📜
๘. ปจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา
๑. อิทานิ ¶ ยถาวุตฺตนามรูปธมฺมานํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปฏฺานนยวเสน ปจฺจเย ทสฺเสตุํ ‘‘เยส’’นฺตฺยาทิ อารทฺธํ. เยสํ ปจฺจเยหิ สงฺขตตฺตา สงฺขตานํ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺมานํ เย ปจฺจยธมฺมา ยถา เยนากาเรน ปจฺจยา ิติยา, อุปฺปตฺติยา จ อุปการกา, ตํ วิภาคํ เตสํ ปจฺจยุปฺปนฺนานํ, เตสํ ¶ ปจฺจยานํ, ตสฺส จ ปจฺจยาการสฺส ปเภทํ อิห อิมสฺมึ สมุจฺจยสงฺคหานนฺตเร าเน ยถารหํ ตํตํปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม สติ ตํตํปจฺจยานํ ตํตํปจฺจยภาวาการานุรูปํ อิทานิ ปวกฺขามีติ โยชนา.
๒. ตตฺถ ปจฺจยสามคฺคึ ปฏิจฺจ สมํ คนฺตฺวา ผลานํ อุปฺปาโท เอตสฺมาติ ปฏิจฺจสมุปฺปาโท, ปจฺจยากาโร. นานปฺปการานิ านานิ ปจฺจยา เอตฺถาตฺยาทินา ปฏฺานํ, อนนฺตนยสมนฺตปฏฺานมหาปกรณํ, ตตฺถ เทสิตนโย ปฏฺานนโย.
๓. ตตฺถาติ เตสุ ทฺวีสุ นเยสุ. ตสฺส ปจฺจยธมฺมสฺส ภาเวน ภวนสีลสฺส ภาโว ตพฺภาวภาวีภาโว, โสเยว อาการมตฺตํ, เตน อุปลกฺขิโต ตพฺภาวภาวีภาวาการมตฺโตปลกฺขิโต. เอเตเนว ตทภาวาภาวาการมตฺโตปลกฺขิตตาปิ อตฺถโต ทสฺสิตา โหติ. อนฺวยพฺยติเรกวเสน หิ ปจฺจยลกฺขณํ ทสฺเสตพฺพํ. เตนาห ภควา – ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหติ, อิมสฺสุปฺปาทา อิทมุปฺปชฺชติ. อิมสฺมึ อสติ อิทํ น โหติ, อิมสฺส นิโรธา อิทํ นิรุชฺฌตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๐๔, ๔๐๖; สํ. นิ. ๒.๒๑; อุทา. ๑, ๒). ปฏิจฺจ ผลํ เอติ เอตสฺมาติ ปจฺจโย. ติฏฺติ ผลํ เอตฺถ ตทายตฺตวุตฺติตายาติ ิติ, อาหจฺจ วิเสเสตฺวา ปวตฺตา ปจฺจยสงฺขาตา ิติ อาหจฺจปจฺจยฏฺิติ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย หิ ตพฺภาวภาวีภาวาการมตฺตํ อุปาทาย ปวตฺตตฺตา เหตาทิปจฺจยนิยมวิเสสํ อนเปกฺขิตฺวา ¶ อวิเสสโตว ปวตฺตติ, อยํ ปน เหตาทิตํตํปจฺจยานํ ตสฺส ตสฺส ธมฺมนฺตรสฺส ตํตํปจฺจยภาวสามตฺถิยาการวิเสสํ อุปาทาย วิเสเสตฺวา ปวตฺโตติ อาหจฺจปจฺจยฏฺิติมารพฺภ ปวุจฺจตีติ. เกจิ ปน ‘‘อาหจฺจ กณฺตาลุอาทีสุ ปหริตฺวา วุตฺตา ิติ อาหจฺจปจฺจยฏฺิตี’’ติ วณฺเณนฺติ. ตํ ปน สวนมตฺเตเนว เตสํ อวหสิตพฺพวจนตํ ปกาเสติ. น หิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนโย, อฺโ วา โกจิ นโย กณฺตาลุอาทีสุ อนาหจฺจ เทเสตุํ สกฺกาติ. โวมิสฺเสตฺวาติ ปฏฺานนยมฺปิ ปฏิจฺจสมุปฺปาเทเยว ปกฺขิปิตฺวา ตพฺภาวภาวีภาเวน เหตาทิปจฺจยวเสน จ มิสฺเสตฺวา อาจริยา สงฺคหการาทโย ปปฺเจนฺติ วิตฺถาเรนฺติ, มยํ ปน วิสุํ วิสุํเยว ทสฺสยิสฺสามาตฺยธิปฺปาโย.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยวณฺณนา
๔. น ¶ วิชานาตีติ อวิชฺชา, อวินฺทิยํ วา กายทุจฺจริตาทึ วินฺทติ ปฏิลภติ, วินฺทิยํ วา กายสุจริตาทึ น วินฺทติ, เวทิตพฺพํ วา จตุสจฺจาทิกํ น วิทิตํ กโรติ, อวิชฺชมาเน วา ชวาเปติ, วิชฺชมาเน วา น ชวาเปตีติ อวิชฺชา, จตูสุ อริยสจฺเจสุ ปุพฺพนฺตาทีสุ จตูสุ อฺาณสฺเสตํ นามํ. อวิชฺชา เอว ปจฺจโย อวิชฺชาปจฺจโย. ตโต อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขารา, กุสลากุสลกมฺมานิ. เต ติวิธา ปฺุาภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ. ตตฺถกามรูปาวจรา เตรส กุสลเจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร, ทฺวาทส อกุสลเจตนา อปฺุาภิสงฺขาโร, จตสฺโส อารุปฺปเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ เอวเมตา เอกูนตึส เจตนา สงฺขารา นาม. ปฏิสนฺธิวเสน เอกูนวีสติวิธํ, ปวตฺติวเสน ทฺวตฺตึสวิธํ วิปากจิตฺตํ วิฺาณํ นาม. นามฺจ รูปฺจ นามรูปํ. ตตฺถ นามํ อิธ เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยํ, รูปํ ปน ภูตุปาทายเภทโต ทุวิธํ ¶ กมฺมสมุฏฺานรูปํ, ตทุภยมฺปิ อิธ ปฏิสนฺธิวิฺาณสหคตนฺติ ทฏฺพฺพํ. นามรูปปจฺจยาติ เอตฺถ นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ สรูเปกเสโส เวทิตพฺโพ. จกฺขาทีนิ ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ, เกสฺจิ มเตน รูปาทีนิ ฉ พาหิรายตนานิปิ วา อายตนํ นาม. ฉ อายตนานิ จ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนํ. จกฺขุสมฺผสฺสาทิวเสน ฉทฺวาริโก ผสฺโส ผสฺโส นาม. สุขทุกฺขุเปกฺขาวเสน ติวิธา เวทนา.
กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหาติ ติวิธา ตณฺหา. ฉฬารมฺมณาทิวเสน ปน อฏฺสตปฺปเภทา โหนฺติ กามุปาทานาทิวเสน จตฺตาริ อุปาทานานิ. เอตฺถ จ ทุพฺพลา ตณฺหา ตณฺหา นาม, พลวตี อุปาทานํ. อสมฺปตฺตวิสยปตฺถนา วา ตณฺหา ตมสิ โจรานํ หตฺถปฺปสารณํ วิย, สมฺปตฺตวิสยคฺคหณํ อุปาทานํ โจรานํ หตฺถปฺปตฺตสฺส คหณํ วิย. อปฺปิจฺฉตาปฏิปกฺขา ตณฺหา, สนฺโตสปฺปฏิปกฺขํ อุปาทานํ. ปริเยสนทุกฺขมูลํ ตณฺหา, อารกฺขทุกฺขมูลํ อุปาทานนฺติ อยเมเตสํ วิเสโส. กมฺมภโว อุปปตฺติภโวติ ทุวิโธ ภโว. ตตฺถ ปโม ภวติ เอตสฺมา ผลนฺติ ภโว, โส กามาวจรกุสลากุสลาทิวเสน เอกูนตึสวิโธ. ทุติโย ปน ภวตีติ ภโว, โส กามภวาทิวเสน นววิโธ. อุปาทานปจฺจยา ภโวติ เจตฺถ อุปปตฺติภโวปิ อธิปฺเปโต. ภวปจฺจยา ชาตีติ กมฺมภโวว. โส หิ ชาติยา ปจฺจโย โหติ, น อิตโร. โส หิ ปมาภินิพฺพตฺตกฺขนฺธสภาโว ชาติเยว, น จ ¶ ตเทว ตสฺส การณํ ยุตฺตํ. เตสํ เตสํ สตฺตานํ ตํตํคติอาทีสุ อตฺตภาวปฏิลาโภ ชาติ. ตถานิพฺพตฺตสฺส จ อตฺตภาวสฺส ปุราณภาโว ชรา. เอตสฺเสว เอกภวปริจฺฉินฺนสฺส ปริโยสานํ มรณํ. าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส จิตฺตสนฺตาโป โสโก. ตสฺเสว วจีปลาโป ปริเทโว. กายิกทุกฺขเวทนา ¶ ทุกฺขํ. มานสิกทุกฺขเวทนา โทมนสฺสํ. าติพฺยสนาทีหิ ผุฏฺสฺส อธิมตฺตเจโตทุกฺขปฺปภาวิโต ภุโส อายาโส อุปายาโส.
เอตฺถ จ สติปิ วตฺถารมฺมณาทิเก ปจฺจยนฺตเร อวิชฺชาทิเอเกกปจฺจยคฺคหณํ ปธานภาวโต, ปากฏภาวโต จาติ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ อวิชฺชานุสยิเตเยว สนฺตาเน สงฺขารานํ วิปากธมฺมภาเวน ปวตฺตนโต อวิชฺชาปจฺจยาสงฺขาราสมฺภวนฺติ, วิฺาณฺจ สงฺขารชนิตํ หุตฺวา ภวนฺตเร ปติฏฺาติ. น หิ ชนกาภาเว ตสฺสุปฺปตฺติ สิยา, ตสฺมา สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ. นามรูปฺจ ปุพฺพงฺคมาธิฏฺานภูตวิฺาณุปตฺถทฺธํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ ปติฏฺหตีติ วิฺาณปจฺจยานามรูปํ, สฬายตนฺจ นามรูปนิสฺสยเมว ฉพฺพิธผสฺสสฺส ทฺวารภาเวน ยถารหํ ปวตฺตติ, โน อฺถาติ นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ. ผสฺโส จ สฬายตนสมฺภเวเยว อารมฺมณํ ผุสติ. น หิ ทฺวาราภาเว ตสฺสุปฺปตฺติ สิยาติ สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส. อิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺตฺจ อารมฺมณํ ผุสนฺโตเยว เวทนํ เวทยติ, โน อฺถาติ ผสฺสปจฺจยา เวทนา. เวทนีเยสุ จ ธมฺเมสุ อสฺสาทานุปสฺสิโน เวทนาเหตุกา ตณฺหา สมุฏฺาตีติ เวทนาปจฺจยา ตณฺหา. ตณฺหาสิเนหปิปาสิตาเยว จ อุปาทานิเยสุ ธมฺเมสุ อุปาทาย ทฬฺหภาวาย สํวตฺตนฺติ. ตณฺหาย หิ รูปาทีนิ อสฺสาเทตฺวา อสฺสาเทตฺวา กาเมสุ ปาตพฺยตํ อาปชฺชนฺตีติ ตณฺหา กามุปาทานสฺส ปจฺจโย. ตถา รูปาทิเภเทคธิโต ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินา มิจฺฉาทสฺสนํ สํสารโต มุจฺจิตุกาโม อสุทฺธิมคฺเค สุทฺธิมคฺคปรามาสํ ขนฺเธสุ อตฺตตฺตนิยคาหภูตํ อตฺตวาททสฺสนทฺวยฺจ คณฺหาติ, ตสฺมา ทิฏฺุปาทาทีนมฺปิ ปจฺจโยติ ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ. ยถารหํ สมฺปโยคานุสยวเสน อุปาทานปติฏฺิตาเยว สตฺตา กมฺมายูหนาย สํวตฺตนฺตีติ อุปาทานํ ภวสฺส ปจฺจโย. อุปปตฺติภวสงฺขาตา จ ชาติ กมฺมภวเหตุกาเยว ¶ . พีชโต องฺกุโร วิย ตตฺถ ตตฺถ สมุปลพฺภตีติ ภโว ชาติยา ปจฺจโย นาม. สติ จ ชาติยา เอว ชรามรณสมฺภโว. น หิ อชาตานํ ชรามรณสมฺภโว โหตีติ ชาติ ชรามรณานํ ปจฺจโยติ เอวเมเตสํ ตพฺภาวภาวีภาโว ทฏฺพฺโพ.
เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตีติ ยถาวุตฺเตน ปจฺจยปรมฺปรวิธินา, น ¶ ปน อิสฺสรนิมฺมานาทีหิ เอตสฺส วฏฺฏสงฺขาตสฺส เกวลสฺส สุขาทีหิ อสมฺมิสฺสสฺส, สกลสฺส วา ทุกฺขกฺขนฺธสฺส ทุกฺขราสิสฺส น สุขสุภาทีนํ สมุทโย นิพฺพตฺติ โหติ. เอตฺถ อิมสฺมึ ปจฺจยสงฺคหาธิกาเร.
๕. อตติ สตตํ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ อทฺธา, กาโล.
๖. อวิชฺชาสงฺขารา อตีโต อทฺธา อตีตภวปริยาปนฺนเหตูนเมเวตฺถ อธิปฺเปตตฺตา, อทฺธาคฺคหเณน จ อวิชฺชาทีนํ ธมฺมานเมว คหณํ ตพฺพินิมุตฺตสฺส กสฺสจิ กาลสฺส อนุปลพฺภนโต. นิรุทฺธานุปฺปาทา เอว หิ ธมฺมา อตีตานาคตกาลวเสน อุปฺปาทาทิกฺขณตฺตยปริยาปนฺนา จ ปจฺจุปฺปนฺนกาลวเสน โวหรียนฺติ. ชาติชรามรณํ อนาคโต อทฺธา ปจฺจุปฺปนฺนเหตุโต อนาคเต นิพฺพตฺตนโต. มชฺเฌ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา อตีตเหตุโต อิธ นิพฺพตฺตนกผลสภาวตฺตา, อนาคตผลสฺส อิธ เหตุสภาวตฺตา จ มชฺเฌ วิฺาณาทีนิ อฏฺงฺคานิ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา.
๘. นนุ โสกปริเทวาทโยปิ องฺคภาเวน วตฺตพฺพาติ อาห ‘‘โสกาทิวจน’’นฺตฺยาทิ. โสกาทิวจนํ ชาติยา นิสฺสนฺทสฺส อมุขฺยผลมตฺตสฺส นิทสฺสนํ, น ปน วิสุํ องฺคทสฺสนนฺตฺยตฺโถ.
๙. ตณฺหุปาทานภวาปิ ¶ คหิตา โหนฺตีติ กิเลสภาวสามฺโต อวิชฺชาคฺคหเณน ตณฺหุปาทานานิ, กมฺมภวสามฺโต สงฺขารคฺคหเณน กมฺมภโว คหิโต. ตถา ตณฺหุปาทานภวคฺคหเณน จ อวิชฺชาสงฺขารา คหิตาติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาปิ วุตฺตนเยน เตสํ คหเณน เตสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนานํ ชาติชราภงฺคาว ชาติชรามรณนฺติ จ วุตฺตาติ อาห ‘‘ชาติชรามรณคฺคหเณนา’’ตฺยาทิ.
