📜
๗. ฉอนุสฺสตินิทฺเทโส
๑. พุทฺธานุสฺสติกถา
๑๒๓. อสุภานนฺตรํ ¶ ¶ อุทฺทิฏฺาสุ ปน ทสสุ อนุสฺสตีสุ ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต สติเยว อนุสฺสติ, ปวตฺติตพฺพฏฺานมฺหิเยว วา ปวตฺตตฺตา สทฺธาปพฺพชิตสฺส กุลปุตฺตสฺส อนุรูปา สตีติปิ อนุสฺสติ, พุทฺธํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ พุทฺธานุสฺสติ, พุทฺธคุณารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. ธมฺมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ ธมฺมานุสฺสติ, สฺวากฺขาตตาทิธมฺมคุณารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. สงฺฆํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สงฺฆานุสฺสติ, สุปฺปฏิปนฺนตาทิสงฺฆคุณารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. สีลํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ สีลานุสฺสติ, อขณฺฑตาทิสีลคุณารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. จาคํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ จาคานุสฺสติ, มุตฺตจาคตาทิจาคคุณารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. เทวตา อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ เทวตานุสฺสติ, เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. มรณํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ มรณานุสฺสติ, ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. เกสาทิเภทํ รูปกายํ คตา, กาเย วา คตาติ กายคตา, กายคตา จ สา สติ จาติ กายคตสตีติ วตฺตพฺเพ รสฺสํ อกตฺวา กายคตาสตีติ วุตฺตา, เกสาทิกายโกฏฺาสนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. อานาปาเน อารพฺภ อุปฺปนฺนา สติ อานาปานสฺสติ, อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ. อุปสมํ อารพฺภ อุปฺปนฺนา อนุสฺสติ อุปสมานุสฺสติ, สพฺพทุกฺขูปสมารมฺมณาย สติยา เอตมธิวจนํ.
๑๒๔. อิติ อิมาสุ ทสสุ อนุสฺสตีสุ พุทฺธานุสฺสตึ ตาว ภาเวตุกาเมน อเวจฺจปฺปสาทสมนฺนาคเตน โยคินา ปติรูปเสนาสเน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘อิติปิ โส ภควา อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ ¶ สตฺถา ¶ เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) เอวํ พุทฺธสฺส ภควโต คุณา อนุสฺสริตพฺพา.
ตตฺรายํ อนุสฺสรณนโย – โส ภควา อิติปิ อรหํ, อิติปิ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… อิติปิ ภควาติ อนุสฺสรติ. อิมินา จ อิมินา จ การเณนาติ วุตฺตํ โหติ.
๑๒๕. ตตฺถ อารกตฺตา อรีนํ อรานฺจ หตตฺตา ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตา ปาปกรเณ รหาภาวาติ อิเมหิ ตาว การเณหิ โส ภควา อรหนฺติ อนุสฺสรติ. อารกา หิ โส สพฺพกิเลเสหิ สุวิทูรวิทูเร ิโต มคฺเคน สวาสนานํ กิเลสานํ วิทฺธํสิตตฺตาติ อารกตฺตา อรหํ.
โส ตโต อารกา นาม, ยสฺส เยนาสมงฺคิตา;
อสมงฺคี จ โทเสหิ, นาโถ เตนารหํ มโตติ.
๑๒๖. เต จาเนน กิเลสารโย มคฺเคน หตาติ อรีนํ หตตฺตาปิ อรหํ.
ยสฺมา ราคาทิสงฺขาตา, สพฺเพปิ อรโย หตา;
ปฺาสตฺเถน นาเถน, ตสฺมาปิ อรหํ มโตติ.
๑๒๗. ยฺเจตํ อวิชฺชาภวตณฺหามยนาภิ ปฺุาทิอภิสงฺขารารํ ชรามรณเนมิ อาสวสมุทยมเยน อกฺเขน วิชฺฌิตฺวา ติภวรเถ สมาโยชิตํ อนาทิกาลปฺปวตฺตํ สํสารจกฺกํ, ตสฺสาเนน โพธิมณฺเฑ วีริยปาเทหิ สีลปถวิยํ ปติฏฺาย สทฺธาหตฺเถน กมฺมกฺขยกรํ าณผรสุํ คเหตฺวา สพฺเพ อรา หตาติ อรานํ หตตฺตาปิ อรหํ.
๑๒๘. อถ วา สํสารจกฺกนฺติ อนมตคฺคํ สํสารวฏฺฏํ วุจฺจติ. ตสฺส จ อวิชฺชา นาภิ, มูลตฺตา. ชรามรณํ เนมิ, ปริโยสานตฺตา. เสสา ทส ธมฺมา อรา, อวิชฺชามูลกตฺตา ชรามรณปริยนฺตตฺตา จ, ตตฺถ ทุกฺขาทีสุ อฺาณํ อวิชฺชา. กามภเว จ อวิชฺชา กามภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ, รูปภเว อวิชฺชา รูปภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ, อรูปภเว ¶ อวิชฺชา ¶ อรูปภเว สงฺขารานํ ปจฺจโย โหติ. กามภเว สงฺขารา กามภเว ปฏิสนฺธิวิฺาณสฺส ปจฺจยา โหนฺติ, เอส นโย อิตเรสุ. กามภเว ปฏิสนฺธิวิฺาณํ กามภเว นามรูปสฺส ปจฺจโย โหติ, ตถา รูปภเว. อรูปภเว นามสฺเสว ปจฺจโย โหติ. กามภเว นามรูปํ กามภเว สฬายตนสฺส ปจฺจโย โหติ, รูปภเว นามรูปํ รูปภเว ติณฺณํ อายตนานํ ปจฺจโย โหติ, อรูปภเว นามํ อรูปภเว เอกสฺส อายตนสฺส ปจฺจโย โหติ. กามภเว สฬายตนํ กามภเว ฉพฺพิธสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ, รูปภเว ตีณิ อายตนานิ รูปภเว ติณฺณํ ผสฺสานํ ปจฺจยา โหนฺติ, อรูปภเว เอกํ อายตนํ อรูปภเว เอกสฺส ผสฺสสฺส ปจฺจโย โหติ. กามภเว ฉ ผสฺสา กามภเว ฉนฺนํ เวทนานํ ปจฺจยา โหนฺติ, รูปภเว ตโย ผสฺสา ตตฺเถว ติสฺสนฺนํ, อรูปภเว เอโก ตตฺเถว เอกิสฺสา เวทนาย ปจฺจโย โหติ. กามภเว ฉ เวทนา กามภเว ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ ปจฺจยา โหนฺติ, รูปภเว ติสฺโส ตตฺเถว ติณฺณํ, อรูปภเว เอกา เวทนา อรูปภเว เอกสฺส ตณฺหากายสฺส ปจฺจโย โหติ. ตตฺถ ตตฺถ สา สา ตณฺหา ตสฺส ตสฺส อุปาทานสฺส, อุปาทานาทโย ภวาทีนํ.
กถํ? อิเธกจฺโจ กาเม ปริภฺุชิสฺสามีติ กามุปาทานปจฺจยา กาเยน ทุจฺจริตํ จรติ, วาจาย ทุจฺจริตํ จรติ, มนสา ทุจฺจริตํ จรติ, ทุจฺจริตปาริปูริยา อปาเย อุปปชฺชติ. ตตฺถสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมนิพฺพตฺตา ขนฺธา อุปปตฺติภโว, ขนฺธานํ นิพฺพตฺติ ชาติ, ปริปาโก ชรา, เภโท มรณํ.
อปโร สคฺคสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามีติ ตเถว สุจริตํ จรติ, สุจริตปาริปูริยา สคฺเค อุปปชฺชติ. ตตฺถสฺส อุปปตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโวติ โส เอว นโย.
อปโร ปน พฺรหฺมโลกสมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามีติ กามุปาทานปจฺจยาเอว เมตฺตํ ภาเวติ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺขํ ภาเวติ, ภาวนาปาริปูริยา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตติ. ตตฺถสฺส นิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโวติ โส เอว นโย.
อปโร ¶ อรูปภเว สมฺปตฺตึ อนุภวิสฺสามีติ ตเถว อากาสานฺจายตนาทิสมาปตฺติโย ภาเวติ, ภาวนาปาริปูริยา ตตฺถ ตตฺถ นิพฺพตฺตติ. ตตฺถสฺส นิพฺพตฺติเหตุภูตํ กมฺมํ กมฺมภโว, กมฺมนิพฺพตฺตา ¶ ขนฺธา อุปปตฺติภโว, ขนฺธานํ นิพฺพตฺติ ชาติ, ปริปาโก ชรา, เภโท มรณนฺติ. เอส นโย เสสุปาทานมูลิกาสุปิ โยชนาสุ.
เอวํ อยํ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณํ. อตีตมฺปิ อทฺธานํ อนาคตมฺปิ อทฺธานํ อวิชฺชา เหตุ, สงฺขารา เหตุสมุปฺปนฺนา, อุโภเปเต เหตุสมุปฺปนฺนาติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณนฺติ เอเตเนว นเยน สพฺพปทานิ วิตฺถาเรตพฺพานิ.
ตตฺถ อวิชฺชาสงฺขารา เอโก สงฺเขโป, วิฺาณนามรูปสฬายตนผสฺสเวทนา เอโก, ตณฺหุปาทานภวา เอโก, ชาติชรามรณํ เอโก. ปุริมสงฺเขโป เจตฺถ อตีโต อทฺธา, ทฺเว มชฺฌิมา ปจฺจุปฺปนฺโน, ชาติชรามรณํ อนาคโต. อวิชฺชาสงฺขารคฺคหเณน เจตฺถ ตณฺหุปาทานภวา คหิตาว โหนฺตีติ อิเม ปฺจ ธมฺมา อตีเต กมฺมวฏฺฏํ, วิฺาณาทโย ปฺจ เอตรหิ วิปากวฏฺฏํ, ตณฺหุปาทานภวคฺคหเณน อวิชฺชาสงฺขารา คหิตาว โหนฺตีติ อิเม ปฺจ ธมฺมา เอตรหิ กมฺมวฏฺฏํ, ชาติชรามรณาปเทเสน วิฺาณาทีนํ นิทฺทิฏฺตฺตา อิเม ปฺจ ธมฺมา อายตึ วิปากวฏฺฏํ. เต อาการโต วีสติวิธา โหนฺติ. สงฺขารวิฺาณานฺเจตฺถ อนฺตรา เอโก สนฺธิ, เวทนาตณฺหานมนฺตรา เอโก, ภวชาตีนมนฺตรา เอโกติ, อิติ ภควา เอตํ จตุสงฺเขปํ ติยทฺธํ วีสตาการํ ติสนฺธึ ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ สพฺพาการโต ชานาติ ปสฺสติ อฺาติ ปฏิวิชฺฌติ. ตํ าตฏฺเน าณํ, ปชานนฏฺเน ปฺา, เตน วุจฺจติ ปจฺจยปริคฺคเห ปฺา ธมฺมฏฺิติาณนฺติ. อิมินา ธมฺมฏฺิติาเณน ภควา เต ธมฺเม ยถาภูตํ ตฺวา เตสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต วุตฺตปฺปการสฺส อิมสฺส สํสารจกฺกสฺส อเร หนิ วิหนิ วิทฺธํเสสิ. เอวมฺปิ อรานํ หตตฺตา อรหํ.
อรา สํสารจกฺกสฺส, หตา าณาสินา ยโต;
โลกนาเถน เตเนส, อรหนฺติ ปวุจฺจติ.
