📜

๓. ธาตุกถามาติกา

อิทานิ วิภงฺคมาติกานนฺตรํ –

อยํ ธาตุกถาทีนํ, สมฺปตฺตา อตฺถวณฺณนา;

มาติกานํ ยโต ตสฺมา, ปฺจนฺนมฺปิ ยถารหํ.

อนุตฺตานตฺถโต เจว, สงฺเขเปนตฺถนิจฺฉยา;

วิภงฺคนยโต เจว, โหติ สํวณฺณนานโย.

ตตฺถ ธาตุกถามาติกาย ตาว สํวณฺณนา โหติ. สา ปเนสา นิกฺเขปโต ปฺจธา ิตา – นยมาติกา อพฺภนฺตรมาติกา นยมุขมาติกา ลกฺขณมาติกา พาหิรมาติกาติ. ตตฺถ ‘‘สงฺคโห, อสงฺคโห…เป… วิปฺปยุตฺเตน สงฺคหิตํ อสงฺคหิต’’นฺติ อยํ จุทฺทสหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา สงฺคหาทิเกน นเยน ธาตุกถาย ธมฺมา วิภตฺตาติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา นยมาติกา นาม, ยา ‘‘มูลมาติกา’’ติปิ วุจฺจติ.

‘‘ปฺจกฺขนฺธา…เป… มนสิกาโร’’ติ อยํ ปฺจวีสาธิเกน ปทสเตน นิกฺขิตฺตา สงฺคหาทินเยน วิภชิตพฺพภาเวน ธาตุกถาย อพฺภนฺตเร เอว ปิตตฺตา อพฺภนฺตรมาติกา นาม, ยา ‘‘ธาตุกถามาติกา’’ติปิ วุจฺจติ.

‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห, จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโค’’ติ อยํ จตูหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา ขนฺธาทีสุ จ กุสลตฺติกาทีสุ จ มาติกาธมฺเมสุ ตีหิ ขนฺธายตนธาตุปเทเหว สงฺคโห อสงฺคโห จ, ตถา จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ สมฺปโยโค, วิปฺปโยโค จาติ อิเมสํ สงฺคหาสงฺคหาทีนํ นยานํ มุขานีติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา นยมุขมาติกา นาม.

‘‘สภาโค วิสภาโค’’ติ อยํ ทฺวีหิ ปเทหิ นิกฺขิตฺตา สภาควิสภาคลกฺขณวเสเนว สงฺคหาสงฺคหนยา เจว สมฺปโยควิปฺปโยคนยา จ โหนฺตีติ ทสฺเสตุํ ปิตตฺตา ลกฺขณมาติกา นาม. สพฺพาปิ ธมฺมสงฺคณี ธาตุกถาย มาติกาติ อยํ ฉสฏฺิ ติกปทานิ, ทฺเว จ ทุกปทสตานิ สงฺขิปิตฺวา นิกฺขิตฺตา ธาตุกถา มาติกาโต พหิ ปิตตฺตา พาหิรมาติกา นาม. เอวเมติสฺสา ปฺจวิธาย มาติกาย อยมนุตฺตานตฺถวณฺณนา.

สงฺคโหติอาทีสุ หิ สงฺคโห ตาว ชาติสฺชาติกิริยาคณนวเสน จตุพฺพิโธ. ตตฺถ ‘‘สพฺเพ ขตฺติยา อาคจฺฉนฺตุ, ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาวาจา, โย จ สมฺมากมฺมนฺโต, โย จ สมฺมาอาชีโว, อิเม ธมฺมา สีลกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ ชาติสงฺคโห นาม. ‘‘สพฺเพ โกสลกา อาคจฺฉนฺตุ, โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ สฺชาติสงฺคโห นาม, เอกฏฺาเน ชาติสมฺพนฺธภาเวน สงฺคโหติ อตฺโถ. ‘‘สพฺเพ หตฺถาโรหา อาคจฺฉนฺตุ, ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) อยํ กิริยาสงฺคโห นาม. ‘‘หฺจิ จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺธคณนํ คจฺฉติ, เตน วต เร วตฺตพฺเพ ‘จกฺขายตนํ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิต’’’นฺติ (กถา. ๔๗๑) อยํ คณนสงฺคโห นาม, อยมิธ อธิปฺเปโต. ตปฺปฏิปกฺเขน อสงฺคโห เวทิตพฺโพ. เตสํ วิกปฺปโต สงฺคหิเตน อสงฺคหิตาทีนิ, เอกุปฺปาเทกนิโรธเอกวตฺถุกเอการมฺมณตาวเสน สมฺปโยโค, ตปฺปฏิปกฺขโต วิปฺปโยโค, เตสํ วิกปฺปโต สมฺปยุตฺเตน วิปฺปยุตฺตาทีนิ, ตทุภยสํสคฺควิกปฺปโต สงฺคหิเตน สมฺปยุตฺตํ วิปฺปยุตฺตนฺติอาทีนิ จ เวทิตพฺพานิ. เสสํ วุตฺตตฺถเมว. อยํ ตาเวตฺถ อนุตฺตานปทตฺโถ.

สงฺคหาสงฺคหปทตฺถวณฺณนา

อตฺถวินิจฺฉยโต ปน ยสฺมา อพฺภนฺตรมาติกาย รูปกฺขนฺธาทีนิ, พาหิรมาติกาย กุสลาทีนิ จ ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติอาทิเกหิ นยมาติกาปเทหิ ‘‘ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห’’ติอาทินยมุขมาติกาวเสน ยถารหํ นิทฺเทสตฺถาย ภควตา ปิตานิ, ตสฺมา ขนฺธาทีนํ สงฺคหาทีนํ ปาฬิยํ วุตฺตานุสาเรเนว สงฺเขปโต อตฺถวินิจฺฉโย โหติ. อิมินา นเยน วิภงฺคนโย สกฺกา าตุนฺติ ตํ วิสุํ น วกฺขาม.

