📜
๒. รูปกณฺฑํ
อุทฺเทสวณฺณนา
เกนจีติ ¶ ¶ รูเปน วา อรูเปน วา. จิตฺตุปฺปาเทน ตาว รูปสฺส สมยววตฺถานํ น สกฺกา กาตุํ อพฺยาปิตาย อเนกนฺติกตาย จาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อจิตฺตสมุฏฺานสพฺภาวโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อจิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ จิตฺตสฺส ตีสุ ขเณสุ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ ตาว วาเท จิตฺตุปฺปตฺติสมเยน รูปูปปตฺติสมยสฺส ววตฺถานํ มา โหตุ, จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว สพฺพมฺปิ รูปํ อุปฺปชฺชตีติ อิมสฺมึ ปน วาเท กถนฺติ? เอตฺถาปิ อจิตฺตสมุฏฺานํ รูปํ จิตฺเตน สหุปฺปาเทปิ อนินฺทฺริยพทฺธรูปํ วิย อจิตฺตปฏิ พนฺธุปฺปาทตาย น จิตฺเตน ววตฺถาเปตพฺพสมยนฺติ วุตฺตํ ‘‘อจิตฺตสมุฏฺานสพฺภาวโต’’ติ. เตน จิตฺตุปฺปาเทน รูปสฺส สมยววตฺถานํ น พฺยาปีติ ทสฺเสติ. อเนกจิตฺตสมุฏฺานตาย ววตฺถานาภาวโตติ สมฺพนฺโธ. นิยเต หิ สมุฏฺาปกจิตฺเต จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส สิยา ววตฺถานนฺติ.
เกสฺจีติ กามาวจรกุสลาทีนํ. กตฺถจีติ อารุปฺเป. เกสฺจีติ วา เกสฺจิ ปฺจโวการวิปากานํ. กตฺถจีติ ปฏิสนฺธิกฺขเณ จริมกฺขเณ จ. ‘‘ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑) จิตฺตสหภาวินํ เอว จิตฺเตน สมยววตฺถานํ กตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อจิตฺตสหภุภาวโต’’ติ. เตสนฺติ อุปาทารูปานํ. โย ยสฺส สหภาเวน อุปการโก, โส เอว ตสฺส สมยววตฺถาปกภาเวน วุตฺโตติ อาห ‘‘สหชาต…เป… ตฺตนโต’’ติ. นาปิ มหาภูเตหีติอาทินา ววตฺถานาภาวเมว ทสฺเสติ. เกสฺจีติ อกมฺมชาทีนํ. เกหิจีติ กมฺมชาทีหิ. ปวตฺติโตติ ปวตฺตนโต. สหาติ เอกสฺมึ กาเล. อภาวาติ นิโยคโต อภาวา.
วิฺตฺติ ¶ …เป… น สกฺกา วตฺตุํ มหาภูเตหิ สมยววตฺถาเน กริยมาเน เตหิ อยาวภาวิตตายาติ อธิปฺปาโย. เอกสฺมึ กาเลติอาทินาปิ มหาภูเตหิ สมยนิยมเน ววตฺถานาภาวเมว วิภาเวติ. ‘‘ตถา วิภชนตฺถ’’นฺติ, ‘‘อวิภตฺตํ อพฺยากตํ อตฺถีติ ทสฺเสตุ’’นฺติ จ อิเมสํ ปทานํ ‘‘วิภตฺตํ อวิภตฺตฺจ สพฺพํ สงฺคณฺหนฺโต อาหา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. สมยววตฺถานํ กตฺวา นิทฺทิสิยมานสฺส นิปฺปเทสตาย อสมฺภวโต ¶ เอกเทสํ นิทฺทิสิตฺวา สามฺเน นิคมนํ ยุตฺตํ, อกตฺวา ปน สมยววตฺถานํ สรูปโต นิทฺทิสเนน ตถาติ อิมมตฺถํ อาห ‘‘สมยววตฺถาเนนา’’ติอาทินา. อวิภตฺเตติ วิปากกิริยาพฺยากตํ วิย น ปุพฺเพ วิภตฺเต. วิภชิตพฺเพติ เภทวนฺตตาย วิภชนารเห. ทสฺสิเตติ อุทฺทิสนวเสน ทสฺสิเต. วุตฺตเมวตฺถํ วิตฺถารตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ ปนา’’ติอาทิมาห.
วิปากาทิธมฺมานํ นยนํ นโย, โสว ทสฺสนนฺติ นยทสฺสนํ. ‘‘เทสนา’’ติ วุตฺตํ เหฏฺา คหณเมว นยทสฺสนนฺติ. ทุติยวิกปฺเป ปน กามาวจราทิภาเวน นียตีติ นโย, กิริยาพฺยากตํ. ตสฺส ทสฺสนํ นยทสฺสนนฺติ โยเชตพฺพํ. ทุกาทีสุ นิทฺเทสวาเร จ หทยวตฺถุโน อนาคตตฺตา ตํ อคฺคเหตฺวา ปมวิกปฺโป วุตฺโต, เอกเก ปน วตฺถุปิ คหิตนฺติ ‘‘หทยวตฺถฺุจา’’ติ ทุติยวิกปฺเป วุตฺตํ. กึ ปน การณํ ทุกาทีสุ นิทฺเทสวาเร จ หทยวตฺถุ น คหิตนฺติ? อิตรวตฺถูหิ อสมานคติกตฺตา เทสนาเภทโต จ. ยถา หิ จกฺขุวิฺาณาทีนิ เอกนฺตโต จกฺขาทินิสฺสยานิ, น เอวํ มโนวิฺาณํ เอกนฺตโต หทยวตฺถุนิสฺสยํ, นิสฺสิตมุเขน จ วตฺถุทุกาทิเทสนา ปวตฺตา. ยมฺปิ เอกนฺตโต หทยวตฺถุนิสฺสยํ, ตสฺส วเสน ‘‘อตฺถิ รูปํ มโนวิฺาณสฺส วตฺถู’’ติอาทินา ทุกาทีสุ วุจฺจมาเนสุปิ ตทนุกูลอารมฺมณทุกาทโย น สมฺภวนฺติ. น หิ ‘‘อตฺถิ รูปํ มโนวิฺาณสฺส อารมฺมณํ, อตฺถิ รูปํ น มโนวิฺาณสฺส อารมฺมณ’’นฺติอาทินา สกฺกา วตฺตุนฺติ วตฺถารมฺมณทุกเทสนา ภินฺนคติกา สิยุํ, สมานคติกา จ ตา เทเสตุํ ภควโต อชฺฌาสโย. เอสา หิ ภควโต เทสนา ปกติ. เตเนว หิ นิกฺเขปกณฺเฑ จิตฺตุปฺปาทวิภาเคน อวุจฺจมานตฺตา อวิตกฺกาวิจารปทวิสฺสชฺชเน วิจาโรติ วตฺตุํ น สกฺกาติ อวิตกฺกวิจารมตฺตปทวิสฺสชฺชเน ลพฺภมาโนปิ วิตกฺโก น อุทฺธโฏ, อฺถา วิตกฺโก จาติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. เอวํ อิตรวตฺถูหิ อสมานคติกตฺตา เทสนาเภทโต จ ทุกาทีสุ อุทฺเทเส น คหิตํ. อุทฺทิฏฺสฺเสว หิ นิทฺทิสนโต นิทฺเทเสปิ น คหิตํ หทยวตฺถูติ วทนฺติ.
จกฺขาทิทสกา ¶ สตฺตาติ จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายอิตฺถิภาวปุริสภาวทสกา สตฺต, เอกสนฺตานวเสน วา จกฺขุโสตฆานชิวฺหากายภาววตฺถุทสกา สตฺต. นิพฺพานสฺส อสติปิ ปรมตฺถโต เภเท ปริกปฺปิตเภโทปิ ¶ เภโทเยว โวหารวิสเยติ กตฺวา โสปาทิเสสาทิเภโท วุตฺโต.
๕๘๔. กิฺจาปิ อฺตฺถ กุกฺกุฏณฺฑสณฺาเน ปริมณฺฑล-สทฺโท ทิสฺสติ, จกฺกสณฺานตา ปน วฏฺฏสณฺาเน จกฺกวาเฬ วุจฺจมาโน ปริมณฺฑล-สทฺโท วฏฺฏปริยาโย สิยา. อเนกตฺถา หิ สทฺทาติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วฏฺฏํ ปริมณฺฑล’’นฺติ. เอตฺถ จ สิเนรุยุคนฺธราทีนํ สมุทฺทโต อุปริอโธภาคานํ วเสน อุพฺเพโธ วุตฺโต, อายามวิตฺถาเรหิปิ สิเนรุ จตุราสีติโยชนสหสฺสปริมาโณว. ยถาห ‘‘สิเนรุ, ภิกฺขเว, ปพฺพตราชา จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ อายาเมน, จตุราสีติ โยชนสหสฺสานิ วิตฺถาเรนา’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๖). สิเนรุํ ปาการปริกฺเขปวเสน ปริกฺขิปิตฺวา ิตา ยุคนฺธราทโย, สิเนรุยุคนฺธราทีนํ อนฺตเรปิ สีตสมุทฺทา นาม. ‘‘เต วิสาลโต ยถากฺกมํ สิเนรุอาทีนํ อจฺจุคฺคมนสมานปริมาณา’’ติ วทนฺติ.
โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬสฺเสว อาณาเขตฺตภาโว ทสสหสฺสจกฺกวาฬสฺส ชาติเขตฺตภาโว วิย ธมฺมตาวเสเนว เวทิตพฺโพ. วิกปฺปสมานสมุจฺจยวิภาวเนสุ วิย อวธารเณ อนิยเม จ วา-สทฺโท วตฺตตีติ ตถา โยชนา กตา. อเนกตฺถา หิ นิปาตาติ. ตตฺถ อเนกนฺติกตฺโถ อนิยมตฺโถ.
สีลาทิวิสุทฺธิสมฺปาทเนน, จตุธาตุววตฺถานวเสเนว วา มหากิจฺจตาย มหนฺเตน วายาเมน. สติปิ ลกฺขณาทิเภเท เอกสฺมึ เอว กาเล เอกสฺมึ สนฺตาเน อเนกสตสหสฺสกลาปวุตฺติโต มหนฺตานิ พหูนิ ภูตานิ ปรมตฺถโต วิชฺชมานานีติ วา มหาภูตานิ ยถา ‘‘มหาชโน’’ติ. เอวนฺติ ‘‘อุปาทาย ปวตฺต’’นฺติ อตฺเถ สติ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตา วุตฺตา โหติ ปจฺจยสมฺภูตตาทีปนโต. อุปาทายตีติ อุปาทายติ เอวาติ อธิปฺปาโย. เตเนวาห ‘‘เอกนฺตนิสฺสิตสฺสา’’ติ. ‘‘ภวติ หิ นิสฺสยรูปานํ สามิภาโว’’ติ อาธาราเธยฺยสมฺพนฺธวจนิจฺฉาย อภาเว อาธารภูโตปิ อตฺโถ สํสามิสมฺพนฺธวจนิจฺฉาย สามิภาเวน วุจฺจติ ยถา ‘‘รุกฺขสฺส สาขา’’ติ อธิปฺปาโย.
ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา
๕๘๕. วิฺตฺติทุโก ¶ ¶ จาติ จ-สทฺเทน จิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุกาปิ สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. สกฺกา หิ เอเตน นเยน…เป… วิฺาตุนฺติ เอตฺถ ปฺจวีสาย ตาว วตฺถุทุเกสุ ปมทุกปฺจกาทโย จุทฺทสหิปิ ปกิณฺณกทุเกหิ อวสิฏฺเหิ วตฺถุทุเกหิ ปฺจวีสาย อารมฺมณทุเกหิ ปฺจหิ พาหิรายตนทุเกหิ รูปธาตุทุกาทีหิ ปฺจหิ ธาตุทุเกหิ ปจฺฉิมเกหิ ตีหิ อินฺทฺริยทุเกหิ ทฺวาทสหิปิ สุขุมรูปทุเกหิ ปมาทิวชฺเชหิ อวสิฏฺเหิ อายตนธาตุอินฺทฺริยทุเกหิ จ โยชนํ คจฺฉนฺติ. ปฺจวีสาย ปน อารมฺมณทุเกสุ ปุริมโก ทุกปฺจโก อุปาทินฺนอุปาทินฺนุปาทานิยสนิทสฺสนจิตฺตสมุฏฺานจิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุกวชฺเชหิ ปกิณฺณกทุเกหิ สพฺเพหิปิ วตฺถุทุเกหิ รูปายตนรูปธาตุทุกวชฺเชหิ อายตนธาตุทุเกหิ สพฺเพหิปิ อินฺทฺริยทุกสุขุมรูปทุเกหิ โยชนํ คจฺฉติ. ทุติยทุกปฺจกาทีสุ ยถากฺกมํ สทฺทายตนสทฺทธาตุทุกาทโย โยชนํ น คจฺฉนฺติ, รูปายตนรูปธาตุทุกาทโย คจฺฉนฺติ. ปกิณฺณกทุเกสุ สนิทสฺสนทุกฺจาติ อยเมว วิเสโส. ยถา จ วตฺถุทุเกสุ, เอวํ จกฺขายตนจกฺขุธาตุจกฺขุนฺทฺริยาทิทุกปฺจเกสุ. ยถา จ อารมฺมณทุเกสุ, เอวํ รูปายตนรูปธาตุอาทิทุกปฺจเกสุ ติกโยชนา. อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยชีวิตินฺทฺริยทุกา สุขุมรูปทุกา จ สพฺเพหิปิ ทุเกหิ โยชนํ คจฺฉนฺตีติ เอวํ ตาว ติกโยชนา เวทิตพฺพา. นนุ จายมฺปิ โยชนา ภควตา น เทสิตาติ น กาตพฺพาติ? นยิทํ เอกนฺติกํ. กสฺมา? ภควตา ทินฺนนเยน โยชนาปิ ภควโตเยว เทสนา. ตถา หิ วุตฺตํ มาติกาวณฺณนายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑-๖) ‘‘เหตู เจว ธมฺมา อเหตุกา จาติ อิทมฺปิ สมฺภวตี’’ติอาทิ. สมฺภโว หิ คหณสฺส การณนฺติ จ.
ติวิธรูปสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา
๕๘๖. จิตฺตโต เอว สมุฏฺาตีติ จิตฺตสมุฏฺานนฺติ อิมเมว อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘วิฺตฺติทุกาทีหิ สมานคติโก จิตฺตสมุฏฺานทุโก’’ติ วุตฺตํ ¶ . วินิวตฺติเต หิ สามฺเ ยํ รูปํ ¶ ชนกปจฺจเยสุ จิตฺตโต สมุฏฺาติ, ตํ จิตฺตโต เอว สมุฏฺาตีติ. วิฺตฺติทุกาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน จิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุเก สงฺคณฺหาติ. ลพฺภมาโนติ ยํ ตํ รูปํ อุปาทา, ตํ อตฺถิ จิตฺตสมุฏฺานํ, อตฺถิ น จิตฺตสมุฏฺานํ. ยํ ตํ รูปํ นุปาทา, ตํ อตฺถิ จิตฺตสมุฏฺานํ, อตฺถิ น จิตฺตสมุฏฺานนฺติ เอวํ ลพฺภมาโน. สนิทสฺสนทุกาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน สปฺปฏิฆมหาภูตทุกาทโย สงฺคณฺหาติ. เตนาติ จิตฺตสมุฏฺานทุเกน. ตสฺสาติ จิตฺตสมุฏฺานทุกสฺเสว. อฺเ ปนาติ วิฺตฺติจิตฺตสมุฏฺานจิตฺตสหภุจิตฺตานุปริวตฺติทุเกหิ อฺเปิ ปกิณฺณกทุกา.
สทฺทายตนสฺส เอกนฺตโต อนุปาทินฺนตฺตา ‘‘โสตสมฺผสฺสารมฺมณทุกาทโย วชฺเชตฺวา’’ติ วุตฺตํ. จตุกฺกา ลพฺภนฺตีติ ยํ ตํ รูปํ อุปาทินฺนํ, ตํ อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณํ, อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส นารมฺมณํ. ยํ ตํ รูปํ อนุปาทินฺนํ, ตํ อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส อารมฺมณํ, อตฺถิ จกฺขุสมฺผสฺสสฺส นารมฺมณนฺติ เอวมาทโย สพฺพารมฺมณพาหิรายตนาทิลพฺภมานทุเกหิ โยชนายํ จตุกฺกา ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อวเสเสหีติ อารมฺมณพาหิรายตนรูปธาตุทุกาทิโต ลพฺภมานทุเกหีติ วุตฺตทุกราสิโต อวเสเสหิ. เตสนฺติ อุปาทินฺนอุปาทินฺนุปาทานิยจิตฺตสมุฏฺานทุกานํ. อฺเสนฺติ อุปาทินฺนทุกาทิโต อฺเสํ อุปาทาทุกาทีนํ. วตฺถุทุกาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน จกฺขายตนทุกาทโย สงฺคณฺหาติ. เอตฺถาปิ อวเสเสหิ เตสํ อฺเสฺจ โยชนาย จตุกฺกา น ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
จตุพฺพิธาทิรูปสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
อุทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปวิภตฺติ
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา
๕๙๔. ปถวีอาทีนํ ธมฺมานํ รุปฺปนสภาโว วิย น เหตุอาทิภาโวปิ สาธารโณติ น เหตูสุ วิภชิตพฺโพติ วุตฺตํ ‘‘อวิชฺชมานวิภาคสฺสา’’ติ. ตสฺส ปน วิภาคาภาวทสฺสนสรูปทสฺสนเมว นิทฺเทโส. เอวฺจ กตฺวา นิพฺพานสฺสปิ วิภาครหิตตฺตา ‘‘อสงฺขตา ธาตู’’ติ เอตฺตกเมว นิทฺเทสวเสน วุตฺตํ.
ยทิปิ ¶ ¶ หิโนติ เอเตน ปติฏฺาติ กุสลาทิโก ธมฺโมติ อโลภาทโย เกวลํ เหตุปทวจนียา, การณภาวสามฺโต ปน มหาภูตาทโยปิ เหตุ-สทฺทาภิเธยฺยาติ มูลฏฺวาจินา ทุติเยน เหตุ-สทฺเทน วิเสเสตฺวา อาห ‘‘เหตุเหตู’’ติ. สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนโต กุสลาทิธมฺมานํ มูลตฺเถน อุปการกธมฺมา ‘‘ตโย กุสลเหตู’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๐๕๙-๑๐๖๐) ปฏฺาเน จ เตเยว ‘‘เหตุปจฺจโย’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘มูลเหตุ ปจฺจยเหตูติ วา อยมตฺโถ’’ติ. หิโนติ เอเตน, เอตสฺมา วา ผลํ ปวตฺตตีติ เหตุ, ปฏิจฺจ เอตสฺมา เอติ ปวตฺตตีติ ปจฺจโยติ เอวํ เหตุปจฺจย-สทฺทานํ อนานตฺถตํ สนฺธาย เหตุสทฺทปริยายภาเวน ปจฺจย-สทฺโท วุตฺโตติ อาห ‘‘เหตุปจฺจยสทฺทานํ สมานตฺถตฺตา’’ติ. ภูตตฺตยนิสฺสิตานิ จ มหาภูตานิ จตุมหาภูตนิสฺสิตํ อุปาทารูปนฺติ สพฺพมฺปิ รูปํ สพฺพทา สพฺพตฺถ สพฺพาการํ จตุมหาภูตเหตุกํ มหาภูตานิ จ อนามฏฺเภทานิ สามฺโต คหิตานีติ วุตฺตํ ‘‘รูปกฺขนฺธสฺส เหตู’’ติ.
กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทานานํ กมฺมานํ, สมาทิยิตฺวา กตกมฺมานํ วา. อฺเสุ ปจฺจเยสุ วิปากสฺส ตณฺหาวิชฺชาทีสุ.
‘‘อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ กายทุจฺจริตสฺส อิฏฺโ กนฺโต มนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชติ. านฺจ โข เอตํ, ภิกฺขเว, วิชฺชติ, ยํ กายทุจฺจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺย. านเมตํ วิชฺชติ. วจี…เป… มโน…เป… วิชฺชติ…เป… อฏฺานเมตํ, ภิกฺขเว, อนวกาโส, ยํ กายสุจริตสฺส อนิฏฺโ อกนฺโต อมนาโป วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๓๑; วิภ. ๘๐๙),
‘‘กมฺมํ สตฺเต วิภชติ, ยทิทํ หีนปณีตตายา’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๙) – เอวมาทิวจนโต กมฺมํ วิปากสฺส อิฏฺานิฏฺตํ นิยเมตีติ อาห ‘‘อิฏฺานิฏฺวิปากนิยามกตฺตา’’ติ. คติอุปธิกาลปโยคสมฺปตฺติวิปตฺติโยเยว านํ วิปากสฺส โอกาสภาวโต. น หิ เตหิ วินา โกจิ วิปาโก นิพฺพตฺตตีติ. ยถาวุตฺตฏฺาเน สติ อธิคนฺตพฺพํ อิฏฺานิฏฺารมฺมณํ ‘‘คติ…เป… นิปฺผาทิต’’นฺติ วุตฺตํ. วิปากสฺส อารมฺมเณน วินา อภาวโต อารมฺมณมฺปิ ¶ ตสฺส ปธานํ การณํ. อนฺสภาวโตติ เหตุอาทิสภาวาภาวโต.
รุปฺปนํ ¶ รูปํ. ตํ อสฺส อตฺถีติ เอตฺถ ‘‘อสฺสา’’ติ วุจฺจมาโน ปถวีอาทิอตฺโถเยว รุปฺปตีติปิ วุจฺจตีติ อาห ‘‘รุปฺปนลกฺขณยุตฺตสฺเสว รูปีรูปภาวโต’’ติ. เอตํ สภาวนฺติ เอตํ อุปฺปนฺนภาเว สติ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวํ รูเป นิยเมติ รูปสฺเสว ตํสภาวตฺตา. น รูปํ เอตสฺมินฺติ กาลเภทวเสน อตํสภาวสฺสปิ รูปสฺส อตฺถิตาย น รูปํ ตตฺถ นิยนฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. อตฺถิ หีติอาทินา ตตฺถ รูปสฺเสว นิยนฺตพฺพตาภาวํเยว วิวรติ. เอตเมวาติอาทินา อุทฺเทเสน นิทฺเทสํ สํสนฺเทติ. เอตฺถ เอตเมว รูเป ยถาวุตฺตสภาวํ นิยเมตพฺพํ นิทฺเทเส เอว-สทฺเทน นิยเมติ อวธาเรตีติ อตฺโถ. ยถาวุตฺโต นิยโมติ อุปฺปนฺนภาเว สติ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยภาโว นิยนฺตพฺพตาย ‘‘นิยโม’’ติ วุตฺโต, โส รูเป อตฺถิ เอว รูปสฺเสว ตํสภาวตฺตา. วิสิฏฺกาลสฺส วุตฺตปฺปการํ อวธารณํเยว วา ยถาวุตฺโต นิยโม, โส รูเป อตฺถิเยว สมฺภวติเยว, น อรูเป วิย น สมฺภวตีติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. กาลเภทนฺติ กาลวิเสสํ. อนามสิตฺวาติ อคฺคเหตฺวา. ตํ สพฺพนฺติ อนามฏฺกาลเภทํ ตโตเยว อรูเปหิ สมานวิฺเยฺยสภาวํ สพฺพํ รูปํ. อุปฺปนฺนนฺติ เอเตน กาลเภทามสเนน วิเสเสติ ‘‘อุปฺปนฺนํ…เป… เมวา’’ติ.
