📜
๘. อนุสฺสติกมฺมฏฺานนิทฺเทโส
มรณสฺสติกถา
๑๖๗. อิทานิ ¶ ¶ อิโต อนนฺตราย มรณสฺสติยา ภาวนานิทฺเทโส อนุปฺปตฺโต. ตตฺถ มรณนฺติ เอกภวปริยาปนฺนสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉโท. ยํ ปเนตํ อรหนฺตานํ วฏฺฏทุกฺขสมุจฺเฉทสงฺขาตํ สมุจฺเฉทมรณํ, สงฺขารานํ ขณภงฺคสงฺขาตํ ขณิกมรณํ, รุกฺโข มโต โลหํ มตนฺติอาทีสุ สมฺมุติมรณฺจ, น ตํ อิธ อธิปฺเปตํ.
ยมฺปิ เจตํ อธิปฺเปตํ, ตํ กาลมรณํ อกาลมรณนฺติ ทุวิธํ โหติ. ตตฺถ กาลมรณํ ปฺุกฺขเยน วา อายุกฺขเยน วา อุภยกฺขเยน วา โหติ. อกาลมรณํ กมฺมุปจฺเฉทกกมฺมวเสน.
ตตฺถ ยํ วิชฺชมานายปิ อายุสนฺตานชนกปจฺจยสมฺปตฺติยา เกวลํ ปฏิสนฺธิชนกสฺส กมฺมสฺส วิปกฺกวิปากตฺตา มรณํ โหติ, อิทํ ปฺุกฺขเยน มรณํ นาม. ยํ คติกาลาหาราทิสมฺปตฺติยา อภาเวน อชฺชตนกาลปุริสานํ วิย วสฺสสตมตฺตปริมาณสฺส อายุโน ขยวเสน มรณํ โหติ, อิทํ อายุกฺขเยน มรณํ นาม. ยํ ปน ทูสีมารกลาพุราชาทีนํ วิย ตงฺขณฺเว านาจาวนสมตฺเถน กมฺมุนา อุปจฺฉินฺนสนฺตานานํ, ปุริมกมฺมวเสน วา สตฺถหรณาทีหิ อุปกฺกเมหิ อุปจฺฉิชฺชมานสนฺตานานํ มรณํ โหติ, อิทํ อกาลมรณํ นาม. ตํ สพฺพมฺปิ วุตฺตปฺปกาเรน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉเทน สงฺคหิตํ. อิติ ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทสงฺขาตสฺส มรณสฺส สรณํ มรณสฺสติ.
๑๖๘. ตํ ภาเวตุกาเมน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน ‘‘มรณํ ภวิสฺสติ, ชีวิตินฺทฺริยํ อุปจฺฉิชฺชิสฺสตี’’ติ วา, ‘‘มรณํ มรณ’’นฺติ วา โยนิโส มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อโยนิโส ¶ ปวตฺตยโต หิ อิฏฺชนมรณานุสฺสรเณ โสโก อุปฺปชฺชติ วิชาตมาตุยา ปิยปุตฺตมรณานุสฺสรเณ วิย. อนิฏฺชนมรณานุสฺสรเณ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ เวรีนํ เวริมรณานุสฺสรเณ วิย. มชฺฌตฺตชนมรณานุสฺสรเณ สํเวโค น อุปฺปชฺชติ มตกเฬวรทสฺสเน ฉวฑาหกสฺส วิย. อตฺตโน มรณานุสฺสรเณ สนฺตาโส อุปฺปชฺชติ อุกฺขิตฺตาสิกํ วธกํ ทิสฺวา ภีรุกชาติกสฺส ¶ วิย. ตเทตํ สพฺพมฺปิ สติสํเวคาณวิรหโต โหติ. ตสฺมา ตตฺถ ตตฺถ หตมตสตฺเต โอโลเกตฺวา ทิฏฺปุพฺพสมฺปตฺตีนํ สตฺตานํ มตานํ มรณํ อาวชฺเชตฺวา สติฺจ สํเวคฺจ าณฺจ โยเชตฺวา ‘‘มรณํ ภวิสฺสตี’’ติอาทินา นเยน มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวํ ปวตฺเตนฺโต หิ โยนิโส ปวตฺเตติ, อุปาเยน ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. เอวํ ปวตฺตยโตเยว หิ เอกจฺจสฺส นีวรณานิ วิกฺขมฺภนฺติ, มรณารมฺมณา สติ สณฺาติ, อุปจารปฺปตฺตเมว กมฺมฏฺานํ โหติ.
๑๖๙. ยสฺส ปน เอตฺตาวตา น โหติ, เตน วธกปจฺจุปฏฺานโต, สมฺปตฺติวิปตฺติโต, อุปสํหรณโต, กายพหุสาธารณโต, อายุทุพฺพลโต, อนิมิตฺตโต, อทฺธานปริจฺเฉทโต, ขณปริตฺตโตติ อิเมหิ อฏฺหากาเรหิ มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
ตตฺถ วธกปจฺจุปฏฺานโตติ วธกสฺส วิย ปจฺจุปฏฺานโต. ยถา หิ อิมสฺส สีสํ ฉินฺทิสฺสามีติ อสึ คเหตฺวา คีวาย จารยมาโน วธโก ปจฺจุปฏฺิโตว โหติ, เอวํ มรณมฺปิ ปจฺจุปฏฺิตเมวาติ อนุสฺสริตพฺพํ. กสฺมา? สห ชาติยา อาคตโต, ชีวิตหรณโต จ. ยถา หิ อหิจฺฉตฺตกมกุฬํ มตฺถเกน ปํสุํ คเหตฺวาว อุคฺคจฺฉติ, เอวํ สตฺตา ชรามรณํ คเหตฺวาว นิพฺพตฺตนฺติ. ตถา หิ เนสํ ปฏิสนฺธิจิตฺตํ อุปฺปาทานนฺตรเมว ชรํ ปตฺวา ปพฺพตสิขรโต ปติตสิลา วิย ภิชฺชติ สทฺธึ สมฺปยุตฺตขนฺเธหิ. เอวํ ขณิกมรณํ ตาว สห ชาติยา อาคตํ. ชาตสฺส ปน อวสฺสํ มรณโต อิธาธิปฺเปตมรณมฺปิ สห ชาติยา อาคตํ. ตสฺมา เอส สตฺโต ชาตกาลโต ปฏฺาย ยถา นาม อุฏฺิโต สูริโย อตฺถาภิมุโข คจฺฉเตว, คตคตฏฺานโต อีสกมฺปิ น นิวตฺตติ. ยถา วา นที ปพฺพเตยฺยา สีฆโสตา หารหารินี สนฺทเตว วตฺตเตว อีสกมฺปิ น นิวตฺตติ, เอวํ อีสกมฺปิ อนิวตฺตมาโน มรณาภิมุโขว ยาติ. เตน วุตฺตํ –
‘‘ยเมกรตฺตึ ¶ ปมํ, คพฺเภ วสติ มาณโว;
อพฺภุฏฺิโตว โส ยาติ, ส คจฺฉํ น นิวตฺตตี’’ติ. (ชา. ๑.๑๕.๓๖๓);
เอวํ คจฺฉโต จสฺส คิมฺหาภิตตฺตานํ กุนฺนทีนํ ขโย วิย, ปาโต อาโปรสานุคตพนฺธนานํ ทุมปฺผลานํ ปตนํ วิย, มุคฺคราภิตาฬิตานํ มตฺติกภาชนานํ เภโท ¶ วิย, สูริยรสฺมิสมฺผุฏฺานํ อุสฺสาวพินฺทูนํ วิทฺธํสนํ วิย จ มรณเมว อาสนฺนํ โหติ. เตนาห –
‘‘อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา, ชีวิตมุปรุชฺฌติ;
อายุ ขียติ มจฺจานํ, กุนฺนทีนํว โอทกํ. (สํ. นิ. ๑.๑๔๖);
‘‘ผลานมิว ปกฺกานํ, ปาโต ปปตโต ภยํ;
เอวํ ชาตาน มจฺจานํ, นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
‘‘ยถาปิ กุมฺภการสฺส, กตํ มตฺติกภาชนํ;
ขุทฺทกฺจ มหนฺตฺจ, ยํ ปกฺกํ ยฺจ อามกํ;
สพฺพํ เภทนปริยนฺตํ, เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ’. (สุ. นิ. ๕๘๑-๕๘๒);
‘‘อุสฺสาโวว ติณคฺคมฺหิ, สูริยุคฺคมนํ ปติ;
เอวมายุ มนุสฺสานํ, มา มํ อมฺม นิวารยา’’ติ. (ชา. ๑.๑๑.๗๙);
เอวํ อุกฺขิตฺตาสิโก วธโก วิย สห ชาติยา อาคตํ ปเนตํ มรณํ คีวาย อสึ จารยมาโน โส วธโก วิย ชีวิตํ หรติเยว, น อหริตฺวา นิวตฺตติ. ตสฺมา สห ชาติยา อาคตโต, ชีวิตหรณโต จ อุกฺขิตฺตาสิโก วธโก วิย มรณมฺปิ ปจฺจุปฏฺิตเมวาติ เอวํ วธกปจฺจุปฏฺานโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๐. สมฺปตฺติวิปตฺติโตติ อิธ สมฺปตฺติ นาม ตาวเทว โสภติ, ยาว นํ วิปตฺติ นาภิภวติ, น จ สา สมฺปตฺติ นาม อตฺถิ, ยา วิปตฺตึ อติกฺกมฺม ติฏฺเยฺย. ตถา หิ –
‘‘สกลํ ¶ เมทินึ ภุตฺวา, ทตฺวา โกฏิสตํ สุขี;
อฑฺฒามลกมตฺตสฺส, อนฺเต อิสฺสรตํ คโต.
‘‘เตเนว เทหพนฺเธน, ปฺุมฺหิ ขยมาคเต;
มรณาภิมุโข โสปิ, อโสโก โสกมาคโต’’ติ.
อปิจ ¶ สพฺพํ อาโรคฺยํ พฺยาธิปริโยสานํ, สพฺพํ โยพฺพนํ ชราปริโยสานํ, สพฺพํ ชีวิตํ มรณปริโยสานํ, สพฺโพเยว โลกสนฺนิวาโส ชาติยา อนุคโต, ชราย อนุสโฏ, พฺยาธินา อภิภูโต, มรเณน อพฺภาหโต. เตนาห –
‘‘ยถาปิ เสลา วิปุลา, นภํ อาหจฺจ ปพฺพตา;
สมนฺตา อนุปริเยยฺยุํ, นิปฺโปเถนฺตา จตุทฺทิสา.
‘‘เอวํ ชรา จ มจฺจุ จ, อธิวตฺตนฺติ ปาณิเน;
ขตฺติเย พฺราหฺมเณ เวสฺเส, สุทฺเท จณฺฑาลปุกฺกุเส;
น กิฺจิ ปริวชฺเชติ, สพฺพเมวาภิมทฺทติ.
‘‘น ตตฺถ หตฺถีนํ ภูมิ, น รถานํ น ปตฺติยา;
น จาปิ มนฺตยุทฺเธน, สกฺกา เชตุํ ธเนน วา’’ติ. (สํ. นิ. ๑.๑๓๖);
เอวํ ชีวิตสมฺปตฺติยา มรณวิปตฺติปริโยสานตํ ววตฺถเปนฺเตน สมฺปตฺติวิปตฺติโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๑. อุปสํหรณโตติ ปเรหิ สทฺธึ อตฺตโน อุปสํหรณโต. ตตฺถ สตฺตหากาเรหิ อุปสํหรณโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ, ยสมหตฺตโต, ปฺุมหตฺตโต, ถามมหตฺตโต, อิทฺธิมหตฺตโต, ปฺามหตฺตโต, ปจฺเจกพุทฺธโต, สมฺมาสมฺพุทฺธโตติ. กถํ? อิทํ มรณํ นาม มหายสานํ มหาปริวารานํ ¶ สมฺปนฺนธนวาหนานํ มหาสมฺมตมนฺธาตุมหาสุทสฺสน ทฬฺหเนมิ นิมิปฺปภุตีนมฺปิ อุปริ นิราสงฺกเมว ปติตํ, กิมงฺคํ ปน มยฺหํ อุปริ น ปติสฺสติ?
มหายสา ราชวรา, มหาสมฺมตอาทโย;
เตปิ มจฺจุวสํ ปตฺตา, มาทิเสสุ กถาว กาติ.
เอวํ ตาว ยสมหตฺตโต อนุสฺสริตพฺพํ.
กถํ ปฺุมหตฺตโต?
โชติโก ชฏิโล อุคฺโค, เมณฺฑโก อถ ปุณฺณโก;
เอเต จฺเ จ เย โลเก, มหาปฺุาติ วิสฺสุตา;
สพฺเพ มรณมาปนฺนา, มาทิเสสุ กถาว กาติ.
เอวํ ปฺุมหตฺตโต อนุสฺสริตพฺพํ.
กถํ ¶ ถามมหตฺตโต?
วาสุเทโว พลเทโว, ภีมเสโน ยุธิฏฺิโล;
จานุโร โย มหามลฺโล, อนฺตกสฺส วสํ คตา.
เอวํ ถามพลูเปตา, อิติ โลกมฺหิ วิสฺสุตา;
เอเตปิ มรณํ ยาตา, มาทิเสสุ กถาว กาติ.
เอวํ ถามมหตฺตโต อนุสฺสริตพฺพํ.
กถํ อิทฺธิมหตฺตโต?
ปาทงฺคุฏฺกมตฺเตน ¶ , เวชยนฺตมกมฺปยิ;
โย นามิทฺธิมตํ เสฏฺโ, ทุติโย อคฺคสาวโก.
โสปิ มจฺจุมุขํ โฆรํ, มิโค สีหมุขํ วิย;
ปวิฏฺโ สห อิทฺธีหิ, มาทิเสสุ กถาว กาติ.
เอวํ อิทฺธิมหตฺตโต อนุสฺสริตพฺพํ.
กถํ ปฺามหตฺตโต?
โลกนาถํ เปตฺวาน, เย จฺเ อตฺถิ ปาณิโน;
ปฺาย สาริปุตฺตสฺส, กลํ นาคฺฆนฺติ โสฬสึ.
เอวํ นาม มหาปฺโ, ปโม อคฺคสาวโก;
มรณสฺส วสํ ปตฺโต, มาทิเสสุ กถาว กาติ.
เอวํ ปฺามหตฺตโต อนุสฺสริตพฺพํ.
กถํ ปจฺเจกพุทฺธโต? เยปิ เต อตฺตโน าณวีริยพเลน สพฺพกิเลสสตฺตุนิมฺมถนํ กตฺวา ปจฺเจกโพธึ ปตฺตา ขคฺควิสาณกปฺปา สยมฺภุโน, เตปิ มรณโต น มุตฺตา, กุโต ปนาหํ มุจฺจิสฺสามีติ.
ตํ ตํ นิมิตฺตมาคมฺม, วีมํสนฺตา มเหสโย;
สยมฺภฺุาณเตเชน, เย ปตฺตา อาสวกฺขยํ.
เอกจริยนิวาเสน, ขคฺคสิงฺคสมูปมา;
เตปิ นาติคตา มจฺจุํ, มาทิเสสุ กถาว กาติ.
เอวํ ¶ ¶ ปจฺเจกพุทฺธโต อนุสฺสริตพฺพํ.
กถํ สมฺมาสมฺพุทฺธโต? โยปิ โส ภควา อสีติอนุพฺยฺชนปฏิมณฺฑิตทฺวตฺตึสมหาปุริสลกฺขณวิจิตฺรรูปกาโย สพฺพาการปริสุทฺธสีลกฺขนฺธาทิคุณรตนสมิทฺธธมฺมกาโย ยสมหตฺตปฺุมหตฺตถามมหตฺตอิทฺธิมหตฺตปฺามหตฺตานํ ปารํ คโต อสโม อสมสโม อปฺปฏิปุคฺคโล อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ, โสปิ สลิลวุฏฺินิปาเตน มหาอคฺคิกฺขนฺโธ วิย มรณวุฏฺินิปาเตน านโส วูปสนฺโต.
เอวํ มหานุภาวสฺส, ยํ นาเมตํ มเหสิโน;
น ภเยน น ลชฺชาย, มรณํ วสมาคตํ.
นิลฺลชฺชํ วีตสารชฺชํ, สพฺพสตฺตาภิมทฺทนํ;
ตยิทํ มาทิสํ สตฺตํ, กถํ นาภิภวิสฺสตีติ.
เอวํ สมฺมาสมฺพุทฺธโต อนุสฺสริตพฺพํ.
ตสฺเสวํ ยสมหตฺตตาทิสมฺปนฺเนหิ ปเรหิ สทฺธึ มรณสามฺตาย อตฺตานํ อุปสํหริตฺวา เตสํ วิย สตฺตวิเสสานํ มยฺหมฺปิ มรณํ ภวิสฺสตีติ อนุสฺสรโต อุปจารปฺปตฺตํ กมฺมฏฺานํ โหตีติ. เอวํ อุปสํหรณโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๒. กายพหุสาธารณโตติ อยํ กาโย พหุสาธารโณ. อสีติยา ตาว กิมิกุลานํ สาธารโณ, ตตฺถ ฉวินิสฺสิตา ปาณา ฉวึ ขาทนฺติ, จมฺมนิสฺสิตา จมฺมํ ขาทนฺติ, มํสนิสฺสิตา มํสํ ขาทนฺติ, นฺหารุนิสฺสิตา นฺหารุํ ขาทนฺติ, อฏฺินิสฺสิตา อฏฺึ ขาทนฺติ, มิฺชนิสฺสิตา มิฺชํ ขาทนฺติ. ตตฺเถว ชายนฺติ ชียนฺติ มียนฺติ, อุจฺจารปสฺสาวํ กโรนฺติ. กาโยว เนสํ สูติฆรฺเจว คิลานสาลา จ สุสานฺจ วจฺจกุฏิ จ ปสฺสาวโทณิกา จ. สฺวายํ เตสมฺปิ กิมิกุลานํ ปโกเปน มรณํ นิคจฺฉติเยว. ยถา จ อสีติยา กิมิกุลานํ, เอวํ อชฺฌตฺติกานํเยว อเนกสตานํ โรคานํ พาหิรานฺจ อหิวิจฺฉิกาทีนํ มรณสฺส ปจฺจยานํ สาธารโณ.
ยถา ¶ หิ จตุมหาปเถ ปิเต ลกฺขมฺหิ สพฺพทิสาหิ อาคตา สรสตฺติโตมรปาสาณาทโย นิปตนฺติ, เอวํ กาเยปิ สพฺพุปทฺทวา นิปตนฺติ ¶ . สฺวายํ เตสมฺปิ อุปทฺทวานํ นิปาเตน มรณํ นิคจฺฉติเยว. เตนาห ภควา – ‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ทิวเส นิกฺขนฺเต รตฺติยา ปฏิหิตาย อิติ ปฏิสฺจิกฺขติ, พหุกา โข เม ปจฺจยา มรณสฺส, อหิ วา มํ ฑํเสยฺย, วิจฺฉิโก วา มํ ฑํเสยฺย, สตปที วา มํ ฑํเสยฺย, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย, อุปกฺขลิตฺวา วา ปปเตยฺยํ, ภตฺตํ วา เม ภุตฺตํ พฺยาปชฺเชยฺย, ปิตฺตํ วา เม กุปฺเปยฺย, เสมฺหํ วา เม กุปฺเปยฺย, สตฺถกา วา เม วาตา กุปฺเปยฺยุํ, เตน เม อสฺส กาลงฺกิริยา, โส มมสฺส อนฺตราโย’’ติ. เอวํ (อ. นิ. ๖.๒๐) กายพหุสาธารณโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๓. อายุทุพฺพลโตติ อายุ นาเมตํ อพลํ ทุพฺพลํ. ตถา หิ สตฺตานํ ชีวิตํ อสฺสาสปสฺสาสูปนิพทฺธฺเจว อิริยาปถูปนิพทฺธฺจ สีตุณฺหูปนิพทฺธฺจ มหาภูตูปนิพทฺธฺจ อาหารูปนิพทฺธฺจ. ตเทตํ อสฺสาสปสฺสาสานํ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ปวตฺตติ. พหิ นิกฺขนฺตนาสิกวาเต ปน อนฺโต อปวิสนฺเต, ปวิฏฺเ วา อนิกฺขมนฺเต มโต นาม โหติ. จตุนฺนํ อิริยาปถานมฺปิ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ปวตฺตติ. อฺตรฺตรสฺส ปน อธิมตฺตตาย อายุสงฺขารา อุปจฺฉิชฺชนฺติ. สีตุณฺหานมฺปิ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ปวตฺตติ. อติสีเตน ปน อติอุณฺเหน วา อภิภูตสฺส วิปชฺชติ. มหาภูตานมฺปิ สมวุตฺติตํ ลภมานเมว ปวตฺตติ. ปถวีธาตุยา ปน อาโปธาตุอาทีนํ วา อฺตรฺตรสฺส ปโกเปน พลสมฺปนฺโนปิ ปุคฺคโล ปตฺถทฺธกาโย วา อติสาราทิวเสน กิลินฺนปูติกาโย วา มหาฑาหปเรโต วา สมฺภิชฺชมานสนฺธิพนฺธโน วา หุตฺวา ชีวิตกฺขยํ ปาปุณาติ. กพฬีการาหารมฺปิ ยุตฺตกาเล ลภนฺตสฺเสว ชีวิตํ ปวตฺตติ, อาหารํ อลภมานสฺส ปน ปริกฺขยํ คจฺฉตีติ. เอวํ อายุทุพฺพลโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๔. อนิมิตฺตโตติ อววตฺถานโต, ปริจฺเฉทาภาวโตติ อตฺโถ. สตฺตานํ หิ –
ชีวิตํ พฺยาธิ กาโล จ, เทหนิกฺเขปนํ คติ;
ปฺเจเต ชีวโลกสฺมึ, อนิมิตฺตา น นายเร.
ตตฺถ ¶ ชีวิตํ ตาว ‘‘เอตฺตกเมว ชีวิตพฺพํ, น อิโต ปร’’นฺติ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตํ ¶ . กลลกาเลปิ หิ สตฺตา มรนฺติ, อพฺพุทเปสิฆนมาสิกทฺเวมาสเตมาสจตุมาสปฺจมาสทสมาสกาเลปิ. กุจฺฉิโต นิกฺขนฺตสมเยปิ. ตโต ปรํ วสฺสสตสฺส อนฺโตปิ พหิปิ มรนฺติเยว. พฺยาธิปิ ‘‘อิมินาว พฺยาธินา สตฺตา มรนฺติ, นาฺเนา’’ติ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺโต. จกฺขุโรเคนาปิ หิ สตฺตา มรนฺติ, โสตโรคาทีนํ อฺตเรนาปิ. กาโลปิ ‘‘อิมสฺมึเยว กาเล มริตพฺพํ, นาฺสฺมิ’’นฺติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺโต. ปุพฺพณฺเหปิ หิ สตฺตา มรนฺติ, มชฺฌนฺหิกาทีนํ อฺตรสฺมิมฺปิ. เทหนิกฺเขปนมฺปิ ‘‘อิเธว มียมานานํ เทเหน ปติตพฺพํ, นาฺตฺรา’’ติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตํ. อนฺโตคาเม ชาตานํ หิ พหิคาเมปิ อตฺตภาโว ปตติ. พหิคาเม ชาตานมฺปิ อนฺโตคาเม. ตถา ถลชานํ วา ชเล, ชลชานํ วา ถเลติ อเนกปฺปการโต วิตฺถาเรตพฺพํ. คติปิ ‘‘อิโต จุเตน อิธ นิพฺพตฺติตพฺพ’’นฺติ เอวํ ววตฺถานาภาวโต อนิมิตฺตา. เทวโลกโต หิ จุตา มนุสฺเสสุปิ นิพฺพตฺตนฺติ, มนุสฺสโลกโต จุตา เทวโลกาทีนมฺปิ ยตฺถ กตฺถจิ นิพฺพตฺตนฺตีติ เอวํ ยนฺตยุตฺตโคโณ วิย คติปฺจเก โลโก สมฺปริวตฺตตีติ เอวํ อนิมิตฺตโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๕. อทฺธานปริจฺเฉทโตติ มนุสฺสานํ ชีวิตสฺส นาม เอตรหิ ปริตฺโต อทฺธา. โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ, อปฺปํ วา ภิยฺโย. เตนาห ภควา – ‘‘อปฺปมิทํ, ภิกฺขเว, มนุสฺสานํ อายุ, คมนีโย สมฺปราโย, กตฺตพฺพํ กุสลํ, จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ, นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ. โย, ภิกฺขเว, จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสตํ, อปฺปํ วา ภิยฺโยติ.
อปฺปมายุมนุสฺสานํ, หีเฬยฺย นํ สุโปริโส;
จเรยฺยาทิตฺตสีโสว, นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโมติ. (สํ. นิ. ๑.๑๔๕);
อปรมฺปิ อาห – ‘‘ภูตปุพฺพํ, ภิกฺขเว, อรโก นาม สตฺถา อโหสี’’ติ สพฺพมฺปิ สตฺตหิ อุปมาหิ อลงฺกตํ สุตฺตํ วิตฺถาเรตพฺพํ.
