📜
๖. อสุภกมฺมฏฺานนิทฺเทโส
อุทฺธุมาตกาทิปทตฺถวณฺณนา
๑๐๒. กสิณานนฺตรมุทฺทิฏฺเสุ ¶ ¶ ปน อุทฺธุมาตกํ, วินีลกํ, วิปุพฺพกํ, วิจฺฉิทฺทกํ, วิกฺขายิตกํ, วิกฺขิตฺตกํ, หตวิกฺขิตฺตกํ, โลหิตกํ, ปุฬวกํ, อฏฺิกนฺติ ทสสุ อวิฺาณกาสุเภสุ ภสฺตา วิย วายุนา อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานา ยถานุกฺกมํ สมุคฺคเตน สูนภาเวน อุทฺธุมาตตฺตา อุทฺธุมาตํ, อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตนฺติ อุทฺธุมาตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตํ อธิวจนํ.
วินีลํ วุจฺจติ วิปริภินฺนนีลวณฺณํ, วินีลเมว วินีลกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วินีลนฺติ วินีลกํ. มํสุสฺสทฏฺาเนสุ รตฺตวณฺณสฺส ปุพฺพสนฺนิจยฏฺาเนสุ เสตวณฺณสฺส เยภุยฺเยน จ นีลวณฺณสฺส นีลฏฺาเน นีลสาฏกปารุตสฺเสว ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
ปริภินฺนฏฺาเนสุ วิสฺสนฺทมานํ ปุพฺพํ วิปุพฺพํ, วิปุพฺพเมว วิปุพฺพกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิปุพฺพนฺติ วิปุพฺพกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
วิจฺฉิทฺทํ วุจฺจติ ทฺวิธา ฉินฺทเนน อปธาริตํ, วิจฺฉิทฺทเมว วิจฺฉิทฺทกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิจฺฉิทฺทนฺติ วิจฺฉิทฺทกํ. เวมชฺเฌ ฉินฺนสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
อิโต จ เอตฺโต จ วิวิธากาเรน โสณสิงฺคาลาทีหิ ขาทิตนฺติ วิกฺขายิตํ, วิกฺขายิตเมว วิกฺขายิตกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขายิตนฺติ วิกฺขายิตกํ. ตถารูปสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
วิวิธํ ¶ ขิตฺตํ วิกฺขิตฺตํ, วิกฺขิตฺตเมว วิกฺขิตฺตกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ วิกฺขิตฺตนฺติ วิกฺขิตฺตกํ. อฺเน หตฺถํ อฺเน ปาทํ อฺเน สีสนฺติ เอวํ ตโต ตโต ขิตฺตสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
หตฺจ ตํ ปุริมนเยเนว วิกฺขิตฺตกฺจาติ หตวิกฺขิตฺตกํ. กากปทากาเรน องฺคปจฺจงฺเคสุ สตฺเถน หนิตฺวา วุตฺตนเยน วิกฺขิตฺตสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
โลหิตํ ¶ กิรติ วิกฺขิปติ อิโต จิโต จ ปคฺฆรตีติ โลหิตกํ. ปคฺฆริตโลหิตมกฺขิตสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
ปุฬวา วุจฺจนฺติ กิมโย, ปุฬเว กิรตีติ ปุฬวกํ. กิมิปริปุณฺณสฺส ฉวสรีรสฺเสตมธิวจนํ.
อฏฺิเยว อฏฺิกํ. ปฏิกฺกูลตฺตา วา กุจฺฉิตํ อฏฺีติ อฏฺิกํ. อฏฺิสงฺขลิกายปิ เอกฏฺิกสฺสเปตมธิวจนํ. อิมานิ จ ปน อุทฺธุมาตกาทีนิ นิสฺสาย อุปฺปนฺนนิมิตฺตานมฺปิ นิมิตฺเตสุ ปฏิลทฺธชฺฌานานมฺเปตาเนว นามานิ.
อุทฺธุมาตกกมฺมฏฺานํ
๑๐๓. ตตฺถ อุทฺธุมาตกสรีเร อุทฺธุมาตกนิมิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อุทฺธุมาตกสงฺขาตํ ฌานํ ภาเวตุกาเมน โยคินา ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว วุตฺตปฺปการํ อาจริยํ อุปสงฺกมิตฺวา กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ. เตนสฺส กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน อสุภนิมิตฺตตฺถาย คมนวิธานํ, สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณํ, เอกาทสวิเธน นิมิตฺตคฺคาโห, คตาคตมคฺคปจฺจเวกฺขณนฺติ เอวํ อปฺปนาวิธานปริโยสานํ สพฺพํ กเถตพฺพํ. เตนาปิ สพฺพํ สาธุกํ อุคฺคเหตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการํ เสนาสนํ อุปคนฺตฺวา อุทฺธุมาตกนิมิตฺตํ ปริเยสนฺเตน วิหาตพฺพํ.
๑๐๔. เอวํ วิหรนฺเตน จ อสุกสฺมึ นาม คามทฺวาเร วา อฏวิมุเข วา ปนฺเถ วา ปพฺพตปาเท วา รุกฺขมูเล วา สุสาเน วา อุทฺธุมาตกสรีรํ นิกฺขิตฺตนฺติ กเถนฺตานํ วจนํ สุตฺวาปิ ¶ น ตาวเทว อติตฺเถน ปกฺขนฺทนฺเตน วิย คนฺตพฺพํ. กสฺมา? อสุภํ หิ นาเมตํ วาฬมิคาธิฏฺิตมฺปิ อมนุสฺสาธิฏฺิตมฺปิ โหติ. ตตฺรสฺส ชีวิตนฺตราโยปิ สิยา. คมนมคฺโค วา ปเนตฺถ คามทฺวาเรน วา นหานติตฺเถน วา เกทารโกฏิยา วา โหติ. ตตฺถ วิสภาครูปํ อาปาถมาคจฺฉติ, ตเทว วา สรีรํ วิสภาคํ โหติ. ปุริสสฺส หิ อิตฺถิสรีรํ อิตฺถิยา จ ปุริสสรีรํ วิสภาคํ, ตเทตํ อธุนามตํ สุภโตปิ อุปฏฺาติ, เตนสฺส พฺรหฺมจริยนฺตราโยปิ สิยา. สเจ ปน ‘‘นยิทํ มาทิสสฺส ภาริย’’นฺติ อตฺตานํ ตกฺกยติ, เอวํ ตกฺกยมาเนน คนฺตพฺพํ.
