📜

นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส

วิสุทฺธิมคฺโค

(ปโม ภาโค)

นิทานาทิกถา

.

สีเลปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;

อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓);

อิติ หิทํ วุตฺตํ, กสฺมา ปเนตํ วุตฺตํ, ภควนฺตํ กิร สาวตฺถิยํ วิหรนฺตํ รตฺติภาเค อฺตโร เทวปุตฺโต อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน สํสยสมุคฺฆาฏตฺถํ –

อนฺโตชฏา พหิชฏา, ชฏาย ชฏิตา ปชา;

ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามิ, โก อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓) –

อิมํ ปฺหํ ปุจฺฉิ. ตสฺสายํ สงฺเขปตฺโถ – ชฏาติ ตณฺหาย ชาลินิยา เอตํ อธิวจนํ. สา หิ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ เหฏฺุปริยวเสน ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สํสิพฺพนฏฺเน เวฬุคุมฺพาทีนํ สาขาชาลสงฺขาตา ชฏา วิยาติ ชฏา, สา ปเนสา สกปริกฺขารปรปริกฺขาเรสุ สกอตฺตภาวปรอตฺตภาเวสุ อชฺฌตฺติกายตนพาหิรายตเนสุ จ อุปฺปชฺชนโต อนฺโตชฏา พหิชฏาติ วุจฺจติ. ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฏาย ชฏิตา ปชา. ยถา นาม เวฬุคุมฺพชฏาทีหิ เวฬุอาทโย, เอวํ ตาย ตณฺหาชฏาย สพฺพาปิ อยํ สตฺตนิกายสงฺขาตา ปชา ชฏิตา วินทฺธา, สํสิพฺพิตาติ อตฺโถ. ยสฺมา จ เอวํ ชฏิตา. ตํ ตํ โคตม ปุจฺฉามีติ ตสฺมา ตํ ปุจฺฉามิ. โคตมาติ ภควนฺตํ โคตฺเตน อาลปติ. โก อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ อิมํ เอวํ เตธาตุกํ ชเฏตฺวา ิตํ ชฏํ โก วิชเฏยฺย, วิชเฏตุํ โก สมตฺโถติ ปุจฺฉติ.

เอวํ ปุฏฺโ ปนสฺส สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร เทวเทโว สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา จตุเวสารชฺชวิสารโท ทสพลธโร อนาวรณาโณ สมนฺตจกฺขุ ภควา ตมตฺถํ วิสฺสชฺเชนฺโต –

สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;

อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ. –

อิมํ คาถมาห.

.

อิมิสฺสา ทานิ คาถาย, กถิตาย มเหสินา;

วณฺณยนฺโต ยถาภูตํ, อตฺถํ สีลาทิเภทนํ.

สุทุลฺลภํ ลภิตฺวาน, ปพฺพชฺชํ ชินสาสเน;

สีลาทิสงฺคหํ เขมํ, อุชุํ มคฺคํ วิสุทฺธิยา.

ยถาภูตํ อชานนฺตา, สุทฺธิกามาปิ เย อิธ;

วิสุทฺธึ นาธิคจฺฉนฺติ, วายมนฺตาปิ โยคิโน.

เตสํ ปาโมชฺชกรณํ, สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ;

มหาวิหารวาสีนํ, เทสนานยนิสฺสิตํ.

วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺสํ, ตํ เม สกฺกจฺจ ภาสโต;

วิสุทฺธิกามา สพฺเพปิ, นิสามยถ สาธโวติ.

. ตตฺถ วิสุทฺธีติ สพฺพมลวิรหิตํ อจฺจนฺตปริสุทฺธํ นิพฺพานํ เวทิตพฺพํ. ตสฺสา วิสุทฺธิยา มคฺโคติ วิสุทฺธิมคฺโค. มคฺโคติ อธิคมูปาโย วุจฺจติ. ตํ วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺสามีติ อตฺโถ.

โส ปนายํ วิสุทฺธิมคฺโค กตฺถจิ วิปสฺสนามตฺตวเสเนว เทสิโต. ยถาห –

‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ, ยทา ปฺาย ปสฺสติ;

อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข, เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา’’ติ. (ธ. ป. ๒๗๗);

กตฺถจิ ฌานปฺาวเสน. ยถาห –

‘‘ยมฺหิ ฌานฺจ ปฺา จ, ส เว นิพฺพานสนฺติเก’’ติ. (ธ. ป. ๓๗๒);

กตฺถจิ กมฺมาทิวเสน. ยถาห –

‘‘กมฺมํ วิชฺชา จ ธมฺโม จ, สีลํ ชีวิตมุตฺตมํ;

เอเตน มจฺจา สุชฺฌนฺติ, น โคตฺเตน ธเนน วา’’ติ. (ม. นิ. ๓.๓๘๗; สํ. นิ. ๑.๔๘);

กตฺถจิ สีลาทิวเสน. ยถาห –

‘‘สพฺพทา สีลสมฺปนฺโน, ปฺวา สุสมาหิโต;

อารทฺธวีริโย ปหิตตฺโต, โอฆํ ตรติ ทุตฺตร’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๙๖);

กตฺถจิ สติปฏฺานาทิวเสน. ยถาห –

‘‘เอกายโน อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย, ยทิทํ จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ (ที. นิ. ๒.๓๗๓).

