📜
๑๓. อภิฺานิทฺเทโส
ทิพฺพโสตธาตุกถา
๔๐๐. อิทานิ ¶ ¶ ทิพฺพโสตธาตุยา นิทฺเทสกฺกโม อนุปฺปตฺโต. ตตฺถ ตโต ปราสุ จ ตีสุ อภิฺาสุ โส เอวํ สมาหิเต จิตฺเตติอาทีนํ (ที. นิ. ๑.๒๔๐ อาทโย) อตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. สพฺพตฺถ ปน วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. ตตฺร ทิพฺพาย โสตธาตุยาติ เอตฺถ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพา. เทวานํ หิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตา ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธา อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉนสมตฺถา ทิพฺพปสาทโสตธาตุ โหติ. อยฺจาปิ อิมสฺส ภิกฺขุโน วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตา าณโสตธาตุ ตาทิสาเยวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพา. อปิจ ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพา. สวนฏฺเน นิชฺชีวฏฺเน จ โสตธาตุ. โสตธาตุกิจฺจกรเณน จ โสตธาตุ วิยาติปิ โสตธาตุ. ตาย ทิพฺพาย โสตธาตุยา.
วิสุทฺธายาติ ปริสุทฺธาย นิรุปกฺกิเลสาย. อติกฺกนฺตมานุสิกายาติ มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา สทฺทสวเนน มานุสิกํ มํสโสตธาตุํ อติกฺกนฺตาย วีติวตฺติตฺวา ิตาย. อุโภ สทฺเท สุณาตีติ ทฺเว สทฺเท สุณาติ. กตเม ทฺเว? ทิพฺเพ จ มานุเส จ, เทวานฺจ มนุสฺสานฺจ สทฺเทติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน ปเทสปริยาทานํ เวทิตพฺพํ. เย ทูเร สนฺติเก จาติ เย สทฺทา ทูเร ปรจกฺกวาเฬปิ เย จ สนฺติเก อนฺตมโส สเทหสนฺนิสฺสิตปาณกสทฺทาปิ, เต สุณาตีติ วุตฺตํ โหติ. เอเตน นิปฺปเทสปริยาทานํ เวทิตพฺพํ.
กถํ ปนายํ อุปฺปาเทตพฺพาติ? เตน ภิกฺขุนา อภิฺาปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ปริกมฺมสมาธิจิตฺเตน ปมตรํ ปกติโสตปเถ ทูเร โอฬาริโก อรฺเ สีหาทีนํ สทฺโท อาวชฺชิตพฺโพ. วิหาเร ฆณฺฑิสทฺโท, เภริสทฺโท, สงฺขสทฺโท, สามเณรทหรภิกฺขูนํ สพฺพถาเมน สชฺฌายนฺตานํ ¶ สชฺฌายนสทฺโท, ปกติกถํ กเถนฺตานํ ‘‘กึ ภนฺเต, กิมาวุโส’’ติอาทิสทฺโท, สกุณสทฺโท, วาตสทฺโท, ปทสทฺโท, ปกฺกุถิตอุทกสฺส ¶ จิจฺจิฏายนสทฺโท, อาตเป สุสฺสมานตาลปณฺณสทฺโท, กุนฺถกิปิลฺลิกาทิสทฺโทติ เอวํ สพฺโพฬาริกโต ปภุติ ยถากฺกเมน สุขุมสทฺทา อาวชฺชิตพฺพา. เตน ปุรตฺถิมาย ทิสาย สทฺทานํ สทฺทนิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. ปจฺฉิมาย, อุตฺตราย, ทกฺขิณาย, เหฏฺิมาย, อุปริมาย ทิสาย, ปุรตฺถิมาย อนุทิสาย, ปจฺฉิมาย, อุตฺตราย, ทกฺขิณาย อนุทิสาย สทฺทานํ สทฺทนิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. โอฬาริกานมฺปิ สุขุมานมฺปิ สทฺทานํ สทฺทนิมิตฺตํ มนสิกาตพฺพํ. ตสฺส เต สทฺทา ปากติกจิตฺตสฺสาปิ ปากฏา โหนฺติ. ปริกมฺมสมาธิจิตฺตสฺส ปน อติวิย ปากฏา.
ตสฺเสวํ สทฺทนิมิตฺตํ มนสิกโรโต อิทานิ ทิพฺพโสตธาตุ อุปฺปชฺชิสฺสตีติ เตสุ สทฺเทสุ อฺตรํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมึ นิรุทฺเธ จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ, เยสํ ปุริมานิ ตีณิ จตฺตาริ วา ปริกมฺมอุปจารานุโลมโคตฺรภุนามกานิ กามาวจรานิ, จตุตฺถํ ปฺจมํ วา อปฺปนาจิตฺตํ รูปาวจรํ จตุตฺถชฺฌานิกํ. ตตฺถ ยํ เตน อปฺปนาจิตฺเตน สทฺธึ อุปฺปนฺนํ าณํ, อยํ ทิพฺพโสตธาตูติ เวทิตพฺพา. ตโต ปรํ ตสฺมึ โสเต ปติโต โหติ. ตํ ถามชาตํ กโรนฺเตน ‘‘เอตฺถนฺตเร สทฺทํ สุณามี’’ติ เอกงฺคุลมตฺตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ. ตโต ทฺวงฺคุลจตุรงฺคุลอฏฺงฺคุลวิทตฺถิรตนอนฺโตคพฺภปมุขปาสาทปริเวณสงฺฆารามโคจรคามชนปทาทิวเสน ยาว จกฺกวาฬํ ตโต วา ภิยฺโยปิ ปริจฺฉินฺทิตฺวา ปริจฺฉินฺทิตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ.
เอวํ อธิคตาภิฺโ เอส ปาทกชฺฌานารมฺมเณน ผุฏฺโกาสพฺภนฺตรคเตปิ สทฺเท ปุน ปาทกชฺฌานํ อสมาปชฺชิตฺวาปิ อภิฺาาเณน สุณาติเยว. เอวํ สุณนฺโต จ สเจปิ ยาว พฺรหฺมโลกา สงฺขเภริปณวาทิสทฺเทหิ เอกโกลาหลํ โหติ, ปาฏิเยกฺกํ ววตฺถเปตุกามตาย สติ อยํ สงฺขสทฺโท อยํ เภริสทฺโทติ ววตฺถเปตุํ สกฺโกติเยวาติ.
ทิพฺพโสตธาตุกถา นิฏฺิตา.
เจโตปริยาณกถา
๔๐๑. เจโตปริยาณกถาย ¶ ¶ เจโตปริยาณายาติ เอตฺถ ปริยาตีติ ปริยํ, ปริจฺฉินฺทตีติ อตฺโถ. เจตโส ปริยํ เจโตปริยํ. เจโตปริยฺจ ตํ าณฺจาติ เจโตปริยาณํ. ตทตฺถายาติ วุตฺตํ โหติ. ปรสตฺตานนฺติ อตฺตานํ เปตฺวา เสสสตฺตานํ. ปรปุคฺคลานนฺติ อิทมฺปิ อิมินา เอกตฺถเมว. เวเนยฺยวเสน ปน เทสนาวิลาเสน จ พฺยฺชนนานตฺตํ กตํ. เจตสา เจโตติ อตฺตโน จิตฺเตน เตสํ จิตฺตํ. ปริจฺจ ปชานาตีติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา สราคาทิวเสน นานปฺปการโต ชานาติ.
กถํ ปเนตํ าณํ อุปฺปาเทตพฺพนฺติ? เอตฺหิ ทิพฺพจกฺขุวเสน อิชฺฌติ, ตํ เอตสฺส ปริกมฺมํ. ตสฺมา เตน ภิกฺขุนา อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา ทิพฺเพน จกฺขุนา ปรสฺส หทยรูปํ นิสฺสาย วตฺตมานสฺส โลหิตสฺส วณฺณํ ปสฺสิตฺวา จิตฺตํ ปริเยสิตพฺพํ. ยทา หิ โสมนสฺสจิตฺตํ วตฺตติ, ตทา รตฺตํ นิคฺโรธปกฺกสทิสํ โหติ. ยทา โทมนสฺสจิตฺตํ วตฺตติ, ตทา กาฬกํ ชมฺพุปกฺกสทิสํ. ยทา อุเปกฺขาจิตฺตํ วตฺตติ, ตทา ปสนฺนติลเตลสทิสํ. ตสฺมา เตน ‘‘อิทํ รูปํ โสมนสฺสินฺทฺริยสมุฏฺานํ, อิทํ โทมนสฺสินฺทฺริยสมุฏฺานํ, อิทํ อุเปกฺขินฺทฺริยสมุฏฺาน’’นฺติ ปรสฺส หทยโลหิตวณฺณํ ปสฺสิตฺวา จิตฺตํ ปริเยสนฺเตน เจโตปริยาณํ ถามคตํ กาตพฺพํ. เอวํ ถามคเต หิ ตสฺมึ อนุกฺกเมน สพฺพมฺปิ กามาวจรจิตฺตํ รูปาวจรารูปาวจรจิตฺตฺจ ปชานาติ จิตฺตา จิตฺตเมว สงฺกมนฺโต วินาปิ หทยรูปทสฺสเนน. วุตฺตมฺปิ เจตํ อฏฺกถายํ ‘‘อารุปฺเป ปรสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม กสฺส หทยรูปํ ปสฺสติ, กสฺสินฺทฺริยวิการํ โอโลเกตีติ? น กสฺสจิ. อิทฺธิมโต วิสโย เอส ยทิทํ ยตฺถ กตฺถจิ จิตฺตํ อาวชฺชนฺโต โสฬสปฺปเภทํ จิตฺตํ ชานาติ. อกตาภินิเวสสฺส ปน วเสน อยํ กถา’’ติ.
สราคํ วา จิตฺตนฺติอาทีสุ ปน อฏฺวิธํ โลภสหคตํ จิตฺตํ สราคํ จิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อวเสสํ จตุภูมกํ กุสลาพฺยากตํ จิตฺตํ วีตราคํ. ทฺเว โทมนสฺสจิตฺตานิ ทฺเว วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจจิตฺตานีติ อิมานิ ปน จตฺตาริ จิตฺตานิ อิมสฺมึ ทุเก สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน เถรา ตานิปิ สงฺคณฺหนฺติ. ทุวิธํ ปน โทมนสฺสจิตฺตํ สโทสํ จิตฺตํ นาม. สพฺพมฺปิ จตุภูมกํ ¶ กุสลาพฺยากตํ วีตโทสํ. เสสานิ ทสากุสลจิตฺตานิ อิมสฺมึ ทุเก สงฺคหํ น คจฺฉนฺติ. เกจิ ปน เถรา ตานิปิ สงฺคณฺหนฺติ.
สโมหํ ¶ วีตโมหนฺติ เอตฺถ ปน ปาฏิปุคฺคลิกนเยน วิจิกิจฺฉุทฺธจฺจสหคตทฺวยเมว สโมหํ, โมหสฺส ปน สพฺพากุสเลสุ สมฺภวโต ทฺวาทสวิธมฺปิ อกุสลจิตฺตํ สโมหํ จิตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อวเสสํ วีตโมหํ. ถินมิทฺธานุคตํ ปน สํขิตฺตํ. อุทฺธจฺจานุคตํ วิกฺขิตฺตํ. รูปาวจรารูปาวจรํ มหคฺคตํ. อวเสสํ อมหคฺคตํ. สพฺพมฺปิ เตภูมกํ สอุตฺตรํ. โลกุตฺตรํ อนุตฺตรํ. อุปจารปฺปตฺตํ อปฺปนาปฺปตฺตฺจ สมาหิตํ. อุภยมปฺปตฺตํ อสมาหิตํ. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิมุตฺติปฺปตฺตํ วิมุตฺตํ. ปฺจวิธมฺปิ เอตํ วิมุตฺติมปฺปตฺตํ อวิมุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิติ เจโตปริยาณลาภี ภิกฺขุ สพฺพปฺปการมฺปิ อิทํ สราคํ วา จิตฺตํ…เป… อวิมุตฺตํ วา จิตฺตํ อวิมุตฺตํ จิตฺตนฺติ ปชานาตีติ.
