📜
๗. สมุจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. สลกฺขณา จินฺตนาทิสลกฺขณา จิตฺตเจตสิกนิปฺผนฺนรูปนิพฺพานวเสน ทฺวาสตฺตติปเภทา วตฺถุธมฺมา สภาวธมฺมา วุตฺตา, อิทานิ เตสํ ยถาโยคํ สภาวธมฺมานํ เอเกกสมุจฺจยวเสน โยคานุรูปโต อกุสลสงฺคหาทิเภทํ สมุจฺจยํ ราสึ ปวกฺขามีติ โยชนา.
๒. อกุสลานเมว ¶ สภาคธมฺมวเสน สงฺคโห อกุสลสงฺคโห. กุสลาทิวเสน มิสฺสกานํ สงฺคโห มิสฺสกสงฺคโห, สจฺจาภิสมฺโพธิสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส ปกฺเข ภวานํ โพธิปกฺขิยานํ ธมฺมานํ สติปฏฺานาทิเภทานํ สภาควตฺถุวเสน สงฺคโห โพธิปกฺขิยสงฺคโห. ขนฺธาทิวเสน สพฺเพสํ สงฺคโห สพฺพสงฺคโห.
อกุสลสงฺคหวณฺณนา
๓. ปุพฺพโกฏิยา ¶ อปฺายนโต จิรปาริวาสิยฏฺเน, วณโต วา วิสฺสนฺทมานยูสา วิย จกฺขาทิโต วิสเยสุ วิสฺสนฺทนโต อาสวา. อถ วา ภวโต อาภวคฺคํ ธมฺมโต อาโคตฺรภุํ สวนฺติ ปวตฺตนฺตีติ อาสวา. อวธิอตฺโถ เจตฺถ อา-กาโร, อวธิ จ มริยาทาภิวิธิวเสน ทุวิโธ. ตตฺถ ‘‘อาปาฏลิปุตฺตํ วุฏฺโ เทโว’’ตฺยาทีสุ วิย กิริยํ พหิ กตฺวา ปวตฺโต มริยาโท. ‘‘อาภวคฺคํ สทฺโท อพฺภุคฺคโต’’ตฺยาทีสุ วิย กิริยํ พฺยาเปตฺวา ปวตฺโต อภิวิธิ. อิธ ปน อภิวิธิมฺหิ ทฏฺพฺโพ. ตถา เหเต นิพฺพตฺติฏฺานภูเต จ ภวคฺเค, โคตฺรภุมฺหิ จ อารมฺมณภูเต ปวตฺตนฺติ. วิชฺชมาเนสุ จ อฺเสุ อาภวคฺคํ, อาโคตฺรภฺุจ สวนฺเตสุ มานาทีสุ อตฺตตฺตนิยคฺคหณวเสน อภิพฺยาปนโต มทกรณฏฺเน อาสวสทิสตาย จ เอเตเยว อาสวภาเวน นิรุฬฺหาติ ทฏฺพฺพํ. กาโมเยว อาสโว กามาสโว, กามราโค. รูปารูปภเวสุ ฉนฺทราโค ภวาสโว. ฌานนิกนฺติสสฺสตทิฏฺิสหคโต จ ราโค เอตฺเถว สงฺคยฺหติ. ตตฺถ ปโม อุปปตฺติภเวสุ ราโค, ทุติโย กมฺมภเว, ตติโย ภวทิฏฺิสหคโต. ทฺวาสฏฺิวิธา ทิฏฺิ ทิฏฺาสโว. ทุกฺขาทีสุ จตูสุ สจฺเจสุ, ปุพฺพนฺเต, อปรนฺเต, ปุพฺพาปรนฺเต, ปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ จาติ อฏฺสุ าเนสุ อฺาณํ อวิชฺชาสโว.
๔. โอตฺถริตฺวา หรณโต, โอหนนโต วา เหฏฺา กตฺวา หนนโต โอสีทาปนโต ‘‘โอโฆ’’ติ วุจฺจติ ชลปฺปวาโห, เอเต จ สตฺเต โอตฺถริตฺวา หนนฺตา วฏฺฏสฺมึ สตฺเต โอสีทาเปนฺตา วิย โหนฺตีติ โอฆสทิสตาย โอฆา ¶ , อาสวาเยว ปเนตฺถ ยถาวุตฺตฏฺเน ‘‘โอฆา’’ติ จ วุจฺจนฺติ.
๕. วฏฺฏสฺมึ, ภวยนฺตเก วา สตฺเต กมฺมวิปาเกน ภวนฺตราทีหิ, ทุกฺเขน วา สตฺเต โยเชนฺตีติ โยคา, เหฏฺา วุตฺตธมฺมาว.
๖. นามกาเยน ¶ รูปกายํ, ปจฺจุปฺปนฺนกาเยน วา อนาคตกายํ คนฺเถนฺติ ทุปฺปมฺุจํ เวเนฺตีติ กายคนฺถา. โคสีลาทินา สีเลน, วเตน, ตทุภเยน จ สุทฺธีติ เอวํ ปรโต อสภาวโต อามสนํ ปรามาโส. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ อภินิวิสนํ ทฬฺหคฺคาโห อิทํ สจฺจาภินิเวโส.
๗. มณฺฑูกํ ปนฺนโค วิย ภุสํ ทฬฺหํ อารมฺมณํ อาทิยนฺตีติ อุปาทานานิ. กาโมเยว อุปาทานํ, กาเม อุปาทิยตีติ วา กามุปาทานํ. ‘‘อิมินา เม สีลวตาทินา สํสารสุทฺธี’’ติ เอวํ สีลวตาทีนํ คหณํ สีลพฺพตุปาทานํ. วทนฺติ เอเตนาติ วาโท, ขนฺเธหิ พฺยติริตฺตาพฺยติริตฺตวเสน วีสติ ปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน วาโท อตฺตวาโท. โสเยว อุปาทานนฺติ อตฺตวาทุปาทานํ.
