📜

๓. ปกิณฺณกปริจฺเฉทวณฺณนา

. อิทานิ ยถาวุตฺตานํ จิตฺตเจตสิกานํ เวทนาทิวิภาคโต, ตํตํเวทนาทิเภทภินฺนจิตฺตุปฺปาทวิภาคโต จ ปกิณฺณกสงฺคหํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมฺปยุตฺตา ยถาโยค’’นฺตฺยาทิ อารทฺธํ. ยถาโยคํ สมฺปยุตฺตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา สภาวโต อตฺตโน อตฺตโน สภาววเสน เอกูนนวุติวิธมฺปิ จิตฺตํ อารมฺมณวิชานนสภาวสามฺเน เอกวิธํ, สพฺพจิตฺตสาธารโณ ผสฺโส ผุสนสภาเวน เอกวิโธตฺยาทินา เตปฺาส โหนฺติ.

. อิทานิ เตสํ ธมฺมานํ ยถารหํ เวทนา…เป… วตฺถุโต สงฺคโห นาม เวทนาสงฺคหาทินามโก ปกิณฺณกสงฺคโห จิตฺตุปฺปาทวเสเนว ตํตํเวทนาทิเภทภินฺนจิตฺตุปฺปาทานํ วเสเนว น กตฺถจิ ตํวิรเหน นียเต อุปนียเต, อาหรียตีตฺยตฺโถ.

เวทนาสงฺคหวณฺณนา

. ตตฺถาติ เตสุ ฉสุ สงฺคเหสุ. สุขาทิเวทนานํ, ตํสหคตจิตฺตุปฺปาทานฺจ วิภาควเสน สงฺคโห เวทนาสงฺคโห. ทุกฺขโต, สุขโต จ อฺา อทุกฺขมสุขา-การาคมวเสน. นนุ จ ‘‘ทฺเวมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๖๗) วจนโต ทฺเว เอว เวทนาติ? สจฺจํ, ตํ ปน อนวชฺชปกฺขิกํ อทุกฺขมสุขํ สุขเวทนายํ , สาวชฺชปกฺขิกฺจ ทุกฺขเวทนายํ สงฺคเหตฺวา วุตฺตํ. ยมฺปิ กตฺถจิ สุตฺเต ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตมิทเมตฺถ ทุกฺขสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙) วจนํ, ตํ สงฺขารทุกฺขตาย สพฺพเวทนานํ ทุกฺขสภาวตฺตา วุตฺตํ. ยถาห – ‘‘สงฺขารานิจฺจตํ, อานนฺท, มยา สนฺธาย ภาสิตํ สงฺขารวิปริณามตฺจ ยํ กิฺจิเวทยิตมิทเมตฺถ ทุกฺขสฺสา’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙; อิติวุ. อฏฺ. ๕๒). ตสฺมา ติสฺโสเยว เวทนาติ ทฏฺพฺพา. เตนาห ภควา – ‘‘ติสฺโส อิมา, ภิกฺขเว, เวทนา สุขา ทุกฺขา อทุกฺขมสุขา จา’’ติ (อิติวุ. ๕๒-๕๓; สํ. นิ. ๔.๒๔๙-๒๕๑). เอวํ ติวิธาปิ ปเนตา อินฺทฺริยเทสนายํ ‘‘สุขินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุเปกฺขินฺทฺริย’’นฺติ (วิภ. ๒๑๙) ปฺจธา เทสิตาติ ตํวเสนเปตฺถ วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สุขํ ทุกฺข’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. กายิกมานสิกสาตาสาตเภทโต หิ สุขํ ทุกฺขฺจ ปจฺเจกํ ทฺวิธา วิภชิตฺวา ‘‘สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ทุกฺขินฺทฺริยํ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ (วิภ. ๒๑๙) เทสิตา, อุเปกฺขา ปน เภทาภาวโต อุเปกฺขินฺทฺริยนฺติ เอกธาว. ยถา หิ สุขทุกฺขานิ อฺถา กายสฺส อนุคฺคหมุปฆาตฺจ กโรนฺติ, อฺถา มนโส, เนวํ อุเปกฺขา, ตสฺมา สา เอกธาว เทสิตา, เตนาหุ โปราณา –

‘‘กายิกํ มานสํ ทุกฺขํ, สุขฺโจเปกฺขเวทนา;

เอกํ มานสเมเวติ, ปฺจธินฺทฺริยเภทโต’’ติ. (ส. ส. ๗๔);

ตตฺถ อิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ สุขํ. อนิฏฺโผฏฺพฺพานุภวนลกฺขณํ ทุกฺขํ. สภาวโต, ปริกปฺปโต วา อิฏฺานุภวนลกฺขณํ โสมนสฺสํ. ตถา อนิฏฺานุภวนลกฺขณํ โทมนสฺสํ. มชฺฌตฺตานุภวนลกฺขณา อุเปกฺขา.

. จตุจตฺตาลีส ปจฺเจกํ โลกิยโลกุตฺตรเภเทน เอกาทสวิธตฺตา.

. เสสานีติ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสสหคเตหิ อวเสสานิ อกุสลโต ฉ, อเหตุกโต จุทฺทส, กามาวจรโสภนโต ทฺวาทส, ปฺจมชฺฌานิกานิ เตวีสาติ สพฺพานิปิ ปฺจปฺาส.

เวทนาสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

เหตุสงฺคหวณฺณนา

๑๐. โลภาทิเหตูนํ วิภาควเสน, ตํสมฺปยุตฺตวเสน จ สงฺคโห เหตุสงฺคโห. เหตโว นาม ฉพฺพิธา ภวนฺตีติ สมฺพนฺโธ. เหตุภาโว ปน เนสํ สมฺปยุตฺตานํ สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนสงฺขาโต มูลภาโว. ลทฺธเหตุปจฺจยา หิ ธมฺมา วิรุฬฺหมูลา วิย ปาทปา ถิรา โหนฺติ, น อเหตุกา วิย ชลตเล เสวาลสทิสา. เอวฺจ กตฺวา เอเต มูลสทิสตาย ‘‘มูลานี’’ติ จ วุจฺจนฺติ. อปเร ปน ‘‘กุสลาทีนํ กุสลาทิภาวสาธนํ เหตุภาโว’’ติ วทนฺติ, เอวํ สติ เหตูนํ อตฺตโน กุสลาทิภาวสาธโน อฺโ เหตุ มคฺคิตพฺโพ สิยา. อถ เสสสมฺปยุตฺตเหตุปฏิพทฺโธ เตสํ กุสลาทิภาโว, เอวมฺปิ โมมูหจิตฺตสมฺปยุตฺตสฺส เหตุโน อกุสลภาโว อปฺปฏิพทฺโธ สิยา. อถ ตสฺส สภาวโต อกุสลภาโวปิ สิยา, เอวํ สติ เสสเหตูนมฺปิ สภาวโตว กุสลาทิภาโวติ เตสํ วิย สมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ โส เหตุปฏิพทฺโธ น สิยา. ยทิ จ เหตุปฏิพทฺโธ กุสลาทิภาโว, ตทา อเหตุกานํ อพฺยากตภาโว น สิยาติ อลมตินิปฺปีฬเนน. กุสลาทิภาโว ปน กุสลากุสลานํ โยนิโสอโยนิโสมนสิการปฺปฏิพทฺโธ. ยถาห – ‘‘โยนิโส, ภิกฺขเว, มนสิกโรโต อนุปฺปนฺนา เจว กุสลา ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปนฺนา จ กุสลา ธมฺมา อภิวฑฺฒนฺตี’’ตฺยาทิ (อ. นิ. ๑.๖๗), อพฺยากตานํ ปน อพฺยากตภาโว นิรนุสยสนฺตานปฺปฏิพทฺโธ กมฺมปฺปฏิพทฺโธ อวิปากภาวปฺปฏิพทฺโธ จาติ ทฏฺพฺพํ.

๑๖. อิทานิ เหตูนํ ชาติเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลโภ โทโส จา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ.

เหตุสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

กิจฺจสงฺคหวณฺณนา

๑๘. ปฏิสนฺธาทีนํ กิจฺจานํ วิภาควเสน, ตํกิจฺจวนฺตานฺจ ปริจฺเฉทวเสน สงฺคโห กิจฺจสงฺคโห. ภวโต ภวสฺส ปฏิสนฺธานํ ปฏิสนฺธิกิจฺจํ. อวิจฺเฉทปฺปวตฺติเหตุภาเวน ภวสฺส องฺคภาโว ภวงฺคกิจฺจํ. อาวชฺชนกิจฺจาทีนิ เหฏฺา วุตฺตวจนตฺถานุสาเรน ยถารหํ โยเชตพฺพานิ. อารมฺมเณ ตํตํกิจฺจสาธนวเสน อเนกกฺขตฺตุํ, เอกกฺขตฺตุํ วา ชวมานสฺส วิย ปวตฺติ ชวนกิจฺจํ. ตํตํชวนคฺคหิตารมฺมณสฺส อารมฺมณกรณํ ตทารมฺมณกิจฺจํ. นิพฺพตฺตภวโต ปริคฬฺหนํ จุติกิจฺจํ.

๑๙. อิมานิ ปน กิจฺจานิ านวเสน ปากฏานิ โหนฺตีติ ตํ ทานิ ปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ, ตตฺถ ปฏิสนฺธิยา านํ ปฏิสนฺธิานํ. กามํ ปฏิสนฺธิวินิมุตฺตํ านํ นาม นตฺถิ, สุขคฺคหณตฺถํ ปน ‘‘สิลาปุตฺตกสฺส สรีร’’นฺตฺยาทีสุ วิย อเภเทปิ เภทปริกปฺปนาติ ทฏฺพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ. ทสฺสนาทีนํ ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ านํ ปฺจวิฺาณานํ. อาทิ-สทฺเทน สมฺปฏิจฺฉนานาทีนํ สงฺคโห.

