📜
๗. สตฺตโม ปริจฺเฉโท
วิปากจิตฺตปฺปวตฺตินิทฺเทสวณฺณนา
อนนฺตาเณน ¶ นิรงฺคเณน,
คุเณสินา การุณิเกน เตน;
วุตฺเต วิปาเก มติปาฏวตฺถํ,
วิปากจิตฺตปฺปภวํ สุณาถ.
เยน ¶ ชิเนน อนนฺตาเณน นิกฺกิเลเสน คุเณสินา การุณิเกน เตน ชิเนน วุตฺเต วิปากสฺมึ มติปาฏวตฺถํ มติเฉกภาวตฺถาย วิปากจิตฺตปฺปภวํ มยา ภณมานํ วิปากจิตฺตปฺปวตฺตึ ตุมฺเห สุณาถ.
๓๗๗. เอกูนตึส กมฺมานิ, ปากา ทฺวตฺตึส ภควตา ทสฺสิตา, กมฺมานิ ตีสุ ทฺวาเรสุ ทิสฺสเร, วิปากา ฉสุ ทฺวาเรสุ ทิสฺสนฺติ.
๓๗๘-๙. กุสลํ กามโลกสฺมึ กามโลกมฺหิ กุสลํ ปวตฺเต, ปฏิสนฺธิยฺจ ตํตํปจฺจยมาคมฺม ตํตํปจฺจยํ ปฏิจฺจ. โส โส ปจฺจโย ตํตํปจฺจโย, ‘‘ตตปจฺจโย’’ติ วตฺตพฺเพ นิคฺคหีตาคมวเสน ‘‘ตํตํปจฺจโย’’ติ วุตฺตํ. วิจฺฉากมฺมธารยสมาโสยํ. วิวิธํ ผลํ ททาติ. เอกาย เจตนาย เอกา ปฏิสนฺธิ ภควตา ปกาสิตา. นานากมฺเมหิ นานา ปฏิสนฺธิโย จ ภวนฺติ.
๓๘๐-๑. ติเหตุกํ ตุ ยํ กมฺมํ ติเหตุกํ ยํ กมฺมํ ปน กามาวจรสฺิตํ ติเหตุกํ วิปากํ ทุเหตฺุจ วิปากํ อเหตฺุจ วิปากํ เทติ. ทุเหตุกํ ตุ ยํ กมฺมํ ทุเหตุกํ ยํ กมฺมํ ปน, ตํ กมฺมํ ติเหตุกํ วิปากํ น เทติ, อตฺตโน วิปากํ ทุเหตฺุจ อเหตฺุจ เทติ.
๓๘๒-๓. ติเหตุเกน ¶ กมฺเมน, ปฏิสนฺธิ ติเหตุกา โหติ, ทุเหตุกาปิ ปฏิสนฺธิ โหเตว, อเหตุกา ปฏิสนฺธิ เนว โหติ, อุกฺกฏฺติเหตุกกมฺเมน ติเหตุกา ปฏิสนฺธิ, โอมกติเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหตีติ อธิปฺปาโย. ทุเหตุเกน กมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ, อเหตุกาปิ ปฏิสนฺธิ โหเตว, ติเหตุกา ปฏิสนฺธิ เนว โหติ. อุกฺกฏฺทุเหตุกกมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ, โอมกทุเหตุกกมฺเมน อเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหตีติ อธิปฺปาโย.
๓๘๔. อสงฺขารกมฺมํ ¶ อสงฺขารวิปากํ เทติ, สสงฺขารวิปากมฺปิ เทติ, สสงฺขารกมฺมํ สสงฺขารผลํ, ตถา อสงฺขารผลํ เทติ.
๓๘๕. เอกาย เจตนาเยตฺถ เอตฺถ เอตาสุ เจตนาสุ เอกาย กุสลาย เจตนาย โสฬสวิธา วิปากจิตฺตานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ ชิโน ปกาสเย.
