📜

กถาวตฺถุปกรณ-อนุฏีกา

คนฺถารมฺภวณฺณนา

สมุทาเย เอกเทสา อนฺโตคธาติ สมุทาโย เตสํ อธิฏฺานภาเวน วุตฺโต ยถา ‘‘รุกฺเข สาขา’’ติ ทสฺเสติ ‘‘กถาสมุทายสฺสา’’ติอาทินา. ตตฺถ กถานนฺติ ติสฺโส กถา วาโท ชปฺโป วิตณฺฑาติ. เตสุ เยน ปมาณตกฺเกหิ ปกฺขปฏิปกฺขานํ ปติฏฺาปนปฏิกฺเขปา โหนฺติ, โส วาโท. เอกาธิกรณา หิ อฺมฺวิรุทฺธา ธมฺมา ปกฺขปฏิปกฺขา ยถา ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา, น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ (ที. นิ. ๑.๖๕). นานาธิกรณา ปน อฺมฺวิรุทฺธาปิ ปกฺขปฏิปกฺขา นาม น โหนฺติ ยถา ‘‘อนิจฺจํ รูปํ, นิจฺจํ นิพฺพาน’’นฺติ. เยน ฉลชาตินิคฺคหฏฺาเนหิ ปกฺขปฏิปกฺขานํ ปติฏฺาปนํ ปฏิกฺเขปารมฺโภ, โส ชปฺโป. อารมฺภมตฺตเมเวตฺถ, น อตฺถสิทฺธีติ ทสฺสนตฺถํ อารมฺภคฺคหณํ. ยาย ปน ฉลชาตินิคฺคหฏฺาเนหิ ปฏิปกฺขปฏิกฺเขปาย วายมนฺติ, สา วิตณฺฑา. ตตฺถ อตฺถวิกปฺปุปปตฺติยา วจนวิฆาโต ฉลํ ยถา ‘‘นวกมฺพโลยํ ปุริโส, ราชา โน สกฺขี’’ติ เอวมาทิ . ทูสนภาสา ชาตโย, อุตฺตรปติรูปกาติ อตฺโถ. นิคฺคหฏฺานานิ ปรโต อาวิ ภวิสฺสนฺติ. เอวํ วาทชปฺปวิตณฺฑปฺปเภทาสุ ตีสุ กถาสุ อิธ วาทกถา ‘‘กถา’’ติ อธิปฺเปตา. สา จ โข อวิปรีตธมฺมตาย ปติฏฺาปนวเสน, น วิคฺคาหิกกถาภาเวนาติ เวทิตพฺพํ. มาติกาปเนเนวาติ อุทฺเทสเทสนาย เอว. ปิตสฺสาติ เทสิตสฺส. เทสนา หิ เทเสตพฺพมตฺถํ วิเนยฺยสนฺตาเนสุ ปนโต นิกฺขิปนโต ปนํ, นิกฺเขโปติ จ วุจฺจติ.

คนฺถารมฺภวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิทานกถาวณฺณนา

ปรินิพฺพานเมว…เป… วุตฺตํ. อภินฺนสภาวมฺปิ หิ อตฺถํ ตทฺธมฺมโต วิเสสาวโพธนตฺถํ อฺํ วิย กตฺวา โวหรนฺติ ยถา ‘‘อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑). สาติ อสงฺขตา ธาตุ. กรณภาเวน วุตฺตา ยถาวุตฺตสฺส อุปสมสฺส สาธกตมภาวํ สนฺธาย. ธมฺมวาที…เป… ทุพฺพลตา วุตฺตา ตถารูปาย ปฺาย ภาเว ตาทิสานํ ปกฺขภาวาภาวโต. ลทฺธิยาติ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน, ปริหายติ อรหา อรหตฺตา’’ติอาทิลทฺธิยา. สุตฺตนฺเตหีติ เทวตาสํยุตฺตาทีหิ. ลิงฺคากปฺปเภทํ ปรโต สยเมว วกฺขติ.

ภินฺทิตฺวา มูลสงฺคหนฺติ มูลสงฺคีตึ วินาเสตฺวา, เภทํ วา กตฺวา ยถา สา ิตา, ตโต อฺถา กตฺวา. สงฺคหิตโต วา อฺตฺราติ มูลสงฺคีติยา สงฺคหิตโต อฺตฺร. เตนาห ‘‘อสงฺคหิตํ สุตฺต’’นฺติ. นีตตฺถํ ยถารุตวเสน วิฺเยฺยตฺถตฺตา. เนยฺยตฺถํ วิปริณามทุกฺขตาทิวเสน นิทฺธาเรตพฺพตฺถตฺตา. ตีหิ าเนหีติ ‘‘สูรา สติมนฺโต อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ (อ. นิ. ๙.๒๑) เอวํ วุตฺเตหิ ตีหิ การเณหิ. อฺํ สนฺธาย ภณิตนฺติ เอกํ ปพฺพชฺชาสงฺขาตํ พฺรหฺมจริยวาสํ สนฺธาย ภณิตํ. อฺํ อตฺถํ ปยึสูติ สพฺพสฺสปิ พฺรหฺมจริยวาสสฺส วเสน ‘‘นตฺถิ เทเวสุ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติอาทิกํ (กถา. ๒๖๙) อฺํ อตฺถํ ปยึสุ. สุตฺตฺจ อฺํ สนฺธาย ภณิตํ ตโต อฺํ สนฺธาย ภณิตํ กตฺวา ปยึสุ, ตสฺส อตฺถฺจ อฺํ ปยึสูติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. สุฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อนิจฺจตาทึ สงฺคณฺหาติ.

คมฺภีรํ เอกเทสํ มหาปเทสปริวาราทึ. เอกจฺเจ สกลํ อภิธมฺมํ วิสฺสชฺชึสุ ฉฑฺฑยึสุ เสยฺยถาปิ สุตฺตนฺติกา. เต หิ ตํ น ชินวจนนฺติ วทนฺติ. กถาวตฺถุสฺส สวิวาทตฺเตติอาทิ เหฏฺา นิทานฏฺกถาย อาคตนยํ สนฺธาย วุตฺตํ. เกจิ ปน ปุคฺคลปฺตฺติยาปิ สวิวาทตฺตํ มฺนฺติ. ‘‘ตติยสงฺคีติโต ปุพฺเพ ปวตฺตมานานํ วเสนา’’ติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตติยสงฺคีติโต ปุพฺเพปิ ตํ มาติการูเปน ปวตฺตเตว? นิทฺเทสํ วา สนฺธาย ตถา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฺานีติ อฺาการานิ อภิธมฺมปกรณาทีนิ อกรึสุ, ปวตฺตนฺตานิปิ ตานิ อฺถา กตฺวา ปึสูติ อตฺโถ . มฺชุสิรีติ อิทํ กสฺมา วุตฺตํ. น หิ ตํ นามํ ปิฏกตฺตยํ อนุวตฺตนฺเตหิ ภิกฺขูหิ คยฺหติ? อิตเรหิ คยฺหมานมฺปิ วา สาสนิกปริฺเหิ น สาสนาวจรํ คยฺหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. นิกายนามนฺติ มหาสงฺฆิกาทินิกายนามํ, ทุตฺตคุตฺตาทิวคฺคนามฺจ.

สงฺกนฺติกานํ เภโท สุตฺตวาทีติ สงฺกนฺติกานํ อนนฺตเร เอโก นิกายเภโท สุตฺตวาที นาม ภิชฺชิตฺถ. สหาติ เอกชฺฌํ กตฺวา, คณิยมานาติ อตฺโถ.

อุปฺปนฺเน วาเท สนฺธายาติ ตติยสงฺคีติกาเล อุปฺปนฺเน วาเท สนฺธาย. อุปฺปชฺชนเกติ ตโต ปฏฺาย ยาว สทฺธมฺมนฺตรธานา เอตฺถนฺตเร อุปฺปชฺชนเก. สุตฺตสหสฺสาหรณฺเจตฺถ ปรวาทภฺชนตฺถฺจ สกวาทปติฏฺาปนตฺถฺจ. สุตฺเตกเทโสปิ หิ ‘‘สุตฺต’’นฺติ วุจฺจติ สมุทายโวหารสฺส อวยเวสุปิ ทิสฺสนโต ยถา ‘‘ปโฏ ทฑฺโฒ, สมุทฺโท ทิฏฺโ’’ติ จ. เต ปเนตฺถ สุตฺตปเทสา ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทินา อาคตา เวทิตพฺพา.

นิทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺโค

๑. ปุคฺคลกถา

๑. สุทฺธสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

. สมฺพราทีหิ ปกปฺปิตวิชฺชา, ตถาภิสงฺขตานิ โอสธานิ จ ‘‘มายา’’ติ วุจฺจนฺติ, อิธ ปน มายาย อาหิตวิเสสา อภูตฺเยฺยาการา อธิปฺเปตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มายาย อมณิอาทโย มณิอาทิอากาเรน ทิสฺสมานา มายาติ วุตฺตา’’ติ อาห. สจฺจฺเว สจฺจิกํ, โส เอว อตฺโถ อวิปรีตสฺส าณสฺส วิสยภาวฏฺเนาติ สจฺจิกฏฺโ. เตนาห ‘‘ภูตฏฺโ’’ติ. อวิปรีตภาวโต เอว ปรโม ปธาโน อตฺโถติ ปรมตฺโถ, าณสฺส ปจฺจกฺขภูโต ธมฺมานํ อนิทฺทิสิตพฺพสภาโว. เตน วุตฺตํ ‘‘อุตฺตมตฺโถ’’ติ.

อตฺถีติ วจนสามฺเนาติ ‘‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๙๖; กถา. ๒๒) ‘‘อตฺถี’’ติ ปวตฺตวจนสามฺเน. อตฺถวิกปฺปุปปตฺติยา วจนวิฆาโต ฉลนฺติ วทนฺติ. ปติฏฺํ ปจฺฉินฺทนฺโตติ เหตุํ ทูเสนฺโต, อเหตุํ กโรนฺโตติ อตฺโถ. เหตุ หิ ปฏิฺาย ปติฏฺาปนโต ปติฏฺา, ตํ ปน เหตุํ อตฺถมตฺตโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ สจฺจิกฏฺเนา’’ติอาทิมาห. ปโยคโต ปน ทูสเนน สทฺธึ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. โอกาสํ อททมาโนติ ยถานุรูปํ ยุตฺตึ วตฺตุํ อวสรํ อเทนฺโต. อถ วา ปติฏฺํ ปจฺฉินฺทนฺโต, ปฏิฺํ เอว ปริวตฺเตนฺโตติ อตฺโถ. อุปลพฺภติ ปุคฺคโลติ หิ สกวาทึ อุทฺทิสฺส ปรวาทิโน ปฏิฺาว น ยุตฺตา อปฺปสิทฺธตฺตา วิเสสิตพฺพสฺส. เตเนวาห ‘‘อนุปลพฺภเนยฺยโต น ตว วาโท ติฏฺตีติ นิวตฺเตนฺโต’’ติ. รูปฺจ อุปลพฺภติ…เป… ทสฺเสตีติ เอเตน ปรวาทินา อธิปฺเปตเหตุโน วิปรีตตฺถสาธกตฺตํ ทสฺเสติ.

อุปลพฺภมานํ นาม โหตีติ อาการโต ตํอาการวนฺตานํ อนฺตฺตาติ อธิปฺปาโย. อฺถาติ อาการ, อาการวนฺตานํ เภเท. เอติสฺสาติ ‘‘ตโต โส ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมฏฺเนา’’ติ เอวํ วุตฺตาย ทุติยปุจฺฉาย. เอส วิเสโสติ โย ยถาวุตฺโต ทฺวินฺนํ ปุจฺฉานํ วิสยสฺส สภาวาการเภโท, เอส ทฺวินฺนํ ปุจฺฉานํ วิเสโส. สภาวธมฺมานํ สามฺลกฺขเณน อภินฺนานมฺปิ สลกฺขณโต เภโทเยวาติ อฺธมฺมสฺส อฺเนากาเรน น กทาจิปิ อุปลพฺโภ ภเวยฺย. ยทิ สิยา, อฺตฺตเมว น สิยาติ รุปฺปนาทิสปจฺจยาทิอากาเรน อนุปลพฺภมาโนปิ ปุคฺคโล อตฺตโน ภูตสภาวฏฺเน อุปลพฺภเตวาติ วทนฺตํ ปรวาทินํ ปติ ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติอาทิ โจทนา อโนกาสาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยถา ปน…เป… นิคฺคโห จ น กาตพฺโพ’’ติ. ตตฺถ นิคฺคโหติ ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ เอวํ วุตฺตนิคฺคโห, ปราชยาโรปเนน ปรวาทิโน นิคฺคณฺหนนฺติ อตฺโถ.

สฺวายํ ปน ยสฺมา ตสฺส วาทาปราธเหตุโก, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ โทสาปราธปริยาเยหิ วิภาวิโต. อวชานนฺเหตฺถ นิคฺคหฏฺานํ. ตถา หิ ปฏิฺาหานิ, ปฏิฺานฺตรํ, ปฏิฺาวิโรโธ, ปฏิฺาสฺาโส, เหตฺวนฺตรํ, อตฺถนฺตรํ, นิรตฺถกํ, อวิฺาตตฺถํ, อสมฺพนฺธตฺถํ, อปฺปตฺตกาลํ, อูนํ, อธิกํ, ปุนรุตฺตํ, อนนุภาสนํ, อวิฺาตํ, อปฺปฏิภา, วิกฺเขโป, มตานุฺา, อนุยุฺชิตพฺพสฺส อุเปกฺขนํ, อนนุยุฺชิตพฺพสฺส อนุโยโค, อปสิทฺธนฺตรํ, เหตฺวาภาสา จาติ ทฺวาวีสติ นิคฺคหฏฺานานิ ายวาทิโน วทนฺติ.

ตตฺถ วิสทิสูทาหรณธมฺมานุชานนํ ปมุทาหรเณ ปฏิฺาหานิ. ปฏิฺาตตฺถปฏิเสเธ ตทฺตฺถนิทฺเทโส ปฏิฺานฺตรํ. ปฏิฺาวิรุทฺธเหตุกิตฺตนํ ปฏิฺาวิโรโธ. ปฏิฺาตตฺถาปนยนํ ปฏิฺาสฺาโส. อวิเสสวุตฺเต เหตุมฺหิ ปฏิสิทฺเธ วิเสสเหตุกถนํ เหตฺวนฺตรํ. อธิกตตฺถานุปโยคิอตฺถกถนํ อตฺถนฺตรํ. มาติกาปาโ วิย อตฺถหีนํ นิรตฺถกํ. ติกฺขตฺตุํ วุตฺตมฺปิ สกฺขิปฏิวาทีหิ อวิทิตํ อวิฺาตตฺถํ. ปุพฺพาปรวเสน สมฺพนฺธรหิตํ อสมฺพนฺธตฺถํ. อวยววิปลฺลาสวจนํ อปฺปตฺตกาลํ. อวยววิกลํ อูนํ. อธิกเหตูทาหรณํ อธิกํ. เปตฺวา อนุวาทํ สทฺทตฺถานํ ปุนปฺปุนํ วจนํ อตฺถาปนฺนวจนฺจ ปุนรุตฺตํ. ปริสาย วิทิตสฺส ตีหิ วุตฺตสฺส อปจฺจุทาหาโร อนนุภาสนํ. ยํ วาทินา วุตฺตํ ปริสาย วิฺาตํ ปฏิวาทินา ทุวิฺาตํ, ตํ อวิฺาตํ. ตํวาทินา วตฺตพฺเพ วุตฺเต ปรวาทิโน ปฏิวจนสฺส อนุปฏฺานํ อปฺปฏิภา. กิจฺจนฺตรปฺปสงฺเคน กถาวิจฺฉินฺทนํ วิกฺเขโป. อตฺตโน โทสานุชานเนน ปรปกฺขสฺส โทสปฺปสฺชนํ ปรมตานุชานนํ มตานุฺา. นิคฺคหปฺปตฺตสฺส นิคฺคณฺหนํ อนุยุฺชิตพฺพสฺส อุเปกฺขนํ. สมฺปตฺตนิคฺคหสฺส อนิคฺคหฏฺาเน จ นิคฺคณฺหนํ อนุยุฺชิตพฺพสฺส อนุโยโค. เอกํ สิทฺธนฺตมนุชานิตฺวา อนิยมโต ตทฺสิทฺธนฺตกถาปฺปสฺชนํ อปสิทฺธนฺตรํ. อสิทฺธา อเนกนฺติกา วิรุทฺธา จ เหตฺวาภาสา, เหตุปติรูปกาติ อตฺโถ. เตสฺจ กถนํ นิคฺคหฏฺานนฺติ.

อิเมสุ ทฺวาวีสติยา นิคฺคหฏฺาเนสุ อิทํ ปฏิฺาย อปนยนโต สยเมว ปจฺจกฺขานโต ปฏิฺาสฺาโส นาม นิคฺคหฏฺานํ. เตเนวาห ‘‘อวชานเนเนว นิคฺคหํ ทสฺเสตี’’ติ. อสิทฺธตฺตาติ เอเตน ปจฺจกฺขโต อนุมานโต จ ปุคฺคลสฺส อนุปลพฺภมาห. น หิ โส ปจฺจกฺขโต อุปลพฺภติ. ยทิ อุปลพฺเภยฺย, วิวาโท เอว น สิยา, อนุมานมฺปิ ตาทิสํ นตฺถิ, เยน ปุคฺคลํ อนุมิเนยฺยุํ. ตถา หิ ตํ สาสนิโก ปุคฺคลวาที วเทยฺย ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ, อตฺถิ ปุคฺคโล’’ติ ภควตา วุตฺตตฺตา รูปเวทนาทิ วิย. ยฺหิ ภควตา ‘‘อตฺถี’’ติ ยทิ วุตฺตํ, ตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ ยถา ตํ รูปํ เวทนา สฺา สงฺขารา วิฺาณํ. ยํ ปน ปรมตฺถโต นตฺถิ, น ตํ ภควตา ‘‘อตฺถี’’ติ วุตฺตํ ยถา ตํ ปกติวาทิอาทีนํ ปกติอาทีติ, ตํ มิจฺฉา. เอตฺถ หิ ยทิ โวหารโต ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาโว อธิปฺเปโต, สิทฺธํ สาธนํ, อถ ปรมตฺถโต, อสิทฺโธ เหตุ ตถา อวุตฺตตฺตา. วิรุทฺโธ จ ตสฺส อนิจฺจสงฺขตปฏิจฺจสมุปฺปนฺนาทิภาวาสาธนโต รูปเวทนาทีสุ ตถา ทิฏฺตฺตาติอาทินา ตสฺส อเหตุกภาวสฺเสว ปากฏภาวโต.

ยํ ปน พาหิรกา ปุถุ อฺติตฺถิยา วทนฺติ. อตฺเถว จ ปรมตฺถโต อตฺตา าณาภิธานสฺส ปวตฺติยา นิมิตฺตภาวโต รูปาทิ วิย. อถ วา อตฺตาติริตฺตปทตฺถนฺตโร รูปกฺขนฺโธ ขนฺธสภาวตฺตา ยถา ตํ อิตรกฺขนฺธา. ยฺเหตฺถ ปทตฺถนฺตรํ, โส ปุคฺคโลติ อธิปฺปาโย.

เอตฺถ จ ปุริมสฺส เหตุโน ปฺตฺติยา อเนกนฺติกตา อสิทฺธตา จ. น หิ อสโต สกวาทินํ ปติ ปรมตฺถโต าณาภิธานปฺปวตฺติยา นิมิตฺตภาโว สิชฺฌติ. โวหารโต เจ, ตทสิทฺธสาธนตา รูปาทิสภาววินิมุตฺตรูโปปิ ปุคฺคโล น โหตีติ เอวมาทิวิรุทฺธตฺถตา. ปจฺฉิมสฺส ปน เหตุโน สาเธตพฺพตฺถสามฺปริคฺคเห สิทฺธสาธนตา, รูปกฺขนฺธโต ปทตฺถนฺตรโต ปรมตฺถนฺตรภูตเวทนาทิสมฺภวสฺส อิจฺฉิตตฺตา จ. ตพฺพิเสสปริคฺคเห จ สกวาทินํ ปติ อุทาหรณาภาโว ปรปริกปฺปิตชีวปทตฺถวิรหโต. อิตรกฺขนฺธานํ เวทนาทิวินิมุตฺตอุภยสิทฺธชีวปทตฺถสหิโตปิ รูปกฺขนฺโธ น โหติ อิตรกฺขนฺธา วิยาติ วิรุทฺธตฺถตา จ.

ยํ ปน กาณาทา ‘‘สุขาทีนํ นิสฺสยภาวโต’’ติ อนุมานํ วทนฺติ, เต อิทํ วตฺตพฺพา – กึ สุขาทีนํ อตฺตนิ ปฏิพทฺธํ ยโต สุขาทินิสฺสยตาย อตฺตา อนุมียติ. ยทิ อุปฺปาโท, เอวํ สนฺเต สพฺเพปิ สุขาทโย เอกโต เอว ภเวยฺยุํ การณสฺส สนฺนิหิตภาวโต อฺนิรเปกฺขโต จ. อถ อฺมฺปิ กิฺจิ อินฺทฺริยาทิการณนฺตรมเปกฺขิตพฺพํ, ตเทว โหตุ การณํ, กิมฺเน อทิฏฺสามตฺถิเยน ปริกปฺปิเตน ปโยชนํ. อถ ปน เตสํ อตฺตาธีนา วุตฺตีติ วเทยฺยุํ, เอวมฺปิ น สิชฺฌติ อุทาหรณาภาวโต. น หิ รูปาทิวินิมุตฺโต ตาทิโส โกจิ สภาวธมฺโม สุขาทิสนฺนิสฺสยภูโต อตฺถิ, ยโต อตฺตโน อตฺตตฺถสิทฺธิยา อุทาหรณํ อปทิเสยฺยุํ. อิมินา นเยน อสมาสปทาภิเธยฺยตฺตาติอาทีนมฺปิ อยุตฺตตฺตา นิวาเรตพฺพา. ตถา ‘‘อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา’’ติ อิมินา จ ปกติอณุอาทีนมฺปิ พาหิรปริกปฺปิตานํ อสิทฺธตา วุตฺตาวาติ เวทิตพฺพา. กถํ ปน เตสํ อสิทฺธีติ? ปมาเณน อนุปลพฺภนโต. น หิ ปจฺจกฺขโต ปกติ สิทฺธา กปิลสฺสปิ อิสิโน ตสฺส อปจฺจกฺขภาวสฺส กาปิเลหิ อนุฺายมานตฺตา.

ยํ ปน ‘‘อตฺถิ ปธานํ เภทานํ อนฺวยทสฺสนโต สกลกลาปมตฺตํ วิยา’’ติ เต อนุมานํ วทนฺติ. อิมินา หิ เภทานํ สตฺวาทีนํ วิชฺชมานปธานตา ปฏิฺาตา. เอตฺถ จ วุจฺจเต – สกลาทีนํ ปธานํ ตพฺพิภาเคหิ กึ อฺตฺตํ, อุทาหุ อนฺนฺติ, กิฺเจตฺถ ยทิ อฺตฺตํ, สพฺโพ โลโก ปธานมโยติ สมยวิโรโธ สิยา, สณฺานเภเทน อฺตฺถ ปฏิชานนโต น โทโสติ เจ? ตํ น, วลยกฏกาทิสณฺานเภเทปิ กนกาเภททสฺสนโต. น หิ สณฺานํ วตฺถุเภทนิมิตฺตํ ตสฺส อนุปาทานตฺตา. ยํ ยสฺส เภทนิมิตฺตํ, น ตํ ตสฺส อนุปาทานํ ยถา สุวณฺณมตฺติกาทิฆฏาทีนํ สุวณฺณฆโฏ มตฺติกาฆโฏ โกเสยฺยปโฏ กปฺปาสปโฏติ จ สาเธตพฺพธมฺมรหิตฺจ อุทาหรณํ. น หิ ปธาเนกการณปุพฺพกตฺตํ สกลาทีนํ ปกติวาทิโน สิทฺธํ, นาปิ กาปิลานํ กถฺจิ อฺตฺตานุชานนโต. อนฺตฺเต ปน อุทาหรณาภาโว. น หิ ตเทว สาเธตพฺพํ ตเทว จ อุทาหรณํ ยุตฺตํ, อนฺวยทสฺสนมฺปิ อสิทฺธํ. น หิ ตเทว เตน อนฺวิตํ ยุชฺชติ. ปธาเนน อนฺวยทสฺสนมฺปิ อสิทฺธํ ปรวาทิโนติ คุณสฺส ปธานสฺส อนนุชานนโต. อถ ยํ กิฺจิ การณํ ปธานํ ‘‘ปธียติ เอตฺถ ผล’’นฺติ, เอวมฺปิ อสิทฺธเมว การเณ ผลสฺส อตฺถิภาวานนุชานนโต, เหตุโน จ อสิทฺธนิสฺสยตาปราภิมตเภทานนุชานนโต. อถ วิเสเสน การณายตฺตวุตฺติตา ผลสฺส สาธียติ, น กิฺจิ วิรุทฺธํ ธมฺมานํ ยถาสกํ ปจฺจเยน ปฏิจฺจสมุปฺปตฺติยา อิจฺฉิตตฺตาติ.

อปิจ ปกติวาทิโน ‘‘สตฺวรชตมสงฺขาตานํ ติณฺณํ คุณานํ สมภาโว ปกติ, สา จ นิจฺจา สตฺวาทิวิสมสภาวโต อนิจฺจโต มหตาทิวิการโต อนฺา’’ติ ปฏิชานนฺติ. สา เตสํ วุตฺตปฺปการา ปกติ น สิชฺฌติ ตโต วิรุทฺธสภาวโต วิการโต อนฺตฺตา. น หิ อสฺสสฺส วิสาณํ ทีฆํ, ตฺจ รสฺสโต โควิสาณโต อนฺนฺติ วุจฺจมานํ สิชฺฌติ. กิฺจ ภิยฺโย? ติณฺณํ เอกภาวาภาวโต. สตฺวาทิคุณตฺตยโต หิ ปกติยา อนฺตฺตํ อิจฺฉนฺตานํ เตสํ สตฺวาทีนมฺปิ ปกติยา อนฺตฺตํ อาปชฺชติ, น จ ยุตฺตํ ติณฺณํ เอกภาโวติ. เอวมฺปิ ปกติ น สิชฺฌติ. กถํ? อเนกโทสาปตฺติโต. ยทิ หิ พฺยตฺตสภาวโต วิการโต อพฺยตฺตสภาวา ปกติ อนฺา, เอวํ สนฺเต เหตุมนฺตตา อนิจฺจตา อพฺยาปิตา สกิริยตา อเนกตา นิสฺสิตตา ลิงฺคตา สาวยวตา ปรตนฺตฺรตาติ เอวมาทโย อเนเก โทสา ปกติยา อาปชฺชนฺติ, น ชาติวิการโต อนฺา ปฏิชานิตพฺพา. ตถา จ สติ สมยวิโรโธติ กปฺปนามตฺตํ ปกตีติ อสิทฺธา สาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

ปกติยา จ อสิทฺธาย ตํนิมิตฺตกภาเวน วุจฺจมานา มหตาทโยปิ อสิทฺธา เอว. ยถา จ ปกติ มหตาทโย จ, เอวํ อิสฺสรปชาปติปุริสกาลสภาวนิยติยทิจฺฉาทโยปิ. เอเตสุ หิ อิสฺสโร ตาว น สิชฺฌติ อุปการสฺส อทสฺสนโต. สตฺตานฺหิ ชาติยํ มาตาปิตูนํ พีชเขตฺตภาเวน กมฺมสฺส หีนตาทิวิภาคกรเณน, ตโต ปรฺจ อุตุอาหารานํ พฺรูหนุปตฺถมฺภเนน, อินฺทฺริยานํ ทสฺสนาทิกิจฺจสาธเนน อุปกาโร ทิสฺสติ, น, เอวมิสฺสรสฺส. หีนตาทิวิภาคกรณมิสฺสรสฺสาติ เจ? ตํ น, อสิทฺธตฺตา. ยถาวุตฺโต อุปการวิเสโส อิสฺสรนิมฺมิโต, น กมฺมุนาติ สาธนียเมตํ. อิตรตฺราปิ สมานเมตนฺติ เจ? น, กมฺมโต ผลนิยมสิทฺธตฺตา . สติ หิ กตูปจิเต กมฺมสฺมึ ตตฺถ ยํ อกุสลํ, ตโต หีนตา, ยํ กุสลํ, ตโต ปณีตตาติ สิทฺธเมตํ. อิสฺสรวาทินาปิ หิ น สกฺกา กมฺมํ ปฏิกฺขิปิตุํ.

อปิเจตสฺส โลกวิจิตฺตสฺส อิสฺสรนิมฺมานภาเว พหู โทสา สมฺภวนฺติ. กถํ? ยทิ สพฺพมิทํ โลกวิจิตฺตํ อิสฺสรนิมฺมิตํ, สเหว วจเนน ปวตฺติตพฺพํ, น กเมน. น หิ สนฺนิหิตการณานํ ผลานํ กเมน อุปฺปตฺติ ยุตฺตา, การณนฺตราเปกฺขาย อิสฺสรสฺส สามตฺถิยหานิ. จกฺขาทีนํ จกฺขุวิฺาณาทีสุ การณภาโว น ยุตฺโต. กโรตีติ หิ การณนฺติ. อิสฺสโร เอว จ การโกติ สพฺพการณานํ การณภาวหานิ. เยหิ ปุถุวิเสเสหิ อิสฺสโร ปสีเทยฺย, เตสฺจ สยํการตา อาปชฺชติ, ตถา สพฺเพสํ เหตุกานํ การณภาโว. ยฺเชตํ นิมฺมานํ, ตฺจสฺส อตฺตทตฺถํ วา สิยา, ปรตฺถํ วา สิยา. อตฺตทตฺถตายํ อตฺตโน อิสฺสรภาวหานิ อกตกิจฺจตาย อิสิตาวสิตาภาวโต. เตน วา นิมฺมิเตน ยํ อตฺตโน กาตพฺพํ, ตํ กสฺมา สยเมว น กโรติ. ปรตฺถตายํ ปน ปโร นาเมตฺถ โลโก เอวาติ กิมตฺถิยํ ตสฺส นิรยาทิโรคาทิวิสาทินิมฺมานํ. ยา จสฺส อิสฺสรตา, สา สยํกตา วา สิยา ปรํกตา วา อเหตุกา วา. ตตฺถ สยํกตา เจ, ตโต ปุพฺเพ อนิสฺสรภาวาปตฺติ. ปรํกตา เจ, ปจฺฉาปิ อนิสฺสรภาวาปตฺติ สอุตฺตรตา จ สิยา. อเหตุกา เจ, น กสฺสจิ อนิสฺสรตาติ เอวมิสฺสรสฺสปิ อสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

ยถา จ อิสฺสโร, เอวํ ปชาปติ ปุริโส จ. นามมตฺตเมว เหตฺถ วิเสโส. เตหิ วาทีหิ ปกปฺปิตํ ยทิทํ ‘‘ปชาปติ ปุริโส’’ติ. ตํนิมิตฺตกํ ปน โลกปฺปวตฺตึ อิจฺฉนฺตานํ ปชาปติวาเท ปุริสวาเท จ อิสฺสรวาเท วิย โทสา อสิทฺธิ จ วิธาตพฺพา. ยถา เจเต อิสฺสราทโย, เอวํ กาโลปิ อสิทฺโธ ลกฺขณาภาวโต. ปรมตฺถโต หิ วิชฺชมานานํ ธมฺมานํ สภาวสงฺขาตํ ลกฺขณํ อุปลพฺภติ. ยถา ปถวิยา กถินตา, น เอวํ กาลสฺส, ตสฺมา นตฺถิ ปรมตฺถโต กาโลติ. กาลวาที ปนาห ‘‘วตฺตนาลกฺขโณ กาโล’’ติ. โส วตฺตพฺโพ ‘‘กา ปนายํ วตฺตนา’’ติ. โส อาห ‘‘สมยมุหุตฺตาทีนํ ปวตฺตี’’ติ. ตมฺปิ น, รูปาทีหิ อตฺถนฺตรภาเวน อนิทฺธาริตตฺตา. ปรมตฺถโต หิ อนิทฺธาริตสภาวสฺส วตฺตนาลกฺขณตายํ สสวิสาณาทีนมฺปิ ตํลกฺขณตา อาปชฺเชยฺย.

ยํ ปน วทนฺติ กาณาทา ‘‘อปรสฺมึ อปรํ ยุคปทิ จิรํ ขิปฺปมิติ กาลลิงฺคานีติ ลิงฺคสพฺภาวโต อตฺถิ กาโล’’ติ, ตํ อยุตฺตํ ลิงฺคิโน อนุปลพฺภมานตฺตา. สิทฺธสมฺพนฺเธสุ หิ ลิงฺเคสุ ลิงฺคมตฺตคฺคหเณน ลิงฺคินิ อวโพโธ ภเวยฺย. น จ เกนจิ อวิปรีตเจตสา เตน ลิงฺเคน สห กทาจิ กาลสงฺขาโต ลิงฺคี คหิตปุพฺโพติ. อโต น ยุตฺตํ ‘‘ลิงฺคสพฺภาวโต อตฺถิ กาโล’’ติ. ‘‘อปรสฺมึ อปร’’นฺติอาทิกสฺส วิเสสสฺส นิมิตฺตภาวโต ยุตฺตนฺติ เจ? น, ปมชาตตาทินิมิตฺตกตฺตา ตสฺส. น จ ปมชาตตาทิ นาม โกจิ ธมฺโม อตฺถิ อฺตฺร สมฺามตฺตโตติ นตฺเถว ปรมตฺถโต กาโล. กิฺจ ภิยฺโย, พหูนํ เอกภาวาปตฺติโต. อตีตาทิวิภาเคน หิ โลกสมฺาวเสน พหู กาลเภทา. ตฺวฺเจตํ เอกํ วทสีติ พหูนํ เอกภาวาภาวโต นตฺเถว ปรมตฺถโต กาโล. ตถา เอกสฺส อเนกภาวาปตฺติโต. โย หิ อยํ อชฺช วตฺตมานกาโล, โส หิยฺโย อนาคโต อโหสิ, สฺเว อตีโต ภวิสฺสติ. หิยฺโย จ วตฺตมาโน อชฺช อตีโต อโหสิ, ตถา สฺเว วตฺตมาโนปิ อปรชฺช. น เจกสภาวสฺส อเนกสภาวตา ยุตฺตาติ อสิทฺโธ ปรมตฺถโต กาโล. ธมฺมปฺปวตฺตึ ปน อุปาทาย กปฺปนามตฺตสิทฺธาย โลกสมฺาย อตีตาทิวิภาคโต โวหรียตีติ โวหารมตฺตโกติ ทฏฺพฺโพ.

สภาวนิยติยทิจฺฉาทโยปิ อสิทฺธา. กึ การณา? ลกฺขณาภาวา. น หิ สภาวโต นิยติยทิจฺฉา สมฺภวติ. อฺถา เอวํวิโธ โกจิ ภาโว อตฺถิ เจ, เตสํ สภาวสงฺขาเตน ลกฺขเณน ภวิตพฺพํ, ปติฏฺาปกเหตุนา จ น จตฺถิ. เกวลํ ปเนเต วาทา วิมทฺทิยมานา อเหตุวาเท เอว ติฏฺนฺติ, น จาเหตุกํ โลกวิจิตฺตํ วิเสสาภาวปฺปสงฺคโต. อเหตุกภาเว หิ ปวตฺติยา ยฺวายํ นรสุรนิรยติรจฺฉานาทีสุ อินฺทฺริยาทีนํ วิเสโส, ตสฺส อภาโว อาปชฺชติ, น จายํ ปณฺฑิเตหิ อิจฺฉิโต. กิฺจ? ทิฏฺภาวโต. ทิฏฺา หิ จกฺขาทิโต จกฺขุวิฺาณาทีนํ พีชาทิโต องฺกุราทีนํ ปวตฺติ, ตสฺมาปิ เหตุโตวายํ ปวตฺติ. ตถา ปุเร ปจฺฉา จ อภาวโต. ยโต ยโต หิ ปจฺจยสามคฺคิโต ยํ ยํ ผลํ นิพฺพตฺตติ, ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จ น ตสฺส นิพฺพตฺติ สมฺภวติ, กิฺจ พหุนา. ยทิ อเหตุโต ปวตฺติ สิยา, อเหตุกา ปวตฺตีติ อิมาปิ วาจา ยถาสกปจฺจยสมวายโต ปุเร ปจฺฉา จ ภเวยฺยุํ, น จ ภวนฺติ อลทฺธปฺปจฺจยตฺตา, มชฺเฌ เอว จ ภวนฺติ ลทฺธปฺปจฺจยตฺตา. เอวํ สพฺเพปิ สงฺขตา ธมฺมาติ น สิชฺฌติ อเหตุวาโท. ตสฺมิฺจ อสิทฺเธ ปวตฺติยา อเหตุภาโว วิย อเหตุปริยายวิเสสภูตา สภาวนิยติยทิจฺฉาทโยปิ อสิทฺธา เอว โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

ยํ ปน กาณาทา ‘‘ปรมาณโว นิจฺจา, เตหิ ทฺวิอณุกาทิผลํ นิพฺพตฺตติ, ตฺจ อนิจฺจํ , ตสฺส วเสเนตํ โลกวิจิตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตมฺปิ มิจฺฉาปริกปฺปมตฺตํ. น หิ ปรมาณโว นาม สนฺติ อฺตฺร ภูตสงฺฆาตา. โส ปน อนิจฺโจว, น จ นิจฺจโต อนิจฺจสฺส นิพฺพตฺติ ยุตฺตา ตสฺส การณภาวานุปปตฺติโต ตถา อทสฺสนโต จ. ยทิ จ โส กสฺสจิ การณภาวํ คจฺเฉยฺย, อนิจฺโจ เอว สิยา วิการาปตฺติโต. น จายํ สมฺภโว อตฺถิ, ยํ วิการํ อนาปชฺชนฺตเมว การณํ ผลํ นิพฺพตฺเตยฺยาติ. วิการฺเจ อาปชฺชติ, กุตสฺส นิจฺจตาวกาโส, ตสฺมา วุตฺตปฺปการา ปรมาณโว สตฺตา อนิจฺจา, อฺเปิ นิจฺจาทิภาเวน พาหิรเกหิ ปริกปฺปิตา อสิทฺธา เอวาติ เวทิตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ธมฺมปฺปเภทโต ปน อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา’’ติ.