ตตฺถ สงฺคหาสงฺคหวาเร ขนฺธานํ ตาว อยํ นิทฺเทเส นโย – รูปกฺขนฺโธ เอเกน ขนฺเธน เอกาทสหิ อายตเนหิ เอกาทสหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิโต. ตตฺถ เอกาทสหีติ มนายตนวชฺเชหิ. ธมฺมายตเนนาปิ หิ เกจิ รูปธมฺมา สงฺคหิตา. เอกาทสหีติ สตฺตวิฺาณธาตุวชฺชาหิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว.

เวทนาทโย ตโย ขนฺธา ยถาสกํ เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตา, จตูหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา, ตถา วิฺาณกฺขนฺโธปิ. เกวลํ ปเนตฺถ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ สงฺคหิโต, เอกาทสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิโตติ เอตฺตกเมว วิเสโส. ตตฺถ หิ เวทนาทีนํ ติณฺณํ ขนฺธานํ เอเกน ธมฺมายตเนน จ เอกาย ธมฺมธาตุยา จ สงฺคหิตตา เวทิตพฺพา. ปาฬิยํ ปเนตฺถ ขนฺธปทนิทฺเทเส, อุปริ อายตนาทินิทฺเทเสสุ จ ‘‘รูปกฺขนฺโธ จ เวทนากฺขนฺโธ จ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ เอกาทสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา’’ติอาทินา (ธาตุ. ๑๕) ทฺวิมูลกาทินเยนาปิ วิตฺถารนโย วิภตฺโต, โสปิ อิมินา เอกมูลนยานุสาเรน สพฺพตฺถ สุวิฺเยฺโยติ น วิตฺถารยิมฺหา. อยํ ขนฺธปทนิทฺเทสนโย.

อายตนธาตุปทานมฺปิ ขนฺธปเท วุตฺตานุสาเรเนว ตีหิ สงฺคโห, ตีหิ อสงฺคโห จ ยถาโยคํ โยเชตฺวา าตพฺโพ. เกวลํ ปเนตฺถ ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ อสงฺขตสฺส ขนฺธสงฺคหาภาวา ตํ เปตฺวา เสสานํ ขนฺเธสุ สงฺคโห เวทิตพฺโพ.

สจฺเจสุ ทุกฺขสจฺจํ สพฺเพหิ ขนฺธายตนธาตูหิ. สมุทยมคฺคสจฺจานิ สงฺขารกฺขนฺเธน, ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ จ สงฺคหิตานิ. นิโรธสจฺจํ ขนฺเธน อสงฺคหิตํ, ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ เอว สงฺคหิตํ.

อินฺทฺริเยสุ ชีวิตินฺทฺริยํ ทฺวีหิ รูปกฺขนฺธสงฺขารกฺขนฺเธหิ. สุขินฺทฺริยาทีนิ ปฺจ เวทนากฺขนฺเธน , สทฺธาทีนิ สงฺขารกฺขนฺเธน, สพฺพานิ เจตานิ ชีวิตินฺทฺริยาทีนิ, อิตฺถินฺทฺริยปุริสินฺทฺริยาทีนิปิ ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ สงฺคหิตานิ. เสสินฺทฺริยานิ สุวิฺเยฺยานิ.

ปฏิจฺจสมุปฺปาเทสุ นามรูปํ วิฺาณวชฺชิเตหิ จตูหิ ขนฺเธหิ, เอกาทสหิ อายตนธาตูหิ จ สงฺคหิตํ. เอตฺถ หิ ปวตฺติยํ นามรูปสฺสาปิ คหิตตฺตา สทฺทายตนมฺปิ คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. สฬายตนํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ, ปสาทวิฺาณภูเตหิ ฉหิ อายตเนหิ, ทฺวาทสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตํ. อุปปตฺติภโว ปน กามภวภูโต ปฺจหิ ขนฺเธหิ, สทฺทายตนวชฺชิเตหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ, สตฺตรสหิ ธาตูหิ. รูปภโว ปฺจหิ ขนฺเธหิ, สทฺทาทิจตุกฺกฆานาทิตฺตยตพฺพิฺาณวชฺเชหิ ปฺจหายตเนหิ, อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิโต. อสฺีภโว เอเกน รูปกฺขนฺเธน, รูปธมฺมวเสน ทฺวีหิ อายตนธาตูหิ สงฺคหิโต. ฆานาทิตฺตยํ ปเนตฺถ อายตนาทิกิจฺจากรณโต อายตนธาตูหิ อสงฺคหิตมฺปิ รูปกฺขนฺเธน สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ภวสฺส จ เอกนฺตมุปาทินฺนตฺตา ปวตฺติวิปากานํ จกฺขุวิฺาณาทีนํ คหเณปิ อนุปาทินฺนสทฺทายตนสฺส อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. อรูปภโว จตูหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหิ อายตนธาตูหิ. ชาติชรามรณานิ นามรูปธมฺมานํ ลกฺขณตฺตา ทฺวีหิ รูปกฺขนฺธสงฺขารกฺขนฺเธหิ. โสกทุกฺขโทมนสฺสานิ เวทนากฺขนฺเธน. อุปายาโส สงฺขารกฺขนฺเธน, ธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ จ สงฺคหิโต. ปริเทโว รูปกฺขนฺธสทฺทายตนสทฺทธาตูหิ. เสสานิ ปเนตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ, สติปฏฺานสมฺมปฺปธานา จ สุวิฺเยฺยาว.

