📜
๔. ปุคฺคลปฺตฺติมาติกา
เอกกมาติกตฺถวณฺณนา
อิทานิ ¶ ¶ ปุคฺคลปฺตฺติมาติกาสํวณฺณนานโย โหติ. ตตฺถ อนุตฺตานตฺถโต ตาว ฉ ปฺตฺติโยติ เอตฺถ ‘‘อาจิกฺขติ เทเสติ ปฺเปติ ปฏฺเปตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๐) อาคตฏฺาเน สนฺทสฺสนา ปกาสนา ปฺตฺติ นาม. ‘‘สุปฺตฺตํ มฺจปี’’นฺติ (ปารา. ๒๖๙) อาคตฏฺาเน ปนา นิกฺขิปนา ปฺตฺติ นาม, อิธ อุภยมฺปิ วฏฺฏติ. ฉ ปฺตฺติโยติ หิ ฉ ปฺาปนา ฉ สนฺทสฺสนา ปกาสนาติปิ, ฉ ปนา นิกฺขิปนาติปิ วุตฺตํ โหติ. นามปฺตฺติเยว หิ เต เต วิชฺชมานาวิชฺชมาเน ธมฺเม สนฺทสฺเสตีติปิ. เตน เตน โกฏฺาเสน เปตีติปิ. ขนฺธปฺตฺตีติอาทิ ปน สงฺเขปโต ตาสํ ปฺตฺตีนํ สรูปทสฺสนํ. ตตฺถ ขนฺธานํ ‘‘ขนฺธา’’ติ ปฺาปนา สนฺทสฺสนา ปกาสนา จ ปนา นิกฺขิปนา จ ขนฺธปฺตฺติ นาม…เป… ปุคฺคลานํ ‘‘ปุคฺคลา’’ติ ปฺาปนา สนฺทสฺสนา ปกาสนา จ ปนา นิกฺขิปนา จ ปุคฺคลปฺตฺติ นาม. อิมา เอว ฉ ปฺตฺติโย วิชฺชนฺติ. อฺาสมฺปิ สมฺมุติปรมตฺถกถานํ ปฺตฺตีนํ อนนฺตตฺตา, อุปลกฺขณวเสน ปน ปธานภาวโต จ เอตาว วุตฺตา. ปาฬิมุตฺตกนเยน ปน สพฺพสงฺคาหิกา วิชฺชมานปฺตฺติอาทโย ฉ นามปฺตฺติโย อฏฺกถาสุ (ปุ. ป. อฏฺ. มาติกาวณฺณนา ๑) อาคตา, ตา จ เหฏฺา วุตฺตาติ อิธ น วุตฺตา. ตาสุ อิธ ปุคฺคลปฺตฺติปเทน อวิชฺชมานปฺตฺติ, เสเสหิ วิชฺชมานปฺตฺติ จาติ ทฺเว เอว ลพฺภนฺติ.
อฏฺกถามุตฺตเกน ปน อาจริยนเยน อปราปิ ฉ ปฺตฺติโย – อุปาทาปฺตฺติ อุปนิธาปฺตฺติ สโมธานปฺตฺติ อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติ ตชฺชาปฺตฺติ สนฺตติปฺตฺตีติ, ยา ‘‘อตฺถปฺตฺตี’’ติ ¶ วุจฺจติ. ตตฺถ ยา ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย นิสฺสาย สมฺมตา ¶ สตฺตาทิกา, องฺคานิ อุปาทาย รถาทิกา, จนฺทาทิปริวตฺตาทโย อุปาทาย กาลทิสาทิกา, ตํตํภูตนิมิตฺตํ, ภาวนาวิเสสฺจ อุปาทาย กสิณาทิอุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตาทิกาติ อยํ เอวรูปา สภาวธมฺเมหิ เอกตฺเตน วา สจฺฉิกฏฺปรมตฺเถน อนุปลพฺภสภาวา อุปาทาปฺตฺติ นาม. ปฺาเปตพฺพฏฺเน เจสา ปฺตฺติ วุตฺตา, น ปน ปฺาปนฏฺเน. ยา ตสฺส ตสฺสตฺถสฺส ปฺาปนา, สา อวิชฺชมานปฺตฺติเยว.
ยา ปน อฺํ ปมาทึ อุปนิธาย อเปกฺขิตฺวา ทุติยํ รสฺสํ ทีฆํ ทูรํ สนฺติกนฺติอาทิกา ตทฺาเปกฺขูปนิธา, ฉตฺตปาณีติอาทิกา หตฺถคตูปนิธา, กุณฺฑลีติอาทิกา สมฺปยุตฺตูปนิธา, ธฺสกฏนฺติ อาทิกา สมาโรปิตูปนิธา, อินฺทสาลคุหาติอาทิกา อวิทูรคตูปนิธา, สุวณฺณวณฺโณติอาทิกา ปฏิภาคูปนิธา, พฺราหฺมณคาโมติอาทิกา ตพฺพหุลูปนิธา, มณิกฏกนฺติอาทิกา ตพฺพิสิฏฺูปนิธาติ เอวมาทิ อเนกปฺปการา ปฺาปนา, อยํ อุปนิธาปฺตฺติ นาม.
ธฺราสีติอาทิกา ปน สโมธานปฺตฺติ นาม. ปุริมสฺส ปุริมสฺส อุปนิกฺขิปิตฺวา ทฺเว ตีณีติอาทิกา อุปนิกฺขิตฺตปฺตฺติ นาม. ตํตํสภาวนิสฺสิตา ปถวีอาทิกา ตชฺชาปฺตฺติ นาม. อาสีติโกติอาทิกา ปน สนฺตติปฺตฺติ นาม.
อฏฺกถามุตฺตเกเนว อาจริยนเยน อปราปิ ธมฺมกถิกาทิกา กิจฺจปฺตฺติ, กิสถูลาทิกา สณฺานปฺตฺติ, อิตฺถิปุริสาทิกา ลิงฺคปฺตฺติ, กามาวจราทิกา, โกสลกาทิกา จ ภูมิปฺตฺติ, ติสฺโส นาโคติอาทิกา ปจฺจตฺตปฺตฺติ, นิโรธาทิกา อสงฺขตปฺตฺติ จาติ ฉ ปฺตฺติโย.
เอตาสุ ¶ ปน ทฺวาทสสุ ตชฺชาปฺตฺติ, เอกจฺจา ภูมิปฺตฺติ, อสงฺขตปฺตฺติ จ วิชฺชมานปฺตฺติสงฺขาตา นามปฺตฺติ, ตทฺา ปรมตฺถาวเสสา, ปน อตฺถปฺตฺตีติ ทีปิตา อวิชฺชมานาทิปฺตฺติโย จาติ. อยํ ตาเวตฺถ อนุตฺตานตฺถโต สํวณฺณนา.
อตฺถนิจฺฉโย ปเนตฺถาปิ ปาฬินเยเนว สทฺธึ โหติ, น วินา ปาฬึ ตสฺส วตฺตุมสกฺกุเณยฺยตฺตา ¶ . ปาฬิยฺจ ยสฺมา อาทิโต ปฺจ ปฺตฺติโย, ตทตฺถภูตา ขนฺธาทโย จ เหฏฺา วิภงฺคปฺปกรเณ นิปฺปเทสโต กถิตาติ ตา อิธ ‘‘กิตฺตาวตา ขนฺธานํ ขนฺธปฺตฺติ, ยาวตา ปฺจกฺขนฺธา รูปกฺขนฺโธ’’ติอาทินา สงฺเขเปเนว นิทฺทิฏฺา, ตา เจตฺถาปิ วุตฺตตฺถา. ปุคฺคลปฺตฺติ ปน เหฏฺา น วุตฺตาติ ‘‘กิตฺตาวตา ปุคฺคลานํ ปุคฺคลปฺตฺติ? สมยวิมุตฺโต, อสมยวิมุตฺโต’’ติอาทินา เอกกาทิเภเทน ยาว ทสกา ทสธา มาติกํ เปตฺวา วิตฺถาเรเนว วิภตฺตา, สา จ าตพฺพปเภทโต อวุจฺจมานา ทุพฺพิฺเยฺยา, ตสฺมา ปุคฺคลปฺตฺติยา เอว เจตฺถ ปาฬินยานุสาเรน สงฺเขปโต อตฺถนิจฺฉโย โหติ, โส เจตฺถ มาติกายํ วุตฺเต สพฺพปุคฺคเล อนุทฺธริตฺวา าตพฺพานํ ทุพฺพิฺเยฺยานํ ปุคฺคลานํ เอกกาทิเภทโตว มาติกํ อุทฺธริตฺวา วิภชนวเสน สงฺเขปโตว โหติ. กถํ? ‘‘สมยวิมุตฺโต อสมยวิมุตฺโต, กุปฺปธมฺโม อกุปฺปธมฺโม, เจตนาภพฺโพ อนุรกฺขณาภพฺโพ, ภยูปรโต อภยูปรโต, ภพฺพาคมโน อภพฺพาคมโน, นิยโต อนิยโต, ปฏิปนฺนโก ผเล ิโต, สมสีสี ิตกปฺปี, โสตาปนฺโน สตฺตกฺขตฺตุปรโม โกลํโกโล เอกพีชี, สกทาคามี, อนาคามี อนฺตราปรินิพฺพายี อุปหจฺจปรินิพฺพายี อสงฺขารปรินิพฺพายี สสงฺขารปรินิพฺพายี อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี, อรหา’’ติ เอกกมาติกา.
ตตฺถ ¶ โย อปฺปนํ นิพฺพตฺเตตุํ ยุตฺตปตฺตกาเล รูปารูปสมาปตฺติสงฺขาเตหิ อฏฺหิ วิโมกฺเขหิ ปจฺจนีกธมฺมโต วิมุจฺจิตฺวา ตีสุ มคฺเคสุ เยน เกนจิ ยถาสกํ อาสเว เขเปตฺวา วุฏฺิโต, อยํ สมยวิมุตฺโต นาม. ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา’’ติอาทิวจนโต (ปุ. ป. ๑) หิ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน วา ขีณาสโว วา อิธ น คหิโต, สมาปตฺติลาภิโน ปน ผลฏฺเสขาว คหิตาติ เวทิตพฺพา. สุกฺขวิปสฺสกขีณาสโว, สพฺเพปิ จ อริยา มคฺควิโมกฺขํ สนฺธาย อสมยวิมุตฺตา นาม. พาหิรานฺหิ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ สมาปชฺชนฺตสฺส ปวิเวกฏฺานลาภาทิสมโยปิ อตฺถิ, วตฺตกรณกาลาทิอสมโยปิ อตฺถิ. มคฺควิโมกฺเขน วิมุจฺจนสฺส ปน ตาทิโส สมโย วา อสมโย วา นตฺถิ, ยสฺส สทฺธา พลวตี, วิปสฺสนา จ อารทฺธา, ตสฺส คจฺฉนฺตสฺส วา ภฺุชนฺตสฺส วา มคฺคผลปฏิเวโธ นาม น โหตีติ นตฺถิ, ตสฺมา สพฺเพ อริยา อริยวิโมกฺเข อสมยวิมุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ปุริมปเทปิ โลกิยสมาปตฺติฺเว สนฺธาย เสขา สมยวิมุตฺตา นาม ชาตา.
อวสิภาวา อฏฺสมาปตฺติลาภี ปน ปุถุชฺชโน, โสตาปนฺนสกทาคามิโน ทฺเว เสขา อฏฺสมาปตฺตึ ¶ สนฺธาย กุปฺปธมฺโม นาม. ปริหานธมฺโมติปิ ทุวิธา เอว. อนาคามิอาทโย สุปฺปหีนสมาธิปาริปนฺถิกตฺตา วสิภาวา สมาปตฺติลาภี ปุถุชฺชโน, อริยา จ โลกุตฺตรธมฺเมปิ สนฺธาย อกุปฺปธมฺโม นาม. อปริหานธมฺโมติ เต เอว. เจตนาภพฺโพติ เจตนาสงฺขาเตน ฌานสมาปตฺติวฬฺชเนน อปริหานึ อาปชฺชิตุํ ภพฺโพ. โย หิ รูปารูปชฺฌาเนสุ อาจิณฺณวสิตาย เจตนาสงฺขาตาย ฌานสมาปตฺติยา นิรนฺตรํ วฬฺชมาโน เตหิ น ปริหายติ, อวฬฺชมาโน จ ปริหายติ, อยํ วฬฺชมาโน เจตนาภพฺโพ ¶ นาม. อนุรกฺขณาภพฺโพติ ฌานสฺส อุปการานุปการธมฺเม ชานิตฺวา อนุรกฺขณาย อวฬฺชมาโนปิ อปริหานึ อาปชฺชิตุํ ภพฺโพ, เอโส จ ปุริมโต พลวตโร, อาจิณฺณวสิโน ปฺาสมฺปทาย อุปการานุปการธมฺเม ชานิตฺวา ตทนุรูปํ ปฏิปชฺชนโตติ เวทิตพฺโพ.
ภยูปรโตติ ภเยน ปาปโต อุปรโต วิรโต เสโข, กลฺยาณปุถุชฺชโน จ. เตสุ ปจฺฉิโม ทุคฺคติวฏฺฏกิเลสอุปวาทสงฺขาเตหิ จตูหิ ภเยหิ ปาปโต โอรมติ, เสโข ทุคฺคติวชฺเชหิ, อปาเยหิ มุตฺตตฺตา. ขีณาสโว ปน อภยูปรโต นาม สมุจฺฉินฺนภยตฺตา, อุปวาทโต ปน โอรมิตพฺโพ.
อภพฺพาคมโนติ สมฺมตฺตนิยามาคมนสฺส อภพฺโพ, เย อานนฺตริยสงฺขาเตน กมฺมาวรเณน, นิยตมิจฺฉาทิฏฺิสงฺขาเตน กิเลสาวรเณน, อเหตุกทุเหตุกปฏิสนฺธิสงฺขาเตน วิปากาวรเณน จ สมนฺนาคตา, พุทฺธาทีสุ จ สทฺธารหิตา, มคฺคภาวนาย จ อุตฺตรกุรุกาทโย วิย อจฺฉนฺทิกา, ปุพฺพูปนิสฺสยรหิตา จ, สพฺเพเต อภพฺพาคมนา นาม. วิปรีตา ภพฺพาคมนา นาม. ปฺจานนฺตริยนิยตมิจฺฉาทิฏฺิกา นิรยคมเน, อฏฺ อริยปุคฺคลา อนุปาทาปรินิพฺพานาทีสุ นิยตา นาม. อวเสสปุคฺคลา อนิพทฺธคติกตาย อนิยตา นาม, อุตฺตรกุรุกา ปน สุคตินิยตาปิ มิจฺฉตฺตสมฺมตฺตนิยามสฺเสว อิธาธิปฺเปตตฺตา ‘‘นิยตา’’ติ น วุตฺตา. มคฺคสมงฺคี ปุคฺคโล มคฺคกฺขเณ ผลตฺถาย ปฏิปนฺนโก นาม, ผลสมงฺคี ผลานุปฺปตฺติยมฺปิ ผเล ิโต นาม.
ยสฺส ปน อปุพฺพาจริมํ อาสวปริยาทานฺจ โหติ ชีวิตปริยาทานฺจ, อยํ สมสีสี นาม. โส จ ติวิโธ โหติ อิริยาปถสมสีสี โรคสมสีสี ชีวิตสมสีสีติ. ตตฺถ โย จตูสุ อิริยาปเถสุ เอกสฺมึ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ¶ อรหตฺตํ ปตฺวา ตสฺมิฺเว อิริยาปเถ ปรินิพฺพาติ, อยํ อิริยาปถสมสีสี นาม. โย ปน เอกํ โรคํ ปตฺวา อนฺโตโรเค เอว ¶ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา เตเนว โรเคน ปรินิพฺพาติ, อยํ โรคสมสีสี นาม. ยสฺส ปน กิเลสสีสสงฺขาตา อวิชฺชา, อรหตฺตมคฺเคน ปวตฺตสีสสงฺขาตํ ชีวิตินฺทฺริยฺจ จุติจิตฺเตน สมํ ปริยาทานํ คจฺฉติ, อยํ ชีวิตสมสีสี นาม. กถมิทํ สมํ โหตีติ? วารสมตาย. ยสฺมึ หิ วาเร มคฺเคน กิเลเส เขปิเต ปจฺจเวกฺขณาณานิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺสานนฺตรเมว ปรินิพฺพายโต อิมาย วารสมตาย อิทํ อุภยสีสปริยาทานมฺปิ สมํ โหติ นาม, อยเมว ชีวิตสมสีสี อิธาธิปฺเปโต.
ิตกปฺปีติ ิโต กปฺโป ิตกปฺโป, สฺวาสฺส อตฺถีติ ิตกปฺปี, กปฺปมฺหิ วินสฺสมานมฺหิ กปฺปํ เปตุํ สมตฺโถติ อตฺโถ.
สเจ หิ เยสํ มคฺคสมงฺคิกฺขเณ กปฺปวินาโส ภเวยฺย, เนว ตาว กปฺโป วินสฺเสยฺย, ยาวายํ ยถาสกํ ผลํ น สจฺฉิกโรตีติ เต วินสฺสมานมฺปิ กปฺปํ เปนฺตีติ ิตกปฺปิโน นาม ชาตาติ. กิฺจาปิ กปฺปวินาสนกาเล สาสนํ นตฺถิ, คตโกฏิเก หิ กาเล กปฺปวินาโส โหติ, เอวํ สนฺเตปิ มคฺคานนฺตรผลสฺส อนนฺตรายํ ทีเปตุํ อิทํ อภูตมฺปิ การณํ อาหฏํ.
โสตาปนฺโนติ นิพฺพานสมุทฺทนินฺนตาย โสตสงฺขาตสฺส มคฺคสฺส ปมสมงฺคี วุจฺจติ, อิธ ปน ผลฏฺโ อธิปฺเปโต. ตสฺเสว จ ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘สตฺตกฺขตฺตุปรโม’’ติอาทิ วุตฺตํ. สตฺตวารา ปรมา อสฺส ภวูปปตฺตีติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม, ตโต ปรํ อฏฺมํ ภวํ นาทิยตีติ อตฺโถ. โสตาปนฺโน หิ โย สตฺตกฺขตฺตุํ เทเวสุ, มนุสฺเสสุ จ ปฏิสนฺธึ ¶ คเหตฺวา สตฺตเม ภเว ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม. กุลโต กุลํ ภวโต ภวํ คจฺฉตีติ โกลํโกโล. โส หิ เทวมนุสฺสวเสน ทฺเว คติโย ภเว สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ, อยํ โกลํโกโล นาม. กมฺมปฏิสนฺธิยา เอกํ กมฺมํ กิเลสพีชํ อสฺสาติ เอกพีชี. โส หิ เอกสฺมิฺเว ภเว ขีณาสโว โหติ. กึ ปนสฺส เภทสฺส นิยามกนฺติ? วิปสฺสนาภิฺาเภทา. โสตาปนฺเนสุ หิ โย วิปสฺสนาย ปมตฺโต, โส สตฺตกฺขตฺตุปรโม โหติ. โย กิฺจิ อปฺปมตฺโต, โส โกลํโกโล. โย ปน วิปสฺสนาย อติวิย อปฺปมตฺโต, โส เอกพีชี โหติ. เย ปน อภิวิย ปมตฺตา วฏฺฏชฺฌาสยา อนาถปิณฺฑิกวิสาขาสกฺกาทโย, เต ปุนปฺปุนํ วฏฺฏสฺมึเยว วิจรนฺตา อาทิโต ปฏฺาย ฉ เทวโลเก โอสาเปตฺวา พฺรหฺมโลเกสุปิ ยถากฺกมํ นิพฺพตฺติตฺวา อกนิฏฺเ ตฺวา ปรินิพฺพนฺติ, น เต อิธ คหิตา. เต หิ มนุสฺสคตึ ปุนปฺปุนํ ¶ อาทิยนฺติ. เย ปน มนุสฺสคติยมฺปิ ภวํ อาทิยนฺติ, เตสํ วเสน สตฺตกฺขตฺตุปรโม โกลํโกโล มานุสิกภวนิพฺพตฺตโก เอว เอกพีชี คหิโต. เต ปน สทฺธาธุเรน อาคตา ตโย, ปฺาธุเรน อาคตา ตโยติ โสตาปนฺโน ฉพฺพิโธ โหตีติ เวทิตพฺโพ.
ปฏิสนฺธิวเสน ปน สกึ อิมํ มนุสฺสคตึ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ทุติยมคฺคผลสมงฺคี. อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ หิ สกทาคามิผเล ตฺวา ปุน ทุติยภเว อิเธว ปรินิพฺพาติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพาติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ทุติยภเว ตตฺเถว ปรินิพฺพาติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพาติ, อิเม จตฺตาโรปิ อิธ น คหิตา. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ¶ นิพฺพตฺติตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพาติ, อยเมโกว อิธ คหิโต. อิมสฺส จ ทฺเว ปฏิสนฺธิโย, เอกพีชิสฺส ปน เอกาวาติ อิทํ เตสํ นานากรณนฺติ เวทิตพฺพํ.
ปฏิสนฺธิวเสน กามภวํ นาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตติยมคฺคผลสมงฺคี. ตสฺเสว ปน ปเภททสฺสนตฺถํ ‘‘อนฺตราปรินิพฺพายี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนฺตราปรินิพฺพายีติ อายุเวมชฺฌสฺส อนฺตรา เอว อรหตฺตมคฺคํ อุปฺปาเทตฺวา กิเลสปรินิพฺพาเนน ปรินิพฺพายนสีโล เอโก อนาคามี. โส จ อุปฺปนฺนสมนนฺตรํ ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ อปฺปตฺวา ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ ปตฺวา ปรินิพฺพายีติ ติวิโธ โหติ. อุปหจฺจปรินิพฺพายีติ อายุเวมชฺฌํ อุปหจฺจ อติกฺกมิตฺวา, มรณสมยํ วา อุปหจฺจ อุปคนฺตฺวา ปรินิพฺพายี, อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ยาว มรณสมยา ปรินิพฺพายีติ อตฺโถ. อสงฺขารปรินิพฺพายีติ อสงฺขาเรน อปฺปทุกฺเขน อธิมตฺตปฺปโยคํ อกตฺวา ปรินิพฺพายนสีโล. สสงฺขารปรินิพฺพายีติ สสงฺขาเรน ทุกฺเขน กสิเรน อธิมตฺตปฺปโยเคน ปรินิพฺพายนสีโล. อุทฺธํโสโตติ อุทฺธํวาหิภาเวน อุทฺธมสฺส ตณฺหาโสตํ วฏฺฏโสตฺจ, อุทฺธํ วา คนฺตฺวา ปฏิลภิตพฺพโต อุทฺธํ มคฺคโสตมสฺสาติปิ อุทฺธํโสโต. อกนิฏฺํ คจฺฉตีติ อกนิฏฺคามี. อิเมสํ ปน อนาคามีนํ ปเภททสฺสนตฺถมฺเปตฺถ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติอาทิ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.
ตตฺถ โย อวิหโต ปฏฺาย จตูสุ ยถากฺกมํ อุปฺปชฺชิตฺวา ยาวตายุกํ ตฺวา จุโต อกนิฏฺเ อุปฺปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพาติ, อยํ อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน อกนิฏฺํ อปฺปตฺวา อนฺตรา ปรินิพฺพาติ, อยํ อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม. โย มนุสฺสโลโก อกนิฏฺเมว ¶ คนฺตฺวา ปรินิพฺพาติ, อยํ น อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี นาม. โย ปน เหฏฺา จตูสุ สุทฺธาวาเสสุ อฺตรสฺมึ อุปฺปชฺชิตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพาติ, อยํ น อุทฺธํโสโต น อกนิฏฺคามี นาม ¶ . เอวเมเต อนาคามิโน อฏฺจตฺตาลีสวิธา โหนฺติ. กถํ? อวิเหสุ ตาว ตโย อนฺตราปรินิพฺพายิโน, เอโก อุปหจฺจปรินิพฺพายี, เอโก อุทฺธํโสโตติ ปฺจ, เต อสงฺขารปรินิพฺพายิสสงฺขารปรินิพฺพายิวเสน ทส โหนฺติ, เอวํ อตปฺปสุทสฺสสุทสฺสีสูติ จตฺตาลีสํ, อกนิฏฺเ ปน อุทฺธํโสโต นตฺถิ, ตสฺมา ตตฺถ ตํ สสงฺขาราสงฺขารวเสน ทุวิธํ อุทฺธํโสตํ วชฺเชตฺวา อฏฺ จาติ อฏฺจตฺตาลีส โหนฺติ.
อรหาติ กิเลสารีนํ หตตฺตาทินา ขีณาสโว อรหา นาม. โส สฺุตาทิวิโมกฺขตฺตยวเสน ติวิโธ หุตฺวา ปุน ปจฺเจกํ ปฏิปทาจตุกฺกวเสน ทฺวาทสวิธา โหนฺติ. ยถา จ อรหา ทฺวาทสวิโธ, เอวํ ทฺวาทเสว สกทาคามิโน, จตุวีสติ โสตาปนฺนา อฏฺจตฺตาลีส อนาคามิโนว ปจฺเจกนฺติ เวทิตพฺพํ. อิเม จ สพฺเพ อริยา อิมสฺมึ สาสเน เอว อุปฺปชฺชนฺติ, โน พหิทฺธาติ. เอกกนโย.
ทุกาทิมาติกตฺถวณฺณนา
ทุกาทีสุ ‘‘ทฺเว ปุคฺคลา – โกธโน จ อุปนาหี จ มกฺขี จ ปฬาสี จา’’ติอาทินา ทุกฺจ, ‘‘ตโย ปุคฺคลา – นิราโส อาสํโส วิคตาโส’’ติอาทินา ติกฺจ, ‘‘จตฺตาโร ปุคฺคลา – อสปฺปุริโส, อสปฺปุริเสนอสปฺปุริสตโร, สปฺปุริโส, สปฺปุริเสนสปฺปุริสตโร’’ติอาทินา จตุกฺกฺจ, ‘‘ปฺจ ปุคฺคลา – อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหติ, ตฺจ เจโตวิมุตฺตึ ปฺาวิมุตฺตึ ยถาภูตํ นปฺปชานาติ. ยตฺถสฺส เต อุปฺปนฺนา ปาปกา อกุสลา ธมฺมา อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล อารภติ น วิปฺปฏิสารี จ โหติ…เป… อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ, อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล นารภติ วิปฺปฏิสารี จ โหติ…เป… อปริเสสา นิรุชฺฌนฺติ. อตฺเถกจฺโจ ¶ ปุคฺคโล นารภติ น วิปฺปฏิสารี โหติ…เป… อปริเสสา นิรุชฺฌนฺตี’’ติอาทินา ปฺจกฺจ วิตฺถารโต มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา สพฺเพปิ เต ปุคฺคลา นิทฺทิฏฺา, อิธ ปน เต คนฺถวิตฺถารภเยน สพฺเพ น อุทฺทิฏฺา, ปาฬิยา เอว าตพฺพาติ.
ตตฺถ ¶ ติเก นิราโสติ อรหตฺตาสาย วิรหิโต ทุสฺสีโล. ตสฺส หิ อตฺตโน อภพฺพตาย ภพฺพสหายกสฺส สีลวโต อรหตฺตปฺปตฺตึ สุตฺวา, จณฺฑาลปุตฺตสฺส วิย กสฺสจิ ราชปุตฺตสฺส รชฺชาภิเสกํ สุตฺวา อภิเสกปฺปตฺติยํ, ‘‘กุทาสฺสุ นามาหมฺปิ อรหตฺตํ ปาปุเณยฺย’’นฺติ อรหตฺตปฺปตฺติยํ ปตฺถนาปิ น อุปฺปชฺชติ. อาสํโสติ อรหตฺตํ อาสีสมาโน ปตฺถยมาโน สีลวา. ตสฺส หิ อรหตฺตปตฺถนาย สีลสมฺปตฺติยา ิตตฺตา กสฺสจิ อรหตฺตปฺปตฺตึ สุตฺวา, อุภโตสุชาตสฺส ราชกุมารสฺส วิย ตาทิสสฺส กสฺสจิ รชฺชาภิเสกํ สุตฺวา อภิเสกปฺปตฺติยํ, อรหตฺตปฺปตฺติยํ ปตฺถนา อุปฺปชฺชติ. วิคตาโสติ อรหา. โส หิ ปตฺตอรหตฺตตาย ตตฺถ วิคตาโส โหติ ปตฺตาภิเสโก วิย ขตฺติโย อภิเสกปฺปตฺติยนฺติ เวทิตพฺพํ.
จตุกฺเก ปน ปาณาติปาตาทิอกุสลกมฺมปถสมนฺนาคโต อสปฺปุริโส นาม. โย ปน สยมฺปิ ปาณาติปาตาทีนิ กตฺวา ปรฺจ ตตฺถ สมาทเปติ, อยํ อสปฺปุริเสนอสปฺปุริสตโร, อสปฺปุริสโตปิ อสปฺปุริสตโรติ อตฺโถ. วุตฺตปฏิปกฺขกุสลวเสน สปฺปุริโส, สปฺปุริเสนสปฺปุริสตโร จ เวทิตพฺโพ.
ปฺจเก อารภติ จ วิปฺปฏิสารี จ โหตีติ เอตฺถ อารมฺภ-สทฺโท อาปตฺติวีติกฺกเม วตฺตติ, ตสฺมา อาปตฺติวีติกฺกมวเสน อารภติ เจว ตปฺปจฺจยา จ วิปฺปฏิสารี โหตีติ อตฺโถ. เจโตวิมุตฺตินฺติ ผลสมฺปยุตฺตสมาธึ. ปฺาวิมุตฺตินฺติ ผลสมฺปยุตฺตาณํ. ยถาภูตํ นปฺปชานาตีติ อนธิคตตฺตา ¶ ยถาสภาวโต นปฺปชานาติ. ยตฺถสฺสาติ ยสฺมึ อรหตฺตผลสงฺขาเต ฌาเน อธิคเต อสฺส ปุคฺคลสฺส สพฺเพ ปาปกา อกุสลา ธมฺมา นิรวเสสา นิรุชฺฌนฺติ, เต นปฺปชานาตีติ สมฺพนฺโธ. กิฺจาปิ เต มคฺคกฺขเณ เอว นิรุชฺฌนฺติ นาม, ผลกฺขเณ ปน นิรุทฺธา นาม โหนฺติ, อิธ ปน มคฺคกิจฺจวเสน ‘‘ผลกฺขเณ นิรุชฺฌนฺตี’’ติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา.
อารภติ น วิปฺปฏิสารี จ โหตีติ อาปตฺตึ อาปชฺชติ, ตํ ปน เทเสตุํ สภาคปุคฺคลํ ปริเยสติ, วุฏฺาเปติ วา, ตสฺมา น วิปฺปฏิสารี โหติ. นารภติ วิปฺปฏิสารี จ โหตีติ อาปตฺตึ นาปชฺชติ, วินยปฺตฺติยํ ปน อโกวิทตฺตา อนาปตฺติยา อาปตฺติสฺิตาย วุฏฺิตายปิ ตํ อาปตฺติยา วิปฺปฏิสารํ วิโนเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย วิปฺปฏิสารี โหติ. นารภติ น วิปฺปฏิสารี โหตีติ นารภติ เนว อาปตฺตึ อาปชฺชติ, น วิปฺปฏิสารี โหติ. อรหตฺตฺจ ¶ น ปาปุณาติ. กตโร ปเนส ปุคฺคโลติ? สีลวา โอสฺสฏฺวีริโย ปุคฺคโล. โส หิ ‘‘กึ เม อิมสฺมึ พุทฺธกาเล ปรินิพฺพาเนน, อนาคเต เมตฺเตยฺยสมฺมาสมฺพุทฺธกาเล ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วิสุทฺธสีโลปิ ปฏิปตฺตึ น ปูเรติ. อิเม จตฺตาโรปิ ปุคฺคลา ตถา ตถา โอวทิตฺวา อาสวกฺขเย ปติฏฺาเปตพฺพา. เอวํ หิ เตปิ ยฺวายํ ปฺจโม ปุคฺคโล นารภติ น วิปฺปฏิสารี อารทฺธวีริโย อรหตฺตํ ปาปุณาติ, เตน สมสมาว ภวิสฺสนฺตีติ.
ฉกฺกาทีสุ –
‘‘ฉ ปุคฺคลา – อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล ปุพฺเพ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ สามํ สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌติ, ตตฺถ จ สพฺพฺุตํ ปาปุณาติ พเลสุ จ วสีภาวํ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… อภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ตตฺถ สพฺพฺุตํ ¶ ปาปุณาติ, น จ พเลสุ วสิภาวํ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… อนภิสมฺพุชฺฌติ, ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, สาวกปารมิฺจ ปาปุณาติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, น จ สาวกปารมึ ปาปุณาติ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… อนภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, อนาคามี โหติ อนาคนฺตา อิตฺถตฺตํ. อตฺเถกจฺโจ ปุคฺคโล…เป… อนภิสมฺพุชฺฌติ, น จ ทิฏฺเว ธมฺเม ทุกฺขสฺสนฺตกโร โหติ, อาคามี โหติ อาคนฺตา อิตฺถตฺต’’นฺติ –
ฉกฺกํ, ‘‘สตฺต ปุคฺคลา – สตฺต อุทกูปมา ปุคฺคลา สกึ นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา นิมุชฺชติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต โหติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา วิปสฺสติ วิโลเกติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ปตรติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ปฏิคาธปฺปตฺโต โหติ, อุมฺมุชฺชิตฺวา ติณฺโณ โหติ ปารงฺคโต, ถเล ติฏฺติ พฺราหฺมโณ’’ติอาทินา สตฺตกํ, ‘‘อฏฺ ปุคฺคลา – จตฺตาโร มคฺคสมงฺคิโน, จตฺตาโร ผลสมงฺคิโน ปุคฺคลา’’ติ อฏฺกํ, ‘‘นว ปุคฺคลา – สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ อุภโตภาควิมุตฺโต ปฺาวิมุตฺโต กายสกฺขี ทิฏฺิปฺปตฺโต สทฺธาวิมุตฺโต ธมฺมานุสารี สทฺธานุสารี’’ติ นวกํ, ‘‘ทส ปุคฺคลา – ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺา, ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺา’’ติ ทสกฺจ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา ปาฬิยํ นิทฺเทโส กโต. ตตฺถ ฉกฺเก ปเมน ปเทน สมฺมาสมฺพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ. โส หิ อนาจริยโก อตฺตนา อุปฺปาทิเตน สพฺพฺุตฺาณปทฏฺาเนน อรหตฺตมคฺคาเณน สพฺพาการโต สจฺจานิ อภิสมฺพุชฺฌิตฺวา สพฺพฺุตํ ปาปุณิ, ทสาณพเลสุ ¶ จ วสิภาวนฺติ. ทุติเยน ปน ปจฺเจกสมฺพุทฺโธ ทฏฺพฺโพ. ตติเยน อคฺคสาวโก, จตุตฺเถน อวเสสา อรหนฺโต ¶ , ปฺจเมน อนาคามี, ฉฏฺเน โสตาปนฺนสกทาคามิโน ทฏฺพฺพา. เต หิ ‘‘อาคนฺตา อิตฺถตฺต’’นฺติ วุตฺตาติ.
สตฺตเก ปเมน ปเทน สาสเน อนิวิฏฺสทฺโธ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิธมฺเมหิ เอกนฺตกาฬเกหิ สมนฺนาคโต คหิโต. โส หิ สมุทฺเท อุทกภีรุกปุริโส วิย สํสาเร อปาเย นิมุคฺโค นิมุคฺโคว โหติ, น ปุน ภวโต วุฏฺาติ, อนนฺตมฺปิ กาลํ ภเว เอว วิจรติ สาสนสมาโยคาภาวา. ทุติเยน ปเทน สาสเน ปฏิลทฺธสทฺโธปิ เทวทตฺตาทโย วิย สทฺธาทิปริหานิยํ ิโต ทุสฺสีโล คหิโต. โส หิ สมุทฺเท เกนจิ การเณน อุมฺมุชฺชิตฺวา ปุน นิมุคฺโค วิย สาสนสทฺธาย อุมฺมุชฺชิตฺวาปิ อปาเย นิมุชฺชติ เอว, อยํ ปน จิรกาลาติกฺกเมน พุทฺธาทีหิ, อตฺตนา เอว วา ปจฺเจกโพธิาเณน ภวโต อุทฺธรณีโย โหติ สาสเน สกึ อุปฺปนฺนายปิ สทฺธาย โมกฺขภาเวน นิยเมน นิพฺพานาวหตฺตา. อยเมว หิสฺส ปุริมปุคฺคลโต วิเสโส, อิตรถา ตสฺส วิสุํ คหเณ ปโยชนเมว น สิยาติ คเหตพฺพํ. ตติเยน สาสเน อุปฺปนฺนสทฺโธ ิติภาคิเยหิ สีลาทิคุเณหิ สมนฺนาคโต คหิโต. โส หิ อุมฺมุชฺชิตฺวา ตีรํ อทิสฺวาว สมุทฺทมชฺเฌ นาวาทิอาคมนํ โอโลเกนฺโต ปุน อนิมุชฺชิตฺวา อุณฺณตปฺปเทเส ิโต วิย สาสนสทฺธาย อุมฺมุชฺชิตฺวา นิพฺพานํ อทิสฺวาว พุทฺธาทึ โอโลกยมาโน สคฺเค, สีลาทิมฺหิ ิโต โหติ. จตุตฺเถน ปน โสตาปนฺโน คหิโต. โส หิ อุมฺมุชฺชิตฺวา ิโต ตีรํ ทิสฺวา อุตฺตรณูปายํ วิโลกยมาโน วิย โลกุตฺตรสทฺธาย อุมฺมุชฺชิตฺวา นิพฺพานตีรํ ทิสฺวา อุตฺตรโณปายํ วิโลเกติ. ปฺจเมน สกทาคามี คหิโต. โส หิ สมุทฺเท ตีรํ ทิสฺวา ตทภิมุขํ ¶ ปตรมาโน วิย ปมมคฺเคน นิพฺพานตีรํ ทิสฺวา ตทภิมุขํ ทุติยมคฺเคน ปตรติ นาม. ฉฏฺเน อนาคามี คหิโต. โส หิ ปตริตฺวา ตีรํ อุปคฺคมฺม กฏิปฺปมาเณ อุทเก ิโต วิย อรหตฺตสมีเป สติกวาฏปติตฺเถ อนาวตฺติธมฺมตาย ตติยมคฺเคน ติฏฺติ. สตฺตเมน ปน อรหา คหิโต, โส หิ ตริตฺวา ปารํ ปตฺวา ิตปุริโส วิย จตฺตาโร โอเฆ ตริตฺวา นิพฺพานตฺถเล ิโต ขีณาสวพฺราหฺมโณ นาม โหตีติ.
นวเก อุภโตภาควิมุตฺโตติ รูปารูปสมาปตฺติยา วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน, อริยมคฺเคน สมุจฺเฉทวิโมกฺเขน กิเลสโต วิมุตฺโต, อรูปสมาปตฺติยา วา รูปกายโต, มคฺเคน จ นามกายโตติ อิเมหิ อุภโตภาเคหิ วิมุตฺโตติปิ อุภโตภาควิมุตฺโต, โส จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ ¶ เอเกกโต วุฏฺาย สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อรหตฺตปฺปตฺตานํ จตุนฺนํ, นิโรธา วุฏฺาย อรหตฺตปฺปตฺตอนาคามิโน จ วเสน ปฺจวิโธ, เตสุ ปจฺฉิโมว นิปฺปริยายโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม, เสสา ปริยาเยน. เอตฺถ จ รูปาวจรจตุตฺถชฺฌานํ กิเลสกายโต วิมุตฺตมฺปิ รูปกายโต อวิมุตฺตํ, อรูปาวจรํ ปน ตทภยโตปิ วิมุตฺตํ, ตสฺมา ตเทว ปาทกํ กตฺวา อรหตฺตปฺปตฺโตว อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ, น รูปาวจรนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฺาวิมุตฺโตติ อรหตฺตมคฺคปฺาย อาสเวหิ วิมุตฺโต. โส หิ สุกฺขวิปสฺสโก, จตูหิ รูปาวจรชฺฌาเนหิ วุฏฺาย อรหตฺตปฺปตฺตา จตฺตาโร จาติ ปฺจวิโธ. อรูปาวจรชฺฌาเนสุ หิ เอกสฺมิมฺปิ สติ อุภโตภาควิมุตฺโตว นาม โหติ.
กายสกฺขีติ รูปารูปชฺฌานลาภี อริโย. โส หิ โสตาปตฺติมคฺคฏฺวชฺชิตานํ ฉนฺนํ เสขานํ วเสน ฉพฺพิโธ. เตเนว ¶ หิสฺส ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา’’ติ นิทฺเทเส วุตฺตํ. โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺส จ น เกจิปิ อาสวา ปริกฺขีณาติ วตฺตพฺพา, ปริกฺขียิสฺสนฺตีติ ปน วตฺตพฺพา, อรหโต ปน สพฺเพปิ อาสวา ปริกฺขีณา, น เอกจฺเจติ. โส หิ ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขี, ผุฏฺานํ ปฏิลทฺธานํ ฌานานํ อนนฺตรํ นามกาเยน นิโรธํ สจฺฉิกโรตีติปิ กายสกฺขี, กาเยนาติ เจตฺถ ‘‘นามกาเยน เจว ปรมตฺถสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, ปฺาย จ อติวิชฺฌ ปสฺสตี’’ติ วจนโต อรหตฺตผลํ เปตฺวา เสสมคฺคผลานเมตํ อธิวจนํ, เตน กาเยน ปมชฺฌานานนฺตรํ นิพฺพานสฺส สจฺฉิกรณโตปิ กายสกฺขีติ เกจิ. ทิฏฺิปฺปตฺโตติ สุกฺขวิปสฺสโก, รูปชฺฌานลาภี จ ยถาวุตฺโต ฉพฺพิโธ เสโข จ, อยํ ทิฏฺนฺตปฺปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. ทสฺสนํ ทิฏฺิ, ปมมคฺโค, ตสฺส อนนฺตรํ นิโรธปฺปตฺโตติ อตฺโถ. ทิฏฺปฺปตฺโตติปิ ปาโ, ตสฺส ปมมคฺเคน ทิฏฺํ นิพฺพานํ ปุน ปตฺโตติ อตฺโถ.
สทฺธาวิมุตฺโตติ สุกฺขวิปสฺสโก, รูปชฺฌานลาภี จ ยถาวุตฺโต ฉพฺพิโธ เสโข จ. อยํ หิ สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. กถํ ปเนตสฺส ทิฏฺิปฺปตฺตโต นานตฺตนฺติ? อาคมนียปฏิปทาย. ทิฏฺิปฺปตฺโต หิ ปฺาสมฺปทาย ปุพฺพภาเค วิปสฺสนาย กิเลเส อปฺปทุกฺเขน วิกฺขมฺเภนฺโต อาคโต, สทฺธาวิมุตฺโต ปน สทฺธาพหุลตาย กิเลเส ทุกฺเขน วิกฺขมฺเภนฺโต อาคโต. เอตเมว หิ เภทํ สนฺธาย นิทฺเทเส ‘‘เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถาทิฏฺิปฺปตฺตสฺสา’’ติ วุตฺตํ.
ธมฺมานุสารีติ ¶ ยสฺส โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, อยํ ปฺาสงฺขาเตน ธมฺเมน สรติ อนุสฺสรตีติ ธมฺมานุสารี, โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺเสตํ นามํ. ผเล ปน ปตฺเต ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม โหติ. สทฺธานุสารีติ ยสฺส ¶ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, อยํ สทฺธาย สรติ อนุสฺสรตีติ สทฺธานุสารี, โสตาปตฺติมคฺคฏฺสฺเสตํ นามํ. ผเล ปน ปตฺเต สทฺธาวิมุตฺโต นาม โหติ.
โลกุตฺตรธมฺมํ หิ นิพฺพตฺเตนฺตานํ ทฺเว ธุรานิ นาม, ทฺเว อภินิเวสา นาม, ทฺเว สีสานิ นาม. ตตฺถ สทฺธาธุรํ ปฺาธุรนฺติ ทฺเว ธุรานิ นาม. เอโก ปน สมถาภินิเวโส, เอโก วิปสฺสนาภินิเวโสติ ทฺเว อภินิเวสา. เอโก จ อรหตฺตํ มตฺถกํ ปาปุณนฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ, เอโก ปฺาวิมุตฺโตติ อิมานิ ทฺเว สีสานิ นาม. เย หิ เกจิ โลกุตฺตรํ ธมฺมํ นิพฺพตฺเตนฺติ, สพฺเพ เต ทฺเว อิเม ธมฺเม ธุรํ กตฺวา อิเมสุ ทฺวีสุ าเนสุ อภินิวิสิตฺวา อิเมหิ ทฺวีหิ าเนหิ วิมุจฺจนฺติ. เตสุ โย ภิกฺขุ อฏฺสมาปตฺติลาภี ปฺํ ธุรํ กตฺวา สมถวเสน อภินิวิฏฺโ อฺตรํ อรูปสมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม. ปรโต ปน ฉสุ าเนสุ กายสกฺขี นาม. อรหตฺตผลํ ปตฺเต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม.
อปโร ปฺเมว ธุรํ กตฺวา วิปสฺสนาวเสน อภินิวิฏฺโ สุทฺธสงฺขาเร วา รูปาวจรชฺฌาเนสุ วา อฺตรํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี นาม. ปรโต ปน ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต นาม, อรหตฺตํ ปตฺเต ปฺาวิมุตฺโต นาม.
อปโร ปน อฏฺสมาปตฺติลาภี สทฺธํ ธุรํ กตฺวา สมาธิวเสน อภินิวิฏฺโ อฺตรํ อรูปสมาปตฺตึ ปทฏฺานํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยํ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม, ปรโต ฉสุ าเนสุ กายสกฺขีเยว ¶ นาม. อรหตฺตํ ปตฺเต อุภโตภาควิมุตฺโตเยว นาม. อปโร สทฺธเมว ธุรํ กตฺวา วิปสฺสนาวเสน อภินิวิฏฺโ สุทฺธสงฺขาเร วา รูปาวจรชฺฌาเนสุ วา อฺตรํ สมฺมสิตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณาติ, อยมฺปิ โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม, ปรโต ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต นาม. อรหตฺตปฺปตฺเต ปฺาวิมุตฺโต นาม. อิเม สตฺต ปุคฺคลา สมฺมาสมฺพุทฺธปจฺเจกสมฺพุทฺเธหิ สทฺธึ นว โลเก อคฺคทกฺขิเณยฺยา นามาติ.
ทสเก ¶ ปฺจนฺนํ อิธ นิฏฺาติ สตฺตกฺขตฺตุปรโม, โกลํโกโล, เอกพีชี, สกทาคามี กามาวจรปฏิสนฺธิโก, อรหา จาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ กามาวจรภูมิยฺเว อนุปาทิเสสนิพฺพานสงฺขาตา นิฏฺาติ อตฺโถ. กามาวจรตฺตภาเว เอว หิ เอเต ปรินิพฺพายนฺติ, นาฺสฺมึ. ปฺจนฺนํ อิธ วิหาย นิฏฺาติ อนฺตราปรินิพฺพายี อุปหจฺจปรินิพฺพายี อสงฺขารปรินิพฺพายี สสงฺขารปรินิพฺพายี อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามี จาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อิธ กามาวจเร อตฺตภาวํ วิหาย วิชหิตฺวา พฺรหฺมตฺตภาเว ิตานฺเว นิฏฺาติ อตฺโถ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมวาติ. อยเมตฺถ สงฺเขปโต ปาฬินเยน สทฺธึ อตฺถนิจฺฉโย, วิตฺถาโร ปน ปุคฺคลปฺตฺติปาฬิอฏฺกถาสุ (ปุ. ป. มาติกา ๑ อาทโย; ปุ. ป. อฏฺ. มาติกาวณฺณนา ๑) คเหตพฺโพติ.
โมหวิจฺเฉทนิยา อภิธมฺมมาติกตฺถวณฺณนาย
ปุคฺคลปฺตฺติมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.