📜
๔. อฏฺกถากณฺฑํ
ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา
๑๓๘๔. นยคมนนฺติ ¶ ¶ นียติ, เนติ, นียนฺติ วา เอเตนาติ นโย, คมฺมติ เอเตนาติ คมนํ, นโยว, นยสฺส วา คมนํ นยคมนํ. คติ เอว วา คมนํ. ปเมน อาทิ-สทฺเทน อภิธมฺมภาชนียาทิสงฺคหาสงฺคหาทิเอกกาทิสุทฺธิกสจฺฉิ กฏฺาทิมูลมูลาทิกา ปฺจปกรณิกา นยคติ สงฺคยฺหติ. อนุโลมาทีติ ปน ปจฺจนียอนุโลมปจฺจนียปจฺจนียานุโลมปการา เอกมูลาทิปฺปการา จ. เอตฺถ อตฺเถสุ นิจฺฉิเตสูติ เอตสฺมึ อฏฺกถากณฺเฑ จิตฺตุปฺปาทวเสน ภูมนฺตรวิเสสโยคโต สพฺเพสํ มาติกาปทานํ อตฺเถสุ สงฺเขปโต ววตฺถาปิเตสุ.
ปฺหุทฺธารนฺติอาทีสุ ‘‘สิยา กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๒๕) กุสลปทํ อาทึ กตฺวา กุสลากุสลาพฺยากตนฺตา ติสฺโส กุสลาทิกา, กุสลาพฺยากตอกุสลาพฺยากตกุสลากุสลนฺตา ติสฺโส, กุสลากุสลาพฺยากตนฺตา เอกาติ กุสลาทิกา สตฺต ปุจฺฉา, ตถา อกุสลาทิกา, อพฺยากตาทิกา, กุสลาพฺยากตาทิกา, อกุสลาพฺยากตาทิกา, กุสลากุสลาทิกา, กุสลากุสลาพฺยากตาทิกาติ สตฺตนฺนํ สตฺตกานํ วเสน ธมฺมานุโลเม กุสลตฺติกํ นิสฺสาย เหตุปจฺจเย เอกูนปฺาส ปุจฺฉา, ตถา เสสปจฺจเยสุ เสสติเกสุ ธมฺมปจฺจนียาทีสุ จ. ตํ สนฺธาย ‘‘เอกูนปฺาสาย เอกูนปฺาสายา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สิยา เหตุํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ เหตุธมฺโม อุปฺปชฺเชยฺย เหตุปจฺจยา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๓.๑.๑) ‘‘เหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ, เหตุํ ปฏิจฺจ นเหตุ, เหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จ. นเหตุํ ปฏิจฺจ นเหตุ, นเหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ, นเหตุํ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จ. เหตฺุจ นเหตฺุจ ปฏิจฺจ เหตุ, เหตฺุจ นเหตฺุจ ปฏิจฺจ นเหตุ, เหตฺุจ นเหตฺุจ ¶ ปฏิจฺจ เหตุ จ นเหตุ จา’’ติ เอเกกสฺมึ ทุเก เหตุปจฺจยาทีสุ เอกเมกสฺมึ ปจฺจเย นว นว ปุจฺฉา โหนฺติ. ตา สนฺธาย ‘‘นวสุ นวสุ ปฺเหสู’’ติ วุตฺตํ.
ลพฺภมานสฺสาติ กุสลตฺติเก ตาว ปฏิจฺจวาเร เหตุปจฺจเย ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา, กุสลํ เอกํ ¶ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ตโย ขนฺธา’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓) กุสเลน กุสลํ, กุสเลน อพฺยากตํ, กุสเลน กุสลาพฺยากตํ, อกุสเลน อกุสลํ, อกุสเลน อพฺยากตํ, อกุสเลน อกุสลาพฺยากตํ, อพฺยากเตน อพฺยากตํ, กุสลาพฺยากเตน อพฺยากตํ, อกุสลาพฺยากเตน อพฺยากตนฺติ นวนฺนํ นวนฺนํ ปฺหานํ อตฺถโต สมฺภวนฺตสฺส ปฺหสฺส วิสฺสชฺชนวเสน อุทฺธรณํ, ตถา เสสปจฺจยวารตฺติกาทีสุ. เตสุเยวาติ ยถาวุตฺเตสุ เอว ปฺเหสุ อตฺถสมฺภวโต ยถาวิภตฺตานํ ปฺหวิสฺสชฺชนานํ ‘‘เหตุยา นวา’’ติอาทินา คณนาปนํ. ปสเฏ ธมฺเมติ ยถา เหฏฺา กณฺฑทฺวเย ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺต’’นฺติอาทินา (ธ. ส. ๑) วิปฺปกิณฺเณ มุตฺตปุปฺเผ วิย ผสฺสาทโย ธมฺเม. อวิสิฏฺนิทฺเทโส สามฺนิทฺเทโส. วิฺาตธมฺมสฺส ปุคฺคลสฺสาติ อธิปฺปาโย.
ยทิ จิตฺตุปฺปาทรูปกณฺเฑสุ จตุภูมิจิตฺตุปฺปาทาทิวเสน วิฺาตธมฺมสฺส อตฺถุทฺธารเทสนา อารทฺธา, เอวํ สนฺเต อิธ กสฺมา กุสลตฺติกนิทฺเทโส วุตฺโตติ อาห ‘‘ยทิปิ กุสลตฺติกวิตฺถาโร’’ติอาทิ. ธมฺมวิเสสนภาวโตติ ‘‘ธมฺมา’’ติ ปทสฺส ปธานภาวํ ทสฺเสติ. อโต หิ ตทภิเธยฺยา ปุจฺฉิตพฺพา ชาตา. วิฺาตาหีติ ภูมีนํ วิเสสนลกฺขณโยคมาห. เอตฺถ ปธานนฺติ กิฺจาปิ อุทฺเทเส กุสลปเทน ธมฺมา วิเสสิตพฺพา, ‘‘จตูสุ ภูมีสุ กุสล’’นฺติ อิมสฺมึ ปน นิทฺเทเส ภูมีหิ วิเสสิตพฺพตฺตา กุสลปทํ ปธานนฺติ วิเสสนภาเวน วจนิจฺฉาย อภาวโต สติปิ วิเสสิตพฺพธมฺมานํ กามาวจราทิผสฺสาทิเภเท ตทนเปกฺขํ อนวชฺชสุขวิปากตาสงฺขาตํ อตฺตโน กุสลาการเมว คเหตฺวา ปวตฺตมานตฺตา ‘‘เอกตฺตเมว อุปาทาย ปวตฺตตี’’ติ วุตฺตํ. สพฺเพปิ หิ กุสลา ธมฺมา อนวชฺชสุขวิปากตาย เอกสภาวาเยวาติ.
๑๓๘๕. ยถาโยคํ โยเชตพฺพนฺติ จตูหิ ภูมีหิ อาธารภูตาหิ วิเสเสตฺวา สมยผสฺสาทิเภทํ อนามสิตฺวา วิปากภาเวน เอกตฺตํ เนตฺวา ‘‘จตูสุ ภูมีสุ วิปาโก’’ติ วุตฺตนฺติ โยเชตพฺพํ. เอส นโย ‘‘ตีสุ ภูมีสุ กิริยาพฺยากต’’นฺติอาทีสุปิ.
