📜

๑๒. ทฺวาทสโม ปริจฺเฉโท

ปฺตฺตินิทฺเทโส

เอตฺถาห – ‘‘กึ เอตฺตกเมว เยฺยํ, อุทาหุ อฺมฺปิ อตฺถี’’ติ? อตฺถิ ปฺตฺติ นามาติ. สา ปเนสา ปฺเปตพฺพโต, ปฺาปนโต จ ‘‘ปฺตฺตี’’ติ วุจฺจติ. เตเนวาห – ‘‘ยา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโป’’ติ. ตตฺถ สงฺขายตีติ สงฺขา, กถียตีติ อตฺโถ. กินฺติ กถียติ? ‘‘อห’’นฺติ ‘‘มม’’นฺติ ‘‘ปโร’’ติ ‘‘ปรสฺสา’’ติ ‘‘มฺโจ’’ติ ‘‘ปี’’นฺติ อเนเกหิ อากาเรหิ กถียตีติ สงฺขา. สมฺายตีติ สมฺา. ปฺาปียตีติ ปฺตฺติ. โวหรียตีติ โวหาโร. กินฺติ โวหรียติ? ‘‘อห’’นฺติ ‘‘มม’’นฺติ ‘‘ปโร’’ติ ‘‘ปรสฺสา’’ติ ‘‘มฺโจ’’ติ ‘‘ปี’’นฺติ. เอวํ ตาว ปฺเปตพฺพโต ปฺตฺตีติ วุตฺตา. ‘‘อห’’นฺติ หิ รูปาทโย ธมฺเม อุปาทาย ปฏิจฺจ การณํ กตฺวา ยถา เต รูปาทโย ธมฺมา อุปฺปาทวยวนฺโต, น เอวํวิธา, เกวลํ โลกสงฺเกเตน สิทฺธา ยา อยํ ‘‘อห’’นฺติ กถียติ เจว ปฺาปียติ จ, เอสา ปฺตฺตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ปฺาปนโต ปฺตฺตึ ปกาเสตุํ ‘‘นามํ นามกมฺม’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ นามนฺติ ตํ ตํ ธมฺมํ ‘‘เอส อิตฺถนฺนาโม นามา’’ติ ปฺเปติ, ตสฺมา ตํ ปฺตฺตีติ ปวุจฺจติ. นามกมฺมนฺติอาทีนิ ตสฺสา เอว เววจนานิ. อยํ ปฺาปนโต ปฺตฺติ นาม.

สา ปเนสา ตชฺชาปฺตฺติ อุปาทาปฺตฺติ อุปนิธาปฺตฺตีติ ติวิธา โหติ. ตตฺถ ตชฺชาปฺตฺติ นาม จกฺขุโสตรูปสทฺทปถวีเตโชวาโยติอาทินยปฺปวตฺตา. อุปาทาปฺตฺติ ปน สมูหาสมูหวเสน ทุวิธา โหติ. ตตฺถ สมูหปฺตฺติ นาม รูปารูปธมฺเมสุ เอกสฺส วา พหูนํ วา นามํ คเหตฺวา สมูหเมโวปาทาย วุจฺจติ. กถํ? อจฺฉตรจฺฉฆฏปฏาทิปฺปเภทา. อยํ สมูหปฺตฺติ นาม. อสมูหปฺตฺติ ปน ทิสากาสกาลนิมิตฺตาภาวนิโรธาทิเภทา.

ยทา ปน สา วิชฺชมานํ ปรมตฺถํ โชตยติ, ตทา ‘‘วิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ ปวุจฺจติ. ยทา อวิชฺชมานํ สมูหาสมูหเภทํ นามมตฺตํ โชตยติ, ตทา ‘‘อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ ปวุจฺจติ . ทุวิธาปิ ปเนสา โสตทฺวารชวนานนฺตรํ คหิตปุพฺพสงฺเกตมโนทฺวารชวนวิฺาเณน วิฺายติ. ยาย คหิตปุพฺพสงฺเกเตน มโนทฺวารชวนวิฺาเณน ปฺาปียติ. ยํ สนฺธาย ‘‘วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ, อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺตี’’ติ ฉกฺกนโย วุตฺโต. ตตฺถ ปรมตฺถโต วิชฺชมานานํ รูปาทีนํ ปฺาปนา วิชฺชมานปฺตฺติ. ตถา อวิชฺชมานานมิตฺถิปุริสาทีนํ ปฺาปนา อวิชฺชมานปฺตฺติ. เปตฺวา ปน วจนตฺถํ เกนจิ อากาเรน อนุปลพฺภมานานํ ปฺจมสจฺจาทีนํ, ติตฺถิยปริกปฺปิตานํ วา ปกติปุริสาทีนํ ปฺาปนาปิ อวิชฺชมานปฺตฺติเยว. ‘‘เตวิชฺโช, ฉฬภิฺโ’’ติ เอวมาทินยปฺปวตฺตา วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘อิตฺถิสทฺโท, ปุริสสทฺโท’’ติ เอวมาทิกา อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘จกฺขุวิฺาณํ, โสตวิฺาณ’’นฺติ เอวมาทิกา วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ. ‘‘ขตฺติยกุมาโร, พฺราหฺมณกุมาโร, ภิกฺขุกุมาโร’’ติ เอวมาทิกา อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺตีติ เอวํ วุตฺตา ฉ ปฺตฺติโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺติ. อยํ อุปาทาปฺตฺติ นาม.

อุปนิธาปฺตฺติปิ เอติสฺสา เอว ปเภทา, สา ปน ‘‘ทีฆํ อุปนิธาย รสฺโส, รสฺสํ อุปนิธาย ทีโฆ’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ‘‘กปณํ มานุสกํ รชฺชํ ทิพฺพสุขํ อุปนิธายา’’ติ เอวมาทิกา จ, ตสฺมา ปฺเปตพฺพโต จ ปฺาปนโต จ ปฺตฺตีติ เวทิตพฺพา. สมฺา สมตฺตา.

๗๗๘.

ปรมตฺถโต จ ปฺตฺติ, ตติยา โกฏิ น วิชฺชติ;

ทฺวีสุ าเนสุ กุสโล, ปรวาเทสุ น กมฺปติ.

อิติ อภิธมฺมาวตาเร ปฺตฺตินิทฺเทโส นาม

ทฺวาทสโม ปริจฺเฉโท.