ ‘‘รูเปน สทฺธึ คจฺฉตี’’ติ วทนฺเตน ‘‘รูปํ ปุคฺคโล’’ติ อนนฺุาตตฺตา เยนากาเรน ตํ ชีวํ ตํ สรีรนฺติ อิทํ อาปชฺชติ ¶ , โส วตฺตพฺโพ. อสฺูปปตฺตึ สนฺธายาติ นิรยูปคสฺส ปุคฺคลสฺส อสฺูปคสฺส อรูปูปคสฺส จ อนฺตราภวํ น อิจฺฉตีติ จุติโต อนนฺตรํ อุปปตฺตึ สนฺธายาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. เย ปน จุติกาเล อุปปตฺติกาเล จ อสฺูปปตฺติกาเล จ อสฺสตฺเตสุ สฺา อตฺถีติ คเหตฺวา อสฺูปคสฺส จ อนฺตราภวํ อิจฺเฉยฺยุํ, เตสํ อนฺตราภวภาวโต ‘‘อสฺูปปตฺติ อเวทนา’’ติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ.
๙๒. อเวทโนติอาทีสุ ตทฺนฺติ สฺภวโต อฺํ อสฺาเนวสฺานาสฺายตนุปปตฺตึ. เนวสฺานาสฺายตเนปิ หิ น วตฺตพฺพํ สฺา อตฺถีติ อิจฺฉนฺติ.
๙๓. ยสฺมา รูปาทิธมฺเม วินา ปุคฺคโล นตฺถีติ อินฺธนุปาทาโน อคฺคิ วิย อินฺธเนน รูปาทิอุปาทาโน ปุคฺคโล รูปาทินา วินา นตฺถีติ ลทฺธิวเสน วทติ.
คติอนุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา
๙๗. นีลํ รูปํ อุปาทาย นีโลติอาทีสูติ ‘‘นีลํ รูปํ อุปาทาย นีลกสฺส ปุคฺคลสฺส ปฺตฺตี’’ติ เอตฺถ โย ปุฏฺโ นีลํ อุปาทาย นีโลติ, ตทาทีสูติ อตฺโถ.
๙๘. เฉกฏฺํ สนฺธายาติ เฉกฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ, น กุสลปฺตฺตึ. ‘‘กุสลํ เวทนํ อุปาทายา’’ติ มฺมาโน ปฏิชานาตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
๑๑๒. อิทานิ ¶ …เป… ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา รุกฺข’’นฺติอาทิมาหาติ ปุพฺพปกฺขํ ทสฺเสตฺวา อุตฺตรมาหาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๑๕. ‘‘ยสฺส ¶ รูปํ โส รูปวา’’ติ อุตฺตรปกฺเข วุตฺตํ วจนํ อุทฺธริตฺวา ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิมาห.
๑๑๖. จิตฺตานุปสฺสนาวเสนาติ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน ปริทีปิตสฺส สราคาทิจิตฺตโยคสฺส วเสนาติ อธิปฺปาโย.
๑๑๘. เยนาติ จกฺขุนฺติ ‘‘เยนา’’ติ วุตฺตํ กรณํ จกฺขุนฺติ อตฺโถ. จกฺขุเมว รูปํ ปสฺสตีติ วิฺาณนิสฺสยภาวูปคมนเมว จกฺขุสฺส ทสฺสนํ นาม โหตีติ สนฺธาย วทติ.
อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. ปุริสการานุโยควณฺณนา
๑๒๓. กรณมตฺตนฺติ กมฺมานํ นิปฺผาทกปฺปโยชกภาเวน ปวตฺตา ขนฺธา.
๑๒๔. ปุริมกมฺเมน วินา ปุคฺคลสฺส ชาติ, ชาตสฺส จ วิชฺชฏฺานาทีสุ สมฺมา มิจฺฉา วา ปวตฺติ นตฺถีติ สนฺธาย ‘‘ปุริมกมฺมเมว ตสฺสา’’ติอาทิมาห.
๑๒๕. กมฺมวฏฺฏสฺสาติ เอตฺถ กมฺมการกสฺส โย การโก, เตนปิ อฺํ กมฺมํ กาตพฺพํ, ตสฺส การเกนปิ อฺนฺติ เอวํ กมฺมวฏฺฏสฺส อนุปจฺเฉทํ วทนฺติ. ปุคฺคลสฺส การโก กมฺมสฺส การโก อาปชฺชตีติ วิจาเรตพฺพเมตํ. มาตาปิตูหิ ชนิตตาทินา ตสฺส การกํ อิจฺฉนฺตสฺส กมฺมการกานํ การกปรมฺปรา อาปชฺชตีติ อิทฺจ วิจาเรตพฺพํ.
๑๗๐. สุตฺตวิโรธภเยนาติ ‘‘โส กโรติ โส ปฏิสํเวทยตีติ โข, พฺราหฺมณ, อยเมโก อนฺโต’’ติอาทีหิ (สํ. นิ. ๒.๔๖) วิโรธภยา.
๑๗๑. ‘‘อิธ ¶ นนฺทติ เปจฺจ นนฺทตี’’ติ (ธ. ป. ๑๘) วจนโต กมฺมกรณกาเล วิปากปฏิสํเวทนกาเล จ โสเยวาติ ปฏิชานาตีติ อธิปฺปาโย. สยํกตํ ¶ สุขทุกฺขนฺติ จ ปุฏฺโ ‘‘กึ นุ โข, โภ โคตม, สยํกตํ สุขํ ทุกฺขนฺติ? มา เหวํ กสฺสปา’’ติอาทิสุตฺตวิโรธา (สํ. นิ. ๒.๑๘) ปฏิกฺขิปติ.
๑๗๖. ลทฺธิมตฺตเมเวตนฺติ โสเยเวโก เนว โส โหติ น อฺโติ อิทํ ปน นตฺเถว, ตสฺมา เอวํวาทิโน อสยํการนฺติอาทิ อาปชฺชตีติ อธิปฺปาโย. อปิจาติอาทินา อิทํ ทสฺเสติ – น ปรสฺส อิจฺฉาวเสเนว ‘‘โส กโรตี’’ติอาทิ อนุโยโค วุตฺโต, อถ โข ‘‘โส กโรตี’’ติอาทีสุ เอกํ อนิจฺฉนฺตสฺส อิตรํ, ตฺจ อนิจฺฉนฺตสฺส อฺํ อาปนฺนนฺติ เอวํ การกเวทกิจฺฉาย ตฺวา ‘‘โส กโรตี’’ติอาทีสุ ตํ ตํ อนิจฺฉาย อาปนฺนวเสนาปีติ. อถ วา น เกวลํ ‘‘โส กโรตี’’ติอาทีนํ สพฺเพสํ อาปนฺนตฺตา, อถ โข เอเกกสฺเสว จ อาปนฺนตฺตา อยํ อนุโยโค กโตติ ทสฺเสติ. ปุริมนเยเนวาติ เอเตน ‘‘อิธ นนฺทตี’’ติอาทิ สพฺพํ ปฏิชานนาทิการณํ เอกโต โยเชตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
ปุริสการานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.
กลฺยาณวคฺโค นิฏฺิโต.
๑๔. อภิฺานุโยควณฺณนา
๑๙๓. อภิฺานุโยคาทิวเสน อรหตฺตสาธนาติ เอตฺถ ‘‘นนุ อตฺถิ โกจิ อิทฺธึ วิกุพฺพตี’’ติ อภิฺาอนุโยโค จ ‘‘หฺจิ อตฺถิ โกจิ อิทฺธึ วิกุพฺพตี’’ติ ปนา จ ‘‘เตน วต เร’’ติอาทิ ปาปนา จ อาทิสทฺทสงฺคหิโต อตฺโถว ทฏฺพฺโพ. อาสวกฺขยาณํ ปเนตฺถ อภิฺา วุตฺตาติ ตทภิฺาวโต อรหโต สาธนํ ‘‘อรหตฺตสาธนา’’ติ อาห. อรหโต หิ สาธนา ตพฺภาวสฺส จ สาธนา โหติเยวาติ.
อภิฺานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕-๑๘. าตกานุโยคาทิวณฺณนา
๒๐๙. ตถารูปสฺสาติ ¶ ¶ ตติยโกฏิภูตสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย. เอวํ ปน ปฏิกฺขิปนฺโต อสจฺจิกฏฺํ ตติยโกฏิภูตํ ปุคฺคลํ วเทยฺยาติ ตาทิสํ ปุคฺคลํ อิจฺฉนฺโต หิ สุตฺเตน นิคฺคเหตพฺโพ สิยา. กสฺมา? ตถารูปสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวโตติ, ตถารูปสฺส กสฺสจิ สภาวสฺส อภาวโต ปฏิกฺเขปารหตฺตา อตฺตโน ลทฺธึ นิคูหิตฺวา ปฏิกฺเขโป ปรวาทิสฺสาติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
าตกานุโยคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙. ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา
๒๑๘. ปริคฺคหิตเวทโนติ วจเนน อปริคฺคหิตเวทนสฺส ‘‘สุขิโตสฺมิ, ทุกฺขิโตสฺมี’’ติ ชานนํ ปชานนํ นาม น โหตีติ ทสฺเสติ โยคาวจรสฺส สุขุมานมฺปิ เวทนานํ ปริจฺเฉทนสมตฺถตฺจ.
๒๒๘. ลกฺขณวจนนฺติ รูปพฺภนฺตรคมนํ สหรูปภาโว, พหิทฺธา นิกฺขมนํ วินารูปภาโวติ อธิปฺปาโย.
๒๓๗. อิมา โขติ โอฬาริโก อตฺตปฏิลาโภ มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ อรูโป อตฺตปฏิลาโภติ อิมา โลกสฺส สมฺา, ยาหิ ตถาคโต โวหรติ อปรามสํ, โย สจฺโจ โมโฆ วา สิยา, ตสฺมึ อนุปลพฺภมาเนปิ อตฺตนิ ตทนุปลพฺภโตเยว ปรามาสํ อตฺตทิฏฺึ อนุปฺปาเทนฺโต โลเก อตฺตปฏิลาโภติ ปวตฺตโวหารวเสเนว โวหรตีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เอตฺถ จ ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสน ปุคฺคลสฺส อตฺถิตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา โลกโวหาเรน อตฺถิตํ วทนฺเตน ปุคฺคโลติ โกจิ สภาโว นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ. สติ หิ ตสฺมึ อตฺตโน สภาเวเนว อตฺถิตา วตฺตพฺพา สิยา, น โลกโวหาเรนาติ. อิมินา ปน ยถา สเมติ, ยถา จ ¶ ปรามาโส น โหติ, เอวํ อิโต ปุริมา จ อตฺถวณฺณนา โยเชตพฺพา.
โลกสมฺมุติการณนฺติ ¶ ยสฺมา โลกสมฺมุติวเสน ปวตฺตํ, ตสฺมา สจฺจนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตถลกฺขณนฺติ ตถการณํ. ยสฺมา ธมฺมานํ ตถตาย ปวตฺตํ, ตสฺมา สจฺจนฺติ ทสฺเสติ.
ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปุคฺคลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปริหานิกถา
๑. วาทยุตฺติปริหานิกถาวณฺณนา
๒๓๙. ‘‘ทฺเวเม ¶ ¶ , ภิกฺขเว, ธมฺมา เสกฺขสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๒.๑๘๕) อิทํ สุตฺตํ อรหโต ปริหานิลทฺธิยา น นิสฺสโย, อถ โข อนาคามิอาทีนํ ปริหานิลทฺธิยา, ตสฺมา อรหโตปิ ปริหานึ อิจฺฉนฺตีติ เอตฺถ ปิ-สทฺเทน อนาคามิสฺสปิ สกทาคามิสฺสปีติ โยเชตพฺพํ.
‘‘ตติยสฺมิมฺปิ มุทินฺทฺริยาว อธิปฺเปตา. เตสฺหิ สพฺเพสมฺปิ ปริหานิ น โหตีติ ตสฺส ลทฺธี’’ติ ปุริมปาโ, มุทินฺทฺริเยสฺเวว ปน อธิปฺเปเตสุ ปริกฺเขโป น กาตพฺโพ สิยา, กโต จ, ตสฺมา ‘‘ตติยสฺมิมฺปิ ติกฺขินฺทฺริยาว อธิปฺเปตา. เตสฺหิ สพฺเพสมฺปิ ปริหานิ น โหตีติ ตสฺส ลทฺธี’’ติ ปนฺติ.
อโยนิโส อตฺถํ คเหตฺวาติ โสตาปนฺโนเยว นิยโตติ วุตฺโตติ โสเยว น ปริหายติ, น อิตเรติ อตฺถํ คเหตฺวา. ‘‘อุปริมคฺคตฺถายา’’ติ วุตฺตํ อตฺถํ อคฺคเหตฺวา นิยโตติ โสตาปตฺติผลา น ปริหายตีติ เอตมตฺถํ คณฺหีติ ปน วทนฺติ.
วาทยุตฺติปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิวณฺณนา
๒๔๑. ยํ ¶ ปเนตฺถาติอาทิมฺหิ ทสฺสนมคฺคผเล ิตสฺส อนนฺตรํ อรหตฺตปฺปตฺตึ, ตโต ปริหายิตฺวา ตตฺถ จ านํ อิจฺฉนฺโต ปุน วายาเมน ตทนนฺตรํ อรหตฺตปฺปตฺตึ น อิจฺฉตีติ วิจาเรตพฺพเมตํ.
๒๖๒. อวสิปฺปตฺโต ฌานลาภีติ เสกฺโข วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ปุถุชฺชโน ปน วสิปฺปตฺโต อวสิปฺปตฺโต จ สมยวิมุตฺตอสมยวิมุตฺตตนฺติยา อคฺคหิโต, ภชาปิยมาโน ปน สมาปตฺติวิกฺขมฺภิตานํ กิเลสานํ วเสน สมยวิมุตฺตภาวํ ภเชยฺยาติ วุตฺโตติ.
อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สุตฺตสาธนปริหานิวณฺณนา
๒๖๕. อุตฺตมหีนเภโท ¶ ‘‘ตตฺร ยายํ ปฏิปทา สุขา ขิปฺปาภิฺา, สา อุภเยเนว ปณีตา อกฺขายตี’’ติอาทิสุตฺตวเสน (ที. นิ. ๓.๑๕๒) วุตฺโต. ‘‘ทิฏฺํ สุตํ มุต’’นฺติ เอตฺถ วิย มุตสทฺโท ปตฺตพฺพํ วทตีติ อาห ‘‘ผุสนารห’’นฺติ.
๒๖๗. อปฺปตฺตปริหานาย เจว สํวตฺตนฺติ ยถากตสนฺนิฏฺานสฺส สมยวิมุตฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย.
สุตฺตสาธนปริหานิวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. พฺรหฺมจริยกถา
๑. สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา
๒๖๙. ‘‘ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว ¶ ¶ อุปาทาย ตทุปรี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหี’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑) ปน สุตฺตสฺส วจเนน เหฏฺาปิ มคฺคภาวนมฺปิ น อิจฺฉนฺตีติ วิฺายติ.
