📜
กามาวจรกุสลปทภาชนียวณฺณนา
๑. อปฺเปตุนฺติ ¶ นิคเมตุํ. ‘‘ปทภาชนียํ น วุตฺต’’นฺติ ปทภาชนียาวจเนน อปฺปนาวโรธํ สาเธตฺวา ปทภาชนียาวจนสฺส การณํ วทนฺโต ‘‘สรูเปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทีสุ โหติ-สทฺโท อตฺถิ-สทฺเทน อนานตฺโถติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ ‘‘ทุติเยน โหติ-สทฺเทนา’’ติ. ปุพฺเพ อฏฺกถาธิปฺปาเยน วตฺวา ยถาวุตฺตสฺส ปาฬิปฺปเทสสฺส อปฺปนาวโรโธ สมตฺถิโตติ อตฺตโน อธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สงฺเขเปนา’’ติอาทิมาห.
าตุํ ¶ อิจฺฉิโตติ ลกฺขณสฺส ปุจฺฉาวิสยตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เยน เกนจีติ ทสฺสนาทิวิเสสยุตฺเตน, อิตเรน วา. อวตฺถาวิเสโส หิ าณสฺส ทสฺสนตุลนตีรณานิ. ‘‘อทิฏฺต’’นฺติอาทีสุ อาหาติ โยเชตพฺพํ, สพฺพตฺถ จ ลกฺขณสฺสาติ. ตฺเหตฺถ อธิกตนฺติ. อทิฏฺํ โชตียติ เอตายาติ เอเตน ทิฏฺํ สํสนฺทติ เอตายาติ ทิฏฺสํสนฺทนา. วิมตึ ฉินฺทติ เอตายาติ วิมติจฺเฉทนาติ เอตาสมฺปิ สทฺทตฺโถ นยโต ทสฺสิโต, อตฺถโต ปน สพฺพาปิ ตถาปวตฺตํ วจนํ, ตทุปฺปาทโก วา จิตฺตุปฺปาโทติ เวทิตพฺพํ.
อฺมฺโต ปภิชฺชตีติ ปเภโท, วิเสโส, เตน ปเภเทน. ธมฺมานํ เทสนนฺติ กิฺจาปิ สมยภูมิชาติอารมฺมณสภาวาทิวเสน อนวเสสปฺปเภทปริคฺคหโต นิทฺเทสเทสนาว วตฺตุํ ยุตฺตา, ตถาปิ กุสลาทิมาติกาปทสงฺคหิตวิเสโสเยว อิธ ปเภโทติ อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ปเภท…เป… เทสนํ อาหา’’ติ. เตเนวาห อฏฺกถายํ ‘‘กุสล…เป… ทีเปตฺวาติ ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ธมฺมุทฺเทสวาร ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา). ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติอาทินา จ ปเภทวนฺโตว สาติสยํ นิทฺทิฏฺา, น ปน มาติกายํ วุตฺตปฺปเภโทติ ปเภทวนฺตทสฺสนํ นิทฺเทโส. อิทํ วุตฺตํ โหตีติอาทินา ‘‘ปเภเท…เป… ทสฺสนตฺถ’’นฺติ อิมสฺส วากฺยสฺส ปิณฺฑตฺถมาห. ยทิ ธมฺมา เอว ปุจฺฉิตพฺพา วิสฺสชฺเชตพฺพา จ, กสฺมา กุสลาติ ปเภทวจนนฺติ อาห ‘‘เต ปนา’’ติอาทิ. น หิ ปเภเทหิ วินา ปเภทวนฺโต อตฺถีติ. ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลา’’ติ เอเตน ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติ, ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติ จ อาทินา อุทฺทิฏฺนิทฺทิฏฺานํ ธมฺมานํ กุสลภาโว วิสฺสชฺชิโต โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘อิเม ธมฺมา กุสลาติ วิสฺสชฺชเนปี’’ติ อาห. อิมสฺมิฺหีติ หิ-สทฺโท การณตฺโถ. เตน ยสฺมา ธมฺมาว เทเสตพฺพา, เต จ กุสลา…เป… เภทา เทเสตพฺพา ¶ , ตสฺมาติ เอวํ วา โยชนา. ธมฺมานเมวาติ อวธารณผลํ ทสฺเสติ ‘‘อโวหารเทสนาโต’’ติ. อตฺถานฺจาติ จ-สทฺเทน ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติ เอวมาทิสภาวนิรุตฺตึ ยถาวุตฺตธมฺมาทิาณฺจ สงฺคณฺหาติ. ‘‘อิติ เอวํ อยํ ปวตฺเตตพฺโพ นิวตฺเตตพฺโพ จา’’ติ ตถา ตถา วิเธตพฺพภาโว อิติกตฺตพฺพตา, ตาย ยุตฺโต อิติ…เป… ยุตฺโต ¶ , ตสฺส วิเธตพฺพสฺสาติ อตฺโถ, วิเสสนตฺตา ปเภทสฺสาติ อธิปฺปาโย.
อิติกตฺตพฺพตายุตฺตสฺส วิเสสิตพฺพตฺตา อุทฺเทโส ธมฺมปฺปธาโน, ตสฺมา ตตฺถ ธมฺมสฺส วิเสสิตพฺพตฺตา ‘‘กุสลา ธมฺมา’’ติ อยํ ปทานุกฺกโม กโต. ปุจฺฉา สํสยิตปฺปธานา อนิจฺฉิตนิจฺฉยนาย ปวตฺเตตพฺพตฺตา. เตน สพฺพธมฺเมสุ สมุคฺฆาฏิตวิจิกิจฺฉานุสยานมฺปิ ปุจฺฉา เทเสตพฺพปุคฺคลคตสํสยาปตฺตึ อตฺตนิ อาโรเปตฺวา สํสยาปนฺเนหิ วิย ปวตฺตียตีติ ทสฺเสติ. กามาวจราทิเภโท วิย กุสลาทิภาเวน กุสลาทิเภโท ธมฺมภาเวน นิยโตติ ธมฺมาติ วุตฺเต นิจฺฉยาภาวโต ‘‘กุสลา นุ โข อกุสลา นุ โข’’ติอาทินา สํสโย โหตีติ อาห ‘‘กุสลาทิเภโท ปน สํสยิโต’’ติ. ธมฺมภาโว ปน กุสลาทีสุ เอกนฺติกตฺตา นิจฺฉิโตเยวาติ วุตฺตํ ‘‘น จ ธมฺมภาโว สํสยิโต’’ติ. เตน สํสยิโต นิจฺเฉตพฺพภาเวน ปธาโน เอตฺถ กุสลภาโว, น ตถา ธมฺมภาโวติ ธมฺมา กุสลาติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ.
จิตฺตุปฺปาทสมเยติ จิตฺตสฺส อุปฺปชฺชนสมเย. ‘‘อถ วิชฺชมาเน’’ติ เอตฺถ อถ-สทฺทสฺส อตฺถมาห ‘‘ปจฺฉา’’ติ. โภชนคมนาทีหิ สมเยกเทสนานตฺตํ ทสฺเสตฺวา อวเสสนานตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมวายาที’’ติ วุตฺตํ. วิเสสิตาติ เอเตน ‘‘นิยมิตา’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ, ตสฺมา ยถาวุตฺตจิตฺตวิเสสิตพฺพโต สมยโตติ อตฺโถ. ยถาธิปฺเปตานนฺติ กามาวจราทิวิเสสยุตฺตานํ. ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ จิตฺตุปฺปตฺติยา วิเสสิตพฺโพปิ สมโย เยน จิตฺเตน อุปฺปชฺชมาเนน วิเสสียติ, ตสฺเสว จิตฺตสฺส ‘‘ยสฺมึ สมเย’’ติ เอตฺถ สยํ วิเสสนภาวํ อาปชฺชติ. ตถา ‘‘ตสฺมึ สมเย’’ติ เอตฺถ วิเสสนภูตํ จิตฺตํ อตฺตนา วิเสสิตพฺพสมยสฺส อุปการตฺถํ ‘‘ยสฺมึ สมเย…เป… จิตฺต’’นฺติ วิเสสิตพฺพภาวํ อาปชฺชติ. อุปกาโรติ จ อฺมฺํ อวจฺเฉทกาวจฺฉินฺทิตพฺพภาโวติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมธมฺมานํ ภงฺคสมกาลํ, ภงฺคานนฺตรเมว วา ปจฺฉิมธมฺมานํ อุปฺปตฺติ ปุริมปจฺฉิมานํ นิรนฺตรตา เกนจิ อนนฺตริตตา. ยาย ภาวปกฺขสฺส พลวภาเวน ปฏิจฺฉาทิโต วิย หุตฺวา อภาวปกฺโข น ปฺายตีติ ตเทเวตนฺติ คหณวเสน ปจุรชโน วิปริเยสิโต, โสยมตฺโถ ¶ อลาตจกฺเกน สุปากโฏ โหติ. เตเนวาห ‘‘เอกีภูตานมิวา’’ติ ¶ . เอกสมูหวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติ สมูหฆนตา, ทุพฺพิฺเยฺยกิจฺจเภทวเสน เอกีภูตานมิว ปวตฺติ กิจฺจฆนตาติ โยชนา. เอตฺถ จ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน ปวตฺตมานานํ อเนเกสํ ธมฺมานํ กาลสภาวพฺยาปารารมฺมเณหิ ทุพฺพิฺเยฺยเภทตาย เอกีภูตานมิว คเหตพฺพตา ยถากฺกมํ สนฺตติฆนตาทโยติ ทฏฺพฺพํ.
สหการีการณสนฺนิชฺฌํ สเมตีติ สมโย, สมเวตีติ อตฺโถติ สมย-สทฺทสฺส สมวายตฺถตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจยสามคฺคิ’’นฺติ อาห. สเมติ สมาคจฺฉติ เอตฺถ มคฺคพฺรหฺมจริยํ ตทาธารปุคฺคเลหีติ สมโย, ขโณ. สเมนฺติ เอตฺถ, เอเตน วา, สมาคจฺฉนฺติ ธมฺมา สหชาตธมฺเมหิ อุปฺปาทาทีหิ วาติ สมโย, กาโล. ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตาย อตฺถโต อภูโตปิ หิ กาโล ธมฺมปฺปวตฺติยา อธิกรณํ กรณํ วิย จ ปริกปฺปนามตฺตสิทฺเธน รูเปน โวหรียตีติ. สมํ, สห วา อวยวานํ อยนํ ปวตฺติ อวฏฺานนฺติ สมโย, สมูโห ยถา ‘‘สมุทาโย’’ติ. อวยวสหาวฏฺานเมว หิ สมูโห. ปจฺจยนฺตรสมาคเม เอติ ผลํ เอตสฺมา อุปฺปชฺชติ ปวตฺตติ จาติ สมโย, เหตุ ยถา ‘‘สมุทโย’’ติ. สเมติ สมฺพนฺโธ เอติ สวิสเย ปวตฺตติ, สมฺพนฺธา วา อยนฺติ เอเตนาติ สมโย, ทิฏฺิ. ทิฏฺิสํโยชเนน หิ สตฺตา อติวิย พชฺฌนฺตีติ. สมยนํ สงฺคติ สโมธานนฺติ สมโย, ปฏิลาโภ. สมสฺส นิโรธสฺส ยานํ, สมฺมา วา ยานํ อปคโม อปฺปวตฺตีติ สมโย, ปหานํ. อภิมุขภาเวน สมฺมา เอตพฺโพ อภิสเมตพฺโพ อธิคนฺตพฺโพติ อวิปรีโต สภาโว อภิสมโย. อภิมุขภาเวน สมฺมา วา เอติ คจฺฉติ พุชฺฌตีติ อภิสมโย, อวิราเธตฺวา ธมฺมานํ อวิปรีตสภาวาวโพโธ. เอตฺถ จ อุปสคฺคานํ โชตกมตฺตตฺตา ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส วาจโก สมย-สทฺโท เอวาติ สอุปสคฺโคปิ วุตฺโต. ตาเนวาติ ปีฬนาทีเนว. วิปฺผาริกตา เสริภาเวน กิริยาสุ อุสฺสาหนปรินิปฺผนฺโน.
เกสุจีติ อกุสลวิปากาทีสุ. ขณสฺส อสมฺภโว เตน วินาภาโวติ อาห ‘‘นนู’’ติอาทิ. ธมฺเมเนวาติ วิเสสนฺตรรหิเตน. ตํเยว หิ อวธารเณน นิวตฺติตํ วิเสสํ ทสฺเสติ ‘‘น ตสฺส ปวตฺติตฺถา’’ติอาทินา. ยถา วา ตถา วาติ กาเลน โลโก ปวตฺตติ นิวตฺตตีติ วา กาโล นาม ภาโว วตฺตนลกฺขโณ ภาวานํ ปวตฺติโอกาสทายโกติ ¶ วา เยน เตน ปกาเรน. อิธ อุตฺตมเหตุโน สมฺภโว เอว นตฺถีติ เหตุเหตุสาธารณเหตูเยว ปฏิเสเธติ. ตปฺปจฺจยตํ อเนกปจฺจยตํ.
ปกติสฺสรวาทคฺคหณํ ¶ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ปชาปติปุริสกาลวาทาทโยปิ ‘‘เอกการณวาโท’’ติ. วา-สทฺเทน วา เตสมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อวยว…เป… ทาโย วุตฺโต อวยวธมฺเมน สมุทายสฺส อปทิสิตพฺพตฺตา, ยถา ‘‘สมํ จุณฺณํ, อลงฺกโต เทวทตฺโต’’ติ จ. อนิปฺผาทนํ นิปฺผาทนาภาโว อเหตุภาโว. นิปฺผาเทตุํ อสมตฺถสฺส ปน ปจฺจยนฺตรานํ สหสฺเสปิ สมาคเต นตฺเถว สมตฺถตาติ อาห ‘‘นิปฺผาทนสมตฺถสฺสา’’ติ. เอตฺถ จ สหการีการณายตฺตา ผลุปฺปาทนา ปจฺจยธมฺมานํ อฺมฺาเปกฺขาติ วุตฺตาติ อเปกฺขา วิยาติ อเปกฺขา ทฏฺพฺพา.
นิพฺยาปาเรสุ อพฺยาวเฏสุ. เอเกกสฺมินฺติ อฏฺกถายํ อาเมฑิตวจนสฺส ลุตฺตนิทฺทิฏฺตํ ทสฺเสติ. สติ จ อาเมฑิเต สิทฺโธ พหุภาโวติ. อนฺธสตํ ปสฺสตีติ จ ปจฺจตฺตวจนํ นิทฺธารเณ ภุมฺมวเสน ปริณาเมตฺวา ‘‘อนฺธสเต’’ติ อาห. ตถา เอเกกสฺมินฺติ อิมินา วิสุํ อสมตฺถตา โชติตาติ อนฺธสตํ ปสฺสตีติ สมุทิตํ ปสฺสตีติ อตฺถโต อยมตฺโถ อาปนฺโนติ อาห ‘‘อนฺธสตํ สหิตํ ปสฺสตีติ อธิปฺปาโย’’ติ. อฺถาติ ยถารุตวเสน อตฺเถ คยฺหมาเน. ยสฺมา อสา…เป… สิทฺโธ สิวิกุพฺพหนาทีสุ, ตสฺมา นายมตฺโถ สาเธตพฺโพ. อิทานิ ตสฺสตฺถสฺส สุปากฏภาเวน อสาเธตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิสุ’’นฺติอาทิมาห.
เอเตนุปาเยนาติ โยยํ ขณสงฺขาโต สมโย กุสลุปฺปตฺติยา ทุลฺลภภาวํ ทีเปติ. อตฺตโน ทุลฺลภตายาติ เอตฺถ ขณตฺโถ วา สมย-สทฺโท ขณสงฺขาโต สมโยติ อตฺโถ วุตฺโต. เอเตน อุปายภูเตน นยภูเตน. โยชนา กาตพฺพาติ เอตฺถายํ โยชนา – สมวาย…เป… วุตฺตึ ทีเปติ สยํ ปจฺจยสามคฺคิภาวโต, สมวายตฺโถ วา สมย-สทฺโท สมวายสงฺขาโต สมโย. โส ยาย ปจฺจยสามคฺคิยา สตีติ อิมสฺส อตฺถสฺส ปกาสนวเสน ธมฺมานํ อเนกเหตุโต วุตฺตึ ทีเปติ. กาล…เป… ปริตฺตตํ ทีเปติ อตฺตโน อติปริตฺตตาย. สมูห…เป… สหุปฺปตฺตึ ทีเปติ สยํ ธมฺมานํ สมุทายภาวโต. เหตุ…เป… วุตฺติตํ ทีเปติ สติ เอว อตฺตนิ อตฺตโน ผลานํ ¶ สมฺภวโตติ. อตฺถปกฺเข จ สทฺทปกฺเข จ ยสฺมึ อติปริตฺเต กาเล ยสฺมึ ธมฺมสมุทาเย ยมฺหิ เหตุมฺหิ สตีติ เอตสฺส อตฺถสฺส าปนวเสน ตทาธาราย ตทธีนาย จ กุสลธมฺมปฺปวตฺติยา ทุปฺปฏิวิชฺฌตํ อเนเกสํ สหุปฺปตฺตึ ปราธีนปฺปตฺติฺจ ทีเปตีติ.
ทฬฺหธมฺมา ธนุคฺคหาติ ทฬฺหธนุโน อิสฺสาสา. ทฬฺหธนุ นาม ทฺวิสหสฺสถามํ วุจฺจติ. ทฺวิสหสฺสถามนฺติ จ ยสฺส อาโรปิตสฺส ชิยาพทฺโธ โลหสีสาทีนํ ภาโร ทณฺเฑ คเหตฺวา ยาว กณฺฑปฺปมาณา ¶ อุกฺขิตฺตสฺส ปถวิโต มุจฺจติ. สิกฺขิตาติ ทสทฺวาทสวสฺสานิ อาจริยกุเล อุคฺคหิตสิปฺปา. กตหตฺถาติ ธนุสฺมึ จิณฺณวสีภาวา. โกจิ สิปฺปเมว อุคฺคณฺหาติ, กตหตฺโถ น โหติ, อิเม ปน น ตถาติ ทสฺเสติ. กตุปาสนาติ ราชกุลาทีสุ ทสฺสิตสิปฺปา. จตุทฺทิสา ิตา อสฺสูติ เอกสฺมึเยว ปเทเส ถมฺภํ วา รุกฺขํ วา ยํ กิฺจิ เอกํเยว นิสฺสาย จตุทฺทิสาภิมุขา ิตา สิยุนฺติ อตฺโถ. เอวํ วุตฺตชวนปุริสสฺสาติ น เอวรูโป ปุริโส โกจิ ภูตปุพฺโพ อฺตฺร โพธิสตฺเตน. โส หิ ชวนหํสกาเล เอวรูปมกาสิ. สุตฺเต ปน อภูตปริกปฺปนวเสน อุปมามตฺตํ อาหฏํ. ตปฺปรภาวาติ ตปฺปรภาวโต เหตุสงฺขาตสฺส สมยสฺส ปรายตฺตวุตฺติทีปเน เอกนฺตพฺยาวฏสภาวโตติ อตฺโถ. เย ปน ‘‘ตปฺปรภาโว’’ติ ปนฺติ, เตสํ ปจฺจยายตฺตวุตฺติทีปนโต ตปฺปรภาโว เหตุสงฺขาตสฺส สมยสฺส, ตสฺมา ตสฺส ปรายตฺตวุตฺติทีปนตา วุตฺตาติ โยชนา. สมุทายายตฺตตาทีปเน ตปฺปโร, ตเทกเทสายตฺตตาทีปเน ตปฺปโร น โหตีติ อาห ‘‘อตปฺปรภาวโต’’ติ.
นนุ จ ตํ ตํ อุปาทาย ปฺตฺโต กาโล โวหารมตฺตโก, โส กถํ อาธาโร ตตฺถ วุตฺตธมฺมานนฺติ อาห ‘‘กาโลปิ หี’’ติอาทิ. ยทิ กิริยาย กิริยนฺตรลกฺขณํ ภาเวนภาวลกฺขณํ, กา ปเนตฺถ ลกฺขณกิริยาติ อาห ‘‘อิหาปี’’ติอาทิ. ลกฺขณภูตภาวยุตฺโตติ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยสฺมา สตฺตาสงฺขาตาย ลกฺขณกิริยาย ยุตฺโต สมโย, ตสฺมา ตตฺถ ภูมินิทฺเทโสติ.
อุทฺทานโตติ ยทิ สงฺเขปโตติ อตฺโถ. นนุ จ อวสิฏฺกิเลสาทโย วิย กิเลสกาโมปิ อสฺสาเทตพฺพตาย วตฺถุกาเม สมวรุทฺโธ าณํ วิย เยฺเยติ สงฺเขปโต เอโกเยว กาโม ¶ สิยาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘กิเลสกาโม’’ติอาทิ. สหิตสฺสาติ วิสยวิสยิภาเวน อวฏฺิตสฺส. ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา’’ติ กิฺจาปิ สพฺเพ กามา อุทฺทิฏฺา, ‘‘จตุนฺนํ อปายาน’’นฺติอาทินา ปน วิสยสฺส วิเสสิตตฺตา โอรมฺภาคิยกิเลสภูโต กามราโค อิธ กิเลสกาโมติ คหิโตติ ‘‘เตนา’’ติอาทิมาห. โจทโก ตสฺส อธิปฺปายํ อชานนฺโต ‘‘นนุ จา’’ติอาทินา อนุยฺุชติ. อิตโร ปน ‘‘พหลกิเลสสฺสา’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ.
กามาวจรธมฺเมสุ วิมานกปฺปรุกฺขาทิปฺปกาเรสุ ปริตฺตกุสลาทีสุ วา. นนุ จ ‘‘จตุนฺนํ อปายาน’’นฺติ วิสยสฺส วิเสสิตตฺตา รูปารูปธาตุคฺคหณสฺส อสมฺภโวเยวาติ? น, ‘‘อุทฺทานโต ¶ ทฺเว กามา’’ติ นิรวเสสโต กามานํ อุทฺทิฏฺตฺตา. อุทฺทิฏฺเปิ หิ กามสมุทาเย ยถา ตเทกเทโสว คยฺหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ’’ติอาทิมาห. กามราโค ปฺจกามคุณิโก ราโค. กามตณฺหา กามาวจรธมฺมวิสยา ตณฺหา. นิโรธตณฺหา อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค. อิธาติ เอกาทสวิเธ ปเทเส. ยทิ อนวเสสปฺปวตฺติ อธิปฺเปตา, ‘‘ทุวิโธเปโส’’ติ น วตฺตพฺพํ วตฺถุกาเมกเทสสฺส อิธ อปฺปวตฺตนโตติ อนุโยเคน เยภุยฺยภาวโต อนวเสโส วิย อนวเสโสติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺถุกาโมปี’’ติอาทิมาห. อนวเสสสทิสตา เจตฺถ สภาวภินฺนสฺส กสฺสจิ อนวเสสโต. เอวฺจ กตฺวาติ กิเลสกามวตฺถุกามานํ อนวเสสปริปุณฺณภาเวน อภิลกฺขิตตฺตาติ อตฺโถ. จาสทฺทสฺส รสฺสตฺตํ กตนฺติ กามาวจรสทฺเท เหตุกตฺตุอตฺโถ อนฺโตนีโตติ ทสฺเสติ.
วิสเยติ วตฺถุสฺมึ อภิเธยฺยตฺเถติ อตฺโถ. นิมิตฺตวิรเหติ เอเตน รุฬฺหีสุ กิริยา วิภาคกรณาย, น อตฺตกิริยายาติ ทสฺเสติ. กุสลภาวนฺติ ชาตกพาหิติกสุตฺตอภิธมฺมปริยาเยน กถิตํ กุสลตฺตํ. ตสฺสาติ สุขวิปากภาวสฺส. ตสฺส ปจฺจุปฏฺานตํ วตฺตุกามตายาติ เอเตน ‘‘อนวชฺชสุขวิปากลกฺขณ’’นฺติ เอตฺถ สุขสทฺโท อิฏฺปริยาโย วุตฺโตติ ทสฺเสติ. สฺาปฺากิจฺจํ สฺาณกรณปฏิวิชฺฌนานิ, ตทุภยวิธุรา อารมฺมณูปลทฺธิ ‘‘วิชานาตี’’ติ อิมินา วุจฺจตีติ อาห ‘‘สฺา…เป… คหณ’’นฺติ. นนุ จ ผสฺสาทิกิจฺจโตปิ วิสิฏฺกิจฺจํ จิตฺตนฺติ? สจฺจเมตํ, โส ปน วิเสโส น ตถา ทุรวโพโธ, ยถา ¶ สฺาปฺาวิฺาณานนฺติ สฺาปฺากิจฺจวิสิฏฺลกฺขณตาย วิฺาณลกฺขณมาห. อนนฺตรธมฺมานํ ปคุณพลวภาวสฺส การณภาเวน ปวตฺตมาโน สนฺตานํ จิโนติ นาม. ตถาปวตฺติ จ อาเสวนปจฺจยภาโวติ อาห ‘‘อาเสวนปจฺจยภาเวน จิโนตี’’ติ.
จิตฺตกตเมวาติ อภิสงฺขารวิฺาณกตเมว. นานตฺตาทีนํ ววตฺถานนฺติ เอตฺถ ววตฺถานํ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพํ. ววตฺถานํ ปริจฺเฉโท อสงฺกรภาโว. เตน จ ธมฺโม นิจฺฉิโต นาม โหตีติ อาห ‘‘นิจฺฉิตตา’’ติ. ลิงฺคนานตฺตาทีนีติ เอตฺถ อิตฺถิปุริสสณฺานวเสน ลิงฺคนานตฺตํ. เทวมนุสฺสติรจฺฉานาทิวเสน อิตฺถิลิงฺคสฺส ปุถุตฺตํ, ตถา ปุริสลิงฺคสฺส. เทวาทิเภเท อิตฺถิลิงฺเค ปจฺเจกํ นานตฺตกายตาสงฺขาตสฺส อฺมฺวิสทิสสภาวสฺส เทสาทิเภทภินฺนสฺส จ วิเสสสฺส วเสน ปเภโท เวทิตพฺโพ. ตถา ปุริสลิงฺเค. ลิงฺคนิพฺพตฺตกสฺส วา กมฺมสฺส ยถาวุตฺตนานตฺตาทิวเสน ลิงฺคสฺส นานตฺตาทีนิ โยเชตพฺพานิ. ลิงฺคนานตฺตาทีสุ ปวตฺตตฺตา สฺาทีนํ ¶ นานตฺตาทีนิ. เตเนวาห ‘‘กมฺมนานตฺตาทีหิ นิพฺพตฺตานิ หิ ตานี’’ติ. อปทาทินานากรณทสฺสเนน ลิงฺคนานตฺตํ ทสฺสิตํ. ตสฺมิฺจ ทสฺสิเต สฺานานตฺตาทโย ทสฺสิตา เอวาติ อาวตฺตติ ภวจกฺกนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนาค…เป… ฆเฏนฺโต’’ติ. อิตฺถิลิงฺคปุริสลิงฺคาทิ วิฺาณาธิฏฺิตสฺส รูปกฺขนฺธสฺส สนฺนิเวสวิเสโส. สฺาสีเสน จตฺตาโร ขนฺธา วุตฺตา. โวหารวจเนน จ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ โวหริตพฺพภาเวน ปวตฺติ ทีปิตา, ยา สา ตณฺหาทิฏฺิอภินิเวสเหตูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ลิงฺคาทิ…เป… โยสานานี’’ติ อาห.
‘‘เย เกจิ, ภิกฺขเว, ธมฺมา อกุสลา อกุสลภาคิยา, สพฺเพเต มโนปุพฺพงฺคมา’’ติ (อ. นิ. ๑.๕๖-๕๗), ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑, ๒) จ เอวมาทิวจนโต จิตฺตเหตุกํ กมฺมนฺติ อาห ‘‘กมฺมฺหิ จิตฺตโต นิพฺพตฺต’’นฺติ. ยถาสงฺขฺยนฺติ กมฺมโต ลิงฺคํ ลิงฺคโต สฺาติ อตฺโถ. น ปุริมวิกปฺเป วิย กมฺมโต ลิงฺคสฺา ลิงฺคโต ลิงฺคสฺาติ อุภยโต อุภยปฺปวตฺติทสฺสนวเสน. ‘‘เภทํ คจฺฉนฺติ อิตฺถายํ ปุริโสติ วา’’ติ เภทสฺส วิเสสิตตฺตา อิตฺถาทิภาเวน โวหริตพฺพภาโว อิธ เภโทติ ‘‘อิตฺถิปุริสาทิโวหารํ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. อทฺธทฺวยวเสนาติ อตีตปจฺจุปฺปนฺนทฺธทฺวยวเสน. คุณาภิพฺยาปนํ ¶ กิตฺตีติ อาห ‘‘ปตฺถฏยสต’’นฺติ. กมฺมนานากรเณน วินา กมฺมนิพฺพตฺตนานาการณาภาวโต ‘‘กมฺมเชหิ…เป… นานากรณ’’นฺติ วุตฺตํ. อวิปจฺจโนกาโส อฏฺานภูตา, คติกาโลปิ วา. กามาวจรํ อภิสงฺขารวิฺาณํ รูปธาตุยา จกฺขุวิฺาณาทึ ชเนตฺวา อโนกาสตาย ตทารมฺมณํ อชเนนฺตํ เอตฺถ นิทสฺเสตพฺพํ. เอกจฺจจิตฺตกรณสฺส อธิปฺเปตตฺตา จกฺขาทิเวกลฺเลน จกฺขุวิฺาณาทีนํ อชนกํ กมฺมวิฺาณํ อวเสสปจฺจยวิกเล อโนคธํ ทฏฺพฺพํ. ตทปิ กาลคติปโยคาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘สหการีการณวิกลํ วิปากสฺส อจฺจนฺตํ โอกาสเมว น ลภติ, อิตรํ วิปาเกกเทสสฺส ลทฺโธกาสนฺติ, อิทเมเตสํ นานตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ วิปากสฺส โอกาสลาเภ สติ สหายการณวิกลตาว นตฺถีติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ.
ภวตุ ตาว ภวิตฺวา อปคตํ ภูตาปคตํ, อนุภวิตฺวา อปคตํ ปน กถนฺติ อาห ‘‘อนุภูตภูตา’’ติอาทิ. เตน อนุภูต-สทฺเทน โย อตฺโถ วุจฺจติ, ตสฺส ภูต-สทฺโทเยว วาจโก, น อนุ-สทฺโท, อนุ-สทฺโท ปน โชตโกติ ทสฺเสติ. สาขาภงฺคสทิสา หิ นิปาโตปสคฺคาติ. กิริยาวิเสสกตฺตฺจ อุปสคฺคานํ อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ เตหิ วตฺตพฺพวิเสสสฺส โชตนภาเวเนว อวจฺฉินฺทนนฺติ ยตฺตกา ธาตุสทฺเทน อภิธาตพฺพา อตฺถวิเสสา, เตสํ ¶ ยํ สามฺํ อวิเสโส, ตสฺส วิเสเส อวฏฺาปนํ ตสฺส ตสฺส วิเสสสฺส โชตนเมวาติ อาห ‘‘สามฺ…เป… วิเสสียตี’’ติ. อนุภูต-สทฺโท พหุลํ กมฺมตฺเถ เอว ทิสฺสตีติ ตสฺส อิธ กตฺตุอตฺถวาจิตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนุภูตสทฺโท จา’’ติอาทิมาห. สติปิ สพฺเพสํ จิตฺตุปฺปาทานํ สเวทยิตภาวโต อารมฺมณานุภวเน, สวิปลฺลาเส ปน สนฺตาเน จิตฺตาภิสงฺขารวเสน ปวตฺติโต อพฺยากเตหิ วิสิฏฺโ กุสลากุสลานํ สาติสโย วิสยานุภวนากาโรติ อยมตฺโถ อิธาธิปฺเปโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตุํ อธิปฺปายวเสนา’’ติ อาห. ภูตาปคตภาวาภิธานาธิปฺปาเยนาติ กุสลากุสลสฺส อากฑฺฒนุปายมาห.
อุปฺปติตกิจฺจนิปฺผาทนโต อุปฺปติตสทิสตฺตา ‘‘อุปฺปติต’’นฺติ วุตฺตํ. อุปฺปชฺชิตุํ อารทฺโธติ อนาคตสฺสปิ ตสฺเสว อุปฺปนฺน-สทฺเทน วุตฺตตาย การณมาห. เอตฺถ จ รชฺชนาทิวเสน อารมฺมณรสานุภวนํ สาติสยนฺติ อกุสลฺจ กุสลฺจ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธตาสามฺเน ‘‘สพฺพสงฺขตํ ภูตาปคต’’นฺติ ¶ วุตฺตํ. สมฺโมหวิโนทนิยํ ปน ‘‘วิปากานุภวนวเสน ตทารมฺมณํ. อวิปกฺกวิปากสฺส สพฺพถา อวิคตตฺตา ภวิตฺวา วิคตตามตฺตวเสนกมฺมฺจ ภูตาปคต’’นฺติ วุตฺตํ. เตเนว ตตฺถ โอกาสกตุปฺปนฺนนฺติ วิปากเมวาห. อิธ ปน กมฺมมฺปีติ. อารมฺมณกรณวเสน ภวติ เอตฺถ กิเลสชาตนฺติ ภูมีติ วุตฺตา อุปาทานกฺขนฺธา. อคฺคิอาหิโต วิยาติ ภูมิลทฺธนฺติ วตฺตพฺพตาย อุปายํ ทสฺเสติ. เอเตนาติ กมฺมํ. เอตสฺสาติ วิปาโก วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ.
อวิกฺขมฺภิตตฺตาติ อวิโนทิตตฺตา. สภูมิยนฺติ สกภูมิยํ. วิจฺฉินฺทิตฺวาติ ปุน อุปฺปชฺชิตุํ อทตฺวา. ขณตฺตเยกเทสคตํ ขณตฺตยคตนฺติ วุตฺตนฺติ ยถาวุตฺตสฺส อุทาหรณสฺส อุปจารภาวมาห. เตน อุปฺปนฺนา ธมฺมา ปจฺจุปฺปนฺนา ธมฺมาติ อิทเมตฺถ อุทาหรณํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ปธาเนนาติ ปธานภาเวน. เทสนาย จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมนฺติ โลกิยธมฺเม เทเสตพฺเพ จิตฺตํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา เทสนา ภควตา อุจิตาติ ทสฺเสติ. ธมฺมสภาวํ วา สนฺธายาติ โลกิยธมฺมานํ อยํ สภาโว ยทิทํ เต จิตฺตเชฏฺกา จิตฺตปุพฺพงฺคมา ปวตฺตนฺตีติ ทสฺเสติ. เตน เตสํ ตถาเทสนาย การณมาห, สพฺเพ อกุสลา ธมฺมา จิตฺตวชฺชาติ อตฺโถ. เกจีติ ปทการา. ผสฺสาทโยปีติ ปิ-สทฺเทน ราคาทโย สมฺปิณฺเฑติ. กาลเภทาภาเวปิ ปจฺจยภาเวน อเปกฺขิโต ธมฺโม ปุริมนิปฺผนฺโน วิย โวหรียตีติ อาห ‘‘ปมํ อุปฺปนฺโน วิยา’’ติ. อนุปจริตเมวสฺส ปุพฺพงฺคมภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนนฺตรปจฺจยมน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ขีณา ภวเนตฺตี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๒.๑๕๕; เนตฺติ. ๑๑๔) เนตฺติภูตาย ¶ ตณฺหาย ยุตฺตํ จิตฺตํ นายกนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาสมฺปยุตฺตํ วา’’ติ.