อปรมฺปิ อาห – ‘‘โยจายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ, อโห วตาหํ รตฺตินฺทิวํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิกเรยฺยํ, พหุํ วต เม กตํ อสฺสาติ. โยจายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ ¶ , อโห วตาหํ ทิวสํ ชีเวยฺยํ, ภควโต สาสนํ มนสิกเรยฺยํ, พหุํ วต เม กตํ อสฺสาติ. โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ ¶ มรณสฺสตึ ภาเวติ, อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ, ยทนฺตรํ เอกํ ปิณฺฑปาตํ ภฺุชามิ, ภควโต สาสนํ มนสิกเรยฺยํ, พหุํ วต เม กตํ อสฺสาติ. โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ, อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ, ยทนฺตรํ จตฺตาโร ปฺจ อาโลเป สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิกเรยฺยํ, พหุํ วต เม กตํ อสฺสาติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู ปมตฺตา วิหรนฺติ, ทนฺธํ มรณสฺสตึ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยาย. โย จ ขฺวายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ, อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ, ยทนฺตรํ เอกํ อาโลปํ สงฺขาทิตฺวา อชฺโฌหรามิ, ภควโต สาสนํ มนสิกเรยฺยํ, พหุํ วต เม กตํ อสฺสาติ. โย จายํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ เอวํ มรณสฺสตึ ภาเวติ, อโห วตาหํ ตทนฺตรํ ชีเวยฺยํ, ยทนฺตรํ อสฺสสิตฺวา วา ปสฺสสามิ, ปสฺสสิตฺวา วา อสฺสสามิ, ภควโต สาสนํ มนสิกเรยฺยํ, พหุํ วต เม กตํ อสฺสาติ. อิเม วุจฺจนฺติ, ภิกฺขเว, ภิกฺขู อปฺปมตฺตา วิหรนฺติ, ติกฺขํ มรณสฺสตึ ภาเวนฺติ อาสวานํ ขยายา’’ติ (อ. นิ. ๖.๑๙). เอวํ จตุปฺจาโลปสงฺขาทนมตฺตํ อวิสฺสาสิโย ปริตฺโต ชีวิตสฺส อทฺธาติ เอวํ อทฺธานปริจฺเฉทโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๖. ขณปริตฺตโตติ ปรมตฺถโต หิ อติปริตฺโต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโณ เอกจิตฺตปฺปวตฺติมตฺโตเยว. ยถา นาม รถจกฺกํ ปวตฺตมานมฺปิ เอเกเนว เนมิปฺปเทเสน ปวตฺตติ, ติฏฺมานมฺปิ เอเกเนว ติฏฺติ, เอวเมว เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตํ. ตสฺมึ จิตฺเต นิรุทฺธมตฺเต สตฺโต นิรุทฺโธติ วุจฺจติ. ยถาห – ‘‘อตีเต จิตฺตกฺขเณ ชีวิตฺถ, น ชีวติ, น ชีวิสฺสติ. อนาคเต จิตฺตกฺขเณ น ชีวิตฺถ, น ชีวติ, ชีวิสฺสติ. ปจฺจุปฺปนฺเน จิตฺตกฺขเณ น ชีวิตฺถ, ชีวติ, น ชีวิสฺสติ.
‘‘ชีวิตํ อตฺตภาโว จ, สุขทุกฺขา จ เกวลา;
เอกจิตฺตสมายุตฺตา, ลหุ โส วตฺตเต ขโณ.
‘‘เย นิรุทฺธา มรนฺตสฺส, ติฏฺมานสฺส วา อิธ;
สพฺเพปิ สทิสา ขนฺธา, คตา อปฺปฏิสนฺธิกา.
‘‘อนิพฺพตฺเตน ¶ ¶ น ชาโต, ปจฺจุปฺปนฺเนน ชีวติ;
จิตฺตภงฺคา มโต โลโก, ปฺตฺติ ปรมตฺถิยา’’ติ. (มหานิ. ๓๙);
เอวํ ขณปริตฺตโต มรณํ อนุสฺสริตพฺพํ.
๑๗๗. อิติ อิเมสํ อฏฺนฺนํ อาการานํ อฺตรฺตเรน อนุสฺสรโตปิ ปุนปฺปุนํ มนสิการวเสน จิตฺตํ อาเสวนํ ลภติ, มรณารมฺมณา สติ สนฺติฏฺติ, นีวรณานิ วิกฺขมฺภนฺติ, ฌานงฺคานิ ปาตุภวนฺติ. สภาวธมฺมตฺตา ปน สํเวชนียตฺตา จ อารมฺมณสฺส อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. โลกุตฺตรชฺฌานํ ปน ทุติยจตุตฺถานิ จ อารุปฺปชฺฌานานิ สภาวธมฺเมปิ ภาวนาวิเสเสน อปฺปนํ ปาปุณนฺติ. วิสุทฺธิภาวนานุกฺกมวเสน หิ โลกุตฺตรํ อปฺปนํ ปาปุณาติ. อารมฺมณาติกฺกมภาวนาวเสน อารุปฺปํ. อปฺปนาปตฺตสฺเสว หิ ฌานสฺส อารมฺมณสมติกฺกมนมตฺตํ ตตฺถ โหติ. อิธ ปน ตทุภยมฺปิ นตฺถิ. ตสฺมา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ. ตเทตํ มรณสฺสติพเลน อุปฺปนฺนตฺตา มรณสฺสติจฺเจว สงฺขํ คจฺฉติ.
อิมฺจ ปน มรณสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ สตตํ อปฺปมตฺโต โหติ, สพฺพภเวสุ อนภิรติสฺํ ปฏิลภติ, ชีวิตนิกนฺตึ ชหาติ, ปาปครหี โหติ, อสนฺนิธิพหุโล ปริกฺขาเรสุ วิคตมลมจฺเฉโร, อนิจฺจสฺา จสฺส ปริจยํ คจฺฉติ, ตทนุสาเรเนว ทุกฺขสฺา อนตฺตสฺา จ อุปฏฺาติ. ยถา อภาวิตมรณา สตฺตา สหสา วาฬมิคยกฺขสปฺปโจรวธกาภิภูตา วิย มรณสมเย ภยํ สนฺตาสํ สมฺโมหํ อาปชฺชนฺติ, เอวํ อนาปชฺชิตฺวา อภโย อสมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ. สเจ ทิฏฺเว ธมฺเม อมตํ นาราเธติ, กายสฺส เภทา สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมาทํ, กยิราถ สุเมธโส;
เอวํ มหานุภาวาย, มรณสฺสติยา สทาติ.
อิทํ มรณสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
กายคตาสติกถา
๑๗๘. อิทานิ ¶ ¶ ยํ ตํ อฺตฺร พุทฺธุปฺปาทา อปฺปวตฺตปุพฺพํ สพฺพติตฺถิยานํ อวิสยภูตํ เตสุ เตสุ สุตฺตนฺเตสุ ‘‘เอกธมฺโม, ภิกฺขเว, ภาวิโต พหุลีกโต มหโต สํเวคาย สํวตฺตติ. มหโต อตฺถาย สํวตฺตติ. มหโต โยคกฺเขมาย สํวตฺตติ. มหโต สติสมฺปชฺาย สํวตฺตติ. าณทสฺสนปฏิลาภาย สํวตฺตติ. ทิฏฺธมฺมสุขวิหาราย สํวตฺตติ. วิชฺชาวิมุตฺติผลสจฺฉิกิริยาย สํวตฺตติ. กตโม เอกธมฺโม? กายคตา สติ… (อ. นิ. ๑.๕๖๓ อาทโย). อมตํ เต, ภิกฺขเว, ปริภฺุชนฺติ, เย กายคตาสตึ ปริภฺุชนฺติ. อมตํ เต, ภิกฺขเว, น ปริภฺุชนฺติ, เย กายคตาสตึ น ปริภฺุชนฺติ. อมตํ เตสํ, ภิกฺขเว, ปริภุตฺตํ… อปริภุตฺตํ… ปริหีนํ… อปริหีนํ… วิรทฺธํ… อวิรทฺธํ, เยสํ กายคตาสติ อารทฺธาติ (อ. นิ. ๑.๖๐๓) เอวํ ภควตา อเนเกหิ อากาเรหิ ปสํสิตฺวา ‘‘กถํ ภาวิตา, ภิกฺขเว, กายคตาสติ กถํ พหุลีกตา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๓.๑๕๔) นเยน อานาปานปพฺพํ, อิริยาปถปพฺพํ, จตุสมฺปชฺปพฺพํ, ปฏิกฺกูลมนสิการปพฺพํ, ธาตุมนสิการปพฺพํ, นวสิวถิกปพฺพานีติ อิเมสํ จุทฺทสนฺนํ ปพฺพานํ วเสน กายคตาสติกมฺมฏฺานํ นิทฺทิฏฺํ, ตสฺส ภาวนานิทฺเทโส อนุปฺปตฺโต.
ตตฺถ ยสฺมา อิริยาปถปพฺพํ จตุสมฺปชฺปพฺพํ ธาตุมนสิการปพฺพนฺติ อิมานิ ตีณิ วิปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ. นว สิวถิกปพฺพานิ วิปสฺสนาาเณสุเยว อาทีนวานุปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ. ยาปิ เจตฺถ อุทฺธุมาตกาทีสุ สมาธิภาวนา อิชฺเฌยฺย, สา อสุภนิทฺเทเส ปกาสิตาเยว. อานาปานปพฺพํ ปน ปฏิกฺกูลมนสิการปพฺพฺจ อิมาเนเวตฺถ ทฺเว สมาธิวเสน วุตฺตานิ. เตสุ อานาปานปพฺพํ อานาปานสฺสติวเสน วิสุํ กมฺมฏฺานํเยว. ยํ ปเนตํ ‘‘ปุน จปรํ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อิมเมว กายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺตํ ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขติ. อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺต’’นฺติ (ม. นิ. ๓.๑๕๔) เอวํ มตฺถลุงฺคํ อฏฺิมิฺเชน สงฺคเหตฺวา ปฏิกฺกูลมนสิการวเสน เทสิตํ ทฺวตฺตึสาการกมฺมฏฺานํ, อิทมิธ กายคตาสตีติ อธิปฺเปตํ.
๑๗๙. ตตฺถายํ ¶ ปาฬิวณฺณนาปุพฺพงฺคโม ภาวนานิทฺเทโส. อิมเมว กายนฺติ อิมํ จตุมหาภูติกํ ¶ ปูติกายํ. อุทฺธํ ปาทตลาติ ปาทตลโต อุปริ. อโธ เกสมตฺถกาติ เกสคฺคโต เหฏฺา. ตจปริยนฺตนฺติ ติริยํ ตจปริจฺฉินฺนํ. ปูรํ นานปฺปการสฺส อสุจิโน ปจฺจเวกฺขตีติ นานปฺปการเกสาทิอสุจิภริโต อยํ กาโยติ ปสฺสติ. กถํ? อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา…เป… มุตฺตนฺติ.
ตตฺถ อตฺถีติ สํวิชฺชนฺติ. อิมสฺมินฺติ ยฺวายํ อุทฺธํ ปาทตลา อโธ เกสมตฺถกา ตจปริยนฺโต ปูโร นานปฺปการสฺส อสุจิโนติ วุจฺจติ, ตสฺมึ. กาเยติ สรีเร. สรีรํ หิ อสุจิสฺจยโต กุจฺฉิตานํ เกสาทีนฺเจว จกฺขุโรคาทีนฺจ โรคสตานํ อายภูตโต กาโยติ วุจฺจติ. เกสา โลมาติ เอเต เกสาทโย ทฺวตฺตึสาการา. ตตฺถ อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา, อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย โลมาติ เอวํ สมฺพนฺโธ เวทิตพฺโพ.
อิมสฺมึ หิ ปาทตลา ปฏฺาย อุปริ, เกสมตฺถกา ปฏฺาย เหฏฺา, ตจโต ปฏฺาย ปริโตติ เอตฺตเก พฺยามมตฺเต กเฬวเร สพฺพากาเรนปิ วิจินนฺโต น โกจิ กิฺจิ มุตฺตํ วา มณึ วา เวฬุริยํ วา อครุํ วา กุงฺกุมํ วา กปฺปูรํ วา วาสจุณฺณาทึ วา อณุมตฺตมฺปิ สุจิภาวํ ปสฺสติ, อถ โข ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ อสิริกทสฺสนํ นานปฺปการํ เกสโลมาทิเภทํ อสุจึเยว ปสฺสติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสา โลมา…เป… มุตฺต’’นฺติ. อยเมตฺถ ปทสมฺพนฺธโต วณฺณนา.
๑๘๐. อิมํ ปน กมฺมฏฺานํ ภาเวตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน วุตฺตปฺปการํ กลฺยาณมิตฺตํ อุปสงฺกมิตฺวา อิทํ กมฺมฏฺานํ คเหตพฺพํ. เตนาปิสฺส กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ ทสธา จ มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ตตฺถ วจสา มนสา วณฺณโต สณฺานโต ทิสโต โอกาสโต ปริจฺเฉทโตติ เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ.
อิมสฺมึ หิ ปฏิกฺกูลมนสิการกมฺมฏฺาเน โยปิ ติปิฏโก โหติ, เตนาปิ มนสิการกาเล ปมํ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เอกจฺจสฺส หิ สชฺฌายํ กโรนฺตสฺเสว กมฺมฏฺานํ ปากฏํ โหติ มลยวาสี มหาเทวตฺเถรสฺส สนฺติเก อุคฺคหิตกมฺมฏฺานานํ ทฺวินฺนํ เถรานํ วิย. เถโร ¶ กิร เตหิ กมฺมฏฺานํ ยาจิโต จตฺตาโร มาเส อิมํเยว สชฺฌายํ กโรถาติ ทฺวตฺตึสาการปาฬึ อทาสิ. เต กิฺจาปิ เนสํ ทฺเว ตโย นิกายา ปคุณา, ปทกฺขิณคฺคาหิตาย ¶ ปน จตฺตาโร มาเส ทฺวตฺตึสาการํ สชฺฌายนฺตาว โสตาปนฺนา อเหสุํ. ตสฺมา กมฺมฏฺานํ กเถนฺเตน อาจริเยน อนฺเตวาสิโก วตฺตพฺโพ ‘‘ปมํ ตาว วาจาย สชฺฌายํ กโรหี’’ติ.
กโรนฺเตน จ ตจปฺจกาทีนิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุโลมปฏิโลมวเสน สชฺฌาโย กาตพฺโพ. เกสา โลมา นขา ทนฺตา ตโจติ หิ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสาติ วตฺตพฺพํ.
ตทนนฺตรํ วกฺกปฺจเก มํสํ นฺหารุ อฏฺิ อฏฺิมิฺชํ วกฺกนฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ, ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสาติ วตฺตพฺพํ.
ตโต ปปฺผาสปฺจเก หทยํ ยกนํ กิโลมกํ ปิหกํ ปปฺผาสนฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ, วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ, ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสาติ วตฺตพฺพํ.
ตโต มตฺถลุงฺคปฺจเก อนฺตํ อนฺตคุณํ อุทริยํ กรีสํ มตฺถลุงฺคนฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ, ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ, วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ, ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสาติ วตฺตพฺพํ.
ตโต เมทฉกฺเก ปิตฺตํ เสมฺหํ ปุพฺโพ โลหิตํ เสโท เมโทติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ, มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ, ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ, วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ, ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสาติ วตฺตพฺพํ.
ตโต มุตฺตฉกฺเก อสฺสุ วสา เขโฬ สิงฺฆาณิกา ลสิกา มุตฺตนฺติ วตฺวา ปุน ปฏิโลมโต มุตฺตํ ลสิกา สิงฺฆาณิกา เขโฬ วสา อสฺสุ, เมโท เสโท โลหิตํ ปุพฺโพ เสมฺหํ ปิตฺตํ, มตฺถลุงฺคํ กรีสํ อุทริยํ อนฺตคุณํ อนฺตํ, ปปฺผาสํ ปิหกํ กิโลมกํ ยกนํ หทยํ, วกฺกํ อฏฺิมิฺชํ อฏฺิ นฺหารุ มํสํ, ตโจ ทนฺตา นขา โลมา เกสาติ วตฺตพฺพํ.
เอวํ ¶ ¶ กาลสตํ กาลสหสฺสํ กาลสตสหสฺสมฺปิ วาจาย สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาเยน หิ กมฺมฏฺานตนฺติ ปคุณา โหติ, น อิโต จิโต จ จิตฺตํ วิธาวติ. โกฏฺาสา ปากฏา โหนฺติ, หตฺถสงฺขลิกา วิย วติปาทปนฺติ วิย จ ขายนฺติ.
ยถา ปน วจสา, ตเถว มนสาปิ สชฺฌาโย กาตพฺโพ. วจสา สชฺฌาโย หิ มนสา สชฺฌายสฺส ปจฺจโย โหติ. มนสา สชฺฌาโย ลกฺขณปฏิเวธสฺส ปจฺจโย โหติ.
วณฺณโตติ เกสาทีนํ วณฺโณ ววตฺถเปตพฺโพ.
สณฺานโตติ เตสฺเว สณฺานํ ววตฺถเปตพฺพํ.
ทิสโตติ อิมสฺมึ หิ สรีเร นาภิโต อุทฺธํ อุปริมทิสา, อโธ เหฏฺิมทิสา, ตสฺมา อยํ โกฏฺาโส อิมิสฺสา นาม ทิสายาติ ทิสา ววตฺถเปตพฺพา.
โอกาสโตติ อยํ โกฏฺาโส อิมสฺมึ นาม โอกาเส ปติฏฺิโตติ เอวํ ตสฺส ตสฺส โอกาโส ววตฺถเปตพฺโพ.
ปริจฺเฉทโตติ สภาคปริจฺเฉโท วิสภาคปริจฺเฉโทติ ทฺเว ปริจฺเฉทา. ตตฺถ อยํ โกฏฺาโส เหฏฺา จ อุปริ จ ติริยฺจ อิมินา นาม ปริจฺฉินฺโนติ เอวํ สภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. เกสา น โลมา, โลมาปิ น เกสาติ เอวํ อมิสฺสกตาวเสน วิสภาคปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ.
เอวํ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขนฺเตน ปน อิทํ กมฺมฏฺานํ อสุกสฺมึ สุตฺเต ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ, อสุกสฺมึ ธาตุวเสนาติ ตฺวา อาจิกฺขิตพฺพํ. อิทฺหิ มหาสติปฏฺาเน (ที. นิ. ๒.๓๗๗) ปฏิกฺกูลวเสเนว กถิตํ. มหาหตฺถิปโทปม(ม. นิ. ๑.๓๐๐ อาทโย) มหาราหุโลวาท(ม. นิ. ๒.๑๑๓ อาทโย) ธาตุวิภงฺเคสุ(ม. นิ. ๓.๓๔๒ อาทโย) ธาตุวเสน กถิตํ. กายคตาสติสุตฺเต (ม. นิ. ๓.๑๕๓) ปน ยสฺส วณฺณโต อุปฏฺาติ, ตํ สนฺธาย จตฺตาริ ฌานานิ วิภตฺตานิ. ตตฺถ ธาตุวเสน กถิตํ วิปสฺสนากมฺมฏฺานํ ¶ โหติ. ปฏิกฺกูลวเสน กถิตํ สมถกมฺมฏฺานํ. ตเทตํ อิธ สมถกมฺมฏฺานเมวาติ.
๑๘๑. เอวํ ¶ สตฺตธา อุคฺคหโกสลฺลํ อาจิกฺขิตฺวา อนุปุพฺพโต, นาติสีฆโต, นาติสณิกโต, วิกฺเขปปฏิพาหนโต, ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโต, อนุปุพฺพมฺุจนโต, อปฺปนาโต, ตโย จ สุตฺตนฺตาติ เอวํ ทสธา มนสิการโกสลฺลํ อาจิกฺขิตพฺพํ. ตตฺถ อนุปุพฺพโตติ อิทฺหิ สชฺฌายกรณโต ปฏฺาย อนุปฏิปาฏิยา มนสิกาตพฺพํ, น เอกนฺตริกาย. เอกนฺตริกาย หิ มนสิกโรนฺโต ยถา นาม อกุสโล ปุริโส ทฺวตฺตึสปทํ นิสฺเสณึ เอกนฺตริกาย อาโรหนฺโต กิลนฺตกาโย ปตติ, น อาโรหนํ สมฺปาเทติ, เอวเมว ภาวนาสมฺปตฺติวเสน อธิคนฺตพฺพสฺส อสฺสาทสฺส อนธิคมา กิลนฺตจิตฺโต ปตติ, น ภาวนํ สมฺปาเทติ.
อนุปุพฺพโต มนสิกโรนฺเตนาปิ จ นาติสีฆโต มนสิกาตพฺพํ. อติสีฆโต มนสิกโรโต หิ ยถา นาม ติโยชนมคฺคํ ปฏิปชฺชิตฺวา โอกฺกมนวิสฺสชฺชนํ อสลฺลกฺเขตฺวา สีเฆน ชเวน สตกฺขตฺตุมฺปิ คมนาคมนํ กโรโต ปุริสสฺส กิฺจาปิ อทฺธานํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อถ โข ปุจฺฉิตฺวาว คนฺตพฺพํ โหติ, เอวเมว เกวลํ กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ ปาปุณาติ, อวิภูตํ ปน โหติ, น วิเสสํ อาวหติ, ตสฺมา นาติสีฆโต มนสิกาตพฺพํ.
ยถา จ นาติสีฆโต, เอวํ นาติสณิกโตปิ. อติสณิกโต มนสิกโรโต หิ ยถา นาม ตทเหว ติโยชนมคฺคํ คนฺตุกามสฺส ปุริสสฺส อนฺตรามคฺเค รุกฺขปพฺพตตฬากาทีสุ วิลมฺพมานสฺส มคฺโค ปริกฺขยํ น คจฺฉติ, ทฺวีหตีเหน ปริโยสาเปตพฺโพ โหติ, เอวเมว กมฺมฏฺานํ ปริโยสานํ น คจฺฉติ, วิเสสาธิคมสฺส ปจฺจโย น โหติ.
วิกฺเขปปฏิพาหนโตติ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ เจตโส วิกฺเขโป ปฏิพาหิตพฺโพ. อปฺปฏิพาหโต หิ ยถา นาม เอกปทิกํ ปปาตมคฺคํ ปฏิปนฺนสฺส ปุริสสฺส อกฺกมนปทํ อสลฺลกฺเขตฺวา อิโต จิโต จ วิโลกยโต ปทวาโร วิรชฺฌติ, ตโต สตโปริเส ปปาเต ปติตพฺพํ โหติ, เอวเมว พหิทฺธา วิกฺเขเป สติ กมฺมฏฺานํ ปริหายติ ปริธํสติ. ตสฺมา วิกฺเขปปฏิพาหนโต มนสิกาตพฺพํ.
ปณฺณตฺติสมติกฺกมนโตติ ¶ ¶ ยายํ เกสา โลมาติอาทิกา ปณฺณตฺติ, ตํ อติกฺกมิตฺวา ปฏิกฺกูลนฺติ จิตฺตํ เปตพฺพํ. ยถา หิ อุทกทุลฺลภกาเล มนุสฺสา อรฺเ อุทปานํ ทิสฺวา ตตฺถ ตาลปณฺณาทิกํ กิฺจิเทว สฺาณํ พนฺธิตฺวา เตน สฺาเณน อาคนฺตฺวา นฺหายนฺติ เจว ปิวนฺติ จ. ยทา ปน เนสํ อภิณฺหสฺจาเรน อาคตาคตปทํ ปากฏํ โหติ, ตทา สฺาเณน กิจฺจํ น โหติ, อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ คนฺตฺวา นฺหายนฺติ เจว ปิวนฺติ จ, เอวเมว ปุพฺพภาเค เกสา โลมาติปณฺณตฺติวเสน มนสิกโรโต ปฏิกฺกูลภาโว ปากโฏ โหติ. อถ เกสา โลมาติปณฺณตฺตึ สมติกฺกมิตฺวา ปฏิกฺกูลภาเวเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ.
อนุปุพฺพมฺุจนโตติ โย โย โกฏฺาโส น อุปฏฺาติ, ตํ ตํ มฺุจนฺเตน อนุปุพฺพมฺุจนโต มนสิกาตพฺพํ. อาทิกมฺมิกสฺส หิ เกสาติ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา มุตฺตนฺติ อิมํ ปริโยสานโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. มุตฺตนฺติ จ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา เกสาติ อิมํ อาทิโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺติ. อถสฺส มนสิกโรโต มนสิกโรโต เกจิ โกฏฺาสา อุปฏฺหนฺติ, เกจิ น อุปฏฺหนฺติ. เตน เย เย อุปฏฺหนฺติ, เตสุ เตสุ ตาว กมฺมํ กาตพฺพํ. ยาว ทฺวีสุ อุปฏฺิเตสุ เตสมฺปิ เอโก สุฏฺุตรํ อุปฏฺหติ, เอวํ อุปฏฺิตํ ปน ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกโรนฺเตน อปฺปนา อุปฺปาเทตพฺพา.
ตตฺรายํ อุปมา – ยถา หิ ทฺวตฺตึสตาลเก ตาลวเน วสนฺตํ มกฺกฏํ คเหตุกาโม ลุทฺโท อาทิมฺหิ ิตตาลสฺส ปณฺณํ สเรน วิชฺฌิตฺวา อุกฺกุฏฺึ กเรยฺย, อถ โข โส มกฺกโฏ ปฏิปาฏิยา ตสฺมึ ตสฺมึ ตาเล ปติตฺวา ปริยนฺตตาลเมว คจฺเฉยฺย, ตตฺถปิ คนฺตฺวา ลุทฺเทน ตเถว กเต ปุน เตเนว นเยน อาทิตาลํ อาคจฺเฉยฺย, โส เอวํ ปุนปฺปุนํ ปริปาติยมาโน อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเนเยว อุฏฺหิตฺวา อนุกฺกเมน เอกสฺมึ ตาเล นิปติตฺวา ตสฺส เวมชฺเฌ มกุฬตาลปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา วิชฺฌิยมาโนปิ น อุฏฺเหยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ.
