📜

๒๔. จตุวีสติโม ปริจฺเฉโท

ปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา

๑๓๙๕. อิทานิ เนสํ ปจฺจยวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘เยส’’นฺติอาทิ อารทฺธํ.

ปฏิจฺจ เอนํ ผลเมติ ปวตฺตติ, ติฏฺติ, อุปฺปชฺชติ วาติ ปจฺจโย, หิโนติ ปติฏฺาติ เอตฺถาติ เหตุ, อเนกตฺถตฺตา ธาตุสทฺทานํ หิ-สทฺโท มูล-สทฺโท วิย ปติฏฺตฺโถ เวทิตพฺโพ, หิโนติ วา เอเตน กมฺมนิทานภูเตน อุทฺธํ โอชํ อติหรนฺเตน มูเลน วิย ปาทโป ตปฺปจฺจยํ ผลํ คจฺฉติ วิรุฬฺหึ อาปชฺชตีติ เหตุ, เหตุ จ โส มูลฏฺเน, ปจฺจโย จ อุปการกฏฺเนาติ เหตุปจฺจโย, เหตุ หุตฺวา ปจฺจโย เหตุภาเวน ปจฺจโยติ อตฺโถ.

เอวํ อารมฺมณปจฺจยาทีสุ ทฏฺพฺพํ. สฺวายํ ปฏิสนฺธิยํ กมฺมสมุฏฺานานํ, ปวตฺติยํ จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ, อุภยตฺถ สหชาตนามธมฺมานฺจ ปจฺจโย. สพฺพโลกิยโลกุตฺตรนฺติ อิมินา ปฺตฺติยาปิ โลเก วิทิตภาเวน โลกิยปเทน สงฺคหิตตฺตา รูปาทิเภเทสุ ฉพฺพิเธสุ สงฺขตาสงฺขตปฺตฺติธมฺเมสุ น โกจิ ธมฺโม อารมฺมณปจฺจโย น โหตีติ ทสฺเสติ. เตเนว ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ อารพฺภา’’ติ อนิยโต กโตติ. นนุ จ ‘‘ยํ ยํ ธมฺม’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๒-๓) วุตฺตตฺตา ปฺตฺติยา คหณํ น โหตีติ? นายํ โทโส ธมฺมสทฺทสฺส เยฺยวจนตฺตา. อารพฺภาติ อาลมฺพิตฺวา, คเหตฺวาติ อตฺโถ. อุปฺปชฺชนฺตีติ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ. เต ปน ตํ อารพฺภ อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จ. ยถา หิ ทุพฺพโล ปุริโส ทณฺฑํ วา รชฺชุํ วา อาลมฺพิตฺวา อุฏฺหติ เจว ติฏฺติ จ, เอวํ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา รูปาทิอารมฺมณํ อาลมฺพิตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ เจว ติฏฺนฺติ จาติ.

เชฏฺกฏฺเน อุปการโก ธมฺโม อธิปติปจฺจโย. เชฏฺกฏฺเนาติ จ ปมุขภาเวน. อตฺตาธีนานฺหิ ปติภูโต ธมฺโม อธิปตีติ โส เตสํ ปมุขภาเวน ปวตฺตติ. ‘‘ฉนฺทาธิปติ ฉนฺทสมฺปยุตฺตกานํ ธมฺมานํ ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิวจนโต ฉนฺทาทโย จตฺตาโร ธมฺมา สหชาตนามรูปานํ สหชาตาธิปตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ตตฺถ สหชาตาธิปตี’’ติอาทิ. ‘‘ฉนฺทวโต กึ นาม กมฺมํ น สิชฺฌตี’’ติอาทิกํ ปุริมาภิสงฺขารูปนิสฺสยํ ลภิตฺวา อุปฺปชฺชมาเน จิตฺตุปฺปาเท ฉนฺทาทโย ธุรภูตา เชฏฺกภูตา สมฺปยุตฺตธมฺเม, ตํสมุฏฺานรูเป จ สาธยมานา วเส วตฺตยมานา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, เต จ เตสํ วเสน วตฺตนฺติ หีนาทิภาเวน ตทนุวตฺตนโต. เตน เต อธิปติปจฺจยา โหนฺติ, โน จ โข เอกโต. ยทา หิ ฉนฺทํ ธุรํ ฉนฺทํ เชฏฺกํ กตฺวา จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตทา ฉนฺโทว อธิปติ, น อิตเร. เอส นโย เสเสสุปิ. อธิปติภาโวปิ หิ เนสํ อตฺตโน ปวตฺตินิวารเก อภิภุยฺย ปวตฺตนโต โหติ. อวเสสนฺติ ยถาวุตฺตานํ เตสํ ครุกาตพฺพตาภาวโต, ครุกตสฺเสว จ อารมฺมณาธิปติภาววจนโต. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ยํ ยํ ธมฺมํ ครุํ กตฺวา เย เย ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา, เต เต ธมฺมา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ อธิปติปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๓). ตตฺถ ครุํ กตฺวาติ ครุการจิตฺตีการวเสน วา อสฺสาทนวเสน วา ครุํ ภาริกํ ลทฺธพฺพํ อนวฺาตํ กตฺวา. ครุกาตพฺพฺหิ อารมฺมณํ ตนฺนินฺนโปณปพฺภารานํ อสฺสาทนปจฺจเวกฺขณมคฺคผลานํ อตฺตโน วเส วตฺตยมานํ วิย ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา อยํ อตฺตาธีนานํ ปติภาเวน อุปการกตฺตา อธิปติปจฺจโย ทฏฺพฺโพ.

