📜

๔. ปถวีกสิณนิทฺเทโส

๕๑. อิทานิ ยํ วุตฺตํ ‘‘สมาธิภาวนาย อนนุรูปํ วิหารํ ปหาย อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตนา’’ติ เอตฺถ ยสฺส ตาวาจริเยน สทฺธึ เอกวิหาเร วสโต ผาสุ โหติ, เตน ตตฺเถว กมฺมฏฺานํ ปริโสเธนฺเตน วสิตพฺพํ. สเจ ตตฺถ ผาสุ น โหติ, โย อฺโ คาวุเต วา อฑฺฒโยชเน วา โยชนมตฺเตปิ วา สปฺปาโย วิหาโร โหติ, ตตฺถ วสิตพฺพํ. เอวฺหิ สติ กมฺมฏฺานสฺส กิสฺมิฺจิเทว าเน สนฺเทเห วา สติสมฺโมเส วา ชาเต กาลสฺเสว วิหาเร วตฺตํ กตฺวา อนฺตรามคฺเค ปิณฺฑาย จริตฺวา ภตฺตกิจฺจปริโยสาเนเยว อาจริยสฺส วสนฏฺานํ คนฺตฺวา ตํทิวสมาจริยสฺส สนฺติเก กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา ทุติยทิวเส อาจริยํ วนฺทิตฺวา นิกฺขมิตฺวา อนฺตรามคฺเค ปิณฺฑาย จริตฺวา อกิลมนฺโตเยว อตฺตโน วสนฏฺานํ อาคนฺตุํ สกฺขิสฺสติ. โย ปน โยชนปฺปมาเณปิ ผาสุกฏฺานํ น ลภติ, เตน กมฺมฏฺาเน สพฺพํ คณฺิฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา สุวิสุทฺธํ อาวชฺชนปฏิพทฺธํ กมฺมฏฺานํ กตฺวา ทูรมฺปิ คนฺตฺวา สมาธิภาวนาย อนนุรูปํ วิหารํ ปหาย อนุรูเป วิหาเร วิหาตพฺพํ.

อนนุรูปวิหาโร

๕๒. ตตฺถ อนนุรูโป นาม อฏฺารสนฺนํ โทสานํ อฺตเรน สมนฺนาคโต. ตตฺริเม อฏฺารส โทสา – มหตฺตํ, นวตฺตํ, ชิณฺณตฺตํ, ปนฺถนิสฺสิตตฺตํ, โสณฺฑี, ปณฺณํ, ปุปฺผํ, ผลํ, ปตฺถนียตา, นครสนฺนิสฺสิตตา, ทารุสนฺนิสฺสิตตา, เขตฺตสนฺนิสฺสิตตา, วิสภาคานํ ปุคฺคลานํ อตฺถิตา, ปฏฺฏนสนฺนิสฺสิตตา, ปจฺจนฺตสนฺนิสฺสิตตา, รชฺชสีมสนฺนิสฺสิตตา, อสปฺปายตา, กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภติ อิเมสํ อฏฺารสนฺนํ โทสานํ อฺตเรน โทเสน สมนฺนาคโต อนนุรูโป นาม. น ตตฺถ วิหาตพฺพํ.

กสฺมา? มหาวิหาเร ตาว พหู นานาฉนฺทา สนฺนิปตนฺติ, เต อฺมฺํ ปฏิวิรุทฺธตาย วตฺตํ น กโรนฺติ. โพธิยงฺคณาทีนิ อสมฺมฏฺาเนว โหนฺติ. อนุปฏฺาปิตํ ปานียํ ปริโภชนียํ. ตตฺรายํ โคจรคาเม ปิณฺฑาย จริสฺสามีติ ปตฺตจีวรมาทาย นิกฺขนฺโต สเจ ปสฺสติ วตฺตํ วา อกตํ ปานียฆฏํ วา ริตฺตํ, อถาเนน วตฺตํ กาตพฺพํ โหติ, ปานียํ อุปฏฺาเปตพฺพํ. อกโรนฺโต วตฺตเภเท ทุกฺกฏํ อาปชฺชติ. กโรนฺตสฺส กาโล อติกฺกมติ, อติทิวา ปวิฏฺโ นิฏฺิตาย ภิกฺขาย กิฺจิ น ลภติ. ปฏิสลฺลานคโตปิ สามเณรทหรภิกฺขูนํ อุจฺจาสทฺเทน สงฺฆกมฺเมหิ จ วิกฺขิปติ. ยตฺถ ปน สพฺพํ วตฺตํ กตเมว โหติ, อวเสสาปิ จ สงฺฆฏฺฏนา นตฺถิ. เอวรูเป มหาวิหาเรปิ วิหาตพฺพํ.

นววิหาเร พหุ นวกมฺมํ โหติ, อกโรนฺตํ อุชฺฌายนฺติ. ยตฺถ ปน ภิกฺขู เอวํ วทนฺติ ‘‘อายสฺมา ยถาสุขํ สมณธมฺมํ กโรตุ, มยํ นวกมฺมํ กริสฺสามา’’ติ เอวรูเป วิหาตพฺพํ.

ชิณฺณวิหาเร ปน พหุ ปฏิชคฺคิตพฺพํ โหติ, อนฺตมโส อตฺตโน เสนาสนมตฺตมฺปิ อปฺปฏิชคฺคนฺตํ อุชฺฌายนฺติ, ปฏิชคฺคนฺตสฺส กมฺมฏฺานํ ปริหายติ.

ปนฺถนิสฺสิเต มหาปถวิหาเร รตฺตินฺทิวํ อาคนฺตุกา สนฺนิปตนฺติ. วิกาเล อาคตานํ อตฺตโน เสนาสนํ ทตฺวา รุกฺขมูเล วา ปาสาณปิฏฺเ วา วสิตพฺพํ โหติ. ปุนทิวเสปิ เอวเมวาติ กมฺมฏฺานสฺส โอกาโส น โหติ. ยตฺถ ปน เอวรูโป อาคนฺตุกสมฺพาโธ น โหติ, ตตฺถ วิหาตพฺพํ.

โสณฺฑี นาม ปาสาณโปกฺขรณี โหติ, ตตฺถ ปานียตฺถํ มหาชโน สโมสรติ, นครวาสีนํ ราชกุลูปกตฺเถรานํ อนฺเตวาสิกา รชนกมฺมตฺถาย อาคจฺฉนฺติ, เตสํ ภาชนทารุโทณิกาทีนิ ปุจฺฉนฺตานํ อสุเก จ อสุเก จ าเนติ ทสฺเสตพฺพานิ โหนฺติ, เอวํ สพฺพกาลมฺปิ นิจฺจพฺยาวโฏ โหติ.

ยตฺถ นานาวิธํ สากปณฺณํ โหติ, ตตฺถสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ทิวาวิหารํ นิสินฺนสฺสาปิ สนฺติเก สากหาริกา คายมานา ปณฺณํ อุจฺจินนฺติโย วิสภาคสทฺทสงฺฆฏฺฏเนน กมฺมฏฺานนฺตรายํ กโรนฺติ.

ยตฺถ ปน นานาวิธา มาลาคจฺฉา สุปุปฺผิตา โหนฺติ, ตตฺราปิ ตาทิโสเยว อุปทฺทโว.

ยตฺถ นานาวิธํ อมฺพชมฺพุปนสาทิผลํ โหติ, ตตฺถ ผลตฺถิกา อาคนฺตฺวา ยาจนฺติ, อเทนฺตสฺส กุชฺฌนฺติ, พลกฺกาเรน วา คณฺหนฺติ, สายนฺหสมเย วิหารมชฺเฌ จงฺกมนฺเตน เต ทิสฺวา ‘‘กึ อุปาสกา เอวํ กโรถา’’ติ วุตฺตา ยถารุจิ อกฺโกสนฺติ. อวาสายปิสฺส ปรกฺกมนฺติ.

ปตฺถนีเย ปน เลณสมฺมเต ทกฺขิณคิริหตฺถิกุจฺฉิเจติยคิริจิตฺตลปพฺพตสทิเส วิหาเร วิหรนฺตํ อยมรหาติ สมฺภาเวตฺวา วนฺทิตุกามา มนุสฺสา สมนฺตา โอสรนฺติ, เตนสฺส น ผาสุ โหติ, ยสฺส ปน ตํ สปฺปายํ โหติ, เตน ทิวา อฺตฺร คนฺตฺวา รตฺตึ วสิตพฺพํ.

นครสนฺนิสฺสิเต วิสภาคารมฺมณานิ อาปาถมาคจฺฉนฺติ, กุมฺภทาสิโยปิ ฆเฏหิ นิฆํสนฺติโย คจฺฉนฺติ, โอกฺกมิตฺวา มคฺคํ น เทนฺติ, อิสฺสรมนุสฺสาปิ วิหารมชฺเฌ สาณึ ปริกฺขิปิตฺวา นิสีทนฺติ.

ทารุสนฺนิสฺสเย ปน ยตฺถ กฏฺานิ จ ทพฺพุปกรณรุกฺขา จ สนฺติ, ตตฺถ กฏฺหาริกา ปุพฺเพ วุตฺตสากปุปฺผหาริกา วิย อผาสุํ กโรนฺติ, วิหาเร รุกฺขา สนฺติ, เต ฉินฺทิตฺวา ฆรานิ กริสฺสามาติ มนุสฺสา อาคนฺตฺวา ฉินฺทนฺติ. สเจ สายนฺหสมยํ ปธานฆรา นิกฺขมิตฺวา วิหารมชฺเฌ จงฺกมนฺโต เต ทิสฺวา ‘‘กึ อุปาสกา เอวํ กโรถา’’ติ วทติ, ยถารุจิ อกฺโกสนฺติ, อวาสายปิสฺส ปรกฺกมนฺติ.

โย ปน เขตฺตสนฺนิสฺสิโต โหติ สมนฺตา เขตฺเตหิ ปริวาริโต, ตตฺถ มนุสฺสา วิหารมชฺเฌเยว ขลํ กตฺวา ธฺํ มทฺทนฺติ, ปมุเขสุ สยนฺติ, อฺมฺปิ พหุํ อผาสุํ กโรนฺติ. ยตฺราปิ มหาสงฺฆโภโค โหติ, อารามิกา กุลานํ คาโว รุนฺธนฺติ, อุทกวารํ ปฏิเสเธนฺติ, มนุสฺสา วีหิสีสํ คเหตฺวา ‘‘ปสฺสถ ตุมฺหากํ อารามิกานํ กมฺม’’นฺติ สงฺฆสฺส ทสฺเสนฺติ. เตน เตน การเณน ราชราชมหามตฺตานํ ฆรทฺวารํ คนฺตพฺพํ โหติ, อยมฺปิ เขตฺตสนฺนิสฺสิเตเนว สงฺคหิโต.

วิสภาคานํ ปุคฺคลานํ อตฺถิตาติ ยตฺถ อฺมฺํ วิสภาคเวรี ภิกฺขู วิหรนฺติ, เย กลหํ กโรนฺตา มา, ภนฺเต, เอวํ กโรถาติ วาริยมานา เอตสฺส ปํสุกูลิกสฺส อาคตกาลโต ปฏฺาย นฏฺามฺหาติ วตฺตาโร ภวนฺติ.

โยปิ อุทกปฏฺฏนํ วา ถลปฏฺฏนํ วา นิสฺสิโต โหติ, ตตฺถ อภิณฺหํ นาวาหิ จ สตฺเถหิ จ อาคตมนุสฺสา โอกาสํ เทถ, ปานียํ เทถ, โลณํ เทถาติ ฆฏฺฏยนฺตา อผาสุํ กโรนฺติ.

ปจฺจนฺตสนฺนิสฺสิเต ปน มนุสฺสา พุทฺธาทีสุ อปฺปสนฺนา โหนฺติ.

รชฺชสีมสนฺนิสฺสิเต ราชภยํ โหติ. ตฺหิ ปเทสํ เอโก ราชา น มยฺหํ วเส วตฺตตีติ ปหรติ, อิตโรปิ น มยฺหํ วเส วตฺตตีติ. ตตฺรายํ ภิกฺขุ กทาจิ อิมสฺส รฺโ วิชิเต วิจรติ, กทาจิ เอตสฺส. อถ นํ ‘‘จรปุริโส อย’’นฺติ มฺมานา อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ.

อสปฺปายตาติ วิสภาครูปาทิอารมฺมณสโมสรเณน วา อมนุสฺสปริคฺคหิตตาย วา อสปฺปายตา. ตตฺริทํ วตฺถุ. เอโก กิร เถโร อรฺเ วสติ. อถสฺส เอกา ยกฺขินี ปณฺณสาลทฺวาเร ตฺวา คายิ. โส นิกฺขมิตฺวา ทฺวาเร อฏฺาสิ, สา คนฺตฺวา จงฺกมนสีเส คายิ. เถโร จงฺกมนสีสํ อคมาสิ. สา สตโปริเส ปปาเต ตฺวา คายิ. เถโร ปฏินิวตฺติ. อถ นํ สา เวเคนาคนฺตฺวา คเหตฺวา ‘‘มยา, ภนฺเต, น เอโก น ทฺเว ตุมฺหาทิสา ขาทิตา’’ติ อาห.

กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภติ ยตฺถ น สกฺกา โหติ อาจริยํ วา อาจริยสมํ วา อุปชฺฌายํ วา อุปชฺฌายสมํ วา กลฺยาณมิตฺตํ ลทฺธุํ. ตตฺถ โส กลฺยาณมิตฺตานํ อลาโภ มหาโทโสเยวาติ อิเมสํ อฏฺารสนฺนํ โทสานํ อฺตเรน สมนฺนาคโต อนนุรูโปติ เวทิตพฺโพ. วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถาสุ –

มหาวาสํ นวาวาสํ, ชราวาสฺจ ปนฺถนึ;

โสณฺฑึ ปณฺณฺจ ปุปฺผฺจ, ผลํ ปตฺถิตเมว จ.

นครํ ทารุนา เขตฺตํ, วิสภาเคน ปฏฺฏนํ;

ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ, ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ.

อฏฺารเสตานิ านานิ, อิติ วิฺาย ปณฺฑิโต;

อารกา ปริวชฺเชยฺย, มคฺคํ สปฺปฏิภยํ ยถาติ.

อนุรูปวิหาโร

๕๓. โย ปน โคจรคามโต นาติทูรนาจฺจาสนฺนตาทีหิ ปฺจหงฺเคหิ สมนฺนาคโต, อยํ อนุรูโป นาม. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘กถฺจ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหติ? อิธ, ภิกฺขเว, เสนาสนํ นาติทูรํ โหติ นาจฺจาสนฺนํ คมนาคมนสมฺปนฺนํ, ทิวา อปฺปากิณฺณํ รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆสํ, อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺสํ, ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส อปฺปกสิเรเนว อุปฺปชฺชนฺติ จีวรปิณฺฑปาตเสนาสนคิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา. ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา ภิกฺขู วิหรนฺติ พหุสฺสุตา อาคตาคมา ธมฺมธรา วินยธรา มาติกาธรา, เต กาเลน กาลํ อุปสงฺกมิตฺวา ปริปุจฺฉติ ปริปฺหติ ‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ อิมสฺส โก อตฺโถ’ติ, ตสฺส เต อายสฺมนฺโต อวิวฏฺเจว วิวรนฺติ, อนุตฺตานีกตฺจ อุตฺตานีกโรนฺติ, อเนกวิหิเตสุ จ กงฺขฏฺานิเยสุ ธมฺเมสุ กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอวํ โข, ภิกฺขเว, เสนาสนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ โหตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑๑).

อยํ ‘‘สมาธิภาวนาย อนนุรูปํ วิหารํ ปหาย อนุรูเป วิหาเร วิหรนฺเตนา’’ติ เอตฺถ วิตฺถาโร.

ขุทฺทกปลิโพธา

๕๔. ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวาติ เอวํ ปติรูเป วิหาเร วิหรนฺเตน เยปิสฺส เต โหนฺติ ขุทฺทกปลิโพธา, เตปิ อุปจฺฉินฺทิตพฺพา. เสยฺยถิทํ, ทีฆานิ เกสนขโลมานิ ฉินฺทิตพฺพานิ. ชิณฺณจีวเรสุ ทฬฺหีกมฺมํ วา ตุนฺนกมฺมํ วา กาตพฺพํ. กิลิฏฺานิ วา รชิตพฺพานิ. สเจ ปตฺเต มลํ โหติ, ปตฺโต ปจิตพฺโพ. มฺจปีาทีนิ โสเธตพฺพานีติ. ‘‘อยํ ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา’’ติ เอตฺถ วิตฺถาโร.

ภาวนาวิธานํ

๕๕. อิทานิ สพฺพํ ภาวนาวิธานํ อปริหาเปนฺเตน ภาเวตพฺโพติ เอตฺถ อยํ ปถวีกสิณํ อาทึ กตฺวา สพฺพกมฺมฏฺานวเสน วิตฺถารกถา โหติ.

เอวํ อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน หิ ภิกฺขุนา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา ปวิวิตฺเต โอกาเส สุขนิสินฺเนน กตาย วา อกตาย วา ปถวิยา นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ปถวีกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต ปถวิยํ นิมิตฺตํ คณฺหาติ กเต วา อกเต วา สานฺตเก, โน อนนฺตเก, สโกฏิเย, โน อโกฏิเย, สวฏฺฏุเม, โน อวฏฺฏุเม, สปริยนฺเต, โน อปริยนฺเต, สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา. โส ตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กโรติ, สูปธาริตํ อุปธาเรติ, สุววตฺถิตํ ววตฺถเปติ. โส ตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กตฺวา สูปธาริตํ อุปธาเรตฺวา สุววตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา อานิสํสทสฺสาวี รตนสฺี หุตฺวา จิตฺตีการํ อุปฏฺเปตฺวา สมฺปิยายมาโน ตสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ ‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณมฺหา มุจฺจิสฺสามี’ติ. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.

ตตฺถ เยน อตีตภเวปิ สาสเน วา อิสิปพฺพชฺชาย วา ปพฺพชิตฺวา ปถวีกสิเณ จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺติตปุพฺพานิ, เอวรูปสฺส ปุฺวโต อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส อกตาย ปถวิยา กสิตฏฺาเน วา ขลมณฺฑเล วา นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, มลฺลกตฺเถรสฺส วิย. ตสฺส กิรายสฺมโต กสิตฏฺานํ โอโลเกนฺตสฺส ตํานปฺปมาณเมว นิมิตฺตํ อุทปาทิ. โส ตํ วฑฺเฒตฺวา ปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณิ.