เจโตปริยาณกถา นิฏฺิตา.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณกถา
๔๐๒. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณกถายํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณายาติ (ที. นิ. ๑.๒๔๔) ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติมฺหิ ยํ าณํ, ตทตฺถาย. ปุพฺเพนิวาโสติ ปุพฺเพ อตีตชาตีสุ นิวุตฺถกฺขนฺธา. นิวุตฺถาติ อชฺฌาวุตฺถา อนุภูตา อตฺตโน สนฺตาเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺธา. นิวุตฺถธมฺมา วา. นิวุตฺถาติ โคจรนิวาเสน นิวุตฺถา อตฺตโน วิฺาเณน วิฺาตา ปริจฺฉินฺนา, ปรวิฺาณวิฺาตาปิ วา ฉินฺนวฏุมกานุสฺสรณาทีสุ, เต พุทฺธานํเยว ลพฺภนฺติ. ปุพฺเพนิวาสานุสฺสตีติ ยาย สติยา ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ, สา ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติ. าณนฺติ ตาย สติยา สมฺปยุตฺตาณํ. เอวมิมสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส อตฺถาย ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณาย เอตสฺส าณสฺส อธิคมาย ปตฺติยาติ วุตฺตํ โหติ.
อเนกวิหิตนฺติ อเนกวิธํ, อเนเกหิ วา ปกาเรหิ ปวตฺติตํ, สํวณฺณิตนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพนิวาสนฺติ สมนนฺตราตีตภวํ อาทึ กตฺวา ตตฺถ ตตฺถ นิวุตฺถสนฺตานํ. อนุสฺสรตีติ ขนฺธปฏิปาฏิวเสน ¶ จุติปฏิสนฺธิวเสน วา อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา สรติ. อิมฺหิ ปุพฺเพนิวาสํ ฉ ชนา อนุสฺสรนฺติ – ติตฺถิยา, ปกติสาวกา, มหาสาวกา, อคฺคสาวกา, ปจฺเจกพุทฺธา, พุทฺธาติ.
ตตฺถ ¶ ติตฺถิยา จตฺตาลีสํเยว กปฺเป อนุสฺสรนฺติ, น ตโต ปรํ. กสฺมา, ทุพฺพลปฺตฺตา. เตสฺหิ นามรูปปริจฺเฉทวิรหิตตฺตา ทุพฺพลา ปฺา โหติ. ปกติสาวกา กปฺปสตมฺปิ กปฺปสหสฺสมฺปิ อนุสฺสรนฺติเยว, พลวปฺตฺตา. อสีติมหาสาวกา สตสหสฺสกปฺเป อนุสฺสรนฺติ. ทฺเว อคฺคสาวกา เอกํ อสงฺขฺเยยฺยํ สตสหสฺสฺจ. ปจฺเจกพุทฺธา ทฺเว อสงฺขฺเยยฺยานิ สตสหสฺสฺจ. เอตฺตโก หิ เอเตสํ อภินีหาโร. พุทฺธานํ ปน ปริจฺเฉโท นาม นตฺถิ.
ติตฺถิยา จ ขนฺธปฏิปาฏิเมว สรนฺติ, ปฏิปาฏึ มฺุจิตฺวา จุติปฏิสนฺธิวเสน สริตุํ น สกฺโกนฺติ. เตสฺหิ อนฺธานํ วิย อิจฺฉิตปเทโสกฺกมนํ นตฺถิ. ยถา ปน อนฺธา ยฏฺึ อมฺุจิตฺวาว คจฺฉนฺติ, เอวํ เต ขนฺธานํ ปฏิปาฏึ อมฺุจิตฺวาว สรนฺติ. ปกติสาวกา ขนฺธปฏิปาฏิยาปิ อนุสฺสรนฺติ จุติปฏิสนฺธิวเสนปิ สงฺกมนฺติ. ตถา อสีติมหาสาวกา. ทฺวินฺนํ ปน อคฺคสาวกานํ ขนฺธปฏิปาฏิกิจฺจํ นตฺถิ. เอกสฺส อตฺตภาวสฺส จุตึ ทิสฺวา ปฏิสนฺธึ ปสฺสนฺติ, ปุน อปรสฺส จุตึ ทิสฺวา ปฏิสนฺธินฺติ เอวํ จุติปฏิสนฺธิวเสเนว สงฺกมนฺตา คจฺฉนฺติ. ตถา ปจฺเจกพุทฺธา.
พุทฺธานํ ปน เนว ขนฺธปฏิปาฏิกิจฺจํ, น จุติปฏิสนฺธิวเสน สงฺกมนกิจฺจํ อตฺถิ. เตสฺหิ อเนกาสุ กปฺปโกฏีสุ เหฏฺา วา อุปริ วา ยํ ยํ านํ อิจฺฉนฺติ, ตํ ตํ ปากฏเมว โหติ. ตสฺมา อเนกาปิ กปฺปโกฏิโย เปยฺยาลปาฬึ วิย สํขิปิตฺวา ยํ ยํ อิจฺฉนฺติ, ตตฺร ตตฺเรว โอกฺกมนฺตา สีโหกฺกนฺตวเสน คจฺฉนฺติ. เอวํ คจฺฉนฺตานฺจ เนสํ าณํ ยถา นาม กตวาลเวธปริจยสฺส สรภงฺคสทิสสฺส ธนุคฺคหสฺส ขิตฺโต สโร อนฺตรา รุกฺขลตาทีสุ อสชฺชมาโน ลกฺเขเยว ปตติ, น สชฺชติ, น วิรชฺฌติ, เอวํ อนฺตรนฺตราสุ ชาตีสุ น สชฺชติ, น วิรชฺฌติ, อสชฺชมานํ อวิรชฺฌมานํ อิจฺฉิติจฺฉิตฏฺานํเยว คณฺหาติ.
อิเมสุ จ ปน ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรณสตฺเตสุ ติตฺถิยานํ ปุพฺเพนิวาสทสฺสนํ ขชฺชุปนกปภาสทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ปกติสาวกานํ ทีปปฺปภาสทิสํ. มหาสาวกานํ อุกฺกาปภาสทิสํ ¶ . อคฺคสาวกานํ โอสธิตารกปฺปภาสทิสํ. ปจฺเจกพุทฺธานํ จนฺทปฺปภาสทิสํ. พุทฺธานํ รสฺมิสหสฺสปฏิมณฺฑิตสรทสูริยมณฺฑลสทิสํ หุตฺวา อุปฏฺาติ.
ติตฺถิยานฺจ ¶ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสรณํ อนฺธานํ ยฏฺิโกฏิคมนํ วิย โหติ. ปกติสาวกานํ ทณฺฑกเสตุคมนํ วิย. มหาสาวกานํ ชงฺฆเสตุคมนํ วิย. อคฺคสาวกานํ สกฏเสตุคมนํ วิย. ปจฺเจกพุทฺธานํ มหาชงฺฆมคฺคคมนํ วิย. พุทฺธานํ มหาสกฏมคฺคคมนํ วิย.
อิมสฺมึ ปน อธิกาเร สาวกานํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสรณํ อธิปฺเปตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนุสฺสรตีติ ขนฺธปฏิปาฏิวเสน จุติปฏิสนฺธิวเสน วา อนุคนฺตฺวา อนุคนฺตฺวา สรตี’’ติ.
๔๐๓. ตสฺมา เอวมนุสฺสริตุกาเมน อาทิกมฺมิเกน ภิกฺขุนา ปจฺฉาภตฺตํ ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตน รโหคเตน ปฏิสลฺลิเนน ปฏิปาฏิยา จตฺตาริ ฌานานิ สมาปชฺชิตฺวา อภิฺาปาทกจตุตฺถชฺฌานโต วุฏฺาย สพฺพปจฺฉิมา นิสชฺชา อาวชฺชิตพฺพา. ตโต อาสนปฺาปนํ, เสนาสนปฺปเวสนํ, ปตฺตจีวรปฏิสามนํ, โภชนกาโล, คามโต อาคมนกาโล, คาเม ปิณฺฑาย จริตกาโล, คามํ ปิณฺฑาย ปวิฏฺกาโล, วิหารโต นิกฺขมนกาโล, เจติยงฺคณโพธิยงฺคณวนฺทนกาโล, ปตฺตโธวนกาโล, ปตฺตปฏิคฺคหณกาโล, ปตฺตปฏิคฺคหณโต ยาว มุขโธวนา กตกิจฺจํ, ปจฺจูสกาเล กตกิจฺจํ, มชฺฌิมยาเม กตกิจฺจํ, ปมยาเม กตกิจฺจนฺติ เอวํ ปฏิโลมกฺกเมน สกลํ รตฺตินฺทิวํ กตกิจฺจํ อาวชฺชิตพฺพํ. เอตฺตกํ ปน ปกติจิตฺตสฺสปิ ปากฏํ โหติ. ปริกมฺมสมาธิจิตฺตสฺส ปน อติปากฏเมว.
สเจ ปเนตฺถ กิฺจิ น ปากฏํ โหติ, ปุน ปาทกชฺฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อาวชฺชิตพฺพํ. เอตฺตเกน ทีเป ชลิเต วิย ปากฏํ โหติ. เอวํ ปฏิโลมกฺกเมเนว ทุติยทิวเสปิ ตติยจตุตฺถปฺจมทิวเสปิ ทสาเหปิ อฑฺฒมาเสปิ มาเสปิ ยาว สํวจฺฉราปิ กตกิจฺจํ อาวชฺชิตพฺพํ. เอเตเนว อุปาเยน ทสวสฺสานิ วีสติวสฺสานีติ ยาว อิมสฺมึ ภเว อตฺตโน ปฏิสนฺธิ, ตาว อาวชฺชนฺเตน ปุริมภเว จุติกฺขเณ ปวตฺติตนามรูปํ อาวชฺชิตพฺพํ. ปโหติ หิ ปณฺฑิโต ภิกฺขุ ปมวาเรเนว ปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏตฺวา จุติกฺขเณ นามรูปมารมฺมณํ กาตุํ.
ยสฺมา ¶ ปน ปุริมภเว นามรูปํ อเสสํ นิรุทฺธํ อฺํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมา ตํ านํ อาหุนฺทริกํ อนฺธตมมิว โหติ ทุทฺทสํ ทุปฺปฺเน. เตนาปิ ‘‘น สกฺโกมหํ ¶ ปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏตฺวา จุติกฺขเณ ปวตฺติตนามรูปมารมฺมณํ กาตุ’’นฺติ ธุรนิกฺเขโป น กาตพฺโพ. ตเทว ปน ปาทกชฺฌานํ ปุนปฺปุนํ สมาปชฺชิตพฺพํ. ตโต จ วุฏฺาย วุฏฺาย ตํ านํ อาวชฺชิตพฺพํ.
