📜
๓. กมฺมฏฺานคฺคหณนิทฺเทโส
๓๘. อิทานิ ¶ ¶ ยสฺมา เอวํ ธุตงฺคปริหรณสมฺปาทิเตหิ อปฺปิจฺฉตาทีหิ คุเณหิ ปริโยทาเต อิมสฺมึ สีเล ปติฏฺิเตน ‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ วจนโต จิตฺตสีเสน นิทฺทิฏฺโ สมาธิ ภาเวตพฺโพ. โส จ อติสงฺเขปเทสิตตฺตา วิฺาตุมฺปิ ตาว น สุกโร, ปเคว ภาเวตุํ, ตสฺมา ตสฺส วิตฺถารฺจ ภาวนานยฺจ ทสฺเสตุํ อิทํ ปฺหากมฺมํ โหติ.
โก สมาธิ? เกนฏฺเน สมาธิ? กานสฺส ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานิ? กติวิโธ สมาธิ? โก จสฺส สํกิเลโส? กึ โวทานํ? กถํ ภาเวตพฺโพ? สมาธิภาวนาย โก อานิสํโสติ?
ตตฺริทํ วิสฺสชฺชนํ. โก สมาธีติ สมาธิ พหุวิโธ นานปฺปการโก. ตํ สพฺพํ วิภาวยิตุํ อารพฺภมานํ วิสฺสชฺชนํ อธิปฺเปตฺเจว อตฺถํ น สาเธยฺย, อุตฺตริ จ วิกฺเขปาย สํวตฺเตยฺย, ตสฺมา อิธาธิปฺเปตเมว สนฺธาย วทาม, กุสลจิตฺเตกคฺคตา สมาธิ.
เกนฏฺเน สมาธีติ สมาธานฏฺเน สมาธิ. กิมิทํ สมาธานํ นาม? เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกานํ สมํ สมฺมา จ อาธานํ, ปนนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา ยสฺส ธมฺมสฺสานุภาเวน เอการมฺมเณ จิตฺตเจตสิกา สมํ สมฺมา จ อวิกฺขิปมานา อวิปฺปกิณฺณา จ หุตฺวา ติฏฺนฺติ, อิทํ สมาธานนฺติ เวทิตพฺพํ.
กานสฺส ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานีติ เอตฺถ ปน อวิกฺเขปลกฺขโณ สมาธิ, วิกฺเขปวิทฺธํสนรโส, อวิกมฺปนปจฺจุปฏฺาโน. ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ วจนโต ปน สุขมสฺส ปทฏฺานํ.
๓๙. กติวิโธ ¶ สมาธีติ อวิกฺเขปลกฺขเณน ตาว เอกวิโธ. อุปจารอปฺปนาวเสน ทุวิโธ, ตถา โลกิยโลกุตฺตรวเสน สปฺปีติกนิปฺปีติกวเสน สุขสหคตอุเปกฺขาสหคตวเสน จ. ติวิโธ หีนมชฺฌิมปณีตวเสน ¶ , ตถา สวิตกฺกสวิจาราทิวเสน ปีติสหคตาทิวเสน ปริตฺตมหคฺคตปฺปมาณวเสน จ. จตุพฺพิโธ ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาทิวเสน, ตถา ปริตฺตปริตฺตารมฺมณาทิวเสน จตุฌานงฺควเสน หานภาคิยาทิวเสน กามาวจราทิวเสน อธิปติวเสน จ. ปฺจวิโธ ปฺจกนเย ปฺจฌานงฺควเสนาติ.
สมาธิเอกกทุกวณฺณนา
ตตฺถ เอกวิธโกฏฺาโส อุตฺตานตฺโถเยว. ทุวิธโกฏฺาเส ฉนฺนํ อนุสฺสติฏฺานานํ มรณสฺสติยา อุปสมานุสฺสติยา อาหาเร ปฏิกูลสฺาย จตุธาตุววตฺถานสฺสาติ อิเมสํ วเสน ลทฺธจิตฺเตกคฺคตา, ยา จ อปฺปนาสมาธีนํ ปุพฺพภาเค เอกคฺคตา, อยํ อุปจารสมาธิ. ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปริกมฺมํ ปมสฺส ฌานสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ อาทิวจนโต ปน ยา ปริกมฺมานนฺตรา เอกคฺคตา, อยํ อปฺปนาสมาธีติ เอวํ อุปจารปฺปนาวเสน ทุวิโธ.
ทุติยทุเก ตีสุ ภูมีสุ กุสลจิตฺเตกคฺคตา โลกิโย สมาธิ. อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา เอกคฺคตา โลกุตฺตโร สมาธีติ เอวํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธ.
ตติยทุเก จตุกฺกนเย ทฺวีสุ ปฺจกนเย ตีสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา สปฺปีติโก สมาธิ. อวเสเสสุ ทฺวีสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา นิปฺปีติโก สมาธิ. อุปจารสมาธิ ปน สิยา สปฺปีติโก, สิยา นิปฺปีติโกติ เอวํ สปฺปีติกนิปฺปีติกวเสน ทุวิโธ.
จตุตฺถทุเก จตุกฺกนเย ตีสุ ปฺจกนเย จตูสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา สุขสหคโต สมาธิ. อวเสสสฺมึ อุเปกฺขาสหคโต สมาธิ. อุปจารสมาธิ ปน สิยา สุขสหคโต, สิยา อุเปกฺขาสหคโตติ เอวํ สุขสหคตอุเปกฺขาสหคตวเสน ทุวิโธ.
สมาธิติกวณฺณนา
ติเกสุ ¶ ปมตฺติเก ปฏิลทฺธมตฺโต หีโน, นาติสุภาวิโต มชฺฌิโม, สุภาวิโต วสิปฺปตฺโต ปณีโตติ เอวํ หีนมชฺฌิมปณีตวเสน ติวิโธ.
ทุติยตฺติเก ¶ ปมชฺฌานสมาธิ สทฺธึ อุปจารสมาธินา สวิตกฺกสวิจาโร. ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานสมาธิ อวิตกฺกวิจารมตฺโต. โย หิ วิตกฺกมตฺเตเยว อาทีนวํ ทิสฺวา วิจาเร อทิสฺวา เกวลํ วิตกฺกปฺปหานมตฺตํ อากงฺขมาโน ปมชฺฌานํ อติกฺกมติ, โส อวิตกฺกวิจารมตฺตํ สมาธึ ปฏิลภติ. ตํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ. จตุกฺกนเย ปน ทุติยาทีสุ ปฺจกนเย ตติยาทีสุ ตีสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา อวิตกฺกาวิจาโร สมาธีติ เอวํ สวิตกฺกสวิจาราทิวเสน ติวิโธ.
ตติยตฺติเก จตุกฺกนเย อาทิโต ทฺวีสุ ปฺจกนเย จ ตีสุ ฌาเนสุ เอกคฺคตา ปีติสหคโต สมาธิ. เตสฺเวว ตติเย จ จตุตฺเถ จ ฌาเน เอกคฺคตา สุขสหคโต สมาธิ. อวสาเน อุเปกฺขาสหคโต. อุปจารสมาธิ ปน ปีติสุขสหคโต วา โหติ อุเปกฺขาสหคโต วาติ เอวํ ปีติสหคตาทิวเสน ติวิโธ.
จตุตฺถตฺติเก อุปจารภูมิยํ เอกคฺคตา ปริตฺโต สมาธิ. รูปาวจรารูปาวจรกุสเล เอกคฺคตา มหคฺคโต สมาธิ. อริยมคฺคสมฺปยุตฺตา เอกคฺคตา อปฺปมาโณ สมาธีติ เอวํ ปริตฺตมหคฺคตปฺปมาณวเสน ติวิโธ.
สมาธิจตุกฺกวณฺณนา
จตุกฺเกสุ ปมจตุกฺเก อตฺถิ สมาธิ ทุกฺขาปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ, อตฺถิ ทุกฺขาปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ, อตฺถิ สุขาปฏิปโท ทนฺธาภิฺโ, อตฺถิ สุขาปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโติ.
ตตฺถ ปมสมนฺนาหารโต ปฏฺาย ยาว ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารํ อุปฺปชฺชติ, ตาว ปวตฺตา สมาธิภาวนา ปฏิปทาติ วุจฺจติ. อุปจารโต ปน ปฏฺาย ยาว อปฺปนา, ตาว ปวตฺตา ¶ ปฺา อภิฺาติ วุจฺจติ. สา ปเนสา ปฏิปทา เอกจฺจสฺส ทุกฺขา โหติ, นีวรณาทิปจฺจนีกธมฺมสมุทาจารคหณตาย กิจฺฉา อสุขาเสวนาติ อตฺโถ. เอกจฺจสฺส ตทภาเวน สุขา. อภิฺาปิ เอกจฺจสฺส ทนฺธา โหติ มนฺทา อสีฆปฺปวตฺติ. เอกจฺจสฺส ขิปฺปา อมนฺทา สีฆปฺปวตฺติ.
ตตฺถ ยานิ ปรโต สปฺปายาสปฺปายานิ จ ปลิโพธุปจฺเฉทาทีนิ ปุพฺพกิจฺจานิ จ อปฺปนาโกสลฺลานิ จ วณฺณยิสฺสาม, เตสุ โย อสปฺปายเสวี ¶ โหติ, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา ทนฺธา จ อภิฺา โหติ. สปฺปายเสวิโน สุขา ปฏิปทา ขิปฺปา จ อภิฺา. โย ปน ปุพฺพภาเค อสปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค สปฺปายเสวี โหติ, ปุพฺพภาเค วา สปฺปายํ เสวิตฺวา อปรภาเค อสปฺปายเสวี, ตสฺส โวมิสฺสกตา เวทิตพฺพา. ตถา ปลิโพธุปจฺเฉทาทิกํ ปุพฺพกิจฺจํ อสมฺปาเทตฺวา ภาวนมนุยุตฺตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ. วิปริยาเยน สุขา. อปฺปนาโกสลฺลานิ ปน อสมฺปาเทนฺตสฺส ทนฺธา อภิฺา โหติ. สมฺปาเทนฺตสฺส ขิปฺปา.
อปิจ ตณฺหาอวิชฺชาวเสน สมถวิปสฺสนาธิการวเสน จาปิ เอตาสํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ตณฺหาภิภูตสฺส หิ ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ. อนภิภูตสฺส สุขา. อวิชฺชาภิภูตสฺส จ ทนฺธา อภิฺา โหติ. อนภิภูตสฺส ขิปฺปา. โย จ สมเถ อกตาธิกาโร, ตสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ. กตาธิการสฺส สุขา. โย ปน วิปสฺสนาย อกตาธิกาโร โหติ, ตสฺส ทนฺธา อภิฺา โหติ, กตาธิการสฺส ขิปฺปา. กิเลสินฺทฺริยวเสน จาปิ เอตาสํ ปเภโท เวทิตพฺโพ. ติพฺพกิเลสสฺส หิ มุทินฺทฺริยสฺส ทุกฺขา ปฏิปทา โหติ ทนฺธา จ อภิฺา, ติกฺขินฺทฺริยสฺส ปน ขิปฺปา อภิฺา. มนฺทกิเลสสฺส จ มุทินฺทฺริยสฺส สุขา ปฏิปทา โหติ ทนฺธา จ อภิฺา. ติกฺขินฺทฺริยสฺส ปน ขิปฺปา อภิฺาติ.
อิติ อิมาสุ ปฏิปทาอภิฺาสุ โย ปุคฺคโล ทุกฺขาย ปฏิปทาย ทนฺธาย จ อภิฺาย สมาธึ ปาปุณาติ, ตสฺส โส สมาธิ ทุกฺขาปฏิปโท ทนฺธาภิฺโติ วุจฺจติ. เอส นโย เสสตฺตเยปีติ เอวํ ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาทิวเสน จตุพฺพิโธ.
ทุติยจตุกฺเก อตฺถิ สมาธิ ปริตฺโต ปริตฺตารมฺมโณ, อตฺถิ ปริตฺโต อปฺปมาณารมฺมโณ, อตฺถิ อปฺปมาโณ ปริตฺตารมฺมโณ, อตฺถิ อปฺปมาโณ อปฺปมาณารมฺมโณติ. ตตฺถ โย สมาธิ อปฺปคุโณ ¶ อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ น สกฺโกติ, อยํ ปริตฺโต. โย ปน อวฑฺฒิเต อารมฺมเณ ปวตฺโต, อยํ ปริตฺตารมฺมโณ. โย ปคุโณ สุภาวิโต, อุปริฌานสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สกฺโกติ, อยํ อปฺปมาโณ. โย จ วฑฺฒิเต อารมฺมเณ ปวตฺโต, อยํ อปฺปมาณารมฺมโณ. วุตฺตลกฺขณโวมิสฺสตาย ปน โวมิสฺสกนโย เวทิตพฺโพ. เอวํ ปริตฺตปริตฺตารมฺมณาทิวเสน จตุพฺพิโธ.
ตติยจตุกฺเก ¶ วิกฺขมฺภิตนีวรณานํ วิตกฺกวิจารปีติสุขสมาธีนํ วเสน ปฺจงฺคิกํ ปมํ ฌานํ, ตโต วูปสนฺตวิตกฺกวิจารํ ติวงฺคิกํ ทุติยํ, ตโต วิรตฺตปีติกํ ทุวงฺคิกํ ตติยํ, ตโต ปหีนสุขํ อุเปกฺขาเวทนาสหิตสฺส สมาธิโน วเสน ทุวงฺคิกํ จตุตฺถํ. อิติ อิเมสํ จตุนฺนํ ฌานานํ องฺคภูตา จตฺตาโร สมาธี โหนฺติ. เอวํ จตุฌานงฺควเสน จตุพฺพิโธ.
จตุตฺถจตุกฺเก อตฺถิ สมาธิ หานภาคิโย, อตฺถิ ิติภาคิโย, อตฺถิ วิเสสภาคิโย, อตฺถิ นิพฺเพธภาคิโย. ตตฺถ ปจฺจนีกสมุทาจารวเสน หานภาคิยตา, ตทนุธมฺมตาย สติยา สณฺานวเสน ิติภาคิยตา, อุปริวิเสสาธิคมวเสน วิเสสภาคิยตา, นิพฺพิทาสหคตสฺามนสิการสมุทาจารวเสน นิพฺเพธภาคิยตา จ เวทิตพฺพา. ยถาห, ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภึ กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ หานภาคินี ปฺา. ตทนุธมฺมตา สติ สนฺติฏฺติ ิติภาคินี ปฺา. อวิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิเสสภาคินี ปฺา. นิพฺพิทาสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิราคูปสฺหิตา นิพฺเพธภาคินี ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๙๙). ตาย ปน ปฺาย สมฺปยุตฺตา สมาธีปิ จตฺตาโร โหนฺตีติ. เอวํ หานภาคิยาทิวเสน จตุพฺพิโธ.
