📜
๙. นวโม ปริจฺเฉโท
ปฺุวิปากปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา
๕๖๐-๑. วฏฺฏกถาย ¶ โลกุตฺตรวิปากานํ อลพฺภนโต ‘‘โลกิยาเนวา’’ติ วุตฺตํ. ปฺุาปฺุาทิสงฺขาราติ ปฺุาภิสงฺขาโร อปฺุาภิสงฺขาโร อาเนฺชาภิสงฺขาโรติ ตโย สงฺขารา. ตตฺถ ปุนาติ อตฺตโน สนฺตานํ อปฺุผลโต, ทุกฺขสํกิเลสโต จ โสเธติ, ปุชฺชํ ภวผลํ นิพฺพตฺเตตีติ วา ปฺุํ, อตฺตโน ผลสฺส อภิสงฺขรณฏฺเน อภิสงฺขาโร จาติ ปฺุาภิสงฺขาโร, ปฺุปฏิปกฺขโต อปฺุํ, วุตฺตนเยน อภิสงฺขาโร จาติ อปฺุาภิสงฺขาโร. สมาธิปจฺจนีกานํ อติทูรตาย น อิฺชติ น กมฺปตีติ อาเนฺชํ, ตํ อภิสงฺขโรตีติ อาเนฺชาภิสงฺขาโร. ตตฺถ ทานสีลาทิวเสน ปวตฺตา อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา รูปาวจรกุสลเจตนา จาติ เตรส เจตนา ปฺุาภิสงฺขาโร นาม. ปาณาติปาตาทิวเสน ปวตฺตา ทฺวาทส อกุสลเจตนา อปฺุาภิสงฺขาโร นาม. ภาวนาวเสเนว ปวตฺตา จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร ¶ นาม. ภวาทีสุ ยถา ปจฺจยา, ตถา เยสฺจ วิปากานํ ปจฺจยา, เตปิ วิฺาตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. เกจิ ปน ‘‘เตปีติ สงฺขารานํ คหณ’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุตฺตํ, เอวํ สติ ‘‘เยส’’นฺติ อนิยมนิทฺเทสสฺส นิยมกวจนาภาวโต.
๕๖๒. กตเม ปน เต ภวาทโยติ อาห ‘‘ตโย ภวา’’ติอาทิ. ตตฺถ กามรูปารูปวเสน ตโย ภวา. สฺีภวอสฺีภวเนวสฺีนาสฺีภววเสน, ปน เอกโวการภวจตุโวการภวปฺจโวการภววเสน จ ตโย ภวา เอตฺเถว สโมธานํ คจฺฉนฺติ. จตสฺโส โยนิโยติ อณฺฑชชลาพุชสํเสทชโอปปาติกวเสน จตฺตาโร สตฺตนิกายา. ตตฺถ พีชกปาเล นิพฺพตฺโต สตฺตนิกาโย อณฺฑชโยนิ นาม. มาตุคพฺเภ ชลาพุเช นิพฺพตฺตสตฺตนิกาโย ชลาพุชโยนิ นาม. ปทุมคพฺภมานุสกคพฺภมลาทิสํเสทูปนิสฺสเยน อุปฺปชฺชนกสตฺตนิกาโย สํเสทชโยนิ นาม. กุโตจิ อนุปฺปชฺชิตฺวา เกวลํ ตตฺถ ตตฺถ ปริปุณฺณงฺคปจฺจงฺโค หุตฺวา อุปฺปชฺชนกสตฺตนิกาโย โอปปาติกโยนิ นาม. คติปฺจกํ เหฏฺา วิภาวิตเมว ¶ . ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส วตฺถุภูตา จ วิฺาณกฺขนฺธา ฉ วิฺาณฏฺิติโย นาม. ตา ปน นานตฺตกายาทิวเสน สตฺตวิธาติ อาห ‘‘วิฺาณฏฺิติโย สตฺตา’’ติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘สตฺติมา, ภิกฺขเว, วิฺาณฏฺิติโย. กตมา สตฺต? สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ มนุสฺสา เอกจฺเจ จ เทวา เอกจฺเจ จ วินิปาติกา, อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา นานตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ เทวา พฺรหฺมกายิกา ปมาภินิพฺพตฺตา, อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา ¶ เอกตฺตกายา นานตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ เทวา อาภสฺสรา, อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา เอกตฺตกายา เอกตฺตสฺิโน. เสยฺยถาปิ เทวา สุภกิณฺหา, อยํ จตุตฺถี วิฺาณฏฺิติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมา นานตฺตสฺานํ อมนสิการา ‘อนนฺโต อากาโส’ติ อากาสานฺจายตนูปคา, อยํ ปฺจมี วิฺาณฏฺิติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘อนนฺตํ วิฺาณ’นฺติ วิฺาณฺจายตนูปคา, อยํ ฉฏฺี วิฺาณฏฺิติ. สนฺติ, ภิกฺขเว, สตฺตา สพฺพโส วิฺาณฺจายตนํ สมติกฺกมฺม ‘นตฺถิ กิฺจี’ติ อากิฺจฺายตนูปคา, อยํ สตฺตมี วิฺาณฏฺิตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๓๒; อ. นิ. ๗.๔๔).
เอตฺถ หิ อปริมาณจกฺกวาฬวาสิโน มนุสฺสา กามาวจรเทวา ปุนพฺพสุมาตุปิยงฺกรมาตาทโย วินิปาติกาสุรา จ กุสลวิปากปฏิสนฺธิกา เวมานิกเปตา เจติ อิเม ทีฆรสฺสกิสถูลกาฬโอทาตาทิวณฺณสณฺานวเสน รูปกายสฺส, อเหตุทุเหตุติเหตุวเสน ปฏิสนฺธิสฺาย จ นานาภาวโต นานตฺตกายนานตฺตสฺิโน นาม, อยํ ปมา วิฺาณฏฺิติ. ปมชฺฌานตลวาสิโน ปน ตโย เทวา อุปรูปริวาสีนํ วณฺณาทิกมเปกฺขิตฺวา อตฺตโน วณฺณาทีนํ นิหีนตาย รูปกายสฺส นานาภาวโต, ปมชฺฌานวิปากวิฺาณวเสน สมานสฺิตาย จ นานตฺตกายเอกตฺตสฺิโน นาม, อยํ ทุติยา วิฺาณฏฺิติ, จตุราปายวาสิโนปิ วณฺณสณฺานวเสน รูปกายสฺส นานาสภาวตฺตา, อกุสลวิปากสฺาวเสน สฺาย เอกสภาวตฺตา จ ทุติยวิฺาณฏฺิติยํเยว สโมธานํ ¶ คจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพํ. ทุติยชฺฌานตลวาสิโน ตโย เทวา วณฺณสณฺานาทิวเสน สมานตฺตา รูปกายสฺส ¶ วิเสสาภาวโต ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานสฺาวเสน ปฏิสนฺธิสฺาย นานาภาวโต เอกตฺตกายนานตฺตสฺิโน นาม, อยํ ตติยา วิฺาณฏฺิติ. ตติยชฺฌานตลวาสิโน ปน ตโย เทวา รูปกายวเสน สมานตฺตา, ปฺจกนเย จตุตฺถชฺฌานวิปากสฺาวเสน ปฏิสนฺธิสฺาย จ เอกตฺตา เอกตฺตกายเอกตฺตสฺิโน นาม, อยํ จตุตฺถี วิฺาณฏฺิติ. เวหปฺผลวาสิโน เจว ปฺจ สุทฺธาวาสวาสิโน จ วณฺณสณฺานวเสน รูปกายสฺส, ปฺจมชฺฌานวิปากสฺาวเสน ปฏิสนฺธิสฺาย จ สมานตฺตา จตุตฺถวิฺาณฏฺิติเมว ภชนฺติ. อากาสานฺจายตนาทโย ติสฺโส วิฺาณฏฺิติโย ปาฬิวเสเนว ปากฏา. อสฺสตฺตา ปน วิฺาณาภาเวน เนวสฺานาสฺายตนวาสิโน จ สฺาย วิย วิฺาณสฺส สุขุมภาเวเนว วิฺาณฏฺิตีสุ น คหิตา, สตฺตานํ นิวาสตาย ปน ‘‘สตฺตาวาสา’’ติ วุจฺจนฺติ. เอวฺจ กตฺวา เตหิ สตฺต วิฺาณฏฺิติโย สโมธาเนตฺวา นว สตฺตาวาสา วุตฺตา.