เอวํ กโรนฺโต หิ เสยฺยถาปิ นาม พลวา ปุริโส กูฏาคารกณฺณิกตฺถาย มหารุกฺขํ ฉินฺทนฺโต สาขาปลาสจฺเฉทนมตฺเตเนว ผรสุธาราย วิปนฺนาย มหารุกฺขํ ฉินฺทิตุํ อสกฺโกนฺโตปิ ธุรนิกฺเขปํ อกตฺวาว กมฺมารสาลํ คนฺตฺวา ติขิณํ ผรสุํ การาเปตฺวา ปุน อาคนฺตฺวา ฉินฺเทยฺย, ปุน วิปนฺนาย จ ปุนปิ ตเถว กาเรตฺวา ฉินฺเทยฺย. โส เอวํ ฉินฺทนฺโต ฉินฺนสฺส ฉินฺนสฺส ปุน เฉตพฺพาภาวโต อจฺฉินฺนสฺส จ เฉทนโต นจิรสฺเสว มหารุกฺขํ ปาเตยฺย, เอวเมวํ ปาทกชฺฌานา วุฏฺาย ปุพฺเพ อาวชฺชิตํ อนาวชฺชิตฺวา ปฏิสนฺธิเมว อาวชฺชนฺโต นจิรสฺเสว ปฏิสนฺธึ อุคฺฆาเฏตฺวา จุติกฺขเณ ปวตฺติตนามรูปํ อารมฺมณํ กเรยฺยาติ. กฏฺผาลกเกโสหารกาทีหิปิ อยมตฺโถ ทีเปตพฺโพ.
ตตฺถ ปจฺฉิมนิสชฺชโต ปภุติ ยาว ปฏิสนฺธิโต อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตํ าณํ ปุพฺเพนิวาสาณํ นาม น โหติ. ตํ ปน ปริกมฺมสมาธิาณํ นาม โหติ. อตีตํสาณนฺติปิ เอเก วทนฺติ. ตํ รูปาวจรํ สนฺธาย น ยุชฺชติ. ยทา ปนสฺส ภิกฺขุโน ปฏิสนฺธึ อติกฺกมฺม จุติกฺขเณ ปวตฺติตนามรูปํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมิฺจ นิรุทฺเธ ตเทวารมฺมณํ กตฺวา จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺติ. เสสํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว ปุริมานิ ปริกมฺมาทินามกานิ กามาวจรานิ โหนฺติ. ปจฺฉิมํ รูปาวจรํ จตุตฺถชฺฌานิกํ อปฺปนาจิตฺตํ. ตทาสฺส ยํ เตน จิตฺเตน สห าณํ อุปฺปชฺชติ, อิทํ ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณํ นาม. เตน าเณน สมฺปยุตฺตาย สติยา อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรติ. เสยฺยถิทํ, เอกมฺปิ ชาตึ ทฺเวปิ ชาติโย…เป… อิติ สาการํ สอุทฺเทสํ อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรตีติ (ที. นิ. ๑.๒๔๔).
๔๐๔. ตตฺถ เอกมฺปิ ชาตินฺติ เอกมฺปิ ปฏิสนฺธิมูลํ จุติปริโยสานํ เอกภวปริยาปนฺนํ ขนฺธสนฺตานํ. เอส นโย ทฺเวปิ ชาติโยติอาทีสุปิ. อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเปติอาทีสุ ปน ปริหายมาโน กปฺโป สํวฏฺฏกปฺโป, วฑฺฒมาโน วิวฏฺฏกปฺโปติ เวทิตพฺโพ. ตตฺถ สํวฏฺเฏน สํวฏฺฏฏฺายี ¶ คหิโต ¶ โหติ, ตํมูลกตฺตา. วิวฏฺเฏน จ วิวฏฺฏฏฺายี, เอวฺหิ สติ ยานิ ตานิ ‘‘จตฺตาริมานิ, ภิกฺขเว, กปฺปสฺส อสงฺขฺเยยฺยานิ. กตมานิ จตฺตาริ? สํวฏฺโฏ, สํวฏฺฏฏฺายี, วิวฏฺโฏ, วิวฏฺฏฏฺายีติ (อ. นิ. ๔.๑๕๖ โถกํ วิสทิสํ) วุตฺตานิ, ตานิ ปริคฺคหิตานิ โหนฺติ.
ตตฺถ ตโย สํวฏฺฏา – อาโปสํวฏฺโฏ, เตโชสํวฏฺโฏ, วาโยสํวฏฺโฏติ. ติสฺโส สํวฏฺฏสีมา – อาภสฺสรา, สุภกิณฺหา, เวหปฺผลาติ.
ยทา กปฺโป เตเชน สํวฏฺฏติ, อาภสฺสรโต เหฏฺา อคฺคินา ฑยฺหติ. ยทา อาเปน สํวฏฺฏติ, สุภกิณฺหโต เหฏฺา อุทเกน วิลียติ. ยทา วายุนา สํวฏฺฏติ, เวหปฺผลโต เหฏฺา วาเตน วิทฺธํสติ. วิตฺถารโต ปน สทาปิ เอกํ พุทฺธเขตฺตํ วินสฺสติ.
พุทฺธเขตฺตํ นาม ติวิธํ โหติ – ชาติเขตฺตํ, อาณาเขตฺตํ, วิสยเขตฺตฺจ. ตตฺถ ชาติเขตฺตํ ทสสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ โหติ. ยํ ตถาคตสฺส ปฏิสนฺธิคหณาทีสุ กมฺปติ. อาณาเขตฺตํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริยนฺตํ, ยตฺถ รตนสุตฺตํ (ขุ. ปา. ๖.๑ อาทโย) ขนฺธปริตฺตํ (จูฬว. ๒๕๑; อ. นิ. ๔.๖๗) ธชคฺคปริตฺตํ (สํ. นิ. ๑.๒๔๙) อาฏานาฏิยปริตฺตํ (ที. นิ. ๓.๒๗๕ อาทโย) โมรปริตฺตนฺติ (ชา. ๑.๒.๑๗-๑๘) อิเมสํ ปริตฺตานํ อานุภาโว วตฺตติ. วิสยเขตฺตํ อนนฺตมปริมาณํ. ยํ ‘‘ยาวตา วา ปน อากงฺเขยฺยา’’ติ (อ. นิ. ๓.๘๑) วุตฺตํ, ยตฺถ ยํ ยํ ตถาคโต อากงฺขติ, ตํ ตํ ชานาติ. เอวเมเตสุ ตีสุ พุทฺธเขตฺเตสุ เอกํ อาณาเขตฺตํ วินสฺสติ. ตสฺมึ ปน วินสฺสนฺเต ชาติเขตฺตมฺปิ วินฏฺเมว โหติ. วินสฺสนฺตฺจ เอกโตว วินสฺสติ, สณฺหนฺตมฺปิ เอกโต สณฺหติ. ตสฺเสวํ วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
๔๐๕. ยสฺมึ หิ สมเย กปฺโป อคฺคินา นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ วุฏฺหิตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬ เอกํ มหาวสฺสํ วสฺสติ. มนุสฺสา ตุฏฺหฏฺา สพฺพพีชานิ นีหริตฺวา วปนฺติ. สสฺเสสุ ปน โคขายิตกมตฺเตสุ ชาเตสุ คทฺรภรวํ รวนฺโต เอกพินฺทุมฺปิ น วสฺสติ, ตทา ปจฺฉินฺนํ ปจฺฉินฺนเมว วสฺสํ โหติ. อิทํ สนฺธาย หิ ภควตา ‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย ยํ พหูนิ วสฺสานิ พหูนิ วสฺสสตานิ ¶ พหูนิ วสฺสสหสฺสานิ พหูนิ ¶ วสฺสสตสหสฺสานิ เทโว น วสฺสตี’’ติ (อ. นิ. ๗.๖๖) วุตฺตํ. วสฺสูปชีวิโน สตฺตา กาลงฺกตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, ปุปฺผผลูปชีวินิโย จ เทวตา. เอวํ ทีเฆ อทฺธาเน วีติวตฺเต ตตฺถ ตตฺถ อุทกํ ปริกฺขยํ คจฺฉติ, อถานุปุพฺเพน มจฺฉกจฺฉปาปิ กาลงฺกตฺวา พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺติ, เนรยิกสตฺตาปิ. ตตฺถ เนรยิกา สตฺตมสูริยปาตุภาเว วินสฺสนฺตีติ เอเก.
ฌานํ วินา นตฺถิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺติ, เอเตสฺจ เกจิ ทุพฺภิกฺขปีฬิตา เกจิ อภพฺพา ฌานาธิคมาย, เต กถํ ตตฺถ นิพฺพตฺตนฺตีติ. เทวโลเก ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน. ตทา หิ ‘‘วสฺสสตสหสฺสสฺสจฺจเยน กปฺปุฏฺานํ ภวิสฺสตี’’ติ โลกพฺยูหา นาม กามาวจรเทวา มุตฺตสิรา วิกิณฺณเกสา รุทมุขา อสฺสูนิ หตฺเถหิ ปฺุฉมานา รตฺตวตฺถนิวตฺถา อติวิย วิรูปเวสธาริโน หุตฺวา มนุสฺสปเถ วิจรนฺตา เอวํ อาโรเจนฺติ ‘‘มาริสา อิโต วสฺสสตสหสฺสสฺสจฺจเยน กปฺปวุฏฺานํ ภวิสฺสติ, อยํ โลโก วินสฺสิสฺสติ, มหาสมุทฺโทปิ อุสฺสุสฺสิสฺสติ, อยฺจ มหาปถวี สิเนรุ จ ปพฺพตราชา อุทฺทยฺหิสฺสนฺติ วินสฺสิสฺสนฺติ. ยาว พฺรหฺมโลกา โลกวินาโส ภวิสฺสติ. เมตฺตํ มาริสา ภาเวถ, กรุณํ, มุทิตํ, อุเปกฺขํ มาริสา ภาเวถ, มาตรํ อุปฏฺหถ, ปิตรํ อุปฏฺหถ, กุเล เชฏฺาปจายิโน โหถา’’ติ.
เตสํ วจนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน มนุสฺสา จ ภุมฺมเทวตา จ สํเวคชาตา อฺมฺํ มุทุจิตฺตา หุตฺวา เมตฺตาทีนิ ปฺุานิ กริตฺวา เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. ตตฺถ ทิพฺพสุธาโภชนํ ภฺุชิตฺวา วาโยกสิเณ ปริกมฺมํ กตฺวา ฌานํ ปฏิลภนฺติ. ตทฺเ ปน อปราปริยเวทนีเยน กมฺเมน เทวโลเก นิพฺพตฺตนฺติ. อปราปริยเวทนียกมฺมรหิโต หิ สํสาเร สํสรมาโน สตฺโต นาม นตฺถิ. เตปิ ตตฺถ ตเถว ฌานํ ปฏิลภนฺติ. เอวํ เทวโลเก ปฏิลทฺธชฺฌานวเสน สพฺเพปิ พฺรหฺมโลเก นิพฺพตฺตนฺตีติ.