๑๒๙. อคฺคทกฺขิเณยฺยตฺตา ¶ จ จีวราทิปจฺจเย อรหติ ปูชาวิเสสฺจ. เตเนว จ อุปฺปนฺเน ตถาคเต เยเกจิ มเหสกฺขา เทวมนุสฺสา, น เต อฺตฺถ ปูชํ กโรนฺติ. ตถา หิ พฺรหฺมา สหมฺปติ สิเนรุมตฺเตน รตนทาเมน ตถาคตํ ปูเชสิ. ยถาพลฺจ อฺเ เทวา มนุสฺสา จ ¶ พิมฺพิสารโกสลราชาทโย. ปรินิพฺพุตมฺปิ จ ภควนฺตํ อุทฺทิสฺส ฉนฺนวุติโกฏิธนํ วิสฺสชฺเชตฺวา อโสกมหาราชา สกลชมฺพุทีเป จตุราสีติวิหารสหสฺสานิ ปติฏฺาเปสิ. โก ปน วาโท อฺเสํ ปูชาวิเสสานนฺติ ปจฺจยาทีนํ อรหตฺตาปิ อรหํ.
ปูชาวิเสสํ สห ปจฺจเยหิ,
ยสฺมา อยํ อรหติ โลกนาโถ;
อตฺถานุรูปํ อรหนฺติ โลเก,
ตสฺมา ชิโน อรหติ นามเมตํ.
๑๓๐. ยถา จ โลเก เยเกจิ ปณฺฑิตมานิโน พาลา อสิโลกภเยน รโห ปาปํ กโรนฺติ, เอวเมส น กทาจิ กโรตีติ ปาปกรเณ รหาภาวโตปิ อรหํ.
ยสฺมา นตฺถิ รโห นาม, ปาปกมฺเมสุ ตาทิโน;
รหาภาเวน เตเนส, อรหํ อิติ วิสฺสุโต.
เอวํ สพฺพถาปิ –
อารกตฺตา หตตฺตา จ, กิเลสารีน โส มุนิ;
หตสํสารจกฺกาโร, ปจฺจยาทีน จารโห;
น รโห กโรติ ปาปานิ, อรหํ เตน วุจฺจตีติ.
๑๓๑. สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ. ตถาหิ เอส สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ, อภิฺเยฺเย ธมฺเม อภิฺเยฺยโต พุทฺโธ, ปริฺเยฺเย ธมฺเม ปริฺเยฺยโต, ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปหาตพฺพโต, สจฺฉิกาตพฺเพ ธมฺเม สจฺฉิกาตพฺพโต, ภาเวตพฺเพ ธมฺเม ภาเวตพฺพโต. เตเนว จาห –
อภิฺเยฺยํ อภิฺาตํ, ภาเวตพฺพฺจ ภาวิตํ;
ปหาตพฺพํ ปหีนํ เม, ตสฺมา พุทฺโธสฺมิ พฺราหฺมณาติ. (ม. นิ. ๒.๓๙๙; สุ. นิ. ๕๖๓);
๑๓๒. อปิจ ¶ ¶ จกฺขุํ ทุกฺขสจฺจํ, ตสฺส มูลการณภาเวน สมุฏฺาปิกา ปุริมตณฺหา สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนํ อปฺปวตฺติ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวํ เอเกกปทุทฺธาเรนาปิ สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ, เอส นโย โสตฆานชิวฺหากายมเนสุ. เอเตเนว นเยน รูปาทีนิ ฉ อายตนานิ, จกฺขุวิฺาณาทโย ฉวิฺาณกายา, จกฺขุสมฺผสฺสาทโย ฉ ผสฺสา, จกฺขุสมฺผสฺสชาทโย ฉ เวทนา, รูปสฺาทโย ฉ สฺา, รูปสฺเจตนาทโย ฉ เจตนา, รูปตณฺหาทโย ฉ ตณฺหากายา, รูปวิตกฺกาทโย ฉ วิตกฺกา, รูปวิจาราทโย ฉ วิจารา, รูปกฺขนฺธาทโย ปฺจกฺขนฺธา, ทส กสิณานิ, ทส อนุสฺสติโย, อุทฺธุมาตกสฺาทิวเสน ทส สฺา, เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา, ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย, กามภวาทโย นว ภวา, ปมาทีนิ จตฺตาริ ฌานานิ, เมตฺตาภาวนาทโย จตสฺโส อปฺปมฺา, จตสฺโส อรูปสมาปตฺติโย, ปฏิโลมโต ชรามรณาทีนิ, อนุโลมโต อวิชฺชาทีนิ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ จ โยเชตพฺพานิ.
ตตฺรายํ เอกปทโยชนา, ชรามรณํ ทุกฺขสจฺจํ, ชาติ สมุทยสจฺจํ, อุภินฺนมฺปิ นิสฺสรณํ นิโรธสจฺจํ, นิโรธปชานนา ปฏิปทา มคฺคสจฺจนฺติ เอวเมเกกปทุทฺธาเรน สพฺพธมฺเม สมฺมา สามฺจ พุทฺโธ อนุพุทฺโธ ปฏิพุทฺโธ. เตน วุตฺตํ – ‘‘สมฺมา สามฺจ สพฺพธมฺมานํ พุทฺธตฺตา ปน สมฺมาสมฺพุทฺโธ’’ติ.
๑๓๓. วิชฺชาหิ ปน จรเณน จ สมฺปนฺนตฺตา วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน. ตตฺถ วิชฺชาติ ติสฺโสปิ วิชฺชา อฏฺปิ วิชฺชา. ติสฺโส วิชฺชา ภยเภรวสุตฺเต (ม. นิ. ๑.๕๒ อาทโย) วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพา, อฏฺ อมฺพฏฺสุตฺเต (ที. นิ. ๑.๒๗๘ อาทโย). ตตฺร หิ วิปสฺสนาาเณน มโนมยิทฺธิยา จ สห ฉ อภิฺา ปริคฺคเหตฺวา อฏฺ วิชฺชา วุตฺตา. จรณนฺติ สีลสํวโร, อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวารตา, โภชเน มตฺตฺุตา, ชาคริยานุโยโค, สตฺต สทฺธมฺมา, จตฺตาริ รูปาวจรชฺฌานานีติ อิเม ปนฺนรส ธมฺมา เวทิตพฺพา. อิเมเยว หิ ปนฺนรส ธมฺมา ยสฺมา เอเตหิ จรติ อริยสาวโก คจฺฉติ อมตํ ทิสํ, ตสฺมา จรณนฺติ วุตฺตา. ยถาห – ‘‘อิธ, มหานาม, อริยสาวโก สีลวา โหตี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๔) สพฺพํ มชฺฌิมปณฺณาสเก วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ภควา อิมาหิ วิชฺชาหิ อิมินา จ จรเณน สมนฺนาคโต. เตน วุจฺจติ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโนติ.
ตตฺถ ¶ ¶ วิชฺชาสมฺปทา ภควโต สพฺพฺุตํ ปูเรตฺวา ิตา. จรณสมฺปทา มหาการุณิกตํ. โส สพฺพฺุตาย สพฺพสตฺตานํ อตฺถานตฺถํ ตฺวา มหาการุณิกตาย อนตฺถํ ปริวชฺเชตฺวา อตฺเถ นิโยเชติ. ยถา ตํ วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน. เตนสฺส สาวกา สุปฺปฏิปนฺนา โหนฺติ, โน ทุปฺปฏิปนฺนา วิชฺชาจรณวิปนฺนานํ สาวกา อตฺตนฺตปาทโย วิย.
๑๓๔. โสภนคมนตฺตา, สุนฺทรํ านํ คตตฺตา, สมฺมา คตตฺตา, สมฺมา จ คทตฺตา สุคโต. คมนมฺปิ หิ คตนฺติ วุจฺจติ. ตฺจ ภควโต โสภนํ ปริสุทฺธมนวชฺชํ. กึ ปน ตนฺติ? อริยมคฺโค. เตน เหส คมเนน เขมํ ทิสํ อสชฺชมาโน คโตติ โสภนคมนตฺตา สุคโต. สุนฺทรฺเจส านํ คโต อมตํ นิพฺพานนฺติ สุนฺทรํ านํ คตตฺตาปิ สุคโต. สมฺมา จ คโต เตน เตน มคฺเคน ปหีเน กิเลเส ปุน อปจฺจาคจฺฉนฺโต. วุตฺตฺเหตํ – ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต…เป… อรหตฺตมคฺเคน เย กิเลสา ปหีนา, เต กิเลเส น ปุเนติ น ปจฺเจติ น ปจฺจาคจฺฉตีติ สุคโต’’ติ, สมฺมา วา คโต ทีปงฺกรปาทมูลโต ปภุติ ยาว โพธิมณฺฑา ตาว สมตึสปารมีปูริกาย สมฺมาปฏิปตฺติยา สพฺพโลกสฺส หิตสุขเมว กโรนฺโต สสฺสตํ, อุจฺเฉทํ, กามสุขํ, อตฺตกิลมถนฺติ อิเม จ อนฺเต อนุปคจฺฉนฺโต คโตติ สมฺมา คตตฺตาปิ สุคโต. สมฺมา เจส คทติ ยุตฺตฏฺาเน ยุตฺตเมว วาจํ ภาสตีติ สมฺมา คทตฺตาปิ สุคโต. ตตฺริทํ สาธกสุตฺตํ ‘‘ยํ ตถาคโต วาจํ ชานาติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสฺหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, น ตํ ตถาคโต วาจํ ภาสติ. ยมฺปิ ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสฺหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, ตมฺปิ ตถาคโต วาจํ น ภาสติ. ยฺจ โข ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสฺหิตํ, สา จ ปเรสํ อปฺปิยา อมนาปา, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺสา วาจาย เวยฺยากรณาย. ยํ ตถาคโต วาจํ ชานาติ อภูตํ อตจฺฉํ อนตฺถสฺหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, น ตํ ตถาคโต วาจํ ภาสติ. ยมฺปิ ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อนตฺถสฺหิตํ, สา จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, ตมฺปิ ตถาคโต วาจํ น ภาสติ. ยฺจ โข ตถาคโต วาจํ ชานาติ ภูตํ ตจฺฉํ อตฺถสฺหิตํ, สา ¶ จ ปเรสํ ปิยา มนาปา, ตตฺร กาลฺู ตถาคโต โหติ ตสฺสา วาจาย เวยฺยากรณายา’’ติ (ม. นิ. ๒.๘๖). เอวํ สมฺมา คทตฺตาปิ สุคโตติ เวทิตพฺโพ.
๑๓๕. สพฺพถาปิ วิทิตโลกตฺตา ปน โลกวิทู. โส หิ ภควา สภาวโต สมุทยโต นิโรธโต ¶ นิโรธูปายโตติ สพฺพถา โลกํ อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. ยถาห – ‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ าเตยฺยํ ทฏฺเยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามิ, น จาหํ, อาวุโส, อปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิ. อปิ จาหํ, อาวุโส, อิมสฺมิฺเว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสฺิมฺหิ สมนเก โลกฺจ ปฺเปมิ โลกสมุทยฺจ โลกนิโรธฺจ โลกนิโรธคามินิฺจ ปฏิปทํ.
คมเนน น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;
น จ อปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํ.
ตสฺมา หเว โลกวิทู สุเมโธ,
โลกนฺตคู วูสิตพฺรหฺมจริโย;
โลกสฺส อนฺตํ สมิตาวิ ตฺวา,
นาสีสติ โลกมิมํ ปรฺจาติ. (สํ. นิ. ๑.๑๐๗; อ. นิ. ๔.๔๕);
๑๓๖. อปิจ ตโย โลกา สงฺขารโลโก สตฺตโลโก โอกาสโลโกติ. ตตฺถ เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกาติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒) อาคตฏฺาเน สงฺขารโลโก เวทิตพฺโพ. สสฺสโต โลโกติ วา อสสฺสโต โลโกติ วาติ (ที. นิ. ๑.๔๒๑) อาคตฏฺาเน สตฺตโลโก.