‘‘ยํ ตสฺมึ สมเย เจตสิกํ สาต’’นฺติ นิทฺทิฏฺตฺตา โสมนสฺสเวทนา สาตสภาวาติ อาห ‘‘สภาววเสน วุตฺต’’นฺติ. นิปฺปริยาเยน มธุร-สทฺโท รสวิเสสปริยาโย, อิฏฺภาวสามฺเน อิธ อุปจาเรน วุตฺโตติอาห ‘‘มธุรํ วิยา’’ติ. ปรมตฺถโต ตณฺหาวินิมุตฺโต นนฺทิราโค นนฺทิราคภาโว วา นตฺถีติ ‘‘น เอตฺถ สมฺปโยควเสน สหคตภาโว อตฺถี’’ติ, ‘‘นนฺทิราคสหคตา’’ติ จ วุจฺจติ. เตน วิฺายติ ‘‘สหคตสทฺโท ตณฺหาย นนฺทิราคภาวํ โชเตตี’’ติ. อวตฺถาวิเสสวาจโก วา ¶ สห-สทฺโท ‘‘สนิทสฺสนา’’ติอาทีสุ วิย, สพฺพาสุปิ อวตฺถาสุ นนฺทิราคสภาวาวิชหนทีปนวเสน นนฺทิราคภาวํ คตา นนฺทิราคสหคตาติ ตณฺหา วุตฺตา. คต-สทฺทสฺส วา ‘‘ทิฏฺิคต’’นฺติอาทีสุ วิย อตฺถนฺตราภาวโต นนฺทิราคสภาวา ตณฺหา ‘‘นนฺทิราคสหคตา’’ติ วุตฺตา, นนฺทิราคสภาวาติ อตฺโถ. อิธาปีติ อิมิสฺสํ อฏฺกถายํ. อิมสฺมิมฺปิ ปเทติ ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺติ เอตสฺมิมฺปิ ปเท. อยเมวตฺโถติ สํสฏฺโ เอว. ยถาทสฺสิตสํสฏฺสทฺโทติ อตฺถุทฺธารปฺปสงฺเคน ปาฬิโต อฏฺกถาย อาคตสํสฏฺสทฺโท. สหชาเตติ สหชาตตฺเถ.
กาลวิเสสานเปกฺโข กมฺมสาธโน อาภฏฺ-สทฺโท ภาสิตปริยาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อภาสิตพฺพตา อนาภฏฺตา’’ติ. ปาฬิยนฺติ อิมิสฺสา ปมจิตฺตุปฺปาทปาฬิยํ. อภาสิตตฺตา เอวาติ อสงฺขาริกภาวสฺส อวุตฺตตฺตา เอว. การณปริยายตฺตา วตฺถุสทฺทสฺส ปจฺจยภาวสามฺโต ทฺวารภูตธมฺมานมฺปิ สิยา วตฺถุปริยาโยติ อาห ‘‘ทฺวารํ วตฺถูติ วุตฺต’’นฺติ. เตน วตฺถุ วิย วตฺถูติ ทสฺเสติ. มโนทฺวารภูตา ธมฺมา เยภุยฺเยน หทยวตฺถุนา สห จรนฺตีติ ทฺวาเรน…เป… หทยวตฺถุ วุตฺตนฺติ อาห ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ. สกิจฺจภาเวนาติ อตฺตโน กิจฺจภาเวน, กิจฺจสหิตตาย วา. อฺาสาธารโณติ ส-สทฺทสฺส อตฺถมาห. สโก หิ รโส สรโสติ.
อนนฺตรจิตฺตเหตุกตฺตา จิตฺตสฺส เอกสมุฏฺานตา วุตฺตา, สหชาตจิตฺตผสฺสเหตุกตฺตา เจตสิกานํ ทฺวิสมุฏฺานตา. ‘‘จิตฺตสมุฏฺานา ธมฺมา, ผุฏฺโ ภิกฺขเว เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓) หิ วุตฺตํ.
สุขุมรชาทิรูปนฺติ ¶ อณุตชฺชาริรูปมาห. ปรมาณุรูเป ปน วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. วตฺถุปริตฺตตายาติ เอเตน อเนกกลาปคตานิ พหูนิเยว รูปายตนานิ สมุทิตานิ สํหจฺจการิตาย สิวิกุพฺพหนาเยน จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย, น เอกํ กติปยานิ วาติ ทสฺเสติ. นนุ จ เอวํ สนฺเต จกฺขุวิฺาณํ สมุทายารมฺมณํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ สมุทายสฺเสว อภาวโต. น หิ ปรมตฺถโต สมุทาโย นาม โกจิ อตฺถิ. วณฺณายตนเมว หิ ยตฺตกํ โยคฺยเทเส อวฏฺิตํ, สติ ¶ ปจฺจยนฺตรสมาโยเค ตตฺตกํ ยถาวุตฺเตน าเยน จกฺขุวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจโย โหติ อวิกปฺปกตฺตา ตสฺส. ตทภินิหฏํ ปน มโนวิฺาณํ อเนกกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชมานํ ปุริมสิทฺธกปฺปนาวเสน สมูหากาเรน สณฺานาทิอากาเรน จ ปวตฺตตีติ กึ จกฺขุวิฺาณสฺส เอกํ วณฺณายตนํ อารมฺมณํ, อุทาหุ อเนกานีติ น โจเทตพฺพเมตํ. น หิ ปจฺจกฺขวิสเย ยุตฺติมคฺคนา ยุตฺตา. กิฺจ ภิยฺโย อจฺฉราสงฺฆาตกฺขเณน อเนกโกฏิสงฺขาย จิตฺตุปฺปตฺติยา ปวตฺตนโต จิตฺตสฺส ลหุปริวตฺติตาย สมาเนปิ ฆฏสราวาทิวณฺณานํ โยคฺยเทสาวฏฺาเน ปุริมมนสิการานุรูปํ ‘‘ฆโฏ’’ติ วา ‘‘สราโว’’ติ วา ปมํ ตาว เอโก มโนวิฺาณสนฺตาเนน ปริจฺฉิชฺชติ, ปจฺฉา อิตโร จกฺขุวิฺาณวีถิยา พฺยวหิเตนาติ อวิเสสวิทุตาย ปน ฆฏสราวาทิพุทฺธิยา อเภทาปตฺติปริกปฺปนาติ. อีทิสีเปตฺถ โจทนา อโจทนาติ ทฏฺพฺพา. ขณปริตฺตตายาติ ปพนฺธกฺขณสฺส อิตฺตรตาย. ปพนฺธวเสน หิ ปจฺเจกํ รูปารูปธมฺมา วิโรธิอวิโรธิปจฺจยสมาโยเค ลหุํ ทนฺธฺจ นิรุชฺฌนโต ปริตฺตกาลา ทีฆกาลา จ โหนฺติ, สภาวลกฺขณวเสน ปน เอกปริจฺเฉทา เอวาติ. ยถา จ รูปายตนํ, เอวํ อิตรานิปิ. สทฺทาทโยปิ หิ วตฺถุปริตฺตตาทิภาเวน ลพฺภนฺตีติ. อจฺจาสนฺนาทิตายาติ อาทิ-สทฺเทน อนาวชฺชนํ เกนจิ ปฏิจฺฉนฺนตาติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. วิสยิธมฺมํ วิเสสโต สิโนติ พนฺธตีติ วิสโยติ อนฺตฺถภาวาเปกฺโข วิสโยติ อาห ‘‘วิสโย อนฺตฺถภาเวนา’’ติ. น หิ จกฺขุวิฺาณาทโย รูปายตนาทิโต อฺสฺมึ อารมฺมเณ ปวตฺตนฺตีติ. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, โคจโร วิยาติ โคจโรติ สมฺพหุลจาริตาเปกฺโข โคจโรติ อาห ‘‘โคจโร ตตฺถ จรเณนา’’ติ. พหุลฺหิ จกฺขุวิฺาณาทีหิ รูปาทโย คยฺหนฺติ, น ตถา มโนวิฺาเณนาติ. เตสนฺติ มโนวิฺาเณน คยฺหมานานํ รูปายตนาทีนํ. ‘‘วจนสฺส อนุปปตฺติโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ปฺจทฺวาเร ปวตฺตมโนวิฺาณธาตุํ สนฺธาย เตสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตีติ วจนํ อุปปชฺชติเยวาติ? น, นิยมาภาวโต. น หิ ปฺจทฺวาราภินิหฏํเยว มโน อิธ ‘‘มโน’’ติ วุตฺตนฺติ นิยมเหตุ อตฺถีติ, เอตํเยว วา โจทนํ มนสิ ¶ กตฺวา ทิพฺพจกฺขุาณาทิคฺคหณํ กตํ. เอวํวณฺโณติอาทิวจนโต ปุพฺเพนิวาสอตีตานาคตํสาณาทโยปิ อิธ สมฺภวนฺติ. อิตรถาติ รูปํ สทฺทนฺติอาทินา.
โภชน ¶ …เป… อุสฺสาหาทีหีติ อิทํ ยาย กมฺมฺตาย รูปกายสฺส กลฺลตา โหติ, ตสฺสา ปจฺจยนิทสฺสนํ. โภชเน หิ สมฺมาปริณเต สปฺปาเย จ อุตุโภชเน สมฺมุปยุตฺเต สมฺมาปโยคสงฺขาเต กายิกเจตสิกวีริเย จ สมารทฺเธ ลหุตาทิสพฺภาเวน กาโย กมฺมกฺขโม โหติ สพฺพกิริยานุกูโลติ. อถ วา โภชน…เป… อุสฺสาหาทีหีติ อิทํ กายสฺส กลฺยตาย วิย อุปทฺทุตตายปิ การณวจนํ. วิสมโภชนาปริณามาทิโต หิ กายสฺส อุปทฺทวกรา วาตาทโย อุปฺปชฺชนฺตีติ. อนุวตฺตนฺตสฺสาติ ปทํ ‘‘ชยํ เวรํ ปสวตี’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๐๑) วิย เหตุอตฺถวเสน เวทิตพฺพํ. ชาครณนิมิตฺตฺหิ อิธ อนุวตฺตนํ อธิปฺเปตนฺติ. อถ วา อนุวตฺตนฺตสฺสาติ อิทํ ปกติยา ทิฏฺาทิวเสน อาปาถคมนุปนิสฺสยานํ กลฺยตาทินิพฺพตฺตานํ กายิกสุขาทีนํ สมฺภวทสฺสนํ. กายกลฺยตาทึ อนนุวตฺตนฺตสฺส หิ ยถาวุตฺตอุปนิสฺสยาโภคาภาเวน วุตฺตปฺปการํ อาปาถคมนํ น สิยาติ. ยถานุภูเต รูปาทิวิสเย จิตฺตสฺส ปนํ อาวชฺชนํ จิตฺตปณิทหนํ. ยถานุภูเตน รูปาทินา สทิสํ อสทิสํ สมฺพนฺธฺจ สทิสาสทิสสมฺพนฺธํ, ตสฺส ทสฺสนาทิ สทิสาสทิสสมฺพนฺธทสฺสนาทิ, จิตฺตปณิทหนฺจ สทิสาสทิส…เป… ทสฺสนาทิ จ จิตฺต…เป… ทสฺสนาทโย เต ปจฺจยาติ โยเชตพฺพํ. ธาตุกฺโขภาทีติ อาทิ-สทฺเทน เทวตูปสํหาราทึ สงฺคณฺหาติ. ตํสทิสตา ทิฏฺสุตสทิสตา. ตํสมฺปยุตฺตตา ทิฏฺสุตปฏิพทฺธตา. เกนจิ วุตฺเตติ อิมินา สทฺธาย อนุสฺสวนิพฺพตฺตตํ อาห. อาการวิจารณนฺติ เตสํ เตสํ อตฺถานํ อุปฏฺานาการวิจารณํ. กตฺถจิ อตฺเถ.
นิยมิตสฺสาติ กุสลเมว มยา อุปฺปาเทตพฺพนฺติ เอวํ นิยมิตสฺส. ปสาทสิเนหาภาโว โทสพหุลตาย โหตีติ ลูขปุคฺคลา โทสพหุลาติ อาห.
อายตนภาวโตติ การณภาวโต.
วิชฺชมานวตฺถุสฺมินฺติ เอเตน ‘‘วินาปิ เทยฺยธมฺมปริจฺจาเคน จิตฺตุปฺปาทมตฺเตเนว ทานมยํ กุสลํ อุปจิตํ โหตี’’ติ เกสฺจิ อติธาวนํ นิวตฺติตํ โหตีติ.
ธมฺมสวนสฺส ¶ ¶ โฆสนํ ธมฺมสวนโฆสนํ. ตสฺสาติ ‘‘สทฺททานํ ทสฺสามี’’ติ สทฺทวตฺถูนํ านกรณเภริอาทีนํ สสทฺทปฺปวตฺติกรณสฺส. จินฺตนํ ตถา ตถา จิตฺตุปฺปาทนํ. อฺตฺถาติ สุตฺเตสุ. อปรตฺถาติ อภิธมฺมปเทสุ. อปริยาปนฺนาติ ปทสฺส อตฺถวณฺณนา ‘‘ปริโภครโส’’ติอาทิกาย อตฺถวณฺณนาย ปรโต พหูสุ โปตฺถเกสุ ลิขียติ, ยถาาเนเยว ปน อาเนตฺวา วตฺตพฺพา. ตตฺถ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานตฺตา ลกฺขณปฺตฺติโย อฺายตนตฺตา ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ อสงฺคหิตา ธมฺมายตเนนาติ โยเชตพฺพํ.
‘‘เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร อุปฺปชฺชตี’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ ยถา น อฺารมฺมณํ โหติ จิตฺตวิเสสสฺส อธิปฺเปตตฺตา, เอวํ กมฺมวิเสเส อธิปฺเปเต กายทฺวาราทีสุ เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร น อุปฺปชฺชติ ตตฺเถว ปริโยสิตตฺตา, อถ กมฺมสามฺํ อธิปฺเปตํ, รูปาทีสุ เอการมฺมณนฺติ อิทํ อุทาหรณํ น สิยาติ? น, อสทิสภาววิภาวนวเสน อุทาหฏตฺตา, อิตรถา มโนวิฺาณภูตํ อิทํ จิตฺตํ ฉสุปิ วิสเยสุ ปวตฺตนโต อนิพทฺธารมฺมณนฺติ อารมฺมณํ สทิสูทาหรณภาเวน วุจฺเจยฺย อารมฺมณํ วิย ทฺวารมฺปิ อนิพทฺธนฺติ. ยสฺมา ปน สติปิ กมฺมานํ ทฺวารนฺตรจรเณ เยภุยฺเยน วุตฺติยา ตพฺพหุลวุตฺติยา จ ทฺวารกมฺมานํ อฺมฺํ ววตฺถานํ วกฺขติ, ตสฺมา ปาณาติปาตาทิภาวสามฺเน กมฺมํ เอกตฺตนยวเสน คเหตฺวา ตสฺส วจีทฺวาราทีสุ ปวตฺติสพฺภาวโต กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตาติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘กายทฺวาราทีสุ เอกทฺวาริกกมฺมํ อฺสฺมึ ทฺวาเร น นุปฺปชฺชตี’’ติ. รูปาทีสุ ปน เอการมฺมณํ จิตฺตํ เตเนวารมฺมเณน ปริจฺฉินฺนนฺติ วิสิฏฺเมว คหิตนฺติ อารมฺมณเมว นิพทฺธนฺติ วุตฺตนฺติ จิตฺตวิเสโส เอว คหิโต, น จิตฺตสามฺํ. ‘‘นนุ จ รูปารมฺมณํ วา…เป… ธมฺมารมฺมณํ วา ยํ ยํ วา ปนา’’ติ อารมฺมณมฺปิ อนิยเมเนว วุตฺตนฺติ? สจฺจเมตํ, ตตฺถ ปน ยํ รูปาทีสุ เอการมฺมณํ จิตฺตํ, ตํ เตน วินา นปฺปวตฺตติ, กมฺมํ ปน กายทฺวาริกาทิเภทํ วจีทฺวาราทีสุ น นปฺปวตฺตตีติ อิมสฺส วิเสสสฺส โชตนตฺถํ ปาฬิยํ อารมฺมณเมว คหิตํ, ทฺวารํ น คหิตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ ‘‘อารมฺมณเมว นิพทฺธ’’นฺติอาทินา. วจีทฺวาเร อุปฺปชฺชมานมฺปิ ปาณาติปาตาทีติ อตฺโถ.
กามาวจรกุสลํ
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
กมฺมทฺวารานนฺติอาทินา ¶ ¶ ปกาเสตพฺพสฺส สรูปํ ปกาสนุปายฺจ ทสฺเสติ. นิยตรูปรูปวเสนาติ ธมฺมสงฺคเห นิทฺทิฏฺนิยตรูปรูปวเสน. อฺถา กมฺมสมุฏฺานิกกาเย หทยวตฺถุปิ คเหตพฺพํ สิยา. เอกสนฺตติปริยาปนฺโน อุปาทินฺนกกาโย อิธ คหิโตติ จกฺขายตนาทีติ วุตฺเตสุ เอโก ภาโว หทยวตฺถุ จ คหิตนฺติ น สกฺกา วตฺตุํ ‘‘จกฺขายตนาทีนิ ชีวิตปริยนฺตานี’’ติ สนฺนิเวสสฺส วิภาวิตตฺตา.
วิปฺผนฺทมานวณฺณคฺคหณานนฺตรํ วิฺตฺติคฺคหณสฺส อิจฺฉิตตฺตา จลนาการาว วาโยธาตุ วิฺตฺติวิการสหิตาติ กทาจิ อาสงฺเกยฺยาติ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘ปมชวนสมุฏฺิตา’’ติ อาห. เทสนฺตรุปฺปตฺติเหตุภาเวน จาเลตุนฺติ เอเตน เทสนฺตรุปฺปตฺติ จลนํ, ตํนิมิตฺเต จ กตฺตุภาโว อุปจริโตติ ทสฺเสติ, อฺถา ขณิกตา อพฺยาปารตา จ ธมฺมานํ น สมฺภเวยฺยาติ. ตทภิมุขภาววิการวตีติ ตํทิสมภิมุโข ตทภิมุโข, ตสฺส ภาโว ตทภิมุขภาโว, โส เอว วิกาโร, ตํสมงฺคินี วาโยธาตุ ตทภิมุขภาววิการวตี. อิทานิ ตทภิมุขภาววิกา รสฺส วิฺตฺติภาวํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อธิปฺปายสหภาวี’’ติอาทิ. เอวฺจ กตฺวาติอาทินา อิมิสฺสา อตฺถวณฺณนาย ลทฺธคุณํ ทสฺเสติ. ตตฺถ อาวชฺชนสฺสาติ มโนทฺวาราวชฺชนสฺส. ยโต พาตฺตึสาติอาทินา ตสฺส วิฺตฺติสมุฏฺาปกตา น สกฺกา ปฏิเสเธตุนฺติ ทสฺเสติ.
ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถติ เอเตน ยถาวุตฺตวาโยธาตุยา ถมฺภนจลนสงฺขาตกิจฺจนิปฺผาทเน ตสฺส อาการวิเสสสฺส สหการีการณภาวมาห. อนิทสฺสนสปฺปฏิฆตาทโย วิย มหาภูตานํ อวตฺถาวิเสสมตฺตํ โส อาการวิเสโสติ ปรมตฺถโต น กิฺจิ โหตีติ ‘‘ปรมตฺถโต อภาวํ ทสฺเสตี’’ติ อาห. ปรมตฺถโต จิตฺตสมุฏฺานภาโว ปฏิเสธิโต. กมฺมสมุฏฺานาทิภาวสฺส ปน สมฺภโวเยว นตฺถีติ ยถาวุตฺตวิการสฺส ปรมตฺถโต สพฺภาเว นกุโตจิสมุฏฺิตตฺตา อปฺปจฺจยตฺตํ อาปนฺนํ. น หิ รูปํ อปฺปจฺจยํ อตฺถิ, อปฺปจฺจยตฺเต จ สติ นิจฺจภาโว อาปชฺชติ, น จ นิพฺพานวชฺโช อตฺโถ สภาวธมฺโม ¶ นิจฺโจ อตฺถิ. จิตฺตสมุฏฺานภาโว วิยาติ วิฺตฺติยา จิตฺตสมุฏฺานอุปาทารูปภาโว อุปจารสิทฺโธติ ทสฺเสติ.
วิฺตฺติยา ¶ กรณภูตาย. ยํ กรณนฺติ ยํ จิตฺตกิริยํ จิตฺตพฺยาปารํ. วิฺตฺติยา วิฺาตตฺตนฺติ อิทเมส กาเรตีติ ยเทตํ อธิปฺปายวิภาวนํ, เอตํ วิฺตฺติวิการรหิเตสุ รุกฺขจลนาทีสุ น ทิฏฺํ, หตฺถจลนาทีสุ ปน ทิฏฺํ, ตสฺมา วิปฺผนฺทมานวณฺณวินิมุตฺโต โกจิ วิกาโร อตฺถิ กายิกกรณสงฺขาตสฺส อธิปฺปายสฺส าปโกติ วิฺายติ. าปโก จ เหตุ าเปตพฺพมตฺถํ สยํ าโตเยว าเปติ, น สพฺภาวมตฺเตนาติ วณฺณคฺคหณานนฺตรํ วิการคฺคหณมฺปิ วิฺายติ. ตถา หิ วิสยภาวมาปนฺโน เอว สทฺโท อตฺถํ ปกาเสติ, เนตโร. เตเนวาห ‘‘น หิ วิฺตฺตี’’ติอาทิ. ยทิ ปน จิตฺตชรูปานํ จลนากาโร วิฺตฺติ, จกฺขุวิฺาณสฺส วิปฺผนฺทมานวณฺณารมฺมณตฺตา เตนปิ สา คหิตา สิยาติ อาสงฺกาย นิวตฺตนตฺถํ อาห ‘‘จกฺขุวิฺาณสฺสา’’ติอาทิ.
ตาลปณฺณาทิรูปานีติอาทินาปิ วิฺตฺติยา วิฺาตพฺพตํ มโนวิฺาเณเนว จ วิฺาตพฺพตํ ทสฺเสติ. สฺชานาติ เอเตนาติ สฺาณํ, ตสฺส อุทกาทิโน สฺาณํ ตํสฺาณํ, ตสฺส อากาโร ตํสฺาณากาโร, อุทกาทิสหจาริปฺปกาโร จ โส ตํสฺาณากาโร จาติ อุทกา…เป… กาโร, ตํ คเหตฺวา ชานิตฺวา. ตทาการสฺสาติ อุทกาทิาปนาการสฺส. ยทิ ยถาวุตฺตวิการคฺคหณํเยว การณํ อธิปฺปายคฺคหณสฺส, อถ กสฺมา อคฺคหิตสงฺเกตสฺส อธิปฺปายคฺคหณํ น โหตีติ? น เกวลํ วิการคฺคหณเมว อธิปฺปายคฺคหณสฺส การณํ, กิฺจรหีติ อาห ‘‘เอตสฺส ปนา’’ติอาทิ.
อถ ปนาติอาทินา วิฺตฺติยา อนุมาเนน คเหตพฺพตํ ทสฺเสติ. สาธิปฺปาย…เป… นนฺตรนฺติ อธิปฺปายสหิตวิกาเรน สหชาตวณฺณายตนคฺคหณสงฺขาตสฺส จกฺขุทฺวาริกวิฺาณสนฺตานสฺส อนนฺตรํ. อธิปฺปายคฺคหณสฺสาติ อธิปฺปายววตฺถาปกสฺส ตติยวาเร ชวนสฺส. อธิปฺปายสหภู วิการาภาเว อภาวโตติ เอเตน ยถาวุตฺตวิการํ อธิปฺปายคฺคหเณน อนุมิโนติ. เอวํ สตีติอาทินา ยถานุมิตมตฺถํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ. ตตฺถ อุทกาทิคฺคหเณเนวาติ ตาลปณฺณาทีนํ วณฺณคฺคหณานนฺตเรน ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธานุคฺคหิเตน อุทกาทีนํ ตตฺถ อตฺถิภาววิชานเนเนว. ยถา ตาลปณฺณาทีนํ อุทกาทิสหจาริปฺปการตํ ¶ สฺาณากาโร วิฺาโตเยว โหติ นานนฺตริยกตฺตา, เอวํ วิปฺผนฺทมานวณฺณคฺคหณานนฺตเรน ปุริมสิทฺธสมฺพนฺธานุคฺคหิเตน คนฺตุกามตาทิอธิปฺปายวิชานเนเนว วิฺตฺติ วิฺาตา โหติ ตทภาเว อภาวโตติ อุปมาโยชนา.
สภาวภูตนฺติ ¶ อนฺวตฺถภูตํ. ทฺวิธาติ วิฺาปนโต วิฺเยฺยโต จ. กายวิฺตฺติยา ตถาปวตฺตมานาย เจตนาสงฺขาตสฺส กมฺมสฺส กายกมฺมภาโว นิปฺผชฺชติ ตาย อุปลกฺขิตพฺพตฺตา, น ปน จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เกนจิ ปจฺจยภาวโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธา’’ติอาทิมาห. เตน วจีทฺวารุปฺปนฺนาปิ ปาณาติปาตาทโย สงฺคหิตาติ เตสํ สงฺคหิตภาวํ ทสฺเสติ. อถ วา กายทฺวารุปฺปนฺนาย กายกมฺมภูตาย เจตนาย วเสน ‘‘เตน ทฺวาเรน วิฺาตพฺพภาวโต’’ติ วุตฺตํ, ตสฺสาเยว ทฺวารนฺตรุปฺปนฺนาย วเสน ‘‘เตน ทฺวาเรน นามลาภโต’’ติ. มโนทฺวาราวชฺชนสฺสปิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาโว นิจฺฉิโตติ ‘‘เอกาทสนฺนํ กิริยจิตฺตาน’’นฺติ อาห.
ทฺวารนฺตรจาริโนติ ทฺวารนฺตรภาเวน ปวตฺตนกา. ทฺวารสมฺเภทาติ ทฺวารานํ สงฺกรณโต. ทฺวารานฺหิ ทฺวารนฺตรภาวปฺปตฺติยา สติ กายทฺวารสฺส วจีทฺวาราทิภาโว, วจีทฺวารสฺส จ กายทฺวาราทิภาโว อาปชฺชตีติ ตํตํทฺวารุปฺปนฺนกมฺมานมฺปิ สงฺกโร สิยา. เตนาห ‘‘กมฺมสมฺเภโทปี’’ติ. เอวํ สติ กายกมฺมํ…เป… ววตฺถานํ น สิยา. ยทิ กมฺมานิ กมฺมนฺตรจารีนิ โหนฺติ, กายกมฺมาทิกสฺส วจีกมฺมาทิกภาวาปตฺติโต ‘‘กมฺมสมฺเภทา ทฺวารสมฺเภโทปี’’ติ กายกมฺมํ กายกมฺมทฺวารนฺติ อฺมฺววตฺถานํ น สิยาติ อิมมตฺถมาห ‘‘กมฺมานมฺปิ กมฺมนฺตรจรเณ เอเสว นโย’’ติ. กมฺมนฺตรจรณํ กมฺมนฺตรูปลกฺขณตา. เตเนวาห ‘‘ทฺวารภาเวนา’’ติ. ทฺวารนฺตรจรณํ ทฺวารนฺตรุปฺปตฺติ. ทฺวาเรติ อตฺตโน ทฺวาเร. อฺสฺมินฺติ ทฺวารนฺตเร. กมฺมานีติ ตํตํทฺวาริกกมฺมานิ. อฺานีติ อฺทฺวาริกกมฺมานิ. ทฺวาเร ทฺวารานิ น จรนฺตีติ ทฺวารนฺตรภาเวน นปฺปวตฺตนฺติ, ทฺวารนฺตรํ วา น สงฺกมนฺติ. กิฺจาปิ วิฺตฺติยา จตุวีสติยา ปจฺจเยสุ เยน เกนจิ ปจฺจเยน เจตนาย ปจฺจยภาโว นตฺถิ, ตถา ปน วิฺตฺติยา ปวตฺตมานาย เอว ปาณาติปาตาทิ โหติ, นาฺถาติ สิยา วิฺตฺติยา เหตุภาโว เจตนายาติ วุตฺตํ ‘‘ทฺวาเรหิ การณภูเตหี’’ติ. กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ กมฺมววตฺถานสฺเสว วา ¶ การณภาวํ สนฺธาย ‘‘ทฺวาเรหิ การณภูเตหี’’ติ วุตฺตํ. ยทิปิ ‘‘ทฺวาเรหิ กมฺมานี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อฺมฺํ ววตฺถิตา’’ติ ปน วุตฺตตฺตา กมฺเมหิปิ ทฺวารานิ ววตฺถิตานีติ อยมตฺโถปิ สิทฺโธเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อทฺวารจารีหีติ ทฺวารานํ สยํ ววตฺถิตภาวมาห, น ปน อววตฺถานํ, ววตฺถานเมวาติ อธิปฺปาโย. อิทานิ ตํ ววตฺถานํ วิภาเวติ กมฺมานเปกฺขาติอาทินา. ตตฺถ สมยนิยมิเตน จิตฺเตน สมโย วิย ทฺวารนิยมิเตหิ กมฺเมหิ ทฺวารานิ นิยมิตานีติ อยํ สงฺเขปตฺโถ.
เอวํสภาวตฺตาติ ¶ ทฺวารภูเตหิ กายาทีหิ อุปลกฺขณียสภาวตฺตา. อาณตฺติ…เป… มานสฺสาติ กายวจีกมฺมานํ วจีกายวิฺตฺตีหิ ปกาเสตพฺพตํ อาห. กายาทีหีติ กายวจีวิฺตฺตีหิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ทฺวารนฺตเร จรนฺตานิปิ กมฺมานิ สเกน ทฺวาเรน อุปลกฺขิตาเนว จรนฺติ, ตสฺมา. นาปิ กมฺมํ ทฺวารสฺสาติ ยสฺมึ ทฺวารนฺตเร กมฺมํ จรติ, ตสฺส ทฺวารสฺส อนตฺตนิยสฺส. ตํตํทฺวารเมวาติ สกทฺวารเมว. กมฺมสฺสาติ สกสกกมฺมสฺส. ยทิ กมฺเมหิ ทฺวารานิ ววตฺถิตานิ, ‘‘กมฺมสฺส อนิพทฺธตฺตา’’ติ อิทํ กถํ นียตีติ อาห ‘‘ปุพฺเพ ปนา’’ติอาทิ.
สาติ วิฺตฺติ. ตสฺสาติ กมฺมสฺส. เกนจิ ปกาเรนาติ จตุวีสติยา ปจฺจยปฺปกาเรสุ เกนจิ ปกาเรน. ตํสหชาตาติ เอเตน กายวิฺตฺติยา สพฺภาเวเยว กายกมฺมสฺส สพฺภาโว, นาฺถาติ ปริยาเยน วิฺตฺติยา กมฺมสฺส การณภาวํ วิภาเวติ. เตเนวาห ‘‘อุปฺปตฺติฏฺานภาเวน วุตฺตา’’ติ. ยถาวุตฺตนิยเมนาติอาทินา กมฺมสฺส อุปฺปตฺติฏฺานภาเว พฺยภิจาราภาวมาห. ตตฺถ ยถาวุตฺตนิยเมนาติ อฏฺกถายํ วุตฺตปฺปกาเรน ววตฺถานยุตฺติสงฺขาเตน นิยเมน. ทฺวารจรเณติ อฺทฺวารจรเณ.
กายกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
จตูหิ องฺเคหีติ เอตฺถ ‘‘สุภาสิตํเยว ภาสติ, โน ทุพฺภาสิตํ. ธมฺมํเยว, ปิยํเยว, สจฺจํเยว ภาสติ, โน อลิก’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๓; สุ. นิ. สุภาสิตสุตฺต) ยานิ องฺคานิ สุตฺเต ¶ วุตฺตานิ, เตสํ เจตนาสภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุภาสิตภาสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถาปวตฺตาติ สุภาสิตภาสนาทิภาเวน ปวตฺตา. สห สมฺภูตตฺตาติ สเหว อุปฺปนฺนตฺตา. น หิ วจีวิฺตฺติ สทฺทรหิตา อตฺถิ. ตถา หิ ‘‘ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘วาจาคิรา พฺยปโถ’’ติอาทินา (ธ. ส. ๖๓๖) นาติสุขุมํเยว สทฺทวาจํ วตฺวา ‘‘ยา ตาย วาจาย วิฺตฺตี’’ติ, ตาย สทฺธึ โยเชตฺวา วจีวิฺตฺติยา วุตฺตตฺตา รูปายตนํ วิย วตฺถุปริตฺตตาทินา ¶ สทฺทายตนมฺปิ อนินฺทฺริยโคจโร อตฺถีติ จ อธิปฺปาเยน ‘‘ยา ตาย…เป… วิฺายตี’’ติ อาห.
อิทานิ อวิเสเสน จิตฺตสมุฏฺานสทฺทสฺส โสตวิฺาณารมฺมณตา ปาฬิยํ วุตฺตาติ วิตกฺกวิปฺผารสทฺโท น โสตวิฺเยฺโยติ มหาอฏฺกถาวาทสฺส ปาฬิยา วิโรธํ ทสฺเสตุํ ‘‘จิตฺตสมุฏฺาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ สงฺคหการสฺส อธิปฺปาเย ตฺวา มหาอฏฺกถาวาทสฺส ปฏิเสเธตพฺพตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อตฺตโน อธิปฺปาเย ตฺวา ตํ ปริหริตุํ ‘‘มหาอฏฺกถายํ ปนา’’ติอาทิมาห. สงฺฆฏฺฏนากาเรน ปวตฺตานํ ภูตานํ สทฺทสฺส นิสฺสยภาวโต สงฺฆฏฺฏเนน สเหว สทฺโท อุปฺปชฺชติ. ตปฺปจฺจยภาโวติ อุปาทินฺนกฆฏฺฏนสฺส ปจฺจยภาโว. จิตฺตชปถวีธาตุยา อุปาทินฺนกฆฏฺฏเน ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ จิตฺตสมุฏฺานมหาภูตานํ เอโก อาการวิเสโส อตฺถิ. ตทาการตฺตา หิ เตสํ ปถวีธาตุ อุปาทินฺนกํ ฆฏฺเฏตีติ อิมมตฺถํ วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺพตฺตา ‘‘วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ’’ติ วตฺวา ตเมว วุตฺตนยํ ‘‘ตพฺพิการาน’’นฺติอาทินา วิภาเวติ. ตตฺถ อฺมฺสฺส ปจฺจยภาโว ตปฺปจฺจยภาโว วุตฺโตติ อตฺโถ. อฺมฺปิ สพฺพํ วิธานนฺติ ‘‘น จิตฺตสมุฏฺานาติ เอเตน ปรมตฺถโต อภาวํ ทสฺเสตี’’ติอาทินา อตฺตนา วุตฺตวิธานํ. อฏฺกถายํ ปน วุตฺตวิธานํ ‘‘เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพ’’นฺติ อฏฺกถายํ วุตฺตเมวาติ.
อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส เทสนฺตเร ปารมฺปริเยน อุปฺปาทนํ เทสนฺตรุปฺปาทนปรมฺปรตา. ลทฺธาเสวเนนาติ ลทฺธปุพฺพาภิสงฺขาเรน. จิตฺเตเนวาติ ปมจิตฺเตเนว. ‘‘สตฺต ชวนานิ สตฺต อกฺขรานิ นิพฺพตฺเตนฺตีติ วาทํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกชวนวารปริยาปนฺนานิ จิตฺตานิ เอกมกฺขรํ นิพฺพตฺเตนฺตี’’ติ วทนฺติ. กิฺจาปิ ปมจิตฺเตนปิ ฆฏฺฏนา นิปฺผชฺชติ, เอกสฺเสว ปน พหุโส ปวตฺตเนน ¶ อตฺถิ โกจิ วิเสโสติ ปุริมชวนสมุฏฺิตาหิ ฆฏฺฏนาหิ ปฏิลทฺธาเสวเนน สตฺตมชวเนน สมุฏฺิตา ฆฏฺฏนา ปริพฺยตฺตมกฺขรํ นิพฺพตฺเตตีติ อุปตฺถมฺภนํ นตฺถีติ น สกฺกา วตฺตุํ. ลทฺธาภิสงฺขาเรน ปน ปมจิตฺเตนปิ ฆฏฺฏนา พลวตี โหตีติ อฏฺกถายํ ‘‘อุปตฺถมฺภนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ สิยา, สพฺพเมตํ วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
วจีกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา
‘‘สพฺพายปิ ¶ กายวจีวิฺตฺติยา กายวจีทฺวารภาโว วิย สพฺพสฺสปิ จิตฺตสฺส มโนทฺวารภาโว สมฺภวตี’’ติ ทสฺสนตฺถํ อฏฺกถายํ ‘‘อยํ นาม มโน มโนทฺวารํ น โหตีติ น วตฺตพฺโพ’’ติ วตฺวา ตํทฺวารวนฺตธมฺมทสฺสนตฺถํ ‘‘อยํ นาม เจตนา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยสฺส ทฺวารํ มโน, ตํ ทสฺสนตฺถํ วุตฺต’’นฺติ. ยถา ปน ติวิธจตุพฺพิธกายวจีกมฺมานํ ทฺวารภาวโต กายกมฺมทฺวารวจีกมฺมทฺวารานิ วุตฺตานิ, เอวํ มโนกมฺมนฺติ วุตฺตอภิชฺฌาทีนํ ทฺวารภาวโต วฏฺฏเหตุภูตโลกิยกุสลากุสลสมฺปยุตฺตมโน เอว มโนกมฺมทฺวารนฺติ สนฺนิฏฺานํ กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เจตนาย อตฺตโน กิจฺจํ อารทฺธาย สมฺปยุตฺตาปิ ตํ ตํ สกิจฺจํ อารภนฺตีติ สา เน สกิจฺเจ ปวตฺเตติ นาม, ตถา ปวตฺเตนฺตี จ สมฺปยุตฺเต เอกสฺมึ อารมฺมเณ อวิปฺปกิณฺเณ กโรติ พฺยาปาเรติ จาติ วุจฺจติ, ตถา สมฺปยุตฺตานํ ยถาวุตฺตํ อวิปฺปกิณฺณกรณํ สมฺปิณฺฑนํ อายูหนํ พฺยาปาราปาทนํ พฺยาปารณํ เจตยนนฺติ อายูหนเจตยนานํ นานตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ผสฺสาทิธมฺเมหี’’ติอาทิมาห. ตถากรณนฺติ ยถา ผสฺสาทโย สกสกกิจฺเจ ปสุตา ภวนฺติ, ตถา กรณํ. เตเนว ยถาวุตฺเตน อวิปฺปกิณฺณพฺยาปารณากาเรน สมฺปยุตฺตานํ กรณํ ปวตฺตนนฺติ ทฏฺพฺพํ. กมฺมกฺขยกรตฺตาติ กมฺมกฺขยกรมนสฺส กมฺมทฺวารภาโว น ยุชฺชตีติ อธิปฺปาโย. ยโต ‘‘กมฺมปถกถา โลกิยา เอวา’’ติ วทนฺติ.
มโนกมฺมทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมฺมกถาวณฺณนา
สมานกาลาปิ ¶ การณผลกิริยา ปุพฺพาปรกาลา วิย วตฺตุํ ยุตฺตาเยว. เสยฺยถาปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห. โจปนกิริยนฺติ วิฺตฺติทฺวยํ อาห. ตสฺสา หิ จิตฺตสมุฏฺานกายสทฺทวาจาหิ กายวจีวิฺตฺตีหิ เอว วา ปุริมปุริมาหิ ปวตฺเตตพฺพตฺตา ‘‘กายวาจาหิ โจปนกิริยํ กโรตี’’ติ วุตฺตํ ตพฺพิการานํ ภูตานํ ตถาปวตฺตนโต. อถ วา กายวาจาหีติ กายวจีวิฺตฺตีหิ ¶ . โจปนกิริยนฺติ รูปกายสฺส ถมฺภนจลนกิริยํ อุปาทินฺนกฆฏฺฏนกิริยฺจ. เอสา หิ กิริยา ‘‘รูปกายํ ถมฺเภตุํ จาเลตุํ ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺโถ’’ติ, ‘‘อุปาทินฺนกฆฏฺฏนสฺส ปจฺจยภูโต’’ติ จ วุตฺตตฺตา กายวจีวิฺตฺตีหิ นิปฺผชฺชตีติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘โจปนกิริยานิสฺสยภูตา กายวาจา’’ติ, ‘‘กายาทีหิ กรณภูเตหิ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยํ กโรนฺติ วาสิอาทีหิ วิย เฉทนาทิ’’นฺติ จ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ ภวติ. น เกวลํ ธรมานตาว สพฺภาโว, อถ โข มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนตาปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนิโรธิเตวา’’ติ อาห. อสมุจฺฉินฺนตา จ กายาทีนํ ตทุปนิสฺสยกิเลสาสมุจฺเฉเทเนวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘กายาทีหิ กรณภูเตหิ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยํ กโรนฺตี’’ติ เอเตน โจปนาภิชฺฌาทิกิริยานิพฺพตฺติทฺวาเรน เจตนานิพฺพตฺติเยว วุตฺตาติ อิมินา อธิปฺปาเยน ‘‘เอวฺจ…เป… ยุชฺชนฺตี’’ติ อาห. เอวฺจ กตฺวา กาเย สติ วาจาย สตีติอาทิวจนํ อนุโลมิตํ โหติ. ยาย เจตนายาติ กรณนิทฺเทโส ปน กายาทีนํ โจปนาภิชฺฌาทิกิริยาย จ เจตนาเหตุกตฺตทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ.
สภาวโต อุปการกโต มคฺเค สติ สพฺภาวโต จ โพชฺฌงฺคา มคฺเค อนฺโตคธาติ อาห ‘‘น จ น สกฺกา’’ติอาทิ.
กมฺมปถํ อปฺปตฺตานมฺปิ ตํตํทฺวาเร สํสนฺทนนฺติ ยถา กมฺมปถํ ปตฺตานํ, เอวํ กมฺมปถํ อปฺปตฺตานมฺปิ สติปิ ทฺวารนฺตรุปฺปตฺติยํ ยถาสกํ ทฺวาเรเหว นามคฺคหณนฺติ วทนฺติ, เอวํ สติ อฏฺกถาย วิโรโธ. ทุติยตฺถสฺส จ อภาโว สิยา, ตสฺมา ตํตํทฺวาเร สํสนฺทนนฺติ ยสฺมึ ยสฺมึ ทฺวาเร กมฺมปถํ อปฺปตฺตา อกุสลเจตนาทโย ปวตฺตา, ตาสํ เตน เตเนว ทฺวาเรน นามคฺคหณํ. ตํ ปน ตํตํทฺวารปกฺขิกภาวกรณโต ตตฺถ อวโรธนนฺติ ¶ วุตฺตํ. ยถา หิ กมฺมปถํ ปตฺตา กายกมฺมาทิสงฺขาตา เจตนา ทฺวารนฺตเร อุปฺปนฺนาปิ กายกมฺมาทินามเมว ลภนฺติ, น เอวํ กมฺมปถํ อปฺปตฺตา. ตา ปน ยตฺถ ยตฺถ ทฺวาเร อุปฺปชฺชนฺติ, เตน เตเนว ทฺวาเรน กายทุจฺจริตํ วจีทุจฺจริตนฺติอาทินามํ ลภนฺติ. เอวํ นามคฺคหณเมว หิ เตสํ ตํตํทฺวารปกฺขิกกรณํ วุตฺตํ. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ‘‘กิฺจาปิ วจีทฺวาเร โจปนปฺปตฺตํ กมฺมปถํ, อปฺปตฺตตาย ปน กายกมฺมํ น โหติ, เกวลํ วจีทุจฺจริตํ นาม โหตี’’ติ วุตฺตํ.
สติปิ ปาณาติปาตาทิเจตนาย วจีทฺวาราทีสุ ปวตฺติยํ ยถาวุตฺตเยภุยฺยตพฺพหุลวุตฺติยา กายกมฺมาทิภาวววตฺถาปนํ ¶ กายาทิกสฺส ตํตํทฺวารภาวววตฺถาปนฺจ กมฺมทฺวาราเภทนํ. ตฺหิ กมฺมทฺวารานํ อสํกิณฺณภาเวน ปติฏฺาปนํ. ยํ สนฺธาย ‘‘อาณตฺติสมุฏฺิเตสู’’ติ อฏฺกถายํ วกฺขติ. เกจิ ปน ‘‘เอเกกสฺมึ ทฺวาเร อเนเกสํ กมฺมานํ ปวตฺติทสฺสนมฺปิ ทฺวารสํสนฺทน’’นฺติ วทนฺติ. ยถา ปวตฺโต พฺยาปาโท กมฺมปโถ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติ ปวตฺติ พฺยาปาทสฺส ทสฺสิตา. กายทฺวาริกเจตนาย สหการีการณภาวโต กายกมฺมโวหารลาภา, อภิชฺฌาทีนํ ปรสนฺตกสฺส อตฺตโน ปริณามนวเสน ‘‘อิเม สตฺตา หฺนฺตู’’ติอาทินา จ อปฺปวตฺตตฺตา มโนกมฺมโวหารวิรหา, อเจตนาสภาวโต วา ปาณาติปาตาทิวเสน อพฺโพหาริกา, ปาณาติปาตาทิภาเวน น วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. เอตฺถาติ อพฺโพหาริกภาเว.
ทสวิธา อิทฺธิ…เป… ตพฺพา วิตฺถาเรนาติ อธิปฺปาโย.
เตนาธิปฺเปตนฺติ ‘‘อกุสลํ วจีกมฺมํ มโนทฺวาเร สมุฏฺาตี’’ติ วทนฺเตน อธิปฺเปตํ. ‘‘น อุโปสถกฺขนฺธเก วุตฺต’’นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ เตน อุโปสถกฺขนฺธกโต สุตฺตํ อาหฏนฺติ? กิฺจาปิ อาหฏํ, ตตฺถ อวุตฺโตเยว ปน โส เตน วุตฺโตติ คหิโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ อวุตฺตเมวา’’ติอาทิมาห.
‘‘สุคติทุคฺคตีสุ อุปปชฺชนํ สุกตทุกฺกฏกมฺมโต น โหติ, ขนฺธสิวาทีหิ ปน โหตีติ คเหตฺวา ‘นตฺถิ ทินฺน’นฺติอาทินา ปรามสนฺตสฺส วเสน ‘มิจฺฉาทิฏฺิ…เป… ปริภณฺฑาทีนิ กโรตี’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. อภิชฺฌาทิปธานตฺตาติ เอเตน วิชฺชมาเนสุปิ พฺยาปาทาทีสุ ยทา กายวจีทฺวาเรสุ เจตนา ¶ พลวตี โหติ, น ตถา อิตเร, ตทา ปธานภาวโต เจตนา กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ จ โวหารํ ลภติ. โส โข ปนสฺสา ปธานภาโว ปาณาติปาตาทิสิทฺธิยา วิฺายติ. ยทา ปน เตสุเยว ทฺวาเรสุ อภิชฺฌาทโย พลวนฺโต โหนฺติ, น ตถา เจตนา, ตทา ตตฺถ วิชฺชมานาปิ เจตนา อปธานภาวโต กายกมฺมํ วจีกมฺมนฺติ จ โวหารํ น ลภติ. อภิชฺฌาทโย ปน ปธานภาวโต สติปิ กายงฺควาจงฺคโจปเน สเกน ววตฺถาเนน มโนกมฺมนฺตฺเวว วุจฺจนฺตีติ ทสฺเสติ. เย ปน ‘‘ตีสุปิ ทฺวาเรสุ กมฺมปถภาเวน อปฺปตฺติยา ทฺวารตฺตเยปิ กมฺมปถปฺปตฺตมโนกมฺเมน สห ปวตฺติยา จ เจตนา เอตฺถ กมฺมนฺติ น วุจฺจตี’’ติ วทนฺติ, เตหิ อภิชฺฌาทีนํ ปธานสภาวํเยว สนฺธาย วุตฺตํ สิยา. อถ วา เจตนาย นิปฺปริยายกมฺมภาวโต ปริยายกมฺเม อนวโรเธตพฺพตฺตา ‘‘อพฺโพหาริกา’’ติ ¶ วุตฺตํ. อตฺตโน สภาเวเนว ปน สา เอตฺถาปิ กมฺมนฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามี’’ติอาทิ (กถา. ๕๓๙). อฏฺกถายฺจ ‘‘ตสฺมึ ทฺวาเร สิทฺธา เจตนา’’ติอาทินา เจตนาเยว ปธานํ กตฺวา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘สภาเวเนว สา มโนกมฺม’’นฺติอาทิ. อถ วา กมฺมปถปฺปตฺตอภิชฺฌาทีหิ กายวจีทฺวาเร สหชาตา เจตนา กายวจีกมฺมวเสน อพฺโพหาริกา เจตนาสงฺขาตมโนกมฺมตฺตาติ. ยทิ อภิชฺฌาทโย ปธานา, น เจตนา, เอวํ สติ อภิชฺฌาทโย เจตฺถ กมฺมํ, น เจตนา, อภิชฺฌาทิปกฺขิกา วา สา สิยาติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว’’ติอาทิ. ‘‘เจตนาปิ…เป… มโนทฺวาเร เอว สมุฏฺหนฺตี’’ติ อิทํ มโนทฺวาเร เจตนาย อภิชฺฌาทีหิ มโนกมฺมภาเว นิพฺพิเสสภาวทสฺสนนฺติ กตฺวา ‘‘เจตนา…เป… อธิปฺปาโย’’ติ อาห. เจตนา เจตนากมฺมํ, อภิชฺฌาทโย เจตนาสมฺปยุตฺตกมฺมนฺติ เอตฺตกเมว หิ เอตฺถ วิเสโสติ. เอตฺถ จ เจตนาย กายวจีกมฺมภาโว สิยาติ อาสงฺกาย อภาวโต มโนทฺวาเร อกุสลกายวจีกมฺมานํ อนุปฺปตฺติโต จ อพฺโพหาริกาติ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
วิรติวิสิฏฺาติ วิรติโต เจตนาย ปธานภาวมาห. ตตฺถ ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา’’ติอาทินา (กถา. ๕๓๙) อาคมมฺหิ ‘‘ปาณาติปาตาทิปฏิปกฺขภูตา’’ติ ยุตฺตึ ทสฺเสติ. ยสฺมา จ ปฏฺาเน เจตนาว ‘‘กมฺมปจฺจโย’’ติ ¶ วุตฺตา, น วิรติ, อภิชฺฌาทโย วา, ตสฺมา นิปฺปริยาเยน กมฺมํ ‘‘เจตนา’’ติ อนภิชฺฌาทโย ‘‘เจตนาปกฺขิกา วา’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. อสงฺกรโต กมฺมทฺวารานิ ววตฺถเปนฺโต ‘‘รกฺขตี’’ติ, วิปริยาเยน ‘‘ภินฺทตี’’ติ วุตฺโตติ รกฺขณภินฺทนานิ อนาเสตฺวา นาเสตฺวา จ กถนนฺติ วุตฺตานีติ.
กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ตติโย วิกปฺโป ปมจตุตฺถวิฺาณทฺวาเรสุเยว ลพฺภติ, น อิตรตฺถ ‘‘โสตํ ฆาน’’นฺติอาทินา อวุตฺตตฺตา, อิตรถาปิ วา อวิภตฺติเก นิทฺเทเส ลพฺภติ. ยโต สํวรวเสน ปาติโมกฺขสีลํ ปวตฺตติ, ตํ ทุสฺสีลฺยนฺติ อาห ‘‘ทุสฺสีลฺยํ ปาณาติปาตาทิเจตนา’’ติ. อิตรา สํวรวินิมุตฺตา อภิชฺฌาโทมนสฺสยุตฺตา ตปฺปธานา วา อกุสลธมฺมา สติปฏิปกฺขา อกุสลา ธมฺมา ¶ . อารมฺมเณ จิตฺตโวสฺสคฺควเสน ปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท ปมาโท. วีริยปโนทนภาวโต ถินมิทฺธํ ‘‘โกสชฺช’’นฺติ วุตฺตํ, ถินมิทฺธปฺปธาโน วา จิตฺตุปฺปาโท.
อสุทฺธตาติ อเกวลตา อฺเน สมฺมิสฺสตา. ทฺวารฺหิ ทฺวารนฺตริกกมฺมสฺส ทฺวารํ โหนฺตํ เตน มิสฺสิตํ วิย โหติ. เตเนวาห ‘‘มุสาวาทาทิโนปิ กายทฺวาเร ปวตฺติสพฺภาวา’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อวิฺเยฺยมานนฺตรานํ ทฺวารนฺตรจิตฺตานํ อนฺตรนฺตรา อปฺปวตฺติโต สุทฺธนฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ อเนกสฺสปิ ชวนวารสฺส กายกมฺมาทิภาเวน ปพนฺธนวเสน ปวตฺติ อตฺถีติ กตฺวา วุตฺตํ. อวิรุทฺธํ โหตีติ อกุสลกายกมฺมาทิภาเวน อวธาเรตฺวา อสํวรํ วตฺวา ปุน ตสฺเสว วาจาอสํวรทฺวาราทีสุ อุปฺปตฺติวจนํ กายทฺวารูปลกฺขิโต อสํวโร ทฺวารนฺตเร ปวตฺโตปิ กายทฺวาริโก เอวาติ เอวํ สํวณฺณนาย สติ น วิรุชฺฌตีติ อตฺโถ. อิทานิ ตํ อวิรุชฺฌนาการํ ‘‘อสํวโร หี’’ติอาทินา วิภาเวติ. สทฺวาเรติ อตฺตโน ทฺวาเร. อสํวโร ทฺวารนฺตเร อุปฺปชฺชมาโนปิ สทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนติ วุจฺจตีติ เอเตน วาจาอสํวรทฺวาเร อุปฺปนฺโนปิ กายิโก อสํวโร โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโนตฺเวว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิตรตฺถาปิ. กมฺมํ อฺทฺวาเรติ กมฺมสฺส ทฺวารนฺตรจรณํ ปากฏนฺติ กตฺวา วุตฺตํ.
เอวํ ¶ สตีติ โจปนสงฺขาเต กายอสํวรทฺวาเร อสํวโรติ เอตฺตเก เอว คหิเต. กมฺมปถภาวปฺปตฺตสฺเสว กมฺมภาโว อฏฺกถายํ วุตฺโตติ อาห ‘‘กมฺมปถภาวปฺปตฺตตาย วจีมโนกมฺม’’นฺติ. เสสนฺติ ทฺวารนฺตรานุปลกฺขิตํ. ตถา น วุจฺจตีติ กายกมฺมนฺติ น วุจฺจตีติ อตฺโถ. ตตฺเถว วกฺขามาติ กมฺมปถสํสนฺทเน วกฺขาม. ‘‘โส หิ กายทฺวาเร โจปนปฺปตฺโต อกุสลํ กายกมฺมํ โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. อฏฺ. กมฺมปถสํสนฺทนกถา) ‘‘โจปนกายอสํวรทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา จ วจีกมฺมาทีนฺจ กมฺมปถปฺปตฺตานํ อสํวรภูตานํ กายกมฺมาทิภาเว อาปนฺเน ‘‘จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ อกุสลํ วจีกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา อปวาเทน นิวตฺติ ทฏฺพฺพาติ เอวํ วกฺขมานตํ สนฺธายาห. อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา ปจฺจยสนฺนิสฺสิตอาชีวปาริสุทฺธิสีลานํ าณวีริเยหิ สาเธตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย.
อกุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา
สรเสน ¶ อตฺตโน สภาเวน. ยาย เจตนาย ปวตฺตมานสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปจฺจยภูเตสุ มหาภูเตสุ อุปกฺกมกรณเหตุ ตํมหาภูตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกมหาภูตา นุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, สา ตาทิสปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา ปาณาติปาโต นาม. ลทฺธุปกฺกมานิ หิ ภูตานิ น ปุริมภูตานิ วิย วิสทานีติ สมานชาติยานํ ภูตานํ การณํ น โหนฺตีติ. เอกสฺสปิ ปโยคสฺส สหสา นิปฺผาทนวเสน กิจฺจสาธิกาย พหุกฺขตฺตุํ ปวตฺตชวเนหิ ลทฺธาเสวนาย จ สนฺนิฏฺาปกเจตนาย วเสน ปโยคสฺส มหนฺตภาโว. สติปิ กทาจิ ขุทฺทเก เจว มหนฺเต จ ปาเณ ปโยคสฺส สมภาเว มหนฺตํ หนนฺตสฺส เจตนา ติพฺพตรา อุปฺปชฺชตีติ วตฺถุสฺส มหนฺตภาโวติ ตทุภยํ เจตนาย พลวภาเวเนว โหตีติ อาห ‘‘ปโยค…เป… ภาวโต’’ติ. ยถาวุตฺตปจฺจยวิปริยาเยปีติ ปโยควตฺถุอาทิปจฺจยานํ อมหตฺเตปิ. ตํตํปจฺจเยหีติ คุณวนฺตตาทิปจฺจเยหิ. เอตฺถ จ หนฺตพฺพสฺส คุณวนฺตตาย มหาสาวชฺชตา วตฺถุมหนฺตตาย วิย ทฏฺพฺพา. กิเลสานํ อุปกฺกมานํ ทฺวินฺนฺจ มุทุตาย ติพฺพตาย จ อปฺปสาวชฺชตา มหาสาวชฺชตา จ โยเชตพฺพา. ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตฺจ ปุพฺพภาคสมฺภารา, อุปกฺกโม ¶ วธกเจตนาสมุฏฺาปิโต, ปฺจสมฺภารวตี ปาณาติปาตเจตนาติ สา ปฺจสมฺภารวินิมุตฺตา ทฏฺพฺพา. เอส นโย อทินฺนาทานาทีสุปิ.
มนฺตปริชปฺปเนน ปรสฺส สนฺตกหรณํ วิชฺชามโย, วินา มนฺเตน ปรสนฺตกสฺส กายวจีปโยเคหิ อากฑฺฒนํ ตาทิสอิทฺธิโยเคน อิทฺธิมโย ปโยโคติ อทินฺนาทานสฺสปิ ฉ ปโยคา สาหตฺถิกาทโย เวทิตพฺพา.
อภิภวิตฺวา วีติกฺกมเน มิจฺฉาจาโร มหาสาวชฺโช, น ตถา อุภินฺนํ สมานจฺฉนฺทภาเว. ‘‘จตฺตาโร สมฺภาราติ วุตฺตตฺตา อภิภวิตฺวา วีติกฺกมเน สติปิ มคฺเคนมคฺคปฏิปตฺติอธิวาสเน ปุริมุปฺปนฺนเสวนาภิสนฺธิปโยคาภาวโต มิจฺฉาจาโร น โหติ อภิภุยฺยมานสฺสา’’ติ วทนฺติ. เสวนจิตฺเต สติ ปโยคาภาโว น ปมาณํ อิตฺถิยา เสวนปฺปโยคสฺส เยภุยฺเยน อภาวโต. ปุริสสฺเสว หิ เยภุยฺเยน เสวนปฺปโยโค โหตีติ อิตฺถิยา ปุเรตรํ เสวนจิตฺตํ อุปฏฺาเปตฺวา นิปนฺนายปิ มิจฺฉาจาโร น สิยาติ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปุริสสฺส วเสน อุกฺกํสโต จตฺตาโร สมฺภารา วุตฺตาติ ทฏฺพฺพํ. อฺถา อิตฺถิยา ปุริสกิจฺจกรณกาเล ¶ ปุริสสฺสปิ เสวนปฺปโยคาภาวโต มิจฺฉาจาโร น สิยาติ. เกจิ ปน ‘‘อตฺตโน รุจิยา ปวตฺติตสฺส ตีณิ องฺคานิ, พลกฺกาเรน ปวตฺติตสฺส ตีณีติ สพฺพานิ อคฺคหิตคฺคหเณน จตฺตารี’’ติ วทนฺติ, วีมํสิตฺวา คเหตพฺพํ.
ทุฏฺจิตฺตสฺส อมรณาธิปฺปายสฺส ผรุสกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา ผรุสเจตนา ผรุสวาจา. มรณาธิปฺปาเย ปน สติ อตฺถสิทฺธิตทภาเวสุ ปาณาติปาตา พฺยาปาทา จ โหนฺตีติ. ยํ ปติ ผรุสวาจา ปยุชฺชติ, ตสฺส สมฺมุขาว สีสํ เอติ. ‘‘ปรมฺมุเขปิ ผรุสวาจา โหตี’’ติ วทนฺติ.
ยทิ เจตนาย สพฺพทา กมฺมปถภาวาภาวโต อนิยโต กมฺมปถภาโวติ กมฺมปถราสิมฺหิ อวจนํ, นนุ อภิชฺฌาทีนมฺปิ กมฺมปถํ อปฺปตฺตานํ อตฺถิตาย อนิยโต กมฺมปถภาโวติ เตสมฺปิ กมฺมปถราสิยํ อวจนํ อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ, กมฺมปถตาตํสภาคตาหิ เตสํ ตตฺถ วุตฺตตฺตา. ยทิ เอวํ เจตนาปิ ตตฺถ วตฺตพฺพา สิยาติ? สจฺจเมตํ, สา ปน ปาณาติปาตาทิกาติ ปากโฏ ตสฺสา ¶ กมฺมปถภาโวติ น วุตฺตํ สิยา. เจตนาย หิ ‘‘เจตนาหํ, ภิกฺขเว, กมฺมํ วทามิ,’’‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา อกุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิวจเนหิ กมฺมภาโว ทีปิโต. กมฺมํเยว จ สุคติทุคฺคตีนํ ตทุปฺปชฺชนสุขทุกฺขานฺจ ปถภาเวน ปวตฺตํ กมฺมปโถติ วุจฺจตีติ ปากโฏ ตสฺสา กมฺมปถภาโว. อภิชฺฌาทีนํ ปน เจตนาสมีหนภาเวน สุจริตทุจฺจริตภาโว, เจตนาชนิตตํพนฺธติภาเวน สุคติทุคฺคติตทุปฺปชฺชนสุขทุกฺขานํ ปถภาโว จาติ น ตถา ปากโฏ กมฺมปถภาโวติ เต เอว กมฺมปถราสิภาเวน วุตฺตา. อตถาชาติยตฺตา วา เจตนา เตหิ สทฺธึ น วุตฺตา สิยา. วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
ปาณาติปาตาทีนํ อารมฺมณาเนว ตพฺพิรติอารมฺมณานีติ ปฺจ สิกฺขาปทา ปริตฺตารมฺมณา เอวาติ วจเนน อทินฺนาทานาทีนํ สตฺตารมฺมณตาวจนสฺส วิโรธํ โจเทติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘วีติกฺกมิตพฺพโตเยว หิ เวรมณี นาม โหตี’’ติ. สยเมว ปริหริสฺสตีติ สิกฺขาปทวิภงฺเค ปฺหปุจฺฉกวณฺณนํ สนฺธาย วทติ. ตตฺถ หิ ‘‘ยสฺมา สตฺโตติ สงฺขฺยํ คเต สงฺขาเรเยว อารมฺมณํ กโรติ, ตสฺมา ปริตฺตารมฺมณาติ วุจฺจนฺตี’’ติ วุตฺตํ.
ทุคฺคตตาทีนีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อลทฺธาลาโภ ลทฺธวินาโส อิจฺฉิตานํ โภคานํ กิจฺฉปฏิลาโภ ราชาทีหิ สาธารณโภคตา ทุกฺขวิหาโร สาสงฺกวิหาโร’’ติ เอวมาทโย สงฺคหิตา. เกจิ ปน ‘‘ทิฏฺเว ธมฺเม โภคชานิอาทโย นิสฺสนฺทผล’’นฺติ วทนฺติ.
กุสลกมฺมปถกถาวณฺณนา
ตาสฺจ วิรตีนํ เจตนาสมฺปยุตฺตตฺตา เจตนาทฺวาเรน สุคติทุคฺคติตทุปฺปชฺชนสุขทุกฺขานํ ปถภาโว ยุตฺโตติ อธิปฺปาโย.
กมฺมปถสํสนฺทนกถาวณฺณนา
ตถาติ กมฺมปถปฺปตฺตานํ. เกจีติ ธมฺมสิริตฺเถรํ สนฺธายาห. โส หิ กมฺมปถปฺปตฺตานเมว ทุสฺสีลฺยาทีนํ สุสีลฺยาทีนฺจ กมฺมปเถหิ อตฺถโต นานตฺตาภาวทสฺสนํ, เตสํ วา ผสฺสทฺวาราทีหิ อวิโรธภาเวน ทีปนํ กมฺมปถสํสนฺทนนฺติ วทติ. กมฺมปถตา นตฺถีติ เอเตน ยถาวุตฺตานํ อสํวรสํวรานํ ¶ เตสํ วาเท กมฺมปถสํสนฺทเน อสงฺคหิตตํ ทสฺเสติ. เย ปน สงฺคหํ ลภนฺติ, เตสํ คหเณ ปโยชนาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ติวิธ…เป… ทสฺสเนนา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ปุริมปกฺเข สงฺเขปโต โทสํ วตฺวา ทุติยปกฺเขปิ วตฺตุํ ‘‘น จ ทุจฺจริตาน’’นฺติอาทิมาห. เตน เย ทุจฺจริตสุจริตอสํวรสํวรา อนุจรียนฺติ, เตสํ กายกมฺมาทิตา วิธียตีติ ทสฺเสติ. ‘‘ปฺจผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปนฺโน อสํวโร อกุสลํ มโนกมฺมเมว โหตี’’ติอาทินา หิ วุตฺตนฺติ. ยทิ จาติอาทินา อนวเสสปริยาทานาภาวมาห. อุปฺปตฺติ น วตฺตพฺพาติ กมฺมปถ…เป… วทนฺเตหิ ‘‘มโนกมฺมํ ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปชฺชตี’’ติ น วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. อถ วา ยทิ กมฺมปถปฺปตฺตาเนว ทุสฺสีลฺยาทีนิ กายกมฺมาทินาเมหิ อฏฺกถายํ วุตฺตานีติ เอวํ วทนฺเตหิ อฏฺกถาจริเยหิ มโนกมฺมสฺส ฉผสฺสทฺวารวเสน อุปฺปตฺติ น วตฺตพฺพาติ อตฺโถ. ตํตํกมฺมภาวสฺส วุตฺตตฺตาติ ‘‘ติวิธํ กายทุจฺจริตํ อกุสลํ กายกมฺมเมว โหตี’’ติอาทึ (วิภ. ๙๑๓) สนฺธายาห.
กมฺมนฺตรมฺปิ ตํทฺวาริกกมฺมเมว สิยาติ ปาณาติปาตาทิกสฺส วจีกมฺมาทิภาวมาสงฺกติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เกสฺจิ อสํวรานํ สํวรานฺจ กมฺมปถตา นตฺถิ, กายทุจฺจริตาทีนฺจ กมฺมปเถหิ นานตฺตาภาวทสฺสเนน ปโยชนํ นตฺถิ, น จ ทุจฺจริตาทีนํ ผสฺสทฺวารานํ วเสน อุปฺปตฺติ ¶ ทีปิตา, น จายํ วิธิ นิรวเสสสงฺคาหิกา, กมฺมานฺจ สงฺกโร อาปชฺชติ, อฏฺกถายฺจ ปุพฺพาปรวิโรโธ, ตสฺมาติ อตฺโถ. สมานนามตา กายกมฺมาทิตา. สามฺนามาวิชหนํ กายกมฺมาทิภาวาวิชหนํ. อุภเยสนฺติ กมฺมปถากมฺมปถานํ. อุปฺปตฺติปริยายวจนาภาวโตติ เอเตน ผสฺสทฺวารอสํวรทฺวาราทีนํ ตํทฺวาริกกมฺมานฺจ อตฺถโต นานตฺตาภาเวปิ ตถา ตถา ปวตฺตเทสนาวเสน เต วิจาริตาติ ทสฺเสติ. ‘‘อกุสลํ กายกมฺมํ ปฺจผสฺสทฺวารวเสน น อุปฺปชฺชตี’’ติอาทิโก ทุติยวินิจฺฉโย.
กาเย วาจาย จ…เป… สิทฺธิโตติ เอเตน โจปนปฺปตฺตํ อกุสลํ มโนกมฺมํ โจปนํ อปฺปตฺตโต วิเสเสตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กายวจีกมฺม’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน กายวจีกมฺมภาวโตติ ทสฺเสติ. เตน กายวจีคหณํ ยถาวุตฺตโจปนปฺปตฺตํ เอว วิภาเวตีติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห – ‘‘โจปนปฺปตฺตํ อกุสลํ กายทฺวาเร วจีทฺวาเร จ มโนกมฺมํ โหตี’’ติ. ตํ-สทฺเท ¶ วุตฺเต ยํ-สทฺโท อพฺยภิจาริตสมฺพนฺธตาย วุตฺโตเยว โหตีติ กตฺวา ‘‘ยํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปาทมตฺตปริจฺฉินฺเนนาติ ฉผสฺสทฺวาริกกมฺเมนาติ อตฺโถ. มตฺต-สทฺเทน วิเสสนิวตฺติอตฺเถน มโนกมฺมตาวิเสสํ นิวตฺเตติ. นิยมสฺส เอว-สทฺทสฺส อกตตฺตา ‘‘กายวจีกมฺมเมว โหตี’’ติ อวุตฺตตฺตา. อิทานิ นิยมากรเณน ลทฺธคุณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น ปน สพฺพมฺปี’’ติอาทิมาห.
‘‘นิยมสฺส อกตตฺตา’’ติอาทิ ปุริมนโยติ อธิปฺเปโต. วตฺตุอธิปฺปายานุโรธินี สทฺทปฺปวตฺตีติ สมาสปเท เอกเทโสปิ อากฑฺฒียติ อธิการวเสนาติ อธิปฺปาเยน ‘‘กมฺม-สทฺทมตฺเตน สมฺพนฺธํ กตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยํ ปน วทนฺตีติอาทินา เอตฺถ ปทการมตสฺส อยุตฺตตํ ทสฺเสติ. ตตฺถ เจตนาปกฺขิกานนฺติ กายวจีกมฺมภูตเจตนาปกฺขิกานํ. สตนฺติ สมานานํ. ตํตํทฺวารกมฺมปถานฺจาติ อิทํ อิมสฺส จิตฺตสฺส กมฺมปถภาเวน ปวตฺตํ กาลํ สนฺธาย วุตฺตํ, น สพฺพทา, กมฺมปถภาเวเนว ปวตฺตนโต. จ-สทฺเทน วา อกมฺมปถสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อถ วา ตํตํทฺวารา จ ตํตํทฺวารกมฺมปถา จ ตํตํทฺวารกมฺมปถาติ ‘‘ตํตํทฺวารา’’ติ ปเทน อกมฺมปถานํ สํวรานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตน สภาเวนาติ มโนกมฺมสฺส ทฺวารภาเวน, น อตฺตโนติ อธิปฺปาโย. เอวมิธาปีติ จิตฺตชนิโต จิตฺตสมฺปยุตฺตสฺส กมฺมสฺส ทฺวารภาโว จิตฺเตปิ อุปจริโตติ อตฺโถ. วตฺตพฺพเมว นตฺถิ อนนฺตรปจฺจยภูตมโนรหิตสฺส จิตฺตสฺส อภาวโตติ.
ทฺวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กมาภาวนิยมาภาเว ¶ สพฺพารมฺมณตาทีติ อาทิ-สทฺเทน สงฺคณฺหาติ. น หิ…เป… อตฺถีติ ปธาเน อสมฺภวโต อปฺปธานํ อธิกรียตีติ ทสฺเสติ.
ธมฺมุทฺเทสวารกถา
ผสฺสปฺจมกราสิวณฺณนา
‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตี’’ติอาทิกาย ปาฬิยา ผสฺสาทีนํ กามาวจรตาทิทสฺสเน น ตปฺปรภาโว, สภาวทสฺสเน เอว ปน ตปฺปรภาโวติ ทสฺเสติ ‘‘น หิ ผสฺสาทีน’’นฺติอาทินา.
