📜

๑๗. สตฺตรสโม ปริจฺเฉโท

อภิฺารมฺมณนิทฺเทสวณฺณนา

๑๑๐๔-๕. ปฺจอิทฺธิวิธาทีนีติ –

‘‘อิทฺธิวิธํ ทิพฺพโสตํ, ปรจิตฺตวิชานนา;

ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ, ทิพฺพจกฺขูติ ปฺจธา’’ติ. –

เอวมาคตา ปฺจ. สตฺตาภิฺา อิมา ปนาติ อตีตํสาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณ, มโนมยาณสฺส จ อิทฺธิวิธาเณ อนฺโตคธตฺตา วุตฺตํ. อตีตํสาณํ นาม ปเรสํ ปจฺจุปฺปนฺนภเว ยาว ปฏิสนฺธิปริโยสานํ ปวตฺตจิตฺตารมฺมณํ าณํ. มโนมยาณมฺปิ นาม มโนมยกายาภินิมฺมานาทิวสปฺปวตฺตํ อิทฺธิวิธาณํ.

๑๑๐๖. อิทานิ อิเมสํ อภิฺาาณานํ อารมฺมณวินิจฺฉเย อสมฺโมหตฺถํ ตํ ทสฺเสตุมารภนฺโต อาห ‘‘สตฺตนฺน’’นฺติอาทิ . จตฺตาโร อารมฺมณตฺติกาติ ปริตฺตารมฺมณตฺติโก มคฺคารมฺมณตฺติโก อตีตารมฺมณตฺติโก อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติโกติ อิเม จตฺตาโร อารมฺมณตฺติกา. เอตฺถาติ อิทํ ปจฺจามสนํ กึ ติกานํ, อุทาหุ อารมฺมณานนฺติ, กิฺเจตฺถ – ยทิ ติกานํ, ตทยุตฺตํ. น หิ ติเกสุ อภิฺาาณานิ ปวตฺตนฺติ. อถ อารมฺมณานํ, ตมฺปิ อยุตฺตํ. น หิ อฺํ อุทฺทิสิตฺวา อฺสฺส ปจฺจามสนํ ยุตฺตนฺติ. ยถา อิจฺฉสิ, ตถา โหตุ. ภวตุ ตาว ติกานํ, นนุ วุตฺตํ ‘‘ติเกสุ อภิฺาาณานิ นปฺปวตฺตนฺตี’’ติ? นายํ วิโรโธ ติกโวหาเรน อารมฺมณานํเยว คยฺหมานตฺตา. อถ วา ปน โหตุ อารมฺมณานํ, นนุ วุตฺตํ ‘‘อฺํ อุทฺทิสิตฺวา อฺสฺส ปจฺจามสนํ อยุตฺต’’นฺติ. อยมฺปิ น โทโส ยถาวุตฺตการเณเนวาติ.

