📜

ปุคฺคลปฺตฺติปกรณ-อนุฏีกา

๑. มาติกาวณฺณนา

. ‘‘ธาตุกถํ เทสยิตฺวา อนนฺตรํ ตสฺส อาห ปุคฺคลปฺตฺติ’’นฺติ วุตฺเต ตตฺถ การณํ สมุทาคมโต ปฏฺาย วิภาเวนฺโต ‘‘ธมฺมสงฺคเห’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยทิปิ ธมฺมสงฺคเห ผสฺสาทีนํ ปถวีอาทีนฺจ ธมฺมานํ นานานยวิจิตฺโต อนุปทวิภาโคปิ กโต, น สงฺคโห เอว, โส ปน เตสํ กุสลตฺติกาทิเหตุทุกาทิติกทุเกหิ สงฺคหสนฺทสฺสนตฺโถติ วุตฺตํ ‘‘ธมฺมสงฺคเห ติกทุกาทิวเสน สงฺคหิตานํ ธมฺมาน’’นฺติ. เตเนว หิ ตํ ปกรณํ ‘‘ธมฺมสงฺคโห’’ติ สมฺํ ลภิ. กามฺจ ธมฺมสงฺคเหปิ ‘‘ตสฺมึ โข ปน สมเย จตฺตาโร ขนฺธา โหนฺตี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๕๘) ขนฺธาทิวิภาโค ทสฺสิโต, โส ปน น ตถา สาติสโย, ยถา วิภงฺคปกรเณติ สาติสยํ ตํ คเหตฺวา อาห ‘‘วิภงฺเค ขนฺธาทิวิภาคํ ทสฺเสตฺวา’’ติ, ยโต ตํ ‘‘วิภงฺโค’’ตฺเวว ปฺายิตฺถ. ธาตุกถายาติ อาธาเร ภุมฺมํ, ตถา ‘‘ธมฺมสงฺคเห วิภงฺเค’’ติ เอตฺถาปิ. อาธาโร หิ สงฺคหณวิภชนปฺปเภทวจนสงฺขาตานํ อวยวกิริยานํ ตํสมุทายภูตานิ ปกรณานิ ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ. กรณวจนํ วา เอตํ, ธาตุกถาย กรณภูตายาติ อตฺโถ.

เอตฺถ จ อภิฺเยฺยธมฺเม เทเสนฺโต เทสนากุสโล ภควา ติกทุกวเสน ตาว เนสํ สงฺคหํ ทสฺเสนฺโต ธมฺมสงฺคณึ เทเสตฺวา สงฺคหปุพฺพกตฺตา วิภาคสฺส ตทนนฺตรํ ขนฺธาทิวเสน วิภาคํ ทสฺเสนฺโต วิภงฺคํ เทเสสิ. ปุน ยถาวุตฺตวิภาคสงฺคหยุตฺเต ธมฺเม สงฺคหาสงฺคหาทินยปฺปเภทโต ทสฺเสนฺโต ธาตุกถํ เทเสสิ ตสฺสา อพฺภนฺตรพาหิรมาติกาสรีรกตฺตา. น หิ สกฺกา ขนฺธาทิเก กุสลาทิเก จ วินา สงฺคหาสงฺคหาทินยํ เนตุนฺติ. เตนาห ‘‘ตถาสงฺคหิตวิภตฺตาน’’นฺติ. เอวํ สงฺคหโต วิภาคโต ปเภทโต จ ธมฺมานํ เทสนา ยสฺสา ปฺตฺติยา วเสน โหติ, โย จายํ ยถาวุตฺตธมฺมุปาทาโน ปุคฺคลโวหาโร, ตสฺส จ สมยวิมุตฺตาทิวเสน วิภาโค, ตํ สพฺพํ วิภาเวตุํ ปุคฺคลปฺตฺติ เทสิตาติ อิทเมเตสํ จตุนฺนํ ปกรณานํ เทสนานุกฺกมการณํ ทฏฺพฺพํ.

เตสนฺติ ธมฺมานํ. สภาวโตติ ‘‘ผสฺโส เวทนา’’ติอาทิสภาวโต. อุปาทายาติ ‘‘ปุคฺคโล สตฺโต โปโส’’ติอาทินา ขนฺเธ อุปาทาย. ปฺาปนํ ยาย ตชฺชาอุปาทาทิเภทาย ปฺตฺติยา โหติ, ตํ ปฺตฺตึ. ปเภทโตติ ขนฺธาทิสมยวิมุตฺตาทิวิภาคโต. ยาย ปฺตฺติยา สภาวโต อุปาทาย จ ปฺาปนนฺติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวรนฺโต ‘‘ตตฺถ เย ธมฺเม’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อสภาวปฺตฺติยาปิ มูลภูตํ อุปาทานํ สภาวธมฺโม เอว, เกวลํ ปน เตสํ ปวตฺติอาการเภทสนฺนิสฺสยโต วิเสโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย ธมฺเม…เป… โหตี’’ติ อาห. ตตฺถ ปุพฺพาปริยภาเวน ปวตฺตมาเนติ อิมินา ปพนฺธสนฺนิสฺสยตํ ทสฺเสนฺโต สนฺตานปฺตฺตึ วทติ, อสภาวสมูหวเสนาติ อิมินา เสสปฺตฺตึ. ติสฺโส หิ ปฺตฺติโย สนฺตานปฺตฺติ สมูหปฺตฺติ อวตฺถาวิเสสปฺตฺตีติ. ตตฺถ ปพนฺโธ สนฺตาโน. สมุทาโย สมูโห. อุปฺปาทาทิโก ทหรภาวาทิโก จ อวตฺถาวิเสโส. เตสุ อสภาวคฺคหเณน วินา ปพนฺธสมูหานํ อสภาวตฺเต สิทฺเธ อสภาวสมูหวเสนาติ อสภาวคฺคหณํ ปพนฺธสมูหวินิมุตฺตปฺตฺติสนฺทสฺสนตฺถนฺติ เตน อวตฺถาวิเสสปฺตฺติยา ปริคฺคโห วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.

เตสนฺติ ปุพฺเพ ยํ-สทฺเทน ปรามฏฺานํ อินฺทฺริยพทฺธธมฺมานํ. เตเนวาห ‘‘อฺเสฺจ พาหิรรูปนิพฺพานาน’’นฺติ. สสภาวสมูหสสภาวปฺปเภทวเสนาติ รูปกฺขนฺธาทิสสภาวสมูหวเสน จกฺขายตนาทิสสภาววิเสสวเสน จ. ‘‘สสภาวสมูหสภาวเภทวเสนา’’ติ จ ปาโ. ตตฺถ สมูหสภาโวติ สภาวสนฺตานํ อวตฺถาวิเสสวิธุรํ สมูหวเสน ลกฺขณเมวาห. ตถา หิ ขนฺธปฺตฺติยาปิ สภาวปฺตฺติตา วุตฺตา. ตายาติ อายตนปฺตฺติอาทิปฺปเภทาย สภาวปฺตฺติยา. วิภตฺตา สภาวปฺตฺตีติ ‘‘ผสฺโส ผุสนา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒) วิภตฺตา ผสฺสาทิสภาวปฺตฺติ. สพฺพาปีติ ปิ-สทฺเทน สภาวธมฺเมสุ สามฺวเสน ปวตฺตํ กุสลาทิปฺตฺตึ สงฺคณฺหาติ. รูปาทิธมฺมานํ สมูโห สนฺตาเนน ปวตฺตมาโน อวตฺถาวิเสสสหิโต เอกตฺตคฺคหณนิพนฺธโน สตฺโตติ โวหรียตีติ โส สภาวธมฺโม นาม ปน น โหตีติ อาห ‘‘ปุคฺคลปฺตฺติ ปน อสภาวปฺตฺตี’’ติ. ตายาติ ปุคฺคลปฺตฺติยา. ยสฺมา ปน ธมฺมานํ ปพนฺโธ สมูโห จ ธมฺมสนฺนิสฺสิโตติ วตฺตพฺพตํ อรหติ, ตสฺมา ‘‘ปริฺเยฺยาทิสภาวธมฺเม อุปาทาย ปวตฺติโต’’ติ วุตฺตํ.