๑๐. อตีเต เหตโว ปฺจาติ สรูปโต วุตฺตานํ ทฺวินฺนํ อวิชฺชาสงฺขารานํ, สงฺคหวเสน คหิตานํ ติณฺณํ ตณฺหุปาทานภวานฺจ วเสน ปจฺจุปฺปนฺนผลสฺส ปจฺจยา อตีตภเว นิพฺพตฺตา เหตโว ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกนฺติ อตีตเหตุปจฺจยา อิธ ปจฺจุปฺปนฺเน นิพฺพตฺตํ วิฺาณาทิผลปฺจกํ. อิทานิ เหตโว ปฺจาติ สรูปโต วุตฺตานํ ตณฺหาทีนํ ติณฺณํ, สงฺคหโต ลทฺธานํ ¶ อวิชฺชาสงฺขารานํ ทฺวินฺนฺจ วเสน อายตึ ผลสฺส ปจฺจยา อิทานิ เหตโว ปฺจ. อายตึ ผลปฺจกนฺติ ชาติชรามรณคฺคหเณน วุตฺตํ ปจฺจุปฺปนฺนเหตุปจฺจยา อนาคเต นิพฺพตฺตนกวิฺาณาทิผลปฺจกนฺติ เอวํ วีสติ อตีตาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อากิริยนฺตีติ อาการา.
อตีตเหตูนํ, อิทานิ ผลปฺจกสฺส จ อนฺตรา เอโก สนฺธิ, อิทานิ ผลปฺจกสฺส, อิทานิ เหตูนฺจ อนฺตรา เอโก, อิทานิ เหตูนํ, อายตึ ผลสฺส จ อนฺตรา เอโกติ เอวํ ติสนฺธิ. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘สงฺขารวิฺาณานมนฺตรา เอโก, เวทนาตณฺหานมนฺตรา เอโก, ภวชาตีนมนฺตรา เอโก สนฺธี’’ติ. เอตฺถ หิ เหตุโตผลสฺส อวิจฺเฉทปฺปวตฺติภาวโต เหตุผลสมฺพนฺธภูโต ปโม สนฺธิ, ตถา ตติโย, ทุติโย ปน ผลโต เหตุโน อวิจฺเฉทปฺปวตฺติภาวโต ผลเหตุสมฺพนฺธภูโต. ผลภูโตปิ หิ ¶ ธมฺโม อฺสฺส เหตุสภาวสฺส ธมฺมสฺส ปจฺจโยติ. สงฺขิปียนฺติ เอตฺถ อวิชฺชาทโย, วิฺาณาทโย จาติ สงฺเขโป, อตีตเหตุ, เอตรหิ วิปาโก, เอตรหิ เหตุ อายตึ วิปาโกติ จตฺตาโร สงฺเขปาติ จตุสงฺเขปา.
๑๑. กมฺมภวสงฺขาโต ภเวกเทโสติ เอตฺถ อายตึ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา ภโว นาม, ปุริมกมฺมภวสฺมึ อิธ ปฏิสนฺธิยา ปจฺจยเจตนา สงฺขาราติ เวทิตพฺพา. อวเสสา จาติ วิฺาณาทิปฺจกชาติชรามรณวเสน สตฺตวิธา ปจฺจุปฺปนฺนผลวเสน วุตฺตธมฺมา. อุปปตฺติภวสงฺขาโต ภเวกเทโสติ ปน อนาคตปริยาปนฺนา เวทิตพฺพา. ภว-สทฺเทน กมฺมภวสฺสปิ วุจฺจมานตฺตา ภเวกเทส-สทฺโท วุตฺโต.
๑๒. ปุพฺพนฺตสฺส อวิชฺชา มูลํ. อปรนฺตสฺส ตณฺหา มูลนฺติ อาห อวิชฺชาตณฺหาวเสน ทฺเว มูลานี’’ติ.
๑๓. เตสเมว อวิชฺชาตณฺหาสงฺขาตานํ วฏฺฏมูลานํ นิโรเธน อนุปฺปาทธมฺมตาปตฺติยา สจฺจปฺปฏิเวธโต สิทฺธาย อปฺปวตฺติยา วฏฺฏํ นิรุชฺฌติ. อภิณฺหโส อภิกฺขณํ ชรามรณสงฺขาตาย มุจฺฉาย ปีฬิตานํ สตฺตานํ โสกาทิสมปฺปิตานํ กามาสวาทิอาสวานํ สมุปฺปาทโต ปุน อวิชฺชา จ ปวตฺตติ. ‘‘อาสวสมุทยา อวิชฺชาสมุทโย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๐๓) หิ วุตฺตํ. เอเตน อวิชฺชายปิ ปจฺจโย ทสฺสิโต โหติ, อิตรถา ปฏิจฺจสมุปฺปาทจกฺกํ ¶ อพทฺธํ สิยาติ. อิจฺเจวํ วุตฺตนเยน อาพทฺธํ อวิจฺฉินฺนํ อนาทิกํ อาทิรหิตํ ติภูมกปริยาปนฺนตฺตา เตภูมกํ กิเลสกมฺมวิปากวเสน ติวฏฺฏภูตํ ปฏิจฺจสมุปฺปาโทติ ปฏฺเปสิ ปฺเปสิ มหามุนิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ.
ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฏฺานนยวณฺณนา
๑๔. เอวํ ¶ ปฏิจฺจสมุปฺปาทนยํ วิภาคโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฏฺานนยํ ทสฺเสตุํ ‘‘เหตุปจฺจโย’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ หิโนติ ปติฏฺาติ เอเตนาติ เหตุ. อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ หิ-สทฺโท อิธ ปติฏฺตฺโถติ ทฏฺพฺโพ. หิโนติ วา เอเตน กมฺมนิทานภูเตน อุทฺธํ โอชํ อภิหรนฺเตน มูเลน วิย ปาทโป ตปฺปจฺจยํ ผลํ คจฺฉติ ปวตฺตติ วุทฺธึ วิรูฬฺหึ อาปชฺชตีติ เหตุ. เหตุ จ โส ปจฺจโย จาติ เหตุปจฺจโย. เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย, เหตุภาเวน ปจฺจโยติ วุตฺตํ โหติ. มูลฏฺเน เหตุ, อุปการฏฺเน ปจฺจโยติ สงฺเขปโต มูลฏฺเน อุปการโก ธมฺโม เหตุปจฺจโย. โส ปน ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ, ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อุภยตฺถ สมฺปยุตฺตานํ นามธมฺมานฺจ รุกฺขสฺส มูลานิ วิย สุปฺปติฏฺิตภาวสาธนสงฺขาตมูลฏฺเน อุปการกา ฉ ธมฺมาติ ทฏฺพฺพํ.
อาลมฺพียติ ทุพฺพเลน วิย ทณฺฑาทิกํ จิตฺตเจตสิเกหิ คยฺหตีติ อารมฺมณํ. จิตฺตเจตสิกา หิ ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภ ปวตฺตนฺติ, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจโย นาม. น หิ โส ธมฺโม อตฺถิ, โย จิตฺตเจตสิกานํ อารมฺมณปจฺจยภาวํ น คจฺเฉยฺย. อตฺตาธีนปฺปวตฺตีนํ ปติภูโต ปจฺจโย อธิปติปจฺจโย.