๕๖๓-๔. อิทานิ เอวํ วุตฺเตสุ ภวาทีสุ ทฺวตฺตึสวิปากานํ ติณฺณํ อภิสงฺขารานํ ปจฺจยภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘กาเม ปฺุาภิสงฺขารสฺิตา’’ติอาทิ อารทฺธํ. นวนฺนํ ปากจิตฺตานนฺติ สเหตุกาเหตุกวเสน นวนฺนํ สุคติปฏิสนฺธิวิปากจิตฺตานํ. นานกฺขณิก…เป… ปจฺจเยหิ จาติ กุสลากุสลกมฺมสฺส อตีตสฺเสว อตฺตนา ชเนตพฺพวิปากานํ ปจฺจยภาวโต นานกฺขณิกกมฺมปจฺจเยน, เตสเมว พลวการณภาวโต อุปนิสฺสยปจฺจเยน จ. วุตฺตฺหิ ตสฺส อุปนิสฺสยตฺตํ ‘‘กุสลากุสลํ กมฺมํ วิปากสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓). สพฺพตฺถ อุปนิสฺสยภาโว พลวกมฺมวเสน ¶ โยเชตพฺโพ. ทุพฺพลฺหิ กมฺมํ อุปนิสฺสโย น โหตีติ ปฏฺานวณฺณนายํ ทสฺสิตเมตํ.
๕๖๖-๘. ปฺจนฺนนฺติ กุสลวิปากจกฺขุโสตวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณทฺวยวเสน ปฺจนฺนํ. ทุคฺคติยํ กุสลวิปากปฏิสนฺธิยา อภาวโต อาห ‘‘น โหนฺติ ปฏิสนฺธิย’’นฺติ. เอวํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีนํ อสงฺกรวเสน ปจฺจยวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สโมธาเนตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘โหนฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. โสฬสนฺนํ ปวตฺเต, ปฏิสนฺธิยํ นวนฺนนฺติ ยถาลาภวเสน โยเชตพฺพํ.
๕๖๙-๗๔. รูเป ปฺุาภิสงฺขาราติ อภิฺาวชฺชิตา ปฺจ รูปาวจรปฺุาภิสงฺขารา. กสฺมา ปน อภิฺาย ปริวชฺชนนฺติ? วิปากทานาภาวโต, ตฺจ โข ปนสฺสา วิปากสฺส อสมฺภวโต ¶ , น ปน วิปากุปฺปาทนสภาวาภาวโต. ยทิ หิ อภิฺาเจตนา วิปากํ อุปฺปาเทยฺย, อฺภูมิกกมฺมสฺส อฺภูมิกวิปากุปฺปาทนาโยคโต สภูมิกเมว อุปฺปาเทยฺย. ตํ ปน กึ นวตฺตพฺพารมฺมณํ วา อุปฺปาเทยฺย ปริตฺตาทิอารมฺมณํ วา? กิฺเจตฺถ – ยทิ ตาว นวตฺตพฺพารมฺมณํ อุปฺปาเทติ, ตํ น ยุตฺตํ รูปาวจรวิปากานํ เอกนฺเตน กมฺมสมานารมฺมณตาย ทสฺสิตตฺตา, อภิฺาเจตนาย จ สยํ ปริตฺตาทิอารมฺมณตฺตา. อถ ปริตฺตาทิอารมฺมณํ อุปฺปาเทติ, ตมฺปิ น ยุชฺชติ รูปาวจรวิปากานํ เอกนฺเตเนว นวตฺตพฺพารมฺมณภาวโต. ตถา หิ วุตฺตํ จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ –
‘‘รูปาวจรติกจตุกฺกชฺฌานา กุสลโต จ วิปากโต จ กิริยโต จ จตุตฺถสฺส ฌานสฺส วิปาโก อากาสานฺจายตนํ อากิฺจฺายตนํ. อิเม ธมฺมา นวตฺตพฺพา ‘ปริตฺตารมฺมณา’ติปิ ‘มหคฺคตารมฺมณา’ติปิ ‘อปฺปมาณารมฺมณา’ติปี’’ติ (ธ. ส. ๑๔๒๒).
อปิจ ¶ สมาธิวิชฺชาสมฺภารภูตา อภิฺา สมาธิสฺส อานิสํสมตฺตํ สมาธิผลสทิสา. ตสฺส ตสฺส หิ อธิฏฺานวิกุพฺพนทิพฺพสทฺทสวนาทิกสฺส ยถิจฺฉิตสฺส กิจฺจสฺส นิปฺผาทนมตฺตผลา อภิฺาเจตนา. เตนาห ‘‘โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเต’’ติอาทิ (ปารา. ๑๒-๑๓) ตสฺมา สมาธิสฺส ผลสทิสา อภิฺาเจตนา น จ ผลํ เทติ, ทานสีลานิสํสภูโต ตสฺมึ ภเว ปจฺจยลาโภ วิย นตฺถิ ตสฺส วิปากุปฺปาทนนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สมานภูมิกโต อาเสวนลาเภน พลวนฺตานิ ฌานานิ วิปากํ อุปฺปาเทนฺติ สมาปตฺติภาวโต, อภิฺา ปน สติปิ ฌานภาเว ตทภาวโต ตสฺมึ ตสฺมึ อารมฺมเณ อาคนฺตุกาเยวาติ ทุพฺพลา, ตสฺมา วิปากํ น เทตี’’ติ วทนฺติ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อนุรุทฺธาจริเยน –
‘‘สมานาเสวเน ลทฺเธ, วิชฺชมาเน มหพฺพเล;
อลทฺธา ตาทิสํ เหตุํ, อภิฺา น วิปจฺจตี’’ติ. (นาม. ปริ. ๔๗๔);
ตยิทมการณํ, ปริตฺตฌานสฺส อวิเสเสน พฺรหฺมปาริสชฺชาทีสุ วิปากทานวจนโต. น หิ ปริตฺตํ ¶ ลทฺธาเสวนเมว ตตฺถ วิปากํ เทตีติ อฏฺกถายํ วุตฺตํ, ตสฺมา สมานาเสวเน ลทฺเธเยว ฌานสฺส วิปากทานํ น สกฺกา วตฺตุํ. อปิจ ปุนปฺปุนํ ปริกมฺมวเสน อภิฺายปิ วสิภาวสพฺภาวา ตสฺสาปิ จ พลวภาโว อตฺเถวาติ วิปากํ อุปฺปาเทยฺย.