ตตฺริทํ โอปมฺมสํสนฺทนํ – ยถา หิ ตาลวเน ทฺวตฺตึสตาลา, เอวํ อิมสฺมึ กาเย ทฺวตฺตึสโกฏฺาสา. มกฺกโฏ วิย จิตฺตํ. ลุทฺโท วิย โยคาวจโร. มกฺกฏสฺส ทฺวตฺตึสตาลเก ตาลวเน นิวาโส วิย โยคิโน ¶ จิตฺตสฺส ทฺวตฺตึสโกฏฺาสเก กาเย อารมฺมณวเสน อนุสฺจรณํ. ลุทฺเทน อาทิมฺหิ ิตตาลสฺส ปณฺณํ สเรน วิชฺฌิตฺวา อุกฺกุฏฺิยา กตาย มกฺกฏสฺส ตสฺมึ ตสฺมึ ตาเล ปติตฺวา ปริยนฺตตาลคมนํ วิย โยคิโน เกสาติ มนสิกาเร อารทฺเธ ¶ ปฏิปาฏิยา คนฺตฺวา ปริโยสานโกฏฺาเสเยว จิตฺตสฺส สณฺานํ. ปุน ปจฺจาคมเนปิ เอเสว นโย. ปุนปฺปุนํ ปริปาติยมานสฺส มกฺกฏสฺส อุกฺกุฏฺุกฺกุฏฺิฏฺาเน อุฏฺานํ วิย ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต เกสุจิ เกสุจิ อุปฏฺิเตสุ อนุปฏฺหนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา อุปฏฺิเตสุ ปริกมฺมกรณํ. อนุกฺกเมน เอกสฺมึ ตาเล นิปติตฺวา ตสฺส มชฺเฌ มกุฬตาลปณฺณสูจึ ทฬฺหํ คเหตฺวา วิชฺฌิยมานสฺสปิ อนุฏฺานํ วิย อวสาเน ทฺวีสุ อุปฏฺิเตสุ โย สุฏฺุตรํ อุปฏฺาติ, ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกริตฺวา อปฺปนาย อุปฺปาทนํ.
อปราปิ อุปมา – ยถา นาม ปิณฺฑปาติโก ภิกฺขุ ทฺวตฺตึสกุลํ คามํ อุปนิสฺสาย วสนฺโต ปมเคเหเยว ทฺเว ภิกฺขา ลภิตฺวา ปรโต เอกํ วิสฺสชฺเชยฺย. ปุนทิวเส ติสฺโส ลภิตฺวา ปรโต ทฺเว วิสฺสชฺเชยฺย. ตติยทิวเส อาทิมฺหิเยว ปตฺตปูรํ ลภิตฺวา อาสนสาลํ คนฺตฺวา ปริภฺุเชยฺย. เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. ทฺวตฺตึสกุลคาโม วิย หิ ทฺวตฺตึสากาโร. ปิณฺฑปาติโก วิย โยคาวจโร. ตสฺส ตํ คามํ อุปนิสฺสาย วาโส วิย โยคิโน ทฺวตฺตึสากาเร ปริกมฺมกรณํ. ปมเคเห ทฺเว ภิกฺขา ลภิตฺวา ปรโต เอกิสฺสา วิสฺสชฺชนํ วิย ทุติยทิวเส ติสฺโส ลภิตฺวา ปรโต ทฺวินฺนํ วิสฺสชฺชนํ วิย จ มนสิกโรโต มนสิกโรโต อนุปฏฺหนฺเต วิสฺสชฺเชตฺวา อุปฏฺิเตสุ ยาว โกฏฺาสทฺวเย ปริกมฺมกรณํ. ตติยทิวเส อาทิมฺหิเยว ปตฺตปูรํ ลภิตฺวา อาสนสาลายํ นิสีทิตฺวา ปริโภโค วิย ทฺวีสุ โย สุฏฺุตรํ อุปฏฺาติ, ตเมว ปุนปฺปุนํ มนสิกริตฺวา อปฺปนาย อุปฺปาทนํ.
อปฺปนาโตติ อปฺปนาโกฏฺาสโต เกสาทีสุ เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส อปฺปนา โหตีติ เวทิตพฺพาติ อยเมเวตฺถ อธิปฺปาโย.
ตโย จ สุตฺตนฺตาติ อธิจิตฺตํ, สีติภาโว, โพชฺฌงฺคโกสลฺลนฺติ อิเม ตโย สุตฺตนฺตา วีริยสมาธิโยชนตฺถํ เวทิตพฺพาติ อยเมตฺถ อธิปฺปาโย. ตตฺถ –
‘‘อธิจิตฺตมนุยุตฺเตน ¶ , ภิกฺขเว, ภิกฺขุนา ตีณิ นิมิตฺตานิ กาเลนกาลํ มนสิกาตพฺพานิ. กาเลนกาลํ สมาธินิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. กาเลนกาลํ ปคฺคหนิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. กาเลนกาลํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ สมาธินิมิตฺตฺเว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ ¶ จิตฺตํ โกสชฺชาย สํวตฺเตยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ ปคฺคหนิมิตฺตฺเว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ อุทฺธจฺจาย สํวตฺเตยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ เอกนฺตํ อุเปกฺขานิมิตฺตฺเว มนสิกเรยฺย, านํ ตํ จิตฺตํ น สมฺมา สมาธิเยยฺย อาสวานํ ขยาย. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺโต ภิกฺขุ กาเลนกาลํ สมาธินิมิตฺตํ ปคฺคหนิมิตฺตํ อุเปกฺขานิมิตฺตํ มนสิกโรติ, ตํ โหติ จิตฺตํ มุทฺุจ กมฺมฺฺจ ปภสฺสรฺจ, น จ ปภงฺคุ, สมฺมา สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย.
‘‘เสยฺยถาปิ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา อุกฺกํ พนฺธติ, อุกฺกํ พนฺธิตฺวา อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปติ, อุกฺกามุขํ อาลิมฺเปตฺวา สณฺฑาเสน ชาตรูปํ คเหตฺวา อุกฺกามุเข ปกฺขิปิตฺวา กาเลนกาลํ อภิธมติ, กาเลนกาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสติ, กาเลนกาลํ อชฺฌุเปกฺขติ. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อภิธเมยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ ฑเหยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อุทเกน ปริปฺโผเสยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ นิพฺพาเยยฺย. สเจ, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ เอกนฺตํ อชฺฌุเปกฺเขยฺย, านํ ตํ ชาตรูปํ น สมฺมา ปริปากํ คจฺเฉยฺย. ยโต จ โข, ภิกฺขเว, สุวณฺณกาโร วา สุวณฺณการนฺเตวาสี วา ตํ ชาตรูปํ กาเลนกาลํ อภิธมติ, กาเลนกาลํ อุทเกน ปริปฺโผเสติ, กาเลนกาลํ อชฺฌุเปกฺขติ, ตํ โหติ ชาตรูปํ มุทฺุจ กมฺมฺฺจ ปภสฺสรฺจ, น จ ปภงฺคุ, สมฺมา อุเปติ กมฺมาย. ยสฺสา ยสฺสา จ ปิฬนฺธนวิกติยา อากงฺขติ ยทิ ปฏิกาย ยทิ กุณฺฑลาย ยทิ ¶ คีเวยฺยาย ยทิ สุวณฺณมาลาย, ตฺจสฺส อตฺถํ อนุโภติ.
‘‘เอวเมว โข, ภิกฺขเว, อธิจิตฺตมนุยุตฺเตน…เป… สมาธิยติ อาสวานํ ขยาย. ยสฺส ยสฺส จ อภิฺา สจฺฉิ กรณียสฺส ธมฺมสฺส จิตฺตํ อภินินฺนาเมติ อภิฺา สจฺฉิ กิริยาย, ตตฺร ตตฺเรว สกฺขิภพฺพตํ ปาปุณาติ สติ สติ อายตเน’’ติ (อ. นิ. ๓.๑๐๓).
อิทํ ¶ สุตฺตํ อธิจิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
‘‘ฉหิ, ภิกฺขเว, ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุํ. กตเมหิ ฉหิ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ นิคฺคณฺหาติ. ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคเหตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ ปคฺคณฺหาติ. ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํสิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ สมฺปหํเสติ. ยสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ, ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขติ. ปณีตาธิมุตฺติโก จ โหติ นิพฺพานาภิรโต. อิเมหิ โข, ภิกฺขเว, ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ภพฺโพ อนุตฺตรํ สีติภาวํ สจฺฉิกาตุ’’นฺติ (อ. นิ. ๖.๘๕).
อิทํ สุตฺตํ อนุตฺตรํ สีติภาโวติ เวทิตพฺพํ.
โพชฺฌงฺคโกสลฺลํ ‘‘ปน เอวเมว โข, ภิกฺขเว, ยสฺมึ สมเย ลีนํ จิตฺตํ โหติ, อกาโล ตสฺมึ สมเย ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส ภาวนายา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๒๓๔) อปฺปนาโกสลฺลกถายํ ทสฺสิตเมว.
อิติ อิทํ สตฺตวิธํ อุคฺคหโกสลฺลํ สุคฺคหิตํ กตฺวา อิทฺจ ทสวิธํ มนสิการโกสลฺลํ สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา เตน โยคินา อุภยโกสลฺลวเสน กมฺมฏฺานํ สาธุกํ อุคฺคเหตพฺพํ. สเจ ปนสฺส อาจริเยน สทฺธึ เอกวิหาเรเยว ผาสุ โหติ, เอวํ วิตฺถาเรน อกถาเปตฺวา กมฺมฏฺานํ สุฏฺุ ววตฺถเปตฺวา กมฺมฏฺานํ อนุยุชฺชนฺเตน วิเสสํ ลภิตฺวา อุปรูปริ กถาเปตพฺพํ. อฺตฺถ วสิตุกาเมน ยถาวุตฺเตน วิธินา วิตฺถารโต กถาเปตฺวา ปุนปฺปุนํ ปริวตฺเตตฺวา สพฺพํ คณฺิฏฺานํ ฉินฺทิตฺวา ปถวีกสิณนิทฺเทเส วุตฺตนเยเนว อนนุรูปํ เสนาสนํ ปหาย อนุรูเป ¶ วิหาเร วสนฺเตน ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉทํ กตฺวา ปฏิกฺกูลมนสิกาเร ปริกมฺมํ กาตพฺพํ.
กโรนฺเตน ปน เกเสสุ ตาว นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. กถํ? เอกํ วา ทฺเว วา เกเส ลฺุจิตฺวา หตฺถตเล เปตฺวา วณฺโณ ตาว ววตฺถเปตพฺโพ. ฉินฺนฏฺาเนปิ เกเส โอโลเกตุํ วฏฺฏติ. อุทกปตฺเต วา ยาคุปตฺเต วา โอโลเกตุมฺปิ วฏฺฏติเยว. กาฬกกาเล ทิสฺวา กาฬกาติ มนสิกาตพฺพา ¶ . เสตกาเล เสตาติ. มิสฺสกกาเล ปน อุสฺสทวเสน มนสิกาตพฺพา โหนฺติ. ยถา จ เกเสสุ, เอวํ สกเลปิ ตจปฺจเก ทิสฺวาว นิมิตฺตํ คเหตพฺพํ.
โกฏฺาสววตฺถาปนกถา
๑๘๒. เอวํ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สพฺพโกฏฺาเส วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ววตฺถเปตฺวา วณฺณสณฺานคนฺธอาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลโต ววตฺถเปตพฺพา.
ตตฺรายํ สพฺพโกฏฺาเสสุ อนุปุพฺพกถา. เกสา ตาว ปกติวณฺเณน กาฬกา อทฺทาริฏฺกวณฺณา. สณฺานโต ทีฆวฏฺฏลิกา ตุลาทณฺฑสณฺานา. ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตา. โอกาสโต อุโภสุ ปสฺเสสุ กณฺณจูฬิกาหิ, ปุรโต นลาฏนฺเตน, ปจฺฉโต คลวาฏเกน ปริจฺฉินฺนา. สีสกฏาหเวนํ อลฺลจมฺมํ เกสานํ โอกาโส. ปริจฺเฉทโต เกสา สีสเวนจมฺเม วีหคฺคมตฺตํ ปวิสิตฺวา ปติฏฺิเตน เหฏฺา อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, ทฺเว เกสา เอกโต นตฺถีติ อยํ สภาคปริจฺเฉโท. เกสา น โลมา, โลมา น เกสาติ เอวํ อวเสสเอกตึสโกฏฺาเสหิ อมิสฺสีกตา เกสา นาม ปาฏิเยกฺโก เอกโกฏฺาโสติ อยํ วิสภาคปริจฺเฉโท. อิทํ เกสานํ วณฺณาทิโต ววตฺถาปนํ.
๑๘๓. อิทํ ปน เนสํ วณฺณาทิวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลโต ววตฺถาปนํ. เกสา นาเมเต วณฺณโตปิ ปฏิกฺกูลา. สณฺานโตปิ คนฺธโตปิ อาสยโตปิ โอกาสโตปิ ปฏิกฺกูลา.
มนฺุเปิ ¶ หิ ยาคุปตฺเต วา ภตฺตปตฺเต วา เกสวณฺณํ กิฺจิ ทิสฺวา เกสมิสฺสกมิทํ หรถ นนฺติ ชิคุจฺฉนฺติ. เอวํ เกสา วณฺณโต ปฏิกฺกูลา. รตฺตึ ภฺุชนฺตาปิ เกสสณฺานํ อกฺกวากํ วา มกจิวากํ วา ฉุปิตฺวาปิ ตเถว ชิคุจฺฉนฺติ. เอวํ สณฺานโต ปฏิกฺกูลา.
เตลมกฺขนปุปฺผธูปาทิ สงฺขารวิรหิตานฺจ เกสานํ คนฺโธ ปรมเชคุจฺโฉ โหติ. ตโต เชคุจฺฉตโร อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตานํ. เกสา หิ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกฺกูลาปิ สิยุํ, คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลาเยว. ยถา หิ ทหรสฺส กุมารสฺส วจฺจํ วณฺณโต หลิทฺทิวณฺณํ, สณฺานโตปิ หลิทฺทิปิณฺฑสณฺานํ. สงฺการฏฺาเน ฉฑฺฑิตฺจ อุทฺธุมาตกกาฬสุนขสรีรํ วณฺณโต ตาลปกฺกวณฺณํ ¶ . สณฺานโต วฏฺเฏตฺวา วิสฺสฏฺมุทิงฺคสณฺานํ. ทาาปิสฺส สุมนมกุฬสทิสาติ อุภยมฺปิ วณฺณสณฺานโต สิยา อปฺปฏิกฺกูลํ คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลเมว. เอวํ เกสาปิ สิยุํ วณฺณสณฺานโต อปฺปฏิกฺกูลา คนฺเธน ปน ปฏิกฺกูลาเยวาติ.
ยถา ปน อสุจิฏฺาเน คามนิสฺสนฺเทน ชาตานิ สูเปยฺยปณฺณานิ นาคริกมนุสฺสานํ เชคุจฺฉานิ โหนฺติ อปริโภคานิ, เอวํ เกสาปิ ปุพฺพโลหิตมุตฺตกรีสปิตฺตเสมฺหาทินิสฺสนฺเทน ชาตตฺตา เชคุจฺฉาติ อิทํ เนสํ อาสยโต ปาฏิกฺกุลฺยํ.
อิเม จ เกสา นาม คูถราสิมฺหิ อุฏฺิตกณฺณิกํ วิย เอกตึสโกฏฺาสราสิมฺหิ ชาตา. เต สุสานสงฺการฏฺานาทีสุ ชาตสากํ วิย ปริกฺขาทีสุ ชาตกมลกุวลยาทิปุปฺผํ วิย จ อสุจิฏฺาเน ชาตตฺตา ปรมเชคุจฺฉาติ อิทํ เนสํ โอกาสโต ปาฏิกฺกุลฺยํ.
ยถา จ เกสานํ, เอวํ สพฺพโกฏฺาสานํ วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลตา เวทิตพฺพา. วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ปน สพฺเพปิ วิสุํ วิสุํ ววตฺถเปตพฺพา.
๑๘๔. ตตฺถ โลมา ตาว ปกติวณฺณโต น เกสา วิย อสมฺภินฺนกาฬกา, กาฬปิงฺคลา ปน โหนฺติ. สณฺานโต โอนตคฺคา ตาลมูลสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต เปตฺวา เกสานํ ปติฏฺิโตกาสฺจ หตฺถปาทตลานิ จ เยภุยฺเยน อวเสสสรีรเวนจมฺเม ชาตา. ปริจฺเฉทโต สรีรเวนจมฺเม ลิขามตฺตํ ปวิสิตฺวา ¶ ปติฏฺิเตน เหฏฺา อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, ทฺเว โลมา เอกโต นตฺถิ, อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๘๕. นขาติ วีสติยา นขปตฺตานํ นามํ. เต สพฺเพปิ วณฺณโต เสตา. สณฺานโต มจฺฉสกลิกสณฺานา. ทิสโต ปาทนขา เหฏฺิมทิสาย, หตฺถนขา อุปริมทิสายาติ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต องฺคุลีนํ อคฺคปิฏฺเสุ ปติฏฺิตา. ปริจฺเฉทโต ทฺวีสุ ทิสาสุ องฺคุลิโกฏิมํเสหิ, อนฺโต องฺคุลิปิฏฺิมํเสน, พหิ เจว อคฺเค จ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ¶ ปริจฺฉินฺนา, ทฺเว นขา เอกโต นตฺถิ, อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๘๖. ทนฺตาติ ปริปุณฺณทนฺตสฺส ทฺวตฺตึส ทนฺตฏฺิกานิ. เตปิ วณฺณโต เสตา. สณฺานโต อเนกสณฺานา. เตสํ หิ เหฏฺิมาย ตาว ทนฺตปาฬิยา มชฺเฌ จตฺตาโร ทนฺตา มตฺติกาปิณฺเฑ ปฏิปาฏิยา ปิตอลาพุพีชสณฺานา. เตสํ อุโภสุ ปสฺเสสุ เอเกโก เอกมูลโก เอกโกฏิโก มลฺลิกมกุฬสณฺาโน. ตโต เอเกโก ทฺวิมูลโก ทฺวิโกฏิโก ยานกอุปตฺถมฺภินิสณฺาโน. ตโต ทฺเว ทฺเว ติมูลา ติโกฏิกา. ตโต ทฺเว ทฺเว จตุมูลา จตุโกฏิกาติ. อุปริมปาฬิยาปิ เอเสว นโย. ทิสโต อุปริมทิสาย ชาตา. โอกาสโต ทฺวีสุ หนุกฏฺิเกสุ ปติฏฺิตา. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา หนุกฏฺิเก ปติฏฺิเตน อตฺตโน มูลตเลน, อุปริ อากาเสน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, ทฺเว ทนฺตา เอกโต นตฺถิ, อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๘๗. ตโจติ สกลสรีรํ เวเตฺวา ิตจมฺมํ. ตสฺส อุปริ กาฬสามปีตาทิวณฺณา ฉวิ นาม ยา สกลสรีรโตปิ สงฺกฑฺฒิยมานา พทรฏฺิมตฺตา โหติ. ตโจ ปน วณฺณโต เสโตเยว. โส จสฺส เสตภาโว อคฺคิชาลาภิฆาตปหรณปฺปหาราทีหิ วิทฺธํสิตาย ฉวิยา ปากโฏ โหติ. สณฺานโต สรีรสณฺาโนว โหติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป.
วิตฺถารโต ¶ ปน ปาทงฺคุลิตฺตโจ โกสการกโกสสณฺาโน. ปิฏฺิปาทตฺตโจ ปุฏพนฺธอุปาหนสณฺาโน. ชงฺฆตฺตโจ ภตฺตปุฏกตาลปณฺณสณฺาโน. อูรุตฺตโจ ตณฺฑุลภริตทีฆตฺถวิกสณฺาโน. อานิสทตฺตโจ อุทกปูริตปฏปริสฺสาวนสณฺาโน. ปิฏฺิตฺตโจ ผลโกนทฺธจมฺมสณฺาโน. กุจฺฉิตฺตโจ วีณาโทณิโกนทฺธจมฺมสณฺาโน. อุรตฺตโจ เยภุยฺเยน จตุรสฺสสณฺาโน. อุภยพาหุตฺตโจ ตูณิโรนทฺธจมฺมสณฺาโน. ปิฏฺิหตฺถตฺตโจ ขุรโกสสณฺาโน, ผณกตฺถวิกสณฺาโน วา. หตฺถงฺคุลิตฺตโจ กฺุจิกาโกสกสณฺาโน. คีวตฺตโจ คลกฺจุกสณฺาโน. มุขตฺตโจ ฉิทฺทาวฉิทฺโท กีฏกุลาวกสณฺาโน. สีสตฺตโจ ปตฺตตฺถวิกสณฺาโนติ.
ตจปริคฺคณฺหเกน จ โยคาวจเรน อุตฺตโรฏฺโต ปฏฺาย อุปริมุขํ าณํ เปเสตฺวา ปมํ ตาว ¶ มุขํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตจมฺมํ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต นลาฏฏฺิจมฺมํ. ตโต ถวิกาย ปกฺขิตฺตปตฺตสฺส จ ถวิกาย จ อนฺตเรน หตฺถมิว สีสฏฺิกสฺส จ สีสจมฺมสฺส จ อนฺตเรน าณํ เปเสตฺวา อฏฺิเกน สทฺธึ จมฺมสฺส เอกาพทฺธภาวํ วิโยเชนฺเตน สีสจมฺมํ ววตฺถเปตพฺพํ. ตโต ขนฺธจมฺมํ. ตโต อนุโลเมน ปฏิโลเมน จ ทกฺขิณหตฺถจมฺมํ. อถ เตเนว นเยน วามหตฺถจมฺมํ. ตโต ปิฏฺิจมฺมํ ตํ ววตฺถเปตฺวา อนุโลเมน ปฏิโลเมน จ ทกฺขิณปาทจมฺมํ. อถ เตเนว นเยน วามปาทจมฺมํ. ตโต อนุกฺกเมเนว วตฺถิอุทรหทยคีวจมฺมานิ ววตฺถเปตพฺพานิ. อถ คีวจมฺมานนฺตรํ เหฏฺิมหนุจมฺมํ ววตฺถเปตฺวา อธโรฏฺปริโยสานํ ปาเปตฺวา นิฏฺเปตพฺพํ. เอวํ โอฬาริโกฬาริกํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุขุมมฺปิ ปากฏํ โหติ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต สกลสรีรํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิโต. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา ปติฏฺิตตเลน, อุปริ อากาเสน ปริจฺฉินฺโน, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๘๘. มํสนฺติ นว มํสเปสิสตานิ. ตํ สพฺพมฺปิ วณฺณโต รตฺตํ กึสุกปุปฺผสทิสํ. สณฺานโต ชงฺฆปิณฺฑิกมํสํ ตาลปณฺณปุฏภตฺตสณฺานํ. อูรุมํสํ นิสทโปตสณฺานํ. อานิสทมํสํ อุทฺธนโกฏิสณฺานํ. ปิฏฺิมํสํ ตาลคุฬปฏลสณฺานํ. ผาสุกทฺวยมํสํ โกฏฺลิกาย กุจฺฉิยํ ตนุมตฺติกาเลปสณฺานํ. ถนมํสํ วฏฺเฏตฺวา อวกฺขิตฺตมตฺติกาปิณฺฑสณฺานํ. พาหุทฺวยมํสํ ¶ ทฺวิคุณํ กตฺวา ปิตนิจฺจมฺมมหามูสิกสณฺานํ. เอวํ โอฬาริโกฬาริกํ ปริคฺคณฺหนฺตสฺส สุขุมมฺปิ ปากฏํ โหติ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต วีสาธิกานิ ตีณิ อฏฺิสตานิ อนุลิมฺปิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา อฏฺิสงฺฆาเต ปติฏฺิตตเลน, อุปริ ตเจน, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๘๙. นฺหารูติ นว นฺหารุสตานิ. วณฺณโต สพฺเพปิ นฺหารู เสตา. สณฺานโต นานาสณฺานา. เอเตสุ หิ คีวาย อุปริมภาคโต ปฏฺาย ปฺจ มหานฺหารู สรีรํ วินนฺธมานา ปุริมปสฺเสน โอติณฺณา. ปฺจ ปจฺฉิมปสฺเสน. ปฺจ ทกฺขิณปสฺเสน. ปฺจ วามปสฺเสน. ทกฺขิณหตฺถํ วินนฺธมานาปิ หตฺถสฺส ปุริมปสฺเสน ปฺจ. ปจฺฉิมปสฺเสน ปฺจ. ตถา วามหตฺถํ วินนฺธมานา. ทกฺขิณปาทํ วินนฺธมานาปิ ปาทสฺส ปุริมปสฺเสน ปฺจ. ปจฺฉิมปสฺเสน ปฺจ. ตถา วามปาทํ วินนฺธมานาปีติ เอวํ สรีรธารกา นาม สฏฺิมหานฺหารู กายํ วินนฺธมานา โอติณฺณา ¶ . เย กณฺฑราติปิ วุจฺจนฺติ. เต สพฺเพปิ กนฺทลมกุฬสณฺานา. อฺเ ปน ตํ ตํ ปเทสํ อชฺโฌตฺถริตฺวา ิตา. ตโต สุขุมตรา สุตฺตรชฺชุกสณฺานา. อฺเ ตโต สุขุมตรา ปูติลตาสณฺานา, อฺเ ตโต สุขุมตรา มหาวีณาตนฺติสณฺานา. อฺเ ถูลสุตฺตกสณฺานา. หตฺถปาทปิฏฺีสุ นฺหารู สกุณปาทสณฺานา. สีเส นฺหารู ทารกานํ สีสชาลกสณฺานา. ปิฏฺิยํ นฺหารู อาตเป ปสาริตอลฺลชาลสณฺานา. อวเสสา ตํตํองฺคปจฺจงฺคานุคตา นฺหารู สรีเร ปฏิมุกฺกชาลกฺจุกสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต สกลสรีเร อฏฺีนิ อาพนฺธิตฺวา ิตา. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา ติณฺณํ อฏฺิสตานํ อุปริ ปติฏฺิตตเลหิ, อุปริ มํสจมฺมานิ อาหจฺจ ิตปฺปเทเสหิ, ติริยํ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนา, อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๐. อฏฺีติ เปตฺวา ทฺวตฺตึส ทนฺตฏฺีนิ อวเสสานิ จตุสฏฺิ หตฺถฏฺีนิ, จตุสฏฺิ ปาทฏฺีนิ, จตุสฏฺิ มํสนิสฺสิตานิ มุทุอฏฺีนิ, ทฺเว ปณฺหิกฏฺีนิ, เอเกกสฺมึ ปาเท ทฺเว ทฺเว โคปฺผกฏฺีนิ, ทฺเว ชงฺฆฏฺีนิ, เอกํ ชณฺณุกฏฺิ, เอกํ อูรุฏฺิ, ทฺเว กฏิฏฺีนิ, อฏฺารส ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ, จตุวีสติ ผาสุกฏฺีนิ, จุทฺทส อุรฏฺีนิ ¶ , เอกํ หทยฏฺิ, ทฺเว อกฺขกฏฺีนิ, ทฺเว โกฏฺฏฏฺีนิ, ทฺเว พาหุฏฺีนิ, ทฺเว ทฺเว อคฺคพาหุฏฺีนิ, สตฺต คีวฏฺีนิ, ทฺเว หนุกฏฺีนิ, เอกํ นาสิกฏฺิ, ทฺเว อกฺขิฏฺีนิ, ทฺเว กณฺณฏฺีนิ, เอกํ นลาฏฏฺิ. เอกํ มุทฺธฏฺิ, นว สีสกปาลฏฺีนีติ เอวํ ติมตฺตานิ อฏฺิสตานิ, ตานิ สพฺพานิปิ วณฺณโต เสตานิ. สณฺานโต นานาสณฺานานิ.