โย ปเนวํ อกตาธิกาโร โหติ, เตน อาจริยสนฺติเก อุคฺคหิตกมฺมฏฺานวิธานํ อวิราเธตฺวา จตฺตาโร กสิณโทเส ปริหรนฺเตน กสิณํ กาตพฺพํ. นีลปีตโลหิตโอทาตสมฺเภทวเสน หิ จตฺตาโร ปถวีกสิณโทสา. ตสฺมา นีลาทิวณฺณํ มตฺติกํ อคฺคเหตฺวา คงฺคาวเห มตฺติกาสทิสาย อรุณวณฺณาย มตฺติกาย กสิณํ กาตพฺพํ. ตฺจ โข วิหารมชฺเฌ สามเณราทีนํ สฺจรณฏฺาเน น กาตพฺพํ. วิหารปจฺจนฺเต ปน ปฏิจฺฉนฺนฏฺาเน ปพฺภาเร วา ปณฺณสาลาย วา สํหาริมํ วา ตตฺรฏฺกํ วา กาตพฺพํ. ตตฺร สํหาริมํ จตูสุ ทณฺฑเกสุ ปิโลติกํ วา จมฺมํ วา กฏสารกํ วา พนฺธิตฺวา ตตฺถ อปนีตติณมูลสกฺขรกถลิกาย สุมทฺทิตาย มตฺติกาย วุตฺตปฺปมาณํ วฏฺฏํ ลิมฺเปตฺวา กาตพฺพํ. ตํ ปริกมฺมกาเล ภูมิยํ อตฺถริตฺวา โอโลเกตพฺพํ. ตตฺรฏฺกํ ภูมิยํ ปทุมกณฺณิกากาเรน ขาณุเก อาโกเฏตฺวา วลฺลีหิ วินนฺธิตฺวา กาตพฺพํ. ยทิ สา มตฺติกา นปฺปโหติ, อโธ อฺํ ปกฺขิปิตฺวา อุปริภาเค สุปริโสธิตาย อรุณวณฺณาย มตฺติกาย วิทตฺถิจตุรงฺคุลวิตฺถารํ วฏฺฏํ กาตพฺพํ. เอตเทว หิ ปมาณํ สนฺธาย ‘‘สุปฺปมตฺตํ วา สราวมตฺตํ วา’’ติ วุตฺตํ. ‘‘สานฺตเก โน อนนฺตเก’’ติอาทิ ปนสฺส ปริจฺเฉทตฺถาย วุตฺตํ.

๕๖. ตสฺมา เอวํ วุตฺตปฺปมาณปริจฺเฉทํ กตฺวา รุกฺขปาณิกา วิสภาควณฺณํ สมุฏฺเปติ. ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวา ปาสาณปาณิกาย ฆํเสตฺวา สมํ เภรีตลสทิสํ กตฺวา ตํ านํ สมฺมชฺชิตฺวา นฺหตฺวา อาคนฺตฺวา กสิณมณฺฑลโต อฑฺฒเตยฺยหตฺถนฺตเร ปเทเส ปฺตฺเต วิทตฺถิจตุรงฺคุลปาทเก สุอตฺถเต ปีเ นิสีทิตพฺพํ. ตโต ทูรตเร นิสินฺนสฺส หิ กสิณํ น อุปฏฺาติ, อาสนฺนตเร กสิณโทสา ปฺายนฺติ. อุจฺจตเร นิสินฺเนน คีวํ โอนมิตฺวา โอโลเกตพฺพํ โหติ, นีจตเร ชณฺณุกานิ รุชนฺติ. ตสฺมา วุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา’’ติอาทินา นเยน กาเมสุ อาทีนวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา กามนิสฺสรเณ สพฺพทุกฺขสมติกฺกมุปายภูเต เนกฺขมฺเม ชาตาภิลาเสน พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน ปีติปาโมชฺชํ ชนยิตฺวา ‘‘อยํ ทานิ สา สพฺพพุทฺธ ปจฺเจกพุทฺธ อริยสาวเกหิ ปฏิปนฺนา เนกฺขมฺมปฏิปทา’’ติ ปฏิปตฺติยา สฺชาตคารเวน ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ปวิเวกสุขรสสฺส ภาคี ภวิสฺสามี’’ติ อุสฺสาหํ ชนยิตฺวา สเมน อากาเรน จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา นิมิตฺตํ คณฺหนฺเตน ภาเวตพฺพํ.

อติอุมฺมีลยโต หิ จกฺขุ กิลมติ, มณฺฑลฺจ อติวิภูตํ โหติ, เตนสฺส นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ. อติมนฺทํ อุมฺมีลยโต มณฺฑลมวิภูตํ โหติ, จิตฺตฺจ ลีนํ โหติ, เอวมฺปิ นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ. ตสฺมา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตทสฺสินา วิย สเมนากาเรน จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา นิมิตฺตํ คณฺหนฺเตน ภาเวตพฺพํ, น วณฺโณ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ, น ลกฺขณํ มนสิกาตพฺพํ. อปิจ วณฺณํ อมุฺจิตฺวา นิสฺสยสวณฺณํ กตฺวา อุสฺสทวเสน ปณฺณตฺติธมฺเม จิตฺตํ ปฏฺเปตฺวา มนสิ กาตพฺพํ. ปถวี มหี, เมทินี, ภูมิ, วสุธา, วสุนฺธราติอาทีสุ ปถวีนาเมสุ ยมิจฺฉติ, ยทสฺส สฺานุกูลํ โหติ, ตํ วตฺตพฺพํ. อปิจ ปถวีติ เอตเทว นามํ ปากฏํ, ตสฺมา ปากฏวเสเนว ปถวี ปถวีติ ภาเวตพฺพํ. กาเลน อุมฺมีเลตฺวา กาเลน นิมีเลตฺวา อาวชฺชิตพฺพํ. ยาว อุคฺคหนิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ, ตาว กาลสตมฺปิ กาลสหสฺสมฺปิ ตโต ภิยฺโยปิ เอเตเนว นเยน ภาเวตพฺพํ.

๕๗. ตสฺเสวํ ภาวยโต ยทา นิมีเลตฺวา อาวชฺชนฺตสฺส อุมฺมีลิตกาเล วิย อาปาถมาคจฺฉติ, ตทา อุคฺคหนิมิตฺตํ ชาตํ นาม โหติ. ตสฺส ชาตกาลโต ปฏฺาย น ตสฺมึ าเน นิสีทิตพฺพํ. อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา ตตฺถ นิสินฺเนน ภาเวตพฺพํ. ปาทโธวนปปฺจปริหารตฺถํ ปนสฺส เอกปฏลิกุปาหนา จ กตฺตรทณฺโฑ จ อิจฺฉิตพฺโพ. อถาเนน สเจ ตรุโณ สมาธิ เกนจิเทว อสปฺปายการเณน นสฺสติ, อุปาหนา อารุยฺห กตฺตรทณฺฑํ คเหตฺวา ตํ านํ คนฺตฺวา นิมิตฺตํ อาทาย อาคนฺตฺวา สุขนิสินฺเนน ภาเวตพฺพํ, ปุนปฺปุนํ สมนฺนาหริตพฺพํ, ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กาตพฺพํ. ตสฺเสวํ กโรนฺตสฺส อนุกฺกเมน นีวรณานิ วิกฺขมฺภนฺติ, กิเลสา สนฺนิสีทนฺติ, อุปจารสมาธินา จิตฺตํ สมาธิยติ, ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ.

ตตฺรายํ ปุริมสฺส จ อุคฺคหนิมิตฺตสฺส อิมสฺส จ วิเสโส, อุคฺคหนิมิตฺเต กสิณโทโส ปฺายติ, ปฏิภาคนิมิตฺตํ ถวิกโต นิหตาทาสมณฺฑลํ วิย สุโธตสงฺขถาลํ วิย วลาหกนฺตรา นิกฺขนฺตจนฺทมณฺฑลํ วิย เมฆมุเข พลากา วิย อุคฺคหนิมิตฺตํ ปทาเลตฺวา นิกฺขนฺตมิว ตโต สตคุณํ สหสฺสคุณํ สุปริสุทฺธํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ตฺจ โข เนว วณฺณวนฺตํ, น สณฺานวนฺตํ. ยทิ หิ ตํ อีทิสํ ภเวยฺย, จกฺขุวิฺเยฺยํ สิยา โอฬาริกํ สมฺมสนุปคํ ติลกฺขณพฺภาหตํ, น ปเนตํ ตาทิสํ. เกวลฺหิ สมาธิลาภิโน อุปฏฺานาการมตฺตํ สฺชเมตนฺติ.

๕๘. อุปฺปนฺนกาลโต จ ปนสฺส ปฏฺาย นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ, กิเลสา สนฺนิสินฺนาว, อุปจารสมาธินา จิตฺตํ สมาหิตเมวาติ.

ทุวิโธ หิ สมาธิ อุปจารสมาธิ จ อปฺปนาสมาธิ จ. ทฺวีหากาเรหิ จิตฺตํ สมาธิยติ อุปจารภูมิยํ วา ปฏิลาภภูมิยํ วา. ตตฺถ อุปจารภูมิยํ นีวรณปฺปหาเนน จิตฺตํ สมาหิตํ โหติ. ปฏิลาภภูมิยํ องฺคปาตุภาเวน.

ทฺวินฺนํ ปน สมาธีนํ อิทํ นานาการณํ, อุปจาเร องฺคานิ น ถามชาตานิ โหนฺติ, องฺคานํ อถามชาตตฺตา, ยถา นาม ทหโร กุมารโก อุกฺขิปิตฺวา ปิยมาโน ปุนปฺปุนํ ภูมิยํ ปตติ, เอวเมว อุปจาเร อุปฺปนฺเน จิตฺตํ กาเลน นิมิตฺตมารมฺมณํ กโรติ, กาเลน ภวงฺคโมตรติ. อปฺปนายํ ปน องฺคานิ ถามชาตานิ โหนฺติ, เตสํ ถามชาตตฺตา, ยถา นาม พลวา ปุริโส อาสนา วุฏฺาย ทิวสมฺปิ ติฏฺเยฺย, เอวเมว อปฺปนาสมาธิมฺหิ อุปฺปนฺเน จิตฺตํ สกึ ภวงฺควารํ ฉินฺทิตฺวา เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวสํ ติฏฺติ, กุสลชวนปฏิปาฏิวเสเนว ปวตฺตตีติ.

ตตฺร ยเทตํ อุปจารสมาธินา สทฺธึ ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส อุปฺปาทนํ นาม อติทุกฺกรํ. ตสฺมา สเจ เตเนว ปลฺลงฺเกน ตํ นิมิตฺตํ วฑฺเฒตฺวา อปฺปนํ อธิคนฺตุํ สกฺโกติ, สุนฺทรํ. โน เจ สกฺโกติ, อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ อปฺปมตฺเตน จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย รกฺขิตพฺพํ. เอวฺหิ –

นิมิตฺตํ รกฺขโต ลทฺธ-ปริหานิ น วิชฺชติ;

อารกฺขมฺหิ อสนฺตมฺหิ, ลทฺธํ ลทฺธํ วินสฺสติ.

สตฺตสปฺปายา

๕๙. ตตฺรายํ รกฺขณวิธิ –

อาวาโส โคจโร ภสฺสํ, ปุคฺคโล โภชนํ อุตุ;

อิริยาปโถติ สตฺเตเต, อสปฺปาเย วิวชฺชเย.

สปฺปาเย สตฺต เสเวถ, เอวฺหิ ปฏิปชฺชโต;

นจิเรเนว กาเลน, โหติ กสฺสจิ อปฺปนา.

ตตฺรสฺส ยสฺมึ อาวาเส วสนฺตสฺส อนุปฺปนฺนํ วา นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนํ วา วินสฺสติ, อนุปฏฺิตา จ สติ น อุปฏฺาติ, อสมาหิตฺจ จิตฺตํ น สมาธิยติ, อยํ อสปฺปาโย. ยตฺถ นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ เจว ถาวรฺจ โหติ , สติ อุปฏฺาติ, จิตฺตํ สมาธิยติ นาคปพฺพตวาสีปธานิยติสฺสตฺเถรสฺส วิย, อยํ สปฺปาโย. ตสฺมา ยสฺมึ วิหาเร พหู อาวาสา โหนฺติ, ตตฺถ เอกเมกสฺมึ ตีณิ ตีณิ ทิวสานิ วสิตฺวา ยตฺถสฺส จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, ตตฺถ วสิตพฺพํ. อาวาสสปฺปายตาย หิ ตมฺพปณฺณิทีปมฺหิ จูฬนาคเลเณ วสนฺตา ตตฺเถว กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา ปฺจสตา ภิกฺขู อรหตฺตํ ปาปุณึสุ. โสตาปนฺนาทีนํ ปน อฺตฺถ อริยภูมึ ปตฺวา ตตฺถ อรหตฺตปฺปตฺตานฺจ คณนา นตฺถิ. เอวมฺเสุปิ จิตฺตลปพฺพตวิหาราทีสุ.

โคจรคาโม ปน โย เสนาสนโต อุตฺตเรน วา ทกฺขิเณน วา นาติทูเร ทิยฑฺฒโกสพฺภนฺตเร โหติ สุลภสมฺปนฺนภิกฺโข, โส สปฺปาโย. วิปรีโต อสปฺปาโย.

ภสฺสนฺติ ทฺวตฺตึสติรจฺฉานกถาปริยาปนฺนํ อสปฺปายํ, ตฺหิสฺส นิมิตฺตนฺตรธานาย สํวตฺตติ. ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตํ สปฺปายํ, ตมฺปิ มตฺตาย ภาสิตพฺพํ.

ปุคฺคโลปิ อติรจฺฉานกถิโก สีลาทิคุณสมฺปนฺโน, ยํ นิสฺสาย อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตํ วา จิตฺตํ ถิรตรํ โหติ, เอวรูโป สปฺปาโย. กายทฬฺหีพหุโล ปน ติรจฺฉานกถิโก อสปฺปาโย. โส หิ ตํ กทฺทโมทกมิว อจฺฉํ อุทกํ มลีนเมว กโรติ, ตาทิสฺจ อาคมฺม โกฏปพฺพตวาสีทหรสฺเสว สมาปตฺติปิ นสฺสติ, ปเคว นิมิตฺตํ.

โภชนํ ปน กสฺสจิ มธุรํ, กสฺสจิ อมฺพิลํ สปฺปายํ โหติ. อุตุปิ กสฺสจิ สีโต, กสฺสจิ อุณฺโห สปฺปาโย โหติ. ตสฺมา ยํ โภชนํ วา อุตุํ วา เสวนฺตสฺส ผาสุ โหติ, อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตํ วา ถิรตรํ โหติ, ตํ โภชนํ โส จ อุตุ สปฺปาโย. อิตรํ โภชนํ อิตโร จ อุตุ อสปฺปาโย.

อิริยาปเถสุปิ กสฺสจิ จงฺกโม สปฺปาโย โหติ, กสฺสจิ สยนฏฺานนิสชฺชานํ อฺตโร. ตสฺมา ตํ อาวาสํ วิย ตีณิ ทิวสานิ อุปปริกฺขิตฺวา ยสฺมึ อิริยาปเถ อสมาหิตํ วา จิตฺตํ สมาธิยติ, สมาหิตํ วา ถิรตรํ โหติ, โส สปฺปาโย. อิตโร อสปฺปาโยติ เวทิตพฺโพ.

อิติ อิมํ สตฺตวิธํ อสปฺปายํ วชฺเชตฺวา สปฺปายํ เสวิตพฺพํ. เอวํ ปฏิปนฺนสฺส หิ นิมิตฺตาเสวนพหุลสฺส นจิเรเนว กาเลน โหติ กสฺสจิ อปฺปนา.

ทสวิธอปฺปนาโกสลฺลํ

๖๐. ยสฺส ปน เอวมฺปิ ปฏิปชฺชโต น โหติ, เตน ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ. ตตฺรายํ นโย, ทสาหากาเรหิ อปฺปนาโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพํ, วตฺถุวิสทกิริยโต, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนโต, นิมิตฺตกุสลโต, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ, ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนโต, สมาหิตปุคฺคลเสวนโต, ตทธิมุตฺตโตติ.

๖๑. ตตฺถ วตฺถุวิสทกิริยา นาม อชฺฌตฺติกพาหิรานํ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณํ. ยทา หิสฺส เกสนขโลมานิ ทีฆานิ โหนฺติ, สรีรํ วา เสทมลคฺคหิตํ, ตทา อชฺฌตฺติกวตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. ยทา ปนสฺส จีวรํ ชิณฺณํ กิลิฏฺํ ทุคฺคนฺธํ โหติ, เสนาสนํ วา อุกฺลาปํ โหติ, ตทา พาหิรวตฺถุ อวิสทํ โหติ อปริสุทฺธํ. อชฺฌตฺติกพาหิเร จ วตฺถุมฺหิ อวิสเท อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหติ, อปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. อปริสุทฺเธน าเณน สงฺขาเร สมฺมสโต สงฺขาราปิ อวิภูตา โหนฺติ, กมฺมฏฺานมนุยุฺชโต กมฺมฏฺานมฺปิ วุฑฺฒึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ น คจฺฉติ. วิสเท ปน อชฺฌตฺติกพาหิเร วตฺถุมฺหิ อุปฺปนฺเนสุ จิตฺตเจตสิเกสุ าณมฺปิ วิสทํ โหติ ปริสุทฺธํ, ปริสุทฺธานิ ทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนทีปสิขาย โอภาโส วิย. ปริสุทฺเธน จ าเณน สงฺขาเร สมฺมสโต สงฺขาราปิ วิภูตา โหนฺติ, กมฺมฏฺานมนุยุฺชโต กมฺมฏฺานมฺปิ วุฑฺฒึ วิรูฬฺหึ เวปุลฺลํ คจฺฉติ.

