📜

๑๙. เอกูนวีสติโม ปริจฺเฉโท

กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทโส

๑๒๒๗.

เอตสฺส นามรูปสฺส, ชานิตฺวา เหตุปจฺจเย;

กงฺขา ตีสุ ปนทฺธาสุ, วิตริตฺวา ิตํ ปน.

๑๒๒๘.

กงฺขาวิตรณํ นาม, าณํ ตํ สมุทีริตํ;

ตํ สมฺปาเทตุกาเมน, อตฺถกาเมน ภิกฺขุนา.

๑๒๒๙.

นามรูปสฺส โก เหตุ, โกนุ วา ปจฺจโย ภเว;

อาวชฺชิตฺวา ตมิจฺเจวํ, รูปกายสฺส ตาวเท.

๑๒๓๐.

เกสา โลมา นขา ทนฺตา, ตโจ มํสํ นหารุ จ;

อฏฺิมิฺชฺจ วกฺกฺจ, หทยํ ยกนมฺปิ จ.

๑๒๓๑.

อิจฺเจวมาทิพาตฺตึส-โกฏฺาสปจฺจยสฺส หิ;

ปริคฺคณฺหติ กายสฺส, มนสา เหตุปจฺจเย.

๑๒๓๒.

อวิชฺชา ตณฺหุปาทานํ, กมฺมํ เหตุ จตุพฺพิโธ;

เอตสฺส รูปกายสฺส, อาหาโร ปจฺจโย มโต.

๑๒๓๓.

ชนโก เหตุ อกฺขาโต,

ปจฺจโย อนุปาลโก;

เหตฺวงฺกุรสฺส พีชํ ตุ,

ปจฺจยา ปถวาทโย.

๑๒๓๔.

อิติเม ปฺจ ธมฺมา หิ, เหตุปจฺจยตํ คตา;

อวิชฺชาทโย ตโย ตตฺถ, มาตาว อุปนิสฺสยา.

๑๒๓๕.

ชนกํ ปน กมฺมํ ตุ, ปุตฺตสฺส หิ ปิตา วิย;

ธาตี วิย กุมารสฺส, อาหาโร ธารโก ภเว.

๑๒๓๖.

อิจฺเจวํ รูปกายสฺส, โส ปจฺจยปริคฺคหํ;

กตฺวา ปุนปิ ‘‘จกฺขุฺจ, รูปมาโลกเมว จ.

๑๒๓๗.

ปฏิจฺจ จกฺขุวิฺาณํ, โหติ’’อิจฺเจวมาทินา;

นเยน นามกายสฺส, ปจฺจยํ ปริคณฺหติ.

๑๒๓๘.

โส เอวํ นามรูปสฺส, วุตฺตึ ทิสฺวาน ปจฺจยา;

ยถา เอตรหิทํ ตุ, อตีเตปิ ตเถวิทํ.

๑๒๓๙.

ปจฺจยา จ ปวตฺติตฺถ, ตเถวานาคเตปิ จ;

ปวตฺติสฺสติ อทฺธาสุ, ตีสฺเววํ อนุปสฺสติ.

๑๒๔๐.

ตสฺเสวํ ปสฺสโต ยา สา, ปุพฺพนฺเต ปฺจธา ตถา;

อปรนฺเต สิยา กงฺขา, ปฺจธา สมุทีริตา.

๑๒๔๑.

ปจฺจุปฺปนฺเนปิ อทฺธาเน, ฉพฺพิธา ปริกิตฺติตา;

สพฺพา จานวเสสาว, โยคิโน สา ปหิยฺยติ.

๑๒๔๒.

เอโก กมฺมวิปากานํ, วเสนาปิ จ ปณฺฑิโต;

เอตสฺส นามรูปสฺส, ปจฺจยํ ปริคณฺหติ.

๑๒๔๓.

กมฺมํ จตุพฺพิธํ ทิฏฺ-ธมฺมเวทนิยํ ตถา;

อุปปชฺชาปราปริยา-โหสิกมฺมวสา ปน.