ปฺจนฺนํ ปากจิตฺตานนฺติ ปฺจนฺนํ รูปาวจรวิปากจิตฺตานํ. มาปฺุสงฺขาราติ อปฺุาภิสงฺขารา. ‘‘อิเม อปฺุสงฺขารา’’ติ วา ปทจฺเฉโท. เอกสฺสาติ เอกสฺส อกุสลวิปากสนฺตีรณสฺส. ฉนฺนนฺติ สนฺตีรณวชฺชานํ ฉนฺนํ อกุสลวิปากานํ. ปวตฺเต ปจฺจยา โหนฺติ อนิฏฺรูปาทิอาปาถาคเตติ อธิปฺปาโย. สุคติยํ อกุสลวิปากปฏิสนฺธิยา อภาวโต อาห ‘‘น โหนฺติ ปฏิสนฺธิย’’นฺติ. จตุนฺนนฺติ ¶ อกุสลวิปากจกฺขุโสตวิฺาณสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณวเสน จตุนฺนํ. ตานิ ปน เอกนฺตโต อนิฏฺารมฺมณานิ. รูปภเว จ กถํ อนิฏฺารมฺมณสมาโยโคติ อาห ‘‘โส จา’’ติอาทิ. โสติ โส ปจฺจยภาโว. ‘‘กามภเว’’ติ อิทํ อนิฏฺรูปาทีนํ วิเสสนํ, น ปน ‘‘อุปลทฺธิย’’นฺติ อิมสฺส. เตนาห ‘‘อนิฏฺ…เป… น วิชฺชเร’’ติ. เกจิ ปน ‘‘อุปลทฺธิยนฺติ อิมสฺเสว วิเสสนภาเวน คเหตฺวา พฺรหฺมูนํ กามภวํ อาคตกฺขเณ รูปาทิอุปลทฺธิย’’นฺติ วทนฺติ. อนิฏฺ…เป… น วิชฺชเร เอกนฺตสุขวตฺถุภูเต ตตฺถ โวกิณฺณสุขทุกฺขการณสฺส อภาวโต.
๕๗๖. ‘‘เอวํ ตาวา’’ติอาทิ ยถาวุตฺตสฺเสวตฺถสฺส อปฺปนํ. ยถา จาติ จ-สทฺเทน ‘‘เยสฺจา’’ติ สงฺคณฺหาติ. ตถาติ เอตฺถาปิ ‘‘เต’’ติ สงฺคณฺหิตพฺพํ.
๕๗๗-๘๑. ยตฺถ วิตฺถารปฺปกาสนํ กตํ, ตโต ภวโต ปฏฺาย มุขมตฺตปฺปกาสนํ กาตุกาโม อาห ‘‘ตตฺริท’’นฺติอาทิ. ตตฺราติ เตสุ ภวาทีสุ. อิทนฺติ นิทสฺสิตพฺพภาเวน อาสนฺนปจฺจกฺขมาห. อาทิโต ปน ปฏฺายาติ ภวโต ปฏฺาย. อวิเสเสนาติ กามาวจรรูปาวจรวเสน วิเสสาภาเวน เตรส ปฺุาภิสงฺขารา. ทฺวิภเวสูติ กามรูปภเวสุ. เกสฺจิ มนุสฺสานํ, ภุมฺมเทวานฺจ อณฺฑชชลาพุชานมฺปิ สมฺภวโต ตทเปกฺขาย ‘‘จตูสุ…เป… โยนิสู’’ติ วุตฺตํ. นานตฺต…เป… ิตีสุปีติ อลุตฺตสมาสวเสน วุตฺตํ, นานตฺตกายนานตฺตสฺาทีสุ จตูสุ วิฺาณฏฺิตีสูติ อตฺโถ. วุตฺตปฺปการสฺมินฺติ นานตฺตกายาทิเก, ปฺุาภิสงฺขารสฺส ภวาทีสุ เอกวีสติวิปากานํ เอกาวตฺถาย ปจฺจโย อหุตฺวา ทุคฺคติปริยาปนฺเนสุ ภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาเสสุ ปฏิสนฺธึ อทตฺวา ปวตฺเตเยว อฏฺนฺนํ ¶ วิปากานํ ปจฺจยภาวโต, กามาวจรสุคติปริยาปนฺเนสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต โสฬสนฺนํ วิปากานํ ¶ ปจฺจยภาวโต, รูปาวจรภูมิปริยาปนฺเนสุ ปฏิสนฺธึ ทตฺวา ปวตฺเต ทสนฺนํ วิปากานํ ปจฺจยภาวโต วุตฺตํ ‘‘ยถารห’’นฺติ.
๕๘๒-๓. กาเม ภเว, รูเป ภเวติ สมฺพนฺโธ. ตีสุ คตีสูติ เทวมนุสฺสวชฺเชสุ ตีสุ คตีสุ. เอกิสฺสาติ นานตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาตาย เอกิสฺสา วิฺาณฏฺิติยา. เอกสฺมินฺติ นานตฺตกายเอกตฺตสฺีสงฺขาเตเยว เอกสฺมึ สตฺตาวาเส.
๕๘๔-๖. เอการูปภเวติ เอกสฺมึ อรูปภเว. เอกิสฺสา โยนิยาติ เอกิสฺสาเยว โอปปาติกโยนิยา. ตีสุ จิตฺตฏฺิตีสูติ อากาสานฺจายตนาทีสุ ตีสุ วิฺาณฏฺิตีสุ. สตฺตาวาเส จตุพฺพิเธติ อากาสานฺจายตนาทิเกเยว จตุพฺพิเธ สตฺตาวาเส. วิชานิตพฺพา…เป… ปจฺจยาติ สงฺขารา ยถา ปจฺจยา เยสฺจ ปจฺจยา, ตถา เตปิ วิฺาตพฺพาติ อตฺโถ.