ตตฺถ หิ อคฺคปาทงฺคุลิอฏฺีนิ กตกพีชสณฺานานิ. ตทนนฺตรานิ มชฺฌปพฺพฏฺีนิ ปนสฏฺิสณฺานานิ. มูลปพฺพฏฺีนิ ปณวสณฺานานิ. ปิฏฺิปาทฏฺีนิ โกฏฺฏิตกนฺทลกนฺทราสิสณฺานานิ. ปณฺหิกฏฺิ เอกฏฺิตาลผลพีชสณฺานํ. โคปฺผกฏฺีนิ พทฺธกีฬาโคฬกสณฺานานิ. ชงฺฆฏฺีนํ โคปฺผกฏฺีสุ ปติฏฺิตฏฺานํ อปนีตตจสินฺทิกฬีรสณฺานํ. ขุทฺทกชงฺฆฏฺิกํ ธนุกทณฺฑสณฺานํ. มหนฺตํ มิลาตสปฺปปิฏฺิสณฺานํ. ชณฺณุกฏฺิ เอกโต ปริกฺขีณเผณกสณฺานํ. ตตฺถ ชงฺฆฏฺิกสฺส ปติฏฺิตฏฺานํ อติขิณคฺคโคสิงฺคสณฺานํ. อูรุฏฺิ ทุตฺตจฺฉิตวาสิปรสุทณฺฑสณฺานํ. ตสฺส กฏิฏฺิมฺหิ ปติฏฺิตฏฺานํ กีฬาโคฬกสณฺานํ. เตน กฏิฏฺิโน ปติฏฺิตฏฺานํ อคฺคจฺฉินฺนมหาปุนฺนาคผลสณฺานํ.
กฏิฏฺีนิ ¶ ทฺเวปิ เอกาพทฺธานิ หุตฺวา กุมฺภการิกอุทฺธนสณฺานานิ. ปาฏิเยกฺกํ กมฺมารกูฏโยตฺตกสณฺานานิ. โกฏิยํ ิตํ อานิสทฏฺิ อโธมุขํ กตฺวา คหิตสปฺปผณสณฺานํ, สตฺตฏฺฏฺาเนสุ ฉิทฺทาวฉิทฺทํ. ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ อพฺภนฺตรโต อุปรูปริ ปิตสีสปฏฺฏเวกสณฺานานิ. พาหิรโต วฏฺฏนาวฬิสณฺานานิ. เตสํ อนฺตรนฺตรา กกจทนฺตสทิสา ทฺเว ตโย กณฺฏกา โหนฺติ. จตุวีสติยา ผาสุกฏฺีสุ อปริปุณฺณานิ อปริปุณฺณอสิสณฺานานิ. ปริปุณฺณานิ ปริปุณฺณอสิสณฺานานิ. สพฺพานิปิ โอทาตกุกฺกุฏสฺส ปสาริตปกฺขสณฺานานิ. จุทฺทส อุรฏฺีนิ ชิณฺณสนฺทมานิกปฺชรสณฺานานิ. หทยฏฺิ ทพฺพิผณสณฺานํ.
อกฺขกฏฺีนิ ขุทฺทกโลหวาสิทณฺฑสณฺานานิ. โกฏฺฏฏฺีนิ เอกโต ปริกฺขีณสีหฬกุทฺทาลสณฺานานิ. พาหุฏฺีนิ อาทาสทณฺฑกสณฺานานิ. อคฺคพาหุฏฺีนิ ยมกตาลกนฺทสณฺานานิ. มณิพนฺธฏฺีนิ เอกโต อลฺลิยาเปตฺวา ปิตสีสกปฏฺฏเวกสณฺานานิ. ปิฏฺิหตฺถฏฺีนิ โกฏฺฏิตกนฺทลกนฺทราสิสณฺานานิ ¶ . หตฺถงฺคุลีสุ มูลปพฺพฏฺีนิ ปณวสณฺานานิ. มชฺฌปพฺพฏฺีนิ อปริปุณฺณปนสฏฺิสณฺานานิ. อคฺคปพฺพฏฺีนิ กตกพีชสณฺานานิ.
สตฺต คีวฏฺีนิ ทณฺเฑน วิชฺฌิตฺวา ปฏิปาฏิยา ปิตวํสกฬีรจกฺกลกสณฺานานิ. เหฏฺิมหนุกฏฺิ กมฺมารานํ อโยกูฏโยตฺตกสณฺานํ. อุปริมํ อวเลขนสตฺถกสณฺานํ. อกฺขิกูปนาสกูปฏฺีนิ อปนีตมิฺชตรุณตาลฏฺิสณฺานานิ. นลาฏฏฺิ อโธมุขฏฺปิตสงฺขถาลกกปาลสณฺานํ. กณฺณจูฬิกฏฺีนิ นฺหาปิตขุรโกสสณฺานานิ. นลาฏกณฺณจูฬิกานํ อุปริ ปฏฺฏพนฺธโนกาเส อฏฺิสงฺกุฏิตฆฏปุณฺณปฏลขณฺฑสณฺานํ. มุทฺธฏฺิ มุขจฺฉินฺนวงฺกนาฬิเกรสณฺานํ. สีสฏฺีนิ สิพฺเพตฺวา ปิตชชฺชรลาพุกฏาหสณฺานานิ.
ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตานิ. โอกาสโต อวิเสเสน สกลสรีเร ิตานิ. วิเสเสน ปเนตฺถ สีสฏฺีนิ คิวฏฺีสุ ปติฏฺิตานิ. คีวฏฺีนิ ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีสุ. ปิฏฺิกณฺฏกฏฺีนิ กฏิฏฺีสุ. กฏิฏฺีนิ อูรุฏฺีสุ. อูรุฏฺีนิ ชณฺณุกฏฺีสุ. ชณฺณุกฏฺีนิ ชงฺฆฏฺีสุ. ชงฺฆฏฺีนิ โคปฺผกฏฺีสุ. โคปฺผกฏฺีนิ ปิฏฺิปาทฏฺีสุ ปติฏฺิตานิ. ปริจฺเฉทโต อนฺโต อฏฺิมิฺเชน, อุปริโต มํเสน, อคฺเค มูเล จ อฺมฺเน ปริจฺฉินฺนานิ, อยํ เนสํ สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๑. อฏฺิมิฺชนฺติ ¶ เตสํ เตสํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตรคตํ มิฺชํ. ตํ วณฺณโต เสตํ. สณฺานโต มหนฺตมหนฺตานํ อฏฺีนํ อพฺภนฺตรคตํ เวฬุนาฬิยํ ปกฺขิตฺตเสทิตมหาเวตฺตคฺคสณฺานํ. ขุทฺทานุขุทฺทกานํ อพฺภนฺตรคตํ เวฬุยฏฺิปพฺเพสุ ปกฺขิตฺตเสทิตตนุเวตฺตคฺคสณฺานํ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อฏฺีนํ อพฺภนฺตเร ปติฏฺิตํ. ปริจฺเฉทโต อฏฺีนํ อพฺภนฺตรตเลหิ ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๒. วกฺกนฺติ เอกพนฺธนา ทฺเว มํสปิณฺฑิกา. ตํ วณฺณโต มนฺทรตฺตํ ปาฬิภทฺทกฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต ทารกานํ ยมกกีฬาโคฬกสณฺานํ, เอกวณฺฏปฏิพทฺธอมฺพผลทฺวยสณฺานํ วา. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต คลวาฏกา นิกฺขนฺเตน เอกมูเลน โถกํ คนฺตฺวา ทฺวิธา ¶ ภินฺเนน ถูลนฺหารุนา วินิพทฺธํ หุตฺวา หทยมํสํ ปริกฺขิปิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต วกฺกํ วกฺกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๓. หทยนฺติ หทยมํสํ. ตํ วณฺณโต รตฺตปทุมปตฺตปิฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต พาหิรปตฺตานิ อปเนตฺวา อโธมุขํ ปิตปทุมมกุฬสณฺานํ. พหิ มฏฺํ, อนฺโต โกสาตกีผลสฺส อพฺภนฺตรสทิสํ. ปฺวนฺตานํ โถกํ วิกสิตํ, มนฺทปฺานํ มกุฬิตเมว. อนฺโต จสฺส ปุนฺนาคฏฺิปติฏฺานมตฺโต อาวาฏโก โหติ, ยตฺถ อทฺธปสตมตฺตํ โลหิตํ สณฺาติ, ยํ นิสฺสาย มโนธาตุ จ มโนวิฺาณธาตุ จ วตฺตนฺติ. ตํ ปเนตํ ราคจริตสฺส รตฺตํ โหติ, โทสจริตสฺส กาฬกํ, โมหจริตสฺส มํสโธวนอุทกสทิสํ, วิตกฺกจริตสฺส กุลตฺถยูสวณฺณํ, สทฺธาจริตสฺส กณิการปุปฺผวณฺณํ, ปฺาจริตสฺส อจฺฉํ วิปฺปสนฺนํ อนาวิลํ ปณฺฑรํ ปริสุทฺธํ นิทฺโธตชาติมณิ วิย ชุติมนฺตํ ขายติ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ มชฺเฌ ปติฏฺิตํ. ปริจฺเฉทโต หทยํ หทยภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๔. ยกนนฺติ ยมกมํสปฏลํ. ตํ วณฺณโต รตฺตํ ปณฺฑุกธาตุกํ นาติรตฺตกุมุทสฺส ปตฺตปิฏฺิวณฺณํ. สณฺานโต มูเล เอกํ อคฺเค ยมกํ โกวิฬารปตฺตสณฺานํ. ตฺจ ทนฺธานํ เอกเมว โหติ มหนฺตํ, ปฺวนฺตานํ ทฺเว วา ตีณิ วา ขุทฺทกานิ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ, โอกาสโต ทฺวินฺนํ ถนานํ อพฺภนฺตเร ทกฺขิณปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ. ปริจฺเฉทโต ยกนํ ¶ ยกนภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๕. กิโลมกนฺติ ปฏิจฺฉนฺนาปฏิจฺฉนฺนเภทโต ทุวิธํ ปริโยนหนมํสํ. ตํ ทุวิธมฺปิ วณฺณโต เสตํ ทุกูลปิโลติกวณฺณํ. สณฺานโต อตฺตโน โอกาสสณฺานํ. ทิสโต ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ อุปริมาย ทิสาย. อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต ปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ ¶ หทยฺจ วกฺกฺจ ปฏิจฺฉาเทตฺวา, อปฺปฏิจฺฉนฺนกิโลมกํ สกลสรีเร จมฺมสฺส เหฏฺโต มํสํ ปริโยนนฺธิตฺวา ิตํ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา มํเสน, อุปริ จมฺเมน, ติริยํ กิโลมกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๖. ปิหกนฺติ อุทรชิวฺหามํสํ. ตํ วณฺณโต นีลํ นิคฺคุณฺฑิปุปฺผวณฺณํ. สณฺานโต สตฺตงฺคุลปฺปมาณํ อพนฺธนํ กาฬวจฺฉกชิวฺหาสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต หทยสฺส วามปสฺเส อุทรปฏลสฺส มตฺถกปสฺสํ นิสฺสาย ิตํ, ยสฺมึ ปหรณปฺปหาเรน พหินิกฺขนฺเต สตฺตานํ ชีวิตกฺขโย โหติ. ปริจฺเฉทโต ปิหกภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๗. ปปฺผาสนฺติ ทฺวตฺตึสมํสขณฺฑปฺปเภทํ ปปฺผาสมํสํ. ตํ วณฺณโต รตฺตํ นาติปกฺกอุทุมฺพรผลวณฺณํ. สณฺานโต วิสมจฺฉินฺนพหลปูวขณฺฑสณฺานํ. อพฺภนฺตเร อสิตปีตานํ อภาเว อุคฺคเตน กมฺมชเตชุสฺมานา อพฺภาหตตฺตา สํขาทิตปลาลปิณฺฑมิว นิรสํ นิโรชํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สรีรพฺภนฺตเร ทฺวินฺนํ ถนานํ อนฺตเร หทยฺจ ยกนฺจ อุปริ ฉาเทตฺวา โอลมฺพนฺตํ ิตํ. ปริจฺเฉทโต ปปฺผาสภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๘. อนฺตนฺติ ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสหตฺถา อิตฺถิยา อฏฺวีสติหตฺถา เอกวีสติยา าเนสุ โอภคฺคา อนฺตวฏฺฏิ. ตเทตํ วณฺณโต เสตํ สกฺขรสุธาวณฺณํ. สณฺานโต โลหิตโทณิยํ อาภุชิตฺวา ปิตสีสจฺฉินฺนสปฺปสณฺานํ. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อุปริ คลวาฏเก เหฏฺา จ กรีสมคฺเค วินิพนฺธตฺตา คลวาฏกกรีสมคฺคปริยนฺเต สรีรพฺภนฺตเร ิตํ. ปริจฺเฉทโต ¶ อนฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๑๙๙. อนฺตคุณนฺติ ¶ อนฺตโภคฏฺาเนสุ พนฺธนํ. ตํ วณฺณโต เสตํ ทกสีตลิกมูลวณฺณํ. สณฺานโต ทกสีตลิกมูลสณฺานเมว. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต กุทฺทาลผรสุกมฺมาทีนิ กโรนฺตานํ ยนฺตากฑฺฒนกาเล ยนฺตสุตฺตกมิว ยนฺตผลกานิ อนฺตโภเค เอกโต อคฬนฺเต อาพนฺธิตฺวา ปาทปฺุฉนรชฺชุมณฺฑลกสฺส อนฺตรา สํสิพฺพิตฺวา ิตรชฺชุกา วิย เอกวีสติยา อนฺตโภคานํ อนฺตรา ิตํ. ปริจฺเฉทโต อนฺตคุณภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๐. อุทริยนฺติ อุทเร ภวํ อสิตปีตขายิตสายิตํ. ตํ วณฺณโต อชฺโฌหฏาหารวณฺณํ. สณฺานโต ปริสฺสาวเน สิถิลพทฺธตณฺฑุลสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อุทเร ิตํ.
อุทรํ นาม อุภโต นิปฺปีฬิยมานสฺส อลฺลสาฏกสฺส มชฺเฌ สฺชาตโผฏกสทิสํ อนฺตปฏลํ, พหิ มฏฺํ, อนฺโต มํสกสมฺพุปลิเวนกิลิฏฺปาวารกปุปฺผกสทิสํ, กุถิตปนสตจสฺส อพฺภนฺตรสทิสนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ, ยตฺถ ตกฺโกฏกา คณฺฑุปฺปาทกา ตาลหีรกา สูจิมุขกา ปฏตนฺตสุตฺตกา อิจฺเจวมาทิทฺวตฺตึสกุลปฺปเภทา กิมโย อากุลพฺยากุลา สณฺฑสณฺฑจาริโน หุตฺวา นิวสนฺติ, เย ปานโภชนาทิมฺหิ อวิชฺชมาเน อุลฺลงฺฆิตฺวา วิรวนฺตา หทยมํสํ อภิหนนฺติ, ปานโภชนาทิอชฺโฌหรณเวลายฺจ อุทฺธํมุขา หุตฺวา ปมชฺโฌหเฏ ทฺเว ตโย อาโลเป ตุริตตุริตา วิลุปฺปนฺติ, ยํ เตสํ กิมีนํ สูติฆรํ วจฺจกุฏิ คิลานสาลา สุสานฺจ โหติ. ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม จณฺฑาลคามทฺวาเร จนฺทนิกาย นิทาฆสมเย ถูลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทเกน วุยฺหมานํ มุตฺตกรีสจมฺมอฏฺินฺหารุขณฺฑเขฬสิงฺฆาณิกาโลหิตปฺปภุตินานากุณปชาตํ นิปติตฺวา กทฺทโมทกาลุฬิตํ ทฺวีหตีหจฺจเยน สฺชาตกิมิกุลํ สูริยาตปสนฺตาปเวคกุถิตํ อุปริ เผณปุปฺผุฬเก มฺุจนฺตํ อภินีลวณฺณํ ปรมทุคฺคนฺธเชคุจฺฉํ เนว อุปคนฺตุํ, น ทฏฺุํ อรหรูปตํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ, ปเคว ¶ ฆายิตุํ วา สายิตุํ วา, เอวเมว นานปฺปการํ ปานโภชนาทิทนฺตมุสลสฺจุณฺณิตํ ชิวฺหาหตฺถปริวตฺติตเขฬลาลาปลิพุทฺธํ ¶ ตงฺขณวิคตวณฺณคนฺธรสาทิสมฺปทํ ตนฺตวายขลิสุวานวมถุสทิสํ นิปติตฺวา ปิตฺตเสมฺหวาตปลิเวิตํ หุตฺวา อุทรคฺคิสนฺตาปเวคกุถิตํ กิมิกุลากุลํ อุปรูปริ เผณปุปฺผุฬกานิ มฺุจนฺตํ ปรมกสมฺพุทุคฺคนฺธเชคุจฺฉภาวํ อาปชฺชิตฺวา ติฏฺติ. ยํ สุตฺวาปิ ปานโภชนาทีสุ อมนฺุตา สณฺาติ, ปเคว ปฺาจกฺขุนา อวโลเกตฺวา. ยตฺถ จ ปติตํ ปานโภชนาทิ ปฺจธา วิเวกํ คจฺฉติ, เอกํ ภาคํ ปาณกา ขาทนฺติ, เอกํ ภาคํ อุทรคฺคิ ฌาเปติ, เอโก ภาโค มุตฺตํ โหติ, เอโก ภาโค กรีสํ, เอโก ภาโค รสภาวํ อาปชฺชิตฺวา โสณิตมํสาทีนิ อุปพฺรูหยติ.