อุปฺปชฺชติ ¶ เอตฺถาติ อุปฺปาโท, เจตสิกา. เต หิ จิตฺตสฺส สพฺพถาปิ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต เอตฺถ จ อุปฺปตฺติยา อาธารภาเวน อเปกฺขิตา. ยถา ¶ จ เจตสิกา จิตฺตสฺส, เอวํ จิตฺตมฺปิ เจตสิกานํ นิสฺสยาทิปจฺจยภาวโต อาธารภาเวน วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ยถาวุตฺตํ อุปฺปาทสทฺทาภิเธยฺยตํ น วินิวตฺตติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ‘‘จิตฺตุปฺปาโท’’ติ เอตฺถ อุปฺปาทสฺส วิเสสนภาเวน ปวตฺตมานมฺปิ จิตฺตํ อตฺตนิ ยถาวุตฺตอุปฺปาทอตฺถสมฺภวโต อปริจฺจตฺตวิเสสิตพฺพภาวเมว หุตฺวา ตสฺส วิเสสนภาวํ ปฏิปชฺชตีติ. ยทาห ‘‘อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณวเสน อตฺโถ สมฺภวตี’’ติ. จิตฺตสมานคติกสฺส อิธ จิตฺตคฺคหเณน คเหตพฺพตาย ‘‘ทฺเวปฺจวิฺาณานี’’ติ นิทสฺสเนน วกฺขมานตฺตา ‘‘จิตฺต…เป… คหณํ กต’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺสฺสาติ รูปสฺส.
๑๔๒๐. ปฺจทฺวาเร วตฺตพฺพเมว นตฺถิ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา ปฺจทฺวาริกจิตฺตานํ. อิฏฺานิฏฺารมฺมณานุภวนนฺติ วิปากสฺส ปกปฺเปตฺวา อารมฺมณคฺคหณาภาวมาห. ตโต กมฺมานุรูปํ ปวตฺตมาโน วิปาโก ปริตฺตกมฺมวิปากตาย ปริตฺตารมฺมเณเยว ปวตฺติตุมรหติ, น มหคฺคตปฺปมาณารมฺมเณติ อธิปฺปาโย. สมาธิปฺปธานสฺสปิ กสฺสจิ กมฺมสฺส อปฺปนาอปฺปตฺตสฺส เอกนฺเตน สทิสวิปากตาอภาวโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตสฺสา’’ติ กมฺมํ วิเสสิตํ. วณฺณลกฺขณาทึ อคฺคเหตฺวา โลกสฺานุโรเธเนว คหิเต ปถวาทิเก ปริกมฺมสฺาย สมุปฺปาทิตตฺตา ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตํ สฺาวสํ อารมฺมณํ อสฺสาติ สฺาวสารมฺมณํ. ตาทิเสเนวาติ สมาธิปฺปธานตาย อปฺปนาปฺปตฺตีหิ วิย สฺาวสารมฺมณตาย จ นิพฺพิเสเสเนว. โสปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘อตฺตโน กมฺมสฺส สมานภูมิกธมฺมารมฺมณตาย วิย ตสฺส อารมฺมณารมฺมณตายปิ วิปาโก กมฺมานุรูโปเยว นาม โหตี’’ติ.
ยทิ เอวํ กสฺมา มหคฺคตปฺปมาณารมฺมณสฺส ปริตฺตกมฺมสฺส วิปาโก ตทารมฺมณารมฺมโณ น โหตีติ? อปฺปนาปฺปตฺตกมฺมวิปากสฺส วิย ตสฺส กมฺมารมฺมณารมฺมณตาย นิยมาภาวโต กมฺมานุรูปตาย จ อเนกรูปตฺตา. ยถา อตฺตโน กมฺมสทิสสฺส มหคฺคตชวนสฺส ปริตฺตารมฺมณสฺสปิ ตทารมฺมณํ นานุพนฺธกํ ปริจยาภาวโต, เอวํ อตฺตโน กมฺมสฺส นิมิตฺตภูเตปิ ตสฺส สหการีการณาหิ อปริยาทินฺเน มหคฺคตปฺปมาเณ อารมฺมเณ ปริจยาภาวโต ปริตฺตวิปาโก น ปวตฺตติ, กมฺมนิมิตฺตารมฺมโณ ปน ชายมาโน ปริตฺเตเนว เตน โหตีติ อาห ¶ ‘‘ปฏิสนฺธิอาทิภูโต’’ติอาทิ. ยสฺมา ปนาติอาทินา ปาฬิยาว ยถาวุตฺตมตฺถํ ¶ นิจฺฉิโนติ. นานากฺขณิกกมฺมปจฺจโย หิ เอตฺถ อธิปฺเปโต ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ ภินฺนารมฺมณตาย วุตฺตตฺตา. น จาติอาทินา ปริตฺตวิปากา เอว อิธ ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน วุตฺตาติ ทสฺเสติ. อิธาติ อิมสฺมึ อตฺถุทฺธารกณฺเฑ.
สติเวปุลฺลปฺปตฺตานํ สติวิรหิตสฺส กายกมฺมสฺส สมฺภวํ ทสฺเสตุํ ‘‘วาสนาวเสนา’’ติ วุตฺตํ. อวีตราคานํ อปริตฺเตปิ กตฺถจิ อารมฺมเณ สิยา เจตโส อุปฺปิลาวิตตฺตนฺติ ‘‘กิเลสวิรเห’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. อาทรากรณวเสเนวาติ อาทรากรณมตฺตวเสเนวาติ วิเสสนิวตฺติอตฺโถ เอว-สทฺโท ตเมว นิวตฺเตตพฺพํ วิเสสํ ทสฺเสติ, นาฺถา. โกสชฺชาทีติ อาทิ-สทฺเทน โทสาทโย สงฺคณฺหาติ. อาทรากรณํ นิรุสฺสุกฺกตา เอวาติ อาทรํ กโรนฺตา นิรุสฺสุกฺกภาเวเนว น โหนฺติ, น ปน อาทรํ น กโรนฺติเยวาติ ทฏฺพฺพํ. เอกจฺเจ ปน ‘‘อกมฺมฺสรีรตาย อฺวิหิตตาย จ ขีณาสวานํ อสกฺกจฺจทานาทิปวตฺติ น อนาทรวเสนา’’ติ วทนฺติ.