ยาวตา จนฺทิมสูริยา ปริหรนฺติ, ทิสา ภนฺติ วิโรจมานา;
ตาว สหสฺสธา โลโก, เอตฺถ เต วตฺตตี วโสติ. (ม. นิ. ๑.๕๐๓) –
อาคตฏฺาเน โอกาสโลโก. ตมฺปิ ภควา สพฺพถา อเวทิ. ตถา หิสฺส ‘‘เอโก โลโก สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา. ทฺเว โลกา นามฺจ รูปฺจ. ตโย โลกา ติสฺโส เวทนา. จตฺตาโร โลกา ¶ จตฺตาโร อาหารา. ปฺจ โลกา ปฺจุปาทานกฺขนฺธา. ฉ โลกา ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานิ. สตฺต โลกา สตฺต วิฺาณฏฺิติโย. อฏฺ โลกา อฏฺ โลกธมฺมา. นว โลกา นว ¶ สตฺตาวาสา. ทส โลกา ทสายตนานิ. ทฺวาทส โลกา ทฺวาทสายตนานิ. อฏฺารส โลกา อฏฺารส ธาตุโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๒) อยํ สงฺขารโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต.
ยสฺมา ปเนส สพฺเพสมฺปิ สตฺตานํ อาสยํ ชานาติ, อนุสยํ ชานาติ, จริตํ ชานาติ, อธิมุตฺตึ ชานาติ, อปฺปรชกฺเข มหารชกฺเข, ติกฺขินฺทฺริเย มุทินฺทฺริเย, สฺวากาเร ทฺวากาเร, สุวิฺาปเย ทุวิฺาปเย, ภพฺเพ อภพฺเพ สตฺเต ชานาติ. ตสฺมาสฺส สตฺตโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต.
๑๓๗. ยถา จ สตฺตโลโก, เอวํ โอกาสโลโกปิ. ตถา เหส เอกํ จกฺกวาฬํ อายามโต จ วิตฺถารโต จ โยชนานํ ทฺวาทสสตสหสฺสานิ จตุตึสสตานิ จ ปฺาสฺจ โยชนานิ. ปริกฺเขปโต ปน –
สพฺพํ สตสหสฺสานิ, ฉตฺตึสปริมณฺฑลํ;
ทส เจว สหสฺสานิ, อฑฺฒุฑฺฒานิ สตานิ จ.
ตตฺถ –
ทุเว สตสหสฺสานิ, จตฺตาริ นหุตานิ จ;
เอตฺตกํ พหลตฺเตน, สงฺขาตายํ วสุนฺธรา.
ตสฺสาเยว สนฺธารกํ –
จตฺตาริ สตสหสฺสานิ, อฏฺเว นหุตานิ จ;
เอตฺตกํ พหลตฺเตน, ชลํ วาเต ปติฏฺิตํ.
ตสฺสาปิ สนฺธารโก –
นว สตสหสฺสานิ, มาลุโต นภมุคฺคโต;
สฏฺิฺเจว สหสฺสานิ, เอสา โลกสฺส สณฺิติ.
เอวํ สณฺิเต เจตฺถ โยชนานํ –
จตุราสีติ ¶ ¶ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;
อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, สิเนรุ ปพฺพตุตฺตโม.
ตโต อุปฑฺฒุปฑฺเฒน, ปมาเณน ยถากฺกมํ;
อชฺโฌคาฬฺหุคฺคตา ทิพฺพา, นานารตนจิตฺติตา.
ยุคนฺธโร อีสธโร, กรวีโก สุทสฺสโน;
เนมินฺธโร วินตโก, อสฺสกณฺโณ คิริ พฺรหา.
เอเต สตฺต มหาเสลา, สิเนรุสฺส สมนฺตโต;
มหาราชานมาวาสา, เทวยกฺขนิเสวิตา.
โยชนานํ สตานุจฺโจ, หิมวา ปฺจ ปพฺพโต;
โยชนานํ สหสฺสานิ, ตีณิ อายตวิตฺถโต.
จตุราสีติสหสฺเสหิ, กูเฏหิ ปฏิมณฺฑิโต;
ติปฺจโยชนกฺขนฺธ-ปริกฺเขปา นควฺหยา.
ปฺาสโยชนกฺขนฺธ-สาขายามา สมนฺตโต;
สตโยชนวิตฺถิณฺณา, ตาวเทว จ อุคฺคตา;
ชมฺพู ยสฺสานุภาเวน, ชมฺพุทีโป ปกาสิโต.
ยฺเจตํ ชมฺพุยา ปมาณํ, เอตเทว อสุรานํ จิตฺรปาฏลิยา, ครุฬานํ สิมฺพลิรุกฺขสฺส, อปรโคยาเน กทมฺพสฺส, อุตฺตรกุรูสุ กปฺปรุกฺขสฺส, ปุพฺพวิเทเห สิรีสสฺส, ตาวตึเสสุ ปาริจฺฉตฺตกสฺสาติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ปาฏลี สิมฺพลี ชมฺพู, เทวานํ ปาริจฺฉตฺตโก;
กทมฺโพ กปฺปรุกฺโข จ, สิรีเสน ภวติ สตฺตมนฺติ.
‘‘ทฺเวอสีติ ¶ สหสฺสานิ, อชฺโฌคาฬฺโห มหณฺณเว;
อจฺจุคฺคโต ตาวเทว, จกฺกวาฬสิลุจฺจโย;
ปริกฺขิปิตฺวา ตํ สพฺพํ, โลกธาตุมยํ ิโต’’ติ.
ตตฺถ จนฺทมณฺฑลํ เอกูนปฺาสโยชนํ. สูริยมณฺฑลํ ปฺาสโยชนํ. ตาวตึสภวนํ ทสสหสฺสโยชนํ. ตถา อสุรภวนํ อวีจิมหานิรโย ชมฺพุทีโป จ. อปรโคยานํ สตฺตสหสฺสโยชนํ. ตถา ¶ ปุพฺพวิเทหํ. อุตฺตรกุรุ อฏฺสหสฺสโยชนํ. เอกเมโก เจตฺถ มหาทีโป ปฺจสตปฺจสตปริตฺตทีปปริวาโร. ตํ สพฺพมฺปิ เอกํ จกฺกวาฬํ เอกา โลกธาตุ. ตทนฺตเรสุ โลกนฺตริกนิรยา.
เอวํ อนนฺตานิ จกฺกวาฬานิ อนนฺตา โลกธาตุโย ภควา อนนฺเตน พุทฺธาเณน อเวทิ อฺาสิ ปฏิวิชฺฌิ. เอวมสฺส โอกาสโลโกปิ สพฺพถา วิทิโต. เอวมฺปิ สพฺพถา วิทิตโลกตฺตา โลกวิทู.
๑๓๘. อตฺตนา ปน คุเณหิ วิสิฏฺตรสฺส กสฺสจิ อภาวโต นตฺถิ เอตสฺส อุตฺตโรติ อนุตฺตโร. ตถา เหส สีลคุเณนาปิ สพฺพํ โลกมภิภวติ, สมาธิปฺาวิมุตฺติวิมุตฺติาณทสฺสนคุเณนาปิ. สีลคุเณนาปิ อสโม อสมสโม อปฺปฏิโม อปฺปฏิภาโค อปฺปฏิปุคฺคโล…เป… วิมุตฺติาณทสฺสนคุเณนาปิ. ยถาห – ‘‘น โข ปนาหํ สมนุปสฺสามิ สเทวเก โลเก สมารเก…เป… สเทวมนุสฺสาย ปชาย อตฺตนา สีลสมฺปนฺนตร’’นฺติ วิตฺถาโร. เอวํ อคฺคปสาทสุตฺตาทีนิ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) ‘‘น เม อาจริโย อตฺถี’’ติอาทิกา (ม. นิ. ๑.๒๘๕; มหาว. ๑๑) คาถาโย จ วิตฺถาเรตพฺพา.
๑๓๙. ปุริสทมฺเม สาเรตีติ ปุริสทมฺมสารถิ. ทเมติ วิเนตีติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ ปุริสทมฺมาติ อทนฺตา ทเมตุํ ยุตฺตา ติรจฺฉานปุริสาปิ มนุสฺสปุริสาปิ อมนุสฺสปุริสาปิ. ตถา หิ ภควตา ติรจฺฉานปุริสาปิ อปลาโล นาคราชา, จูโฬทโร, มโหทโร, อคฺคิสิโข, ธูมสิโข, อรวาโฬ นาคราชา, ธนปาลโก หตฺถีติ เอวมาทโย ทมิตา นิพฺพิสา กตา สรเณสุ จ สีเลสุ จ ปติฏฺาปิตา, มนุสฺสปุริสาปิ สจฺจกนิคณฺปุตฺตอมฺพฏฺมาณวโปกฺขรสาติ โสณทนฺตกูฏทนฺตาทโย, อมนุสฺสปุริสาปิ อาฬวกสูจิโลมขรโลมยกฺขสกฺกเทวราชาทโย ¶ ทมิตา วินีตา วิจิตฺเรหิ วินยนูปาเยหิ. ‘‘อหํ โข, เกสิ, ปุริสทมฺเม สณฺเหนปิ วิเนมิ, ผรุเสนปิ วิเนมิ, สณฺหผรุเสนปิ วิเนมี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๑) อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ.
อปิจ ภควา วิสุทฺธสีลาทีนํ ปมชฺฌานาทีนิ โสตาปนฺนาทีนฺจ อุตฺตริ มคฺคปฏิปทํ อาจิกฺขนฺโต ทนฺเตปิ ทเมติเยว.
อถ ¶ วา อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถีติ เอกเมวิทํ อตฺถปทํ. ภควา หิ ตถา ปุริสทมฺเม สาเรติ, ยถา เอกปลฺลงฺเกเนว นิสินฺนา อฏฺ ทิสา อสชฺชมานา ธาวนฺติ. ตสฺมา อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถีติ วุจฺจติ. ‘‘หตฺถิทมเกน, ภิกฺขเว, หตฺถิทมฺโม สาริโต เอกํเยว ทิสํ ธาวตี’’ติ อิทฺเจตฺถ สุตฺตํ (ม. นิ. ๓.๓๑๒) วิตฺถาเรตพฺพํ.
๑๔๐. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกปรมตฺเถหิ ยถารหํ อนุสาสตีติ สตฺถา. อปิจ สตฺถา วิยาติ สตฺถา, ภควา สตฺถวาโห. ยถา สตฺถวาโห สตฺเถ กนฺตารํ ตาเรติ โจรกนฺตารํ ตาเรติ วาฬกนฺตารํ ตาเรติ ทุพฺภิกฺขกนฺตารํ ตาเรติ นิรุทกกนฺตารํ ตาเรติ อุตฺตาเรติ นิตฺตาเรติ ปตาเรติ เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปติ, เอวเมว ภควา สตฺถา สตฺถวาโห สตฺเต กนฺตารํ ตาเรติ, ชาติกนฺตารํ ตาเรตีติอาทินา นิทฺเทสนเยนเปตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เทวมนุสฺสานนฺติ เทวานฺจ มนุสฺสานฺจ. อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน, ภพฺพปุคฺคลปริจฺเฉทวเสน เจตํ วุตฺตํ. ภควา ปน ติรจฺฉานคตานมฺปิ อนุสาสนิปฺปทาเนน สตฺถาเยว. เตปิ หิ ภควโต ธมฺมสฺสวเนน อุปนิสฺสยสมฺปตฺตึ ปตฺวา ตาย เอว อุปนิสฺสยสมฺปตฺติยา ทุติเย วา ตติเย วา อตฺตภาเว มคฺคผลภาคิโน โหนฺติ. มณฺฑูกเทวปุตฺตาทโย เจตฺถ นิทสฺสนํ.