จิตฺตกิริยาภาเวนาติ ¶ จิตฺตพฺยาปารภาเวน. ผสฺสสฺส สมฺปชฺชนมุปฺปชฺชนเมว. สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโย โหตีติ เอเตน จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาตการณํ ผสฺโส จิตฺตารมฺมณสนฺนิปาโตติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ. ผสฺโส หิ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ ผุสนากาเรเนว ปวตฺติโต ตสฺส อารมฺมเณ สนฺนิปติตปฺปวตฺติยา ปจฺจโยติ จ วุจฺจติ. สา จสฺส ผุสนาการปฺปวตฺติ สาขคฺเค ิตํ ทิสฺวา ภูมิสณฺิตสฺส อวีรกปุริสสฺส ชงฺฆจลนํ, อมฺพิลอมฺพปกฺกาทึ ขาทนฺตํ ทิสฺวา มุเข เขฬุปฺปตฺติ, ทยาลุกสฺส ปรํ หฺมานํ ทิสฺวา สรีรกมฺปนนฺติ เอวมาทีสุ ปริพฺยตฺตา โหติ. ตพฺพิเสสภูตา รูปธมฺมาติ ยถา ปฏิหนนวเสน อฺมฺํ อาสนฺนตรํ อุปฺปชฺชมาเนสุ รูปธมฺมวิเสเสสุ สงฺฆฏฺฏนปริยาโย, เอวํ จิตฺตารมฺมณานํ วิสยกรณวิสยภาวปฺปตฺติ ปฏิหนนากาเรน โหติ. โส จ จิตฺตนิสฺสิโต ธมฺมวิเสโส สงฺฆฏฺฏนปริยาเยน วุตฺโต, ยทาห ‘‘เอว’’นฺติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘สงฺฆฏฺฏนรโส ผสฺโส ปฺจทฺวาริโกว, น อิตโร วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนาภาวโต’’ติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ อุปจารสิทฺธตฺตา สงฺฆฏฺฏนสฺส. อิตรถา ปฺจทฺวาริกสฺสปิ ตํ น สมฺภเวยฺยาติ. อินฺทฺริยมนสิกาเรสุ ยถาปวตฺตมาเนสุ ตํตํอารมฺมเณ วิฺาณํ อุปฺปชฺชติ, เตสํ ตถาปวตฺติเยว วิฺาณสฺส วิสยภาวกรณํ.
‘‘ยํ โข, ภิกฺขเว, อิเม ปฺจ กามคุเณ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ วุจฺจติ กามานํ อสฺสาโท’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๙.๓๔) สุขเวทนาว อสฺสาโทติ อาห ¶ ‘‘อสฺสาทภาวโต’’ติ. ผุสนาทิภาเวน อารมฺมณคฺคหณํ เอกเทสานุภวนนฺติ อนุปจริตเมว ผสฺสาทีนํ อนุภวนกิจฺจมาห.
นิมิตฺเตนาติ นีลาทินา ทีฆาทินา จ นิมิตฺเตน. เอเตนุปาเยนาติ ยถา าณปฺปธาเน จิตฺตุปฺปาเท สฺา าณมนุวตฺตติ, เอวํ สมาธิปฺปธาเน สมาธินฺติ ทสฺเสติ.
ปพนฺธตีติ ปฏฺเปติ สมฺปยุตฺตธมฺเม สกสกกิจฺเจ ปฏฺเปติ. เตเนว หิ ตทตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ปวตฺเตตี’’ติ อาห.
วิชฺชมานตาวาจี โหติ-สทฺโท, วิชฺชมานตา จ สงฺขตธมฺมานํ อุปฺปชฺชเนน วินา นตฺถีติ ‘‘จิตฺตํ น ตถา อตฺถโต นุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. เตน ยสฺมา จิตฺตํ ¶ น นุปฺปชฺชติ อุปฺปชฺชติ เอว, ตสฺมา จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตนฺติ อยเมตฺถ อฏฺกถาย อตฺโถ. เอวมวฏฺิเต โหติ-อุปฺปชฺชติ-สทฺทานํ สมานตฺถตฺเตน น กิฺจิ ปโยชนํ ทิสฺสติ. อถ วา ภวนํ นาม สตฺตา, สตฺตา จ อุปฺปาทาทินา สมงฺคิตาติ ผสฺสาทีนํ ขณตฺตยปริยาปนฺนตา ‘‘ผสฺโส โหตี’’ติอาทีสุ โหติ-สทฺเทน วุตฺตา. ตตฺถ โย ภาโว อุปฺปาทสมงฺคี, น โส น โหติ นาม, ตสฺมา อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน วุจฺจมานสฺส อตฺถสฺส โหติ-สทฺทวจนียตา น น สมฺภวติ. อุปฺปนฺนํ โหตีติ เอตฺถ ปน กิฺจาปิ อุปฺปนฺน-สทฺเทเนว อุปฺปาทาทิสมงฺคิตา วุจฺจติ, ตพฺภาวานติวตฺติ ปน โหติ-สทฺเทน วุตฺตา ขณตฺตยวีติวตฺเตปิ อุปฺปนฺน-สทฺทสฺส วตฺตนโต, ตสฺมา น เอตฺถ อุปฺปชฺชติ-สทฺเทน สมานตฺถตาสพฺภาวทสฺสนํ วิย อุปฺปชฺชติทสฺสนมฺปิ วิรุชฺฌติ ปากฏกรณภาวโต. อิตรถา ‘‘จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ อิมินาว จิตฺตสฺส วิชฺชมานภาโว ทสฺสิโตติ กึ ปุน วิชฺชมานภาวทสฺสเนนาติ น น สกฺกา วตฺตุํ, สมยววตฺถานวเสน สวิเสสํ วุตฺตมฺปิ จิตฺตํ ผสฺสาทีหิ สหุปฺปตฺติยา สุฏฺุตรํ นิพฺพิเสสนฺติ ทสฺเสตุํ จิตฺตสฺส ปุน วจนํ. อุทฺทิฏฺธมฺมานํเยว เจตฺถ นิทฺเทสวาเร วิภชนํ, น วิภงฺเค วิย ปาฬิยา อารุฬฺหสพฺพปทานนฺติ ‘‘อุทฺเทสวาเร สงฺคณฺหนตฺถํ นิทฺเทสวาเร วิภชนตฺถ’’นฺติ อยมฺปิ อตฺโถ นิจฺจโล. ตถา หิ ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติอาทีสุ มคฺคาทโย น วิภตฺตา. อปิจ อธิปติภาเวน อินฺทฺริเยสุ วิย ผสฺสเวทนาสฺาเจตนาหิ สห สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณราสิยํ คเหตพฺพตฺตา สมยววตฺถาเน วุตฺตมฺปิ จิตฺตํ ผสฺสปฺจมเก วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ฌานงฺคราสิวณฺณนา
วิตกฺกนนฺติ ¶ วิตกฺกนกิริยา, สา จ วิตกฺกสฺส อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปวตฺติมตฺตเมวาติ ภาวนิทฺเทโส วสวตฺติภาวนิวารณาย โหติ. ยสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, ตํ ตสฺส คหณโยคฺยํ กโรนฺโต วิตกฺโก อาโกเฏนฺโต วิย ปริวตฺเตนฺโต วิย จ โหตีติ ตสฺส อาโกฏนลกฺขณตา ปริยาหนนรสตา จ วุตฺตา. อิทฺจ ลกฺขณํ กิจฺจสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา วุตฺตํ. ธมฺมานฺหิ สภาววินิมุตฺตา กาจิ กิริยา นาม นตฺถิ, ตถา คเหตพฺพากาโร. โพธเนยฺยชนานุโรเธน ปน ปรมตฺถโต เอกสภาโวปิ สภาวธมฺโม ปริยายวจเนหิ วิย สมาโรปิตรูเปหิ พหูหิ ปกาเรหิ ปกาสียติ. เอวฺหิ โส สุฏฺุ ปกาสิโต โหตีติ.
วิปฺผาโร ¶ นาม วิตกฺกสฺส ถินมิทฺธปฏิปกฺโข อารมฺมเณ อโนลีนตา อสงฺโกโจ, โส ปน อภินิโรปนภาวโต จลนํ วิย โหตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘วิปฺผารวาติ วิจลนยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อุปจารปฺปนาสุ สนฺตาเนน ปวตฺติยนฺติ เอเตน ยถา อปุพฺพารมฺมเณ ปมาภินิปาตภูโต วิตกฺโก วิปฺผารวา โหติ, น ตถา เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ นิรนฺตรํ อนุปฺปพนฺธวเสน ปวตฺติยํ, นาติวิปฺผารวา ปน ตตฺถ โหติ สนฺนิสินฺนภาวโตติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘นิจฺจโล หุตฺวา’’ติอาทิ.
‘‘ปีติสุเขน อภิสนฺเทตี’’ติอาทิวจนโต (ที. นิ. ๑.๒๒๖; ม. นิ. ๑.๔๒๗) ปีติยา ผรณํ กายวิสยนฺติ ยถา ตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปณีตรูเปหี’’ติ วุตฺตํ.
วิสารสฺส พฺยคฺคภาวสฺส ปฏิปกฺโข สภาโว อวิสาโร, น วิสาราภาวมตฺตํ. อวิสาราวิกฺเขปานํ สมาธานภาวโต อตฺถโต วิเสสาภาเวปิ สมุเขน สมฺปยุตฺตมุเขน จ อุภยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิสา…เป… วิกฺเขโป’’ติ วุตฺตํ. วิเสสโตติ อติสเยนาติ วา อตฺโถ คเหตพฺโพ. สุขฺหิ สมาธิสฺส วิเสสการณํ ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต.
อินฺทฺริยราสิวณฺณนา
ตตฺถาติ ¶ สทฺทหนสงฺขาเต อธิโมกฺขลกฺขเณ. ปุคฺคโล สทฺทหตีติ อิมินาปิ สทฺธาย อาหิตวิเสสานํ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมานํ สทฺทหนกิริยาย กตฺตุภาวเมว วิภาเวติ. อวยวพฺยาปาโร หิ สมุทาเย โวหรียตีติ. น เกวลํ ปสาทนียวตฺถุสฺมึ อปฺปสาทนาการปฺปวตฺตเมว อกุสลํ อสฺสทฺธิยํ, อถ โข อปฺปสาทนียวตฺถุสฺมึ ปสาทนาการปฺปวตฺตมฺปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มิจฺฉาธิโมกฺโข’’ติ วุตฺตํ. เตน ปูรณาทีสุ ปสาทสฺส อสฺสทฺธิยตมาห. ปสาทภูโตติ เอเตน อปฺปสาทภูตํ อสฺสทฺธิยํ นิวตฺเตติ. วตฺถุคโตติ อิมินา มิจฺฉาธิโมกฺขํ. ‘‘ปสาทภูโต นิจฺฉโย’’ติ อิมินา ปน วิภาวิตเมวตฺถํ ปากฏํ กโรนฺโต ‘‘น เยวาปนกาธิโมกฺโข’’ติ อาห. อกาลุสฺสิยํ ปสาโท, ตํ ปน อสงฺโขภภาวโต ‘‘อนาวิลภาโว’’ติ วุตฺตํ. ตฺหิ สมฺปยุตฺเตสุ วิทหนฺตี สทฺธา อกาลุสฺสิยปจฺจุปฏฺานา. เอวเมตนฺติ อธิมุจฺจนากาเรน ปน คเหตพฺพตฺตา ¶ อธิมุตฺติปจฺจุปฏฺานา. พุทฺธาทิวตฺถูนีติ เอตฺถ อิธโลกปรโลกกมฺมผลสมฺพนฺธาปิ สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘สทฺธาหตฺโถ, มหานาม, อริยสาวโก’’ติ, ‘‘สทฺธีธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๔๖; สุ. นิ. ๑๘๔), ‘‘สทฺธา พีชํ ตโป วุฏฺี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๙๗; สุ. นิ. ๗๗) เอวมาทิวจนโต กุสลธมฺมานํ อาทานาทีสุ หตฺถาทโย วิย สทฺธา ทฏฺพฺพา.
‘‘อิธ ภิกฺขุนา กมฺมํ กตฺตพฺพํ โหติ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘กมฺมํ โข เม กตฺตพฺพํ ภวิสฺสติ, กมฺมํ โข ปน เม กโรนฺตสฺส น สุกรํ พุทฺธานํ สาสนํ มนสิ กาตุํ, หนฺทาหํ วีริยํ อารภามิ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย อสจฺฉิกตสฺส สจฺฉิกิริยายา’’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๕) –
อาทิกา อนุรูปปจฺจเวกฺขณา.
ตํมูลกานีติ คนฺตพฺพมคฺคาทิมูลกานิ. เอตฺถ จ มคฺโค คนฺตพฺโพ โหตีติอาทโย อฏฺกถายํ ทสฺสนวเสเนว วุตฺตา, น ปาฬิยํ อาคตานุกฺกเมนาติ ทฏฺพฺพํ.
กรณาทิกาเล วิย จิรกตาทิอารมฺมณํ วิภูตํ กตฺวา ปวตฺตนฺตี สติ ตํ อุปคนฺตฺวา ติฏฺนฺตี ¶ อนิสฺสชฺชนฺตี จ โหติ. ยํ อารมฺมณํ สมฺมุฏฺํ, ตํ ปิลวิตฺวา คตํ วิย จลิตํ วิย จ โหติ, ตปฺปฏิปกฺขภาเวน ปน อสมฺมุฏฺนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุทเก อลาพุ วิยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สารณนฺติ เอเตน ‘‘สรนฺติ ตายา’’ติ อิมเมวตฺถํ วิภาเวติ. สรณกิริยาย หิ ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ ตตฺถ อาธิปจฺจภาเวน สติ ปจฺจโย. ตสฺสา หิ ตถา ปจฺจยภาเว สติ เต ธมฺมา สาริตา อสมฺมุฏฺกตา อปิลาวิตาโหนฺตีติ. ‘‘อิเมหิ นาม เหตูหิ ปจฺจเยหิ จ เอเต ธมฺมา สมฺภวนฺตี’’ติ สมฺภวโต. ‘‘อิมํ นาม ผลํ นิพฺพตฺเตนฺตี’’ติ ผลโต ธมฺมา อุปฺปชฺชเนน วิปจฺจเนน จ นิปฺผนฺนา นาม โหนฺตีติ. วตฺถุภูตาติ อารมฺมณภูตา.
สติปิ สพฺเพสํ สารมฺมณธมฺมานํ อารมฺมณคฺคหเณ น จิตฺตํ วิย ปเร ปริจฺฉิชฺชคาหิโนติ ‘‘ปริจฺฉินฺโนปลทฺธิวเสน ชานาตี’’ติ จิตฺตํ วุตฺตํ. เจตสิเกสุ หิ เกจิ วิสยํ ปริจฺฉิชฺช คเหตุํ น สกฺโกนฺติ, เกจิ ปน ปริจฺเฉทมตฺเตเยว ¶ ติฏฺนฺติ, น วิฺาณํ วิย วิสยํ คณฺหนฺตีติ เย อาสงฺกิตพฺพา, เตสุ ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น สฺา…เป… วิชฺฌนวเสนา’’ติ อาห.
ปีติยา จ โสมนสฺสภาโว อาปชฺชตีติ อิทํ ปีติ จ โสมนสฺสฺจ ปีติโสมนสฺสนฺติ ปีติโสมนสฺสานํ ตุลฺยโยคํ สนฺธาย วุตฺตํ. โสมนสฺสสฺเสว ปน ‘‘อาชฺรโถ’’ติ วิย ปีติยุตฺตํ โสมนสฺสํ ปีติโสมนสฺสนฺติ ปธานภาโว อิจฺฉิโตติ น ปีติยา โสมนสฺสภาวปฺปตฺติ. น หิ ปธาเน วิชฺชมาเน อปฺปธานํ อุปยุชฺชติ, ปีติคฺคหณฺเจตฺถ ปีติยุตฺตสฺส โสมนสฺสสฺส เยภุยฺเยน ภาวโต ปริพฺยตฺตกิจฺจโต จ กตํ, น จ นิปฺปีติกโสมนสฺสสฺส อสงฺคโห. รุฬฺหีสทฺเทสุ กิริยาย อนจฺจนฺติกภาวโต. ปีติยา ปน อุปลกฺขณภาเวน อยมตฺโถ สุฏฺุ ยุชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปีติอุปลกฺขิตํ วา’’ติอาทิ.
ปวตฺตํ อุปาทินฺนกฺขนฺธํ. จิรฏฺิติกํ โหตีติ เอเตน น เกวลํ อนุปาเลตพฺพธมฺมานํ ขณฏฺิติยาเยว, อถ โข ปพนฺธานุปจฺเฉทสฺสปิ ชีวิตํ การณนฺติ ทสฺเสติ. อฺถา หิ อายุกฺขยมรณํ น ยุชฺเชยฺยาติ. อวิเสเสนาติ การณวิเสสานเปกฺเขน ชีวิตินฺทฺริยตาสามฺเน. ยทิปิ อรูปาสฺภเวสุ รูปารูปธมฺมา นปฺปวตฺตนฺติ, เตหิ ปน ปุริมปจฺฉิมภเวสุ จริมปมธมฺมา สมานชาติเยน อพฺยวหิตตาย นิรนฺตราเยว นาม โหนฺตีติ ‘‘ยาว ปรินิพฺพานํ อวิจฺฉินฺนํ ปวตฺตตี’’ติ วุตฺตํ. อนุปาลนาทิกสฺสาติ อนุปาลนปวตฺตนฏฺปนานิเยว ¶ วทติ. ชีวมานวิเสสปฺปจฺจยภาวโตติ สหชาตานํ ชีวมานตาวิเสสสฺส ปจฺจยภาวโต. อินฺทฺริยพทฺธสฺส หิ มตรูปโต กมฺมชสฺส จ อุตุชาทิโต วิเสโส ชีวิตินฺทฺริยกโตติ.
มคฺคงฺคราสิวณฺณนา
อวิปรีตนิยฺยานิกภาเวนาติ อิทํ สมฺมา-สทฺทสฺส ทิฏฺิ-อาทิสทฺทานฺจ สมานาธิกรณตาวเสน ทิฏฺิอาทีนํ อวิเสสภูตสฺส นิยฺยานิกภาวสฺส สมฺมา-สทฺเทน วิเสสิตพฺพตฺตา วุตฺตํ. อวิปรีตตฺโถ หิ สมฺมา-สทฺโท, น นิยฺยานิกตฺโถติ. อวิปรีตนิยฺยานิกตฺโถ เอว วา สมฺมา-สทฺโท. อเนกตฺถา หิ นิปาตาติ. เอวเมวาติ อวิปรีตนิยฺยานิกภาเวน.
พลราสิวณฺณนา
ปติสฺสโว ¶ วจนสมฺปฏิคฺคโหติ อธิปฺปาเยน ‘‘สปฺปติสฺสวํ ปติสฺสวภูตํ ตํสภาคฺจ ยํ กิฺจิ คารว’’นฺติ อาห. ตตฺถ ตตฺถ ปากฏภาเวนาติ อชฺฌตฺตภูเตสุ ชาติยาทีสุ พหิทฺธาภูเตสุ ภิกฺขุอาทีสุ หิโรตฺตปฺปานํ อนุรูปปจฺจเวกฺขณวเสน สสมฺภารปถวีอาทีสุ ปถวีธาตุอาทีนํ วิย วิภูตกิจฺจภาเวนาติ อตฺโถ.
มูลราสิวณฺณนา
เอวฺหิ อุปมาย สเมตีติ ยถา อสุจิมฺหิ ปติตปุริสสฺส สติปิ กาเยน อลฺลียเน ภาโว อนลฺลีโน, เอวํ อโลโภปิ อารมฺมณกรณวเสน คหิเตปิ อารมฺมเณ อลคฺคภาเวน อนลฺลีนภาโว อนลฺลีนากาโร เอว ปวตฺตติ. เอวํสภาโว หิ โส ธมฺโมติ. กิฺจิ ทุสฺสีลฺยํ โทสสมุฏฺานํ สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ โทสูปนิสฺสยนฺติ ‘‘โทสสมุฏฺานตํ โทสูปนิสฺสยตฺจา’’ติ วุตฺตํ. เตน อโทโส โทสสฺเสว อุชุวิปจฺจนีโก, ตํมุเขน ทุสฺสีลฺยสฺสาติ ทสฺเสติ.
ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน…เป… อาเสวนฏฺเน ภาวนาติ โย โส เอกตฺตุปคโต ¶ ปมชฺฌานาทิอปฺปนาจิตฺตุปฺปาโท อาสนฺนูปจาราหิตวิเสโส นีวรณาทิปริปนฺถวิสุทฺธิยา วิสุทฺโธ, ตทาวรณวิสยวิรเหน จ สมปฺปวตฺตอปฺปนาสมาธิสงฺขาตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปนฺโน, เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา เอว ตตฺถุปคมเนน ตตฺถ จ ปกฺขนฺโท, วิโสเธตพฺพสฺส วิกฺเขปสฺส กิเลสสํสคฺคสฺส จ อภาวโต วิโสธนสมาธานเอกตฺตุปฏฺานพฺยาปารวิรเหน วิสุทฺธิสมถปฏิปตฺติเอกตฺตุปฏฺานากาเร อชฺฌุเปกฺขนฺโต อภิพฺยตฺตรูปาย สหชาตตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหิโต, ตสฺมึเยว ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา. เต ยถา อฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, เอวํ ภาวนา พฺรูหนา. ตถา ยานิ ตตฺถ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ. ยฺจ ตตฺถ ตทุปคํ, เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหียติ ปวตฺตียติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา ปคุณพลวภาวาปตฺติสงฺขาตา อาเสวนา. สพฺเพสํ เอเตสํ อาการานํ ภาวนา อุปฺปาทนา วฑฺฒนา, อยํ ตตฺถ ชาตานํ…เป… อาเสวนฏฺเน ภาวนา นาม.
ยสฺมา ¶ ปนายํ ภาวนากาโร ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติอาทินาปิ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘) ปาฬิยํ อาคโต เอว, าเณน จ สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวํ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา นิปฺผาเทตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘เอวํ วุตฺตาย ปฺาสาธนาย ภาวนายา’’ติ วุตฺตํ. อปฺปวตฺตีติ ยสฺมึ ธมฺเม สติ ยถาวุตฺตา ภาวนา นปฺปวตฺตติ, โส ธมฺโม ปฏิปกฺขภาวนาปรามสเนน อภาวนาติ วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. น หิ อภาวมตฺตสฺส อโมโห ปฏิปกฺโขติ ยุชฺชตีติ. ตปฺปฏิปกฺขภูตา อกุสลา กามจฺฉนฺทาทโย ทฏฺพฺพา. ปมาทวิเสโส วา อภาวนา. โส หิ ‘‘กุสลานํ วา ธมฺมานํ อนาเสวนา อภาวนา อพหุลีกมฺม’’นฺติอาทินา นิทฺทิฏฺโติ.
เอกนฺเตน อลพฺภเนยฺยทสฺสนตฺถํ ‘‘ชราธมฺโม’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ปาฬิยํ ‘‘ชาติธมฺมานํ, ภิกฺขเว, สตฺตานํ เอวํ อิจฺฉา อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๗๓) อิจฺฉิตาลาโภ วิภตฺโต. อโลภานุภาเวน กายานุปสฺสนาย, อโมหานุภาเวน จิตฺตธมฺมานุปสฺสนาย สิทฺธิ ปากฏาเยวาติ อปากฏํ อโทสานุภาเวน เวทนานุปสฺสนาสิทฺธึ วิภาเวนฺโต ‘‘สุขวิปริณาเม’’ติอาทิมาห. อยฺจ โยชนา อโลภาทีนํ วิเสสปจฺจยตํ สนฺธาย กตา, อวิเสเสน ¶ ปน สพฺเพ สพฺเพสํ ปจฺจยา. สภาวโต สงฺกปฺปโต จ อุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส อสหนวเสเนว อุปฺปชฺชตีติ โทโส ตํทสฺสนสฺส อาสนฺนปฏิปกฺโข, น ราโค วิย ทูรปฏิปกฺโข.
กมฺมปถราสิวณฺณนา
อภิชฺฌาทโย วิย อนภิชฺฌาทโยปิ น เอกนฺตํ กมฺมปถภูตาเยวาติ อาห ‘‘กมฺมปถตาตํสภาคตาหี’’ติ. มโนกมฺมปถภาเวน ปวตฺตนกมฺมภาวโต หิ เอเตสํ กมฺมปถราสิภาเวน สงฺคโห, น สพฺพทา กมฺมปถาเยวาติ. เตน โย อฺโปิ ธมฺโม อนิยโต กมฺมปถภาเวน ปากโฏ จ, ตสฺสปิ กมฺมปถตาวจนํ น วิรุชฺฌตีติ ทสฺเสติ.
ปสฺสทฺธาทิยุคลวณฺณนา
สมนฺติ ¶ สมฺมา. เจติยวนฺทนาทิอตฺถนฺติ เจติยวนฺทนาทิเหตุ. สมถจตุสจฺจกมฺมฏฺานวเสน ตพฺเภทวเสน จ สพฺพกมฺมฏฺานภาวนาภิยุตฺตานํ มุทุมชฺฌิมติกฺขินฺทฺริยตาทิเภทวเสน สพฺพโยคีนํ จิตฺตสฺส ลีนุทฺธจฺจาทิกาลวเสน สพฺพทา หิตาหิตธมฺมูปลกฺขณภาวโต ยถาสภาวํ ปฏิเวธภาวโต จ สติสมฺปชฺานํ ปาริพนฺธกหรณภาวนาวฑฺฒนานิ อวิเสสโต ทฏฺพฺพานิ. ยถา อปฺปนาโกสลฺเลน วินา สมโถ สมถมนฺตเรน ยถาภูตาวโพโธ จ นตฺถีติ นานากฺขณิกา สมาธิปฺา อฺมฺสฺส วิเสสการณํ, เอวํ ปฏิเวเธ เอกกฺขณิกาปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฺมฺํ นิมิตฺตภาเวนา’’ติ. ปฺาย หิ สาติสยํ อวภาสิยมาเน วิสเย สมาธิ เอกตฺตวเสน อปฺเปตุํ สกฺโกติ, สมาธิมฺหิ จ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปนฺเน ปฺา อารมฺมเณสุ วิสทา วหตีติ. สมํ ปวตฺตาติ อฺมฺานติวตฺตเนน สมํ อวิสมํ เอกรสภาเวน ปวตฺตา. อฺมฺสหายภาวูปคมเนน โยคิโน มโนรถธุรากฑฺฒเน รถธุรากฑฺฒเน วิย อาชาเนยฺยยุโค ยุคลโก หุตฺวา อฺมฺานติวตฺตมาเนน นทฺธา พทฺธา วิยาติ วา ยุคนทฺธา. อธิจิตฺตมนุยุตฺเตหิ วีริยสมาธโย สมํ โยเชตพฺพาติ อิมสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ปุพฺเพ คหิตาปิ เต ปุน คหิตาติ ทสฺเสตุํ วีริยสมาธิโยชนตฺถายาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตํ ปน สมาธิวีริยโยคสฺส วิภาวนํ โหตีติ ‘‘โยควจนตฺถายาติ อตฺโถ’’ติ อาห.
เยวาปนกวณฺณนา
ยถา ¶ ตถา วาติ สมฺมา มิจฺฉา วา. อนธิมุจฺจนฺโตติ ‘‘อิทํ กริสฺสามิ, เอตํ กริสฺสามี’’ติ เอวํ ปวตฺตปุพฺพภาคสนฺนิฏฺานเหตุเกน ปโยคกาลสนฺนิฏฺาเนน อนิจฺฉินนฺโต. ยตฺถ หิ อนิจฺฉโย, ตตฺถ อปฺปฏิปตฺติ เอวาติ. สํสปฺปนํ สํสโย. โส หิ ‘‘อาสปฺปนา ปริสปฺปนา’’ติ วุตฺโต. อสติปิ พฺยาปาเร ตตฺรมชฺฌตฺตตาย สติ ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา สกสกกิจฺจวเสน อนูนานธิกตาย อลีนอนุทฺธตตาย จ สํวตฺตนฺตีติ สา เตสํ ตถาปวตฺติยา ปจฺจยภูตา อูนาธิกภาวํ นิวาเรติ วิยาติ อูนาธิกนิวารณรสา วุตฺตา. ตถา ปวตฺติปจฺจยตฺตาเยว เตสุ ธมฺเมสุ มชฺฌตฺตตาติ จ วุตฺตา.
ฌานปทสฺสาติ ¶ ฌานสทฺทสฺส. เตสูติ ปฺจสุ. ปฺจ หิ องฺคานิ ฌานปทสฺส อตฺโถติ อิทํ สํวณฺณิยมานตฺตาเยว อิมํ จิตฺตุปฺปาทํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ สพฺพสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท ปฺเจว ฌานงฺคานิ. ปทสมูโห วากฺยํ, ปทโกฏฺาโส วา ผสฺสปฺจมกาทิ ธมฺมราสิ. วุตฺตํ ปูริตนฺติ ฉปณฺณาสาทิตาย ปูรณวเสน. ผสฺสปจฺจยา เวทนา ‘‘ผุฏฺโ เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาตี’’ติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๔.๙๓) ผสฺโส เวทนาทีนํ ปจฺจโย. ยทิปิ ฉนฺทาทโย ยถาวุตฺตราสิกิจฺจาภาวโต เตสุ น วตฺตพฺพา, วิสุํ ราสิอนฺตรภาเวน ปน สรูปโต วตฺตพฺพาติ โจทนํ มนสิ กตฺวา ‘‘วุตฺตานมฺปี’’ติอาทิมาห.
ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กามาวจรกุสลํ
นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา
๒. สนฺเตติ สภาวโต วิชฺชมาเน. ผสฺสสฺส วิสยวิสยีนํ สนฺนิปตนากาเรน คเหตพฺพตฺตา ผุสนํ วิสเย จิตฺตสฺส สนฺนิปตนํ วุตฺตํ. ‘‘จินฺตนฏฺเน จิตฺตํ, มนนฏฺเน มโน’’ติอาทินา ¶ จิตฺตาทิสทฺทา จินฺตนาทิพฺยาปารมุเขน อตฺตโน อตฺถํ วิภาเวนฺตีติ อาห ‘‘จิตฺตํ มโนติอาทีสุ วิย กิจฺจวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา’’ติ. ยถา โลเก วิกตเมว เวกตํ, วิสโย เอว เวสยนฺติ วุจฺจติ, เอวํ มโน เอว มานสนฺติ สทฺทมตฺตวิเสโส. นีลาทิ-สทฺทา วิย วตฺถาทีสุ จิตฺเตสุ ปริสุทฺธภาวนิพนฺธนา ปณฺฑรสทฺทสฺส ปวตฺตีติ ตสฺส คุณวิเสสาเปกฺขตา วุตฺตา. ยถา กายิกํ สาตนฺติ เอตฺถ กายปฺปสาทนิสฺสิตนฺติ อตฺโถ, เอวํ เจตสิกํ สาตนฺติ เอตฺถ เจโตนิสฺสิตํ สาตนฺติ นิสฺสยวิเสสาเปกฺขตา วุตฺตา. เอกกฺขณิกา นานากฺขณิกา จ จิตฺตสฺส ิติ นาม, ตสฺส อวตฺถาวิเสโสติ อวตฺถาวิเสสาเปกฺโข จิตฺตสฺส ิตีติ เอวํปกาโร นิทฺเทโส. ‘‘น ลุพฺภตี’’ติ วุตฺตสฺส จิตฺตสฺส, ปุคฺคลสฺส วา ปวตฺติอาการภาเวน อลุพฺภนาติ อโลโภ วุตฺโตติ อฺสฺส กิริยาภาววิเสสาเปกฺโข อลุพฺภนาติ นิทฺเทโส. วุตฺตนเยเนว อลุพฺภิตสฺส ภาโว อลุพฺภิตตฺตนฺติ อยํ นิทฺเทโส อฺสฺส ภาวภูตตาวิเสสาเปกฺโข วุตฺโต. กตฺตุกรณภาวาทโย สภาวธมฺมานํ อชฺฌาโรปนวเสเนว สิชฺฌนฺติ ¶ , ภาวนิทฺเทโส ปน อชฺฌาโรปนานเปกฺโข, ตโตเยว จ วิเสสนฺตรวินิมุตฺโต วินิวตฺโต วิเสสโต นิชฺชีวภาวคิภาวโต สภาวนิทฺเทโส นาม โหตีติ ผสฺโสติ อิทํ ผุสนฏฺเน ‘‘ธมฺมมตฺตทีปนํ สภาวปท’’นฺติ วุตฺตํ. อารมฺมณํ ผุสนฺตสฺส จิตฺตสฺส ปวตฺติอากาโร ผุสนพฺยาปาโร โหตีติ ‘‘ผุสนกิริยา ผุสนากาโร’’ติ วุตฺตํ. สมฺผุสนาติ สํ-สทฺโท ‘‘สมุทโย’’ติอาทีสุ วิย สมาคมตฺถทีปโกติ อาห ‘‘สมาคมผุสนา’’ติ. ‘‘ผุสามิ เนกฺขมฺมสุข’’นฺติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๗๒) ปฏิลาโภปิ ผุสนา สมฺผุสนาติ จ วุจฺจตีติ อาห ‘‘น ปฏิลาภสมฺผุสนา’’ติ.
อปเรน เววจเนน. พหุสฺสุตภาวสมฺปาทิกาย ปฺาย ปณฺฑิจฺจปริยาโย. สิปฺปายตนาทีสุ ทกฺขตาภูตาย โกสลฺลปริยาโย, ยตฺถ กตฺถจิ ติกฺขสุขุมาย เนปฺุปริยาโย, สมฺมา ธมฺเม ปฺเปนฺติยา เวภพฺยาปริยาโยติ เอวมาทินา เตสุ เตสุ ปฺาวิเสเสสุ เต เต ปริยายวิเสสา วิเสเสน ปวตฺตาติ เตสํ ปฺาวิเสสานํ นานากาเล ลพฺภมานตา วุตฺตา, อิตเรปิ อนุคตา โหนฺติ เยภุยฺเยนาติ อธิปฺปาโย. อตฺถนานตฺเตน ปฺาทิอตฺถวิเสเสน. โกโธ กุชฺฌนา กุชฺฌิตตฺตนฺติ เอวํปการา นิทฺเทสา สภาวาการภาวทีปนวเสน พฺยฺชนวเสเนว วิภาควจนํ. ปณฺฑิจฺจนฺติอาทโย ปฺาวิเสสนิพนฺธนตฺตา อตฺถวเสน วิภาควจนนฺติ อิมมตฺถมาห ‘‘อถ วา’’ติอาทินา. เอวมากาโร ปนาติ ปุริมาการโต วิเสโส อตฺถโต วิภตฺติคมนสฺส การณํ วุตฺตํ.