อิทฺธิปาทา ทฺวีหิ ขนฺเธหิ, อายตเนหิ, ธาตูหิ สงฺคหิตา. เอตฺถ จ จิตฺติทฺธิปาทสฺส ธมฺมธาตุมโนวิฺาณธาตุนิยมโต โสฬสหิ ธาตูหิ อสงฺคโห เวทิตพฺโพ. ฌานานิ ทฺวีหิ เวทนาสงฺขารกฺขนฺเธหิ, เอเกนายตเนน, เอกาย ธาตุยา จ สงฺคหิตานิ. อปฺปมฺา เอเกน ขนฺเธน, เอเกน อายตเนน, เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตา. เอวํ ปฺจินฺทฺริยาทีนิปิ. เกวลํ ปน จิตฺตํ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ สงฺคหิตนฺติ เอตฺตกเมว วิเสโส. สพฺเพสมฺปิ เจส วุตฺตาวเสเสหิ ขนฺธายตนธาตูหิ อสงฺคหิตภาโว เวทิตพฺโพ.

อิมินา นเยน พาหิรมาติกายปิ ‘‘กุสลา ธมฺมา, อกุสลา ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ, ทฺวีหิ อายตเนหิ, ธาตูหิ สงฺคหิตา. อพฺยากตา ปน อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา ปฺจหิ ขนฺเธหิ ทฺวาทสหิ อายตเนหิ อฏฺารสหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา’’ติอาทินา โยเชตฺวา สงฺคหาสงฺคโห าตพฺโพติ อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถาโร ปน ธาตุกถาปาฬิอฏฺกถาสุ (ธาตุ. ๗๗ อาทโย; ธาตุ. อฏฺ. ๗๗) คเหตพฺโพติ.

นิฏฺิโต ‘‘สงฺคโห อสงฺคโห’’ติ ปทสฺส

อตฺถวินิจฺฉโย.

สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทตฺถวณฺณนา

สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปเท สพฺเพสํ รูปกฺขนฺธาทิปทานํ นิทฺเทโส น สมฺภวติ. ยานิ ปเนตฺถ ปทานิ รูเปกเทสํ, อรูเปน อสมฺมิสฺสํ วิฺาเณกเทสฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ, เตสมิธ นิทฺเทโส. ตานิ ปน มนายตนธมฺมายตนวชฺชิตานํ ทสายตนานํ, ธมฺมธาตุวชฺชิตานํ สตฺตรสนฺนํ ธาตูนํ, สตฺตรูปินฺทฺริยานฺจ วเสน เวทิตพฺพานิ, น รูปกฺขนฺธาทีนํ. เตเนว ปาฬิยํ

‘‘ทสายตนา สตฺตรส ธาตุโย,

สตฺตินฺทฺริยา อสฺาภโว เอกโวการภโว;

ปริเทโว สนิทสฺสนสปฺปฏิฆํ,

อนิทสฺสนํ ปุนเทว สปฺปฏิฆํ อุปาทา’’ติ. (ธาตุ. ๑๗๘) –

เอวํ อุทฺทานคาถา วุตฺตา. รูปกฺขนฺเธน หิ รูปกฺขนฺโธว สงฺคหิโต, เอวํ เวทนากฺขนฺธาทีหิ จ เวทนากฺขนฺธาทโยว. เตปิ จ เยหิ เกหิจิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิตา นาม นตฺถีติ เตสํ สงฺคหิเตน อสงฺคหิตตฺตาภาวา ยถาวุตฺตายตนานํ วเสเนเวตฺถ อตฺถวินิจฺฉโย โหติ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – ยํ ขนฺธปเทน สงฺคหิตํ หุตฺวา อายตนธาตุปเทหิ อสงฺคหิตํ, ขนฺธายตนปเทหิ วา สงฺคหิตํ หุตฺวา ธาตุปเทน อสงฺคหิตํ, ตสฺส ขนฺธายตนธาตูหิ อสงฺคโห วุจฺจติ. กถํ? จกฺขายตเนน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนสงฺคเหน, ธาตุสงฺคเหน จ อสงฺคหิตา, เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ, อายตเนหิ, ธาตูหิ อสงฺคหิตา? เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหิ อายตเนหิ อฏฺหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา. เอวํ รูปายตนาทีสุปิ ปสาทวิสยภูเตสุ ธาตูสุ, รูปินฺทฺริยาทีสุ จ โยชนกฺกโม เวทิตพฺโพ.