ปริจฺเฉทโต อุทรปฏเลน เจว อุทริยภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ. อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๑. กรีสนฺติ วจฺจํ. ตํ วณฺณโต เยภุยฺเยน อชฺโฌหฏาหารวณฺณเมว โหติ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต เหฏฺิมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต ปกฺกาสเย ิตํ. ปกฺกาสโย นาม เหฏฺานาภิ-ปิฏฺิกณฺฏกมูลานํ อนฺตเร อนฺตาวสาเน อุพฺเพเธน อฏฺงฺคุลมตฺโต เวฬุนาฬิกสทิโส, ยตฺถ เสยฺยถาปิ นาม อุปริ ภูมิภาเค ปติตํ วสฺโสทกํ โอคฬิตฺวา เหฏฺา ภูมิภาคํ ปูเรตฺวา ติฏฺติ, เอวเมว ยํกิฺจิ อามาสเย ปติตํ ปานโภชนาทิกํ อุทรคฺคินา เผณุทฺเทหกํ ปกฺกํ ปกฺกํ นิสทาย ปิสิตมิว สณฺหภาวํ อาปชฺชิตฺวา อนฺตพิเลน โอคฬิตฺวา โอคฬิตฺวา โอมทฺทิตฺวา เวฬุปพฺเพ ปกฺขิปมานปณฺฑุมตฺติกา วิย สนฺนิจิตํ หุตฺวา ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ปกฺกาสยปฏเลน เจว กรีสภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๒. มตฺถลุงฺคนฺติ สีสกฏาหพฺภนฺตเร ิตมิฺชราสิ. ตํ วณฺณโต เสตํ อหิจฺฉตฺตกปิณฺฑวณฺณํ. ทธิภาวํ อสมฺปตฺตํ ทุฏฺขีรวณฺณนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต สีสกฏาหพฺภนฺตเร จตฺตาโร สิพฺพินิมคฺเค นิสฺสาย สโมธาเนตฺวา ปิตา จตฺตาโร ปิฏฺปิณฺฑา วิย สโมหิตํ ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต สีสกฏาหสฺส อพฺภนฺตรตเลหิ เจว มตฺถลุงฺคภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ ¶ , อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๓. ปิตฺตนฺติ ¶ ทฺเว ปิตฺตานิ พทฺธปิตฺตฺจ อพทฺธปิตฺตฺจ. ตตฺถ พทฺธปิตฺตํ วณฺณโต พหลมธุกเตลวณฺณํ. อพทฺธปิตฺตํ มิลาตอากุลิปุปฺผวณฺณํ. สณฺานโต อุภยมฺปิ โอกาสสณฺานํ. ทิสโต พทฺธปิตฺตํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ, อิตรํ ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต อพทฺธปิตฺตํ เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ อุทกมิว เตลพินฺทุ อวเสสสรีรํ พฺยาเปตฺวา ิตํ, ยมฺหิ กุปิเต อกฺขีนิ ปีตกานิ โหนฺติ, ภมนฺติ, คตฺตํ กมฺปติ, กณฺฑูยติ. พทฺธปิตฺตํ หทยปปฺผาสานํ อนฺตเร ยกนมํสํ นิสฺสาย ปติฏฺิเต มหาโกสาตกีโกสกสทิเส ปิตฺตโกสเก ิตํ, ยมฺหิ กุปิเต สตฺตา อุมฺมตฺตกา โหนฺติ, วิปลฺลตฺถจิตฺตา หิโรตฺตปฺปํ ฉฑฺเฑตฺวา อกาตพฺพํ กโรนฺติ, อภาสิตพฺพํ ภาสนฺติ, อจินฺติตพฺพํ จินฺเตนฺติ. ปริจฺเฉทโต ปิตฺตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๔. เสมฺหนฺติ สรีรพฺภนฺตเร เอกปตฺถปูรปฺปมาณํ เสมฺหํ. ตํ วณฺณโต เสตํ นาคพลาปณฺณรสวณฺณํ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อุทรปฏเล ิตํ. ยํ ปานโภชนาทิอชฺโฌหรณกาเล เสยฺยถาปิ นาม อุทเก เสวาลปณกํ กฏฺเ วา กถเล วา ปตนฺเต ฉิชฺชิตฺวา ทฺวิธา หุตฺวา ปุน อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ, เอวเมว ปานโภชนาทิมฺหิ นิปตนฺเต ฉิชฺชิตฺวา ทฺวิธา หุตฺวา ปุน อชฺโฌตฺถริตฺวา ติฏฺติ, ยมฺหิ จ มนฺทีภูเต ปกฺกคณฺโฑ วิย ปูติกุกฺกุฏณฺฑมิว จ อุทรํ ปรมเชคุจฺฉํ กุณปคนฺธํ โหติ, ตโต อุคฺคเตน จ คนฺเธน อุทฺเทโกปิ มุขมฺปิ ทุคฺคนฺธํ ปูติกุณปสทิสํ โหติ. โส จ ปุริโส อเปหิ ทุคฺคนฺธํ วายสีติ วตฺตพฺพตํ อาปชฺชติ, ยฺจ วฑฺฒิตฺวา พหลตฺตมาปนฺนํ ปิธานผลกมิว วจฺจกุฏิยํ อุทรปฏลสฺส อพฺภนฺตเรเยว กุณปคนฺธํ สนฺนิรุมฺภิตฺวา ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต เสมฺหภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๕. ปุพฺโพติ ¶ ปูติโลหิตวเสน ปวตฺตปุพฺพํ. ตํ วณฺณโต ปณฺฑุปลาสวณฺโณ. มตสรีเร ปน ปูติพหลาจามวณฺโณ โหติ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ โหติ. โอกาสโต ปน ปุพฺพสฺส โอกาโส นาม นิพทฺโธ นตฺถิ, ยตฺถ โส สนฺนิจิโต ติฏฺเยฺย, ยตฺร ยตฺร ขาณุกณฺฏกปหรณคฺคิชาลาทีหิ อภิหเต สรีรปฺปเทเส โลหิตํ สณฺหิตฺวา ปจฺจติ, คณฺฑปีฬกาทโย วา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺร ตตฺร ติฏฺติ. ปริจฺเฉทโต ปุพฺพภาเคน ปริจฺฉินฺโน, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๖. โลหิตนฺติ ¶ ทฺเว โลหิตานิ สนฺนิจิตโลหิตฺจ สํสรณโลหิตฺจ. ตตฺถ สนฺนิจิตโลหิตํ วณฺณโต นิปกฺกพหลลาขารสวณฺณํ. สํสรณโลหิตํ อจฺฉลาขารสวณฺณํ. สณฺานโต อุภยมฺปิ โอกาสสณฺานํ. ทิสโต สนฺนิจิตโลหิตํ อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. อิตรํ ทฺวิสุ ทิสาสุ ชาตํ. โอกาสโต สํสรณโลหิตํ เปตฺวา เกสโลมทนฺตนขานํ มํสวินิมุตฺตฏฺานฺเจว ถทฺธสุกฺขจมฺมฺจ ธมนิชาลานุสาเรน สพฺพํ อุปาทิณฺณสรีรํ ผริตฺวา ิตํ. สนฺนิจิตโลหิตํ ยกนฏฺานสฺส เหฏฺาภาคํ ปูเรตฺวา เอกปตฺถปูรมตฺตํ หทยวกฺกปปฺผาสานํ อุปริ โถกํ โถกํ ปคฺฆรนฺตํ วกฺกหทยยกนปปฺผาเส เตมยมานํ ิตํ. ตสฺมึ หิ วกฺกหทยาทีนิ อเตเมนฺเต สตฺตา ปิปาสิตา โหนฺติ. ปริจฺเฉทโต โลหิตภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๗. เสโทติ โลมกูปาทีหิ ปคฺฆรณกอาโปธาตุ. โส วณฺณโต วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺโณ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต เสทสฺโสกาโส นาม นิพทฺโธ นตฺถิ, ยตฺถ โส โลหิตํ วิย สทา ติฏฺเยฺย. ยทา ปน อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิการาทีหิ สรีรํ สนฺตปติ, ตทา อุทกโต อพฺพูฬฺหมตฺตวิสมจฺฉินฺนภิสมุฬาลกุมุทนาฬกลาโป วิย สพฺพเกสโลมกูปวิวเรหิ ปคฺฆรติ, ตสฺมา ตสฺส สณฺานมฺปิ เกสโลมกูปวิวรานฺเว วเสน เวทิตพฺพํ. เสทปริคฺคณฺหเกน จ โยคินา เกสโลมกูปวิวเร ปูเรตฺวา ิตวเสเนว เสโท มนสิ กาตพฺโพ. ปริจฺเฉทโต ¶ เสทภาเคน ปริจฺฉินฺโน, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
เมโทติ ถินสิเนโห. โส วณฺณโต ผาลิตหลิทฺทิวณฺโณ. สณฺานโต ถูลสรีรสฺส ตาว จมฺมมํสนฺตเร ปิตหลิทฺทิวณฺณทุกูลปิโลติกสณฺาโน โหติ. กิสสรีรสฺส ชงฺฆมํสํ อูรุมํสํ ปิฏฺิกณฺฏกนิสฺสิตํ ปิฏฺิมํสํ อุทรวฏฺฏิมํสนฺติ เอตานิ นิสฺสาย ทิคุณติคุณํ กตฺวา ปิตหลิทฺทิวณฺณทุกูลปิโลติกสณฺาโน. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาโต. โอกาสโต ถูลสฺส สกลสรีรํ ผริตฺวา กิสสฺส ชงฺฆมํสาทีนิ นิสฺสาย ิโต, ยํ สิเนหสงฺขํ คตมฺปิ ปรมเชคุจฺฉตฺตา เนว มุทฺธนิ เตลตฺถาย, น นาสเตลาทีนมตฺถาย คณฺหนฺติ. ปริจฺเฉทโต เหฏฺา มํเสน, อุปริ จมฺเมน, ติริยํ เมทภาเคน ปริจฺฉินฺโน, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๘. อสฺสูติ ¶ อกฺขีหิ ปคฺฆรณกอาโปธาตุ. ตํ วณฺณโต วิปฺปสนฺนติลเตลวณฺณํ. สณฺานโต โอกาสสณฺานํ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต อกฺขิกูปเกสุ ิตํ. น เจตํ ปิตฺตโกสเก ปิตฺตมิว อกฺขิกูปเกสุ สทา สนฺนิจิตํ ติฏฺติ. ยทา ปน สตฺตา โสมนสฺสชาตา มหาหสิตํ หสนฺติ, โทมนสฺสชาตา โรทนฺติ ปริเทวนฺติ, ตถารูปํ วา วิสมาหารํ อาหาเรนฺติ, ยทา จ เนสํ อกฺขีนิ ธูมรชปํสุกาทีหิ อภิหฺนฺติ. ตทา เอเตหิ โสมนสฺสโทมนสฺสวิสภาคาหารอุตูหิ สมุฏฺหิตฺวา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. อสฺสุปริคฺคณฺหเกน จ โยคินา อกฺขิกูปเก ปูเรตฺวา ิตวเสเนว ปริคฺคณฺหิตพฺพํ. ปริจฺเฉทโต อสฺสุภาเคน ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๐๙. วสาติ วิลีนสิเนโห. สา วณฺณโต นาฬิเกรเตลวณฺณา. อาจาเม อาสิตฺตเตลวณฺณาติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. สณฺานโต นฺหานกาเล ปสนฺนอุทกสฺส อุปริ ปริพฺภมนฺตสิเนหพินฺทุวิสฏสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต เยภุยฺเยน หตฺถตลหตฺถปิฏฺิปาทตลปาทปิฏฺินาสปุฏนลาฏอํสกูเฏสุ ิตา. น เจสา เอเตสุ โอกาเสสุ สทา วิลีนาว หุตฺวา ติฏฺติ. ยทา ปน อคฺคิสนฺตาปสูริยสนฺตาปอุตุวิสภาคธาตุวิสภาเคหิ เต ปเทสา อุสฺมาชาตา ¶ โหนฺติ, ตทา ตตฺถ นฺหานกาเล ปสนฺนอุทกูปริ สิเนหพินฺทุวิสโฏ วิย อิโต จิโต จ สฺจรติ. ปริจฺเฉทโต วสาภาเคน ปริจฺฉินฺนา, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสเยว.
๒๑๐. เขโฬติ อนฺโตมุเข เผณมิสฺสา อาโปธาตุ. โส วณฺณโต เสโต เผณวณฺโณ. สณฺานโต โอกาสสณฺาโน. เผณสณฺาโนติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาโต. โอกาสโต อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย ิโต. น เจส เอตฺถ สทา สนฺนิจิโต หุตฺวา ติฏฺติ. ยทา ปน สตฺตา ตถารูปมาหารํ ปสฺสนฺติ วา สรนฺติ วา, อุณฺหติตฺตกฏุกโลณมฺพิลานํ วา กิฺจิ มุเข เปนฺติ, ยทา วา เนสํ หทยํ อาคิลายติ, กิสฺมิฺจิ เทว วา ชิคุจฺฉา อุปฺปชฺชติ, ตทา เขโฬ อุปฺปชฺชิตฺวา อุโภหิ กโปลปสฺเสหิ โอรุยฺห ชิวฺหาย สณฺาติ. อคฺคชิวฺหาย เจส ตนุโก โหติ, มูลชิวฺหาย พหโล, มุเข ปกฺขิตฺตฺจ ปุถุกํ วา ตณฺฑุลํ วา อฺํ วา กิฺจิ ขาทนียํ นทีปุลิเน ขตกูปกสลิลํ วิย ¶ ปริกฺขยํ อคจฺฉนฺโตว เตเมตุํ สมตฺโถ โหติ. ปริจฺเฉทโต เขฬภาเคน ปริจฺฉินฺโน, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
๒๑๑. สิงฺฆาณิกาติ มตฺถลุงฺคโต ปคฺฆรณกอสุจิ. สา วณฺณโต ตรุณตาลฏฺิมิฺชวณฺณา. สณฺานโต โอกาสสณฺานา. ทิสโต อุปริมาย ทิสาย ชาตา. โอกาสโต นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตา. น เจสา เอตฺถ สทา สนฺนิจิตา หุตฺวา ติฏฺติ, อถ โข ยถา นาม ปุริโส ปทุมินิปตฺเต ทธึ พนฺธิตฺวา เหฏฺา กณฺฏเกน วิชฺเฌยฺย, อถาเนน ฉิทฺเทน ทธิมุตฺตํ คฬิตฺวา พหิ ปเตยฺย, เอวเมว ยทา สตฺตา โรทนฺติ, วิสภาคาหารอุตุวเสน วา สฺชาตธาตุโขภา โหนฺติ, ตทา อนฺโต สีสโต ปูติเสมฺหภาวมาปนฺนํ มตฺถลุงฺคํ คฬิตฺวา ตาลุมตฺถกวิวเรน โอตริตฺวา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ติฏฺติ วา ปคฺฆรติ วา. สิงฺฆาณิกา ปริคฺคณฺหเกน จ โยคินา นาสาปุเฏ ปูเรตฺวา ิตวเสเนว ปริคฺคณฺหิตพฺพา. ปริจฺเฉทโต สิงฺฆาณิกาภาเคน ปริจฺฉินฺนา, อยมสฺสา สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
๒๑๒. ลสิกาติ ¶ สรีรสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ปิจฺฉิลกุณปํ. สา วณฺณโต กณิการนิยฺยาสวณฺณา. สณฺานโต โอกาสสณฺานา. ทิสโต ทฺวีสุ ทิสาสุ ชาตา. โอกาสโต อฏฺิสนฺธีนํ อพฺภฺชนกิจฺจํ สาธยมานา อสีติสตสนฺธีนํ อพฺภนฺตเร ิตา. ยสฺส เจสา มนฺทา โหติ, ตสฺส อุฏฺหนฺตสฺส นิสีทนฺตสฺส อภิกฺกมนฺตสฺส ปฏิกฺกมนฺตสฺส สมิฺชนฺตสฺส ปสาเรนฺตสฺส อฏฺิกานิ กฏกฏายนฺติ, อจฺฉราสทฺทํ กโรนฺโต วิย สฺจรติ. เอกโยชนทฺวิโยชนมตฺตํ อทฺธานํ คตสฺส วาโยธาตุ กุปฺปติ, คตฺตานิ ทุกฺขนฺติ. ยสฺส ปน พหุกา โหนฺติ, ตสฺส อุฏฺานนิสชฺชาทีสุ น อฏฺีนิ กฏกฏายนฺติ, ทีฆมฺปิ อทฺธานํ คตสฺส น วาโยธาตุ กุปฺปติ, น คตฺตานิ ทุกฺขนฺติ. ปริจฺเฉทโต ลสิกาภาเคน ปริจฺฉินฺนา, อยมสฺสา สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
๒๑๓. มุตฺตนฺติ มุตฺตรสํ. ตํ วณฺณโต มาสขาโรทกวณฺณํ. สณฺานโต อโธมุขฏฺปิตอุทกกุมฺภอพฺภนฺตรคตอุทกสณฺานํ. ทิสโต เหฏฺิมาย ทิสาย ชาตํ. โอกาสโต วตฺถิสฺส อพฺภนฺตเร ิตํ. วตฺถิ นาม วตฺถิ ปุโฏ วุจฺจติ. ยตฺถ เสยฺยถาปิ จนฺทนิกาย ปกฺขิตฺเต อมุเข รวณฆเฏ จนฺทนิการโส ปวิสติ, น จสฺส ปวิสนมคฺโค ปฺายติ ¶ , เอวเมว สรีรโต มุตฺตํ ปวิสติ, น จสฺส ปวิสนมคฺโค ปฺายติ, นิกฺขมนมคฺโค ปน ปากโฏ โหติ. ยมฺหิ จ มุตฺตสฺส ภริเต ปสฺสาวํ กโรมาติ สตฺตานํ อายูหนํ โหติ. ปริจฺเฉทโต วตฺถิอพฺภนฺตเรน เจว มุตฺตภาเคน จ ปริจฺฉินฺนํ, อยมสฺส สภาคปริจฺเฉโท. วิสภาคปริจฺเฉโท ปน เกสสทิโสว.
๒๑๔. เอวฺหิ เกสาทิเก โกฏฺาเส วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน ววตฺถเปตฺวา อนุปุพฺพโต นาติสีฆโตติอาทินา นเยน วณฺณสณฺานคนฺธาสโยกาสวเสน ปฺจธา ปฏิกฺกูลา ปฏิกฺกูลาติ มนสิกโรโต ปณฺณตฺติสมติกฺกมาวสาเน เสยฺยถาปิ จกฺขุมโต ปุริสสฺส ทฺวตฺตึสวณฺณานํ กุสุมานํ เอกสุตฺตกคนฺถิตํ มาลํ โอโลเกนฺตสฺส สพฺพปุปฺผานิ อปุพฺพาปริยมิว ปากฏานิ โหนฺติ, เอวเมว อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย เกสาติ อิมํ กายํ โอโลเกนฺตสฺส สพฺเพ เต ธมฺมา ¶ อปุพฺพาปริยาว ปากฏา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ มนสิการโกสลฺลกถายํ ‘‘อาทิกมฺมิกสฺส หิ เกสาติ มนสิกโรโต มนสิกาโร คนฺตฺวา มุตฺตนฺติ อิมํ ปริโยสานโกฏฺาสเมว อาหจฺจ ติฏฺตี’’ติ.
สเจ ปน พหิทฺธาปิ มนสิการํ อุปสํหรติ, อถสฺส เอวํ สพฺพโกฏฺาเสสุ ปากฏีภูเตสุ อาหิณฺฑนฺตา มนุสฺสติรจฺฉานาทโย สตฺตาการํ วิชหิตฺวา โกฏฺาสราสิวเสเนว อุปฏฺหนฺติ, เตหิ จ อชฺโฌหริยมานํ ปานโภชนาทิ โกฏฺาสราสิมฺหิ ปกฺขิปมานมิว อุปฏฺาติ.
อถสฺส อนุปุพฺพมฺุจนาทิวเสน ปฏิกฺกูลา ปฏิกฺกูลาติ ปุนปฺปุนํ มนสิกโรโต อนุกฺกเมน อปฺปนา อุปฺปชฺชติ. ตตฺถ เกสาทีนํ วณฺณสณฺานทิโสกาสปริจฺเฉทวเสน อุปฏฺานํ อุคฺคหนิมิตฺตํ. สพฺพาการโต ปฏิกฺกูลวเสน อุปฏฺานํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ. ตํ อาเสวโต ภาวยโต วุตฺตนเยน อสุภกมฺมฏฺาเนสุ วิย ปมชฺฌานวเสเนว อปฺปนา อุปฺปชฺชติ.
สา ยสฺส เอโกว โกฏฺาโส ปากโฏ โหติ, เอกสฺมึ วา โกฏฺาเส อปฺปนํ ปตฺวา ปุน อฺสฺมึ โยคํ น กโรติ, ตสฺส เอกาว อุปฺปชฺชติ. ยสฺส ปน อเนเก โกฏฺาสา ปากฏา โหนฺติ, เอกสฺมึ วา ฌานํ ปตฺวา ปุน อฺสฺมึปิ โยคํ กโรติ, ตสฺส มลฺลกตฺเถรสฺส วิย โกฏฺาสคณนาย ปมชฺฌานานิ นิพฺพตฺตนฺติ.
โส ¶ กิรายสฺมา ทีฆภาณกอภยตฺเถรํ หตฺเถ คเหตฺวา ‘‘อาวุโส อภย, อิมํ ตาว ปฺหํ อุคฺคณฺหาหี’’ติ วตฺวา อาห – ‘‘มลฺลกตฺเถโร ทฺวตฺตึสโกฏฺาเสสุ ทฺวตฺตึสาย ปมชฺฌานานํ ลาภี. สเจ รตฺตึ เอกํ, ทิวา เอกํ สมาปชฺชติ, อติเรกทฺธมาเสน ปุน สมฺปชฺชติ, สเจ ปน เทวสิกํ เอกํ สมาปชฺชติ, อติเรกมาเสน ปุน สมฺปชฺชตี’’ติ.
เอวํ ปมชฺฌานวเสน อิชฺฌมานมฺปิ เจตํ กมฺมฏฺานํ วณฺณสณฺานาทีสุ สติพเลน อิชฺฌนโต กายคตาสตีติ วุจฺจติ.
อิมฺจ กายคตาสติมนุยุตฺโต ภิกฺขุ อรติรติสโห โหติ, น จ นํ อรติ สหติ, อุปฺปนฺนํ อรตึ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหรติ. ภยเภรวสโห โหติ, น จ นํ ภยเภรวํ สหติ, อุปฺปนฺนํ ภยเภรวํ อภิภุยฺย อภิภุยฺย วิหรติ. ขโม โหติ สีตสฺส อุณฺหสฺส ¶ …เป… ปาณหรานํ อธิวาสกชาติโก โหติ (ม. นิ. ๓.๑๕๙). เกสาทีนํ วณฺณเภทํ นิสฺสาย จตุนฺนํ ฌานานํ ลาภี โหติ. ฉ อภิฺา ปฏิวิชฺฌติ (ม. นิ. ๓.๑๕๙).
ตสฺมา หเว อปฺปมตฺโต, อนุยฺุเชถ ปณฺฑิโต;
เอวํ อเนกานิสํสํ, อิมํ กายคตาสตินฺติ.
อิทํ กายคตาสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
อานาปานสฺสติกถา
๒๑๕. อิทานิ ยํ ตํ ภควตา ‘‘อยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต สนฺโต เจว ปณีโต จ อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโร, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน จ ปาปเก อกุสเล ธมฺเม านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมตี’’ติ เอวํ ปสํสิตฺวา –
‘‘กถํ ภาวิโต จ, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิ กถํ พหุลีกโต สนฺโต เจว ปณีโต จ อเสจนโก จ สุโข จ วิหาโร, อุปฺปนฺนุปฺปนฺเน จ ปาปเก อกุสเล ธมฺเม านโส อนฺตรธาเปติ วูปสเมติ? อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ อรฺคโต วา รุกฺขมูลคโต ¶ วา สฺุาคารคโต วา นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส สโตว อสฺสสติ สโต ปสฺสสติ. ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ทีฆํ อสฺสสามีติ ปชานาติ. ทีฆํ วา ปสฺสสนฺโต…เป… รสฺสํ วา อสฺสสนฺโต…เป… รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต รสฺสํ ปสฺสสามีติ ปชานาติ. สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. สพฺพกายปฏิสํเวที ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ปีติปฏิสํเวที… สุขปฏิสํเวที… จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวที… ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารํ… จิตฺตปฏิสํเวที… อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ… สมาทหํ จิตฺตํ… วิโมจยํ จิตฺตํ ¶ … อนิจฺจานุปสฺสี… วิราคานุปสฺสี… นิโรธานุปสฺสี. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ –
เอวํ โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ นิทฺทิฏฺํ. ตสฺส ภาวนานโย อนุปฺปตฺโต. โส ปน ยสฺมา ปาฬิวณฺณนานุสาเรเนว วุจฺจมาโน สพฺพาการปริปูโร โหติ. ตสฺมา อยเมตฺถ ปาฬิวณฺณนาปุพฺพงฺคโม นิทฺเทโส.
๒๑๖. กถํ ภาวิโต จ, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติ สมาธีติ เอตฺถ ตาว กถนฺติ อานาปานสฺสติสมาธิภาวนํ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาปุจฺฉา. ภาวิโต จ ภิกฺขเว อานาปานสฺสติสมาธีติ นานปฺปการโต วิตฺถาเรตุกมฺยตาย ปุฏฺธมฺมนิทสฺสนํ. กถํ พหุลีกโต…เป… วูปสเมตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตตฺถ ภาวิโตติ อุปฺปาทิโต วฑฺฒิโต วา. อานาปานสฺสติสมาธีติ อานาปานปริคฺคาหิกาย สติยา สทฺธึ สมฺปยุตฺโต สมาธิ. อานาปานสฺสติยํ วา สมาธิ อานาปานสฺสติสมาธิ. พหุลีกโตติ ปุนปฺปุนํ กโต. สนฺโตเจว ปณีโต จาติ สนฺโต เจว ปณีโต เจว. อุภยตฺถ เอว สทฺเทน นิยโม เวทิตพฺโพ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยฺหิ ยถา อสุภกมฺมฏฺานํ เกวลํ ปฏิเวธวเสน สนฺตฺจ ปณีตฺจ, โอฬาริการมฺมณตฺตา ปน ปฏิกฺกูลารมฺมณตฺตา จ อารมฺมณวเสน เนว สนฺตํ น ปณีตํ, น เอวํ เกนจิ ปริยาเยน อสนฺโต วา อปณีโต วา, อถ โข อารมฺมณสนฺตตายปิ สนฺโต วูปสนฺโต นิพฺพุโต, ปฏิเวธสงฺขาตองฺคสนฺตตายปิ. อารมฺมณปณีตตายปิ ปณีโต อติตฺติกโร, องฺคปณีตตายปีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติ.
อเสจนโก ¶ จ สุโข จ วิหาโรติ เอตฺถ ปน นาสฺส เสจนนฺติ อเสจนโก, อนาสิตฺตโก อพฺโพกิณฺโณ ปาฏิเยกฺโก อาเวณิโก. นตฺถิ เอตฺถ ปริกมฺเมน วา อุปจาเรน วา สนฺตตา. อาทิสมนฺนาหารโต ปภุติ อตฺตโน สภาเวเนว สนฺโต จ ปณีโต จาติ อตฺโถ. เกจิ ปน อเสจนโกติ อนาสิตฺตโก โอชวนฺโต สภาเวเนว ¶ มธุโรติ วทนฺติ. เอวํ อยํ อเสจนโก จ, อปฺปิตปฺปิตกฺขเณ กายิกเจตสิกสุขปฏิลาภาย สํวตฺตนโต สุโข จ วิหาโรติ เวทิตพฺโพ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺเนติ อวิกฺขมฺภิเต อวิกฺขมฺภิเต. ปาปเกติ ลามเก. อกุสเล ธมฺเมติ อโกสลฺลสมฺภูเต ธมฺเม. านโส อนฺตรธาเปตีติ ขเณเนว อนฺตรธาเปติ วิกฺขมฺเภติ. วูปสเมตีติ สุฏฺุ อุปสเมติ. นิพฺเพธภาคิยตฺตา วา อนุปุพฺเพน อริยมคฺควุทฺธิปฺปตฺโต สมุจฺฉินฺทติ, ปฏิปฺปสฺสมฺเภตีติ วุตฺตํ โหติ.
อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ. ภิกฺขเว, เกน ปกาเรน เกนากาเรน เกน วิธินา ภาวิโต อานาปานสฺสติสมาธิ เกน ปกาเรน พหุลีกโต สนฺโต เจว…เป… วูปสเมตีติ.
๒๑๗. อิทานิ ตมตฺถํ วิตฺถาเรนฺโต ‘‘อิธ, ภิกฺขเว’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขูติ ภิกฺขเว, อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขุ. อยฺหิ เอตฺถ อิธสทฺโท สพฺพปฺปการอานาปานสฺสติสมาธินิพฺพตฺตกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปโน อฺสาสนสฺส ตถาภาวปฏิเสธโน จ. วุตฺตฺเหตํ – อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สฺุา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๓๙). เตน วุตฺตํ ‘‘อิมสฺมึ สาสเน ภิกฺขู’’ติ.
อรฺคโต วา…เป… สฺุาคารคโต วาติ อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปนํ. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ทีฆรตฺตํ รูปาทีสุ อารมฺมเณสุ อนุวิสฏํ จิตฺตํ อานาปานสฺสติสมาธิอารมฺมณํ อภิรุหิตุํ น อิจฺฉติ, กูฏโคณยุตฺตรโถ วิย อุปฺปถเมว ธาวติ. ตสฺมา เสยฺยถาปิ นาม โคโป กูฏเธนุยา สพฺพํ ขีรํ ปิวิตฺวา วฑฺฒิตํ กูฏวจฺฉํ ทเมตุกาโม เธนุโต อปเนตฺวา เอกมนฺเต มหนฺตํ ถมฺภํ นิขณิตฺวา ตตฺถ โยตฺเตน พนฺเธยฺย, อถสฺส โส วจฺโฉ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวา ปลายิตุํ อสกฺโกนฺโต ตเมว ถมฺภํ อุปนิสีเทยฺย วา อุปนิปชฺเชยฺย วา, เอวเมว อิมินาปิ ภิกฺขุนา ทีฆรตฺตํ รูปารมฺมณาทิรสปานวฑฺฒิตํ ทุฏฺจิตฺตํ ทเมตุกาเมน รูปาทิอารมฺมณโต อปเนตฺวา อรฺํ วา…เป… สฺุาคารํ วา ปเวเสตฺวา ตตฺถ อสฺสาสปสฺสาสถมฺเภ สติโยตฺเตน พนฺธิตพฺพํ. เอวมสฺส ¶ ตํ จิตฺตํ อิโต จิโต จ วิปฺผนฺทิตฺวาปิ ปุพฺเพ อาจิณฺณารมฺมณํ อลภมานํ สติโยตฺตํ ฉินฺทิตฺวา ปลายิตุํ ¶ อสกฺโกนฺตํ ตเมวารมฺมณํ อุปจารปฺปนาวเสน อุปนิสีทติ เจว อุปนิปชฺชติ จ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถา ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมํ นโร อิธ;
พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗);
เอวมสฺเสตํ เสนาสนํ ภาวนานุรูปํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิทมสฺส อานาปานสฺสติสมาธิภาวนานุรูปเสนาสนปริคฺคหปริทีปน’’นฺติ.