วสฺสูปจฺเฉทโต ปน อุทฺธํ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ทุติโย สูริโย ปาตุภวติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ภควตา ‘‘โหติ โข โส, ภิกฺขเว, สมโย’’ติ สตฺตสูริยํ (อ. นิ. ๗.๖๖) วิตฺถาเรตพฺพํ. ปาตุภูเต จ ปน ตสฺมึ เนว ¶ รตฺติปริจฺเฉโท, น ทิวาปริจฺเฉโท ปฺายติ. เอโก สูริโย อุฏฺเติ, เอโก อตฺถํ คจฺฉติ. อวิจฺฉินฺนสูริยสนฺตาโปว โลโก โหติ. ยถา จ ปกติสูริเย สูริยเทวปุตฺโต โหติ, เอวํ กปฺปวินาสกสูริเย นตฺถิ. ตตฺถ ปกติสูริเย ¶ วตฺตมาเน อากาเส วลาหกาปิ ธูมสิขาปิ จรนฺติ. กปฺปวินาสกสูริเย วตฺตมาเน วิคตธูมวลาหกํ อาทาสมณฺฑลํ วิย นิมฺมลํ นภํ โหติ. เปตฺวา ปฺจ มหานทิโย เสสกุนฺนทีอาทีสุ อุทกํ สุสฺสติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ตติโย สูริโย ปาตุภวติ. ยสฺส ปาตุภาวา มหานทิโยปิ สุสฺสนฺติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน จตุตฺโถ สูริโย ปาตุภวติ. ยสฺส ปาตุภาวา หิมวติ มหานทีนํ ปภวา ‘‘สีหปปาโต หํสปาตโน กณฺณมุณฺฑโก รถการทโห อโนตตฺตทโห ฉทฺทนฺตทโห กุณาลทโห’’ติ อิเม สตฺต มหาสรา สุสฺสนฺติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ปฺจโม สูริโย ปาตุภวติ. ยสฺส ปาตุภาวา อนุปุพฺเพน มหาสมุทฺเท องฺคุลิปพฺพเตมนมตฺตมฺปิ อุทกํ น สณฺาติ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน ฉฏฺโ สูริโย ปาตุภวติ. ยสฺส ปาตุภาวา สกลจกฺกวาฬํ เอกธูมํ โหติ. ปริยาทิณฺณสิเนหํ ธูเมน. ยถา จิทํ, เอวํ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานิปิ.
ตโตปิ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน สตฺตโม สูริโย ปาตุภวติ. ยสฺส ปาตุภาวา สกลจกฺกวาฬํ เอกชาลํ โหติ สทฺธึ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬหิ. โยชนสติกาทิเภทานิ สิเนรุกูฏานิปิ ปลุชฺชิตฺวา อากาเสเยว อนฺตรธายนฺติ. สา อคฺคิชาลา อุฏฺหิตฺวา จาตุมหาราชิเก คณฺหาติ. ตตฺถ กนกวิมานรตนวิมานมณิวิมานานิ ฌาเปตฺวา ตาวตึสภวนํ คณฺหาติ. เอเตเนว อุปาเยน ยาว ปมชฺฌานภูมึ คณฺหาติ. ตตฺถ ตโยปิ พฺรหฺมโลเก ฌาเปตฺวา อาภสฺสเร อาหจฺจ ติฏฺติ. สา ยาว อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ อตฺถิ, ตาว น นิพฺพายติ. สพฺพสงฺขารปริกฺขยา ปน สปฺปิเตลฌาปนคฺคิสิขา วิย ฉาริกมฺปิ ¶ อนวเสเสตฺวา นิพฺพายติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโร.
๔๐๖. อถ ทีฆสฺส อทฺธุโน อจฺจเยน มหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวา ปมํ สุขุมํ สุขุมํ วสฺสติ ¶ . อนุปุพฺเพน กุมุทนาฬยฏฺิมุสลตาลกฺขนฺธาทิปฺปมาณาหิ ธาราหิ วสฺสนฺโต โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาเฬสุ สพฺพํ ทฑฺฒฏฺานํ ปูเรตฺวา อนฺตรธายติ. ตํ อุทกํ เหฏฺา จ ติริยฺจ วาโต สมุฏฺหิตฺวา ฆนํ กโรติ ปริวฏุมํ ปทุมินิปตฺเต อุทกพินฺทุสทิสํ. กถํ ตาว มหนฺตํ อุทกราสึ ฆนํ กโรตีติ เจ? วิวรสมฺปทานโต. ตฺหิสฺส ตมฺหิ ตมฺหิ วิวรํ เทติ. ตํ เอวํ วาเตน สมฺปิณฺฑิยมานํ ฆนํ กริยมานํ ปริกฺขยมานํ อนุปุพฺเพน เหฏฺา โอตรติ. โอติณฺเณ โอติณฺเณ อุทเก พฺรหฺมโลกฏฺาเน พฺรหฺมโลกา, อุปริ จตุกามาวจรเทวโลกฏฺาเน จ เทวโลกา ปาตุภวนฺติ.
ปุริมปถวิฏฺานํ โอติณฺเณ ปน พลววาตา อุปฺปชฺชนฺติ. เต ตํ ปิหิตทฺวาเร ธมกรเณ ิตอุทกมิว นิรสฺสาสํ กตฺวา รุนฺธนฺติ. มธุโรทกํ ปริกฺขยํ คจฺฉมานํ อุปริ รสปถวึ สมุฏฺาเปติ. สา วณฺณสมฺปนฺนา เจว โหติ คนฺธรสสมฺปนฺนา จ นิรุทกปายาสสฺส อุปริ ปฏลํ วิย.
ตทา จ อาภสฺสรพฺรหฺมโลเก ปมตราภินิพฺพตฺตา สตฺตา อายุกฺขยา วา ปฺุกฺขยา วา ตโต จวิตฺวา อิธูปปชฺชนฺติ. เต โหนฺติ สยํปภา อนฺตลิกฺขจรา. เต อคฺคฺสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๑๙) วุตฺตนเยน ตํ รสปถวึ สายิตฺวา ตณฺหาภิภูตา อาลุปฺปการกํ ปริภฺุชิตุํ อุปกฺกมนฺติ. อถ เนสํ สยํปภา อนฺตรธายติ, อนฺธกาโร โหติ. เต อนฺธการํ ทิสฺวา ภายนฺติ.
ตโต เนสํ ภยํ นาเสตฺวา สูรภาวํ ชนยนฺตํ ปริปุณฺณปณฺณาสโยชนํ สูริยมณฺฑลํ ปาตุภวติ, เต ตํ ทิสฺวา ‘‘อาโลกํ ปฏิลภิมฺหา’’ติ หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ภีตานํ ภยํ นาเสตฺวา สูรภาวํ ชนยนฺโต อุฏฺิโต, ตสฺมา ‘‘สูริโย โหตู’’ติ สูริโยตฺเววสฺส นามํ กโรนฺติ.
อถ ¶ สูริเย ทิวสํ อาโลกํ กตฺวา อตฺถงฺคเต ยมฺปิ อาโลกํ ลภิมฺหา, โสปิ โน นฏฺโติ ปุน ภีตา โหนฺติ. เตสํ เอวํ โหติ ‘‘สาธุ วตสฺส สเจ อฺํ อาโลกํ ลเภยฺยามา’’ติ. เตสํ จิตฺตํ ตฺวา วิย เอกูนปณฺณาสโยชนํ จนฺทมณฺฑลํ ปาตุภวติ. เต ตํ ทิสฺวา ภิยฺโยโส มตฺตาย หฏฺตุฏฺา หุตฺวา ‘‘อมฺหากํ ฉนฺทํ ตฺวา วิย อุฏฺิโต, ตสฺมา จนฺโท โหตู’’ติ ¶ จนฺโทตฺเววสฺส นามํ กโรนฺติ. เอวํ จนฺทิมสูริเยสุ ปาตุภูเตสุ นกฺขตฺตานิ ตารกรูปานิ ปาตุภวนฺติ.
ตโต ปภุติ รตฺตินฺทิวา ปฺายนฺติ, อนุกฺกเมน จ มาสทฺธมาสอุตุสํวจฺฉรา. จนฺทิมสูริยานํ ปน ปาตุภูตทิวเสเยว สิเนรุจกฺกวาฬหิมวนฺตปพฺพตา ปาตุภวนฺติ. เต จ โข อปุพฺพํ อจริมํ ผคฺคุณปุณฺณมทิวเสเยว ปาตุภวนฺติ. กถํ? ยถา นาม กงฺคุภตฺเต ปจฺจมาเน เอกปฺปหาเรเนว ปุปฺผุฬกานิ อุฏฺหนฺติ. เอเก ปเทสา ถูปถูปา โหนฺติ, เอเก นินฺนนินฺนา, เอเก สมสมา. เอวเมวํ ถูปถูปฏฺาเน ปพฺพตา โหนฺติ, นินฺนนินฺนฏฺาเน สมุทฺทา, สมสมฏฺาเน ทีปาติ.
อถ เตสํ สตฺตานํ รสปถวึ ปริภฺุชนฺตานํ กเมน เอกจฺเจ วณฺณวนฺโต, เอกจฺเจ ทุพฺพณฺณา โหนฺติ. ตตฺถ วณฺณวนฺโต ทุพฺพณฺเณ อติมฺนฺติ. เตสํ อติมานปจฺจยา สาปิ รสปถวี อนฺตรธายติ. ภูมิปปฺปฏโก ปาตุภวติ. อถ เนสํ เตเนว นเยน โสปิ อนฺตรธายติ. ปทาลตา ปาตุภวติ. เตเนว นเยน สาปิ อนฺตรธายติ. อกฏฺปาโก สาลิ ปาตุภวติ อกโณ อถุโส สุทฺโธ สุคนฺโธ ตณฺฑุลปฺผโล.
ตโต เนสํ ภาชนานิ อุปฺปชฺชนฺติ. เต สาลึ ภาชเน เปตฺวา ปาสาณปิฏฺิยา เปนฺติ, สยเมว ชาลสิขา อุฏฺหิตฺวา ตํ ปจติ. โส โหติ โอทโน สุมนชาติปุปฺผสทิโส, น ตสฺส สูเปน วา พฺยฺชเนน วา กรณียํ อตฺถิ. ยํ ยํ รสํ ภฺุชิตุกามา โหนฺติ, ตํ ตํ รโสว โหติ. เตสํ ตํ โอฬาริกํ อาหารํ อาหรยตํ ตโต ปภุติ มุตฺตกรีสํ สฺชายติ. อถ เนสํ ตสฺส นิกฺขมนตฺถาย วณมุขานิ ปภิชฺชนฺติ, ปุริสสฺส ปุริสภาโว, อิตฺถิยาปิ อิตฺถิภาโว ปาตุภวติ.
ตตฺร ¶ สุทํ อิตฺถี ปุริสํ, ปุริโส จ อิตฺถึ อติเวลํ อุปนิชฺฌายติ. เตสํ อติเวลํ อุปนิชฺฌายนปจฺจยา กามปริฬาโห อุปฺปชฺชติ. ตโต เมถุนธมฺมํ ปฏิเสวนฺติ. เต อสทฺธมฺมปฏิเสวนปจฺจยา วิฺูหิ ครหิยมานา วิเหิยมานา ตสฺส อสทฺธมฺมสฺส ปฏิจฺฉาทนเหตุ อคารานิ กโรนฺติ. เต อคารํ อชฺฌาวสมานา อนุกฺกเมน อฺตรสฺส อลสชาติกสฺส สตฺตสฺส ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชนฺตา สนฺนิธึ กโรนฺติ. ตโต ปภุติ กโณปิ ถุโสปิ ตณฺฑุลํ ปริโยนนฺธติ, ลายิตฏฺานมฺปิ น ปฏิวิรูหติ.