ภควติ กิร คคฺคราย โปกฺขรณิยา ตีเร จมฺปานครวาสีนํ ธมฺมํ เทสิยมาเน เอโก มณฺฑูโก ภควโต สเร นิมิตฺตํ อคฺคเหสิ, ตํ เอโก วจฺฉปาลโก ทณฺฑํ โอลุพฺภ ติฏฺนฺโต สีเส สนฺนิรุมฺภิตฺวา อฏฺาสิ. โส ตาวเทว กาลงฺกตฺวา ตาวตึสภวเน ทฺวาทสโยชนิเก กนกวิมาเน นิพฺพตฺติ. สุตฺตปฺปพุทฺโธ วิย จ ตตฺถ อจฺฉราสงฺฆปริวุตํ อตฺตานํ ทิสฺวา ‘‘อเร อหมฺปิ นาม อิธ นิพฺพตฺโต, กึ นุ โข กมฺมมกาสิ’’นฺติ อาวชฺเชนฺโต น อฺํ กิฺจิ อทฺทส ¶ อฺตฺร ภควโต สเร นิมิตฺตคฺคาหา. โส ตาวเทว สห วิมาเนน อาคนฺตฺวา ภควโต ปาเท สิรสา วนฺทิ. ภควา ชานนฺโตว ปุจฺฉิ –
‘‘โก เม วนฺทติ ปาทานิ, อิทฺธิยา ยสสา ชลํ;
อภิกฺกนฺเตน วณฺเณน, สพฺพา โอภาสยํ ทิสา’’ติ.
มณฺฑูโกหํ ¶ ปุเร อาสึ, อุทเก วาริโคจโร;
ตว ธมฺมํ สุณนฺตสฺส, อวธิ วจฺฉปาลโกติ.
ภควา ตสฺส ธมฺมํ เทเสสิ. จตุราสีติยา ปาณสหสฺสานํ ธมฺมาภิสมโย อโหสิ. เทวปุตฺโตปิ โสตาปตฺติผเล ปติฏฺาย สิตํ กตฺวา ปกฺกมีติ.
๑๔๑. ยํ ปน กิฺจิ อตฺถิ เยฺยํ นาม, สพฺพสฺเสว พุทฺธตฺตา วิโมกฺขนฺติกฺาณวเสน พุทฺโธ. ยสฺมา วา จตฺตาริ สจฺจานิ อตฺตนาปิ พุชฺฌิ, อฺเปิ สตฺเต โพเธสิ, ตสฺมา เอวมาทีหิปิ การเณหิ พุทฺโธ. อิมสฺส จ ปนตฺถสฺส วิฺาปนตฺถํ ‘‘พุชฺฌิตา สจฺจานีติ พุทฺโธ. โพเธตา ปชายาติ พุทฺโธ’’ติ เอวํ ปวตฺโต สพฺโพปิ นิทฺเทสนโย (มหานิ. ๑๙๒) ปฏิสมฺภิทานโย (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๒) วา วิตฺถาเรตพฺโพ.
๑๔๒. ภควาติ อิทํ ปนสฺส คุณวิสิฏฺสพฺพสตฺตุตฺตมครุคารวาธิวจนํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ภควาติ วจนํ เสฏฺํ, ภควาติ วจนมุตฺตมํ;
ครุคารวยุตฺโต โส, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.
จตุพฺพิธํ วา นามํ อาวตฺถิกํ ลิงฺคิกํ เนมิตฺติกํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนนฺติ. อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ นาม โลกิยโวหาเรน ยทิจฺฉกนฺติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ วจฺโฉ ทมฺโม พลีพทฺโทติ เอวมาทิ อาวตฺถิกํ. ทณฺฑี ฉตฺตี สิขี กรีติ เอวมาทิ ลิงฺคิกํ. เตวิชฺโช ฉฬภิฺโติ เอวมาทิ เนมิตฺติกํ. สิริวฑฺฒโก ธนวฑฺฒโกติ เอวมาทิ วจนตฺถํ อนเปกฺขิตฺวา ปวตฺตํ อธิจฺจสมุปฺปนฺนํ. อิทํ ¶ ปน ภควาติ นามํ เนมิตฺติกํ, น มหามายาย, น สุทฺโธทนมหาราเชน, น อสีติยา าติสหสฺเสหิ กตํ, น สกฺกสนฺตุสิตาทีหิ เทวตาวิเสเสหิ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ธมฺมเสนาปตินา ‘‘ภควาติ เนตํ นามํ มาตรา กตํ…เป… วิโมกฺขนฺติกเมตํ พุทฺธานํ ภควนฺตานํ โพธิยา มูเล สห สพฺพฺุตฺาณสฺส ปฏิลาภา สจฺฉิกา ปฺตฺติ ยทิทํ ภควา’’ติ (มหานิ. ๘๔).
๑๔๓. ยํคุณเนมิตฺติกฺเจตํ นามํ, เตสํ คุณานํ ปกาสนตฺถํ อิมํ คาถํ วทนฺติ –
‘‘ภคี ¶ ภชี ภาคิ วิภตฺตวา อิติ,
อกาสิ ภคฺคนฺติ ครูติ ภาคฺยวา;
พหูหิ าเยหิ สุภาวิตตฺตโน,
ภวนฺตโค โส ภควาติ วุจฺจตี’’ติ. –
นิทฺเทเส (มหานิ. ๘๔) วุตฺตนเยเนว เจตฺถ เตสํ เตสํ ปทานํ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ภาคฺยวา ภคฺควา ยุตฺโต, ภเคหิ จ วิภตฺตวา;
ภตฺตวา วนฺตคมโน, ภเวสุ ภควา ตโตติ.
ตตฺถ วณฺณาคโม วณฺณวิปริยโยติอาทิกํ นิรุตฺติลกฺขณํ คเหตฺวา สทฺทนเยน วา ปิโสทราทิปกฺเขปลกฺขณํ คเหตฺวา ยสฺมา โลกิยโลกุตฺตรสุขาภินิพฺพตฺตกํ ทานสีลาทิปารปฺปตฺตํ ภาคฺยมสฺส อตฺถิ, ตสฺมา ภาคฺยวาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจตีติ าตพฺพํ.
ยสฺมา ปน อหิริกาโนตฺตปฺปโกธูปนาหมกฺขปฬาสอิสฺสามจฺฉริยมายาสาเยฺยถมฺภสารมฺภมานาติมานมทปมาทตณฺหาอวิชฺชา- ติวิธากุสลมูลทุจฺจริตสํกิเลสมลวิสมสฺาวิตกฺกปปฺจจตุพฺพิธวิปริเยส- อาสวคนฺถโอฆโยคอคติตณฺหุปฺปาทุปาทานปฺจเจโตขีลวินิพนฺธนีวรณาภินนฺทนา- ฉวิวาทมูลตณฺหากายสตฺตานุสยอฏฺมิจฺฉตฺตนวตณฺหามูลกทสากุสลกมฺมปถทฺวาสฏฺิทิฏฺิคต- อฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภทสพฺพทรถปริฬาหกิเลสสตสหสฺสานิ ¶ , สงฺเขปโต วา ปฺจ กิเลสขนฺธอภิสงฺขารเทวปุตฺตมจฺจุมาเร อภฺชิ. ตสฺมา ภคฺคตฺตา เอเตสํ ปริสฺสยานํ ภคฺควาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจติ. อาห เจตฺถ –
‘‘ภคฺคราโค ภคฺคโทโส, ภคฺคโมโห อนาสโว;
ภคฺคาสฺส ปาปกา ธมฺมา, ภควา เตน วุจฺจตี’’ติ.
ภาคฺยวตาย จสฺส สตปฺุลกฺขณธรสฺส รูปกายสมฺปตฺติ ทีปิตา โหติ. ภคฺคโทสตาย ธมฺมกายสมฺปตฺติ. ตถา โลกิยสริกฺขกานํ พหุมตภาโว, คหฏฺปพฺพชิเตหิ อภิคมนียตา, อภิคตานฺจ เนสํ กายจิตฺตทุกฺขาปนยเน ¶ ปฏิพลภาโว, อามิสทานธมฺมทาเนหิ อุปการิตา, โลกิยโลกุตฺตรสุเขหิ จ สํโยชนสมตฺถตา ทีปิตา โหติ.
ยสฺมา จ โลเก อิสฺสริยธมฺมยสสิริกามปยตฺเตสุ ฉสุ ธมฺเมสุ ภคสทฺโท ปวตฺตติ, ปรมฺจสฺส สกจิตฺเต อิสฺสริยํ, อณิมาลงฺฆิมาทิกํ วา โลกิยสมฺมตํ สพฺพาการปริปูรํ อตฺถิ. ตถา โลกุตฺตโร ธมฺโม. โลกตฺตยพฺยาปโก ยถาภุจฺจคุณาธิคโต อติวิย ปริสุทฺโธ ยโส. รูปกายทสฺสนพฺยาวฏชนนยนปฺปสาทชนนสมตฺถา สพฺพาการปริปูรา สพฺพงฺคปจฺจงฺคสิรี. ยํ ยํ เอเตน อิจฺฉิตํ ปตฺถิตํ อตฺตหิตํ ปรหิตํ วา, ตสฺส ตสฺส ตเถว อภินิปฺผนฺนตฺตา อิจฺฉิตตฺถนิพฺพตฺติสฺิโต กาโม. สพฺพโลกครุภาวปฺปตฺติเหตุภูโต สมฺมาวายามสงฺขาโต ปยตฺโต จ อตฺถิ. ตสฺมา อิเมหิ ภเคหิ ยุตฺตตฺตาปิ ภคา อสฺส สนฺตีติ อิมินา อตฺเถน ภควาติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ปน กุสลาทีหิ เภเทหิ สพฺพธมฺเม, ขนฺธายตนธาตุสจฺจอินฺทฺริยปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีหิ วา กุสลาทิธมฺเม, ปีฬนสงฺขตสนฺตาปวิปริณามฏฺเน วา ทุกฺขํ อริยสจฺจํ, อายูหนนิทานสํโยคปลิโพธฏฺเน สมุทยํ, นิสฺสรณวิเวกาสงฺขตอมตฏฺเน นิโรธํ, นิยฺยานิกเหตุทสฺสนาธิปเตยฺยฏฺเน มคฺคํ วิภตฺตวา, วิภชิตฺวา วิวริตฺวา เทสิตวาติ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมา วิภตฺตวาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจติ.
ยสฺมา จ เอส ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเร กายจิตฺตอุปธิวิเวเก สฺุตปฺปณิหิตานิมิตฺตวิโมกฺเข อฺเ จ โลกิยโลกุตฺตเร อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ภชิ เสวิ พหุลํ อกาสิ, ตสฺมา ภตฺตวาติ วตฺตพฺเพ ภควาติ วุจฺจติ.
ยสฺมา ¶ ปน ตีสุ ภเวสุ ตณฺหาสงฺขาตํ คมนํ อเนน วนฺตํ, ตสฺมา ภเวสุ วนฺตคมโนติ วตฺตพฺเพ ภวสทฺทโต ภการํ คมนสทฺทโต คการํ วนฺตสทฺทโต วการฺจ ทีฆํ กตฺวา อาทาย ภควาติ วุจฺจติ ยถา โลเก เมหนสฺส ขสฺส มาลาติ วตฺตพฺเพ เมขลาติ.