อถ วา ยสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานปฺปเภเท มุทฺธภูตํ สพฺพฺุพุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธสาวกานํ วิเสสาธิคมทิฏฺธมฺมสุขวิหารปทฏฺานํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ อิตฺถิปุริสหตฺถิอสฺสาทิสทฺทสมากุลํ คามนฺตํ อปริจฺจชิตฺวา น สุกรํ ภาเวตุํ, สทฺทกณฺฏกตฺตา ฌานสฺส. อคามเก ปน อรฺเ สุกรํ โยคาวจเรน อิทํ กมฺมฏฺานํ ปริคฺคเหตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานํ นิพฺพตฺเตตฺวา ตเทว ปาทกํ กตฺวา สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อคฺคผลํ อรหตฺตํ สมฺปาปุณิตุํ. ตสฺมาสฺส อนุรูปเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
วตฺถุวิชฺชาจริโย วิย หิ ภควา, โส ยถา วตฺถุวิชฺชาจริโย นครภูมึ ปสฺสิตฺวา สุฏฺุ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ นครํ มาเปถา’’ติ อุปทิสติ, โสตฺถินา จ นคเร นิฏฺิเต ราชกุลโต มหาสกฺการํ ลภติ, เอวเมว โยคาวจรสฺส อนุรูปเสนาสนํ อุปปริกฺขิตฺวา ‘‘เอตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพ’’นฺติ อุปทิสติ, ตโต ตตฺถ กมฺมฏฺานํ อนุยุตฺเตน โยคินา กเมน อรหตฺเต ปตฺเต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ มหนฺตํ สกฺการํ ลภติ.
อยํ ปน ภิกฺขุ ทีปิสทิโสติ วุจฺจติ. ยถา หิ มหาทีปิราชา อรฺเ ติณคหนํ วา วนคหนํ วา ปพฺพตคหนํ วา นิสฺสาย นิลียิตฺวา วนมหึสโคกณฺณสูกราทโย มิเค คณฺหาติ, เอวเมว อยํ อรฺาทีสุ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺโต ภิกฺขุ ยถากฺกเมน โสตาปตฺติสกทาคามิอนาคามิอรหตฺตมคฺเค เจว อริยผลฺจ คณฺหตีติ เวทิตพฺโพ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ยถาปิ ¶ ¶ ทีปิโก นาม, นิลียิตฺวา คณฺหตี มิเค;
ตเถวายํ พุทฺธปุตฺโต, ยุตฺตโยโค วิปสฺสโก;
อรฺํ ปวิสิตฺวาน, คณฺหาติ ผลมุตฺตม’’นฺติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗);
เตนสฺส ปรกฺกมชวโยคฺคภูมึ อรฺเสนาสนํ ทสฺเสนฺโต ภควา ‘‘อรฺคโต วา’’ติอาทิมาห.
๒๑๘. ตตฺถ อรฺคโตติ ‘‘อรฺนฺติ นิกฺขมิตฺวา พหิ อินฺทขีลา สพฺพเมตํ อรฺ’’นฺติ (วิภ. ๕๒๙) จ, ‘‘อารฺกํ นาม เสนาสนํ ปฺจธนุสติกํ ปจฺฉิม’’นฺติ (ปารา. ๖๕๔) จ เอวํ วุตฺตลกฺขเณสุ อรฺเสุ ยํกิฺจิ ปวิเวกสุขํ อรฺํ คโต. รุกฺขมูลคโตติ รุกฺขสมีปํ คโต. สฺุาคารคโตติ สฺุํ วิวิตฺโตกาสํ คโต. เอตฺถ จ เปตฺวา อรฺฺจ รุกฺขมูลฺจ อวเสสสตฺตวิธเสนาสนคโตปิ สฺุาคารคโตติ วตฺตุํ วฏฺฏติ.
เอวมสฺส อุตุตฺตยานุกูลํ ธาตุจริยานุกูลฺจ อานาปานสฺสติภาวนานุรูปํ เสนาสนํ อุปทิสิตฺวา อลีนานุทฺธจฺจปกฺขิกํ สนฺตํ อิริยาปถํ อุปทิสนฺโต นิสีทตีติ อาห. อถสฺส นิสชฺชาย ทฬฺหภาวํ อสฺสาสปสฺสาสานํ ปวตฺตนสุขตํ อารมฺมณปริคฺคหูปายฺจ ทสฺเสนฺโต ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวาติอาทิมาห. ตตฺถ ปลฺลงฺกนฺติ สมนฺตโต อูรุพทฺธาสนํ. อาภุชิตฺวาติ พนฺธิตฺวา. อุชุํ กายํ ปณิธายาติ อุปริมสรีรํ อุชุกํ เปตฺวา. อฏฺารสปิฏฺิกณฺฏเก โกฏิยา โกฏึ ปฏิปาเทตฺวา. เอวฺหิ นิสีทนฺตสฺส จมฺมมํสนฺหารูนิ น ปณมนฺติ. อถสฺส ยา เตสํ ปณมนปฺปจฺจยา ขเณ ขเณ เวทนา อุปฺปชฺเชยฺยุํ, ตา น อุปฺปชฺชนฺติ. ตาสุ อนุปฺปชฺชมานาสุ จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, กมฺมฏฺานํ น ปริปตติ, วุทฺธึ ผาตึ อุปคจฺฉติ. ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวาติ กมฺมฏฺานาภิมุขํ สตึ ปยิตฺวา. อถ วา ปรีติ ปริคฺคหฏฺโ. มุขนฺติ นิยฺยานฏฺโ. สตีติ อุปฏฺานฏฺโ. เตน วุจฺจติ ‘‘ปริมุขํ สติ’’นฺติ เอวํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๔) วุตฺตนเยนเปตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตตฺรายํ สงฺเขโป, ปริคฺคหิตนิยฺยานํ สตึ กตฺวาติ.
๒๑๙. โส ¶ สโตว อสฺสสติ สโต ปสฺสสตีติ โส ภิกฺขุ เอวํ นิสีทิตฺวา เอวฺจ สตึ ¶ อุปฏฺเปตฺวา ตํ สตึ อวิชหนฺโต สโต เอว อสฺสสติ สโต ปสฺสสติ, สโตการี โหตีติ วุตฺตํ โหติ. อิทานิ เยหากาเรหิ สโตการี โหติ, เต ทสฺเสตุํ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติอาทิมาห. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ ‘‘โส สโตว อสฺสสติ สโต ปสฺสสตี’’ติ เอตสฺเสว วิภงฺเค –
‘‘พาตฺตึสาย อากาเรหิ สโต การี โหติ. ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโต การี โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน…เป… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสาสวเสน. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี ปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สโต การี โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๕).
ตตฺถ ทีฆํ วา อสฺสสนฺโตติ ทีฆํ วา อสฺสาสํ ปวตฺตยนฺโต. อสฺสาโสติ พหิ นิกฺขมนวาโต. ปสฺสาโสติ อนฺโต ปวิสนวาโตติ วินยฏฺกถายํ วุตฺตํ. สุตฺตนฺตฏฺกถาสุ ปน อุปฺปฏิปาฏิยา อาคตํ. ตตฺถ สพฺเพสมฺปิ คพฺภเสยฺยกานํ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนกาเล ปมํ อพฺภนฺตรวาโต พหิ นิกฺขมติ. ปจฺฉา พาหิรวาโต สุขุมรชํ คเหตฺวา อพฺภนฺตรํ ปวิสนฺโต ตาลุํ อาหจฺจ นิพฺพายติ. เอวํ ตาว อสฺสาสปสฺสาสา เวทิตพฺพา.
ยา ปน เตสํ ทีฆรสฺสตา, สา อทฺธานวเสน เวทิตพฺพา. ยถา หิ โอกาสทฺธานํ ผริตฺวา ิตํ อุทกํ วา วาลิกา วา ‘‘ทีฆมุทกํ ทีฆา วาลิกา, รสฺสมุทกํ รสฺสา วาลิกา’’ติ วุจฺจติ, เอวํ จุณฺณวิจุณฺณาปิ อสฺสาสปสฺสาสา หตฺถิสรีเร จ อหิสรีเร จ เตสํ อตฺตภาวสงฺขาตํ ทีฆํ อทฺธานํ สณิกํ ปูเรตฺวา สณิกเมว นิกฺขมนฺติ. ตสฺมา ทีฆาติ วุจฺจนฺติ. สุนขสสาทีนํ อตฺตภาวสงฺขาตํ รสฺสํ อทฺธานํ สีฆํ ปูเรตฺวา สีฆเมว นิกฺขมนฺติ, ตสฺมา รสฺสาติ วุจฺจนฺติ. มนุสฺเสสุ ปน เกจิ หตฺถิอหิอาทโย วิย กาลทฺธานวเสน ทีฆํ อสฺสสนฺติ จ ปสฺสสนฺติ จ. เกจิ สุนขสสาทโย วิย รสฺสํ, ตสฺมา เตสํ กาลวเสน ทีฆมทฺธานํ ¶ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ เต ‘‘ทีฆา’’ อิตฺตรมทฺธานํ นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ ‘‘รสฺสา’’ติ เวทิตพฺพา.
ตตฺรายํ ¶ ภิกฺขุ นวหากาเรหิ ทีฆํ อสฺสสนฺโต ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ทีฆํ อสฺสสามิ, ปสฺสสามี’’ติ ปชานาติ. เอวํ ปชานโต จสฺส เอเกนากาเรน กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา สมฺปชฺชตีติ เวทิตพฺพา. ยถาห ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๖) –
‘‘กถํ ทีฆํ อสฺสสนฺโต ทีฆํ อสฺสสามีติ ปชานาติ. ทีฆํ ปสฺสสนฺโต ทีฆํ ปสฺสสามีติ ปชานาติ. ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ. ทีฆํ ปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต ปสฺสสติ. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ฉนฺโท อุปฺปชฺชติ. ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ. ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ…เป… ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ฉนฺทวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ปาโมชฺชํ อุปฺปชฺชติ. ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติ. ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ ปสฺสาสํ…เป… ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสติปิ ปสฺสสติปิ. ปาโมชฺชวเสน ตโต สุขุมตรํ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต อสฺสสโตปิ ปสฺสสโตปิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา จิตฺตํ วิวตฺตติ, อุเปกฺขา สณฺาติ. อิเมหิ นวหิ อากาเรหิ ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย. อุปฏฺานํ สติ. อนุปสฺสนา าณํ. กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ. สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ. ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ.
เอส ¶ นโย รสฺสปเทปิ. อยํ ปน วิเสโส, ยถา เอตฺถ ‘‘ทีฆํ อสฺสาสํ อทฺธานสงฺขาเต’’ติ วุตฺตํ, เอวมิธ ‘‘รสฺสํ อสฺสาสํ อิตฺตรสงฺขาเต อสฺสสตี’’ติ อาคตํ. ตสฺมา รสฺสวเสน ยาว ‘‘เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนาสติปฏฺานภาวนา’’ติ, ตาว โยเชตพฺพํ.
เอวํ อยํ อทฺธานวเสน อิตฺตรวเสน จ อิเมหากาเรหิ อสฺสาสปสฺสาเส ปชานนฺโต ทีฆํ วา อสฺสสนฺโต ทีฆํ อสฺสสามีติ ปชานาติ…เป… รสฺสํ วา ปสฺสสนฺโต รสฺสํ ปสฺสสามีติ ปชานาตีติ เวทิตพฺโพ. เอวํ ปชานโต จสฺส –
ทีโฆ ¶ รสฺโส จ อสฺสาโส,
ปสฺสาโสปิ จ ตาทิโส;
จตฺตาโร วณฺณา วตฺตนฺติ,
นาสิกคฺเคว ภิกฺขุโนติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);
๒๒๐. สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ สกลสฺส อสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. สกลสฺส ปสฺสาสกายสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ วิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต าณสมฺปยุตฺตจิตฺเตน อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. ตสฺมา ‘‘อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามี’’ติ สิกฺขตีติ วุจฺจติ. เอกสฺส หิ ภิกฺขุโน จุณฺณวิจุณฺณวิสเฏ อสฺสาสกาเย ปสฺสาสกาเย วา อาทิ ปากโฏ โหติ, น มชฺฌปริโยสานํ. โส อาทิเมว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, มชฺฌปริโยสาเน กิลมติ. เอกสฺส มชฺฌํ ปากฏํ โหติ, น อาทิปริโยสานํ. เอกสฺส ปริโยสานํ ปากฏํ โหติ, น อาทิมชฺฌํ. โส ปริโยสานํเยว ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, อาทิมชฺเฌ กิลมติ. เอกสฺส สพฺพมฺปิ ปากฏํ โหติ, โส สพฺพมฺปิ ปริคฺคเหตุํ สกฺโกติ, น กตฺถจิ กิลมติ, ตาทิเสน ภวิตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห – ‘‘สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ.
ตตฺถ ¶ สิกฺขตีติ เอวํ ฆฏติ วายมติ. โย วา ตถาภูตสฺส สํวโร, อยเมตฺถ อธิสีลสิกฺขา. โย ตถาภูตสฺส สมาธิ, อยํ อธิจิตฺตสิกฺขา. ยา ตถาภูตสฺส ปฺา, อยํ อธิปฺาสิกฺขาติ อิมา ติสฺโส สิกฺขาโย ตสฺมึ อารมฺมเณ ตาย สติยา เตน มนสิกาเรน สิกฺขติ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรตีติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.
ตตฺถ ยสฺมา ปุริมนเย เกวลํ อสฺสสิตพฺพํ ปสฺสสิตพฺพเมว, น จ อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ. อิโต ปฏฺาย ปน าณุปฺปาทนาทีสุ โยโค กรณีโย. ตสฺมา ตตฺถ อสฺสสามีติ ปชานาติ ปสฺสสามีติ ปชานาติจฺเจว วตฺตมานกาลวเสน ปาฬึ วตฺวา อิโต ปฏฺาย กตฺตพฺพสฺส าณุปฺปาทนาทิโน อาการสฺส ทสฺสนตฺถํ สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสสิสฺสามีติอาทินา นเยน อนาคตวจนวเสน ปาฬิ อาโรปิตาติ เวทิตพฺพา.
ปสฺสมฺภยํ ¶ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตีติ โอฬาริกํ กายสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต ปฏิปฺปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺร เอวํ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา. อิมสฺส หิ ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ จิตฺตฺจ สทรถา โหนฺติ โอฬาริกา. กายจิตฺตานํ โอฬาริกตฺเต อวูปสนฺเต อสฺสาสปสฺสาสาปิ โอฬาริกา โหนฺติ, พลวตรา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปนสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ปริคฺคหิตา โหนฺติ, ตทา เต สนฺตา โหนฺติ วูปสนฺตา. เตสุ วูปสนฺเตสุ อสฺสาสปสฺสาสา สุขุมา หุตฺวา ปวตฺตนฺติ, ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพตาการปฺปตฺตา โหนฺติ.
เสยฺยถาปิ ปุริสสฺส ธาวิตฺวา, ปพฺพตา วา โอโรหิตฺวา, มหาภารํ วา สีสโต โอโรเปตฺวา ิตสฺส โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา โหนฺติ, นาสิกา นปฺปโหติ, มุเขน อสฺสสนฺโตปิ ปสฺสสนฺโตปิ ติฏฺติ. ยทา ปเนส ตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา จ อลฺลสาฏกํ หทเย กตฺวา สีตาย ฉายาย นิปนฺโน โหติ, อถสฺส เต อสฺสาสปสฺสาสา ¶ สุขุมา โหนฺติ ‘‘อตฺถิ นุ โข นตฺถี’’ติ วิเจตพฺพตาการปฺปตฺตา, เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล กาโย จ…เป… วิเจตพฺพตาการปฺปตฺตา โหนฺติ. ตํ กิสฺส เหตุ? ตถา หิสฺส ปุพฺเพ อปริคฺคหิตกาเล ‘‘โอฬาริโกฬาริเก กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภมี’’ติ อาโภคสมนฺนาหารมนสิการปจฺจเวกฺขณา นตฺถิ, ปริคฺคหิตกาเล ปน อตฺถิ. เตนสฺส อปริคฺคหิตกาลโต ปริคฺคหิตกาเล กายสงฺขาโร สุขุโม โหติ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘สารทฺเธ กาเย จิตฺเต จ, อธิมตฺตํ ปวตฺตติ;
อสารทฺธมฺหิ กายมฺหิ, สุขุมํ สมฺปวตฺตตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);
๒๒๑. ปริคฺคเหปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌานุปจาเร สุขุโม. ตสฺมิมฺปิ โอฬาริโก, ปมชฺฌาเน สุขุโม. ปมชฺฌาเน จ ทุติยชฺฌานุปจาเร จ โอฬาริโก, ทุติยชฺฌาเน สุขุโม. ทุติยชฺฌาเน จ ตติยชฺฌานุปจาเร จ โอฬาริโก, ตติยชฺฌาเน สุขุโม. ตติยชฺฌาเน จ จตุตฺถชฺฌานุปจาเร จ โอฬาริโก, จตุตฺถชฺฌาเน อติสุขุโม อปฺปวตฺติเมว ปาปุณาตีติ. อิทํ ตาว ทีฆภาณกสํยุตฺตภาณกานํ มตํ.
มชฺฌิมภาณกา ¶ ปน ปมชฺฌาเน โอฬาริโก, ทุติยชฺฌานุปจาเร สุขุโมติ เอวํ เหฏฺิมเหฏฺิมชฺฌานโต อุปรูปริชฺฌานุปจาเรปิ สุขุมตรมิจฺฉนฺติ. สพฺเพสฺเว ปน มเตน อปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปริคฺคหิตกาเล ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. ปริคฺคหิตกาเล ปวตฺตกายสงฺขาโร ปมชฺฌานุปจาเร…เป… จตุตฺถชฺฌานุปจาเร ปวตฺตกายสงฺขาโร จตุตฺถชฺฌาเน ปฏิปฺปสฺสมฺภติ. อยํ ตาว สมเถ นโย.
วิปสฺสนายํ ปน อปริคฺคเห ปวตฺโต กายสงฺขาโร โอฬาริโก, มหาภูตปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อุปาทารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สกลรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, อรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, รูปารูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ปจฺจยปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคเห สุขุโม. โสปิ โอฬาริโก, ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย สุขุโม. โสปิ ทุพฺพลวิปสฺสนาย โอฬาริโก, พลววิปสฺสนาย สุขุโม. ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิเมน ¶ ปจฺฉิเมน ปฏิปฺปสฺสทฺธิ เวทิตพฺพา. เอวเมตฺถ โอฬาริกสุขุมตา จ ปสฺสทฺธิ จ เวทิตพฺพา.
ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑) ปนสฺส สทฺธึ โจทนาโสธนาหิ เอวมตฺโถ วุตฺโต –
‘‘กถํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ…เป… ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ? กตเม กายสงฺขารา? ทีฆํ อสฺสาสปสฺสาสา กายิกา เอเต ธมฺมา กายปฏิพทฺธา กายสงฺขารา. เต กายสงฺขาเร ปสฺสมฺเภนฺโต นิโรเธนฺโต วูปสเมนฺโต สิกฺขติ…เป… ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส อานมนา, วินมนา, สนฺนมนา, ปณมนา, อิฺชนา, ผนฺทนา, จลนา, กมฺปนา ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ, ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ยถารูเปหิ กายสงฺขาเรหิ กายสฺส น อานมนา, น วินมนา, น สนฺนมนา, น ปณมนา, อนิฺชนา, อผนฺทนา, อจลนา, อกมฺปนา สนฺตํ สุขุมํ ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ.
‘‘อิติ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ ¶ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา น โหติ. อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา น โหติ. อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา น โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา น โหติ, น จ นํ ตํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ.
‘‘อิติ กิร ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ. ยถา กถํ วิย?
‘‘เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต ปมํ โอฬาริกา สทฺทา ปวตฺตนฺติ. โอฬาริกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมกา ¶ สทฺทา ปวตฺตนฺติ. สุขุมกานํ สทฺทานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ ปวตฺตติ, เอวเมว ปมํ โอฬาริกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ. โอฬาริกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมกา อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ. สุขุมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตตฺตา สุมนสิกตตฺตา สูปธาริตตฺตา นิรุทฺเธปิ สุขุมเก อสฺสาสปสฺสาเส อถ ปจฺฉา สุขุมอสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณตาปิ จิตฺตํ น วิกฺเขปํ คจฺฉติ.
‘‘เอวํ สนฺเต วาตูปลทฺธิยา จ ปภาวนา โหติ, อสฺสาสปสฺสาสานฺจ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติยา จ ปภาวนา โหติ, อานาปานสฺสติสมาธิสฺส จ ปภาวนา โหติ, ตฺจ นํ สมาปตฺตึ ปณฺฑิตา สมาปชฺชนฺติปิ วุฏฺหนฺติปิ. ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสา กาโย, อุปฏฺานํ สติ, อนุปสฺสนา าณํ, กาโย อุปฏฺานํ, โน สติ, สติ อุปฏฺานฺเจว สติ จ, ตาย สติยา เตน าเณน ตํ กายํ อนุปสฺสติ. เตน วุจฺจติ กาเย กายานุปสฺสนา สติปฏฺานภาวนา’’ติ.
อยํ ¶ ตาเวตฺถ กายานุปสฺสนาวเสน วุตฺตสฺส ปมจตุกฺกสฺส อนุปุพฺพปทวณฺณนา.
๒๒๒. ยสฺมา ปเนตฺถ อิทเมว จตุกฺกํ อาทิกมฺมิกสฺส กมฺมฏฺานวเสน วุตฺตํ. อิตรานิ ปน ตีณิ จตุกฺกานิ เอตฺถ ปตฺตชฺฌานสฺส เวทนาจิตฺตธมฺมานุปสฺสนาวเสน วุตฺตานิ. ตสฺมา อิทํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อานาปานจตุตฺถชฺฌานปทฏฺานาย วิปสฺสนาย สห ปฏิสมฺภิทาหิ อรหตฺตํ ปาปุณิตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว สีลปริโสธนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา วุตฺตปฺปการสฺส อาจริยสฺส สนฺติเก ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตพฺพํ.
ตตฺริเม ¶ ปฺจ สนฺธโย อุคฺคโห, ปริปุจฺฉา, อุปฏฺานํ, อปฺปนา, ลกฺขณนฺติ. ตตฺถ อุคฺคโห นาม กมฺมฏฺานสฺส อุคฺคณฺหนํ. ปริปุจฺฉา นาม กมฺมฏฺานสฺส ปริปุจฺฉนา. อุปฏฺานํ นาม กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺานํ. อปฺปนา นาม กมฺมฏฺานสฺส อปฺปนา. ลกฺขณํ นาม กมฺมฏฺานสฺส ลกฺขณํ. ‘‘เอวํลกฺขณมิทํ กมฺมฏฺาน’’นฺติ กมฺมฏฺานสภาวูปธารณนฺติ วุตฺตํ โหติ.
เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคณฺหนฺโต อตฺตนาปิ น กิลมติ, อาจริยมฺปิ น วิเหเสติ. ตสฺมา โถกํ อุทฺทิสาเปตฺวา พหุกาลํ สชฺฌายิตฺวา เอวํ ปฺจสนฺธิกํ กมฺมฏฺานํ อุคฺคเหตฺวา อาจริยสฺส สนฺติเก วา อฺตฺร วา ปุพฺเพ วุตฺตปฺปกาเร เสนาสเน วสนฺเตน อุปจฺฉินฺนขุทฺทกปลิโพเธน กตภตฺตกิจฺเจน ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวา สุขนิสินฺเนน รตนตฺตยคุณานุสฺสรเณน จิตฺตํ สมฺปหํเสตฺวา อาจริยุคฺคหโต เอกปทมฺปิ อสมฺมุยฺหนฺเตน อิทํ อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ มนสิ กาตพฺพํ. ตตฺรายํ มนสิการวิธิ –
คณนา อนุพนฺธนา, ผุสนา ปนา สลฺลกฺขณา;
วิวฏฺฏนา ปาริสุทฺธิ, เตสฺจ ปฏิปสฺสนาติ.
ตตฺถ คณนาติ คณนาเยว. อนุพนฺธนาติ อนุวหนา. ผุสนาติ ผุฏฺฏฺานํ. ปนาติ อปฺปนา. สลฺลกฺขณาติ วิปสฺสนา. วิวฏฺฏนาติ มคฺโค. ปาริสุทฺธีติ ผลํ. เตสฺจ ปฏิปสฺสนาติ ปจฺจเวกฺขณา.
ตตฺถ อิมินา อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน ปมํ คณนาย อิทํ กมฺมฏฺานํ มนสิ กาตพฺพํ ¶ . คเณนฺเตน จ ปฺจนฺนํ เหฏฺา น เปตพฺพํ. ทสนฺนํ อุปริ น เนตพฺพํ. อนฺตรา ขณฺฑํ น ทสฺเสตพฺพํ. ปฺจนฺนํ เหฏฺา เปนฺตสฺส หิ สมฺพาเธ โอกาเส จิตฺตุปฺปาโท วิปฺผนฺทติ สมฺพาเธ วเช สนฺนิรุทฺธโคคโณ วิย. ทสนฺนมฺปิ อุปริ เนนฺตสฺส คณนนิสฺสิตโก จิตฺตุปฺปาโท โหติ. อนฺตรา ขณฺฑํ ทสฺเสนฺตสฺส ‘‘สิขาปฺปตฺตํ นุ โข เม กมฺมฏฺานํ, โน’’ติ จิตฺตํ วิกมฺปติ. ตสฺมา เอเต โทเส วชฺเชตฺวา คเณตพฺพํ.