๑๔๒๑. อติปคุณานนฺติ สุภาวิตานํ สุฏฺุตรํ วสิปฺปตฺตานํ. เอวํ ปคุณชฺฌาเนสุปิ ปวตฺติ โหติ ตตฺถ วิจารณุสฺสาหสฺส มนฺทภาวโตติ อธิปฺปาโย. ปุพฺเพ ทสฺสิตนฺติ ‘‘ตีณิ ลกฺขณานีติ อหนฺติ วา’’ติอาทินา ปุพฺเพ ทสฺสิตํ. ‘‘อวิชฺชมาโน อปรมตฺถภาวโต, วิชฺชมาโน จ โลกสงฺเกตสิทฺธิยา สมฺมุติสจฺจภาวโต อตฺโถ อรียติ จิตฺเตน คมฺมติ ายตี’’ติ อาจริยา วทนฺติ. ยโต ตพฺพิสยา จิตฺตุปฺปาทา นวตฺตพฺพํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ นวตฺตพฺพารมฺมณาติ อฺปทตฺถสมาสวเสน วุจฺจนฺติ. อยํ ปน วาโท เหวตฺถิกวาโท วิย โหตีติ ตสฺส อจฺจนฺตํ อวิชฺชมานตํ มฺนฺโต อิโต จ อฺถา อวิชฺชมานปฺตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺมุติสจฺเจ ปนา’’ติอาทิมาห. กถํ ปน ตสฺส อจฺจนฺตมวิชฺชมานตฺเต ตพฺพิสยานํ ธมฺมานํ ปวตฺติ นวตฺตพฺพารมฺมณภาโว จาติ อาห ‘‘อวิชฺชมานมฺปี’’ติอาทิ. ปริตฺตาทิอารมฺมณาติ น วตฺตพฺพาติ วุตฺตาติ ปริตฺตาทโย วิย ตสฺส วิสุํ ววตฺถิตภาวํ นิเสเธติ.
วิกฺขิปนํ นานารมฺมเณสุ จิตฺตสฺส ปวตฺตนํ. อนวฏฺานํ เอกสฺมึเยว ปวตฺติตุํ อปฺปทานํ. ทุติยาทิมคฺคปุเรจาริกํ ผลสมาปตฺติปุเรจาริกฺจ กามาวจราณํ ¶ นิพฺพานารมฺมณตาย โลกุตฺตรจิตฺตสฺส อาวชฺชนฏฺานิยตาย จ ปมมคฺคปุเรจาริกาเณน สมานนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘โคตฺรภุโวทาเน โคตฺรภูติ คเหตฺวา’’ติ.
สพฺพตฺถปาทกนฺติ ¶ นิปฺผาเทตพฺเพ, ปโยชเน วา ภุมฺมํ ‘‘เจตโส อวูปสเม’’ติอาทีสุ วิย. เตน สพฺเพสุ วิปสฺสนาทีสุ นิปฺผาเทตพฺเพสูติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สพฺเพสู’’ติอาทิ. อตีตํสาณสฺส กามาวจรตฺตา อิทฺธิวิธาทีสุ ตสฺส อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. ตสฺส ปน อตีตสตฺตทิวสโต เหฏฺา ยาว ปจฺจุปฺปนฺนปฏิสนฺธิ, ตาว วิสโยติ วทนฺติ. อตีตสตฺตทิวเสสุปิ ขนฺธปฏิพทฺธานํ ตสฺส วิสยภาโว ยุตฺโต วิย ทิสฺสติ.
ปาทกชฺฌานจิตฺตํ ปริกมฺเมหิ คเหตฺวาติ ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อิทํ จิตฺตํ วิย อยํ กาโย สีฆคมโน โหตู’’ติ ปุพฺพภาคปริกมฺเมหิ รูปกายสฺส วิย ปาทกชฺฌานจิตฺตสฺสปิ คเหตพฺพตํ สนฺธาย วุตฺตํ. อิทํ ปน อธิฏฺานํ เอวํ ปวตฺตตีติ เวทิตพฺพํ. อธิปฺเปตฏฺานปาปุณนตฺถํ คนฺตุกามตํ ปุรกฺขตฺวา ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อิทํ จิตฺตํ วิย อยํ กาโย สีฆคมโน โหตู’’ติ กรชกายารมฺมณํ ปริกมฺมํ กตฺวา ภวงฺคํ โอตริตฺวา วุฏฺาย ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ปุน ภวงฺเค โอติณฺเณ มโนทฺวาราวชฺชนํ รูปกายํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ อนุโลมานิ จ. ตโต อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเมวารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตสฺสานุภาเวน ยถาธิปฺเปตฏฺานํ คโตเยว โหติ. เอวํ อทิสฺสมาเนน กาเยน คจฺฉนฺโต ปนายํ กึ ตสฺส อธิฏฺานจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ คจฺฉติ, อุทาหุ ิติกฺขเณ ภงฺคกฺขเณ วาติ? ตีสุ ขเณสุ คจฺฉตีติ อิจฺฉนฺติ. จิตฺเตติ ปาทกชฺฌานจิตฺเต. สโมทหตีติ จิตฺตานุคติกํ จิตฺตํ วิย สีฆคมนํ กโรตีติ อตฺโถ. ยถา หิ จิตฺตํ อิจฺฉิตกฺขเณ อติทูเรปิ วิสยํ อารพฺภ ปวตฺตติ, เอวํ รูปกายสฺสปิ ลหุปริวตฺติภาวาปาทนํ จิตฺตวเสน กายปริณามนํ. น เจตฺถ รูปธมฺมานํ ทนฺธปริวตฺติภาวโต เอกจิตฺตกฺขเณน เทสนฺตรุปฺปตฺติ น ยุชฺชตีติ วตฺตพฺพา อธิฏฺานจิตฺเตน รูปกายสฺส ลหุปริวตฺติภาวสฺส อาปาทิตตฺตา. เตเนวาห ‘‘จิตฺตวเสน กายํ อธิฏฺหิตฺวา สุขสฺฺจ ลหุสฺฺจ โอกฺกมิตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน พฺรหฺมโลกํ คจฺฉตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๙๗). อจินฺเตยฺโย หิ อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสโยติ.
จิตฺตสนฺตานํ ¶ รูปกาเย สโมทหิตนฺติ ยตฺตเกหิ จิตฺเตหิ ทิสฺสมาเนน กาเยน ยถาธิปฺเปตฏฺานปฺปตฺติ, ตตฺตกานํ จิตฺตานํ ปพนฺธสฺส ทนฺธคมนกรณโต อิมสฺส อธิฏฺานสฺส กรชกาเย อาโรปิตํ ตทนุคุณนฺติ อตฺโถ. อิทมฺปิ อธิฏฺานปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อยํ กาโย วิย อิทํ จิตฺตํ ทนฺธคมนํ โหตู’’ติ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺิตชฺฌานจิตฺตารมฺมณํ ปริกมฺมํ ¶ กตฺวา ภวงฺคํ โอตริตฺวา ภวงฺคโต วุฏฺาย ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ปุน ภวงฺเค โอติณฺเณ มโนทฺวาราวชฺชนํ ปาทกชฺฌานํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ อนุโลมานิ จ. ตโต อธิฏฺานจิตฺตมฺปิ ตเมวารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ. ตสฺสานุภาเวน อนฺตรา ปฺจวิฺาณาทีสุ อุปฺปนฺเนสุปิ อปตนฺโต อิจฺฉิตฏฺานํ คจฺฉติ. เอวํ คจฺฉนฺโต จ สเจ อิจฺฉติ, ปถวีกสิณวเสน อากาเส มคฺคํ นิมฺมินิตฺวา ปทสา คจฺฉติ. สเจ อิจฺฉติ, วาโยกสิณวเสน วายุํ อธิฏฺหิตฺวา ตูลปิจุ วิย วายุนา คจฺฉติ. อปิจ คนฺตุกามตาว เอตฺถ ปมาณํ. สติ หิ คนฺตุกามตาย เอวํ กตาธิฏฺาโน อธิฏฺานเวคกฺขิตฺโตเวโส อิสฺสาสปกฺขิตฺโต สโร วิย ทิสฺสมาโน คจฺฉตีติ. ตตฺถ อากาเส มคฺคํ นิมฺมินิตฺวา คจฺฉนฺโต วินาปิ อภิฺาาเณน ปกติปถวิยํ วิย คจฺฉติ. เตเนว ‘‘ปทสา คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ. วายุํ อธิฏฺหิตฺวา คจฺฉนฺโต อภิฺาาณสมุฏฺิตวาโยธาตุปรมฺปราย คจฺฉติ. อุภยตฺถาปิ อนฺตรา วนรามณียกาทีนิ เปกฺขมาโน อาปาถคเต สทฺเท จ สุณมาโน คจฺฉตีติ วทนฺติ. เกจิ ปน ‘‘อทิสฺสมาเนน กาเยน เอกจิตฺตกฺขเณเนว อิจฺฉิตฏฺานคมเน ทิสฺสมาเนน กาเยน ปทสา วายุนา จ คมเน อภิฺาจิตฺตสมุฏฺิตกายวิฺตฺติวิปฺผาเรน คมน’’นฺติ วทนฺติ. อปเร ‘‘อภิฺาจิตฺตสฺส วิฺตฺตินิพฺพตฺตนกิจฺจํ นตฺถี’’ติ วทนฺติ.
