📜

๑. จิตฺตปริจฺเฉทวณฺณนา

ภูมิเภทจิตฺตวณฺณนา

. อิทานิ ยสฺมา วิภาควนฺตานํ ธมฺมานํ สภาววิภาวนํ วิภาเคน วินา น โหติ, ตสฺมา ยถาอุทฺทิฏฺานํ อภิธมฺมตฺถานํ อุทฺเทสกฺกเมน วิภาคํ ทสฺเสตุํ จิตฺตํ ตาว ภูมิชาติสมฺปโยคาทิวเสน วิภชิตฺวา นิทฺทิสิตุมารภนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ จิตฺตํ ตาวา’’ตฺยาทิ. ตาว-สทฺโท ปมนฺติ เอตสฺสตฺเถ. ยถาอุทฺทิฏฺเสุ จตูสุ อภิธมฺมตฺเถสุ ปมํ จิตฺตํ นิทฺทิสียตีติ อยฺเหตฺถตฺโถ. จตฺตาโร วิธา ปการา อสฺสาติ จตุพฺพิธํ. ยสฺมา ปเนเต จตุภุมฺมกา ธมฺมา อนุปุพฺพปณีตา, ตสฺมา หีนุกฺกฏฺุกฺกฏฺตรตมานุกฺกเมน เตสํ นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ กาเมตีติ กาโม, กามตณฺหา, สา เอตฺถ อวจรติ อารมฺมณกรณวเสนาติ กามาวจรํ. กามียตีติ วา กาโม, เอกาทสวิโธ กามภโว, ตสฺมึ เยภุยฺเยน อวจรตีติ กามาวจรํ. เยภุยฺเยน จรณสฺส หิ อธิปฺเปตตฺตา รูปารูปภเวสุ ปวตฺตสฺสาปิ อิมสฺส กามาวจรภาโว อุปปนฺโน โหติ. กามภโวเยว วา กาโม เอตฺถ อวจรตีติ กามาวจโร, ตตฺถ ปวตฺตมฺปิ จิตฺตํ นิสฺสิเต นิสฺสยโวหาเรน กามาวจรํ ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ตฺยาทีสุ วิยาติ อลมติวิสารณิยา กถาย. โหติ เจตฺถ –

‘‘กาโมวจรตีตฺเยตฺถ, กาเมวจรตีติ วา;

านูปจารโต วาปิ, ตํ กามาวจรํ ภเว’’ติ.

รูปารูปาวจเรสุปิ เอเสว นโย ยถารหํ ทฏฺพฺโพ. อุปาทานกฺขนฺธสงฺขาตโลกโต อุตฺตรติ อนาสวภาเวนาติ โลกุตฺตรํ, มคฺคจิตฺตํ. ผลจิตฺตํ ปน ตโต อุตฺติณฺณนฺติ โลกุตฺตรํ. อุภยมฺปิ วา สห นิพฺพาเนน โลกโต อุตฺตรํ อธิกํ ยถาวุตฺตคุณวเสเนวาติ โลกุตฺตรํ.

ภูมิเภทจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อกุสลจิตฺตวณฺณนา

. อิเมสุ ปน จตูสุ จิตฺเตสุ กามาวจรจิตฺตสฺส กุสลากุสลวิปากกิริยเภเทน จตุพฺพิธภาเวปิ ปาปาเหตุกวชฺชานํ เอกูนสฏฺิยา, เอกนวุติยา วา จิตฺตานํ โสภนนาเมน โวหารกรณตฺถํ ‘‘ปาปาเหตุกมุตฺตานิ ‘โสภนานี’ติ วุจฺจเร’’ติ เอวํ วกฺขมานนยสฺส อนุรูปโต ปาปาเหตุเกเยว ปมํ ทสฺเสนฺโต, เตสุ จ ภเวสุ คหิตปฏิสนฺธิกสฺส สตฺตสฺส อาทิโต วีถิจิตฺตวเสน โลภสหคตจิตฺตุปฺปาทานเมว สมฺภวโต เตเยว ปมํ ทสฺเสตฺวา ตทนนฺตรํ ทฺวิเหตุกภาวสามฺเน โทมนสฺสสหคเต, ตทนนฺตรํ เอกเหตุเก จ ทสฺเสตุํ ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺตฺยาทินา โลภมูลํ ตาว เวทนาทิฏฺิสงฺขารเภเทน อฏฺธา วิภชิตฺวา ทสฺเสติ.

ตตฺถ สุนฺทรํ มโน, ตํ วา เอตสฺส อตฺถีติ สุมโน, จิตฺตํ, ตํสมงฺคิปุคฺคโล วา, ตสฺส ภาโว ตสฺมึ อภิธานพุทฺธีนํ ปวตฺติเหตุตายาติ โสมนสฺสํ, มานสิกสุขเวทนาเยตํ อธิวจนํ, เตน สหคตํ เอกุปฺปาทาทิวเสน สํสฏฺํ, เตน สห เอกุปฺปาทาทิภาวํ คตนฺติ วา โสมนสฺสสหคตํ. มิจฺฉา ปสฺสตีติ ทิฏฺิ. สามฺวจนสฺสปิ หิ อตฺถปฺปกรณาทินา วิเสสวิสยตา โหตีติ อิธ มิจฺฉาทสฺสนเมว ‘‘ทิฏฺี’’ติ วุจฺจติ. ทิฏฺิเยว ทิฏฺิคตํ ‘‘สงฺขารคตํ ถามคต’’นฺตฺยาทีสุ วิย คต-สทฺทสฺส ตพฺภาววุตฺติตฺตา. ทฺวาสฏฺิยา วา ทิฏฺีสุ คตํ อนฺโตคตํ, ทิฏฺิยา วา คมนมตฺตํ น เอตฺถ คนฺตพฺโพ อตฺตาทิโก โกจิ อตฺถีติ ทิฏฺิคตํ, ‘‘อิทเมว สจฺจํ โมฆมฺ’’นฺติ ปวตฺโต อตฺตตฺตนิยาทิอภินิเวโส, เตน สมํ เอกุปฺปาทาทีหิ ปกาเรหิ ยุตฺตนฺติ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตํ. สงฺขโรติ จิตฺตํ ติกฺขภาวสงฺขาตมณฺฑนวิเสเสน สชฺเชติ, สงฺขรียติ วา ตํ เอเตน ยถาวุตฺตนเยน สชฺชียตีติ สงฺขาโร, ตตฺถ ตตฺถ กิจฺเจ สํสีทมานสฺส จิตฺตสฺส อนุพลปฺปทานวเสน อตฺตโน วา ปเรสํ วา ปวตฺตปุพฺพปฺปโยโค, โส ปน อตฺตโน ปุพฺพภาคปฺปวตฺเต จิตฺตสนฺตาเน เจว ปรสนฺตาเน จ ปวตฺตตีติ ตนฺนิพฺพตฺติโต จิตฺตสฺส ติกฺขภาวสงฺขาโต วิเสโสวิธ สงฺขาโร, โส ยสฺส นตฺถิ ตํ อสงฺขารํ , ตเทว อสงฺขาริกํ. สงฺขาเรน สหิตํ สสงฺขาริกํ. ตถา จ วทนฺติ –

‘‘ปุพฺพปฺปโยคสมฺภูโต, วิเสโส จิตฺตสมฺภวี;

สงฺขาโร ตํวเสเนตฺถ, โหตฺยาสงฺขาริกาทิตา’’ติ.

อถ วา ‘‘สสงฺขาริกํ อสงฺขาริก’’นฺติ เจตํ เกวลํ สงฺขารสฺส ภาวาภาวํ สนฺธาย วุตฺตํ, น ตสฺส สหปฺปวตฺติสพฺภาวาภาวโตติ ภินฺนสนฺตานปฺปวตฺติโนปิ สงฺขารสฺส อิทมตฺถิตาย ตํวเสน นิพฺพตฺตํ จิตฺตํ สงฺขาโร อสฺส อตฺถีติ สสงฺขาริกํ ‘‘สโลมโก สปกฺขโก’’ตฺยาทีสุ วิย สห-สทฺทสฺส วิชฺชมานตฺถปริทีปนโต. ตพฺพิปรีตํ ปน ตทภาวโต วุตฺตนเยน อสงฺขาริกํ. ทิฏฺิคเตน วิปฺปยุตฺตํ วิสํสฏฺนฺติ ทิฏฺิคตวิปฺปยุตฺตํ. อุปปตฺติโต ยุตฺติโต อิกฺขติ อนุภวติ เวทยมานาปิ มชฺฌตฺตาการสณฺิติยาติ อุเปกฺขา. สุขทุกฺขานํ วา อุเปตา ยุตฺตา อวิรุทฺธา อิกฺขา อนุภวนนฺติ อุเปกฺขา. สุขทุกฺขาวิโรธิตาย เหสา เตสํ อนนฺตรมฺปิ ปวตฺตติ. อุเปกฺขาสหคตนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.

กสฺมา ปเนตฺถ อฺเสุปิ ผสฺสาทีสุ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ โสมนสฺสสหคตาทิภาโวว วุตฺโตติ? โสมนสฺสาทีนเมว อสาธารณภาวโต. ผสฺสาทโย หิ เกจิ สพฺพจิตฺตสาธารณา, เกจิ กุสลาทิสาธารณา, โมหาทโย จ สพฺพากุสลสาธารณาติ น เตหิ สกฺกา จิตฺตํ วิเสเสตุํ, โสมนสฺสาทโย ปน กตฺถจิ จิตฺเต โหนฺติ, กตฺถจิ น โหนฺตีติ ปากโฏว ตํวเสน จิตฺตสฺส วิเสโส. กสฺมา ปเนเต กตฺถจิ โหนฺติ, กตฺถจิ น โหนฺตีติ? การณสฺส สนฺนิหิตาสนฺนิหิตภาวโต. กึ ปน เนสํ การณนฺติ? วุจฺจเตสภาวโต, ปริกปฺปโต วา หิ อิฏฺารมฺมณํ, โสมนสฺสปฏิสนฺธิกตา, อคมฺภีรสภาวตา จ อิธ โสมนสฺสสฺส การณํ, อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ, อุเปกฺขาปฏิสนฺธิกตา, คมฺภีรสภาวตา จ อุเปกฺขาย, ทิฏฺิวิปนฺนปุคฺคลเสวนา, สสฺสตุจฺเฉทาสยตา จ ทิฏฺิยา, พลวอุตุโภชนาทโย ปน ปจฺจยา อสงฺขาริกภาวสฺสาติ. ตสฺมา อตฺตโน อนุรูปการณวเสน เนสํ อุปฺปชฺชนโต กตฺถจิ จิตฺเตเยว สมฺภโวติ สกฺกา เอเตหิ จิตฺตสฺส วิเสโส ปฺาเปตุนฺติ. เอวฺจ กตฺวา เนสํ สติปิ โมหเหตุกภาเว โลภสหคตภาโวว นิคมเน วุตฺโต.