วิชฺชมานปฺตฺติ ปน ‘‘สภาวปฺตฺตี’’ติ วุตฺตา, อวิชฺชมานปฺตฺติ ‘‘อสภาวปฺตฺตี’’ติ วุตฺตา. สพฺพา ปฺตฺติโยติ อุปาทายปฺตฺติกิจฺจปฺตฺติอาทโย สพฺพา ปฺตฺติโย. ยทิ สพฺพา ปฺตฺติโย อิธ ทสฺสิตา โหนฺติ, กถํ ‘‘ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ นามํ ชาตนฺติ อาห ‘‘ขนฺธาทิปฺตฺตีสู’’ติอาทิ. อฺตฺถาติ ธมฺมสงฺคหาทีสุ. เย ธมฺเมติ เย ขนฺธาทิธมฺเม. ปฺตฺติยา วตฺถุภาเวนาติ ปฺาปนสฺส อธิฏฺานภาเวน. อธิฏฺานฺหิ ปฺาเปตพฺพธมฺมา ปฺาปนสฺส. เอวฺจ กตฺวา ขนฺธาทีหิ สทฺธึ ปุคฺคโล คหิโต. เย ธมฺเมติ วา เย ปฺตฺติธมฺเม. ปฺาเปตุกาโมติ นิกฺขิปิตุกาโม วตฺถุเภทโต อสงฺกรโต เปตุกาโม. ปฺตฺติปริจฺเฉทนฺติ จ วตฺถุเภทภินฺนํ ปฺตฺติภูตํ ปริจฺเฉทํ. เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

สามฺปฺปเภทปฺาปนาติ สามฺภูตานํ วิเสสภูตานฺจ อตฺถานํ ปฺาปนา. เตสนฺติ อตฺถ-สทฺทาเปกฺขาย ปุลฺลิงฺคนิทฺเทโส. ตตฺถาติ ปฺาปนาย อตฺถทสฺสนภูเตสุ ทสฺสนาทีสุ. อิทเมวํนามกนฺติ อิทํ รุปฺปนาทิอตฺถชาตํ อิตฺถนฺนามกํ รูปกฺขนฺธเวทนากฺขนฺธาทิสมฺํ. ตํตํโกฏฺาสิกกรณนฺติ รูปเวทนาทิตํตํอตฺถวิภาคปริยาปนฺนตาปาทนํ. ตถา สฺุปฺปาทานเมวาติ อาห ‘‘โพธนเมว นิกฺขิปนา’’ติ. โพธนฺหิ โพธเนยฺยสนฺตาเน โพเธตพฺพสฺส อตฺถสฺส ปนนฺติ กตฺวา ‘‘นิกฺขิปนา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปฺาปนา’’ติอาทินา ภาวสาธเนน วตฺวา สาธนนฺตรามสเนน อตฺถนฺตรปริกปฺปาสงฺกา สิยาติ ตํ นิวาเรตุํ ‘‘โย ปนายํ…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ ตํตํปฺาเปตพฺพธมฺมานํ. ทสฺสนภูตาย นามปฺตฺติยา ทิฏฺตาย, ปนภูตาย ปิตตาย. ตํนิมิตฺตตนฺติ ตสฺส ทสฺสนสฺส ปนสฺส จ นิมิตฺตการณตํ. นิมิตฺตฺหิ กตฺตุภาเวน โวหรียติ ยถา ‘‘ภิกฺขา วาเสตี’’ติ, ‘‘อริยภาวกรานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานี’’ติ จ.

ปาฬิยํอนาคตตนฺติ วิชฺชมานตาทิวิเสสวจเนน สห ปาานารุฬฺหตํ. วิชฺชมานสฺส สโตติ วิชฺชมานสฺส สมานสฺสาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิชฺชมานภูตสฺสาติ อตฺโถ’’ติ อาห. ตถาติ สจฺจิกฏฺปรมตฺถวเสน อวิชฺชมานสฺส อนุปลพฺภมานสฺส. ตํ ปน อนุปลพฺภมานตํ ตถา-สทฺเทน พฺยติเรกวเสน ทีปิตํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยถา กุสลาทีนี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วินิวตฺตสภาวานีติ วิภตฺตสภาวานิ. อุปลทฺธีติ คหณํ. เตนากาเรนาติ เตน รูปเวทนาทิอากาเรน อวิชฺชมานสฺส. อฺเนากาเรนาติ ตโต รูปเวทนาทิโต อฺเน ตพฺพินิมุตฺเตน ปฺาเปตพฺพปฺาปนากาเรน วิชฺชมานสฺส. ปฺตฺติทุเก วุตฺตเมว ‘‘อยฺจ วาโท เสวตฺถิกถาย ปฏิสิทฺโธ’’ติอาทินา. โลกนิรุตฺติมตฺตสิทฺธสฺสาติ เอตฺถ มตฺตคฺคหณํ ตสฺส ปฺตฺติวตฺถุสฺส น เกวลํ วิชฺชมานสภาวตานิวตฺตนตฺถเมว, อถ โข วิปรีตคฺคาหนิวตฺตนตฺถมฺปีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนภินิเวเสน จิตฺเตนา’’ติ อาห. จตุสจฺจปฺจกฺขนฺธาทิวินิมุตฺตํ สจฺจนฺตรขนฺธนฺตราทิกํ ปฺจมสจฺจาทิกํ. สเจ ตํ โกจิ อตฺถีติ ปฏิชาเนยฺย, อยาถาวคหิตสฺส ตํ วาจาวตฺถุมตฺตเมวสฺสาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สาภินิเวเสน…เป… วุตฺต’’นฺติ. อุทฺเทเส นิทฺเทเส จ สตฺตวนฺตํ ปธานภาเวน อาคมนํ สนฺธายาห ‘‘สรูปโต ติสฺสนฺนํ อาคตต’’นฺติ. คุณภาเวน ปน อุทฺธํโสตปฺาวิมุตฺตปาสาณเลขาทิคฺคหเณสุ อิตราปิ ติสฺโส ปฺตฺติโย อิมสฺมึ ปกรเณ อาคตา เอว.

ยถาวุตฺตสฺส…เป… อวิโรเธนาติ ‘‘วิชฺชมานปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ เอวํ วุตฺตปฺปการสฺส อวิโลมเนน. อาจริยวาทาติ เจตฺถ อตฺตโนมติโย เวทิตพฺพา, อฺตฺถ ปน อฏฺกถา จ. ยถา จ อวิโรโธ โหติ, ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวิชฺชมานตฺตา ปฺาเปตพฺพมตฺตตฺเถน ปฺตฺตีติ เอเตน ‘‘อวิชฺชมานา ปฺตฺติ อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ อิมํ สมาสวิกปฺปมาห. อวิชฺชมานปฺตฺตีติ เอตฺถ หิ ทฺเว สมาสา อวิชฺชมานสฺส, อวิชฺชมานา วา ปฺตฺตีติ อวิชฺชมานปฺตฺติ. เตสุ ปุริเมน นามปฺตฺติ วุตฺตา, ทุติเยน อุปาทาปฺตฺติอาทิเภทา อิตราปิ. สสภาวํ เวทนาทิกํ. ตชฺชปรมตฺถนามลาภโตติ ตชฺชสฺส ตทนุรูปสฺส ปรมตฺถสฺส อนฺวตฺถสฺส นามสฺส ลภนโต, อนุภวนาทิสภาวานํ ธมฺมานํ ปรมตฺถิกสฺส เวทนาทินามสฺส ลภนตฺตาติ อตฺโถ . เอเตน วิเสสนิวตฺติอตฺโถ มตฺต-สทฺโท, เตน จายํ วิเสโส นิวตฺติโตติ ทสฺเสติ. ปรโต ลภิตพฺพนฺติ ปรํ อุปาทาย ลทฺธพฺพํ ยถา รูปาทิเก อุปาทาย สตฺโตติ นิสฺสภาวสมูหสนฺตานาทิ ปฺตฺติวตฺถุ. เอกตฺเตนาติ อนฺตฺเตน. อนุปลพฺภสภาวตา าเณน อคฺคเหตพฺพสภาวตา, ยโต เต นวตฺตพฺพาติ วุจฺจนฺติ.