อธิฏฺานทฺวยนฺติ จิตฺตกายวเสน กายจิตฺตปริณามนภูตํ รูปกายปาทกชฺฌานจิตฺตารมฺมณํ อุภยํ อธิฏฺานํ. ตํสมฺปยุตฺตายาติ ยถาวุตฺตอธิฏฺานทฺวยสมฺปยุตฺตาย. สุขสฺาลหุสฺาภาวโตติ สุขสฺาลหุสฺาสพฺภาวโต, ตพฺภาวํ อาปชฺชนโตติ อตฺโถ. สุขสฺาติ เจตฺถ อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตา สฺา. อุเปกฺขา หิ ‘‘สนฺตํ สุข’’นฺติ วุตฺตา. สาเยว จ สฺา นีวรเณหิ เจว วิตกฺกาทีหิ ปจฺจนีเกหิ จ วิมุตฺตตฺตา ‘‘ลหุสฺา’’ติปิ เวทิตพฺพา. ตาหิ สโมกฺกนฺตาหิ รูปกาโยปิ ตูลปิจุ วิย สลฺลหุโก โหติ. โส เอวํ วาตกฺขิตฺตตูลปิจุนา ¶ วิย สลฺลหุเกน เอกจิตฺตกฺขเณน อทิสฺสมาเนน จ กาเยน ยถารุจิ คจฺฉตีติ.
‘‘มุตฺโต วตมฺหิ ตาย อนตฺถสํหิตาย ทุกฺกรการิกาย, สาธุ วตมฺหิ สมฺมาสมฺโพธึ สมฺพุชฺฌ’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๑๓๗) ปวตฺตํ ภควโต เจโตปริวิตกฺกมฺาย มาโร ‘‘อมุตฺตภาวมสฺส กริสฺสามี’’ติ,
‘‘ตโปกมฺมา ¶ อปกฺกมฺม, ยํ น สุชฺฌนฺติ มาณวา;
อสุทฺโธ มฺสิ สุทฺโธ, สุทฺธิมคฺคา อปรทฺโธ’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๗) –
อาหาติ เอวมาทึ สนฺธาย ‘‘มาราทีนมฺปิ ภควโต จิตฺตชานนํ วุตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. นิพฺพานปจฺจเวกฺขณฺจ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน นิพฺพานา…เป… าเตสุ ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. นิพฺพานา…เป… าเตสูติ อิทํ อภิฺาาณสฺส ปรโต ปวตฺตมานํ ปจฺจเวกฺขณํ อภิฺาาณสฺส วิสเย วิย อภิฺาาณวิสยวิสเยปิ กทาจิ ปวตฺติตุํ อรหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. อปฺปมาณารมฺมณตนฺติ อปฺปมาณขนฺธารมฺมณตนฺติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส นิพฺพานารมฺมณภาวทีปโก โกจิ ปาโ นตฺถิ, ตสฺมา. ปจฺจเวกฺขณกิจฺเจ วุจฺจมาเนติ รุฬฺหึ อคฺคเหตฺวา มคฺคาทีนํ อตีตานํ ปติ ปติ อเวกฺขนํ อนุสฺสรณํ ปจฺจเวกฺขณนฺติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส กิจฺจํเยว ปจฺจเวกฺขณนฺติ วุจฺจมาเนติ อตฺโถ. อนฺุาตาติ ทิสฺสตีติ ‘‘มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณโต’’ติ อิทเมว สนฺธาย วุตฺตํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน นิพฺพานารมฺมเณ ขนฺเธ ทิสฺวา ‘‘อิเม ธมฺมา กึ นุ โข อารพฺภ ปวตฺตา’’ติ อาวชฺเชนฺตสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ นิพฺพานารมฺมเณ ปวตฺตตีติ. อนาคตํสาเณปิ เอเสว นโย.
ยทิ เอวํ กสฺมา ปริตฺตตฺติเก ‘‘อปฺปมาโณ ธมฺโม มหคฺคตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๕๘) เอตฺถ ‘‘อปฺปมาณา ขนฺธา เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อชฺฌตฺตตฺติเก จ ‘‘พหิทฺธาธมฺโม พหิทฺธาธมฺมสฺส, พหิทฺธาธมฺโม อชฺฌตฺตสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ เอเตสํ วิภงฺเคสุ ‘‘พหิทฺธา ขนฺธา ¶ อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยปุพฺเพนิวาสยถากมฺมูปคอนาคตํสอาวชฺชนาย อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๒๐.๒๙) เอตฺตกเมว วุตฺตํ, น วุตฺตํ นิพฺพานนฺติ. เจโตปริยอิทฺธิวิธาทิาเณหิ สห วุตฺตตฺตาติ เจ, เอวมฺปิ วิสุํ วิภชิตพฺพํ สิยา. น หิ วิสุํ วิภชนารหํ สห วิภชตีติ? น, อวจนสฺส อฺการณตฺตา. ยานิ หิ ปุถุชฺชนานํ ปุพฺเพนิวาสอนาคตํสาณานิ, เตสํ อวิสโย เอว นิพฺพานํ. อริยานํ ปน มคฺคผลปจฺจเวกฺขเณหิ สจฺฉิกตนิพฺพานานํ อิเมหิ าเณหิ ปจฺจกฺขกรเณ ปโยชนํ นตฺถีติ สาธารเณน อิทฺธิวิธาณาทีนํ คหิตตฺตา นิพฺพานํ น วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ ¶ . นิพฺพตฺตกฺขนฺธชานนมาห, น นิพฺพตฺตกกฺขนฺธชานนํ. ยถากมฺมูปคาณกิจฺจฺหิ ตนฺติ. อตฺโถ สมฺภวตีติ อิทํ อนาคตํสาณสฺสปิ อนิพฺพานารมฺมณตํ สนฺธาย วุตฺตํ.