วตฺตมานกาลิกํ สพฺพํ รูปํ ทิฏฺสุตมุตวิฺาตสภาวํ, ตํ ยถาสกํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวเมว, น เตหิ อวิฺเยฺยํ. นาปิ อุปฺปนฺนเมว ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาวํ เอกนฺตลกฺขณนิยมาภาวาปตฺติโตติ เอวํ อวิปรีเต อตฺเถ วิภาวิเตปิ โจทโก อธิปฺปายํ อชานนฺโต ‘‘นนุ เอว’’นฺติอาทินา สพฺพสฺส สพฺพารมฺมณตาปตฺตึ โจเทติ. อิตโร ‘‘รูปํ สพฺพํ สมฺปิณฺเฑตฺวา’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิภาเวติ. เอตฺถ เอกีภาเวน คเหตฺวาติ อิทํ ‘‘สมฺปิณฺเฑตฺวา’’ติ เอตสฺส อตฺถวจนํ. เอกนฺตลกฺขณํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยสภาโวเยว. อิทํ วุตฺตํ โหติ – กิฺจาปิ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ วิสยนฺตเร อปฺปวตฺตนโต น สพฺพสฺส สพฺพารมฺมณตา, สพฺพสฺสปิ ปน รูปสฺส ฉวิฺาณารมฺมณภาวโต ยถาสกํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยตาย ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยตาว อตฺถิ, ตํ เอกโต สงฺคหณวเสน คเหตฺวา ‘‘อุปฺปนฺนํ สพฺพํ รูปํ ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺย’’นฺติ ¶ วุตฺตํ ยถา ‘‘อภิฺาปฺปตฺตํ ปฺจมชฺฌานํ ฉฬารมฺมณํ โหตี’’ติ. ยถา หิ ทิพฺพจกฺขุทิพฺพโสตาทิอภิฺาปฺปตฺตสฺส ปฺจมชฺฌานสฺส วิสุํ อสพฺพารมฺมณตฺเตปิ เอกนฺตลกฺขณวเสน เอกีภาเวน คเหตฺวา อารมฺมณวเสน ปมชฺฌานาทิโต วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อภิฺาปฺปตฺตํ ปฺจมชฺฌานํ ฉฬารมฺมณํ โหตี’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อรูปโต รูปสฺส วิสยวเสน วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปฺป ¶ …เป… วิฺเยฺย’’นฺติ วุตฺตนฺติ. ฉหิ วิฺาเณหิ วิฺเยฺยภาโว รูเป นิยเมตพฺโพ, น ปน รูปํ ตสฺมึ นิยเมตพฺพํ, อนิยตเทโส จ เอว-สทฺโทติ อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺฏ. ๕๙๔) ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมว จกฺขุวิฺาณาทีหิ ฉหิ เวทิตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนรูปเมวา’’ติอาทินา ตตฺถ โทสมาห. ตสฺมาติ ยสฺมา ปาฬิยํ วิฺเยฺยเมวาติ เอว-สทฺโท วุตฺโต, น จ ตสฺส อฏฺานโยชเนน กาจิ อิฏฺสิทฺธิ, อถ โข อนิฏฺสิทฺธิเยว สพฺพรูปสฺส เอกนฺตลกฺขณนิยมาทสฺสนโต, ตสฺมา. ยถารุตวเสเนว นิยเม คยฺหมาเน อุปฺป…เป… ปตฺติ นตฺถิ, ตโต จ โสตปติตตายปิ ปโยชนํ นตฺถีติ. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อรูปโต วิธุร’’นฺติอาทินา วุตฺตนเยน.
าณสฺส วา อุตฺตรสฺส ปุริมาณํ วตฺถุการณนฺติ าณวตฺถุ. ‘‘สชาตี’’ติ เอตฺถ ส-กาโร สมานสทฺทตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘สมานชาติกาน’’นฺติ วุตฺตํ. สมานชาติตา จ สมฺมาวาจาทีนํ สีลนตฺโถ เอว. เอเตน สมานสภาวตา สชาติสงฺคโหติ เวทิตพฺโพ. อารมฺมเณ เจตโส อวิกฺเขปปฺปวตฺติยา อุปฏฺานุสฺสาหนานิ วิย เตสํ อวิกฺเขโปปิ อติสเยน อุปการโกติ ‘‘อฺมฺโปการวเสนา’’ติ วุตฺตํ. เตเนว วิชฺชมาเนสุปิ อฺเสุ สหชาตธมฺเมสุ เอเตสํเยว สมาธิกฺขนฺธสงฺคโห ทสฺสิโต. ยํ ปน สจฺจวิภงฺควณฺณนายํ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙) วิสุทฺธิมคฺคาทีสุ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๘) จ ‘‘วายามสติโย กิริยโต สงฺคหิตา’’ติ วุตฺตํ, ตํ อสมาธิสภาวตํ เตสํ สมาธิสฺส อุปการกตฺตฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. เตเนว จ ตตฺถ ‘‘สมาธิเยเวตฺถ สชาติโต สมาธิกฺขนฺเธน สงฺคหิโต’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๖๘; วิภ. อฏฺ. ๑๘๙) วุตฺตํ. อิธ ปน สชาติสงฺคโหติ สมาธิตทุปการกธมฺมานํ อุปฺปตฺติเทสวเสน สงฺคโห วุตฺโตติ. อวิราเธตฺวา วิสยสภาวาวคฺคหณํ ปฏิเวโธ, อปฺปนา จ อารมฺมเณ ทฬฺหนิปาโต ตทวคาโหเยวาติ ‘‘ปฏิเวธสทิสํ กิจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. อถ วา อารมฺมณปฏิเวธสฺส ตทาหนนปริยาหนนมนุคุณตาย ¶ สมานนฺติ ปฺาวิตกฺกานํ กิจฺจสริกฺขตา วุตฺตา.
เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกนิทฺเทโส
อุปาทาภาชนียวณฺณนา
๕๙๖. สมนฺตโต ¶ สพฺพโส ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ สมนฺตจกฺขูติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพสงฺขตาสงฺขตทสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวมาทินาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ‘‘ทุกฺขํ ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติ ตีสุปิ ปเทสุ ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. ‘‘อิทํ ทุกฺขนฺติ เม, ภิกฺขเว, ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ จกฺขุํ อุทปาทิ, าณํ อุทปาที’’ติอาทินา (มหาว. ๑๕; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) หิ ปาฬิ ปวตฺตาติ. อากาเรนาติ ทฺวาทสวิเธน อากาเรน. ตมฺปิ กามาวจรํ วิปสฺสนาปจฺจเวกฺขณาณภาวโต. ‘‘าณจกฺขุ สหอริยมคฺคํ วิปสฺสนาาณนฺติปิ ยุชฺชตี’’ติ วทนฺติ. อคฺคมคฺเคน ปน สห วิปสฺสนา ปจฺจเวกฺขณาณนฺติ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ.
ยถาวุตฺเต มํสปิณฺเฑ สสมฺภาเร จกฺขุโวหาโร สนฺตานวเสน ปวตฺตมาเน จตุสมุฏฺานิกรูปธมฺเม อุปาทาย ปวตฺโตติ ‘‘จตุ…เป… สมฺภารา’’ติ วุตฺตํ. สณฺานนฺติ วณฺณายตนเมวาติ เตน เตน อากาเรน สนฺนิวิฏฺเสุ มหาภูเตสุ ตํตํสณฺานวเสน วณฺณายตนสฺส วิฺายมานตฺตา วุตฺตํ, น วณฺณายตนสฺเสว สณฺานปฺตฺติยา อุปาทานตฺตา. ตถา หิ อนฺธกาเร ผุสิตฺวาปิ สณฺานํ วิฺายตีติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ทีฆาทีนิ ผุสิตฺวาปิ สกฺกา ชานิตุ’’นฺติ, (ธ. ส. อฏฺฏ. ๖๑๖) ‘‘ทีฆาทิสนฺนิเวสํ ภูตสมุทายํ นิสฺสายา’’ติ (ธ. ส. มูลฏี. ๖๑๖) จ. เตสํ สมฺภวสณฺานานํ อาโปธาตุวณฺณายตเนหิ อนตฺถนฺตรภาเวปิ เตหิ วิสุํ วจนํ ตถาภูตานํ สมฺภวภูตานํ สณฺานภูตานฺจ. เอเตน อาโปธาตุวณฺณายตนานํ วเสน วตฺตมานอวตฺถาวิเสโส สมฺภโว สณฺานฺจาติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต โหติ. ตตฺถ สมฺภโว จตุสมุฏฺานิโก โสฬสวสฺสกาเล อุปฺปชฺชติ. ตสฺส ราควเสน านา วจนํ โหตีติ วทนฺติ. อตถาภูตานํ ¶ ตโต อฺถาภูตานํ. ยถาวุตฺเต สมฺภารวตฺถุสงฺขาเต. วิชฺชมานตฺตาติ ภิยฺโยวุตฺติวเสน วุตฺตํ. ตถา หิ ขีณาสวานํ พฺรหฺมานฺจ สมฺภโว นตฺถีติ. อาโปธาตุวิเสสตฺตา สมฺภโว อาโปธาตุสมฺพนฺธี อาโปธาตุตนฺนิสฺสยนิสฺสิโตปิ โหตีติ ตสฺส จตุธาตุนิสฺสิตตาย อวิโรโธ วุตฺโต.
อุตุจิตฺตาหาเรหิ อุปตฺถมฺภิยมานนฺติ เอตฺถ ‘‘กลาปนฺตรคตา อุตุอาหารา อธิปฺเปตา’’ติ วทนฺติ. อเนกกลาปคตภาวํ จกฺขุสฺส ทสฺเสติ ยโต อุปทฺทุตปฏเล นิรากรเณปิ จกฺขุ วิชฺชตีติ ¶ . ปฏิฆฏฺฏนํ วิสยาภิมุขภาโว นิฆํสปจฺจยตฺตา. นิฆํโส นิสฺสยภาวาปตฺติ. ยโต จกฺขาทินิสฺสิตา สฺา ‘‘ปฏิฆสฺา’’ติ วุจฺจติ.
อเนกตฺตาติ อิทํ อวจนสฺส การณํ, น เหตุกิริยาย วิฺายมานภาวสฺส. โส ปน อเปกฺขาสิทฺธิโต เอว เวทิตพฺโพ. เหตุกิริยาเปกฺขา หิ ผลกิริยาติ. จกฺขุํ สงฺคณฺหาตีติ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวานุปคมเนปิ ตํสภาวานติวตฺตนโต ตสฺสา สมฺาย ตตฺถ นิรุฬฺหภาวํ ทสฺเสติ. ทสฺสนปริณายกฏฺโ จกฺขุสฺส อินฺทฏฺโเยวาติ ‘‘ยถา หิ อิสฺสโร’’ติอาทินา อิสฺสโรปมา วุตฺตา. จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺเจ ปริณายนฺตํ จกฺขุ ตํสหชาเต จกฺขุสมฺผสฺสาทโยปิ ตตฺถ ปริณายตีติ วุจฺจตีติ ‘‘เต ธมฺเม…เป… ปริณายตี’’ติ วุตฺตํ, น ปน จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ ทสฺสนกิจฺจตฺตา. อถ วา จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน อุปการกํ จกฺขุวิฺาณํ ทสฺสนกิจฺเจ ปริณายนฺตํ จกฺขุ ตตฺถ จกฺขุสมฺผสฺสาทโยปิ ตทนุวตฺตเก ปริณายตีติ อตฺถายํ ปริยาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เต ธมฺเม…เป… ณายตี’’ติ. อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ จกฺขตีติ อิมสฺส ‘‘ปริณายติ ปกาเสตี’’ติ จ อตฺถา วุตฺตา. สณฺานมฺปิ รูปายตนเมวาติ ‘‘สมวิสมานิ รูปานิ จกฺขตีติ จกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ตํทฺวาริกานํ ผสฺสาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจยภาโว เอว วฬฺชนตฺโถ.