๕๘๗-๙๐. นนุ จ สงฺขารานํ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุปิ วิปากานํ ปจฺจยภาโว วุตฺโต. ตตฺถ ปฏิสนฺธิเยว ตาว น สกฺกา วิฺาตุํ. ยทิ หิ ปุริมภวโต ปฏิสนฺธิวิฺาณํ อิธาคจฺฉตีติ วุจฺเจยฺย, ตํ น ยุตฺตํ, รูปารูปธมฺมานํ เกสคฺคมตฺตมฺปิ เทสนฺตรสงฺกมนาภาวโต. อถ อตีตภวนิพฺพตฺตสงฺขารโต น นิพฺพตฺตติ, ตมฺปิ น ยุชฺชติ อเหตุกโทสาปตฺติโตติ อิมินา อธิปฺปาเยน โจเทนฺโต อาห ‘‘น รูปารูปธมฺมาน’’นฺติอาทิ. อาจริโย ตสฺสาธิปฺปายํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ตํ สฺาเปตุกาโม อาห ‘‘นตฺถิ จิตฺตสฺสา’’ติอาทิ. ตโต เหตุํ วินาติ ตตฺถ เหตุํ วินา, อตีตภวนิพฺพตฺตกมฺมสงฺขารนิกนฺติอารมฺมณํ วินาติ อตฺโถ ¶ . สุลทฺธปจฺจยนฺติ อวิชฺชาทิสหการีการณสหิตสฺส สงฺขารสฺส วเสน สุฏฺุ อเวกลฺลโต ปฏิลทฺธปจฺจยํ. รูปารูปมตฺตนฺติ พาหิรกปริกปฺปิตสฺส อธิติฏฺนกสฺส สตฺตชีวาทิโน อภาวโต รูปารูปธมฺมมตฺตํ. เตนาห ‘‘น จ สตฺโต’’ติอาทิ. ภวนฺตร…เป… ปวุจฺจตีติ โวหารมตฺเตน ภวนฺตรมุเปตีติ ปวุจฺจติ. อตฺถโต ปน ปจฺจยสามคฺคิยา ภวนฺตรภาเวน อุปฺปชฺชนมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.
๕๙๑. อิทานิ ¶ ตํ ปฏิสนฺธิกฺกมํ ปากฏาย มนุสฺสปฏิสนฺธิยา วเสน ปกาเสตุํ สมารภนฺโต อาห ‘‘ตยิท’’นฺติอาทิ. สุทุพฺพุธนฺติ อติทุพฺพิชานิยํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘สจฺจํ สตฺโต ปฏิสนฺธิ, ปจฺจยาการเมว จ;
ทุทฺทสา จตุโร ธมฺมา, เทเสตฺุจ สุทุกฺกรา’’ติ.
๕๙๒-๓. อาสนฺนมรณสฺสาติ ปรูปกฺกเมน วา อายุกฺขยาทิวเสน วา สมาสนฺนมรณสฺส. สุสฺสมาเนติ อนุกฺกเมน อุปสุสฺสมาเน. คพฺภเสยฺยกสฺส อายตนานํ อนุปุพฺพุปฺปตฺติ วิย นิโรโธปิ อนุปุพฺพโต โหตีติ วุตฺตํ ‘‘นฏฺเ จกฺขุนฺทฺริยาทิเก’’ติ. เกจิ ปน ‘‘นานากมฺมสมุฏฺิเตสุ จกฺขุนฺทฺริยาทีสุ นฏฺเสู’’ติ วทนฺติ. ‘‘หทย…เป… เก’’ติ อิมินา เสสกาเย กายินฺทฺริยสฺส นิรุทฺธภาโว วุตฺโตติ เอกกมฺมสมุฏฺิตมฺปิ นสฺสเตวาติ อปเร. อานนฺทาจริโย ปน ‘‘ยมเก’’ ยสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส มนายตนํ นิรุชฺฌตีติ. อามนฺตา. ยสฺส วา ปน มนายตนํ นิรุชฺฌติ, ตสฺส จกฺขายตนํ นิรุชฺฌตีติ. สจิตฺตกานํ อจกฺขุกานํ จวนฺตานํ เตสํ มนายตนํ นิรุชฺฌติ, โน จ เตสํ จกฺขายตนํ นิรุชฺฌติ. สจกฺขุกานํ จวนฺตานํ เตสํ มนายตนฺจ นิรุชฺฌติ, จกฺขายตนฺจ นิรุชฺฌตี’ติอาทินา (ยม. ๑.อายตนยมก.๑๒๐) จกฺขายตนาทีนํ ¶ จุติจิตฺเตน สห นิโรโธ วุตฺโตติ จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ จุติโต ปุพฺเพ น นสฺสนฺติ. อติมนฺทภาวูปคมนํ ปน สนฺธาย อฏฺกถาย ‘นิรุทฺเธสุ อินฺทฺริเยสู’ติ วุตฺตํ, น อนวเสสนิโรธํ สนฺธาย. ปฺจทฺวาริกชวนานนฺตรมฺปิ จุติ อฏฺกถายํ ทสฺสิตา’’ติ วทติ. หทยวตฺถุมตฺตสฺมินฺติ หทยวตฺถุปเทสมตฺเต. น หิ หทยวตฺถุํ นิสฺสาย กายินฺทฺริยํ ปวตฺตติ.
๕๙๔-๗. วตฺถุสนฺนิสฺสิตนฺติ เสสินฺทฺริยานํ นิรุทฺธตฺตา วิฺาณสฺส นิสฺสยภาวูปคมนสามตฺถิยาโยเคน มนฺทภาวโต วา หทยวตฺถุมตฺตสนฺนิสฺสิตํ. จิตฺตนฺติ ตทา กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทีนิ อารพฺภ ปวตฺตชวนวิฺาณํ. ตํ ปน สุคติยํ นิพฺพตฺตมานสฺส กุสลํ โหติ, ทุคฺคติยํ นิพฺพตฺตมานสฺส อกุสลํ. เตนาห ภควา –
‘‘นิมิตฺตสฺสาทคธิตํ วา, ภิกฺขเว, วิฺาณํ ติฏฺมานํ ติฏฺติ อนุพฺยฺชนสฺสาทคธิตํ วา, ตสฺมึ เจ สมเย กาลํ กโรติ, านเมตํ วิชฺชติ, ยํ ทฺวินฺนํ ¶ คตีนํ อฺตรํ คตึ อุปปชฺเชยฺย นิรยํ วา ติรจฺฉานโยนึ วา’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๔.๒๓๕).