๘. ฌานาทิวเสน อุปฺปชฺชนกกุสลจิตฺตํ นิเสเธนฺติ ตถา ตสฺส อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺตีติ นีวรณานิ, ปฺาจกฺขุโน วา อาวรณฏฺเน นีวรณา. ปฺจสุ กามคุเณสุ อธิมตฺตราคสงฺขาโต กาโมเยว ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท จาติ กามจฺฉนฺโท. โสเยว นีวรณนฺติ กามจฺฉนฺทนีวรณํ. พฺยาปชฺชติ วินสฺสติ เอเตน จิตฺตนฺติ พฺยาปาโท, ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ตฺยาทินยปฺปวตฺตนววิธอาฆาตวตฺถุปทฏฺานตาย นววิโธ, อฏฺานโกเปน สห ทสวิโธ วา โทโส, โสเยว ¶ นีวรณนฺติ พฺยาปาทนีวรณํ. ถินมิทฺธเมว นีวรณํ ถินมิทฺธนีวรณํ. ตถา อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจนีวรณํ. กสฺมา ปเนเต ภินฺนธมฺมา ทฺเว ทฺเว เอกนีวรณภาเวน วุตฺตาติ? กิจฺจาหารปฏิปกฺขานํ สมานภาวโต. ถินมิทฺธานฺหิ จิตฺตุปฺปาทสฺส ลยาปาทนกิจฺจํ สมานํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานํ อวูปสนฺตภาวการณํ. ตถา ปุริมานํ ทฺวินฺนํ ตนฺทีวิชมฺภิตา อาหาโร, เหตูตฺยตฺโถ, ปจฺฉิมานํ าติพฺยสนาทิวิตกฺกนํ. ปุริมานฺจ ทฺวินฺนํ วีริยํ ปฏิปกฺขภูตํ, ปจฺฉิมานํ สมโถติ, เตนาหุ โปราณา –
‘‘กิจฺจาหารวิปกฺขานํ, เอกตฺตา เอกเมตฺถ หิ;
กตมุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, ถินมิทฺธฺจ ตาทินา.
‘‘ลีนตาสนฺตตา กิจฺจํ, ตนฺที าติวิตกฺกนํ;
เหตุ วีริยสมถา, อิเม เตสํ วิโรธิโน’’ติ.
๙. อปฺปหีนฏฺเน ¶ อนุ อนุ สนฺตาเน เสนฺตีติ อนุสยา, อนุรูปํ การณํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชนฺตีตฺยตฺโถ. อปฺปหีนา หิ กิเลสา การณลาเภ สติ อุปชฺชนารหา สนฺตาเน อนุ อนุ สยิตา วิย โหนฺตีติ ตทวตฺถา ‘‘อนุสยา’’ติ วุจฺจนฺติ. เต ปน นิปฺปริยายโต อนาคตา กิเลสา, อตีตปจฺจุปฺปนฺนาปิ ตํสภาวตฺตา ตถา วุจฺจนฺติ. น หิ กาลเภเทน ธมฺมานํ สภาวเภโท อตฺถิ, ยทิ อปฺปหีนฏฺเน อนุสยา, นนุ สพฺเพปิ กิเลสา อปฺปหีนา อนุสยา ภเวยฺยุนฺติ? น มยํ อปฺปหีนตามตฺเตน ‘‘อนุสยา’’ติ วทาม, อถ โข อปฺปหีนฏฺเน ถามคตา กิเลสา อนุสยาติ. ถามคมนฺจ อนฺสาธารโณ กามราคาทีนเมว อาเวณิโก สภาโวติ อลํ วิวาเทน. กามราโคเยว อนุสโย กามราคานุสโย.
๑๐. สํโยเชนฺติ พนฺธนฺตีติ สํโยชนานิ.
๑๒. จิตฺตํ ¶ กิลิสฺสติ อุปตปฺปติ, พาธียติ วา เอเตหีติ กิเลสา.
๑๓. กามภวนาเมนาติ กามภวสงฺขาตานํ อารมฺมณานํ นาเมน. ตถาปวตฺตนฺติ สีลพฺพตาทีนํ ปรโต อามสนาทิวเสน ปวตฺตํ.
๑๔. อาสวา จ โอฆา จ โยคา จ คนฺถา จ วตฺถุโต ธมฺมโต วุตฺตนเยน ตโย. ตถา อุปาทานา ทุเว วุตฺตา ตณฺหาทิฏฺิวเสน. นีวรณา อฏฺ สิยุํ ถินมิทฺธอุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจานํ วิสุํ คหณโต. อนุสยา ฉเฬว โหนฺติ กามราคภวราคานุสยานํ ตณฺหาสภาเวน เอกโต คหิตตฺตา. นว สํโยชนา มตา อุภยตฺถ วุตฺตานํ ตณฺหาสภาวานํ, ทิฏฺิสภาวานฺจ เอเกกํ สงฺคหิตตฺตา. กิเลสา ปน สุตฺตนฺตวเสน, อภิธมฺมวเสนปิ ทส. อิติ เอวํ ปาปานํ อกุสลานํ สงฺคโห นวธา วุตฺโต. เอตฺถ จ –
นวาฏฺสงฺคหา โลภ-ทิฏฺิโย สตฺตสงฺคหา;
อวิชฺชา ปฏิโฆ ปฺจ-สงฺคโห จตุสงฺคหา;
กงฺขา ติสงฺคหา มานุทฺธจฺจา ถินํ ทฺวิสงฺคหํ.
กุกฺกุจฺจมิทฺธาหิริกา-โนตฺตปฺปิสฺสา ¶ นิคูหนา;
เอกสงฺคหิตา ปาปา, อิจฺเจวํ นวสงฺคหา.
อกุสลสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
มิสฺสกสงฺคหวณฺณนา
๑๕. เหตูสุ วตฺตพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๑๖. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา จินฺตนสงฺขาเตน อุปนิชฺฌายนฏฺเน ยถารหํ ปจฺจนีกธมฺมฌาปนฏฺเน จ ฌานานิ จ ตานิ องฺคานิ จ สมุทิตานํ ¶ อวยวภาเวน องฺคียนฺติ ายนฺตีติ ฌานงฺคานิ. อวยววินิมุตฺตสฺส จ สมุทายสฺส อภาเวปิ เสนงฺครถงฺคาทโย วิย วิสุํ วิสุํ องฺคภาเวน วุจฺจนฺติ เอกโต หุตฺวา ฌานภาเวน. โทมนสฺสฺเจตฺถ อกุสลฌานงฺคํ, เสสานิ กุสลากุสลาพฺยากตฌานงฺคานิ.
๑๗. สุคติทุคฺคตีนํ, นิพฺพานสฺส จ อภิมุขํ ปาปนโต มคฺคา, เตสํ ปถภูตานิ องฺคานิ, มคฺคสฺส วา อฏฺงฺคิกสฺส องฺคานิ มคฺคงฺคานิ. สมฺมา อวิปรีตโต ปสฺสตีติ สมฺมาทิฏฺิ. สา ปน ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทิวเสน ทสวิธา, ปริฺาทิกิจฺจวเสน จตุพฺพิธา วา. สมฺมา สงฺกปฺเปนฺติ เอเตนาติ สมฺมาสงฺกปฺโป. โส เนกฺขมฺมสงฺกปฺปอพฺยาปาทสงฺกปฺปอวิหึสาสงฺกปฺปวเสน ติวิโธ. สมฺมาวาจาทโย เหฏฺา วิภาวิตาว. สมฺมา วายมนฺติ เอเตนาติ สมฺมาวายาโม. สมฺมา สรนฺติ เอตายาติ สมฺมาสติ. อิเมสํ ปน เภทํ อุปริ วกฺขติ. สมฺมา สามฺจ อาธียติ เอเตน จิตฺตนฺติ สมฺมาสมาธิ, ปมชฺฌานาทิวเสน ปฺจวิธา เอกคฺคตา. มิจฺฉาทิฏฺิอาทโย ทุคฺคติมคฺคตฺตา มคฺคงฺคานิ.
๑๘. ทสฺสนาทีสุ จกฺขุวิฺาณาทีหิ, เยภุยฺเยน ตํสหิตสนฺตานปฺปวตฺติยํ ลิงฺคาทีหิ, ชีวเน ชีวนฺเตหิ กมฺมชรูปสมฺปยุตฺตธมฺเมหิ, มนเน ชานเน สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ, สุขิตาทิภาเว สุขิตาทีหิ ¶ สหชาเตหิ, สทฺทหนาทีสุ สทฺทหนาทิวสปฺปวตฺเตหิ เตเหว, ‘‘อนฺาตํ สฺสามี’’ติ ปวตฺติยํ ตถาปวตฺเตหิ สหชาเตหิ, อาชานเน อฺภาวิภาเว จ อาชานนาทิวสปฺปวตฺเตหิ สหชาเตหิ อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตา ธมฺมา อิสฺสรฏฺเน อินฺทฺริยานิ นามาติ อาห ‘‘จกฺขุนฺทฺริย’’นฺตฺยาทิ. อฏฺกถายํ (วิภ. อฏฺ. ๒๑๙; วิสุทฺธิ. ๒.๕๒๕) ปน อปเรปิ อินฺทลิงฺคฏฺาทโย อินฺทฺริยฏฺา วุตฺตา. ชีวิตินฺทฺริยนฺติ รูปารูปวเสน ทุวิธํ ชีวิตินฺทฺริยํ. ‘‘อนมตคฺเค สํสาเร อนฺาตํ ¶ อมตํ ปทํ, จตุสจฺจธมฺมเมว วา สฺสามี’’ติ เอวมชฺฌาสเยน ปฏิปนฺนสฺส อินฺทฺริยํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. อาชานาติ ปมมคฺเคน ทิฏฺมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา ชานาติ อินฺทฺริยฺจาติ อฺินฺทฺริยํ. อฺาตาวิโน จตฺตาริ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌิตฺวา ิตสฺส อรหโต อินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ. ธมฺมสรูปวิภาวนตฺถฺเจตฺถ ปฺินฺทฺริยคฺคหณํ, ปุคฺคลชฺฌาสยกิจฺจวิเสสวิภาวนตฺถํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนํ คหณํ.
เอตฺถ จ สตฺตปฺตฺติยา วิเสสนิสฺสยตฺตา อชฺฌตฺติกายตนานิ อาทิโต วุตฺตานิ, มนินฺทฺริยํ ปน อชฺฌตฺติกายตนภาวสามฺเน เอตฺเถว วตฺตพฺพมฺปิ อรูปินฺทฺริเยหิ สห เอกโต ทสฺสนตฺถํ ชีวิตินฺทฺริยานนฺตรํ วุตฺตํ, สายํ ปฺตฺติ อิเมสํ วเสน ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ วิภาคํ คจฺฉตีติ ทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ ภาวทฺวยํ, ตยิเม อุปาทินฺนธมฺมา อิมสฺส วเสน ติฏฺนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ตโต ปรํ ชีวิตินฺทฺริยํ, สตฺตสฺิโต ธมฺมปฺุโช ปพนฺธวเสน ปวตฺตมาโน อิมาหิ เวทนาหิ สํกิลิสฺสตีติ ทสฺสนตฺถํ ตโต เวทนาปฺจกํ, ตาหิ ปน วิสุทฺธิกามานํ โวทานสมฺภารทสฺสนตฺถํ ตโต สทฺธาทิปฺจกํ, สมฺภูตโวทานสมฺภารา จ อิเมหิ วิสุชฺฌนฺตีติ วิสุทฺธิปฺปตฺตา, นิฏฺิตกิจฺจา จ โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อนฺเต ตีณิ วุตฺตานิ. เอตฺตาวตา อธิปฺเปตตฺถสิทฺธีติ อฺเสํ อคฺคหณนฺติ อิทเมเตสํ อนุกฺกเมน เทสนาย การณนฺติ อลมติปฺปปฺเจน.