๒๗๐. ‘‘คิหีนฺเจว เอกจฺจานฺจ เทวานํ มคฺคปฏิลาภํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโป ตสฺเสวา’’ติ วุตฺตํ, ‘‘ยตฺถ นตฺถี’’ติ ปน โอกาสวเสน ปุฏฺโ ปุคฺคลวเสน ตสฺส ปฏิกฺเขโป น ยุตฺโต. ยทิ จ ตสฺสายํ อธิปฺปาโย, สกวาทินา สมานาธิปฺปายตฺตา น นิคฺคเหตพฺโพ.
๒๗๑. เอกนฺตริกปฺหาติ ปรวาทีสกวาทีนํ อฺมฺํ ปฺหนฺตริกา ปฺหา.
สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สํสนฺทนพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา
๒๗๓. รูปาวจรมคฺเคน หิ โส อิธวิหายนิฏฺโ นาม ชาโตติ อิทํ ‘‘อิธ ภาวิตมคฺโค หิ อนาคามี อิธวิหายนิฏฺโ นาม โหตี’’ติอาทิเกน ลทฺธิกิตฺตเนน กถํ สเมตีติ วิจาเรตพฺพํ. ปุพฺเพ ปน อนาคามี เอว อนาคามีติ วุตฺโต, อิธ ฌานานาคามิโสตาปนฺนาทิโกติ ¶ อธิปฺปาโย. อิธ อรหตฺตมคฺคํ ภาเวตฺวา อิเธว ผลํ สจฺฉิกโรนฺตํ ‘‘อิธปรินิพฺพายี’’ติ วทติ, อิธ ปน มคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺถ ผลํ สจฺฉิกโรนฺตํ ‘‘ตตฺถปรินิพฺพายี อรหา’’ติ.
สํสนฺทนพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
พฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. โอธิโสกถาวณฺณนา
๒๗๔. โอธิโส ¶ โอธิโสติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอกเทเสน เอกเทเสนา’’ติ อาห.
โอธิโสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ชหติกถาวณฺณนา
๑. นสุตฺตาหรณกถาวณฺณนา
๒๘๐. กิจฺจสพฺภาวนฺติ ตีหิ ปหาตพฺพสฺส ปหีนตํ. ตํ ปน กิจฺจํ ยทิ เตเนว มคฺเคน สิชฺฌตีติ ลทฺธิ, ปุถุชฺชนกาเล เอว กามราคพฺยาปาทา ปหีนาติ ลทฺธีติ เอตํ น สเมติ, ตสฺมา ปุถุชฺชนกาเล ปหีนานมฺปิ ทสฺสนมคฺเค อุปฺปนฺเน ปุน กทาจิ อนุปฺปตฺติโต ติณฺณํ มคฺคานํ กิจฺจํ สมฺภวตีติ อธิปฺปาโย.
นสุตฺตาหรณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ชหติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สพฺพมตฺถีติกถา
๑. วาทยุตฺติวณฺณนา
๒๘๒. สพฺพสฺมึ ¶ สรีเร สพฺพนฺติ สิรสิ ปาทา ปจฺฉโต จกฺขูนีติ เอวํ สพฺพํ สพฺพตฺถ อตฺถีติ อตฺโถ. สพฺพสฺมึ กาเลติ พาลกาเล ยุวตา, วุฑฺฒกาเล พาลตา, เอวํ สพฺพสฺมึ กาเล สพฺพํ. สพฺเพนากาเรนาติ นีลากาเรน ปีตํ, ปีตากาเรน โลหิตนฺติ เอวํ. สพฺเพสุ ธมฺเมสูติ จกฺขุสฺมึ โสตํ, โสตสฺมึ ฆานนฺติ เอวํ. อยุตฺตนฺติ โยครหิตํ วทติ, ตํ ปน เอกสภาวํ. กถํ ปน เอกสภาวสฺส โยครหิตตาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นานาสภาวานฺหี’’ติอาทิมาห. ทฺวินฺนฺหิ นานาสภาวานํ องฺคุลีนํ เมณฺฑกานํ วา อฺมฺโยโค โหติ, น เอกสฺเสว สโต, ตสฺมา โย นานาสภาเวสุ โหติ โยโค, เตน รหิตํ เอกสภาวํ อโยคนฺติ วุตฺตํ. อิทํ ปุจฺฉตีติ ปรวาทีทิฏฺิยา ¶ มิจฺฉาทิฏฺิภาวํ คเหตฺวา อุปฺปนฺนาย อตฺตโน ทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิภาโว อตฺถีติ วุตฺตํ โหติ.
วาทยุตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กาลสํสนฺทนวณฺณนา
๒๘๕. อตีตานาคตํ ปหาย ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว อปฺปิยํ อวิภชิตพฺพํ กริตฺวาติ ปจฺจุปฺปนฺนสทฺเทน รูปสทฺเทน จาติ อุโภหิปิ ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว วตฺตพฺพํ กตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปฺตฺติยา อวิคตตฺตาติ เอเตน อิทํ วิฺายติ ‘‘น รูปปฺตฺติ วิย วตฺถปฺตฺติ สภาวปริจฺฉินฺเน ปวตฺตา วิชฺชมานปฺตฺติ, อถ โข ปุพฺพาปริยวเสน ปวตฺตมานํ รูปสมูหํ อุปาทาย ปวตฺตา อวิชฺชมานปฺตฺติ, ตสฺมา วตฺถภาวสฺส โอทาตภาววิคเม วิคมาวตฺตพฺพตา ยุตฺตา, น ปน รูปภาวสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภาววิคเม’’ติ.
กาลสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.
วจนโสธนวณฺณนา
๒๘๘. อนาคตํ ¶ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา หุตฺวา โหตีติ วุตฺตนฺติ เอตฺถ อนาคตํ อนาคตํ หุตฺวา ปุน ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ หุตฺวา โหตีติ, ตถา ปจฺจุปฺปนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ ปุพฺเพ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตีติ หุตฺวา โหตีติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กึ เต ตมฺปิ หุตฺวา โหตีติ ตพฺภาวาวิคมโต หุตฺวาโหติภาวานุปรมํ อนุปจฺเฉทํ ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย ยุตฺโต. หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวา อภาวโตติ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภูตสฺส ปุน อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนาภาวโต.
ยสฺมา ตนฺติ ตํ หุตฺวา ภูตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ยสฺมา อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ สงฺขฺยํ คตํ, ตสฺมา ทุติยมฺปิ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ วจนํ อรหตีติ ปฏิชานาตีติ อธิปฺปาโย. เอวํ ปน ธมฺเม หุตฺวาโหติภาวานุปรมํ วทนฺตสฺส อธมฺเม สสวิสาเณ นหุตฺวาน โหติภาวานุปรโม อาปชฺชตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘อถ น’’นฺติอาทิมาห.
ปฏิกฺขิตฺตนเยนาติ ¶ กาลนานตฺเตน. ปฏิฺาตนเยนาติ อตฺถานานตฺเตน. อตฺถานานตฺตํ อิจฺฉนฺโตปิ ปน อนาคตสฺส ปจฺจุปฺปนฺเน วุตฺตํ โหติภาวํ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ อนาคเต วุตฺตํ หุตฺวาภาวํ กถํ ปฏิชานาตีติ วิจาเรตพฺพํ. อตฺถานานตฺตเมว หิ เตน อนฺุายติ, น อนาคเต ปจฺจุปฺปนฺนภาโว, ปจฺจุปฺปนฺเน วา อนาคตภาโวติ. ปุริมํ ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ ปริวตฺติตฺวาติ อนฺุาตปฺหสฺส หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตีติ โทโส วุตฺโตติ อวุตฺตโทสํ อติกฺกมฺม ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ ปุน คเหตฺวา เตน โจเทตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ อตฺถานานตฺเตน หุตฺวาโหตีติ อนุชานนฺตสฺส โทโส กาลนานตฺตาเยว อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปฏิกฺเขเปน กถํ โหตีติ? ตสฺเสว อนุชานนปฏิกฺเขปโตติ อธิปฺปาโย.
เอเกกนฺติ อนาคตมฺปิ น หุตฺวา น โหติ ปจฺจุปฺปนฺนมฺปีติ ตทุภยํ คเหตฺวา ‘‘เอเกกํ น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตี’’ติ วุตฺตํ, น เอเกกเมว น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตีติ. เอส นโย ปุริมสฺมึ ‘‘เอเกกํ หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ วจเนปิ. อนาคตสฺส หิ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ นามํ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จาติ ทฺเวปิ นามานิ สงฺคเหตฺวา ‘‘หุตฺวา โหติ หุตฺวา โหตี’’ติ โจทิตํ, ตถา ‘‘น หุตฺวา น โหติ น หุตฺวา น โหตี’’ติ จาติ อธิปฺปาโย ¶ . สพฺพโต อนฺธกาเรน ปริโยนทฺโธ วิยาติ เอเตน อปริโยนทฺเธน ปฏิชานิตพฺพํ สิยาติ ทสฺเสติ. เอตฺถ จ ปุริมนเย หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวาโหติภาโว โจทิโต, ทุติยนเย อนาคตาทีสุ เอเกกสฺส หุตฺวาโหตินามตาติ อยํ วิเสโส.
วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.
อตีตาณาทิกถาวณฺณนา
๒๙๐. ปุน ปุฏฺโ…เป… อตฺถิตาย ปฏิชานาตีติ เอตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ าณํ เตนาติ เอเตน อนุวตฺตมานาเปกฺขนวจเนน กถํ วุจฺจตีติ วิจาเรตพฺพํ.
อตีตาณาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา
๒๙๑. ยุตฺติวิโรโธ ¶ อรหโต สราคาทิภาเว ปุถุชฺชเนน อนานตฺตํ พฺรหฺมจริยวาสสฺส อผลตาติ เอวมาทิโก ทฏฺพฺโพ.
อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปทโสธนกถาวณฺณนา
๒๙๕. เตน การเณนาติ อตีตอตฺถิสทฺทานํ เอกตฺถตฺตา อตฺถิสทฺทตฺถสฺส จ นฺวาตีตภาวโต ‘‘อตีตํ ¶ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตฺจ อตีตํ โหตี’’ติ วุตฺตํ โหติ. เอตฺถ ปน อตีตาทีนํ อตฺถิตํ วทนฺตสฺส ปรวาทิสฺเสวายํ โทโส ยถา อาปชฺชติ, น ปน ‘‘นิพฺพานํ อตฺถี’’ติ วทนฺตสฺส สกวาทิสฺส, ตถา ปฏิปาเทตพฺพํ.
ปทโสธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. เอกจฺจํอตฺถีติกถา
๑. อตีตาทิเอกจฺจกถาวณฺณนา
๒๙๙. ติณฺณํ ราสีนนฺติ อวิปกฺกวิปากวิปกฺกวิปากอวิปากานํ. โวหารวเสน อวิปกฺกวิปากานํ อตฺถิตํ วทนฺโต กถํ โจเทตพฺโพติ วิจาเรติ ‘‘กมฺมุปจยํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สงฺขารํ อิจฺฉนฺตี’’ติ.
เอกจฺจํอตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สติปฏฺานกถาวณฺณนา
๓๐๑. โลกุตฺตรภาวํ ปุจฺฉนตฺถายาติ โลกิยโลกุตฺตราย สมฺมาสติยา สติปฏฺานตฺตา, โลกุตฺตรายเยว วา ปรมตฺถสติปฏฺานตฺตา ตสฺสา วเสน โลกุตฺตรภาวํ ปุจฺฉนตฺถายาติ อตฺโถ. ปเภทปุจฺฉาวเสนาติ ¶ โลกิยโลกุตฺตรสติปฏฺานสมุทายภูตสฺส สติปฏฺานสฺส ปเภทานํ ปุจฺฉาวเสน.
สติปฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. เหวตฺถิกถาวณฺณนา
๓๐๔. อโยนิโส ¶ ปติฏฺาปิตตฺตาติ อวตฺตพฺพุตฺตเรน อุเปกฺขิตพฺเพน ปติฏฺาปิตตฺตาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
เหวตฺถิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ทุติยวคฺโค
๑. ปรูปหารวณฺณนา
๓๐๗. อธิมานิกานํ สุกฺกวิสฺสฏฺิทสฺสนํ วิจาเรตพฺพํ. เต หิ สมาธิวิปสฺสนาหิ วิกฺขมฺภิตราคาว, พาหิรกานมฺปิ จ กาเมสุ วีตราคานํ สุกฺกวิสฺสฏฺิยา อภาโว วุตฺโตติ. อธิมานิกปุพฺพา ปน อธิปฺเปตา สิยุํ.
๓๐๘. วจสายตฺเถติ นิจฺฉยตฺเถ, ‘‘กึ การณา’’ติ ปน การณสฺส ปุจฺฉิตตฺตา พฺรหฺมจริยกถายํ วิย การณตฺเถติ ยุตฺตํ.
ปรูปหารวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. วจีเภทกถาวณฺณนา
๓๒๖. วจีเภทกถายํ โลกุตฺตรํ ปมชฺฌานํ สมาปนฺโนติ ปมมคฺคํ สนฺธาย วทติ, ยสฺมา โส ทุกฺขนฺติ วิปสฺสติ, ตสฺมา ทุกฺขมิจฺเจว วาจํ ภาสติ, น สมุทโยติอาทีนีติ อธิปฺปาโย.
๓๒๘. เยน ¶ ¶ ตํ สทฺทํ สุณาตีติ อิทํ วจีสมุฏฺาปนกฺขเณ เอว เอตํ สทฺทํ สุณาตีติ อิจฺฉิเต อาโรปิเต วา ยุชฺชติ.
๓๓๒. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ วจีเภทํ อิจฺฉโต ปรสฺส อภิภูสุตฺตาหรเณ อธิปฺปาโย วตฺตพฺโพ.
วจีเภทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา
๓๓๕. จิตฺตฏฺิติกถายํ จุลฺลาสีติ…เป… อาทิวจนวเสนาติ อารุปฺเปเยว เอวํ ยาวตายุกฏฺานํ วุตฺตํ, น อฺตฺถาติ กตฺวา ปฏิกฺขิปตีติ อธิปฺปาโย. เอเตน ปน ‘‘น ตฺเวว เตปิ ติฏฺนฺติ, ทฺวีหิ จิตฺตสโมหิตา’’ติ (มหานิ. ๑๐ โถกํ วิสทิสํ) ทุติยาปิ อฑฺฒกถา ปสฺสิตพฺพา. ปุริมาย จ วสฺสสตาทิฏฺานานฺุาย อวิโรโธ วิภาเวตพฺโพ. มุหุตฺตํ มุหุตฺตนฺติ ปฺโห สกวาทินา ปุจฺฉิโต วิย วุตฺโต, ปรวาทินา ปน ปุจฺฉิโตติ ทฏฺพฺโพ.
จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา
๓๓๙. อนุปุพฺพาภิสมยกถายํ อถวาติอาทินา อิทํ ทสฺเสติ – จตุนฺนํ าณานํ เอกมคฺคภาวโต น เอกมคฺคสฺส พหุภาวาปตฺติ, อนุปุพฺเพน จ โสตาปตฺติมคฺคํ ภาเวตีติ อุปปนฺนนฺติ ปฏิชานาตีติ.
๓๔๔. ตทาติ ทสฺสเน ปรินิฏฺิเต.