เต ¶ สนฺนิปติตฺวา อนุตฺถุนนฺติ ‘‘ปาปกา วต โภ ธมฺมา สตฺเตสุ ปาตุภูตา, มยํ หิ ปุพฺเพ มโนมยา อหุมฺหา’’ติ อคฺคฺสุตฺเต (ที. นิ. ๓.๑๒๘) วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. ตโต มริยาทํ เปนฺติ. อถ อฺตโร สตฺโต อฺสฺส ภาคํ อทินฺนํ อาทิยติ. ตํ ทฺวิกฺขตฺตุํ ปริภาเสตฺวา ตติยวาเร ปาณิเลฏฺฏุทณฺเฑหิ ปหรนฺติ. เต เอวํ อทินฺนาทานครหมุสาวาททณฺฑาทาเนสุ อุปฺปนฺเนสุ สนฺนิปติตฺวา จินฺตยนฺติ ‘‘ยํนูน มยํ เอกํ สตฺตํ สมฺมนฺเนยฺยาม, โย โน สมฺมา ขียิตพฺพํ ขีเยยฺย, ครหิตพฺพํ ครเหยฺย, ปพฺพาเชตพฺพํ ปพฺพาเชยฺย, มยํ ปนสฺส สาลีนํ ภาคํ อนุปฺปทสฺสามา’’ติ.
เอวํ กตสนฺนิฏฺาเนสุ ปน สตฺเตสุ อิมสฺมึ ตาว กปฺเป อยเมว ภควา โพธิสตฺตภูโต เตน สมเยน เตสุ สตฺเตสุ อภิรูปตโร จ ทสฺสนียตโร จ มเหสกฺขตโร จ พุทฺธิสมฺปนฺโน ปฏิพโล นิคฺคหปคฺคหํ กาตุํ. เต ตํ อุปสงฺกมิตฺวา ยาจิตฺวา สมฺมนฺนึสุ. โส เตน มหาชเนน สมฺมโตติ มหาสมฺมโต, เขตฺตานํ อธิปตีติ ขตฺติโย, ธมฺเมน สเมน ปเร รฺเชตีติ ราชาติ ตีหิ นาเมหิ ปฺายิตฺถ. ยฺหิ โลเก อจฺฉริยฏฺานํ, โพธิสตฺโตว ตตฺถ อาทิปุริโสติ เอวํ โพธิสตฺตํ อาทึ กตฺวา ขตฺติยมณฺฑเล สณฺิเต อนุปุพฺเพน พฺราหฺมณาทโยปิ วณฺณา สณฺหึสุ.
ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว ชาลุปจฺเฉโท, อิทเมกํ อสงฺขฺเยยฺยํ สํวฏฺโฏติ วุจฺจติ.
กปฺปวินาสกชาลุปจฺเฉทโต ¶ ยาว โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬปริปูรโก สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยํ อสงฺขฺเยยฺยํ สํวฏฺฏฏฺายีติ วุจฺจติ.
สมฺปตฺติมหาเมฆโต ยาว จนฺทิมสูริยปาตุภาโว, อิทํ ตติยํ อสงฺขฺเยยฺยํ วิวฏฺโฏติ วุจฺจติ.
จนฺทิมสูริยปาตุภาวโต ยาว ปุน กปฺปวินาสกมหาเมโฆ, อิทํ จตุตฺถํ อสงฺขฺเยยฺยํ วิวฏฺฏฏฺายีติ วุจฺจติ. อิมานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ ตาว อคฺคินา วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
๔๐๗. ยสฺมึ ปน สมเย กปฺโป อุทเกน นสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวาติ ¶ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส, ยถา ตตฺถ ทุติยสูริโย, เอวมิธ กปฺปวินาสโก ขารุทกมหาเมโฆ วุฏฺาติ. โส อาทิโต สุขุมํ สุขุมํ วสฺสนฺโต อนุกฺกเมน มหาธาราหิ โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานํ ปูเรนฺโต วสฺสติ. ขารุทเกน ผุฏฺผุฏฺา ปถวีปพฺพตาทโย วิลียนฺติ, อุทกํ สมนฺตโต วาเตหิ ธาริยติ. ปถวิโต ยาว ทุติยชฺฌานภูมึ อุทกํ คณฺหาติ. ตตฺถ ตโยปิ พฺรหฺมโลเก วิลียาเปตฺวา สุภกิณฺเห อาหจฺจ ติฏฺติ. ตํ ยาว อณุมตฺตมฺปิ สงฺขารคตํ อตฺถิ, ตาว น วูปสมฺมติ. อุทกานุคตํ ปน สพฺพสงฺขารคตํ อภิภวิตฺวา สหสา วูปสมฺมติ อนฺตรธานํ คจฺฉติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโรติ สพฺพํ วุตฺตสทิสํ. เกวลํ ปนิธ อาภสฺสรพฺรหฺมโลกํ อาทึ กตฺวา โลโก ปาตุภวติ. สุภกิณฺหโต จ จวิตฺวา อาภสฺสรฏฺานาทีสุ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺติ.
ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว กปฺปวินาสกุทกูปจฺเฉโท, อิทเมกํ อสงฺขฺเยยฺยํ. อุทกูปจฺเฉทโต ยาว สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยํ อสงฺขฺเยยฺยํ. สมฺปตฺติมหาเมฆโต…เป… อิมานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ อุทเกน วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
๔๐๘. ยสฺมึ ¶ สมเย กปฺโป วาเตน วินสฺสติ, อาทิโตว กปฺปวินาสกมหาเมโฆ อุฏฺหิตฺวาติ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว วิตฺถาเรตพฺพํ. อยํ ปน วิเสโส, ยถา ตตฺถ ทุติยสูริโย, เอวมิธ กปฺปวินาสนตฺถํ วาโต สมุฏฺาติ. โส ปมํ ถูลรชํ อุฏฺาเปติ. ตโต สณฺหรชํ สุขุมวาลิกํ ถูลวาลิกํ สกฺขรปาสาณาทโยติ ยาว กูฏาคารมตฺเต ปาสาเณ วิสมฏฺาเน ิตมหารุกฺเข จ อุฏฺาเปติ. เต ปถวิโต นภมุคฺคตา น จ ปุน ปตนฺติ. ตตฺเถว จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อภาวํ คจฺฉนฺติ.
อถานุกฺกเมน เหฏฺา มหาปถวิยา วาโต สมุฏฺหิตฺวา ปถวึ ปริวตฺเตตฺวา อุทฺธํมูลํ กตฺวา อากาเส ขิปติ. โยชนสตปฺปมาณาปิ ปถวิปฺปเทสา ทฺวิโยชนติโยชนจตุโยชนปฺจโยชนสตปฺปมาณาปิ ภิชฺชิตฺวา วาตเวเคน ขิตฺตา อากาเสเยว จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา อภาวํ คจฺฉนฺติ. จกฺกวาฬปพฺพตมฺปิ สิเนรุปพฺพตมฺปิ วาโต อุกฺขิปิตฺวา อากาเส ขิปติ. เต อฺมฺํ อภิหนฺตฺวา จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา วินสฺสนฺติ. เอเตเนว อุปาเยน ภุมฺมฏฺกวิมานานิ จ อากาสฏฺกวิมานานิ จ วินาเสนฺโต ฉกามาวจรเทวโลเก วินาเสตฺวา โกฏิสตสหสฺสจกฺกวาฬานิ ¶ วินาเสติ. ตตฺถ จกฺกวาฬา จกฺกวาเฬหิ หิมวนฺตา หิมวนฺเตหิ สิเนรู สิเนรูหิ อฺมฺํ สมาคนฺตฺวา จุณฺณวิจุณฺณา หุตฺวา วินสฺสนฺติ. ปถวิโต ยาว ตติยชฺฌานภูมึ วาโต คณฺหาติ. ตตฺถ ตโยปิ พฺรหฺมโลเก วินาเสตฺวา เวหปฺผลํ อาหจฺจ ติฏฺติ. เอวํ สพฺพสงฺขารคตํ วินาเสตฺวา สยมฺปิ วินสฺสติ. เหฏฺาอากาเสน สห อุปริอากาโส เอโก โหติ มหนฺธกาโรติ สพฺพํ วุตฺตสทิสํ. อิธ ปน สุภกิณฺหพฺรหฺมโลกํ อาทึ กตฺวา โลโก ปาตุภวติ. เวหปฺผลโต จ จวิตฺวา สุภกิณฺหฏฺานาทีสุ สตฺตา นิพฺพตฺตนฺติ.
ตตฺถ กปฺปวินาสกมหาเมฆโต ยาว กปฺปวินาสกวาตูปจฺเฉโท, อิทเมกํ อสงฺขฺเยยฺยํ. วาตูปจฺเฉทโต ยาว สมฺปตฺติมหาเมโฆ, อิทํ ทุติยํ อสงฺขฺเยยฺยํ…เป… อิมานิ จตฺตาริ อสงฺขฺเยยฺยานิ เอโก มหากปฺโป โหติ. เอวํ วาเตน วินาโส จ สณฺหนฺจ เวทิตพฺพํ.
๔๐๙. กึการณา ¶ เอวํ โลโก วินสฺสติ? อกุสลมูลการณา. อกุสลมูเลสุ หิ อุสฺสนฺเนสุ เอวํ โลโก วินสฺสติ. โส จ โข ราเค อุสฺสนฺนตเร อคฺคินา วินสฺสติ. โทเส อุสฺสนฺนตเร อุทเกน วินสฺสติ. เกจิ ปน โทเส อุสฺสนฺนตเร อคฺคินา. ราเค อุสฺสนฺนตเร อุทเกนาติ วทนฺติ. โมเห อุสฺสนฺนตเร วาเตน วินสฺสติ. เอวํ วินสฺสนฺโตปิ จ นิรนฺตรเมว สตฺตวาเร อคฺคินา วินสฺสติ. อฏฺเม วาเร อุทเกน. ปุน สตฺตวาเร อคฺคินา. อฏฺเม วาเร อุทเกนาติ เอวํ อฏฺเม อฏฺเม วาเร วินสฺสนฺโต สตฺตกฺขตฺตุํ อุทเกน วินสฺสิตฺวา ปุน สตฺตวาเร อคฺคินา นสฺสติ. เอตฺตาวตา เตสฏฺิ กปฺปา อตีตา โหนฺติ. เอตฺถนฺตเร อุทเกน นสฺสนวารํ สมฺปตฺตมฺปิ ปฏิพาหิตฺวา ลทฺโธกาโส วาโต ปริปุณฺณจตุสฏฺิกปฺปายุเก สุภกิณฺเห วิทฺธํเสนฺโต โลกํ วินาเสติ.
๔๑๐. ปุพฺเพนิวาสํ อนุสฺสรนฺโตปิ จ กปฺปานุสฺสรณโก ภิกฺขุ เอเตสุ กปฺเปสุ อเนเกปิ สํวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ วิวฏฺฏกปฺเป อเนเกปิ สํวฏฺฏวิวฏฺฏกปฺเป อนุสฺสรติ. กถํ? ‘‘อมุตฺราสิ’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๑.๒๔๔) นเยน.
ตตฺถ อมุตฺราสินฺติ อมุมฺหิ สํวฏฺฏกปฺเป อหํ อมุมฺหิ ภเว วา โยนิยา วา คติยา วา วิฺาณฏฺิติยา วา สตฺตาวาเส วา สตฺตนิกาเย วา อาสึ. เอวํนาโมติ ติสฺโส วา ผุสฺโส วา. เอวํโคตฺโตติ กจฺจาโน วา กสฺสโป วา. อิทมสฺส อตีตภเว อตฺตโน นามโคตฺตานุสฺสรณวเสน ¶ วุตฺตํ. สเจ ปน ตสฺมึ กาเล อตฺตโน วณฺณสมฺปตฺตึ วา ลูขปณีตชีวิกภาวํ วา สุขทุกฺขพหุลตํ วา อปฺปายุกทีฆายุกภาวํ วา อนุสฺสริตุกาโม โหติ, ตมฺปิ อนุสฺสรติเยว. เตนาห ‘‘เอวํวณฺโณ…เป… เอวมายุปริยนฺโต’’ติ.