ตตฺถ จุติภวงฺคานํ อนฺตรา ปฏิสนฺธิานํ. ปฏิสนฺธิอาวชฺชนานํ, ชวนาวชฺชนานํ, ตทารมฺมณาวชฺชนานํ, โวฏฺพฺพนาวชฺชนานํ, กทาจิ ชวนจุตีนํ, ตทารมฺมณจุตีนฺจ อนฺตรา ภวงฺคานํ. ภวงฺคปฺจวิฺาณานํ, ภวงฺคชวนานฺจ อนฺตรา อาวชฺชนานํ. ปฺจทฺวาราวชฺชนสมฺปฏิจฺฉนานมนฺตรา ปฺจวิฺาณานํ. ปฺจวิฺาณสนฺตีรณานมนฺตรา สมฺปฏิจฺฉนานํ. สมฺปฏิจฺฉนโวฏฺพฺพนานมนฺตรา สนฺตีรณานํ. สนฺตีรณชวนานํ, สนฺตีรณภวงฺคานฺจ อนฺตรา โวฏฺพฺพนานํ. โวฏฺพฺพนตทารมฺมณานํ, โวฏฺพฺพนภวงฺคานํ, โวฏฺพฺพนจุตีนํ, มโนทฺวาราวชฺชนตทารมฺมณานํ, มโนทฺวาราวชฺชนภวงฺคานํ, มโนทฺวาราวชฺชนจุตีนฺจ อนฺตรา ชวนานํ. ชวนภวงฺคานํ, ชวนจุตีนฺจ อนฺตรา ตทารมฺมณานํ. ชวนปฏิสนฺธีนํ, ตทารมฺมณปฏิสนฺธีนํ, ภวงฺคปฏิสนฺธีนํ วา อนฺตรา จุติานํ นาม.

๒๐. ทฺเว อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณานิ สุขสนฺตีรณสฺส ปฏิสนฺธิวสปฺปวตฺติภาวาภาวโตติอธิปฺปาโย. เอวฺจ กตฺวา ปฏฺาเน ‘‘อุเปกฺขาสหคตํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ อุเปกฺขาสหคโต ธมฺโม อุปฺปชฺชติ น เหตุปจฺจยา’’ติ (ปฏฺา. ๔.๑๓.๑๗๙) เอวมาคตสฺส อุเปกฺขาสหคตปทสฺส วิภงฺเค ‘‘อเหตุกํ อุเปกฺขาสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา, ทฺเว ขนฺเธ ปฏิจฺจ เอโก ขนฺโธ, อเหตุกปฏิสนฺธิกฺขเณ อุเปกฺขาสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา, ทฺเว ขนฺเธ ปฏิจฺจ เอโก ขนฺโธ’’ติ (ปฏฺา. ๔.๑๓.๑๗๙) เอวํ ปวตฺติปฏิสนฺธิวเสน ปฏิจฺจนโย อุทฺธโฏ, ปีติสหคตสุขสหคตปทวิภงฺเค ปน ‘‘อเหตุกํ ปีติสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจตโย ขนฺธา…เป… ทฺเว ขนฺธา. อเหตุกํ สุขสหคตํ เอกํ ขนฺธํ ปฏิจฺจ ทฺเว ขนฺธา …เป… เอโก ขนฺโธ’’ติ (ปฏฺา. ๔.๑๓.๑๔๔, ๑๖๗) ปวตฺติวเสเนว อุทฺธโฏ, น ปน ‘‘อเหตุกปฏิสนฺธิกฺขเณ’’ตฺยาทินา ปฏิสนฺธิวเสน, ตสฺมา ยถาธมฺมสาสเน อวจนมฺปิ อภาวเมว ทีเปตีติ น ตสฺส ปฏิสนฺธิวเสน ปวตฺติ อตฺถิ. ยตฺถ ปน ลพฺภมานสฺสปิ กสฺสจิ อวจนํ, ตตฺถ การณํ อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ.

๒๕. มโนทฺวาราวชฺชนสฺส ปริตฺตารมฺมเณ ทฺวตฺติกฺขตฺตุํ ปวตฺตมานสฺสปิ นตฺถิ ชวนกิจฺจํ ตสฺส อารมฺมณรสานุภวนาภาวโตติ วุตฺตํ ‘‘อาวชฺชนทฺวยวชฺชิตานี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ชวนฏฺาเน ตฺวา’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘ วิปากุทฺธารกถา). อิตรถา ‘‘ชวนํ หุตฺวา’’ติ วตฺตพฺพํ สิยาติ. กุสลากุสลผลกิริยจิตฺตานีติ เอกวีสติ โลกิยโลกุตฺตรกุสลานิ, ทฺวาทส อกุสลานิ, จตฺตาริ โลกุตฺตรผลจิตฺตานิ, อฏฺารส เตภูมกกิริยจิตฺตานิ. เอกจิตฺตกฺขณิกมฺปิ หิ โลกุตฺตรมคฺคาทิกํ ตํสภาววนฺตตาย ชวนกิจฺจํ นาม, ยถา เอเกกโคจรวิสยมฺปิ สพฺพฺุตฺาณํ สกลวิสยาวโพธนสามตฺถิยโยคโต น กทาจิ ตํนามํ วิชหตีติ.

๒๗. เอวํ กิจฺจเภเทน วุตฺตาเนว ยถาสกํ ลพฺภมานกิจฺจคณนวเสน สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เตสุ ปนา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ.

๓๓. ปฏิสนฺธาทโย จิตฺตุปฺปาทา นามกิจฺจเภเทน ปฏิสนฺธาทีนํ นามานํ, กิจฺจานฺจ เภเทน, อถ วา ปฏิสนฺธาทโย นาม ตนฺนามกา จิตฺตุปฺปาทา ปฏิสนฺธาทีนํ กิจฺจานํ เภเทน จุทฺทส, านเภเทน ปฏิสนฺธาทีนํเยว านานํ เภเทน ทสธา ปกาสิตาติ โยชนา. เอกกิจฺจานทฺวิกิจฺจานติกิจฺจานจตุกิจฺจานปฺจกิจฺจานานิ จิตฺตานิ ยถากฺกมํ อฏฺสฏฺิ, ตถา ทฺเว จ นว จ อฏฺ จ ทฺเว จาติ นิทฺทิเสติ สมฺพนฺโธ.

กิจฺจสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทฺวารสงฺคหวณฺณนา

๓๕. ทฺวารานํ , ทฺวารปฺปวตฺตจิตฺตานฺจ ปริจฺเฉทวเสน สงฺคโห ทฺวารสงฺคโห. อาวชฺชนาทีนํ อรูปธมฺมานํ ปวตฺติมุขภาวโต ทฺวารานิ วิยาติ ทฺวารานิ.

๓๖. จกฺขุเมวาติ ปสาทจกฺขุเมว.

๓๗. อาวชฺชนาทีนํ มนานํ, มโนเยว วา ทฺวารนฺติ มโนทฺวารํ. ภวงฺคนฺติ อาวชฺชนานนฺตรํ ภวงฺคํ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘สาวชฺชนํ ภวงฺคนฺตุ, มโนทฺวารนฺติ วุจฺจตี’’ติ;

๓๙. ตตฺถาติ เตสุ จกฺขาทิทฺวาเรสุ จกฺขุทฺวาเร ฉจตฺตาลีส จิตฺตานิ ยถารหมุปฺปชฺชนฺตีติ สมฺพนฺโธ. ปฺจทฺวาราวชฺชนเมกํ, จกฺขุวิฺาณาทีนิ อุภยวิปากวเสน สตฺต, โวฏฺพฺพนเมกํ, กามาวจรชวนานิ จ กุสลากุสลนิราวชฺชนกิริยวเสน เอกูนตึส, ตทารมฺมณานิ จ อคฺคหิตคฺคหเณน อฏฺเวาติ ฉจตฺตาลีส. ยถารหนฺติ อิฏฺาทิอารมฺมเณ โยนิโสอโยนิโสมนสิการนิรนุสยสนฺตานาทีนํ อนุรูปวเสน. สพฺพถาปีติ อาวชฺชนาทิตทารมฺมณปริโยสาเนน สพฺเพนปิ ปกาเรน กามาวจราเนวาติ โยชนา. สพฺพถาปิ จตุปฺาส จิตฺตานีติ วา สมฺพนฺโธ. สพฺพถาปิ ตํตํทฺวาริกวเสน ิตานิ อคฺคหิตคฺคหเณน จกฺขุทฺวาริเกสุ ฉจตฺตาลีสจิตฺเตสุ โสตวิฺาณาทีนํ จตุนฺนํ ยุคฬานํ ปกฺเขเปน จตุปฺาสปีตฺยตฺโถ.

๔๑. จกฺขาทิทฺวาเรสุ อปฺปวตฺตนโต, มโนทฺวารสงฺขาตภวงฺคโต อารมฺมณนฺตรคฺคหณวเสน อปฺปวตฺติโต จ ปฏิสนฺธาทิวเสน ปวตฺตานิ เอกูนวีสติ ทฺวารวิมุตฺตานิ.

๔๒. ทฺวิปฺจวิฺาณานิ สกสกทฺวาเร, ฉพฺพีสติ มหคฺคตโลกุตฺตรชวนานิ มโนทฺวาเรเยว อุปฺปชฺชนโต ฉตฺตึส จิตฺตานิ ยถารหํ สกสกทฺวารานุรูปํ เอกทฺวาริกจิตฺตานิ.

๔๕. ปฺจทฺวาเรสุ สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน, มโนทฺวาเร จ ตทารมฺมณวเสน ปวตฺตนโต ฉทฺวาริกานิ เจว ปฏิสนฺธาทิวสปฺปวตฺติยา ทฺวารวิมุตฺตานิ จ.

๔๗. ปฺจทฺวาริกานิ จ ฉทฺวาริกานิ จ ปฺจฉทฺวาริกานิ. ฉทฺวาริกานิ จ ตานิ กทาจิ ทฺวารวิมุตฺตานิ จาติ ฉทฺวาริกวิมุตฺตานิ. อถ วา ฉทฺวาริกานิ จ ฉทฺวาริกวิมุตฺตานิ จาติ ฉทฺวาริกวิมุตฺตานีติ เอกเทสสรูเปกเสโส ทฏฺพฺโพ.

ทฺวารสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

อาลมฺพณสงฺคหวณฺณนา

๔๘. อารมฺมณานํ สรูปโต, วิภาคโต, ตํวิสยจิตฺตโต จ สงฺคโห อาลมฺพณสงฺคโห. วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ รูปยติ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ รูปํ, ตเทว ทุพฺพลปุริเสน ทณฺฑาทิ วิย จิตฺตเจตสิเกหิ อาลมฺพียติ, ตานิ วา อาคนฺตฺวา เอตฺถ รมนฺตีติ อารมฺมณนฺติ รูปารมฺมณํ. สทฺทียตีติ สทฺโท, โสเยว อารมฺมณนฺติ สทฺทารมฺมณํ. คนฺธยติ อตฺตโน วตฺถุํ สูเจติ ‘‘อิทเมตฺถ อตฺถี’’ติ เปสุฺํ กโรนฺตํ วิย โหตีติ คนฺโธ, โสเยว อารมฺมณํ คนฺธารมฺมณํ. รสนฺติ ตํ สตฺตา อสฺสาเทนฺตีติ รโส, โสเยว อารมฺมณํ รสารมฺมณํ. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ, ตเทว อารมฺมณํ โผฏฺพฺพารมฺมณํ. ธมฺโมเยว อารมฺมณํ ธมฺมารมฺมณํ.