๓๔๕. อฏฺหิ ¶ าเณหีติ เอตฺถ ปฏิสมฺภิทาาเณหิ สห อฏฺสุ คหิเตสุ นิรุตฺติปฏิภานปฏิสมฺภิทาหิ โสตาปตฺติผลสจฺฉิกิริยา กถํ โหตีติ วิจาเรตพฺพํ.
อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. โวหารกถาวณฺณนา
๓๔๗. โวหารกถายํ ¶ อุทาหุ โสตาทีนิปีติ เอกนฺตโลกิเยสุ วิสยวิสยีสุ วิสยสฺเสว โลกุตฺตรภาโว, น วิสยีนนฺติ นตฺเถตฺถ การณํ. ยถา จ วิสยีนํ โลกุตฺตรภาโว อสิทฺโธ, ตถา วิสยสฺส สทฺทายตนสฺส. ตตฺถ ยถา อสิทฺธโลกุตฺตรภาวสฺส ตสฺส โลกุตฺตรตา, เอวํ โสตาทีนํ อาปนฺนาติ กินฺติ ตานิปิ โลกุตฺตรานีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ยทิ โลกุตฺตเร ปฏิหฺเยฺย, โลกุตฺตโร สิยาติ อตฺโถ น คเหตพฺโพ. น หิ โลกุตฺตเร ปฏิหฺตีติ ปริกปฺปิเตปิ สทฺทสฺส โลกุตฺตรภาโว อตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘โลกิเยน าเณนา’’ติ อุทฺธฏํ, ‘‘วิฺาเณนา’’ติ ปน ปาฬิ, ตฺจ วิฺาณํ โสตสมฺพนฺเธน โสตวิฺาณนฺติ วิฺายตีติ. อเนกนฺตตาติ โลกิเยน าเณน ชานิตพฺพโต โลกิโยติ เอตสฺส เหตุสฺส โลกิเย โลกุตฺตเร จ สมฺภวโต อเนกนฺตภาโว สิยาติ อธิปฺปาโย.
โวหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. นิโรธกถาวณฺณนา
๓๕๓. ทฺเว ทุกฺขสจฺจานิ น อิจฺฉตีติ เยสํ ทฺวินฺนํ ทฺวีหิ นิโรเธหิ ภวิตพฺพํ, ตานิ ทฺเว ทุกฺขสจฺจานิ น อิจฺฉตีติ วุตฺตํ โหติ. เย ปฏิสงฺขาย โลกุตฺตเรน าเณน อนิรุทฺธาติอาทินา ปฏิสงฺขาย วินา นิรุทฺธา อสมุทาจรณสงฺขารา อปฺปฏิสงฺขานิรุทฺธาติ ทสฺเสติ ¶ , น อุปฺปชฺชิตฺวา ภงฺคาติ. เตน อปฺปฏิสงฺขานิโรโธ จ อสมุทาจรณนิโรโธติ ทสฺสิตํ โหติ.
นิโรธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ตติยวคฺโค
๑. พลกถาวณฺณนา
๓๕๔. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ¶ อสาธารณนฺติ ยถา นิทฺเทสโต วิตฺถารโต สพฺพํ สพฺพาการํ านาฏฺานาทึ อชานนฺตาปิ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺยา’’ติอาทินา (อ. นิ. ๑.๒๖๘) านาฏฺานานิ อุทฺเทสโต สงฺเขปโต สาวกา ชานนฺติ, น เอวํ ‘‘อาสยํ ชานาติ อนุสยํ ชานาตี’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๓) อุทฺเทสมตฺเตนปิ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ชานนฺตีติ ‘‘อสาธารณ’’นฺติ อาห. เถเรน ปน สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวชานนมตฺตํ สนฺธาย ‘‘สตฺตานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตํ ยถาภูตํ ปชานามี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๔๔) วุตฺตํ, น ยถาวุตฺตํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณํ ตถาคตพลนฺติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. ‘‘อุทฺเทสโต านาฏฺานาทิมตฺตชานนวเสน ปฏิชานาตี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ปน ปฏิชานนฺเตน ‘‘ตถาคตพลํ สาวกสาธารณ’’นฺติ อิทมฺปิ เอวเมว ปฏิฺาตํ สิยาติ กถมยํ โจเทตพฺโพ สิยา.
๓๕๖. เสเสสุ ปฏิกฺเขโป สกวาทิสฺส านาฏฺานาณาทีนํ สาธารณาสาธารณตฺตา ตตฺถ สาธารณปกฺขํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย.
พลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อริยนฺติกถาวณฺณนา
๓๕๗. สงฺขาเร ¶ สนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺส ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานํ กถํ อาปชฺชติ ยถาวุตฺตนเยนาติ วิจาเรตพฺพํ. ปริกปฺปนวเสน อาโรเปตฺวา เปตพฺพตาย สตฺโต ‘‘ปณิธี’’ติ วุตฺโต. โส ปน เอกสฺมิมฺปิ อาโรเปตฺวา น เปตพฺโพติ เอกสฺมิมฺปิ อาโรเปตฺวา เปตพฺเพน เตน รหิตตา วุตฺตา.
อริยนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา
๓๖๖. ฌาเนน ¶ วิกฺขมฺภนวิมุตฺติยา วิมุตฺตํ จิตฺตํ มคฺคกฺขเณ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุจฺจมานํ นาม โหตีติ เอติสฺสา ลทฺธิยา โก โทโสติ วิจาเรตพฺพํ. ยทิ วิปฺปกตนิทฺเทเส โทโส, ตตฺราปิ เตน วิมุจฺจมานตาย ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมาน’’นฺติ วุตฺตํ. สติ จ โทเส อุปฺปาทกฺขเณ วิมุตฺตํ, วยกฺขเณ วิมุจฺจมานนฺติ วิมุตฺตวิมุจฺจมานวจนสฺส น โจเทตพฺพํ สิยา, อถ โข วิมุจฺจมานวจนเมวาติ. เอกเทเสน, เอกเทเส วา วิมุจฺจมานสฺส จ วิมุตฺตกิริยาย เอกเทโส วิเสสนํ โหตีติ ‘‘ภาวนปุํสก’’นฺติ วุตฺตํ. กฏาทโยติ กฏปฏาทโย. เอเกเนว จิตฺเตนาติ เอเกเนว ผลจิตฺเตนาติ อธิปฺปาโย.
วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อฏฺมกกถาวณฺณนา
๓๖๘. อนุโลมโคตฺรภุกฺขเณปิ อสมุทาจรนฺตา มคฺคกฺขเณปิ ปหีนา เอว นาม ภเวยฺยุนฺติ ลทฺธิ อุปฺปนฺนาติ อธิปฺปาเยน อนุโลมโคตฺรภุคฺคหณํ กโรติ.
อฏฺมกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา
๓๗๑. อินฺทฺริยานิ ¶ ปฏิลภติ อปฺปฏิลทฺธินฺทฺริยตฺตา อนินฺทฺริยภูตานิ สทฺธาทีนิ นิยฺยานิกานิ ภาเวนฺโต อินฺทฺริยานิ ปฏิลภติ, น ปน อินฺทฺริยานิ ภาเวนฺโตติ อธิปฺปาโย.
อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา
๓๗๓. อุปตฺถทฺธนฺติ ¶ ยถา วิสยานุภาวโคจเรหิ วิสิฏฺํ โหติ, ตถา ปจฺจยภูเตน กตพลาธานนฺติ อตฺโถ. ตํมตฺตเมวาติ ปุริมํ มํสจกฺขุมตฺตเมว ธมฺมุปตฺถทฺธํ น โหตีติ อตฺโถ. อนาปาถคตนฺติ มํสจกฺขุนา คเหตพฺพฏฺานํ อาปาถํ นาคตํ. เอตฺถ จ วิสยสฺส ทีปกํ อานุภาวโคจรานเมว อสทิสตํ วทนฺโต ยาทิโส มํสจกฺขุสฺส วิสโยติ วิสยคฺคหณํ น วิสยวิเสสทสฺสนตฺถํ, อถ โข ยาทิเส วิสเย อานุภาวโคจรวิเสสา โหนฺติ, ตาทิสสฺส รูปวิสยสฺส ทสฺสนตฺถนฺติ ทีเปติ, สทิสสฺส วา วิสยสฺส อานุภาวโคจรวิเสโสว วิเสสํ.
น จ มํสจกฺขุเมว ทิพฺพจกฺขูติ อิจฺฉตีติ ธมฺมุปตฺถทฺธกาเล ปุริมํ มํสจกฺขุเมวาติ น อิจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. มํสจกฺขุสฺส อุปฺปาโท มคฺโคติ มํสจกฺขุปจฺจยตาทสฺสนตฺถเมว วุตฺตํ, น เตน อนุปาทินฺนตาสาธนตฺถํ. รูปาวจริกานนฺติ รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยน อุปฺปนฺนานิ มหาภูตานิ รูปาวจริกานีติ โส อิจฺฉตีติ อธิปฺปาโย. เอส นโย ‘‘อรูปาวจริกาน’’นฺติ เอตฺถาปิ. อรูปาวจรกฺขเณ รูปาวจรจิตฺตสฺส อภาวา ปฏิกฺขิปตีติ ตสฺมึเยว ขเณ รูปาวจรํ หุตฺวา อรูปาวจรํ น ชาตนฺติ ปฏิกฺขิปตีติ อธิปฺปาโย.
๓๗๔. กิฺจาปิ ทิพฺพจกฺขุโน ธมฺมุปตฺถทฺธสฺส ปฺาจกฺขุภาวํ น อิจฺฉติ, เยน ตีณิ จกฺขูนิ ธมฺมุปตฺถมฺเภน จกฺขุนฺตรภาวํ วทโต ภเวยฺยุนฺติ อธิปฺปาโย.
ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา
๓๗๗. ทิพฺเพน ¶ จกฺขุนา ยถากมฺมูปเค สตฺเต ปชานาตีติ ยถากมฺมูปคตาณสฺส อุปนิสฺสเย ทิพฺพจกฺขุมฺหิ กรณนิทฺเทโส กโต, น ยถากมฺมูปคตชานนกิจฺจเก. ตํกิจฺจเกเยว ปน ปโร กรณนิทฺเทสํ มฺตีติ อาห ‘‘อโยนิโส คเหตฺวา’’ติ. ยถากมฺมูปคตาณเมว ทิพฺพจกฺขุนฺติ ลทฺธีติ อิมินา วจเนน ทิพฺพจกฺขุเมว ยถากมฺมูปคตาณนฺติ เอวํ ¶ ภวิตพฺพํ. เอว-สทฺโท จ อฏฺาเน ิโต ทิพฺพจกฺขุสทฺทสฺส ปรโต โยเชตพฺโพ. ยถากมฺมูปคตาณสฺส หิ โส ทิพฺพจกฺขุโต อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรติ. น หิ ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตาณโตติ.
ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สํวรกถาวณฺณนา
๓๗๙. จาตุมหาราชิกานํ สํวราสํวรสพฺภาโว อาฏานาฏิยสุตฺเตน ปกาสิโตติ ‘‘ตาวตึเส เทเว อุปาทายา’’ติ อาห. เอวํ สติ สุคติกถายํ ‘‘ตาวตึเส สงฺคหิตานํ ปุพฺพเทวานํ สุราปานํ, สกฺกเทวานํ สุราปานนิวารณํ สุยฺยติ, ตํ เตสํ สุราปานํ อสํวโร น โหตี’’ติ วตฺตพฺพํ โหติ.
สํวรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. จตุตฺถวคฺโค
๑. คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา
๓๘๗. คิหิสํโยชนสมฺปยุตฺตตายาติ ¶ เอเตน คิหิฉนฺทราคสมฺปยุตฺตตาย เอว ‘‘คิหี’’ติ วุจฺจติ, น พฺยฺชนมตฺเตนาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.
คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อุปปตฺติกถาวณฺณนา
๓๘๘. อโยนิโสติ โอปปาติโก โหติ, ตตฺถ ตสฺสาเยวูปปตฺติยา ปรินิพฺพายีติ อตฺถํ คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย.
อุปปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สมนฺนาคตกถาวณฺณนา
๓๙๓. สมนฺนาคตกถายํ ¶ ปตฺตึ สนฺธาย ปฏิชานนฺโต จตูหิ ขนฺเธหิ วิย สมนฺนาคมํ น วทตีติ ตสฺส จตูหิ ผสฺสาทีหิ สมนฺนาคมปฺปสงฺโค ยถา โหติ, ตํ วตฺตพฺพํ.
สมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา
๓๙๗. อิมินาว ¶ นเยนาติ ‘‘ตตฺถ ทฺเว สมนฺนาคมา’’ติอาทิ สพฺพํ โยเชตพฺพํ. ตตฺถ ปตฺติธมฺโม นาม รูปาวจราทีสุ อฺตรภูมึ ปมชฺฌานาทิวเสน ปาปุณนฺตสฺส ปมชฺฌานาทีนํ ปฏิลาโภ. นิรุทฺเธสุปิ ปมชฺฌานาทีสุ อนิรุชฺฌนโต จิตฺตวิปฺปยุตฺโต สงฺขาโร, เยน สุปนฺโต สชฺฌายาทิปสุโต จ เตหิ สมนฺนาคโตติ วุจฺจตีติ วทนฺติ.
อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา
๓๙๘. ตสฺมาติ ยถาวุตฺตสฺส าณทฺวยสฺส โพธิภาวโต. ตํ อคฺคเหตฺวา ปตฺติธมฺมวเสน นตฺถิตาย โพธิยา สมนฺนาคโต พุทฺโธติ เยสํ ลทฺธิ, เต สนฺธาย ปุจฺฉา จ อนุโยโค จ สกวาทิสฺสาติ โยชนา ทฏฺพฺพา.
โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ลกฺขณกถาวณฺณนา
๔๐๒. โพธิสตฺตเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ ลกฺขณสมนฺนาคเตสุ อโพธิสตฺเต ฉฑฺเฑตฺวา โพธิสตฺตเมว คเหตฺวา อิทํ สุตฺตํ วุตฺตํ, น ¶ โพธิสตฺตโต อฺโ ลกฺขณสมนฺนาคโต นตฺถีติ. นาปิ สพฺเพสํ ลกฺขณสมนฺนาคตานํ โพธิสตฺตตา, ตสฺมา อสาธกนฺติ อธิปฺปาโย.
ลกฺขณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา
๔๐๓. เปตฺวา ¶ ปารมีปูรณนฺติ ปารมีปูรเณเนว เต ‘‘โพธิยา นิยตา นรา’’ติ วุจฺจนฺตีติ ทสฺเสติ. เกวลฺหิ นนฺติอาทินา จ น นิยามกสฺส นาม กสฺสจิ อุปฺปนฺนตฺตา พฺยากโรนฺตีติ ทสฺเสติ.
นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา
๔๑๓. นิปฺปริยาเยเนวาติ อวสิฏฺสฺส ปหาตพฺพสฺส อภาวา ‘‘สพฺพสํโยชนปฺปหาน’’นฺติ อิมํ ปริยายํ อคฺคเหตฺวา อรหตฺตมคฺเคน ปชหนโต เอวาติ คณฺหาตีติ วุตฺตํ โหติ. อปฺปหีนสฺส อภาวาติ อวสิฏฺสฺส ปหาตพฺพสฺส อภาวา ปฏิชานาตีติ วทนฺติ, ตถา ‘‘อนวเสสปฺปหาน’’นฺติ เอตฺถาปิ. เอวํ สติ เตน อตฺตโน ลทฺธึ ฉฑฺเฑตฺวา สกวาทิสฺส ลทฺธิยา ปฏิฺาตนฺติ อาปชฺชติ.
สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจมวคฺโค
๑. วิมุตฺติกถาวณฺณนา
๔๑๘. ผลาณํ น โหตีติ ‘‘วิมุตฺตานี’’ติ วา ตทงฺควิมุตฺติยาทิภาวโต มคฺเคน ปหีนานํ ปุน อนุปฺปตฺติโต จ ‘‘อวิมุตฺตานี’’ติ วา ¶ น วตฺตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. โคตฺรภุาณฺเจตฺถ วิปสฺสนาคฺคหเณน คหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
วิมุตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อเสขาณกถาวณฺณนา
๔๒๑. น ¶ ปเนตํ อเสขนฺติ เอเตน อเสขวิสยตฺตา อเสขเมว าณนฺติ ปรสฺส ลทฺธิ, น ปน อเสขสฺสาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ.
อเสขาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. วิปรีตกถาวณฺณนา
๔๒๔. น ปถวีเยวาติ ลกฺขณปถวีเยว, สสมฺภารปถวีเยว วา น โหตีติ อตฺโถ. อนิจฺเจ นิจฺจนฺติอาทิวิปริเยโส ปน วิปรีตาณํ นามาติ อฺาเณปิ าณโวหารํ อาโรเปตฺวา วทตีติ ทฏฺพฺพํ.
วิปรีตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นิยามกถาวณฺณนา
๔๒๘-๔๓๑. าณํ อตฺถิ, ยํ สจฺจานุโลมํ มคฺคาณานุคติกํ ปสฺสนฺโต ภควา ‘‘ภพฺโพ’’ติ ชานาตีติ ลทฺธิ. ปมปฺหเมว จตุตฺถํ กตฺวาติ เอตฺถ ‘‘นิยตสฺส อนิยามคมนายา’’ติ วิปรีตานุโยคโต ปภุติ คเณตฺวา ‘‘จตุตฺถ’’นฺติ อาห.
นิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา
๔๓๒-๔๓๓. ยํกิฺจิ ¶ อริยานํ าณํ, สพฺพํ โลกุตฺตรเมวาติ คณฺหนฺเตนปิ สพฺพํ าณํ ปฏิสมฺภิทาติ น สกฺกา วตฺตุํ. อนริยานมฺปิ หิ าณํ าณเมวาติ ¶ . ตสฺส วา าณตํ น อิจฺฉตีติ วตฺตพฺพํ. ปถวีกสิณสมฺมุติยํ สมาปตฺติาณํ สนฺธายาติ อนริยสฺส เอตํ าณํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย สิยา.
ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. สมฺมุติาณกถาวณฺณนา
๔๓๔-๔๓๕. สจฺจนฺติ วจนสามฺเน อุภยสฺสปิ สจฺจสามฺตฺตํ คเหตฺวา วทตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห.
สมฺมุติาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา
๔๓๖-๔๓๘. ผสฺสสฺส ผุสนลกฺขณํ มนสิกโรโตติ เอเตน ปุริมา วตฺตพฺพปฏิฺา อนุปทธมฺมมนสิการโต อฺํ สมุทายมนสิการํ สนฺธาย กตาติ ทสฺเสติ.
จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อนาคตาณกถาวณฺณนา
๔๓๙-๔๔๐. สพฺพสฺมิมฺปีติ ¶ ‘‘ปาฏลิปุตฺตสฺส โข’’ติอาทินา อนาคเต าณนฺติ วุตฺตนฺติ อนาคตภาวสามฺเน อนนฺตรานาคเตปิ าณํ อิจฺฉนฺตีติ วุตฺตํ โหติ.
อนาคตาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา
๔๔๑-๔๔๒. วจนํ ¶ นิสฺสายาติ อตฺถโต อาปนฺนํ วจนํ, อนุชานนวจนํ วา นิสฺสาย. สนฺตตึ สนฺธายาติ ภงฺคานุปสฺสนานํ ภงฺคโต อนุปสฺสนาสนฺตตึ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย.
ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ผลาณกถาวณฺณนา
๔๔๓-๔๔๔. พุทฺธานํ วิยาติ ยถา พุทฺธา สพฺพปฺปการผลปโรปริยตฺตชานนวเสน อตฺตโน เอว จ พเลน ผลํ ชานนฺติ, เอวนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ผลาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
มหาปณฺณาสโก สมตฺโต.
๖. ฉฏฺวคฺโค
๑. นิยามกถาวณฺณนา
๔๔๕-๔๔๗. อนิยโต ¶ นาม น โหตีติ ยถา มิจฺฉตฺตนิยตสฺส ภวนฺตเร อนิยตํ นาม โหติ, เอวํ เอตสฺส กทาจิปิ อนิยตตา น โหตีติ โย นิยาโม, โส อสงฺขโตติ อธิปฺปาโย.
นิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา
๔๕๑. การณฏฺเน ิตตาติ การณภาโวเยว. เอเตน จ ธมฺมานํ การณภาโว ธมฺมฏฺิตตาติ เอตมตฺถํ ทสฺเสติ. ตถา ‘‘ธมฺมนิยามตา’’ติ เอตฺถาปิ.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สจฺจกถาวณฺณนา
๔๕๒-๔๕๔. วตฺถุสจฺจนฺติ ¶ ชาติยาทิ กามตณฺหาทิ สมฺมาทิฏฺิอาทิ จ. พาธนปภวนิยฺยานิกลกฺขเณหิ ลกฺขณสจฺจํ พาธนาทิ.
สจฺจกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา
๔๕๗-๔๕๙. กริยมานา ¶ กรียตีติ อรูปกฺขนฺธานํ ปวตฺตมานานํ สมถวิปสฺสนานุกฺกเมน อปฺปวตฺติ สาธียตีติ อตฺโถ. สงฺขตาสงฺขตลกฺขณานํ ปน อภาเวนาติ วทนฺโต สภาวธมฺมตํ ปฏิเสเธติ. โวทานฺจ วุฏฺานปริยาโยว. อสงฺขตภาเว การณํ น โหติ สภาวธมฺมตฺตาสาธกตฺตาติ อธิปฺปาโย.
นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ฉฏฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สตฺตมวคฺโค
๑. สงฺคหิตกถาวณฺณนา
สงฺคหิตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา
๔๗๓-๔๗๔. นานตฺตววตฺถานํ นตฺถีติ วทนฺโต ‘‘ติลมฺหิ เตลํ อนุปวิฏฺ’’นฺติ วจนเมว น ยุชฺชตีติ ‘‘น เหว’’นฺติ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ ทสฺเสติ.
สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. เจตสิกกถาวณฺณนา
๔๗๕-๔๗๗. ผสฺสาทีนํ ¶ ¶ เอกุปฺปาทตาทิวิรหิตา สหชาตตา นตฺถีติ อาห ‘‘สมฺปยุตฺตสหชาตตํ สนฺธายา’’ติ.
เจตสิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ทานกถาวณฺณนา
๔๗๘. เทยฺยธมฺมวเสน โจเทตุนฺติ ยทิ เจตสิโกว ธมฺโม ทานํ, ‘‘ทิยฺยตีติ ทาน’’นฺติ อิมินาปิ อตฺเถน เจตสิกสฺเสว ทานภาโว อาปชฺชตีติ โจเทตุนฺติ อตฺโถ.
๔๗๙. อนิฏฺผลนฺติอาทิ อเจตสิกสฺส ธมฺมสฺส ทานภาวทีปนตฺถํ วุตฺตนฺติ ผลทานภาวทีปนตฺถํ น วุตฺตนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อนิฏฺผลนฺติอาทินา อเจตสิกสฺส ธมฺมสฺส ผลทานํ วุตฺตํ วิย โหติ, น ทานภาโว, ตนฺนิวารณตฺถฺเจตมาหาติ. เอวฺจ กตฺวา อนนฺตรเมวาห ‘‘น หิ อเจตสิโก อนฺนาทิธมฺโม อายตึ วิปากํ เทตี’’ติ. อิฏฺผลภาวนิยมนตฺถนฺติ เทยฺยธมฺโม วิย เกนจิ ปริยาเยน อนิฏฺผลตา ทานสฺส นตฺถิ, เอกนฺตํ ปน อิฏฺผลเมวาติ นิยมนตฺถนฺติ อตฺโถ.
อิตเรนาติ ‘‘ทิยฺยตีติ ทาน’’นฺติ อิมินา ปริยาเยน. น ปน เอเกนตฺเถนาติ ‘‘เทยฺยธมฺโมว ทาน’’นฺติ อิมํ สกวาทีวาทํ นิวตฺเตตุํ ‘‘สทฺธา หิริย’’นฺติอาทิกํ สุตฺตสาธนํ ปรวาทีวาเท ยุชฺชติ, ‘‘อิเธกจฺโจ อนฺนํ เทตี’’ติอาทิกฺจ, ‘‘เจตสิโกว ธมฺโม ทาน’’นฺติ อิมํ นิวตฺเตตุํ ‘‘เจตสิโก ธมฺโม ทาน’’นฺติ อิมํ ปน สาเธตุํ ‘‘สทฺธา หิริย’’นฺติอาทิกํ สกวาทีวาเท ยุชฺชติ, ‘‘อิเธกจฺโจ อนฺนํ เทตี’’ติอาทิกํ วา ‘‘เทยฺยธมฺโม ทาน’’นฺติ สาเธตุนฺติ เอวํ นิวตฺตนสาธนตฺถนานตฺตํ สนฺธาย ‘‘น ปน เอเกนตฺเถนา’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ ยถา ปรวาทีวาเท จ สุตฺตสาธนตฺถํ ‘‘น วตฺตพฺพํ เจตสิโก ธมฺโม ทาน’’นฺติ ปุจฺฉายํ เจตสิโกวาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, ตถา ‘‘น วตฺตพฺพํ เทยฺยธมฺโม ทาน’’นฺติ ปุจฺฉาย จ เทยฺยธมฺโมวาติ ¶ . เทยฺยธมฺโม อิฏฺผโลติ อิฏฺผลาภาวมตฺตเมว ปฏิกฺขิตฺตนฺติ เอตฺถ ‘‘อิฏฺผลภาวมตฺตเมว ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ ปาเน ภวิตพฺพนฺติ ¶ . ‘‘อิฏฺผลาภาวมตฺตเมว ทิสฺวา ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติ วา วตฺตพฺพํ. สงฺกรภาวโมจนตฺถนฺติ เจตสิกสฺส ทาตพฺพฏฺเน เทยฺยธมฺมสฺส จ อิฏฺผลฏฺเน ทานภาวโมจนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ.
ทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปริโภคมยปฺุกถาวณฺณนา
๔๘๓. ปริโภคมยํ นาม จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ ปฺุํ อตฺถีติ ลทฺธิ. ตฺหิ เต สนฺธาย ปริโภคมยํ ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ วทนฺตีติ อธิปฺปาโย.
๔๘๕. ตสฺสาปิ วเสนาติ ตสฺสาปิ ลทฺธิยา วเสน. ปฺจวิฺาณานํ วิย เอเตสมฺปิ สโมธานํ สิยาติ ปฏิชานาตีติ วทนฺติ. ปฺจวิฺาณผสฺสาทีนเมว ปน สโมธานํ สนฺธาย ปฏิชานาตีติ อธิปฺปาโย.
๔๘๖. อปริภุตฺเตปีติ อิมินา ‘‘ปฏิคฺคาหโก ปฏิคฺคเหตฺวา น ปริภฺุชติ ฉฑฺเฑตี’’ติอาทิกํ ทสฺเสติ. อปริภุตฺเต เทยฺยธมฺเม ปฺุภาวโต ปริโภคมยํ ปฺุํ ปวฑฺฒตีติ อยํ วาโท หียติ. ตสฺมิฺจ หีเน สกวาทีวาโท พลวา. จาคเจตนาย เอว หิ ปฺุภาโว เอวํ สิทฺโธ โหตีติ อธิปฺปาโย. อปริภุตฺเตปิ เทยฺยธมฺเม ปฺุภาเว จาคเจตนาย เอว ปฺุภาโวติ อาห ‘‘สกวาทีวาโทว พลวา’’ติ.
ปริโภคมยปฺุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อิโตทินฺนกถาวณฺณนา
๔๘๘-๔๙๑. เตเนว ¶ ยาเปนฺตีติ เตเนว จีวราทินา ยาเปนฺติ, เตเนว วา จีวราทิทาเนน ยาเปนฺติ, สยํกเตน กมฺมุนา วินาปีติ อธิปฺปาโย. อิมินา การเณนาติ ยทิ ยํ อิโต จีวราทิ ทินฺนํ, น เตน ยาเปยฺยุํ, กถํ อนุโมเทยฺยุํ…เป… โสมนสฺสํ ปฏิลเภยฺยุนฺติ ลทฺธึ ปติฏฺเปนฺตสฺสปีติ วุตฺตํ โหติ.
อิโตทินฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา
๔๙๒. ผสฺโส ¶ สุขเวทนียาทิเภโท โหตีติ ผสฺเสน สพฺพมฺปิ กมฺมวิปากํ ทสฺเสตฺวา ปุน อตฺตวชฺเชหิ สมฺปโยคทสฺสนตฺถํ ‘‘โส จ สฺาทโย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตฺถิ จ เนสนฺติ สาวชฺชเน จกฺขุวิฺาณาทิสหชาตธมฺเม สนฺธาย วุตฺตํ. โย ตตฺถ อิฏฺวิปาโก, ตสฺส ปตฺถนาติ อิฏฺวิปาเก เอว ปตฺถนํ กตฺวา กมฺมํ กโรนฺตีติ กมฺมูปนิสฺสยภูตเมว ปตฺถนํ ทสฺเสติ, ปจฺจุปฺปนฺนเวทนาปจฺจยํ วา ตณฺหํ อุปาทานาทินิพฺพตฺตนวเสน ทุกฺขสฺส ปภาวิตํ. มูลตณฺหาติ ปจฺจุปฺปนฺนวิปากวฏฺฏนิพฺพตฺตกกมฺมสฺส อุปนิสฺสยภูตํ ปุริมตณฺหํ, กมฺมสหายํ วา วิปากสฺส อุปนิสฺสยภูตํ.
๔๙๓. สกสมยวเสน จ โจทนาย ปยุชฺชมานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสฺจ ลทฺธิยา’’ติอาทิมาห.
๔๙๔. ปฏิลาภวเสนาติ กมฺเม สติ ปถวิยาทีนํ ปฏิลาโภ โหตีติ กมฺมํ ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหตีติ ทสฺเสติ.
ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ชรามรณํวิปาโกติกถาวณฺณนา
๔๙๕. สมฺปโยคลกฺขณาภาวาติ ¶ ‘‘เอการมฺมณา’’ติ อิมสฺส สมฺปโยคลกฺขณสฺส อภาวาติ อธิปฺปาโย.
๔๙๖. ปริยาโย นตฺถีติ สกวาทินา อตฺตนา วตฺตพฺพตาย ปริยาโย นตฺถีติ อพฺยากตานํ ชรามรณสฺส วิปากนิวารณตฺถํ อพฺยากตวเสน ปุจฺฉา น กตาติ ทสฺเสติ.
