📜
๑๒. ทฺวาทสโม ปริจฺเฉโท
ปฺตฺตินิทฺเทสวณฺณนา
เอตฺถาติ ¶ ¶ ยถาอุทฺทิฏฺธมฺมานํ นิทฺเทสปริโยสาเน. เอตฺตกเมวาติ จิตฺตเจตสิกรูปนิพฺพานมตฺตเมว. ปฺาเปตพฺพโตติ ปรมตฺถธมฺมา วิย สกสกสภาววเสน อปฺายมานา หุตฺวา โลกสงฺเกตวเสน ปฺาปิยมานตฺตา. ปฺาปนโตติ ปรมตฺถวเสน วิชฺชมานาวิชฺชมานธมฺมานํ ปกาสนวเสน ปฺาปนโต. ตตฺถ ‘‘ปฺาเปตพฺพโต’’ติ อิมินา ปฺาปียติ ปกาเรน าปียตีติ ปฺตฺตีติ เอวํ กมฺมสาธนวเสน อตฺถปฺตฺติภูตา อุปาทาปฺตฺติ วุตฺตา. ‘‘ปฺาปนโต’’ติ อิมินา ปฺาเปติ ปกาเรน าเปตีติ ปฺตฺตีติ เอวํ กตฺตุสาธนวเสน ตสฺสา อภิธายกภูตา นามปฺตฺตีติ เวทิตพฺพํ. ปณฺณตฺติทุกนิทฺเทเส ‘‘สงฺขา…เป… โวหาโร’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๔) จตูหิ ปเทหิ อุปาทาปฺตฺติ วุตฺตา. ‘‘นามํ…เป… อภิลาโป’’ติ (ธ. ส. ๑๓๑๓-๑๓๑๔) ฉหิ ปเทหิ นามปฺตฺติ กถิตาติ อาจริยานํ อิจฺฉิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘เตเนวาหา’’ติอาทิ. เตสํ เตสํ ธมฺมานนฺติ เหฏฺา อภิธมฺมมาติกาย วุตฺตานํ กุสลากุสลาทิธมฺมานํ. สงฺขาติ ‘‘อหํ มมา’’ติอาทินา สงฺขายมานตา. สมฺาติ สงฺเกตวเสน ายมานตา. ปฺตฺตีติ อสงฺกรวเสน อเนกธา วิภชิตฺวา ปฺาปิยมานตา. โวหาโรติ ปากฏํ กตฺวา วุจฺจมานตา, กถนวเสน อุปยุชฺชมานตา วา. อตฺถาภิมุขํ นมตีติ นามํ. ตํ ปน อนฺวตฺถรุฬฺหีวเสน ทุวิธํ, สามฺคุณกิตฺติมโอปปาติกนามวเสน จตุพฺพิธํ. นามกมฺมนฺติ นามกรณํ. นามเธยฺยนฺติ นามปนํ, นามเธยฺยนฺติ วา เสฏฺานํ นามํ. อกฺขรทฺวาเรน อตฺถํ นีหริตฺวา อุตฺติ กถนํ นิรุตฺติ. พฺยฺชนนฺติ ปากฏกรณํ. อภิลาโปติ อภิลาปนํ.
อหนฺติ ¶ รูปาทิวินิมุตฺตํ อหํการพุทฺธิวิสยภูตํ อตฺตโน ขนฺธสมูหสนฺตานมุปาทาย ปฺตฺตํ ตทฺานฺภาเวน อนิพฺพจนียํ อุปาทาปฺตฺตึ วทติ. เตนาห ‘‘อหนฺติ หี’’ติอาทิ. ‘‘อหนฺติ…เป… กตฺวา’’ติ อุปาทาปฺตฺติยา อุปฺปตฺตึ ทสฺเสตฺวา ยถาติอาทินา ตํ ปกาเสติ.
ยสฺมา ¶ ‘‘สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร’’ติ ‘‘เอวํ สงฺขา’’ติ อิมสฺเสว เววจนํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อิทานิ ปฺาปนโต ปฺตฺติ’’นฺติอาทิ.