๑๑๐๗-๑๐. ปริตฺตาทีสุ สตฺตสูติ อสติปิ วตฺถุเภเท ภูมิกาลสนฺตานเภทวเสน ภินฺเนสุ ปริตฺตมหคฺคตอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน สตฺตสุ ปริตฺตาทิอารมฺมณวิภาเคสุ. อิทฺธิวิธาณสฺส มคฺคารมฺมณตาย อภาวโต อิธ มคฺคารมฺมณตฺติโก น ลพฺภติ. กายํ จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน คนฺตุกาโมติ สมฺพนฺโธ. จิตฺตสนฺนิสฺสิตกรณฺจ ตํ วิย กายสฺส อทิสฺสมานสีฆคติกตาวเสน ตคฺคติกตาปาทนํ. ยถา จิตฺตํ น ทิสฺสติ สีฆคมนฺจ, เอวํ กายมฺปิ อทิสฺสมานํ, สีฆคมนฺจ กตฺวา ยถิจฺฉิตฏฺานํ คนฺตุกาโมติ อยฺเหตฺถ อตฺโถ. จิตฺตวเสนาติ มหคฺคตจิตฺตวเสน ปริณาเมตีติ ปาเสโส. เตนาห ‘‘ตํ มหคฺคเต จ จิตฺตสฺมึ สมาโรเปตี’’ติ. ปาทกชฺฌานฺหิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ‘‘อยํ กาโย อิทํ จิตฺตํ วิย อทิสฺสมาโน, สีฆคมโน จ โหตู’’ติ ปริกมฺมํ กโรติ, ปริกมฺมํ ปน กตฺวา ปุน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตเถว ปริกมฺมํ กโรนฺโต กายํ คเหตฺวา มหคฺคเต ปาทกจิตฺเต สมาโรเปติ, ตคฺคติกํ กโรติ วิย, อทิสฺสมานํ, สีฆคมนฺจ กโรติ. ตํ ปน สีฆคมนตฺถํ อภาวิติทฺธิปาทานํ วิย ทนฺธํ อปฺปวตฺติตฺวา กติปยจิตฺตวาเรเหว อิจฺฉิตฏฺานปฺปตฺติวเสน ทฏฺพฺพํ, น เอกจิตฺตกฺขเณเนว. ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ ลหุปริวตฺตํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺต’’นฺติ (อ. นิ. ๑.๔๘) หิ เอตฺถ อฺ-คฺคหเณเนว รูปธมฺมานํ คหิตตฺตา จิตฺตกฺขณวเสน รูปปฺปวตฺติ น ยุตฺตา. ยตฺถ ยตฺถ จ ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺเถว ภิชฺชนฺติ จ, น จ อิทฺธิพเลน ธมฺมานํ เกนจิ ลกฺขณฺถตฺตํ สกฺกา กาตุนฺติ. จิตฺตวเสน รูปกายํ ปาทกชฺฌาเน สมาโรเปนฺตสฺส กายเมว อารมฺมณนฺติ อาห ‘‘กายารมฺมณโต’’ติ, กาเย วณฺณารมฺมณโตติ วุตฺตํ โหติ. กายสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา จิตฺตนฺติ เอตฺถ น จิตฺตํ กายํ วิย ทนฺธํ ทิสฺสมานํ กโรติ, กินฺตุ ทนฺธทิสฺสมานคติกรณมตฺตเมวาติ ทฏฺพฺพํ.

๑๑๑๒-๓. อนาคตมตีตฺจ กโรติ วิสยํ ยทาติ มหาธาตุนิธาเน มหากสฺสปตฺเถราทีนํ วิย อนาคตํ อธิฏฺหนฺตานํ อนาคตํ อารมฺมณํ กโรติ, กายวเสน จิตฺตปริณามนกาเล ตเทว จิรนิรุทฺธํ ปาทกชฺฌานํ อารมฺมณํ กโรนฺตานํ อตีตํ อารมฺมณํ กโรติ, ตทา อตีตารมฺมณํ, อนาคตโคจรฺจ โหติ, ปจฺจุปฺปนฺโน โคจโร ปจฺจุปฺปนฺนสฺส รูปกายสฺส อารมฺมณกรณโต. หตฺถิอาทโย อภินิมฺมินนฺตสฺสาปิ หิ กิฺจาปิ ปริกมฺมํ อนาคตารมฺมณํ โหติ, อธิฏฺานจิตฺตํ ปน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณเมว. อุปจารารมฺมณํ วิย หิ ปฏิภาคนิมิตฺตํ เตน สห ปาตุภูตเมว ตสฺสารมฺมณํ โหติ.

๑๑๑๔-๕. กายํ…เป…สิยาติ อตฺตโน กายํ จิตฺตวเสน ปริณามนกาเล อชฺฌตฺตสฺส กายสฺส อารมฺมณกรณโต, อตฺตโน จิตฺตํ กายวเสน ปริณามนกาเล จิตฺตสฺส อารมฺมณกรณโต. วา-สทฺเทน อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน คหิเต อตฺตโน กุมารวณฺณาทิอภินิมฺมานกาเล กายสฺส อารมฺมณกรณโต จ อชฺฌตฺตารมฺมณํ สิยา. พหิทฺธา รูปทสฺสเนติ พหิทฺธา หตฺถิอสฺสาทิรูปทสฺสนกาเล.