ตตฺรายํ นโย – จกฺขายตเนน เย รูปธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน รูปกฺขนฺโธติ สงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหน จกฺขายตเนน อสงฺคหิตา, จกฺขุธาตุยา อสงฺคหิตา, จกฺขายตนจกฺขุธาตูหิ เอกสฺเสเวตสฺส จกฺขุสฺส วิสุํ อายตนธาตูสุ สงฺคหิตตฺตา เต จกฺขายตนวิรหิตา สพฺเพ รูปธมฺมา จตูหิ อรูปกฺขนฺเธหิ จกฺขายตนํ มนายตนนฺติ ทฺวีหิ อายตเนหิ จกฺขุธาตุ สตฺตวิฺาณธาตูติ อฏฺหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา. อุปริ รูปายตนาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ หิ วาเร จกฺขายตนสฺส อตฺตโน ตีหิปิ ขนฺธายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคหิตตาย อสงฺคหิตตฺตาภาวา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตํ, อายตนสงฺคเหน อสงฺคหิตํ, ธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตนฺติ เอวํ ตีหิปิ สงฺคหิตาสงฺคหิตวิเสสเนหิ วิสิฏฺสฺเสว ‘‘กติหิ ขนฺเธหี’’ติอาทินา ขนฺธาทีหิ อสงฺคหสฺส วุจฺจมานตฺตา จ อรูปกฺขนฺเธหิ สห พหิภูตตา เวทิตพฺพา. ยถา เจตฺถ จกฺขายตเนน อุปลกฺขิตานํ รูปธมฺมานํเยว สงฺคหิเตน อสงฺคหิตตา, น จกฺขายตนสฺส, เอวํ อุปริ รูปายตนาทีหิ อุปลกฺขิตวาเรปิ ยถารหํ าตพฺพา.

เสเสสุ ปน จกฺขุวิฺาณธาตุยา เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตา, อายตนสงฺคเหน สงฺคหิตา, ธาตุสงฺคเหน อสงฺคหิตา, เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหิ อายตเนหิ ทฺวาทสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา. เอวํ เสสวิฺาณธาตูสุปิ. ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ อสฺีภเวน เย ธมฺมา…เป… เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ ทสหายตเนหิ โสฬสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา. อุปาทาธมฺเมหิ เย ธมฺมา…เป… เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ เอกาทสหายตเนหิ สตฺตรสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตาติ อิเม จตฺตาโร วารา อปุพฺพวิเสสา สมาเยว. ตตฺถ จกฺขุวิฺาณวาเร ทฺวาทสหีติ ฉ วิฺาณธาตุโย วชฺเชตฺวา อวเสสาหิ ธาตูหิ เสสา ฉ วิฺาณธาตุโยว ขนฺธายตนสงฺคเหหิ สงฺคหิตา, ธาตุสงฺคเหเนว อสงฺคหิตา. อวเสสาหิ ทฺวาทสหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตาติ. เอส นโย เสสวิฺาณธาตูสุปิ.

ทุติเย ตีหายตเนหีติ รูปายตนธมฺมายตนมนายตเนหิ. อสฺิพฺรหฺมโลเก หิ รูปายตนธมฺมายตนวเสน ทฺเว อายตนานิ อุปปตฺติภวภาเวน ปาฬิยํ อาคตานิ, เต ปน ขนฺเธหิ สงฺคหิตานิ, อายตนธาตูสุ อสงฺคหิตานิ. ตทวเสสานิ นว รูปายตนานิ, ตานิ เตเหว จ ทฺวีหิ มนายตนธมฺมายตเนหิ จ อสงฺคหิตานิ นาม โหนฺติ. นวหิ ธาตูหีติ รูปธาตุธมฺมธาตูหิ สทฺธึ สตฺตหิ วิฺาณธาตูหิ.

ตติเย ทสหีติ รูปายตนธมฺมายตนวชฺเชหิ. โสฬสหีติ รูปธาตุธมฺมธาตุวชฺชาหิ. อนิทสฺสนสปฺปฏิฆานิ นาม นว โอฬาริกายตนานิ, ตานิ เตหิ ขนฺธสงฺคเหน สงฺคหิตานิ, อายตนธาตุสงฺคเหหิ จ อสงฺคหิตานิ, รูปายตนธมฺมายตนานิ ทฺเวปิ เสเสหิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิตานิ นาม โหนฺติ.

จตุตฺเถ เอกาทสหีติ โผฏฺพฺพายตนวชฺเชหิ โผฏฺพฺพายตนสฺส อุปาทาธมฺเมหิ อายตนาทีสุ อสงฺคหิตตฺตา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ สงฺคหิเตนอสงฺคหิตปเท นโย.

อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปทตฺถวณฺณนา

อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปเท ปน ยานิ ปทานิ วิฺาเณน วา โอฬาริกรูเปน วา อสมฺมิสฺสํ ธมฺมายตเนกเทสํ ทีเปนฺติ, ตาเนว นิทฺทิสียนฺติ, ตานิ ปน เวทนาทีนํ ติณฺณํ ขนฺธานํ, ทุกฺขสจฺจวชฺชิตานํ ติณฺณํ สจฺจานํ, ปสาทมโนวชฺชิตานํ โสฬสนฺนํ อินฺทฺริยานํ, อวิชฺชาสงฺขารผสฺสเวทนาตณฺหุปาทานกมฺมภวชาติชรามรณโสกทุกฺขโทมนสฺสุปายาสวเสน จุทฺทสปจฺจยาการปทานฺจ วเสน เวทิตพฺพานิ, น รูปกฺขนฺธาทีนํ. เตเนว อฏฺกถายํ

‘‘ตโย ขนฺธา ตถา สจฺจา, อินฺทฺริยานิ จ โสฬส;

ปทานิ ปจฺจยากาเร, จุทฺทสูปริ จุทฺทส.

‘‘สมตึส ปทา โหนฺติ, โคจฺฉเกสุ ทสสฺวถ;

ทุเว จูฬนฺตรทุกา, อฏฺ โหนฺติ มหนฺตรา’’ติ. (ธาตุ. อฏฺ. ๑๗๙) –

เอวํ อุทฺทานคาถา วุตฺตา. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – ยํ ขนฺธปเทน อสงฺคหิตํ, อายตนธาตุปเทหิ สงฺคหิตํ, ตสฺเสว ตีหิ วิเสสเนหิ วิสิฏฺสฺส ขนฺธาทีหิ สงฺคโห วุจฺจติ. กถํ? เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา, อายตนธาตุสงฺคเหหิ สงฺคหิตา, เต ธมฺมา กติหิ ขนฺเธหิ, อายตเนหิ, ธาตูหิ สงฺคหิตา? เต ธมฺมา อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตาติ.

ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺเธน หิ นิพฺพานํ, สุขุมรูปํ, สฺาสงฺขารา จ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา หุตฺวา ธมฺมายตนธมฺมธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตา. เตสุ นิพฺพานํ ขนฺธสงฺคหํ น คจฺฉติ, เสสา ตีหิ รูปสฺาสงฺขารกฺขนฺเธหิ สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, อายตนธาตุโย ปเนตฺถ ธมฺมายตนธมฺมธาตูนํ วเสเนว สพฺพตฺถ เวทิตพฺพา อิตราสํ อสมฺภวา, อิเมสุ จ นิพฺพานมฺปิ สงฺคหํ คจฺฉติ. เตเนว หิ ‘‘อสงฺขตํ ขนฺธโต เปตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสายมตฺโถ – ขนฺธสงฺคเห เอว อสงฺขตํ เปตฺวา, น อิตรสงฺคเหสูติ เอวํ สฺากฺขนฺธาทีสุปิ โยชนา เวทิตพฺพา. อยํ ปน วิเสโส – ชีวิตินฺทฺริเยน เย ธมฺมา…เป… เต ธมฺมา ทฺวีหิ เวทนาสฺากฺขนฺเธหิ สงฺคหิตา, รูปารูปชีวิตินฺทฺริเยหิ นิพฺพานเวทนาสฺาวิฺาณกฺขนฺธา ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา, เตสุ จ นิพฺพานเวทนาสฺาว อายตนธาตุสงฺคเหน สงฺคหิตาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ อสงฺคหิเตนสงฺคหิตปเท นโย.

สงฺคหิเตนสงฺคหิตปทตฺถวณฺณนา

สงฺคหิเตนสงฺคหิตปเท ปน ยานิ ปทานิ สงฺขาเรกเทสํ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ เวทเนกเทสํ วา สุขุมรูปํ วา สทฺเทกเทสํ วา, ตาเนว นิทฺทิสียนฺติ. ขนฺธายตนธาตูสุ เอกมฺปิ โกฏฺาสํ สกเลน คเหตฺวา ิตปทานิ น ยุชฺชนฺติ. ตานิ ปน ทฺวินฺนํ สมุทยมคฺคสจฺจานํ, ปนฺนรสินฺทฺริยานํ, เอกาทสปฏิจฺจปทาทีนฺจ วเสน เวทิตพฺพานิ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – ยํ อตฺตนา ขนฺธาทิวเสน สงฺคหิเตหิ ขนฺธาทิโต สงฺคหิตํ, ตสฺเสว ปมํ อุทฺธฏปทสฺส ปุน ขนฺธาทีหิ สงฺคโห วุจฺจติ.

ตตฺรายํ อาทิปเท นโย – สมุทยสจฺเจน เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ ตีหิ สงฺคเหหิปิ สงฺคหิตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ ตีหิปิ สงฺคหิตา, เต ธมฺมา เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตาติ. สมุทยสจฺเจน หิ ตณฺหาวชฺชา เสสา สงฺขารา ขนฺธาทีหิ สงฺคเหหิ สงฺคหิตา, ปุน เตหิ จ ตณฺหาว สงฺคหิตา, สา จ ปุน สงฺขารกฺขนฺธธมฺมายตนธมฺมธาตูหิ สงฺคหิตา. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อยํ สงฺคหิเตนสงฺคหิตปเท นโย.

อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปทตฺถวณฺณนา

อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปเท ปน ยานิ ปทานิ ปฺจกฺขนฺธคาหเกหิ ทุกฺขสจฺจาทีหิ, วิฺาเณน สทฺธึ สุขุมรูปคาหเกหิ อเจตสิกาทีหิ จ ปเทหิ วิวชฺชิตานิ รูปกฺขนฺธาทีนิ, ตาเนว นิทฺทิสียนฺติ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – ยํ ปมํ อุทฺธเฏน รูปกฺขนฺธาทิปเทน ขนฺธาทิโต อสงฺคหิตํ, ยํ เตหิ อสงฺคหิตํ, ตสฺเสว ปุน ขนฺธาทีหิ อสงฺคโห วุจฺจติ.

ตตฺรายํ เอกปทโยชนา – รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ ตีหิปิ อสงฺคเหหิ อสงฺคหิตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ ตีหิ อสงฺคหิตา, เต ธมฺมา เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตา. รูปกฺขนฺเธน หิ จตฺตาโร ขนฺธา, นิพฺพานฺจ ขนฺธสงฺคเหน อสงฺคหิตา, อายตนาทีหิ ปน วิฺาณเมว เปตฺวา เวทนาทโย ธมฺมายตเนน รูปกฺขนฺเธกเทเสน สงฺคหิตาติ วิฺาณเมว ตีหิปิ ขนฺธสงฺคหาทีหิ รูปกฺขนฺเธน อสงฺคหิตํ นาม. เตน ปุน วิฺาเณน สทฺธึ สนิพฺพานา จตฺตาโร ขนฺธา ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตา, เต สพฺเพปิ ปุน วิฺาณภูเตน เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ อสงฺคหิตาติ. อยํ อสงฺคหิเตนอสงฺคหิตปเท นโย.