ตตฺถ เอวํวณฺโณติ โอทาโต วา สาโม วา. เอวมาหาโรติ สาลิมํโสทนาหาโร วา ปวตฺตผลโภชโน วา. เอวํ สุขทุกฺขปฏิสํเวทีติ อเนกปฺปกาเรน กายิกเจตสิกานํ สามิสนิรามิสาทิปฺปเภทานํ วา สุขทุกฺขานํ ปฏิสํเวที. เอวมายุปริยนฺโตติ เอวํ วสฺสสตปริมาณายุปริยนฺโต วา จตุราสีติกปฺปสตสหสฺสายุปริยนฺโต วา. โส ตโต จุโต อมุตฺร อุทปาทินฺติ โสหํ ตโต ¶ ภวโต โยนิโต คติโต วิฺาณฏฺิติโต สตฺตาวาสโต สตฺตนิกายโต วา จุโต ปุน อมุกสฺมึ นาม ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา อุทปาทึ. ตตฺราปาสินฺติ อถ ตตฺราปิ ภเว โยนิยา คติยา วิฺาณฏฺิติยา สตฺตาวาเส สตฺตนิกาเย วา ปุน อโหสึ. เอวํนาโมติอาทิ วุตฺตนยเมว.
อปิจ ยสฺมา อมุตฺราสินฺติ อิทํ อนุปุพฺเพน อาโรหนฺตสฺส ยาวทิจฺฉกํ อนุสฺสรณํ. โส ตโต จุโตติ ปฏินิวตฺตนฺตสฺส ปจฺจเวกฺขณํ, ตสฺมา ‘‘อิธูปปนฺโน’’ติ อิมิสฺสา อิธูปปตฺติยา อนนฺตรเมวสฺส อุปปตฺติฏฺานํ สนฺธาย ‘‘อมุตฺร อุทปาทิ’’นฺติ อิทํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ตตฺราปาสินฺติ เอวมาทิ ปนสฺส ตตฺร อิมิสฺสา อุปปตฺติยา อนนฺตเร อุปปตฺติฏฺาเน นามโคตฺตาทีนํ อนุสฺสรณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. โส ตโต จุโต อิธูปปนฺโนติ สฺวาหํ ตโต อนนฺตรูปปตฺติฏฺานโต จุโต อิธ อสุกสฺมึ นาม ขตฺติยกุเล วา พฺราหฺมณกุเล วา นิพฺพตฺโตติ. อิตีติ เอวํ. สาการํ สอุทฺเทสนฺติ นามโคตฺตวเสน สอุทฺเทสํ, วณฺณาทิวเสน สาการํ. นามโคตฺเตน หิ สตฺโต ติสฺโส กสฺสโปติ อุทฺทิสียติ. วณฺณาทีหิ สาโม โอทาโตติ นานตฺตโต ปฺายติ. ตสฺมา นามโคตฺตํ อุทฺเทโส, อิตเร อาการา. อเนกวิหิตํ ปุพฺเพนิวาสมนุสฺสรตีติ อิทํ อุตฺตานตฺถเมวาติ.
ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณกถา นิฏฺิตา.
จุตูปปาตาณกถา
๔๑๑. สตฺตานํ ¶ จุตูปปาตาณกถาย จุตูปปาตาณายาติ (ที. นิ. ๑.๒๔๗) จุติยา จ อุปปาเต จ าณาย. เยน าเณน สตฺตานํ จุติ จ อุปปาโต จ ายติ, ตทตฺถํ ทิพฺพจกฺขุาณตฺถนฺติ วุตฺตํ โหติ. จิตฺตํ อภินีหรติ อภินินฺนาเมตีติ ปริกมฺมจิตฺตํ อภินีหรติ เจว อภินินฺนาเมติ จ. โสติ โส กตจิตฺตาภินีหาโร ภิกฺขุ. ทิพฺเพนาติอาทีสุ ปน ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. เทวตานฺหิ สุจริตกมฺมนิพฺพตฺตํ ปิตฺตเสมฺหรุหิราทีหิ อปลิพุทฺธํ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตตาย ทูเรปิ อารมฺมณํ สมฺปฏิจฺฉนสมตฺถํ ทิพฺพํ ปสาทจกฺขุ โหติ. อิทฺจาปิ วีริยภาวนาพลนิพฺพตฺตํ าณจกฺขุ ¶ ตาทิสเมวาติ ทิพฺพสทิสตฺตา ทิพฺพํ. ทิพฺพวิหารวเสน ปฏิลทฺธตฺตา อตฺตนา จ ทิพฺพวิหารสนฺนิสฺสิตตฺตาปิ ทิพฺพํ. อาโลกปริคฺคเหน มหาชุติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ติโรกุฏฺฏาทิคตรูปทสฺสเนน มหาคติกตฺตาปิ ทิพฺพํ. ตํ สพฺพํ สทฺทสตฺถานุสาเรเนว เวทิตพฺพํ.
ทสฺสนฏฺเน จกฺขุ. จกฺขุกิจฺจกรเณน จกฺขุมิวาติปิ จกฺขุ. จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธํ. โย หิ จุติมตฺตเมว ปสฺสติ, น อุปปาตํ. โส อุจฺเฉททิฏฺึ คณฺหาติ. โย อุปปาตมตฺตเมว ปสฺสติ, น จุตึ, โส นวสตฺตปาตุภาวทิฏฺึ คณฺหาติ. โย ปน ตทุภยํ ปสฺสติ, โส ยสฺมา ทุวิธมฺปิ ตํ ทิฏฺิคตํ อติวตฺตติ. ตสฺมาสฺส ตํทสฺสนํ ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุ โหติ. อุภยมฺปิ เจตํ พุทฺธปุตฺตา ปสฺสนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จุตูปปาตทสฺสเนน ทิฏฺิวิสุทฺธิเหตุตฺตา วิสุทฺธ’’นฺติ.
มนุสฺสูปจารํ อติกฺกมิตฺวา รูปทสฺสเนน อติกฺกนฺตมานุสกํ, มานุสกํ วา มํสจกฺขุํ อติกฺกนฺตตฺตา อติกฺกนฺตมานุสกนฺติ เวทิตพฺพํ. เตน ทิพฺเพน จกฺขุนา วิสุทฺเธน อติกฺกนฺตมานุสเกน. สตฺเต ปสฺสตีติ มนุสฺสานํ มํสจกฺขุนา วิย สตฺเต โอโลเกติ.
จวมาเน อุปปชฺชมาเนติ เอตฺถ จุติกฺขเณ อุปปตฺติกฺขเณ วา ทิพฺพจกฺขุนา ทฏฺุํ น สกฺกา. เย ปน อาสนฺนจุติกา อิทานิ จวิสฺสนฺติ, เต จวมานา. เย จ คหิตปฏิสนฺธิกา สมฺปตินิพฺพตฺตาว, เต อุปปชฺชมานาติ อธิปฺเปตา. เต เอวรูเป จวมาเน จ อุปปชฺชมาเน จ ปสฺสตีติ ทสฺเสติ.
หีเนติ ¶ โมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา หีนานํ ชาติกุลโภคาทีนํ วเสน หีฬิเต โอหีฬิเต โอฺาเต อวฺาเต. ปณีเตติ อโมหนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา ตพฺพิปรีเต. สุวณฺเณติ อโทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อิฏฺกนฺตมนาปวณฺณยุตฺเต. ทุพฺพณฺเณติ โทสนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา อนิฏฺากนฺตอมนาปวณฺณยุตฺเต. อนภิรูเป วิรูเปติปิ อตฺโถ. สุคเตติ สุคติคเต. อโลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา อฑฺเฒ มหทฺธเน. ทุคฺคเตติ ทุคฺคติคเต. โลภนิสฺสนฺทยุตฺตตฺตา วา ทลิทฺเท อปฺปนฺนปาเน.
ยถากมฺมุปเคติ ยํ ยํ กมฺมํ อุปจิตํ, เตน เตน อุปคเต. ตตฺถ ปุริเมหิ จวมาเนติอาทีหิ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจํ วุตฺตํ. อิมินา ปน ปเทน ยถากมฺมุปคาณกิจฺจํ. ตสฺส จ าณสฺส อยมุปฺปตฺติกฺกโม, อิธ ภิกฺขุ เหฏฺา นิรยาภิมุขํ ¶ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา เนรยิเก สตฺเต ปสฺสติ มหาทุกฺขมนุภวมาเน. ตํ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิกโรติ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ ทุกฺขํ อนุภวนฺตี’’ติ. อถสฺส อิทํ นาม กตฺวาติ ตํกมฺมารมฺมณํ าณํ อุปฺปชฺชติ. ตถา อุปริเทวโลกาภิมุขํ อาโลกํ วฑฺเฒตฺวา นนฺทนวนมิสฺสกวนผารุสกวนาทีสุ สตฺเต ปสฺสติ มหาสมฺปตฺตึ อนุภวมาเน. ตมฺปิ ทสฺสนํ ทิพฺพจกฺขุกิจฺจเมว. โส เอวํ มนสิกโรติ ‘‘กึ นุ โข กมฺมํ กตฺวา อิเม สตฺตา เอตํ สมฺปตฺตึ อนุภวนฺตี’’ติ. อถสฺส อิทํ นาม กตฺวาติ ตํกมฺมารมฺมณํ าณํ อุปฺปชฺชติ. อิทํ ยถากมฺมุปคาณํ นาม. อิมสฺส วิสุํ ปริกมฺมํ นาม นตฺถิ, ยถา จิมสฺส, เอวํ อนาคตํสาณสฺสาปิ. ทิพฺพจกฺขุปาทกาเนว หิ อิมานิ ทิพฺพจกฺขุนา สเหว อิชฺฌนฺติ.
กายทุจฺจริเตนาติอาทีสุ ทุฏฺุ จริตํ, ทุฏฺํ วา จริตํ กิเลสปูติกตฺตาติ ทุจฺจริตํ. กาเยน ทุจฺจริตํ, กายโต วา อุปฺปนฺนํ ทุจฺจริตนฺติ กายทุจฺจริตํ, อิตเรสุปิ เอเสว นโย. สมนฺนาคตาติ สมงฺคีภูตา. อริยานํ อุปวาทกาติ พุทฺธปจฺเจกพุทฺธสาวกานํ อริยานํ อนฺตมโส คิหิโสตาปนฺนานมฺปิ อนตฺถกามา หุตฺวา อนฺติมวตฺถุนา วา คุณปริธํสเนน วา อุปวาทกา อกฺโกสกา ครหกาติ วุตฺตํ โหติ. ตตฺถ นตฺถิ อิเมสํ สมณธมฺโม, อสฺสมณา เอเตติ วทนฺโต อนฺติมวตฺถุนา อุปวทติ. นตฺถิ อิเมสํ ฌานํ วา วิโมกฺโข วา มคฺโค วา ผลํ วาติอาทีนิ วทนฺโต คุณปริธํสนวเสน อุปวทตีติ เวทิตพฺโพ. โส จ ชานํ วา อุปวเทยฺย อชานํ วา, อุภยถาปิ อริยูปวาโทว โหติ. ภาริยํ กมฺมํ อานนฺตริยสทิสํ สคฺคาวรณฺจ มคฺคาวรณฺจ, สเตกิจฺฉํ ปน โหติ. ตสฺส อาวิภาวตฺถํ อิทํ วตฺถุ เวทิตพฺพํ.