ปฺจมจตุกฺเก กามาวจโร สมาธิ, รูปาวจโร สมาธิ, อรูปาวจโร สมาธิ, อปริยาปนฺโน สมาธีติ เอวํ จตฺตาโร สมาธี. ตตฺถ สพฺพาปิ อุปจาเรกคฺคตา กามาวจโร สมาธิ. ตถา รูปาวจราทิกุสลจิตฺเตกคฺคตา อิตเร ตโยติ เอวํ กามาวจราทิวเสน จตุพฺพิโธ.
ฉฏฺจตุกฺเก ‘‘ฉนฺทํ เจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธึ, ลภติ จิตฺตสฺเสกคฺคตํ, อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธิ…เป… วีริยํ เจ ภิกฺขุ…เป… จิตฺตํ เจ ภิกฺขุ…เป… วีมํสํ เจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธึ, ลภติ จิตฺตสฺเสกคฺคตํ ¶ , อยํ วุจฺจติ วีมํสาสมาธี’’ติ (วิภ. ๔๓๒; สํ. นิ. ๓.๘๒๕) เอวํ อธิปติวเสน จตุพฺพิโธ.
ปฺจเก ¶ ยํ จตุกฺกเภเท วุตฺตํ ทุติยํ ฌานํ, ตํ วิตกฺกมตฺตาติกฺกเมน ทุติยํ, วิตกฺกวิจาราติกฺกเมน ตติยนฺติ เอวํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปฺจ ฌานานิ เวทิตพฺพานิ. เตสํ องฺคภูตา จ ปฺจ สมาธีติ เอวํ ปฺจฌานงฺควเสน ปฺจวิธตา เวทิตพฺพา.
๔๐. โก จสฺส สํกิเลโส กึ โวทานนฺติ เอตฺถ ปน วิสฺสชฺชนํ วิภงฺเค วุตฺตเมว. วุตฺตฺหิ ตตฺถ ‘‘สํกิเลสนฺติ หานภาคิโย ธมฺโม. โวทานนฺติ วิเสสภาคิโย ธมฺโม’’ติ (วิภ. ๘๒๘). ตตฺถ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภึ กามสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ หานภาคินี ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๙๙) อิมินา นเยน หานภาคิยธมฺโม เวทิตพฺโพ. ‘‘อวิตกฺกสหคตา สฺามนสิการา สมุทาจรนฺติ วิเสสภาคินี ปฺา’’ติ (วิภ. ๗๙๙) อิมินา นเยน วิเสสภาคิยธมฺโม เวทิตพฺโพ.
ทสปลิโพธวณฺณนา
๔๑. กถํ ภาเวตพฺโพติ เอตฺถ ปน โย ตาว อยํ โลกิยโลกุตฺตรวเสน ทุวิโธติอาทีสุ อริยมคฺคสมฺปยุตฺโต สมาธิ วุตฺโต, ตสฺส ภาวนานโย ปฺาภาวนานเยเนว สงฺคหิโต. ปฺาย หิ ภาวิตาย โส ภาวิโต โหติ. ตสฺมา ตํ สนฺธาย เอวํ ภาเวตพฺโพติ น กิฺจิ วิสุํ วทาม.
โย ปนายํ โลกิโย, โส วุตฺตนเยน สีลานิ วิโสเธตฺวา สุปริสุทฺเธ สีเล ปติฏฺิเตน ยฺวาสฺส ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ, ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา กมฺมฏฺานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน จริยานุกูลํ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ อฺตรํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สมาธิภาวนาย อนนุรูปํ วิหารํ ปหาย อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตน ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ภาเวตพฺโพติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.
อยํ ¶ ปน วิตฺถาโร, ยํ ตาว วุตฺตํ ‘‘ยฺวาสฺส ทสสุ ปลิโพเธสุ ปลิโพโธ อตฺถิ, ตํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา’’ติ, เอตฺถ –
อาวาโส จ กุลํ ลาโภ, คโณ กมฺมฺจ ปฺจมํ;
อทฺธานํ าติ อาพาโธ, คนฺโถ อิทฺธีติ เต ทสาติ. –
อิเม ¶ ทส ปลิโพธา นาม. ตตฺถ อาวาโสเยว อาวาสปลิโพโธ. เอส นโย กุลาทีสุ.
ตตฺถ อาวาโสติ เอโกปิ โอวรโก วุจฺจติ เอกมฺปิ ปริเวณํ สกโลปิ สงฺฆาราโม. สฺวายํ น สพฺพสฺเสว ปลิโพโธ โหติ. โย ปเนตฺถ นวกมฺมาทีสุ อุสฺสุกฺกํ วา อาปชฺชติ, พหุภณฺฑสนฺนิจโย วา โหติ, เยน เกนจิ วา การเณน อเปกฺขวา ปฏิพทฺธจิตฺโต, ตสฺเสว ปลิโพโธ โหติ, น อิตรสฺส.
ตตฺริทํ วตฺถุ – ทฺเว กิร กุลปุตฺตา อนุราธปุรา นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ถูปาราเม ปพฺพชึสุ. เตสุ เอโก ทฺเว มาติกา ปคุณา กตฺวา ปฺจวสฺสิโก หุตฺวา ปวาเรตฺวา ปาจินขณฺฑราชึ นาม คโต. เอโก ตตฺเถว วสติ. ปาจินขณฺฑราชิคโต ตตฺถ จิรํ วสิตฺวา เถโร หุตฺวา จินฺเตสิ ‘‘ปฏิสลฺลานสารุปฺปมิทํ านํ, หนฺท นํ สหายกสฺสาปิ อาโรเจมี’’ติ. ตโต นิกฺขมิตฺวา อนุปุพฺเพน ถูปารามํ ปาวิสิ. ปวิสนฺตํเยว จ นํ ทิสฺวา สมานวสฺสิกตฺเถโร ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตจีวรํ ปฏิคฺคเหตฺวา วตฺตํ อกาสิ. อาคนฺตุกตฺเถโร เสนาสนํ ปวิสิตฺวา จินฺเตสิ ‘‘อิทานิ เม สหาโย สปฺปึ วา ผาณิตํ วา ปานกํ วา เปเสสฺสติ. อยฺหิ อิมสฺมึ นคเร จิรนิวาสี’’ติ. โส รตฺตึ อลทฺธา ปาโต จินฺเตสิ ‘‘อิทานิ อุปฏฺาเกหิ คหิตํ ยาคุขชฺชกํ เปเสสฺสตี’’ติ. ตมฺปิ อทิสฺวา ‘‘ปหิณนฺตา นตฺถิ, ปวิฏฺสฺส มฺเ ทสฺสตี’’ติ ปาโตว เตน สทฺธึ คามํ ปาวิสิ. เต ทฺเว เอกํ วีถึ จริตฺวา อุฬุงฺกมตฺตํ ยาคุํ ลภิตฺวา อาสนสาลายํ นิสีทิตฺวา ปิวึสุ. ตโต อาคนฺตุโก จินฺเตสิ ‘‘นิพทฺธยาคุ มฺเ นตฺถิ, ภตฺตกาเล อิทานิ มนุสฺสา ปณีตํ ภตฺตํ ทสฺสนฺตี’’ติ, ตโต ภตฺตกาเลปิ ปิณฺฑาย จริตฺวา ลทฺธเมว ภฺุชิตฺวา อิตโร อาห – ‘‘กึ, ภนฺเต, สพฺพกาลํ เอวํ ยาเปถา’’ติ? อามาวุโสติ. ภนฺเต, ปาจินขณฺฑราชิ ผาสุกา, ตตฺถ คจฺฉามาติ. เถโร นครโต ¶ ทกฺขิณทฺวาเรน นิกฺขมนฺโต กุมฺภการคามมคฺคํ ปฏิปชฺชิ. อิตโร อาห – ‘‘กึ ปน, ภนฺเต, อิมํ มคฺคํ ปฏิปนฺนตฺถา’’ติ? นนุ ตฺวมาวุโส, ปาจินขณฺฑราชิยา วณฺณํ อภาสีติ? กึ ปน, ภนฺเต, ตุมฺหากํ เอตฺตกํ กาลํ วสิตฏฺาเน น โกจิ อติเรกปริกฺขาโร อตฺถีติ? อามาวุโส มฺจปีํ สงฺฆิกํ, ตํ ปฏิสามิตเมว, อฺํ กิฺจิ นตฺถีติ. มยฺหํ ปน, ภนฺเต ¶ , กตฺตรทณฺโฑ เตลนาฬิ อุปาหนตฺถวิกา จ ตตฺเถวาติ. ตยาวุโส, เอกทิวสํ วสิตฺวา เอตฺตกํ ปิตนฺติ? อาม, ภนฺเต. โส ปสนฺนจิตฺโต เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘ตุมฺหาทิสานํ, ภนฺเต, สพฺพตฺถ อรฺวาโสเยว. ถูปาราโม จตุนฺนํ พุทฺธานํ ธาตุนิธานฏฺานํ, โลหปาสาเท สปฺปายํ ธมฺมสฺสวนํ มหาเจติยทสฺสนํ เถรทสฺสนฺจ ลพฺภติ, พุทฺธกาโล วิย ปวตฺตติ. อิเธว ตุมฺเห วสถา’’ติ ทุติยทิวเส ปตฺตจีวรํ คเหตฺวา สยเมว อคมาสีติ. อีทิสสฺส อาวาโส น ปลิโพโธ โหติ.
กุลนฺติ าติกุลํ วา อุปฏฺากกุลํ วา. เอกจฺจสฺส หิ อุปฏฺากกุลมฺปิ ‘‘สุขิเตสุ สุขิโต’’ติอาทินา (วิภ. ๘๘๘; สํ. นิ. ๔.๒๔๑) นเยน สํสฏฺสฺส วิหรโต ปลิโพโธ โหติ, โส กุลมานุสเกหิ วินา ธมฺมสฺสวนาย สามนฺตวิหารมฺปิ น คจฺฉติ. เอกจฺจสฺส มาตาปิตโรปิ ปลิโพธา น โหนฺติ, โกรณฺฑกวิหารวาสิตฺเถรสฺส ภาคิเนยฺยทหรภิกฺขุโน วิย.
โส กิร อุทฺเทสตฺถํ โรหณํ อคมาสิ. เถรภคินีปิ อุปาสิกา สทา เถรํ ตสฺส ปวตฺตึ ปุจฺฉติ. เถโร เอกทิวสํ ทหรํ อาเนสฺสามีติ โรหณาภิมุโข ปายาสิ. ทหโรปิ ‘‘จิรํ เม อิธ วุตฺถํ, อุปชฺฌายํ ทานิ ปสฺสิตฺวา อุปาสิกาย จ ปวตฺตึ ตฺวา อาคมิสฺสามี’’ติ โรหณโต นิกฺขมิ. เต อุโภปิ คงฺคาตีเร สมาคจฺฉึสุ. โส อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล เถรสฺส วตฺตํ กตฺวา ‘‘กุหึ ยาสี’’ติ ปุจฺฉิโต ตมตฺถํ อาโรเจสิ. เถโร สุฏฺุ เต กตํ, อุปาสิกาปิ สทา ปุจฺฉติ, อหมฺปิ เอตทตฺถเมว อาคโต, คจฺฉ ตฺวํ, อหํ ปน อิเธว อิมํ วสฺสํ วสิสฺสามีติ ตํ อุยฺโยเชสิ. โส วสฺสูปนายิกทิวเสเยว ตํ วิหารํ ปตฺโต. เสนาสนมฺปิสฺส ปิตรา การิตเมว ปตฺตํ.
อถสฺส ปิตา ทุติยทิวเส อาคนฺตฺวา ‘‘กสฺส, ภนฺเต, อมฺหากํ เสนาสนํ ปตฺต’’นฺติ ปุจฺฉนฺโต ‘‘อาคนฺตุกสฺส ทหรสฺสา’’ติ สุตฺวา ตํ อุปสงฺกมิตฺวา วนฺทิตฺวา อาห – ‘‘ภนฺเต, อมฺหากํ ¶ เสนาสเน วสฺสํ อุปคตสฺส วตฺตํ อตฺถี’’ติ. กึ อุปาสกาติ? เตมาสํ อมฺหากํเยว ฆเร ภิกฺขํ คเหตฺวา ปวาเรตฺวา คมนกาเล อาปุจฺฉิตพฺพนฺติ. โส ตุณฺหิภาเวน อธิวาเสสิ. อุปาสโกปิ ฆรํ คนฺตฺวา ‘‘อมฺหากํ อาวาเส เอโก ¶ อาคนฺตุโก อยฺโย อุปคโต สกฺกจฺจํ อุปฏฺาตพฺโพ’’ติ อาห. อุปาสิกา ‘‘สาธู’’ติ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปณีตํ ขาทนียํ โภชนียํ ปฏิยาเทสิ. ทหโรปิ ภตฺตกาเล าติฆรํ อคมาสิ. น นํ โกจิ สฺชานิ.
โส เตมาสมฺปิ ตตฺถ ปิณฺฑปาตํ ปริภฺุชิตฺวา วสฺสํวุตฺโถ ‘‘อหํ คจฺฉามี’’ติ อาปุจฺฉิ. อถสฺส าตกา ‘‘สฺเว, ภนฺเต, คจฺฉถา’’ติ ทุติยทิวเส ฆเรเยว โภเชตฺวา เตลนาฬึ ปูเรตฺวา เอกํ คุฬปิณฺฑํ นวหตฺถฺจ สาฏกํ ทตฺวา ‘‘คจฺฉถ, ภนฺเต’’ติ อาหํสุ. โส อนุโมทนํ กตฺวา โรหณาภิมุโข ปายาสิ.
อุปชฺฌาโยปิสฺส ปวาเรตฺวา ปฏิปถํ อาคจฺฉนฺโต ปุพฺเพ ทิฏฺฏฺาเนเยว ตํ อทฺทส. โส อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล เถรสฺส วตฺตํ อกาสิ. อถ นํ เถโร ปุจฺฉิ ‘‘กึ, ภทฺทมุข, ทิฏฺา เต อุปาสิกา’’ติ? โส ‘‘อาม, ภนฺเต’’ติ สพฺพํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา เตน เตเลน เถรสฺส ปาเท มกฺเขตฺวา คุเฬน ปานกํ กตฺวา ตมฺปิ สาฏกํ เถรสฺเสว ทตฺวา เถรํ วนฺทิตฺวา ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, โรหณํเยว สปฺปาย’’นฺติ อคมาสิ. เถโรปิ วิหารํ อาคนฺตฺวา ทุติยทิวเส โกรณฺฑกคามํ ปาวิสิ.
อุปาสิกาปิ ‘‘มยฺหํ ภาตา มม ปุตฺตํ คเหตฺวา อิทานิ อาคจฺฉตี’’ติ สทา มคฺคํ โอโลกยมานาว ติฏฺติ. สา ตํ เอกกเมว อาคจฺฉนฺตํ ทิสฺวา ‘‘มโต เม มฺเ ปุตฺโต, อยํ เถโร เอกโกว อาคจฺฉตี’’ติ เถรสฺส ปาทมูเล นิปติตฺวา ปริเทวมานา โรทิ. เถโร ‘‘นูน ทหโร อปฺปิจฺฉตาย อตฺตานํ อชานาเปตฺวาว คโต’’ติ ตํ สมสฺสาเสตฺวา สพฺพํ ปวตฺตึ อาโรเจตฺวา ปตฺตตฺถวิกโต ตํ สาฏกํ นีหริตฺวา ทสฺเสติ.