สสูกสาลิราสิอาทิอากาเรน สํกุจิตคฺโค วาสววาสุเทวาทีนํ วิย โมลิวิเสโส กิรีฏํ, โส ปน มกุฏวิเสโสปิ โหติเยวาติ อาห ‘‘กิรีฏํ มกุฏ’’นฺติ. สพฺพสโมโรโธติ สพฺพาสํ วิชฺชมานปฺตฺติอาทีนํ ฉนฺนํ ปฺตฺตีนํ อนฺโตกรณํ. สงฺขาตพฺพปฺปธานตฺตาติ อิทํ ลกฺขณวจนํ. น หิ สพฺพาปิ อุปนิธาปฺตฺติสงฺขาวเสน ปวตฺตา, นาปิ สพฺพา สงฺขาตพฺพปฺปธานา. ทุติยํ ตติยนฺติอาทิกํ ปน อุปนิธาปฺตฺติยา, ทฺเว ตีณีติอาทิกํ อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติยา เอกเทสํ อุปลกฺขณวเสน ทสฺเสนฺโต ตสฺส จ สงฺขฺเยยฺยปฺปธานตายาห ‘‘สงฺขาตพฺพปฺปธานตฺตา’’ติ. ปูรณตฺโถ หิ สทฺโท ตทตฺถทีปนมุเขน ปูเรตพฺพมตฺถํ ทีเปติ. โส จ สงฺขาวิสโย ปธาโนวาติ ทุติยาทีนํ ปฺตฺตีนํ สงฺขาตพฺพปฺปธานตา วุตฺตา. ยาว หิ ทสสงฺขา สงฺขฺเยยฺยปฺปธานาติ. ตถา ทฺเว ตีณีติอาทีนมฺปิ ปฺตฺตีนํ. สงฺขาตพฺโพ ปน อตฺโถ โกจิ วิชฺชมาโน, โกจิ อวิชฺชมาโน, โกจิ สห วิสุฺจ ตทุภยํ มิสฺโสติ ฉปิ ปฺตฺติโย ภชตีติ.

อิตราติ อุปาทาสโมธานตชฺชาสนฺตติปฺตฺติโย วุตฺตาวเสสา อุปนิธาปฺตฺติอุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติโย จ. สตฺตรถาทิเภทา อุปาทาปฺตฺติ, ทีฆรสฺสาทิเภทา อุปนิธาปฺตฺติ จ อวิชฺชมานปฺตฺติ. หตฺถคตาทิวิสิฏฺา อุปนิธาปฺตฺติ, สโมธานปฺตฺติ จ อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติ. ตเถว ‘‘สุวณฺณวณฺโณ พฺรหฺมสฺสโร’’ติอาทิกา วิชฺชมานคพฺภา วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺตึ ภชนฺตีติ อาห ‘‘ยถาโยคํ ตํ ตํ ปฺตฺติ’’นฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุติยํ ตติยํ…เป… ภชนฺตี’’ติ. ยฺหีติอาทิ ยถาวุตฺตอุปนิธาอุปนิกฺขิตฺตปฺตฺตีนํ อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติภาวสมตฺถนํ. ตตฺถ ตฺจ สงฺขานนฺติ ยํ ‘‘ปมํ เอก’’นฺติอาทิกํ สงฺขานํ, ตฺจ สงฺขามุเขน คเหตพฺพรูปํ. -สทฺเทน สงฺขฺเยยฺยํ สงฺคณฺหาติ. ตมฺปิ หิ ปฺาเปตพฺพํ ปฺตฺตีติ. ตสฺสา ปน ปรมตฺถโต อภาโว วุตฺโตเยว. กิฺจินตฺถีติ ปรมตฺถโต กิฺจิ นตฺถิ. ตถาติ อิมินา อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานภาวนฺติ เอตํ อากฑฺฒติ. เตนาห ‘‘น หิ…เป… วิชฺชมาโน’’ติ.

โอกาเสติ อวีจิปรนิมฺมิตวสวตฺตีปริจฺฉินฺเน ปเทเส. โส หิ กามาธิฏฺานโต ‘‘กาโม’’ติ วุจฺจติ. กมฺมนิพฺพตฺตกฺขนฺเธสูติ อิมินา อุตฺตรปทโลเปน กามภวํ ‘‘กาโม’’ติ วทติ. ภณนํ สทฺโท เจตนา วา, ตํสมงฺคิตาย ตพฺพิสิฏฺเ ปุคฺคเล ภาณโกติ ปฺตฺตีติ อาห ‘‘วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติปกฺขํ ภชตี’’ติ. เยภุยฺเยน รูปายตนคฺคหณมุเขน รูปสงฺขาเตน สณฺานํ คยฺหตีติ ตสฺส เตน อเภโทปจารํ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘รูปายตนสงฺขาเตน สณฺาเนนา’’ติ. ยํ อเภโทปจารํ ภินฺทิตุํ อชานนฺตา นิกายนฺตริยา รูปายตนํ สณฺานสภาวํ ปฏิชานนฺติ. ‘‘กิโส ปุคฺคโล, ถูโล ปุคฺคโล, กิโส ทณฺโฑ, ถูโล ทณฺโฑ’’ติอาทินา ปุคฺคลาทีนํ ปฺาปนา ตถาตถาสนฺนิวิฏฺเ รูปสงฺขาเต กิสาทิสณฺานปฺตฺติ, น รูปายตนมตฺเตติ อาห ‘‘สณฺานนฺติ วา รูปายตเน อคฺคหิเต’’ติ. ปจฺจตฺตธมฺมนามวเสนาติ ‘‘ปถวี ผสฺโส’’ติอาทินา ธมฺมานํ ตํตํนามวเสน. กิจฺจปฺตฺติอาทิวิภาเคน ปวตฺโต อยมฺปิ อาจริยวาโท ‘‘กิจฺจปฺตฺติ เอกจฺจา ภูมิปฺตฺติ ปจฺจตฺตปฺตฺติ อสงฺขตปฺตฺติ จ วิชฺชมานปฺตฺติ, ลิงฺคปฺตฺติ เอกจฺจา ปจฺจตฺตปฺตฺติ จ อวิชฺชมานปฺตฺติ, เอกจฺจา กิจฺจปฺตฺติ วิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติ, เอกจฺจา ภูมิสณฺานปฺตฺติ วิชฺชมาเนน วา อวิชฺชมาเนน วา อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ ทสฺสิตตฺตา ‘‘ธมฺมกถา อิตฺถิลิงฺค’’นฺติอาทีนํ วิชฺชมาเนนวิชฺชมานปฺตฺติภาโว, อวิชฺชมาเนนอวิชฺชมานปฺตฺติภาโว จ ทสฺสิตนโยติ อาห ‘‘สพฺพสงฺคาหโกติ ทฏฺพฺโพ’’ติ. อุปาทาปฺตฺติอาทิภาโว เจตฺถ กิจฺจปฺตฺติอาทีนํ กิจฺจปฺตฺติอาทิภาโว จ ตาสํ ยถารหํ วิภาเวตพฺโพ.

. สงฺเขปปฺปเภทวเสนาติ ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ สพฺเพปิ ขนฺเธ ขนฺธภาวสามฺเน สํขิปนวเสน, ‘‘ยาวตา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา ขนฺธานํ ตโต สามฺโต ปกาเรหิ ภินฺทนวเสน จ. อยํ อตฺโถติ อยํ ปฺตฺติสงฺขาโต อตฺโถ. สามฺโต วา หิ ธมฺมานํ ปฺาปนํ โหติ วิเสสโต วา. วิเสโส เจตฺถ อตฺตโน สามฺาเปกฺขาย เวทิตพฺโพ, วิเสสาเปกฺขาย ปน โสปิ สามฺํ สมฺปชฺชตีติ ‘‘กิตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ ปุจฺฉาย สงฺเขปโต วิสฺสชฺชนวเสน ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ วุตฺตนฺติ ตตฺถาปิ ‘‘ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพนฺติ อาห ‘‘ยาวตา…เป… ปฺตฺตี’’ติ. ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา, เอตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ. ยาวตา รูปกฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ, เอตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ เอวเมตฺถ ปาฬิโยชนา กาตพฺพา. เอวฺหิ สงฺเขปโต ปเภทโต จ ขนฺธปฺตฺติ วิสฺสชฺชิตา โหติ. ตถา หิ อิมสฺเสว อตฺถสฺส อฏฺกถายํ วุตฺตภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยตฺตเกน…เป… อาทิเกนา’’ติ อาห. ตตฺถาติ ตสฺมึ วิสฺสชฺชนสฺส อตฺถวจเน, ตสฺมึ วา วิสฺสชฺชนปาเ ตทตฺถวจเน จ. ปเภทนิทสฺสนมตฺตนฺติ ปเภทสฺส อุทาหรณมตฺตํ. อวุตฺโตปิ สพฺโพ ภูตุปาทิโก, สุขาทิโก จ ปเภโท. ตํ ปน ภูมิมุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘รูปกฺขนฺโธ กามาวจโร’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เอวํ อฏฺกถายํ อาคตนเยน ปาฬิยา อตฺถโยชนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตํ ปการนฺตเรน ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยํ วาติ วุจฺจมานํ สนฺธายาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ขนฺธปฺตฺติวิสฺสชฺชเน. อิทนฺติ อิทํ ปทํ. ยตฺตโก…เป… ขนฺธปฺตฺติยา ปเภโทติ อิมินา สงฺเขปโต วิตฺถารโต จ ขนฺธานํ ปเภทํ ปติ ปฺตฺติวิภาโคติ ทสฺสิตํ โหติ. เตนาห ‘‘วตฺถุเภเทน…เป… ทสฺเสตี’’ติ. ปกรณนฺตเรติ วิภงฺคปกรเณ. ตตฺถ หิ สาติสยํ ขนฺธานํ วิภาคปฺตฺติ วุตฺตา. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ…เป… กถิตา’’ติ. เอตฺถ จ ปมนเย สมุเขน, ทุติเย วตฺถุมุเขน ปฺตฺติยา วิภาคา ทสฺสิตาติ อยเมเตสํ วิเสโส.

