📜
๑๐. ทสโม ปริจฺเฉโท
รูปวิภาควณฺณนา
๖๒๒. วุตฺตมาทิมฺหิ ยํ รูปํ, จิตฺตชานมนนฺตรํ ยํ รูปํ จิตฺตเจตสิกานํ อนนฺตรํ อาทิมฺหิ ปกรณาทิมฺหิ ‘‘จิตฺตํ เจตสิกํ ¶ รูป’’นฺติอาทินา วจเนน อาจริเยน วุตฺตํ, อิโต ปรํ อิทานิ ตสฺส รูปสฺส วิภาวนํ สมาเสน สงฺเขเปน กริสฺสํ.
๖๒๓. ยํ รุปฺปตีติ รูปนฺติ ยํ ธมฺมชาตํ รุปฺปติ สีตาทินา วิรุทฺธปจฺจเยน วิการมาปชฺชติ. ตถา รูปยตีติ รูปํ ยํ ธมฺมชาตํ วณฺณวิการมาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ อชฺฌาสยํ ปกาเสติ, อิติ ตสฺมา รูปํ, กึ ตํ? วณฺณายตนํ. รูปารูปภวาตีโต, สุรูโป รูปมพฺรฺวิ ภควา รูปารูปภวอตีโต สุรูโป รูปํ อพฺรฺวิ กเถสิ.
๖๒๕-๖. มหาภูเตนาติ มหนฺโต ภูโต อุปฺปตฺติ เอตสฺสาติ มหาภูโต, เตน. วฺจกตฺตา มหาภูตสมาติ วา.
๖๓๐. นิรุปาทานมานโสติ อุปาทานวิรหิตจิตฺโต.
๖๓๓. ตสฺส ¶ สมฺปตฺตีติ ตสฺส กิจฺจสฺส สมฺปตฺติ.
๖๓๔. อุปพฺรูหนรสาติ วฑฺฒนกิจฺจา.
๖๓๗. อาสยานุสเย าณนฺติ เอตฺถ อาสโย นาม
สสฺสตุจฺเฉททิฏฺี จ, ขนฺตี สจฺจานุโลมิกํ;
ยถาภูตฺจ ยํ าณํ, เอตํ อาสยสทฺทิตํ.
อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, อนฺโต โข, กจฺจาน, อตฺถิ อิติ อยํ เอโก อนฺโต โกฏฺาโส, อยํ สสฺสตทิฏฺิ. นตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยํ ทุติโย อนฺโต, อยํ อุจฺเฉททิฏฺิ. ขนฺตี สจฺจานุโลมิกนฺติ จตุนฺนํ สจฺจานํ อนุโลมิกาณํ, สงฺขารุเปกฺขาาณนฺติ อตฺโถ. ยถาภูตฺจ ยํ าณนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ าณํ. เอตํอาสยสทฺทิตนฺติ ¶ เอตํ อาสยํ อิติ กถิตํ. เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน อาสเย าณํ นาม. อนุสโย นาม ทิฏฺานุสยาทโย อนุสยา สตฺต. อินฺทฺริยานํ ปโรปเรติ ปเร อธิกภาเวน โอปเร จ ติกฺขานุภาเวน อยํ สตฺโต ติกฺขสทฺธินฺทฺริโย มุทุสทฺธินฺทฺริโย หีนสทฺธินฺทฺริโยติ อตฺโถ. สมาธินฺทฺริยาทีสุปิ เอเสว นโย. อิติ สตฺตานํ อินฺทฺริยานํ ปรโอปเร าณํ.
๖๓๘. สพฺพฺุตา าณนฺติ ติเหตุกกามาวจรกฺริยาจตุกฺกํ คเหตพฺพํ.
๖๔๑. อกฺขิกูเฏหิ มตฺถลุงฺเคน ปริจฺฉินฺโน อนฺตโต.
๖๔๕. ภาวสมฺภวสณฺานาติ อิตฺถิปุมสมฺภวภูตวณฺณายตนํ.
๖๔๗. เอเต ทส จตุสมุฏฺานา สมฺภารา จตูหิ ปจฺจเยหิ จตฺตาลีส ภวนฺติ.
๖๕๘. อุพฺพิอธิกานํ ¶ ปถวีอธิกานํ.