น วิชฺชติ ปจฺจยุปฺปนฺเนน สห อนฺตรํ เอตสฺส ปจฺจยสฺสาติ อนนฺตรปจฺจโย. สณฺานาภาเวน สุฏฺุ อนนฺตรปจฺจโย สมนนฺตรปจฺจโย. อตฺตโน อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทชนนสมตฺโถ ปุริมปุริมนิรุทฺโธ ธมฺโม ‘‘อนนฺตรปจฺจโย’’, ‘‘สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ จ ¶ วุจฺจติ. พฺยฺชนมตฺเตเนว หิ เนสํ วิเสโส. อตฺถโต ปน อุภยมฺปิ สมนนฺตรนิรุทฺธสฺเสวาธิวจนํ. น หิ เตสํ อตฺถโต เภโท อุปลพฺภติ ¶ . ยํ ปน เกจิ วทนฺติ ‘‘อตฺถานนฺตรตาย อนนฺตรปจฺจโย, กาลานนฺตรตาย สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ, ตํ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทีหิ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) วิรุชฺฌติ. เนวสฺานาสฺายตนํ หิ สตฺตาหาทิกาลํ นิรุทฺธํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจโย, ตสฺมา อภินิเวสํ อกตฺวา พฺยฺชนมตฺตโตเวตฺถ นานากรณํ ปจฺเจตพฺพํ, น อตฺถโต. ปุพฺพธมฺมนิโรธสฺส หิ ปจฺฉาชาตธมฺมุปฺปาทนสฺส จ อนฺตราภาเวน อุปฺปาทนสมตฺถตาย นิโรโธ อนนฺตรปจฺจยตา, ‘‘อิทมิโต อุทฺธํ, อิทํ เหฏฺา, อิทํ สมนฺตโต’’ติ อตฺตนา เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วิย สุฏฺุ อนนฺตรภาเวน อุปฺปาเทตุํ สมตฺถํ หุตฺวา นิโรโธ สมนนฺตรปจฺจยตาติ เอวํ พฺยฺชนมตฺตโตว เภโท. นิโรธปจฺจยสฺสปิ หิ เนวสฺานาสฺายตนสฺส อสฺุปฺปตฺติยา ปุริมสฺส จ จุติจิตฺตสฺส กาลนฺตเรปิ อุปฺปชฺชนฺตานํ ผลปฏิสนฺธีนํ อนฺตรา สมานชาติเยน อรูปธมฺเมน พฺยวธานาภาวโต ภินฺนชาติกานฺจ รูปธมฺมานํ พฺยวธานกรเณ อสมตฺถตาย นิรนฺตรุปฺปาทเน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา วิย อุปฺปาทเน จ สมตฺถตา อตฺถีติ เตสมฺปิ อนนฺตรสมนนฺตรปจฺจยตา ลพฺภติ, ตสฺมา ธมฺมโต อวิเสเสปิ ตถา ตถา พุชฺฌนกานํ เวเนยฺยานํ วเสน อุปสคฺคตฺถวิเสสมตฺตโตว เภโท ปจฺเจตพฺโพติ.
อตฺตโน อนุปฺปตฺติยา สหุปฺปนฺนานมฺปิ อนุปฺปตฺติโต ปกาสสฺส ปทีโป วิย สหุปฺปนฺนานํ สหุปฺปาทภาเวน ปจฺจโย สหชาตปจฺจโย, อรูปิโน จตุกฺขนฺธา, จตฺตาโร มหาภูตา, ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุวิปากา จ ธมฺมา.
อฺมฺํ อุปตฺถมฺภยมานํ ติทณฺฑํ วิย อตฺตโน อุปการกธมฺมานํ อุปตฺถมฺภกภาเวน ปจฺจโย อฺมฺปจฺจโย. อฺมฺตาวเสเนว ¶ จ อุปการกตา อฺมฺปจฺจยตา, น สหชาตมตฺเตนาติ อยเมเตสํ ทฺวินฺนํ วิเสโส. ตถา หิ สหชาตปจฺจยภาวีเยว โกจิ อฺมฺปจฺจโย น โหติ จิตฺตชรูปานํ สหชาตปจฺจยภาวิโน นามสฺส อุปาทารูปานํ สหชาตปจฺจยภาวีนํ มหาภูตานฺจ อฺมฺปจฺจยภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา. ยทิ หิ สหชาตภาเวเนว อตฺตโน อุปการกานํ อุปการกตา อฺมฺปจฺจยตา สิยา, ตทา สหชาตอฺมฺปจฺจเยหิ สมาเนหิ ภวิตพฺพนฺติ.
จิตฺตกมฺมสฺส ¶ ปโฏ วิย สหชาตนามรูปานํ นิสฺสยภูตา จตุกฺขนฺธา, ตรุปพฺพตาทีนํ ปถวี วิย อาธารณโตเยว สหชาตรูปสตฺตวิฺาณธาตูนํ ยถากฺกมํ นิสฺสยา ภูตรูปํ, วตฺถุ จาติ อิเม นิสฺสยปจฺจโย นาม นิสฺสียติ นิสฺสิตเกหีติ กตฺวา, พลวภาเวน นิสฺสโย ปจฺจโย อุปนิสฺสยปจฺจโย อุป-สทฺทสฺส อติสยโชตกตฺตา, ตสฺส ปน เภทํ วกฺขติ.
ฉ วตฺถูนิ, ฉ อารมฺมณานิ จาติ อิเม ปจฺจยุปฺปนฺนโต ปมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ปวตฺตมานภาเวน อุปการโก ปุเรชาตปจฺจโย. ปจฺฉาชาตปจฺจเย อสติ สนฺตานฏฺิติเหตุภาวํ อาคจฺฉนฺตสฺส กายสฺส อุปตฺถมฺภนภาเวน อุปการกา ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปจฺฉาชาตปจฺจโย. โส คิชฺฌโปตกสรีรานํ อาหาราสา เจตนา วิย ทฏฺพฺโพ.
ปุริมปุริมปริจิตคนฺโถ วิย อุตฺตรอุตฺตรคนฺถสฺส กุสลาทิภาเวน อตฺตสทิสสฺส ปคุณพลวภาววิสิฏฺอตฺตสมานชาติยตาคาหณํ อาเสวนํ, เตน ปจฺจยา สชาติยธมฺมานํ สชาติยธมฺมาว อาเสวนปจฺจโย. ภินฺนชาติกา หิ ภินฺนชาติเกหิ อาเสวนปคุเณน ปคุณพลวภาววิสิฏฺํ กุสลาทิภาวสงฺขาตํ อตฺตโน คตึ ¶ คาหาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, น จ สยํ ตโต คณฺหนฺติ, เต ปน อนนฺตราตีตานิ โลกิยกุสลากุสลานิ เจว อนาวชฺชนกิริยชวนานิ จาติ ทฏฺพฺพํ. จิตฺตปฺปโยคสงฺขาตกิริยาภาเวน สหชาตานํ นานากฺขณิกานํ วิปากานํ, กฏตฺตารูปานฺจ อุปการิกา เจตนา กมฺมปจฺจโย.
อตฺตโน นิรุสฺสาหสนฺตภาเวน สหชาตนามรูปานํ นิรุสฺสาหสนฺตภาวาย อุปการกา วิปากจิตฺตเจตสิกา วิปากปจฺจโย. เต หิ ปโยเคน อสาเธตพฺพตาย กมฺมสฺส กฏตฺตา นิปฺผชฺชมานมตฺตโต นิรุสฺสาหสนฺตภาวา โหนฺติ, น กิเลสวูปสมสนฺตภาวา. ตถา สนฺตภาวโตเยว หิ ภวงฺคาทโย ทุพฺพิฺเยฺยา. อภินิปาตสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณมตฺตา ปน วิปากา ทุพฺพิฺเยฺยาว. ชวนปฺปวตฺติยาว เนสํ รูปาทิคฺคหิตตา วิฺายติ.
รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกา จตฺตาโร อาหารา อาหารปจฺจโย. สติปิ หิ ชนกภาเว อุปตฺถมฺภกตฺตเมว อาหารสฺส ปธานกิจฺจํ. ชนยนฺโตปิ อาหาโร อวิจฺเฉทวเสน อุปตฺถมฺเภนฺโต ว ชเนตีติ อุปตฺถมฺภกภาโว ว อาหารภาโว. เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมหิ อตฺตานํ อนุวตฺตาปนสงฺขาตาธิปติยฏฺเน ปจฺจโย อินฺทฺริยปจฺจโย.
อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน ¶ อุปคนฺตฺวา อารมฺมณนิชฺฌานกา วิตกฺกาทโย ฌานปจฺจโย. สุคติโต ปฺุโต, ทุคฺคหิโต ปาปโต วา นิยฺยานฏฺเน อุปการกา สมฺมาทิฏฺาทโย มคฺคปจฺจโย.