๑๔๕. ตสฺเสวํ อิมินา จ อิมินา จ การเณน โส ภควา อรหํ…เป… อิมินา จ อิมินา จ การเณน ภควาติ พุทฺธคุเณ อนุสฺสรโต เนว ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทสปริยุฏฺิตํ, น โมหปริยุฏฺิตํ ¶ จิตฺตํ โหติ. อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตมารพฺภ (อ. นิ. ๖.๑๐). อิจฺจสฺส เอวํ ราคาทิปริยุฏฺานาภาเวน วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส กมฺมฏฺานาภิมุขตาย อุชุคตจิตฺตสฺส พุทฺธคุณโปณา วิตกฺกวิจารา ปวตฺตนฺติ. พุทฺธคุเณ อนุวิตกฺกยโต อนุวิจารยโต ปีติ อุปฺปชฺชติ. ปีติมนสฺส ปีติปทฏฺานาย ปสฺสทฺธิยา กายจิตฺตทรถา ปฏิปฺปสฺสมฺภนฺติ. ปสฺสทฺธทรถสฺส กายิกมฺปิ เจตสิกมฺปิ สุขํ อุปฺปชฺชติ. สุขิโน พุทฺธคุณารมฺมณํ หุตฺวา จิตฺตํ สมาธิยตีติ อนุกฺกเมน เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. พุทฺธคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ พุทฺธคุณานุสฺสรณวเสน อุปฺปนฺนตฺตา พุทฺธานุสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ปน พุทฺธานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ สตฺถริ สคารโว โหติ สปฺปติสฺโส, สทฺธาเวปุลฺลํ สติเวปุลฺลํ ปฺาเวปุลฺลํ ปฺุเวปุลฺลฺจ อธิคจฺฉติ, ปีติปาโมชฺชพหุโล โหติ, ภยเภรวสโห ทุกฺขาธิวาสนสมตฺโถ, สตฺถารา สํวาสสฺํ ปฏิลภติ. พุทฺธคุณานุสฺสติยา อชฺฌาวุตฺถฺจสฺส สรีรมฺปิ เจติยฆรมิว ปูชารหํ โหติ. พุทฺธภูมิยํ จิตฺตํ นมติ. วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุสมาโยเค จสฺส สมฺมุขา สตฺถารํ ปสฺสโต วิย หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺาติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, พุทฺธานุสฺสติยา สทาติ.
อิทํ ตาว พุทฺธานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
๒. ธมฺมานุสฺสติกถา
๑๔๖. ธมฺมานุสฺสตึ ¶ ภาเวตุกาเมนาปิ รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘สฺวากฺขาโต ภควตา ธมฺโม สนฺทิฏฺิโก อกาลิโก เอหิปสฺสิโก โอปเนยฺยิโก ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) เอวํ ปริยตฺติธมฺมสฺส เจว นววิธสฺส จ โลกุตฺตรธมฺมสฺส คุณา อนุสฺสริตพฺพา.
๑๔๗. สฺวากฺขาโตติ อิมสฺมึ หิ ปเท ปริยตฺติธมฺโมปิ สงฺคหํ คจฺฉติ, อิตเรสุ โลกุตฺตรธมฺโมว. ตตฺถ ปริยตฺติธมฺโม ตาว สฺวากฺขาโต อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณตฺตา ¶ สาตฺถสพฺยฺชนเกวลปริปุณฺณปริสุทฺธพฺรหฺมจริยปฺปกาสนตฺตา จ. ยฺหิ ภควา เอกคาถมฺปิ เทเสติ, สา สมนฺตภทฺทกตฺตา ธมฺมสฺส ปมปาเทน อาทิกลฺยาณา, ทุติยตติยปาเทหิ มชฺเฌกลฺยาณา, ปจฺฉิมปาเทน ปริโยสานกลฺยาณา. เอกานุสนฺธิกํ สุตฺตํ นิทาเนน อาทิกลฺยาณํ, นิคมเนน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสน มชฺเฌกลฺยาณํ. นานานุสนฺธิกํ สุตฺตํ ปมานุสนฺธินา อาทิกลฺยาณํ, ปจฺฉิเมน ปริโยสานกลฺยาณํ, เสเสหิ มชฺเฌกลฺยาณํ. อปิจ สนิทานสอุปฺปตฺติกตฺตา อาทิกลฺยาณํ, เวเนยฺยานํ อนุรูปโต อตฺถสฺส อวิปรีตตาย จ เหตุทาหรณยุตฺตโต จ มชฺเฌกลฺยาณํ, โสตูนํ สทฺธาปฏิลาภชนเนน นิคมเนน จ ปริโยสานกลฺยาณํ.
สกโลปิ สาสนธมฺโม อตฺตโน อตฺถภูเตน สีเลน อาทิกลฺยาโณ, สมถวิปสฺสนามคฺคผเลหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, นิพฺพาเนน ปริโยสานกลฺยาโณ. สีลสมาธีหิ วา อาทิกลฺยาโณ, วิปสฺสนามคฺเคหิ มชฺเฌกลฺยาโณ, ผลนิพฺพาเนหิ ปริโยสานกลฺยาโณ. พุทฺธสุโพธิตาย วา อาทิกลฺยาโณ, ธมฺมสุธมฺมตาย มชฺเฌกลฺยาโณ, สงฺฆสุปฺปฏิปฺปตฺติยา ปริโยสานกลฺยาโณ. ตํ สุตฺวา ตถตฺถาย ปฏิปนฺเนน อธิคนฺตพฺพาย อภิสมฺโพธิยา วา อาทิกลฺยาโณ, ปจฺเจกโพธิยา มชฺเฌกลฺยาโณ, สาวกโพธิยา ปริโยสานกลฺยาโณ.
สุยฺยมาโน เจส นีวรณวิกฺขมฺภนโต สวเนนปิ กลฺยาณเมว อาวหตีติ อาทิกลฺยาโณ, ปฏิปชฺชิยมาโน สมถวิปสฺสนาสุขาวหนโต ปฏิปตฺติยาปิ กลฺยาณํ อาวหตีติ มชฺเฌกลฺยาโณ, ตถาปฏิปนฺโน จ ปฏิปตฺติผเล นิฏฺิเต ตาทิภาวาวหนโต ปฏิปตฺติผเลนปิ ¶ กลฺยาณํ อาวหตีติ ปริโยสานกลฺยาโณติ เอวํ อาทิมชฺฌปริโยสานกลฺยาณตฺตา สฺวากฺขาโต.
ยํ ปเนส ภควา ธมฺมํ เทเสนฺโต สาสนพฺรหฺมจริยํ มคฺคพฺรหฺมจริยฺจ ปกาเสติ นานานเยหิ ทีเปติ, ตํ ยถานุรูปํ อตฺถสมฺปตฺติยา สาตฺถํ, พฺยฺชนสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. สงฺกาสนปกาสนวิวรณวิภชนอุตฺตานีกรณปฺตฺติอตฺถปทสมาโยคโต สาตฺถํ, อกฺขรปทพฺยฺชนาการนิรุตฺตินิทฺเทสสมฺปตฺติยา สพฺยฺชนํ. อตฺถคมฺภีรตาปฏิเวธคมฺภีรตาหิ สาตฺถํ, ธมฺมคมฺภีรตาเทสนาคมฺภีรตาหิ ¶ สพฺยฺชนํ. อตฺถปฏิภานปฏิสมฺภิทาวิสยโต สาตฺถํ, ธมฺมนิรุตฺติปฏิสมฺภิทาวิสยโต สพฺยฺชนํ. ปณฺฑิตเวทนียโต ปริกฺขกชนปฺปสาทกนฺติ สาตฺถํ, สทฺเธยฺยโต โลกิยชนปฺปสาทกนฺติ สพฺยฺชนํ. คมฺภีราธิปฺปายโต สาตฺถํ, อุตฺตานปทโต สพฺยฺชนํ. อุปเนตพฺพสฺส อภาวโต สกลปริปุณฺณภาเวน เกวลปริปุณฺณํ. อปเนตพฺพสฺส อภาวโต นิทฺโทสภาเวน ปริสุทฺธํ.
อปิจ ปฏิปตฺติยา อธิคมพฺยตฺติโต สาตฺถํ, ปริยตฺติยา อาคมพฺยตฺติโต สพฺยฺชนํ, สีลาทิปฺจธมฺมกฺขนฺธยุตฺตโต เกวลปริปุณฺณํ, นิรุปกฺกิเลสโต นิตฺตรณตฺถาย ปวตฺติโต โลกามิสนิรเปกฺขโต จ ปริสุทฺธนฺติ เอวํ สาตฺถสพฺยฺชนเกวลปริปุณฺณปริสุทฺธพฺรหฺมจริยปฺปกาสนโต สฺวากฺขาโต.
อตฺถวิปลฺลาสาภาวโต วา สุฏฺุ อกฺขาโตติ สฺวากฺขาโต. ยถา หิ อฺติตฺถิยานํ ธมฺมสฺส อตฺโถ วิปลฺลาสมาปชฺชติ, อนฺตรายิกาติ วุตฺตธมฺมานํ อนฺตรายิกตฺตาภาวโต, นิยฺยานิกาติ วุตฺตธมฺมานํ นิยฺยานิกตฺตาภาวโต. เตน เต ทุรกฺขาตธมฺมาเยว โหนฺติ, น ตถา ภควโต ธมฺมสฺส อตฺโถ วิปลฺลาสมาปชฺชติ. อิเม ธมฺมา อนฺตรายิกา, อิเม ธมฺมา นิยฺยานิกาติ เอวํ วุตฺตธมฺมานํ ตถาภาวานติกฺกมนโตติ. เอวํ ตาว ปริยตฺติธมฺโม สฺวากฺขาโต.
โลกุตฺตรธมฺโม ปน นิพฺพานานุรูปาย ปฏิปตฺติยา ปฏิปทานุรูปสฺส จ นิพฺพานสฺส อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาโต. ยถาห – ‘‘สุปฺตฺตา โข ปน เตน ภควตา สาวกานํ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จ. เสยฺยถาปิ นาม คงฺโคทกํ ยมุโนทเกน สํสนฺทติ สเมติ, เอวเมว สุปฺตฺตา (ที. นิ. ๒.๒๙๖) เตน ภควตา สาวกานํ ¶ นิพฺพานคามินี ปฏิปทา สํสนฺทติ นิพฺพานฺจ ปฏิปทา จา’’ติ. อริยมคฺโค เจตฺถ อนฺตทฺวยํ อนุปคมฺม มชฺฌิมา ปฏิปทาภูโตว ‘‘มชฺฌิมา ปฏิปทา’’ติ อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาโต. สามฺผลานิ ปฏิปสฺสทฺธกิเลสาเนว ‘‘ปฏิปสฺสทฺธกิเลสานี’’ติ อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาตานิ. นิพฺพานํ สสฺสตามตตาณเลณาทิสภาวเมว สสฺสตาทิสภาววเสน อกฺขาตตฺตา สฺวากฺขาตนฺติ เอวํ โลกุตฺตรธมฺโมปิ สฺวากฺขาโต.
๑๔๘. สนฺทิฏฺิโกติ ¶ เอตฺถ ปน อริยมคฺโค ตาว อตฺตโน สนฺตาเน ราคาทีนํ อภาวํ กโรนฺเตน อริยปุคฺคเลน สามํ ทฏฺพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก. ยถาห –‘‘รตฺโต โข, พฺราหฺมณ, ราเคน อภิภูโต ปริยาทิณฺณจิตฺโต อตฺตพฺยาพาธายปิ เจเตติ, ปรพฺยาพาธายปิ เจเตติ, อุภยพฺยาพาธายปิ เจเตติ. เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. ราเค ปหีเน เนว อตฺตพฺยาพาธาย เจเตติ, น ปรพฺยาพาธาย เจเตติ, น อุภยพฺยาพาธาย เจเตติ, น เจตสิกํ ทุกฺขํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทติ. เอวมฺปิ โข, พฺราหฺมณ, สนฺทิฏฺิโก ธมฺโม โหตี’’ติ(อ. นิ. ๓.๕๔). อปิจ นววิโธปิ โลกุตฺตรธมฺโม เยน เยน อธิคโต โหติ, เตน เตน ปรสทฺธาย คนฺตพฺพตํ หิตฺวา ปจฺจเวกฺขณาเณน สยํ ทฏฺพฺโพติ สนฺทิฏฺิโก. อถ วา ปสตฺถา ทิฏฺิ สนฺทิฏฺิ, สนฺทิฏฺิยา ชยตีติ สนฺทิฏฺิโก. ตถา เหตฺถ อริยมคฺโค สมฺปยุตฺตาย, อริยผลํ การณภูตาย, นิพฺพานํ วิสยิภูตาย สนฺทิฏฺิยา กิเลเส ชยติ. ตสฺมา ยถา รเถน ชยตีติ รถิโก, เอวํ นววิโธปิ โลกุตฺตรธมฺโม สนฺทิฏฺิยา ชยตีติ สนฺทิฏฺิโก.
