📜
๖. ฉฏฺโ ปริจฺเฉโท
อารมฺมณวิภาคนิทฺเทสวณฺณนา
๒๙๑-๓. เอเตสนฺติ ¶ ¶ ยถาวุตฺตปฺปเภทานํ. นนุ จ ‘‘จิตฺตํ เจตสิก’’นฺติอาทินา จิตฺตาทีนิเยว อุทฺทิฏฺานีติ ตาเนว นิทฺทิสิตพฺพานิ, อารมฺมณํ ปน อปฺปกตํ, ตํ กสฺมา อิธ วุจฺจตีติ โจทนํ มนสิ กริตฺวา อาห ‘‘เตน วินา นตฺถิ หิ สมฺภโว’’ติ. ยสฺมา อารมฺมเณน วินา จิตฺตสมฺภโว นตฺถิ, น หิ อนารมฺมณํ จิตฺตํ นาม อตฺถิ, ตสฺมา ‘‘ตยิทํ จิตฺตํ กํ อารพฺภ อุปฺปชฺชตี’’ติ อาสงฺกานิวารณตฺถํ อิโต ปรํ อารมฺมณํ ทสฺสยิสฺสามีติ อตฺโถ ¶ . กติวิธํ ปน ตํ อารมฺมณํ, กึ สรูปฺจาติ อาห ‘‘รูปํ สทฺท’’นฺติอาทิ. วจนตฺถํ ปน เนสํ สยเมว วกฺขติ. ฉฬารมฺมณโกวิทาติ ฉนฺนํ อารมฺมณานํ พฺยากรณกุสลา พุทฺธาทโย.
ภูเตติ จตฺตาโร มหาภูเต. อุปาทายาติ นิสฺสาย. จตุสมุฏฺิโตติ กมฺมาทีหิ จตูหิ ปจฺจเยหิ สมุฏฺิโต. นิทสฺสิตพฺพํ นิทสฺสนํ. กึ ตํ? ทฏฺพฺพภาโว จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาโว ¶ , สห นิทสฺสเนนาติ สนิทสฺสโน. ปฏิหฺติ, ปฏิหนนนฺติ วา ปฏิโฆ, เยน พฺยาปาราทิวิการปจฺจยนฺตรสหิเตสุ จกฺขาทีนํ นิสฺสเยสุ วิการุปฺปตฺติ, โส สยํ นิสฺสยวเสน จ สมฺปตฺตานํ, อสมฺปตฺตานฺจ ปฏิมุขภาโว อฺมฺปตนํ ปฏิโฆติ อตฺโถ. ตตฺถ สยํ สมฺปตฺตึ โผฏฺพฺพสฺส นิสฺสยวเสน สมฺปตฺติ คนฺธรสฆานชิวฺหากายานํ. อิตเรสํ อุภยถาปิ อสมฺปตฺติ, ตสฺมา อิธ อสมฺปตฺตานํ ปฏิมุขภาโว ‘‘ปฏิโฆ’’ติ วุจฺจติ. สห ปฏิเฆนาติ สปฺปฏิโฆ, สนิทสฺสโน จ โส สปฺปฏิโฆ จาติ สนิทสฺสนสปฺปฏิโฆ. เอตฺถาห – ยสฺส ทฏฺพฺพภาโว อตฺถิ, โส สนิทสฺสโน, จกฺขุวิฺาณโคจรภาโวว ทฏฺพฺพภาโว. ตสฺส จ รูปายตนโต อนฺตฺตา กถํ สห นิทสฺสเนน สนิทสฺสโนติ ยุชฺชตีติ? วุจฺจเต – อนฺตฺเตปิ ตสฺส อฺเหิ ธมฺเมหิ รูปายตนํ วิเสเสตุํ อฺํ วิย กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สห นิทสฺสเนน สนิทสฺสน’’นฺติ. ธมฺมสภาวสามฺเน หิ เอกีภูเตสุ ธมฺเมสุ โย นานตฺตกโร วิเสโส, โส อฺํ วิย กตฺวา อุปจาริตุํ ยุตฺโต. เอวฺหิ อตฺถวิเสสาวโพโธ โหติ. รูปารมฺมณสฺิโตติ อยํ เอวรูโป วณฺโณ รูปารมฺมณนฺติ สฺิโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – จตฺตาโร มหาภูเต อุปาทาย เต อมฺุจิตฺวา ปวตฺตมาโน กมฺมสมุฏฺาโน จิตฺตสมุฏฺาโน อุตุสมุฏฺาโน อาหารสมุฏฺาโน จ นีลาทิวเสน ทิสฺสมาโน อินฺทฺริเยหิ ฆฏฺเฏนฺโต จ วณฺโณ รูปารมฺมณํ นามาติ.
๒๙๔-๗. จิตฺตฺจ อุตุ จ จิตฺโตตุ, เตหิ สมฺภวติ, เต วา สมฺภวา ปจฺจยา อิมสฺสาติ จิตฺโตตุสมฺภโว. สห วิฺตฺติสมุฏฺาปกวิฺาเณน ปวตฺโต สทฺโท สวิฺาณกสทฺโท, สวิฺาณกสทฺโท ปน น เกวลํ สวิฺาณกสนฺตานปฺปวตฺโตว กุจฺฉิสทฺทาทิวเสน ตสฺส อุตุสมุฏฺิตสฺสาปิ สมฺภวโต.
ธรียตีติ ¶ ¶ กลาปปรมฺปราย สนฺธารียติ. สูจนโตติ อตฺตโน วตฺถุสฺส สุปากฏกรณโต. คนฺโธ หิ ‘‘อิทํ สุคนฺธํ, อิทํ ทุคฺคนฺธ’’นฺติ ปกาเสติ, ปฏิจฺฉนฺนปุปฺผผลาทีนิ ‘‘อิทเมตฺถ อตฺถี’’ติ เปสฺุํ กโรนฺตํ วิย โหตีติ.
รสมานาติ อสฺสาทวเสน ตุสฺสมานา. รสนฺตีติ อสนฺติ, อนุภวนฺตีติ อตฺโถ. เอตฺถ ร-กาโร ปทสนฺธิกโร. เอวฺหิ ‘‘รสมานา นํ อสนฺตีติ รโส’’ติ นิรุตฺตินโย สุนฺทโร โหติ. อิตรถา ‘‘รสนฺติ อสฺสาเทนฺตี’’ติ วุจฺจมาเน ‘‘รสมานา’’ติ อิทํ นิรตฺถกเมว สิยา. อถ วา ‘‘รสมานา’’ติ อิโต ร-การํ, ‘‘รสนฺตี’’ติ อิโต ส-การฺจ คเหตฺวา ‘‘รโส’’ติ นิรุตฺตินโย ทฏฺพฺโพ.
๒๙๘. ผุสียตีติ ฆฏฺฏียติ. กึ ตํ โผฏฺพฺพํ นามาติ อาห ‘‘ปถวีเตชวายโว’’ติ. อิมินา ธาตุตฺตยเมว กายวิฺาณวิฺเยฺยภาวสงฺขาตโผฏฺพฺพํ นาม, น อฺนฺติ ทสฺเสติ. กสฺมา ปเนตฺถ อาโปธาตุ น คหิตา, นนุ สีตตา ผุสิตฺวา คยฺหติ, สา จ อาโปธาตุ เอวาติ? สจฺจํ คยฺหติ, น ปน อาโปธาตุ, กิฺจรหิ เตโชธาตุ เอว. มนฺเท หิ อุณฺหภาเว สีตวุทฺธิ, น สีตตา นาม โกจิ คุโณ อตฺถิ. เกวลํ ปน อุณฺหภาวสฺส มนฺทตาย สีตตาภิมาโน. กถํ ปเนตํ วิฺาตพฺพนฺติ เจ? สีตวุทฺธิยา อนวฏฺิตภาวโต ปาราปาเร วิย. ตถา หิ ฆมฺมกาเล อาตเป ตฺวา ฉายํ ปวิฏฺานํ สีตวุทฺธิ โหติ, ตตฺเถว ปถวีคพฺภโต อุฏฺิตานํ อุณฺหวุทฺธิ จ. กิฺจรหิ หิมปาตสมยาทีสุ สีตสฺส ปริปาจกตฺตทสฺสนโต จ เตโชธาตุ เอว สีตตาติ ทฏฺพฺพํ. ยทิ จ สีตตา อาโปธาตุ สิยา, เอกสฺมึ กลาเป อุณฺหภาเวน สทฺธึ อุปลพฺเภยฺย ทฺวินฺนํ ธาตูนํ อวินิพฺโภคปฺปวตฺติโต, น จ ปเนวํ อุปลพฺภติ, ตสฺมา ายติ ‘‘น อาโปธาตุ สีตตา’’ติ ¶ . อิทํ จตุมหาภูตานํ อวินิพฺโภควุตฺติตํ อิจฺฉนฺตานํ อุตฺตรํ, อนิจฺฉนฺตานมฺปิ ปน จตุนฺนํ มหาภูตานํ เอกสฺมึ กลาเป กิจฺจทสฺสเนน สภาควุตฺติตาย สาธิตาย อิทเมว อุตฺตรํ. เกจิ ปน ‘‘วาโยธาตุ สีตตา’’ติ วทนฺติ, เตสมฺปิ อิทเมว อุตฺตรํ. ยทิ วาโยธาตุ สีตตา สิยา, เอกสฺมึ กลาเป อุณฺหภาเวน สทฺธึ อุปลพฺเภยฺย, น จ ปเนวํ อุปลพฺภติ, ตสฺมา วิฺายติ ‘‘น วาโยธาตุ สีตตา’’ติ. เย ปน วทนฺติ ‘‘ทฺรวตา อาโปธาตุ, สา จ ผุสิตฺวา คยฺหตี’’ติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘ทฺรวภาโวปิ นาม ผุสียตีติ อิทํ อายสฺมนฺตานํ อธิมานมตฺตํ สณฺาเน วิยา’’ติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘ทฺรวภาสหวุตฺตีนิ ¶ , ตีณิ ภูตานิ สมฺผุสํ;
ทฺรวตํ สมฺผุสามีติ, โลโกยมภิมฺติ.
‘‘ภูเต ผุสิตฺวา สณฺานํ, มนสา คยฺหเต ยถา;
ปจฺจกฺขโต ผุสามีติ, าตพฺพา ทฺรวตา ตถา’’ติ.
๒๙๙. สพฺพํ นามนฺติ สพฺพํ จิตฺตเจตสิกนิพฺพานสมฺมตํ นามํ. จิตฺตเจตสิกฺหิ อารมฺมณํ ปติ นมนโต นามํ. นิพฺพานํ ปน จิตฺตเจตสิกสฺส อตฺตานํ ปติ นามนโต นามํ. รูปนฺติ นิปฺผนฺนรูปํ. กึ อวิเสเสนาติ เจ, โนติ อาห ‘‘หิตฺวา รูปาทิปฺจก’’นฺติ. ลกฺขณานีติ อนิจฺจาทิลกฺขณานิ. ปฺตฺตีติ นามุปาทายวเสน ทุวิธา ปฺตฺติ.
๓๐๐. อิมานิ ปน ฉพฺพิธานิ อารมฺมณานิ สพฺพานิ สพฺพตฺถ ลพฺภนฺติ, อุทาหุ กตฺถจิ กานิจีติ อาห ‘‘ฉฬารมฺมณานี’’ติอาทิ. ตีณิ รูเปติ รูปาวจรภูมิยํ รูปสทฺทธมฺมวเสน ตีณิ อารมฺมณานิ ลพฺภนฺติ. ฆานาทิตฺตยสฺส ปน ตตฺถ อภาวโต คนฺธารมฺมณาทีนิ ธมฺมารมฺมณโต วิสุํ น ลพฺภนฺติ. อรูปภเว ปน สพฺพโส รูปานํ อภาวโต เอกํ ธมฺมารมฺมณเมว ลพฺภติ, น อฺนฺติ อาห ‘‘อรูเป ธมฺมารมฺมณเมกก’’นฺติ ¶ . นนุ จ อรูปภวโต จวิตฺวา กามภเว นิพฺพตฺตนฺตานํ อรูปภเวเยว คตินิมิตฺตวเสน รูปารมฺมณํ อุปฏฺาตีติ? สจฺจํ อุปฏฺาติ, ตํ ปน กามภเวเยว อารมฺมณํ. อุปปชฺชิตพฺพภวสฺมิฺหิ วณฺโณ คตินิมิตฺตวเสน อุปฏฺาติ.
๓๐๑-๒. เอวํ ฉ อารมฺมณานิ สรูปโต, ปวตฺติปฺปเภทโต จ ทสฺเสตฺวา อิทานิ เตสุ อภยคิริวาสีนํ กิฺจิ วิปฺปฏิปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ตํ ปฏิกฺขิปิตุํ ‘‘ขณวตฺถุปริตฺตตฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ขณวตฺถุปริตฺตตฺตาติ ขณสฺส เจว วตฺถุโน จ ปริตฺตตฺตา. เย รูปาทโยติ สมฺพนฺโธ. เยสนฺติ เยสํ อาจริยานํ ลทฺธิ. เยสนฺติ วา ธมฺมารมฺมเณน สห สมฺพนฺธีภาวโต, วุตฺตํ ววตฺถาปกตฺตา จ. เต หิ ธมฺมารมฺมณํ ววตฺถาเปนฺโต อตฺตนา สห ตํ สมฺพนฺเธนฺติ, ตสฺมา ธมฺมารมฺมเณน สห สมฺพนฺธีภาวาเปกฺขาย ‘‘เยส’’นฺติ สามิวจนนฺติ. อิมินา ปน อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย รูปาทโย ปฺจ อารมฺมณา สนฺตตฺตอโยคุเฬ ปติตชลพินฺทุ วิย ปริตฺตกฺขณิกา, ทิพฺพจกฺขุนา อสกฺกุเณยฺยคฺคหณา ปรมาณุ วิย ปริตฺตวตฺถุกา, ตโต จ สกสกวิฺาณานํ อาปาถํ ¶ น คจฺฉนฺติ, เกวลํ ปน มโนวิฺาณสฺเสว โคจรา, เต ธมฺมารมฺมณํ นามาติ เยสํ ลทฺธิ, เต เยสํ วา ธมฺมารมฺมณํ นามาติ. เอเตเนว จ อตีตานาคตภาเวน อติทูรอจฺจาสนฺนภาเวน, กุฏฺฏาทิอนฺตริตาภาเวน จ อาปาถํ อนาคจฺฉนฺตานมฺปิ รูปาทีนํ สงฺคโห กโต โหตีติ. เอวํลทฺธิกา ปน เต –
‘‘อิเมสํ โข, อาวุโส, ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ นานาวิสยานํ นานาโคจรานํ น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตานํ มโน ปฏิสฺสรณํ, มโน จ เนสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๕) –
อิทํ ¶ สุตฺตํ อาหริตฺวา ปฏิกฺขิปิตพฺพาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เต ปฏิกฺขิปิตพฺพาวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ปฏิกฺขิปิตพฺพาวาติ น อนุวตฺติตพฺพา. อฺมฺ…เป… โภนฺตานนฺติ จกฺขุนฺทฺริยํ โสตินฺทฺริยสฺส โคจรํ น ปจฺจนุโภติ, ตถา ‘‘โสตินฺทฺริยํ จกฺขุนฺทฺริยสฺสา’’ติอาทินา อฺมฺสฺส อารมฺมณํ เนว ปจฺจนุโภนฺตานํ นานุภวนฺตานํ น คณฺหนฺตานํ. เตสนฺติ เตสํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ.