๓๘๖-๙๒. เวทนาปริวตฺตนํ อารมฺมเณน โหเตว, ตทารมฺมณจิตฺตมฺปิ ชวเนน นิยามิตํ, โสมนสฺสยุตฺเต กุสเล ชวเน ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสยุตฺตเมว โหตีติ อตฺโถ. อุเปกฺขายุตฺตกุสเลปิ เอเสว นโย. กามาวจรจิตฺเตน กุสเลนาทินา ปเมน กุสเลน ตุลฺเยน วิปากจิตฺเตน. ตติยาวิเสสนํ. เยน สตฺเตน คหิตา ปฏิสนฺธิ เจ ยทิ, อิฏฺเ พลวารมฺมเณ มนาเป อติมหนฺตารมฺมเณ ตสฺส สตฺตสฺส จกฺขุสฺส จกฺขุปสาทสฺส อาปาถํ ปากฏภาวํ อาคเต สติ มโนธาตุยา ตาย ภวงฺคสฺมึ อาวฏฺฏิเต ภวงฺคโสเต ฉินฺทิเต สติ จกฺขุวิฺาณกาทีสุ วีถิจิตฺเตสุ ชาเตสุ ปมํ กุสลํ กามมานสํ ชวนํ หุตฺวา ชายเต. สตฺตกฺขตฺตุวารานิ ชวิตฺวาน ปเม มหากุสเล คเต ตเทว ตํ เอว อิฏฺํ อารมฺมณํ กตฺวา เตเนว ปมมหากุสเลน สทิสํ ตทารมฺมณวิปากจิตฺตํ. สนฺธิยา ตุลฺยโต ปฏิสนฺธิยา ตุลฺยภาเวน มูลภวงฺคนฺติ มูลภวงฺคํ นาม ภควตา ปวุจฺจเต. ตฺจ ตทารมฺมณจิตฺตํ สนฺตีรณํ โสมนสฺสยุตฺตํ สนฺตีรณํ ทสฺสนํ สมฺปฏิจฺฉนํ เอตฺถ เอตสฺมึ วีถิจิตฺเต คณนูปคจิตฺตานิ คณนํ อุปคตานิ จิตฺตานิ จตฺตาริ เอว ภวนฺติ.
๓๙๓-๔. ยทา หิ ทุติยํ จิตฺตํ, กุสลํ ชวนํ ยทา ยสฺมึ กาเล ตสฺเสว โสมนสฺสติเหตุโน ปุคฺคลสฺส ทุติยํ ¶ กุสลํ จิตฺตํ ชวนํ โหติ, ตทา ตสฺมึ กาเล เตน ชวเนน ตุลฺยวิปากํ ตทารมฺมณํ. ตสฺส สนฺธิยา อสมานตฺตา ตสฺส ตทารมฺมณจิตฺตสฺส สนฺธิยา อสมานตฺตา ¶ ทฺเว นามานิ อสฺส วิปากจิตฺตสฺส อเนน วิปากจิตฺเตน ลพฺภเร ลพฺภนฺติ, ‘‘อาคนฺตุกภวงฺค’’นฺติ นามํ ‘‘ตทารมฺมณก’’นฺติ จ นามํ อิติ ทฺเว นามานิ ลพฺภนฺติ.
๓๙๕-๖. ยทา ตสฺเสว ปุคฺคลสฺส ตติยํ ปฺุํ ชวนํ โหติ, ตทา เตน ชวเนน สทิสํ ตติยํ ปากํ ตทารมฺมณิกํ สิยา. อิทํ วิปากจิตฺตํ อาคนฺตุกภวงฺคนฺติ อาคนฺตุภวงฺคํ นาม ภควตา วุจฺจเต, ปุริมานิ จ ปฺจ วิปากจิตฺตานิ อิมินา ปน ตติยวิปาเกน ปน สทฺธึ ฉ จิตฺตานิ โหนฺติ.
๓๙๗-๘. ยทา จตุตฺถํ กุสลํ ชวนํ โหติ, ตทา เตน ชวเนน ตุลฺยํ จตุตฺถวิปากํ ตทารมฺมณภาวํ วเช คจฺเฉยฺย. จตุตฺถวิปากํ อาคนฺตุกภวงฺคํ ตทารมฺมณนามกํ โหติ, ปุริมานิ ฉ ปากานิ อิมินา สห จตุตฺถปาเกน สตฺต จิตฺตานิ โหนฺติ.