อุปาสิกา ปสีทิตฺวา ปุตฺเตน คตทิสาภิมุขา อุเรน นิปชฺชิตฺวา นมสฺสมานา อาห – ‘‘มยฺหํ ปุตฺตสทิสํ วต มฺเ ภิกฺขุํ กายสกฺขึ กตฺวา ภควา รถวินีตปฏิปทํ (ม. นิ. ๑.๒๕๒ อาทโย), นาลกปฏิปทํ (สุ. นิ. ๖๘๔ อาทโย), ตุวฏฺฏกปฏิปทํ (สุ. นิ. ๙๒๑ อาทโย), จตุปจฺจยสนฺโตสภาวนารามตาทีปกํ มหาอริยวํสปฏิปทฺจ (อ. นิ. ๔.๒๘; ที. นิ. ๓.๓๐๙) เทเสสิ ¶ . วิชาตมาตุยา นาม เคเห เตมาสํ ภฺุชมาโนปิ ‘อหํ ¶ ปุตฺโต ตฺวํ มาตา’ติ น วกฺขติ, อโห อจฺฉริยมนุสฺโส’’ติ. เอวรูปสฺส มาตาปิตโรปิ ปลิโพธา น โหนฺติ, ปเคว อฺํ อุปฏฺากกุล’’นฺติ.
ลาโภติ จตฺตาโร ปจฺจยา. เต กถํ ปลิโพธา โหนฺติ? ปฺุวนฺตสฺส หิ ภิกฺขุโน คตคตฏฺาเน มนุสฺสา มหาปริวาเร ปจฺจเย เทนฺติ. โส เตสํ อนุโมเทนฺโต ธมฺมํ เทเสนฺโต สมณธมฺมํ กาตุํ น โอกาสํ ลภติ. อรุณุคฺคมนโต ยาว ปมยาโม, ตาว มนุสฺสสํสคฺโค น อุปจฺฉิชฺชติ. ปุน พลวปจฺจูเสเยว พาหุลฺลิกปิณฺฑปาติกา อาคนฺตฺวา ‘‘ภนฺเต, อสุโก อุปาสโก อุปาสิกา อมจฺโจ อมจฺจธีตา ตุมฺหากํ ทสฺสนกามา’’ติ วทนฺติ, โส คณฺหาวุโส, ปตฺตจีวรนฺติ คมนสชฺโชว โหตีติ นิจฺจพฺยาวโฏ, ตสฺเสว เต ปจฺจยา ปลิโพธา โหนฺติ. เตน คณํ ปหาย ยตฺถ นํ น ชานนฺติ, ตตฺถ เอกเกน จริตพฺพํ. เอวํ โส ปลิโพโธ อุปจฺฉิชฺชตีติ.
คโณติ สุตฺตนฺติกคโณ วา อาภิธมฺมิกคโณ วา, โย ตสฺส อุทฺเทสํ วา ปริปุจฺฉํ วา เทนฺโต สมณธมฺมสฺส โอกาสํ น ลภติ, ตสฺเสว คโณ ปลิโพโธ โหติ, เตน โส เอวํ อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ. สเจ เตสํ ภิกฺขูนํ พหุ คหิตํ โหติ, อปฺปํ อวสิฏฺํ, ตํ นิฏฺเปตฺวา อรฺํ ปวิสิตพฺพํ. สเจ อปฺปํ คหิตํ, พหุ อวสิฏฺํ, โยชนโต ปรํ อคนฺตฺวา อนฺโตโยชนปริจฺเฉเท อฺํ คณวาจกํ อุปสงฺกมิตฺวา ‘‘อิเม อายสฺมา อุทฺเทสาทีหิ สงฺคณฺหตู’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อลภมาเนน ‘‘มยฺหมาวุโส, เอกํ กิจฺจํ อตฺถิ, ตุมฺเห ยถาผาสุกฏฺานานิ คจฺฉถา’’ติ คณํ ปหาย อตฺตโน กมฺมํ กตฺตพฺพนฺติ.
กมฺมนฺติ นวกมฺมํ. ตํ กโรนฺเตน วฑฺฒกีอาทีหิ ลทฺธาลทฺธํ ชานิตพฺพํ, กตากเต อุสฺสุกฺกํ อาปชฺชิตพฺพนฺติ สพฺพทา ปลิโพโธ โหติ. โสปิ เอวํ อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ, สเจ อปฺปํ อวสิฏฺํ โหติ นิฏฺเปตพฺพํ. สเจ พหุ, สงฺฆิกฺเจ นวกมฺมํ, สงฺฆสฺส วา สงฺฆภารหารกภิกฺขูนํ วา นิยฺยาเทตพฺพํ. อตฺตโน สนฺตกฺเจ, อตฺตโน ภารหารกานํ นิยฺยาเทตพฺพํ. ตาทิเส อลภนฺเตน สงฺฆสฺส ปริจฺจชิตฺวา คนฺตพฺพนฺติ.
อทฺธานนฺติ ¶ มคฺคคมนํ. ยสฺส หิ กตฺถจิ ปพฺพชฺชาเปกฺโข วา โหติ, ปจฺจยชาตํ วา ¶ กิฺจิ ลทฺธพฺพํ โหติ. สเจ ตํ อลภนฺโต น สกฺโกติ อธิวาเสตุํ, อรฺํ ปวิสิตฺวา สมณธมฺมํ กโรนฺตสฺสปิ คมิกจิตฺตํ นาม ทุปฺปฏิวิโนทนียํ โหติ, ตสฺมา คนฺตฺวา ตํ กิจฺจํ ตีเรตฺวาว สมณธมฺเม อุสฺสุกฺกํ กาตพฺพนฺติ.
าตีติ วิหาเร อาจริยุปชฺฌายสทฺธิวิหาริกอนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกสมานาจริยกา, ฆเร มาตา ปิตา ภาตาติ เอวมาทิกา. เต คิลานา อิมสฺส ปลิโพธา โหนฺติ, ตสฺมา โส ปลิโพโธ อุปฏฺหิตฺวา เตสํ ปากติกกรเณน อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ.
ตตฺถ อุปชฺฌาโย ตาว คิลาโน สเจ ลหุํ น วุฏฺาติ, ยาวชีวมฺปิ ปฏิชคฺคิตพฺโพ. ตถา ปพฺพชฺชาจริโย อุปสมฺปทาจริโย สทฺธิวิหาริโก อุปสมฺปาทิตปพฺพาชิตอนฺเตวาสิกสมานุปชฺฌายกา จ. นิสฺสยาจริยอุทฺเทสาจริยนิสฺสยนฺเตวาสิกอุทฺเทสนฺเตวาสิกสมานาจริยกา ปน ยาว นิสฺสยอุทฺเทสา อนุปจฺฉินฺนา, ตาว ปฏิชคฺคิตพฺพา. ปโหนฺเตน ตโต อุทฺธมฺปิ ปฏิชคฺคิตพฺพา เอว. มาตาปิตูสุ อุปชฺฌาเย วิย ปฏิปชฺชิตพฺพํ. สเจปิ หิ เต รชฺเช ิตา โหนฺติ, ปุตฺตโต จ อุปฏฺานํ ปจฺจาสีสนฺติ, กาตพฺพเมว. อถ เตสํ เภสชฺชํ นตฺถิ, อตฺตโน สนฺตกํ ทาตพฺพํ. อสติ ภิกฺขาจริยาย ปริเยสิตฺวาปิ ทาตพฺพเมว. ภาตุภคินีนํ ปน เตสํ สนฺตกเมว โยเชตฺวา ทาตพฺพํ. สเจ นตฺถิ อตฺตโน สนฺตกํ ตาวกาลิกํ ทตฺวา ปจฺฉา ลภนฺเตน คณฺหิตพฺพํ. อลภนฺเตน น โจเทตพฺพา. อฺาตกสฺส ภคินิสามิกสฺส เภสชฺชํ เนว กาตุํ น ทาตุํ วฏฺฏติ. ‘‘ตุยฺหํ สามิกสฺส เทหี’’ติ วตฺวา ปน ภคินิยา ทาตพฺพํ. ภาตุชายายปิ เอเสว นโย. เตสํ ปน ปุตฺตา อิมสฺส าตกา เอวาติ เตสํ กาตุํ วฏฺฏตีติ.
อาพาโธติ โยโกจิ โรโค. โส พาธยมาโน ปลิโพโธ โหติ, ตสฺมา เภสชฺชกรเณน อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ. สเจ ปน กติปาหํ เภสชฺชํ กโรนฺตสฺสปิ น วูปสมฺมติ, นาหํ ตุยฺหํ ทาโส, น ภฏโก, ตํเยว ¶ หิ โปเสนฺโต อนมตคฺเค สํสารวฏฺเฏ ทุกฺขํ ปตฺโตติ อตฺตภาวํ ครหิตฺวา สมณธมฺโม กาตพฺโพติ.
คนฺโถติ ¶ ปริยตฺติหรณํ. ตํ สชฺฌายาทีหิ นิจฺจพฺยาวฏสฺส ปลิโพโธ โหติ, น อิตรสฺส. ตตฺริมานิ วตฺถูนิ –
มชฺฌิมภาณกเทวตฺเถโร กิร มลยวาสิเทวตฺเถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา กมฺมฏฺานํ ยาจิ. เถโร กีทิโสสิ, อาวุโส, ปริยตฺติยนฺติ ปุจฺฉิ. มชฺฌิโม เม, ภนฺเต, ปคุโณติ. อาวุโส, มชฺฌิโม นาเมโส ทุปฺปริหาโร, มูลปณฺณาสํ สชฺฌายนฺตสฺส มชฺฌิมปณฺณาสโก อาคจฺฉติ, ตํ สชฺฌายนฺตสฺส อุปริปณฺณาสโก. กุโต ตุยฺหํ กมฺมฏฺานนฺติ? ภนฺเต, ตุมฺหากํ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ ลภิตฺวา ปุน น โอโลเกสฺสามีติ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา เอกูนวีสติวสฺสานิ สชฺฌายํ อกตฺวา วีสติเม วสฺเส อรหตฺตํ ปตฺวา สชฺฌายตฺถาย อาคตานํ ภิกฺขูนํ ‘‘วีสติ เม, อาวุโส, วสฺสานิ ปริยตฺตึ อโนโลเกนฺตสฺส, อปิจ โข กตปริจโย อหเมตฺถ อารภถา’’ติ วตฺวา อาทิโต ปฏฺาย ยาว ปริโยสานา เอกพฺยฺชเนปิสฺส กงฺขา นาโหสิ.
กรุฬิยคิริวาสีนาคตฺเถโรปิ อฏฺารสวสฺสานิ ปริยตฺตึ ฉฑฺเฑตฺวา ภิกฺขูนํ ธาตุกถํ อุทฺทิสิ. เตสํ คามวาสิกตฺเถเรหิ สทฺธึ สํสนฺเทนฺตานํ เอกปฺโหปิ อุปฺปฏิปาฏิยา อาคโต นาโหสิ.
มหาวิหาเรปิ ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร นาม อฏฺกถํ อนุคฺคเหตฺวาว ปฺจนิกายมณฺฑเล ตีณิ ปิฏกานิ ปริวตฺเตสฺสามีติ สุวณฺณเภรึ ปหราเปสิ. ภิกฺขุสงฺโฆ กตมาจริยานํ อุคฺคโห, อตฺตโน อาจริยุคฺคหฺเว วทตุ, อิตรถา วตฺตุํ น เทมาติ อาห. อุปชฺฌาโยปิ นํ อตฺตโน อุปฏฺานมาคตํ ปุจฺฉิ ‘‘ตฺวมาวุโส, เภรึ ปหราเปสี’’ติ? อาม, ภนฺเต. กึ การณาติ? ปริยตฺตึ, ภนฺเต, ปริวตฺเตสฺสามีติ. อาวุโส อภย, อาจริยา อิทํ ปทํ กถํ วทนฺตีติ? เอวํ วทนฺติ, ภนฺเตติ. เถโร หุนฺติ ปฏิพาหิ. ปุน โส อฺเน อฺเน ปริยาเยน เอวํ วทนฺติ ภนฺเตติ ติกฺขตฺตุํ อาห. เถโร สพฺพํ หุนฺติ ปฏิพาหิตฺวา ‘‘อาวุโส, ตยา ¶ ปมํ กถิโต เอว อาจริยมคฺโค, อาจริยมุขโต ปน อนุคฺคหิตตฺตา ‘เอวํ อาจริยา วทนฺตี’ติ สณฺาตุํ นาสกฺขิ. คจฺฉ อตฺตโน อาจริยานํ สนฺติเก สุณาหี’’ติ. กุหึ, ภนฺเต, คจฺฉามีติ? คงฺคาย ปรโต โรหณชนปเท ตุลาธารปพฺพตวิหาเร สพฺพปริยตฺติโก มหาธมฺมรกฺขิตตฺเถโร นาม วสติ, ตสฺส สนฺติกํ คจฺฉาติ. สาธุ, ภนฺเตติ เถรํ วนฺทิตฺวา ปฺจหิ ภิกฺขุสเตหิ สทฺธึ เถรสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา วนฺทิตฺวา นิสีทิ. เถโร กสฺมา อาคโตสีติ ¶ ปุจฺฉิ. ธมฺมํ โสตุํ, ภนฺเตติ. อาวุโส อภย, ทีฆมชฺฌิเมสุ มํ กาเลน กาลํ ปุจฺฉนฺติ. อวเสสํ ปน เม ตึสมตฺตานิ วสฺสานิ น โอโลกิตปุพฺพํ. อปิจ ตฺวํ รตฺตึ มม สนฺติเก ปริวตฺเตหิ. อหํ เต ทิวา กถยิสฺสามีติ. โส สาธุ, ภนฺเตติ ตถา อกาสิ. ปริเวณทฺวาเร มหามณฺฑปํ กาเรตฺวา คามวาสิโน ทิวเส ทิวเส ธมฺมสฺสวนตฺถาย อาคจฺฉนฺติ. เถโร รตฺตึ ปริวตฺติ. ตํ ทิวา กถยนฺโต อนุปุพฺเพน เทสนํ นิฏฺเปตฺวา อภยตฺเถรสฺส สนฺติเก ตฏฺฏิกาย นิสีทิตฺวา ‘‘อาวุโส, มยฺหํ กมฺมฏฺานํ กเถหี’’ติ อาห. ภนฺเต, กึ ภณถ, นนุ มยา ตุมฺหากเมว สนฺติเก สุตํ? กิมหํ ตุมฺเหหิ อฺาตํ กเถสฺสามีติ? ตโต นํ เถโร อฺโ เอส, อาวุโส, คตกสฺส มคฺโค นามาติ อาห. อภยเถโร กิร ตทา โสตาปนฺโน โหติ. อถสฺส โส กมฺมฏฺานํ ทตฺวา อาคนฺตฺวา โลหปาสาเท ธมฺมํ ปริวตฺเตนฺโต เถโร ปรินิพฺพุโตติ อสฺโสสิ. สุตฺวา ‘‘อาหรถาวุโส, จีวร’’นฺติ จีวรํ ปารุปิตฺวา ‘‘อนุจฺฉวิโก, อาวุโส, อมฺหากํ อาจริยสฺส อรหตฺตมคฺโค. อาจริโย โน, อาวุโส, อุชุ อาชานีโย. โส อตฺตโน ธมฺมนฺเตวาสิกสฺส สนฺติเก ตฏฺฏิกาย นิสีทิตฺวา ‘มยฺหํ กมฺมฏฺานํ กเถหี’ติ อาห. อนุจฺฉวิโก, อาวุโส, เถรสฺส อรหตฺตมคฺโค’’ติ. เอวรูปานํ คนฺโถ ปลิโพโธ น โหตีติ.