๓๐๓. ตฺจ โคจรํ มโน ปจฺจนุโภตีติ สมฺพนฺโธ. ตํ รูปาทิปฺจวิธํ อารมฺมณํ จ-สทฺเทน ธมฺมารมฺมณฺจ มโน ปจฺจนุโภติ, จิตฺตํ อารมฺมณํ กโรตีติ อตฺโถ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ยทิ จกฺขาทีนมาปาถคตานิ วินา อวเสสา ธมฺมารมฺมณา โหนฺติ, ตทา ตํวิสยํ จิตฺตํ ปฺจินฺทฺริยานํ วิสยํ ปจฺจนุโภนฺตํ นาม น โหติ, อตฺตโนเยว ปน วิสยํ ปจฺจนุโภนฺตํ นาม โหติ. เอวฺจ สติ มโนว เตสํ โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภตีติ ทุปฺปริหาริยํ ภเวยฺย, น จ ตํ สุตฺตวจนํ สกฺกา อติกฺกเมตุํ, ตสฺมา วุตฺตนเยน จกฺขาทีนํ อนาปาถคตาปิ มโนโคจรา รูปาทโย รูปาทิอารมฺมณาเนว โหนฺติ, น ธมฺมารมฺมณาติ. ยทิ รูปารมฺมณํ จิตฺตํ อตฺตโน วิสยํ นานุโภติ, ปรวิสยเมว อนุโภติ, กถํ ทสฺสนาทิกิจฺจํ น กโรติ? ตํตํกิจฺจานํ นิสฺสยภูตสฺส วตฺถุโน อนิสฺสิตตฺตา. กถฺจรหิ ปฺจินฺทฺริยานํ วิสยํ ปจฺจนุโภติ นาม? ทสฺสนาทิกิจฺจสฺส อกรเณปิ จกฺขุวิฺาณาทีหิ ทิฏฺาทิอาการสฺเสว คหณโต ปฺจินฺทฺริยานํ วิสยํ ปจฺจนุโภติ นาม. ยทิ หิ จกฺขุวิฺาณาทีหิ ทิฏฺาทิอาการํ น คณฺหาติ, รูปาทีนํ นีลตฺตาทิวเสน ชานนํ มโนวิฺาณเมว กโรติ, น ปฺจวิฺาณานีติ ตถา ชานนเมว น โหติ. ตสฺส ปน อตฺถิตาเยเวตํ ¶ วิฺาตพฺพํ – อนาปาถคตรูปาทารมฺมณํ จิตฺตํ อตฺตโน วิสยํ น ปจฺจนุโภติ นาม. อถ โข ¶ ปฺจินฺทฺริยานํ วิสยเมว ปจฺจนุโภตีติ. อถ สิยา, น มยํ จิตฺตสฺส ปฺจินฺทฺริยวิสยานุภวนํ ปฏิกฺขิปาม, ตสฺส ปน อนุภวนํ ทสฺสนาทิกิจฺจวิรเหน ธมฺมารมฺมณวเสเนวาติ เจ? ตมฺปิ น, สุตฺเต ตถา อาคตฏฺานสฺส อภาวโต. ยทิ หิ จิตฺตํ ทสฺสนาทิกิจฺจวิรเหน ปฺจินฺทฺริยวิสยํ ธมฺมารมฺมณวเสเนว ปจฺจนุโภติ, ปฺจินฺทฺริยานํ วิสยํ ปจฺจนุภวมานา มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุปิ ธมฺมารมฺมณาเยว สิยา, เอวฺจ สติ ‘‘ธมฺมายตนํ มโนธาตุยา จ มโนวิฺาณธาตุยา จ ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ ปฏฺาเน วตฺตพฺพํ สิยา, ตถา ปน อวตฺวา –
‘‘รูปายตนํ สทฺทายตนํ คนฺธายตนํ รสายตนํ โผฏฺพฺพายตนํ มโนธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๒),
‘‘รูปายตนํ…เป… ธมฺมายตนํ มโนวิฺาณธาตุยา ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ ธมฺมานํ อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ จ (ปฏฺา. ๑.๑.๒) –
วุตฺตตฺตา ปฺจินฺทฺริยานํ วิสยํ ปจฺจนุโภนฺตี มโนธาตุมโนวิฺาณธาตุ ตํปฺจินฺทฺริยานํ วิสยวเสน ปจฺจนุโภติ, น ธมฺมายตนวเสนาติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
๓๐๔-๕. เอวํ เอเกนากาเรน ปฏิกฺเขปวิธึ ทสฺเสตฺวา ปุน อปเรนปิ การเณน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ทิพฺพจกฺขาที’’ติอาทิ. อาทิ-คฺคหเณน ทิพฺพโสตาณคฺคหณํ. อิติปิ น ยุชฺชตีติ น เกวลํ ปุพฺเพ วุตฺเตเนว การเณน, อถ โข อิมินาปิ การเณน น ยุชฺชตีติ วุตฺตํ โหติ. ยทิปิ จกฺขาทีนํ อนาปาถคตรูปาทีนิ ธมฺมารมฺมณา นาม โหนฺติ, ตทา ¶ ทิพฺพจกฺขาทีนิ รูปาทิอารมฺมณานิ น สิยุํ เตสํ ปสาทวิสยานํ รูปสทฺทานํ ปริคฺคณฺหนโต, เอวฺจ สติ สุตฺเตสุ ทิพฺพจกฺขุทิพฺพโสตานํ ธมฺมารมฺมณตาว วตฺตพฺพา, น รูปาทิอารมฺมณตา, วุตฺตา จ สา, ตสฺมา จกฺขาทีนํ อวิสยา รูปาทโย รูปาทารมฺมณาเนว, น ธมฺมารมฺมณาติ. เตเนว จ ธมฺมสงฺคเหปิ –
‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ โสมนสฺสสหคตํ าณสมฺปยุตฺตํ ¶ รูปารมฺมณํ วา สทฺทารมฺมณํ วา คนฺธารมฺมณํ วา รสารมฺมณํ วา โผฏฺพฺพารมฺมณํ วา ธมฺมารมฺมณํ วา, ยํ ยํ วา ปนารพฺภ, ตสฺมึ สมเย ผสฺโส โหติ…เป… อวิกฺเขโป โหตี’’ติ (ธ. ส. ๑) –
วุตฺตํ. กิฺจ อนาปาถคตานํ ธมฺมารมฺมณตฺเต สพฺพฺุตฺาณํ รูปาทิอารมฺมณํ น โหตีติ อาปชฺชตีติ. เอวํ สตีติ ยทิ กทาจิ รูปาทิอารมฺมณํ หุตฺวา กทาจิ ธมฺมารมฺมณํ โหติ, กทาจิ ธมฺมารมฺมณํ หุตฺวา กทาจิ รูปาทิอารมฺมณํ โหติ, ตทา เตสํ รูปาทิอารมฺมณานํ นิยโมปิ กถํ ภเว ‘‘อิทํ รูปาทิอารมฺมณํ, อิทํ ธมฺมารมฺมณ’’นฺติ นิยโม น ภเวยฺย, อารมฺมณสงฺกโร ภเวยฺยาติ อตฺโถ.
๓๐๖. เอวํ ฉพฺพิธํ อารมฺมณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิสฺส อนนฺตรเภทํ ปริตฺตารมฺมณาทิตฺติกวเสน ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สพฺพํ อารมฺมณ’’นฺติอาทิ. ฉพฺพิธํ ปริตฺตตฺติกาทิกํ ตํ เอตํ สพฺพํ อารมฺมณนฺติ สมฺพนฺโธ. ปริตฺตตฺติกาทีนนฺติ ปริตฺตารมฺมณตฺติกาทีนํ. ปริตฺตารมฺมณตฺติโก หิ อิธ ‘‘ปริตฺตตฺติโก’’ติ วุตฺโต มชฺฌปทโลปวเสน. อาทิ-คฺคหเณน มคฺคารมฺมณตฺติโก ¶ อตีตารมฺมณตฺติโก อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติโกติ อิเมสํ ติณฺณํ ติกานํ สงฺคโห. ตตฺถ ‘‘ปริตฺตารมฺมณา ธมฺมา, มหคฺคตารมฺมณา ธมฺมา, อปฺปมาณารมฺมณา ธมฺมา’’ติ เอวมาคโต ปริตฺตารมฺมณตฺติโก. อาทิปทวเสน ‘‘มคฺคารมฺมณา ธมฺมา, มคฺคเหตุกา ธมฺมา, มคฺคาธิปติโน ธมฺมา’’ติ เอวมาคโต มคฺคารมฺมณตฺติโก. ‘‘อตีตารมฺมณา ธมฺมา, อนาคตารมฺมณา ธมฺมา, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา ธมฺมา’’ติ เอวมาคโต อตีตารมฺมณตฺติโก. ‘‘อชฺฌตฺตารมฺมณา ธมฺมา, พหิทฺธารมฺมณา ธมฺมา, อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา ธมฺมา’’ติ เอวมาคโต อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติโกติ เวทิตพฺพํ.
๓๐๗-๙. กฺริยาเหตุทฺวยนฺติ อเหตุกกิริยทฺวยํ หสิตุปฺปาทมโนธาตุ อิตรสฺส มหคฺคตาทิอารมฺมณตาวเสนาปิ วกฺขมานตฺตา. ‘‘อิฏฺาทิเภทา’’ติอาทิ ปริตฺตารมฺมณภาววิภาวนํ. อิฏฺาทิเภทาติ อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตอนิฏฺอนิฏฺมชฺฌตฺตเภทา. ปฏิปาฏิยาติ ‘‘รูปํ จกฺขุวิฺาณสฺส, สทฺโท โสตวิฺาณสฺสา’’ติอาทินา อนุกฺกมโต. รูปาทิ…เป… ตฺตยสฺส ตูติ กิริยามโนธาตุยา เจว กุสลากุสลวิปากวิภาควเสน ทฺวินฺนํ มโนธาตูนฺจ สพฺพํ รูปาทิปฺจกโคจรํ ¶ . ตา หิ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย จกฺขุวิฺาณาทีนํ ปุริมปจฺฉิมา หุตฺวา นิยตา รูปาทีเนว อารพฺภ ปวตฺตนฺติ.
๓๑๑. กามธาตุยนฺติ กามภเว. ตตฺถ หิ เนสํ สพฺเพสํ วตฺถารมฺมณานิ อุปลพฺภนฺติ. จตฺตารีติ เตสฺเวว กิริยามโนธาตุ, กุสลวิปากจกฺขุโสตวิฺาณานิ, ตถา สมฺปฏิจฺฉนนฺติ อิมานิ จตฺตาริ จิตฺตานิ. เสสานิ ปน วตฺถารมฺมณาภาเวน ตตฺถ นุปฺปชฺชนฺติ. เนว กิฺจีติ วตฺถารมฺมณานํ สพฺพโส อภาวโต เอเตสุ กิฺจิ น ชายติ.
๓๑๒-๓. ‘‘มหาปากาน’’นฺติอาทิ ¶ ปมปริจฺเฉเท วุตฺตตฺถเมว. ปฏุปฺปนฺนาติ ปจฺจุปฺปนฺนา.