สมฺมปฺปธานาทีสุปิ เอเสว นโย. อิมสฺมึ ปน ปฺหาพฺยากรเณ สีลาทิวเสน เทสิโต.

. ตตฺรายํ สงฺเขปวณฺณนา – สีเล ปติฏฺายาติ สีเล ตฺวา, สีลํ ปริปูรยมาโนเยว เจตฺถ สีเล ิโตติ วุจฺจติ. ตสฺมา สีลปริปูรเณน สีเล ปติฏฺหิตฺวาติ อยเมตฺถ อตฺโถ. นโรติ สตฺโต. สปฺโติ กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย ปฺวา. จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยนฺติ สมาธิฺเจว วิปสฺสนฺจ ภาวยมาโน, จิตฺตสีเสน เหตฺถ สมาธิ นิทฺทิฏฺโ. ปฺานาเมน จ วิปสฺสนาติ. อาตาปีติ วีริยวา. วีริยฺหิ กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเน อาตาโปติ วุจฺจติ. ตทสฺส อตฺถีติ อาตาปี. นิปโกติ เนปกฺกํ วุจฺจติ ปฺา, ตาย สมนฺนาคโตติ อตฺโถ. อิมินา ปเทน ปาริหาริกปฺํ ทสฺเสติ. อิมสฺมิฺหิ ปฺหาพฺยากรเณ ติกฺขตฺตุํ ปฺา อาคตา. ตตฺถ ปมา ชาติปฺา, ทุติยา วิปสฺสนาปฺา, ตติยา สพฺพกิจฺจปริณายิกา ปาริหาริกปฺา. สํสาเร ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขุ. โส อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ โส อิมินา จ สีเลน อิมินา จ จิตฺตสีเสน นิทฺทิฏฺสมาธินา อิมาย จ ติวิธาย ปฺาย อิมินา จ อาตาเปนาติ ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ. เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส ปถวิยํ ปติฏฺาย สุนิสิตํ สตฺถํ อุกฺขิปิตฺวา มหนฺตํ เวฬุคุมฺพํ วิชเฏยฺย, เอวเมว สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ วิปสฺสนาปฺาสตฺถํ วีริยพลปคฺคหิเตน ปาริหาริกปฺาหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา สพฺพมฺปิ ตํ อตฺตโน สนฺตาเน ปติตํ ตณฺหาชฏํ วิชเฏยฺย สฺฉินฺเทยฺย สมฺปทาเลยฺย. มคฺคกฺขเณ ปเนส ตํ ชฏํ วิชเฏติ นาม. ผลกฺขเณ วิชฏิตชโฏ สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ. เตนาห ภควา –

‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;

อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’’นฺติ. (สํ. นิ. ๑.๒๓);

. ตตฺรายํ ยาย ปฺาย สปฺโติ วุตฺโต, ตตฺราสฺส กรณียํ นตฺถิ. ปุริมกมฺมานุภาเวเนว หิสฺส สา สิทฺธา. อาตาปี นิปโกติ เอตฺถ วุตฺตวีริยวเสน ปน เตน สาตจฺจการินา ปฺาวเสน จ สมฺปชานการินา หุตฺวา สีเล ปติฏฺาย จิตฺตปฺาวเสน วุตฺตา สมถวิปสฺสนา ภาเวตพฺพาติ อิมมตฺร ภควา สีลสมาธิปฺามุเขน วิสุทฺธิมคฺคํ ทสฺเสติ.

เอตฺตาวตา หิ ติสฺโส สิกฺขา, ติวิธกลฺยาณํ สาสนํ, เตวิชฺชตาทีนํ อุปนิสฺสโย, อนฺตทฺวยวชฺชนมชฺฌิมปฏิปตฺติเสวนานิ, อปายาทิสมติกฺกมนุปาโย, ตีหากาเรหิ กิเลสปฺปหานํ, วีติกฺกมาทีนํ ปฏิปกฺโข, สํกิเลสตฺตยวิโสธนํ, โสตาปนฺนาทิภาวสฺส จ การณํ ปกาสิตํ โหติ.

กถํ? เอตฺถ หิ สีเลน อธิสีลสิกฺขา ปกาสิตา โหติ, สมาธินา อธิจิตฺตสิกฺขา, ปฺาย อธิปฺาสิกฺขา.

