📜
๕. เสสกสิณนิทฺเทโส
อาโปกสิณกถา
๙๑. อิทานิ ¶ ¶ ปถวีกสิณานนฺตเร อาโปกสิเณ วิตฺถารกถา โหติ. ยเถว หิ ปถวีกสิณํ, เอวํ อาโปกสิณมฺปิ ภาเวตุกาเมน สุขนิสินฺเนน อาปสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ, กเต วา อกเต วาติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ. ยถา จ อิธ, เอวํ สพฺพตฺถ. อิโต ปรฺหิ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา วิเสสมตฺตเมว วกฺขาม.
อิธาปิ ปุพฺเพกตาธิการสฺส ปฺุวโต อกเต อาปสฺมึ โปกฺขรณิยา วา ตฬาเก วา โลณิยํ วา สมุทฺเท วา นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ จูฬสิวตฺเถรสฺส วิย. ตสฺส กิรายสฺมโต ลาภสกฺการํ ปหาย วิวิตฺตวาสํ วสิสฺสามีติ มหาติตฺเถ นาวมารูหิตฺวา ชมฺพุทีปํ คจฺฉโต อนฺตรา มหาสมุทฺทํ โอโลกยโต ตปฺปฏิภาคํ กสิณนิมิตฺตํ อุทปาทิ.
อกตาธิกาเรน จตฺตาโร กสิณโทเส ปริหรนฺเตน นีลปีตโลหิโตทาตวณฺณานมฺตรวณฺณํ อาปํ อคเหตฺวา ยํ ปน ภูมึ อสมฺปตฺตเมว อากาเส สุทฺธวตฺเถน คหิตํ อุทกํ, อฺํ วา ตถารูปํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ, เตน ปตฺตํ วา กุณฺฑิกํ วา สมติตฺติกํ ปูเรตฺวา วิหารปจฺจนฺเต วุตฺตปฺปกาเร ปฏิจฺฉนฺเน โอกาเส เปตฺวา สุขนิสินฺเนน น วณฺโณ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ. น ลกฺขณํ มนสิ กาตพฺพํ. นิสฺสยสวณฺณเมว กตฺวา อุสฺสทวเสน ปณฺณตฺติธมฺเม จิตฺตํ เปตฺวา อมฺพุ, อุทกํ, วาริ, สลิลนฺติอาทีสุ อาโปนาเมสุ ปากฏนามวเสเนว ‘‘อาโป อาโป’’ติ ภาเวตพฺพํ.
ตสฺเสวํ ภาวยโต อนุกฺกเมน วุตฺตนเยเนว นิมิตฺตทฺวยํ อุปฺปชฺชติ. อิธ ปน อุคฺคหนิมิตฺตํ จลมานํ วิย อุปฏฺาติ, สเจ เผณปุปฺผุฬกมิสฺสํ อุทกํ โหติ, ตาทิสเมว อุปฏฺาติ, กสิณโทโส ¶ ปฺายติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน นิปฺปริปฺผนฺทํ อากาเส ปิตมณิตาลวณฺฏํ วิย มณิมยาทาสมณฺฑลมิว จ หุตฺวา อุปฏฺาติ. โส ตสฺส สห อุปฏฺาเนเนว ¶ อุปจารชฺฌานํ, วุตฺตนเยเนว จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ จ ปาปุณาตีติ. อาโปกสิณํ.
เตโชกสิณกถา
๙๒. เตโชกสิณํ ภาเวตุกาเมนาปิ เตชสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ. ตตฺถ กตาธิการสฺส ปฺุวโต อกเต นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺส ทีปสิขาย วา อุทฺธเน วา ปตฺตปจนฏฺาเน วา ทวทาเห วา ยตฺถ กตฺถจิ อคฺคิชาลํ โอโลเกนฺตสฺส นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตคุตฺตตฺเถรสฺส วิย. ตสฺส หายสฺมโต ธมฺมสฺสวนทิวเส อุโปสถาคารํ ปวิฏฺสฺส ทีปสิขํ โอโลเกนฺตสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชิ.