ยทิ เอวํ –
‘‘คติสมฺปตฺติยา าณสมฺปยุตฺเต กตเมสํ อฏฺนฺนํ เหตูนํ ปจฺจยา อุปปตฺติ โหติ, กุสลสฺส กมฺมสฺส ชวนกฺขเณ ตโย เหตู กุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตน วุจฺจติ กุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว เหตู อกุสลา ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตน วุจฺจติ อกุสลมูลปจฺจยาปิ สงฺขารา. ปฏิสนฺธิกฺขเณ ตโย เหตู อพฺยากตา ¶ ตสฺมึ ขเณ ชาตเจตนาย สหชาตปจฺจยา โหนฺติ, เตน วุจฺจติ นามรูปปจฺจยาปิ วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยาปิ นามรูป’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๒) –
นิกนฺติกฺขเณ เหตุทฺวยปจฺจยาปิ สุคติปฏิสนฺธิกสฺส กถํ ทสฺสิตาติ? นยิทํ มรณาสนฺนชวนสมฺปยุตฺตเหตุโย สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข กตกมฺมสฺส ตํ กมฺมํ อารพฺภ อสฺสาทวเสน ปวตฺตชวนสมฺปยุตฺตเหตุโย สนฺธาย. กตูปจิตมฺปิ หิ กมฺมํ ตณฺหาย อสฺสาทิตํ วิปากาภินิปฺผาทเน สมตฺถนฺติ. เกจิ ปน ‘‘กมฺมกรณกาเล อปฺปหีนาวตฺถาย สนฺตาเน อนุสยิตเหตุโย สนฺธาย นิกนฺติกฺขเณ ทฺเว เหตุโยติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น ยุชฺชติ, เตสํ สหชาตปจฺจยตฺตาโยคโต. ปุพฺพานุเสวิตํ ปฺุํ วา อปฺุเมว วา กมฺมํ, กมฺมนิมิตฺตํ วา อาลมฺพิตฺวา จิตฺตํ ปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. ปุพฺพานุเสวิตนฺติ ปุพฺเพ อาเสวิตํ. ‘‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตณฺหาย อนุเสวิตภาวํ สนฺธาย วา ‘‘ปุพฺพานุเสวิต’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘อนุปุพฺพเสวิต’’นฺติปิ ปาํ วทนฺติ, ปฏิสนฺธิวเสน ปุพฺเพ อาเสวิตํ, ปุพฺเพ ทินฺนปฏิสนฺธิกนฺติ อตฺโถ. ทินฺนปฏิสนฺธิกมฺปิ ปน อปรชาตีสุ ปวตฺติวิปากํ น นิพฺพตฺเตตีติ นตฺถิ. ปฺุาปฺุคฺคหเณน ยถากมฺมํ สุคติทุคฺคติปฏิสนฺธีนํ อารมฺมณํ ทสฺเสติ. กมฺมํ กมฺมนิมิตฺตํ วาติ วา-สทฺเทน คตินิมิตฺตํ สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ กมฺมํ, คตินิมิตฺตฺจ มโนทฺวาเรเยว อาปาถมาคจฺฉติ, กมฺมนิมิตฺตํ ปน ปฺจทฺวาเรปิ. เอวฺจ กตฺวา ปฺจทฺวารคฺคหิเตปิ อารมฺมเณ ปฏิสนฺธิ โหติ. อปเร ปน คตินิมิตฺตมฺปิ ฉทฺวาเรสุ ลพฺภตีติ วณฺเณนฺติ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ สจฺจสงฺเขเป –
‘‘ปฺจทฺวาเร ¶ สิยา สนฺธิ, วินา กมฺมํ ทฺวิโคจเร’’ติ. (ส. ส. ๑๗๓).
อฏฺกถายํ ¶ ปน ‘‘คตินิมิตฺตํ มโนทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉตี’’ติ วุตฺตตฺตา, ตทารมฺมณาย จ ปฺจทฺวาริกปฏิสนฺธิยา อทสฺสิตตฺตา, มูลฏีกาทีสุ จ ‘‘กมฺมพเลน อุปฏฺาปิตํ วณฺณายตนํ สุปินํ ปสฺสนฺตสฺส วิย, ทิพฺพจกฺขุกสฺส วิย จ มโนทฺวาเร เอว โคจรภาวํ คจฺฉตี’’ติ นิยเมตฺวา วุตฺตตฺตา เตสํ วจนํ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ อาจริยา. กมฺมนิมิตฺตฺจ ปเนตฺถ ปจฺจุปฺปนฺนํ ปฺจทฺวาเร อาปาถมาคจฺฉนฺตํ จุติกาลาสนฺเน กตกมฺมสฺส อารมฺมณสนฺตาเน อุปฺปนฺนํ ตํสทิสนฺติ ทฏฺพฺพํ, อิตรถา ตเทว ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณุปฏฺาปกํ ตเทว ปฏิสนฺธิชนกํ ภเวยฺย, น จ ปฏิสนฺธิยา อุปจารภูตานิ วิย, ‘‘เอตสฺมึ ตยา ปวตฺติตพฺพ’’นฺติ ปฏิสนฺธิยา อารมฺมณํ อนุปฺปเทนฺตานิ วิย จ ปวตฺตานิ จุติอาสนฺนชวนานิ ปฏิสนฺธิชนกานิ ภเวยฺยุํ. ‘‘กตตฺตา อุปจิตตฺตา’’ติ หิ วุตฺตํ. ตทา จ ปฏิสนฺธิยา เอกวีถิยํ วิย ปวตฺตมานานิ กถํ กตูปจิตานิ สิยุํ, อสฺสาทนภูตาย ตณฺหาย อปรามฏฺานิ กถํ ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกานิ, น จ โลกิยานิ โลกุตฺตรานิ วิย สมานวีถิผลานิ โหนฺตีติ. ตํ วิฺาณนฺติ ตํ ชวนวิฺาณํ. เอกตฺตนเยน ปฏิสนฺธิวิฺาณฺจ สนฺธาย วุตฺตํ. จุติปฏิสนฺธิตทาสนฺนวิฺาณานฺหิ สนฺตติวเสน วิฺาณนฺติ อุปนีเตกตฺตํ อิธ ตํ วิฺาณนฺติ อธิปฺเปตํ.
อวิชฺชาย ปฏิจฺฉนฺนาทีนเวติ อนุสยวเสน ปวตฺตาย ภวตณฺหาย, จิตฺตสมฺปยุตฺตาย วา อวิชฺชาย ฉาทิตทุกฺขาทีนเว. ตถาภูเต ปน กมฺมาทิวิสเย ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส อารมฺมณภาเวน อุปฺปตฺติฏฺานภูเต. ตณฺหาย อปฺปหีนตฺตา เอว ปุริมุปฺปนฺนาย จ สนฺตติยา ตถาปริณตตฺตา ปฏิสนฺธิฏฺานาภิมุขํ วิฺาณํ นินฺนโปณปพฺภารํ หุตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ตณฺหา นเมตี’’ติ. สหชา ปน สงฺขาราติ จุติอาสนฺนชวนวิฺาณสหชาตเจตนา, สพฺเพปิ วา ผสฺสาทโย. ขิปนฺตีติ ขิปนฺตา วิย ตสฺมึ วิสเย ปฏิสนฺธิวเสน วิฺาณปติฏฺานสฺส ¶ เหตุภาเวน ปวตฺตนฺติ. ตนฺติ ตํ วิฺาณํ. ‘‘สนฺตติวสา’’ติ วทนฺโต ตเทว วิฺาณํ สนฺธาวติ สํสรติ, น อฺนฺติ อิมฺจ มิจฺฉาวาทํ ปฏิกฺขิปติ. สติ หิ นานตฺตนเย สนฺตติวเสน เอกตฺตนโย โหตีติ.
