📜

๑๔. จุทฺทสโม ปริจฺเฉโท

รูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา

๗๘๙. เอวํ ปรมตฺถสมฺมุติวเสน อุภยถาปิ สพฺพธมฺเม สงฺเขปโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา เตสุ อุคฺคหณปริจฺเฉทาทิวเสน กตปริจเยน อตฺถกาเมน กุลปุตฺเตน เอกํสโต ภาวนาย อภิโยโค กาตพฺโพ, ตสฺมา ภาวนานยํ สงฺเขปโต ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘ภาวนานย’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ภาวนานยนฺติ โลกิยโลกุตฺตรภาวนานยํ, กุสลธมฺมานํ วฑฺฒนกฺกมนฺติ อตฺโถ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกํ หิตํ อานยติ อุปเนตีติ หิตานโย, ตํ หิตานยํ. มานยนฺติ มาเนนฺโต. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกตฺเถหิ อนุสาสนโต สตฺตานํ สุขํ อาเนตีติ สุขานโย, ตํ สุขานยํ. ปรมํ พฺยากโรมิ, ปรมํ ภาวนานยนฺติ วา โยชนา.

๗๙๐. มนุสฺสานํ ธมฺมโต อุตฺตรํ าณทสฺสนนฺติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ มนุสฺสานํ ธมฺมา นาม มนุสฺสานํ ปกติธมฺมภูตา ทส กุสลกมฺมปถา, ตโต อุตฺตรํ าณทสฺสนํ นาม มหคฺคตโลกุตฺตรธมฺมา. เต หิ ชานนฏฺเน าณํ, ปจฺจกฺขโต วิย ทสฺสนฏฺเน จ ทสฺสนนฺติ อธิปฺเปตา. ‘‘อุตฺตริมนุสฺสาน’’นฺติ วา ยถาิตวเสเนว สมฺพนฺโธ. พาลมนุสฺสาทิโต อุตฺตริมนุสฺสานํ ฌายีนฺเจว อริยานฺจาติ อตฺโถ.

๗๙๑. สงฺกสฺสรสมาจาเรติอาทีหิ สีลวิสุทฺธิยา ปโยชนทสฺสนํ. ตตฺถ สงฺกาย สริตพฺโพ สมาจาโร อสฺสาติ สงฺกสฺสรสมาจาโร. ยํ กิฺจิ ลามกกมฺมํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อสุเกน กตํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺเตตพฺพาย สงฺกาย อตฺตโน วา ปเร ยํกิฺจิ มนฺเตนฺเต ทิสฺวา ‘‘มม อิทฺจิทฺจ อสารุปฺปํ ชานิตฺวา มนฺเตตี’’ติ เอวํ ปวตฺตสงฺกาย อุปคนฺตพฺพสมาจาโรติ อตฺโถ. ทุสฺสีเลติ เอตเทว วิภาเวตุํ ‘‘สีลวชฺชิเต’’ติ วุตฺตํ. ทุสฺสีเลติ วา ทูสิตสีเล ขณฺฑาทิภาวํ อุปคตสีเล. สีลวชฺชิเตติ สพฺเพน สพฺพํ สีลวิรหิเต. นตฺถิ ฌานนฺติ โลกิยชฺฌานมฺปิ ตาว นตฺถิ. กุโต มคฺโคติ โลกุตฺตรมคฺโค กุโต, เกน การเณน โลกุตฺตรธมฺมานํ เหตุเยว วิชฺชตีติ อตฺโถ.

๗๙๒. จรนฺติ ตสฺมึ สีเล ปริปูรการิตาย ปวตฺตนฺตีติ จาริตฺตํ. วาริตํ ตายนฺติ รกฺขนฺติ เตน, วาริตโต วา อตฺตานํ ตายตีติ วาริตฺตํ. ยํ ภควตา ‘‘อิทํ กาตพฺพ’’นฺติ ปฺตฺติสิกฺขาปทปูรณํ, อิทํ จาริตฺตํ นาม. ยํ ‘‘น กาตพฺพ’’นฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ, ตสฺส อกรณํ วาริตฺตํ นาม. อจฺฉิทฺทนฺติอาทีสุ ยสฺส สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ มชฺเฌ สิกฺขาปทํ ภินฺนํ, ตสฺส สีลํ ฉิทฺทสาฏโก วิย ฉิทฺทํ นาม โหติ, ตพฺพิปรีตํ อจฺฉิทฺทํ. ยสฺส อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา ภินฺนํ, ตสฺส ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิย ขณฺฑํ นาม โหติ, ตทฺํ อกฺขณฺฑํ. กมสฺส อาทรกรณวเสน อกฺขณฺฑนฺติ, กมวิลงฺฆนวเสน ‘‘อกฺขณฺฑมจฺฉิทฺท’’นฺติ วา ปาโ. อกมฺมาส-คฺคหเณน อสพลตฺตมฺปิ วุตฺตํ, สพลกมฺมาสานํ เภทสฺส อปฺปมตฺตกภาวโต. เอตฺตโก หิ เตสํ วิเสโส. ยสฺส ปฏิปาฏิยา ทฺเว ตีณิ สิกฺขาปทานิ ภินฺนานิ, ตสฺส ปิฏฺิยา, กุจฺฉิยา วา อุฏฺิเตน วิสภาควณฺเณน กาฬรตฺตาทีนํ อฺตเรน สพลวณฺณา คาวี วิย สพลํ นาม โหติ. ยสฺส อนฺตรนฺตรา ภินฺนานิ, ตสฺส อนฺตรนฺตรา วิสภาควณฺณพินฺทุจิตฺรคาวี วิย กมฺมาสํ นาม โหติ. ยํ ปน ตถาวิธํ น โหติ, ตํ ‘‘อสพลํ อกมฺมาส’’นฺติ วุจฺจติ. อนินฺทิตนฺติ อิมินา ภุชิสฺสวิฺุปฺปสตฺถอปรามฏฺสมาธิสํวตฺตนิกภาเว สงฺคณฺหาติ. ตตฺถ ‘‘อิมินาหํ สีเลน วา วเตน วา พฺรหฺมจริเยน วา เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา’’ติ เอวํ ตณฺหาย อปรามฏฺํ ตณฺหาทาสพฺยโต โมจิตตฺตา ภุชิสฺสํ นาม. อทาสฺหิ โลเก ภุชิสฺโสติ วทนฺติ. ยถาวุตฺตคุณปาริปูริยา พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ปสํสิตพฺพนฺติ วิฺุปฺปสตฺถํ. ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺํ ิติภาคิยํ อปรามฏฺํ นาม. ฌานาทีนํ ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ วิเสสภาคิยํ สมาธิสํวตฺตนิกํ นาม.

๗๙๓-๗. วิเวกสุขนฺติ กายจิตฺตูปธิวิเวกสุขํ. กายวิเวกสุขมฺปิ หิ สมฺปนฺนสีลสฺเสว ทุสฺสีลสฺส สุฺาคาราทีสุ วสโตปิ เภรวารมฺมณาทิอาปาถคมเนน ทุกฺขสฺเสว วิเสสโต สมฺปชฺชนโต. อลงฺกาโร อนุตฺตโรติ เทวพฺรหฺมราชราชมหามตฺตาทีนํ มชฺเฌ อนฺสาธารณโสภาปฏิลาภเหตุตาย นิรุตฺตโร อลงฺการวิเสโส. รตนนฺติ จกฺกวตฺตีนํ จกฺกรตนาทิโตปิ สวิเสสํ รติชนนโต อนุตฺตรํ รตนํ. จกฺกรตนาทิกฺหิ วฏฺฏนิสฺสิตเมว รตึ ชเนติ, อิทํ ปน วิวฏฺฏนิสฺสิตมฺปิ ชเนตีติ วิเสสโต รติชนกํ โหติ. อิจฺฉิติจฺฉิตสฺส สมฺปตฺติวิเสสสฺส นิปฺผาทนโต จินฺตามณิสมนฺติ จินฺตามณิ. ยานนฺติ สํสารกนฺตารตรเณ ยานํ. สีตลนฺติ จิตฺตสีติภาวกรเณน สีตลํ. กิเลสมลโธวนนฺติ คงฺคายมุนาทีหิปิ ทุพฺพิโสธนียสฺส กิเลสกาลุสิยสฺส โธวนํ. คุณานํ มูลภูตนฺติ สพฺเพสมฺปิ โลกิยโลกุตฺตรคุณานํ มูลภูตํ. ‘‘สีเล ปติฏฺาย (สํ. นิ. ๑.๒๓), โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙) จ อาทิวจนฺเหตฺถ นิทสฺสนํ. โทสานํ วีติกฺกมวตฺถุภูตสฺส พลสฺส วินาสนโต โทสานํ พลฆาติ.

ตสฺมาติ ยสฺมา เอวํวิธานิสํสสมฺปนฺนํ สีลํ, ตสฺมา. ทุวิธลกฺขณนฺติ โอกฺขิตฺตจกฺขุอปฺปสทฺทาทิวเสน กายกมฺมาทีนํ อวิปฺปกิณฺณตาสาธนโต สมาธานลกฺขณํ, กุสลธมฺมานํ มูลภาวโต ปติฏฺานลกฺขณนฺติ เอวํ ทุวิธลกฺขณํ, จาริตฺตวาริตฺตวเสน วา ทุวิธสภาวนฺติ อตฺโถ. อตฺถานํ กาเมติ ตสฺส หิตาสีสนวเสนาติ อตฺถกาโม. ปิยํ สีลมสฺสาติ ปิยสีโล.

๗๙๘-๙. กาตพฺโพ ปลิโพธสฺสุปจฺเฉโทติ สมฺพนฺโธ. กติวิโธ ปนายํ ปลิโพโธ, กึ สรูโป จาติ อาห ‘‘ปลิโพธาทสา’’ติอาทิ, ‘‘อาห มหาอฏฺกถาย’’นฺติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ อาวาโสติ เอกมฺปิ โอวรกํ อาทึ กตฺวา ยาว สกโลปิ สงฺฆาราโม, โส ตตฺถ ปฏิพทฺธจิตฺตสฺส ปลิโพโธ, น อิตรสฺส. กุลนฺติ าติกุลํ วา อุปฏฺากกุลํ วา, ตํ เตหิ สํสฏฺวิหรโตว ปลิโพโธ. ลาโภติ จตฺตาโร ปจฺจยา, เตปิ ตตฺถ สาเปกฺขสฺเสว ปลิโพธา. คโณติ สุตฺตนฺติกคโณ วา อาภิธมฺมิกคโณ วา. โส อุทฺเทสปริปุจฺฉาทาเนน สมณธมฺมสฺส โอกาสาลาภิโน ปลิโพโธ. กมฺมนฺติ นวกมฺมํ, ตํ กโรนฺเตน วฑฺฒกิอาทีหิ ลทฺธาลทฺธํ ชานิตพฺพํ, กตากเต อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิตพฺพนฺติ สพฺพถาปิ ปลิโพโธ. อทฺธานนฺติ มคฺคคมนจิตฺตสฺส ทุพฺพิโนทนียตาย ตํ สมณธมฺมสฺส ปลิโพโธ. าตีติ เอตฺถ กุล-คฺคหเณน าติกุลสฺสปิ คหิตตฺตา เอเกกา าติ อิธ คหิตาติ ทฏฺพฺพา. เย ปน วิหาเร อาจริยุปชฺฌายาทโย, ฆเร มาตาทโย, เต คิลานา ปลิโพธา. อาพาโธติ โย โกจิ โรโค, โส พาธยมาโน ปลิโพโธ. คนฺโถติ ปริยตฺติปริหรณํ, ตํ สชฺฌายาทีหิ นิจฺจพฺยาวฏสฺเสว ปลิโพโธ. อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกอิทฺธิ. สา หิ ทุปฺปริหารา อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ, อยํ ปน วิปสฺสนาย ปลิโพโธ, น สมาธิสฺส สมาธึ ปตฺวา ปฏิลภิตพฺพตฺตา. เตติ เต ปลิโพธา.

๘๐๐-๒. ปลิโพธสฺสุปจฺเฉทํ กตฺวาติ เอตฺถ ปโม ตตฺถ นิรเปกฺขจิตฺตตาย, ทุติโย อสํสคฺเคน, ตติโย ลาภสกฺการุปฺปตฺติฏฺานํ ปหาย อฺตฺถ คมเนน, จตุตฺโถ ยถารทฺธคนฺถสมาปเนน , อฺสฺส สงฺคาหเณน วา, ปฺจโม ยถารทฺธกมฺมสฺส นิฏฺาปเนน, สงฺฆาทีนํ นิยฺยาตเนน วา, ฉฏฺโ คนฺตฺวา กิจฺจตีรเณน, สตฺตโม อุปฏฺหิตฺวา าตีนํ ปากติกกรเณน, อฏฺโม เภสชฺชกรเณน, วีริยาธิฏฺาเนน วา, นวมทสมา ตตฺถ อพฺยาวฏตาย อุปจฺฉินฺทิตพฺพา. อุปสงฺกมิตพฺโพติ ยตฺถ โส วสติ, ตตฺถ อุปสงฺกมนวิธิฺเจว อุปสงฺกมนฺเตน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธานฺจ วิสุทฺธิมคฺเค วุตฺตนเยน เวทิตพฺพํ. อิโต ปรฺหิ คนฺถวิตฺถารปริหรณตฺถํ วิสุทฺธิมคฺเค อาคตวิตฺถารํ ปหาย ปทตฺถวณฺณนมตฺตํ กริสฺสาม. กมฺมฏฺานสฺสาติ เอตฺถ โยคกมฺมสฺส ปวตฺติฏฺานตาย, อุปรูปริภาวนากมฺมสฺส การณภาวโต จ กมฺมฏฺานํ. ตํ ปน สพฺพตฺถกปาริหาริยวเสน ทุวิธํ. ตตฺถ เมตฺตา, มรณสฺสติ, อสุภสฺา จ สพฺพตฺถ อตฺถยิตพฺพโต อิจฺฉิตพฺพโต สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ นาม. จริยานุกูลํ ปน ยํ กิฺจิ กมฺมฏฺานํ นิจฺจํ ปริหริตพฺพตฺตา ปาริหาริยกมฺมฏฺานํ นาม. อิมํ ทุวิธํ กมฺมฏฺานํ โย เทติ, อยํ กมฺมฏฺานสฺส ทายโก, โสปิ อีทิโส ปริเยสิตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปิโย ครู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปิโยติ สีลสมฺปทาทีหิ สตฺตานํ ปิยายิตพฺโพ. ครูติ ตโตเยว ครุกาตพฺโพ ปาสาณจฺฉตฺตํ วิย ครุํ กตฺวา ทฏฺพฺโพ. ภาวนีโยติ สมฺภาวนีโย. วตฺตาติ กิฺจิ อาลสิยมฺปิ ทิสฺวา โจเทตฺวา โอวาทวเสน วทนสีโล. วจนกฺขโมติ ปฏิปุจฺฉกฺขโม, ปฏิปุจฺฉิโต อสํหีโร หุตฺวา สมฺภาสนกฺขโมติ วุตฺตํ โหติ. คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตาติ ติรจฺฉานกถํ อกเถตฺวา ทสกถาวตฺถุปฏิสํยุตฺตํ คมฺภีรเมว กถํ กตฺตา. โน จฏฺาเน นิโยชโกติ อปฺปวตฺติตพฺพฏฺานภูเต อหิเต น นิโยชโก. เอวมาทิคุโณเปตนฺติ อาทิ-สทฺเทน สทฺธาสมฺปทาทิคุณโยคํ ทสฺเสติ. กาเลนาติ อตฺตโน, อาจริยสฺส จ สปฺปายกาเลน.

