📜
๒๑. เอกวีสติโม ปริจฺเฉโท
ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา
๑๒๙๘. อฏฺาณวเสเนวาติ ¶ ¶ อุทยพฺพยาณาทีนํ อฏฺนฺนํ าณานํ วเสน. วิปสฺสนาจารสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา สงฺขารุเปกฺขาาณํ สิขาปตฺตา วิปสฺสนา. สิขาปตฺติ ปนสฺสา อุทยพฺพยาณาทีนํ อฏฺาณานํ วเสนาติ อาห ‘‘อฏฺาณวเสนา’’ติ. นวมนฺติ สจฺจานุโลมิกาณํ. อิติ อุทยพฺพยาทีนิ อฏฺ, อิทฺจ นวมาณํ ปฏิปทาาณทสฺสนนฺติ ปวุจฺจติ. ปฏิปชฺชติ เอตาย อริยมคฺโคติ ปฏิปทา, อุทยพฺพยาทีนํ ชานนฏฺเน, ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน าณทสฺสนฺจาติ กตฺวา.
๑๒๙๙. ตานิ ปน าณานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺ าณานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ กิฺจาปิ ตีรณปริฺาย ปติฏฺํ, ตถาปิ ยถาวุตฺตฏฺเน ปฏิปทาาณทสฺสนมฺปิ โหติเยวาติ ตมฺปิ อิธ วุตฺตํ. อิตรตฺถ ปน อุปฺปนฺนมตฺตํ อปฺปคุณํ สนฺธาย วุตฺตํ. อปฺปคุณฺหิ นิจฺจสฺาทิปหานสิทฺธิยา ปหานปริฺาย อธิฏฺานภูตํ. ยโต ตทธิคเมน อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ เอกจฺจา อธิคตาว โหนฺติ. น หิ อุทยพฺพยานํ ปจฺจกฺขโต ปฏิเวเธน วินา สามฺาการานํ ตีรณมตฺเตน สาติสยํ ปฏิปกฺขปฺปหานํ สมฺภวติ. อสติ จ ปฏิปกฺขปฺปหาเน กุโต าณาทีนํ วชิรมิว อวิหตเวคตา ติขิณวิสทาทิตา วา, ตสฺมา ปคุณภาวปฺปตฺตํ อุทยพฺพยาณํ ปหานปริฺาปกฺขิยเมว ทฏฺพฺพํ.
๑๓๐๐-๒. ภงฺเคติ สงฺขารานํ ภงฺเค. ยถาภูตทสฺสาวี ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, เตภูมกธมฺมา, เตสุ ภยโต ¶ อุปติฏฺนฺเตสุ ภายิตพฺพาการคฺคาหิาณํ ภเยาณํ. ตถา เหตํ ‘‘ภยตุปฏฺานาณ’’นฺติ วุจฺจติ. มุจฺจิตุํ อิจฺฉตีติ มุจฺจิตุกมฺยํ, จิตฺตํ, ปุคฺคโล วา, ตสฺส ภาโว มุจฺจิตุกมฺยตา, ตํ ปน าณเมวาติ อาห ‘‘าณํ มุจฺจิตุกมฺยตา’’ติ. ปุน ปฏิสงฺขานากาเรน ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ. นิรเปกฺขตาย สงฺขารานํ อุเปกฺขนวเสน ปวตฺตํ าณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ. คาถาพนฺธตฺถํ ปน วิสนฺธินิทฺเทโส. โอฬาริโกฬาริกสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกตมสฺส ¶ วิคมเนน สจฺจปฏิเวธานุกูลตฺตา สจฺจานุโลมิกํ. ตํ ปน อิทนฺติ อาห ‘‘สจฺจานุโลมาณนฺติ, อนุโลมํ ปวุจฺจตี’’ติ.