อิตเรน ปน กาตพฺพํ. ตตฺริทํ กรณวิธานํ, สินิทฺธานิ สารทารูนิ ผาเลตฺวา สุกฺขาเปตฺวา ฆฏิกํ ฆฏิกํ กตฺวา ปติรูปํ รุกฺขมูลํ วา มณฺฑปํ วา คนฺตฺวา ปตฺตปจนากาเรน ราสึ กตฺวา อาลิมฺเปตฺวา กฏสารเก วา จมฺเม วา ปเฏ วา วิทตฺถิจตุรงฺคุลปฺปมาณํ ฉิทฺทํ กาตพฺพํ. ตํ ปุรโต เปตฺวา วุตฺตนเยเนว นิสีทิตฺวา เหฏฺา ติณกฏฺํ วา อุปริ ธูมสิขํ วา อมนสิกริตฺวา เวมชฺเฌ ฆนชาลาย นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ, นีลนฺติ วา ปีตนฺติ วาติอาทิวเสน วณฺโณ น ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ, อุณฺหตฺตวเสน ลกฺขณํ น มนสิ กาตพฺพํ. นิสฺสยสวณฺณเมว กตฺวา อุสฺสทวเสน ปณฺณตฺติธมฺเม จิตฺตํ เปตฺวา ปาวโก, กณฺหวตฺตนี, ชาตเวโท, หุตาสโนติอาทีสุ อคฺคินาเมสุ ปากฏนามวเสเนว ‘‘เตโช เตโช’’ติ ภาเวตพฺพํ.
ตสฺเสวํ ภาวยโต อนุกฺกเมน วุตฺตนเยเนว นิมิตฺตทฺวยํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ ชาลํ ฉิชฺชิตฺวา ฉิชฺชิตฺวา ปตนสทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. อกเต คณฺหนฺตสฺส ปน กสิณโทโส ปฺายติ, อลาตขณฺฑํ วา องฺคารปิณฺโฑ วา ฉาริกา วา ธูโม วา อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ นิจฺจลํ อากาเส ปิตรตฺตกมฺพลกฺขณฺฑํ วิย สุวณฺณตาลวณฺฏํ วิย กฺจนตฺถมฺโภ วิย จ อุปฏฺาติ. โส ตสฺส สห อุปฏฺาเนเนว อุปจารชฺฌานํ, วุตฺตนเยเนว จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ จ ปาปุณาตีติ. เตโชกสิณํ.
วาโยกสิณกถา
๙๓. วาโยกสิณํ ¶ ¶ ภาเวตุกาเมนาปิ วายุสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ. ตฺจ โข ทิฏฺวเสน วา ผุฏฺวเสน วา. วุตฺตฺเหตํ อฏฺกถาสุ ‘‘วาโยกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต วายุสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ, อุจฺฉคฺคํ วา เอริตํ สเมริตํ อุปลกฺเขติ, เวฬคฺคํ วา…เป… รุกฺขคฺคํ วา เกสคฺคํ วา เอริตํ สเมริตํ อุปลกฺเขติ, กายสฺมึ วา ผุฏฺํ อุปลกฺเขตี’’ติ. ตสฺมา สมสีสฏฺิตํ ฆนปตฺตํ อุจฺฉุํ วา เวฬุํ วา รุกฺขํ วา จตุรงฺคุลปฺปมาณํ ฆนเกสสฺส ปุริสสฺส สีสํ วา วาเตน ปหริยมานํ ทิสฺวา ‘‘อยํ วาโต เอตสฺมึ าเน ปหรตี’’ติ สตึ เปตฺวา, ยํ วา ปนสฺส วาตปานนฺตริกาย วา ภิตฺติฉิทฺเทน วา ปวิสิตฺวา วาโต กายปฺปเทสํ ปหรติ, ตตฺถ สตึ เปตฺวา วาตมาลุตอนิลาทีสุ วายุนาเมสุ ปากฏนามวเสเนว ‘‘วาโต วาโต’’ติ ภาเวตพฺพํ. อิธ อุคฺคหนิมิตฺตวฑฺฒนโต โอตาริตมตฺตสฺส ปายาสสฺส อุสุมวฏฺฏิสทิสํ จลํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ สนฺนิสินฺนํ โหติ นิจฺจลํ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ. วาโยกสิณํ.