๖๒. อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนํ นาม สทฺธาทีนํ อินฺทฺริยานํ สมภาวกรณํ. สเจ หิสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ อิตรานิ มนฺทานิ, ตโต วีริยินฺทฺริยํ ปคฺคหกิจฺจํ , สตินฺทฺริยํ อุปฏฺานกิจฺจํ, สมาธินฺทฺริยํ อวิกฺเขปกิจฺจํ, ปฺินฺทฺริยํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ, ตสฺมา ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน วา ยถา วา มนสิกโรโต พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน หาเปตพฺพํ. วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสนํ. สเจ ปน วีริยินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, อถ เนว สทฺธินฺทฺริยํ อธิโมกฺขกิจฺจํ กาตุํ สกฺโกติ, น อิตรานิ อิตรกิจฺจเภทํ, ตสฺมา ตํ ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพํ. ตตฺราปิ โสณตฺเถรวตฺถุ ทสฺเสตพฺพํ. เอวํ เสเสสุปิ เอกสฺส พลวภาเว สติ อิตเรสํ อตฺตโน กิจฺเจสุ อสมตฺถตา เวทิตพฺพา. วิเสสโต ปเนตฺถ สทฺธาปฺานํ สมาธิวีริยานฺจ สมตํ ปสํสนฺติ. พลวสทฺโธ หิ มนฺทปฺโ มุทฺธปฺปสนฺโน โหติ, อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ. พลวปฺโ มนฺทสทฺโธ เกราฏิกปกฺขํ ภชติ, เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหติ. อุภินฺนํ สมตาย วตฺถุสฺมึเยว ปสีทติ. พลวสมาธึ ปน มนฺทวีริยํ สมาธิสฺส โกสชฺชปกฺขตฺตา โกสชฺชํ อภิภวติ. พลววีริยํ มนฺทสมาธึ วีริยสฺส อุทฺธจฺจปกฺขตฺตา อุทฺธจฺจํ อภิภวติ. สมาธิ ปน วีริเยน สํโยชิโต โกสชฺเช ปติตุํ น ลภติ. วีริยํ สมาธินา สํโยชิตํ อุทฺธจฺเจ ปติตุํ น ลภติ, ตสฺมา ตทุภยํ สมํ กาตพฺพํ. อุภยสมตาย หิ อปฺปนา โหติ. อปิจ สมาธิกมฺมิกสฺส พลวตีปิ สทฺธา วฏฺฏติ. เอวํ สทฺทหนฺโต โอกปฺเปนฺโต อปฺปนํ ปาปุณิสฺสติ. สมาธิปฺาสุ ปน สมาธิกมฺมิกสฺส เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส อปฺปนํ ปาปุณาติ. วิปสฺสนากมฺมิกสฺส ปฺา พลวตี วฏฺฏติ. เอวฺหิ โส ลกฺขณปฏิเวธํ ปาปุณาติ. อุภินฺนํ ปน สมตายปิ อปฺปนา โหติเยว. สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏติ. สติ หิ จิตฺตํ อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สทฺธาวีริยปฺานํ วเสน อุทฺธจฺจปาตโต โกสชฺชปกฺเขน จ สมาธินา โกสชฺชปาตโต รกฺขติ, ตสฺมา สา โลณธูปนํ วิย สพฺพพฺยฺชเนสุ, สพฺพกมฺมิกอมจฺโจ วิย จ สพฺพราชกิจฺเจสุ สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพา. เตนาห – ‘‘สติ จ ปน สพฺพตฺถิกา วุตฺตา ภควตา. กึ การณา? จิตฺตฺหิ สติปฏิสรณํ, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา จ สติ, น วินา สติยา จิตฺตสฺส ปคฺคหนิคฺคโห โหตี’’ติ.

๖๓. นิมิตฺตโกสลฺลํ นาม ปถวีกสิณาทิกสฺส จิตฺเตกคฺคตานิมิตฺตสฺส อกตสฺส กรณโกสลฺลํ, กตสฺส จ ภาวนาโกสลฺลํ, ภาวนาย ลทฺธสฺส รกฺขณโกสลฺลฺจ, ตํ อิธ อธิปฺเปตํ.

๖๔. กถฺจ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ? ยทาสฺส อติสิถิลวีริยตาทีหิ ลีนํ จิตฺตํ โหติ, ตทา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, อลฺลานิ จ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, อลฺลานิ จ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, อุทกวาตฺจ ทเทยฺย, ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ? โน เหตํ, ภนฺเต. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, อกาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, อกาโล สมาธิ…เป… อกาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ ทุสมุฏฺาปยํ โหติ. ยสฺมึ จ โข, ภิกฺขเว, ลีนํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? ลีนํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุสมุฏฺาปยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ จ โคมยานิ ปกฺขิเปยฺย, สุกฺขานิ จ กฏฺานิ ปกฺขิเปยฺย, มุขวาตฺจ ทเทยฺย, น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส, ภิกฺขเว, ปุริโส ปริตฺตํ อคฺคึ อุชฺชาเลตุนฺติ? เอวํ ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

เอตฺถ จ ยถาสกมาหารวเสน ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กุสลากุสลา ธมฺมา สาวชฺชานวชฺชา ธมฺมา หีนปฺปณีตา ธมฺมา กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโส มนสิการพหุลีกาโร, อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย อุปฺปนฺนสฺส วา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อารมฺภธาตุ นิกฺกมธาตุ ปรกฺกมธาตุ. ตตฺถ โยนิโส มนสิการพหุลีกาโร, อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย อุปฺปนฺนสฺส วา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโส มนสิการพหุลีกาโร, อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย อุปฺปนฺนสฺส วา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตตฺถ สภาวสามฺลกฺขณปฏิเวธวเสน ปวตฺตมนสิกาโร กุสลาทีสุ โยนิโส มนสิกาโร นาม. อารมฺภธาตุอาทีนํ อุปฺปาทนวเสน ปวตฺตมนสิกาโร อารมฺภธาตุอาทีสุ โยนิโส มนสิกาโร นาม. ตตฺถ อารมฺภธาตูติ ปมวีริยํ วุจฺจติ. นิกฺกมธาตูติ โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตรํ. ปรกฺกมธาตูติ ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตรํ. ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา ธมฺมาติ ปน ปีติยา เอว เอตํ นามํ. ตสฺสาปิ อุปฺปาทกมนสิกาโรว โยนิโส มนสิกาโร นาม.

อปิจ สตฺต ธมฺมา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ ปริปุจฺฉกตา, วตฺถุวิสทกิริยา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา, ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา, ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา, คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณา, ตทธิมุตฺตตาติ.

เอกาทสธมฺมา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ อปายาทิภยปจฺจเวกฺขณตา, วีริยายตฺตโลกิยโลกุตฺตรวิเสสาธิคมานิสํสทสฺสิตา, ‘‘พุทฺธปจฺเจกพุทฺธมหาสาวเกหิ คตมคฺโค มยา คนฺตพฺโพ, โส จ น สกฺกา กุสีเตน คนฺตุ’’นฺติ เอวํ คมนวีถิปจฺจเวกฺขณตา, ทายกานํ มหปฺผลภาวกรเณน ปิณฺฑาปจายนตา, ‘‘วีริยารมฺภสฺส วณฺณวาที เม สตฺถา, โส จ อนติกฺกมนียสาสโน อมฺหากฺจ พหูปกาโร ปฏิปตฺติยา จ ปูชิยมาโน ปูชิโต โหติ น อิตรถา’’ติ เอวํ สตฺถุ มหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, ‘‘สทฺธมฺมสงฺขาตํ เม มหาทายชฺชํ คเหตพฺพํ, ตฺจ น สกฺกา กุสีเตน คเหตุ’’นฺติ เอวํ ทายชฺชมหตฺตปจฺจเวกฺขณตา, อาโลกสฺามนสิการอิริยาปถปริวตฺตนอพฺโภกาสเสวนาทีหิ ถินมิทฺธวิโนทนตา, กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตา, อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตา, สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

เอกาทสธมฺมา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ พุทฺธานุสฺสติ, ธมฺม… สงฺฆ… สีล… จาค… เทวตานุสฺสติ, อุปสมานุสฺสติ, ลูขปุคฺคลปริวชฺชนตา, สินิทฺธปุคฺคลเสวนตา, ปสาทนิยสุตฺตนฺตปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ. อิติ อิเมหิ อากาเรหิ เอเต ธมฺเม อุปฺปาเทนฺโต ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ นาม. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ.

๖๕. กถํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ? ยทาสฺส อจฺจารทฺธวีริยตาทีหิ อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, ตทา ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ตโย อภาเวตฺวา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ สุกฺขานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย…เป… น จ ปํสุเกน โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ? โน เหตํ, ภนฺเต. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, อกาโล ตสฺมึ สมเย ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, อกาโล วีริย…เป… อกาโล ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ ทุวูปสมยํ โหติ. ยสฺมึ จ โข, ภิกฺขเว, สมเย อุทฺธตํ จิตฺตํ โหติ, กาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย, กาโล อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนาย. ตํ กิสฺส เหตุ? อุทฺธตํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตํ เอเตหิ ธมฺเมหิ สุวูปสมยํ โหติ. เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุกาโม อสฺส, โส ตตฺถ อลฺลานิ เจว ติณานิ ปกฺขิเปยฺย…เป… ปํสุเกน จ โอกิเรยฺย, ภพฺโพ นุ โข โส, ภิกฺขเว, ปุริโส มหนฺตํ อคฺคิกฺขนฺธํ นิพฺพาเปตุนฺติ? เอวํ, ภนฺเต’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔).

เอตฺถาปิ ยถาสกํ อาหารวเสน ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีนํ ภาวนา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา –

‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กายปสฺสทฺธิ จิตฺตปสฺสทฺธิ. ตตฺถ โยนิโส มนสิการพหุลีกาโร, อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย อุปฺปนฺนสฺส วา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, สมถนิมิตฺตํ อพฺยคฺคนิมิตฺตํ. ตตฺถ โยนิโส มนสิการพหุลีกาโร, อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย อุปฺปนฺนสฺส วา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา ธมฺมา. ตตฺถ โยนิโส มนสิการพหุลีกาโร, อยมาหาโร อนุปฺปนฺนสฺส วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย อุปฺปนฺนสฺส วา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภิยฺโยภาวาย เวปุลฺลาย ภาวนาย ปาริปูริยา สํวตฺตตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๒).

ตตฺถ ยถาสฺส ปสฺสทฺธิอาทโย อุปฺปนฺนปุพฺพา, ตํ อาการํ สลฺลกฺเขตฺวา เตสํ อุปฺปาทนวเสน ปวตฺตมนสิกาโรว ตีสุปิ ปเทสุ โยนิโส มนสิกาโร นาม. สมถนิมิตฺตนฺติ จ สมถสฺเสเวตมธิวจนํ. อวิกฺเขปฏฺเน จ ตสฺเสว อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ.

อปิจ สตฺต ธมฺมา ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ ปณีตโภชนเสวนตา, อุตุสุขเสวนตา, อิริยาปถสุขเสวนตา, มชฺฌตฺตปโยคตา, สารทฺธกายปุคฺคลปริวชฺชนตา, ปสฺสทฺธกายปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

เอกาทส ธมฺมา สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ วตฺถุวิสทตา, นิมิตฺตกุสลตา, อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนตา, สมเย จิตฺตสฺส นิคฺคหณตา, สมเย จิตฺตสฺส ปคฺคหณตา , นิรสฺสาทสฺส จิตฺตสฺส สทฺธาสํเวควเสน สมฺปหํสนตา, สมฺมาปวตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนตา, อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา, สมาหิตปุคฺคลเสวนตา, ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตา, ตทธิมุตฺตตาติ.

ปฺจ ธมฺมา อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทาย สํวตฺตนฺติ สตฺตมชฺฌตฺตตา, สงฺขารมชฺฌตฺตตา, สตฺตสงฺขารเกลายนปุคฺคลปริวชฺชนตา, สตฺตสงฺขารมชฺฌตฺตปุคฺคลเสวนตา, ตทธิมุตฺตตาติ. อิติ อิเมหากาเรหิ เอเต ธมฺเม อุปฺปาเทนฺโต ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวติ นาม. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ.

๖๖. กถํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ? ยทาสฺส ปฺาปโยคมนฺทตาย วา อุปสมสุขานธิคเมน วา นิรสฺสาทํ จิตฺตํ โหติ, ตทา นํ อฏฺสํเวควตฺถุปจฺจเวกฺขเณน สํเวเชติ. อฏฺ สํเวควตฺถูนิ นาม ชาติชราพฺยาธิมรณานิ จตฺตาริ, อปายทุกฺขํ ปฺจมํ, อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกํ ทุกฺขนฺติ. พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน จสฺส ปสาทํ ชเนติ. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ.

กถํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ? ยทาสฺส เอวํ ปฏิปชฺชโต อลีนํ อนุทฺธตํ อนิรสฺสาทํ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ สมถวีถิปฏิปนฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตทาสฺส ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ น พฺยาปารํ อาปชฺชติ, สารถิ วิย สมปฺปวตฺเตสุ อสฺเสสุ. เอวํ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ.

อสมาหิตปุคฺคลปริวชฺชนตา นาม เนกฺขมฺมปฏิปทํ อนารุฬฺหปุพฺพานํ อเนกกิจฺจปสุตานํ วิกฺขิตฺตหทยานํ ปุคฺคลานํ อารกา ปริจฺจาโค.

สมาหิตปุคฺคลเสวนตา นาม เนกฺขมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺนานํ สมาธิลาภีนํ ปุคฺคลานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํ.

ตทธิมุตฺตตา นาม สมาธิอธิมุตฺตตา สมาธิครุสมาธินินฺนสมาธิโปณสมาธิปพฺภารตาติ อตฺโถ.

เอวเมตํ ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ.

๖๗.

เอวฺหิ สมฺปาทยโต, อปฺปนาโกสลฺลํ อิมํ;

ปฏิลทฺเธ นิมิตฺตสฺมึ, อปฺปนา สมฺปวตฺตติ.

เอวฺหิ ปฏิปนฺนสฺส, สเจ สา นปฺปวตฺตติ;

ตถาปิ น ชเห โยคํ, วายเมเถว ปณฺฑิโต.

หิตฺวา หิ สมฺมาวายามํ, วิเสสํ นาม มาณโว;

อธิคจฺเฉ ปริตฺตมฺปิ, านเมตํ น วิชฺชติ.

จิตฺตปฺปวตฺติอาการํ, ตสฺมา สลฺลกฺขยํ พุโธ;

สมตํ วีริยสฺเสว, โยชเยถ ปุนปฺปุนํ.

อีสกมฺปิ ลยํ ยนฺตํ, ปคฺคณฺเหเถว มานสํ;

อจฺจารทฺธํ นิเสเธตฺวา, สมเมว ปวตฺตเย.

เรณุมฺหิ อุปฺปลทเล, สุตฺเต นาวาย นาฬิยา;

ยถา มธุกราทีนํ, ปวตฺติ สมฺมวณฺณิตา.

ลีนอุทฺธตภาเวหิ, โมจยิตฺวาน สพฺพโส;

เอวํ นิมิตฺตาภิมุขํ, มานสํ ปฏิปาทเยติ.

นิมิตฺตาภิมุขปฏิปาทนํ

๖๘. ตตฺรายมตฺถทีปนา – ยถา หิ อเฉโก มธุกโร อสุกสฺมึ รุกฺเข ปุปฺผํ ปุปฺผิตนฺติ ตฺวา ติกฺเขน เวเคน ปกฺขนฺโท ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฏินิวตฺเตนฺโต ขีเณ เรณุมฺหิ สมฺปาปุณาติ. อปโร อเฉโก มนฺเทน ชเวน ปกฺขนฺโท ขีเณเยว สมฺปาปุณาติ. เฉโก ปน สเมน ชเวน ปกฺขนฺโท สุเขน ปุปฺผราสึ สมฺปตฺวา ยาวทิจฺฉกํ เรณุํ อาทาย มธุํ สมฺปาเทตฺวา มธุรสมนุภวติ.

ยถา จ สลฺลกตฺตอนฺเตวาสิเกสุ อุทกถาลคเต อุปฺปลปตฺเต สตฺถกมฺมํ สิกฺขนฺเตสุ เอโก อเฉโก เวเคน สตฺถํ ปาเตนฺโต อุปฺปลปตฺตํ ทฺวิธา วา ฉินฺทติ, อุทเก วา ปเวเสติ. อปโร อเฉโก ฉิชฺชนปเวสนภยา สตฺถเกน ผุสิตุมฺปิ น วิสหติ. เฉโก ปน สเมน ปโยเคน ตตฺถ สตฺถปหารํ ทสฺเสตฺวา ปริโยทาตสิปฺโป หุตฺวา ตถารูเปสุ าเนสุ กมฺมํ กตฺวา ลาภํ ลภติ.

ยถา จ โย จตุพฺยามปฺปมาณํ มกฺกฏสุตฺตมาหรติ, โส จตฺตาริ สหสฺสานิ ลภตีติ รฺา วุตฺเต เอโก อเฉกปุริโส เวเคน มกฺกฏสุตฺตมากฑฺฒนฺโต ตหึ ตหึ ฉินฺทติเยว. อปโร อเฉโก เฉทนภยา หตฺเถน ผุสิตุมฺปิ น วิสหติ. เฉโก ปน โกฏิโต ปฏฺาย สเมน ปโยเคน ทณฺฑเก เวเธตฺวา อาหริตฺวา ลาภํ ลภติ.

ยถา จ อเฉโก นิยามโก พลววาเต ลงฺการํ ปูเรนฺโต นาวํ วิเทสํ ปกฺขนฺทาเปติ. อปโร อเฉโก มนฺทวาเต ลงฺการํ โอโรเปนฺโต นาวํ ตตฺเถว เปติ. เฉโก ปน มนฺทวาเต ลงฺการํ ปูเรตฺวา พลววาเต อฑฺฒลงฺการํ กตฺวา โสตฺถินา อิจฺฉิตฏฺานํ ปาปุณาติ.

ยถา จ โย เตเลน อฉฑฺเฑนฺโต นาฬึ ปูเรติ, โส ลาภํ ลภตีติ อาจริเยน อนฺเตวาสิกานํ วุตฺเต เอโก อเฉโก ลาภลุทฺโธ เวเคน ปูเรนฺโต เตลํ ฉฑฺเฑติ. อปโร อเฉโก เตลฉฑฺฑนภยา อาสิฺจิตุมฺปิ น วิสหติ. เฉโก ปน สเมน ปโยเคน ปูเรตฺวา ลาภํ ลภติ.

เอวเมว เอโก ภิกฺขุ อุปฺปนฺเน นิมิตฺเต สีฆเมว อปฺปนํ ปาปุณิสฺสามีติ คาฬฺหํ วีริยํ กโรติ, ตสฺส จิตฺตํ อจฺจารทฺธวีริยตฺตา อุทฺธจฺเจ ปตติ, โส น สกฺโกติ อปฺปนํ ปาปุณิตุํ. เอโก อจฺจารทฺธวีริยตาย โทสํ ทิสฺวา กึ ทานิเม อปฺปนายาติ วีริยํ หาเปติ, ตสฺส จิตฺตํ อติลีนวีริยตฺตา โกสชฺเช ปตติ, โสปิ น สกฺโกติ อปฺปนํ ปาปุณิตุํ. โย ปน อีสกมฺปิ ลีนํ ลีนภาวโต อุทฺธตํ อุทฺธจฺจโต โมเจตฺวา สเมน ปโยเคน นิมิตฺตาภิมุขํ ปวตฺเตติ, โส อปฺปนํ ปาปุณาติ, ตาทิเสน ภวิตพฺพํ. อิมมตฺถํ สนฺธาย เอตํ วุตฺตํ –

เรณุมฺหิ อุปฺปลทเล, สุตฺเต นาวาย นาฬิยา;

ยถา มธุกราทีนํ, ปวตฺติ สมฺมวณฺณิตา.