๕๙๙. อารมฺมณาทีหิ…เป… ปวตฺตตีติ อารมฺมณนิสฺสยปจฺจยาทีหิ ปวตฺตติ. กถํ ¶ ? อาสนฺนมรณสฺส หิ กมฺมพเลน มโนทฺวาเร อุปฏฺาปิตํ อวิชฺชาย ปฏิจฺฉนฺนาทีนวํ กมฺมาทิวิสยํ อารพฺภ มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตโต มรณาสนฺนวีถิยา วตฺถุทุพฺพลภาเวน มนฺทปฺปวตฺติยา จตฺตาริ, ปฺจ วา ชวนานิ ปวตฺตนฺติ, ตทนนฺตรํ ตทารมฺมเณ สติ, อสติ วา ภวงฺควิสยมาลมฺพิตฺวา จุติจิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ภวงฺคานนฺตรมฺปิ จุติ โหตีติ วทนฺติ. จุติจิตฺเต ปน นิรุทฺเธ ตเทว อาปาถคตํ กมฺมกมฺมนิมิตฺตาทึ อารพฺภ อนุปจฺฉินฺนกิเลสพลวนิมิตฺตํ สหชาตสงฺขาเรหิ กมฺมาทิอารมฺมเณ ขิปิยมานํ โอริมตีรรุกฺขวินิพนฺธํ รชฺชุํ อาลมฺพิตฺวา มาติกาติกฺกามโก วิย ปุริมฺจ นิสฺสยํ ชหติ, อปรฺจ กมฺมสมุฏฺิตํ นิสฺสยํ อสฺสาทยมานํ วา อนสฺสาทยมานํ วา อารมฺมณาทีหิ ปจฺจเยหิ ปวตฺตติ. เอตฺถ จ โอริมตีรํ วิย ปุริมภโว ทฏฺพฺโพ, ตตฺถ ิตรุกฺโข วิย ปุริมภเว ปวตฺตมานกฺขนฺธา, รชฺชุ วิย กมฺมาทิอารมฺมณํ. เกจิ ปน ‘‘รชฺชุ วิย หทยวตฺถู’’ติ วทนฺติ, ‘‘รชฺชุ วิย ตณฺหา’’ติปิ อปเร. ปุริโส วิย วิฺาณํ, ตสฺส รชฺชุคฺคหณํ วิย ตณฺหาย อารมฺมณาภิมุขนมนํ, ปโยโค วิย ขิปนกสงฺขารา, มาติกา วิย จุติจิตฺตํ, ปรตีรํ วิย ปรโลโก.
๖๐๐. ยถา ปุริโส ปรตีเร ปติฏฺหมาโน ปรตีรรุกฺขวินิพนฺธํ กิฺจิ อสฺสาทยมาโน วา อนสฺสาทยมาโน วา เกวลํ ปถวิยํ สกพลปฺปโยเคเหว ปติฏฺาติ ¶ , เอวมิทมฺปิ ภวนฺตรตฺตภาววินิพนฺธหทยวตฺถุสงฺขาตํ นิสฺสยํ ปฺจโวการภเว อสฺสาทยมานํ วา จตุโวการภเว อนสฺสาทยมานํ วา เกวลํ อารมฺมณนิสฺสยสมฺปยุตฺตธมฺเมเหว ปวตฺตตีติ ตํ วิฺาณํ นาปิ อิธาคตํ อิมสฺมึเยว ภเว นิพฺพตฺตตฺตา. กมฺมาทินฺติ อตีตภวนิพฺพตฺตกมฺมาทึ. อาทิ-สทฺเทน ขิปนกสงฺขารานํ, นมนวเสน ปวตฺตตณฺหาย, กมฺมาทิวิสยาย อาทีนวปฏิจฺฉาทิกาย จ อวิชฺชาย, ทฬฺหคฺคาหาทิกรานํ อุปาทานาทีนฺจ คหณํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ กมฺมํ นาม อุปปชฺชเวทนียภูตํ, อปราปริยเวทนียภูตํ วา ปฏิสนฺธินิพฺพตฺตกกมฺมํ. ขิปนกสงฺขารา นาม จุติอาสนฺนชวนสหชาตสงฺขารา, ปฏิสนฺธิชนกกมฺมสหคตสงฺขารา วา, ตโต ปุริมชวนสหคตสงฺขาราติ วา เกจิ. นมนวเสน ปวตฺตตณฺหา นาม อนุสยาวตฺถาย ปวตฺตตณฺหา. เอส นโย อาทีนวปฏิจฺฉาทกอวิชฺชายปิ. กมฺมาทิวิสยา ปุพฺเพ วุตฺตาเยว. ทฬฺหคฺคาหกรอุปาทานา นาม มณฺฑูกํ ปนฺนโค วิย อุปปตฺติภวสฺส ทฬฺหคฺคหณวเสน ปวตฺตา กามุปาทานาทโย.