ตตฺถ เอกชวนวีถิยํ สตฺตสุ จิตฺเตสุ กุสลา วา อกุสลา วา ปมชวนเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียกมฺมํ นาม. ตํ อิมสฺมึเยว อตฺตภาเว วิปากํ เทติ, ตถา อสกฺโกนฺตํ ปน ‘‘อโหสิกมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, นตฺถิ กมฺมวิปาโก’’ติ อิมสฺส ติกสฺส วเสน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อตฺถสาธิกา ปน สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียกมฺมํ นาม. ตมนนฺตเร อตฺตภาเว วิปากํ เทติ, ตถา อสกฺโกนฺตํ วุตฺตนเยน อโหสิกมฺมํ นาม โหติ. อุภินฺนมนฺตเร ปฺจชวนเจตนา อปราปริยเวทนียกมฺมํ นาม. ตมนาคเต ยทา โอกาสํ ลภติ, ตทา วิปากํ เทติ, สติ สํสารปฺปวตฺติยา อโหสิกมฺมํ นาม น โหติ.

๑๒๔๔.

อปรํ จตุพฺพิธํ กมฺมํ, ครุกํ พหุลมฺปิ จ;

อาสนฺนฺจ กฏตฺตา จ, กมฺมนฺติ สมุทีริตํ.

๑๒๔๕.

อฺํ จตุพฺพิธํ กมฺมํ, ชนกํ อุปถมฺภกํ;

ตถูปปีฬกํ กมฺม-มุปฆาตกเมว จ.

ตตฺถ ชนกํ นาม กุสลํ วา อกุสลํ วา กมฺมํ ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปวตฺเตปิ รูปารูปวิปากกฺขนฺเธ ชเนติ. อุปตฺถมฺภกํ ปน วิปากํ ชเนตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ อุปตฺถมฺเภติ, อทฺธานํ ปวตฺเตติ. อุปปีฬกํ ปน อฺเน กมฺเมน ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา ชนิเต วิปาเก อุปฺปชฺชนกสุขทุกฺขํ ปีเฬติ พาธติ, อทฺธานํ ปวตฺติตุํ น เทติ. อุปฆาตกํ ปน สยํ กุสลมฺปิ อกุสลมฺปิ สมานํ อฺํ ทุพฺพลกมฺมํ ฆาเตตฺวา ตสฺส วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺส โอกาสํ กโรติ. เอวํ ปน กมฺเมน โอกาเส กเต ตํวิปากมุปฺปนฺนํ นาม โหติ. อิติ อิมํ ทฺวาทสวิธํ กมฺมํ กมฺมวฏฺเฏ ปกฺขิปิตฺวา เอวเมโก กมฺมวิปากวเสน นามรูปสฺส ปจฺจยปริคฺคหํ กโรติ.

อิติ เอวํ กมฺมวิปากวฏฺฏวเสน นามรูปสฺส ปวตฺตึ ทิสฺวา ‘‘ยถา อิทํ เอตรหิ, เอวมตีเตปิ อทฺธาเน กมฺมวิปากวเสน ปจฺจยโต ปวตฺติตฺถ, อนาคเตปิ ปวตฺติสฺสตี’’ติ อิติ กมฺมฺเจว วิปาโก จาติ กมฺมวิปากวเสน โลโก ปวตฺตตีติ ตํ สมนุปสฺสติ. ตสฺเสวํ สมนุปสฺสโต สพฺพา โสฬสวิธา กงฺขา ปหิยฺยติ.

๑๒๔๖.

เหตุผลสฺส สมฺพนฺธวเสเนว ปวตฺตติ;

เกวลํ นามรูปนฺติ, สมฺมา สมนุปสฺสติ.

๑๒๔๗.

เอวํ การณโต อุทฺธํ, การณํ น จ ปสฺสติ;

ปากปวตฺติโต อุทฺธํ, น ปากปฏิเวทกํ.