๑๙. อสทฺธิยโกสชฺชปมาทอุทฺธจฺจอวิชฺชาอหิริกอโนตฺตปฺปสงฺขาเตหิ ปฏิปกฺขธมฺเมหิ อกมฺปิยฏฺเน, สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาเวน จ สทฺธาทีนิ สตฺต พลานิ, อหิริกาโนตฺตปฺปทฺวยํ ปน สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาเวเนว.
๒๐. อตฺตาธีนปฺปวตฺตีนํ ปติภูตา ธมฺมา อธิปตี. ‘‘ฉนฺทวโต กึนาม น สิชฺฌตี’’ตฺยาทิกํ หิ ปุพฺพาภิสงฺขารูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา ¶ อุปฺปชฺชมาเน จิตฺเต ฉนฺทาทโย ธุรภูตา ¶ สยํ สมฺปยุตฺตธมฺเม สาธยมานา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, เต จ เตสํ วเสน ปวตฺตนฺติ, เตน เต อตฺตาธีนานํ ปติภาเวน ปวตฺตนฺติ. อฺเสํ อธิปติธมฺมานํ อธิปติภาวนิวารณวเสน อิสฺสริยํ อธิปติตา. สนฺเตสุปิ อินฺทฺริยนฺตเรสุ เกวลํ ทสฺสนาทีสุ จกฺขุวิฺาณาทีหิ อนุวตฺตาปนมตฺตํ อินฺทฺริยตาติ อยํ อธิปติอินฺทฺริยานํ วิเสโส.
๒๑. โอชฏฺมกรูปาทโย อาหรนฺตีติ อาหารา. กพฬีการาหาโร หิ โอชฏฺมกรูปํ อาหรติ, ผสฺสาหาโร ติสฺโส เวทนา, มโนสฺเจตนาหารสงฺขาตํ กุสลากุสลกมฺมํ ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธึ. วิฺาณาหารสงฺขาตํ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ สหชาตนามรูเปอาหรติ, กิฺจาปิ สกสกปจฺจยุปฺปนฺเน อาหรนฺตา อฺเปิ อตฺถิ. อชฺฌตฺติกสนฺตติยา ปน วิเสสปจฺจยตฺตา อิเมเยว จตฺตาโร ‘‘อาหารา’’ติ วุตฺตา.
กพฬีการาหารภกฺขานฺหิ สตฺตานํ รูปกายสฺส กพฬีการาหาโร วิเสสปจฺจโย กมฺมาทิชนิตสฺสปิ ตสฺส กพฬีการาหารูปตฺถมฺภพเลเนว ทสวสฺสาทิปฺปวตฺติสมฺภวโต. ตถา เหส ‘‘ธาติ วิย กุมารสฺส, อุปตฺถมฺภนกยนฺตํ วิย เคหสฺสา’’ติ วุตฺโต. ผสฺโสปิ สุขาทิวตฺถุภูตํ อารมฺมณํ ผุสนฺโตเยว สุขาทิเวทนาปวตฺตเนน สตฺตานํ ิติยา ปจฺจโย โหติ. มโนสฺเจตนา กุสลากุสลกมฺมวเสน อายูหมานาเยว ภวมูลนิปฺผาทนโต สตฺตานํ ิติยา ปจฺจโย โหติ. วิฺาณํ วิชานนฺตเมว นามรูปปฺปวตฺตเนน สตฺตานํ ิติยา ปจฺจโย โหตีติ เอวเมเตเยว อชฺฌตฺตสนฺตานสฺส วิเสสปจฺจยตฺตา ‘‘อาหารา’’ติ วุตฺตา, ผสฺสาทีนํ ทุติยาทิภาโว เทสนากฺกมโต, น อุปฺปตฺติกฺกมโต.
๒๖. ปฺจวิฺาณานํ ¶ วิตกฺกวิรเหน อารมฺมเณสุ อภินิปาตมตฺตตฺตา เตสุ วิชฺชมานานิปิ อุเปกฺขาสุขทุกฺขานิ อุปนิชฺฌานาการสฺส อภาวโต ฌานงฺคภาเวน น อุทฺธฏานิ. ‘‘วิตกฺกปจฺฉิมกํ หิ ฌานงฺค’’นฺติ วุตฺตํ. ทฺวิปฺจวิฺาณมโนธาตุตฺติกสนฺตีรณตฺติกวเสน โสฬสจิตฺเตสุ วีริยาภาวโต ตตฺถ วิชฺชมาโนปิ สมาธิ พลภาวํ น คจฺฉติ. ‘‘วีริยปจฺฉิมกํ พล’’นฺติ หิ วุตฺตํ. ตถา อฏฺารสาเหตุเกสุ เหตุวิรหโต มคฺคงฺคานิ น ลพฺภนฺติ. ‘‘เหตุปจฺฉิมกํ มคฺคงฺค’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๓๘) หิ วุตฺตนฺติ อิมมตฺถํ มนสิ นิธายาห ‘‘ทฺวิปฺจวิฺาเณสู’’ตฺยาทิ. ฌานงฺคานิ น ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ.
๒๗. อธิโมกฺขวิรหโต ¶ วิจิกิจฺฉาจิตฺเต เอกคฺคตา จิตฺตฏฺิติมตฺตํ, น ปน มิจฺฉาสมาธิสมาธินฺทฺริยสมาธิพลโวหารํ คจฺฉตีติ อาห ‘‘ตถา วิจิกิจฺฉาจิตฺเต’’ตฺยาทิ.