อิเมสํ ปน อฏฺนฺนมฺปิ อยมุปฺปตฺติกฺกโม เวทิตพฺโพ. ยทา หิ ‘‘นตฺถิ กาเมสุ อาทีนโว’’ตฺยาทินา นเยน มิจฺฉาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา หฏฺตุฏฺโ กาเม วา ปริภุฺชติ, ทิฏฺมงฺคลาทีนิ วา สารโต ปจฺเจติ สภาวติกฺเขเนว อนุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา ปมํ อกุสลจิตฺตมุปฺปชฺชติ. ยทา ปน มนฺเทน สมุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา ทุติยํ. ยทา ปน มิจฺฉาทิฏฺึ อปุรกฺขตฺวา เกวลํ หฏฺตุฏฺโ เมถุนํ วา เสวติ, ปรสมฺปตฺตึ วา อภิชฺฌายติ, ปรภณฺฑํ วา หรติ สภาวติกฺเขเนว อนุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา ตติยํ. ยทา ปน มนฺเทน สมุสฺสาหิเตน จิตฺเตน, ตทา จตุตฺถํ. ยทา ปน กามานํ วา อสมฺปตฺตึ อาคมฺม, อฺเสํ วา โสมนสฺสเหตูนํ อภาเวน จตูสุปิ วิกปฺเปสุ โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ, ตทา เสสานิ จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ. อฏฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน วกฺขมานนเยน อกุสลกมฺมปเถสุ เนสํ ลพฺภมานกมฺมปถานุรูปโต ปวตฺติเภทํ กาลเทสสนฺตานารมฺมณาทิเภเทน อเนกวิธตมฺปิ สงฺคณฺหาติ.

. ทุฏฺุ มโน, ตํ วา เอตสฺสาติ ทุมฺมโน, ตสฺส ภาโว โทมนสฺสํ, มานสิกทุกฺขเวทนาเยตํ อธิวจนํ, เตน สหคตนฺติ โทมนสฺสสหคตํ. อารมฺมเณ ปฏิหฺตีติ ปฏิโฆ, โทโส. จณฺฑิกฺกสภาวตาย เหส อารมฺมณํ ปฏิหนนฺโต วิย ปวตฺตติ. โทมนสฺสสหคตสฺส เวทนาวเสน อเภเทปิ อสาธารณธมฺมวเสน จิตฺตสฺส อุปลกฺขณตฺถํ โทมนสฺสคฺคหณํ, ปฏิฆสมฺปยุตฺตภาโว ปน อุภินฺนํ เอกนฺตสหจาริตา ทสฺสนตฺถํ วุตฺโตติ ทฏฺพฺพํ. โทมนสฺสฺเจตฺถ อนิฏฺารมฺมณานุภวนลกฺขโณ เวทนากฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโม, ปฏิโฆ จณฺฑิกฺกสภาโว สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺโน เอโก ธมฺโมติ อยเมเตสํ วิเสโส. เอตฺถ จ ยํ กิฺจิ อนิฏฺารมฺมณํ, นววิธอาฆาตวตฺถูนิ จ โทมนสฺสสฺส การณํ, ปฏิฆสฺส การณฺจาติ ทฏฺพฺพํ. ทฺวินฺนํ ปน เนสํ จิตฺตานํ ปาณาติปาตาทีสุ ติกฺขมนฺทปฺปวตฺติกาเล อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. เอตฺถาปิ นิคมเน ปิ-สทฺทสฺส อตฺโถ วุตฺตนยานุสาเรน ทฏฺพฺโพ.

. สภาวํ วิจินนฺโต ตาย กิจฺฉติ กิลมตีติ วิจิกิจฺฉา. อถ วา จิกิจฺฉิตุํ ทุกฺกรตาย วิคตา จิกิจฺฉา าณปฺปฏิกาโร อิมิสฺสาติ วิจิกิจฺฉา, ตาย สมฺปยุตฺตํ วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ. อุทฺธตสฺส ภาโว อุทฺธจฺจํ. อุทฺธจฺจสฺส สพฺพากุสลสาธารณภาเวปิ อิธ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ปธานํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อิทเมว เตน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. เอวฺจ กตฺวา ธมฺมุทฺเทสปาฬิยํ เสสากุสเลสุ อุทฺธจฺจํ เยวาปนกวเสน วุตฺตํ, อิธ ปน ‘‘อุทฺธจฺจํ อุปฺปชฺชตี’’ติ สรูเปเนว เทสิตํ. โหนฺติ เจตฺถ –

‘‘สพฺพากุสลยุตฺตมฺปิ, อุทฺธจฺจํ อนฺตมานเส;

พลวํ อิติ ตํเยว, วุตฺตมุทฺธจฺจโยคโต.

‘‘เตเนว หิ มุนินฺเทน, เยวาปนกนามโต;

วตฺวา เสเสสุ เอตฺเถว, ตํ สรูเปน เทสิต’’นฺติ.

อิมานิ ปน ทฺเว จิตฺตานิ มูลนฺตรวิรหโต อติสมฺมูฬฺหตาย, สํสปฺปนวิกฺขิปนวเสน ปวตฺตวิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมาโยเคน จฺจลตาย จ สพฺพตฺถาปิ รชฺชนทุสฺสนรหิตานิ อุเปกฺขาสหคตาเนว ปวตฺตนฺติ, ตโตเยว จ สภาวติกฺขตาย อุสฺสาเหตพฺพตาย อภาวโต สงฺขารเภโทปิ เนสํ นตฺถิ. โหนฺติ เจตฺถ –

‘‘มูฬฺหตฺตา เจว สํสปฺป-วิกฺเขปา เจกเหตุกํ;

โสเปกฺขํ สพฺพทา โน จ, ภินฺนํ สงฺขารเภทโต.

‘‘น หิ ตสฺส สภาเวน, ติกฺขตุสฺสาหนียตา;

อตฺถิ สํสปฺปมานสฺส, วิกฺขิปนฺตสฺส สพฺพทา’’ติ.

โมเหน มุยฺหนฺติ อติสเยน มุยฺหนฺติ มูลนฺตรวิรหโตติ โมมูหานิ.

. อิจฺเจวนฺตฺยาทิ ยถาวุตฺตานํ ทฺวาทสากุสลจิตฺตานํ นิคมนํ. ตตฺถ อิติ-สทฺโท วจนวจนียสมุทายนิทสฺสนตฺโถ. เอวํ-สทฺโท วจนวจนียปฏิปาฏิสนฺทสฺสนตฺโถ. นิปาตสมุทาโย วา เอส วจนวจนียนิคมนารมฺเภ. อิจฺเจวํ ยถาวุตฺตนเยน สพฺพถาปิ โสมนสฺสุเปกฺขาทิฏฺิสมฺปโยคาทินา ปฏิฆสมฺปโยคาทินา วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจโยเคนาติ สพฺเพนาปิ สมฺปโยคาทิอากาเรน ทฺวาทส อกุสลจิตฺตานิ สมตฺตานิ ปรินิฏฺิตานิ, สงฺคเหตฺวา วา อตฺตานิ คหิตานิ, วุตฺตานีตฺยตฺโถ. ตตฺถ กุสลปฏิปกฺขานิ อกุสลานิ มิตฺตปฺปฏิปกฺโข อมิตฺโต วิย, ปฏิปกฺขภาโว จ กุสลากุสลานํ ยถากฺกมํ ปหายกปหาตพฺพภาเวน เวทิตพฺโพ.

. อฏฺธาตฺยาทิ สงฺคหคาถา. โลโภ จ โส สุปฺปติฏฺิตภาวสาธเนน มูลสทิสตฺตา มูลฺจ, กํ เอเตสนฺติ โลภมูลานิ จิตฺตานิ เวทนาทิเภทโต อฏฺธา สิยุํ . ตถา โทสมูลานิ สงฺขารเภทโต ทฺวิธา. โมหมูลานิ สุทฺโธ โมโหเยว มูลเมเตสนฺติ โมหมูลสงฺขาตานิ สมฺปโยคเภทโต ทฺเว จาติ อกุสลา ทฺวาทส สิยุนฺตฺยตฺโถ.

อกุสลจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อเหตุกจิตฺตวณฺณนา

. เอวํ มูลเภทโต ติวิธมฺปิ อกุสลํ สมฺปโยคาทิเภทโต ทฺวาทสธา วิภชิตฺวา อิทานิ อเหตุกจิตฺตานิ นิทฺทิสนฺโต เตสํ อกุสลวิปากาทิวเสน ติวิธภาเวปิ อกุสลานนฺตรํ อกุสลวิปาเกเยว จกฺขาทินิสฺสยสมฺปฏิจฺฉนาทิกิจฺจเภเทน สตฺตธา วิภชิตุํ ‘‘อุเปกฺขาสหคตํ จกฺขุวิฺาณ’’นฺตฺยาทิมาห. ตตฺถ จกฺขติ วิฺาณาธิฏฺิตํ หุตฺวา สมวิสมํ อาจิกฺขนฺตํ วิย โหตีติ จกฺขุ. อถ วา จกฺขติ รูปํ อสฺสาเทนฺตํ วิย โหตีติ จกฺขุ. จกฺขตีติ หิ อยํ สทฺโท ‘‘มธุํ จกฺขติ, พฺยฺชนํ จกฺขตี’’ตฺยาทีสุ วิย อสฺสาทนตฺโถ โหติ. เตนาห ภควา – ‘‘จกฺขุํ โข ปน, มาคณฺฑิย, รูปารามํ รูปรตํ รูปสมฺมุทิต’’นฺตฺยาทิ. ยทิ เอวํ ‘‘โสตํ โข, มาคณฺฑิย, สทฺทารามํ สทฺทรตํ สทฺทสมฺมุทิต’’นฺตฺยาทิวจนโต (ม. นิ. ๒.๒๐๙) โสตาทีนมฺปิ สทฺทาทิอสฺสาทนํ อตฺถีติ เตสมฺปิ จกฺขุสทฺทาภิเธยฺยตา อาปชฺเชยฺยาติ? นาปชฺชติ นิรุฬฺหตฺตา, นิรุฬฺโห เหส จกฺขุ-สทฺโท ทฏฺุกามตานิทานกมฺมชภูตปฺปสาทลกฺขเณ จกฺขุปฺปสาเทเยว มยูราทิสทฺทา วิย สกุณวิเสสาทีสุ, จกฺขุนา สหวุตฺติยา ปน ภมุกฏฺิปริจฺฉินฺโน มํสปิณฺโฑปิ ‘‘จกฺขู’’ติ วุจฺจติ. อฏฺกถายํ ปน อเนกตฺถตฺตา ธาตูนํ จกฺขติ-สทฺทสฺส วิภาวนตฺถตาปิ สมฺภวตีติ ‘‘จกฺขติ รูปํ วิภาเวตีติ จกฺขู’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๕๑๐) วุตฺตํ. จกฺขุสฺมึ วิฺาณํ ตนฺนิสฺสิตตฺถาติ จกฺขุวิฺาณํ. ตถา เหตํ ‘‘จกฺขุสนฺนิสฺสิตรูปวิชานนลกฺขณ’’นฺติ (ธ. ส. อฏฺ. ๔๓๑; วิสุทฺธิ. ๒.๔๕๔) วุตฺตํ.

เอวํ โสตวิฺาณาทีสุปิ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อุเปกฺขาสหคตภาวํ อติทิสติ. วิฺาณาธิฏฺิตํ หุตฺวา สุณาตีติ โสตํ. ฆายติ คนฺโธปาทานํ กโรตีติ ฆานํ. ชีวิตนิมิตฺตํ รโส ชีวิตํ, ตํ อวฺหายติ ตสฺมึ นินฺนตายาติ ชิวฺหา นิรุตฺตินเยน. กุจฺฉิตานํ ปาปธมฺมานํ อาโย ปวตฺติฏฺานนฺติ กาโย. กายินฺทฺริยฺหิ โผฏฺพฺพคฺคหณสภาวตฺตา ตทสฺสาทวสปฺปวตฺตานํ, ตมฺมูลกานฺจ ปาปธมฺมานํ วิเสสการณนฺติ เตสํ ปวตฺติฏฺานํ วิย คยฺหติ. สสมฺภารกาโย วา กุจฺฉิตานํ เกสาทีนํ อาโยติ กาโย. ตํสหจริตตฺตา ปน ปสาทกาโยปิ ตถา วุจฺจติ. ทุ กุจฺฉิตํ หุตฺวา ขนติ กายิกสุขํ, ทุกฺขมนฺติ วา ทุกฺขํ. ทุกฺกรโมกาสทานํ เอตสฺสาติ ทุกฺข’’นฺติปิ อปเร. ปฺจวิฺาณคฺคหิตํ รูปาทิอารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉติ ตทาการปฺปวตฺติยาติ สมฺปฏิจฺฉนํ. สมฺมา ตีเรติ ยถาสมฺปฏิจฺฉิตํ รูปาทิอารมฺมณํ วีมํสตีติ สนฺตีรณํ. อฺมฺวิรุทฺธานํ กุสลากุสลานํ ปากาติ วิปากา, วิปกฺกภาวมาปนฺนานํ อรูปธมฺมานเมตํ อธิวจนํ. เอวฺจ กตฺวา กุสลากุสลกมฺมสมุฏฺานานมฺปิ กฏตฺตารูปานํ นตฺถิ วิปากโวหาโร. อกุสลสฺส วิปากจิตฺตานิ อกุสลวิปากจิตฺตานิ.

๑๐. สุขยติ กายจิตฺตํ, สุฏฺุ วา ขนติ กายจิตฺตาพาธํ, สุเขน ขมิตพฺพนฺติ วา สุขํ. ‘‘สุกรโมกาสทานํ เอตสฺสาติ สุข’’นฺติ อปเร. กสฺมา ปน ยถา อกุสลวิปากสนฺตีรณํ เอกเมว วุตฺตํ, เอวมวตฺวา กุสลวิปากสนฺตีรณํ ทฺวิธา วุตฺตนฺติ? อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน เวทนาเภทสมฺภวโต. ยทิ เอวํ ตตฺถาปิ อนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน เวทนาเภเทน ภวิตพฺพนฺติ? นยิทเมวํ อนิฏฺารมฺมเณ อุปฺปชฺชิตพฺพสฺสปิ โทมนสฺสสฺส ปฏิเฆน วินา อนุปฺปชฺชนโต, ปฏิฆสฺส จ เอกนฺตากุสลสภาวสฺส อพฺยากเตสุ อสมฺภวโต. น หิ ภินฺนชาติโก ธมฺโม ภินฺนชาติเกสุ อุปลพฺภติ, ตสฺมา อตฺตนา สมานโยคกฺขมสฺส อสมฺภวโต อกุสลวิปาเกสุ โทมนสฺสํ น สมฺภวตีติ ตสฺส ตํสหคตตา น วุตฺตา. อถ วา ยถา โกจิ พลวตา โปถิยมาโน ทุพฺพลปุริโส ตสฺส ปฏิปฺปหริตุํ อสกฺโกนฺโต ตสฺมึ อุเปกฺขโกว โหติ, เอวเมว อกุสลวิปากานํ ปริทุพฺพลภาวโต อนิฏฺารมฺมเณปิ โทมนสฺสุปฺปาโท นตฺถีติ สนฺตีรณํ อุเปกฺขาสหคตเมว.

จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปน จตฺตาริ อุภยวิปากานิปิ วตฺถารมฺมณฆฏฺฏนาย ทุพฺพลภาวโต อนิฏฺเ อิฏฺเปิ จ อารมฺมเณ อุเปกฺขาสหคตาเนว. เตสฺหิ จตุนฺนมฺปิ วตฺถุภูตานิ จกฺขาทีนิ อุปาทารูปาเนว, ตถา อารมฺมณภูตานิปิ รูปาทีนิ, อุปาทารูปเกน จ อุปาทารูปกสฺส สงฺฆฏฺฏนํ อติทุพฺพลํ ปิจุปิณฺฑเกน ปิจุปิณฺฑกสฺส ผุสนํ วิย, ตสฺมา ตานิ สพฺพถาปิ อุเปกฺขาสหคตาเนว. กายวิฺาณสฺส ปน โผฏฺพฺพสงฺขาตภูตตฺตยเมว อารมฺมณนฺติ ตํ กายปฺปสาเท สงฺฆฏฺฏิตมฺปิ ตํ อติกฺกมิตฺวา ตนฺนิสฺสเยสุ มหาภูเตสุ ปฏิหฺติ. ภูตรูเปหิ จ ภูตรูปานํ สงฺฆฏฺฏนํ พลวตรํ อธิกรณิมตฺถเก ปิจุปิณฺฑกํ เปตฺวา กูเฏน ปหฏกาเล กูฏสฺส ปิจุปิณฺฑกํ อติกฺกมิตฺวา อธิกรณิคฺคหณํ วิย, ตสฺมา วตฺถารมฺมณฆฏฺฏนาย พลวภาวโต กายวิฺาณํ อนิฏฺเ ทุกฺขสหคตํ, อิฏฺเ สุขสหคตนฺติ. สมฺปฏิจฺฉนยุคฬฺหํ ปน อตฺตนา อสมานนิสฺสยานํ จกฺขุวิฺาณาทีนมนนฺตรํ อุปฺปชฺชตีติ สมานนิสฺสยโต อลทฺธานนฺตรปจฺจยตาย สภาคูปตฺถมฺภรหิโต วิย ปุริโส นาติพลวํ สพฺพถาปิ วิสยรสมนุภวิตุํ น สกฺโกตีติ สพฺพถาปิ อุเปกฺขาสหคตเมว. วุตฺตวิปริยายโต กุสลวิปากสนฺตีรณํ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณสุ สุโขเปกฺขาสหคตนฺติ. ยทิ เอวํ อาวชฺชนทฺวยสฺส อุเปกฺขาสมฺปโยคํ กสฺมา วกฺขติ, นนุ ตมฺปิ สมานนิสฺสยานนฺตรํ ปวตฺตตีติ? สจฺจํ, ตตฺถ ปน ปุริมํ ปุพฺเพ เกนจิ อคฺคหิเตเยว อารมฺมเณ เอกวารเมว ปวตฺตติ, ปจฺฉิมมฺปิ วิสทิสจิตฺตสนฺตานปราวตฺตนวเสน พฺยาปารนฺตรสาเปกฺขนฺติ น สพฺพถาปิ วิสยรสมนุภวิตุํ สกฺโกติ, ตสฺมา มชฺฌตฺตเวทนาสมฺปยุตฺตเมวาติ. โหนฺติ เจตฺถ –

‘‘วตฺถาลมฺพสภาวานํ, ภูติกานฺหิ ฆฏฺฏนํ;

ทุพฺพลํ อิติ จกฺขาทิ-จตุจิตฺตมุเปกฺขกํ.

‘‘กายนิสฺสยโผฏฺพฺพ-ภูตานํ ฆฏฺฏนาย ตุ;

พลวตฺตา น วิฺาณํ, กายิก มชฺฌเวทนํ.