เตนาหุ โปราณา –

๑๒๔๘.

‘‘กมฺมสฺส การโก นตฺถิ, วิปากสฺส จ เวทโก;

สุทฺธธมฺมา ปวตฺตนฺติ, เอเวตํ สมฺมทสฺสนํ.

๑๒๔๙.

เอวํ กมฺเม วิปาเก จ, วตฺตมาเน สเหตุเก;

พีชรุกฺขาทิกานํว, ปุพฺพา โกฏิ น นายติ.

๑๒๕๐.

อนาคเตปิ สํสาเร, อปฺปวตฺติ น ทิสฺสติ;

เอตมตฺถมนฺาย, ติตฺถิยา อสยํวสี.

๑๒๕๑.

สตฺตสฺํ คเหตฺวาน, สสฺสตุจฺเฉททสฺสิโน;

ทฺวาสฏฺิทิฏฺึ คณฺหนฺติ, อฺมฺวิโรธิโน.

๑๒๕๒.

ทิฏฺิพนฺธนพทฺธา เต, ตณฺหาโสเตน วุยฺหเร;

ตณฺหาโสเตน วุยฺหนฺตา, น เต ทุกฺขา ปมุจฺจเร.

๑๒๕๓.

เอวเมตํ อภิฺาย, ภิกฺขุ พุทฺธสฺส สาวโก;

คมฺภีรํ นิปุณํ สุฺํ, ปจฺจยํ ปฏิวิชฺฌติ.

๑๒๕๔.

กมฺมํ นตฺถิ วิปากมฺหิ, ปาโก กมฺเม น วิชฺชติ;

อฺมฺํ อุโภ สุฺา, น จ กมฺมํ วินา ผลํ.

๑๒๕๕.

ยถา น สูริเย อคฺคิ, น มณิมฺหิ น โคมเย;

น เตสํ พหิ โส อตฺถิ, สมฺภาเรหิ จ ชายติ.

๑๒๕๖.

ตถา น อนฺโต กมฺมสฺส, วิปาโก อุปลพฺภติ;

พหิทฺธาปิ น กมฺมสฺส, น กมฺมํ ตตฺถ วิชฺชติ.

๑๒๕๗.

ผเลน สุฺํ ตํ กมฺมํ, ผลํ กมฺเม น วิชฺชติ;

กมฺมฺจ โข อุปาทาย, ตโต นิพฺพตฺตเต ผลํ.

๑๒๕๘.

น เหตฺถ เทโว พฺรหฺมา วา,

สํสารสฺสตฺถิ การโก;

สุทฺธธมฺมา ปวตฺตนฺติ,

เหตุสมฺภารปจฺจยา’’ติ.

๑๒๕๙.

เอวํ นานปฺปกาเรหิ, นามรูปสฺส ปจฺจยํ;

ปริคฺคเหตฺวา อทฺธาสุ, ตริตฺวา กงฺขมุฏฺิตํ.

๑๒๖๐.

กงฺขาวิตรณํ นาม, าณํ ตํ สมุทีริตํ;

ธมฺมฏฺิติ ยถาภูตํ, ตํ สมฺมาทสฺสนนฺติปิ.

๑๒๖๑.

อิมินา ปน าเณน,

สํยุตฺโต พุทฺธสาสเน;

โหติ ลทฺธปติฏฺโว,

โสตาปนฺโน หิ จูฬโก.

๑๒๖๒.

ตสฺมา สปฺโ ปน อตฺถกาโม,

โย นามรูปสฺส เหตุปจฺจยานิ;

ปริคฺคหํ สาธุ กโรติ ธีโร,

ขิปฺปํ ส นิพฺพานปุรํ อุเปติ.

อิติ อภิธมฺมาวตาเร กงฺขาวิตรณวิสุทฺธินิทฺเทโส นาม

เอกูนวีสติโม ปริจฺเฉโท.