๕๙๙. ตํทฺวาริกา…เป… อุปฺปตฺติ วุตฺตาติ จกฺขุวิฺาเณ อุปฺปนฺเน สมฺปฏิจฺฉนาทีนิ พลวารมฺมเณ ชวนํ เอกนฺเตน อุปฺปชฺชตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา เจว หิ อนฺตรา จกฺขุวิฺาเณ วา สมฺปฏิจฺฉเน วา สนฺตีรเณ วา ตฺวา นิวตฺติสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชตีติ นิจฺฉิตํ. เตน ปจฺจเยนาติ ตํปกาเรน ปจฺจเยน. ตํสทิสานนฺติ ครุํ กตฺวา อสฺสาทนาทิปฺปวตฺติวิเสสรหิตตาย ทสฺสนสทิสานํ มโนธาตุสนฺตีรณโวฏฺพฺพนานํ. ปฺจทฺวาริกชวนานํ ¶ อสฺสาทนาทิโต อฺถา ครุํ กตฺวา ปวตฺติ นตฺถิ รูปธมฺมวิสยตฺตาติ ‘‘อสฺสาทนาภินนฺทนภูตานี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. มโนทฺวาริกชวนปิฏฺิวฏฺฏกานมฺปิ หิ ปฺจทฺวาริกชวนานํ อสฺสาทนาภินนฺทนภาเวน รูปํ ครุํ กตฺวา ปวตฺติ นตฺถีติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. รูปํ อารมฺมณาธิปติ อกุสลสฺเสว โหติ. ตถา หิ ปฏฺาเน ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อกุสลสฺส ธมฺมสฺส อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย. อารมฺมณาธิปติ จกฺขุํ ครุํ กตฺวา อสฺสาเทติ อภินนฺทตี’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๖) รูปธมฺโมปิ อารมฺมณาธิปติ วิภตฺโต. ‘‘อพฺยากโต ธมฺโม อพฺยากตสฺส ธมฺมสฺส อพฺยากโต ธมฺโม กุสลสฺสา’’ติ เอตฺถ ปน ¶ ผลนิพฺพานาเนว อารมฺมณาธิปติภาเวน วิภตฺตานีติ. คณนาย จ ‘‘อารมฺมณอารมฺมณาธิปติอุปนิสฺสยปุเรชาตอตฺถิอวิคตนฺติ เอก’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๔๕) วุตฺตํ. ยทิ กุสลสฺสปิ สิยา, ทฺเวติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. ตานีติ ยถาวุตฺตชวนานิ ปฏินิทฺทิฏฺานิ. ตํสมฺปยุตฺตานิ จาติ ชวนสมฺปยุตฺตานิ. อฺานิ จกฺขุสมฺผสฺสาทีนิ. ยทิ รูปสฺส อารมฺมณปจฺจยภาวมตฺตํ อธิปฺเปตํ, ‘‘ตํ รูปารมฺมเณติ เอเตเนว สิชฺเฌยฺยา’’ติ เอตฺตกเมว วเทยฺย. ยสฺมา ปน รูปํ ตํทฺวาริกชวนานํ ปจฺจยวิเสโสปิ โหติ, ตสฺมา ตสฺส วิเสสสฺส ทีปนตฺถํ ‘‘อารพฺภา’’ติ วจนํ วุตฺตํ สิยาติ อาห ‘‘อารมฺมณปจฺจยโต อฺปจฺจยภาวสฺสปิ ทีปก’’นฺติ.
๖๐๐. โสตวิฺาณปฺปวตฺติยํ สวนกิริยาโวหาโรติ โสตสฺส สวนกิริยาย กตฺตุภาโว โสตวิฺาณสฺส ปจฺจยภาเวนาติ วุตฺตํ ‘‘โสตวิฺาณสฺส นิสฺสยภาเวน สุณาตี’’ติ. ชีวิตนิมิตฺตมาหารรโส ชีวิตํ, ตสฺมึ นินฺนตาย ตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหาติ เอวํ สิทฺเธน ชิวฺหา-สทฺเทน ปกาสิยมานา รสาวฺหายนสงฺขาตา สายนกิริยา ลพฺภตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ชิวฺหาสทฺเทน วิฺายมานา กิริยาสายน’’นฺติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘ชีวิตมวฺหายตีติ ชิวฺหา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๑๕๔). อาโยติ อุปฺปตฺติเทโส. ปสาทกายสฺส กายิกานํ ทุกฺขสุขานํ นิสฺสยภาวโต อิตเรสํ อุปนิสฺสยภาวโต ‘‘ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขานํ อาโย’’ติ วุตฺตํ. พฺยาปิตายาติ พฺยาปิภาเว, พฺยาปิภาเวน วา. กายปฺปสาทภาโวติ กายปฺปสาทสพฺภาโว. อนุวิทฺธตฺตาติ อนุยุตฺตภาวโต, สํสฏฺภาวโตติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ยาวตา อิมสฺมึ ¶ กาเย อุปาทินฺนกปวตฺตํ นาม อตฺถิ, สพฺพตฺถ กายายตนํ กปฺปาสปฏเล สฺเนโห วิยาติ วุตฺตํ, ตสฺมา. ปณฺฑรสภาวา ปสาทา อาปาถคตํ วิสยํ วิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาเวน ปกาเสนฺตา วิย โหนฺตีติ เตสํ วิสยาวภาสนกิจฺจตา วุตฺตา. สมานนิสฺสยานนฺติ เอกนิสฺสยานํ. อวินิพฺภุตฺเตสุ หิ รูปรสาทีสุ ยํนิสฺสยํ รูปํ, ตํนิสฺสโย เอว รสาทีติ. อฺมฺสภาวานุปคเมนาติ ลกฺขณสงฺกราภาวมาห.
ยสฺมา ปจฺจยนฺตรสหิโตเยว จกฺขุปฺปสาโท รูปาภิหนนวเสน ปวตฺตติ, น ปจฺจยนฺตรรหิโต, ตสฺมา รูปาภิฆาโต โหตุ วา มา วา โหตุ, เอวํสภาโว โส รูปธมฺโมติ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาภิฆาตารโห’’ติ วุตฺตํ ยถา ‘‘วิปาการหสภาวา กุสลากุสลา’’ติ. วิสยวิสยีนํ อฺมฺํ อภิมุขภาโว อภิฆาโต วิยาติ อภิฆาโต, โส รูเป จกฺขุสฺส ¶ , จกฺขุมฺหิ วา รูปสฺส โหตีติ วุตฺตํ ‘‘รูเป, รูปสฺส วา อภิฆาโต’’ติ. เตเนวาห ‘‘ยมฺหิ จกฺขุมฺหิ อนิทสฺสนมฺหิ สปฺปฏิฆมฺหิ รูปํ สนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ ปฏิหฺิ วา’’ติ (ธ. ส. ๕๙๗), ‘‘จกฺขุ อนิทสฺสนํ สปฺปฏิฆํ รูปมฺหิ สนิทสฺสนมฺหิ สปฺปฏิฆมฺหิ ปฏิหฺิ วา’’ติ (ธ. ส. ๕๙๘) จ อาทิ. เอตฺถ จ ตํตํภวปตฺถนาวเสน จกฺขาทีสุ อวิคตราคสฺส อตฺตภาวนิปฺผาทกสาธารณกมฺมวเสน ปุริมํ จกฺขุลกฺขณํ วุตฺตํ, สุทูรสุขุมาทิเภทสฺสปิ รูปสฺส คหณสมตฺถเมว จกฺขุ โหตูติ เอวํ นิพฺพตฺติตอาเวณิกกมฺมวเสน ทุติยํ. เอส นโย เสเสสุปิ. อถ วา สติปิ ปฺจนฺนํ ปสาทภาวสามฺเ สวิสยาวภาสนสงฺขาตสฺส ปสาทพฺยาปารสฺส ทสฺสนวเสน ปุริมํ วุตฺตํ, ปสาทการณสฺส สติปิ กมฺมภาวสามฺเ อตฺตโน การณเภเทน เภททสฺสนวเสน ทุติยํ.
กามตณฺหาติ กามภเว ตณฺหา. ตถา รูปตณฺหา ทฏฺพฺพา. ตสฺส ตสฺส ภวสฺส มูลการณภูตา ตณฺหา ตสฺมึ ตสฺมึ ภเว อุปฺปชฺชนารหายตนวิสยาปิ นาม โหตีติ กามตณฺหาทีนํ ทฏฺุกามตาทิโวหารารหตา วุตฺตา. ทฏฺุกามตาติ หิ ทฏฺุมิจฺฉา รูปตณฺหาติ อตฺโถ. ตถา เสสาสุปีติ. เอตฺถ จ ทฏฺุกามตาทีนํ ตํตํอตฺตภาวนิพฺพตฺตกกมฺมายูหนกฺขณโต สติ ปุริมนิพฺพตฺติยํ วตฺตพฺพํ นตฺถิ. อสติปิ ตสฺส มคฺเคน อสมุคฺฆาติตภาเวเนว การณนฺติ ทฏฺพฺพํ. ยโต ¶ มคฺเคน อสมุจฺฉินฺนํ การณลาเภ สติ อุปฺปชฺชิตฺวา อตฺตโน ผลสฺส การณภาวูปคมนโต วิชฺชมานเมวาติ อุปฺปนฺนอตฺถิตาปริยาเยหิ วุจฺจติ ‘‘อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ ภาเวนฺโต อริยํ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ พหุลีกโรนฺโต อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน ปาปเก อกุสเล ธมฺเม อนฺตราเยว อนฺตรธาเปติ’’ (สํ. นิ. ๕.๑๕๗), ‘‘สนฺตํ วา อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺทํ อตฺถิ เม อชฺฌตฺตํ กามจฺฉนฺโทติ ปชานาตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๘๒; ม. นิ. ๑.๑๑๕) จ เอวมาทีสุ.
เอตฺถาห – จกฺขาทีนํ อินฺทฺริยานํ กึ เอกกมฺมุนา อุปฺปตฺติ, อุทาหุ นานากมฺมุนาติ? อุภยถาปีติ โปราณา. ตตฺถ นานากมฺมุนา ตาว อุปฺปตฺติยํ จกฺขาทีนํ วิเสเส วตฺตพฺพํ นตฺถิ การณสฺส ภินฺนตฺตา. เอกกมฺมุนา ปน อุปฺปตฺติยํ เตสํ กถํ วิเสโสติ? การณสฺส ภินฺนตฺตาเยว. ตํตํภวปตฺถนาภูตา หิ ตณฺหา ตํตํภวปริยาปนฺนายตนาภิลาสตาย สยํ วิจิตฺตรูปา อุปนิสฺสยภาเวน ตํตํภวนิพฺพตฺตกกมฺมสฺส วิจิตฺตเภทตํ วิทหติ. ยโต ตทาหิตวิเสสํ ตํ ตถารูปสมตฺถตาโยเคน อเนกรูปาปนฺนํ วิย อเนกํ วิสิฏฺสภาวํ ผลํ นิพฺพตฺเตติ. ตถา จ วกฺขติ ‘‘กมฺมเมว เนสํ วิเสสการณ’’นฺติ. น เจตฺถ สมตฺถตาภาวโต อฺํ ¶ เวทิตพฺพํ การณวิเสเสนาหิตวิเสสสฺส วิสิฏฺผลนิปฺผาทนโยคฺยตาภาวโต. ตถา หิ สติ เอกสฺสปิ กมฺมสฺส อเนกินฺทฺริยเหตุตาวิเสสโยคํ เอกมฺปิ กมฺมนฺติอาทินา ยุตฺติโต อาคมโตปิ ปรโต สยเมว วกฺขติ. ตถา จ เอกสฺเสว กุสลจิตฺตสฺส โสฬสาทิวิปากจิตฺตนิพฺพตฺติเหตุภาโว วุจฺจติ. โลเกปิ เอกสฺเสว สาลิพีชสฺส ปริปุณฺณาปริปุณฺณตณฺฑุลผลนิพฺพตฺติเหตุตา ทิสฺสติ. กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตาย, น จินฺติตพฺพเมเวตํ. ยโต กมฺมวิปาโก จกฺขาทีนิ กมฺมวิปาโก จ สพฺพาการโต พุทฺธานํเยว กมฺมวิปากาณผลยุตฺตานํ วิสโย, น อฺเสํ อตกฺกาวจรตาย. เตเนว จ ภควตา ‘‘กมฺมวิปาโก อจินฺเตยฺโย น จินฺเตตพฺโพ, โย จินฺเตยฺย อุมฺมาทสฺส วิฆาตสฺส ภาคี อสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๔.๗๗) อาทีนวํ ทสฺเสตฺวา ปฏิกฺขิตฺตํ. อาวิฺฉนํ ปุคฺคลสฺส วิฺาณสฺส วา ตํนินฺนภาวปฺปตฺติยา เหตุภาโว.