ปรมตฺถโต ภินฺนาปิ เอกีภาวคตา วิย เอกุปฺปาทาทิภาวสงฺขาตสมฺปโยคลกฺขเณน อุปการกา นามธมฺมา ว สมฺปยุตฺตปจฺจโย. อฺมฺสมฺพนฺธตาย ยุตฺตาปิ สมานา วิปฺปยุตฺตภาเวน ¶ วิสํสฏฺตาย นานตฺตุปคมเนน อุปการกา วตฺถุจิตฺตเจตสิกา วิปฺปยุตฺตปจฺจโย.
ปจฺจุปฺปนฺนสภาวสงฺขาเตน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกา ‘‘สหชาตํ ปุเรชาต’’นฺตฺยาทินา วกฺขมานธมฺมา อตฺถิปจฺจโย. สติปิ หิ ชนกตฺเต ิติยํเยว สาติสโย อตฺถิปจฺจยานํ พฺยาปาโรติ อุปตฺถมฺภกตาว เตสํ คหิตา. เอกสฺมึ ผสฺสาทิสมุทาเย ปวตฺตมาเน ทุติยสฺส อภาวโต อตฺตโน ิติยา โอกาสํ อลภนฺตานํ อนนฺตรมุปฺปชฺชมานกจิตฺตเจตสิกานํ โอกาสทานวเสน อุปการกา อนนฺตรนิรุทฺธา จิตฺตเจตสิกา นตฺถิปจฺจโย.
อตฺตโน สภาวาวิคมเนน อปฺปวตฺตมานานํ วิคตภาเวน อุปการกาเยว ธมฺมา วิคตปจฺจโย. นิโรธานุปคมนวเสน อุปการกา อตฺถิปจฺจยา ว อวิคตปจฺจโย. สสภาวตามตฺเตน อุปการกตา อตฺถิปจฺจยตา, นิโรธานุปคมนวเสน อุปการกตา อวิคตปจฺจยตาติ ปจฺจยตาวิเสโส เนสํ ธมฺมาวิเสเสปิ ทฏฺพฺโพ. ธมฺมานฺหิ สมตฺถตาวิเสสํ สพฺพากาเรน ตฺวา ภควตา จตุวีสติปจฺจยา เทสิตาติ ภควติ สทฺธาย ‘‘เอวํ วิเสสา เอเต ธมฺมา’’ติ สุตมยาณํ อุปฺปาเทตฺวา จินฺตาภาวนามยาเณหิ ตทภิสมยาย โยโค กรณีโย. อวิเสเสปิ หิ ธมฺมสามคฺคิยสฺส ตถา ตถา วิเนตพฺพปุคฺคลานํ วเสน เหฏฺา วุตฺโตปิ ปจฺจโย ปุน ปการนฺเตน วุจฺจติ อเหตุกทุกํ วตฺวาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตทุกํ วิยาติ ทฏฺพฺพํ.
๑๕. นามํ จตุกฺขนฺธสงฺขาตํ นามํ ตาทิสสฺเสว นามสฺส ฉธา ฉหากาเรหิ ปจฺจโย โหติ, ตเทว นามรูปีนํ สมุทิตานํ ¶ ปฺจธา ปจฺจโย โหติ, รูปสฺส ปุน ภูตุปาทายเภทสฺส เอกธา ปจฺจโย โหติ, รูปฺจ นามสฺส เอกธา ปจฺจโย, ปฺตฺตินามรูปานิ นามสฺส ทฺวิธา ทฺวิปฺปการา ¶ ปจฺจยา โหนฺติ, ทฺวยํ ปน นามรูปทฺวยํ สมุทิตํ ทฺวยสฺส ตาทิสสฺเสว นามรูปทฺวยสฺส นวธา ปจฺจโย เจติ เอวํ ปจฺจยา ฉพฺพิธา ิตา.
๑๖. วิปากพฺยากตํ กมฺมวเสน วิปากภาวปฺปตฺตํ กมฺมเวคกฺขิตฺตปติตํ วิย หุตฺวา ปวตฺตมานํ อตฺตโน สภาวํ คาเหตฺวา ปริภาเวตฺวา เนว อฺํ ปวตฺเตติ, น จ ปุริมวิปากานุภาวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ. ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอก’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๒๒๑) วจนโต จ อเหตุกกิริเยสุ หสิตุปฺปาทสฺเสว อาเสวนตาอุทฺธรเณน อาวชฺชนทฺวยํ อาเสวนปจฺจโย น โหติ, ตสฺมา ชวนาเนว อาเสวนปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺตีติ อาห ‘‘ปุริมานิ ชวนานี’’ตฺยาทิ. อวิเสสวจเนเปตฺถ โลกิยกุสลากุสลาพฺยากตชวนาเนว ทฏฺพฺพานิ โลกุตฺตรชวนานํ อาเสวนภาวสฺส อนุทฺธฏตฺตา.
เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ ปฏฺานฏฺกถายํ (ปฏฺา. อฏฺ. ๑.๑๒) ‘‘โลกุตฺตโร ปน อาเสวนปจฺจโย นาม นตฺถี’’ติ. ตตฺถ หิ กุสลํ ภินฺนชาติกสฺส ปุเรจรตฺตา น เตน อาเสวนคุณํ คณฺหาเปติ, ผลจิตฺตานิ จ ชวนวเสน อุปฺปชฺชมานานิปิ วิปากาพฺยากเต วุตฺตนเยน อาเสวนํ น คณฺหนฺติ, น จ อฺํ คาหาเปนฺติ. ยมฺปิ ‘‘อาเสวนวินิมุตฺตํ ชวนํ นตฺถี’’ติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, ตมฺปิ เยภุยฺยวเสน วุตฺตนฺติ วิฺายติ. อิตรถา อาจริยสฺส อสมเปกฺขิตาภิธายกตฺตปฺปสงฺโค สิยา. มคฺโค ปน โคตฺรภุโต อาเสวนํ น คณฺหาตีติ นตฺถิ ภูมิอาทิวเสน นานาชาติตาย อนธิปฺเปตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ปฏฺาเน ‘‘โคตฺรภุ ¶ มคฺคสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย, โวทานํ มคฺคสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๖). เอกุปฺปาทาทิจตุพฺพิธสมฺปโยคลกฺขณาภาวโต สหุปฺปนฺนานมฺปิ รูปธมฺมานํ สมฺปยุตฺตปจฺจยตา นตฺถีติ วุตฺตํ ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺ’’นฺติ.
๑๗. เหตุฌานงฺคมคฺคงฺคานิ สหชาตานํ นาม รูปานนฺติ ตโยเปเต ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานํ, ปวตฺติยํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ รูปานํ, อุภยตฺถ สหชาตานํ นามานฺจ เหตาทิปจฺจเยน ปจฺจยา โหนฺติ. ‘‘สหชาตรูปนฺติ หิ สพฺพตฺถ ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานํ, ปวตฺติยํ จิตฺตสมุฏฺานาน’’นฺติ วกฺขติ. สหชาตา เจตนาติ อนฺตมโส จกฺขุวิฺาณาทีหิปิ สหชาตเจตนา. สหชาตานํ นาม รูปานนฺติ สพฺพาปิ เจตนา นามานํ, ปฏิสนฺธิสหคตา เจตนา กมฺมสมุฏฺานรูปานํ, ปวตฺติยํ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตสหคตา เจตนา จิตฺตสมุฏฺานรูปานฺจ. นานากฺขณิกา ¶ เจตนาติ วิปากกฺขณโต นานากฺขเณ อตีตภวาทีสุ นิพฺพตฺตา กุสลากุสลเจตนา. นามรูปานนฺติ อุภยตฺถาปิ นามรูปานํ. วิปากกฺขนฺธาติ ปฏิสนฺธิวิฺาณาทิกา วิปากา อรูปกฺขนฺธา. กมฺมสมุฏฺานมฺปิ หิ รูปํ วิปากโวหารํ น ลภติ อรูปธมฺมภาเวน, สารมฺมณภาเวน จ กมฺมสทิเสสุ อรูปธมฺเมสฺเวว วิปาก-สทฺทสฺส นิรุฬฺหตฺตา.