อิทฺธีติ โปถุชฺชนิกา อิทฺธิ. สา หิ อุตฺตานเสยฺยกทารโก วิย ตรุณสสฺสํ วิย จ ทุปฺปริหารา โหติ. อปฺปมตฺตเกเนว ภิชฺชติ. สา ปน วิปสฺสนาย ปลิโพโธ โหติ, น สมาธิสฺส, สมาธึ ปตฺวา ปตฺตพฺพโต. ตสฺมา วิปสฺสนตฺถิเกน อิทฺธิปลิโพโธ อุปจฺฉินฺทิตพฺโพ, อิตเรน อวเสสาติ อยํ ตาว ปลิโพธกถาย วิตฺถาโร.
กมฺมฏฺานทายกวณฺณนา
๔๒. กมฺมฏฺานทายกํ ¶ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวาติ เอตฺถ ปน ทุวิธํ กมฺมฏฺานํ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ ปาริหาริยกมฺมฏฺานฺจ. ตตฺถ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ นาม ภิกฺขุสงฺฆาทีสุ เมตฺตา มรณสฺสติ จ. อสุภสฺาติปิ เอเก.
กมฺมฏฺานิเกน หิ ภิกฺขุนา ปมํ ตาว ปริจฺฉินฺทิตฺวา สีมฏฺกภิกฺขุสงฺเฆ สุขิตา โหนฺตุ อพฺยาปชฺชาติ เมตฺตา ภาเวตพฺพา. ตโต สีมฏฺกเทวตาสุ. ตโต โคจรคามมฺหิ อิสฺสรชเน. ตโต ¶ ตตฺถ มนุสฺเส อุปาทาย สพฺพสตฺเตสุ. โส หิ ภิกฺขุสงฺเฆ เมตฺตาย สหวาสีนํ มุทุจิตฺตตํ ชเนติ. อถสฺส เต สุขสํวาสา โหนฺติ. สีมฏฺกเทวตาสุ เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตาหิ เทวตาหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุสํวิหิตรกฺโข โหติ. โคจรคามมฺหิ อิสฺสรชเน เมตฺตาย มุทุกตจิตฺตสนฺตาเนหิ อิสฺสเรหิ ธมฺมิกาย รกฺขาย สุรกฺขิตปริกฺขาโร โหติ. ตตฺถ มนุสฺเสสุ เมตฺตาย ปสาทิตจิตฺเตหิ เตหิ อปริภูโต หุตฺวา วิจรติ. สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาย สพฺพตฺถ อปฺปฏิหตจาโร โหติ. มรณสฺสติยา ปน อวสฺสํ มยา มริตพฺพนฺติ จินฺเตนฺโต อเนสนํ ปหาย อุปรูปริ วฑฺฒมานสํเวโค อโนลีนวุตฺติโก โหติ. อสุภสฺาปริจิตจิตฺตสฺส ปนสฺส ทิพฺพานิปิ อารมฺมณานิ โลภวเสน จิตฺตํ น ปริยาทิยนฺติ.
เอวํ พหูปการตฺตา สพฺพตฺถ อตฺถยิตพฺพํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ จ อธิปฺเปตสฺส โยคานุโยคกมฺมสฺส านฺจาติ สพฺพตฺถกกมฺมฏฺานนฺติ วุจฺจติ.
จตฺตาลีสาย ปน กมฺมฏฺาเนสุ ยํ ยสฺส จริยานุกูลํ, ตํ ตสฺส นิจฺจํ ปริหริตพฺพตฺตา อุปริมสฺส จ อุปริมสฺส ภาวนากมฺมสฺส ปทฏฺานตฺตา ปาริหาริยกมฺมฏฺานนฺติ วุจฺจติ. อิติ อิมํ ทุวิธมฺปิ กมฺมฏฺานํ โย เทติ, อยํ กมฺมฏฺานทายโก นาม. ตํ กมฺมฏฺานทายกํ.
กลฺยาณมิตฺตนฺติ –
ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;
คมฺภีรฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโกติ. (อ. นิ. ๗.๓๗);
เอวมาทิคุณสมนฺนาคตํ เอกนฺเตน หิเตสึ วุทฺธิปกฺเข ิตํ กลฺยาณมิตฺตํ.
‘‘มมํ ¶ หิ, อานนฺท, กลฺยาณมิตฺตํ อาคมฺม ชาติธมฺมา สตฺตา ชาติยา ปริมุจฺจนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๑๒๙; ๕.๒) อาทิวจนโต ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธเยว สพฺพาการสมฺปนฺโน กลฺยาณมิตฺโต. ตสฺมา ตสฺมึ สติ ตสฺเสว ภควโต สนฺติเก คหิตกมฺมฏฺานํ สุคหิตํ โหติ. ปรินิพฺพุเต ปน ตสฺมึ อสีติยา มหาสาวเกสุ โย ธรติ, ตสฺส ¶ สนฺติเก คเหตุํ วฏฺฏติ. ตสฺมึ อสติ ยํ กมฺมฏฺานํ คเหตุกาโม โหติ, ตสฺเสว วเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อาสวกฺขยปฺปตฺตสฺส ขีณาสวสฺส สนฺติเก คเหตพฺพํ.
กึ ปน ขีณาสโว อหํ ขีณาสโวติ อตฺตานํ ปกาเสตีติ? กึ วตฺตพฺพํ, การกภาวํ หิ ชานิตฺวา ปกาเสติ. นนุ อสฺสคุตฺตตฺเถโร อารทฺธกมฺมฏฺานสฺส ภิกฺขุโน ‘‘กมฺมฏฺานการโก อย’’นฺติ ชานิตฺวา อากาเส จมฺมขณฺฑํ ปฺาเปตฺวา ตตฺถ ปลฺลงฺเกน นิสินฺโน กมฺมฏฺานํ กเถสีติ.
ตสฺมา สเจ ขีณาสวํ ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ ลภติ, อนาคามิสกทาคามิโสตาปนฺนฌานลาภีปุถุชฺชนติปิฏกธรทฺวิปิฏกธรเอกปิฏกธเรสุ ปุริมสฺส ปุริมสฺส สนฺติเก. เอกปิฏกธเรปิ อสติ ยสฺส เอกสงฺคีติปิ อฏฺกถาย สทฺธึ ปคุณา, อยฺจ ลชฺชี โหติ, ตสฺส สนฺติเก คเหตพฺพํ. เอวรูโป หิ ตนฺติธโร วํสานุรกฺขโก ปเวณีปาลโก อาจริโย อาจริยมติโกว โหติ, น อตฺตโนมติโก โหติ. เตเนว โปราณกตฺเถรา ‘‘ลชฺชี รกฺขิสฺสติ ลชฺชี รกฺขิสฺสตี’’ติ ติกฺขตฺตุํ อาหํสุ.
ปุพฺเพ วุตฺตขีณาสวาทโย เจตฺถ อตฺตนา อธิคตมคฺคเมว อาจิกฺขนฺติ. พหุสฺสุโต ปน ตํ ตํ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา อุคฺคหปริปุจฺฉานํ วิโสธิตตฺตา อิโต จิโต จ สุตฺตฺจ การณฺจ สลฺลกฺเขตฺวา สปฺปายาสปฺปายํ โยเชตฺวา คหนฏฺาเน คจฺฉนฺโต มหาหตฺถี วิย มหามคฺคํ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ กเถสฺสติ. ตสฺมา เอวรูปํ กมฺมฏฺานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา ตสฺส วตฺตปฏิปตฺตึ กตฺวา กมฺมฏฺานํ คเหตพฺพํ.
สเจ ¶ ปเนตํ เอกวิหาเรเยว ลภติ, อิจฺเจตํ กุสลํ, โน เจ ลภติ, ยตฺถ โส วสติ, ตตฺถ คนฺตพฺพํ. คจฺฉนฺเตน จ น โธตมกฺขิเตหิ ปาเทหิ อุปาหนา อารูหิตฺวา ฉตฺตํ คเหตฺวา เตลนาฬิมธุผาณิตาทีนิ คาหาเปตฺวา อนฺเตวาสิกปริวุเตน คนฺตพฺพํ. คมิกวตฺตํ ปน ปูเรตฺวา อตฺตโน ปตฺตจีวรํ สยเมว คเหตฺวา อนฺตรามคฺเค ยํ ยํ วิหารํ ปวิสติ สพฺพตฺถ วตฺตปฏิปตฺตึ กุรุมาเนน สลฺลหุกปริกฺขาเรน ปรมสลฺเลขวุตฺตินา หุตฺวา คนฺตพฺพํ.
ตํ ¶ วิหารํ ปวิสนฺเตน อนฺตรามคฺเคเยว ทนฺตกฏฺํ กปฺปิยํ การาเปตฺวา คเหตฺวา ปวิสิตพฺพํ, น จ ‘‘มุหุตฺตํ วิสฺสเมตฺวา ปาทโธวนมกฺขนาทีนิ กตฺวา อาจริยสฺส สนฺติกํ คมิสฺสามี’’ติ อฺํ ปริเวณํ ปวิสิตพฺพํ. กสฺมา? สเจ หิสฺส ตตฺร อาจริยสฺส วิสภาคา ภิกฺขู ภเวยฺยุํ, เต อาคมนการณํ ปุจฺฉิตฺวา อาจริยสฺส อวณฺณํ ปกาเสตฺวา ‘‘นฏฺโสิ, สเจ ตสฺส สนฺติกํ อาคโต’’ติ วิปฺปฏิสารํ อุปฺปาเทยฺยุํ, เยน ตโตว ปฏินิวตฺเตยฺย, ตสฺมา อาจริยสฺส วสนฏฺานํ ปุจฺฉิตฺวา อุชุกํ ตตฺเถว คนฺตพฺพํ.
สเจ อาจริโย ทหรตโร โหติ, ปตฺตจีวรปฏิคฺคหณาทีนิ น สาทิตพฺพานิ. สเจ วุฑฺฒตโร โหติ, คนฺตฺวา อาจริยํ วนฺทิตฺวา าตพฺพํ. ‘‘นิกฺขิปาวุโส, ปตฺตจีวร’’นฺติ วุตฺเตน นิกฺขิปิตพฺพํ. ‘‘ปานียํ ปิวา’’ติ วุตฺเตน สเจ อิจฺฉติ ปาตพฺพํ. ‘‘ปาเท โธวาหี’’ติ วุตฺเตน น ตาว ปาทา โธวิตพฺพา. สเจ หิ อาจริเยน อาภตํ อุทกํ ภเวยฺย, น สารุปฺปํ สิยา. ‘‘โธวาหาวุโส, น มยา อาภตํ, อฺเหิ อาภต’’นฺติ วุตฺเตน ปน ยตฺถ อาจริโย น ปสฺสติ, เอวรูเป ปฏิจฺฉนฺเน วา โอกาเส, อพฺโภกาเส วิหารสฺสาปิ วา เอกมนฺเต นิสีทิตฺวา ปาทา โธวิตพฺพา.
สเจ อาจริโย เตลนาฬึ อาหรติ อุฏฺหิตฺวา อุโภหิ หตฺเถหิ สกฺกจฺจํ คเหตพฺพา. สเจ หิ น คณฺเหยฺย, ‘‘อยํ ภิกฺขุ อิโต เอว ปฏฺาย สมฺโภคํ โกเปตี’’ติ อาจริยสฺส อฺถตฺตํ ภเวยฺย. คเหตฺวา ปน น อาทิโตว ปาทา มกฺเขตพฺพา. สเจ หิ ตํ อาจริยสฺส คตฺตพฺภฺชนเตลํ ภเวยฺย, น สารุปฺปํ สิยา. ตสฺมา สีสํ มกฺเขตฺวา ¶ ขนฺธาทีนิ มกฺเขตพฺพานิ. ‘‘สพฺพปาริหาริยเตลมิทํ, อาวุโส, ปาเทปิ มกฺเขหี’’ติ วุตฺเตน ปน โถกํ สีเส กตฺวา ปาเท มกฺเขตฺวา ‘‘อิมํ เตลนาฬึ เปมิ, ภนฺเต’’ติ วตฺวา อาจริเย คณฺหนฺเต ทาตพฺพา.
อาคตทิวสโต ปฏฺาย กมฺมฏฺานํ เม, ภนฺเต, กเถถ อิจฺเจวํ น วตฺตพฺพํ. ทุติยทิวสโต ปน ปฏฺาย สเจ อาจริยสฺส ปกติอุปฏฺาโก อตฺถิ, ตํ ยาจิตฺวา วตฺตํ กาตพฺพํ. สเจ ยาจิโตปิ น เทติ, โอกาเส ลทฺเธเยว กาตพฺพํ. กโรนฺเตน ขุทฺทกมชฺฌิมมหนฺตานิ ตีณิ ทนฺตกฏฺานิ อุปนาเมตพฺพานิ. สีตํ อุณฺหนฺติ ทุวิธํ มุขโธวนอุทกฺจ นฺหาโนทกฺจ ปฏิยาเทตพฺพํ. ตโต ยํ อาจริโย ตีณิ ทิวสานิ ปริภฺุชติ, ตาทิสเมว นิจฺจํ อุปนาเมตพฺพํ. นิยมํ อกตฺวา ยํ วา ตํ วา ปริภฺุชนฺตสฺส ยถาลทฺธํ อุปนาเมตพฺพํ. กึ พหุนา ¶ วุตฺเตน? ยํ ตํ ภควตา ‘‘อนฺเตวาสิเกน, ภิกฺขเว, อาจริยมฺหิ สมฺมา วตฺติตพฺพํ. ตตฺรายํ สมฺมา วตฺตนา, กาลสฺเสว อุฏฺาย อุปาหนา โอมฺุจิตฺวา เอกํสํ อุตฺตราสงฺคํ กริตฺวา ทนฺตกฏฺํ ทาตพฺพํ, มุโขทกํ ทาตพฺพํ, อาสนํ ปฺเปตพฺพํ. สเจ ยาคุ โหติ, ภาชนํ โธวิตฺวา ยาคุ อุปนาเมตพฺพา’’ติ (มหาว. ๗๘) อาทิกํ ขนฺธเก สมฺมาวตฺตํ ปฺตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ กาตพฺพํ.