๑๐๕. คจฺฉนฺเตน ¶ จ สงฺฆตฺเถรสฺส วา อฺตรสฺส วา อภิฺาตสฺส ภิกฺขุโน กเถตฺวา คนฺตพฺพํ. กสฺมา? สเจ หิสฺส สุสาเน อมนุสฺสสีหพฺยคฺฆาทีนํ รูปสทฺทาทิอนิฏฺารมฺมณาภิภูตสฺส องฺคปจฺจงฺคานิ วา ปเวเธนฺติ, ภุตฺตํ วา น ปริสณฺาติ, อฺโ วา อาพาโธ โหติ. อถสฺส โส วิหาเร ปตฺตจีวรํ สุรกฺขิตํ กริสฺสติ. ทหเร วา สามเณเร วา ปหิณิตฺวา ตํ ภิกฺขุํ ปฏิชคฺคิสฺสติ. อปิจ สุสานํ นาม นิราสงฺกฏฺานนฺติ มฺมานา กตกมฺมาปิ อกตกมฺมาปิ โจรา สโมสรนฺติ. เต มนุสฺเสหิ อนุพทฺธา ภิกฺขุสฺส สมีเป ภณฺฑกํ ฉฑฺเฑตฺวาปิ ปลายนฺติ. มนุสฺสา ‘‘สโหฑฺฒํ โจรํ อทฺทสามา’’ติ ภิกฺขุํ คเหตฺวา วิเหเนฺติ. อถสฺส โส ‘‘มา อิมํ วิเหยิตฺถ, มมายํ กเถตฺวา อิมินา นาม กมฺเมน คโต’’ติ เต มนุสฺเส สฺาเปตฺวา โสตฺถิภาวํ กริสฺสติ. อยํ อานิสํโส กเถตฺวา คมเน. ตสฺมา วุตฺตปฺปการสฺส ภิกฺขุโน กเถตฺวา อสุภนิมิตฺตทสฺสเน สฺชาตาภิลาเสน ยถานาม ขตฺติโย อภิเสกฏฺานํ, ยชมาโน ยฺสาลํ, อธโน วา ปน นิธิฏฺานํ ปีติโสมนสฺสชาโต คจฺฉติ, เอวํ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา อฏฺกถาสุ วุตฺเตน วิธินา คนฺตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘อุทฺธุมาตกํ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺโต เอโก อทุติโย คจฺฉติ อุปฏฺิตาย สติยา อสมฺมุฏฺาย อนฺโตคเตหิ อินฺทฺริเยหิ อพหิคเตน มานเสน คตาคตมคฺคํ ปจฺจเวกฺขมาโน. ยสฺมึ ปเทเส อุทฺธุมาตกํ อสุภนิมิตฺตํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตสฺมึ ปเทเส ปาสาณํ วา วมฺมิกํ วา รุกฺขํ วา คจฺฉํ วา ลตํ วา สนิมิตฺตํ กโรติ, สารมฺมณํ กโรติ. สนิมิตฺตํ กตฺวา สารมฺมณํ กตฺวา อุทฺธุมาตกํ อสุภนิมิตฺตํ สภาวภาวโต อุปลกฺเขติ, วณฺณโตปิ ลิงฺคโตปิ สณฺานโตปิ ทิสโตปิ โอกาสโตปิ ปริจฺเฉทโตปิ สนฺธิโต วิวรโต นินฺนโต ถลโต สมนฺตโต. โส ตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กโรติ ¶ , สูปธาริตํ อุปธาเรติ, สุววตฺถิตํ ววตฺถเปติ. โส ตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กตฺวา สูปธาริตํ อุปธาเรตฺวา สุววตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา เอโก อทุติโย คจฺฉติ อุปฏฺิตาย สติยา ¶ อสมฺมุฏฺาย อนฺโตคเตหิ อินฺทฺริเยหิ อพหิคเตน มานเสน คตาคตมคฺคํ ปจฺจเวกฺขมาโน. โส จงฺกมนฺโตปิ ตพฺภาคิยฺเว จงฺกมํ อธิฏฺาติ. นิสีทนฺโตปิ ตพฺภาคิยฺเว อาสนํ ปฺเปติ.
‘‘สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณา กิมตฺถิยา กิมานิสํสาติ? สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณา อสมฺโมหตฺถา อสมฺโมหานิสํสา. เอกาทสวิเธน นิมิตฺตคฺคาโห กิมตฺถิโย กิมานิสํโสติ? เอกาทสวิเธน นิมิตฺตคฺคาโห อุปนิพนฺธนตฺโถ อุปนิพนฺธนานิสํโส. คตาคตมคฺคปจฺจเวกฺขณา กิมตฺถิยา กิมานิสํสาติ? คตาคตมคฺคปจฺจเวกฺขณา วีถิสมฺปฏิปาทนตฺถา วีถิสมฺปฏิปาทนานิสํสา.
‘‘โส อานิสํสทสฺสาวี รตนสฺี หุตฺวา จิตฺตีการํ อุปฏฺเปตฺวา สมฺปิยายมาโน ตสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ อุปนิพนฺธติ ‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามี’ติ. โส วิวิจฺเจว กาเมหิ…เป… ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. ตสฺสาธิคตํ โหติ รูปาวจรํ ปมํ ฌานํ ทิพฺโพ จ วิหาโร ภาวนามยฺจ ปฺุกิริยวตฺถุ’’นฺติ.
๑๐๖. ตสฺมา โย จิตฺตสฺตฺตตฺถาย สิวถิกทสฺสนํ คจฺฉติ, โส ฆณฺฑึ ปหริตฺวา คณํ สนฺนิปาเตตฺวาปิ คจฺฉตุ. กมฺมฏฺานสีเสน ปน คจฺฉนฺเตน เอกเกน อทุติเยน มูลกมฺมฏฺานํ อวิสฺสชฺเชตฺวา ตํ มนสิกโรนฺเตเนว สุสาเน โสณาทิปริสฺสยวิโนทนตฺถํ กตฺตรทณฺฑํ วา ยฏฺึ วา คเหตฺวา, สูปฏฺิต ภาวสมฺปาทเนน อสมฺมุฏฺํ สตึ กตฺวา, มนจฺฉฏฺานฺจ อินฺทฺริยานํ อนฺโตคตภาวสมฺปาทนโต อพหิคตมเนน หุตฺวา คนฺตพฺพํ.
วิหารโต นิกฺขมนฺเตเนว อสุกทิสาย อสุกทฺวาเรน นิกฺขนฺโตมฺหีติ ทฺวารํ สลฺลกฺเขตพฺพํ. ตโต เยน มคฺเคน คจฺฉติ, โส มคฺโค ววตฺถเปตพฺโพ, อยํ มคฺโค ปาจินทิสาภิมุโข วา คจฺฉติ, ปจฺฉิมอุตฺตรทกฺขิณทิสาภิมุโข วา วิทิสาภิมุโขวาติ. อิมสฺมึ ปน าเน วามโต คจฺฉติ, อิมสฺมึ าเน ทกฺขิณโต, อิมสฺมึ จสฺส าเน ปาสาโณ ¶ ¶ , อิมสฺมึ วมฺมิโก, อิมสฺมึ รุกฺโข, อิมสฺมึ คจฺโฉ, อิมสฺมึ ลตาติ. เอวํ คมนมคฺคํ ววตฺถเปนฺเตน นิมิตฺตฏฺานํ คนฺตพฺพํ. โน จ โข ปฏิวาตํ. ปฏิวาตํ คจฺฉนฺตสฺส หิ กุณปคนฺโธ ฆานํ ปหริตฺวา มตฺถลุงฺคํ วา สงฺโขเภยฺย, อาหารํ วา ฉฑฺฑาเปยฺย, วิปฺปฏิสารํ วา ชเนยฺย ‘‘อีทิสํ นาม กุณปฏฺานํ อาคโตมฺหี’’ติ. ตสฺมา ปฏิวาตํ วชฺเชตฺวา อนุวาตํ คนฺตพฺพํ. สเจ อนุวาตมคฺเคน น สกฺกา โหติ คนฺตุํ, อนฺตรา ปพฺพโต วา ปปาโต วา ปาสาโณ วา วติ วา กณฺฏกฏฺานํ วา อุทกํ วา จิกฺขลฺลํ วา โหติ, จีวรกณฺเณน นาสํ ปิทหิตฺวา คนฺตพฺพํ. อิทมสฺส คมนวตฺตํ.
๑๐๗. เอวํ คเตน ปน น ตาว อสุภนิมิตฺตํ โอโลเกตพฺพํ. ทิสา ววตฺถเปตพฺพา. เอกสฺมึ หิ ทิสาภาเค ิตสฺส อารมฺมณฺจ น วิภูตํ หุตฺวา ขายติ, จิตฺตฺจ น กมฺมนิยํ โหติ. ตสฺมา ตํ วชฺเชตฺวา ยตฺถ ิตสฺส อารมฺมณฺจ วิภูตํ หุตฺวา ขายติ, จิตฺตฺจ กมฺมนิยํ โหติ, ตตฺถ าตพฺพํ. ปฏิวาตานุวาตฺจ ปหาตพฺพํ. ปฏิวาเต ิตสฺส หิ กุณปคนฺเธน อุพฺพาฬฺหสฺส จิตฺตํ วิธาวติ. อนุวาเต ิตสฺส สเจ ตตฺถ อธิวตฺถา อมนุสฺสา โหนฺติ, เต กุชฺฌิตฺวา อนตฺถํ กโรนฺติ. ตสฺมา อีสกํ อุกฺกมฺม นาติอนุวาเต าตพฺพํ. เอวํ ติฏฺมาเนนาปิ นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน นานุปาทํ นานุสีสํ าตพฺพํ. อติทูเร ิตสฺส หิ อารมฺมณํ อวิภูตํ โหติ. อจฺจาสนฺเน ภยมุปฺปชฺชติ. อนุปาทํ วา อนุสีสํ วา ิตสฺส สพฺพํ อสุภํ สมํ น ปฺายติ. ตสฺมา นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน โอโลเกนฺตสฺส ผาสุกฏฺาเน สรีรเวมชฺฌภาเค าตพฺพํ.