๔๙. ตตฺถาติ เตสุ รูปาทิอารมฺมเณสุ, รูปเมวาติ วณฺณายตนสงฺขาตํ รูปเมว. สทฺทาทโยติ สทฺทายตนาทิสงฺขาตา สทฺทาทโย, อาโปธาตุวชฺชิตภูตตฺตยสงฺขาตํ โผฏฺพฺพายตนฺจ.

๕๐. ปฺจารมฺมณปสาทานิ เปตฺวา เสสานิ โสฬส สุขุมรูปานิ.

๕๑. ปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วตฺตมานํ.

๕๒. ฉพฺพิธมฺปีติ รูปาทิวเสน ฉพฺพิธมฺปิ. วินาสาภาวโต อตีตาทิกาลวเสน นวตฺตพฺพตฺตา นิพฺพานํ, ปฺตฺติ จ กาลวิมุตฺตํ นาม. ยถารหนฺติ กามาวจรชวนอภิฺาเสสมหคฺคตาทิชวนานํ อนุรูปโต. กามาวจรชวนานฺหิ หสิตุปฺปาทวชฺชานํ ฉพฺพิธมฺปิ ติกาลิกํ, กาลวิมุตฺตฺจ อารมฺมณํ โหติ. หสิตุปฺปาทสฺส ติกาลิกเมว. ตถา หิสฺส เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตํ วกฺขติ. ทิพฺพจกฺขาทิวสปฺปวตฺตสฺส ปน อภิฺาชวนสฺส ยถารหํ ฉพฺพิธมฺปิ ติกาลิกํ, กาลวิมุตฺตฺจ อารมฺมณํ โหติ. วิภาโค ปเนตฺถ นวมปริจฺเฉเท อาวิ ภวิสฺสติ. เสสานํ ปน กาลวิมุตฺตํ, อตีตฺจ ยถารหมารมฺมณํ โหติ.

๕๓. ทฺวาร…เป… สงฺขาตานํ ฉพฺพิธมฺปิ อารมฺมณํ โหตีติ สมฺพนฺโธ, ตํ ปน เนสํ อารมฺมณํ น อาวชฺชนสฺส วิย เกนจิ อคฺคหิตเมว โคจรภาวํ คจฺฉติ, น จ ปฺจทฺวาริกชวนานํ วิย เอกนฺตปจฺจุปฺปนฺนํ, นาปิ มโนทฺวาริกชวนานํ วิย ติกาลิกเมว, อวิเสเสน กาลวิมุตฺตํ วา, นาปิ มรณาสนฺนโต ปุริมภาคชวนานํ วิย กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทิวเสน อาคมสิทฺธิโวหารวินิมุตฺตนฺติ อาห ‘‘ยถาสมฺภวํ…เป… สมฺมต’’นฺติ. ตตฺถ ยถาสมฺภวนฺติ ตํตํภูมิกปฏิสนฺธิภวงฺคจุตีนํ ตํตํทฺวารคฺคหิตาทิวเสน สมฺภวานุรูปโต. กามาวจรานฺหิ ปฏิสนฺธิภวงฺคานํ ตาว รูปาทิปฺจารมฺมณํ ฉทฺวารคฺคหิตํ ยถารหํ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตฺจ กมฺมนิมิตฺตสมฺมตมารมฺมณํ โหติ, ตถา จุติจิตฺตสฺส อตีตเมว. ธมฺมารมฺมณํ ปน เตสํ ติณฺณนฺนมฺปิ มโนทฺวารคฺคหิตเมว อตีตํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตสมฺมตํ, ตถา รูปารมฺมณํ เอกเมว มโนทฺวารคฺคหิตํ เอกนฺตปจฺจุปฺปนฺนํ คตินิมิตฺตสมฺมตนฺติ เอวํ กามาวจรปฏิสนฺธาทีนํ ยถาสมฺภวํ ฉทฺวารคฺคหิตํ ปจฺจุปฺปนฺนมตีตฺจ กมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสมฺมตมารมฺมณํ โหติ.

มหคฺคตปฏิสนฺธาทีสุ ปน รูปาวจรานํ, ปมตติยารุปฺปานฺจ ธมฺมารมฺมณเมว มโนทฺวารคฺคหิตํ ปฺตฺติภูตํ กมฺมนิมิตฺตสมฺมตํ, ตถา ทุติยจตุตฺถารุปฺปานํ อตีตเมวาติ เอวํ มหคฺคตปฏิสนฺธิภวงฺคจุตีนํ มโนทฺวารคฺคหิตํ ปฺตฺติภูตํ, อตีตํ วา กมฺมนิมิตฺตสมฺมตเมว อารมฺมณํ โหติ.