สพฺเพสนฺติ ปทสฺส ปกรณโต ปาริเสสโต วา ลพฺภมานํ อตฺถวิเสสํ อชานนฺโต ยถารุตวเสเนว อตฺถํ คเหตฺวา ‘‘โก เอตฺถ วิเสโส’’ติอาทินา ¶ โจเทติ. อิตโร เตชาทีนํ ปจฺเจกํ อธิกภาเว วิย ทฺวินฺนํ ติณฺณํ วา อธิกภาเวปิ ยถาวุตฺตาธิกภาเวเนว เอกกาทิวเสน ลพฺภมานาย โอมตฺตตายปิ กายปฺปสาโท น โหตีติ วิฺายมานตฺตา ปกรณโต ปาริเสสโต วา จตุนฺนมฺปิ ภูตานํ สมภาเวน กาโย โหตีติ อยมตฺโถ สิทฺโธติ สพฺพ-สทฺโท อิธ สมภาวทีปโกติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิทํ ปนา’’ติอาทิมาห. อิมมตฺถํ ทีเปตีติ จ ยถาวุตฺเตน าเยน ‘‘สพฺเพส’’นฺติ วจนโต อยมตฺโถ ลพฺภติ, น ตสฺส วาจกตฺตาติ ทสฺเสติ. เตเนวาห ‘‘อนุวตฺต…เป… วเสน วุตฺตตฺตา’’ติ. เอกเทสาธิกภาวนิวารเณเนว หิ เอกเทโสมตฺตตานิวารณมฺปิ วิฺายตีติ. เอกเทโส อวยโว. จตุธาตุสมุทายนิสฺสยสฺส หิ ปสาทสฺส ตเทกธาตุอธิกตา อวยวาธิกตา โหตีติ.
‘‘ปุริมา เจตฺถ ทฺเวปิ วาทิโน นิกายนฺตริยา’’ติ วทนฺติ. อาโลกาทิสหการีการณสหิตานํเยว จกฺขาทีนํ รูปาทิอวภาสนสมตฺถตา วิวรสฺส จ โสตวิฺาณุปนิสฺสยภาโว คุโณติ เตสํ ลทฺธีติ อธิปฺปาเยน ‘‘ตํตํภูตคุเณหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตชาทีนํ วิย วิวรสฺส ภูตภาวาภาวโต ‘‘ยถาโยค’’นฺติ วุตฺตํ. อถ วา รูปาทโย วิย วิวรมฺปิ ภูตคุโณติ ปราธิปฺปายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตํตํภูตคุเณหี’’ติ อาห. เตชสฺส ปน อาโลกรูเปน, อากาสสงฺขาตสฺส วิวรสฺส สทฺเทน, วายุสฺส คนฺเธน, อุทกสฺส รเสน, ปถวิยา โผฏฺพฺเพนาติ อิมมตฺถํ ¶ สนฺธาย ‘‘ยถาโยคํ ตํตํภูตคุเณหี’’ติ วุตฺตํ สิยา. รูปาทิคฺคหเณติ รูปาทิวิสเย จกฺขุวิฺาณาทิเก นิปฺผาเทตพฺเพติ อตฺโถ. อุปกริตพฺพโตติ สหการีการณภูเตหิ ยถาวุตฺตภูตคุเณหิ จกฺขาทีนํ สกิจฺจกรเณ อุปกริตพฺพโต. สภาเวน สุยฺยมานสฺสาติ เกนจิ อนุจฺจาริยมานสฺเสว ลพฺภมานตฺตา วุตฺตํ. ฆฏฺฏนํ ปน วินา วายุสทฺโทปิ นตฺถีติ. อถ วา วายุมฺหิ สทฺโท สภาเวน สุยฺยตีติ อาเป รโส มธุโรติ จ ตสฺส ลทฺธิเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ทุติยวาทิสฺสปิ นิคฺคโห โหติ ตสฺสปิ เตชาทิคุณา รูปาทโยติ เอวํลทฺธิกตฺตา.
รูปาทิวิเสสคุเณหีติ รูปาทิวิเสสคุณยุตฺเตหิ. เตช…เป… วายูหีติ สหากาเสหิ เตชาทิปรมาณูหิ. กปฺปาสโต วิสทิสายาติ ¶ กปฺปาสปถวิโต วิเสสยุตฺตาย ตโต อธิกสามตฺถิยยุตฺตายาติ อธิปฺปาโย. ตสฺสาเยวาติ กปฺปาสปถวิยาเยว. ยสฺมา สา วิชฺชมานานิปิ อวิเสสภูตานิ อตฺถีติ คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน อภิภวิตฺวา ิตา, ตสฺมา ตสฺสาเยว คนฺโธ อธิกตโร ภเวยฺยาติ อตฺโถ. อยฺจ สพฺโพ อุตฺตโร ‘‘ตสฺส ตสฺส ภูตสฺส อธิกตายา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๖๐๐) วุตฺตตฺตา ตถาคตานํ วาทํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา วทนฺตสฺส กณาทสฺส วเสน วุตฺโต. ‘‘อตฺตโน ปน มเตน กณาทกปิลาทโย เกวลํ ปถวาทิทฺรพฺยเมวาติอาทิ ลทฺธิ. กณาทสาสนาย อธิมุตฺตานํ สาสเน อนวคาฬฺหานํ เกสฺจิ อยํ วาโท’’ติ จ วทนฺติ. เอตสฺสุภยสฺสาติ อาสวคนฺธโต กปฺปาสคนฺโธ อธิโก สีตุทกวณฺณโต อุณฺโหทกวณฺโณ จ อธิโกติ เอตสฺส อุภยสฺส. เตชาทิอธิเกสุ จ สมฺภาเรสุ รูปาทีนํ วิเสสสฺส อทสฺสนโต น รูปาทโย เตชาทีนํ วิเสสคุโณติ สิทฺธนฺติ อาห ‘‘ตทภา…เป… ตฺติตา’’ติ. เตน น รูปํ เตชสฺส วิเสสคุโณ เอกนฺตโต เตชาทิเก สมฺภาเร วิเสเสน อทสฺสนโต, โย ยสฺส วิเสสคุโณ, น โส ตทธิเก สมฺภาเร เอกนฺตโต วิเสเสน ทิสฺสติ ยถา ปถวีอธิเก สมฺภาเร อาโปธาตูติ ทสฺเสติ. เอวํ เสเสสุปิ ยถาโยคํ โยเชตพฺพํ. โก ปน วาโท นานากลาเปติ สภาวโต นานตฺตาภาเวปิ มูลการณนานตฺตวเสน อตฺถิ โกจิ วิเสโส อสงฺฆาเตติ ทสฺเสติ, ยโต ปรมรณาทิกิริยาสมตฺถตา เนสํ เกสฺจิเยว ทิสฺสตีติ.
เอกมฺปีติ ปิ-สทฺเทน อเนกสฺมึ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ปฺจายตนิกตฺตภาเว ปตฺถนา ยา ทฏฺุกามตาทิภาเวน วุตฺตา, ตาย นิปฺผนฺนํ. เอเตน การณวิเสเสน ผลวิเสสมาห. น หีติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺถยติ. ตนฺติ กมฺมํ. วิเสเสนาติ อตฺตโน การเณน อาหิตาติสเยน ¶ . เตเนว โสตสฺส น โหติ ปจฺจโย, ตโต อฺเเนว ปน โหตีติ อธิปฺปาโย. เตน อเนกสภาเวน การเณน อาหิตวิเสสํ เอกมฺปิ กมฺมํ อเนกสภาวํ ผลํ นิปฺผาเทตุํ สมตฺถํ โหตีติ ทสฺเสติ. อิทานิ กมฺมสฺส วุตฺตปฺปการวิเสสาภาเว ¶ โทสมาห ‘‘อินฺทฺริยนฺตราภาวปฺปตฺติโต’’ติ. ตสฺสตฺโถ – การณวิเสสาภาเว ผลวิเสสสฺส อสมฺภวโต ยํ วิเสสยุตฺตํ กมฺมํ จกฺขุสฺส การณํ, ตสฺส ตโต อฺวิเสสาภาเว ตทฺินฺทฺริยุปฺปาทกตาปิ น สิยาติ โสตินฺทฺริยาทีนํ ตโต อนุปฺปตฺติ เอว สิยา. เอวมิตรตฺถาปิ. วิเสโสติ เจตฺถ กมฺมสฺส ตํตํอินฺทฺริยุปฺปาทนสมตฺถตา อธิปฺเปตา, สา จ ปุพฺเพ ทสฺสิตสภาโวว.
อเนกาหิ มหคฺคตเจตนาหิ เอกาย วา ปริตฺตเจตนาสหิตาย ปฏิสนฺธิกฺขเณ กฏตฺตารูปานํ นิพฺพตฺตีติ น สกฺกา วิฺาตุนฺติ ‘‘สพฺเพสํ…เป… วิฺายตี’’ติ วุตฺตํ. อิทานิ ตเมว อสกฺกุเณยฺยตํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘นานาเจตนายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสายํ สงฺเขปตฺโถ – ‘‘ปฏิส…เป… ปจฺจโย’’ติ เอตฺถ ยทิ นานากมฺมวเสน อินฺทฺริยานํ อุปฺปตฺติ อธิปฺเปตา, เอวํ สติ มหคฺคตกมฺเมน จ กามาวจรกมฺเมน จ ตํตํปฏิสนฺธิกฺขเณ กฏตฺตารูปํ อุปฺปนฺนํ สิยา, น เจตํ ยุตฺตํ ‘‘มหคฺคตเจตนา กมฺมปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๗๘) วุตฺตตฺตา. นาปิ ตํตํภวนิยตรูปินฺทฺริเยหิ วิกลินฺทฺริยตา คติสมฺปตฺติยา โอปปาติกโยนิยํ ปฏิสนฺธิกฺขเณ ยุตฺตา. อถ มหคฺคตาหิ เอว นานาเจตนาหิ นิพฺพตฺตํ, น เจกา ปฏิสนฺธิ อเนกกมฺมนิพฺพตฺตา โหติ. นิจฺฉิตฺเหตํ สาเกตปฺเหนาติ. เอวํ เอเกน มหคฺคตกมฺมุนา จกฺขุนฺทฺริยโสตินฺทฺริยหทยวตฺถูนํ อุปฺปตฺติาปเกน อิมินา วจเนน ปริตฺตกมฺมุนาปิ เอเกน ยถารหํ อเนเกสํ อินฺทฺริยานํ อุปฺปตฺติ สิทฺธาวาติ วุตฺตํ ‘‘สิทฺธเมเกน กมฺเมน อเนกินฺทฺริยุปฺปตฺติ โหตี’’ติ.