๑๐๘. เอวํ ิเตน ‘‘ตสฺมึ ปเทเส ปาสาณํ วา…เป… ลตํ วา สนิมิตฺตํ กโรตี’’ติ เอวํ วุตฺตานิ สมนฺตา นิมิตฺตานิ อุปลกฺเขตพฺพานิ. ตตฺริทํ อุปลกฺขณวิธานํ, สเจ ตสฺส นิมิตฺตสฺส สมนฺตา จกฺขุปเถ ปาสาโณ โหติ, โส ‘‘อยํ ปาสาโณ อุจฺโจ วา นีโจ วา ขุทฺทโก วา มหนฺโต วา ตมฺโพ วา กาโฬ วา เสโต วา ทีโฆ วา ปริมณฺฑโล วา’’ติ ววตฺถเปตพฺโพ. ตโต ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส อยํ ปาสาโณ อิทํ อสุภนิมิตฺตํ, อิทํ อสุภนิมิตฺตํ อยํ ปาสาโณ’’ติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. สเจ วมฺมิโก โหติ, โสปิ ‘‘อุจฺโจ วา นีโจ วา ขุทฺทโก ¶ วา มหนฺโต วา ตมฺโพ วา กาโฬ วา เสโต วา ทีโฆ วา ปริมณฺฑโล วา’’ติ ววตฺถเปตพฺโพ. ตโต ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส อยํ วมฺมิโก อิทํ อสุภนิมิตฺต’’นฺติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. สเจ รุกฺโข โหติ, โสปิ ‘‘อสฺสตฺโถ วา นิคฺโรโธ วา กจฺฉโก วา กปีตโน วา อุจฺโจ วา นีโจ วา ขุทฺทโก ¶ วา มหนฺโต วา ตมฺโพ วา กาโฬ วา เสโต วา’’ติ ววตฺถเปตพฺโพ. ตโต ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส อยํ รุกฺโข อิทํ อสุภนิมิตฺต’’นฺติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. สเจ คจฺโฉ โหติ, โสปิ ‘‘สินฺทิวา กรมนฺโท วา กณวีโร วา กุรณฺฑโก วา อุจฺโจ วา นีโจ วา ขุทฺทโก วา มหนฺโต วา’’ติ ววตฺถเปตพฺโพ. ตโต ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส อยํ คจฺโฉ อิทํ อสุภนิมิตฺต’’นฺติ สลฺลกฺเขตพฺพํ. สเจ ลตา โหติ, สาปิ ‘‘ลาพุ วา กุมฺภณฺฑี วา สามา วา กาฬวลฺลิ วา ปูติลตา วา’’ติ ววตฺถเปตพฺพา. ตโต ‘‘อิมสฺมึ นาม โอกาเส อยํ ลตา อิทํ อสุภนิมิตฺตํ, อิทํ อสุภนิมิตฺตํ อยํ ลตา’’ติ สลฺลกฺเขตพฺพํ.
๑๐๙. ยํ ปน วุตฺตํ สนิมิตฺตํ กโรติ สารมฺมณํ กโรตีติ, ตํ อิเธว อนฺโตคธํ. ปุนปฺปุนํ ววตฺถเปนฺโต หิ สนิมิตฺตํ กโรติ นาม. อยํ ปาสาโณ อิทํ อสุภนิมิตฺตํ, อิทํ อสุภนิมิตฺตํ อยํ ปาสาโณติ เอวํ ทฺเว ทฺเว สมาเสตฺวา สมาเสตฺวา ววตฺถเปนฺโต สารมฺมณํ กโรติ นาม.
เอวํ สนิมิตฺตํ สารมฺมณฺจ กตฺวา ปน สภาวภาวโต ววตฺถเปตีติ วุตฺตตฺตา ยฺวาสฺส สภาวภาโว อนฺสาธารโณ อตฺตนิโย อุทฺธุมาตกภาโว, เตน มนสิกาตพฺพํ. วณิตํ อุทฺธุมาตกนฺติ เอวํ สภาเวน สรเสน ววตฺถเปตพฺพนฺติ อตฺโถ.
๑๑๐. เอวํ ววตฺถเปตฺวา วณฺณโตปิ ลิงฺคโตปิ สณฺานโตปิ ทิสโตปิ โอกาสโตปิ ปริจฺเฉทโตปีติ ฉพฺพิเธน นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. กถํ? เตน หิ โยคินา อิทํ สรีรํ กาฬสฺส วา โอทาตสฺส วา มงฺคุรจฺฉวิโน วาติ วณฺณโต ววตฺถเปตพฺพํ. ลิงฺคโต ปน อิตฺถิลิงฺคํ วา ปุริสลิงฺคํ วาติ อววตฺถเปตฺวา ปมวเย วา มชฺฌิมวเย วา ปจฺฉิมวเย วา ิตสฺส อิทํ สรีรนฺติ ววตฺถเปตพฺพํ. สณฺานโต อุทฺธุมาตกสฺส ¶ สณฺานวเสเนว อิทมสฺส สีสสณฺานํ, อิทํ คีวาสณฺานํ, อิทํ หตฺถสณฺานํ, อิทํ อุทรสณฺานํ, อิทํ นาภิสณฺานํ, อิทํ กฏิสณฺานํ, อิทํ อูรุสณฺานํ, อิทํ ชงฺฆาสณฺานํ, อิทํ ปาทสณฺานนฺติ ววตฺถเปตพฺพํ. ทิสโต ปน อิมสฺมึ สรีเร ทฺเว ทิสา นาภิยา อโธ เหฏฺิมทิสา อุทฺธํ อุปริมทิสาติ ววตฺถเปตพฺพํ. อถ วา อหํ อิมิสฺสา ทิสาย ิโต อสุภนิมิตฺตํ อิมิสฺสาติ ววตฺถเปตพฺพํ. โอกาสโต ปน อิมสฺมึ นาม โอกาเส หตฺถา, อิมสฺมึ ปาทา, อิมสฺมึ สีสํ, อิมสฺมึ มชฺฌิมกาโย ิโตติ ววตฺถเปตพฺพํ. อถ วา อหํ อิมสฺมึ โอกาเส ิโต อสุภนิมิตฺตํ อิมสฺมินฺติ ววตฺถเปตพฺพํ. ปริจฺเฉทโต อิทํ ¶ สรีรํ อโธ ปาทตเลน อุปริ เกสมตฺถเกน ติริยํ ตเจน ปริจฺฉินฺนํ, ยถาปริจฺฉินฺเน จ าเน ทฺวตฺตึสกุณปภริตเมวาติ ววตฺถเปตพฺพํ. อถ วา อยมสฺส หตฺถปริจฺเฉโท, อยํ ปาทปริจฺเฉโท, อยํ สีสปริจฺเฉโท, อยํ มชฺฌิมกายปริจฺเฉโทติ ววตฺถเปตพฺพํ. ยตฺตกํ วา ปน านํ คณฺหติ, ตตฺตกเมว อิทํ อีทิสํ อุทฺธุมาตกนฺติ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. ปุริสสฺส ปน อิตฺถิสรีรํ อิตฺถิยา วา ปุริสสรีรํ น วฏฺฏติ. วิสภาเค สรีเร อารมฺมณํ น อุปฏฺาติ, วิปฺผนฺทนสฺเสว ปจฺจโย โหติ. ‘‘อุคฺฆาฏิตาปิ หิ อิตฺถี ปุริสสฺส จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺตี’’ติ (อ. นิ. ๕.๕๕) มชฺฌิมฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตสฺมา สภาคสรีเรเยว เอวํ ฉพฺพิเธน นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ.
๑๑๑. โย ปน ปุริมพุทฺธานํ สนฺติเก อาเสวิตกมฺมฏฺาโน ปริหตธุตงฺโค ปริมทฺทิตมหาภูโต ปริคฺคหิตสงฺขาโร ววตฺถาปิตนามรูโป อุคฺฆาฏิตสตฺตสฺโ กตสมณธมฺโม วาสิตวาสโน ภาวิตภาวโน สพีโช าณุตฺตโร อปฺปกิเลโส กุลปุตฺโต, ตสฺส โอโลกิโตโลกิตฏฺาเนเยว ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. โน เจ เอวํ อุปฏฺาติ, อเถวํ ฉพฺพิเธน นิมิตฺตํ คณฺหโต อุปฏฺาติ. ยสฺส ปน เอวมฺปิ น อุปฏฺาติ, เตน สนฺธิโต วิวรโต นินฺนโต ถลโต สมนฺตโตติ ปุนปิ ปฺจวิเธน นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ.