เยภุยฺเยน ภวนฺตเร ฉทฺวารคฺคหิตนฺติ พาหุลฺเลน อตีตานนฺตรภเว มรณาสนฺนปฺปวตฺตฉทฺวาริกชวเนหิ คหิตํ. อสฺีภวโต จุตานฺหิ ปฏิสนฺธิวิสยสฺส อนนฺตราตีตภเว น เกนจิ ทฺวาเรน คหณํ อตฺถีติ ตเทเวตฺถ เยภุยฺยคฺคหเณน พฺยภิจาริตํ. เกวลฺหิ กมฺมพเลเนว เตสํ ปฏิสนฺธิยา กมฺมนิมิตฺตาทิกมารมฺมณํ อุปฏฺาติ. ตถา หิ สจฺจสงฺเขเป อสฺีภวโต จุตสฺส ปฏิสนฺธินิมิตฺตํ ปุจฺฉิตฺวา –

‘‘ภวนฺตรกตํ กมฺมํ, ยโมกาสํ ลเภ ตโต;

โหติ สา สนฺธิ เตเนว, อุปฏฺาปิตโคจเร’’ติ. (ส. ส. ๑๗๑) –

เกวลํ กมฺมพเลเนว ปฏิสนฺธิโคจรสฺส อุปฏฺานํ วุตฺตํ. อิตรถา หิ ชวนคฺคหิตสฺสปิ อารมฺมณสฺส กมฺมพเลเนว อุปฏฺาปิยมานตฺตา ‘‘เตเนวา’’ติ สาวธารณวจนสฺส อธิปฺปายสุฺตา อาปชฺเชยฺยาติ. นนุ จ เตสมฺปิ ปฏิสนฺธิโคจโร กมฺมภเว เกนจิ ทฺวาเรน ชวนคฺคหิโต สมฺภวตีติ? สจฺจํ สมฺภวติ กมฺมกมฺมนิมิตฺตสมฺมโต, คตินิมิตฺตสมฺมโต ปน สพฺเพสมฺปิ มรณกาเลเยว อุปฏฺาตีติ กุโต ตสฺส กมฺมภเว คหณสมฺภโว. อปิเจตฺถ มรณาสนฺนปวตฺตชวเนหิ คหิตเมว สนฺธาย ‘‘ฉทฺวารคฺคหิต’’นฺติ วุตฺตํ, เอวฺจ กตฺวา อาจริเยน อิมสฺมึเยว อธิกาเร ปรมตฺถวินิจฺฉเย วุตฺตํ –

‘‘มรณาสนฺนสตฺตสฺส, ยโถปฏฺิตโคจรํ;

ฉทฺวาเรสุ ตมารพฺภ, ปฏิสนฺธิ ภวนฺตเร’’ติ. (ปรม. วิ. ๘๙);

‘‘ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺตฺยาทินา อนาคตสฺส ปฏิสนฺธิโคจรภาวํ นิวาเรติ. น หิ ตํ อตีตกมฺมกมฺมนิมิตฺตานิ วิย อนุภูตํ, นาปิ ปจฺจุปฺปนฺนกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตานิ วิย อาปาถคตฺจ โหตีติ, กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทีนฺจ สรูปํ สยเมว วกฺขติ.

๕๔. เตสูติ รูปาทิปจฺจุปฺปนฺนาทิกมฺมาทิอารมฺมเณสุ วิฺาเณสุ. รูปาทีสุ เอเกกํ อารมฺมณํ เอเตสนฺติ รูปาทิเอเกการมฺมณานิ.

๕๕. รูปาทิกํ ปฺจวิธมฺปิ อารมฺมณเมตสฺสาติ รูปาทิปฺจารมฺมณํ.

๕๖. เสสานีติ ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉเนหิ อวเสสานิ เอกาทส กามาวจรวิปากานิ . สพฺพถาปิ กามาวจรารมฺมณานีติ สพฺเพนปิ ฉทฺวาริกทฺวารวิมุตฺตฉฬารมฺมณวสปฺปวตฺตากาเรน นิพฺพตฺตานิปิ เอกนฺตกามาวจรสภาวฉฬารมฺมณโคจรานิ. เอตฺถ หิ วิปากานิ ตาว สนฺตีรณาทิวเสน รูปาทิปฺจารมฺมเณ, ปฏิสนฺธาทิวเสน ฉฬารมฺมณสงฺขาเต กามาวจรารมฺมเณเยว ปวตฺตนฺติ.

หสนจิตฺตมฺปิ ปธานสารุปฺปฏฺานํ ทิสฺวา ตุสฺสนฺตสฺส รูปารมฺมเณ, ภณฺฑภาชนฏฺาเน มหาสทฺทํ สุตฺวา ‘‘เอวรูปา โลลุปฺปตณฺหา เม ปหีนา’’ติ ตุสฺสนฺตสฺส สทฺทารมฺมเณ, คนฺธาทีหิ เจติยปูชนกาเล ตุสฺสนฺตสฺส คนฺธารมฺมเณ, รสสมฺปนฺนํ ปิณฺฑปาตํ สพฺรหฺมจารีหิ ภาเชตฺวา ปริภุฺชนกาเล ตุสฺสนฺตสฺส รสารมฺมเณ, อาภิสมาจาริกวตฺตปริปูรณกาเล ตุสฺสนฺตสฺส โผฏฺพฺพารมฺมเณ, ปุพฺเพนิวาสาณาทีหิ คหิตกามาวจรธมฺมํ อารพฺภ ตุสฺสนฺตสฺส ธมฺมารมฺมเณติ เอวํ ปริตฺตธมฺมปริยาปนฺเนสฺเวว ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ.