อนฺตรยตีติ อนฺตรํ, พฺยวธายกนฺติ อตฺโถ, นาสฺส อนฺตรํ วิชฺชตีติ อนนฺตโร, โสเยว ปจฺจโยติ อนนฺตรปจฺจโย, อนนฺตรภาเวน อุปการโก ธมฺโมติ อธิปฺปาโย. อนนฺตรนิรุทฺธาติ อตฺตโน นิโรธานนฺตรํ อนุรูปจิตฺตุปฺปาทสฺส อุปฺปตฺติปจฺจยภาเวน ตสฺส อุปฺปตฺติยา ปุริมภาเค อนนฺตรํ หุตฺวา นิรุทฺธา, รูปธมฺมา ปน อนนฺตรปจฺจยา นตฺถิ.

สมนนฺตรภาเวน อุปการโก ธมฺโม สมนนฺตรปจฺจโย, ตถา สมนนฺตรปจฺจโยปีติ เปตฺวา อุปสคฺคมตฺตํ น เอตฺถ โกจิ วิเสโส. โย หิ อนนฺตรปจฺจโย, โสว สมนนฺตรปจฺจโยติ. ปุริมปจฺฉิมานฺหิ อนนฺตรุปฺปาทภาวโต นิรนฺตรุปฺปาทนสมตฺถตา อนนฺตรปจฺจยตา, รูปกลาปานํ วิย สณฺานาภาวโต ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ สหฏฺานาภาวโต จ ‘‘อิทมิโต อุทฺธํ เหฏฺา ติริย’’นฺติ วิภาคาภาวา อตฺตโน เอกตฺตมิว อุปเนตฺวา สุฏฺุ อนนฺตรภาเวน อุปฺปาเทตุํ สมตฺถตา สมนนฺตรปจฺจยตา, ตสฺมา ธมฺมโต อวิเสเสปิ วิเนยฺยวเสน พฺยฺชนตฺถมตฺตโต วิเสสํ คเหตฺวา เตสํ วิสุํ เทสนา กตา. ยมฺปิ ‘‘อตฺถานนฺตรตาย อนนฺตรปจฺจโย, กาลานนฺตรตาย สมนนฺตรปจฺจโย’’ติ อาจริยานํ มตํ, ตํ ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ กุสลํ ผลสมาปตฺติยา สมนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทีหิ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๘) วิรุชฺฌตีติอาทินา ปฏิกฺขิตฺตํ.

อุปฺปชฺชมาโนว สหุปฺปาทนวเสน อุปการโก ธมฺโม สหชาตปจฺจโย ปกาสสฺส ปทีโป วิย, โส ปนายํ ‘‘จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา อฺมฺํ, สหชาตรูปานฺจ, มหาภูตา อฺมฺํ, อุปาทารูปานฺจ, ปฏิสนฺธิกฺขเณ วตฺถุวิปากา อฺมฺ’’นฺติ จ ติวิโธ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตเจตสิกา’’ติอาทิ. ยมฺปิ หิ ปาฬิยํ อรูปกฺขนฺธาทิวเสนสฺส ฉพฺพิธตํ วุตฺตํ, ตมฺปิ เอตฺเถว สงฺคหิตํ. โย ปเนตฺถ เสสรูปธมฺมานํ, อุภยตฺถ วตฺถุโน จ ปวตฺติยา อรูปธมฺมานํ, อุปาทารูปานฺจ อฺมฺํ มหาภูตานํ สหชาตปจฺจยตฺตาภาโว, โส ปจฺจยภาวสามตฺถิยวิเสสาโยคโตติ ทฏฺพฺพํ.

อฺมฺํ อุปฺปาทนุปตฺถมฺภนภาเวน อตฺตโน อุปการกสฺส อุปการโก ธมฺโม อฺมฺปจฺจโย. อฺมฺุปตฺถมฺภกติทณฺฑกํ วิย อุปการกตา จ อฺมฺตาวเสเนว ทฏฺพฺพา, น สหชาตาทิวเสน. สหชาตาทิปจฺจโย โหนฺโตเยว หิ โกจิ กสฺสจิ อฺมฺปจฺจโย น โหติ จิตฺตเจตสิกานํ จิตฺตชรูเป สติ, มหาภูตานํ อุปาทารูเป สติ อฺมฺปจฺจยตฺตาภาวโต. ยถาห ‘‘จตฺตาโร ขนฺธา อรูปิโน อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย, จตฺตาโร มหาภูตา…เป… โอกฺกนฺติกฺขเณ นามรูปํ อฺมฺปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๗). อาจริเยน ปน ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม อปรามสิตฺวา วุจฺจมานตฺตา อวิเสเสน วุตฺตํ ‘‘ตถา อฺมฺปจฺจโย’’ติ.

ตรุอาทีนํ ปถวี วิย อธิฏฺานากาเรน, จิตฺตกมฺมาทีนํ ปฏาทโย วิย จ นิสฺสยากาเรน อุปการโก ธมฺโม นิสฺสยปจฺจโย. วตฺถุรูปานีติ สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนํ อธิฏฺานากาเรน นิสฺสยปจฺจยภูตานิ วตฺถุรูปานิ. มหาภูตา จิตฺตเจตสิกา จาติ อฺมฺํ, อุปาทารูปานฺจ ตเถว นิสฺสยภูตานิ มหาภูตานิ อฺมฺํ, สหชาตรูปานฺจ นิสฺสยากาเรน ปจฺจยานิ จิตฺตเจตสิกานิ, ตทธีนวุตฺติตาย อตฺตโน ผเลน นิสฺสิโต น ปฏิกฺขิตฺโตติ นิสฺสโย.