สมฺปโยควิปฺปโยคปทตฺถวณฺณนา

สมฺปโยควิปฺปโยคปเท ปน ยานิ ปทานิ นิพฺพาเนน, รูเปน วา มิสฺเสสุ สตฺตสุ วิฺาณธาตูสุ เอกายปิ อวิปฺปยุตฺเต อรูปธมฺเม ปกาเสนฺติ, เตสํ ธมฺมายตนทุกฺขสจฺจาทีนํ นิทฺเทโส น สมฺภวติ. กาหิจิ ปน วิฺาณธาตูหิ วิปฺปยุตฺตานํ รูปมิสฺสารูปธมฺมานํ, เกวลานารมฺมณานํ วา สกลรูปกฺขนฺธานํ วา ปกาสกานํ รูปภวรูปกฺขนฺธกุสลาทิปทานํ สมฺปโยคปเท เอว นิทฺเทโส น สมฺภวติ, วิปฺปโยคปเท ปน สมฺภวติ. อรูปกฺขนฺธานํ ปน ปจฺเจกํ, ทฺวินฺนํ, ติณฺณํ, ตเทกเทสานํ วา ตทุภเยปิ สมฺภวติ. ‘‘จตูหิ สมฺปโยโค, จตูหิ วิปฺปโยโค, สภาโค วิสภาโค’’ติ หิ วจนโต จตูหิ อรูปกฺขนฺเธเหว สภาคานํ เอกสนฺตาเน เอกกฺขเณว อุปฺปนฺนานํ อรูปกฺขนฺธานํ เอว อฺมฺํ สมฺปโยโค ลพฺภติ. รูปธมฺมานํ ปน รูเปน, นิพฺพาเนน วา, นิพฺพานสฺส จ รูเปน สทฺธึ สมฺปโยโค นาม นตฺถิ, ตถา รูปนิพฺพานานํ อรูปกฺขนฺเธหิ. วิสภาคา หิ เต เตสํ ยถา อรูปกฺขนฺธานํ รูปนิพฺพาเนหิ, เอวํ ภินฺนสนฺตานิเกหิ นานกฺขณิเกหิ อรูปธมฺเมหิปิ สทฺธึ นตฺถิเยว. เตปิ หิ เตสํ สนฺตานกฺขณวิสภาคตาย วิสภาคา เอว. อยํ ปน วิสภาคตา อิธ สามฺโต น คหิตา เตสํ อวิเสเสน สมฺปโยคสฺสาปิ สมฺภวา. ยตฺถ ปน วิเสเสตฺวา จกฺขุวิฺาณตํสมฺปยุตฺตาทโย นิกฺขิตฺตา, ตตฺถายมฺปิ วิสภาคตา คหิตา. ยตฺถ ปน เย อนิทฺธาริตวิเสสนา, ตตฺถาปิ สพฺพถา สมฺปโยคลกฺขณํ น สมฺภวติ. โส จ ตสฺส เอกนฺเตน วิสภาโคติ อิธ คยฺหติ.

ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺโธ เกนจิ สมฺปยุตฺโตติ? นตฺถิ. กติหิ วิปฺปยุตฺโต? จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺโต, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺโต. เอส นโย จกฺขายตนาทิอนารมฺมเณสุปิ. สารมฺมเณสุ ปน เวทนากฺขนฺโธ ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ สมฺปยุตฺโต, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺโต. เอเกน ขนฺเธน ทสหิ อายตเนหิ ทสหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺโต, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺโต. เอส นโย สฺากฺขนฺธาทีสุปิ.

ตตฺถ เอเกนาติ มนายตเนน. สตฺตหีติ วิฺาณธาตูหิ. เกหิจีติ ธมฺมายตนธมฺมธาตุปริยาปนฺเนหิ เวทนาสฺาสงฺขาเรหิ. ทุติยนเย ตีหีติ อตฺตานํ เปตฺวา เสเสหิ อรูปกฺขนฺเธหิ. เกหิจิ วิปฺปยุตฺโตติ ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ สฺาสงฺขาเรหิ. เกหิจิ วิปฺปยุตฺโตติ รูปนิพฺพาเนหิ. เอวํ อุปริปิ สพฺพตฺถ ยถานุรูปํ าตพฺพํ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อยํ ปน วิเสโส ‘‘สมุทยมคฺคสจฺจาทโย เอกาย มโนวิฺาณธาตุยา สมฺปยุตฺตา, อธิโมกฺโข ปน มโนธาตุมโนวิฺาณธาตูหิ ทฺวีเหวา’’ติ. อยํ สมฺปโยควิปฺปโยคปเท นโย.

สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทตฺถวณฺณนา

สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปเท ปน สมฺปโยคารหปเทสุ ยานิ ปทานิ ธมฺมธาตุยา สมฺปยุตฺเต ธมฺเม, วิฺาณฺจ อฺเน อสมฺมิสฺสํ ทีเปนฺติ, เตสเมว นิทฺเทโส. ตานิ ปน จตุนฺนํ อรูปกฺขนฺธปทานํ, มนายตนสฺส, สตฺตนฺนํ วิฺาณธาตูนํ, มโนเปกฺขาวเสน ทฺวินฺนํ อินฺทฺริยานํ, วิฺาณผสฺสเวทนานํ ติณฺณํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทปทานํ, ผสฺสสตฺตกสฺส, อทุกฺขมสุขสวิตกฺกสวิจารอุเปกฺขาสหคตานํ วเสน ติณฺณํ ติกปทานํ, สตฺตมหนฺตรทุกปทาทีนฺจ วเสน เวทิตพฺพานิ, น อิตเรสํ อสมฺภวา. เตเนว อฏฺกถายํ