ลีนอุทฺธตภาเวหิ , โมจยิตฺวาน สพฺพโส;

เอวํ นิมิตฺตาภิมุขํ, มานสํ ปฏิปาทเยติ.

ปมชฺฌานกถา

๖๙. อิติ เอวํ นิมิตฺตาภิมุขํ มานสํ ปฏิปาทยโต ปนสฺส อิทานิ อปฺปนา อิชฺฌิสฺสตีติ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ปถวี ปถวีติ อนุโยควเสน อุปฏฺิตํ ตเทว ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนมุปฺปชฺชติ. ตโต ตสฺมึเยวารมฺมเณ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ. เตสุ อวสาเน เอกํ รูปาวจรํ, เสสานิ กามาวจรานิ. ปกติจิตฺเตหิ พลวตรวิตกฺกวิจารปีติสุขจิตฺเตกคฺคตานิ ยานิ อปฺปนาย ปริกมฺมตฺตา ปริกมฺมานีติปิ, ยถา คามาทีนํ อาสนฺนปเทโส คามูปจาโร นครูปจาโรติ วุจฺจติ, เอวํ อปฺปนาย อาสนฺนตฺตา สมีปจารตฺตา วา อุปจารานีติปิ, อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมานํ, อุปริ อปฺปนาย จ อนุโลมโต อนุโลมานีติปิ วุจฺจนฺติ. ยฺเจตฺถ สพฺพนฺติมํ, ตํ ปริตฺตโคตฺตาภิภวนโต, มหคฺคตโคตฺตภาวนโต จ โคตฺรภูติปิ วุจฺจติ. อคหิตคฺคหเณน ปเนตฺถ ปมํ ปริกมฺมํ, ทุติยํ อุปจารํ, ตติยํ อนุโลมํ, จตุตฺถํ โคตฺรภุ. ปมํ วา อุปจารํ, ทุติยํ อนุโลมํ, ตติยํ โคตฺรภุ, จตุตฺถํ ปฺจมํ วา อปฺปนาจิตฺตํ. จตุตฺถเมว หิ ปฺจมํ วา อปฺเปติ, ตฺจ โข ขิปฺปาภิฺทนฺธาภิฺวเสน. ตโต ปรํ ชวนํ ปตติ. ภวงฺคสฺส วาโร โหติ.

อาภิธมฺมิกโคทตฺตตฺเถโร ปน ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา ปจฺฉิมานํ ปจฺฉิมานํ กุสลานํ ธมฺมานํ อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๒) อิมํ สุตฺตํ วตฺวา อาเสวนปจฺจเยน ปจฺฉิโม ปจฺฉิโม ธมฺโม พลวา โหติ, ตสฺมา ฉฏฺเปิ สตฺตเมปิ อปฺปนา โหตีติ อาห, ตํ อฏฺกถาสุ ‘‘อตฺตโน มติมตฺตํ เถรสฺเสต’’นฺติ วตฺวา ปฏิกฺขิตฺตํ. จตุตฺถปฺจเมสุเยว ปน อปฺปนา โหติ. ปรโต ชวนํ ปติตํ นาม โหติ, ภวงฺคสฺส อาสนฺนตฺตาติ วุตฺตํ . ตเมว วิจาเรตฺวา วุตฺตตฺตา น สกฺกา ปฏิกฺขิปิตุํ. ยถา หิ ปุริโส ฉินฺนปปาตาภิมุโข ธาวนฺโต าตุกาโมปิ ปริยนฺเต ปาทํ กตฺวา าตุํ น สกฺโกติ ปปาเต เอว ปตติ, เอวํ ฉฏฺเ วา สตฺตเม วา อปฺเปตุํ น สกฺโกติ, ภวงฺคสฺส อาสนฺนตฺตา. ตสฺมา จตุตฺถปฺจเมสุเยว อปฺปนา โหตีติ เวทิตพฺพา.

สา จ ปน เอกจิตฺตกฺขณิกาเยว. สตฺตสุ หิ าเนสุ อทฺธานปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ ปมปฺปนายํ, โลกิยาภิฺาสุ, จตูสุ มคฺเคสุ, มคฺคานนฺตรผเล, รูปารูปภเวสุ ภวงฺคชฺฌาเน, นิโรธสฺส ปจฺจเย เนวสฺานาสฺายตเน, นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลสมาปตฺติยนฺติ. เอตฺถ มคฺคานนฺตรผลํ ติณฺณํ อุปริ น โหติ. นิโรธสฺส ปจฺจโย เนวสฺานาสฺายตนํ ทฺวินฺนมุปริ น โหติ. รูปารูเปสุ ภวงฺคสฺส ปริมาณํ นตฺถิ, เสสฏฺาเนสุ เอกเมว จิตฺตนฺติ. อิติ เอกจิตฺตกฺขณิกาเยว อปฺปนา. ตโต ภวงฺคปาโต. อถ ภวงฺคํ โวจฺฉินฺทิตฺวา ฌานปจฺจเวกฺขณตฺถาย อาวชฺชนํ, ตโต ฌานปจฺจเวกฺขณนฺติ.

เอตฺตาวตา จ ปเนส วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ สวิตกฺกํ สวิจารํ วิเวกชํ ปีติสุขํ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ (ธ. ส. ๑๖๐; ที. นิ. ๑.๒๒๖). เอวมเนน ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ปมํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณํ.

๗๐. ตตฺถ วิวิจฺเจว กาเมหีติ กาเมหิ วิวิจฺจิตฺวา วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา. โย ปนายเมตฺถ เอวกาโร, โส นิยมตฺโถติ เวทิตพฺโพ. ยสฺมา จ นิยมตฺโถ, ตสฺมา ตสฺมึ ปมชฺฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรณสมเย อวิชฺชมานานมฺปิ กามานํ ตสฺส ปมชฺฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวํ กามปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคมํ ทีเปติ.

กถํ? ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติ เอวฺหิ นิยเม กริยมาเน อิทํ ปฺายติ, นูน ฌานสฺส กามา ปฏิปกฺขภูตา เยสุ สติ อิทํ นปฺปวตฺตติ, อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิย. เตสํ ปริจฺจาเคเนว จสฺส อธิคโม โหติ, โอริมตีรปริจฺจาเคน ปาริมตีรสฺเสว. ตสฺมา นิยมํ กโรตีติ.

ตตฺถ สิยา, กสฺมา ปเนส ปุพฺพปเทเยว วุตฺโต, น อุตฺตรปเท, กึ อกุสเลหิ ธมฺเมหิ อวิวิจฺจาปิ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺยาติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ. ตํนิสฺสรณโต หิ ปุพฺพปเท เอส วุตฺโต. กามธาตุสมติกฺกมนโต หิ กามราคปฏิปกฺขโต จ อิทํ ฌานํ กามานเมว นิสฺสรณํ. ยถาห, ‘‘กามานเมตํ นิสฺสรณํ ยทิทํ เนกฺขมฺม’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๕๓). อุตฺตรปเทปิ ปน ยถา ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ, อิธ ทุติโย สมโณ’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑) เอตฺถ เอวกาโร อาเนตฺวา วุจฺจติ, เอวํ วตฺตพฺโพ. น หิ สกฺกา อิโต อฺเหิปิ นีวรณสงฺขาเตหิ อกุสลธมฺเมหิ อวิวิจฺจ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺมา ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺเจว อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ เอวํ ปททฺวเยปิ เอส ทฏฺพฺโพ. ปททฺวเยปิ จ กิฺจาปิ วิวิจฺจาติ อิมินา สาธารณวจเนน ตทงฺควิเวกาทโย, กายวิเวกาทโย จ สพฺเพปิ วิเวกา สงฺคหํ คจฺฉนฺติ, ตถาปิ กายวิเวโก จิตฺตวิเวโก วิกฺขมฺภนวิเวโกติ ตโย เอว อิธ ทฏฺพฺพา.

กาเมหีติ อิมินา ปน ปเทน เย จ นิทฺเทเส ‘‘กตเม วตฺถุกามา, มนาปิยา รูปา’’ติอาทินา (มหานิ. ๑) นเยน วตฺถุกามา วุตฺตา, เย จ ตตฺเถว วิภงฺเค จ ‘‘ฉนฺโท กาโม, ราโค กาโม, ฉนฺทราโค กาโม, สงฺกปฺโป กาโม, ราโค กาโม, สงฺกปฺปราโค กาโม, อิเม วุจฺจนฺติ กามา’’ติ (มหานิ. ๑; วิภ. ๕๖๔) เอวํ กิเลสกามา วุตฺตา, เต สพฺเพปิ สงฺคหิตาอิจฺเจว ทฏฺพฺพา. เอวฺหิ สติ วิวิจฺเจว กาเมหีติ วตฺถุกาเมหิปิ วิวิจฺเจวาติ อตฺโถ ยุชฺชติ, เตน กายวิเวโก วุตฺโต โหติ. วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ กิเลสกาเมหิ สพฺพากุสเลหิ วา วิวิจฺจาติ อตฺโถ ยุชฺชติ, เตน จิตฺตวิเวโก วุตฺโต โหติ. ปุริเมน เจตฺถ วตฺถุกาเมหิ วิเวกวจนโต เอว กามสุขปริจฺจาโค, ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต เนกฺขมฺมสุขปริคฺคโห วิภาวิโต โหติ. เอวํ วตฺถุกามกิเลสกามวิเวกวจนโตเยว จ เอเตสํ ปเมน สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ, ทุติเยน สํกิเลสปฺปหานํ. ปเมน โลลภาวสฺส เหตุปริจฺจาโค, ทุติเยน พาลภาวสฺส. ปเมน จ ปโยคสุทฺธิ , ทุติเยน อาสยโปสนํ วิภาวิตํ โหตีติ วิฺาตพฺพํ. เอส ตาว นโย กาเมหีติ เอตฺถ วุตฺตกาเมสุ วตฺถุกามปกฺเข.

กิเลสกามปกฺเข ปน ฉนฺโทติ จ ราโคติ จ เอวมาทีหิ อเนกเภโท กามจฺฉนฺโทเยว กาโมติ อธิปฺเปโต. โส จ อกุสลปริยาปนฺโนปิ สมาโน ‘‘ตตฺถ กตโม กาโม ฉนฺโท กาโม’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๔) นเยน วิภงฺเค ฌานปฏิปกฺขโต วิสุํ วุตฺโต. กิเลสกามตฺตา วา ปุริมปเท วุตฺโต, อกุสลปริยาปนฺนตฺตา ทุติยปเท. อเนกเภทโต จสฺส กามโตติ อวตฺวา กาเมหีติ วุตฺตํ.

อฺเสมฺปิ จ ธมฺมานํ อกุสลภาเว วิชฺชมาเน ‘‘ตตฺถ กตเม อกุสลา ธมฺมา, กามจฺฉนฺโท’’ติอาทินา นเยน วิภงฺเค อุปริ ฌานงฺคานํ ปจฺจนีกปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต นีวรณาเนว วุตฺตานิ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ, เตสํ ฌานงฺคาเนว ปฏิปกฺขานิ วิทฺธํสกานิ วิฆาตกานีติ วุตฺตํ โหติ. ตถา หิ สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข, ปีติ พฺยาปาทสฺส, วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส, สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉายาติ เปฏเก วุตฺตํ.

เอวเมตฺถ วิวิจฺเจว กาเมหีติ อิมินา กามจฺฉนฺทสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหติ. วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ อิมินา ปฺจนฺนมฺปิ นีวรณานํ, อคหิตคฺคหเณน ปน ปเมน กามจฺฉนฺทสฺส, ทุติเยน เสสนีวรณานํ. ตถา ปเมน ตีสุ อกุสลมูเลสุ ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺส โลภสฺส, ทุติเยน อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานํ โทสโมหานํ. โอฆาทีสุ วา ธมฺเมสุ ปเมน กาโมฆกามโยคกามาสวกามุปาทานอภิชฺฌากายคนฺถกามราคสํโยชนานํ, ทุติเยน อวเสสโอฆโยคาสวอุปาทานคนฺถสํโยชนานํ. ปเมน จ ตณฺหาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ, ทุติเยน อวิชฺชาย ตํสมฺปยุตฺตกานฺจ. อปิจ ปเมน โลภสมฺปยุตฺตานํ อฏฺนฺนํ จิตฺตุปฺปาทานํ, ทุติเยน เสสานํ จตุนฺนํ อกุสลจิตฺตุปฺปาทานํ วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตีติ เวทิตพฺโพ. อยํ ตาว วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหีติ เอตฺถ อตฺถปฺปกาสนา.

๗๑. เอตฺตาวตา จ ปมสฺส ฌานสฺส ปหานงฺคํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมฺปโยคงฺคํ ทสฺเสตุํ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วิตกฺกนํ วิตกฺโก, อูหนนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อภินิโรปนลกฺขโณ, อาหนนปริยาหนนรโส. ตถา หิ เตน โยคาวจโร อารมฺมณํ วิตกฺกาหตํ วิตกฺกปริยาหตํ กโรตีติ วุจฺจติ. อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อานยนปจฺจุปฏฺาโน.

วิจรณํ วิจาโร, อนุสฺจรณนฺติ วุตฺตํ โหติ. สฺวายํ อารมฺมณานุมชฺชนลกฺขโณ, ตตฺถ สหชาตานุโยชนรโส, จิตฺตสฺส อนุปฺปพนฺธนปจฺจุปฏฺาโน.

สนฺเตปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค โอฬาริกฏฺเน ปุพฺพงฺคมฏฺเน จ ฆณฺฑาภิฆาโต วิย เจตโส ปมาภินิปาโต วิตกฺโก. สุขุมฏฺเน อนุมชฺชนสภาเวน จ ฆณฺฑานุรโว วิย อนุปฺปพนฺโธ วิจาโร. วิปฺผารวา เจตฺถ วิตกฺโก ปมุปฺปตฺติกาเล ปริปฺผนฺทนภูโต จิตฺตสฺส อากาเส อุปฺปติตุกามสฺส ปกฺขิโน ปกฺขวิกฺเขโป วิย ปทุมาภิมุขปาโต วิย จ คนฺธานุพนฺธเจตโส ภมรสฺส. สนฺตวุตฺติ วิจาโร นาติปริปฺผนฺทนภาโว จิตฺตสฺส อากาเส อุปฺปติตสฺส ปกฺขิโน ปกฺขปฺปสารณํ วิย, ปริพฺภมนํ วิย จ ปทุมาภิมุขปติตสฺส ภมรสฺส ปทุมสฺส อุปริภาเค. ทุกนิปาตฏฺกถายํ ปน ‘‘อากาเส คจฺฉโต มหาสกุณสฺส อุโภหิ ปกฺเขหิ วาตํ คเหตฺวา ปกฺเข สนฺนิสีทาเปตฺวา คมนํ วิย อารมฺมเณ เจตโส อภินิโรปนภาเวน ปวตฺโต วิตกฺโก. วาตคฺคหณตฺถํ ปกฺเข ผนฺทาปยมานสฺส คมนํ วิย อนุมชฺชนภาเวน ปวตฺโต วิจาโร’’ติ วุตฺตํ, ตํ อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยํ ยุชฺชติ. โส ปน เนสํ วิเสโส ปมทุติยชฺฌาเนสุ ปากโฏ โหติ.

อปิจ มลคฺคหิตํ กํสภาชนํ เอเกน หตฺเถน ทฬฺหํ คเหตฺวา อิตเรน หตฺเถน จุณฺณเตลวาลณฺฑุปเกน ปริมชฺชนฺตสฺส ทฬฺหคหณหตฺโถ วิย วิตกฺโก, ปริมชฺชนหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา กุมฺภการสฺส ทณฺฑปฺปหาเรน จกฺกํ ภมยิตฺวา ภาชนํ กโรนฺตสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ วิย วิตกฺโก, อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ วิย วิจาโร. ตถา มณฺฑลํ กโรนฺตสฺส มชฺเฌ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ิตกณฺฏโก วิย อภินิโรปโน วิตกฺโก, พหิ ปริพฺภมนกณฺฏโก วิย อนุมชฺชโน วิจาโร. อิติ อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน สห วตฺตติ รุกฺโข วิย ปุปฺเผน ผเลน จาติ อิทํ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ วุจฺจติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิมินา จ วิตกฺเกน อิมินา จ วิจาเรน อุเปโต โหติ สมุเปโต’’ติอาทินา (วิภ. ๕๖๕) นเยน ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา. อตฺโถ ปน ตตฺราปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.

วิเวกชนฺติ เอตฺถ วิวิตฺติ วิเวโก, นีวรณวิคโมติ อตฺโถ. วิวิตฺโตติ วา วิเวโก, นีวรณวิวิตฺโต ฌานสมฺปยุตฺตธมฺมราสีติ อตฺโถ. ตสฺมา วิเวกา, ตสฺมึ วา วิเวเก ชาตนฺติ วิเวกชํ.

๗๒. ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปีณยตีติ ปีติ. สา สมฺปิยายนลกฺขณา, กายจิตฺตปีนนรสา, ผรณรสา วา, โอทคฺยปจฺจุปฏฺานา. สา ปเนสา ขุทฺทิกา ปีติ, ขณิกาปีติ, โอกฺกนฺติกาปีติ, อุพฺเพคาปีติ, ผรณาปีตีติ ปฺจวิธา โหติ. ตตฺถ ขุทฺทิกาปีติ สรีเร โลมหํสมตฺตเมว กาตุํ สกฺโกติ. ขณิกาปีติ ขเณ ขเณ วิชฺชุปฺปาทสทิสา โหติ. โอกฺกนฺติกาปีติ สมุทฺทตีรํ วีจิ วิย กายํ โอกฺกมิตฺวา โอกฺกมิตฺวา ภิชฺชติ. อุพฺเพคาปีติ พลวตี โหติ กายํ อุทฺธคฺคํ กตฺวา อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณปฺปตฺตา. ตถา หิ ปุณฺณวลฺลิกวาสี มหาติสฺสตฺเถโร ปุณฺณมทิวเส สายํ เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา จนฺทาโลกํ ทิสฺวา มหาเจติยาภิมุโข หุตฺวา ‘‘อิมาย วต เวลาย จตสฺโส ปริสา มหาเจติยํ วนฺทนฺตี’’ติ ปกติยา ทิฏฺารมฺมณวเสน พุทฺธารมฺมณํ อุพฺเพคาปีตึ อุปฺปาเทตฺวา สุธาตเล ปหฏจิตฺรเคณฺฑุโก วิย อากาเส อุปฺปติตฺวา มหาเจติยงฺคเณเยว ปติฏฺาสิ. ตถา คิริกณฺฑกวิหารสฺส อุปนิสฺสเย วตฺตกาลกคาเม เอกา กุลธีตาปิ พลวพุทฺธารมฺมณาย อุพฺเพคาปีติยา อากาเส ลงฺเฆสิ.

