📜
๑๕. ปนฺนรสโม ปริจฺเฉโท
อรูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทโส
รูปารูปมตีเตน ¶ ¶ , รูปารูปาทิเวทินา;
ยานิ จารูปปฺุานิ, สรูเปนีริตานิ ตุ.
เตสํ ทานิ ปวกฺขามิ, ภาวนานยมุตฺตมํ;
โยคาวจรภิกฺขูนํ, หิตตฺถาย สมาสโต.
‘‘รูเป โข วิชฺชมานสฺมึ, ทณฺฑาทานาทโย สิยุํ;
อเนกาปิ ปนาพาธา, จกฺขุโรคาทโย’’อิติ.
รูเป อาทีนวํ ทิสฺวา, รูเป นิพฺพินฺทมานโส;
ตสฺสาติกฺกมนตฺถาย, อรูปํ ปฏิปชฺชติ.
ตมฺหา ¶ กสิณรูปาปิ, โส นิพฺพิชฺช วิสารโท;
อปกฺกมิตุกาโม จ, สูกราภิหโตว สา.
จตุตฺเถ ปน ฌานสฺมึ, หุตฺวา จิณฺณวสี วสี;
จตุตฺถชฺฌานโต ธีมา, วุฏฺาย วิธินา ปุน.
กโรติ ปนิทํ จิตฺตํ, รูปมารมฺมณํ ยโต;
อาสนฺนโสมนสฺสฺจ, ถูลสนฺตวิโมกฺขโต.
อิติ อาทีนวํ ทิสฺวา, จตุตฺเถ ตตฺถ สพฺพโส;
นิกนฺตึ ปริยาทาย, ปมารุปฺปฺจ สนฺตโต.
จกฺกวาฬปริยนฺตํ, ยตฺตกํ วา ปนิจฺฉติ;
ตตฺตกํ ปตฺถริตฺวาน, ผุฏฺโกาสฺจ เตน ตํ.
อากาโส ¶ อิติ วานนฺโต,
อากาโส อิติ วา ปุน;
มนสา หิ กโรนฺโตว,
อุคฺฆาเฏติ ปวุจฺจติ.
อุคฺฆาเฏนฺโต หิ กสิณํ, น สํเวลฺเลติ ตํ ปน;
น จุทฺธรติ โส โยคี, ปูวํ วิย กปาลโต.
เกวลํ ปน ตํ เนว, อาวชฺชติ น เปกฺขติ;
นาวชฺชนฺโต นเปกฺขนฺโต, อุคฺฆาเฏติ หิ นามโส.
กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ ¶ , นิมิตฺตํ ปน ตํว โส;
อากาโส อิติ จิตฺเตน, อาวชฺชติ ปุนปฺปุนํ.
อาวชฺชโต หิ ตสฺเสวํ,
กโรโต ตกฺกาหตมฺปิ จ;
ปฺจ นีวรณา ตสฺส,
วิกฺขมฺภนฺติ หิ สพฺพโส.
อาเสวติ ¶ จ ภาเวติ, ตํ นิมิตฺตํ ปุนปฺปุนํ;
กโรโต ปน ตสฺเสว, สนฺตจิตฺตสฺส โยคิโน.
ตตฺรากาเส ปนาปฺเปติ, ปมารุปฺปมานสํ;
อิธาปิ ปุริเม ภาเค, ตีณิ จตฺตาริ วา ปน.
ชวนานิ อุเปกฺขาย, สมฺปยุตฺตานิ โหนฺติ หิ;
จตุตฺถํ ปฺจมํ วาปิ, โหติ อารุปฺปมานสํ.
ปุน ภาเวตุกาเมน, ทุติยารุปฺปมานสํ;
สุจิณฺณวสินา หุตฺวา, ปมารุปฺปมานเส.
อาสนฺนรูปาวจร-ชฺฌานปจฺจตฺถิกนฺติ จ;
ทุติยารุปฺปจิตฺตํว, น จ สนฺตมิทนฺติ จ.
เอวมาทีนวํ ¶ ทิสฺวา, ปมารุปฺปมานเส;
นิกนฺตึ ปริยาทาย, ทุติยํ สนฺตโต ปน.
ตมากาสํ ผริตฺวาน, ปวตฺตมานสํ ปน;
ตฺจ วิฺาณมิจฺเจวํ, กตฺตพฺพํ มนสา พหุํ.