๕๗. ทฺวาทสากุสลอฏฺาณวิปฺปยุตฺตชวนวเสน วีสติ จิตฺตานิ อตฺตโน ชฬภาวโต โลกุตฺตรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติตุํ น สกฺโกนฺตีติ นววิธโลกุตฺตรธมฺเม วชฺเชตฺวา เตภูมกานิ, ปฺตฺติฺจ อารพฺภ ปวตฺตนฺตีติ อาห ‘‘อกุสลานิ เจวา’’ตฺยาทิ. อิเมสุ หิ อกุสลโต จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา ปริตฺตธมฺเม อารพฺภ ปรามสนอสฺสาทนาภินนฺทนกาเล กามาวจรารมฺมณา, เตเนวากาเรน สตฺตวีสติ มหคฺคตธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติยํ มหคฺคตารมฺมณา, สมฺมุติธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติยํ ปฺตฺตารมฺมณา. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทาปิ เตเยว ธมฺเม อารพฺภ เกวลํ อสฺสาทนาภินนฺทนวเสน ปวตฺติยํ, ปฏิฆสมฺปยุตฺตา จ ทุสฺสนวิปฺปฏิสารวเสน, วิจิกิจฺฉาสหคโต อนิฏฺงฺคมนวเสน, อุทฺธจฺจสหคโต วิกฺขิปนวเสน, อวูปสมวเสน จ ปวตฺติยํ ปริตฺตมหคฺคตปฺตฺตารมฺมโณ, กุสลโต จตฺตาโร, กิริยโต จตฺตาโรติ อฏฺ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสกฺขปุถุชฺชนขีณาสวานํ อสกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสฺสวนาทีสุ ปริตฺตธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล กามาวจรารมฺมณา, อติปคุณชฺฌานปจฺจเวกฺขณกาเล มหคฺคตารมฺมณา, กสิณนิมิตฺตาทีสุ ปริกมฺมาทิกาเล ปฺตฺตารมฺมณาติ ทฏฺพฺพํ.

๕๘. อรหตฺตมคฺคผลวชฺชิตสพฺพารมฺมณานิ เสกฺขปุถุชฺชนสนฺตาเนสฺเวว ปวตฺตนโต. เสกฺขาปิ หิ เปตฺวา โลกิยจิตฺตํ อรหโต มคฺคผลสงฺขาตํ ปาฏิปุคฺคลิกจิตฺตํ ชานิตุํ น สกฺโกนฺติ อนธิคตตฺตา, ตถา ปุถุชฺชนาทโยปิ โสตาปนฺนาทีนํ, เสกฺขานํ ปน อตฺตโน อตฺตโน มคฺคผลปจฺจเวกฺขเณสุ ปรสนฺตานคตมคฺคผลารมฺมณาย อภิฺาย ปริกมฺมกาเล, อภิฺาจิตฺเตเนว มคฺคผลานํ ปริจฺฉินฺทนกาเล จ อตฺตโน อตฺตโน สมานานํ, เหฏฺิมานฺจ มคฺคผลธมฺเม อารพฺภ กุสลชวนานํ ปวตฺติ อตฺถีติ อรหตฺตมคฺคผลสฺเสว ปฏิกฺเขโป กโต. กามาวจรมหคฺคตปฺตฺตินิพฺพานานิ ปน เสกฺขปุถุชฺชนานํ สกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสฺสวนสงฺขารสมฺมสนกสิณปริกมฺมาทีสุ ตํตทารมฺมณิกาภิฺานํ ปริกมฺมกาเล, โคตฺรภุโวทานกาเล, ทิพฺพจกฺขาทีหิ รูปวิชานนาทิกาเล จ กุสลชวนานํ โคจรภาวํ คจฺฉนฺติ.

๕๙. สพฺพถาปิ สพฺพารมฺมณานีติ กามาวจรมหคฺคตสพฺพโลกุตฺตรปฺตฺติวเสน สพฺพถาปิ สพฺพารมฺมณานิ, น ปน อกุสลาทโย วิย สปฺปเทสสพฺพารมฺมณานีตฺยตฺโถ. กิริยชวนานฺหิ สพฺพฺุตฺาณาทิวสปฺปวตฺติยํ, โวฏฺพฺพนสฺส จ ตํตํปุเรจาริกวสปฺปวตฺติยํ น จ กิฺจิ อโคจรํ นาม อตฺถิ.

๖๐. ปมตติยารุปฺปารมฺมณตฺตา อารุปฺเปสุ ทุติยจตุตฺถานิ มหคฺคตารมฺมณานิ.

๖๑. เสสานิ…เป… ปฺตฺตารมฺมณานีติ ปนฺนรส รูปาวจรานิ, ปมตติยารุปฺปานิ จาติ เอกวีสติ กสิณาทิปฺตฺตีสุ ปวตฺตนโต ปฺตฺตารมฺมณานิ.

๖๓. เตวีสติกามาวจรวิปากปฺจทฺวาราวชฺชนหสนวเสน ปฺจวีสติ จิตฺตานิ ปริตฺถมฺหิ กามาวจรารมฺมเณ เยว ภวนฺติ. กามาวจรฺหิ มหคฺคตาทโย อุปาทาย มนฺทานุภาวตาย ปริสมนฺตโต อตฺตํ ขณฺฑิตํ วิยาติ ปริตฺตํ. ‘‘ฉ จิตฺตานิ มหคฺคเตเยวา’’ตฺยาทินา สพฺพตฺถ สาวธารณโยชนา ทฏฺพฺพา.

อาลมฺพณสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

วตฺถุสงฺคหวณฺณนา

๖๔. วตฺถุวิภาคโต , ตพฺพตฺถุกจิตฺตปริจฺเฉทวเสน จ สงฺคโห วตฺถุสงฺคโห. วสนฺติ เอเตสุ จิตฺตเจตสิกา ตนฺนิสฺสยตฺตาติ วตฺถูนิ.