เอส นโยติ อิมินา ขนฺธปฺตฺติยา วุตฺตมตฺถํ อายตนปฺตฺติยาทีสุ อติทิสติ. ตตฺถ ‘‘ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ, ‘‘ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺตี’’ติ อิทํ ปฺตฺตินิทฺเทสปาฬิยา อาทิปริโยสานคฺคหณมุเขน ทสฺสนํ. ‘‘ยาวตา ทฺวาทสายตนานี’’ติ, ‘‘อายตนานํ อายตนปฺตฺตี’’ติ อิมสฺส อตฺโถ ‘‘ยตฺตเกน ปฺาปเนน สงฺเขปโต ทฺวาทสายตนานี’’ติ เอเตน ทสฺสิโต, ‘‘ยาวตา จกฺขายตน’’นฺติอาทิกสฺส ปน ‘‘ปเภทโต จกฺขายตน’’นฺติอาทิเกนาติ. ตตฺถ ‘‘จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมายตน’’นฺติ ปเภทนิทสฺสนมตฺตเมตํ. เอเตน อวุตฺโตปิ สพฺโพ สงฺคหิโต โหตีติ ‘‘ตตฺราปิ ทสายตนา กามาวจรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ วา เอตฺถ ปาฬิยา อตฺถโยชนา – ‘‘ยาวตา’’ติ อิทํ สพฺเพหิ ปเทหิ โยเชตฺวา ‘‘ยตฺตกานิ ทฺวาทสายตนานิ…เป… ยตฺตโก ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ, ตปฺปเภทานฺจ จกฺขายตนาทีนํ ปเภโท, ตตฺตโก อายตนานํ อายตนปฺตฺติยา ปเภโท’’ติ ปกรณนฺตเร วุตฺเตน วตฺถุปเภเทน อายตนปฺตฺติยา ปเภทํ ทสฺเสตีติอาทินา อิตรปฺตฺตีสุปิ นโย โยเชตพฺโพ.

. ‘‘ฉ ปฺตฺติโย…เป… ปุคฺคลปฺตฺตี’’ติ อิมํ อเปกฺขิตฺวา ‘‘กิตฺตาวตา…เป… เอตฺตาวตา อินฺทฺริยานํ อินฺทฺริยปฺตฺตี’’ติ อยํ ปาฬิปเทโส นิทฺเทโสปิ สมาโน ปกรณนฺตเร วตฺถุเภเทน วุตฺตํ ขนฺธาทิปฺตฺติปฺปเภทํ อุปาทาย อุทฺเทโสเยว โหตีติ อาห ‘‘อุทฺเทสมตฺเตเนวาติ อตฺโถ’’ติ.

มาติกาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นิทฺเทสวณฺณนา

๑. เอกกนิทฺเทสวณฺณนา

. ปจฺจนีกธมฺมานํ ฌาปนฏฺเน ฌานํ, ตโต สุฏฺุ วิมุจฺจนฏฺเน วิโมกฺโขติ นิปฺปริยาเยน ฌานงฺคาเนว วิโมกฺโขติ อฏฺกถาอธิปฺปาโย. ฏีกากาเรน ปน ‘‘อภิภายตนํ วิย สสมฺปยุตฺตํ ฌานํ วิโมกฺโข’’ติ มฺมาเนน ‘‘อธิปฺปาเยนาหา’’ติ วุตฺตํ. ฌานธมฺมา หิ สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธึเยว ปฏิปกฺขโต วิมุจฺจนฺติ, น วินา, ตถา อภิรติวเสน อารมฺมเณ นิราสงฺกปฺปวตฺติปีติ อธิปฺปาโย. ยถา วา ฌานงฺคานํ ฌานปจฺจเยน ปจฺจยภาวโต สวิเสโส ฌานปริยาโย, เอวํ วิโมกฺขกิจฺจโยคโต เตสํ สวิเสโส วิโมกฺขปริยาโย, ตทุปจาเรน สมฺปยุตฺตานํ เวทิตพฺโพ. ปมํ สมงฺคิภาวตฺถนฺติ ปฏิลาภํ สนฺธายาห. ‘‘ผุสิตฺวา วิหรตีติ ปฏิลภิตฺวา อิริยตี’’ติ หิ วุตฺตํ. อฏฺกถายํ ‘‘เยน หิ สทฺธึ…เป… ปฏิลทฺธา นาม โหนฺตี’’ติ เตหิ สาเธตพฺพสหชาตาทิปจฺจยลาโภเยเวตฺถ ปฏิลาโภ ทฏฺพฺโพ. ยถา ผสฺโส ยตฺถ อุปฺปนฺโน, ตํ อารมฺมณํ ผุสตีติ วุจฺจติ, เอวํ สมฺปยุตฺตธมฺเมปิ ตํสภาวตฺตาติ อาห ‘‘สมฺผสฺเสน ผุสนตฺถ’’นฺติ. ตสฺส ‘‘วิวรตี’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อิตเรหีติ อุปจารมฺปีติอาทินา อุปจารปุริมปฺปนาปรปฺปนานํ ปฏิลาภการณนฺติ วจเนหิ. อิตเร การณตฺเถติ ‘‘อุปจาเรน…เป… ผุสติเยวา’’ติ วุตฺเต การณตฺถทีปเก อตฺเถ. ผุสติ ผลํ อธิคจฺฉติ เอตายาติ การณภาวสฺส ผุสนาปริยาโย เวทิตพฺโพ.

ปมตฺถเมวาติ สมงฺคิภาวตฺถเมว. ตานิ องฺคานีติ อิมินา ฌานโกฏฺาสภาเวน วุตฺตธมฺมาเยว คหิตา, น ผสฺสปฺจมกอินฺทฺริยฏฺกาทิภาเวนาติ วุตฺตํ ‘‘เสสา…เป… สงฺคหิตานี’’ติ. เอวํ สตีติ สุขสงฺขาตฌานงฺคโต เวทนาโสมนสฺสินฺทฺริยานํ เสสิตพฺพภาเว สติ. เอวฺหิ เนสํ ผสฺสกตา อิตรสฺส ผสฺสิตพฺพตาว สิยา. เตนาห ‘‘สุขสฺส ผุสิตพฺพตฺตา’’ติ. เวทยิตาธิปเตยฺยฏฺเหีติ อารมฺมณานุภวนสงฺขาเตน เวทยิตสภาเวน, ตสฺเสว สาตวิเสสสงฺขาเตน สมฺปยุตฺเตหิ อนุวตฺตนียภาเวน จ. อุปนิชฺฌายนภาโวปิ ยถาวุตฺตเวทยิตาธิปเตยฺยฏฺวิสิฏฺโ โอฬาริกสฺส อารมฺมณสฺส นิชฺฌายนภาโว. อภินฺนสภาโวปิ หิ ธมฺโม ปุริมวิสิฏฺปจฺจยวิเสสสมฺภเวน วิเสเสน ภินฺนากาโร หุตฺวา วิสิฏฺผลภาวํ อาปชฺชติ. ยเถกํเยว กมฺมํ จกฺขาทินิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เวทยิตา…เป… วุตฺตตฺตา’’ติ. องฺคานีติ นายํ ตปฺปรภาเวน พหุวจนนิทฺเทโส อนนฺตภาวโต, เกวลฺจ องฺคานํ พหุตฺตา พหุวจนํ, เตน กึ สิทฺธํ? ปจฺเจกมฺปิ โยชนา สิทฺธา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปจฺเจกมฺปิ โยชนา กาตพฺพา’’ติ. ยทิ ‘‘สุขํ เปตฺวา’’ติ โยชนายํ เสสา ตโย ขนฺธา โหนฺติ, เสสา ตโย, จตฺตาโร จ ขนฺธา โหนฺตีติ วตฺตพฺพํ สิยาติ? น, จตูสุ ติณฺณํ อนฺโตคธตฺตา. เตนาห ‘‘สพฺพโยชนา…เป… วุตฺต’’นฺติ.