สมฺปตฺโตเยว นาม สมฺปตฺติกิจฺจกรณโตติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิ…เป… นกโต’’ติ วุตฺตํ. อติสุขุมภาวโต มํสจกฺขุอโคจเรน รูปายตเนน สมนฺนาคตสงฺฆาตวุตฺติตาย จ ‘‘วายุ วิยา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตสมุฏฺานํ สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส กทาจิปิ อารมฺมณปจฺจโย น สิยา ธาตุปรมฺปราย ฆฏฺเฏนฺตสฺส อุตุสมุฏฺานตฺตา. เตนาห ‘‘น หิ…เป… ปชฺชตี’’ติ. ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๑.๑.๒) จ ‘‘สทฺทายตนํ โสตวิฺาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อวิเสเสน วุตฺตํ.
นนุ จิเรน สุยฺยนฺตีติ ทูเร ิตานํ ลหุกํ สวนํ นตฺถิ, เตสมฺปิ วา ลหุกํ สวเนน ทูราสนฺนภาวานํ ¶ วิเสโส น สิยาติ อธิปฺปาโย. น ¶ , ทู…เป… โตติ น ทูเร ิเตหิ รชกาทิสทฺทา จิเรน โสตวิฺาเณน สุยฺยนฺติ, สเจ สวนูปจาเร โส สทฺโท ทูเร อาสนฺเน จ ิตานํ ยถาภูเต อาปาถคเต สทฺเท มโนวิฺาณสงฺขาตโต คหณวิเสสโต จิเรน สุโต สีฆํ สุโตติ อภิมาโนติ อตฺโถ. เอตเมวตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. นิจฺฉย…เป… อภิมาโน โหติ, โสตวิฺาณปฺปวตฺติ ปน อุภยตฺถาปิ สมานา, ยสฺมา โส ปน สทฺโท…เป… อาคจฺฉตีติ. ยทิ ธาตุปรมฺปราย สทฺโท นปฺปวตฺตติ, กถํ ปฏิโฆสาทีนํ อุปฺปตฺตีติ อาห ‘‘ทูเร…เป… ปจฺจโย โหตี’’ติ. อุปฺปตฺติวเสน อาคตานีติ เอเตน รูปธมฺมาปิ ยตฺถ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ, น เทสนฺตรํ สงฺกมนฺตีติ ทสฺเสติ. ฆฏฺฏนสภาวาเนวาติ เตสํ ภูตานํ สทฺทสมุปฺปตฺติเหตุภาวมาห. โสตปเทสสฺสาติ โสตเทสสฺส, โสตเทเส ิตสฺสาติ อตฺโถ.
จกฺขุมโต ปุคฺคลสฺส อชฺฌาสยวเสนาติ จิตฺรวิจิตฺรรูปายตเน เยภุยฺเยน สตฺตานํ จกฺขุทฺวาริกชวนสฺส อนุกฑฺฒนวเสน ปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. กณฺณกูปจฺฉิทฺเทเยว ปวตฺตนโตติ เอเตน อธิฏฺานโต พหิทฺธา อินฺทฺริยํ ปวตฺตีติ วาทํ ปฏิเสเธติ. อธิฏฺานเทเส เอว หิ อินฺทฺริยํ วตฺตติ ตตฺถ กิจฺจาทิปฺปโยคทสฺสนโต. สติปิ ปนสฺส พหิทฺธา วุตฺติยํ น วิสยคฺคหเณ สมตฺถตา, อฺถา อธิฏฺานปิทหเนปิ วิสยคฺคหณํ ภเวยฺยาติ. อารมฺมณคฺคหณเหตุโต จาติ กณฺณกูปจฺฉิทฺเทเยว ตฺวา อารมฺมณกรณสฺส วิฺาณสฺส วา เหตุภาวโต.
ตพฺโพหาเรนาติ คนฺธคนฺธคฺคหณสฺส สหจริตาย คนฺโธปิ ตถา วุตฺโตติ อธิปฺปาโย. คนฺโธ ปจฺจโยติ คนฺโธ สหการีปจฺจโยติ อตฺโถ. เขฬาทิโก ปจฺจโยติ โยเชตพฺพํ. ตถา ปถวีติ สหการีปจฺจยนฺตรภูตา อชฺฌตฺติกพาหิรา ปถวี อารมฺมณคฺคหเณ ปจฺจโยติ อตฺโถ. อาธารภูตาติ เตโชวาโยธาตูนํ อาธารภูตา. นิสฺสยภูตานนฺติ นิสฺสยมหาภูตานํ อาโปเตโชวาโยธาตูนํ. สพฺพทาติ อุปฺปีฬนกาเล จ อนุปฺปีฬนกาเล จ. ตตฺถาติ จตุราสีติปเภเท อุปริมกายสงฺขาเต รูปสมูเห. วินิพฺภุชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยานนฺติ อิทํ จกฺขุทสกํ อิทํ กายทสกํ อิทํ ภาวทสกนฺติ เอวํ กลาปโตปิ วินิพฺภุชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยานํ.
๖๑๖. ทีฆาทีนํ ¶ ผุสิตฺวา ชานิตพฺพโตติ อิทํ ทีฆาทีนํ น กายวิฺาณโคจรตฺตา วุตฺตํ, ทีฆาทิโวหารรูปาทีนํ ปน โผฏฺพฺพํ ผุสิตฺวา กายวิฺาณวีถิยา ปรโต ปวตฺเตน มโนวิฺาเณนปิ ¶ ชานิตพฺพตฺตา วุตฺตํ. ทีฆาทิสนฺนิเวสนฺติ ทีฆาทิสนฺนิเวสวนฺตํ. เอกสฺมึ อิตรสฺส อภาวาติ ฉายาตปานํ อาโลกนฺธการานฺจ อสหฏฺายิตํ อาห. กถํ ปน อาโลโก อนฺธการํ วิธมตีติ? ‘‘อาโลกปฺปวตฺติสมานกาลํ อนฺธการสภาเวน ปวตฺตมานํ วณฺณายตนํ ภิชฺชติ. อนฺธการสฺส นิสฺสโย หุตฺวา ปวตฺตมานานิ ภูตานิ กเมน ตถารูปสฺส วณฺณายตนสฺส นิสฺสยภาวํ คจฺฉนฺตี’’ติ เกจิ. สห อนฺธกาเรน ตนฺนิสฺสยภูตานํ นิโรธสมนนฺตรํ ตํสนฺตติยํ ตาทิเส ปจฺจยสนฺนิปาเต อาโลกนิสฺสยภูตานํ อุปฺปตฺตีติ เวทิตพฺพํ. น หิ นิสฺสยมหาภูเตหิ วินา อาโลกปฺปวตฺติ อตฺถิ, นาปิ อนฺธการสงฺขาตํ วณฺณายตนเมว นิรุชฺฌติ ตํนิสฺสเยหิ ปยุชฺชมานกเอกกลาปภูโตปาทารูปานํ สเหว นิรุชฺฌนโต. ปทีปสิขามณิรํสิโย วิย ปถวีปาการรุกฺขาทีนิ มฺุจิตฺวาปิ อนฺธกาโร ปวตฺตตีติ วทนฺติ. มนฺทํ ปน ปาการาทิอาธารรหิตํ น สุฏฺุ ปฺายติ, พหลํ อาธารํ นิสฺสาย ปวตฺตตีติ ยุตฺตนฺติ จ วทนฺติ.
๖๒๐. ‘‘อมนุสฺสสทฺโท’’ติ เอตฺถ อ-กาโร น มนุสฺสตามตฺตนิวตฺติอตฺโถ สทิสภาวทีปนตาย อนธิปฺเปตตฺตา, มนุสฺสโต ปน อนฺตานิวตฺติอตฺโถติ ทสฺเสตุํ ‘‘อมนุสฺส…เป… ฏฺาทโยปี’’ติ อาห. ตถา กิตฺเตตพฺโพติ ‘‘วํสผาลนสทฺโท’’ติอาทินา วตฺถุวเสน กิตฺเตตพฺโพ.
๖๓๒. กมฺมจิตฺตาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อุตุอาหาเร สงฺคณฺหาติ. ตํตทาการานีติ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการานิ. อิตฺถินฺทฺริยํ ปฏิจฺจ สมุฏฺหนฺตีติ อฺมฺปจฺจยานิปิ อิตฺถิลิงฺคาทีนิ เยภุยฺเยน อิตฺถินฺทฺริยสหิเต เอว สนฺตาเน สพฺภาวา อิตรตฺถ จ อภาวา อินฺทฺริยเหตุกานิ วุตฺตานิ. อฺถาติ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการโต อฺถา, อิตฺถินฺทฺริยาภาเว วา. อิตฺถิคฺคหณสฺส จาติ อิตฺถีติ จิตฺตปฺปวตฺติยา. เตสํ รูปานนฺติ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการรูปานํ. ยทิ อิตฺถินฺทฺริยํ อิตฺถิลิงฺคาทิอาการรูปานํ สหการีการณํ, อถ กสฺมา ตสฺส อินฺทฺริยาทิปจฺจยภาโว เตสํ น วุตฺโตติ? เนว ตํ สหการีการณํ, อถ โข เตสํ ตพฺภาวภาวิตามตฺเตน ตํ การณนฺติ วุจฺจตีติ ทสฺเสตุํ อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ.
๖๓๓. ลิงฺคํ ¶ ปริวตฺตมานํ ปุริมลิงฺคาธารชาติอนุรูปเมว หุตฺวา ปริวตฺตตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปฏิสนฺธิยํ วิย ปวตฺเตปี’’ติ. ยสฺส…เป… โนติ อาทิวจนโตติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘ยสฺส ¶ วา ปน ปุริสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อิตฺถินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ โน’’ติ (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑๘๘) สงฺคณฺหาติ.
๖๓๕. ทฺวารภาเวน กุจฺฉิตานํ อาสวธมฺมานํ ปวตฺติฏฺานตาย ปสาทวิเสเส วิย วิฺตฺติวิเสเสปิ กายโวหารปฺปวตฺติ ทฏฺพฺพา. วิตฺถมฺภนสภาวตาย วาโยธาตุยา ถมฺภนํ ‘‘วาโยธาตุกิจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ. กิจฺจมฺปิ หิ ธมฺมานํ สภาโวเยวาติ. ปถวีธาตุยา อากาโร วจีวิฺตฺตีติ วตฺตุํ วฏฺฏตีติ โยชนา.
๖๓๖. วิตกฺก…เป… คหิตาติ ยถาธิปฺเปตตฺถาภิพฺยฺชิกาย วาจาย สมุฏฺาปนาธิปฺปายปฺปวตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. ตทา หิ สา เตหิ ปริคฺคหิตา นาม โหตีติ. เอกสฺสปิ อกฺขรสฺส อเนเกหิ ชวเนหิ นิพฺพตฺเตตพฺพตฺตา ตถา นิพฺพตฺติยมานตาย อสมตฺถสภาวตฺตา น วิฺาตวิเสสา น ภินฺนา เอวาติ อาห ‘‘สว…เป… ภินฺนา’’ติ. อพฺโพกิณฺเณติ อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺชมาเนหิ อสํสฏฺเ. ‘‘ปจฺฉิมจิตฺต’’นฺติ อวิเสเสน จุติจิตฺตํ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อฺเสมฺปิ จุติจิตฺตํ…เป… ายตี’’ติ วุตฺตํ.