๑๑๑๖-๘. ปจฺจุปฺปนฺเน ปริตฺเต จาติ สรูปวิภาวนเมตํ. ทิพฺพโสตสฺส หิ ปจฺจุปฺปนฺโนว สทฺโท อารมฺมณํ โหติ, โส จ สภาวโต ปริตฺโตว. กุจฺฉิสทฺทสฺสาติ กุจฺฉิยํ วาตสทฺทสฺส. ตตฺถ ปาณกสทฺทสฺส ปน สวเน พหิทฺธารมฺมณเมว. วสิตาปตฺตสฺส อตฺตโน วิตกฺกวิปฺผารสทฺทสวเนปิ อชฺฌตฺตารมฺมณนฺติ วทนฺติ, ตํ ปน เอกาทสภวงฺคจิตฺตโต อุปริ ภวงฺคํ ปวตฺติตุมทตฺวา ภวงฺคโต วุฏฺาย อาวชฺชนสมตฺถตาวเสน วสิตาปตฺตสฺเสว ยุชฺชติ. ‘‘ปรสฺส จ สทฺทสฺสา’’ติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. น หิ ปรสฺส กุจฺฉิสทฺทสวเนเยว พหิทฺธารมฺมณํ โหติ, อถ โข ปรสฺส จิตฺตสมุฏฺานสทฺทสวเนปีติ.

๑๑๑๙-๒๒. ปริตฺตาทีสูติ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพหิทฺธารมฺมเณสุ. ปริตฺตานนฺติ กามาวจรจิตฺตานํ. มชฺฌิมานนฺติ ปริตฺตอปฺปมาณานํ มชฺเฌ ภวตฺตา มชฺฌิมสงฺขาตานํ รูปารูปาวจรจิตฺตานํ. มชฺเฌภวตา จ เทสนาวเสน, น สภาววเสน. เจโตปริยาณํ ปรสฺส จิตฺตเมว ชานาติ, อวเสสกฺขนฺธตฺตยํ ปน น ชานาตีติ อิมํ มหาอฏฺกถาวาทํ สนฺธายาห ‘‘มคฺคจิตฺตสฺส ชานเน’’ติอาทิ. อยฺเหตฺถ อธิปฺปาโย – ยสฺมา เจโตปริยาณํ จิตฺตเมว ชานาติ, ตสฺมา ตํ มคฺคารมฺมณํ น โหติ , มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตชานนโต ปน ปริยาเยน มคฺคารมฺมณตา อฏฺกถายํ อนุฺาตาติ. ปฏฺาเน ปน –

‘‘กุสลา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๔) –

วุตฺตตฺตา จตฺตาโรปิ ขนฺธา เจโตปริยาณสฺส อารมฺมณํ โหนฺติ, ตสฺมา นิปฺปริยาเยเนว มคฺคารมฺมณตา ลพฺภตีติ อิทเมตฺถ สงฺคหการานํ สนฺนิฏฺานํ.

๑๑๒๓-๕. อตีตสตฺตทิวสพฺภนฺตเร, อนาคตสตฺตทิวสพฺภนฺตเรเยว จ ปวตฺตํ ปรจิตฺตํ เจโตปริยาณํ ชานาติ, ตโต ปฏฺาย ปน ปฏิสนฺธิปริโยสานํ, จุติปริโยสานฺจ ปวตฺตํ อตีตํสาณสฺส, อนาคตํสาณสฺส จ โคจรนฺติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อตีเต’’ติอาทิ. อตีตสฺส, อนาคตสฺส จ ปรจิตฺตสฺส ชานนํ สมฺภวติ, ปจฺจุปฺปนฺนสฺส ปน น สมฺภวตีติ ปุจฺฉติ ‘‘กถฺจ ปนา’’ติอาทิ. อิตโร ยตฺถ สมฺภวติ, ตํ ทสฺเสตุํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ตาว วิภชิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนํ ติธา วุตฺต’’นฺติอาทิมาห. ขณสนฺตติอทฺธโตติ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนนฺติ เอวํ ขณสนฺตติอทฺธาวเสน ติธา วุตฺตํ.