๑๔๒๙. มคฺคารมฺมณตฺติเก ยสฺมา จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ โพธิเตสุ จิตฺตุปฺปาเทสุ เอกนฺตโต มคฺคารมฺมณาเยว เกจิ นตฺถิ, มคฺคารมฺมณาเยว ปน กทาจิ มคฺคาธิปติโน โหนฺติ, ตสฺมา ‘‘กตเม ธมฺมา มคฺคารมฺมณา’’ติ เอกเมว ปุจฺฉํ กตฺวา ตโยปิ โกฏฺาสา ลพฺภมานวเสน วิภตฺตา. อิมินา นเยน ปรโตปิ เอวรูเปสุ าเนสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘จิตฺตุปฺปาทา’’ติ, ‘‘มคฺคารมฺมณา’’ติ จ วุตฺตธมฺมานํเยว มคฺคเหตุกตฺตาภาวํ สาเธตุํ ‘‘อสหชาตตฺตา’’ติ อิทํ เหตุวจนนฺติ ‘‘อสมฺปยุตฺตตฺตาติ อตฺโถ’’ติ วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘น หิ อรูปธมฺมาน’’นฺติอาทิ. ‘‘อฺธมฺมารมฺมณกาเล เอวา’’ติ อวธารณสฺส อคฺคหิตตฺตา ครุํ อกตฺวา มคฺคารมฺมณกาเลปิ มคฺคาธิปติภาเวน น วตฺตพฺพาติ อยมฺปิ อตฺโถ อฏฺกถายํ ปริคฺคหิโตเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเล’’ติ หิ วุตฺตตฺตา ครุํ อกตฺวา ปจฺจเวกฺขณกาเลปิ อตฺถิ เอว. ตทา จ มคฺคาธิปติภาเวน น วตฺตพฺพา เต ธมฺมาติ ภิยฺโยปิ สิทฺโธวายมตฺโถ.
๑๔๓๔. อตีตารมฺมณาวาติ อุทฺธฏํ, ‘‘อตีตารมฺมณา’’ติ ปน อฏฺกถาปาโ พหูสุ โปตฺถเกสุ ทิสฺสติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปฏิจฺจสมุปฺปาทวิภงฺควณฺณนายํ (วิภ. อ. ๒๒๗) ‘‘มรณสมเย าตกา ‘อยํ, ตาต, ตวตฺถาย พุทฺธปูชา กรียติ, จิตฺตํ ปสาเทหี’ติ วตฺวา’’ติอาทินา ปฺจทฺวาเร รูปาทิอารมฺมณูปสํหรณํ ตตฺถ ตทารมฺมณปริโยสานานํ จุทฺทสนฺนํ ¶ จิตฺตานํ ปวตฺติฺจ วตฺวา ตสฺมึเยว เอกจิตฺตกฺขณฏฺิติเก อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณภาวํ ปฏิสนฺธิยา วกฺขติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. ทฺเว ภวงฺคานิ อาวชฺชนํ มรณสฺสาสนฺนภาเวน มนฺทีภูตเวคตฺตา ปฺจ ชวนานิ ทฺเว ตทารมฺมณานิ จุติจิตฺตนฺติ เอกาทส จิตฺตกฺขณา อตีตาติ อาห ‘‘ปฺจจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก’’ติ. อิตรตฺถาติ อฺตทารมฺมณาย จุติยา. อิทานิ ตเมว ‘‘อิตรตฺถา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ยทา หี’’ติอาทิมาห. จุติยา ตทารมฺมณรหิตตฺตา ปฏิสนฺธิยา จ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา ‘‘รูปา…เป… ชฺชนฺตสฺสา’’ติ อุทาหฏํ. ฉ ภวงฺคานิ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานิ โหนฺติ, นว จิตฺตกฺขณา อตีตาติ สตฺตจิตฺตกฺขณาวสิฏฺายุเก คตินิมิตฺเต ปฏิสนฺธิยา ปวตฺตตฺตาติ ทฏฺพฺพํ.
วิชฺชมานเมว ¶ กายํ อารมฺมณํ กโรตีติ เอเตน สุขลหุสฺโกฺกมเนน ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว ภูตุปาทายรูปสงฺฆาตสฺส ลหุปริวตฺติภาวาปาทนํ, น ภาวิโนติ ทสฺเสติ.
เอตฺถนฺตเรติ อปากฏกาลโต ปฏฺาย ยาว ปากฏกาโล, เอตสฺมึ อนฺตเร. ยสฺมา ปน กสฺสจิ กิฺจิ สีฆํ ปากฏํ โหติ, กสฺสจิ ทนฺธํ, ตสฺมา ‘‘เอกทฺเวสนฺตติวารา’’ติ อนิยเมตฺวา วุตฺตํ. ‘‘วจนสิลิฏฺตาวเสน วุตฺต’’นฺติ เอเก, เกจิ ปน ‘‘เอตฺถนฺตเร ปวตฺตา รูปธมฺมา อรูปธมฺมา จ ปจฺจุปฺปนฺนาติ คหิเต เอโก สนฺตติวาโร โหติ, ตํ ปน ทฺวิธา วิภชิตฺวา อปากฏกาลํ อาทึ กตฺวา เยภุยฺเยน ปากฏกาลโต โอรภาโว เอโก โกฏฺาโส เยภุยฺเยน ปากฏกาลํ อาทึ กตฺวา ยาว สุปากฏกาโล เอโกติ เอเต ทฺเว สนฺตติวารา. อิมินา นเยน เสสสนฺตติวารเภทาปิ เวทิตพฺพา. ตตฺถ กาลวเสน สพฺเพสํ สมานภาวํ อคฺคเหตฺวา ธมฺมานํ สทิสปฺปวตฺติวเสน สนฺตติปริจฺเฉโท ทีปิตพฺโพ’’ติ วทนฺติ. กิฺจิ กิฺจิ กาลํ สทิสํ ปวตฺตมานาปิ หิ อุตุจิตฺตาทิสมุฏฺานา รูปธมฺมา สนฺตติวาราติ วุจฺจนฺติ. ยทาห ‘‘อติปริตฺตา’’ติอาทินา, อรูปสนฺตติปิ เจตฺถ ยถาวุตฺตรูปสนฺตติปริจฺฉินฺนา สงฺคหิตาเยวาติ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรตีติ ตณฺหาทิฏฺีหิ อากฑฺฒนียฏฺานภาเวน วุตฺตํ. ‘‘โย จาวุโส, มโน เย จ ธมฺมา’’ติ วิสยิวิสยภูตา เอกภวภูตา จ เอกสนฺตติปริยาปนฺนา ธมฺมา วิภาคํ อกตฺวา คยฺหมานา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ โหติ, สติ ปน วิภาคกรเณ ¶ ขณสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนตา ลพฺภตีติ อาห ‘‘อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตํ เอตํ อุภยํ โหตี’’ติ.