อาวชฺชนฺจ กตฺตพฺพํ, ตถา ตกฺกาหตมฺปิ จ;
‘‘อนนฺต’’นฺติ ‘‘อนนฺต’’นฺติ, กาตพฺพํ มนสา นิธ.
ตสฺมึ ปน นิมิตฺตสฺมึ, วิจาเรนฺตสฺส มานสํ;
อุปจาเรน ตํ จิตฺตํ, สมาธิยติ โยคิโน.
อาเสวติ จ ภาเวติ, ตํ นิมิตฺตํ ปุนปฺปุนํ;
ตสฺส เจวํ กโรนฺตสฺส, สติสมฺปนฺนเจตโส.
อากาสํ ผุสวิฺาเณ, ทุติยารุปฺปมานสํ;
อปฺเปติ อปฺปนา ยสฺมึ, นโย วุตฺตนโยว โส.
อากาโสยมนนฺโตติ, เอวมากาสเมว ตํ;
ผริตฺวา ปวตฺตวิฺาณํ, ‘‘วิฺาณฺจ’’นฺติ วุจฺจติ.
มนกฺการวเสนาปิ, อนนฺตํ ปริทีปิตํ;
‘‘วิฺาณานนฺต’’มิจฺเจว, วตฺตพฺพํ ปนิทํ สิยา.
อถ ¶ ภาเวตุกาเมน, ตติยารุปฺปมานสํ;
สุจิณฺณวสินา หุตฺวา, ทุติยารุปฺปมานเส.
อาสนฺนปมารุปฺป-จิตฺตปจฺจตฺถิกนฺติ จ;
ตติยารุปฺปจิตฺตํว, น จ สนฺตมิทนฺติ จ.
เอวมาทีนวํ ทิสฺวา, ทุติยารุปฺปมานเส;
นิกนฺตึ ปริยาทาย, ตติยํ สนฺตโต ปน.
เอวํ มนสิ กตฺวาน, กาตพฺโพ มนสา ปุน;
ปมารุปฺปวิฺาณา-ภาโว ตสฺเสว สฺุโต.
ตํ ¶ ¶ ปนากาสวิฺาณํ, อกตฺวา มนสา ปุน;
‘‘นตฺถิ นตฺถี’’ติ วาเตน, ‘‘สฺุํ สฺุ’’นฺติ วา ตโต.
อาวชฺชิตพฺพเมวฺหิ, กตฺตพฺพํ มนสาปิ จ;
ตกฺกาหตฺจ กาตพฺพํ, ปุนปฺปุนํว ธีมตา.
ตสฺมึ นิมิตฺเต ตสฺเสวํ, วิจาเรนฺตสฺส มานสํ;
สติ ติฏฺติ ภิยฺโยปิ, สมาธิยติ มานสํ.
อาเสวติ จ ภาเวติ, ตํ นิมิตฺตํ ปุนปฺปุนํ;
ตสฺส เจวํ กโรนฺตสฺส, สติสมฺปนฺนเจตโส.
กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ, ผริตฺวาน สมนฺตโต;
วิฺาณสฺส ปวตฺตสฺส, นตฺถิภาเว อภาวเก.
ตติยารุปฺปวิฺาณํ,
ตํ ปนาปฺเปติ โยคิโน;
อปฺปนาย นโยเปตฺถ,
โหติ วุตฺตนโยว โส.
อากาสคตวิฺาณํ, ทุติยารุปฺปจกฺขุนา;
ปสฺสนฺโต วิหริตฺวาน, ‘‘นตฺถิ นตฺถี’’ติอาทินา.
ปริกมฺมมนกฺกาเร ¶ , ตสฺมึ อนฺตรหิเต ปน;
ตสฺสาปคมมตฺตํว, ปสฺสนฺโต วสตี จ โส.
สนฺนิปาตํ ยถา โกจิ, ทิสฺวา สงฺฆสฺส กตฺถจิ;
คเต สงฺเฆ ตุ ตํ านํ, สฺุเมวานุปสฺสติ.
ปุน ภาเวตุกาเมน, จตุตฺถารุปฺปมานสํ;
สุจิณฺณวสินา หุตฺวา, ตติยารุปฺปมานเส.
อาสนฺนทุติยารุปฺป-จิตฺตปจฺจตฺถิกนฺติ จ;
จตุตฺถารุปฺปจิตฺตํว, น จ สนฺตมิทนฺติ จ.
เอวมาทีนวํ ¶ ทิสฺวา, ตติยารุปฺปมานเส;
นิกนฺตึ ปริยาทาย, จตุตฺถํ สนฺตโต ปน.