‘‘สมานนิสฺสโย ยสฺมา, นตฺถานนฺตรปจฺจโย;

ตสฺมา ทุพฺพลมาลมฺเพ, โสเปกฺขํ สมฺปฏิจฺฉน’’นฺติ.

กุสลสฺส วิปากานิ, สมฺปยุตฺตเหตุวิรหโต อเหตุกจิตฺตานิ จาติ กุสลวิปากาเหตุกจิตฺตานิ. นิพฺพตฺตกเหตุวเสน นิปฺผนฺนานิปิ เหตานิ สมฺปยุตฺตเหตุวเสเนว อเหตุกโวหารํ ลภนฺติ, อิตรถา มหาวิปาเกหิ อิเมสํ นานตฺตาสมฺภวโต. กึ ปเนตฺถ การณํ ยถา อิเธวํ อกุสลวิปากนิคมเน อเหตุกคฺคหณํ น กตนฺติ? พฺยภิจาราภาวโต. สติ หิ สมฺภเว, พฺยภิจาเร จ วิเสสนํ สาตฺถกํ สิยา. อกุสลวิปากานํ ปน โลภาทิสาวชฺชธมฺมวิปากภาเวน ตพฺพิธุเรหิ, อโลภาทีหิ สมฺปโยคาโยคโต, สยํ อพฺยากตนิรวชฺชสภาวานํ โลภาทิอกุสลธมฺมสมฺปโยควิโรธโต จ นตฺถิ กทาจิปิ สเหตุกตาย สมฺภโวติ อเหตุกภาวาพฺยภิจารโต น ตานิ อเหตุกสทฺเทน วิเสสิตพฺพานิ.

๑๑. อิทานิ อเหตุกาธิกาเร อเหตุกกิริยจิตฺตานิปิ กิจฺจเภเทน ติธา ทสฺเสตุํ ‘‘อุเปกฺขาสหคต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. จกฺขาทิปฺจทฺวาเร ฆฏฺฏิตมารมฺมณํ อาวชฺเชติ ตตฺถ อาโภคํ กโรติ, จิตฺตสนฺตานํ วา ภวงฺควเสน ปวตฺติตุํ อทตฺวา วีถิจิตฺตภาวาย ปริณาเมตีติ ปฺจทฺวาราวชฺชนํ, กิริยาเหตุกมโนธาตุจิตฺตํ. อาวชฺชนสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ ภวงฺคจิตฺตํ มโนทฺวารํ วีถิจิตฺตานํ ปวตฺติมุขภาวโต. ตสฺมึ ทิฏฺสุตมุตาทิวเสน อาปาถมาคตมารมฺมณํ อาวชฺเชติ , วุตฺตนเยน วา จิตฺตสนฺตานํ ปริณาเมตีติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุอุเปกฺขาสหคตจิตฺตํ. อิทเมว จ ปฺจทฺวาเร ยถาสนฺตีริตํ อารมฺมณํ ววตฺถเปตีติ โวฏฺพฺพนนฺติ จ วุจฺจติ. หสิตํ อุปฺปาเทตีติ หสิตุปฺปาทํ, ขีณาสวานํ อโนฬาริการมฺมเณสุ ปหฏฺาการมตฺตเหตุกํ กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุโสมนสฺสสหคตจิตฺตํ.

๑๒. สพฺพถาปีติ อกุสลวิปากกุสลวิปากกิริยเภเทน. อฏฺารสาติ คณนปริจฺเฉโท. อเหตุกจิตฺตานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ.

อเหตุกจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสภนจิตฺตวณฺณนา

๑๔. เอวํ ทฺวาทสากุสลอเหตุกาฏฺารสวเสน สมตึส จิตฺตานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตพฺพินิมุตฺตานํ โสภนโวหารํ เปตุํ ‘‘ปาปาเหตุกมุตฺตานี’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. อตฺตนา อธิสยิตสฺส อปายาทิทุกฺขสฺส ปาปนโต ปาเปหิ , เหตุสมฺปโยคาภาวโต อเหตุเกหิ จ มุตฺตานิ จตุวีสติกามาวจรปฺจตึสมหคฺคตโลกุตฺตรวเสน เอกูนสฏฺิปริมาณานิ, อถ วา อฏฺ โลกุตฺตรานิ ฌานงฺคโยคเภเทน ปจฺเจกํ ปฺจธา กตฺวา เอกนวุติปิ จิตฺตานิ โสภนคุณาวหนโต, อโลภาทิอนวชฺชเหตุสมฺปโยคโต จ โสภนานีติ วุจฺจเร กถียนฺติ.

กามาวจรโสภนจิตฺตวณฺณนา

๑๕. อิทานิ โสภเนสุ กามาวจรานเมว ปมํ อุทฺทิฏฺตฺตา เตสุปิ อพฺยากตานํ กุสลปุพฺพกตฺตา ปมํ กามาวจรกุสลํ, ตโต ตพฺพิปากํ, ตทนนฺตรํ ตเทกภูมิปริยาปนฺนํ กิริยจิตฺตฺจ ปจฺเจกํ เวทนาาณสงฺขารเภเทน อฏฺธา ทสฺเสตุํ ‘‘โสมนสฺสสหคต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ชานาติ ยถาสภาวํ ปฏิวิชฺฌตีติ าณํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. เอตฺถ จ พลวสทฺธาย ทสฺสนสมฺปตฺติยา ปจฺจยปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺติยาติ เอวมาทีหิ การเณหิ โสมนสฺสสหคตตา, ปฺาสํวตฺตนิกกมฺมโต, อพฺยาปชฺชโลกูปปตฺติโต, อินฺทฺริยปริปากโต, กิเลสทูรีภาวโต จ าณสมฺปยุตฺตตา, ตพฺพิปริยาเยน อุเปกฺขาสหคตตา เจว าณวิปฺปยุตฺตตา จ, อาวาสสปฺปายาทิวเสน กายจิตฺตานํ กลฺลภาวโต, ปุพฺเพ ทานาทีสุ กตปริจยตาทีหิ จ อสงฺขาริกตา, ตพฺพิปริยาเยน สสงฺขาริกตา จ เวทิตพฺพา.

ตตฺถ ยทา ปน โย เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทิสมฺปตฺตึ, อฺํ วา โสมนสฺสเหตุํ อาคมฺม หฏฺปหฏฺโ ‘‘อตฺถิ ทินฺน’’นฺตฺยาทินยปฺปวตฺตํ สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวา มุตฺตจาคตาทิวเสน อสํสีทนฺโต อนุสฺสาหิโต ปเรหิ ทานาทีนิ ปุฺานิ กโรติ, ตทาสฺส จิตฺตํ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ อสงฺขาริกํ โหติ. ยทา ปน วุตฺตนเยเนว หฏฺตุฏฺโ สมฺมาทิฏฺึ ปุรกฺขตฺวาปิ อมุตฺตจาคตาทิวเสน สํสีทมาโน ปเรหิ วา อุสฺสาหิโต กโรติ, ตทาสฺส ตเทว จิตฺตํ สสงฺขาริกํ โหติ. ยทา ปน าติชนสฺส ปฏิปตฺติทสฺสเนน ชาตปริจยา พาลทารกา ภิกฺขู ทิสฺวา โสมนสฺสชาตา สหสา กิฺจิเทว หตฺถคตํ ททนฺติ วา วนฺทนฺติ วา, ตทา เตสํ ตติยํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปน ‘‘เทถ, วนฺทถา’’ติ าตีหิ อุสฺสาหิตา เอวํ ปฏิปชฺชนฺติ, ตทา จตุตฺถํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ยทา ปน เทยฺยธมฺมปฏิคฺคาหกาทีนํ อสมฺปตฺตึ, อฺเสํ วา โสมนสฺสเหตูนํ อภาวํ อาคมฺม จตูสุปิ วิกปฺเปสุ โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ, ตทา เสสานิ จตฺตาริ อุเปกฺขาสหคตานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ. อฏฺปีติ ปิ-สทฺเทน ทสปุฺกิริยาทิวเสน อเนกวิธตํ สมฺปิณฺเฑติ. ตถา หิ วทนฺติ –

‘‘กเมน ปุฺวตฺถูหิ, โคจราธิปตีหิ จ;

กมฺมหีนาทิโต เจว, คเณยฺย นยโกวิโท’’ติ.

อิมานิ หิ อฏฺ จิตฺตานิ ทสปุฺกิริยวตฺถุวเสน ปวตฺตนโต ปจฺเจกํ ทส ทสาติ กตฺวา อสีติ จิตฺตานิ โหนฺติ, ตานิ จ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตนโต ปจฺเจกํ ฉคฺคุณิตานิ สาสีติกานิ จตฺตาริ สตานิ โหนฺติ, อธิปติเภเทน ปน าณวิปฺปยุตฺตานํ จตฺตาลีสาธิกทฺวิสตปริมาณานํ วีมํสาธิปติสมฺปโยคาภาวโต ตานิ ติณฺณํ อธิปตีนํ วเสน ติคุณิตานิ วีสาธิกานิ สตฺตสตานิ, ตถา าณสมฺปยุตฺตานิ จ จตุนฺนํ อธิปตีนํ วเสน จตุคฺคุณิตานิ สสฏฺิกานิ นว สตานีติ เอวํ อธิปติวเสน สหสฺสํ สาสีติกานิ จ ฉ สตานิ โหนฺติ, ตานิ กายวจีมโนกมฺมสงฺขาตกมฺมตฺติกวเสน ติคุณิตานิ จตฺตาลีสาธิกานิ ปฺจ สหสฺสานิ โหนฺติ, ตานิ จ หีนมชฺฌิมปณีตเภทโต ติคุณิตานิ วีสสตาธิกปนฺนรสสหสฺสานิ โหนฺติ. ยํ ปน วุตฺตํ อาจริยพุทฺธทตฺตตฺเถเรน

‘‘สตฺตรส สหสฺสานิ, ทฺเว สตานิ อสีติ จ;

กามาวจรปุฺานิ, ภวนฺตีติ วินิทฺทิเส’’ติ.

ตํ อธิปติวเสน คณนปริหานึ อนาทิยิตฺวา โสตปติตวเสน วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ, กาลเทสาทิเภเทน ปน เนสํ เภโท อปฺปเมยฺโยว.