๑๑๒. ตตฺถ สนฺธิโตติ อสีติสตสนฺธิโต. อุทฺธุมาตเก ปน กถํ อสีติสตสนฺธโย ววตฺถเปสฺสติ. ตสฺมาเนน ตโย ทกฺขิณหตฺถสนฺธี, ตโย วามหตฺถสนฺธี, ตโย ทกฺขิณปาทสนฺธี, ตโย วามปาทสนฺธี ¶ , เอโก คีวสนฺธิ, เอโก กฏิสนฺธีติ เอวํ จุทฺทสมหาสนฺธิวเสน สนฺธิโต ววตฺถเปตพฺพํ. วิวรโตติ วิวรํ นาม หตฺถนฺตรํ ปาทนฺตรํ อุทรนฺตรํ กณฺณนฺตรนฺติ เอวํ วิวรโต ววตฺถเปตพฺพํ. อกฺขีนมฺปิ นิมฺมีลิตภาโว วา อุมฺมีลิตภาโว วา มุขสฺส จ ปิหิตภาโว วา วิวฏภาโว วา ววตฺถเปตพฺโพ. นินฺนโตติ ยํ สรีเร นินฺนฏฺานํ อกฺขิกูโป วา อนฺโตมุขํ วา คลวาฏโก วา, ตํ ววตฺถเปตพฺพํ. อถ วา อหํ นินฺเน ิโต สรีรํ อุนฺนเตติ ววตฺถเปตพฺพํ. ถลโตติ ยํ สรีเร อุนฺนตฏฺานํ ชณฺณุกํ วา อุโร วา นลาฏํ วา, ตํ ววตฺถเปตพฺพํ. อถ วา อหํ ถเล ิโต สรีรํ นินฺเนติ ววตฺถเปตพฺพํ. สมนฺตโตติ สพฺพํ สรีรํ สมนฺตโต ววตฺถเปตพฺพํ. สกลสรีเร าณํ จาเรตฺวา ยํ านํ วิภูตํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตตฺถ ‘‘อุทฺธุมาตกํ อุทฺธุมาตก’’นฺติ จิตฺตํ เปตพฺพํ. สเจ เอวมฺปิ น อุปฏฺาติ, อุทรปริโยสานํ อติเรกํ อุทฺธุมาตกํ โหติ, ตตฺถ ‘‘อุทฺธุมาตกํ อุทฺธุมาตก’’นฺติ จิตฺตํ เปตพฺพํ.
๑๑๓. อิทานิ ¶ ‘‘โส ตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กโรตี’’ติอาทีสุ อยํ วินิจฺฉยกถา –
เตน โยคินา ตสฺมึ สรีเร ยถาวุตฺตนิมิตฺตคฺคาหวเสน สุฏฺุ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ. สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา อาวชฺชิตพฺพํ. เอวํ ปุนปฺปุนํ กโรนฺเตน สาธุกํ อุปธาเรตพฺพฺเจว ววตฺถเปตพฺพฺจ. สรีรโต นาติทูเร นาจฺจาสนฺเน ปเทเส ิเตน วา นิสินฺเนน วา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกตฺวา นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพํ. ‘‘อุทฺธุมาตกปฏิกฺกูลํ อุทฺธุมาตกปฏิกฺกูล’’นฺติ สตกฺขตฺตุํ สหสฺสกฺขตฺตุํ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกตพฺพํ, นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺชิตพฺพํ. เอวํ ปุนปฺปุนํ กโรนฺตสฺส อุคฺคหนิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ โหติ. กทา สุคฺคหิตํ โหติ? ยทา อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกนฺตสฺส นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺเชนฺตสฺส จ เอกสทิสํ หุตฺวา อาปาถมาคจฺฉติ, ตทา สุคฺคหิตํ นาม โหติ.
โส ตํ นิมิตฺตํ เอวํ สุคฺคหิตํ กตฺวา สูปธาริตํ อุปธาเรตฺวา สุววตฺถิตํ ววตฺถเปตฺวา สเจ ตตฺเถว ภาวนาปริโยสานํ ปตฺตุํ น สกฺโกติ, อถาเนน อาคมนกาเล วุตฺตนเยเนว เอกเกน อทุติเยน ตเทว กมฺมฏฺานํ มนสิกโรนฺเตน สูปฏฺิตํ สตึ กตฺวา อนฺโตคเตหิ ¶ อินฺทฺริเยหิ อพหิคเตน มานเสน อตฺตโน เสนาสนเมว คนฺตพฺพํ.
สุสานา นิกฺขมนฺเตเนว จ อาคมนมคฺโค ววตฺถเปตพฺโพ, เยน มคฺเคน นิกฺขนฺโตสฺมิ, อยํ มคฺโค ปาจีนทิสาภิมุโข วา คจฺฉติ, ปจฺฉิมอุตฺตรทกฺขิณทิสาภิมุโข วา คจฺฉติ, วิทิสาภิมุโข วา คจฺฉติ. อิมสฺมึ ปน าเน วามโต คจฺฉติ, อิมสฺมึ ทกฺขิณโต, อิมสฺมึ จสฺส าเน ปาสาโณ, อิมสฺมึ วมฺมิโก, อิมสฺมึ รุกฺโข, อิมสฺมึ คจฺโฉ, อิมสฺมึ ลตาติ เอวํ อาคมนมคฺคํ ววตฺถเปตฺวา อาคเตน จงฺกมนฺเตนาปิ ตพฺภาคิโยว จงฺกโม อธิฏฺาตพฺโพ, อสุภนิมิตฺตทิสาภิมุเข ภูมิปฺปเทเส จงฺกมิตพฺพนฺติ อตฺโถ. นิสีทนฺเตน อาสนมฺปิ ตพฺภาคิยเมว ปฺเปตพฺพํ. สเจ ปน ตสฺสํ ทิสายํ โสพฺโภ วา ปปาโต วา รุกฺโข วา วติ วา กลลํ วา โหติ, น สกฺกา ตํทิสาภิมุเข ภูมิปฺปเทเส จงฺกมิตุํ, อาสนมฺปิ อโนกาสตฺตา น สกฺกา ปฺเปตุํ. ตํ ทิสํ อนปโลเกนฺเตนาปิ โอกาสานุรูเป าเน จงฺกมิตพฺพฺเจว นิสีทิตพฺพฺจ. จิตฺตํ ปน ตํทิสาภิมุขํเยว กาตพฺพํ.
๑๑๔. อิทานิ ‘‘สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณา กิมตฺถิยา’’ติอาทิปฺหานํ ‘‘อสมฺโมหตฺถา’’ติอาทิวิสฺสชฺชเน ¶ อยํ อธิปฺปาโย. ยสฺส หิ อเวลายํ อุทฺธุมาตกนิมิตฺตฏฺานํ คนฺตฺวา สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณํ กตฺวา นิมิตฺตคฺคหณตฺถํ จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกนฺตสฺเสว ตํ มตสรีรํ อุฏฺหิตฺวา ิตํ วิย อชฺโฌตฺถรมานํ วิย อนุพนฺธมานํ วิย จ หุตฺวา อุปฏฺาติ, โส ตํ พีภจฺฉํ เภรวารมฺมณํ ทิสฺวา วิกฺขิตฺตจิตฺโต อุมฺมตฺตโก วิย โหติ, ภยํ ฉมฺภิตตฺตํ โลมหํสํ ปาปุณาติ. ปาฬิยํ หิ วิภตฺตอฏฺตึสารมฺมเณสุ อฺํ เอวรูปํ เภรวารมฺมณํ นาม นตฺถิ. อิมสฺมึ หิ กมฺมฏฺาเน ฌานวิพฺภนฺตโก นาม โหติ. กสฺมา? อติเภรวตฺตา กมฺมฏฺานสฺส. ตสฺมา เตน โยคินา สนฺถมฺเภตฺวา สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา มตสรีรํ อุฏฺหิตฺวา อนุพนฺธนกํ นาม นตฺถิ. สเจ หิ โส ‘‘เอตสฺส สมีเป ิโต ปาสาโณ วา ลตา วา อาคจฺเฉยฺย, สรีรมฺปิ อาคจฺเฉยฺย. ยถา ปน โส ปาสาโณ วา ลตา วา นาคจฺฉติ, เอวํ สรีรมฺปิ นาคจฺฉติ. อยํ ปน ตุยฺหํ อุปฏฺานากาโร สฺโช สฺาสมฺภโว, กมฺมฏฺานํ ¶ เต อชฺช อุปฏฺิตํ, มา ภายิ ภิกฺขู’’ติ ตาสํ วิโนเทตฺวา หาสํ อุปฺปาเทตฺวา ตสฺมึ นิมิตฺเต จิตฺตํ สฺจราเปตพฺพํ. เอวํ วิเสสมธิคจฺฉติ. อิทเมตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณา อสมฺโมหตฺถา’’ติ.