เอวํ มนสิ กตฺวาน, ปุน ตตฺเถว ธีมตา;
อภาวารมฺมณํ กตฺวา, สมฺปวตฺตมิทํ มโน.
‘‘สนฺตํ สนฺตมิทํ จิตฺต’’-มิจฺเจวํ ตํ ปุนปฺปุนํ;
โหติ อาวชฺชิตพฺพฺจ, กาตพฺพํ มนสาปิ จ.
ตสฺมึ นิมิตฺเต ตสฺเสวํ, วิจาเรนฺตสฺส มานสํ;
สติ ติฏฺติ ภิยฺโยปิ, สมาธิยติ มานสํ.
อาเสวติ จ ภาเวติ, ตํ นิมิตฺตํ ปุนปฺปุนํ;
ตสฺส เจวํ กโรนฺตสฺส, สติสมฺปนฺนเจตโส.
ตติยารุปฺปสงฺขาต-ขนฺเธสุ จ จตูสุปิ;
จตุตฺถารุปฺปวิฺาณํ, ตํ ปนาปฺเปติ โยคิโน.
อปฺปนาย ¶ นโยเปตฺถ, เหฏฺา วุตฺตนยูปโม;
อปิเจตฺถ วิเสโสยํ, เวทิตพฺโพ วิภาวินา.
‘‘อโห สนฺตา วตาย’’นฺติ, สมาปตฺติ ปทิสฺสติ;
ยา ปนาภาวมตฺตมฺปิ, กตฺวา สฺสติ โคจรํ.
สนฺตารมฺมณตาเยว, ‘‘สนฺตาย’’นฺติ วิปสฺสติ;
สนฺตโต เจ มนกฺกาโร, กถฺจ สมติกฺกโม.
อนาปชฺชิตุกามตฺตา ¶ , โหเตว สมติกฺกโม;
‘‘สมาปชฺชามหเมต’’-มิจฺจาโภโค น วิชฺชติ.
สนฺตโต ตํ กโรนฺโต หิ, มนสา สุขุมํ ปรํ;
อสฺํ ปน ทุพฺพลฺยํ, ปาปุณาติ มหคฺคตํ.
เนวสฺี จ นาสฺี,
ยาย สฺาย โหติ โส;
น ¶ เกวลํ ตุ สฺาว,
เอทิสี อถ โข ปน.
เอวเมว ภวนฺเตตฺถ, สุขุมา เวทนาทโย;
ปตฺตมกฺขนเตเลน, มคฺคสฺมึ อุทเกน จ.
สาเวตพฺโพ อยํ อตฺโถ, จตุตฺถารุปฺปโพธเน;
ปฏุสฺาย กิจฺจสฺส, เนวกฺกรณโต อยํ.
‘‘เนวสฺา’’ติ นิทฺทิฏฺา, จตุตฺถารุปฺปสมฺภวา;
ปฏุสฺาย กิจฺจํ สา, กาตุํ สกฺโกติ เนว จ.
ยถา ทหนกิจฺจํ ตุ, เตโชธาตุ สุโขทเก;
สา สงฺขาราวเสสตฺตา, สุขุมตฺเตน วิชฺชติ;
ตสฺมา ปน จ สา สฺา, ‘‘นาสฺา’’ติ ปวุจฺจติ.
เอตา หิ รูปมากาสํ,
วิฺาณํ ตทภาวกํ;
อติกฺกมิตฺวา กมโต,
จตสฺโส โหนฺติ อาห จ.
‘‘อารมฺมณาติกฺกมโต, จตสฺโสปิ ภวนฺติมา;
องฺคาติกฺกมเมตาสํ, น อิจฺฉนฺติ วิภาวิโน.
สุปณีตตรา ¶ โหนฺติ,
ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อิธ;
อุปมา ตตฺถ วิฺเยฺยา,
ปาสาทตลสาฏิกา’’ติ.
สงฺเขเปน มยารุปฺป-สมาปตฺตินโย อยํ;
ทสฺสิโต ทสฺสิโต สุทฺธ-ทสฺสินา ปิยทสฺสินา.
รูปารูปชฺฌานสมาปตฺติวิธานํ ¶ ,
ชานาติมํ สารตรํ โย ปน ภิกฺขุ;
รูปารูปชฺฌานสมาปตฺตีสุ ทกฺโข,
รูปารูปํ ยาติ ภวํ โส อภิภุยฺย.
อิติ อภิธมฺมาวตาเร อรูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทโส นาม
ปนฺนรสโม ปริจฺเฉโท.