เอวํ วตฺตสมฺปตฺติยา ครุํ อาราธยมาเนน สายํ วนฺทิตฺวา ยาหีติ วิสฺสชฺชิเตน คนฺตพฺพํ, ยทา โส กิสฺสาคโตสีติ ปุจฺฉติ, ตทา อาคมนการณํ กเถตพฺพํ. สเจ โส เนว ปุจฺฉติ, วตฺตํ ปน สาทิยติ, ทสาเห วา ปกฺเข วา วีติวตฺเต เอกทิวสํ วิสฺสชฺชิเตนาปิ อคนฺตฺวา โอกาสํ กาเรตฺวา อาคมนการณํ อาโรเจตพฺพํ. อกาเล วา คนฺตฺวา กิมตฺถมาคโตสีติ ปุฏฺเน อาโรเจตพฺพํ. สเจ โส ปาโตว อาคจฺฉาติ วทติ, ปาโตว คนฺตพฺพํ.
สเจ ปนสฺส ตาย เวลาย ปิตฺตาพาเธน วา กุจฺฉิ ปริฑยฺหติ, อคฺคิมนฺทตาย วา ภตฺตํ น ชีรติ, อฺโ วา โกจิ โรโค พาธติ, ตํ ยถาภูตํ อาวิกตฺวา อตฺตโน สปฺปายเวลํ อาโรเจตฺวา ตาย เวลาย อุปสงฺกมิตพฺพํ. อสปฺปายเวลาย หิ วุจฺจมานมฺปิ กมฺมฏฺานํ น สกฺกา โหติ มนสิกาตุนฺติ. อยํ กมฺมฏฺานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวาติ เอตฺถ วิตฺถาโร.
จริยาวณฺณนา
๔๓. อิทานิ ¶ อตฺตโน จริยานุกูลนฺติ เอตฺถ จริยาติ ฉ จริยา ราคจริยา, โทสจริยา, โมหจริยา, สทฺธาจริยา, พุทฺธิจริยา, วิตกฺกจริยาติ. เกจิ ปน ราคาทีนํ สํสคฺคสนฺนิปาตวเสน อปราปิ จตสฺโส, ตถา สทฺธาทีนนฺติ อิมาหิ อฏฺหิ สทฺธึ จุทฺทส อิจฺฉนฺติ. เอวํ ปน เภเท วุจฺจมาเน ราคาทีนํ สทฺธาทีหิปิ สํสคฺคํ กตฺวา อเนกา จริยา โหนฺติ, ตสฺมา สงฺเขเปน ฉเฬว จริยา เวทิตพฺพา. จริยา, ปกติ, อุสฺสนฺนตาติ อตฺถโต เอกํ. ตาสํ วเสน ฉเฬว ปุคฺคลา โหนฺติ ราคจริโต, โทสจริโต, โมหจริโต, สทฺธาจริโต, พุทฺธิจริโต, วิตกฺกจริโตติ.
ตตฺถ ¶ ยสฺมา ราคจริตสฺส กุสลปฺปวตฺติสมเย สทฺธา พลวตี โหติ, ราคสฺส อาสนฺนคุณตฺตา. ยถา หิ อกุสลปกฺเข ราโค สินิทฺโธ นาติลูโข, เอวํ กุสลปกฺเข สทฺธา. ยถา ราโค วตฺถุกาเม ปริเยสติ, เอวํ สทฺธา สีลาทิคุเณ. ยถา ราโค อหิตํ น ปริจฺจชติ, เอวํ สทฺธา หิตํ น ปริจฺจชติ, ตสฺมา ราคจริตสฺส สทฺธาจริโต สภาโค.
ยสฺมา ปน โทสจริตสฺส กุสลปฺปวตฺติสมเย ปฺา พลวตี โหติ, โทสสฺส อาสนฺนคุณตฺตา. ยถา หิ อกุสลปกฺเข โทโส นิสฺสิเนโห น อารมฺมณํ อลฺลียติ, เอวํ กุสลปกฺเข ปฺา. ยถา จ โทโส อภูตมฺปิ โทสเมว ปริเยสติ, เอวํ ปฺา ภูตํ โทสเมว. ยถา โทโส สตฺตปริวชฺชนากาเรน ปวตฺตติ, เอวํ ปฺา สงฺขารปริวชฺชนากาเรน, ตสฺมา โทสจริตสฺส พุทฺธิจริโต สภาโค.
ยสฺมา ปน โมหจริตสฺส อนุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อุปฺปาทาย วายมมานสฺส เยภุยฺเยน อนฺตรายกรา วิตกฺกา อุปฺปชฺชนฺติ, โมหสฺส อาสนฺนลกฺขณตฺตา. ยถา หิ โมโห ปริพฺยากุลตาย อนวฏฺิโต, เอวํ วิตกฺโก นานปฺปการวิตกฺกนตาย. ยถา จ โมโห อปริโยคาหณตาย จฺจโล. ตถา วิตกฺโก ลหุปริกปฺปนตาย, ตสฺมา โมหจริตสฺส วิตกฺกจริโต สภาโคติ.
อปเร ตณฺหามานทิฏฺิวเสน อปราปิ ติสฺโส จริยา วทนฺติ. ตตฺถ ตณฺหา ราโคเยว, มาโน จ ตํสมฺปยุตฺโตติ ตทุภยํ ราคจริยํ นาติวตฺตติ ¶ . โมหนิทานตฺตา จ ทิฏฺิยา ทิฏฺิจริยา โมหจริยเมว อนุปตติ.
๔๔. ตา ปเนตา จริยา กินฺนิทานา? กถฺจ ชานิตพฺพํ ‘‘อยํ ปุคฺคโล ราคจริโต, อยํ ปุคฺคโล โทสาทีสุ อฺตรจริโต’’ติ? กึ จริตสฺส ปุคฺคลสฺส กึ สปฺปายนฺติ?
ตตฺร ปุริมา ตาว ติสฺโส จริยา ปุพฺพาจิณฺณนิทานา, ธาตุโทสนิทานา จาติ เอกจฺเจ วทนฺติ. ปุพฺเพ กิร อิฏฺปฺปโยคสุภกมฺมพหุโล ราคจริโต โหติ, สคฺคา วา จวิตฺวา อิธูปปนฺโน. ปุพฺเพ เฉทนวธพนฺธนเวรกมฺมพหุโล โทสจริโต โหติ, นิรยนาคโยนีหิ วา จวิตฺวา อิธูปปนฺโน. ปุพฺเพ มชฺชปานพหุโล สุตปริปุจฺฉาวิหีโน จ โมหจริโต โหติ, ติรจฺฉานโยนิยา ¶ วา จวิตฺวา อิธูปปนฺโนติ เอวํ ปุพฺพาจิณฺณนิทานาติ วทนฺติ. ทฺวินฺนํ ปน ธาตูนํ อุสฺสนฺนตฺตา ปุคฺคโล โมหจริโต โหติ ปถวีธาตุยา จ อาโปธาตุยา จ. อิตราสํ ทฺวินฺนํ อุสฺสนฺนตฺตา โทสจริโต. สพฺพาสํ สมตฺตา ปน ราคจริโตติ. โทเสสุ จ เสมฺหาธิโก ราคจริโต โหติ. วาตาธิโก โมหจริโต. เสมฺหาธิโก วา โมหจริโต. วาตาธิโก ราคจริโตติ เอวํ ธาตุโทสนิทานาติ วทนฺติ.
ตตฺถ ยสฺมา ปุพฺเพ อิฏฺปฺปโยคสุภกมฺมพหุลาปิ สคฺคา จวิตฺวา อิธูปปนฺนาปิ จ น สพฺเพ ราคจริตาเยว โหนฺติ, น อิตเร วา โทสโมหจริตา. เอวํ ธาตูนฺจ ยถาวุตฺเตเนว นเยน อุสฺสทนิยโม นาม นตฺถิ. โทสนิยเม จ ราคโมหทฺวยเมว วุตฺตํ, ตมฺปิ จ ปุพฺพาปรวิรุทฺธเมว. สทฺธาจริยาทีสุ จ เอกิสฺสาปิ นิทานํ น วุตฺตเมว. ตสฺมา สพฺพเมตํ อปริจฺฉินฺนวจนํ.
อยํ ปเนตฺถ อฏฺกถาจริยานํ มตานุสาเรน วินิจฺฉโย, วุตฺตฺเหตํ อุสฺสทกิตฺตเน (ธ. ส. อฏฺ. ๔๙๘) ‘‘อิเม สตฺตา ปุพฺพเหตุนิยาเมน โลภุสฺสทา โทสุสฺสทา โมหุสฺสทา อโลภุสฺสทา อโทสุสฺสทา อโมหุสฺสทา จ โหนฺติ.
ยสฺส ¶ หิ กมฺมายูหนกฺขเณ โลโภ พลวา โหติ อโลโภ มนฺโท, อโทสาโมหา พลวนฺโต โทสโมหา มนฺทา, ตสฺส มนฺโท อโลโภ โลภํ ปริยาทาตุํ น สกฺโกติ. อโทสาโมหา ปน พลวนฺโต โทสโมเห ปริยาทาตุํ สกฺโกติ. ตสฺมา โส เตน กมฺเมน ทินฺนปฏิสนฺธิวเสน นิพฺพตฺโต ลุทฺโธ โหติ สุขสีโล อกฺโกธโน ปฺวา วชิรูปมาโณ.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ โลภโทสา พลวนฺโต โหนฺติ อโลภาโทสา มนฺทา, อโมโห พลวา โมโห มนฺโท, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ. ปฺวา ปน โหติ วชิรูปมาโณ ทตฺตาภยตฺเถโร วิย.
ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ โลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทนฺโธ จ, สีลโก ปน โหติ อกฺโกธโน (พากุลตฺเถโร วิย).
ตถา ¶ ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ โลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อโลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว ลุทฺโธ เจว โหติ ทุฏฺโ จ มูฬฺโห จ.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ อปฺปกิเลโส โหติ ทิพฺพารมฺมณมฺปิ ทิสฺวา นิจฺจโล, ทุฏฺโ ปน โหติ ทนฺธปฺโ จ.
ยสฺส ปน กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภาโทสโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ อทุฏฺโ สีลโก จ, ทนฺโธ ปน โหติ.
ตถา ยสฺส กมฺมายูหนกฺขเณ อโลภโทสาโมหา พลวนฺโต โหนฺติ อิตเร มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว อลุทฺโธ เจว โหติ ปฺวา จ, ทุฏฺโ จ ปน โหติ โกธโน.
ยสฺส ¶ ปน กมฺมายูหนกฺขเณ ตโยปิ อโลภาโทสาโมหา พลวนฺโต โหนฺติ โลภาทโย มนฺทา, โส ปุริมนเยเนว มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถโร วิย อลุทฺโธ อทุฏฺโ ปฺวา จ โหตี’’ติ.
เอตฺถ จ โย ลุทฺโธติ วุตฺโต, อยํ ราคจริโต. ทุฏฺทนฺธา โทสโมหจริตา. ปฺวา พุทฺธิจริโต. อลุทฺธอทุฏฺา ปสนฺนปกติตาย สทฺธาจริตา. ยถา วา อโมหปริวาเรน กมฺมุนา นิพฺพตฺโต พุทฺธิจริโต, เอวํ พลวสทฺธาปริวาเรน กมฺมุนา นิพฺพตฺโต สทฺธาจริโต. กามวิตกฺกาทิปริวาเรน กมฺมุนา นิพฺพตฺโต วิตกฺกจริโต. โลภาทินา โวมิสฺสปริวาเรน กมฺมุนา นิพฺพตฺโต โวมิสฺสจริโตติ. เอวํ โลภาทีสุ อฺตรฺตรปริวารํ ปฏิสนฺธิชนกํ กมฺมํ จริยานํ นิทานนฺติ เวทิตพฺพํ.
๔๕. ยํ ปน วุตฺตํ กถฺจ ชานิตพฺพํ อยํ ปุคฺคโล ราคจริโตติอาทิ. ตตฺรายํ นโย.
อิริยาปถโต กิจฺจา, โภชนา ทสฺสนาทิโต;
ธมฺมปฺปวตฺติโต เจว, จริยาโย วิภาวเยติ.
ตตฺถ ¶ อิริยาปถโตติ ราคจริโต หิ ปกติคมเนน คจฺฉนฺโต จาตุริเยน คจฺฉติ, สณิกํ ปาทํ นิกฺขิปติ, สมํ นิกฺขิปติ, สมํ อุทฺธรติ, อุกฺกุฏิกฺจสฺส ปทํ โหติ. โทสจริโต ปาทคฺเคหิ ขณนฺโต วิย คจฺฉติ, สหสา ปาทํ นิกฺขิปติ, สหสา อุทฺธรติ, อนุกฑฺฒิตฺจสฺส ปทํ โหติ. โมหจริโต ปริพฺยากุลาย คติยา คจฺฉติ, ฉมฺภิโต วิย ปทํ นิกฺขิปติ, ฉมฺภิโต วิย อุทฺธรติ, สหสานุปีฬิตฺจสฺส ปทํ โหติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ มาคณฺฑิยสุตฺตุปฺปตฺติยํ –
‘‘รตฺตสฺส หิ อุกฺกุฏิกํ ปทํ ภเว,
ทุฏฺสฺส โหติ อนุกฑฺฒิตํ ปทํ;
มูฬฺหสฺส โหติ สหสานุปีฬิตํ,
วิวฏฺฏจฺฉทสฺส อิทมีทิสํ ปท’’นฺติ.
านมฺปิ ¶ ราคจริตสฺส ปาสาทิกํ โหติ มธุราการํ, โทสจริตสฺส ถทฺธาการํ, โมหจริตสฺส อากุลาการํ. นิสชฺชายปิ เอเสว นโย. ราคจริโต จ อตรมาโน สมํ เสยฺยํ ปฺเปตฺวา สณิกํ นิปชฺชิตฺวา องฺคปจฺจงฺคานิ สโมธาย ปาสาทิเกน อากาเรน สยติ, วุฏฺาปิยมาโน จ สีฆํ อวุฏฺาย สงฺกิโต วิย สณิกํ ปฏิวจนํ เทติ. โทสจริโต ตรมาโน ยถา วา ตถา วา เสยฺยํ ปฺเปตฺวา ปกฺขิตฺตกาโย ภากุฏึ กตฺวา สยติ, วุฏฺาปิยมาโน จ สีฆํ วุฏฺาย กุปิโต วิย ปฏิวจนํ เทติ. โมหจริโต ทุสฺสณฺานํ เสยฺยํ ปฺเปตฺวา วิกฺขิตฺตกาโย พหุลํ อโธมุโข สยติ, วุฏฺาปิยมาโน จ หุงฺการํ กโรนฺโต ทนฺธํ วุฏฺาติ. สทฺธาจริตาทโย ปน ยสฺมา ราคจริตาทีนํ สภาคา, ตสฺมา เตสมฺปิ ตาทิโสว อิริยาปโถ โหตีติ. เอวํ ตาว อิริยาปถโต จริยาโย วิภาวเย.