เอกาทสวิเธน ปน นิมิตฺตคฺคาหํ สมฺปาเทนฺโต กมฺมฏฺานํ อุปนิพนฺธติ. ตสฺส หิ จกฺขูนิ อุมฺมีเลตฺวา โอโลกนปจฺจยา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ มานสํ จาเรนฺตสฺส ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ มานสํ จาเรนฺโต อปฺปนํ ปาปุณาติ. อปฺปนายํ ตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต อรหตฺตํ สจฺฉิกโรติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอกาทสวิเธน นิมิตฺตคฺคาโห อุปนิพนฺธนตฺโถ’’ติ.
๑๑๕. คตาคตมคฺคปจฺจเวกฺขณา วีถิสมฺปฏิปาทนตฺถาติ เอตฺถ ปน ยา คตมคฺคสฺส จ อาคตมคฺคสฺส จ ปจฺจเวกฺขณา วุตฺตา, สา กมฺมฏฺานวีถิยา สมฺปฏิปาทนตฺถาติ อตฺโถ. สเจ หิ อิมํ ภิกฺขุํ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา อาคจฺฉนฺตํ อนฺตรามคฺเค เกจิ อชฺช, ภนฺเต, กติมีติ ทิวสํ วา ปุจฺฉนฺติ, ปฺหํ วา ปุจฺฉนฺติ, ปฏิสนฺถารํ วา กโรนฺติ, อหํ กมฺมฏฺานิโกติ ตุณฺหีภูเตน คนฺตุํ น วฏฺฏติ. ทิวโส กเถตพฺโพ, ปฺโห วิสฺสชฺเชตพฺโพ. สเจ น ชานาติ, น ชานามีติ วตฺตพฺพํ. ธมฺมิโก ปฏิสนฺถาโร กาตพฺโพ. ตสฺเสวํ กโรนฺตสฺส อุคฺคหิตํ ตรุณนิมิตฺตํ นสฺสติ. ตสฺมึ นสฺสนฺเตปิ ทิวสํ ปุฏฺเน กเถตพฺพเมว. ปฺหํ อชานนฺเตน น ชานามีติ วตฺตพฺพํ. ชานนฺเตน เอกเทเสน กเถตุมฺปิ วฏฺฏติ, ปฏิสนฺถาโรปิ กาตพฺโพ. อาคนฺตุกํ ¶ ปน ภิกฺขุํ ทิสฺวา อาคนฺตุกปฏิสนฺถาโร กาตพฺโพว. อวเสสานิปิ เจติยงฺคณวตฺตโพธิยงฺคณวตฺตอุโปสถาคารวตฺตโภชนสาลาชนฺตาฆรอาจริยุปชฺฌายอาคนฺตุกคมิกวตฺตาทีนิ สพฺพานิ ขนฺธกวตฺตานิ ปูเรตพฺพาเนว. ตสฺส ตานิ ปูเรนฺตสฺสาปิ ตํ ตรุณนิมิตฺตํ นสฺสติ, ปุน คนฺตฺวา นิมิตฺตํ คณฺหิสฺสามีติ คนฺตุกามสฺสาปิ อมนุสฺเสหิ วา วาฬมิเคหิ วา อธิฏฺิตตฺตา สุสานมฺปิ คนฺตุํ น สกฺกา โหติ, นิมิตฺตํ วา อนฺตรธายติ. อุทฺธุมาตกํ หิ เอกเมว วา ทฺเว วา ทิวเส ตฺวา วินีลกาทิภาวํ คจฺฉติ. สพฺพกมฺมฏฺาเนสุ เอเตน สมํ ทุลฺลภํ กมฺมฏฺานํ นาม นตฺถิ. ตสฺมา เอวํ นฏฺเ นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา รตฺติฏฺาเน วา ทิวาาเน วา นิสีทิตฺวา อหํ อิมินา นาม ทฺวาเรน วิหารา นิกฺขมิตฺวา อสุกทิสาภิมุขํ มคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา อสุกสฺมึ ¶ นาม าเน วามํ คณฺหิ, อสุกสฺมึ ทกฺขิณํ. ตสฺส อสุกสฺมึ าเน ปาสาโณ, อสุกสฺมึ วมฺมิกรุกฺขคจฺฉลตานมฺตรํ. โสหํ เตน มคฺเคน คนฺตฺวา อสุกสฺมึ นาม าเน อสุภํ อทฺทสํ. ตตฺถ อสุกทิสาภิมุโข ตฺวา เอวฺเจวฺจ สมนฺตา นิมิตฺตานิ สลฺลกฺเขตฺวา เอวํ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคเหตฺวา อสุกทิสาย สุสานโต นิกฺขมิตฺวา เอวรูเปน นาม มคฺเคน อิทฺจิทฺจ กโรนฺโต อาคนฺตฺวา อิธ นิสินฺโนติ เอวํ ยาว ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา นิสินฺนฏฺานํ, ตาว คตาคตมคฺโค ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ. ตสฺเสวํ ปจฺจเวกฺขโต ตํ นิมิตฺตํ ปากฏํ โหติ, ปุรโต นิกฺขิตฺตํ วิย อุปฏฺาติ. กมฺมฏฺานํ ปุริมากาเรเนว วีถึ ปฏิปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘คตาคตมคฺคปจฺจเวกฺขณา วีถิสมฺปฏิปาทนตฺถา’’ติ.
๑๑๖. อิทานิ อานิสํสทสฺสาวี รตนสฺี หุตฺวา จิตฺตีการํ อุปฏฺเปตฺวา สมฺปิยายมาโน ตสฺมึ อารมฺมเณ จิตฺตํ อุปนิพนฺธตีติ เอตฺถ อุทฺธุมาตกปฏิกฺกูเล มานสํ จาเรตฺวา ฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ฌานปทฏฺานํ วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามี’’ติ เอวํ อานิสํสทสฺสาวินา ภวิตพฺพํ.
ยถา ปน ทุคฺคโต ปุริโส มหคฺฆํ มณิรตนํ ลภิตฺวา ทุลฺลภํ วต เม ลทฺธนฺติ ตสฺมึ รตนสฺี หุตฺวา คารวํ ชเนตฺวา วิปุเลน เปเมน สมฺปิยายมาโน ตํ รกฺเขยฺย, เอวเมว ‘‘ทุลฺลภํ เม อิทํ กมฺมฏฺานํ ลทฺธํ ทุคฺคตสฺส มหคฺฆมณิรตนสทิสํ. จตุธาตุกมฺมฏฺานิโก หิ อตฺตโน จตฺตาโร มหาภูเต ปริคฺคณฺหาติ, อานาปานกมฺมฏฺานิโก อตฺตโน นาสิกวาตํ ปริคฺคณฺหาติ, กสิณกมฺมฏฺานิโก กสิณํ กตฺวา ยถาสุขํ ภาเวติ, เอวํ อิตรานิ กมฺมฏฺานานิ ¶ สุลภานิ. ‘อิทํ ปน เอกเมว วา ทฺเว วา ทิวเส ติฏฺติ, ตโต ปรํ วินีลกาทิภาวํ ปาปุณาตี’ติ นตฺถิ อิโต ทุลฺลภตร’’นฺติ ตสฺมึ รตนสฺินา หุตฺวา จิตฺตีการํ อุปฏฺเปตฺวา สมฺปิยายมาเนน ตํ นิมิตฺตํ รกฺขิตพฺพํ. รตฺติฏฺาเน จ ทิวาาเน จ ‘‘อุทฺธุมาตกปฏิกฺกูลํ อุทฺธุมาตกปฏิกฺกูล’’นฺติ ตตฺถ ปุนปฺปุนํ จิตฺตํ อุปนิพนฺธิตพฺพํ. ปุนปฺปุนํ ตํ นิมิตฺตํ อาวชฺชิตพฺพํ, มนสิกาตพฺพํ. ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กาตพฺพํ.