อฺตรสฺมึ ¶ กิร คาเม เอโก เถโร จ ทหรภิกฺขุ จ ปิณฺฑาย จรนฺติ. เต ปมฆเรเยว อุฬุงฺกมตฺตํ อุณฺหยาคุํ ลภึสุ. เถรสฺส จ กุจฺฉิวาโต รุชฺฌติ. โส จินฺเตสิ ‘‘อยํ ยาคุ มยฺหํ สปฺปายา, ยาว น สีตลา โหติ, ตาว นํ ปิวามี’’ติ. โส มนุสฺเสหิ อุมฺมารตฺถาย อาหเฏ ทารุขณฺเฑ นิสีทิตฺวา ปิวิ. อิตโร ตํ ชิคุจฺฉนฺโต ‘‘อติขุทฺทาภิภูโต มหลฺลโก, อมฺหากํ ลชฺชิตพฺพกํ อกาสี’’ติ อาห. เถโร ¶ คาเม จริตฺวา วิหารํ คนฺตฺวา ทหรภิกฺขุํ อาห ‘‘อตฺถิ เต, อาวุโส, อิมสฺมึ สาสเน ปติฏฺา’’ติ? อาม, ภนฺเต, โสตาปนฺโน อหนฺติ. เตน หาวุโส, อุปริมคฺคตฺถาย วายามํ มา อกาสิ. ขีณาสโว ตยา อุปวทิโตติ. โส ตํ ขมาเปสิ. เตนสฺส ตํ กมฺมํ ปากติกํ อโหสิ.
ตสฺมา โย อฺโปิ อริยํ อุปวทติ, เตน คนฺตฺวา สเจ อตฺตนา วุฑฺฒตโร โหติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา ‘‘อหํ อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมาหี’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ นวกตโร โหติ, วนฺทิตฺวา อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, ตุมฺเห อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม ขมถา’’ติ ขมาเปตพฺโพ. สเจ ทิสาปกฺกนฺโต โหติ, สยํ วา คนฺตฺวา สทฺธิวิหาริกาทิเก วา เปเสตฺวา ขมาเปตพฺโพ.
สเจ จ นาปิ คนฺตุํ, น เปเสตุํ สกฺกา โหติ, เย ตสฺมึ วิหาเร ภิกฺขู วสนฺติ, เตสํ สนฺติกํ คนฺตฺวา สเจ นวกตรา โหนฺติ, อุกฺกุฏิกํ นิสีทิตฺวา, สเจ วุฑฺฒตรา, วุฑฺเฒ วุตฺตนเยเนว ปฏิปชฺชิตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ขมตุ เม โส อายสฺมา’’ติ วตฺวา ขมาเปตพฺพํ. สมฺมุขา อขมนฺเตปิ เอตเทว กตฺตพฺพํ.
สเจ เอกจาริกภิกฺขุ โหติ, เนวสฺส วสนฏฺานํ, น คตฏฺานํ ปฺายติ, เอกสฺส ปณฺฑิตสฺส ภิกฺขุโน สนฺติกํ คนฺตฺวา ‘‘อหํ, ภนฺเต, อสุกํ นาม อายสฺมนฺตํ อิทฺจิทฺจ อวจํ, ตํ เม อนุสฺสรโต วิปฺปฏิสาโร โหติ, กึ กโรมี’’ติ วตฺตพฺพํ. โส วกฺขติ ‘‘ตุมฺเห มา จินฺตยิตฺถ, เถโร ตุมฺหากํ ขมติ, จิตฺตํ วูปสเมถา’’ติ. เตนาปิ อริยสฺส คตทิสาภิมุเขน อฺชลึ ปคฺคเหตฺวา ขมตูติ วตฺตพฺพํ. สเจ โส ปรินิพฺพุโต โหติ, ปรินิพฺพุตมฺจฏฺานํ คนฺตฺวา ยาวสิวถิกํ คนฺตฺวาปิ ขมาเปตพฺพํ. เอวํ กเต เนว สคฺคาวรณํ, น มคฺคาวรณํ โหติ, ปากติกเมว โหตีติ.
มิจฺฉาทิฏฺิกาติ ¶ วิปรีตทสฺสนา. มิจฺฉาทิฏฺิกมฺมสมาทานาติ มิจฺฉาทิฏฺิวเสน สมาทินฺนนานาวิธกมฺมา, เย จ มิจฺฉาทิฏฺิมูลเกสุ กายกมฺมาทีสุ อฺเปิ สมาทเปนฺติ. เอตฺถ จ วจีทุจฺจริตคฺคหเณเนว อริยูปวาเท มโนทุจฺจริตคฺคหเณน จ มิจฺฉาทิฏฺิยา สงฺคหิตายปิ อิเมสํ ทฺวินฺนํ ปุน วจนํ ¶ มหาสาวชฺชภาวทสฺสนตฺถนฺติ เวทิตพฺพํ. มหาสาวชฺโช หิ อริยูปวาโท, อานนฺตริยสทิสตฺตา. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘เสยฺยถาปิ, สาริปุตฺต, ภิกฺขุ สีลสมฺปนฺโน สมาธิสมฺปนฺโน ปฺาสมฺปนฺโน ทิฏฺเว ธมฺเม อฺํ อาราเธยฺย, เอวํสมฺปทมิทํ, สาริปุตฺต, วทามิ ตํ วาจํ อปฺปหาย ตํ จิตฺตํ อปฺปหาย ตํ ทิฏฺึ อปฺปฏินิสฺสชฺชิตฺวา ยถาภตํ นิกฺขิตฺโต, เอวํ นิรเย’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๔๙). มิจฺฉาทิฏฺิโต จ มหาสาวชฺชตรํ นาม อฺํ นตฺถิ. ยถาห ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, อฺํ เอกธมฺมมฺปิ สมนุปสฺสามิ, ยํ เอวํ มหาสาวชฺชํ, ยถยิทํ, ภิกฺขเว, มิจฺฉาทิฏฺิ. มิจฺฉาทิฏฺิปรมานิ, ภิกฺขเว, วชฺชานี’’ติ (อ. นิ. ๑.๓๑๐).
กายสฺส เภทาติ อุปาทิณฺณกฺขนฺธปริจฺจาคา. ปรมฺมรณาติ ตทนนฺตรํ อภินิพฺพตฺติกฺขนฺธคฺคหเณ. อถ วา กายสฺส เภทาติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา. ปรมฺมรณาติ จุติจิตฺตโต อุทฺธํ. อปายนฺติ เอวมาทิ สพฺพํ นิรยเววจนเมว.
นิรโย หิ สคฺคโมกฺขเหตุภูตา ปฺุสมฺมตา อยา อเปตตฺตา, สุขานํ วา อายสฺส อภาวา อปาโย. ทุกฺขสฺส คติ ปฏิสรณนฺติ ทุคฺคติ, โทสพหุลตาย วา ทุฏฺเน กมฺมุนา นิพฺพตฺตา คตีติ ทุคฺคติ. วิวสา นิปตนฺติ เอตฺถ ทุกฺกฏการิโนติ วินิปาโต. วินสฺสนฺตา วา เอตฺถ ปตนฺติ สํภิชฺชมานงฺคปจฺจงฺคาติปิ วินิปาโต. นตฺถิ เอตฺถ อสฺสาทสฺิโต อโยติ นิรโย.
อถ วา อปายคฺคหเณน ติรจฺฉานโยนึ ทีเปติ. ติรจฺฉานโยนิ หิ อปาโย สุคติโต อเปตตฺตา, น ทุคฺคติ มเหสกฺขานํ นาคราชาทีนํ สมฺภวโต. ทุคฺคติคฺคหเณน เปตฺติวิสยํ. โส หิ อปาโย เจว ทุคฺคติ จ, สุคติโต อเปตตฺตา ทุกฺขสฺส จ คติภูตตฺตา. น ตุ วินิปาโต อสุรสทิสํ อวินิปติตตฺตา. วินิปาตคฺคหเณน อสุรกายํ. โส หิ ยถาวุตฺเตน อตฺเถน อปาโย เจว ทุคฺคติ จ สพฺพสมุสฺสเยหิ จ วินิปติตตฺตา วินิปาโตติ วุจฺจติ. นิรยคฺคหเณน ¶ อวีจิอาทิอเนกปฺปการํ นิรยเมวาติ. อุปปนฺนาติ อุปคตา, ตตฺถ อภินิพฺพตฺตาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตวิปริยาเยน สุกฺกปกฺโข เวทิตพฺโพ.
อยํ ¶ ปน วิเสโส, ตตฺถ สุคติคฺคหเณน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ. สคฺคคฺคหเณน เทวคติเยว. ตตฺถ สุนฺทรา คตีติ สุคติ. รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค. โส สพฺโพปิ ลุชฺชนปลุชฺชนฏฺเน โลโกติ อยํ วจนตฺโถ.
‘‘อิติ ทิพฺเพน จกฺขุนา’’ติอาทิ สพฺพํ นิคมนวจนํ. เอวํ ทิพฺเพน จกฺขุนา…เป… ปสฺสตีติ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ.
๔๑๒. เอวํ ปสฺสิตุกาเมน ปน อาทิกมฺมิเกน กุลปุตฺเตน กสิณารมฺมณํ อภิฺาปาทกชฺฌานํ สพฺพากาเรน อภินีหารกฺขมํ กตฺวา ‘‘เตโชกสิณํ, โอทาตกสิณํ, อาโลกกสิณ’’นฺติ อิเมสุ ตีสุ กสิเณสุ อฺตรํ อาสนฺนํ กาตพฺพํ. อุปจารชฺฌานโคจรํ กตฺวา วฑฺเฒตฺวา เปตพฺพํ. น ตตฺถ อปฺปนา อุปฺปาเทตพฺพาติ อธิปฺปาโย. สเจ หิ อุปฺปาเทติ, ปาทกชฺฌานนิสฺสยํ โหติ, น ปริกมฺมนิสฺสยํ. อิเมสุ จ ปน ตีสุ อาโลกกสิณํเยว เสฏฺตรํ. ตสฺมา ตํ วา อิตเรสํ วา อฺตรํ กสิณนิทฺเทเส วุตฺตนเยน อุปฺปาเทตฺวา อุปจารภูมิยํเยว ตฺวา วฑฺเฒตพฺพํ. วฑฺฒนานโยปิ จสฺส ตตฺถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
วฑฺฒิตฏฺานสฺส อนฺโตเยว รูปคตํ ปสฺสิตพฺพํ. รูปคตํ ปสฺสโต ปนสฺส ปริกมฺมสฺส วาโร อติกฺกมติ. ตโต อาโลโก อนฺตรธายติ. ตสฺมึ อนฺตรหิเต รูปคตมฺปิ น ทิสฺสติ. อถาเนน ปุนปฺปุนํ ปาทกชฺฌานเมว ปวิสิตฺวา ตโต วุฏฺาย อาโลโก ผริตพฺโพ. เอวํ อนุกฺกเมน อาโลโก ถามคโต โหตีติ เอตฺถ อาโลโก โหตูติ ยตฺตกํ านํ ปริจฺฉินฺทติ, ตตฺถ อาโลโก ติฏฺติเยว. ทิวสมฺปิ นิสีทิตฺวา ปสฺสโต รูปทสฺสนํ โหติ. รตฺตึ ติณุกฺกาย มคฺคปฏิปนฺโน เจตฺถ ปุริโส โอปมฺมํ.