อถ วา ทิฏฺนฺติ ทสฺสนํ วุจฺจติ. ทิฏฺเมว สนฺทิฏฺํ, ทสฺสนนฺติ อตฺโถ. สนฺทิฏฺํ อรหตีติ สนฺทิฏฺิโก. โลกุตฺตรธมฺโม หิ ภาวนาภิสมยวเสน สจฺฉิกิริยาภิสมยวเสน จ ทิสฺสมาโนเยว วฏฺฏภยํ นิวตฺเตติ. ตสฺมา ยถา วตฺถํ อรหตีติ วตฺถิโก, เอวํ สนฺทิฏฺํ อรหตีติ สนฺทิฏฺิโก.
๑๔๙. อตฺตโน ผลทานํ สนฺธาย นาสฺส กาโลติ อกาโล. อกาโลเยว อกาลิโก. น ปฺจาหสตฺตาหาทิเภทํ กาลํ เขเปตฺวา ผลํ เทติ, อตฺตโน ปน ปวตฺติสมนนฺตรเมว ผลโทติ วุตฺตํ โหติ. อถ วา อตฺตโน ผลทาเน ปกฏฺโ กาโล ปตฺโต อสฺสาติ กาลิโก. โก โส? โลกิโย ¶ กุสลธมฺโม. อยํ ปน สมนนฺตรผลตฺตา น กาลิโกติ อกาลิโก. อิทํ มคฺคเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
๑๕๐. ‘‘เอหิ ปสฺส อิมํ ธมฺม’’นฺติ เอวํ ปวตฺตํ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก. กสฺมา ปเนส ตํ วิธึ อรหตีติ? วิชฺชมานตฺตา ปริสุทฺธตฺตา จ ¶ . ริตฺตมุฏฺิยํ หิ หิรฺํ วา สุวณฺณํ วา อตฺถีติ วตฺวาปิ ‘‘เอหิ ปสฺส อิม’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ. กสฺมา? อวิชฺชมานตฺตา. วิชฺชมานมฺปิ จ คูถํ วา มุตฺตํ วา มนฺุภาวปฺปกาสเนน จิตฺตสมฺปหํสนตฺถํ ‘‘เอหิ ปสฺส อิม’’นฺติ น สกฺกา วตฺตุํ. อปิจ โข ปน ติเณหิ วา ปณฺเณหิ วา ปฏิจฺฉาเทตพฺพเมว โหติ. กสฺมา? อปริสุทฺธตฺตา. อยํ ปน นววิโธปิ โลกุตฺตรธมฺโม สภาวโตว วิชฺชมาโน วิคตวลาหเก อากาเส สมฺปุณฺณจนฺทมณฺฑลํ วิย ปณฺฑุกมฺพเล นิกฺขิตฺตชาติมณิ วิย จ ปริสุทฺโธ. ตสฺมา วิชฺชมานตฺตา ปริสุทฺธตฺตา จ เอหิปสฺสวิธึ อรหตีติ เอหิปสฺสิโก.
๑๕๑. อุปเนตพฺโพติ โอปเนยฺยิโก. อยํ ปเนตฺถ วินิจฺฉโย, อุปนยนํ อุปนโย, อาทิตฺตํ เจลํ วา สีสํ วา อชฺฌุเปกฺขิตฺวาปิ ภาวนาวเสน อตฺตโน จิตฺเต อุปนยนํ อรหตีติ โอปนยิโก. โอปนยิโกว โอปเนยฺยิโก. อิทํ สงฺขเต โลกุตฺตรธมฺเม ยุชฺชติ. อสงฺขเต ปน อตฺตโน จิตฺเตน อุปนยนํ อรหตีติ โอปเนยฺยิโก. สจฺฉิกิริยาวเสน อลฺลียนํ อรหตีติ อตฺโถ.
อถ วา นิพฺพานํ อุปเนตีติ อริยมคฺโค อุปเนยฺโย. สจฺฉิกาตพฺพตํ อุปเนตพฺโพติ ผลนิพฺพานธมฺโม อุปเนยฺโย. อุปเนยฺโย เอว โอปเนยฺยิโก.
๑๕๒. ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิฺูหีติ สพฺเพหิปิ อุคฺฆฏิตฺูอาทีหิ วิฺูหิ อตฺตนิ อตฺตนิ เวทิตพฺโพ ‘‘ภาวิโต เม มคฺโค, อธิคตํ ผลํ, สจฺฉิกโต นิโรโธ’’ติ. น หิ อุปชฺฌาเยน ภาวิเตน มคฺเคน สทฺธิวิหาริกสฺส กิเลสา ปหียนฺติ, น โส ตสฺส ผลสมาปตฺติยา ผาสุวิหรติ, น เตน สจฺฉิกตํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรติ. ตสฺมา น เอส ปรสฺส สีเส อาภรณํ วิย ทฏฺพฺโพ, อตฺตโน ปน จิตฺเตเยว ทฏฺพฺโพ, อนุภวิตพฺโพ วิฺูหีติ วุตฺตํ โหติ. พาลานํ ปน อวิสโย เจส.
อปิจ ¶ ¶ สฺวากฺขาโต อยํ ธมฺโม. กสฺมา? สนฺทิฏฺิกตฺตา. สนฺทิฏฺิโก, อกาลิกตฺตา. อกาลิโก, เอหิปสฺสิกตฺตา. โย จ เอหิปสฺสิโก, โส นาม โอปเนยฺยิโก โหตีติ.
๑๕๓. ตสฺเสวํ สฺวากฺขาตตาทิเภเท ธมฺมคุเณ อนุสฺสรโต เนว ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ธมฺมํ อารพฺภาติ (อ. นิ. ๖.๑๐) ปุริมนเยเนว วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. ธมฺมคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ ธมฺมคุณานุสฺสรณวเสน อุปฺปนฺนตฺตา ธมฺมานุสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ปน ธมฺมานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอวํ โอปเนยฺยิกสฺส ธมฺมสฺส เทเสตารํ อิมินาปงฺเคน สมนฺนาคตํ สตฺถารํ เนว อตีตํเส สมนุปสฺสามิ, น ปเนตรหิ อฺตฺร เตน ภควตาติ เอวํ ธมฺมคุณทสฺสเนเนว สตฺถริ สคารโว โหติ สปฺปติสฺโส. ธมฺเม ครุจิตฺตีกาโร สทฺธาทิเวปุลฺลํ อธิคจฺฉติ, ปีติปาโมชฺชพหุโล โหติ, ภยเภรวสโห, ทุกฺขาธิวาสนสมตฺโถ, ธมฺเมน สํวาสสฺํ ปฏิลภติ, ธมฺมคุณานุสฺสติยา อชฺฌาวุตฺถฺจสฺส สรีรมฺปิ เจติยฆรมิว ปูชารหํ โหติ, อนุตฺตรธมฺมาธิคมาย จิตฺตํ นมติ, วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุสมาโยเค จสฺส ธมฺมสุธมฺมตํ สมนุสฺสรโต หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺาติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, ธมฺมานุสฺสติยา สทาติ.
อิทํ ธมฺมานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
๓. สงฺฆานุสฺสติกถา
๑๕๔. สงฺฆานุสฺสตึ ภาเวตุกาเมนาปิ รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘สุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, อุชุปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, ายปฺปฏิปนฺโน ภควโต สาวกสงฺโฆ, สามีจิปฺปฏิปนฺโน ¶ ภควโต สาวกสงฺโฆ, ยทิทํ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ อฏฺ ปุริสปุคฺคลา ¶ , เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ อาหุเนยฺโย, ปาหุเนยฺโย, ทกฺขิเณยฺโย, อฺชลิกรณีโย, อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสา’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) เอวํ อริยสงฺฆคุณา อนุสฺสริตพฺพา.
๑๕๕. ตตฺถ สุปฺปฏิปนฺโนติ สุฏฺุ ปฏิปนฺโน, สมฺมาปฏิปทํ อนิวตฺติปฏิปทํ อนุโลมปฏิปทํ อปจฺจนีกปฏิปทํ ธมฺมานุธมฺมปฏิปทํ ปฏิปนฺโนติ วุตฺตํ โหติ. ภควโต โอวาทานุสาสนึ สกฺกจฺจํ สุณนฺตีติ สาวกา. สาวกานํ สงฺโฆ สาวกสงฺโฆ, สีลทิฏฺิสามฺตาย สงฺฆาตภาวมาปนฺโน สาวกสมูโหติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน สา สมฺมาปฏิปทา อุชุ อวงฺกา อกุฏิลา อชิมฺหา, อริโย จ าโยติปิ วุจฺจติ, อนุจฺฉวิกตฺตา จ สามีจีติปิ สงฺขํ คตา. ตสฺมา ตมฺปฏิปนฺโน อริยสงฺโฆ อุชุปฺปฏิปนฺโน ายปฺปฏิปนฺโน สามีจิปฺปฏิปนฺโนติปิ วุตฺโต.
เอตฺถ จ เย มคฺคฏฺา, เต สมฺมาปฏิปตฺติสมงฺคิตาย สุปฺปฏิปนฺนา. เย ผลฏฺา, เต สมฺมาปฏิปทาย อธิคนฺตพฺพสฺส อธิคตตฺตา อตีตํ ปฏิปทํ สนฺธาย สุปฺปฏิปนฺนาติ เวทิตพฺพา.
อปิจ สฺวากฺขาเต ธมฺมวินเย ยถานุสิฏฺํ ปฏิปนฺนตฺตาปิ อปณฺณกปฏิปทํ ปฏิปนฺนตฺตาปิ สุปฺปฏิปนฺโน.
มชฺฌิมาย ปฏิปทาย อนฺตทฺวยมนุปคมฺม ปฏิปนฺนตฺตา กายวจีมโนวงฺกกุฏิลชิมฺหโทสปฺปหานาย ปฏิปนฺนตฺตา จ อุชุปฺปฏิปนฺนตฺตา จ อุชุปฺปฏิปนฺโน.
าโย วุจฺจติ นิพฺพานํ. ตทตฺถาย ปฏิปนฺนตฺตา ายปฺปฏิปนฺโน.
ยถา ปฏิปนฺนา สามีจิปฺปฏิปนฺนารหา โหนฺติ, ตถา ปฏิปนฺนตฺตา สามีจิปฺปฏิปนฺโน.
๑๕๖. ยทิทนฺติ ยานิ อิมานิ. จตฺตาริ ปุริสยุคานีติ ยุคฬวเสน ปมมคฺคฏฺโ ผลฏฺโติ อิทเมกํ ยุคฬนฺติ เอวํ จตฺตาริ ปุริสยุคฬานิ โหนฺติ. อฏฺ ปุริสปุคฺคลาติ ปุริสปุคฺคลวเสน เอโก ปมมคฺคฏฺโ เอโก ผลฏฺโติ อิมินา นเยน อฏฺเว ปุริสปุคฺคลา โหนฺติ ¶ . เอตฺถ จ ปุริโสติ วา ปุคฺคโลติ วา เอกตฺถานิ เอตานิ ปทานิ. เวเนยฺยวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. เอส ภควโต สาวกสงฺโฆติ ยานิมานิ ยุควเสน ¶ จตฺตาริ ปุริสยุคานิ, ปาฏิเอกฺกโต อฏฺ ปุริสปุคฺคลา, เอส ภควโต สาวกสงฺโฆ, อาหุเนยฺโยติอาทีสุ อาเนตฺวา หุนิตพฺพนฺติ อาหุนํ, ทูรโตปิ อาเนตฺวา สีลวนฺเตสุ ทาตพฺพนฺติ อตฺโถ. จตุนฺนํ ปจฺจยานเมตมธิวจนํ. ตํ อาหุนํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต ตสฺส มหปฺผลกรณโตติ อาหุเนยฺโย. อถ วา ทูรโตปิ อาคนฺตฺวา สพฺพสาปเตยฺยมฺปิ เอตฺถ หุนิตพฺพนฺติ อาหวนีโย. สกฺกาทีนมฺปิ วา อาหวนํ อรหตีติ อาหวนีโย. โย จายํ พฺราหฺมณานํ อาหวนีโย นาม อคฺคิ, ยตฺถ หุตํ มหปฺผลนฺติ เตสํ ลทฺธิ. สเจ หุตสฺส มหปฺผลตาย อาหวนีโย, สงฺโฆว อาหวนีโย. สงฺเฆ หุตฺหิ มหปฺผลํ โหติ. ยถาห –
‘‘โย จ วสฺสสตํ ชนฺตุ, อคฺคึ ปริจเร วเน;
เอกฺจ ภาวิตตฺตานํ, มุหุตฺตมปิ ปูชเย;
สาเยว ปูชนา เสยฺโย, ยฺเจ วสฺสสตํ หุต’’นฺติ. (ธ. ป. ๑๐๗);
ตเทตํ นิกายนฺตเร อาหวนีโยติ ปทํ อิธ อาหุเนยฺโยติ อิมินา ปเทน อตฺถโต เอกํ. พฺยฺชนโต ปเนตฺถ กิฺจิมตฺตเมว นานํ. อิติ อาหุเนยฺโย.