ตสฺสาติ มหาชนสฺส. อตีตาทิวิภาคํ อกตฺวาติ อาวชฺชนาทีนํ สมานาการปฺปวตฺติยา อุปายํ ทสฺเสติ. สิทฺธํ โหตีติ ขณปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺเตปิ ปริกมฺมเจโตปริยาณานํ อยํ ปาฬิ สุฏฺุ นีตา โหตีติ อตฺโถ. อตีตตฺติโก จ เอวํ อภินฺโน โหตีติ เอวํ ขณปจฺจุปฺปนฺเนเยว ธมฺเม อิธ ปจฺจุปฺปนฺโนติ คยฺหมาเน อฺปทสงฺคหิตสฺเสว อนนฺตรปจฺจยภาวํ ปกาเสนฺโต อตีตตฺติโก จ ปฏฺาเน อเภทโต สมฺมา อตฺถสฺส อุทฺธฏตฺตา อวินาสิโต โหติ. อถ วา อตีตตฺติโกติ ปฏฺาเน อตีตตฺติกปาฬิ, อิมาย อตีตตฺติกปาฬิยา ยถาวุตฺตการณโตเยว อภินฺโน อวิสิฏฺโ อฺทตฺถุ สํสนฺทติ สเมตีติ อตฺโถ.
ยถาสมฺภวนฺติ อาวชฺชนาย อนาคตารมฺมณตา, ชวนานํ ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณตา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณตาติ ¶ โยเชตพฺพํ. นานารมฺมณตา น สิยา อทฺธาวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตาติ อธิปฺปาโย. อยฺจ อตฺโถ เอกิสฺสา ชวนวีถิยา เอกสฺมึเยว จิตฺเต ปวตฺติยํ อาวชฺชนาทีนํ อนาคตาทิอารมฺมณตา สมฺภวตีติ สมฺภวทสฺสนวเสน วุตฺโตติ ยถาธิปฺเปตสฺส อภิฺาจิตฺตสฺส ขณปจฺจุปฺปนฺเน ปวตฺตึ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เตนา’’ติอาทิมาห. ตีณีติ ‘‘อตีตารมฺมโณ ธมฺโม อตีตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย, อนาคตารมฺมโณ ธมฺโม อนาคตารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมโณ ธมฺโม ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๙.๓๔) ปทนฺตรสงฺคหิตธมฺมานเปกฺขา ธมฺมา ตีณิ ปฺหวิสฺสชฺชนานีติ อตฺโถ. อนาเสวนํ นตฺถีติ อาเสวนลาเภ สติ ยถาธมฺมสาสเน อวจนสฺส การณํ นตฺถีติ อวจเนน ตตฺถ อิตเรสํ ปฺหานํ ปฏิเสโธ วิฺายตีติ อธิปฺปาโย.
เอตสฺส วาทสฺสาติ ‘‘อาวชฺชนชวนานํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺเตปิ เจโตปริยาณํ สิทฺธ’’นฺติ วาทสฺส. นิสฺสยภาโวติ อตฺถสมฺภวโต ยถาวุตฺตนยสฺส โชตกภาโว. ยนฺติ จิตฺตํ. ตสฺสาติ อาวชฺชนชวนานํ ¶ ขณปจฺจุปฺปนฺนนิรุทฺธารมฺมณตาวจนสฺส. เอตฺถ จ กาลวิเสสํ อามสติ, อนาคตาเยว จ อาวชฺชนา ปวตฺตตีติ นยิทํ ยุชฺชมานกํ. อถ ‘‘ยํ อิมสฺส จิตฺตํ ภวิสฺสติ, ตํ ชานามี’’ติ อาโภคํ กโรติ, เอวํ สติ ปริกมฺมาภิฺาจิตฺตานมฺปิ อนาคตารมฺมณตฺตเมวาติ สพฺพตฺถ อาวชฺชนชวนานํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา น สิชฺฌตีติ อาห ‘‘ปวตฺติ…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ. โทสาปตฺติยาติ โทสาปชฺชเนน, โทสาปตฺติโต วา. ราสิเอกเทสาวชฺชนปฏิเวเธติ ยถารุตวเสเนว ปุริมวาทิปกฺขมาห, สมฺปตฺตสมฺปตฺตาวชฺชนชานเนติ อตฺตนา นิทฺธาริตปกฺขํ. ปุริมวาทิโน นานุชาเนยฺยุนฺติ อทฺธาสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนปทตฺถตา อภิธมฺมมาติกายํ อาคตปจฺจุปฺปนฺนปทสฺส นตฺถีติ อธิปฺปาเย ตฺวา นานุชาเนยฺยุํ. เอตฺถ จ สติปิ สภาวเภเท อาการเภทาภาวโต เอกตฺตนยวเสน อาวชฺชนปริกมฺมาภิฺาจิตฺตานํ นานารมฺมณตาโทโส นตฺถีติ ขณปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา เจโตปริยาณสฺส ปุริมวาทีนํ อธิปฺปายวิภาวนมุเขน ทสฺสิตา. อฏฺกถายํ ปน ‘‘สภาวเภเท สติ นานารมฺมณตาโทสาภาโว นตฺถิ เอวาติ เอกสฺมึ เอว จิตฺเต อทฺธาสนฺตติวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตา วิภาวิตา’’ติ ทฺวีสุปิ วาเทสุ ยํ ยุตฺตํ, ตํ วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
เตเนวาติ ยสฺมา อตีตตฺติเก อุปฺปนฺนตฺติเก จ เจโตปริยาณสฺส วตฺตมานธมฺมารมฺมณภาวโชตโน ปาโ น ทิสฺสติ, เตเนว การเณน. ทฺวีสุ าเณสูติ ปุพฺเพนิวาสเจโตปริยาเณสุ ¶ . กมฺมมุเขน คยฺหนฺตีติ สติปิ อารมฺมณภาเว จตฺตาโร ขนฺธา ยถากมฺมูปคาเณน กมฺมทฺวาเรน กุสลากุสลา อิจฺเจว คยฺหนฺติ, น ปน วิภาคโสติ ทสฺเสติ. โลภาทิสมฺปโยควิเสเสน ทุจฺจริตภาโว, อโลภาทิสมฺปโยควิเสเสน จ สุจริตภาโว ลกฺขียตีติ ทุจฺจริตสุจริตานิ วิภาเวนฺตํ โลภาทโยปิ วิภาเวติเยว นาม โหตีติ อาห ‘‘ทุจฺจริต…เป… ภาวนํ โหตี’’ติ.