๓๑๔. เอวํ ปริตฺตารมฺมเณ ทสฺเสตฺวา อิทานิ มหคฺคตารมฺมเณ อปฺปมาณารมฺมเณ จ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุติยารุปฺปจิตฺตฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุติยารุปฺปจิตฺตํ ปมารุปฺปารมฺมณโต, จตุตฺถารุปฺปํ ตติยารุปฺปารมฺมณโต มหคฺคตารมฺมณํ. ฉพฺพิธนฺติ กุสลวิปากกิริยาวเสน ปจฺเจกํ ติวิธตาย ฉปฺปการํ.
๓๑๖-๒๐. าณํ ปริหีนํ เอเตสํ, าณโต ปริหีนาติ วา าณหีนา. ปริตฺตารมฺมณา…เป… โหนฺติ เตติ อฏฺ าณวิปฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสขปุถุชฺชนขีณาสวานํ กทาจิ นิรุสฺสุกฺกภาเวน อาทรากรณวเสน อกมฺมฺสรีรตาอฺวิหิตตาหิ วา อสกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสฺสวนาทีสุ อติปคุณวิปสฺสนาย จ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติกาเล ปริตฺตารมฺมณา. อติปคุณานํ ปมชฺฌานาทีนํ ปจฺจเวกฺขณกาเล มหคฺคตารมฺมณา. กสิณนิมิตฺตาทิปฺตฺติปจฺจเวกฺขณกาเล ปริตฺตารมฺมณาทิวเสน นวตฺตพฺพา. อกุสเลสุ จตฺตาโร ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา จตุปฺาสกามาวจรธมฺมานํ, รูปสฺส จ ‘‘อตฺตา สตฺโต’’ติ ปรามสนอสฺสาทนาภินนฺทนกาเล ปริตฺตารมฺมณา. เตเนวากาเรน สตฺตวีสติมหคฺคตธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตกาเล มหคฺคตารมฺมณา. ปณฺณตฺติธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตนกาเล สิยา นวตฺตพฺพา ปริตฺตารมฺมณาทิวเสน. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตานิ เตเยว ธมฺเม อารพฺภ วินา ปรามาเสน อสฺสาทนาภินนฺทนวเสน ปวตฺติยํ, ปฏิฆสมฺปยุตฺตานิ โทมนสฺสวเสน ปวตฺติยํ, วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺตํ ทฺเวฬฺหกภาเวน, อุทฺธจฺจสหคตํ วิกฺขิปนวเสน, อวูปสมวเสน จ ปวตฺติยํ ปริตฺตมหคฺคตนวตฺตพฺพารมฺมณาติ เวทิตพฺพา. กฺริยโตปิ จ ตถาติ กิริยจิตฺตโตปิ าณสมฺปยุตฺตา ¶ จตฺตาโรติ อตฺโถ. กฺริยาโวฏฺพฺพนนฺติ ¶ สรูปกถนเมตํ, น ปน กุสลากุสลวิปากโวฏฺพฺพนสฺส วิชฺชมานตฺตา.
ติวิโธ โหติ โคจโรติ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณวเสน ติวิโธปิ โคจโร โหติ. กถํ? กุสลกิริยาวเสน อฏฺ าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสขปุถุชฺชนขีณาสวานํ สกฺกจฺจทานปจฺจเวกฺขณธมฺมสฺสวนวิปสฺสนาทีสุ กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺตกาเล กามาวจรารมฺมณิกอภิฺาย ปริกมฺมานุโลมกาเล จ ปริตฺตารมฺมณา. ปมชฺฌานาทิปจฺจเวกฺขณกาเล มหคฺคตารมฺมณฌานาทีนํ ปริกมฺมกาเล มหคฺคตธมฺเม อารพฺภ สมฺมสนกาเล จ มหคฺคตารมฺมณา โหนฺติ. ยถาลาภํ โคตฺรภุโวทานกาเล ปน โลกุตฺตรํ ธมฺมํ ปจฺจเวกฺขณกาเล จ นิพฺพานารมฺมณาภิฺาย ปริกมฺมกาเล จ อปฺปมาณารมฺมณา. ปณฺณตฺติปจฺจเวกฺขณกาเล ปณฺณตฺตารมฺมณิกฌานาภิฺานํ ปริกมฺมกาเล จ นวตฺตพฺพา. อภิฺาทฺวยสฺส ปริตฺตาทิอารมฺมณตํ สตฺตรสมปริจฺเฉเท วกฺขติ. กิริยาโวฏฺพฺพนมฺปิ ยถาวุตฺตธมฺมานํ ตํตํอารมฺมเณ ปวตฺตมานานํ ปุเรจรํ หุตฺวา ตํ ตเทว อาวชฺชนฺตํ ปวตฺตตีติ ปริตฺตาทิอารมฺมณํ. ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนวเสน ปวตฺติยํ ปริตฺตารมฺมณเมว.
วุตฺตาวเสสานีติ ยถาวุตฺเตหิ อวสิฏฺานิ ปนฺนรส รูปาวจรานิ ปมตติยานิ, ฉ อรูปาวจรกุสลวิปากกิริยจิตฺตานีติ เอกวีสติ จิตฺตานิ. นวตฺตพฺพารมฺมณานีติ ปริตฺตาทิวเสน นวตฺตพฺพสฺส กสิณาทินิมิตฺตสตฺตปฺตฺติอากาสวิฺาณาภาวสฺส อารมฺมณกรณโต นวตฺตพฺพารมฺมณานิ.
ปริตฺตารมฺมณตฺติกํ สมตฺตํ.
๓๒๑-๒. เอวํ ¶ ปริตฺตารมฺมณตฺติกวเสน วิสยีวิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา อปฺปมาณารมฺมณนิทฺเทเสเนว มคฺคารมฺมณตฺติกสงฺคหิโตปิ วิสยีวิภาโค นิทฺทิฏฺโ โหติ, ตสฺมา ตํ ปหาย อตีตารมฺมณตฺติกวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ทุติยารุปฺปจิตฺตฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ทุติยารุปฺปจิตฺตํ อตีตสฺส ปมารุปฺปวิฺาณสฺส อารมฺมณกรณโต, จตุตฺถารุปฺปํ ตติยารุปฺปสฺส อารมฺมณกรณโต เอกนฺตอตีตารมฺมณํ. ปจฺจุปฺปนฺนาว โคจราติ รูปาทิมฺหิ ธรมาเนเยว ¶ ปฺจทฺวาริกจิตฺตานํ อุปฺปชฺชนโต. อนาคตารมฺมณํ ปน นิยตํ กิฺจิ นตฺถิ อนาคตํสาณสฺสปิ ปฺจมชฺฌานโต อภินฺนตฺตา.
๓๒๔-๖. สิยา…เป… นาคตโคจราติ อฏฺ ตาว มหาวิปากา เทวมนุสฺสานํ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล กมฺมํ วา กมฺมนิมิตฺตํ วา อารพฺภ ปวตฺติยํ อตีตารมฺมณา. ภวงฺคจุติกาเลปิ เอเสว นโย. คตินิมิตฺตํ ปน กทาจิ กมฺมนิมิตฺตฺจ อารพฺภ ปฏิสนฺธิคฺคหณกาเล, ตทนนฺตรํ ภวงฺคกาเล จ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา, ตถา ปฺจทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน ปวตฺติยํ. มโนทฺวาเร ปน อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานํ ชวนานํ อารมฺมณํ คเหตฺวา ปวตฺติยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา. กุสลากุสลวิปากาเหตุกอุเปกฺขาสหคตมโนวิฺาณธาตุทฺวเยปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ ตา ยถากฺกมํ มนุสฺเสสุ ชจฺจนฺธาทีนํ, อปาเยสุ จ สพฺเพสํ ปฏิสนฺธิ โหนฺติ. ปฺจทฺวาเร จ สนฺตีรณกาเล ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาว โหนฺตีติ อยเมเตสํ วิเสโส. โสมนสฺสสหคตา ปน ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณวเสน, ตทารมฺมณวเสน จ ปวตฺติกาเล ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา, มโนทฺวาเร จ ตทารมฺมณกาเล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาติ เวทิตพฺพา. หสิตุปฺปาทจิตฺตํ ปน ¶ ขีณาสวานํ ปฺจทฺวาเร หฏฺปหฏฺาการํ กุรุมานานํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ, มโนทฺวาเร อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ หสิตุปฺปาทวเสน ปวตฺติยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ. ‘‘กุสลากุสลา’’ติอาทีสุ กุสเลสุ ตาว จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา เสขปุถุชฺชนานํ, อตีตาทิเภทานิ ขนฺธธาตุอายตนานิ สมฺมสนกาเล, ปจฺจเวกฺขณกาเล, อตีตาทิอารมฺมณิกอภิฺานํ ปริกมฺมกาเล จ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา. ปฺตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขณกาเล, โคตฺรภุโวทานกาเล, ปฺตฺตินิพฺพานารมฺมณิกอภิฺานํ ปริกมฺมาทิกาเล จ นวตฺตพฺพารมฺมณา. ปฺตฺตินิพฺพานานิ หิ อิธ อตีตาทิกาลวเสน นวตฺตพฺพานีติ ตทารมฺมณานิ อตีตารมฺมณาทิวเสน นวตฺตพฺพานิ. เตนาห ‘‘สนฺตปฺตฺติกาเลปี’’ติ, ยถาสมฺภวํ สนฺตสฺส นิพฺพานสฺส, ปฺตฺติยา จ อารมฺมณกรณกาเลติ อตฺโถ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘สนฺเต ปฺตฺติกาเลสู’’ติ ลิขนฺติ, โส อปาโ. ตสฺส ปน อปาภาวํ อชานนฺตา อตฺถหานิมฺปิ อสลฺลกฺเขตฺวา วจนวิปลฺลาสวเสน ปฺตฺติกาลสฺมึ สตีติ อตฺถํ ลิขนฺติ. าณวิปฺปยุตฺตานิปิ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. เกวลฺหิ เตสํ มคฺคผลนิพฺพานปจฺจเวกฺขณานิ นตฺถิ. าณวิรเหน โลกุตฺตรธมฺมารมฺมเณ อสมตฺถภาวโตติ อยเมว วิเสโส.