๖๐๑-๕. สทฺทปฏิโฆสาทีนํ ¶ สติปิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเว สนฺตานพนฺโธ น ปากโฏติ เตสํ เอกตฺตนานตฺตภาวํ อนามสิตฺวา อนาคตมตีตเหตุสมุปฺปาทเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิมาห. เอตฺถาติ อิมสฺมึ จุติปฏิสนฺธาธิกาเร. ปฏิโฆสทีปมุทฺทาทีติ อาทิ-สทฺเทน อาทาสตลคตมุขนิมิตฺตาทีนํ คหณํ. อฺตฺถ อคนฺตฺวาติ สทฺทาทิปจฺจยเทสํ อนุปคนฺตฺวา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา สทฺทาทีนํ อุปฺปตฺติปเทสํ อนุปคนฺตฺวา ปฏิโฆโส สทฺทเหตุโก, ปทีโป ปทีปนฺตราทิเหตุโก, มุทฺทา ลฺฉนเหตุโก, มุขนิมิตฺตาทิกํ อาทาสาทิอภิมุขาทิเหตุกํ โหติ ตโต ปุพฺเพ อภาวา, เอวมิทมฺปิ ปฏิสนฺธิวิฺาณํ น ¶ เหตุเทสํ คนฺตฺวา ตํเหตุกํ โหติ ตโต ปุพฺเพ อภาวา, ตสฺมา น อิทํ เหตุเทสโต ปุริมภวโต อิธาคตํ ปฏิโฆสาทโย วิย สทฺทาทิเทสโต, นาปิ ตโต เหตุํ วินา อุปฺปนฺนํ สทฺทาทีหิ วินา ปฏิโฆสาทโย วิยาติ. อถ วา อฺตฺร อคนฺตฺวาติ ปุพฺเพ ปจฺจยปเทเส สนฺนิหิตา หุตฺวา ตโต อฺตฺร คนฺตฺวา ตปฺปจฺจยา น โหนฺติ อุปฺปตฺติโต ปุพฺเพ อภาวา, นาปิ สทฺทาทิปจฺจยา น โหนฺติ, เอวํ อิทมฺปีติ วุตฺตนเยน โยเชตพฺพํ. สนฺตานพนฺธโต นตฺถีติ สนฺตานปฺปพนฺธโต นตฺถิ เอกตา สนฺตาเนกตฺเตปิ อฺสฺเสว วิฺาณสฺส ปาตุภวนโต, นาปิ นานตา อปุพฺพานํ อปุพฺพานํ อุปฺปาเทปิ ปมุปฺปนฺนํ ธมฺมํ วินา ปจฺฉิมสฺส อนุปฺปชฺชนโต, ปทีปสฺส วิย นานตา น สิยา. ขณิกาปิ หิ ปทีปชาลา สนฺตาเนกตฺตํ อุปาทาย สา เอวาติ วุจฺจติ, อตฺตกิจฺจฺจ สาเธติ. ‘‘สติ สนฺตานพนฺเธ’’ติอาทินา สนฺตานพนฺเธ เอกนฺตํ เอกตฺตาย จ นานตฺตาย จ อคฺคเหตพฺพตํ, คหเณ จ โทสํ ทสฺเสติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – สนฺตานพนฺเธ สติ ยทิ เอกนฺเตน เอกตา สิยา, ขีรทธีนมฺปิ อนฺภาวโต, อตฺตโตเยว จ สยํ อนุปฺปชฺชนโต ขีรโต ทธิสมฺภูตํ น ภเวยฺย. อถาปิ สนฺตานพนฺเธ สติ เอกนฺตํ นานตา ภเวยฺย, ขีรทธีนมฺปิ นานตฺตา, อฺสฺส จ สามิภาวมตฺเตน อปรสฺส สามิภาวาโยคโต ขีรสามิ นโร ทธิสามิ น ภเวยฺย, น จ ปเนวํ โลเก ทิสฺสตีติ.
๖๐๖. ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํ โลกโวหารปริจฺเฉโท โหติ, ตสฺมา เอกนฺตํ เอกตา, นานตาปิ วา น เจว อุปคนฺตพฺพา. เอกตฺเต ปน อธิปฺเปเต ธมฺมโต อคฺคเหตฺวา สนฺตานโตว คเหตพฺพํ, นานตฺเต อธิปฺเปเต สนฺตานวเสน อคฺคเหตฺวา ธมฺมโตว คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ทิฏฺสนฺตานพนฺธสฺมึ ¶ , เอกฺตฺตวิจารเณ;
สภาคุปฺปตฺติเยกตฺต-มฺตฺตํ ขณเภทโต’’ติ.
เอตฺถ ¶ จ เอกนฺตํ เอกตาปฏิเสเธน ‘‘สยํกตํ สุขทุกฺข’’นฺติ อิมํ ทิฏฺึ นิวาเรติ, เอกนฺตํ นานตาปฏิเสเธน ‘‘ปรํกตํ สุขทุกฺข’’นฺติ.
๖๐๗-๙. นนุ น สุนฺทรํ, นนุ สิยาติ วา สมฺพนฺโธ. อสงฺกนฺติปาตุภาเวติ สงฺกนฺติปาตุภาวรหิเต, อสงฺกนฺติวเสน วา ปาตุภาเว, อสงฺกมิตฺวาว ปาตุภาเวติ อตฺโถ. ขนฺธาภิสมฺภวาติ อภิสมฺภูตกฺขนฺธา, อถ วา อภิสมฺภวติ กมฺมํ เอเตสูติ อภิสมฺภวา, ขนฺธา, เอวํ อภิสมฺภวา กมฺมาธิฏฺานภูตา ขนฺธาติ อตฺโถ. อิธ นิรุทฺธตฺตาติ ผลาธิฏฺานภูตํ ปรโลกํ อคนฺตฺวา อิเธว นิรุทฺธตฺตา. ปรตฺถาคมโตติ ปรโลกํ อคมนโต. ตสฺสาติ กมฺมสฺส. อฺสฺสาติ เยน ตํ กมฺมํ กตํ, ตโต อฺสฺส. อฺโตติ ยํ ตํ กมฺมํ นิพฺพตฺตํ, ตโต อฺโต. เอตํ วิธานนฺติ อิธโลกโต ปรโลกํ คนฺตฺวา นตฺถิ, ตตฺถ ‘‘อฺเว ขนฺธา นิพฺพตฺตนฺตี’’ติ อิทํ สพฺพํ ยถาวุตฺตวิธานํ.
๖๑๑-๔. ‘‘สนฺตาเน…เป… สาธโก’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ ปกาเสตุํ ‘‘เอกสฺมึ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอกสฺมึ สนฺตาเนติ ยสฺมึ ธมฺมปฺุเช กมฺมํ นิพฺพตฺตํ, ตสฺเสว สนฺตาเนติ อตฺโถ. อฺสฺสาติปิ วา…เป… โหติ. ตตฺถ เอกนฺตํ เอกตฺตนานตฺตานํ ปฏิสิทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย. เอตสฺสตฺถสฺสาติ เหตุผลานํ อตฺถโต อฺตฺเตปิ เตเนว เหตุผลภาเวน สมฺพนฺธตฺตา ตํ ผลํ อฺสฺส, อฺโตติ วา น วตฺตพฺพนฺติ เอตสฺส อตฺถสฺส. พีชานนฺติ อมฺพมาตุลุงฺคพีชานํ. อภิสงฺขาโรติ มธุอาทิปริภาวนํ. มธุอาทินาติ ¶ มธุจตุมธุรอลตฺตกรสาทินา. ตสฺสาติ ตสฺส ปริภาวิตพีชสฺส. ปมํ ลทฺธปจฺจโยติ มธุรภาวูปคมนโต ปมเมว ลทฺธปจฺจโย. กาลนฺตเรติ ผลกาเล. เอวํ เยฺยมิทมฺปิ จาติ ยถา เอตํ, เอวํ อิทมฺปิ าตพฺพํ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา หิ อมฺพพีชาทีสุ มธุนา, จตุมธุเรน วา โยเชตฺวา โรปิเตสุ ผลรโส มธุโร โหติ, มาตุลุงฺคพีเช จ อลตฺตกรเสน รชิตฺวา โรปิเต อมฺพิลภณฺโฑ รตฺโต โหติ, น จ ตํ พีชํ อภิสงฺขรณํ วา ผลฏฺานํ ปาปุณาติ, เอวํ สนฺเตปิ กาลนฺตเร ผลวิเสโส น อฺพีชสนฺตาเน โหติ, น จ อฺสฺมึ พีเช อภิสงฺขารปจฺจยโต โหติ, เอวเมว เย อิธ โลเก นิพฺพตฺตกฺขนฺธา, เตสุ นิปฺผนฺนํ กมฺมํ วา ปรโลกํ น คจฺฉนฺติ. เอวมฺปิ กาลนฺตเร วิปากกฺขนฺธา อฺสฺมึ สนฺตาเน น นิพฺพตฺตนฺติ, น จ อฺกมฺมปจฺจยโต โหนฺตีติ.