๓๙๙-๔๐๓. ยทา ยสฺมึ กาเล ตสฺมึ จกฺขุทฺวาเร อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมณํ ปน ตถา อาปาถํ อาคจฺฉติ จ, ตทา วุตฺตนเยน อาวชฺชนทสฺสนสมฺปฏิจฺฉนจิตฺเตสุ ชาเตสุ อิธ อิมสฺมึ มชฺฌตฺตารมฺมเณ อารมฺมณวเสน เวทนา ปริวตฺตติ, ตสฺมา อุเปกฺขาสหคตํ สนฺตีรณํ มโน โหติ. อุเปกฺขาสหคเตสุ เอว จตูสุปิ ชวเนสุ ชวิเตสุ เตหิ ชวเนหิ ตุลฺยานิ จตฺตาริ วิปากจิตฺตานิ ชายเร. อจฺจนฺตํ เอกนฺเตน เวทนาย อุเปกฺขาเวทนาย ปุริเมหิ โสมนสฺสสหคเตหิ จิตฺเตหิ อสมานตฺตา จตฺตาริ จิตฺตานิ นามโต ปิฏฺิภวงฺคานิ นาม โหนฺติ, ปิฏฺิภวงฺคานิ โสมนสฺสวิปากานํ ปจฺฉาภาเค ภวงฺคานีติ อตฺโถ. อิมานิ ¶ อุเปกฺขาสหคตานิ ปฺจ วิปากานิ ปุริเมหิ สตฺตหิ วิปาเกหิ สทฺธึ ทฺวาทส วิปากานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร วินิทฺทิเส.
๔๐๔-๖. ยถา จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส วิปากานิ โหนฺติ, ตถา เอวํ โสตาทีสุ ทฺวาเรสุปิ ทฺวาทส ปากานิ โหนฺติ. อิติ วจนํ ธีโร นิทฺทิเส, อิเม มยา วุตฺตา วิปากา สมสฏฺิ ภวนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต สมสฏฺิ วิปากานิ อุปฺปชฺชนฺติ, อิมสฺมึ วจเน สํสโย นตฺถิ. คหิตาคฺคหเณเนตฺถ เอตฺถ เอเตสุ วิปาเกสุ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน จกฺขุทฺวาเร ทฺวาทส ปากา, โสตวิฺาณกาทีนิ จตฺตาริ จาติ โสฬส ปากานิ โหนฺติ.
๔๐๗-๑๑. เอเกน ¶ ติเหตุกกุสเลน อสงฺขาริเกน กมฺเมน อายูหิเต ยถา, เอวเมว สสงฺขารติเหตุกกุสเลนาปิ อสงฺขารสสงฺขารอุเปกฺขาสหคเตหิปิ กุสเลหิ กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต เตสํ ติณฺณํ กุสลานํ วิปาเกหิ ตีหิปิ ทินฺนาย ปฏิสนฺธิยา เอเสว นโย ปณฺฑิเตน ชานิตพฺโพ. อิธ อิมสฺมึ อุเปกฺขาสหคตทฺวเย อิฏฺมชฺฌตฺตโคจรสฺส วเสน วิปากจิตฺตปฺปวตฺตึ ปมํ ทสฺเสตฺวา ทสฺเสตพฺพาถ ปจฺฉา ตุ, อิฏฺสฺมึ โคจเร อิธ อถ ปจฺฉา มยา วุตฺตจิตฺตปฺปวตฺติโต ปจฺฉากาเล ปน อิธ อิมสฺมึ อิฏฺโคจเร เอเกกสฺมึ ปน ทฺวาทส ทฺวาทส ปากา ปณฺฑิเตน ทสฺเสตพฺพา. คหิตาคฺคหเณเนตฺถ เอตฺถ เอเตสุ วิปาเกสุ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน โสฬส ปากจิตฺตานิ โหนฺติ. ปุพฺเพ กาเล มยา วุตฺตนเยเนว สพฺพํ วจนํ อเสสโต อเสสภาเวน ปณฺฑิเตน เยฺยํ.
๔๑๒-๔. ติเหตุเกน กมฺเมน, ปฏิสนฺธิ ติเหตุกา ภวติ, อิติ อยํ วาโร เอตฺตาวตา เอตฺตเกน วจเนน มยา ¶ วุตฺโต. เอกํ กมฺมํ เอกสฺมึ ภเว เอกํ ปฏิสนฺธึ ชเนติ, ตโต ปฏิสนฺธิโต อปรํ อฺํ ทุติยํ ปฏิสนฺธึ น ชเนติ, ปวตฺติยํ อเนกานิ วิปากานิ สฺชเนติ. หิ สจฺจํ ‘‘เอกํ กมฺม’’นฺติอาทิกํ วจนํ. เอกสฺมา พีชา เอกโต พีชโต เอกํ องฺกุรํ ชายติ, อสฺส พีชสฺส พหูนิ ผลานิ เหตุปฺปวตฺติโต สลิลาทิเหตุปฺปตฺติยา โหนฺติ.