อกุสเลสุ ¶ จตฺตาโร ทิฏฺิสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตีตาทิเภทานํ เตภูมกธมฺมานํ อสฺสาทนาภินนฺทนปรามสนกาเล อตีตาทิอารมฺมณา. ตเถว ปฺตฺตึ อารพฺภ ปวตฺติกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณา. ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ ตตฺถ ปรามาสคฺคหณํ นตฺถิ. ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตีตาทิเภเท ธมฺเม อารพฺภ ทุสฺสนกาเล อตีตาทิอารมฺมณา, ปณฺณตฺตึ อารพฺภ ทุสฺสนกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณา. วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสมฺปยุตฺตา เตสุ ¶ ธมฺเมสุ อนิฏฺงฺคตภาเวน จ อวูปสมวิกฺเขปวเสน จ ปวตฺติยํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพารมฺมณา. กิริยาสุ อฏฺ สเหตุกจิตฺตุปฺปาทา กุสลจิตฺตุปฺปาทคติกา เอว. ตตฺถ หิ าณสมฺปยุตฺตา กุสเลสุ าณสมฺปยุตฺเตหิ, าณวิปฺปยุตฺตา าณวิปฺปยุตฺเตหิ สมานา. เกวลํ ปน เต เสขปุถุชฺชนานํ อุปฺปชฺชนฺติ, อิเม ขีณาสวานนฺติ อยเมเวตฺถ วิเสโส. กิริยาเหตุกมโนวิฺาณธาตุ ปน อุเปกฺขาสหคตา ปฺจทฺวาเร โวฏฺพฺพนวเสน ปวตฺติยํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณา, มโนทฺวาเร อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณานฺเจว ปฺตฺตินิพฺพานารมฺมณานฺจ ชวนานํ ปุเรจาริกกาเล อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนนวตฺตพฺพารมฺมณา. อภิฺาทฺวยสฺส อตีตาทิอารมฺมณตํ วกฺขติ. นวตฺตพฺพา…เป… อาทินาติ กสิณนิมิตฺตาทิปฺตฺตารมฺมณตฺตา อตีตารมฺมณาทินา นวตฺตพฺพา.
๓๒๗. กฺริยา ปฺจาติ าณสมฺปยุตฺตา จตสฺโส, อเหตุกมโนวิฺาณธาตุ อุเปกฺขาสหคตาติ อิมา ปฺจ กิริยา. รูปโต ปฺจมี กฺริยาติ รูปาวจรปฺจมชฺฌานสงฺขาตา กิริยาภิฺา จ. นตฺถิ กิฺจิ อโคจรนฺติ อตีตาทิเภเทสุ, กาลวิมุตฺเตสุ จ อโคจรํ นาม กิฺจิ นตฺถิ, สพฺพเมว เนสํ โคจรํ โหตีติ อตฺโถ.
อตีตารมฺมณตฺติกํ.
วุตฺตนยานุสาเรเนว อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติกสงฺคหิโตปิ วิสยีวิภาโค สกฺกา วิฺาตุนฺติ โส วิสุํ น อุทฺธโฏ. สรูปโต ปเนส เอวํ เวทิตพฺโพ – วิฺาณฺจายตนํ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเม ตาว กุสลวิปากกิริยาวเสน ฉ จิตฺตุปฺปาทา อตฺตโน สนฺตานสมฺพนฺธํ เหฏฺิมํ สมาปตฺตึ อารพฺภ ปวตฺตนโต อชฺฌตฺตารมฺมณา. รูปาวจรจตุกฺกชฺฌานานิ, ปมตติยารูปฺปานิ, โลกุตฺตรกุสลวิปากานิ จ นิยกชฺฌตฺตโต ¶ พหิภาเวน พหิทฺธาภูตานิ ปถวีกสิณาทีนิ อารพฺภ ปวตฺติโต พหิทฺธารมฺมณานิ. สพฺเพว กามาวจรกุสลากุสลาพฺยากตา ¶ ธมฺมา รูปาวจรปฺจมชฺฌานฺจ อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณานิ. ตตฺถ กามาวจรกุสลโต จตฺตาโร าณสมฺปยุตฺตจิตฺตุปฺปาทา อตฺตโน ขนฺธาทีนิ ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปเรสํ ขนฺธาทิปจฺจเวกฺขเณ, ปณฺณตฺตินิพฺพานปจฺจเวกฺขเณ จ พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. าณวิปฺปยุตฺเตสุปิ เอเสว นโย. เกวลฺหิ เตสํ นิพฺพานปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ. อกุสลาปิ อตฺตโน ขนฺธาทีนํ อสฺสาทนาภินนฺทนปรามาสาทิกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปรสฺส ขนฺธาทีสุ เจว อนินฺทฺริยพทฺธรูปกสิณาทีสุ จ ตเถว ปวตฺติกาเล พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. ทฺเวปฺจวิฺาณานิ, ติสฺโส จ มโนธาตุโยติ อิเม เตรส จิตฺตุปฺปาทา อตฺตโน รูปาทีนิ อารพฺภ ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปรสฺส รูปาทีสุ ปวตฺตา พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา, โสมนสฺสสหคตํ สนฺตีรณํ ปฺจทฺวาเร สนฺตีรณตทารมฺมณวเสน อตฺตโน ปฺจรูปาทิธมฺเม มโนทฺวาเร ตทารมฺมณวเสน อฺเปิ อชฺฌตฺติเก กามาวจรธมฺเม อารพฺภ ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตารมฺมณา, ปเรสํ ธมฺเมสุ ปวตฺตมานา พหิทฺธารมฺมณา, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณา. อุเปกฺขาสหคตสนฺตีรณทฺวเยปิ เอเสว นโย.
เกวลํ ปน ตํ สุคติทุคฺคตีสุ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติวเสนาปิ อชฺฌตฺตาทิเภเทสุ กมฺมาทีสุ ปวตฺตติ. อฏฺ มหาวิปากานิ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติตทารมฺมณวเสน อชฺฌตฺตาทิเภเทสุ ธมฺเมสุ ปวตฺตนโต อชฺฌตฺตาทิอาลมฺพณานิ. หสิตุปฺปาทมฺปิ อตฺตโน รูปาทีนิ อารพฺภ ปหฏฺาการกรณวเสน ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปรสฺส รูปาทีสุ ปวตฺตํ ¶ พหิทฺธารมฺมณํ. มโนทฺวาเรปิ อตฺตโน กตกิริยปจฺจเวกฺขเณน หสิตุปฺปาทเน อชฺฌตฺตารมฺมณํ, ปเรสํ กตกิริยปจฺจเวกฺขเณน พหิทฺธารมฺมณํ, ตทุภยวเสน อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณํ. มโนทฺวาราวชฺชนํ ปน มโนทฺวาเร อาวชฺชนวเสน, ปฺจทฺวาเร จ โวฏฺพฺพนวเสน ปวตฺติยํ อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณํ. อฏฺ มหากิริยา กุสลคติกาเยว. เกวลฺหิ ตา ขีณาสวานํ อุปฺปชฺชนฺติ, กุสลานิ เสขปุถุชฺชนานนฺติ เอตฺตกเมว นานตฺตํ. รูปาวจรปฺจมชฺฌานสฺส อชฺฌตฺตาทิอารมฺมณตํ วกฺขติ.
๓๒๙. ‘‘ผลํ, มคฺค’’นฺติ จ สามฺเน ปุจฺฉิตตฺตา อาห ‘‘จตฺตาโร…เป… ปฺุโต’’ติ.