. อสมยวิโมกฺเขนาติ เหฏฺามคฺควิโมกฺเขน. โส หิ โลกิยวิโมกฺโข วิย อธิคมวฬฺชนตฺถํ ปกปฺเปตพฺพสมยวิเสสาภาวโต เอวํ วุตฺโต. อคฺคมคฺควิโมกฺโข ปน เอกจฺจาสววิมุตฺติวจนโต อิธ นาธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺตี’’ติ. เอกจฺเจหิ อาสเวหิ วิมุตฺโตติ ทิฏฺาสวาทีหิ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺโต. อสมย…เป… ลาเภนาติ ยถาวุตฺตอสมยวิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสยภูตสฺส อธิคเมน. ตโต เอว สาติสเยน, เอกจฺเจหิ กามาสเวหิ วิมุตฺโต วิกฺขมฺภนวเสนาติ อตฺโถ. โส เอว เอกจฺจสมยวิโมกฺขลาภี ยถาวุตฺโต สมยวิมุตฺโต อสมยวิโมกฺขวิเสสสฺส วเสน สมยวิโมกฺขปฺตฺติยา อธิปฺเปตตฺตา. โสติ อสมยวิโมกฺขูปนิสฺสยสมยวิโมกฺขลาภี. เตน สาติสเยน สมยวิโมกฺเขน. ตถาวิมุตฺโตว โหตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ตถาวิมุตฺโต โหติ, ตสฺมา สมยวิมุตฺตปฺตฺตึ ลทฺธุํ อรหตีติ ปริฺาตตฺถํ เหตุนา ปติฏฺาเปติ. พฺยติเรกมุเขนปิ ตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ปุถุชฺชโน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สมุทาจารภาวโตติ สมุทาจารสฺส สมฺภวโต. โสติ ฌานลาภี ปุถุชฺชโน.

ยทิ ปุนราวตฺตกธมฺมตาย ปุถุชฺชโน สมยวิมุตฺโตติ น วุตฺโต, ตทภาวโต กสฺมา อรหา ตถา น วุตฺโตติ อาห ‘‘อรหโต ปนา’’ติอาทิ. ตทการณภาวนฺติ เตสํ วิโมกฺขานํ, ตสฺส วา สมยวิมุตฺติภาวสฺส อการณภาวํ. สพฺโพติ สุกฺขวิปสฺสโกปิ สมถยานิโกปิ อฏฺวิโมกฺขลาภีปิ . พหิอพฺภนฺตรภาวา อเปกฺขาสิทฺธา, วตฺตุ อธิปฺปายวเสน คเหตพฺพรูปา จาติ อาห ‘‘พาหิรานนฺติ โลกุตฺตรโต พหิภูตาน’’นฺติ.

. รูปโตอฺํ น รูปนฺติ ตตฺถ รูปปฏิภาคํ กสิณรูปาทิ รูป-สทฺเทน คหิตนฺติ ตทฺํ ปมตติยารุปฺปวิสยมตฺตํ อรูปกฺขนฺธนิพฺพานวินิมุตฺตํ อรูป-สทฺเทน คหิตํ ทฏฺพฺพํ. ปฏิปกฺขภูเตหิ กิเลสโจเรหิ อมูสิตพฺพํ ฌานเมว จิตฺตมฺชูสํ. สมาธินฺติ วา สมาธิสีเสน ฌานเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

. อตฺตโน อนุรูเปน ปมาเทนาติ เอตฺถ อนาคามิโน อธิกุสเลสุ ธมฺเมสุ อสกฺกจฺจอสาตจฺจกิริยาทินา. ขีณาสวสฺส ปน ตาทิเสน ปมาทปติรูปเกน, ตาทิสาย วา อสกฺกจฺจกิริยาย. สา จสฺส อุสฺสุกฺกาภาวโต เวทิตพฺพา. ปฏิปฺปสฺสทฺธสพฺพุสฺสุกฺกา หิ เต อุตฺตมปุริสา. สมเยน สมยนฺติ สมเย สมเย. ภุมฺมตฺเถ หิ เอตํ กรณวจนํ อุปโยควจนฺจ. อนิปฺผตฺติโตติ สมาปชฺชิตุํ อสกฺกุเณยฺยโต. อสฺสาติ ‘‘เตสฺหี’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อิมสฺส อฏฺกถาวจนสฺส. เตนาติ ยถาภเตน สุตฺเตน.

. เยนาธิปฺปาเยน ‘‘ธมฺเมหี’’ติ วตฺตพฺพนฺติ วุตฺตํ, ตํ วิวรนฺโต ‘‘อิธา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธาติ ‘‘ปริหานธมฺโม อปริหานธมฺโม’’ติ เอตสฺมึ ปททฺวเย. ตตฺถาติ ‘‘กุปฺปธมฺโม อกุปฺปธมฺโม’’ติ ปททฺวเย. สติ วจนนานตฺเต อตฺเถว วจนตฺถนานตฺตนฺติ อาห ‘‘วจนตฺถนานตฺตมตฺเตน วา’’ติ. วจนตฺถคฺคหณมุเขน คเหตพฺพสฺส ปน วิภาวนตฺถสฺส นตฺเถตฺถ นานตฺตํ, ยโต เตสํ ปริยายนฺตรตาสิทฺธิ.

๗-๘. สมาปตฺติเจตนาติ ยาย เจตนาย สมาปตฺตึ นิพฺพตฺเตติ สมาปชฺชติ จ. เตนาห ‘‘ตทายูหนา’’ติ. อารกฺขปจฺจุปฏฺานา สตีติ กตฺวา อาห ‘‘อนุรกฺขณา…เป… สตี’’ติ. เตนาห ‘‘เอการกฺโข สตารกฺเขน เจตสา วิหรตี’’ติ. ตถา หิ สา ‘‘กุสลากุสลานํ ธมฺมานํ คติโย สมนฺเนสตี’’ติ วุตฺตา.

๑๑. อคฺคมคฺคฏฺโปิ อิตรมคฺคฏฺา วิย อนุปจฺฉินฺนภยตฺตา ภยูปรตโวหารํ ลภตีติ อาห ‘‘อรหตฺตมคฺคฏฺโ จ…เป… ภยูปรโต’’ติ.

๑๒. เกจีติ ติเหตุกปฏิสนฺธิเก มนฺทพุทฺธิเก สนฺธายาห. เตน วุตฺตํ ‘‘ทุปฺปฺาติ อิมินา คยฺหนฺตี’’ติ. ทุพฺพลา ปฺา เยสํ เต ทุปฺปฺาติ.

๑๔. อนิยตธมฺมสมนฺนาคตสฺเสว ปจฺจยวิเสเสน นิยตธมฺมปฏิลาโภติ อาห ‘‘ยตฺถ…เป… โหนฺตี’’ติ. ตทภาวาติ นิยตานิยตโวมิสฺสาย ปวตฺติยา อภาวา.

๑๖. ปริยาทิยิตพฺพานีติ ปริยาทเกน มคฺเคน เขเปตพฺพานิ. ตณฺหาทีนํ ปลิพุธนาทิกิริยาย มตฺถกปฺปตฺติยา สีสภาโว เวทิตพฺโพ, นิพฺพานสฺส ปน วิสงฺขารภาวโต สงฺขารสีสตา. เตนาห ‘‘สงฺขารวิเวกภูโต นิโรโธ’’ติ. เกจิ ปน ‘‘สงฺขารสีสํ นิโรธสมาปตฺตี’’ติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ ปฺตฺติมตฺตสฺส สีสภาวานุปปตฺติโต ตทุทฺธฺจ สงฺขารปฺปวตฺติสพฺภาวโต. สห วิยาติ เอกชฺฌํ วิย. เอเตน สม-สทฺทสฺส อตฺถมาห. สหตฺโถ เหส สม-สทฺโท. สํสิทฺธิทสฺสเนนาติ สํสิทฺธิยา นิฏฺานสฺส อุปรมสฺส ทสฺสเนน.

อิธาติ อิมิสฺสา ปุคฺคลปฺตฺติปาฬิยา, อิมิสฺสา วา ตทฏฺกถาย. กิเลสปวตฺตสีสานนฺติ กิเลสสีสปวตฺตสีสานํ. เตสุ หิ คหิเตสุ อิตรมฺปิ ปริยาทิยิตพฺพํ กิเลสภาเวน ปริยาทิยิตพฺพตาสามฺเน จ คหิตเมว โหตีติ กิเลสวฏฺฏปริยาทาเนน มคฺคสฺส อิตรวฏฺฏานมฺปิ ปริยาทิยนํ. วฏฺฏุปจฺเฉทเกน มคฺเคเนว หิ ชีวิตินฺทฺริยมฺปิ อนวเสสโต นิรุชฺฌตีติ. กสฺมา ปเนตฺถ ปวตฺตสีสํ วิสุํ คหิตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปวตฺตสีสมฺปี’’ติอาทิ. โอธิโส จ อโนธิโส จ กิเลสปริยาทาเน สติ สิชฺฌมานา ปจฺจเวกฺขณวารา เตน นิปฺผาเทตพฺพาติ วุตฺตา. เตเนวาห ‘‘กิเลสปริยาทานสฺเสว วารา’’ติ. อิทานิ ตมตฺถํ อาคเมน สาเธนฺโต ‘‘วิมุตฺตสฺมิ’’นฺติอาทิมาห. จุติจิตฺเตน โหตีติ อิทํ ยถาวุตฺตสฺส กิเลสปริยาทานสมาปนภูตสฺส ปจฺจเวกฺขณวารสฺส จุติจิตฺเตน ปริจฺฉินฺนตฺตา วุตฺตํ, ตสฺมา จุติจิตฺเตน ปริจฺเฉทเกน ปริจฺฉินฺนํ โหตีติ อตฺโถ.