ปาหุเนยฺโยติ เอตฺถ ปน ปาหุนํ วุจฺจติ ทิสาวิทิสโต อาคตานํ ปิยมนาปานํ าติมิตฺตานมตฺถาย สกฺกาเรน ปฏิยตฺตํ อาคนฺตุกทานํ. ตมฺปิ เปตฺวา เต ตถารูเป ปาหุนเก สงฺฆสฺเสว ทาตุํ ยุตฺตํ, สงฺโฆว ตํ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโต. สงฺฆสทิโส หิ ปาหุนโก นตฺถิ. ตถา เหส เอกพุทฺธนฺตเร จ ทิสฺสติ, อพฺโพกิณฺณฺจ ปิยมนาปตฺตกเรหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโตติ. เอวํ ปาหุนมสฺส ทาตุํ ยุตฺตํ ปาหุนฺจ ปฏิคฺคเหตุํ ยุตฺโตติ ปาหุเนยฺโย. เยสํ ปน ปาหวนีโยติ ปาฬิ, เตสํ ยสฺมา สงฺโฆ ปุพฺพการมรหติ, ตสฺมา สพฺพปมํ อาเนตฺวา เอตฺถ หุนิตพฺพนฺติ ปาหวนีโย. สพฺพปฺปกาเรน วา อาหวนมรหตีติ ปาหวนีโย. สฺวายมิธ เตเนว อตฺเถน ปาหุเนยฺโยติ วุจฺจติ.
ทกฺขิณาติ ปน ปรโลกํ สทฺทหิตฺวา ทาตพฺพทานํ วุจฺจติ. ตํ ทกฺขิณํ อรหติ, ทกฺขิณาย วา หิโต ยสฺมา นํ มหปฺผลกรณตาย วิโสเธตีติ ทกฺขิเณยฺโย.
อุโภ ¶ ¶ หตฺเถ สิรสฺมึ ปติฏฺเปตฺวา สพฺพโลเกน กยิรมานํ อฺชลิกมฺมํ อรหตีติ อฺชลิกรณีโย.
อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ สพฺพโลกสฺส อสทิสํ ปฺุวิรูหนฏฺานํ. ยถา หิ รฺโ วา อมจฺจสฺส วา สาลีนํ วา ยวานํ วา วิรูหนฏฺานํ รฺโ สาลิกฺเขตฺตํ รฺโ ยวกฺเขตฺตนฺติ วุจฺจติ, เอวํ สงฺโฆ สพฺพโลกสฺส ปฺุานํ วิรูหนฏฺานํ. สงฺฆํ นิสฺสาย หิ โลกสฺส นานปฺปการหิตสุขสํวตฺตนิกานิ ปฺุานิ วิรูหนฺติ. ตสฺมา สงฺโฆ อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺสาติ.
๑๕๗. เอวํ สุปฺปฏิปนฺนตาทิเภเท สงฺฆคุเณ อนุสฺสรโต เนว ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ สงฺฆํ อารพฺภาติ (อ. นิ. ๖.๑๐) ปุริมนเยเนว วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. สงฺฆคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ สงฺฆคุณานุสฺสรณวเสน อุปฺปนฺนตฺตา สงฺฆานุสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ปน สงฺฆานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ สงฺเฆ สคารโว โหติ สปฺปติสฺโส. สทฺธาทิเวปุลฺลํ อธิคจฺฉติ, ปีติปาโมชฺชพหุโล โหติ, ภยเภรวสโห, ทุกฺขาธิวาสนสมตฺโถ, สงฺเฆน สํวาสสฺํ ปฏิลภติ. สงฺฆคุณานุสฺสติยา อชฺฌาวุตฺถฺจสฺส สรีรํ สนฺนิปติตสงฺฆมิว อุโปสถาคารํ ปูชารหํ โหติ, สงฺฆคุณาธิคมาย จิตฺตํ นมติ, วีติกฺกมิตพฺพวตฺถุสมาโยเค จสฺส สมฺมุขา สงฺฆํ ปสฺสโต วิย หิโรตฺตปฺปํ ปจฺจุปฏฺาติ, อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, สงฺฆานุสฺสติยา สทาติ.
อิทํ สงฺฆานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
๔. สีลานุสฺสติกถา
๑๕๘. สีลานุสฺสตึ ¶ ¶ ภาเวตุกาเมน ปน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘อโห วต เม สีลานิ อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ ภุชิสฺสานิ วิฺุปฺปสตฺถานิ อปรามฏฺานิ สมาธิสํวตฺตนิกานี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) เอวํ อขณฺฑตาทิคุณวเสน อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสริตพฺพานิ. ตานิ จ คหฏฺเน คหฏฺสีลานิ, ปพฺพชิเตน ปพฺพชิตสีลานิ.
คหฏฺสีลานิ วา โหนฺตุ ปพฺพชิตสีลานิ วา, เยสํ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา เอกมฺปิ น ภินฺนํ, ตานิ ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิย น ขณฺฑานีติ อขณฺฑานิ. เยสํ เวมชฺเฌ เอกมฺปิ น ภินฺนํ, ตานิ มชฺเฌ วินิวิทฺธสาฏโก วิย น ฉิทฺทานีติ อจฺฉิทฺทานิ. เยสํ ปฏิปาฏิยา ทฺเว วา ตีณิ วา น ภินฺนานิ, ตานิ ปิฏฺิยา วา กุจฺฉิยา วา อุฏฺิเตน ทีฆวฏฺฏาทิสณฺาเนน วิสภาควณฺเณน กาฬรตฺตาทีนํ อฺตรสรีรวณฺณา คาวี วิย น สพลานีติ อสพลานิ. ยานิ อนฺตรนฺตรา น ภินฺนานิ, ตานิ วิสภาคพินฺทุวิจิตฺรา คาวี วิย น กมฺมาสานีติ อกมฺมาสานิ. อวิเสเสน วา สพฺพานิปิ สตฺตวิเธน เมถุนสํโยเคน โกธุปนาหาทีหิ จ ปาปธมฺเมหิ อนุปหตตฺตา อขณฺฑานิ อจฺฉิทฺทานิ อสพลานิ อกมฺมาสานิ. ตานิเยว ตณฺหาทาสพฺยโต โมเจตฺวา ภุชิสฺสภาวกรเณน ภุชิสฺสานิ. พุทฺธาทีหิ วิฺูหิ ปสตฺถตฺตา วิฺุปฺปสตฺถานิ. ตณฺหาทิฏฺีหิ อปรามฏฺตาย เกนจิ วา อยํ เต สีเลสุ โทโสติ เอวํ ปรามฏฺุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อปรามฏฺานิ. อุปจารสมาธึ อปฺปนาสมาธึ วา, อถ วา ปน มคฺคสมาธึ ผลสมาธิฺจาปิ สํวตฺเตนฺตีติ สมาธิสํวตฺตนิกานิ.
๑๕๙. เอวํ อขณฺฑตาทิคุณวเสน อตฺตโน สีลานิ อนุสฺสรโต เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ, สีลํ อารพฺภาติ ปุริมนเยเนว วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. สีลคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ ¶ สีลคุณานุสฺสรณวเสน อุปฺปนฺนตฺตา สีลานุสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ¶ ปน สีลานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ สิกฺขาย สคารโว โหติ สภาควุตฺติ, ปฏิสนฺถาเร อปฺปมตฺโต, อตฺตานุวาทาทิภยวิรหิโต, อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวี, สทฺธาทิเวปุลฺลํ อธิคจฺฉติ, ปีติปาโมชฺชพหุโล โหติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, สีลานุสฺสติยา สทาติ.
อิทํ สีลานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
๕. จาคานุสฺสติกถา
๑๖๐. จาคานุสฺสตึ ภาเวตุกาเมน ปน ปกติยา จาคาธิมุตฺเตน นิจฺจปฺปวตฺตทานสํวิภาเคน ภวิตพฺพํ. อถ วา ปน ภาวนํ อารภนฺเตน อิโต ทานิ ปภุติ สติ ปฏิคฺคาหเก อนฺตมโส เอกาโลปมตฺตมฺปิ ทานํ อทตฺวา น ภฺุชิสฺสามีติ สมาทานํ กตฺวา ตํทิวสํ คุณวิสิฏฺเสุ ปฏิคฺคาหเกสุ ยถาสตฺติ ยถาพลํ ทานํ ทตฺวา ตตฺถ นิมิตฺตํ คณฺหิตฺวา รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘ลาภา วต เม สุลทฺธํ วต เม, โยหํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตาย ปชาย วิคตมลมจฺเฉเรน เจตสา วิหรามิ มุตฺตจาโค ปยตปาณิ โวสฺสคฺครโต ยาจโยโค ทานสํวิภาครโต’’ติ เอวํ วิคตมลมจฺเฉรตาทิคุณวเสน อตฺตโน จาโค อนุสฺสริตพฺโพ.
ตตฺถ ลาภา วต เมติ มยฺหํ วต ลาภา, เย อิเม ‘‘อายุํ โข ปน ทตฺวา อายุสฺส ภาคี โหติ ทิพฺพสฺส วา มานุสสฺส วา’’ อิติ (อ. นิ. ๕.๓๗) จ, ‘‘ททํ ปิโย โหติ ภชนฺติ นํ พหู’’ อิติ (อ. นิ. ๕.๓๔) จ, ‘‘ททมาโน ปิโย โหติ, สตํ ธมฺมํ อนุกฺกมํ’’ อิติ (อ. นิ. ๕.๓๕) จ เอวมาทีหิ นเยหิ ภควตา ทายกสฺส ลาภา สํวณฺณิตา, เต มยฺหํ อวสฺสํ ภาคิโนติ อธิปฺปาโย. สุลทฺธํ วต เมติ ยํ มยา อิทํ สาสนํ มนุสฺสตฺตํ วา ลทฺธํ, ตํ สุลทฺธํ วต เม. กสฺมา ¶ ? โยหํ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตาย ปชาย…เป… ทานสํวิภาครโตติ.