๘๐๓. วตฺตํ กตฺวาติ อาจริยสฺส นวกมหลฺลกภาวานุรูเปน ขนฺธเก อาคตํ อาจริยวตฺตํ กตฺวา. อิทานิ อาจริเยน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘เตนาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตนาปีติ กมฺมฏฺานทายเกนปิ. จริตํ ตฺวา ทาตพฺพนฺติ เจโตปริยาณลาภินา ตสฺส จิตฺตาจารํ, หทยโลหิตํ วา ปสฺสิตฺวา อิตเรน ‘‘ตฺวํ กึจริโตสิ, เก วา ปน เต ธมฺมา พหุลํ สมุทาจรนฺตี’’ติอาทินา ปฏิปุจฺฉิตฺวา ตสฺส จริตํ ชานิตฺวา ตทนุรูเปน ทาตพฺพํ.

๘๐๔. อิริยาปถาทิโตปิ เกสฺจิ จริตํ ชานิตุํ สกฺกา, ตํ ปน น เอกนฺติกํ, ‘‘จริตํ ตฺวา’’ติ วุตฺตํ, กตมํ ปน ตํ, กติวิธา วาติ อาห ‘‘จริตํ ปนิทํ ราคโทสโมหวเสนา’’ติอาทิ . อุสฺสนฺนภาเวน สนฺตาเน จรตีติ จริตํ, อสติ ปฏิปกฺขภาวนายํ สนฺตาเน ปวตฺตนารหา ราคาทโย.

๘๐๕. โวมิสฺสกนยาติ สมฺปโยควเสน, เอกสนฺตติปริยาปนฺนตาวเสน จ เนสํ สํสคฺคเภทา. จตุสฏฺิ ภวนฺตีติ –

‘‘ราคาทิเก ติเก สตฺต, สตฺต สทฺธาทิเก ติเก;

เอกทฺวิติกมูลมฺหิ, มิสฺสโต สตฺตสตฺตก’’นฺติ –

เอวํ วุตฺเตหิ นวหิ สตฺตเกหิ ยถารหํ วิภชิยมานา เตสฏฺิ ทิฏฺิยา สทฺธึ จตุสฏฺิ ภวนฺติ. ตถา หิ วุตฺตํ อุปนนฺทตฺเถเรน

‘‘ราโค โทโส จ โมโห จ, ราเคน ปฏิโฆปิ จ;

สทฺธึ ราเคน โมโห จ, โมโหปิ ปฏิเฆน จ.

‘‘ราคาทิตฺตยเมกนฺติ, สตฺต ราคาทิเก ติเก;

สทฺธา พุทฺธิ จ ตกฺโก จ, สทฺธึ สทฺธาย พุทฺธิ จ.

‘‘สทฺธาย ตกฺกนฺเจว, พุทฺธิยา ตกฺกนมฺปิ จ;

สทฺธาทิตฺตยเมกนฺติ, สตฺต สทฺธาทิเก ติเก.

‘‘ราคาทิกํ ติกฺเจก-เมกทฺวิติกเภทโต;

สทฺธาพุทฺธิวิตกฺเกหิ, ยถาโยคํ วิมิสฺสิย.

‘‘เอกมูเล ทฺวิมูเล จ, ปจฺเจกํ สตฺตกตฺตยํ;

ติมูเล สตฺตกฺเจกํ, เยฺยํ ตํ สตฺตสตฺตกํ.

‘‘สทฺธึ ราเคน สทฺธา จ, สทฺธึ เตเนว พุทฺธิ จ;

เตเนว ตกฺกนํ เตน, สทฺธาพุทฺธิ จ เตน จ.

‘‘สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตน, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ;

วิมิสฺเสตฺวาน เตเนว, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ.

‘‘ราคมูลนเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส;

สทฺธึ โทเสน สทฺธา จ, สทฺธึ เตเนว พุทฺธิ จ.

‘‘เตเนว ตกฺกนํ เตน, สทฺธาพุทฺธิ จ เตน จ;

สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตน, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ.

‘‘วิมิสฺเสตฺวาน เตเนว, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ;

โทสมูลนเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส.

‘‘สทฺธึ โมเหน สทฺธา จ, สทฺธึ เตเนว พุทฺธิ จ;

เตเนว ตกฺกนํ เตน, สทฺธาพุทฺธิ จ เตน จ.

‘‘สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตน, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ;

วิมิสฺเสตฺวาน เตเนว, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ.

‘‘โมหมูลนเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส;

เอกมูเล นเย เจวํ, เยฺยํ ตํ สตฺตกตฺตยํ.

‘‘มิสฺเสตฺวา ราคโทเสหิ, สทฺธา เตเหว พุทฺธิ จ;

เตหิ สงฺกปฺปนํ เตหิ, สทฺธาพุทฺธิ จ เตหิ จ.

‘‘สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตหิ, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ;

เตหิ ทฺวีเหว มิสฺเสตฺวา, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ.

‘‘ราคโทสนเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส;

มิสฺเสตฺวา ราคโมเหหิ, สทฺธา เตเหว พุทฺธิ จ.

‘‘เตหิ สงฺกปฺปนํ เตหิ, สทฺธาพุทฺธิ จ เตหิ จ;

สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตหิ, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ.

‘‘เตหิ ทฺวีเหว มิสฺเสตฺวา, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ;

ราคโมหนเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส.

‘‘มิสฺเสตฺวา โทสโมเหหิ, สทฺธา เตเหว พุทฺธิ จ;

เตหิ สงฺกปฺปนํ เตหิ, สทฺธาพุทฺธิ จ เตหิ จ.

‘‘สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตหิ, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ;

เตหิ ทฺวีเหว มิสฺเสตฺวา, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ.

‘‘โทสโมหนเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส;

ทฺวิมูลมฺหิ นเย เจวํ, เยฺยํ ตํ สตฺตกตฺตยํ.

‘‘ราคปฺปฏิฆโมเหหิ, สทฺธา เตเหว พุทฺธิ จ;

เตหิ สงฺกปฺปนํ เตหิ, สทฺธาพุทฺธิ จ เตหิ จ.

‘‘สทฺธาสงฺกปฺปนํ เตหิ, พุทฺธิสงฺกปฺปนมฺปิ จ;

เตหิ ตีเหว มิสฺเสตฺวา, สทฺธาพุทฺธิวิตกฺกนํ.

‘‘ติมูลมฺหิ นเย เจว-เมกํ สตฺตกมุทฺทิเส;

เอวํ เตสฏฺิ โหตีติ, วิฺเยฺยํ นวสตฺตกํ;

ทิฏฺิยาปิ จ โหเตว, จตุสฏฺีติ เกจนา’’ติ.

๘๐๖-๗. นนุ จ ‘‘จริตํ ตฺวา ทาตพฺพ’’นฺติ วุตฺตํ, กึจริตสฺส ปน กึ กมฺมฏฺานํ อนุกูลนฺติ อิมํ อนุโยคํ สนฺธาย ตํตํจริตานุกูลกมฺมฏฺานํ ทสฺเสตฺวา ปุน ตสฺส คณนโต อปฺปนาวหโต ฌานปฺปเภทโต สมติกฺกมโต วฑฺฒนาวฑฺฒนโต อารมฺมณโต ภูมิโต คหณโต ปจฺจยโต เภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อสุภา จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทส อสุภาติ อุทฺธุมาตกํ วินีลกํ วิปุพฺพกํ วิจฺฉิทฺทกํ วิกฺขายิตกํ วิกฺขิตฺตกํ หตวิกฺขิตฺตกํ โลหิตกํ ปุฬวกํ อฏฺิกนฺติ อิเม ทส. ตถา กายคตาสติ จาติ อิเม เอกาทส ราควิกฺขมฺภนสฺส อุปายภาวโต ราคจริตสฺส อนุกูลา. อสุภ-คฺคหเณน เจตฺถ ตทารมฺมณสมาธิปุพฺพงฺคมํ กมฺมฏฺานํ คหิตํ. เอวํ เสเสสุปิ ยถารหํ ทฏฺพฺพํ. อปฺปมาณสตฺตารมฺมณตฺตา อปฺปมฺา, เมตฺตา กรุณา มุทิตา อุเปกฺขาติ จตุนฺนํ พฺรหฺมวิหารานเมตํ อธิวจนํ. เต ปน สวณฺณกสิณา นีลกสิณํ ปีตกสิณํ โลหิตกสิณํ โอทาตกสิณนฺติ อิเมหิ จตูหิ วณฺณกสิเณหิ สหิตา อฏฺ โทสวิกฺขมฺภนุปายภาวโต, อปฺปฏิฆาตวิสยตฺตา จ โทสจริตสฺส อนุกูลา.

๘๐๘. ตํ…เป… ปเนกกนฺติ เอตฺถ เอกกนฺติ อิทํ อนุสฺสติอเปกฺขํ, อนุสฺสตีสุ เอกนฺติ อตฺโถ, น โมหจริตวิตกฺกจริตาเปกฺขํ เตสํ อฺสฺสาปิ อนุกูลสฺส ลพฺภนโต. ตํ ปน โมหจริตสฺส, วิตกฺกจริตสฺส จ คณนพเลน จิตฺตสฺส ปติฏฺานโต อนุกูลํ.

๘๐๙-๑๑. ปุริมา…เป… เทหิโนติ ‘‘พุทฺธานุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ สีลานุสฺสติ จาคานุสฺสติ เทวตานุสฺสตี’’ติ อิทํ ปาฬิกฺกเมน ปุริมํ อนุสฺสติฉกฺกํ สทฺธาจริตสฺส อติสปฺปายวเสน อนุกูลํ. มรณูปสมายุตฺตา สตีติ มรเณ, อุปสเม จ ยุตฺตา สติ, มรณานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ จาติ วุตฺตํ โหติ. อาหารนิสฺสิตา สฺาติ อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺา. ธาตุววตฺถานนฺติ จตุธาตุววตฺถานํ. พุทฺธิปฺปกติชนฺตุโนติ พุทฺธิจริตสฺส สตฺตสฺส. เสสานิ กสิณานีติ โทสจริตสฺส อนุกูเลสุ วุตฺเตหิ จตูหิ วณฺณกสิเณหิ อวเสสานิ ปถวีอาโปเตโชวาโยอาโลกากาสกสิณานิ, เอวํ ปุริมานิ จตฺตาริ, อิมานิ ฉาติ ทส อิมสฺเสว อุชุวิปจฺจนีกา, อิมสฺส อสปฺปายนฺติ คเหตพฺพวิเสสสฺส อภาวโต ราคาทิสพฺพจริตานํ อนุกูลาติ วณฺณิตา.

๘๑๒. เอกนฺตวิปจฺจนีกภาวโตติ ราคจริตาทีนํ อสุภาทิกมฺมฏฺานสฺส อุชุวิปจฺจนีกตาย. อติสปฺปายโตติ สทฺธาจริตาทีนํ พุทฺธานุสฺสติอาทิกมฺมฏฺานสฺส อติสปฺปายโต. เอวํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน, อติสปฺปายวเสน จ อิทํ สพฺพํ วิสุํ วิสุํ เตสํ อนุกูลนฺติ วุตฺตํ, น ปน อิตรสฺส อนนุกูลภาวโต. น หิ ราคาทีนํ อวิกฺขมฺภิกา, สทฺธาทีนํ วา อนุปการิกา กุสลภาวนา นาม อตฺถิ. ตถา หิ เมฆิยสุตฺเต

‘‘จตฺตาโร ธมฺมา อุตฺตริ ภาเวตพฺพา, อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานาย, เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ปหานาย, อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทาย, อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาตายา’’ติ (อ. นิ. ๙.๓; อุทา. ๓๑) –

เอกสฺเสว จตฺตาโร ธมฺมา ภาเวตพฺพาติ วุตฺตา. ตถา ราหุโลวาทสุตฺเตปิ ‘‘เมตฺตํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๑๒๐) สตฺต กมฺมฏฺานานิ วุตฺตานิ, น จายสฺมโต เมฆิยสฺส จตฺตาริปิ จริตานิ สนฺติ, นาปิ ราหุลตฺเถรสฺส สพฺพจริตานิ, ตสฺมา วจนมตฺเต อภินิเวสํ อกตฺวา สพฺพตฺถ อธิปฺปาโย ปริเยสิตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ.

๘๑๓-๔. กิฺจาปิ วุตฺตนเยน กมฺมฏฺานานํ คณนปริจฺเฉโทปิ สกฺกา าตุํ, สงฺกรตฺตา ปน สุเขน วิฺาตุํ น สกฺกาติ เตสํ สามฺโต, วิสุํ วิสุํ ชาติโต จ คณนปริจฺเฉทํ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมฏฺานานิ สพฺพานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตฺตาลีสาติ นิทฺทิเสติ ปาฬิโต, อฏฺกถาโต จ สโมธาเนตฺวา ‘‘สมจตฺตาลีสา’’ติ นิทฺทิเสยฺย. กถํ? กสิณานิ ทส…เป… สฺา จาหารตา อิติ. อสุภานุสฺสตี ทสาติ ทส-สทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ ‘‘ทส อสุภา , ทส อนุสฺสตี’’ติ. ทส อสุภา เหฏฺา กถิตาว. ‘‘ปุริมานุสฺสติฉกฺก’’นฺติ เอตฺถ วุตฺตา ฉ, มรณานุสฺสติ กายคตาสติ อานาปานสฺสติ อุปสมานุสฺสตีติ อิมา ทส อนุสฺสติโย. จตุธาตุววตฺถานนฺติ ปถวาทีนํ จตุนฺนํ ธาตูนํ ววตฺถานํ. สฺา จาหารตาติ คาถาพนฺธวเสน ค-การสฺส โลปํ กตฺวา อาหารคตา สฺา ‘‘อาหารตา สฺา’’ติ วุตฺตา. อาหาโรเยว วา อาหารตา, ตคฺคตา จ สฺา อุปจารโต ‘‘อาหารตา’’ติ วุตฺตา, อาหาเร ปฏิกฺกูลสฺาติ อตฺโถ.

๘๑๕-๖. กึ อิเมสุ สพฺเพสุเยว กมฺมฏฺาเนสุ ฌานํ นิพฺพตฺตตีติ? อาม, นิพฺพตฺตติ สพฺเพสฺเวว อุปจารชฺฌานํ, อปฺปนาฌานํ ปน เกสุจิ น นิพฺพตฺตติ, ตสฺมา กานิจิ อุปจารเมว นิพฺพตฺเตนฺติ, กานิจิ อปฺปนมฺปิ. กถํ ปเนตํ ทฏฺพฺพนฺติ อาห ‘‘เอเตสู’’ติอาทิ. อุปจารเมว อาวหนฺตีติ อุปจาราวหา ‘‘อเปกฺโข’’ติอาทีสุ วิย เหตฺถ อวธารณํ ทฏฺพฺพํ. ตตฺถ อานาปานสฺสตึ, กายคตาสติฺจ หิตฺวา เสสา พุทฺธานุสฺสติอาทโย อฏฺ อนุสฺสติโย, สฺา, ววตฺถานฺจาติ เอเต ทส นานปฺปการกตฺตา, คมฺภีรตฺตา, สภาวธมฺมตฺตา จ อสติ ภาวนาวิเสเส อุปจาราวหา วุตฺตา.

๘๑๗-๘. เอวํ อุปจารปฺปนาวหโต ทสฺเสตฺวา อิทานิ ฌานปฺปเภทโต ทสฺเสตุํ ‘‘อปฺปนายาวเหสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตุกฺกชฺฌานิกาติ จตุกฺกนยวเสน จตุพฺพิธรูปาวจรชฺฌานวนฺโต, เตสํ เอเกกสฺเสว อารมฺมณภูตาติ อตฺโถ. ปฺจกนยวเสน ปน ‘‘ปฺจกชฺฌานิกา’’ติ เวทิตพฺพา. ปมชฺฌานิกาติ ปมชฺฌานสฺเสว อารมฺมณภูตา, ปฏิกฺกูลภาวโต ปน อิตเรสํ อารมฺมณานิ น โหนฺติ. ปฏิกฺกูเลปิ หิ วิสเย วิตกฺกพเลน ปมชฺฌานํ อปฺเปติ จณฺฑโสตนทิยํ อริตฺตพเลน นาวา วิย. เสสานิ ปน ตทภาวโต น เตสุ อปฺเปนฺติ.

๘๑๙. ติกชฺฌานวหาติ จตุกฺกนเยน ติกชฺฌานวหา, ปฺจกนเยน ปน จตุกฺกชฺฌานวหา, เมตฺตากรุณามุทิตา หิ เมตฺตาทีนํ โสมนสฺสสหคตานเมว อารมฺมณตฺตา ปฺจมชฺฌานิกา น โหนฺติ. อปฺปนปฺปตฺตา หิ เมตฺตาทโย โสมนสฺเสน วินา นปฺปวตฺตนฺติ. จตุตฺโถปิ พฺรหฺมวิหาโรติ สมฺพนฺโธ. พฺรหฺมานํ อุตฺตมานํ วิหาโร, พฺรหฺมภูโต วา วิหาโรติ พฺรหฺมวิหาโร, โส อุเปกฺขาภาวนาวเสน จตุตฺถชฺฌานิโก. ตตฺถาปิ เมตฺตาทิวเสน ปฏิลทฺธชฺฌานจตุกฺกสฺเสเวตํ อปฺเปติ, เนตรสฺส. กสฺมา? เมตฺตาทีนํ นิสฺสนฺทตฺตา. ยถา หิ กสิณานํ นิสฺสนฺทา อารุปฺปา, ยถา จ สมถวิปสฺสนานิสฺสนฺทา นิโรธสมาปตฺติ, เอวํ เมตฺตาทินิสฺสนฺทา อุเปกฺขา. อารุปฺปา จตุตฺถชฺฌานิกาติ องฺคสมตาวเสน อารุปฺปาปิ จตุตฺถชฺฌานสฺเสว ปเภทาติ กตฺวา วุตฺตํ.

๘๒๐. เอวํ ฌานเภทโต ทสฺเสตฺวา ปุน สมติกฺกมโต ทสฺเสตุํ ‘‘วเสนารมฺมณงฺคาน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อารมฺมณสมติกฺกโม องฺคสมติกฺกโมติ อติกฺกมิตพฺพานํ อารมฺมณานํ, องฺคานฺจ วเสน สมติกฺกโม ทุวิโธ. กึ สพฺเพสฺเวว ทุวิโธ ลพฺภติ, โนติ อาห ‘‘โคจรา…เป… ติกฺกโม’’ติ. จตูสุ หิ อารุปฺเปสุ อารมฺมณสมติกฺกโมว โหติ อากาสกสิณวชฺชิเตสุ นวสุ อารมฺมเณสุ อฺตรํ สมติกฺกมิตฺวา อากาสานฺจายตนสฺส, อากาสานฺจายตนาทีนิ จ สมติกฺกมิตฺวา วิฺาณฺจายตนาทีนํ ปตฺตพฺพตฺตา, องฺคาติกฺกโม ปน อรูเป นตฺถิ จตุนฺนฺจาปิ องฺคานํ วเสน สมานตฺตา. รูเป ฌานงฺคติกฺกโมติ รูปาวจริกกมฺมฏฺาเนสุ วิตกฺกาทีนํ ฌานงฺคานํ อติกฺกโม, อิทฺจ ลพฺภมานกวเสน วุตฺตํ. ปมชฺฌานิเกสุ ทุวิโธปิ สมติกฺกโม นตฺถิ, นีวรณสมติกฺกโม อิธ อฏฺนฺนมฺปิ สมาปตฺตีนํ สาธารณตฺตา น คหิโต.

๘๒๑. เอวํ สมติกฺกมวเสน ทสฺเสตฺวา ปุน วฑฺฒนาวฑฺฒนวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ทเสว กสิณานี’’ติอาทิมาห. อิเมสุ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ ทส กสิณาเนว วฑฺเฒตพฺพานิ. น จ…เป… อสุภาทโยติ เสสา อสุภาทโย ปน เนว วฑฺเฒตพฺพา. กสฺมา? ปริจฺฉินฺนากาเรเนว อุปฏฺานโต, อานิสํสาภาวโต จ. ตถา หิ ทส อสุภานิ, กายคตาสติ จ อตฺตโน ิโตกาเสน ปริจฺฉินฺนตฺตา ปริจฺฉินฺนากาเรเนว อุปฏฺหนฺติ. วฑฺฒิเตสุปิ กุณปราสิ เอว อุปฏฺาตีติ น โกจิ อานิสํโส อตฺถิ. อวฑฺฒิเตสุปิ หิ เตสุ กามราควิกฺขมฺภนา โหติเยว. ยทิ เอวํ, อสุภชฺฌานานํ อปฺปมาณารมฺมณตาวจนํ วิรุชฺฌตีติ? น วิรุชฺฌติ. เอกจฺโจ หิ อุทฺธุมาตเก วา อฏฺิเก วา มหนฺเต นิมิตฺตํ คณฺหาติ, เอกจฺโจ อปฺปเกติ อิมินา ปริยาเยน เอกจฺจสฺส ปริตฺตารมฺมณชฺฌานํ โหติ, เอกจฺจสฺส อปฺปมาณารมฺมณํ. โย วา เอตํ อานิสํสาภาวํ อปสฺสนฺโต วฑฺเฒยฺย, ตสฺส วเสน อปฺปมาณารมฺมณตา วุตฺตา. อานาปานนิมิตฺตมฺปิ นาสิกคฺคมุขนิมิตฺตาทิปริจฺฉินฺนํ อุปฏฺาติ, วฑฺฒยโตปิ จ วาตราสิเยว วฑฺฒติ. ปิจุปิณฺฑาทิวเสน อุปฏฺหนฺตมฺปิ หิ นิมิตฺตํ วาตสงฺฆาฏมตฺตเมว, ตถา พฺรหฺมวิหารนิมิตฺตมฺปิ วฑฺเฒนฺตสฺส สตฺตราสิเยว วฑฺเฒยฺย, น จ เตน โกจิ อตฺโถ โหติ, ตสฺมา ตทุภยมฺปิ น วฑฺเฒตพฺพํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทิ (วิภ. ๖๖๓), ตมฺปิ ปริคฺคหวเสน วุตฺตํ, น นิมิตฺตวฑฺฒนวเสน. กิฺจิ พฺรหฺมวิหาเร ปฏิภาคนิมิตฺตเมว นตฺถิ, กิมยํ วฑฺเฒยฺย, อปฺปมาณารมฺมณตา ปเนตฺถ ปริคฺคหิตมตฺตวเสน เวทิตพฺพา. อารุปฺปารมฺมเณสุ อากาสํ กสิณุคฺฆาฏมตฺตตฺตา กสิณาปคมวเสเนว มนสิ กาตพฺพํ, ตโต ปรํ วฑฺฒยโต น กิฺจิ โหติ, วิฺาณํ สภาวธมฺมตฺตา น สกฺกา วฑฺเฒตุํ, ปริกมฺมเมว หิ วฑฺเฒตุํ สกฺกา, วิฺาณาปคโม ตสฺส อภาวมตฺตตฺตา, เนวสฺานาสฺายตนารมฺมณมฺปิ สภาวธมฺมตฺตาเยว น สกฺกา วฑฺเฒตุํ, ตสฺมา ตานิปิ น วฑฺเฒตพฺพานิ. อปฺปมาณารมฺมณตา อารุปฺปานํ วิปุลกสิณุคฺฆาฏิมากาเส ปวตฺติยา เวทิตพฺพา. พุทฺธานุสฺสติอาทโย จ อนิมิตฺตตฺตา น วฑฺเฒตพฺพา . ปฏิภาคนิมิตฺตฺหิ อยํ วฑฺเฒยฺย, ตฺจ เนสํ นตฺถิ, ตสฺมา อิเม อสุภาทโย ตึส กมฺมฏฺานานิ ปริจฺฉินฺโนกาสตฺตา, ปโยชนาภาวโต, อวฑฺฒนโต จ น วฑฺเฒตพฺพานิ.

๘๒๒-๓. เอวํ วฑฺฒนาวฑฺฒนโต ทสฺเสตฺวา ปุน อารมฺมณโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทเสว กสิณานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ปฏิภาคนิมิตฺตานิ โหนฺติ อารมฺมณานีติ อิมานิ ทฺวาวีส ปฏิภาคนิมิตฺตภูตานิ อารมฺมณานิ โหนฺติ. เสสาติ อวเสสา อฏฺารส เนว ปฏิภาคนิมิตฺตารมฺมณา สิยุํ.

๘๒๔-๕. อิทานิ ภูมิโต ทสฺเสตุํ ‘‘อสุภานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เทเวสุ นปฺปวตฺตนฺติ ตตฺถ อสุภานํ, ปฏิกฺกูลสฺส จ อาหารสฺส อภาวโต. ตจปฺจกมฺปิ หิ ตตฺถ ปวตฺตมานํ ทิพฺพานุภาเวน ปฏิกฺกูลากาเรน โนปฏฺาติ. อสฺสาสปสฺสาสานํ พฺรหฺมโลเก อภาวโต ‘‘อานาปานสฺสติ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฌานานุภาวนิพฺพตฺตานฺหิ อตฺถสฺส อภาวโต นตฺถิ พฺรหฺมโลเก อสฺสาสปสฺสาสา.

๘๒๗. อิทานิ คหณโต ทสฺเสตุํ ‘‘จตุตฺถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ จตุตฺถํ…เป… ทิฏฺเเนว คเหตพฺพาติ วาโยกสิณํ วชฺเชตฺวา เสสา นว กสิณา, ทส อสุภานีติ อิมานิ เอกูนวีสติ ทิฏฺเเนว วตฺถุนา กรณภูเตน คเหตพฺพานิ อุคฺคเหตพฺพานิ. ตถา จ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ทิฏฺเน คเหตพฺพานิ, ปุพฺพภาเค จกฺขุนา โอโลเกตฺวา นิมิตฺตํ เนสํ คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๔๗).

๘๒๘-๓๑. สติยมฺปิ จ กายมฺหีติ กายคตาสติยมฺปิ. ทิฏฺเน ตจปฺจกนฺติ ตจปฺจกมตฺตเมว ทิฏฺเน คเหตพฺพํ. เสสเมตฺถ สุเตเนวาติ เอตฺถ กายคตาสติยํ เสสํ วกฺกปฺจกาทิ สุเตเนว คเหตพฺพํ. อิติ กายคตาสติ ทิฏฺสุเตน คเหตพฺพา. อุตฺตโรฏฺนาสิกคฺเคสุ ผุฏฺสฺส อสฺสาสปสฺสาสสฺส คเหตพฺพโต วุตฺตํ ‘‘อานาปานสฺสติ เอตฺถ, ผุฏฺเน ปริทีปิตา’’ติ. อุจฺฉุสสฺสาทีนํ ปตฺเตสุ จลมานวณฺณคฺคหณมุเขน, สรีรสมฺผสฺสวเสน จ วาตสฺส คเหตพฺพตฺตา วุตฺตํ ‘‘วาโยกสิณเมเวตฺถ, ทิฏฺผุฏฺเน คยฺหตี’’ติ. อาทิโตว คเหตพฺพา น โหนฺตีติอาทิกมฺมิเกน ภาวนารมฺภวเสน น ปฏฺเปตพฺพานิ, เหฏฺิเม ตโย พฺรหฺมวิหาเร, กสิเณสุ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานฺจ อนธิคนฺตฺวา สมฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา.

๘๓๒-๕. เอวํ คหณวเสน ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปจฺจยโต ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมฏฺาเนสุ เหเตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอเตสุ กมฺมฏฺาเนสูติ เอตฺถ ยถารหํ อารมฺมณานํ, ฌานานฺจ คหณํ เวทิตพฺพํ. อากาสกสิณสฺส อุคฺฆาเฏตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา วุตฺตํ ‘‘อากาสกสิณํ วินา’’ติ. เมตฺตาทิเอเกกสฺมึ พฺรหฺมวิหาเร ตีณิ ตีณิ ฌานานิ ปฏิลภิตฺวา ิตสฺเสว อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารวเสน ปฺจมชฺฌานํ อุปฺปชฺชตีติ วุตฺตํ ‘‘ตโย พฺรหฺมวิหารา’’ติอาทิ. ทฺวินฺนํ เนวสฺานาสฺายตนชวนานํ สมนนฺตรา นิโรธํ ผุสตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จตุตฺถมารุปฺป’’นฺติอาทิ. วิปสฺสนาภวสมฺปตฺติสุขานํปจฺจยาติ วิปสฺสนาย, ภวสมฺปตฺติยา, ทิฏฺธมฺมสุขวิหารสฺส จ ปจฺจยา โหนฺตีติ อตฺโถ.

๘๓๖-๙. เอวํ ปสงฺเคน อาคตํ กมฺมฏฺานวิภาคํ ทสฺเสตฺวา ปุน อาจริเยน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สนฺติเก วสนฺตสฺสาติ อาจริเยน สทฺธึ เอกเคเห, เอกวิหาเร วา วสนฺตสฺส. กเถตพฺพนฺติ ปวตฺตึ สุตฺวา สุตฺวา กเถตพฺพํ. อาคตสฺสาคตกฺขเณติ ส-กาโร ปทสนฺธิมตฺตกโร, อาคตาคตกฺขเณติ อตฺโถ. อถ วา อาคตสฺส อาคตกฺขเณ กเถตพฺพํ. อีทิเสสุ หิ าเนสุ อาเมฑิตสามตฺถิยโตว ลพฺภติ. น หิ เอกวารเมว อาคตสฺส ตสฺมึ ขเณ กเถตพฺพํ, ตโต ปรํ น กเถตพฺพนฺติ ยุชฺชติ.

นาติสงฺเขปวิตฺถารนฺติ อติสํขิตฺตํ, อติวิตฺถารฺจ อกตฺวา ตสฺส สุเขน อุคฺคณฺหนปฺปมาณํ กเถตพฺพํ. สเจ ปน โส ปกติยาว อุคฺคหิตกมฺมฏฺาโน โหติ, สชฺฌายวเสน วา มนสิการวเสน วา กตปริจโย, ตสฺส เอกํ, ทฺเว วา นิสชฺชา อตฺตโน สมฺมุขาว สชฺฌายํ กาเรตฺวา ทาตพฺพํ. เอวํ อาจริเยน ปฏิปชฺชิตพฺพวิธึ ทสฺเสตฺวา ปุน คหิตกมฺมฏฺาเนน เตน โยคินา อุตฺตริ กาตพฺพวิธานํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เตนปี’’ติอาทิ. สมฺมฏฺานนฺติ ยตฺถ ปหโฏ สมติ, ตํ สมฺมฏฺานํ, อิทํ สมฺมฏฺานํ วิยาติ สมฺมฏฺานํ. ยถา หิ สมฺมฏฺาเน คหิเต ปุคฺคลํ อตฺตโน เวรี อภิภวิตุํ น สกฺโกติ, เอวํ กมฺมฏฺาเน คหิเต มโนภุสงฺขาโต กามราโค ตํสมงฺคิปุคฺคลํ อภิภวิตฺวา อตฺตโน วเส กาตุํ น สกฺโกติ . เตน วุตฺตํ ‘‘สมฺมฏฺานํ วิยาติ สมฺมฏฺาน’’นฺติ. มโน อภิภวตีติ มโนภู, ตสฺส มโนภุโน. อฏฺารสหิ…เป… วิวชฺชิเตติ –

‘‘มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสฺจ ปนฺถนึ;

โสณฺฑึ ปณฺณฺจ ปุปฺผฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จ.

‘‘นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;

ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ.

‘‘อฏฺารเสตานิ านานิ, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ สปฺปฏิภยํ ยถา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๕๒) –

เอวํ วุตฺเตหิ อฏฺารสหิ วิหารโทเสหิ สพฺพกาลวิยุตฺเต. อนุรูเปติ อิเมสุ อฏฺารสสุ โทเสสุ อฺตเรนปิ สมนฺนาคโต อนนุรูโป นาม, ตทภาเวน อตฺตโน โยคกมฺมสฺส อนุกูเล. มหาวิหาราทโย หิ โยคกมฺมสฺส อนุกูลา น โหนฺติ, ตสฺมา มหาวิหาเร ตาว วตฺตกรณาทินา ปลิโพโธ โหติ. ยตฺถ ปน สพฺพํ กตเมว, อวเสสาปิ สงฺฆฏฺฏนา นตฺถิ, เอวรูโป มหาวิหาโรปิ อนุรูโปว. นววิหาเร พหุํ นวกมฺมํ กาตพฺพํ โหติ, ตสฺมา โส อสติ อฺสฺมึ อนุกูเล การเณ อนนุรูโป โหติ. ตถา ชิณฺณวิหาโรปิ พหุปฏิชคฺคิตพฺพตาย กมฺมฏฺานนฺตรายิโก. ปนฺถนิสฺสิตโก อาคนฺตุเกหิ รตฺตินฺทิวํ สโมกิณฺณตาย. ยตฺถ โสณฺฑี นาม ปาสาณโปกฺขรณี โหติ, โส โสณฺฑิวิหาโร. ตตฺถ พหู ปานียตฺถาย สโมสรนฺติ, ตถา ปณฺณปุปฺผผลวติ วิหาเร ตํตทตฺถาย. ปตฺถนีเย โลกสมฺมเต วิหาเร วิหรนฺตํ ‘‘อรหา’’ติ สมฺภาเวนฺตา พหู อาคจฺฉนฺติ. นครสนฺนิสฺสิเตปิ วิหาเร วิสภาคารมฺมณาปาถคมนาทีนิ โหนฺติ. ทารุสนฺนิสฺสิเต กฏฺหาริกาทีหิ อผาสุ โหติ. เขตฺตสนฺนิสฺสิเต วิหารมชฺเฌเยว ขลมณฺฑลกรณาทินา อผาสุ โหติ. วิสภาคปุคฺคลาธิวุตฺเถปิ กลหนิวารณาทีสุ เต อุปวทนฺติ. ปฏฺฏนสนฺนิสฺสิเต อภิณฺหํ นาวาสตฺเถหิ อาคตมนุสฺเสหิ อผาสุ โหติ. ปจฺจนฺตนิสฺสิเต มนุสฺสา พุทฺธาทีสุ อปฺปสนฺนา โหนฺติ. รชฺชสีมสนฺนิสฺสิเต ทฺวินฺนํ ราชูนํ กลเห สติ ทฺวินฺนํ วิชิเตสุ ปิณฺฑาย วิจรนฺตํ ภิกฺขุํ ‘‘อยํ จรปุริโส’’ติ คเหตฺวา พนฺธนาทิกํ ปาเปยฺยุํ, อสปฺปาเย อมนุสฺสาทิอุปทฺทวา โหนฺติ. กลฺยาณมิตฺตานธิวุตฺเถ อุปฺปนฺนกงฺขาย วิโนทเก อสติ มหาโทโสเยวาติ เอเตปิ วิหารา อนนุรูปา, ตสฺมา ตาทิเส วิหาเร ปริวชฺเชตฺวา วุตฺตโทสวิรหิเต อนุรูเป วิหาเร วิหาตพฺพํ.

ตสฺส ปน วิหารสฺส อนุรูปภาโว เอวํ เวทิตพฺโพติ ทสฺเสตุํ ‘‘คามโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. คามโตติ โคจรคามโต. นาติทูเรติ โคจรคามสฺส อฑฺฒคาวุตโต โอรภาคตาย น อติทูเร. นจฺจาสนฺเนติ ปจฺฉิเมน ปมาเณน โคจรคามโต ปฺจธนุสติกตาย น อติสนฺเน. อิมินา คมนาคมนสมฺปนฺนตํ ทสฺเสติ. โคจรคามสฺส ปน อุตฺตรทิสาย วา ทกฺขิณทิสาย วา นาติทูรํ นจฺจาสนฺนํ เสนาสนํ วิเสเสน คมนาคมนสมฺปนฺนํ โหติ, นาติทูรนจฺจาสนฺนตา เจตฺถ นิทสฺสนมตฺตํ. ปฺจงฺคสํยุเตติ ปน วุตฺตตฺตา นาติทูรนจฺจาสนฺนตาย สห ทิวา อปฺปกิณฺณตาทีนิ จตฺตาริ สโมธาเนตฺวา ปฺจงฺคสํยุตฺตตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ ทิวา อปฺปกิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรเนว อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปฺหํ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ; อิมสฺส โก อตฺโถติ. ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานึ กโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขาฏฺานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑).

เอตฺถ จ นาติทูรนจฺจาสนฺนภาเวน คมนาคมนสมฺปนฺนตา ปมํ องฺคํ, ทิวา มหาชนสํกิณฺณตาภาเวน, รตฺติยํ ชนาลาปสทฺทาภาเวน, สพฺพทาปิ ชนสนฺนิปาตนิคฺโฆสาภาเวน อปฺปกิณฺณอปฺปสทฺทอปฺปนิคฺโฆสภาโว ทุติยํ, ฑํสมกสาทิปริสฺสยาภาโว ตติยํ, อปฺปกสิเรน จีวรปิณฺฑปาตาทิปจฺจยลาโภ จตุตฺถํ, พหุสฺสุตตาทิคุณสมนฺนาคตานํ เถรานํ วสนภาโว ปฺจมนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สํยุตฺเต สมนฺนาคเต วิหารสฺมึ วิหาตพฺพํ.

๘๔๐-๑. ปมํ วุตฺตอาวาสาทิมหาปลิโพเธ อุปาทาย ขุทฺทกปลิโพโธ, อิทานิ ตํ ปลิโพธํ สรูปโต ทสฺเสตฺวา ตสฺส อุปจฺฉินฺทนาการํ อาวิ กาตุํ ‘‘ทีฆา เกสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. โส ปตฺโต สุฏฺุ ปจิตพฺโพติ โยชนา.

๘๔๒-๕. ปวิวิตฺเตติ ชนวิวิตฺเต โอกาเส. วชฺเชตฺวา…เป… โลหิตนฺติ อิเม จตฺตาโร กสิณโทสา, ตสฺมา เอวรูปา มตฺติกา วชฺเชตฺวา. สณฺหายาติ อปนีตติณมูลสกฺขรวาลุกาย สุมทฺทิตาย สุขุมาย. อรุณวณฺณายาติ อรุณนิภาย, อรุณวณฺณปฺปภายาติ อตฺโถ. พหิทฺธา วาปิ ตาทิเสติ พหิทฺธาปิ วิหารปจฺจนฺเต ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน. สํหาริมนฺติ สํหริตพฺพํ คเหตฺวา จรณโยคฺยํ. ตตฺรฏฺกนฺติ ยตฺถ กตํ, ตตฺเถว ติฏฺนกํ.

๘๔๗-๕๐. ปมาณโตติ วกฺขมานปฺปมาณโต. วฏฺฏํ อาโกเฏตฺวาติ ปริมณฺฑลํ กตฺวา อาโกเฏตฺวา. นฺติ ตํ จมฺมํ วา กฏสารํ วา ทุสฺสปฏฺฏํ วา. กณฺณิกนฺติ กณฺณิกาสทิสํ, ปริมณฺฑลโต ปทุมกณฺณิกาการนฺติ วุตฺตํ โหติ. เตนาห ‘‘สม’’นฺติ. ‘‘กณฺณิกาสม’’นฺติ วา ปาโ. วิทตฺถิจตุรงฺคุลนฺติ จตุรงฺคุลาธิกวิทตฺถิปฺปมาณํ. เอตเทว หิ ปมาณํ สนฺธาย อฏฺกถายํ ‘‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕) วุตฺตํ. วิวฏฺฏนฺติ นิพฺพานํ. กสิณปริกมฺมํ กโรนฺโตปิ หิ เอตฺตเกเยว อฏฺตฺวา นิพฺพานตฺถาเยว วายมติ. เภรีตลสมํ กตฺวาติ ปาณิกาย ฆํเสตฺวา นินฺนตุนฺนตฏฺานาภาเวน เภรีตลํ วิย สมํ กตฺวา. สมฺมชฺชิตฺวาน ตํ านนฺติ ยสฺมึ าเน นิสีทิตฺวา ตํ กสิณํ โอโลเกติ, ตํ านํ สเจ อุกฺลาปํ โหติ, สมฺมชฺชิตฺวา. นฺหตฺวาติ สรีรทรถวิโนทนตฺถํ นฺหตฺวา.

๘๕๑-๒. ตมฺหา กสิณมณฺฑลา หตฺถปาสปฺปมาณสฺมึ ปเทเสติ ตมฺหา กสิณมณฺฑลสฺส, ปิตฏฺานมฺหา อฑฺฒเตยฺยหตฺถนฺตเร ปเทเส, กสิณมณฺฑลสฺส, ปีสฺส จ มชฺฌํ หตฺถปาสปฺปมาณํ กตฺวา ปฺตฺเตติ วุตฺตํ โหติ. วิทตฺถิจตุรงฺคุเล อุจฺเจติ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ หุตฺวา อุจฺเจ, วิทตฺถิจตุรงฺคุลปาทเกติ วุตฺตํ โหติ. ทูเร นิสินฺนสฺส หิ กสิณํ น อุปฏฺาติ, อาสนฺนตเร นิสินฺนสฺส หตฺถปาณิกาปทาทโย กสิณโทสา ปฺายนฺติ. อุจฺจตเร นิสินฺเนน จ คีวํ ปณาเมตฺวา โอโลเกตพฺพํ โหติ, นีจตเร ชณฺณุกานิ รุชฺชนฺติ, ตสฺมา หตฺถปาสปฺปมาเณ ปเทเส วิทตฺถิจตุรงฺคุลปาทเก ปีเ นิสีทิตพฺพํ. ยสฺมา จตูสุ อิริยาปเถสุ สยนํ โกสชฺชปกฺขิยํ, านจงฺกมนานิ อุทฺธจฺจปกฺขิยานิ, นิสชฺชา ปน อลีนุทฺธจฺจปกฺขิยา, สนฺโต อิริยาปโถ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘นิสีทิตฺวา’’ติ, สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติ อตฺโถ. เยนากาเรน นิสีทนฺตสฺส นิสชฺชา สุขา โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘อุชุํ กายํ ปณิธายา’’ติ. อุปริมํ สรีรํ อุชุกํ เปตฺวา อฏฺารสปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวาติ อตฺโถ. เอวฺหิ นิสินฺนสฺส จมฺมมํสนหารูนิ น โอณมนฺติ, อถสฺส ยา เตสํ โอณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปนฺนาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ. ตโต จ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสปฺปตฺติยา วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. อิทานิ อารมฺมณปริคฺคหุปายํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘กตฺวา ปริมุขํ สติ’’นฺติ, กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ เปตฺวาติ อตฺโถ. อภิ-สทฺเทน หิ สมานตฺโถ อิธ ปริ-สทฺโท, อถ วา สมีปตฺเถน ปริ-สทฺเทน มุขสฺส สมีเป สตึ กตฺวาติ อตฺโถ. ยถาห – ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สุปฏฺิตา นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา. เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา’’ติ (วิภ. ๕๓๗). อถ วา ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ, มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ, สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ ‘ปริมุขํ สติ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วจนโต ‘‘ปริณายิกา’’ติอาทีสุ วิย ปริ-สทฺโท ปริคฺคหฏฺโ, ‘‘สุฺตวิโมกฺขมุข’’นฺติอาทีสุ วิย มุข-สทฺโท นิยฺยานฏฺโติ กตฺวา ปริคฺคหิตนิยฺยานสตึ กตฺวา สพฺพถา คหิตาสมฺโมสํ ปริจฺจตฺตสมฺโมสํ สติเนปกฺกํ อุปฏฺเปตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๘๕๓-๕. กาเมสฺวาทีนวํ ทิสฺวาติ ‘‘กามา นาเมเต อฏฺิกงฺขลิกูปมา นิรสฺสาทฏฺเนา’’ติอาทินา วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ อาทีนวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. เนกฺขมฺมํ ทฏฺุ เขมโตติ เนกฺขมฺมํ เขมโต ทิสฺวา กามนิสฺสรณํ สพฺพทุกฺขสมติกฺกมสฺส อุปายภูตํ เนกฺขมฺมนฺติ เอวํ เนกฺขมฺมสงฺขาตํ สอุปจารชฺฌานํ, นิพฺพานํ, วิปสฺสนํ, สพฺเพปิ วา กุสลธมฺเม เขมโต นิพฺภยโต ทิสฺวา, ตตฺถ ชาตาภิลาโส หุตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. ปรมํ…เป… รตนตฺตเยติ พุทฺธาทิรตนตฺตเย รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน พลวปีติปาโมชฺชํ ชนยิตฺวา. ภาคี…เป… มุตฺตมนฺติ ‘‘อหํ อิมาย สพฺพพุทฺธปจฺเจกพุทฺธอริยสาวเกหิ ปฏิปนฺนาย เนกฺขมฺมปฏิปตฺติยา จิตฺตวิเวกาทิปฺปวิเวกชสฺส สุขสฺส อทฺธา เอกนฺเตน ภาคี อสฺสํ, ลาภี ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปฏิปตฺติยํ อานิสํสทสฺสเนน ตพฺพิสยํ อุตฺตมํ มหนฺตํ อุสฺสาหํ กตฺวา. อากาเรน สเมเนวาติ อติอุมฺมีลิตอติมนฺทาโลจนานิ วชฺเชตฺวา นาติอุมฺมีลิตนาติมนฺทาโลจนสงฺขาเตน สเมน อาโลจนากาเรน. อติอุมฺมีลยโต หิ อติสุขุมํ, อวิภูตฺจ รูปคตํ อุปนิชฺฌายโต วิย จกฺขุ กิลมติ, อตฺตโน สภาววิภาวนโต จ มณฺฑลํ อติวิภูตํ โหติ, ตถา วณฺณโต, ลกฺขณโต วา อุปติฏฺเยฺย, เตนสฺส นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ. อติมนฺทํ อุมฺมีลยโต จ คชนิมีลเกน เปกฺขนฺตสฺส วิย รูปคตํ มณฺฑลํ อวิภูตํ โหติ. ทสฺสเน มนฺทพฺยาปารตาย โกสชฺชปาตโต จิตฺตฺจ ลีนํ โหติ, เอวมฺปิ นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ยถา นาม อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ คณฺหนฺโต น ตตฺถ อติคาฬฺหํ อุมฺมีลติ, น อติมนฺทํ, อถ โข สเมน อากาเรน คณฺหาติ, เอวเมว นาติอุมฺมีลนาทินา สเมน อากาเรน คณฺหนฺเตน ภาเวตพฺพนฺติ. นิมิตฺตํ คณฺหตาติ ปถวีกสิเณ จกฺขุนา คหิตํ นิมิตฺตํ มนสา คณฺหนฺเตน.

๘๕๖-๗. อิทานิ นิมิตฺตคฺคหโณปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘น วณฺโณ เปกฺขิตพฺโพ’’ติอาทิ วุตฺตํ. น วณฺโณ เปกฺขิตพฺโพ โสติ โย ตตฺถ ปถวีกสิเณ อรุณวณฺโณ, โส น จินฺเตตพฺโพ วณฺณวเสน มนสิกโรโต วณฺณกสิณภาวูปคมนโต. จกฺขุวิฺาเณน ปน คหิตคฺคหณํ น สกฺกา วาเรตุํ, เตเนเวตฺถ ‘‘น โอโลเกตพฺโพ’’ติ อวตฺวา ‘‘มนสานุเปกฺขิตา โหตี’’ติอาทีสุ วิย มนสา จินฺตนวเสน เปกฺขนคฺคหณํ กตํ. ทฏฺพฺพํ น จ ลกฺขณนฺติ ยํ ตตฺถ ปถวีธาตุยา ถทฺธลกฺขณํ น มนสิกาตพฺพํ ตสฺส มนสิกาเร ธาตุกมฺมฏฺานสฺส คหิตตฺตา. วณฺณํ ปน อมุฺจิตฺวาติ ทิสฺวา คเหตพฺพตฺตา ปน วณฺณํ อมุฺจิตฺวา. อุสฺสทสฺส วเสน หิ จิตฺตํ ปณฺณตฺติธมฺมสฺมินฺติ ปถวีธาตุยา สตฺติโต อธิกภาเวน สสมฺภารปถวิยา ‘‘ปถวี’’ติ โวหาโร, ตสฺมึ สสมฺภารปถวึ อุปาทาย ปฺตฺเต ปณฺณตฺติธมฺเม อาทาสตลคตมุขนิมิตฺเต วิย จิตฺตํ เปตฺวา. เอกคฺคมานโสติ ปุน นานารมฺมเณ จิตฺตํ อวิสาเรตฺวา เอกคฺคมานโส หุตฺวา. ปถวี ปถวิจฺเจวํ วตฺวาติ เอตฺถ ปมสมนฺนาหาเร กสฺสจิ วจีเภโทปิ สิยาติ วุตฺตนฺติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถโร อาห.

๘๕๘. ยทิ โวหารมตฺเต จิตฺตํ เปตพฺพํ, นามนฺตรวเสน ปถวี มนสิกาตพฺพา ภเวยฺยาติ โหตุ, โก โทโสติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ปถวี เมทนี’’ติอาทิ. อถ วา กึ ปถวีนาเมเยว วุตฺเต ภาวนา โหติ, อุทาหุ อฺสฺมิมฺปีติ อาห ‘‘ปถวี เมทนี’’ติอาทิ. เอกํ วตฺตุมฺปิ วฏฺฏตีติ เอเตสุ ยํ อิจฺฉติ, ตํ อตฺตโน ปคุณตาย วา ปจุรตาย วา อาคจฺฉนฺตํ เอกํ วตฺตุํ วฏฺฏติ. กิฺจาปิ เอวํ วฏฺฏติ, อปิจ ‘‘ปถวี’’ติ เอตเทว นามํ ปากฏํ, ตสฺมา ปากฏวเสเนว ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ ภาเวตพฺพนฺติ อาจริยา.

๘๕๙-๖๐. อุมฺมีลิตฺวา…เป… ตาว โสติ ยาว วกฺขมานากาเรน อุคฺคหนิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ, ตาว กิฺจิ กาลํ จกฺขุํ อุมฺมีลิตฺวา นิมิตฺตคฺคหณวเสน ปถวีมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ปุน กิฺจิ กาลํ จกฺขูนิ นิมีลิตฺวาติ เอวํ วารสตมฺปิ วารสหสฺสมฺปิ ตโต ภิยฺโยปิ อุมฺมีลิตฺวา โส โยคี อาวชฺเชยฺย, เยนากาเรน โอโลเกตฺวา คหิตํ, เตนากาเรน ตํ สมนฺนาหเรยฺยาติ อตฺโถ.

๘๖๑-๓. อาปาถํ ตุ ยาติ เจติ ยทิ มโนทฺวาริกชวนานํ โคจรภาวํ อุปคจฺฉติ, ตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ตทา อุปฺปนฺนนฺติ ปวุจฺจตีติ โยชนา. ยทิ อุคฺคหนิมิตฺเตปิ ปถวีมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ภาเวติ, ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติ น สิยา. สมีปฏฺเน จ น สกฺกา อโนโลเกตุนฺติ วุตฺตํ ‘‘นิสีทิตพฺพํ โน เจว’’นฺติอาทิ. ยถาสุขํ นิสินฺเนน, ยถาสุขํ วา ภาเวตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.

๘๖๔-๕. ปปฺจ…เป… โธวเนติ ปสฺสาวาทินา เกนจิ กรณีเยน นิสินฺนฏฺานโต อฺตฺถ คนฺตฺวา ปุน อาคมฺม นิสีทนฺเตน ปาทา โธวิตพฺพา โหนฺติ. อโธตปาเทน หิ เสนาสนํ อกฺกมโต อาปตฺติ โหติ, ขเณ ขเณ ปาทโธวเน จ ปปฺโจ โหติ, ตสฺมา ตสฺส ปริหารตฺถํ ทฺเว อุปาหนาเยว อิจฺฉิตพฺพา. ตาว พหุตลิกา สทฺทมฺปิ ชเนยฺยุํ, สทฺโท จ ฌานกณฺฏโก, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เอกตลิกา’’ติ. ตถา ‘‘ปริสฺสยวิโนทนตฺถํ กตฺตรทณฺโฑ จ อิจฺฉิตพฺโพ’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๕๗) อฏฺกถายํ วุตฺตํ. อสปฺปาเยน เกนจีติ วกฺขมาเนน อาวาสาทิอสปฺปาเยสุ เกนจิเทว อสปฺปาเยน . ตํ านนฺติ กสิณมณฺฑลสฺส ิตฏฺานํ. อาทาย ตํ ปุนาติ ยถาชาตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปุน คเหตฺวา, ปุน อุปฺปาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ.

๘๖๖-๗. ปีเ สุขนิสินฺเนนาติ ปุน วสนฏฺานํ อาคนฺตฺวา วุตฺตนิยาเมน ปีเ สุขนิสินฺเนน. ภาเวตพฺพนฺติ ตํ นิมิตฺตํ มนสิการวเสน วฑฺเฒตพฺพํ. สมนฺนาหริตพฺพนฺติ สมฺมา อาวชฺชิตพฺพํ, สมฺมา วา อนุ อาหริตพฺพํ. ตกฺกาหตนฺติ ‘‘ตกฺกนโต ตกฺโก’’ติ เอวํ ลทฺธนาเมน ภาวนาจิตฺตสมฺปยุตฺเตน สมฺมาสงฺกปฺเปน อาหนนปริยาหนนกิจฺเจน อปราปรํ ปวตฺตเนน กมฺมฏฺานํ อาหตํ, ปริยาหตฺจ กาตพฺพํ, พลปฺปตฺตวิตกฺโก มนสิกาโร พหุลํ ปวตฺเตตพฺโพติ อตฺโถ.

๘๖๘-๗๐. ตํ อิจฺฉตีติ ตํ นิมิตฺตํ มนสิกาตุํ อิจฺฉติ. เอวํ กโรนฺตสฺสาติ เอวํ กมฺมฏฺานํ ตกฺกาหตํ กโรนฺตสฺส. ยถา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหติ, เอวํ อนุยุฺชนฺตสฺส, เอวํ กโรโต ปน ยทา สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ สุวิสทานิ ติกฺขานิ ปวตฺตนฺติ , ตทา อสฺสทฺธิยาทีนํ ทูรีภาเวน สาติสยํ ถามปฺปตฺเตหิ สตฺตหิ พเลหิ ลทฺธุปตฺถมฺภานิ วิตกฺกาทีนิ กามาวจราเนว ฌานงฺคานิ พหูนิ หุตฺวา ปาตุภวนฺติ. ตโต จ เตสํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา กามจฺฉนฺทาทโย สทฺธึ ตเทกฏฺเหิ ปาปธมฺเมหิ ทูรีภวนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วิกฺขมฺภนฺติ…เป… ปฺจ นีวรณานิปี’’ติ. สมาธิยติ…เป… โยคิโนติ ตสฺส โยคิโน ปฏิภาคนิมิตฺตํ อารพฺภ อุปฺปนฺนอุปจารสมาธินา อุปจารชฺฌาเนน จิตฺตมฺปิ สมาธิยติ, ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ อุปฺปชฺชติ อุปจารชฺฌานสฺส เตน วินา อภาวโต.

๘๗๑-๔. อิมสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส. ปุริมสฺสาติ อุคฺคหนิมิตฺตสฺส. ถวิกาติ อาทาสถวิกโต. พลากาวิยโตยเทติ เมฆสมีเป พลากา วิย. สา หิ เมฆสฺส นีลตฺตา สยํ อติปริสุทฺธา อุปฏฺาติ, ตทา ตํ อุปฏฺาตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ อาทาสมณฺฑลูปมาทีหิ อุคฺคหนิมิตฺตโต ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส สุวิสุทฺธตํ, สณฺหสุขุมตฺจ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตโตธิกตร’’นฺติ. อุคฺคหนิมิตฺเต องฺคุลิปทปาณิกาปทาทโย กสิณโทสา ปฺายนฺติ, อิทํ ปน วุตฺตนเยน ตโตปิ สตคุณํ สหสฺสคุณํ สุวิสุทฺธํ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ตนุสณฺานวนฺตนฺติอาทิ อปรมตฺถสภาวตฺตา วุตฺตํ. ยทิ หิ ตํ เอทิสํ ภเวยฺย, จกฺขุวิฺเยฺยํ สิยา, โอฬาริกํ สมฺมสนูปคํ ติลกฺขณาหฏํ, น ปเนตํ ตาทิสนฺติ. ยทิ ปเนตํ น สณฺานาทิวนฺตํ, กถํ ฌานสฺส อารมฺมณภาโวติ อาห ‘‘อุปฏฺา…เป… มย’’นฺติ. ตตฺถ ปฺชนฺติ ภาวนามยํ ปฺาชนิตํ, ภาวนาปฺาย สฺชานนมตฺตนฺติ วุตฺตํ โหติ. น หิ อสภาวธมฺมสฺส กุโตจิสมุฏฺานํ อตฺถิ. เตนาห ‘‘ภาวนามยํ อุปฏฺานาการมตฺต’’นฺติ, เกวลํ สมาธิลาภิโน ภาวนาวิเสสชนิตํ ตมฺมยํ อุปฏฺานาการมตฺตเมว ภาวนาวิเสสานุภาเวน อุปฏฺาตีติ อตฺโถ.

๘๗๕-๘. วิกฺขมฺภิตาเนว สนฺนิสินฺนาเนว น ปุน ตทตฺถํ อุสฺสาโห กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ปฏิภาคนิมิตฺเต หิ อุปฺปชฺชมาเนเยว ตํวิสยํ อุปจารชฺฌานํ นีวรเณ วิกฺขมฺเภนฺตเมว อุปฺปชฺชติ. กิเลสา สนฺนิสินฺนาวาติ อวเสสา ตเทกฏฺกิเลสา จ สมฺมเทว นิสินฺนา, อุปสนฺตาติ อตฺโถ. ‘‘อุปจารสมาธินา’’ติ วุตฺเต อิตโรปิ สมาธิ อตฺถีติ อตฺถโต อาปนฺนนฺติ ตมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘อากาเรหิ ปน ทฺวีหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวีหิ อากาเรหีติ ฌานธมฺมานํ ปฏิปกฺขทูรีภาโว, ถิรภาวปฺปตฺติ จาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. อิทานิ ตานิ การณานิ สมาธิอวตฺถามุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘อุปจารกฺขเณ’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปจารกฺขเณติ อุปจารภูมิยํ อุปจาราวตฺถายํ . ตสฺส ปฏิลาเภติ ยทตฺถาย อยํ ปฏิปนฺโน, ตสฺส อปฺปนาสมาธิสฺส ปฏิลาเภ อธิคมาวตฺถายํ. กถํ อุปจารภูมิยํ สมาธิยติ, กถฺจ อปฺปนาภูมิยนฺติ อาห ‘‘นีวารณปฺปหาเนนา’’ติอาทิ. อุปจารกฺขเณ ยทิปิ ฌานงฺคานิ ปฏุตรานิ มหคฺคตภาวปฺปตฺตานิ น โหนฺติ, เตสํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิกฺขมฺภเนน จิตฺตํ สมาธิยติ, ปฏิลาภภูมิยมฺปิ อปฺปนาปตฺตานํ ฌานงฺคานํ ปาตุภาเวน สมาธิยตีติ อตฺโถ.

๘๗๙-๘๐. องฺคานิ…เป… น จาติ อุปจารกฺขเณ องฺคานิ น จ ถามชาตานิ เนว ภาวนาพลปฺปตฺตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. อปฺปนายาติ อปฺปนกฺขเณ. ตสฺมาติ ยสฺมา องฺคานิ ถามชาตานิ ชายเร, ตสฺมา. อปฺปนาจิตฺตํ ทิวสมฺปิ ปวตฺตตีติ ยถา นาม พลวา ปุริโส อาสนา วุฏฺาย ทิวสมฺปิ ติฏฺเยฺย, เอวเมวํ อปฺปนาสมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน ฌานจิตฺตํ สกึ ภวงฺควารํ ฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนํ เกวลํ รตฺติมฺปิ ทิวสมฺปิ กุสลชวนปฏิปาฏิวเสเนว ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ‘‘อปฺปนาปตฺตํ ทิวสมฺปิ ปวตฺตตี’’ติ วทตา อุปจารกฺขเณ น ตถาติ ทสฺสิตํ โหติ. ตตฺถ หิ องฺคานํ อถามชาตตฺตา ยถา นาม ทหโร กุมาโร อุกฺขิปิตฺวา ปิยมาโน ปุนปฺปุนํ ภูมิยํ ปตติ, เอวเมวํ จิตฺตํ กาเลน นิมิตฺตํ อารมฺมณํ กโรติ, กาเลน ภวงฺคํ โอตรติ.

๘๘๑-๔. เตเนว ปลฺลงฺเกนาติ ยสฺมึ นิสินฺโน ปฏิภาคนิมิตฺตํ อธิคจฺฉิ, เตเนว ปลฺลงฺเกน กรณภูเตน, เหตุภูเตน วา ตํ นิมิตฺตํ วฑฺเฒตฺวา. อุปจารภูมิยฺหิ นิมิตฺตวฑฺฒนํ ยุตฺตํ. จกฺกวตฺติยคพฺโภวาติ จกฺกวตฺติ ภวิตุํ ปุฺวา คพฺโภ วิย. ปริหานิ น วิชฺชตีติ ลทฺธูปจารชฺฌานสฺส ปริหานิ น วิชฺชติ. นิมิตฺเต หิ อปริหีเน ตทารมฺมณํ ฌานํ อปริหีนเมว โหติ, นิมิตฺเต ปน อารกฺขาภาเวน วินฏฺเ ลทฺธชฺฌานมฺปิ วินสฺสติ ตทายตฺตวุตฺติตฺตา. เตนาห ‘‘อารกฺขเณ’’ติอาทิ.

๘๘๕. อาวาโสติ ยสฺมึ อาวาเส วสนฺตสฺส อนุปฺปนฺนํ นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนํ วา วินสฺสติ, อนุปฏฺิตา จ สติ น อุปฏฺาติ, อสมาหิตฺจ จิตฺตํ น สมาธิยติ, อยํ อสปฺปาโย อาวาโส, ตสฺมา ยสฺมึ วิหาเร พหู อาวาสา โหนฺติ, ตตฺถ เอเกกสฺมึ ตีณิ ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา ยตฺถ จิตฺตํ เอกคฺคํ น โหติ, ตํ ปหาย ตพฺพิปรีเต วสิตพฺพํ. โคจโรติ โคจรคาโม, โส เสนาสนโต อติทูเร อจฺจาสนฺเน ปุพฺพทิสาย วา ปจฺฉิมทิสาย วา อสุลภภิกฺโข อสปฺปาโย. ภสฺสนฺติ ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถาปริยาปนฺนา อสปฺปายกถา. สา หิสฺส นิมิตฺตนฺตรธานาย สํวตฺตติ. ปุคฺคโลติ ติรจฺฉานกถิโก, สีลาทิคุณวิรหิโต ปุคฺคโล, ยํ นิสฺสาย อสมาหิตํ วา จิตฺตํ น สมาธิยติ, สมาหิตํ วา ถิรํ น โหติ, เอวรูโป. โส หิ ตํ กทฺทโมทกมิว อจฺฉํ อุทกํ มลีนเมว กโรติ. โภชนํ ปน กสฺสจิ อมฺพิลํ, กสฺสจิ มธุรํ อสปฺปายํ โหติ. อุตุปิ กสฺสจิ สีโต, กสฺสจิ อุณฺโห. ตสฺมา ยํ โภชนํ วา อุตุํ วา เสวนฺตสฺส ผาสุ น โหติ, ตํ โภชนํ โส จ อุตุ อสปฺปาโย. อิริยาปโถติ านจงฺกมนาทีสุ โย อิมสฺส อสมาหิตจิตฺตสฺส สมาธานาย, สมาหิตจิตฺตสฺส จ ถิรภาวาย น โหติ, อยํ อสปฺปาโย อิริยาปโถ, ตสฺมา ตมฺปิ อาวาสํ วิย ตีณิ ทิวสานิ อุปปริกฺขิตฺวา วชฺเชตพฺพํ.

๘๘๖. สปฺปาเย สตฺต เสเวยฺยาติ วุตฺตวิปรีตวเสน สปฺปาเย อาวาสาทิเก สตฺต เสเวยฺย. ตตฺถ ภสฺสสปฺปายํ นาม ทสกถาวตฺถุสนฺนิสฺสิตํ, ตมฺปิ มตฺตาย ภาสิตพฺพํ. เอวฺหิ ปฏิปชฺชโตติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน สตฺต อสปฺปาเย วชฺเชตฺวา สตฺต สปฺปาเย เสวนวเสน ปฏิปชฺชนฺตสฺส นิมิตฺตาเสวนพหุลสฺส.

๘๘๘-๙. เยน วินา อปฺปนาย กุสโล น โหติ, โส ทสวิโธ วิธิ, อปฺปนาโกสลฺลํ, ตนฺนิพฺพตฺตํ วา าณํ คนฺถวิตฺถารภเยน อิธ น ทสฺสิตํ, อตฺถิเกน ปน วิสุทฺธิมคฺคโต (วิสุทฺธิ. ๑.๖๐) คเหตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย. ปฏิลทฺเธ นิมิตฺตสฺมึ, เอวฺหิ สมฺปาทยโต อปฺปนาโกสลฺลํ อปฺปนา สมฺปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ.

๘๙๐-๒. สาติ อปฺปนา. เอวฺหีติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ, ยสฺมา านเมตํ น วิชฺชติ, ตสฺมา จิตฺตปฺปวตฺติอาการํ ภาวนาจิตฺตสฺส ลีนุทฺธตาทิวเสน ปวตฺติอาการํ สลฺลกฺขยํ อุปธาเรนฺโต สมตํ วีริยสฺเสว วีริยสฺส สมาธินา สมตํเยว โยชเยถ, กถํ ปน โยชเยถาติ อาห ‘‘อีสกมฺปี’’ติอาทิ. ตตฺถ ลยนฺติ ลีนภาวํ, สงฺโกจนฺติ อตฺโถ. ยนฺตนฺติ คจฺฉนฺตํ, ปคฺคณฺเหเถว สมภาวายาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อจฺจารทฺธํ นิเสเธตฺวา สมเมว ปวตฺตเย’’ติ. ตํ มานสนฺติ สมฺพนฺโธ.

๘๙๔-๙. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน วีริยสมตาโยชนวเสน, ปฏิปนฺนภาวนามานสํ ปฏิภาคนิมิตฺเตเยว ปนวเสน นิมิตฺตาภิมุขํ ปฏิปาทยโต ตสฺส โยคิโน. สมิชฺฌิสฺสตีติ อุปฺปชฺชิสฺสติ . ปถวีกสิณนฺติ ปถวีติ ภาวนาวเสน อุปฏฺิตํ ตเทว ปฏิภาคนิมิตฺตํ. ชวนานีติ กามรูปาวจรชวนานิ. เตนาห ‘‘เอกํ ตุ รูปาวจริกํ ภเว’’ติ. อฺเหีติ ปากติเกหิ กามาวจรจิตฺเตหิ. พลวตราติ ภาวนาพเลน ปฏุตรภาวปฺปตฺติยา อจฺจนฺตพลวนฺโต. ปริกมฺโมปจารโตติ ปริกมฺมตฺตา, อุปจารตฺตา จ. ตตฺถ ปริกมฺมตฺตาติ ปฏิสงฺขรณตฺตา. อุปจารตฺตาติ ยถา คามาทีนํ อาสนฺนเทโส ‘‘คามูปจาโร, นครูปจาโร’’ติ วุจฺจติ, เอวํ อปฺปนาย อาสนฺนตฺตา สมีปจาริตฺตา. อุปจารานิ อปฺปนํ อุเปจฺจ จรนฺตีติ กตฺวา. อปฺปนายานุโลมตฺตาติ นานาวชฺชนวีถิยํ ปริกมฺมโตปิ ลหุกํ อปฺปนานิปฺผาทกวเสน, คุณวเสน วา อปฺปนาย อนุกูลตฺตา. เอตฺถาติ เอเตสุ ปริกมฺโมปจารานุโลมสฺิเตสุ. สพฺพนฺติมํ ตติยํ, จตุตฺถํ วา โคตฺรภูติ ปวุจฺจติ ปริตฺตโคตฺตสฺส อภิภวนโต, มหคฺคตโคตฺตสฺส ภาวนโต จ.

๙๐๐-๓. อวิเสเสน สพฺเพสํ สพฺพา สมฺาติ ปเม นเย คหิตาคหณํ โหตีติ อาห ‘‘คหิตาคหเณนา’’ติอาทิ. เอเกกสฺส คหิตนามํ อิตเรสํ อคฺคหณโต, เอเกกนามวเสน คหิตสฺส อิตรนามวเสน อคฺคหณโต วา นานาวชฺชนปริกมฺมเมว ปริกมฺมนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปมํ อุปจารํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถํ ปฺจมํ วาติ วา-สทฺโท อนิยโม, โส ปน ขิปฺปาภิฺทนฺธาภิฺวเสน เวทิตพฺโพ. ขิปฺปาภิฺสฺส หิ จตุตฺถํ อปฺเปติ, ทนฺธาภิฺสฺส ปฺจมํ. ตโต ปรนฺติ ปฺจมโต ปรํ. เตนาห ‘‘ฉฏฺเ วา’’ติอาทิ. กสฺมา น ชายตีติ อาห ‘‘อาสนฺนตฺตา ภวงฺคสฺสา’’ติ. จิตฺตนิยามวเสน หิ อุปฺปชฺชิตพฺเพสุ สตฺตสุ ชวเนสุ ฉฏฺสตฺตมชวนวารคฬนฏฺานภูตตฺตา ภวงฺคสฺส อาสนฺนํ ชวนํ ปตติ. ตาวเทติ ตาวเทว. ฉฏฺํ, สตฺตมํ วา ชวนํ ปตนฺตํ วิย โหติ ปริกฺขีณชวนตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๙๐๔-๖. อถ กิเมตํ วุจฺจติ ‘‘ฉฏฺเ สตฺตเม วาปิ อปฺปนา น ชายตี’’ติ? อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร หิ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๒) อิมํ สุตฺตํ วตฺวา ยถา อลทฺธาเสวนํ ปมชวนํ โคตฺรภุํ น อุปฺปาเทติ, ลทฺธาเสวนํ ปน พลวภาวโต ทุติยํ, ตติยํ วา โคตฺรภุํ อุปฺปาเทติ, เอวํ ลทฺธาเสวนตาย พลวภาวโต ฉฏฺํ, สตฺตมมฺปิ วา อปฺเปตีติ ฉฏฺํ, สตฺตมมฺปิ วา อปฺปนา โหตีติ วทตี’’ติ อิมํ โจทนํ มนสิ นิธาย เถรสฺส ตํ มตํ ปฏิกฺขิปิตฺวา ยถาวุตฺตมตเมว ปติฏฺาเปตุํ ‘‘ปุริเมหี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ปริยนฺเตาตุํ เนว สกฺโกตีติ ปปาเต เอว ปตตีติ อธิปฺปาโย. อปฺเปตุํ น สกฺโกตีติ ปติฏฺาตุํ อปฺปนาวเสน อุปฺปชฺชิตุํ น สกฺโกติ. น เจตฺถ ‘‘ปุริมา ปุริมา’’ติอาทิสุตฺตปทํ สาธกํ อาเสวนปจฺจยลาภสฺส พลวภาเว อเนกนฺติกตฺตา. ตถา หิ อลทฺธาเสวนาปิ ปมเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียา โหติ, ลทฺธาเสวนา ทุติยเจตนา ยาว ฉฏฺเจตนา อปราปริยเวทนียา, ตสฺมา ลทฺธาเสวเนปิ ฉฏฺสตฺตเม อปฺปนา น โหติ อาสนฺนภวงฺคตาย ทุพฺพลตฺตาติ อธิปฺปาโย. ยทิ เอวํ กถํ สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา อานนฺตริยา โหติ? นายํ วิเสโส, อาเสวนปจฺจยลาเภน พลวปฺปตฺติยา, กิฺจรหิ กิริยาวตฺถาวิเสสโต. กิริยาวตฺถา หิ อารมฺภมชฺฌปริโยสานวเสน ติวิธา. ตตฺถ ปริโยสานาวตฺถาย สนฺนิฏฺาปกเจตนาภาเวน อุปปชฺชเวทนียาทิตา โหติ, น พลวภาเวนาติ อาจริยา.

๙๐๗. เอก…เป… ปนาติ อยํ อปฺปนา เอกจิตฺตกฺขณาเยว เอกวารเมว อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌติ, น สมาปตฺติวีถิยํ วิย ยถิจฺฉกํ ปวตฺตติ. สตฺตสุ หิ าเนสุ กาลปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ, ปมปฺปนายํ, โลกิยาภิฺาสุ, จตูสุ มคฺเคสุ, มคฺคานนฺตเร ผเล, รูปารูปภเวสุ ภวงฺคฏฺาเน นิโรธสฺส ปจฺจเย เนวสฺานาสฺายตเน นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลสมาปตฺติยนฺติ. เอเตสุ หิ กตฺถจิ อติอิตฺตรา, กตฺถจิ อปฺปมาณา จิตฺตกฺขณา โหนฺติ, กตฺถจิ สมฺปุณฺณชวนวีถิ อทฺธา ลพฺภติ. ตถา หิ มคฺคานนฺตรํ ผลํ ติณฺณํ อุปริ น โหติ, นิโรธสฺส ปจฺจโย เนวสฺานาสฺายตนํ ทฺวินฺนํ อุปริ น โหติ, รูปารูปภเวสุ ภวงฺคสฺส ปริมาณํ นตฺถิ, เสเสสุ ปน จตูสุ าเนสุ เอกเมว จิตฺตนฺติ ตสฺมา เอกจิตฺตกฺขณิกาเยว อปฺปนา โหตีติ เวทิตพฺพา.

๙๐๘. ปจฺจเวกฺขณเหตุกนฺติ ปจฺจเวกฺขณเหตุํ กตฺวา. นนุ จ ปจฺจเวกฺขณํ อาวชฺชนาทีหิ, น ปน เตน อาวชฺชนาทิ, ตสฺมา กถํ ปจฺจเวกฺขณเหตุกํ โหตีติ ยุชฺชติ? นายํ โทโส ภวนกิริยาย ปจฺจเวกฺขณเหตุกตฺตา. น หิ อสติ ปจฺจเวกฺขเณ สา โหติ นิโรธสฺส ปจฺจยภูตฌานนฺตรมิว, สติ ปน ปจฺจเวกฺขเณ สา โหติ, ตสฺมา อนฺวยพฺยติเรกวเสน ลพฺภติ. ตสฺสา ปจฺจเวกฺขณเหตุกตาติ น น ยุชฺชติ ‘‘ปจฺจเวกฺขณเหตุก’’นฺติ วจนํ. ปจฺจเวกฺขณเหตุกํ อาวชฺชนนฺติ วา สมฺพนฺโธ. อาวชฺชนฺหิ ปจฺจเวกฺขณาณานํ อนนฺตรปจฺจยภาเวน การณํ โหติ.

๙๑๑-๓. นานาวิสยลุทฺธสฺส , อิโต จิโต จ ภมนฺตสฺส เจตโสติ สมฺพนฺโธ. สมาธาเนวาติ สมาธานา เอว, สมาธานกรณโตติ อตฺโถ. ปาโมชฺชภาวโตติ ปาโมชฺเชน สมานโยคกฺขมตาย ตสฺสา ตพฺภาววุตฺติตฺตา. อถ วา พฺยาปาเทน ฆฏฺฏิยมานสฺส จิตฺตสฺส ปมุทิตภาวกรณโต ปีติเยว ‘‘ปาโมชฺช’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺส ภาโว, ตสฺมา ปาโมชฺชสภาวตฺตาติ อตฺโถ. สีตลตฺตสภาวโตติ พฺยาปาทคฺคินา สนฺตาปิยมานสฺส จิตฺตสฺส นิพฺพาปนวเสน สีตลตฺตสภาวตฺตา.

๙๑๔-๖. สวิปฺผาริกภาเวนาติ โยนิโส สงฺกปฺปวเสน กามวิตกฺกาทึ มทฺทิตฺวา ปวตฺตนโต สวิปฺผาริกสภาเวน. เนกฺขมฺมาทิปวตฺติโตติ เอตฺถ เนกฺขมฺม-คฺคหเณน พฺรหฺมวิหารวชฺชํ ปมชฺฌานํ คหิตํ. อาทิ-สทฺเทน ตีสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ ปมชฺฌานํ คหิตนฺติ วทนฺติ. อวูปสนฺตภาวสฺสาติ อุทฺธจฺจสฺส สรูปกถเนน ตํสหวตฺติโน อนุตาปสภาวสฺส กุกฺกุจฺจสฺสาปิ สรูปํ กถิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ตถา สยฺเจวาติสนฺตโตติ อุทฺธจฺจปฏิปกฺขสภาววจเนน กุกฺกุจฺจปฏิปกฺโข ปีติภาโวปิ. เตนาห ‘‘สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจทฺวยสฺสา’’ติ. มติยา อนุรูปตฺตาติ ปฺาย อนุรูปตฺตา. ตถา จ วุตฺตํ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน ‘‘วิจาโร วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโข อารมฺมเณ อนุมชฺชนวเสน ปฺาปติรูปกสภาวตฺตา’’ติ. โปตฺถเกสุ ปน ‘‘ปีติยา อนุรูปตฺตา’’ติ ปาโ ทิสฺสติ, ตสฺส จ วิจาโร อนุมชฺชนสภาววนฺตตาย ปีติ วิย อารมฺมเณ อนิวตฺตนฺโต โอคาเหตฺวา ปวตฺตตีติ ปีติยา อนุรูปตฺตา สนฺเทหสภาวตฺตา อารมฺมณํ อนชฺโฌคาเหตฺวา ปวตฺตมานาย วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโขติ อตฺถํ วทนฺติ.

๙๑๗. ติวิธกลฺยาณนฺติ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณตาสงฺขาตาหิ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทีหิ ติวิธกลฺยาณตาหิ ยุตฺตํ. ยถาห ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘). ตตฺถ ปุพฺพภาคปฏิปทาวเสน ฌานสฺส ปริปนฺถโต วิสุชฺฌนํ ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม, สา ปน ยสฺมา ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติ. วิโสเธตพฺพตาทีนํ อภาวโต ฌานปริยาปนฺนาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา อนุพฺรูหนา อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม. สา ปนายํ วิเสสโต ฌานสฺส ิติกฺขเณ ลพฺภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ’’ติ. ตตฺถ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิสาธกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน ปริโยทปนา สมฺปหํสนา นาม. สา ฌานสฺส โอสานกฺขเณ ปากฏา โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ.

อภยคิริวาสิโน ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร, อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา, สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๗๕) เอวํ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทิเก วณฺเณนฺติ, ตํ อยุตฺตํ. เอวฺหิ สติ อฌานธมฺเมหิ ฌานธมฺมสฺส คุณสํกิตฺตนํ นาม กตํ โหติ. น หิ ภูมนฺตรํ ภูมนฺตรปริยาปนฺนํ โหติ, อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติอาทีหิ อุเปกฺขานุพฺรูหนาทโย จ เวทิตพฺพา. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ ภควตา ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺตรฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน สมฺปหํสิต’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘). เอตฺถ หิ เอกตฺตคตํ จิตฺตนฺติ อินฺทฺริยานํ เอกรสภาเวน, เอกคฺคตาย จ สิขปฺปตฺติยา ตทนุคุณเอกตฺตคตํ สสมฺปยุตฺตมปฺปนาจิตฺตํ, ตสฺเสว ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทนาทิ ปกฺขนฺตรํ วุจฺจติ.

ทสลกฺขณสํยุตนฺติ ‘‘อาทิมฺหิ ตีณิ ลกฺขณานิ, มชฺเฌ ตีณิ, ปริโยสาเน จตฺตารี’’ติ เอวํ ทสปริมาเณหิ อปฺปนาย ลกฺขิตพฺพภาเวน ลกฺขณสงฺขาเตหิ ปริปนฺถโต วิสุทฺธิฌานาทีหิ สํยุตฺตํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ. อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ. โย ตสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ, ยฺจ ปริปนฺถโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ, ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ลกฺขณสมฺปนฺนฺจ.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ. วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ , เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ, ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ลกฺขณสมฺปนฺนฺจ.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ. ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส จตฺตาริ ลกฺขณานิ. ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา, ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ ลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘).

เอตฺถ จ โคตฺรภุจิตฺตสฺส นานาวชฺชนวีถิยํ อุปฺปชฺชนารหปริปนฺถโต วิสุชฺฌนโต ตทาคมนวเสน ฌานจิตฺตสฺส วิสุชฺฌนาการํ สนฺธาย ‘‘โย ตสฺส ปริปนฺโถ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. โคตฺรภุจิตฺตสฺเสว ตถา วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา เอกตฺตนเยน มชฺฌิมสมถนิมิตฺตสงฺขาตํ สมปฺปวตฺตํ อปฺปนาสมาธิปฏิปชฺชนํ สนฺธาย ‘‘วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมสมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ตถา หิ ขีรสฺเสว ทธิภาวาภาเวปิ ตเทว ขีรํ ทธิสมฺปนฺนนฺติอาทีสุ วิย โคตฺรภุจิตฺตสฺส อปฺปนาภาวาภาเวปิ เอกสนฺตติปริณามูปคมนวเสน ตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ลีนุทฺธจฺจสงฺขาตอนฺตทฺวยานุปคมเนน มชฺฌิมํ ปจฺจนีกวูปสมนโต ยถา สมถสงฺขาตํ โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต นิมิตฺตภูตํ อปฺปนาสมาธึ ปฏิปชฺชติ นาม, ตถา ปฏิปนฺนตฺตา ปน สมาหิตภาวูปคมเนน เอกตฺตนยวเสเนว ตตฺถ ปกฺขนฺทนํ สนฺธาย ‘‘ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทตี’’ติ วุตฺตํ. เอกตฺตนยฺหิ วินา โคตฺรภุสฺส อปฺปนาปกฺขนฺทนํ นตฺถิ. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการสฺส อิธ นิพฺพตฺติยา ฌานํ อุปฺปาทกฺขเณ ติวิธลกฺขณสมฺปนฺนํ นาม. ยถา หิ โลกิยวิปสฺสนาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา โลกุตฺตรมคฺโค ‘‘วิปสฺสนา’’ติ วุจฺจติ, เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสธเน พฺยาปารากรณโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขากิจฺจวเสน ปุคฺคลสฺส อชฺฌุเปกฺขนโต วุตฺตํ ‘‘วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ. อปฺปนาสมาธิภาวูปคมเนน สมถวิปฺปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารากรณโต วุตฺตํ ‘‘สมถปฏิปนฺนํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ.

เอวํ สมถปฏิปนฺนภาวโตเยว ปุพฺเพ ‘‘กถํ นุ โข กิเลสสํสคฺคํ ปชเหยฺย’’นฺติ ปฏิปนฺนสฺส อิทานิ สมถปฏิปตฺติยา ตสฺส ปหีนตฺตา ปาปมิตฺตสํสคฺคํ ปหาย เอกสฺส วิหรโต สปฺปุริสสฺส วิย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ฌานจิตฺตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารากรณํ สนฺธาย ‘‘เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน ฌานํ มชฺเฌ ติวิธลกฺขณสมฺปนฺนํ นาม โหติ. ปุพฺพภาคปฺปวตฺตปาริหาริยาเณน จิตฺตสฺส สํกิเลสโวทานกรธมฺเมสุ อาทีนวานิสํสํ ทิสฺวา ยถา ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อฺมฺานติวตฺตนํ โหติ, ตถา ภาวนาย สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย วเสน อนุพฺรูหิเต จิตฺเต สมาธิปฺาสงฺขาตยุคนทฺธธมฺมานํ อฺมฺานติวตฺติยา ปวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา’’ติ. สทฺธาปฺจมกานํ อินฺทฺริยานํ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติวเสน เอกรสตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน สมฺปหํสนา’’ติ. เตสํ อนติวตฺตนสมฺปหํสนานํ อนุรูปวเสน อลีนํ อนุทฺธตํ หุตฺวา วีริยสฺส ปวตฺตึ สนฺธาย ‘‘ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา’’ติ วุตฺตํ. ยา ปนสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, อุปฺปาทโต ปฏฺาย ิติปริโยสานานํ อาเสวนปจฺจยภาววเสน ปวตฺตากาโร, ตํ สนฺธาย ‘‘อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจวเสน ฌานปริโยสาเน จตูหิ ลกฺขเณหิ สมฺปนฺนํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

๙๑๙-๒๐. วิโสเธตฺวาน ปาปเกติ ปาริปนฺถิเก ธมฺเม วิเสเสน โสเธตฺวา สยํ ปหานมตฺเต อฏฺตฺวา อติสยปฺปหานวเสน ปุน โสเธตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺตภาวนเวปุลฺลนฺติ สมาธิภาวนาย วิปุลภาวํ. ยถา หิ ภาวนาวเสน นิมิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ, เอวมสฺส ภาวนาวเสน วฑฺฒนมฺปิ, ตสฺมา เอกงฺคุลาทิวเสน นิมิตฺตํ วฑฺฒยนฺตสฺส ปุนปฺปุนํ พหุลีกาเรน ฌานภาวนาปิ วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ, อภิฺาวเสน จ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตภาวนเวปุลฺลํ…เป… วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติ.

๙๒๑-๓. วฑฺฒนาภูมิโย ทฺเววาติ วฑฺฒนฏฺานานิ ทฺเวเยว. ทฺวีสุ าเนสุ อวสฺสํ เอกตฺตํ วฑฺเฒตพฺพนฺติ อาจริยา. ตตฺราติ สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ตสฺสาติ อตฺโถ. ตตฺราติ วา ทฺวีสุ ภูมีสุ. กสิตพฺพํ…เป… ยถิจฺฉกนฺติ ยถา นาม กสฺสโก กสิตพฺพฏฺานํ นงฺคเลน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริจฺเฉทพฺภนฺตรํ กสิตุํ ตํ านํ ปริจฺฉินฺทติ, เอวเมวํ เอกงฺคุลทฺวงฺคุลติวงฺคุลจตุรงฺคุลมตฺตํ มนสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยถาปริจฺเฉทํ วฑฺเฒตพฺพํ. ตโต วิทตฺถิรตนปฺปมุขปริเวณวิหารสีมานํ, คามนิคมชนปทรชฺชสมุทฺทสีมานฺจ ปริจฺเฉทวเสน วฑฺฒยนฺเตน จกฺกวาฬปริจฺเฉทํ กตฺวา วา ตโต วาปิ อุตฺตริ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถิจฺฉกํ วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติ. อปริจฺฉินฺทิตฺวา ปน น วฑฺเฒตพฺพํ. น หิ อปริจฺเฉเท ภาวนา ปวตฺตติ. ตถา จ วุตฺตํ ‘‘สนฺตเก โน อนนฺตเก’’ติ. เอวํ วฑฺฒิตฺจ ตํ นิมิตฺตํ วฑฺฒิตวฑฺฒิตฏฺาเน ปถวิยา อุกฺกูลวิกูลนทีวิทุคฺคปพฺพตวิสเมสุ สงฺกุสตสมพฺภาหตํ อุสภจมฺมํ วิย โหติ.

๙๒๔-๖. ตสฺมึ ปน นิมิตฺเต ปตฺตปมชฺฌาเนน อาทิกมฺมิเกน อิทาเนว ทุติยชฺฌานาทิอธิคมาย อุสฺสาหํ อกตฺวา ตสฺมึเยว ปมชฺฌาเน ปฺจหากาเรหิ สุจิณฺณวสินา ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปตฺเตปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สุจิณฺโณ วโส วสิภาโว เอเตนาติ สุจิณฺณวสินา, สุฏฺุ อาเสวิตวสินาติ อตฺโถ. กตมา ตา วสิโย, ยาสํ วเสนายํ ปฺจหากาเรหิ สุจิณฺณวสีติ อาห ‘‘อาวชฺชน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อาวชฺชนนฺติ น อาวชฺชนมตฺตเมว อธิปฺเปตํ อาวชฺชนวสิตาย อธิปฺเปตตฺตา. อาวชฺชนาย ปน อุปฺปนฺนาย ชวเนหิปิ ภวิตพฺพํ. ตานิ จ โข อาวชฺชนกปฺปรตาย จิตฺตาภินีหารสฺส ยถาวชฺชิตวเสน โหนฺติ. อธิคเมน สมํ, สสมฺปยุตฺตสฺส ฌานสฺส สมฺมา อาปชฺชนํ ปฏิปชฺชนํ สมาปตฺติ. อภิภุยฺย ปนํ, อธิฏฺานํ วิยาติ วา อธิฏฺานํ. วสิตาติ เอเตสุ อาวชฺชนาทีสุ ยถารุจิ ปวตฺติโย , ยตฺถิจฺฉกํ, ยทิจฺฉกํ, ยาวติจฺฉกํ ปวตฺติตุํ สมตฺถภาโว.

ตตฺถ ปมชฺฌานโต วุฏฺาย ปมํ วิตกฺกํ อาวชฺชยโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ วิตกฺการมฺมณาเนว จตฺตาริ, ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ, ตโต ทฺเว ภวงฺคานิ, ตโต ปุน วิจารารมฺมณํ อาวชฺชนํ วุตฺตนเยเนว ชวนานีติ เอวํ ปฺจสุ ฌานงฺเคสุ ปฏิปาฏิยา นิรนฺตรํ จิตฺตํ เปเสตุํ สมตฺถภาโว, ตตฺถ อทนฺธายิตตฺตํ อาวชฺชนวสิตา นาม. สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ ทฺวีสุ ภวงฺเคสุ อุปฺปนฺเนสุ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ สมาปชฺชิตุํ สมตฺถตา สมาปชฺชนวสิตา นาม. อยฺจ มตฺถกปฺปตฺตา อาวชฺชนสมาปชฺชนา สตฺถุ ยมกปาฏิหาริยกาลธมฺมเทสนาทีสุ ลพฺภติ. ธมฺมเสนาปติสฺส ยกฺเขน สีเส ปหารทานสมเย, มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส นนฺโทปนนฺททมนสมเย วา ลพฺภติ, อฺตฺถ ปน ตโต ทนฺธาเยว, เสตุ วิย สีฆโสตาย นทิยา โอฆํ ภวงฺคเวคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา, ภวงฺคปาตโต รกฺขณโยคฺยตา อธิฏฺานวสิตา นาม. ยถาปริจฺฉินฺนกาลํ อติกฺกมิตุํ อทตฺวา ฌานโต วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสิตา นาม.

อถ วา ยถาปริจฺฉินฺนกาลโต อุปริ คนฺตุํ อทตฺวา ปนสมตฺถตา อธิฏฺานวสิตา นาม. ปริจฺฉินฺนกาลโต อนฺโต อวุฏฺหิตฺวา ยถากาลวเสเนว วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสิตา นาม. อถ วา วุตฺตนเยเนว ปริจฺฉินฺนกาลโต อนูนํ กตฺวา สมาปตฺตึ เปตุํ สมตฺถตาว อธิฏฺานวสิตา นาม. กาลปริจฺเฉทํ อติกฺกมิตฺวา วุฏฺิตสฺสปิ นิทฺทาลุกสฺส ปฏิพุชฺฌิตฺวา ปุนปฺปุนํ นิทฺโทกฺกมนํ วิย วุฏฺิตสมาปตฺติเมว ปุนปฺปุนํ อสมาปชฺชิตฺวา วุฏฺานสมตฺถตา, ตตฺถ อาลยากรณโยคฺยตา จ วุฏฺานวสิตา นาม.

ปจฺจเวกฺขณวสิตา ปน อาวชฺชนวสิตาย เอว สงฺคหิตา. ปจฺจเวกฺขณชวนาเนว หิ เตสํ เตสํ ฌานงฺคานํ อาวชฺชนานนฺตรํ ปวตฺตานิ, ตสฺมา ยทคฺเคน อาวชฺชนวสิยา สิทฺธิ, ตทคฺเคน ปจฺจเวกฺขณวสิตา สิทฺธาติ เวทิตพฺพํ. เกจิ ปน ฌานงฺคานํ อปากฏภาเวปิ เตสุ นิรนฺตรํ อาวชฺชนาย ปวตฺตนสมตฺถตา อาวชฺชนวสิตา นาม, เตสํ ยถาสภาวปจฺจเวกฺขณวเสน ชวนปฺปวตฺตนสมตฺถตา ปจฺจเวกฺขณวสิตา นาม. อถ วา สติปิ สตฺตนฺนํ ชวนานํ ปวตฺติยํ นิรนฺตรํ อาวชฺชนสมตฺถตา อาวชฺชนวสิตา นาม, วสิตาพเลน สตฺตมชวนํ อปฺปตฺวา จตุปฺจชวเนเหว ปจฺจเวกฺขณสมตฺถตา ปจฺจเวกฺขณวสิตา นาม. อถ วา าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตหิ ปจฺจเวกฺขิตุํ อสมตฺถภาเวปิ ‘‘ปจฺจเวกฺขิสฺสามี’’ติ อุปฺปนฺนอาวชฺชนานนฺตรเมว ภวงฺเคสุ กาลํ อวีตินาเมตฺวา สีฆเมว อาวชฺชิตุํ สมตฺถตา อาวชฺชนวสิตา นาม, วสิตาพเลน, ปจฺจเวกฺขณพเลน าณวิปฺปยุตฺตจิตฺเตหิปิ ปจฺจเวกฺขิตุํ สมตฺถตา ปจฺจเวกฺขณวสิตา นามาติ วทนฺติ. ยสฺมา ปเนตา ยถาวุตฺตนิยาเมน ปุนปฺปุนํ อาวชฺชนาทินา สาเธตพฺพา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อาวชฺชิตฺวา’’ติอาทิ.

๙๒๗. อิเมสุ ปน อาทิกมฺมิเกน สมาปชฺชนพหุเลเนว ภวิตพฺพํ, น ปจฺจเวกฺขณพหุเลน. ปจฺจเวกฺขณพหุลสฺส หิ ฌานงฺคานิ ถูลานิ ทุพฺพลานิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, อถสฺส ตานิ เอว อุปฏฺิตตฺตา อุปริ อุสฺสุกฺกนาย ปจฺจยตํ นาปชฺชนฺติ, โส อปฺปคุเณ ฌาเน อุสฺสุกฺกมาโน ปมชฺฌานาว ปริหายติ, น จ สกฺโกติ ทุติยํ อธิคนฺตุํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปเมอวสิปฺปตฺเต’’ติอาทิ. อุภโต ภฏฺโติ ปุน ปมชฺฌานํ สมาปชฺชิตุํ น สกฺโกตีติ อธิปฺปาโย. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ พาโล อพฺยตฺโต อเขตฺตฺู อกุสโล วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, โส ตํ นิมิตฺตํ นาเสวติ, น ภาเวติ, น พหุลึ กโรติ, น สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, โส น สกฺโกติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺส เอวํ โหติ ‘ยํนูนาหํ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ, โส น สกฺโกติ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ, อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุภโต ภฏฺโ อุภโต ปริหีโน’’ติ (อ. นิ. ๙.๓๕).

๙๒๘-๓๑. กามสฺสหคตา…เป… จรนฺตีติ อารมฺมณวเสน กามสหคตา หุตฺวา สฺา เจว มนสิการา จ สมุทาจรนฺติ. สฺาสีเสน เจตฺถ ตํสหคโต จิตฺตุปฺปาโท คหิโต, มนกฺการ-คฺคหเณน อาวชฺชนนฺติ ทฏฺพฺพํ. กามานุปกฺขนฺทานํ สฺามนสิการานํ วเสน หานํ ปริหานึ ภชตีติ หานภาคิยํ. เกจิ ปน ‘‘สํกิเลสนฺติ หานภาคิโย ธมฺโม’ติ (วิภ. ๘๒๘) วจนโต หานภาคิยา กามสฺาทิกาติ เตหิ ปริหาปิยมานํ ฌานมฺปิ การณูปจาเรน หานภาคิยํ นามา’’ติ วทนฺติ. ตทนุธมฺมตา สตีติ ตสฺเสว ฌานสฺส อนุธมฺมตา อารมฺมณวเสน ตทนุคตา สติปติรูปกา นิกนฺติ. อตกฺกสหิตาติ อวิตกฺกํ ทุติยชฺฌานํ ปตฺตุกามสฺส ตํ สนฺตโต, มนสิ กโรโต อารมฺมณวเสน ตํสหคตา. วิเสสภาคิยนฺติ วิเสสภูตสฺส ทุติยชฺฌานสฺส ปทฏฺานตาย ตํ ภชตีติ วิเสสภาคิยํ. นิพฺพิทาสํยุตาติ วิปสฺสนารมฺมณา.

๙๓๒-๕. ปคุณโตติ วสิตปฺปตฺตโต. อาสนฺนากุสลาริกาติ นีวรณปฺปหานสฺส ตํปมตาย อาสนฺนนีวรณปจฺจตฺถิกา. ถูลํ นาม วิปุลมฺปิ เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียนฺติ อาห ‘‘ถูลตฺตา…เป… ทุพฺพลา’’ติ. ตโตติ ทุติยชฺฌานโต. ทุพฺพลานิ องฺคานิ อิมิสฺสาติ องฺคทุพฺพลา. สนฺตโต จินฺตยิตฺวาติ ปมชฺฌาเน วิย โอฬาริกงฺคานํ อภาวโต, สนฺตธมฺมสมงฺคิตาย จ สนฺตนฺติ เอวํ สนฺตวเสน มนสิ กตฺวา. กิฺจาปิ หิ เย ธมฺมา ทุติยชฺฌาเน ปีติสุขาทโย, เต ปมชฺฌาเนปิ สนฺติ, เตหิ ปน เต สนฺตตรา, ปณีตตรา จ โหนฺติ. นิกนฺตินฺติ นิกามนํ อเปกฺขนฺติ อตฺโถ. ปริยาทายาติ เขเปตฺวา, วิกฺขมฺเภตฺวาติ อตฺโถ.

๙๔๓-๔. สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนสงฺขาตาย สทฺธาย โยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, กสฺมา อิทเมว ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติปิ สทฺธาย ตํ สมฺปสาทนนฺติ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน วิตกฺกวิจารกฺโขภาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, ตสฺมา พลวสทฺธาย สมนฺนาคตตฺตา อิทเมว ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ วุตฺตํ. อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ, อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อตฺโถ. ตีณิ องฺคานิ อิมสฺสาติ ติวงฺคิกํ. เสสนฺติ ปีติอาทีนํ อฺเหิ พลวภาโว, ติณฺณํ จตุนฺนํ วา ชวนานํ ปริกมฺโมปจารานุโลมโคตฺรภุภาโว, ฉฏฺเ สตฺตเม วา อปฺปนายานุปฺปตฺติ เอกจิตฺตกฺขณตา, ตโต ภวงฺคปาโต, ปุน ภวงฺคํ วิจฺฉินฺทิตฺวา ปจฺจเวกฺขณตฺถาย อาวชฺชนํ, ตโต ฌานปจฺจเวกฺขณนฺติ อิทํ สพฺพํ วุตฺตาวเสสํ เหฏฺา ปมชฺฌาเน วุตฺตนเยเนว สมุปลกฺขิตพฺพํ.

๙๔๘-๙. ปิยโตติ กามยโต. อุปฺปิลาปนนฺติ กามฺจายํ ปริคฺคเหสุ อปริจฺจตฺตเปมสฺส อนาทีนวทสฺสิโน ตณฺหาสหคตาย ปีติยา ปวตฺติอากาโร, อิธ จ ทุติยชฺฌานปีติ อธิปฺเปตา, ตถาปิ สพฺพโส ปีติยํ อวิรตฺตสฺสาปิ อนุพนฺเธยฺยาติ อุปฺปิลาปนํ อิธ อาทีนววเสน วุตฺตํ. อถ วา ทุติยชฺฌานสฺเสว ตติยชฺฌานํ วิย อหุตฺวา อุปฺปิลาปนากาเรน ปวตฺติ อุปฺปิลาปนํ วิยาติ อุปฺปิลาปนนฺติ วุตฺตํ. ตติยํ สนฺตโต ทิสฺวาติ สมฺพนฺโธ.

๙๕๗-๘. สติยา สมฺปชฺเน สมฺปนฺนนฺติ สรณลกฺขณาย สติยา, อสมฺโมหลกฺขเณน สมฺปชฺเน จ สมฺปนฺนํ. กามํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ สติสมฺปชฺํ อตฺถิ, น หิ มุฏฺสฺสติสฺส, อสมฺปชานโต จ อุปจารมตฺตมฺปิ สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา, เยภุยฺเยน ปน อวิปฺปโยคีภาเวน ปวตฺตมาเนสุ ปีติสุเขสุ ปีติสงฺขาตสฺส โอฬาริกงฺคสฺส ปหาเน สุขุมตาย อิธ สาติสโย สติสมฺปชฺพฺยาปาโรติ อิเธว สติสมฺปชฺสมฺปนฺนตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอกงฺคหีนนฺติ ปีติยา ปหีนภาเวน เอกงฺควิปฺปหีนํ. สา ปเนสา ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารา วิย อปฺปนากฺขเณเยว ปหียติ. เตนสฺส สา ‘‘ปหานงฺค’’นฺติ วุจฺจติ.

๙๗๒. โสมนสฺสสฺส ปหีนตฺตา อาห ‘‘เอกงฺควิปฺปหีน’’นฺติ. ตฺจ ปน โสมนสฺสํ เอกวีถิยํ ปุริมชวเนสุเยว ปหียติ.

๙๗๔. ปุริมชฺฌาเนสุ ปริกมฺมาทิวเสน ปวตฺตานํ กามาวจรชวนานํ เอกสทิสตฺตา อิธ ลพฺภมานํ กฺจิ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาเสวนํ น โหตีติ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยสฺมา ปทนฺตรสงฺคหิตสฺส อตฺตโน สภาวคฺคาหาปนสงฺขาตอาเสวนปจฺจยตฺตาภาวโต สุขเวทนา อุเปกฺขาเวทนาย อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, จตุตฺถชฺฌาเนว อุเปกฺขาเวทนาย ภวิตพฺพํ สาติสยํ สุขวิราคภาวนตฺตา, ตสฺมา อิธ อปฺปนาวีถิยํ อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตชวเนเหว ภวิตพฺพนฺติ.

๙๗๖. เอวํ จตุกฺกนยวเสน ฌานปฺปเภทํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฺจกนยมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ จตุกฺกนเย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทฺวิธา ปน กตฺวานาติ วิตกฺกวิจารานํ วิสุํ วิสุํ ปหานงฺควเสน คณนโต ทฺวิธา กตฺวา. ทุติยํ ตติยํ กตนฺติ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ อวิตกฺกอวิจารนฺติ เอวํ ทุติยชฺฌานฺเจว ตติยชฺฌานฺจ กตํ อภิธมฺเมติ อธิปฺปาโย. สุตฺตนฺเตสุ หิ ปฺจกนโย สรูปโต น คหิโต, กสฺมา ปน อภิธมฺเม คหิโตติ? ปุคฺคลชฺฌาสยโต, สนฺนิสินฺนเทวปริสาย หิ เยสํ ปมชฺฌาเน วิตกฺโก เอว โอฬาริกโต อุปฏฺาติ, อิตเร สนฺตโต, เตสํ จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกวิจารมตฺตํ ทุติยชฺฌานํ กตฺวา ปฺจกนเยน เทเสสิ. เยสํ วิตกฺกวิจารา โอฬาริกโต อุปฏฺิตา, ตโต เตสํ อวิตกฺกอวิจารํ ติวงฺคิกํ กตฺวา จตุกฺกนเยน เทเสสิ. เยสํ วิตกฺโกว โอฬาริกโต อุปฏฺาติ, เตหิ ตํ อติกฺกมิตฺวา จตุรงฺคิกํ ทุติยชฺฌานํ อุปฺปาเทตุํ สกฺกา. เยสํ วิตกฺกวิจารา, เตหิ ทฺเวปิ เอกโต อติกฺกมิตฺวา ติวงฺคิกํ ทุติยชฺฌานํ อุปฺปาเทตุํ สกฺกา.

๙๗๙. อตฺถพฺยฺชนวเสน สุฏฺุ มธุรํ, ตโตเยว วรตรํ วจนํ ยสฺส โสยํ สุมธุรวรตรวจโน. กํ นุ ชนํ เนว รฺชยติ, น หิ เอกมฺปิ น รฺชยติ. อตินิสิต…เป… นีโยยนฺติ อติติขิณพุทฺธิปฺปสาเทหิ ชเนหิ เวทนีโย อยํ คนฺโถ, ปริจฺเฉโทติ วา อธิปฺปาโย.

อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม

อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย

รูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.