๑๗. ติฏฺเยฺยาติ น อุปคจฺเฉยฺย. านฺหิ คตินิวตฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นปฺปวตฺเตยฺยา’’ติ.

๑๘. ปยิรุปาสนาย พหูปการตฺตา ปยิรุปาสิตพฺพตฺตา.

๒๐. อคฺควิชฺชา ยสฺส อนธิคตวิชฺชาทฺวยสฺส โหติ, โส เจ ปจฺฉา วิชฺชาทฺวยํ อธิคจฺฉติ, ตสฺส ปมํ อธิคตวิชฺชาทฺวยสฺส วิย อเตวิชฺชตาภาวา ยทิปิ นิปฺปริยายตา เตวิชฺชตา, ปมํ อธิคตวิชฺชาทฺวยสฺส ปน สา สวิเสสาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยาย กตกิจฺจตา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อคฺควิชฺชาติ อาสวกฺขยาณํ, อคฺคมคฺคาณเมว วา เวทิตพฺพํ. สา จ เตวิชฺชตาติ โยชนา.

๒๒. ตตฺเถวาติ สจฺจาภิสมฺโพเธ เอว.

๒๔. นฺติ นิโรธสมาปตฺติลาภิโน อุภโตภาควิมุตฺตตาวจนํ. วุตฺตลกฺขณูปปตฺติโกติ ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโตติ เอวํ วุตฺตลกฺขเณน อุปปตฺติโต ยุตฺติโต สมนฺนาคโต. เอเสว นโยติ ยถา จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ เอเกกโต นิโรธโต จ วุฏฺาย อรหตฺตํ ปตฺตานํ วเสน ปฺจ อุภโตภาควิมุตฺตา วุตฺตา, ตถา เสกฺขภาวํ ปตฺตานํ วเสน ปฺจ กายสกฺขิโน โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ.

ทสฺสนการณาติ อิมินา ‘‘ทิสฺวา’’ติ เอตฺถ ตฺวา-สทฺโท เหตุอตฺโถติ ทสฺเสติ ยถา ‘‘สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติอาทีสุ. ทสฺสเน สติ ปริกฺขโย, นาสตีติ อาห ‘‘ทสฺสนายตฺตปริกฺขยตฺตา’’ติ. ปุริมกิริยาติ อาสวานํ ขยกิริยาย ปุริมกิริยา. สมานกาลตฺเตปิ หิ การณกิริยา ผลกิริยาย ปุริมสิทฺธา วิย โวหรียติ. ตโต นามกายโต มุจฺจนโต. ยโต หิ เยน มุจฺจิตพฺพํ, ตํ นิสฺสิโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘นามนิสฺสิตโก’’ติ. ตสฺสาติ กายทฺวยวิมุตฺติยา อุภโตภาควิมุตฺตภาวสฺส. อรูปโลเก หิ ิตารหนฺตวเสนายมตฺโถ วุตฺโต. เตนาห ‘‘สุตฺเต หี’’ติอาทิ.

ทฺวีหิ ภาเคหีติ วิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทภาเคหิ. ทฺเว วาเรติ กิเลสานํ วิกฺขมฺภนสมุจฺฉินฺทนวเสน ทฺวิกฺขตฺตุํ. กิเลเสหิ วิมุตฺโตติ อิทํ ปมตติยวาทานํ วเสน วุตฺตํ, อิตรํ ทุติยวาทสฺส. อรูปชฺฌานํ ยทิปิ รูปสฺาทีหิ วิมุตฺตํ ตํสมติกฺกมาทินา ปตฺตพฺพตฺตา, ปวตฺตินิวารเกหิ ปน กามจฺฉนฺทาทีหิเยวสฺส วิมุตฺติ สาติสยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นีวรณสงฺขาตนามกายโต วิมุตฺต’’นฺติ อาห. ยฺจาปิ อรูปชฺฌานํ รูปโลเก วิเวกฏฺตาวเสนปิ รูปกายโต วิมุตฺตํ, ตํ ปน รูปปฏิพนฺธฉนฺทราควิกฺขมฺภเนเนว โหตีติ วิกฺขมฺภนเมว ปธานนฺติ วุตฺตํ ‘‘รูปตณฺหาวิกฺขมฺภเนนรูปกายโต จ วิมุตฺตตฺตา’’ติ. เอกเทเสน อุภโตภาควิมุตฺตํ นาม โหติ สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา อภาวา.

๒๕. ‘‘สตฺติสโย’’ติ วิย สมุทาเย ปวตฺโต โวหาโร อวยเวปิ ทิสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อฏฺวิโมกฺเขกเทเสน…เป… วุจฺจตี’’ติ.

๒๖. ผุฏฺานนฺติ ผสฺสิตานํ, อธิคตานนฺติ อตฺโถ. อนฺโตติ อนฺตสทิโส ผสฺสนาย ปรกาโล. ตทนนฺตโร หิ ตปฺปริโยสาโน วิย โหตีติ. กาลวิสโย จายํ อนฺต-สทฺโท, น ปน กาลตฺโถ. เตนาห ‘‘อธิปฺปาโย’’ติ. นามกาเยกเทสโตติ นีวรณสงฺขาตนามกาเยกเทสโต. อาโลจิโต ปกาสิโต วิย โหติ วิพนฺธวิกฺขมฺภเนน อาโลจเน ปกาสเน สมตฺถสฺส าณจกฺขุโน อธิฏฺานสมุปฺปาทนโต. น ตุ วิมุตฺโตติ วิมุตฺโตติ น วุจฺจเตว.

๒๘. อิมํ ปน นยนฺติ ‘‘อปิจ เตส’’นฺติอาทินา อาคตวิธึ. เยน วิเสเสนาติ เยน การณวิเสเสน. โสติ ทิฏฺิปฺปตฺตสทฺธาวิมุตฺตานํ ยถาวุตฺโต ปฺาย วิเสโส. ปฏิกฺเขโป กโต การณสฺส อวิภาวิตตฺตา. อุภโตภาควิมุตฺโต วิย, ปฺาวิมุตฺโต วิย วา สพฺพถา อวิมุตฺตสฺส สาวเสสวิมุตฺติยมฺปิ ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส วิย ปฺาย สาติสยาย อภาวโต สทฺธามตฺเตน วิมุตฺตภาโว ทฏฺพฺโพ. สทฺธาย อธิมุตฺโตติ อิทํ อาคมนวเสน สทฺธาย อธิกภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, มคฺคาธิคมโต ปนสฺส ปจฺจกฺขเมว าณทสฺสนํ.

๓๑. ‘‘โสโตติ อริยมคฺคสฺส นาม’’นฺติ นิปฺปริยาเยน ตํสมงฺคี โสตาปนฺโนติ อธิปฺปาเยน โจทโก ‘‘อปิ-สทฺโท กสฺมา วุตฺโต’’ติ โจทนํ อุฏฺาเปตฺวา ‘‘นนู’’ติอาทินา อตฺตโน อธิปฺปายํ วิวรติ. อิตโร ‘‘นาปนฺน’’นฺติอาทินา ปริหรติ. สมนฺนาคโต เอว นาม โลกุตฺตรธมฺมานํ อกุปฺปสภาวตฺตา. อิตเรหีติ ทุติยมคฺคฏฺาทีหิ. โส เอวาติ ปมผลฏฺโ เอว. อิธาติ อิมสฺมึ สตฺตกฺขตฺตุปรมนิทฺเทเส. โสตํ วา อริยมคฺคํ อาทิโต ปนฺโน อธิคโตติ โสตาปนฺโนติ วุจฺจมาเน ทุติยมคฺคฏฺาทีนํ นตฺเถว โสตาปนฺนภาวาปตฺติ. สุตฺเต ปน โสตํ อริยมคฺคํ อาทิโต มริยาทํ อมุฺจิตฺวาว ปนฺโน ปฏิปชฺชตีติ กตฺวา มคฺคสมงฺคี ‘‘โสตาปนฺโน’’ติ วุตฺโต. ปริยาเยน อิตโรปิ ตสฺส อปริหานธมฺมตฺตา โสตาปนฺโนติ เวทิตพฺพํ. ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณาย สมุทยสจฺจํ วิย ทุกฺขสจฺจมฺปิ ปจฺจเวกฺขิตํ โหติ สจฺจทฺวยปริยาปนฺนตฺตา กิเลสานนฺติ อาห ‘‘จตุสจฺจปจฺจเวกฺขณาทีน’’นฺติ. อาทิ-สทฺเทน ผลปจฺจเวกฺขณอุปริมคฺคผลธมฺเม จ สงฺคณฺหาติ.