๖๖๐-๒. วิเสเส สตีติ นิสฺสยภูตานํ จตุนฺนํ วิเสเส สติ, สพฺพโส สพฺเพสํ วิเสสปริกปฺปนํ ปหาย เอว กมฺมวิเสเสน ปสาทานํ วิเสสตา เยฺยา.
๖๖๓. สทฺทียตีติ อุจฺจารียเต. รสนฺตีติ อสฺสาเทนฺติ.
๖๖๘. ปรโตติ ปมกปฺปโต อปรภาเค ปฏิสนฺธิยํ ภาวทฺวยํ สมุฏฺาตีติ วิฺเยฺยํ. ‘‘ปวตฺเตปิ สมุฏฺายา’’ติอาทิกํ โสณกุมาราทโย สนฺธาย วุตฺตํ.
๖๗๒. น ตํ พฺยฺชนการณนฺติ ตํ อินฺทฺริยทฺวยํ พฺยฺชนสฺส การณํ น สิยา. ตสฺสาติ พฺยฺชนสฺส.
๖๗๔. อุพฺพาหนนฺติ ¶ นีหรณํ.
๖๗๖-๗. อนฺนปานาทิกํ วตฺถุ ยํ กมฺมชํ อคฺคึ หรติ, เกวลํ เอกํ หุตฺวา ตํ อนฺนปานาทิกํ วตฺถุ ชีวิตํ ปน ปาเลตุํ น จ สกฺโกติ. เอกโต ชีวิตํ ปาเลตฺุจ สกฺโกนฺติ.
กาเยน รูปกาเยน อตฺตโน ภาวํ วิฺาเปนฺตานํ ภาโว กายคฺคหณานุสาเรน กายคฺคหณสฺส อนุจินฺตเนน คหิตาย วาโยธาตุวิการสงฺขาตาย เอตาย ธมฺมชาติยา ปณฺฑิเตหิ วิฺายเต. อิติปิ ตสฺมา กายวิฺตฺติ.
๖๘๑. เอกาวชฺชนวีถิยํ เหฏฺา ฉหิ จิตฺเตหิ วาโยธาตุสมุฏฺิตํ อุปตฺถมฺภํ ลภิตฺวา.
๖๘๔. สห สทฺเทน วาติ สทฺเทน สเหว.
๖๙๐-๑. เอตาสํ ปน ลหุตาทีนํ ติสฺสนฺนํ ปวตฺติยํ นิทสฺสนํ กมโต อาโรคฺยํ ลหุตา ¶ , มทฺทิตํ ธมฺมํ มุทุตา, ธนฺตเหมํ กมฺมฺตา โหติ. ลหุตาทิตฺตยํ ปน กมฺมํ กาตุํ น สกฺโกติ, อาหาราทิตฺตยํเยว ลหุตาทิตฺตยํ กโรติ ยสฺมา, ตโต ตํ ติชํ นาม.
๖๙๓. วุตฺตมาการนานตฺตาติ เอตฺถ อาการนานตฺตา นาม อาจยาการอนุพนฺธตาการวเสน วุตฺตํ. เวเนยฺยานํ วเสน วาติ เอเก เวเนยฺยา อาจยวเสน ชาติรูปํ ชานนฺติ, เอเก อนุพนฺธตาวเสน ชานนฺติ. อิติ เวเนยฺยานํ ชานนวเสน ชาติรูปํ ทฺวิธา วุตฺตํ.
๖๙๔. สภาวานปคเม อตฺตโน สภาวสฺส อนปคเม สติ.
เต ¶ มิทฺธรูปวาทาจริยา ปฏิกฺขิปิตพฺพา. กถํ? อทฺธา มุนิสิ สมฺพุทฺโธ, นตฺถิ นีวรณา ตวาติ โย ตฺวํ อทฺธา เอกนฺเตน มุนิ อสิ สมฺพุทฺโธ อสิ นีวรณา ธมฺมา ตว ตุยฺหํ นตฺถิ, อิติ วจเน สเจ มิทฺธํ นีวรณํ รูเป ปวิฏฺํ สิยา. ภควตา รูปกายสฺส วิชฺชมานตฺตา ‘‘นตฺถิ นีวรณา ตวา’’ติ วจนํ วตฺตพฺพํ สิยา. ถินมิทฺธนีวรณํ อวิชฺชานีวรเณน สห นีวรณฺเจว โหติ, นีวรณสมฺปยุตฺตฺจ โหติ. อิติ สมฺปยุตฺตวจนโต สมฺปยุตฺตสฺส รูปสฺส อภาวโต ตมฺปิ น วตฺตพฺพํ สิยา. น ปุเรชาตปจฺจยาติ อฺมฺปจฺจยาติ อตฺโถ. สเจ ถินมิทฺธํ รูปํ สิยา, กถํ อรูเปปิ อฺมฺํ สิยา, น สิยาติ อตฺโถ. อรูเปปิ กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุปฺปชฺชติ. อิติ วจเนน จ น มิทฺธรูปํ สิยา, อรูเป กถํ สิยาติ อตฺโถ. อรูปเมว มิทฺธํ อิติ ปฏิกฺขิปิตพฺพา. อรูเปปิ เอตสฺส มิทฺธสฺส อุปฺปตฺติยา สาธกวจนโต นิฏฺํ เอตฺถ จ อวคนฺตพฺพํ ‘‘อรูป’’นฺติ วิฺุนา.
๗๐๕-๖. กมฺเมน วีสติ รูปาติ อฏฺินฺทฺริยวตฺถุอฏฺาวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา กมฺมชา. เจตสา วิฺตฺติทฺวยสทฺทลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา จิตฺตชา. อุตุนา สทฺทลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา อุตุชา. อาหารโต ลหุตาทิตฺตยอวินิพฺโภคสนฺตตูปจยากาสา อาหารชา.
๗๐๗-๑๗. ชาเยยฺยุํ ยทิ ตานิปีติ ตานิ ชรตาอนิจฺจตารูปา ยทิ ชาเยยฺยุํ, เอวํ สนฺเต ตุ เตสํ ชรตาอนิจฺจตา เภทา สิยุํ. หิ สจฺจํ วจนํ ปาโก น ปจฺจติ, เภโท วา น ¶ จ ภิชฺชติ ยสฺมา, ตสฺมา เตสํ ปากเภทา สิยุนฺติ, ตํ วจนํ นตฺถิ. เอตํ ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ชาตสฺส นิปฺผนฺนรูปสฺส ปากเภทตฺตา น ชายติ. สิยา กสฺสจิ พุทฺเธตฺถาติ เอตฺถ ชรตาอนิจฺจตาวินิจฺฉยาธิกาเร กสฺสจิ ชนสฺส พุทฺธิ าณํ ยทิ สิยา, ‘‘รูปสฺสูปจโย’’ติ วจเนน ‘‘ชาติ ¶ ชายตี’’ติ วจนํ ทีปิตํ ยถา, เอวํ ตถา ปาโกปิ ปจฺจตุ, เภโทปิ ปริภิชฺชตุ, เอวํ พุทฺธิ สิยา. ชาติ น เจว ชายเต. อิติ อิมินา ปกาเรน วิภาวินา เยฺยา. ชาติ ชายมานสฺส นิปฺผนฺนรูปสฺส นิพฺพตฺติ นาม ปกาสิตา. ตตฺถ ยสฺส สิยา ตตฺถ วจเน ยสฺส ชนสฺส พุทฺธิ สิยา. เยสํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ ชาติ อตฺถิ, สา ชาติ อภินิพฺพตฺติสมฺมุตึ ตปฺปจฺจยตฺตโวหารํ เตสํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ ปจฺจยฏฺเน ลทฺธโวหารํ กมฺมชาทิกํ โวหารํ ลภเตว ยถา, ตถา เตสํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ เต ปากเภทา อภินิพฺพตฺติสมฺมุตึ นาม ตปฺปจฺจยตฺตโวหารํ ลภนฺติ, อิติ พุทฺธิ สิยา. ตสฺส ชนสฺส เอวํ วตฺตพฺพํ – อิทํ สนฺตตูปจยทฺวยํ กมฺมาทิสมฺภวํ โหติ ยถา, เอวํ ปากเภทา ตํ กมฺมาทิสมฺภวโวหารํ กทาจิปิ น ลภนฺติ. หิ สจฺจํ วจนํ กสฺมา การณา ชนกานํ กมฺมาทิปจฺจยานํ อานุภาวสงฺขาเต ขณุปฺปาเท เตสํ ปากเภทานํ อภาวโต น ลภนฺติ. วุตฺตปฺปกาเรน ขณุปฺปาเท ชาติปรมฺปราภาวโต สา ชาติ ลพฺภเต, ตสฺมา การณา ชาติ เอว อภินิพฺพตฺติสมฺมุตึ ปจฺจยตฺตโวหารํ ลภติ, อิตรํ ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ปน น ลภติ. ตํ ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ชิยฺยติ อิติ ภิชฺชติ อิติ วา น วตฺตพฺพํ โหติ. กสฺมา? กมฺมาทิปจฺจยานํ อานุภาวกฺขเณ ตสฺส ชรตาอนิจฺจตาทฺวยสฺส ปจฺจยานํ อภาวโต.
๗๑๘-๒๓. อนิจฺจํ สงฺขตฺเจตํ ชรามรณํ อนิจฺจสงฺขาตํ อิติปิ วจนสฺส ภควตา วุตฺตตฺตา ชรตาอนิจฺจตาทฺวยํ ชายติ, เอวํ อิติ ตฺวํ เจ มฺสิ, เอวํ ‘‘ชายติ เอวา’’ติ วจนํ ภควตา น วตฺตพฺพํ. หิ กสฺมา การณา? ‘‘อนิจฺจํ สงฺขตฺเจตํ, ชรามรณมิจฺจปี’’ติวุตฺตภาวาทินา อาการเทสนาปริยาเยน เลเสน ภควตา อนิจฺจานํ นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ ชรามรณสงฺขาตํ สภาวโต ชรามรณํ อนิจฺจํ สงฺขตฺจาปิ ¶ จิตฺตชานํ วิการตฺตา วิฺตฺติโย ‘‘จิตฺตชา’’ติ วุตฺตา วิย, ตถา เอวํ ภควตา วุตฺตํ. ยทิ เอวํ อตฺเถ สติ เอตํ รุปฺปนลกฺขณตฺตยํ อชาตตฺตา จ สพฺพถา สพฺพากาเรน ขํปุปฺผํว นตฺถิ, อสงฺขตํ นิพฺพานํ วิย นิจฺจํวาติ จ โจทโก วเทยฺย, นตฺถิ นิจฺจนฺติ อิทํ อุภยวจนํ โน ภควตา วตฺตพฺพํ. กสฺมา? นิสฺสยธมฺมานํ อายตฺตภาเวน ปวตฺติโต ปถวิยาทีนํ นิสฺสยานํ ภาเว สติ ตสฺส ลกฺขณตฺตยสฺส ภาวโต, ตสฺมา ขํปุปฺผํว ตํ ลกฺขณตฺตยํ น นตฺถิ, อตฺถีติ อตฺโถ. ปถวีอาทีนํ ¶ อภาเว ตํ ลกฺขณตฺตยํ น จ ลพฺภติ ยสฺมา, ตสฺมา นิพฺพานํ วิย, ตถา นิจฺจํ น.
๗๒๔-๕. ปริจฺเฉทาทโย อนิปฺผนฺนา. เตสเมว จ รูปานํ เตสเมว นิปฺผนฺนรูปธมฺมานํ วิการตฺตา นิปฺผนฺนา เจว สงฺขตา เสสวเสน วุตฺตานํ ปเภทกโตติ ทสฺสนโต. เสสํ อุตฺตานตฺถเมว.
คนฺตุํ ปนิจฺเฉ ปิฏเกภิธมฺเม,
โย ธมฺมเสนาปตินา สมตฺตํ;
หิตตฺถินา เตน จ ภิกฺขุนายํ,
สกฺกจฺจ สมฺมา ปน สิกฺขิตพฺโพ.
โย ภิกฺขุ อภิธมฺเม ปิฏเก ธมฺมเสนาปตินา สมตฺตํ สภาวํ คนฺตุํ ปาปุณิตุํ อิจฺเฉยฺย, เตน จ ภิกฺขุนา หิตตฺถินา สกฺกจฺจํ อาทเรน สมฺมา ตีรณจินฺตนสชฺฌายเนหิ อยํ อภิธมฺมาวตาโร สิกฺขิตพฺโพ.
อิติ อภิธมฺมาวตารฏีกาย
รูปวิภาควณฺณนา นิฏฺิตา.
ทสโม ปริจฺเฉโท.