ตสฺสา กิร มาตาปิตโร สายํ ธมฺมสฺสวนตฺถาย วิหารํ คจฺฉนฺตา ‘‘อมฺม ตฺวํ ครุภารา อกาเล วิจริตุํ น สกฺโกสิ, มยํ ตุยฺหํ ปตฺตึ กตฺวา ธมฺมํ โสสฺสามา’’ติ อคมํสุ. สา คนฺตุกามาปิ เตสํ วจนํ ปฏิพาหิตุํ อสกฺโกนฺตี ฆเร โอหียิตฺวา ฆราชิเร ตฺวา จนฺทาโลเกน คิริกณฺฑเก อากาสเจติยงฺคณํ โอโลเกนฺตี เจติยสฺส ทีปปูชํ อทฺทส, จตสฺโส จ ปริสา มาลาคนฺธาทีหิ เจติยปูชํ กตฺวา ปทกฺขิณํ กโรนฺติโย ภิกฺขุสงฺฆสฺส จ คณสชฺฌายสทฺทํ อสฺโสสิ. อถสฺสา ‘‘ธฺาวติเม, เย วิหารํ คนฺตฺวา เอวรูเป เจติยงฺคเณ อนุสฺจริตุํ, เอวรูปฺจ มธุรธมฺมกถํ โสตุํ ลภนฺตี’’ติ มุตฺตราสิสทิสํ เจติยํ ปสฺสนฺติยา เอว อุพฺเพคาปีติ อุทปาทิ. สา อากาเส ลงฺฆิตฺวา มาตาปิตูนํ ปุริมตรํเยว อากาสโต เจติยงฺคเณ โอรุยฺห เจติยํ วนฺทิตฺวา ธมฺมํ สุณมานา อฏฺาสิ. อถ นํ มาตาปิตโร อาคนฺตฺวา ‘‘อมฺม ตฺวํ กตเรน มคฺเคน อาคตาสี’’ติ ปุจฺฉึสุ. สา ‘‘อากาเสน อาคตามฺหิ, น มคฺเคนา’’ติ วตฺวา ‘‘อมฺม อากาเสน นาม ขีณาสวา สฺจรนฺติ, ตฺวํ กถํ อาคตา’’ติ วุตฺตา อาห – ‘‘มยฺหํ จนฺทาโลเกน เจติยํ อาโลเกนฺติยา ิตาย พุทฺธารมฺมณา พลวปีติ อุปฺปชฺชิ. อถาหํ เนว อตฺตโน ิตภาวํ, น นิสินฺนภาวํ อฺาสึ, คหิตนิมิตฺเตเนว ปน อากาเส ลงฺฆิตฺวา เจติยงฺคเณ ปติฏฺิตามฺหี’’ติ.

เอวํ อุพฺเพคาปีติ อากาเส ลงฺฆาปนปฺปมาณา โหติ. ผรณาปีติยา ปน อุปฺปนฺนาย สกลสรีรํ ธมิตฺวา ปูริตวตฺถิ วิย มหตา อุทโกเฆน ปกฺขนฺทปพฺพตกุจฺฉิ วิย จ อนุปริปฺผุฏํ โหติ.

สา ปเนสา ปฺจวิธา ปีติ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธํ ปสฺสทฺธึ ปริปูเรติ กายปสฺสทฺธิฺจ จิตฺตปสฺสทฺธิฺจ. ปสฺสทฺธิ คพฺภํ คณฺหนฺตี ปริปากํ คจฺฉนฺตี ทุวิธมฺปิ สุขํ ปริปูเรติ กายิกฺจ เจตสิกฺจ. สุขํ คพฺภํ คณฺหนฺตํ ปริปากํ คจฺฉนฺตํ ติวิธํ สมาธึ ปริปูเรติ ขณิกสมาธึ อุปจารสมาธึ อปฺปนา สมาธินฺติ. ตาสุ ยา อปฺปนาสมาธิสฺส มูลํ หุตฺวา วฑฺฒมานา สมาธิสมฺปโยคํ คตา ผรณาปีติ, อยํ อิมสฺมึ อตฺเถ อธิปฺเปตา ปีตีติ.

๗๓. อิตรํ ปน สุขนํ สุขํ, สุฏฺุ วา ขาทติ, ขนติ จ กายจิตฺตาพาธนฺติ สุขํ, ตํ สาตลกฺขณํ, สมฺปยุตฺตานํ อุปพฺรูหนรสํ, อนุคฺคหปจฺจุปฏฺานํ. สติปิ จ เนสํ กตฺถจิ อวิปฺปโยเค อิฏฺารมฺมณปฏิลาภตุฏฺิ ปีติ. ปฏิลทฺธรสานุภวนํ สุขํ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขํ. ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีติ. สงฺขารกฺขนฺธสงฺคหิตา ปีติ. เวทนากฺขนฺธสงฺคหิตํ สุขํ. กนฺตารขินฺนสฺส วนนฺตุทกทสฺสนสวเนสุ วิย ปีติ. วนจฺฉายาปเวสนอุทกปริโภเคสุ วิย สุขํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเย ปากฏภาวโต เจตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ อยฺจ ปีติ อิทฺจ สุขํ อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ อิทํ ฌานํ ปีติสุขนฺติ วุจฺจติ.

อถ วา ปีติ จ สุขฺจ ปีติสุขํ, ธมฺมวินยาทโย วิย. วิเวกชํ ปีติสุขมสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน อตฺถีติ เอวมฺปิ วิเวกชํปีติสุขํ. ยเถว หิ ฌานํ, เอวํ ปีติสุขมฺเปตฺถ วิเวกชเมว โหติ, ตฺจสฺส อตฺถิ, ตสฺมา เอกปเทเนว ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติปิ วตฺตุํ ยุชฺชติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อิทํ สุขํ อิมาย ปีติยา สหคต’’นฺติอาทินา (วิภ. ๕๖๗) นเยน วุตฺตํ. อตฺโถ ปน ตตฺถาปิ เอวเมว ทฏฺพฺโพ.

ปมํ ฌานนฺติ อิทํ ปรโต อาวิภวิสฺสติ. อุปสมฺปชฺชาติ อุปคนฺตฺวา, ปาปุณิตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. อุปสมฺปาทยิตฺวา วา, นิปฺผาเทตฺวาติ วุตฺตํ โหติ. วิภงฺเค ปน ‘‘อุปสมฺปชฺชาติ ปมสฺส ฌานสฺส ลาโภ ปฏิลาโภ ปตฺติ สมฺปตฺติ ผุสนา สจฺฉิกิริยา อุปสมฺปทา’’ติ วุตฺตํ. ตสฺสาปิ เอวเมวตฺโถ ทฏฺพฺโพ. วิหรตีติ ตทนุรูเปน อิริยาปถวิหาเรน อิติวุตฺตปฺปการฌานสมงฺคี หุตฺวา อตฺตภาวสฺส อิริยํ วุตฺตึ ปาลนํ ยปนํ ยาปนํ จารํ วิหารํ อภินิปฺผาเทติ . วุตฺตฺเหตํ วิภงฺเค ‘‘วิหรตีติ อิริยติ วตฺตติ ปาเลติ ยเปติ ยาเปติ จรติ วิหรติ, เตน วุจฺจติ วิหรตี’’ติ (วิภ. ๕๔๐).

ปฺจงฺควิปฺปหีนาทิ

๗๔. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ปฺจงฺควิปฺปหีนํ ปฺจงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ, ตตฺถ กามจฺฉนฺโท, พฺยาปาโท, ถินมิทฺธํ, อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, วิจิกิจฺฉาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ปหานวเสน ปฺจงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. น หิ เอเตสุ อปฺปหีเนสุ ฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตนสฺเสตานิ ปหานงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. กิฺจาปิ หิ ฌานกฺขเณ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา ปหียนฺติ, ตถาปิ เอตาเนว วิเสเสน ฌานนฺตรายกรานิ. กามจฺฉนฺเทน หิ นานาวิสยปฺปโลภิตํ จิตฺตํ น เอกตฺตารมฺมเณ สมาธิยติ. กามจฺฉนฺทาภิภูตํ วา ตํ น กามธาตุปฺปหานาย ปฏิปทํ ปฏิปชฺชติ. พฺยาปาเทน จารมฺมเณ ปฏิหฺมานํ น นิรนฺตรํ ปวตฺตติ . ถินมิทฺธาภิภูตํ อกมฺมฺํ โหติ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตํ อวูปสนฺตเมว หุตฺวา ปริพฺภมติ. วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ ฌานาธิคมสาธิกํ ปฏิปทํ นาโรหติ. อิติ วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตา เอตาเนว ปหานงฺคานีติ วุตฺตานีติ.

ยสฺมา ปน วิตกฺโก อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรเปติ, วิจาโร อนุปฺปพนฺธติ, เตหิ อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปฺปโยคสฺส เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวา ปีติ ปีณนํ, สุขฺจ อุปพฺรูหนํ กโรติ. อถ นํ สเสสสมฺปยุตฺตธมฺมํ เอเตหิ อภินิโรปนานุปฺปพนฺธนปีณนอุปพฺรูหเนหิ อนุคฺคหิตา เอกคฺคตา เอกตฺตารมฺมเณ สมํ สมฺมา จ อาธิยติ, ตสฺมา วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปฺจนฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ปฺจงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. อุปฺปนฺเนสุ หิ เอเตสุ ปฺจสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ. เตนสฺส เอตานิ ปฺจ สมนฺนาคตงฺคานีติ วุจฺจนฺติ. ตสฺมา น เอเตหิ สมนฺนาคตํ อฺเทว ฌานํ นาม อตฺถีติ คเหตพฺพํ. ยถา ปน องฺคมตฺตวเสเนว จตุรงฺคินี เสนา, ปฺจงฺคิกํ ตูริยํ, อฏฺงฺคิโก จ มคฺโคติ วุจฺจติ, เอวมิทมฺปิ องฺคมตฺตวเสเนว ปฺจงฺคิกนฺติ วา ปฺจงฺคสมนฺนาคตนฺติ วา วุจฺจตีติ เวทิตพฺพํ.

เอตานิ จ ปฺจงฺคานิ กิฺจาปิ อุปจารกฺขเณปิ อตฺถิ, อถ โข อุปจาเร ปกติจิตฺตโต พลวตรานิ. อิธ ปน อุปจารโตปิ พลวตรานิ รูปาวจรลกฺขณปฺปตฺตานิ. เอตฺถ หิ วิตกฺโก สุวิสเทน อากาเรน อารมฺมเณ จิตฺตํ อภินิโรปยมาโน อุปฺปชฺชติ. วิจาโร อติวิย อารมฺมณํ อนุมชฺชมาโน. ปีติสุขํ สพฺพาวนฺตมฺปิ กายํ ผรมานํ. เตเนวาห – ‘‘นาสฺส กิฺจิ สพฺพาวโต กายสฺส วิเวกเชน ปีติสุเขน อปฺผุฏํ โหตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๒๘). จิตฺเตกคฺคตาปิ เหฏฺิมมฺหิ สมุคฺคปฏเล อุปริมํ สมุคฺคปฏลํ วิย อารมฺมเณสุ ผุสิตา หุตฺวา อุปฺปชฺชติ, อยเมเตสํ อิตเรหิ วิเสโส. ตตฺถ จิตฺเตกคฺคตา กิฺจาปิ สวิตกฺกํ สวิจารนฺติ อิมสฺมึ ปาเ น นิทฺทิฏฺา, ตถาปิ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ วิตกฺโก วิจาโร ปีติ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๖๙) เอวํ วุตฺตตฺตา องฺคเมว. เยน หิ อธิปฺปาเยน ภควตา อุทฺเทโส กโต, โสเยว เตน วิภงฺเค ปกาสิโตติ.

ติวิธกลฺยาณํ

๗๕. ติวิธกลฺยาณํทสลกฺขณสมฺปนฺนนฺติ เอตฺถ ปน อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน ติวิธกลฺยาณตา. เตสํเยว จ อาทิมชฺฌปริโยสานานํ ลกฺขณวเสน ทสลกฺขณสมฺปนฺนตา เวทิตพฺพา.

ตตฺรายํ ปาฬิ –

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส กติ ลกฺขณานิ? อาทิสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ, โย ตสฺส ปริพนฺโธ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ยฺจ ปริพนฺธโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ, ยฺจ วิสุทฺธตฺตา จิตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ยฺจ ปฏิปนฺนตฺตา ตตฺถ จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ. ปมสฺส ฌานสฺส ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาทิ, อาทิสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ปมํ ฌานํ อาทิกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส กติ ลกฺขณานิ? มชฺฌสฺส ตีณิ ลกฺขณานิ, วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ยฺจ วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ยฺจ เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปมสฺส ฌานสฺส อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ, มชฺฌสฺส อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ปมํ ฌานํ มชฺเฌกลฺยาณฺเจว โหติ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ.

‘‘ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส กติ ลกฺขณานิ? ปริโยสานสฺส จตฺตาริ ลกฺขณานิ, ตตฺถ ชาตานํ ธมฺมานํ อนติวตฺตนฏฺเน สมฺปหํสนา, อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน สมฺปหํสนา, ตทุปควีริยวาหนฏฺเน สมฺปหํสนา, อาเสวนฏฺเน สมฺปหํสนา. ปมสฺส ฌานสฺส สมฺปหํสนา ปริโยสานํ, ปริโยสานสฺส อิมานิ จตฺตาริ ลกฺขณานิ. เตน วุจฺจติ ปมํ ฌานํ ปริโยสานกลฺยาณฺเจว โหติ จตุลกฺขณสมฺปนฺนฺจา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘).

ตตฺร ปฏิปทาวิสุทฺธิ นาม สสมฺภาริโก อุปจาโร. อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา. สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณาติ เอวเมเก วณฺณยนฺติ. ยสฺมา ปน ‘‘เอกตฺตคตํ จิตฺตํ ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทฺเจว โหติ อุเปกฺขานุพฺรูหิตฺจ าเณน จ สมฺปหํสิต’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘) ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อนฺโตอปฺปนายเมว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา, ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา จ เวทิตพฺพา.

กถํ? ยสฺมิฺหิ วาเร อปฺปนา อุปฺปชฺชติ, ตสฺมึ โย นีวรณสงฺขาโต กิเลสคโณ ตสฺส ฌานสฺส ปริพนฺโธ, ตโต จิตฺตํ วิสุชฺฌติ. วิสุทฺธตฺตา อาวรณวิรหิตํ หุตฺวา มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ. มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ นาม สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยว. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตํ เอกสนฺตติปริณามนเยน ตถตฺตมุปคจฺฉมานํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ นาม, เอวํ ปฏิปนฺนตฺตา ตถตฺตุปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. เอวํ ตาว ปุริมจิตฺเต วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกา ปมสฺส ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณเยว อาคมนวเสน ปฏิปทาวิสุทฺธิ เวทิตพฺพา.

เอวํ วิสุทฺธสฺส ปน ตสฺส ปุน วิโสเธตพฺพาภาวโต วิโสธเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถภาวุปคมเนน สมถปฏิปนฺนสฺส ปุน สมาธาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต สมถปฏิปนฺนํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. สมถปฏิปนฺนภาวโต เอว จสฺส กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ปุน เอกตฺตุปฏฺาเน พฺยาปารํ อกโรนฺโต เอกตฺตุปฏฺานํ อชฺฌุเปกฺขติ นาม. เอวํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา.

เย ปเนเต เอวํ อุเปกฺขานุพฺรูหิเต ตตฺถ ชาตา สมาธิปฺาสงฺขาตา ยุคนทฺธธมฺมา อฺมฺํ อนติวตฺตมานา หุตฺวา ปวตฺตา, ยานิ จ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา วิมุตฺติรเสน เอกรสานิ หุตฺวา ปวตฺตานิ, ยฺเจส ตทุปคํ เตสํ อนติวตฺตนเอกรสภาวานํ อนุจฺฉวิกํ วีริยํ วาหยติ, ยา จสฺส ตสฺมึ ขเณ ปวตฺตา อาเสวนา, สพฺเพปิ เต อาการา ยสฺมา าเณน สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวฺจ อานิสํสฺจ ทิสฺวา ตถา ตถา สมฺปหํสิตตฺตา วิโสธิตตฺตา ปริโยทาปิตตฺตา นิปฺผนฺนาว, ตสฺมา ‘‘ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิภาวสาธเนน ปริโยทาปกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน สมฺปหํสนา เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหติ. ยถาห – ‘‘ตถาปคฺคหิตํ จิตฺตํ สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขติ, อุเปกฺขาวเสน ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, อุเปกฺขาวเสน นานตฺตกิเลเสหิ จิตฺตํ วิมุจฺจติ, วิโมกฺขวเสน ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. วิมุตฺตตฺตา เต ธมฺมา เอกรสา โหนฺติ. เอกรสฏฺเน ภาวนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๐๑). ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสานนฺติ วุตฺตา.

อิทานิ ปมํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณนฺติ เอตฺถ คณนานุปุพฺพตา ปมํ, ปมํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ปมํ. อารมฺมณูปนิชฺฌานโต ปจฺจนีกฌาปนโต วา ฌานํ. ปถวีมณฺฑลํ ปน สกลฏฺเน ปถวีกสิณนฺติ วุจฺจติ, ตํ นิสฺสาย ปฏิลทฺธนิมิตฺตมฺปิ, ปถวีกสิณนิมิตฺเต ปฏิลทฺธฌานมฺปิ. ตตฺร อิมสฺมึ อตฺเถ ฌานํ ปถวีกสิณนฺติ เวทิตพฺพํ. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ปมํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณ’’นฺติ.

จิรฏฺิติสมฺปาทนํ

๗๖. เอวมธิคเต ปน เอตสฺมึ เตน โยคินา วาลเวธินา วิย, สูเทน วิย จ อาการา ปริคฺคเหตพฺพา. ยถา หิ สุกุสโล ธนุคฺคโห วาลเวธาย กมฺมํ กุรุมาโน ยสฺมึ วาเร วาลํ วิชฺฌติ, ตสฺมึ วาเร อกฺกนฺตปทานฺจ ธนุทณฺฑสฺส จ ชิยาย จ สรสฺส จ อาการํ ปริคฺคณฺเหยฺย. ‘‘เอวํ เม ิเตน เอวํ ธนุทณฺฑํ เอวํ ชิยํ เอวํ สรํ คเหตฺวา วาโล วิทฺโธ’’ติ. โส ตโต ปฏฺาย ตเถว เต อากาเร สมฺปาเทนฺโต อวิราเธตฺวา วาลํ วิชฺเฌยฺย. เอวเมว โยคินาปิ ‘‘อิมํ นาม เม โภชนํ ภุฺชิตฺวา เอวรูปํ ปุคฺคลํ เสวมาเนน เอวรูเป เสนาสเน อิมินา นาม อิริยาปเถน อิมสฺมึ กาเล อิทํ อธิคต’’นฺติ เอเต โภชนสปฺปายาทโย อาการา ปริคฺคเหตพฺพา. เอวฺหิ โส นฏฺเ วา ตสฺมึ เต อากาเร สมฺปาเทตฺวา ปุน อุปฺปาเทตุํ, อปฺปคุณํ วา ปคุณํ กโรนฺโต ปุนปฺปุนํ อปฺเปตุํ สกฺขิสฺสติ.