๑๑๗. ตสฺเสวํ กโรโต ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ. ตตฺริทํ นิมิตฺตทฺวยสฺส นานากรณํ, อุคฺคหนิมิตฺตํ วิรูปํ พีภจฺฉํ เภรวทสฺสนํ หุตฺวา อุปฏฺาติ ¶ . ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน ยาวทตฺถํ ภฺุชิตฺวา นิปนฺโน ถูลงฺคปจฺจงฺคปุริโส วิย. ตสฺส ปฏิภาคนิมิตฺตปฏิลาภสมกาลเมว พหิทฺธา กามานํ อมนสิการา วิกฺขมฺภนวเสน กามจฺฉนฺโท ปหียติ. อนุนยปฺปหาเนเนว จสฺส โลหิตปฺปหาเนน ปุพฺโพ วิย พฺยาปาโทปิ ปหียติ. ตถา อารทฺธวีริยตาย ถินมิทฺธํ, อวิปฺปฏิสารกรสนฺตธมฺมานุโยควเสน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ, อธิคตวิเสสสฺส ปจฺจกฺขตาย ปฏิปตฺติเทสเก สตฺถริ ปฏิปตฺติยํ ปฏิปตฺติผเล จ วิจิกิจฺฉา ปหียตีติ ปฺจ นีวรณานิ ปหียนฺติ. ตสฺมิฺเว จ นิมิตฺเต เจตโส อภินิโรปนลกฺขโณ วิตกฺโก, นิมิตฺตานุมชฺชนกิจฺจํ สาธยมาโน วิจาโร, ปฏิลทฺธวิเสสาธิคมปจฺจยา ปีติ, ปีติมนสฺส ปสฺสทฺธิสมฺภวโต ปสฺสทฺธิ, ตนฺนิมิตฺตํ สุขํ, สุขิตสฺส จิตฺตสมาธิสมฺภวโต สุขนิมิตฺตา เอกคฺคตา จาติ ฌานงฺคานิ ปาตุภวนฺติ. เอวมสฺส ปมชฺฌานปฏิพิมฺพภูตํ อุปจารชฺฌานมฺปิ ตงฺขณฺเว นิพฺพตฺตติ. อิโต ปรํ ยาว ปมชฺฌานสฺส อปฺปนา เจว วสิปฺปตฺติ จ, ตาว สพฺพํ ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
วินีลกาทิกมฺมฏฺานานิ
๑๑๘. อิโต ปเรสุ ปน วินีลกาทีสุปิ ยํ ตํ ‘‘อุทฺธุมาตกํ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺโต เอโก อทุติโย คจฺฉติ อุปฏฺิตาย สติยา’’ติอาทินา นเยน คมนํ อาทึ กตฺวา ลกฺขณํ วุตฺตํ, ตํ สพฺพํ ‘‘วินีลกํ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺโต, วิปุพฺพกํ อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺโต’’ติ เอวํ ตสฺส ตสฺส วเสน ตตฺถ ตตฺถ อุทฺธุมาตกปทมตฺตํ ปริวตฺเตตฺวา วุตฺตนเยเนว สวินิจฺฉยาธิปฺปายํ เวทิตพฺพํ.
อยํ ¶ ปน วิเสโส – วินีลเก ‘‘วินีลกปฏิกฺกูลํ วินีลกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อุคฺคหนิมิตฺตฺเจตฺถ กพรกพรวณฺณํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน อุสฺสทวเสน อุปฏฺาติ.
วิปุพฺพเก ‘‘วิปุพฺพกปฏิกฺกูลํ วิปุพฺพกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อุคฺคหนิมิตฺตํ ปเนตฺถ ปคฺฆรนฺตมิว อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ นิจฺจลํ สนฺนิสินฺนํ หุตฺวา อุปฏฺาติ.
วิจฺฉิทฺทกํ ยุทฺธมณฺฑเล วา โจราฏวิยํ วา สุสาเน วา ยตฺถ ราชาโน ¶ โจเร ฉินฺทาเปนฺติ. อรฺเ วา ปน สีหพฺยคฺเฆหิ ฉินฺนปุริสฏฺาเน ลพฺภติ. ตสฺมา ตถารูปํ านํ คนฺตฺวา สเจ นานาทิสายํ ปติตมฺปิ เอกาวชฺชเนน อาปาถมาคจฺฉติ อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ อาคจฺฉติ, สยํ หตฺเถน น ปรามสิตพฺพํ. ปรามสนฺโต หิ วิสฺสาสํ อาปชฺชติ. ตสฺมา อารามิเกน วา สมณุทฺเทเสน วา อฺเน วา เกนจิ เอกฏฺาเน กาเรตพฺพํ. อลภนฺเตน กตฺตรยฏฺิยา วา ทณฺฑเกน วา เอกงฺคุลนฺตรํ กตฺวา อุปนาเมตพฺพํ. เอวํ อุปนาเมตฺวา ‘‘วิจฺฉิทฺทกปฏิกฺกูลํ วิจฺฉิทฺทกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. ตตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ มชฺเฌ ฉิทฺทํ วิย อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน ปริปุณฺณํ หุตฺวา อุปฏฺาติ.
วิกฺขายิตเก วิกฺขายิตกปฏิกฺกูลํ วิกฺขายิตกปฏิกฺกูลนฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อุคฺคหนิมิตฺตํ ปเนตฺถ ตหึ ตหึ ขายิตสทิสเมว อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปริปุณฺณํว หุตฺวา อุปฏฺาติ.
วิกฺขิตฺตกมฺปิ วิจฺฉิทฺทเก วุตฺตนเยเนว องฺคุลงฺคุลนฺตรํ กาเรตฺวา วา กตฺวา วา ‘‘วิกฺขิตฺตกปฏิกฺกูลํ วิกฺขิตฺตกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปากฏนฺตรํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน ปริปุณฺณํว หุตฺวา อุปฏฺาติ.
หตวิกฺขิตฺตกมฺปิ วิจฺฉิทฺทเก วุตฺตปฺปกาเรสุเยว าเนสุ ลพฺภติ. ตสฺมา ตตฺถ คนฺตฺวา วุตฺตนเยเนว องฺคุลงฺคุลนฺตรํ กาเรตฺวา วา กตฺวา วา ‘‘หตวิกฺขิตฺตกปฏิกฺกูลํ หตวิกฺขิตฺตกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อุคฺคหนิมิตฺตํ ปเนตฺถ ปฺายมานํ ปหารมุขํ วิย โหติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปริปุณฺณเมว หุตฺวา อุปฏฺาติ.
โลหิตกํ ¶ ยุทฺธมณฺฑลาทีสุ ลทฺธปฺปหารานํ หตฺถปาทาทีสุ วา ฉินฺเนสุ ภินฺนคณฺฑปีฬกาทีนํ วา มุขโต ปคฺฆรมานกาเล ลพฺภติ. ตสฺมา ตํ ทิสฺวา ‘‘โลหิตกปฏิกฺกูลํ โลหิตกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอตฺถ อุคฺคหนิมิตฺตํ วาตปฺปหตา วิย รตฺตปฏากา จลมานาการํ อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน สนฺนิสินฺนํ หุตฺวา อุปฏฺาติ.
ปุฬวกํ ทฺวีหตีหจฺจเยน กุณปสฺส นวหิ วณมุเขหิ กิมิราสิปคฺฆรณกาเล โหติ. อปิจ ตํ โสณสิงฺคาลมนุสฺสโคมหึสหตฺถิอสฺสอชคราทีนํ สรีรปฺปมาณเมว หุตฺวา สาลิภตฺตราสิ วิย ติฏฺติ ¶ . เตสุ ยตฺถ กตฺถจิ ‘‘ปุฬวกปฏิกฺกูลํ ปุฬวกปฏิกฺกูล’’นฺติ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. จูฬปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถรสฺส หิ กาฬทีฆวาปิยา อนฺโต หตฺถิกุณเป นิมิตฺตํ อุปฏฺาสิ. อุคฺคหนิมิตฺตํ ปเนตฺถ จลมานํ วิย อุปฏฺาติ. ปฏิภาคนิมิตฺตํ สาลิภตฺตปิณฺโฑ วิย สนฺนิสินฺนํ หุตฺวา อุปฏฺาติ.
อฏฺิกํ ‘‘เสยฺยถาปิ ปสฺเสยฺย สรีรํ สิวถิกาย ฉฑฺฑิตํ อฏฺิสงฺขลิกํ สมํสโลหิตํ นหารุสมฺพนฺธ’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๑๕๔) นเยน นานปฺปการโต วุตฺตํ. ตตฺถ ยตฺถ ตํ นิกฺขิตฺตํ โหติ, ตตฺถ ปุริมนเยเนว คนฺตฺวา สมนฺตา ปาสาณาทีนํ วเสน สนิมิตฺตํ สารมฺมณํ กตฺวา อิทํ อฏฺิกนฺติ สภาวภาวโต อุปลกฺเขตฺวา วณฺณาทิวเสน เอกาทสหากาเรหิ นิมิตฺตํ อุคฺคเหตพฺพํ.