๑๑๒๖. ติกฺขณสมฺปตฺตนฺติ อุปฺปาทฏฺิติภงฺควเสน ขณตฺตยปริยาปนฺนํ. ปจฺจุปฺปนฺนขณาทิกนฺติ ขณ-สทฺทาทิกํ ปจฺจุปฺปนฺนํ ขณปจฺจุปฺปนฺนนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอกทฺเวสนฺตติวารปริยาปนฺนนฺติ เอตฺถ อนฺธกาเร นิสีทิตฺวา อาโลกฏฺานํ คตสฺส น จ ตาว อารมฺมณํ ปากฏํ โหติ, ยาว ปน ตํ ปากฏํ โหติ, เอตฺถนฺตเร ปวตฺตา รูปสนฺตติ, อรูปสนฺตติ วา ‘‘เอกทฺเวสนฺตติวารา’’ติ เวทิตพฺพา. ‘‘อาโลกฏฺาเน วิจริตฺวา โอวรกํ ปวิฏฺสฺสาปิ น ตาว สหสา รูปํ ปากฏํ โหติ, ยาว ตํ ปากฏํ โหติ, ปุพฺเพว ตตฺถ นิสินฺนสฺส วิย เอตฺถนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. ทูเร ตฺวา ปน รชกาทีนํ หตฺถวิการํ, ฆณฺฏิเภรีอาทิอาโกฏนหตฺถวิการฺจ ทิสฺวา น ปน ตาว สทฺทํ สุณาติ, ยาว ปน ตํ สุณาติ, เอตฺถนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๖) เอวํ ตาว มชฺฌิมภาณกตฺเถรา วทนฺติ.

สํยุตฺตภาณกา ปน ‘‘รูปสนฺตติ อรูปสนฺตตีติ ทฺเว สนฺตติโย วตฺวา อุทกํ อกฺกมิตฺวา คตสฺส ยาว ตีเร อกฺกนฺตอุทกเลขา น วิปฺปสีทติ, อทฺธานโต อาคตสฺส ยาว กาเย อุสุมภาโว น วูปสมฺมติ, อาตปา อาคนฺตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ยาว อนฺธการภาโว น วิคจฺฉติ, อนฺโตคพฺเภ กมฺมฏฺานํ มนสิกตฺวา ทิวา วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตสฺส ยาว อกฺขีนํ ผนฺทนภาโว น วูปสมฺมติ, อยํ รูปสนฺตติ นาม. ทฺเว ตโย ชวนวารา อรูปสนฺตติ นามาติ วตฺวา ตทุภยมฺปิ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นามา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๖) เอวํ เอกเมว สนฺตติวารํ วทนฺติ. ตตฺถ มชฺฌิมภาณกวาเท เอกจฺจสฺส สีฆมฺปิ ปากฏํ โหตีติ เอกทฺเวสนฺตติวาราติ เอก-คฺคหณมฺปิ กตํ. อาจริยธมฺมปาลตฺเถโร ปน ‘‘อติปริตฺตสภาวอุตุอาทิสมุฏฺานา วา เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา’’ติปิ (วิสุทฺธิ. มหา. ๒.๔๑๖) อาห.

๑๑๒๗-๘. เอกพฺภวปริจฺฉินฺนนฺติ เอกสฺมึ ภเว ปฏิสนฺธิจุติวเสน ปริจฺฉินฺนํ เอกภวปริยาปนฺนํ ธมฺมชาตํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โย จาวุโส มโน, เย จ ธมฺมา, อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณ’’นฺติอาทิ, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนฺเจตฺถ อภิธมฺมฏฺกถาสุ อาคตํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ สุตฺเต. เกจีติ อภยคิริวาสิโน.