กิจฺจาติ สมฺมชฺชนาทีสุ จ กิจฺเจสุ ราคจริโต สาธุกํ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา อตรมาโน วาลิกํ อวิปฺปกิรนฺโต สินฺทุวารกุสุมสนฺถรมิว สนฺถรนฺโต สุทฺธํ สมํ สมฺมชฺชติ. โทสจริโต คาฬฺหํ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา ตรมานรูโป อุภโต วาลิกํ อุสฺสาเรนฺโต ขเรน สทฺเทน อสุทฺธํ วิสมํ สมฺมชฺชติ. โมหจริโต สิถิลํ สมฺมชฺชนึ คเหตฺวา สมฺปริวตฺตกํ อาโฬลยมาโน อสุทฺธํ วิสมํ สมฺมชฺชติ.
ยถา สมฺมชฺชเน, เอวํ จีวรโธวนรชนาทีสุปิ สพฺพกิจฺเจสุ นิปุณมธุรสมสกฺกจฺจการี ¶ ราคจริโต. คาฬฺหถทฺธวิสมการี โทสจริโต. อนิปุณพฺยากุลวิสมาปริจฺฉินฺนการี โมหจริโต. จีวรธารณมฺปิ จ ราคจริตสฺส นาติคาฬฺหํ นาติสิถิลํ โหติ ปาสาทิกํ ปริมณฺฑลํ. โทสจริตสฺส อติคาฬฺหํ อปริมณฺฑลํ. โมหจริตสฺส สิถิลํ ปริพฺยากุลํ. สทฺธาจริตาทโย เตสํเยวานุสาเรน เวทิตพฺพา, ตํ สภาคตฺตาติ. เอวํ กิจฺจโต จริยาโย วิภาวเย.
โภชนาติ ราคจริโต สินิทฺธมธุรโภชนปฺปิโย โหติ, ภฺุชมาโน จ นาติมหนฺตํ ปริมณฺฑลํ อาโลปํ กตฺวา รสปฏิสํเวที อตรมาโน ภฺุชติ, กิฺจิเทว จ สาทุํ ลภิตฺวา โสมนสฺสํ อาปชฺชติ ¶ . โทสจริโต ลูขอมฺพิลโภชนปฺปิโย โหติ, ภฺุชมาโน จ มุขปูรกํ อาโลปํ กตฺวา อรสปฏิสํเวที ตรมาโน ภฺุชติ, กิฺจิเทว จ อสาทุํ ลภิตฺวา โทมนสฺสํ อาปชฺชติ. โมหจริโต อนิยตรุจิโก โหติ, ภฺุชมาโน จ อปริมณฺฑลํ ปริตฺตํ อาโลปํ กตฺวา ภาชเน ฉฑฺเฑนฺโต มุขํ มกฺเขนฺโต วิกฺขิตฺตจิตฺโต ตํ ตํ วิตกฺเกนฺโต ภฺุชติ. สทฺธาจริตาทโยปิ เตสํเยวานุสาเรน เวทิตพฺพา, ตํสภาคตฺตาติ. เอวํ โภชนโต จริยาโย วิภาวเย.
ทสฺสนาทิโตติ ราคจริโต อีสกมฺปิ มโนรมํ รูปํ ทิสฺวา วิมฺหยชาโต วิย จิรํ โอโลเกติ, ปริตฺเตปิ คุเณ สชฺชติ, ภูตมฺปิ โทสํ น คณฺหาติ, ปกฺกมนฺโตปิ อมฺุจิตุกาโมว หุตฺวา สาเปกฺโข ปกฺกมติ. โทสจริโต อีสกมฺปิ อมโนรมํ รูปํ ทิสฺวา กิลนฺตรูโป วิย น จิรํ โอโลเกติ, ปริตฺเตปิ โทเส ปฏิหฺติ, ภูตมฺปิ คุณํ น คณฺหาติ, ปกฺกมนฺโตปิ มฺุจิตุกาโมว หุตฺวา อนเปกฺโข ปกฺกมติ. โมหจริโต ยํกิฺจิ รูปํ ทิสฺวา ปรปจฺจยิโก โหติ, ปรํ นินฺทนฺตํ สุตฺวา นินฺทติ, ปสํสนฺตํ สุตฺวา ปสํสติ, สยํ ปน อฺาณุเปกฺขาย อุเปกฺขโกว โหติ. เอส นโย สทฺทสวนาทีสุปิ. สทฺธาจริตาทโย ปน เตสํเยวานุสาเรน เวทิตพฺพา, ตํสภาคตฺตาติ. เอวํ ทสฺสนาทิโต จริยาโย วิภาวเย.
ธมฺมปฺปวตฺติโต เจวาติ ราคจริตสฺส จ มายา, สาเยฺยํ, มาโน, ปาปิจฺฉตา, มหิจฺฉตา, อสนฺตุฏฺิตา, สิงฺคํ, จาปลฺยนฺติ เอวมาทโย ธมฺมา พหุลํ ปวตฺตนฺติ. โทสจริตสฺส โกโธ, อุปนาโห, มกฺโข, ปฬาโส, อิสฺสา, มจฺฉริยนฺติ เอวมาทโย. โมหจริตสฺส ถินํ, มิทฺธํ, อุทฺธจฺจํ, กุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉา, อาธานคฺคาหิตา, ทุปฺปฏินิสฺสคฺคิตาติ เอวมาทโย. สทฺธาจริตสฺส ¶ มุตฺตจาคตา, อริยานํ ทสฺสนกามตา, สทฺธมฺมํ โสตุกามตา, ปาโมชฺชพหุลตา, อสตา, อมายาวิตา, ปสาทนีเยสุ าเนสุ ปสาโทติ เอวมาทโย. พุทฺธิจริตสฺส โสวจสฺสตา, กลฺยาณมิตฺตตา, โภชเนมตฺตฺุตา, สติสมฺปชฺํ, ชาคริยานุโยโค, สํเวชนีเยสุ าเนสุ สํเวโค, สํวิคฺคสฺส จ โยนิโส ปธานนฺติ เอวมาทโย. วิตกฺกจริตสฺส ภสฺสพหุลตา, คณารามตา, กุสลานุโยเค อรติ, อนวฏฺิตกิจฺจตา, รตฺตึ ธูมายนา ¶ , ทิวา ปชฺชลนา, หุราหุรํ ธาวนาติ เอวมาทโย ธมฺมา พหุลํ ปวตฺตนฺตีติ. เอวํ ธมฺมปฺปวตฺติโต จริยาโย วิภาวเย.
ยสฺมา ปน อิทํ จริยาวิภาวนวิธานํ สพฺพากาเรน เนว ปาฬิยํ น อฏฺกถายํ อาคตํ, เกวลํ อาจริยมตานุสาเรน วุตฺตํ, ตสฺมา น สารโต ปจฺเจตพฺพํ. ราคจริตสฺส หิ วุตฺตานิ อิริยาปถาทีนิ โทสจริตาทโยปิ อปฺปมาทวิหาริโน กาตุํ สกฺโกนฺติ. สํสฏฺจริตสฺส จ ปุคฺคลสฺส เอกสฺเสว ภินฺนลกฺขณา อิริยาปถาทโย น อุปปชฺชนฺติ. ยํ ปเนตํ อฏฺกถาสุ จริยาวิภาวนวิธานํ วุตฺตํ, ตเทว สารโต ปจฺเจตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘เจโตปริยาณสฺส ลาภี อาจริโย จริยํ ตฺวา กมฺมฏฺานํ กเถสฺสติ, อิตเรน อนฺเตวาสิโก ปุจฺฉิตพฺโพ’’ติ. ตสฺมา เจโตปริยาเณน วา ตํ วา ปุคฺคลํ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพํ. อยํ ปุคฺคโล ราคจริโต, อยํ โทสาทีสุ อฺตรจริโตติ.
๔๖. กึ จริตสฺส ปุคฺคลสฺส กึ สปฺปายนฺติ เอตฺถ ปน เสนาสนํ ตาว ราคจริตสฺส อโธตเวทิกํ ภูมฏฺกํ อกตปพฺภารกํ ติณกุฏิกํ ปณฺณสาลาทีนํ อฺตรํ รโชกิณฺณํ ชตุกาภริตํ โอลุคฺควิลุคฺคํ อติอุจฺจํ วา อตินีจํ วา อุชฺชงฺคลํ สาสงฺกํ อสุจิวิสมมคฺคํ, ยตฺถ มฺจปีมฺปิ มงฺกุณภริตํ ทุรูปํ ทุพฺพณฺณํ, ยํ โอโลเกนฺตสฺเสว ชิคุจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตาทิสํ สปฺปายํ. นิวาสนปารุปนํ อนฺตจฺฉินฺนํ โอลมฺพวิลมฺพสุตฺตกากิณฺณํ ชาลปูวสทิสํ สาณิ วิย ขรสมฺผสฺสํ กิลิฏฺํ ภาริกํ กิจฺฉปริหรณํ สปฺปายํ. ปตฺโตปิ ทุพฺพณฺโณ มตฺติกาปตฺโต วา อาณิคณฺิกาหโต อโยปตฺโต วา ครุโก ทุสฺสณฺาโน สีสกปาลมิว เชคุจฺโฉ วฏฺฏติ. ภิกฺขาจารมคฺโคปิ อมนาโป อนาสนฺนคาโม วิสโม วฏฺฏติ. ภิกฺขาจารคาโมปิ ยตฺถ มนุสฺสา อปสฺสนฺตา วิย จรนฺติ, ยตฺถ เอกกุเลปิ ภิกฺขํ อลภิตฺวา นิกฺขมนฺตํ ‘‘เอหิ, ภนฺเต’’ติ อาสนสาลํ ปเวเสตฺวา ยาคุภตฺตํ ทตฺวา คจฺฉนฺตา คาวี วิย วเช ปเวเสตฺวา อนปโลเกนฺตา คจฺฉนฺติ, ตาทิโส วฏฺฏติ ¶ . ปริวิสกมนุสฺสาปิ ทาสา วา กมฺมกรา วา ทุพฺพณฺณา ทุทฺทสิกา กิลิฏฺวสนา ทุคฺคนฺธา เชคุจฺฉา, เย อจิตฺตีกาเรน ยาคุภตฺตํ ฉฑฺเฑนฺตา วิย ปริวิสนฺติ, ตาทิสา สปฺปายา. ยาคุภตฺตขชฺชกมฺปิ ลูขํ ทุพฺพณฺณํ สามากกุทฺรูสกกณาชกาทิมยํ ¶ ปูติตกฺกํ พิลงฺคํ ชิณฺณสากสูเปยฺยํ ยํกิฺจิเทว เกวลํ อุทรปูรมตฺตํ วฏฺฏติ. อิริยาปโถปิสฺส านํ วา จงฺกโม วา วฏฺฏติ. อารมฺมณํ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ยํกิฺจิ อปริสุทฺธวณฺณนฺติ อิทํ ราคจริตสฺส สปฺปายํ.
โทสจริตสฺส เสนาสนํ นาติอุจฺจํ นาตินีจํ ฉายูทกสมฺปนฺนํ สุวิภตฺตภิตฺติถมฺภโสปานํ สุปรินิฏฺิตมาลากมฺมลตากมฺมนานาวิธจิตฺตกมฺมสมุชฺชลสมสินิทฺธมุทุภูมิตลํ พฺรหฺมวิมานมิว กุสุมทามวิจิตฺรวณฺณเจลวิตานสมลงฺกตํ สุปฺตฺตสุจิมโนรมตฺถรณมฺจปีํ ตตฺถ ตตฺถ วาสตฺถาย นิกฺขิตฺตกุสุมวาสคนฺธสุคนฺธํ ยํ ทสฺสนมตฺเตเนว ปีติปาโมชฺชํ ชนยติ, เอวรูปํ สปฺปายํ. ตสฺส ปน เสนาสนสฺส มคฺโคปิ สพฺพปริสฺสยวิมุตฺโต สุจิสมตโล อลงฺกตปฏิยตฺโตว วฏฺฏติ. เสนาสนปริกฺขาโรเปตฺถ กีฏมงฺกุณทีฆชาติมูสิกานํ นิสฺสยปริจฺฉินฺทนตฺถํ นาติพหุโก, เอกมฺจปีมตฺตเมว วฏฺฏติ. นิวาสนปารุปนมฺปิสฺส จีนปฏฺฏโสมารปฏฺฏโกเสยฺยกปฺปาสิกสุขุมโขมาทีนํ ยํ ยํ ปณีตํ, เตน เตน เอกปฏฺฏํ วา ทุปฏฺฏํ วา สลฺลหุกํ สมณสารุปฺเปน สุรตฺตํ สุทฺธวณฺณํ วฏฺฏติ. ปตฺโต อุทกปุปฺผุฬมิว สุสณฺาโน มณิ วิย สุมฏฺโ นิมฺมโล สมณสารุปฺเปน สุปริสุทฺธวณฺโณ อโยมโย วฏฺฏติ. ภิกฺขาจารมคฺโค ปริสฺสยวิมุตฺโต สโม มนาโป นาติทูรนาจฺจาสนฺนคาโม วฏฺฏติ. ภิกฺขาจารคาโมปิ ยตฺถ มนุสฺสา ‘‘อิทานิ อยฺโย อาคมิสฺสตี’’ติ สิตฺตสมฺมฏฺเ ปเทเส อาสนํ ปฺาเปตฺวา ปจฺจุคฺคนฺตฺวา ปตฺตํ อาทาย ฆรํ ปเวเสตฺวา ปฺตฺตาสเน นิสีทาเปตฺวา สกฺกจฺจํ สหตฺถา ปริวิสนฺติ, ตาทิโส วฏฺฏติ. ปริเวสกา ปนสฺส เย โหนฺติ อภิรูปา ปาสาทิกา สุนฺหาตา สุวิลิตฺตา ธูปวาสกุสุมคนฺธสุรภิโน นานาวิราคสุจิมนฺุวตฺถาภรณปฏิมณฺฑิตา สกฺกจฺจการิโน, ตาทิสา สปฺปายา. ยาคุภตฺตขชฺชกมฺปิ วณฺณคนฺธรสสมฺปนฺนํ โอชวนฺตํ มโนรมํ สพฺพาการปณีตํ ยาวทตฺถํ วฏฺฏติ. อิริยาปโถปิสฺส เสยฺยา วา นิสชฺชา วา วฏฺฏติ, อารมฺมณํ นีลาทีสุ วณฺณกสิเณสุ ยํกิฺจิ สุปริสุทฺธวณฺณนฺติ อิทํ โทสจริตสฺส สปฺปายํ.