อถ วา ‘‘เย จ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสติ, โน จ เตสํ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) รูปารูปภวูปปชฺชนกานํ กามาวจรจุติจิตฺตสฺสปิ กายสงฺขาราสมุฏฺาปนวจเนน ขีณาสเวหิ อฺเสมฺปิ…เป… ายตี’’ติ วุตฺตํ. ยสฺมา จ –
‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตีติ อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๐๘),
‘‘ยสฺส กายสงฺขาโร นิรุชฺฌติ, ตสฺส จิตฺตสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตีติ อามนฺตา’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๐๘) จ,
‘‘ปจฺฉิมจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ เตสํ กายสงฺขาโร จ น นิรุชฺฌติ จิตฺตสงฺขาโร จ น นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๑๑๓) –
อาทิวจนโต ¶ ¶ จ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส ปุรโต โสฬสเมน จิตฺเตน ตโต โอริเมน วา สทฺธึ อสฺสาสปสฺสาสา น อุปฺปชฺชนฺตีติ สิทฺธํ. ยทิ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ‘‘ปจฺฉิมจิตฺตสฺส ภงฺคกฺขเณ เตสํ กายสงฺขาโร น นิรุชฺฌตี’’ติ น วเทยฺย, วุตฺตฺเจตํ, ตสฺมา เหฏฺิมโกฏิยา จุติโต ปุริเมน สตฺตรสเมน อุปฺปนฺนา อสฺสาสปสฺสาสา จุติยา เหฏฺา ทุติเยน จิตฺเตน สทฺธึ นิรุชฺฌนฺติ. เตน ‘‘ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ จุติจิตฺตสฺสานนฺตรปจฺจยภูตสฺสปิ จิตฺตสฺส กายสงฺขาราสมุฏฺาปนตา วุตฺตา.
อถ วา ยสฺส จิตฺตสฺสาติ เยน จิตฺเตน สพฺพปจฺฉิโม กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชติ. ตํ จิตฺตํ วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ, น ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ. อนนฺตราติ หิ กายสงฺขารุปฺปาทนํ อนฺตรํ วินา, ยโต ปจฺฉา กายสงฺขารุปฺปาทเนน อนนฺตริตํ หุตฺวา ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อตฺโถ. กสฺมา? ‘‘อิตเรสํ วจีสงฺขาโร จ นิรุชฺฌิสฺสติ กายสงฺขาโร จ นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) วุตฺตตฺตา. อฺถาปจฺฉิมจิตฺตโต ปุริมตติยจิตฺตสมงฺคีนํ กายสงฺขาโร อุปฺปชฺชตีติ อาปชฺชตีติ. เอวํ สพฺเพสมฺปิ จุติจิตฺตสฺส รูปชนกตาภาเว อาคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยุตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘น หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ คพฺภคมนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อุทกนิมุคฺคอสฺีภูตกาลกตจตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนรูปารูปภวสมงฺคีนิโรธสมาปนฺนภาเว สงฺคณฺหาติ.
๖๓๗. อเนเกสํ กลาปานํ เอกโต หุตฺวา เอกฆนปิณฺฑภาเวน ปวตฺตนโต กลาปนฺตรภูตานํ กลาปนฺตรภูเตหิ สมฺผุฏฺภาโว วุตฺโต. ยโต เตสํ ทุวิฺเยฺยนานตฺตํ, น ปน อวินิพฺภุตฺตภาวโต. ตํตํภูตวิวิตฺตตาติ เตสํ เตสํ ภูตานํ วิภตฺตภาโว กลาปนฺตรภูเตหิ วิภตฺตสภาวตา อสํกิณฺณตาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ยถาวุตฺตา วิวิตฺตตา รูปานํ โอสานํ โหติ, ตสฺมา ‘‘รูปปริยนฺโต’’ติ วุตฺตํ. อถ วา ตํตํภูตสฺุตา. เยสฺหิ ปริจฺเฉโท อากาโส, เตสํ ปริยนฺตตาย เตหิ สฺุภาโวติ ลกฺขิตพฺโพ. ตโตเยว จ โส ภูตนฺตเรหิ วิย เตหิ อสมฺผุฏฺโติ วุจฺจตีติ. อฺถาติ ปริจฺฉินฺทิตพฺเพหิ อสมฺผุฏฺภาวาภาเว.
๖๓๘. ตํตํวิการาธิกรูเปหีติ ¶ เอตฺถ กถํ จมฺมสุวณฺเณสุ มุทุตากมฺมฺตา ลพฺภนฺติ, นนุ ลหุตาทิวิการา เอกนฺตโต อินฺทฺริยพทฺธรูเป เอว ปวตฺตนโต อนินฺทฺริยพทฺเธ น ลพฺภนฺตีติ? สจฺจเมตํ, อิธ ปน ตํสทิเสสุ ตพฺโพหารวเสน วุตฺตํ. ตถา หิ ตูลปิจุอาทีสุ ครุภาวาทิเหตูนํ ¶ ภูตานํ อธิกภาวาภาวโต ลหุอาทิโวหาโร. นิทฺทิสิตพฺพธมฺมนิสฺสยรูเป เอว วา สนฺธาย ‘‘ตํตํวิการาธิกรูเปหี’’ติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. สพฺเพ สพฺเพสํ ปจฺจยา ลหุตาทีนํ อฺมฺาวิชหนโตติ อธิปฺปาโย.
๖๔๑. อาจยสทฺเทเนวาติ นิทฺเทเส วุตฺตอาจยสทฺเทเนว. โย อายตนานํ อาทิจยตฺตา อาจโย ปุนปฺปุนํ นิพฺพตฺตมานานํ, โสว รูปสฺส อุปริจยตฺตา อุปจโยติ อธิปฺเปตํ อตฺถํ ปาฬิยํ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ปาฬิยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุป-สทฺโท ปมตฺโถ ‘‘ทานํ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิตุปฺตฺต’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๓.๔๕) วิย. อุปริอตฺโถจ ‘‘สมฺมฏฺเ อุปสิตฺเต จ, เต นิสีทึสุ มณฺฑเป’’ติอาทีสุ วิย. อฺถาติ อุป-สทฺทสฺส อุปริอตฺถสฺเสว คหเณ.
๖๔๓. ผลวิปจฺจนปกติยาติ ผลวิปจฺจนสภาเวน. ผลเมว วา ปกตีติ อายุสํหานาทินา ผลสภาเวน ชรานิทฺเทโสติ อตฺโถ. ตถา หิ ‘‘ผลูปจาเรน วุตฺตา’’ติ วุตฺตํ. สุปริณตรูปปริปากกาเล หานิทสกาทีสุ.
๖๔๕. กตฺตพฺพสภาวโตติ มูลผลาทีนํ อิธาธิปฺเปตอาหารวตฺถูนํ มุเขน อสนาทิกตฺตพฺพสภาวโต. วิสภูเต สงฺฆาเต โอชา มนฺทา โหตีติ สวิสตฺตาภาวโต สุขุมตา วุตฺตา. องฺคมงฺคานุสาริโน รสสฺส สาโรติ รสหรณีธมนิชาลานุสาเรน สรีราวยเว อนุปฺปวิฏฺสฺส อาหารรสสฺส อพฺภนฺตราหารปจฺจโย สฺเนโห, โย โลเก รสธาตูติ วุจฺจติ.
อุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
โนอุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา
๖๔๖. ‘‘เอกํ ¶ มหาภูตํ ปฏิจฺจ ตโย มหาภูตา ตโย มหาภูเต ปฏิจฺจ เอกํ มหาภูต’’นฺติอาทิวจนโต (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓) เอกํ มหาภูตํ อวเสสมหาภูเต นิสฺสยติ, เตหิ อุปาทารูเปน จ นิสฺสียตีติ อาห ‘‘นิสฺสยติ จ นิสฺสียติ จา’’ติ.
๖๔๗. มหาภูตานํ ¶ อฺมฺาวิชหนโต เอกสฺมิมฺปิ กลาเป อเนกํ โผฏฺพฺพํ อตฺถีติ โผฏฺพฺพสภาเวสุเยว อเนเกสุปิ อารมฺมเณสุ อาปาถคเตสุ อาโภคาทิวเสน เอกํเยว วิฺาณุปฺปตฺติเหตุ โหตีติ อยํ วิจาโร ทสฺสิโต. อิตเรสุปิ ปน ยถาโยคํ ทสฺเสตพฺโพ. ตตฺถ รสารมฺมณํ ตาว อินฺทฺริยนิสฺสยํ อลฺลียิตฺวา วิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาวโต สติปิ อเนเกสํ รสานํ อาปาถคมเน เอกสฺมึ ขเณ เอกปฺปการํเยว ยถาวุตฺตนเยน ชิวฺหาวิฺาณุปฺปตฺติเหตุ โหติ, ตถา คนฺธารมฺมณํ. รูปสทฺทารมฺมณานิ ปน อินฺทฺริยนิสฺสยํ อสมฺปตฺวาว วิฺาณุปฺปตฺติเหตุภาวโต โยคฺยเทเส อวฏฺิตานิ ยตฺตกานิ สหการีปจฺจยนฺตรคตํ อุปการํ ลภนฺติ, ตตฺตกานิ เอกสฺมึ ขเณ เอกชฺฌํ อารมฺมณํ น โหนฺตีติ น วตฺตพฺพานิ. ตถา หิ สทฺโท นิคฺโฆสาทิโก อเนกกลาปคโต ตถา วณฺโณปิ สิวิกุพฺพหนนิยาเมน เอกชฺฌํ อารมฺมณํ โหตีติ. เอตฺถาปิ จ อาภุชิตวเสน อารมฺมณาธิมตฺตตาวเสน อเนกกลาปสนฺนิปาเตปิ กตฺถจิ วิฺาณุปฺปตฺติ โหติเยว. ปสาทาธิมตฺตตา ปิตฺตาทิวิพนฺธาภาเวน ปสาทสฺส ติกฺขตา. กถํ ปน จิตฺตสฺสาติ จิตฺตสามฺโต เอกตฺตนยวเสน ปุจฺฉติ.
๖๕๑. ตาทิสายาติ ยา ปจุรชนสฺส อตฺถีติปิ น คหิตา. สนฺตี สมานา. เอวนฺติ ยถาสสมฺภารุทกํ สสมฺภารปถวิยา อาพนฺธกํ, เอวํ ปรมตฺถุทกํ ปรมตฺถปถวิยาติ ทสฺเสติ. ตทนุรูปปจฺจเยหีติ อตฺตโน อาพนฺธนานุคุเณหิ อาพนฺธิยมาเนหิ สนฺธารณาทิกิจฺเจหิ ปุริเมหิ จ ปถวีอาทีหิ. อผุสิตฺวา ปติฏฺา โหติ, อผุสิตฺวา อาพนฺธตีติ อิมินา ผุสิตพฺพผุสนกภาโว อาโปธาตุยํ นตฺถีติ โผฏฺพฺพวเสน อุภยธมฺมตํ อาห. อฺมฺํ นิสฺสยตา อฺมฺนิสฺสยตา. อถ วา ¶ อฺมฺตา จ นิสฺสยตา จ อฺมฺนิสฺสยตา. ยทิ โผฏฺพฺพาโผฏฺพฺพธาตูนํ โผฏฺพฺพภาเวน วินา อฺมฺนิสฺสยตา, ปถวีอาทีนํ กกฺขฬาทิสภาโว เอว โผฏฺพฺพภาโวติ ตพฺพิรเหน กถํ เตสํ อาโปธาตุยา นิสฺสยาทิภาโวติ อาห ‘‘อวินิพฺโภควุตฺตีสู’’ติอาทิ. อฺมฺปจฺจยภูเตสูติ เอเตน อุปาทารูปํ นิวตฺเตติ. อถ วา ปุพฺเพ อฏฺกถาธิปฺปาเย ตฺวา โผฏฺพฺพาโผฏฺพฺพธาตูนํ วิสิฏฺํ อฺมฺนิสฺสยตํ วตฺวา อิทานิ อตฺตโน อธิปฺปาเย ตฺวา อวิเสเสน ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อวินิพฺโภควุตฺตีสู’’ติอาทิ. ตํเยว อวิสิฏฺํ อฺมฺนิสฺสยตํ ทฬฺหํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘นาปิ สหชาเตสู’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อผุสนํ ตาว เอกกลาปคตตฺตา น วิจาเรตพฺพํ, ผุสนํ ปน กถนฺติ? เอกกลาปคตตฺตา เอว. วิสุํ สิทฺธานํเยว หิ วิสยมหาภูตานํ กายปฺปสาทนิสฺสยภูเตสุ ผุสนํ ทิสฺสติ.