๑๔๓๕. อสภาวธมฺมสฺส ‘‘อห’’นฺติอาทิปฺตฺติยา อชฺฌตฺตธมฺมุปาทานตาย สิยา โกจิ อชฺฌตฺตปริยาโย, น ปน สภาวธมฺมสฺส อสตฺตสนฺตาเนว ตสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘สภาว…เป… อโหนฺต’’นฺติ. ตถา หิ ‘‘อตฺตโน ขนฺธาทีนิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺสา’’ติ เอตฺถ ‘‘อชฺฌตฺตารมฺมณา’’ติ ปทสฺส อตฺถวิวรณวเสน ‘‘อชฺฌตฺตํ คยฺหมานํ อหนฺติ ปฺตฺตึ อาทิ-สทฺเทน คณฺหาตี’’ติ ¶ วกฺขติ. ยทิ เอวํ ตสฺส อชฺฌตฺตตฺติเกปิ อชฺฌตฺตภาโว วตฺตพฺโพ สิยา? น, พหิทฺธาภาวสฺส วิย อชฺฌตฺตภาวสฺสปิ อชฺฌตฺตตฺติเก นิปฺปริยายวเสน อธิปฺเปตตฺตาติ. ยทาห ‘‘อสภา…เป… น วุตฺต’’นฺติ. อากิฺจฺายตนาทีติ อาทิ-สทฺเทน สาวชฺชนานิ ตสฺส ปุเรจาริกอุปจารจิตฺตานิ ตสฺส อารมฺมเณน ปวตฺตนกปจฺจเวกฺขณอสฺสาทนาทิจิตฺตานิ จ สงฺคณฺหาติ.
อากิฺจฺายตนํ ตํ-สทฺเทน อากฑฺฒิตฺวา วทติ, น ปน ตํ สพฺพนฺติ วุตฺตํ, ยฺจ ตสฺส ปุเรจาริกนฺติ อตฺโถ. เลสวจนนฺติ เอกเทสสารุปฺเปน สมานารมฺมณภาเวน เอกเทสสฺเสว วจนํ. ลิสฺสติ สิลิสฺสติ เอกเทเสน อลฺลียตีติ หิ เลโส. เยสนฺติ กามาวจรกุสลากุสลมหากิริยาวชฺชนจิตฺตานํ กุสลกิริยาเภทสฺส รูปาวจรจตุตฺถสฺส จ. เอวํ อุเปกฺขาสหคตนิทฺเทสาทีสูติ เยสํ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตตา วุตฺตา, เตสุ เอกเมว อุเปกฺขาสหคตนิทฺเทสํ วตฺวา อิตรํ น วตฺตพฺพํ สิยาติ อตฺโถ. อาทิ-สทฺเทน เหตุสมฺปยุตฺตกามาวจราทินิทฺเทเส สงฺคณฺหาติ. ตตฺถาปิ หิ ปริตฺตสเหตุกาทิภาเวน วุตฺเตสุ ธมฺเมสุ เอกเมว วตฺวา อิตรํ น วตฺตพฺพํ สิยาติ. อภาวนานิฏฺปฺปวตฺติยาติ อภาวนานิฏฺปฺปวตฺติยา อภาวนาการสฺส อุกฺกํสปฺปวตฺติยาติ อตฺโถ, อภาวสฺส วา อุกฺกํสปฺปวตฺติยา. นวตฺตพฺพํ ชาตํ อชฺฌตฺตารมฺมณาทิภาเวนาติ อธิปฺปาโย. ตานีติ อากิฺจฺายตเนน สมานารมฺมณานิ อาวชฺชนาทีนิ. ยทิ เอวํ ‘‘อภาวนาสามฺเ’’ติ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ อากิฺจฺายตนารมฺมณสฺส ปจฺจเวกฺขณอสฺสาทนาทิวเสน ปวตฺตจิตฺตานํ อภาวนากาเรน ปวตฺติ ¶ อตฺถีติ? น, อภาเวตพฺพตาย อธิปฺเปตตฺตา. น ภาวียตีติ หิ อภาวนํ, น น ภาเวตีติ.
คหณวิเสสนิมฺมิตานีติอาทีสุ อยมธิปฺปาโย – ยทิปิ ภาวนาาณนิมฺมิตาการมตฺเตสุ สภาวโต อวิชฺชมาเนสุ วิสเยสุ เยภุยฺเยน มหคฺคตา ธมฺมา ปวตฺตนฺติ, พหิทฺธาการคฺคหณวเสน ปน กสิณาทีนํ พหิทฺธาภาโวติ ตทารมฺมณธมฺมา พหิทฺธารมฺมณาติ วุตฺตํ. กสิณานฺหิ สนฺตานํ มฺุจิตฺวา อุปฏฺานํ วิเสสโต วฑฺฒิตกสิณวเสน วิฺายติ, ปมารุปฺปวิฺาณาภาวสฺส ปน น พหิทฺธากาโร, นาปิ อชฺฌตฺตากาโรติ ¶ อุภยาการวิธุเร ตสฺมึ อนฺสาธารเณน ปวตฺติยากาเรน ปวตฺตมานํ อากิฺจฺายตนเมว นวตฺตพฺพารมฺมณํ วุตฺตํ, น อิตเร อิตราการปฺปวตฺติโตติ. กามาวจรกุสลานนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ.
อากิฺจฺายตนวิปากํ เนวสฺานาสฺายตนสฺส วิปากาทิกสฺสาติ อตฺถวเสน วิภตฺติ ปริณาเมตพฺพา. อภินีหาราสมฺภวโตติ สมาปตฺติจิตฺตสฺส อภินีหรณาสมฺภวโต. กุสลเมว วิปากสฺส อารมฺมณนฺติ กตฺวา ‘‘วิปากสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อสภาวธมฺมตฺเตปิ พหิทฺธากาเรน คหณียภาวโต กสิณานํ พหิทฺธาภาโว วิย เอกนฺตโต อิธ อชฺฌตฺตธมฺมุปาทานตาย อหนฺติ ปฺตฺติยา สิยา อชฺฌตฺตภาโวติ วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺต’’นฺติอาทิ. ‘‘ขนฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน ธาตุอายตนาทิ สงฺคยฺหตี’’ติ จ วทนฺติ. เอส นโยติ ‘‘อรูปกฺขนฺเธ ขนฺธาติ คเหตฺวา’’ติอาทิกํ วณฺณนานีตึ อาห. ปเรสํ ขนฺธาทิคฺคหเณติ ปเรสํ ขนฺธาทีติ อิมสฺส ปทสฺส กถเน อุจฺจารเณ. สพฺพํ อุปาทาปฺตฺตึ อาห อาทิสทฺเทนาติ สมฺพนฺโธ.
ติกอตฺถุทฺธารวณฺณนา นิฏฺิตา.
ทุกอตฺถุทฺธารวณฺณนา
๑๔๗๓. อฺถาติ ¶ วุตฺตปฺปการสฺส ทสฺสเน. วุตฺตปฺปการสฺส ทสฺสนโต เอว หิ อฏฺกถายํ สสงฺขาริกานํ ถินมิทฺธวิรเห อสงฺขาริกสทิสี โยชนา น ทสฺสิตา. ภวราคาทีสูติ ภวราคมูลิกาทีสุ โยชนาสุ.