๑๘. ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺสาติ ปจฺจยธมฺมโต ปุเร อุปฺปนฺนสฺส อิมสฺส รูปกายสฺส. กถํ ปน ปจฺจยุปฺปนฺนสฺส ปุเร นิพฺพตฺติยํ ปจฺฉาชาตสฺส ปจฺจยตาติ? นนุ วุตฺตํ ‘‘ปจฺฉาชาตปจฺจเย อสติ สนฺตานฏฺิติเหตุกภาวํ อาคจฺฉนฺตสฺสา’’ติ, ตสฺมา สนฺตานปฺปวตฺตสฺส เหตุภาวุปตฺถมฺภเน อิมสฺส พฺยาปาโรติ น โกจิ วิโรโธ.
๑๙. ปฏิสนฺธิยํ ¶ จกฺขาทิวตฺถูนํ อสมฺภวโต, สติ จ สมฺภเว ตํตํวิฺาณานํ ปจฺจยภาวานุปคมนโต, หทยวตฺถุโน จ ปฏิสนฺธิวิฺาเณน สหุปฺปนฺนสฺส ปุเรชาตกตาภาวโต วุตฺตํ ‘‘ฉวตฺถูนิ ปวตฺติย’’นฺติ. ‘‘ปฺจารมฺมณานิ ปฺจวิฺาณวีถิยา’’ติ จ อิทํ อารมฺมณปุเรชาตนิทฺเทเส อาคตํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปฺหาวาเร ปน ‘‘เสกฺขา วา ปุถุชฺชนา วา จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตี’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔) อวิเสเสน ปจฺจุปฺปนฺนจกฺขาทีนมฺปิ คหิตตฺตา ธมฺมารมฺมณมฺปิ อารมฺมณปุเรชาตํ มโนวิฺาณวีถิยา ลพฺภติ. อตฺถโต เหตํ สิทฺธํ, ยํ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมารมฺมณํ คเหตฺวา มโนทฺวาริกวีถิ ปวตฺตติ, ตํ ตสฺส อารมฺมณปุเรชาตํ โหตีติ.
๒๒. ปกติยา เอว ปจฺจยนฺตรรหิเตน อตฺตโน สภาเวเนว อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. อารมฺมณานนฺตเรหิ อสํมิสฺโส ปุถเคว โกจิ อุปนิสฺสโยติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปกโต อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. ปกโตติ เจตฺถ ป-กาโร อุปสคฺโค, โส อตฺตโน ผลสฺส อุปฺปาทนสมตฺถภาเวน สนฺตาเน นิปฺผาทิตภาวํ, อาเสวิตภาวฺจ ทีเปติ, ตสฺมา อตฺตโน สนฺตาเน นิปฺผนฺโน ราคาทิ, สทฺธาทิ, อุปเสวิโต วา อุตุโภชนาทิ ปกตูปนิสฺสโย. ตถา เจว นิทฺทิสติ.
๒๓. ครุกตนฺติ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขิตํ. ตถา หิ ‘‘ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา ¶ อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขตี’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๓) ทานสีลอุโปสถกมฺมปุพฺเพกตสุจิณฺณฌานโคตฺรภุโวทานมคฺคาทีนิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขณวเสน อสฺส นิทฺเทโส ปวตฺโต.
๒๔. ‘‘ปุริมา ¶ ปุริมา กุสลา ขนฺธา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ขนฺธานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ตฺยาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) นเยน อนนฺตรปจฺจเยน สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวา อนนฺตรูปนิสฺสยสฺส อาคตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อนนฺตรนิรุทฺธา’’ตฺยาทิ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน อนนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทวเสน อนนฺตรปจฺจโย, พลวการณวเสน อนนฺตรูปนิสฺสยปจฺจโยติ อยเมเตสํ วิเสโส.
๒๕. ยถารหํ อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ ราคาทโย…เป… เสนาสนฺจาติ โยชนา. ราคาทโย หิ อชฺฌตฺตํ นิปฺผาทิตา, ปุคฺคลาทโย พหิทฺธา เสวิตา. ตถา หิ วุตฺตํ อาจริเยน –
‘‘ราคสทฺธาทโย ธมฺมา, อชฺฌตฺตมนุวาสิตา;
สตฺตสงฺขารธมฺมา จ, พหิทฺโธปนิเสวิตา’’ติ. (นาม. ปริ. ๘๒๗);
อถ วา อชฺฌตฺตฺจ พหิทฺธา จ กุสลาทิธมฺมานนฺติ ยถาิตวเสเนว โยชนา อตฺตโน หิ ราคาทโย จ อตฺตโน กุสลาทิธมฺมานํ กลฺยาณมิตฺตสฺส สทฺธาทิเก นิสฺสาย กุสลํ กโรนฺตานํ ปเรสฺจ นิสฺสยา โหนฺติ.
ตตฺถ กามราคาทโย นิสฺสาย กามภวาทีสุ นิพฺพตฺตนตฺถํ, ราคาทิวูปสมตฺถฺจ ทานสีลอุโปสถชฺฌานาภิฺาวิปสฺสนามคฺคภาวนา, ราคาทิเหตุกา จ อุปรูปริราคาทโย โหนฺตีติ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. ยํ ยฺหิ นิสฺสาย ยสฺส ยสฺส สมฺภโว, ตํ ตํ ตสฺส ตสฺส ปกตูปนิสฺสโย โหติ. ปจฺจยมหาปเทโส เหส, ยทิทํ ‘‘อุปนิสฺสยปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. ตถา จาห ‘‘พหุธา โหติ ปกตูปนิสฺสโย’’ติ. สทฺธาทโยติ สีลสุตจาคปฺา. อตฺตโน สทฺธาทิกฺหิ อุปนิสฺสาย อตฺตโน ทานสีลาทโย, ตถา กลฺยาณมิตฺตานํ สทฺธาทโย อุปนิสฺสาย ¶ ปเรสฺจ ทานสีลาทโย ¶ โหนฺตีติ ปากฏเมตํ. สุขํ ทุกฺขนฺติ กายิกํ สุขํ ทุกฺขํ. ปุคฺคโลติ กลฺยาณมิตฺตาทิปุคฺคโล. โภชนนฺติ สปฺปายาทิโภชนํ, อุตุปิ ตาทิโสว.
๒๗. ‘‘อธิปติ…เป… ปจฺจยา โหนฺตี’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถาเรตุํ ‘‘ตตฺถ ครุกตมารมฺมณ’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ครุกตมารมฺมณนฺติ ปจฺจเวกฺขณอสฺสาทาทินา ครุกตํ อารมฺมณํ. ตฺหิ ฌานมคฺคผลวิปสฺสนานิพฺพานาทิเภทํ ปจฺจเวกฺขณอสฺสาทาทิมคฺคผลาทิธมฺเม อตฺตาธีเน กโรตีติ อารมฺมณาธิปติ นาม. ครุกาตพฺพตามตฺเตน อารมฺมณาธิปติ. ครุกโตปิ พลวการณฏฺเน อารมฺมณูปนิสฺสโยติ อยเมเตสํ วิเสโส. สหชาตา…เป… นามรูปานนฺติ ฉนฺทจิตฺตวีริยวีมํสานํ, วเสน จตุพฺพิโธปิ สหชาตาธิปติ ยถารหํ สหชาตนามรูปานํ ปวตฺติยํเยว สหชาตาธิปติวเสน ปจฺจโย.
๒๘. รูปธมฺมสฺส อรูปธมฺมํ ปติ สหชาตปจฺจยตา ปฏิสนฺธิยํ วตฺถุวเสน วุตฺตาติ อาห ‘‘วตฺถุวิปากา อฺมฺ’’นฺติ –
๓๐. ยสฺมา ปน อฺมฺุปตฺถมฺภนวเสเนว อฺมฺปจฺจยตา, น สหชาตมตฺตโตติ ปวตฺติยํ รูปํ นามานํ อฺมฺปจฺจโย น โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺ’’นฺติ. ตถา อุปาทารูปานิ จ ภูตรูปานํ อฺมฺปจฺจยา น โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘มหาภูตา อฺมฺ’’นฺติ.