ยถา ปน ภุโส อายาโส อุปายาโส, เอวํ ภุโส นิสฺสโย อุปนิสฺสโย, พลวการณนฺติ อตฺโถ, ตสฺมา พลวการณภาเวน อุปการโก ธมฺโม อุปนิสฺสยปจฺจโยติ เวทิตพฺโพ. โส อารมฺมณูปนิสฺสโย อนนฺตรูปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโยติ ติวิโธติ อาห ‘‘อารมฺมณา’’ติอาทิ. ตตฺถ –

‘‘ทานํ ทตฺวา สีลํ สมาทิยิตฺวา อุโปสถกมฺมํ กตฺวา ตํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, ปุพฺเพ สุจิณฺณานิ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, ฌานา วุฏฺหิตฺวา ฌานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขติ, เสขา โคตฺรภุํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺติ, โวทานํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺติ, เสขา มคฺคา วุฏฺหิตฺวา มคฺคํ ครุํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตี’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) –

เอวมาทินา นเยน อารมฺมณูปนิสฺสโย ตาว อารมฺมณาธิปตินา สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวาว วิภตฺโต. เตนาห ‘‘อารมฺมณูปนิสฺสโย อารมฺมณาธิปติเยวา’’ติ. กิฺจาปิ นานตฺตํ อกตฺวา วิภตฺโต, ตถาปิ อยํ เตสํ วิเสโส – ยํ อารมฺมณํ ครุํ กตฺวา จิตฺตเจตสิกา อุปฺปชฺชนฺติ, ตํ นิยมโต เตสํ อารมฺมเณสุ พลวารมฺมณํ โหติ. อิติ ครุกาตพฺพมตฺตฏฺเน อารมฺมณาธิปติ, พลวการณฏฺเน อารมฺมณูปนิสฺสโยติ จ เอวเมเตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

อนนฺตรูปนิสฺสโยปิ ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ขนฺธา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ขนฺธานํ อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) นเยน อนนฺตรปจฺจเยน สทฺธึ นานตฺตํ อกตฺวาว วิภตฺโตติ อาห ‘‘อนนฺตรูปนิสฺสโย ปน อนนฺตรปจฺจโยวา’’ติ. เอวํ สนฺเตปิ อตฺตโน อนนฺตรา อนุรูปจิตฺตุปฺปาทวเสน อนนฺตรปจฺจโย, พลวการณวเสน อนนฺตรูปนิสฺสยปจฺจโยติ เอวเมเตสํ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

ปกติยา เอว ปจฺจยนฺตรรหิเตน อตฺตโน สภาเวเนว อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย, อารมฺมณอนนฺตเรหิ อมิสฺโสว ปุถเคว โกจิ อุปนิสฺสโยติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ปกโต อุปนิสฺสโย ปกตูปนิสฺสโย. ปกโตติ เจตฺถ ป-กาโร อุปสคฺโค, โส อตฺตโน ผลสฺส อุปฺปาทนสมตฺถภาเวน สนฺตาเน นิปฺผาทิตภาวํ, อุปเสวิตภาวฺจ ทีเปติ, ตสฺมา อตฺตโน สนฺตาเน นิปฺผนฺโน วา กายิกสุขทุกฺขสทฺธาสีลาทิ อุปเสวิโต วา อุตุโภชนาทิ ปกตูปนิสฺสโยติ อตฺโถ. อุปเสวนฺเจตฺถ ทุวิธํ อุปโยโคปเสวนํ อารมฺมณูปเสวนฺจ. เอวฺจ กตฺวา อนาคตสฺสาปิ อุปนิสฺสยปจฺจยตา ลทฺธา โหติ. กายิกสุข…เป… โย จาติ เอตฺถ กายิกสุขทุกฺขานิ ราคสทฺธาทีนํ, อุตุโภชนาทโย จิตฺตสมาธานาทีนํ, สทฺธาสีลาทโย สทฺธาสีลาทีนฺจ อุปนิสฺสยา โหนฺติ. อาทิ-สทฺเทน ยํ ยํ อุปนิสฺสาย ยสฺส ยสฺส สมฺภโว, ตํ ตํ ตสฺส ตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยภูตํ สงฺคณฺหาติ. ปจฺจยมหาปเทโส เหส, ยทิทํ อุปนิสฺสยปจฺจโยติ.

ปจฺจยุปฺปนฺนโต ปมตรํ อุปฺปชฺชิตฺวา วตฺตมานภาเวน อุปการโก ธมฺโม ปุเรชาตปจฺจโย. โส จ รูปธมฺโมว สมาโน อรูปธมฺมสฺเสว โหติ. เตนาห ‘‘วตฺถุปุเรชาโตนามา’’ติอาทิ. ยถา เจตฺถ ‘‘วตฺถุรูปานี’’ติ หทยวตฺถุโนปิ คหณํ, เอวํ ‘‘รูปาทีนี’’ติอาทิ-คฺคหเณน ธมฺมารมฺมณสฺสาปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. นนุ จ ปฺจารมฺมณาเนว อารมฺมณปุเรชาตภาเวน อาคตานีติ? สจฺจํ อาคตานิ, ปฺหาวาเร ปน ‘‘เสขา วา ปุถุชฺชนา วา จกฺขุํ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสนฺตี’’ติอาทินา (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๔) อวิเสเสน ปจฺจุปฺปนฺนจกฺขาทีนมฺปิ คหิตตฺตา ธมฺมารมฺมณสฺส อารมฺมณปุเรชาตภาโว น สกฺกา ปฏิพาหิตุํ. อตฺถโตปิ เหตํ สิทฺธํ ‘‘ยํ ยํ ปจฺจุปฺปนฺนํ อารมฺมณํ คเหตฺวา มโนทฺวาเร จิตฺตํ ปวตฺตติ, ตํ ตสฺส อารมฺมณปุเรชาตํ โหตี’’ติ. เอตฺถ จ นิสฺสยารมฺมณาการาทีหิ วิสิฏฺา ปุเรชาตภาเวน วินา อุปการภาวํ อคจฺฉนฺตานํ วตฺถารมฺมณานํ ปุเรชาตากาเรน อุปการกตา ปุเรชาตปจฺจยตาติ อยมสฺส นิสฺสยารมฺมณปจฺจยตาหิ วิเสโส.

คิชฺฌโปตกสรีรานํ อาหาราสา เจตนา วิย ปุเรชาตานํ รูปานํ อุปตฺถมฺภกภาเวน อุปการโก ธมฺโม ปจฺฉาชาตปจฺจโย. มโนสฺเจตนาหารวเสน หิ ปจฺฉาชาตจิตฺตเจตสิเกหิ วินา สนฺตานฏฺิติเหตุภาวํ อคจฺฉนฺตานํ ปจฺฉาชาตากาเรน จิตฺตเจตสิกานํ อุปการกตา วิปฺปยุตฺตาการาทีหิ วิสิฏฺา ปจฺฉาชาตปจฺจยตาติ เอวํ สพฺพปจฺจยานํ ปจฺจยนฺตราการวิสิฏฺา อุปการกตา ทฏฺพฺพา. โส ปน ‘‘ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ปุเรชาตสฺส อิมสฺส กายสฺส ปจฺฉาชาตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๑) อาคตตฺตา เอกวิโธติ อาห ‘‘จิตฺตเจตสิกาวา’’ติ.

ปุริมปุริมปริจิตคนฺโถ วิย อุตฺตรุตฺตรสฺส คนฺถสฺส กุสลาทิภาเวน อตฺตสทิสปคุณพลวภาววิสิฏฺํ อตฺตสชาติยตาคาหกํ อาเสวนํ, เตน ปจฺจยา สชาติยธมฺมาว อาเสวนปจฺจโย. ภินฺนชาติกา หิ ภินฺนชาติกานํ อาเสวนคุเณน ปคุณพลวภาววิสิฏฺํ กุสลาทิภาวสงฺขาตํ อตฺตโน คตึ คาหาเปตุํ น สกฺโกนฺติ, น จ สยํ ตโต คณฺหนฺติ. เต ปน อนนฺตราตีตานิ โลกิยกุสลากุสลานิ เจว อนาวชฺชนกิริยาชวนานิ จาติ อาห ‘‘เปตฺวา อาวชฺชนทฺวย’’นฺติอาทิ. ‘‘น มคฺคปจฺจยา อาเสวเน เอก’’นฺติ (ปฏฺา. ๑.๑.๒๒๑) วจนโต อเหตุกกิริยาสุ หสิตุปฺปาทสฺเสว อาเสวนภาเวน, อาวชฺชนทฺวยํ อาเสวนปจฺจโย น โหติ, โลกุตฺตรมฺปิ กุสลํ ภินฺนชาติกสฺเสว ผลสฺส ปุเรจรตฺตา น เตน, อาเสวนคุณํ คณฺหาเปติ, วิปากาพฺยากตมฺปิ กมฺมวเสน . วิปากภาวปฺปตฺตํ กมฺมปริณามิตํ กมฺมเวคกฺขิตฺตํ ปติตํ วิย หุตฺวา ปวตฺตมานํ อตฺตโน สภาวํ คาเหตฺวา ปริภาเวตฺวา เนว อฺวิปากํ ปวตฺเตติ, น จ ปุริมวิปากานุภาวํ คเหตฺวา อุปฺปชฺชติ. โลกุตฺตรวิปากมฺปิ หิ กิฺจาปิ ชวนวเสน อุปฺปชฺชติ, อาเสวนคุณํ ปน คณฺหาติ, น จ อฺํ คาหาเปติ. ยมฺปิ ‘‘อาเสวนวินิมุตฺตํ ชวนํ นตฺถี’’ติ อาจริยธมฺมปาลตฺเถเรน วุตฺตํ, ตมฺปิ ‘‘เยภุยฺยวเสน วุตฺต’’นฺติ วิฺายติ, อิตรถา ปน อาจริยสฺส อสมเปกฺขิตาวิธายกตฺตปฺปสงฺคโต. ตถา หิ วุตฺตํ ปฏฺานฏฺกถายํ ‘‘โลกุตฺตโร ปน อาเสวนปจฺจโย นาม นตฺถี’’ติ (ปฏฺา. อฏฺ. ๑.๑๒). มคฺโค ปน โคตฺรภุโต อาเสวนํ น คณฺหาตีติ นตฺถิ ภูมิอาทิวเสน นานาชาติกตาย อนธิปฺเปตตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ปฏฺาเน ‘‘โคตฺรภุ มคฺคสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย, โวทานํ มคฺคสฺส อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๖).

จิตฺตปฺปโยคสงฺขาตอายูหนกิริยาภาเวน สหชาตานํ, นานกฺขณิกานฺจ อุปการโก ธมฺโม กมฺมปจฺจโย. กมฺมนฺติ หิ เจตนา วุจฺจติ, สา จ อายูหนพฺยาปารา. ปจฺจยุปฺปนฺเนน สห อุปฺปนฺนา สหชาตา, ปจฺจยุปฺปนฺนโต นานกฺขเณ ภวา นานกฺขณิกา. สหชาตา โลกิยโลกุตฺตรา เจตนาติ สมฺพนฺโธ. สา สหชาตนามานํ, ตํสมุฏฺานานฺจ รูปานํ ปจฺจโย, อิตรา ปน วิปากกฏตฺตารูปานนฺติ ทฏฺพฺพํ. สาสวกุสลากุสลเจตนาติ อตฺตโน อุปฺปาทวิสิฏฺเ สนฺตาเน เสสปจฺจยสมาคเม ปวตฺตมานานํ วิปากกฏตฺตารูปานํ สนฺตานวิเสสนกิริยาภาเวน อุปการิกา กามรูปารูปกุสลเจตนา, อกุสลเจตนา จ. ตสฺสา หิ ตถา กิริยาภาเวน ปวตฺตตฺตา เตสํ ปวตฺติ, น อฺถา. อิตรา ปน สหชาตานํ อายูหนกิริยาภาเวน ปวตฺตมานา อุปการิกาติ วตฺตพฺพํ. อวธารเณน ปเนตฺถ เจตนาสมฺปยุตฺตํ อภิชฺฌาทิกมฺมํ ปฏิกฺขิปติ สติปิ วิปากธมฺมสภาเว เจตนาวชฺชานํ อตํสภาวตฺตา. อนาสว…เป… ปจฺจโยติ อิมินา โลกิยกุสลเจตนาย วิเสสมตฺตํ ทสฺเสติ, น นานกฺขณิกกมฺมปจฺจยตาภาวํ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘อรูปาวจรเจตนา, ปน โลกุตฺตรเจตนา จ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา อตฺตโน อตฺตโน วิปากกฺขนฺธานํ นานกฺขณิกกมฺมปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ.

อตฺตโน นิรุสฺสาหสนฺตภาเวน สหชาตนามรูปานํ นิรุสฺสาหสนฺตภาวาย อุปการกา อรูปธมฺมาว วิปากปจฺจโย. เตนาห ‘‘วิปากจิตฺตเจตสิกา’’ติ. เต หิ ปโยเคน อสาเธตพฺพตาย กมฺมสฺส กตตฺตา นิปฺผชฺชนมตฺตโต นิรุสฺสาหสนฺตภาวา โหนฺติ, น กิเลสวูปสมสนฺตภาวา . นิรุสฺสาหสนฺตภาวโต เอว หิ ภวงฺคาทโย ทุวิฺเยฺยา. ปฺจทฺวาเรปิ หิ ชวนปฺปวตฺติยาว รูปาทีนํ คหิตตา วิฺายติ. อภินิปาตสมฺปฏิจฺฉนสนฺตีรณมตฺตา ปน วิปากา ทุวิฺเยฺยา เอว.

รูปารูปานํ อุปตฺถมฺภกฏฺเน อุปกาโร อาหารปจฺจโย. สติปิ หิ ชนกภาเว อุปตฺถมฺภกตฺตเมว อาหารสฺส ปธานกิจฺจํ, ชนยนฺโตปิ จ อาหาโร อวิจฺเฉทวเสน อุปตฺถมฺเภนฺโตว ชเนตีติ อุปตฺถมฺภนภาโวว อาหารภาโวติ. ตตฺถ กพฬีกาโร อาหาโร รูปกายสฺเสว อุปตฺถมฺภโก, เสสา ตโย รูปารูปกายสฺส. น เกวลฺหิ เต นามธมฺมานเมว อวิจฺเฉทเหตุกา, อถ โข ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานํ, ปวตฺเต จิตฺตชรูปานมฺปิ.

เตสุ เตสุ กิจฺเจสุ ปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเมหิ อตฺตานํ อนุวตฺตาปนกสงฺขาตอาธิปจฺจฏฺเน ปจฺจโย อินฺทฺริยปจฺจโย. อธิปติปจฺจยธมฺมานฺหิ ปวตฺติวินิวารเก อภิภวิตฺวา ปวตฺตเนน ครุภาโว อธิปติยฏฺโ, อินฺทฺริยานํ ปน ทสฺสนาทิกิจฺเจสุ จกฺขุวิฺาณาทีหิ, ชีวเน กมฺมชรูเปหิ, อรูปธมฺเมหิ จ ชีวนฺเตหิ สุขิตาทิภาเวสุ สุขิตาทีหิ อธิโมกฺขปคฺคหอุปฏฺานาวิกฺเขปปฺปชานเนสุ ‘‘อนฺาตํ สฺสามี’’ติ ปวตฺติยํ อาชานเน, อฺาตาวิภาเว จ สทฺธาทิสหชาเตหีติ เอวํ ตํตํกิจฺเจสุ จกฺขาทิปจฺจเยหิ ธมฺเมหิ จกฺขาทีนํ อนุวตฺตนิยตามตฺตํ อินฺทฺริยานํ อาธิปจฺจฏฺโติ อยเมว เตสํ วิเสโส. รูปสตฺตก-คฺคหเณน จกฺขาทีนิ ปฺจ, อิตฺถิปุริสินฺทฺริยทฺวยฺจ ทสฺเสติ. ชีวิตินฺทฺริยํ ปน อรูปชีวิตินฺทฺริเยน สทฺธึ เอกโต กตฺวา ชีวิต-คฺคหเณน คหิตํ. เอวฺหิ ทฺวาวีสติ อินฺทฺริยานิ โหนฺติ. ‘‘อนาทิมติ สํสาเร อนฺาตํ อสจฺฉิกตํ จตุสจฺจธมฺมํ, นิพฺพานเมว วา สฺสามี’’ติ ปวตฺตสฺส อินฺทฺริยํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ, ปมมคฺคาณํ. อาชานโต ปมมคฺเคน ทิฏฺมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวา ชานโต อินฺทฺริยํ อฺินฺทฺริยํ, โสตาปตฺติผลโต ยาว อรหตฺตมคฺคา ฉสุ าณํ, อฺาตาวิโน จตูสุ สจฺเจสุ ปรินิฏฺิตกิจฺจสฺส อินฺทฺริยํ อฺาตาวินฺทฺริยํ, อรหตฺตผลาณํ . ปมํ ปริยายโต อินฺทฺริยตฺตํ สนฺธาย รูปสตฺตก-คฺคหเณน คเหตฺวาปิ ปุน กถฺจิ อุปการกตฺตาภาวโต อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ เอตฺถ อคฺคหณํ ทสฺเสตุํ ‘‘เตสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตานิ หิ เยภุยฺเยน ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺติยมานานิปิ ปจฺจยภาวโต นานุวตฺตียนฺตีติ วุตฺโตวายมตฺโถ.

อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขณูปนิชฺฌานวเสน อุปคนฺตฺวา อารมฺมณนิชฺฌานํ ฌานปจฺจยตา, โส จ วิตกฺกาทีนเมว อาเวณิโก สภาโวติ อาห ‘‘ฌานปจฺจโย’’ติอาทิ. เต ปน ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานํ, ปวตฺเต จิตฺตชรูปานํ, อุภยตฺถ นามธมฺมานฺจ ปจฺจยาติ ทฏฺพฺพํ.

สุคติโต, ทุคฺคติโต, กุสลโต, อกุสลโต วา นิยฺยานฏฺเน สหชาตานํ อุปการกตา มคฺคปจฺจยตา, สา จ สมฺมาทิฏฺาทีนนฺติ อาห ‘‘มคฺคปจฺจโย’’ติอาทิ. สงฺกปฺป-คฺคหเณน สมฺมาสงฺกปฺปํ, มิจฺฉาสงฺกปฺปฺจ ทสฺเสติ. เอวํ เสเสสุปิ. มิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย หิ อปายมคฺคงฺคา, มิจฺฉาสติมิจฺฉาวาจาทโย เจตฺถ ตถาปวตฺตจิตฺตุปฺปาทา, เจตนา จ, อยมฺปิ ฌานปจฺจเย วุตฺตานเมว ปจฺจยุปฺปนฺนานํ ปจฺจโยติ ทฏฺพฺพํ.

ปรมตฺเถน ภินฺนานมฺปิ เอกีภาวคตานํ วิย เอกุปฺปาทาทิภาวสงฺขาตสมฺปโยคลกฺขเณน อุปการกตา สมฺปยุตฺตปจฺจยตา, สา จ นามธมฺมานเมว, น รูปธมฺมานนฺติ อาห ‘‘สมฺปยุตฺตปจฺจโย’’ติอาทิ.

อฺมฺสมฺพนฺธตาย ยุตฺตานมฺปิ สมานานํ วิปฺปยุตฺตภาเวน วิสํสฏฺตาย นานตฺตูปคมเนน อุปการกตา วิปฺปยุตฺตปจฺจยตา, สา จ วตฺถูนํ, จิตฺตเจตสิกานเมว วาติ อาห ‘‘วิปฺปยุตฺตปจฺจโย’’ติอาทิ. ฉ วตฺถูนิ หิ สตฺตนฺนํ วิฺาณานํ ยถารหํ ปฏิสนฺธิยํ, ปวตฺเต, จิตฺตเจตสิกา ปฏิสนฺธิยํ กฏตฺตารูปานํ, ปวตฺติยํ จิตฺตสมุฏฺานานฺจ วิปฺปยุตฺตปจฺจโย. วตฺถุปุเรชาตานีติ อิทํ จกฺขาทิวตฺถุวเสเนว วุตฺตํ, หทยวตฺถุ ปน ปฏิสนฺธิยมฺปิ ปจฺจยภาวโต สหชาตมฺปิ ลพฺภติ. วุตฺตมฺปิ เหตํ อพฺยากตปทสฺส สหชาตวิภงฺเค ‘‘ปฏิสนฺธิกฺขเณ วิปากาพฺยากตา ขนฺธา กฏตฺตารูปานํ, ขนฺธา วตฺถุสฺส, วตฺถุ ขนฺธานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ. ตถา ปจฺฉาชาตา จิตฺตเจตสิกาติ จ จกฺขุวิฺาณาทิวเสเนว วุตฺตํ, ‘‘สหชาตา กุสลา ขนฺธา จิตฺตสมุฏฺานานํ รูปานํ วิปฺปยุตฺตปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติอาทิวจนโต (ปฏฺา. ๑.๑.๔๓๔) ปน สหชาตาปิ ลพฺภนฺติ. เอวฺจ กตฺวา วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘วิปฺปยุตฺตปจฺจโย สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตวเสน ติวิโธ’’ติ. อยํ ปน รูปธมฺโม สมาโน รูปธมฺมสฺส ปจฺจโย น โหติ สมฺปโยคาสงฺกาย อภาวโต.

เยสฺหิ นามานํ จกฺขาทีนํ อพฺภนฺตรโต นิกฺขมนฺตานํ วิย ปวตฺติ, รูปานฺจ นามสนฺนิสฺสเยเนว อุปฺปชฺชมานานํ สมฺปโยคาสงฺกา โหติ, เตสเมว วิปฺปยุตฺตปจฺจยตา วุตฺตา. รูปานํ ปน รูเปหิ สาสงฺกา นตฺถิ, วตฺถุสนฺนิสฺสเยเนว จ ชายนฺตานํ นามานํ วิสยมตฺตํ อารมฺมณนฺติ เตนาปิ เตสํ สมฺปโยคาสงฺกา นตฺถิ. ปจฺจุปฺปนฺนสภาเวน อตฺถิภาเวน ตาทิสสฺเสว ธมฺมสฺส อุปตฺถมฺภกตฺเตน อุปการกตา อตฺถิปจฺจยตา. สติปิ หิ ชนกตฺเต ิติยํเยว สาติสโย อตฺถิปจฺจยานํ พฺยาปาโรติ อุปตฺถมฺภกตา เตสํ คหิตา, เต จ รูปชีวิตินฺทฺริยาทีเนวาติ อาห ‘‘อตฺถิปจฺจโย’’ติอาทิ. รูปชีวิตินฺทฺริยฺหิ กฏตฺตารูปานํ, กพฬีการาหาโร อิมสฺส กายสฺส , อารมฺมณปุเรชาตานิ จิตฺตเจตสิกานํ นิสฺสยปจฺจเย วุตฺตธมฺมา, ตตฺเถว วุตฺตปจฺจยุปฺปนฺนฺจ อตฺถิปจฺจโย. นิสฺสยปจฺจเย วุตฺตธมฺมาติ จ วตฺถุรูปมหาภูตจิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมสามฺเเนว คหณํ, น นิสฺสยปจฺจยภาวีนํเยว. ปจฺฉาชาตานมฺปิ จิตฺตเจตสิกานํ ปุเรชาตสฺส กายสฺส ปฺหาวาเร ปจฺจยภาเวน นิทฺทิฏฺตฺตา. เอตฺถ จ อตฺถิภาวาภาเวน อนุปการกานเมว อตฺถิภาเวน อุปการกตาย อตฺถิปจฺจยตาภาวโต นตฺถิ นิพฺพานสฺส สพฺพทา ภาวิโน อตฺถิปจฺจยตา, อุปฺปาทาทิยุตฺตานํ วา นตฺถิภาโวปการตาวิรุทฺโธ อุปการกภาโว อตฺถิปจฺจยตาติ น ตสฺส ตปฺปจฺจยตฺตปฺปสงฺโค.

นตฺถิปจฺจโยติอาทีสุ อนนฺตรตามตฺเตน, จิตฺตนิยามกภาเวน วา อุปการกตา อนนฺตรปจฺจยตา. เอกสฺมึ ผสฺสาทิธมฺมสมุทาเย ปวตฺตมาเน ทุติยสฺส อภาวโต อตฺตโน ิติยา โอกาสมลภนฺตานํ อนนฺตรํ อุปฺปชฺชมานกจิตฺตเจตสิกานํ โอกาสทานวเสน อุปการกตา นตฺถิปจฺจยตา. อตฺตโน สภาวาวิคเมน อปฺปวตฺตมานานํ วิคตภาเวน อุปการกตา วิคตปจฺจยตา. อตฺถโต ปน ทฺวินฺนมฺปิ อนนฺตรปจฺจยภาวีธมฺมตฺตา อวิเสโส วุตฺโต. สภาวตามตฺเตน อุปการกตา อตฺถิปจฺจยตา, นิโรธานุปคมนวเสน อุปการกตา อวิคตปจฺจยตาติ ปจฺจยวิเสโส เตสํ ธมฺมาวิเสเสปิ เวทิตพฺโพ. ธมฺมานฺหิ สมตฺถตาวิเสสํ สพฺพากาเรน ตฺวา ภควตา จตุวีสติปจฺจยา เทสิตาติ ภควติ สทฺธาย ‘‘เอวํ วิเสสา เอเต ธมฺมา’’ติ สุตมยาณํ อุปฺปาเทตฺวา จินฺตาภาวนามยาเณหิ ตทภิสมยาย โยโค กรณีโย. อวิเสเสปิ ธมฺมสามตฺถิยสฺส ตถา ตถา วิเนตพฺพปุคฺคลานํ วเสน เหฏฺา วุตฺโตปิ ปจฺจโย ปุน ปการนฺตเรน วุจฺจติ ยถา อเหตุกทุกํ วตฺวาปิ เหตุวิปฺปยุตฺตทุกํ วิยาติ ทฏฺพฺพํ.

ยสฺมา มหาภูตา อฺมฺํ, อุปาทารูปานฺจ สหชาตปจฺจยา, มหาภูตา อฺมฺํ อฺมฺนิสฺสยปจฺจยา, อุปาทารูปานํ นิสฺสยปจฺจยาว, กพฬีกาโร อาหาโร อิมสฺส กายสฺส อาหารปจฺจโย, มหาภูตา อฺมฺํ, อุปาทารูปานฺจ ชีวิตินฺทฺริยํ กฏตฺตารูปานฺจ อตฺถิอวิคตอินฺทฺริยปจฺจยา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘รูปํ รูปสฺส…เป… สตฺตธา ปจฺจโย โหตี’’ติ.

รูปํ อรูปสฺสาติอาทีสุปิ เหฏฺา วุตฺตปจฺจยุปฺปนฺนธมฺเม สุฏฺุ อุปลกฺเขตฺวา ปจฺจโย โยเชตพฺโพ. รูปํ รูปารูปสฺสาติ นตฺถีติ อิทํ สหชาตปจฺจยภูตมฺปิ รูปํ รูปารูปทฺวยสฺส ปจฺจยภาเวน อนาคตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ.

สพฺเพสํ ปจฺจยานํ อารมฺมณปจฺจเย อุปนิสฺสยปจฺจเย, สหชาตนานกฺขณิกเจตนาย กมฺมปจฺจเย, สหชาตปุเรชาตปจฺฉาชาตาทิเภทสฺส อตฺถิปจฺจเย จ สโมธานโต สพฺเพปิ ปจฺจยา สงฺเขปโต จตุพฺพิธาเยวาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘สพฺเพ ปนิเม’’ติอาทิ.

อิติ อภิธมฺมตฺถวิกาสินิยา นาม

อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนาย

ปจฺจยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

นิคมนกถาวณฺณนา

๑๔๐๐-๒. สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตคติตาย สุนฺทรา มติ อิมสฺสาติ สุมติ, ตสฺส สุมติสฺส ภควโต มติวิจารํ าณจารํ โพเธตีติ สุมติมติวิจารโพธโน. วิรุทฺธา มติ เยสํ เต วิมติโน, วิรุทฺธา มตีติ จ วิรุทฺธทสฺสนนฺติ อตฺโถ. เตสํ วิโมหํ วินาเสตีติ วิมติวิโมหวินาสโน. ยโต ยสฺมา นามโต สุมตินา ภิกฺขุนา มานโต พหุมาเนน อายาจิตสมฺมานโต อายาจิโต หุตฺวา สมฺมา อวนโต สทาเยว มโต อยํ, ตโต ตสฺมา มยา รจิโต อภิธมฺมาวตาโร. ตถา หิ ภาวนา สาธูนํ สมฺภาวนา หิตวิภาวนา หิตปฺปกาสนโต สทา โตสทาติ โยชนา.

๑๔๐๓-๑๔. อยุตฺตํวา วิรุทฺธํ วาติ เอตฺถ ‘‘อฏฺกถาย วิมุขภูตํ อยุตฺตํ นาม, ปาฬิยา วิมุขภูตํ วิรุทฺธ’’นฺติ วทนฺติ. พฺยปฺปถานนฺติ จ วาจนามคฺคานนฺติ อตฺโถ. ติวิธาติ เอโก พฺยปฺปโถ สทฺทสมฺปนฺโน, น อตฺถสมฺปนฺโน, เอโก อตฺถสมฺปนฺโน, น สทฺทสมฺปนฺโน, เอโก อุภยสมฺปนฺโนติ ติปฺปการาติ อตฺโถ. หิตเมว อตฺโถติ หิตตฺโถ, ตํ อตฺตโน กาเมตีติ หิตตฺถกาโม. อสํกิณฺณกุลากุเลหิ อสมฺภินฺนกุเลหิ สํกิณฺเณ. เกลาโสเยว สิขโรติ เกลาสสิขโร, โส หิ หิมวโต จตุราสีติยา กูฏสหสฺสานํ ปาโมกฺโข รชตมโย มหาสิขโร. ตทากาเรหิ สพฺพเสเตหิ ปาสาเทหิ ปฏิมณฺฑิตตฺตา เกลาส…เป… มณฺฑิโต. กณฺหทาเสนาติ เอวํนามเกน อุปาสเกน. ปาจีนปาสาเทติ ปาจีนทิสาภาคสนฺนิสฺสิเต ปาสาเท. อยนฺติ อยมภิธมฺมาวตาโร.

นิฏฺิตายํ อภิธมฺมตฺถวิกาสินี นาม

อภิธมฺมาวตารสํวณฺณนา.

นิคมนกถา

.

รมฺเม ปุลตฺถินคเร นคราธิราเช,

รฺา ปรกฺกมภุเชน มหาภุเชน;

การาปิเต วสติ เชตวเน วิหาเร,

โย รมฺมหมฺมิยวรูปวนาภิราเม.

.

สมฺปนฺนสีลทมสํยมโตสิเตหิ,

สมฺมานิโต วสิคเณหิ คุณากเรหิ;

ปตฺโต มุนินฺทวจนาทิสุ เนกคนฺถ-

ชาเตสุ จาจริยตํ มหิตํ วิทูหิ.

..

าณานุภาวมิห ยสฺส จ สูจยนฺตี,

สํวณฺณนา จ วินยฏฺกถาทิกานํ;

สารตฺถทีปนิมุขา มธุรตฺถสาร-

สนฺทีปเนน สุชนํ ปริโตสยนฺตี.

.

ตสฺสานุกมฺปมวลมฺพิย สาริปุตฺต-

ตฺเถรสฺส ถามคตสารคุณากรสฺส;

โย สาสเน ชินวรสฺส รตึ อุฬารํ,

ปปฺโปติ นนฺทิปริเวณนิวาสวาสี.

.

ส สาธยํ โสตุหิตํ อนปฺปกํ,

สุมงฺคโลทีริตนามวิสฺสุโต;

อกาภิธมฺมตฺถวิกาสินึ อิมํ,

ปกาสยนฺตึ มธุรตฺถสมฺปทนฺติ.

อภิธมฺมาวตารฏีกา สมตฺตา.