นีลกสิณกถา
๙๔. ตทนนฺตรํ ปน นีลกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต นีลกสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วาติ วจนโต กตาธิการสฺส ปฺุวโต ตาว ตถารูปํ มาลาคจฺฉํ วา ปูชาาเนสุ ปุปฺผสนฺถรํ วา นีลวตฺถมณีนํ วา อฺตรํ ทิสฺวาว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อิตเรน นีลุปฺปลคิริกณฺณิกาทีนิ ปุปฺผานิ คเหตฺวา ยถา เกสรํ วา วณฺฏํ วา น ปฺายติ, เอวํ จงฺโคฏกํ วา กรณฺฑปฏลํ วา ปตฺเตหิเยว สมติตฺติกํ ปูเรตฺวา สนฺถริตพฺพํ. นีลวณฺเณน วา วตฺเถน ภณฺฑิกํ พนฺธิตฺวา ปูเรตพฺพํ. มุขวฏฺฏิยํ วา อสฺส เภริตลมิว พนฺธิตพฺพํ. กํสนีลปลาสนีลอฺชนนีลานํ วา อฺตเรน ธาตุนา ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยน สํหาริมํ วา ภิตฺติยํเยว วา กสิณมณฺฑลํ กตฺวา วิสภาควณฺเณน ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. ตโต ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยน ‘‘นีลํ นีล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิธาปิ อุคฺคหนิมิตฺเต กสิณโทโส ปฺายติ, เกสรทณฺฑกปตฺตนฺตริกาทีนิ อุปฏฺหนฺติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ กสิณมณฺฑลโต มฺุจิตฺวา อากาเส ¶ มณิตาลวณฺฏสทิสํ อุปฏฺาติ. เสสํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ. นีลกสิณํ.
ปีตกสิณกถา
๙๕. ปีตกสิเณปิ ¶ เอเสว นโย. วุตฺตฺเหตํ ปีตกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต ปีตกสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วาติ. ตสฺมา อิธาปิ กตาธิการสฺส ปฺุวโต ตถารูปํ มาลาคจฺฉํ วา ปุปฺผสนฺถรํ วา ปีตวตฺถธาตูนํ วา อฺตรํ ทิสฺวาว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ จิตฺตคุตฺตตฺเถรสฺส วิย. ตสฺส กิรายสฺมโต จิตฺตลปพฺพเต ปตฺตงฺคปุปฺเผหิ กตํ อาสนปูชํ ปสฺสโต สห ทสฺสเนเนว อาสนปฺปมาณํ นิมิตฺตํ อุทปาทิ. อิตเรน กณิการปุปฺผาทินา วา ปีตวตฺเถน วา ธาตุนา วา นีลกสิเณ วุตฺตนเยเนว กสิณํ กตฺวา ‘‘ปีตกํ ปีตก’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมวาติ. ปีตกสิณํ.
โลหิตกสิณกถา
๙๖. โลหิตกสิเณปิ เอเสว นโย. วุตฺตฺเหตํ โลหิตกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต โลหิตกสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วาติ. ตสฺมา อิธาปิ กตาธิการสฺส ปฺุวโต ตถารูปํ พนฺธุชีวกาทิมาลาคจฺฉํ วา ปุปฺผสนฺถรํ วา โลหิตกวตฺถมณิธาตูนํ วา อฺตรํ ทิสฺวาว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อิตเรน ชยสุมนพนฺธุชีวกรตฺตโกรณฺฑกาทิปุปฺเผหิ วา รตฺตวตฺเถน วา ธาตุนา วา นีลกสิเณ วุตฺตนเยเนว กสิณํ กตฺวา ‘‘โลหิตกํ โลหิตก’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมวาติ. โลหิตกสิณํ.