๑๓๐๓. นนุ จ อุทยพฺพยาณสฺส ปเคว สิทฺธตฺตา กิมตฺถํ ปุน ตตฺถาปิ อภิโยโคติ เจ? อนิจฺจาทิลกฺขณสลฺลกฺขณตฺถํ. อุทยพฺพยาณฺหิ เหฏฺา ทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ หุตฺวา ยาถาวสรสโต ติลกฺขณํ สลฺลกฺเขตุํ นาสกฺขิ, อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตํ ปน สกฺโกติ, ตสฺมา ลกฺขณสลฺลกฺขณตฺถํ ปุน ตตฺเถว โยโค กาตพฺโพ. ลกฺขณานิ จสฺส อุทยพฺพยาทีนํ อมนสิการา, สนฺตติอิริยาปถฆนฉนฺนตาย จ โนปฏฺหนฺติ, ตสฺมา อุทยพฺพยํ มนสิ กตฺวา สนฺตตึ อุคฺฆาเฏตฺวา อนิจฺจลกฺขณํ, อภิณฺหปีฬนํ ปริคฺคเหตฺวา อิริยาปถํ อุคฺฆาเฏตฺวา ทุกฺขลกฺขณํ, ธาตุโย วินิพฺภุชิตฺวา ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา อนตฺตลกฺขณฺจ สลฺลกฺเขตฺวา ‘‘อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ สงฺขารา ปุนปฺปุนํ สมฺมสิตพฺพา. ตสฺเสวํ ตุลยโต ตีรยโต ยทา สงฺขารคตํ อตฺตโน ลหุอุปฏฺาเนน, าณสฺส จ ติกฺขตาย ติโรหิตุปฺปาทาทิเภทํ ภิชฺชมานเมว อุปฏฺาติ, ภงฺเคเยว ตสฺส าณํ สนฺติฏฺติ, ตทา ภงฺคานุปสฺสนา นาม วิปสฺสนาาณํ อธิคตํ โหติ. ตสฺส ตเทว สงฺขารนิโรธารมฺมณภงฺคานุปสฺสนํ อาเสวนฺตสฺส ยทา ¶ สพฺพภวโยนิคติฏฺิตินิวาเสสุ สงฺขารา ภิชฺชนสภาวตาย ยกฺขรกฺขสาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ตทาสฺส ภยตุปฏฺานาณํ อธิคตํ โหติ. กึ ปนิทํ าณํ ภายตีติ? น ภายติ. ตฺหิ ‘‘อตีตา สงฺขารา นิรุทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺติ, อนาคตา นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ตีรณมตฺตเมว โหติ, พฺยสนาปนฺนานํ ปน สพฺพสงฺขารานํ ภยโต อุปฏฺิตานํ คหเณน ภยตุปฏฺานาณนฺติ วุจฺจตีติ.
ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺานาณํ อาเสวนฺตสฺส ยทา สพฺพภวคเตสุ สงฺขาเรสุ ตาณํ วา เลณํ วา ปรายณํ วา น ปฺายติ, อุกฺขิตฺตาสิโก วิย ปจฺจามิตฺโต สาทีนวา เอว สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ, ตสฺส สงฺขารานํ อาทีนวเมว ปสฺสนฺตสฺส อาทีนวาณํ นาม อุปฺปนฺนํ โหติ. ตสฺเสวํ สพฺพสงฺขาเร อาทีนวโต ปสฺสนฺตสฺส ยทา ติภวปริยาปนฺเนสุ นิพฺเพโท อุปฺปชฺชติ, อุกฺกณฺา สณฺหนฺติ, สพฺพสงฺขารวิสํยุตฺเต สนฺติปเท อภิรตึ ปฏิลภติ, ตทาสฺส นิพฺพิทานุปสฺสนํ นาม าณํ อุปฺปนฺนํ โหติ. ตสฺส ยทา อิมินา นิพฺพิทาาเณน สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺตสฺส เอกสงฺขาเรปิ จิตฺตํ น สชฺชติ, สพฺพสฺมา สงฺขารโต สปฺปมุขคตสฺส วิย มณฺฑูกสฺส มุจฺจิตุกามตา อุปฺปชฺชติ, ตทา มุจฺจิตุกมฺยตาาณํ นาม อุปฺปนฺนํ โหติ. ตสฺเสวํ สพฺพสงฺขาเรหิ มุจฺจิตุกามสฺส นิจฺจสุขสุภอตฺตากาเรน ปน อุปฏฺิตุํ อสมตฺถตํ ปาเปตฺวา มุจฺจนสฺส ¶ อุปายสมฺปาทนตฺถํ อนิจฺจนฺติกตาทีหิ อนิจฺจลกฺขณํ, อภิณฺหปฏิปีฬนตาทีหิ ทุกฺขลกฺขณํ, อชฺกตาทีหิ ปฏิกฺกูลตํ, ตุจฺฉตาทีหิ อนตฺตลกฺขณฺจ อาโรเปตฺวา สพฺพสงฺขารคตํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นาม อุปฺปนฺนํ โหติ. เตน ปเนวํ ปริคฺคหิตสงฺขาเรน ยา สา ‘‘สฺุมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’’ติอาทินา ทฺวิโกฏิกาทิเภทา สฺุตา วุตฺตา, สา ¶ ปริคฺคเหตพฺพา. ตสฺเสวํ สฺุโต ทิสฺวา ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สมฺมสนฺตสฺส ยทา ภยฺจ นนฺทิฺจ วิปฺปหาย วิสฺสฏฺภริยสฺส วิย สงฺขารคเตสุ อุเปกฺขา สนฺติฏฺติ, ตีสุ ภเวสุ จิตฺตํ น สมฺปสาริยติ, ตทาสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณํ นาม อุปฺปนฺนํ โหติ. ตํ ปเนตํ ยาว นิพฺพานํ น ปสฺสติ, ตาว ทิสากาโก วิย กูปกยฏฺึ ปุนปฺปุนํ สงฺขารเมว อนภิมตมฺปิ นิสฺสาย สงฺขารวิจินเนปิ มชฺฌตฺตเมว หุตฺวา ติฏฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอเตสุ ปน าเณสู’’ติอาทิ.
๑๓๐๖. วิปสฺสนา…เป… วุฏฺานคามินีติ สิขํ อุตฺตมภาวํ ปตฺตตฺตา สิขาปตฺตา. วุฏฺานํ คจฺฉตีติ วุฏฺานคามินี. ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ หิ พหิทฺธา นิมิตฺตภูตา อภินิวิฏฺวตฺถุโต เจว อชฺฌตฺตปฺปวตฺตโต จ วุฏฺหนโต มคฺโค วุจฺจติ, ตํ คจฺฉตีติ วุฏฺานคามินี, มคฺเคน สทฺธึ ฆฏียตีติ อตฺโถ.
๑๓๐๗. ตนฺติ ยํ สิขาปตฺตา วิปสฺสนา สจฺจานุโลมาณนฺติ จ วุจฺจติ, ตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ. อาเสวนฺตสฺสาติ ปุนปฺปุนํ สมฺมสนวเสน เสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส. ตสฺส หิ อธิโมกฺขสทฺธา ภาวนาวเสน พลวตรา นิพฺพตฺติสฺสติ, วีริยํ สุปคฺคหิตํ ปฏิปกฺขวิธมนสมตฺถํ โหติ, อารมฺมณาภิมุขภาเวน สติ สุปติฏฺิตา โหติ, ปสฺสทฺธิสุขานํ สาติสยตาย จิตฺตํ สุสมาหิตํ, ตโตว อนุโลมาณุปฺปตฺติยา ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถา ติกฺขตมา สงฺขารุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ.
๑๓๐๘-๑๒. อนิจฺจา…เป… โวตรเตว สาติ อนิจฺจาทีสุ เอเกน อากาเรน สมฺมสนฺตี สตฺตกฺขตฺตุํ ปวตฺติตฺวา ภิชฺชนฺตี ภวงฺคํ โอติณฺณา นาม โหติ, ตโต ปรํ ภวงฺควาโรติ กตฺวา ¶ . สงฺขารุเปกฺขากตนเยนาติ อนิจฺจาทินา อารมฺมณกรณวเสเนว สงฺขารุเปกฺขาย กตนเยน, น สมฺมสิตนเยน. เตนาห ‘‘อนิจฺจาทิ…เป… กุรุมาน’’นฺติ. ภวงฺคาวฏฺฏนํ กตฺวาติ ภวงฺคสฺส นิวตฺตนํ กตฺวา จิตฺตสฺส ภวงฺควเสน ปวตฺติตุํ อทตฺวา. ปริกมฺมนฺติ มคฺคสฺส ¶ ปริกมฺมตฺตา ปฏิสงฺขารกตฺตา. อุปจารนฺติ มคฺคสฺส อาสนฺนตฺตา, สมีปจาริตฺตา วา.
๑๓๑๓-๖. อนุโลมตฺตํ สยเมว วทติ ‘‘ปุริมาน’’นฺติอาทินา. อิทฺหิ อนิจฺจลกฺขณาทิวเสน สงฺขาเร อารพฺภ ปวตฺตตฺตา, ‘‘อุทยพฺพยวนฺตานํเยว วต ธมฺมานํ อุทยพฺพยาณํ อุปฺปาทวเย อทฺทสา’’ติ จ ‘‘ภงฺควนฺตานํเยว วต ภงฺคานุปสฺสนํ ภงฺคมทฺทสา’’ติ จ ‘‘สภยํเยว วต ภยตุปฏฺานสฺส ภยโต อุปฏฺิต’’นฺติ จ ‘‘สาทีนเวเยว วต อาทีนวานุปสฺสนํ อาทีนวมทฺทสา’’ติ จ ‘‘นิพฺพินฺทิตพฺเพเยว วต นิพฺพิทาาณํ นิพฺพินฺท’’นฺติ จ ‘‘มุจฺจิตพฺพมฺหิเยว วต มุจฺจิตุกมฺยตาาณํ มุจฺจิตุกามํ ชาต’’นฺติ จ ‘‘ปฏิสงฺขาตพฺพเมว วต ปฏิสงฺขาาเณน ปฏิสงฺขาต’’นฺติ จ ‘‘อุเปกฺขิตพฺพํเยว วต สงฺขารุเปกฺขาย อุเปกฺขิต’’นฺติ จ อตฺถโต วทมานํ วิย อิเมสฺจ อฏฺนฺนํ าณานํ กตกิจฺจตาย อนุโลเมติ สพฺพาสํเยว วิปสฺสนานํ ลกฺขณตฺตยสมฺมสนกิจฺจตฺตา, ตถา อุปริ จ อริยมคฺเค สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตาย ปฏิปทาย ปตฺตพฺพตาย. น หิ อนุโลมาเณ ถูลถูลสจฺจปฏิจฺฉาทกสํกิเลสวิกฺขมฺภนวเสน อปฺปวตฺตนฺเต โคตฺรภุาณํ อุปฺปชฺชติ, โคตฺรภุาเณ จ อนุปฺปนฺเน มคฺคาณํ น อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ปุริมปจฺฉิมานํ ภาคานํ อนุโลมตฺตา ‘‘อนุโลมนฺติ สฺิต’’นฺติ. เตเนวาติ เหฏฺิมาณานํ อนุโลมมุเขน, อุปริ โพธิปกฺขิยานํ อนุโลมนโต จ. สจฺจานุโลมาณนฺติ ปวุจฺจติ มคฺคสจฺจสฺส อนุโลมิกตฺตา. วุฏฺานคามินิยาติ สงฺขารารมฺมณาย วุฏฺานคามินิยา ¶ วิปสฺสนาย. ปริโยสานนฺติ ปุริมา โกฏิ. สงฺขารารมฺมณวิปสฺสนาสุ หิ อยํ วิเสสโต วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาติ. อสงฺขตารมฺมณํ ปน สพฺเพน สพฺพํ อริยมคฺคสงฺขาตํ วุฏฺานํ คจฺฉติ อุเปตีติ. ตโตปิ หิ วิเสสโต ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา’’ติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ อาห ‘‘เยฺยํ สพฺพปฺปกาเรนา’’ติอาทิ.
๑๓๑๗-๘. กิตฺติตาติ โถมิตา, อริยมคฺคาธิฏฺานตาย มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสนโต คเวสนโต มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. สนฺตกิเลสตาย สนฺตา. โยคนฺติ ภาวนํ, ภาวนาภิโยคํ วา.
อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม
อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย
ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.