กุจฺฉิเต (ธ. ส. อฏฺ. ๑) ปาปธมฺเม สลยนฺติ กมฺเปนฺติ วิทฺธํเสนฺติ อปคเมนฺตีติ วา กุสลานิ. อถ วา กุจฺฉิตากาเรน สนฺตาเน สยนโต ปวตฺตนโต กุสสงฺขาเต ปาปธมฺเม ลุนนฺติ ฉินฺทนฺตีติ กุสลานิ. อถ วา กุจฺฉิเต ปาปธมฺเม สานโต ตนุกรณโต โอสานกรณโต วา กุสสงฺขาเตน าเณน, สทฺธาทิธมฺมชาเตน วา ลาตพฺพานิ สหชาตอุปนิสฺสยภาเวน ยถารหํ ปวตฺเตตพฺพานีติ กุสลานิ, ตาเนว ยถาวุตฺตตฺเถน กามาวจรานิ กุสลจิตฺตานิ จาติ กามาวจรกุสลจิตฺตานิ.

๑๖. ยถา ปเนตานิ ปุฺกิริยวเสน, กมฺมทฺวารวเสน, กมฺมวเสน, อธิปติวเสน จ ปวตฺตนฺติ, เนวํ วิปากานิ ทานาทิวเสน อปฺปวตฺตนโต, วิฺตฺติสมุฏฺาปนาภาวโต, อวิปากสภาวโต, ฉนฺทาทีนิ ปุรกฺขตฺวา อปฺปวตฺติโต จ, ตสฺมา ตํวเสน ปริหาเปตฺวา ยถารหํ คณนเภโท โยเชตพฺโพ. อิมานิปิ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณวเสน ยถากฺกมํ โสมนสฺสุเปกฺขาสหิตานิ. ปฏิสนฺธาทิวสปฺปวตฺติยํ กมฺมสฺส พลวาพลวภาวโต, ตทารมฺมณปฺปวตฺติยํ เยภุยฺเยน ชวนานุรูปโต, กทาจิ ตตฺถาปิ กมฺมานุรูปโต จ าณสมฺปยุตฺตานิ, าณวิปฺปยุตฺตานิ จ โหนฺติ. ยถาปโยคํ วินา สปฺปโยคฺจ ยถาอุปฏฺิเตหิ กมฺมาทิปจฺจเยหิ อุตุโภชนาทิสปฺปายาสปฺปายวเสน อสงฺขาริกสสงฺขาริกานิ.

๑๗. กิริยจิตฺตานมฺปิ กุสเล วุตฺตนเยน ยถารหํ โสมนสฺสสหคตาทิตา เวทิตพฺพา.

๑๘. สเหตุกกามาวจรกุสลวิปากกิริยจิตฺตานีติ เอตฺถ สเหตุกคฺคหณํ วิปากกิริยาเปกฺขํ วิเสสนํ กุสลสฺส เอกนฺตสเหตุกตฺตา. โหติ หิ ยถาลาภโยชนา, ‘‘สกฺขรกถลมฺปิ มจฺฉคุมฺพมฺปิ จรนฺตมฺปิ ติฏฺนฺตมฺปี’’ตฺยาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๔๙) วิย สกฺขรกถลสฺส จรณาโยคโต มจฺฉคุมฺพาเปกฺขาย จรณกิริยา โยชียตีติ.

๑๙. สเหตุกามาวจรปุฺปากกิริยา เวทนาาณสงฺขารเภเทน ปจฺเจกํ เวทนาเภทโต ทุวิธตฺตา, าณเภทโต จตุพฺพิธตฺตา, สงฺขารเภทโต อฏฺวิธตฺตา จ สมฺปิณฺเฑตฺวา จตุวีสติ มตาติ โยชนา. นนุ จ เวทนาเภโท ตาว ยุตฺโต ตาสํ ภินฺนสภาวตฺตา. าณสงฺขารเภโท ปน กถนฺติ? าณสงฺขารานํ ภาวาภาวกโตปิ เภโท าณสงฺขารกโตว ยถา วสฺสกโต สุภิกฺโข ทุพฺภิกฺโขติ, ตสฺมา าณสงฺขารกโต เภโท าณสงฺขารเภโทติ น เอตฺถ โกจิ วิโรโธติ.

๒๐. อิทานิ สพฺพานิปิ กามาวจรจิตฺตานิ สมฺปิณฺเฑตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘กาเม เตวีสา’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. กาเม ภเว สตฺต อกุสลวิปากานิ, สเหตุกาเหตุกานิ โสฬส กุสลวิปากานีติ เอวํ เตวีสติ วิปากานิ ทฺวาทส อกุสลานิ, อฏฺ กุสลานีติ ปุฺาปุฺานิ วีสติ อเหตุกา ติสฺโส สเหตุกา อฏฺาติ เอกาทส กิริยา จาติ สพฺพถาปิ กุสลากุสลวิปากกิริยานํ อนฺโตคธเภเทน จตุปฺาเสว กาลเทสสนฺตานาทิเภเทน อเนกวิธภาเวปีตฺยตฺโถ.

กามาวจรโสภนจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

รูปาวจรจิตฺตวณฺณนา

๒๑. อิทานิ ตทนนฺตรุทฺทิฏฺสฺส รูปาวจรสฺส นิทฺเทสกฺกโม อนุปฺปตฺโตติ ตสฺส ฌานงฺคโยคเภเทน ปฺจธา วิภาคํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺก…เป… สหิต’’นฺตฺยาทิมาห. วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ เอกคฺคตา จาติ อิเมหิ สหิตํ วิตกฺกวิจารปีติสุเขกคฺคตาสหิตํ. ตตฺถ อารมฺมณํ วิตกฺเกติ สมฺปยุตฺตธมฺเม อภินิโรเปตีติ วิตกฺโก, โส สหชาตานํ อารมฺมณาภินิโรปนลกฺขโณ, ยถา หิ โกจิ คามวาสี ปุริโส ราชวลฺลภํ สมฺพนฺธินํ มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อนุปวิสติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ยทิ เอวํ กถํ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหตีติ? ตมฺปิ วิตกฺกพเลเนว อภินิโรหติ. ยถา หิ โส ปุริโส ปริจเยน เตน วินาปิ นิราสงฺโก ราชเคหํ ปวิสติ, เอวํ ปริจเยน วิตกฺเกน วินาปิ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อภินิโรหติ. ปริจโยติ เจตฺถ สวิตกฺกจิตฺตสฺส สนฺตาเน อภิณฺหปฺปวตฺติวเสน นิพฺพตฺตา จิตฺตภาวนา. อปิ เจตฺถ ปฺจวิฺาณํ อวิตกฺกมฺปิ วตฺถารมฺมณสงฺฆฏฺฏนพเลน, ทุติยชฺฌานาทีนิ จ เหฏฺิมภาวนาพเลน อภิโรหนฺติ.

อารมฺมเณ เตน จิตฺตํ วิจรตีติ วิจาโร. โส อารณนุมชฺชนลกฺขโณ. ตถา เหส ‘‘อนุสนฺธานตา’’ติ (ธ. ส. ๘) นิทฺทิฏฺโ. เอตฺถ จ วิจารโต โอฬาริกฏฺเน, ตสฺเสว ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ปมฆณฺฏาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก, อนุรโว วิย อนุสฺจรณํ วิจาโร. วิปฺผารวาเจตฺถ วิตกฺโก จิตฺตสฺส ปริปฺผนฺทนภูโต, อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส สกุณสฺส ปกฺขวิกฺเขโป วิย, ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตสา ภมรสฺส, สนฺตวุตฺติ วิจาโร จิตฺตสฺส นาติปริปฺผนฺทนภูโต, อากาเส อุปฺปติตสฺส สกุณสฺส ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปทุมสฺส อุปริภาเค ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส.

ปินยติ กายจิตฺตํ ตปฺเปติ, วฑฺเฒตีติ วา ปีติ, สา สมฺปิยายนลกฺขณา, อารมฺมณํ กลฺลโต คหณลกฺขณาติ วุตฺตํ โหติ, สมฺปยุตฺตธมฺเม สุขยตีติ สุขํ, ตํ อิฏฺานุภวนลกฺขณํ สุโภชนรสสฺสาทโก ราชา วิย. ตตฺถ อารมฺมณปฺปฏิลาเภ ปีติยา วิเสโส ปากโฏ กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺโตทกทสฺสเน วิย, ยถาลทฺธสฺส อนุภวเน สุขสฺส วิเสโส ปากโฏ ยถาทิฏฺอุทกสฺส ปานาทีสุ วิยาติ. นานารมฺมณวิกฺเขปาภาเวน เอกํ อารมฺมณํ อคฺคํ อิมสฺสาติ เอกคฺคํ, จิตฺตํ, ตสฺส ภาโว เอกคฺคตา, สมาธิ. โส อวิกฺเขปลกฺขโณ. ตสฺส หิ วเสน สสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อวิกฺขิตฺตํ โหติ.

ปมฺจ เทสนากฺกมโต เจว อุปฺปตฺติกฺกมโต จ อาทิภูตตฺตา ตํ ฌานฺจ อารมฺมณูปนิชฺฌานโต, ปจฺจนีกฌาปนโต จาติ ปมชฺฌานํ, วิตกฺกาทิปฺจกํ. ฌานงฺคสมุทาเย เยว หิ ฌานโวหาโร เนมิอาทิองฺคสมุทาเย รถโวหาโร วิย, ตถา หิ วุตฺตํ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๖๙). ปมชฺฌาเนน สมฺปยุตฺตํ กุสลจิตฺตํ ปมชฺฌานกุสลจิตฺตํ.

กสฺมา ปน อฺเสุ ผสฺสาทีสุ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ วิชฺชมาเนสุ อิเมเยว ปฺจ ฌานงฺควเสน วุตฺตาติ? วุจฺจเต – อุปนิชฺฌานกิจฺจวนฺตตาย, กามจฺฉนฺทาทีนํ อุชุปฏิปกฺขภาวโต จ. วิตกฺโก หิ อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ. วิจาโร อนุปฺปพนฺเธติ, ปีติ จสฺส ปีนนํ, สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ, อถ นํ สสมฺปยุตฺตธมฺมํ เอเตหิ อภินิโรปนานุปฺปพนฺธนปีนนอุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา สมาธานกิจฺเจน อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตี เอกตฺตารมฺมเณ สมํ, สมฺมา จ อาธิยติ. อินฺทฺริยสมตาวเสน สมํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ ทูรีภาเวน ลีนุทฺธจฺจาภาเวน สมฺมา จ เปตีติ เอวเมเต สเมว อุปนิชฺฌานกิจฺจํ อาเวณิกํ. กามจฺฉนฺทาทิปฏิปกฺขภาเว ปน สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข ราคปฺปณิธิยา อุชุปจฺจนีกภาวโต. กามจฺฉนฺทวเสน หิ นานารมฺมเณหิ ปโลภิตสฺส ปริพฺภมนฺตสฺส จิตฺตสฺส สมาธานํ เอกคฺคตาย โหติ. ปีติ พฺยาปาทสฺส ปาโมชฺชสภาวตฺตา. วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส โยนิโส สงฺกปฺปนวเสน สวิปฺผารปฺปวตฺติโต สุขํ อวูปสมานุตาปสภาวสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส วูปสนฺตสีตลสภาวตฺตา. วิจาโร วิจิกิจฺฉาย อารมฺมเณ อนุมชฺชนวเสน ปฺาปติรูปสภาวตฺตา. เอวํ อุปนิชฺฌานกิจฺจวนฺตตาย, กามจฺฉนฺทาทีนํ อุชุปฏิปกฺขภาวโต จ อิเมเยว ปฺจ ฌานงฺคภาเวน ววตฺถิตาติ. ยถาหุ –

‘‘อุปนิชฺฌานกิจฺจตฺตา, กามาทิปฏิปกฺขโต;

สนฺเตสุปิ จ อฺเสุ, ปฺเจว ฌานสฺิตา’’ติ.

อุเปกฺขา ปเนตฺต สนฺตวุตฺติสภาวตฺตา สุเขว อนฺโตคธาติ ทฏฺพฺพํ. เตนาหุ –

‘‘อุเปกฺขา สนฺตวุตฺติตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๓๒; วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๔);

ปหานงฺคาทิวเสน ปนสฺส วิเสโส อุปริ อาวิ ภวิสฺสติ, ตถา อรูปาวจรโลกุตฺตเรสุปิ ลพฺภมานกวิเสโส. อเถตฺถ กามาวจรกุสเลสุ วิย สงฺขารเภโท กสฺมา น คหิโต. อิทมฺปิ หิ เกวลํ สมถานุโยควเสน ปฏิลทฺธํ สสงฺขาริกํ, มคฺคาธิคมวเสน ปฏิลทฺธํ อสงฺขาริกนฺติ สกฺกา วตฺตุนฺติ? นยิทเมวํ มคฺคาธิคมวเสนสตฺติโต ปฏิลทฺธสฺสาปิ อปรภาเค ปริกมฺมวเสเนว อุปฺปชฺชนโต, ตสฺมา สพฺพสฺสปิ ฌานสฺส ปริกมฺมสงฺขาตปุพฺพาภิสงฺขาเรน วินา เกวลํ อธิการวเสน อนุปฺปชฺชนโต ‘‘อสงฺขาริก’’นฺติปิ, อธิกาเรน จ วินา เกวลํ ปริกมฺมาภิสงฺขาเรเนว อนุปฺปชฺชนโต ‘‘สสงฺขาริก’’นฺติปิ น สกฺกา วตฺตุนฺติ. อถ วา ปุพฺพาภิสงฺขารวเสเนว อุปฺปชฺชมานสฺส น กทาจิ อสงฺขาริกภาโว สมฺภวตีติ ‘‘อสงฺขาริก’’นฺติ จ พฺยภิจาราภาวโต ‘‘สสงฺขาริก’’นฺติ จ น วุตฺตนฺติ.

ปิ-สทฺเทน เจตฺถ จตุกฺกปฺจกนยวเสน สุทฺธิกนวโก, ตฺจ ทุกฺขปฺปฏิปทาทนฺธาภิฺาทุกฺขปฺปฏิปทาขิปฺปาภิฺาสุขปฺปฏิปทาทนฺธาภิฺาสุขปฺปฏิปทาขิปฺปาภิฺาวเสน ปฏิปทาจตุกฺเกน โยเชตฺวา เทสิตตฺตา จตฺตาโร นวกา, ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ, ปริตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณํ, อปฺปมาณํ ปริตฺตารมฺมณํ, อปฺปมาณํ อปฺปมาณารมฺมณนฺติ อารมฺมณจตุกฺเกน โยชิตตฺตา จตฺตาโร นวกา, ‘‘ทุกฺขปฺปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ ปริตฺตํ ปริตฺตารมฺมณํ, ทุกฺขปฺปฏิปทํ ทนฺธาภิฺํ ปริตฺตํ อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺตฺยาทินา อารมฺมณปฺปฏิปทามิสฺสกนยวเสน โสฬส นวกาติ ปฺจวีสติ นวกาติ เอวมาทิเภทํ สงฺคณฺหาติ.

๒๒. ฌานวิเสเสน นิพฺพตฺติตวิปาโก เอกนฺตโต ตํตํฌานสทิโสวาติ วิปากํ ฌานสทิสเมว วิภตฺตํ. อิมเมว หิ อตฺถํ ทีเปตุํ ภควตา วิปากนิทฺเทเสปิ กุสลํ อุทฺทิสิตฺวาว ตทนนฺตรํ มหคฺคตโลกุตฺตรวิปากา วิภตฺตา.

๒๕. รูปาวจรมานสํ ฌานเภเทน ปฺจหิ จตูหิ ตีหิ ทฺวีหิ ปุน ทฺวีหิ ฌานงฺเคหิ สมฺปโยคเภเทน ปฺจธา ปฺจงฺคิกํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกํ ปุน ทุวงฺคิกนฺติ ปฺจวิธํ โหติ อวิเสเสน, ปุน ตํ ปุฺปากกิริยานํ ปจฺเจกํ ปฺจนฺนํ ปฺจนฺนํ เภทา ปฺจทสธา ภเวตฺยตฺโถ.

รูปาวจรจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

อรูปาวจรจิตฺตวณฺณนา

๒๖. อิทานิ อรูปาวจรํ อารมฺมณเภเทน จตุธา วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อากาสานฺจายตนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปฺปาทาทิอนฺตรหิตตาย นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ, อากาสฺจ ตํ อนนฺตฺจาติ อากาสานนฺตํ, กสิณุคฺฆาฏิมากาโส. ‘‘อนนฺตากาส’’นฺติ จ วตฺตพฺเพ ‘‘อคฺยาหิโต’’ตฺยาทีสุ วิย วิเสสนสฺส ปรนิปาตวเสน ‘‘อากาสานนฺต’’นฺติ วุตฺตํ. อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ สกตฺเถ ภาวปจฺจยวเสน. อากาสานฺจเมว อายตนํ สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส อธิฏฺานฏฺเน เทวานํ เทวายตนํ วิยาติ อากาสานฺจายตนํ. ตสฺมึ อปฺปนาปฺปตฺตํ ปมารุปฺปชฺฌานมฺปิ อิธ ‘‘อากาสานฺจายตน’’นฺติ วุตฺตํ ยถา ปถวีกสิณารมฺมณํ ฌานํ ‘‘ปถวีกสิณ’’นฺติ. อถ วา อากาสานฺจํ อายตนํ อสฺสาติ อากาสานฺจายตนํ, ฌานํ, เตน สมฺปยุตฺตํ กุสลจิตฺตํ อากาสานฺจายตนกุสลจิตฺตํ.

วิฺาณเมว อนนฺตํ วิฺาณานนฺตํ, ปมารุปฺปวิฺาณํ. ตฺหิ อุปฺปาทาทิอนฺตวนฺตมฺปิ อนนฺตากาเส ปวตฺตนโต อตฺตานํ อารพฺภ ปวตฺตาย ภาวนาย อุปฺปาทาทิอนฺตํ อคฺคเหตฺวา อนนฺตโต ผรณวเสน ปวตฺตนโต จ ‘‘อนนฺต’’นฺติ วุจฺจติ. วิฺาณานนฺตเมว วิฺาณฺจํ อาการสฺส รสฺสตฺตํ, น-การสฺส โลปฺจ กตฺวา. ทุติยารุปฺปวิฺาเณน วา อฺจิตพฺพํ ปาปุณิตพฺพนฺติ วิฺาณฺจํ, ตเทว อายตนํ ทุติยารุปฺปสฺส อธิฏฺานตฺตาติ วิฺาณฺจายตนํ. เสสํ ปุริมสมํ.

นาสฺส ปมารุปฺปสฺส กิฺจนํ อปฺปมตฺตกํ อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิ อวสิฏฺํ อตฺถีติ อกิฺจนํ, ตสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, ปมารุปฺปวิฺาณาภาโว. ตเทว อายตนนฺตฺยาทิ ปุริมสทิสํ.

โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต, สุขุมาย จ สฺาย อตฺถิตาย เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส สฺา อตฺถิ, นาปิ อสฺํ อวิชฺชมานสฺนฺติ เนวสฺานาสฺํ, จตุตฺถารุปฺปชฺฌานํ. ทีฆํ กตฺวา ปน ‘‘เนวสฺานาสฺ’’นฺติ วุตฺตํ. เนวสฺานาสฺเมว อายตนํ มนายตนธมฺมายตนปริยาปนฺนตฺตาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. อถ วา สฺาว วิปสฺสนาย โคจรภาวํ คนฺตฺวา นิพฺเพทชนนสงฺขาตสฺส ปฏุสฺากิจฺจสฺส อภาวโต เนวสฺา จ อุณฺโหทเก เตโชธาตุ วิย สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา น อสฺาติ เนวสฺานาสฺา, สา เอว อายตนํ อิมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส นิสฺสยาทิภาวโตติ เนวสฺานาสฺายตนํ. สฺาวเสน เจตฺถ ฌานูปลกฺขณํ นิทสฺสนมตฺตํ. เวทนาทโยปิ หิ ตสฺมึ ฌาเน เนวเวทนานาเวทนาทิกาเยวาติ. เนวสฺานาสฺายตเนน สมฺปยุตฺตํ กุสลจิตฺตํ เนวสฺานาสฺายตนกุสลจิตฺตํ. ปิ-สทฺเทน เจตฺถ อารมฺมณปฺปฏิปทามิสฺสกนยวเสน โสฬสกฺขตฺตุกเทสนํ (ธ. ส. ๒๖๕-๒๖๘), อฺมฺปิ จ ปาฬิยํ อาคตนยเภทํ สงฺคณฺหาติ.

๓๐. อารมฺมณานํ อติกฺกมิตพฺพานํ, กสิณากาสวิฺาณตทภาวสงฺขาตานํ อาลมฺพิตพฺพานฺจ อากาสาทิจตุนฺนํ โคจรานํ ปเภเทน อารุปฺปมานสํ จตุพฺพิธํ โหติ. ตฺหิ ยถากฺกมํ ปฺจมชฺฌานารมฺมณํ กสิณนิมิตฺตํ อติกฺกมฺม ตทุคฺฆาเฏน ลทฺธํ อากาสมาลมฺพิตฺวา ตมฺปิ อติกฺกมฺม ตตฺถ ปวตฺตํ วิฺาณมาลมฺพิตฺวา ตมฺปิ อติกฺกมฺม ตทภาวภูตํ อกิฺจนภาวมาลมฺพิตฺวา ตมฺปิ อติกฺกมฺม ตตฺถ ปวตฺตํ ตติยารุปฺปวิฺาณมาลมฺพิตฺวา ปวตฺตติ, น ปน รูปาวจรกุสลํ วิย ปุริมปุริมองฺคาติกฺกมวเสน ปุริมปุริมสฺสาปิ อารมฺมณํ คเหตฺวา. เตนาหุ อาจริยา –

‘‘อารมฺมณาติกฺกมโต, จตสฺโสปิ ภวนฺติมา;

องฺคาติกฺกมเมตาสํ, น อิจฺฉนฺติ วิภาวิโน’’ติ; (ธ. ส. อฏฺ. ๒๖๘);

อรูปาวจรจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

โสภนจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

โลกุตฺตรจิตฺตวณฺณนา

๓๑. อิทานิ โลกุตฺตรกุสลํ จตุมคฺคโยคโต, ผลฺจ ตทนุรูปปฺปวตฺติยา จตุธา วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺคจิตฺต’’นฺตฺยาทิ วุตฺตํ. นิพฺพานํ ปติสวนโต อุปคมนโต, นิพฺพานมหาสมุทฺทนินฺนตาย โสตสทิสตฺตา วา ‘‘โสโต’’ติ วุจฺจติ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค, ตสฺส อาปตฺติ อาทิโต ปชฺชนํ ปาปุณนํ ปมสมนฺนาคโม โสตาปตฺติ อา-อุปสคฺคสฺส อาทิกมฺมนิ ปวตฺตนโต. นิพฺพานํ มคฺเคติ, นิพฺพานตฺถิเกหิ วา มคฺคียติ, กิเลเส มาเรนฺโต คจฺฉตีติ วา มคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ มคฺคจิตฺตํ, โสตาปตฺติยา ลทฺธํ มคฺคจิตฺตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ. อถ วา อริยมคฺคโสตสฺส อาทิโต ปชฺชนํ เอตสฺสาติ โสตาปตฺติ, ปุคฺคโล, ตสฺส มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ.

สกึ เอกวารํ ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, อิธ ปตฺวา อิธ ปรินิพฺพายี, ตตฺถ ปตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายี, อิธ ปตฺวา ตตฺถ ปรินิพฺพายี, ตตฺถ ปตฺวา อิธ ปรินิพฺพายี, อิธ ปตฺวา ตตฺถ นิพฺพตฺติตฺวา อิธ ปรินิพฺพายีติ ปฺจสุ สกทาคามีสุ ปฺจมโก อิธาธิปฺเปโต. โส หิ อิโต คนฺตฺวา ปุน สกึ อิธ อาคจฺฉตีติ. ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. กิฺจาปิ มคฺคสมงฺคิโน ตถาคมนาสมฺภวโต ผลฏฺโเยว สกทาคามี นาม, ตสฺส ปน การณภูโต ปุริมุปฺปนฺโน มคฺโค มคฺคนฺตราวจฺเฉทนตฺถํ ผลฏฺเน วิเสเสตฺวา วุจฺจติ ‘‘สกทาคามิมคฺโค’’ติ. เอวํ อนาคามิมคฺโคติ. สกทาคามิมคฺเคน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ สกทาคามิมคฺคจิตฺตํ.

ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ กามธาตุํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อนาคามิมคฺคจิตฺตํ. อคฺคทกฺขิเณยฺยภาเวน ปูชาวิเสสํ อรหตีติ อรหา, อถ วา กิเลสสงฺขาตา อรโย, สํสารจกฺกสฺส วา อรา กิเลสา หตา อเนนาติ อรหา, ปาปกรเณ รหาภาวโต วา อรหา, อฏฺมโก อริยปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว อรหตฺตํ, จตุตฺถผลสฺเสตํ อธิวจนํ, ตสฺส อาคมนภูโต มคฺโค อรหตฺตมคฺโค, เตน สมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ อรหตฺตมคฺคจิตฺตํ.

ปิ-สทฺเทน เอเกกสฺส มคฺคสฺส นยสหสฺสวเสน จตุนฺนํ จตุสหสฺสเภทํ สจฺจวิภงฺเค (วิภ. ๒๐๖; วิภ. อฏฺ. ๒๐๖-๒๑๔) อาคตํ สฏฺิสหสฺสเภทํ นยํ เหฏฺา วุตฺตนเยน อเนกวิธตฺตมฺปิ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถายํ นยสหสฺสมตฺตปริทีปนา, กถํ? โสตาปตฺติมคฺโค ตาว ฌานนาเมน ปฏิปทาเภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ สุฺโต อปฺปณิหิโตติ ทฺวิธา วิภตฺโต, ปุน ปฏิปทาจตุกฺเกน โยเชตฺวา ปจฺเจกํ จตุธา วิภตฺโตติ เอวํ ฌานนาเมน ทสธา วิภตฺโต. ตถา มคฺคสติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทอินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคสจฺจสมถธมฺมขนฺธอายตนธาตุอาหารผสฺสเวทนาสฺาเจตนาจิตฺตนาเมหิปิ ปจฺเจกํ ทสทสากาเรหิ วิภตฺโต ตถา ตถา พุชฺฌนกานํ ปุคฺคลานํ วเสน. ตสฺมา ฌานวเสน ทสมคฺคาทีนํ เอกูนวีสติยา วเสน ทส ทสาติ วีสติยา าเนสุ ทฺเว นยสตานิ โหนฺติ. ปุน ตานิ จตูหิ อธิปตีหิ โยเชตฺวา ปจฺเจกํ จตุธา วิภตฺตานีติ เอวํ อธิปตีหิ อมิสฺเสตฺวา ทฺเว สตานิ, มิสฺเสตฺวา อฏฺ สตานีติ โสตาปตฺติมคฺเค นยสหสฺสํ โหติ, ตถา สกทาคามิมคฺคาทีสุปิ.

๓๒. โสตาปตฺติยา ลทฺธํ, โสตาปตฺติสฺส วา ผลจิตฺตํ วิปากภูตํ จิตฺตํ โสตาปตฺติผลจิตฺตํ. อรหตฺตฺจ ตํ ผลจิตฺตฺจาติ อรหตฺตผลจิตฺตํ.

๓๔. จตุมคฺคปฺปเภเทนาติ อินฺทฺริยานํ อปาฏวปาฏวตรตมเภเทน ภินฺนสามตฺถิยตาย สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสานํ นิรวเสสปฺปหานํ กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาปาทนํ เตสเมว นิรวเสสปฺปหานํ รูปารูปราคมานุทฺธจฺจาวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานนฺติ เอวํ สํโยชนปฺปหานวเสน จตุพฺพิธานํ โสตาปตฺติมคฺคาทีนํ อฏฺงฺคิกมคฺคานํ สมฺปโยคเภเทน จตุมคฺคสงฺขาตํ โลกุตฺตรกุสลํ จตุธา โหติ, วิปากํ ปน ตสฺเสว กุสลสฺส ผลตฺตา ตทนุรูปโต ตถา จตุธาติ เอวํ อนุตฺตรํ อตฺตโน อุตฺตริตราภาเวน อนุตฺตรสงฺขาตํ โลกุตฺตรํ จิตฺตํ อฏฺธา มตนฺติ โยชนา.

กิริยานุตฺตรสฺส ปน อสมฺภวโต ทฺวาทสวิธตา น วุตฺตา. กสฺมา ปน ตสฺส อสมฺภโวติ? มคฺคสฺส เอกจิตฺตกฺขณิกตฺตา. ยทิ หิ มคฺคจิตฺตํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺเชยฺย, ตทุปฺปตฺติยา กิริยภาโว สกฺกา วตฺตุํ. ตํ ปน กิเลสสมุจฺเฉทกวเสเนว อุปลภิตพฺพโต เอกวารปฺปวตฺเตเนว จ เตน อสนิสมฺปาเตน วิย ตรุอาทีนํ สมูลวิทฺธํสนสฺส ตํตํกิเลสานํ อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติยา สาธิตตฺตา ปุน อุปฺปชฺชมาเนปิ กาตพฺพาภาวโต ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถฺจ ผลสมาปตฺติยา เอว นิพฺพานารมฺมณวเสน ปวตฺตนโต น กทาจิ เสกฺขานํ อเสกฺขานํ วา อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา นตฺถิ สพฺพถาปิ โลกุตฺตรกิริยจิตฺตนฺติ.