๓๑. นนุ จ ‘‘อรูปิโน อาหารา สหชาตานํ นามรูปาน’’นฺติ วุตฺตํ, เอวฺจ สติ อสฺีนํ สหชาตาหารสฺส อสมฺภวโต ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ กถมิทํ นียตีติ? วุจฺจเต – มโนสฺเจตนาหารวสปฺปวตฺตสฺส กมฺมสฺส ¶ , ตํสหคตานมฺปิ วา เสสาหารานํ กมฺมูปนิสฺสยปจฺจเยหิ ปจฺจยตฺตปริยายํ คเหตฺวา สพฺพสตฺตานํ อาหารฏฺิติกตา วุตฺตา, น อาหารปจฺจยภาวโตติ.
๓๒. ‘‘ปฺจ ปสาทา’’ตฺยาทีสุ นนุ อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยา น คหิตาติ? สจฺจํ น คหิตา. ยทิปิ เตสํ ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียตา อตฺถิ, สา ปน น ปจฺจยภาวโต. ยถา หิ ชีวิตาหารา เยสํ ปจฺจยา โหนฺติ, เตสํ อนุปาลกา อุปตฺถมฺภกา อตฺถิ, อวิคตปจฺจยภูตา จ ¶ โหนฺติ, น เอวํ อิตฺถิปุริสภาวา ลิงฺคาทีนํ เกนจิ อุปกาเรน อุปการา โหนฺติ. เกวลํ ปน ยถาสเกเหว กมฺมาทิปจฺจเยหิ ปวตฺตมานํ ลิงฺคาทีนํ ยถา อิตฺถาทิคฺคหณสฺส ปจฺจยภาโว โหติ, ตโต อฺเนากาเรน ตํ-สหิตสนฺตาเน อปฺปวตฺติโต ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียตา, อินฺทฺริยตา จ เนสํ วุจฺจติ, ตสฺมา น เตสํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว วุตฺโต.
๓๓. เยสํ นามานํ จกฺขาทีนํ อพฺภนฺตรโต นิกฺขมนฺตานํ วิย ปวตฺตานํ, เยสฺจ รูปานํ นามสนฺนิสฺสเยเนว อุปฺปชฺชมานานํ สมฺปโยคาสงฺกา โหติ, เตสเมว วิปฺปยุตฺตปจฺจยตา. รูปานํ ปน รูเปหิ สาสงฺกา นตฺถิ. วตฺถุสนฺนิสฺสเยเนว ชายนฺตานํ วิสยภาวมตฺตํ อารมฺมณนฺติ เตนาปิ เตสํ สมฺปโยคาสงฺกา นตฺถีติ เยสํ สมฺปโยคาสงฺกา อตฺถิ, เตสเมว วิปฺปยุตฺตปจฺจยตาปิ วุตฺตาติ อาห ‘‘โอกฺกนฺติกฺขเณ วตฺถู’’ตฺยาทิ.
๓๔. สพฺพถา สพฺพากาเรน ยถารหํ นามวเสน วุตฺตํ ติวิธํ สหชาตํ, ทุวิธํ ปุเรชาตํ, เอกวิธํ ปจฺฉาชาตฺจ ปจฺจยชาตํ, อาหาเรสุ กพฬีกาโร อาหาโร, รูปชีวิตินฺทฺริยนฺติ อยํ ปฺจวิโธปิ อตฺถิปจฺจโย, อวิคตปจฺจโย จ โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนสภาเวน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส ¶ อุปตฺถมฺภกตฺตา อตฺถิภาวาภาเวน อนุปการกานเมว อตฺถิภาเวน อุปการกตา อตฺถิปจฺจยภาโวติ นตฺถิ นิพฺพานสฺส สพฺพทา ภาวิโน อตฺถิปจฺจยตา, อวิคตปจฺจยตา จ. อุปฺปาทาทิยุตฺตานํ วา นตฺถิภาโวปการกตาวิรุทฺโธ, วิคตภาโวปการกตาวิรุทฺโธ จ อุปการกภาโว อตฺถิปจฺจยตาทิกาติ น ตสฺส ตปฺปจฺจยตฺตปฺปสงฺโค. รูปชีวิตินฺทฺริยฺเจตฺถ โอชา วิย ิติกฺขเณว อุปการกตฺตา สหชาตปจฺจเยสุ น คยฺหตีติ วิสุํ วุตฺตํ.
๓๕. อิทานิ สพฺเพปิ ปจฺจยา สงฺเขปโตปิ จตุธาเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมณู…เป… คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. น หิ โส โกจิ ปจฺจโย อตฺถิ, โย จิตฺตเจตสิกานํ อารมฺมณภาวํ น คจฺเฉยฺย, สกสกปจฺจยุปฺปนฺนสฺส จ อุปนิสฺสยภาวํ น คจฺฉติ, กมฺมเหตุกตฺตา จ โลกปฺปวตฺติยา ผลเหตูปจารวเสน สพฺเพปิ กมฺมสภาวํ นาติวตฺตนฺติ, เต จ ปรมตฺถโต โลกสมฺมุติวเสน จ วิชฺชมานาเยวาติ สพฺเพปิ จตูสุ สโมธานํ คจฺฉนฺติ.
๓๖. อิทานิ ยํ วุตฺตํ ตตฺถ ตตฺถ ‘‘สหชาตรูป’’นฺติ, ตํ สพฺพํ น อวิเสสโต ทฏฺพฺพนฺติ ¶ ทสฺเสตุํ ‘‘สหชาตรูป’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ปฏิสนฺธิยฺหิ จิตฺตสมุฏฺานรูปาภาวโต ปวตฺติยํ กมฺมสมุฏฺานานฺจ จิตฺตเจตสิเกหิ สหุปฺปตฺตินิยมาภาวโต สหชาตรูปนฺติ สพฺพตฺถาปิ ปวตฺเต จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ, ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปสงฺขาตกมฺมชรูปานฺจ วเสน ทุวิธํ โหติ. กมฺมสฺส กตตฺตา นิพฺพตฺตมานานิ รูปานิ กฏตฺตารูปานิ.
๓๗. อิติ เอวํ วุตฺตนเยน สมฺภวา ยถาสมฺภวํ เตกาลิกา อนนฺตรสมนนฺตรอาเสวนนตฺถิวิคตวเสน ปฺจนฺนํ อตีตกาลิกานํ, กมฺมปจฺจยสฺส อตีตวตฺตมานวเสน ทฺวิกาลิกสฺส, อารมฺมณอธิปติอุปนิสฺสยปจฺจยานํ ติกาลิกานํ ¶ , อิตเรสํ ปนฺนรสนฺนํ ปจฺจุปฺปนฺนกาลิกานฺจ วเสน กาลตฺตยวนฺโต, นิพฺพานปฺตฺติวเสน กาลวิมุตฺตา จ, จกฺขาทิราคาทิสทฺธาทิวเสน อชฺฌตฺติกา จ, ปุคฺคลอุตุโภชนาทิวเสน ตโต พหิทฺธา จ, ปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน สงฺขตา จ, กถา ตปฺปฏิปกฺขภาเวน อสงฺขตา จ ธมฺมา ปฺตฺตินามรูปานํ วเสน สงฺเขปโต ติวิธา ิตา สพฺพถา ปฏฺาเน อนนฺตนยสมนฺตปฏฺาเน ปกรเณ จตุวีสติสงฺขาตา ปจฺจยา นามาติ โยชนา.
๓๘. ตตฺถาติ เตสุ ปฺตฺตินามรูเปสุ.
ปฏฺานนยวณฺณนา นิฏฺิตา.