โอทาตกสิณกถา
๙๗. โอทาตกสิเณปิ โอทาตกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต โอทาตสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ปุปฺผสฺมึ วา วตฺถสฺมึ วา วณฺณธาตุยา วาติ วจนโต กตาธิการสฺส ตาว ปฺุวโต ตถารูปํ มาลาคจฺฉํ วา วสฺสิกสุมนาทิปุปฺผสนฺถรํ วา กุมุทปทุมราสึ วา โอทาตวตฺถธาตูนํ วา อฺตรํ ทิสฺวาว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, ติปุมณฺฑลรชตมณฺฑลจนฺทมณฺฑเลสุปิ อุปฺปชฺชติเยว. อิตเรน ¶ วุตฺตปฺปกาเรหิ โอทาตปุปฺเผหิ วา โอทาตวตฺเถน วา ธาตุนา วา นีลกสิเณ วุตฺตนเยเนว กสิณํ กตฺวา ‘‘โอทาตํ โอทาต’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เสสํ ตาทิสเมวาติ. โอทาตกสิณํ.
อาโลกกสิณกถา
๙๘. อาโลกกสิเณ ¶ ปน อาโลกกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต อาโลกสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ภิตฺติฉิทฺเท วา ตาฬจฺฉิทฺเท วา วาตปานนฺตริกาย วาติ วจนโต กตาธิการสฺส ตาว ปฺุวโต ยํ ภิตฺติฉิทฺทาทีนํ อฺตเรน สูริยาโลโก วา จนฺทาโลโก วา ปวิสิตฺวา ภิตฺติยํ วา ภูมิยํ วา มณฺฑลํ สมุฏฺาเปติ, ฆนปณฺณรุกฺขสาขนฺตเรน วา ฆนสาขามณฺฑปนฺตเรน วา นิกฺขมิตฺวา ภูมิยเมว มณฺฑลํ สมุฏฺาเปติ, ตํ ทิสฺวาว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อิตเรนาปิ ตเทว วุตฺตปฺปการโมภาสมณฺฑลํ ‘‘โอภาโส โอภาโส’’ติ วา ‘‘อาโลโก อาโลโก’’ติ วา ภาเวตพฺพํ. ตถา อสกฺโกนฺเตน ฆเฏ ทีปํ ชาเลตฺวา ฆฏมุขํ ปิทหิตฺวา ฆเฏ ฉิทฺทํ กตฺวา ภิตฺติมุขํ เปตพฺพํ. เตน ฉิทฺเทน ทีปาโลโก นิกฺขมิตฺวา ภิตฺติยํ มณฺฑลํ กโรติ, ตํ อาโลโก อาโลโกติ ภาเวตพฺพํ. อิทมิตเรหิ จิรฏฺิติกํ โหติ. อิธ อุคฺคหนิมิตฺตํ ภิตฺติยํ วา ภูมิยํ วา อุฏฺิตมณฺฑลสทิสเมว โหติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ฆนวิปฺปสนฺนอาโลกปฺุชสทิสํ. เสสํ ตาทิสเมวาติ. อาโลกกสิณํ.
ปริจฺฉินฺนากาสกสิณกถา
๙๙. ปริจฺฉินฺนากาสกสิเณปิ อากาสกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต อากาสสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหาติ ภิตฺติฉิทฺเท วา ตาฬจฺฉิทฺเท วา วาตปานนฺตริกาย วาติ วจนโต กตาธิการสฺส ตาว ปฺุวโต ภิตฺติฉิทฺทาทีสุ อฺตรํ ทิสฺวาว นิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. อิตเรน สุจฺฉนฺนมณฺฑเป วา จมฺมกฏสารกาทีนํ วา อฺตรสฺมึ วิทตฺถิจตุรงฺคุลปฺปมาณํ ฉิทฺทํ กตฺวา ตเทว วา ภิตฺติฉิทฺทาทิเภทํ ฉิทฺทํ ‘‘อากาโส อากาโส’’ติ ภาเวตพฺพํ. อิธ อุคฺคหนิมิตฺตํ สทฺธึ ภิตฺติปริยนฺตาทีหิ ฉิทฺทสทิสเมว โหติ, วฑฺฒิยมานมฺปิ น วฑฺฒติ. ปฏิภาคนิมิตฺตมากาสมณฺฑลเมว หุตฺวา อุปฏฺาติ, วฑฺฒิยมานฺจ วฑฺฒติ. เสสํ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพนฺติ. ปริจฺฉินฺนากาสกสิณํ.