สีเลน จ สาสนสฺส อาทิกลฺยาณตา ปกาสิตา โหติ. ‘‘โก จาทิ กุสลานํ ธมฺมานํ, สีลฺจ สุวิสุทฺธ’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๓๖๙) หิ วจนโต, ‘‘สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๐) อาทิวจนโต จ สีลํ สาสนสฺส อาทิ, ตฺจ กลฺยาณํ, อวิปฺปฏิสาราทิคุณาวหตฺตา. สมาธินา มชฺเฌกลฺยาณตา ปกาสิตา โหติ. ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทา’’ติ (ที. นิ. ๒.๙๐) อาทิวจนโต หิ สมาธิ สาสนสฺส มชฺเฌ, โส จ กลฺยาโณ, อิทฺธิวิธาทิคุณาวหตฺตา. ปฺาย สาสนสฺส ปริโยสานกลฺยาณตา ปกาสิตา โหติ. ‘‘สจิตฺตปริโยทาปนํ, เอตํ พุทฺธาน สาสน’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๙๐) หิ วจนโต, ปฺุตฺตรโต จ ปฺา สาสนสฺส ปริโยสานํ, สา จ กลฺยาณํ, อิฏฺานิฏฺเสุ ตาทิภาวาวหนโต.

‘‘เสโล ยถา เอกฆโน, วาเตน น สมีรติ;

เอวํ นินฺทาปสํสาสุ, น สมิฺชนฺติ ปณฺฑิตา’’ติ. (ธ. ป. ๘๑); –

หิ วุตฺตํ.

ตถา สีเลน เตวิชฺชตาย อุปนิสฺสโย ปกาสิโต โหติ. สีลสมฺปตฺติฺหิ นิสฺสาย ติสฺโส วิชฺชา ปาปุณาติ, น ตโต ปรํ. สมาธินา ฉฬภิฺตาย อุปนิสฺสโย ปกาสิโต โหติ. สมาธิสมฺปทฺหิ นิสฺสาย ฉ อภิฺา ปาปุณาติ, น ตโต ปรํ. ปฺาย ปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส อุปนิสฺสโย ปกาสิโต โหติ. ปฺาสมฺปตฺติฺหิ นิสฺสาย จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา ปาปุณาติ, น อฺเน การเณน.

สีเลน จ กามสุขลฺลิกานุโยคสงฺขาตสฺส อนฺตสฺส วชฺชนํ ปกาสิตํ โหติ, สมาธินา อตฺตกิลมถานุโยคสงฺขาตสฺส. ปฺาย มชฺฌิมาย ปฏิปตฺติยา เสวนํ ปกาสิตํ โหติ.

ตถา สีเลน อปายสมติกฺกมนุปาโย ปกาสิโต โหติ, สมาธินา กามธาตุสมติกฺกมนุปาโย, ปฺาย สพฺพภวสมติกฺกมนุปาโย.

สีเลน จ ตทงฺคปฺปหานวเสน กิเลสปฺปหานํ ปกาสิตํ โหติ, สมาธินา วิกฺขมฺภนปฺปหานวเสน, ปฺาย สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน.

ตถา สีเลน กิเลสานํ วีติกฺกมปฏิปกฺโข ปกาสิโต โหติ, สมาธินา ปริยุฏฺานปฏิปกฺโข, ปฺาย อนุสยปฏิปกฺโข.

สีเลน จ ทุจฺจริตสํกิเลสวิโสธนํ ปกาสิตํ โหติ, สมาธินา ตณฺหาสํกิเลสวิโสธนํ, ปฺาย ทิฏฺิสํกิเลสวิโสธนํ.

ตถา สีเลน โสตาปนฺนสกทาคามิภาวสฺส การณํ ปกาสิตํ โหติ, สมาธินา อนาคามิภาวสฺส, ปฺาย อรหตฺตสฺส. โสตาปนฺโน หิ ‘‘สีเลสุ ปริปูรการี’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๗) วุตฺโต, ตถา สกทาคามี. อนาคามี ปน ‘‘สมาธิสฺมึ ปริปูรการี’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๗). อรหา ปน ‘‘ปฺาย ปริปูรการี’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๗).

เอวํ เอตฺตาวตา ติสฺโส สิกฺขา, ติวิธกลฺยาณํ สาสนํ, เตวิชฺชตาทีนํ อุปนิสฺสโย, อนฺตทฺวยวชฺชนมชฺฌิมปฏิปตฺติเสวนานิ, อปายาทิสมติกฺกมนุปาโย, ตีหากาเรหิ กิเลสปฺปหานํ, วีติกฺกมาทีนํ ปฏิปกฺโข, สํกิเลสตฺตยวิโสธนํ, โสตาปนฺนาทิภาวสฺส จ การณนฺติ อิเม นว, อฺเ จ เอวรูปา คุณตฺติกา ปกาสิตา โหนฺตีติ.