๓๒. มหากุลเมวาติ อุฬารกุลเมว วุจฺจติ ‘‘กุลีโน กุลปุตฺโต’’ติอาทีสุ วิย.

๓๓. สชฺฌานโก อปริหีนชฺฌาโน กาลกโต พฺรหฺมโลกูปโค หุตฺวา วฏฺฏชฺฌาสโย เจ, อุปรูปริ นิพฺพตฺติตฺวา นิพฺพายตีติ อาห ‘‘อนาคามิสภาโค’’ติ. ยโต โส ฌานานาคามีติ วุจฺจติ. เตนาห ‘‘อนาวตฺติธมฺโม’’ติ.

๓๖. ปรโยเค ตฺวา-สทฺโท ตทนฺโต หุตฺวา ‘‘ปรสทฺทโยเค’’ติ วุตฺโต, อปฺปตฺวาติ วุตฺตํ โหตีติ ‘‘อปฺปตฺตํ หุตฺวา’’ติ อิมินา วุจฺจติ.

๓๗. เตนาติ ‘‘อุปหจฺจา’’ติ ปเทน. นนุ จ เวมชฺฌาติกฺกโม ‘‘อติกฺกมิตฺวา เวมชฺฌ’’นฺติ อิมินา ปกาสิโต โหตีติ อธิปฺปาโย.

๔๐. ตณฺหาวฏฺฏโสตา ตณฺหาวฏฺฏพนฺธา. ตสฺสาติ โสตสฺส. สมฺพนฺเธ เจตํ สามิวจนํ. อุทฺธํโสตสฺส อุปริภวูปคตา เอกํสิกาติ อาห ‘‘ยตฺถ วา ตตฺถ วา คนฺตฺวา’’ติ. ตสฺสาติ อุทฺธํโสตสฺส. ตตฺถาติ อวิเหสุ. ลหุสาลหุสคติกาติ ลหุกาลหุกายุคติกา, ลหุกาลหุกาณคติกา วา. อุปฺปชฺชิตฺวาว นิพฺพายนกาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อากาสํ ลงฺฆิตฺวา นิพฺพายตี’’ติอาทินา วุตฺตา ติสฺโส อุปมา สงฺคณฺหาติ. อนฺตราอุปหจฺจปรินิพฺพายีหิ อธิมตฺตตา, อุทฺธํโสตโต อนธิมตฺตตา จ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีนํ น เวทิตพฺพาติ โยชนา. เต เอวาติ อนฺตราอุปหจฺจปรินิพฺพายิอุทฺธํโสตา เอว. ยทิ เอวํ อสงฺขารสสงฺขารปรินิพฺพายีนํ อุปมาวจเนน ตโต มหนฺตตเรหิ กสฺมา วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ตโต มหนฺต…เป… ทสฺสนตฺถ’’นฺติ.

เตนาติ ‘‘โน จสฺส, โน จ เม สิยา’’ติ วจเนน. เตนาติ วา ยถาวุตฺเตน ตสฺส อตฺถวจเนน. อิมสฺส ทุกฺขสฺสาติ อิมสฺส สมฺปติ วตฺตมานสฺส วิฺาณาทิทุกฺขสฺส. อุทยทสฺสนํ าณํ. จตูหิปีติ ‘‘โน จสฺสา’’ติ จตูหิ ปเทหิ. ยํ อตฺถีติ ยํ ปรมตฺถโต วิชฺชติ . เตนาห ‘‘ภูตนฺติ สสภาว’’นฺติ, ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกนฺติ อตฺโถ. ยถาห ‘‘ภูตมิทนฺติ, ภิกฺขเว, สมนุปสฺสถา’’ติ. วิวฏฺฏมานโส วิวิจฺจมานหทโย ตณฺหาทิโสตโต นิวตฺตชฺฌาสโย. อุเปกฺขโก โหตีติ จตฺตภริโย วิย ปุริโส ภยํ นนฺทิฺจ ปหาย อุทาสิโน โหติ.

อวิสิฏฺเติ หีเน. วิสิฏฺเติ อุตฺตเม. ‘‘ภเว’’ติ วตฺวา ‘‘สมฺภเว’’ติ วุจฺจมานํ อวุตฺตวาจกํ โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจุปฺปนฺโน’’ติอาทิมาห. ภูตเมว วุจฺจตีติ ยํ ภูตนฺติ วุจฺจติ, ตเทว ภโวติ จ วุจฺจติ, ภวติ อโหสีติ วา. สมฺภวติ เอตสฺมาติ สมฺภโว. ตทาหาโร ตสฺส ภวสฺส ปจฺจโย. อนุกฺกเมน มคฺคปฺายาติ วิปสฺสนานุกฺกเมน ลทฺธาย อริยมคฺคปฺาย. เตนาติ เสกฺเขน.

เอกกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุกนิทฺเทสวณฺณนา

๖๓. กสฺสจีติ กสฺสจิปิ. กถฺจีติ เกนจิ ปกาเรน, วิกฺขมฺภนมตฺเตนาปีติ วุตฺตํ โหติ. อชฺฌตฺตคฺคหณสฺสาติ อตฺตานํ อธิกิจฺจ อุทฺทิสฺส ปวตฺตคฺคาหสฺส.

๘๓. ปุริมคฺคหิตนฺติ ‘‘กริสฺสติ เม’’ติอาทินา จิตฺเตน ปมํ คหิตํ. ตํ กตนฺติ ตํ ตาทิสํ อุปการํ. ปุฺผลํ อุปชีวนฺโต กตฺุปกฺเข ติฏฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปุฺผลํ อนุปชีวนฺโต’’ติ.

๙๐. คุณปาริปูริยา ปริปุณฺโณ ยาวทตฺโถ อิธ ติตฺโตติ อาห ‘‘นิฏฺิตกิจฺจตาย นิรุสฺสุกฺโก’’ติ.

ทุกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ติกนิทฺเทสวณฺณนา

๙๑. เสสสํวรเภเทนาติ กายิกวาจสิกวีติกฺกมโต เสเสน สํวรวินาเสน. โส ปน ทฺวารวเสน วุจฺจมาโน มโนทฺวาริโก โหตีติ อาห ‘‘มโนสํวรเภเทนา’’ติ. อิทานิ ตํ ปการเภเทน ทสฺเสนฺโต ‘‘สติสํวราทิเภเทน วา’’ติ อาห, มุฏฺสจฺจาทิปฺปวตฺติยาติ อตฺโถ. ยํ กิฺจิ สภาวภูตํ จริตมฺปิ ‘‘สีล’’นฺติ วุจฺจตีติ อกุสลสฺสปิ สีลปริยาโย วุตฺโต.

๙๔. สมานวิสยานนฺติ ปมผลาทิโก สมาโน เอวรูโป วิสโย เอเตสนฺติ สมานวิสยา, เตสํ.

๑๐๗. ตทตฺโถ ตปฺปโยชโน โลกุตฺตรสาธโกติ อตฺโถ. ตสฺส ปรมตฺถสาสนสฺส. มูเลกเทสตฺตาติ มูลภาเวน เอกเทสตฺตา.

๑๑๘. อุนฺนโฬ อุคฺคตตุจฺฉมาโน.

๑๒๓. สีลสฺส อนุคฺคณฺหนํ อปริสุทฺธิยํ โสธนํ อปาริปูริยํ ปูรณฺจาติ อาห ‘‘โสเธตพฺเพ จ วฑฺเฒตพฺเพ จา’’ติ. อธิสีลํ นิสฺสายาติ อธิสีลํ นิสฺสยํ กตฺวา อุปฺปนฺนปฺาย.

๑๒๔. คูถสทิสตฺตเมว ทสฺเสติ, น คูถกูปสทิสตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. คูถวเสเนว หิ กูปสฺสปิ ชิคุจฺฉนียตาติ. อยฺจ อตฺโถ คูถราสิเยว คูถกูโปติ อิมสฺมึ ปกฺเข นวตฺตพฺโพ สิยา.