โมหจริตสฺส ¶ เสนาสนํ ทิสามุขํ อสมฺพาธํ วฏฺฏติ, ยตฺถ นิสินฺนสฺส วิวฏา ทิสา ขายนฺติ ¶ , อิริยาปเถสุ จงฺกโม วฏฺฏติ. อารมฺมณํ ปนสฺส ปริตฺตํ สุปฺปมตฺตํ สราวมตฺตํ วา (ขุทฺทกํ) น วฏฺฏติ. สมฺพาธสฺมิฺหิ โอกาเส จิตฺตํ ภิยฺโย สมฺโมหมาปชฺชติ, ตสฺมา วิปุลํ มหากสิณํ วฏฺฏติ. เสสํ โทสจริตสฺส วุตฺตสทิสเมวาติ อิทํ โมหจริตสฺส สปฺปายํ.
สทฺธาจริตสฺส สพฺพมฺปิ โทสจริตมฺหิ วุตฺตวิธานํ สปฺปายํ. อารมฺมเณสุ จสฺส อนุสฺสติฏฺานมฺปิ วฏฺฏติ.
พุทฺธิจริตสฺส เสนาสนาทีสุ อิทํ นาม อสปฺปายนฺติ นตฺถิ.
วิตกฺกจริตสฺส เสนาสนํ วิวฏํ ทิสามุขํ ยตฺถ นิสินฺนสฺส อารามวนโปกฺขรณีรามเณยฺยกานิ คามนิคมชนปทปฏิปาฏิโย นีโลภาสา จ ปพฺพตา ปฺายนฺติ, ตํ น วฏฺฏติ, ตฺหิ วิตกฺกวิธาวนสฺเสว ปจฺจโย โหติ, ตสฺมา คมฺภีเร ทรีมุเข วนปฺปฏิจฺฉนฺเน หตฺถิกุจฺฉิปพฺภารมหินฺทคุหาสทิเส เสนาสเน วสิตพฺพํ. อารมฺมณมฺปิสฺส วิปุลํ น วฏฺฏติ. ตาทิสฺหิ วิตกฺกวเสน สนฺธาวนสฺส ปจฺจโย โหติ. ปริตฺตํ ปน วฏฺฏติ.
เสสํ ราคจริตสฺส วุตฺตสทิสเมวาติ อิทํ วิตกฺกจริตสฺส สปฺปายํ. อยํ อตฺตโน จริยานุกูลนฺติ เอตฺถ อาคตจริยานํ ปเภทนิทานวิภาวนสปฺปายปริจฺเฉทโต วิตฺถาโร. น จ ตาว จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ สพฺพากาเรน อาวิกตํ. ตฺหิ อนนฺตรสฺส มาติกาปทสฺส วิตฺถาเร สยเมว อาวิภวิสฺสติ.
จตฺตาลีสกมฺมฏฺานวณฺณนา
๔๗. ตสฺมา ยํ วุตฺตํ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ อฺตรํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาติ เอตฺถ สงฺขาตนิทฺเทสโต, อุปจารปฺปนาวหโต, ฌานปฺปเภทโต, สมติกฺกมโต, วฑฺฒนาวฑฺฒนโต, อารมฺมณโต, ภูมิโต, คหณโต, ปจฺจยโต, จริยานุกูลโตติ อิเมหิ ตาว ทสหากาเรหิ กมฺมฏฺานวินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ ¶ สงฺขาตนิทฺเทสโตติ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสูติ หิ วุตฺตํ, ตตฺริมานิ จตฺตาลีส กมฺมฏฺานานิ ¶ ทส กสิณา, ทส อสุภา, ทส อนุสฺสติโย, จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาโร อารุปฺปา, เอกา สฺา, เอกํ ววตฺถานนฺติ.
ตตฺถ ปถวีกสิณํ, อาโปกสิณํ, เตโชกสิณํ, วาโยกสิณํ, นีลกสิณํ, ปีตกสิณํ, โลหิตกสิณํ, โอทาตกสิณํ, อาโลกกสิณํ, ปริจฺฉินฺนากาสกสิณนฺติ อิเม ทส กสิณา.
อุทฺธุมาตกํ, วินีลกํ, วิปุพฺพกํ, วิจฺฉิทฺทกํ, วิกฺขายิตกํ, วิกฺขิตฺตกํ, หตวิกฺขิตฺตกํ, โลหิตกํ, ปุฬุวกํ, อฏฺิกนฺติ อิเม ทส อสุภา.
พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺมานุสฺสติ, สงฺฆานุสฺสติ, สีลานุสฺสติ, จาคานุสฺสติ, เทวตานุสฺสติ, มรณานุสฺสติ, กายคตาสติ, อานาปานสฺสติ, อุปสมานุสฺสตีติ อิมา ทส อนุสฺสติโย.
เมตฺตา, กรุณา, มุทิตา, อุเปกฺขาติ อิเม จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา.
อากาสานฺจายตนํ, วิฺาณฺจายตนํ, อากิฺจฺายตนํ, เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิเม จตฺตาโร อารุปฺปา. อาหาเร ปฏิกูลสฺา เอกา สฺา. จตุธาตุววตฺถานํ เอกํ ววตฺถานนฺติ เอวํ สงฺขาตนิทฺเทสโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ.
อุปจารปฺปนาวหโตติ เปตฺวา กายคตาสติฺจ อานาปานสฺสติฺจ อวเสสา อฏฺ อนุสฺสติโย, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถานนฺติ อิมาเนว เหตฺถ ทสกมฺมฏฺานานิ อุปจารวหานิ. เสสานิ อปฺปนาวหานิ. เอวํ อุปจารปฺปนาวหโต.
ฌานปฺปเภทโตติ อปฺปนาวเหสุ เจตฺถ อานาปานสฺสติยา สทฺธึ ทส กสิณา จตุกฺกชฺฌานิกา โหนฺติ. กายคตาสติยา สทฺธึ ทส อสุภา ปมชฺฌานิกา. ปุริมา ตโย พฺรหฺมวิหารา ติกชฺฌานิกา. จตุตฺถพฺรหฺมวิหาโร จตฺตาโร จ อารุปฺปา จตุตฺถชฺฌานิกาติ เอวํ ฌานปฺปเภทโต.
สมติกฺกมโตติ ทฺเว สมติกฺกมา องฺคสมติกฺกโม จ อารมฺมณสมติกฺกโม จ. ตตฺถ สพฺเพสุปิ ¶ ติกจตุกฺกชฺฌานิเกสุ กมฺมฏฺาเนสุ องฺคสมติกฺกโม ¶ โหติ วิตกฺกวิจาราทีนิ ฌานงฺคานิ สมติกฺกมิตฺวา เตสฺเววารมฺมเณสุ ทุติยชฺฌานาทีนํ ปตฺตพฺพโต. ตถา จตุตฺถพฺรหฺมวิหาเร. โสปิ หิ เมตฺตาทีนํเยว อารมฺมเณ โสมนสฺสํ สมติกฺกมิตฺวา ปตฺตพฺโพติ. จตูสุ ปน อารุปฺเปสุ อารมฺมณสมติกฺกโม โหติ. ปุริเมสุ หิ นวสุ กสิเณสุ อฺตรํ สมติกฺกมิตฺวา อากาสานฺจายตนํ ปตฺตพฺพํ. อากาสาทีนิ จ สมติกฺกมิตฺวา วิฺาณฺจายตนาทีนิ. เสเสสุ สมติกฺกโม นตฺถีติ เอวํ สมติกฺกมโต.
วฑฺฒนาวฑฺฒนโตติ อิเมสุ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ ทส กสิณาเนว วฑฺเฒตพฺพานิ. ยตฺตกฺหิ โอกาสํ กสิเณน ผรติ, ตทพฺภนฺตเร ทิพฺพาย โสตธาตุยา สทฺทํ โสตุํ ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปานิ ปสฺสิตุํ ปรสตฺตานฺจ เจตสา จิตฺตมฺาตุํ สมตฺโถ โหติ. กายคตาสติ ปน อสุภานิ จ น วฑฺเฒตพฺพานิ. กสฺมา? โอกาเสน ปริจฺฉินฺนตฺตา อานิสํสาภาวา จ. สา จ เนสํ โอกาเสน ปริจฺฉินฺนตา ภาวนานเย อาวิภวิสฺสติ. เตสุ ปน วฑฺฒิเตสุ กุณปราสิเยว วฑฺฒติ, น โกจิ อานิสํโส อตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ โสปากปฺหาพฺยากรเณ, ‘‘วิภูตา ภควา รูปสฺา อวิภูตา อฏฺิกสฺา’’ติ. ตตฺร หิ นิมิตฺตวฑฺฒนวเสน รูปสฺา วิภูตาติ วุตฺตา. อฏฺิกสฺา อวฑฺฒนวเสน อวิภูตาติ วุตฺตา.
ยํ ปเนตํ ‘‘เกวลํ อฏฺิสฺาย, อผรี ปถวึ อิม’’นฺติ (เถรคา. ๑๘) วุตฺตํ, ตํ ลาภิสฺส สโต อุปฏฺานาการวเสน วุตฺตํ. ยเถว หิ ธมฺมาโสกกาเล กรวีกสกุโณ สมนฺตา อาทาสภิตฺตีสุ อตฺตโน ฉายํ ทิสฺวา สพฺพทิสาสุ กรวีกสฺี หุตฺวา มธุรํ คิรํ นิจฺฉาเรสิ, เอวํ เถโรปิ อฏฺิกสฺาย ลาภิตฺตา สพฺพทิสาสุ อุปฏฺิตํ นิมิตฺตํ ปสฺสนฺโต เกวลาปิ ปถวี อฏฺิกภริตาติ จินฺเตสีติ.
ยทิ เอวํ ยา อสุภชฺฌานานํ อปฺปมาณารมฺมณตา วุตฺตา, สา วิรุชฺฌตีติ. สา จ น วิรุชฺฌติ. เอกจฺโจ หิ อุทฺธุมาตเก วา อฏฺิเก วา มหนฺเต นิมิตฺตํ คณฺหาติ. เอกจฺโจ อปฺปเก. อิมินา ปริยาเยน เอกจฺจสฺส ปริตฺตารมฺมณํ ฌานํ โหติ. เอกจฺจสฺส อปฺปมาณารมฺมณนฺติ. โย วา เอตํ วฑฺฒเน อาทีนวํ อปสฺสนฺโต วฑฺเฒติ. ตํ สนฺธาย ‘‘อปฺปมาณารมฺมณ’’นฺติ วุตฺตํ. อานิสํสาภาวา ปน น วฑฺเฒตพฺพานีติ.
ยถา ¶ ¶ จ เอตานิ, เอวํ เสสานิปิ น วฑฺเฒตพฺพานิ. กสฺมา? เตสุ หิ อานาปานนิมิตฺตํ ตาว วฑฺฒยโต วาตราสิเยว วฑฺฒติ, โอกาเสน จ ปริจฺฉินฺนํ. อิติ สาทีนวตฺตา โอกาเสน จ ปริจฺฉินฺนตฺตา น วฑฺเฒตพฺพํ. พฺรหฺมวิหารา สตฺตารมฺมณา, เตสํ นิมิตฺตํ วฑฺฒยโต สตฺตราสิเยว วฑฺเฒยฺย, น จ เตน อตฺโถ อตฺถิ, ตสฺมา ตมฺปิ น วฑฺเฒตพฺพํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖) อาทิ, ตํ ปริคฺคหวเสเนว วุตฺตํ. เอกาวาสทฺวิอาวาสาทินา หิ อนุกฺกเมน เอกิสฺสา ทิสาย สตฺเต ปริคฺคเหตฺวา ภาเวนฺโต เอกํ ทิสํ ผริตฺวาติ วุตฺโต. น นิมิตฺตํ วฑฺเฒนฺโต. ปฏิภาคนิมิตฺตเมว เจตฺถ นตฺถิ. ยทยํ วฑฺเฒยฺย, ปริตฺตอปฺปมาณารมฺมณตาเปตฺถ ปริคฺคหวเสเนว เวทิตพฺพา. อารุปฺปารมฺมเณสุปิ อากาสํ กสิณุคฺฆาฏิมตฺตา. ตฺหิ กสิณาปคมวเสเนว มนสิ กาตพฺพํ. ตโต ปรํ วฑฺฒยโตปิ น กิฺจิ โหติ. วิฺาณํ สภาวธมฺมตฺตา. น หิ สกฺกา สภาวธมฺมํ วฑฺเฒตุํ. วิฺาณาปคโม วิฺาณสฺส อภาวมตฺตตฺตา. เนวสฺานาสฺายตนารมฺมณํ สภาวธมฺมตฺตาเยว น วฑฺเฒตพฺพํ. เสสานิ อนิมิตฺตตฺตา. ปฏิภาคนิมิตฺตฺหิ วฑฺเฒตพฺพํ นาม ภเวยฺย. พุทฺธานุสฺสติอาทีนฺจ เนว ปฏิภาคนิมิตฺตํ อารมฺมณํ โหติ, ตสฺมา ตํ น วฑฺเฒตพฺพนฺติ เอวํ วฑฺฒนาวฑฺฒนโต.
อารมฺมณโตติ อิเมสุ จ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ ทสกสิณา, ทสอสุภา, อานาปานสฺสติ, กายคตาสตีติ อิมานิ ทฺวาวีสติปฏิภาคนิมิตฺตารมฺมณานิ. เสสานิ น ปฏิภาคนิมิตฺตารมฺมณานิ. ตถา ทสสุ อนุสฺสตีสุ เปตฺวา อานาปานสฺสติฺจ กายคตาสติฺจ อวเสสา อฏฺ อนุสฺสติโย, อาหาเร ปฏิกูลสฺา, จตุธาตุววตฺถานํ, วิฺาณฺจายตนํ, เนวสฺานาสฺายตนนฺติ อิมานิ ทฺวาทส สภาวธมฺมารมฺมณานิ. ทส กสิณา, ทส อสุภา, อานาปานสฺสติ, กายคตาสตีติ อิมานิ ทฺวาวีสติ นิมิตฺตารมฺมณานิ. เสสานิ ฉ น วตฺตพฺพารมฺมณานิ. ตถา วิปุพฺพกํ, โลหิตกํ, ปุฬุวกํ, อานาปานสฺสติ, อาโปกสิณํ, เตโชกสิณํ, วาโยกสิณํ, ยฺจ อาโลกกสิเณ สูริยาทีนํ โอภาสมณฺฑลารมฺมณนฺติ อิมานิ อฏฺ จลิตารมฺมณานิ, ตานิ จ โข ปุพฺพภาเค, ปฏิภาคํ ปน สนฺนิสินฺนเมว โหติ. เสสานิ น จลิตารมฺมณานีติ เอวํ อารมฺมณโต.