๑๑๒๙-๓๐. ยถาจาติอาทิ เอตฺถ เตสํ โอปมฺมทสฺสนํ. เอกปุปฺผํ อตฺตโน วณฺเฏน เอกสฺส วณฺฏํ วิชฺฌตีติ สมฺพนฺโธ. มหาชนสฺสาปิ…เป… วิชฺฌตีติ ‘‘อตีตํ จิตฺตํ, อนาคตํ จิตฺตํ, อิมสฺส จิตฺตํ, อสุกสฺส จิตฺต’’นฺติ เอวํ วิภาคํ อกตฺวา ปรสฺส จิตฺตํ ชานามิจฺเจว ราสิวเสน มหาชนสฺส จิตฺเต อาวชฺชิเต เอกสฺส จิตฺตํ เอเกน จิตฺเตน อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา เอกนฺเตน ปฏิวิชฺฌตีติ อตฺโถ.

๑๑๓๑-๒. ตํ ปน เตสํ วจนํ อยุตฺตนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘เยนาวชฺชตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วสฺสสหสฺสมฺปิ หิ เอวํ อาวชฺชยโต อาวชฺชนชวนานํ เอกสฺมึ อารมฺมเณ านํ นตฺถิ, อภิฺาจิตฺตฺจ สเจ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ ชานาติ, อาวชฺชเนน สห เอการมฺมเณ วตฺตมานเมว ชานาติ, โน อฺถา, ตสฺมา เตสํ อาวชฺชนชวนานํ ทฺวินฺนํ สห เอกสฺมึ อารมฺมเณ อฏฺานาภาวโต ตํ น ยุชฺชติ. ภวตุ ตาว โก เอตฺถ โทโสติ เจ อาห ‘‘อาวชฺชนชวนาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ มคฺคผลวีถิโต อฺํ อนิฏฺฏฺานํ. มคฺคผลวีถิยฺหิ อาวชฺชนาทีนํ สงฺขารารมฺมณตฺตา, โคตฺรภุอาทีนฺจ นิพฺพานารมฺมณตฺตา นานารมฺมณตา อิฏฺา, อฺตฺถ ปน อนิฏฺา, ตสฺมา อนิฏฺเ าเน ชวนาวชฺชนานํ นานารมฺมณตาปตฺติโทโส อยุตฺโตติ ตํ เตสํ วจนํ อยุตฺตนฺติ ปกาสิตํ อฏฺกถาสูติ อธิปฺปาโย.

๑๑๓๓-๔. ยทิ เอวํ, กถํ เจโตปริยาณํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหตีติ อาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ยสฺมา เอวํ อยุตฺตนฺติ ปกาสิตํ, ตสฺมา. ชวนวารโตติ เอกชวนวารวเสน . อิทํ ปน ขณปจฺจุปฺปนฺนานนฺตรํ ลหุกํ กตฺวา ปจฺจุปฺปนฺนทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, ยํ ปน วตฺตมานชวนวีถิโต อตีตานาคตวเสน ทฺวิติชวนวีถิปริมาณกาเล ปวตฺตํ ปรจิตฺตํ , ตํ สพฺพมฺปิ ‘‘สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นามา’’ติ อฏฺกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๖) วุตฺตํ, ตสฺมา ชวนวารโตติ ทฺวิติชวนวารวเสน ทีเปตพฺพํ, น สกเลน ปจฺจุปฺปนฺนทฺธุนาติ อธิปฺปาโย. นิทฺทิฏฺํ สํยุตฺตฏฺกถายํ. ตตฺรายํ ทีปนาติอาทิ ชวนวารสฺส อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนภาวทีปนมุเขน อิทฺธิจิตฺตสฺส ปวตฺติอาการทีปนํ.

๑๑๓๙-๔๑. สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเนเนว สงฺคเหตฺวา อาห ‘‘อทฺธาวสา…เป… ปนา’’ติ. อานนฺทาจริโย ปเนตฺถ อภิธมฺมมาติกาย อาคตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนปทสฺส อทฺธาสนฺตติปจฺจุปฺปนฺนปทตฺถตา น กตฺถจิ ปาฬิยํ วุตฺตา, ตสฺมา จิตฺตสามฺเน จิตฺตํ อาวชฺชยมานํ อภิมุขีภูตํ วิชฺชมานจิตฺตํ อาวชฺเชติ, ปริกมฺมานิ จ ตํ ตํ วิชฺชมานจิตฺตํ จิตฺตสามฺเเนว อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตชานนปริกมฺมานิ หุตฺวา ปวตฺตนฺติ. เจโตปริยาณํ ปน วิชฺชมานจิตฺตํ ปฏิวิชฺฌนฺตํ เตน สห เอกกฺขเณ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ ยสฺมา สนฺตานคฺคหณโต เอกตฺตวเสน อาวชฺชนาทีนิ จิตฺตนฺเตว ปวตฺตานิ, ตฺจ จิตฺตเมว, ยํ เจโตปริยาเณน วิภาวิตํ, ตสฺมา สมานาการปฺปวตฺติโต น อนิฏฺเ าเน นานารมฺมณตา โหตีติ ขณปจฺจุปฺปนฺนวเสเนว อิมสฺส ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตํ อิจฺฉติ. อิตรานีติ อาวชฺชนปริกมฺมจิตฺตานิ. จกฺขุทฺวาเร วิฺาณนฺติ จกฺขุวิฺาณํ.

๑๑๔๓-๗. ปริตฺตาทีสุ อฏฺสูติ เจโตปริยาณสฺส วุตฺเตสุ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ หิตฺวา นวตฺตพฺพารมฺมณฺจ ปกฺขิปิตฺวา อฏฺสุ ปริตฺตาทีสุ. อตีเต…เป… ผลมฺปิ วาติ เอตฺถ อตฺตนาติ นิทสฺสนมตฺตํ. ปเรหิปิ ภาวิตมคฺคํ, สจฺฉิกตผลฺจ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาเณน สมนุสฺสรติ. วา-สทฺเทน วา อวุตฺตสมุจฺจยตฺเถน อตฺตนา ภาวิตํ มคฺคํ, ผลมฺปิ วา ปเรหิ ภาวิตํ มคฺคํ, ผลมฺปิ วาติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. ตถา จ วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘อตฺตนา, ปเรหิ ภาวิตมคฺคํ, สจฺฉิกตผลฺจ อนุสฺสรณกาเล’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๔๑๗). เอว-การํ ปน ปทปูรณมตฺตเมว. ผลมฺปิ วาติ เอตฺถ ‘‘ภาวิต’’นฺติ น สมฺพนฺธิตพฺพํ. น หิ ผลํ ภาเวตพฺพํ โหติ, อถ โข สจฺฉิกาตพฺพเมวาติ. สมนุสฺสรโต มคฺคนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘อตฺตนา, ปเรหิ วา ภาวิต’’นฺติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอกนฺตโตติ นิยมโต.

๑๑๔๘-๕๐. นนุ จ เจโตปริยาณยถากมฺมูปคาณานิปิ อตีตารมฺมณาเนว, กึ ปน เตสํ, อิมสฺส จ อารมฺมเณ นานากรณนฺติ อาห ‘‘เจโตปริยาณมฺปี’’ติอาทิ. กิฺจาปีติ อยํ นิปาตสมุทาโย, เอโก วา นิปาโต วิเสสานภิธานนิมิตฺเต อุปคมเน ทฏฺพฺโพ. อถ โขติ วิเสสาภิธานสมารมฺเภ. จิตฺตเมวาติ อิทํ ปุพฺเพ วิจาริตเมว. อตีเต เจตนามตฺตนฺติ อิทมฺปิ ปุพฺเพ วิย มหาอฏฺกถาวาทํ สนฺธาเยว วุตฺตํ. ตตฺถ หิ ยถากมฺมูปคาณสฺส เจตนามตฺตเมว อารมฺมณํ โหติ, น จิตฺตํ, นาปิ อิตเร ธมฺมา, ยโต ตํ ยถากมฺมูปคนฺติ วุจฺจตีติ อิมินา อธิปฺปาเยน ยถากมฺมูปคาณํ อตีตเจตนามตฺตเมว อารมฺมณํ กโรตีติ วุตฺตํ, เหฏฺา ทสฺสิตปาฬิวเสน สพฺเพ จตฺตาโรปิ ขนฺธา ยถากมฺมูปคาณสฺส อารมฺมณนฺติ สงฺคหการานํ สนฺนิฏฺานํ. นตฺถิ กิฺจิ อโคจรนฺติ กิฺจิ ขนฺธํ วา ขนฺธปฏิพทฺธํ นามโคตฺตาทึ วา อโคจรํ นาม นตฺถิ. ตฺหิ อตีตกฺขนฺธขนฺธปฏิพทฺเธสุ ธมฺเมสุ สพฺพฺุตฺาณสมานคติกเมวาติ อธิปฺปาโย.

๑๑๕๑-๒. อตฺตกฺขนฺธานุสฺสรเณติ อตฺตโน ขนฺธานุสฺสรณกาเล. สรเณ…เป… โคจรนฺติ ‘‘อตีเต วิปสฺสี ภควา อโหสิ, ตสฺส มาตา พนฺธุมตี, ปิตา พนฺธุมา’’ติอาทินา นเยน นามโคตฺตาทึ, ปถวีนิมิตฺตาทิฺจ อนุสฺสรณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ โหติ. นวตฺตพฺพโคจรนฺติ หิ ปริตฺตารมฺมณอตีตารมฺมณตฺติกวเสน วุตฺตํ, อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติกวเสน ปน อากิฺจฺายตนชฺฌานสฺส อารมฺมณภูตธมฺมารมฺมณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ โหติ, อวเสสปฺตฺตารมฺมณกาเล พหิทฺธารมฺมณํ โหติ. นามโคตฺตนฺติ เจตฺถ ขนฺธปฏิพทฺโธ สมฺมุติสิทฺโธ พฺยฺชนตฺโถ, น พฺยฺชนํ. พฺยฺชนฺหิ สทฺทายตนสงฺคหิตตฺตา ปริตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙).

๑๑๕๔. ทิพฺพโสตสมนฺติ ยสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนํ, ปริตฺตฺจ รูปํ อารมฺมณํ กโรติ, ตสฺมา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ, ปริตฺตารมฺมณฺจ โหติ, อตฺตโน กุจฺฉิคตรูปทสฺสเน, ปรสฺส หทยนิสฺสิตโลหิตทสฺสนาทีสุ จ อชฺฌตฺตารมฺมณํ, พหิทฺธารมฺมณฺจ โหติ.

๑๑๕๕-๖. ปริตฺตาทีสุ อฏฺสูติ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส วุตฺเตสุ อตีตารมฺมณํ วชฺเชตฺวา อนาคตารมฺมณํ ปกฺขิปิตฺวา อฏฺสุ. นิพฺพตฺติสฺสติ…เป… ปชานโตติ อิมินา นิพฺพตฺตกฺขนฺธชานนมาห . อนาคตํสาณสฺส อนาคตมโคจรํ นตฺถิ. ตมฺปิ หิ อนาคตกฺขนฺธขนฺธปฏิพทฺเธสุ ธมฺเมสุ สพฺพฺุตฺาณสมานคติกเมว.

๑๑๖๓. ชานเน นามโคตฺตสฺสาติ ‘‘อนาคเต เมตฺเตยฺโย นาม สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุปฺปชฺชิสฺสติ, ตสฺส สุพฺรหฺมา นาม ปิตา ภวิสฺสติ, พฺรหฺมวตี นาม มาตา’’ติอาทินา นเยน นามโคตฺตาทิชานนกาเล.

๑๑๖๔-๕. ปริตฺตาทีสุ ปฺจสูติ ปริตฺตมหคฺคตอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน ปฺจสุ. กามกมฺมสฺสาติ กามาวจรกมฺมสฺส.

๑๑๖๙. วิวิธตฺถวณฺณปทนฺติ นานปฺปการอตฺถปเทหิ, พฺยฺชนปเทหิ จ สมฺปนฺนํ. มธุรตฺถมตินีหรนฺติ มธุรตฺถํ อตินีหรฺจาติ ปทจฺเฉโท.

อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม

อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย

อภิฺารมฺมณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.