คเณนฺเตน จ ปมํ ทนฺธคณนาย ธฺมาปกคณนาย คเณตพฺพํ. ธฺมาปโก หิ นาฬึ ปูเรตฺวา ‘‘เอก’’นฺติ วตฺวา โอกิรติ. ปุน ปูเรนฺโต กิฺจิ กจวรํ ทิสฺวา ตํ ฉฑฺเฑนฺโต ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ วทติ. เอส นโย ทฺเว ทฺเวติอาทีสุ. เอวเมว อิมินาปิ อสฺสาสปสฺสาเสสุ โย อุปฏฺาติ, ตํ ¶ คเหตฺวา ‘‘เอกํ เอก’’นฺติ อาทึ กตฺวา ยาว ‘‘ทส ทสา’’ติ ปวตฺตมานํ ปวตฺตมานํ อุปลกฺเขตฺวาว คเณตพฺพํ. ตสฺส เอวํ คณยโต นิกฺขมนฺตา จ ปวิสนฺตา จ อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา โหนฺติ.
อถาเนน ตํ ทนฺธคณนํ ธฺมาปกคณนํ ปหาย สีฆคณนาย โคปาลกคณนาย คเณตพฺพํ. เฉโก หิ โคปาลโก สกฺขราทโย อุจฺฉงฺเคน คเหตฺวา รชฺชุทณฺฑหตฺโถ ปาโตว วชํ คนฺตฺวา คาโว ปิฏฺิยํ ปหริตฺวา ปลิฆตฺถมฺภมตฺถเก นิสินฺโน ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คาวึ เอกา ทฺเวติ สกฺขรํ ขิปิตฺวา คเณติ. ติยามรตฺตึ สมฺพาเธ โอกาเส ทุกฺขํ วุตฺถโคคโณ นิกฺขมนฺโต นิกฺขมนฺโต อฺมฺํ อุปนิฆํสนฺโต เวเคน เวเคน ปฺุชปฺุโช หุตฺวา นิกฺขมติ. โส เวเคน เวเคน ‘‘ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ทสา’’ติ คเณติเยว, เอวมิมสฺสาปิ ปุริมนเยน คณยโต อสฺสาสปสฺสาสา ปากฏา หุตฺวา สีฆํ สีฆํ ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺติ. ตโตเนน ‘‘ปุนปฺปุนํ สฺจรนฺตี’’ติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ อคเหตฺวา ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว คเหตฺวา ‘‘เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ. เอโก ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ ปฺจ ฉ สตฺต…เป… อฏฺ, นว, ทสา’’ติ สีฆํ สียํ คเณตพฺพเมว. คณนปฏิพทฺเธ หิ กมฺมฏฺาเน คณนพเลเนว จิตฺตํ เอกคฺคํ โหติ, อริตฺตุปตฺถมฺภนวเสน จณฺฑโสเต นาวาฏฺปนมิว.
ตสฺเสวํ สีฆํ สีฆํ คณยโต กมฺมฏฺานํ นิรนฺตรํ ปวตฺตํ วิย หุตฺวา อุปฏฺาติ. อถ นิรนฺตรํ ปวตฺตตีติ ตฺวา อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพํ. อนฺโต ปวิสนวาเตน หิ สทฺธึ จิตฺตํ ปเวสยโต อพฺภนฺตรํ วาตพฺภาหตํ เมทปูริตํ ¶ วิย โหติ. พหิ นิกฺขมนวาเตน สทฺธึ จิตฺตํ นีหรโต พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ จิตฺตํ วิกฺขิปติ. ผุฏฺผุฏฺโกาเส ปน สตึ เปตฺวา ภาเวนฺตสฺเสว ภาวนา สมฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนฺโต จ พหิ จ วาตํ อปริคฺคเหตฺวา ปุริมนเยเนว เวเคน เวเคน คเณตพฺพ’’นฺติ.
กีวจิรํ ปเนตํ คเณตพฺพนฺติ? ยาว วินา คณนาย อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติ สนฺติฏฺติ. พหิวิสฏวิตกฺกวิจฺเฉทํ กตฺวา อสฺสาสปสฺสาสารมฺมเณ สติสณฺาปนตฺถํเยว หิ คณนาติ.
๒๒๔. เอวํ ¶ คณนาย มนสิ กตฺวา อนุพนฺธนาย มนสิ กาตพฺพํ. อนุพนฺธนา นาม คณนํ ปฏิสํหริตฺวา สติยา นิรนฺตรํ อสฺสาสปสฺสาสานํ อนุคมนํ. ตฺจ โข น อาทิมชฺฌปริโยสานานุคมนวเสน. พหินิกฺขมนวาตสฺส หิ นาภิ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ, นาสิกคฺคํ ปริโยสานํ. อพฺภนฺตรํ ปวิสนวาตสฺส นาสิกคฺคํ อาทิ, หทยํ มชฺฌํ นาภิ ปริโยสานํ. ตฺจสฺส อนุคจฺฉโต วิกฺเขปคตํ จิตฺตํ สารทฺธาย เจว โหติ อิฺชนาย จ. ยถาห –
‘‘อสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต อชฺฌตฺตํ วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จ. ปสฺสาสาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉโต พหิทฺธา วิกฺเขปคเตน จิตฺเตน กาโยปิ จิตฺตมฺปิ สารทฺธา จ โหนฺติ อิฺชิตา จ ผนฺทิตา จา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๗).
ตสฺมา อนุพนฺธนาย มนสิกโรนฺเตน อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน น มนสิ กาตพฺพํ. อปิจ โข ผุสนาวเสน จ ปนาวเสน จ มนสิ กาตพฺพํ. คณนานุพนฺธนาวเสน วิย หิ ผุสนาปนาวเสน วิสุํ มนสิกาโร นตฺถิ. ผุฏฺผุฏฺฏฺาเนเยว ปน คเณนฺโต คณนาย จ ผุสนาย จ มนสิ กโรติ. ตตฺเถว คณนํ ปฏิสํหริตฺวา เต สติยา อนุพนฺธนฺโต, อปฺปนาวเสน จ จิตฺตํ เปนฺโต อนุพนฺธนาย จ ผุสนาย จ ปนาย จ มนสิ กโรตีติ วุจฺจติ. สฺวายมตฺโถ อฏฺกถาสุ วุตฺตปงฺคุฬโทวาริกูปมาหิ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตกกจูปมาย จ เวทิตพฺโพ.
๒๒๕. ตตฺรายํ ปงฺคุโฬปมา – เสยฺยถาปิ ปงฺคุโฬ โทลาย กีฬตํ มาตาปุตฺตานํ โทลํ ขิปิตฺวา ¶ ตตฺเถว โทลาถมฺภมูเล นิสินฺโน กเมน อาคจฺฉนฺตสฺส จ คจฺฉนฺตสฺส จ โทลาผลกสฺส อุโภ โกฏิโย มชฺฌฺจ ปสฺสติ, น จ อุโภโกฏิมชฺฌานํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ, เอวเมวายํ ภิกฺขุ สติวเสน อุปนิพนฺธนถมฺภมูเล ตฺวา อสฺสาสปสฺสาสโทลํ ขิปิตฺวา ตตฺเถว นิมิตฺเต สติยา นิสีทนฺโต กเมน อาคจฺฉนฺตานฺจ คจฺฉนฺตานฺจ ผุฏฺฏฺาเน อสฺสาสปสฺสาสานํ อาทิมชฺฌปริโยสานํ สติยา อนุคจฺฉนฺโต ตตฺถ จ จิตฺตํ เปนฺโต ปสฺสติ, น จ เตสํ ทสฺสนตฺถํ พฺยาวโฏ โหติ, อยํ ปงฺคุโฬปมา.
๒๒๖. อยํ ¶ ปน โทวาริกูปมา – เสยฺยถาปิ โทวาริโก นครสฺส อนฺโต จ พหิ จ ปุริเส ‘‘โก ตฺวํ, กุโต วา อาคโต, กุหึ วา คจฺฉสิ, กึ วา เต หตฺเถ’’ติ น วีมํสติ. น หิ ตสฺส เต ภารา, ทฺวารปฺปตฺตํ ทฺวารปฺปตฺตํเยว ปน วีมํสติ, เอวเมว อิมสฺส ภิกฺขุโน อนฺโตปวิฏฺวาตา จ พหินิกฺขนฺตวาตา จ น ภารา โหนฺติ, ทฺวารปฺปตฺตา ทฺวารปฺปตฺตาเยว ภาราติ อยํ โทวาริกูปมา.
๒๒๗. กกจูปมา ปน อาทิโต ปฏฺาย เอวํ เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
อชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา นุปลพฺภติ.
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
ชานโต จ ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙);
‘‘กถํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิ คจฺฉติ? เสยฺยถาปิ รุกฺโข สเม ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต, ตเมนํ ปุริโส กกเจน ฉินฺเทยฺย. รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา ¶ กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.
‘‘ยถา รุกฺโข สเม ภูมิภาเค นิกฺขิตฺโต, เอวํ อุปนิพนฺธนานิมิตฺตํ. ยถา กกจทนฺตา, เอวํ อสฺสาสปสฺสาสา. ยถา รุกฺเข ผุฏฺกกจทนฺตานํ วเสน ปุริสสฺส สติ อุปฏฺิตา โหติ, น อาคเต วา คเต วา กกจทนฺเต มนสิ กโรติ, น อาคตา วา คตา วา กกจทนฺตา อวิทิตา โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ, เอวเมว ภิกฺขุ นาสิกคฺเค วา มุขนิมิตฺเต วา สตึ อุปฏฺเปตฺวา นิสินฺโน โหติ, น อาคเต วา คเต วา อสฺสาสปสฺสาเส มนสิ กโรติ, น จ อาคตา วา คตา วา อสฺสาสปสฺสาสา อวิทิตา ¶ โหนฺติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ.
‘‘ปธานนฺติ กตมํ ปธานํ? อารทฺธวีริยสฺส กาโยปิ จิตฺตมฺปิ กมฺมนิยํ โหติ, อิทํ ปธานํ. กตโม ปโยโค? อารทฺธวีริยสฺส อุปกฺกิเลสา ปหียนฺติ, วิตกฺกา วูปสมนฺติ, อยํ ปโยโค. กตโม วิเสโส? อารทฺธวีริยสฺส สํโยชนา ปหียนฺติ, อนุสยา พฺยนฺตี โหนฺติ, อยํ วิเสโส. เอวํ อิเม ตโย ธมฺมา เอกจิตฺตสฺส อารมฺมณา น โหนฺติ, น จิเม ตโย ธมฺมา อวิทิตา โหนฺติ, น จ จิตฺตํ วิกฺเขปํ คจฺฉติ, ปธานฺจ ปฺายติ, ปโยคฺจ สาเธติ, วิเสสมธิคจฺฉติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๙).
‘‘อานาปานสฺสติ ยสฺส, ปริปุณฺณา สุภาวิตา;
อนุปุพฺพํ ปริจิตา, ยถา พุทฺเธน เทสิตา;
โส อิมํ โลกํ ปภาเสติ, อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา’’ติ. (ปฏิ. ม. ๑.๑๖๐);
อยํ กกจูปมา. อิธ ปนสฺส อาคตาคตวเสน อมนสิการมตฺตเมว ปโยชนนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๒๘. อิทํ ¶ กมฺมฏฺานํ มนสิกโรโต กสฺสจิ น จิเรเนว นิมิตฺตฺจ อุปฺปชฺชติ, อวเสสฌานงฺคปฏิมณฺฑิตา อปฺปนาสงฺขาตา ปนา จ สมฺปชฺชติ. กสฺสจิ ปน คณนาวเสเนว มนสิการกาลโต ปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ. ยถา สารทฺธกายสฺส มฺเจ วา ปีเ วา นิสีทโต มฺจปีํ โอนมติ, วิกูชติ, ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ. อสารทฺธกายสฺส ปน นิสีทโต เนว มฺจปีํ โอนมติ, น วิกูชติ, น ปจฺจตฺถรณํ วลึ คณฺหาติ, ตูลปิจุปูริตํ วิย มฺจปีํ โหติ. กสฺมา? ยสฺมา อสารทฺโธ กาโย ลหุโก โหติ. เอวเมว คณนาวเสน มนสิการกาลโต ปภุติ อนุกฺกมโต โอฬาริกอสฺสาสปสฺสาสนิโรธวเสน กายทรเถ วูปสนฺเต กาโยปิ จิตฺตมฺปิ ลหุกํ โหติ, สรีรํ อากาเส ลงฺฆนาการปฺปตฺตํ วิย โหติ.
ตสฺส ¶ โอฬาริเก อสฺสาสปสฺสาเส นิรุทฺเธ สุขุมสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺตติ. ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรํ สุขุมตรํ นิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตติเยว. กถํ? ยถา ปุริโส มหติยา โลหสลากาย กํสถาลํ อาโกเฏยฺย, เอกปฺปหาเรน มหาสทฺโท อุปฺปชฺเชยฺย, ตสฺส โอฬาริกสทฺทารมฺมณํ จิตฺตํ ปวตฺเตยฺย. นิรุทฺเธ โอฬาริเก สทฺเท อถ ปจฺฉา สุขุมสทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ, ตสฺมิมฺปิ นิรุทฺเธ อปราปรํ ตโต สุขุมตรํ สุขุมตรํ สทฺทนิมิตฺตารมฺมณํ ปวตฺตเตว, เอวนฺติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตมฺปิเจตํ – ‘‘เสยฺยถาปิ กํเส อาโกฏิเต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๑) วิตฺถาโร.
๒๒๙. ยถา หิ อฺานิ กมฺมฏฺานานิ อุปรูปริ วิภูตานิ โหนฺติ, น ตถา อิทํ. อิทํ ปน อุปรูปริ ภาเวนฺตสฺส สุขุมตฺตํ คจฺฉติ, อุปฏฺานมฺปิ น อุปคจฺฉติ, เอวํ อนุปฏฺหนฺเต ปน ตสฺมึ เตน ภิกฺขุนา อุฏฺายาสนา จมฺมขณฺฑํ ปปฺโผเฏตฺวา น คนฺตพฺพํ. กึ กาตพฺพํ? ‘‘อาจริยํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ วา, ‘‘นฏฺํ ทานิ เม กมฺมฏฺาน’’นฺติ วา น วุฏฺาตพฺพํ. อิริยาปถํ วิโกเปตฺวา คจฺฉโต หิ กมฺมฏฺานํ นวนวเมว โหติ. ตสฺมา ยถานิสินฺเนเนว เทสโต อาหริตพฺพํ.
ตตฺรายํ อาหรณูปาโย, เตน หิ ภิกฺขุนา กมฺมฏฺานสฺส อนุปฏฺานภาวํ ตฺวา อิติ ปฏิสฺจิกฺขิตพฺพํ, อิเม อสฺสาสปสฺสาสา นาม กตฺถ อตฺถิ, กตฺถ นตฺถิ. กสฺส วา อตฺถิ, กสฺส ¶ วา นตฺถีติ. อเถวํ ปฏิสฺจิกฺขตา อิเม อนฺโตมาตุกุจฺฉิยํ นตฺถิ, อุทเก นิมุคฺคานํ นตฺถิ, ตถา อสฺีภูตานํ, มตานํ, จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺนานํ, รูปารูปภวสมงฺคีนํ, นิโรธสมาปนฺนานนฺติ ตฺวา เอวํ อตฺตนาว อตฺตา ปฏิโจเทตพฺโพ ‘‘นนุ ตฺวํ, ปณฺฑิต, เนว มาตุกุจฺฉิคโต, น อุทเก นิมุคฺโค, น อสฺีภูโต, น มโต, น จตุตฺถชฺฌานสมาปนฺโน, น รูปารูปภวสมงฺคี, น นิโรธสมาปนฺโน. อตฺถิเยว เต อสฺสาสปสฺสาสา, มนฺทปฺตาย ปน ปริคฺคเหตุํ น สกฺโกสี’’ติ. อถาเนน ปกติผุฏฺวเสน จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. อิเม หิ ทีฆนาสิกสฺส นาสาปุฏํ ฆฏฺเฏนฺตา ปวตฺตนฺติ. รสฺสนาสิกสฺส อุตฺตโรฏฺํ. ตสฺมาเนน อิมํ นาม านํ ฆฏฺเฏนฺตีติ นิมิตฺตํ เปตพฺพํ. อิมเมว หิ อตฺถวสํ ปฏิจฺจ วุตฺตํ ภควตา – ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, มุฏฺสติสฺส อสมฺปชานสฺส อานาปานสฺสติภาวนํ วทามี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๙; สํ. นิ. ๕.๙๙๒).
๒๓๐. กิฺจาปิ ¶ หิ ยํกิฺจิ กมฺมฏฺานํ สตสฺส สมฺปชานสฺเสว สมฺปชฺชติ. อิโต อฺํ ปน มนสิกโรนฺตสฺส ปากฏํ โหติ. อิทํ ปน อานาปานสฺสติกมฺมฏฺานํ ครุกํ ครุกภาวนํ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธพุทฺธปุตฺตานํ มหาปุริสานํเยว มนสิการภูมิภูตํ, น เจว อิตฺตรํ, น จ อิตฺตรสตฺตสมาเสวิตํ. ยถา ยถา มนสิ กรียติ, ตถา ตถา สนฺตฺเจว โหติ สุขุมฺจ. ตสฺมา เอตฺถ พลวตี สติ จ ปฺา จ อิจฺฉิตพฺพา.
ยถา หิ มฏฺสาฏกสฺส ตุนฺนกรณกาเล สูจิปิ สุขุมา อิจฺฉิตพฺพา. สูจิปาสเวธนมฺปิ ตโต สุขุมตรํ, เอวเมว มฏฺสาฏกสทิสสฺส อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ภาวนากาเล สูจิปฏิภาคา สติปิ, สูจิปาสเวธนปฏิภาคา ตํสมฺปยุตฺตา ปฺาปิ พลวตี อิจฺฉิตพฺพา. ตาหิ จ ปน สติปฺาหิ สมนฺนาคเตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา.
ยถา ปน กสฺสโก กสึ กสิตฺวา พลีพทฺเท มฺุจิตฺวา โคจรมุเข กตฺวา ฉายาย นิสินฺโน วิสฺสเมยฺย, อถสฺส เต พลีพทฺทา เวเคน อฏวึ ปวิเสยฺยุํ. โย โหติ เฉโก กสฺสโก, โส ปุน เต คเหตฺวา โยเชตุกาโม น เตสํ อนุปทํ คนฺตฺวา อฏวึ อาหิณฺฑหิ, อถ โข รสฺมิฺจ ปโตทฺจ คเหตฺวา อุชุกเมว เตสํ นิปาตนติตฺถํ คนฺตฺวา นิสีทติ วา นิปชฺชติ วา, อถ เต โคเณ ทิวสภาคํ จริตฺวา นิปาตนติตฺถํ โอตริตฺวา นฺหตฺวา จ ปิวิตฺวา ¶ จ ปจฺจุตฺตริตฺวา ิเต ทิสฺวา รสฺมิยา พนฺธิตฺวา ปโตเทน วิชฺฌนฺโต อาเนตฺวา โยเชตฺวา ปุน กมฺมํ กโรติ, เอวเมว เตน ภิกฺขุนา น เต อสฺสาสปสฺสาสา อฺตฺร ปกติผุฏฺโกาสา ปริเยสิตพฺพา. สติรสฺมึ ปน ปฺาปโตทฺจ คเหตฺวา ปกติผุฏฺโกาเส จิตฺตํ เปตฺวา มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพ. เอวฺหิสฺส มนสิกโรโต น จิรสฺเสว เต อุปฏฺหนฺติ นิปาตนติตฺเถ วิย โคณา. ตโตเนน สติรสฺมิยา พนฺธิตฺวา ตสฺมึเยว าเน โยเชตฺวา ปฺาปโตเทน วิชฺฌนฺเตน ปุนปฺปุนํ กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชิตพฺพํ.
๒๓๑. ตสฺเสวมนุยฺุชโต น จิรสฺเสว นิมิตฺตํ อุปฏฺาติ. ตํ ปเนตํ น สพฺเพสํ เอกสทิสํ โหติ. อปิจ โข กสฺสจิ สุขสมฺผสฺสํ อุปฺปาทยมาโน ตูลปิจุ วิย กปฺปาสปิจุ วิย วาตธารา วิย จ อุปฏฺาตีติ เอกจฺเจ อาหุ.
อยํ ¶ ปน อฏฺกถาสุ วินิจฺฉโย, อิทฺหิ กสฺสจิ ตารกรูปํ วิย มณิคุฬิกา วิย มุตฺตาคุฬิกา วิย จ, กสฺสจิ ขรสมฺผสฺสํ หุตฺวา กปฺปาสฏฺิ วิย ทารุสารสูจิ วิย จ, กสฺสจิ ทีฆปามงฺคสุตฺตํ วิย กุสุมทามํ วิย ธูมสิขา วิย จ, กสฺสจิ วิตฺถตํ มกฺกฏกสุตฺตํ วิย วลาหกปฏลํ วิย ปทุมปุปฺผํ วิย รถจกฺกํ วิย จนฺทมณฺฑลํ วิย สูริยมณฺฑลํ วิย จ อุปฏฺาติ. ตฺจ ปเนตํ ยถา สมฺพหุเลสุ ภิกฺขูสุ สุตฺตนฺตํ สชฺฌายิตฺวา นิสินฺเนสุ เอเกน ภิกฺขุนา ‘‘ตุมฺหากํ กีทิสํ หุตฺวา อิทํ สุตฺตํ อุปฏฺาตี’’ติ วุตฺเต เอโก ‘‘มยฺหํ มหตี ปพฺพเตยฺยา นที วิย หุตฺวา อุปฏฺาตี’’ติ อาห. อปโร ‘‘มยฺหํ เอกา วนราชิ วิย’’. อฺโ ‘‘มยฺหํ เอโก สีตจฺฉาโย สาขาสมฺปนฺโน ผลภารภริตรุกฺโข วิยา’’ติ. เตสํ หิ ตํ เอกเมว สุตฺตํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. เอวํ เอกเมว กมฺมฏฺานํ สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาติ. สฺชฺหิ เอตํ สฺานิทานํ สฺาปภวํ. ตสฺมา สฺานานตาย นานโต อุปฏฺาตีติ เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ อฺเมว อสฺสาสารมฺมณํ จิตฺตํ, อฺํ ปสฺสาสารมฺมณํ, อฺํ นิมิตฺตารมฺมณํ. ยสฺส หิ อิเม ตโย ธมฺมา นตฺถิ, ตสฺส กมฺมฏฺานํ เนว อปฺปนํ, น อุปจารํ ปาปุณาติ. ยสฺส ปน อิเม ตโย ธมฺมา อตฺถิ, ตสฺเสว กมฺมฏฺานํ อุปจารฺจ อปฺปนฺจ ปาปุณาติ. วุตฺตฺเหตํ –
‘‘นิมิตฺตํ ¶ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
อชานโต ตโย ธมฺเม, ภาวนา นุปลพฺภติ.
‘‘นิมิตฺตํ อสฺสาสปสฺสาสา, อนารมฺมณเมกจิตฺตสฺส;
ชานโตว ตโย ธมฺเม, ภาวนา อุปลพฺภตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);
๒๓๒. เอวํ อุปฏฺิเต ปน นิมิตฺเต เตน ภิกฺขุนา อาจริยสฺส สนฺติกํ คนฺตฺวา อาโรเจตพฺพํ ‘‘มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ นาม อุปฏฺาตี’’ติ. อาจริเยน ปน เอตํ นิมิตฺตนฺติ วา น วา นิมิตฺตนฺติ น วตฺตพฺพํ. ‘‘เอวํ โหติ, อาวุโส’’ติ วตฺวา ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหีติ วตฺตพฺโพ. นิมิตฺตนฺติ หิ วุตฺเต โวสานํ อาปชฺเชยฺย. น นิมิตฺตนฺติ วุตฺเต นิราโส วิสีเทยฺย. ตสฺมา ตทุภยมฺปิ อวตฺวา มนสิกาเรเยว นิโยเชตพฺโพติ. เอวํ ตาว ทีฆภาณกา.
มชฺฌิมภาณกา ปนาหุ ‘‘นิมิตฺตมิทํ, อาวุโส, กมฺมฏฺานํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรหิ สปฺปุริสาติ วตฺตพฺโพ’’ติ. อถาเนน นิมิตฺเตเยว จิตฺตํ เปตพฺพํ ¶ . เอวมสฺสายํ อิโต ปภุติ ปนาวเสน ภาวนา โหติ. วุตฺตฺเหตํ โปราเณหิ –
‘‘นิมิตฺเต ปยํ จิตฺตํ, นานาการํ วิภาวยํ;
ธีโร อสฺสาสปสฺสาเส, สกํ จิตฺตํ นิพนฺธตี’’ติ. (ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕);
ตสฺเสวํ นิมิตฺตุปฏฺานโต ปภุติ นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ, กิเลสา สนฺนิสินฺนาว. สติ อุปฏฺิตาเยว. จิตฺตํ อุปจารสมาธินา สมาหิตเมว. อถาเนน ตํ นิมิตฺตํ เนว วณฺณโต มนสิ กาตพฺพํ, น ลกฺขณโต ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. อปิจ โข ขตฺติยมเหสิยา จกฺกวตฺติคพฺโภ วิย กสฺสเกน สาลิยวคพฺโภ วิย จ อาวาสาทีนิ สตฺต อสปฺปายานิ วชฺเชตฺวา ตาเนว สตฺต สปฺปายานิ เสวนฺเตน สาธุกํ รกฺขิตพฺพํ. อถ นํ เอวํ รกฺขิตฺวา ปุนปฺปุนํ มนสิการวเสน วุทฺธึ วิรูฬฺหึ คมยิตฺวา ทสวิธํ อปฺปนาโกสลฺลํ สมฺปาเทตพฺพํ, วีริยสมตา ¶ โยเชตพฺพา. ตสฺเสวํ ฆเฏนฺตสฺส ปถวีกสิเณ วุตฺตานุกฺกเมเนว ตสฺมึ นิมิตฺเต จตุกฺกปฺจกชฺฌานานิ นิพฺพตฺตนฺติ.