๖๕. ตานิ กามโลเก สพฺพานิปิ ลพฺภนฺติ ปริปุณฺณินฺทฺริยสฺส ตตฺเถว อุปลพฺภนโต. ปิ-สทฺเทน ปน อนฺธพธิราทิวเสน เกสฺจิ อสมฺภวํ ทีเปติ.

๖๖. ฆานาทิตฺตยํ นตฺถิ พฺรหฺมานํ กามวิราคภาวนาวเสน คนฺธรสโผฏฺพฺเพสุ วิรตฺตตาย ตพฺพิสยปฺปสาเทสุปิ วิราคสภาวโต. พุทฺธทสฺสนธมฺมสฺสวนาทิอตฺถํ ปน จกฺขุโสเตสุ อวิรตฺตภาวโต จกฺขาทิทฺวยํ ตตฺถ อุปลพฺภติ.

๖๗. อรูปโลเก สพฺพานิปิ ฉ วตฺถูนิ น สํวิชฺชนฺติ อรูปีนํ รูปวิราคภาวนาพเลน ตตฺถ สพฺเพน สพฺพํ รูปปฺปวตฺติยา อภาวโต.

๖๘. ปฺจวิฺาณาเนว นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน ธาตุโยติ ปฺจวิฺาณธาตุโย.

๖๙. มนนมตฺตา ธาตุ มโนธาตุ.

๗๐. มโนเยว วิสิฏฺวิชานนกิจฺจโยคโต วิฺาณํ นิสฺสตฺตนิชฺชีวฏฺเน ธาตุ จาติ มโนวิฺาณธาตุ. มนโส วิฺาณธาตูติ วา มโนวิฺาณธาตุ. สา หิ มนโตเยว อนนฺตรปจฺจยโต สมฺภูยมนโสเยว อนนฺตรปจฺจยภูตาติ มนโส สมฺพนฺธินี โหติ. สนฺตีรณตฺตยสฺส, อฏฺมหาวิปากานํ, ปฏิฆทฺวยสฺส, ปมมคฺคสฺส, หสิตุปฺปาทสฺส, ปนฺนรสรูปาวจรานฺจ วเสน ปวตฺตา ยถาวุตฺตมโนธาตุปฺจวิฺาณธาตูหิ อวเสสา มโนวิฺาณธาตุ สงฺขาตา จ ตึส ธมฺมา น เกวลํ มโนธาตุเยว, ตถา หทยํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ.

สนฺตีรณมหาวิปากานิ หิ เอกาทส ทฺวาราภาวโต, กิจฺจาภาวโต จ อารุปฺเป น อุปฺปชฺชนฺติ . ปฏิฆสฺส อนีวรณาวตฺถสฺส อภาวโต ตํสหคตํ จิตฺตทฺวยํ รูปโลเกปิ นตฺถิ, ปเคว อารุปฺเป. ปมมคฺโคปิ ปรโตโฆสปจฺจยาภาเว สาวกานํ อนุปฺปชฺชนโต, พุทฺธปจฺเจกพุทฺธานฺจ มนุสฺสโลกโต อฺตฺถ อนิพฺพตฺตนโต, หสนจิตฺตฺจ กายาภาวโต, รูปาวจรานิ อรูปีนํ รูปวิราคภาวนาวเสน ตทารมฺมเณสุ ฌาเนสุปิ วิรตฺตภาวโต อรูปภเว น อุปฺปชฺชนฺตีติ สพฺพานิปิ เอตานิ เตตฺตึส จิตฺตานิ หทยํ นิสฺสาเยว ปวตฺตนฺติ.

๗๑. ปฺจรูปาวจรกุสลโต อวเสสานิ ทฺวาทส โลกิยกุสลานิ, ปฏิฆทฺวยโต อวเสสานิ ทส อกุสลานิ, ปฺจทฺวาราวชฺชนหสนรูปาวจรกิริเยหิ อวเสสานิ เตรส กิริยจิตฺตานิ, ปมมคฺคโต อวเสสานิ สตฺต อนุตฺตรานิ จาติ อิเมสํ วเสน ทฺเวจตฺตาลีสวิธา มโนวิฺาณธาตุสงฺขาตา ธมฺมา ปฺจโวการภววเสน หทยํ นิสฺสาย วา, จตุโวการภววเสน อนิสฺสายวา ปวตฺตนฺติ.

๗๓. กาเม ภเว ฉวตฺถุํ นิสฺสิตา สตฺต วิฺาณธาตุโย, รูเป ภเว ติวตฺถุํ นิสฺสิตา ฆานวิฺาณาทิตฺตยวชฺชิตา จตุพฺพิธา วิฺาณธาตุโย, อารุปฺเป ภเว อนิสฺสิตา เอกา มโนวิฺาณธาตุ มตาติ โยชนา.

๗๔. กามาวจรวิปากปฺจทฺวาราวชฺชนปฏิฆทฺวยหสนวเสน สตฺตวีสติ กามาวจรานิ, ปนฺนรส รูปาวจรานิ, ปมมคฺโคติ เตจตฺตาลีส นิสฺสาเยว ชายเร, ตโตเยว อวเสสา อารุปฺปวิปากวชฺชิตา ทฺเวจตฺตาลีส นิสฺสาย จ อนิสฺสาย จ ชายเร, ปาการุปฺปา จตฺตาโร อนิสฺสิตาเยวาติ สมฺพนฺโธ.

วตฺถุสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย

ปกิณฺณกปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.