เอตฺถ ¶ หิ อภิสงฺขตํ พีชํ วิย กมฺมํ วา สตฺโต, อภิสงฺขาโร วิย กมฺมํ, พีชสฺส องฺกุราทิปฺปพนฺโธ วิย สตฺตสฺส ปฏิสนฺธิวิฺาณาทิปฺปพนฺโธ. ตตฺถุปฺปนฺนสฺส มธุรรสสฺส อมฺพิลภณฺเฑ รตฺตสฺส จ ตสฺเสว พีชสฺส ตโต เอว จ อภิสงฺขารโต ภาโว วิย กมฺมการกสฺเสว สตฺตสฺส ตโต เอว จ อภิสงฺขรณโต ภาโว เวทิตพฺโพ.
๖๑๕. พาลกาเล…เป… ผลทายินาติ พาลสรีเร กตํ วิชฺชาปริยาปุณนํ, สิปฺปสิกฺขนํ, โอสธูปโยโค จ น วุฑฺฒสรีรํ คจฺฉติ, อถ จ ตนฺนิมิตฺตํ วิชฺชาปาฏวํ, สิปฺปชานนํ, อนามยตาทิ จ วุฑฺฒสรีเร โหนฺติ, น จ ตานิ อฺสฺส โหนฺติ ตํสนฺตติปริยาปนฺเน เอว สทิเส อุปฺปชฺชนโต. น จ ยถา ปยุตฺเตน วิชฺชาปริยาปุณนาทินา วินา ตานิ อฺโต โหนฺติ ตทภาเว อภาวโต, เอวํ อิธาปิ สนฺตาเน ยํ ผลํ, เอตํ นาฺสฺส, น จ อฺโตติ ¶ โยเชตพฺพํ. เอเตน จ สงฺขาราภาเว ผลาภาวเมว ทสฺเสติ, น อฺปจฺจยนิวารณํ กโรติ.
๖๑๖-๘. เอวํ สนฺเตปีติ อสงฺกนฺติปาตุภาเว. ตตฺถ จ ยถาวุตฺตโทสปริหรเณ สติ สิทฺเธปีติ อตฺโถ. วิชฺชมานนฺติ ปทีปสฺส วฏฺฏิกาสฺเนโห วิย วิชฺชมานํ อนิรุทฺธนฺติ อตฺโถ. อวิชฺชมานนฺติ วฏฺฏทุกฺขาภาวสฺส อรหโต จุติจิตฺตํ วิย อวิชฺชมานํ นิรุทฺธนฺติ อตฺโถ. ตปฺปวตฺติกฺขเณติ กมฺมสฺส ปวตฺตมานกฺขเณเยว. เตนาห ‘‘สทฺธิเมว จ เหตุนา’’ติ. อวิชฺชมานนฺติ ปวตฺติกฺขณโต ปุพฺเพ วิชฺชมานตํ อสมฺปตฺตํ. นิรุทฺธนฺติ ขณตฺตยํ ปตฺวา นิรุทฺธํ. เตนาห –
‘‘ปวตฺติกฺขณโต ปุพฺเพ, ปจฺฉา นิจฺจผลํ สิยา’’ติ.
ปุพฺเพติ กมฺมายูหนโต ปุพฺเพ. อวิชฺชมานตาสามฺเน เหตํ วุตฺตํ. ปจฺฉาติ วิปากปฺปวตฺติโต ปจฺฉา จ.
๖๑๙-๒๐. กฏตฺตาปจฺจโยติ กฏตฺตา เอว ปจฺจโย, น วิชฺชมานตาย อวิชฺชมานตาย วาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘กามาวจรสฺส กุสลสฺส กมฺมสฺส กตตฺตา อุปจิตตฺตา วิปากํ จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปนฺนํ โหตี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๔๓๑). ยทิ เอวํ อรหตา ¶ กตกมฺมมฺปิ กฏตฺตาปจฺจโย สิยาติ? นยิทเมวํ. ยถา หิ อจฺฉินฺนมูลสฺมึ รุกฺเข ปุปฺผิตํ พีชสมตฺถมฺปิ กุสุมํ มูเล ฉินฺนมตฺเต ผลทายกํ น โหติ, เอวํ อรหโตปิ กิเลสมูลสฺส อพฺโพจฺฉินฺนกาเล สนฺตาเน ปวตฺตมฺปิ กมฺมํ กิเลสมูลจฺฉินฺนมตฺเตเยว ผลทาเน อสมตฺถภาวํ อาปนฺนนฺติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘พาลชนชฺฌารุฬฺโห ¶ ,
ชาติรโถ กมฺมกิเลสจกฺโกยํ;
กิเลสจกฺกวิธมโน,
น ยาติ กมฺเมกจกฺเกปี’’ติ.
กฏตฺตา เจ ปจฺจโย, นิจฺจผลทายโก วิพนฺโธติ อาห ‘‘ปาฏิโภคาทิก’’นฺติอาทิ. ปาฏิโภคาทิกนฺติ มูลภาวูปคมนาทิกํ. อาทิ-คฺคหเณน ‘‘ปจฺฉา มูลํ ทสฺสามี’’ติ ภณฺฑคฺคหณํ, อิณคฺคหณฺจ สงฺคณฺหาติ. อยํ ปเนตฺถ อธิปฺปาโย – ปาฏิโภคกิริยาทีนํ วิชฺชมานตา, อวิชฺชมานตา วา นิยฺยาตเน, ปฏิภณฺฑทาเน, อิณทาเน จ ปจฺจโย น โหติ, อถ โข กรณมตฺตํ, น จ ตํ นิยฺยาตนาทีนํ นิจฺจเมว ปจฺจโย โหติ นิยฺยาตนาทิมฺหิ กเต ปจฺจยตฺตาภาวโต, เอวเมว วิปากุปฺปาทเนปิ กมฺมสฺส วิชฺชมานตา, อวิชฺชมานตา วา ปจฺจโย น โหติ, อถ โข กรณมตฺตเมว, กรณมตฺเต จ สติ วิปกฺกวิปากานํ ปจฺจโย น โหตีติ.
๖๒๑. ปรมสฺส อุตฺตมสฺส อตฺถสฺส ปกาสนโต ปรมตฺถปฺปกาสโน. ปีติพุทฺธิวิวฑฺฒโนติ ปีติยา, าณสฺส จ, ปีติสหคตสฺส วา าณสฺส วิวฑฺฒโน.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม
อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย
ปฺุวิปากปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.