📜

๑๑. เอกาทสโม ปริจฺเฉโท

นิพฺพานนิทฺเทโส

๗๖๘.

รูปานนฺตรมุทฺทิฏฺํ , นิพฺพานํ ยํ ปนาทิโต;

ตสฺสิทานิ อนุปฺปตฺโต, วิภาวนนยกฺกโม.

๗๖๙.

ตสฺมาหํ ตสฺส ทสฺเสตุํ, ทุกฺกรสฺส ยถาพลํ;

ทุพฺโพธสฺส ปวกฺขามิ, วิภาวนมิโต ปรํ.

ตตฺถ นิพฺพานนฺติ ภวาภวํ วินนโต วานํ วุจฺจติ ตณฺหา, วานโต นิกฺขนฺตตฺตา นิพฺพานนฺติ จ ปวุจฺจติ อมตํ อสงฺขตํ ปรมํ สุขํ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘โย โส สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค ตณฺหากฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ.

๗๗๐.

ยสฺส จาธิคมา สพฺพ-กิเลสานํ ขโย ภเว;

นิพฺพานมิติ นิทฺทิฏฺํ, นิพฺพานกุสเลน ตํ.

เอตํ จ นิพฺพานํ นาม ตยิทํ สนฺติลกฺขณํ, อจฺจุติรสํ, อสฺสาสกรณรสํ วา, อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ, นิสฺสรณปจฺจุปฏฺานํ วาติ เวทิตพฺพํ.

เอตฺถาห – น ปรมตฺถโต นิพฺพานํ นาม เอโก สภาโว อตฺถิ, ติตฺถิยานํ อตฺตา วิย, สสวิสาณํ วิย จ อนุปลพฺภนียโตติ? น, ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขิยมานานํ หิตคเวสีนํ ยถานุรูปาย ปฏิปตฺติยา อุปลพฺภนียโต. ยํ หิ ปุถุชฺชนา โนปลพฺภนฺติ, ตํ ‘‘นตฺถี’’ติ น วตฺตพฺพํ. อถายสฺมตา สาริปุตฺตตฺเถเรน ธมฺมเสนาปตินา ‘‘กตมํ นุ โข, อาวุโส, นิพฺพาน’’นฺติ นิพฺพานํ ปุฏฺเน ‘‘โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ ราคาทีนํ ขโยว ทสฺสิโต, ตสฺมา ราคาทีนํ ขยมตฺตเมว นิพฺพานนฺติ เจ? ตํ น. กสฺมา? อรหตฺตสฺสาปิ ราคาทีนํ ขยมตฺตปสงฺคโทสาปตฺติโต. กถํ? นิพฺพานํ ปุจฺฉานนฺตรเมว ‘‘กตมํ นุ โข, อาวุโส, อรหตฺต’’นฺติ ปุฏฺเน ‘‘โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ ราคาทีนํ ขโยว วุตฺโต, ตสฺมา ตว มเตน อรหตฺตผลสฺสาปิ ราคาทีนํ ขยมตฺตตา ภเวยฺย, น เจตํ ยุตฺตํ อนุตฺตรสฺส โลกุตฺตรผลจิตฺตสฺส ราคานํ ขยมตฺตตาปชฺชนํ, ตสฺมา มา เอวํ พฺยฺชนจฺฉายาย วเทสิ, อุภินฺนํ ปน สุตฺตานํ อตฺโถ อุปปริกฺขิตพฺโพ.

ยสฺส ปน ธมฺมสฺสาธิคเมน ราคาทีนํ ขโย โหติ, โส ธมฺโม ราคาทีนํ ขยสฺส อุปนิสฺสยตฺตา อกฺขโยปิ สมาโน ‘‘ราคาทีนํ ขโย นิพฺพาน’’นฺติ ขโยปจาเรน วุตฺโต, ‘‘ติปุสํ ชโร คุโฬ เสมฺโห’’ติอาทีสุ วิย ผลูปจาเรน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อรหตฺตํ ปน ขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา ‘‘ขโย’’ติ วุตฺตํ. ยทิ ราคาทีนํ ขยมตฺตํ นิพฺพานํ ภเวยฺย, สพฺเพ พาลปุถุชฺชนาปิ สมธิคตนิพฺพานา สจฺฉิกตนิโรธา ภเวยฺยุํ. กิฺจ ภิยฺโย – นิพฺพานสฺส พหุตฺตาทิโทสาปตฺติโต จ. เอวฺหิ สติ ราคาทิกฺขยานํ พหุภาวโต นิพฺพานสฺสาปิ พหุภาโว ภเวยฺย, สงฺขตลกฺขณฺจ นิพฺพานํ ภเวยฺย, สงฺขตลกฺขณตฺตา สงฺขตปริยาปนฺนฺจ, สงฺขตปริยาปนฺนตฺตา อนิจฺจํ ทุกฺขํ นิพฺพานํ ภเวยฺยาติ.