๑๑๙. ตํ ปน วณฺณโต เสตนฺติ โอโลเกนฺตสฺส น อุปฏฺาติ, โอทาตกสิณสมฺเภโท โหติ. ตสฺมา อฏฺิกนฺติ ปฏิกฺกูลวเสเนว โอโลเกตพฺพํ. ลิงฺคนฺติ อิธ หตฺถาทีนํ นามํ. ตสฺมา หตฺถปาทสีสอุรพาหุกฏิอูรุชงฺฆานํ วเสน ลิงฺคโต ววตฺถเปตพฺพํ. ทีฆรสฺสวฏฺฏจตุรสฺสขุทฺทกมหนฺตวเสน ปน สณฺานโต ววตฺถเปตพฺพํ. ทิโสกาสา วุตฺตนยา เอว. ตสฺส ตสฺส อฏฺิโน ปริยนฺตวเสน ปริจฺเฉทโต ววตฺถเปตฺวา ยเทเวตฺถ ปากฏํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตํ คเหตฺวา อปฺปนา ปาปุณิตพฺพา. ตสฺส ตสฺส อฏฺิโน นินฺนฏฺานถลฏฺานวเสน ปน นินฺนโต จ ถลโต จ ววตฺถเปตพฺพํ. ปเทสวเสนาปิ อหํ นินฺเน ิโต, อฏฺิ ถเล, อหํ ถเล, อฏฺิ นินฺเนติปิ ววตฺถเปตพฺพํ. ทฺวินฺนํ ปน อฏฺิกานํ ฆฏิตฆฏิตฏฺานวเสน สนฺธิโต ววตฺถเปตพฺพํ. อฏฺิกานํเยว อนฺตรวเสน วิวรโต ววตฺถเปตพฺพํ. สพฺพตฺเถว ปน าณํ จาเรตฺวา อิมสฺมึ าเน อิทมฏฺีติ สมนฺตโต ววตฺถเปตพฺพํ. เอวมฺปิ นิมิตฺเต อนุปฏฺหนฺเต นลาฏฏฺิมฺหิ จิตฺตํ สณฺเปตพฺพํ.
๑๒๐. ยถา ¶ เจตฺถ, เอวํ อิทํ เอกาทสวิเธน นิมิตฺตคฺคหณํ อิโต ปุริเมสุ ปุฬวกาทีสุปิ ยุชฺชมานวเสน สลฺลกฺเขตพฺพํ. อิทฺจ ปน กมฺมฏฺานํ สกลายปิ อฏฺิกสงฺขลิกาย เอกสฺมิมฺปิ อฏฺิเก สมฺปชฺชติ. ตสฺมา เตสุ ยตฺถกตฺถจิ เอกาทสวิเธน นิมิตฺตํ อุคฺคเหตฺวา ‘‘อฏฺิกปฏิกฺกูลํ อฏฺิกปฏิกฺกูล’’นฺติ ¶ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิธ อุคฺคหนิมิตฺตมฺปิ ปฏิภาคนิมิตฺตมฺปิ เอกสทิสเมว โหตีติ วุตฺตํ, ตํ เอกสฺมึ อฏฺิเก ยุตฺตํ. อฏฺิกสงฺขลิกาย ปน อุคฺคหนิมิตฺเต ปฺายมาเน วิวรตา. ปฏิภาคนิมิตฺเต ปริปุณฺณภาโว ยุชฺชติ. เอกฏฺิเกปิ จ อุคฺคหนิมิตฺเตน พีภจฺเฉน ภยานเกน ภวิตพฺพํ. ปฏิภาคนิมิตฺเตน ปีติโสมนสฺสชนเกน, อุปจาราวหตฺตา.
อิมสฺมึ หิ โอกาเส ยํ อฏฺกถาสุ วุตฺตํ, ตํ ทฺวารํ ทตฺวาว วุตฺตํ. ตถา หิ ตตฺถ ‘‘จตูสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ ทสสุ จ อสุเภสุ ปฏิภาคนิมิตฺตํ นตฺถิ. พฺรหฺมวิหาเรสุ หิ สีมสมฺเภโทเยว นิมิตฺตํ. ทสสุ จ อสุเภสุ นิพฺพิกปฺปํ กตฺวา ปฏิกฺกูลภาเวเยว ทิฏฺเ นิมิตฺตํ นาม โหตี’’ติ วตฺวาปิ ปุน อนนฺตรเมว ‘‘ทุวิธํ อิธ นิมิตฺตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. อุคฺคหนิมิตฺตํ วิรูปํ พีภจฺฉํ ภยานกํ หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ วิจาเรตฺวา อโวจุมฺห, อิทเมเวตฺถ ยุตฺตํ.
อปิจ มหาติสฺสตฺเถรสฺส ทนฺตฏฺิกมตฺตาวโลกเนน สกลิตฺถิสรีรสฺส อฏฺิสงฺฆาตภาเวน อุปฏฺานาทีนิ เจตฺถ นิทสฺสนานีติ.
อิติ อสุภานิ สุภคุโณ, ทสสตโลจเนน ถุตกิตฺติ;
ยานิ อโวจ ทสพโล, เอเกกชฺฌานเหตุนีติ.
เอวํ ตานิ จ เตสฺจ, ภาวนานยมิมํ วิทิตฺวาน;
เตสฺเวว อยํ ภิยฺโย, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.
ปกิณฺณกกถา
๑๒๑. เอเตสุ หิ ยตฺถ กตฺถจิ อธิคตชฺฌาโน สุวิกฺขมฺภิตราคตฺตา วีตราโค วิย นิลฺโลลุปฺปจาโร ¶ โหติ. เอวํ สนฺเตปิ ยฺวายํ อสุภปฺปเภโท วุตฺโต, โส สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน จ ราคจริตเภทวเสน จาติ เวทิตพฺโพ. ฉวสรีรํ หิ ปฏิกฺกูลภาวํ อาปชฺชมานํ อุทฺธุมาตกสภาวปฺปตฺตํ วา สิยา, วินีลกาทีนํ วา อฺตรสภาวปฺปตฺตํ. อิติ ยาทิสํ ยาทิสํ สกฺกา โหติ ลทฺธุํ, ตาทิเส ตาทิเส อุทฺธุมาตกปฏิกฺกูลํ วินีลกปฏิกฺกูลนฺติ เอวํ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพเมวาติ สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน ทสธา อสุภปฺปเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
วิเสสโต ¶ เจตฺถ อุทฺธุมาตกํ สรีรสณฺานวิปตฺติปฺปกาสนโต สณฺานราคิโน สปฺปายํ. วินีลกํ ฉวิราควิปตฺติปฺปกาสนโต สรีรวณฺณราคิโน สปฺปายํ. วิปุพฺพกํ กายวณปฏิพทฺธสฺส ทุคฺคนฺธภาวสฺส ปกาสนโต มาลาคนฺธาทิวเสน สมุฏฺาปิตสรีรคนฺธราคิโน สปฺปายํ. วิจฺฉิทฺทกํ อนฺโตสุสิรภาวปฺปกาสนโต สรีเร ฆนภาวราคิโน สปฺปายํ. วิกฺขายิตกํ มํสุปจยสมฺปตฺติวินาสปฺปกาสนโต ถนาทีสุ สรีรปฺปเทเสสุ มํสุปจยราคิโน สปฺปายํ. วิกฺขิตฺตกํ องฺคปจฺจงฺคานํ วิกฺเขปปฺปกาสนโต องฺคปจฺจงฺคลีลาราคิโน สปฺปายํ. หตวิกฺขิตฺตกํ สรีรสงฺฆาตเภทวิการปฺปกาสนโต สรีรสงฺฆาตสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายํ. โลหิตกํ โลหิตมกฺขิตปฏิกฺกูลภาวปฺปกาสนโต อลงฺการชนิตโสภราคิโน สปฺปายํ. ปุฬวกํ กายสฺส อเนกกิมิกุลสาธารณภาวปฺปกาสนโต กาเย มมตฺตราคิโน สปฺปายํ. อฏฺิกํ สรีรฏฺีนํ ปฏิกฺกูลภาวปฺปกาสนโต ทนฺตสมฺปตฺติราคิโน สปฺปายนฺติ เอวํ ราคจริตเภทวเสนาปิ ทสธา อสุภปฺปเภโท วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
ยสฺมา ปน ทสวิเธปิ เอตสฺมึ อสุเภ เสยฺยถาปิ นาม อปริสณฺิตชลาย สีฆโสตาย นทิยา อริตฺตพเลเนว นาวา ติฏฺติ, วินา อริตฺเตน น สกฺกา เปตุํ, เอวเมว ทุพฺพลตฺตา อารมฺมณสฺส วิตกฺกพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ หุตฺวา ติฏฺติ, วินา วิตกฺเกน น สกฺกา เปตุํ, ตสฺมา ปมชฺฌานเมเวตฺถ โหติ, น ทุติยาทีนิ.