๓๓๒-๔. อรหตฺตมคฺคผลานิ ปน เต ชานิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตถา กุสลาภิฺา จ ¶ . เตนาห ‘‘สพฺเพสุ ปนา’’ติอาทิ. โวฏฺพฺพนสฺส อาวชฺชนกิจฺจสมยํ สนฺธาย คาถาพนฺธสุขตฺถํ ‘‘โวฏฺพฺพนมฺปิ จา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘จตฺตาโร…เป… ปฺุโต’’ติ อิทํ าณสมฺปยุตฺตสฺสาปิ เสขปุถุชฺชนสนฺตานปฺปวตฺตสฺส อคฺคมคฺคผลชานเน อสมตฺถตาย นิทสฺสนมตฺตํ. กุสลาภิฺาจิตฺตมฺปิ ปน ตํ โคจรํ กาตุมสมตฺถเมว. เอวฺจ กตฺวา เหฏฺา ‘‘กฺริยาภิฺา มโนธาตู’’ติ วุตฺตํ.
๓๓๕-๘. กสฺมาติ การณปุจฺฉา. ‘‘อรหโต’’ติอาทิ วิสฺสชฺชนํ. หิ-สทฺโท ‘‘ยสฺมา’’ติ อิมสฺส อตฺเถ. ยสฺมา ปุถุชฺชนา วา เสขา วา อรหโต มคฺคจิตฺตํ, ผลมานสฺจ ชานิตุํ น สกฺโกนฺติ, ตสฺมาติ อตฺโถ. อยฺจ เนสํ อสมตฺถตา อนธิคตตฺตา อนธิคเต จ วิสเย สพฺเพสมฺปิ โมโห อตฺเถวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุถุชฺชโน น ชานาตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสตาปนฺนสฺส มานสนฺติ โสตาปนฺนสฺส ปาฏิปุคฺคลิกํ มคฺคผลสงฺขาตโลกุตฺตรมานสํ. เอวํ ‘‘สกทาคามิสฺส มานส’’นฺติอาทีสุปิ. โลกิยมานสํ ¶ ปน อรหนฺตสฺสาปิ ชานาติ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อถ โข มาโร ปาปิมา ภควโต เจตสา เจโตปริวิตกฺกมฺายา’’ติ. วุตฺตเมวตฺถํ สงฺขิปิตฺวา ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เหฏฺิโม เหฏฺิโม’’ติอาทิ. ยเถว เหฏฺิโม เหฏฺิโม ปุคฺคโล อุปรูปริ จิตฺตํ น ชานาติ, เอวํ อุปริโม อุปริโมปิ เหฏฺิมสฺส เหฏฺิมสฺส จิตฺตํ น ชานาตีติ เจ? โน น ชานาติ, โส ปน อตฺตนา อธิคตวิสยตฺตา ชานาติเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุปรูปรี’’ติอาทิ. ยถา ‘‘อุปรูปรี’’ติ วุตฺตํ, เอวํ ‘‘เหฏฺิมสฺส เหฏฺิมสฺสา’’ติ วตฺตพฺเพ เอกํ เหฏฺิม-สทฺทํ จ-สทฺเทน สงฺคเหตฺวา ‘‘เหฏฺิมสฺส จ มานส’’นฺติ วุตฺตํ.
๓๓๙-๔๑. เอวมฺปิ วิสยีปธานวเสน วิภาคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิสยปฺปธานวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘โย ธมฺโม’’ติอาทิ วุตฺตํ. กุสลเมว อารมฺมณนฺติ กุสลารมฺมณํ. กาเมติ ปทํ อุภยตฺถ สมฺพนฺธิตพฺพํ ‘‘กาเม กุสลารมฺมณํ กาเม กุสลากุสลสฺสา’’ติ. กิฺจาปิ หิ อกุสลสฺส เอกนฺตกามาวจรตฺตา น เอตสฺส วิเสสิตพฺพตา อตฺถิ, กุสลํ ปน วิเสสิตพฺพเมวาติ ตํ อเปกฺขาย ‘‘กาเม’’ติ อุปริปเทน สมฺพนฺธิตพฺพเมว. อถ วา อกุสลสหจริยโต กุสลมฺปิ กามาวจรเมว คยฺหตีติ ‘‘กาเม’’ติ อิทํ ปุริมปทสฺเสว วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ.
กามาวจรปากสฺสาติ ¶ ปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนานํ เอกนฺเตน รูปกฺขนฺธารมฺมณตฺตา ตทวเสสสฺส เอกาทสวิธสฺส กามาวจรวิปากสฺส. กามกฺริยสฺสาติ วุตฺตนเยเนว มโนธาตุวชฺชิตสฺส ทสวิธกามาวจรกิริยจิตฺตสฺส. เอเตสํ…เป… อารมฺมณํ สิยาติ เอตฺถ กุสลสฺส ตาว อตฺตนา กตสฺส ทานาทิกามาวจรกุสลสฺส ปสนฺนจิตฺเตน อนุสฺสรณกาเล, ตเถว ปเรหิ กตสฺส อนุโมทนกาเล, ตสฺเสว ทุวิธสฺสาปิ อนิจฺจตาทิวเสน ปจฺจเวกฺขณกาเล ¶ , เจโตปริยาณาทีนํ ปริตฺตกุสลารมฺมณิกอภิฺานํ ปริกมฺมาทิกาเล จ อารมฺมณํ โหติ. อกุสเลสุ จ จตุนฺนํ ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตานํ กามาวจรกุสลํ อารพฺภ อสฺสาทนาภินนฺทนปรามสนกาเล, ทิฏฺิวิปฺปยุตฺตานํ เกวลํ อสฺสาทนาทิกาเล จ ทฺวินฺนํ ปฏิฆสมฺปยุตฺตานํ อตฺตนา, ปเรหิ จ กตกุสลมารพฺภ วิปฺปฏิสารทุสฺสนกาเล, วิจิกิจฺฉาจิตฺตสฺส อสนฺนิฏฺานกาเล, อุทฺธจฺจสหคตสฺส อวูปสมวิกฺเขปกาเล จ อารมฺมณํ โหติ. อภิฺาจิตฺตทฺวเย กุสลสฺส เสขปุถุชฺชนานํ อตฺตนา, ปเรหิ วา กตกุสลสฺส อนุสฺสรณกาเล, ปรจิตฺตวิชานนกาเล, ‘‘อิมินา ปฺุกมฺเมน มนุสฺเสสุ, กามาวจรเทเวสุ จ นิพฺพตฺตตี’’ติ ชานนกาเล, ‘‘อนาคเต ทานาทีนิ ปฺุานิ กโรมิ, กริสฺสตี’’ติ ชานนกาเล จ กิริยจิตฺตสฺสาปิ ขีณาสวานํ อตฺตนา, ปเรหิ วา กตกมฺมานุสฺสรณกาลาทีสุ อารมฺมณํ โหติ. กามาวจรวิปาเกสุ นวนฺนํ สุคติปฏิสนฺธีนํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตารมฺมณิกปฏิสนฺธิกาเล, สพฺเพสมฺปิ ตทารมฺมณานํ กามาวจรกุสลารมฺมณิกชวนานนฺตรํ ตทารมฺมณกาเล จ อารมฺมณํ โหตีติ. ทสวิธกามาวจรกิริยาสุ จ อฏฺนฺนํ มหากิริยจิตฺตานํ ขีณาสวานํ กามาวจรกุสลปจฺจเวกฺขณสมฺมสนกาเล, ปริตฺตารมฺมณิกกิริยาภิฺานํ ปริกมฺมาทิกาเล, หสิตุปฺปาทสฺส ทานาทึ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ตุสฺสนกาเล, มโนทฺวาราวชฺชนสฺส ปน กามาวจรกุสลารมฺมณิกชวนานํ ปุเรจาริกกาเล จ อารมฺมณํ โหตีติ เอวํ กามาวจรกุสลํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ โหติ.
๓๔๒. ตโตติ ยถาวุตฺตราสิโต. เตนาห ‘‘ปฺจนฺนํ ปน ราสีน’’นฺติ. เอตฺถ จ กิริยจิตฺเตสุ หสิตุปฺปาโท น สมฺภวติ เอกนฺตปริตฺตารมฺมณตฺตา. ตตฺถ กามาวจรกุสลสฺส ตาว ¶ เสขปุถุชฺชนานํ ฌานปจฺจเวกฺขณสมฺมสนกาเล, รูปาวจรกุสลารมฺมณิกอภิฺานํ ปริกมฺมาทิกาเล, อกุสลสฺส วุตฺตนเยน ปรามสนาทิกาเล, อภิฺาสุ กุสลาภิฺาย เสขปุถุชฺชนานํ อตฺตนา, ปเรหิ วา อตีตภเว อุปฺปาทิตฌานานุสฺสรณกาเล, ปเรสํ รูปาวจรจิตฺตปริจฺฉินฺทนกาเล, ‘‘อิมินา กมฺเมน อิมสฺมึ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ชานนกาเล จ ‘‘อนาคเต ¶ ฌานํ ภาเวสฺสตี’’ติ วา ชานนกาเล, กิริยาภิฺาย จ ขีณาสวานํ ยถาวุตฺตวเสน ปวตฺติกาเล จ นววิธสฺส ปน กิริยจิตฺตสฺส ขีณาสวานํ เหฏฺา วุตฺตนเยน รูปาวจรกุสลปจฺจเวกฺขณกาเลติ เอวํ รูปาวจรกุสลํ ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ โหติ.