เอตฺถาห ‘‘ยทิ ปรมตฺถโต ปุคฺคโล น อุปลพฺภติ, เอวํ ปน ปุคฺคเล อนุปลพฺภมาเน อถ กสฺมา ภควา ‘อตฺถิ ปุคฺคโล อตฺตหิตาย ปฏิปนฺโน’ติ (อ. นิ. ๔.๙๕; กถา. ๒๒), ‘จตฺตาโรเม, ภิกฺขเว, ปุคฺคลา สนฺโต สํวิชฺชมานา โลกสฺมิ’นฺติ (อ. นิ. ๔.๙๕; กถา. ๒๒) จ ตตฺถ ตตฺถ ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาวํ ปเวเทสี’’ติ. วิเนยฺยชฺฌาสยวเสน. ตถา ตถา วิเนตพฺพานฺหิ ปุคฺคลานํ อชฺฌาสยวเสน วิเนยฺยทมนกุสโล สตฺถา ธมฺมํ เทเสนฺโต โลกสมฺานุรูปํ ตตฺถ ตตฺถ ปุคฺคลคฺคหณํ กโรติ, น ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาวโต.

อปิจ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ปุคฺคลกถํ กเถติ หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถํ, กมฺมสฺสกตาทีปนตฺถํ, ปจฺจตฺตปุริสการทีปนตฺถํ, อานนฺตริยทีปนตฺถํ, พฺรหฺมวิหารทีปนตฺถํ, ปุพฺเพนิวาสทีปนตฺถํ, ทกฺขิณาวิสุทฺธิทีปนตฺถํ, โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถฺจาติ. ‘‘ขนฺธา ธาตู อายตนานิ หิรียนฺติ โอตฺตปฺปนฺตี’’ติ หิ วุตฺเต มหาชโน น ชานาติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ, ปฏิสตฺตุ วา โหติ ‘‘กิมิทํ ขนฺธา ธาตู อายตนานิ หิรียนฺติ โอตฺตปฺปนฺติ นามา’’ติ. ‘‘อิตฺถี หิรียติ โอตฺตปฺปติ, ปุริโส, ขตฺติโย, พฺราหฺมโณ’’ติ ปน วุตฺเต ชานาติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ, ตสฺมา ภควา หิโรตฺตปฺปทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา กมฺมสฺสกา, ธาตุโย อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา กมฺมสฺสกตาทีปนตฺถมฺปิ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘เวฬุวนาทโย มหาวิหารา ขนฺเธหิ การาปิตา, ธาตูหิ, อายตเนหี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตถา ‘‘ขนฺธา มาตรํ ชีวิตา โวโรเปนฺติ, ปิตรํ, อรหนฺตํ, รุหิรุปฺปาทกมฺมํ, สงฺฆเภทกมฺมํ กโรนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ, ‘‘ขนฺธา เมตฺตายนฺติ , ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ, ‘‘ขนฺธา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ เอเสว นโย. ตสฺมา ภควา ปจฺจตฺตปุริสการทีปนตฺถํ อานนฺตริยทีปนตฺถํ พฺรหฺมวิหารทีปนตฺถํ ปุพฺเพนิวาสทีปนตฺถฺจ ปุคฺคลกถํ กเถติ. ‘‘ขนฺธา ทานํ ปฏิคฺคณฺหนฺติ, ธาตุโย, อายตนานี’’ติ วุตฺเตปิ มหาชโน น ชานาติ, สมฺโมหํ อาปชฺชติ, ปฏิสตฺตุ วา โหติ ‘‘กิมิทํ ขนฺธา ธาตู อายตนานิ ปฏิคฺคณฺหนฺติ นามา’’ติ. ‘‘ปุคฺคโล ปฏิคฺคณฺหาตี’’ติ ปน วุตฺเต ชานาติ, น สมฺโมหํ อาปชฺชติ, น ปฏิสตฺตุ โหติ, ตสฺมา ภควา ทกฺขิณาวิสุทฺธิทีปนตฺถํ ปุคฺคลกถํ กเถติ. โลกสมฺมุติฺจ พุทฺธา ภควนฺโต นปฺปชหนฺติ โลกสมฺาย โลกาภิลาเป ิตาเยว ธมฺมํ เทเสนฺติ, ตสฺมา ภควา โลกสมฺมุติยา อปฺปหานตฺถมฺปิ ปุคฺคลกถํ กเถตีติ อิเมหิ อฏฺหิ การเณหิ ภควา ปุคฺคลกถํ กเถติ, น ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺส อตฺถิภาวโตติ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมปฺปเภทากาเรเนวาติ ยถาวุตฺตรูปาทิธมฺมปฺปเภทโต อฺสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อสิทฺธตฺตา รูปาทิธมฺมปฺปเภทากาเรเนว ปุคฺคลสฺส อุปลทฺธิยา ภวิตพฺพนฺติ อตฺโถ. เตน ‘‘กึ ตว ปุคฺคโล อุปลพฺภมาโน รุปฺปนากาเรน อุปลพฺภติ, อุทาหุ อนุภวนสฺชานนาภิสงฺขรณวิชานเนสุ อฺตรากาเรนา’’ติ ทสฺเสติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส สภาวธมฺมสฺส โลเก อภาวโต. อวิเสสวิเสเสหิ ปุคฺคลูปลพฺภสฺส ปฏิฺาปฏิกฺเขปปกฺขา อนุชานนาวชานนปกฺขา. ยทิปิเม ทฺเวปิ ปกฺขา อนุโลมปฏิโลมนเยสุ ลพฺภนฺติ, อาทิโต ปน ปมํ เปตฺวา ปวตฺโต ปมนโย, อิตโร ทุติยนฺติ อิมํ เนสํ วิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนุชานนา…เป… เวทิตพฺโพ’’ติ อาห. ยถาธิกตาย ลทฺธิยา อนุโลมนโต เจตฺถ ปโม นโย อนุโลมปกฺโข, ตพฺพิโลมนโต อิตโร ปฏิโลมปกฺโขติ วุตฺโตติ เวทิตพฺพนฺติ.

เตน วต เรติ เอตฺถ เตนาติ การณวจนํ. เยน ปุคฺคลูปลพฺโภ ปติฏฺปียติ, เตน เหตุนา. สฺวายํ เหตุ สาสนิกสฺส พาหิรกสฺส จ วเสน เหฏฺา ทสฺสิโต เอว. เหตุปติรูปเก จายํ เหตุสมฺา ปรมตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เหฏฺา ‘‘อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ นิคฺคหสฺส สฺาปนมตฺตํ กตํ, ตํ อิทานิ ‘‘ยํ ตตฺถ วเทสี’’ติอาทินา นิคมนรูเปน มิจฺฉาภาวทสฺสเนน จ วิภาวิยมานํ ปากฏภาวกรณโต อาโรปิตํ ปติฏฺาปิตํ โหตีติ อฏฺกถายํ ‘‘อาโรปิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติ ปฏิฺาวยโว สรูเปเนว ทสฺสิโต. ‘‘เตนา’’ติ อิมินา สามฺโต เหตาวยโว ทสฺสิโต. ยฺวายํ ยสฺมา ปฏิฺาธมฺโม หุตฺวา สทิสปกฺเข วิชฺชมาโน, วิสทิสปกฺเข อวิชฺชมาโนเยว เหตุ ลกฺขณูปปนฺโน นาม โหติ, น อิตโร, ตสฺมา ยตฺถ โส วิชฺชติ น วิชฺชติ จ, โส สทิสาสทิสภาวภินฺโน ทุวิโธ ทิฏฺนฺตาวยโว. ยถา รูปาทิ อุปลพฺภติ, ตถา ปุคฺคโล. ยถา จ สสวิสาณํ น อุปลพฺภติ, น ตถา ปุคฺคโลติ อุปนโย. สฺวายํ ‘‘วตฺตพฺเพ โข ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ อิมาย ปาฬิยา ทีปิโต, โย อฏฺกถายํ สทฺธึ เหตุทาหรเณหิ ‘‘ปาปนา’’ติ วุตฺโต. นิคมนํ ปาฬิยํ สรูเปเนว อาคตํ, ยา อฏฺกถายํ ‘‘โรปนา’’ติ วุตฺตาติ. เอวํ โปราเณน ายกฺกเมน สาธนาวยวา นิทฺธาเรตฺวา โยเชตพฺพา.

อิทานิ วตฺตเนน ปรปกฺขุปลกฺขิเต เหตุทาหรเณ อนฺวยพฺยติเรกทสฺสนวเสน นิทฺธาเรตฺวา สาธนปโยโค โยเชตพฺโพ. การณํ วตฺตพฺพนฺติ กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ. เหตุทาหรเณหิเยว หิ สปรปกฺขานํ สาธนํ ทูสนํ วา, น ปฏิฺาย, ตสฺสา สาเธตพฺพาทิภาวโต. ตํ ปน ทฺวยํ ‘‘เตน วต เร’’ติอาทิปาฬิยา วิภาวิตํ. อฏฺกถายํ ปาปนาโรปนาสีเสน ทสฺสิตํ. ปฏิฺาปนา ปน เตสํ วิสยทสฺสนํ กถายํ ตํมูลตายาติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘ยํ ปน วกฺขตี’’ติอาทิ. เตเนว จ อฏฺกถายํ ‘‘อิทํ อนุโลม…เป… เอกํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพ’’นฺติ วกฺขติ. ตถา จาห ‘‘ยถา ปน ตตฺถา’’ติอาทิ. นิคฺคโหว วิสุํ วุตฺโต, น ปฏิกมฺมนฺติ อธิปฺปาโย. วิสุํ วุตฺโตติ จ ปาปนาโรปนาหิ อสมฺมิสฺสํ กตฺวา วิสุํ องฺคภาเวน วุตฺโต, น ตทฺตโร วิย ตทนฺโตคธภาเวน วุตฺโต, นาปิ ปนา วิย อคณนุปคภาเวนาติ อตฺโถ. เย ปนาติ ปทกาเร สนฺธายาห. ทุติเย…เป… อาปชฺชติ ตตฺถ นิคฺคหสฺส อยถาภูตตฺตา ปฏิกมฺมสฺส จ ยถาภูตภาวโตติ อธิปฺปาโย.

. ปรมตฺถโต ปุคฺคลํ นานุชานาติ, โวหารโต ปน อนุชานาตีติ สกวาทิมตํ ชานนฺเตนปิ ปรวาทินา ฉลวเสน วิภาคํ อกตฺวา ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ ปุจฺฉาย กตาย สกวาที ตตฺถ อยํ ปุคฺคลวาที, อิมสฺส ลทฺธิ ปฏิกฺขิปิตพฺพาติ ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธายาห ‘‘อามนฺตา’’ติ. ‘‘น อุปลพฺภตี’’ติ หิ วุตฺตํ โหติ. ปุน อิตโร สมฺมุติสจฺจํ สนฺธาย ‘‘โย สจฺจิกฏฺโ’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ – โย โลกโวหารสิทฺโธ สจฺจิกฏฺโ, ตโต เอว เกนจิ อปฏิกฺขิปิตพฺพโต ปรมตฺถโต ตโต โส ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติ. ปุน สกวาที ปุพฺเพ ปรมตฺถสจฺจวเสน ปุคฺคเล ปฏิกฺขิตฺเต อิทานิ สมฺมุติสจฺจวเสนายํ ปุจฺฉาติ มนฺตฺวา ตํ อปฺปฏิกฺขิปนฺโต ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ อาห. เตนาห ‘‘อตฺตนา อธิปฺเปตํ สจฺจิกฏฺเมวาติ สมฺมุติสจฺจํ สนฺธายาติ อธิปฺปาโย’’ติ . เอวมวฏฺิเต ‘‘ยทิ ปรวาทินา…เป… นารภิตพฺพา’’ติ อิทํ น วตฺตพฺพํ ปมปุจฺฉาย ปรมตฺถสจฺจสฺส สจฺจิกฏฺโติ อธิปฺเปตตฺตา. ‘‘อถ สกวาทินา…เป… อาปชฺชตี’’ติ อิทมฺปิ น วตฺตพฺพํ ทุติยปุจฺฉาย สมฺมุติสจฺจสฺส สจฺจิกฏฺโติ อธิปฺเปตตฺตา.

ยทิ อุภยํ อธิปฺเปตนฺติ อิทํ ยทิ ปมปุจฺฉํ สนฺธาย, ตทยุตฺตํ ตสฺสา ปรมตฺถสจฺจสฺเสว วเสน ปวตฺตตฺตา. อถ ทุติยปุจฺฉํ สนฺธาย, ตสฺสา สมฺมุติสจฺจวเสน ปมตฺถํ วตฺวา ปุน มิสฺสกวเสน วตฺตุํ ‘‘สมฺมุติสจฺจปรมตฺถสจฺจานิ วา เอกโต กตฺวาปิ เอวมาหา’’ติ วุตฺตตฺตา ตมฺปิ น วตฺตพฺพเมว. ทฺเวปิ สจฺจานีติ สมฺมุติปรมตฺถสจฺจานิ. เตสุ ปรมตฺถสจฺจสฺเสว นิปฺปริยาเยน สจฺจิกฏฺปรมตฺถภาโว, อิตรสฺส อุปจาเรน. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘มายา มรีจิ…เป… อุตฺตมฏฺโ’’ติ. ตสฺมา สมฺมุติสจฺจวเสน อุปลทฺธึ อิจฺฉนฺเตนปิ ปรมตฺถสจฺจวเสน อนิจฺฉนโต ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติอาทินา อนุโยโค ยุตฺโต. ‘‘ปธานปฺปธาเนสุ ปธาเน กิจฺจสิทฺธี’’ติ เอเตเนว ‘‘น จ สจฺจิกฏฺเกเทเสน อนุโยโค’’ติอาทิ นิวตฺติตฺจ โหติ สจฺจิกฏฺเกเทสภาวสฺเสว อสิทฺธตฺตา. นาสฺส ปรมตฺถสจฺจตา อนุยุฺชิตพฺพาติ อสฺส สจฺจิกฏฺสฺส ปรมตฺถสจฺจตา ปรวาทินา น อนุยุฺชิตพฺพา ‘‘ปุคฺคโล นุปลพฺภติ สจฺจิกฏฺปรมตฺเถนา’’ติ สกวาทิโนปิ สจฺจิกฏฺปรมตฺถโต ตสฺส อิจฺฉิตพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. โวหริตสจฺจิกฏฺสฺส อตฺตนา อธิปฺเปตสจฺจิกฏฺตาปิ ยุตฺตา ตสฺส เตน อธิปฺเปตตฺตา. สฺวายมตฺโถ เหฏฺา ทสฺสิโตเยว. วุตฺตนโยว โทโสติ ‘‘ทฺเวปิ สจฺจานี’’ติอาทินา อนนฺตรเมว วุตฺตํ สนฺธายาห. ตสฺส ปน อโทสภาโว ทสฺสิโตเยว. อถ น อิติ อถ น ภูตสภาวตฺเถน อุปลพฺเภยฺยาติ โยชนา. วตฺตพฺโพติ ยเทตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ‘‘โย โลกโวหารสิทฺโธ’’ติอาทินา วุตฺตเมว, ตสฺมา เอตฺถ ‘‘ปรมตฺถโต ปุคฺคลํ นานุชานาตี’’ติอาทินา อธิปฺปายมคฺคนํ ทฏฺพฺพํ.

อนุฺเยฺยเมตํ สิยาติ เอตํ อนุปลพฺภนํ ปมปุจฺฉายํ วิย ทุติยปุจฺฉายมฺปิ อนุชานิตพฺพํ สิยา. น วา กิฺจิ วตฺตพฺพนฺติ อถ วา กิฺจิ น วตฺตพฺพํ ปนียตฺตา ปฺหสฺส. ตถา หิสฺส ปนียาการํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ กามํ สจฺจทฺวยากาเรน ปุคฺคโล นุปลพฺภติ, สมฺมุติยากาเรน ปน นุปลพฺภตีติ อุปลพฺภนภาวสฺส วเสน ปฏิกฺเขโป กโตติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย ทฏฺพฺโพ. อนุฺาตํ ปฏิกฺขิตฺตฺจาติ ปมปุจฺฉายํ อนุฺาตํ, ทุติยปุจฺฉายํ ปฏิกฺขิตฺตํ. เอตํ ฉลวาทํ นิสฺสายาติ เอตํ เอกํเยว วตฺถุํ อุทฺทิสฺส อนุชานนปฏิกฺขิปนาการํ ฉลวจนํ นิสฺสาย. ตฺวํ นิคฺคเหตพฺโพติ โยชนา. สมฺภวนฺตสฺส สามฺเนาติ นิคฺคหฏฺานภาเวน สมฺภวนฺตสฺส อนุโลมนเยน อนุชานนปฏิกฺเขปสฺส สมานภาเวน. อสมฺภวนฺตสฺส กปฺปนนฺติ ปจฺจนีกนเยน ตสฺส นิคฺคหฏฺานภาเวน อสมฺภวนฺตสฺส ตถา กปฺปนํ สํวิธานํ ฉลวาโท ภวิตุํ อรหติ. ‘‘อตฺถวิกปฺปุปปตฺติยา วจนวิฆาโต ฉล’’นฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เตนาติ ยถาวุตฺตกปฺปนํ ฉลวาโทติ วุตฺตตฺตา. วจนสามฺมตฺตํ กปฺปิตํ ฉลํ วทติ เอเตนาติ ฉลวาโท. เตน วุตฺตํ ‘‘ฉลวาทสฺส การณตฺตา ฉลวาโท’’ติ. วจนสามฺมตฺตํ อตฺถภูตํ ตทตฺถํ ฉลวาทํ นิสฺสาย. ‘‘วิจาเรตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, กิเมตฺถ วิจาเรตพฺพํ. ยทิปิ ปกฺขสฺส ปนามูลกํ อนุชานนาวชานนานํ มิจฺฉาภาวทสฺสนํ ตพฺพิสยตฺตา, ปาปนาโรปนาหิ เอว ปน โส วิภาวียติ, น ปนายาติ ปากโฏยมตฺโถ.

๔-๕. เตนาติ สกวาทินา. เตน นิยาเมนาติ เยน นิยาเมน สกวาทินา จตูหิ ปาปนาโรปนาหิสฺส นิคฺคโห กโต, เตน นิยาเมน นเยน. โส นิคฺคโห ทุกฺกโฏ อนิคฺคโหเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนิคฺคหภาวสฺส วา อุปคมิตตฺตา’’ติ, ปาปิตตฺตาติ อตฺโถ. เอวเมวาติ ยถา ‘‘ตยา มม กโต นิคฺคโห’’ติอาทินา อนิคฺคหภาวูปนโย วุตฺโต, เอวเมว. เอตสฺสาติ ‘‘เตน หี’’ติอาทินา อิมาย ปาฬิยา วุตฺตสฺส.

อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

๗-๑๐. อฺเนาติ สมฺมุติสจฺจภูเตน. ปรสฺสาติ สกวาทิโน. โส หิ ปรวาทินา ปโร นาม โหติ. ปฏิฺาปฏิกฺเขปานํ ภินฺนวิสยตฺตา ‘‘อวิโรธิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ. อภินฺนาธิกรณํ วิย หิ อภินฺนวิสยเมว วิรุทฺธํ นาม สิยา, น อิตรนฺติ อธิปฺปาโย. ตเมวตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘น หิ…เป… อาปชฺชตี’’ติ อาห. ยทิ เอวํ กถมิทํ นิคฺคหฏฺานํ ชาตนฺติ อาห ‘‘อตฺตโนปนา’’ติอาทิ. เตน ปฏิฺานฺตรํ นาม อฺเมเวตํ นิคฺคหฏฺานนฺติ ทสฺเสติ.

ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา นิฏฺิตา.

สุทฺธสจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. โอกาสสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๑. สามฺเน วุตฺตํ วิเสสนิวิฏฺํ โหตีติ อาห ‘‘สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ สรีเรติ อยมตฺโถ’’ติ. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ วิเสสตฺถินา วิเสโส อนุปยุชฺชิตพฺโพติ. เอเตนาติ เทสวเสน สพฺพตฺถ ปฏิกฺเขปวจเนน.

๓. กาลสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๒. มชฺฌิมชาติกาเลติ ปจฺจุปฺปนฺนตฺตภาวกาเล. อตฺตภาโว หิ อิธ ‘‘ชาตี’’ติ อธิปฺเปโต. ตโต อตีโต ปุริมชาติกาโล, อนาคโต ปจฺฉิมชาติกาโล. อิเมสุ ตีสูติ สพฺพตฺถ, สพฺพทา, สพฺเพสูติ อิเมสุ ตีสุ นเยสุ. ปาสฺส สํขิตฺตตา สุวิฺเยฺยาติ ตํ เปตฺวา อตฺถสฺส สทิสตํ วิภาเวนฺโต ‘‘อิธาปิ หิ…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ อาห. เอตฺถาปิ ‘‘น เกนจิ สภาเวน ปุคฺคโล อุปลพฺภตี’’ติ อยมตฺโถ วุตฺโต โหติ. น หิ เกนจิ สภาเวน อุปลพฺภมานสฺส สกเลกเทสวินิมุตฺโต ปวตฺติกาโล นาม อตฺถีติ.

๔. อวยวสจฺจิกฏฺโ

๑. อนุโลมปจฺจนีกวณฺณนา

๑๓. ตติยนเย น สพฺเพกธมฺมวินิมุตฺตํ ปวตฺติฏฺานํ นาม อตฺถีติ โยเชตพฺพํ.

โอกาสาทิสจฺจิกฏฺโ

๒. ปจฺจนีกานุโลมวณฺณนา

๑๔. อนุโลมปฺจกสฺสาติอาทิมฺหิ อฏฺกถาวจเน. ปุน ตตฺถาติ ยถาวุตฺเต อฏฺกถาวจเน, เตสุ วา อนุโลมปฺจกปจฺจนีเกสุ. สพฺพตฺถ ปุคฺคโล นุปลพฺภตีติอาทิกสฺส ปาปฺปเทสสฺส อตฺโถ ‘‘สรีรํ สนฺธายา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ อตฺโถ. ปฏิกมฺมาทิปาฬินฺติ ปฏิกมฺมนิคฺคหอุปนยนนิคมนปาฬึ. ตีสุ มุเขสูติ ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทินา วุตฺเตสุ ตีสุ วาทมุเขสุ. ปจฺจนีกสฺส ปาฬิ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. นฺติ ปาฬึ. สงฺขิปิตฺวา อาคตตฺตา สรูเปน อวุตฺเต. สุทฺธิก…เป… วุตฺตํ โหติ ตตฺถ ‘‘สพฺพตฺถา’’ติอาทินา สรีราทิโน ปรามสนํ นตฺถิ, อิธ อตฺถีติ อยเมว วิเสโส, อฺํ สมานนฺติ.

สจฺจิกฏฺวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา

๑๗-๒๗. สจฺจิกฏฺสฺส, สจฺจิกฏฺเ วา สํสนฺทนํ สจฺจิกฏฺสํสนฺทนนฺติ สมาสทฺวยํ ภวตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺจิกฏฺสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สจฺจิกฏฺสฺส ปุคฺคลสฺสาติ สจฺจิกฏฺสภาวสฺส ปรมตฺถโต วิชฺชมานสภาวสฺส ปุคฺคลสฺส. รูปาทีหิ สทฺธึ สํสนฺทนนฺติ สจฺจิกฏฺตาสามฺเน รูปาทีหิ สมีกรณํ. สจฺจิกฏฺเติ สจฺจิกฏฺเหตุ, ตตฺถ วา ตํ อธิฏฺานํ กตฺวา. ‘‘ตุลฺยโยเค สมุจฺจโย’’ติ สมุจฺจยตฺถตฺตา เอว จ-การสฺส สจฺจิกฏฺเน อุปลทฺธิสามฺเน อิธ รูปมาหฏนฺติ ตสฺส อุทาหฏภาโว ยุตฺโตติ ‘‘ยถารูป’’นฺติ นิทสฺสนวเสน อตฺโถ วุตฺโต, อฺถา อิธ รูปสฺส อาหรณเมว กิมตฺถิยํ. เอวํ เสสธมฺเมสุปิ. ยา ปเนตฺถ อฺตฺตปุจฺฉา, สาปิ นิทสฺสนตฺถํ อุปพฺรูเหติ อฺตฺตนิพนฺธนตฺตา ตสฺส. โอปมฺมสํสนฺทเน ปน นิทสฺสนตฺโถ คาหียตีติ อิมสฺมึ สุทฺธิกสํสนฺทเน เกวลํ สมุจฺจยวเสเนว อตฺถทสฺสนํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. รูปาทีนิ อุปาทาปฺตฺติมตฺตตฺตา ปุคฺคลสฺส โส เตหิ อฺโ, อนฺโ จาติ น วตฺตพฺโพติ อยํ สาสนกฺกโมติ อาห ‘‘รูปาทีหิ…เป… สมโย’’ติ. อนุฺายมาเนติ ตสฺมึ สมเย สุตฺเต จ อปฺปฏิกฺขิปิยมาเน. อยฺจ อตฺโถ สาสนิกสฺส ปรวาทิโน วเสน วุตฺโตติ เวทิตพฺพํ.

‘‘อาชานาหินิคฺคห’’นฺติ ปาโ ทิฏฺโ ภวิสฺสติ, อฺถา ‘‘ปฏิโลมปฺจกานิ ทสฺสิตานิ, ปฏิกมฺมจตุกฺกาทีนิ สํขิตฺตานี’’ติ น สกฺกา วตฺตุนฺติ อธิปฺปาโย. โจทนาย วินา ปรวาทิโน ปฏิชานาปนํ นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘ปฏิชานาปนตฺถนฺติ…เป… โจทนตฺถ’’นฺติ. โจทนาปุพฺพกฺหิ ตสฺส ปฏิชานาปนํ. เตน ผลโวหาเรน การณํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. อพฺยากตตฺตาติ อพฺยากรณียตฺตา, ภควตา วา น พฺยากตตฺตา. ยทิ ปนียตฺตา ปฏิกฺขิปิตพฺพนฺติ อิมสฺมึ ปจฺจนีกนเย ปนียตฺตา ปฺหสฺส สกวาทินา ปฏิกฺขิปิตพฺพํ. ปเรนปีติ ปรวาทินาปิ ปนียตฺตา ลทฺธิเมว นิสฺสาย อนุโลมนเย ปฏิกฺเขโป กโตติ อยเมตฺถ สุทฺธิกสํสนฺทนาย อธิปฺปาโย ยุตฺโต อนุโลเมปิ รูปาทีหิ อฺตฺตโจทนายเมว ปรวาทินา ปฏิกฺเขปสฺส กตตฺตาติ อธิปฺปาโย.

สุทฺธิกสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา

๒๘-๓๖. อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา จาติ อิมินา ทฺวยมฺปิ อุทฺธรติ อุปลทฺธิสามฺเน อฺตฺตปุจฺฉา, อุปลทฺธิสามฺเน ปุจฺฉา จาติ. ตตฺถ ปจฺฉิมํ สนฺธายาห ‘‘ทฺวินฺนํ สมานตา’’ติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ทฺวินฺนํ รูปเวทนานํ วิย รูปปุคฺคลานํ สจฺจิกฏฺเน สมานตา เตสํ อฺตฺตสฺส การณํ ยุตฺตํ น โหติ. อถ โข…เป… อุปลพฺภนียตาติ อิทฺจ สํสนฺทนํ วิจาเรตพฺพํ. อยํ เหตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ สจฺจิกฏฺสามฺเน รูปปุคฺคลานํ อุปลทฺธิสามฺํ อิจฺฉิตํ, เตเนว เนสํ อฺตฺตมฺปิ อิจฺฉิตพฺพํ. อถ ปรมตฺถโวหารเภทโต เตสํ อฺตฺตํ น อิจฺฉิตํ, ตโต เอว อุปลทฺธิสามฺมฺปิ น อิจฺฉิตพฺพนฺติ.

๓๗-๔๕. อุปลทฺธีติ ปุคฺคลสฺส อุปลทฺธิ วิชฺชมานตา. ‘‘ปฏิกมฺมปฺจก’’นฺติ วิฺายตีติ โยชนา.

โอปมฺมสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา

๔๖-๕๒. เอกธมฺมโตปีติ สตฺตปฺาสาย สจฺจิกฏฺเสุ เอกธมฺมโตปิ. เอเตน ตโต สพฺพโตปิ ปุคฺคลสฺส อฺตฺตานนุชานนํ ทสฺเสติ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘สกลํ ปรมตฺถสจฺจํ สนฺธายา’’ติ. รูปาทิเอเกกธมฺมวเสน นานุยุฺชิตพฺโพ อวยวพฺยติเรเกน สมุทายสฺส อภาวโต. ยสฺมา ปน สมุทายาวยวา ภินฺนสภาวา, ตสฺมา ‘‘สมุทายโต…เป… นิคฺคหารโห สิยา’’ติ ปรวาทิโน อาสงฺกมาห. เอตํ วจโนกาสนฺติ ยทิปิ สตฺตปฺาสธมฺมสมุทายโต ปุคฺคลสฺส อฺตฺตํ น อิจฺฉติ ตพฺพินิมุตฺตสฺส สจฺจิกฏฺสฺส อภาวโต, ตเทกเทสโต ปนสฺส อนฺตฺตมฺปิ น อิจฺฉเตว. น หิ สมุทาโย อวยโว โหตีติ. ตสฺมา ‘‘ตํ ปฏิกฺขิปโต กึ นิคฺคหฏฺานนฺติ วตฺตุํ มา ลพฺเภถา’’ติ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. รูปาทิธมฺมปฺปเภทวิภาคมุเขเนว อนวเสสโต ปุคฺคโลติ คหณาการทสฺสนวเสน ปวตฺโต ปมวิกปฺโป, ทุติโย ปน อวิภาคโต ปรมตฺถสจฺจภาวสามฺเนาติ อยํ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วิกปฺปานํ วิเสโส. อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนนฺติ อาห ‘‘เอว’’นฺติ.

สภาววินิพฺโภคโตติ สภาเวน วินิพฺภุชฺชิตพฺพโต. สภาวภินฺโน หิ ธมฺโม ตทฺธมฺมโต วินิพฺโภคํ ลภติ. เตนาห ‘‘รูปโต อฺสภาคตฺตา’’ติ. รูปวชฺเชติ รูปธมฺมวชฺเช . ตีสุปีติ ‘‘รูปสฺมึ ปุคฺคโล, อฺตฺร รูปา, ปุคฺคลสฺมึ รูป’’นฺติ อิเมสุ เอวํ ปวตฺเตสุ ตีสุปิ อนุโยเคสุ. สาสนิโก เอวายํ ปุคฺคลวาทีติ กตฺวา อาห ‘‘น หิ โส สกฺกายทิฏฺึ อิจฺฉตี’’ติ. ‘‘รูปวา’’ติ อิมินา รูเปน สกิฺจนตาว าปียติ, น รูปายตฺตวุตฺติตาติ อาห ‘‘อฺตฺร รูปาติ เอตฺถ จ รูปวา ปุคฺคโลติ อยมตฺโถ สงฺคหิโต’’ติ.

จตุกฺกนยสํสนฺทนวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิฏฺิตา จ สํสนฺทนกถาวณฺณนา.

๘. ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา

๕๔. ลกฺขณยุตฺติกถายํ ‘‘ฉลวเสน ปน วตฺตพฺพํ อาชานาหิ นิคฺคห’’นฺติ ปาโ คเหตพฺโพ.

ลกฺขณยุตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. วจนโสธนวณฺณนา

๕๕-๕๙. ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเตติ ปททฺวยสฺส เอกตฺตตฺเถ สตีติ อตฺโถ. ปริกปฺปวจนฺเหตํ โทสทสฺสนตฺถํ ‘‘เอวํ สนฺเต อยํ โทโส’’ติ. ตยิทํ เอกตฺตํ อุปลพฺภติ เอวาติ ปจฺฉิมปทาวธารณํ เวทิตพฺพํ. ‘‘เกหิจิ ปุคฺคโล เกหิจิ น ปุคฺคโล’’ติ พฺยภิจารทสฺสนโต ปเรน น สมฺปฏิจฺฉิตนฺติ กตฺวา ตเมว อสมฺปฏิจฺฉิตตฺตํ วิภาเวนฺโต ‘‘ปุคฺคลสฺส หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อวิภชิตพฺพตนฺติ ‘‘อุปลพฺภติ จา’’ติ เอวํ อวิภชิตพฺพตํ. วิภชิตพฺพตนฺติ ‘‘ปุคฺคโล จ ตทฺฺจ อุปลพฺภตี’’ติ เอวํ วิภชิตพฺพตํ. เอเตน ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ เอวา’’ติ ปจฺฉิมปทาวธารณํ เวทิตพฺพํ, น ‘‘ปุคฺคโล เอว อุปลพฺภตี’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. ตํ วิภาคนฺติ ยถาวุตฺตํ วิภชิตพฺพาวิภชิตพฺพํ วิภาคํ วทโต สกวาทิโน, อฺสฺส วา กสฺสจิ. เอตสฺสาติ ปรวาทิโน . ยถาวุตฺตวิภาคนฺติ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภติ…เป… เกหิจิ น ปุคฺคโล’’ติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺตปฺปการํ วิภาคํ. ยถาอาปาทิเตนาติ ‘‘ปุคฺคโล อุปลพฺภตีติ ปททฺวยสฺส อตฺถโต เอกตฺเต’’ติอาทินา อาปาทิตปฺปกาเรน. น ภวิตพฺพนฺติ ยทิปิ เตน ปุคฺคโล อุปลพฺภติ เอว วุจฺจติ, อุปลพฺภตีติ ปน ปุคฺคโล เอว น วุจฺจติ, อถ โข อฺโปิ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตน ปสงฺเคน น ภวิตพฺพํ. เตนาห ‘‘มคฺคิตพฺโพ เอตฺถ อธิปฺปาโย’’ติ.

๖๐. อตฺถโต ปุคฺคโล นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ อตฺตสุฺตาทสฺสเนน อนตฺตลกฺขณสฺส วิหิตตฺตา.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๖๑-๖๖. รูปกายาวิรหํสนฺธาย อาห, น รูปตณฺหาสพฺภาวํ. ตถา สติ อเนกนฺติกตฺตา ปฏิกฺขิปิตพฺพเมว สิยา, น อนุชานิตพฺพนฺติ. ‘‘อตฺถิตายา’’ติ อาหาติ สมฺพนฺโธ. กามีภาวสฺส อเนกนฺติกตฺตา กสฺสจิ กามธาตูปปนฺนสฺส กามธาตุยา อายตฺตตฺตาภาวโต จ กทาจิ ภาวสฺเสวาติ โยชนา.