ปฏิกฺกูเลปิ จ เอตสฺมึ อารมฺมเณ ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณมฺหา ปริมุจฺจิสฺสามี’’ติ เอวมานิสํสทสฺสาวิตาย เจว นีวรณสนฺตาปปฺปหาเนน จ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปชฺชติ, ‘‘พหุํ ทานิ เวตนํ ลภิสฺสามี’’ติ อานิสํสทสฺสาวิโน ปุปฺผฉฑฺฑกสฺส คูถราสิมฺหิ วิย, อุสฺสนฺนพฺยาธิทุกฺขสฺส โรคิโน วมนวิเรจนปฺปวตฺติยํ วิย จ.
๑๒๒. ทสวิธมฺปิ ¶ เจตํ อสุภํ ลกฺขณโต เอกเมว โหติ. ทสวิธสฺสาปิ เหตสฺส อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลภาโว เอว ลกฺขณํ. ตเทตํ อิมินา ลกฺขเณน น เกวลํ มตสรีเร, ทนฺตฏฺิกทสฺสาวิโน ปน เจติยปพฺพตวาสิโน มหาติสฺสตฺเถรสฺส วิย, หตฺถิกฺขนฺธคตํ ราชานํ โอโลเกนฺตสฺส สงฺฆรกฺขิตตฺเถรูปฏฺากสามเณรสฺส วิย จ ชีวมานกสรีเรปิ ¶ อุปฏฺาติ. ยเถว หิ มตสรีรํ, เอวํ ชีวมานกมฺปิ อสุภเมว. อสุภลกฺขณํ ปเนตฺถ อาคนฺตุเกน อลงฺกาเรน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น ปฺายติ. ปกติยา ปน อิทํ สรีรํ นาม อติเรกติสตอฏฺิกสมุสฺสยํ อสีติสตสนฺธิสงฺฆฏิตํ นวนฺหารุสตนิพนฺธนํ นวมํสเปสิสตานุลิตฺตํ อลฺลจมฺมปริโยนทฺธํ ฉวิยา ปฏิจฺฉนฺนํ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ เมทกถาลิกา วิย นิจฺจุคฺฆริตปคฺฆริตํ กิมิสงฺฆนิเสวิตํ โรคานํ อายตนํ ทุกฺขธมฺมานํ วตฺถุ ปริภินฺนปุราณคณฺโฑ วิย นวหิ วณมุเขหิ สตตวิสฺสนฺทนํ. ยสฺส อุโภหิ อกฺขีหิ อกฺขิคูถโก ปคฺฆรติ, กณฺณพิเลหิ กณฺณคูถโก, นาสาปุเฏหิ สิงฺฆาณิกา, มุขโต อาหารปิตฺตเสมฺหรุธิรานิ, อโธทฺวาเรหิ อุจฺจารปสฺสาวา, นวนวุติยา โลมกูปสหสฺเสหิ อสุจิเสทยูโส ปคฺฆรติ. นีลมกฺขิกาทโย สมฺปริวาเรนฺติ. ยํ ทนฺตกฏฺมุขโธวนสีสมกฺขนนหานนิวาสนปารุปนาทีหิ อปฺปฏิชคฺคิตฺวา ยถาชาโตว ผรุสวิปฺปกิณฺณเกโส หุตฺวา คาเมน คามํ วิจรนฺโต ราชาปิ ปุปฺผฉฑฺฑกจณฺฑาลาทีสุ อฺตโรปิ สมสรีรปฏิกฺกูลตาย นิพฺพิเสโส โหติ, เอวํ อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลตาย รฺโ วา จณฺฑาลสฺส วา สรีเร เวมตฺตํ นาม นตฺถิ. ทนฺตกฏฺมุขโธวนาทีหิ ปเนตฺถ ทนฺตมลาทีนิ ปมชฺชิตฺวา นานาวตฺเถหิ หิริโกปีนํ ปฏิจฺฉาเทตฺวา นานาวณฺเณน สุรภิวิเลปเนน วิลิมฺปิตฺวา ปุปฺผาภรณาทีหิ อลงฺกริตฺวา ‘‘อหํ มม’’นฺติ คเหตพฺพาการปฺปตฺตํ กโรนฺติ. ตโต อิมินา อาคนฺตุเกน อลงฺกาเรน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ตทสฺส ยาถาวสรสํ อสุภลกฺขณํ อสฺชานนฺตา ปุริสา อิตฺถีสุ, อิตฺถิโย จ ปุริเสสุ รตึ กโรนฺติ. ปรมตฺถโต ปเนตฺถ รชฺชิตพฺพกยุตฺตฏฺานํ นาม อณุมตฺตมฺปิ นตฺถิ. ตถา หิ เกสโลมนขทนฺตเขฬสิงฺฆาณิกอุจฺจารปสฺสาวาทีสุ เอกโกฏฺาสมฺปิ สรีรโต พหิ ปติตํ สตฺตา หตฺเถน ฉุปิตุมฺปิ น อิจฺฉนฺติ, อฏฺฏียนฺติ หรายนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ. ยํ ยํ ปเนตฺถ อวเสสํ โหติ, ตํ ตํ เอวํ ปฏิกฺกูลมฺปิ สมานํ อวิชฺชนฺธการปริโยนทฺธา อตฺตสิเนหราครตฺตา ‘‘อิฏฺํ กนฺตํ นิจฺจํ สุขํ อตฺตา’’ติ คณฺหนฺติ. เต เอวํ คณฺหนฺตา อฏวิยํ กึสุกรุกฺขํ ทิสฺวา รุกฺขโต อปติตปุปฺผํ ‘‘อยํ มํสเปสี’’ติ วิหฺมาเนน ชรสิงฺคาเลน สมานตํ อาปชฺชนฺติ. ตสฺมา –
ยถาปิ ¶ ¶ ปุปฺผิตํ ทิสฺวา, สิงฺคาโล กึสุกํ วเน;
มํสรุกฺโข มยา ลทฺโธ, อิติ คนฺตฺวาน เวคสา.
ปติตํ ปติตํ ปุปฺผํ, ฑํสิตฺวา อติโลลุโป;
นยิทํ มํสํ อทุํ มํสํ, ยํ รุกฺขสฺมินฺติ คณฺหติ.
โกฏฺาสํ ปติตํเยว, อสุภนฺติ ตถา พุโธ;
อคฺคเหตฺวาน คณฺเหยฺย, สรีรฏฺมฺปิ นํ ตถา.
อิมฺหิ สุภโต กายํ, คเหตฺวา ตตฺถ มุจฺฉิตา;
พาลา กโรนฺตา ปาปานิ, ทุกฺขา น ปริมุจฺจเร.
ตสฺมา ปสฺเสยฺย เมธาวี, ชีวโต วา มตสฺส วา;
สภาวํ ปูติกายสฺส, สุภภาเวน วชฺชิตํ.
วุตฺตฺเหตํ –
ทุคฺคนฺโธ อสุจิ กาโย, กุณโป อุกฺกรูปโม;
นินฺทิโต จกฺขุภูเตหิ, กาโย พาลาภินนฺทิโต.
อลฺลจมฺมปฏิจฺฉนฺโน, นวทฺวาโร มหาวโณ;
สมนฺตโต ปคฺฆรติ, อสุจิ ปูติคนฺธิโย.
สเจ อิมสฺส กายสฺส, อนฺโต พาหิรโก สิยา;
ทณฺฑํ นูน คเหตฺวาน, กาเก โสเณ นิวารเยติ.
ตสฺมา ทพฺพชาติเกน ภิกฺขุนา ชีวมานสรีรํ วา โหตุ
มตสรีรํ ¶ วา ยตฺถ ยตฺถ อสุภากาโร ปฺายติ, ตตฺถ ตตฺเถว นิมิตฺตํ คเหตฺวา กมฺมฏฺานํ อปฺปนํ ปาเปตพฺพนฺติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
สมาธิภาวนาธิกาเร
อสุภกมฺมฏฺานนิทฺเทโส นาม
ฉฏฺโ ปริจฺเฉโท.