ปฏิกฺขิปนํ ¶ ปฏิเสธนํ ปฏิกฺเขโป, ตสฺส นานตฺตํ วิเสโส ปฏิกฺเขปนานตฺตํ, สทฺธมฺมครุตาย ปฏิกฺเขโป สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขโป, เตน สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขเปน นานตฺตํ สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺตํ. ตํ สทฺธมฺมครุตาปฏิกฺเขปนานตฺตํ ปน โกธครุตาทิเภทภินฺนนฺติ ‘‘โกธครุตาทิวิสิฏฺเนา’’ติ วุตฺตํ. โกธาทีหิ วิสิฏฺโ ภินฺโน สทฺธมฺมครุตาย ปฏิกฺเขโป ปฏิเสธนํ โกธาทิวิสิฏฺปฏิกฺเขโป. โกธครุตาทิเยว, ตสฺส นานตฺเตน สทฺธมฺมครุตาปฏิปกฺขนานตฺเตนาติ โกธครุตา สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโข. มกฺขลาภสกฺการครุตา สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโขติ สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺขภาววิเสเสน อสทฺธมฺมครุตา ตพฺภาเวน ¶ เอกีภูตาปิ นานตฺตํ คตา. ยสฺมา ปน โกโธ อตฺถโต โทโสเยว. มกฺโข โทสปฺปธานา ปรคุณวิทฺธํสนาการปฺปวตฺตา อกุสลา ขนฺธา. ตคฺครุตา จ เตสํ สาทรอภิสงฺขรณวเสน ปวตฺตนเมว. ลาภครุตา จตุนฺนํ ปจฺจยานํ สกฺการครุตา, เตสํเยว สุสงฺขตานํ ลทฺธกามตา. ตทุภเยสุ จ อาทรกิริยา ตถาปวตฺตา อิจฺฉาเยว, ตสฺมา ‘‘สทฺธมฺมครุตาปฏิปกฺขนานตฺเตน อสทฺธมฺมา นานตฺตํ คตา’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ จตฺตาโร อสทฺธมฺมา อิจฺเจว อุทฺทิฏฺา. อสทฺธมฺมครุตาติ เอตฺถ จ ปุริมสฺมึ วิกปฺเป ‘‘น สทฺธมฺมครุตา’’ติ สทฺธมฺมครุตา น โหตีติ อตฺโถ. ทุติยสฺมึ สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโขติ สทฺธมฺมครุตา เอว วา ปฏิปกฺโข, ตสฺส นานตฺเตน สทฺธมฺมครุตาปฏิปกฺขนานตฺเตนาติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. โกธมกฺขครุตานฺหิ สทฺธมฺมวิเสสา ปวตฺติเภทภินฺนา เมตฺตา ปฏิปกฺโข. ลาภสกฺการครุตานํ อปฺปิจฺฉตา สนฺโตสา. เตน โกธครุตา น สทฺธมฺมครุตาติ โกธครุตา กายจิ สทฺธมฺมครุตาย ปฏิปกฺโขติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. ตถา มกฺขครุตาทีสุปิ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘จตฺตาโร สทฺธมฺมา สทฺธมฺมครุตา น โกธครุตา…เป… สทฺธมฺมครุตา น สกฺการครุตา’’ติ (อ. นิ. ๔.๔๔) อาคตตนฺติปิ สมตฺถิตา ภวติ. โลโภ น โหตีติ อโลโภ ลุพฺภนา น โหตีติ อลุพฺภนาติ เอวมาทิโก อโลโภติอาทีนํ โลภาทิวิสิฏฺโ ปฏิกฺเขโป ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติอาทิเกหิ วิสทิสภาวโต ‘‘ผสฺสาทีหิ นานตฺต’’นฺติ วุตฺโต. ผสฺสาทีหีติ เจตฺถ อลุพฺภนาทโยปิ อาทิ-สทฺเทน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. โลภาทิปฏิปกฺเขนาติ ‘‘โลภปฏิปกฺโข อโลโภ’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ. เสสํ ปุริมสทิสเมว. อโลภาโทสาโมหานํ วิธุรตาย ปฏิปกฺขภาเวน จ ลพฺภมาโน อฺมฺวิสทิโส โลภาทิวิสิฏฺปฏิกฺเขปภาเวน โลภาทิปฏิปกฺขภาเวน จ วิฺายตีติ อาห ‘‘อโลภา…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ. พหูหิ ปกาเรหิ ทีเปตพฺพตฺถตา มหตฺถตา. อาทรวเสน โสตูนํ.
๓. ยทิปิ ¶ เอกสฺมึ ขเณ เอกํเยว อารมฺมณํ โหติ, ฉสุปิ ปน อารมฺมเณสุ อุปฺปตฺติรหตฺตา ‘‘เตหิ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสาติ สาตสฺส สุขสฺส. ชาตาติ เอตสฺส อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘การณภาเวน ผสฺสตฺถํ ปวตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา เจตสิกสาตสงฺขาตา โสมนสฺสเวทนา ¶ สเหว อุปฺปชฺชติ, เอวํ ตทนุรูปผสฺสสหิตา หุตฺวา ปวตฺตา ตชฺชาติ วุตฺตา. สาทยตีติ อธิคมาสีสาย อนฺนินฺนํ กโรติ.
๕. น ตสฺสา ตชฺชตาติ ตสฺสา มโนวิฺาณธาตุยา ตสฺสารุปฺปา ‘‘ตสฺส ชาตา’’ติ วา อุภยถาปิ ตชฺชตา น ยุชฺชติ. ยทิปิ ผสฺโส วิฺาณสฺส วิเสสปจฺจโย น โหติ, ตถาปิ โส ตสฺส ปจฺจโย โหติเยวาติ ตสฺส ตชฺชามโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชตา วตฺตพฺพาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘น จ ตเทวา’’ติอาทิ. เตหิ อารมฺมเณหิ ชาตา ตชฺชาติ อิมินาปิ อตฺเถน ตชฺชา มโนวิฺาณธาตุสมฺผสฺสชาติ วตฺตุํ น สกฺกา. วิฺาณสฺส ปน ตชฺชตาปฺตฺติ ลพฺภเตว. ตถา หิ ‘‘กึ วา เอเตนา’’ติอาทินา ผสฺสาทีนํ ตถา เทเสตพฺพตํ อาห.
๗. จิตฺตสฺส อารมฺมเณ อานยนาการปฺปวตฺโต วิตกฺโก อตฺถโต อารมฺมณํ ตตฺถ อากฑฺฒนฺโต วิย โหตีติ ‘‘อารมฺมณสฺส อากฑฺฒนํ วิตกฺกน’’นฺติ วุตฺตํ.
๘. อารมฺมณสฺส อนุมชฺชนาการปฺปวตฺโต วิจาโร ตตฺถ ปริพฺภมนฺโต วิย สมนฺตโต จรนฺโต วิย จ โหตีติ ‘‘สมนฺตโต จรณํ วิจรณ’’นฺติ วุตฺตํ.
๑๑. ตถา อวฏฺานมตฺตภาวโตติ ปาณวธาทิสาธนอวฏฺานมตฺตภาวโต, น พลวภาวโตติ อธิปฺปาโย.
๑๔. เยน ธมฺเมน จิตฺเต อารมฺมณํ อุปติฏฺติ โชตติ จ, โส ธมฺโม อุปฏฺานํ โชตนนฺติ จ วุตฺโตติ อาห ‘‘อุปฏฺานํ โชตนฺจ สติเยวา’’ติ.
๓๓. น ¶ พฺยาปาเทตพฺโพติ อพฺยาปชฺช-สทฺทสฺส กมฺมตฺถตํ อาห.
๔๒-๔๓. ยทิ อนวชฺชธมฺมานํ สีฆสีฆปริวตฺตนสมตฺถตา ลหุตา, สาวชฺชธมฺมานํ กถนฺติ อาห ‘‘อวิชฺชานีวรณาน’’นฺติอาทิ. เตสํ ภาโว ¶ ครุตาติ เอเตน สติปิ สพฺเพสํ อรูปธมฺมานํ สมานขณตฺเต โมหสมฺปยุตฺตานํ สาติสโย ทนฺโธ ปวตฺติอากาโรติ ทสฺเสติ. โส ปน เตสํ ทนฺธากาโร สนฺตาเน ปากโฏ โหติ.
๕๐-๕๑. ปจฺโจสกฺกนํ มายา ยา อจฺจสราติปิ วุจฺจติ. อรุมกฺขนํ วณาเลปนํ. เวฬุ เอว ทาตพฺพภาเวน ปริคฺคหิโต เวฬุทานํ นาม.
นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โกฏฺาสวารกถาวณฺณนา
๕๘-๑๒๐. เตติ ผสฺสปฺจมกาทโย. สงฺคหคมเนเนวาติ สาธารณตาทินา เกนจิ สทิสตาเลเสน, น ผสฺสาทโย วิย วิสุํ ธมฺมภาเวเนวาติ อตฺโถ. ตถา อวิปฺปกิณฺณตฺตาติ ผสฺสาทโย วิย สรูเปน วิสุํ วิสุํ อวุตฺตตฺตา. ยทิปิ ฉนฺทาทโย สงฺคหสฺุตวาเรสุปิ สรูเปน น วุตฺตา, ขนฺธายตนธาตุราสีสุ ปน สงฺคหิตาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิมาห. ตํนิทฺเทเสติ สงฺขารกฺขนฺธนิทฺเทเส. ขนฺธานํ ธาตายตนภาเว พฺยภิจาราภาวโต อขนฺธภาวนิวารเณน อนายตนาธาตุภาวนิวารณมฺปิ ทฏฺพฺพํ. น เยวาปนกา เปตพฺพาติ ขนฺธาทิราสิอนฺโตคธตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุทฺเทสาทีสุ ปน ‘‘เยวาปนาตฺเวว วุตฺตานํ เตสํ ตถาเยว สงฺคโห ยุตฺโต’’ติ อฏฺกถายํ ‘‘เปตฺวา เยวาปนเก’’ติ วุตฺตํ. สรูเปน อวุตฺตานมฺปิ จิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนานํ ¶ ขนฺธาทิภาโว น วาเรตพฺโพติ น เยวาปนกา เปตพฺพาติ วุตฺตนฺติ อุภเยสมฺปิ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
อาหารปจฺจยสงฺขาเตนาติ อุปตฺถมฺภกปจฺจยสงฺขาเตน. โส จ อาหารานํ อุปตฺถมฺภกภาโว ปากโฏติ กตฺวา วุตฺโต, น ชนกตฺตาภาวโต. โอชฏฺมกรูปสฺส หิ เวทนาทีนฺจ อาหารณโต เตสํ ชนกตฺตํ ลพฺภตีติ. ยทิ อุปตฺถมฺภโก อิธ ปจฺจโยติ อธิปฺเปโต, กพฬีการาหารสฺส ตาว โหตุ, อิตเรสํ กถนฺติ อาห ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ ¶ . สหชาตาทิปจฺจเยติ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเย วทติ, มหาจตุกฺกํ วา, เอเกนากาเรนาติ รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกภาวมาห. โส เอว จ เนสํ อาหรณกิจฺจํ. ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ วจนโต เจตนาย วิฺาณสฺส ปจฺจยภาโว สาติสโยติ อาห ‘‘วิฺาณํ วิเสเสนา’’ติ.
ยถาคตมคฺโคติ วุตฺโต การณผลานํ อเภทูปจาเรนาติ ทฏฺพฺพํ, นานากฺขณิโก อฏฺงฺคิกมคฺโค อุปนิสฺสโย เอตสฺสาติ อฏฺงฺคิกมคฺคูปนิสฺสโย. อริยมคฺคสฺส ยถาคตมคฺคปริยาโย วุจฺจมาโน ตสฺส ยา ปุริมกาลภูตา อเภโทปจารสิทฺธา อาคมนาวตฺถา ตโต นาติวิลกฺขณาติ อิมมตฺถํ วิภาเวตีติ อาห ‘‘ปุพฺพภาค…เป… ทีปิตา’’ติ. วิฺาณสฺส จิตฺตวิจิตฺตตา วิชานนภาววิเสสา เอวาติ อาห ‘‘วิชานนเมว จิตฺตวิจิตฺตตา’’ติ. เวทนากฺขนฺธาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ทฺวายตนานิ โหนฺตี’’ติอาทีสุ วุตฺตมนายตนาทโยปิ สงฺคณฺหาติ. ตปฺปฏิกฺเขโปติ ตสฺส ชาตินิทฺเทสภาวสฺส ปฏิกฺเขโป. กโต โหตีติ เอเตน อาหารินฺทฺริยฌานมคฺคผลเหตุโย ยตฺตกา อิมสฺมึ จิตฺเต ลพฺภนฺติ, เต สพฺเพปิ ‘‘เอโก วิฺาณาหาโร โหตี’’ติอาทินา อวุตฺตาปิ อตฺถโต วุตฺตาเยวาติ ทสฺเสติ. เอส นโย อฺตฺถาปิ.
โกฏฺาสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
สฺุตวาราทิวณฺณนา
๑๒๑-๑๔๕. ยถาวุตฺเต ¶ สมเยติ วุตฺตปฺปการสมูเห.
๑๕๖-๑๕๙. นาติสมาหิตายาติ นานาวชฺชนูปจารํ สนฺธาย วทติ. เยวาปนเกหิปิ นิพฺพิเสสตํ ทสฺเสติ กรุณามุทิตานมฺปิ อุปฺปชฺชนโต.
กายวจีกิริยา กายวจีปวตฺติ, วิฺตฺติ เอว วา. อสมตฺตภาวนนฺติ ปุพฺพภาคภาวนมาห.
กามาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรกุสลํ
จตุกฺกนโย
ปมชฺฌานกถาวณฺณนา
๑๖๐. อุตฺตรปทโลปํ ¶ กตฺวา ‘‘รูปภโว รูป’’นฺติ วุตฺโต, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสติ (ม. นิ. ๒.๒๔๘; ๓.๓๑๒; ธ. ส. ๒๔๘; ปฏิ. ม. ๑.๒๐๙), รูปราโค’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๓๖๓) วิยาติ ทฏฺพฺพํ. ปโยคสมฺปาทิตสฺส รูปชฺฌานสฺส รูปภวาติกฺกมสฺสปิ อุปายภาวโต ยถา รูปูปปตฺติยา เอว มคฺโคติ อยํ นิยโม น ยุชฺชติ, เอวํ ปจฺจยนฺตรวิกลตาทีหิ รูปูปปตฺติยา อนภินิปฺผาทกสฺสปิ อตฺถิภาวโต รูปูปปตฺติยา มคฺโค เอวาติ อยมฺปิ นิยโม น ยุชฺชติ. เอวฺจ สติ ยเทว รูปูปปตฺติยา นิปฺผาทกํ, ตสฺเสว สมฺปยุตฺตสฺส รูปาวจรกุสลภาโว, น อนภินิปฺผาทกสฺสาติ อยมตฺโถ อาปนฺโนติ โจทนํ สมุฏฺาเปติ ¶ น สพฺพสฺส กุสลชฺฌานสฺสาติอาทินา. ตตฺถ สามฺสทฺโทปิ อธิการวเสน วิเสสนิทฺทิฏฺโ โหตีติ ‘‘กุสลชฺฌานสฺส มคฺคภาโว’’ติ วุตฺตํ.
รูปูปปตฺติชนกสภาโว รูปภววิปจฺจนสภาโวติ ตสฺสปิ วิปากธมฺมภาเว สติปิ สพฺพกุสลากุสลสาธารณํ วิปากธมฺมภาวสามฺํ ‘‘วิปากธมฺมภาโว วิยา’’ติ อุทาหรณภาเวน วุตฺตํ. สามฺมฺปิ หิ วิเสสโต ภินฺนํ กตฺวา โวหรียตีติ. สพฺพสมาโนติ รูปูปปตฺติยา นิปฺผาทกสฺส ปจฺจยนฺตรวิกลตาทีหิ อนิปฺผาทกสฺส จ สพฺพสฺส ยถาธิคตสฺส ฌานสฺส สาธารโณ. เอเตน อุตฺตรปทาวธารณสฺส ปริคฺคหิตตํ ทสฺเสติ. ‘‘อิโต อฺโ มคฺโค นาม นตฺถี’’ติ อิมินาปิ สชาติยา สาธารโณ อฺชาติวินิวตฺติยา อนฺสาธารโณ อิมสฺส ฌานสฺส รูปูปปตฺติยา อุปายภาโว วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. อิตเร ทฺเว สทฺธา หิรี จ. ยทิ ปฏิปทาย สาเธตพฺพโต ปุคฺคลปุพฺพงฺคมาย เทสนาย ภาเวนฺเตน สมยววตฺถานํ กตํ. ปฏิปทารหิเตสุ กถนฺติ อาห ‘‘เกสฺจี’’ติอาทิ. ตตฺถ เกสฺจีติ สมถภาวนาย กตาธิการานํ. เตสฺหิ มคฺคาธิคมนโต ปุพฺเพ อนธิคตชฺฌานานํ ปฏิสมฺภิทาทโย วิย มคฺคาธิคเมเนว ตานิ สมิชฺฌนฺติ.
อฺานีติ อริยมคฺคสิทฺธิโต อฺานิ. เตสุปีติ อริยมคฺเคน สิทฺธตฺตา ปฏิปทารหิเตสุปิ. นนุ จ อริยมคฺคสิทฺธสฺสปิ อาคมนวเสน ปฏิปทา อุปลพฺภติเยว. อิตรถา ‘‘น กามาวจรํ วิย วินา ปฏิปทาย อุปฺปชฺชตี’’ติ ¶ , ‘‘พหุตรํ โลกิยชฺฌานมฺปิ น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌตี’’ติ จ วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ? น, เยภุยฺเยน คหณโต ปุคฺคลวิเสสาเปกฺขตฺตา จ. อริยมคฺคสมิชฺฌนกฺหิ ฌานํ กสฺสจิเทว โหติ, ตสฺมา อิตรํ พหุตรํ โลกิยชฺฌานํ ปุถุชฺชนสฺส อริยสฺส จ อกตาธิการสฺส น วินา ปฏิปทาย สิชฺฌตีติ เตสํ วเสน วุตฺตํ. อริยมคฺคสิทฺธสฺสปิ ฌานสฺส วิปากานํ วิย กุสเลน อริยมคฺเคน สทิสตฺตาภาวโต อตพฺพิปากตฺตา จ น มคฺคาคมนวเสน ปฏิปทา ยุชฺชติ, เอวมสฺส ปฏิปทาวิรโห สิทฺโธ. เอวฺจ กตฺวา สุทฺธิกนวกเทสนาปิ สุฏฺุ นีตา โหติ. ตถา จ วกฺขติ โลกุตฺตรกถายํ ‘‘โลกิยชฺฌานมฺปี’’ติอาทิ (ธ. ส. มูลฏี. ๒๗๗).
วฏฺฏาสยสฺส วิเสสปจฺจยภูตาย ตณฺหาย ตนุกรณวเสน วิวฏฺฏาสยสฺส วฑฺฒนนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน อาสยโปสน’’นฺติ. อาสยโปสนนฺติ จ ฌานภาวนาย ปจฺจยภูตา ปุพฺพโยคาทิวเสน ¶ สิทฺธา อชฺฌาสยสมฺปทา. สา ปน ตณฺหุปตาปวิคเมน โหตีติ อาห ‘‘ตณฺหาสํกิเลสโสธเนนา’’ติ.
ถินมิทฺธาทีนนฺติ ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉานํ. ปหานนฺติ ปหายกํ.
ตํสทิเสสูติ มหคฺคตภาวาทินา ปมชฺฌานสมาธิสทิเสสุ.
ปีติสุขวนฺตํ ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุตฺตํ ยถา อริสโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปีติสุข…เป… อกาโร วุตฺโต’’ติ อาห. มคฺคสฺสปิ วา นิพฺพานารมฺมณโต ตถลกฺขณูปนิชฺฌานตา โยเชตพฺพา. อสมฺโมสธมฺมนฺติ อวินาสภาวํ.
ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา
๑๖๑-๑๖๒. ทิฏฺาทีนวสฺส ตํตํฌานกฺขเณ อนุปฺปชฺชนธมฺมตาปาทนํ วูปสมนํ วิรชฺชนํ ปหานฺจาติ อิธาธิปฺเปตวิตกฺกาทโยเยว ฌานงฺคภูตา ตถา กรียนฺติ, น ตํสมฺปยุตฺตผสฺสาทโยติ วิตกฺกาทีนํเยว วูปสมาทิวจนํ ายาคตํ. ยสฺมา ปน วิตกฺกาทโย วิย ตํสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ เอเตน เอตํ โอฬาริกนฺติ ทิฏฺาทีนวา เอว, ตสฺมา อวิเสเสน วิตกฺกาทีนํ ตํสหชาตานฺจ วูปสมาทิเก วตฺตพฺเพ วิตกฺกวิจาราทีนํเยว วูปสมาทิกํ วุจฺจมานํ ‘‘อธิกวจนมฺมตฺถํ โพเธตี’’ติ กิฺจิ วิเสสํ ทีเปตีติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยหิ วิตกฺกวิจาเรหี’’ติอาทิมาห. วิสุํ ¶ วิสุํ ิตานิปิ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนาทีนิ ปเหยฺยงฺคนิทฺเทสตาสามฺเน จิตฺเตน สมูหโต คเหตฺวา อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณํ กตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เตสํ…เป… ตํ ทีปกนฺติ วุตฺต’’นฺติ อาห. อิทานิ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณํ วินา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน ปีติวิราคาทิวจนานํ สวิสเย สมานพฺยาปารตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา’’ติอาทิมาห.
ตสฺมึ ทสฺสิเตติ ‘‘ยา สทฺธา สทฺทหนา’’ติอาทินา ฌานวิภงฺเค สมฺปสาทเน ทสฺสิเต. สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนวาติ ตตฺเถว วิภงฺเค อุทฺเทสปทุทฺธาราทีสุ สทฺธาฌานานํ ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ เอกาธิกรณตาวจเนเนว.
โอฬาริกงฺคมุเขน ¶ ‘‘ตทนุธมฺมตา สตี’’ติ วุตฺตาย ตํตํฌานนิกนฺติยา วิกฺขมฺภนํ วิตกฺกวิจารวูปสมวจนาทีหิ ปกาสิตนฺติ อาห ‘‘ตณฺหาปฺปหานํ เอเตสํ วูปสมน’’นฺติ (วิภ. ๗๙๙). ยโต วิตกฺกวิจาเรสุ วิรตฺตภาวทีปกํ วิตกฺกวิจารวูปสมวจนนฺติ ตทุภยาภาวทีปนํ ปุน กตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เย จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา
๑๖๓. วีริยํ อุเปกฺขาติ วุตฺตํ ‘‘ปคฺคหนิคฺคเหสุ พฺยาปารากรเณน อุเปกฺขิยตี’’ติ. คหเณ มชฺฌตฺตภาเวน สงฺขาเร อุเปกฺขตีติ สงฺขารุเปกฺขา, ตถาปวตฺตา วิปสฺสนา ปฺา. ตสฺสา ปน วิสยโต ปเภโท ‘‘อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) ยสฺสํ ปาฬิยํ วุตฺโต, ตํ ปาฬิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อุปฺปาทนฺติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺตึ. ปวตฺตนฺติ ตถา อุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตึ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารคตํ นิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. อายูหนนฺติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธินฺติ อายตึ อุปปตฺตึ. คตินฺติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตินฺติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตินฺติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ เอวํ วุตฺตํ วิปากปฺปวตฺตึ. ชาตินฺติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตํ ภวปจฺจยา ชาตึ. ชรามรณาทโย ปากฏา เอว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส วิสยวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. ‘‘นิพฺพตฺติ ¶ ชาตี’’ติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ. ‘‘คติ อุปปตฺติ จา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส. ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ.
ภูตสฺสาติ ขนฺธปฺจกสฺส. เอเตหีติ ฌานจิตฺตสมุฏฺิตรูเปหิ.
จตุกฺกนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺจกนยวณฺณนา
๑๖๗. อาการเภทนฺติ อาการวิเสสํ. อเนกาการา หิ ธมฺมา, เต จ นิรวเสสํ ¶ ยาถาวโต ภควตา อภิสมฺพุทฺธา. ยถาห – ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพากาเรน พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ๓.๕). ทุติยชฺฌานปกฺขิกํ น ปมชฺฌานปกฺขิกนฺติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘ปมชฺฌานเมว หี’’ติอาทิ. อตฺถโต หิ จตุกฺกปฺจกนยา อฺมฺานุปฺปเวสิโน. ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานํ กึ สวิจารตาย ปมชฺฌานปกฺขิกํ อุทาหุ อวิตกฺกตาย ทุติยชฺฌานปกฺขิกนฺติ สิยา อาสงฺกาติ ตทาสงฺกานิวตฺตนตฺถมิทํ วุตฺตํ. กสฺมาติอาทินา ตตฺถ การณมาห. สุตฺตนฺตเทสนาสุ จ ทุติยชฺฌานเมว ภชนฺตีติ สมฺพนฺโธ. จ-สทฺเทน น เกวลํ อิเธว, อถ โข สุตฺตนฺตเทสนาสุปีติ เทสนนฺตเรปิ ยถาวุตฺตชฺฌานสฺส ปมชฺฌานปกฺขิกตฺตาภาวํ ทสฺเสติ. อิทานิ ภชนมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺกวูปสมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน สุตฺตนฺเตปิ ปฺจกนยสฺส ลพฺภมานตํ ทสฺเสติ.
นนุ จ สุตฺตนฺเต จตฺตาริเยว ฌานานิ วิภตฺตานีติ ปฺจกนโย นตฺถิเยวาติ? น, ‘‘สวิตกฺกสวิจาโร สมาธี’’ติอาทินา สมาธิตฺตยาปเทเสน ปฺจกนยสฺส ลพฺภมานตฺตา. จตุกฺกนยนิสฺสิโต ปน กตฺวา ปฺจกนโย วิภตฺโตติ ตตฺถาปิ ปฺจกนโย นิทฺธาเรตพฺโพ. วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ หิ วิตกฺกสฺส วิจารสฺส วิตกฺกวิจารานฺจ วิตกฺกวิจารานนฺติ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา อวิตกฺกอวิจารานนฺติ จ วินา สห จ วิจาเรน วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกํ สห วินา จ วิตกฺเกน วิจารปฺปหาเนน อวิจารนฺติ อวิตกฺกํ อวิจารํ อวิตกฺกอวิจารฺจาติ วา ติวิธมฺปิ สกฺกา สงฺคณฺหิตุํ.
ทุติยนฺติ ¶ จ วิตกฺกรหิเต วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต จ ายาคตา เทสนา. ทุติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา วิจารมตฺตรหิเตปิ ทฺวยปฺปหานาธิคตสมานธมฺมตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ปฺจกนยนิทฺเทเส ทุติเย วูปสนฺโตปิ วิตกฺโก ตํสหายวิจาราวูปสเมน น สมฺมาวูปสนฺโตติ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต วิย วิจารวูปสเมเนว ตทุปสมํ เสสธมฺมสมานตฺจ ทสฺเสนฺเตน ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ ตติยํ จตุกฺกนเย ทุติเยน นิพฺพิเสสํ วิภตฺตํ. ทุวิธสฺสปิ สหายวิรเหน อฺถา จ วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขตฺตฺจ สมานนฺติ สมานธมฺมตฺตาปิ ทุติยนฺติ นิทฺเทโส. วิจารมตฺตมฺปิ หิ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิตํ วิย ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ ¶ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ อวิตกฺกํ สมาธิชํ ปีติสุขนฺติ วิภตฺตํ. ปมชฺฌาเน วา สหจารีสุ วิตกฺกวิจาเรสุ เอกํ อติกฺกมิตฺวา ทุติยมฺปิ ตตฺรฏฺเมว โทสโต ทิสฺวา อุภยมฺปิ สหาติกฺกมนฺตสฺส ปฺจกนเย ตติยํ วุตฺตํ ตติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา. ปมโต อนนฺตรภาเวน ปนสฺส ทุติยภาโว จ อุปฺปชฺชติ. กสฺมา ปเนตฺถ สรูปโต ปฺจกนโย น วิภตฺโตติ? วิเนยฺยชฺฌาสยโต. ยถานุโลมเทสนา หิ สุตฺตนฺตเทสนาติ.
ปฏิปทาจตุกฺกาทิวณฺณนา
๑๗๖-๑๘๐. ตทนุรูปตาติ ตสฺส ปมาทิชฺฌานสฺส อนุรูปสภาวา. ยถาลทฺธชฺฌานํ สนฺตโต ปณีตโต ทิสฺวา อสฺสาทยมานา นิกนฺติ ตํสมฺปยุตฺตา ขนฺธา วา ตทารกฺขภูตา สติเยว วา ตสฺส ฌานสฺส อนุจฺฉวิกตาย ‘‘ตทนุธมฺมตา สตี’’ติ วุตฺตาติ. กทาจีติ ยทา ปมํ อธิคนฺตฺวา ยถานิสินฺโนเยว วินา ปโยคนฺตรํ ทุติยาทีนิ อธิคจฺฉติ, อีทิเส กาเลติ อตฺโถ.
๑๘๖. กุสลชฺฌานสฺส อธิคตตฺตา ‘‘เสกฺขา’’ติ วุตฺตํ. น หิ เต อุปฺปาเทนฺติ นามาติ อริยมคฺคกฺขเณ รูปาวจรชฺฌานานํ อนุปฺปชฺชมานตํ สนฺธายาห.
กสิณกถาวณฺณนา
๒๐๓. อารุปฺปปาทกตา ¶ จ ทสฺสิตา วินา อภาวโต. น หิ เตสํ อารุปฺปปาทกตาย วินา นิโรธปาทกตา อตฺถีติ. นิมฺมินิตุํ อิจฺฉิตสฺส วตฺถุโน นิมฺมานวเสน ขิปฺปํ นิสนฺติ นิสามนํ อาโลจนํ อธิคโม เอตสฺสาติ ขิปฺปนิสนฺติ. ตพฺภาโว ‘‘ขิปฺปนิสนฺติภาโว’’ติ อาห ‘‘ขิปฺปทสฺสนํ ขิปฺปาภิฺตา’’ติ.
กสิณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อภิภายตนกถาวณฺณนา
๒๐๔. ปฏิภาคนิมิตฺตภูตํ ¶ กสิณารมฺมณสงฺขาตํ อายตนํ การณํ เอตสฺสาติ กสิณายตนํ, ฌานํ. อถ วา อารมฺมณสฺส อนวเสสผรณฏฺเน กสิณฺจ ตํ อายตนฺจ โยคิโน สุขวิเสสานํ อธิฏฺานภาวโต มนายตนธมฺมายตนภาวโต จาติ สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ กสิณายตนํ. เตเนวาห ‘‘สติปิ อภิภายตนานํ กสิณายตนตฺเต’’ติ. ภาวนาย นิมิตฺตํ ภาวนานิมิตฺตํ, อารมฺมณสฺส ปริตฺตปฺปมาณตา สุวิสุทฺธนีลาทิตา จ, ตเทว นานตฺตํ. ภาวนา เอว วา ปุพฺพภาคภูตา ภาวนานิมิตฺตํ, ตสฺส นานตฺตํ ภาวนานิมิตฺตนานตฺตํ. ปุพฺพภาคภาวนา หิ ยถาวุตฺตวิเสเส อารมฺมเณ ปวตฺติอาการวิเสสโต นานาสภาวาติ. กสิณนิมิตฺตสฺส อภิภวนกภาวนานิมิตฺตนานตฺตํ กสิณ…เป… นานตฺตํ, ตโตติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺถ จ ปุริมานิ จตฺตาริ อภิภายตนานิ ภูตกสิณารมฺมณานิ, ภูตกสิเณสุ จ ยํ สุวณฺณํ ทุพฺพณฺณนฺติ จ น สกฺกา วตฺตุํ. ตตฺถ ปวตฺติตานิ สพฺพตฺถ วา วณฺณาโภครหิเตน ปวตฺติตานิ ปมตติยาภิภายตนานีติ ทุติยจตุตฺถานิ วณฺณกสิณารมฺมณานิ. ยทิ เอวํ ทุติยจตุตฺเถหิ ปฺจมาทีนํ โก วิเสโสติ ‘‘ปฺจมาทีนิ วณฺณโต รมณียตรานิ, น ตถา อิตรานี’’ติ วทนฺติ. ปุริมานิปิ จตฺตาริ อฏฺ กสิณารมฺมณาเนว, ตสฺมา ตํ เนสํ มติมตฺตํ ‘‘อฏฺสุ กสิเณสู’’ติ วุตฺตตฺตา. วิโมกฺเขสุ จ ปมทุติยวิโมกฺขา อฏฺ กสิณารมฺมณา. ตติโย วณฺณกสิณารมฺมโณ. ปมทุติยาปิ วา วณฺณกสิณารมฺมณา เอว ‘‘พหิทฺธา นีลกสิณาทิรูปานิ ¶ ฌานจกฺขุนา ปสฺสตี’’ติ วุตฺตตฺตา. อารมฺมณมนฺุตาย หิ ตตฺถ อนิคฺคติตภาเวน เตสํ ปวตฺตีติ. เอวํ สนฺเต ตติยสฺส อิตเรหิ โก วิเสโสติ? สุภาการาโภโค. ตติโย เอว หิ สุภนฺติ อาภุชนวเสน ปวตฺตติ, น อิตเรติ.
าณํ อปฺปนาปฺา. วิชฺชมาเนปีติ อปิ-สทฺเทน อวิชฺชมาเนปีติ ทสฺเสติ. ปริตฺตปฺปมาณตา อภิภวนสฺส การณํ อิเมสุ จตูสุ อภิภายตเนสูติ อธิปฺปาโย. นนุ จ สพฺพตฺถ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณานี’’ติ วจนโต วณฺณาโภคสหิตานิเยว คหิตานีติ? น คหิตานีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิมาห. ตตฺถาติ อาคเมสุ. ตถา อปฺปมาณานีติ วณฺณาโภครหิตานิ จ สพฺพานิ อปฺปมาณานิ สุวณฺณทุพฺพณฺณานีติ อตฺโถ. ยทิ เอวํ กถํ วิสิฏฺานํ วณฺณาโภเคน รหิตานํ สหิตานฺจ เอกชฺฌํ มนสิ กโรติ? น เอกชฺฌํ, วิสุํเยว ¶ ปน เตสุ มนสิกาโร. ยทิ วิสุํ กถเมกนฺติ? ปริตฺตภาวสามฺโต. ยทิ เอวํ ‘‘สุวณฺณทุพฺพณฺณคฺคหณํ อติริจฺฉตี’’ติ, นาติริจฺฉตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถิ หิ เอโส ปริยาโย’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยทิทํ วณฺณาโภคชนิตํ วิเสสํ อคฺคเหตฺวา ปริตฺตสามฺเน เอกตฺตํ เนตฺวา ‘‘ปริตฺตานิ อภิภุยฺยา’’ติ วตฺวา ปุน ตทนฺโตคธธมฺมปฺปเภทํ วิเนยฺยวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ตานิ เจ กทาจิ วณฺณวเสน อาภุชิตานิ โหนฺติ สุวณฺณทุพฺพณฺณานิ อภิภุยฺยา’’ติ วตฺตพฺพตาย วณฺณาโภครหิตานิ สหิตานิ จ วิสุํ มนสิ กตฺวา อุภยตฺถาปิ วณฺณาโภครหิตปริตฺตาภิภวเน ตํ สหิตปริตฺตาภิภวเน จ ปริตฺตาภิภวนสฺส สามฺํ คเหตฺวา เอกนฺติ วจนํ, เอโส ปริยาโย วิชฺชตีติ อยมธิปฺปาโย.
เอวํ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปาวิเสสโต อฏฺกถาย วิโรธาภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปาานํ อวิโรธํ อธิปฺปายวิภาวเนน ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถจา’’ติอาทิมาห. เอวํ อภิธมฺเม วณฺณาโภครหิตานิ สหิตานิ จ วิสุํ วุตฺตานิ. สุตฺตนฺเต ปน ‘‘อุภยานิ เอกชฺฌ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ กถํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ตเทต’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาคตสฺสาติ สุตฺตนฺเต อาคตสฺส. ตตฺถ หิ ‘‘อชฺฌตฺตํ รูปสฺี’’ติ อาคตํ. อวจนโตติ อภิธมฺเม อวจนโต. ยทิปิ วิโมกฺขา วิสุํ เทสิตา, กสิณายตนภาโว วิย ปน อภิภายตนานํ วิโมกฺขกิจฺจตาปิ อตฺถีติ อภิภายตนวิโมกฺขานํ อิธาปิ สงฺกโร ทุนฺนิวาโรติ โจทนํ มนสิ กตฺวา อาห ¶ ‘‘สพฺพวิโมกฺขกิจฺจสาธารณวจนภาวโต’’ติ. เตน ยถา อภิภายตนเทสนายํ อภิภายตนกิจฺจานิ นิรวเสสโต วุตฺตานิ, เอวํ วิโมกฺขเทสนายํ วิโมกฺขกิจฺจานีติ อิธ เตสํ อสงฺกโรเยวาติ ทสฺเสติ.