‘‘จตฺตาโร ขนฺธายตนฺจ เอกํ,

ทฺเว อินฺทฺริยา ธาตุปทานิ สตฺต;

ตโย ปฏิจฺจา อถ ผสฺสสตฺตกํ,

ติเก ตโย สตฺต มหนฺตเร จ;

เอกํ สวิตกฺกํ สวิจารเมกํ,

ยุตฺตํ อุเปกฺขาย จ เอกเมวา’’ติ. (ธาตุ. อฏฺ. ๓๐๖) –

อุทฺทานคาถา วุตฺตา. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏปเทน สมฺปยุตฺตา, เตหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยโค วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา. จกฺขุวิฺาณธาตุยา เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา น เกหิจิ ขนฺธายตเนหิ วิปฺปยุตฺตา, เอกาย ปน ธาตุยา วิปฺปยุตฺตาติ เอวํ สพฺพตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

ตตฺถ เต ธมฺมาติ รูปนิพฺพานธมฺมา, เต เวทนาย สมฺปยุตฺเตหิ วิปฺปยุตฺตา. เอเกนาติ มนายตเนน. ทุติยนเย เต ธมฺมาติ สปฺปีติกา เต ธมฺมา. น เกหิจีติ ปมํ อุทฺธฏํ จกฺขุวิฺาณธาตุํ เปตฺวา เสสา ฉวิฺาณธาตู, ตํสมฺปยุตฺตา, รูปํ, นิพฺพานฺจ. เตหิ สพฺเพสํ ขนฺธายตนานํ สงฺคหิตตฺตา น เกหิจิ ขนฺเธหิ, อายตเนหิ วา วิปฺปยุตฺตา. น หิ สยํ อตฺตนา วิปฺปยุชฺชติ, สมฺปยุชฺชติ วาติ. เอกายาติ จกฺขุวิฺาณธาตุยา. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ สมฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปเท นโย.

วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทตฺถวณฺณนา

วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปเท ปน วิปฺปยุตฺเตน สมฺปยุตฺโต นาม ธมฺโม นตฺถิ, เทสนาสมฺปทมตฺตาย ปน โมฆมฺเปตํ ปทํ อุทฺธฏํ, เตเนว ปาฬิยํ สพฺพวาเรสุปิ ‘‘นตฺถิ นตฺถิ’’ อิจฺเจว วุตฺตํ. รูปกฺขนฺธาทิอนารมฺมณธมฺเมหิ วิปฺปยุตฺตา จตฺตาโร ขนฺธา, เตสฺจ อฺเหิ สมฺปโยโค นตฺถิ. เวทนาทีหิปิ รูปนิพฺพานาทีนิ วิปฺปยุตฺตานิ, เตสฺจ เกนจิ สมฺปโยโคว นตฺถีติ. อยํ วิปฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปเท นโย.

สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปทตฺถวณฺณนา

สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปเท ปน ยานิ ปทานิ รูเปน อสมฺมิสฺสํ อรูปกฺขนฺเธกเทสเมว ทีเปนฺติ, เตสเมว นิทฺเทโส, น รูปารูปสมฺมิสฺสานํ, สพฺพรูปกฺขนฺธทีปกานํ เตสํ สมฺปยุตฺตตาโยคาภาวา. สพฺพารูปกฺขนฺเธนาปิ หิ กุสลาทินา อฺโ สมฺปยุตฺโต นาม นตฺถิ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏา, อตฺตนา สมฺปยุตฺเตน ปุน สมฺปยุตฺตา, เตสฺเว ขนฺธาทีหิ สมฺปโยโค วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ สมฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน…เป… เกหิจิ สมฺปยุตฺตา. สมุทยสจฺเจน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย มโนวิฺาณธาตุยา สมฺปยุตฺตา, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺตาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปเท นโย.

วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปทตฺถวณฺณนา

วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปเท ปน สมฺปโยคปเท วุตฺตปทาเนว นิทฺทิสียนฺติ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏปเทน วิปฺปยุตฺเตหิ ปุน วิปฺปยุตฺตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ วิปฺปโยโค วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน…เป… เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา. เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เตหิ ธมฺเมหิ เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา เอเกน ขนฺเธน ทสหายตเนหิ ทสหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกน…เป… เกหิจิ วิปฺปยุตฺตาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ วิปฺปยุตฺเตนวิปฺปยุตฺตปเท นโย.

สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทตฺถวณฺณนา

สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปเท ปน สงฺคหิเตนสงฺคหิตปเท นิทฺทิฏฺานิ สมุทยสจฺจาทิปทาเนว นิทฺทิสียนฺติ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏปเทน ขนฺธาทีหิ ตีหิปิ สงฺคหิตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ สมฺปโยโค, วิปฺปโยโค จ วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – สมุทยสจฺเจน เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ ตีหิปิ สงฺคเหหิ สงฺคหิตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ สมฺปยุตฺตา, เอเกน ขนฺเธน เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺตา. เอเกน ขนฺเธน ทสหายตนธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา. อิตฺถินฺทฺริเยน เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ ตีหิปิ สงฺคหิตา, เต ธมฺมา น เกหิจิ สมฺปยุตฺตา, จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกน…เป… เกหิจิ วิปฺปยุตฺตาติ.