ภูมิโตติ ¶ เอตฺถ จ ทส อสุภา, กายคตาสติ, อาหาเร ปฏิกูลสฺาติ อิมานิ ทฺวาทส เทเวสุ นปฺปวตฺตนฺติ. ตานิ ทฺวาทส, อานาปานสฺสติ จาติ อิมานิ เตรส พฺรหฺมโลเก นปฺปวตฺตนฺติ ¶ . อรูปภเว ปน เปตฺวา จตฺตาโร อารุปฺเป อฺํ นปฺปวตฺตติ. มนุสฺเสสุ สพฺพานิปิ ปวตฺตนฺตีติ เอวํ ภูมิโต.
คหณโตติ ทิฏฺผุฏฺสุตคฺคหณโตเปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. ตตฺร เปตฺวา วาโยกสิณํ เสสา นว กสิณา, ทส อสุภาติ อิมานิ เอกูนวีสติ ทิฏฺเน คเหตพฺพานิ. ปุพฺพภาเค จกฺขุนา โอโลเกตฺวา นิมิตฺตํ เนสํ คเหตพฺพนฺติ อตฺโถ. กายคตาสติยํ ตจปฺจกํ ทิฏฺเน, เสสํ สุเตนาติ เอวํ ตสฺสา อารมฺมณํ ทิฏฺสุเตน คเหตพฺพํ. อานาปานสฺสติ ผุฏฺเน, วาโยกสิณํ ทิฏฺผุฏฺเน, เสสานิ อฏฺารส สุเตน คเหตพฺพานิ. อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร, จตฺตาโร อารุปฺปาติ อิมานิ เจตฺถ น อาทิกมฺมิเกน คเหตพฺพานิ. เสสานิ ปฺจตึส คเหตพฺพานีติ เอวํ คหณโต.
ปจฺจยโตติ อิเมสุ ปน กมฺมฏฺาเนสุ เปตฺวา อากาสกสิณํ เสสา นว กสิณา อารุปฺปานํ ปจฺจยา โหนฺติ, ทส กสิณา อภิฺานํ, ตโย พฺรหฺมวิหารา จตุตฺถพฺรหฺมวิหารสฺส, เหฏฺิมํ เหฏฺิมํ อารุปฺปํ อุปริมสฺส อุปริมสฺส, เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรธสมาปตฺติยา, สพฺพานิปิ สุขวิหารวิปสฺสนาภวสมฺปตฺตีนนฺติ เอวํ ปจฺจยโต.
จริยานุกูลโตติ จริยานํ อนุกูลโตเปตฺถ วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพ. เสยฺยถิทํ – ราคจริตสฺส ตาว เอตฺถ ทส อสุภา, กายคตาสตีติ เอกาทส กมฺมฏฺานานิ อนุกูลานิ. โทสจริตสฺส จตฺตาโร พฺรหฺมวิหารา, จตฺตาริ วณฺณกสิณานีติ อฏฺ. โมหจริตสฺส, วิตกฺกจริตสฺส จ เอกํ อานาปานสฺสติ กมฺมฏฺานเมว. สทฺธาจริตสฺส ปุริมา ฉ อนุสฺสติโย. พุทฺธิจริตสฺส มรณสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, จตุธาตุววตฺถานํ, อาหาเร ปฏิกูลสฺาติ จตฺตาริ. เสสกสิณานิ, จตฺตาโร จ อารุปฺปา สพฺพจริตานํ อนุกูลานิ. กสิเณสุ จ ยํกิฺจิ ปริตฺตํ วิตกฺกจริตสฺส, อปฺปมาณํ โมหจริตสฺสาติ.
เอวเมตฺถ ¶ จริยานุกูลโต วินิจฺฉโย เวทิตพฺโพติ สพฺพฺเจตํ อุชุวิปจฺจนีกวเสน จ อติสปฺปายวเสน จ วุตฺตํ. ราคาทีนํ ปน อวิกฺขมฺภิกา สทฺธาทีนํ วา อนุปการา กุสลภาวนา นาม นตฺถิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ เมฆิยสุตฺเต –
‘‘จตฺตาโร ธมฺมา อุตฺตริ ภาเวตพฺพา. อสุภา ภาเวตพฺพา ราคสฺส ปหานาย. เมตฺตา ภาเวตพฺพา พฺยาปาทสฺส ¶ ปหานาย. อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทาย. อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาตายา’’ติ.
ราหุลสุตฺเตปิ ‘‘เมตฺตํ, ราหุล, ภาวนํ ภาเวหี’’ติอาทินา (ม. นิ. ๒.๑๒๐) นเยน เอกสฺเสว สตฺต กมฺมฏฺานานิ วุตฺตานิ. ตสฺมา วจนมตฺเต อภินิเวสํ อกตฺวา สพฺพตฺถ อธิปฺปาโย ปริเยสิตพฺโพติ อยํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาติ เอตฺถ กมฺมฏฺานกถา วินิจฺฉโย.
๔๘. คเหตฺวาติ อิมสฺส ปน ปทสฺส อยมตฺถทีปนา. ‘‘เตน โยคินา กมฺมฏฺานทายกํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา’’ติ เอตฺถ วุตฺตนเยเนว วุตฺตปฺปการํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา พุทฺธสฺส วา ภควโต อาจริยสฺส วา อตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา สมฺปนฺนชฺฌาสเยน สมฺปนฺนาธิมุตฺตินา จ หุตฺวา กมฺมฏฺานํ ยาจิตพฺพํ.
ตตฺร ‘‘อิมาหํ ภควา อตฺตภาวํ ตุมฺหากํ ปริจฺจชามี’’ติ เอวํ พุทฺธสฺส ภควโต อตฺตา นิยฺยาเตตพฺโพ. เอวฺหิ อนิยฺยาเตตฺวา ปนฺเตสุ เสนาสเนสุ วิหรนฺโต เภรวารมฺมเณ อาปาถมาคเต สนฺถมฺภิตุํ อสกฺโกนฺโต คามนฺตํ โอสริตฺวา คิหีหิ สํสฏฺโ หุตฺวา อเนสนํ อาปชฺชิตฺวา อนยพฺยสนํ ปาปุเณยฺย. นิยฺยาติตตฺตภาวสฺส ปนสฺส เภรวารมฺมเณ อาปาถมาคเตปิ ภยํ น อุปฺปชฺชติ. ‘‘นนุ ตยา, ปณฺฑิต, ปุริมเมว อตฺตา พุทฺธานํ นิยฺยาติโต’’ติ ปจฺจเวกฺขโต ปนสฺส โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺชติ. ยถา หิ ปุริสสฺส อุตฺตมํ กาสิกวตฺถํ ภเวยฺย, ตสฺส ตสฺมึ มูสิกาย วา กีเฏหิ วา ขาทิเต อุปฺปชฺเชยฺย โทมนสฺสํ ¶ . สเจ ปน ตํ อจีวรกสฺส ภิกฺขุโน ทเทยฺย, อถสฺส ตํ เตน ภิกฺขุนา ขณฺฑาขณฺฑํ กริยมานํ ทิสฺวาปิ โสมนสฺสเมว อุปฺปชฺเชยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ.
อาจริยสฺส นิยฺยาเตนฺเตนาปิ ‘‘อิมาหํ, ภนฺเต, อตฺตภาวํ ตุมฺหากํ ปริจฺจชามี’’ติ วตฺตพฺพํ. เอวํ อนิยฺยาติตตฺตภาโว หิ อตชฺชนีโย วา โหติ, ทุพฺพโจ วา อโนวาทกโร, เยนกามํคโม วา อาจริยํ อนาปุจฺฉาว ยตฺถิจฺฉติ, ตตฺถ คนฺตา, ตเมนํ อาจริโย อามิเสน วา ธมฺเมน วา น สงฺคณฺหาติ, คูฬฺหํ คนฺถํ น สิกฺขาเปติ. โส อิมํ ทุวิธํ สงฺคหํ อลภนฺโต สาสเน ปติฏฺํ น ลภติ, นจิรสฺเสว ทุสฺสีลฺยํ วา คิหิภาวํ วา ปาปุณาติ. นิยฺยาติตตฺตภาโว ปน เนว อตชฺชนีโย โหติ, น เยนกามํคโม, สุวโจ อาจริยายตฺตวุตฺติเยว ¶ โหติ. โส อาจริยโต ทุวิธํ สงฺคหํ ลภนฺโต สาสเน วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถรสฺส อนฺเตวาสิกา วิย.
เถรสฺส กิร สนฺติกํ ตโย ภิกฺขู อาคมํสุ. เตสุ เอโก ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากมตฺถายา’’ติ วุตฺเต สตโปริเส ปปาเต ปติตุํ อุสฺสเหยฺยนฺติ อาห. ทุติโย ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากมตฺถายา’’ติ วุตฺเต อิมํ อตฺตภาวํ ปณฺหิโต ปฏฺาย ปาสาณปิฏฺเ ฆํเสนฺโต นิรวเสสํ เขเปตุํ อุสฺสเหยฺยนฺติ อาห. ตติโย ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺหากมตฺถายา’’ติ วุตฺเต อสฺสาสปสฺสาเส อุปรุนฺธิตฺวา กาลกิริยํ กาตุํ อุสฺสเหยฺยนฺติ อาห. เถโร ภพฺพาวติเม ภิกฺขูติ กมฺมฏฺานํ กเถสิ. เต ตสฺส โอวาเท ตฺวา ตโยปิ อรหตฺตํ ปาปุณึสูติ อยมานิสํโส อตฺตนิยฺยาตเน. เตน วุตฺตํ ‘‘พุทฺธสฺส วา ภควโต อาจริยสฺส วา อตฺตานํ นิยฺยาเตตฺวา’’ติ.
๔๙. สมฺปนฺนชฺฌาสเยน สมฺปนฺนาธิมุตฺตินา จ หุตฺวาติ เอตฺถ ปน เตน โยคินา อโลภาทีนํ วเสน ฉหากาเรหิ สมฺปนฺนชฺฌาสเยน ภวิตพฺพํ. เอวํ สมฺปนฺนชฺฌาสโย หิ ติสฺสนฺนํ โพธีนํ อฺตรํ ปาปุณาติ. ยถาห, ‘‘ฉ อชฺฌาสยา โพธิสตฺตานํ โพธิปริปากาย สํวตฺตนฺติ, อโลภชฺฌาสยา จ โพธิสตฺตา โลเภ โทสทสฺสาวิโน, อโทสชฺฌาสยา ¶ จ โพธิสตฺตา โทเส โทสทสฺสาวิโน, อโมหชฺฌาสยา จ โพธิสตฺตา โมเห โทสทสฺสาวิโน, เนกฺขมฺมชฺฌาสยา จ โพธิสตฺตา ฆราวาเส โทสทสฺสาวิโน, ปวิเวกชฺฌาสยา จ โพธิสตฺตา สงฺคณิกาย โทสทสฺสาวิโน, นิสฺสรณชฺฌาสยา จ โพธิสตฺตา สพฺพภวคตีสุ โทสทสฺสาวิโน’’ติ. เย หิ เกจิ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนา โสตาปนฺนสกทาคามิอนาคามิขีณาสวปจฺเจกพุทฺธสมฺมาสมฺพุทฺธา, สพฺเพ เต อิเมเหว ฉหากาเรหิ อตฺตนา อตฺตนา ปตฺตพฺพํ วิเสสํ ปตฺตา. ตสฺมา อิเมหิ ฉหากาเรหิ สมฺปนฺนชฺฌาสเยน ภวิตพฺพํ. ตทธิมุตฺตตาย ปน อธิมุตฺติสมฺปนฺเนน ภวิตพฺพํ. สมาธาธิมุตฺเตน สมาธิครุเกน สมาธิปพฺภาเรน, นิพฺพานาธิมุตฺเตน นิพฺพานครุเกน นิพฺพานปพฺภาเรน จ ภวิตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๕๐. เอวํ สมฺปนฺนชฺฌาสยาธิมุตฺติโน ปนสฺส กมฺมฏฺานํ ยาจโต เจโตปริยาณลาภินา อาจริเยน จิตฺตาจารํ โอโลเกตฺวา จริยา ชานิตพฺพา. อิตเรน กึ จริโตสิ? เก วา เต ธมฺมา พหุลํ สมุทาจรนฺติ? กึ วา เต มนสิกโรโต ผาสุ โหติ? กตรสฺมึ วา เต กมฺมฏฺาเน ¶ จิตฺตํ นมตีติ เอวมาทีหิ นเยหิ ปุจฺฉิตฺวา ชานิตพฺพา. เอวํ ตฺวา จริยานุกูลํ กมฺมฏฺานํ กเถตพฺพํ.
กเถนฺเตน จ ติวิเธน กเถตพฺพํ. ปกติยา อุคฺคหิตกมฺมฏฺานสฺส เอกํ ทฺเว นิสชฺชานิ สชฺฌายํ กาเรตฺวา ทาตพฺพํ. สนฺติเก วสนฺตสฺส อาคตาคตกฺขเณ กเถตพฺพํ. อุคฺคเหตฺวา อฺตฺร คนฺตุกามสฺส นาติสํขิตฺตํ นาติวิตฺถาริกํ กตฺวา กเถตพฺพํ.
ตตฺถ ปถวีกสิณํ ตาว กเถนฺเตน จตฺตาโร กสิณโทสา, กสิณกรณํ, กตสฺส ภาวนานโย, ทุวิธํ นิมิตฺตํ, ทุวิโธ สมาธิ, สตฺตวิธํ สปฺปายาสปฺปายํ, ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ, วีริยสมตา, อปฺปนาวิธานนฺติ อิเม นว อาการา กเถตพฺพา. เสสกมฺมฏฺาเนสุปิ ตสฺส ตสฺส อนุรูปํ กเถตพฺพํ. ตํ สพฺพํ เตสํ ภาวนาวิธาเน อาวิภวิสฺสติ.
เอวํ กถิยมาเน ปน กมฺมฏฺาเน เตน โยคินา นิมิตฺตํ คเหตฺวา โสตพฺพํ. นิมิตฺตํ คเหตฺวาติ อิทํ เหฏฺิมปทํ, อิทํ อุปริมปทํ, อยมสฺส อตฺโถ ¶ , อยมธิปฺปาโย, อิทโมปมฺมนฺติ เอวํ ตํ ตํ อาการํ อุปนิพนฺธิตฺวาติ อตฺโถ. เอวํ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สกฺกจฺจํ สุณนฺเตน หิ กมฺมฏฺานํ สุคฺคหิตํ โหติ. อถสฺส ตํ นิสฺสาย วิเสสาธิคโม สมฺปชฺชติ, น อิตรสฺสาติ อยํ คเหตฺวาติ อิมสฺส ปทสฺส อตฺถปริทีปนา.
เอตฺตาวตา กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อตฺตโน จริยานุกูลํ จตฺตาลีสาย กมฺมฏฺาเนสุ อฺตรํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวาติ อิมานิ ปทานิ สพฺพากาเรน วิตฺถาริตานิ โหนฺตีติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
สมาธิภาวนาธิกาเร
กมฺมฏฺานคฺคหณนิทฺเทโส นาม
ตติโย ปริจฺเฉโท.