๖๗. กายานุปสฺสนายาติ กายานุปสฺสนาเทสนาย. สา หิ กายกายานุปสฺสีนํ วิภาคคฺคหณสฺส การณภูตา, กายานุปสฺสนา เอว วา. เอวํลทฺธิกตฺตาติ อฺโ กาโย อฺโ ปุคฺคโลติ เอวํลทฺธิกตฺตา. อาหจฺจ ภาสิตนฺติ านกรณานิ อาหนฺตฺวา กถิตํ, ภควตา สามํ เทสิตนฺติ อตฺโถ.

ปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. คติอนุโยควณฺณนา

๖๙-๗๒. ยานิสฺส สุตฺตานิ นิสฺสาย ลทฺธิ อุปฺปนฺนา, เตสํ ทสฺสนโต ปรโต ‘‘เตน หิ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’’ติอาทินา ปาฬิ อาคตา, ปุรโต ปน ‘‘น วตฺตพฺพํ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’’ติอาทินา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทสฺเสนฺโต…เป… ภวิตพฺพ’’นฺติ. ทสฺเสตฺวาติ วา วตฺตพฺพนฺติ ‘‘ยานิสฺส…เป… ตานิ ทสฺเสตฺวา ‘เตน หิ ปุคฺคโล สนฺธาวตี’ติอาทิมาหา’’ติ วตฺตพฺพนฺติ อตฺโถ. ทสฺเสนฺโตติ วา อิทํ ทสฺสนกิริยาย น วตฺตมานตามตฺตวจนํ, อถ โข ตสฺสา ลกฺขณตฺถวจนํ, เหตุภาววจนํ วาติ น โกจิ โทโส.

๙๑. โส วตฺตพฺโพติ โส ชีวสรีรานํ อนฺตาปชฺชนากาโร วตฺตพฺโพ, นตฺถีติ อธิปฺปาโย. ‘‘รูปี อตฺตา’’ติ อิมิสฺสา ลทฺธิยา วเสน ‘‘เยน รูปสงฺขาเตน อตฺตโน สภาวภูเตน สรีเรน สทฺธึ คจฺฉตี’’ติ เอวํ ปน อตฺเถ สติ โส อากาโร วุตฺโต เอว โหติ, ตถา จ สติ ‘‘รูปํ ปุคฺคโลติ อนนุฺาตตฺตา’’ติ เอวมฺปิ วตฺตุํ น สกฺกา. ยสฺมา ปน ‘‘อิธ สรีรนิกฺเขปา’’ติ อนนฺตรํ วกฺขติ, ตสฺมา ‘‘โส วตฺตพฺโพ’’ติ วุตฺตํ. นิรยูปคสฺส ปุคฺคลสฺส อนฺตราภวํ น อิจฺฉตีติ อิทํ ปุราตนานํ อนฺตราภววาทีนํ วเสน วุตฺตํ. อธุนาตนา ปน ‘‘อุทฺธํปาโท ตุ นารโก’’ติ วทนฺตา ตสฺสปิ อนฺตราภวํ อิจฺฉนฺเตว, เกจิ ปน อสฺูปคานํ. อรูปูปคานํ ปน สพฺเพปิ น อิจฺฉนฺติ. ตตฺถ เย ‘‘สฺุปฺปาทา จ ปน เต เทวา ตมฺหา กายา จวนฺตี’’ติ สุตฺตสฺส อตฺถํ มิจฺฉา คเหตฺวา จุตูปปาตกาเลสุ อสฺีนํ สฺา อตฺถีติ อนฺตราภวโตว อสฺูปปตฺตึ อิจฺฉนฺติ, ตทฺเสํ วเสน ‘‘สเวทโน…เป… ปฏิกฺขิปตี’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เย ปนา’’ติอาทิมาห. เก ปเนวํ อิจฺฉนฺติ? สพฺพตฺถิวาทีสุ เอกจฺเจ.

๙๒. เนวสฺานาสฺายตเนติ เนวสฺานาสฺายตเน ภเว, อจิตฺตุปฺปาเท วา สฺา อตฺถีติ อิจฺฉนฺตีติ น วตฺตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ยโต โส สฺาภเวน อสงฺคหิโต, ภวนฺตรภาเวน จ สงฺคหิโต.

๙๓. อินฺธนุปาทาโน อคฺคิ วิย อินฺธเนน รูปาทิอุปาทาโน ปุคฺคโล รูปาทินา วินา นตฺถีติ เอตฺถ อยมธิปฺปายวิภาวนา – ยถา น วินา อินฺธเนน อคฺคิ ปฺาปียติ, น จ ตํ อฺํ อินฺธนโต สกฺกา ปฏิชานิตุํ, นาปิ อนฺํ. ยทิ หิ อฺํ สิยา, น อุณฺหํ อินฺธนํ สิยา, อถ อนฺํ, นิทหิตพฺพํเยว ทาหกํ สิยา, เอวํ น วินา รูปาทีหิ ปุคฺคโล ปฺาปียติ, น จ เตหิ อฺโ, นาปิ อนฺโ สสฺสตุจฺเฉทภาวปฺปสงฺคโตติ ปรวาทิโน อธิปฺปาโย. ตตฺถ ยทิ อคฺคินฺธโนปมา โลกโวหาเรน วุตฺตา, อปฬิตฺตํ กฏฺาทิอินฺธนํ นิทหิตพฺพฺจ, ปฬิตฺตํ ภาสุรุณฺหํ อคฺคิทาหกฺจ, ตฺจ โอชฏฺมกรูปํ ปพนฺธวเสน ปวตฺตํ อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ. ยทิ เอวํ ปุคฺคโล รูปาทีหิ อฺโ อนิจฺโจ จ อาปนฺโน, อถ ปรมตฺถโต จ, ตสฺมึเยว กฏฺาทิสฺิเต รูปสงฺขาตปฬิตฺเต ยํ อุสุมํ โส อคฺคิ ตํสหชาตานิ ตีณิภูตานิ อินฺธนํ. เอวมฺปิ สิทฺธํ ลกฺขณเภทโต อคฺคินฺธนานํ อฺตฺตนฺติ อคฺคิ วิย อินฺธนโต รูปาทีหิ อฺโ ปุคฺคโล อนิจฺโจ จ อาปชฺชตีติ.

คติอนุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา

๙๗. นีลคุณโยคโต นีโล, นีโล เอว นีลโก, ตสฺส, อยํ ปนสฺส นีลปฺตฺติ นีลรูปุปาทานาติ อาห ‘‘นีลํ…เป… ปฺตฺตี’’ติ. เอวํ ปน ปาเ ิเต นีลํ อุปาทาย นีโลติ กถมยํ ปทุทฺธาโรติ อาห ‘‘นีลํ รูปํ…เป… เอตฺถ โย ปุฏฺโ นีลํ อุปาทาย นีโล’’ติ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วจเน. ตทาทีสูติ ‘‘ปีตํ รูปํ อุปาทายา’’ติอาทิกํ อฏฺกถายํ อาทิ-สทฺเทน คหิตเมว ตทตฺถทสฺสนวเสน คณฺหาติ.

๙๘. วุตฺตนฺติ ‘‘มคฺคกุสโล’’ติอาทีสุ เฉกฏฺํ สนฺธาย วุตฺตํ. กุสลปฺตฺตึ กุสลโวหารํ.

๑๑๒. ปุพฺพปกฺขํ ทสฺเสตฺวา อุตฺตรมาหาติ ปรวาที ปุพฺพปกฺขํ ทสฺเสตฺวา สกวาทิสฺส อุตฺตรมาห.

๑๑๕. ‘‘รูปํ รูปวา’’ติอาทินยปฺปวตฺตํ ปรวาทิวาทํ ภินฺทิตุํ ‘‘ยถา น นิคโฬ เนคฬิโก’’ติอาทินา สกวาทิวาโท อารทฺโธติ อาห ‘‘ยสฺส รูปํ โส รูปวาติ อุตฺตรปกฺเข วุตฺตํ วจนํ อุทฺธริตฺวา’’ติ.

๑๑๘. วิฺาณนิสฺสยภาวูปคมนนฺติ จกฺขุวิฺาณสฺส นิสฺสยภาวูปคมนํ. ตยิทํ วิเสสนํ จกฺขุสฺสาติ อิมินาว สิทฺธนฺติ น กตํ ทฏฺพฺพํ.

อุปาทาปฺตฺตานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. ปุริสการานุโยควณฺณนา

๑๒๓. กมฺมานนฺติ กุสลากุสลกมฺมานํ. ตคฺคหเณเนว หิ ตํตํกิจฺจกรณีเย กิริยานมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นิปฺผาทกปฺปโยชกภาเวนาติ การกการาปกภาเวน.

๑๒๕. กมฺมการกสฺส ปุคฺคลสฺส โย อฺโ ปุคฺคโล การโก. เตนปีติ การกการเกนปิ. ตสฺสาติ การกการกสฺส. อฺนฺติ อฺํ กมฺมํ. เอวนฺติ อิมินา วุตฺตปฺปกาเรน. เตหิ เตหิ การเกหิ ปุคฺคลา วิย อฺานิ กมฺมานิ กรียนฺตีติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘กมฺมวฏฺฏสฺส อนุปจฺเฉทํ วทนฺตี’’ติ. เอวํ สนฺเต ปุคฺคลสฺส การโก, กมฺมสฺส การโกติ อยํ วิภาโค อิธ อนามฏฺโ โหติ, ตถา จ สติ การกปรมฺปราย วจนํ วิรุชฺเฌยฺยาติ อาห ‘‘ปุคฺคลสฺส…เป… วิจาเรตพฺพเมต’’นฺติ. ตสฺส การกนฺติ ปุคฺคลสฺส การกํ. อิทฺจาติ น เกวลํ ปุคฺคลการกสฺส กมฺมการกตาปตฺติเยว โทโส, อถ โข อิทํ กมฺมการกตาย การกปรมฺปราปชฺชนมฺปิ วิจาเรตพฺพํ, น ยุชฺชตีติ อตฺโถ. ปุคฺคลานฺหิ ปฏิปาฏิยา การกภาโว การกปรมฺปรา.

๑๗๐. เอโก อนฺโตติ ‘‘คาโห’’ติ สสฺสตคาหสงฺขาโต อนฺโตติ อตฺโถ.

๑๗๖. สิยา อฺโ, สิยา อนฺโ, สิยา น วตฺตพฺโพ ‘‘อฺโติ วา อนฺโติ วา’’ติ , เอวํ ปวตฺตนิคณฺวาทสทิสตฺตา โส เอว เอโก เนว โส โหติ, น อฺโติ ลทฺธิมตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทํ ปน นตฺเถวา’’ติ. ปรสฺส อิจฺฉาวเสเนวาติ ปรวาทิโน ลทฺธิวเสเนว. เอกํ อนิจฺฉนฺตสฺสาติ เอกํ ‘‘โส กโรติ, โส ปฏิสํเวเทตี’’ติ คหณํ สสฺสตทิฏฺิภเยน ปฏิกฺขิปนฺตสฺส อิตรํ อุจฺเฉทคฺคหณํ อาปนฺนํ. ตฺจ ปฏิกฺขิปนฺตสฺส อฺํ มิสฺสกํ นิจฺจานิจฺจคฺคหณํ, วิกฺเขปคฺคหณฺจ อาปนฺนํ. การกเวทกิจฺฉาย ตฺวาติ สฺเวว การโก เวทโก จาติ อิมสฺมึ อาทาเย ตฺวา. ตํตํอนิจฺฉายาติ ตสฺส ตสฺส วาทสฺส อสมฺปฏิจฺฉเนน. อาปนฺนวเสนปีติ อาปนฺนคาหวเสนปิ อยํ อนุโยโค วุตฺโตติ โยชนา. สพฺเพสํ อาปนฺนตฺตาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน สพฺเพสํ วิกปฺปานํ อนุกฺกเมน อาปนฺนตฺตา นายมนุโยโค กโตติ โยชนา. เอเกกสฺเสวาติ เตสุ วิสุํ วิสุํ เอเกกสฺเสว อาปนฺนตฺตา. ตนฺติวเสน ปน เต วิกปฺปา เอกชฺฌํ ทสฺเสตฺวาติ อธิปฺปาโย. เอกโต โยเชตพฺพํ จตุนฺนมฺปิ ปฺหานํ เอกโต ปุฏฺตฺตา.

ปุริสการานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

กลฺยาณวคฺโค นิฏฺิโต.

๑๔. อภิฺานุโยควณฺณนา

๑๙๓. วิกุพฺพตีติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ สุณาตี’’ติอาทิกํ สงฺคณฺหาติ. อภิฺานุโยโค ทฏฺพฺโพติ โยชนา. ตทภิฺาวโตติ อาสวกฺขยาภิฺาวโต. อรหโต สาธนนฺติ อรหโต สจฺจิกฏฺปรมตฺเถน ปุคฺคลตฺตาภาวสาธนํ. ตพฺภาวสฺสาติ อรหตฺตสฺส. อรหตฺตธารานฺหิ ขนฺธา นาม ปุคฺคลตฺตํ ตสฺสปิ โหตีติ.

อภิฺานุโยควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕-๑๘. าตกานุโยคาทิวณฺณนา

๒๐๙. ตติยโกฏิภูตสฺสาติ ตติยโกฏิสภาวสฺส สงฺขตาสงฺขตวินิมุตฺตสภาวสฺส. สภาวสฺสาติ จ สภาวธมฺมสฺส. ลทฺธึ นิคูหิตฺวาติ ปุคฺคโล เนว สงฺขโต, นาสงฺขโตติ ลทฺธึ อวิภาเวตฺวา.

าตกานุโยคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา

๒๑๘. ปชานนํ นาม น โหติ นิพฺพิทาทีนํ อปฺปจฺจยตฺตา. ปริจฺเฉทนสมตฺถตฺจ ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ.

๒๒๘. สหรูปภาโว รูเปน สมงฺคิตา, วินารูปภาโว ตโต วินิสฺสฏตาติ ตทุภยํ รูปสฺส อพฺภนฺตรคมนํ พหินิกฺขมนฺจ โหติ. ตสฺมา ตํ ทฺวยํ สหรูปภาววินารูปภาวานํ ลกฺขณวจนนฺติ วุตฺตํ.

๒๓๗. โอฬาริโกติ ถูโล. อาหิโต อหํ มาโน เอตฺถาติ อตฺตา, อตฺตภาโว. โส เอว ยถาสกํ กมฺมุนา ปฏิลภิตพฺพโต ปฏิลาโภ. ปททฺวเยนปิ กามาวจรตฺตภาโว กถิโต. มโนมโย อตฺตปฏิลาโภ รูปาวจรตฺตภาโว. โส หิ ฌานมเนน นิพฺพตฺตตฺตา มโนมโย. อรูโป อตฺตปฏิลาโภติ อรูปาวจรตฺตภาโว. โส หิ รูเปน อมิสฺสิตตฺตา อรูโปติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ‘‘อตฺตา’’ติ ปน ชีเว โลกโวหาโร นิรุฬฺโห, อสติปิ ชีเว ตถานิรุฬฺหํ โลกโวหารํ คเหตฺวา สมฺมาสมฺพุทฺธาปิ โวหรนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิติ อิมา โลกสฺส สมฺา, ยาหิ ตถาคโต โวหรตี’’ติ วตฺวา อิทานิ ยถา โวหรนฺติ, ตํ ปการํ วิภาเวนฺโต ‘‘อปรามส’’นฺติอาทิมาห.

ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสนาติ กกฺขฬผุสนาทิสลกฺขณวเสน อนิจฺจตาทิสามฺลกฺขณวเสน จ. อิมินาติ ‘‘ปจฺจตฺตสามฺลกฺขณวเสนา’’ติอาทินา วุตฺเตน ปรมตฺถโต ปุคฺคลาภาววจเนน . อิโต ปุริมาติ ตตฺถ ตตฺถ สกวาทิปฏิกฺเขปาทิวิภาวนวเสน ปวตฺตา อิโต อตฺถสํวณฺณนโต ปุริมา. อิมินาติ วา ‘‘ยถา รูปาทโย ธมฺมา’’ติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตวจเนน. ยถา จาติ เอตฺถ -สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เตน สมฺานติธาวนํ สมฺปิณฺเฑติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา ปรามาโส จ น โหติ ชนปทนิรุตฺติยา อภินิวิสิตพฺพโต, ยถา จ สมฺาติธาวนํ น โหติ, เอวํ อิโต ปุริมา จ อตฺถวณฺณนา โยเชตพฺพา. สมฺาติธาวเน หิ สติ สพฺพโลกโวหารูปจฺเฉโท สิยาติ.

ตสฺมา สจฺจนฺติ ยสฺมา ตตฺถ ปรมตฺถาการํ อนาโรเปตฺวา สมฺํ นาติธาวนฺโต เกวลํ โลกสมฺมุติยาว โวหรติ, ตสฺมา สจฺจํ ปเรสํ อวิสํวาทนโต. ตถการณนฺติ ตโถ อวิตโถ ธมฺมสภาโว การณํ ปวตฺติเหตุ เอตสฺสาติ ตถการณํ, ปรมตฺถวจนํ, อวิปรีตธมฺมสภาววิสยนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ธมฺมานํ ตถตาย ปวตฺต’’นฺติ.

ปฏิเวธานุโยคาทิวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปุคฺคลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปริหานิกถา

๑. วาทยุตฺติปริหานิกถาวณฺณนา

๒๓๙. อิทํสุตฺตนฺติ อิทํ ลกฺขณมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปฺจิเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา สมยวิมุตฺตสฺส ภิกฺขุโน ปริหานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๑๔๙-๑๕๐) อิทมฺปิ หิ สุตฺตํ อนาคามิอาทีนํเยว ปริหานินิสฺสโย, น อรหโต. สมยวิมุตฺโตติ อฏฺสมาปตฺติลาภิโน เสกฺขสฺเสตํ นามํ. ยถาห –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล กาเลน กาลํ สมเยน สมยํ อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สมยวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๑).

‘‘ปริหานิธมฺโม’’ติ จ ปุถุชฺชโน จ เอกจฺโจ จ เสกฺโข อธิปฺเปโต, น อรหาติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ยถาทสฺสิตานิ สุตฺตานิ อนาคามิอาทีนํ ปริหานิลทฺธิยา นิสฺสโย, น อรหโต, ตสฺมา. ตํ นิสฺสาย ตํ อเปกฺขิตฺวา ยสฺมา ‘‘อรหโตปี’’ติ เอตฺถ อรหโตปิ ปริหานิ, โก ปน วาโท อนาคามิอาทีนนฺติ อยมตฺโถ ลพฺภติ, ตสฺมา ปิ-สทฺทสมฺปิณฺฑิตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อรหโตปิ…เป… โยเชตพฺพ’’นฺติ อาห. ยสฺมา วา กามฺเจตฺถ ทุติยสุตฺตํ เสกฺขวเสน อาคตํ, ปมตติยสุตฺตานิ ปน อเสกฺขวเสนปิ อาคตานีติ เตสํ ลทฺธิ, ตสฺมา ‘‘อรหโตปี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘อิทํ สุตฺตํ อรหโต’’ติอาทิ.

ตติยสฺมินฺติ ‘‘สพฺเพสฺเว อรหนฺตานํ ปริหานี’’ติ เอตสฺมึ ปฺเห. โส หิ ‘‘สพฺเพว อรหนฺโต’’ติอาทินา อาคเตสุ ตติโย ปฺโห. เตสนฺติ มุทินฺทฺริยานํ. ตติยสฺมิมฺปีติ ปิ-สทฺโท วุตฺตตฺถสมุจฺจโย. เตน ปมปฺหํ สมุจฺจิโนติ ‘‘ตตฺถปิ ติกฺขินฺทฺริยา อธิปฺเปตา’’ติ.

โสเยว น ปริหายตีติ โสตาปนฺโนเยว โสตาปนฺนภาวโต น ปริหายตีติ อตฺโถ. น เจตฺถ สกทาคามิภาวาปตฺติยา โสตาปนฺนภาวาปคโม ปริหานิ โหติ วิเสสาธิคมภาวโต. ปตฺตวิเสสโต หิ ปริหานีติ. อิตเรติ สกทาคามิอาทิกา. อุปริมคฺคตฺถายาติ อุปริมคฺคตฺตยปฏิลาภตฺถาย ‘‘นิยโต’’ติ วุตฺตมตฺถํ อคฺคเหตฺวา.

วาทยุตฺติปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิกถาวณฺณนา

๒๔๑. ตโตติ อรหตฺตโต. ตตฺถาติ ทสฺสนมคฺคผเล. วายาเมนาติ วิปสฺสนุสฺสาหเนน. ตทนนฺตรนฺติ โสตาปตฺติผลานนฺตรํ. ปมํ ทสฺสนมคฺคผลานนฺตรํ อรหตฺตํ ปาปุณาติ, ตโต ปริหีโน ปุน วายมนฺโต ตทนนฺตรํ น อรหตฺตํ ปาปุณาตีติ กา เอตฺถ ยุตฺตีติ อธิปฺปาโย. ปรวาที นาม ยุตฺตมฺปิ วทติ อยุตฺตมฺปีติ กึ ตสฺส วาเท ยุตฺติคเวสนายาติ ปน ทฏฺพฺพํ. อปริหานสภาโว ภาวนามคฺโค อริยมคฺคตฺตา ทสฺสนาทสฺสนมคฺโค วิย. น เจตฺถ อสิทฺธตาสงฺกา โลกุตฺตรมคฺคสฺส ปรสฺสปิ อริยมคฺคภาวสฺส สิทฺธตฺตา, นาปิ โลกิยมคฺเคน อเนกนฺติกตา อริยสทฺเทน วิเสสิตตฺตา. ตถา น วิรุทฺธตา ทุติยมคฺคาทีนํ ภาวนามคฺคภาวสฺส โอฬาริกกิเลสปฺปหานาทีนฺจ ปรสฺสปิ อาคมโต สิทฺธตฺตา.

อริยปุคฺคลสํสนฺทนปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สุตฺตสาธนปริหานิกถาวณฺณนา

๒๖๕. ปุคฺคลปฺตฺติอฏฺกถายํ ‘‘ปตฺติ, ผุสนา’’ติ จ ปจฺจกฺขโต อธิคโม อธิปฺเปโตติ วุตฺตํ ‘‘ปตฺตพฺพํ วทตีติ อาห ผุสนารห’’นฺติ.

๒๖๗. กตสนฺนิฏฺานสฺสาติ อิมสฺมึ สตฺตาเห มาเส อุตุมฺหิ อนฺโตวสฺเส วา อฺํ อาราเธสฺสามีติ กตนิจฺฉยสฺส.

สุตฺตสาธนปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปริหานิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. พฺรหฺมจริยกถา

๑. สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา

๒๖๙. เหฏฺาปีติ ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเวหิ เหฏฺาปิ. มคฺคภาวนมฺปิ น อิจฺฉนฺตีติ วิฺายติ ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ อิมินา ‘‘ทฺเวปิ พฺรหฺมจริยวาสา นตฺถิ เทเวสูติ อุปลทฺธิวเสนา’’ติ วุตฺตตฺตา.

๒๗๐. ตสฺเสวาติ ปรวาทิโน เอว. ปุคฺคลวเสนาติ ‘‘คิหีนฺเจว เอกจฺจานฺจ เทวาน’’นฺติ เอวํ ปุคฺคลวเสน. ตสฺสาติ ปรวาทิโน. ปฏิกฺเขโป น ยุตฺโตติ เอวํ ปุคฺคลวเสน อตฺถโยชนา น ยุตฺตาติ อธิปฺปาโย. ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ปน กตาปิ อตฺถวณฺณนา โอกาสวเสน ปริจฺฉิชฺชตีติ นายํ โทโส. ตสฺสายํ อธิปฺปาโยติ อยํ ‘‘คิหีนฺเจวา’’ติอาทินา วุตฺโต ตสฺส ปรวาทิโน ยทิ อธิปฺปาโย, เอวํ สฺาย ปรวาทิโน สกวาทินา สมานาทาโยติ น นิคฺคหารโห สิยา. เตนาห ‘‘สก…เป… ตพฺโพ’’ติ. ปมํ ปน อนุชานิตฺวา ปจฺฉา ปฏิกฺเขเปเนว นิคฺคเหตพฺพตา เวทิตพฺพา. เกจิ ‘‘ยตฺถ นตฺถิ ปพฺพชฺชา, นตฺถิ ตตฺถ พฺรหฺมจริยวาโสติ ปุจฺฉาย เอกจฺจานํ มนุสฺสานํ มคฺคปฺปฏิเวธํ สนฺธาย ปรวาทิโน ปฏิกฺเขโป. ยทิปิ โส เทวานํ มคฺคปฺปฏิลาภํ น อิจฺฉติ, สมฺภวนฺตํ ปน สพฺพํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘คิหีน’มิจฺเจว อวตฺวา ‘เอกจฺจานฺจ เทวาน’นฺติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ ‘‘สนฺธายา’’ติ วุตฺตตฺตา, ปุริโมเยวตฺโถ ยุตฺโต.

สุทฺธพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สํสนฺทนพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา

๒๗๓. รูปาวจรมคฺเคนาติ รูปาวจรชฺฌาเนน. ตฺหิ รูปภวูปปตฺติยา อุปายภาวโต มคฺโคติ วุตฺโต. ยถาห ‘‘รูปุปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๐). อิทนฺติ อิทํ รูปาวจรชฺฌานํ. ‘‘อิธวิหายนิฏฺเหตุภูโต รูปาวจรมคฺโค’’ติอาทิกํ ทีเปนฺตํ วจนํ อนาคามิมคฺคสฺส ตพฺภาวทีปเกน ‘‘อิธ ภาวิตมคฺโค’’ติอาทิเกน กถํ สเมตีติ โจเทตฺวา ยถา สเมติ , ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุพฺเพ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ‘‘ปุพฺเพ’’ติ อิมินา ‘‘อิธ ภาวิตมคฺโค’’ติอาทิกํ วทนฺติ, อิธาปิ ปน ‘‘รูปาวจรมคฺเคนา’’ติอาทิกํ. ตตฺถ อนาคามี เอวาติ อนาคามิผลฏฺโ เอว. ฌานานาคามีติ อสมุจฺฉินฺนชฺฌตฺตสํโยชโนปิ รูปภเว อุปฺปชฺชิตฺวา อนาวตฺติธมฺมมคฺคํ ภาเวตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพายนโต. อธิปฺปาโยติ ยถาวุตฺโต ทฺวินฺนํ อฏฺกถาวจนานํ อวิโรธทีปโก อธิปฺปาโย.

อิธาติ กามโลเก. ตตฺถาติ พฺรหฺมโลเก. เอตฺถ จ ปรวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘ตีหิ, ภิกฺขเว, าเนหี’’ติ สุตฺตํ กึ ยถารุตวเสน คเหตพฺพตฺถํ, อุทาหุ สนฺธายภาสิตนฺติ? ตตฺถ ชานมาโน สนฺธายภาสิตนฺติ วเทยฺย. อฺถา ‘‘ปรนิมฺมิตวสวตฺติเทเว อุปาทายา’’ติอาทิ วตฺตุํ น สกฺกา ‘‘เทเว จ ตาวตึเส’’ติ วุตฺตตฺตา. ยถา หิ ตสฺส ‘‘เสยฺยถาปิ เทเวหิ ตาวตึเสหิ สทฺธึ มนฺเตตฺวา’’ติอาทีสุ วิย สกฺกํ เทวราชานํ อุปาทาย กามาวจรเทเวสุ ตาวตึสเทวา ปากฏา ปฺาตาติ เตสํ คหณํ, น เตเยว อธิปฺเปตาติ สุตฺตปทสฺส สนฺธายภาสิตตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, เอวํ ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ เอตฺถาปิ อนวชฺชสุขอพฺยาเสกสุขเนกฺขมฺมสุขาทิสนฺนิสฺสยภาเวน มหานิสํสตาย สาสเน ปพฺพชฺชา ‘‘อิธ พฺรหฺมจริยวาโส’’ติ อิมสฺมึ สุตฺเต อธิปฺเปตา. สา หิ อุตฺตรกุรุกานํ เทวานฺจ อโนกาสภาวโต ทุกฺกรา ทุลฺลภา จ. ตตฺถ สูริยปริวตฺตาทีหิปิ เทเวสุ มคฺคปฏิลาภาย อตฺถิตา วิภาเวตพฺพา, อุตฺตรกุรุกานํ ปน วิเสสานธิคมภาโว อุภินฺนมฺปิ อิจฺฉิโต เอวาติ.

สํสนฺทนพฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พฺรหฺมจริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. โอธิโสกถาวณฺณนา

๒๗๔. โอธิโสติ ภาคโส, ภาเคนาติ อตฺโถ. ภาโค นาม ยสฺมา เอกเทโส โหติ, ตสฺมา ‘‘เอกเทเสน เอกเทเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทิ จตุนฺนํ มคฺคานํ วเสน สมุทยปกฺขิกสฺส กิเลสคณสฺส จตุภาเคหิ ปหานํ ‘‘โอธิโส ปหาน’’นฺติ อธิปฺเปตํ, อิจฺฉิตเมเวตํ สกวาทิสฺส ‘‘ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติ จ อาทิวจนโต. ยสฺมา ปน มคฺโค จตูสุ สจฺเจสุ นานาภิสมยวเสน กิจฺจกโร, น เอกาภิสมยวเสนาติ ปรวาทิโน ลทฺธิ, ตสฺมา ยถา ‘‘มคฺโค กาเลน ทุกฺขํ ปริชานาติ, กาเลน สมุทยํ ปชหตี’’ติอาทินา นานกฺขณวเสน สจฺเจสุ ปวตฺตตีติ อิจฺฉิโต, เอวํ ปจฺเจกมฺปิ นานกฺขณวเสน ปวตฺเตยฺย. ตถา สติ ทุกฺขาทีนํ เอกเทสเอกเทสเมว ปริชานาติ ปชหตีติ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘โสตาปตฺติ…เป… เอกเทเส ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สติ หิ นานาภิสมเย ปมมคฺคาทีหิ ปหาตพฺพานํ สํโยชนตฺตยาทีนํ ทุกฺขทสฺสนาทีหิ เอกเทสเอกเทสปฺปหานํ สิยาติ เอกเทสโสตาปตฺติมคฺคฏฺาทิตา, ตโต เอว เอกเทสโสตาปนฺนาทิตา จ อาปชฺชติ อนนฺตรผลตฺตา โลกุตฺตรกุสลานํ, น จ ตํ ยุตฺตํ. น หิ กาลเภเทน วินา โส เอว โสตาปนฺโน, อโสตาปนฺโน จาติ สกฺกา วิฺาตุํ. เตนาห ‘‘เอกเทสํ โสตาปนฺโน, เอกเทสํ น โสตาปนฺโน’’ติอาทิ.

อปิจายํ นานาภิสมยวาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ ‘‘มคฺคาณํ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺตํ กึ อารมฺมณโต ปฏิวิชฺฌติ, อุทาหุ กิจฺจโต’’ติ. ยทิ อารมฺมณโตติ วเทยฺย, ตสฺส วิปสฺสนาาณสฺส วิย ทุกฺขสมุทยานํ อจฺจนฺตปริจฺเฉทสมุจฺเฉทา น ยุตฺตา ตโต อนิสฺสฏตฺตา, ตถา มคฺคทสฺสนํ. น หิ สยเมว อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ, มคฺคนฺตรปริกปฺปนายํ อนวฏฺานํ อาปชฺชตีติ, ตสฺมา ตีณิ สจฺจานิ กิจฺจโต, นิโรธํ กิจฺจโต อารมฺมณโต จ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวมสมฺโมหโต ปฏิวิชฺฌนฺตสฺส มคฺคาณสฺส นตฺเถว นานาภิสมโย. วุตฺตฺเหตํ ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทิ. น เจตํ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ…เป… ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกสจฺจทสฺสนสมงฺคิโน อฺสจฺจทสฺสนสมงฺคิภาววิจารณายํ ตทตฺถสาธนตฺถํ อายสฺมตา ควํปติตฺเถเรน อาภตตฺตา ปจฺเจกฺจ สจฺจตฺตยทสฺสนสฺส โยชิตตฺตา. อฺถา ปุริมทิฏฺสฺส ปุน อทสฺสนโต สมุทยาทิทสฺสเน ทุกฺขาทิทสฺสนมโยชนียํ สิยา. น หิ โลกุตฺตรมคฺโค โลกิยมคฺโค วิย กตการิภาเวน ปวตฺตติ สมุจฺเฉทกตฺตา. ตถา โยชเน จ สพฺพํ ทสฺสนํ ทสฺสนนฺตรปรนฺติ ทสฺสนานุปรโม สิยา. เอวํ อาคมโต ยุตฺติโต จ นานาภิสมยสฺส อสมฺภวโต ปจฺเจกํ มคฺคานํ โอธิโส ปหานํ นตฺถีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.

โอธิโสกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ชหติกถาวณฺณนา

๑. นสุตฺตาหรณกถาวณฺณนา

๒๘๐. ยทิปิ ปาฬิยํ ‘‘ตโย มคฺเค ภาเวตี’’ติ วุตฺตํ, มคฺคภาวนา ปน ยาวเทว กิเลสสมุจฺฉินฺทนตฺถาติ ตฺวา ‘‘กิจฺจสพฺภาวนฺติ ตีหิ ปหาตพฺพสฺส ปหีนต’’นฺติ อาห. ตตฺถ ตีหีติ เหฏฺิเมหิ ตีหิ อริยมคฺเคหิ ปหาตพฺพสฺส อชฺฌตฺตสํโยชนสฺส ปหีนตํ สมุจฺฉินฺทนนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน กิจฺจนฺติ อโธภาคิยสํโยชเนสุ มคฺคสฺส ปหานาภิสมยกิจฺจํ. เตเนว มคฺเคนาติ อนาคามิมคฺเคเนว. เอตํ น สเมตีติ เอวํ มคฺคุปฺปาทโต ปเคว กามราคพฺยาปาทา ปหียนฺตีติ ลทฺธิกิตฺตนํ อิมินา มคฺคสฺส กิจฺจสพฺภาวกถเนน น สเมติ น ยุชฺชติ. ตสฺมาติ อิมินา ยถาวุตฺตเมว วิโรธํ ปจฺจามสติ. ปหีนานนฺติ วิกฺขมฺภิตานํ. โย หิ ฌานลาภี ฌาเนน ยถาวิกฺขมฺภิเต กิเลเส มคฺเคน สมุจฺฉินฺทติ, โส อิธาธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘ทสฺสนมคฺเค…เป… อธิปฺปาโย’’ติ.

ชหติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา

๑. วาทยุตฺติวณฺณนา

๒๘๒. สพฺพํอตฺถีติ เอตฺถ ยสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนํ วิย อตีตานาคตมฺปิ ธรมานสภาวนฺติ ปรวาทิโน ลทฺธิ, ตสฺมา สพฺพนฺติ กาลวิภาคโต อตีตาทิเภทํ สพฺพํ. โส ปน ‘‘ยมฺปิ นตฺถิ, ตมฺปิ อตฺถี’’ติ กาลวิมุตฺตสฺส วเสน อนุโยโค, ตํ อติปฺปสงฺคทสฺสนวเสน ปรวาทิปฏิฺาย โทสาโรปนํ. นยทสฺสนํ วา อตีตานาคตานํ นตฺถิภาวสฺส. อตฺถีติ ปน อยํ อตฺถิภาโว ยสฺมา เทสกาลาการธมฺเมหิ วินา น โหติ, ตสฺมา ตํ ตาว เตหิ สทฺธึ โยเชตฺวา อนุโยคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพตฺถ สพฺพมตฺถี’’ติอาทินา ปาฬิ ปวตฺตา. ตตฺถ ยทิปิ สพฺพตฺถาติ อิทํ สามฺวจนํ, ตํ ปน ยสฺมา วิเสสนิวิฏฺํ โหติ, ปรโต จ สพฺเพสูติ ธมฺมา วิภาคโต วุจฺจนฺติ, ตสฺมา โอฬาริกสฺส ปากฏสฺส รูปธมฺมสมุทายสฺส วเสน อตฺถํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘สพฺพตฺถาติ สพฺพสฺมึ สรีเร’’ติ วุตฺตํ, นิทสฺสนมตฺตํ วา เอตํ ทฏฺพฺพํ. ตถา จ กาณาทกาปิเลหิ ปฏิฺายมานา อากาสกาลาทิสตฺตปกติปุริสา วิย ปรวาทินา ปฏิฺายมานํ สพฺพํ สพฺพพฺยาปีติ อาปนฺนเมว โหตีติ. ‘‘สพฺพตฺถ สรีเร’’ติ จ ‘‘ติเล เตล’’นฺติ วิย พฺยาปเน ภุมฺมนฺติ สรีรปริยาปนฺเนน สพฺเพน ภวิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘สิรสิ ปาทา…เป… อตฺโถ’’ติ.