อิติ ¶ กสิณานิ ทสพโล,
ทส ยานิ อโวจ สพฺพธมฺมทโส;
รูปาวจรมฺหิ จตุกฺกปฺจกชฺฌานเหตูนิ.
เอวํ ¶ ตานิ จ เตสฺจ,
ภาวนานยมิมํ วิทิตฺวาน;
เตสฺเวว อยํ ภิยฺโย,
ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.
ปกิณฺณกกถา
๑๐๐. อิเมสุ หิ ปถวีกสิณวเสน เอโกปิ หุตฺวา พหุธา โหตีติอาทิภาโว, อากาเส วา อุทเก วา ปถวึ นิมฺมินิตฺวา ปทสา คมนํ, านนิสชฺชาทิกปฺปนํ วา, ปริตฺตอปฺปมาณนเยน อภิภายตนปฏิลาโภติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
อาโปกสิณวเสน ปถวิยํ อุมฺมุชฺชนนิมฺมุชฺชนํ, อุทกวุฏฺิสมุปฺปาทนํ, นทีสมุทฺทาทินิมฺมานํ, ปถวีปพฺพตปาสาทาทีนํ กมฺปนนฺติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
เตโชกสิณวเสน ธูมายนา, ปชฺชลนา, องฺคารวุฏฺิสมุปฺปาทนํ, เตชสา เตโชปริยาทานํ, ยเทว โส อิจฺฉติ ตสฺส ฑหนสมตฺถตา, ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปทสฺสนตฺถาย อาโลกกรณํ, ปรินิพฺพานสมเย เตโชธาตุยา สรีรชฺฌาปนนฺติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
วาโยกสิณวเสน วายุคติคมนํ, วาตวุฏฺิสมุปฺปาทนนฺติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
นีลกสิณวเสน นีลรูปนิมฺมานํ, อนฺธการกรณํ, สุวณฺณทุพฺพณฺณนเยน อภิภายตนปฏิลาโภ, สุภวิโมกฺขาธิคโมติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
ปีตกสิณวเสน ปีตกรูปนิมฺมานํ, สุวณฺณนฺติ อธิมุจฺจนา, วุตฺตนเยเนว อภิภายตนปฏิลาโภ, สุภวิโมกฺขาธิคโม จาติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
โลหิตกสิณวเสน โลหิตกรูปนิมฺมานํ, วุตฺตนเยเนว อภิภายตนปฏิลาโภ, สุภวิโมกฺขาธิคโมติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
โอทาตกสิณวเสน ¶ ¶ โอทาตรูปนิมฺมานํ, ถินมิทฺธสฺส ทูรภาวกรณํ, อนฺธการวิธมนํ, ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปทสฺสนตฺถาย อาโลกกรณนฺติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
อาโลกกสิณวเสน สปฺปภารูปนิมฺมานํ, ถินมิทฺธสฺส ทูรภาวกรณํ, อนฺธการวิธมนํ, ทิพฺเพน จกฺขุนา รูปทสฺสนตฺถํ อาโลกกรณนฺติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
อากาสกสิณวเสน ปฏิจฺฉนฺนานํ วิวฏกรณํ, อนฺโตปถวีปพฺพตาทีสุปิ อากาสํ นิมฺมินิตฺวา อิริยาปถกปฺปนํ, ติโรกุฑฺฑาทีสุ อสชฺชมานคมนนฺติ เอวมาทีนิ อิชฺฌนฺติ.