๒๘. ทฺวิเหตุกติเหตุกคฺคหเณน เอกเหตุเกสุ อธิปตีนํ อภาวํ ทสฺเสติ. ชวเนสฺเววาติ อวธารณํ โลกิยวิปาเกสุ อธิปตีนํ อสมฺภวทสฺสนตฺถํ. น หิ เต ฉนฺทาทีนิ ปุรกฺขตฺวา ปวตฺตนฺติ. วีมํสาธิปติโน ทฺวิเหตุกชวเนสุ อสมฺภวโต จิตฺตาภิสงฺขารูปนิสฺสยสฺส จ สมฺภวานุรูปโต ลพฺภมานตํ สนฺธายาห ‘‘ยถาสมฺภว’’นฺติ. เอโกว ลพฺภติ, อิตรถา อธิปติภาวาโยคโต, เตเนว หิ ภควตา ‘‘เหตู เหตุสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ เหตุปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๑) เหตุปจฺจยนิทฺเทเส วิย ‘‘อธิปตี อธิปติสมฺปยุตฺตกาน’’นฺตฺยาทินา อวตฺวา ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกาน’’นฺตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๓) เอเกกาธิปติวเสเนว อธิปติปจฺจโย อุทฺธโฏ.
๒๙. วตฺถุโต ¶ ธมฺมวเสน เหตุธมฺมา ฉ, ฌานงฺคานิ ปฺจ โสมนสฺสโทมนสฺสุเปกฺขานํ เวทนาวเสน เอกโต คหิตตฺตา, มคฺคงฺคา นว มิจฺฉาสงฺกปฺปวายามสมาธีนํ วิตกฺกวีริยจิตฺเตกคฺคตาสภาเวน สมฺมาสงฺกปฺปาทีหิ เอกโต คหิตตฺตา. อินฺทฺริยธมฺมา โสฬส ปฺจนฺนํ เวทนินฺทฺริยานํ เวทนาสามฺเน, ติณฺณํ โลกุตฺตรินฺทฺริยานํ ปฺินฺทฺริยสฺส จ าณสามฺเน เอกโต คหิตตฺตา, รูปารูปชีวิตินฺทฺริยานฺจ วิสุํ คหิตตฺตา, พลธมฺมา ปน ยถาวุตฺตนเยเนว นว อีริตา, อธิปติธมฺมา จตฺตาโร วุตฺตา, อาหารา ตถา จตฺตาโร วุตฺตาติ กุสลาทีหิ ตีหิ สมากิณฺโณ ตโตเยว มิสฺสกสงฺคโห เอวํนามโก สงฺคโห สตฺตธา วุตฺโต. เอตฺถ จ –
ปฺจสงฺคหิตา ปฺา, วายาเมกคฺคตา ปน;
จตุสงฺคหิตา จิตฺตํ, สติ เจว ติสงฺคหา.
สงฺกปฺโป เวทนา สทฺธา, ทุกสงฺคหิตา มตา;
เอเกกสงฺคหา เสสา, อฏฺวีสติ ภาสิตา.
มิสฺสกสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
โพธิปกฺขิยสงฺคหวณฺณนา
๓๐. ปฏฺาตีติ ¶ ปฏฺานํ, อสุภคฺคหณาทิวเสน อนุปวิสิตฺวา กายาทิอารมฺมเณ ปวตฺตตีตฺยตฺโถ, สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ตํ ปน กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ อสุภทุกฺขานิจฺจานตฺตาการคฺคหณวเสน, สุภสุขนิจฺจอตฺตสฺาวิปลฺลาสปฺปหานวเสน จ จตุพฺพิธนฺติ วุตฺตํ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ. กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย, สรีรํ, อสฺสาสปสฺสาสานํ วา สมูโห กาโย ¶ , ตสฺส อนุปสฺสนา ปริกมฺมวเสน, วิปสฺสนาวเสน จ สรณํ กายานุปสฺสนา. ทุกฺขทุกฺขวิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขภูตานํ เวทนานํ วเสน อนุปสฺสนา เวทนานุปสฺสนา. ตถา สราคมหคฺคตาทิวเสน สมฺปโยคภูมิเภเทน ภินฺนสฺเสว จิตฺตสฺส อนุปสฺสนา จิตฺตานุปสฺสนา. สฺาสงฺขารานํ ธมฺมานํ ภินฺนลกฺขณานเมว อนุปสฺสนา ธมฺมานุปสฺสนา.
๓๑. สมฺมา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ, วายาโม. โส จ กิจฺจเภเทน จตุพฺพิโธติ อาห ‘‘จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา’’ตฺยาทิ. อสุภมนสิการกมฺมฏฺานานุยฺุชนาทิวเสน วายมนํ วายาโม. ภิยฺโยภาวายาติ อภิวุทฺธิยา.
๓๒. อิชฺฌติ อธิฏฺานาทิกํ เอตายาหิ อิทฺธิ, อิทฺธิวิธาณํ อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท, ฉนฺโทเยว อิทฺธิปาโท ฉนฺทิทฺธิปาโท.
๓๕. พุชฺฌตีติ โพธิ, อารทฺธวิปสฺสกโต ปฏฺาย โยคาวจโร. ยาย วา โส สติอาทิกาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌติ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, กิเลสนิทฺทาโต วา วุฏฺาติ, กิเลสสงฺโกจาภาวโต วา มคฺคผลปฺปตฺติยา วิกสติ, สา ธมฺมสามคฺคี โพธิ, ตสฺส โพธิสฺส, ตสฺสา วา โพธิยา องฺคภูตา การณภูตาติ โพชฺฌงฺคา, เต ปน ธมฺมวเสน สตฺตวิธาติ อาห ‘‘สติสมฺโพชฺฌงฺโค’’ตฺยาทิ. สติเยว สุนฺทโร โพชฺฌงฺโค, สุนฺทรสฺส วา โพธิสฺส, สุนฺทราย วา โพธิยา องฺโคติ สติสมฺโพชฺฌงฺโค. ธมฺเม วิจินาติ อุปปริกฺขตีติ ธมฺมวิจโย, วิปสฺสนาปฺา. อุเปกฺขาติ อิธ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา.