โลกุตฺตรจิตฺตวณฺณนา นิฏฺิตา.

จิตฺตคณนสงฺคหวณฺณนา

๓๕. ‘‘ทฺวาทสากุสลาเนว’’นฺตฺยาทิ ยถาวุตฺตานํ จตุภูมิกจิตฺตานํ คณนสงฺคโห.

๓๖. เอวํ ชาติวเสน สงฺคหํ ทสฺเสตฺวา ปุน ภูมิวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘จตุปฺาสธา กาเม’’ตฺยาทิ วุตฺตํ. กาเม ภเว จิตฺตานิ จตุปฺาสธา อีรเย, รูเป ภเว ปนฺนรส อีรเย, อารุปฺเป ภเว ทฺวาทส อีรเย, อนุตฺตเร ปน นววิเธ ธมฺมสมุทาเย จิตฺตานิ อฏฺธา อีรเย, กเถยฺยาตฺยตฺโถ. เอตฺถ จ กามตณฺหาทิวิสยภาเวน กามภวาทิปริยาปนฺนานิ จิตฺตานิ สกสกภูมิโต อฺตฺถ ปวตฺตมานานิปิ กามภวาทีสุ จิตฺตานีติ วุตฺตานิ, ยถา มนุสฺสิตฺถิยา กุจฺฉิสฺมึ นิพฺพตฺโตปิ ติรจฺฉานคโต ติรจฺฉานโยนิปริยาปนฺนตฺตา ติรจฺฉาเนสฺเวว สงฺคยฺหติ. กตฺถจิ อปริยาปนฺนานิ นววิธโลกุตฺตรธมฺมสมูเหกเทสภูตานิ ‘‘รุกฺเข สาขา’’ตฺยาทีสุ วิย อนุตฺตเร จิตฺตานีติ วุตฺตานิ. อถ วา ‘‘กาเม, รูเป’’ติ จ อุตฺตรปทโลปนิทฺเทโส. อรูเป ภวานิ อารุปฺปานิ. นตฺถิ เอเตสํ อุตฺตรํ จิตฺตนฺติ อนุตฺตรานีติ อุปโยคพหุวจนวเสน กาเม กามาวจรานิ จิตฺตานิ จตุปฺาสธา อีรเย, รูเป รูปาวจรานิ จิตฺตานิ ปนฺนรส อีรเย, อารุปฺเป อารุปฺปานิ จิตฺตานิ ทฺวาทส อีรเย. อนุตฺตเร โลกุตฺตรานิ จิตฺตานิ อฏฺธา อีรเยติ เอวเมตฺถ สมฺพนฺโธ ทฏฺพฺโพ.

๓๗. อิตฺถํ ยถาวุตฺเตน ชาติเภทภินฺนจตุภูมิกจิตฺตเภทวเสน เอกูนนวุติปฺปเภทํ กตฺวา มานสํ จิตฺตํ วิจกฺขณา วิเสเสน อตฺถจกฺขณสภาวา ปณฺฑิตา วิภชนฺติ. อถ วา เอกวีสสตํ เอกุตฺตรวีสาธิกํ สตํ วิภชนฺติ.

จิตฺตคณนสงฺคหวณฺณนา นิฏฺิตา.

วิตฺถารคณนวณฺณนา

๓๘. ฌานงฺควเสน ปมชฺฌานสทิสตฺตา ปมชฺฌานฺจ ตํ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตฺเจติ ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตํ. ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานปุคฺคลชฺฌาสเยสุปิ, หิ อฺตรวเสน ตํตํฌานสทิสตฺตา วิตกฺกาทิองฺคปาตุภาเวน จตฺตาโรปิ มคฺคา ปมชฺฌานาทิโวหารํ ลภนฺตา ปจฺเจกํ ปฺจธา วิภชนฺติ. เตนาห ‘‘ฌานงฺคโยคเภเทนา’’ตฺยาทิ, ตตฺถ ปมชฺฌานาทีสุ ยํ ยํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต ตโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสนฺตสฺส วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปวตฺตา, ตํ ปาทกชฺฌานํ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย ปทฏฺานภาวโต. ยํ ยํ ฌานํ สมฺมสนฺตสฺส สา ปวตฺตา, ตํ สมฺมสิตชฺฌานํ. ‘‘อโห วต เม ปมชฺฌานสทิโส มคฺโค ปฺจงฺคิโก, ทุติยชฺฌานาทีสุ วา อฺตรสทิโส จตุรงฺคาทิเภโท มคฺโค ภเวยฺยา’’ติ เอวํ โยคาวจรสฺส อุปฺปนฺนชฺฌาสโย ปุคฺคลชฺฌาสโย นาม.

ตตฺถ เยน ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา มคฺโค อุปฺปาทิโต โหติ, ตสฺส โส มคฺโค ปมชฺฌานาทีสุ ตํตํปาทกชฺฌานสทิโส โหติ. สเจ ปน วิปสฺสนาปาทกํ กิฺจิ ฌานํ นตฺถิ, เกวลํ ปมชฺฌานาทีสุ อฺตรํ ฌานํ สมฺมสิตฺวา มคฺโค อุปฺปาทิโต โหติ, ตสฺส โส สมฺมสิตชฺฌานสทิโส โหติ. ยทา ปน ยํ กิฺจิ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา ตโต วุฏฺาย อฺตรํ สมฺมสิตฺวา มคฺโค อุปฺปาทิโต โหติ, ตทา ปุคฺคลชฺฌาสยวเสน ทฺวีสุ อฺตรสทิโส โหติ. สเจ ปน ปุคฺคลสฺส ตถาวิโธ อชฺฌาสโย นตฺถิ, เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต วุฏฺาย อุปรูปริฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค ปาทกชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา สมฺมสิตชฺฌานสทิโส โหติ. อุปรูปริฌานโต ปน วุฏฺาย เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโค สมฺมสิตชฺฌานํ อนเปกฺขิตฺวา ปาทกชฺฌานสทิโส โหติ. เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต หิ อุปรูปริฌานํ พลวตรนฺติ. เวทนานิยโม ปน สพฺพตฺถาปิ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนานิยเมน โหติ. ตถา สุกฺขวิปสฺสกสฺส สกลชฺฌานงฺคนิยโม. ตสฺส หิ ปาทกชฺฌานาทีนํ อภาเวน เตสํ วเสน นิยมาภาวโต วิปสฺสนานิยเมน ปฺจงฺคิโกว มคฺโค โหตีติ. อปิจ สมาปตฺติลาภิโนปิ ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ วิปสฺสนานิยเมเนว ปฺจงฺคิโกว โหตีติ อยเมตฺถ อฏฺกถาทิโต อุทฺธโฏ วินิจฺฉยสาโร. เถรวาททสฺสนาทิวสปฺปวตฺโต ปน ปปฺโจ อฏฺกถาทีสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ, เอวํ สพฺพตฺถาปิ วิตฺถารนโย ตตฺถ ตตฺถ วุตฺตนเยน คเหตพฺโพ. คนฺถภีรุกชนานุคฺคหตฺถํ ปเนตฺถ สงฺเขปกถา อธิปฺเปตา.

๔๒. ยถา รูปาวจรํ จิตฺตํ ปมาทิปฺจวิธฌานเภเทน คยฺหติ ‘‘ปมชฺฌาน’’นฺตฺยาทินา วุจฺจติ , ตถา อนุตฺตรมฺปิ จิตฺตํ ‘‘ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺต’’นฺตฺยาทินา คยฺหติ. อารุปฺปฺจาปิ อุเปกฺเขกคฺคตาโยเคน องฺคสมตาย ปฺจมชฺฌาเน คยฺหติ, ปฺจมชฺฌานโวหารํ ลภตีตฺยตฺโถ. อถ วา รูปาวจรํ จิตฺตํ อนุตฺตรฺจ ปมาทิฌานเภเท ‘‘ปมชฺฌานกุสลจิตฺตํ, ปมชฺฌานโสตาปตฺติมคฺคจิตฺตนฺตฺยาทินา ยถา คยฺหติ, ตถา อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม ฌาเน คยฺหตีติ โยชนา. อาจริยสฺสาปิ หิ อยเมว โยชนา อธิปฺเปตาติ ทิสฺสติ นามรูปปริจฺเฉเท อุชุกเมว ตถา วุตฺตตฺตา. วุตฺตฺหิ ตตฺถ –

‘‘รูปาวจรจิตฺตานิ, คยฺหนฺตานุตฺตรานิ จ;

ปมาทิฌานเภเท, อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม’’ติ. (นาม. ปริ. ๒๔);

ตสฺมาติ ยสฺมา รูปาวจรํ วิย อนุตฺตรมฺปิ ปมาทิฌานเภเท คยฺหติ, อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม คยฺหติ, ยสฺมา วา ฌานงฺคโยคเภเทน เอเกกํ ปฺจธา กตฺวา อนุตฺตรํ จิตฺตํ จตฺตาลีสวิธนฺติ วุจฺจติ, รูปาวจรโลกุตฺตรานิ วิย จ ปมาทิฌานเภเท, ตถา อารุปฺปฺจาปิ ปฺจเม คยฺหติ, ตสฺมา ปมาทิกเมเกกํ ฌานํ โลกิยํ ติวิธํ, โลกุตฺตรํ อฏฺวิธนฺติ เอกาทสวิธํ. อนฺเต ตุ ฌานํ เตวีสติวิธํ ติวิธรูปาวจรทฺวาทสวิธอรูปาวจรอฏฺโลกุตฺตรวเสนาตฺยตฺโถ.

๔๓. ปาทกชฺฌานาทิวเสน คณนวุฑฺฒิ กุสลวิปาเกสฺเวว สมฺภวตีติ เตสเมว คณนํ เอกวีสสตคณนาย องฺคภาเวน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สตฺตตึสา’’ตฺยาทิ.

อิติ อภิธมฺมตฺถวิภาวินิยา นาม อภิธมฺมตฺถสงฺคหวณฺณนาย

จิตฺตปริจฺเฉทวณฺณนา นิฏฺิตา.