ปฺตฺติเภทวณฺณนา
๓๙. วจนียวาจกเภทา ทุวิธา ปฺตฺตีติ วุตฺตํ ‘‘ปฺาปิยตฺตา’’ตฺยาทิ. ปฺาปิยตฺตาติ เตน เตน ปกาเรน าเปตพฺพตฺตา, อิมินา รูปาทิธมฺมานํ สมูหสนฺตานาทิอวตฺถาวิเสสาทิเภทา สมฺมุติสจฺจภูตา อุปาทาปฺตฺติสงฺขาตา อตฺถปฺตฺติ วุตฺตา. สา หิ นามปฺตฺติยา ปฺาปียติ. ปฺาปนโตติ ปกาเรหิ อตฺถปฺตฺติยา าปนโต. อิมินา หิ ปฺาเปตีติ ‘‘ปฺตฺตี’’ติ ลทฺธนามานํ อตฺถานํ อภิธานสงฺขาตา นามปฺตฺติ วุตฺตา.
๔๐. ภูตปริณามาการมุปาทายาติ ¶ ปถวาทิกานํ มหาภูตานํ ปพนฺธวเสน ปวตฺตมานานํ ปตฺถฏสงฺคหตาทิอากาเรน ปริณามาการํ ปริณตภาวสงฺขาตํ อาการํ อุปาทาย นิสฺสยํ กตฺวา. ตถา ตถาติ ภูมาทิวเสน. ภูมิปพฺพตาทิกาติ ภูมิปพฺพตรุกฺขาทิกา สนฺตานปฺตฺติ. สมฺภารสนฺนิเวสาการนฺติ ทารุมตฺติกาตนฺตาทีนํ สมฺภารานํ อุปกรณานํ ¶ สนฺนิเวสาการํ รจนาทิวิสิฏฺตํตํสณฺานาทิอาการํ. รถสกฏาทิกาติ รถสกฏคามฆฏปฏาทิกา สมูหปฺตฺติ. จนฺทาวฏฺฏนาทิกนฺติ จนฺทิมสูริยนกฺขตฺตานํ สิเนรุํ ปทกฺขิณวเสน อุทยาทิอาวฏฺฏนาการํ. ทิสากาลาทิกาติ ปุรตฺถิมทิสาทิกา ทิสาปฺตฺติ, ปุพฺพณฺหาทิกา กาลปฺตฺติ, มาโสตุเวสาขมาสาทิกา ตํตํนามวิสิฏฺา มาสาทิปฺตฺติ จ. อสมฺผุฏฺาการนฺติ ตํตํรูปกลาเปหิ อสมฺผุฏฺํ สุสิราทิอาการํ. กูปคุหาทิกา ติ กูปคุหฉิทฺทาทิกา อากาสปฺตฺติ. ตํตํภูตนิมิตฺตนฺติ ปถวีกสิณาทิตํตํภูตนิมิตฺตํ. ภาวนาวิเสสนฺติ ปริกมฺมาทิเภทํ ภาวนาย ปพนฺธวิเสสํ. กสิณนิมิตฺตาทิกาติ กสิณาสุภนิมิตฺตาทิเภทา โยคีนํ อุปฏฺิตา อุคฺคหปฏิภาคาทิเภทา นิมิตฺตปฺตฺติ. เอวมาทิปฺปเภทาติ กสิณุคฺฆาฏิมากาสนิโรธกสิณาทิเภทา จ. อตฺถจฺฉายากาเรนาติ ปรมตฺถธมฺมสฺส ฉายากาเรน ปฏิภาคากาเรน.
๔๑. นามนามกมฺมาทินาเมนาติ นามํ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโปติ อิเมหิ ฉหิ นาเมหิ. ตตฺถ อตฺเถสุ นมตีติ นามํ. ตํ อนฺวตฺถรุฬฺหีวเสน ทุวิธํ, สามฺคุณกิริยายทิจฺฉาวเสน จตุพฺพิธํ. นามเมว นามกมฺมํ. ตถา นามเธยฺยํ. อกฺขรทฺวาเรน อตฺถํ นีหริตฺวา อุตฺติ กถนํ นิรุตฺติ, อตฺถํ พฺยฺชยตีติ พฺยฺชนํ. อภิลปตีติ อภิลาโป, สทฺทคตอกฺขรสนฺนิเวสกฺกโม. สา ปนายํ นามปฺตฺติ วิชฺชมานอวิชฺชมานตทุภยสํโยควเสน ฉพฺพิธา โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิชฺชมานปฺตฺตี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ, เอตาย ปฺาเปนฺตีติ ‘‘รูปเวทนา’’ตฺยาทินา ปกาเสนฺติ.
๔๒. อุภินฺนนฺติ วิชฺชมานาวิชฺชมานานํ ทฺวินฺนํ. ปฺจาภิฺา, อาสวกฺขยาณนฺติ ฉ อภิฺา อสฺสาติ ฉฬภิฺโ. เอตฺถ ¶ จ อภิฺานํ วิชฺชมานตฺตา, ตปฺปฏิลาภิโน ปุคฺคลสฺส อวิชฺชมานตฺตา จ อยํ วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ นาม. ตถา อิตฺถิยา อวิชฺชมานตฺตา, สทฺทสฺส จ วิชฺชมานตฺตา อิตฺถิสทฺโทติ อวิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ. ปสาทจกฺขุโน, ตนฺนิสฺสิตวิฺาณสฺส จ วิชฺชมานตฺตา จกฺขุวิฺาณนฺติ วิชฺชมาเนน วิชฺชมานปฺตฺติ ¶ . รฺโ จ ปุตฺตสฺส จ สมฺมุติสจฺจภูตตฺตา ราชปุตฺโตติ อวิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ.
๔๓. วจีโฆสานุสาเรนาติ ภูมิปพฺพตรูปเวทนาทิวจีมยสทฺทสฺส อนุสาเรน อนุคมเนน อนุสฺสรเณน อารมฺมณกรเณน ปวตฺตาย โสตวิฺาณวีถิยา ปวตฺติโต อนนฺตรํ อุปฺปนฺนสฺส มโนทฺวารสฺส นามจินฺตนาการปฺปวตฺตสฺส มโนทฺวาริกวิฺาณสนฺตานสฺส ‘‘อิทมีทิสสฺส อตฺถสฺส นาม’’นฺติ ปุพฺเพเยว คหิตสงฺเกโตปนิสฺสยสฺส โคจรา อารมฺมณภูตา ตโต นามคฺคหณโต ปรํ ยสฺสา สมฺมุติปรมตฺถวิสยาย นามปฺตฺติยา อนุสาเรน อนุคมเนน อตฺถา สมฺมุติปรมตฺถเภทา วิฺายนฺติ, สายํ ภูมิปพฺพตรูปเวทนาทิกา ปฺาเปตพฺพตฺถปฺาปิกา โลกสงฺเกเตน นิมฺมิตา โลกโวหาเรน สิทฺธา, มโนทฺวารคฺคหิตา อกฺขราวลิภูตา ปฺตฺติ วิฺเยฺยา ปฺาปนโต ปฺตฺติสงฺขาตา นามปฺตฺตีติ วิฺเยฺยา.
เอตฺถ จ โสตวิฺาณวีถิยา อนนฺตรภาวินึ มโนทฺวาริกวีถิมฺปิ โสตวิฺาณวีถิคฺคหเณเนว สงฺคเหตฺวา ‘‘โสตวิฺาณวีถิยา’’ติ วุตฺตํ. ฆฏาทิสทฺทฺหิ สุณนฺตสฺส เอกเมกํ สทฺทํ อารพฺภ ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณวเสน ทฺเว ทฺเว ชวนวารา, พุทฺธิยา คหิตนามปณฺณตฺติภูตํ อกฺขราวลิมารพฺภ เอโกติ เอวํ โสตวิฺาณวีถิยา อนนฺตราย อตีตสทฺทารมฺมณาย ¶ ชวนวีถิยา อนนฺตรํ นามปฺตฺติยา คหณํ, ตโต ปรํ อตฺถาวโพโธติ อาจริยา.
ปฺตฺติเภทวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย
ปจฺจยปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.