๓๔๓-๗. อารุปฺปกุสลฺจาปิ อารมฺมณปจฺจโย โหตีติ สมฺพนฺโธ. เตภูมกกุสลสฺสาติ สพฺพสฺส กามาวจรกุสลสฺส, รูปาวจรกุสเลสุ กุสลาภิฺาย, อรูปาวจรกุสเลสุ ทุติยจตุตฺถกุสลสฺส จาติ อิมสฺส เตภูมกกุสลสฺส. เอส นโย ‘‘เตภูมกกฺริยสฺสา’’ติ เอตฺถาปิ. ‘‘จตุตฺถทูน’’นฺติ วา ‘‘จตุตฺถทุติยาน’’นฺติ วา วตฺตพฺเพ คาถาพนฺธวเสน วิภตฺติยา, สวิภตฺติสฺส วา ติย-สทฺทสฺส โลปํ กตฺวา ‘‘จตุตฺถทู’’ติ วุตฺตํ. อิเมสํ…เป… ปจฺจโยติ กามาวจรกุสลสฺส, ตาว อภิฺากุสลสฺส จ รูปาวจรารมฺมเณสุ วุตฺตนเยน ทุติยจตุตฺถารุปฺปสฺส ปมตติยวเสนาติ เอวํ เตภูมกกุสลสฺส ตถา เสขปุถุชฺชนกาเล อตฺตโน สนฺตานคตสฺส, ปรสนฺตานคตสฺส วา อารุปฺปกุสลสฺส ปชานนกาเล กามาวจรรูปาวจรกิริยจิตฺตสฺส เสขปุถุชฺชนกาเลเยว อตฺตนา นิพฺพตฺติตํ ปมตติยารุปฺปํ อารพฺภ ขีณาสวกาเล ทุติยจตุตฺถารุปฺปนิพฺพตฺตเน อรูปกิริยจิตฺตสฺสาติ เอวํ เตภูมกกิริยสฺส เหฏฺา ¶ วุตฺตนเยเนว อกุสลสฺส, จตุตฺถทุติยานฺจ อรูปาวจรวิปากานนฺติ เอวเมเตสํ อฏฺนฺนํ ราสีนํ อรูปกุสลมารมฺมณํ โหติ.
ปริจฺฉิชฺช คาหิกาย ตณฺหาย อาปนฺนนฺติ ปริยาปนฺนํ, เตภูมกธมฺมชาตํ, น ปริยาปนฺนนฺติ อปริยาปนฺนํ, ตเทว ปฺฺุจาติ อปริยาปนฺนปฺุํ. กามาวจรโตปิ กุสลสฺส กิริยสฺสาติ สมฺพนฺโธ. รูปโตติ รูปาวจรโต. จตุนฺนํ…เป… สทาติ เสขานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณิกกุสลาภิฺาย ปริกมฺมาทิกาเล าณสมฺปยุตฺตกุสลสฺส, ขีณาสวานํ มคฺคปจฺจเวกฺขณกาเล มคฺคารมฺมณิกกิริยาภิฺาย จ ปริกมฺมกาเล าณสมฺปยุตฺตกิริยจิตฺตสฺส, เตสํ เตสํ ชวนานํ ปุเรจรวเสน ปวตฺติกาเล มโนทฺวาราวชฺชนสฺส, เสขานํ อตฺตโน, ปเรสํ วา มคฺคชานนกาเล อภิฺาทฺวยสฺสาติ เอวเมเตสํ จตุนฺนํ ราสีนํ อปริยาปนฺนกุสลมารมฺมณํ โหติ.
ตเถวากุสลํ…เป… อีริตนฺติ เสขานํ ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณกาเล, เสขปุถุชฺชนานํ อตฺตโน, ปเรสํ วา สนฺตานปฺปวตฺตากุสลสมฺมสนกาเล, อกุสลารมฺมณิกกุสลาภิฺาย ¶ ปริกมฺมาทิกาเล กามาวจรกุสลสฺส, อตฺตโน, ปเรสํ วา ปวตฺตอกุสลานุสฺสรณาทีสุ รูปาวจรกุสลสฺส, ขีณาสวานํ ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขณอฺสนฺตานคตอกุสลสมฺมสนาทิกาเล, ปหีนกิเลสปจฺจเวกฺขเณน ตุสฺสนกาเล, สพฺเพสมฺปิ ตํตํชวนานํ ปุเรจรกาเล จ กามาวจรกิริยจิตฺตสฺส, กุสลาภิฺาย วุตฺตนเยน รูปาวจรกิริยจิตฺตสฺส, ปรามาสอสฺสาทนาภินนฺทนาทิวเสน ปวตฺติยํ อกุสลสฺส, อุทฺธจฺจรหิตกมฺมารมฺมณวเสน อกุสลวิปากสนฺตีรณสฺส, กามาวจรชวนานํ อนุสฺสรณกาเล สพฺพมฺปิ ¶ เอกาทสตทารมฺมณวิปากสฺสาติ เอวํ กามาวจรวิปากานนฺติ เอวเมเตสํ ฉนฺนํ ราสีนํ อกุสลมารมฺมณํ โหติ.
๓๔๘-๕๖. วิปาการมฺมณํ…เป… ปจฺจโยติ เสขปุถุชฺชนานํ วิปากสมฺมสนาทิกาเล กามาวจรกุสลสฺส, วิปากกฺขนฺธานุสฺสรณาทีสุ รูปาวจรกุสลสฺส, วุตฺตนเยเนว ขีณาสวานํ วิปากสมฺมสนาทิกาเล, ปุถุชฺชนกาเล อนิฏฺวิปากาภาวํ อารพฺภ ตุสฺสนกาเล, ยถาวุตฺตชวนานํ ปุเรจรกาเล กามาวจรกิริยจิตฺตสฺส, กุสเลสุ วุตฺตนเยเนว รูปาวจรกิริยจิตฺตสฺส, วิปากํ อารพฺภ ตทารมฺมณปฺปวตฺติยํ วิปาการมฺมณิกกมฺมุนา ปฏิสนฺธึ คณฺหนฺตสฺส กมฺมนิมิตฺตวเสน ปวตฺติยฺจ กามาวจรวิปากสฺส, อสฺสาทนาภินนฺทนปรามาสาทิวเสน ปวตฺติยํ อกุสลสฺสาติ เอวเมเตสํ ฉนฺนํ ราสีนํ กามาวจรวิปากมารมฺมณปจฺจโย โหตีติ. รูปาวจรวิปาการมฺมเณปิ อิมินาว นเยน โยชนา กาตพฺพา. เกวลฺหิ ตํ กามาวจรวิปากานํ กิริยจิตฺเตสุ จ หสิตุปฺปาทสฺสารมฺมณํ น โหตีติ อยเมตฺถ วิเสโส. โลกุตฺตรวิปากสฺส กามาวจรกุสลกิริยานมารมฺมณกฺกโม อปฺปมาณารมฺมณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ.
กามาวจรกิริยจิตฺตสฺส กามาวจรกุสลาทีนํ ฉนฺนํ ราสีนมารมฺมณกฺกโม กุสลารมฺมเณ วุตฺตสทิโสว. เกวลฺหิ เอตฺถ ยเทตํ ขีณาสวสนฺตานสฺเสว นิยตํ นววิธํ กิริยจิตฺตํ, ตํ ปรสนฺตานปฺปวตฺตกุสลากุสลสฺส, สสนฺตาเนว เสขปุถุชฺชนกาเล อนาคตารมฺมณิกอภิฺาย ปริกมฺมาทิวสปฺปวตฺตกุสลสฺส อารมฺมณํ โหติ. วิปาเกสุ ¶ จ ปฏิสนฺธิภวงฺคจุติสงฺขาตานํ วิปากานํ กมฺมารมฺมณวเสน อารมฺมณํ น โหตีติ อยเมว วิเสโส.
รูปาวจรกิริยจิตฺตสฺส ปฺจนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณกฺกโม กุสลารมฺมเณ วุตฺตสทิโสว. วิเสโสปิ ¶ กามาวจรกิริยารมฺมเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. อารุปฺปกิริยจิตฺตสฺสาปิ เตสํ ปฺจนฺนํ ราสีนํ โคจรภาโว วุตฺตสทิโสว. อารุปฺปกิริยสฺส ปน ปมตติยํ ทุติยจตุตฺถสฺเสว โคจโร โหติ.