๒๓๓. เอวํ นิพฺพตฺตจตุกฺกปฺจกชฺฌาโน ปเนตฺถ ภิกฺขุ สลฺลกฺขณาวิวฏฺฏนาวเสน กมฺมฏฺานํ วฑฺเฒตฺวา ปาริสุทฺธึ ปตฺตุกาโม ตเทว ฌานํ ปฺจหากาเรหิ วสิปฺปตฺตํ ปคุณํ กตฺวา นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปติ. กถํ? โส หิ สมาปตฺติโต วุฏฺาย อสฺสาสปสฺสาสานํ สมุทโย กรชกาโย จ จิตฺตฺจาติ ปสฺสติ. ยถา หิ กมฺมารคคฺคริยา ธมมานาย ภสฺตฺจ ปุริสสฺส จ ตชฺชํ วายามํ ปฏิจฺจ วาโต สฺจรติ, เอวเมว กายฺจ จิตฺตฺจ ปฏิจฺจ อสฺสาสปสฺสาสาติ. ตโต อสฺสาสปสฺสาเส จ กายฺจ รูปนฺติ จิตฺตฺจ ตํสมฺปยุตฺตธมฺเม จ อรูปนฺติ ววตฺถเปติ. อยเมตฺถ สงฺเขโป. วิตฺถารโต ปน นามรูปววตฺถานํ ปรโต อาวิภวิสฺสติ.
เอวํ นามรูปํ ววตฺถเปตฺวา ตสฺส ปจฺจยํ ปริเยสติ. ปริเยสนฺโต จ นํ ทิสฺวา ตีสุปิ อทฺธาสุ นามรูปสฺส ปวตฺตึ อารพฺภ กงฺขํ วิตรติ. วิติณฺณกงฺโข กลาปสมฺมสนวเสน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปุพฺพภาเค อุปฺปนฺเน โอภาสาทโย ทส วิปสฺสนุปกฺกิเลเส ปหาย ¶ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปฏิปทาาณํ มคฺโคติ ววตฺถเปตฺวา อุทยํ ปหาย ภงฺคานุปสฺสนํ ปตฺวา นิรนฺตรํ ภงฺคานุปสฺสเนน วยโต อุปฏฺิเตสุ สพฺพสงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนฺโต วิรชฺชนฺโต วิมุจฺจนฺโต ยถากฺกเมน จตฺตาโร อริยมคฺเค ปาปุณิตฺวา อรหตฺตผเล ปติฏฺาย เอกูนวีสติเภทสฺส ปจฺจเวกฺขณาาณสฺส ปริยนฺตํ ปตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหติ.
เอตฺตาวตา จสฺส คณนํ อาทึ กตฺวา วิปสฺสนาปริโยสานา อานาปานสฺสติสมาธิภาวนา สมตฺตา โหตีติ อยํ สพฺพาการโต ปมจตุกฺกวณฺณนา.
๒๓๔. อิตเรสุ ปน ตีสุ จตุกฺเกสุ ยสฺมา วิสุํ กมฺมฏฺานภาวนานโย นาม นตฺถิ. ตสฺมา อนุปทวณฺณนานเยเนว เตสํ เอวํ อตฺโถ เวทิตพฺโพ.
ปีติปฏิสํเวทีติ ปีตึ ปฏิสํวิทิตํ กโรนฺโต ปากฏํ กโรนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ ¶ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ อารมฺมณโต จ อสมฺโมหโต จ.
กถํ อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ. ตสฺส สมาปตฺติกฺขเณ ฌานปฏิลาเภน อารมฺมณโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ, อารมฺมณสฺส ปฏิสํวิทิตตฺตา. กถํ อสมฺโมหโต? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ. ตสฺส วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อสมฺโมหโต ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. วุตฺตฺเหตํ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๒) –
‘‘ทีฆํ อสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ทีฆํ ปสฺสาสวเสน… รสฺสํ อสฺสาสวเสน… รสฺสํ ปสฺสาสวเสน… สพฺพกายปฏิสํเวที อสฺสาสปสฺสาสวเสน… ปสฺสมฺภยํ กายสงฺขารํ อสฺสาสปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ อวิกฺเขปํ ปชานโต สติ ¶ อุปฏฺิตา โหติ. ตาย สติยา เตน าเณน สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. อาวชฺชโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. ชานโต ปสฺสโต ปจฺจเวกฺขโต จิตฺตํ อธิฏฺหโต สทฺธาย อธิมุจฺจโต วีริยํ ปคฺคณฺหโต สตึ อุปฏฺาปยโต จิตฺตํ สมาทหโต ปฺาย ปชานโต อภิฺเยฺยํ ปริฺเยฺยํ ปหาตพฺพํ ภาเวตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉิกโรโต สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหติ. เอวํ สา ปีติ ปฏิสํวิทิตา โหตี’’ติ.
เอเตเนว นเยน อวเสสปทานิปิ อตฺถโต เวทิตพฺพานิ. อิทมฺปเนตฺถ วิเสสมตฺตํ, ติณฺณํ ฌานานํ วเสน สุขปฏิสํเวทิตา, จตุนฺนมฺปิ วเสน จิตฺตสงฺขารปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. จิตฺตสงฺขาโรติ เวทนาทโย ทฺเว ขนฺธา. สุขปฏิสํเวทีปเท เจตฺถ วิปสฺสนาภูมิทสฺสนตฺถํ ‘‘สุขนฺติ ทฺเว สุขานิ กายิกฺจ สุขํ เจตสิกฺจา’’ติ ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๓) วุตฺตํ. ปสฺสมฺภยํ จิตฺตสงฺขารนฺติ โอฬาริกํ โอฬาริกํ จิตฺตสงฺขารํ ปสฺสมฺเภนฺโต, นิโรเธนฺโตติ อตฺโถ. โส วิตฺถารโต กายสงฺขาเร วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
อปิเจตฺถ ปีติปเท ปีติสีเสน เวทนา วุตฺตา. สุขปเท สรูเปเนว เวทนา. ทฺวีสุ จิตฺตสงฺขารปเทสุ ¶ ‘‘สฺา จ เวทนา จ เจตสิกา เอเต ธมฺมา จิตฺตปฏิพทฺธา จิตฺตสงฺขารา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๗๔; ม. นิ. ๑.๔๖๓) วจนโต สฺาสมฺปยุตฺตา เวทนาติ เอวํ เวทนานุปสฺสนานเยน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๓๕. ตติยจตุกฺเกปิ จตุนฺนํ ฌานานํ วเสน จิตฺตปฏิสํเวทิตา เวทิตพฺพา. อภิปฺปโมทยํ จิตฺตนฺติ จิตฺตํ โมเทนฺโต ปโมเทนฺโต หาเสนฺโต ปหาเสนฺโต อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขติ. ตตฺถ ทฺวีหากาเรหิ อภิปฺปโมโท โหติ สมาธิวเสน จ วิปสฺสนาวเสน จ.
กถํ สมาธิวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชติ. โส สมาปตฺติกฺขเณ สมฺปยุตฺตปีติยา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. กถํ วิปสฺสนาวเสน? สปฺปีติเก ทฺเว ฌาเน สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตปีตึ ขยโต วยโต สมฺมสติ. เอวํ วิปสฺสนากฺขเณ ฌานสมฺปยุตฺตํ ปีตึ อารมฺมณํ กตฺวา จิตฺตํ อาโมเทติ ปโมเทติ. เอวํ ¶ ปฏิปนฺโน ‘‘อภิปฺปโมทยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
สมาทหํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌานาทิวเสน อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต. ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺปสฺสโต วิปสฺสนากฺขเณ ลกฺขณปฏิเวเธน อุปฺปชฺชติ ขณิกจิตฺเตกคฺคตา. เอวํ อุปฺปนฺนาย ขณิกจิตฺเตกคฺคตาย วเสนปิ อารมฺมเณ จิตฺตํ สมํ อาทหนฺโต สมํ เปนฺโต ‘‘สมาทหํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ วุจฺจติ.
วิโมจยํ จิตฺตนฺติ ปมชฺฌาเนน นีวรเณหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต, ทุติเยน วิตกฺกวิจาเรหิ, ตติเยน ปีติยา, จตุตฺเถน สุขทุกฺเขหิ จิตฺตํ โมเจนฺโต วิโมเจนฺโต. ตานิ วา ปน ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ฌานสมฺปยุตฺตํ จิตฺตํ ขยโต วยโต สมฺมสติ. โส วิปสฺสนากฺขเณ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาโต จิตฺตํ โมเจนฺโต, ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาโต, อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาโต, นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิโต, วิราคานุปสฺสนาย ราคโต, นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยโต, ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานโต จิตฺตํ โมเจนฺโต อสฺสสติ เจว ปสฺสสติ จ. เตน วุจฺจติ ‘‘วิโมจยํ จิตฺตํ อสฺสสิสฺสามิ ¶ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ. เอวํ จิตฺตานุปสฺสนาวเสน อิทํ จตุกฺกํ ภาสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.
๒๓๖. จตุตฺถจตุกฺเก ปน อนิจฺจานุปสฺสีติ เอตฺถ ตาว อนิจฺจํ เวทิตพฺพํ. อนิจฺจตา เวทิตพฺพา. อนิจฺจานุปสฺสนา เวทิตพฺพา. อนิจฺจานุปสฺสี เวทิตพฺโพ.
ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ปฺจกฺขนฺธา. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา. อนิจฺจตาติ เตสํเยว อุปฺปาทวยฺถตฺตํ, หุตฺวา อภาโว วา, นิพฺพตฺตานํ เตเนวากาเรน อฏฺตฺวา ขณภงฺเคน เภโทติ อตฺโถ. อนิจฺจานุปสฺสนาติ ตสฺสา อนิจฺจตาย วเสน รูปาทีสุ อนิจฺจนฺติ อนุปสฺสนา. อนิจฺจานุปสฺสีติ ตาย อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต. ตสฺมา เอวํภูโต อสฺสสนฺโต ¶ ปสฺสสนฺโต จ อิธ ‘‘อนิจฺจานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
วิราคานุปสฺสีติ เอตฺถ ปน ทฺเว วิราคา ขยวิราโค จ อจฺจนฺตวิราโค จ. ตตฺถ ขยวิราโคติ สงฺขารานํ ขณภงฺโค. อจฺจนฺตวิราโคติ นิพฺพานํ. วิราคานุปสฺสนาติ ตทุภยทสฺสนวเสน ปวตฺตา วิปสฺสนา จ มคฺโค จ. ตาย ทุวิธายปิ อนุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต ปสฺสสนฺโต จ ‘‘วิราคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ. นิโรธานุปสฺสีปเทปิ เอเสว นโย.
ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสีติ เอตฺถาปิ ทฺเว ปฏินิสฺสคฺคา ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค จ ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จ. ปฏินิสฺสคฺโคเยว อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. วิปสฺสนามคฺคานํ เอตมธิวจนํ.
วิปสฺสนา หิ ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโคติ จ วุจฺจติ. มคฺโค สมุจฺเฉทวเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลเส ปริจฺจชติ, อารมฺมณกรเณน จ นิพฺพาเน ปกฺขนฺทตีติ ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโคติ จ วุจฺจติ. อุภยมฺปิ ปน ปุริมปุริมฺาณานํ อนุอนุปสฺสนโต อนุปสฺสนาติ วุจฺจติ. ตาย ทุวิธายปิ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย สมนฺนาคโต หุตฺวา อสฺสสนฺโต ¶ ปสฺสสนฺโต จ ‘‘ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสี อสฺสสิสฺสามิ ปสฺสสิสฺสามีติ สิกฺขตี’’ติ เวทิตพฺโพ.
อิทํ จตุตฺถจตุกฺกํ สุทฺธวิปสฺสนาวเสเนว วุตฺตํ. ปุริมานิ ปน ตีณิ สมถวิปสฺสนาวเสน. เอวํ จตุนฺนํ จตุกฺกานํ วเสน โสฬสวตฺถุกาย อานาปานสฺสติยา ภาวนา เวทิตพฺพา. เอวํ โสฬสวตฺถุวเสน จ ปน อยํ อานาปานสฺสติ มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา.
๒๓๗. ตตฺรสฺส ‘‘อยมฺปิ โข, ภิกฺขเว, อานาปานสฺสติสมาธิ ภาวิโต พหุลีกโต สนฺโต เจว ปณีโต จา’’ติอาทิวจนโต สนฺตภาวาทิวเสนาปิ มหานิสํสตา เวทิตพฺพา, วิตกฺกุปจฺเฉทสมตฺถตายปิ. อยฺหิ สนฺตปณีตอเสจนกสุขวิหารตฺตา สมาธิอนฺตรายกรานํ วิตกฺกานํ วเสน อิโต จิโต จ จิตฺตสฺส วิธาวนํ วิจฺฉินฺทิตฺวา อานาปานารมฺมณาภิมุขเมว ¶ จิตฺตํ กโรติ. เตเนว วุตฺตํ ‘‘อานาปานสฺสติ ภาเวตพฺพา วิตกฺกุปจฺเฉทายา’’ติ (อ. นิ. ๙.๑).
วิชฺชาวิมุตฺติปาริปูริยา มูลภาเวนาปิ จสฺสา มหานิสํสตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘อานาปานสฺสติ, ภิกฺขเว, ภาวิตา พหุลีกตา จตฺตาโร สติปฏฺาเน ปริปูเรติ, จตฺตาโร สติปฏฺานา ภาวิตา พหุลีกตา สตฺต โพชฺฌงฺเค ปริปูเรนฺติ, สตฺต โพชฺฌงฺคา ภาวิตา พหุลีกตา วิชฺชาวิมุตฺตึ ปริปูเรนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๑๔๗).
อปิจ จริมกานํ อสฺสาสปสฺสาสานํ วิทิตภาวกรณโตปิสฺสา มหานิสํสตา เวทิตพฺพา. วุตฺตฺเหตํ ภควตา – ‘‘เอวํ ภาวิตาย โข, ราหุล, อานาปานสฺสติยา เอวํ พหุลีกตาย เยปิ เต จริมกา อสฺสาสปสฺสาสา, เตปิ วิทิตาว นิรุชฺฌนฺติ, โน อวิทิตา’’ติ (ม. นิ. ๒.๑๒๑).
๒๓๘. ตตฺถ นิโรธวเสน ตโย จริมกา ภวจริมกา, ฌานจริมกา, จุติจริมกาติ. ภเวสุ หิ กามภเว อสฺสาสปสฺสาสา ปวตฺตนฺติ, รูปารูปภเวสุ นปฺปวตฺตนฺติ, ตสฺมา ¶ เต ภวจริมกา. ฌาเนสุ ปุริเม ฌานตฺตเย ปวตฺตนฺติ, จตุตฺเถ นปฺปวตฺตนฺติ, ตสฺมา เต ฌานจริมกา. เย ปน จุติจิตฺตสฺส ปุรโต โสฬสเมน จิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปชฺชิตฺวา จุติจิตฺเตน สห นิรุชฺฌนฺติ, อิเม จุติจริมกา นาม. อิเม อิธ ‘‘จริมกา’’ติ อธิปฺเปตา.
อิมํ กิร กมฺมฏฺานํ อนุยุตฺตสฺส ภิกฺขุโน อานาปานารมฺมณสฺส สุฏฺุ ปริคฺคหิตตฺตา จุติจิตฺตสฺส ปุรโต โสฬสมสฺส จิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ อุปฺปาทํ อาวชฺชยโต อุปฺปาโทปิ เนสํ ปากโฏ โหติ. ิตึ อาวชฺชยโต ิติปิ เนสํ ปากฏา โหติ. ภงฺคํ อาวชฺชยโต จ ภงฺโค เนสํ ปากโฏ โหติ.
อิโต อฺํ กมฺมฏฺานํ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส ภิกฺขุโน หิ อายุอนฺตรํ ปริจฺฉินฺนํ วา โหติ อปริจฺฉินฺนํ วา. อิทํ ปน โสฬสวตฺถุกํ อานาปานสฺสตึ ภาเวตฺวา อรหตฺตํ ปตฺตสฺส อายุอนฺตรํ ปริจฺฉินฺนเมว โหติ. โส ‘‘เอตฺตกํ ทานิ เม อายุสงฺขารา ปวตฺติสฺสนฺติ, น อิโต ¶ ปร’’นฺติ ตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย เอว สรีรปฏิชคฺคนนิวาสนปารุปนาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ กตฺวา อกฺขีนิ นิมีเลติ โกฏปพฺพตวิหารวาสีติสฺสตฺเถโร วิย มหากรฺชิยวิหารวาสีมหาติสฺสตฺเถโร วิย เทวปุตฺตมหารฏฺเ ปิณฺฑปาติกติสฺสตฺเถโร วิย จิตฺตลปพฺพตวิหารวาสิโน ทฺเว ภาติยตฺเถรา วิย จ.
ตตฺริทํ เอกวตฺถุปริทีปนํ. ทฺเวภาติยตฺเถรานํ กิเรโก ปุณฺณมุโปสถทิวเส ปาติโมกฺขํ โอสาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆปริวุโต อตฺตโน วสนฏฺานํ คนฺตฺวา จงฺกเม ิโต จนฺทาโลกํ โอโลเกตฺวา อตฺตโน อายุสงฺขาเร อุปธาเรตฺวา ภิกฺขุสงฺฆมาห – ‘‘ตุมฺเหหิ กถํ ปรินิพฺพายนฺตา ภิกฺขู ทิฏฺปุพฺพา’’ติ. ตตฺร เกจิ อาหํสุ ‘‘อมฺเหหิ อาสเน นิสินฺนกาว ปรินิพฺพายนฺตา ทิฏฺปุพฺพา’’ติ. เกจิ ‘‘อมฺเหหิ อากาเส ปลฺลงฺกมาภุชิตฺวา นิสินฺนกา’’ติ. เถโร อาห – ‘‘อหํ ทานิ โว จงฺกมนฺตเมว ปรินิพฺพายมานํ ทสฺเสสฺสามี’’ติ ตโต จงฺกเม เลขํ กตฺวา ‘‘อหํ อิโต จงฺกมโกฏิโต ปรโกฏึ คนฺตฺวา นิวตฺตมาโน อิมํ เลขํ ปตฺวาว ปรินิพฺพายิสฺสามี’’ติ วตฺวา จงฺกมํ โอรุยฺห ปรภาคํ คนฺตฺวา นิวตฺตมาโน เอเกน ปาเทน เลขํ อกฺกนฺตกฺขเณเยว ปรินิพฺพายิ.
ตสฺมา หเว อปฺปมตฺโต, อนุยฺุเชถ ปณฺฑิโต;
เอวํ อเนกานิสํสํ, อานาปานสฺสตึ สทาติ.
อิทํ อานาปานสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
อุปสมานุสฺสติกถา
๒๓๙. อานาปานสฺสติยา ¶ อนนฺตรํ อุทฺทิฏฺํ ปน อุปสมานุสฺสตึ ภาเวตุกาเมน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน – ‘‘ยาวตา, ภิกฺขเว, ธมฺมา สงฺขตา วา อสงฺขตา วา วิราโค เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติ, ยทิทํ มทนิมฺมทโน ปิปาสวินโย อาลยสมุคฺฆาโต วฏฺฏุปจฺเฉโท ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธ นิพฺพาน’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๓๔; อิติวุ. ๙๐) เอวํ สพฺพทุกฺขูปสมสงฺขาตสฺส นิพฺพานสฺส คุณา อนุสฺสริตพฺพา.
ตตฺถ ยาวตาติ ยตฺตกา. ธมฺมาติ สภาวา. สงฺขตา วา อสงฺขตา วาติ สงฺคมฺม สมาคมฺม ปจฺจเยหิ กตา วา อกตา วา. วิราโค เตสํ ธมฺมานํ ¶ อคฺคมกฺขายตีติ เตสํ สงฺขตาสงฺขตธมฺมานํ วิราโค อคฺคมกฺขายติ เสฏฺโ อุตฺตโมติ วุจฺจติ. ตตฺถ วิราโคติ น ราคาภาวมตฺตเมว, อถ โข ยทิทํ มทนิมฺมทโน…เป… นิพฺพานนฺติ โย โส มทนิมฺมทโนติอาทีนิ นามานิ อสงฺขตธมฺโม ลภติ, โส วิราโคติ ปจฺเจตพฺโพ. โส หิ ยสฺมา ตมาคมฺม สพฺเพปิ มานมทปุริสมทาทโย มทา นิมฺมทา อมทา โหนฺติ วินสฺสนฺติ, ตสฺมา มทนิมฺมทโนติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตมาคมฺม สพฺพาปิ กามปิปาสา วินยํ อพฺภตฺถํ ยาติ, ตสฺมา ปิปาสวินโยติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตมาคมฺม ปฺจกามคุณาลยา สมุคฺฆาตํ คจฺฉนฺติ, ตสฺมา อาลยสมุคฺฆาโตติ วุจฺจติ. ยสฺมา จ ตมาคมฺม เตภูมกํ วฏฺฏํ อุปจฺฉิชฺชติ, ตสฺมา วฏฺฏุปจฺเฉโทติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปน ตมาคมฺม สพฺพโส ตณฺหา ขยํ คจฺฉติ วิรชฺชติ นิรุชฺฌติ จ, ตสฺมา ตณฺหกฺขโย วิราโค นิโรโธติ วุจฺจติ. ยสฺมา ปเนส จตสฺโส โยนิโย ปฺจ คติโย สตฺต วิฺาณฏฺิติโย นว จ สตฺตาวาเส อปราปรภาวาย วินนโต อาพนฺธนโต สํสิพฺพนโต วานนฺติ ลทฺธโวหาราย ตณฺหาย นิกฺขนฺโต นิสฺสโฏ วิสํยุตฺโต, ตสฺมา นิพฺพานนฺติ วุจฺจตีติ.
เอวเมเตสํ มทนิมฺมทนตาทีนํ คุณานํ วเสน นิพฺพานสงฺขาโต อุปสโม อนุสฺสริตพฺโพ. เย วา ปนฺเปิ ภควตา – ‘‘อสงฺขตฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามิ… สจฺจฺจ… ปารฺจ… สุทุทฺทสฺจ… อชรฺจ… ธุวฺจ… นิปฺปปฺจฺจ… อมตฺจ… สิวฺจ… เขมฺจ… อพฺภุตฺจ… อนีติกฺจ… อพฺยาพชฺฌฺจ… วิสุทฺธิฺจ… ทีปฺจ… ตาณฺจ ¶ … เลณฺจ โว, ภิกฺขเว, เทเสสฺสามี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๔.๓๖๖) สุตฺเตสุ อุปสมคุณา วุตฺตา, เตสมฺปิ วเสน อนุสฺสริตพฺโพเยว.
ตสฺเสวํ มทนิมฺมทนตาทิคุณวเสน อุปสมํ อนุสฺสรโต เนว ตสฺมึ สมเย ราคปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ, น โทส… น โมหปริยุฏฺิตํ จิตฺตํ โหติ. อุชุคตเมวสฺส ตสฺมึ สมเย จิตฺตํ โหติ อุปสมํ อารพฺภาติ พุทฺธานุสฺสติอาทีสุ วุตฺตนเยเนว วิกฺขมฺภิตนีวรณสฺส เอกกฺขเณ ฌานงฺคานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อุปสมคุณานํ ปน คมฺภีรตาย นานปฺปการคุณานุสฺสรณาธิมุตฺตตาย วา อปฺปนํ อปฺปตฺวา อุปจารปฺปตฺตเมว ฌานํ โหติ ¶ . ตเทตมุปสมคุณานุสฺสรณวเสน อุปสมานุสฺสติจฺเจว สงฺขฺยํ คจฺฉติ.
ฉ อนุสฺสติโย วิย จ อยมฺปิ อริยสาวกสฺเสว อิชฺฌติ, เอวํ สนฺเตปิ อุปสมครุเกน ปุถุชฺชเนนาปิ มนสิ กาตพฺพา. สุตวเสนาปิ หิ อุปสเม จิตฺตํ ปสีทติ. อิมฺจ ปน อุปสมานุสฺสตึ อนุยุตฺโต ภิกฺขุ สุขํ สุปติ, สุขํ ปฏิพุชฺฌติ, สนฺตินฺทฺริโย โหติ สนฺตมานโส หิโรตฺตปฺปสมนฺนาคโต ปาสาทิโก ปณีตาธิมุตฺติโก สพฺรหฺมจารีนํ ครุ จ ภาวนีโย จ. อุตฺตริ อปฺปฏิวิชฺฌนฺโต ปน สุคติปรายโน โหติ.
ตสฺมา หเว อปฺปมตฺโต, ภาวเยถ วิจกฺขโณ;
เอวํ อเนกานิสํสํ, อริเย อุปสเม สตินฺติ.
อิทํ อุปสมานุสฺสติยํ วิตฺถารกถามุขํ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
สมาธิภาวนาธิกาเร
อนุสฺสติกมฺมฏฺานนิทฺเทโส นาม
อฏฺโม ปริจฺเฉโท.