๔๐. ‘‘สตฺตธา ¶ ตตฺถ สงฺคโห’’ติ วตฺวาน ปุน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺกปฺปปสฺสทฺธิ จา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ ¶ . ตตฺถ วีริยํ นวฏฺานํ สมฺมปฺปธานจตุกฺกวีริยิทฺธิปาทวีริยินฺทฺริยวีริยพลสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาวายามวเสน นวกิจฺจตฺตา, สติ อฏฺฏฺานา สติปฏฺานจตุกฺกสตินฺทฺริยสติพลสติสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาสติวเสน อฏฺกิจฺจตฺตา. สมาธิ จตุฏฺาโน สมาธินฺทฺริยสมาธิพลสมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาสมาธิวเสน จตุกิจฺจตฺตา, ปฺา ปฺจฏฺานา วีมํสิทฺธิปาทปฺินฺทฺริยปฺาพลธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสมฺมาทิฏฺิวเสน ปฺจกิจฺจตฺตา, สทฺธา ทฺวิฏฺานา สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลวเสน ทฺวิกิจฺจตฺตา. เอโส อุตฺตมานํ โพธิปกฺขิยภาเวน วิสิฏฺานํ สตฺตตึส ธมฺมานํ ปวโร อุตฺตโม วิภาโค.
๔๑. โลกุตฺตเร อฏฺวิเธปิ สพฺเพ สตฺตตึส ธมฺมา โหนฺติ, สงฺกปฺปปีติโย น วา โหนฺติ, ทุติยชฺฌานิเก สงฺกปฺปสฺส, จตุตฺถปฺจมชฺฌานิเก ปีติยา จ อสมฺภวโต น โหนฺติ วา, โลกิเยปิ จิตฺเต สีลวิสุทฺธาทิ ฉพฺพิสุทฺธิปวตฺติยํ ยถาโยคํ ตํตํกิจฺจสฺส อนุรูปวเสน เกจิ กตฺถจิ วิสุํ วิสุํ โหนฺติ, กตฺถจิ น วา โหนฺติ.
โพธิปกฺขิยสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
สพฺพสงฺคหวณฺณนา
๔๒. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนาทิเภทภินฺนา เต เต สภาคธมฺมา เอกชฺฌํ ราสฏฺเน ขนฺธา. เตนาห ภควา – ‘‘ตเทกชฺฌํ อภิสํยูหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา อยํ วุจฺจติ รูปกฺขนฺโธ’’ตฺยาทิ (วิภ. ๒), เต ปเนเต ขนฺธา ภาชนโภชนพฺยฺชนภตฺตการกภฺุชกวิกปฺปวเสน ปฺเจว วุตฺตาติ อาห ‘‘รูปกฺขนฺโธ’’ตฺยาทิ ¶ . รูปฺหิ เวทนานิสฺสยตฺตา ภาชนฏฺานิยํ, เวทนา ภฺุชิตพฺพตฺตา โภชนฏฺานิยา, สฺา เวทนาสฺสาทลาภเหตุตฺตา พฺยฺชนฏฺานิยา, สงฺขารา อภิสงฺขรณโต ภตฺตการกฏฺานิยา, วิฺาณํ อุปภฺุชกตฺตา ภฺุชกฏฺานิยํ. เอตฺตาวตา จ อธิปฺเปตตฺถสิทฺธีติ ปฺเจว วุตฺตา. เทสนากฺกเมปิ อิทเมว การณํ ยตฺถ ภฺุชติ, ยฺจ ภฺุชติ, เยน จ ภฺุชติ, โย จ โภชโก, โย จ ภฺุชิตา, เตสํ อนุกฺกเมน ทสฺเสตุกามตฺตา.
๔๓. อุปาทานานํ ¶ โคจรา ขนฺธา อุปาทานกฺขนฺธา, เต ปน อุปาทานวิสยภาเวน คหิตา รูปาทโย ปฺเจวาติ วุตฺตํ ‘‘รูปุปาทานกฺขนฺโธ’’ตฺยาทิ. สพฺพสภาคธมฺมสงฺคหตฺถํ หิ สาสวา, อนาสวาปิ ธมฺมา อวิเสสโต ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติ เทสิตา. วิปสฺสนาภูมิสนฺทสฺสนตฺถํ ปน สาสวาว ‘‘อุปาทานกฺขนฺธา’’ติ. ยถา ปเนตฺถ เวทนาทโย สาสวา, อนาสวา จ, น เอวํ รูปํ, เอกนฺตกามาวจรตฺตา. สภาคราสิวเสน ปน ตํ ขนฺเธสุ เทสิตํ, อุปาทานิยภาเวน, ปน ราสิวเสน จ อุปาทานกฺขนฺเธสูติ ทฏฺพฺพํ.
๔๔. อายตนฺติ เอตฺถ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา เตน เตน กิจฺเจน ฆฏฺเฏนฺติ วายมนฺติ, อายภูเต วา เต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ วิตฺถาเรนฺติ, อายตํ วา สํสารทุกฺขํ นยนฺติ ปวตฺเตนฺติ, จกฺขุวิฺาณาทีนํ การณภูตานีติ วา อายตนานิ. อปิจ โลเก นิวาสอากรสโมสรณสฺชาติฏฺานํ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา เอเตปิ ตํตํทฺวาริกานํ, ตํตทารมฺมณานฺจ จกฺขุวิฺาณาทีนํ นิวาสฏฺานตาย, เตสเมว อากิณฺณภาเวน ปวตฺตานํ อากรฏฺานตาย, ทฺวารารมฺมณโต สโมสรนฺตานํ สโมสรณฏฺานตาย, ตตฺเถว อุปฺปชฺชนฺตานํ สฺชาติฏฺานตาย จ อายตนานิ. ตานิ ปน ทฺวารภูตานิ อชฺฌตฺติกายตนานิ ¶ ฉ, อารมฺมณภูตานิ จ พาหิรายตนานิ ฉาติ ทฺวาทสวิธานีติ อาห ‘‘จกฺขายตน’’นฺตฺยาทิ. จกฺขุ จ ตํ อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ. เอวํ เสเสสุปิ.