ตทนุรูปา ชาตาติ ตชฺชา, อวิชฺชมานปฺตฺติ วิย เกวลํ โลกสงฺเกตวเสเนว อหุตฺวา ธมฺมสภาวสฺส อนุรูปวเสน ปวตฺตา ปฺตฺตีติ อตฺโถ. นามปฺตฺติปิ วจนตฺถสงฺขาตการณํ อุปาทาย ปฏิจฺจ ปวตฺตนโต อุปาทาปฺตฺติโวหารํ ลภตีติ ตสฺสาปิ อุปาทาปฺตฺติปริยาโย วุตฺโต. คณฺิปทกาเรนาปิ หิ อิมินาว อธิปฺปาเยน อุปาทาปฺตฺตีติ อุปาทานวตี ปฺตฺติ การณวตึ การณภูตมตฺถมุปาทาย คเหตฺวา ตนฺนิสฺสเยน ปฺาปียติ, สพฺโพปิ ปฺตฺติเภโท อเนน ลกฺขเณน อุปาทาปฺตฺติเมว ภชติ. อนุปาทาย หิ ปฺตฺติ นตฺถีติ วุตฺตํ. อุปนิธาปฺตฺตีติ ปฏิปกฺขภูตํ เอกปฺตฺตึ อุปนิธาย อเปกฺขิตฺวา ปวตฺตา ปฺตฺติ. จกฺขุโสต-คฺคหเณน อชฺฌตฺติกายตนานิ ทสฺเสติ, รูปสทฺท-คฺคหเณน พาหิรายตนานิ. ปถวีเตโชวายุ-คฺคหเณน โผฏฺพฺพายตนํ ปเภทโต ทสฺเสติ. เอเตเนว ธมฺมายตเนปิ ลพฺภมานเภโท ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ.
ยสฺมา ปถวาทิกา ปฺตฺติ สสมฺภารปถวิยํ เอกสฺส นามํ คเหตฺวา สมูหเมโวปาทาย ปฺาปียติ, ฆฏาทิกา จ ปฺตฺติ ธมฺมสมูเหสุ สพฺเพสเมว นามํ คเหตฺวา สมูหเมโวปาทาย ปฺาปียติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอกสฺส วา’’ติอาทิ ¶ . ตตฺถ เอกสฺส นามํ คเหตฺวา สมูหมุปาทาย ปฺาปิยมานาย ปถวาทิวเสน ปากฏภาวโต ตํ เปตฺวา อิตรํ ทสฺเสตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อยํ สมูหปฺตฺติ นาม สมูหสฺส ปฺาปนโต. ทิสากาสาทีสุ ทิสา-คฺคหเณน จนฺทสูริยาวตฺตนมุปาทาย ปฺาปิยมานํ ปุรตฺถิมาทิทิสาปฺตฺตึ ทสฺเสติ. อากาส-คฺคหเณน อสมฺผุฏฺธมฺเม อุปาทาย ปฺาปิยมานํ กูปคุหาทิอากาสปฺตฺตึ ทสฺเสติ. กาล-คฺคหเณน จนฺทาวตฺตนาทิกมุปาทาย ปฺาปิยมานํ ปุพฺพณฺหาทิกาลปฺตฺตึ ทสฺเสติ. นิมิตฺต-คฺคหเณน พหิทฺธา ปถวีมณฺฑลาทิกํ, อชฺฌตฺติกฺจ ภาวนาวิเสสํ อุปาทาย ปฺาปิยมานํ กสิณนิมิตฺตาทิกํ ทสฺเสติ. อภาว-คฺคหเณน ภาวนาพเลน อปฺปวตฺตนสภาวํ อากาสานฺจายตนฌานํ อุปาทาย ปวตฺตํ อากิฺจฺายตนฌานารมฺมณํ อภาวปฺตฺตึ ทสฺเสติ. นิโรธ-คฺคหเณน ภาวนาพเลน นิรุทฺธํ เนวสฺานาสฺายตนํ นิสฺสาย ปฺตฺตํ นิโรธปฺตฺตึ ทสฺเสติ. อาทิ-คฺคหเณน ขยาทิสภาวํ ตํ ตํ ธมฺมมุปาทาย ปฺาปิยมานํ อนิจฺจลกฺขณาทิกํ ¶ สงฺคณฺหาติ. สาปิ หิ ทิสากาสาทิกา วิย ธมฺมสมูหมุปาทาย อปฺตฺตภาวโต อสมูหปฺตฺติเยวาติ.