สพฺพาเนว อุทฺธํ อโธ ติริยํ อทฺวยํ อปฺปมาณนฺติ อิมํ ปเภทํ ลภนฺติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาติ. อุทฺธมโธติริยํ อทฺวยมปฺปมาณ’’นฺติอาทิ.
ตตฺถ อุทฺธนฺติ อุปริคคนตลาภิมุขํ. อโธติ เหฏฺาภูมิตลาภิมุขํ. ติริยนฺติ เขตฺตมณฺฑลมิว สมนฺตา ปริจฺฉินฺทิตํ. เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒติ, เอกจฺโจ อโธ, เอกจฺโจ สมนฺตโต. เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรติ. อาโลกมิว ทิพฺพจกฺขุนา รูปทสฺสนกาโม. เตน วุตฺตํ อุทฺธมโธติริยนฺติ. อทฺวยนฺติ อิทํ ปน เอกสฺส อฺภาวานุปคมนตฺถํ วุตฺตํ. ยถา หิ อุทกํ ปวิฏฺสฺส สพฺพทิสาสุ อุทกเมว โหติ, น อฺํ, เอวเมว ปถวีกสิณํ ปถวีกสิณเมว โหติ, นตฺถิ ตสฺส อฺโ กสิณสมฺเภโทติ. เอเสว นโย สพฺพตฺถ. อปฺปมาณนฺติ อิทํ ตสฺส ผรณอปฺปมาณวเสน วุตฺตํ. ตฺหิ เจตสา ผรนฺโต สกลเมว ผรติ. น อยมสฺส อาทิ อิทํ มชฺฌนฺติ ปมาณํ คณฺหาตีติ.
๑๐๑. เย จ เต สตฺตา กมฺมาวรเณน วา สมนฺนาคตา กิเลสาวรเณน วา สมนฺนาคตา วิปากาวรเณน วา สมนฺนาคตา อสทฺธา อจฺฉนฺทิกา ทุปฺปฺา อภพฺพา นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ วุตฺตา, เตสเมกสฺสาเปกกสิเณปิ ภาวนา น อิชฺฌติ. ตตฺถ กมฺมาวรเณน สมนฺนาคตาติ อานนฺตริยกมฺมสมงฺคิโน. กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตาติ นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกา เจว อุภโตพฺยฺชนกปณฺฑกา จ. วิปากาวรเณน สมนฺนาคตาติ อเหตุกทฺวิเหตุกปฏิสนฺธิกา. อสทฺธาติ พุทฺธาทีสุ สทฺธาวิรหิตา. อจฺฉนฺทิกาติ อปจฺจนีกปฏิปทายํ ฉนฺทวิรหิตา ¶ . ทุปฺปฺาติ โลกิยโลกุตฺตรสมฺมาทิฏฺิยา วิรหิตา. อภพฺพา ¶ นิยามํ โอกฺกมิตุํ กุสเลสุ ธมฺเมสุ สมฺมตฺตนฺติ กุสเลสุ ธมฺเมสุ นิยามสงฺขาตํ สมฺมตฺตสงฺขาตฺจ อริยมคฺคํ โอกฺกมิตุํ อภพฺพาติ อตฺโถ. น เกวลฺจ กสิเณเยว, อฺเสุปิ กมฺมฏฺาเนสุ เอเตสเมกสฺสปิ ภาวนา น อิชฺฌติ. ตสฺมา วิคตวิปากาวรเณนปิ กุลปุตฺเตน กมฺมาวรณฺจ กิเลสาวรณฺจ อารกา ปริวชฺเชตฺวา สทฺธมฺมสฺสวนสปฺปุริสูปนิสฺสยาทีหิ สทฺธฺจ ฉนฺทฺจ ปฺฺจ วฑฺเฒตฺวา กมฺมฏฺานานุโยเค โยโค กรณีโยติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
สมาธิภาวนาธิกาเร
เสสกสิณนิทฺเทโส นาม
ปฺจโม ปริจฺเฉโท.