๔๙๗. อปริสุทฺธวณฺณตา ชราเยวาติ เกจิ, ตํ อกุสลกมฺมํ กมฺมสมุฏฺานสฺสาติอาทินา รูปสฺเสว ทุพฺพณฺณตาทสฺสเนน สมเมวาติ.
ชรามรณํวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อริยธมฺมวิปากกถาวณฺณนา
๕๐๐. วฏฺฏนฺติ ¶ กมฺมาทิวฏฺฏํ.
อริยธมฺมวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. วิปาโกวิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา
๕๐๑. ตปฺปจฺจยาปีติ ยสฺส วิปากสฺส วิปาโก อฺมฺปจฺจโย โหติ ตปฺปจฺจยาปิ อฺมฺปจฺจยภูตโตปีติ อธิปฺปาโย. โส หีติอาทินา ปุริมปฏิฺาย อิมสฺส โจทนสฺส การณภาวํ ทสฺเสติ. อฺมฺปจฺจยาทีสุ ปจฺจยฏฺเนาติ อาทิ-สทฺเทน สหชาตาทิปจฺจเย สงฺคณฺหิตฺวา เตสุ เตน เตน ปจฺจยภาเวนาติ ทสฺเสติ.
วิปาโกวิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อฏฺมวคฺโค
๑. ฉคติกถาวณฺณนา
๕๐๓-๕๐๔. วณฺโณติ ¶ วณฺณนิภา สณฺานฺจ วุจฺจตีติ อาห ‘‘สทิสรูปสณฺานา’’ติ.
ฉคติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา
๕๐๕. อติทูรสฺส อนฺตริตสฺส ปตฺตพฺพสฺส เทสสฺส ทสฺสนโต ทิพฺพจกฺขุโก วิย. อากาเสน ปถวนฺตรฏฺานานิ ภินฺทิตฺวา คมนโต อิทฺธิมา วิย. น สหธมฺเมนาติ ยทิ โส ภวานํ อนฺตรา น สิยา, น นาม อนฺตราภโวติ ปฏิกฺเขเป กรณํ นตฺถีติ อธิปฺปาโย.
๕๐๖. ตตฺถ ¶ ชาติชรามรณานิ เจว จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรฺจ อนิจฺฉนฺโตติ เอเตน จุติอนนฺตรํ อนฺตราภวํ ขนฺธาติ, วตฺตมานา ชาตีติ, มาตุกุจฺฉิเมว ปวิฏฺา อนฺตรธายมานา มรณนฺติ น อิจฺฉติ.
๕๐๗. ยถา กามภวาทีสุ ตตฺถ ตตฺเถว ปุนปฺปุนํ จวิตฺวา อุปปตฺติวเสน จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรา โหติ, เอวํ ตํ ตตฺถ น อิจฺฉตีติ ทสฺเสติ.
อนฺตราภวกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. กามคุณกถาวณฺณนา
๕๑๐. กามภวสฺส ¶ กมนฏฺเน กามภวภาโว สพฺเพปิ กามาวจรา ขนฺธาทโย กามภโวติ อิมินา อธิปฺปาเยน ทฏฺพฺโพ. อุปาทินฺนกฺขนฺธานเมว ปน กามภวภาโว ธาตุกถายํ ทสฺสิโต, น กมนฏฺเน กามภวภาโว. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, กามคุณา’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสายาติ ปฺเจว กามโกฏฺาสา ‘‘กาโม’’ติ วุตฺตาติ กามธาตูติวจนํ น อฺสฺส นามนฺติ อิมินา อธิปฺปาเยเนวํ วจนมตฺตํ นิสฺสายาติ อตฺโถ.
กามคุณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. รูปธาตุกถาวณฺณนา
๕๑๕-๕๑๖. รูปธาตุกถายํ รูปธาตูติ วจนโต รูปีธมฺเมเหว รูปธาตุยา ภวิตพฺพนฺติ ลทฺธิ ทฏฺพฺพา. สุตฺเตสุ ‘‘ตโยเม ภวา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๐๕) ปริจฺฉินฺนภูมิโยว ภูมิปริจฺเฉโท, ‘‘เหฏฺโต อวีจินิรยํ ปริยนฺตํ กริตฺวา’’ติอาทิกมฺมปริจฺฉินฺทนมฺปิ (วิภ. ๑๘๒) วทนฺติ.
รูปธาตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อรูปธาตุกถาวณฺณนา
๕๑๗-๕๑๘. อิมินาวุปาเยนาติ ¶ ยถา หิ ปุริมกถายํ รูปิโน ธมฺมา อวิเสเสน ‘‘รูปธาตู’’ติ วุตฺตา, เอวมิธาปิ อรูปิโน ธมฺมา อวิเสเสน ‘‘อรูปธาตู’’ติ วุตฺตาติ ตตฺถ วุตฺตนโย อิธาปิ สมาโนติ อธิปฺปาโย.
อรูปธาตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. รูปธาตุยาอายตนกถาวณฺณนา
๕๑๙. ฆานนิมิตฺตานิปีติ ¶ อิทํ ฆานาทินิมิตฺตานิปีติ วตฺตพฺพํ. นิมิตฺตนฺติ ฆานาทีนํ โอกาสภาเวน อุปลกฺขิตํ ตถาวิธสณฺานํ รูปสมุทายมาห.
รูปธาตุยาอายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อรูเปรูปกถาวณฺณนา
๕๒๔-๕๒๖. สุขุมรูปํ อตฺถิ, ยโต นิสฺสรณํ ตํ อารุปฺปนฺติ อธิปฺปาโย.
อรูเปรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. รูปํกมฺมนฺติกถาวณฺณนา
๕๒๗-๕๓๗. ปกปฺปยมานาติ อายูหมานา, สมฺปยุตฺเตสุ อธิกํ พฺยาปารํ กุรุมานาติ อตฺโถ. ปุริมวาเรติ ‘‘ยํกิฺจิ อกุสเลน จิตฺเตน สมุฏฺิตํ รูปํ, สพฺพํ ตํ อกุสล’’นฺติ อิมํ ปฺหํ วทติ.
รูปํกมฺมนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา
๕๔๐. อรูปชีวิตินฺทฺริยนฺติปฺเห ¶ ‘‘อตฺถิ อรูปีนํ ธมฺมานํ อายู’’ติอาทิกํ ปฺหํ อนฺตํ ¶ คเหตฺวา วทติ. อรูปธมฺมานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ ชีวิตินฺทฺริยสนฺตานํ นาม อตฺถีติ อิจฺฉตีติ เอตฺถ รูปารูปธมฺมานํ ตํ อิจฺฉนฺโต อรูปธมฺมานํ อิจฺฉตีติ วตฺตุํ ยุตฺโตติ ‘‘อรูปธมฺมาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
๕๔๑. สตฺตสนฺตาเน รูปิโน วา ธมฺมา โหนฺตูติอาทินาปิ ตเมว ชีวิตินฺทฺริยสนฺตานํ วทตีติ เวทิตพฺพํ.
๕๔๒. ปุพฺพาปรภาคํ สนฺธายาติ สมาปตฺติยา อาสนฺนภาวโต ตทาปิ สมาปนฺโนเยวาติ อธิปฺปาโย.
๕๔๔-๕๔๕. ทฺเว ชีวิตินฺทฺริยานีติ ‘‘ปุจฺฉา สกวาทิสฺส, ปฏิฺา อิตรสฺสา’’ติ ปุริมปาโ. ‘‘ปุจฺฉา ปรวาทิสฺส, ปฏิฺา สกวาทิสฺสา’’ติ ปจฺฉิมปาโ, โส ยุตฺโต.
ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. กมฺมเหตุกถาวณฺณนา
๕๔๖. เสสนฺติ ปาณาติปาตาทิกมฺมสฺส เหตูติ อิโต ปุริมํ โสตาปนฺนาทิอนุโยคํ วทติ. หนฺท หีติ ปรวาทิสฺเสเวตํ สมฺปฏิจฺฉนวจนนฺติ สมฺปฏิจฺฉาเปตุนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ, ‘‘กตมสฺส กมฺมสฺส เหตู’’ติ ปน สกวาที ตํ สมฺปฏิจฺฉาเปตุํ วทตีติ ยุชฺเชยฺย, สมฺปฏิจฺฉาเปตุนฺติ ปน ปกฺขํ ปฏิชานาเปตุนฺติ อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ปรวาที อตฺตโน ลทฺธึ สกวาทึ คาหาเปตุนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
กมฺมเหตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. นวมวคฺโค
๑. อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา
๕๔๗. วิภาคทสฺสนตฺถนฺติ ¶ ¶ วิสภาคทสฺสนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. นานาจิตฺตวเสน ปฏิชานนฺตสฺส อธิปฺปายมทฺทนํ กถํ ยุตฺตนฺติ วิจาเรตพฺพํ. อารมฺมณวเสน หิ ทสฺสนทฺวยํ สห วทนฺตสฺส ตทภาวทสฺสนตฺถํ อิทํ อารทฺธนฺติ ยุตฺตนฺติ. อนุสฺสววเสนาติอาทินา น เกวลํ อนิจฺจาทิอารมฺมณเมว าณํ วิปสฺสนา, อถ โข ‘‘อนุปฺปาโท เขม’’นฺติอาทิกํ นิพฺพาเน อานิสํสทสฺสนฺจาติ ทีเปติ.
อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อมตารมฺมณกถาวณฺณนา
๕๔๙. สุตฺตภเยนาติ ‘‘ปาริมํ ตีรํ เขมํ อปฺปฏิภยนฺติ โข, ภิกฺขเว, นิพฺพานสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) อสํโยชนิยาทิภาวํ สนฺธาย เขมาทิภาโว วุตฺโตติ เอวมาทินา สุตฺตภเยนาติ ทฏฺพฺพํ.
อมตารมฺมณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. รูปํสารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา
๕๕๒-๕๕๓. อารมฺมณตฺถสฺส วิภาคทสฺสนตฺถนฺติ ปจฺจยฏฺโ โอลุพฺภฏฺโติ เอวํ วิภาเค วิชฺชมาเน ¶ ปจฺจโยลุพฺภานํ วิเสสาภาวํ กปฺเปตฺวา อกปฺเปตฺวา วา สปฺปจฺจยตฺตา โอลุพฺภารมฺมเณนปิ สารมฺมณเมวาติ น คเหตพฺพนฺติ ทสฺสนตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ.
รูปํสารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อนุสยาอนารมฺมณาติกถาวณฺณนา
๕๕๔-๕๕๖. อปฺปหีนตฺตาว ¶ อตฺถีติ วุจฺจติ, น ปน วิชฺชมานตฺตาติ อธิปฺปาโย.
อนุสยาอนารมฺมณาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. าณํอนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา
๕๕๗-๘. ตสฺส าณสฺสาติ มคฺคาณสฺสาติ วทนฺติ.
าณํอนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา
๕๖๒. อวิเสเสเนวาติ อารมฺมณสมฺปโยเคหิ ทฺวีหิปีติ อตฺโถ.
วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา
๕๖๓. สพฺพโสติ ¶ สวิตกฺกจิตฺเตสุ สพฺพตฺถ สพฺพทา วาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนฺตมโส มโนธาตุปวตฺติกาเลปี’’ติ. วิตกฺกวิปฺผารมตฺตนฺติ วิตกฺกสฺส ปวตฺติมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. นยถาจิตฺตสฺสวาจาติกถาวณฺณนา
๕๖๕. อนาปตฺตีติ วิสํวาทนาธิปฺปายสฺส อภาวา มุสาวาโท น โหตีติ วุตฺตํ.
นยถาจิตฺตสฺสวาจาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา
๕๖๘-๕๗๐. ตาสูติ ¶ ตาสุ ปฺตฺตีสุ. สมนฺนาคมปฺตฺติยา สมนฺนาคโตติ วุจฺจติ, ปฏิลาภปฺตฺติยา ลาภีติ วุจฺจติ. สมนฺนาคโตติ วุจฺจติ อยํ สมนฺนาคมปฺตฺติ นาม. ลาภีติ วุจฺจติ อยํ ปฏิลาภปฺตฺติ นามาติ วา อธิปฺปาโย โยเชตพฺโพ.
อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นวมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ทสมวคฺโค
๑. นิโรธกถาวณฺณนา
๕๗๑-๒. ภวงฺคจิตฺตสฺส ¶ ภงฺคกฺขเณน สเหวาติอาทึ วทนฺเตน กิริยขนฺธานํ ภงฺคกฺขเณน สห อุปปตฺเตสิยา ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺตีติ จ วตฺตพฺพํ, ตถา อุปปตฺเตสิยานํ ภงฺคกฺขเณน สห อุปปตฺเตสิยา, กิริยานํ ภงฺคกฺขเณน สห กิริยาติ. จกฺขุวิฺาณาทีนํ กิริยาจตุกฺขนฺธคฺคหเณน คหณํ. าณนฺติ มคฺคาณํ ยุตฺตํ.
นิโรธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา
๕๗๖. ตํ ลกฺขณนฺติ ‘‘ฉ วิฺาณา’’ติ อวตฺวา ‘‘ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา’’ติอาทินา วุตฺตํ ลกฺขณํ. ‘‘ฉ วิฺาณา’’ติ อวจนํ ปเนตฺถ ‘‘โน จ วต เร วตฺตพฺเพ’’ติอาทิวจนสฺส การณนฺติ อธิปฺเปตํ.
๕๗๗. โลกิโยติ วิปสฺสนามคฺคมาห. ยํ ตตฺถ อนิมิตฺตนฺติ จกฺขุวิฺาณสมงฺคิกฺขเณ ยํ อนิมิตฺตํ คณฺหนฺโต น นิมิตฺตคฺคาหีติ วุตฺโต, ตเทว สฺุตนฺติ อธิปฺปาโย.
ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ปฺจวิฺาณาสาโภคาติกถาวณฺณนา
๕๘๔-๕๘๖. กุสลากุสลวเสน ¶ ¶ นมีติ กุสลากุสลภาเวน นมิตฺวา ปวตฺตีติ วุตฺตํ โหติ. สา ปน อารมฺมณปฺปการคฺคหณํ เยน อโลภาทีหิ โลภาทีหิ จ สมฺปโยโค โหตีติ ทฏฺพฺโพ ‘‘สุขมิติ เจตโส อภาโค’’ติอาทีสุ วิย.
ปฺจวิฺาณาสาโภคาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ทฺวีหิสีเลหีติกถาวณฺณนา
๕๘๗-๕๘๙. ขณภงฺคนิโรธํ, น อปฺปวตฺตินิโรธํ, สีลวีติกฺกมนิโรธํ วา. วีติกฺกมํ วิยาติ ยถา วีติกฺกเม กเต ทุสฺสีโล, เอวํ นิรุทฺเธปีติ เอวํ วีติกฺกเมน นินฺนานํ สลฺลกฺเขนฺโตติ อตฺโถ.
ทฺวีหิสีเลหีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. สีลํอเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา
๕๙๐-๕๙๔. เยน โส สีลวาเยว นาม โหตีติ เยน จิตฺตวิปฺปยุตฺเตน ิเตน อุปจเยน อกุสลาพฺยากตจิตฺตสมงฺคี สีลวาเยว นาม โหตีติ อธิปฺปาโย. เสสเมตฺถ ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติ กถายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ วุตฺตํ, สา ปน กถา มคฺคิตพฺพา.
สีลํอเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. สมาทานเหตุกถาวณฺณนา
๕๙๘-๖๐๐. สมาทานเหตุกถายํ \๑๐๐ ปุริมกถาสทิสเมวาติ ปริโภคกเถกเทสสทิสตา ทฏฺพฺพา.
สมาทานเหตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. อวิฺตฺติทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา
๖๐๓-๖๐๔. อาณตฺติยา ¶ จ ปาณาติปาตาทีสุ องฺคปาริปูรินฺติ เอกสฺมึ ทิวเส อาณตฺตสฺส อปรสฺมึ ทิวเส ปาณาติปาตํ กโรนฺตสฺส ตทา สา อาณตฺติ วิฺตฺตึ วินาเยว องฺคํ โหตีติ อวิฺตฺติ ทุสฺสีลฺยนฺติ อธิปฺปาโย.
อวิฺตฺติทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.
๑๑. เอกาทสมวคฺโค
๔. าณกถาวณฺณนา
๖๑๔-๖๑๕. าณกถายํ เสยฺยถาปิ มหาสงฺฆิกานนฺติ ปุพฺเพ าณํอนารมฺมณนฺติกถายํ (กถา. ๕๕๗ อาทโย) วุตฺเตหิ อนฺธเกหิ อฺเ อิธ มหาสงฺฆิกา ภเวยฺยุํ. ยทิ อฺาเณ วิคเตติอาทินา ราควิคโม วิย วีตราคปฺตฺติยา อฺาณวิคโม าณีปฺตฺติยา การณนฺติ ทสฺเสติ. น หิ าณํ อสฺส อตฺถีติ าณี, อถ โข อฺาณีปฏิปกฺขโต าณีติ ¶ . ยสฺมา าณปฏิลาเภนาติ เอตฺถ จ าณปฏิลาเภน อฺาณสฺส วิคตตฺตา โส าณีติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. อิทํทุกฺขนฺติกถาวณฺณนา
๖๑๘-๖๒๐. อิตโร ปน สกสมเยติ ปรวาที อตฺตโน สมเยติ อตฺโถ.
อิทํทุกฺขนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อิทฺธิพลกถาวณฺณนา
๖๒๑-๖๒๔. กมฺมสฺส ¶ วิปากวเสน วาติ นิรยํว สนฺธาย วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อพฺพุทาทิปริจฺเฉโท ตาทิสสฺส กมฺมวิปากสฺส วเสน วุตฺโต. วสฺสคณนาย วาติ มนุสฺเส จาตุมหาราชิกาทิเทเว จ สนฺธาย. เตสฺหิ อสงฺขฺเยยมฺปิ กาลํ วิปากทานสมตฺถํ กมฺมํ วสฺสคณนาย ปริจฺฉิชฺชตีติ.
อิทฺธิพลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. สมาธิกถาวณฺณนา
๖๒๕-๖๒๖. สมาธานฏฺเนาติ สมํ ปนฏฺเน สมาธิ นาม เจตสิกนฺตรํ อตฺถีติ อคฺคเหตฺวาติ ¶ อตฺโถ. ฉเลนาติ เอกจิตฺตกฺขณิกตฺเต จกฺขุวิฺาณสฺส จ ฌานจิตฺตสฺส จ น โกจิ วิเสโสติ เอเตน สามฺมตฺเตนาติ อธิปฺปาโย.
สมาธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา
๖๒๗. อนนฺตรปจฺจยตฺเจวาติ อวิชฺชา สงฺขารานํ อนนฺตรปจฺจโย อวิชฺชาย ยา ิตตา ตโต โหติ, ตาย ิตตาย อนนฺตรปจฺจยภาวสงฺขาตา ิตตา โหตีติ อธิปฺปาโย. อนนฺตรปจฺจยคฺคหณฺเจตฺถ อฺมฺปจฺจยภาวรหิตสฺส เอกสฺส ปจฺจยสฺส ทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตน หิ สพฺโพ ตาทิโส ปจฺจโย ทสฺสิโต โหตีติ. อฺมฺปจฺจยตฺจาติ อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย, สงฺขารา จ อวิชฺชาย. ตตฺถ อวิชฺชาย สงฺขารานํ ปจฺจยภาวสงฺขาตาย ิตตาย สงฺขารานํ อวิชฺชาย ปจฺจยภาวสงฺขาตา ิตตา โหติ, ตสฺสา จ อิตราติ อธิปฺปาโย.
ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อนิจฺจตากถาวณฺณนา
๖๒๘. รูปาทโย ¶ วิย ปรินิปฺผนฺนาติ รูปาทีหิ สห อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนโต ปรินิปฺผนฺนาติ อตฺโถ. อนิจฺจตาวิภาคานุยฺุชนวเสนาติ ตีสุ ทณฺเฑสุ ทณฺฑโวหาโร วิย ตีสุ ลกฺขเณสุ อนิจฺจตาโวหาโร โหตีติ ตสฺสา วิภาคานุยฺุชนวเสนาติ วทนฺติ.
อนิจฺจตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกาทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๒. ทฺวาทสมวคฺโค
๑. สํวโรกมฺมนฺติกถาวณฺณนา
๖๓๐-๖๓๒. วิปากทฺวารนฺติ ¶ ภวงฺคมนํ วทติ. กมฺมทฺวารนฺติ กุสลากุสลมนํ.
สํวโรกมฺมนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. กมฺมกถาวณฺณนา
๖๓๓-๖๓๕. อพฺยากตํ สนฺธาย ปฏิกฺเขโปติ สกสมยลกฺขเณน ปฏิกฺเขโป กโตติ วทนฺติ. อวิปากเจตนาย สรูเปน ทสฺสิตาย สวิปากาปิ ทสฺสิตาเยว นาม โหตีติ มฺมาโน อาห ‘‘สวิปากาวิปากเจตนํ สรูเปน ทสฺเสตุ’’นฺติ.
กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สทฺโทวิปาโกติกถาวณฺณนา
๖๓๖-๖๓๗. กมฺมสมุฏฺานา อรูปธมฺมาวาติอาทินา กมฺมสมุฏฺาเนสุ จกฺขาทีสุปิ วิปากโวหาโร นตฺถิ, โก ปน วาโท อกมฺมสมุฏฺาเน สทฺเทติ ทสฺเสติ.
สทฺโทวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. สฬายตนกถาวณฺณนา
๖๓๘-๖๔๐. ตสฺมา ¶ ¶ วิปาโกติ อวิเสเสน สฬายตนํ วิปาโกติ เยสํ ลทฺธีติ วุตฺตํ โหติ.
สฬายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา
๖๔๑-๖๔๕. สตฺตกฺขตฺตุปรมตานิยโตติ สตฺตกฺขตฺตุปรมตาย นิยโต. อิมํ วิภาคนฺติ อิมํ วิเสสํ. ตฺวํ ปนสฺส นิยามํ อิจฺฉสีติ อวินิปาตธมฺมตาผลปฺปตฺตีหิ อฺสฺมึ สตฺตกฺขตฺตุปรมภาเว จ นิยามํ อิจฺฉสีติ อตฺโถ.
อานนฺตริยาภาวนฺติ เยน โส ธมฺมาภิสมเยน ภพฺโพ นาม โหติ, ตสฺส อานนฺตริยกมฺมสฺส อภาวนฺติ อตฺโถ, ปุคฺคลสฺส วา อานนฺตริยภาวสฺส อภาวนฺติ. กึ ปน โส อนฺตราธมฺมํ อภิสมิสฺสตีติ? เกจิ วทนฺติ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม สตฺตมํ ภวํ นาติกฺกมติ, โอรโต ปน นตฺถิ ปฏิเสโธ’’ติ. อปเร ‘‘โย ภควตา าณพเลน พฺยากโต, ตสฺส อนฺตรา อภิสมโย นาม นตฺถิ, ตถาปิ ภวนิยามสฺส กสฺสจิ อภาวา ภพฺโพติ วุจฺจติ. ยถา กุสลา อภิฺาเจตนา กทาจิ วิปากํ อททมานาปิ สติ การเณ ทาตุํ ภพฺพตาย วิปากธมฺมธมฺมา นาม, ตถา อินฺทฺริยานํ มุทุตาย สตฺตกฺขตฺตุปรโม, น นิยามสพฺภาวา นาปิ ภควตา พฺยากตตฺตา, น จ อินฺทฺริยมุทุตา อภพฺพตากโร ธมฺโมติ น โส อภพฺโพ นาม. อภพฺพตากรธมฺมาภาวโต เจตฺถ อภพฺพตา ปฏิเสธิตา, น ปน อนฺตรา อภิสเมตุํ ภพฺพตา วุตฺตา. ยทิ จ สตฺตกฺขตฺตุปรโม อนฺตรา อภิสเมยฺย, โกลํโกโล สิยา’’ติ. วิเสสํ ปน อกตฺวา ภพฺพสภาวตาย ภพฺโพติ วตฺตุํ ยุตฺตํ. น ภวนิยามกํ กิฺจีติ เอตฺถ ปสฺสิตฺวาติ วจนเสโส, พฺยากโรตีติ วา สมฺพนฺโธ.
สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทฺวาทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๓. เตรสมวคฺโค
๑. กปฺปฏฺกถาวณฺณนา
๖๕๔-๖๕๗. กปฺปฏฺกถายํ ¶ ¶ เหฏฺาติ อิทฺธิพลกถายํ.
กปฺปฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา
๖๖๐-๖๖๒. อนนฺตราปยุตฺตกถายํ อานนฺตริยํ ปยุตฺตํ เอเตนาติ อนนฺตราปยุตฺโตติ อานนฺตริเย อนนฺตราสทฺทํ อาโรเปตฺวา อฏฺกถายํ อตฺโถ วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ‘‘อนนฺตรปยุตฺโต’’ติปิ ปาฬิ ทิสฺสติ.
อนนฺตราปยุตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. นิยตสฺสนิยามกถาวณฺณนา
๖๖๓-๖๖๔. เสสา เตภูมกธมฺมา อนิยตา นามาติ เอตฺถ อปฺปตฺตนิยามานํ ธมฺเม สนฺธาย ‘‘เตภูมกธมฺมา’’ติ อาห. เอเตว หิ สนฺธาย ‘‘เตหิ สมนฺนาคโตปิ อนิยโตเยวา’’ติ วุตฺตนฺติ. อิติ อิมํ โวหารมตฺตํ คเหตฺวา ‘‘นิยโต โพธิสตฺโต ปจฺฉิมภวิโก ภพฺโพ ธมฺมํ อภิสเมตุํ โอกฺกมิตุ’’นฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘นิยามํ โอกฺกมตี’’ติ เยสํ ลทฺธีติ อตฺถโยชนา. เอวํ ปน โวหารมตฺตสพฺภาโว ‘‘นิยโต’’ติ วจนสฺส, ธมฺมํ อภิสเมตุํ ภพฺพตา จ ‘‘นิยามํ โอกฺกมตี’’ติ ¶ วจนสฺส การณภาเวน วุตฺตา โหติ, ภพฺพตาเยว ปน อุภยสฺสปิ การณนฺติ ยุตฺตํ. อฺเนาติ ยทิ นิยโต นิยามํ โอกฺกเมยฺย, มิจฺฉตฺตนิยโต สมฺมตฺตนิยามํ, สมฺมตฺตนิยโต วา มิจฺฉตฺตนิยามํ โอกฺกเมยฺย, น จ ตํ อตฺถีติ ทสฺสนตฺถนฺติ อตฺโถ.
นิยตสฺสนิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อสาตราคกถาวณฺณนา
๖๗๔. อสาตราคกถายํ ¶ ‘‘อโห วต เม เอตเทว ภเวยฺยา’’ติ รชฺชนาติ อิมินา เอวํ ปวตฺตมาโนเยว โลโภ อิธ ‘‘ราโค’’ติ อธิปฺเปโต, น อฺถาติ ทสฺเสติ.
๖๗๕. สุตฺเต ปนาติ เอตสฺส ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ เอเตน สมฺพนฺโธ.
อสาตราคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา
๖๗๖-๖๘๐. ยสฺมา ธมฺมตณฺหาติ วุตฺตา, ตสฺมา อพฺยากตาติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ โลกุตฺตเรสุ วา สพฺเพสุ ตณฺหา ‘‘ธมฺมตณฺหา’’ติ คเหตฺวา ยสฺมา สา ตณฺหา, ตสฺมา กุสลา น โหติ, ยสฺมา ปน ธมฺเม ปวตฺตา, ตสฺมา อกุสลา น โหตีติ อพฺยากตาติ ลทฺธีติ ทสฺเสติ. ตีหิ โกฏฺาเสหิ ฉปิ ตณฺหา สํขิปิตฺวา ทสฺสิตา, ตสฺมา ธมฺมตณฺหาปิ กามตณฺหาทิภาวโต น อพฺยากตาติ อธิปฺปาโย.
ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เตรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๔. จุทฺทสมวคฺโค
๑. กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา
๖๘๖-๖๙๐. ตนฺติ ¶ กุสลํ อกุสลฺจาติ วิสุํ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ. ตํ อุภยนฺติ วา วจนเสโส. ปฏิสนฺทหตีติ ฆเฏติ, อนนฺตรํ อุปฺปาเทตีติ วุตฺตํ โหติ.
กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา
๖๙๑-๖๙๒. เกจิ ¶ วาทิโน ‘‘องฺกุเร สาขาวิฏปาทิสมฺปนฺนานํ รุกฺขาทีนํ พีชมตฺตํ อาวิภาวํ คจฺฉตี’’ติ วทนฺตีติ เตสํ วาทํ นิทสฺสนํ กโรนฺโต อาห ‘‘สมฺปนฺนสาขาวิฏปาน’’นฺติอาทิ.
สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา
๖๙๓-๖๙๗. จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ โสตวิฺาณนฺติ เอตฺถ ‘‘ลทฺธิวเสน ปฏิชานาตี’’ติ อนนฺตรุปฺปตฺตึ สลฺลกฺเขนฺโตปิ น โส จกฺขุมฺหิ รูปารมฺมณํ โสตวิฺาณํ อิจฺฉติ, อถ โข โสตมฺหิเยว สทฺทารมฺมณนฺติ อนนฺตรูปลทฺธิวเสน อาปนฺนตฺตา ‘‘ปฏิชานาตี’’ติ ยุตฺตํ วตฺตุํ.
อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อริยรูปกถาวณฺณนา
๖๙๘-๖๙๙. สมฺมาวาจาทิ ¶ รูปํ มคฺโค จาติ อิจฺฉนฺโต ‘‘อริยรูป’’นฺติปิ วทติ.
อริยรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. อฺโอนุสโยติกถาวณฺณนา
๗๐๐-๗๐๑. ‘‘สราโคติอาทิ ปน ตสฺมึ สมเย ราคสฺส อปฺปหีนตฺตา สราโคติ วตฺตพฺพต’’นฺติ ปุริมปาโ, ‘‘สานุสโยติอาทิ ปน ตสฺมึ สมเย อนุสยสฺส อปฺปหีนตฺตา สานุสโยติ วตฺตพฺพต’’นฺติ ปจฺฉิมปาโ, โส ยุตฺโต. โส หิ น อนุสยปริยุฏฺานานํ อฺตฺตํ, ตสฺมา ตํ อสาธกนฺติ เอเตน สเมตีติ.
อฺโอนุสโยติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ปริยุฏฺานํจิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา
๗๐๒. ยสฺมา ¶ อนิจฺจาทิโต มนสิกโรโตปิ ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, น จ เต วิปสฺสนาย สมฺปยุตฺตา, ตสฺมา ปริยุฏฺานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติ ลทฺธีติ อธิปฺปาโย.
ปริยุฏฺานํจิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา
๗๐๓-๗๐๕. ติวิธายาติ ¶ กิเลสวตฺถุโอกาสวเสน, กามราคกามวิตกฺกกามาวจรธมฺมวเสน วา ติวิธาย. กิเลสกามวเสนาติ กิเลสกามภูตกามธาตุภาเวนาติ วุตฺตํ โหติ. อธิปฺปายํ อสลฺลกฺเขนฺโตติ รูปธาตุสหคตวเสน อนุเสตีติ, รูปธาตุธมฺเมสุ อฺตรภาเวน รูปธาตุปริยาปนฺโนติ จ ปุจฺฉิตภาวํ อสลฺลกฺเขนฺโตติ อตฺโถ.
ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อพฺยากตกถาวณฺณนา
๗๐๖-๗๐๘. ทิฏฺิคตํ ‘‘สสฺสโต โลโกติ โข, วจฺฉ, อพฺยากตเมต’’นฺติ สสฺสตาทิภาเวน อกถิตตฺตา ‘‘อพฺยากต’’นฺติ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ ปน น ทิฏฺิคตํ ‘‘อพฺยากต’’นฺติ วุตฺตํ, อถ โข ‘‘ปนีโย เอโส ปฺโห’’ติ ทสฺสิตํ, ตสฺมา สพฺพถาปิ ทิฏฺิคตํ ‘‘อพฺยากต’’นฺติ น วตฺตพฺพนฺติ ยุตฺตํ.
อพฺยากตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา
๗๐๙-๗๑๐. ตสฺมาติ ยสฺมา ทิฏฺิราคานํ สมาเน วิกฺขมฺภนภาเวปิ ‘‘วีตราโค’’ติ วุจฺจติ, น ปน ‘‘วิคตทิฏฺิโก’’ติ, ตสฺมา ทิฏฺิ โลกิยปริยาปนฺนา น โหตีติ อตฺถํ วทนฺติ. รูปทิฏฺิยา อภาวา ปน กามธาตุปริยาปนฺนาย ทิฏฺิยา ภวิตพฺพํ. ยทิ จ ปริยาปนฺนา สิยา, ตถา จ ¶ สติ กามราโค วิย ฌานลาภิโน ทิฏฺิปิ วิคจฺเฉยฺยาติ ‘‘วิคตทิฏฺิโก’’ติ วตฺตพฺโพ สิยา, น จ วุจฺจติ, ตสฺมา อปริยาปนฺนา ทิฏฺิ. น หิ สา ¶ ตสฺส อวิคตา ทิฏฺิ กามราโค วิย กามทิฏฺิ เยน กามธาตุยา ปริยาปนฺนา สิยาติ วทตีติ เวทิตพฺพํ.
อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จุทฺทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๕. ปนฺนรสมวคฺโค
๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา
๗๑๑-๗๑๗. ตสฺมา ปจฺจยตา ววตฺถิตาติ เหตุปจฺจยภูตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจยภาวาทินา วิย อธิปติปจฺจยตาทินา จ น ภวิตพฺพนฺติ เหตุปจฺจยภาโวเยเวตสฺส ววตฺถิโต โหตีติ อตฺโถ.
ปจฺจยตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา
๗๑๘-๗๑๙. อปฺุาภิสงฺขาโรว คหิโต ‘‘นนุ อวิชฺชา สงฺขาเรน สหชาตา’’ติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. สหชาตอฺมฺอตฺถิอวิคตสมฺปยุตฺตวเสนาติ เอตฺถ นิสฺสโย กมเภเทน อตฺถิคฺคหเณน คหิโต โหตีติ น วุตฺโต, กมฺมาหารา อสาธารณตายาติ เวทิตพฺพา. วกฺขติ หิ ‘‘ตีณิ อุปาทานานิ อวิชฺชาย สงฺขารา วิย ตณฺหาย ปจฺจยา โหนฺตี’’ติ (กถา. อฏฺ. ๗๑๘-๗๑๙), ตสฺมา อุปาทาเนหิ สมานา เอเวตฺถ สงฺขารานํ ปจฺจยตา ทสฺสิตาติ.
อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา
๗๓๒. ตติยสฺาเวทยิตกถายํ ¶ ¶ เสสสตฺเต สนฺธายาติ นิโรธสมาปนฺนโต อฺเ เยสํ นิโรธสมาปตฺติยา ภวิตพฺพํ, เต ปฺจโวการสตฺเต สนฺธายาติ อธิปฺปาโย, อสฺสตฺตานมฺปิ จ สฺุปฺปาทา จุตึ อิจฺฉนฺตีติ เสสสพฺพสตฺเต สนฺธายาติ วา. สรีรปกตินฺติ ตถารูโป อยํ กาโย, ยถารูเป กาเย ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺตีติอาทิกํ.
๗๓๓-๗๓๔. สุตฺตวิโรโธ สิยาติ อิทํ ปรวาทึ สมฺปฏิจฺฉาเปตฺวา วตฺตพฺพํ.
ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา
๗๓๕. สฺาวิราควเสน ปวตฺตภาวนา อสฺสมาปตฺติปีติ ลทฺธิกิตฺตเน สฺาวิราควเสน ปวตฺตภาวนํ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺตึ ‘‘อสฺสมาปตฺตี’’ติ อคฺคเหตฺวา สาปิ อสฺิตา สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติเยว นามาติ ปรสฺส ลทฺธีติ ทสฺเสติ. ยสฺมา อสฺสมาปตฺตึ สมาปนฺนสฺส อโลภาทโย อตฺถีติ เอตฺถ สกสมยสิทฺธา จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ ‘‘อสฺสมาปตฺตี’’ติ วุตฺตา.
๗๓๖. สฺาวิราควเสน สมาปนฺนตฺตา อสฺิตา, น สฺาย อภาวโตติ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติเมว สนฺธาย วทติ.
อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. กมฺมูปจยกถาวณฺณนา
๗๓๘-๗๓๙. กมฺเมน ¶ สหชาโตติ ปฺเหสุ ‘‘กมฺมูปจยํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาตี’’ติ กตฺถจิ ปาโ, ‘‘จิตฺตสมฺปยุตฺตํ ¶ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ สนฺธาย ปฏิชานาตี’’ติ อฺตฺถ. อุภยมฺปิ วิจาเรตพฺพํ.
๗๔๑. ตสฺมาติ ติณฺณมฺปิ เอกกฺขเณ สพฺภาวโต ติณฺณํ ผสฺสานฺจ สโมธานา จ เอกตฺตํ ปุจฺฉตีติ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ.
กมฺมูปจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปนฺนรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.
๑๖. โสฬสมวคฺโค
๓. สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา
๗๔๗-๗๔๘. สุขานุปฺปทานกถายํ ยํ เอวรูปนฺติ ยํ เนวตฺตโน, น ปเรสํ, น ตสฺส, เอวรูปํ นาม อนุปฺปทินฺนํ ภวิตุํ น อรหติ อฺสฺส อสกฺกุเณยฺยตฺตาติ ลทฺธิมตฺเตน ปฏิชานาติ, น ยุตฺติยาติ อธิปฺปาโย.
สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา
๗๔๙-๗๕๓. ตํจิตฺตตายาติ ¶ ตเทว อารมฺมณภูตํ จิตฺตํ เอตสฺสาติ ตํจิตฺโต, ตสฺส ภาโว ตํจิตฺตตา, ตาย ตํจิตฺตตาย. ตํ วา อาลมฺพกํ อาลมฺพิตพฺพฺจ จิตฺตํ ตํจิตฺตํ, ตสฺส ภาโว ตสฺเสว อาลมฺพกอาลมฺพิตพฺพตา ตํจิตฺตตา, ตาย โจเทตุนฺติ อตฺโถ.
อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. รูปํรูปาวจรารูปาวจรนฺติกถาวณฺณนา
๗๖๘-๗๗๐. รูปํรูปาวจรารูปาวจรนฺติกถายํ เหฏฺาติ จุทฺทสมวคฺเค อาคตปริยาปนฺนกถายํ (กถา. อฏฺ. ๗๐๓-๗๐๕). ‘‘สมาปตฺเตสิย’’นฺติอาทิ วุตฺตนยเมว. ยฺเจตฺถ ¶ ‘‘อตฺถิ รูปํ อรูปาวจร’’นฺติ อรูปาวจรกมฺมสฺส กตตฺตา รูปํ วุตฺตํ, ตตฺถ จ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อฏฺมวคฺเค อรูเปรูปกถายํ (กถา. อฏฺ. ๕๒๔-๕๒๖) วุตฺตนยเมวาติ.
รูปํรูปาวจรารูปาวจรนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โสฬสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๗. สตฺตรสมวคฺโค
๑. อตฺถิอรหโตปฺุูปจยกถาวณฺณนา
๗๗๖-๗๗๙. จิตฺตํ อนาทิยิตฺวาติ ‘‘กิริยจิตฺเตน ทานาทิปวตฺติสพฺภาวโต’’ติ วุตฺตํ กิริยจิตฺตํ อพฺยากตํ อนาทิยิตฺวาติ อตฺโถ.
อตฺถิอรหโตปฺุูปจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. นตฺถิอรหโตอกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา
๗๘๐. อโยนิโส ¶ คเหตฺวาติ อลทฺธวิปากวารานมฺปิ กมฺมานํ พฺยนฺตีภาวํ น วทามีติ อตฺถํ คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘กมฺมานํ วิปากํ อปฺปฏิสํวิทิตฺวา ปุคฺคลสฺส พฺยนฺตีภาวํ น วทามีติ เอวํ อโยนิโส อตฺถํ คเหตฺวา’’ติ วทนฺติ.
๗๘๑. ตาว น กมตีติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปตีติ ตาว น กมติ, ตโต ปรํ กมตีติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปตีติ อธิปฺปาโย. เอตฺถ กิร ‘‘สติ ชีวิเต ชีวิตาวเสเส ชีวิตา โวโรเปตี’’ติ วจนโต อตฺตโน ธมฺมตาย มรนฺตํ โกฏฺเฏนฺตสฺส วา สีสํ วา ฉินฺทนฺตสฺส นตฺถิ ปาณาติปาโตติ อาจริยา วทนฺติ. ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตอุปกฺกมมรเณสุ วิชฺชมาเนสุปิ น เตน อุปกฺกเมน มโตติ นตฺถิ ปาณาติปาโตติ อธิปฺปาโย. เอวํ ปน มรนฺเตน เตน เอกจิตฺตวารมฺปิ ธมฺมตามรณโต โอรโต น มโตติ ทุพฺพิฺเยฺยเมตํ.
นตฺถิอรหโตอกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สพฺพมิทํกมฺมโตติกถาวณฺณนา
๗๘๔. พีชโต ¶ องฺกุรสฺเสวาติ ยถา องฺกุรสฺส อพีชโต นิพฺพตฺติ นตฺถิ, ตถา ปจฺจุปฺปนฺนปวตฺตสฺสปิ อกมฺมโต กมฺมวิปากโต นิพฺพตฺติ นตฺถิ, ตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปตีติ อธิปฺปาโย. เทยฺยธมฺมวเสน ทานผลํ ปุจฺฉตีติ เทยฺยธมฺมวเสน ยาย เจตนาย ตํ เทติ, ตสฺส ทานสฺส ผลํ ปุจฺฉติ, น เทยฺยธมฺมสฺสาติ วุตฺตํ โหติ.
สพฺพมิทํกมฺมโตติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา
๗๘๘. วินาปิ ¶ อนิจฺจตฺเตนาติ ‘‘ยาว ทุกฺขา นิรยา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) วิย ทุกฺขารมฺมณตฺเตนปิ ทุกฺขํ วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.
อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถาวณฺณนา
๗๙๓-๗๙๔. นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถายํ น จ ตานิ ทกฺขิณํ วิโสเธตุํ สกฺโกนฺตีติ ยถา ปุคฺคโล สีลปริโสธนาทีนิ กตฺวา นิโรธมฺปิ สมาปชฺชิตฺวา วิโสเธตุํ สกฺโกติ, น เอวํ มคฺคผลานีติ อธิปฺปาโย, อปฺปฏิคฺคหณโตติ วา.
นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๑. ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา
๘๐๐-๘๐๑. ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถายํ วิสุชฺเฌยฺยาติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหปฺผลา ภเวยฺยา’’ติ อาห. ทายกสฺเสว จิตฺตวิสุทฺธิ วิปากทายิกา โหตีติ ปฏิคฺคาหกนิรเปกฺขา ปฏิคฺคาหเกน ปจฺจยภูเตน วินา ทายเกเนว มหาวิปากเจตนตฺตํ อาปาทิกา, ปฏิคฺคาหกนิรเปกฺขา วิปากทายิกา โหตีติ อธิปฺปาโย. อฺโ อฺสฺส การโกติ ¶ ยทิ ทายกสฺส ทานเจตนา นาม ปฏิคฺคาหเกน กตา ภเวยฺย, ยุตฺตรูปํ สิยาติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ลทฺธิกิตฺตเน ‘‘ทายเกน ทานํ ทินฺนํ, ปฏิคฺคาหเกน วิปาโก นิพฺพตฺติโตติ อฺโ อฺสฺส การโก ภเวยฺยา’’ติ วุตฺตนฺติ? สจฺจเมตํ, ปฏิคฺคาหเกน วิปากนิพฺพตฺตนมฺปิ ปน ทานเจตนานิพฺพตฺตเนน ¶ ยทิ ภเวยฺย, เอวํ สติ อฺโ อฺสฺส การโกติ ยุตฺตรูปํ สิยาติ อธิปฺปาโย.
ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๘. อฏฺารสมวคฺโค
๑. มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา
๘๐๒-๘๐๓. อโยนิโสติ ‘‘ตุสิตปุรํ สนฺธายา’’ติอาทิกํ คหณํ สนฺธายาห.
มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา
๘๐๔-๘๐๖. ตสฺส จ เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สยเมว จ อายสฺมตา อานนฺทตฺเถเรน เทสิโตติ วทติ.
ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา
๘๑๓-๘๑๖. ฌานสงฺกนฺติกถายํ อุปฺปฏิปาฏิยาติ ปมชฺฌานโต วุฏฺาย วิตกฺกวิจารา อาทีนวโต มนสิกาตพฺพา, ตโต ทุติยชฺฌาเนน ภวิตพฺพนฺติ เอวํ โย อุปจารานํ ฌานานฺจ อนุกฺกโม, เตน วินาติ อตฺโถ.
ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา
๘๑๗-๘๑๙. ฌานนฺตริกา ¶ ¶ นาม เอสาติ ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรภาวาภาวโต น ฌานํ, อถ โข ทกฺขิณปุพฺพาทิทิสนฺตริกา วิย ฌานนฺตริกา นาม เอสาติ. กตรา? โยยํ อวิตกฺกวิจารมตฺโต สมาธีติ โยเชตพฺพํ.
ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา
๘๒๖-๘๒๗. ปฏิชานนํ สนฺธายาติ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา นิมิตฺตคฺคาหี โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๓๕๒) นเยน วุตฺตํ มโนวิฺาณปฏิชานนํ กิร สนฺธายาติ อธิปฺปาโย, ตสฺมา ‘‘เอวํ สนฺเต รูปํ มโนวิฺาณํ อาปชฺชตีติ มโนวิฺาณปฏิชานนํ ปน รูปทสฺสนํ กถํ โหตี’’ติ วิจาเรตพฺพํ.
จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺารสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๙. เอกูนวีสติมวคฺโค
๑. กิเลสปชหนกถาวณฺณนา
๘๒๘-๘๓๑. อนุปฺปนฺนาเยว นุปฺปชฺชนฺตีติ ปหีนา นาม โหนฺติ, ตสฺมา นตฺถิ กิเลสปชหนาติ ¶ ปฏิกฺขิปติ. เต ปน เนว อุปฺปชฺชิตฺวา วิคตา, นาปิ ภวิสฺสนฺติ, น จ อุปฺปนฺนาติ อตีเต กิเลเส ปชหตีติอาทิ น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ.
กิเลสปชหนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๒. สฺุตกถาวณฺณนา
๘๓๒. อนตฺตลกฺขณํ ¶ ตาว เอกจฺจนฺติ อรูปกฺขนฺธานํ อนตฺตลกฺขณํ วทติ. เอเกน ปริยาเยนาติ อนตฺตลกฺขณสฺส ชรามรณภาวปริยาเยนาติ วทนฺติ. รูปกฺขนฺธาทีนฺหิ มา ชีรตุ มา มรตูติ อลพฺภเนยฺโย อวสวตฺตนากาโร อนตฺตตา, สา อตฺถโต ชรามรณเมว, ตฺจ ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑) วุตฺตตฺตา อรูปกฺขนฺธานํ ชรามรณํ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนนฺติ อยเมเตสํ อธิปฺปาโย.
สฺุตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. สามฺผลกถาวณฺณนา
๘๓๕-๘๓๖. ผลุปฺปตฺติ จาติ ปตฺติธมฺมํ วทติ.
สามฺผลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕. ตถตากถาวณฺณนา
๘๔๑-๘๔๓. รูปาทิสภาวตาสงฺขาตาติ ¶ เอตฺถ รูปาทีนํ สภาวตาติ รูปาทิสภาวตาติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ภาวํ เหส ตถตาติ วทติ, น ภาวโยคนฺติ.
ตถตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. กุสลกถาวณฺณนา
๘๔๔-๘๔๖. อนวชฺชภาวมตฺเตเนว นิพฺพานํ กุสลนฺติ ยํกิฺจิ กุสลํ, สพฺพํ ตํ อนวชฺชภาวมตฺเตเนว, ตสฺมา นิพฺพานํ กุสลนฺติ วุตฺตํ โหติ.
กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา
๘๔๗. ‘‘สกึ ¶ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหตี’’ติ สุตฺตํ นิสฺสายาติ ตาย ชาติยา โลกุตฺตรสทฺธาทีนํ อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย กตํ อวธารณํ สํสารขาณุกภาวํ สนฺธาย กตนฺติ มฺมาโน ปุถุชฺชนสฺสายํ อจฺจนฺตนิยามตา, ยายํ นิยตมิจฺฉาทิฏฺีติ ‘‘อตฺถิ ปุถุชฺชนสฺส อจฺจนฺตนิยามตา’’ติ วทติ. วิจิกิจฺฉุปฺปตฺติ นิยามนฺตรุปฺปตฺติ จ อจฺจนฺตนิยามนิวตฺตกา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพา.
อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. อินฺทฺริยกถาวณฺณนา
๘๕๓-๘๕๖. โลกิยานมฺปีติ ¶ โลกุตฺตรานํ วิย โลกิยานมฺปิ สทฺธาทีนํเยว สทฺธินฺทฺริยาทิภาวทสฺสเนน โลกิยสทฺธินฺทฺริยาทิภาวํ สาเธตุํ สทฺธาทีนํเยว สทฺธินฺทฺริยาทิภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกูนวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๐. วีสติมวคฺโค
๒. าณกถาวณฺณนา
๘๖๓-๘๖๕. าณกถายํ ทุกฺขํ ปริชานาตีติ โลกุตฺตรมคฺคาณเมว ทีเปตีติ ‘‘ทุกฺขํ ปริชานาตี’’ติ วทนฺโต อิทํ ตว วจนํ โลกุตฺตรมคฺคาณเมว ทีเปติ, น ตสฺเสว าณภาวํ. กสฺมา? ยสฺมา น โลกุตฺตรเมว าณํ, ตสฺมา น อิทํ สาธกนฺติ วุตฺตํ โหติ.
าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา
๘๖๗-๘๖๘. ปณุนฺนนฺติ ¶ ปณุทิตํ, อนวเสสขิตฺตนฺติ อตฺโถ.
นิรยปาลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. ติรจฺฉานกถาวณฺณนา
๘๖๙-๘๗๑. ตสฺส ¶ อตฺถิตาย ปฏิฺาติ ตสฺส หตฺถินาคสฺส จ ทิพฺพยานสฺส จ อตฺถิตายาติ วิสุํ โยเชตพฺพํ.
ติรจฺฉานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๖. าณกถาวณฺณนา
๘๗๖-๘๗๗. าณกถายํ สเจ ตํ ทฺวาทสวตฺถุกนฺติ เอตฺถ จ ‘‘โลกุตฺตร’’นฺติ วจนเสโส, ตํ วา โลกุตฺตราณํ สเจ ทฺวาทสวตฺถุกนฺติ อตฺโถ. ปริฺเยฺยนฺติ ปุพฺพภาโค, ปริฺาตนฺติ อปรภาโค, สจฺจาณํ ปน มคฺคกฺขเณปิ ปริชานนาทิกิจฺจสาธนวเสน โหตีติ อาห ‘‘สทฺธึ ปุพฺพภาคปรภาเคหี’’ติ.
าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุตฺโถ ปณฺณาสโก สมตฺโต.
๒๑. เอกวีสติมวคฺโค
๑. สาสนกถาวณฺณนา
๘๗๘. ตีสุปิ ปุจฺฉาสุ โจทนตฺถํ วุตฺตนฺติ ตีสุปิ ปุจฺฉาสุ ‘‘สาสน’’นฺติอาทิวจนํ วุตฺตนฺติ สมุทายา เอกเทสานํ อธิกรณภาเวน วุตฺตาติ ทฏฺพฺพา.
สาสนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๔. อิทฺธิกถาวณฺณนา
๘๘๓-๘๘๔. อิทฺธิกถายํ ¶ ¶ อตฺถิ อธิปฺปายอิทฺธีติ อธิปฺปายวเสน อิชฺฌนโต อธิปฺปาโยติ เอวํนามิกา อิทฺธิ อตฺถีติ อตฺโถ.
อิทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๗. ธมฺมกถาวณฺณนา
๘๘๗-๘๘๘. ธมฺมกถายํ รูปฏฺโต อฺสฺส รูปสฺส อภาวาติ โย รูปสฺส นิยาโม วุจฺเจยฺย, โส รูปฏฺโ นาม โกจิ รูปโต อฺโ นตฺถีติ รูปฏฺโต อฺํ รูปฺจ น โหติ, ตสฺมา รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาวนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติ วตฺตพฺพํ, น อฺถา รูปฏฺเน นิยาเมนาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ รูปโต อฺสฺส รูปฏฺสฺส อภาเว ทสฺสิเต รูปฏฺโต อฺสฺส รูปสฺส อภาโว ทสฺสิโตเยว นาม โหตีติ ตเมว รูปโต อฺสฺส รูปฏฺสฺส อภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘รูปสภาโว หี’’ติอาทิมาห. เอส โวหาโรติ รูปสฺส สภาโว รูปสภาโว, รูปสฺส อตฺโถ รูปฏฺโติ เอวํ อฺตฺตํ คเหตฺวา วิย ปวตฺโต รูปสภาวโวหาโร รูปฏฺโวหาโร วา เวทนาทีหิ นานตฺตเมว โส สภาโวติ นานตฺตสฺาปนตฺถํ โหตีติ อตฺโถ. ตสฺมาติ รูปสฺส รูปฏฺเน อนฺตฺตา. ‘‘รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาว’’นฺติ อวตฺวา ‘‘รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติ วทโต ตฺจ วจนํ วุตฺตปฺปกาเรน สโทสํ, อถ กสฺมา ‘‘รูปฺหิ รูปฏฺเน นิยตนฺติ รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาวนฺติ อธิปฺปาเยน วตฺตพฺพ’’นฺติ วทนฺโต ‘‘รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติ ปฏิชานาตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. นนุ เจตํ อตฺตนาว วุตฺตํ, น ปเรนาติ ปฏิชานาตีติ น วตฺตพฺพนฺติ? น, อตฺตานมฺปิ ปรํ วิย วจนโต. วตฺตพฺพนฺติ วา สกวาทินา วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ โหติ. ยทิ จ เตน วตฺตพฺพํ ปฏิชานาติ จ โส เอตมตฺถนฺติ, อถ กสฺมา ปฏิชานาติ สกวาทีติ อยเมตฺถ อตฺโถ. อตฺถนฺตรวเสนาติ ตตฺถ วุตฺตเมว การณํ นิคูหิตฺวา ปเรน โจทิตนฺติ ตเมว การณํ ทสฺเสตฺวา โจทนํ นิวตฺเตติ. อิโต อฺถาติ รูปาทิสภาวมตฺตํ มฺุจิตฺวา เตน ปริกปฺปิตํ นิยตํ นตฺถีติ ¶ ตสฺส ¶ ปริกปฺปิตสฺส นิวตฺตนตฺถํ ปุน เตเนว นเยน โจเทตุํ ‘‘มิจฺฉตฺตนิยต’’นฺติอาทิมาหาติ อตฺโถ.
ธมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เอกวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๒. พาวีสติมวคฺโค
๒. กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา
๘๙๔-๘๙๕. กุสลจิตฺตกถายํ ชวนกฺขเณติ ปรินิพฺพานจิตฺตโต ปุริมชวนกฺขเณ.
กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓. อาเนฺชกถาวณฺณนา
๘๙๖. ภวงฺคจิตฺเตติ ภวงฺคปริโยสานตฺตา จุติจิตฺตํ ‘‘ภวงฺคจิตฺต’’นฺติ อาห.
อาเนฺชกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๕-๗. ติสฺโสปิกถาวณฺณนา
๘๙๘-๙๐๐. สตฺตวสฺสิกํ ¶ คพฺภํ ทิสฺวา ‘‘คพฺเภเยว อรหตฺตปฺปตฺติเหตุภูโต อินฺทฺริยปริปาโก อตฺถี’’ติ ‘‘อรหตฺตปฺปตฺติปิ อตฺถี’’ติ มฺติ, อากาสสุปินํ ทิสฺวา ‘‘อากาสคมนาทิอภิฺา วิย ธมฺมาภิสมโย อรหตฺตปฺปตฺติ จ อตฺถี’’ติ มฺตีติ อธิปฺปาโย.
ติสฺโสปิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา
๙๐๓-๙๐๕. น ¶ โกจิ อาเสวนปจฺจยํ อาเสวติ นามาติ ยถา พีชํ จตุมธุรภาวํ น คณฺหาติ, เอวํ ภาวนาสงฺขาตํ อาเสวนปจฺจยํ คณฺหนฺโต อาเสวนฺโต นาม โกจิ นตฺถีติ อตฺโถ.
อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๑๐. ขณิกกถาวณฺณนา
๙๐๖-๙๐๗. ปถวิยาทิรูเปสุ เกสฺจิ อุปฺปาโท เกสฺจิ นิโรโธติ เอวํ ปติฏฺานํ รูปสนฺตติยา โหติ. น หิ รูปานํ อนนฺตราทิปจฺจยา สนฺติ, เยหิ อรูปสนฺตติยา วิย รูปสนฺตติยา ปวตฺติ สิยาติ จิตฺเต ‘‘จิตฺเต มหาปถวี สณฺาตี’’ติอาทิ โจทิตํ.
ขณิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
พาวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
๒๓. เตวีสติมวคฺโค
๑. เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา
๙๐๘. กรุณาธิปฺปาเยน ¶ เอกาธิปฺปาโยติ ราคาธิปฺปายโต อฺาธิปฺปาโยวาติ วุตฺตํ โหติ. เอโก อธิปฺปาโยติ เอตฺถ เอกโตภาเว เอกสทฺโท ทฏฺพฺโพ. สมานตฺเถ หิ สติ ราคาธิปฺปาเยปิ เอกาธิปฺปาเยนาติ เอกาธิปฺปายตา อตฺถีติ.
เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๓-๗. อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา
๙๑๐-๙๑๔. อิสฺสริเยน ยถาธิปฺเปตสฺส กรณํ อิสฺสริยกามการิกา. คจฺเฉยฺยาติ คพฺภเสยฺโยกฺกมนํ คจฺเฉยฺย. อิสฺสริยกามการิกาเหตุ ¶ นาม ทุกฺกรการิกา มิจฺฉาทิฏฺิยา กรียตีติ เอตฺถ ทุกฺกรการิกา นาม อิสฺสริยกามการิกาเหตุ กริยมานา มิจฺฉาทิฏฺิยา กรียตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, อิสฺสริยกามการิกาเหตุ นาม วินา มิจฺฉาทิฏฺิยา กริยมานา นตฺถีติ วา.
อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๘. ปติรูปกถาวณฺณนา
๙๑๕-๙๑๖. เมตฺตาทโย สนฺธาย ‘‘เมตฺตาทโย วิย น ราโค ราคปติรูปโก โกจิ อตฺถีติ ราคเมว คณฺหาติ, เอวํ โทเสปี’’ติ วทนฺติ.
ปติรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
๙. อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา
๙๑๗-๙๑๘. น ¶ อนิจฺจาทิภาวนฺติ เอตฺถ อนิจฺจาทิโก ภาโว เอตสฺสาติ อนิจฺจาทิภาวนฺติ รูปํ วุตฺตํ. ‘‘น เกวลฺหิ ปมสจฺจเมว ทุกฺข’’นฺติ วทนฺเตน ‘‘ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ ทุกฺขสจฺจํ สนฺธาย ปุจฺฉา กตาติ ทสฺสิตํ โหติ. เอวํ สติ เตน ‘‘จกฺขายตนํ อปรินิปฺผนฺน’’นฺติอาทิ น วตฺตพฺพํ สิยา. น หิ จกฺขายตนาทีนิ อนุปาทินฺนานิ โลกุตฺตรานิ วา. ตนฺติ ‘‘ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนํ, น ปน รูป’’นฺติ เอตํ รูปสฺส จ ทุกฺขตฺตา โน วต เร วตฺตพฺเพติ อตฺโถ.
อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เตวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.
กถาวตฺถุปกรณ-มูลฏีกา สมตฺตา.
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส