📜

๒. วิภงฺคมาติกา

อิทานิ ธมฺมสงฺคณีมาติกานนฺตรํ วิภงฺคมาติกาย อตฺถวณฺณนา อนุปฺปตฺตา. ตสฺสา ปน –

อตฺถโต ธมฺมเภเทน, วิภงฺคนยทสฺสนา;

ปาฬิมุตฺตนยา จาปิ, โหติ สํวณฺณนานโย.

สา ปเนสา อฏฺารสนฺนํ วิภงฺคานํ อาทิมฺหิ ปิตา อฏฺารสวิธา โหติ – ขนฺธวิภงฺคมาติกา-อายตน-ธาตุ-สจฺจ-อินฺทฺริย-ปจฺจยาการ-สติปฏฺาน-สมฺมปฺปธาน-อิทฺธิปาทโพชฺฌงฺค-มคฺคงฺคฌาน-อปฺปมฺา-สิกฺขาปท-ปฏิสมฺภิทา-าณ-ขุทฺทกวตฺถุ-ธมฺมหทยวิภงฺคมาติ

ขนฺธวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ตตฺถ อาทิภูตาย ขนฺธวิภงฺคมาติกาย อตฺถโต ตาว – ปฺจกฺขนฺธาติ เอตฺถ ปฺจาติ คณนปริจฺเฉโท, เตน น ตโต เหฏฺา, น อุทฺธนฺติ ทสฺเสติ. ขนฺธาติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. ตตฺรายํ ขนฺธ-สทฺโท สมฺพหุเลสุ าเนสุ นิปตติ ราสิมฺหิ คุเณ ปณฺณตฺติยํ รุฬฺหิยนฺติ. ตตฺถ ‘‘มหาอุทกกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๑๐๓๗; อ. นิ. ๔.๕๑; ๕.๔๕; ๖.๓๗) หิ ราสิโต ขนฺโธ นาม. ‘‘สีลกฺขนฺโธ สมาธิกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๓.๓๕๕) คุณโต. ‘‘อทฺทสา โข ภควา มหนฺตํ ทารุกฺขนฺธ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๒๔๑) ปณฺณตฺติโต. ‘‘วิฺาณํ วิฺาณกฺขนฺโธ’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๖๓) เอกมฺปิ จิตฺตํ รุฬฺหิโต ขนฺโธ นาม, สฺวายมิธ ราสิโต อธิปฺเปโต. ราสฏฺโ หิ ขนฺธ-สทฺโท, โกฏฺาสฏฺโติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. โลกสฺมึ หิ อิณํ คเหตฺวา โจทิยมานา ‘‘ทฺวีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสาม , ตีหิ ขนฺเธหิ ทสฺสามา’’ติ วทนฺติ, ตสฺมา ขนฺโธติ โกฏฺาโสติ วุตฺตํ โหติ. รูปกฺขนฺโธติ เอตฺถ รุปฺปตีติ รูปํ, สีตุณฺหาทีหิ ปสิทฺธากาเรน รุปฺปติ ฆฏฺฏียติ, ปีฬิยตีติ อตฺโถ. วุตฺตํ เหตํ ภควตา –

‘‘รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา รูปนฺติ วุจฺจติ. เกน รุปฺปติ? สีเตนปิ รุปฺปติ, อุณฺเหนปิ รุปฺปติ, ชิฆจฺฉายปิ รุปฺปติ, ปิปาสายปิ รุปฺปตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๓.๗๙).

รูปฺจ ตํ ขนฺโธ จาติ รูปกฺขนฺโธ, รูปราสิ รูปโกฏฺาโสติ อตฺโถ. เวทนากฺขนฺธาทีสุปิ เอเสว นโยติ อยํ ตาเวตฺถ อตฺถโต สํวณฺณนานโย.

ธมฺมเภทโต ปเนตฺถ เหฏฺา กุสลตฺติเก วิภตฺตา อตีตาทิเภทภินฺนา สพฺเพ รูปธมฺมา รูปกฺขนฺโธ นาม. ตถา จตุภูมกา เวทนาสฺาโย เวทนากฺขนฺโธ นาม, สฺากฺขนฺโธ นาม. เวทนาสฺา ปน เปตฺวา เสสา ผสฺสาทโย ปฺาส เจตสิกา สงฺขารกฺขนฺโธ นาม. ปฺจสุ ขนฺเธสุ นิพฺพานเมว อสงฺคหิตํ, อุปาทานกฺขนฺเธสุ ปน สพฺเพ โลกุตฺตรธมฺมา. อยเมว หิ ขนฺเธหิ อุปาทานกฺขนฺธานํ วิเสโส. ขนฺธา อวิเสสโต วุตฺตา, อุปาทานกฺขนฺธา สาสโวปาทานิยภาเวน วิเสเสตฺวา. อิธ ปน อวิเสเสน วุตฺตตฺตา นิพฺพานํ เปตฺวา อวเสสา สพฺเพ ธมฺมา สงฺคหํ คจฺฉนฺตีติ อยํ ธมฺมเภทโต สํวณฺณนานโย.

วิภงฺคนยทสฺสนาติ วิภงฺคปาฬิยา อาคตอตฺถนยทสฺสนโต. วิภงฺคปาฬิยํ หิ สุตฺตนฺตภาชนียํ อภิธมฺมภาชนียํ ปฺหาปุจฺฉกนฺติ ตีหิ นเยหิ ขนฺธวิภงฺโค วิภตฺโต. ตถา อายตนวิภงฺคาทโย. เกวลํ หิ อินฺทฺริยวิภงฺเค, สิกฺขาปทวิภงฺเค จ สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ. ปจฺจยาการวิภงฺเค ปฺหาปุจฺฉกํ นตฺถิ. าณวิภงฺคาทีสุ ปน ตีสุ ตโยปิ นยา น สนฺติ. เตสุ หิ าณวิภงฺโค เอกวิธโต ปฏฺาย ยาว ทสวิธา วิภตฺโต, ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺโค เอกวิธโต ปฏฺาย ยาว ทฺวาสฏฺิปเภทา วิภตฺโต, ธมฺมหทยวิภงฺโค ปน สพฺพสงฺคหาทีหิ ทสหิ วาเรหิ วิภตฺโต, ตสฺมา เตสํ เตสํ นยานํ มุขมตฺตทสฺสนวเสน ตตฺถ ตตฺถ สํวณฺณนา ภวิสฺสนฺติ. ตตฺริทํ ขนฺธวิภงฺเค ติณฺณํ นยานํ มุขมตฺตทสฺสนํ. เสยฺยถิทํ – สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว รูปกฺขนฺโธ –

‘‘ตตฺถ กตโม รูปกฺขนฺโธ? ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อชฺฌตฺตํ วา พหิทฺธา วา โอฬาริกํ วา สุขุมํ วา หีนํ วา ปณีตํ วา ยํ ทูเร สนฺติเก วา, ตเทกชฺฌํ อภิสฺูหิตฺวา อภิสงฺขิปิตฺวา อยํ วุจฺจติ รูปกฺขนฺโธ’’ติ (วิภ. ๒) –

เอวํ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถารโต วิภตฺโต, ตถา เวทนากฺขนฺธาทโยปิ. ตตฺถ นิยกชฺฌตฺตํ นาม อชฺฌตฺตรูปํ อชฺฌตฺตํ นาม, ตโต อฺํ ปรปุคฺคลคตํ, อวิฺาณฺจ พหิทฺธา นาม, ตถา เวทนาทโยปิ. ปสาทวิสยรูปํ ปน โอฬาริกํ นาม, เสสํ สุขุมํ นาม. อนิฏฺรูปํ หีนํ นาม, อิฏฺรูปํ ปณีตํ นาม.

นนุ อิฏฺานิฏฺํ นาม ปาเฏกฺกํ ปฏิวิภตฺตํ นาม นตฺถิ, เอกํ เอกจฺจสฺส อิฏฺํ โหติ มนาปํ, ตเทว อฺสฺส จ อนิฏฺํ โหติ. วตฺถาทีนิ หิ สูกราทีนํ นปฺปิยานิ โหนฺติ, น มนุสฺสาทีนํ, เตสฺจ วตฺถาภรณาทีนิ ปิยานิ, น สูกราทีนนฺติ, ตสฺมา รุจิวเสเนว อิฏฺานิฏฺตา คเหตพฺพา? น, อิฏฺานิฏฺานํ ปาเฏกฺกํ วิภตฺตตฺตา. กุสลกมฺมชํ หิ กุสลวิปากวิสโยว อิฏฺํ นาม, อกุสลกมฺมชํ อกุสลวิปากวิสโยว อนิฏฺํ นาม, สฺาวิปลฺลาเสน ปน โกจิ อิฏฺเมว พุทฺธรูปาทึ ชวนกฺขเณ อนิฏฺโต มนสิ กโรติ, อนิฏฺฺจ นิรยคฺคิสตฺถวิสาทึ อิฏฺโต มนสิ กโรติ. ชวเนหิ เอว วิปลฺลาสภาโว, น วิปาเกหีติ วิปากวเสน อิฏฺานิฏฺํ นิยตํ เวทิตพฺพํ.

สมฺโมหวิโนทนิยา ปน วิภงฺคฏฺกถาย –

‘‘สุขสมฺผสฺสํ หิ คูถกลลํ จกฺขุทฺวารฆานทฺวาเรสุ อนิฏฺํ, กายทฺวาเร อิฏฺํ โหติ. จกฺกวตฺติโน มณิรตเนน โปถิยมานสฺส, สุวณฺณสูเล อุตฺตาสิยมานสฺส จ มณิรตนสุวณฺณสูลานิ จกฺขุทฺวาเร อิฏฺานิ โหนฺติ, กายทฺวาเร อนิฏฺานี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๖) –

เอวํ ทฺวารวเสน เอกสฺเสว วตฺถุโน อิฏฺตา, อนิฏฺตา จ วุตฺตา. สา จ เอกกฺขเณ น ยุตฺตา เอกกลาปคตภูโตปาทายรูปานํ เอกสามคฺคิยมุปฺปตฺติโต. น หิ ภูเตสุ อกุสลวเสน อนิฏฺเสุ อุปฺปชฺชนฺเตสุ ตทุปาทายรูปาทิกุสเลน อิฏฺานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ภินฺนกฺขเณ ปน อิฏฺานิ มณิรตนาทีนิ เตหิ โปถิยมานสฺส อกุสลปจฺจเยน อุตุนา อนิฏฺานิ วิปริณมนฺติ, กุสลปจฺจเยน อนิฏฺานิ คูถกลลาทีนิ อิฏฺานีติ, อยํ โน อตฺตโนมติ. เอวํ วิภตฺเตสุ จ อิฏฺานิฏฺเสุ ตํ ตํ รูปํ อุปาทายุปาทาย หีนํ, ปณีตฺจ ทฏฺพฺพํ. สุขุมํ ปน รูปํ ทูเรรูปํ นาม, โอฬาริกํ สนฺติเกรูปํ นาม. ตํ ตํ วา ปน รูปํ อุปาทายุปาทาย รูปํ ทูเร สนฺติเก ทฏฺพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เวทนาทีสุ ปน อกุสลา เวทนา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. กุสลากุสลา โอฬาริกา, อพฺยากตา สุขุมา. ทุกฺขา เวทนา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. สุขทุกฺขา วา โอฬาริกา, อิตรา สุขุมา. อสมาปนฺนสฺส วา เวทนา โอฬาริกา, สมาปนฺนสฺส สุขุมา. สาสวา โอฬาริกา , อนาสวา สุขุมา. ตํ ตํ วา ปน เวทนํ อุปาทายุปาทาย โอฬาริกสุขุมตา ทฏฺพฺพา. อกุสลา เวทนา กุสลาพฺยากตาหิ ทูเร, ตา จ ตาย ทูเรติ เอวํ ชาติสภาวปุคฺคลภูมิเภทโต วุตฺตนเยน ทูเรเวทนา ทฏฺพฺพา, กุสลา เวทนา กุสลาย สนฺติเกติ เอวํ ชาติอาทิสามฺโต สนฺติเกเวทนา ทฏฺพฺพา. ตํ ตํ วา ปน เวทนํ อุปาทายุปาทาย เวทนา ทูเรสนฺติเก ทฏฺพฺพา. เอวํ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ ยถานุรูปํ โอฬาริกสุขุมตาทโย เวทิตพฺพาติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน วิภงฺคปาฬิอฏฺกถาสุ (วิภ. ๘ อาทโย; วิภ. อฏฺ. ๘ อาทโย) คเหตพฺโพติ อยํ สุตฺตนฺตภาชนียนโย.

อภิธมฺมภาชนียนเย รูปกฺขนฺธสฺส ตาว เอกวิธาทิโต ยาว เอกาทสวิธา รูปกณฺเฑ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพา. เวทนากฺขนฺโธ ปน เอกวิโธ ผสฺสสมฺปยุตฺโต, ทุวิโธ สเหตุกทุกวเสน, ติวิโธ กุสลตฺติกวเสน, จตุพฺพิโธ จตุภูมกวเสน, ปฺจวิโธ สภาวเภเทน, ฉพฺพิโธ ฉทฺวาริกวเสน, สตฺตวิโธ สตฺตวิฺาณสมฺปโยควเสน, อฏฺวิโธ เตสุ กายวิฺาณสมฺปยุตฺตํ สุขทุกฺขวเสน ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา, นววิโธ เตสุ มโนวิฺาณสมฺปยุตฺตํ กุสลตฺติกวเสน ติธา ภินฺทิตฺวา, ทสวิโธ เตสุ กายวิฺาณสมฺปยุตฺตํ ทุวิธา, มโนวิฺาณสมฺปยุตฺตฺจ ติธา ภินฺทิตฺวาติ เอวํ สเหตุกทุกมูลํ ปมวารํ วตฺวา ปุน กุสลตฺติกฏฺาเน เวทนาตฺติกปีติตฺติกสนิทสฺสนตฺติกวชฺชิเต สพฺพตฺติเก โยเชตฺวา ยาว ทสวิธา, อปเรปิ อฏฺารส วารา วุตฺตา. ยถา เจตฺถ สเหตุกทุกมูลิกา สพฺพตฺติกโยชนา, เอวํ เหตุสมฺปยุตฺตทุกาทีสุ อนุรูปทุกมูลิกาปิ สรณทุกปริโยสานา ปจฺเจกํ สพฺพตฺติกโยชนาปิ เวทิตพฺพาติ อยํ ทุกมูลโก โยชนานโย. ยถา จ เอเกกทุเกน สพฺพตฺติกโยชนาวเสน ทุกมูลโก นโย วุตฺโต, เอวํ เอเกกตฺติเกน ยถานุรูปํ สพฺพทุกโยชนาวเสน ติกมูลโก, ตทุภยมิสฺสกวเสน อุภโตวฑฺฒนโก จ นโย เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ เวทนากฺขนฺเธ, เอวํ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ ยถารหํ ทุกมูลกาทินยา เวทิตพฺพาติ อยํ อภิธมฺมภาชนียนโย.

ปฺหาปุจฺฉกนเย ปน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ กติ กุสลา, กติ อกุสลา, กติ อพฺยากตา, กติ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา…เป… กติ สรณา, กติ อรณาติ? รูปกฺขนฺโธ อพฺยากโต, จตฺตาโร ขนฺธา สิยา กุสลา, สิยา อกุสลา, สิยา อพฺยากตา, รูปํ, เวทนา จ เวทนาตฺติเก น วตฺตพฺพา, เสสา ติธาปิ โหนฺติ, รูปํ เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมํ, สิยา อุปาทินฺนุปาทานิยํ, สิยา อนุปาทินฺนุปาทานิยํ, อสํกิลิฏฺสํกิเลสิกํ, เสสา จตฺตาโร ขนฺธา ตีหิ ติเกหิ ติธาปิ โหนฺติ. รูปํ อวิตกฺกอวิจารํ, ตโย ขนฺธา ติธาปิ โหนฺติ, สงฺขารกฺขนฺโธ ติธา จ น วตฺตพฺโพ จ. รูปํ น วตฺตพฺพํ, เวทนา สิยา ปีติสหคตา, น วตฺตพฺพา, ตโย ติธา จ น วตฺตพฺพา จ. รูปํ เนวทสฺสเนนนภาวนายปหาตพฺพํ, นทสฺสเนนนภาวนายปหาตพฺพเหตุกํ, เนวาจยคามินอปจยคามิ, เนวเสขํนาเสขํ, ปริตฺตํ, เสสา ติธาปิ โหนฺติ. ปริตฺตารมฺมณตฺติเก รูปํ อนารมฺมณํ, เสสา ติธา จ น วตฺตพฺพา จ. รูปํ มชฺฌิมํ, อนิยตํ, เสสา ติธาปิ. มคฺคารมฺมณตฺติเก จ รูปํ อนารมฺมณํ, เสสา ติธาปิ วา น วตฺตพฺพา. อุปฺปนฺนาตีตตฺติเกสุ ปฺจปิ ติธา โหนฺติ. อตีตารมฺมณตฺติเก รูปํ อนารมฺมณํ, เสสา ติธา จ น วตฺตพฺพา จ. อชฺฌตฺตตฺติเก ปฺจปิ ติธา โหนฺติ. อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติเก รูปํ อนารมฺมณํ, เสสา ติธาปิ น วตฺตพฺพา จ. จตฺตาโร ขนฺธา อนิทสฺสนอปฺปฏิฆา, รูปกฺขนฺโธ ติธาปิ โหติ.

จตฺตาโร ขนฺธา นเหตู, สงฺขารกฺขนฺโธ สิยา เหตุ, สิยา น เหตุ. รูปํ อเหตุกํ, เหตุวิปฺปยุตฺตํ, เสสา ทฺวิธาปิ. ตโย ขนฺธา สิยา สเหตุกา เจว น จ เหตู, สิยา น วตฺตพฺพา จ, สงฺขารกฺขนฺโธ ทฺวิธา จ น วตฺตพฺโพ จ, รูปํ น วตฺตพฺพเมว. ตถา อนนฺตรทุเกปิ. รูปํ นเหตุอเหตุกํ, ตโย ทฺวิธาปิ, สงฺขารกฺขนฺโธ ทฺวิธา จ น วตฺตพฺโพ จ. ปฺจปิ สปฺปจฺจยา, สงฺขตา, จตฺตาโร อนิทสฺสนา, อปฺปฏิฆา, รูปํ ทฺวิธาปิ. รูปํ รูปี, เสสา อรูปิโน. รูปํ โลกิยํ, เสสา ทฺวิธาปิ. ปฺจปิ เกนจิ วิฺเยฺยา, น จ เกนจิ วิฺเยฺยา จ. จตฺตาโร โน อาสวา, สงฺขารา ทฺวิธาปิ, น วตฺตพฺพา จ. รูปํ สาสโว, อาสววิปฺปยุตฺโต , เสสา ทฺวิธาปิ. รูปํ สาสวา เจว โน จ อาสวา, ตโย ตถา จ น วตฺตพฺพา จ. สงฺขาโร ทฺวิธา จ น วตฺตพฺโพ จ. รูปํ น วตฺตพฺพเมว, ตโย สิยา อาสวสมฺปยุตฺตา เจว โน จ อาสวา, สิยา น วตฺตพฺพา, สงฺขาโร ทฺวิธา จ น วตฺตพฺโพ จ. รูปํ อาสววิปฺปยุตฺตํ สาสวฺจ, เสสา ทฺวิธา จ น วตฺตพฺพา จ. อิมินา นเยน สํโยชนโคจฺฉกาทีสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา. เกวลํ หิ ปรามาสสมฺปยุตฺตทุเก รูปํ ปรามาสวิปฺปยุตฺตํ, ตโย ทฺวิธาปิ, สงฺขาโร ทฺวิธาปิ, ทิฏฺิวเสน น วตฺตพฺโพ จ. ตติเย เอตฺตกเมว วิเสโส. รูปํ อนารมฺมณํ, เสสา สารมฺมณา. วิฺาณํ จิตฺตํ, เสสา โน จิตฺตา. ตโย เจตสิกา, ทฺเว อเจตสิกา. ตโย จิตฺตสมฺปยุตฺตา, รูปํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตํ. วิฺาณํ น วตฺตพฺพํ. ตถา จิตฺตสํสฏฺทุเกปิ. ตโย จิตฺตสมุฏฺานา, วิฺาณํ โน จิตฺตสมุฏฺานํ. รูปํ ทฺวิธาปิ. ตถา อนนฺตรทุกทฺวเยปิ. ตโย จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานา, ทฺเว โน จิตฺตสํสฏฺสมุฏฺานา. ตถา อนนฺตรทุกทฺวเยปิ. วิฺาณํ อชฺฌตฺติกํ, ตโย พาหิรา, รูปํ ทฺวิธาปิ. จตฺตาโร โน อุปาทา. รูปํ ทฺวิธาปิ. ปฺจปิ สิยา อุปาทินฺนา, สิยา อนุปาทินฺนา, โน อุปาทานา.

กิเลสโคจฺฉโก วุตฺตนโยว. รูปํ เนวทสฺสเนนนภาวนาย ปหาตพฺพํ, เสสา ทฺวิธาปิ. เอวํ ยาวปีติทุกา โยชนา เวทิตพฺพา.

รูปํ น เวทนา, น สุขา, น สุขสหคตา, เสสา ทฺวิธาปิ. ตถา อนนฺตรทุเกปิ. รูปํ กามาวจรํ, เสสา ทฺวิธาปิ. เอวํ ยาว สรณทุกา โยชนา เวทิตพฺพา. อยํ ปฺหาปุจฺฉกนโย.

อิเม ปน นยา วิตฺถารโต ปาฬิอฏฺกถาหิ าตพฺพา. อตฺถวินิจฺฉโย จ เนสํ ธมฺมสงฺคณีมาติกตฺถสํวณฺณนาย วุตฺตานุสาเรน าตพฺโพ. อิโต ปรํ อติเรกํ อวตฺวา อปุพฺพเมว วณฺณยิสฺสามาติ อยํ วิภงฺคนยทสฺสนโต สํวณฺณนานโย.

อิทานิ ปเนตฺถ –

กมโตนูนาธิกโต, ทฏฺพฺพสมเภทโต;

ปาฬิมุตฺตนโย เยฺโย, ขนฺธโกสลฺลมิจฺฉตา.

ตตฺถ กมโตติ เอตฺถ อุปฺปตฺติกฺกโม ปหานกฺกโม ปฏิปตฺติกฺกโม ภูมิกฺกโม เทสนากฺกโมติ พหุวิเธสุ กเมสุ ขนฺธานํ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ, น อิตเร, อสมฺภวา. อเภเทน หิ ปฺจสุ ขนฺเธสุ อตฺตคฺคาหปติตํ เวเนยฺยชนํ สมูหฆนวินิพฺโภคทสฺสเนน อตฺตคฺคาหโต โมเจตุกาโม ภควา หิตกาโม ตสฺส ตสฺส ชนสฺส สุขคฺคหณตฺถํ จกฺขุอาทีนํ วิสยภูตํ โอฬาริกํ ปมํ รูปกฺขนฺธํ เทเสสิ, ตโต อิฏฺานิฏฺวิสยสํเวทกํ โอฬาริกํ เวทนํ, ยํ เวเทติ, ตํ สฺชานาตีติ เอวํ เวทนาวิสยสฺส อาการคฺคาหิกํ สฺํ, สฺาวเสนาภิสงฺขารเก สงฺขาเร, เตสํ เวทนาทีนํ นิสฺสยาธิปติภูตํ วิฺาณนฺติ อยํ ตาเวตฺถ กโม.

อนูนาธิกโตติ กสฺมา ปน ภควตา ปฺเจว ขนฺธา วุตฺตา อนูนา อนธิกาติ? สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคหโต, อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปฺปรมโต, อฺเสฺจ ตทวโรธโต. อเนกปฺปเภเทสุ หิ สงฺขตธมฺเมสุ สภาควเสน สงฺคยฺหมาเนสุ รูปํ รูปสภาเคกสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ, เวทนา เวทนาสภาเคกสงฺคหวเสน เอโก ขนฺโธ โหติ. เอส นโย สฺาทีสุปิ, ตสฺมา สพฺพสงฺขตสภาเคกสงฺคหโต ปฺเจว วุตฺตา. เอตปรมฺเจตํ อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุ, ยทิทํ รูปาทโย ปฺจ, ตสฺมา อตฺตตฺตนิยคฺคาหวตฺถุสฺส เอตปรมโตปิ ปฺเจว วุตฺตา. เยปิ จฺเ สีลาทโย ปฺจ ธมฺมกฺขนฺธา วุตฺตา, เตปิ สงฺขารกฺขนฺธปริยาปนฺนตฺตา เอตฺเถว อวโรธํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา อฺเสํ ตทวโรธโตปิ ปฺเจว วุตฺตาติ อยํ อนูนาธิกโต.

ทฏฺพฺพสมเภทโตติ ทฏฺพฺพเภทโต, อุปมาเภทโต จ. ตตฺถ ทฏฺพฺพเภทโต ตาว ปฺจุปาทานกฺขนฺธา สามฺโต อุกฺขิตฺตาสิกปจฺจตฺถิกโต, ภารโต, ขาทกโต, อนิจฺจทุกฺขอนตฺตสงฺขาตวธกโต จ ทฏฺพฺพา. วิเสสโต ปน เผณปิณฺฑํ วิย รูปํ ทฏฺพฺพํ, อุทกพุพฺพุฬมรีจิกกทลิกฺขนฺธมายา วิย ยถากฺกมํ เวทนาทโย ทฏฺพฺพา. ยถา หิ เผณปิณฺโฑ วิมทฺทาสโห, โส จ ปตฺตถาลกาทิอตฺถํ คหิโตปิ ตมตฺถํ น สาเธติ, ภิชฺชติ, เอวํ รูปมฺปิ วิมทฺทาสหํ, ตฺจ สุภาทิวเสน คหิตมฺปิ น ตถา ติฏฺติ, อสุภาทิเยว โหติ.

ยถา วา เผณปิณฺโฑ อเนกสนฺธิฆฏิโต พหุนฺนํ อุทกสปฺปาทิปาณกานํ อาวาโส, อาทิโต เจส พทรปกฺกมตฺโต หุตฺวา อนุปุพฺพวฑฺฒนโก อุฏฺิตมตฺโตปิ เจส ภิชฺชติ, โถกํ คนฺตฺวาปิ, สมุทฺทํ ปตฺวา ปน อวสฺสเมว ภิชฺชติ , เอวํ รูปมฺปิ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ อเนกสนฺธิฆฏิตํ อสีติกิมิกุลโวกิณฺณํ, อาทิโต เจตํ กลลมตฺตํ หุตฺวา อนุปุพฺพวฑฺฒนกํ, กลลมตฺเตปิ เจตํ ภิชฺชติ, อพฺพุทาทิภาเวปิ อายุกฺขยํ ปตฺวา อวสฺสเมว ภิชฺชติ. เอวํ เผณปิณฺฑสทิสํ ทฏฺพฺพํ.

ยถา ปน พุพฺพุโฬ มุหุตฺตรมณีโย อคยฺหุปโค น จิรฏฺิติโกว, เอวํ เวทนาปิ. ยถา จ พุพฺพุโฬ อุทกตลํ, อุทกพินฺทุํ, อุทกชลฺลกํ สงฺกฑฺฒิตฺวา ปุฏํ กตฺวา คหณวาตฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, เอวํ เวทนาปิ วตฺถุํ, อารมฺมณํ, กิเลสชลฺลํ, ผสฺสสงฺฆฏฺฏนฺจาติ จตฺตาริ การณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชตีติ สา พุพฺพุฬสทิสา ทฏฺพฺพา.

ยถา ปน มรีจิกา ชลาสยาทิภาเวน วิปฺปลมฺภิกา, เอวํ สฺาปิ นิจฺจาทิภาเวนาติ มรีจิสทิสา ทฏฺพฺพา. ยถา ปน กทลิกฺขนฺโธ อคยฺหุปโค พหุวฏฺฏิสโมธาโน, เอวํ สงฺขารกฺขนฺโธปิ อคยฺหุปโคนิจฺจาทิสารวิรหิโต, ผสฺสาทิพหุธมฺมสโมธาโน จ โหตีติ โส กทลิกฺขนฺธสทิโส ทฏฺพฺโพ. ยถา ปน มายา อสุวณฺณรชตาทิรูปานิปิ ตถา คาหาเปตฺวา มหาชนํ วฺเจติ, เอวํ วิฺาณมฺปิ อนิจฺจาทิรูปํ เตเนว จิตฺเตน อาคจฺฉนฺตํ วิย นิจฺจาทิโต จ คาหาเปตฺวา วฺเจตีติ ตํ มายาสทิสํ ทฏฺพฺพํ. วุตฺตฺจ –

‘‘เผณปิณฺฑูปมํ รูปํ, เวทนา พุพฺพุฬูปมา;

มรีจิกูปมา สฺา, สงฺขารา กทลูปมา;

มายูปมฺจ วิฺาณํ, เทสิตาทิจฺจพนฺธุนา’’ติ. (สํ. นิ. ๓.๙๕);

อยเมตฺถ ทฏฺพฺพเภโท.

อุปมาเภทโต จ ปน คิลานสาลูปโม รูปุปาทานกฺขนฺโธ, เคลฺูปโม เวทนุปาทานกฺขนฺโธ, เคลฺสมุฏฺานูปโม สฺุปาทานกฺขนฺโธ, อสปฺปายเสวนูปโม สงฺขารุปาทานกฺขนฺโธ , คิลานูปโม วิฺาณุปาทานกฺขนฺโธ. อปิจ จารกการณอปราธการณการกอปราธิกูปมา เอเต ภาชนโภชนพฺยฺชนปริเวสกภุฺชกูปมา จาติ อยเมตฺถ อุปมาเภโท. เอวํ ปาฬิมุตฺตกวินิจฺฉยนโย เยฺโย.

ขนฺธวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

อายตนวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

อายตนวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – ทฺวาทสายตนานีติ เอตฺถ อายตนโต, อายานํ ตนนโต, อายตสฺส จ นยนโต อายตนานิ. จกฺขุรูปาทีสุ หิ ตํตํทฺวารารมฺมณา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เสน เสน อนุภวนาทินา กิจฺเจน อายตนฺติ อุปฏฺหนฺติ ฆเฏนฺติ วายมนฺติ, เต จ ปน อายภูเต ธมฺเม เอตานิ ตโนนฺติ วิตฺถาเรนฺติ, อิทฺจ อตีว อายตํ สํสารทุกฺขํ นยนฺเตว, ปวตฺตยนฺตีติ วุตฺตํ โหติ, ตสฺมา ‘‘อายตนานี’’ติ วุจฺจนฺติ.

อปิจ นิวาสฏฺานฏฺเน, อากรฏฺเน, สโมสรณฏฺานฏฺเน, สฺชาภิเทสฏฺเน, การณฏฺเน จ สาสเน, โลเก จ ‘‘อายตน’’นฺติ วุจฺจนฺติ. จกฺขุอาทีสุ หิ เต เต จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา ตทายตฺตวุตฺติตาย นิวสนฺติ, เตสุ จ อากรภูเตสุ อากิณฺณา วตฺถารมฺมณวเสน จ สโมสรนฺติ, จกฺขาทโยว เนสํ สฺชาติเทโส, การณฺจ, ตสฺมา นิวาสฏฺานาทินา อตฺเถน จกฺขาทีนิ อายตนานีติ เวทิตพฺพานิ.

จกฺขายตนนฺติอาทีสุ จกฺขตีติ จกฺขุ, รูปํ อสฺสาเทติ, วิภาเวติ จาติ อตฺโถ. รูปยตีติ รูปํ. วณฺณวิการํ อาปชฺชมานํ หทยงฺคตภาวํ ปกาเสตีติ อตฺโถ. สุณาตีติ โสตํ. สปฺปตีติ สทฺโท, อุทาหรียตีติ อตฺโถ. ฆายตีติ ฆานํ. คนฺธยตีติ คนฺโธ, อตฺตโน วตฺถุํ สูจยตีติ อตฺโถ. ชีวิตํ อวฺหายตีติ ชิวฺหา. รสนฺติ ตํ สตฺตาติ รโส, อสฺสาเทนฺตีติ อตฺโถ. กุจฺฉิตานํ สาสวธมฺมานํ อาโยติ กาโย, อุปฺปตฺติเทโส. ผุสียตีติ โผฏฺพฺพํ. มนตีติ มโน. อตฺตโน ลกฺขณํ ธาเรนฺตีติ ธมฺมา. จกฺขุ จ ตํ ยถาวุตฺเตนตฺเถน อายตนฺจาติ จกฺขายตนํ…เป… ธมฺมา จ เต อายตนฺจาติ ธมฺมายตนนฺติ อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภทโต ปเนตฺถ สพฺพมฺปิ วิฺาณํ มนายตนํ นาม. เจตสิกสุขุมรูปนิพฺพานานิ ธมฺมายตนํ นาม. เสสานิ สุวิฺเยฺยานิ. อิเมสุ จ อายตเนสุ อตีตาทิเภทภินฺนา, กาลวินิมุตฺตา จ โลกิยโลกุตฺตรา สพฺเพ นามรูปธมฺมา, ปฺตฺติโย จ สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา. ‘‘ชาติ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตา’’ติอาทิวจนโต (ธาตุ. ๗๑) หิ รูปารูปลกฺขณานํ ชาติชราภงฺคานํ สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ สงฺคหิตตฺตา อิตราสมฺปิ ปฺตฺตีนํ ยถารหํ ตตฺถ สงฺคหิตภาโว เวทิตพฺโพติ อยเมตฺถ ธมฺมเภโท.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว ‘‘จกฺขุํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา วิปริณามธมฺมํ. รูปา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา วิปริณามธมฺมา…เป… ธมฺมา อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา วิปริณามธมฺมา’’ติ (วิภ. ๑๕๔) เอวํ วิสยิวิสยายตนวเสน อายตนานิ วุตฺตานีติ อยํ สุตฺตนฺตภาชนียนโย.

อภิธมฺมภาชนีเย ปน ปสาทวิสยายตนานิ ตาว ‘‘ตตฺถ กตมํ จกฺขายตนํ? ยํ จกฺขุ จตุนฺนํ มหาภูตานํ อุปาทาย ปสาโท’’ติอาทินา (วิภ. ๑๕๖) รูปกณฺเฑ (ธ. ส. ๕๙๗) วุตฺตนเยน วิภตฺตานิ. มนายตนํ ปน เอกวิธโต ปฏฺาย ยาวทสวิธา เวทนากฺขนฺเธ วุตฺตนเยน วิภตฺตํ. ธมฺมายตนํ ปน ‘‘ตตฺถ กตมํ ธมฺมายตนํ? เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ, ยฺจ รูปํ อนิทสฺสนอปฺปฏิฆํ ธมฺมายตนปริยาปนฺนํ อสงฺขตา จ ธาตู’’ติ (วิภ. ๑๖๗) อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม เวทนากฺขนฺโธ’’ติอาทินา (วิภ. ๑๖๗) เวทนากฺขนฺธาทีสุ วุตฺตนเยน วิภตฺตํ. สุขุมรูปนิพฺพานานิ รูปกณฺเฑ วุตฺตนยาเนวาติ อยํ อภิธมฺมภาชนียนโย.

ปฺหาปุจฺฉกนยํ ปน อิโต ปรํ วิตฺถารโต อทสฺเสตฺวา ติกทุกานํ อาทิอนฺเตหิ เจว วิเสสตฺถทีปเกหิ จ ติกทุเกหิ โยเชตฺวา ทสฺสยิสฺสาม, เสเสหิปิ ติกทุเกหิ โยชนานโย ขนฺเธ วุตฺตนเยน สกฺกา าตุนฺติ. กถํ ทฺวาทสนฺนํ อายตนานํ กติ กุสลา…เป… กติ อรณาติ? ทสายตนา อพฺยากตา, ทฺวายตนา สิยา กุสลา, สิยา อกุสลา, สิยา อพฺยากตา. เวทนาตฺติเก ทสายตนานิ น วตฺตพฺพานิ, มนายตนํ ติธาปิ, ธมฺมายตนํ ติธา น วตฺตพฺพฺจ…เป… รูปายตนํ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ, นวายตนานิ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆานิ, มนายตนธมฺมายตนานิ อนิทสฺสนอปฺปฏิฆานิ, เอกาทสายตนานิ น เหตู, ธมฺมายตนํ สิยา เหตุ, สิยา น เหตุ…เป… เอกาทสายตนานิ สปฺปจฺจยานิ, ธมฺมายตนํ สิยา สปฺปจฺจยํ, สิยา อปฺปจฺจยํ…เป… ทสายตนานิ รูปํ, มนายตนํ อรูปํ, ธมฺมายตนํ ทฺวิธาปิ…เป… ทสายตนานิ อรณานิ, ทฺวายตนานิ สิยา สรณานิ, สิยา อรณานีติ อยํ ปฺหาปุจฺฉกนโย.

อิทานิ ปน –

กมโต ตาวตฺตโต จ, เตสํ ทฏฺพฺพเภทโต;

ปาฬิมุตฺตนเยเนตฺถ, วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

ตตฺถ กมโตติ อิธาปิ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. อชฺฌตฺติเกสุ หิ อายตเนสุ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆวิสยตฺตา จกฺขายตนํ ปากฏนฺติ ปมํ เทสิตํ, ตโต อนิทสฺสนสปฺปฏิฆวิสยานิ โสตายตนาทีนิ. อถ วา ทสฺสนานุตฺตริยสวนานุตฺตริยเหตุภาวโต พหูปการตฺตา จกฺขุโสตายตนานิ ปมํ เทสิตานิ, ตโต ฆานายตนาทีนิ ตีณิ, ปฺจนฺนมฺปิ ปน โคจรวิสยตฺตา อนฺเต มนายตนํ, จกฺขายตนาทีนํ โคจรตฺตา เตสํ อนนฺตรํ รูปายตนาทีนิ. อปิจ วิฺาณุปฺปตฺติการณววตฺถานโตปิ อยเมเตสํ กโม เวทิตพฺโพ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จกฺขุวิฺาณํ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๔๒๑; สํ. นิ. ๔.๖๐, ๑๑๓; มหานิ. ๑๐๗) อยํ ตาเวตฺถ กโม.

ตาวตฺตโตติ ตาวภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – จกฺขาทโยปิ หิ ธมฺมา เอว, เอวํ สติ ธมฺมายตนมิจฺเจว อวตฺวา กสฺมา ทฺวาทสายตนานิ วุตฺตานีติ เจ? ฉวิฺาณกายุปฺปตฺติยา ทฺวารารมฺมณววตฺถานโต อยเมเตสํ เภโท โหตีติ ทฺวาทส วุตฺตานิ. จกฺขุวิฺาณวีถิปริยาปนฺนสฺส หิ วิฺาณกายสฺส จกฺขายตนเมว อุปฺปตฺติทฺวารํ, รูปายตนเมวารมฺมณํ. ตถา อิตรานิ อิตเรสํ. ฉฏฺสฺส ปน ภวงฺคมนสงฺขาโต มนายตเนกเทโสว อุปฺปตฺติทฺวารํ, อสาธารณฺจ ธมฺมายตนํ อารมฺมณนฺติ. อิติ ฉนฺนํ วิฺาณกายานํ อุปฺปตฺติทฺวารารมฺมณววตฺถานโต ทฺวาทส วุตฺตานีติ อยเมตฺถ ตาวตฺตตา.

ทฏฺพฺพเภทโตติ เอตฺถ ปน สพฺพานิ เจตานิ อายตนานิ อนาคมนโต, อนิคฺคมนโต จ ทฏฺพฺพานิ. น หิ ตานิ ปุพฺเพ อุทยา กุโตจิ อาคจฺฉนฺติ, นปิ อุทฺธํ วยา กุหิฺจิ คจฺฉนฺติ , อถ โข ปุพฺเพ อุทยา อปฺปฏิลทฺธสภาวานิ อุทฺธํ วยา ปริภินฺนสภาวานิ, ปุพฺพนฺตาปรนฺตเวมชฺเฌ ปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อวสานิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา อนาคมนโต, อนิคฺคมนโต จ ทฏฺพฺพานิ. ตถา นิรีหโต, อพฺยาปารโต จ. น หิ จกฺขุรูปาทีนํ เอวํ โหติ ‘‘อโห วต อมฺหากํ สามคฺคิยํ วิฺาณํ นาม อุปฺปชฺเชยฺยา’’ติ, น จ ตานิ วิฺาณุปฺปาทนตฺถํ ทฺวารภาเวน, วตฺถุภาเวน, อารมฺมณภาเวน วา พฺยาปารมาปชฺชนฺติ, อถ โข ธมฺมตาเวสา ยํ จกฺขุรูปาทิสามคฺคิยํ จกฺขุวิฺาณาทีนิ สมฺภวนฺติ, ตสฺมา นิรีหโต, อพฺยาปารโต จ ทฏฺพฺพานิ. อปิจ อชฺฌตฺติกานิ สุฺโ คาโม วิย ทฏฺพฺพานิ ธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตตฺตา, พาหิรานิ คามฆาตกโจรา วิย. ตถา อชฺฌตฺติกานิ ฉปาณกา วิย ทฏฺพฺพานิ, พาหิรานิ เตสํ โคจรา วิยาติ อยเมตฺถ ทฏฺพฺพเภโท. เอวํ ปาฬิมุตฺตนเยเนตฺถ วิฺาตพฺโพ วินิจฺฉโย.

อายตนวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธาตุวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ธาตุวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – อฏฺารส ธาตุโยติ เอตฺถ วิทหติ, ธียเต, วิธานํ, วิธียเต เอตาย, เอตฺถ วา ธียตีติ ธาตุ. โลกิยา หิ ธาตุโย การณภาเวน ววตฺถิตา. อเนกปฺปการํ สํสารทุกฺขํ วิทหนฺติ นิปฺผาเทนฺติ, สตฺเตหิ จ ธียนฺเต ธารียนฺติ, ทุกฺขวิธานมตฺตเมว เจตา, เอตาหิ จ การณภูตาหิ สํสารทุกฺขํ สตฺเตหิ อนุวิธียติ, ยถาวิหิตฺจ ทุกฺขํ เอตาสฺเวว ธียติ ปียตีติ เอเตหิ อตฺเถหิ ยถาสมฺภวํ ‘‘ธาตุโย’’ติ วุจฺจนฺติ.

ยถา วา สรีรสงฺขาตสฺส สมุทายสฺส อวยวภูเตสุ รสโสณิตาทีสุ อฺมฺํ วิสภาคลกฺขณปริจฺฉินฺเนสุ ธาตุสมฺา, เอวเมเตสุปิ ปฺจกฺขนฺธสงฺขาตสฺส อตฺตภาวสฺส จกฺขาทีสุ ธาตุสมฺา เวทิตพฺพา. โลกิยโลกุตฺตรสาธารณตฺถวเสน ปน อตฺตโน สภาวํ ธาเรนฺตีติ ธาตุโย. นิชฺชีวมตฺตานเมตํ อธิวจนํ, ตสฺมา ยถาวุตฺเตนตฺเถน จกฺขุ จ ตํ ธาตุ จาติ จกฺขุธาตุ. เอวํ เสเสสุปีติ อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภทโต ปเนตฺถ อายตเนสุ วุตฺตนเยน เวทิตพฺโพ. อปิจ ปฺจทฺวาราวชฺชนสมฺปฏิจฺฉนทฺวยวิฺาณํ มโนธาตุ นาม. ปฺจวิฺาณมโนธาตุวชฺชิตํ ปน สพฺพมฺปิ วิฺาณํ มโนวิฺาณธาตุ นาม. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว – ‘‘ปถวีธาตุ อาโป เตโช วาโย อากาสวิฺาณธาตู’’ติ ฉ ธาตุโย อุทฺทิสิตฺวา อาทิโต ปฺจ อชฺฌตฺติกพาหิรวเสน, ปจฺฉิมา จ ฉ วิฺาณวเสน วิภตฺตา, อปราปิ ‘‘สุขธาตุ ทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสุเปกฺขาอวิชฺชาธาตู’’ติ ฉ ธาตุโย อุทฺทิสิตฺวา ตถา ตถา วิภตฺตา, ปุน อปราปิ ‘‘กามธาตุ พฺยาปาทวิหึสาเนกฺขมฺมอพฺยาปาทอวิหึสาธาตู’’ติ ฉ ธาตุโย อุทฺทิสิตฺวา, เอวํ ตีหิ ฉกฺเกหิ ปจฺเจกํ เตภูมกา อฏฺารส ธาตุโย สรูปโต, ลกฺขณาหารโต, นิสฺสยวิสยปโยควินาภาวาทิโต จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพาติ อยํ สุตฺตนฺตภาชนียนโย.

อภิธมฺมภาชนีเย ปน สรูเปเนว อฏฺารส ธาตุโย อุทฺทิสิตฺวา ปสาทวิสยธาตุโย อายตเน วุตฺตนเยน วิภตฺตา, สตฺต วิฺาณธาตุโย ปน –

‘‘ตตฺถ กตมา จกฺขุวิฺาณธาตุ? จกฺขุฺจ ปฏิจฺจ รูเป จ อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… จกฺขุวิฺาณธาตุ. อยํ วุจฺจติ จกฺขุวิฺาณธาตุ…เป… กายวิฺาณธาตุ.

‘‘ตตฺถ กตมา มโนธาตุ? จกฺขุวิฺาณธาตุยา…เป… กายวิฺาณธาตุยา…เป… นิรุทฺธสมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… สพฺพธมฺเมสุ วา ปน ปมสมนฺนาหาโร อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… อยํ วุจฺจติ มโนธาตุ.

‘‘ตตฺถ กตมา ธมฺมธาตุ? เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ, ยฺจ รูปํ อนิทสฺสนํ อปฺปฏิฆํ ธมฺมายตนปริยาปนฺนํ, อสงฺขตา จ ธาตุ…เป… อยํ วุจฺจติ ธมฺมธาตุ.

‘‘ตตฺถ กตมา มโนวิฺาณธาตุ…เป… มโนธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตรา อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ จิตฺตํ…เป… อยํ วุจฺจติ มโนวิฺาณธาตู’’ติ (วิภ. ๑๘๔) –

เอวํ วิภตฺตา. ตตฺถ สพฺพธมฺเมสุ วา ปน ปมสมนฺนาหาโรติ เอตฺถ ปฺจวิฺาณวิสเยสุ สพฺพธมฺเมสูติ เอวํ อตฺโถ คเหตพฺโพ. มโนธาตุยาปิ อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธสมนนฺตราติ เอตฺถ ปน ปิ-กาโร สมฺปิณฺฑนตฺโถ, ตสฺมา มโนธาตุยาปิ สนฺตีรณโวฏฺพฺพนาทิมโนวิฺาณธาตุยาปีติ เอวมตฺโถ คเหตพฺโพ. มนฺจ ปฏิจฺจาติอาทีสุ มโนทฺวาเร ภวงฺคมนฺเจว จตุภูมกธมฺมารมฺมณฺจ ปฏิจฺจ สหาวชฺชนกชวนํ นิพฺพตฺตตีติ อตฺโถ. อยํ อภิธมฺมภาชนียนโย.

ปฺหาปุจฺฉกนเย ปน อฏฺารสนฺนํ ธาตูนํ กติ กุสลา…เป… กติ อรณาติ? โสฬส ธาตุโย อพฺยากตา, ทฺเว ธาตุโย ติธาปิ โหนฺติ…เป… ทส ธาตุโย เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา, ปฺจ ธาตุโย วิปากา, มโนธาตุ สิยา วิปากา, สิยา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา, ทฺเว ธาตุโย ติธาปิ โหนฺติ. ทส ธาตุโย อุปาทินฺนุปาทานิยา, สทฺทธาตุโย อนุปาทินฺนุปาทานิยา, ปฺจ ธาตุโย สิยา อุปาทินฺนุปาทานิยา, สิยา อนุปาทินฺนุปาทานิยา, ทฺเว ธาตุโย ติธาปิ…เป… ทส ธาตุโย สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อุปฺปาทิโน, สทฺทธาตุ สิยา อุปฺปนฺนา, สิยา อนุปฺปนฺนา, สิยา น วตฺตพฺพา อุปฺปาทิโนติ, ฉ ธาตุโย ติธาปิ. ธมฺมธาตุ ติธาว…เป… รูปธาตุ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆา, นว ธาตุโย อนิทสฺสนสปฺปฏิฆา, อฏฺ ธาตุโย อนิทสฺสนอปฺปฏิฆา. สตฺตรส ธาตุโย น เหตู, ธมฺมธาตุ ทฺวิธาว…เป… โสฬส ธาตุโย อรณา, ทฺเว ธาตุโย ทฺวิธาปีติ อยํ ปฺหาปุจฺฉกนโย.

อิทานิ ปเนตาสํ –

กมตาวตฺตโต ทฏฺพฺพา, ปจฺจยานํ วิภาคโต;

ธาตูนมิธ วิฺเยฺโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ กมโต ตาว อิธาปิ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. โส จ ปนายํ เหตุผลานุปุพฺพววตฺถานวเสน วุตฺโต. จกฺขุธาตุ รูปธาตูติ อิทํ หิ ทฺวยํ เหตุ, จกฺขุวิฺาณธาตูติ อิทํ ผลํ. เอวํ สพฺพตฺถ. อยํ ตาเวตฺถ กโม.

ตาวตฺตโต ปน ยา อิธ สุตฺตนฺตภาชนีเย ตีหิ ฉกฺเกหิ วุตฺตา ธาตุโย เจว, เตสุ เตสุ สุตฺตาภิธมฺมปเทเสสุ ‘‘อาภาธาตุ…เป… อเนกธาตุนานาธาตุโลโก’’ติอาทินา อาคตา จาติ อฺาปิ พหุธาตุโย ทิสฺสนฺติ, ตาสมฺปิ วเสน ปริจฺเฉทํ อวตฺวา กสฺมา อฏฺารเสว วุตฺตาติ? ตาสมฺปิ ตทนฺโตคธตฺตา.

อปิจ วิชานนสภาเว วิฺาเณ ชีวสฺีนํ ตสฺสา จกฺขุวิฺาณาทิเภเทน อเนกตํ, จกฺขุรูปาทิปจฺจยายตฺตวุตฺติตาย อนิจฺจตฺจ ปกาเสตฺวา ตสฺมึ ทีฆรตฺตานุสยิตชีวสฺาสมูหนนตฺถฺจ อฏฺารเสว วุตฺตา. กิฺจ ภิยฺโย – เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน จ. เวเนยฺยา หิ อรูปมูฬฺโห รูปมูฬฺโห อุภยมูฬฺโหติ ติวิธา โหนฺติ. เตสํ ติณฺณมฺปิ ยถากฺกมํ นาติสงฺเขปวิตฺถารโต อรูปเภทวิภาวินี ขนฺธเทสนา, รูปเภทวิภาวินี อายตนเทสนา, ตทุภยเภทวิภาวินี ธาตุเทสนา สปฺปายาติ เวเนยฺยชฺฌาสยวเสน อฏฺารเสว วุตฺตาติ. วุตฺตฺจ –

‘‘สงฺเขปวิตฺถารนเยน ตถา ตถา หิ,

ธมฺมํ ปกาสยติ เอส ยถา ยถาสฺส;

สทฺธมฺมเตชวิหตํ วิลยํ ขเณน,

เวเนยฺยสตฺตหทเยสุ ตโม ปยาตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๘๓);

อยเมตฺถ ตาวตฺตตา.

ทฏฺพฺพโต ปเนตา สพฺพาปิ สงฺขตา ธาตุโย ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิวิตฺตโต, ธุวสุภสุขตฺตภาวสุฺโต, ปจฺจยายตฺตวุตฺติโต จ ทฏฺพฺพา. วิเสสโต ปเนตฺถ เภริตลํ วิย จกฺขุธาตุ ทฏฺพฺพา, ทณฺโฑ วิย รูปธาตุ, สทฺโท วิย จกฺขุวิฺาณธาตุ. ตถา ติสฺโสปิ เจตา ยถากฺกมํ อาทาสตลมุขมุขนิมิตฺตานิ วิย. ตถา ติลยนฺตจกฺกเตลานิ วิย, อธรารณีอุตฺตรารณีอคฺคี วิย จ ทฏฺพฺพา. เอส นโย โสตธาตุอาทีสุปิ. มโนธาตุ ปน ยถาสมฺภวโต จกฺขุวิฺาณธาตุอาทีนํ ปุเรจรานุจรา วิย ทฏฺพฺพา. ธมฺมธาตุยํ ปน เวทนา สลฺลสูลมิว , สฺา ริตฺตมุฏฺิ วิย, สงฺขารา วิสรุกฺขมิว, สุขุมรูปํ ขุรจกฺกํ วิย, อสงฺขตา ธาตุ เขมนฺตภูมิ วิย จ ทฏฺพฺพา, มโนวิฺาณธาตุ ปน มกฺกโฏ วิย, อสฺสขฬุงฺโก วิย, ยตฺถกามนิปาติโต เวหาสกฺขิตฺตทณฺโฑ วิย, รงฺคนโฏ วิย จ ทฏฺพฺพา. อยเมตฺถ ทฏฺพฺพตา.

ปจฺจยานํวิภาคโต ปเนตฺถ จกฺขุวิฺาณธาตุยา จกฺขุ นิสฺสยปจฺจโย, รูปํ อารมฺมณปจฺจโย, กิริยามโนธาตุ อนนฺตรปจฺจโย, ตโย อรูปิโน ขนฺธา สหชาตปจฺจโย. เอวํ โสตวิฺาณาทีสุปิ. มโนวิฺาณธาตุยา ปน มโนธาตุ อนนฺตรปจฺจโย, ธมฺมธาตุ อารมฺมณปจฺจโย, สมฺปยุตฺตนิสฺสยสหชาตาทิปจฺจโยติ อยํ ปจฺจยวิภาโค. เอวํ วิฺเยฺโย ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ธาตุวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

สจฺจวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

สจฺจวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – จตฺตาริ อริยสจฺจานีติ เอตฺถายํ สจฺจ-สทฺโท อเนเกสุ อตฺเถสุ ทิสฺสติ. เสยฺยถิทํ – ‘‘สจฺจํ ภเณ น กุชฺเฌยฺยา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๒๔) วาจาสจฺเจ. ‘‘สจฺเจ ิตา สมณพฺราหฺมณา’’ติอาทีสุ (ชา. ๒.๒๑.๔๓๓) วิรติสจฺเจ. ‘‘กสฺมา นุ สจฺจานิ วทนฺติ นานา, ปวาทิยาเส กุสลาวทานา’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๑) ทิฏฺิสจฺเจ. ‘‘เอกํ หิ สจฺจํ, น ทุติยมตฺถี’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๘๙๐) ปรมตฺถสจฺเจ, นิพฺพาเน เจว มคฺเค จ. ‘‘จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ กติ กุสลา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๒๑๖) อริยสจฺเจ. สฺวายมิธาปิ อริยสจฺเจ วตฺตติ. เกนฏฺเน สจฺจานิ? ตถฏฺเน. โกยํ ตถฏฺโ นาม? โย ปฺาจกฺขุนา อุปปริกฺขมานานํ มายาว วิปรีโต, มรีจีว วิสํวาทโก, ติตฺถิยานํ อตฺถา วิย อนุปลพฺภมานสภาโว จ น โหติ, อถ โข พาธนปฺปภวสนฺตินิยฺยานภูเตน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวน อริยาณสฺส โคจโร โหติ. อยํ ตถฏฺโ สจฺจฏฺโติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตฺจ –

‘‘อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาสภูตภาวํ จตูสุปิ;

ทุกฺขาทีสฺววิเสเสน, สจฺจฏฺํ อาหุ ปณฺฑิตา’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙; สารตฺถ. ฏี. มหาวคฺค ๓.๑๔).

อริยานิ จ ตานิ สจฺจานิ จาติ อริยสจฺจานิ. อริยานีติ อุตฺตมานิ, อวิสํวาทกานีติ อตฺโถ. อริเยหิ พุทฺธาทีหิ ปฏิวิชฺฌิตพฺพานิ สจฺจานิ, อริยสฺส วา สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺตกานิ สจฺจานิ เตน อุปฺปาทิตตฺตา, ปกาสิตตฺตา จ, อริยภาวกรานิ วา สจฺจานิ เตสํ อภิสมฺพุทฺธตฺตา อริยภาวสิทฺธิโตติ อริยสจฺจานิ. ‘‘ทุกฺขํ อริยสจฺจ’’นฺติอาทีสุ ปน ทุ-อิติ อยํ สทฺโท กุจฺฉิเต ทิสฺสติ. กุจฺฉิตํ หิ ปุตฺตํ ‘‘ทุปุตฺโต’’ติ วทนฺติ. ขํ-สทฺโท ปน ตุจฺเฉ. ตุจฺฉํ หิ อากาสํ ‘‘ข’’นฺติ วุจฺจติ. อิทฺจ ปมสจฺจํ กุจฺฉิตํ อเนโกปทฺทวาธิฏฺานโต, ตุจฺฉํ พาลชนปริกปฺปิตธุวสุภสุขตฺตภาววิรหิตโต, ตสฺมา กุจฺฉิตตฺตา, ตุจฺฉตฺตา จ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ วุจฺจติ. สํ-อิติ จ อยํ สทฺโท ‘‘สมาคโม, สเมต’’นฺติอาทีสุ สํโยคํ ทีเปติ. อุ-อิติ อยํ สทฺโท ‘‘อุปฺปนฺนํ อุทิต’’นฺติอาทีสุ อุปฺปตฺตึ. อย-สทฺโท ปน การณํ ทีเปติ. อิทฺจ ทุติยสจฺจํ อวเสสปจฺจยสมาโยเค สติ ทุกฺขสฺสุปฺปตฺติการณนฺติ ‘‘ทุกฺขสมุทโย’’ติ วุจฺจติ.

ตติยสจฺจํ ปน ยสฺมา นิ-สทฺโท อภาวํ, โรธ-สทฺโท จารกํ ทีเปติ, ตสฺมา อภาโว เอตฺถ, เอตสฺมึ วา อธิคเต สํสารจารกสงฺขาตสฺส ทุกฺขนิโรธสฺส สพฺพคติสุฺตฺตา, ตปฺปฏิปกฺขตฺตา จาติ ‘‘ทุกฺขนิโรธ’’นฺติ วุจฺจติ, ทุกฺขสฺส วา อนุปฺปาทนิโรธปจฺจยตฺตา. จตุตฺถํ ปน ยสฺมา เอตํ ทุกฺขนิโรธํ คจฺฉติ, สตฺตํ วา ตํ คมยติ อารมฺมณวเสน ตทภิมุขตฺตา, ปฏิปทา จ โหติ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา, ตสฺมา ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ วุจฺจติ.

อปิจ ทุกฺขาทีนํ จตฺตาโร จตฺตาโร อตฺถา วิภตฺตา ตถา อวิตถา อนฺถา, เย ทุกฺขาทีนิ อภิสเมนฺเตหิ อภิสเมตพฺพา. ยถาห –

‘‘ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ สงฺขตฏฺโ สนฺตาปฏฺโ วิปริณามฏฺโ, อิเม จตฺตาโร ทุกฺขสฺส ทุกฺขฏฺา ตถา อวิตถา อนฺถา. สมุทยสฺส อายูหนฏฺโ นิทานฏฺโ สํโยคฏฺโ ปลิโพธฏฺโ …เป… นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺโ วิเวกฏฺโ อสงฺขตฏฺโ อมตฏฺโ…เป… มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ เหตฺวฏฺโ ทสฺสนฏฺโ อาธิปเตยฺยฏฺโ…เป… อนฺถา’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๘).

เอวํ วิภตฺตานํ จตุนฺนํ จตุนฺนํ อตฺถานํ วเสน ทุกฺขาทีนิ เวทิตพฺพานิ. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภทโต ปน ตณฺหาวชฺชิตา สพฺพโลกิยธมฺมา, สํกิเลสิกวชฺชิตา วา ทุกฺขสจฺจํ นาม, ตณฺหา ปน สพฺพา อกุสลา วา โลกิยกุสลา วา ธมฺมา สมุทยสจฺจํ นาม, นิพฺพานํ นิโรธสจฺจํ นาม, โลกุตฺตรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานิ อฏฺมคฺคงฺคานิ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจํ นาม. อิเมหิ ปน มคฺคงฺเคหิ สมฺปยุตฺตา จิตฺตเจตสิกา ธมฺมา เจว สามฺผลานิ เจตฺถ อสงฺคหิตานีติ เวทิตพฺพานิ. ตานิ หิ ‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต สงฺขารทุกฺขสงฺคหิตานิปิ. ยาย ปริฺาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเตน น โหนฺติ, ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ น วุจฺจนฺติ, ตานิ เปตฺวา สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมา สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพา. อยํ ธมฺมเภโท.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ สุตฺตนฺตภาชนีเย ทุกฺขสจฺจํ ตาว –

‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺขํ อริยสจฺจํ? ชาติปิ ทุกฺขา, ชราปิ ทุกฺขา, มรณมฺปิ ทุกฺขํ, โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสาปิ ทุกฺขา, อปฺปิเยหิ สมฺปโยโค ทุกฺโข, ปิเยหิ วิปฺปโยโค ทุกฺโข, ยมฺปิจฺฉํ น ลภติ, ตมฺปิ ทุกฺขํ, สํขิตฺเตน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ทุกฺขา’’ติ (วิภ. ๑๙๐) –

อุทฺทิสิตฺวา วิภตฺตํ. ตตฺถ ทุกฺขํ ติวิธํ โหติ ทุกฺขทุกฺขํ วิปริณามทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขนฺติ. ตตฺถ ทุกฺขทุกฺขํ ทุวิธํ ปริยายทุกฺขํ นิปฺปริยายทุกฺขนฺติ. ตตฺถ กายิกเจตสิกทุกฺขโทมนสฺสเวทนา นิปฺปริยายทุกฺขํ นาม, ตทวเสสา ปน ทุกฺขทุกฺขสฺส วตฺถุภูตา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา ปริยายทุกฺขํ นาม. สุขโสมนสฺสเวทนา วิปริณามทุกฺขํ นาม. สพฺเพ ปน ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, สพฺพสงฺขตา วา สงฺขารทุกฺขํ นาม. อิเมสํ ติณฺณํ ทุกฺขานํ วเสน ยถาโยคํ ตีสุ ภเวสุ ชาติอาทีนํ ทุกฺขทุกฺขตา เวทิตพฺพา. กามภวสฺมึ หิ ชาติ ตาว สยํ น ทุกฺขา, อปายคติมนุสฺสคติอาทีสุ ปน นิรยคฺคิสนฺตาปาทิมูลกํ, คพฺโภกฺกนฺติกาทิมูลกํ, ชิฆจฺฉาปิปาสาทิมูลกฺจ ทุกฺขํ ตสฺส สพฺพสฺส กายิกเจตสิกทุกฺขสฺส วตฺถุภาเวน ปริยายโต ทุกฺขนฺติ. ตถา ชรามรณาทโยปิ. เกวลํ ชรา กายทุพฺพลตามูลสฺส, ปุตฺตทาราทิปริภวมูลสฺส จ, มรณํ ปน มารณนฺติกเวทนาภูตสฺส, นิรยาทิคตินิมิตฺตทสฺสนมูลสฺส จ ทุกฺขสฺส วตฺถุภาวโต, โสกาทโย โสกาทิมูลสฺส กายิกเจตสิกทุกฺขสฺส วตฺถุภาวตฺตา เจว สยํ ทุกฺขตฺตา จ ทุกฺขาติ เวทิตพฺพา. วิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขตา เจสํ ปสิทฺธาเยว. เอวํ กามภเว ชาติอาทีนํ ตีหิปิ ทุกฺเขหิ ทุกฺขตา เวทิตพฺพา. รูปารูปภเวสุ ปน ยสฺมา โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา น สนฺติ, ตสฺมา ตตฺถ ชาติอาทีนํ วิปริณามทุกฺขสงฺขารทุกฺขวเสน จ ทุกฺขตา เวทิตพฺพา, น ทุกฺขทุกฺขวเสนาติ อยํ ทุกฺขสจฺเจ นโย.

สมุทยสจฺจํ ปน ‘‘กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา’’ติ (วิภ. ๒๐๓) ตตฺตกเมว อุทฺทิสิตฺวา ‘‘สา โข ปเนสา ตณฺหา กตฺถ อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ (วิภ. ๒๐๓) ปุจฺฉิตฺวา ฉนฺนํ ฉนฺนํ อินฺทฺริยวิสยวิฺาณผสฺสเวทนาสฺาเจตนาตณฺหาวิตกฺกวิจารานํ วิสยภูตานํ วเสน ตณฺหาย ‘‘เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ เอวํ อุปฺปตฺตึ ปกาเสตฺวา วิตฺถารโต วิภตฺตํ.

นิโรธสจฺจํ ปน ‘‘ตสฺสา เอว ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย’’ติ (วิภ. ๒๐๔) วตฺวา ปุน ‘‘สา โข ปเนสา ตณฺหา กตฺถ นิรุชฺฌมานา นิรุชฺฌตี’’ติ (วิภ. ๒๐๔) ปุจฺฉิตฺวา สมุทยสจฺเจ วุตฺตอินฺทฺริยาทีนํ วเสน ปฏิโลมโต ตณฺหาย นิโรธํ ปกาเสตฺวา วิตฺถารโต วิภตฺตํ. ตตฺถ อเสสวิราคนิโรโธติอาทีนิ ปทานิ นิพฺพานเววจนานิ. นิพฺพานํ หิ อาคมฺม ตณฺหา อเสสา วิรชฺชติ, นิรุชฺฌติ, จชียติ, ปฏินิสฺสชฺชียติ, มุจฺจติ, น อลฺลียติ, ตสฺมา ‘‘อเสสวิราคนิโรโธ จาโค ปฏินิสฺสคฺโค มุตฺติ อนาลโย’’ติ วุจฺจติ. เอกเมว หิ นิพฺพานํ, นามานิ ปนสฺส สพฺพสงฺขตานํ นามปฏิปกฺขวเสน อเนกานิ โหนฺติ.

นนุ ปาเฏกฺกํ นิพฺพานํ นาม นตฺถิ, กิเลสกฺขยมตฺตเมว นิพฺพานํ, เตเนว จ ตาสุ ตาสุ สุตฺตาภิธมฺมเทสนาสุ ‘‘ราคกฺขโย โทสกฺขโย’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๔.๓๑๔) วุตฺตนฺติ เจ? น, อรหตฺตนิพฺพานานํ เอกตาปชฺชนโต. อรหตฺตมฺปิ หิ ‘‘โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย, อิทํ วุจฺจติ อรหตฺต’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๓๑๔) ราคาทีนํ ปริกฺขยนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อุปจาเรน อรหตฺตํ ราคกฺขยาทิภาเวน วุจฺจติ, ตถา ราคาทีนํ ขยเหตุตฺตา นิพฺพานมฺปิ ราคกฺขยาทิภาเวน วุตฺตนฺติ คเหตพฺพํ. อิตรถา นิพฺพานสฺส พหุตฺตํ อาปชฺชติ ราคาทีนํ พหุนฺนํ ขยสฺสาปิ พหุตฺตา. สพฺพกิเลสานมฺปิ ขยสฺส เอกตฺเตน ปมมคฺเคน ทิฏฺิอาทีนํ ขเย สพฺพกิเลสกฺขโย อาปชฺชติ, โอฬาริกตฺตฺจสฺส สิยา ติรจฺฉานานมฺปิ อุปฺปนฺนราคกฺขยสฺส ปากฏตฺเตน นิพฺพานปฺปตฺติโต, โคตฺรภูกฺขเณปิ จ ราคาทิกฺขโย โหติ โคตฺรภุโน นิพฺพานวิสยตฺตา, มคฺคสฺส ปน นิพฺพานารมฺมณตาอปฺปสงฺโค. น หิ อตฺตนา เขปิยมานกิเลสกฺขยมารพฺภ มคฺโค อุปฺปชฺชติ, อภาโว จสฺส อาปชฺชติ ราคาทิกฺขยภูตสฺส ปน อภาวสฺส ปกฺขวเสน ตุจฺฉรูปตฺตา, ตสฺสาปิ ภาวตฺตาภาวาว วิเวกลกฺขณํ น สิยา, สงฺขตตา จสฺส สิยา. น หิ กทาจิ อุปลพฺภมานํ อสงฺขตํ ภวิตุมรหติ สพฺเพสมฺปิ อเหตุกตฺตาปตฺติโต, สงฺขตตฺเตปิ จสฺส น นิพฺพานตฺตํ อุปฺปตฺติชราภงฺคสมงฺคิตาย ทุกฺขตฺตา, ตถา จ อภาวสฺสาปิ อภาโว, อนวฏฺานฺจ ขีณานมฺปิ ราคาทีนํ ปุน อุปฺปชฺชนํ เยสํ เตสเมว อภาโว อภาวสฺส วินฏฺตฺตา.

อปิจ การณนฺตเรน วา ภาเว อุปฺปนฺเน ราคาทีนํ น กาจิ หานิ โหติ. น หิ อฺสฺสุปฺปตฺติยํ อฺํ วิคจฺฉติ. อภาโว ภาวสฺส วิโรธิ, วิโรธิสนฺนิธาเน จ อิตรํ วิคจฺฉตีติ เจ? กิมิทํ วิคมนํ นาม. ยทิ ตมฺปิ ภาวรูปํ, สมานโทสตา จสฺส สิยา อนวฏฺานฺจ, น จ อตฺถสิทฺธิ. ยทิ ตุจฺฉรูปํ, กึ ปมเมวสฺส ตุจฺฉรูปตาย อุปคตาย ทูรมฺปิ คนฺตฺวา อุปคนฺตพฺพาติ สิทฺธา, ราคาทิกฺขยภูตสฺส นิพฺพานสฺส ตุจฺฉรูปตาย อภาโว, น จ อภาโว เอว นิพฺพานํ. อตีตานาคตโทสานมภาเว นิพฺพานปฺปตฺติยา อภาวโต วตฺตมานานฺจ อภาโว นาม. อภาโว นาม น กิเลสวิคมมตฺโต, อปิ ตุ อนุปฺปตฺติภาเวน. อจฺจนฺตวิคโม นิพฺพาเนนาปิ สมฺปาทียตีติ เจ? น, ตสฺส การณภาวา. วิปสฺสนา การณมิติ เจ? น, อตฺตาทิวิกปฺปชนกสงฺขตธมฺมทสฺสเนน วินา อนตฺตาทิวิกปฺปภูตาย วิปสฺสนาย อนุปฺปตฺติโต. ยทิ หิ อุปฺปชฺเชยฺย, ตาย สพฺเพปิ สตฺตา วิมุตฺตา เอว สิยุํ, โน จ กทาจิ น ปุจฺเฉยฺย วิรุทฺธธมฺมทสฺสนาภาวา. น หิ ทสฺสนํ วินา วิกปฺโป สมฺภวติ, น จ อตฺตาติ วิกปฺปชนกรูปาทิทสฺสนเมว ตพฺพิรุทฺธวิกปฺปชนกํ โหติ. พุทฺธานฺจ ปรมฺปโรปเทเสน รูปาทีสุ วิปสฺสนาวิกปฺโป อุปฺปชฺชตีติ เจ? น, เตสมฺปิ วิรุทฺธทสฺสนาภาเวน วิปสฺสนาวิกปฺปานุปฺปตฺติโต. น หิ ยาทิสาย การณสามคฺคิยา ยาทิสํ การิยํ อุปฺปชฺชติ, ตาทิสาย เอว ตพฺพิรุทฺธํ อุปฺปชฺชติ อเหตุกตฺตปฺปสงฺคโต. น จ วิรุทฺธทสฺสนาภาเวน เอกสฺส วิปสฺสนาวิกปฺปชนกสามตฺถิยาภาวโต ตาทิสานํ ปรมฺปรายปิ ตพฺภาโว, ตทุปเทโส จ สมฺภวติ. ติลกฺขณูปเทสนานนฺตริกตาย ปน พุทฺธานํ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา สิทฺธิ, เตเนวสฺส กิเลสานมจฺจนฺตปฺปหานสฺส, วิปสฺสโนปเทสสามตฺถิยสฺส จ สิทฺธีติ นิพฺพานเมว ตทุภยการณํ, นาฺนฺติ คเหตพฺพํ.

กสฺมา ปน นิพฺพานทสฺสเนน ราคาทีนํ อจฺจนฺตปฺปหานํ, ติลกฺขณฺจ โหติ. น หิ อฺสฺส ทสฺสเนน อิตรราคปฺปหานํ, ติลกฺขณาณฺจ ยุตฺตนฺติ? น, อสงฺขตทสฺสเนน สงฺขตสฺส วา โทสสฺส วา ปากฏตฺตา. ทิฏฺอจฺจนฺตสุขานํ หิ วฏฺฏสุเข, ตนฺนิสฺสยารมฺมณาทีสุ จ สุขาภิมาโน, วฏฺฏาภิรติ จ ปหียติ ทิฏฺปรตีรสฺส นาวิกสฺส นาวาเยกเทเส สุขาภิมานาภิรติโย วิย. อปิจ สงฺขตธมฺเมสุ อลฺลินา ราคาทโย อสงฺขตธมฺเม สณฺาตุํ น สกฺโกนฺติ อคฺคิกฺขนฺเธ วิย มกฺขิกา, ถเล วิย จ ชลจรา, นิพฺพานทสฺสเนน ปหีนโทสสฺส จิตฺตสฺส ยาถาวโต เตสุ สงฺขเตสุ ติลกฺขณทสฺสนํ สมฺภวติ เภสชฺชาเลเปน วิหตกาจติมิราทิโทสสฺส จกฺขุโน ฆฏาทิรูปทสฺสนํ วิย, ทิฏฺโทเสสุ จสฺส สงฺขาเรสุ น ปุน ราคาทีนมุปฺปตฺติ าตา สุจิภาเว วิย วจฺจกูเปติ เวทิตพฺพํ.

กสฺมา ปน เกสฺจิ สตฺตานํ เอว นิพฺพานสจฺฉิกิริยาสมฺภโว, น สพฺเพสนฺติ? อนาทิพุทฺธปรมฺปโรปเทสสาเปกฺขตฺตา, เตสฺจ อุปเทสกานํ สพฺพตฺถ สพฺพทา อภาวโต, โสตูนฺจ ขณสมฺปตฺติยา อจฺจนฺตทุลฺลภตฺตา, จกฺกวาฬานฺจ อนนฺตตฺตา, ตสฺมา เกจิ เอว พุทฺธุปฺปาทกาเล ติลกฺขโณปเทสลาเภน นิพฺพานํ สจฺฉิกโรนฺติ, น สพฺเพติ คเหตพฺพํ.

กถํ ปเนตฺถ ราคาทีนํ อจฺจนฺตวิคโม นิพฺพาเนน สาธียตีติ? น ตาว โส, อตีตานาคตานํ เตสมิทานิ อภาวา, ปุพฺเพ จ ตสฺส วิชฺชมานตฺตา, วตฺตมานานํ สรสนิโรธโต. กถฺจสฺส ตุจฺฉรูปสฺส นิพฺพานสฺส เหตุตฺเต ยถาวุตฺตโทสานมวสโรติ เจ? น, ตสฺส ภาวรูปตฺตา. ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา หิ นิพฺพานมารพฺภ อนุสยาชนนภาเวน อุปฺปนฺนมคฺคา เอว กิเลสานมนุปฺปาทนิโรโธ ตทุปฺปตฺติยา อายตึ อุปฺปชฺชนารหานํ อนุปฺปตฺติโต อคฺคิสนฺนิธาเน องฺกุราชนกภาเวน อุปฺปนฺนสาลิกฺขนฺธสฺส พีชตาภาวรูปตา วิย. น หิ อภาโว นาม โกจิ ปรมตฺถโต อตฺถิ, โย การเณน ชนียติ ตพฺพิรุทฺธกฺขณุปฺปาทนภาโววุปฺปาทนํ อเนกกฺขณุปฺปาทเนน ขนฺธการาภาวุปฺปาทนํ วิย, ตสฺมา กิเลสานํ อนุปฺปตฺตินิโรธสงฺขาตสฺส อริยมคฺคสฺส อุปนิสฺสยตฺตา อุปนิสฺสโยปจาเรน นิพฺพานํ ‘‘อเสสวิราคนิโรโธ’’ติอาทินา วุตฺตํ. สรูเปเนว กสฺมา น วุตฺตนฺติ เจ? อภิสุขุมตฺตา, อนุปลทฺธปุพฺพตฺตา จ, สุขุมตา จสฺส ภควโต อปฺโปสฺสุกฺกตาวจนโต, อริเยน จกฺขุนา ปสฺสิตพฺพโต จ เวทิตพฺพา.

เอตฺถ ปน ปรวาที อาห – ‘‘นตฺเถว นิพฺพานํ อนุปลพฺภนียโต’’ติ. น อนุปลพฺภนียํ ตสฺส สิทฺธตฺตา. อุปลพฺภติ หิ ตํ ตทนุรูปปฏิปตฺติยา อริเยหิ. อปิจ นิพฺพานํ นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ สพฺพสตฺตานํ วิรุทฺธธมฺมานํ ภาเวน อปวคฺคาภาวปฺปสงฺคโต. น จ ตํ ยุตฺตํ อุณฺหาทิปฏิปกฺขสฺส สีตาทิโน วิย ภวปฏิปกฺขสฺส นิพฺพานสฺสปิ อวสฺสํภาวา. วุตฺตฺจ –

‘‘ยถาปิ อุณฺเห วิชฺชนฺเต, อปรํ วิชฺชติ สีตลํ;

เอวํ ติวิธคฺคิ วิชฺชนฺเต, นิพฺพานํ อิจฺฉิตพฺพก’’นฺติ. (พุ. วํ. ๒.๑๑) –

อาทิ. อจฺจนฺตนิโรธเหตุโน วิปสฺสโนปเทสสฺส ทสฺสนโต จ อตฺเถว นิพฺพานํ ตํ วินา ตสฺสาสมฺภวโตติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตเทตํ ปุริมาย โกฏิยา อภาวโต อปฺปภวํ, ตโตว อชรามรณํ, นิจฺจฺจ โหตีติ อณุอาทีนมฺปิ นิจฺจภาวปตฺติ นิพฺพานสฺเสว นิจฺจตฺตาติ เจ? น, ภินฺนาธิกรณตฺเตน เหตุลกฺขณสฺสานุปปตฺติโต. อณุอาทีนมฺปิ อสงฺขตตา อิติ เจ? น, อสงฺขตตาสิทฺธิโต อสงฺขตานฺจาเนกตฺตานุปปตฺติโต. ยทิ หิ อสงฺขตํ นาม ภเวยฺย, เอเกเนว ภวิตพฺพํ เทสกาลสภาวเภทสฺส การณเภทกตฺตา, ภินฺนสภาวานมฺปิ อเหตุกตฺเต อติปฺปสงฺคโต.

สงฺขเตหิ สภาวภินฺนสฺส นิพฺพานสฺส กถํ อเหตุกตาติ เจ? อสงฺขตสภาเวน สงฺขตสภาเวหิ ภินฺนสฺส การณานเปกฺขตฺตา. อสงฺขตตฺเต หิ สมาเน ภวสภาวเภโท การณเภทํ สูจยติ , ตสฺมา เอกเมว นิจฺจํ ภวิตุมรหติ, ตฺจ ยถาวุตฺตยุตฺติโต, สพฺพฺุวจนโต จ ปรมตฺถโต วิชฺชมานํ นิพฺพานเมว. วุตฺตํ เหตํ ภควตา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ (อิติวุ. ๔๓). อยํ ทุกฺขนิโรธสจฺเจ นโย.

อิตรํ ปน ‘‘สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ อุทฺทิสิตฺวา วิตฺถารโต วิภตฺตํ. วินิจฺฉโย ปเนตฺถ มคฺคงฺควิภงฺเค อาวิ ภวิสฺสตีติ อยํ สุตฺตนฺตภาชนียนโย.

อภิธมฺมภาชนีเย ปน –

‘‘จตฺตาริ สจฺจานิ ทุกฺขํ ทุกฺขสมุทโย ทุกฺขนิโรโธ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา. ตตฺถ ตณฺหา ทุกฺขสมุทโย. อวเสสา สาสวธมฺมา…เป… ทุกฺขํ. ตณฺหาย ปหานํ ทุกฺขนิโรโธ. อฏฺงฺคิโก มคฺโค ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’’ติ (วิภ. ๒๐๖) –

วตฺวา อฏฺ มคฺคงฺคานิ วิตฺถารโต นิทฺทิสิตฺวา ‘‘อวเสสา ธมฺมา ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย สมฺปยุตฺตา’’ติ (วิภ. ๒๐๖ อาทโย) เอวํ ปมวาเร จตฺตาริ สจฺจานิ วิภตฺตานิ. ตานิ ปุน อปเรหิปิ ‘‘ตณฺหา, อวเสสา จ กิเลสา สมุทโย, ตถา ตณฺหา, อวเสสา จ กิเลสา, อวเสสา จ อกุสลา สมุทโย, ตถา ตณฺหา, อวเสสา จ กิเลสา, อวเสสา จ อกุสลา, ตีณิ จ กุสลมูลานิ, สาสวานิ สมุทโย, ตถา ตณฺหา, อวเสสา จ กิเลสา, อวเสสา จ อกุสลา, ตีณิ จ กุสลมูลานิ, สาสวานิ, อวเสสา จ สาสวกุสลธมฺมา สมุทโย. อวเสสา สาสวธมฺมา ทุกฺขํ, ตสฺส ตสฺส สมุทยสฺส ปหานํ นิโรโธ, อฏฺงฺคิโก มคฺโค ปฏิปทา’’ติ อิเมหิ วาเรหิ วิภตฺตานิ. ตตฺถ ‘‘อริยสจฺจานี’’ติ อวตฺวา นิปฺปเทสโต ปจฺจยสงฺขาตํ สมุทยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺจานี’’ติ วุตฺตํ. อริยสจฺเจสุ หิ ตณฺหาว สมุทโย, น อิตเร. น จ เกวลํ ตณฺหาว ทุกฺขํ สมุทาเนติ, อวเสสา กุสลากุสลาปิ ปจฺจยํ สมุทาเนนฺติเยวาติ เตปิ สมุทยโต ทสฺเสตุํ ‘‘สจฺจานิ’’ตฺเวว วุตฺตํ. ตโต ปรํ ยสฺมา อฏฺงฺคิโก มคฺโคว ปฏิปทาติ. สมฺปยุตฺตา ปน ผสฺสาทโย สพฺเพปิ ธมฺมา ปฏิปทา เอว, ตสฺมา ตํ นยํ ทสฺเสตุํ สพฺพสงฺคาหิกวาเรปิ สพฺพานิ วิภตฺตานิ . เอตฺถ หิ อริยธนาเนว สงฺคหิตานิ. เสสํ สทิสเมวาติ อยํ อภิธมฺมภาชนียนโย.

ปฺหาปุจฺฉกนเย ปน จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ กติ กุสลา…เป… กติ อรณา? สมุทยสจฺจํ อกุสลํ, นิโรธสจฺจํ อพฺยากตํ, ทุกฺขสจฺจํ ติธาปิ. สมุทโย สวิตกฺกสวิจาโร, นิโรโธ อวิตกฺกอวิจาโร, มคฺโค ติธาปิ, ทุกฺขํ ติธาปิ, น วตฺตพฺพํ จ. ตีณิ สจฺจานิ อนิทสฺสนอปฺปฏิฆานิ, ทุกฺขํ ติธาปิ. สมุทโย เหตุ, นิโรโธ น เหตุ, เสสา ทฺวิธาปิ. ทฺเว สจฺจานิ โลกิยานิ, มคฺคนิโรธา โลกุตฺตรา. สมุทยสจฺจํ สรณํ, ทฺเว สจฺจานิ อรณานิ, ทุกฺขํ ทุวิธาปิ. อยํ ปฺหาปุจฺฉกนโย. อิทานิ ปเนตฺถ –

กมโตนูนาธิกโต, ลกฺขณาทีหิ สุฺโต;

าณกิจฺโจปมา เยฺโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ กมโต ตาว อิธาปิ เทสนากฺกโมว ยุชฺชติ. เอตฺถ โอฬาริกตฺตา, สพฺพสตฺตสาธารณตฺตา จ สุวิฺเยฺยนฺติ ทุกฺขสจฺจํ ปมํ วุตฺตํ, ตโต ตสฺเสว เหตุทสฺสนตฺถํ สมุทยสจฺจํ, ตโต ‘‘เหตุนิโรธา ภวนิโรโธ’’ติ าปนตฺถํ นิโรธสจฺจํ, ตทธิคมุปายทสฺสนตฺถํ อนฺเต มคฺคสจฺจํ. ภวสุขสฺสาทคธิตานํ สํเวคชนนตฺถํ ปมํ ทุกฺขมาห, ตโต ‘‘ภวํ เนว อเหตุกํ อาคจฺฉติ, น อิสฺสรนิมฺมานาทินา โหติ, อิโต ปน โหตี’’ติ าปนตฺถํ สมุทยสจฺจํ, ตโต สเหตุเกน ทุกฺเขน อภิภูตตฺตา สํวิคฺคมานสานํ ตนฺนิสฺสรณทสฺสเนน อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธํ, ตโต นิโรธสมฺปาปกํ มคฺคนฺติ อยเมตฺถ กโม.

อนูนาธิกโต ปน กสฺมา จตฺตาริ เอว สจฺจานีติ เจ? ตโต อฺสฺส อสมฺภวโต, อฺตรสฺส จ อนปเนยฺยโต. อปิจ ปวตฺติมาจิกฺขนฺโต ภควา สเหตุกํ อาจิกฺขติ, นิวตฺติฺจ สอุปายํ. อิติ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตูนํ เอตปรมโต จตฺตาริ เอว วุตฺตานีติ อยเมตฺถานูนาธิกโต.

ลกฺขณาทีหิ ปเนตฺถ ลกฺขณโต พาธนลกฺขณํ ทุกฺขสจฺจํ, สนฺตาปนรสํ, ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวลกฺขณํ สมุทยสจฺจํ, อนุปจฺเฉทกรณรสํ, ปลิโพธปจฺจุปฏฺานํ. สนฺติลกฺขณํ นิโรธสจฺจํ, อจฺจุติรสํ, อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ. นิยฺยานลกฺขณํ มคฺคสจฺจํ, กิเลสปหานกรณรสํ, วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ. อปิจ ปวตฺติปวตฺตกนิวตฺตินิวตฺตกลกฺขณานิ ปฏิปาฏิยา, ตถา สงฺขตตณฺหาอสงฺขตทสฺสนลกฺขณานิ จาติ อิมาเนตฺถ ลกฺขณานิ.

สุฺโต ปเนตานิ ยถากฺกมํ เวทกการกนิพฺพุตคมกาภาวโต สุฺานิ. วุตฺตฺจ –

‘‘ทุกฺขเมว หิ, น โกจิ ทุกฺขิโต,

การโก น, กิริยาว วิชฺชติ;

อตฺถิ นิพฺพุติ, น นิพฺพุโต ปุมา,

มคฺคมตฺถิ, คมโก น วิชฺชตี’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙);

อถ วา –

ธุวสุภสุขตฺตสุฺํ,

ปุริมทฺวยมตฺตสุฺมมตปทํ;

ธุวสุภสุขอตฺตวิรหิโต,

มคฺโค อิติ สุฺโต เตสุ. (วิภ. อฏฺ. ๑๘๙);

นิโรธสุฺานิ วา ตีณิ. นิโรโธ จ เสสตฺตยสุฺโ. ผลสุฺโ วา เหตฺถ เหตุ สมุทยมคฺเคสุ ทุกฺขนิโรธานํ อภาวา ปกติวาทีนํ ปกติ วิย. เหตุสุฺฺจ ผลํ ทุกฺขสมุทยานํ, นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายา, น เหตุสมเวตํ เหตุผลํ. เหตุผลสมวายวาทีนํ ทฺวิอณุกาทีนิ วิยาติ อยเมตฺถ สุฺตา.

าณกิจฺจโตติ เอตฺถ ทุวิธํ สจฺจาณํ อนุโพธาณํ, ปฏิเวธาณฺจ. ตตฺถ อนุโพธาณํ โลกิยํ, ตํ อนุสฺสวาทิวเสน นิโรเธ, มคฺเค จ ปวตฺตติ. ปฏิเวธาณํ โลกุตฺตรํ, ตํ สจฺจาวโพธปฏิปกฺขกิเลเส เขเปนฺตํ นิโรธมารมฺมณํ กตฺวา กิจฺจโต จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. ยํ ปเนตํ โลกิยํ, ตตฺถ ทุกฺขาณํ ปริยุฏฺานาภิภวนวเสน ปวตฺตมานํ สกฺกายทิฏฺึ นิวตฺเตติ, สมุทยาณํ อุจฺเฉททิฏฺึ, นิโรธาณํ สสฺสตทิฏฺึ, มคฺคาณํ อกิริยทิฏฺึ. ทุกฺขาณํ วา เตสุ ธุวสุภสุขตฺตภาวรหิเตสุ ขนฺเธสุ ธุวสุภสุขตฺตภาวสฺาสงฺขาตํ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ, สมุทยาณํ ‘‘อิสฺสรปธานกาลสภาวาทีหิ โลโก ปวตฺตตี’’ติ อการเณ การณาภิมานปฺปวตฺตํ เหตุมฺหิ วิปฺปฏิปตฺตึ, นิโรธาณํ อรูปโลกาทีสุ อปวคฺคคฺคาหภูตํ นิโรเธ วิปฺปฏิปตฺตึ, มคฺคาณํ กามสุขลฺลิกอตฺตกิลมถานุโยคปฺปเภเท อวิสุทฺธิมคฺเค วิสุทฺธิมคฺคคฺคาหวเสน ปวตฺตํ อุปาเย วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ. อิทเมตฺถ าณกิจฺจํ.

อุปมาโต ปเนตฺถ ภาโร วิย หิ ทุกฺขสจฺจํ ทฏฺพฺพํ, ภาราทานมิว สมุทยสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนมิว นิโรธสจฺจํ, ภารนิกฺเขปนุปาโย วิย มคฺคสจฺจํ. อปิจ โรคตนฺนิทานตทุปสมเภสชฺเชหิ, โอริมตีรมโหฆปาริมตีรตํสมฺปาปโกปาเยหิ จาติ เอวมาทีหิ ยถากฺกมํ โยเชตฺวาปิ เอตานิ อุปมาโต เวทิตพฺพานิ. อยเมตฺถ อุปมา. เอวํ เยฺโย ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

สจฺจวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

อินฺทฺริยวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

อินฺทฺริยวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – ทฺวาวีสติ อินฺทฺริยานีติ เอตฺถ อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต อินฺทฺริยานิ. โก ปเนส อินฺทฺริยฏฺโ นามาติ? อินฺทลิงฺคฏฺโ, อินฺทเทสิตฏฺโ, อินฺททิฏฺฏฺโ, อินฺทสิฏฺฏฺโ, อินฺทชุฏฺฏฺโ จ, โส สพฺโพปิ อิธ ยถาโยคํ ยุชฺชติ. กุสลากุสลํ กมฺมํ อินฺโท นาม กมฺเมสุ กสฺสจิ อิสฺสริยาภาวโต, เตเนเวตฺถ กมฺมสฺชนิตานิ ตาว อินฺทฺริยานิ อตฺตโน ชนกกมฺมํ อุลฺลิงฺเคนฺติ, เตน จ สิฏฺานีติ อินฺทลิงฺคฏฺเน, อินฺทสิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. สมฺมาสมฺพุทฺโธ ปน ปรมิสฺสริยภาวโต อินฺโท, ตโต สพฺพานิเปตานิ อินฺทฺริยานิ ภควตา ยถาภูตโต ปกาสิตานิ, อภิสมฺพุทฺธานิ จาติ อินฺทเทสิตฏฺเน, อินฺททิฏฺฏฺเน จ อินฺทฺริยานิ. เตเนว ภควตา กานิจิ โคจราเสวนาย, กานิจิ ภาวนาเสวนาย เสวิตานีติ อินฺทชุฏฺฏฺเนปิ อินฺทฺริยานิ. อปิจ อาธิปจฺจสงฺขาเตน อิสฺสริยฏฺเนาปิ เอตานิ อินฺทฺริยานิ.

จกฺขุนฺทฺริยนฺติอาทีสุ จกฺขาทีนํ ปทตฺโถ เหฏฺา ปกาสิโต. ปจฺฉิเมสุ ปน ตีสุ ปุพฺพภาเค อนฺาตํ อมตํ ปทํ, จตุสจฺจธมฺมํ วา ชานิสฺสามีติ เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปชฺชนโต , อินฺทฺริยฏฺสมฺภวโต จ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. อาชานนโต อฺา เอว อินฺทฺริยนฺติ อฺินฺทฺริยํ. อฺาตาวิโน จตูสุ สจฺเจสุ นิฏฺิตาณกิจฺจสฺส ขีณาสวสฺส อินฺทฺริยนฺติ อฺาตาวินฺทฺริยํ. ตตฺถ จ ปสาทินฺทฺริยานนฺตรํ จกฺขุวิฺาณาทิวีถิจิตฺตปฺปวตฺติยํ รูปาทีนํ นิยตภาวสฺส, อตฺตโน ติกฺขมนฺทตานุวิธานสฺส จ อาปาทนโต อาธิปจฺจํ เวทิตพฺพํ. มนินฺทฺริยาทีนํ ปน อตฺตโน อตฺตโน วิชานนาทิลกฺขเณ อาธิปจฺจํ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภทโต ปเนตฺถ ชีวิตินฺทฺริยํ รูปารูปวเสน ทฺวิธา. สุขินฺทฺริยาทีนิ ปฺจ เวทนาภาวโต เอกธมฺโม, ตถา ปฺินฺทฺริยาทีนิ จตฺตาริ อโมหภาวโต. เสสานิ ปน อินฺทฺริยานิ เอเกกธมฺมา เอวาติ เอวํ ปรมตฺถโต โสฬส ธมฺมาว ทฺวาวีสตินฺทฺริยภาเวน เทสิตานิ. เสสานิ ปเนตฺถ เจตสิกรูปนิพฺพานานิ อสงฺคหิตานีติ อยํ ธมฺมเภโท.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ สุตฺตนฺตภาชนียํ นาม น คหิตํ. กสฺมา? สุตฺตนฺเต อิมาย ปฏิปาฏิยา ทฺวาวีสติยา อินฺทฺริยานํ อนาคตตฺตา. สุตฺตนฺตสฺมึ หิ กตฺถจิ ทฺเว อินฺทฺริยานิ กถิตานิ, กตฺถจิ ตีณิ, กตฺถจิ ปฺจ, เอวํ ปน นิรนฺตรํ ทฺวาวีสติ อาคตานิ นาม นตฺถิ. อภิธมฺมภาชนีเยปิ วิเสโส นตฺถิ.

ปฺหาปุจฺฉกนเย ปน ทฺวาวีสติยา อินฺทฺริยานํ กติ กุสลา…เป… กติ อรณาติ? อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ กุสลํ, โทมนสฺสินฺทฺริยํ อกุสลํ, สทฺธาสติปฺาอฺินฺทฺริยานิ จตฺตาริ กุสลาพฺยากตานิ, มนชีวิตโสมนสฺสอุเปกฺขาวีริยสมาธินฺทฺริยานิ ฉ ติธาปิ, เสสานิ ทส อพฺยากตานิ. ฉ อินฺทฺริยานิ สิยา สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, สิยา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตาติ, ตีณิ ติธาปิ, ชีวิตํ ติธา จ น วตฺตพฺพฺจ, ทฺวาทสินฺทฺริยานิ น วตฺตพฺพานิ เอว. ตีณิ วิปากานิ, ทฺเว วิปากธมฺมธมฺมานิ, รูปินฺทฺริยานิ สตฺต เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมานิ, อฺินฺทฺริยํ สิยา วิปากํ, สิยา วิปากธมฺมธมฺมํ, นวินฺทฺริยานิ ติธาปิ. นวินฺทฺริยานิ อุปาทินฺนุปาทานิยานิ, โทมนสฺสินฺทฺริยํ อนุปาทินฺนุปาทานิยํ, ตีณิ อนุปาทินฺนอนุปาทานิยานิ, นว ติธาปิ. โทมนสฺสินฺทฺริยํ สวิตกฺกสวิจารํ, อุเปกฺขินฺทฺริยํ ตถา จ อวิตกฺกอวิจารฺจ, นว อวิตกฺกอวิจารานิ, เอกาทส ติธาปิ. สตฺต รูปินฺทฺริยานิ เจว สุขทุกฺขโทมนสฺสินฺทฺริยานิ จาติ ทส ปริตฺตานิ, ปจฺฉิมานิ ตีณิ อปฺปมาณานิ, เสสานิ นว ติธาว. ตตฺถ จ โสมนสฺสินฺทฺริยํ รูปาวจรวเสเนว มหคฺคตํ, ตทวเสสานิ อรูปาวจรวเสนาปีติ เวทิตพฺพํ. ปฺจินฺทฺริยานิ อนิทสฺสนสปฺปฏิฆานิ, สตฺตรส อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาเนว.

ปฺินฺทฺริยาทีนิ จตฺตาริ เหตู, เสสา น เหตู…เป… โทมนสฺสินฺทฺริยํ สรณํ, มนชีวิตโสมนสฺสอุเปกฺขาวีริยสมาธินฺทฺริยานิ ทฺวิธาปิ, เสสานิ ปนฺนรส อรณาเนวาติ อยํ ปฺหาปุจฺฉกนโย.

อินฺทฺริเยสุ ปเนเตสุ, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย;

กมโต ทานิ วิฺเยฺโย, ตตฺถ โกสลฺลมิจฺฉตา.

กมโตติ อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. ตตฺถ อชฺฌตฺตธมฺเม ปริฺาย อริยภูมิปฏิลาโภ โหตีติ อตฺตภาวปริยาปนฺนานิ จกฺขุนฺทฺริยาทีนิ ปมํ เทสิตานิ. โส มนุสฺสตฺตภาโว ยํ ธมฺมํ อุปาทาย ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา สงฺขํ คจฺฉติ, ‘‘อยํ โส’’ติ นิทสฺสนตฺถํ ตโต อิตฺถินฺทฺริยํ, ปุริสินฺทฺริยฺจ. โส ทุวิโธปิ ชีวิตินฺทฺริยปฏิพทฺธวุตฺตีติ าปนตฺถํ ตโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ยาว ตสฺส ปวตฺติ, ตาว เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺติ. ยฺจ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ สุขํ ทุกฺขนฺติ าปนตฺถํ ตโต สุขินฺทฺริยาทีนิ. ตนฺนิโรธตฺถํ ปน เอเต ธมฺมา ภาเวตพฺพาติ ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ ตโต สทฺธาทีนิ. ‘‘อิมาย ปฏิปตฺติยา เอส ธมฺโม ปมํ อตฺตนิ ปาตุภวตี’’ติ ปฏิปตฺติยา อโมฆภาวทสฺสนตฺถํ ตโต อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ. ตสฺเสว ผลตฺตา, ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตา จ ตโต อฺินฺทฺริยํ. อิโต ปรํ ภาวนาย อิมสฺส อธิคโม, อธิคเต จ ปน อิมสฺมึ นตฺถิ กิฺจิ อุตฺตริ กรณียนฺติ าปนตฺถํ อนฺเต ปรมสฺสาสภูตํ อฺาตาวินฺทฺริยํ เทสิตนฺติ เอวํ กมโต ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉยนโย วิฺเยฺโย.

อินฺทฺริยวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปจฺจยาการวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ปจฺจยาการวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – อวิชฺชาปจฺจยาติอาทีสุ อวินฺทิยํ กายทุจฺจริตาทึ วินฺทติ ปฏิลภติ, วินฺทิยํ วา กายสุจริตาทึ น วินฺทติ, ธมฺมานํ วา ยถาสภาวํ อวิทิตํ กโรติ, อนฺตวิรหิเต วา สํสาเร สตฺเต ชวาเปติ, อวิชฺชมาเนสุ วา ชวติ, วิชฺชมาเนสุ วา น ชวตีติ อวิชฺชา. ปฏิจฺจ ผลเมติ เอตสฺมาติ ปจฺจโย, ธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา, ิติยา จ อุปการโก ธมฺโม. อวิชฺชา จ สา ปจฺจโย จาติ อวิชฺชาปจฺจโย, ตสฺมา อวิชฺชาปจฺจยา. สงฺขตมภิสงฺขโรนฺตีติ สงฺขารา.

อิโต ปรํ สงฺขารปจฺจยา วิฺาณนฺติอาทีสุ วุตฺตํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. อวุตฺเตสุ ปน วิชานาตีติ วิฺาณํ. นมตีติ นามํ, รุปฺปตีติ รูปํ, นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ เอกเทสสรูเปกเสสนเยน เวทิตพฺพํ. อาเย ตโนติ, อายตฺจ นยตีติ อายตนํ, ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ สฬายตนนฺติ เอกเสสนเยน เวทิตพฺพํ. ผุสตีติ ผสฺโส. เวทยตีติ เวทนา. ปริตสฺสตีติ ตณฺหา. อุปาทิยตีติ อุปาทานํ. ภวติ, ภาวยติ จาติ ภโว. ชนนํ ชาติ. ชีรณํ ชรา. มรนฺติ เอเตนาติ มรณํ. โสจนํ โสโก. ปริเทวนํ ปริเทโว. ทุกฺขยติ, อุปฺปาทฏฺิติวเสน ทฺวิธา ขณตีติปิ ทุกฺขํ. ทุมฺมนสฺส ภาโว โทมนสฺสํ. ภุโส อายาโส อุปายาโส. สมฺภวนฺตีติ นิพฺพตฺตนฺติ. น เกวลฺจ โสกาทีเหว, อถ โข อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา สมฺภวนฺตีติอาทินา สพฺพปเทหิปิ สมฺภวนฺติ-สทฺทสฺส โยชนา กาตพฺพา. เอวํ หิ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนววตฺถานํ กตํ โหติ.

เอวนฺติ นิทฺทิฏฺนยนิทสฺสนํ, เตน อวิชฺชาทีเหว การเณหิ, น อิสฺสรนิมฺมานาทีหีติ ทสฺเสติ. เอตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส. เกวลสฺสาติ อสมฺมิสฺสสฺส, สกลสฺส วา, ทุกฺขกฺขนฺธสฺสาติ ทุกฺขสมูหสฺส, น สตฺตสฺส, น สุขสุภาทีนํ. สมุทโยติ นิพฺพตฺติ, โหตีติ สมฺภวติ. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภทโต ปเนตฺถ อวิชฺชาติ สุตฺตนฺตปริยาเยน ทุกฺขาทีสุ จตูสุ, อภิธมฺมปริยาเยน ปุพฺพนฺตาทีหิ สทฺธึ อฏฺสุ วา าเนสุ อฺาณํ. สงฺขารา ปน ปุฺาปุฺาเนฺชาภิสงฺขารา ตโย, กายวจีจิตฺตสงฺขารา ตโย จาติ ฉพฺพิธา. ตตฺถ อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา, ปฺจ รูปาวจรกุสลเจตนา เจติ เตรส เจตนา ปุฺาภิสงฺขาโร นาม. ทฺวาทส อกุสลเจตนา อปุฺาภิสงฺขาโร นาม. จตสฺโส อรูปาวจรกุสลเจตนา อาเนฺชาภิสงฺขาโร นาม. อิเมสํ ปน ติณฺณํ สงฺขารานํ เอว ทฺวารโต ปวตฺติทสฺสนตฺถํ อยํ สงฺขาราทิตฺติโก วุตฺโต.

อฏฺ กามาวจรกุสลเจตนา เจว ทฺวาทสากุสลเจตนา จ กายทฺวาเร ปวตฺติยํ กายสงฺขาโร, วจีทฺวาเร ปวตฺติยํ วจีสงฺขาโร, เอตา เจว มโนทฺวาเร ปวตฺติยํ, มโนทฺวาเร เอว ปวตฺตนกา รูปารูปกุสลเจตนา จ จิตฺตสงฺขาโรติ วุจฺจนฺติ. อภิฺาเจตนา, ปเนตฺถ อุทฺธจฺจเจตนา จ ปรโต ปฏิสนฺธิวิฺาณปจฺจยภาเว อปเนตพฺพาปิ อวิชฺชาปจฺจยา สมฺภวโต อิธ คเหตพฺพาวาติ อยํ ติโก ปุริมตฺติกเมว ปวิสตีติ อตฺถโต โลกิยกุสลากุสลเจตนาว อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เวทิตพฺพํ. อิทฺจ สุตฺตนฺตภาชนียนเยน, อภิธมฺมภาชนียนเยน ปน โลกิยโลกุตฺตเร เอเกกจิตฺตกฺขเณ ทฺวาทสงฺคสฺส ปฏิจฺจสมุปฺปาทสฺส คหณโต สพฺพาปิ เจตนา สงฺขาราติ เวทิตพฺพํ. เอวํ วิฺาณนามรูปาทีสุปิ สพฺพจิตฺตสมฺปยุตฺตวเสน จ ธมฺมเภโท เวทิตพฺโพ. สุตฺตนฺตภาชนียนเยเนว ปน ทสฺสยิสฺสาม.

สงฺขารปจฺจยา วิฺาณฺจ จกฺขุวิฺาณาทิฉพฺพิธํ พาตฺตึสโลกิยวิปากวิฺาณเมว โหติ, โลกุตฺตรานิ ปน วฏฺฏกถาย น ยุชฺชนฺตีติ น คหิตานิ. วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ ปน สพฺพโลกิยวิฺาณสมฺปยุตฺตา ตโย อรูปิโน ขนฺธา. รูปํ สพฺพานิ ภูตุปาทายรูปานิ. สฬายตนํ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ. ผสฺโส จกฺขุสมฺผสฺสาทิโก ฉวิปากผสฺโส, ตถา เวทนาปิ. ตณฺหา รูปตณฺหาทิเภทโต ฉพฺพิโธ โลโภ. อุปาทานํ กามุปาทานาทิโต จตุพฺพิธา โลภทิฏฺิโยว. ภโว ปน ทุวิโธ กมฺมภโว, อุปปตฺติภโวติ. ตตฺถ กมฺมภโว เตภูมกกุสลากุสลเจตนา จ ตํสมฺปยุตฺตา อภิชฺฌาทโย จ. อุปปตฺติภโว ปน กมฺมาภินิพฺพตฺตา ปฺจปิ ขนฺธา. โส ปเภทโต กามรูปารูปภวา ตโย, สฺา อสฺา เนวสฺานาสฺา ภวา ตโย, เอกจตุปฺจโวการภวา ตโยติ นววิโธ นิทฺทิฏฺโ. ชาติอาทีนิ ปุพฺเพ วุตฺตานิ. เตสุ ชาติคฺคหเณน วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนาว คหิตา ตทวินาภาวโต. ตถา ชรามรณคฺคหเณนาปิ เตสฺเว ปากเภทตฺตา. โสกาทโย ปน ชรามรเณน ทฺวาทสเมน องฺเคน เอกสงฺเขปํ กตฺวา วุตฺตา, น วิสุํ องฺคภาเวน. กิมตฺถนฺติ เจ? ภวจกฺกสฺส อวิจฺเฉททสฺสนตฺถํ. โสกาทิโต หิ อวิชฺชา สิทฺธา โหติ อวิชฺชาวิปฺปโยคโต , อวิชฺชาสมุปฺปตฺติโต จ. ชรามรณพฺภาหตสฺส หิ พาลสฺเสว เต สมฺภวนฺติ, เตหิ จ อวิชฺชาย สิทฺธาย ปุน อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาราติ เอวํ เหตุผลปรมฺปราย ภวจกฺกํ อวิจฺฉินฺนํ, อนาทิกํ, อปริยนฺตํ, อปริโยสานฺจ โหติ.

ยทิ เอวํ, กสฺมา อวิชฺชา อาทิโต วุตฺตาติ? ปธานทสฺสนตฺถํ ปน อาทิโต วุตฺตา. ติณฺณํ หิ วฏฺฏานํ อวิชฺชา ปธาโน เหตุ ตสฺสา ภาเว ภาวโต, นิโรเธน จ นิรุชฺฌนโต. เอวํ อวิชฺชาทีหิ ทฺวาทสหิ องฺเคหิ สุตฺตนฺตภาชนียนเยน สพฺเพ โลกิยธมฺมาว ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อภิธมฺมปริยาเยน ปน โลกุตฺตราปีติ อยเมตฺถ ธมฺมเภโท.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ ปฺหาปุจฺฉกนโย นตฺถิ, สุตฺตนฺตภาชนียนยาปิ ธมฺมเภเท วุตฺตนเยเนว วิตฺถารโต วิภตฺตาติ เวทิตพฺโพ. อภิธมฺมภาชนีเย ปน –

‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณํ, วิฺาณปจฺจยา นามํ, นามปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส, ผสฺสปจฺจยา เวทนา, เวทนาปจฺจยา ตณฺหา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานํ, อุปาทานปจฺจยา ภโว, ภวปจฺจยา ชาติ, ชาติปจฺจยา ชรามรณํ, เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหติ.

‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร…เป… วิฺาณปจฺจยา นามํ, นามปจฺจยา ผสฺโส…เป… สมุทโย โหติ.

‘‘อวิชฺชาปจฺจยา…เป… วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา ฉฏฺายตนํ, ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส…เป… สมุทโย โหติ.

‘‘อวิชฺชาปจฺจยา …เป… วิฺาณปจฺจยา นามรูปํ, นามรูปปจฺจยา สฬายตนํ, ฉฏฺายตนปจฺจยา ผสฺโส…เป… สมุทโย โหตี’’ติ (วิภ. ๒๔๓) –

เอวํ ปจฺจยจตุกฺกํ, ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร อวิชฺชาเหตุโก’’ติอาทินา (วิภ. ๒๔๔) วุตฺตนเยเนว เหตุจตุกฺกํ, ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร อวิชฺชาสมฺปยุตฺโต’’ติอาทินา (วิภ. ๒๔๕) สมฺปยุตฺตจตุกฺกํ, ปุน ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร, สงฺขารปจฺจยาปิ อวิชฺชา’’ติอาทินา (วิภ. ๒๔๖) อฺมฺปจฺจยจตุกฺกนฺติ เอวํ อวิชฺชามูลกานิ จตฺตาริ จตุกฺกานิ วุตฺตานิ. เอวํ ‘‘สงฺขารปจฺจยา อวิชฺชา’’ติอาทินา สงฺขาราทิมูลกาทิอุปาทานมูลกปริโยสานานิ อฏฺสุ ปเทสุ จตฺตาริ จตฺตาริ จตุกฺกานีติ พาตฺตึส จตุกฺกานิ มาติกํ กตฺวา นิกฺขิปิตฺวา ปุน อกุสลกุสลวิปากกิริยจิตฺเตสุ โลกิยโลกุตฺตเรสุ เอเกกสฺมึ จิตฺเต ยถานิกฺขิตฺเตหิ ฉตฺตึสพาตฺตึสมาติกาจตุกฺเกหิ วิตฺถารโต ยถานุรูปํ ปจฺจยากาโร วิภตฺโต. อิทฺจ ยสฺมา น เกวลํ อยํ ปจฺจยากาโร นานาจิตฺเตสุ เอว โหติ, เอกจิตฺเตปิ โหติเยว. นาปิ วฏฺฏจิตฺเต เอว โหติ, ตณฺหาภาวโต วิวฏฺฏจิตฺเตปิ, ตสฺมา ตํ นิปฺปเทสโต เอกจิตฺตกฺขณิกํ ปจฺจยาการํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. เตเนว เหตฺถ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อวตฺวา ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ เอกวจเนน วุตฺตํ เอกจิตฺตกฺขเณ พหุเจตนาภาวา. ตตฺถ ยเทตํ ปมจตุกฺกํ, ตตฺถ ปมวาโร นามรูปฏฺาเน นามํ, สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนฺจ คเหตฺวา รูปารูปาทิสพฺพภวสาธารณวเสน, เอกจิตฺตกฺขณปริยาปนฺนธมฺมคฺคหณวเสน จ รูปํ ฉฑฺเฑตฺวา วุตฺโต รูปสฺส สพฺพภวาสาธารณตฺตา, พหุจิตฺตกฺขณิกตฺตา จ. ทุติโย นามรูปฏฺาเน นามํ, ‘‘นามปจฺจยา ผสฺโส’’ติ สฬายตนฏฺาเน ผสฺสเมว คเหตฺวา ผสฺสสฺส สฬายตนํ วินาปิ ปจฺจยวิเสสสมฺภวทสฺสนวเสน เจว มหานิทานสุตฺตนยทสฺสนวเสน (ที. นิ. ๒.๙๕ อาทโย) จ วุตฺโต. ตติโย สฬายตนฏฺาเน ฉฏฺายตนเมว คเหตฺวา คพฺภเสยฺยกานํ อปริปุณฺณายตนานํ, รูปภวิกาทีนฺจ วเสน วุตฺโต. จตุตฺโถ ‘‘นามปจฺจยา สฬายตนํ, สฬายตนปจฺจยา ผสฺโส’’ติ เอวํ อิตรายตเนหิปิ สฬายตนสฺส วิเสสโต ผสฺสปจฺจยตํว ทสฺเสตฺวา โอปปาติกานํ, ปริปุณฺณายตนานํ กามภวิกานฺจ วเสน วุตฺโต. เอวํ ทุติยจตุกฺกาทีสุปิ.

สพฺพตฺถาปิ เจตฺถ ยสฺมา โสกาทโย สพฺเพ เอกจิตฺตกฺขเณ น สมฺภวนฺติ, สพฺพสฺมิฺจ จิตฺเต, ภเว จ นปฺปวตฺตนฺติ, ตสฺมา น คหิตา. ชาติชรามรณานิ ปเนตฺถ อรูปธมฺมานํ ลกฺขณมตฺตานิ, ตานิ จ อจิตฺตกฺขณมตฺตานิปิ สมานานิ จิตฺตกฺขเณ อนฺโตคธตฺตา ปริยายโต ปจฺจยุปฺปนฺเน กตฺวา องฺคปริปูรณตฺถํ คหิตานิ. ภโวติ เจตฺถ อุปาทานาทิปจฺจยวิรหิตา จตฺตาโร อรูปิโน ขนฺธา, ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานนฺติ เอตฺถ กามุปาทานํ วชฺเชตฺวา ตีณิ อุปาทานานิ เอว คเหตพฺพานิ . ทฺวินฺนมฺปิ เอกลกฺขณานํ ธมฺมานํ เอกกฺขเณ อสมฺภวา โลภมูลวิรหิเตสุ โทสโมหมูเลสุ เจว กุสลาพฺยากเตสุ จ จิตฺเตสุ เวทนาปจฺจยา ปฏิฆํ วิจิกิจฺฉา อุทฺธจฺจนฺติ เอวํ ตณฺหาาเน ยถาโยคํ ปฏิฆาทโย ตโย. เตสุ วิจิกิจฺฉาวชฺชิเตสุ เจว ทิฏฺิวิปฺปยุตฺเตสุ จ อุปาทานฏฺาเน อธิโมกฺโข คหิโต. วิจิกิจฺฉาย ปน สทฺธึ อธิโมกฺขสฺสาปิ อสมฺภวา วิจิกิจฺฉาปจฺจยา ภโวติ จ คหิโต. อุปาทานฏฺาเน จ อธิโมกฺโข จ คหิโต. โลกิยานฺเจตฺถ กุสลาพฺยากตานํ อุปนิสฺสยวเสน อวิชฺชาปจฺจยตา วุตฺตา. โลกุตฺตรานํ ปน ยสฺมา อปฺปหีนาวิชฺโช อวิชฺชาย ปหานตฺถํ, ปฏิปฺปสฺสมฺภนตฺถฺจ โลกุตฺตรํ ภาเวติ, ตสฺมา สมติกฺกมนวเสน อวิชฺชาปจฺจยตา วุตฺตา, น สหชาตวเสน. เตเนว เตสํ นิทฺเทสวาเรสุ ‘‘ตตฺถ กตมา อวิชฺชา’’ติ อวิภชิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขาโร’’ติ (วิภ. ๒๔๐) วิภตฺตํ. กิริยธมฺมานํ ปน เกนจิ ปริยาเยน อวิชฺชามูลกตฺตํ นตฺถีติ ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติอาทินา สงฺขารมูลกาทิโก นโย วุตฺโต, น อวิชฺชามูลโก. อปิจ โลกิยกุสลาทีสุ เตสํ ธมฺมานํ ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนตฺตา ‘‘เอวเมตสฺส เกวลสฺส ทุกฺขกฺขนฺธสฺส สมุทโย โหตี’’ติ (วิภ. ๒๒๕) เอวํ อปฺปนา กตา, โลกุตฺตรกุสลาทีสุ ‘‘เอวเมเตสํ ธมฺมาน’’นฺติ. อยํ โลกิยโต โลกุตฺตรานํ เทสนาย วิเสโสติ อยํ อภิธมฺมภาชนีเย นโย.

อิทานิ ปจฺจยนยา, การกาทีหิ สุฺโต;

มูลทฺธสนฺธิสงฺเขปาการวฏฺฏวิภาคโต.

วารโณปมโตเปตฺถ, คมฺภีรนยเภทโต;

ยถารหํ วิชานีโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ ปจฺจยนโย สามฺโต, วิเสสโต จาติ ทุวิโธ โหติ. ตตฺถ ตพฺภาวภาวิมตฺตตาปกาสโก สามฺโต ปจฺจยนโย. วิเสสโต ปน ปฏฺาเน อาคเตสุ เหตุปจฺจยาทิจตุวีสติยา ปจฺจเยสุ ยถานุรูปํ ปจฺจยวิเสสุปฺปนฺนมตฺตตาปกาสโก. สา จ เนสํ จตุวีสติยา ปจฺจยานํ วิภาคตา ปฏฺานมาติกตฺถสํวณฺณนาย อาวิ ภวิสฺสติ. ตตฺถ สามฺโต สงฺขาราทโย อวิชฺชาทิปจฺจยภาเว เอว ภาวิโนติ เวทิตพฺพา. ยสฺส หิ จตูสุ สจฺเจสุ, ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อวิชฺชา อปฺปหีนา โหติ, โส ทุกฺเข ตาว ปุพฺพนฺตาทีสุ จ อฺาเณน ตีสุ ภเวสุ ชาติชราโรคมรณาทิอเนกาทีนวโวกิณฺณํ ปุฺผลสงฺขาตํ สงฺขารวิปริณามทุกฺขํ ทุกฺขโต อชานนฺโต สุขสฺาย ปตฺเถตฺวา ตีหิ ทฺวาเรหิ ปุฺาเนฺชาภิสงฺขาเร อารภติ. สมุทเย อฺาเณน ทุกฺขเหตุภูเตสุปิ ตณฺหาปริกฺขาเรสุ ทุกฺขเหตุกํ อาปายิกาทิทุกฺขํ, ทุกฺขเหตุภูเตสุ กามูปเสวนาทีสุ จ อาทีนวํ อปสฺสนฺโต สุขเหตุสฺาย เจว กิเลสาภิภูตตาย จ ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ. นิโรเธ, ปน มคฺเค จ อฺาเณน อนิโรธภูเต คติวิเสเส นิโรธสฺี, นิโรธสฺส จ วา อมคฺคภูเตสุปิ ยฺามรตปาทีสุปิ นิโรธมคฺคสฺี หุตฺวา ติวิเธปิ สงฺขาเร อารภติ. อิทปฺปจฺจยตาปฏิจฺจสมุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ อฺาเณน ‘‘อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา อุปฺปชฺชนฺติ, น โหนฺติ ปรํ มรณา’’ติ วา ‘‘อตฺตาว ชานาติ วา น ชานาติ วา, โสว สงฺขาเร สงฺขโรติ, โสว ปฏิสนฺธิยํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺส อณุอิสฺสราทโย กลลาทิภาเวน สรีรํ สณฺาเปนฺตา อินฺทฺริยานิ สมฺปาเทนฺติ, โสว อินฺทฺริยสมฺปนฺโน ผุสติ, เวทยติ, ตณฺหิยติ, อุปาทานาทีนิ จ กโรตี’’ติ วา ‘‘สพฺเพ สตฺตา นิยติสงฺคติภวปริณตา’’ติ วา วิกปฺเปติ. โส เอวํ อวิชฺชาย อนฺธีกโต –

‘‘ยถาปิ นาม ชจฺจนฺโธ, นโร อปริณายโก;

เอกทา ยาติ มคฺเคน, อุมฺมคฺเคนาปิ เอกทา.

‘‘สํสาเร สํสรํ พาโล, ตถา อปริณายโก;

กโรติ เอกทา ปุฺํ, อปุฺมปิ เอกทา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๒๒๖ สงฺคารปทนิทฺเทส) –

วุตฺตนเยน ติวิเธ สงฺขาเร อภิสงฺขโรตีติ. กึ ปเนตฺถ เอกาว อวิชฺชา สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ, นนุ เอกสฺมา การณา เอกํว การิยํ อุปฺปชฺชติ, อเนกํ การิยํ น อุปฺปชฺชติ, อเนกสฺมา วา เอกนฺติ, อเนกสฺมา การณา อเนกํ การิยํ อุปฺปชฺชตีติ? สจฺจํ, ปธานตฺตปากฏตฺตอสาธารณตฺตทีปนตฺถํ ปเนตฺถ อเนเกสุ การเณสุปิ เอกา อวิชฺชา เอว ปจฺจยภาเวน นิทฺทิฏฺา ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา (อุทา. ๓), เสมฺหสมุฏฺานา อาพาธา’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๑๐.๖๐; มหานิ. ๕; จูฬนิ. ขคฺควิสาณสุตฺตนิทฺเทส ๑๒๘) วิย. อวิชฺชา หิ ปธาโน เหตุ, สงฺขารานํ ปากโฏ, อสาธารโณ จ ตณฺหาทิเหตูนมฺปิ เหตุตฺตา, น วตฺถารมฺมณาทีนิ ขีณาสวสฺส เตสํ สมฺภเวปิ สงฺขารานํ อภาวาติ. เอวํ ตาเวตฺถ วฏฺฏสงฺขารานํ อวิชฺชาย เอว ภาเว ภาโว เวทิตพฺโพ. ตถา วิฺาณสฺสาปิ อุปจิตกมฺมาภาเว อภาวโต, สพฺพตฺถ สพฺเพสฺจ สพฺพวิปากวิฺาณุปฺปตฺติปฺปสงฺคโต จ สงฺขารานํ เอว ภาเว ภาโว เวทิตพฺโพ. ยถา เจตฺถ, เอวํ อุปริปิ นามรูปาทีนํ วิฺาณาทิภาเว ภาโว ยถานุรูปํ อนุภวยุตฺตีหิ าตพฺโพติ อยํ สามฺโต ปจฺจยนโย.

วิเสสโต ปน อวิชฺชา ปุฺาภิสงฺขารานํ ตาว อารมฺมณปจฺจเยน, อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจโย โหติ. สา หิ อวิชฺชํ อารพฺภ สมฺมสนาทิวเสน อุปฺปตฺติยํ กามาวจรานํ, อภิฺาจิตฺเตน สโมหจิตฺตสฺส ชานนกาเล รูปาวจรานฺจ ปุฺาภิสงฺขารานํ ตาว อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ, อวิชฺชาสมติกฺกมนตฺถาย ปน อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตาย กามรูปภวสมฺปตฺติโย ปตฺเถตฺวาว กามรูปาวจรปุฺานิ กโรนฺตสฺส อุปนิสฺสยปจฺจเยน ปจฺจโย โหติ. อปุฺาภิสงฺขารานํ ปเนสา อวิชฺชํ อารพฺภ ราคาทีนํ อุปฺปชฺชนกาเล อารมฺมณาทิปจฺจเยน อวิชฺชาสมฺมูฬฺหตาย ปาณาติปาตาทีนิ กโรนฺตสฺส นิสฺสยปจฺจเยน, ทุติยชวนาทีนํ อนนฺตรูปนิสฺสยาเสวนนตฺถิวิคตปจฺจเยหิ ยํ กิฺจิ อกุสลํ กโรนฺตสฺส เหตุสหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตปจฺจเยหีติ เอวํ อเนกธา ปจฺจโย โหติ, อาเนฺชาภิสงฺขารานํ ปน เอเกน อุปนิสฺสยปจฺจเยเนว ปจฺจโย โหติ.

สงฺขารปจฺจยา วิฺาณปเท ปน ตโยปิ สงฺขารา วิฺาณสฺส ยถารหํ ตีสุ ภเวสุ ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ กมฺมปจฺจเยน เจว อุปนิสฺสยปจฺจเยน จาติ ทฺวิธา ปจฺจยา โหนฺติ. อภิธมฺมภาชนียนเยน สหชาตสฺส วิฺาณสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตกมฺมตฺถิอวิคตาทิปจฺจเยหิ ปจฺจยา โหนฺติ.

วิฺาณปจฺจยา นามรูปปเท ปน วิฺาณํ วิปากภูตํ, อวิปากภูตฺจ นามสฺส เกวลสฺส วา รูปมิสฺสกสฺส วา ปฏิสนฺธิปวตฺตีสุ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอาหารอินฺทฺริยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ ยถารหํ นวธา, อฏฺธา วา ปจฺจโย โหติ. ปฏิสนฺธิยํ วิปากวิฺาณํ วตฺถุรูปสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิ อวิคตปจฺจเยหิ นวธา ปจฺจโย โหติ. เปตฺวา ปน วตฺถุรูปํ เสสรูปสฺส เตเหว อฺมฺปจฺจยรหิเตหิ อฏฺหิ ปจฺจโย โหติ. อภิสงฺขารวิฺาณํ ปน เอกโวการปฺจโวการภเวสุ กมฺมชรูปสฺส สุตฺตนฺติกปริยาเยน อุปนิสฺสยวเสน ปจฺจโย โหติ. ปวตฺติยํ ปน สพฺพมฺปิ วิฺาณํ ตสฺส ตสฺส นามรูปสฺส ยถารหํ ปจฺจโย โหติ. ตตฺถ อรูปภเว วิฺาณํ นามสฺเสว, อสฺิภเว รูปสฺเสว, ปฺจโวการภเว นามรูปสฺส ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. เตเนว นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ นามรูปนฺติ นิพฺพจนํ กตนฺติ.

นามรูปปจฺจยา สฬายตนปเท ปน นามํ วิปากภูตํ, อวิปากภูตฺจ อรูปภเว ฉฏฺายตนสฺส อวกํสโต สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปากอตฺถิอวิคตวเสน ยถารหํ สตฺตธา ปจฺจโย โหติ. อิตเรสํ ปเนตํ ปฺจนฺนํ จกฺขายตนาทีนํ ปฺจโวการภเว ปฏิสนฺธิยํ จตุมหาภูตสหายํ หุตฺวา สหชาตนิสฺสยวิปากวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจโย โหติ. กิฺจิ ปเนตฺถ เหตุปจฺจเยน, กิฺจิ อาหารปจฺจเยน จาติ เตสํ วเสน สพฺพวาเรสุ อุกฺกํสาวกํโส เวทิตพฺโพ. ปวตฺเต ปน จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ วิปากมวิปากมฺปิ นามํ ปจฺฉาชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน จตุธา ปจฺจโย โหตีติ. เอวํ ตาว นามเมว สฬายตนสฺส ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ.

รูปํ ปน วตฺถุภูตํ ปฏิสนฺธิยํ ฉฏฺายตนสฺส สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจโย โหติ. จตุมหาภูตรูปํ จกฺขาทีนํ ปฺจนฺนํ ปฏิสนฺธิยํ, ปวตฺเต จ สหชาตนิสฺสยอตฺถิอวิคตปจฺจเยหิ จตุธา ปจฺจโย โหติ. รูปชีวิตินฺทฺริยํ ปน อินฺทฺริยอตฺถิอวิคตวเสน ติวิธา. ตถา อาหาโร อาหารตฺถิอวิคตวเสน. โส จ อาหารูปชีวีนํ ปวตฺเตเยว, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตานิ ปน ปฺจ จกฺขายตนาทีนิ ปฺจวิฺาณสงฺขาตสฺส ฉฏฺสฺส มนายตนสฺส นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา ปจฺจยา โหนฺติ ปวตฺเตเยว, โน ปฏิสนฺธิยํ. ตถา ปฺจวิฺาณวิรหิตมนายตนสฺส วตฺถุรูปํ นิสฺสยปุเรชาตวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ปฺจธา ปจฺจโย โหตีติ. เอวํ รูปเมว ฉฏฺายตนสฺส, สฬายตนสฺส จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ. ขนฺธตฺตยวตฺถุรูปสงฺขาตํ ปน นามรูปํ ฉฏฺายตนสฺส ปฏิสนฺธิยํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตวิปากอตฺถิอวิคตาทิวเสน ยถารหํ ปจฺจโย โหตีติ. เอวํ นามฺจ รูปฺจ นามรูปฺจ ยถารหํ ฉฏฺายตนสฺส, สฬายตนสฺส จ ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ.

สฬายตนปจฺจยา ผสฺสปเท ปน ฉฏฺายตนํ วิปากํ, อวิปากฺจ สพฺพตฺถ สมฺปยุตฺตผสฺสสฺส สหชาตาทิวเสน นวธา, อฏฺธา วา ปจฺจโย โหติ. จกฺขายตนาทีนิ ปฺจ ยถากฺกมํ ปวตฺเต จกฺขุสมฺผสฺสาทีนํ ปฺจนฺนํ นิสฺสยปุเรชาตอินฺทฺริยวิปฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน ฉธา, รูปายตนาทีนิ ปฺจ เตสํ อารมฺมณปุเรชาตอตฺถิอวิคตวเสน ติธา. มโนสมฺผสฺสสฺส ปน ตานิ, ธมฺมารมฺมณฺจ ตถา จ อารมฺมณาธิปติมตฺเตน จาติ พหุธา ปจฺจยา โหนฺติ. เอวํ ฉฏฺายตนฺจ สฬายตนฺจ ฉพฺพิธสฺสาปิ ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหตีติ เวทิตพฺพํ.

ผสฺสปจฺจยา เวทนาปเท สพฺโพปิ ผสฺโส สหชาตานํ เวทนานํ สหชาตอฺมฺนิสฺสยวิปากอาหารสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน อฏฺธา, สตฺตธา วา ปจฺจโย โหติ, อสหชาตานํ อุปนิสฺสยวเสเนวาติ.

เวทนาปจฺจยา ตณฺหาปเท วิปากเวทนา อนุสยปติตาย ตณฺหาย อุปนิสฺสยวเสน, สหชาตาทิวเสน จ ปจฺจโย โหติ. ยสฺมา ปน –

ทุกฺขี สุขํ ปตฺถยติ, สุขี ภิยฺโยปิ อิจฺฉติ;

อุเปกฺขา ปน สนฺตตฺตา, สุขมิจฺเจว ภาสิตา;

ตณฺหาย ปจฺจยา ตสฺมา, โหนฺติ ติสฺโสปิ เวทนาติ. (วิสุทฺธิ. ๒.๖๔๔);

ตณฺหาปจฺจยา อุปาทานปเท ตณฺหา อสหชาตา จตุนฺนมฺปิ อุปาทานานํ อุปนิสฺสยวเสน เจว อนนฺตราทิวเสน จ, สหชาตา ปน กามุปาทานวชฺชิตานํ ติณฺณํ เหตุสหชาต อฺมฺนิสฺสยสมฺปยุตฺตอตฺถิอวิคตวเสน สตฺตธา ปจฺจโย โหติ.

อุปาทานปจฺจยา ภวปเท จตุพฺพิธมฺปิ อุปาทานํ อสหชาตสฺส สพฺพกมฺมภวสฺส เจว อุปปตฺติภวสฺส จ อุปนิสฺสยวเสเนว ปจฺจโย โหติ, สหชาตสฺส ปน กมฺมภวสฺส เหตุสหชาตาทิวเสน ปจฺจโย โหติ.

ภวปจฺจยา ชาติปเท ภโวติ กมฺมภโวว อธิปฺเปโต, โส จ ชาติยา กมฺมปจฺจยอุปนิสฺสยปจฺจยวเสน ทฺวิธา ปจฺจโย โหติ.

ชาติปจฺจยา ชรามรณาทิปเท ชาติ ปน ชรามรณานํ, โสกาทีนฺจ ตพฺภาวภาวีภาวมตฺตโต สุตฺตนฺติกนเยน อุปนิสฺสยโกฏิยาว ปจฺจโย โหตีติ อยํ ตาเวตฺถ ปจฺจยนโย.

การกาทีหิ สุฺโต ปเนเต อวิชฺชาทโย ทฺวาทส ธมฺมา ยสฺมา เอวํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาเวน อฺมฺํ ปฏิพทฺธา อฺนิรเปกฺขา หุตฺวา อวิจฺฉินฺนา อนาทิกา ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ตโต อฺเน พฺรหฺมาทินา การเกน, ปกติอณุกาลาทิเหตุนา วา การกเวทกรูเปน ปรปริกปฺปิเตน อตฺตนา วา รหิตา. น เจเต อตฺตา, น อตฺตนิ, น อตฺตวนฺโต, สุฺา เอเต อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา ธุวภาเวน วา สุภภาเวน วา สุขภาเวน วาติ อยํ การกาทีหิ สุฺตา.

มูลทฺธสนฺธิสงฺเขปาการวฏฺฏวิภาคโตติ เอตฺถ มูลโต ตาว อวิชฺชา, ตณฺหา จาติ ทฺเว ธมฺมา มูลนฺติ เวทิตพฺพา. อทฺธโต ปเนตฺถ อวิชฺชา, สงฺขาราติ ทฺเว องฺคานิ อตีโต อทฺธา, วิฺาณาทีนิ ภวาวสานานิ อฏฺ ปจฺจุปฺปนฺโน อทฺธา, ชาติ เจว ชรามรณฺจาติ ทฺเว อนาคโต อทฺธาติ ตโย อทฺธา เวทิตพฺพา. สนฺธิโต ปน สงฺขารานํ, ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ, เวทนาย จ ตณฺหาย จ อนฺตรา เอโก ผลเหตุสนฺธิ, ภวสฺส จ ชาติยา จ อนฺตรา เอโก เหตุผลสนฺธิ จาติ ตโย สนฺธี เวทิตพฺพา. สงฺเขปโต ปน สนฺธีนํ อาทิปริโยสานววตฺถิตา จตฺตาโร สงฺเขปา โหนฺติ. เสยฺยถิทํ – อวิชฺชาสงฺขารา เอโก สงฺเขโป, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา ทุติโย, ตณฺหุปาทานภวา ตติโย, ชาติชรามรณานิ จตุตฺโถติ เอวํ จตฺตาโร สงฺเขปา เวทิตพฺพา.

อาการโต ปเนตฺถ –

อตีเต เหตุโย ปฺจ, อิทานิ ผลปฺจกํ;

อิทานิ เหตุโย ปฺจ, อายตึ ผลปฺจกนฺติ. –

เอวํ วีสติ อาการา โหนฺติ.

เอตฺถ หิ สรูปโต วุตฺตา อวิชฺชาสงฺขารา, เตสํ คหเณน ตทวินาภาวโต คหิตา ตณฺหุปาทานภวาติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตีเต เหตุโย นาม, สรูปโต วุตฺตา วิฺาณาทโย ปฺจ ธมฺมา อิทานิ ผลปฺจกํ นาม, สรูปโต ปน วุตฺตา ตณฺหุปาทานภวา, เตสํ คหเณน ตทวินาภาวโต คหิตา อวิชฺชาสงฺขาราติ อิเม ปฺจ อิทานิ เหตุโย นาม. ชาติอาทิอปเทเสน วุตฺตา วิฺาณาทโย ปฺจ ธมฺมา อายตึ ผลปฺจกํ นามาติ เอวํ วีสติ อาการา เวทิตพฺพา. วฏฺฏโต ปเนตฺถ สงฺขารภวา กมฺมวฏฺฏํ, อวิชฺชาตณฺหุปาทานา กิเลสวฏฺฏํ, เสสานิ วิปากวฏฺฏนฺติ ตีณิ วฏฺฏานิ โหนฺติ. ยาว จ เตสุ กิเลสวฏฺฏํ อริยมคฺเคน น อุปจฺฉิชฺชติ, ตาว อิทํ ภวจกฺกํ อนุปจฺฉินฺนํ ปวตฺตตีติ อยเมตฺถ มูลทฺธสนฺธิสงฺเขปาการวฏฺฏวิภาโค.

วารโณปมโตติ เอตฺถ วารณโต ตาว – ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ อิทมเหตุกวิสมเหตุกทสฺสนนิวารณํ, ‘‘สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ อุจฺเฉทอตฺตสงฺกนฺติทสฺสนนิวารณํ, ‘‘วิฺาณปจฺจยา นามรูป’’นฺติ อตฺตาติ ปริกปฺปิตวตฺถุเภททสฺสนโต ฆนสฺานิวารณํ, ‘‘นามรูปปจฺจยา สฬายตน’’นฺติอาทิ อตฺตา ปสฺสติ…เป… วิชานาติ ผุสติ, เวทยติ, ตณฺหิยติ, อุปาทิยติ, ภวติ, ชายติ, ชียติ, มียตีติ เอวมาทิทสฺสนนิวารณนฺติ อิทเมตฺถ มิจฺฉาทสฺสนนิวารณํ.

อุปมาโต ปเนตฺถ อนฺโธ วิย อวิชฺชา, ตสฺส อุปกฺขลนํ วิย สงฺขารา, ปตนํ วิย วิฺาณํ, เตน คณฺฑปาตุภาโว วิย นามรูปํ, ตสฺส คณฺฑเภทปีฬกา วิย สฬายตนํ, ตสฺส สงฺฆฏฺฏนํ วิย ผสฺโส, ตชฺชนิตทุกฺขํ วิย เวทนา, ทุกฺขสฺส ปฏิการาภิลาโส วิย ตณฺหา, อสปฺปายคฺคหณํ วิย อุปาทานํ, อสปฺปายาเลปนํ วิย ภโว, เตน คณฺฑวิการปาตุภาโว วิย ชาติ, ตพฺพิการเภโท วิย ชรามรณํ. ยถาสภาวทสฺสนนิวารณาทิโต วา เอเต อวิชฺชาทโย อกฺขิปฏลาทิ อุปมาหิปิ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ อุปมา.

คมฺภีรนยเภทโตติ เอตฺถ คมฺภีรเภโท ตาว อิเมสํ อวิชฺชาทีนํ ปจฺเจกํ ธมฺมตฺถเทสนาปฏิเวธคมฺภีรตา เวทิตพฺพา. อิเม หิ อวิชฺชาทโย ธมฺมา เยนากาเรน ยทวตฺถา จ สงฺขาราทีนํ ผลานํ ปจฺจยา โหนฺติ, โส เนสํ ปจฺจยฏฺโ ทุรวโพธโต คมฺภีโรติ อยเมตฺถ ธมฺมคมฺภีรตา. ธมฺโมติ เหตุ ‘‘เหตุมฺหิ าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐) วจนโต. ชรามรณาทีนํ ผลานํ ชาติอาทีหิ ปจฺจเยหิ สมฺภูตสมุทาคตฏฺโ ทุรวโพธโต คมฺภีโรติ อยํ อตฺถคมฺภีรตา. อตฺโถติ ผลํ ‘‘เหตุผเล าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๒๐) วจนโต. เตสํ ปน เหตูนํ, ผลานฺจ เตน เตนากาเรน อวิปรีตโต เทสนาปิ สพฺพฺุตฺาณสฺเสว โคจรโต คมฺภีราติ อยํ เทสนาคมฺภีรตา. โย ปเนสํ อวิชฺชาสงฺขาราทีนํ อทสฺสนายูหนาทิสภาโว, โส มนฺทปฺเหิ ทุปฺปริโยคาหตฺตา คมฺภีโรติ อยํ ปฏิเวธคมฺภีรตาติ อยเมตฺถ คมฺภีรเภโท.

นยเภโท ปเนตฺถ เอกตฺตนโย นานตฺตนโย อพฺยาปารนโย เอวํธมฺมตานโยติ อิเมสํ จตุนฺนํ อตฺถนยานํ วเสน เวทิตพฺโพ. ตตฺถ หิ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา, สงฺขารปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ เอวํ พีชสฺส องฺกุราทิภาเวน รุกฺขภาวปฺปตฺติ วิย สนฺตานานุปจฺเฉโท เอกตฺตนโย นาม. ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน สนฺตานานุปจฺเฉทาวโพธโต อุจฺเฉททิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เหตุผลสมฺพนฺเธน ปวตฺตมานสฺส สนฺตานานุปจฺเฉทสฺส เอกตฺตคฺคหณโต สสฺสตทิฏฺึ อุปาทิยติ.

อวิชฺชาทีนํ ปน ยถาสกํ ลกฺขณววตฺถานํ นานตฺตนโย นาม. ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต นวนวานํ อุปฺปาททสฺสนโต สสฺสตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต เอกสนฺตานปติตสฺส ภินฺนสนฺตานสฺเสว นานตฺตคฺคหณโต อุจฺเฉททิฏฺึ อุปาทิยติ.

อวิชฺชาย ปน ‘‘สงฺขารา มยา อุปฺปาเทตพฺพา, สงฺขารานํ วา วิฺาณํ อมฺเหหี’’ติ เอวมาทิพฺยาปาราภาโว อพฺยาปารนโย นาม. ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโตการกสฺส อภาวาวโพธโต อตฺตทิฏฺึ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต โย อสติปิ พฺยาปาเร อวิชฺชาทีนํ สภาวนิยมสิทฺโธ เหตุภาโว, ตสฺส อคฺคหณโต อกิริยทิฏฺึ อุปาทิยติ.

อวิชฺชาทีหิ ปน การเณหิ สงฺขาราทีนํเยว สมฺภโว ขีราทีหิ ทธิอาทีนํ วิย, น อฺเสนฺติ อยํ เอวํธมฺมตานโย นาม. ยํ สมฺมา ปสฺสนฺโต ปจฺจยานุรูปโต ผลาวโพธโต อเหตุกทิฏฺึ, อกิริยทิฏฺิฺจ ปชหติ, มิจฺฉา ปสฺสนฺโต ปจฺจยานุรูปํ ผลปฺปวตฺตึ อคฺคเหตฺวา ยโต กุโตจิ ยสฺส กสฺสจิ อสมฺภวคฺคหณโต อเหตุกทิฏฺึ เจว นิยตวาทฺจ อุปาทิยตีติ อยเมตฺถ นยเภโทติ เอวํ วิชานีโย ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ปจฺจยาการวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

สติปฏฺานวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

สติปฏฺานวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – จตฺตาโรติ คณนปริจฺเฉโท, เตน น ตโต เหฏฺา, น อุทฺธนฺติ ทีเปติ. สติปฏฺานาติ เอตฺถ ทฺเว สติปฏฺานา สติโคจโรปิ สติปิ. ‘‘จตุนฺนํ, ภิกฺขเว, สติปฏฺานานํ สมุทยฺจ อตฺถงฺคมฺจ เทเสสฺสามี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔๐๘) หิ สติโคจโร ‘‘สติปฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตสฺสตฺโถ ปติฏฺาติ ตสฺมินฺติ ปฏฺานํ, กา ปติฏฺาติ? สติ. สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ปธานํ านนฺติ วา ปฏฺานํ, สติยา ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๔๗) ปน สติ. ตสฺสตฺโถ ปติฏฺาตีติ ปฏฺานํ, อุปฏฺาติ โอกฺกนฺติตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. สติเยว ปฏฺานตฺเถน สติปฏฺานํ. อถ วา สรณฏฺเน สติ, สา จ อุปฏฺานฏฺเน ปฏฺานนฺติ สติปฏฺานํ, อิทมิธ อธิปฺเปตํ. ยทิ เอวํ, กสฺมา สติปฏฺานาติ พหุวจนํ กตํ? สติยา พหุตฺตา. อารมฺมณเภเทน หิ พหุกา ตา สติโย.

อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน, เตน อชฺฌตฺตาทิวเสน สพฺพปฺปการจตุจตฺตาลีสวิธสติปฏฺานนิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส นิสฺสยภูตํ สาสนเมว, นาฺํ สาสนนฺติ ทีเปติ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณหิ อฺเหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔; ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑).

ภิกฺขูติ สํสาเร ภยํ อิกฺขนโก. เตน กิฺจาปิ ภควโต เทวโลเก นิสีทิตฺวา สติปฏฺานํ เทเสนฺตสฺส สนฺติเก เทวคณํ มุฺจิตฺวา เอกภิกฺขุปิ นิสินฺโน นาม นตฺถิ, ตถาปิ เทโว วา โหตุ มนุสฺโส วา คหฏฺโ วา ปพฺพชิโต วา, สํสาเร ภยนฺติ สมฺมา อิกฺขมาโน ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชมาโนว ภิกฺขุ นาม โหติ, นาฺโติ ทสฺเสติ. ยถาห ‘‘อลงฺกโต เจปี’’ติ (ธ. ป. ๑๔๒).

อชฺฌตฺตนฺติ นิยกชฺฌตฺตํ. กาเยติ เอตฺถ อายนฺติ ตโตติ อาโย. เก อายนฺติ? กุจฺฉิตา เกสาทโย, อิติ กุจฺฉิตานํ อาโยติ กาโย. อถ วา องฺคปจฺจงฺคานํ, เกสาทีนฺจ สมูหฏฺเนปิ กาโย, รูปกาโย, ตสฺมึ อตฺตโน กาเยติ อตฺโถ. กายานุปสฺสีติ กายํ อนุปสฺสนสีโล. ‘‘กาเย’’ติ จ วตฺวา ปุน ‘‘กายานุปสฺสี’’ติ ทุติยกาย-คฺคหณํ ‘‘เอวํ น กาเย องฺคปจฺจงฺควินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, นาปิ เกสโลมาทิวินิมุตฺตอิตฺถิปุริสานุปสฺสี, น จ ภูตุปาทายวินิมุตฺตเอกธมฺมานุปสฺสี, อถ โข รถสมฺภารนคราวยวกทลิกฺขนฺธวิภาคานุปสฺสโก วิย ยถากฺกมํ องฺคปจฺจงฺคเกสาทิภูตุปาทายสมูหานุปสฺสี เอวา’’ติ ทสฺสนตฺถํ กตํ. ตถา เหตฺถ ยถาวุตฺตธมฺมสมูหวินิมุตฺโต อิตฺถิปุริสาทิโก, อฺโ วา โกจิ ธมฺโม น ทิสฺสติ, ยถาวุตฺตธมฺมสมูหมตฺเตเยว ปน พาลา ตถา ตถา สุภาทิโต จ มิจฺฉาภินิเวสํ กโรนฺติ, อยํ ปน โยคี ตตฺถ กายานุปสฺสี เอว อนิจฺจทุกฺขอนตฺตาสุภานุปสฺสี เอวาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา ยฺวายํ มหาสติปฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสาทิโก จุทฺทสวิโธ กาโย วุตฺโต, ตสฺส สพฺพสฺส อิมสฺมึเยว กาเย อนุปสฺสนโต ‘‘กาเย กายานุปสฺสี’’ติ เอวมาทินาปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วิหรตีติ อิริยติ, จตูสุ อิริยาปเถสุ เอเกนาคตํ สรีรพาธนํ อฺเน อิริยาปเถน วิจฺฉินฺทิตฺวา อปตมานํ อตฺตภาวํ หรติ, ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. พหิทฺธา กาเยติ ปรสฺส กาเย. อชฺฌตฺตพหิทฺธา กาเยติ กาเลน อตฺตโน, กาเลน ปรสฺส กาเย. กาเลน หิ อชฺฌตฺตพหิทฺธากาเยสุปิ เอกสฺมึ ขเณ กายานุปสฺสนา อุปฺปชฺชติ, ปคุณกมฺมฏฺานสฺส ปน อปราปรํ สฺจรณกาโล เอตฺถ กถิโต. อาตาปีติ กายปริคฺคาหกวีริเยน วีริยวา. โส หิ ยสฺมา กิเลสานํ อาตาปนโต อาตาโป วุจฺจติ วีริยํ, โส จสฺส อตฺถิ, ตสฺมา อาตาปีติ วุจฺจติ. สมฺปชาโนติ กายปริคฺคาหเกน สมฺปชฺเน สมนฺนาคโต. สติมาติ กายปริคฺคาหิกาย สติยา สมนฺนาคโต. อยํ ปน ยสฺมา สติยา อารมฺมณํ ปริคฺคเหตฺวา ปฺาย อนุปสฺสติ, วีริเยน จ อนฺตรา โวสานํ นาปชฺชติ, ตสฺมา เยสํ ธมฺมานํ อานุภาเวน ตํ สติปฏฺานํ สมฺปชฺชติ, เตสํ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อาตาปี สมฺปชาโน สติมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิติ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, สมฺปโยคงฺคฺจ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปหานงฺคํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺส’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถ วิเนยฺยาติ ตทงฺควินเยน วา วิกฺขมฺภนวินเยน วา วินยิตฺวา. โลเกติ ยฺวายํ อชฺฌตฺตาทิเภโท กาโย วุตฺโต, สฺเวว อิธ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก นาม. วิภงฺเค ปน ยสฺมา รูปกาเย ปหีนอภิชฺฌาทโย เวทนาทีสุปิ ปหียนฺติ เอว, ตสฺมา ปฺจปิ อุปาทานกฺขนฺธา ‘‘โลโก’’ติ วุตฺตํ. ตสฺมึ โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสสงฺขาตํ กามจฺฉนฺทพฺยาปาทํ วิเนยฺยาติ สมฺพนฺโธ. อิมสฺส จ นีวรเณสุ พลวธมฺมทฺวยสฺส ปหานทสฺสเนน เสสนีวรณานมฺปิ ปหานํ วุตฺตํเยวาติ เวทิตพฺพํ. วิเสเสน เจตฺถ อภิชฺฌาโทมนสฺสวินเยน ยถากฺกมํ กายสมฺปตฺติวิปตฺติมูลานํ อนุโรธวิโรธานํ, อตฺตอภิรติตทสุภาการาทิภาวนานภิรตีนํ, อภูตคุณปกฺเขปภูตโทสาปนยนานฺจ ปหานํ วุตฺตํ, เตน โยคาวจรสฺส โยคานุภาวนิพฺพตฺตผลํ, โยคสมตฺถตา จ ทีปิตา โหติ.

อชฺฌตฺตํ เวทนาสูติอาทีสุปิ อชฺฌตฺตาทีนิ วุตฺตนเยน เวทิตพฺพานิ. เอตฺถ ปน เวทนาติ ติสฺโส เวทนา โลกิยา, ตถา จิตฺตํ, ธมฺมา จ, เตสํ วิภาโค วิภงฺคนเย อาวิ ภวิสฺสติ. เกวลํ ปเนตฺถ ยถา เวทนาทโย อนุปสฺสนฺโต เวทนาทิอนุปสฺสี นาม โหติ, โส นโย ทสฺเสตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – เวทนาสุ ตาว สุขา เวทนา ทุกฺขโต, ทุกฺขา สลฺลโต, อิตรา จ อนิจฺจโต อนุปสฺสิตพฺพา. ยถาห –

‘‘โย สุขํ ทุกฺขโต อทฺท, ทุกฺขมทฺทกฺขิ สลฺลโต;

อทุกฺขมสุขํ สนฺตํ, อทฺทกฺขิ นํ อนิจฺจโต’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๓; อิติวุ. ๕๓).

สพฺพา เอว เอตา ทุกฺขโต อนุปสฺสิตพฺพา ‘‘ยํ กิฺจิ เวทยิตํ, ตํ ทุกฺขสฺมินฺติ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๕๙) วจนโต. เอวํ อนุปสฺสนฺโต ปน อนิจฺจาทิสตฺตานุปสฺสนาวเสน วา อนุปสฺสนฺโตปิ ‘‘อิมํ เวทนํ โก เวทยติ, กสฺสายํ เวทนา, กึ การณายํ เวทนา’’ติ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘น โกจิ สตฺตาทิโก เวทยติ, น เกสฺจิ สตฺตาทีนํ เวทนา, วตฺถารมฺมณาทิการณา ปนายํ เวทนา อุปฺปชฺชตี’’ติ อนุปสฺสนฺโตปิ เวทนานุปสฺสี นาม โหติ. อถ วา สุขาทีนํ อุปฺปตฺติกฺขเณ ทุกฺขาทีนํ อสมฺภวา อนิจฺจา อทฺธุวา วิปริณามธมฺมาติ เอวํ วา อนุปสฺสนฺโต เวทนานุปสฺสี นาม โหติ. อิมินาว นเยน ปาฬินยานุสาเรน เสสจิตฺตธมฺมานมฺปิ อนุปสฺสนากาโร เวทิตพฺโพ. วิเสสโต ปเนตฺถ จิตฺเตสุ อนิจฺจตาวเสน, ธมฺเมสุ อนตฺตตาวเสน จ อนุปสฺสนฺโต จิตฺตานุปสฺสี, ธมฺมานุปสฺสี จ นาม โหตีติ เวทิตพฺพํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปเนตฺถ นตฺถิ, สรณวเสน จ เอกาว สติ อารมฺมณวเสน ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ วุตฺตาติ.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว อชฺฌตฺตพหิทฺธาตทุภยกาเย เกสาทิโกฏฺาสภาวนาวเสน ปมํ สติปฏฺานํ วิตฺถาริตํ. ตถา อชฺฌตฺตาทีสุ ปจฺเจกํ สามิสนิรามิสวเสน ทุวิธานํ สุขทุกฺขอทุกฺขมสุขเวทนานํ วเสน ทุติยํ, สราควีตราคสโทสวีตโทสสโมหวีตโมหสํขิตฺตวิกฺขิตฺตมหคฺคตอมหคฺคตสอุตฺตรานุตฺตรสมาหิตาสมาหิตวิมุตฺตาวิมุตฺตเภทโต โสฬสวิเธหิ จิตฺตปชานนวเสน ตติยํ, ปฺจนีวรณานํ, สตฺตโพชฺฌงฺคานฺจ สมฺภวาสมฺภวอุปฺปาทปหานปหีนานุปฺปตฺติภาวนาปาริปูริเหตุชฺฌานวเสน จตุตฺถํ สติปฏฺานํ วิตฺถาริตํ. อยํ สุตฺตนฺตภาชนียนโย.

อภิธมฺมภาชนีเย ปน ตาว ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา. อิธ ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ เวทนาสุ…เป… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรตี’’ติ (วิภ. ๓๘๐) เอวํ มาติกํ เปตฺวา ธมฺมสงฺคณิยํ วุตฺตนยสฺส วิตฺถาเรสุ อฏฺสุ โลกุตฺตรจิตฺเตสุ สมฺปยุตฺตสติวเสเนว วิตฺถารโต วิภตฺตา.

ปฺหาปุจฺฉกนเยปิ จตุนฺนํ สติปฏฺานานํ กติ กุสลา…เป… กติ อรณา? สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตา…เป… อนุปาทินฺนอนุปาทานิยาว, อสํกิลิฏฺอสํกิเลสิกาว…เป… อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาว. น เหตู อเหตุกาว…เป… อนุตฺตรา อรณาวาติ โลกุตฺตรวเสเนว วิภตฺตา. สมฺมาสมฺพุทฺเธน หิ สุตฺตนฺตภาชนียสฺมิฺเว โลกิยโลกุตฺตรมิสฺสกา สติปฏฺานา กถิตา, อภิธมฺมภาชนียปฺหาปุจฺฉเกสุ ปน โลกุตฺตราเยว. เตสุ จ โลกิยา นานาจิตฺเตสุ เอว ลพฺภนฺติ. อฺเเนว หิ จิตฺเตน กายํ ปคฺคณฺหนฺติ, อฺเน เวทนาทโยติ. โลกุตฺตรา ปน จตฺตาโรปิ มคฺคกฺขเณ เอกจิตฺเตเยว ลพฺภนฺติ. เอกสฺมิฺหิ มคฺคจิตฺตกฺขเณ อารมฺมณโต นิพฺพานารมฺมณา เอกาว สติ กายาทีสุ สุภสุขนิจฺจอตฺตวิปลฺลาสสมุจฺเฉทกตาย จตุกิจฺจสาธนฏฺเน จตฺตาริปิ นามานิ ลภตีติ อยเมตฺถ วิภงฺคนโย.

กมโต สติปฏฺาเน, อนูนาธิกโตปิ จ;

ปาฬิมุตฺตนโย เยฺโย, ตตฺถ โกสลฺลมิจฺฉตา.

ตตฺถ กมโต ตาว อยมฺปิ เทสนากฺกโมว, โสปิ ปากฏาปากฏวเสน วุตฺโต. อิมาสุ หิ รูปกมฺมฏฺานํ ปากฏนฺติ ปมํ กายานุปสฺสนา วุตฺตา. ตโต อรูปกมฺมฏฺานํ. ตตฺถาปิ อารมฺมณํ อนุภวนฺตี อุปฺปชฺชมานา เวทนา ปากฏาติ อนนฺตรา เวทนานุปสฺสนา, ตโต อารมฺมณํ วิชานนฺตํ วิฺาณํ ปากฏนฺติ จิตฺตานุปสฺสนา, จิตฺเต ปากเฏ ตนฺนิสฺสิตา สุขุมาปิ ธมฺมา ปากฏา โหนฺตีติ อนฺเต ธมฺมานุปสฺสนา วุตฺตา. อยํ ตาเวตฺถ กโม.

อนูนาธิกโตติ เอตฺถ ปน กสฺมา ภควตา จตฺตาโรว สติปฏฺานา วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ? ตณฺหาจริตทิฏฺิจริตสมถยานิกวิปสฺสนายานิกานํ มนฺทติกฺขวเสน ทฺวิธา ปวตฺตานํ วิสุทฺธิมคฺควเสน. มนฺทสฺส หิ ตณฺหาจริตสฺส โอฬาริกํ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส สุขุมํ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ทิฏฺิจริตสฺสาปิ มนฺทสฺส นาติปฺปเภทคตํ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ติกฺขสฺส อติปฺปเภทคตํ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค. สมถยานิกสฺส จ มนฺทสฺส อกิจฺเฉน อธิคนฺตพฺพนิมิตฺตํ ปมํ สติปฏฺานํ วิสุทฺธิมคฺโค, ติกฺขสฺส ทุติยํ, วิปสฺสนายานิกสฺสาปิ มนฺทสฺส ตติยํ, ติกฺขสฺส จตุตฺถํ วิสุทฺธิมคฺโคติ เวเนยฺยชฺฌาสยโต จตฺตาโร วุตฺตา. สุภสุขนิจฺจอตฺตภาววิปลฺลาสปฺปหานตฺถํ วา จตุโรฆโยคาสวคนฺถอุปาทานอคติปฺปหานตฺถมฺปิ จตุพฺพิธาหารปริฺตฺถฺจ จตฺตาโรว วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ อยเมตฺถ อนูนาธิกตา. เอวํ ปาฬิมุตฺตนโย เยฺโย.

สติปฏฺานวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

สมฺมปฺปธานวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

สมฺมปฺปธานวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – สมฺมปฺปธานาติ การณปฺปธานา อุปายปฺปธานา. โยนิโส ปทหนโต ปรมํ ธานํ ปธานํ, ปธานวีริยานีติ อตฺโถ. อิธ ภิกฺขูติ อิมสฺมึ สาสเน ปฏิปนฺนโก ภิกฺขุ. อนุปฺปนฺนานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ. ปาปกานนฺติ ลามกานํ. อกุสลานํ ธมฺมานนฺติ อโกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อนุปฺปาทายาติ น อุปฺปาทนตฺถาย. ฉนฺทํ ชเนตีติ กตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ ชเนติ อุปฺปาเทติ. วายมตีติ ปโยคํ ปรกฺกมํ กโรติ. วีริยํ อารภตีติ กายิกเจตสิกวีริยํ กโรติ. จิตฺตํ ปคฺคณฺหาตีติ เตเนว สหชาตวีริเยน จิตฺตํ อุกฺขิปติ. ปทหตีติ ปธานวีริยํ กโรติ. ปฏิปาฏิยา ปเนตานิ จตฺตาริปิ ปทานิ วีริยสฺเสว อาเสวนาภาวนาพหุลีกมฺมสาตจฺจกิริยาหิ โยเชตพฺพานิ.

อุปฺปนฺนานนฺติ อนุปฺปนฺนาติ อวตฺตพฺพตํ อาปนฺนานํ. ปหานายาติ ปชหนตฺถาย. อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานนฺติ อนิพฺพตฺตานํ โกสลฺลสมฺภูตานํ ธมฺมานํ. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนานนฺติ นิพฺพตฺตานํ. ิติยาติ ิตตฺถาย. อสมฺโมสายาติ อนสฺสนตฺถํ. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนํ ภวนาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถาย. เสสํ ปทโต อุตฺตานเมว.

อตฺถโต ปเนตฺถ ‘‘อนุปฺปนฺนานํ ปาปกาน’’นฺติอาทีสุ อสมุทาจารวเสน วา อนนุภูตารมฺมณวเสน วา กิเลสานํ อนุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. อฺถา หิ อนมตคฺเค สํสาเร อนุปฺปนฺนา อกุสลธมฺมา นาม นตฺถิ. กุสลธมฺเมสุ ปน รตนตฺตยปฺปสาทวิปสฺสนาทิวิวฏฺฏูปนิสฺสยกุสลาทิวเสน อนุปฺปนฺนาปิ อตฺถิ. เตสมฺปิ อุปฺปนฺนปุพฺพตฺเต สติ สพฺพสตฺตานํ อิโต ปุพฺเพ จ อาสวกฺขยปฺปสงฺคโต. เอกนฺตปฺปวตฺตสาธกา เตสํ. ตตฺถ เอกจฺจสฺส วตฺตคนฺถธุตงฺคสมาธิวิปสฺสนานวกมฺเมสุ อฺตรสฺมึ นิจฺจปฺปยุตฺตสฺส, ฆฏโต, วายมโต จ พฺรหฺมโลกา อาคตตฺตา ภววเสน กิเลเสสุ อลทฺธาเสวนสฺส สตฺตสฺส กิเลสา น สมุทาจรนฺติ, อปรภาเค ปนสฺส วตฺตาทีนิ วิสฺสชฺเชตฺวา กุสีตสฺส จรโต เจว อกลฺยาณมิตฺตาทิโต กิเลเสสุ ลทฺธาเสวนสฺส จ อโยนิโสมนสิการํ, สติโวสฺสคฺคฺจ อาคมฺม อุปฺปชฺชนฺติ. เอวํ ตาว อสมุทาจารวเสน กิเลสานํ อนุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

เอกจฺจสฺส ปน ตสฺมึ อตฺตภาเว อนนุภูตปุพฺพํ ทิพฺพาทิเภทํ มนาปิยํ อารมฺมณํ ลภิตฺวา ตตฺถ อโยนิโสมนสิการสติโวสฺสคฺเค อาคมฺม กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ, อลภิตฺวา เอวํ อนนุภูตารมฺมณวเสน กิเลสานํ อนุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา.

‘‘อุปฺปนฺนานํ ปาปกาน’’นฺติ เอตฺถ ปน จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ วตฺตมานภูตาปคตโอกาสกตภูมิลทฺธวเสน, เตสํ วิภาโค อุปฺปนฺนตฺติเก วุตฺโตว. อปรมฺปิ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ สมุทาจารอารมฺมณาธิคฺคหิตอวิกฺขมฺภิตอสมุคฺฆาติตวเสน. ตตฺถ สมฺปติ วตฺตมานํเยว สมุทาจารุปฺปนฺนํ นาม. เสสํ ปากฏเมว. ยสฺมา ปเนตฺถ อิเมสุ อุปฺปนฺเนสุ วตฺตมานภูตาปคตโอกาสกตสมุทาจารสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ น มคฺคาทิวชฺฌํ, ตสฺมา ภูมิลทฺธอารมฺมณาธิคฺคหิตอสมุคฺฆาติตสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ สนฺธาเยตฺถ ‘‘อุปฺปนฺนานํ ปาปกานํ ปหานายา’’ติ วุตฺตํ.

กถํ ปน มคฺคกฺขเณ อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ อุปฺปาทาย วายาโม โหติ, กถฺจ อุปฺปนฺนานํ ิติยาติ? มคฺคปฺปวตฺติยา เอว. มคฺโค หิ ปวตฺตมาโน ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนปุพฺพตฺตา อนุปฺปนฺโน นาม วุจฺจติ. ยา จสฺส ปวตฺติ, อยเมว ิติ นามาติ อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปเนตฺถาปิ เอกสฺเสว วีริยสฺส กิจฺจเภทโต จตุธา วุตฺตาติ อยเมตฺถ ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

วิภงฺคนยโต ปน สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา โลกิยโลกุตฺตรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตวีริยวเสน อกุสลาทิปเทหิ สทฺธึ วิตฺถารโต วิภตฺตา. อภิธมฺมภาชนียปฺหาปุจฺฉเกสุ ปเนเต โลกุตฺตรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตวเสเนว วิภตฺตา, ผลจิตฺตสมฺปยุตฺตา ปน น คหิตา. เตเนว ปฺหาปุจฺฉเก ‘‘กุสลา เอว, วิปากธมฺมธมฺมา เอว, อปจยคามิโนว, เสขาวา’’ติอาทินา วุตฺตา. เสโส ปเนตฺถ วินิจฺฉโย สติปฏฺาเน วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺโพ.

สมฺมปฺปธานวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิทฺธิปาทวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

อิทฺธิปาทวิภงฺคมาติกาย ปน จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ เอตฺถ อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, สมิชฺฌติ นิปฺผชฺชตีติ อตฺโถ, อิทฺธิ เอว ปาโท อิทฺธิปาโท, อิทฺธิโกฏฺาโสติ อตฺโถ. อิชฺฌนฺติ วา เอตาย สตฺตา อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺตีติปิ อิทฺธิ, ปชฺชนฺติ เอเตนาติ ปาโท, ปติฏฺา อธิคมูปาโยติ อตฺโถ, อิทฺธิยา ปาโท อิทฺธิปาโท. ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารสมนฺนาคตนฺติ เอตฺถ ฉนฺทเหตุโก, ฉนฺทาธิโก วา สมาธิ ฉนฺทสมาธิ, กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ อธิปตึ กริตฺวา ปฏิลทฺธสมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. ปธานภูตา สงฺขารา ปธานสงฺขารา, จตุกิจฺจสาธกสฺส สมฺมปฺปธานวีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. สมนฺนาคตนฺติ เตน ฉนฺทสมาธินา, ปธานสงฺขาเรน จ อุเปตํ. อิทฺธิปาทนฺติ ยถาวุตฺตตฺเถน ‘‘อิทฺธี’’ติ สงฺขฺยํ คตานํ อุปจารชฺฌานาทิกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ ฉนฺทสมาธิปธานสงฺขารานํ อธิฏฺานฏฺเน ปาทภูตเสสจิตฺตเจตสิกราสึ. ภาเวตีติ วฑฺเฒติ, อตฺตโน สนฺตาเน ปุนปฺปุนํ ชเนตีติ อตฺโถ. อิมินา นเยน เสเสสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ วีมํสาติ ปฺา. เสสํ ปทโต สุวิฺเยฺยเมว.

อตฺถโต ปเนตฺถ เตน กึ กถิตํ? จตุนฺนํ ภิกฺขูนํ มตฺถกปฺปตฺตํ กมฺมฏฺานํ กถิตํ. ยถา หิ จตูสุ อมจฺจปุตฺเตสุ านนฺตรํ ปตฺเถตฺวา วิจรนฺเตสุ เอโก อุปฏฺาเนน, เอโก สูรภาเวน, เอโก ชาติสมฺปตฺติยา, เอโก มนฺตพเลนาติ เอวํ เต ปจฺเจกการเณน ราชานํ อาราเธตฺวา านนฺตรํ ปาปุณนฺติ, เอวํ ภิกฺขูปิ ฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสาสุ เอเกกํ เชฏฺํ ธุรํ ปุพฺพงฺคมํ กตฺวา โลกุตฺตรธมฺมนิพฺพตฺตกา โหนฺติ. เอตฺถ จ ฉนฺโท สมาธิ ปธานสงฺขาโรติ ตโย ธมฺมา อิทฺธีปิ โหนฺติ อิทฺธิปาทาปิ, เสสา ปน สมฺปยุตฺตา จตฺตาโร ขนฺธา อิทฺธิปาทา เอว. เอวํ เสสาธิปติยุตฺตจิตฺเตสุปิ อิทฺธิปาทาติ เวทิตพฺพา.

อปิจ ฌานวิปสฺสนาสุ ปุพฺพภาโค อิทฺธิปาโท. โย ปฏิลาโภ, สา อิทฺธิ. ปมชฺฌานาทีนํ หิ ปุพฺพภาคปริกมฺมานิ อิทฺธิปาโท นาม, ปมชฺฌานาทโย อิทฺธิ นาม. ปมมคฺคาทีนํ ปุพฺพภาควิปสฺสนา อิทฺธิปาโท นาม, ปมมคฺคาทโย อิทฺธิ นาม. ปฏิลาภวเสนาปิ ทีเปตุํ วฏฺฏติ. ปมชฺฌานาทโย หิ ปมมคฺคาทโย จ อิทฺธิปาโท นาม, ทุติยชฺฌานาทโย, ทุติยมคฺคาทโย จ อิทฺธิ นามาติ อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปเนตฺถ วิภงฺคนเยเนว ปากโฏ ภวิสฺสติ. ตตฺถ หิ สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว ฉนฺทาทีนํ ปทานํ วิภงฺคํ วตฺวา อนฺเต ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส เวทนากฺขนฺโธ…เป… วิฺาณกฺขนฺโธ. อิทฺธิปาทํ ภาเวตีติ เต ธมฺเม อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ, เตน วุจฺจติ อิทฺธิปาทํ ภาเวตี’’ติ (วิภ. ๔๓๔) เอวํ สพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรธมฺมา อิทฺธิปาโทติ วุตฺตา.

อภิธมฺมภาชนีเย ปน ฉนฺทาทีนิ ปทานิ วิภชิตฺวา อนฺเต ‘‘อิทฺธิปาโทติ ตถาภูตสฺส ผสฺโส…เป… ปคฺคาโห อวิกฺเขโป’’ติ (วิภ. ๔๔๗) เอวํ สพฺเพ โลกุตฺตรกุสลธมฺมา อิทฺธิปาทาติ วตฺวา ปุน ‘‘ฉนฺทิทฺธิปาโท วีริยิทฺธิปาโท จิตฺติทฺธิปาโท วีมํสิทฺธิปาโท’’ติ (วิภ. ๔๕๗) มาติกํ เปตฺวา ‘‘ตตฺถ กตโม ฉนฺทิทฺธิปาโท? อิธ ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ…เป… โย ตสฺมึ สมเย ฉนฺโท ฉนฺทิกตา…เป… อยํ วุจฺจติ ฉนฺทิทฺธิปาโท’’ติอาทินา โลกุตฺตรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตฉนฺทวีริยจิตฺตวีมํสา เอว อิทฺธิปาทาติ วุตฺตา. ตถา ปฺหาปุจฺฉเกปิ กุสลา เอว, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆา เอว, วีมํสิทฺธิปาโท เหตุ, เสสา น เหตู…เป… จิตฺติทฺธิปาโท น วตฺตพฺโพ, เสสา จิตฺตสมฺปยุตฺตา…เป… อนุตฺตราว, อรณาวาติ. เสสเมตฺถ สติปฏฺาเน วุตฺตสทิสเมว. ปาฬิมุตฺตกนโย ปเนตฺถาปิ น อุทฺธโฏติ.

อิทฺธิปาทวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

โพชฺฌงฺควิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

โพชฺฌงฺควิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – สตฺต โพชฺฌงฺคาติ เอตฺถ โพธิยา, โพธิสฺส วา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยาย เอว ธมฺมสามคฺคิยา มคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย ลีนุทฺธจฺจาทิอเนเกสํ อุปทฺทวานํ ปฏิปกฺขภูตาย สติธมฺมวิจยาทิสตฺตวิธาย ธมฺมสามคฺคิยา อริยสาวโก พุชฺฌติ, กิเลสนิทฺทาย อุฏฺหติ, สจฺจานิ วา ปฏิวิชฺฌติ, ตสฺสา ธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา องฺคาติ โพชฺฌงฺคา ฌานงฺคมคฺคงฺคานิ วิย. โย ปเนส ยถาวุตฺตปฺปการาย เอตาย ธมฺมสามคฺคิยา พุชฺฌตีติ กตฺวา อริยสาวโก ‘‘โพธี’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส โพธิสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา เสนงฺครถงฺคาทโย วิย. อปิจ ‘‘โพธาย สํวตฺตนฺตีติ โพชฺฌงฺคา’’ติอาทินา ปฏิสมฺภิทานเยนาปิ โพชฺฌงฺคตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปสตฺโถ, สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค, สติเยว สมฺโพชฺฌงฺโค สติสมฺโพชฺฌงฺโค. เอวํ เสเสสุปิ. ตตฺถ ธมฺเม วิจินาติ อนิจฺจาทิโต ปริวีมํสติ ชานาติ, ธมฺเม วา เอเตน สตฺตา วิจินนฺตีติ ธมฺมวิจโย, ปฺา. อุเปกฺขติ สมรสานํ ธมฺมานํ หาปนวฑฺฒเน อวาวฏตาย ปฏิสงฺขานากาเรน มชฺฌตฺตา โหตีติ อุเปกฺขา, ตตฺรมชฺฌตฺตตา. ปฏิสงฺขานลกฺขโณ หิ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺโคติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ. ธมฺมเภโทเปตฺถ สุวิฺเยฺโยว.

วิภงฺคนยโต ปเนตฺถ สุตฺตนฺตภาชนีเย ตาว โลกิยโลกุตฺตรวเสน เสเสสุ โลกุตฺตรกุสลวิปากวเสน วิภตฺตา. ปฺหาปุจฺฉเก ปน สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโตว, เสสา ทฺวีหิ…เป… ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค สุขสหคโตว, เสสา ติธาปิ, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆา, ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค เหตุ, เสสา น เหตู…เป… รูปาวจราว, อรณาวาติ. เสสํ สติปฏฺาเน วุตฺตนยเมว. อยเมตฺถ วิภงฺคนโย.

อิทานิ ปน –

กมโต ตาวตฺตโต จ, เหตุภูมิวิภาคโต;

วิเวกโต จ วิฺเยฺโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ กมโต ตาว อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. สพฺเพสํ หิ โพชฺฌงฺคานํ อุปการตฺตา สติสมฺโพชฺฌงฺโค ปมํ วุตฺโต, ตโต ยสฺมา อุปฏฺิตสติโก ธมฺเม ปฺาย ปวิจินาติ, ปวิจิตธมฺโม วีริยํ อารภติ, อารทฺธวีริยสฺส ปีติ อุปฺปชฺชติ, ปีติมนสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกายสฺส สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตจิตฺโต ตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขิตา โหติ, ตสฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ยถากฺกมํ วุตฺตาติ อยํ ตาเวตฺถ กโม.

ตาวตฺตโต ปน กสฺมา เต สตฺเตว วุตฺตา, อนูนา อนธิกาติ? ลีนุทฺธจฺจปฏิปกฺขโต, สพฺพตฺติกโต จ. เอตฺถ หิ ตโย โพชฺฌงฺคา ลีนสฺส ปฏิปกฺขา. ยถาห – ‘‘ยสฺมึ จ โข, ภิกฺขเว, สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริย…เป… ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). ตโย อุทฺธจฺจสฺส ปฏิปกฺขา. ยถาห – ‘‘ยสฺมึ จ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิ…เป… อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). เอโก ปเนตฺถ โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ สพฺพโพชฺฌงฺเคสุ อิจฺฉิตพฺโพ. ยถาห – ‘‘สติฺจ ขฺวาหํ, ภิกฺขเว, สพฺพตฺถิกํ วทามี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔). เอวํ ลีนุทฺธจฺจปฏิปกฺขโต จ สพฺพตฺถิกโต จ สตฺเตว วุตฺตาติ อยํ ตาวตฺตโต.

เหตุภูมิวิภาคโตติ เอตฺถ เหตุวิภาคโต ตาว – จตฺตาโร สติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ สติสมฺปชฺํ มุฏฺสฺสติปุคฺคลปริวชฺชนตา อุปฏฺิตสฺสติปุคฺคลเสวนตา ตทธิมุตฺตตาติ. ตถา สตฺต ธมฺมา ทุติยสฺส ปริปุจฺฉกตา วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณตา ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ อชฺฌตฺติกพาหิรานํ สรีรปริกฺขารภูตานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ วตฺถุวิสทกิริยา นาม. ตถา เอกาทส ธมฺมา ตติยสฺส อปายภยคมนวีถิทายชฺชมหตฺตสตฺถุมหตฺตชาติมหตฺตสพฺรหฺมจาริมหตฺตานํ ปจฺจเวกฺขณตา อานิสํสทสฺสาวิตา ปิณฺฑปาตาปจายนตา กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ ‘‘พุทฺธาทีหิ คตมคฺโค มยา คนฺตพฺโพ’’ติ ปจฺจเวกฺขณา วีถิปจฺจเวกฺขณา นาม. ‘‘ทายเกหิ ทินฺนปิณฺฑปาตสฺส มหปฺผลตํ สมฺปาเทสฺสามี’’ติ อตฺตานํ ทมนํ ปิณฺฑปาตาปจายนํ นาม. ตถา เอกาทส ธมฺมา จตุตฺถสฺส พุทฺธธมฺมสงฺฆสีลจาคเทวโตปสมานุสฺสติโย สตฺต, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา ปสาทนียสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา ตทธิมุตฺตตาติ. ตถา สตฺต ธมฺมา ปฺจมสฺส ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขอิริยาปถสุขเสวนตา ทฺเว มชฺฌตฺตปฺปโยคตา สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา สนฺตกายปุคฺคลเสวนตา ตทธิมุตฺตตาติ. เอกาทส ธมฺมา ฉฏฺสฺส วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา นิมิตฺตกุสลตา สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสนชฺฌุเปกฺขนา จตสฺโส , อสมาหิตสมาหิตปุคฺคลานํ ปริวชฺชนเสวนตา ทฺเว, ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตา ตทธิมุตฺตตาติ. ตตฺถ กสิณาทินิมิตฺตานํ อุคฺคหณกุสลตา นิมิตฺตกุสลตา นาม. ปฺจ ธมฺมา สตฺตมสฺส สตฺตสงฺขารเกลายนมชฺฌตฺตปุคฺคลานํ ปริวชฺชนเสวนตา ทฺเว ทฺเว, ตทธิมุตฺตตาติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมฺโมหวิโนทนิยา วิภงฺคฏฺกถาย คเหตพฺโพติ อยเมตฺถ เหตุวิภาโค.

ภูมิวิภาคโต ปเนเต กามาวจรา, โลกุตฺตรา วา โหนฺติ, กามาวจเรสุ พลววิปสฺสนาทีสุ เอว โพชฺฌงฺคา ลพฺภนฺติ, น อิตเรสุ. โลกุตฺตเรสุ ปน สพฺพตฺถ ลพฺภนฺติ, รูปาวจรารูปาวจรจิตฺเตสุ สพฺพถา น ลพฺภนฺติ อโพธิปกฺขิกตฺตา. เกจิ ปน เถรา วิปสฺสนาปาทเกสุ กสิณาสุภพฺรหฺมวิหารชฺฌาเนสุปิ โพชฺฌงฺเค อุทฺธรนฺติ, น จ เต ปฏิสิทฺธา อฏฺกถาจริเยหิ, ตสฺมา เตสํ มเตน รูปาวจราปิ โหนฺติ, น เกนจิ ปริยาเยน อรูปาวจราติ อยเมตฺถ ภูมิวิภาโค.

วิเวกโตติ เอตฺถ วิเวโกติ วิวิตฺตตา, สฺวายํ ปฺจวิโธ ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกวเสน. ตทงฺควิเวโกติ วิปสฺสนา, วิกฺขมฺภนวิเวโกติ อฏฺ สมาปตฺติโย, สมุจฺเฉทวิเวโกติ มคฺโค, ปฏิปสฺสทฺธิวิเวโกติ ผลํ, นิสฺสรณวิเวโกติ สพฺพนิมิตฺตนิสฺสฏํ นิพฺพานํ. ตตฺริเม ตทงฺคสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตา โหนฺติ. ตถา เหเต วิปสฺสนากฺขเณ กิจฺจโต ตทงฺควิเวกนิสฺสิตา, อชฺฌาสยโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตา. มคฺคกาเล ปน กิจฺจโต สมุจฺเฉทวิเวกนิสฺสิตา, อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตา, ผลกฺขเณ กิจฺจโต ปฏิปสฺสทฺธิวิเวกนิสฺสิตา. อารมฺมณโต นิสฺสรณวิเวกนิสฺสิตา จ โหนฺติ. เกสฺจิ เถรานํ มเต วิปสฺสนาปาทกรูปาวจรชฺฌานกฺขเณ วิกฺขมฺภนวิเวกนิสฺสิตาวาติ ปฺจวิเวกนิสฺสิตาปิ โหนฺตีติ อยเมตฺถ วิเวโก. เอวํ วิฺเยฺโย ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

โพชฺฌงฺควิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

มคฺคงฺควิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

มคฺคงฺควิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – อริโยติ ตํตํมคฺควชฺฌกิเลเสหิ อารกตฺตา , อริยภาวกรตฺตา จ อริโย, อฏฺ องฺคานิ อสฺสาติ อฏฺงฺคิโก, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคียติ, นิพฺพานํ วา มคฺคติ, กิเลเส วา มาเรนฺโต คจฺฉตีติ มคฺโค. เสยฺยถิทนฺติ โส กตโมติ เจ, อิทานิ สฺวายํ มคฺโค จตุรงฺคินี วิย เสนา องฺคมตฺตเมว โหติ, องฺควินิมุตฺโต นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺมาทิฏฺิ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ อาห. ตตฺถ สมฺมา ปสฺสตีติ สมฺมาทิฏฺิ, ปฺา. สมฺมา สงฺกปฺเปติ ตกฺเกตีติ สมฺมาสงฺกปฺโป, วิตกฺโก. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ตโต ธมฺมเภโทปิ วิภงฺคนโยปิ โพชฺฌงฺเคสุ วุตฺตสทิโส.

อภิธมฺมภาชนีเย ปน วิรติตฺตยวชฺชิโต ปฺจงฺคิโกปิ มคฺโค วิภตฺโต, ตฺจ ปฺจนฺนํ องฺคานํ กิจฺจาธิกตํ, วิรตีนฺจ อวุตฺตสิทฺธตํ สนฺธาย, วิรติวชฺชิตสฺส ปน โลกุตฺตรมคฺคสฺส อภาวา โสปิ อฏฺงฺคิโกวาติ เวทิตพฺโพ.

ปฺหาปุจฺฉเกปิ สมฺมาสงฺกปฺโป สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺโตว, เสสา ทฺวีหิ. สมฺมาสงฺกปฺโป อวิตกฺกวิจารมตฺโต, ปีติสหคโต สุขสหคโตว, น อุเปกฺขาสหคโต, เสสา ติธาปิ. สมฺมาทิฏฺิ เหตุ, เสสา นเหตูติ อยํ วิเสโส. เสสํ สมเมว. อิทานิ ปน –

กมโต กิจฺจเภทโต, ภูมิเภทวิเวกโต;

มคฺคงฺเคสุ วิชานีโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ กมโต ตาว อยมฺปิ เทสนากฺกโมว. ภควตา หิ นิพฺพานาธิคมาย ปฏิปนฺนสฺส ปฺาปชฺโชตปฺาสตฺถตาย อวิชฺชนฺธการวิธมนโต พหูปการตฺตา ปมํ สมฺมาทิฏฺิ เทสิตา. ตโต เหรฺิกสฺส กหาปณปริวตฺตกหตฺโถ วิย ยถาสภาวทสฺสนสฺส สมฺมาทิฏฺิยา พหูปการตฺตา สมฺมาสงฺกปฺโป. สฺวายํ ยถา สมฺมาทิฏฺิยา, เอวํ สมฺมาวาจายปิ อุปการโก. ยถาห ‘‘ปุพฺเพ โข, คหปติ, ตกฺเกตฺวา วิจาเรตฺวา ปจฺฉา วาจํ ภินฺทตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๓), ตสฺมา ตทนนฺตรํ สมฺมาวาจา. ยสฺมา ปน วาจาย สํวิทหิตฺวา โลเก กมฺมนฺเต ปโยเชนฺติ, ตสฺมา ตทนนฺตรํ สมฺมากมฺมนฺโต. กายวจีทุจฺจริตํ ปหาย อุภยสุจริตํ ปูเรนฺตสฺเสว ยสฺมา อาชีวฏฺมกํ สีลํ ปูรติ, น อิตรสฺส, ตสฺมา ตทุภยานนฺตรํ สมฺมาอาชีโว วุตฺโต. เอวํ ‘‘วิสุทฺธทิฏฺิสีเลนาปิ เอตฺตาวตา ปริโตสํ อกตฺวา อิทํ วีริยํ อารภิตพฺพ’’นฺติ ทสฺเสตุํ ตทนนฺตรํ สมฺมาวายาโม. อารทฺธวีริเยนาปิ กายาทีสุ สติ สูปฏฺิตา กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ ตทนนฺตรํ สมฺมาสติ. สูปฏฺิตาย สติยา เอกตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ สมาธาตุํ สกฺกาติ ตทนนฺตรํ สมฺมาสมาธิ วุตฺโตติ อยํ ตาเวตฺถ กโม.

กิจฺจโต ปเนสํ เอเกกสฺส ตีณิ ตีณิ กิจฺจานิ, เสยฺยถิทํ – สมฺมาทิฏฺิ ตาว อฺเหิปิ อตฺตโน ปจฺจนีกกิเลเสหิ สทฺธึ มิจฺฉาทิฏฺึ ปชหติ, อารมฺมณโต นิโรธสจฺจํ สจฺฉิกโรติ, อสมฺโมหโต เสสสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ. เอวํ สมฺมาสงฺกปฺปาทีนํ มิจฺฉาสงฺกปฺปปชหนาทิวเสน ยถานุรูปนฺติ กิจฺจตา เวทิตพฺพา. วิเสสโต ปเนตฺถ สมฺมาสงฺกปฺโป สหชาตธมฺเม อภินิโรเปติ, สมฺมาวาจา ปริคฺคณฺหาติ , สมฺมากมฺมนฺโต สมุฏฺาเปติ, สมฺมาอาชีโว โวทาเปติ, สมฺมาวายาโม ปคฺคณฺหาติ, สมฺมาสติ อุปฏฺาเปติ, สมฺมาสมาธิ สมาทหตีติ อิทเมตฺถ กิจฺจํ.

เภทโต ปน ปุพฺพภาเค สมฺมาทิฏฺิ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตูสุ สจฺเจสุ าณวเสน นานกฺขณา นานารมฺมณา นานานามา โหติ, ทุติโย ปน เนกฺขมฺมอพฺยาปาทอวิหึสาสงฺกปฺปวเสน, วิรติโย จตุพฺพิธวจีทุจฺจริตติวิธกายทุจฺจริตมิจฺฉาชีววิรมณสงฺขาตเจตนาวเสนปิ วิรติวเสนปิ, ฉฏฺสตฺตมา จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานสติปฏฺานวเสน นานกฺขณา นานารมฺมณา นานานามา โหนฺติ. มคฺคกาเล ปเนเต สมฺมาทิฏฺิอาทโย เอกกฺขณา เอการมฺมณา. กิจฺจโต ปน ตานิ ปุพฺพภาเค นานานามานิ ลภนฺติ, สมฺมาสมาธิ ปน ปุพฺพภาเคปิ มคฺคกฺขเณปิ จตุกฺกปฺจกชฺฌานวเสน นานกฺขโณ นานานาโม, มคฺคกฺขเณ ปน เอการมฺมโณ โหติ. เอกสฺส หิ ปมมคฺโค ปาทกชฺฌานาทินิยมโต ปมชฺฌานาทิโก วา ทุติยชฺฌานาทีสุ อฺตรชฺฌานิโก วา, ทุติยมคฺคาทโยปิสฺส ปมมคฺคสทิสชฺฌานิกา วา วิสทิสชฺฌานิกา วาติ โส มคฺคกาเลปิ นานกฺขโณ นานานาโม วาติ อยเมตฺถ เภโท.

ภูมิโตวิเวกโต จ วินิจฺฉโย โพชฺฌงฺเคสุ วุตฺตานุสาเรน เวทิตพฺโพติ เอวํ วิชานีโย ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

มคฺคงฺควิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ฌานวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ฌานวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติอาทีสุ ปาติโมกฺขนฺติ สิกฺขาปทสีลํ. ตํ หิ โย นํ ปาติ รกฺขติ, ตํ โมกฺเขติ โมเจติ อาปายิกาทีหิ ทุกฺเขหิ, ตสฺมา ‘‘ปาติโมกฺข’’นฺติ วุจฺจติ. สํวรณํ, สํวรนฺติ วา เตนาติ สํวโร, ปาติโมกฺขเมว สํวโร ปาติโมกฺขสํวโร, กมฺมวาจาปริโยสาเน อิชฺฌนกสฺส อตฺถโต เจตนาทิรูปสฺส ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺเสเวตํ อธิวจนํ. เตน สํวุโต ปิหิตกายวจีปโยโคติ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต. วิหรตีติ อิริยติ ปวตฺเตติ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ เอตฺถ อาจริตพฺพโต อาจาโร, คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร, คุนฺนํ จรณฏฺานํ. ตํสทิสตาย ปน สพฺโพปิ ปวตฺติวิสโย โคจโรติ เวทิตพฺโพ. เตสํ วิภาโค นิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

นิทฺเทเส หิ –

‘‘อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อตฺถิ อาจาโร, อตฺถิ อนาจาโร. ตตฺถ กตโม อนาจาโร? กายิโก วีติกฺกโม, วาจสิโก วีติกฺกโม, กายิกวาจสิโก วีติกฺกโม, อยํ วุจฺจติ อนาจาโร, สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ อนาจาโร, อิเธกจฺโจ เวฬุทาเนน วา ปตฺต…เป… ปุปฺผผลสินานทนฺตกฏฺทาเนน วา จาฏุกมฺยตาย วา มุคฺคสุปฺยตาย วา ปาริภฏุตาย วา ชงฺฆเปสนิเกน วา อฺตรฺตเรน วา พุทฺธปติกุฏฺเน มิจฺฉาอาชีเวน ชีวิกํ กปฺเปติ, อยํ วุจฺจติ อนาจาโร.

‘‘ตตฺถ กตโม อาจาโร? กายิโก อวีติกฺกโม’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๓) –

วุตฺตวิปริยาเยน อาจาโร นิทฺทิฏฺโ.

‘‘โคจโรติ อตฺถิ โคจโร, อตฺถิ อโคจโร. ตตฺถ กตโม อโคจโร? อิเธกจฺโจ เวสิยาโคจโร วา โหติ, วิธวา…เป… ถุลฺลกุมารีปณฺฑกภิกฺขุนีปานาคารโคจโร วา, สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหิ ราชมหามตฺเตหิ ติตฺถิเยหิ ติตฺถิยสาวเกหิ อนนุโลมิเกน สํสคฺเคน, ยานิ วา ปน ตานิ กุลานิ อสฺสทฺธานิ อปฺปสนฺนานิ…เป… ตถารูปานิ กุลานิ เสวติ ภชติ ปยิรุปาสติ, อยํ วุจฺจติ อโคจโร.

‘‘ตตฺถ กตโม โคจโร? อิเธกจฺโจ น เวสิยาโคจโร โหตี’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๔) –

วุตฺตวิปริยาเยน โคจโร นิทฺทิฏฺโ.

อปิเจตฺถ เถรานํ ภิกฺขูนํ ปุรโต คมนนิสีทนจงฺกมนฆฏฺฏนาภิภวนาทิกายิกาจิตฺตีการกิริยานฺเจว เถเร ภิกฺขู อนาปุจฺฉา ธมฺมกถนขุํสนาทิวาจสิกาจิตฺตีการกิริยานฺจ อนาจารานํ ปฏิปกฺขวเสน กายิกวาจสิโก อาจาโร เวทิตพฺโพ. อปิจ ภิกฺขุ สคารโว สปฺปติสฺโส หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน สุนิวตฺโถ สุปารุโต ปาสาทิเกน อภิกฺกนฺตาทินา โอกฺขิตฺตจกฺขุ อิริยาปถสมฺปนฺโน อาภิสมาจาริเกสุ สกฺกจฺจการี ครุจิตฺตีการพหุโล วิหรติ, อยํ วุจฺจติ อาจาโร. โคจโร ปน ติวิโธ อุปนิสฺสยโคจโร อารกฺขโคจโร อุปนิพนฺธโคจโรติ. ตตฺถ ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต กลฺยาณมิตฺโต อุปนิสฺสยโคจโร นาม. อนฺตรฆราทีสุ โอกฺขิตฺตจกฺขุตาทีหิ ทิสา วิทิสา อโนโลเกตฺวา คมนํ อารกฺขโคจโร นาม. จตฺตาโร ปน สติปฏฺานา อุปนิพนฺธโคจโร นาม. ยตฺถ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ, อยํ ติวิโธเปตฺถ โคจโรติ เวทิตพฺโพ. อิมินาติ อิมินา อาจาเรน, โคจเรน จ สมนฺนาคโต อาจารโคจรสมฺปนฺโน นาม.

อณุมตฺเตสุ วชฺเชสูติ อณุปฺปมาเณสุ โทเสสุ. ภยทสฺสาวีติ ภยทสฺสนสีโล, อณุมตฺตํ เรณุํ สิเนรุสทิสํ ปสฺสนฺโต วิย สพฺพลหุกมฺปิ ทุกฺกฏทุพฺภาสิตมตฺตํ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา วชฺชโต ภยโต ทสฺสนสีโลติ อตฺโถ. สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ ยํ กิฺจิ สิกฺขาปเทสุ สิกฺขิตพฺพํ, ตํ สุฏฺุ อาทาย คเหตฺวา สิกฺขติ.

อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ รูปาทิอารมฺมณนิมิตฺตาทีนํ อคฺคหณสงฺขาตสติสํวเรน ปิหิตทฺวาโร. โภชเน มตฺตฺูติ ปิณฺฑปาเต ปฏิคฺคหณปริโภเคสุ ปจฺจเวกฺขณาณวเสน เจว อปฺปิจฺฉตาทีหิ จ มตฺตชานนโก, ปิณฺฑปาตวเสน เจตฺถ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. อถ วา ภุฺชิตพฺพโต โภชนนฺติ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตนฺติ เอตฺถ อฑฺฒรตฺติสงฺขาตาย รตฺติยา ปุพฺเพ ปุพฺพรตฺตํ, อิมินา ปมยามฺเจว ปจฺฉาภตฺตฺจ คณฺหาติ. รตฺติยา ปจฺฉา อปรรตฺตํ, อิมินา ปจฺฉิมยามฺเจว ปุเรภตฺตฺจ คณฺหาติ. ปจฺฉิมยาโม ปนสฺส ภิกฺขุโน นิทฺทากิลมถวิโนทโนกาโสติ น คหิโต.

ชาคริยานุโยคมนุยุตฺโตติ อสุภภาวนาสงฺขาตสฺส ภาวนารามสฺส อนุโยคสงฺขาตํ อาเสวนภาวนํ อนุยุตฺโต จงฺกมนนิสชฺชาหิ โยนิโสมนสิกาเรน อาวรณีเยหิ ธมฺเมหิ จิตฺตปริโสธเน ยุตฺตปฺปยุตฺโตติ อตฺโถ. สาตจฺจํ เนปกฺกนฺติ สตตํ ปวตฺตยิตพฺพโต สาตจฺจสงฺขาตํ วีริยํ, ปริปากคตตฺตา เนปกฺกสงฺขาตฺจ ปฺํ อนุยุตฺโตติ สมฺพนฺโธ. อิมินา วีริยปฺาหิ ยุตฺตสฺเสว ชาคริยานุโยคสิทฺธีติ ทสฺเสติ.

อิทานิ ตํ ชาคริยานุโยคํ สรูปโต ทสฺเสนฺโต ‘‘โพธิปกฺขิกานํ ธมฺมาน’’นฺติอาทิมาห. โพธิปกฺขิกานํ ธมฺมานนฺติ จตุสจฺจาวโพธสงฺขาตสฺส มคฺคาณสฺส ปกฺเข ภวานํ จตุสจฺจสติปฏฺานาทิสตฺตตึสธมฺมานํ. นิทฺเทเส ปนสฺส โลกิยภาวนาย วิเสสโพธิปกฺขิยธมฺเม เอการมฺมเณ ปวตฺตนสมตฺถตาย สตฺต โพชฺฌงฺคา เอว นิทฺทิฏฺา. เตสํ คหเณน ปน เสสานมฺปิ ตตฺถ คหณํ เวทิตพฺพํ. โส อภิกฺกนฺเต ปฏิกฺกนฺเตติอาทีสุ อภิกฺกนฺตํ วุจฺจติ ปุรโต คมนํ, ปฏิกฺกนฺตํ นิวตฺตนํ, ตทุภยฺจ านนิสชฺชาสยเนสุปิ ปุรโต, ปจฺฉโต จ กายสฺส อภิคมนอปคมนวเสน ลพฺภติ. สมฺปชานการี โหตีติ สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺจการี, สมฺปชฺสฺเสว วา การี, สมฺปชฺ-คฺคหเณน เจตฺถ อวิปฺปโยคโต สติปิ คหิตาว โหติ. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘สโต สมฺปชาโน อภิกฺกมตี’’ติอาทิ วุตฺตํ.

อาโลกิเตติอาทีสุ อาโลกิตํ นาม ปุรโต เปกฺขนํ. วิโลกิตํ นาม อนุทิสาเปกฺขนํ. อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ คหเณน เหฏฺา อุปริ ปจฺฉโต เปกฺขนสงฺขาตานิ โอโลกิตุลฺโลกิตาปโลกิตานิปิ คหิตานีติ เวทิตพฺพานิ.

สมิฺชิเตปสาริเตติ ปพฺพานํ สมิฺชเน, ปสารเณ จ. สงฺฆาฏิปตฺตจีวรธารเณติ เอตฺถ สงฺฆาฏิจีวรานํ นิวาสนปารุปนวเสน, ปตฺตสฺส ภิกฺขาปฏิคฺคหณาทิวเสน จ ปริโภโค ธารณํ นาม. อสิเตติ ปิณฺฑปาตาทิโภชเน. ปีเตติ ยาคุอาทิปาเน. ขายิเตติ ปิฏฺขชฺชาทิขาทเน. สายิเตติ มธุผาณิตาทิสายิเต. อุจฺจารปสฺสาวกมฺเมติ อุจฺจารสฺส จ ปสฺสาวสฺส จ กรเณ. คเตติ คมเน. ิเตติ าเน. นิสินฺเนติ นิสชฺชาย. สุตฺเตติ สยเน. ชาคริเตติ ชาครเณ. เอตฺถ จ ภิกฺขาจารคมนาทิวเสน ‘‘อภิกฺกนฺเต’’ติ วุตฺตํ. วิหาเร ปน จงฺกมนาทิอิริยาปถวเสเนว ‘‘คเต’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ภาสิเตติ กถเน. ตุณฺหีภาเวติ อกถเน.

สพฺเพสุ ปน เตสุ อภิกฺกนฺตาทีสุ ปจฺเจกํ สาตฺถกสมฺปชฺํ สปฺปายสมฺปชฺํ โคจรสมฺปชฺํ อสมฺโมหสมฺปชฺนฺติ จตุพฺพิธํ สมฺปชฺํ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ อภิกฺกมิตุกามตาทิจิตฺเต อุปฺปนฺเน จิตฺตวเสเนว คมนาทึ อกตฺวา ‘‘กึ นุ เม ตตฺถ คเตน อตฺโถ’’ติ ปริคฺคณฺหิตฺวา เจติยทสฺสนาทิโน ตสฺส ตสฺส อตฺถสฺส ปริคฺคณฺหนํ สาตฺถกสมฺปชฺํ นาม. สาตฺถเกสุ ปเนเตสุ คมนาทีสุ ชีวิตพฺรหฺมจริยนฺตรายานฺเจว สลฺเลขปฏิปตฺติวิฆาตกรานํ กายิกเจตสิกปริกฺกิเลสานฺจ สพฺเพสานํ สพฺภาวาภาวํ ปริคฺคเหตฺวา สปฺปายปริคฺคณฺหนํ สปฺปายสมฺปชฺํ นาม. เอวํ ปริคฺคหิตสาตฺถกสปฺปายสฺส ปน อฏฺตึสาย กมฺมฏฺาเนสุ, วิปสฺสนาย วา อตฺตโน อภิรุจิตํ กมฺมฏฺานสงฺขาตํ โคจรํ อวิสฺสชฺเชตฺวาว อภิกฺกมาทีนํ กรณํ โคจรสมฺปชฺํ นาม. อภิกฺกมาทีสุ ปน อนฺธพาลปุถุชฺชนา ‘‘อตฺตา อภิกฺกมาทีนิ กโรติ, อหํ กโรมี’’ติ วา สมฺมุยฺหนฺติ, ตถา อสมฺมุยฺหิตฺวา ‘‘อภิกฺกมิตุกามตาทิจิตฺตกิริยวาโยธาตุ วิปฺผาราทิการณสามคฺคิยา อยํ กายสงฺขาโต อฏฺิสงฺฆาโฏ อภิกฺกมาทีนิ กโรติ, ตโต อฺโ อพฺภนฺตเร อตฺตา วา สตฺโต วา อภิกฺกมนฺโต วา ปฏิกฺกมนฺโต วา…เป… ตุณฺหี ภวนฺโต วา นตฺถี’’ติ เอวมาทินา ยาถาวโต ชานนวเสน ปฺาย ปวตฺตนํ อสมฺโมหสมฺปชฺํ นาม. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน สมฺโมหวิโนทนิยํ (วิภ. อฏฺ. ๕๐๘) คเหตพฺโพ.

อิทานิ ยสฺมา ยสฺส อพฺภนฺตเร ยถาวุตฺตา เอตฺตกา คุณา นตฺถิ, ตสฺส อรฺวาโส ปน มกฺกฏาทีนํ วิย อนุจฺฉวิโก น โหติ, อุปจารมตฺตมฺปิสฺส ฌานํ น อุปฺปชฺชติ. ยสฺส ปน สนฺติ, ตสฺส อรฺวาโส อนุจฺฉวิโก โหติ. โส หิ ตตฺถ สพฺพปฺปการชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกติ, อรฺวาสฺเจว อารฺเก จ อุปโสเภติ, สกลฺจ สาสนํ ปสาเทติ, ตสฺมา เอวรูปสฺส ภิกฺขุโน อุปาสนฏฺานโยคปถํ สปฺปายเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส วิวิตฺตํ เสนาสนํ ภชตี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิวิตฺตนฺติ สุฺํ. เสติ เจว อาสติ จ เอตฺถาติ เสนาสนํ, มฺจาทิ, วิหาราทิ จ. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘มฺโจ ปี’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อิทานิ อฺมฺปิสฺส ปเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘อรฺ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อรฺนฺติ วินยปริยาเยน ตาว เปตฺวา คามฺจ คามูปจารฺจ อวเสสํ, สุตฺตนฺตปริยาเยน จ อารฺกํ ภิกฺขุํ สนฺธาย ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิมํ อรฺนฺติ วุตฺตํ, อภิธมฺมปริยาเยน ปน คามทฺวารสฺส อินฺทขีลโต พหิ สพฺพํ ‘‘อรฺ’’นฺติ คเหตพฺพํ. ‘‘นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา’’ติ (วิภ. ๕๒๙) หิ วุตฺตํ. กนฺทรนฺติ กํ วุจฺจติ อุทกํ, เตน ทริตํ อุทเกน ภินฺนํ ปพฺพตปเทสํ, ยํ ‘‘นิตุมฺพ’’นฺติปิ ‘‘นทีกุฺช’’นฺติปิ วทนฺติ. ตตฺถ หิ รชตปฏฺฏสทิสวาลิกาปุลิเน มณิวิตานสทิเส สนฺทจฺฉาเย วนคหเน นิสีทิตฺวา มณิกฺขนฺธสทิเส อุทเก สนฺทมาเน สีเตน วาเตน พีชิยมานสฺส สมณธมฺมํ กโรโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ. คิริคุหนฺติ ทฺวินฺนํ ปพฺพตานมนฺตรํ, เอกสฺมิฺเว วา อุมงฺคสทิสํ มหาวิวรํ. วนปตฺถนฺติ คามนฺตํ อติกฺกมิตฺวา มนุสฺสานํ อนุปจารฏฺานํ, ยตฺถ น กสนฺติ น วปนฺติ. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘วนปตฺถนฺติ ทูรานเมตํ เสนาสนานํ อธิวจน’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

อพฺโภกาสนฺติ อจฺฉนฺนํ. อากงฺขมาโน ปเนตฺถ จีวรกุฏึ กตฺวา วสติ. ปลาลปุฺชนฺติ ปลาลราสึ. มหาปลาลปุฺชโต หิ ปลาลํ นิกฺกฑฺฒิตฺวา ปพฺภารเลณสทิเส อาลเย กโรนฺติ, คจฺฉคุมฺพาทีนมฺปิ อุปริ ปลาลํ ปกฺขิปิตฺวา เหฏฺา นิสีทนฺติ, ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. อปฺปสทฺทนฺติอาทีสุ วจนสทฺเทน วิรหิตตฺตา อปฺปสทฺทํ. นครนิคฺโฆสสทฺเทน เจว มิคปกฺขินิคฺโฆเสน จ รหิตตฺตา อปฺปนิคฺโฆสํ. วิชนวาตนฺติ อนุสฺจรกชนสฺส สรีรวาเตน วิรหิตตฺตา วิชนวาตํ, ‘‘วิชนวาท’’นฺติปิ ปาโ. เสนาสนสฺส อนฺโต ชนวาทสทฺเทน รหิตนฺติ อตฺโถ. มนุสฺสานํ รหสฺส กิริยารหตฺตา มนุสฺสราหสฺเสยฺยกํ, ตโต ตโต ปฏินิวตฺติตฺวา สมฺมเทว กมฺมฏฺาเน จิตฺตสฺส ลียนโต ปฏิสลฺลานสงฺขาตสฺส วิเวกสฺส ภาวนารามสฺส อนุรูปตฺตา ปฏิสลฺลานสารุปฺปํ. ภชตีติ สมฺพนฺโธ. อรฺคโตติอาทีสุ อรฺํ, รุกฺขมูลฺจ เปตฺวา อวเสสํ สพฺพมฺปิ เสนาสนํ สุฺาคาเรน สงฺคหิตํ.

ปลฺลงฺกํอาภุชิตฺวาติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมกายํ อุชุํ เปตฺวา, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวํ นิสินฺนสฺส หิ จมฺมมํสนหารูนิ น ปณมนฺติ, อถสฺส เตสํ อปณมนปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา น อุปฺปชฺชนฺติ, ตโต จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ วุทฺธึ อุปคจฺฉติ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปฏฺเปตฺวา, มุขสมีเป วา กตฺวา. เตเนวสฺส นิทฺเทเส ‘‘อยํ สติ อุปฏฺิตา โหติ สูปฏฺิตา, นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา’’ติ (วิภ. ๕๓๗) วุตฺตํ. มุขนิมิตฺตนฺติ เจตฺถ อุตฺตโรฏฺสฺส เวมชฺฌปเทโส, ยตฺถ นาสิกาวาโต ปฏิหฺติ. อถ วา ‘‘ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ, มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ, สตีติ อุปฏฺานฏฺโ, เตน วุจฺจติ ปริมุขํ สติ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วํ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขปตฺโถ ‘‘ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวา’’ติ.

อภิชฺฌํโลเกติอาทีสุ อภิมุขํ ฌายติ จินฺเตตีติ อภิชฺฌา, ราโค. ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโก, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. เตสุ กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อตฺโถ. วิกฺขมฺภนวเสเนว วิคตาภิชฺเฌน, น จกฺขุวิฺาณาทิสทิเสนาติ อตฺโถ. เจตสาติ จิตฺเตน, อิตฺถมฺภูโต วิหรตีติ อตฺโถ. อภิชฺฌายาติ อภิชฺฌาโต. จิตฺตํ ปริโสเธตีติ ยถา นํ สา มุฺจิตฺวา น ปุน คณฺหาติ, เอวํ ปริโมเจตีติ อตฺโถ. พฺยาปชฺชติ อิมินา จิตฺตํ ปูติกุมฺมาสาทโย วิย ปกตึ ชหาตีติ พฺยาปาโท. วิการปฺปตฺติยา ปทุสฺสติ, ปรํ วา ปทูเสติ วินาเสตีติ ปโทโส, อุภยมฺเปตํ โกธสฺเสวาธิวจนํ. ยสฺมา เจตํ สพฺพกมฺมฏฺานสาธารณวเสน เทสียติ, ตสฺมา ‘‘สพฺพปาณภูตหิตานุกมฺปี’’ติ เอวํ เมตฺตาวเสน อวตฺวา ‘‘อพฺยาปนฺนจิตฺโต’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ.

ถินํ จิตฺตสฺส เคลฺํ, มิทฺธํ เจตสิกานํ. อาโลกสฺีติ รตฺติยมฺปิ ทิวาปิ ทิฏฺอาโลกสฺชานนสฺาย สมนฺนาคโต, ตาย ปน อาโลกสฺาย ถินมิทฺธวิโนทนสฺส วิเสสโต สติสมฺปชฺํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ อาห ‘‘สโต สมฺปชาโน’’ติ.

อนุทฺธโตติ อวิกฺขิตฺโต ตถา เอว อชฺฌตฺตํ วูปสนฺตจิตฺโต. ติณฺณวิจิกิจฺโฉติ วิจิกิจฺฉํ อติกฺกมิตฺวา ิโต. อกถํกถี กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺชธมฺเมสุ ‘‘กถํ อิเม, กถํ อิเม’’ติ เอวํ ปวตฺตนโต กถํกถีสงฺขาตาย วิจิกิจฺฉาย วิรหิโต. เอวํ ปฺจนีวรณปฺปหานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยสฺมา อปฺปหีนนีวรณสฺส ฌานํ น อุปฺปชฺชติ, น หิ กามจฺฉนฺทาทีหิ นานาวิสยวิกฺขิตฺตจิตฺตํ เอกตฺตารมฺมเณ สมาธิยติ, น กามธาตุสมติกฺกมนาย วา ปฏิปชฺชติ, ตสฺมา ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ ปหายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ โสติ โย ยถาวุตฺตสีลาทิคุเณ ปติฏฺาย อรฺาทิอนุรูปเสนาสนคโต อตฺตโน จริยานุกุลกมฺมฏฺาเน ลีนุทฺธจฺจรหิตาย สาตจฺจกิริยาย อุปฺปาทิตุปจารชฺฌาเนน ปหีนปฺจนีวรโณ ปมชฺฌานาธิคมาย วายมติ, โสติ อตฺโถ.

เจตโส อุปกฺกิเลเสติ จิตฺตสฺส อปฺปภสฺสรภาวกรเณ. ปฺาย ทุพฺพลีกรเณติ ยสฺมา อิเม นีวรณา อุปฺปชฺชมานา อนุปฺปนฺนาย โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย อุปฺปชฺชิตุํ น เทนฺติ, อุปฺปนฺนาย ปน โลกิยอฏฺสมาปตฺติยา, อภิฺาภูตาย วา มูลํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปาเตนฺติ, ตสฺมา ‘‘ปฺาย ทุพฺพลีกรณา’’ติ วุจฺจนฺติ. วิวิจฺเจว กาเมหีติอาทีสุ กาเมหีติ วตฺถุกามกิเลสกาเมหิ. วิวิจฺเจวาติ วิวิจฺจิตฺวา วินา หุตฺวา, อปกฺกมิตฺวาติ อตฺโถ. นิยมตฺเถน ปเนตฺถ เอว-กาเรน ฌานปฏิปกฺขภูตานํ กามานํ ปริจฺจาเคเนว ปมชฺฌานาธิคโม, อนฺธการปริจฺจาเคเนว ทีปปฺปวตฺติ วิยาติ ทสฺเสติ. อุตฺตรปเทปิ เจส เอว-กาโร อาเนตฺวา ‘‘วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ สมฺพนฺธิตพฺโพ. น หิ สกฺกา กามโต อฺเหิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสลธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ปททฺวเยปิ ปน ‘‘วิวิจฺจา’’ติ อิมินา กายวิเวกาทีสุ, ตทงฺควิเวกาทีสุ จ ตทงฺคนิสฺสรณวิเวกวชฺชิตา สพฺเพปิ วิเวกา อิธ อธิปฺเปตา. วตฺถุกามวิเวกวจนโต หิ กายวิเวโก วุตฺโต, กิเลสกาเมหิ ปน เสสากุสเลหิ จ วิเวกวจนโต จิตฺตอุปธิวิเวกา, วิกฺขมฺภนาทิวิเวกา จ วุตฺตา. โลกุตฺตรชฺฌานมฺปิ สงฺคหิตตฺตา ทฏฺพฺพํ. เอวเมเตน ปททฺวเยน ยถากฺกมํ กามจฺฉนฺทนีวรณเสสนีวรณวิกฺขมฺภนาทิโก วุตฺโต. เอวํ โอฆาทีสุปิ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.

เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ . ตตฺถ วิตกฺเกน จ วิจาเรน จ สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน, ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ. วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ, ตสฺมา วิเวกโต, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปีตีติ อปฺปนาปฺปตฺตา ผรณาปีติ, สุขฺจ ตํสมฺปยุตฺตํ, อิติ อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ‘‘ปีติสุข’’นฺติ วุจฺจติ. อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ, วิเวกชํ ปีติสุขํ อสฺส, อสฺมึ วาติ วิเวกชํ ปีติสุขํ, เอวํ เอกปทวเสน ‘‘วิเวกชปีติสุข’’นฺติ วตฺตพฺเพ นิคฺคหีตาคมํ กตฺวา ‘‘วิเวกชํ ปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขมฺปิ วิเวกชเมว โหตีติ. ปมํ ฌานนฺติ คณนานุปุพฺพโต ปมํ, ปมํ อุปฺปตฺติโตปิ ปมํ. อารมฺมณูปนิชฺฌานโต, ปจฺจนีกฌาปนโต วา ฌานํ, อิมินา นเยน อุปริ ‘‘ทุติยํ ฌาน’’นฺติอาทีสุ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวํ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมํ ฌานํ อธิคนฺตฺวา ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน ปวตฺตตีติ อตฺโถ. เอตฺถ จ จิตฺเตกคฺคตา กิฺจาปิ ‘‘สวิตกฺกสวิจาร’’นฺติ อิมสฺมึ ปาเ น นิทฺทิฏฺา, ตถาปิ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๖๙) วุตฺตตฺตา องฺคเมว.

เอวํ ปมชฺฌานาธิคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรํ อธิคตปมชฺฌานสฺส ตํ อาวชฺชนสมาปชฺชนวุฏฺานาธิฏฺานปจฺจเวกฺขณสงฺขาตาหิ ปฺจหิ วสีหิ วสีภูตํ กตฺวา ตโต วุฏฺาย ตตฺถ อาสนฺนนีวรณปจฺจตฺถิกตาย เจว โอฬาริกวิตกฺกวิจารกฺโขภสมงฺคิตาย จ โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย วิตกฺกาทิเภโทฬาริกงฺคปฺปหานาย, ปีติอาทิสนฺตงฺคปฏิลาภาย จ ตเทว กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต ทุติยํ ฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตปฺปาทกฺจ โลกุตฺตรชฺฌานํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ทสฺเสตุํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วูปสมาติ สมติกฺกมา, ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. อชฺฌตฺตนฺติ อตฺตนิ ชาตํ, อตฺตสนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อตฺโถ. สมฺปสาทนนฺติ สทฺธาสงฺขาตสมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. เอโกทิภาวนฺติ เอตฺถ วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารุฬฺหตฺตา เอโก อคฺโค เสฏฺโ อุเทตีติ เอโกทิ, สมาธิ. ตํ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส, ตสฺมา เอตํ ‘‘เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วุตฺตํ.

นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ? วุจฺจเต – อิมสฺมิฺหิ ฌาเน วิตกฺกวิจารกฺโขภาภาเวน พลวตี สทฺธา, สมาธิ จ, ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ. อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา นตฺถิ เอตสฺมึ, เอตสฺส วา วิตกฺโก วิจาโร, น ตติยชฺฌานาทิ วิย, จกฺขุวิฺาณาทิ วิย จ อภาวปฺปตฺติโต, ตสฺมา อิมสฺส ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ อิทํ การณวจนนฺติ ทฏฺพฺพํ. สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต, สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตํ, วิตกฺกาทิกฺโขภาภาเวน เจตสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวํ ทุวงฺควิปฺปหีนํ ติวงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณาทิยุตฺตํ ทุติยํ ฌานํ อธิคนฺตฺวา วุตฺตนเยน วตฺตตีติ อตฺโถ.

เอวํ ทุติยชฺฌานาธิคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรํ อธิคตทุติยชฺฌานสฺส ตํ วุตฺตนเยเนว วสีภูตํ กตฺวา ตตฺถ อาสนฺนวิตกฺกวิจารปจฺจตฺถิกตาย เจว โอฬาริกปีตงฺคสมงฺคิตาย จ โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย ตโทฬาริกงฺคปฺปหานาย เสสสนฺตงฺคปฏิลาภาย ตเทวารมฺมณํ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต ตติยํ ฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตปฺปาทกฺจ โลกุตฺตรํ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปีติยา จ วิราคา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิรชฺชนํ วิราโค, สมติกฺกโม, ตสฺมา วิราคา. จ-กาเรน วิตกฺกวิจารานํ วูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ ‘‘ปีติยา จ วิราคา, วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ. อิทฺเจตสฺส อาคมนมคฺคปริทีปนตฺถํ, วณฺณภณนตฺถฺจ วุตฺตํ. อุเปกฺขโก วิหรตีติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขติ อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อุเปกฺขา, ตตฺรมชฺฌตฺตตา. ตาย วิสทาย ปีติวิราคปทฏฺานาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี ‘‘อุเปกฺขโก’’ติ วุจฺจติ, วิตกฺกาทิกฺโขภาภาเวน ปเนสา เอตฺเถว ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, น ปมชฺฌานาทีสูติ. สโต จ สมฺปชาโนติ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ, อิทฺจ สติสมฺปชฺพเลเนว ิตํ ตํปีติสหจริตํ สุขํ, ตโต อปนีตํ วจฺโฉ วิย พนฺธนพเลน เธนุํ ปีตึ น อุปคจฺฉติ, อิมสฺมิฺจ สติ อติมธุเร สุเข โยคิโน น สารชฺชนฺติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ, เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ อติปณีตํ สุขํ, ตํสมุฏฺิเตน ตสฺส อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุฏฺโ, ยสฺส ผุฏฺตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ กายิกสุขํ ปฏิสํเวเทยฺย, ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ อาห. ยํ ตนฺติอาทีสุ นฺติ ยสฺมา, ยํ ฌานเหตูติ อตฺโถ. นฺติ ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคิปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ ปสํสนฺติ. กินฺติ? ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ. เอวํ เอกงฺควิปฺปหีนํ ทุวงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณาทิยุตฺตํ ตติยํ ฌานํ อธิคนฺตฺวา ปวตฺตตีติ อตฺโถ. ยํ ปน ฌานํ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ อุเปกฺขา สติ สมฺปชฺํ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๙๑) วุตฺตํ, ตํ สปริกฺขารํ ฌานํ ทสฺเสตุํ ปริยาเยน วุตฺตํ. อุปนิชฺฌานลกฺขณานํ ปน สุขจิตฺเตกคฺคตานํ วเสน ทุวงฺคิกเมเวตํ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหตี’’ติอาทิ (วิภ. ๖๒๔).

เอวํ ตติยชฺฌานาธิคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตทนนฺตรํ อธิคตตติยชฺฌานสฺส ตํ วสีภูตํ กตฺวา ตโต วุฏฺาย ตตฺถ วุตฺตนเยน โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย โอฬาริกสุขงฺคปฺปหานาย, อุเปกฺเขกคฺคตาสงฺขาตเสสสนฺตงฺคปฏิลาภาย จ ตเทว นิมิตฺตํ มนสิกโรโต จตุตฺถํ ฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตปฺปาทกฺจ โลกุตฺตรํ, ตํ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ทสฺเสตุํ ‘‘สุขสฺส จ ปหานา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสฺส สุขสฺส, ทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณติ อตฺโถ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสฺส สุขสฺส, ทุกฺขสฺส จ ปุพฺเพว ปหานา. กทา ปน เตสํ ปหานํ โหตีติ? จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. ทุกฺขโทมนสฺสสุขโสมนสฺสานิ หิ ยถากฺกมํ ปมาทิจตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ เอว ปหียนฺติ. ยทิ เอวํ, กสฺมา ปเนส ‘‘วิวิจฺเจว…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ? อติสยนิโรธสฺส วุตฺตตฺตา. อุปจารกฺขเณสุ หิ โย นิโรโธ, โส นิโรโธ เอว, นาติสยนิโรโธ, โส ปน ฌานกฺขเณสุ เอว. ตโต เอว หิ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ ปน ปหีนาปิ เอตา เวทนา เอตฺถ ทุวิฺเยฺยลกฺขณาย อทุกฺขมสุขาย เวทนาย ทุกฺขาทิพฺยติเรเกน สุขคฺคหณตฺถํ, วณฺณภณนตฺถฺจสฺส ฌานสฺส สมาหฏา, ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจสฺส. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา, อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๔๕๘).

อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ ตตฺรมชฺฌตฺตตาสงฺขาตาย อุเปกฺขาย ชนิตสติยา ปาริสุทฺธิ. นิรุปกฺเลสตาย หิ ตํ ปริสุทฺธตฺตํ. น เกวลฺเจตฺถ อุเปกฺขาย สติ เอว ปริสุทฺธา, อปิจ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา, สติสีเสน ปนายํ เทสนา กตาติ. อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวํ เอกงฺควิปฺปหีนํ ทุวงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณาทิยุตฺตํ จตุตฺถํ ฌานํ อธิคนฺตฺวา ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน ปวตฺตตีติ อตฺโถ.

เอวํ รูปาวจรโลกุตฺตรจตุกฺกชฺฌานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อรูปาวจรชฺฌานํ ทสฺเสนฺโต ยํ ตตฺถ ปมํ, เอวํ อธิคตรูปาวจรจตุตฺถชฺฌานสฺส กรชรูเป ทณฺฑาทานาทีนฺเจว จกฺขุโรคาทิอาพาธานฺจ วเสน ทิฏฺาทีนวสฺส กรชรูปสฺส สมติกฺกมาย อากาสกสิณวิรหิเตสุ นวสุ กสิเณสุ อฺตรสฺมึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺสารมฺมณภูตํ กสิณปฏิภาครูปมฺปิ กรชรูปปฏิภาคตาย, อรฺเ สปฺปานุพนฺธสฺส ภเยน ปลายโต รชฺชุตาลปณฺณาทึ สปฺปปฏิภาคตาย วิย สมติกฺกมิตุกามสฺส ปฺจหากาเรหิ ตํ ฌานํ วสีภูตํ กตฺวา ตโต วุฏฺาย ตตฺถ นิพฺเพชนียรูปปฏิภาคารมฺมณตาย, อาสนฺนโสมนสฺสปจฺจตฺถิกตาย จ โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย องฺเคสุ สมติกฺกมิตพฺพาภาเวน อารมฺมณสมติกฺกมภูตํ อากาสานฺจายตนํ สนฺตโต มนสิกริตฺวา จกฺกวาฬปริยนฺตํ วา ยตฺตกํ วา อิจฺฉติ, ตตฺตกํ กสิณํ ปตฺถริตฺวา วา กสิณํ อมนสิกริตฺวา เตน ผุฏฺโกาสํ ‘‘อากาโส อากาโส’’ติ วา ‘‘อนนฺโต อากาโส’’ติ วา มนสิกาเรน กสิณํ อุคฺฆาเฏตฺวา วา ตํ กสิณุคฺฆาฏิมากาสนิมิตฺตํ ‘‘อากาโส’’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต อากาสานฺจายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพโส รูปสฺานํ สมติกฺกมา’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ สพฺพโสติ สพฺพากาเรน, สพฺพาสํ วา อนวเสสานนฺติ อตฺโถ. รูปสฺานนฺติ สฺาสีเสน วุตฺตานํ กุสลวิปากกิริยวเสน ปฺจทสรูปาวจรชฺฌานานฺเจว ตทารมฺมณานฺจ. รูปชฺฌานมฺปิ หิ ‘‘รูเป สฺา รูปสฺา’’ติ เอวํ สฺาสีเสน วุจฺจติ, ตทารมฺมณกสิณมฺปิ รูปนฺติ สฺา นามมสฺสาติ ‘‘รูปสฺ’’นฺติ วุจฺจติ. สมติกฺกมาติ วิราคา, นิโรธา จ. วิภงฺเค ปน สฺาสุ สมติกฺกนฺตาสุ อารมฺมณํ สมติกฺกนฺตเมว โหตีติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา ทิฏฺธมฺมสุขวิหาริสฺส วา’’ติอาทินา (วิภ. ๖๐๒) สฺานเมว สมติกฺกโม วุตฺโต, อารมฺมเณ อวิรตฺตสฺส สฺาสมติกฺกโม นตฺเถวาติ ตํ สมติกฺกมวเสนาปิ อตฺถวณฺณนา กาตพฺพาว.

ปฏิฆสฺานํ อตฺถงฺคมาติ จกฺขาทีนํ วตฺถูนํ, รูปาทีนฺจ อารมฺมณานํ ปฏิฆาเตน สมุปฺปนฺนา ทฺวิปฺจวิฺาณสฺา ปฏิฆสฺา, ตาสํ อตฺถงฺคมา. กิฺจาปิ ตา รูปาวจรชฺฌานสมาปนฺนสฺสาปิ น สนฺติ, อถ โข น ปหีนตฺตา น สนฺติ. น หิ รูปวิราคาย รูปาวจรภาวนา สํวตฺตติ, รูปายตฺตาว เอตาสํ ปวตฺติ, อยํ ปน ภาวนา รูปวิราคาย สํวตฺตติ, ตสฺมา ตา เอตฺถ ปหีนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. นานตฺตสฺานํ อมนสิการาติ นานตฺเต โคจเร ปวตฺตานํ, นานตฺตานํ วา มโนวิฺาณธาตุวเสน ปวตฺตานฺจ จตุจตฺตาลีสกามาวจรสฺานํ อมนสิการา อนาวชฺชนา. เอตฺถ จ รูปปฏิฆสฺานํ อิมินา ฌาเนน นิพฺพตฺตภเวปิ อนุปฺปตฺติโต ‘‘สมติกฺกมา อตฺถงฺคมา’’ติ เอวํ อภาโว เอว วุตฺโต. ‘‘นานตฺตสฺานํ อมนสิการา’’ติ อฏฺกามาวจรกุสลานํ นวกิริยานํ ทสากุสลานํ วเสน สตฺตวีสติสฺานํ อรูปภเวปิ มนสิกาเรน อุปฺปตฺติสมฺภวโต ตาสํ อมนสิการา อิจฺเจว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อนนฺโต อากาโสติ เอตฺถ นาสฺส อุปฺปาทนฺโต วา วยนฺโต วา ปฺายตีติ อนนฺโต. อากาโสติ กสิณุคฺฆาฏิมากาโส วุจฺจติ, มนสิการวเสนเปตฺถ อนนฺตตา เวทิตพฺพา. เตเนว วิภงฺเค วุตฺตํ ‘‘ตสฺมึ อากาเส จิตฺตํ เปติ…เป… อนนฺตํ ผรติ, เตน วุจฺจติ อนนฺโต อากาโส’’ติ (วิภ. ๖๐๕). อิทํ ปนสฺส ภาวนาการทสฺสนํ. อากาสานฺจายตนนฺติ เอตฺถ นาสฺส อนฺโตติ อนนฺตํ อากาสเมว อนนฺตํ อากาสานนฺตํ, อากาสานนฺตเมว อากาสานฺจํ, ตเทว อากาสานฺจํ อธิฏฺานฏฺเน, สฺชาติสโมสรณฏฺเน จ อายตนํ, ตํ อารมฺมณมสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺสาติ อากาสานฺจายตนํ. ตํ อุปสมฺปชฺช วุตฺตนเยน วิหรตีติ อตฺโถ.

เอวํ อากาสานฺจายตนาธิคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยํ ตทนนฺตรํ อธิคตปมารุปฺปสฺส ตํ วสีภูตํ กตฺวา ตตฺถ อาสนฺนรูปชฺฌานปจฺจตฺถิกตาย, รูปปฏิภาคากาสารมฺมณตาย จ โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย ตํ สมติกฺกมาย อากาสํ ผริตฺวา ปวตฺตํ วิฺาณํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต วิฺาณฺจายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพโส อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน ฌานมฺปิ อากาสานฺจายตนํ อารมฺมณมฺปิ. อารมฺมณมฺปิ หิ ปุริมนเยน อากาสานฺจฺจ ตํ ปมารุปฺปสฺส อารมฺมณตฺตา วุตฺตนเยน อายตนฺจาติ ‘‘อากาสานฺจายตน’’นฺติ วุจฺจติ. อิติ อุภยสฺสาปิ อปฺปวตฺติกรเณน, อมนสิกรเณน จ เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘อากาสานฺจายตนํ สมติกฺกมฺมา’’ติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อนนฺตํวิฺาณนฺติ ตฺเว ปมารุปฺปวิฺาณํ อากาสํ อนนฺตโต ผริตฺวา ปวตฺตํ ‘‘อนนฺตํ วิฺาณ’’นฺติ เอวํ มนสิกโรโตติ วุตฺตํ โหติ, มนสิการวเสน วา อนนฺตํ. วิภงฺเคปิ หิ ‘‘อนนฺตํ ผรตี’’ติ (วิภ. ๖๑๐) วุตฺตํ. วิฺาณฺจายตนนฺติ เอตฺถ วุตฺตนเยน อนนฺตเมว อานฺจํ, วิฺาณฺจ ตํ อานฺจฺจาติ วิฺาณานนฺตนฺติ วตฺตพฺเพ รุฬฺหิโต ‘‘วิฺาณฺจ’’นฺติ วุตฺตํ, ตเทว อายตนมารมฺมณมสฺสาติ วิฺาณฺจายตนํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

เอวํ วิฺาณฺจายตนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยํ ตทนนฺตรํ อธิคตทุติยารุปฺปสฺส ตํ วสีภูตํ กตฺวา ตตฺถ อาสนฺนากาสานฺจายตนปจฺจตฺถิกตาย, ตทารมฺมณตาย จ โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย ตํ สมติกฺกมาย ปมารุปฺปวิฺาณาภาวํ ‘‘นตฺถิ นตฺถี’’ติ วา ‘‘สุฺํ สุฺ’’นฺติ วา ‘‘วิวิตฺตํ วิวิตฺต’’นฺติ วา ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต อากิฺจฺายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพโส’’ติอาทิมาห. อิธาปิ วุตฺตนเยน ฌานสฺส, ตทารมฺมณสฺส จ วิฺาณฺจายตนสฺส สมติกฺกโมว เวทิตพฺโพ. นตฺถิ กิฺจีติ ‘‘นตฺถิ นตฺถิ, สุฺํ สุฺํ, วิวิตฺตํ วิวิตฺต’’นฺติ เอวํ มนสิกโรโตติ อตฺโถ.

อากิฺจฺายตนนฺติ เอตฺถ นาสฺส กิฺจนนฺติ อกิฺจนํ, อนฺตมโส ภงฺคมตฺตมฺปิสฺส อวสิฏฺํ นตฺถีติ วุตฺตํ โหติ, อกิฺจนสฺส ภาโว อากิฺจฺํ, อากาสานฺจายตนวิฺาณาปคมสฺเสตํ อธิวจนํ, อากิฺจฺํ อายตนมารมฺมณมสฺสาติ อากิฺจฺายตนํ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เอวํ อากิฺจฺายตนาธิคมํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ยํ ตทนนฺตรํ อธิคตตติยารุปฺปสฺส ตํ วสีภูตํ กตฺวา ตตฺถ อาสนฺนวิฺาณฺจายตนปจฺจตฺถิกตาย โทสํ ทิสฺวา นิกนฺตึ ปริยาทาย ตํ สมติกฺกมาย ตเทว อากิฺจฺายตนํ ‘‘สนฺตํ สนฺต’’นฺติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต เนวสฺานาสฺายตนํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพโส’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เนวสฺานาสฺายตนนฺติ โอฬาริกาย สฺาย อภาวโต, สุขุมาย จ ภาวโต เนวสฺส สสมฺปยุตฺตธมฺมสฺส ฌานสฺส สฺา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺํ, ตเทว ธมฺมายตนมนายตนปริยาปนฺนตฺตา อายตนนฺติ เนวสฺานาสฺายตนํ.

อถ วา ยายเมตฺถ สฺา, สา ปฏุสฺากิจฺจํ กาตุํ อสมตฺถตาย เนวสฺา, สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวน วิชฺชมานตฺตา นาสฺาติ เนวสฺานาสฺา, เนวสฺานาสฺา จ สา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อธิฏฺานฏฺเน อายตนฺจาติ เนวสฺานาสฺายตนํ. น เกวลฺเจตฺถ สฺาว เอทิสี, อปิ ตุ ผสฺโสปิ เนวผสฺโส นาผสฺโส, จิตฺตมฺปิ เนวจิตฺตํ นาจิตฺตํ, เอวํ เสสสมฺปยุตฺตธมฺมาปิ, สฺาสีเสน ปนายํ เทสนา กตาติ เวทิตพฺพา. ตตฺถ สงฺขาราวเสสสุขุมภาเวนาติ อจฺจนฺตสุขุมภาวปฺปตฺตสงฺขารภาเวน. เสสํ วุตฺตนยเมว.

อยํ ปเนตฺถ อาทิโต ปฏฺาย ปิณฺฑตฺถปฺปกาสนา – ‘‘อิธ ภิกฺขุ ปาติโมกฺขสํวรสํวุโต’’ติอาทินา สาสเน โลกิยโลกุตฺตรชฺฌานนิพฺพตฺตกปุคฺคลสฺส ปติฏฺาภูตสีเลสุ ปาติโมกฺขสํวรสีลวิสุทฺธึ อุปทิสติ. ‘‘วิหรตี’’ติ อิมินา ตทนุรูปวิหารสมงฺคิภาวํ. ‘‘อาจารโคจรสมฺปนฺโน’’ติ อิมินา อาชีวปาริสุทฺธิสีลํ, ตทุปการเก จ ธมฺเม. ‘‘อณุมตฺเตสู’’ติอาทินา ยถาวุตฺตสีเลหิ อจวนํ, เตสฺจ อนวเสสโต สมาทานํ. ‘‘อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโร’’ติ อิมินา อินฺทฺริยสํวรสีลํ. ‘‘โภชเน มตฺตฺู’’ติ อิมินา ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ, สนฺโตสาทิคุณฺจ. ‘‘ปุพฺพรตฺตาปรรตฺต’’นฺติอาทินา สีลธุตงฺเคสุ ปติฏฺิตสฺส ภาวนารามสฺส ตทุปการเก ธมฺเม. ‘‘โพธิปกฺขิกาน’’นฺติอาทินา ปฏิปตฺติยา นิพฺเพธภาคิยตํ. ‘‘โส อภิกฺกนฺเต’’ติอาทินา ยถาวุตฺตคุณานํ อปริหานาย, วกฺขมานานฺจ ปฏิลาภาย สติสมฺปโยคํ. ‘‘โส วิวิตฺต’’นฺติอาทินา ภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหํ. ‘‘โส อรฺคโต’’ติอาทินา ฌานภาวนารมฺภปฺปการํ. ‘‘โส อภิชฺฌ’’นฺติอาทินา ฌานภาวนาภิโยเคน ปหีนปฺจนีวรณสฺส อุปจารชฺฌานุปฺปตฺตึ. ‘‘โส อิเม ปฺจ นีวรเณ’’ติอาทินา ตสฺส อุปรูปริ วายมโต รูปารูปชฺฌานุปฺปตฺติกฺกมํ อุปทิสติ. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปเนตฺถ วิภงฺคนเย ปากโฏ ภวิสฺสติ. ตีสุ หิ นเยสุ มหคฺคตโลกุตฺตรา กุสลวิปากกิริยจิตฺตสมฺปยุตฺตา วิตกฺกวิจารปีติสุขอุเปกฺขาเอกคฺคตาสงฺขาตา ฌานธมฺมา นานานเยหิ วิภตฺตา, ฌานสมฺปยุตฺตา ปน เสสกามาวจรธมฺมาว อิธ สงฺคหิตา. กิฺจาปิ ปเนตฺถ ปาติโมกฺขสํวรสีลาทโยปิ วุตฺตา, ตถาปิ เต ฌานานํ ปุพฺพภาคปฺปฏิปตฺติทสฺสนวเสน เจว ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมวเสน จ วุตฺตา, อิธ ปน น สงฺคหิตาติ เวทิตพฺพา.

ปฺหาปุจฺฉเก ปน สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตา, ตีณิ ฌานานิ สุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา, จตุตฺถํ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตํ, อุเปกฺขา ปเนตฺถ เวทนา น วตฺตพฺพา, สิยา วิปากา, สิยา วิปากธมฺมธมฺมา, ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารวชฺชิตํ สวิตกฺกสวิจารํ, วิตกฺโก ปเนตฺถ อวิตกฺกวิจารมตฺโต, วิจาโร น วตฺตพฺโพ, ตีณิ ฌานานิ อวิตกฺกอวิจารา, ทฺเว ฌานานิ ปีติวชฺชิตานิ ปีติสหคตานิ, ตีณิ สุขวชฺชิตานิ สุขสหคตานิ, จตุตฺถํ อุเปกฺขาวชฺชิตํ อุเปกฺขาสหคตํ, ตติยชฺฌาเน สุขํ, อุเปกฺขา จ อิธ น วตฺตพฺพํ…เป… สิยา มหคฺคตา, สิยา อปฺปมาณา, ตีณิ สิยา อปฺปมาณารมฺมณา, สิยา น วตฺตพฺพา, จตุตฺถํ ติธาปิ น วตฺตพฺพฺจ, ตีณิ สิยา มคฺคเหตุกา, สิยา มคฺคาธิปติโน, สิยา น วตฺตพฺพา, จตุตฺถํ ติธาปิ น วตฺตพฺพฺจ…เป… ปีติ พหิทฺธารมฺมณานิ, จตุตฺถํ ติธาปิ น วตฺตพฺพฺจ…เป… อนิทสฺสนอปฺปฏิฆา น เหตู…เป… โนจิตฺตเจตสิกา อรณาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. ปาฬิมุตฺตนโย ปเนตฺถ นตฺถิ, อิโต ปรํ ปน เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา วิชฺชมานฏฺาเน เอว วกฺขาม.

ฌานวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

อปฺปมฺาวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

อปฺปมฺาวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – จตสฺโส อปฺปมฺาโยติอาทีสุ ผรณอปฺปมาณวเสน อปฺปมฺาโย. เอตา หิ อารมฺมณวเสน อปฺปมาเณ วา สตฺเต ผรนฺติ, เอกสตฺตมฺหิ วา อนวเสสผรณวเสน อปฺปมาณโต ผรนฺตีติ เอวํ ผรณอปฺปมาณวเสน ‘‘อปฺปมฺาโย’’ติ วุจฺจนฺติ, สตฺต อปฺปมาณวเสนาปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. เมตฺตาสหคเตนาติ เมตฺตาย สมนฺนาคเตน. เอกํ ทิสนฺติ ปุรตฺถิมาทีสุ จตูสุ ทิสาสุ ยํ กิฺจิ เอกํ ทิสํ, ตํทิสาปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน เจตํ วุตฺตํ. ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา. วิหรตีติ ปวตฺเตติ. ตถา ทุติยนฺติอาทีสุ. ยถา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา, ตเถว ตทนนฺตรํ ทุติยํ, ตติยํ, จตุตฺถฺจาติ อตฺโถ. อิติ อุทฺธมโธ ติริยนฺติ เอเตเนว นเยน อุปริมํ ทิสํ, เหฏฺิมํ ทิสํ, อนุทิสฺจ อนุกฺกเมน เมตฺตาสหคเตน เจตสา ผริตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. เอตฺตาวตา เอกเมกํ ทิสํ ปริคฺคเหตฺวา โอธิโส เมตฺตาผรณตํ ทสฺสิตํ.

สพฺพธีติอาทิ ปน อโนธิโส ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ สพฺพธีติ สพฺพตฺถ. สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพสุ หีนมชฺฌิมุกฺกฏฺมิตฺตสปตฺตมชฺฌตฺตาทิปฺปเภเทสุ อตฺตตาย, เตสุ วิภาคํ อกตฺวา อตฺตสมตายาติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา สพฺพตฺตตายาติ สพฺเพน จิตฺตภาเวน, อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺเขปมาโนติ อตฺโถ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺตํ, สพฺพสตฺตยุตฺตนฺติ อตฺโถ. โลกนฺติ สตฺตโลกํ. ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตนา’’ติ อิทํ ‘‘วิปุเลนา’’ติอาทีหิ วิเสสเนหิ สมฺพนฺธทสฺสนวเสน วา วุตฺตํ, นิคมนวเสน วา. ตตฺถ ผรณวเสน วิปุลตา เวทิตพฺพา. ภูมิวเสน ปน มหคฺคตตา. ปคุณวเสน, อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสน จ อปฺปมาณตา. พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนน อเวรตา. โทมนสฺสปฺปหาเนน นิทฺทุกฺขตา, สงฺขตตา, อพฺยาปชฺชตา จ ทฏฺพฺพา. เอวํ กรุณาสหคเตนาติอาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพติ อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปเนตฺถ สุวิฺเยฺโยว. วิภงฺคนเยน ปน ตีสุ รูปาวจรกุสลวิปากกิริยาจิตฺเตสุ สมฺปยุตฺตา สตฺเตสุ เมตฺตาทิพฺรหฺมวิหารภูตา อโทโส กรุณา มุทิตา ตตฺรมชฺฌตฺตตาติ จตฺตาโร ธมฺมา นานานเยหิ วิภตฺตา, ตํสมฺปยุตฺตา ปน กามาวจรภูตา จ เอตา อิธ น คหิตา. อรูปาวจรโลกุตฺตเรสุ ปเนตา อปฺปมฺา นตฺเถวาติ. ปฺหาปุจฺฉเก ปเนตา ตาว สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตา. ติสฺโส สุขาย, จตุตฺถา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย สมฺปยุตฺตา. วิปากตฺติเก ติธาปิ, อุเปกฺขา อวิตกฺกอวิจารา, เสสา ติธาปิ, มหคฺคตาว, ปริตฺตารมฺมณอตีตารมฺมณตฺติเกสุ น วตฺตพฺพาว, พหิทฺธารมฺมณาว, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาว, เมตฺตา เหตุ, เสสา น เหตู, โน จิตฺตา, เจตสิกา, รูปาวจรา, สอุตฺตราว. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ.

อปฺปมฺาวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

สิกฺขาปทวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

สิกฺขาปทวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – สิกฺขาปทานีติ สิกฺขิตพฺพปทานิ, สิกฺขาโกฏฺาสาติ อตฺโถ. อปิจ สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา สิกฺขิตพฺพโต สิกฺขา, ตาสํ ปติฏฺานฏฺเน ปทํ, ปฺจสุ ปน สีลงฺเคสุ ยํ กิฺจิ องฺคํ. ปาณาติปาตาทีสุ ปาณสฺส อตีว ปาโต ปาณาติปาโต, ปาณวโธติ อตฺโถ. ปาโณติ เจตฺถ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ, ตสฺมึ ปน ปาเณ ปาณสฺิโน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา กายวจีทฺวารานํ อฺตรทฺวารปฺปวตฺตา วธกเจตนา ปาณาติปาโต, ตสฺมา ปาณาติปาตา. เวรมณีติ วิรติ, สา เอว วุตฺตนเยน สิกฺขาปทนฺติ เวรมณิสิกฺขาปทํ. อทินฺนนฺติ น ทินฺนํ, ปรปริคฺคหิตํ, ปรปริคฺคหิตสฺส อทินฺนสฺส อาทานํ อทินฺนาทานํ. ปรสฺส หรณํ เถยฺยํ โจริกาติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถโต ปน ปรปริคฺคหิเต ตถาสฺิโน ตทาทายกอุปกฺกมสมุฏฺาปิกา เถยฺยเจตนา อทินฺนาทานํ. กาเมสูติ วตฺถุกาเมสุ. มิจฺฉาจาราติ กิเลสกามวเสน ลามกาจารา, ปุริสสฺส มาตุรกฺขิตาทิสงฺขาตาสุ, อิตฺถิยา อตฺตโน นิยมิตปุริสโต ปรปุริสสงฺขาเตสุ จ อคมนียฏฺาเนสุ วีติกฺกมาจาราติ วุตฺตํ โหติ. อตฺถโต ปน อคมนียวตฺถูสุ มคฺเคนมคฺคปฺปฏิปาทโนปกฺกมสมุฏฺาปิกา, อธิวาสนาการปฺปวตฺตา วา เมถุนเจตนา กาเมสุมิจฺฉาจาโร. มุสาติ อภูตํ อตจฺฉํ วตฺถุ, วาโทติ ตสฺส อภูตตํ ตฺวาว ภูตโต ตจฺฉโต วิฺาปนํ. ลกฺขณโต ปน อตถํ วตฺถุํ ตฺวา ตถโต ปรํ วิฺาเปตุกามสฺส อตฺถภฺชกกายวจีปโยคสมุฏฺาปิกา เจตนา มุสาวาโท. สุราติ ปิฏฺสุรา ปูวสุรา โอทนสุรา กิณฺณปกฺขิตฺตา สมฺภารสํยุตฺตาติ ปฺจ สุรา. เมรยนฺติ ปุปฺผาสโว ผลาสโว คุฬาสโว มธฺวาสโว สมฺภารสํยุตฺโตติ ปฺจ อาสวา. ตทุภยมฺปิ มทนียฏฺเน มชฺชํ, ยาย เจตนาย ตํ มชฺชํ ปิวติ, สา ปมาทการณตฺตา ปมาทฏฺานํ, ตสฺมา สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺานา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมวาติ อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปน วิภงฺคนเย ปากโฏ ภวิสฺสติ. เอวํ อุปริปิ. วิภงฺคนเยสุ เจตฺถ สุตฺตนฺตภาชนียํ นตฺถิ, อภิธมฺมภาชนีเย ปเนตานิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ กามาวจรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตานํ วิรตีนํ วเสน นานปฺปการโต ปมวาเร วิภตฺตานิ, ตถา ทุติยวาเร เจตนาวเสน, วิรติเจตนาสมฺปยุตฺตา ปเนตฺถ ธมฺมา น สิกฺขาปทานิ, สิกฺขาปทสมฺปยุตฺตา ปน โหนฺติ, ตถา ตติยนเย ผสฺสาทีนํ สพฺเพสํ ธมฺมานํ วเสน นานปฺปการโต วิภตฺตาติ.

ปฺหาปุจฺฉเก ปน เจตนาย, ผสฺสาทีนฺจ ปริยายสิกฺขาปทตฺตา นิปฺปริยายสิกฺขาปทภูตานํ วิรตีนํ วเสเนว วิภตฺตานิ. ตตฺถ หิ ปฺจ สิกฺขาปทานิ กุสลา เอว, สิยา สุขาย, สิยา อทุกฺขมสุขาย สมฺปยุตฺตา…เป… ปริตฺตารมฺมณาว, ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาว, พหิทฺธารมฺมณาว, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆาว, น เหตู, สเหตุกา, โน จิตฺตา, เจตสิกา, กามาวจรา , สอุตฺตราว, อรณาวาติ. เอตฺถ จ ยานิ สิกฺขาปทานิ สตฺตารมฺมณานิ วุตฺตานิ, ตานิ จ วิรติสภาวตฺตา ยสฺมา ‘‘สตฺโต’’ติ สงฺขํ คเต ปริตฺตธมฺเม เอว ปจฺจุปฺปนฺเน เอว ธมฺเม อารมฺมณํ กโรนฺติ, ตสฺมา ปริตฺตารมฺมณาติ จ วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. อิทานิ วิรมิตพฺพปาณาติปาตาทีนํ –

ธมฺมกมฺมปถาลมฺพ-เวทนามูลกมฺมโต;

สาวชฺชงฺคาทิโต เยฺโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ ธมฺมโต ตาว – ปฺจเปเต ปาณาติปาตาทโย เจตนาสภาวาว โหนฺติ. กมฺมปถโต ปฺจ กมฺมปถาว. อารมฺมณโต ปน ปาณาติปาโต ชีวิตินฺทฺริยารมฺมโณ, อทินฺนาทานํ สตฺตารมฺมณํ, สงฺขารารมฺมณํ วา, ตถา มุสาวาโท, มิจฺฉาจาโร อิตฺถิปุริสารมฺมโณ, สุราปานํ สงฺขารารมฺมณํ. เวทนาโต ปน ปาณาติปาโต ทุกฺขเวทโน, อทินฺนาทานํ ติเวทนํ, ตถา มุสาวาโท, มิจฺฉาจาโร ปน สุขมชฺฌตฺตวเสน ทฺวิเวทโน, ตถา สุราปานํ. มูลโต ปน ปโม โทสโมหมูโล, ทุติยํ สิยา โลภโมหมูลํ, สิยา โทสโมหมูลํ, ตถา มุสาวาโท, มิจฺฉาจาโร ปน โลภโมหมูโลว, ตถา สุราปานํ. กมฺมโต ปเนตฺถ มุสาวาโท วจีกมฺมํ, เสสา กายกมฺมเมว.

สาวชฺชโต ปน ปาณาติปาโต ตาว อมนุสฺสเก ปาเณ อปฺปสาวชฺโช, มนุสฺสเก มหาสาวชฺโช. เตสุ จ ขุทฺทกสรีเร อปฺปสาวชฺโช, มหาสรีเร มหาสาวชฺโช. กสฺมา? ปโยคมหนฺตตาย. ปโยคสมตฺเตปิ อปฺปคุเณ อปฺปสาวชฺโช, มหาคุเณ มหาสาวชฺโช. สรีรคุณานํ สมภาเว สติ กิเลสานํ, อุปกฺกมานฺจ มุทุติพฺพตาย อปฺปมหาสาวชฺโช โหติ, ขีณาสเว ปน มหาสาวชฺชตโรติ. อทินฺนาทานํ วตฺถุโน หีนปฺปณีตตาย เจว คุณวิรหิตตพฺพนฺตสนฺตกตาย จ. ตตฺถาปิ ตํ ตํ อุปาทายุปาทาย จ อปฺปมหาสาวชฺชํ, ขีณาสวสนฺตเก มหาสาวชฺชตรนฺติ เวทิตพฺพํ. มิจฺฉาจาโร ทุสฺสีลสีลวนฺตวตฺถุวีติกฺกมเนน. ตตฺถาปิ ตํ ตํ อุปาทายุปาทาย จ อปฺปมหาสาวชฺโช, ขีณาสววตฺถุวีติกฺกมเน มหาสาวชฺชตโรติ จ เวทิตพฺโพ. มุสาวาโท ยมตฺถํ ภฺชติ, ตสฺส อปฺปมหนฺตตํ, วตฺถุสามิโน คุณวิรหิตตํ, ตพฺพนฺตตฺจ อุปาทายุปาทาย อปฺปมหาสาวชฺโช โหติ. อปิจ อตฺตโน สนฺตกํ อทาตุกามตาย, หสาธิปฺปาเยน วา ‘‘นตฺเถต’’นฺติอาทินยปฺปวตฺโต อปฺปสาวชฺโช, อทิฏฺํ ‘‘ทิฏฺ’’นฺติอาทินา กูฏสกฺขิอาทิภาเวน วา ปวตฺโต มหาสาวชฺโช, มุสา วตฺวา ปน สงฺฆเภทเน มหาสาวชฺชตโร. สุราปานํ พินฺทุมตฺตโต ปฏฺาย ตํ ตํ อุปาทายุปาทาย อปฺปสาวชฺชํ, พหุเก มหาสาวชฺชํ, กายวิการชนนปโหนกปาเน ปน มหาสาวชฺชตรเมว.

องฺคาทิโต ปน ปาณาติปาตสฺส ปาโณ ปาณสฺิตา วธกจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน มรณนฺติ ปฺจ องฺคานิ. สาหตฺถิโก อาณตฺติโก นิสฺสคฺคิโก ถาวโร วิชฺชามโย อิทฺธิมโยติ ฉ ปโยคา. อทินฺนาทานสฺส ปรปริคฺคหิตตา ตถาสฺิตา เถยฺยจิตฺตํ อุปกฺกโม เตน หรณนฺติ ปฺจ องฺคานิ. สาหตฺถิกาทโย ฉ เอว ปโยคา. เต จ โข ยถานุรูปํ เถยฺยาวหาราทีนํ วเสน ปวตฺตา. มิจฺฉาจารสฺส อคมนียวตฺถุตา เสวนจิตฺตํ มคฺเคน มคฺคปฺปฏิปตฺตีติ ตีณิ องฺคานิ. สาหตฺถิโก เอโกว ปโยโค. เอวํ เสสานมฺปิ ปโยโค เวทิตพฺโพ. มุสาวาทสฺส อตถํ วตฺถุ, วิสํวาทนจิตฺตํ, ตชฺโช วายาโม, ปรสฺส ตทตฺถวิชานนนฺติ จตฺตาริ องฺคานิ. สุราปานสฺส สุราทีนํ อฺตรตา อชฺโฌหรณนฺติ ทฺเว องฺคานีติ.

เอวํ ปาณาติปาตาทีนํ ธมฺมาทิโต วินิจฺฉยํ ตฺวา อิทานิ ปาณาติปาตาเวรมณิอาทีนํ ปฺจนฺนมฺปิ –

ธมฺมกมฺมปถาลมฺพ-สมาทานปโยคโต;

ขณฺฑโต จ วิชานีโย, ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

ตตฺถ ธมฺมกมฺมปถโต วินิจฺฉโย วุตฺตนโยว. อารมฺมณโต ปเนตานิ ชีวิตินฺทฺริยาทิตํตํวีติกฺกมิตพฺพวตฺถารมฺมณานิ. สมาทานโต เอกสฺส สนฺติเก วา สยเมว วา ‘‘ปฺจ สีลานิ อธิฏฺหามี’’ติ เอกโต วา ปาฏิเอกฺกํ วา สมาทิยนฺเตน เอตานิ สมาทินฺนาเนว โหนฺติ. ปโยคโต ปน สพฺพานิปิ สาหตฺถิกปโยคาเนว. ขณฺฑโต คหฏฺา ยํ ยํ วีติกฺกมนฺติ, ตํ ตเทว ขณฺฑํ โหติ, เนตเร. คหฏฺา อนิพทฺธสีลา โหนฺติ, ยํ ยํ สกฺโกนฺติ, ตํ ตเทว โคเปนฺติ. สามเณรานํ ปน เอกสฺมึ วีติกฺกมิเต สพฺพานิปิ ภิชฺชนฺตีติ เอวํ วิชานีโย ปาฬิมุตฺตวินิจฺฉโย.

สิกฺขาปทวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ปฏิสมฺภิทาวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ปฏิสมฺภิทาวิภงฺคมาติกาย อตฺถโต ตาว – จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาติ จตฺตาโร ปเภทา. นิทฺเทเส ปน ‘‘อตฺเถ าณํ อตฺถปฺปฏิสมฺภิทา’’ติอาทินา (วิภ. ๗๑๘) าณวเสน นิทฺทิฏฺตฺตา าณสฺเสว, น อฺสฺส กสฺสจีติ เวทิตพฺพํ. อตฺถปฏิสมฺภิทาติ อตฺถวิสยาณปฺปเภทา, อตฺถปฺปเภทสลฺลกฺขณวิภาวนววตฺถานกรณสมตฺถตาวเสน อตฺเถ ปเภทคตํ าณนฺติ อตฺโถ. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ อตฺโถติ เหตุผลํ. โส หิ เหตุวเสน อรณียโต คนฺตพฺพโต, อุปฺปาเทตพฺพโต จ ‘‘อตฺโถ’’ติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปเนโสปิ ปฺจวิโธ โหติ ยํ กิฺจิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ, นิพฺพานํ, ภาสิตตฺโถ, วิปาโก, กิริยาติ.

ธมฺโมติ ปจฺจโย, โส หิ ผลํ วิทหติ ปวตฺเตติ อุปฺปาเทติ เจว ปาเปติ จาติ ‘‘ธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ปเภทโต ปเนโสปิ ปฺจวิโธ โหติ โย โกจิ ผลนิพฺพตฺตโก เหตุ, อริยมคฺโค, ภาสิตํ, กุสลํ, อกุสลนฺติ.

นิรุตฺตีติ ยถาวุตฺตานํ ธมฺมานํ, อตฺถานฺจ วาจโก สภาวนิรุตฺติสงฺขาโต สทฺโท. อิมา ธมฺมตฺถนิรุตฺติโย อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ตตฺถ ตตฺถ ปเภทคตํ าณํ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา นาม.

เอตฺถ จ นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา สทฺทารมฺมณา, น ปฺตฺตารมฺมณา, ปฏิสมฺภิทาปตฺโต หิ ‘‘ผสฺโส เวทนา’’ติอาทิกํ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ‘‘ผสฺสา เวทโน’’ติอาทิกํ ปน ‘‘น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ. สภาวนิรุตฺตีติ (วิภ. อฏฺ. ๗๑๘) จ มาคธิกา ภาสา, ยาย สมฺมาสมฺพุทฺธา เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ ตนฺตึ อาโรเปนฺติ, พฺรหฺมาโน จ อคามเก อรฺเ กิฺจิ วจนํ อสุตฺวา วฑฺฒิตทารกา จ อตฺตโน ธมฺมตาย ภาสนฺติ, ยา จ อปาเยสุ มนุสฺเส เทวโลเก เจว มาคธภาสา อุสฺสนฺนา, ปจฺฉา จ ตโต อนฺธกโยนกทมิฬาทิเทสภาสา เจว สกฺกตาทิอฏฺารสมหาภาสา จ นิพฺพตฺตา, สา หิ ยสฺมา อิตราสุ ภาสาสุ ปริวตฺตนฺตาสุปิ น ปริวตฺตติ, สพฺพกาลํ อตฺตโน สภาเว เอว ติฏฺติ, ตสฺมา ‘‘สภาวนิรุตฺตี’’ติ วุจฺจติ. ยา พฺรหฺมโวหาโร, อริยโวหาโรติ จ วุจฺจติ, ตาย ปน มาคธภาสาย ตนฺตึ อารุฬฺหสฺส พุทฺธวจนสฺส ปฏิสมฺภิทาปตฺตานํ โสตปถาคมนเมว ปปฺโจ . โสเต ปน สงฺฆฏฺฏิตมตฺเต เอว นยสเตน นยสหสฺเสน อตฺโถ อุปฏฺาติ. อฺาย ปน ภาสาย ตนฺตึ อารุฬฺหํ ตํ เตสํ จิตฺตํ สหสา นาโรหติ, กิจฺเฉน อุคฺคเหตพฺพํ โหติ, ปุถุชฺชนานฺจ สกลํ พุทฺธวจนํ อุคฺคเหตฺวาปิ ปฏิสมฺภิทาปตฺติ นาม นตฺถิ, อริยสาวโก โน ปฏิสมฺภิทาปตฺโต นาม นตฺถิ, ปฏิสมฺภิทาปตฺโต อฺํ สทฺทํ นามาขฺยาโตปสคฺคนิปาตเภทโต ชานาติ, น ชานาตีติ? ยทคฺเคน สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อยํ สภาวนิรุตฺติ, อยํ น สภาวนิรุตฺตี’’ติ ชานาติ, ตทคฺเคน เอตมฺปิ ชานิสฺสติ, น เจตํ ปฏิสมฺภิทากิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.

ปฏิภานนฺติ ธมฺมตฺถาทิวิสยํ สพฺพตฺถกาณํ, ตํ าณํ อารมฺมณํ กตฺวา ปจฺจเวกฺขนฺตสฺส ปเภทคตํ าณํ ปฏิภานปฏิสมฺภิทา นาม, อิมา จตสฺโสปิ ปฏิสมฺภิทา อธิคเมน ปริยตฺติอุคฺคหเณน สกฺกจฺจธมฺมสฺสวเนน อตฺถปริปุจฺฉาย ปุพฺพโยเคนาติ ปฺจหิ การเณหิ วิสทา โหนฺติ, เสขภูมิยํ, อเสขภูมิยฺจาติ ทฺวีสุ าเนสุ ปเภทํ คจฺฉนฺตีติ เวทิตพฺพา. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺโถ.

ธมฺมเภโท ปเนตฺถาปิ วิภงฺคนเย ปากโฏ ภวิสฺสติ. วิภงฺคนเยสุ หิ ตีสุปิ ธมฺมนิรุตฺติปฏิภานปฏิสมฺภิทา ติสฺโสปิ กามาวจรชวนสมฺปยุตฺตาณานํ วเสน ตพฺพิสยปฺปเภเทน สทฺธึ นานปฺปการโต วิภตฺตา. อตฺถปฏิสมฺภิทา ปน เตสํ าณานฺเจว อฏฺโลกุตฺตรจิตฺตสมฺปยุตฺตานฺจ วเสน ตพฺพิสยปฺปเภเทน สทฺธึ. โลกุตฺตราณานิปิ หิ มคฺคปฺปตฺตพฺพตาย อตฺถภูตนิพฺพานารมฺมณตฺตา ‘‘อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ วุจฺจติ.

ปฺหาปุจฺฉเก ปน สิยา กุสลา, สิยา อพฺยากตา, ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา สิยา วิปากธมฺมธมฺมา, สิยา เนววิปากนวิปากธมฺมธมฺมา, อตฺถปฏิสมฺภิทา ติธาปิ, ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา ปริตฺตา, อตฺถปฏิสมฺภิทา สิยา ปริตฺตา, สิยา อปฺปมาณา , นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปริตฺตารมฺมณา, พหิทฺธารมฺมณา จ, เสสา ติธาปิ, นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณาว, อตฺถปฏิสมฺภิทา ติธาปิ น วตฺตพฺพา จ, อนิทสฺสนอปฺปฏิฆา, เหตู, สเหตุกา, ติสฺโส ปฏิสมฺภิทา สอุตฺตรา, อตฺถปฏิสมฺภิทา ทฺวิธาปิ, อรณา จาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ปฏิสมฺภิทาวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

าณวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

าณวิภงฺคมาติกาย ปน อตฺถโต ตาว – เอกวิเธนาติ เอกปฺปกาเรน, เอกโกฏฺาเสน วา. าณวตฺถูติ เอตฺถ ปน าณฺจ ตํ วตฺถุ จ นานปฺปการานํ สมฺปตฺตีนนฺติ าณวตฺถุ. ปฺจ วิฺาณาติ จกฺขุวิฺาณาทีนิ ปฺจ. น เหตู อเหตุกาติอาทีสุ เหฏฺา เหตุทุกาทีสุ วุตฺตนยานุสาเรน สพฺพตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อปิจ เหตุทุกาทีสุ ปฺจ วิฺาณา เหตู ธมฺมาติ วา สเหตุกา ธมฺมาติ วา น วตฺตพฺพา, เอกนฺเตน ปน น เหตู เอว, อเหตุกา เอวาติ. เอวํ ‘‘ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺา’’ติ อิมินา อุปริ เอกวิธปริจฺเฉทาวสาเน วกฺขมาเนน สมฺพนฺโธติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ จ อเจตสิกาติ จิตฺตานิ เอว ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตานํ อิธ อปรามฏฺตฺตา.

อุปฺปนฺนวตฺถุกา อุปฺปนฺนารมฺมณาติ ขณปจฺจุปฺปนฺนวเสน อนาคตปฏิกฺเขโป. น หิ ตานิ อนาคเตสุ ปฺจสุ วตฺถารมฺมเณสุ อุปฺปชฺชนฺติ. ปุเรชาตวตฺถุกา ปุเรชาตารมฺมณาติ สหุปฺปตฺติปฏิกฺเขโป. น หิ ตานิ สหุปฺปนฺนํ วตฺถารมฺมณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนฺติ. อชฺฌตฺติกวตฺถุกาติ อชฺฌตฺตชฺฌตฺตภูเต ปฺจ ปสาเท วตฺถุํ กตฺวา อุปฺปชฺชนกา. เอตฺถ จ ปฺจ วิฺาณา สยมฺปิ อชฺฌตฺติกา, อชฺฌตฺติกวตฺถุกา จ, มโนวิฺาณํ หทยนิสฺสิตํ อชฺฌตฺติกํ, พาหิรวตฺถุกํ, ปฺจวิฺาณสมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา พาหิรา, อชฺฌตฺติกวตฺถุกา, มโนวิฺาณสมฺปยุตฺตา ตโย ขนฺธา พาหิรา, พาหิรวตฺถุกาติ เอวํ จตุกฺกํ เวทิตพฺพํ.

อสมฺภินฺนวตฺถุกา อสมฺภินฺนารมฺมณาติ อนิรุทฺธวตฺถารมฺมณา. น หิ ตานิ นิรุทฺธวตฺถารมฺมณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนฺติ. นานาวตฺถุกา นานารมฺมณาติ ตานิ ยถากฺกมํ จกฺขุรูปาทินิยเตเกกวตฺถารมฺมณตาย อฺมฺํ ภินฺนวตฺถุกา, ภินฺนารมฺมณา จ. น หิ จกฺขุวิฺาณํ จกฺขุํ มุฺจิตฺวา โสตาทีสุ อฺตรํ วตฺถุํ กตฺวา รูปํ มุฺจิตฺวา สทฺทาทีสุ อฺตรารมฺมณํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ, น อิตรานิ เจตรานิ. น อฺมฺสฺส โคจรวิสยํ ปจฺจนุโภนฺตีติ อิมินา จ เนสํ นานารมฺมณตํเยว วิภาเวติ. น อสมนฺนาหารา อุปฺปชฺชนฺตีติ อนาวชฺชเน น อุปฺปชฺชนฺติ, ปฺจทฺวาราวชฺชเนน อนาวชฺชิเต วิสเย น อุปฺปชฺชนฺตีติ อตฺโถ. น อมนสิการาติ ตเมเวตฺถ ปริยายนฺตเรน วิภาเวติ. น อพฺโพกิณฺณาติ อฺมฺํ นิรนฺตรา หุตฺวา น อุปฺปชฺชนฺติ. น อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอกกฺขเณปิ สห น อุปฺปชฺชนฺติ. น เกวลฺจ เอตานิ, อฺานิปิ วิฺาณานิ ทฺเว วา ตทุตฺตรึ วา เอกโต น อุปฺปชฺชนฺติ, เอเกกเมว ปน วิฺาณํ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. ยถาห – ‘‘อฺํ อุปฺปชฺชเต จิตฺตํ, อฺํ จิตฺตํ นิรุชฺฌตี’’ติอาทิ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.๒๑๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๙; สํ. นิ. อฏฺ. ๓.๕.๓๖๘; วิภ. อฏฺ. ๕๒๓). น อฺมฺสฺส สมนนฺตราติ อิมินา อนพฺโพกิณฺณตาย เอว วิภาวนา.

อนาโภคาติ อนาวชฺชนภูตา อาวชฺชนฏฺาเน ตฺวา อาวชฺชนกิจฺจํ กาตุํ น สมตฺถาติ อตฺโถ. น กฺจิ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ ‘‘มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา’’ติ (ธ. ป. ๑-๒) เอวํ วุตฺตํ เอกมฺปิ กุสลากุสลํ ธมฺมํ โกจิปิ ปุคฺคโล น ปฏิวิชานาติ, เตหิ วิฺาเณหิ น สาเธตีติ อตฺโถ. อฺตฺรอภินิปาตมตฺตาติ เปตฺวา รูปาทิอารมฺมณานํ อภินิปาตมตฺตํ อาปาถคมนมตฺตํ, พฺยตฺตตโรปิ ปุคฺคโล ปฺจวิฺาเณหิ อาปาถคตารมฺมณปฏิวิชานนมตฺตโต อฺํ กุสลากุสลปฏิวิชานนํ กาตุํ น สกฺโกตีติ อตฺโถ.

ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ สมนนฺตราปีติ มโนธาตุยาปิ. อปิ-สทฺโท เจตฺถ สมฺปิณฺฑนตฺโถ, เตน น เกวลํ มโนธาตุยาว, ตโต ปเรหิปิ ปฺจทฺวาริกวิฺาเณหิ ตทารมฺมณปริโยสาเนหิ น กิฺจิ กุสลากุสลํ ธมฺมํ ปฏิวิชานาตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโตติ คเหตพฺโพ. กิฺจาปิ ปฺจทฺวาเร กุสลากุสลาทีนิ ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺติ, ตถาปิ ตานิ โมฆปุปฺผานิ วิย อพฺโพหาริกานีติ ทฏฺพฺพานิ. น กฺจิ อิริยาปถํ กปฺเปตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. น หิ ปฺจทฺวาริกวิฺาเณหิ คมนาทีสุ กฺจิ อิริยาปถํ กปฺเปติ, น กายวจีกมฺมํ ปฏฺเปติ, น วิฺตฺตึ วา สมุฏฺาเปติ, น กุสลากุสลํ ธมฺมํ สมาทิยติ, น โลกิยโลกุตฺตรํ สมาธึ สมาปชฺชติ, น ตโต วุฏฺาติ, น ภวโต จวติ, น ภวนฺตเร อุปฺปชฺชติ, สพฺพมฺเปตํ กิจฺจํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว โหติ. ยถา เจเตสํ เอตานิ กิจฺจานิ นตฺถิ, เอวํ นิยาโมกฺกมนาทีนิปิ. น หิ โกจิ ปฺจทฺวาริกชวเนหิ มิจฺฉตฺตนิยามํ, สมฺมตฺตนิยามํ วา โอกฺกมติ, น เจตานิ นามโคตฺตํ วา กสิณาทิปฺตฺตึ วา ติลกฺขณาทึ วา อารพฺภ ภวนฺติ. น สุปตีติอาทีสุ สพฺเพหิ ปฺจทฺวาริกจิตฺเตหิ น นิทฺทํ โอกฺกมติ, น กิฺจิ สุปินํ ปสฺสติ. นิทฺทายนฺตสฺส หิ อินฺทฺริเยสุ มหาปทีปตุริยสทฺทาทิโอฬาริเกหิปิ รูปาทิปฺจารมฺมเณหิ ฆฏฺฏิเตสุ ปมํ ปฺจทฺวาริกานิ อาวชฺชนานิ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตุํ น สกฺโกนฺติ, มโนทฺวาริกเมว อาวชฺชนํ สกฺโกติ, ตสฺมิฺจ อุปฺปนฺเน มโนทฺวาริกชวนํ ชวิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ทุติยวาเร ปน ปฺจทฺวาริกอาวชฺชเนสุ ยํ กิฺจิ ยถารหํ ภวงฺคํ อาวฏฺเฏติ, ตโต ตทารมฺมณปริโยสานานิ ตํตํทฺวาริกวีถิจิตฺตานิ ยถากฺกมํ ปวตฺติตฺวา ภวงฺคํ โอตรนฺติ. ตติยวาเร ปน มโนทฺวาริกาวชฺชนชวนานิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมึ ขเณ รูปาทิปฺจารมฺมณววตฺถานํ โหติ, สตฺโต จ นิทฺทาย ปฏิพุทฺโธติ, เอวํ มโนทฺวาริกจิตฺเตเนว ปฏิพุชฺฌติ.

สุปินมฺปิ หิ เตเนว ปสฺสติ, น ปฺจทฺวาริเกน, ตฺจ ปเนตํ สุปินํ ปสฺสนฺโต จตูหิ การเณหิ ปสฺสติ ธาตุกฺโขภโต วา อนุภูตปุพฺพโต วา เทวโตปสํหารโต วา ปุพฺพนิมิตฺตโต วา. อิเมสํ ปน สํสคฺคสนฺนิปาตโตปิ พหุธา ปปฺเจนฺติ. ตตฺถ ยํ วาตปิตฺตาทิธาตุกฺโขภโต, อนุภูตปุพฺพโต จ สุปินํ ปสฺสติ, น ตํ สจฺจํ. ยํ เทวโตปสํหารโต ปสฺสติ, ตํ สจฺจํ วา โหติ อลิกํ วา. กุทฺธา หิ เทวตา วิปรีตมฺปิ กตฺวา ทสฺเสนฺติ. ยํ ปุพฺพนิมิตฺตโต ปสฺสติ, ตํ เอกนฺตสจฺจเมว โพธิสตฺตโกสลราชาทีนํ ปฺจโสฬสมหาสุปินานิ วิย. ตฺจ ปเนตํ จตุพฺพิธํ สุปินํ เสขปุถุชฺชนาว ปสฺสนฺติ, น อเสขา ปหีนวิปลฺลาสตฺตา. กึ ปเนตํ ปสฺสนฺโต สุตฺโต ปสฺสติ ปฏิพุทฺโธ วา? กิฺเจตฺถ, ยทิ สุตฺโต ปสฺสติ, สุปินสฺส กุสลาทิสภาวโต, ภวงฺคสฺส จ ตทภาวา อภิธมฺมวิโรโธ อาปชฺชติ. อถ ปฏิพุทฺโธ, สุปินํ ปสฺสนฺเตน กตสฺส อพฺโพหาริกสฺสาปิ วีติกฺกมสฺส สพฺโพหาริกสฺเสว เอกนฺตสาวชฺชตฺตา อนาปตฺติ น สิยาติ วินยวิโรโธ อาปชฺชติ. ปการนฺตโร จ นตฺถิ, เยน สุปินํ ปสฺเสยฺยาติ สุปินสฺส อภาโวว อาปชฺชตีติ? นาปชฺชติ. กสฺมา? ยสฺมา กปิมิทฺธปเรโต ปสฺสติ ‘‘กปิมิทฺธปเรโต โข, มหาราช, สุปินํ ปสฺสตี’’ติ (มิ. ป. ๕.๓.๕) วจนโต, ยา ปน นิทฺทา มกฺกฏนิทฺทา วิย ปุนปฺปุนํ กุสลาทิจิตฺตโวกิณฺณตฺตา ลหุปริวตฺตา, ตํ กปิมิทฺธํ, เตน สุตฺโต สุปินํ ปสฺสติ, ตสฺมา สุปิโน กุสโลปิ โหติ อกุสโลปิ, อาวชฺชนตทารมฺมณวเสน อพฺยากโตปิ, สุปิเน จ กตํ กุสลากุสลทุพฺพลตาย ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ น สกฺโกติ, ปวตฺเต เวทนียํ ปน โหติ. ‘‘ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺา’’ติ เอตฺถ โย ปฺจนฺนํ วิฺาณานํ ยถาวุตฺโต น เหตุกฏฺโ, อเหตุกฏฺโ…เป… น สุปินํ ปสฺสนฏฺโ, โส ยาถาวฏฺโ, ตํตํยาถาวตฺถุํ วิภาเวตีติ ยาถาวกวตฺถุวิภาวนา ปฺา. เอวํ เอกวิเธน าณวตฺถูติ เอวํ วุตฺเตน เอเกน ปกาเรน เอเกน อากาเรน, เอกโกฏฺาเสน าณวตฺถุ โหตีติ.

เอกกํ นิฏฺิตํ.

ทุเกสุ อตฺถชาปิกาติ เอตฺถ อตฺถปฏิสมฺภิทาวิภงฺเค วุตฺเตสุ ปฺจสุ อตฺเถสุ ยถานุรูปํ อตฺถํ ชาเปติ ชเนติ ปวตฺเตตีติ อตฺถชาปิกา, จตุภูมกกุสลจิตฺเตสุ เจว อเสขานํ อภิฺาสมาปตฺตีนํ ปริกมฺมาทิภูตกามาวจรกิริยาจิตฺเตสุ จ สมฺปยุตฺตา ปฺา. ตาสุ หิ ยสฺมา กุสลสมฺปยุตฺตาว ปฺา อตฺตโน อตฺตโน ภูมิปริยาปนฺนํ วิปากสงฺขาตํ อตฺถํ ชาเปติ ชเนติ. กามาวจรกิริยาสมฺปยุตฺตา ปน ปริกมฺมาทิภูตา อภิฺาสมาปตฺติกิริยา อรหตฺตผลสงฺขาตํ อตฺถํ ชาเปติ ชเนติ, ตสฺมา เอตา อตฺถชาปิกาติ วุตฺตา. อฏฺกถาสุ ปน ปาฬิยํ อวุตฺตาปิ ตีสุ ภูมีสุ กิริยชวนปฺา อนนฺตราทิปจฺจยวเสน อตฺตโน อนนฺตรํ กิริยตฺถํ ชาเปตีติ ‘‘อตฺถชาปิกา’’ตฺเวว วุตฺตา. ชาปิตตฺถา ปฺาติ สหชาตํ วิปากตฺถํ ชาเปตฺวา ิตา, อตฺตโน วา การเณหิ ชาปิตา ชนิตา ปวตฺติตา สยมฺปิ อตฺถภูตาติ ชาปิตตฺถา. จตุภูมกวิปาเกสุ จ กิริยาภิฺาสมาปตฺตีสุ จ สมฺปยุตฺตา ปฺา. อฏฺกถาสุ ปน ปาฬิยํ อวุตฺตา เสสกิริยาสมฺปยุตฺตาปิ ปฺา ยถาสกํ การเณหิ ชาปิตา, สยฺจ อตฺถภูตาติ ‘‘ชาปิตตฺถา’’ตฺเวว วุตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ทุกํ นิฏฺิตํ.

ติเกสุ ปน จินฺตามยตฺติเก ปรโต อทิสฺวา อสุตฺวาว อตฺตโน ธมฺมตาย ‘‘เอวํ สติ เอวํ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ จินฺตามยอนุพุทฺธิยา อุปฺปาทิตา อนวชฺชกมฺมายตนสิปฺปายตนวิชฺชาฏฺาเนสุ ปฺา เจว กมฺมสฺสกตาณํ, สจฺจานุโลมิกาณฺจ จินฺตามยา นาม ปฺา. ตตฺถ วฑฺฒกิกมฺมปุปฺผฉฑฺฑกกมฺมาทิ หีนฺเจว กสิวาณิชฺชาทิ อุกฺกฏฺฺจ กมฺมเมว กมฺมายตนํ. นฬการเปสการสิปฺปาทิ หีนฺเจว มุทฺทาคณนาเลขาทิ อุกฺกฏฺฺจ สิปฺปเมว สิปฺปายตนํ. นาคมณฺฑลปริตฺตาทิ ธมฺมิกวิชฺชาว วิชฺชาฏฺานํ. เตสุ จินฺตาพเลเนว อุปฺปนฺนา ปฺา. โพธิสตฺตาทโย หิ สตฺตหิตาย อทิฏฺํ อสุตํ ตํตํอนวชฺชกมฺมสิปฺปตทุปกรณกรณปฺปการฺจ าณพเลน จินฺเตตฺวา นิปฺผาเทนฺติ. นาคมณฺฑลปริตฺตาทิวิชฺชมฺปิ อุปฺปาเทนฺติ, เอวํ กตานิปิ ตานิ ปุพฺเพ อุคฺคณฺหิตฺวา กโรนฺเตหิ กตสิปฺปสทิสาเนว โหนฺติ. กมฺมสฺสกตาณํ นาม กุสลกมฺมํ สตฺตานํ สกํ, อกุสลํ โน สกนฺติ เอวํ ชานนปฺา. อถ วา กุสลกมฺมเมว สตฺตานํ สกํ ตทายตฺถวุตฺติตาย, นาฺนฺติ เอวํ ชานนปฺาปิ. สจฺจานุโลมิกํ าณนฺติ วิปสฺสนาาณํ. ตํ หิ มคฺคสจฺจสฺส ปรมตฺถสจฺจสฺส อนุโลมนโต ‘‘สจฺจานุโลมิก’’นฺติ วุจฺจติ. อิทมฺปิ หิ าณทฺวยํ ปรโต อสุตฺวา จินฺตาพเลน อุปฺปาทิตํ จินฺตามยาณเมว โหติ. อิทฺจ น เยสํ เกสฺจิ สตฺตานํ อุปฺปชฺชติ, อภิฺาตานํ ปน ปุฺวนฺตานํ มหาสตฺตานเมว อุปฺปชฺชติ. ตตฺถาปิ สจฺจานุโลมิกาณํ ปจฺฉิมภวิกานํ ทฺวินฺนฺเว โพธิสตฺตานํ อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ. สุตมยา ปฺาติ ปรโต สุตฺวา สุตวเสน อุปฺปาทิตา ยถาวุตฺตกมฺมายตนาทิปฺาว. ปรโต อสุตฺวา ปน กมฺมายตนาทิ ปเรน กยิรมานํ, กตํ วา ทิสฺวา อุคฺคเหตฺวา วา ปฏิลทฺธาปิ ปฺา ‘‘สุตมยา’’ตฺเวว วุจฺจติ. ตทุภยาปิ จินฺตามยา, สุตมยา จ กามาวจราว. ภาวนามยา ปน ปฺา จินฺตามยวเสน, สุตมยวเสน วา ปวตฺติตกามาวจรปุพฺพภาคภาวนานิปฺผตฺติยา สมุปฺปนฺนา มหคฺคตโลกุตฺตรชวนปฺา.

ทานมยตฺติเก เทยฺยธมฺมปริจฺจาควเสน ปวตฺตา ทานมยา, สีลปูรณวเสน ปวตฺตา สีลมยา, ตทุภยาปิ กามาวจราว. ภาวนามยา ปเนตฺถ สมถวิปสฺสนาวเสน ปวตฺตา จตุภูมกปฺา. นิทฺเทเส ปนสฺส กิฺจาปิ ‘‘สมาปนฺนสฺส ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๖๘) เอวํ มหคฺคตโลกุตฺตรปฺาว วุตฺตา, ตถาปิ ตํ อุกฺกฏฺวเสน วุตฺตํ. กามาวจรานํ ปน ปุพฺพภาคภาวนานํ, อนุสฺสติอุปจารภาวนานฺจ ภาวนามเย สงฺคโหติ ทฏฺพฺพํ. ปุริมตฺติเก ปเนตาสํ จินฺตามเย สงฺคหิตตฺตา ภาวนามเย อสงฺคโห, ตตฺถาปิ ภาวนาพลนิปฺผนฺนานเมว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

อธิสีลตฺติเก ปาติโมกฺขสํวรสีลํ วิปสฺสนาเหตุตฺตา เสสสีลโต อธิกํ สีลนฺติ อธิสีลํ, ตสฺมึ สมฺปยุตฺตา ปฺา อธิสีเล ปฺา. วิปสฺสนาปาทิกา ปน อฏฺ สมาปตฺติโย เสสจิตฺเตหิ อธิกตฺตา อธิจิตฺตํ, ตสฺมึ ปฺา อธิจิตฺเต ปฺา, จิตฺตสีเสน เจตฺถ สมาธิ นิทฺทิฏฺโ. สวิปสฺสนา ปน มคฺคผลปฺา เสสาหิ อธิกตฺตา อธิปฺา นาม. สา จ อธิปฺาย ปฺาติ เทสนาย สมรสตาย วุตฺตา. สีลาทโย ‘‘สีลํ จิตฺตํ ปฺา, อธิสีลํ อธิจิตฺตํ อธิปฺา’’ติ ปจฺเจกํ ทุวิธา โหนฺติ. เตสุ ปุริมา ปฺจสีลทสสีลานิ, วฏฺฏปาทิกอฏฺสมาปตฺติโย, นิพฺเพธภาคิยกมฺมสฺสกตปฺา จ ยถากฺกมํ โหนฺติ. เต จ ธมฺมา อนุปฺปนฺเนปิ ตถาคเต โพธิสตฺตานํ, ตาปสปริพฺพาชกานํ, จกฺกวตฺติราชาทีนฺจ กาเล ปวตฺตนฺติ, ปจฺฉิมา ปน วุตฺตาวเสสา อุปฺปนฺเน เอว ตถาคเต วิตฺถาริกา โหนฺติ, โน อนุปฺปนฺเนติ เวทิตพฺโพ. เอตฺถ จ รตนตฺตเย ทานาปจายนาทิวเสน, สรณคมนสทฺธมฺมสวนาทิวเสน จ ปวตฺตา วิวฏฺฏูปนิสฺสยภูตา กุสลธมฺมาปิ อธิสีลอธิปฺาสุ คหิตา เอวาติ คเหตพฺพา.

อายโกสลฺลตฺติเก อาโยติ วฑฺฒิ, สา อกุสลาทิอนตฺถหานิโต, กุสลาทิอตฺถุปฺปตฺติโต จ ทุวิธา. อปาโยติ อวฑฺฒิ, สาปิ กุสลาทิอตฺถหานิโต, อกุสลาทิอนตฺถุปฺปตฺติโต จ ทุวิธา. เตสุ โกสลฺลํ, กุสลสภาวา ปฺา. อปายโกสลฺลํ ปฺวโต เอว ‘‘เอวํ มนสิการาทิปฺปวตฺติยํ อวฑฺฒิ อุปฺปชฺชติ, วฑฺฒิ ปริหายตี’’ติ ตฺวา ตทุภยปฏิปตฺติสมฺภวโต. อุปายโกสลฺลนฺติ อตฺร อุปาโย อจฺจายิกกิจฺจาทีสุ านุปฺปตฺติกอุปายชานนปฺา, ติวิธาปิ เจตา กามาวจรปฺาติ เวทิตพฺพา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

ติกํ นิฏฺิตํ.

จตุกฺเกสุ ปน ปเม กมฺมสฺสกตาณํ สจฺจานุโลมิกํ าณฺจ วุตฺตเมว, อิธ ปน เปตฺวา สจฺจานุโลมิกาณํ สพฺพาปิ สาสวา กุสลา ปฺา กมฺมสฺสกตาณนฺติ เวทิตพฺพํ. จตูสุ มคฺเคสุ, ผเลสุ จ ปฺาว มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ, ผลสมงฺคิสฺส าณฺจาติ.

สจฺจจตุกฺเก อริยมคฺคผลปฺาว จตูสุ สจฺเจสุ เอกปฏิเวธวเสน ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทินา จตูสุ าเนสุ คหิตา. กิฺจาปิ หิ กามาวจราณมฺปิ จตูสุ สจฺเจสุ อารมฺมณวเสน ปวตฺตติ, ปฏิเวธกิจฺจวเสน ปน อิธาธิปฺเปตตฺตา ปาฬิยํ ตํ น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

ธมฺมจตุกฺเก มคฺคผเลสุ ปฺา ธมฺเม าณํ นาม. เตสุ หิ มคฺคาณํ ตาว จตุสจฺจธมฺมานํ เอกปฏิเวธวเสน ชานนโต ‘‘ธมฺเม าณ’’นฺติ วุจฺจติ. ผลาณํ ปน นิโรธสจฺจวเสน ธมฺเม าณนฺติ เวทิตพฺพํ. มคฺคานุภาวนิพฺพตฺตํ ปน อตีตานาคเตสุ สจฺจปฏิเวธนยสงฺคหณวเสน ปวตฺตํ ปจฺจเวกฺขณาณํ อนฺวเย าณํ นาม. ตสฺส จ เยหิ นเยหิ อริยา อตีตมทฺธานํ จตุสจฺจธมฺมํ ชานึสุ, เตปิ อิมฺเว จตุสจฺจํ เอวเมว ชานึสุ, อนาคตมทฺธานมฺปิ ชานิสฺสนฺตีติ เอวํ ชานนวเสน ปวตฺติ อากาโร เวทิตพฺโพ. สราคาทิวเสน ปรจิตฺตปริจฺเฉทาณํ ปริเย าณํ นาม. ธมฺมนฺวยปริยาณานิ ปน เปตฺวา สพฺพโลกิยปฺาาณนฺติ สมฺมตตฺตา สมฺมุติมฺหิ าณนฺติ สมฺมุติาณํ นาม.

อาจยจตุกฺเก กามาวจรกุสเล ปฺา อาจยาย โน อปจยาย. สา หิ จุติปฏิสนฺธึ อาจิโนติ เอว, โน อปจิโนติ. มคฺคปฺา ปน อปจยาย โน อาจยาย. รูปารูปกุสลปฺา อาจยาย เจว อปจยาย จ. สา หิ วิกฺขมฺภนวเสน กิเลเส จ ตมฺมูลเก จ วิปากธมฺเม อปจิโนติ. เสสา อพฺยากตา ปฺา เนวาจยาย โน อปจยาย.

นิพฺพิทาจตุกฺเก รูปาวจรปมชฺฌานปฺา นิพฺพิทาย โน ปฏิเวธาย. สา หิ กามวิเวเกน ปตฺตพฺพตฺตา กิเลสนิพฺพิทาย ปวตฺตติ, อภิฺาปาทกภาวํ ปน อปฺปตฺตตาย เนวาภิฺาปฏิเวธาย สํวตฺตติ. จตุตฺถชฺฌานปฺา ปฏิเวธาย โน นิพฺพิทาย. สา หิ อภิฺาปาทกภาเวนาปิ อภิฺาภาวปฺปตฺติยาปิ ปฏิเวธาย สํวตฺตติ. ปมชฺฌานกฺขเณ เอว นีวรณนิพฺพินฺทนตฺตา โน นิพฺพิทาย. ทุติยตติยชฺฌานปฺา ปน โสมนสฺสสหคตตาย ปมชฺฌานสนฺนิสฺสิตา วา อวิตกฺกตาย จตุตฺถชฺฌานสนฺนิสฺสิตา วา กาตพฺพา. มคฺคปฺา ปน นิพฺพิทาย เจว ปฏิเวธาย จ. เอตฺถ หิ จตุสจฺจปฏิเวธวเสน นิพฺพิทาย เจเวตาสํ ฉฬภิฺาปฺปตฺติยา ปฏิเวธาย จ สํวตฺตนํ เวทิตพฺพํ. เสสา โลกิยโลกุตฺตรา ปฺา เนว นิพฺพิทาย โน ปฏิเวธาย.

หานภาคิยจตุกฺเก หานํ ภชตีติ หานภาคินี, เอวํ เสเสสุปิ. นิพฺเพโธติ เจตฺถ อริยมคฺโค ตนฺนิพฺพตฺตกวิปสฺสนาปาทกตฺตา. นิพฺเพธภาคินีติ จตูสุปิ าเนสุ รูปารูปกุสลปฺาว วุตฺตา. ตานิ หิ อตฺตโน สภาวา ปริหายิตฺวา เหฏฺา โอโรหณปจฺจยภูตา หานภาคินี. อุปนิชฺฌานปจฺจยภูตา วิเสสภาคินี, ตํ ปน ฌานนิกนฺติยา พลวตาย วิเสสํ, หานึ วา อนุสฺสุกฺกิตฺวา ิติโกฏฺาสิกา ิติภาคินี, อริยมคฺคปทฏฺานวิปสฺสนาปาทกภูตาว นิพฺเพธภาคินี จ โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

จตสฺโส ปฏิสมฺภิทาติ อตฺถธมฺมนิรุตฺติปฏิภานปฏิสมฺภิทาว. จตสฺโส ปฏิปทาติ ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาทโย เหฏฺา วุตฺตาว. จตฺตาริ อารมฺมณานีติ ปริตฺตา, ปริตฺตารมฺมณาติอาทิกา เหฏฺา วุตฺตนยาว. ชรามรณาทิจตุกฺเกสุปิ มคฺคาณวเสเนว จตสฺโส โยชนา วุตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

จตุกฺกํ นิฏฺิตํ.

ปฺจเกสุ ปน ปฺจงฺคิโก สมฺมาสมาธีติ ปีติผรณตา สุขผรณตา เจโตผรณตา อาโลกผรณตา ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตนฺติ เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตหิ ปฺจหิ าณงฺเคหิ สมนฺนาคโต สมาธิ. ตตฺถ ปีตึ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ทฺวีสุ ฌาเนสุ ปฺา ปีติผรณตา นาม, สุขํ ผรมานา อุปฺปชฺชตีติ ตีสุ ฌาเนสุ ปฺา สุขผรณตา นาม. ปเรสํ เจโตผรมานา อุปฺปชฺชตีติ เจโตปริยาณํ เจโตผรณตา นาม. อาโลกผรเณ อุปฺปชฺชตีติ ทิพฺพจกฺขุาณํ อาโลกผรณตา นาม. ปจฺจเวกฺขณาณํ ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ นาม. เอตฺถ จ ปีติผรณตา, สุขผรณตา จ ทฺเว ปาทา วิย, เจโตผรณตา, อาโลกผรณตา จ ทฺเว หตฺถา วิย, ปจฺจเวกฺขณนิมิตฺตํ สีสํ วิย, อภิฺาปาทกชฺฌานํ มชฺฌิมกาโย วิย. อิติ ภควา ปฺจงฺคิกํ สมฺมาสมาธึ องฺคปจฺจงฺคสมฺปนฺนํ ปุริสํ วิย กตฺวา ทสฺเสติ. อิมินา จ สมาธินา องฺคานิ ปฺจ าณงฺคานิ วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ.

ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธีติ –

‘‘‘อยํ สมาธิ ปจฺจุปฺปนฺนสุโข เจว อายติฺจ สุขวิปาโก’ติ ปจฺจตฺตฺเว าณํ อุปฺปชฺชติ, ‘อยํ สมาธิ อริโย นิรามิโส’ติ…เป… ‘มหาปุริสเสวิโต’ติ…เป… ‘สนฺโต ปณีโต ปฏิปสฺสทฺธิลทฺโธ เอโกทิภาวาธิคโต น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต’ติ…เป… ‘โส โข ปนาหํ อิมํ สมาธึ สโตว สมาปชฺชามิ, สโต วุฏฺหามี’ติ ปจฺจตฺตฺเว าณํ อุปฺปชฺชตี’’ติ (วิภ. ๘๐๔) –

เอวํ ปาฬิยํ วุตฺเตหิ ปฺจหิ ปจฺจเวกฺขณาเณหิ ยุตฺโต อรหตฺตผลสงฺขาโต สมาปตฺติผลสมาธิ. โส เอวํ หิ อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ สุขตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนสุโข, ปุริโม ปุริโม ปจฺฉิมสฺส ปจฺฉิมสฺส สมาธิสุขสฺส เจว อตฺตนา สมุฏฺาปิตมฺปิ ปณีตรูเปน ผุฏฺสกลกายตาย ผลสมาปตฺติโต วุฏฺิตกาเล อติปณีตํ กายวิฺาณสุขสฺส ปจฺจยตฺตา อายตึ สุขวิปาโก อุปฺปชฺชติ, อิมินาปิ ปริยาเยน อายตึ สุขวิปาโกติ เอกํ องฺคํ, กิเลเสหิ อารกตฺตา อริโย กามามิสวฏฺฏามิสโลกามิสานํ อภาวา นิรามิโสติ เอกํ, พุทฺธาทีหิ มหาปุริเสหิ เสวิตตฺตา อกาปุริสเสวิโสติ เอกํ, องฺคารมฺมเณ สนฺตตาย, สพฺพกิเลสทรถสนฺตตาย จ สนฺโต อตปฺปนียฏฺเน ปณีโต กิเลสปฏิปสฺสทฺธิภาวสฺส ลทฺธตฺตา ปฏิปสฺสทฺธลทฺโธ เอโกทิภาเวน จ อธิคโต อปฺปคุณสาสวสมาธิ วิย สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน ปจฺจนีกธมฺเม นิคฺคยฺห กิเลเส วาเรตฺวา อนธิคตตฺตา น สสงฺขารนิคฺคยฺหวาริตคโต. ปุคฺคลสฺสายํ สมาธีติ เอวํ ขีณาสวสฺส สติเวปุลฺลปฺปตฺติยา ยถาปริจฺฉินฺนกาลวเสน อิมํ สมาธึ สโตว สมาปชฺชติ, อุฏฺหติ จาติ เอกมงฺคนฺติ อิเมหิ ปฺจหิ องฺเคหิ สพฺพาการโต ยุตฺตตฺตา ‘‘ปฺจาณิโก สมฺมาสมาธี’’ติ วุจฺจติ.

ปฺจกํ นิฏฺิตํ.

ฉกฺเก ฉสุ อภิฺาสุ ปฺาติ อิทฺธิวิเธ าณํ, ทิพฺพโสตธาตุยา าณํ, เจโตปริเย าณํ, ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติยํ าณํ, จุตูปปาเต าณํ, อาสวานํ ขเย าณนฺติ เอวํ วุตฺตานิ ฉฬภิฺาจิตฺตสมฺปยุตฺตานิ าณานิ. เตสุ ปจฺฉิมํ โลกุตฺตรํ, เสสานิ รูปาวจรปฺจมชฺฌานิกานีติ.

ฉกฺกํ นิฏฺิตํ.

สตฺตเก สตฺตสตฺตติ าณวตฺถูนีติ ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา’’ติ ปจฺจเวกฺขณาณํ เอกํ, ‘‘อสติ อวิชฺชาย นตฺถิ สงฺขารา’’ติ เอกนฺติ ทฺเว าณานิ, เอวํ อตีเตปิ ทฺเว, อนาคเตปิ ทฺเวติ ฉ, ตํ ฉพฺพิธมฺปิ าณํ ‘‘ขยธมฺม’’นฺติอาทินา ปจฺจเวกฺขณาเณน สทฺธึ สตฺต าณานิ. เอวํ เสเสสุปิ ชาติปริโยสาเนสุ จาติ เอวํ เอกาทสสุ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ ปจฺเจกํ กาลตฺตเยปิ อนฺวยพฺยติเรกาณํ เตสํ วยทสฺสนาณสฺส จ วเสน สตฺต สตฺต กตฺวา สตฺตสตฺตติ าณานิ.

สตฺตกํ นิฏฺิตํ.

อฏฺกํ สุวิฺเยฺยเมว.

นวเก นวสุ อนุปุพฺพวิหารสมาปตฺตีสุ ปฺาติ นิโรธสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺตสฺส อนุปฏิปาฏิยา วิหาตพฺพโต อุปฺปาเทตพฺพโต อนุปุพฺพวิหารสงฺขาตาสุ รูปารูปสมาปตฺตีสุ สมฺปยุตฺตา อฏฺ ปฺา เจว ตทนนฺตรํ นิโรธํ ผุสิตฺวา วุฏฺิตสฺส นิโรธํ สนฺตโต ปจฺจเวกฺขณาณฺจาติ นว.

นวกํ นิฏฺิตํ.

ทสเก ตถาคตสฺสาติ ยถา วิปสฺสีอาทโย ปุพฺพกา อิสโย อาคตา, ตถา อาคตสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ตถาคตพลานีติ อฺเหิ อสาธารณานิ ตถาคตสฺเสว พลานิ, ยถา วา ปุพฺพพุทฺธานํ พลานิ ปุฺุสฺสยสมฺปตฺติยา อาคตานิ, ตถา อาคตานิ พลานีติปิ อตฺโถ. ตตฺถ ทุวิธํ ตถาคตสฺส พลํ กายพลํ, าณพลฺจ. เตสุ กายพลํ หตฺถิกุลานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วุตฺตํ เหตํ โปราเณหิ –

‘‘กาฬาวกฺจ คงฺเคยฺยํ, ปณฺฑรํ ตมฺพปิงฺคลํ;

คนฺธมงฺคลเหมฺจ, อุโปสถฉทฺทนฺติเม ทสา’’ติ. (วิภ. อฏฺ. ๗๖๐; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. อฏฺ. ๒.๒.๒๒; อ. นิ. ๑๐.๒๑; อุทา. อฏฺ. ๗๕; พุ. วํ. อฏฺ. ๑.๓๙; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๒.๔๔; จูฬนิ. อฏฺ. ๘๑);

อิมานิ หิ ทส หตฺถิกุลานิ. ตตฺถ กาฬาวกนฺติ ปกติหตฺถิกุลํ, ยํ ทสนฺนํ ปุริสานํ กายพลํ, ตํ เอกสฺส กาฬาวกหตฺถิโน พลํ, ยํ เตสํ ทสนฺนํ พลํ, ตํ เอกสฺส คงฺเคยฺยสฺส, เตสํ ทสนฺนํ ปณฺฑรสฺส, เตสํ ทสนฺนํ ตมฺพสฺส, เตสํ ทสนฺนํ ปิงฺคลสฺส, เตสํ ทสนฺนํ คนฺธหตฺถิโน, เตสํ ทสนฺนํ มงฺคลสฺส, เตสํ ทสนฺนํ เหมสฺส, เตสํ ทสนฺนํ อุโปสถสฺส, เตสํ ทสนฺนํ พลํ ฉทฺทนฺตสฺส, ยํ ทสนฺนํ ฉทฺทนฺตานํ พลํ, ตํ ตถาคตสฺส นารายณพลนฺติ วุจฺจติ. ตเทตํ ปกติหตฺถิคณนาย หตฺถีนํ โกฏิสหสฺสํ, ปุริสคณนาย ทสนฺนํ ปุริสโกฏิสหสฺสานํ พลํ โหติ. อิทํ ตาว ตถาคตสฺส กายพลํ. ยานิ ปน ทสพลจตุเวสารชฺชาทีนิ อเนกานิ าณสหสฺสานิ, เอตํ าณพลํ นาม. อิธาปิ าณพลเมว อธิปฺเปตํ. าณฺหิ อกมฺปิยฏฺเน, อุปตฺถมฺภนฏฺเน จ พลนฺติ วุตฺตํ.

เยหิพเลหิ สมนฺนาคโตติ เยหิ ทสหิ าณพเลหิ อุเปโต. อาสภณฺานนฺติ เสฏฺฏฺานํ. อปิจ ควสตเชฏฺโก อุสโภ, ควสหสฺสเชฏฺโก วสโภ. วชสตเชฏฺโก วา อุสโภ, วชสหสฺสเชฏฺโก วสโภ, สพฺพควเสฏฺโ นิสโภ, เสโต ปาสาทิโก มหาภารวโห สพฺพปริสฺสยสโห อสนิสตสทฺเทหิปิ อกมฺปนีโย นิสโภ, โส อิธ อุสโภติ อธิปฺเปโต. อิทมฺปิ หิ ตสฺส ปริยายวจนํ. อุสภสฺส อิทนฺติ อาสภํ. านนฺติ ตสฺส นิสภพลสมนฺนาคตสฺส จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺานํ, อิทํ ปน อาสภํ วิยาติ อาสภํ. ยเถว หิ นิสภสงฺขาโต อุสโภ อุสภพเลน สมนฺนาคโต จตูหิ ปาเทหิ ปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา อจลฏฺาเนน ติฏฺติ, เอวํ ตถาคโตปิ หิ ทสพลสมนฺนาคโต จตุเวสารชฺชปาเทหิ อฏฺปริสปถวึ อุปฺปีเฬตฺวา สเทวเก โลเก เกนจิ อปฺปธํสิโย อจเลน าเนน ติฏฺติ, ตฺเจส ปฏิชานาติ อุปคจฺฉติ น ปจฺจกฺขาติ อตฺตนิ อาโรเปติ, เตน วุตฺตํ ‘‘อาสภํ านํ ปฏิชานาตี’’ติ (วิภ. ๗๖๐).

ปริสาสูติ อฏฺสุ ปริสาสุ. สีหนาทํ นทตีติ เสฏฺนาทํ อภีตนาทํ, สีหนาทสทิสํ วา นาทํ นทติ. อยมตฺโถ สีหนาทสุตฺเตน ทีเปตพฺโพ. ยถา วา สีโห สหนโต จ หนนโต จ ‘‘สีโห’’ติ วุจฺจติ, เอวํ ตถาคโตปิ โลกธมฺมานํ สหนโต, ปรปฺปวาทานฺจ หนนโต ‘‘สีโห’’ติ วุจฺจติ, ตสฺส นาทํ นทติ.

พฺรหฺมจกฺกนฺติอาทีสุ พฺรหฺมนฺติ อุตฺตมํ วิสุทฺธํ. จกฺก-สทฺโท ปนายํ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, จกฺกานิ, เยหิ สมนฺนาคตานํ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๓๑) สมฺปตฺติยํ ทิสฺสติ. ‘‘ปาทตเลสุ จกฺกานิ ชาตานี’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๕; ๓.๒๐๔; ม. นิ. ๒.๓๘๖) ลกฺขเณ. ‘‘จกฺกํว วหโต ปท’’นฺติ (ธ. ป. ๑) เอตฺถ รถงฺเค. ‘‘จตุจกฺกํ นวทฺวาร’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๙) เอตฺถ อิริยาปเถ. ‘‘จกฺกํ ปวตฺตย สพฺพปาณิน’’นฺติ (ชา. ๑.๗.๑๔๙) เอตฺถ ทาเน. ‘‘ทิพฺพํ จกฺกรตนํ ปาตุรโหสี’’ติ (ที. นิ. ๓.๘๕) เอตฺถ รตนจกฺเก. ‘‘อิจฺฉาหตสฺส โปสสฺส, จกฺกํ ภมติ มตฺถเก’’ติ (ชา. ๑.๑.๑๐๔; ๑.๕.๑๐๓) เอตฺถ อุรจกฺเก. ‘‘ขุรปริยนฺเตน เจปิ จกฺเกนา’’ติ (ที. นิ. ๑.๑๖๖) เอตฺถ ปหรณจกฺเก. ‘‘อสนิจกฺก’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๖๑; สํ. นิ. ๒.๑๖๒) เอตฺถ อสนิมณฺฑเล. ‘‘มยา ปวตฺติตํ จกฺก’’นฺติ (สุ. นิ. ๕๖๒) เอตฺถ ธมฺมจกฺเก. อิธ ปน ธมฺมจกฺเก ปวตฺตติ.

ธมฺมจกฺกฺจ ทุวิธํ โหติ ปฏิเวธาณฺจ เทสนาาณฺจ. ตตฺถ ปฺาปภาวิตํ อตฺตโน อริยผลาวหํ โลกุตฺตรํ ปฏิเวธาณํ, กรุณาปภาวิตํ สาวกานํ อริยผลาวหํ กามาวจรํ เทสนาาณํ, อุภยมฺปิ ปเนตํ อฺเหิ อสาธารณํ พุทฺธานฺเว โอรสาณํ, ตํ ปวตฺเตติ อุปฺปาเทติ วิภาเวติ วิตฺถาริกํ กโรตีติ อตฺโถ.

อิทานิ ยานิ ทส าณานิ อาทิโต ‘‘ตถาคตพลานี’’ติ นิกฺขิตฺตานิ, ตานิ วิตฺถาเรตุํ ‘‘กตมานิ ทส? อิธ ตถาคโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ านฺจ านโตติ การณฺจ การณโต. การณํ หิ ยสฺมา ตตฺถ ผลํ ติฏฺติ ตทายตฺตวุตฺติตาย อุปฺปชฺชติ เจว ปวตฺตติ จ, ตสฺมา านนฺติ วุจฺจติ. อฏฺานฺจ อฏฺานโตติ อการณฺจ อการณโต. ยมฺปีติ เยน าเณน ยถาภูตํ ปชานาติ, อิทมฺปิ านาานาณํ ตถาคตสฺส ตถาคตพลํ นาม โหตีติ อตฺโถ. เอวํ อุปริปิ สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. กถํ ปเนตฺถ ภควา านฺจ านโต, อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาตีติ? อฏฺานเมตํ อนวกาโส, ยํ ทิฏฺิสมฺปนฺโน ปุคฺคโล กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต อุปคจฺเฉยฺย…เป… กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต อุปคจฺเฉยฺย, มาตรํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปิตรํ…เป… อรหนฺตํ ชีวิตา โวโรเปยฺย, ปทุฏฺจิตฺเตน ตถาคตสฺส โลหิตํ อุปฺปาเทยฺย, สงฺฆํ ภินฺเทยฺย, อฺํ สตฺถารํ อุทฺทิเสยฺย, อฏฺมํ ภวํ นิพฺพตฺเตยฺย, เนตํ านํ วิชฺชติ, ปุถุชฺชโน ปเนตํ สพฺพํ กเรยฺยาติ านเมตํ วิชฺชตีติ ปชานาติ, ตถา ยํ เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตถา ทฺเว ราชาโน จกฺกวตฺตี อุปฺปชฺเชยฺยุํ, เนตํ านํ วิชฺชติ, เอโก ปน อุปฺปชฺชติ, านเมตํ วิชฺชตีติ ปชานาติ, ตถา ยํ กายทุจฺจริตาทีนํ ติณฺณํ ทุจฺจริตานํ อิฏฺโ วิปาโก, สุจริตานฺจ อนิฏฺโ วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺยาติ เนตํ านํ วิชฺชติ, ตพฺพิปรีโต ปน เนสํ วิปาโก นิพฺพตฺเตยฺยาติ านเมตํ วิชฺชตีติ, เย เย ธมฺมา เยสํ เยสํ ธมฺมานํ เหตู ปจฺจยา อุปฺปาทาย, ตํ ตํ านํ, อิตเร อฏฺานนฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, เอตฺถ ปนายํ สงฺเขปโต อฏฺกถาวินิจฺฉโย. ‘‘สุขโต อุปคจฺเฉยฺยา’’ติ อิทํ ‘‘เอกนฺตสุขี อตฺตา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๗) ทิฏฺิวิปลฺลาสวเสน สุขโต คาหํ สนฺธาย วุตฺตํ, สฺาจิตฺตวิปลฺลาสวเสน ปน อริยสาวโกปิ กิเลสปริฬาหาภิภูโต มตฺตหตฺถิปริตาสิโต วิย, สุจิกาโม คูถกูปํ วิย กฺจิ สงฺขารํ สุขโต อุปคจฺฉติ, อตฺตโต อุปคมนวาเร กสิณาทิปณฺณตฺติยา, นิพฺพานสฺส จ สงฺคณฺหนตฺถํ ‘‘สงฺขาร’’นฺติ อวตฺวา ‘‘กฺจิ ธมฺม’’นฺติ วุตฺตํ.

มาตรนฺติอาทีสุ กิฺจาปิ อริยสาวโก สีสจฺเฉทํ ปาปุณนฺโตปิ กุนฺถกิปิลฺลิกํ อุปาทาย ปาณาติปาตํ, อทินฺนาทานาทีสุ วา ยํกิฺจิ ทุจฺจริตํ อปายเหตุภูตํ กาตุํ ภวนฺตเรปิ น สกฺโกติ, ปุถุชฺชนภาวสฺส ปน มหาสาวชฺชตาทสฺสนตฺถเมตฺถ ปฺจานนฺตริยาเนว อุทฺธฏานิ. สาวชฺโช หิ ปุถุชฺชนภาโว, ยตฺร หิ นาม อานนฺตริยานิปิ กริสฺสตีติ. เอตฺถ จ มนุสฺสภูตสฺเสว มนุสฺสภูตํ ชนิกํ มาตรํ, ปิตรํ วา อปิ ปริวตฺตลิงฺคํ ชีวิตา โวโรเปนฺตสฺส กมฺมํ อานนฺตริยํ โหติ. ติรจฺฉานภูตํ ปน มาตรํ, ปิตรํ วา สยํ วา ติรจฺฉานภูโต มนุสฺสภูตํ, ติรจฺฉานภูตํ วา ชีวิตา โวโรเปนฺโต อานนฺตริยํ น ผุสติ, กมฺมํ ปน ภาริยํ, อานนฺตริยํ อาหจฺเจว ติฏฺติ. อรหนฺตมฺปิ มนุสฺสภูตเมว ฆาเตนฺโต อานนฺตริยํ ผุสติ. ตสฺส จ ปุถุชฺชนกาเล ปหารํ ทตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา ตสฺมึ เตเนว โรเคน มเตปิ อรหนฺตฆาตโก โหติ, น ยกฺขภูตํ อรหนฺตํ, เสสอริยปุคฺคเล วา มนุสฺสภูเตปิ ฆาเตนฺโต, กมฺมํ ปน อานนฺตริยสทิสํ โหติ. ยํ ปน ปุถุชฺชนกาเล ทินฺนํ ทานํ อรหตฺตํ ปตฺวา ปริภุฺชติ, ปุถุชฺชนสฺเสว ตํ ทินฺนํ โหติ, เสสอริยปุคฺคเล มาเรนฺตสฺส อานนฺตริยํ นตฺถิ, กมฺมํ ปน ครุกํ โหติ. เอตฺถ จ เอฬกาทิจตุกฺกํ เวทิตพฺพํ – ‘‘เอฬกํ มาเรมี’’ติ หิ อภิสนฺธินา เอฬกฏฺาเน นิปนฺนํ มาตรํ, ปิตรํ, อรหนฺตํ วา มาเรนฺโต อานนฺตริยํ ผุสติ, เอฬกาภิสนฺธินา วา มาตาทิอภิสนฺธินา วา เอฬกํ มาเรนฺโต อานนฺตริยํ น ผุสติ, มาตาทิอภิสนฺธินา เต เอว มาเรนฺโต ผุสเตว. เอส นโย โจรจตุกฺกาทีสุปิ.

โลหิตุปฺปาเท ตถาคตสฺส อเภชฺชกายตาย กุทฺธจิตฺตสฺส ปรสฺส อุปกฺกเมน จมฺมจฺเฉโท, โลหิตปคฺฆรณํ วา นตฺถิ, เทวทตฺเตน ปน ปวิทฺธสิลาโต ภิชฺชิตฺวา คตสกฺขลิกปฺปหาเรน วิย สรีรสฺส อนฺโตเยว เอกสฺมึ าเน ยถา ขุทฺทิกมกฺขิกาปิวนมตฺตมฺปิ โลหิตํ วิสมํ สโมสรติ, ตถา กโรนฺตสฺส อานนฺตริยํ โหติ, น ปน ชีวกสฺเสว มุทุจิตฺเตน ทุฏฺโลหิตํ นีหริตฺวา ผาสุกํ กโรนฺตสฺส , ปุฺเมว ปนสฺส โหติ, ปรินิพฺพุเต ภควติ เจติยํ ภินฺทนฺตสฺส, โพธึ ฉินฺทนฺตสฺส, ธาตูสุ อุปกฺกมนฺตสฺส จ อานนฺตริยํ น โหติ, กมฺมํ ปน อานนฺตริยสทิสํ โหติ. โพธิรุกฺขสฺส ปน ถูปํ วา สธาตุกํ ปฏิมํ วา พาธยมานํ สาขํ, เจติยวตฺถุํ ภินฺทิตฺวา คจฺฉนฺตํ โพธิมูลฺจ ฉินฺทิตฺวา หริตุํ วฏฺฏติ. สเจปิ สาขาย นิลีนา สกุณา เจติเย วจฺจํ ปาเตนฺติ, ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ. ปริโภคเจติยโต หิ สรีรเจติยเมว มหนฺตตรํ. ธาตุนิธานรหิตํ ปฏิมาฆรํ วา โพธิฆรํ วา พาเธนฺตํ สาขํ ฉินฺทิตุํ น วฏฺฏติ, โอโชหรณสาขํ, ปนสฺส ปูติฏฺานํ วา ฉินฺทิตุํ วฏฺฏติ, สรีรปฏิชคฺคเน วิย ปุฺเมว โหติ.

สงฺฆเภเท สมานสํวาสสีมาย สมานสํวาสเก สงฺเฆ เอกโต ิเต วิสุํ วคฺคสงฺฆํ คเหตฺวา ปฺจหิ การเณหิ สงฺฆํ ภินฺทนฺตสฺส สงฺฆเภโท โหติ อานนฺตริยกมฺมฺจ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘ปฺจหิ, อุปาลิ, อากาเรหิ สงฺโฆ ภิชฺชติ. กตเมหิ ปฺจหิ? กมฺเมน อุทฺเทเสน โวหรนฺโต อนุสฺสาวเนน สลากคฺคาเหนา’’ติ (ปริ. ๔๕๘). ตตฺถ กมฺเมนาติ อปโลกนาทีสุ จตูสุ อฺตเรน กมฺเมน. อุทฺเทเสนาติ ปาติโมกฺขุทฺเทเสน. โวหรนฺโต กถยนฺโต ตาหิ ตาหิ อุปปตฺตีหิ ‘‘อธมฺมํ ธมฺโม’’ติอาทีนิ อฏฺารส เภทกรวตฺถูนิ ทีเปนฺโต. อนุสฺสาวเนนาติ ‘‘นนุ ตุมฺเห ชานาถ มยฺหํ พหุสฺสุตาทิภาวํ, กถํ หิ นาม มาทิโส อุทฺธมฺมํ อุพฺพินยํ สตฺถุสาสนํ คาเหยฺย, กิมหํ อปายโต น ภายามี’’ติอาทินา นเยน กณฺณมูเล วจีเภทํ กตฺวา อนุสฺสาวเนน. สลากคฺคาเหนาติ เอวํ โวหารานุสฺสาวเนหิ เตสํ จิตฺตํ อุปตฺถมฺเภตฺวา อนิวตฺติธมฺมํ กตฺวา ‘‘คณฺหถ อิมํ สลาก’’นฺติ สลากคฺคาเหน.

เอตฺถ จ กมฺมเมว อุทฺเทโส วา ปมาณํ, โวหารานุสฺสาวนสลากคฺคาหา ปน ปุพฺพภาคา. เตสุ นิปฺผนฺเนสุปิ อภินฺโนว โหติ สงฺโฆ. ยทา ปน โวหารานุสฺสาวเนหิ จตฺตาโร วา อติเรเก วา ภิกฺขู สลากํ คาเหตฺวา วคฺคํ สงฺฆํ คเหตฺวา วิสุํ กมฺมํ วา อุทฺเทสํ วา กโรติ, ตทา สงฺโฆ ภินฺโน นาม โหติ. อเภทปุเรกฺขารสฺส ปน สมคฺคสฺาย วฏฺฏติ. สมคฺคสฺาย หิ กโรนฺตสฺส เนว เภโท โหติ, น อานนฺตริยํ, ตถา ตโต อูนปริสาย กโรนฺตสฺส. วุตฺตํ เหตํ ‘‘เอกโต, อุปาลิ, จตฺตาโร โหนฺติ เอกโต จตฺตาโร, นวโม อนุสฺสาเวตี’’ติอาทิ (จูฬว. ๓๕๑).

อิเมสุ ปน ปฺจสุ อานนฺตริเยสุ สงฺฆเภโท วจีกมฺมํ, เสสานิ กายกมฺมานิ, สพฺพาเนว โข ตานิ กายทฺวารโตปิ วจีทฺวารโตปิ สมุฏฺหนฺติ. สงฺฆเภโทปิ หิ หตฺถมุทฺทาย เภทํ กโรนฺตสฺส กายทฺวารโตปิ สมุฏฺาติ, สงฺฆเภโท เจตฺถ กปฺปฏฺิติโย. กปฺปวินาเส เอว หิ สงฺฆเภทโต มุจฺจติ, เสสานํ ปน ตถา นิยโม นตฺถิ. เยน จ ปฺจเปตานิ กมฺมานิ กตานิ โหนฺติ, ตสฺส สงฺฆเภโทว นิรเย วิปจฺจติ, เสสานิ ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ เอวมาทีสุ สงฺขฺยํ คจฺฉนฺติ. สงฺฆเภทาภาเว โลหิตุปฺปาโท, ตทภาเว อรหนฺตฆาโต , ตทภาเว มาตุฆาโต, ปิตุฆาโต วา, ตสฺมิมฺปิ สีลสมฺปนฺนตเร. ปุริมานิ เจตฺถ จตฺตาริ สพฺเพสํ คหฏฺปพฺพชิตานํ สาธารณานิ, สงฺฆเภโท ปน ปกตตฺตสฺส ภิกฺขุโนว, อสาธารโณ อฺเสํ, ภิกฺขุนีปิ หิ สงฺฆํ น ภินฺทติ, ปเคว อิตเร. ปฺจปิ เจตานิ ทุกฺขเวทนาสมฺปยุตฺตานิ, โทสมูลานิ จาติ เวทิตพฺพานิ.

อฏฺมํ ภวํ นิพฺพตฺเตยฺยาติ เอตฺถ อริยสาวกสฺส อฏฺมภวาคหณํ เกน นิยามิตนฺติ? วิปสฺสนาย. ยสฺส หิ สา ติกฺขา, โส เอกํ เอว ภวํ นิพฺพตฺติตฺวา อรหตฺตํ ปตฺวา เอกพีชี นาม โหติ. ยสฺส มนฺทา, โส ทุติเย…เป… ฉฏฺเ วา ภเว อรหตฺตํ ปตฺวา โกลํโกโล นาม โหติ. ยสฺส ปน อติมนฺทา, โส สตฺตมํ ภวํ นาติกฺกมติ, ตตฺถ นิยเมน อรหตฺตํ ปาปุณิตฺวา สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ. สเจปิ หิสฺส สตฺตเม ภเว นิทฺทํ โอกฺกนฺตสฺส มตฺถเก อสนิ วา ปพฺพตกูโฏ วา ปเตยฺย, ตสฺมิมฺปิ กาเล อรหตฺตํ ปตฺวาว ปรินิพฺพาติ. อุตฺตมโกฏิยา หิ สตฺตมภวานติกฺกมนฺเว สนฺธาเยว ‘‘นิยโต สมฺโพธิปรายโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๖๖; ๒.๑๖๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๘) วุตฺโตติ.

เอกิสฺสา โลกธาตุยา ทฺเว อรหนฺโต สมฺมาสมฺพุทฺธาติอาทีสุ ทสสหสฺสจกฺกวาฬสงฺขาตํ ชาติเขตฺตํ เอกา โลกธาตุ นาม อาณาวิสยเขตฺเตสุ พุทฺธุปฺปตฺติสงฺกาย เอวาภาวโต. ตตฺถ ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ อุปฺปตฺติปฏิเสธํ อกตฺวา ชาติเขตฺเต เอว กโต. เปตฺวา อิมํ จกฺกวาฬํ อฺสฺมึ จกฺกวาเฬ พุทฺธา น อุปฺปชฺชนฺติ พุทฺธตฺตเหตูนํ อนาทิพุทฺธปรมฺปราทีนํ ตถาภาวา. ตโต เอว หิ สตฺตา นิรวเสสโต นิพฺพุตึ น ปาปุณนฺติ. ยทิ หิ สพฺพจกฺกวาเฬสุ พุทฺธา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, สพฺเพ สตฺตา อิโต ปุพฺเพ นิรวเสสโต นิพฺพุตึ ปาปุเณยฺยุํ, น จ ตํ อตฺถิ, ตสฺมา อนาทิพุทฺธปรมฺปราย วิวฏฺฏูปนิสฺสยสมฺปนฺนานํ นิวาสภูเต อิมสฺมึ จกฺกวาเฬ เอว อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพา. เต เจตฺถาปิ ทุลฺลภา, เตสํ ทุลฺลภตฺตา เอเวตฺถ กปฺปานํ อสงฺขฺเยยฺยมฺปิ พุทฺธุปฺปาทรหิตํ โหติ. ยทิ จ เต สุลภา ภเวยฺยุํ, เอกสฺมึ วิวฏฺฏฏฺายิอสงฺขฺเยยฺเย จตุสฏฺิพุทฺธานมฺปิ อุปฺปชฺชิตุํ สกฺกา ภเวยฺย อนฺตรกปฺปสฺส พุทฺธนฺตรตฺตา. ภทฺทกปฺเปสุ เจตฺถ ปฺจ พุทฺธา เอว อุปฺปชฺชนฺติ. กถํ ปเนตฺถาปิ ทุลฺลภตรา จกฺกวาฬนฺตเรสุ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, พุทฺธานฺจ ทุลฺลภตา การณทุลฺลภตาย, ตสฺมา อิมสฺมิฺเว จกฺกวาเฬ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ? เอตฺถาปิ น เทวพฺรหฺมโลเกสุ, มนุสฺสโลเก เอว ปน อุปฺปชฺชนฺติ เอตฺเถว สพฺพโส ติวิธสทฺธมฺมาธารสฺส สงฺฆรตนสฺส ปาตุภาวโต, อิตรโลเกสุ นิรวเสสโต ปการาสมฺภวโต จ.

ยทิ หิ พุทฺธา เทวโลกาทีสุ อุปฺปชฺเชยฺยุํ, มนุสฺสา ภเยน อุปสงฺกมิตุเมว น สกฺโกนฺติ, ปเคว ธมฺมสวนปพฺพชฺชาทึ กาตุํ, เตเนว อมฺหากํ โพธิสตฺโต อตฺตโน รูปกายานุภาวาทิสมฺปตฺติยา อุปฺปนฺนอมนุสฺสสงฺกากุตูหลํ ชนํ นิชฺฌาเปตุํ อุตฺตานเสยฺยกาทินิยาเมน วฑฺฒิตฺวา ทารปริคฺคหาทึ อกาสิ, เอวํ กตฺวา ปพฺพชิตมฺปิ นํ ราชคเห ปิณฺฑาย ปวิสิตฺวา ปณฺฑวปพฺพตปสฺเส นิสีทิตฺวา ปิณฺฑปาตํ ปริภุฺชนฺตํ พิมฺพิสาโร นานปฺปการโต มนุสฺสภาวํ วิจินิตฺวาว อุปสงฺกมิตุํ วิสหิ, โน อฺถา. โลกนิตฺถารณตฺถาย หิ พุทฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, น อตฺตโน สกฺการาทิอตฺถาย, ตสฺมา มนุสฺเสสุ เอว อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถาปิ อิมสฺมึ ชมฺพุทีเป เอว, ตตฺถาปิ อิมสฺมึ มชฺฌิมปเทเส เอว. น เกวลฺจ พุทฺธาว, ปจฺเจกพุทฺธา, อคฺคสาวกมหาสาวกา จ จกฺกวตฺติอาทโย จ อฺเปิ ปุฺวนฺตสตฺตา เอตฺเถว อุปฺปชฺชนฺติ.

อปุพฺพํ อจริมนฺติ เอตฺถ มาตุกุจฺฉิสฺมึ ปฏิสนฺธิคฺคหณโต ปุเร ปุพฺพํ นาม, ธาตุอนฺตรธานโต ปจฺฉา จริมํ นาม, อุภินฺนมนฺตรา อปุพฺพํ อจริมํ นาม. เอตฺถนฺตเร อฺสฺส พุทฺธสฺส อุปฺปตฺติ นิวาริตา, ธาตุอนฺตรธาเน ปน ชาเต อฺสฺส อุปฺปตฺติ น นิวาริตา. กิฺจาปิ น นิวาริตา, อนฺตรกปฺปํ ปน เขเปตฺวาว อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

ปฺจ หิ อนฺตรธานานิ นาม อธิคมอนฺตรธานํ ปฏิปตฺติอนฺตรธานํ ปริยตฺติอนฺตรธานํ ลิงฺคอนฺตรธานํ ธาตุอนฺตรธานนฺติ. ตตฺถ อธิคโมติ มคฺคผลาภิฺาปฏิสมฺภิทาโย, โส ปริหายมาโน ปฏิสมฺภิทาโต ปฏฺาย ปริหายติ. ปรินิพฺพานโต หิ วสฺสสหสฺสเมว ปฏิสมฺภิทา นิพฺพตฺเตตุํ สกฺโกนฺติ, ตโต ปรํ อภิฺา, ตาปิ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา สุกฺขวิปสฺสกขีณาสวา โหนฺติ, ตโต อนาคามิโน, ตโต สกทาคามิโน, โสตาปนฺนา จ โหนฺติ, เตสุ ธรนฺเตสุปิ อธิคโม อนนฺตรหิโตว โหติ, ปจฺฉิมกสฺส ปน โสตาปนฺนสฺส ชีวิตกฺขเยน อธิคโม อนฺตรหิโต นาม โหติ. อิทํ อธิคมอนฺตรธานํ.

ตโต มคฺคผลานิ นิพฺพตฺเตตุํ อสกฺโกนฺตา ‘‘นตฺถิ ทานิ โน อริยธมฺมปฏิเวโธ’’ติ ฌานวิปสฺสนาสุ โวสานํ อาปชฺชิตฺวา โกสชฺชพหุลา จตุปาริสุทฺธิสีลมตฺตํ รกฺขนฺโต อฺมฺํ น โจเทนฺติ, น สาเรนฺติ, อกุกฺกุจฺจกา โหนฺติ, ตโต ปฏฺาย ขุทฺทานุขุทฺทกานิ มทฺทนฺติ, ตโต ครุกาปตฺตึ อาปชฺชนฺติ, ปาราชิกมตฺตเมว รกฺขนฺติ, เตสุ ธรนฺเตสุปิ ปฏิปตฺติ อนนฺตรหิตาว โหติ, ปจฺฉิมกสฺส ปน ภิกฺขุโน สีลเภเทน วา ชีวิตกฺขเยน วา ปฏิปตฺติ อนฺตรหิตา นาม โหติ. อิทํ ปฏิปตฺติอนฺตรธานํ นาม.

ปริยตฺตีติ สาฏฺกถํ เตปิฏกํ พุทฺธวจนํ, คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล อธมฺมิเกหิ กลิยุคราชาทีหิ วิปนฺนสสฺสาทิสมฺปตฺติตาย ปจฺจยทายกา ทุคฺคตา โหนฺติ, ภิกฺขู จ ปจฺจเยหิ กิลมนฺตา อนฺเตวาสิเก คเหตุํ น สกฺโกนฺติ. ตโต อฏฺกถา ปริหายติ, ปาฬิวเสเนว ปริยตฺตึ ธาเรนฺติ, ตโต ปาฬึ สกลํ ธาเรตุํ น สกฺโกนฺติ, ปมํ อภิธมฺมปิฏกํ ปริหายติ, ตฺจสฺส ปริหายนํ มตฺถกโต ปาย. ปมเมว หิ มหาปกรณํ ปริหายติ, ตโต ยมกํ กถาวตฺถุ ปุคฺคลปฺตฺติ ธาตุกถา วิภงฺโค ธมฺมสงฺคโห จ อนุกฺกเมน ปริหายนฺติ, ตโต มตฺถกโต ปฏฺาย สุตฺตนฺตปิฏกํ ปริหายติ, ปมํ หิ องฺคุตฺตรนิกาโย เอกาทสกนิปาตโต ปฏฺาย ยาวเอกกนิปาตา ปริหายติ, ตโต มตฺถกโต ปฏฺาย สํยุตฺตนิกาโย, ปมํ หิ มหาวคฺโค ปริหายติ, ตโต สฬายตนวคฺโค ขนฺธกวคฺโค นิทานวคฺโค สคาถาวคฺโคติ, เอวํ มชฺฌิมนิกายทีฆนิกายาทโย จ มตฺถกโต ปฏฺาย ปริหายนฺติ, ตโต วินยปิฏกเมว ติฏฺติ, ตมฺปิ ปริวารโต ปฏฺาย ยาว มหาวิภงฺคา ปริหายติ, ตโต อุโปสถกฺขนฺธกโต มาติกามตฺตเมว ธาเรนฺติ, ตทาปิ ยาว จตุปฺปทิกาปิ คาถา มนุสฺเสสุ ปวตฺตติ, ตาว ปริยตฺติ อนนฺตรหิตาว โหติ, ตาย อนฺตรหิตาย ปริยตฺติ อนฺตรหิตา นาม โหติ. อิทํ ปริยตฺติอนฺตรธานํ นาม.

คจฺฉนฺเต คจฺฉนฺเต กาเล ปตฺตจีวรคฺคหณาทิอากปฺปํ น ปาสาทิกํ โหติ, นิคณฺาทโย วิย อลาพุปตฺตาทึ อคฺคพาหาย ปกฺขิปิตฺวาปิ โอลมฺพิตฺวาปิ สิกฺกาย โอลคฺเคตฺวาปิ วิจรนฺติ, จีวรรชนมฺปิ น สารุปฺปํ, โอฏฺฏฺิกวณฺณํ กตฺวา ธาเรนฺติ, ตโต รชนมฺปิ โอวฏฺฏิกวิชฺฌนมฺปิ น โหติ, ทสา เฉตฺวา ปริพฺพาชกา วิย กาสาวมตฺตเมว ธาเรนฺติ, ตโต ปริกฺขีเณ กาเล ขุทฺทกกาสาวขณฺฑํ หตฺเถ วา คีวาย วา พนฺธิตฺวา กสิกมฺมาทีนิ กตฺวา ทารภรณาทึ กโรนฺติ, ตทา ทกฺขิณํ เทนฺโต ชโน สงฺฆํ อุทฺทิสฺส เอเตสํ เทติ, อิทํ สนฺธาย ภควตา วุตฺตํ ‘‘ภวิสฺสนฺติ โข ปนานนฺท, อนาคตมทฺธานํ โคตฺรภุโน กาสาวกณฺา ทุสฺสีลา ปาปธมฺมา, เตสุ ทุสฺสีเลสุ สงฺฆํ อุทฺทิสฺส ทานํ ทสฺสนฺติ, ตทาปหํ, อานนฺท, สงฺฆคตํ ทกฺขิณํ อสงฺขฺเยยฺยํ อปฺปเมยฺยํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๘๐). ตโต ‘‘ปปฺโจ เอส, กึ อิมินา อมฺหาก’’นฺติ ตํ กาสาวขณฺฑํ ฉินฺทิตฺวา อรฺเ ขิปนฺติ, เอตสฺมึ กาเล ลิงฺคํ อนฺตรหิตํ นาม โหติ. อิทํ ลิงฺคอนฺตรธานํ นาม.

ตโต ตตฺถ ตตฺถ สกฺการสมฺมานํ อลภมานา ธาตุโย พุทฺธานํ อธิฏฺานพเลน สกฺการสมฺมานลพฺภมานกฏฺานํ คมิสฺสนฺติ, ตโต สพฺพตฺถ อลภมานา สพฺพธาตุโย มหาโพธิมณฺฑเมว คมิสฺสนฺติ. สาสปมตฺตาปิ หิ ธาตุ น อนฺตรา นสฺสิสฺสติ, ตา ปน โพธิมณฺเฑ ปลฺลงฺเกน นิสินฺนพุทฺธสรีรสิรึ, ยมกปาฏิหาริยฺจ ทสฺเสสฺสนฺติ, ตโต ธาตุสรีรโต เตโช สมุฏฺาย ตํ สรีรํ อปณฺณตฺติกภาวํ คเมติ, ตทา ทสสหสฺสจกฺกวาเฬ เทวตา ปรินิพฺพานทิวเส วิย ปริเทวิตฺวา ปูชาสกฺการํ กตฺวา ปกฺกมนฺติ. อิทํ ธาตุอนฺตรธานํ นาม.

อิมสฺส ปฺจวิธสฺส อนฺตรธานสฺส ปริยตฺติอนฺตรธานเมว มูลํ. ปริยตฺติยํ หิ สติ ปฏิเวธาทโยปิ นฏฺา นาม น โหนฺติ, อสติ นฏฺาติ. ยถา จ นิธิกุมฺภิยา ชานนตฺถาย ปาสาณปิฏฺเ อุปนิพทฺธอกฺขเรสุ ธรนฺเตสุ นิธิกุมฺภิ นฏฺา นาม น โหติ, อกฺขเรสุ ปน นฏฺเสุ นฏฺา, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. ยถาห –

‘‘ยาว ติฏฺนฺติ สุตฺตนฺตา,

วินโย ยาว ทิปฺปติ;

ตาว ทกฺขนฺติ อาโลกํ,

สูริเย อพฺภุฏฺิเต ยถา.

‘‘สุตฺตนฺเตสุ อสนฺเตสุ,

ปมุฏฺเ วินยมฺหิ จ;

ตโม ภวิสฺสติ โลเก,

สูริเย อตฺถงฺคเต ยถา.

‘‘สุตฺตนฺเต รกฺขิเต สนฺเต,

ปฏิปตฺติ โหติ รกฺขิตา;

ปฏิปตฺติยํ ิโต ธีโร,

โยคกฺเขมา น ธํสตี’’ติ; (อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.๑๓๐; สารตฺถ. ฏี. ปาจิตฺติย ๓.๔๓๘);

เอวมิเมสุ ปฺจสุ อนฺตรธาเนสุ ธาตุอนฺตรธานโต ปจฺฉา จริมํ นามาติ เวทิตพฺพํ.

กสฺมา ปน ทฺเว สมฺมาสมฺพุทฺธา อปุพฺพํ อจริมํ น อุปฺปชฺชนฺตีติ? นิรตฺถกโตว. เอโกว หิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ อนนฺเตสุ จกฺกวาเฬสุ สพฺพสตฺตานมฺปิ ยทิ อุปนิสฺสโย ภเวยฺย, เอกกฺขเณ สปาฏิหาริยํ สพฺพานุกูลํ ธมฺมํ เทเสตฺวา เต วิเนตุํ สกฺโกติ, กิมงฺคํ ปน นานกฺขเณสุ, ตสฺมา เอกสฺมึ กาเล อเนเกสํ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ อุปฺปตฺติ นิรตฺถิกาว. อนตฺถกตา ปน อนจฺฉริยอคารววิวาทาทิโทสโต เจว มหาปถวิยา ทฺวินฺนํ พุทฺธานํ ธารเณ อสมตฺถตาย วิกิรณาทิโทสโต จ เวทิตพฺพา. จกฺกวตฺติโน ปน เอกสฺมึ จกฺกวาเฬ ทฺเว เอกโต น อุปฺปชฺชนฺติ, เอโกว อุปฺปชฺชติ. นานาจกฺกวาเฬสุ ปน พหูปิ เอกโต อุปฺปชฺชนฺตีติ เวทิตพฺพา. เอตฺถ หิ ‘‘เอกิสฺสา โลกธาตุยา’’ติ เอตสฺส เอกสฺมึ จกฺกวาเฬติ อตฺโถ คเหตพฺโพ. อปุพฺพํ อจริมฺเจตฺถ จกฺกรตนปาตุภาวอนฺตรธานานํ เวมชฺฌํ เวทิตพฺพํ. อนฺตรธานฺจสฺส จกฺกวตฺติโน กาลกิริยโต, ปพฺพชฺชาโต วา สตฺตเม ทิวเส โหติ, ตสฺส จ อานุภาเวน ทฺวินฺนํ เอกตฺถ สหอนุปฺปตฺติ จ เวทิตพฺพา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. านาานาณพลํ ปมํ.

ทุติเย กมฺมสมาทานานนฺติ สมาทิยิตฺวา กตานํ กุสลากุสลานํ, กมฺมเมว วา กมฺมสมาทานํ. านโส เหตุโสติ ปจฺจยโต เจว เหตุสงฺขาตการณโต จ . ตตฺถ คติอุปธิกาลปโยคา วิปากสฺส ปจฺจยา, กมฺมํ เหตุ. ตทุภยโต กมฺมวิปากํ ยถาภูตํ ปชานาติ. กถํ? ภควา หิ ‘‘เอกจฺจสฺส พหูนิ ปาปกมฺมานิ คติอุปธิกาลปโยคานํ สมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ น วิปจฺจนฺติ, เตสํ วิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, เอกจฺจสฺส พหูนิ กลฺยาณกมฺมานิ เตสํ วิปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ น วิปจฺจนฺติ, เตสํ สมฺปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺตี’’ติ ปชานาติ.

ตตฺถ คติวิปตฺตีติ จตฺตาโร อปายา. คติสมฺปตฺตีติ มนุสฺสเทวคติโย. อุปธีติ อตฺตภาโว . ตสฺส สมิทฺธิ สมฺปตฺติ นาม, อสมิทฺธิ วิปตฺติ นาม. กาลสมฺปตฺตีติ สุราชสุมนุสฺสกาลสงฺขาโต สมฺปนฺนกาโล, ตปฺปฏิปกฺโข กาลวิปตฺติ นาม. ตสฺส ตสฺส ปน กมฺมสฺส สมฺมาปโยโค ปโยคสมฺปตฺติ, มิจฺฉาปโยโค ปโยควิปตฺติ นาม. ตตฺถ หิ เอกจฺจสฺส กุสลกมฺเมน เทวคติอาทีสุ คติยํ นิพฺพตฺตสฺส ตํ คติสมฺปตฺตึ อาคมฺม กุสลานิ เอว วิปจฺจนฺติ. ตาย ปน คติสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ อกุสลานิ ตตฺถ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ. ตานิ ปุน นิรยาทีสุ อปาเยสุ นิพฺพตฺตสฺส ตํ คติวิปตฺตึ อาคมฺม ยถาสุขํ วิปจฺจนฺติ. ตาย ปน คติวิปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ กุสลานิ ตตฺถ วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ. เอกจฺจสฺส ทสฺสนีเยนาภิรูเปน กาเยน สมนฺนาคตสฺส ยทิปิ โส ทาโส วา โหติ หีนชจฺโจ วา, ตํ อุปธิสมฺปตฺตึ อาคมฺม กุสลานิ เอวสฺส วิปจฺจนฺติ. ตาทิสํ หิ สุรูปํ ‘‘อยํ กิลิฏฺกมฺมสฺส นานุจฺฉวิโก’’ติ อุจฺเจสุ อมจฺจาทิฏฺาเนสุ เปนฺติ, จณฺฑาลิมฺปิ สุรูปํ อคฺคมเหสิอาทิฏฺาเนสุ เปนฺติ. ตาย ปน อุปธิสมฺปตฺติยา ปฏิพาหิตานิ อกุสลานสฺส วิปจฺจิตุํ น สกฺโกนฺติ. ตานิ ปน อุปธิวิปตฺติยํ จ ิตสฺส ยถาสุขํ วิปจฺจนฺติ. ราชกุลาทีสุ หิ อุปฺปนฺนมฺปิ ทุรูปํ หีเนสุ เปนฺติ. เอกจฺจสฺส ปน ปมกปฺปิกานํ วา จกฺกวตฺติรฺโ วา พุทฺธานํ วา สุราชสุมนุสฺสานํ สมฺปนฺเน กาเล นิพฺพตฺตสฺส ตํ กาลสมฺปตฺตึ อาคมฺม กุสลานิ เอว วิปจฺจนฺติ, น อกุสลานิ. ตานิ ปุน ทุราชทุมนุสฺสานํ วิปนฺเน กาเล ตํ กาลวิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, น ปน กุสลานิ ตาย กาลวิปตฺติยา ปฏิพาหิตตฺตา. เอกจฺจสฺส ปน สีลสํยมาทิอนวชฺชปโยเคน เจว สาวชฺเชน วา อนวชฺเชน วา เทสกาลานุสาเรน อายุธสิปฺปาทิปโยคสามตฺถิเยน จ สมนฺนาคตสฺส ตํ ปโยคสมฺปตฺตึ อาคมฺม กุสลานิ เอว วิปจฺจนฺติ, น อกุสลานิ. ตานิ ปุน ยถาวุตฺตวิปรีตปโยควิปตฺตึ อาคมฺม วิปจฺจนฺติ, น ปน กุสลานิ ตาย ปฏิพาหิตตฺตา. ยุทฺธาทีสุ หิ ปาณาติปาตาทิอกุสลํ กโรนฺตาปิ ตํตํอายุธสิปฺปาทิปโยคสมฺปตฺตึ นิสฺสาเยว เสนาปติฏฺานาทิมหาสมฺปตฺตึ ลภนฺติ, น ปน ตํ อกุสลํ นิสฺสาย. ยถา ทานเวยฺยาวจฺจาทีสุ กุสลํ กโรนฺตาปิ อธิมตฺตวายามาทิปโยควิปตฺตึ นิสฺสาย อนยพฺยสนมฺปิ ปาปุณนฺติ, น ปน ตํ กุสลํ นิสฺสาย. เอวเมตาหิ จตูหิ สมฺปตฺตีหิ, วิปตฺตีหิ จ กุสลากุสลานํ วิปจฺจนาวิปจฺจนวิภาคํ ภควา ยถาภูตํ ปชานาติ. อยํ ตาเวตฺถ วิภงฺคนเยน ทุติยพลสฺส วิภาวนา.

อปเรน จสฺส –

‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ อตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อโหสิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ นตฺถิ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, อตฺถิ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก, ภวิสฺสติ กมฺมํ ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก , ภวิสฺสติ กมฺมํ น ภวิสฺสติ กมฺมวิปาโก’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๓๔) –

อิมินา ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺเตนาปิ นเยน วิภาวนา เวทิตพฺพา. ตตฺถ ยํ อตีตตฺตภาเว อายูหิตํ กมฺมํ วุตฺตํ, เหตุปจฺจยํ อาคมฺม ตตฺเถว วิปากํ อทาสิ. อิทํ สนฺธาย ‘‘อโหสิ กมฺมํ อโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ ปมํ ปทํ วุตฺตํ. ยํ อตีเตสุ ปน ทิฏฺธมฺมเวทนียาทีสุ พหูสุ เอกํ ทิฏฺธมฺมเวทนียํ ลทฺธปจฺจยํ วิปากํ เทติ, เสสานิ อวิปากานิ. เอกํ อุปปชฺชเวทนียํ ปน ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒติ, เอกํ อานนฺตริยํ นิรยปฏิสนฺธึ เทติ, เสสานิ อวิปากานิ. อฏฺสุ สมาปตฺตีสุ เอกาย พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ, เสสา อวิปากา. อิทํ สนฺธาย ‘‘อโหสิ กมฺมํ นาโหสิ กมฺมวิปาโก’’ติ ทุติยํ ปทํ วุตฺตํ. ยํ อตีตํ กมฺมํ เอตรหิ วิปากํ เทติ, อิทํ สนฺธาย ตติยํ. ยํ ปุริมนเยน น วิปจฺจติ, อิทํ สนฺธาย จตุตฺถํ. ยํ อนาคเต วิปากํ ทสฺสติ, อิทํ สนฺธาย ปฺจมํ. ยํ น วิปจฺจติ, อิทํ สนฺธาย ฉฏฺํ. ยํ เอตรหิ อายูหิตํ กมฺมํ เอตรเหว วิปากํ เทติ, อิทํ สนฺธาย สตฺตมํ. ยํ น วิปจฺจติ, อิทํ สนฺธาย อฏฺมํ. อิมินา นเยน เสสปทานมฺปิ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. อิทํ ตถาคตสฺสาติ อิทํ สพฺเพหิ เอเตหิ ปกาเรหิ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรานํ ยถาภูตโต ชานนาณนฺติ อตฺโถ. ทุติยพลํ.

ตติเย สพฺพตฺถคามินินฺติ สพฺพคติคามินิฺจ อคติคามินิฺจ. ปฏิปทนฺติ มคฺคํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ พหูสุปิ มนุสฺเสสุ ปาณาติปาตาทีสุ เอกเมว อกุสลํ เอกโต กโรนฺเตสุ อิมสฺส เจตนา นิรยคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส ติรจฺฉานโยนิคามินี, อิมสฺส เปตฺติวิสยคามินี, นิรยาทีสุปิ ปเนสา เอวรูเป เอวรูเป าเน เอวฺเจวฺจ วิปากํ ทสฺสติ, อิมสฺส ปฏิสนฺธึ อากฑฺฒิตุํ น สกฺโกติ, อฺเน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิกสฺส ทุพฺพลํ อุปธิเวปกฺกํ ภวิสฺสติ. พหูสุ วา เอกโต ทานาทิกุสลํ, วิปสฺสนํ วา ปฏฺเปนฺเตสุ อิมสฺส เจตนา มนุสฺสคติคามินี ภวิสฺสติ, อิมสฺส เทวคติคามินี, ตตฺถาปิ เอวฺเจวฺจ วิปากํ ทสฺสติ, อิมสฺส วา วิปสฺสนา เอกํ มคฺคํ ทฺเว วา ตโย วา จตฺตาโร วา ปฏิสมฺภิทาทิสหิเต วา รหิเต วา นิปฺผาเทสฺสติ, อิมสฺส น กฺจิ ปฏิเวธํ สาเธสฺสตีติอาทินา อนนฺเตหิ อากาเรหิ เอกวตฺถุสฺมิมฺปิ อุปฺปนฺนํ กุสลากุสลสงฺขาตํ สพฺพตฺถคามินิปฏิปทํ อวิปรีตโต ปชานาตีติ. ตติยพลํ.

จตุตฺเถ อเนกธาตุนฺติ จกฺขุธาตุอาทีหิ, กามธาตุอาทีหิ วา พหุธาตุํ. นานาธาตุนฺติ ตาสฺเว ธาตูนํ วิลกฺขณตฺตา นานปฺปการํ ธาตุํ. โลกนฺติ ขนฺธายตนธาตุโลกํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตาสํ ตาสํ ธาตูนํ ขนฺธายตนธาตุวิภงฺคาทีสุ วุตฺตนเยน อนนฺตปฺปเภทํ นานตฺตํ อวิปรีตโต ปชานาติ. น เกวลฺจ ตถาคโต อุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺเสว นานตฺตํ ปชานาติ, อถ โข อนุปาทินฺนกสงฺขารโลกสฺสาปิ ปจฺเจกพุทฺธาทีหิ ปฏิวิชฺฌิตุํ อสกฺกุเณยฺยํ นานตฺตํ ปชานาติเยว. เตหิ อุปาทินฺนกโลกสฺสาปิ นานตฺตํ เอกเทสโตว ชานนฺติ, อนุปาทินฺนสฺส ปน เนว ชานนฺติ, สพฺพฺุพุทฺธสฺเสเวตํ วิสโย. เอวํ หิ อิมาย นาม ธาตุยา อุสฺสนฺนาย อิเมสํ รุกฺขคจฺฉลตาทีนํ, ขนฺธทณฺฑวลฺลิตจปตฺตปุปฺผผลาทิโน สณฺานวณฺณคนฺธรสโอชาหิ, เทสกาเลหิ จ อนนฺตปฺปเภทํ นานตฺตํ, ปถวีปพฺพตาทีนฺจ นานตฺตํ โหตีติ อนนฺเตหิ อากาเรหิ ชานิตุํ สกฺโกติ, นาฺเติ. จตุตฺถพลํ.

ปฺจเม นานาธิมุตฺติกนฺติ หีนาทีหิ อธิมุตฺตีหิ นานาธิมุตฺติกภาวํ. ยถาภูตํ ปชานาตีติ ตีสุปิ กาเลสุ หีนาธิมุตฺติกา หีนาธิมุตฺติเก เอว เสวนฺติ, ปณีตาธิมุตฺติกา จ ปณีตาธิมุตฺติเก. ตตฺถาปิ อสฺสทฺธา อสฺสทฺเธ, ทุสฺสีลา ทุสฺสีเล, มิจฺฉาทิฏฺิกา มิจฺฉาทิฏฺิเก, สทฺธา สทฺเธ, สีลสุตจาคปฺาทิสมฺปนฺนา จ เต เต เอว เสวนฺตีติ นานปฺปการโต ชานาติ. สทฺธาสีลาทิสมฺปนฺนา หิ ตพฺพิรหิเต อตฺตโน อาจริยุปชฺฌาเยปิ น เสวนฺติ, เตปิ อิตเร, อตฺตนา อตฺตนา ปน สทิเส เอว เสวนฺตีติ. ปฺจมพลํ.

ฉฏฺเ ปรสตฺตานนฺติ ปธานสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ ตโต ปเรสํ หีนสตฺตานํ. เอกตฺถเมว วา เอตํ ปททฺวยํ เวเนยฺยวเสน ทฺวิธา วุตฺตํ. อินฺทฺริยปโรปริยตฺตนฺติ สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ ปรภาวฺจ อปรภาวฺจ, วุทฺธิฺจ หานิฺจาติ อตฺโถ. ยถาภูตนฺติ สพฺเพสํ สตฺตานํ อาสยานุสยจริตาธิมุตฺติอาทีหิ สทฺธาทิ ติกฺขินฺทฺริยมุทินฺทฺริยตํ สพฺพาการโต ชานาติ. ตตฺถ อาสโยติ นิวาสฏฺานํ, ยตฺถ สตฺตานํ จิตฺตสนฺตานํ นิจฺจํ นิวสติ. โส ทุวิโธ วฏฺฏาสโย วิวฏฺฏาสโย จ. ตตฺถ สสฺสตุจฺเฉทวเสน ปวตฺตํ สพฺพํ ทิฏฺิคตํ วฏฺฏาสโย นาม. สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคหโต ปฏฺาย สพฺพํ วิปสฺสนาาณํ, มคฺคาณฺจ วิวฏฺฏาสโย นาม. มคฺคาณมฺปิ หิ ‘‘ทสยิเม, ภิกฺขเว, อริยาวาสา, ยทริยา อาวสึสู’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๑๐.๑๙) อาสโยว. อิมํ ปน ภควา สตฺตานํ อาสยํ ชานนฺโต อุภินฺนํ ทิฏฺิาณานํ อปฺปวตฺติกฺขเณปิ ชานาติ เอว. กามราคาทิกิเลสาธิมุตฺตฺเว หิ ปุคฺคลํ ภควา ตเถว ชานาติ. ‘‘อยํ เนกฺขมฺมาทิอภิรโต วิวฏฺฏาสโย’’ติ เนกฺขมฺมาทึ เสวนฺตฺเว ชานาติ, ‘‘อยํ กามาทิอภิรโต วฏฺฏาสโย’’ติ อนุสยจริตาทิชานเนปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อนุสโย กามราคานุสยาทิโต สตฺตวิโธ. จริตนฺติ ตีหิ ทฺวาเรหิ อภิสงฺขตโลกิยกุสลากุสลํ. อธิมุตฺตีติ อชฺฌาสโย. เอวเมตฺถ อาสยานุสยาณํ, อินฺทฺริยปโรปริยตฺตาณฺจาติ ทฺเว าณานิ เอกโต หุตฺวา เอกํ พลาณํ นาม ชาตนฺติ. ฉฏฺพลํ.

สตฺตเม ฌานวิโมกฺขสมาธิสมาปตฺตีนนฺติ ปมาทีนํ จตุนฺนํ ฌานานํ, ‘‘รูปี รูปานิ ปสฺสตี’’ติอาทีนํ อฏฺนฺนํ วิโมกฺขานํ, สวิตกฺกสวิจาราทีนํ ติณฺณํ สมาธีนํ, ปมชฺฌานสมาปตฺติอาทีนํ นวนฺนํ อนุปุพฺพสมาปตฺตีนํ. สํกิเลสนฺติ หานภาคิยธมฺมํ. โวทานนฺติ วิเสสภาคิยํ ธมฺมํ. วุฏฺานนฺติ เยน การเณน ฌานาทีหิ วุฏฺหนฺติ, ตํ การณํ. ตํ ปน ทุวิธํ โวทานมฺปิ ภวงฺคมฺปิ. เหฏฺิมํ หิ ปคุณํ ฌานํ อตฺตโน โวทานวเสน อุปริมสฺส ฌานสฺส ปทฏฺานโต ‘‘วุฏฺาน’’นฺติ วุจฺจติ, ตมฺหา ตมฺหา ปน สมาธิมฺหา ภวงฺควเสเนว วุฏฺานโต ภวงฺคมฺปิ. นิโรธโต ปน ผลสมาปตฺติยาว วุฏฺหนฺติ. อิทํ ปาฬิมุตฺตกวุฏฺานํ นาม, ตํ สพฺพํ ภควา ยถาภูตํ สพฺพากาเรน ปชานาติ. สตฺตมพลํ.

อฏฺเม ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธานุสฺสรณํ, ตํ นามโคตฺตวณฺณาหารสุขทุกฺขาทีหิ ตตฺถ ตตฺถ ภเว วิชฺชมาเนหิ อนนฺเตหิ อากาเรหิ ยถาภูตํ ปชานาตีติ. อฏฺมพลํ.

นวเม จุตูปปาตนฺติ จุติฺจ อุปปาตฺจ, ตํ จวมานอุปปชฺชมานหีนปณีตสุวณฺณทุพฺพณฺณาทิโต อนนฺตปเภเท ยถากมฺมูปเค สตฺเต ทิพฺพจกฺขุาเณน วณฺณายตนคฺคหณมุเขน ทิสฺวา สพฺพาการโต ปชานาตีติ. นวมพลํ.

ทสเม อาสวานํ ขยนฺติ อาสวนิโรธํ นิพฺพานํ, ตํ อรหตฺตมคฺคาเณน จตุสจฺจปฏิเวธโต ปชานาตีติ. ทสมพลํ.

อิมานีติ ยานิ เหฏฺา ‘‘ตถาคตสฺส ทส ตถาคตพลานี’’ติ อโวจ, อิมานิ ตานีติ อปฺปนํ กโรติ. ยสฺมา เจโตปริยาณาทีนิ สาวกาทีนมฺปิ ยถารหํ วิชฺชมานานิปิ สวิสยํ กิฺจิเทว ชานนฺติ, น จ สพฺพาการโต. พุทฺธานํ ปน สพฺพฺุตฺาณํ วิย สพฺพธมฺเมสุ ยถาสกํ วิสเย สพฺพตฺถ สพฺพาการโต เอกกฺขเณ อปฺปฏิหตํ ปวตฺตติ, ตสฺมา ‘‘ตถาคตพลานี’’ติ วุจฺจนฺติ. ยทิ เอวํ สพฺพฺุตฺาณสฺเสวายํ ปเภโท โหติ, กสฺมา ปน ‘‘ทสพลาณานี’’ติ วิสุํ วิภตฺตานีติ? วิสยกิจฺจภูมิเภทโต เนสํ อฺตฺตา. ทสพลาเณสุ หิ ปมํ การณาการณเมว ชานาติ, ทุติยํ กมฺมนฺตรวิปากนฺตรเมว ชานาติ, ตติยํ กมฺมปริจฺเฉทเมว, จตุตฺถํ นานตฺตการณเมว, ปฺจมํ สตฺตานํ อชฺฌาสยาธิมุตฺติเมว, ฉฏฺํ อินฺทฺริยานํ ติกฺขมุทุภาวเมว, สตฺตมํ ฌานาทีหิ สทฺธึ เตสํ สํกิเลสาทิเมว, อฏฺมํ ปุพฺเพนิวุตฺถกฺขนฺธสนฺตติเมว, นวมํ สตฺตานํ จุติปฏิสนฺธิเมว, ทสมํ สจฺจปริจฺเฉทเมว, นาฺํ.

สพฺพฺุตฺาณํ ปน เอเตหิ ชานิตพฺพฺจ ตโต อุตฺตริฺจ สพฺพํ อตีตาทิเภทํ เอกกฺขเณ สพฺพาการโต ชานาติ, เอเตสํ ปน กิจฺจํ น สพฺพํ กโรติ. ตํ หิ ฌานํ หุตฺวา อปฺเปตุํ, อิทฺธิ หุตฺวา วิกุพฺพิตุํ, มคฺโค หุตฺวา กิเลเส เขเปตุํ น สกฺโกติ. ทสพลาณานิ ปน ตํ สพฺพํ ยถารหํ กาตุํ สกฺโกนฺติ. เตสุ จ ปฏิปาฏิยา สตฺต าณานิ กามาวจรานิ, ตโต ทฺเว รูปาวจรานิ, อวสาเน เอกํ โลกุตฺตรํ. สพฺพฺุตฺาณํ ปน กามาวจรเมวาติ เอวํ วิสยกิจฺจภูมิเภทโต อฺเมว ทสพลาณํ. อฺํ สพฺพฺุตฺาณนฺติ. อยํ ตาว ปทตฺถานุสารโต วินิจฺฉโย. ธมฺมเภทาทิโต ปน สพฺโพปิ วินิจฺฉโย เอกวิธโกฏฺาสโต ปฏฺาย เอตฺถ วุตฺตานุสารโตว าตพฺโพ, สุตฺตนฺตภาชนียาทโย หิ วิภงฺคนยเภทา เอตฺถ, อิโต ปเรสุ จ วิภงฺเคสุ นตฺถีติ.

าณวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺคมาติกาย ปนายํ นิกฺเขปปริจฺเฉเทน สทฺธึ อตฺถโต วินิจฺฉโย. มาติกาย หิ อาทิโต ตาว – ชาติมโทติอาทโย เตสตฺตติ เอกกา นิกฺขิตฺตา, ตโต โกโธ จ อุปนาโห จาติอาทโย อฏฺารส ทุกา, อกุสลมูลาทโย ปฺจตึส ติกา, อาสวจตุกฺกาทโย จุทฺทส จตุกฺกา, โอรมฺภาคิยสํโยชนาทโย ปนฺนรส ปฺจกา, วิวาทมูลาทโย จุทฺทส ฉกฺกา, อนุสยาทโย สตฺต สตฺตกา, กิเลสวตฺถุอาทโย อฏฺ อฏฺกา, อาฆาตวตฺถุอาทโย นว นวกา, กิเลสวตฺถุอาทโย สตฺต ทสกา, ฉนฺนํ อฏฺารสกานํ วเสน อฏฺสตตณฺหาวิจริตานิ จ ยถากฺกมํ นิกฺขิปิตฺวา อนฺเต ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ พฺรหฺมชาลสุตฺเต อติทสฺสิตานีติ สพฺพานิปิ เตสฏฺิอธิกานิ อฏฺกิเลสสตานิ นิกฺขิตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. อยํ ตาว นิกฺเขปปริจฺเฉโท.

อตฺถโต ปน ‘‘ชาติมโท’’ติอาทีสุ ชาติอุจฺจากุลีนตํ นิสฺสาย ‘‘ขตฺติยาทีนํ จตุนฺนมฺปิ วณฺณานํ อหํ อุตฺตมชาติโก, อิเม น อุตฺตมชาติกา’’ติ เอวํ อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนวเสน อุปฺปนฺโน มชฺชนาการปฺปวตฺโต มาโน ชาติมโท นาม. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย. ตตฺถ อาทิจฺจโคตฺตกสฺสปโคตฺตาทิอุตฺตมโคตฺตํ นิสฺสาย โคตฺตมโท. นิราพาธตํ, โยพฺพฺํ, ‘‘จิรํ สุขํ ชีวึ ชีวามิ ชีวิสฺสามี’’ติ เอวํ ชีวิตํ, พหุลาภฺจ นิสฺสาย ยถากฺกมํ อาโรคฺยมทาทโย วุตฺตา. สุกตปณีตปจฺจยลาภํ, มานนวนฺทนาทิครุการํ มฺเว ปมุขํ กตฺวา ปฺหํ ปุจฺฉนฺติ, ปริวาเรตฺวา คจฺฉนฺตีติ เอวํ ปุเรกฺขารํ, มหาปริวารํ, สุจิปริวารฺจ นิสฺสาย ยถากฺกมํ สกฺการมทาทโย จ เวทิตพฺพา. โภโค ปน กิฺจาปิ ลาภคฺคหเณเนว คหิโต, นิหิตธนวเสน ปเนตฺถ ลาโภ เวทิตพฺโพ, ‘‘อนฺนปานวตฺถาภรณมาลาคนฺธาทิอุปโภคสมิทฺธิวเสนาปิ วตฺตุํ วฏฺฏตี’’ติปิ วทนฺติ. สรีรวณฺณํ, คุณวณฺณฺจ นิสฺสาย วณฺณมโท. พาหุสจฺจํ, ปฏิภานํ, ‘‘วณฺณํ พุทฺธวํสํ ราชวํสํ ชนปทวํสํ คามวํสํ รตฺตินฺทิวปริจฺเฉทํ นกฺขตฺตมุหุตฺตโยคํ ชานามี’’ติ เอวํ รตฺตฺุตํ วา นิสฺสาย ยถากฺกมํ สุตมทาทโย จ เวทิตพฺพา. ชาติปิณฺฑปาติกตํ, อนวฺาตตํ, อิริยาปถปาสาทิกตํ, มหิทฺธิกตฺจ นิสฺสาย ยถากฺกมํ ปิณฺฑปาติกมทาทโย. กิฺจาปิ ปริวาร-คฺคหเณน ยโส คหิโต. ปริวารสฺส ปน สวสวตฺตกภาเวน ปตฺถฏตํ กิตฺติยสฺเว วา นิสฺสาย ยสมโท. ปริสุทฺธสีลํ , อุปจารปฺปนาฌานํ, สิปฺปโกสลฺลํ, สรีรสฺส อาโรหสมฺปทํ, ปริณาหสมฺปทํ, อนูนนิทฺโทสองฺคปจฺจงฺคตาย สรีรปาริปูริฺจ นิสฺสาย สีลมทาทโย เวทิตพฺพา.

อิมินา เอตฺตเกน าเนน สวตฺถุกํ มานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อวตฺถุกเมว สามฺโต มานํ ทสฺเสนฺโต ‘‘มโท’’ติ อาห. ปมาโทติอาทีสุ ปฺจกามคุเณสุ จิตฺตโวสฺสคฺคสงฺขาโต สุจริตาเสวนาย, ทุจฺจริตเสวนาย จ เหตุภูโต ปมชฺชนาการปฺปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท ปมาโท นาม, สฺวายํ สติโวสฺสคฺคลกฺขโณ. วาตภริตภตฺตา วิย มาตาปิตูสุปิ อโนณตภาวสงฺขาโต กกฺขฬมาโน ถมฺโภ นาม, สฺวายํ จิตฺตสฺส อุทฺธุมาตภาวลกฺขโณ. อฺเสํ เคหาทิอุปกรณสมฺปทํ, วิชฺชาสมฺปทํ วา ทิสฺวา ตทฺทิคุณสมารมฺภนวสปฺปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท สารมฺโภ นาม. คนฺโถปิ หิ สารมฺภวเสน อุคฺคเหตุํ น วฏฺฏติ, อกุสลเมว โหติ. สฺวายํ กรณุตฺตริยลกฺขโณ.

อตฺร อตฺร วิสเย อิจฺฉา อสฺสาติ อตฺริจฺโฉ, ปุคฺคโล, ตสฺส ภาโว อตฺริจฺฉตา. เอวํ มหิจฺฉตาทีสุปิ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ ยํ ยํ ลทฺธํ, เตน เตน อสนฺตุสฺสิตฺวา อปรสฺส อปรสฺส ปตฺถนาวเสน ปวตฺโต โลโภ อตฺริจฺฉตา. ยาย อตฺตนา ลทฺธํ ปณีตมฺปิ ลามกํ วิย ขายติ, ปเรน ลทฺธํ ลามกมฺปิ ปณีตํ วิย ขายติ. สายํ อปราปรลาภปตฺถนาลกฺขณา. สนฺตคุณวิภาวนาวสปฺปวตฺโต เจว ตทุปฺปนฺเนหิ อติมหนฺเตหิปิ วตฺถูหิ อสนฺตุสฺสนาการปฺปวตฺโต จ โลโภ มหิจฺฉตา. ยาย สมนฺนาคโต ปุคฺคโล ปจฺจเยหิ ทุปฺปูโร อคฺคิ วิย อุปาทาเนน, สมุทฺโท วิย จ อุทเกน. ยา จายํ สนฺตคุณสมฺภาวนตา, ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ อมตฺตฺุตา, เอตํ มหิจฺฉตาลกฺขณํ.

อสนฺตานํ ปน สทฺธาสีลานํ, มคฺคผลาทีนฺจ โลกิยโลกุตฺตรานํ คุณานํ วิภาวนาวสปฺปวตฺโต เจว ตทุปฺปนฺเนหิ อติมหนฺเตหิปิ ปจฺจเยหิ อสนฺตุสฺสนาการปฺปวตฺโต จ โลโภ ปาปิจฺฉตา. ยา จายํ อสนฺตคุณสมฺภาวนตา, ปฏิคฺคหเณ จ ปริโภเค จ อมตฺตฺุตา เอตํ ปาปิจฺฉตาลกฺขณํ.

สิงฺคนฺติ วิชฺฌนฏฺเน สิงฺคํ, นาคริกภาวสงฺขาตสฺส กิเลสสิงฺคสฺเสตํ อธิวจนํ, ตํ อตฺถโต สิงฺคารกรณวสปฺปวตฺโต โลโภว. ตินฺติณนฺติ ขียนํ, ตํ อตฺถโต นิวาสฏฺาเน สุนขานํ วิย อฺมฺํ สตฺตานํ ‘‘ตว สนฺตกํ, มม สนฺตก’’นฺติ ขิยฺยนาการปฺปวตฺโต โทโสว. จาปลฺยนฺติ จปลตา, ตํ ปตฺตจีวราทิปริกฺขารานํ, อตฺตภาวสฺส จ มณฺฑนวิภูสนเกฬายนวสปฺปวตฺโต ราโคว, เยน สมนฺนาคโต ชิณฺโณปิ ทหโร วิย โหติ. อสภาควุตฺตีติ วิสภาควุตฺติ วิสภาคกิริยา, สา ครุฏฺานิเยสุปิ อนาทรวเสน วิปจฺจนีกคฺคาหิตาวสปฺปวตฺโต โทโสว , ยาย สมนฺนาคโต คิลาเนปิ มาตาปิตุอาจริยุปชฺฌายาทิเก น โอโลเกติ, เตหิ สทฺธึ ลาภสกฺการการณา กลหํ กโรติ, เตสุ หิโรตฺตปฺปํ, เจติยาทีสุ จิตฺตีการฺจ น ปจฺจุปฏฺเปติ. อรตีติ ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ, สมถวิปสฺสนาสุ จ อนภิรมณา อุกฺกณฺิตตา, สา ตถาปวตฺโต อกุสลจิตฺตุปฺปาโท. ตนฺทีติ อาลสฺยํ. วิชมฺภิตาติ กายสฺส อานมนาทิอากาเรน ผนฺทนา วิชมฺภนา. ภตฺตสมฺมโทติ ภตฺตมุจฺฉาย กายสฺส อกมฺมฺตา. เจตโส จ ลีนตฺตนฺติ จิตฺตสงฺโกโจ. อตฺถโต ปเนตานิ สพฺพานิปิ ถินมิทฺธวเสน จิตฺตสฺส คิลานากาโรว.

กุหนาติอาทีสุ ลาภสกฺการสิโลกสนฺนิสฺสิตสฺส ปาปิจฺฉสฺส เตน เตน อุปาเยน วิมฺหาปนา กุหนา นาม. สา ติวิธา ปจฺจยปฏิเสวนสามนฺตชปฺปนอิริยาปถสณฺาปนวเสน. ตตฺถ จีวราทีหิ นิมนฺติตสฺส ตทตฺถิกสฺเสว สโต ปาปิจฺฉตํ นิสฺสาย ปฏิกฺขิปเนน, เต จ คหปติเก อตฺตนิ สุปฺปติฏฺิตสทฺเธ ตฺวา ปุน เตสํ ‘‘อโห อยฺโย อปฺปิจฺโฉ น กิฺจิ ปฏิคฺคณฺหิตุํ อิจฺฉติ, สุลทฺธํ วต โน อสฺส, สเจ อปฺปมตฺตกํ กิฺจิ ปฏิคฺคณฺเหยฺยา’’ติ นานาวิเธหิ อุปาเยหิ ปณีตานิ จีวราทีนิ อุปนาเมนฺตานํ ตทนุคฺคหกามตฺเว อาวิกตฺวา ปฏิคฺคหเณน จ ตโต ปภุติ อปิ สกฏภาเรหิ อุปนามนเหตุภูตํ วิมฺหาปนํ ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาตา กุหนา นาม. ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต ‘‘โย เอวรูปํ จีวรํ ธาเรติ, โส สมโณ มเหสกฺโข’’ติอาทินา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมปริทีปนวาจาย ตถา ตถา วิมฺหาปนํ สามนฺตชปฺปนสงฺขาตา กุหนา นาม. ปาปิจฺฉสฺเสว ปน สโต สมาหิตสฺเสว สมฺภาวนาธิปฺปายกเตน ปณิธาย สณฺปิเตน คมนาทิอิริยาปเถน วิมฺหาปนํ อิริยาปถสณฺปนสงฺขาตา กุหนา นาม.

อาลปนาติอาทินา ปน วุตฺตปจฺจยปฏิสํยุตฺตา วาจาเยว ทสฺสิตา. อนุปฺปิยภาณิตา, จาฏุกมฺยตา, มุคฺคสูปฺยตา, ปาริภฏยตา จ อาลปนา นาม. ตตฺถ อาลปนาติอาทิโตว ลปนา. อนุปฺปิยภาณิตาติ สจฺจานุรูปํ, ธมฺมานุรูปํ วา อนปโลเกตฺวา ปุนปฺปุนํ ปิยภณนํ. จาฏุกมฺยตาติ นีจวุตฺติตา, อตฺตานํ เหฏฺโต เปตฺวา ปวตฺตนํ. มุคฺคสูปฺยตาติ มุคฺคสูปสทิสตา, อปกฺกมุคฺคสทิเสน อปฺปสจฺเจน สมนฺนาคตวจนตา. ปาริภฏยตาติ กุลทารกานํ องฺเกน ปริหรณาทิกํ ปริภฏสฺส กิจฺจํ. เอวมยํ สพฺโพปิ กิริยาเภโท ‘‘ลปนา’’ตฺเวว วุจฺจติ. ปเรสํ ปน ปจฺจยทานสฺาชนกํ กายวจีกมฺมํ เนมิตฺติกตา นาม, ยา ‘‘ปริกโถภาสนิมิตฺตกมฺม’’นฺติ วุจฺจติ. อกฺโกสนวมฺภนครหณาทีหิ ยถา ทายโก อวณฺณํ ภายติ, เอวํ ตํ นิปฺปีฬนํ นิปฺเปสิกตา นาม. อยํ หิ ยสฺมา เวฬุเปสิกาย วิย อพฺภงฺคํ อิมาย ปรสฺส คุณํ นิปฺเปเสติ นิปุฺฉติ, ยสฺมา วา คนฺธชาตํ ปิสิตฺวา คนฺธมคฺคนา วิย ปรคุเณ นิปฺปิสิตฺวา วิจุณฺเณตฺวา เอสา ลาภมคฺคนา โหติ, ตสฺมา ‘‘นิปฺเปสิกตา’’ติ วุจฺจติ. เอกสฺมึ ปน กุเล ลทฺธามิสํ อฺตฺถ ทานวเสน ลาเภน ลาภสฺส ปตฺถนา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนา นาม. อิเม จ กุหนาทโย ปฺจปิ ตถา ตถา ปวตฺตา โลภาทิอกุสลจิตฺตุปฺปาทาติ เวทิตพฺพา. ‘‘เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทโย ทฺวาทส มานา เหฏฺา สํโยชนโคจฺฉเก วุตฺตานุสาเรน สุวิฺเยฺยาว. ตตฺถ จ อาทิโต ตโย มานา ปุคฺคลํ อนิสฺสาย ชาติโคตฺตรูปโภคสิปฺปสุตาทิมานวตฺถุวเสเนว กถิตา, ตโต ปรํ ปน นว มานา เสยฺยสทิสหีนปุคฺคเล นิสฺสาย กถิตา.

เอวเมเตหิ ทฺวาทสหิ ปเทหิ สวตฺถุเก มาเน กเถตฺวา อิทานิ อวตฺถุกํ ทสฺเสตุํ ‘‘มาโน’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตโต ปรํ อติมาโนติอาทีสุ ‘‘ชาติอาทีหิ มยา สทิโส นตฺถี’’ติ อติกฺกมิตฺวา มฺนาวเสน ปวตฺโต มาโน อติมาโน นาม. ‘‘อิเม มยา ปุพฺเพ สทิสา, อิทานิ อหํ เสฏฺโ, อิเม หีนตรา’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน ภาราติภาโร วิย มานาติมาโน นาม. อตฺตานํ ปน อวมฺนาวเสน ปวตฺโต มาโน โอมาโน นาม, โส ‘‘หีโนหมสฺมี’’ติ ปวตฺตหีนมานสทิโสว. อนธิคเตสุ อริยธมฺเมสุ ‘‘อธิคตา มยา’’ติ อุปฺปนฺโน มาโน อธิกมานตฺตา อธิมาโน นาม, อยํ ปน โสตาปนฺนาทิอริยสาวกานํ ‘‘อหํ สกทาคามี’’ติอาทินา น อุปฺปชฺชติ เตสํ มคฺคผลนิพฺพานปหีนกิเลสาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขเณน อริยคุณปฏิเวเธ นิกฺกงฺขตฺตา. ทุสฺสีลสฺส ปน น อุปฺปชฺชเตว, สีลวโตปิ ปริจฺจตฺตกมฺมฏฺานสฺส น อุปฺปชฺชติ, ปริสุทฺธสีลสฺเสว ปน สุทฺธสมถลาภิโน, สุทฺธวิปสฺสนาลาภิโน, ตทุภยลาภิโน วา อุปฺปชฺชติ. เตสุ ตทุภยลาภี อรหตฺเต เอว อธิมฺิตฺวา ปติฏฺาติ สุวิกฺขมฺภิตกิเลสตฺตา, ปริมทฺทิตสงฺขารตฺตา จ, อิตเร โสตาปนฺนาทีสุปีติ เวทิตพฺพา. ปฺจสุ ปน ขนฺเธสุ ‘‘อหมสฺมี’’ติอาทินา ปวตฺโต มาโน อสฺมิมาโน นาม. ปาปเกน ปน ปรูปฆาตเกน กมฺมายตนสิปฺปายตนวิชฺชาฏฺานาทินา อตฺตานํ เสยฺยาทิโต ชปฺปนวเสน ปวตฺโต มาโน มิจฺฉามาโน นาม.

าติวิตกฺโกติอาทีสุ ‘‘มยฺหํ าตกา สุขชีวิโน สมฺปตฺติยุตฺตา’’ติ เอวํ เคหสิตเปเมน าตเก อุทฺทิสฺส อุปฺปนฺโน วิตกฺโก าติวิตกฺโก นาม, ‘‘าตกา ขยํ คตา วยํ คตา สทฺธา ปสนฺนา’’ติอาทินา ปน เนกฺขมฺมสิโต าติวิตกฺโก นาม น โหติ. เอวํ ชนปทวิตกฺเกปิ, ตสฺส ปน ‘‘อมฺหากํ ชนปโท สุภิกฺโข สุนฺทโร’’ติอาทินา ปวตฺติอากาโร เวทิตพฺโพ. อมรตฺถาย วิตกฺโก, อมโร วา วิตกฺโกติ อมรวิตกฺโก. ตตฺถ โย อุกฺกุฏิกปฺปธานาทีหิ ทุกฺเข นิชฺชิณฺเณ สมฺปราเย อตฺตา สุขี อมโร โหตีติ เอวํ ปวตฺโต, โส อมรตฺถาย วิตกฺโก นาม. โย ปน ทิฏฺิคติกสฺส เอกสฺมึ ปกฺเข อสณฺหิตฺวา ‘‘เอวมฺปิ เม โน, ตถาปิ เม โน, อฺถาปิ เม โน’’ติอาทินา อมรมจฺโฉ วิย คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ปวตฺโต, โส อมโร วิตกฺโก นาม. ตํ ทุวิธมฺปิ เอกโต กตฺวา อิธ ‘‘อมรวิตกฺโก’’ติ วุตฺโต.

อนุทฺทยตา ปติรูปเกน ปน คิหีหิ สหโสกิสหนนฺทิตาทิวเสน เคหสิตเปเมน ยุตฺโต ปรานุทฺทยตาปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก นาม. ลาเภน เจว สกฺกาเรน จ กิตฺติสทฺเทน จ สทฺธึ อารมฺมณกรณวเสน ยุตฺโต เคหสิโต วิตกฺโก ลาภสกฺการสิโลกปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก นาม, ตสฺส ปน ‘‘อโห วต เม ลาภาทโย อุปฺปชฺเชยฺยุ’’นฺติอาทินา ปวตฺติอากาโร เวทิตพฺโพ. ‘‘อโห วต มํ ปเร น อวชาเนยฺยุ’’นฺติ อุปฺปนฺโน เคหสิโต วิตกฺโก อนวฺตฺติปฏิสํยุตฺโต วิตกฺโก นาม. เอกกํ.

ทุกาทีสุ โกธาทโย เหฏฺา วุตฺตตฺเถ วชฺเชตฺวา อวเสสานฺเว วณฺณนา โหติ. ตตฺถ ทุเกสุ ตาว อุปนาโหติอาทีสุ ปุพฺพภาเค โกโธ ‘‘อกฺโกจฺฉิม’’นฺติอาทินา อาเสวเนน อปรกาเล เวรจิตฺเต ทฬฺหตรํ อาพทฺโธ อุปนาโห นาม, เยน สมนฺนาคโต เวรํ นิสฺสชฺชิตุํ น สกฺโกติ วสาเตลมกฺขิตปิโลติกา วิย, โสธิยมานมฺปิสฺส จิตฺตํ น ปริสุชฺฌติ, สฺวายํ เวรุปนิพนฺธนลกฺขโณ.

ปรคุณํ ปน วินาเสตฺวา ตตฺถ โทสมกฺขนวเสน ปวตฺโต โกโธ มกฺโข นาม. อยํ หิ ปมตรํ อตฺตโน จิตฺตํ คูโถ วิย คูถคฺคาหกํ หตฺถํ มกฺเขติ, ปจฺฉา ปรนฺติ ‘‘มกฺโข’’ติ วุตฺโต, สฺวายํ ปรคุณมกฺขนลกฺขโณ. ปฬาเสตีติ ปฬาโส, ปรสฺส คุเณ ทสฺเสตฺวา อตฺตโน คุเณหิ สเม กโรตีติ อตฺโถ. ตถาปวตฺโต โลโภ, สฺวายํ ยุคคฺคาหลกฺขโณ.

ทฺวารตฺตเยปิ วิชฺชมานสฺเสว โทสสฺส ปฏิจฺฉาทนโต จกฺขุโมหนมายา วิยาติ มายา, สา กตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณา. สสฺส ภาโว, กมฺมํ วา สาเยฺยํ, เกราฏิยํ, ตํ อวิชฺชมานคุณปฺปกาสนลกฺขณํ.

อนชฺชวาทโย เหฏฺา วุตฺตอชฺชวาทิปฏิปกฺขอกุสลวเสน เวทิตพฺพา. อชฺฌตฺตสํโยชนนฺติอาทีสุ อชฺฌตฺตนฺติ กามภโว, ตตฺถ สตฺเต พนฺธนวเสน ปวตฺตานิ ปฺโจรมฺภาคิยสํโยชนานิ อชฺฌตฺตสํโยชนํ นาม. พหิทฺธาติ รูปารูปภโว. ตตฺถ พนฺธนวเสน ปวตฺตานิ ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ พหิทฺธาสํโยชนํ นาม. กามภเว หิ สตฺตานํ อาลโย พหุโก, น อิตเรสุ, ตสฺมา โส อชฺฌตฺตํ อิตเร จ พหิทฺธาติ เวทิตพฺพา. ทุกํ.

ติเกสุ ปน โลภาทีนิ ตีณิ อกุสลมูลานิ นาม. กามพฺยาปาทวิหึสาสมฺปยุตฺตา วิตกฺกา ตโย อกุสลวิตกฺกา นาม. เต เอว สฺาสีเสน ติสฺโส อกุสลสฺา. สภาวฏฺเน ติสฺโส อกุสลธาตุโยติ จ วุจฺจนฺติ. กายวจีมโนทุจฺจริตานิ ตีณิ ทุจฺจริตานิ นาม, ตานิ ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตานํ ปาณาติปาตาทีนํ, สพฺพากุสลานํ วา วเสน โยเชตพฺพานิ. สุตฺตนฺตปริยาเยน ปน ทิฏฺาสววชฺชิตา กามาสวาทโย ตโย อาสวา นาม. สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสา ตีณิ สํโยชนานิ นาม.

กามตณฺหา ภวตณฺหา วิภวตณฺหา จ ติสฺโส ตณฺหา นาม. ตตฺถ สสฺสตทิฏฺิสหคโต ราโค ภวตณฺหา, อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต ราโค วิภวตณฺหา, อวเสสา ปน สพฺพาปิ ตณฺหา กามตณฺหา. กามธาตุปฏิสํยุตฺโต วา ราโค กามตณฺหา, รูปารูปธาตุปฏิสํยุตฺโต ภวตณฺหา, อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต วิภวตณฺหาติ เวทิตพฺพา. กามตณฺหา รูปตณฺหา อรูปตณฺหา จ อปราปิ ติสฺโส ตณฺหา นาม. รูปตณฺหา อรูปตณฺหา นิโรธตณฺหา จ ปุน อปราปิ ติสฺโส ตณฺหา นาม. ตตฺถ นิโรธตณฺหาติ อุจฺเฉททิฏฺิสหคโต. กาเมสนา ภเวสนา พฺรหฺมจริเยสนา จ ติสฺโส เอสนา นาม. ตตฺถ พฺรหฺมจริเยสนาติ สสฺสตุจฺเฉททิฏฺิสงฺขาตพฺรหฺมจริยสฺส คเวสนา. ‘‘เสยฺโยหมสฺมีติ วิธา, สทิโสหมสฺมีติ วิธา, หีโนหมสฺมีติ วิธา’’ติ เอวํ วุตฺตมานวิธา ติสฺโส วิธา นาม. มาโน หิ เสยฺยาทิวเสน วิทหนโต มฺนโต ‘‘วิธา’’ติ วุจฺจติ. ชาติชรามรณานิ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนานิ ภยานิ ตีณิ ภยานิ นาม. ‘‘อตีตํ วา อทฺธานํ อารพฺภา’’ติอาทินา วุตฺตานิ ตีณิ, พุทฺธาทีสุ กงฺขนวิจิกิจฺฉนวเสน ปวตฺตา ติสฺโส อวิชฺชา ตีณิ ตมานิ นาม. วิจิกิจฺฉาสีเสน ตสฺส วิภงฺเค ตํสมฺปยุตฺตา อวิชฺชาว วุตฺตา, ตสฺสา เอว ปฏิจฺฉาทกตฺเตนปิ ตมภาวโตติ ทฏฺพฺพํ.

ยํ กิฺจิ ปน สตฺตสฺส สุขาทิกํ อุปฺปชฺชติ, ตํ สพฺพํ ปุพฺเพกตเหตูติ เอกํ ติตฺถายตนํ, อิสฺสรนิมฺมานเหตูติ ทุติยํ, อเหตุอปฺปจฺจยาติ ตติยนฺติ อิมานิ ตีณิ ติตฺถายตนานิ นาม. ตตฺถ ปมวาที กุสลากุสลกิริยอุตุจิตฺตาหาราทิกํ, คติอุปธิอาทิกํ, สปฺปุริสูปนิสฺสยสทฺธมฺมสฺสวนาทิกฺจ สพฺพํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนํ ปฏิกฺขิปิตฺวา เอกํ กมฺมวิปากเมว สมฺปฏิจฺฉติ, อิตเร ปน ทฺเวปิ สพฺพํ เหตุํ ปฏิกฺขิปิตฺวา อิสฺสรเหตุกํ, อเหตุกฺจ สมฺปฏิจฺฉนฺติ, เตสํ ติณฺณํ วาทานํ วเสเนว ปโยชนาภาวาทิโต ยถานุรูปํ โทโส าตพฺโพ. คนฺถวิตฺถารภเยน ปเนตฺถ น วิตฺถารยิมฺห.

ราคโทสโมหา ปน ตโย ปลิโพธฏฺเน กิฺจนา นาม. เต เอว หิ กิเลสฏฺเน องฺคณานิ, มลีนภาวกรณฏฺเน มลานิ, ปกฺขลนปาตเหตุโต วิสมานิ จ โหนฺติ. ปาณาติปาตาทีนิ กายวจีมโนวิสมานิ อปรานิปิ ตีณิ วิสมานิ นาม. ราคโทสโมหา อนุทหนฏฺเน ตโย อคฺคี, กสฏนิโรชฏฺเน กสาวา จ โหนฺติ. ปาณาติปาตาทีนิ กายกสาวาทโย ปน อปเรปิ ตโย กสาวา นาม. อสฺสาททิฏฺิตฺติเก กามปริโภเค ‘‘นตฺถิ กาเมสุ โทโส’’ติ เอวํ ปวตฺตา สสฺสตทิฏฺิ อสฺสาททิฏฺิ นาม. วีสติวตฺถุกา ปน อตฺตทิฏฺิ อตฺตานํ อนุคตตฺตา อตฺตานุทิฏฺิ นาม. ตสฺสา ปน ‘‘รูปํ อตฺตโต สมนุปสฺสติ, รูปวนฺตํ วา อตฺตานํ, อตฺตนิ วา รูปํ, รูปสฺมึ วา อตฺตานํ สมนุปสฺสตี’’ติ เอวํ รูปกฺขนฺเธ จตสฺโส ทิฏฺิโย. เอวํ เสสกฺขนฺเธสุปีติ วีสติวตฺถุกตา เวทิตพฺพา.

ตตฺถ จ รูปํ อตฺตโตทิอาทินา ปฺจกฺขนฺเธ อตฺตโต คหณวเสน ปวตฺตา ปฺจ อุจฺเฉททิฏฺิโย, เสสา ปน สสฺสตทิฏฺิโยติ เวทิตพฺพา. ‘‘นตฺถิ ทินฺน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา ปน นตฺถิกทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิ นาม, ลามกทิฏฺีติ อตฺโถ. อรติตฺติเก ปาณิเลฑฺฑุทณฺฑาทีหิ สตฺตานํ วิหึสนา วิเหสา นาม. ทฺวารตฺตยปฺปวตฺตอกุสลธมฺมสฺส จริยา อธมฺมจริยา นาม. โทวจสฺสตาติเก สาว กามพฺยาปาทวิหึสาสฺา นานารมฺมเณสุ ปวตฺติโต, นานาภูตตฺตา จ นานตฺตสฺา นาม. อุทฺธจฺจตฺติเก กุสีตสฺส ภาโว โกสชฺชํ, ปมาโทว. อนาทริยตฺติเก โอวาทสฺส อนาทิยนวสปฺปวตฺโต โกโธ อนาทริยํ นาม. อสฺสทฺธิยตฺติเก รตนตฺตยกมฺมผลานํ อสทฺทหนวสปฺปวตฺตา อกุสลธมฺมา อสฺสทฺธิยํ นาม. ปฺจวิธมจฺฉริยวเสน ‘‘เทหี’’ติ วจนสฺส อชานนา อวทฺุตา นาม.

อุทฺธจฺจตฺติเก มนจฺฉฏฺเสุ อินฺทฺริเยสุ อคุตฺตทฺวารตา อสํวโร นาม. กายิกวาจสิกวีติกฺกโม ทุสฺสีลฺยํ นาม. อริยตฺติเก พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ ทสฺสโนปาสนาทีสุ อนิจฺฉา อริยานํ อทสฺสนกมฺยตา นาม. โพธิปกฺขิกสทฺธมฺมสฺส สวนธารณาทีสุ อนิจฺฉา สทฺธมฺมํ อโสตุกมฺยตา นาม. ปรสฺส โทสาโรปเน รนฺธคเวสิตาสงฺขาโต อุปารมฺโภว อุปารมฺภจิตฺตตา นาม. มุฏฺสฺสจฺจตฺติเก อุทฺธจฺจํ เจตโส วิกฺเขโป นาม. อโยนิโสมนสิการตฺติเก ‘‘อนิจฺเจ นิจฺจ’’นฺติอาทินา, สจฺจปฏิปกฺขวเสน วา อนุปายมนสิการสงฺขาตํ อาวชฺชนจิตฺตํ อโยนิโสมนสิกาโร นาม. มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย อฏฺ มิจฺฉามคฺคา กุมฺมคฺโค นาม, มิจฺฉามคฺคสฺส อาเสวนา กุมฺมคฺคเสวนา นาม. ถินมิทฺธํ เจตโส จ ลีนตฺตํ นาม. ติกํ.

จตุกฺเกสุ จีวราทีสุ จตูสุ ปจฺจเยสุ ‘‘กตฺถ มนาปํ ลภิสฺสามี’’ติ ตณฺหาย อุปฺปาโท จตฺตาโร ตณฺหุปฺปาทา นาม. น คจฺฉนฺติ เอตาหิ อริยาติ อคติโย, ฉนฺทโทสโมหภยา. ตา หิ อคนฺตพฺพมคฺคคมนานิ อกตฺตพฺพกรณานิ จตฺตาริ อคติคมนานิ นาม. ตตฺถ ฉนฺโทติ ปกฺขปาตราโค. ภยนฺติ ตถาปวตฺโต โทโส. อนิจฺจาทีสุ ‘‘นิจฺจํ สุขํ อตฺตา สุภ’’นฺติ เอวํ ปวตฺตา จตฺตาโร วิปริยาสา วิปรีตโต ธมฺเม เอสนโต. เตสุ วา อาสนโต ปวิสนโต จตฺตาโร วิปริยาสา นาม. เต สฺาจิตฺตทิฏฺิวิปริยาสวเสน ปจฺเจกํ ตโย ตโย หุตฺวา ทฺวาทส โหนฺติ. เตสุ อนิจฺเจ นิจฺจํ, อนตฺตนิ อตฺตาติ สฺาจิตฺตทิฏฺิวิปริยาสา ฉ, ทุกฺเข สุขํ, อสุเภ สุภนฺติ ทิฏฺิวิปริยาสา ทฺเว จาติ อฏฺ โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺติ, อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปริยาสา ทฺเว อนาคามิมคฺเคน, ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปริยาสา ทฺเว อรหตฺตมคฺเคนาติ เวทิตพฺพา.

อทิฏฺเ ทิฏฺํ, อสุเต สุตํ, อมุเต มุตํ, อวิฺาเต วิฺาตนฺติ เอวํ ปวตฺตา จตฺตาโร อนริยโวหารา นาม. ทิฏฺาทีสุ ปน อทิฏฺํ อสุตํ อมุตํ อวิฺาตนฺติ เอวํ ปวตฺตา อปเรปิ จตฺตาโร อนริยโวหารา นาม. อิเม จ ปุริเมหิ สทฺธึ อฏฺ อนริยโวหาราติปิ วุจฺจนฺติ. ปาณาติปาตอทินฺนาทานกาเมสุมิจฺฉาจารมุสาวาทา จตฺตาริ ทุจฺจริตานิ นาม. มุสาวาทาทิวจีทุจฺจริตานิ อปรานิปิ จตฺตาริ วจีทุจฺจริตานิ นาม. ชาติชราพฺยาธิมรณภยานิ จตฺตาริ ภยานิ นาม. ราชโจรอคฺคิอุทกภยานิ จตฺตาริ, สมุทฺทํ โอโรหนฺตสฺส ปน อุปฺปชฺชนกานิ อูมิกุมฺภีลอาวฏฺฏสุสุกาภยานิ จ จตฺตาริ, อตฺตานุวาทปรานุวาททณฺฑทุคฺคติภยานิ จตฺตาริ จาติ อิมานิ วา อปรานิ ตีณิ จตุกฺกานิ จตฺตาริ ภยานิ นาม. ตตฺถ สุสุกาติ จณฺฑมจฺฉา. สพฺพานิปิ เจตานิ ภยานิ ปฏิฆจิตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. สพฺพํ สุขทุกฺขาทิกํ สยํกตํ ปรํกตํ อุภยกตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ เอวํ อุปฺปชฺชมานา อิมา จตสฺโส ทิฏฺิโย นาม. จตุกฺกํ.

ปฺจเกสุ ปฺโจรมฺภาคิยาติอาทีสุ โอรํ วุจฺจติ กามธาตุ เหฏฺาภาวโต, ตตฺถ อุปปตฺตินิปฺผาทนโต ตํ โอรํ ภชนฺตีติ สกฺกายทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสกามราคปฏิฆา ปฺจ โอรมฺภาคิยสํโยชนานิ นาม. อุทฺธนฺติ รูปารูปธาตุ อุปริภาวโต, ตํ วุตฺตนเยน ภชนฺตีติ รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชา ปฺจ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ นาม. ราคโทสโมหมานทิฏฺิโย ปฺจ ลคฺคนฏฺเน สงฺคา นาม. เต เอว ปฺจ อนุปวิสนฏฺเน, ตุทนฏฺเน จ ปฺจ สลฺลา นาม. สตฺถุธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ กงฺขนานิ จตฺตาริ, สพฺรหฺมจารีสุ กุปิตจิตฺตตา จาติ อิเม ปฺจ จิตฺตสฺส ถทฺธกจวรขาณุกภาวกรณตฺตา เจโตขิลา นาม. กาเมสุ อวีตราโค. กาเย…เป… รูเป…เป… ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรติ, อฺตรํ เทวนิกายํ ปณิธาย พฺรหฺมจริยํ จรตีติ เอวํ ปวตฺตา ปฺจ ธมฺมา จิตฺตํ พนฺธิตฺวา มุฏฺิยํ กตฺวา วิย คหณโต เจตโสวินิพนฺธา นาม. ตตฺถ กาเยติ อชฺฌตฺติเก กาเย, รูเปติ พหิทฺธารูเป. สฺี อตฺตา, อสฺี อตฺตา, เนวสฺีนาสฺี อตฺตา, สํวิชฺชมาโน ปน อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานํ วา ปาปุณาตีติ เอวํ ปวตฺตา ปฺจ ทิฏฺิโย นาม.

ปาณาติปาตาทิมชฺชปานปริโยสานา ปฺจ เวรกรณฏฺเน เวรา นาม. าติโภคโรคสีลทิฏฺิพฺยสนานิ ปฺจ พฺยสนา นาม. ตตฺถ พฺยสนาติ วินาสสหชาตา, ตโต อุปฺปนฺนา อกุสลา . พหุชนสฺส อปฺปิยตา, เวรพหุลตา, วชฺชพหุลตา, สมฺมูฬฺหมรณํ, อปายคมนนฺติ อิเม ปฺจ อกฺขนฺติยา อาทีนวา, อนธิวาสนาย โทสาติ อตฺโถ. อาชีวกภยํ อสิโลกภยํ ปริสสารชฺชภยํ มรณภยํ ทุคฺคติภยนฺติ อิมานิ ปฺจ ภยานิ นาม. ยาวทตฺถํ ปฺจกามคุณปริโภเคน เจว ปมชฺฌานาทีหิ จตูหิ ฌาเนหิ จาติ ปฺจหิ การเณหิ อตฺตา ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานปฺปตฺโต โหตีติ ปวตฺตา วาทา ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทา นาม. ปฺจกํ.

ฉกฺเกสุ ปน โกโธ มกฺโข อิสฺสา สาเยฺยํ ปาปิจฺฉตา สนฺทิฏฺิปรามาสิตาติ อิมานิ ฉ วิวาทมูลานิ. มนาปิเยสุ รูปาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ ฉนฺทราโคติ อิเม ฉ ฉนฺทราคา เคหสิตา ธมฺมา นาม. อมนาปิเยสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ ปฏิโฆ ฉ วิโรธวตฺถูนิ นาม. วิโรโธ เอว วตฺถุ วิโรธวตฺถุ. ฉสุ อารมฺมเณสุ ตณฺหาว ฉ ตณฺหากายา นาม. สตฺถุธมฺมสงฺฆสิกฺขาสุ, อปฺปมาเท, ปฏิสนฺถาเร จ อคารวา ฉ อคารวา นาม. กมฺมารามตา, ภสฺสนิทฺทาสงฺคณิกสํสคฺคปปฺจารามตา จ ฉ ปริหานิยา ธมฺมา นาม, ปริหานิกราติ อตฺโถ. ตตฺถ สวนทสฺสนสมุลฺลปนปริโภคกายสํสคฺเคสุ ปฺจสุ ยุตฺตปยุตฺตตา สํสคฺคารามตา. ตณฺหามานทิฏฺิปปฺเจสุ ยุตฺตปยุตฺตตา ปปฺจารามตาติ เวทิตพฺพํ. กมฺมภสฺสนิทฺทาสงฺคณิการามตา จตฺตาโร, โทวจสฺสตา, ปาปมิตฺตตา ทฺเว จาติ อิเม อปเรปิ ฉ ปริหานิยา ธมฺมา นาม.

โสมนสฺสฏฺานิเยสุ รูปาทีสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ อุปฺปนฺนา เคหสิตโสมนสฺสสมฺปยุตฺตา วิจารา โสมนสฺสุปวิจารา นาม, วิตกฺกาทโย ธมฺมา, ตํสมฺปยุตฺตา จาติ คเหตพฺพา. เอส นโย อิตรทฺวเยปิ. อฺาณสหิตา ปเนตฺถ เวทนุเปกฺขา อุเปกฺขาติ เวทิตพฺพา, ยา ‘‘อฺาณุเปกฺขา’’ติปิ วุจฺจติ. อิฏฺานิฏฺมชฺฌตฺเตสุ ฉสุ อารมฺมเณสุ ยถากฺกมํ อุปฺปนฺนา เวทนา ‘‘ฉ เคหสิตานิ โสมนสฺสานี’’ติอาทินา ฉกฺกตฺตเยน วุตฺตา. ‘‘อตฺถิ เม อตฺตา’’ติ วา, ‘‘นตฺถิ เม อตฺตา’’ติ วา, ‘‘อตฺตนา วา อตฺตานํ สฺชานามี’’ติ วา, ‘‘อตฺตนา วา อนตฺตานํ สฺชานามี’’ติ วา, ‘‘อตฺตนา วา อตฺตานํ สฺชานามี’’ติ วา, ‘‘โส เม อยํ อตฺตา การโก เวทโก นิจฺโจ ธุโว’’ติ เอวํ อุปฺปชฺชมานา อิมา ฉ ทิฏฺิโย นาม. ตตฺถ อตฺถีติ สสฺสตทิฏฺิ. นตฺถีติ อุจฺเฉททิฏฺิ. ปฺจปิ ขนฺเธ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา สฺากฺขนฺเธน เสสานํ ชานนวเสน อตฺตนา วา อตฺตานํ สฺชานามีติ ทิฏฺิ, สฺากฺขนฺธํ ปน ‘‘อตฺตา’’ติ, อิตเร จ ‘‘อนตฺตา’’ติ คเหตฺวา อตฺตนา วา อนตฺตานํ สฺชานามีติ ทิฏฺิ, สฺากฺขนฺธํ ปน ‘‘อนตฺตา’’ติ, อิตเร จ ‘‘อตฺตา’’ติ คเหตฺวา อนตฺตนา วา อตฺตานํ สฺชานามีติ ทิฏฺิ จ เวทิตพฺพา. ฉกฺกํ.

สตฺตเกสุ ปน กามราคปฏิฆมานทิฏฺิวิจิกิจฺฉาภวราคอวิชฺชา สตฺต ถามคตฏฺเน, อปฺปหีนฏฺเน จ จิตฺตสนฺตาเน อนุ อนุ สยนโต อนุสยา นาม. เต เอว สตฺเต วฏฺฏสฺมึ สํโยชนโต สํโยชนานิ. สมุทาจารวเสน ปริยุฏฺานโต ปริยุฏฺานาติ เวทิตพฺพา. อสฺสทฺธิยํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปํ อปฺปสฺสุตตา โกสชฺชํ มุฏฺสฺสจฺจํ ทุปฺปฺตาติ อิเม สตฺต อสตํ อสปฺปุริสานํ, อสนฺตา วา ลามกา ธมฺมาติ อสทฺธมฺมา นาม. ปาณาติปาตาทโย กายวจีทุจฺจริตานิ สตฺต ทุจฺจริตานิ นาม. มาโน อติมาโน มานาติมาโน โอมาโน อธิมาโน อสฺมิมาโน มิจฺฉามาโนติ อิเม สตฺต มานา นาม. ‘‘มนุสฺสโลเก มาตาเปตฺติกสมฺภโว อตฺตา อุจฺฉิชฺชติ, ตถา ฉสุ เทวโลเกสุ ทิพฺโพ กพฬีการภกฺโข อตฺตา, รูปโลเก รูปี มโนมโย อตฺตา, จตูสุ อรูปภเวสุ จตุพฺพิโธ อรูปี อตฺตา ตตฺถ ตตฺถ อุจฺฉิชฺชติ วินสฺสติ น โหติ ปรํ มรณา’’ติ เอวํ ปวตฺตา สตฺต อุจฺเฉททิฏฺิโย สตฺต ทิฏฺิโย นาม. เอตฺถ จ อาทิโต ติสฺโส ทิฏฺิโย รูปกฺขนฺธํ อตฺตโต คเหตฺวา ปวตฺตา อุจฺเฉททิฏฺิโย, เสสา จตสฺโส อรูปกฺขนฺเธติ าตพฺพา. สตฺตกํ.

อฏฺเกสุ ปน โลโภ โทโส โมโห มาโน ทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา ถินํ อุทฺธจฺจฺจาติ อฏฺ กิเลสวตฺถูนิ นาม. ‘‘ยํ กิฺจิ กมฺมํ กตฺตพฺพํ เม’’ติ เอกํ, ตถา ‘‘กตํ เม’’ติ, ‘‘มคฺโค เม คนฺตพฺโพ’’ติ, ‘‘คโต’’ติ, ‘‘อปฺปกํ เม ภุตฺต’’นฺติ, ‘‘สุภุตฺต’’นฺติ, ‘‘อาพาโธ เม อุปฺปนฺโน’’ติ, ‘‘อจิรวุฏฺิโต เคลฺา’’ติ เอกนฺติ อิมานิ อฏฺ กุสีตวตฺถูนิ นาม, กุสีตสฺส โกสชฺชการณานีติ อตฺโถ. ลาเภ อลาเภ จ ยเส อยเส จ ปสํสาย นินฺทาย จ สุเข ทุกฺเข จ ยถากฺกมํ ราคโทเสหิ จิตฺตสฺส ปฏิหนนํ อฏฺสุ โลกธมฺเมสุ จิตฺตสฺส ปฏิฆาโต นาม. เหฏฺา ทฺวีหิ จตุกฺเกหิ วุตฺตา อฏฺ อนริยโวหารา นาม. มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย อฏฺ มิจฺฉตฺตา นาม. ภิกฺขูหิ วิชฺชมานาย อาปตฺติยา โจทิยมานสฺส ‘‘น สรามี’’ติ นิพฺเพนํ เอกํ, ‘‘ตฺวํ พาโล’’ติอาทินา โจทกปฏิปฺผรณํ เอกํ, ตถา ‘‘ตุวํ เจตมาปนฺโน’’ติ โจทกสฺส ปจฺจาโรปนํ, อฺเนฺํ ปฏิจรณํ, สงฺเฆ พาหาวิกฺเขปภณนํ, ตุณฺหีภาเวน วิเหนํ, สงฺฆํ, โจทกฺจ อนาทิยิตฺวา ปกฺกมนํ, โจทนาภยา สิกฺขาปจฺจกฺขานนฺติ อิเม อฏฺ ปุริสโทสา นาม. อสฺี อตฺตา รูปี, อรูปี , รูปี จ อรูปี จ, เนวรูปีนารูปี, อนฺตวา, อนนฺตวา, อนฺตวา จ อนนฺตวา จ, เนวนฺตวานานนฺตวาติ เอวํ ปวตฺตา อฏฺ อสฺีวาทา นาม. เนวสฺีนาสฺี อตฺตา รูปี อรูปีติอาทินา ปวตฺตา อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา นาม. อฏฺกํ.

นวเกสุ ปน ‘‘อนตฺถํ เม อจริ, จรติ, จริสฺสติ, ปิยสฺส เม อนตฺถํ อจริ, จรติ, จริสฺสติ, อปฺปิยสฺส เม อตฺถํ อจริ, จรติ, จริสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตา นว อาฆาตา เอว อาฆาตวตฺถูนิ นาม. โกโธ มกฺโข อิสฺสา มจฺฉริยํ มายา สาเยฺยํ มุสาวาโท ปาปิจฺฉตา มิจฺฉาทิฏฺีติ อิมานิ นว ปุริสมลานิ นาม. ‘‘เสยฺยสฺส เสยฺโยหมสฺมี’’ติอาทโย นววิธา มานา นาม. ‘‘ตณฺหํ ปฏิจฺจ ปริเยสนา, ปริเยสนํ ปฏิจฺจ ลาโภ, ตํ ปฏิจฺจ วินิจฺฉโย, ตํ ปฏิจฺจ ฉนฺทราโค, ตํ ปฏิจฺจ อชฺโฌสานํ, ตถา ปริคฺคโห, มจฺฉริยํ, อารกฺโข, อารกฺขาธิกรณํ ทณฺฑาทานสตฺถาทานกลหวิคฺคหวิวาทาทิอเนเก ปาปกา ธมฺมา’’ติ เอวํ วุตฺตา อิเม นว ตณฺหามูลกา ธมฺมา นาม. ตตฺถ วินิจฺฉโยติ าณตณฺหาทิฏฺิวิตกฺกวเสน จตูสุ วินิจฺฉเยสุ วิตกฺกวินิจฺฉโย อิธ อธิปฺเปโต. ลาภํ หิ ลภิตฺวา ‘‘อิทํ รูปารมฺมณตฺถาย, อิทํ สทฺทารมฺมณาทิอตฺถายา’’ติ เอวํ วิตกฺเกเนว วินิจฺฉโย. ฉนฺทราโค ทุพฺพลราโค, อชฺโฌสานนฺติ พลวสนฺนิฏฺานํ. ปริคฺคโหติ ตณฺหาทิฏฺิวเสน ปริคฺคหกรณนฺติ เวทิตพฺพํ. ‘‘อสฺมี’’ติ, ‘‘อหมสฺมี’’ติ, ‘‘อยมหมสฺมี’’ติ, ‘‘ภวิสฺส’’นฺติ, ‘‘รูปี ภวิสฺส’’นฺติ, ‘‘อรูปี ภวิสฺส’’นฺติ, ‘‘สฺี ภวิสฺส’’นฺติ, ‘‘อสฺี ภวิสฺส’’นฺติ, ‘‘เนวสฺีนาสฺี ภวิสฺส’’นฺติ เอวํ วุตฺตานิ อิมานิ นว จลนฏฺเน อิฺชิตานิ นาม. อิมาเนว มฺนฏฺเน มฺิตานิ, วิปฺผนฺทนโต วิปฺผนฺทิตานิ, ปปฺจนโต ปปฺจิตานิ, ตาเนว เตหิ เตหิ การเณหิ สงฺขตตฺตา สงฺขตานิ จ นาม โหนฺติ. สพฺเพหิ เตหิ ปฺจหิ นวเกหิ มาโน เอว กถิโต. โสปิ หิ ‘‘อสฺมี’’ติอาทีหิ สฺีหิ จ อากาเรหิ ทิฏฺิ วิย ปวตฺตตีติ. นวกํ.

ทสเกสุ ปน โลโภ โทโส โมโห มาโน ทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม ทส กิเลสา เอว กิเลสวตฺถูนิ นาม. ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทโย นว ขาณุกณฺฏกาทีสุ อฏฺานอาฆาเตน สทฺธึ ทส อาฆาตวตฺถูนิ นาม. ปาณาติปาตาทโย ทส อกุสลกมฺมปถา นาม. กามราคสํโยชนํ ปฏิฆมานทิฏฺิวิจิกิจฺฉาสีลพฺพตปรามาสภวราคอิสฺสามจฺฉริยอวิชฺชาสํโยชนนฺติ อิมานิ ทส สํโยชนานิ นาม. มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปาทโย อฏฺ, มิจฺฉาาณมิจฺฉาวิมุตฺตีหิ สทฺธึ ทส มิจฺฉตฺตา นาม. ตตฺถ มิจฺฉาาณนฺติ ปาปกิริยาสุ อุปายจินฺตาวเสน เจว ปาปกํ กตฺวา ‘‘สุกตํ มยา’’ติ ปจฺจเวกฺขณวเสน จ ปวตฺโต โมโห. มิจฺฉาวิมุตฺตีติ อวิมุตฺตสฺเสว สโต วิมุตฺตสฺิตา. ‘‘นตฺถิ ทินฺนํ, นตฺถิ ยิฏฺ’’นฺติอาทีหิ ทสหิ อากาเรหิ ปวตฺตํ นตฺถิกทสฺสนํ ทสวตฺถุกา มิจฺฉาทิฏฺิ นาม. ‘‘สสฺสโต โลโก, ตถา อสสฺสโต, อนฺตวา, อนนฺตวา, ตํ ชีวํ ตํ สรีร’’นฺติ วา, ‘‘อฺํ ชีวํ อฺํ สรีร’’นฺติ วา, ‘‘โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา, ‘‘น โหติ…เป… โหติ จ น โหติ จ, เนว โหติ น น โหติ ตถาคโต ปรํ มรณา’’ติ วา เอวํ ปวตฺตา ทสวตฺถุกา อนฺตคฺคาหิกา ทิฏฺิ นาม. ตตฺถ โลโกติ ขนฺธาทโย, ‘‘อนฺตวา’’ติ อิทํ ปริตฺตํ กสิณชฺฌานํ สนฺธาย วุตฺตํ. ‘‘อนนฺตวา’’ติ อิทํ วิปุลนฺติ คเหตพฺพํ. ตถาคโตติ สตฺโต. ทสกํ.

อฏฺารสเกสุ ตณฺหาวิจริตานีติ ตณฺหาสมุทาจารา ตณฺหาปวตฺติโย. อชฺฌตฺติกสฺสุปาทายาติ อชฺฌตฺติกํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. อิทํ หิ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ตตฺถ ‘‘อสฺมีติ โหติ, อิตฺถสฺมีติ โหติ, เอวสฺมีติ โหติ, อฺถาสฺมีติ โหติ, ตถา ภวิสฺสนฺติ, อิตฺถํ ภวิสฺสนฺติ, เอวํ ภวิสฺสนฺติ, อฺถา ภวิสฺสนฺติ โหติ, ตถา อสฺมีติ, สาตสฺมีติ โหติ, ตถา สิยนฺติ, อิตฺถํ สิยนฺติ, เอวํ สิยนฺติ, อฺถา สิยนฺติ โหติ, ตถา อปาหํ สิยนฺติ, อปาหํ อิตฺถํ สิยนฺติ, อปาหํ เอวํ สิยนฺติ, อปาหํ อฺตา สิยนฺติ โหตี’’ติ เอวํ วุตฺตานิ อิมานิ อชฺฌตฺติกสฺสุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานิ นาม.

ตตฺถ อสฺมีติ โหตีติ อชฺฌตฺติเกสุ ขนฺธปฺจเกสุ สมูหโต ‘‘อหมสฺมี’’ติ คหเณ สตีติ อตฺโถ. เอวํ ปน คหเณ สติ ตโต ปรํ อนุปนิธาย, อุปนิธาย วาติ ทฺวิธา คหณํ โหติ. ตตฺถ อนุปนิธายาติ อฺํ อาการํ อนุปนิธาย อนุปคมฺม สกภาวเมวารมฺมณํ กตฺวา อิตฺถสฺมีติ โหติ. ตสฺส ‘‘ขตฺติยาทีสุ อิทํปกาโร อห’’นฺติ ตณฺหามานทิฏฺิวเสน คหณํ โหตีติ อตฺโถ. อุปนิธาย คหณํ ปน ทุวิธํ โหติ สมโต จ อสมโต จ. ตตฺถ สมโต คหณํ เอวสฺมีติ อิทํ, ตสฺส ยถา อยํ ขตฺติโย, พฺราหฺมณาทโย วา เทวมนุสฺสรูปีอรูปิอาทโย วา, เอวมหมสฺมีติ อตฺโถ. อฺถาสฺมีติ อิทํ ปน อสมโต คหณํ, ตสฺส ยถา อิเม ขตฺติยาทโย, ตโต อฺถา อหํ หีโน วา อธิโก วาติ อตฺโถ. อิมานิ ตาว ปจฺจุปฺปนฺนวเสน จตฺตาริ ตณฺหาวิจริตานิ, ภวิสฺสนฺติอาทีนิ ปน จตฺตาริ อนาคตวเสน วุตฺตานิ. เตสํ ปุริมจตุกฺเก วุตฺตนยวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อสฺมีติอาทิทฺวยํ สสฺสตุจฺเฉทคฺคาหวเสน วุตฺตํ. ตตฺถ หิ อสฺมีติ สสฺสตํ, สีทตีติ สาตํ, อสสฺสตํ, อิโต ปรานิ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ สํสยปริวิตกฺกวเสน วุตฺตานิ. อปาหํ สิยนฺติอาทีนิ จตฺตาริ ‘‘อปิ นามาหํ ภเวยฺย’’นฺติ เอวํ ปวตฺตปตฺถนากปฺปนวเสน วุตฺตานีติ ทฏฺพฺพํ. อฏฺารสกํ ปมํ.

ทุติเย พาหิรสฺสุปาทายาติ พาหิรํ ขนฺธปฺจกํ อุปาทาย. ตตฺถ ‘‘อิมินา อสฺมีติ โหติ, อิมินา อิตฺถสฺมีติ โหติ, อิมินา เอวสฺมีติ โหติ, อิมินา อฺถาสฺมีติ โหตี’’ติอาทินา อนนฺตเร วุตฺตนเยน พาหิรสฺสุปาทาย อฏฺารส ตณฺหาวิจริตานีติ เวทิตพฺพานิ. ‘‘อิมินา’’ติ ปทมตฺตเมว เหตฺถ ปุริเมหิ วิเสโส. ตตฺถ อิมินาติ อิมินา พาหิเรน รูเปน วา…เป… วิฺาเณน วาติ อตฺโถ. ตตฺถ จ ฉตฺตขคฺคพีชนิอนฺนปานธนธฺาทิอุปกรณวเสน พาหิรํ รูปํ เวทิตพฺพํ. ทาสทาสิาติปริชนหตฺถิอสฺสาทิอุปกรณวเสน เวทนาทโย เวทิตพฺพา. อิเมหิ พาหิเรหิ รูปาทีหิ ‘‘อิตฺถสฺมีติ เอวสฺมี’’ติอาทินา สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา. อฏฺารสกํ ทุติยํ.

อิตเรสุ ปน ตเทกชฺฌํ อภิสํยูหิตฺวาติอาทีสุ ตทุภยํ อฏฺารสกํ เอกโต โยเชตฺวา ฉตฺตึสตณฺหาวิจริตานิ โหนฺติ, เอวํ เอเกกสฺส ปุคฺคลสฺส อตีตกาเล ทฺวินฺนํ อฏฺารสกานํ วเสน ฉตฺตึส, ตถา อนาคเต ฉตฺตึส โหนฺติ. ปจฺจุปฺปนฺเน ปน เอกสฺส ยถาลาภวเสน ตานิปิ ลพฺภนฺติ, สพฺพสตฺตานํ วเสน ปจฺจุปฺปนฺเนปิ ฉตฺตึส ลพฺภนฺติ. อิติ เอวํ วุตฺเตน ปกาเรน ตํ สพฺพํ เอกโต กตฺวา สพฺพสตฺตานํ กาลตฺตเยปิ ฉนฺนํ อฏฺารสกานํ วเสน อฏฺสตํ ตณฺหาวิจริตานิ โหนฺตีติ อตฺโถ. อฏฺตณฺหาวิจริตสตํ โหตีติ เอตฺถาปิ เอวเมว อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

ตณฺหาวิจริตานิ นิฏฺิตานิ.

ยานิ จาติอาทีสุ ยานิ เจตฺถ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ วตฺตพฺพานิ, ตานิ พฺรหฺมชาลนามเก ทีฆนิกายสฺส ปมสุตฺตนฺเต (ที. นิ. ๑.๒๙ อาทโย) สตฺถารา สยํ อาหจฺจ ภาสิตานีติ อตฺโถ. พฺรหฺมชาเล หิ จตฺตาโร สสฺสตวาทา, จตฺตาโร เอกจฺจสสฺสติกา, จตฺตาโร อนฺตานนฺติกา, จตฺตาโร อมราวิกฺเขปิกา, ทฺเว อธิจฺจสมุปฺปนฺนิกา, โสฬส สฺีวาทา, อฏฺ อสฺีวาทา , อฏฺ เนวสฺีนาสฺีวาทา, สตฺต อุจฺเฉทวาทา, ปฺจ ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ อิมานิ ทฺวาสฏฺิ ทิฏฺิคตานิ สนิทานานิ นานานยโต วุตฺตานิ, ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เนสํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. อยํ ตาเวตฺถ ปทตฺถานุสารโต วินิจฺฉโย, เสโสเปตฺถ วินิจฺฉโย ปทตฺเถ วุตฺตานุสารโตว สุวิฺเยฺโยติ.

ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

ธมฺมหทยวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา

ธมฺมหทยวิภงฺคมาติกาย ปน ปทตฺถาทิโต วินิจฺฉโย ปุพฺเพ วุตฺโตว. ยสฺมา ปน ภควตา เหฏฺา นานานยโต วิภตฺตานฺเว ขนฺธายตนาทีนํ ทฺวาทสนฺนํ ธมฺมโกฏฺาสานํ ปุน สพฺพสงฺคาหิกจตุภูมุปฺปตฺติตปฺปริยาปนฺนตาทีหิ ทสหิ วาเรหิ อปุพฺพนยสหสฺสวิภาวเกหิ สพฺพธมฺมาธิปฺปายสงฺขาเตหิ ธมฺมหทเยหิ วิภาคทสฺสนตฺถเมวายํ วิภงฺโค วุตฺโต, ตสฺมา วิภงฺคนยโต เจตฺถ วินิจฺฉโย โหติ. วิภงฺเค หิ ปมํ ‘‘กติ ขนฺธา’’ติอาทินา สปุจฺฉกํ ทฺวาทสปทิกํ มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา เหฏฺา วุตฺตานุสาเรเนว จตุภูมกสามฺโต สพฺพสงฺคาหิกวาโร นาม วิภตฺโต, ตตฺถ สตฺต ผสฺสาทโย สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนํ วเสน เวทิตพฺพา.

ทุติโย ปน วาโร เตสํ จตูสุ ภูมีสุ จตูหิ โกฏฺาเสหิ อุปฺปตฺตานุปฺปตฺติทสฺสนวเสน ปวตฺโต. ตตฺถ ปมโกฏฺาเส ตาว –

‘‘กามธาตุยา กติ ขนฺธา…เป… กติ จิตฺตานิ? กามธาตุยา ปฺจกฺขนฺธา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, ตีณิ สจฺจานิ, พาวีสตินฺทฺริยานิ, นว เหตู, จตฺตาโร อาหารา, สตฺต ผสฺสา, เวทนา, สฺา, เจตนา, จิตฺตานี’’ติ –

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. ตตฺถ ยสฺมา จตุภูมกาปิ ธมฺมา เยภุยฺเยน กามาวจรสตฺตานํ อุปฺปชฺชนฺติ , น กามาวจราว. เตเนตฺถ ‘‘ปฺจกฺขนฺธา’’ติอาทินา จตุภูมกาปิ วุตฺตา. ตตฺถุปฺปชฺชนกธมฺมา เหตฺถ อธิปฺเปตา, น ตํภูมิปริยาปนฺนาว. รูปธาตุอาทีสุปิ เอเสว นโย.

เอตฺถ จ ตีณิ สจฺจานีติ อิทํ นิโรธสจฺจสฺส เทสวินิมุตฺตตาย กตฺถจิ เทเส อนิทฺทิสิตพฺพโต ตํ วชฺเชตฺวา วุตฺตํ. การณสาเปกฺขา หิ ธมฺมา อตฺตโน นิสฺสยการณภูตํ เทสํ สมาวสนฺติ อการณสฺส อนิสฺสยตฺตา, ยถา วา กทาจิ อุปลพฺภมานา ธมฺมา กาลนิยตตาย อตฺตโน สงฺขตตฺตํว สูเจนฺติ. อฺถา อิตรกาเลสุปิ ภาวสฺส จ ปสงฺคโต, เอตรหิปิ วา อภาวสฺส, เอวํ กฺวจิ เทเส อุปลพฺภมานาปีติ คเหตพฺพํ. สพฺพเทสอพฺยาปิตา ปน อสงฺขตสฺส, สงฺขตสฺส วา อสมฺภวโต เอว โนปปชฺชติ, ตสฺมา เทสกาลวินิมุตฺตเมว อสงฺขตนฺติ คเหตพฺพํ.

ทุติยโกฏฺาเส ปน –

‘‘รูปธาตุยา ปฺจกฺขนฺธา, ฉ อายตนานิ, นว ธาตุโย, ตีณิ สจฺจานิ, จุทฺทสินฺทฺริยานิ, อฏฺ เหตู, ตโย อาหารา, จตฺตาโร ผสฺสา…เป… จตฺตาริ จิตฺตานี’’ติ –

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. ยสฺมา ปน รูปีนํ ฆานาทีนํ อภาเวน วิชฺชมานานิปิ คนฺธายตนาทีนิ อายตนาทิกิจฺจํ น กโรนฺติ, ตสฺมา เต วชฺเชตฺวา ‘‘ฉ อายตนานิ, นว ธาตุโย’’ติอาทิ วุตฺตํ น เตสํ อภาวา. เกจิ ปน ‘‘รูปโลเก คนฺธรสา กพฬีกาโร อาหาโร จ มหาภูตานฺจ โผฏฺพฺพกิจฺจตา นตฺถิ, เตเนว ปาฬิยํ น อุทฺธฏา’’ติ วตฺวา ตํ สาเธตุํ พหุํ เหตุปฏิรูปกํ วตฺวา ปปฺเจนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตเมวาติ น คเหตพฺพํ. คนฺธาทีนํ อวินิพฺโภคตฺตา, โผฏฺพฺพตฺตา, ธาตุสภาวตฺตา จ ฆานาทิตฺตยภาวทฺวยสุขทุกฺขโทมนสฺสินฺทฺริยานิ, ปน โทมนสฺสเหตุกพฬีการาหารฆานาทิตฺตยสมฺผสฺสาทีนิ จ วชฺเชตฺวา จุทฺทสินฺทฺริยาทิภาโว เวทิตพฺโพ.

ตติยโกฏฺาเส ปน –

‘‘อรูปธาตุยา จตฺตาโร ขนฺธา, ทฺเว อายตนานิ, ทฺเว ธาตุโย, ตีณิ สจฺจานิ, เอกาทสินฺทฺริยานิ, อฏฺ เหตู, ตโย อาหารา, เอโก ผสฺโส…เป… เอกํ จิตฺต’’นฺติ –

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. เอตฺถ จ จกฺขุโสตอนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยานมฺปิ อภาวา เอกาทสินฺทฺริยานิ เวทิตพฺพานิ.

จตุตฺถโกฏฺาเส ปน –

‘‘อปริยาปนฺเน จตฺตาโร ขนฺธา, ทฺเว อายตนานิ, ทฺเว ธาตุโย, ทฺเว สจฺจานิ, ทฺวาทสินฺทฺริยานิ, ฉ เหตู, ตโย อาหารา, เอโก ผสฺโส…เป… เอกํ จิตฺต’’นฺติ –

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. ยสฺมา จ โอกาสวเสน วา สตฺตุปฺปตฺติวเสน วา อปริยาปนฺนธาตุ นาม นตฺถิ, ตสฺมา ‘‘อปริยาปนฺนธาตุยา’’ติ อวตฺวา นิพฺพตฺติตโลกุตฺตรเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อปริยาปนฺเน จตฺตาโร ขนฺธา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ จตูหิ โกฏฺาเสหิ ทุติโย วาโร เวทิตพฺโพ.

ตติโย ปน วาโร –

‘‘รูปกฺขนฺโธ กามธาตุปริยาปนฺโน, จตฺตาโร ขนฺธา สิยา กามธาตุปริยาปนฺนา, สิยา น กามธาตุปริยาปนฺนา’’ติอาทินา –

จตูสุ ภูมีสุ จตูหิ โกฏฺาเสหิ ตํตํภูมิปริยาปนฺนธมฺมทสฺสนวเสน ปวตฺโต, โส จ เหฏฺา วุตฺตานุสาเรน สกฺกา าตุนฺติ น วิตฺถาริโต. ตตฺถ จ กามธาตุปริยาปนฺโนติ กามาวจรภาเวน ตตฺถ อนฺโตคโธ กามาวจโรติ อตฺโถ. เสเสสุปิ เอเสว นโย.

จตุตฺโถ ปน วาโร ตีสุ ภูมีสุ จตูหิ โกฏฺาเสหิ ปฏิสนฺธิกฺขเณ อุปฺปชฺชนกานุปฺปชฺชนกธมฺมทสฺสนวเสน ปวตฺโต. ตตฺถ ปมโกฏฺาเส ตาว –

‘‘กามธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ สพฺเพสํ ปฺจกฺขนฺธา ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ อปรานิ ทส, กสฺสจิ นว, กสฺสจิ สตฺต, กสฺสจิ เอกาทส ธาตุโย…เป… สตฺต ธาตุโย. สพฺเพสํ เอกํ สจฺจํ ปาตุภวติ. กสฺสจิ จุทฺทสินฺทฺริยานิ, กสฺสจิ เตรส, กสฺสจิ อปรานิ เตรส, กสฺสจิ ทฺวาทส, กสฺสจิ ทส, กสฺสจิ นว, กสฺสจิ อปรานิ นว, กสฺสจิ อฏฺ, กสฺสจิ อปรานิ อฏฺ, กสฺสจิ สตฺต , กสฺสจิ ปฺจ, กสฺสจิ จตฺตารินฺทฺริยานิ ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ตโย เหตู ปาตุภวนฺติ, กสฺสจิ ทฺเว, กสฺสจิ อเหตุกา ปาตุภวนฺติ. สพฺเพสํ จตฺตาโร อาหารา, เอโก ผสฺโส…เป… เอกํ จิตฺตํ ปาตุภวตี’’ติ –

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. ตตฺถ ปฏิสนฺธิกฺขเณ กามาวจรานํ โอปปาติกานํ, อาปายิกานํ, เทวมนุสฺสานํ ปริปุณฺณายตนานํ สทฺทายตนวชฺชิตานิ เอกาทสายตนานิ ปาตุภวนฺติ, ตาเนว เอกาทส ธาตุโย โหนฺติ. สทฺโท หิ เอกนฺเตน ปฏิสนฺธิยํ น อุปฺปชฺชติ, เตสฺเว ปน ชจฺจนฺธานํ ทส, ชจฺจพธิรานํ อปรานิ ทส, ชจฺจนฺธพธิรานํ นว, คพฺภเสยฺยกานํ รูปคนฺธรสกายโผฏฺพฺพมโนธมฺมวเสน สตฺต อายตนธาตุโย ปาตุภวนฺติ. โอปปาติกานํ ติเหตุกานํ มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ, ภาวทฺวเย เอกํ, ชีวิตินฺทฺริยํ, โสมนสฺสุเปกฺขินฺทฺริเยสุ เอกํ, สทฺธาทีนิ ปฺจาติ จุทฺทสินฺทฺริยานิ, เตสํ ทฺวิเหตุกานํ ปฺินฺทฺริยํ วชฺเชตฺวา เตรส, ปมกปฺปิกานํ มนุสฺสานํ ติเหตุกานํ ภาวินฺทฺริยํ วชฺเชตฺวา อปรานิปิ เตรส, เตสฺเว ทุเหตุกานํ ทฺวาทส, คพฺภเสยฺยกานํ ปน ติเหตุกานํ ปุริเมสุ จุทฺทสสุ จกฺขาทีนิ จตฺตาริ วชฺเชตฺวา ทส, เตสํ ทุเหตุกานํ นว, โอปปาติกานํ อเหตุกานํ ปริปุณฺณายตนานํ ปุริเมสุ จุทฺทสสุ สทฺทาทีนิ วชฺเชตฺวา อปรานิ นว, เตสฺเว ชจฺจนฺธานํ อฏฺ, ตถา พธิรานํ, อนฺธพธิรานํ ปน สตฺต, คพฺภเสยฺยกานํ ปน อเหตุกานํ กายมโนภาวชีวิตอุเปกฺขินฺทฺริยานิ ปฺจ, เตสฺเว นปุํสกานํ จตฺตาริ ปาตุภวนฺติ. อเหตุกจิตฺเตสุ หิ วิชฺชมานาปิ เอกคฺคตา สมาธินฺทฺริยตํ น คจฺฉติ, มโนวิฺาณธาตุวเสน ปน ‘‘เอโก ผสฺโส’’ติอาทโย เวทิตพฺพา.

ทุติยโกฏฺาเส ปน –

‘‘รูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ เปตฺวา อสฺสตฺตานํ เทวานํ ปฺจกฺขนฺธา ปาตุภวนฺติ. ปฺจายตนานิ, ปฺจ ธาตุโย, เอกํ สจฺจํ, ทสินฺทฺริยานิ, ตโย เหตู, ตโย อาหารา, เอโก ผสฺโส…เป… เอกํ จิตฺต’’นฺติ –

มาติกํ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. ตตฺถ จกฺขุรูปโสตมโนธมฺมานํ วเสน ปฺจายตนธาตุโย เวทิตพฺพา. เอตฺถาปิ คนฺธรสโผฏฺพฺพานํ อคฺคหเณ การณํ ปุพฺเพ วุตฺตเมว. จกฺขุโสตมโนชีวิตินฺทฺริยานิ, โสมนสฺสุเปกฺขานํ อฺตรํ, สทฺธาทีนิ ปฺจาติ ทสินฺทฺริยานิ เวทิตพฺพานิ.

ตติยโกฏฺาเส ปน –

‘‘อสฺสตฺตานํ เทวานํ อุปปตฺติกฺขเณ เอโก ขนฺโธ ปาตุภวติ รูปกฺขนฺโธ, ทฺเว อายตนานิ รูปายตนํ ธมฺมายตนํ, ทฺเว ธาตุโย รูปธาตุ ธมฺมธาตุ, เอกํ ทุกฺขสจฺจํ, เอกํ รูปชีวิตินฺทฺริยํ, อสฺสตฺตา เทวา อเหตุกา, อนาหารา, อผสฺสกา…เป… อจิตฺตกา’’ติ –

สนิทฺเทสมาติกา นิกฺขิตฺตา. เอตฺถ จ รูปมฺปิ กิฺจาปิ เตสํ อายตนาทิกิจฺจํ น กโรติ, สวิฺาณกรูปีสุ ปน คหิตตฺตา อิธาปิ คหิตํ. คนฺธาทโย ปน ตตฺถ น คหิตตฺตา อิธาปิ น คหิตา, โน อวิชฺชมานตาย. เอกตลวาสิกานํ วา เสสพฺรหฺมานํ จกฺขุวิสยตฺตา อิธาปิ รูปายตนํ อุทฺธฏํ, อสฺีนํ ปน ปฺจายตนานิ, เอโก อาหาโร อุปฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถโกฏฺาเส –

‘‘อรูปธาตุยา อุปปตฺติกฺขเณ จตฺตาโร ขนฺธา, ทฺเว อายตนานิ, ทฺเว ธาตุโย, เอกํ สจฺจํ, อฏฺินฺทฺริยานิ , ตโย เหตู, ตโย อาหารา, เอโก ผสฺโส…เป… เอกํ จิตฺต’’นฺติ –

มาติกาปทานิ นิกฺขิปิตฺวา วิภตฺตา. เอตฺถ จ มโนชีวิตอุเปกฺขินฺทฺริยานิ, สทฺธาทีนิ ปฺจาติ อฏฺินฺทฺริยานิ เวทิตพฺพานิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. เอวํ จตูหิ โกฏฺาเสหิ จตุตฺโถ วาโร เวทิตพฺโพ.

ปฺจโม ปน วาโร เตสํ ธมฺมานํ ภูมนฺตรวเสน ‘‘กามาวจรธมฺมา, น กามาวจรา…เป… ปริยาปนฺนา’’ติ จตฺตาโร ทุเก มาติกาวเสน นิกฺขิปิตฺวา วิภชนวเสน ปวตฺโต, โส เหฏฺา วุตฺตตฺโถว.

ฉฏฺโ ปน วาโร สมฺมุติเทวอุปปตฺติเทววิสุทฺธิเทเว นิทฺทิสิตฺวา มนุสฺสเทวคตีสุ อุปฺปาทกกมฺมอายุปฺปมาณทสฺสนวเสน วุตฺโต. ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – สตฺตา หิ ทานสีลาทิกามาวจรกุสลํ กตฺวา มนุสฺสโลเก ขตฺติยมหาสาลาทิกุเลสุ เจว จาตุมหาราชิกตาวตึสยามตุสิตนิมฺมานรติปรนิมฺมิตวสวตฺติสงฺขาเตสุ ฉสุ เทวโลเกสุ จ อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ สิเนรุปพฺพตเวมชฺฌปริภณฺฑปพฺพตโต ปฏฺาย เหฏฺา ยาว ภูมิ ติริยํ จกฺกวาฬปพฺพตํ อาหจฺจ เอตฺถนฺตเร ปพฺพตอากาสรุกฺขปถวินิสฺสิตา จาตุมหาราชจนฺทสูริยา สพฺเพ จาตุมหาราชิกา. ตโต อุทฺธํ จกฺกวาฬปริยนฺตํ ตาวตึสาทโย ยถากฺกมํ อุปรูปริ ิตาติ เวทิตพฺพา. เทวโลโกปิ ปรมฺปรจกฺกวาฬปพฺพตํ อปฺปตฺโต นาม นตฺถิ.

ปมชฺฌานํ ปน ปริตฺตํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมปาริสชฺเชสุ อุปฺปชฺชนฺติ, มชฺฌิมํ ภาเวตฺวา พฺรหฺมปุโรหิเตสุ, ปณีตํ ภาเวตฺวา มหาพฺรหฺเมสุ, อิเม ตโยปิ ชนา ปมชฺฌานภูมิยํ เอกตเล วสนฺติ. อายุอาภาทิเภเทน ปเนสํ เภโท, เอวํ อุปริปิ.

จตุกฺกนเย ปน ทุติยชฺฌานํ, ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานฺจ ปริตฺตํ, มชฺฌิมํ, ปณีตฺจ ภาเวตฺวา ปริตฺตาภาอปฺปมาณาภาอาภสฺสเรสุ อุปฺปชฺชนฺติ. ตติยชฺฌานํ ปริตฺตาทิวเสน ภาเวตฺวา ปริตฺตสุภอปฺปมาณสุภสุภกิณฺเหสุ. จตุตฺถชฺฌานํ ปน ภาเวตฺวา อารมฺมณมนสิการฉนฺทาธิมุตฺติอาทินานตฺตโต เกจิ อสฺีสุ, เกจิ เวหปฺผเลสุ, เกจิ อวิเหสุ, อตปฺเปสุ, สุทสฺเสสุ, สุทสฺสีสุ, เกจิ อกนิฏฺเสุ, อากาสานฺจายตนาทีสุ จตูสุ จ ยถากฺกมํ อุปฺปชฺชนฺติ. ตตฺถ หิ เอกจฺเจ ติตฺถิยา ‘‘จิตฺตํ นิสฺสาย รชฺชนทุสฺสนาทโย, ตนฺนิทานานิ จ ทุกฺขานิ สมุปฺปชฺชนฺตี’’ติ จิตฺเต โทสํ ทิสฺวา ‘‘ทิฏฺธมฺมนิพฺพานเมต’’นฺติ สฺาวิราคํ ชเนตฺวา ตตฺรูปปตฺติยา ฌานํ ภาเวตฺวา รูปกายมตฺตา ิตา วา นิสินฺนา วา นิปนฺนา วา หุตฺวา นิพฺพตฺติตฺวา ตตฺเถว ปฺจกปฺปสตานิ ติฏฺนฺตีติ เวทิตพฺพา.

อฏฺสมาปตฺติลาภีนํ กตรํ ฌานํ วิปจฺจตีติ? ปคุณํ, สพฺเพสุ ปคุเณสุ ยสฺส วิปากภูมึ ปตฺเถติ, ตํปตฺถนาย จ อสติ ยํ มรณสมเย สมาปชฺชติ, ตํ, ตสฺมิมฺปิ อสติ อุตฺตมวเสน เนวสฺานาสฺายตนํ วิปจฺจติ. สุทฺธาวาเสสุ จ อวิหาทีสุ อนาคามิวชฺชิตา สตฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ, อนาคามิโน ปน อสฺีวชฺชิตพฺรหฺมโลเกสุ สพฺพตฺถ อุปฺปชฺชิตุํ ลภนฺติ. สพฺเพสมฺปิ จ อริยานํ ตตฺรูปปตฺติโต อุปรูปปตฺติปิ, น เหฏฺูปปตฺติ. เต หิ ปมชฺฌานภูมิยํ นิพฺพตฺตา อนาคามิโน นว พฺรหฺมโลเก โสเธตฺวา มตฺถเก เวหปฺผเลสุ ิตา ปรินิพฺพนฺติ, น นิวตฺตนฺติ อริยานํ เหฏฺูปปตฺติอภาวา. เวหปฺผลอกนิฏฺเนวสฺานาสฺายตนภวา ตโยปิ เสฏฺภวา นาม. อิเมสุ ตีสุ าเนสุ นิพฺพตฺตา อนาคามิโน เนว อุทฺธํ คจฺฉนฺติ, น อโธ. ตตฺเถว ปรินิพฺพายนฺติ . มนุสฺสโลเก จ เสขา คิหิภาเว ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ, น อเสขา. เต หิ อรหตฺตํ ปตฺตทิวเส ปพฺพชนฺติ วา, ปรินิพฺพนฺติ วา. ภุมฺมเทเวสุ ปน ขีณาสวาปิ ยาวชีวํ ติฏฺนฺติ. ฉสุ กามาวจรเทเวสุ โสตาปนฺนสกทาคามิโนว ติฏฺนฺติ, อนาคามิโน ปน ตทเหว รูปภวํ คนฺตุํ วฏฺฏติ ขีณาสเวน ปรินิพฺพาตุนฺติ คเหตพฺพํ. เอวํ อิมาสุ สตฺตวีสติยา ภูมีสุ ปริยาปนฺนมนุสฺสเทวพฺรหฺมโลเกสุ นิพฺพตฺตสตฺเตสุ มนุสฺสานํ ตาว อิมสฺมึ พุทฺธุปฺปาเทว วสฺสสตํ อายุปฺปมาณํ, อปฺปํ วา ภิยฺโย. อาปายิกานํ, ภุมฺมเทวานฺจ กทาจิ อายุปริจฺเฉโท นตฺถิ, กมฺมเมว ปมาณํ. เต หิ สตฺตาเหนปิ มรนฺติ, กปฺปมฺปิ ติฏฺนฺตีติ.

จาตุมหาราชิกานํ ปน มานุสกานิ ปฺาส วสฺสานิ เอกํ รตฺตินฺทิวํ, ตาย รตฺติยา ตึส รตฺติโย มาโส, เตน มาเสน ทฺวาทสมาสิโย สํวจฺฉโร, เตน สํวจฺฉเรน ทิพฺพานิ ปฺจวสฺสสตานิ อายุปฺปมาณํ. ตานิ มนุสฺสคณนาย นวุติวสฺสสตสหสฺสานิ โหนฺติ. ตาวตึสานํ มานุสกํ วสฺสสตํ เอกํ รตฺตินฺทิวํ กตฺวา เอวมาคตํ ทิพฺพํ วสฺสสหสฺสํ. เอวํ ยามาทีนํ วสฺสคณนฺจ ทิคุณํ กตฺวา เหฏฺิมโต ทิคุณจตุคฺคุณํ อายุปฺปมาณํ เวทิตพฺพํ.

พฺรหฺเมสุ ปน พฺรหฺมปาริสชฺชานํ กปฺปสฺส ตติโย ภาโค อายุปฺปมาณํ, พฺรหฺมปุโรหิตานํ อุปฑฺฒกปฺโป , มหาพฺรหฺมานํ เอโก กปฺโป, ปริตฺตาภานํ ทฺเว กปฺปาติ เอวํ อุปรูปริ ทิคุณํ กตฺวา ยาว สุภกิณฺหา โยเชตพฺพํ. สุภกิณฺหานํ หิ จตุสฏฺิกปฺปํ อายุปฺปมาณํ, อสฺีนํ, เวหปฺผลานฺจ ปฺจกปฺปสตานิ, อวิหานํ กปฺปสหสฺสนฺติ อุปรูปริ ทิคุณวเสน ยาว อกนิฏฺา โยเชตพฺพํ. อกนิฏฺานํ หิ โสฬสกปฺปสหสฺสานิ, อรูปานํ จตุนฺนํ ยถากฺกมํ วีสติ, จตฺตาริ, สฏฺิ, จตุราสีติ กปฺปสหสฺสานิ อายุปฺปมาณนฺติ.

อุกฺขิตฺตา ปุฺเตเชน, กามรูปคตึ คตา;

ภวคฺคตมฺปิ สมฺปตฺตา, ปุนาคจฺฉนฺติ ทุคฺคตึ.

ตาว ทีฆายุกา สตฺตา, จวนฺติ อายุสงฺขยา;

นตฺถิ โกจิ ภโว นิจฺโจ, อิติ วุตฺตํ มเหสินา.

ตสฺมา หิ ธีรา นิปกา, นิปุณา อตฺถจินฺตกา;

ชรามรณโมกฺขาย, ภาเวนฺติ มคฺคมุตฺตมํ.

ภาวยิตฺวา สุจึ มคฺคํ, นิพฺพาโนคธคามินํ;

สพฺพาสเว ปริฺาย, ปรินิพฺพนฺติ อนาสวาติ. (วิภ. ๑๐๒๙);

อยํ ฉฏฺวาเร นโย.

สตฺตโม ปน วาโร เตสํ ขนฺธาทีนํ อภิฺเยฺยาทิภาววิภาวนวเสน ปวตฺโต. ตตฺถ หิ –

‘‘รูปกฺขนฺโธ อภิฺเยฺโย, ปริฺเยฺโย, น ปหาตพฺโพ, น ภาเวตพฺโพ, น สจฺฉิกาตพฺโพ. จตฺตาโร ขนฺธา อภิฺเยฺยา ปริฺเยฺยา, สิยา ปหาตพฺพา, สิยา ภาเวตพฺพา, สิยา สจฺฉิกาตพฺพา, สิยา น ปหาตพฺพา น ภาเวตพฺพา น สจฺฉิกาตพฺพา’’ติอาทินา –

ทฺวาทสปิ โกฏฺาสา วิตฺถารโต วิภตฺตา. ตตฺถ ลกฺขณปริคฺคาหิกาย ปฺาย ขนฺธาทโย สพฺเพ ธมฺมา อภิฺเยฺยา. าตตีรณปหานปริฺาสุ ยถาโยคํ ยาย กายจิ ปริฺาย วเสน สพฺเพปิ ธมฺมา ปริฺเยฺยา. โลกุตฺตรธมฺมาปิ าตปริฺเยฺยาว. อกุสลา ปน ปหาตพฺพา. มคฺโค ภาเวตพฺโพ, ผลํ, นิพฺพานฺจ สจฺฉิกาตพฺพํ. ตตฺถ รูปกฺขนฺโธ าตตีรณวเสน ปริฺเยฺโย. วิปสฺสนาวิสเย หิ สพฺพํ ตีรณปริฺาย ปริฺเยฺยนฺติ. อิมินา นเยน สพฺพตฺถ อภิฺเยฺยาทิภาโว เวทิตพฺโพ.

อฏฺโม ปน วาโร เตสํ สารมฺมณตาวิภาวนวเสน ปวตฺโต, นวโม ปเนสํ ทิฏฺสุตมุตวิฺาเตสุ สงฺคหทสฺสนวเสน. ทสโม กุสลตฺติกาทีหิ สรณทุกปริโยสาเนหิ ติกทุเกหิ วิภาคทสฺสนวเสน ปวตฺโต, เตปิ เหฏฺา วุตฺตนยาวาติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปเนตฺถ เหฏฺา วุตฺโตเยว. อาทิโต ปฏฺาย สพฺพตฺถ วิภงฺคปาฬิอฏฺกถาสุ (วิภ. ๙๗๘ อาทโย; วิภ. อฏฺ. ๙๗๘ อาทโย) คเหตพฺโพติ.

ธมฺมหทยวิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.

โมหวิจฺเฉทนิยา อภิธมฺมมาติกตฺถวณฺณนาย

วิภงฺคมาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.