กิฺจ ภิยฺโย – ยทิ ขโย นิพฺพานํ ภเวยฺย, โคตฺรภุโวทานมคฺคผลจิตฺตานํ กึ นุ อารมฺมณํ วเทสิ, วท ภทฺรมุขาติ? ราคาทีนํ ขยเมว วทามีติ. กึ ปน ราคาทโย โคตฺรภุอาทีนํ ขเณ ขียนฺติ, อุทาหุ ขียิสฺสนฺติ, อถ ขีณาติ? กึ ปเนตฺถ ‘‘ขีเณสฺเวว ขยํ วทามี’’ติ. สุฏฺุ อุปธาเรตฺวา วท ภทฺรมุขาติ, ยทิ ขีเณสฺเวว ขยํ วเทสิ, น โคตฺรภุจิตฺตาทีนํ นิพฺพานารมฺมณตา สิชฺฌตีติ. กึ การณํ? โคตฺรภุกฺขเณ ราคาทโย ขียิสฺสนฺติ, ตถา โวทานกฺขเณ, มคฺคกฺขเณ ปน ขียนฺติ, น ขีณา, ผลกฺขเณ ขีณา. เอวํ สนฺเต ภวโต มเตน ผลเมว ขยารมฺมณํ, น อิตเร, อิตเรสํ ปน กิมารมฺมณํ วเทสีติ ? อทฺธา โส อารมฺมณํ อปสฺสนฺโต นิรุตฺตโร ภวิสฺสติ. อปิจ กิเลสกฺขโย นาม สปฺปุริเสหิ กรียติ, ยถานุรูปาย ปฏิปตฺติยา อุปฺปาทียตีติ อตฺโถ. นิพฺพานํ ปน น เกนจิ กรียติ น อุปฺปาทียติ, ตสฺมา นิพฺพานมมตมสงฺขตํ. ตมกตํ ชานาตีติ อริยสาวโก ‘‘อกตฺู’’ติ ปวุจฺจติ. วุตฺตฺเจตํ –

๗๗๑.

‘‘อสทฺโธ อกตฺู จ,

สนฺธิจฺเฉโท จ โย นโร;

หตาวกาโส วนฺตาโส,

ส เว อุตฺตมโปริโส’’ติ.

อปิจ ‘‘นิสฺสรณ’’นฺติ ภควตา วุตฺตตฺตา จ. ‘‘นิสฺสรณ’’นฺติ หิ นิพฺพานสฺเสตํ นามํ. ยถาห ‘‘ตโย โขเม, ภิกฺขเว, ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา. กตเม ตโย ธมฺมา ทุปฺปฏิวิชฺฌา? ติสฺโส นิสฺสรณธาตุโย. กามานเมตํ นิสฺสรณํ, ยทิทํ เนกฺขมฺมํ. รูปานเมตํ นิสฺสรณํ, ยทิทํ อรูปํ. ยํ โข ปน กิฺจิ ภูตํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนํ, นิโรโธ ตสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ หิ วุตฺตํ. เอวํ วุตฺตสฺส ตสฺส นิพฺพานสฺส อภาวปตฺติโทสโต ปมชฺฌานากาสานฺจายตนานมฺปิ อภาโว ภเวยฺย, ตสฺมา อยุตฺตํ อกฺขยสฺส นิพฺพานสฺส ขยโทสาปชฺชนนฺติ, น ตุ ขโย นิพฺพานํ.