ยถา จ กุสโล สูโท ภตฺตารํ ปริวิสนฺโต ตสฺส ยํ ยํ รุจิยา ภุฺชติ, ตํ ตํ สลฺลกฺเขตฺวา ตโต ปฏฺาย ตาทิสเมว อุปนาเมนฺโต ลาภสฺส ภาคี โหติ, เอวมยมฺปิ อธิคตกฺขเณ โภชนาทโย อากาเร คเหตฺวา เต สมฺปาเทนฺโต นฏฺเ นฏฺเ ปุนปฺปุนํ อปฺปนาย ลาภี โหติ. ตสฺมา เตน วาลเวธินา วิย สูเทน วิย จ อาการา ปริคฺคเหตพฺพา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล สูโท ราชานํ วา ราชมหามตฺตํ วา นานจฺจเยหิ สูเปหิ ปจฺจุปฏฺิโต อสฺส อมฺพิลคฺเคหิปิ ติตฺตกคฺเคหิปิ กฏุกคฺเคหิปิ มธุรคฺเคหิปิ ขาริเกหิปิ อขาริเกหิปิ โลณิเกหิปิ อโลณิเกหิปิ. ส โข โส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล สูโท สกสฺส ภตฺตุ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาติ ‘อิทํ วา เม อชฺช ภตฺตุ สูเปยฺยํ รุจฺจติ, อิมสฺส วา อภิหรติ, อิมสฺส วา พหุํ คณฺหาติ, อิมสฺส วา วณฺณํ ภาสติ, อมฺพิลคฺคํ วา เม อชฺช ภตฺตุ สูเปยฺยํ รุจฺจติ, อมฺพิลคฺคสฺส วา อภิหรติ, อมฺพิลคฺคสฺส วา พหุํ คณฺหาติ, อมฺพิลคฺคสฺส วา วณฺณํ ภาสติ…เป… อโลณิกสฺส วา วณฺณํ ภาสตี’ติ. ส โข โส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล สูโท ลาภี เจว โหติ อจฺฉาทนสฺส, ลาภี เวตนสฺส, ลาภี อภิหารานํ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล สูโท สกสฺส ภตฺตุ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาติ. เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ…เป… เวทนาสุ เวทนา… จิตฺเต จิตฺตา… ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ. ตสฺส ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสิโน วิหรโต จิตฺตํ สมาธิยติ, อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, โส ตํ นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาติ. ส โข โส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล ภิกฺขุ ลาภี เจว โหติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารานํ, ลาภี สติสมฺปชฺสฺส. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิ โส, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต กุสโล ภิกฺขุ สกสฺส จิตฺตสฺส นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๔).

นิมิตฺตคฺคหเณน จสฺส ปุน เต อากาเร สมฺปาทยโต อปฺปนามตฺตเมว อิชฺฌติ, น จิรฏฺานํ. จิรฏฺานํ ปน สมาธิปริพนฺธานํ ธมฺมานํ สุวิโสธิตตฺตา โหติ. โย หิ ภิกฺขุ กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหิ กามจฺฉนฺทํ น สุฏฺุ วิกฺขมฺเภตฺวา, กายปสฺสทฺธิวเสน กายทุฏฺุลฺลํ น สุปฺปฏิปสฺสทฺธํ กตฺวา, อารมฺภธาตุมนสิการาทิวเสน ถินมิทฺธํ น สุฏฺุ ปฏิวิโนเทตฺวา, สมถนิมิตฺตมนสิการาทิวเสน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ น สุสมูหตํ กตฺวา, อฺเปิ สมาธิปริพนฺเธ ธมฺเม น สุฏฺุ วิโสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชติ, โส อวิโสธิตํ อาสยํ ปวิฏฺภมโร วิย อวิสุทฺธํ อุยฺยานํ ปวิฏฺราชา วิย จ ขิปฺปเมว นิกฺขมติ. โย ปน สมาธิปริพนฺเธ ธมฺเม สุฏฺุ วิโสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชติ, โส สุวิโสธิตํ อาสยํ ปวิฏฺภมโร วิย สุปริสุทฺธํ อุยฺยานํ ปวิฏฺราชา วิย จ สกลมฺปิ ทิวสภาคํ อนฺโตสมาปตฺติยํเยว โหติ. เตนาหุ โปราณา –

‘‘กาเมสุ ฉนฺทํ ปฏิฆํ วิโนทเย,

อุทฺธจฺจมิทฺธํ วิจิกิจฺฉปฺจมํ;

วิเวกปาโมชฺชกเรน เจตสา,

ราชาว สุทฺธนฺตคโต ตหึ รเม’’ติ.

ตสฺมา จิรฏฺิติกาเมน ปริพนฺธกธมฺเม วิโสเธตฺวา ฌานํ สมาปชฺชิตพฺพํ. จิตฺตภาวนาเวปุลฺลตฺถฺจ ยถาลทฺธํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ วฑฺเฒตพฺพํ. ตสฺส ทฺเว วฑฺฒนาภูมิโย อุปจารํ วา อปฺปนํ วา. อุปจารํ ปตฺวาปิ หิ ตํ วฑฺเฒตุํ วฏฺฏติ อปฺปนํ ปตฺวาปิ. เอกสฺมึ ปน าเน อวสฺสํ วฑฺเฒตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘ยถาลทฺธํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติ.

นิมิตฺตวฑฺฒนนโย

๗๗. ตตฺรายํ วฑฺฒนนโย, เตน โยคินา ตํ นิมิตฺตํ ปตฺตวฑฺฒนปูววฑฺฒนภตฺตวฑฺฒนลตาวฑฺฒนทุสฺสวฑฺฒนโยเคน อวฑฺเฒตฺวา ยถา นาม กสฺสโก กสิตพฺพฏฺานํ นงฺคเลน ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริจฺเฉทพฺภนฺตเร กสติ, ยถา วา ปน ภิกฺขู สีมํ พนฺธนฺตา ปมํ นิมิตฺตานิ สลฺลกฺเขตฺวา ปจฺฉา พนฺธนฺติ, เอวเมว ตสฺส ยถาลทฺธสฺส นิมิตฺตสฺส อนุกฺกเมน เอกงฺคุลทฺวงฺคุลติวงฺคุลจตุรงฺคุลมตฺตํ มนสา ปริจฺฉินฺทิตฺวา ยถาปริจฺเฉทํ วฑฺเฒตพฺพํ. อปริจฺฉินฺทิตฺวา ปน น วฑฺเฒตพฺพํ. ตโต วิทตฺถิรตนปมุขปริเวณวิหารสีมานํ คามนิคมชนปทรชฺชสมุทฺทสีมานฺจ ปริจฺเฉทวเสน วฑฺฒยนฺเตน จกฺกวาฬปริจฺเฉเทน วา ตโต วาปิ อุตฺตริ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ.

ยถา หิ หํสโปตกา ปกฺขานํ อุฏฺิตกาลโต ปฏฺาย ปริตฺตํ ปริตฺตํ ปเทสํ อุปฺปตนฺตา ปริจยํ กตฺวา อนุกฺกเมน จนฺทิมสูริยสนฺติกํ คจฺฉนฺติ, เอวเมว ภิกฺขุ วุตฺตนเยน นิมิตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒนฺโต ยาว จกฺกวาฬปริจฺเฉทา ตโต วา อุตฺตริ วฑฺเฒติ. อถสฺส ตํ นิมิตฺตํ วฑฺฒิตวฑฺฒิตฏฺาเน ปถวิยา อุกฺกูลวิกูลนทีวิทุคฺคปพฺพตวิสเมสุ สงฺกุสตสมพฺภาหตํ อุสภจมฺมํ วิย โหติ.

ตสฺมึ ปน นิมิตฺเต ปตฺตปมชฺฌาเนน อาทิกมฺมิเกน สมาปชฺชนพหุเลน ภวิตพฺพํ, น ปจฺจเวกฺขณพหุเลน. ปจฺจเวกฺขณพหุลสฺส หิ ฌานงฺคานิ ถูลานิ ทุพฺพลานิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. อถสฺส ตานิ เอวํ อุปฏฺิตตฺตา อุปริ อุสฺสุกฺกนาย ปจฺจยตํ อาปชฺชนฺติ. โส อปฺปคุเณ ฌาเน อุสฺสุกฺกมาโน ปตฺตปมชฺฌานา จ ปริหายติ, น จ สกฺโกติ ทุติยํ ปาปุณิตุํ. เตนาห ภควา –

‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ. ตสฺสา เอวมสฺส ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว ทิสํ คจฺเฉยฺยํ, อขาทิตปุพฺพานิ จ ติณานิ ขาเทยฺยํ, อปีตปุพฺพานิ จ ปานียานิ ปิเวยฺย’นฺติ. สา ปุริมํ ปาทํ น สุปติฏฺิตํ ปติฏฺาเปตฺวา ปจฺฉิมํ ปาทํ อุทฺธเรยฺย, สา น เจว อคตปุพฺพํ ทิสํ คจฺเฉยฺย, น จ อขาทิตปุพฺพานิ ติณานิ ขาเทยฺย, น จ อปีตปุพฺพานิ ปานียานิ ปิเวยฺย. ยสฺมิฺจสฺสา ปเทเส ิตาย เอวมสฺส ‘ยํนูนาหํ อคตปุพฺพฺเจว…เป… ปิเวยฺย’นฺติ. ตฺจ ปเทสํ น โสตฺถินา ปจฺจาคจฺเฉยฺย. ตํ กิสฺส เหตุ ? ตถา หิ สา, ภิกฺขเว, คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุํ, เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อิเธกจฺโจ ภิกฺขุ พาโล อพฺยตฺโต อเขตฺตฺู อกุสโล วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. โส ตํ นิมิตฺตํ นาเสวติ, น ภาเวติ, น พหุลีกโรติ, น สฺวาธิฏฺิตํ อธิฏฺาติ, ตสฺส เอวํ โหติ ‘ยํนูนาหํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส น สกฺโกติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา…เป… ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. ตสฺเสวํ โหติ ‘ยํนูนาหํ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหเรยฺย’นฺติ. โส น สกฺโกติ วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหริตุํ. อยํ วุจฺจติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อุภโต ภฏฺโ อุภโต ปริหีโน, เสยฺยถาปิ สา คาวี ปพฺพเตยฺยา พาลา อพฺยตฺตา อเขตฺตฺู อกุสลา วิสเม ปพฺพเต จริตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๙.๓๕).

ตสฺมาเนน ตสฺมึเยว ตาว ปมชฺฌาเน ปฺจหากาเรหิ จิณฺณวสินา ภวิตพฺพํ.

ปฺจวสีกถา

๗๘. ตตฺริมา ปฺจ วสิโย อาวชฺชนวสี, สมาปชฺชนวสี, อธิฏฺานวสี, วุฏฺานวสี, ปจฺจเวกฺขณวสีติ. ปมํ ฌานํ ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวทิจฺฉกํ อาวชฺเชติ, อาวชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ อาวชฺชนวสี. ปมํ ฌานํ ยตฺถิจฺฉกํ…เป… สมาปชฺชติ, สมาปชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ สมาปชฺชนวสี. เอวํ เสสาปิ วิตฺถาเรตพฺพา.

อยํ ปเนตฺถ อตฺถปฺปกาสนา, ปมชฺฌานโต วุฏฺาย ปมํ วิตกฺกํ อาวชฺชยโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ วิตกฺการมฺมณาเนว จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ. ตโต ทฺเว ภวงฺคานิ, ตโต ปุน วิจารารมฺมณํ อาวชฺชนํ, วุตฺตนยาเนว ชวนานีติ เอวํ ปฺจสุ ฌานงฺเคสุ ยทา นิรนฺตรํ จิตฺตํ เปเสตุํ สกฺโกติ, อถสฺส อาวชฺชนวสี สิทฺธา โหติ. อยํ ปน มตฺถกปฺปตฺตา วสี ภควโต ยมกปาฏิหาริเย ลพฺภติ , อฺเสํ วา เอวรูเป กาเล. อิโต ปรํ สีฆตรา อาวชฺชนวสี นาม นตฺถิ.

อายสฺมโต ปน มหาโมคฺคลฺลานสฺส นนฺโทปนนฺทนาคราชทมเน วิย สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา สมาปชฺชนวสี นาม.

อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ขณํ เปตุํ สมตฺถตา อธิฏฺานวสี นาม. ตเถว ลหุํ วุฏฺาตุํ สมตฺถตา วุฏฺานวสี นาม. ตทุภยทสฺสนตฺถํ พุทฺธรกฺขิตตฺเถรสฺส วตฺถุํ กเถตุํ วฏฺฏติ.

โส หายสฺมา อุปสมฺปทาย อฏฺวสฺสิโก หุตฺวา เถรมฺพตฺถเล มหาโรหณคุตฺตตฺเถรสฺส คิลานุปฏฺานํ อาคตานํ ตึสมตฺตานํ อิทฺธิมนฺตสหสฺสานํ มชฺเฌ นิสินฺโน เถรสฺส ยาคุํ ปฏิคฺคาหยมานํ อุปฏฺากนาคราชานํ คเหสฺสามีติ อากาสโต ปกฺขนฺทนฺตํ สุปณฺณราชานํ ทิสฺวา ตาวเทว ปพฺพตํ นิมฺมินิตฺวา นาคราชานํ พาหายํ คเหตฺวา ตตฺถ ปาวิสิ. สุปณฺณราชา ปพฺพเต ปหารํ ทตฺวา ปลายิ. มหาเถโร อาห – ‘‘สเจ, อาวุโส, พุทฺธรกฺขิโต นาภวิสฺส, สพฺเพว คารยฺหา อสฺสามา’’ติ.

ปจฺจเวกฺขณวสี ปน อาวชฺชนวสิยา เอว วุตฺตา. ปจฺจเวกฺขณชวนาเนว หิ ตตฺถ อาวชฺชนานนฺตรานีติ.

ทุติยชฺฌานกถา

๗๙. อิมาสุ ปน ปฺจสุ วสีสุ จิณฺณวสินา ปคุณปมชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนนีวรณปจฺจตฺถิกา, วิตกฺกวิจารานํ โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ จ ตตฺถ โทสํ ทิสฺวา ทุติยชฺฌานํ สนฺตโต มนสิกตฺวา ปมชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทาย ทุติยาธิคมาย โยโค กาตพฺโพ. อถสฺส ยทา ปมชฺฌานา วุฏฺาย สตสฺส สมฺปชานสฺส ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขโต วิตกฺกวิจารา โอฬาริกโต อุปฏฺหนฺติ, ปีติสุขฺเจว จิตฺเตกคฺคตา จ สนฺตโต อุปฏฺาติ, ตทาสฺส โอฬาริกงฺคํ ปหานาย สนฺตองฺคปฏิลาภาย จ ตเทว นิมิตฺตํ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต ‘‘อิทานิ ทุติยชฺฌานํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ตเทว ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ . ตโต ตสฺมึเยวารมฺมเณ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ, เยสมวสาเน เอกํ รูปาวจรํ ทุติยชฺฌานิกํ. เสสานิ วุตฺตปฺปการาเนว กามาวจรานีติ.

เอตฺตาวตา เจส วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวมเนน ทฺวงฺควิปฺปหีนํ ติวงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ทุติยํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณํ.

๘๐. ตตฺถ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ วิตกฺกสฺส จ วิจารสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ วูปสมา สมติกฺกมา, ทุติยชฺฌานกฺขเณ อปาตุภาวาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ กิฺจาปิ ทุติยชฺฌาเน สพฺเพปิ ปมชฺฌานธมฺมา น สนฺติ. อฺเเยว หิ ปมชฺฌาเน ผสฺสาทโย, อฺเ อิธ. โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ อธิคโม โหตีติ ทีปนตฺถํ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อชฺฌตฺตนฺติ อิธ นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปตํ. วิภงฺเค ปน ‘‘อชฺฌตฺตํ ปจฺจตฺต’’นฺติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. ยสฺมา จ นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปตํ, ตสฺมา อตฺตนิ ชาตํ อตฺตโน สนฺตาเน นิพฺพตฺตนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. สมฺปสาทนนฺติ สมฺปสาทนํ วุจฺจติ สทฺธา. สมฺปสาทนโยคโต ฌานมฺปิ สมฺปสาทนํ. นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิย. ยสฺมา วา ตํ ฌานํ สมฺปสาทนสมนฺนาคตตฺตา วิตกฺกวิจารกฺโขภวูปสมเนน จ เจตโส สมฺปสาทยติ, ตสฺมาปิ สมฺปสาทนนฺติ วุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเป สมฺปสาทนํ เจตโสติ เอวํ ปทสมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ. ปุริมสฺมึ ปน อตฺถวิกปฺเป เจตโสติ เอตํ เอโกทิภาเวน สทฺธึ โยเชตพฺพํ.

ตตฺรายมตฺถโยชนา, เอโก อุเทตีติ เอโกทิ, วิตกฺกวิจาเรหิ อนชฺฌารูฬฺหตฺตา อคฺโค เสฏฺโ หุตฺวา อุเทตีติ อตฺโถ. เสฏฺโปิ หิ โลเก เอโกติ วุจฺจติ. วิตกฺกวิจารวิรหโต วา เอโก อสหาโย หุตฺวา อิติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อถ วา สมฺปยุตฺตธมฺเม อุทายตีติ อุทิ, อุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. เสฏฺฏฺเน เอโก จ โส อุทิ จาติ เอโกทิ, สมาธิสฺเสตํ อธิวจนํ. อิติ อิมํ เอโกทึ ภาเวติ วฑฺเฒตีติ อิทํ ทุติยชฺฌานํ เอโกทิภาวํ. โส ปนายํ เอโกทิ ยสฺมา เจตโส, น สตฺตสฺส, น ชีวสฺส, ตสฺมา เอตํ เจตโส เอโกทิภาวนฺติ วุตฺตํ.