เย จ ยถาวุตฺตํ ววตฺถานํ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เตหิ สุตฺตนฺตาภิธมฺมปาเภเท อฺํ การณํ วตฺตพฺพํ สิยา. กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ, นนุ อฏฺกถายํ ‘‘กสฺมา ปน ยถา สุตฺตนฺเต’’ติอาทึ วตฺวา ‘‘อชฺฌตฺตรูปานํ อนภิภวนียโต’’ติ การณํ วุตฺตนฺติ. น ตํ ตสฺส การณวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อชฺฌตฺตรูปาน’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ ยนฺติ อิธ สุตฺตนฺเต จ ‘‘พหิทฺธา รูปานิ ปสฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๘.๖๕) วุตฺตวจนํ สนฺธายาห. พหิทฺธา รูปานิเยว หิ อภิภวนียานีติ. อฺเหตุกนฺติ เทสนาวิลาสโต อฺํ อภิภวนียเหตุ เอตสฺสาติ อฺเหตุกํ. อชฺฌตฺตอรูปสฺิตาย เอว, น สุตฺตนฺเต วิย อชฺฌตฺตรูปสฺิตาย จาติ อตฺโถ. อวิภูตตฺตาติ อิทํ าณุตฺตรานํ สห นิมิตฺตุปฺปาทเนน อปฺปนานิพฺพตฺตนํ อารมฺมณสฺส อภิภโว น ¶ สุฏฺุ วิภูตภาวมนฺตเรน สมฺภวตีติ กตฺวา วุตฺตํ. นนุ จ อฏฺกถายํ ปาทฺวยวิเสสสฺส เทสนาวิลาโส การณภาเวน วุตฺโตติ อาห ‘‘เทสนาวิลาโส จ ยถาวุตฺตววตฺถานวเสน เวทิตพฺโพ’’ติ. เทสนาวิลาโส หิ นาม วิเนยฺยชฺฌาสยานุรูปํ วิชฺชมานสฺเสว ปริยายสฺส วิภาวนํ น ยสฺส กสฺสจีติ. ตตฺถ จ ‘‘ปริยายเทสนตฺตา’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการววตฺถานํ เทสนาวิลาสนิพนฺธนมาห. ตถา เจว หิ ปุรโต เทสนาวิลาโส วิภาวิโต.
อภิภายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
วิโมกฺขกถาวณฺณนา
๒๔๘. ตนฺติ ‘‘สสนฺตติปริยาปนฺนรูป’’นฺติ วุตฺตเกสาทิวณฺณมาห. ตํ ปน ยสฺมา ขลมณฺฑลาทิ วิย ปรมฺปราย ฌานสฺส การณํ, ตสฺมา ‘‘ฌานสฺส เหตุภาเวนา’’ติ อาห. เยนาติ ยถาวุตฺตรูปวิเสเสน. วิสิฏฺเนาติ อติสยปฺปตฺเตน ‘‘รูปูปปตฺติยา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๖๐ อาทโย; วิภ. ๖๒๕) วิย อุตฺตรปทโลเปน ¶ ‘‘รูป’’นฺติ วุตฺเตน รูปฌาเนน. ‘‘วิสิฏฺเนา’’ติ อิมินา หิ อติสยรูปยุตฺโต รูปีติ วุตฺโตติ ทสฺเสติ. ‘‘ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ ปถวีกสิณ’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๔๙๙) ฌานานเมว กสิณภาเวน ปวตฺตา. สุตฺเต อารมฺมณานํ กสิณภาเวน ปวตฺตา ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๖๐; อ. นิ. ๑๐.๒๕).
วิโมกฺขกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา
๒๕๑. อฺาณสมฺปยุตฺตาปิ วา อุเปกฺขาเวทนา อฺาณุเปกฺขา, อุเปกฺขาติ อฺาณสมฺปยุตฺตา อุเปกฺขาเวทนา, อฺาณุเปกฺขาติปิ เอตาสํเยว นามนฺติ (วิภ. อฏฺ. ๙๔๗) หิ ¶ สมฺโมหวิโนทนิยํ วกฺขตีติ. อปฺปฏิภาคนิมิตฺตตฺเตปิ เอกํ กติปเย วา สตฺเต โอทิสฺส ปวตฺตา ปริจฺฉินฺนรูปาทิอุปาทานวิสเย ปวตฺตตฺตา กถมปฺปมาณโคจราติ อาห ‘‘น จ สมฺมุติสจฺจวเสนา’’ติอาทิ. เอวมฺปิ ยถา นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกาติ สตฺตวเสน ปวตฺตายปิ มิจฺฉาทิฏฺิยา สงฺขารารมฺมณตา วุจฺจติ อุปาทานวเสน, เอวํ สตฺตวเสน ปวตฺตานมฺปิ เมตฺตาทีนํ สงฺขารารมฺมณตาปิ สิยาติ เจ? น, อปรามสนวเสน ปวตฺตานํ เมตฺตาทีนํ สอุปาทานคฺคหณาสมฺภวโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อปรามาสา’’ติอาทิ.
พฺรหฺมวิหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อสุภกถาวณฺณนา
๒๖๓. ‘‘เอกาหมตํ วา ทฺวีหมตํ วา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๓๗๙; ม. นิ. ๑.๑๑๒) วุตฺตาสุ นวสุ สิวถิกาสุ วณฺณวเสน ปวตฺตชฺฌานํ สิวถิกาวณฺณชฺฌานํ. นนุ เจตสฺส วณฺณกสิเณหิ คหณํ ยุตฺตํ, น อสุเภหีติ? น, สิวถิกาวณฺณํ อุปมํ กตฺวา อตฺตโน กาเย ปฏิกูลตฺตํ อมฺุจิตฺวาว วณฺณวเสน ปวตฺตนโต ¶ . เตเนวาห ‘‘ปฏิกูลมนสิการสามฺเนา’’ติ. อยมตฺโถ สิวถิกาวณฺณชฺฌานสฺสาติ เอตฺถาปิ โยเชตพฺโพติ วิภาเวนฺโต ‘‘ตมฺปี’’ติอาทิมาห.
อสุภกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.
อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา
๒๖๕. รูปนิมิตฺตนฺติ รูปเหตุ รูปาธิกรณํ. รูปารูปนิมิตฺเตสูติ รูปธมฺเมสุ จ ปถวีกสิณาทินิมิตฺเตสุ จ. ตทารมฺมณชฺฌาเนสูติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน รูปนิมิตฺตํ ปจฺจามสติ รูปมฺปิ ¶ วา รูปธมฺมารมฺมณานมฺปิ รูปาวจรชฺฌานานํ สมฺภวโต. รูปาทีสูติ รูปารูปนิมิตฺตตทารมฺมณชฺฌาเนสุ รูปปฏิพทฺธธมฺเมสุ จ. อนาวชฺชิตุกามตาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อสมาปชฺชิตุกามตาทึ สงฺคณฺหาติ.
จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหานํ…เป… อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน สมติกฺกโมติ เอเตน สมติกฺกมิตพฺพตฺเตน รูปาวจรกุสลานํ รูปาวจรวิปากกิริเยหิ วิเสสาภาวํ ทสฺเสติ อนธิคตภาวโต. เยสฺหิ รูปสฺาทีนํ อรูปภาวนาย สมติกฺกมาทิโก ลพฺภติ, เต ทสฺเสตุํ ‘‘อรูปภาวนาย อภาเว จุติโต อุทฺธํ อุปฺปตฺติรหาน’’นฺติ วุตฺตนฺติ. ยาติ เอกนฺตรูปนิสฺสิตา อวสิฏฺปริตฺตวิปากสฺาทโย.
อาเนฺชสนฺตสมาปตฺติสุขานุภวนภววิเสสูปปชฺชนาทโย อารุปฺปสมาปตฺตีนํ อตฺถาติ อาห ‘‘รูปสฺา…เป… น อตฺโถ’’ติ.
อิธ อุคฺฆาฏิตกสิณวเสน ปริตฺตานนฺตตา โหติ นิปฺปริยายเทสนตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ ปริตฺตกสิณุคฺฆาฏิเต กถมากาสานฺจายตนวจนนฺติ? ตตฺถาปิ อนนฺตผรณสพฺภาวโต. เตเนวาห ‘‘อนนฺตผรณตาสพฺภาเว’’ติ. ยทิ สพฺพตฺถ อนนฺตผรณตา อตฺถิ, อถ กสฺมา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ น วุตฺตนฺติ อาห ‘‘สมยววตฺถาปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปฏิปตฺตีติ ฌานภาวนาการมาห.
๒๖๖. อุคฺฆาฏภาโว อุคฺฆาฏิมํ. ยถา ปากิมํ.
๒๖๘. อากาเส ¶ ปวตฺติตวิฺาณาติกฺกมโต ตติยาติ ปทุทฺธารํ กตฺวา ยุตฺติโต อาคมโต จ ตทตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘ตทติกฺกมโต หี’’ติอาทิมาห. อารุปฺปสมาปตฺตีนํ อารมฺมณาติกฺกเมน ปตฺตพฺพตฺตา วิเสสโต อารมฺมเณ โทสทสฺสนํ ตเทว อติกฺกมิตพฺพนฺติ อยํ ยุตฺติ, อารมฺมเณ ปน อติกฺกนฺเต ตทารมฺมณํ ฌานมฺปิ อติกฺกนฺตเมว โหติ. ภาวนาย อารมฺมณสฺส วิคมนํ อปนยนํ วิภาวนา. ปาฬิยนฺติ วิภงฺเค. นนุ จ ปาฬิยํ ‘‘ตฺเว วิฺาณ’’นฺติ อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘น อากาสานฺจายตนวิฺาณ’’นฺติ. ‘‘น ตฺเววิฺาณนฺติ วิเสสวจเนน อยมตฺโถ สิทฺโธ’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิฺาณฺจายตน’’นฺติอาทิมาห.
อรูปาวจรกุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
เตภูมกกุสลวณฺณนา
๒๖๙. สตฺตหิ ¶ มหาวาเรหีติ ปฏิจฺจสหชาตปจฺจยนิสฺสยสํสฏฺสมฺปยุตฺตปฺหาวาเรหิ อนุโลมปจฺจนียอนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลมาทินยา อนุโลมาทินยา. ภารทฺวาชโคตมาทโย อฏฺจตฺตาลีส โลเก โคตฺตานิ มูลภูตานิ, ตถา กฏฺกลาปาทโย อฏฺจตฺตาลีเสว จรณานีติ อาห ‘‘อฏฺจตฺตาลีส’’นฺติอาทิ. ตตฺถ เตสนฺติ ภพฺพาภพฺพานํ. ทฺวารสีเสน ทฺวารวนฺตานิ คยฺหนฺตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ตํตํทฺวารานิ วา กายาทีนี’’ติ. อจิตฺตีกาเรน วา กตํ หีนํ, อชฺฌุเปกฺขเนน กตํ มชฺฌิมํ, สกฺกจฺจกตํ ปณีตํ. อามิสกิฺชกฺขาทิเหตุ วา กตํ หีนํ, ปฺุผลกามตาย กตํ มชฺฌิมํ, กตฺตพฺพมิจฺเจว อริยภาเว ิเตน กตํ ปณีตํ. ภวสมฺปตฺติโลเภน วา ปวตฺติตํ หีนํ, อโลภชฺฌาสเยน ปวตฺติตํ มชฺฌิมํ, ปรหิตาย ปวตฺติตํ ปณีตํ. ปริตฺตกตํ วา หีนํ, มตฺตโส กตํ มชฺฌิมํ, อธิมตฺตโส กตํ ปณีตํ. มหคฺคเตสุ ปน ปฏิลทฺธมตฺตํ หีนํ, นาติสุภาวิตํ มชฺฌิมํ, สุภาวิตํ วสิปฺปตฺตํ ปณีตํ. อิเมสุปิ เอเกกสฺส หีนาทิกสฺส อายูหนนานตฺตาทิวเสน หีนาทิเภโท ลพฺภติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วเสนาติ โย จิตฺตปฺปภาวิโต จิตฺตสมฺปยุตฺตานํ จิตฺตาธิปเตยฺยภาโว, โส ตํนิมิตฺเต จิตฺเต อุปจริโตติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ.
เตภูมกกุสลวณฺณนา นิฏฺิตา.
โลกุตฺตรกุสลวณฺณนา
๒๗๗. ‘‘เกนฏฺเน ¶ โลกุตฺตร’’นฺติอาทิ ปฏิสมฺภิทาวจนํ (ปฏิ. ม. ๒.๔๓) อฏฺกถาย อาภตํ, ตสฺมา ตตฺถ ‘‘ติวิโธปิ อนุตฺตรธมฺโม โลกํ ตรตี’’ติอาทินา สงฺคหิโตติ ตํ ตีหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โลกํ ตรตีติ เอเตนา’’ติอาทิมาห. เอเกกสฺมึ โยเชตพฺโพ โลกสฺส อนฺตคมนาทิตาย มคฺคาทีสุปิ ลพฺภมานตฺตา. มคฺเคเยว วา ติวิโธปิ อตฺโถ โยเชตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อนติวตฺตนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อินฺทฺริยานํ เอกรสตา ตทุปควีริยวาหนํ อาเสวนาติ อิเม ตโย ภาวนาวิเสเส สงฺคณฺหาติ. ยสฺมา เจเต ภาวนาวิเสสา สํกิเลสโวทาเนสุ วฏฺฏวิวฏฺเฏสุ จ ตํตํอาทีนวานิสํสทสฺสนภูตาย ปุพฺพภาคปฺาย ¶ สมฺปาทิเตน าณวิเสเสน นิปฺผชฺชนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อฺมฺํ…เป… วฑฺเฒตี’’ติ.
นิสฺสโย โหตีติ รุกฺโข วิย สาขาย อาธารภาเวน โวหรียตีติ อตฺโถ. ผลาณผลงฺคานํ นิสฺสยวจนํ นิสฺสยปจฺจยตฺตา. ตโตเยว นิสฺสยภาวโต ปติฏฺาภาวโต. อริยผลสนฺนิสฺสเยน หิ อริยา กตกิจฺจา สุฏฺุ นิพฺพินฺนสพฺพภวาปิ จิรตรํ โลเก ปรหิตาย ติฏฺนฺติ. กิเลสานํ โอธิโส ปชหนกาปิ อริยมคฺคา อวิเสเสน สพฺพากุสลานํ สพฺพกุสลปฏิปกฺขตาย อฺมคฺคปฺปหาตพฺเพสุปิ เกนจิ ปหานากาเรน ปวตฺตนฺตีติ ตํ ปหานาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิตเรสํ วิชฺชุโตภาเสน วิย ตมสฺสา’’ติ อาห. เยน ปาฬิยํ เหฏฺิมมคฺคาณานํ วิชฺชูปมตา ทสฺสิตา. ยทิ เอวํ อุปริมคฺควชฺฌา กิเลสา อิตเรติ อิธาธิปฺเปตา. น เตสํ สมุจฺเฉทวจนํ ยุตฺตํ. น หิ ภาวนาย ปหาตพฺเพ ทสฺสนมคฺโค สมุจฺฉินฺทิตุํ สกฺโกติ. ตถา จ สติ ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เอว เต สิยุํ. อถ ตทงฺคปฺปหานํ อธิปฺเปตํ, เยน ‘‘วิชฺชุโตภาเสน วิย ตมสฺสา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปุพฺพภาควิปสฺสนาย เอว สิทฺธํ น จ ยุตฺตํ โลกุตฺตรมคฺโค ตทงฺควเสน กิเลเส ปชหตีติ. วิกฺขมฺภเนปิ เอเสว นโย, อนุโลมาเณเนว ตสฺส สาติสยํ สาธิตตฺตา. อถ ปน ปมมคฺควชฺฌา เอว กิเลสา อิตเรติ อธิปฺเปตา, เอวํ สนฺเต เตสํ อิตรภาโวว น สิยา, น จ อนปายคมนียา ¶ นาม กิเลสา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา อตฺถิ, นาปิ ปมมคฺควชฺฌา กิเลสา เตน วิชฺชุโตภาเสน วิย ตโม สมุจฺฉินฺทิตพฺพาติ วตฺตุํ ยุตฺตนฺติ อุปปริกฺขิตพฺโพยํ ‘‘อิตเรสํ…เป… สมุจฺเฉโท’’ติ. โลกิยชฺฌานมฺปิ น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌตีติ อิทํ อธิปฺปายวเสน เนตพฺพํ เนยฺยตฺถตฺตาติ ตํ อธิปฺปายํ วิภาเวนฺโต ‘‘อกตาธิการสฺสา’’ติ อาห. เตน ยถาวุตฺตวจนสฺส จ สปฺปเทสตํ ทสฺเสติ. นนุ จ กตาธิการสฺส อริยสฺส มคฺเคน สมิชฺฌมานมฺปิ ฌานํ มคฺคปฏิปทาวเสน ปฏิปทาสหิตเมวาติ. น วินา ปฏิปทาย อิชฺฌตีติ สกฺกา วตฺตุํ, เตเนตํ วจนํ นิปฺปเทสเมวาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘กตาธิการสฺส ปนา’’ติอาทิ. อิทานิ ตสฺส วจนสฺส อธิปฺปายวเสน คเหตพฺพตฺถตา ปาฬิโตปิ วิฺายตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถาวุตฺต…เป… กตา’’ติ.
‘‘โย โกจีติ อวิเสสวจน’’นฺติ ตสฺส อปวาทํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สกึ ทฺวิกฺขตฺตุ’’นฺติ อาทิมาห. ปริจฺฉินฺทิตฺวา คหณํ ปริชานนํ. นามรูปววตฺถาปนาทีนนฺติ นามรูปววตฺถาปนปจฺจยปริคฺคหลกฺขณปฏิเวธนิกนฺติปริยาทานานํ ¶ . กิจฺฉสิทฺธิโตติ นามรูปววตฺถาปนาทีนํ เกสฺจิ สพฺเพสมฺปิ วา กิจฺฉสิทฺธิโต. เอส นโย ทุติยวาราทีสุปิ ยถาสมฺภวํ. สุขสิทฺธิยมฺปีติ นามรูปววตฺถาปนาทีนํ กิจฺฉสิทฺธิ มคฺคปาตุภาวทนฺธภาวสฺส การณภาเว อเนกนฺติกา. วิปสฺสนาสหคตินฺทฺริยานํ ปน มนฺทตา ตสฺส เอกนฺตการณนฺติ ทสฺเสติ.
เอตทนฺตตฺตา ปฏิปทายาติ เอเตน นิปฺปริยายโต ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสงฺขาตาย วิปสฺสนาปฺาย จิราจิรปฺปวตฺติวเสน มคฺคสฺส ขิปฺปทนฺธาภิฺตา วุตฺตาติ ทสฺเสติ. ปุริมานนฺติ ปุริมวารานํ, ลกฺขณปฏิเวธาทีนํเยว วา. เหฏฺิมโกฏิยา ติกฺขตฺตุํ กิเลสวิกฺขมฺภเน สติ ทุกฺขาปฏิปทาภาโว, น ตโต เหฏฺาติ นิจฺฉิตตฺตา อาห ‘‘ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภนวารตาวเสนา’’ติ. ตสฺส สุขาปฏิปทา เวทิตพฺพา อุกฺกํสวเสนาติ อธิปฺปาโย.
ยสฺมึ ปุคฺคเล วิสํวาทนเภทนานิฏฺานตฺถนิโยชนานํ ปวตฺติ, ตตฺถ สิเนหวิรเหเนว เตสํ ปวตฺติ, โส จ ปุคฺคโล อสงฺคหิโต โหตีติ มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขตา จ อปริคฺคหตา จ วุตฺตา. ตปฺปฏิปกฺขวิรุทฺธสภาวตฺตา สมฺมาวาจาย สินิทฺธภาวตา ปริคฺคาหกสภาวตา ¶ . สทฺธาวิเสสโยคโต วา ตสฺสา สินิทฺธภาโว ทฏฺพฺโพ. สมุฏฺาเปตีติ ปวตฺเตติ. ชีวมาโน วา สตฺโต, สมฺปยุตฺตธมฺมา วา โวทายนฺติ เอเตน สยํ วา โวทายตีติ โวทานํ.
๒๘๕. ตณฺหาทิฏฺีหิ ปติฏฺานํ. อวเสสกิเลสาภิสงฺขาเรหิ อายูหนา. สสฺสตทิฏฺิยา ปติฏฺานํ. อุจฺเฉททิฏฺิยา อายูหนา. ลีนวเสน ปติฏฺานํ. อุทฺธจฺจวเสน อายูหนา. กามสุขานุโยควเสน ปติฏฺานํ. อตฺตกิลมถานุโยควเสน อายูหนา. สพฺพากุสลาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานํ. สพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารวเสน อายูหนาติ โอฆตรณสุตฺตวณฺณนายํ วุตฺเตสุ ปการนฺตเรสุ อิธ อวุตฺตานํ วเสนปิ ปติฏฺานายูหนา เวทิตพฺพา.
อถ วา กิเลสคฺคหเณน ตณฺหาสสฺสตทิฏฺิสพฺพากุสลาภิสงฺขารา คหิตา ตํสภาคตาย ตเทกฏฺตาย จ. ตถา อภิสงฺขารคฺคหเณน อวเสสกิเลสอุจฺเฉททิฏฺิสพฺพโลกิยกุสลาภิสงฺขารา. ลีนุทฺธจฺจกามสุขตฺตกิลมถานุโยคานํ วิสุํ วุตฺตตฺตา เตหิ น โยเชตพฺพนฺติ กิเลสาภิสงฺขารวเสน ปติฏฺานายูหเน วตฺวา ตณฺหาทิฏฺีนํ ตตฺถ วิเสสปจฺจยตํ ทีเปตุํ ตทุภยวเสนปิ โยชนา กตา. นยทสฺสนํ วา เอตํ ตตฺถ ทฏฺพฺพํ. เอวมิตเรปิ ปการา โยเชตพฺพาติ ¶ . ‘‘จตูหิ, ภิกฺขเว, องฺเคหิ สมนฺนาคโต ปุคฺคโล’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๔.๑๑๒, ๑๑๔) องฺค-สทฺทสฺส การณตฺถตา ทฏฺพฺพา.
๒๙๙. มุสาวาทาทีนิ ภาสมาโน กโรติ นาม กึ วกฺขมานํ กิริยํ, กา ปน สาติ? มุสาวาทาทิกิริยาติ วิทิโตวายมตฺโถ. เอวํ วา เอตฺถ โยชนา ทฏฺพฺพา.
๓๐๑. นิปฺผาทิตปจฺจยานนฺติ จีวราทิปจฺจยานํ. กุหนวตฺถูนีติ ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ลูขจีวราทิเสวนวเสน ‘‘โย เต วิหาเร วสติ, โส อรหา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๒๔) อตฺตานํ อริยคุณสามนฺตํ กตฺวา ภณนวเสน วิเสสลาภิโน วิย อตฺตโน ปริหรณวเสน จ ปวตฺตา อกุสลจิตฺตุปฺปาทา ปเรสํ วิมฺหาปนการณานิ กุหนวตฺถูนิ.
๓๔๓. สติปิ ¶ สคุณารมฺมเณหิ มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามลาเภ น นิปฺปริยาเยน วิปสฺสนา อนิมิตฺตนามิกาติ อาคมนโต มคฺโค อนิมิตฺตนามํ น ลภตีติ อาห ‘‘น ปน สคุณารมฺมเณหิ…เป… สิทฺธํ โหตี’’ติ. ยสฺมา ปน อาคมนโต สฺุตํ อปฺปณิหิตนฺติ ลทฺธนามสฺส มคฺคสฺส สคุณโต อารมฺมณโต จ ตํนามาภาโว น กทาจิปิ อตฺถิ, ตสฺมา นามตฺตยปาริปูริเหตุอาคมนโต นามลาโภติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปริปุณฺณนามสิทฺธิเหตุตฺตา’’ติ. สพฺเพสนฺติ สพฺพวิโมกฺขมุขาคตานมฺปิ มคฺคานํ. นามตฺตยโยโคติ สฺุตาปณิหิตานิมิตฺตนามโยโค. ววตฺถานํ อสงฺกโร.
๓๕๐. นิมิตฺตธมฺมา สงฺขารา เตหิ สนิมิตฺตา สวิคฺคหา วิย อุปฏฺหนฺตีติ เตสํ อภาวิตภาวนสฺส ภาวิตภาวนสฺส จ อุปฏฺหนาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมูหาที’’ติอาทิมาห. เตน จ ‘‘วิโมกฺเขน สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) วุตฺตํ, น ‘‘ตสฺมึ วิโมกฺเข’’ติ, ตสฺมา ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺโขติ อนิจฺจานุปสฺสนํ อาหา’’ติ วุตฺตํ. อิตรตฺถาปิ เอเสว นโย. อนิมิตฺตสฺส อนิมิตฺตภาวาภาโว นตฺถีติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ จ อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิมิตฺตวิโมกฺขภาโว ปริยาเยนาติ นิปฺปริยายเทสนาย ตสฺสา อนิมิตฺตภาวาภาโว อตฺถิ เอว, เอวฺจ สติ ‘‘อนิมิตฺตสฺส อนิมิตฺตนามทานาภาโว’’ติ จ น น สกฺกา วตฺตุนฺติ อุปมาสํสนฺทนํ สุฏฺุตรํ ยุชฺชติ, ตถา อนิมิตฺเตน มคฺคสฺส อนิมิตฺตภาโว น ยุชฺชติเยว. เตนาห ‘‘ปรมตฺถโต นามํ ทาตุํ น สกฺโกตี’’ติ? สจฺจเมตํ ¶ , ปริยายสิทฺธํเยว ปน อนิจฺจานุปสฺสนาย อนิมิตฺตภาวํ คเหตฺวา มคฺคโสธนวเสนายมนุโยโค กโต ‘‘อนิมิตฺตวิโมกฺขสฺส อนิมิตฺตภาวาภาโว นตฺถีติวิรุทฺธํ วิย โหตี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อนิมิตฺตํ…เป… ทีปิโต โหตี’’ติ สยเมว วกฺขตีติ. สามฺนฺติ อุปโมปมิตพฺพานํ สมฺพนฺธมาห. น มคฺคาธิปตีติ มคฺโค อธิปติ มคฺคาธิปตีติ ฉนฺทจิตฺตานํ อยํ สมฺา นตฺถีติ อตฺโถ. น จ เตหิ มคฺคสฺสาติ ฉนฺทจิตฺเตหิ มคฺโค อธิปติ เอตสฺสาติ มคฺคาธิปตีติ อยํ สมฺา มคฺคสฺส นตฺถิ. กสฺมา? เตสํ ฉนฺทจิตฺตานํ อมคฺคงฺคตฺตา.
ฌานสฺส สฺุตาทินามกตฺตาติ เอเตน อินฺทฺริยพลาทีนมฺปิ มคฺคสมฺปโยคโต สฺุตาทินามกตา ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. สติปิ ปจฺจนีกามสเน ¶ น ตสฺส มคฺคสฺส ตํ ปริพฺยตฺตํ ยถา สรสตาติ อาห ‘‘สรสปฺปธาโน’’ติ. ทฺวีหีติ สรสปจฺจนีเกหิ. อฺนิรเปกฺเขหีติ อาคมนนิรเปกฺเขหิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สรสโตว นามลาเภ อววตฺถานาปตฺติ สพฺพสฺส มคฺคสฺส สพฺพนามภาวาปตฺติ โหติ, ตสฺมา. อตฺตาภิ…เป… มคฺคาติ เตน อาคมนโต นามลาภสฺส ปจฺจนีกโต นามลาภภาวํ ทสฺเสติ. สรสนฺตเรติ อนิมิตฺตภาวาทิเก. ปจฺจนีกสหิเตน สรเสนาติ สฺุตาปฺปณิหิตภาเวหิ ตทาคมเนหิ. นิมิตฺตคฺคหณานิวารณาติ สงฺขารนิมิตฺตคฺคาหสฺส อนิเสธนโต. สฺุตาปฺปณิหิตสฺเสว มคฺคสฺส วุตฺตตฺตา อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อิธ อสงฺคหิโต สิยาติ อาสงฺกิตฺวา อาห ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนา’’ติอาทิ. สงฺขาเรหิ วุฏฺานํ น สิยา, ลกฺขเณหิ เอว วุฏฺานํ สิยาติ อธิปฺปาโย, ลกฺขณปฏิเวโธ น สิยา อตทารมฺมณตฺตาติ อตฺโถ. สงฺขารานฺหิ หุตฺวา อภาวอุทยพฺพยปฏิปีฬนาวสวตฺตนากาเรสุ อนิจฺจตาทิลกฺขณโวหาโร.
อาการวนฺเตสุ คหิเตสุ ตทากาโรปิ คหิโตเยว โหตีติ อาห ‘‘ลกฺขณานิปิ ปฏิวิทฺธานิ โหนฺติ ตทาการสงฺขารคฺคหณโต’’ติ. ยถาวุตฺตาธิปฺปาเยนาติ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ‘‘สงฺขาเรสู’’ติอาทินาว วุตฺตปฺปการาธิปฺปาเยน. วิสุนฺติ สงฺขาเรหิ วินิวตฺเตตฺวา.
โลกุตฺตรกุสลํ
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
ปฺจธา ¶ อุทฺทิสติ ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อชฺฌตฺตทุกวเสน รูปทุกวเสน จ ภินฺทิตฺวา อภินฺทิตฺวา จ นิมิตฺตวจเนเนว อุทฺทิสติ ปวตฺตสฺสปิ สงฺขารนิมิตฺตภาวานติวตฺตนโต วุฏฺาตพฺพตาสามฺโต จ. เตเนว อุปาทินฺนานุปาทินฺนวเสน ปวตฺตํ ทฺวิธา กตฺวา นิทฺทิสิตฺวาปิ ‘‘อยํ ตาว นิมิตฺเต วินิจฺฉโย’’ติ นิมิตฺตวเสเนว นิคเมติ. เอตฺถ จ นิมิตฺตํ อชฺฌตฺตพหิทฺธา, ปวตฺตํ ปน อชฺฌตฺตเมวาติ อยเมเตสํ วิเสโส. โพชฺฌงฺคาทิวิเสสนฺติ โพชฺฌงฺคฌานงฺคมคฺคงฺคานํ อสทิสตํ. อสมาปชฺชิตุกามตาสงฺขาตา วิตกฺกาทิวิราคภาวนา อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนา. อิตรสฺสาติ ปาทกชฺฌานาทิกสฺส. อตพฺภาวโตติ ยถาวุตฺตวิราคภาวนาภาวสฺส อภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา มคฺคาสนฺนาย วิปสฺสนาย โสมนสฺสสหคตตฺเต มคฺคสฺส ปมาทิชฺฌานิกตา จ อุเปกฺขาสหคตตฺเต ¶ ปฺจมชฺฌานิกตา เอว จ ตพฺพเสน จ โพชฺฌงฺคาทีนํ วิเสโสติ เตสํ นิยเม อาสนฺนการณํ ปธานการณฺจ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา, น เอวํ ปาทกชฺฌานาทโยติ.
อิทานิ อปาทกปมชฺฌานปาทกานํ ปกิณฺณกสงฺขารปมชฺฌานานิ สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตานฺจ มคฺคานํ เอกนฺเตน ปมชฺฌานิกภาวโต วิปสฺสนานิยโมเยเวตฺถ เอกนฺติโก ปธานฺจาติ อิมมตฺถํ วิภาเวนฺโต ‘‘วิปสฺสนานิยเมเนวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิตเรติ ทุติยชฺฌานิกาทิมคฺคา. ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภูตา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อธิฏฺานภูเตน ปาทกชฺฌาเนน อาหิตวิเสสา มคฺคสฺส ฌานงฺคาทิวิเสสนิยามิกา โหตีติ ‘‘ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหี’’ติ วุตฺตํ. ยถา จ อธิฏฺานภูเตน ปาทกชฺฌาเนน, เอวํ อารมฺมณภูเตน สมฺมสิตชฺฌาเนน อุภยสพฺภาเว อชฺฌาสยวเสน อาหิตวิเสสา วิปสฺสนา นิยเมตีติ อาห ‘‘เอวํ เสสวาเทสุปิ…เป… โยเชตพฺโพ’’ติ.
ปาทกชฺฌานสงฺขาเรสูติ ปมชฺฌานสงฺขาเรสุ. ‘‘ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐) หิ วุตฺตํ. ตํตํวิราคาวิราคภาวนาภาเวนาติ วิตกฺกาทีนํ วิรชฺชนาวิรชฺชนภาวนาภาเวน. เตน อารมฺมณชฺฌานสฺสปิ วิปสฺสนาย วิเสสาธานํ อุปนิสฺสยตมาห.
ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานานิเยว โพชฺฌงฺคาทิวิเสสานํ อุปนิสฺสโย การณนฺติ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสโย ¶ , ตสฺส สพฺภาเว. ตทภาวาภาวโตติ ตสฺส อชฺฌาสยสฺส อภาวาภาวโต.
จตุตฺถชฺฌานิกสฺส มคฺคสฺส อารุปฺเป อรูปชฺฌานเมว ปาทกํ สิยาติ อาห ‘‘จตุตฺถชฺฌานิกวชฺชาน’’นฺติ. อริยมคฺคสฺส โอฬาริกงฺคาติกฺกมนูปนิสฺสยา วิปสฺสนาย อธิฏฺานารมฺมณภูตา ทุติยชฺฌานาทโย. ปฺจหิ องฺเคหีติ ปฺจหิ ฌานงฺเคหิ. ‘‘ตํตํวาเทหิ ปฺาปิยมานานิ ปาทกชฺฌานาทีนิ วาทสหจาริตาย ‘วาทา’ติ วุจฺจนฺตี’’ติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตโยเปเต วาเท’’ติ อาห. วทนฺติ เอเตหีติ วา วาทกรณภูตานิ ปาทกชฺฌานาทีนิ วาทา.
วิปากสนฺตานสฺส…เป… ¶ สุสงฺขตตฺตาติ เอเตน ยสฺมึ สนฺตาเน กมฺมํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ อุปฺปชฺชมานเมว กิฺจิ วิเสสาธานํ กโรตีติ ทีเปติ. ยโต ตสฺมึเยว สนฺตาเน ตสฺส วิปาโก, นาฺตฺถ.
ปุริมานุโลมํ วิย ตนฺติ ยถา โคตฺรภุฏฺาเน อุปฺปนฺนานุโลมโต ปุริมอนุโลมาณํ ตํ โคตฺรภุฏฺาเน อุปฺปนฺนานุโลมํ อนุพนฺธติ, เอวํ. ตทปีติ โคตฺรภุฏฺาเน อุปฺปนฺนานุโลมาณมฺปิ อฺํ อนุโลมาณเมว อนุพนฺเธยฺย, ตสฺส อนนฺตรํ อุปฺปชฺเชยฺย. สา ภูมีติ สา ปฺจุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตา กิเลสานํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย ภูมิ. เอโก ภโวติ คเหตฺวา วุตฺตนฺติ เอเตน สตฺต ภเว ทฺเว ภเวติ อิทมฺปิ อธิปฺปายวเสน เนตพฺพตฺถํ, น ยถารุตวเสนาติ ทสฺเสติ. ตตฺถายํ อธิปฺปาโย – เอกวารํ กามาวจรเทเวสุ เอกวารํ มนุสฺเสสูติ เอวมฺปิ มิสฺสิตูปปตฺติวเสน เตสุ เอกิสฺสา เอว อุปปตฺติยา อยํ ปริจฺเฉโท. ยํ ปน ‘‘น เต ภวํ อฏฺมมาทิยนฺตี’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๙; สุ. นิ. ๒๓๒) วุตฺตํ, ตมฺปิ กามาวจรภวํเยว สนฺธายาห. มหคฺคตภวานํ ปริจฺเฉโท นตฺถีติ วทนฺติ. ตถา ‘‘เปตฺวา ทฺเว ภเว’’ติ เอตฺถาปิ กามาวจรเทวมนุสฺสภวานํ มิสฺสกวเสเนว, ตสฺมา กามธาตุยํ เย ทฺเว ภวาติ กามาวจรเทวมนุสฺสวเสน เย ทฺเว ภวาติ อตฺโถ. ปุริมวิกปฺเปสุ ปุคฺคลเภเทน ปฏิปทา ภินฺทิตฺวา กสฺสจิ จลตีติ, กสฺสจิ น จลตีติ กตฺวา ‘‘จลติ เอวา’’ติ อวธารณมนฺตเรน อตฺโถ วุตฺโต. ยสฺมา ปน อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๓๕๐ โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถา) ‘‘ยถา จ ปฏิปทา, เอวํ อธิปติปิ จลติ เอวา’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา สพฺเพสมฺปิ ปฏิปทาสุ อเภเทน คหิตาสุ เอกนฺเตน จลนํ สมฺภวตีติ ‘‘จลติจฺเจว วุตฺตํ, น น จลตี’’ติ ตติยวิกปฺโป จลนาวธารโณ วุตฺโต.
โลกุตฺตรกุสลปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปมมคฺควีสติมหานยวณฺณนา
๓๕๗. ฌานมคฺคาทิปริยาเยหิ ¶ กถิเต โพชฺฌนกาติ อธิปฺเปตา, วิเสสโต ปุพฺพภาเค ‘‘ฌานํ ภาเวมิ มคฺคํ ภาเวมี’’ติ ปวตฺตชฺฌาสยา โหนฺตีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ยสฺส ปุพฺพภาเค’’ติอาทิมาห.
๓๕๘. อุปนิสฺสยวเสนาติ ¶ ตถา จิตฺตปฺปวตฺติสงฺขาเตน ปุพฺพภาคาภิสงฺขาเรน. เตเนวาห ‘‘ยสฺส หี’’ติอาทิ. ตทนุรูปพลาติ อธิปติปจฺจยลาเภน สตฺติวิเสสโยคมาห. ยทิ ปุพฺพภาคาภิสงฺขารวเสน ฉนฺทาทีนํ อธิปติภาโว, กิมตฺถเมเตเยว เอวํ วุตฺตา, นนุ สทฺธาทีนมฺปิ ปุพฺพภาคาภิสงฺขาโร ลพฺภตีติ อาห ‘‘เสสธมฺมาน’’นฺติอาทิ. อตํสภาวตฺตาติ สมฺปยุตฺเตหิ สาติสยมนุวตฺติตพฺพภาวรหิตตฺตา. กิฺจาปิ หิ สทฺธาทโยปิ อินฺทฺริยปจฺจยตาย สมฺปยุตฺเตหิ อนุวตฺตยนฺติ, เอกสฺมึ ปน จิตฺตุปฺปาเท สมธุเรน อฺเน วินา สมฺปยุตฺเตหิ อนุวตฺตนียภาโว น เตสํ ยถา ฉนฺทาทีนนฺติ เตเยว อธิปติภาเวน วุตฺตา. เอวฺจ กตฺวา อินฺทฺริยสหชาตาธิปติปจฺจยานํ วิเสโส ปริพฺยตฺโต โหติ.
จตุมคฺคนยสหสฺสวณฺณนา
๓๖๒. มานสฺส ทิฏฺิสทิสา ปวตฺติ. ตถา หิ โส อธิปติ วิย อฺาธิปตินา ทิฏฺิยา สห นปฺปวตฺตตีติ. เอกเทส…เป… อุปมา โหติ, น สพฺพสามฺเน, อิตรถา สูริยตฺถงฺคมเน อนฺธการาวตฺถรณํ วิย อคฺคมคฺคติโรธาเน สจฺจปฏิจฺฉาทกตมปฺปวตฺติ อาปชฺเชยฺยาติ อธิปฺปาโย. อฺมฺนฺติ อฺเ อฺเ. ‘‘อานีตํ อิทํ สุตฺต’’นฺติ วิภตฺติ ปริณาเมตพฺพา. ยถาวุตฺตนเยนาติ อิมิสฺสา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน. น อุปมาย วุตฺตตฺตาติ อิมสฺมึ สุตฺเต น อุปมาย วุตฺตภาวโต. ยถาวุตฺตนเยนาติ วา เอตสฺมึ สุตฺเต วุตฺตปฺปกาเรน นเยน อิมิสฺสา อฏฺกถายํ อุปมาย น วุตฺตตฺตา. อวยวา วิย โหนฺติ, เยน เต เจตสิ นิยุตฺตา, จิตฺตสฺส เอเตติ จ เจตสิกาติอาทินา วุจฺจนฺติ, น ปน ‘‘ผสฺสิกา’’ติอาทินาติ ทฏฺพฺพํ.
กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
อกุสลปทํ
ธมฺมุทฺเทสวาโร
ปมจิตฺตวณฺณนา
๓๖๕. ขณตฺตยสฺส ¶ อกุสเลสุ อสมฺภวโต สมวายกาลเหตุสมูหตฺโถ สมย-สทฺโท. โลภาภิภูตาย เอว อิฏฺารมฺมณสฺมึ อิตรตฺร ¶ จ อิฏฺาการคฺคหณวเสน โสมนสฺสสหคตภาโวติ เอวมาทึ สนฺธาย ‘‘ยถานุรูป’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘กิเลสาตุรตาย อนาโรคฺยฏฺเน กิเลสวชฺชสพฺภาวโต สาวชฺชฏฺเน อวิชฺชาสมฺภูตตาย อโกสลฺยสมฺภูตฏฺเน อกุสล’’นฺติ จ ‘‘สาวชฺชทุกฺขวิปากลกฺขณํ, อนตฺถชนนรสํ, สํกิเลสปจฺจุปฏฺานํ, อโยนิโสมนสิการปทฏฺานํ, คารยฺหภาวโต วา สาวชฺชลกฺขณํ, สํกิเลสภาวรสํ, อนิฏฺวิปากปจฺจุปฏฺานํ, ยถาวุตฺตปทฏฺานเมวา’’ติ จ เอวมาทินา วุตฺตนเยน อนุคนฺตพฺพตาย วุตฺตํ ‘‘วุตฺตนยํ อนุคนฺตฺวา’’ติ.
คตํ คมนํ ปวตฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘คตมตฺตํ คติมตฺตํ คหณมตฺต’’นฺติ. ทิฏฺิยา หิ คติ ปวตฺติ เอวาติ. อาสนฺนการณตฺตาติ ปทฏฺานตาย, โยนิโสมนสิกาโร วิย หิ กุสลสฺส อโยนิโสมนสิกาโร อกุสลสฺส อจฺจาสนฺนเหตุ. ตถา หิ สติปิ อสทฺธมฺมสวนาทิการเณ อโยนิโส อนาวชฺชิเต อววตฺถาปิเต จ นตฺถิ อกุสลปฺปวตฺติ. ตถา จ วกฺขติ อฏฺกถายํ ‘‘อโยนิโส อกุสล’’นฺติ. เอเตน เอกนฺตการณตา จ วุตฺตตฺถา โหติ. ปฏิสงฺขา สีตาทิขมนํ อปฺปมาทวิหาโรติ วุตฺตํ ‘‘อปฺปมชฺชนํ ขมน’’นฺติ. เตน สติสํวโรติ อิธ ขนฺติสํวโร วุตฺโตติ อธิปฺปาโย อินฺทฺริยสํวรสฺส วุตฺตตฺตา. ปหานสํวโรติ วีริยสํวโร. โส หิ ‘‘อุปฺปนฺนํ กามวิตกฺกํ นาธิวาเสติ ปชหตี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๖; อ. นิ. ๔.๑๔; ๖.๕๘) วุตฺโตติ.
สมฺมาปฏิปตฺติยา ปฏิปกฺขภาเวน คเหตพฺพตากาโร โมโห สมฺมาปฏิปตฺติปฏิปกฺขภาวคฺคหณากาโร. เตน หิ นิวุตา น สมฺมา ปฏิปชฺชนฺติ. อภิชฺฌาย วิเสสโยโค กมฺมปถปฺปตฺติ.
อนุปปริกฺขา โมโห. โส เจตฺถ ทิฏฺิรหิโต เวทิตพฺโพ. ทิฏฺิสหิตสฺส ปน ทิฏฺิยา อนุวิธายกตฺตา ตคฺคหเณเนว คหณนฺติ. อวตฺถุสฺมินฺติ อสทฺทหนีเย วตฺถุสฺมึ. สานุนโย อธิโมกฺโขติ ¶ โมหทิฏฺีนํ สทฺธาปติรูปตมาห. อหิริกาโนตฺตปฺปโมหาทีหิ ปมชฺชนโต อหิริกาทีหิ การเณหิ. อารกฺขรหิตจิตฺเตติ จิตฺตสฺส สติวิรหตํเยว ทสฺเสติ. อารกฺขปจฺจุปฏฺานา หิ สตีติ. เอเตน ‘‘อสฺสทฺธิยจิตฺเต อนฺธพาลจิตฺเต’’ติ ปททฺวยํ วุตฺตตฺถํ โหติ. อุปนาหาทีติ อาทิ-สทฺเทน ¶ ราคาทโย สงฺคยฺหนฺติ. ราคาทีนํ ปริยุฏฺานาทิสภาวตาย ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ วิเสสสฺส เอกจฺจสฺส อสมฺภวโต. อิธาติ, อิมสฺมึ จิตฺเต. นิปฺผาเทตพฺเพ ปโยชเน ภุมฺมํ ‘‘จมฺมสฺมึ ทีปินํ หนฺตี’’ติ (วชิร. ฏี. ๑๗-๑๘ เวรฺชกณฺฑวณฺณนา) วิย อารมฺมณํ วา อวูปสโม ผลูปจาเรน ‘‘เสมฺโห คุโฬ’’ติ วิย.
ธมฺมุทฺเทสวารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
นิทฺเทสวารกถาวณฺณนา
๓๙๐. สภาวปฏิจฺฉาทวเสน ปกติอตฺตาทิอสนฺตคฺคหณสฺส นิสฺสยตฺตา นิมิตฺตตฺตา อสนฺตํ พุชฺฌติ, นิจฺจาทิวิสมคฺคหณสฺส สฺาทิวิปริเยสสฺส นิสฺสยตฺตา อสมํ พุชฺฌตีติ โมโห วุตฺโต นิมิตฺตสฺส กตฺตุภาเวน อุปจาริตตฺตา, อยฺจ อตฺโถ ทิฏฺิสหิตโมหวเสน ทฏฺพฺโพ. เอตฺถ จ ปกตีติ กาปิลานํ ปธานํ.
ตติยจิตฺตวณฺณนา
๔๐๐. อปณฺณกปทํ วิย อวิรชฺฌนกปทมฺปิ กทาจิ นิยตภาวํ ทีเปยฺยาติ อนิยตตํ ทีเปตุํ ‘‘อุปฺปตฺติอรหงฺคานี’’ติ วุตฺตํ มานสฺส อนิยตตฺตา. ยทิ หิ มาโน นิยโต สิยา, กามราคสฺส มานรหิตา ปวตฺติ น สิยา, ตถา ภวราคสฺส. เอวํ สติ ปฏฺาเน จตุกฺขตฺตุํ กามราเคน โยชนา น สิยา, ติกฺขตฺตุํเยว สิยา, ภวราคมูลิกา จ น สิยา, เอวฺจ สํโยชนานํ สํโยชเนหิ อฏฺวิเธน โยชนา สิยา, น ทสวิธา ทสฺสิตาติ ยถาวุตฺตาหิ โยชนาหิ มานสฺส อนิยตภาโว ปกาสิโต. อถ วา มาเนน สทฺธึ ปฺจ โหนฺติ ยถาวุตฺตานิ อปณฺณกงฺคานิ, กึ ปน โหนฺตีติ อเปกฺขายํ เยวาปนกาติ วิทิโตวายมตฺโถ. เยวาปนกานฺหิ ปฺจภาโว อิธ วิธียติ, น อปณฺณกงฺคานนฺติ โส ยถา โหติ ¶ , ตถา โยเชตพฺพํ. กิเลสทุเก ปฏิจฺจวาราทีสุ ‘‘กิเลสํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กิเลโส ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา’’ติอาทีสุ ‘‘โลภํ ปฏิจฺจ โมโห มาโน ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. โลภํ ปฏิจฺจ โมโห มาโน อุทฺธจฺจํ ¶ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. โลภํ ปฏิจฺจ โมโห ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ. โลภํ ปฏิจฺจ โมโห อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺป’’นฺติ วิภตฺตตฺตา ‘‘ตถา กิเลสทุเกปี’’ติ วุตฺตํ. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตสสงฺขาริกาสงฺขาริกจิตฺตวเสน หิ อยํ ปาเภโทติ.
‘‘กามราโค จตุธา เอกโต อุปฺปชฺชติ, ปฏิโฆ ติธา, มาโน เอกธา, ตถา วิจิกิจฺฉา ภวราโคติ อุทฺทิสิตฺวา กามราโค มานสํโยชนอวิชฺชาสํโยชเนหิ เจว อวิชฺชาสํโยชนมตฺเตเนว จ สทฺธึ มาโน ภวราคาวิชฺชาสํโยชเนหิ สทฺธึ ภวราโค อวิชฺชาสํโยชเนน สทฺธิ’’นฺติ อฏฺกถากณฺฑวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๘๕) วกฺขมานตฺตา ‘‘อิธ จ วกฺขตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺเถว ‘‘โลโภ ฉธา เอกโต อุปฺปชฺชติ, ปฏิโฆ ทฺเวธา, ตถา โมโห’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘โลโภ อสงฺขาริโก ทิฏฺิวิปฺปยุตฺโต โมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริโก โมหถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, อสงฺขาริโก เอว โมหมานอุทฺธจฺจอหิริกอโนตฺตปฺเปหิ, สสงฺขาริโก เอว จ โมหมานถินอุทฺธจฺจอหิริกอโนตฺตปฺเปหี’’ติ วกฺขมานตฺตา ‘‘ตถาทสวิธา กิเลสาน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อห’’นฺติ คหณตาย อวํกตฺวา คหณมฺปิ ‘‘สมฺปคฺคโห’’ติ วุตฺตํ.
จตุตฺถจิตฺตวณฺณนา
๔๐๒. อุสฺสาหํ ชเนนฺตาติ เอตฺถ จิตฺตปโยคสงฺขาโต สงฺขาโร เอว อุสฺสาโห, น วีริยุสฺสาโหติ.
นวมจิตฺตวณฺณนา
๔๑๓. วิสปฺปนานิฏฺรูปสมุฏฺานํ เยน กุปิตสฺส สกลสรีรํ กมฺปติ, กุปิตากาโร ปฺายติ. เอเตน สมฺปตฺติอตฺโถ รโส ทสฺสิโต โหติ, ปวตฺติอาการวเสน วา วิสปฺปนรโส. ตถา หิ ยสฺส กุปฺปติ, ตสฺส อมิตฺตสฺส สมฺปตฺติ เยภุยฺเยน ปฏิฆุปฺปตฺติเหตุ โหตีติ. เอเตน กิจฺจตฺโถ รโส วุตฺโต โหตีติ.
๔๑๘. วจนตฺถเมว ¶ วจนปริยายเมว.
เอกาทสมจิตฺตวณฺณนา
๔๒๔. นิจฺฉยาภาวาติ ¶ อธิโมกฺขาภาวา. อสณฺหนโตติ สนฺตานวเสน เอกสฺมึ อารมฺมเณ อนวฏฺานโต.
ทฺวาทสมจิตฺตวณฺณนา
๔๒๙. สหชาตาธิปติ นตฺถิ ‘‘ฉนฺทวโต เจ วิจิกิจฺฉา อุปฺปชฺชติ, สา มยฺหํ อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติอาทิปฺปวตฺติยา อภาวา. อนุทฺธฏตฺตา ปฏิสิทฺธตา, ยถาธมฺมสาสเน อวจนมฺปิ อภาวํ ทีเปติ.
อวจนโตติ อ-การสฺส ตทฺวจนตํ ทสฺเสติ. เอเตน จ ทสฺสเนน ปหาตพฺเพสุ อภาววจเนน การณสิทฺธิยา ผลสิทฺธีติ ตตฺถ อภาวสฺส การณเมว ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต’’ติ วุตฺตํ. เตน ตํสภาวตา ตสฺส จิตฺตุปฺปาทสฺส วุตฺตา โหติ. ตโต จ ‘‘พลวํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, ทุพฺพลํ นากฑฺฒตี’’ติ อิทํ ปฏิสนฺธิทานสภาเวสุ. ยสฺส ปน ปฏิสนฺธิทานสภาโว เอว นตฺถิ, น ตสฺส พลวภาโว ปฏิสนฺธิอากฑฺฒเน การณนฺติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. อนากฑฺฒนํ สาเธติ ‘‘ยทิ หิ อากฑฺเฒยฺยา’’ติอาทินา. ยสฺมา จ นาคตํ, ตสฺมา นากฑฺฒตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยสฺมา ปน ตํ ปฏิสนฺธิทานํ นตฺถิ, ตสฺมา นาคต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ‘‘อนากฑฺฒนโต อนาคมนํ สาเธตุ’’นฺติ วุตฺตํ.
อปายคมนียสฺสาติ อปายํ คเมตีติ อปายคมนียํ, ตํสภาวนฺติ อตฺโถ. ปฏิสนฺธิอากฑฺฒเน สติ อุทฺธจฺจสหคตํ เอกนฺเตน อปายคมนียํ สิยา. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๒๙) ‘‘อิตรสฺสาปิ เอตฺเถว ปฏิสนฺธิทานํ ภเวยฺยา’’ติ. น หิ อกุสลปฏิสนฺธิ สุคติยํ สมฺภวตีติ. ‘‘จตูหิ อปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต (ขุ. ปา. ๖.๑๑; สุ. นิ. ๒๓๔) อวินิปาตธมฺโม’’ติ (ส. นิ. ๒.๔๑; ๕.๙๙๘, ๑๐๐๔) วจนโต อปายคมนียฺจ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ. เตนาห ‘‘อปายคมนียสฺส ทสฺสเนน ปหาตพฺพตฺตา’’ติ. น เจตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ, น โส ตสฺส อปายคมนีโย ราโค โทโส ¶ โมโห ตเทกฏฺา จ กิเลสาติ เอเตน สงฺคโหติ สกฺกา วตฺตุํ นิโยคโต ภาวนาย ปหาตพฺพภาเวน วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘กตเม ธมฺมา ภาวนาย ปหาตพฺพา, อุทฺธจฺจสหคโต จิตฺตุปฺปาโท’’ติ (ธ. ส. ๑๔๐๖).
‘‘กุสลากุสลํ ¶ กมฺมํ วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๗) วุตฺตกมฺมปจฺจยภาโว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโว. โส จ ยทิ อุทฺธจฺจสหคตํ ปฏิสนฺธึ อากฑฺเฒยฺย, ตสฺสาปิ สิยา. ตถา จ สติ อุทฺธจฺจสหคตํ ทสฺสเนน ปหาตพฺพํ สิยา ทสฺสเนน ปหาตพฺพานํเยว นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาวสฺส วุตฺตตฺตา. น เจตํ ทสฺเสเนน ปหาตพฺพนฺติ สพฺพํ ปุพฺเพ วิย อาวตฺตติ.
สหชาตเมว วิภตฺตนฺติ ยถา ทสฺสเนน ปหาตพฺพวิภงฺเค ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๘๖) สหชาตํ นานากฺขณิกนฺติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สหชาตา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย, นานากฺขณิกา ทสฺสเนน ปหาตพฺพา เจตนา วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ วิภตฺตํ, เอวํ อวิภชิตฺวา ‘‘ภาวนาย ปหาตพฺพา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๘๙) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘นานากฺขณิกา เจตนา วิปากานํ ขนฺธานํ กฏตฺตา จ รูปานํ กมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. เตน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภาโวติ วิฺายติ. ปจฺจนีเยปิ ยถาสมฺภวํ สงฺคาหกปจฺจยานํ วเสน ปจฺจยุทฺธาเร กริยมาเน. อิตรตฺถ จาติ ทสฺสเนนปหาตพฺพปเท. ตตฺถ หิ ‘‘ทสฺสเนน ปหาตพฺโพ ธมฺโม เนว ทสฺสเนน น ภาวนาย ปหาตพฺพสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย, สหชาตอุปนิสฺสยปจฺฉาชาตกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๘.๗๑) กมฺมปจฺจโยปิ วุตฺโตติ.
ตทภาวาติ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยตฺตาภาวา. น จ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยํ วินา ปฏิสนฺธิอากฑฺฒนํ อตฺถีติ ‘‘ปฏิสนฺธิอนากฑฺฒนโต ตตฺถ อนาคตา’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถาติ ‘‘เปตฺวา อุทฺธจฺจสหคตํ เสสานิ เอกาทเสว ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒนฺตี’’ติ เอตฺถ. ปวตฺติวิปากสฺสาติ ปวตฺติยํ วิปาโก ปวตฺติเอกเทสตาย ปวตฺติภูโต วา วิปาโก เอตสฺสาติ ปวตฺติวิปากํ, กมฺมํ, ตสฺส. อถ วา ปวตฺติยํ วิปาโก ปวตฺติวิปาโก. อิมสฺมึ ปน อตฺเถ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย เอตสฺสาติ ¶ นานา…เป… โย, ตพฺภาโว…เป… ตาติ เอวํ ปทจฺเฉโท ทฏฺพฺโพ. น สกฺกา นิวาเรตุํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยํ วินา วิปากสฺส อนุปฺปชฺชนโต.
อิทานิ ¶ ปวตฺติวิปากานํ นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยลาภิตาย อาหจฺจภาสิตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺจา’’ติอาทิมาห. วิปากทานํ ปฏิสนฺธิวิปากธมฺมตาติ มฺมาโน ‘‘ยทิ ภาวนา’’ติอาทิมาห. อิตโร วิปากทานาภาเวปิ สิทฺโธ วิปากธมฺมภาโว ตาทิสานํ อฺเสมฺปิ ลพฺภมานตฺตาติ อาห ‘‘อภิฺาจิตฺตาทีน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน อตฺตโน กาลมติกฺกนฺตํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ อุปปชฺชเวทนียฺจ สงฺคณฺหาติ. วุตฺตํ สิยาติ อิทํ สหายปจฺจยลาภโต ปุถุชฺชนสนฺตานวุตฺติโน อุทฺธจฺจสหคตสฺส วิปากุปฺปาทนํ, ตทภาวา เสกฺขสนฺตติยํ ตสฺส วิปากานุปฺปาทนฺจ ยุตฺตํ สิยาติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘อิทํ ปน านํ สุฏฺุ วิจาเรตพฺพ’’นฺติอาทิ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ปุถุชฺชเนสุ อุปฺปชฺชมานานํ สกภณฺเฑ ฉนฺทราคาทีนํ อุทฺธจฺจสหคตจิตฺตุปฺปาทสฺส จ สํโยชนตฺตยตเทกฏฺกิเลสานํ อนุปจฺฉินฺนตาย อปริกฺขีณสหายานํ วิปากุปฺปาทนํ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุนฺติ อุทฺธจฺจสหคตธมฺมานํ วิปาโก วิภงฺเค วุตฺโต’’ติ. ตสฺส ตาทิสสฺเสว สติ สหาเย วิปากุปฺปาทนวจนํ, อสติ วิปากานุปฺปาทนวจนํ วิรุชฺฌตีติ จ ปวตฺติวิปากทายิกํ วา อุทฺธจฺจสหคตสฺส มนสิ กตฺวา ‘‘วุตฺตํ สิยา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปวตฺติวิปากฺหิ สนฺธาย ‘เตสํ วิปาเก าณ’นฺติ ปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค (วิภ. ๗๒๕-๗๒๖) วุตฺต’’นฺติ เอเก วณฺณยนฺติ. เอวํ อุทฺธจฺจเจตนาปิ น โหติ, สาปิ วิฺาณปจฺจยภาเว อปเนตพฺพาติ อิทมฺปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณเมว สนฺธาย วุตฺตนฺติ.
อกุสลปทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อพฺยากตปทํ
อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา
๔๓๑. กามาวจร…เป… อาทิ วุตฺตนฺติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อุปจิตตฺตา’’ติ ปทํ สงฺคยฺหติ ‘‘อสาธารณกมฺมปจฺจยวเสนา’’ติ วุตฺตตฺตา. ‘‘อุปจิตตฺตาติ ลทฺธาเสวนตฺตา’’ติ เกจิ วทนฺติ ¶ , ตํ ปมชวนสฺส น ยุชฺชติ อนาเสวนตฺตา. ตถา จ สติ ตสฺส วิปากทานเมว น สิยาติ ตโต อฺถา อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิปากาภิมุขนฺติ วิปากทานาภิมุขํ กโตกาสํ. กโตกาสตา จ อนาทิมฺหิ สํสาเร อเนเกสํ กมฺมานํ กตานํ อตฺถิตาย ปรสฺส ปฏิพาหเนน โหตีติ ‘‘อฺสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. วฑฺฒิตตา ¶ จ สกมฺมสฺส พลทานสมตฺถตาวเสน อตฺตโน การเณหิ อภิสงฺขตตา. อสาธารเณน นามํ อุทฺธฏํ ‘‘เภรีสทฺโท ยวงฺกุโร’’ติ ยถา. วิฺาณานนฺติ จกฺขุวิฺาณาทีนํ. วิเสสปจฺจยตฺตาติ อธิกปจฺจยตฺตา.
จกฺขุสนฺนิสฺสิตฺจ ตํ รูปวิชานนฺจาติ เอเตน สมานาธิกรณตํ สมาสสฺส ทสฺเสนฺโต ตตฺถ จ ‘‘จกฺขุสนฺนิสฺสิต’’นฺติอาทิปททฺวยสฺส นีลุปฺปลสทฺทาทีนํ วิย อฺมฺวิเสสนวิเสสิตพฺพภาวมาห. อฺวิฺาณนฺติ รูปารมฺมณํ มโนวิฺาณํ. รูปํเยวารมฺมณนฺติ ปน อตฺเถ ทิพฺพจกฺขุวิฺาณํ ทฏฺพฺพํ ตํสทิสานํ ตทุปจารํ กตฺวา ยถา ‘‘สา เอว ติตฺติรี ตานิ เอว โอสธานี’’ติ. ฌานปจฺจยตฺตาภาเว น ฌานงฺคตา นตฺถีติ ปฺจวิฺาเณสุ อุเปกฺขาทีนํ อุปจริตฌานงฺคตํ สาเธติ. น หิ ฌานงฺคานํ ฌานปจฺจยตํ วตฺวา เตสํ ฌานปจฺจยภาโว ปฏิกฺขิตฺโตติ. ยทิ เอวํ ปฺจวิฺาเณสุ อุเปกฺขาทโย ฌานราสิฏฺาเน น วตฺตพฺพา สิยุนฺติ อาห ‘‘ฌานปจฺจยตฺตาภาเว’’ติอาทิ. อุเปกฺขาทิภาวโตติ อุเปกฺขาสุขทุกฺเขกคฺคตาภาวโต. อฺฏฺานาภาวโตติ จิตฺตฏฺิตึ เอว สนฺธาย วุตฺตํ.
๔๓๖. อกุสลํ ภวงฺคนิสฺสนฺเทน ‘‘ปณฺฑร’’นฺติ วุจฺจติ, ภวงฺเค อปณฺฑเร ตํมูลิกา กุโต อกุสลสฺส ปณฺฑรตาติ ‘‘อกุสลสฺส จา’’ติ วุตฺตํ. ปณฺฑรตาย การณํ วตฺตพฺพํ, ยทิ อฺการณา ปณฺฑรตา, สภาโววายนฺติ จิตฺตสฺส อกิเลสสภาวตาย วุตฺตํ, น เจตฺถ ผสฺสาทีนมฺปิ ปณฺฑรตาปตฺติ. ยโต ธมฺมานํ สภาวกิจฺจวิเสสฺุนา ภควตา วิฺาณํเยว ตถา นิทฺทิฏฺนฺติ.
๔๓๙. อนติกฺกมเนน ภาวนาย. ปสาทฆฏฺฏนํ วิสยสฺส โยคฺยเทเส อวฏฺานนฺติ ‘‘ปสาทํ ฆฏฺเฏตฺวา อาปาถํ คนฺตฺวา’’ติ วุตฺตํ. มหาภูเตสุ ปฏิหฺตีติ เอตฺถ น สยํ กิฺจิ ปฏิหฺติ, นาปิ เกนจิ ปฏิหฺียติ อโผฏฺพฺพสภาวตฺตา. วิสยวิสยีภูตํ ปน อภิมุขภาวปฺปตฺติยา วิฺาณุปฺปตฺติยา เหตุตาย วิสิฏฺภาวปฺปตฺตํ ปฏิหตปฏิฆาตกภาเวน โวหรียติ ¶ , ตสฺมา เตสุ สปฺปฏิฆโวหาโร. ‘‘อุปาทารูปํ ฆฏฺเฏตีติ เอวมาทิ จ อุปจารวเสเนว เวทิตพฺพํ. มหาภูตารมฺมเณน ปน ¶ กายปฺปสาทนิสฺสยภูเตสุ มหาภูเตสุ ฆฏฺฏิยมาเนสุ ปสาโทปิ ฆฏฺฏิโต เอว นาม โหตีติ วตฺวา วีมํสิตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. ยถาธิปฺเปเตน เอกเทสสามฺเน อุปมาวจนโต นิสฺสิตนิสฺสยฆฏฺฏนานํ สติปิ ปุพฺพาปรภาเว อุปมตฺเต อุปมาภาเวน คเหตพฺพภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุภยฆฏฺฏนทสฺสนตฺถ’’นฺติ อาห.
๔๕๕. ทสฺสนาทิปฺปวตฺติภาวโตติ มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูนํ อทสฺสนาทิตาย สา เอเตสํ เอว วิเสโส. อนฺนิสฺสยมโนปุพฺพงฺคมตายาติ อฺนิสฺสยมโนปุพฺพงฺคมตฺตาภาวโต. อฺนิสฺสยวิฺาณสฺส อนนฺตรปจฺจยตฺตาภาเวนาติ อิมินา กิริยามโนธาตุโตปิ วิเสสสฺส วุตฺตตฺตา ‘‘มโนทฺวารนิคฺคมนมุขภาวาภาวโต’’ติ วุตฺตํ, น วุตฺตํ ‘‘นิคฺคมนปเวสมุขภาวาภาวโต’’ติ. ติวิเธนปิ หิ มโนธาตุวิฺาณธาตูหิ มโนวิฺาณธาตุยา วิเสโส ทสฺสิโตติ. ตโต เอว วิชานนวิเสสวิรหโตเยว. ยทิ มโนธาตุ ‘‘มโนวิฺาณ’’นฺติ น วุจฺจติ, ฉวิฺาณกายาติ กถํ มโนธาตุยา ตตฺถ สงฺคโห โหตีติ? สงฺคโห เอว ปริยายเทสนตฺตา. อตฺถิ หิ เอส ปริยาโย ‘‘มนนมตฺตํ วิฺาณํ มโนวิฺาณ’’นฺติ ยถา ‘‘มนนมตฺตา ธาตุ มโนธาตู’’ติ. อปิจ วตฺถุกิจฺเจหิ มโนวิฺาณสภาคตฺตา ตสฺส อุปรมุปฺปาทภาวโต อนฺตาทิภาวโต จ มโนวิฺาณกายสงฺคหิตา มโนธาตุ, น เสสวิฺาณกายสงฺคหิตา อตํสภาคตฺตา, อิธ ปน นิปฺปริยายกตตฺตา มนโส สมฺภูย วิสิฏฺมโนกิจฺจยุตฺตํ มโนวิฺาณนฺติ ตทภาวโต ‘‘มโนวิฺาณนฺติปิ น วุจฺจตี’’ติ อิมเมวตฺถํ สาเธตุํ ‘‘น หิ ตํ วิฺาณํ มนโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน มโนธาตุยา นิปฺปริยายโต มโนวิฺาณกิจฺจวิรหํเยว ทสฺเสติ. ทสฺสนาทีนํ ปนาติอาทินา อฺวิฺาณวิธุรํ มโนธาตุยา จ สภาวํ ทสฺเสติ.
ยทิ ชนกสทิสตา นาม มหาวิปาเกสุ วิตกฺกาทีนํ สมฺมาสงฺกปฺปาทิตา, ติเหตุกโต นิพฺพตฺตานํ ติเหตุกานํ, ทุเหตุกโต นิพฺพตฺตานํ ทุเหตุกานฺจ ภวตุ สมฺมาสงฺกปฺปาทิตา, ติเหตุกโต ปน นิพฺพตฺตทุเหตุกานํ กถนฺติ อาห ‘‘ตตฺถ หี’’ติอาทิ. ตํโสตปติตตา น สิยา ตสฺสา อนานนฺตรตฺตา. ตโต เอว หีติอาทินา วุตฺตโสตปติตํ เอวานนฺตเรน วจเนน สมตฺถยติ. ยทิ วิชฺชมานานมฺปิ ¶ มโนธาตุอาทีสุ วิตกฺกาทีนํ ปฺจวิฺาเณสุ วิย อคณนูปคภาโว, เอวํ สนฺเต ปฏฺาเน กถํ เตสํ ฌานปจฺจยตาวจนํ. ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อพฺยากตสฺส ¶ ธมฺมสฺส ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๓๑), ‘‘วิปากาพฺยากตานิ กิริยาพฺยากตานิ ฌานงฺคานิ สมฺปยุตฺตกานํ ขนฺธานํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๓๑) หิ วุตฺตํ. ปจฺจนีเยปิ ‘‘อพฺยากตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อพฺยากโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ฌานปจฺจยา, ปฺจวิฺาณสหิตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๙๘) ปฺจวิฺาณานิ เอว อุทฺธฏานิ, น มโนธาตุอาทีนีติ อาห ‘‘ฌานปจฺจยกิจฺจมตฺตโต’’ติอาทิ. น เหตฺถ ฌานงฺคานํ พลวทุพฺพลภาโว อธิกโต, อถ โข ฌานปจฺจยภาวมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๔๖๙. สมานวตฺถุกํ อนนฺตรปจฺจยํ ลภิตฺวาติ ทสฺสนาทิโต มโนธาตุยา จ พลวภาเว การณวจนํ. ยถารมฺมณนฺติ อารมฺมณานุรูปํ. ยทิ สมานนิสฺสยตาย มโนธาตุโต พลวตรตฺตํ วิปากมโนวิฺาณธาตุยา โสมนสฺสสหคตาย, โวฏฺพฺพนํ กถํ มชฺฌตฺตเวทนนฺติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา ตสฺส พลวภาวํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา สนฺตติปริณามนพฺยาปารวิเสสา น โสมนสฺสเวทนนฺติ ปริหารํ วทนฺโต ‘‘โวฏฺพฺพน’’นฺติอาทิมาห. วิปาโก วิย อนุภวนเมว น โหตีติ สติ สมตฺถตาย วิปากานํ เอกนฺเตน อารมฺมณรสานุภวนตาย วุตฺตํ.
อเหตุกกุสลวิปากวณฺณนา นิฏฺิตา.
อฏฺมหาวิปากจิตฺตวณฺณนา
๔๙๘. วิปากธมฺมานํ กมฺมทฺวารํ วุตฺตํ ทฺวารกถายํ ‘‘เตภูมกกุสลากุสโล เอกูนตึสวิโธ มโน’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. มโนกมฺมทฺวารกถา). ปโยเคนาติ อตฺตนา ปเรหิ วา กเตน อุสฺสาหนปโยเคน. กุสลากุสลานิ วิย เยสํ ตํ ตทารมฺมณํ อนุพนฺธภูตํ. ปมปฺจมจิตฺตานํ อฺมฺพลวทุพฺพลภาววิจาเรน ทุติยฉฏฺาทีนมฺปิ โส วิจาริโต โหตีติ ‘‘เอเตสุ พลวํ ทุพฺพลฺจ วิจาเรตุ’’นฺติ วุตฺตํ. ยถา สาลิอาทีนํ ถทฺธมุทุภูมิวเสน ติณาทีนํ ¶ อนีหรณนีหรณวเสน อุตุอาทิอวเสสปจฺจยานํ วิปตฺติสมฺปตฺติวเสน จ ผลวิเสสโยโค, เอวํ กมฺมสฺส สุคติทุคฺคติวเสน อวิสุทฺธวิสุทฺธปโยควเสน อุปปตฺติยา วิปตฺติสมฺปตฺติวเสน ¶ จ วิสิฏฺผลตาย ปริณมนํ, เอวเมว คิมฺหวสฺสกาลาทีสุ พีชานํ ผลวิเสสโยโค วิย ตํตํกาลวิเสเสน กมฺมสฺส ผลวิเสสโยโค โหตีติ อาห ‘‘กาลวเสน ปริณมตี’’ติ. สุกฺกโสณิตปจฺจยานนฺติ กมฺมวิเสสปริภาวิตสนฺตานุปฺปนฺนตาย สุกฺกโสณิตานํ อายุวิเสสเหตุภาวมาห สุกฺกโสณิตวเสนปิ วณฺณาทิวิเสสทสฺสนโต, เยน ‘‘ปิตูนํ อาการํ ปุตฺโต อนุวิทหตี’’ติ วุจฺจติ. ตํมูลกานนฺติ อปฺปายุกสํวตฺตนิยกมฺมมูลกานํ. อาหาราทีติ อาทิ-สทฺเทน วิสมูปกฺกมาทโย ปริคฺคณฺหาติ.