‘‘อตฺถิ นิสฺสรณํ โลเก, ปฺาย เม สุผุสิต’’นฺติ จ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ จ ธมฺมสามินา ตถาคเตน สมฺมาสมฺพุทฺเธน อเนเกสุ สุตฺตนฺเตสุ ปรมตฺถวเสน วุตฺตตฺตา ‘‘อตฺถิ นิพฺพานํ นาม เอโก ธมฺโม’’ติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ. อปิจ ปริตฺตตฺติเก ‘‘กตเม ธมฺมา อปฺปมาณา’’ติ ปทมุทฺธริตฺวา – ‘‘จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ นิพฺพานฺจ, อิเม ธมฺมา อปฺปมาณา’’ติ วุตฺตตฺตา ราคาทีนํ ขยสฺส อปฺปมาณตฺตํ กถํ ยุชฺชติ, ตสฺมา ปรมตฺถโต อตฺถิเยว นิพฺพานํ นาม เอโก สภาโวติ. ตํ ปน ปกติวาทีนํ ปกติ วิย, ติตฺถิยานํ อตฺตา วิย จ สสวิสาณํ วิย จ นาวิชฺชมานํ.

อถ ปฺตฺติมตฺตํ นิพฺพานนฺติ เจ, ตมฺปิ อยุตฺตํ. กสฺมา? นิพฺพานารมฺมณานํ จิตฺตเจตสิกานํ นวตฺตพฺพารมฺมณตฺตา. กถํ? ปริตฺตารมฺมณตฺติเก จ ปน ‘‘กตเม ธมฺมา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ ปทมุทฺธริตฺวา ‘‘จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา จตฺตาริ จ สามฺผลานิ , อิเม ธมฺมา อปฺปมาณารมฺมณา’’ติ หิ วุตฺตํ. ยทิ ปเนเตสํ ปฺตฺติอารมฺมณํ สิยา, อปฺปมาณารมฺมณตา น ยุชฺเชยฺย, นวตฺตพฺพารมฺมณปกฺขํ ภเชยฺยุํ. ‘‘นวตฺตพฺพารมฺมณา ปน รูปาวจรตฺติกจตุกฺกชฺฌานา กุสลโต จ วิปากโต จ กิริยโต จ, จตุตฺถสฺส ฌานสฺส วิปาโก, อากาสานฺจายตนํ อากิฺจฺายตนํ กุสลโต จ วิปากโต จ กิริยโต จ, อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพารมฺมณา’’ติ หิ วุตฺตํ, ตสฺมา น ปฺตฺติมตฺตํ นิพฺพานํ. ยสฺมา จ ปณฺณตฺติภาโว นิพฺพานสฺส น ยุชฺชติ, ตสฺมา มคฺคผลานํ อารมฺมณปจฺจยภูตํ อุปฺปาทาทีนมภาวโต นิจฺจํ, รูปสภาวาภาวโต อรูปํ, ปปฺจาภาวโต นิปฺปปฺจํ นิพฺพานํ นาม อตฺถีติ อุปคนฺตพฺพนฺติ.

๗๗๒.

อจฺจนฺตมนนฺตํ สนฺตํ, อมตํ อปโลกิตํ;

ปณีตํ สรณํ เขมํ, ตาณํ เลณํ ปรายณํ.

๗๗๓.

สิวฺจ นิปุณํ สจฺจํ, ทุกฺขกฺขยมนาสวํ;

สุทุทฺทสํ ปรํ ปารํ, นิพฺพานมนิทสฺสนํ.

๗๗๔.

ตณฺหากฺขยํ ธุวํ ทีปํ, อพฺยาปชฺฌมนีติกํ;

อนาลยมรูปฺจ, ปทมจฺจุตมกฺขรํ.

๗๗๕.

วิราคฺจ นิโรธฺจ, วิมุตฺติ โมกฺขเมว จ;

อิเมหิ ปน นาเมหิ, นิพฺพานํ ตุ กถียติ.

๗๗๖.

เอวฺจ ปน วิฺาย, นิพฺพานมฺปิ จ อจฺจุตํ;

ตสฺส จาธิคมูปาโย, กตฺตพฺโพ วิฺุนา สทา.

๗๗๗.

สทฺธาพุทฺธิกรํ ตถาคตมเต สมฺโมหวิทฺธํสนํ,

ปฺาสมฺภวสมฺปสาทนกรํ ชานาติ โย เจ อิมํ;

อตฺถพฺยฺชนสาลินํ สุมธุรํ สารฺุวิมฺหาปนํ,

คมฺภีเร นิปุณาภิธมฺมปิฏเก โส ยาภินิฏฺํ ปทํ.

อิติ อภิธมฺมาวตาเร นิพฺพานนิทฺเทโส นาม

เอกาทสโม ปริจฺเฉโท.