ตตฺถ เอเกนาติ มนายตเนน. เอเกน ขนฺเธนาติ สงฺขารกฺขนฺเธน. เกหิจีติ สงฺขารกฺขนฺเธ ตณฺหาย ธมฺมายตนธมฺมธาตูสุ ตณฺหาเวทนาสฺาหิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ สงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปเท นโย.

สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทตฺถวณฺณนา

สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปเท ปน สมฺปยุตฺเตนสมฺปยุตฺตปเท นิทฺทิฏฺานิ เวทนากฺขนฺธาทิปทาเนว นิทฺทิสียนฺติ. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏปเทน สมฺปยุตฺตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ สงฺคโห, อสงฺคโห จ วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – เวทนากฺขนฺเธน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหิ อายตเนหิ อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, เสเสหิ อสงฺคหิตา. วิฺาณกฺขนฺเธน เย ธมฺมา สมฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา สงฺคหิตา, เสเสหิ อสงฺคหิตาติ.

ตตฺถ ตีหีติ สฺากฺขนฺธาทีหิ ตีหิ. เตหิ เวทนาย สมฺปยุตฺตา. ทฺวีหีติ ธมฺมายตนมนายตเนหิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ สมฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปเท นโย.

อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปทตฺถวณฺณนา

อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปเท ปน ยานิ ปทานิ สุขุมรูปํ อวิฺาณํ, อรูปํ สวิฺาณํ วา, เกวลํ อรูปํ วา ถูลรูปสฺสปิ เกวลํ วา, สุขุมรูปํ ทีเปนฺติ, เตสเมว นิทฺเทโส . อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏธมฺเมหิ ขนฺธาทีหิ ตีหิปิ อสงฺคหิตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ สมฺปโยโค, วิปฺปโยโค จ วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตา, เต ธมฺมา ตีหิ ขนฺเธหิ สมฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ สมฺปยุตฺตา, เอเกน ขนฺเธน ทสหิ อายตนธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา. เอวํ ธมฺมายตนอิตฺถินฺทฺริยาทีสุปิ โยชนา.

อรูปภเวน เย ธมฺมา ขนฺธาทีหิ อสงฺคหิตา, เต สมฺปยุตฺตาติ นตฺถิ. เต จตูหิ ขนฺเธหิ เอเกนายตเนน สตฺตหิ ธาตูหิ วิปฺปยุตฺตา, เอเกนายตเนน เอกาย ธาตุยา เกหิจิ วิปฺปยุตฺตา. เอวํ อิทฺธิปาทกุสลาทิปเทสุปิ โยชนา.

ตตฺถ รูปกฺขนฺเธน วิฺาณสฺเสว ตีหิปิ อสงฺคหิตตฺตา ตสฺส ตีหิ เวทนาทีหิ สมฺปโยโค, อิตเรหิ จ วิปฺปโยโค าตพฺโพ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ อสงฺคหิเตนสมฺปยุตฺตวิปฺปยุตฺตปเท นโย.

วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปทตฺถวณฺณนา

วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปเท ปน ยานิ ปทานิ เกวลานํ สารมฺมณานํ, อนารมฺมณานํ วา ธมฺมานํ ปกาสกานิ จ สภาวชาติภูมิกาลสนฺตานวเสน ภินฺนตาย เกหิจิ อรูปกฺขนฺเธหิ วิปฺปยุตฺตานํ อนารมฺมณธมฺมมิสฺสารูปกฺขนฺธานํ ปกาสกานิ ทุกฺขสจฺจอพฺยากตปริตฺตอตีตอชฺฌตฺตาทิปทานิ, เตสเมว นิทฺเทโส อิตเรสํ ธมฺมายตนชีวิตินฺทฺริยนามรูปสฬายตนชาติชรามรณอชฺฌตฺตพหิทฺธาอนิทสฺสนอปฺปฏิฆนเหตุอาทีนํ เตสํ เกนจิ วิปฺปโยคาสมฺภวา. อิทํ เหตฺถ ลกฺขณํ – เย ธมฺมา ปมํ อุทฺธฏปเทน วิปฺปยุตฺตา, เตสํ ขนฺธาทีหิ สงฺคโห, อสงฺคโห จ วุจฺจติ.

ตตฺรายํ นโย – รูปกฺขนฺเธน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหายตเนหิ อฏฺหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา, เอเกน ขนฺเธน ทสหิ อายตนธาตูหิ อสงฺคหิตา. ทุกฺขสจฺเจน เย ธมฺมา วิปฺปยุตฺตา, เต ธมฺมา จตูหิ ขนฺเธหิ ทฺวีหายตเนหิ ทฺวีหิ ธาตูหิ สงฺคหิตา. ตตฺถ ทุกฺขสจฺเจน วิปฺปยุตฺตา นาม โลกุตฺตรจิตฺตเจตสิกานิ, เต จ ธมฺมา เวทนากฺขนฺธาทิจตุกฺขนฺเธหิ มโนวิฺาณธมฺมธาตุวเสน ทฺวีหิ ธาตูหิ สงฺคหิตาติ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. อยํ วิปฺปยุตฺเตนสงฺคหิตาสงฺคหิตปเท นโย. อยเมตฺถ สงฺเขปโต วิภงฺคนเยน สทฺธึ อตฺถนิจฺฉโย, วิตฺถาโร ปน ธาตุกถาปาฬิอฏฺกถาสุ (ธาตุ. ๑๒; ธาตุ. อฏฺ. ๑-๒) คเหตพฺโพติ.

โมหวิจฺเฉทนิยา อภิธมฺมมาติกตฺถวณฺณนาย

ธาตุกถามาติกตฺถวณฺณนา นิฏฺิตา.