วิปากุทฺธารกถาวณฺณนา
ยโต ติเหตุกาทิกมฺมโต. ยสฺมิฺจ าเนติ ปฏิสนฺธิอาทิฏฺาเน, สุคติทุคฺคติยํ วา. ติเหตุกโต ทุเหตุกํ อนิจฺฉนฺโต ปฏิสนฺธินฺติ อธิปฺปาโย. ปวตฺติวิปากํ ปน ติเหตุกโต ทุเหตุกมฺปิ อิจฺฉติ เอว. ตถา หิ วกฺขติ อฏฺกถายํ ‘‘ยํ ปุริมาย เหตุกิตฺตนลทฺธิยา น ยุชฺชตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘).
เย ‘‘ตสฺเสว กมฺมสฺส วิปากาวเสเสนา’’ติ, ‘‘เอกปุปฺผํ ยชิตฺวาน, อสีติ กปฺปโกฏิโย (เถรคา. ๙๖). ทุคฺคตึ นาภิชานามี’’ติ (อป. เถร ๒.๔๖.๖๔) จ เอวมาทิวจนสฺส อธิปฺปายํ อชานนฺตา ‘‘กึ นุ โข เอเกนปิ กมฺเมน อเนกา ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ, ‘‘ทิสฺวา กุมารํ สตปฺุลกฺขณ’’นฺติอาทิวจนสฺส (ที. นิ. ๓.๒๐๕) อตฺถํ อสลฺลกฺเขตฺวา ‘‘กินฺนุ โข นานากมฺเมหิ เอกา ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ สํสยปกฺขนฺทา, เตสํ พีชงฺกุโรปมาย ‘‘เอกสฺมา เอกา, อเนกสฺมา จ อเนกา ปฏิสนฺธิ โหตี’’ติ วินิจฺฉิตตฺตา กมฺมปฏิสนฺธิววตฺถานโต สาเกตปฺเห วิปากุทฺธารกถาย อุสฺสทกิตฺตนคหณสฺส สมฺพนฺธํ อาห ‘‘กมฺมวเสน…เป… ทสฺเสตุ’’นฺติ. ปฏิสนฺธิชนกกมฺมวเสน ปฏิสนฺธิวิปาโก เอว อโลภโลภาทิคุณโทสาติเรกภาวเหตูติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหตี’’ติอาทิ. เอตฺถ จ โลภวเสน, โทส, โมห ¶ , โลภโทส, โลภโมห, โทสโมห, โลภโทสโมหวเสนาติ ตโย เอกกา, ตโย ทฺวิกา, เอโก ติโกติ โลภาทิทสฺสนวเสน อกุสลปกฺเขเยว สตฺต วารา. ตถา กุสลปกฺเข อโลภาทิทสฺสนวเสนาติ จุทฺทส วารา ลพฺภนฺติ.
ตตฺถ ¶ ‘‘อโลภโทสาโมหา, อโลภาโทสโมหา, อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต’’ติ อาคเตหิ กุสลปกฺเข ตติยทุติยปมวาเรหิ โทสุสฺสทโมหุสฺสทโทสโมหุสฺสทวารา คหิตา. ตถา อกุสลปกฺเข ‘‘โลภาโทสโมหา, โลภโทสาโมหา, โลภาโทสาโมหา พลวนฺโต’’ติ อาคเตหิ ตติยทุติยปมวาเรหิ อโทสุสฺสทอโมหุสฺสทอโทสาโมหุสฺสทวารา คหิตาเยวาติ อกุสลกุสลปกฺเข ตโย ตโย วาเร อนฺโตคเธ กตฺวา อฏฺเว วารา ทสฺสิตา. เย ปน อุภเยสํ โวมิสฺสตาวเสเนว โลภาโลภุสฺสทวาราทโย อปเร เอกูนปฺาส วารา ทสฺเสตพฺพา, เต อสมฺภวโต เอว น ทสฺสิตา. น หิ เอกสฺมึ สนฺตาเน อนฺตเรน อวตฺถนฺตรํ โลโภ พลวา อโลโภ จาติ ยุชฺชติ. ปฏิปกฺขโตเยว หิ เอเตสํ พลวทุพฺพลภาโว, สหชาตธมฺมโต วา. เตสุ โลภสฺส ตาว ปฏิปกฺขโต อโลเภน อนภิภูตตาย พลวภาโว, ตถา โทสโมหานํ อโทสาโมเหหิ. อโลภาทีนํ ปน โลภาทิอภิภวนโต สพฺเพสฺจ สมานชาติยํ สมภิภูย ปวตฺติวเสเนว สหชาตธมฺมโต พลวภาโว. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘โลโภ พลวา, อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต, โทสโมหา มนฺทา’’ติ. โส จ เตสํ มนฺทพลวภาโว ปุริมูปนิสฺสยโต อาสยสฺส ปริภาวิตตาย เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ ปมทุติเยหิ, สตฺตมปเมหิ วา วาเรหิ ติเหตุกกมฺมโต ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน ติเหตุกวิปาโก, อิตเรหิ ติเหตุกทุเหตุกกมฺมโต ยถาสมฺภวํ ปฏิสนฺธิปวตฺติวเสน ทุเหตุกาเหตุกวิปากา ทสฺสิตาติ อยมฺปิ วิเสโส เวทิตพฺโพ.
อิธาติ วิปากุทฺธารมาติกายํ. เตน เหตุกิตฺตนํ วิเสเสติ. ชจฺจนฺธาทิวิปตฺตินิมิตฺตํ โมโห, สพฺพากุสลํ วา. ยํ ปน วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. เตน ปฏิสมฺภิทามคฺควจเนน. คติสมฺปตฺติยา สติ าณสมฺปยุตฺเต ปฏิสนฺธิมฺหิ ¶ นิปฺผาเทตพฺเพ. อฺตฺถาติ นิกนฺติปฏิสนฺธิกฺขเณสุ. กมฺมสริกฺขโกติ อิธ สาติสโย สริกฺขภาโว อธิปฺเปโตติ ทฏฺพฺโพ. อิตรถา ติเหตุกทุเหตุกาปิ อฺมฺํ สริกฺขาเยวาติ ทสฺสิตเมตนฺติ. จกฺขุวิฺาณาทีนีติ เอตฺถ ปฺจวิฺาณานิ วิย อปุพฺพนิสฺสยปวตฺตินี วิชานนวิเสสรหิตา จ มโนธาตุ อิฏฺาทิภาคคฺคหเณ น สมตฺถาติ ‘‘ปากฏาเยวา’’ติ น วุตฺตา, อาทิ-สทฺเทน วา สงฺคหิตา. ตทารมฺมณปจฺจยสพฺพชวนวตาติ ตทารมฺมณสฺส ปจฺจยภูตสกลชวนปฺปวตฺติสหิเตน. ยํ สนฺธาย ‘‘อิธ ปริปกฺกตฺตา อายตนาน’’นฺติ วุตฺตํ. อฺกาเลติ อพุทฺธิปวตฺติกาเล.
อนุโลเมติ ธมฺมานุโลเม. อาเสวนปจฺจยาติ อาเสวนภูตา ปจฺจยา. น มคฺเค อมคฺคปจฺจเย ¶ . โสปิ โมฆวาโร ลพฺเภยฺยาติ ยทิ โวฏฺพฺพนมฺปิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, ยถา ‘‘สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ อาเสวนปจฺจยา น (ปฏฺา. ๑.๒.๓) มคฺคปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๒.๑๔) อนุโลมปจฺจนีเย, ปจฺจนียานุโลเม จ ‘‘สุขา…เป… น มคฺคปจฺจยา อาเสวนปจฺจยา’’ติ จ วุตฺตํ หสิตุปฺปาทจิตฺตวเสน, เอวํ โวฏฺพฺพนวเสน ‘‘อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจา’’ติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ปาโ สิยา, ตถา จ สติ วารทฺวยวเสน คณนายํ ‘‘อาเสวนปจฺจยา น มคฺเค ทฺเว. น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน ทฺเว’’ติ จ วตฺตพฺพํ สิยา, น ปน วุตฺตํ, ตสฺมา น ลพฺเภยฺยายํ โมฆวาโรติ อธิปฺปาโย.
โวฏฺพฺพนมฺปิ ยทิ อาเสวนปจฺจโย สิยา, ทุติยโมฆวาเร อตฺตโน วิย ตติยจตุตฺถวาเรสุปิ สิยา, ตถา สติ อตฺตนาปิ กุสลากุสลานํ สิยา. น หิ…เป… อวุตฺโต อตฺถิ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา’’ติอาทินา อนวเสสโต วุตฺตตฺตา. โวฏฺพฺพนสฺส…เป… อวุตฺโต ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม กุสลสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย. อกุสลสฺส…เป… ปจฺจโย’’ติ วจนาภาวโต. น เกวลํ อวุตฺโต, อถ โข กุสลํ…เป… ปฏิกฺขิตฺโตว. อถาปิ สิยาติอาทิ มคฺคโสธนตฺถเมว วุจฺจติ. สมานเวทนานํ เอว อาเสวนปจฺจยภาวสฺส ทสฺสนโต ‘‘อสมานเวทนานํ วเสนา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ‘‘อาเสวน ปจฺจเยน ¶ ปจฺจโย’’ติปิ วตฺตพฺพํ สิยา, สมานเวทนาวเสนาติ อธิปฺปาโย. อภินฺนชาติกสฺส จาติ จ-สทฺโท อภินฺนเวทนสฺส จาติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เวทนาตฺติเกปิ โวฏฺพฺพนสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตสฺส อภาวาติ โยชนา. กุสลตฺติกาทีสุ ยถาทสฺสิตปาฬิปฺปเทเสสุปีติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท. คณนาย การณภูตาย คณนาย นิทฺธาริยมานาย สติ คณนาย วา อพฺภนฺตเร. ทุติโย โมฆวาโร วีมํสิตพฺโพติ อาเสวนปจฺจยตฺตาภาวา ชวนฏฺาเน าตุํ น ยุชฺชติ. น หิ วินา อาเสวนํ ชวนปฺปวตฺติ อตฺถีติ อธิปฺปาโย.
อปิเจตฺถ ‘‘ยํ ชวนภาวปฺปตฺตํ, ตํ ฉินฺนมูลกรุกฺขปุปฺผํ วิยา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๕๖๖) วกฺขมานตฺตา อนุปจฺฉินฺนภวมูลานํ ปวตฺตมานสฺส โวฏฺพฺพนสฺส กิริยภาโว น สิยา, วุตฺโต จ ‘‘ยสฺมึ สมเย มโนวิฺาณธาตุ อุปฺปนฺนา โหติ กิริยา เนว กุสลา นากุสลา น จ กมฺมวิปากา อุเปกฺขาสหคตา’’ติ, ตสฺมา ‘‘ชวนฏฺาเน ตฺวาติ ชวนสฺส อุปฺปชฺชนฏฺาเน ¶ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปวตฺติตฺวา, น ชวนภาเวนา’’ติ, ‘‘อาเสวนํ ลภิตฺวาติ จ อาเสวนํ วิย อาเสวน’’นฺติ วุจฺจมาเน น โกจิ วิโรโธ, วิปฺผาริกสฺส ปน สโต ทฺวิกฺขตฺตุํ ปวตฺติเยเวตฺถ อาเสวนสทิสตา. วิปฺผาริกตาย หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺตฺจสฺส วุจฺจติ. วิปฺผาริกมฺปิ ชวนํ วิย อเนกกฺขตฺตุํ อปฺปวตฺติยา ทุพฺพลตฺตา น นิปฺปริยายโต อาเสวนปจฺจยภาเวน ปวตฺเตยฺยาติ น อิมสฺส ปาเ อาเสวนตฺถํ วุตฺตํ, อฏฺกถายํ ปน ปริยายโต วุตฺตํ ยถา ‘‘ผลจิตฺเตสุ มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ. อยเมตฺถ อตฺตโนมติ. อยมฺปิ โปราณเกหิ อสํวณฺณิตตฺตา สาธุกํ อุปปริกฺขิตพฺโพ.
เอวฺจ กตฺวาติ โวฏฺพฺพนาวชฺชนานํ อนตฺถนฺตรภาวโต ‘‘อาวชฺชนา’’อิจฺเจว วุตฺตํ, โวฏฺพฺพนฏฺาเนปีติ อธิปฺปาโย. ตสฺมาติ ยสฺมา โวฏฺพฺพนํ อาวชฺชนาเยว อตฺถโต อุเปกฺขาสหคตาเหตุกกิริยมโนวิฺาณธาตุภาวโต, ตสฺมา. ตํ อาวชฺชนา วิย สติ อุปฺปตฺติยํ กามาวจรกุสลากุสลกิริยชวนานํ เอกนฺตโต อนนฺตรปจฺจยภาเวเนว วตฺเตยฺย, โน อฺถาติ อธิปฺปาเยน ‘‘โวฏฺพฺพนโต’’ติอาทิมาห. จตุนฺนนฺติ มฺุฉามรณาสนฺนเวลาทีสุ มนฺทีภูตเวคตาย จตฺตาริปิ ชวนานิ อุปฺปชฺเชยฺยุนฺติ อธิปฺปาเยน วุตฺตํ. อยเมตสฺส สภาโวติ ¶ อารมฺมณมุเขนปิ จิตฺตนิยามํเยว ทสฺเสติ. ยทิปิ ‘‘ชวนาปาริปูริยา…เป… ยุตฺโต’’ติ วุตฺตํ, ‘‘อาวชฺชนาทีนํ ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกตี’’ติ ปน วุตฺตตฺตา จิตฺตปฺปวตฺติวเสน ปมโมฆวารโต เอตสฺส น โกจิ วิเสโส. เตเนวาห ‘‘อยมฺปิ…เป… เรตพฺโพ’’ติ. ปฏิสนฺธิจิตฺเตเยว ปวตฺติยํ ‘‘ภวงฺค’’นฺติ วุจฺจมาเน น ตสฺส เหตุวเสน เภโทติ ‘‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) น สกฺกา วตฺตุํ, วุตฺตฺจ, ตสฺมา สเหตุกํ ภวงฺคนฺติ ตทารมฺมณํ วุตฺตนฺติ วิฺายติ.
สภาวกิจฺเจหิ อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยภาโว, สภาวกิจฺจานํ วา ผลภูตานํ ปจฺจยภาโว สภาวกิจฺจปจฺจยภาโว. อปฺปฏิสิทฺธํ ทฏฺพฺพนฺติ ‘‘ทุเหตุกโสมนสฺสสหคตอสงฺขาริกชวนาวสาเน เอวา’’ติ อิมสฺส อตฺถสฺส อนธิปฺเปตตฺตา. ยถา จ อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิกานํ ติเหตุกชวนาวสาเน อเหตุกทุเหตุกตทารมฺมณํ อปฺปฏิสิทฺธํ, เอวํ ติเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส ติเหตุกชวนานนฺตรํ ทุเหตุกตทารมฺมณํ, ทุเหตุกปฏิสนฺธิกสฺส จ ทุเหตุกานนฺตรํ อเหตุกตทารมฺมณํ อปฺปฏิสิทฺธํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกมฺปิ ทุเหตุกมฺปิ อเหตุกมฺปิ วิปากํ เทตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘) หิ วุตฺตํ. ปริปุณฺณวิปากสฺสาติ ¶ อิมินาปิ ติเหตุกชวนโต ยถาวุตฺตตทารมฺมณสฺส อปฺปฏิสิทฺธํเยว สาเธติ. น หิ ปจฺจยนฺตรสามคฺคิยา อสติ ตทารมฺมณํ สพฺพํ อวิปจฺจนฺตํ กมฺมํ ปริปุณฺณวิปากํ โหตีติ. มุขนิทสฺสนมตฺตเมว ยถาวุตฺตตทารมฺมณปฺปวตฺติยา อวิภาวิตตฺตา. ติเหตุกาทิกมฺมสฺส หิ อุกฺกฏฺสฺส ติเหตุกกมฺมสฺส โสฬส, อิตรสฺส ทฺวาทส, อุกฺกฏฺสฺเสว ทุเหตุกกมฺมสฺส ทฺวาทส, อิตรสฺส อฏฺาติ เอวํ โสฬสวิปากจิตฺตาทีนิ โยเชตพฺพานิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปริปุณฺณวิปากสฺส ปฏิสนฺธิชนกกมฺมสฺส วเสน วิปากวิภาวนาย มุขนิทสฺสนมตฺตเมเวตํ, ตสฺมา.
เอวฺจ กตฺวาติ นานากมฺมโต ตทารมฺมณุปฺปตฺติยํ อิโต อฺถาปิ สมฺภวโตติ อตฺโถ. ‘‘อุเปกฺขา…เป… อุปฺปชฺชตี’’ติ เอตฺถ เกน กิจฺเจน อุปฺปชฺชตีติ? ตทารมฺมณกิจฺจํ ตาว น โหติ ชวนารมฺมณสฺส อนาลมฺพณโต, นาปิ สนฺตีรณกิจฺจํ ตถา อปฺปวตฺตนโต, ปฏิสนฺธิจุตีสุ วตฺตพฺพเมว ¶ นตฺถิ, ปาริเสสโต ภวงฺคกิจฺจนฺติ ยุตฺตํ สิยา. น หิ ปฏิสนฺธิภูตํเยว จิตฺตํ ‘‘ภวงฺค’’นฺติ วุจฺจตีติ.
ตนฺนินฺนนฺติ อาปาถคตวิสยนินฺนํ อาวชฺชนนฺติ สมฺพนฺโธ. อฺสฺส วิย ปมชฺฌานาทิกสฺส วิย. เอตสฺสปิ สาวชฺชนตาย ภวิตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. อตทตฺถาติ เอตฺถ ตํ-สทฺเทน นิโรธํ ปจฺจามสติ. อุปฺปตฺติยาติ อุปฺปตฺติโต. ตนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ. ตสฺส นิโรธสฺส. ตถา จ อุปฺปชฺชตีติ ‘‘อนนฺตรปจฺจโย โหตี’’ติ ปทสฺส อตฺถํ วิวรติ. ยถาวุตฺตา วุตฺตปฺปการา. โวทานํ ทุติยมคฺคาทีนํ ปุเรจาริกาณํ. เอเตสนฺติ อริยมคฺคจิตฺตมคฺคานนฺตรผลจิตฺตานํ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตวิปากจิตฺตสฺส.
อุปนิสฺสยโต ตสฺเสว จกฺขุวิฺาณาทิวิปากสฺส ทสฺสนตฺถํ จกฺขาทีนํ ทสฺสนาทิอตฺถโต ทสฺสนาทิผลโต, ทสฺสนาทิปฺปโยชนโต วา. ปุริมจิตฺตานิ อาวชฺชนาทีนิ. วตฺถนฺตรรหิตตฺเต ทสฺเสตพฺเพ วตฺถนฺตเร วิย อารมฺมณนฺตเรปิ น วตฺตตีติ ‘‘วตฺถารมฺมณนฺตรรหิต’’นฺติ วุตฺตํ.
ยทิ วิปาเกน กมฺมสริกฺเขเนว ภวิตพฺพํ, เอวํ สติ อิมสฺมึ วาเร อเหตุกวิปากานํ อสมฺภโว เอว สิยา เตสํ อกมฺมสริกฺขกตฺตาติ อิมมตฺถํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘อเหตุกานํ ปนา’’ติ. อภินิปาตมตฺตนฺติ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ กิจฺจมาห. เต หิ อาปาถคเตสุ รูปาทีสุ อภินิปาตนมตฺเตเนว ¶ วตฺตนฺติ. อาทิ-สทฺเทน สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ สงฺคณฺหาติ. กุสเลสุ กุสลากุสลกิริเยสุปิ วา วิชฺชมานา สสงฺขาริกาสงฺขาริกตา อฺมฺํ อสริกฺขตฺตา ปหานาวฏฺานโต จ วิรุทฺธา วิยาติ วิปาเกสุ สา ตทนุกูลา สิยา, สา ปน มูลาภาเวน น สุปฺปติฏฺิตานํ สวิสยาภินิปตนมตฺตาทิวุตฺตีนํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘น สสงฺขาริกวิรุทฺโธ’’ติอาทิ. อุภเยนปิ เตสํ นิพฺพตฺตึ อนุชานาติ ยถา ‘‘กฏตฺตารูปาน’’นฺติ อธิปฺปาโย. ‘‘วิปากธมฺมธมฺโม วิปากสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย. วิปากธมฺมธมฺเม ขนฺเธ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ, อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ, โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, กุสลากุสเล นิรุทฺเธ’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๓.๙๓) วิปากตฺติเก วิย สิยา กุสลตฺติเกปิ ปาฬีติ กตฺวา ‘‘กุสลตฺติเก จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หิ ‘‘กุสโล ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา กุสลํ อนิจฺจโต ¶ ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺติ, กุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชติ, กุสลํ อสฺสาเทติ อภินนฺทติ, ตํ อารพฺภ ราโค อุปฺปชฺชติ, ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, อุทฺธจฺจํ, โทมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, อกุสเล นิรุทฺเธ วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อวิชฺชมานตฺตา เอว อวจนนฺติ อธิปฺปาเยน ตตฺถ ยุตฺตึ ทสฺเสติ ‘‘วิปฺผาริกฺหี’’ติอาทินา.
เอตฺถ เกจิ ‘‘ฉฬงฺคุเปกฺขาวโตปิ กิริยมยจิตฺตตาย กิริยชวนสฺส วิปฺผาริกกิริยภาโว น สกฺกา นิเสเธตุนฺติ นิทสฺสนภาเวน ปณฺณปุฏมุปนีตํ อสมานํ. กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณาภาวสฺส ปาฬิยํ อวจนมฺปิ อการณํ ลพฺภมานสฺสปิ กตฺถจิ เกนจิ อธิปฺปาเยน อวจนโต. ตถา หิ ธมฺมสงฺคเห อกุสลนิทฺเทเส ลพฺภมาโนปิ อธิปติ น วุตฺโต, ตสฺมา กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณาภาโว วีมํสิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. สติปิ กิริยมยตฺเต สพฺพตฺถ ตาทิภาวปฺปตฺตานํ ขีณาสวานํ ชวนจิตฺตํ น อิตเรสํ วิย วิปฺผาริกํ, สนฺตสภาวตาย ปน สนฺนิสินฺนรสํ สิยาติ ตสฺส ปณฺณปุฏํ ทสฺสิตํ. ธมฺมสงฺคเห อกุสลนิทฺเทเส อธิปติโน วิย ปฏฺาเน กิริยชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณสฺส ลพฺภมานสฺส อวจเน น กิฺจิ การณํ ทิสฺสติ. ตถา หิ วุตฺตํ ตตฺถ อฏฺกถายํ ‘‘เหฏฺา ทสฺสิตนยตฺตา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๒๙). น เจตฺถ ทสฺสิตนยตฺตาติ สกฺกา วตฺตุํ วิปากธมฺมธมฺเมหิ กุสลากุสเลหิ อตํสภาวานํ นยทสฺสนสฺส อยุชฺชมานกตฺตา. อปิจ ตตฺถ วีมํสาย เกสุจิ สพฺเพสฺจ อธิปตีนํ อภาวโต เอกรสํ เทสนํ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺธโฏ’’ติ จ สกฺกา วตฺตุํ, อิธ ปน น ตาทิสํ อวจเน การณํ ลพฺภตีติ ‘‘อวจเน การณํ นตฺถี’’ติ วุตฺตํ.
อธิปฺปาเยนาติ อกุสลานนฺตรํ สเหตุกตทารมฺมณํ นตฺถีติ ตสฺส เถรสฺส มติมตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ‘‘กุสลากุสเล นิรุทฺเธ สเหตุโก วิปาโก ตทารมฺมณตา อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๙๘) วจนโต ปน อกุสลานนฺตรํ สเหตุกตทารมฺมณมฺปิ วิชฺชติเยวาติ อุปฺปตฺตึ วทนฺตสฺส ยุตฺตคฺคหณวเสนาติ อธิปฺปาโย.
น เอตฺถ การณํ ทิสฺสตีติ เอเตน ติเหตุกชวนานนฺตรํ ติวิธมฺปิ ตทารมฺมณํ ยุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. เยน อธิปฺปาเยนาติ ปมเถเรน ตาว เอเกน ¶ กมฺมุนา อเนกตทารมฺมณํ นิพฺพตฺตมานํ กมฺมวิเสสาภาวา ตํตํชวนสงฺขาตปจฺจยวิเสเสน วิสิฏฺํ โหตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ชวนวเสน ตทารมฺมณสฺส สสงฺขาราทิวิธานํ วุตฺตํ, วิปาเกน นาม กมฺมสริกฺเขน ภวิตพฺพํ, น กมฺมวิรุทฺธสภาเวน. อฺถา อนิฏฺปฺปสงฺโค สิยาติ เอวมธิปฺปาเยน ทุติยตฺเถโร กมฺมวเสเนว ตทารมฺมณวิเสสํ อาห. าณสฺส ชจฺจนฺธาทิทุคฺคติวิปตฺตินิมิตฺตปฏิปกฺขตา วิย สุคติวิปตฺตินิมิตฺตปฏิปกฺขตาปิ สิยาติ มฺมาโน ตติยตฺเถโร ‘‘ติเหตุกกมฺมโต ทุเหตุกปฏิสนฺธิมฺปิ นานุชานาตี’’ติ อิมินา นเยน เตสุ วาเทสุ อธิปฺปายาวิโรธวเสน ยุตฺตํ คเหตพฺพํ. มหาปกรเณ อาคตปาฬิยาติ ‘‘สเหตุโก ธมฺโม อเหตุกสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๓.๑.๑๐๒) อิมสฺส วิภงฺเค ‘‘สเหตุกํ ภวงฺคํ อเหตุกสฺส ภวงฺคสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย, สเหตุกา ขนฺธา วุฏฺานสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอวมาทินา ปฏฺาเน สเหตุกทุกาทีสุ อาคตปาฬิยาติ อตฺโถ.
กามาวจรกุสลวิปากวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา
๔๙๙. ตสฺมึ ขเณ วิชฺชมานานํ ฉนฺทาทีนนฺติ เอเตน วิปากชฺฌาเน ทุกฺขาปฏิปทาทิภาวสฺส ¶ อวิชฺชมานตํ ทสฺเสติ. น หิ กุสลชฺฌานํ วิย วิปากชฺฌานํ ปริกมฺมวเสน นิพฺพตฺตตีติ. น เจตฺถ ปฏิปทาเภโท วิย กุสลานุรูโป วิปากสฺส อารมฺมณเภโทปิ น ปรมตฺถิโก สิยาติ สกฺกา วตฺตุํ เอกนฺเตน สารมฺมณตฺตา อรูปธมฺมานํ วิปากสฺส จ กมฺมนิมิตฺตารมฺมณตาย อฺตฺราปิ วิชฺชมานตฺตา. นานากฺขเณสุ นานาธิปเตยฺยนฺติ ‘‘ยสฺมึ ขเณ ยํ ฌานํ ยทธิปติกํ, ตโต อฺสฺมึ ขเณ ตํ ฌานํ เอกนฺเตน ตทธิปติกํ น โหตี’’ติ กตฺวา วุตฺตํ. จตุตฺถชฺฌานสฺเสวาติ จ ปฏิปทา วิย อธิปตโย น เอกนฺติกาติ อิมเมวตฺถํ ทสฺเสติ.
รูปาวจรารูปาวจรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา
๕๐๕. ตณฺหาวิชฺชาทีหิ ¶ อาหิตวิเสสํ โลกิยกมฺมํ วิปากุปฺปาทนสมตฺถํ โหติ, น อฺถาติ วุตฺตํ ‘‘ตณฺหาทีหิ อภิสงฺขต’’นฺติ. อิตรสฺสาติ สฺุตาปฺปณิหิตนามรหิตสฺส. โย สุทฺธิกปฏิปทาย วิภาวิโต, โย จ สุตฺตนฺตปริยาเยน อนิมิตฺโตติ วุจฺจติ. เตเนวาห ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนานนฺตรสฺสปิ มคฺคสฺสา’’ติอาทิ. วฬฺชน…เป… เภโท โหติ มคฺคาคมนวเสนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘มคฺคานนฺตรผลจิตฺตสฺมึ เยวา’’ติ วจนํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘สฺุตาทินามลาเภ สตี’’ติ สาสงฺกํ อาห. อนิมิตฺตนามฺจ ลภติ มคฺคาคมนโต ผลสฺส นามลาเภ วิเสสาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ตาทิสาย เอวาติ ยาทิสา มคฺเค สทฺธา, ตาทิสาย เอว ผเล สทฺธาย.
๕๕๕. ‘‘กตเม ธมฺมา นิยฺยานิกา? จตฺตาโร มคฺคา’’ติ วจนโต (ธ. ส. ๑๒๙๕, ๑๖๐๙) อนิยฺยานิกปทนิทฺเทเส จ ‘‘จตูสุ ภูมีสุ วิปาโก’’ติ (ธ. ส. ๑๖๑๐) วุตฺตตฺตา น นิปฺปริยาเยน ผลํ นิยฺยานสภาวํ, นิยฺยานสภาวสฺส ปน วิปาโก กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺปหานวเสน ปวตฺตมาโน ปริยายโต ตถา วุจฺจตีติ อาห ‘‘นิยฺยานิกสภาวสฺสา’’ติอาทิ. ปฺจงฺคิโก จาติ เอเตน มคฺควิภงฺเค สพฺพวาเรสุปิ ผลสฺส มคฺคปริยาโย ¶ อาคโตติ ทสฺเสติ. ตตฺถ หิ อริยมคฺคกฺขเณ วิชฺชมานาสุปิ วิรตีสุ ตทวสิฏฺานํ ปฺจนฺนํ การาปกงฺคานํ อติเรกกิจฺจตาทสฺสนตฺถํ ปาฬิยํ ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค อุทฺธโฏติ. เอวํ โพชฺฌงฺคาปีติ ยถา มคฺโค, เอวํ มคฺคโพชฺฌงฺควิภงฺเคสุ ผเลสุ จ โพชฺฌงฺคา อุทฺธฏาติ อตฺโถ.
โลกุตฺตรวิปากกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
กิริยาพฺยากตกถาวณฺณนา
๕๖๘. ปุริมา ปวตฺตีติ มหากิริยจิตฺตปฺปวตฺตึ อาห. ตาย หิ ขีณาสโว เอวํ ปจฺจเวกฺขติ. เตเนวาห ‘‘อิทํ ปน จิตฺตํ วิจารณปฺารหิต’’นฺติ. เอวนฺติ ยถา โสตทฺวาเร, เอวํ ฆานทฺวาราทีสุปิ มหากิริยจิตฺเตหิ ตสฺมึ ตสฺมึ วิสเย อิทมตฺถิกตาย ปริจฺฉินฺนาย อิทํ จิตฺตํ วตฺตตีติ ¶ ทสฺเสติ. ปฺจทฺวารานุคตํ หุตฺวา ลพฺภมานนฺติ ปฺจทฺวาเร ปวตฺตมหากิริยจิตฺตานํ ปิฏฺิวฏฺฏกภาเวน อิมสฺส จิตฺตสฺส ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ, ปฺจทฺวาเร เอว วา อิทเมว ปวตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘โลลุปฺป…เป… ภูต’’นฺติ วุตฺตตฺตา ปฺจทฺวาเร ปมํ อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสิโต หุตฺวา ปจฺฉา มหากิริยจิตฺเตหิ ตํ ตํ อตฺถํ วิจิโนตีติ อยมตฺโถ วุตฺโต วิย ทิสฺสติ. ปุพฺเพเยว ปน มโนทฺวาริกจิตฺเตน ปธานสารุปฺปฏฺานาทึ ปริจฺฉินฺทนฺตสฺส ปฺจทฺวาเร ตาทิสสฺเสว ตาทิเสสุ รูปาทีสุ อิทํ จิตฺตํ ปวตฺตตีติ วทนฺติ. อยมฺปิ อตฺโถ ปฺจทฺวาเร เอว ปวตฺตํ โลลุปฺปตณฺหาปหานาทิปจฺจเวกฺขณาเหตุ ยถาวุตฺตการณภูตํ ชาตนฺติ เอวํ โยเชตฺวา สกฺกา วตฺตุํ. เอวฺจ สติ อิมสฺส จิตฺตสฺส ปจฺจยภูตา ปุริมา ปวตฺตีติ อิทมฺปิ วจนํ สมตฺถิตํ โหติ.
เอตฺถ จ ปฺจทฺวาเร อิมินา จิตฺเตน โสมนสฺสุปฺปาทนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, น หาสุปฺปาทนํ ปฺจทฺวาริกจิตฺตานํ อวิฺตฺติชนกตฺตา, มโนทฺวาเร ปน หาสุปฺปาทนํ โหติ. เตเนว หิ อฏฺกถายํ ปฺจทฺวาเร ‘‘โสมนสฺสิโต โหตี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ, มโนทฺวาเร จ ‘‘หาสยมาน’’นฺติ. อิมินา หสิตุปฺปาทจิตฺเตน ปวตฺติยมานมฺปิ ภควโต สิตกรณํ ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสสพฺพฺุตฺาณานํ ¶ อนุวตฺตกตฺตา าณานุปริวตฺติเยวาติ. เอวํ ปน าณานุปริวตฺติภาเว สติ น โกจิ ปาฬิอฏฺกถานํ วิโรโธ, เอวฺจ กตฺวา อฏฺกถายํ ‘‘เตสํ าณานํ จิณฺณปริยนฺเต อิทํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อวสฺสฺจ เอตํ เอวํ อิจฺฉิตพฺพํ, อฺถา อาวชฺชนจิตฺตสฺสปิ ภควโต ปวตฺติ น ยุชฺเชยฺย. ตสฺสปิ หิ วิฺตฺติสมุฏฺาปกภาวสฺส นิจฺฉิตตฺตา, น จ วิฺตฺติสมุฏฺาปกตฺเต ตํสมุฏฺิตาย วิฺตฺติยา กายกมฺมาทิภาวํ อาวชฺชนภาโว วิพนฺธตีติ.
ตโต เอวาติ มูลาภาเวน น สุปฺปติฏฺิตตฺตา เอว. ‘‘อเหตุกานํ ฌานงฺคานิ พลานิ จา’’ติ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ฌานงฺคานิ จาติ จ-สทฺโท. ยทิ อปริปุณฺณตฺตา พลภาวสฺส อิมสฺมึ อเหตุกทฺวเย พลานิ อนุทฺทิฏฺานิ อสงฺคหิตานิ จ, อถ กสฺมา นิทฺทิฏฺานีติ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. สมฺมา นิยฺยานิกสภาวานํ กุสลานํ ปฏิภาคภูโต วิปาโกปิ ผลํ วิย ตํสภาโว สิยาติ สเหตุกวิปากจิตฺตานิ อคฺคเหตฺวา กิริยจิตฺตกตตฺตา วา ‘‘มหากิริยจิตฺเตสู’’ติ วุตฺตํ. อถ วา มหากิริยจิตฺเตสุจาติ จ-สทฺเทน สเหตุกวิปากจิตฺตานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.
๕๗๔. ‘‘อินฺทฺริย ¶ …เป… อิมสฺสานนฺตรํ อุปฺปชฺชมานานี’’ติ วุตฺตํ เตสํ าณานํ กามาวจรตฺตา. อิตเรสํ มหคฺคตตฺตา ‘‘ปริกมฺมานนฺตรานี’’ติ วุตฺตํ.
๕๗๗. อาหิโต อหํ มาโน เอตฺถาติ อตฺตา, โส เอว ภวติ อุปฺปชฺชติ, น ปรปริกปฺปิโต วิย นิจฺโจติ อตฺตภาโว. อตฺตาติ วา ทิฏฺิคติเกหิ คเหตพฺพากาเรน ภวติ ปวตฺตตีติ อตฺตภาโว.
กิริยาพฺยากตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
จิตฺตุปฺปาทกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.