เอตฺถ อชฺฌตฺติกายตเนสุ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆารมฺมณตฺตา จกฺขายตนํ วิภูตนฺติ ตํ ปมํ วุตฺตํ, ตทนนฺตรํ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆารมฺมณานิ อิตรานิ, ตตฺถาปิ อสมฺปตฺตคฺคาหกสามฺเน จกฺขายตนานนฺตรํ โสตายตนํ วุตฺตํ, อิตเรสุ สีฆตรํ อารมฺมณคฺคหณสมตฺถตฺตา ฆานายตนํ ปมํ วุตฺตํ. ปุรโต ปิตมตฺตสฺส หิ โภชนาทิกสฺส คนฺโธ วาตานุสาเรน ฆาเน ปฏิหฺติ, ตทนนฺตรํ ปน ปเทสวุตฺติสามฺเน ชิวฺหายตนํ วุตฺตํ, ตโต สพฺพฏฺานิกํ กายายตนํ, ตโต ปฺจนฺนมฺปิ โคจรคฺคหณสมตฺถํ มนายตนํ, ยถาวุตฺตานํ ปน อนุกฺกเมน เตสํ เตสํ อารมฺมณานิ รูปายตนาทีนิ วุตฺตานิ.
๔๕. อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. อถ วา ยถาสมฺภวํ อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ, ภารหาเรหิ วิย จ ภาโร สตฺเตหิ ธียนฺติ ธาริยนฺติ, อวสวตฺตนโต ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา, สตฺเตหิ จ สํสารทุกฺขํ อนุวิธียติ เอตาหิ, ตถาวิหิตฺจ เอตาสฺเวว ¶ มียติ ปิยติ, รสโสณิตาทิสรีราวยวธาตุโย วิย, หริตาลมโนสิลาทิเสลาวยวธาตุโย วิย จ เยฺยาวยวภูตา จาติ ธาตุโย. ยถาหุ –
‘‘วิทหติ วิธานฺจ, ธียเต จ วิธียเต;
เอตาย ธียเต เอตฺถ, อิติ วา ธาตุสมฺมตา;
สรีรเสลาวยว-ธาตุโย วิย ธาตุโย’’ติ.
ตา ปน มนายตนํ สตฺตวิฺาณธาตุวเสน สตฺตธา ภินฺทิตฺวา อวเสเสหิ เอกาทสายตเนหิ สห อฏฺารสธาตู ¶ วุตฺตาติ อาห ‘‘จกฺขุธาตู’’ตฺยาทิ. กมการณํ วุตฺตนเยน ทฏฺพฺพํ.
๔๖. อริยกรตฺตา อริยานิ, ตจฺฉภาวโต สจฺจานีติ อริยสจฺจานิ. อิมานิ หิ จตฺตาโร ปฏิปนฺนเก, จตฺตาโร ผลฏฺเติ อฏฺอริยปุคฺคเล สาเธนฺติ อสติ สจฺจปฺปฏิเวเธ เตสํ อริยภาวานุปคมนโต, สติ จ ตสฺมึ เอกนฺเตน ตพฺภาวูปคมนโต จ. ทุกฺขสมุทยนิโรธมคฺคานเมว ปน ยถากฺกมํ พาธกตฺตํ ปภวตฺตํ นิสฺสรณตฺตํ นิยฺยานิกตฺตํ, นาฺเสํ, พาธกาทิภาโวเยว จ ทุกฺขาทีนํ, น อพาธกาทิภาโว, ตสฺมา อฺตฺถาภาวตตฺถพฺยาปิตาสงฺขาเตน ลกฺขเณน เอตานิ ตจฺฉานิ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘โพธานุรูปํ จตฺตาโร, ฉินฺทนฺเต จตุโร มเล;
ขีณโทเส จ จตฺตาโร, สาเธนฺตาริยปุคฺคเล.
‘‘อฺตฺถ พาธกตฺตาทิ, น หิ เอเตหิ ลพฺภติ;
นาพาธกตฺตเมเตสํ, ตจฺฉาเนตานิเวตโต’’ติ.
อริยานํ วา สจฺจานิ เตหิ ปฏิวิชฺฌิตพฺพตฺตา, อริยสฺส วา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สจฺจานิ เตน เทสิตตฺตาติ อริยสจฺจานิ. ตานิ ปน สํกิลิฏฺาสํกิลิฏฺผลเหตุวเสน จตุพฺพิธานีติ อาห ‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ตฺยาทิ. ตตฺถ กุจฺฉิตตฺตา, ตุจฺฉตฺตา จ ทุกฺขํ. กมฺมาทิปจฺจยสนฺนิฏฺาเน ทุกฺขุปฺปตฺตินิมิตฺตตาย สมุทโย สมุเทติ เอตสฺมา ทุกฺขนฺติ กตฺวา, ทุกฺขสฺส ¶ สมุทโย ทุกฺขสมุทโย. ทุกฺขสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ เอตฺถ, เอเตนาติ วา ทุกฺขนิโรโธ. ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ, ปฏิปชฺชนฺติ จ ตํ เอตายาติ ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทา.
๔๗. เจตสิกานํ, โสฬสสุขุมรูปานํ, นิพฺพานสฺส จ วเสน เอกูนสตฺตติ ธมฺมา อายตเนสุ ธมฺมายตนํ, ธาตูสุ ธมฺมธาตูติ จ สงฺขํ คจฺฉนฺติ.