ฌายตีติ ¶ ปริปจฺจติ. น อุณฺหา หุตฺวาติ เอตสฺส อุณฺหสภาวา หุตฺวาติ อยมตฺโถติ กตฺวา ‘‘เตโชสภาวตํเยว ปฏิกฺขิปตี’’ติ วุตฺตํ. อุณฺหปฏิปกฺขตฺตา สีตสฺส อุณฺหตาย ปฏิกฺเขเป สีตตาสงฺกา สิยาติ อาห ‘‘น สีตตฺตํ อนุชานาตี’’ติ. เตโชสภาคตํเยว วา สีตตายปิ ทสฺเสตุํ ‘‘น สีตตฺตํ อนุชานาตี’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘เตโช เอว หิ สีต’’นฺติ. มนฺเท หิ อุณฺหภาเว สีตพุทฺธีติ เตโช เอว หิ สีตํ. กถํ ปเนตํ วิฺายตีติ? สีตพุทฺธิยา อววตฺถิตภาวโต ปาราปารํ วิย. ตถา หิ อาตเป ตฺวา ฉายํ ปวิฏฺานํ สีตพุทฺธิ โหติ, ตตฺเถว ปถวีคพฺภโต นิคฺคตานํ อุณฺหพุทฺธีติ. ยทิ เตโชเยว สีตํ, อุณฺหภาเวน สทฺธึ สีตภาโวปิ เอกสฺมึ กลาเป อุปลพฺเภยฺยาติ อาห ‘‘สีตุณฺหานฺจา’’ติอาทิ. อุณฺหสีตกลาเปสุ สีตุณฺหานํ อปฺปวตฺติ. ทฺวินฺนํ…เป… ยุชฺชติ, น อาโปธาตุวาโยธาตูนํ สีตภาเวติ อธิปฺปาโย. อาโปธาตุยา หิ วาโยธาตุยา สีตภาเว อุณฺหภาเวน สทฺธึ เอกสฺมึ กลาเป สีตภาโว ลพฺเภยฺย, น ปน ลพฺภติ. น เจตฺถ อาโปธาตุอธิเก วาโยธาตุอธิเก วา กลาเป สีตภาโวติ สกฺกา วิฺาตุํ ตาทิเสปิ กตฺถจิ กลาเป อลพฺภมานตฺตา สีตภาวสฺสาติ. ขรตาทิสภาวาธิกสฺส ภูตสงฺฆาตสฺส ทวตาทิสภาวาธิกตาปตฺติ ภาวฺถตฺตํ. ตํ ปน ยถา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจ…เป… ปฺปตฺตี’’ติ อาห.
๖๕๒. เอกนฺตนจิตฺตสมุฏฺานาทีติ ¶ อาทิ-สทฺเทน เอกนฺตอนุปาทินฺนุปาทานิยาทึ สงฺคณฺหาติ. ปุริมานมฺปีติ ‘‘ยํ วา ปนฺมฺปี’’ติ เอตสฺมา วจนโต ปุริมานํ อนุปาทินฺนานํ สทฺทายตนกายวิฺตฺติอาทีนํ นจิตฺตสมุฏฺานานฺจ จกฺขายตนโสตายตนาทีนํ. นกมฺมสฺสกตตฺตาภาวาทิกนฺติ นกมฺมสฺสกตตฺตาภาวํ นจิตฺตสมุฏฺานภาวนฺติ เอวมาทิกํ. เอกนฺตากมฺมชาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เอกนฺตาจิตฺตชํ คยฺหติ. ตา ชรตาอนิจฺจตา. อเนกนฺเตสุ น คหิตาติ เอกนฺตโต อกมฺมเชสุ สทฺทายตนาทีสุ อจิตฺตเชสุ จ จกฺขายตนาทีสุ คเหตฺวา จตุสมุฏฺานิกตฺตา อเนกนฺเตสุ รูปายตนาทีสุ น คหิตาติ อตฺโถ.
๖๖๖. อนิปฺผนฺนตฺตาติ อฺํ อนเปกฺขิตฺวา สภาวโต อสิทฺธตฺตํ. ตสฺสาติ วิฺตฺติทฺวยสฺส.
โนอุปาทาภาชนียกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๖. ‘‘สพฺพํ ¶ รูปํ มนสา วิฺาต’’นฺติ วจนโต ยทิ วิฺาตโต อฺํ ทิฏฺาทิ น โหตีติ ‘‘กตมํ ตํ รูปํ ทิฏฺ’’นฺติอาทินา ปุจฺฉา น กตา, เอวํ สนฺเต จตุกฺกภาโว กถนฺติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ทสฺสนาทิคฺคหณวิเสสโต’’ติ. ทสฺสนํ สวนํ มินิตฺวา ชานนํ วิชานนฺจาติ เอตสฺมา ทสฺสนาทิคฺคหณวิเสสโต. เอเตน คาหกเภเทน คเหตพฺพเภโทติ ทสฺเสติ. อิทานิ สมุเขนปิ คเหตพฺพเภโท ลพฺภตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทิฏฺา…เป… ภาวโต’’ติ วุตฺตํ.
ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา
๙๖๙. ตทิทํ นยกรณํ ฉพฺพิธาทีสุ ตีสุ สงฺคเหสุ โยชิตํ.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
๙๗๕. เอกนฺตโต นีวรณตฺตา มิทฺธสฺส ‘‘นตฺถิ นีวรณา’’ติ วจเนน คหณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มิทฺธสฺสปิ นีวรณสฺสา’’ติ วุตฺตํ. น จ รูปํ ปหาตพฺพํ นิปฺปริยายปฺปหานสฺส อิธ ¶ อธิปฺเปตตฺตา. เอตฺถ เกจิ ‘‘นามกายรูปกายเคลฺสภาวโต ทุวิธํ มิทฺธํ. ตตฺถ ปุริมํ ‘นีวรณา’ติ วจเนน วุตฺตํ, อิตรํ รูปสภาว’’นฺติ วทนฺติ. ตตฺถ ยํ ตํ อรูปโต อฺํ มิทฺธํ ปริกปฺปิตํ, ตมฺปิ นีวรณํ มิทฺธสภาวโต อิตรํ มิทฺธํ วิยาติ ปริกปฺปิตมิทฺธสฺสปิ น สกฺกา นีวรณภาวํ นิวตฺเตตุนฺติ เตสํ วจนสฺส นีวรณปฺปหานวจเนน วิโรธํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ รูปกาย’’นฺติอาทิมาห. อถ วา ขีณาสวานํ โสปฺปนสภาวโต โสปฺปสฺส จ มิทฺธเหตุกตฺตา อตฺถิ มิทฺธรูปนฺติ วาทํ สนฺธาย อุตฺตรมาห ‘‘น จ รูปกายเคลฺ’’นฺติอาทินา. ตตฺถ มิทฺธเมว โสปฺปเหตูติ นายํ อวธารณา อิจฺฉิตา, โสปฺปเหตุ เอว มิทฺธนฺติ ปน อิจฺฉิตาติ มิทฺธโต อฺโปิ โสปฺปเหตุ อตฺถิ, โก ปน โส? รูปกายเคลฺํ. น จ รูป…เป… วจนโตติ โยชนา ทฏฺพฺพา.
วจีโฆสาทีติ อาทิ-สทฺเทน หุํการาทิสทฺโท สงฺคยฺหติ. องฺคุลิโผฏาทิสทฺโท อุตุสมุฏฺาโนเยว, จิตฺตปจฺจโย ปน โหติ. รูปภาวมตฺตานีติ ชรามรณสภาวานํ รูปานํ ตํธมฺมมตฺตานิ, ตโต เอว น ชาติอาทิธมฺมวนฺตานีติ อาห ‘‘น สยํ สภาววนฺตานี’’ติ. ยถา ¶ ชรา อนิจฺจตา จ รูปภาวมตฺตํ, เอวํ ชาติปีติ ชาติยา รูปภาวมตฺตตาย อุปสํหรณตฺโถ ตถา-สทฺโท.
เตสํ รูปธมฺมานํ. สงฺขาตาทิ-สทฺโท วิย อภินิพฺพตฺติต-สทฺโทปิ วตฺตมานกาลิโกปิ โหตีติ ‘‘อภินิพฺพตฺติยมานธมฺมกฺขณสฺมิ’’นฺติ วุตฺตํ. เอวมปีติ ยทิปิ ชิรณภิชฺชนภาวา ชิรณาทิสภาวานํ ธมฺมานํ ชนกปจฺจยกิจฺจานุภาวกฺขเณ อภาวโต ตปฺปจฺจยภาวโวหารํ อภินิพฺพตฺติโวหารฺจ น ลภนฺติ, เอวมปิ เตสํ อุปาทินฺนตา วตฺตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ชรามรณํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติ วจนโต ตสฺส ปริยายตํ วิวรติ ‘‘เตสํ อุปฺปาเท สตี’’ติอาทินา.
ยทิ เอวนฺติ ยทิ นิสฺสยปฏิพทฺธวุตฺติกา ชาติอาทโย, เอวํ สติ. ‘‘มหาภูตานํ อุปาทายรูป’’นฺติ วจนโต ภูตนิสฺสิเตสุ เกวโล อุปาทายโวหาโรติ อุปาทาเย นิสฺสิตาปิ อปเรน อุปาทาย-สทฺเทน วิเสเสตฺวา วตฺตพฺพาติ อธิปฺปาเยน ‘‘อุปาทายุปาทายภาโว อาปชฺชตี’’ติ อาห. การณการเณปิ การเณ วิย โวหาโร โหติ ¶ ‘‘โจเรหิ คาโม ทฑฺโฒ’’ติ ยถาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภูต…เป… ตฺตนโต’’ติ อาห. อิทานิ ปรมฺปรา วินา นิปฺปริยายโต อุปฺปาทาทีนํ ภูตปฏิพทฺธภาวํ สห นิทสฺสเนน ทสฺเสตุํ ‘‘อปิ จา’’ติอาทิมโวจ. วิการปริจฺเฉทาปิ อุปาทายรูปวิการาทิภาเว ภูตปฏิพทฺธภาวาวินิวตฺติโต เอกสฺมึ กลาเป เอเกกาว วิการาทโยติ ชีวิตินฺทฺริยํ วิย กลาปานุปาลกํ กลาปวิการาทิภาวโต จ ‘‘อุปาทายรูปานิ’’อิจฺเจว วุจฺจนฺตีติ อาห ‘‘เอวํ วิกา…เป… โยเชตพฺพานี’’ติ.
อสงฺขตภาวนิวารณตฺถํ ปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตาติ อิทํ อปรินิปฺผนฺนสภาววโต อนุปลพฺภมานตาย สสวิสาณํ วิย เกนจิ น สงฺขตนฺติ อสงฺขตํ นาม สิยาติ อิมิสฺสา อาสงฺกาย นิวตฺตนวเสน วุตฺตํ. อถ วา รูปวิการาทิภาวโต รูปภาโว วิย รูเป สติ สนฺติ, อสติ น สนฺตีติ สิทฺธาย ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตาย สาธิตา ปรินิปฺผนฺนตา เตสํ สงฺขตภาวํ สาเธนฺตี อสงฺขตภาวํ นิวารณตฺถํ ชายตีติ วุตฺตํ ‘‘อสงฺขตภาวนิวารณตฺถํ ปรินิปฺผนฺนตา วุตฺตา’’ติ.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.
รูปกณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.