๑๓๐. สรภงฺคสตฺถาราทโย รูปภวาทิกามาทิปริฺํ กตฺวา ปฺเปนฺโต โลกิยํ ปริฺํ สมฺมเทว ปฺเปนฺตีติ อาห ‘‘เยภุยฺเยน น สกฺโกนฺตี’’ติ. อสมตฺถภาวํ วา สนฺธาย โน จ ปฺาเปตุํ สกฺโกนฺตีติ วุตฺตนฺติ โยชนา.

ติกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๓. ปเรนาติ อฺเน, อาณตฺเตนาติ อตฺโถ. อาณตฺติยา อตฺตนา จาติ อาณาปกสฺส อาณตฺติยา, อตฺตนา จ อาณตฺเตน กตํ ตฺจ ตสฺส อาณาปกสฺส ยํ วจีปโยเคน กตนฺติ โยชนา. อาณตฺติยา ปาปสฺสาติ อาณาปนวเสน ปสุตปาปสฺส.

๑๔๘. เทสนาย กรณภูตาย. ธมฺมานนฺติ เทสนาย ยถาโพเธตพฺพานํ สีลาทิธมฺมานํ.

๑๕๒. อนนฺตรนฺติ าณสฺส อุปฏฺิตนฺติ อนนฺตรํ วุตฺตํ. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘วจน’’นฺติ. ลุชฺชตีติ อิทํ เยน การเณน โลก-สทฺโท ตทตฺเถ ปวตฺโต, ตํ ทสฺเสตีติ อาห ‘‘การณยุตฺต’’นฺติ.

๑๕๖. สหิตาสหิตสฺสาติ กุสลสทฺทโยเคน สามิวจนํ ภุมฺมตฺเถติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สหิตาสหิเตติ อตฺโถ’’ติ. สหิตภาสเนน เทสกสมฺปตฺติ, สหิตาสหิตโกสลฺเลน สาวกสมฺปตฺติ เวทิตพฺพา. ปริสสมฺปตฺติปิ าณสมฺปนฺนสฺส ธมฺมกถิกสฺส ปฏิภานสมฺปทาย การณํ โหตีติ อาห ‘‘สาวกสมฺปตฺติยา โพเธตุํ สมตฺถตายา’’ติ.

๑๕๗. กุสลธมฺเมหีติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมหิ. จตุตฺโถ วุตฺโต, โย เนว สงฺฆํ นิมนฺเตติ, น ทานํ เทติ.

๑๖๖. ยมิทํ ‘‘กาเลนา’’ติ วุตฺตนฺติ ‘‘โย ตตฺถ อวณฺโณ, ตมฺปิ ภณติ กาเลน. โยปิ ตตฺถ วณฺโณ, ตมฺปิ ภณติ กาเลนา’’ติ ยํ อิทํ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตตฺร ตสฺมึ วจเน วากฺเย โย ปุคฺคโล ‘‘กาเลน ภณตี’’ติ วุตฺโต, โส กีทิโสติ วิจารณาย ตสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘กาลฺู โหตี’’ติอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต สงฺคเห อาหาติ โยชนา.

๑๖๘. ปุพฺพุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺตีติ ตสฺมึ อตฺตภาเว ปมุปฺปนฺนปจฺจยวิปตฺติ. เตสํ วิปตฺติ ปวตฺตปฺปจฺจยวิปตฺตีติ โยชนา.

๑๗๓. เตสนฺติ ปหีนาวสิฏฺกิเลสานํ. วิมุตฺติทสฺสนเมว โหติ วิมุตฺติอตฺถตฺตา ตํทสฺสนสฺส.

๑๗๔. ตนฺตาวุตานํ วตฺถานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ.

๑๗๘. นามกาโยติ นามสมูโห. อิทเมว จ ทฺวยนฺติ สีลสํวรปูรณํ, สาชีวาวีติกฺกมนฺจาติ อิทเมว ทฺวยํ. ตโตติ สาชีวาวีติกฺกมนโต. กถาย หลิทฺทราคาทิสทิสตาติ โยชนา. เตนาห ‘‘น ปุคฺคลสฺสา’’ติ.

๑๗๙. อิติ-สทฺเทนาติ ‘‘ทารุมาสโก’’ติ เอตฺถ วุตฺตอิติ-สทฺเทน. เอวํปกาเรติ อิมินาปิ สลากาทิเก สงฺคณฺหาติ.

๑๘๑. อวิสฏสุขนฺติ อวิกฺเขปสุขํ.

๑๘๗. ขนฺธธมฺเมสูติ สงฺขตธมฺเมสุ. ตทลาเภนาติ มคฺคผลาลาเภน. อตฺเถนาติ สีลาทิอตฺเถน.

จตุกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา

๑๙๑. ยถา เตสุ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ เตสุ ปฺจสุ ปุคฺคเลสุ ยถารหํ อุปเมยฺโยปมาทสฺสนมุเขน หิตูปเทสปฏิปตฺติยา ยถา อฺเหิ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ อตฺโถ. กิริยาวาจี อารมฺภ-สทฺโท อธิปฺเปโต, น ‘‘อารมฺภกตฺตุสฺส กสาวปุจฺฉา’’ติอาทีสุ วิย ธมฺมวาจีติ อาห ‘‘อารมฺภกิริยาวาจโก สทฺโท’’ติ. ‘‘นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘มคฺคกิจฺจวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

๑๙๒. คหณํ ‘‘เอวเมต’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉนํ.

๑๙๙. น เอวํ สมฺพนฺโธ อสมานชาติกตฺตา.

ปฺจกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๒. อิทํ สจฺจาภิสมฺโพธาทิกํ สงฺคหิตํ โหติ ผลสฺส เหตุนา อวินาภาวโต. เตนาห ‘‘สาม’’นฺติอาทิ. อนาจริยเกน อตฺตนา อุปฺปาทิเตนาติ อิทํ สพฺพฺุตฺาเณ วิชฺชมานคุณกถนํ, น ตพฺพิธุรธมฺมนฺตรนิวตฺตนํ ตถารูปสฺส อฺสฺส อภาวโต. เตนสฺส สาจริยกตา, ปรโต จ อุปฺปตฺติ ปฏิกฺขิตฺตาติ อิมมตฺถมาห ‘‘ตตฺถา’’ติอาทินา. ตตฺถ สาจริยกตฺตํ ปรูปเทสเหตุกตา, ปรโต อุปฺปตฺติ อุปเทเสน วินาปิ สนฺนิสฺสาย นิพฺพตฺตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.

ฉกฺกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๓. กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อาธาเร ภุมฺมํ, น วิสเยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กุสเลสุ ธมฺเมสุ อนฺโตคธา’’ติ อาห. อิทานิ วิสยลกฺขณํ เอตํ ภุมฺมนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ วา’’ติอาทิมาห. ‘‘ตทุปการตายา’’ติ อิทํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สาเธตพฺเพสูติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. อุมฺมุชฺชนปฺายาติ อุมฺมุชฺชาปนปฺาย, อุมฺมุชฺชนากาเรน วา ปวตฺตปฺาย. เตเนวาติ อุมฺมุชฺชนมตฺตตฺตา เอว. ยถา หิ าณุปฺปาโท สํกิเลสปกฺขโต อุมฺมุชฺชนํ, เอวํ สทฺธุปฺปาโทปีติ อาห ‘‘สทฺธาสงฺขาตเมว อุมฺมุชฺชน’’นฺติ. จิตฺตวาโรติ จิตฺตปฺปพนฺธวาโร. ปจฺเจกํ านวิปสฺสนาปตรณปติคาธปฺปตฺตินิฏฺตฺตา เตสํ ปุคฺคลานํ ‘‘อเนเก ปุคฺคลา’’ติ วุตฺตํ. กสฺมา? เตนตฺตภาเวน อรหตฺตสฺส อคฺคหณโต. ตติยปุคฺคลาทิภาวนฺติ อุมฺมุชฺชิตฺวา ิตปุคฺคลาทิภาวํ.

สตฺตกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสกนิทฺเทสวณฺณนา

๒๐๙. โสตาปนฺนาทโยติ วุตฺตวิเสสยุตฺตา โสตาปนฺนสกทาคามิฌานานาคามิโน. อสา…เป… ปนาติ เอตฺถ ปน-สทฺโท วิเสสตฺถทีปโน. เตน ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชนานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา’’ติ อิทํ วิเสสํ ทีเปตีติ เวทิตพฺพํ.

ทสกนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลปฺตฺติปกรณ-อนุฏีกา สมตฺตา.