นนุ จายํ สทฺธา ปมชฺฌาเนปิ อตฺถิ, อยฺจ เอโกทินามโก สมาธิ, อถ กสฺมา อิทเมว ‘‘สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวฺจา’’ติ วุตฺตนฺติ. วุจฺจเต, อทุฺหิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารกฺโขเภน วีจิตรงฺคสมากุลมิว ชลํ น สุปฺปสนฺนํ โหติ, ตสฺมา สติยาปิ สทฺธาย ‘‘สมฺปสาทน’’นฺติ น วุตฺตํ. น สุปฺปสนฺนตฺตาเยว เจตฺถ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ, ตสฺมา ‘‘เอโกทิภาว’’นฺติปิ น วุตฺตํ. อิมสฺมึ ปน ฌาเน วิตกฺกวิจารปลิโพธาภาเวน ลทฺโธกาสา พลวตี สทฺธา, พลวสทฺธาสหายปฏิลาเภเนว จ สมาธิปิ ปากโฏ, ตสฺมา อิทเมว เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. วิภงฺเค ปน ‘‘สมฺปสาทนนฺติ ยา สทฺธา สทฺทหนา โอกปฺปนา อภิปฺปสาโท. เจตโส เอโกทิภาวนฺติ ยา จิตฺตสฺส ิติ…เป… สมฺมาสมาธี’’ติ เอตฺตกเมว วุตฺตํ. เอวํ วุตฺเตน ปน เตน สทฺธึ อยมตฺถวณฺณนา ยถา น วิรุชฺฌติ, อฺทตฺถุ สํสนฺทติ เจว สเมติ จ, เอวํ เวทิตพฺพา.

๘๑. อวิตกฺกํ อวิจารนฺติ ภาวนาย ปหีนตฺตา เอตสฺมึ, เอตสฺส วา วิตกฺโก นตฺถีติ อวิตกฺกํ. อิมินาว นเยน อวิจารํ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ ‘‘อิติ อยฺจ วิตกฺโก อยฺจ วิจาโร สนฺตา โหนฺติ สมิตา วูปสนฺตา อตฺถงฺคตา อพฺภตฺถงฺคตา อปฺปิตา พฺยปฺปิตา โสสิตา วิโสสิตา พฺยนฺติกตา, เตน วุจฺจติ อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ (วิภ. ๕๗๖).

เอตฺถาห ‘‘นนุ จ ‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’ติ อิมินาปิ อยมตฺโถ สิทฺโธ, อถ กสฺมา ปุน วุตฺตํ ‘อวิตกฺกํ อวิจาร’นฺติ’’. วุจฺจเต, เอวเมตํ สิทฺโธวายมตฺโถ, น ปเนตํ ตทตฺถทีปกํ. นนุ อโวจุมฺห ‘‘โอฬาริกสฺส ปน โอฬาริกสฺส องฺคสฺส สมติกฺกมา ปมชฺฌานโต ปเรสํ ทุติยชฺฌานาทีนํ สมธิคโม โหตีติ ทสฺสนตฺถํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมาติ เอวํ วุตฺต’’นฺติ.

อปิจ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ สมฺปสาทนํ, น กิเลสกาลุสฺสิยสฺส. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา เอโกทิภาวํ, น อุปจารชฺฌานมิว นีวรณปฺปหานา , ปมชฺฌานมิว จ น องฺคปาตุภาวาติ เอวํ สมฺปสาทนเอโกทิภาวานํ เหตุปริทีปกมิทํ วจนํ. ตถา วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อิทํ อวิตกฺกํ อวิจารํ, น ตติยจตุตฺถชฺฌานานิ วิย จกฺขุวิฺาณาทีนิ วิย จ อภาวาติ เอวํ อวิตกฺกอวิจารภาวสฺส เหตุปริทีปกฺจ, น วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกํ. วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตปริทีปกเมว ปน ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ อิทํ วจนํ. ตสฺมา ปุริมํ วตฺวาปิ วตฺตพฺพเมวาติ.

สมาธิชนฺติ ปมชฺฌานสมาธิโต สมฺปยุตฺตสมาธิโต วา ชาตนฺติ อตฺโถ. ตตฺถ กิฺจาปิ ปมมฺปิ สมฺปยุตฺตสมาธิโต ชาตํ, อถ โข อยเมว สมาธิ ‘‘สมาธี’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ วิตกฺกวิจารกฺโขภวิรเหน อติวิย อจลตฺตา, สุปฺปสนฺนตฺตา จ, ตสฺมา อิมสฺส วณฺณภณนตฺถํ อิทเมว ‘‘สมาธิช’’นฺติ วุตฺตํ. ปีติสุขนฺติ อิทํ วุตฺตนยเมว.

ทุติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ทุติยํ. อิทํ ทุติยํ สมาปชฺชตีติปิ ทุติยํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘ทฺวงฺควิปฺปหีนํ ติวงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารานํ ปหานวเสน ทฺวงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. ยถา จ ปมชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณ นีวรณานิ ปหียนฺติ, น ตถา อิมสฺส วิตกฺกวิจารา. อปฺปนากฺขเณเยว จ ปเนตํ วินา เตหิ อุปฺปชฺชติ. เตนสฺส เต ‘‘ปหานงฺค’’นฺติ วุจฺจนฺติ. ปีติ สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปน ติณฺณํ อุปฺปตฺติวเสน ติวงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. ตสฺมา ยํ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ สมฺปสาโท ปีติ สุขํ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๘๐) วุตฺตํ, ตํ สปริกฺขารํ ฌานํ ทสฺเสตุํ ปริยาเยน วุตฺตํ. เปตฺวา ปน สมฺปสาทนํ นิปฺปริยาเยน อุปนิชฺฌานลกฺขณปฺปตฺตานํ องฺคานํ วเสน ติวงฺคิกเมว เอตํ โหติ. ยถาห – ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย ติวงฺคิกํ ฌานํ โหติ, ปีติ สุขํ จิตฺตสฺส เอกคฺคตา’’ติ (ธ. ส. ๑๖๑; วิภ. ๖๒๘). เสสํ ปมชฺฌาเน วุตฺตนยเมว.

ตติยชฺฌานกถา

๘๒. เอวมธิคเต ปน ตสฺมิมฺปิ วุตฺตนเยเนว ปฺจหากาเรหิ จิณฺณวสินา หุตฺวา ปคุณทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนวิตกฺกวิจารปจฺจตฺถิกา, ‘ยเทว ตตฺถ ปีติคตํ เจตโส อุปฺปิลาวิตํ, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายตี’ติ (ที. นิ. ๑.๙๖) วุตฺตาย ปีติยา โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ จ ตตฺถ โทสํ ทิสฺวา ตติยชฺฌานํ สนฺตโต มนสิกริตฺวา ทุติยชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทาย ตติยาธิคมาย โยโค กาตพฺโพ. อถสฺส ยทา ทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย สตสฺส สมฺปชานสฺส ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขโต ปีติ โอฬาริกโต อุปฏฺาติ, สุขฺเจว เอกคฺคตา จ สนฺตโต อุปฏฺาติ. ตทาสฺส โอฬาริกงฺคปฺปหานาย สนฺตองฺคปฏิลาภาย จ ตเทว นิมิตฺตํ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต ‘‘อิทานิ ตติยชฺฌานํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ตเทว ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตโต ตสฺมึเยวารมฺมเณ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ, เยสํ อวสาเน เอกํ รูปาวจรํ ตติยชฺฌานิกํ, เสสานิ วุตฺตนเยเนว กามาวจรานีติ. เอตฺตาวตา จ ปเนส ปีติยา จ วิราคา อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต จ สมฺปชาโน, สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทติ, ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ, ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ (ที. นิ. ๑.๒๓๐; ธ. ส. ๑๖๓). เอวมเนน เอกงฺควิปฺปหีนํ ทุวงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ ตติยํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณํ.

๘๓. ตตฺถ ปีติยา จ วิราคาติ วิราโค นาม วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา. อุภินฺนํ ปน อนฺตรา จสทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ, โส วูปสมํ วา สมฺปิณฺเฑติ วิตกฺกวิจารานํ วูปสมํ วา. ตตฺถ ยทา วูปสมเมว สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ‘‘ปีติยา จ วิราคา กิฺจ ภิยฺโย วูปสมา จา’’ติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค ชิคุจฺฉนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ‘‘ปีติยา ชิคุจฺฉนา จ วูปสมา จา’’ติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ยทา ปน วิตกฺกวิจารวูปสมํ สมฺปิณฺเฑติ, ตทา ‘‘ปีติยา จ วิราคา, กิฺจ ภิยฺโย วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ เอวํ โยชนา เวทิตพฺพา. อิมิสฺสา จ โยชนาย วิราโค สมติกฺกมนตฺโถ โหติ, ตสฺมา ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ อยมตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

กามฺเจเต วิตกฺกวิจารา ทุติยชฺฌาเนเยว วูปสนฺตา, อิมสฺส ปน ฌานสฺส มคฺคปริทีปนตฺถํ วณฺณภณนตฺถฺเจตํ วุตฺตํ. วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมาติ หิ วุตฺเต อิทํ ปฺายติ, นูน วิตกฺกวิจารวูปสโม มคฺโค อิมสฺส ฌานสฺสาติ. ยถา จ ตติเย อริยมคฺเค อปฺปหีนานมฺปิ สกฺกายทิฏฺาทีนํ ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปหานา’’ติ (ที. นิ. ๑.๓๗๓; ม. นิ. ๒.๑๓๓; สํ. นิ. ๕.๑๘๔; อ. นิ. ๓.๘๘) เอวํ ปหานํ วุจฺจมานํ วณฺณภณนํ โหติ, ตทธิคมาย อุสฺสุกฺกานํ อุสฺสาหชนกํ, เอวเมว อิธ อวูปสนฺตานมฺปิ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม วุจฺจมาโน วณฺณภณนํ โหติ. เตนายมตฺโถ วุตฺโต ‘‘ปีติยา จ สมติกฺกมา วิตกฺกวิจารานฺจ วูปสมา’’ติ.

๘๔. อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตฺถ อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา. สมํ ปสฺสติ, อปกฺขปติตา หุตฺวา ปสฺสตีติ อตฺโถ. ตาย วิสทาย วิปุลาย ถามคตาย สมนฺนาคตตฺตา ตติยชฺฌานสมงฺคี อุเปกฺขโกติ วุจฺจติ.

อุเปกฺขา ปน ทสวิธา โหติ ฉฬงฺคุเปกฺขา, พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา, โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, วีริยุเปกฺขา, สงฺขารุเปกฺขา, เวทนุเปกฺขา, วิปสฺสนุเปกฺขา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา, ฌานุเปกฺขา, ปาริสุทฺธุเปกฺขาติ.

ตตฺถ ยา ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา เนว สุมโน โหติ, น ทุมฺมโน, อุเปกฺขโก จ วิหรติ สโต สมฺปชาโน’’ติ (อ. นิ. ๖.๑) เอวมาคตา ขีณาสวสฺส ฉสุ ทฺวาเรสุ อิฏฺานิฏฺฉฬารมฺมณาปาเถ ปริสุทฺธปกติภาวาวิชหนาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ ฉฬงฺคุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ม. นิ. ๑.๗๗) เอวมาคตา สตฺเตสุ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคํ ภาเวติ วิเวกนิสฺสิต’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๒๗) เอวมาคตา สหชาตธมฺมานํ มชฺฌตฺตาการภูตา อุเปกฺขา, อยํ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘กาเลนกาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกโรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓) เอวมาคตา อนจฺจารทฺธนาติสิถิลวีริยสงฺขาตา อุเปกฺขา, อยํ วีริยุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘กติ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, กติ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ . อฏฺ สงฺขารุเปกฺขา สมถวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. ทส สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา คหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘ยสฺมึ สมเย กามาวจรํ กุสลํ จิตฺตํ อุปฺปนฺนํ โหติ อุเปกฺขาสหคต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๕๐) เอวมาคตา อทุกฺขมสุขสฺิตา อุเปกฺขา, อยํ เวทนุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕) เอวมาคตา วิจินเน มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ฉนฺทาทีสุ เยวาปนเกสุ อาคตา สหชาตานํ สมวาหิตภูตา อุเปกฺขา, อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา นาม.

ยา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๒๓๐; ธ. ส. ๑๖๓) เอวมาคตา อคฺคสุเขปิ ตสฺมึ อปกฺขปาตชนนี อุเปกฺขา, อยํ ฌานุเปกฺขา นาม.

ยา ปน ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๓๒; ธ. ส. ๑๖๕) เอวมาคตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อุเปกฺขา, อยํ ปาริสุทฺธุเปกฺขา นาม.

ตตฺร ฉฬงฺคุเปกฺขา จ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา จ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา จ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา จ ฌานุเปกฺขา จ ปาริสุทฺธุเปกฺขา จ อตฺถโต เอกา, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ. เตน เตน อวตฺถาเภเทน ปนสฺสา อยํ เภโท. เอกสฺสาปิ สโต สตฺตสฺส กุมารยุวเถรเสนาปติราชาทิวเสน เภโท วิย. ตสฺมา ตาสุ ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ โพชฺฌงฺคุเปกฺขาทโย. ยตฺถ วา ปน โพชฺฌงฺคุเปกฺขา, น ตตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขาทโย โหนฺตีติ เวทิตพฺพา.

ยถา เจตาสมตฺถโต เอกีภาโว, เอวํ สงฺขารุเปกฺขา วิปสฺสนุเปกฺขานมฺปิ. ปฺา เอว หิ สา กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา. ยถา หิ ปุริสสฺส สายํ เคหํ ปวิฏฺํ สปฺปํ อชปททณฺฑํ คเหตฺวา ปริเยสมานสฺส ตํ ถุสโกฏฺเก นิปนฺนํ ทิสฺวา ‘‘สปฺโป นุ โข, โน’’ติ อวโลเกนฺตสฺส โสวตฺติกตฺตยํ ทิสฺวา นิพฺเพมติกสฺส ‘‘สปฺโป, น สปฺโป’’ติ วิจินเน มชฺฌตฺตตา โหติ, เอวเมว ยา อารทฺธวิปสฺสกสฺส วิปสฺสนาาเณน ลกฺขณตฺตเย ทิฏฺเ สงฺขารานํ อนิจฺจภาวาทิวิจินเน มชฺฌตฺตตา อุปฺปชฺชติ, อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม. ยถา ปน ตสฺส ปุริสสฺส อชปททณฺเฑน คาฬฺหํ สปฺปํ คเหตฺวา ‘‘กึ ตาหํ อิมํ สปฺปํ อวิเหเนฺโต อตฺตานฺจ อิมินา อฑํสาเปนฺโต มุฺเจยฺย’’นฺติ มุฺจนาการเมว ปริเยสโต คหเณ มชฺฌตฺตตา โหติ. เอวเมว ยา ลกฺขณตฺตยสฺส ทิฏฺตฺตา อาทิตฺเต วิย ตโย ภเว ปสฺสโต สงฺขารคฺคหเณ มชฺฌตฺตตา, อยํ สงฺขารุเปกฺขา นาม. อิติ วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย สงฺขารุเปกฺขาปิ สิทฺธาว โหติ. อิมินา ปเนสา วิจินนคฺคหเณสุ มชฺฌตฺตสงฺขาเตน กิจฺเจน ทฺวิธา ภินฺนาติ. วีริยุเปกฺขา ปน เวทนุเปกฺขา จ อฺมฺฺจ อวเสสาหิ จ อตฺถโต ภินฺนา เอวาติ.

อิติ อิมาสุ อุเปกฺขาสุ ฌานุเปกฺขา อิธาธิปฺเปตา. สา มชฺฌตฺตลกฺขณา, อนาโภครสา, อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานา, ปีติวิราคปทฏฺานาติ. เอตฺถาห, นนุ จายมตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว โหติ, สา จ ปมทุติยชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ. ตสฺมา ตตฺราปิ อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอวมยํ วตฺตพฺพา สิยา, สา กสฺมา น วุตฺตาติ. อปริพฺยตฺตกิจฺจโต. อปริพฺยตฺตฺหิ ตสฺสา ตตฺถ กิจฺจํ วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา. อิธ ปนายํ วิตกฺกวิจารปีตีหิ อนภิภูตตฺตา อุกฺขิตฺตสิรา วิย หุตฺวา ปริพฺยตฺตกิจฺจา ชาตา, ตสฺมา วุตฺตาติ.

นิฏฺิตา อุเปกฺขโก จ วิหรตีติ เอตสฺส

สพฺพโส อตฺถวณฺณนา.

๘๕. อิทานิ สโต จ สมฺปชาโนติ เอตฺถ สรตีติ สโต. สมฺปชานาตีติ สมฺปชาโน. ปุคฺคเลน สติ จ สมฺปชฺฺจ วุตฺตํ. ตตฺถ สรณลกฺขณา สติ, อสมฺมุสฺสนรสา, อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺโมหลกฺขณํ สมฺปชฺํ, ตีรณรสํ, ปวิจยปจฺจุปฏฺานํ.

ตตฺถ กิฺจาปิ อิทํ สติสมฺปชฺํ ปุริมชฺฌาเนสุปิ อตฺถิ. มุฏฺสติสฺส หิ อสมฺปชานสฺส อุปจารมตฺตมฺปิ น สมฺปชฺชติ, ปเคว อปฺปนา. โอฬาริกตฺตา ปน เตสํ ฌานานํ ภูมิยํ วิย ปุริสสฺส จิตฺตสฺส คติ สุขา โหติ, อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน ปน สุขุมตฺตา อิมสฺส ฌานสฺส ปุริสสฺส ขุรธารายํ วิย สติสมฺปชฺกิจฺจปริคฺคหิตา เอว จิตฺตสฺส คติ อิจฺฉิตพฺพาติ อิเธว วุตฺตํ. กิฺจ ภิยฺโย, ยถา เธนุปโค วจฺโฉ เธนุโต อปนีโต อรกฺขิยมาโน ปุนเทว เธนุํ อุปคจฺฉติ, เอวมิทํ ตติยชฺฌานสุขํ ปีติโต อปนีตํ, ตํ สติสมฺปชฺารกฺเขน อรกฺขิยมานํ ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺย, ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา. สุเข วาปิ สตฺตา สารชฺชนฺติ, อิทฺจ อติมธุรํ สุขํ, ตโต ปรํ สุขาภาวา. สติสมฺปชฺานุภาเวน ปเนตฺถ สุเข อสารชฺชนา โหติ, โน อฺถาติ อิมมฺปิ อตฺถวิเสสํ ทสฺเสตุํ อิทมิเธว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กิฺจาปิ ตติยชฺฌานสมงฺคิโน สุขปฏิสํเวทนาโภโค นตฺถิ. เอวํ สนฺเตปิ ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ. ยํ วา ตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํสมุฏฺาเนนสฺส ยสฺมา อติปณีเตน รูเปน รูปกาโย ผุโฏ, ยสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย. ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโต สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ อาห.