สาติ อยํ ทฺวิธา อุปาทาปฺตฺติ. ตชฺชาปฺตฺติ วจนตฺถํ อมฺุจิตฺวา ปวตฺติโต อุปาทาปฺตฺติยํเยว สงฺคยฺหตีติ วุตฺตํ ‘‘วิชฺชมานํ ปรมตฺถํ โชตยตี’’ติ. เอวฺจ กตฺวา อุปริ ‘‘ฉ ปฺตฺติโยปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉนฺตี’’ติ วุตฺตํ. วิชฺชมานนฺติ สภาเวน อุปลพฺภมานํ. อวิชฺชมานนฺติ เปตฺวา โลกสงฺเกตํ สภาววเสน อนุปลพฺภมานํ. นามมตฺตนฺติ นามมตฺตวนฺตํ. โสตทฺวารชวนานนฺตรนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนสทฺทารมฺมณาย โสตทฺวารชวนวีถิยา, ตทนุสารปฺปวตฺตาย อตีตสทฺทารมฺมณาย มโนทฺวารชวนวีถิยา จ อนนฺตรปฺปวตฺเตน ¶ . มโนทฺวารชวนวีถิปิ หิ โสตทฺวารชวนานนฺตรปฺปวตฺตา ตคฺคหเณเนว อิธ คหิตา. คหิตปุพฺพสงฺเกเตนาติ ‘‘อยํ อิมสฺส อตฺโถ, อิทมิมสฺส วาจก’’นฺติ เอวํ วจนวจนตฺถสมฺพนฺธคฺคหณวเสน คหิตปุพฺพภาวสงฺเกเตน. ยายาติ ยาย นามปฺตฺติยา กรณภูตาย. มโนทฺวารชวนวิฺาเณน กตฺตุภูเตน. มโนทฺวารชวนวิฺาเณน วา กรณภูเตน, ยาย นามปฺตฺติยา กตฺตุภูตายาติ อตฺโถ. ปฺาปียตีติ สมฺมุติปรมตฺถวเสน ปน ทุวิธํ อตฺถชาตํ ปฺาปียติ วิฺาปียตีติ วุตฺตํ โหติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘อตฺถา ยสฺสานุสาเรน, วิฺายนฺติ ตโต ปรํ;
สายํ ปฺตฺติ วิฺเยฺยา, โลกสงฺเกตนิมฺมิตา’’ติ.
กตรชวนวีถิยํ ปนายํ วิฺายตีติ? ‘‘ฆโฏ’’ติอาทิสทฺทํ สุณนฺตสฺส เอกเมกํ สทฺทํ อารพฺภ ปจฺจุปฺปนฺนาตีตารมฺมณวเสน ทฺเว ทฺเว ชวนวารา โหนฺติ, ตโต สทฺทสมุทายมารพฺภ เอโก, ตโต นามปฺตฺติมารพฺภ เอโกติ เอวํ สทฺทสมุทายารมฺมณาย ชวนวีถิยา อนนฺตรํ นามปฺตฺติ ปากฏา โหติ, ตโต ปรํ อตฺถาวโพโธติ อาจริยา.
ยํ สนฺธาย ฉกฺกนโย วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. ตถา อวิชฺชมานานนฺติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมานานํ. เกนจิ อากาเรนาติ ปรมตฺถโต, โลกสงฺเกตโต วา เกนจิ ปกาเรน. อนุปลพฺภมานานํ ปฺจมสจฺจาทีนนฺติ อากาสาทิปฺจมสจฺจาทีนํ. อาทิ-คฺคหเณน อฏฺมโพชฺฌงฺคาทิเก สงฺคณฺหาติ. ปกติปุริสาทีนนฺติ สตฺวรชตมานํ สมานาวตฺถา ปกติองฺคุฏฺาทิปริมาโณ ¶ การโก เวทโก อตฺตา ปุริโสติอาทินา ปริกปฺปิตานํ ปกติปุริสาทีนํ. อาทิ-คฺคหเณน อากาสกุสุมาทึ สงฺคณฺหาติ. วิชฺชมาเนน อวิชฺชมานปฺตฺติ ปรมตฺถโต วิชฺชมานาหิ วิชฺชาทีหิ ¶ อวิชฺชมานสฺส ปุคฺคลสฺส ปฺตฺตตฺตา. เสเสสุปิ อิมินาว นยานุสาเรน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอตฺเถวาติ อุปาทาปฺตฺติยเมว.
‘‘กุสคฺเคนุทกมาทาย, สมุทฺเท อุทกํ มิเน;
เอวํ มานุสกา กามา, ทิพฺพกามาน สนฺติเก’’ติ. (ชา. ๒.๒๑.๓๘๙) –
วจนโต มนุสฺสโลเก จกฺกวตฺติสมฺปตฺติทิพฺพสมฺปตฺตึ อุปนิธาย นิหีนาเยวาติ วุตฺตํ ‘‘กปณํ…เป… นิธายา’’ติ. มานุสกนฺติ มนุสฺสโลเก ภวํ. ปรมตฺโถ จ วิชฺชตีติ ปาเสโส.
๗๗๘. ตติยา โกฏิ น วิชฺชติ อนุปลพฺภมานตฺตา. วุตฺตฺเหตํ มหาอฏฺกถายํ –
‘‘ทุเว สจฺจานิ อกฺขาสิ, สมฺพุทฺโธ วทตํ วโร;
สมฺมุตึ ปรมตฺถฺจ, ตติยํ โนปลพฺภตี’’ติ. (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๔๓๙-๔๔๓);
ปรวาเทสุ น กมฺปตีติ ปกติปุริสนฺตราทิวาทีนํ ปเรสํ ติตฺถิยานํ วาเทสุ สมฺปตฺเตสุ, นิมิตฺตภูเตสุ วา น กมฺปติ น ปเวธติ น จลตีติ อตฺโถ.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม
อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย
ปฺตฺตินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.