ตตฺถ ¶ มจฺเฉรมลปริยุฏฺิตายาติ มจฺเฉรมเลน อภิภูตาย. ปชายาติ ปชายนวเสน สตฺตา วุจฺจนฺติ. ตสฺมา อตฺตโน สมฺปตฺตีนํ ปรสาธารณภาวมสหนลกฺขเณน จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวทูสกานํ กณฺหธมฺมานํ อฺตเรน มจฺเฉรมเลน อภิภูเตสุ สตฺเตสูติ อยเมตฺถ อตฺโถ. วิคตมลมจฺเฉเรนาติ อฺเสมฺปิ ราคโทสาทิมลานฺเจว มจฺเฉรสฺส จ วิคตตฺตา วิคตมลมจฺเฉเรน. เจตสา วิหรามีติ ยถาวุตฺตปฺปการจิตฺโต หุตฺวา วสามีติ อตฺโถ. สุตฺเตสุ ปน มหานามสกฺกสฺส โสตาปนฺนสฺส สโต นิสฺสยวิหารํ ปุจฺฉโต นิสฺสยวิหารวเสน เทสิตตฺตา อคารํ อชฺฌาวสามีติ วุตฺตํ. ตตฺถ อภิภวิตฺวา วสามีติ อตฺโถ.
มุตฺตจาโคติ วิสฺสฏฺจาโค. ปยตปาณีติ ปริสุทฺธหตฺโถ. สกฺกจฺจํ สหตฺถา เทยฺยธมฺมํ ทาตุํ สทา โธตหตฺโถเยวาติ วุตฺตํ โหติ. โวสฺสคฺครโตติ โวสฺสชฺชนํ โวสฺสคฺโค, ปริจฺจาโคติ อตฺโถ. ตสฺมึ โวสฺสคฺเค สตตาภิโยควเสน รโตติ โวสฺสคฺครโต. ยาจโยโคติ ยํ ยํ ปเร ยาจนฺติ, ตสฺส ตสฺส ทานโต ยาจนโยโคติ อตฺโถ. ยาชโยโคติปิ ปาโ. ยชนสงฺขาเตน ยาเชน ยุตฺโตติ อตฺโถ. ทานสํวิภาครโตติ ทาเน จ สํวิภาเค จ รโต. อหฺหิ ทานฺจ เทมิ, อตฺตนา ปริภฺุชิตพฺพโตปิ จ สํวิภาคํ กโรมิ, เอตฺเถว จสฺมิ อุภเย รโตติ เอวํ อนุสฺสรตีติ อตฺโถ.
๑๖๑. ตสฺเสวํ วิคตมลมจฺเฉรตาทิคุณวเสน อตฺตโน จาคํ อนุสฺสรโต เนว ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ จาคํ อารพฺภาติ (อ. นิ. ๕.๑๐) ปุริมนเยเนว วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. จาคคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการจาคคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ จาคคุณานุสฺสรณวเสน อุปฺปนฺนตฺตา จาคานุสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ¶ ปน จาคานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ ภิยฺโยโส มตฺตาย จาคาธิมุตฺโต โหติ, อโลภชฺฌาสโย, เมตฺตาย อนุโลมการี, วิสารโท, ปีติปาโมชฺชพหุโล, อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา ¶ หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, จาคานุสฺสติยา สทาติ.
อิทํ จาคานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
๖. เทวตานุสฺสติกถา
๑๖๒. เทวตานุสฺสตึ ภาเวตุกาเมน ปน อริยมคฺควเสน สมุทาคเตหิ สทฺธาทีหิ คุเณหิ สมนฺนาคเตน ภวิตพฺพํ. ตโต รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘สนฺติ เทวา จาตุมหาราชิกา, สนฺติ เทวา ตาวตึสา, ยามา, ตุสิตา, นิมฺมานรติโน, ปรนิมฺมิตวสวตฺติโน, สนฺติ เทวา พฺรหฺมกายิกา, สนฺติ เทวา ตตุตฺตริ, ยถารูปาย สทฺธาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา สทฺธา สํวิชฺชติ. ยถารูเปน สีเลน. ยถารูเปน สุเตน. ยถารูเปน จาเคน. ยถารูปาย ปฺาย สมนฺนาคตา ตา เทวตา อิโต จุตา ตตฺถ อุปปนฺนา, มยฺหมฺปิ ตถารูปา ปฺา สํวิชฺชตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) เอวํ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน สทฺธาทิคุณา อนุสฺสริตพฺพา.
สุตฺเต ปน ยสฺมึ มหานาม สมเย อริยสาวโก อตฺตโน จ ตาสฺจ เทวตานํ สทฺธฺจ สีลฺจ สุตฺจ จาคฺจ ปฺฺจ อนุสฺสรติ, เนวสฺส ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ. กิฺจาปิ วุตฺตํ, อถ โข ตํ สกฺขิฏฺาเน เปตพฺพเทวตานํ อตฺตโน สทฺธาทีหิ สมานคุณทีปนตฺถํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อฏฺกถายฺหิ เทวตา สกฺขิฏฺาเน เปตฺวา อตฺตโน คุเณ อนุสฺสรตีติ ทฬฺหํ กตฺวา วุตฺตํ.
๑๖๓. ตสฺมา ปุพฺพภาเค เทวตานํ คุเณ อนุสฺสริตฺวา อปรภาเค อตฺตโน สํวิชฺชมาเน สทฺธาทิคุเณ อนุสฺสรโต จสฺส เนว ตสฺมึ สมเย ¶ ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. น โทส…เป… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ เทวตา อารพฺภาติ (อ. นิ. ๖.๑๐) ปุริมนเยเนว วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. สทฺธาทิคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ ¶ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ เทวตานํ คุณสทิสสทฺธาทิคุณานุสฺสรณวเสน เทวตานุสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ปน เทวตานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ เทวตานํ ปิโย โหติ มนาโป, ภิยฺโยโส มตฺตาย สทฺธาทิเวปุลฺลํ อธิคจฺฉติ, ปีติปาโมชฺชพหุโล วิหรติ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, เทวตานุสฺสติยา สทาติ.
อิทํ เทวตานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
ปกิณฺณกกถา
๑๖๔. ยํ ปน เอตาสํ วิตฺถารเทสนายํ ‘‘อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ ตถาคตํ อารพฺภา’’ติอาทีนิ วตฺวา ‘‘อุชุคตจิตฺโต โข ปน, มหานาม, อริยสาวโก ลภติ อตฺถเวทํ, ลภติ ธมฺมเวทํ, ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชํ, ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๐) วุตฺตํ, ตตฺถ อิติปิ โส ภควาติอาทีนํ อตฺถํ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ตุฏฺึ สนฺธาย ลภติ อตฺถเวทนฺติ วุตฺตํ. ปาฬึ นิสฺสาย อุปฺปนฺนํ ตุฏฺึ สนฺธาย ลภติ ธมฺมเวทํ. อุภยวเสน ลภติ ธมฺมูปสํหิตํ ปาโมชฺชนฺติ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
ยฺจ เทวตานุสฺสติยํ เทวตา อารพฺภาติ วุตฺตํ, ตํ ปุพฺพภาเค เทวตา อารพฺภ ปวตฺตจิตฺตวเสน เทวตาคุณสทิเส วา เทวตาภาวนิปฺผาทเก คุเณ อารพฺภ ปวตฺตจิตฺตวเสน วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๑๖๕. อิมา ¶ ปน ฉ อนุสฺสติโย อริยสาวกานฺเว อิชฺฌนฺติ. เตสํ หิ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณา ปากฏา โหนฺติ. เต จ อขณฺฑตาทิคุเณหิ สีเลหิ, วิคตมลมจฺเฉเรน จาเคน, มหานุภาวานํ เทวตานํ คุณสทิเสหิ สทฺธาทิคุเณหิ สมนฺนาคตา. มหานามสุตฺเต (อ. นิ. ๖.๑๐) จ ¶ โสตาปนฺนสฺส นิสฺสยวิหารํ ปุฏฺเน ภควตา โสตาปนฺนสฺส นิสฺสยวิหารทสฺสนตฺถเมว เอตา วิตฺถารโต กถิตา.
เคธสุตฺเตปิ ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ, อิติปิ โส ภควา…เป… อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ นิกฺขนฺตํ มุตฺตํ วุฏฺิตํ เคธมฺหา. เคโธติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ กามคุณานมธิวจนํ. อิทมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อารมฺมณํ กริตฺวา เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๒๕) เอวํ อริยสาวกสฺส อนุสฺสติวเสน จิตฺตํ วิโสเธตฺวา อุตฺตริ ปรมตฺถวิสุทฺธิอธิคมตฺถาย กถิตา.
อายสฺมตา มหากจฺจาเนน เทสิเต สมฺพาโธกาสสุตฺเตปิ ‘‘อจฺฉริยํ, อาวุโส, อพฺภุตํ, อาวุโส, ยาวฺจิทํ เตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา สมฺมาสมฺพุทฺเธน สมฺพาเธ โอกาสาธิคโม อนุพุทฺโธ สตฺตานํ วิสุทฺธิยา…เป… นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ ฉ อนุสฺสติฏฺานานิ. กตมานิ ฉ? อิธาวุโส, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรติ…เป… เอวมิเธกจฺเจ สตฺตา วิสุทฺธิธมฺมา ภวนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๖.๒๖) เอวํ อริยสาวกสฺเสว ปรมตฺถวิสุทฺธิธมฺมตาย โอกาสาธิคมวเสน กถิตา.
อุโปสถสุตฺเตปิ ‘‘กถฺจ, วิสาเข, อริยูโปสโถ โหติ? อุปกฺกิลิฏฺสฺส, วิสาเข, จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ. กถฺจ, วิสาเข, อุปกฺกิลิฏฺสฺส จิตฺตสฺส อุปกฺกเมน ปริโยทปนา โหติ? อิธ, วิสาเข, อริยสาวโก ตถาคตํ อนุสฺสรตี’’ติ (อ. นิ. ๓.๗๑) เอวํ อริยสาวกสฺเสว อุโปสถํ อุปวสโต จิตฺตวิโสธนกมฺมฏฺานวเสน อุโปสถสฺส มหปฺผลภาวทสฺสนตฺถํ กถิตา.
เอกาทสนิปาเตปิ ‘‘สทฺโธ โข, มหานาม, อาราธโก โหติ, โน อสฺสทฺโธ. อารทฺธวีริโย, อุปฏฺิตสติ, สมาหิโต, ปฺวา, มหานาม ¶ , อาราธโก โหติ, โน ทุปฺปฺโ. อิเมสุ โข ตฺวํ, มหานาม, ปฺจสุ ธมฺเมสุ ปติฏฺาย ฉ ธมฺเม อุตฺตริ ภาเวยฺยาสิ. อิธ ตฺวํ, มหานาม, ตถาคตํ อนุสฺสเรยฺยาสิ อิติปิ โส ภควา’’ติ (อ. นิ. ๑๑.๑๑) เอวํ อริยสาวกสฺเสว ‘‘เตสํ โน, ภนฺเต, นานาวิหาเรน วิหรตํ เกนสฺส วิหาเรน วิหริตพฺพ’’นฺติ ปุจฺฉโต วิหารทสฺสนตฺถํ กถิตา.
๑๖๖. เอวํ ¶ สนฺเตปิ ปริสุทฺธสีลาทิคุณสมนฺนาคเตน ปุถุชฺชเนนาปิ มนสิ กาตพฺพา. อนุสฺสววเสนาปิ หิ พุทฺธาทีนํ คุเณ อนุสฺสรโต จิตฺตํ ปสีทติเยว. ยสฺสานุภาเวน นีวรณานิ วิกฺขมฺเภตฺวา อุฬารปาโมชฺโช วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อรหตฺตํเยว สจฺฉิกเรยฺย กฏอนฺธการวาสี ผุสฺสเทวตฺเถโร วิย.
โส กิรายสฺมา มาเรน นิมฺมิตํ พุทฺธรูปํ ทิสฺวา ‘‘อยํ ตาว สราคโทสโมโห เอวํ โสภติ, กถํ นุ โข ภควา น โสภติ, โส หิ สพฺพโส วีตราคโทสโมโห’’ติ พุทฺธารมฺมณํ ปีตึ ปฏิลภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อรหตฺตํ ปาปุณีติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
สมาธิภาวนาธิกาเร
ฉอนุสฺสตินิทฺเทโส นาม
สตฺตโม ปริจฺเฉโท.