๘๖. อิทานิ ยํ ตํ อริยา อาจิกฺขนฺติ อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ เอตฺถ ยํฌานเหตุ ยํฌานการณา ตํ ตติยชฺฌานสมงฺคิปุคฺคลํ พุทฺธาทโย อริยา อาจิกฺขนฺติ เทเสนฺติ ปฺเปนฺติ ปฏฺเปนฺติ วิวรนฺติ วิภชนฺติ อุตฺตานีกโรนฺติ ปกาเสนฺติ, ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย. กินฺติ? อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารีติ. ตํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตีติ เอวเมตฺถ โยชนา เวทิตพฺพา.

กสฺมา ปน ตํ เต เอวํ ปสํสนฺตีติ? ปสํสารหโต. อยฺหิ ยสฺมา อติมธุรสุเข สุขปารมิปฺปตฺเตปิ ตติยชฺฌาเน อุเปกฺขโก, น ตตฺถ สุขาภิสงฺเคน อากฑฺฒิยติ. ยถา จ ปีติ น อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุปฏฺิตสติตาย สติมา. ยสฺมา จ อริยกนฺตํ อริยชนเสวิตเมว จ อสํกิลิฏฺํ สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทติ, ตสฺมา ปสํสารโห โหติ . อิติ ปสํสารหโต นํ อริยา เต เอวํ ปสํสาเหตุภูเต คุเณ ปกาเสนฺโต ‘‘อุเปกฺขโก สติมา สุขวิหารี’’ติ เอวํ ปสํสนฺตีติ เวทิตพฺพํ.

ตติยนฺติ คณนานุปุพฺพตา ตติยํ, อิทํ ตติยํ สมาปชฺชตีติปิ ตติยํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เอกงฺควิปฺปหีนํ ทุวงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ, เอตฺถ ปีติยา ปหานวเสน เอกงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา . สา ปเนสา ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารา วิย อปฺปนากฺขเณเยว ปหียติ. เตน นสฺส สา ปหานงฺคนฺติ วุจฺจติ. สุขํ จิตฺเตกคฺคตาติ อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ทุวงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. ตสฺมา ยํ วิภงฺเค ‘‘ฌานนฺติ อุเปกฺขา สติ สมฺปชฺํ สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (วิภ. ๕๙๑) วุตฺตํ, ตํ สปริกฺขารํ ฌานํ ทสฺเสตุํ ปริยาเยน วุตฺตํ. เปตฺวา ปน อุเปกฺขาสติสมฺปชฺานิ นิปฺปริยาเยน อุปนิชฺฌานลกฺขณปฺปตฺตานํ องฺคานํ วเสน ทุวงฺคิกเมเวตํ โหติ. ยถาห – ‘‘กตมํ ตสฺมึ สมเย ทุวงฺคิกํ ฌานํ โหติ, สุขํ จิตฺตสฺเสกคฺคตา’’ติ (ธ. ส. ๑๖๓; วิภ. ๖๒๔). เสสํ ปมชฺฌาเน วุตฺตนยเมว.

จตุตฺถชฺฌานกถา

๘๗. เอวมธิคเต ปน ตสฺมึปิ วุตฺตนเยเนว ปฺจหากาเรหิ จิณฺณวสินา หุตฺวา ปคุณตติยชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนปีติปจฺจตฺถิกา, ‘ยเทว ตตฺถ สุขมิติ เจตโส อาโภโค, เอเตเนตํ โอฬาริกํ อกฺขายตี’ติ (ที. นิ. ๑.๙๖) เอวํ วุตฺตสฺส สุขสฺส โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ จ ตตฺถ โทสํ ทิสฺวา จตุตฺถํ ฌานํ สนฺตโต มนสิกตฺวา ตติยชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทาย จตุตฺถาธิคมาย โยโค กาตพฺโพ. อถสฺส ยทา ตติยชฺฌานโต วุฏฺาย สตสฺส สมฺปชานสฺส ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขโต เจตสิกโสมนสฺสสงฺขาตํ สุขํ โอฬาริกโต อุปฏฺาติ, อุเปกฺขาเวทนา เจว จิตฺเตกคฺคตา จ สนฺตโต อุปฏฺาติ, ตทาสฺส โอฬาริกงฺคปฺปหานาย สนฺตองฺคปฏิลาภาย จ ตเทว นิมิตฺตํ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต ‘‘อิทานิ จตุตฺถํ ฌานํ อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา ตเทว ปถวีกสิณํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตโต ตสฺมึเยวารมฺมเณ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺติ , เยสํ อวสาเน เอกํ รูปาวจรํ จตุตฺถชฺฌานิกํ, เสสานิ วุตฺตปฺปการาเนว กามาวจรานิ. อยํ ปน วิเสโส, ยสฺมา สุขเวทนา อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, จตุตฺถชฺฌาเน จ อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อุปฺปชฺชิตพฺพํ, ตสฺมา ตานิ อุเปกฺขาเวทนาสมฺปยุตฺตานิ โหนฺติ. อุเปกฺขาสมฺปยุตฺตตฺตาเยว เจตฺถ ปีติปิ ปริหายตีติ. เอตฺตาวตา เจส สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานา ปุพฺเพว โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมา อทุกฺขมสุขํ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธึ จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ (ที. นิ. ๑.๒๓๒; ธ. ส. ๑๖๕). เอวมเนน เอกงฺควิปฺปหีนํ ทุวงฺคสมนฺนาคตํ ติวิธกลฺยาณํ ทสลกฺขณสมฺปนฺนํ จตุตฺถํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณํ.

๘๘. ตตฺถ สุขสฺส จ ปหานา ทุกฺขสฺส จ ปหานาติ กายิกสุขสฺส จ กายิกทุกฺขสฺส จ ปหานา. ปุพฺเพวาติ ตฺจ โข ปุพฺเพว, น จตุตฺถชฺฌานกฺขเณ. โสมนสฺสโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาติ เจตสิกสุขสฺส จ เจตสิกทุกฺขสฺส จาติ อิเมสมฺปิ ทฺวินฺนํ ปุพฺเพว อตฺถงฺคมา, ปหานา อิจฺเจว วุตฺตํ โหติ.

กทา ปน เนสํ ปหานํ โหตีติ. จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ. โสมนสฺสฺหิ จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียติ. ทุกฺขโทมนสฺสสุขานิ ปมทุติยตติยชฺฌานานํ อุปจารกฺขเณสุ. เอวเมเตสํ ปหานกฺกเมน อวุตฺตานมฺปิ อินฺทฺริยวิภงฺเค ปน อินฺทฺริยานํ อุทฺเทสกฺกเมเนว อิธาปิ วุตฺตานํ สุขทุกฺขโสมนสฺสโทมนสฺสานํ ปหานํ เวทิตพฺพํ.

ยทิ ปเนตานิ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺส อุปจารกฺขเณเยว ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ‘‘กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ, อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหิปิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ. กตฺถ จุปฺปนฺนํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ สุขินฺทฺริยํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌติ, อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ, เอตฺถ จุปฺปนฺนํ โสมนสฺสินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๕๑๐) เอวํ ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ? อติสยนิโรธตฺตา. อติสยนิโรโธ หิ เนสํ ปมชฺฌานาทีสุ, น นิโรโธเยว. นิโรโธเยว ปน อุปจารกฺขเณ, นาติสยนิโรโธ.

ตถา หิ นานาวชฺชเน ปมชฺฌานุปจาเร นิรุทฺธสฺสาปิ ทุกฺขินฺทฺริยสฺส ฑํสมกสาทิสมฺผสฺเสน วา วิสมาสนุปตาเปน วา สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนายํ. อุปจาเร วา นิรุทฺธมฺเปตํ น สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ, ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา. อนฺโตอปฺปนายํ ปน ปีติผรเณน สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหติ, สุโขกฺกนฺตกายสฺส จ สุฏฺุ นิรุทฺธํ โหติ ทุกฺขินฺทฺริยํ, ปฏิปกฺเขน วิหตตฺตา. นานาวชฺชเนเยว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺส โทมนสฺสินฺทฺริยสฺส ยสฺมา เอตํ วิตกฺกวิจารปจฺจเยปิ กายกิลมเถ จิตฺตุปฆาเต จ สติ อุปฺปชฺชติ. วิตกฺกวิจาราภาเว จ เนว อุปฺปชฺชติ. ยตฺถ ปน อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ วิตกฺกวิจารภาเว, อปฺปหีนา เอว จ ทุติยชฺฌานุปจาเร วิตกฺกวิจาราติ ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ทุติยชฺฌาเน, ปหีนปจฺจยตฺตา. ตถา ตติยชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ สุขินฺทฺริยสฺส ปีติสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายสฺส สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว ตติยชฺฌาเน. ตติยชฺฌาเน หิ สุขสฺส ปจฺจยภูตา ปีติ สพฺพโส นิรุทฺธาติ. ตถา จตุตฺถชฺฌานุปจาเร ปหีนสฺสาปิ โสมนสฺสินฺทฺริยสฺส อาสนฺนตฺตา อปฺปนาปฺปตฺตาย อุเปกฺขาย อภาเวน สมฺมา อนติกฺกนฺตตฺตา จ สิยา อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว จตุตฺถชฺฌาเน. ตสฺมา เอว จ เอตฺถุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตีติ ตตฺถ ตตฺถ อปริเสสคฺคหณํ กตนฺติ.

เอตฺถาห ‘‘อเถวํ ตสฺส ตสฺส ฌานสฺสุปจาเร ปหีนาปิ เอตา เวทนา อิธ กสฺมา สมาหฏา’’ติ? สุขคฺคหณตฺถํ. ยา หิ อยํ อทุกฺขมสุขนฺติ เอตฺถ อทุกฺขมสุขา เวทนา วุตฺตา, สา สุขุมา ทุวิฺเยฺยา น สกฺกา สุเขน คเหตุํ, ตสฺมา ยถา นาม ทุฏฺสฺส ยถา วา ตถา วา อุปสงฺกมิตฺวา คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส โคณสฺส สุขคฺคหณตฺถํ โคโป เอกสฺมึ วเช สพฺพา คาโว สมาหรติ, อเถเกกํ นีหรนฺโต ปฏิปาฏิยา อาคตํ ‘‘อยํ โส คณฺหถ น’’นฺติ ตมฺปิ คาหยติ, เอวเมว ภควา สุขคฺคหณตฺถํ สพฺพา เอตา สมาหริ. เอวฺหิ สมาหฏา เอตา ทสฺเสตฺวา ยํ เนว สุขํ น ทุกฺขํ น โสมนสฺสํ น โทมนสฺสํ, อยํ อทุกฺขมสุขา เวทนาติ สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ.

อปิจ อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา ปจฺจยทสฺสนตฺถฺจาปิ เอตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร โข, อาวุโส, ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา. อิธาวุโส, ภิกฺขุ สุขสฺส จ ปหานา…เป… จตุตฺถํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. อิเม ขฺวาวุโส, จตฺตาโร ปจฺจยา อทุกฺขมสุขาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘).

ยถา วา อฺตฺถ ปหีนาปิ สกฺกายทิฏฺิอาทโย ตติยมคฺคสฺส วณฺณภณนตฺถํ ตตฺถ ปหีนาติ วุตฺตา, เอวํ วณฺณภณนตฺถมฺเปตสฺส ฌานสฺเสตา อิธ วุตฺตาติปิ เวทิตพฺพา.

ปจฺจยฆาเตน วา เอตฺถ ราคโทสานมติทูรภาวํ ทสฺเสตุมฺเปตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพา. เอตาสุ หิ สุขํ โสมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โสมนสฺสํ ราคสฺส. ทุกฺขํ โทมนสฺสสฺส ปจฺจโย, โทมนสฺสํ โทสสฺส. สุขาทิฆาเตน จสฺส สปฺปจฺจยา ราคโทสา หตาติ อติทูเร โหนฺตีติ.

อทุกฺขมสุขนฺติ ทุกฺขาภาเวน อทุกฺขํ. สุขาภาเวน อสุขํ. เอเตเนตฺถ ทุกฺขสุขปฏิปกฺขภูตํ ตติยเวทนํ ทีเปติ, น ทุกฺขสุขาภาวมตฺตํ. ตติยเวทนา นาม อทุกฺขมสุขา , อุเปกฺขาติปิ วุจฺจติ. สา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา, มชฺฌตฺตรสา, อวิภูตปจฺจุปฏฺานา, สุขทุกฺขนิโรธปทฏฺานาติ เวทิตพฺพา.

๘๙. อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธินฺติ อุเปกฺขาย ชนิตสติยา ปาริสุทฺธึ. อิมสฺมิฺหิ ฌาเน สุปริสุทฺธา สติ, ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเน. ตสฺมา เอตํ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุจฺจติ. วิภงฺเคปิ วุตฺตํ ‘‘อยํ สติ อิมาย อุเปกฺขาย วิสทา โหติ ปริสุทฺธา ปริโยทาตา. เตน วุจฺจติ อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’’ติ (วิภ. ๕๙๗). ยาย จ อุเปกฺขาย เอตฺถ สติยา ปาริสุทฺธิ โหติ, สา อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตตาติเวทิตพฺพา. น เกวลฺเจตฺถ ตาย สติเยว ปริสุทฺธา, อปิจ โข สพฺเพปิ สมฺปยุตฺตธมฺมา, สติสีเสน ปน เทสนา วุตฺตา.

ตตฺถ กิฺจาปิ อยํ อุเปกฺขา เหฏฺาปิ ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชติ. ยถา ปน ทิวา สูริยปฺปภาภิภวา โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา อลาภา ทิวา วิชฺชมานาปิ จนฺทเลขา อปริสุทฺธา โหติ อปริโยทาตา, เอวมยมฺปิ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา อปฺปฏิลาภา วิชฺชมานาปิ ปมาทิชฺฌานเภเทสุ อปริสุทฺธา โหติ. ตสฺสา จ อปริสุทฺธาย ทิวา อปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย อปริสุทฺธาว โหนฺติ. ตสฺมา เตสุ เอกมฺปิ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ น วุตฺตํ. อิธ ปน วิตกฺกาทิปจฺจนีกธมฺมเตชาภิภวาภาวา สภาคาย จ อุเปกฺขาเวทนารตฺติยา ปฏิลาภา อยํ ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาจนฺทเลขา อติวิย ปริสุทฺธา. ตสฺสา ปริสุทฺธตฺตา ปริสุทฺธจนฺทเลขาย ปภา วิย สหชาตาปิ สติอาทโย ปริสุทฺธา โหนฺติ ปริโยทาตา. ตสฺมา อิทเมว ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.

จตุตฺถนฺติ คณนานุปุพฺพตา จตุตฺถํ. อิทํ จตุตฺถํ สมาปชฺชตีติปิ จตุตฺถํ. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘เอกงฺควิปฺปหีนํ ทุวงฺคสมนฺนาคต’’นฺติ, ตตฺถ โสมนสฺสสฺส ปหานวเสน เอกงฺควิปฺปหีนตา เวทิตพฺพา. ตฺจ ปน โสมนสฺสํ เอกวีถิยํ ปุริมชวเนสุเยว ปหียติ. เตนสฺส ตํ ปหานงฺคนฺติ วุจฺจติ. อุเปกฺขาเวทนา จิตฺตสฺเสกคฺคตาติ อิเมสํ ปน ทฺวินฺนํ อุปฺปตฺติวเสน ทุวงฺคสมนฺนาคตตา เวทิตพฺพา. เสสํ ปมชฺฌาเน วุตฺตนยเมว. เอส ตาว จตุกฺกชฺฌาเน นโย.

ปฺจกชฺฌานกถา

๙๐. ปฺจกชฺฌานํ ปน นิพฺพตฺเตนฺเตน ปคุณปมชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนนีวรณปจฺจตฺถิกา, วิตกฺกสฺส โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ จ ตตฺถ โทสํ ทิสฺวา ทุติยชฺฌานํ สนฺตโต มนสิกริตฺวา ปมชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทาย ทุติยาธิคมาย โยโค กาตพฺโพ. อถสฺส ยทา ปมชฺฌานา วุฏฺาย สตสฺส สมฺปชานสฺส ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขโต วิตกฺกมตฺตํ โอฬาริกโต อุปฏฺาติ, วิจาราทโย สนฺตโต. ตทาสฺส โอฬาริกงฺคปฺปหานาย สนฺตงฺคปฏิลาภาย จ ตเทว นิมิตฺตํ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต วุตฺตนเยเนว ทุติยชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส วิตกฺกมตฺตเมว ปหานงฺคํ. วิจาราทีนิ จตฺตาริ สมนฺนาคตงฺคานิ. เสสํ วุตฺตปฺปการเมว.

เอวมธิคเต ปน ตสฺมิมฺปิ วุตฺตนเยเนว ปฺจหากาเรหิ จิณฺณวสินา หุตฺวา ปคุณทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย ‘‘อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนวิตกฺกปจฺจตฺถิกา, วิจารสฺส โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ จ ตตฺถ โทสํ ทิสฺวา ตติยํ ฌานํ สนฺตโต มนสิกริตฺวา ทุติยชฺฌาเน นิกนฺตึ ปริยาทาย ตติยาธิคมาย โยโค กาตพฺโพ. อถสฺส ยทา ทุติยชฺฌานโต วุฏฺาย สตสฺส สมฺปชานสฺส ฌานงฺคานิ ปจฺจเวกฺขโต วิจารมตฺตํ โอฬาริกโต อุปฏฺาติ, ปีติอาทีนิ สนฺตโต. ตทาสฺส โอฬาริกงฺคปฺปหานาย สนฺตงฺคปฏิลาภาย จ ตเทว นิมิตฺตํ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต วุตฺตนเยเนว ตติยํ ฌานํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺส วิจารมตฺตเมว ปหานงฺคํ จตุกฺกนยสฺส ทุติยชฺฌาเน วิย ปีติอาทีนิ ตีณิ สมนฺนาคตงฺคานิ. เสสํ วุตฺตปฺปการเมว.

อิติ ยํ จตุกฺกนเย ทุติยํ, ตํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปฺจกนเย ทุติยฺเจว ตติยฺจ โหติ. ยานิ จ ตตฺถ ตติยจตุตฺถานิ, ตานิ จ จตุตฺถปฺจมานิ โหนฺติ. ปมํ ปมเมวาติ.

อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค

สมาธิภาวนาธิกาเร

ปถวีกสิณนิทฺเทโส นาม

จตุตฺโถ ปริจฺเฉโท.