๔๙. เสสา ¶ เจตสิกาติ เวทนาสฺาหิ เสสา ปฺาส เจตสิกา. กสฺมา ปน เวทนาสฺา วิสุํ กตาติ? วฏฺฏธมฺเมสุ อสฺสาทตทุปกรณภาวโต. เตภูมกธมฺเมสุ หิ อสฺสาทวสปฺปวตฺตา เวทนา, อสุเภ สุภาทิสฺาวิปลฺลาสวเสน จ ตสฺสา ตทาการปฺปวตฺตีติ ตทุปกรณภูตา สฺา, ตสฺมา สํสารสฺส ปธานเหตุตาย เอตา วินิภุชฺชิตฺวา เทสิตาติ. วุตฺตฺเหตํ อาจริเยน –
‘‘วฏฺฏธมฺเมสุ อสฺสาทํ, ตทสฺสาทุปเสวนํ;
วินิภุชฺช นิทสฺเสตุํ, ขนฺธทฺวยมุทาหฏ’’นฺติ. (นาม. ปริ. ๖๔๙);
๕๐. นนุ จ อายตนธาตูสุ นิพฺพานํ สงฺคหิตํ, ขนฺเธสุ กสฺมา น สงฺคหิตนฺติ อาห ‘‘เภทาภาเวนา’’ตฺยาทิ. อตีตาทิเภทภินฺนานฺหิ ราสฏฺเน ขนฺธโวหาโรติ นิพฺพานํ เภทาภาวโต ขนฺธสงฺคหโต นิสฺสฏํ, วินิมุตฺตนฺตฺยตฺโถ.
๕๑. ฉนฺนํ ทฺวารานํ, ฉนฺนํ อารมฺมณานฺจ เภเทน อายตนานิ ทฺวาทส ภวนฺติ, ฉนฺนํ ทฺวารานํ ฉนฺนํ อารมฺมณานํ ตทุภยํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนานํ ตตฺตกานเมว วิฺาณานํ ปริยาเยน กเมน ธาตุโย อฏฺารส ภวนฺติ.
๕๒. ติสฺโส ภูมิโย อิมสฺสาติ ติภูมํ, ติภูมํเยว เตภูมกํ. วตฺตติ เอตฺถ กมฺมํ, ตพฺพิปาโก จาติ วฏฺฏํ. ตณฺหาติ กามตณฺหาทิวเสน ติวิธา, ปุน ฉฬารมฺมณวเสน อฏฺารสวิธา, อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตุปฺาสวิธา, อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน อฏฺสตปฺปเภทา ตณฺหา. กสฺมา ปน อฺเสุปิ ทุกฺขเหตูสุ สนฺเตสุ ตณฺหาเยว สมุทโยติ วุตฺตาติ? ปธานการณตฺตา. กมฺมวิจิตฺตตาเหตุภาเวน, หิ กมฺมสหายภาวูปคมเนน จ ทุกฺขวิจิตฺตตาการณตฺตา ¶ ตณฺหา ทุกฺขสฺส วิเสสการณนฺติ ¶ . มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทานาเมน วุตฺโต มคฺโค โลกุตฺตโร มโตติ มคฺโคติ ปุน มคฺคคฺคหณํ โยเชตพฺพํ.
๕๓. มคฺคยุตฺตา อฏฺงฺคิกวินิมุตฺตา เสสา มคฺคสมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย ผลฺเจว สสมฺปยุตฺตนฺติ เอเต จตูหิ สจฺเจหิ วินิสฺสฏา วินิคฺคตา นิปฺปริยายโต, ปริยายโต ปน อฺาตาวินฺทฺริยนิทฺเทเสปิ ‘‘มคฺคงฺคํ มคฺคปริยาปนฺน’’นฺติ (ธ. ส. ๕๕๕) วุตฺตตฺตา ผลธมฺเมสุ สมฺมาทิฏฺาทีนํ มคฺคสจฺเจ, อิตเรสฺจ มคฺคผลสมฺปยุตฺตานํ สงฺขารทุกฺขสามฺเน ทุกฺขสจฺเจ สงฺคโห สกฺกา กาตุํ. เอวฺหิ สติ สจฺจเทสนายปิ สพฺพสงฺคาหิกตา อุปปนฺนา โหติ. กสฺมา ปเนเต ขนฺธาทโย พหู ธมฺมา วุตฺตาติ? ภควตาปิ ตเถว เทสิตตฺตา. ภควตาปิ กสฺมา ตถา เทสิตาติ? ติวิธสตฺตานุคฺคหสฺส อธิปฺเปตตฺตา. นามรูปตทุภยสมฺมุฬฺหวเสน หิ ติกฺขนาภิติกฺขมุทินฺทฺริยวเสน, สงฺขิตฺตมชฺฌิมวิตฺถารรุจิวเสน จ ติวิธา สตฺตา. เตสุ นามสมฺมุฬฺหานํ ขนฺธคฺคหณํ นามสฺส ตตฺถ จตุธา วิภตฺตตฺตา, รูปสมฺมุฬฺหานํ อายตนคฺคหณํ รูปสฺส ตตฺถ อฑฺเฒกาทสธา วิภตฺตตฺตา, อุภยมุฬฺหานํ ธาตุคฺคหณํ อุภเยสมฺปิ ตตฺถ วิตฺถารโต วิภตฺตตฺตา, ตถา ติกฺขินฺทฺริยานํ, สงฺขิตฺตรุจิกานฺจ ขนฺธาคฺคหณนฺตฺยาทิ โยเชตพฺพํ. ตํ ปเนตํ ติวิธมฺปิ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุวเสน ทิฏฺเมว อุปการาวหํ. โน อฺถาติ สจฺจคฺคหณนฺติ ทฏฺพฺพํ.
สพฺพสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
สมุจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.