สพฺพสฺมึ กาเล สพฺพมตฺถีติ โยชนา. เอตสฺมึ ปกฺเขเยวสฺส อฺวาโท ปริทีปิโต สิยา ‘‘ยํ อตฺถิ, อตฺเถว ตํ, ยํ นตฺถิ, นตฺเถว ตํ, อสโต นตฺถิ สมฺภโว, สโต นตฺถิ วินาโส’’ติ. เอวํ สพฺเพนากาเรน สพฺพํ สพฺเพสุ ธมฺเมสุ สพฺพํ อตฺถีติ อตฺโถติ สมฺพนฺโธ. อิเมหิ ปน ปกฺเขหิ ‘‘สพฺพํ สพฺพสภาวํ, อเนกสตฺตินิจิตาภาวา อสโต นตฺถิ สมฺภโว’’ติ วาโท ปริทีปิโต สิยา. โยครหิตนฺติ เกนจิ ยุตฺตายุตฺตลกฺขณสํโยครหิตํ. ตํ ปน เอกสภาวนฺติ สํโยครหิตํ นาม อตฺถโต เอกสภาวํ, เอกธมฺโมติ อตฺโถ. เอเตน เทววาทีนํ พฺรหฺมทสฺสนํ อตฺเถวาติวาโท ปริทีปิโต สิยา. อตฺถีติ ปุจฺฉตีติ ยทิ สพฺพมตฺถีติ ตว วาโท, ยถาวุตฺตาย มม ทิฏฺิยา สมฺมาทิฏฺิภาโว อตฺถีติ เอกนฺเตน ตยา สมฺปฏิจฺฉิตพฺโพ, ตสฺมา ‘‘กึ โส อตฺถี’’ติ ปุจฺฉตีติ อตฺโถ.

วาทยุตฺติวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กาลสํสนฺทนกถาวณฺณนา

๒๘๕. อตีตา…เป… กริตฺวาติ เอตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – อตีตํ อนาคตนฺติ รูปสฺส อิมํ วิเสสํ, เอวํ วิเสสํ วา รูปํ อคฺคเหตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนตาวิเสสวิสิฏฺรูปเมว อปฺปิยํ ปจฺจุปฺปนฺนรูปภาวานํ สมานาธิกรณตฺตา เอตสฺมึเยว วิสเย อปฺเปตพฺพํ, วจีโคจรํ ปาเปตพฺพํ สติปิ เนสํ วิเสสนวิเสสิตพฺพตาสงฺขาเต วิภาเค ตถาปิ อวิภชิตพฺพํ กตฺวาติ. ยสฺมา ปน ปาฬิยํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วา รูปนฺติ วา’’ติ ปจฺจุปฺปนฺนรูปสทฺเทหิ ตทตฺถสฺส วตฺตพฺพากาโร อิติสทฺเทหิ ทสฺสิโต, ตสฺมา ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนสทฺเทน…เป… วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. รูปปฺตฺตีติ รูปายตนปฺตฺติ. สา หิ สภาวธมฺมุปาทานา ตชฺชาปฺตฺติ. เตเนวาห ‘‘สภาวปริจฺฉินฺเน ปวตฺตา วิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ. รูปสมูหํ อุปาทายาติ ตํตํอตฺตปฺตฺติยา อุปาทานภูตานํ อภาววิภาวนากาเรน ปวตฺตมานานํ รูปธมฺมานํ สมูหํ อุปาทาย. อุปาทานุปาทานมฺปิ หิ อุปาทานเมวาติ. ตสฺมาติ สมูหุปาทายาธีนตาย อวิชฺชมานปฺตฺติภาวโต. วิคมาวตฺตพฺพตาติ วิคมสฺส วตฺถภาวาปคมสฺส อวตฺตพฺพตา. น หิ โอทาตตาวิคเมน อวตฺถํ โหติ. น ปน ยุตฺตา รูปภาวสฺส วิคมาวตฺตพฺพตาติ โยชนา. รูปภาโวติ จ รูปายตนสภาโว จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาโว. น หิ ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนภาววิคเม วิคมาวตฺตพฺพตา ยุตฺตา.

กาลสํสนฺทนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วจนโสธนวณฺณนา

๒๘๘. อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ ยถา ‘‘ขทิเร วา พนฺธิตพฺพํ ปลาเส วา’’ติ. ตสฺมา ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ เอตฺถ โหติ-สทฺโท อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ ยํ กิฺจิ ปธานํ กตฺวา สมฺพนฺธํ ลภตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อนาคตํ…เป… ทฏฺพฺพ’’นฺติ อาห. ตตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ โหนฺตนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนํ ชายมานํ ปจฺจุปฺปนฺนภาวํ ลภนฺตํ. เตนาห ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ลทฺธิวเสนา’’ติ. ตมฺปิ หุตฺวา โหตีติ ยํ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภาวปฺปตฺติยา ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ วุตฺตํ, กึ ตทปิ ปุน หุตฺวา โหตีติ ปุจฺฉติ. ตพฺภาวาวิคมโตติ ปจฺจุปฺปนฺนภาวโต หุตฺวาโหติภาวานุปคมโต. ปจฺจุปฺปนฺนาภาวโตติ ปจฺจุปฺปนฺนตาย อภาวโต.

วจนํอรหตีติ อิมินา วจนมตฺเต น โกจิ โทโสติ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิปิ ตสฺส ปุน หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวาโหติภาโว นตฺถิ, ปุนปฺปุนํ าเปตพฺพตาย ปน ทุติยํ ตโต ปรมฺปิ ตถา วตฺตพฺพตํ อรหตีติ ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานาตีติ. ธมฺเมติ สภาวธมฺเม. ตปฺปฏิกฺเขปโต อธมฺเม อภาวธมฺเม. เตนาห ‘‘สสวิสาเณ’’ติ.

ปฏิกฺขิตฺตนเยนาติ ‘‘หุตฺวา โหติ, หุตฺวา โหตี’’ติ เอตฺถ ปุพฺเพ ยเทตํ ตยา ‘‘อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ วทตา ‘‘ตํเยว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ ลทฺธิวเสน ‘‘อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา หุตฺวา โหตี’’ติ วุตฺตํ, ‘‘กึ เต ตมฺปิ หุตฺวา โหตี’’ติ ปุจฺฉิเต โย ปรวาทินา หุตฺวา ภูตสฺส ปุน หุตฺวาอภาวโต ‘‘น เหวา’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต, เตน ปฏิกฺขิตฺตนเยน. สฺวายํ ยเทว รูปาทิ อนาคตํ, ตเทว ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ สติปิ อตฺถาเภเท อนาคตปจฺจุปฺปนฺนนฺติ ปน อตฺเถว กาลเภโทติ ตํกาลเภทวิโรธาย ปฏิกฺเขโป ปวตฺโตติ อาห ‘‘ปฏิกฺขิตฺตนเยนาติ กาลนานตฺเตนา’’ติ. เตน หิ โส อยฺจ ปฏิกฺเขโป นีโต ปวตฺติโตติ. ปฏิฺาตนเยนาติ อิทมฺปิ ยถาวุตฺตปฏิกฺเขปานนฺตรํ ยํ ปฏิฺาตํ, ตํ สนฺธายาห. ยถา หิ สา ปฏิฺา อตฺถาเภเทน นีตา ปวตฺติตา, ตถายมฺปิ. เตเนวาห ‘‘อตฺถานานตฺเตนา’’ติ, อนาคตาทิปฺปเภทาย กาลปฺตฺติยา อุปาทานภูตสฺส อตฺถสฺส อเภเทนาติ อตฺโถ. ยถา อุปาทานภูตรูปาทิอตฺถาเภเทปิ เตสํ ขณตฺตยานาวตฺติ ตํสมงฺคิตา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนภาวาวตฺติตา, ตถา ตตฺถ วุจฺจมานา หุตฺวาโหติภาวา ยถากฺกมํ ปุริมปจฺฉิเมสุ ปวตฺติตา ปุริมปจฺฉิมกิริยาติ กตฺวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อตฺถานานตฺตํ…เป… ปฏิชานาตี’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘อตฺถานานตฺตเมว หี’’ติอาทินา ตเมว อตฺถํ สมตฺเถติ. ยถา ปน ‘‘ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ ปฏิชานนฺตสฺส ชีโวว สรีรํ, สรีรเมว ชีโวติ ชีวสรีรานํ อนฺตฺตํ อาปชฺชติ, เอวํ ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ จ ปฏิชานนฺตสฺส อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ อนฺตฺตํ อาปนฺนนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนานาคเตสุ วุตฺตา โหติภาวหุตฺวาภาวา อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุปิ อาปชฺเชยฺยุนฺติ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘เอวํ สนฺเต อนาคตมฺปิ หุตฺวาโหติ นาม, ปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ หุตฺวาโหติเยว นามา’’ติ.

อนุฺาตปฺหสฺสาติ ‘‘ตฺเว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? อามนฺตา’’ติ เอวํ อตฺถานานตฺตํ สนฺธาย อนุฺาตสฺส อตฺถสฺส. าตุํ อิจฺฉิโต หิ อตฺโถ ปฺโห. โทโส วุตฺโตติ อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภูตสฺส ปุน อนาคตํ หุตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนภาวาปตฺติสงฺขาโต โทโส วุตฺโต ปุริมนเย . ปจฺฉิมนเย ปน อนาคตปจฺจุปฺปนฺเนสุ เอเกกสฺส หุตฺวาโหติภาวาปตฺติสงฺขาโต โทโส วุตฺโตติ อตฺโถ. ปฏิกฺขิตฺตปฺหนฺติ ‘‘ตํเยว อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ เอวํ กาลนานตฺตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิตฺตปฺหํ. เตนาติ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ โหติหุตฺวาภาวปฏิกฺเขเปน. โจเทตีติ อนาคตํ เตน โหติ นาม, ปจฺจุปฺปนฺนํ เตน หุตฺวา นาม, อุภยมฺปิ อนฺตฺตา อุภยสภาวนฺติ โจเทติ. เอตฺถาติ ‘‘หุตฺวา โหตี’’ติ เอตสฺมึ ปฺเห กถํ โหติ โทโสติ โจเทตีติ. ‘‘ตสฺเสวา’’ติ ปริหรติ. กถํ กตฺวา โจทนา, กถฺจ กตฺวา ปริหาโร? อนุชานนปฏิกฺเขปานํ ภินฺนวิสยตาย โจทนา, อตฺถาเภทกาลเภทวิสยตฺตา อภินฺนาธารตาย เตสํ ปริหาโร. ตสฺเสวาติ หิ ปรวาทิโน เอวาติ อตฺโถ.

ตทุภยํ คเหตฺวาติ ‘‘ตํ อนาคตํ ตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ อุภยํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา. เอเกกนฺติ เตสุ เอเกกํ. เอเกกเมวาติ อุภยํ เอกชฺฌํ อคฺคเหตฺวา เอเกกเมว วิสุํ วิสุํ อิมสฺมึ ปกฺเข ตถา น ยุตฺตนฺติ อตฺโถ. เอส นโยติ อติเทสํ กตฺวา สํขิตฺตตฺตา ตํ ทุพฺพิฺเยฺยนฺติ ‘‘อนาคตสฺส หี’’ติอาทินา วิวรติ. ปฏิชานิตพฺพํ สิยา อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ ยถากฺกมํ โหติหุตฺวาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ‘‘ยเทตํ ตยา’’ติอาทินา ปวตฺโต สํวณฺณนานโย ปุริมนโย, ตตฺถ หิ ‘‘ยทิ เต อนาคตํ หุตฺวา’’ติอาทินา หุตฺวาโหติภาโว โจทิโต. ‘‘อปโร นโย’’ติอาทิโก ทุติยนโย. ตตฺถ หิ ‘‘อนาคตสฺส…เป… หุตฺวาโหติเยว นามา’’ติ อนาคตาทีสุ เอเกกสฺส หุตฺวาโหตินามตา โจทิตา.

วจนโสธนวณฺณนา นิฏฺิตา.

อตีตาณาทิกถาวณฺณนา

๒๙๐. กถํวุจฺจตีติ กสฺมา วุตฺตํ. เตนาติ หิ อิมินา ทุติยปุจฺฉาย ‘‘อตีตํ าณ’’นฺติ อิทํ ปจฺจามฏฺํ, ตฺจ ปจฺจุปฺปนฺนํ าณํ, อตีตธมฺมารมฺมณตาย อตีตนฺติ วุตฺตํ. เตนาห อฏฺกถายํ ‘‘ปุน ปุฏฺโ อตีตารมฺมณํ ปจฺจุปฺปนฺนํ าณ’’นฺติอาทิ.

อตีตาณาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา

๒๙๑. ‘‘อรหํ ขีณาสโว’’ติอาทินา สุตฺตวิโรโธ ปากโฏติ อิทเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘ยุตฺติวิโรโธ…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ อาห. ตตฺถ อนานตฺตนฺติ อวิเสโส. เอวมาทิโกติ อาทิ-สทฺเทน กตกิจฺจตาภาโว อโนหิตภารตาติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อรหนฺตาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปทโสธนกถาวณฺณนา

๒๙๕. โย อตีตสทฺทาภิเธยฺโย อตฺโถ, โส อตฺถิสทฺทาภิเธยฺโยติ ทฺเวปิ สมานาธิกรณตฺถาติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อตีตอตฺถิสทฺทานํ เอกตฺถตฺตา’’ติ, น, อตีตสทฺทาภิเธยฺยสฺเสว อตฺถิสทฺทาภิเธยฺยตฺตา. เตนาห ‘‘อตฺถิสทฺทตฺถสฺส จ นฺวาตีตภาวโต’’ติ. เตน กึ สิทฺธนฺติ อาห ‘‘อตีตํ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตฺจ อตีตํ โหตี’’ติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยทิ ตว มเตน อตีตํ อตฺถิ, อตฺถิ จ นฺวาตีตนฺติ อตีตฺจ โน อตีตํ สิยา, ตถา อตฺถิ โน อตีตํ อตีตฺจ โน อตีตํ อตีตํ สิยาติ, ยถา ‘‘อตีตํ อตฺถี’’ติ เอตฺถ อตีตเมว อตฺถีติ นายํ นิยโม คเหตพฺโพ อนตีตสฺสปิ อตฺถิภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา. เตเนวาห ‘‘อตฺถิ สิยา อตีตํ, สิยา นฺวาตีต’’นฺติ. เยน หิ อากาเรน อตีตสฺส อตฺถิภาโว ปรวาทินา อิจฺฉิโต, เตนากาเรน อนตีตสฺส อนาคตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ โส อิจฺฉิโต. เกน ปน อากาเรน อิจฺฉิโตติ ? สงฺขตากาเรน. เตน วุตฺตํ ‘‘เตนาตีตํ นฺวาตีตํ, นฺวาตีตํ อตีต’’นฺติ. ตสฺมา อตีตํ อตฺถิเยวาติ เอวเมตฺถ นิยโม คเหตพฺโพ. อตฺถิภาเว หิ อตีตํ นิยมิตํ, น อตีเต อตฺถิภาโว นิยมิโต, ‘‘น ปน นิพฺพานํ อตฺถี’’ติ เอตฺถ ปน นิพฺพานเมว อตฺถีติ อยมฺปิ นิยโม สมฺภวตีติ โส เอว คเหตพฺโพ. ยทิปิ หิ นิพฺพานํ ปรมตฺถโต อตฺถิภาวํ อุปาทาย อุตฺตรปทาวธารณํ ลพฺภติ ตทฺสฺสปิ อภาวโต, ตถาปิ อสงฺขตากาเรน อฺสฺส อนุปลพฺภนโต ตถา นิพฺพานเมว อตฺถีติ ปุริมปทาวธารเณ อตฺเถ คยฺหมาเน ‘‘อตฺถิ สิยา นิพฺพานํ, สิยา โน นิพฺพาน’’นฺติ โจทนา อโนกาสา. อตีตาทีสุ ปน ปุริมปทาวธารณํ ปรวาทินา น คหิตนฺติ นตฺเถตฺถ อติปฺปสงฺโค. อคฺคหณฺจสฺส ปาฬิโต เอว วิฺายติ. เอวเมตฺถ อตีตาทีนํ อตฺถิตํ วทนฺตสฺส ปรวาทิสฺเสวายํ อิฏฺวิฆาตโทสาปตฺติ, น ปน นิพฺพานสฺส อตฺถิตํ วทนฺตสฺส สกวาทิสฺสาติ. ปฏิปาทนา ปติฏฺาปนา เวทิตพฺพา.

เอตฺถาห ‘‘อตีตํ อตฺถี’’ติอาทินา กึ ปนายํ อตีตานาคตานํ ปรมตฺถโต อตฺถิภาโว อธิปฺเปโต, อุทาหุ น ปรมตฺถโต. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว ปรมตฺถโต, สพฺพกาลํ อตฺถิภาวโต สงฺขารานํ สสฺสตภาโว อาปชฺชติ, น จ ตํ ยุตฺตํ อาคมวิโรธโต ยุตฺติวิโรธโต จ. อถ น ปรมตฺถโต, ‘‘สพฺพมตฺถี’’ติอาทิกา โจทนา นิรตฺถิกา สิยา, น นิรตฺถิกา. โส หิ ปรวาที ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคต’’นฺติอาทินา อตีตานาคตานมฺปิ ขนฺธภาวสฺส วุตฺตตฺตา อสติ จ อตีเต กุสลากุสลสฺส กมฺมสฺส อายตึ ผลํ กถํ ภเวยฺย, ตตฺถ จ ปุพฺเพนิวาสาณาทิ อนาคเต จ อนาคตํสาณาทิ กถํ ปวตฺเตยฺย, ตสฺมา อตฺเถว ปรมตฺถโต อตีตานาคตนฺติ ยํ ปฏิชานาติ, ตํ สนฺธาย อยํ กตาติ. เอกนฺเตน เจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ. เยปิ ‘‘สพฺพํ อตฺถี’’ติ วทนฺติ อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺนฺจ, เต สพฺพตฺถิวาทาติ.

จตุพฺพิธา เจเต เต สพฺพตฺถิวาทา. ตตฺถ เกจิ ภาวฺตฺติกา. เต หิ ‘‘ยถา สุวณฺณภาชนสฺส ภินฺทิตฺวา อฺถา กริยมานสฺส สณฺานสฺเสว อฺถตฺตํ, น วณฺณาทีนํ, ยถา จ ขีรํ ทธิภาเวน ปริณมนฺตํ รสวีริยวิปาเก ปริจฺจชติ, น วณฺณํ, เอวํ ธมฺมาปิ อนาคตทฺธุโน ปจฺจุปฺปนฺนทฺธํ สงฺกมนฺตา อนาคตภาวเมว ชหนฺติ, น อตฺตโน สภาวํ. ตถา ปจฺจุปฺปนฺนทฺธุโน อตีตทฺธํ สงฺกเม’’ติ วทนฺติ. เกจิ ลกฺขณฺตฺติกา, เต ปน ‘‘ตีสุ อทฺธาสุ ปวตฺตมาโน ธมฺโม อตีโต อตีตลกฺขณยุตฺโต, อิตรลกฺขเณหิ อยุตฺโต. ตถา อนาคโต ปจฺจุปฺปนฺโน จ. ยถา ปุริโส เอกิสฺสา อิตฺถิยา รตฺโต อฺาสุ อรตฺโต’’ติ วทนฺติ. อฺเ อวตฺถฺตฺติกา, เต ‘‘ตีสุ อทฺธาสุ ปวตฺตมาโน ธมฺโม ตํ ตํ อวตฺถํ ปตฺวา อฺโ อฺํ นิทฺทิสียติ อวตฺถนฺตรโต, น สภาวโต. ยถา เอกํ อกฺขํ เอกงฺเค นิกฺขิตฺตํ เอกนฺติ วุจฺจติ, สตงฺเค สตนฺติ, สหสฺสงฺเค สหสฺสนฺติ, เอวํสมฺปทมิท’’นฺติ. อปเร อฺถฺตฺติกา, เต ปน ‘‘ตีสุ อทฺธาสุ ปวตฺตมาโน ธมฺโม ตํ ตํ อเปกฺขิตฺวา ตทฺสภาเวน วุจฺจติ. ยถา ตํ เอกา อิตฺถี มาตาติ จ วุจฺจติ ธีตา’’ติ จ. เอวเมเต จตฺตาโร สพฺพตฺถิวาทา.

เตสุ ปโม ปริณามวาทิตาย กาปิลปกฺขิเกสุ ปกฺขิปิตพฺโพติ. ทุติยสฺสปิ กาลสงฺกโร อาปชฺชติ สพฺพสฺส สพฺพลกฺขณโยคโต. จตุตฺถสฺสปิ สงฺกโรว. เอกสฺเสว ธมฺมสฺส ปวตฺติกฺขเณ ตโยปิ กาลา สโมธานํ คจฺฉนฺติ. ปุริมปจฺฉิมกฺขณา หิ อตีตานาคตา, มชฺฌิโม ปจฺจุปฺปนฺโนติ. ตติยสฺส ปน อวตฺถฺตฺติกสฺส นตฺถิ สงฺกโร ธมฺมกิจฺเจน กาลววตฺถานโต. ธมฺโม หิ สกิจฺจกฺขเณ ปจฺจุปฺปนฺโน, ตโต ปุพฺเพ อนาคโต, ปจฺฉา อตีโตติ.

ตตฺถ ยทิ อตีตมฺปิ ธรมานสภาวตาย อตฺถิ อนาคตมฺปิ, กสฺมา ตํ อตีตนฺติ วุจฺจติ อนาคตนฺติ วา, นนุ วุตฺตํ ‘‘ธมฺมกิจฺเจน กาลววตฺถานโต’’ติ. ยทิ เอวํ ปจฺจุปฺปนฺนสฺส จกฺขุสฺส กึ กิจฺจํ, อนวเสสปจฺจยสมวาเย ผลุปฺปาทนํ. เอวํ สติ อนาคตสฺสปิ จสฺส เตน ภวิตพฺพํ อตฺถิภาวโตติ ลกฺขณสงฺกโร สิยา. อิทฺเจตฺถ วตฺตพฺพํ, เตเนว สภาเวน สโต ธมฺมสฺส กิจฺจํ, กิจฺจกรเณ โก วิพนฺโธ, เยน กทาจิ กโรติ กทาจิ น กโรติ ปจฺจยสมวายภาวโต, กิจฺจสฺส สมวายาภาวโตติ เจ? ตํ น, นิจฺจํ อตฺถิภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา. ตโต เอว จ อทฺธุนํ อววตฺถานํ. ธมฺโม หิ เตเนว สภาเวน วิชฺชมาโน กสฺมา กทาจิ อตีโตติ วุจฺจติ กทาจิ อนาคโตติ กาลสฺส ววตฺถานํ น สิยา. โย หิ ธมฺโม อชาโต, โส อนาคโต. โย ชาโต น จ นิรุทฺโธ, โส ปจฺจุปฺปนฺโน. โย นิรุทฺโธ, โส อตีโต. อิทเมเวตฺถ วตฺตพฺพํ. ยทิ ยถา วตฺตมานํ อตฺถิ , ตถา อตีตํ อนาคตฺจ อตฺถิ, ตสฺส ตถา สโต อชาตตา นิรุทฺธตา จ เกน โหตีติ. เตเนว หิ สภาเวน สโต ธมฺมสฺส กถมิทํ สิชฺฌติ อชาโตติ วา นิรุทฺโธติ วา. กึ ตสฺส ปุพฺเพ นาโหสิ, ยสฺส อภาวโต อชาโตติ วุจฺจติ, กิฺจ ปจฺฉา นตฺถิ, ยสฺส อภาวโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ. ตสฺมา สพฺพถาปิ อทฺธตฺตยํ น สิชฺฌติ, ยทิ อหุตฺวา สงฺคติ หุตฺวา จ วินสฺสตีติ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สงฺขตลกฺขณโยคโต น สสฺสตภาวปฺปสงฺโค’’ติ, ตยิทํ เกวลํ วาจาวตฺถุมตฺตํ อุทยวยาสมฺภวโต, อตฺถิ จ นาม สพฺพทา โส ธมฺโม, น จ นิจฺโจติ กุโตยํ วาจายุตฺติ.

สภาโว สพฺพทา อตฺถิ, นิจฺโจ ธมฺโม น วุจฺจติ;

ธมฺโม สภาวโต นาฺโ, อโห ธมฺเมสุ โกสลํ.

ยฺจ วุตฺตํ ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคต’’นฺติอาทินา อตีตานาคตานํ ขนฺธภาวสฺส วุตฺตตฺตา อตฺเถวาติ, วทาม. อตีตํ ภูตปุพฺพํ, อนาคตํ ยํ สติ ปจฺจเย ภวิสฺสติ, ตทุภยสฺสปิ รุปฺปนาทิสภาวานาติวตฺตนโต รูปกฺขนฺธาทิภาโว วุตฺโต. ยถาธมฺมสภาวานาติวตฺตนโต อตีตา ธมฺมา อนาคตา ธมฺมาติ, น ธรมานสภาวตาย. โก จ เอวมาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ วิย ตํ อตฺถี’’ติ. กถํ ปเนตํ อตฺถีติ? อตีตานาคตสภาเวน. อิทํ ปน ตเวว อุปฏฺิตํ, กถํ ตํ อตีตํ อนาคตฺจ วุจฺจติ, ยทิ นิจฺจกาลํ อตฺถีติ.

ยํ ปน ‘‘น ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐) สุตฺเต วุตฺตํ, ตํ ยสฺมิฺจ สนฺตาเน กมฺมํ กตูปจิตํ, ตตฺถ เตนาหิตํ ตํผลุปฺปาทนสมตฺถตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อตีตสฺส กมฺมสฺส ธรมานสภาวตฺตา. ตถา สติ สเกน ภาเวน วิชฺชมานํ กถํ ตํ อตีตํ นาม สิยา. อิตฺถฺเจตํ เอวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, ยํ สงฺขารา อหุตฺวา สมฺภวนฺติ, หุตฺวา ปติเวนฺติ เตสํ อุทยโต ปุพฺเพ วยโต จ ปจฺฉา น กาจิ ิติ นาม อตฺถิ, ยโต อตีตานาคตํ อตฺถีติ วุจฺเจยฺย. เตน วุตฺตํ –

‘‘อนิธานคตา ภคฺคา, ปุฺโช นตฺถิ อนาคเต;

อุปฺปนฺนา เยปิ ติฏฺนฺติ, อารคฺเค สาสปูปมา’’ติ. (มหานิ. ๑๐, ๓๙);

ยทิ จานาคตํ ปรมตฺถโต สิยา, อหุตฺวา สมฺภวนฺตีติ วตฺตุํ น สกฺกา. ปจฺจุปฺปนฺนกาเล อหุตฺวา สมฺภวนฺตีติ เจ? น, ธมฺมปฺปวตฺติมตฺตตฺตา กาลสฺส. อถ อตฺตโน สภาเวน อหุตฺวา สมฺภวนฺตีติ, สิทฺธเมตํ อนาคตํ ปรมตฺถโต นตฺถีติ. ยฺจ วุตฺตํ ‘‘อสติ อตีเต กุสลากุสลสฺส กมฺมสฺส อายตึ ผลํ กถํ ภเวยฺยา’’ติ, น โข ปเนตฺถ อตีตกมฺมโต ผลุปฺปตฺติ อิจฺฉิตา, อถ โข ตสฺส กตตฺตา ตทาหิตวิเสสโต สนฺตานโต. วุตฺตฺเหตํ ภควตา ‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติ (ธ. ส. ๔๓๑). ยสฺส ปน อตีตานาคตํ ปรมตฺถโต อตฺถิ, ตสฺส ผลํ นิจฺจเมว อตฺถีติ กึ ตตฺถ กมฺมสฺส สามตฺถิยํ. อุปฺปาทเน เจ, สิทฺธมิทํ อหุตฺวา ภวตีติ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อสติ อตีตานาคเต กถํ ตตฺถ าณํ ปวตฺเตยฺยา’’ติ, ยถา ตํ อาลมฺพณํ, ตํ ตถา อตฺถิ, กถฺจ ตํ อาลมฺพณํ, อโหสิ ภวิสฺสติ จาติ. น หิ โกจิ อตีตํ อนุสฺสรนฺโต อตฺถีติ อนุสฺสรติ, อถ โข อโหสีติ. ยถา ปน วตฺตมานํ อารมฺมณํ อนุภูตํ, ตถา ตํ อตีตํ อนุสฺสรติ. ยถา จ วตฺตมานํ ภวิสฺสติ, ตถา พุทฺธาทีหิ คยฺหติ. ยทิ จ ตํ ตเถว อตฺถิ, วตฺตมานเมว ตํ สิยา. อถ นตฺถิ, สิทฺธํ ‘‘อสนฺตํ าณสฺส อารมฺมณํ โหตี’’ติ. วิชฺชมานํ วา หิ จิตฺตสฺาตํ อวิชฺชมานํ วา อารมฺมณํ เอเตสํ อตฺถีติ อารมฺมณา, จิตฺตเจตสิกา, น วิชฺชมานํเยว อารพฺภ ปวตฺตนโต, ตสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนเมว ธรมานสภาวํ น อตีตานาคตนฺติ น ติฏฺติ สพฺพตฺถิวาโท. เกจิ ปน ‘‘น อตีตาทีนํ อตฺถิตาปฏิฺาย สพฺพตฺถิวาทา, อถ โข อายตนสพฺพสฺส อตฺถิตาปฏิฺายา’’ติ วทนฺติ, เตสํ มเตน สพฺเพว สาสนิกา สพฺพตฺถิวาทา สิยุนฺติ.

ปทโสธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สพฺพมตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อตีตกฺขนฺธาทิกถา

๑. นสุตฺตสาธนกถาวณฺณนา

๒๙๗. ‘‘อตีตํ อนาคตํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ อยํ กาลวิภาคปริจฺฉินฺโน โวหาโร ธมฺมานํ ตํ ตํ อวตฺถาวิเสสํ อุปาทาย ปฺตฺโต. ธมฺโม หิ สกิจฺจกฺขเณ ปจฺจุปฺปนฺโน, ตโต ปุพฺเพ อนาคโต, ปจฺฉา อตีโตติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตตฺถ ยทิปิ ธมฺมา อนิจฺจตาย อนวฏฺิตา, อวตฺถา ปน เตสํ ยถาวุตฺตา ววตฺถิตาติ ตทุปาทานา กาลปฺตฺติปิ ววตฺถิตา เอว. น หิ อตีตาทิ อนาคตาทิภาเวน โวหรียติ, ขนฺธาทิปฺตฺติ ปน อนเปกฺขิตกาลวิเสสา. ตีสุปิ หิ กาเลสุ รูปกฺขนฺโธ รูปกฺขนฺโธว, ตถา เสสา ขนฺธา อายตนธาตุโย จ. เอวมวฏฺิเต ยสฺมา ปรวาที ‘‘อตฺถี’’ติ อิมํ ปจฺจุปฺปนฺนนิยตํ โวหารํ อตีตานาคเตสุปิ อาโรเปติ, ตสฺมา โส อทฺธสงฺกรํ กโรติ. ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเน วิชฺชมาเน กตฺวา โวหรตีติ ตโต วิเวเจตุํ ‘‘อตีตํ ขนฺธา’’ติอาทิกา อยํ กถา อารทฺธา.

ยสฺมา ปน รุปฺปนาทิสภาเว อตีตาทิเภทภินฺเน ธมฺเม เอกชฺฌํ คเหตฺวา ตตฺถ ราสฏฺํ อุปาทาย ขนฺธปฺตฺติ, จกฺขุรูปาทีสุ การณาทิอตฺถํ สุฺตฏฺฺจ อุปาทาย อายตนปฺตฺติ ธาตุปฺตฺติ จ, ตสฺมา สา อทฺธตฺตยสาธารณา, น อตีตาทิปฺตฺติ วิย อทฺธวิเสสาธิฏฺานาติ อาห ‘‘ขนฺธาทิภาวาวิชหนโต อตีตานาคตาน’’นฺติ. เต ปเนเต อตีตาทิเก ขนฺธาทิเก วิย สภาวธมฺมโต สฺชานนฺโต ปรวาที ‘‘อตฺถี’’ติ ปฏิชานาตีติ อาห ‘‘อตีตานาคตานํ อตฺถิตํ อิจฺฉนฺตสฺสา’’ติ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

‘‘ตโยเม, ภิกฺขเว, นิรุตฺติปถา’’ติ สุตฺตํ นิรุตฺติปถสุตฺตํ. ตตฺถ หิ ปจฺจุปฺปนฺนสฺเสว อตฺถิภาโว วุตฺโต, น อตีตานาคตานํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺถิตาย วาริตตฺตา’’ติ. ยทิ เอวํ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, นิพฺพาน’’นฺติ อิทํ กถนฺติ? ตํ สพฺพทา อุปลทฺธิโต วุตฺตํ นิจฺจสภาวาปนตฺถํ อสงฺขตธมฺมสฺส, อิธ ปน สงฺขตธมฺมานํ ขณตฺตยสมงฺคิตาย อตฺถิภาโว น ตโต ปุพฺเพ ปจฺฉา จาติ ปฺาปนตฺถํ ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, รูปํ…เป… น ตสฺส สงฺขา ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. เอเตน ‘‘อตฺถี’’ติ สมฺาย อนุปาทานโต อตีตํ อนาคตํ ปรมตฺถโต นตฺถีติ ทสฺสิตํ โหติ. อิมินาวูปาเยนาติ ‘‘ขนฺธาทิภาวาวิชหนโต’’ติ เอวํ วุตฺเตน เหตุนา. อุปปตฺติสาธนยุตฺติ หิ อิธ ‘‘อุปาโย’’ติ วุตฺตา.

นสุตฺตสาธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุตฺตสาธนกถาวณฺณนา

๒๙๘. เอเต ธมฺมาติ เอเต ขนฺธอายตนธาตุธมฺมา. สุตฺตาหรณนฺติ นิรุตฺติปถสุตฺตาหรณํ. เนสนฺติ อตีตานาคตานํ.

สุตฺตสาธนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อตีตกฺขนฺธาทิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. เอกจฺจํอตฺถีติกถา

๑. อตีตาทิเอกจฺจกถาวณฺณนา

๒๙๙. เย กตูปจิตา กุสลากุสลา ธมฺมา วิปากทานาย อกโตกาสา, กโตกาสา จ เย ‘‘โอกาสกตุปฺปนฺนา’’ติ วุจฺจนฺติ. เย จ วิปฺปกตวิปากา, เต สพฺเพปิ ‘‘อวิปกฺกวิปากา’’ติ เวทิตพฺพา. เตสํ วิปากทานสามตฺถิยํ อนปคตนฺติ อธิปฺปาเยน ปรวาที อตฺถิตํ อิจฺฉติ. เย ปน ปรวาที สพฺเพน สพฺพํ วิปกฺกวิปากา กุสลากุสลา ธมฺมา, เตสํ อปคตนฺติ นตฺถิตํ อิจฺฉติ. เตนาห ‘‘อตฺถีติ เอกจฺจํ อตฺถิ เอกจฺจํ นตฺถี’’ติอาทิ. เอวํ อิจฺฉนฺตสฺส ปน ปรวาทิโน ยถา อวิปาเกสุปิ เอกจฺจํ นตฺถีติ อาปชฺชติ, เอวํ วิปกฺกวิปาเกสุ อวิปกฺกวิปาเกสุ จ อาปชฺชเตวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิปกฺกวิปากา ธมฺมา เอกจฺเจ’’ติอาทินา ปาฬิ ปวตฺตา. เตน วุตฺตํ ‘‘ติณฺณํ ราสีนํ วเสนา’’ติอาทิ. โวหารวเสนาติ ผลสฺส อนุปรมโวหารวเสน, เหตุกิจฺจํ ปน อนุปรตํ อนุปจฺฉินฺนํ อตฺถีติ ลทฺธิยํ ิตตฺตา โจเทตพฺโพว. อวิจฺเฉทวเสน ปวตฺตมานฺหิ ผลสฺส ปพนฺธโวหารํ ปรวาที โวหารโต อตฺถีติ อิจฺฉติ, เหตุ ปนสฺส กมฺมํ ปรมตฺถโต จ กมฺมูปจยวาทิภาวโต ปตฺติอปฺปตฺติสภาวตาทโย วิย จิตฺตวิปฺปยุตฺโต กมฺมูปจโย นาม เอโก สงฺขารธมฺโม อวิปนฺโน, โสปิ ตสฺเสว เววจนนฺติ ปรวาที. ยํ สนฺธายาห –

‘‘นปฺปจยนฺติ กมฺมานิ, อปิ กปฺปสหสฺสโต;

ปตฺวา ปจฺจยสามคฺคึ, กาเล ปจฺจนฺติ ปาณิน’’นฺติ.

ยฺจ สนฺธาย ปรโต ปริโภคมยปุฺกถาย ‘‘ปริโภคมยํ ปน จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา ปฏิชานาตี’’ติ วกฺขติ.

เอกจฺจํอตฺถีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สติปฏฺานกถาวณฺณนา

๓๐๑. ปรมตฺถสติปฏฺานตฺตาติ เอเตน โลกุตฺตราย เอว สมฺมาสติยา ตตฺถาปิ มคฺคภูตาย นิปฺปริยาเยน สติปฏฺานภาโว นิยฺยานิกตฺตา อิตราย ปริยาเยนาติ ทสฺเสติ. มคฺคผลสมฺมาสติยา ธมฺมานุสฺสติภาวปริยาโย อตฺถีติ ‘‘โลกิยโลกุตฺตรสติปฏฺานสมุทายภูตสฺสา’’ติ วุตฺตํ. สติสมุทายภูตสฺส น สติโคจรภูตสฺสาติ อธิปฺปาโย. สติโคจรสฺส หิ สติปฏฺานตํ โจเทตุํ ปาฬิยํ ‘‘จกฺขายตนํ สติปฏฺาน’’นฺติ อารทฺธํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สพฺพธมฺมานํ ปเภทปุจฺฉาวเสน วุตฺต’’นฺติ. สุตฺตสาธนายํ ปน ปมํ โลกิยสติปฏฺานวเสน, ทุติยํ มิสฺสกวเสน, ตติยํ โลกุตฺตรวเสน ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

สติปฏฺานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. เหวตฺถิกถาวณฺณนา

๓๐๔. เหวตฺถิกถายํ ‘‘สพฺโพ ธมฺโม สกภาเวน อตฺถิ ปรภาเวน นตฺถี’’ติ ปวตฺโต ปรวาทีวาโท ยถา วิภชฺช ปฏิปุจฺฉา วา น พฺยากาตพฺโพ, เอวํ เอกํสโต น พฺยากาตพฺโพ วิเสสาภาวโต, เกวลํ ปนียปกฺเข ติฏฺตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อวตฺตพฺพุตฺตเรนา’’ติ. ยถา หิ สพฺเพ วาทา สปฺปฏิวาทาวาติ ปฏิฺา ภูตกถนตฺตา อวตฺตพฺพุตฺตรา อุเปกฺขิตพฺพา, เอวมยมฺปีติ เวทิตพฺพํ. เตนาห ‘‘อุเปกฺขิตพฺเพนา’’ติ. อถ วา อวตฺตพฺพํ อุตฺตรํ อวตฺตพฺพุตฺตรํ. ยถา อนิจฺจวาทินํ ปติ อนิจฺโจ สทฺโท ปจฺจยาธีนวุตฺติโตติ, อุตฺตรํ น วตฺตพฺพํ สิทฺธสาธนภาวโต, เอวํ อิธาปิ ทฏฺพฺพํ. สิทฺธสาธนฺหิ ทฑฺฒสฺส ฑหนสทิสตฺตา นิรตฺถกเมว สิยา, อฏฺกถายํ ปน ยสฺมา ปรวาทินา เยน สภาเวน โย ธมฺโม อตฺถิ, เตเนว สภาเวน โส วินา กาลเภทาทิปรามสเนน นตฺถีติ ปติฏฺาปียติ, ตสฺมา ‘‘อโยนิโส ปติฏฺาปิตตฺตา’’ติ วุตฺตํ.

เอตฺถ จ ‘‘เหวตฺถิ, เหวํ นตฺถี’’ติ ปฏิชานนฺเตน ปรวาทินา ยถา สปรภาเวหิ รูปาทีนํ อตฺถิตา ปฏิฺาตา, เอวํ กาลเทสาทิเภเทหิปิ สา ปฏิฺาตา เอว. เตเนวาห ‘‘อตีตํ อนาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน, อนาคตปจฺจุปฺปนฺนานิ วา อตีตาทิวเสน นตฺถี’’ติ. เอวํ สติ นิคณฺาเจลกวาโท ปริทีปิโต สิยา. เต หิ ‘‘สิยา อตฺถิ, สิยา นตฺถิ, สิยา อตฺถิ จ นตฺถิ จา’’ติอาทินา สพฺพปทตฺเถสุ ปตฺตภาเค ปฏิชานนฺติ. ตตฺถ ยทิ วตฺถุโน สภาเวเนว, เทสกาลสนฺตานวเสน วา นตฺถิตา อธิปฺเปตา, ตํ สิทฺธสาธนํ สกวาทิโนปิ อิจฺฉิตตฺตา. ยสฺส หิ ธมฺมสฺส โย สภาโว, น โส ตโต อฺถา อุปลพฺภติ. ยทิ อุปลพฺเภยฺย, อฺโ เอว โส สิยา. น เจตฺถ สามฺลกฺขณํ นิทสฺเสตพฺพํ สลกฺขณสฺส อธิปฺเปตตฺตา ตสฺส นตฺถิภาวสฺส อภาวโต. ยถา จ ปรภาเวน นตฺถิตาย น วิวาโท, เอวํ เทสกาลนฺตเรสุปิ อิตฺตรกาลตฺตา สงฺขารานํ. น หิ สงฺขารา เทสนฺตรํ, กาลนฺตรํ วา สงฺกมนฺติ ขณิกภาวโต. เอเตเนว ปริยายนฺตเรน นตฺถิตาปิ ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา. ยถา จ อตฺถิตา, นตฺถิตา วินา กาลเภเทน เอกสฺมึ ธมฺเม ปติฏฺํ น ลภนฺติ อฺมฺวิรุทฺธตฺตา, เอวํ สพฺพทาปิ นิจฺจตฺตา.

ยํ ปน เต วทนฺติ ‘‘ยถา สุวณฺณํ กฏกาทิรูเปน ิตํ รุจกาทิภาวํ อาปชฺชตีติ นิจฺจานิจฺจํ. ตฺหิ สุวณฺณภาวาวิชหนโต นิจฺจํ กฏกาทิภาวหานิโต อนิจฺจํ, เอวํ สพฺพธมฺมา’’ติ. เต อิทํ วตฺตพฺพา ‘‘กึ กฏกภาโว กฏกสฺส, อุทาหุ สุวณฺณสฺสา’’ติ. ยทิ กฏกสฺส, สุวณฺณนิรเปกฺโข สิยา ตทฺภาโว วิย. อถ สุวณฺณสฺส, นิจฺจกาลํ ตตฺถ อุปลพฺเภยฺย สุวณฺณภาโว วิย. น จ สกฺกา อุภินฺนํ เอกภาโวติ วตฺตุํ กฏกวินาเสปิ สุวณฺณาวินาสโต. อถ มตํ, สุวณฺณกฏกาทีนํ ปริยายีปริยายภาวโต นายํ โทโสติ. ยถา หิ กฏกปริยายนิโรเธน รุจกปริยายุปฺปาเทปิ ปริยายี ตเถว ติฏฺติ, เอวํ มนุสฺสปริยายนิโรเธ เทวปริยายุปฺปาเทปิ ปริยายี ชีวทฺรพฺยํ ติฏฺตีติ นิจฺจานิจฺจํ, ตถา สพฺพทฺรพฺยานีติ. ตยิทํ อมฺพํ ปุฏฺสฺส ลพุชพฺยากรณํ. ยํ สฺเวว นิจฺโจ อนิจฺโจติ วา วทนฺโต อฺตฺถ นิจฺจตํ อฺตฺถ อนิจฺจตํ ปฏิชานาติ, อถ ปริยายปริยายีนํ อนฺตา อิจฺฉิตา, เอวํ สติ ปริยาโยปิ นิจฺโจ สิยา ปริยายิโน อนฺตฺตา ปริยายสรูปํ วิย, ปริยายี วา อนิจฺโจ ปริยายโต อนฺตฺตา ปริยายสรูปํ วิยาติ. อถ เนสํ อฺา อนฺตา, เอวฺจ สติ วุตฺตโทสทฺวยานติวตฺติ. อปิจ โกยํ ปริยาโย นาม, ยทิ สณฺานํ, สุวณฺโณ ตาว โหตุ, กถํ ชีวทฺรพฺเย อรูปิภาวโต. ยทิ ตสฺสปิ สณฺานวนฺตํ อิจฺฉิตํ, ตถา สติสฺส เอกสฺมิมฺปิ สตฺตสนฺตาเน พหุตา อาปชฺชติ สรูปตา จ สณฺานวนฺเตสุปิ ปีฬกาทีสุ ตถาทสฺสนโต. อถ ปวตฺติวิเสโส, เอวมฺปิ พหุตา ขณิกตา จ อาปชฺชติ, ตสฺมา ปริยายสรูปเมว ตาว ปติฏฺเปตพฺพํ.

ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สุวณฺณํ กฏกาทิรูเปน ิต’’นฺติ, ตตฺถ สมฺปตฺติโยคโต วิฺายมาเนสุ วิสิฏฺเสุ รูปคนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ กึ เอกํ, อุทาหุ เตสํ สมุทาโย, ตพฺพินิมุตฺตํ วา ธมฺมนฺตรํ สุวณฺณนฺติ? ตตฺถ น ตาว รูปาทีสุ เอเกกํ สุวณฺณํ เตน สุวณฺณกิจฺจาสิทฺธิโต, นาปิ ตพฺพินิมุตฺตํ ธมฺมนฺตรํ ตาทิสสฺส อภาวโต. อถ สมุทาโย, ตํ ปน ปฺตฺติมตฺตนฺติ น ตสฺส นิจฺจตา, นาปิ อนิจฺจตา สมฺภวติ. ยถา จ สุวณฺณสฺส, เอวํ กฏกสฺสปิ ปฺตฺติมตฺตตฺตาติ. ตยิทํ นิทสฺสนํ ปรวาทิโน ชีวทฺรพฺยสฺสปิ ปฺตฺติมตฺตํ ตสฺเสว สาเธตีติ กุโต ตสฺส นิจฺจานิจฺจตาติ อลมติปฺปปฺเจน.

เหวตฺถิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ทุติยวคฺโค

๑. ปรูปหารวณฺณนา

๓๐๗. วิกฺขมฺภิตราคาว อวิกฺขมฺภิตราคานํ อธิมานิกตาย อสมฺภวโตติ ยาว อธิมานิกํ, ตาว สมฺปชานา นิทฺทํ โอกฺกมนฺตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อธิมานิกาน’’นฺติ อิทํ ภูตปุพฺพคติยา วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อธิมานิกปุพฺพา อธิปฺเปตา สิยุ’’นฺติ.

๓๐๘. ยํ วิมติคาหการณํ วุจฺจมานํ, ตํ ‘‘หนฺท หี’’ติ ปรํ โชเตตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘การณตฺเถติ ยุตฺต’’นฺติ. วิมติคาหสฺส ปน นิจฺฉิตตํ ‘‘หนฺท หี’’ติ ปรํ โชเตตีติ วุตฺตํ ‘‘วจสายตฺเถ’’ติ.

ปรูปหารวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. วจีเภทกถาวณฺณนา

๓๒๖. โสติ ปมมคฺคฏฺโ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘วิรชํ วีตมลํ ธมฺมจกฺขุํ อุทปาทิ ‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’’นฺติ สุตฺตสฺส อตฺถํ อฺถา คเหตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนานิสฺสนฺเทน มคฺคกฺขเณปิ ทุกฺขนฺติ วิปสฺสนา อุปฏฺาติ, ตสฺมา ‘‘โส ทุกฺขมิจฺเจว วาจํ ภาสตี’’ติ วทนฺติ.

๓๒๘. อิจฺฉิเตติ ปรวาทินา สมฺปฏิจฺฉิเต. อาโรปิเตติ ยุตฺตินิทฺธารเณน ตสฺมึ อตฺเถ ปติฏฺาปิเต ยุชฺชติ, วจีสมุฏฺาปนกฺขณโต ปน ปจฺฉา ตํ สทฺทํ สุณาตีติ อิจฺฉิเต น ยุชฺชติ โสตวิฺาณสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยสฺมา ปน อตฺตนา นิจฺฉาริตํ สทฺทํ อตฺตนาปิ สุณาติ, ตสฺมา โสตวิฺาณํ ‘‘เยน ตํ สทฺทํ สุณาตี’’ติ อฏฺกถายํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๓๓๒. โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณติ ปมชฺฌานิกสฺส ปมมคฺคสฺส ขเณ. อภิภูสุตฺตาหรเณ อธิปฺปาโย วตฺตพฺโพติ เอเตน ตทาหรณสฺส อสมฺพนฺธตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา อสาธก’’นฺติ.

วจีเภทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา

๓๓๕. เอวนฺติ ‘‘เอกจิตฺตํ ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ วุตฺตากาเรน. อฺตฺถาติ อรูปภวโต อฺสฺมึ. เอเตนาติ ‘‘เอกเมว จิตฺตํ อารุปฺเป ติฏฺติ , ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ เอวํวาทินา ทุติยาปิ อฑฺฒกถา ปสฺสิตพฺพา ปมกถาย จิรกาลาวฏฺานวจนสฺส อฺทตฺถุ ภาววิภาวนโตติ อธิปฺปาโย. ปุริมายาติ ‘‘ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ ปฺหโต ปุริมาย. ตตฺถ หิ ‘‘วสฺสสตํ ติฏฺตี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ อนุฺา กตา, ปจฺฉิมายํ ปน ‘‘มนุสฺสานํ เอกํ จิตฺตํ ยาวตายุกํ ติฏฺตี’’ติ ‘‘น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ ปฏิกฺเขโป กโต. อวิโรโธ วิภาเวตพฺโพ, ยโต ตตฺเถว อนุฺา กตา, น ปจฺฉาติ อธิปฺปาโย . วสฺสสตาทีติ จ อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ ‘‘ทฺเว วสฺสสตานี’’ติ เอวมาทิเยว สงฺคหิตํ, อถ โข ‘‘เอกํ จิตฺตํ ทิวสํ ติฏฺตี’’ติ เอวมาทิปีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘มุหุตฺตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ ปฺโห สกวาทินา ปุจฺฉิโต วิย วุตฺโต’’ติ อิทํ วิจาเรตพฺพํ. ‘‘มุหุตฺตํ มุหุตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ปฺโห ปรวาทิสฺส. ‘‘อุปฺปาทวยธมฺมิโน’’ติอาทิสุตฺตตฺถวเสน ปฏิฺา สกวาทิสฺสาติ หิ วุตฺตํ.

จิตฺตฏฺิติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา

๓๓๙. ‘‘ตานิ วา จตฺตาริปิ าณานิ เอโก โสตาปตฺติมคฺโคเยวาติ ปฏิชานาตี’’ติ อิมํ สนฺธายาห ‘‘อถ วา’’ติอาทิ. จตุนฺนํ าณานนฺติ ทุกฺเขาณาทีนํ จตุนฺนํ าณานํ. เอกมคฺคภาวโตติ โสตาปตฺติอาทิเอกมคฺคภาวโต. กเมน ปวตฺตมานานิปิ หิ ตานิ าณานิ ตํตํมคฺคกิจฺจสฺส สาธนโต เอโกเยว มคฺโค โหตีติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘เอกมคฺคสฺส…เป… ปฏิชานาตี’’ติ.

๓๔๔. ทสฺสเนติ มคฺคทสฺสเน.

๓๔๕. ธมฺมตฺถานํ เหตุผลภาวโต ธมฺมตฺถปฏิสมฺภิทานํ สิยา โสตาปตฺติผลเหตุตา, ตทภาวโต น อิตรปฏิสมฺภิทานนฺติ อาห ‘‘นิรุตฺติ…เป… วิจาเรตพฺพ’’นฺติ. สพฺพาสมฺปิ ปน ปฏิสมฺภิทานํ ปมผลสจฺฉิกิริยาเหตุตา วิจาเรตพฺพา มคฺคาธิคเมเนว ลทฺธพฺพตฺตา ผลานํ วิย, ตสฺมา ‘‘อฏฺหิ าเณหี’’ติ เอตฺถ นิกฺเขปกณฺเฑ อาคตนเยน ทุกฺขาทิาณานํ ปุพฺพนฺตาทิาณานฺจ วเสน ‘‘อฏฺหิ าเณหี’’ติ ยุตฺตํ วิย ทิสฺสติ.

อนุปุพฺพาภิสมยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. โวหารกถาวณฺณนา

๓๔๗. วิสยวิสยีสูติ รูปจกฺขาทิเก สนฺธายาห. เต หิ รูปกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา เอกนฺเตน โลกิยา. วิสยสฺเสวาติ สทฺทสฺเสว. โส หิ โวหริตพฺพโต โวหารกรณตาย จ ‘‘โวหาโร’’ติ ปาฬิยํ วุตฺโต. นตฺเถตฺถ การณํ วิสยีนํ วิสยสฺสปิ อาสวาทิอนารมฺมณตาภาวโต. อสิทฺธโลกุตฺตรภาวสฺส เอกนฺตสาสวตฺตา ตสฺส สทฺทายตนสฺส ยถา โลกุตฺตรตา ตว มเตนาติ อธิปฺปาโย.

ปฏิหฺเยฺยาติ อิทํ ปริกปฺปวจนํ. ปริกปฺปวจนฺจ อยาถาวนฺติ อาห ‘‘น หิ…เป… อตฺถี’’ติ. น หิ ชลํ อนลนฺติ ปริกปฺปิตํ ทหติ ปจติ วา. กึ โลกิเยน าเณน ชานิตพฺพโต โลกิโย รูปายตนาทิ วิย, อุทาหุ โลกุตฺตโร ปจฺจเวกฺขิยมานมคฺคาทิ วิยาติ เอวเมตฺถ เหตุสฺส อเนกนฺตภาโว เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘โลกิเย โลกุตฺตเร จ สมฺภวโต’’ติ.

โวหารกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. นิโรธกถาวณฺณนา

๓๕๓. เยสํ ทฺวินฺนนฺติ เยสํ ทฺวินฺนํ ทุกฺขสจฺจานํ. ทฺวีหิ นิโรเธหีติ อปฺปฏิสงฺขาปฏิสงฺขาสงฺขาเตหิ ทฺวีหิ นิโรเธหิ. ตตฺถ ทุกฺขาทีนํ ปฏิสงฺขาติ ปฏิสงฺขา, ปฺาวิเสโส. เตน วตฺตพฺโพ นิโรโธ ปฏิสงฺขานิโรโธ. โย สาสเวหิ ธมฺเมหิ วิสํโยโคติ วุจฺจติ, โย ปจฺจยเวกลฺเลน ธมฺมานํ อุปฺปาทสฺส อจฺจนฺตวิพนฺธภูโต นิโรโธ, โส ปฏิสงฺขาย นวตฺตพฺพโต อปฺปฏิสงฺขานิโรโธ นามาติ ปรวาทิโน ลทฺธิ. ปฏิสงฺขาย วินา นิรุทฺธาติ ปจฺจยเวกลฺเลน อนุปฺปตฺตึ สนฺธาย วุตฺตํ. เตนาห ‘‘น อุปฺปชฺชิตฺวา ภงฺคา’’ติ. อนุปฺปาโทปิ หิ นิโรโธติ วุจฺจติ ยโต ‘‘อิมสฺสุปฺปาทา อิทํ อุปฺปชฺชตี’’ติ ลกฺขณุทฺเทสสฺส ปฏิโลเม ‘‘อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ ทสฺสิโต. เตนาติ ปฏิสงฺขาย นิโรธสฺส ขณิกนิโรธสฺส จ อิธ นาธิปฺเปตตฺตา.

นิโรธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ตติยวคฺโค

๑. พลกถาวณฺณนา

๓๕๔. นิทฺเทสโตติ ‘‘อฏฺานเมตํ อนวกาโส’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺปฺปการโต. โส ปน ยสฺมา วิตฺถาโร โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘วิตฺถารโต’’ติ. สพฺพํ กิเลสาวรณาทึ, ตเมว ปจฺเจกํ ปวตฺติอาการเภทโต สพฺพาการํ. ‘‘สพฺพ’’นฺติ หิ อิทํ สรูปโต คหณํ, ‘‘สพฺพาการโต’’ติ ปวตฺติอาการเภทโต. ภควา หิ ธมฺเม ชานนฺโต เตสํ อาการเภเท อนวเสเสตฺวาว ชานาติ. ยถาห ‘‘สพฺเพ ธมฺมา สพฺพาการโต พุทฺธสฺส ภควโต าณมุเข อาปาถํ อาคจฺฉนฺตี’’ติ (มหานิ. ๑๕๖; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕). อุทฺเทสโตติ เอกเทสโต. เอกเทโส จ วิตฺถาโร น โหตีติ อาห ‘‘สงฺเขปโต’’ติ. ยถา ชานนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุทฺเทสมตฺเตนปีติ ทิฏฺิคตยถาภูตาณาทิปฺปเภทานํ อาสยาทีนํ อุทฺเทสมตฺเตนปิ. เตนาห ‘‘อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวชานนมตฺตํ สนฺธายา’’ติ. เถเรนาติ อนุรุทฺธตฺเถเรน. เอวเมวาติ อุทฺเทสโต านาทิมตฺตชานนากาเรเนว. สฺวายมตฺโถ สกวาทินาปิ อิจฺฉิโตเยวาติ อาห ‘‘กถมยํ โจเทตพฺโพ สิยา’’ติ.

๓๕๖. เสเสสูติ อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณโต เสเสสุ. ปฏิกฺเขโปติ อสาธารณตาปฏิกฺเขโป. นนุ จ เสสานํ อสาธารณตาปิ อตฺถีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘านา…เป… อธิปฺปาโย’’ติ.

พลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อริยนฺติกถาวณฺณนา

๓๕๗. สงฺขาเรสนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺสาติ ทิฏฺิยา ปริกปฺปิเตน สตฺเตน สุฺเ สงฺขาเร สนฺธาย ‘‘สุฺตฺจ มนสิ กโรตี’’ติ ปุจฺฉาย ‘‘อามนฺตา’’ติ ปฏิชานนฺตสฺส. ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานํ กถํ อาปชฺชติ านาานภูเต สงฺขาเร วุตฺตนเยน สุฺตํ มนสิ กโรนฺตสฺสาติ อธิปฺปาโย. ยถาวุตฺตนเยนาติ ‘‘ทิฏฺิยา ปริกปฺปิเตน สตฺเตน สุฺา ปฺจกฺขนฺธา’’ติ ปกาเรน นเยน. อถ วา ยถาวุตฺตนเยนาติ ‘‘านาานมนสิกาโร สงฺขารารมฺมโณ, สุฺตามนสิกาโร นิพฺพานารมฺมโณ’’ติ เอวํ วุตฺตนเยน. ‘‘สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺสา’’ติ วุตฺตตฺตา ‘‘ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานํ กถํ อาปชฺชตี’’ติ อาห. สตฺตสุฺตาย สุฺตฺเตปิ สงฺขารานํ อฺโว านาานมนสิกาโร, อฺโ สุฺตามนสิกาโรติ ยุชฺชเตว ทฺวินฺนํ ผสฺสานํ สโมธานาปตฺติโจทนา, สงฺขาเร สนฺธาย ปฏิชานนฺตสฺส ปน กถํ อริยภาวสิทฺธิ านาานาณาทีนนฺติ วิจาเรตพฺพํ. กึ วา เอตาย ยุตฺติจินฺตาย. อุมฺมตฺตกปจฺฉิสทิโส หิ ปรวาทิวาโท. อฺเสุปิ าเนสุ อีทิเสสุ เอเสว นโย. อาโรเปตฺวาติ อิตฺถิปุริสาทิอาการํ, สตฺตาการเมว วา อสนฺตํ รูปาทิอุปาทาเน อาโรเปตฺวา. อภูตาโรปนฺเหตฺถ ปณิทหนนฺติ อธิปฺเปตํ. เตนาห ‘‘ปริกปฺปนวเสนา’’ติ. โสติ ยถาวุตฺโต ปณิธิ. เอกสฺมิมฺปิ ขนฺเธ.

อริยนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา

๓๖๖. มคฺคกฺขเณ จิตฺตํ เอกเทเสน วิมุตฺตํ เอกเทเสน อวิมุตฺตนฺติ อยํ ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมาน’’นฺติ ลทฺธิยา โทโส. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘เอกเทสํ วิมุตฺตํ, เอกเทสํ อวิมุตฺต’’นฺติ. อฏฺกถายฺจ ‘‘ตฺหิ ตทา สมุจฺเฉทวิมุตฺติยา วิมุตฺเตกเทเสน วิมุจฺจมานนฺติสฺส ลทฺธี’’ติ ทสฺสิโตวายมตฺโถ. วิปฺปกตนิทฺเทเสติ วิมุจฺจนกิริยาย อปริโยสิตตานิทฺเทเส. ยํ สนฺธายาห ‘‘วิมุตฺตํ วิมุจฺจมานนฺติ วิปฺปกตภาเวน วุตฺตตฺตา’’ติ. เตนาติ ปรวาทินา. วิมุจฺจ…เป… วุตฺตํ วิมุจฺจมานสฺส วิมุตฺตภาวาภาวโต, วิมุตฺตเภเทน ปน ตถา วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สติ จ โทเส วิปฺปกตนิทฺเทเสติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เอกเทโส วิเสสนํ โหติ นิปฺปเทสวิมุตฺติยา อวิจฺฉินฺนโต. ผลจิตฺเตนาติ ปมผลจิตฺเตน อุปฺปนฺเนน.

วิมุจฺจมานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อฏฺมกกถาวณฺณนา

๓๖๘. ปหีนานาม ภเวยฺยุํ, น ปหิยฺยมานาติ อธิปฺปาโย.

อฏฺมกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๓๗๑. โลกุตฺตรานํเยว สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยภาโว, น โลกิยานนฺติ ปรวาทิโน อธิปฺปายวเสนาห ‘‘อปฺปฏิลทฺธินฺทฺริยตฺตา’’ติอาทิ. ตตฺถ นิยฺยานิกานิ ภาเวนฺโตติ ยถา นิยฺยานิกา โหนฺติ, เอวํ อุปฺปาเทนฺโต พฺรูเหนฺโต วา. อินฺทฺริยภาวํ ปน ปตฺเตสุ เตสุ ปุน ภาวนากิจฺจํ นตฺถีติ ตสฺส อธิปฺปาโยติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น ปน อินฺทฺริยานิ ภาเวนฺโต’’ติ.

อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา

๓๗๓. วิสิโนติ วิเสเสน พนฺธติ วิสยีนํ อตฺตปฏิพนฺธํ กโรตีติ วิสโย, อารมฺมณํ , อนุภวติ เอเตนาติ อานุภาโว, สามตฺถิยํ, พลนฺติ อตฺโถ, โคจรกรณํ โคจโร, วิสเย อานุภาวโคจรา วิสย…เป… จราติ. เตหิ ยถา วิสิฏฺํ วิเสสํ โหติ, ตถา ปจฺจยภูเตน ฌานธมฺเมน อาหิตพลํ กตพลาธานํ. วิสยคฺคหณฺเจตฺถ อานุภาวโคจรกรณานํ ปวตฺติฏฺานทสฺสนํ ยตฺถสฺส เตหิ อุปตฺถทฺธตฺตา พลาธานํ ปากฏํ โหติ. เตนาห ‘‘ยาทิเส วิสเย’’ติอาทิ. พลาธานฺจ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมโต มหคฺคตธมฺมวิเสสโต อุปฺปนฺเนหิ ปณีเตหิ จิตฺตชรูเปหิ วิเสสาปตฺติ. ยํ นิสฺสาย ปราวุตฺตีติ เอเก วทนฺติ. ปุริมํ มํสจกฺขุมตฺตเมวาติ ยถาวุตฺตพลาธานโต ปุริมํ มํสจกฺขุมตฺตเมว. วทนฺโต สงฺคหกาโร. วิสยคฺคหณํ ปาฬิยํ กตํ. น วิสยวิเสสทสฺสนตฺถนฺติ น วิสยสฺส วิเสสทสฺสนตฺถํ. ยโต อุภินฺนมฺปิ รูปายตนเมว วิสโยติ วิสยสฺส สทิสตํ อวิเสสํ อาห, สทิสสฺส วา วิเสสํ ทีเปตีติ โยชนา.

ธมฺมุปตฺถทฺธ…เป… อธิปฺปาโย, อฺถา ลทฺธิเยว น สิยาติ ภาโว. มคฺโคติ อุปาโย, การณนฺติ อตฺโถ. ปกติจกฺขุมโต เอว หิ ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปชฺชติ. กสฺมา? กสิณาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺพจกฺขุาณสฺส อุปฺปาทนํ, โส จ กสิณมณฺฑเล อุคฺคหนิมิตฺเตน วินา นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘มํสจกฺขุปจฺจยตาทสฺสนตฺถเมว วุตฺต’’นฺติ. เตนาติ ‘‘มคฺโค’’ติ วจเนน. รูปาวจรชฺฌานปจฺจเยนาติ รูปาวจรชฺฌาเนน ปจฺจยภูเตน อุปฺปนฺนานิ รูปาวจรชฺฌานจิตฺตสมุฏฺิตานิ. ฌานกมฺมสมุฏฺิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ตสฺส เหสา ลทฺธิ.

๓๗๔. เยน ทิพฺพจกฺขุโน ปฺาจกฺขุภาวสฺส อิจฺฉเนน ปฏิชานเนน. ตีณิ จกฺขูนิ มํสทิพฺพปฺาจกฺขูนิ จกฺขุนฺตรภาวํ วทโต ภเวยฺยุํ, ตสฺมา ตํ น อิจฺฉตีติ อตฺโถ.

ทิพฺพจกฺขุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา

๓๗๗. ทิพฺพจกฺขุปาทกตฺตา ‘‘ยถากมฺมูปคตาณสฺส อุปนิสฺสเย ทิพฺพจกฺขุมฺหี’’ติ วุตฺตํ, น ยถากมฺมูปคตชานนกิจฺจเก ทิพฺพจกฺขุมฺหิ ตสฺส ตํกิจฺจกตาภาวโต. ยโต ยํ อนฺํ, ตมฺปิ ตโต อนฺเมวาติ อาห ‘‘อิมินา…เป… ภวิตพฺพ’’นฺติ. ตตฺถ อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรตีติ ทิพฺพจกฺขุาณสฺส ปกฺขิกตฺตา ยถากมฺมูปคตาณสฺส ตโต อตฺถนฺตรภาวํ นิวาเรติ. ตสฺส หิ ตํ ปริภณฺฑาณํ. ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตาณโต อตฺถนฺตรภาวํ น นิวาเรติ อตปฺปกฺขิกตฺตาติ อธิปฺปาโย. ทิพฺพจกฺขุสฺส ยถากมฺมูปคตาณกิจฺจตา ปรวาทินา อิจฺฉิตา, น ยถากมฺมูปคตาณสฺส ทิพฺพจกฺขุกิจฺจตาติ ตมตฺถํ ‘‘ยถากมฺมูปคตาณเมว ทิพฺพจกฺขุ’’นฺติ เอตฺถ โยเชตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘เอว-สทฺโท จา’’ติอาทิมาห.

ยถากมฺมูปคตาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สํวรกถาวณฺณนา

๓๗๙. อาฏานาฏิยสุตฺเต ‘‘สนฺติ, ภิกฺขเว, ยกฺขา เยภุยฺเยน ปาณาติปาตา อปฺปฏิวิรตา’’ติ (ที. นิ. ๓.๒๗๖, ๒๘๖) อาคตตฺตา จาตุมหาราชิกานํ สํวราสํวรสพฺภาโว อวิวาทสิทฺโธ. ยตฺถ ปน วิวาโท, ตเมว ทสฺเสนฺเตน ตาวตึสาทโย คหิตาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘จาตุมหาราชิกาน’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ สตีติ ยทิ ตาวตึเสสุ สํวราสํวโร นตฺถิ, เอวํ สนฺเต. สุราปานนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘สุยฺยตี’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. กถํ สุยฺยตีติ? วุตฺตฺเหตํ กุมฺภชาตเก

‘‘ยํ เว ปิวิตฺวา ปุพฺพเทวา ปมตฺตา,

ติทิวา จุตา สสฺสติยา สมายา;

ตํ ตาทิสํ มชฺชมิมํ นิรตฺถํ,

ชานํ มหาราช กถํ ปิเวยฺยา’’ติ. (ชา. ๑.๑๖.๕๘);

ตตฺถ ปุพฺพเทวา นาม อสุรา. เต หิ ตาวตึสานํ อุปฺปตฺติโต ปุพฺพเทวาติ ปฺายึสุ. ปมตฺตาติ สุราปาเนน ปมาทํ อาปนฺนา. ติทิวาติ มนุสฺสจาตุมหาราชิกโลเก อุปาทาย ตติยโลกภูตา เทวฏฺานา, นามเมว วา เอตํ ตสฺส เทวฏฺานสฺส. สสฺสติยาติ เกวลํ ทีฆายุกตํ สนฺธาย วทติ. สมายา สห อตฺตโน อสุรมายาย, อสุรมนฺเตหิ สทฺธึ จุตาติ อตฺโถ. อฏฺกถายฺจ วุตฺตํ ‘‘อาคนฺตุกเทวปุตฺตา อาคตาติ เนวาสิกา คนฺธปานํ สชฺชยึสุ. สกฺโก สกปริสาย สฺมทาสี’’ติ. เตนาห ‘‘เตสํ สุราปานํ อสํวโร น โหตีติ วตฺตพฺพํ โหตี’’ติ. เอตฺถ จ ตาวตึสานํ ปาตุภาวโต ปฏฺาย สุราปานมฺปิ ตตฺถ นาโหสิ, ปเคว ปาณาติปาตาทโยติ วิรมิตพฺพาภาวโต เอว ตาวตึสโต ปฏฺาย อุปริ เทวโลเกสุ สมาทานสมฺปตฺตวิรติวเสน ปุเรตพฺพา สํวรา น สนฺติ, โลกุตฺตรา ปน สนฺติเยว. ตถา เตหิ ปหาตพฺพา อสํวรา. น หิ อปฺปหีนานุสยานํ มคฺควชฺฌา กิเลสา น สนฺตีติ.

สํวรกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติยวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. จตุตฺถวคฺโค

๑. คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา

๓๘๗. คิหิฉนฺทราคสมฺปยุตฺตตายาติ คิหิภาเว กามโภคิภาเว ฉนฺทราคสหิตตาย.

คิหิสฺส อรหาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๓. ปตฺตินฺติ อธิคโม. อธิคโม นาม สมนฺนาคโม โหตีติ ปาฬิยํ จตูหิ ผสฺสาทีหิ สมนฺนาคโม โจทิโตติ ทฏฺพฺพํ.

สมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๓๙๗. สพฺพํโยเชตพฺพนฺติ เอตฺถ ยทิ เต อรหา จตูหิ ขนฺเธหิ วิย ฉหิ อุเปกฺขาหิ สมนฺนาคโต, เอวํ สนฺเต ฉ อุเปกฺขา ปจฺเจกํ ผสฺสาทิสหิตาติ ‘‘ฉหิ ผสฺสาทีหิ สมนฺนาคโต’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ.

อุเปกฺขาสมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา

๓๙๘. ปตฺติธมฺมวเสนาติ ‘‘ปตฺติธมฺโม นามา’’ติอาทินา วุตฺตสฺส จิตฺตวิปฺปยุตฺตสฺส สงฺขารสฺส วเสน. ‘‘โพธิยา พุทฺโธ’’ติ ปุจฺฉา. ‘‘โพธิยา นิรุทฺธาย วิคตาย ปฏิปฺปสฺสทฺธาย อพุทฺโธ โหตี’’ติ อนุโยโค. เอวมฺตฺถาปิ ปุจฺฉานุโยคา เวทิตพฺพา.

โพธิยาพุทฺโธติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ลกฺขณกถาวณฺณนา

๔๐๒. ตสฺมาติ ยสฺมา อโพธิสตฺตสฺสปิ จกฺกวตฺติโน ลกฺขเณหิ สมนฺนาคโม โพธิสตฺตสฺสปิ จริมภวโต อฺตฺถ อสมนฺนาคโม โหติ, ตสฺมา ลกฺขณสมนฺนาคโต โพธิสตฺโตวาติ อิมสฺสตฺถสฺส อสาธกํ. เตนาห ‘‘อาภตมฺปิ อนาภตสทิสเมวา’’ติ.

ลกฺขณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา

๔๐๓. ปารมีปูรณนฺติ อิทํ โพธิจริยาย อุปลกฺขณํ, น ปารมีนํ ปุณฺณภาวทสฺสนํ. เตน เตสํ อารมฺภสมาทานาทีนมฺปิ สงฺคโห กโตติ ทฏฺพฺพํ. มหาภินีหารโต ปฏฺาย หิ มหาสตฺตา นิยตาติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘เอวํ สพฺพงฺคสมฺปนฺนา, โพธิยา นิยตา นรา’’ติ, ‘‘ธุวํ พุทฺโธ ภวิสฺสตี’’ติ จ, น นิยามสฺส นาม กสฺสจิ ธมฺมสฺส อุปฺปนฺนตฺตา พฺยากโรนฺติ, อถ โข เอกํเสนายํ ปารมิโย ปูเรตฺวา พุทฺโธ ภวิสฺสตีติ กตฺวา พฺยากโรนฺตีติ ปรวาทีปริกปฺปิตํ ธมฺมนฺตรํ ปฏิเสเธติ, น โพธิยา นิยตตฺตํ. เตนาห ‘‘เกวลฺหิ น’’นฺติอาทิ.

นิยาโมกฺกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา

๔๑๓. สติปิ เกสฺจิ สํโยชนานํ เหฏฺิมมคฺเคหิ ปหีนตฺเต ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติอาทีสุ วิย วณฺณภณนมุเขน อนวเสสตฺจ สนฺธาย สพฺพสํโยชนปฺปหานกิตฺตนํ ปริยายวจนนฺติ อาห ‘‘อิมํ ปริยายํ อคฺคเหตฺวา’’ติ. อรหตฺตมคฺเคน ปชหนโต เอวาติ คณฺหาตีติ อคฺคมคฺโค เอว สพฺพสํโยชนานิ ปชหตีติ ลทฺธึ คณฺหาตีติ วทนฺติ ปทการา. เอวํ สตีติ ยทิ อนวเสสตามตฺเตน ตถา ปฏิชานาติ.

สพฺพสํโยชนปฺปหานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺถวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจมวคฺโค

๑. วิมุตฺติกถาวณฺณนา

๔๑๘. ผลาณํ น โหติ, เสสานิ วิปสฺสนามคฺคปจฺจเวกฺขณาณานิ วิมุตฺตานีติ น วตฺตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาติ เอเตสุ จตูสุ าเณสุ. วิปสฺสนาคฺคหเณน คหิตํ มคฺคาทิกิจฺจวิทูรกิจฺจตฺตา วิปสฺสนาปริโยสานตฺตา จ.

วิมุตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อเสขาณกถาวณฺณนา

๔๒๑. อเสเข อารพฺภ ปวตฺตตฺตา อเสขาณนฺติ ปรสฺส ลทฺธิ, น อเสเข อเสขธมฺเม ปริยาปนฺนนฺติ อิมมตฺถมาห ‘‘เอเตน…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

อเสขาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. วิปรีตกถาวณฺณนา

๔๒๔. อสิเว สิวาติ โวหารํ วิย อฺาเณ…เป… วทติ.

วิปรีตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิยามกถาวณฺณนา

๔๒๘-๔๓๑. นฺติ ยํ าณํ. สจฺจานุโลมนฺติ สจฺจปฺปฏิเวธานุกูลํ. วิปรีตานุโยคโต ปภุติ คเณตฺวา ‘‘จตุตฺถ’’นฺติ อาห น อนิยตสฺส นิยามคมนายาติ อวิปรีตานุโยคโต ปภุติ คเณตฺวา, ตถา สติ ปฺจมภาวโต วิเสสภาวโต จ.

นิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา

๔๓๒-๔๓๓. สพฺพําณนฺติ อิทํ ‘‘อริยาน’’นฺติ อิมินา น วิเสสิตนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อนริยานมฺปิ หิ าณํ าณเมวา’’ติ. อถ วา ปาฬิยํ อวิเสเสน สพฺพํ าณนฺติ วุตฺตํ คเหตฺวา เอวมาห. อริยสฺส เจ าณนฺติ, โส ปน ปฏิกฺเขเปยฺยาติ อาห ‘‘อนริยสฺส เอตํ าณํ สนฺธายา’’ติ.

ปฏิสมฺภิทากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา

๔๓๖-๔๓๘. วตฺตพฺพปฏิฺาติ ผสฺสารมฺมเณ าณํ วตฺตพฺพํ เจโตปริยาณนฺติ เอวํ ปวตฺตา ปฏิฺา.

จิตฺตารมฺมณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อนาคตาณกถาวณฺณนา

๔๓๙-๔๔๐. อนนฺตรานาคเตปิจิตฺเต าณํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺถ ปน ขณปจฺจุปฺปนฺเน วิย ตาทิเสน ปริกมฺเมน กทาจิ าณํ อุปฺปชฺเชยฺย. เตนาห ‘‘อนนฺตเร เอกนฺเตเนว าณํ นตฺถี’’ติ.

อนาคตาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา

๔๔๑-๔๔๒. ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ อนิจฺจโต ทิฏฺเสู’’ติ วุตฺเต ยํ ทสฺสนภูตํ าณํ, ตมฺปิ สงฺขารสภาวตฺตา ตถาทิฏฺํ สิยาติ อตฺถโต อาปชฺชติ, เอวํภูตํ วจนํ สนฺธายาห ‘‘อตฺถโต อาปนฺนํ วจน’’นฺติ. ตํ ปน ยสฺมา ‘‘ตมฺปิ าณํ อนิจฺจโต ทิฏฺํ โหตี’’ติ ปฏิชานนวเสน ปวตฺตํ, ตสฺมา ‘‘อนุชานนวจน’’นฺติ วุตฺตํ. ภงฺคานุปสฺสนานํ ปพนฺธวเสน ปวตฺตมานานํ.

ปฏุปฺปนฺนาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ผลาณกถาวณฺณนา

๔๔๓-๔๔๔. ผลปโรปริยตฺตํ ผลสฺส อุจฺจาวจตา. พเลนาติ าณพเลน.

ผลาณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฺจมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

มหาปณฺณาสโก สมตฺโต.

๖. ฉฏฺวคฺโค

๑. นิยามกถาวณฺณนา

๔๔๕-๔๔๗. เอตสฺส อริยสฺส ปุคฺคลสฺส.

นิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา

๔๕๑. การณฏฺเน ิตตาติ การณภาเวน พฺยภิจรณาภาวมาห. โย หิ ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส ยทา การณํ โหติ, น ตสฺส ตทา อฺถาภาโว อตฺถิ, สา จ อตฺถโต การณภาโวเยวาติ ‘‘การณภาโวเยวา’’ติ อาห.

ปฏิจฺจสมุปฺปาทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา

๔๕๗-๔๕๙. สภาวธมฺมตํ ปฏิเสเธติ ตทุภยลกฺขณรหิตสฺส สภาวธมฺมสฺส อภาวา. ‘‘โวทานมฺปิ วุฏฺาน’’นฺติ วจนโต ‘‘โวทานฺจ วุฏฺานปริยาโยวา’’ติ อาห. สภาวธมฺมตฺเต สิทฺเธ สงฺขตวิทูรตาย อสงฺขตํ สิยาติ อาห ‘‘สภาวธมฺมตฺตาสาธกตฺตา’’ติ.

นิโรธสมาปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฉฏฺวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สตฺตมวคฺโค

๑. สงฺคหิตกถาวณฺณนา

๔๗๑-๔๗๒. สงฺคหิตาติ สงฺคหณาทิวเสน สทฺธึ คหิตา. เต ปน ยสฺมา เอกวิธตาทิสามฺเน พนฺธา วิย โหนฺติ, ตสฺมา อาห ‘‘สมฺพนฺธา’’ติ.

สงฺคหิตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา

๔๗๓-๔๗๔. อนุปฺปวิสิตพฺพานุปฺปวิสนภาโว เตสํ เภเท สติ ยุชฺเชยฺย, นาฺถาติ อุปมาภินฺทเนน อุปเมยฺยสฺส ภินฺนตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นานตฺตววตฺถา…เป… ทสฺเสตี’’ติ อาห.

สมฺปยุตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. เจตสิกกถาวณฺณนา

๔๗๕-๔๗๗. ผสฺสิกาทโยติ เอตฺถ อาทิ-สทฺโท ววตฺถาวาจี. เตน จิตฺตุปฺปาทเทสนายํ ทสฺสิตปฺปเภทา เวทนาทโย คยฺหนฺติ, น ตํสมุฏฺานา รูปธมฺมาติ อาห ‘‘เอกุปฺปาทตาทิวิรหิตา สหชาตตา นตฺถี’’ติ.

เจตสิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ทานกถาวณฺณนา

๔๗๙. ผลทานภาวทีปนตฺถนฺติ ผลทานสพฺภาวทีปนตฺถํ. ผลทานํ วุตฺตํ วิย โหตีติ จิตฺเตน ผลทานํ ปธานภาเว วุตฺตํ วิย โหตีติ อตฺโถ. อฺถา ทานภาโวติ น สกฺกา วตฺตุํ. ทานภาโวปิ หิ ‘‘ทานํ อนิฏฺผล’’นฺติอาทินา วุตฺโตเยวาติ. ตนฺนิวารณตฺถนฺติ ผลทานนิวารณตฺถํ. เอตนฺติ ‘‘ทานํ อนิฏฺผล’’นฺติอาทิวจนํ. เภสชฺชาทิวเสน อาพาธานิฏฺตา เทยฺยธมฺมสฺส อนิฏฺผลตาปริยาโย ทฏฺพฺโพ.

กถํ ตเถว สุตฺตํ สกวาทิปรวาทิวาเทสุ ยุชฺชตีติ โจทนาย ‘‘น ปน เอเกนตฺเถนา’’ติ วุตฺตํ วิภาเวตุํ ‘‘เทยฺยธมฺโมว ทาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นิวตฺตนปกฺเขเยว เอว-กาโร ยุตฺโต, น สาธนปกฺเข ทฺวินฺนมฺปิ ทานภาวสฺส อิจฺฉิตตฺตา. เตนาห ‘‘เจตสิโกวาติ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ, เทยฺยธมฺโมวา’’ติ จ. เตเนวาห ‘‘ทฺวินฺนฺหิ ทานานนฺติอาทิ. สงฺกรภาวโมจนตฺถนฺติ สติปิ ทานภาเว สภาวสงฺกรโมจนตฺถํ. เตนาห ‘‘เจตสิกสฺสา’’ติอาทิ.

ทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปริโภคมยปุฺกถาวณฺณนา

๔๘๕. ตสฺสา ลทฺธิยาติ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สโมธานํ โหตีติ ลทฺธิยา. เอเตสนฺติ วตฺตมานจิตฺตปริโภคมยปุฺานํ.

๔๘๖. อยํ วาโท หียติ ปริโภคสฺเสว อภาวโต. จาคเจตนาย เอว ปุฺภาโว, น จิตฺตวิปฺปยุตฺตสฺส. เอวนฺติ อิมินา ปกาเรน, อปริภุตฺเต เทยฺยธมฺเม ปุฺภาเวนาติ อตฺโถ. อปริภุตฺเต เทยฺยธมฺเม ปุฺภาวโต เอว หิ ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ อรหา หุตฺวา ปริภุฺชนฺเต ตมฺปิ ปุถุชฺชเน ทานเมวาติ นิจฺฉิตํ. ปรวาทีปฏิกฺเขปมุเขน สกวาทํ ปติฏฺาเปติ ปโม อตฺถวิกปฺโป, ทุติโย ปน อุชุกเมว สกวาทํ ปติฏฺาเปตีติ อยเมเตสํ วิเสโส.

ปริโภคมยปุฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อิโตทินฺนกถาวณฺณนา

๔๘๘-๔๙๑. เตเนวจีวราทิทาเนนาติ อนุโมทนํ วินา ทายเกน ปวตฺติตจีวราทิทาเนน. เตนาห ‘‘สยํกเตน กมฺมุนา วินาปี’’ติ. อิมินา การเณนาติ อนุโมทิตตฺตาว เตสํ ตตฺถ โภคา อุปฺปชฺชนฺตีติ เอเตน การเณน. ยทิ ยนฺติอาทิ ปรวาทิโน ลทฺธิปติฏฺาปนาการทสฺสนํ. ตตฺถ ยทิ น ยาเปยฺยุํ, กถํ อนุโมเทยฺยุํ, จิตฺตํ ปสาเทยฺยุํ, ปีตึ อุปฺปาเทยฺยุํ, โสมนสฺสํ ปฏิลเภยฺยุนฺติ เอกจฺเจ อฺเ เปเต อนุโมทนาทีนิ กตฺวา ยาเปนฺเต ทิสฺวา อนุโมทนาทีนิ กโรนฺติ, ตสฺมา เต อิโต ทินฺเนน ยาเปนฺตีติ อธิปฺปาโย.

อิโตทินฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา

๔๙๒. อตฺตวชฺเชหีติ ผสฺสวชฺเชหิ. น หิ โส เอว เตน สมฺปยุตฺโต โหติ. โสติ ผสฺสเมว ปจฺจามสติ. สาวชฺชเนติ อาวชฺชนสหิเต, อาวชฺชนํ ปุเรจาริกํ กตฺวา เอว ปวตฺตนเกติ อตฺโถ. กมฺมูปนิสฺสยภูตเมวาติ เยน กมฺมุนา ยถาวุตฺตา ผสฺสาทโย นิพฺพตฺติตา, ตสฺส กมฺมสฺส อุปนิสฺสยภูตเมว. ทุกฺขสฺสาติ อายตึ อุปฺปชฺชนกทุกฺขสฺส. ‘‘มูลตณฺหา’’ติ ทสฺเสตีติ โยชนา, ตถา ‘‘อุปนิสฺสยภูต’’นฺติ เอตฺถาปิ. กมฺมายูหนสฺส การณภูตา ปุริมสิทฺธา ตณฺหา กมฺมสฺส อุปนิสฺสโย, กตูปจิเต กมฺเม ภวาทีสุ นมนวเสน ปวตฺตา หิ วิปากสฺส อุปนิสฺสโย.

๔๙๓. โอกาสกตุปฺปนฺนํ อเขเปตฺวา ปรินิพฺพานภาโว สกสมยวเสน โจทนาย ยุชฺชมานตา.

๔๙๔. กมฺเม สตีติ อิมินา กมฺมสฺส ปถวีอาทีนํ ปจฺจยตามตฺตมาห, น ชนกตฺตํ. เตนาห ‘‘ตํสํวตฺตนิกํ นาม โหตี’’ติ.

ปถวีกมฺมวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ชรามรณํวิปาโกติกถาวณฺณนา

๔๙๕. เอการมฺมณาติ อิทํ อนารมฺมณตาสาธนวเสน สมฺปโยคลกฺขณาภาวสฺส อุทฺธฏตฺตา วุตฺตํ, น ตสฺเสว สมฺปโยคลกฺขณตฺตา.

๔๙๖. อพฺยากตานนฺติ วิปากาพฺยากตานํ. อิตรตฺถ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ.

๔๙๗. นฺติ ‘‘อปริสุทฺธวณฺณตา ชราเยวา’’ติ วจนํ.

ชรามรณํวิปาโกติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. วิปาโกวิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา

๕๐๑. วิปาโก วิปากสฺส ปจฺจโย โหนฺโต อฺมฺปจฺจโย โหตีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ยสฺส วิปากสฺส วิปาโก อฺมฺปจฺจโย โหตี’’ติ. ‘‘ตปฺปจฺจยาปิ อฺสฺส วิปากสฺส อุปฺปตฺตึ สนฺธายา’’ติอาทิวจนโต ปน ชาติชรามรณาทีนํ อุปนิสฺสยปจฺจโยติ สกฺกา วิฺาตุํ. ปุริมปฏิฺายาติ ‘‘วิปาโก วิปากธมฺมธมฺโม’’ติ ปฏิฺาย. อิมสฺส โจทนสฺสาติ ‘‘วิปาโก จ วิปากธมฺมธมฺโม จา’’ติอาทินา ปวตฺตสฺส โจทนสฺส.

วิปาโกวิปากธมฺมธมฺโมติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อฏฺมวคฺโค

๑. ฉคติกถาวณฺณนา

๕๐๓-๕๐๔. วณฺณา เอว นีลาทิวเสน นิภาตีติ วณฺณนิภา, วณฺณายตนนฺติ อตฺโถ. สณฺานํ ทีฆาทิ.

ฉคติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อนฺตราภวกถาวณฺณนา

๕๐๕. อนฺตรฏฺานานีติ อนฺตริกฏฺานานิ. นิวารกฏฺานานิ ภินฺทิตฺวา จ อากาเสน จ คมนโต. ยทิ โส ภวานํ อนฺตรา น สิยาติ โส อนฺตราภโว กามภวาทีนํ ภวานํ อนฺตเร ยทิ น ภเวยฺย. น นาม อนฺตราภโวติ ‘‘สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ นาม อนฺตราภโว’’ติ เอวํ ปวตฺตสฺส สกวาทิวจนสฺส ปฏิกฺเขเป การณํ นตฺถิ, ตสฺส ปฏิกฺเขเป การณํ หทเย เปตฺวา น ปฏิกฺขิปติ, อถ โข ตถา อนิจฺฉนฺโต เกวลํ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปตีติ อตฺโถ.

๕๐๖. ชาตีติ น อิจฺฉตีติ สมฺพนฺโธ.

๕๐๗. เอวํตํ ตตฺถ น อิจฺฉตีติ กามภวาทีสุ วิย ตํ จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรํ ตตฺถ อนฺตราภวาวตฺถาย น อิจฺฉติ. โส หิ ตสฺส ภาวิภวนิพฺพตฺตกกมฺมโต เอว ปวตฺตึ อิจฺฉติ, ตสฺมา ชาติชรามรณานิ อนิจฺจโต กุโต จุติปฏิสนฺธิปรมฺปรา. อยฺจ วาโท อนฺตราภววาทีนํ เอกจฺจานํ วุตฺโต. เย ‘‘อปฺปเกน กาเลน สตฺตาเหเนว วา ปฏิสนฺธึ ปาปุณาตี’’ติ วทนฺติ, เย ปน ‘‘ตตฺเถว จวิตฺวา อายาตีติ สตฺตสตฺตาหานี’’ติ วทนฺติ, เตหิ อนุฺาตาว จุติปฏิสนฺธิปรมฺปราติ เต อธุนาตนา ทฏฺพฺพา ปาฬิยํ ‘‘อนฺตราภเว สตฺตา ชายนฺติ ชียนฺติ มียนฺติ จวนฺติ อุปปชฺชนฺตีติ? น เหวํ วตฺตพฺเพ’’ติ อาคตตฺตา. ยถา เจตํ, เอวํ นิรยูปคาทิภาวมฺปิสฺส อธุนาตนา ปฏิชานนฺติ. ตถา หิ เต วทนฺติ ‘‘อุทฺธํปาโท ตุ นารโก’’ติอาทิ. ตตฺถ ยํ นิสฺสาย ปรวาที อนฺตราภวํ นาม ปริกปฺเปติ, ตํ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายีติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. อิมสฺส หิ ‘‘อวิหาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อายุเวมชฺฌํ อนติกฺกมิตฺวา อนฺตรา อคฺคมคฺคาธิคเมน อนวเสสกิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายติ, อนฺตราปรินิพฺพายี’’ติ สุตฺตปทสฺส อยมตฺโถ, น อนฺตราภวภูโตติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายีติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา’’ติ.

เย ปน ‘‘สมฺภเวสีติ วจนโต อตฺเถว อนฺตราภโว. โส หิ สมฺภวํ อุปปตฺตึ เอสตีติ สมฺภเวสี’’ติ วทนฺติ, เตปิ เย ภูตาว น ปุน ภวิสฺสนฺติ, เต ขีณาสวา ‘‘ภูตานํ วา สตฺตานํ ิติยา’’ติ เอตฺถ ‘‘ภูตา’’ติ วุตฺตา. ตพฺพิธุรตาย สมฺภวเมสนฺตีติ สมฺภเวสิโน, อปฺปหีนภวสํโยชนตฺตา เสกฺขา ปุถุชฺชนา. จตูสุ วา โยนีสุ อณฺฑชชลาพุชา สตฺตา ยาว อณฺฑโกสํ วตฺถิโกสฺจ น ภินฺทนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม, อณฺฑโกสโต วตฺถิโกสโต จ นิกฺขนฺตา ภูตา นาม. สํเสทชโอปปาติกา จ ปมจิตฺตกฺขเณ สมฺภเวสี นาม, ทุติยจิตฺตกฺขณโต ปฏฺาย ภูตา นาม. เยน วา อิริยาปเถน ชายนฺติ, ยาว ตโต อฺํ น ปาปุณนฺติ, ตาว สมฺภเวสี นาม, ตโต ปรํ ภูตา นามาติ เอวํ อุชุเก ปาฬิอนุคเต อตฺเถ สติ กึ อนิทฺธาริตสฺส ปตฺถิเยน อนฺตราภเวน อตฺตภาเวน ปริกปฺปิเตน ปโยชนนฺติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา.

ยํ ปเนเก ‘‘สนฺตานวเสน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเรสุ ปาตุภาโว ทิฏฺโ. ยถา ตํ วีหิอาทิอวิฺาณกสนฺตาเน, เอวํ สวิฺาณกสนฺตาเนปิ อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเร ปาตุภาเวน ภวิตพฺพํ. อยฺจ นโย สติ อนฺตราภเว ยุชฺชติ, นาฺถา’’ติ ยุตฺตึ วทนฺติ, เตหิ อิทฺธิมโต เจโตวสิปฺปตฺตสฺส จิตฺตานุคติกํ กายํ อธิฏฺหนฺตสฺส ขเณน พฺรหฺมโลกโต อิธูปสงฺกมเน อิโต วา พฺรหฺมโลกูปคมเน ยุตฺติ วตฺตพฺพา. ยทิ สพฺพตฺเถว วิจฺฉินฺนเทเส ธมฺมานํ ปวตฺติ น อิจฺฉิตา, ยทิปิ สิยา ‘‘อิทฺธิมนฺตานํ อิทฺธิวิสโย อจินฺเตยฺโย’’ติ, ตํ อิธาปิ สมานํ ‘‘กมฺมวิปาโก อจินฺเตยฺโย’’ติ วจนโต, ตสฺมา ตํ เตสํ มติมตฺตเมว. อจินฺเตยฺยสภาวา หิ สภาวธมฺมา, เต กตฺถจิ ปจฺจยวเสน วิจฺฉินฺนเทเส ปาตุภวนฺติ, กตฺถจิ อวิจฺฉินฺนเทเส จ. ตถา หิ มุขโฆสาทีหิ ปจฺจเยหิ อฺสฺมึ เทเส อาทาสปพฺพตปเทสาทิเก ปฏิพิมฺพปฏิโฆสาทิกํ นิพฺพตฺตมานํ ทิฏฺนฺติ.

เอตฺถาห – ปฏิพิมฺพํ ตาว อสิทฺธตฺตา อสทิสตฺตา จ น นิทสฺสนํ. ปฏิพิมฺพฺหิ นาม อฺเทว รูปนฺตรํ อุปฺปชฺชตีติ อสิทฺธเมตํ. สิทฺธิยมฺปิ อสทิสตฺตา น นิทสฺสนํ สิยา เอกสฺมึ าเน ทฺวินฺนํ สหานาภาวโต. ยตฺเถว หิ อาทาสรูปํ ปฏิพิมฺพรูปฺจ ทิสฺสติ, น จ เอกสฺมึ เทเส รูปทฺวยสฺส สหภาโว ยุตฺโต นิสฺสยภูตเทสโต, อสทิสฺเจตํ สนฺธานโต. น หิ มุขสฺส ปฏิพิมฺพสนฺธานภูตํ อาทาสสนฺธานสมฺพนฺธตฺตา สนฺธานํ อุทฺทิสฺส อวิจฺเฉเทน เทสนฺตเร ปาตุภาโว วุจฺจติ, น อสนฺตานนฺติ อสมานเมว ตนฺติ.

ตตฺถ ยํ วุตฺตํ ‘‘ปฏิพิมฺพํ นาม อฺเทว รูปนฺตรํ อุปฺปชฺชตีติ อสิทฺธํ เอกสฺมึ าเน ทฺวินฺนํ สหานภาวโต’’ติ, ตยิทํ อสนฺตานเมว สหานํ โจทิตํ ภินฺนนิสฺสยตฺตา. น หิ ภินฺนนิสฺสยานํ สหานํ อตฺถิ. ยถา อเนเกสํ มณิทีปาทีนํ ปภารูปํ เอกสฺมึ ปเทเส ปวตฺตมานํ อจฺฉิตมานตาย นิรนฺตรตาย จ อภินฺนฏฺานํ วิย ปฺายติ, ภินฺนนิสฺสยตฺตา ปน ภินฺนฏฺานเมว ตํ, คหณวิเสเสน ตถาอภินฺนฏฺานมตฺตํ, เอวํ อาทาสรูปปฏิพิมฺพรูเปสุปิ ทฏฺพฺพํ. ตาทิสปจฺจยสมวาเยน หิ ตตฺถ ตํ อุปฺปชฺชติ เจว วิคจฺฉติ จ, เอวฺเจตํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาวูปคมนโต. อฺถา อาโลเกน วินาปิ ปฺาเยยฺย, จกฺขุวิฺาณสฺส วา น โคจโร วิย สิยา. ตสฺส ปน สามคฺคิยา โส อานุภาโว, ยํ ตถา ทสฺสนํ โหตีติ. อจินฺเตยฺโย หิ ธมฺมานํ สามตฺถิยเภโทติ วทนฺเตนปิ อยเมวตฺโถ สาธิโต ภินฺนนิสฺสยสฺสปิ อภินฺนฏฺานสฺส วิย อุปฏฺานโต. เอเตเนว อุทกาทีสุ ปฏิพิมฺพรูปาภาวโจทนา ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา.

สิทฺเธ จ ปฏิพิมฺพรูเป ตสฺส นิทสฺสนภาโว สิทฺโธเยว โหติ เหตุผลานํ วิจฺฉินฺนเทสตาวิภาวนโต. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อสทิสตฺตา น นิทสฺสน’’นฺติ, ตทยุตฺตํ. กสฺมา? น หิ นิทสฺสนํ นาม นิทสฺสิตพฺเพน สพฺพทา สทิสเมว โหติ. จุติกฺขนฺธาธานโต วิจฺฉินฺนเทเส อุปปตฺติกฺขนฺธา ปาตุภวนฺตีติ เอตสฺส อตฺถสฺส สาธนตฺถํ มุขรูปโต วิจฺฉินฺเน าเน ตสฺส ผลภูตํ ปฏิพิมฺพรูปํ นิพฺพตฺตตีติ เอตฺถ ตสฺส นิทสฺสนตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา. เอเตน อสนฺตานโจทนา ปฏิกฺขิตฺตา เวทิตพฺพา.

ยสฺมา วา มุขปฏิพิมฺพรูปานํ เหตุผลภาโว สิทฺโธ, ตสฺมาปิ สา ปฏิกฺขิตฺตาว โหติ. เหตุผลภาวสมฺพนฺเธสุ หิ สนฺตานโวหาโร. ยถาวุตฺตทฺวีหิการเณหิ ปฏิพิมฺพํ อุปฺปชฺชติ พิมฺพโต อาทาสโต จ, น เจวํ อุปปตฺติกฺขนฺธานํ วิจฺฉินฺนเทสุปฺปตฺติ. ยถา เจตฺถ ปฏิพิมฺพรูปํ นิทสฺสิตํ, เอวํ ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทโยปิ นิทสฺสิตพฺพา. ยถา หิ ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทโย สทฺทาทิเหตุกา โหนฺติ, อฺตฺร อคนฺตฺวา โหนฺติ, เอวเมว อิทํ จิตฺตนฺติ.

อปิจายํ อนฺตราภววาที เอวํ ปุจฺฉิตพฺโพ – ยทิ ‘‘ธมฺมานํ วิจฺฉินฺนเทสุปฺปตฺติ น ยุตฺตา’’ติ อนฺตราภโว ปริกปฺปิโต, ราหุอาทีนํ สรีเร กถมเนกโยชนสหสฺสนฺตริเกสุ ปาทฏฺานหทยฏฺาเนสุ กายวิฺาณมโนวิฺาณุปฺปตฺติ วิจฺฉินฺนเทเส ยุตฺตา. ยทิ เอกสนฺตานภาวโต, อิธาปิ ตํสมานํ. น เจตฺถ อรูปธมฺมภาวโต อลํ ปริหาราย ปฺจโวกาเร รูปารูปธมฺมานํ อฺมฺํ สมฺพนฺธตฺตา. วตฺตมาเนหิ ตาว ปจฺจเยหิ วิจฺฉินฺนเทเส ผลสฺส อุปฺปตฺติ สิทฺธา, กิมงฺคํ ปน อตีเตหิ ปฺจโวการภเวหิ. ยตฺถ วิปากวิฺาณสฺส ปจฺจโย, ตตฺถสฺส นิสฺสยภูตสฺส วตฺถุสฺส สหภาวีนฺจ ขนฺธานํ สมฺภโวติ ลทฺโธกาเสน กมฺมุนา นิพฺพตฺติยมานสฺส อวเสสปจฺจยนฺตรสหิตสฺส วิปากวิฺาณสฺส อุปฺปตฺติยํ นาลํ วิจฺฉินฺนเทสตา วิพนฺธาย. ยถา จ อเนกกปฺปสหสฺสนฺตริกาปิ จุติกฺขนฺธา อุปปตฺติกฺขนฺธานํ อนนฺตรปจฺจโยติ น กาลทูรตา, เอวํ อเนกโยชนสหสฺสนฺตริกาปิ เต เตสํ อนนฺตรปจฺจโย โหนฺตีติ น เทสทูรตา. เอวํ จุติกฺขนฺธนิโรธานนฺตรํ อุปปตฺติฏฺาเน ปจฺจยนฺตรสมวาเยน ปฏิสนฺธิกฺขนฺธา ปาตุภวนฺตีติ นตฺเถว อนฺตราภโว. อสติ จ ตสฺมึ ยํ ตสฺส เกจิ ‘‘ภาวิภวนิพฺพตฺตกกมฺมุโน ตโต เอว ภาวิปุริมกาลภวากาโร สชาติสุทฺธทิพฺพจกฺขุโคจโร อหีนินฺทฺริโย เกนจิ อปฺปฏิหตคมโน คนฺธาหาโร’’ติ เอวมาทิการณาการาทึ วณฺเณนฺติ, ตํ วฺฌาตนยสฺส รสฺสทีฆสามตาทิวิวาทสทิสนฺติ เวทิตพฺพํ.

อนฺตราภวกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. กามคุณกถาวณฺณนา

๕๑๐. สพฺเพปีติ กุสลากุสลกฺขนฺธาทโยปิ. เตสมฺปิ หิ อาลมฺพนตฺถิกตาลกฺขณสฺส กตฺตุกมฺยตาฉนฺทสฺส วเสน สิยา กมนฏฺตาติ อธิปฺปาโย. ธาตุกถายํ ‘‘กามภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. กติหิ อสงฺคหิโต? น เกหิจิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา อสงฺคหิโต’’ติ อาคตตฺตา อาห ‘‘อุปาทินฺนกฺขนฺธานเมว กามภวภาโว ธาตุกถายํ ทสฺสิโต’’ติ. ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท, ตทฺคณนนิวตฺตนตฺโถติ ‘‘ปฺจ กามคุณา’’ติ วจนํ ตโต อฺเสํ ตพฺภาวํ นิวตฺเตตีติ อาห ‘‘ปฺเจว กามโกฏฺาสา กาโมติ วุตฺตา’’ติ. ตโต เอว กามธาตูติ วจนํ น อฺสฺส นามํ, เตสํเยว นามนฺติ อตฺโถ. ตยิทํ ปรวาทิโน มติมตฺตนฺติ วุตฺตํ ‘‘อิมินา อธิปฺปาเยนา’’ติ. เอวํ วจนมตฺตนฺติ เอวํ ‘‘ปฺจิเม กามคุณา’’ติ วจนมตฺตํ นิสฺสาย, น ปนตฺถสฺส อวิปรีตํ อตฺถนฺติ อตฺโถ.

กามคุณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. รูปธาตุกถาวณฺณนา

๕๑๕-๕๑๖. รูปธาตูติ วจนโตติ ‘‘กามธาตุรูปธาตุอรูปธาตู’’ติ เอตฺถ รูปธาตูติ วุตฺตตฺตา. รูปีธมฺเมเหวาติ รุปฺปนสภาเวหิเยว ธมฺเมหิ. ‘‘ตโยเม ภวา’’ติอาทินา ปริจฺฉินฺนาติ ตโยเม ภวา , ติสฺโส ธาตุโยติ จ เอวํ ปริจฺฉินฺนา. ‘‘ธาตุยา อาคตฏฺาเน ภเวน ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ, ภวสฺส อาคตฏฺาเน ธาตุยา ปริจฺฉินฺทิตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ, ตสฺมา กามรูปารูปาวจรธมฺมาว ตํตํภุมฺมภาเวน ปริจฺฉินฺนา เอวํ วุตฺตา.

รูปธาตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. อรูปธาตุกถาวณฺณนา

๕๑๗-๕๑๘. ปุริมกถายนฺติ รูปธาตุกถายํ. อวิเสเสนาติ ปวตฺติฏฺานวเสน วิเสสํ อกตฺวา.

อรูปธาตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. รูปธาตุยาอายตนกถาวณฺณนา

๕๑๙. โอกาสภาเวนาติ วตฺถุภาเวน. ตถาวิธนฺติ ฆานาทิอาการํ.

รูปธาตุยาอายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อรูเปรูปกถาวณฺณนา

๕๒๔-๕๒๖. นิสฺสรณํ นาม นิสฺสริตพฺเพ สติ โหติ, น อสติ, ตสฺมา ‘‘อรูปภเว สุขุมรูปํ อตฺถิ, ยโต นิสฺสรณํ ตํ อารุปฺป’’นฺติ อาห.

อรูเปรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. รูปํกมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๕๒๗-๕๓๗. ปกปฺปยมานาติ ปกาเรหิ กปฺปยมานา อตฺตโน สมฺปยุตฺตานฺจ กิจฺจํ สมตฺถยมานา. เตนาห ‘‘สมฺปยุตฺเตสุ อธิกํ พฺยาปารํ กุรุมานา’’ติ.

รูปํกมฺมนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๕๔๐. อนฺตํคเหตฺวา วทตีติ ‘‘อตฺถิ อรูปธมฺมานํ อายุ ิติ ยปนา ยาปนา อิริยนา วตฺตนา ปาลนา, อตฺถิ อรูปชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ ตสฺมึ ปฺเห ‘‘อตฺถิ อรูปชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ อิมํ อนฺตํ ปริโยสานํ คเหตฺวา วทติ. วตฺตุํ ยุตฺโต สมุทายสฺส อิจฺฉนฺโต ตทวยวสฺส อิจฺฉตีติ. น หิ อวยเวหิ วินา สมุทาโย นาม อตฺถิ.

๕๔๑. ตเมวาติ อรูปํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตเมว.

๕๔๒. ตทาปีติ สมาปชฺชนวุฏฺานกาเลปิ.

๕๔๔-๕๔๕. โส ยุตฺโต ทฺวินฺนํ รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานํ สกสมเย อิจฺฉิตตฺตา.

ชีวิตินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. กมฺมเหตุกถาวณฺณนา

๕๔๖. ‘‘ปาณาติปาตกมฺมสฺส เหตู’’ติอาทิกสฺส ปริหานิกถายํ อนาคตตฺตา โย ตตฺถ อาคตนโย, ตเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘เสสนฺติ…เป… วทตี’’ติ อาห. สมฺปฏิจฺฉนวจนนฺติ สมฺปฏิจฺฉาปนวจนํ. ตํ ปรวาทึ. ตํตํลทฺธิสมฺปฏิจฺฉาปนํ วา คาหาปนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปกฺข’’นฺติอาทิมาห.

กมฺมเหตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นวมวคฺโค

๑. อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา

๕๔๗. ทฏฺพฺพสฺส อาทีนวโต อานิสํสโต จ ยทิปิ ปรวาทินา ปจฺฉา นานาจิตฺตวเสน ปฏิฺาตํ, ปุพฺเพ ปน เอกโต กตฺวา ปฏิชานิ, น จ ตํ ลทฺธึ ปริจฺจชิ. เตนสฺส อธิปฺปายมทฺทนํ ยุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘อนิจฺจ…เป… ปฏิฺาตตฺตา’’ติ. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณกรณวเสน, น กิจฺจนิปฺผตฺติวเสนาติ อธิปฺปาโย. อิทํ อานิสํสกถานุยุฺชนํ อานิสํสทสฺสนฺจ. าณํ วิปสฺสนา ปฏิเวธาณสฺส วิย อนุโพธาณสฺสปิ ยถารหํ ปวตฺตินิวตฺตีสุ กิจฺจกรณํ ยุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

อานิสํสทสฺสาวีกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อมตารมฺมณกถาวณฺณนา

๕๔๙. เอวมาทินา สุตฺตภเยนาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อนาสวฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อนาสวคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทีนิ สุตฺตปทานิ สงฺคณฺหาติ.

อมตารมฺมณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. รูปํสารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา

๕๕๒-๕๕๓. ‘‘ตทปฺปติฏฺํ อนารมฺมณ’’นฺติอาทีสุ ปจฺจยตฺโถ อารมฺมณ-สทฺโท. ‘‘รูปายตนํ จกฺขุวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทีสุ โอลุพฺภฏฺโติ อาห ‘‘ปจฺจยฏฺโ โอลุพฺภฏฺโ’’ติ. เอวํ วิภาเค วิชฺชมาเนติ ตตฺถ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตา ปจฺจยฏฺโ, ทณฺฑรชฺชุอาทิ วิย ทุพฺพลสฺส จิตฺตเจตสิกานํ อาลมฺพิตพฺพตาย อุปตฺถมฺภนฏฺโ โอลุพฺภฏฺโ. วิเสสาภาวํ ปจฺจยภาวสามฺเน กปฺเปตฺวา วา.

รูปํสารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อนุสยาอนารมฺมณาติกถาวณฺณนา

๕๕๔-๕๕๖. ‘‘อิมสฺมึ สตี’’ติ อิมินา มคฺเคน อนิรุทฺธตาปิ สงฺคหิตาติ อาห ‘‘อปฺปหีนตฺตาว อตฺถีติ วุจฺจตี’’ติ. น ปน วิชฺชมานตฺตาติ อวธารเณน นิวตฺติตํ ทสฺเสติ, วิชฺชมานตฺตา ธรมานตฺตา ขณตฺตยสมงฺคิภาวโตติ อตฺโถ.

อนุสยาอนารมฺมณาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. าณํอนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา

๕๕๗-๕๕๘. ยสฺส อธิคตตฺตา อรหโต ปริฺเยฺยาทีสุ อนวเสสโต สมฺโมโห วิคโต, ตํ อคฺคมคฺคาณํ สนฺธาย ‘‘มคฺคาณสฺสา’’ติ วทนฺติ. ยสฺมา ตสฺส สพฺพสฺส สโตการิตา วิย สมฺปชานการิตา, ตสฺมา เตน าเณน โส าณี. สติปฺาเวปุลฺลปฺปตฺโต หิ โส อุตฺตมปุริโส.

าณํอนารมฺมณนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา

๕๖๒. ทฺวีหิปีติ ทฺวีหิ วิเสเสหิ, วิเสเสน วิเสสํ อกตฺวาติ อตฺโถ.

วิตกฺกานุปติตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา

๕๖๓. สพฺพโสติ สพฺพปฺปการโต, โส ปน ปกาโร ปวตฺติฏฺานกาลวเสน คเหตพฺโพติ อาห ‘‘สพฺพตฺถ สพฺพทา วา’’ติ. เต จ านกาลา ‘‘วิตกฺกยโต’’ติอาทิวจนโต จิตฺตวิเสสวเสน คเหตพฺพาติ วุตฺตํ ‘‘สวิตกฺกจิตฺเตสู’’ติ. ‘‘วิตกฺเกตฺวา วาจํ ภินฺทตี’’ติ สุตฺตปทํ อโยนิโส คเหตฺวา ‘‘วิตกฺกวิปฺผารมตฺตํ สทฺโท’’ติ อาห.

วิตกฺกวิปฺผารสทฺทกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. นยถาจิตฺตสฺสวาจาติกถาวณฺณนา

๕๖๕. มุสาวาโท น โหตีติ วุตฺตํ อนาปตฺตีติ สมฺพนฺโธ.

นยถาจิตฺตสฺสวาจาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา

๕๖๘-๕๗๐. สมนฺนาคตปฺตฺติยาติ สมงฺคิภาวปฺตฺติยา. เตเนวาห ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมสมงฺคี สมนฺนาคโตติ วุจฺจตี’’ติ. ปฏิลาภปฺตฺติยาติ อธิคมนปฺตฺติยา. อยนฺติ ‘‘สมนฺนาคโต’’ติ วุจฺจมานปุคฺคลสฺส โย ตถา วตฺตพฺพากาโร, อยํ สมนฺนาคตปฺตฺติ นาม. เอส นโย เสเสสุปิ.

อตีตานาคตสมนฺนาคตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

นวมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ทสมวคฺโค

๑. นิโรธกถาวณฺณนา

๕๗๑-๕๗๒. สกสมเย ‘‘ปุริมจิตฺตสฺส นิโรธานนฺตรํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ อิจฺฉิตํ, ปรวาที ปน ‘‘ยสฺมึ ขเณ ภวงฺคจิตฺตํ, ตสฺมึเยว ขเณ กิริยมยจิตฺตํ อุปฺปชฺชตี’’ติ วทติ. เอวํ สติ ปุริมปจฺฉิมจิตฺตานํ สหภาโวปิ อนุฺาโต โหติ. เตนาห ‘‘ภงฺคกฺขเณน สเหวา’’ติ. ตถา จ สติ วิปากกิริยกฺขนฺธานํ วิย กิริยวิปากกฺขนฺธานํ วิปากวิปากกฺขนฺธานํ กิริยกิริยกฺขนฺธานฺจ วุตฺตนเยน สหภาโว วตฺตพฺโพติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภวงฺคจิตฺตสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุปปตฺติภวภาเวน เอสิยา อิจฺฉิตพฺพาติ อุปปตฺเตสิยา วิปากกฺขนฺธา, เต จ เยภุยฺเยน ภวงฺคปริยายกาติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ ‘‘อุปปตฺเตสิยนฺติ สงฺขํ คตสฺส ภวงฺคจิตฺตสฺสา’’ติ. อาทิปริโยสานมตฺตฺหิ ตสฺส ปฏิสนฺธิจุติจิตฺตํ, ตทารมฺมณํ ภวงฺคนฺตฺเวว วุจฺจตีติ. จกฺขุวิฺาณาทีนํ กิริยาเวมชฺเฌ ปติตตฺตา กิริยาจตุกฺขนฺธคฺคหเณน คหณํ ยุตฺตนฺติ วุตฺตํ. จกฺขุวิฺาณาทีนนฺติ หิ อาทิ-สทฺเทน น โสตวิฺาณาทีนํเยว คหณํ, อถ โข สมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณานมฺปีติ ทฏฺพฺพํ.

นิโรธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา

๕๗๖. ลกฺขณนฺติ ปฺจวิฺาณานํ อุปฺปนฺนารมฺมณตาทิอวิตเถกปฺปการตาลกฺขณํ. กามํ มโนวิฺาณํ อวตฺถุกมฺปิ โหติ, สวตฺถุกตฺเต ปน ตมฺปิ อุปฺปนฺนวตฺถุกเมว. ตถา หิ ปาฬิยํ ปนายํ ‘‘หฺจิ ปฺจวิฺาณา อุปฺปนฺนารมฺมณา’’ตฺเวว วุตฺตํ. มโนวิฺาณสฺสปิ อุปฺปนฺนวตฺถุกตาปริยาโย อตฺถีติ ‘‘ปฺจ วิฺาณา’’ติ อวตฺวา ‘‘ฉ วิฺาณา อุปฺปนฺนวตฺถุกา’’ติ วุตฺเต ‘‘โน จ วต เร วตฺตพฺเพ ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺส อตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติ วตฺตุํ น สกฺกาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ฉ วิฺาณา…เป… อธิปฺเปต’’นฺติ.

๕๗๗. ‘‘อนิมิตฺตํ สุฺตํ อปฺปณิหิต’’นฺติ นิพฺพานสฺส เต ปริยายา. จกฺขุวิฺาณสฺส อนิมิตฺตคาหิภาเว สุฺตารมฺมณตาปิ สิยาติ วุตฺตํ ‘‘ตเทว สุฺตนฺติ อธิปฺปาโย’’ติ.

ปฺจวิฺาณสมงฺคิสฺสมคฺคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ปฺจวิฺาณาสาโภคาติกถาวณฺณนา

๕๘๔-๕๘๖. สา ปน นมิตฺวา ปวตฺติ. อารมฺมณปฺปการคฺคหณนฺติ อารมฺมณสฺส อิฏฺานิฏฺปฺปการสฺส คหณํ. เยน อารมฺมณปฺปการคฺคหเณน กุสลจิตฺตสฺส อโลภาทีหิ สมฺปโยโค อกุสลจิตฺตสฺส โลภาทีหิ สมฺปโยโค โหติ, โส อาโภโคติ ทสฺเสติ.

ปฺจวิฺาณาสาโภคาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ทฺวีหิสีเลหีติกถาวณฺณนา

๕๘๗-๕๘๙. อปฺปวตฺตินิโรธนฺติ อนุปฺปาทนิโรธํ. สีลสฺส วีติกฺกโมเยว นิโรโธ สีลวีติกฺกมนิโรโธ. นินฺนานํ ขณิกนิโรธํ สลฺลกฺเขนฺโต.

ทฺวีหิสีเลหีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. สีลํอเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา

๕๙๐-๕๙๔. ิเตน อวินฏฺเน. อุปจเยนาติ สีลภูเตน กมฺมูปจเยน. ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติ กถายํ วุตฺตนเยนาติ ยถา ‘‘น วตฺตพฺพํ เจตสิโก ธมฺโม ทานนฺติ? อามนฺตา. ทานํ อนิฏฺผลนฺติ…เป… เตน หิ เจตสิโก ธมฺโม ทาน’’นฺติ ปาฬิ ปวตฺตา, เอวํ ตทนุสาเรน ‘‘น วตฺตพฺพํ เจตสิกํ สีลนฺติ? อามนฺตา. สีลํ อนิฏฺผล’’นฺติอาทินา สีลสฺส เจตสิกภาวสาธกานิ สุตฺตปทานิ จ อาเนตฺวา ตทตฺถทสฺสนวเสน อเจตสิโก รูปาทิธมฺโม อายตึ วิปากํ เทติ. ยทิ โส สีลํ ภเวยฺย, วินา สํวรสมาทาเนน วินา วิรติยา สีลวา นาม สิยา. ยสฺมา ปน สมาทานเจตนา วิรติ สํวโร สีลํ, ตสฺมา ‘‘สีลํ อิฏฺผลํ กนฺตผล’’นฺติอาทินา โยชนา กาตพฺพาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘วุตฺตนเยนา’’ติ, วุตฺตนยานุสาเรนาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ปาฬิยํ ยถา ‘‘สีลํ อเจตสิก’’นฺติ กถา อาคตา, ตถา ‘‘ทานํ อเจตสิก’’นฺติ วิสุํ อาคตา กถา นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘สา ปน กถา มคฺคิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.

สีลํอเจตสิกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. สมาทานเหตุกถาวณฺณนา

๕๙๘-๖๐๐. สมาทานเหตุกถายํ ‘‘ผสฺโส เทตี’’ติ อารภิตฺวา ยาว กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา สมฺมุขีภาวํ อาคจฺฉนฺตีติ อารามโรปาทิสุตฺตาหรณฺจาติ เอตฺตกเมว ปริโภคกถาย สทิสนฺติ อาห ‘‘สมาทาน…เป… ทฏฺพฺพา’’ติ.

สมาทานเหตุกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. อวิฺตฺติทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา

๖๐๓-๖๐๔. มหาภูตานิ อุปาทาย ปวตฺโต อฺจิตฺตกฺขเณปิ ลพฺภมาโน กุสลากุสลานุพนฺโธ อวิฺตฺตีติ อยํ วาโท ‘‘จิตฺตวิปฺปยุตฺโต อปุฺูปจโย’’ติ อิมินา สงฺคหิโตติ ตโต อฺานุพนฺธายํ ‘‘อาณตฺติยา’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อาณตฺติยา…เป… อธิปฺปาโย’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ อาณตฺโต ยทา อาณตฺตภาเวน วิหึสาทิกิริยํ สาเธติ, ตทา อาณตฺติยา ปาณาติปาตาทีสุ องฺคภาโว เวทิตพฺโพ. สา ปนาณตฺติ ปาริวาสิกภาเวน วิฺตฺติรหิตา นาม โหตีติ ปรวาทิโน อธิปฺปาโย, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกสฺมึ ทิวเส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อวิฺตฺติทุสฺสีลฺยนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๑. เอกาทสมวคฺโค

๔. าณกถาวณฺณนา

๖๑๔-๖๑๕. ‘‘อนฺธกา’’ติ วุตฺตา ปุพฺพเสลิยอปรเสลิยราชคิริกสิทฺธตฺถิกาปิ เยภุยฺเยน มหาสงฺฆิกา เอวาติ วุตฺตํ ‘‘ปุพฺเพ…เป… ภเวยฺยุ’’นฺติ. ตตฺถ อฺเติ วจนํ ทฺวินฺนํ กถานํ อุชุวิปจฺจนีกภาวโต. ปุริมกานฺหิ จกฺขุวิฺาณาทิสมงฺคี ‘‘าณี’’ติ วุจฺจติ, อิเมสํ โส เอว ‘‘าณี’’ติ น วตฺตพฺโพติ วุตฺโต. ราควิคโม ราคสฺส สมุจฺฉินฺทนํ, ตถา อฺาณวิคโม. ยถา สมุจฺฉินฺนาวิชฺโช ‘‘าณี’’ติ, ปฏิปกฺขโต ‘‘อฺาณี’’ติ, เอวํ อสมุจฺฉินฺนาวิชฺโช ‘‘อฺาณี’’ติ, ปฏิปกฺขโต ‘‘าณี’’ติ วุตฺโต. อฺาณสฺส วิคตตฺตา โส ‘‘าณี’’ติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, น ปน สตตํ สมิตํ าณสฺส ปวตฺตนโตติ อธิปฺปาโย.

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อิทฺธิพลกถาวณฺณนา

๖๒๑-๖๒๔. ยสฺมึ อายุกปฺเป กมฺมกฺขเยน มรณํ โหติ, ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘กมฺมสฺส วิปากวเสนา’’ติ, ยสฺมึ ปน อายุกฺขเยน มรณํ โหติ, ตํ สนฺธาย ‘‘วสฺสคณนายา’’ติ. ตตฺถ ‘‘น จ ตาว กาลํ กโรติ, ยาว น ตํ ปาปกมฺมํ พฺยนฺตี โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๕๐; อ. นิ. ๓.๓๖) วจนโต เยภุยฺเยน นิรเย กมฺมกฺขเยน มรณํ โหตีติ อาห ‘‘กมฺมสฺส วิปากวเสน วาติ นิรยํว สนฺธาย วุตฺต’’นฺติ. ‘‘วสฺสสตํ วสฺสสหสฺสํ วสฺสสตสหสฺสานี’’ติอาทินา มนุสฺสานํ เทวานฺจ อายุปริจฺเฉทวจนโต เยภุยฺเยน เตสํ อายุกฺขเยน มรณํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘วสฺสคณนาย วาติ มนุสฺเส จาตุมหาราชิกาทิเทเว จ สนฺธายา’’ติ. ‘‘วุตฺต’’นฺติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ.

อิทฺธิพลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. สมาธิกถาวณฺณนา

๖๒๕-๖๒๖. สมํ ปนฏฺเนาติ สมํ วิสมํ ลีนุทฺธจฺจาทึ ปฏิพาหิตฺวา, วิกฺเขปเมว วา วิทฺธํเสตฺวา ปนฏฺเน. ‘‘จิตฺตสนฺตติ สมาธี’’ติ วทนฺเตน ตสฺส เจตสิกภาโว ปฏิกฺขิตฺโต โหตีติ อาห ‘‘เจตสิกนฺตรํ อตฺถีติ อคฺคเหตฺวา’’ติ. ภาวนาย อาหิตวิเสสาย เอกคฺคตาย วิชฺชมานวิเสสปฏิกฺเขโป ฉลํ, โส ปนสฺส อนาหิตวิเสสาย เอกคฺคตาย สามฺเนาติ อาห ‘‘สามฺมตฺเตนา’’ติ.

สมาธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา

๖๒๗. อวิชฺชายยา ิตตาติ อวิชฺชาย สงฺขารานํ อนนฺตรปจฺจยภาเว ยา นิยตตา ธมฺมนิยามตาสงฺขาตา, ยา ิตสภาวตา นิปฺผนฺนา , น ธมฺมมตฺตตาฏฺิตตาย นิปฺผนฺนาย วเสน, อนนฺตรปจฺจยภาวสงฺขาตา ิตตา ปจฺจยตา โหตีติ อตฺโถ. อฺมฺปจฺจยภาวรหิตสฺสาติ อิทํ สหชาตนิสฺสยาทิปจฺจยานํ ปฏิกฺเขปปทํ ทฏฺพฺพํ, น อฺมฺปจฺจยตามตฺตสฺส. สพฺโพ ตาทิโสติ อิมินา สมนนฺตรอนนฺตรูปนิสฺสยนตฺถิวิคตาเสวนาทิกํ สงฺคณฺหาติ. อฺมฺปจฺจยตฺจาติ เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺสปิ ปจฺจยภาวโต สงฺขารานมฺปิ วเสน โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘ตสฺสา จ อิตรา’’ติ.

ธมฺมฏฺิตตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อนิจฺจตากถาวณฺณนา

๖๒๘. รูปาทีนํ อนิจฺจตา รูปาทิเก สติ โหติ, อสติ น โหตีติ อิมินา ปริยาเยน ตสฺสา เตหิ สห อุปฺปาทนิโรโธ วุตฺโต, อุปฺปาทาทีสุ ตีสุ ลกฺขเณสุ อนิจฺจตาโวหาโร โหตีติ ยถา ตโย ทณฺเฑ อุปาทาย ปวตฺโต ติทณฺฑโวหาโร เตสุ สพฺเพสุ โหติ, เอวํ ชาติชรามรณธมฺโม น นิจฺโจ อนิจฺโจ, ตสฺส ชาติอาทิปกติตา อนิจฺจตาสทฺเทน วุจฺจตีติ อุปฺปาทาทีสุ ลกฺขเณสุ อนิจฺจตาโวหาโร สมฺภวตีติ วุตฺตํ ‘‘ตีสุ…เป… โหตี’’ติ. วิภาคานุยุฺชนวเสนาติ ปเภทานุยุฺชนวเสน. ตตฺถ ยถา ชราภงฺควเสน อนิจฺจตา ปากฏา โหติ, น ตถา ชาติวเสนาติ ปาฬิยํ ชรามรณวเสเนว อนิจฺจตาวิภาโค ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ.

อนิจฺจตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกาทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๒. ทฺวาทสมวคฺโค

๑. สํวโรกมฺมนฺติกถาวณฺณนา

๖๓๐-๖๓๒. สพฺพสฺสปิ มนโส มโนทฺวารภาวโต ‘‘วิปากทฺวารนฺติ ภวงฺคมนํ วทตี’’ติ อาห.

สํวโรกมฺมนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. กมฺมกถาวณฺณนา

๖๓๓-๖๓๕. สวิปากาปิทสฺสิตาเยว นาม โหติ วุตฺตาวสิฏฺา สวิปากาติ อตฺถสิทฺธตฺตา.

กมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. สฬายตนกถาวณฺณนา

๖๓๘-๖๔๐. มนายตเนกเทสสฺส วิปากสฺส อตฺถิตาย ‘‘อวิเสเสนา’’ติ วุตฺตํ.

สฬายตนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา

๖๔๑-๖๔๕. อสฺสาติ อิมสฺส สตฺตกฺขตฺตุปรมสฺส. เตนาห ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรมภาเว จ นิยามํ อิจฺฉสี’’ติ. เยน อานนฺตริยกมฺเมน. อนฺตราติ สตฺต ภเว อนิพฺพตฺเตตฺวา เตสํ อนฺตเรเยว. เกจีติ อภยคิริวาสิโน. อปเรติ ปทการา. ตสฺสาติ โย สตฺตกฺขตฺตุปรโมติ วา, โกลํโกโลติ วา, เอกพีชีติ วา ภควตา าเณน ปริจฺฉินฺทิตฺวา พฺยากโต, ตสฺส ยถาวุตฺตปริจฺเฉทา อนฺตรา อุปริมคฺคาธิคโม นตฺถิ อวิตถเทสนตฺตา. ยถาปริจฺเฉทเมว ตสฺส อภิสมโย, สฺวายํ วิภาโค เตสํเยว ปุคฺคลานํ อินฺทฺริยปโรปริยตฺเตน เวทิตพฺโพ ภวนิยาเมน ตาทิสสฺส กสฺสจิ อภาวโต. ยสฺมา กสฺสจิ มุทุกานิปิ อินฺทฺริยานิ ปจฺจยวิเสเสน ติกฺขภาวํ อาปชฺเชยฺยุํ, ตสฺมา ตาทิสํ สนฺธาย ‘‘ภพฺโพติ วุจฺจติ, น โส อภพฺโพ นามา’’ติ จ วุตฺตํ. ยสฺมา ปน ภควา น ตาทิสํ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติอาทินา นิยเมตฺวา พฺยากโรติ, ตสฺมา อาห ‘‘น ปน อนฺตรา อภิสเมตุํ ภพฺพตา วุตฺตา’’ติ. อยฺจ นโย เอกนฺเตน อิจฺฉิตพฺโพ. อฺถา ปุคฺคลสฺส สงฺกโร สิยาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยทิ จา’’ติอาทิมาห.

สตฺตกฺขตฺตุปรมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวาทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๓. เตรสมวคฺโค

๑. กปฺปฏฺกถาวณฺณนา

๖๕๔-๖๕๗. ‘‘เหฏฺา วุตฺตาธิปฺปายเมวา’’ติ อิทํ อิทฺธิพลกถายํ ยํ วุตฺตํ ‘‘อตีตํ อนาคตนฺติ อิทํ อวิเสเสน กปฺปํ ติฏฺเยฺยาติ ปฏิฺาตตฺตา โจเทตี’’ติอาทิ, ตํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ อาห ‘‘เหฏฺาติ อิทฺธิพลกถาย’’นฺติ. ตตฺถ ‘‘ทฺเว กปฺเป’’ติอาทิอายุปริจฺเฉทาติกฺกมสมตฺถตาโจทนาวเสน อาคตา, อิธ ปน สงฺฆเภทโก อายุกปฺปเมว อฏฺตฺวา ยทิ เอกํ มหากปฺปํ ติฏฺเยฺย, ยถา เอกํ, เอวํ อเนเกปิ กปฺเป ติฏฺเยฺยาติ โจทนา กาตพฺพา.

กปฺปฏฺกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. นิยตสฺสนิยามกถาวณฺณนา

๖๖๓-๖๖๔. อปฺปตฺตนิยามานนฺติ เย อนุปฺปนฺนมิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตธมฺมา ปุคฺคลา, เตสํ ธมฺเม. เก ปน เต? ยถาวุตฺตปุคฺคลสนฺตานปริยาปนฺนา ธมฺมา. เต หิ ภูมิตฺตยปริยาปนฺนตาย ‘‘เตภูมกา’’ติ วุตฺตา. เย ปน ปตฺตนิยามานํ สนฺตาเน ปวตฺตา อนิยตธมฺมา, น เตสเมตฺถ สงฺคโห กโต. น หิ เตหิ สมนฺนาคเมน อนิยตตา อตฺถิ. เตเนวาห ‘‘เตหิ สมนฺนาคโตปิ อนิยโตเยวา’’ติ. อิมํ โวหารมตฺตนฺติ อิมินา นิยาโม นาม โกจิ ธมฺโม นตฺถิ, อุปจิตสมฺภารตาย อภิสมฺพุชฺฌิตุํ ภพฺพตาว ตถา วุจฺจตีติ ทสฺเสติ. นิยโตติ วจนสฺส การณภาเวน วุตฺโตติ โยชนา. อุภยสฺสปีติ นิยโต นิยามํ โอกฺกมตีติ วจนทฺวยสฺส.

นิยตสฺสนิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อสาตราคกถาวณฺณนา

๖๗๔. เอวํ ปวตฺตมาโนติ ‘‘อโห วต เม ภเวยฺยา’’ติ เอวํ ปตฺถนากาเรน ปวตฺตมาโน. อฺถาติ นนฺทนาทิอากาเรน.

อสาตราคกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา

๖๗๖-๖๘๐. คเหตฺวาติ เอเตน คหณมตฺตเมว ตํ, น ปน สา ตาทิสี อตฺถีติ ทสฺเสติ. น หิ โลกุตฺตรารมฺมณา อพฺยากตา วา ตณฺหา อตฺถีติ. ตีหิ โกฏฺาเสหีติ กามภววิภวตณฺหาโกฏฺาเสหิ. รูปตณฺหาทิเภทา ฉปิ ตณฺหา.

ธมฺมตณฺหาอพฺยากตาติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๔. จุทฺทสมวคฺโค

๑. กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา

๖๘๖-๖๙๐. อนนฺตรปจฺจยภาโวเยเวตฺถ ปฏิสนฺธานํ ฆฏนฺจาติ อาห ‘‘อนนฺตรํ อุปฺปาเทตี’’ติ.

กุสลากุสลปฏิสนฺทหนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา

๖๙๑-๖๙๒. เกจิ วาทิโนติ กาปิเล สนฺธายาห. เต หิ อภิพฺยตฺตวาทิโน วิชฺชมานเมว การเณ ผลํ อนภิพฺยตฺตํ หุตฺวา ิตํ ปจฺฉา อภิพฺยตฺตึ คจฺฉตีติ วทนฺตา พีชาวตฺถาย วิชฺชมานาปิ รุกฺขาทีนํ น องฺกุราทโย อาวิภวนฺติ, พีชมตฺตํ อาวิภาวํ คจฺฉตีติ กเถนฺติ.

สฬายตนุปฺปตฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา

๖๙๓-๖๙๗. อนนฺตรุปฺปตฺตึ สลฺลกฺเขนฺโตติ จกฺขุวิฺาณานนฺตรํ โสตวิฺาณุปฺปตฺตึ มฺมาโน. โสตวิฺาณนฺติ วจเนเนว ตสฺส จกฺขุสนฺนิสฺสยตา รูปารมฺมณตา จ ปฏิกฺขิตฺตา, ปฏิฺาตา จ โสตสนฺนิสฺสยตา สทฺทารมฺมณตา จาติ อาห ‘‘น โส จกฺขุมฺหิ สทฺทารมฺมณ’’นฺติ. ตตฺถ สทฺทารมฺมณนฺติ ‘‘โสตวิฺาณํ อิจฺฉตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตยิทํ จกฺขุวิฺาณสฺส อนนฺตรํ โสตวิฺาณํ อุปฺปชฺชตีติ ลทฺธิยา เอวํ ายตีติ อาห ‘‘อนนฺตรูปลทฺธิวเสน อาปนฺนตฺตา’’ติ.

อนนฺตรปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อริยรูปกถาวณฺณนา

๖๙๘-๖๙๙. สมฺมาวาจาทีติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา. ตตฺถ สมฺมาวาจา สทฺทสภาวา, อิตโร จ กายวิฺตฺติสภาโว, อุภยมฺปิ วา วิฺตฺตีติ อธิปฺปาเยน รูปนฺติสฺส ลทฺธิ.

อริยรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. อฺโอนุสโยติกถาวณฺณนา

๗๐๐-๗๐๑. ตสฺมึ สมเยติ กุสลาพฺยากตจิตฺตกฺขเณ. โส หีติ ปจฺฉิมปาโ.

อฺโอนุสโยติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ปริยุฏฺานํจิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา

๗๐๒. เตติ ราคาทโย. ตสฺมาติ ยสฺมา วิปสฺสนฺตสฺสปิ ราคาทโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา.

ปริยุฏฺานํจิตฺตวิปฺปยุตฺตนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๓-๗๐๕. กิเลสวตฺถุโอกาสวเสนาติ กิเลสกามวตฺถุกามภูมิวเสน. รูปธาตุสหคตวเสน อนุเสตีติ กามราโค ยถา กามวิตกฺกสงฺขาตาย กามธาตุยา สห ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารโห, ตเมว รูปธาตุยาปีติ อตฺโถ. ราคาทิการณลาเภ อุปฺปตฺติอรหตา หิ อนุสยนํ.

ปริยาปนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อพฺยากตกถาวณฺณนา

๗๐๖-๖๐๘. สพฺพถาปีติ อวิปากภาเวนปิ สสฺสตาทิภาเวนปิ.

อพฺยากตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา

๗๐๙-๗๑๐. ตสฺมา ทิฏฺิ โลกิยปริยาปนฺนา น โหตีติ อตฺถํ วทนฺติ, เอวํ สติ อติปฺปสงฺโค โหติ วีตโทสาทิโวหารภาวโตติ. ตโต อฺถา อตฺถํ วทนฺโต ‘‘รูปทิฏฺิยา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน อรูปทิฏฺิอาทึ สงฺคณฺหาติ. ปรวาทิอธิปฺปายวเสน อยมตฺถวิภาวนาติ อาห ‘‘ยทิ จ ปริยาปนฺนา สิยา’’ติ. ตถา จ สตีติ ทิฏฺิยา กามธาตุปริยาปนฺนตฺเต สตีติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘วีตทิฏฺิโก’’ติ เอวํ โวหาราภาวโต. น หิ สา ตสฺส อวิคตา ทิฏฺิ, ยโต โส วีตทิฏฺิโกติ น วุจฺจติ. เยนาติ กามทิฏฺิภาเวน.

อปริยาปนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

จุทฺทสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๕. ปนฺนรสมวคฺโค

๑. ปจฺจยตากถาวณฺณนา

๗๑๑-๗๑๗. ววตฺถิโตติ อสํกิณฺโณ. โย หิ ธมฺโม เยน ปจฺจยภาเวน ปจฺจโย โหติ, ตสฺส ตโต อฺเนปิ ปจฺจยภาเว สติ ปจฺจยตา สํกิณฺณา นาม ภเวยฺย. วิรุทฺธาสมฺภวีนํ วิย ตพฺพิธุรานํ ปจฺจยภาวานํ สหภาวํ ปฏิกฺขิปติ.

ปจฺจยตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา

๗๑๘-๗๑๙. สหชาตาติ วุตฺตตฺตา น สงฺขารปจฺจยา จ อวิชฺชาติ วุตฺตตฺตาติ อธิปฺปาโย. อนนฺตราทินาปิ หิ สงฺขารา อวิชฺชาย ปจฺจยา โหนฺติเยว. อฺมฺานนฺตรํ อวตฺวา อวิคตานนฺตรํ สมฺปยุตฺตสฺส วจนํ กมเภโท, อตฺถิคฺคหเณเนว คหิโต อตฺถิปจฺจยภูโตเยว ธมฺโม นิสฺสยปจฺจโย โหตีติ. อสาธารณตายาติ ปทนฺตราสาธารณตาย. เตนาห ‘‘วกฺขติ หี’’ติอาทิ.

อฺมฺปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา

๗๓๒. ยทิปิ เสสํ นาม คหิตโต อฺํ, ตถาปิ ปกรณปริจฺฉินฺนเมเวตฺถ ตํ คยฺหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เยสํ…เป… อธิปฺปาโย’’ติ วตฺวา ปุน อนวเสสเมว สงฺคณฺหนฺโต ‘‘อสฺสตฺตานมฺปิจา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพสตฺเต สนฺธายาติ อธิปฺปาโยติ โยชนา. ปาณิสมฺผสฺสาปิ กมนฺตีติอาทิกํ สรีรปกตีติ สมฺพนฺโธ.

๗๓๓-๗๓๔. ปฺจหิ วิฺาเณหิ น จวติ, น อุปปชฺชตีติ วาทํ ปรวาที นานุชานาตีติ อาห ‘‘สุตฺต…เป… วตฺตพฺพ’’นฺติ.

ตติยสฺาเวทยิตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา

๗๓๕. ยถา วิตกฺกวิจารปีติสุขวิราควเสน ปวตฺตา สมาปตฺติ วิตกฺกาทิรหิตา โหติ, เอวํ สฺาวิราควเสน ปวตฺตาปิ สฺารหิตาว สิยาติ ตสฺส ลทฺธีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สาปิ อสฺิตา…เป… ทสฺเสตี’’ติ.

๗๓๖. ยทิ จตุตฺถชฺฌานสมาปตฺติ กถํ อสฺสมาปตฺตีติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘สฺาวิราควเสน สมาปนฺนตฺตา อสฺิตา, น สฺาย อภาวโต’’ติ.

อสฺสตฺตุปิกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. กมฺมูปจยกถาวณฺณนา

๗๓๘-๗๓๙. ‘‘กมฺมูปจโย กมฺเมน สหชาโต’’ติ ปุฏฺโ สมฺปยุตฺตสหชาตตํ สนฺธาย ปฏิกฺขิปติ, วิปฺปยุตฺตสหชาตตํ สนฺธาย ปฏิชานาตีติ. วิปฺปยุตฺตสฺสปิ หิ อตฺถิ สหชาตตา จิตฺตสมุฏฺานรูปสฺส วิยาติ อธิปฺปาโย.

๗๔๑. ติณฺณนฺติ กมฺมกมฺมูปจยกมฺมวิปากานํ.

กมฺมูปจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปนฺนรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

ตติโย ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๑๖. โสฬสมวคฺโค

๓. สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา

๗๔๗-๗๔๘. น ตสฺสาติ ยสฺส ตํ อนุปฺปทิสฺสติ, น ตสฺส. โย หิ อนุปฺปเทติ, ยสฺส จ อนุปฺปเทติ, ตทุภยวินิมุตฺตา อิธ ปเรติ อธิปฺเปตา.

สุขานุปฺปทานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา

๗๔๙-๗๕๓. ตํจิตฺตตายาติ เอตฺถ มนสิกโรนฺโต ยทิ สพฺพสงฺขาเร เอกโต มนสิ กโรติ, เยน จิตฺเตน มนสิ กโรติ, สพฺพสงฺขารนฺโตคธตฺตา ตสฺมึเยว ขเณ ตํ จิตฺตํ มนสิ กาตพฺพํ เอตสฺสาติ ตํจิตฺตตา นาม โทโส อาปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตเทว อารมฺมณภูต’’นฺติอาทิ. เอเตน ตสฺเสว เตน มนสิกรณาสมฺภวมาห, ตํ วาติอาทินา ปน สสํเวทนาวาทาปตฺตินฺติ อยเมเตสํ วิเสโส.

อธิคยฺหมนสิการกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสฬสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๗. สตฺตรสมวคฺโค

๑. อตฺถิอรหโตปุฺูปจยกถาวณฺณนา

๗๗๖-๗๗๙. กิริยจิตฺตํอพฺยากตํ อนาทิยิตฺวาติ ‘‘กิริยจิตฺตํ อพฺยากต’’นฺติ อคฺคเหตฺวา, ทานาทิปวตฺตเนน ทานมยาทิปุฺตฺเตน จ คเหตฺวาติ อตฺโถ.

อตฺถิอรหโตปุฺูปจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. นตฺถิอรหโตอกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา

๗๘๐. อลทฺธวิปากวารานนฺติ วิปากทานํ ปติ อลทฺโธกาสานํ. พฺยนฺตีภาวนฺติ วิคตนฺตตํ, วิคมํ อวิปากนฺติ อตฺโถ.

๗๘๑. ตโต ปรนฺติ พฺยติเรเกน อตฺถสิทฺธิ, น เกวเลน อนฺวเยนาติ อาห ‘‘ตาว น กมติ, ตโต ปรํ กมตีติ ลทฺธิยา ปฏิกฺขิปตี’’ติ. ตตฺถ ตโต ปรนฺติ ปุพฺเพ กตสฺส กมฺมสฺส ปริกฺขยคมนโต ปรํ. นตฺถิ ปาณาติปาโต ปาณาติปาตลกฺขณาภาวโตติ อธิปฺปาโย. ตเมว ลกฺขณาภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปาโณปาณสฺิตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ น เตนาติ โย ปเรน อุปกฺกโม กโต , เตน อุปกฺกเมน น มโต, ธมฺมตามรเณเนว มโตติ ทุพฺพิฺเยฺยํ อวิเสสวิทูหิ, ทุพฺพิฺเยฺยํ วา โหตุ สุวิฺเยฺยํ วา, องฺคปาริปูริยาว ปาณาติปาโต.

นตฺถิอรหโตอกาลมจฺจูติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สพฺพมิทํกมฺมโตติกถาวณฺณนา

๗๘๔. อพีชโตติ สพฺเพน สพฺพํ อพีชโต อฺพีชโต จ. นฺติ เทยฺยธมฺมํ, คิลานปจฺจยนฺติ อตฺโถ.

สพฺพมิทํกมฺมโตติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา

๗๘๘. วินาปิ อนิจฺจฏฺเนาติ อนิจฺจฏฺํ เปตฺวาปิ อฏฺเปตฺวาปีติ อตฺโถ, น อนิจฺจฏฺวิรเหนาติ. น หิ อนิจฺจฏฺวิรหิตํ อนินฺทฺริยพทฺธํ อตฺถิ.

อินฺทฺริยพทฺธกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถาวณฺณนา

๗๙๓-๗๙๔. อปฺปฏิคฺคหณโตติ ปฏิคฺคาหกตฺตาภาวโต.

นวตฺตพฺพํสงฺโฆทกฺขิณํวิโสเธตีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๑. ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา

๘๐๐-๘๐๑. ปฏิคฺคาหกนิรเปกฺขาติ ปฏิคฺคาหกสฺส คุณวิเสสนิรเปกฺขา, ตสฺส ทกฺขิเณยฺยภาเวน วินาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปฏิคฺคาหเกนปจฺจยภูเตน วินา’’ติ. สจฺจเมตนฺติ ลทฺธิกิตฺตเนน วุตฺตภาวเมว ปฏิชานาติ. ปฏิคฺคาหกสฺส วิปากนิพฺพตฺตนํ ทานเจตนาย มหาผลตา. ปจฺจยภาโวเยว หิ ตสฺส, น ตสฺสา การณตฺตํ. เตนาห ‘‘ทานเจตนานิพฺพตฺตเนน ยทิ ภเวยฺยา’’ติอาทิ.

ทกฺขิณาวิสุทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

สตฺตรสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๘. อฏฺารสมวคฺโค

๑. มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา

๘๐๒-๘๐๓. คหณนฺติ มิจฺฉาคหณํ.

มนุสฺสโลกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา

๘๐๔-๘๐๖. ตสฺส จ นิมฺมิตพุทฺธสฺส เทสนํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา อายสฺมตา อานนฺเทน สยเมว จ เทสิโต.

ธมฺมเทสนากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา

๘๑๓-๘๑๖. วิตกฺกวิจาเรสุ วิรตฺตจิตฺตตา ตตฺถ อาทีนวมนสิกาโร, ตทากาโร จ ทุติยชฺฌานูปจาโรติ อาห ‘‘วิตกฺกวิจารา อาทีนวโต มนสิ กาตพฺพา, ตโต ทุติยชฺฌาเนน ภวิตพฺพ’’นฺติ.

ฌานสงฺกนฺติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา

๘๑๗-๘๑๙. น ปมชฺฌานํ วิตกฺกาภาวโต, นาปิ ทุติยชฺฌานํ วิจารสพฺภาวโตติ ฌานเมตํ น โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรภาวาภาวโต น ฌาน’’นฺติ.

ฌานนฺตริกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา

๘๒๖-๘๒๗. ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ อิมินา จกฺขุวิฺาเณน ปฏิชานนสฺส อคฺคหเณ อรุจึ สูเจนฺโต อาห ‘‘มโนวิฺาณปฏิชานนํ กิร สนฺธายา’’ติ. เตเนวาห ‘‘มโนวิฺาณปฏิชานนํ ปนา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ มโนวิฺาณปฏิชานนสฺเสว อธิปฺเปตตฺตาติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตติ ยทิ รูเปน รูปํ ปฏิวิชานาติ, รูปํ ปฏิวิชานนฺตมฺปิ มโนวิฺาณํ รูปวิชานนํ โหติ, น รูปทสฺสนนฺติ อาห ‘‘มโนวิฺาณปฏิชานนํ ปน รูปทสฺสนํ กถํ โหตี’’ติ.

จกฺขุนารูปํปสฺสตีติกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

อฏฺารสมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๙. เอกูนวีสติมวคฺโค

๑. กิเลสปชหนกถาวณฺณนา

๘๒๘-๘๓๑. เต ปนาติ เย อริยมคฺเคน ปหีนา กิเลสา, เต ปน. กามฺเจตฺถ มคฺเคน ปหาตพฺพกิเลสา มคฺคภาวนาย อสติ อุปฺปชฺชนารหา ขณตฺตยํ น อาคตาติ จ อนาคตา นาม สิยุํ, ยสฺมา ปน เต น อุปฺปชฺชิสฺสนฺติ, ตสฺมา ตถา น วุจฺจนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘นาปิ ภวิสฺสนฺตี’’ติ.

กิเลสปชหนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๒. สุฺตกถาวณฺณนา

๘๓๒. เยน อวสวตฺตนฏฺเน ปรปริกปฺปิโต นตฺถิ เอเตสํ อตฺตโน วิสยนฺติ อนตฺตาติ วุจฺจนฺติ สภาวธมฺมา, สฺวายํ อนตฺตตาติ อาห ‘‘อวสวตฺตนากาโร อนตฺตตา’’ติ. สา ปนายํ ยสฺมา อตฺถโต อสารกตาว โหติ, ตสฺมา ตเทกเทเสน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อตฺถโต ชรามรณเมวา’’ติ อาห. เอวํ สติ ลกฺขณสงฺกโร สิยา, เตสํ ปนิทํ อธิปฺปายกิตฺตนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อรูปธมฺมานํ อวสวตฺตนาการตาย เอว หิ อนตฺตลกฺขณสฺส สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตา.

สุฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. สามฺผลกถาวณฺณนา

๘๓๕-๘๓๖. ปตฺติธมฺมนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ สมนฺนาคมมาห.

สามฺผลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕. ตถตากถาวณฺณนา

๘๔๑-๘๔๓. รูปาทีนํ สภาวตาติ เอเตน รูปาทโย เอว สภาวตาติ อิมมตฺถํ ปฏิกฺขิปติ . ยโต ตํ ปรวาที รูปาทีสุ อปริยาปนฺนํ อิจฺฉติ. เตนาห ‘‘ภาวํ เหส ตถตาติ วทติ, น ภาวโยค’’นฺติ. ตตฺถ ภาวนฺติ ธมฺมมตฺตํ, ปกตีติ อตฺโถ ‘‘ชาติธมฺม’’นฺติอาทีสุ วิย. รูปาทีนฺหิ รุปฺปนาทิปกติ ตถา อสงฺขตาติ จ ปรวาทิโน ลทฺธิ. เตน วุตฺตํ ‘‘น ภาวโยค’’นฺติ. เยน หิ ภาโว สภาวธมฺโม ยุชฺชติ, เอกีภาวเมว คจฺฉติ, ตํ รุปฺปนาทิลกฺขณํ ภาวโยโค. ตํ ปน รูปาทิโต อนฺํ, ตโต เอว สงฺขตํ, อวิปรีตฏฺเน ปน ‘‘ตถ’’นฺติ วุจฺจติ.

ตถตากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. กุสลกถาวณฺณนา

๘๔๔-๘๔๖. อนวชฺชภาวมตฺเตเนว กุสลนฺติ โยชนา. ตสฺมาติ ยสฺมา อวชฺชรหิตํ อนวชฺชํ, อนวชฺชภาวมตฺเตเนว จ กุสลํ, ตสฺมา นิพฺพานํ กุสลนฺติ.

กุสลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา

๘๔๗. ยํ ‘‘เอกวารํ นิมุคฺโค ตถา นิมุคฺโคว โหติ, เอตสฺส ปุน ภวโต วุฏฺานํ นาม นตฺถี’’ติ อฏฺกถายํ อาคตํ, โส ปน อาจริยวาโท, น อฏฺกถานโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตาย ชาติยา…เป… มฺมาโน’’ติ อาห. ตตฺถ ตาย ชาติยาติ ยสฺสํ ชาติยํ ปุคฺคโล กมฺมาวรณาทิอาวรเณหิ สมนฺนาคโต โหติ, ตาย ชาติยา. สํสารขาณุกภาโว วสฺสภฺาทีนํ วิย มกฺขลิอาทีนํ วิย จ ทฏฺพฺโพ. โส จ อเหตุกาทิมิจฺฉาทสฺสนสฺส ผลภาเวเนว เวทิตพฺโพ, น อจฺจนฺตนิยามสฺส นาม กสฺสจิ อตฺถิภาวโต. ยถา หิ วิมุจฺจนฺตสฺส โกจิ นิยาโม นาม นตฺถิ เปตฺวา มคฺเคน ภวปริจฺเฉทํ, เอวํ อวิมุจฺจนฺตสฺสปิ โกจิ สํสารนิยาโม นาม นตฺถิ. ตาทิสสฺส ปน มิจฺฉาทสฺสนสฺส พลวภาเว อปริมิตกปฺปปริจฺเฉเท จิรตรํ สํสารปฺปพนฺโธ โหติ, อปายูปปตฺติ จ ยตฺถ สํสารขาณุสมฺา.

ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อตฺเถว อจฺจนฺตํ สํสริตา อนนฺตตฺตา สตฺตนิกายสฺสา’’ติ, ตมฺปิ อปุฺพหุลํ สตฺตสนฺตานํ สนฺธาย วุตฺตํ สิยา. น หิ มาตุฆาตกาทีนํ เตนตฺตภาเวน สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนนฺตรายภูโต มิจฺฉตฺตนิยาโม วิย สตฺตานํ วิมุตฺตนฺตรายกโร สํสารนิยาโม นาม นตฺถิ. ยาว ปน น มคฺคผลสฺส อุปนิสฺสโย อุปลพฺภติ, ตาว สํสาโร อปริจฺฉินฺโน. ยทา จ โส อุปลทฺโธ, ตทา โส ปริจฺฉินฺโน เอวาติ ทฏฺพฺพํ.

ยถา นิยตสมฺมาทสฺสนํ, เอวํ นิยตมิจฺฉาทสฺสเนนปิ สวิสเย เอกํสคาหวเสน อุกฺกํสคเตน ภวิตพฺพนฺติ เตน สมนฺนาคตสฺส ปุคฺคลสฺส สติ อจฺจนฺตนิยาเม กถํ ตสฺมึ อภินิเวสวิสเย อเนกํสคาโห อุปฺปชฺเชยฺย, อภินิเวสนฺตรํ วา วิรุทฺธํ ยทิ อุปฺปชฺเชยฺย, อจฺจนฺตนิยาโม เอว น สิยาติ ปาฬิยํ วิจิกิจฺฉุปฺปตฺตินิยามนฺตรุปฺปตฺติโจทนา กตา. น หิ วิจิกิจฺฉา วิย สมฺมตฺตนิยตปุคฺคลานํ ยถากฺกมํ มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยตปุคฺคลานํ สมฺมตฺตมิจฺฉตฺตนิยตา ธมฺมา กทาจิปิ อุปฺปชฺชนฺติ, อวิรุทฺธํ ปน นิยามนฺตรเมว โหตีติ อานนฺตริกนฺตรํ วิย มิจฺฉาทสฺสนนฺตรํ สมานชาติกํ น นิวตฺเตตีติ วิรุทฺธํเยว ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ วิจิกิจฺฉา วิย สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิโย เอว อุทฺธฏา. เอวเมตฺถ วิจิกิจฺฉุปฺปตฺตินิยามนฺตรุปฺปตฺตีนํ นิยามนฺตรุปฺปตฺตินิวตฺตกภาโว เวทิตพฺโพ, อจฺจนฺตนิยาโม จ นิวตฺติสฺสตีติ จ วิรุทฺธเมตนฺติ ปน ‘‘วิจาเรตฺวาว คเหตพฺพา’’ติ วุตฺตํ สิยา.

อจฺจนฺตนิยามกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. อินฺทฺริยกถาวณฺณนา

๘๕๓-๘๕๖. ยถา โลกุตฺตรา สทฺธาทโย เอว สทฺธินฺทฺริยาทีนิ, เอวํ โลกิยาปิ. กสฺมา ? ตตฺถาปิ อธิโมกฺขลกฺขณาทินา อินฺทฏฺสพฺภาวโต. สทฺเธยฺยาทิวตฺถูสุ สทฺทหนาทิมตฺตเมว หิ ตนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โลกุตฺตรานํ…เป… ทฏฺพฺโพ’’ติ.

อินฺทฺริยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกูนวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๐. วีสติมวคฺโค

๒. าณกถาวณฺณนา

๘๖๓-๘๖๕. กามํ ปุพฺพภาเคปิ อตฺเถว ทุกฺขปริฺา, อตฺถสาธิกา ปน สา มคฺคกฺขณิกา เอวาติ อุกฺกํสคตํ ทุกฺขปริฺํ สนฺธาย อวธาเรนฺโต อาห ‘‘ทุกฺขํ…เป… มคฺคาณเมว ทีเปตี’’ติ. ตํ ปน อวธารณํ น าณนฺตรนิวตฺตนํ, อถ โข าณนฺตรสฺส ยถาธิคตกิจฺจนิวตฺตนํ ทฏฺพฺพํ. เตนาห ‘‘น ตสฺเสว าณภาว’’นฺติอาทิ.

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. นิรยปาลกถาวณฺณนา

๘๖๖-๘๖๘. เนรยิเก นิรเย ปาเลนฺติ, ตโต นิคฺคนฺตุํ อปฺปทานวเสน รกฺขนฺตีติ นิรยปาลา. นิรยปาลตาย วา เนรยิกานํ นรกทุกฺเขน ปริโยนทฺธาย อลํ สมตฺถาติ นิรยปาลา. กึ ปเนเต นิรยปาลา เนรยิกา, อุทาหุ อเนรยิกาติ. กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว เนรยิกา, นิรยสํวตฺตนิเยน กมฺเมน นิพฺพตฺตาติ สยมฺปิ นิรยทุกฺขํ ปจฺจนุภเวยฺยุํ, ตถา สติ อฺเสํ เนรยิกานํ ยาตนาย อสมตฺถา สิยุํ, ‘‘อิเม เนรยิกา, อิเม นิรยปาลา’’ติ ววตฺถานฺจ น สิยา. เย จ เย ยาเตนฺติ, เตหิ สมานรูปพลปฺปมาเณหิ อิตเรสํ ภยสนฺตาสา น สิยุํ. อถ อเนรยิกา, เตสํ ตตฺถ กถํ สมฺภโวติ? วุจฺจเต – อเนรยิกา นิรยปาลา อนิรยคติสํวตฺตนิยกมฺมนิพฺพตฺตา. นิรยูปปตฺติสํวตฺตนิยกมฺมโต หิ อฺเเนว กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตนฺติ รกฺขสชาติกตฺตา. ตถา หิ วทนฺติ –

‘‘โกธนา กุรูรกมฺมนฺตา, ปาปาภิรุจิโน ตถา;

ทุกฺขิเตสุ จ นนฺทนฺติ, ชายนฺติ ยมรกฺขสา’’ติ.

ตตฺถ ยเทเก วทนฺติ ‘‘ยาตนาทุกฺขสฺส อปฺปฏิสํเวทนโต, อฺถา ปุน อฺมฺํ ยาเตยฺยุ’’นฺติ จ เอวมาทิ, ตยิทํ อากาสโรมฏฺนํ นิรยปาลานํ เนรยิกภาวสฺเสว อภาวโต. เย ปน วเทยฺยุํ – ยทิปิ อเนรยิกา นิรยปาลา, อโยมยาย ปน อาทิตฺตาย สมฺปชฺชลิตาย สโชติภูตาย นิรยภูมิยา ปริวตฺตมานา กถํ นาม ทุกฺขํ นานุภวนฺตีติ? กมฺมานุภาวโต. ยถา หิ อิทฺธิมนฺโต เจโตวสิปฺปตฺตา มหาโมคฺคลฺลานาทโย เนรยิเก อนุกมฺปนฺตา อิทฺธิพเลน นิรยภูมึ อุปคตา ตตฺถ ทาหทุกฺเขน น พาธียนฺติ, เอวํ สมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

ตํ อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? อิทมฺปิ ตํสมานํ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. ตถารูเปน หิ กมฺมุนา เต นิพฺพตฺตา ยถา นิรยทุกฺเขน อพาธิตา เอว หุตฺวา เนรยิเก ยาเตนฺติ, น เจตฺตเกน พาหิรวิสยาภาโว วิชฺชติ อิฏฺานิฏฺตาย ปจฺเจกํ ทฺวารปุริเสสุ วิภตฺตสภาวตฺตา. ตถา หิ เอกจฺจสฺส ทฺวารสฺส ปุริสสฺส อิฏฺํ เอกจฺจสฺส อนิฏฺํ, เอกจฺจสฺส จ อนิฏฺํ เอกจฺจสฺส อิฏฺํ โหติ. เอวฺจ กตฺวา ยเทเก วทนฺติ ‘‘นตฺถิ กมฺมวเสน เตชสา ปรูปตาปน’’นฺติอาทิ, ตทปาหตํ โหติ. ยํ ปน วทนฺติ ‘‘อเนรยิกานํ เตสํ กถํ ตตฺถ สมฺภโว’’ติ เนรยิกานํ ยาตกภาวโต. เนรยิกสตฺตยาตนาโยคฺคฺหิ อตฺตภาวํ นิพฺพตฺเตนฺตํ กมฺมํ ตาทิสนิกนฺติวินามิตํ นิรยฏฺาเนเยว นิพฺพตฺเตติ. เต จ เนรยิเกหิ อธิกตรพลาโรหปริณาหา อติวิย ภยานกสนฺตาสกุรูรตรปโยคา จ โหนฺติ. เอเตเนว ตตฺถ กากสุนขาทีนมฺปิ นิพฺพตฺติ สํวณฺณิตาติ ทฏฺพฺพํ.

กถมฺคติเกหิ อฺคติกพาธนนฺติ จ น วตฺตพฺพํ อฺตฺถาปิ ตถา ทสฺสนโต. ยํ ปเนเก วทนฺติ ‘‘อสตฺตสภาวา นิรยปาลา นิรยสุนขาทโย จา’’ติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ อฺตฺถ ตถา อทสฺสนโต. น หิ กาจิ อตฺถิ ตาทิสี ธมฺมปฺปวตฺติ, ยา อสตฺตสภาวา, สมฺปติสตฺเตหิ อปฺปโยชิตา จ อตฺถกิจฺจํ สาเธนฺตี ทิฏฺปุพฺพา. เปตานํ ปานียนิวารกานํ ทณฺฑาทิหตฺถปุริสานมฺปิ อสตฺตภาเว วิเสสการณํ นตฺถิ. สุปินูปฆาโตปิ อตฺถกิจฺจสมตฺถตาย อปฺปมาณํ ทสฺสนาทิมตฺเตนปิ ตทตฺถสิทฺธิโต. ตถา หิ สุปิเน อาหารูปโภคาทินา น อตฺถสิทฺธิ อตฺถิ, นิมฺมานรูปํ ปเนตฺถ ลทฺธปริหารํ อิทฺธิวิสยสฺส อจินฺเตยฺยภาวโต. อิธาปิ กมฺมวิปากสฺส อจินฺเตยฺยภาวโตติ เจ? ตํ น, อสิทฺธตฺตา. เนรยิกานํ กมฺมวิปาโก นิรยปาลาติ อสิทฺธเมตํ, วุตฺตนเยน ปน เนสํ สตฺตภาโว เอว สิทฺโธ. สกฺกา หิ วตฺตุํ สตฺตสงฺขาตา นิรยปาลสฺิตา ธมฺมปฺปวตฺติ สาภิสนฺธิกา ปรูปฆาติ อตฺถกิจฺจสพฺภาวโต โอชาหาราทิรกฺขสสนฺตติ วิยาติ. อภิสนฺธิปุพฺพกตา เจตฺถ น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ ตถา ตถา อภิสนฺธิยา ยาตนโต, ตโต เอว น สงฺฆาฏปพฺพตาทีหิ อเนกนฺติกตา. เย ปน วทนฺติ ‘‘ภูตวิเสสา เอว เต วณฺณสณฺานาทิวิเสสวนฺโต เภรวาการา นรกปาลาติ สมฺํ ลภนฺตี’’ติ, ตทสิทฺธํ. อุชุกเมว ปาฬิยํ ‘‘อตฺถิ นิรเย นิรยปาลา’’ติ วาทสฺส ปติฏฺาปิตตฺตา.

อปิจ ยถา อริยวินเย นรกปาลานํ ภูตมตฺตตา อสิทฺธา, ตถา ปฺตฺติมตฺตวาทิโนปิ เตสํ ภูตมตฺตตา อสิทฺธาว. น หิ ตสฺส ภูตานิ นาม สนฺติ. ยทิ ปรมตฺถํ คเหตฺวา โวหรติ, อถ กสฺมา เวทนาทิเก เอว ปฏิกฺขิปตีติ? ติฏฺเตสา อนวฏฺิตตกฺกานํ อปฺปหีนสมฺโมหวิปลฺลาสานํ วาทวีมํสา, เอวํ อตฺเถว นิรยปาลาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. สติ จ เนสํ สพฺภาเว, อสติปิ พาหิเร วิสเย นรเก วิย เทสาทินิยโม โหตีติ วาโท น สิชฺฌติ เอวาติ ทฏฺพฺพํ.

นิรยปาลกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. ติรจฺฉานกถาวณฺณนา

๘๖๙-๘๗๑. ตสฺสาติ เอราวณนามกสฺส เทวปุตฺตสฺส. ตหึ กีฬนกาเล หตฺถิวณฺเณน วิกุพฺพนํ สนฺธาย ‘‘หตฺถินาคสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ทิพฺพยานสฺสาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. น หิ เอกนฺตสุขปฺปจฺจยฏฺาเน สคฺเค ทุกฺขาธิฏฺานสฺส อกุสลกมฺมสมุฏฺานสฺส อตฺตภาวสฺส สมฺภโว ยุตฺโต. เตนาห ‘‘น ติรจฺฉานคตสฺสา’’ติ.

ติรจฺฉานกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๖. าณกถาวณฺณนา

๘๗๖-๘๗๗. ‘‘ทฺวาทสวตฺถุกํ าณํ โลกุตฺตร’’นฺติ เอตฺถ ทฺวาทสวตฺถุกสฺส าณสฺส โลกุตฺตรตา ปติฏฺาปียตีติ ทสฺเสนฺโต ปมวิกปฺปํ วตฺวา ปุน โลกุตฺตราณสฺส ทฺวาทสวตฺถุกตา ปติฏฺาปียตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ วา…เป… อตฺโถ’’ติ อาห. ปริฺเยฺยนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, ปการตฺโถ วา. เตน ‘‘ปหาตพฺพ’’นฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. ปริฺาตนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘ปริฺเยฺยํ ปริฺาต’’นฺติอาทินา ปริชานนาทิกิริยาย นิพฺพตฺเตตพฺพตา นิพฺพตฺติตตา จ ทสฺสิตา, น นิพฺพตฺติยมานตาติ. เยน ปน สา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺจาณํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สจฺจาณนฺติ ทุกฺขาทิสจฺจสภาวาวโพธกํ าณํ, ยํ สนฺธาย ‘‘อิทํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. มคฺคกฺขเณปีติ อปิ-สทฺเทน ตโต ปุพฺพาปรภาเคปีติ ทฏฺพฺพํ. ปริชานนาทิกิจฺจสาธนวเสน โหติ อสมฺโมหโต วิสยโต จาติ อธิปฺปาโย.

าณกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

วีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

จตุตฺโถ ปณฺณาสโก สมตฺโต.

๒๑. เอกวีสติมวคฺโค

๑. สาสนกถาวณฺณนา

๘๗๘. สมุทายาติ ‘‘สาสนํ นวํ กต’’นฺติอาทินา ปุจฺฉาวเสน ปวตฺตา วจนสมุทายา. เอกเทสานนฺติ ตทวยวานํ. ‘‘ตีสุปิ ปุจฺฉาสู’’ติ เอวํ อธิกรณภาเวน วุตฺตา.

สาสนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๔. อิทฺธิกถาวณฺณนา

๘๘๓-๘๘๔. อธิปฺปายวเสนาติ ตถา ตถา อธิมุจฺจนาธิปฺปายวเสน.

อิทฺธิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๗. ธมฺมกถาวณฺณนา

๘๘๗-๘๘๘. รูปสภาโว รูปฏฺโติ อาห ‘‘รูปฏฺโ นาม โกจิ รูปโต อฺโ นตฺถี’’ติ. ยํ ปน ยโต อฺํ, น ตํ ตํสภาวนฺติ อาห ‘‘รูปฏฺโต อฺํ รูปฺจ น โหตี’’ติ, รูปเมว น โหตีติ อตฺโถ. เอเตน พฺยติเรกโต ตมตฺถํ สาเธติ. ตสฺมาติ ยสฺมา รูปโต อฺโ รูปฏฺโ นตฺถิ, รูปฏฺโต จ อฺํ รูปํ, ตสฺมา รูปํ รูปเมว รูปสภาวเมวาติ เอว-กาเรน นิวตฺติตํ ทสฺเสติ ‘‘น เวทนาทิสภาว’’นฺติ. อธิปฺปาเยนาติ รูปรูปฏฺานํ อนฺตฺตาธิปฺปาเยน. อฺถาติ เตสํ อฺตฺเต รูปฏฺเน นิยเมน รูปํ นิยตนฺติ วตฺตพฺพนฺติ โยชนา. ทสฺสิโตเยว โหติ อตฺถโต อาปนฺนตฺตา. น หิ อภินฺเน วตฺถุสฺมึ ปริยายนฺตรเภทํ กโรติ. อฺตฺตนฺติ รูปสภาวานํ รูปรูปฏฺานฺจ. สสามินิทฺเทสสิทฺธาเภทา ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺติ วิย, กปฺปนามตฺตโต จายํ เภโท, น ปรมตฺถโตติ อาห ‘‘คเหตฺวา วิย ปวตฺโต’’ติ. เวทนาทีหิ นานตฺตเมวาติ เวทนาทีหิ อฺตฺตเมว. โส สภาโวติ โส รูปสภาโว. นานตฺตสฺาปนตฺถนฺติ รูปสฺส สภาโว, น เวทนาทีนนฺติ เอวํ เภทสฺส าปนตฺถํ. ตฺจ วจนนฺติ ‘‘รูปํ รูปฏฺเน น นิยต’’นฺติ วจนํ. วุตฺตปฺปกาเรนาติ ‘‘รูปฏฺโต อฺสฺส รูปสฺส อภาวา’’ติอาทินา วุตฺตากาเรน. ยทิ สโทสํ, อถ กสฺมา ปฏิชานาตีติ โยชนา.

วุตฺตเมว การณนฺติ ‘‘รูปํ รูปเมว, น เวทนาทิสภาว’’นฺติ เอวํ วุตฺตเมว ยุตฺตึ. ปเรน โจทิตนฺติ ‘‘น วตฺตพฺพํ รูปํ รูปฏฺเน นิยต’’นฺติอาทินา ปรวาทิโน โจทนํ สนฺธายาห. ตเมว การณํ ทสฺเสตฺวาติ ตเมว ยถาวุตฺตํ ยุตฺตึ ‘‘เอตฺถ หี’’ติอาทินา ทสฺเสตฺวา. โจทนํ นิวตฺเตตีติ ‘‘อถ กสฺมา ปฏิชานาตี’’ติ วุตฺตํ โจทนํ นิวตฺเตติ. ยมตฺถํ สนฺธาย ‘‘อิโต อฺถา’’ติ วุตฺตํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปาที’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ธมฺมกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เอกวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๒. พาวีสติมวคฺโค

๒. กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา

๘๙๔-๘๙๕. ปุริมชวนกฺขเณติ ปรินิพฺพานจิตฺตโต อนนฺตราตีตปุริมชวนวารกฺขเณ.

กุสลจิตฺตกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓. อาเนฺชกถาวณฺณนา

๘๙๖. เหตุสรูปารมฺมณสมฺปยุตฺตธมฺมารมฺมณาทิโต ภวงฺคสทิสตฺตา จุติจิตฺตํ ‘‘ภวงฺคจิตฺต’’นฺติ อาห.

อาเนฺชกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕-๗. ติสฺโสปิกถาวณฺณนา

๘๙๘-๙๐๐. อรหตฺตปฺปตฺติปิ คพฺเภเยว อตฺถีติ มฺติ. สตฺตวสฺสิกา หิ โสปากสามเณราทโย อรหตฺตํ ปตฺตา. สตฺตวสฺสิโกปิ คพฺโภ อตฺถีติ ปรวาทิโน อธิปฺปาโย. อากาเสน คจฺฉนฺโต วิย สุปินํ อากาสสุปินํ. ตํ อภิฺานิพฺพตฺตํ มฺตีติ นิทสฺสนํ กตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อากาสคมนาทิอภิฺา วิยา’’ติ. เหฏฺิมานํ จตุนฺนํ วา มคฺคานํ อธิคเมน ธมฺมาภิสมโย อคฺคผลาธิคเมน อรหตฺตปฺปตฺติ จ สุปิเน อตฺถีติ มฺตีติ โยชนา.

ติสฺโสปิกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา

๙๐๓-๙๐๕. พีชํ จตุมธุรภาวํ น คณฺหาตีติ อิทํ สกสมยวเสน วุตฺตํ, ปรสมเย ปน รูปธมฺมาปิ อรูปธมฺเมหิ สมานกฺขณา เอว อิจฺฉิตา. เตเนวาห ‘‘สพฺเพ ธมฺมา ขณิกา’’ติ. ขณิกตฺเตปิ วา อเจตเนสุปิ อนินฺทฺริยพทฺธรูเปสุ ภาวนาวิเสโส ลพฺภติ, กิมงฺคํ ปน สเจตเนสูติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา พีชํ จตุมธุรภาวํ น คณฺหาตี’’ติ นิทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. อาเสเวนฺโต นาม โกจิ ธมฺโม นตฺถิ อิตฺตรตาย อนวฏฺานโตติ อธิปฺปาโย. อิตฺตรขณตาย เอว ปน อาเสวนํ ลพฺภติ. กุสลาทิภาเวน หิ อตฺตสทิสสฺส ปโยเคน กรณียสฺส ปุนปฺปุนํ กรณปฺปวตฺตนํ อตฺตสทิสตาปาทนํ วาสนํ วา อาเสวนํ ปุเร ปริจิตคนฺโถ วิย ปจฺฉิมสฺสาติ.

อาเสวนปจฺจยกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๑๐. ขณิกกถาวณฺณนา

๙๐๖-๙๐๗. ปถวิยาทิรูเปสูติ อเนกกลาปสมุทายภูเตสุ สสมฺภารปถวีอาทิรูเปสุ. ตตฺถ หิ เกสุจิ ปุริมุปฺปนฺเนสุ ิเตสุ เกสฺจิ ตทฺเสํ อุปฺปาโท, ตโต ปุริมนฺตรุปฺปนฺนานํ เกสฺจิ นิโรโธ โหติ เอเกกกลาปรูเปสุ สมานุปฺปาทนิโรธตฺตา เตสํ. เอวํ ปติฏฺานนฺติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน อสมานุปฺปาทนิโรเธน ปพนฺเธน ปติฏฺานปวตฺตีติ อตฺโถ. สา ปนายํ ยถาวุตฺตา ปวตฺติ กสฺมา รูปสนฺตติยา เอวาติ อาห ‘‘น หิ รูปาน’’นฺติอาทิ. ตสฺสตฺโถ – ยทิ สพฺเพ สงฺขตธมฺมา สมานกฺขณา, ตถา สติ อรูปสนฺตติยา วิย รูปสนฺตติยาปิ อนนฺตราทิปจฺจเยน วิธินา ปวตฺติ สิยา, น เจตํ อตฺถิ. ยทิ สิยา, จิตฺตกฺขเณ จิตฺตกฺขเณ ปถวีอาทีนํ อุปฺปาทนิโรเธหิ ภวิตพฺพนฺติ.

ขณิกกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

พาวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

๒๓. เตวีสติมวคฺโค

๑. เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา

๙๐๘. เอก-สทฺโท อฺตฺโถปิ โหติ ‘‘อิตฺเถเก อภิวทนฺตี’’ติอาทีสุ วิย, อฺตฺตฺเจตฺถ ราคาธิปฺปายโต เวทิตพฺพํ, ปุถุชฺชนสฺส ปน สฉนฺทราคปริโภคภาวโต อาห ‘‘ราคาธิปฺปายโต อฺาธิปฺปาโยวาติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. โก ปน โส อฺาธิปฺปาโยติ? กรุณาธิปฺปาโย. เตน วุตฺตํ ‘‘กรุณาธิปฺปาเยน เอกาธิปฺปาโย’’ติ. อยฺจ นโย อิตฺถิยา ชีวิตรกฺขณตฺถํ การุฺเน มโนรถํ ปูเรนฺตสฺส โพธิสตฺตสฺส สํวรวินาโส น โหตีติ เอวํวาทินํ ปรวาทึ สนฺธาย วุตฺโต, ปณิธานาธิปฺปายวาทินํ ปน สนฺธาย ‘‘เอโก อธิปฺปาโยติ เอตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปุตฺตมุขทสฺสนาธิปฺปาโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คโตติ ทฏฺพฺพํ. เอกโตภาเวติ สหภาเว.

เอกาธิปฺปายกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๓-๗. อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา

๙๑๐-๙๑๔. อิสฺสริเยนาติ จิตฺติสฺสริเยน, น เจโตวสิภาเวนาติ อตฺโถ. กามการิกํ ยถิจฺฉิตนิปฺผาทนํ. อิสฺสริยกามการิกาเหตูติ อิสฺสริยกามการิภาวนิมิตฺตํ, ตสฺส นิพฺพตฺตนตฺถนฺติ อตฺโถ. มิจฺฉาทิฏฺิยา กรียตีติ มิจฺฉาภินิเวเสเนว ยา กาจิ ทุกฺกรการิกา กรียตีติ อตฺโถ.

อิสฺสริยกามการิกากถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๘. ปติรูปกถาวณฺณนา

๙๑๕-๙๑๖. เมตฺตาทโย วิยาติ ยถา เมตฺตา กรุณา มุทิตา จ สิเนหสภาวาปิ อรฺชนสภาวตฺตา อสํกิลิฏฺตฺตา จ น ราโค, เอวํ ราคปติรูปโก โกจิ ธมฺโม นตฺถิ เปตฺวา เมตฺตาทโย, อฺจิตฺตสฺส สินิยฺหนากาโร ราคสฺเสว ปวตฺติอากาโรติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘ราคเมว คณฺหาตี’’ติ. เอวํ โทเสปีติ เอตฺถ อิสฺสาทโย วิย น โทโส โทสปติรูปโก โกจิ อตฺถีติ โทสเมว คณฺหาตีติ โยเชตพฺพํ. เปตฺวา หิ อิสฺสาทโย อฺจิตฺตสฺส ทุสฺสนากาโร โทสสฺเสว ปวตฺติอากาโรติ.

ปติรูปกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

๙. อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา

๙๑๗-๙๑๘. อนิจฺจาทิโกภาโวติ อนิจฺจสงฺขารปฏิจฺจสมุปฺปนฺนตาทิโก ภาโว ธมฺโม ปกติ เอตสฺสาติ อตฺโถ. ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺนนฺติ ‘‘ทุกฺขสจฺจํ สนฺธาย ปุจฺฉา กตา, น ทุกฺขตามตฺต’’นฺติ อยมตฺโถ วิฺายติ ‘‘น เกวลฺหิ ปมสจฺจเมว ทุกฺข’’นฺติ วจเนน. ตถา สติ ปรวาทินา จกฺขายตนาทีนํ อฺเสฺจ ตํสริกฺขกานํ ธมฺมานํ ปรินิปฺผนฺนตา นานุชานิตพฺพา สิยา. กสฺมา? เตสมฺปิ หิ ทุกฺขสจฺเจน สงฺคโห, น อิตรสจฺเจหิ. ยฺหิ สมุทยสจฺจโต นิพฺพตฺตํ, ตํ นิปฺปริยายโต ทุกฺขสจฺจํ , อิตรํ สงฺขารทุกฺขตาย ทุกฺขนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘น เกวลฺหี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ น หิ อนุปาทินฺนานีติ อิมินา จกฺขายตนาทีนํ สมุทยสจฺเจน สงฺคหาภาวมาห. โลกุตฺตรานีติ อิมินา นิโรธมคฺคสจฺเจหิ. ยทิ เอวเมตฺถ ยุตฺติ วตฺตพฺพา, กิเมตฺถ วตฺตพฺพํ? สภาโว เหส ปรวาทิวาทสฺส, ยทิทํ ปุพฺเพนาปรมสํสนฺทนํ. ตถา หิ โส วิฺูหิ ปฏิกฺขิตฺโต. ตถา เจว ตํ อมฺเหหิ ตตฺถ ตตฺถ วิภาวิตํ. เอตนฺติ ‘‘รูปํ อปรินิปฺผนฺนํ, ทุกฺขฺเว ปรินิปฺผนฺน’’นฺติ ยเทตํ ตยา วุตฺตํ, เอตํ โน วต เร วตฺตพฺเพ. กสฺมา? รูปสฺส จ ทุกฺขตฺตา. รูปฺหิ อนิจฺจํ ทุกฺขาธิฏฺานฺจ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺขํ. สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ จ.

อปรินิปฺผนฺนกถาวณฺณนา นิฏฺิตา.

เตวีสติมวคฺควณฺณนา นิฏฺิตา.

กถาวตฺถุปกรณ-อนุฏีกา สมตฺตา.

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส