📜

๑๕. ปนฺนรสโม ปริจฺเฉโท

อรูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา

๙๘๐. เอวํ ปถวีกสิณวเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ ทสฺเสตฺวา ยสฺมา เสสกสิณวเสน นิทฺทิสิยมาเน คนฺถคารโว โหติ, ตสฺมา ตํ สพฺพํ เปตฺวา อรูปาวจรํ วิภาเวตุํ ‘‘รูปารูป’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. รูปารูปมตีเตนาติ รูปารูปภวํ อติกฺกนฺเตน, ปุนานูปปตฺติวเสน รูปารูปภวํ อติกฺกนฺเตน, ปเคว กามาวจรภวํ. รูปารูปาทิเวทินาติ รูปารูปาทิภูมนฺตรเวทินา.

๙๘๒-๔. ยสฺมา อยํ อรูปาวจรสมาธิ นาม รูปวิราคภาวนา รูปวิราควเสเนว อภินิปฺผาเทตพฺพาว, ตสฺมา ตํ อุปฺปาเทตุกามสฺส รูเป วิรชฺชนาการํ, วิรตฺตมานเสน จ ตทตฺถาย ปฏิปชฺชนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘รูเป โข’’ติอาทิ อารทฺธํ. ทณฺฑนฏฺเน ทณฺโฑ, มุคฺคราทิ, ปรปีฬนาธิปฺปาเยน ตสฺส อาทานํ ทณฺฑาทานํ. อาทิ-สทฺเทน สตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทตุวํตุวํเปสุฺาทีนํ, อทินฺนาทานาทีนฺจ คหณํ. จกฺขุโรคาทโยติ อาทิ-สทฺเทน โสตโรคาทีนํ. รูเป อาทีนวํ ทิสฺวาติ กรชรูปาทิโอฬาริกรูเป ตนฺนิทานํ โทสํ ทิสฺวา. นิพฺพินฺทมานโสติ วิรตฺตมานโส. อรูปนฺติ อรูปาวจรภาวนํ. ตมฺหา กสิณรูปาติ ตมฺหา ปฏิภาคนิมิตฺตสงฺขาตา กสิณรูปา. นนุ จายํ รูเป อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ สมติกฺกมตฺถาย ปฏิปชฺชติ , ปฏิภาคนิมิตฺตฺจ อรูปํ ปณฺณตฺติมตฺตตฺตาติ กถํ ตสฺมา นิพฺพิชฺชตีติ อนุโยคํ สนฺธาย โอปมฺมวเสน ตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สูกราภิหโตว สา’’ติ. ยถา หิ วเน สูกเรน ปหตมตฺโต สุนโข ตโต ภีโต รูปทสฺสนเวลายํ ภตฺตปจนอุกฺขลึ ทูรโต ทิสฺวา สูกรปฏิภาคตาย ตสฺสํ สูกราสงฺกํ อุปฺปาเทตฺวา อุตฺรสฺโต ปลายเตว, เอวเมว รูเป นิพฺพินฺทมานโส ตํ อติกฺกมิตุกาโม ตปฺปฏิภาเค กสิณรูเปปิ นิพฺพิชฺชติ, สมติกฺกมิตุกาโมติ อธิปฺปาโย.

๙๘๕-๖. จตุตฺเถ ปน ฌานสฺมินฺติ เปตฺวา ปริจฺฉินฺนากาสกสิณํ นวสุ ปถวีกสิณาทีสุ อฺตรสฺมึ ปฏิลทฺธจตุตฺถชฺฌาเน. เกจิ ปน อาโลกกสิณมฺปิ เปตฺวา อฏฺสูติ วทนฺติ. ตสฺส ปน ปเน การณํ น ทิสฺสติ. สุฏฺุ จิณฺโณ จริโต อติปฺปคุณิกโต อาวชฺชนาทิลกฺขโณ วสีภาโว เอเตนาติ สุจิณฺณวสี. กโรติ…เป… ยโตติ ยสฺมา อิทํ จตุตฺถชฺฌานจิตฺตํ มยา นิพฺพินฺทกสิณรูปํ อารมฺมณํ กโรติ. อาสนฺนโสมนสฺสฺจาติ ยโต ตติยชฺฌานสฺส อาสนฺนตาย อาสนฺนโสมนสฺสปจฺจตฺถิกฺจ. ถูลสนฺตวิโมกฺขโตติ สนฺตวิโมกฺขสงฺขาตอรูปชฺฌานโต เอตํ ยโต ถูลํ โอฬาริกํ. อรูปชฺฌานฺหิ เย เต สนฺตา วิโมกฺขา อติกฺกมฺม รูเป อารุปฺปนฺติอาทีสุ ‘‘สนฺตวิโมกฺข’’นฺติ วุจฺจติ, สนฺตตาสิทฺธิ จสฺส อนุสฺสติโต ทฏฺพฺพา.

๙๘๗-๙๑. จตุตฺเถติ จตุตฺถชฺฌาเน. ปมารุปฺปฺจ สนฺตโต ทิสฺวาติ สมฺพนฺโธ, สนฺตวเสน มนสิ กริตฺวาติ อตฺโถ. สนฺตโต มนสิกรเณเนว เจตฺถ ปณีตโต, สุขุมโต จ มนสิกาโร สิทฺโธว โหตีติ น เต วิสุํ คหิตา. ปตฺถริตฺวานาติ ปเคว วฑฺฒิตํ, ตทา วฑฺฒนวเสน วา ปตฺถริตฺวา. ปุพฺพกาลวเสน เจตํ วุตฺตํ. เตน นํ อุคฺฆาเฏตฺวา ปจฺฉา น วฑฺฒิตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. น หิ ตํ ปจฺฉา วฑฺฒนตฺถาย วายมิยมานมฺปิ วฑฺฒตีติ. เตนาติ กสิณรูเปน.

อิทานิสฺส อุคฺฆาฏนาการํ ทสฺเสตุํ ‘‘อากาโส อิติ วา’’ติอาทึ วตฺวา ปุน ตํ สมตฺเถตุํ ‘‘อุคฺฆาเฏนฺโต หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุทยวเสน, ปริจฺเฉทผรณวเสน จ อนฺตาภาวโต อนนฺโต. น สํเวลฺเลตีติ กฏสารกกิลฺชาทโย วิย น ปฏิสํหรติ. นาวชฺชนฺโต น เปกฺขนฺโตติ อนาวชฺชนฺโต อนเปกฺขนฺโต. อฺทตฺถุ เตน ผุฏฺโกาสํ วุตฺตนเยน มนสิกโรนฺโตเยวาติ อธิปฺปาโย . อิทฺหิ วุตฺตํ โหติ – รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานสฺส อารมฺมณภูตํ กสิณรูปํ สพฺเพน สพฺพํ อมนสิกโรโต, เตน จ ผุฏฺโกาสํ ‘‘อากาโส อากาโส’’ติ มนสิกโรโต ยทา ตํ ภาวนานุภาเวน อากาสํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตทา โส กสิณํ อุคฺฆาเฏติ นามาติ.

๙๙๒-๕. เอวํ กสิณุคฺฆาฏนวเสน ปฏิลทฺเธ อากาสนิมิตฺเต ปุน ปฏิปชฺชนวิธึ, ยสฺสตฺถาย เยสํ ปฏิปชฺชติ, ตทตฺถสิทฺธฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ นิมิตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. อากาสสฺส อนิมิตฺตภาเวปิ นิมิตฺเตน ผุฏฺโกาสภาวโต ‘‘นิมิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. ปฺจ…เป… วิกฺขมฺภนฺตีติ นนุ รูปาวจรปมชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตานิ, ตโต ปฏฺาย จ น เตสํ ปริยุฏฺานํ อตฺถิ. ยทิ สิยา, ฌานโต ปริหาเยยฺยาติ? สจฺจเมตํ, อิมสฺส ปน ฌานสฺส วณฺณภณนวเสเนตํ วุตฺตํ ยถา อฺตฺถาปิ เหฏฺา ปหีนานํ อุปริ ปหานวจนนฺติ. เย ปน ‘‘สพฺเพ กุสลา ธมฺมา สพฺเพสํ อกุสลานํ ปฏิปกฺขาติ กตฺวา เอวํ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ, เตหิ ทุติยชฺฌานูปจาราทีสุ นีวรณวิกฺขมฺภนาวจนสฺส การณํ วตฺตพฺพํ โหติ. ยมฺปิ เจเก วทนฺติ ‘‘สนฺเตว สุขุมานิ รูปาวจรอวิกฺขมฺภนียานิ, ตานิ สนฺธาเยตํ วุตฺต’’นฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ. น หิ มหคฺคตกุสเลสุ โลกุตฺตรกุสลํ วิย โอธิโส ปหานํ นาม อตฺถิ. โย ปน รูปาวจเรหิ อรูปานํ อุฬารผลตาทิวิเสโส, โส ภาวนาวิเสเสน สนฺตตรปฺปณีตตรภาเวน เตสุเยว ปุริมปุริเมหิ ปจฺฉิมปจฺฉิมานํ วิยาติ ทฏฺพฺพํ. อิธาปีติ น เกวลํ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌาเน, ‘‘เสสานิ กามาวจรานี’’ติอาทีสุ ปน อิธ ยํ วตฺตพฺพํ อวุตฺตํ, ตํ รูปาวจรชฺฌานนิทฺเทเส วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ.

๙๙๗-๑๐๐๑. ‘‘ปุน ภาเวตุกาเมนา’’ติ วุตฺเต ปมเมว ปมารุปฺปสฺส ภาวิตตฺตา กึ ภาเวตุกาเมนาติ อนุโยเค ‘‘ทุติยารุปฺปมานส’’นฺติ วุตฺตํ, น ปน ‘‘ทุติยารุปฺปมานสํ ภาเวตุกาเมนา’’ติ อิมินา อชฺฌาสเยน. น หิ ปมํ ทุติยารุปฺปํ ภาวิตนฺติ. รูปาวจรชฺฌานํ อนติกฺกมิตฺวา อนธิคนฺตพฺพโต ตํ มนสิการสมุทาจารสฺส หานภาคิยภาวาวหนโต รูปาวจรชฺฌานเมตสฺส ปจฺจตฺถิกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อาสนฺน…เป… ปจฺจตฺถิกนฺติ จา’’ติ. วีถิปฏิปนฺนาย ภาวนาย อุปรูปริวิเสสาวหภาวโต, ปณีตภาวสิทฺธิโต จ ปมารุปฺปโต ทุติยารุปฺปํ สนฺตตรสภาวนฺติ อาห ‘‘ทุติยารุปฺป…เป… ปนา’’ติ. วกฺขติ หิ ‘‘สุปณีตตรา โหนฺติ, ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา อิธา’’ติ (อภิธ. ๑๐๔๐). วิฺาณมิจฺเจวํ มนสา กาตพฺพนฺติ วิฺาณํ วิฺาณํ อิจฺเจวํ มนสา กาตพฺพํ, เกวลํ อนนฺตํ อนนฺตนฺติ น มนสิ กาตพฺพํ. เตนาห ‘‘อนนฺตนฺติ…เป… มนสา นิธา’’ติ. อนนฺตํ วิฺาณํ อนนฺตํ วิฺาณนฺติ ปน มนสิ กาตุํ วฏฺฏติ.

๑๐๐๒-๖. ตสฺมึปน นิมิตฺตสฺมินฺติ ตสฺมึ ปมารุปฺปวิฺาณสงฺขาเต วิฺาณนิมิตฺเต. วิจาเรนฺตสฺส มานสนฺติ ภาวนาจิตฺตํ ปวตฺเตนฺตสฺส. อากาสผุฏวิฺาเณติ กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ ผริตฺวา ปวตฺเต ปมารุปฺปวิฺาเณ อารมฺมณภูเต. อปฺเปตีติ อปฺปนาวเสน ปวตฺตติ. สภาวธมฺเมปิ อารมฺมณสมติกฺกมภาวนาวิเสสภาวโต อิทํ อปฺปนาปตฺตํ โหติ จตุตฺถารุปฺปํ วิย. อปฺปนา…เป… นโยวาติ ทุติยารุปฺปชฺฌาเน ปุริมภาเค ตีณิ, จตฺตาริ วา ชวนานิ กามาวจรานิ อุเปกฺขาเวทนาสมฺปยุตฺตาเนว โหนฺติ. จตุตฺถํ, ปฺจมํ วา อารุปฺปมานสนฺติอาทินา อปฺปนานโย ปมารุปฺปชฺฌาเน วุตฺตนโยว. ผริตฺวา ปวตฺตวิฺาณนฺติ ปมารุปฺปวิฺาณํ วิฺาณฺจนฺติ วุจฺจตีติ รุฬฺหีสทฺทวเสน วุตฺตภาวเมว ปกาเสตุํ ‘‘วิฺาณา…เป… สิยา’’ติ วุตฺตํ. ปุพฺเพ อนนฺตสฺส อากาสสฺส อารมฺมณกรณวเสน อนนฺตตาย ‘‘วิฺาณฺจ’’นฺติ วุตฺตนฺติ. ปุน มนสิการวเสน วา อนนฺตตาย ตถา วุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘มนกฺการวเสนาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทุติยารุปฺปํ ภาเวนฺโต หิ ปมารุปฺปํ อนนฺตโต อนวเสสโต มนสิ กโรนฺโต อนนฺตนฺติ มนสิ กโรติ.

๑๐๑๐. ปมารุปฺปวิฺาณาภาโวติ กสิณํ อุคฺฆาเฏตฺวา อากาโส วิย อากาสานฺจายตนํ ปหาย ตสฺส อภาโว มนสิ กาตพฺโพ. กสฺมา ปเนตฺถ ทุติยารุปฺปวิฺาณาภาวํ อมนสิกตฺวา ปมารุปฺปวิฺาณาภาโว มนสิ กาตพฺโพติ? วุจฺจเต – ตยิทํ อารมฺมณาติกฺกมนวเสน ปตฺตพฺพํ, น ปน องฺคาติกฺกมนวเสน. ตถา จ สติ อารมฺมเณเยว สาติสยํ โทสทสฺสเนน ตํ สมติกฺกมิตพฺพํ, อารมฺมณฺจ ทุติยารุปฺปสฺส ปมารุปฺปเมว, ตสฺมา กสิเณ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ อุคฺฆาเฏตฺวา ตพฺพิวิตฺตากาสสฺส วิย ปมารุปฺปวิฺาเณ อาทีนวํ ทิสฺวา ตํ ปหาย ตทภาวสฺเสว มนสิกรณํ ยุตฺตนฺติ. อภยคิริวาสิโน ปน ‘‘วิฺาณฺจายตนาภาโวเยว มนสิ กาตพฺโพ’’ติ วทนฺติ, เต ปน อิเมสํ อารมฺมณาติกฺกมนวเสน ปตฺตพฺพภาวํ อสลฺลกฺเขตฺวา กเถนฺติ. ยทิ สลฺลกฺเขนฺติ, อฺตฺถ โทสํ ทิสฺวา อฺสฺส สมติกฺกเม อติปฺปสงฺคโทสโต น มุจฺจนฺติ.

อถาปิ วเทยฺยุํ – ‘‘วิฺาณฺจายตนํ สโต สมาปชฺชติ, สโต สมาปชฺชิตฺวา สโต วุฏฺาติ, สโต วุฏฺหิตฺวา ตฺเว วิฺาณํ ภาเวตี’ติ วจนโต วิฺาณฺจายตนาภาโวเยว มนสิ กาตพฺโพ’’ติ, ตยิทํ ปาฬิอตฺถํ วิรุชฺฌิตฺวา คหณวเสน จินฺติตํ. น เหตฺถ ตฺเว วิฺาณนฺติ วิฺาณฺจายตนํ อธิปฺเปตํ. ยทิ หิ ตํ อธิปฺเปตํ สิยา, วิฺาณฺจายตนนฺติ ตสฺส ปธานภาเวน นิทฺทิฏฺตฺตา ตฺเวาติ วจเนเนว ปริยตฺตํ, กึ วิฺาณนฺติ วจเนน. อถ สรูปนิทฺเทสตฺถํ วิฺาณวจนํ, เอวํ สติ ตฺเว วิฺาณฺจายตนนฺติ วุตฺตํ สิยา, ตสฺมา วิฺาณนฺติ วจเนน ยํ อารพฺภ วิฺาณฺจายตนํ ปวตฺตํ, ตสฺเสว อากาสานฺจายตนสฺส คหณํ, น อิตรสฺสาติ สุฏฺุ วุตฺตํ.

๑๐๑๑-๒. ปมารุปฺปวิฺาณาภาโวมนสิกาตพฺโพติ วตฺวา มนสิการวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘ตํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อกตฺวา มนสาติ มนสา อารมฺมณํ อกตฺวา สพฺเพน สพฺพํ ตํ อจินฺเตตฺวา. ‘‘อากาสํ อากาส’’นฺติ มนสิ กโรนฺตสฺส กสิณวิวิตฺตากาสํ วิย ‘‘นตฺถิ นตฺถี’’ติ, ‘‘สุฺํ สุฺ’’นฺติ วา มนสิ กโรนฺตสฺส วิฺาณวิวิตฺตํ อภาวมตฺตเมว อุปฏฺาตีติ อาห ‘‘นตฺถี’’ติอาทิ. วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ, เตน ทฺวีสุ ปกาเรสุ เอเกนปิ อตฺถสิทฺธิ โหตีติ ทสฺเสติ. อวุตฺตวิกปฺปนตฺโถ วา วา-สทฺโท, เตน ‘‘วิวิตฺตํ วิวิตฺต’’นฺติ อิมสฺสปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อนิยโม ปเนตฺถ ติณฺณมฺปิ วิสุํ วิสุํ ปริยายภาวโตว สิทฺโธ. ปริยายสทฺทา หิ วิสุํ วิสุํเยว อตฺถํ สาเธนฺตา ปริยายาติ โลเก นิรุฬฺหา. ยถาหุ –

‘‘ปริยาเยเนว เต ยสฺมา, วทนฺตตฺถํ น สํหตา;

ปริยายตฺถํ ตโต สพฺพํ, ปริยาเยสุ ววตฺถิต’’นฺติ.

๑๐๑๓-๖. ตสฺมึ นิมิตฺเตติ ปมารุปฺปวิฺาณสฺส อภาวสงฺขาเต ฌานุปฺปตฺติการณภูเต นิมิตฺเต. สติ สนฺติฏฺตีติ อภาวนิมิตฺตารมฺมณา สติ สมฺมา สุปฺปติฏฺิตา หุตฺวา ติฏฺติ. สติสีเสน เจตฺถ อุปจารชฺฌานานุคุณานํ สทฺธาปฺจมานํ อินฺทฺริยานํ สกิจฺจโยคํ ทสฺเสติ. อุปจารชฺฌานํ ปน ‘‘ภิยฺโยปิ สมาธิยติ มานส’’นฺติ อิมินา วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กสิณุคฺฆาฏิมา…เป… อภาวเกติ เอวํ ปวตฺตวิฺาณสฺส นตฺถิภาวสงฺขาเต วินาสาภาวเก น ปุเร อภาวาทิเก. อปฺปนานโย ปเนตฺถ ปถวีกสิเณ วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพติ อาห ‘‘อปฺปนาย นโย’’ติอาทิ.

๑๐๑๗-๙. เอวํ ยํ ตตฺถ อวสิฏฺํ, ตํ อติทิสิตฺวา อิทานิ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘อากาสคตวิฺาณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ปริกมฺมมนกฺกาเร ตสฺมึ อนฺตรหิเตติ ‘‘นตฺถิ นตฺถี’’ติ ปวตฺตปริกมฺมมนสิกาเร อมนสิกรเณน อสฺมึ ปมารุปฺปวิฺาเณ อนฺตรหิเต, น ปน ขณภงฺควเสน, ฌานปริหานิวเสน วา อนฺตรหิเต. ขณภงฺควเสน หิ อนฺตรธานํ ขเณ ขเณ อุปลพฺภติ. ปริหานิวเสน จ อนฺตรธาเน ปุน ตํ อนุปฺปาเทตฺวา อุตฺตริ าณาธิคโมเยว นตฺถีติ. ตสฺสาปคมมตฺตํว ปสฺสนฺโต วสตีติ ตสฺส ปมารุปฺปสฺส อภาวมตฺตํ ปสฺสนฺโต โส โยคาวจโร วิหรติ. ยถา กถํ วิยาติ อาห ‘‘สนฺนิปาต’’นฺติอาทิ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยถา นาม โกจิ ปุริโส มณฺฑลมาฬาทีสุ กตฺถจิ เกนจิเทว กรณีเยน สนฺนิปติตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ทิสฺวา กตฺถจิ คนฺตฺวา สนฺนิปาตกิจฺจาวสาเน อุฏฺาย ปกฺกนฺเตสุ ภิกฺขูสุ ปุน ตํ านํ คนฺตฺวา โอโลเกนฺโต สุฺเมว ปสฺสติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพนฺติ. ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ยถา โส ปุริโส สนฺนิปติตํ ภิกฺขุสงฺฆํ ทิสฺวา คโต, ตโต สพฺเพสุ ภิกฺขูสุ อปคเตสุ ตํ านํ เตหิ สุฺเมว ปสฺสติ, น ปน เตสํ กุโตจิ อปคตการณํ, เอวมยํ โยคาวจโร ปุพฺเพ วิฺาณฺจายตนชฺฌานจกฺขุนา ปมารุปฺปวิฺาณํ ทิสฺวา นตฺถีติ มนสิกาเรน ตสฺมึ อปคเต ตติยารุปฺปจกฺขุนา ตสฺส นตฺถิภาวเมว ปสฺสติ, น ตสฺส อปคตการณํ วีมํสติ ฌานสฺส ตาทิสาโภคาภาวโตติ.

๑๐๒๐-๔. จตุตฺถา…เป… น จ สนฺตนฺติ ยถา เนวสฺานาสฺายตนจิตฺตํ สงฺขาราวเสสสุขุมภาวปฺปตฺติยา สวิเสสํ สนฺตํ, เอวมยํ อากิฺจฺายตนสมาปตฺติ น จ สนฺตา ตทภาวโตติ อธิปฺปาโย. -สทฺโท ปเนตฺถ อวุตฺตสมุจฺจยตฺโถ. เตน ‘‘สฺา โรโค, สฺา คณฺโฑ, สฺา สลฺลํ, เอตํ สนฺตํ, เอตํ ปณีตํ, ยทิทํ เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ อิมสฺสปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. จตุตฺถํ สนฺตโตติ สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวเนว สวิเสสํ สนฺตตาย, อสนฺตภาวกรโรคาทิสริกฺขกสฺาวิรหโต จ สนฺตโต ทิสฺวา. ‘‘สนฺตํ สนฺตมิทํ จิตฺต’’นฺติ อิมินา ภาวนาการํ ทสฺเสติ. วิภงฺเคปิ หิ ตํเยว อากิฺจฺายตนํ สนฺตโต มนสิ กโรตีติ อยเมว ภาวนากาโร คหิโต. อปเร ปน ‘‘ปาฬิยํ อิมสฺส ภาวนากาโร น คหิโต’’ติ วตฺวา ตตฺถ การณํ วทนฺติ, ตตฺถ วตฺตพฺพํ วิสุทฺธิมคฺคสํวณฺณนาทิโต คเหตพฺพํ.

๑๐๒๗. ตติยารุปฺปสงฺขาตกฺขนฺเธสุ จ จตูสุปิ อารมฺมณภูเตสูติ อธิปฺปาโย.

๑๐๒๙-๓๑. อภาวมตฺตมฺปีติ สุฺตมตฺตมฺปิ เอวํ สุขุมมฺปีติ อธิปฺปาโย. สนฺตารมฺมณตายาติ สนฺตํ อารมฺมณํ เอตสฺสาติ สนฺตารมฺมณา, ตพฺภาโว สนฺตารมฺมณตา, ตาย, น ฌานสนฺตตาย. น หิ ตติยารุปฺปสมาปตฺติ จตุตฺถารุปฺปโต สนฺตตรา. โจทโก ยํ สนฺตโต มนสิ กโรติ, น ตตฺถ อาทีนวทสฺสนํ ภเวยฺย. อสติ จ อาทีนวทสฺสเน น สมติกฺกโม เอว สิยาติ ‘‘สนฺตโต เจ มนกฺกาโร กถฺจ สมติกฺกโม’’ติ อาห. อิตโร ‘‘อนาปชฺชิตุกามตฺตา’’ติอาทินา ปริหารมาห. เตน อาทีนวทสฺสนมฺปิ อตฺเถวาติ ทสฺเสติ. ยสฺมิฺหิ ฌาเน อภิรติ, ตตฺถ อาวชฺชนสมาปชฺชนาทิปฏิปตฺติยา ภวิตพฺพํ. สา ปนสฺส ตติยารุปฺเป สพฺพโสว นตฺถิ, เกวลํ สุฺภาวโต อารมฺมณกรณมตฺตเมว. ตถา เหส กิฺจาปิ ตํ สนฺตโต มนสิ กโรติ, อถ ขฺวสฺส ‘‘อหเมตํ อาวชฺชิสฺสามิ, สมาปชฺชิสฺสามี’’ติ อาโภโค สมนฺนาหาโร น โหติ. กสฺมา? อากิฺจฺายตนโต เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา ปณีตตรตาย. ยถา หิ ราชา มหตา ราชานุภาเวน นครวีถิยํ จรนฺโต ทนฺตการาทโย กมฺมกาเร เฉเก อเนกานิ ทนฺตวิกติอาทีนิ สิปฺปานิ กโรนฺเต ทิสฺวา ‘‘อโห วต เร เฉกา อาจริยา, อีทิสานิ สิปฺปานิ กริสฺสนฺตี’’ติ เอวํ เตสํ เฉกตาย ตุสฺสติ, น จสฺส เอวํ โหติ ‘‘อโห วตาหมฺปิ รชฺชํ ปหาย เอวรูโป สิปฺปิโก ภเวยฺย’’นฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? รชฺชสิริยา มหานิสํสตาย, โส เตสํ ชีวิตํ ติณายปิ อมฺมาโน เต สมติกฺกมิตฺวา คจฺฉติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.

๑๐๓๒. สุขุมํ ปรนฺติ อุกฺกํสโต สุขุมํ, ปมชฺฌานูปจารโต ปฏฺาย หิ ตจฺเฉนฺติยา วิย ปวตฺตมานาย ภาวนาย อนุกฺกเมน สงฺขารา ตตฺถ อนฺติมโกฏฺาสตํ ปาปิตาติ. ยทิ เอวํ กถํ ภาวนา อตฺตโน กิจฺจํ สาเธติ, นนุ เจสา ตทวตฺถํ ปาปิตา อารมฺมณํ น สมฺมา อุปนิชฺฌายตีติ? นยิทเมว ทฏฺพฺพํ. ภาวนาพเลน สุขุมภาวํ ปาปิตาปิ เจสา อตฺตโน กิจฺเจ ทุพฺพลตฺตํ น ปาปิตา, อถ โข วิปฺผาริกตาภาวํ คมิตา, เตน ตถา สุขุมาปิ อตฺตโน กิจฺเจ น ทุพฺพลา เอวาติ น ตตฺถ ตสฺสา อสามตฺถิยํ โหติ.

๑๐๓๓-๔. ยาย สฺายาติ ยาทิสาย สฺาย สทฺทปฺปวตฺติเหตุภูตาย. โส เนวสฺานาสฺายตนสมงฺคี ปุคฺคโล. เนวสฺี จ นาสฺี โหติ เนวสฺานาสฺาสมงฺคี โหติ. น เกวลํ ตุ สฺาว เอทิสี สุขุมา เนวสฺานาสฺา โหติ, อถ โข ปน เวทนาทโยปิ สุขุมา, เวทนาปิ เนวเวทนานาเวทนา, จิตฺตมฺปิ เนวจิตฺตํนาจิตฺตํ, ผสฺโสปิ เนวผสฺโสนาผสฺโส . เอส นโย เสสสมฺปยุตฺตธมฺเมสุ. สฺาสีเสน ปน ‘‘เนวสฺานาสฺายตน’’นฺติ วุตฺตํ ‘‘นานตฺตกายา นานตฺตสฺิโน’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๓๒, ๓๔๑, ๓๕๗, ๓๕๙; อ. นิ. ๗.๔๔; ๙.๒๔) วิย. นนุ เจตฺถ ยทิ สฺา อตฺถิ, กถํ เนวสฺาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ยทิ นตฺถิ, กถํ นาสฺาติ อนุโยคํ สนฺธาย อิมมตฺถํ อุปมาหิ สาเธตุํ ‘‘ปตฺตมกฺขนเตเลนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปตฺตมกฺขณเตเลนาติ อนฺโตวุตฺถตาย ยาคุยา สทฺธึ อกปฺปิยฏฺเน เตลํ อตฺถีติ, นาฬิปูราทีนํ วเสน นตฺถีติ จ วตฺตพฺเพน ปตฺเต มกฺขิตเตเลน. มคฺคสฺมึ อุทเกน จาติ อุปาหนเตมนมตฺตฏฺเน อุทกํ อตฺถีติ, นหานวเสน นตฺถีติ จ วตฺตพฺเพน มคฺคสฺมึ อุทเกน.

๑๐๓๕-๗. อยํ อตฺโถติ กิฺจิ วิเสสํ อุปาทาย สภาวโต อตฺถีติ วตฺตพฺพสฺเสว ธมฺมสฺส กิฺจิ วิเสสํ อุปาทาย นตฺถีติ วตฺตพฺพตาสงฺขาโต อยมตฺโถ. ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย หิ เนวสฺตา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน นาสฺตา จ โหติ. เตนาห ‘‘ปฏุสฺาย กิจฺจสฺสา’’ติอาทิ. อารมฺมณสฺชานนฺเจว วิปสฺสนาย วิสยภาวํ อุปคนฺตฺวา นิพฺพิทาชนนฺจ ปฏุสฺากิจฺจํ กถมยํ สฺาว สมานา สฺากิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อาห ‘‘ยถา ทหนกิจฺจ’’นฺติอาทิ. นฺหาตุกามสฺส อุณฺหสีตภาวํ อกตฺวา สุขชนนตาย สุโขทกํ, ตสฺมึ. เตโชธาตุ ยถา ทหนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, เอวเมสา อติสนฺตารมฺมเณ ปวตฺตตฺตา อารมฺมณสฺชานนํ กาตุํ น สกฺโกติ, ปรมสุขุมตฺตํ คตาว. เตเนว เหสา อกตาภินิเวสสฺส วิปสฺสนาาเณน สุขคฺคยฺหา น โหตีติ เสสสมาปตฺตีสุ สฺา วิย วิปสฺสนาย วิสยภาวํ อุปคนฺตฺวา นิพฺพิทาชนนมฺปิ กาตุํ น สกฺโกติ, อฺเสุ หิ ขนฺเธสุ อกตวิปสฺสนาภินิเวโส ภิกฺขุ เนวสฺานาสฺายตนกฺขนฺเธ สมฺมสิตฺวา นิพฺพิทํ ปตฺตุํ สมตฺโถ นาม นตฺถิ, อปิ อายสฺมา สาริปุตฺโต. ปกติวิปสฺสโก ปน สาริปุตฺตสทิโส ภิกฺขุ ขนฺธาทิมุเขน วิปสฺสนํ อภินิวิสิตฺวา ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺมานํ วิปสฺสนํ อารภิตฺวา ิโต สกฺกุเณยฺย ตพฺพิสยํ อุทยพฺพยาณํ อุปฺปาเทตุํ, โสปิ กลาปสมฺมสนวเสเนว, โน อนุปทธมฺมวิปสฺสนาวเสน. น หิ สาริปุตฺตสทิโส ภิกฺขุ จตุตฺถารุปฺปปริยาปนฺเนสุ ผสฺสาทิธมฺเมสุ วินิพฺภุชิตฺวา วิสุํ วิสุํ สรูปโต คเหตฺวา อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสิตุํ สกฺโกติ. เกวลํ ปน อวินิพฺภุชฺช เอกโต คเหตฺวา กลาปโต สมูหโตเยว สมฺมสิตุํ สมตฺโถ โหติ, เอวํ สุขุมตฺเตเนสา วิชฺชติ.

๑๐๓๘-๔๐. รูปนฺติ กสิณรูปสงฺขาตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. อากาสนฺติ กสิณุคฺฆาฏิมากาสํ. วิฺาณนฺติ อากาเส ปวตฺตวิฺาณํ . ตทภาวกนฺติ ตสฺส อากาเส ปวตฺตวิฺาณสฺส อภาวกํ. กมโตติ ปมารุปฺปํ สมติกฺกมิตฺวา โหตีติอาทินา อนุกฺกมโต. อตฺตนา วุตฺตมตฺถํ อฏฺกถาวจนํ อาหริตฺวา สาเธนฺโต ‘‘อาห จา’’ติอาทิมาห. อิธาติ อิมาสุ จตูสุ อรูปสมาปตฺตีสุ. ปจฺฉิมา ปจฺฉิมา สมาปตฺติโย หิ ปุริมาปุริมาหิ สมาปตฺตีหิ สุปณีตตรา สุฏฺุ ปณีตตรา, สุนฺทรปณีตตราติ วา อตฺโถ. ปาสาทตลสาฏิกาติ จตุภูมกปาสาทสฺส เหฏฺิมเหฏฺิมโต อุปรูปริ สวิเสสา ปฺจ กามคุณา, จตฺตาโร ปาสาทตลา จ ถูลสณฺหสณฺหตรสณฺหตมสุตฺเตหิ วิหิตา อายามวิตฺถารโต สมปฺปมาณา สาฏิกา จ.

๑๐๔๒. รูปารูปภวํ อภิภุยฺย นิพฺพานํ ยาติ, อถ วา นีวรเณ อภิภุยฺย รูปารูปภวํ ยาตีติ อตฺโถ.

อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม

อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย

อรูปาวจรสมาธิภาวนานิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.