๔๑๕-๒๑. ทุเหตุเกน กมฺเมน, ปฏิสนฺธิ ทุเหตุกา โหติ, อิติ วจนํ อยํ วาโร อนุปุพฺเพน อนุปฏิปาฏิยา อาคโต. อิธ อิมสฺมึ อธิกาเร ทุเหตุเกน ปฺุเน โสมนสฺสยุตฺเตน อสงฺขาริเกน จิตฺเตน กมฺเม อายูหิเต ปน ทุเหตุเกน โสมนสฺสยุตฺตกุสเลน ตุลฺเยน ปาเกน เยน สตฺเตน คหิตา ปฏิสนฺธิ เจ, อิฏฺเ อารมฺมเณ ตสฺส สตฺตสฺส จกฺขุทฺวาเร อาปาถํ อาคเต โสมนสฺสยุตฺเต าณหีเน กุสลมานเส ตสฺมึ ทุเหตุเก สตฺตกฺขตฺตุํ ชวิตฺวาน คเต ตํ เอว อารมฺมณํ กตฺวา ตทนนฺตรํ ตสฺส ชวนสฺส อนนฺตรํ ตํสริกฺขกํ เตน ชวเนน สทิสํ เอกนฺตํ อสงฺขาริกมานสํ ชายติ. ตนฺติ ตํ จิตฺตํ มูลภวงฺคนฺติ มูลภวงฺคํ นาม ตทารมฺมณมิจฺจปิ ตทารมฺมณํ นาม อุภยมฺปิ นามํ ตสฺเสว นามํ ตสฺส จิตฺตสฺส เอว นามํ. อิติ เอวํ อิมินา ปกาเรน ภควตา ปริทีปิตํ. ทุเหตุเก สสงฺขาเร กุสเล ชวเน ชวิเตปิ จ ตํสมํ เตน จิตฺเตน สทิสํ อาคนฺตุกสงฺขาตํ ตทารมฺมณมานสํ โหติ.
๔๒๒-๙. ตเถว จ ตถา เอว จ อิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร ทุเหตูนํ ทฺวินฺนํ อุเปกฺขายุตฺตานํ ชวนานํ ¶ อนนฺตรํ ตาทิสานิ เตหิ ชวเนหิ สทิสานิ ทฺเว ตทารมฺมณมานสานิ ชายนฺเต, เตสํ ตทารมฺมณมานสานํ ‘‘ปิฏฺิภวงฺค’’นฺติ นามํ, ‘‘อาคนฺตุกภวงฺค’’นฺติ จ นามํ โหติ. สนฺตีรณทฺวยฺเจว ทสฺสนํ ¶ สมฺปฏิจฺฉนํ อิมานิ ทฺเว ภวงฺคานิ จาติ อฏฺ วิปากา จกฺขุทฺวาเร โหนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปฺจสุ ทฺวาเรสุปิ จ อฏฺ อฏฺ วิปาเก กตฺวา ปวตฺติยํ จตฺตาลีส วิปากานิ ภวนฺติ. คหิตาคฺคหเณเนตฺถ, จกฺขุทฺวาเร ปนฏฺ จ เอตฺถ เอเตสุ วิปาเกสุ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน จกฺขุทฺวาเร อฏฺ จ วิปากา โสตฆานาทินา วิปาเกน สทฺธึ ทฺวาทส เอว วิปากานิ ภวนฺติ. เอกาย เจตนาเยวํ เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน เอกาย เจตนาย กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต ปน สติ ทฺวาทเสว วิปากานิ ภวนฺติ. อิติ วจนํ วิชิตกุสลยุทฺธสงฺคาเมน ปกาสิตํ เทสิตํ. ทุเหตุกตฺตเยนาปิ, เสเสน สทิเสน ตุ มยา วุตฺตโต ทุเหตุโต เสเสน ทุเหตุกตฺตเยนาปิ สทิเสน ปาเกน อาทินฺนสนฺธิโน คหิตปฏิสนฺธิกสฺส สตฺตสฺส เอวํ นโย มโต กถิโต นิรงฺคเณน. ทุเหตุเกน กมฺเมน ทุเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหติ. อิติ อยํ วาโร จ เอตฺตาวตา เอตฺตเกน วจเนน มยา วุตฺโต.
๔๓๐-๘. ทุเหตุเกน กมฺเมน อเหตุกา ปฏิสนฺธิ โหติ, อิติ อยํ วาโร อนุปุพฺเพน ปฏิปาฏิยา อาคโต. เตสุ จตูสุปิ ทุเหตุเกสุ กุสเลสุ จิตฺเตสุ อฺตเรเนว เหตุเกน กมฺเม อายูหิเต ปวตฺติเต สติ ตสฺเสว ทุเหตุกสฺส กุสลชวนสฺส ปากภูตาย อุเปกฺขาสหคตาเหตุกาย มโนวิฺาณธาตุยา อาทินฺนปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส สา ปฏิสนฺธิ กมฺมสทิสา นาม น วตฺตพฺพา ปณฺฑิเตหิ. หิ สจฺจํ ‘‘ปฏิสนฺธิ น วตฺตพฺพา’’ติอาทิกํ วจนํ. กมฺมํ ทุเหตุกํ โหติ, ปฏิสนฺธิ อเหตุกา โหติ. ตสฺส เทหิโน สตฺตสฺส วุฑฺฒิมุเปตสฺส วุฑฺฒึ อุปคตสฺส จกฺขุทฺวาเร ปน อิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร อาปาถมาคเต สติ ทุเหตุกานํ จตุนฺนํ ปฺุานํ ยสฺส กสฺสจิ ¶ ชวนสฺส อวสานมฺหิ อิทํ อเหตุกํ มโน ตทารมฺมณภาเวน ชายติ. เอตฺถ เอตสฺมึ วจเน สํสโย สนฺเทโห นตฺถิ, ตํ อเหตุกจิตฺตํ มูลภวงฺคฺจ ตทารมฺมณเมว จ โหติ. จกฺขุวิฺาณกาทีสุปิ วีถิจิตฺเตสุ ชาเตสุ อุเปกฺขาสหคตํเยว สนฺตีรณมฺปิ จ โหติ. เตสุ เอกํ เปตฺวาน, คหิตาคฺคหเณนิธ เตสุ ทฺวีสุ สนฺตีรณตทารมฺมณกิจฺเจสุ วิปาเกสุ เอกํ สนฺตีรณกิจฺจํ ตทารมฺมณกิจฺจํ ตํ จิตฺตํ เปตฺวา คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน อิธ อิฏฺมชฺฌตฺตารมฺมเณ คณนูปคจิตฺตานิ ตีณิเยว ภวนฺติ.
๔๓๙-๔๑. อิฏฺเ อารมฺมเณ จกฺขุ-ทฺวาเร อาปาถมาคเต ตทา สนฺตีรณฺเจว โสมนสฺสยุตฺตํเยว ¶ โหติ, ตทารมฺมณมานสฺจ โสมนสฺสยุตฺตํเยว โหติ, เตสุ สนฺตีรณตทารมฺมณกิจฺเจสุ วิปาเกสุ เอเกกํ สนฺตีรณกิจฺจํ, ตทารมฺมณกิจฺจํ วา จิตฺตํ คเหตฺวา ปุริมานิ จ ตีณิ จตฺตาริ เอว วิปากานิ ภวนฺติ. เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน ปฺจสุ ทฺวาเรสุปิ จตฺตาริ จตฺตาริ วิปากจิตฺตานีติ ปวตฺติยํ วิปากานิ วีสติ จิตฺตานิ โหนฺติ.
๔๔๒-๘. จกฺขุทฺวาเร ตุ จตฺตาริ, คหิตาคฺคหเณนิธ คหิตานํ วิปากานํ อคฺคหเณน จกฺขุทฺวาเร ปน จตฺตาริ วิปากานิ อิธ อิมสฺมึ อิฏฺารมฺมเณ โสตฆานาทินา วิปาเกน สทฺธึ อเหตุกํ อฏฺกํ โหติ เอว. อเหตุกปฏิสนฺธิสฺส สตฺตสฺส ทุเหตุกํ, ติเหตุกํ วา ตทารมฺมณํ น ภเว น ภเวยฺย, ทุเหตุปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส ติเหตุกํ ตทารมฺมณํ น ภเว. ชาตา สุคติยํ เยน, ปาเกน ปฏิสนฺธิ ตุ สุคติยํ เยน ปาเกน ปฏิสนฺธิ ชาตา, เตน วิปาเกน ตุลฺยมฺปิ, หีนํ วา เตสํ ตทารมฺมณํ ภเวยฺย. มนุสฺสโลกํ สนฺธาย, วุตฺตฺจาเหตุกฏฺกํ สุคติยํ อเหตุกฏฺกฺจ มนุสฺสโลกฺจ สนฺธาย ปฏิจฺจ การณํ ¶ กตฺวา มยา วุตฺตํ. จตูสุปิ อปาเยสุ ปน อเปโต อโย ปติฏฺา เอเตหีติ อปาโย, เตสุ. ปวตฺเต อเหตุกํ อฏฺกํ อาปายิเกหิ ลพฺภติ. เถโร เนรยิกานํ ตุ, ธมฺมํ เทเสติ วสฺสติ ถิโร ถิรการธมฺโม ยสฺมึ อตฺถีติ เถโร, ทุติยอคฺคสาวกภูโต อิทฺธิมา โมคฺคลฺลานตฺเถโร เนรยิกานํ นิรเย ชาตานํ สตฺตานํ ธมฺมํ เทเสติ วสฺสติ, ‘‘อุจฺฉงฺเค มํ นิสีทิตฺวา’’ติอาทีสุ วิย เทวํ วสฺสาเปตีติ อตฺโถ. คนฺธํ วายฺุจ มาเปติ ยทา, ตทา ปน เตสํ เนรยิกานํ สตฺตานํ เตหิ เนรยิกสตฺเตหิ เถรํ ทิสฺวา, ธมฺมฺจ สุตฺวา, คนฺธฺจ ฆายิตฺวา ชลํ อุทกฺจ ปิวตํ ปิวนฺตานํ มุทุํ วายฺุจ เตหิ ผุสตํ ผุสนฺตานํ เตสํ เนรยิกสตฺตานํ จกฺขุวิฺาณกาทีนิ ปฺจปิ ปฺุชานิ เอว กุสลวิปากานิ เอว สนฺตีรณทฺวยํ ปฺุชํ เอว กุสลวิปากํ เอว ปฺุชา เอว เอกา มโนธาตุ อิติ อฏฺกํ โหติ.
๔๔๙-๕๐. อยํ ตาว กถา ‘‘จกฺขุวิฺาณกาทีนิ ปฺุชาเนวา’’ติอาทิกา อยํ กถา อิฏฺอิฏฺมชฺฌตฺตโคจเร กามาวจเร ปฺุานํ ชวนานํ วเสน มยา วุตฺตา. ตทารมฺมณเจตโส ตทารมฺมณจิตฺตสฺส ยํ นิยมตฺตํ ‘‘ตทารมฺมณมานสํ ชวเนน นิยามิต’’นฺติอาทิวจเนน มยา วุตฺตํ, ตํ นิยมตฺตํ กุสลํ สนฺธาย วุตฺตํ. โสมนสฺสยุตฺเต กามาวจรกุสเล ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ โสมนสฺสยุตฺตเมว โหติ, อุเปกฺขายุตฺเต กามาวจรกุสเล ชวิเต ตทารมฺมณมฺปิ อุเปกฺขายุตฺตเมว ¶ โหติ, เนตํ อกุสเล อุเปกฺขายุตฺเต วิจิกิจฺฉาทิเก อกุสเล ชวเน ปน ชวิเต โสมนสฺสยุตฺตมฺปิ ตทารมฺมณํ โหตีติ อธิปฺปาโย. อิติปิ วจนํ อาจริเยน ทีปิตํ.
๔๕๑-๗. อิธ อิมสฺมึ อธิปฺปาเย อกุสลจิตฺเตสุ โสมนสฺสยุตฺเตสุ จตูสุปิ อิฏฺเ อารมฺมเณ เตสุ จิตฺเตสุ ¶ ชวิเตสุ โสมนสฺสยุตฺตา อเหตุมโนวิฺาณธาตุ ตทนนฺตรํ เตสํ อกุสลชวนานํ อนนฺตรํ ตทารมฺมณภาเวน ชายติ. อุเปกฺขายุตฺเตสุ ฉสุ อกุสลจิตฺเตสุ อิฏฺมชฺฌตฺเต โคจเร ชวิเตสุ ปฺุชา อุเปกฺขาสหคตา อเหตุมโนวิฺาณธาตุ เอว ตทนนฺตรํ วา เตสํ อุเปกฺขาสหคตานํ ฉนฺนํ อกุสลชวนานํ อนนฺตรํ ตทารมฺมณภาเวน ชายติ. อิฏฺารมฺมณโยคสฺมึ พุทฺธรูปาทิอิฏฺารมฺมณโยคสฺมึ กงฺขโต ‘‘พุทฺโธ นุ โข, โน พุทฺโธ’’ติ กงฺขนฺตสฺส สตฺตสฺส อุทฺธตสฺส วา สตฺตสฺส ตทารมฺมณมานสํ โสมนสฺสยุตฺตํ อเหตุกํ วิปากํ โหติ ปิฏฺิภวงฺคํ. โสมนสฺสยุเต จิตฺเต, ชวเน ชวิเต ปน โสมนสฺสยุตฺตา เอว ปฺจ ตทารมฺมณมานสา ปณฺฑิเตน คเวสิตพฺพา. อุเปกฺขาสหคเต จิตฺเต ชวเน ปน ชวิเต สติ อุเปกฺขาสหคตา ฉ จ ตทารมฺมณมานสา ปณฺฑิเตน คเวสิตพฺพา.
๔๕๘-๖๓. ติเหตุโสมนสฺเสน, อาทินฺนปฏิสนฺธิโน สตฺตสฺส ฌานโต ปริหีนสฺส วิปฺปฏิสาริโน ตํ ฌานํ ปจฺจเวกฺขโต ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส โทมนสฺสยุตฺตํ จิตฺตํ โหติ. ตสฺส โทมนสฺสสฺส อนนฺตรํ กึ มานสํ ชายเต, ตฺวํ โทมนสฺสยุตฺตชวนสฺส อนนฺตรมานสํ พฺรูหิ กเถหิ. ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธา หิ โทมนสฺสสฺสานนฺตรํ โสมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ปฏฺาเน ปฏิสิทฺธา ปฏฺานปฺปกรเณ ภควตา นิวาริตา, อสฺส โสมนสฺสสฺส วา อนนฺตรํ โทมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ปฏฺาเน ปฏฺานปฺปกรเณ ปฏิสิทฺธา ภควตา นิวาริตา. มหคฺคตํ ปนารพฺภ มหคฺคตํ ปฏิจฺจ ชวเน ชวิเตปิ จ ตทารมฺมณมานสํ ตตฺเถว ตสฺมึ ปฏฺาเน เอว ปฏิสิทฺธํ ภควตา นิวาริตํ. ตสฺมา การณา ภวงฺคปาโต วา ตทารมฺมณเมว วา น โหติ. กึ นุ กาตพฺพํ เตสํ ภวงฺคตทารมฺมณานํ อภาเว การณํ ยํ กาตพฺพํ, อมฺเหหิ ตํ ¶ การณํ กึ นุ ปุจฺฉาม, ตํ ตทตฺถํ อาภิธมฺมิกภาเวน อาภิธมฺมิก ตํ การณํ วท วทาหิ. อุเปกฺขาสหคตาเหตุมโนวิฺาณธาตุ ปฺุาปฺุวิปากา ตทารมฺมณิกา สิยา ภเวยฺย.
๔๖๔-๗. อิมสฺส ตทารมฺมณสฺส อาวชฺชนํ กึ นตฺถิ? ตํ ตทารมฺมณมานสํ กถํ เกน ปกาเรน ชายเต? ภวงฺคอาวชฺชนานํ จิตฺตานํ กึ อาวชฺชนมตฺตํ? มคฺคสฺส อนนฺตรสฺส จ ผลสฺสาปิ กึ อาวชฺชนํ นตฺถิ? นิโรธา จ นิโรธโต วุฏฺหนฺตสฺส ภิกฺขุโน ผลจิตฺตสฺส วาติ ¶ มยา สุตํ, เอวํ อิมินา มยา วุตฺตปฺปกาเรน อาวชฺชนํ นตฺถิ. วินา อาวชฺชเนนาปิ, โหตุ ชายตุ มานสํ จิตฺตํ อาวชฺชเนน วินา อาวชฺชนํ วชฺเชตฺวา โหตุ ชายตุ, กิมสฺสารมฺมณํ อสฺส ตทารมฺมณมานสสฺส กึ อารมฺมณํ, ปณฺฑิต, ตฺวํ อารมฺมณํ ยทิ ชานาสิ, ตํ อารมฺมณํ พฺรูหิ มยฺหํ กเถหิ. วินา อารมฺมเณเนตํ เอตํ มานสํ อารมฺมเณน วินา อารมฺมณํ วชฺเชตฺวา น ชายติ. หิ สจฺจํ ‘‘วินา อารมฺมเณเนต’’นฺติอาทิกํ วจนํ, ตทารมฺมณมานสํ ยทา โทมนสฺสยุตฺตํ ชวนํ มหคฺคตารมฺมณํ ชวติ, ตทา ตสฺมึเยว ชวนจิตฺตกฺขเณ ปริตฺเตสุ กามาวจรารมฺมเณสุ ยํ กิฺจิ ปริตฺตารมฺมณํ อารพฺภ ปฏิจฺจ ชายติ.
๔๖๘-๗๓. อุตุพีชนิยาโม จ อุตุนิยาโม พีชนิยาโม จ กมฺมธมฺมนิยามตา จ กมฺมนิยามตา จ สีลาทิปารมีธมฺมนิยามตา จ จิตฺตสฺส นิยาโม จาติ ปฺจ นิยามตา ปณฺฑิเตน เยฺยา. ตตฺถ เตสุ ปฺจสุ นิยาเมสุ สพฺเพสํ ปน รุกฺขานํ เอกปฺปหาเรน ผลปุปฺผาทิธารณํ อุตุ, อยํ อุตุนิยามตา. เตสํ เตสํ ตุ พีชานํ, ตํตํตุลฺยผลุพฺภโว เตสํ เตสํ พีชานํ ปน เตหิ เตหิ พีเชหิ ตุลฺยานมฺปิ สสฺสานํ ผลานํ อุปฺปตฺติ, อยํ พีชนิยามตา ¶ . มตฺถเก นาฬิเกรสฺส นาฬิเกรผลสฺส มตฺถเก ฉิทฺทตฺตํ ฉิทฺทภาโว, อยํ พีชโช พีชโต ชาโต นิยาโม. ติเหตุกกมฺมํ ติเหตุกฺจ วิปากํ ทุเหตุกฺจ วิปากํ อเหตุกฺจ วิปากํ ยโต ยํ กมฺมํ เทติ, อยํ กมฺมนิยามตา. โพธิสตฺตสฺส ชาติยํ ชินงฺกุรสฺส ชาติกฺขเณ เมทนีกมฺปนาทิกํ อเนกวิเสสตฺตํ, อยํ สีลาทิปารมีธมฺมนิยามตา. เตน โคจเรน ปสาทสฺมึ ฆฏฺฏิเต สติ อิธ อิมสฺมึ จิตฺตวีถิยํ อาวชฺชนาทีนํ จิตฺตานํ อุปฺปตฺติ, อยํ จิตฺตนิยามตา.
๔๗๔. โย ปุคฺคโล ธีโร ธีรสมฺปนฺโน คุณสมฺปนฺโน วิกฺขิตฺตปาโป โมหนฺธการาปคมํ อนฺธการมนิสฺสาย อวิชฺชานิสฺสรณํ ยทิจฺเฉ สเจ อิจฺเฉยฺย, โส ธีโร อิมํ อภิธมฺมาวตารปฺปกรณํ อนฺธชฺชนานํ อนฺธสทิสพาลชนานํ หทยนฺธการํ วิทฺธํสนํ อนฺธการสนฺนิสฺสิตสฺส ยสฺส หทยสฺส วิทฺธํสนกรํ ชลนฺตํ ทีปํ ชลมานํ ทีปํ. ปยตฺโตติ ปกาเรน ยตติ วีริยํ กโรตีติ ปยตฺโต, สตตํ สพฺพทา สิกฺเขถ สชฺฌายนธารณจินฺตนวเสน สิกฺเขยฺย.
อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย
วิปากจิตฺตปฺปวตฺตินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
สตฺตโม ปริจฺเฉโท.