๑๕๑๑. ทฺเวติ อุทฺธจฺจาวิชฺชานีวรณานิ. ตีณีติ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทวิจิกิจฺฉาสุ เอเกเกน อุทฺธจฺจาวิชฺชานีวรณานิ. ทฺเว วา ตีณิ วาติ ปาฬิยํ วา-สทฺทสฺส ลุตฺตนิทฺทิฏฺตํ อาห. อถ วา นิปาตสทฺทสนฺนิธาเนปิ นามปทาทีหิ เอว สมุจฺจยาทิอตฺโถ วุจฺจติ, น นิปาตปเทหิ เตสํ อวาจกตฺตาติ อนฺตเรนปิ นิปาตปทํ อยมตฺโถ ลพฺภติ. ตถา วจนิจฺฉาย สมฺภโว เอว เหตฺถ ปมาณนฺติ ปาฬิยํ ‘‘ทฺเว ตีณี’’ติ วุตฺตํ. ยตฺถ ¶ สหุปฺปตฺตีติอาทินา ‘‘ทฺเว ตีณี’’ติ ลกฺขณวจนนฺติ สพฺพสาธารณมตฺถมาห. ตถา หิ ‘‘เอวฺจ กตฺวา กิเลสโคจฺฉเก จา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสายมธิปฺปาโย – กิเลสทฺวยสหิตสฺเสว จิตฺตุปฺปาทสฺส อภาเวปิ ปาฬิยํ ทฺวิคฺคหณํ กตํ, กิเลสานฺจ สมฺภวนฺตานํ สพฺเพสํ สรูเปน คหณํ น กตนฺติ ทฺเว ตโยติ ลกฺขณกรณนฺติ วิฺายตีติ.
ยทิ สพฺพากุสเล อุปฺปชฺชนกสฺสปิ อุทฺธจฺจสฺส เอโก เอว จิตฺตุปฺปาโท วิสยภาเวน วุจฺจติ, อวิชฺชานีวรณสฺสปิ ตถา วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘กสฺมา วุตฺต’’นฺติอาทินา โจเทติ. อิตโร อุทฺธจฺจนีวรณสฺเสว ตถา วตฺตพฺพตํ อวิชฺชานีวรณสฺส ตถา วตฺตพฺพตาภาวฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘สุตฺตนฺเต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุตฺตนฺเต วุตฺเตสุ ปฺจสุ นีวรเณสูติ อุทฺธจฺจสหคเต อุทฺธจฺจสฺส อวิชฺชานีวรเณน นีวรณสหิตตํ อาสงฺกิตฺวา วุตฺตํ. นนุ จ สุตฺตนฺเตปิ ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตาน’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔) อวิชฺชา ‘‘นีวรณ’’นฺติ วุตฺตาติ? สจฺจเมตํ, ฌานงฺคานํ ปฏิปกฺขภาเวน ปน สุตฺตนฺเต พหุลํ กามจฺฉนฺทาทโย ปฺเจว นีวรณานิ วุตฺตานีติ เยภุยฺยวุตฺติวเสน เอตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
เกจิ ปน ‘‘ยถา นิกฺเขปกณฺเฑ กุสลปฏิปกฺขภูตานิ ทุพฺพลานิปิ นีวรณานิ ปฏฺาเน วิย ทสฺสิตานิ. ตถา หิ ปฏฺาเน (ปฏฺา. ๓.๘.๑) ‘นีวรณํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ นีวรโณ ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น ปุเรชาตปจฺจยา. อรูเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณ’นฺติอาทิ ¶ วุตฺตํ, น เอวํ อฏฺกถากณฺเฑ. อฏฺกถากณฺเฑ ปน ฌานปฏิปกฺขภูตานิเยว นีวรณานิ นิทฺทิฏฺานีติ ‘อุทฺธจฺจนีวรณํ อุทฺธจฺจสหคเต จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปชฺชตี’ติ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ปน อุทฺธจฺจนีวรณสฺส กามจฺฉนฺทาทีหิ เอกโต อุปฺปตฺติทสฺสนํ นิกฺเขปกณฺฑานุสาเรน กตํ เอกโต อุปฺปตฺติยา ปเภททสฺสนตฺถํ. ตตฺถ หิ ปาฬิยํเยว ตานิ วิตฺถารโต วุตฺตานี’’ติ วทนฺติ. อยฺจ วาโท ‘‘อุทฺธจฺจนีวรณํ อุทฺธจฺจสหคเต จิตฺตุปฺปาเท อุปฺปชฺชตี’’ติ อิทเมว วจนํ าปกนฺติ กตฺวา วุตฺโต. อฺถา อวิชฺชานีวรณํ วิย วตฺตพฺพํ สิยา. น ติ อิโต อฺํ ปริยุฏฺานปฏฺายีนิเยว นีวรณานิ อตฺถุทฺธารกณฺเฑ อธิปฺเปตานีติ อิมสฺส อตฺถสฺส สาธกํ วจนํ อตฺถิ, อิทํ วจนํ ทฺเวตีณิวจนสฺส สามฺเน สพฺพนีวรณสงฺคาหกตฺตา ยถาวุตฺตวจนสฺส วิสยวิเสสปฺปกาสนสงฺขาเตน ¶ ปโยชนนฺตเรน วุตฺตภาวสฺส ทสฺสิตตฺตา จ าปกํ น ภวตีติ ทิสฺสติ, ตสฺมา วิจาเรตฺวา คเหตพฺพํ.
อคฺคเหตฺวาติ ยถารุตวเสเนว อตฺถํ อคฺคเหตฺวา ยถา นิกฺเขปกณฺฑปฏฺานาทีหิ น อิมิสฺสา ปาฬิยา วิโรโธ โหติ, เอวํ อธิปฺปาโย คเวสิตพฺโพติ ยถาวุตฺตเมวตฺถํ นิคเมติ.
๑๕๗๗. เตสนฺติ โลภาทิโต อฺเสํ. ทสฺสิตาติ กถํ ทสฺสิตา? มาโน ตาว โลภโมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหถินอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, ตถา ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา โมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, ถินํ โลภโมหทิฏฺิอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหอุทฺธจฺจอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, อุทฺธจฺจํ โลภโมหทิฏฺิอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหทิฏฺิถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหถินอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โมหวิจิกิจฺฉาอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ, โมหอหิริกาโนตฺตปฺเปหิ เอกโต อุปฺปชฺชติ.
ยถา จ อุทฺธจฺจํ, เอวํ อหิริกาโนตฺตปฺปานิ จ โยเชตฺวา เวทิตพฺพานิ. กถํ? อหิริกํ โลภโมหทิฏฺิอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหทิฏฺิถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหมานถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โลภโมหอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โทสโมหถินอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ, โมหวิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ ¶ , โมหอุทฺธจฺจาโนตฺตปฺเปหิ จ เอกโต อุปฺปชฺชติ. อโนตฺตปฺปํ โลภโมหทิฏฺิอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหทิฏฺิถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหมานอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหมานถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โลภโมหอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โทสโมหอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โทสโมหถินอุทฺธจฺจาหิริเกหิ, โมหวิจิกิจฺฉาอุทฺธจฺจาหิริเกหิ ¶ , โมหอุทฺธจฺจาหิริเกหิ จ เอกโต อุปฺปชฺชตีติ เอวเมตฺถ มานาทีนมฺปิ เอกโต อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
อฏฺกถากณฺฑวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ธมฺมสงฺคณีมูลฏีกาย ลีนตฺถปทวณฺณนา
ธมฺมสงฺคณี-อนุฏีกา สมตฺตา.