๓๕๗-๘. เอวํ รูปนิพฺพานวชฺชิตมารมฺมณํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ รูปารมฺมณํ, นิพฺพานารมฺมณฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปํ จตุสมุฏฺาน’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. รูปนฺติ อฏฺวีสติวิโธ ภูโตปาทายเภทภินฺโน รูปกฺขนฺโธ. กิฺจาปิ น สพฺพเมว รูปํ ปจฺเจกํ จตุสมุฏฺานํ, สมุทิโต ปน รูปกฺขนฺโธ จตูหิ เอว สมุฏฺาเนหิ สมุฏฺาตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จตุสมุฏฺาน’’นฺติ. กามปากกิริยสฺสาติ กามาวจรวิปากสฺส, กามาวจรกิริยจิตฺตสฺส จ, ตตฺถ จ กามาวจรกุสลสฺส ตาว วณฺณทานาทิปฺุกิริยกาเล, วณฺณาทีนํ อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสนกาเล, อภิฺาย ปริกมฺมาทิกาเล, อกุสลสฺส อสฺสาทนาภินนฺทนปรามาสาทิกาเล, อภิฺาทฺวยสฺส อิทฺธิวิธภูตสฺส สุวณฺณทุพฺพณฺณาทิรูปนิมฺมานกาเล, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติภูตสฺส ‘‘ปุริมภเว เอวํวณฺโณ อโหสิ’’นฺติอาทินา อนุสฺสรณกาเล, ทิพฺพจกฺขุภูตสฺส จวมานอุปปชฺชมานสตฺตานํ วณฺณทสฺสนกาเล, ทิพฺพโสตภูตสฺส สทฺทสวนกาเล, อนาคตํสาณภูตสฺส ‘‘อนาคเต เอวํวณฺโณ ภวิสฺสามี’’ติอาทินา ชานนกาเล, กามาวจรวิปาเกสุ ทฺวิปฺจวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนทฺวยสฺส ยถาโยคํ รูปาทิวิชานนกาเล, สุขสนฺตีรณสฺส สนฺตีรณตทารมฺมณกาเล, อุเปกฺขาสนฺตีรณทฺวยสฺส สนฺตีรณตทารมฺมณกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตารมฺมณกาเล ¶ , สเหตุกวิปากสฺส กมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตารมฺมณกาเล, ตทารมฺมณกาเล จ, กามาวจรกิริยาสุ ปน กุสเล วุตฺตนยานุสาเรน อฏฺมหากิริยจิตฺตสฺส, ‘‘เอวรูปํ วณฺณาทิมทาสิ’’นฺติ ตุสฺสนกาเล หสิตุปฺปาทสฺส, ปฺจทฺวารมโนทฺวาเรสุ โวฏฺพฺพนาวชฺชนกาเล มโนทฺวาราวชฺชนสฺส, ปฺจทฺวาเร อาวชฺชนกาเล ปฺจทฺวาราวชฺชนสฺส จ อารมฺมณํ โหตีติ เอวํ จตุสมุฏฺานิกํ รูปํ ฉนฺนํ ราสีนมารมฺมณํ โหติ.
๓๕๙-๖๐. นิพฺพานํ ปน โคตฺรภุโวทานกาเล, นิพฺพานารมฺมณิกอภิฺาย ปริกมฺมาทิกาเล จ กามาวจรติเหตุกกุสลสฺส, อตีตภเว สจฺฉิกตนิโรธานุสฺสรณกอาลาทีสุ รูปาวจรกุสลสฺส, วุตฺตนเยเนว กามรูปาวจรกิริยจิตฺตสฺส, มคฺคฏฺานํ ตทนนฺตรผลวฬฺชนผลกาเลสุ อปริยาปนฺนกุสลวิปากสฺส จาติ เอวํ ฉนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณํ ¶ โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘นิพฺพานารมฺมณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อุภยสฺสาติ กามาวจรรูปาวจรวเสน ทุวิธสฺส.
๓๖๑-๒. นานปฺปการกนฺติ ทฺวาทสมปริจฺเฉเท วกฺขมานนเยน นานาวิธปฺปการํ. นวนฺนํ…เป… ปจฺจโยติ กามาวจรกุสลสฺส, อกุสลสฺส, หสิตุปฺปาทมโนธาตุวชฺชิตกามาวจรกิริยจิตฺตานฺเจว ทฺวินฺนํ อภิฺาจิตฺตานฺจ สพฺพาปิ ปฺตฺติ, รูปาวจรกุสลวิปากกิริยานํ กสิณนิมิตฺตาทิกา, ปมารุปฺปกุสลวิปากกิริยานํ อากาสปฺตฺติ, ตติยารุปฺปกุสลาทีนํ ติณฺณํ อภาวปฺตฺตีติ เอวํ ปฺตฺติ นวนฺนํ ราสีนํ อารมฺมณปจฺจโย โหตีติ.
๓๖๓-๕. เอวํ โย ธมฺโม ยสฺส ธมฺมสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตํ เอเกกุทฺธารวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ สพฺเพ จตุภูมกจิตฺตุปฺปาเท ¶ ฉหิ อารมฺมเณหิ โยเชตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘รูปารมฺมณิกา ทฺเว’’ติอาทิ คาถาตฺตยํ วุตฺตํ. ตํ เหฏฺา วุตฺตตฺถเมว.
๓๖๖-๙. ‘‘ปมารุปฺปกุสล’’นฺติอาทิ ปน เหฏฺา วุตฺตนยมฺปิ อรูปาวจรารมฺมเณสุ อรูปาวจรธมฺมานํ เสขาเสขวเสน นานปฺปการโต ปวตฺติอาการํ ปกาเสตุํ วุตฺตํ. กุสลสฺสาติ เสขปุถุชฺชนานํ ทุติยารุปฺปกุสลสฺส. วิปากสฺส ปน ขีณาสวานํ ปวตฺตมานสฺสาปิ อารมฺมณํ โหติ ตสฺส ปุริมภเว กมฺมนิมิตฺตารมฺมณตฺตา. อรูปภเว อติสนฺตภาเวน ปวตฺตมานํ ภวงฺคจิตฺตํ น ภาวนาย ปริสุทฺธํ อุปฏฺาตีติ อาห ‘‘ปมารุปฺปปาโก’’ติอาทิ. ปมํ ตุ กิริยจิตฺตํ ปฺุสฺส ทุติยารุปฺปเจตโส อารมฺมณํ น โหติ, วิปากสฺส ทุติยารุปฺปเจตโส อารมฺมณํ น โหตีติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ ขีณาสวกาเล กสฺสจิ กุสลสฺส อภาวโต ‘‘น ปฺุสฺสา’’ติ วุตฺตํ. อากาสานฺจายตนกิริยาสมงฺคิสฺส วิฺาณฺจายตนวิปากจิตฺตํ น ปวตฺตตีติ ‘‘น ปากสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ขีณาสวสฺส ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ, นิโรธสมาปชฺชนตฺถฺจ สมาปตฺติโย สมาปชฺชนฺตสฺส ปมารุปฺปกิริยจิตฺตํ ทุติยสฺส อารมฺมณํ โหตีติ อาห ‘‘ปมํ ตุ กฺริยาจิตฺต’’นฺติอาทิ.
๓๗๐-๓. ‘‘ทฺวิธา’’ติ จ วตฺวา ตเมว ทุวิธตํ, ติวิธตฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘กุสลํ กุสลสฺสา’’ติ, ‘‘กฺริยสฺสาปิ กฺริยา โหตี’’ติ จ อาทิ วุตฺตํ. ตํ วุตฺตนยเมว. เอวเมว ¶ …เป… สิยาติ ปมารุปฺปจิตฺเต วุตฺตนเยน เสขปุถุชฺชนานํ ทฺวิธา, ขีณาสวานฺจ ติธา อารมฺมณํ ภวตีติ อตฺโถ.
๓๗๔-๕. ยํ ยํ โคจรํ อารพฺภาติ รูปารูปนิพฺพานปฺตฺตีสุ ยํ ยํ โคจรํ อารพฺภ. เย เยติ อรูปธมฺมา. โย ¶ นโรติ โย คหฏฺโ, ปพฺพชิโต วา มาณโว. กิราติ อนุมติยํ. ตสฺส ‘‘อุตฺตรเตวา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. ปารนฺติ อวสานํ. ตํ อิมสฺส ปรมนิปุณคมฺภีรนยสมงฺคิตาย ยาถาวโต โอตรนฺเตหิ อกสิเรน ตริตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา ทุปฺปาปุเณยฺยนฺติ กตฺวา อาห ‘‘ทุตฺตร’’นฺติ. อุตฺตรนฺติ อุตฺตมํ. อภิธมฺมาวตารสฺส หิ อุตฺตมตาย ตเทกเทสภูตปารมฺปิ อุตฺตมเมว โหติ. โสติ โส สมุตฺติณฺณาภิธมฺมาวตารปาโร นโร. อุตฺตรเตว, น ปน น สกฺโกติ ตํ อุตฺตริตุนฺติ อตฺโถ.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม
อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย
อารมฺมณวิภาคนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.