เอโก กิร รตฺตึ ติณุกฺกาย มคฺคํ ปฏิปชฺชิ. ตสฺส สา ติณุกฺกา วิชฺฌายิ. อถสฺส สมวิสมานิ น ปฺายึสุ. โส ตํ ติณุกฺกํ ภูมิยํ ฆํสิตฺวา ติณุกฺกา ปุน อุชฺชาเลสิ. สา ปชฺชลิตฺวา ปุริมาโลกโต มหนฺตตรํ อาโลกํ อกาสิ. เอวํ ปุนปฺปุนํ วิชฺฌาตํ ¶ อุชฺชาลยโต กเมน สูริโย อุฏฺาสิ. สูริเย อุฏฺิเต อุกฺกาย กมฺมํ นตฺถีติ ตํ ฉฑฺเฑตฺวา ทิวสมฺปิ อคมาสิ. ตตฺถ อุกฺกาโลโก วิย ปริกมฺมกาเล กสิณาโลโก. อุกฺกาย ¶ วิชฺฌาตาย สมวิสมานํ อทสฺสนํ วิย รูปคตํ ปสฺสโต ปริกมฺมสฺส วาราติกฺกเมน อาโลเก อนฺตรหิเต รูปคตานํ อทสฺสนํ. อุกฺกาย ฆํสนํ วิย ปุนปฺปุนํ ปเวสนํ. อุกฺกาย ปุริมาโลกโต มหนฺตตราโลกกรณํ วิย ปุน ปริกมฺมํ กโรโต พลวตราโลกผรณํ. สูริยุฏฺานํ วิย ถามคตาโลกสฺส ยถาปริจฺเฉเทน านํ. ติณุกฺกํ ฉฑฺเฑตฺวา ทิวสมฺปิ คมนํ วิย ปริตฺตาโลกํ ฉฑฺเฑตฺวา ถามคเตนาโลเกน ทิวสมฺปิ รูปทสฺสนํ.
ตตฺถ ยทา ตสฺส ภิกฺขุโน มํสจกฺขุสฺส อนาปาถคตํ อนฺโตกุจฺฉิคตํ หทยวตฺถุนิสฺสิตํ เหฏฺาปถวีตลนิสฺสิตํ ติโรกุฏฺฏปพฺพตปาการคตํ ปรจกฺกวาฬคตนฺติ อิทํ รูปํ าณจกฺขุสฺส อาปาถํ อาคจฺฉติ, มํสจกฺขุนา ทิสฺสมานํ วิย โหติ, ตทา ทิพฺพจกฺขุ อุปฺปนฺนํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตเทว เจตฺถ รูปทสฺสนสมตฺถํ, น ปุพฺพภาคจิตฺตานิ.
ตํ ปเนตํ ปุถุชฺชนสฺส ปริพนฺโธ โหติ. กสฺมา? โส หิ ยสฺมา ยตฺถ ยตฺถ อาโลโก โหตูติ อธิฏฺาติ, ตํ ตํ ปถวีสมุทฺทปพฺพเต วินิวิชฺฌิตฺวาปิ เอกาโลกํ โหติ, อถสฺส ตตฺถ ภยานกานิ ยกฺขรกฺขสาทิรูปานิ ปสฺสโต ภยํ อุปฺปชฺชติ. เยน จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺวา ฌานวิพฺภนฺตโก โหติ, ตสฺมา รูปทสฺสเน อปฺปมตฺเตน ภวิตพฺพํ.
ตตฺรายํ ทิพฺพจกฺขุโน อุปฺปตฺติกฺกโม. วุตฺตปฺปการเมตํ รูปมารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชเน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุทฺเธ ตเทว รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ อุปฺปชฺชนฺตีติ สพฺพํ ปุริมนเยเนว เวทิตพฺพํ. อิธาปิ ปุพฺพภาคจิตฺตานิ สวิตกฺกสวิจารานิ กามาวจรานิ. ปริโยสาเน อตฺถสาธกจิตฺตํ จตุตฺถชฺฌานิกํ รูปาวจรํ. เตน สหชาตํ าณํ สตฺตานํ จุตูปปาเต าณนฺติปิ ทิพฺพจกฺขุาณนฺติปิ วุจฺจตีติ.
จุตูปปาตาณกถา นิฏฺิตา.
ปกิณฺณกกถา
อิติ ¶ ปฺจกฺขนฺธวิทู, ปฺจ อภิฺา อโวจ ยา นาโถ;
ตา ตฺวา ตาสุ อยํ, ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยา.
เอตาสุ ¶ หิ ยเทตํ จุตูปปาตาณสงฺขาตํ ทิพฺพจกฺขุ, ตสฺส อนาคตํสาณฺจ ยถากมฺมุปคาณฺจาติ ทฺเวปิ ปริภณฺฑาณานิ โหนฺติ. อิติ อิมานิ จ ทฺเว อิทฺธิวิธาทีนิ จ ปฺจาติ สตฺต อภิฺาาณานิ อิธาคตานิ. อิทานิ เตสํ อารมฺมณวิภาเค อสมฺโมหตฺถํ –
อารมฺมณตฺติกา วุตฺตา, เย จตฺตาโร มเหสินา;
สตฺตนฺนมปิ าณานํ, ปวตฺตึ เตสุ ทีปเย.
ตตฺรายํ ทีปนา. จตฺตาโร หิ อารมฺมณตฺติกา มเหสินา วุตฺตา. กตเม จตฺตาโร? ปริตฺตารมฺมณตฺติโก, มคฺคารมฺมณตฺติโก, อตีตารมฺมณตฺติโก, อชฺฌตฺตารมฺมณตฺติโกติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๓, ๑๖, ๑๙, ๒๑).
๔๑๔. ตตฺถ อิทฺธิวิธาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน สตฺตสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ ยทา กายํ จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน คนฺตุกาโม จิตฺตวเสน กายํ ปริณาเมติ, มหคฺคตจิตฺเต สโมทหติ สมาโรเปติ, ตทา อุปโยคลทฺธํ อารมฺมณํ โหตีติ กตฺวา รูปกายารมฺมณโต ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. ยทา จิตฺตํ กายสนฺนิสฺสิตํ กตฺวา ทิสฺสมาเนน กาเยน คนฺตุกาโม กายวเสน จิตฺตํ ปริณาเมติ, ปาทกชฺฌานจิตฺตํ รูปกาเย สโมทหติ สมาโรเปติ, ตทา อุปโยคลทฺธํ อารมฺมณํ โหตีติ กตฺวา มหคฺคตจิตฺตารมฺมณโต มหคฺคตารมฺมณํ โหติ.
ยสฺมา ปน ตเทว จิตฺตํ อตีตํ นิรุทฺธํ อารมฺมณํ กโรติ, ตสฺมา อตีตารมฺมณํ โหติ. มหาธาตุนิธาเน มหากสฺสปตฺเถราทีนํ วิย อนาคตํ อธิฏฺหนฺตานํ อนาคตารมฺมณํ โหติ. มหากสฺสปตฺเถโร กิร มหาธาตุนิธานํ กโรนฺโต ‘‘อนาคเต อฏฺารสวสฺสาธิกานิ ทฺเววสฺสสตานิ อิเม คนฺธา มา สุสฺสึสุ, ปุปฺผานิ มา มิลายึสุ, ทีปา มา นิพฺพายึสู’’ติ ¶ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๓๔) อธิฏฺหิ. สพฺพํ ตเถว อโหสิ. อสฺสคุตฺตตฺเถโร วตฺตนิยเสนาสเน ภิกฺขุสงฺฆํ สุกฺขภตฺตํ ภฺุชมานํ ทิสฺวา อุทกโสณฺฑึ ทิวเส ทิวเส ปุเรภตฺเต ทธิรสํ โหตูติ อธิฏฺาสิ. ปุเรภตฺเต คหิตํ ทธิรสํ โหติ. ปจฺฉาภตฺเต ปากติกอุทกเมว (ธ. ส. อฏฺ. ๑๔๓๔). กายํ ปน จิตฺตสนฺนิสฺสิตํ ¶ กตฺวา อทิสฺสมาเนน กาเยน คมนกาเล ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ.
กายวเสน จิตฺตํ, จิตฺตวเสน วา กายํ ปริณามนกาเล อตฺตโน กุมารกวณฺณาทินิมฺมานกาเล จ สกายจิตฺตานํ อารมฺมณกรณโต อชฺฌตฺตารมฺมณํ โหติ. พหิทฺธา หตฺถิอสฺสาทิทสฺสนกาเล ปน พหิทฺธารมฺมณนฺติ เอวํ ตาว อิทฺธิวิธาณสฺส สตฺตสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๔๑๕. ทิพฺพโสตธาตุาณํ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ ยสฺมา สทฺทํ อารมฺมณํ กโรติ, สทฺโท จ ปริตฺโต, ตสฺมา ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. วิชฺชมานํเยว ปน สทฺทํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตนโต ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ. ตํ อตฺตโน กุจฺฉิสทฺทสวนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ. ปเรสํ สทฺทสวนกาเล พหิทฺธารมฺมณนฺติ เอวํ ทิพฺพโสตธาตุาณสฺส จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๔๑๖. เจโตปริยาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนพหิทฺธารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ ปเรสํ กามาวจรจิตฺตชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. รูปาวจรอรูปาวจรจิตฺตชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ โหติ. มคฺคผลชานนกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ โหติ.
เอตฺถ จ ปุถุชฺชโน โสตาปนฺนสฺส จิตฺตํ น ชานาติ. โสตาปนฺโน วา สกทาคามิสฺสาติ เอวํ ยาว อรหโต เนตพฺพํ. อรหา ปน สพฺเพสํ จิตฺตํ ชานาติ. อฺโปิ จ อุปริโม เหฏฺิมสฺสาติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. มคฺคจิตฺตารมฺมณกาเล มคฺคารมฺมณํ โหติ. ยทา ปน อตีเต สตฺตทิวสพฺภนฺตเร จ อนาคเต สตฺตทิวสพฺภนฺตเร จ ปเรสํ จิตฺตํ ชานาติ, ตทา อตีตารมฺมณํ อนาคตารมฺมณฺจ โหติ.
กถํ ¶ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ. ปจฺจุปฺปนฺนํ นาม ติวิธํ – ขณปจฺจุปฺปนฺนํ, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ, อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนฺจ. ตตฺถ อุปฺปาทฏฺิติภงฺคปฺปตฺตํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ. เอกทฺเวสนฺตติวารปริยาปนฺนํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ. ตตฺถ อนฺธกาเร นิสีทิตฺวา อาโลกฏฺานํ คตสฺส น ตาว อารมฺมณํ ปากฏํ โหติ, ยาว ปน ตํ ปากฏํ โหติ ¶ , เอตฺถนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. อาโลกฏฺาเน วิจริตฺวา โอวรกํ ปวิฏฺสฺสาปิ น ตาว สหสา รูปํ ปากฏํ โหติ, ยาว ปน ตํ ปากฏํ โหติ, เอตฺถนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. ทูเร ตฺวา ปน รชกานํ หตฺถวิการํ, ฆณฺฑิเภรีอาโกฏนวิการฺจ ทิสฺวาปิ น ตาว สทฺทํ สุณาติ, ยาว ปน ตํ สุณาติ, เอตสฺมิมฺปิ อนฺตเร เอกทฺเวสนฺตติวารา เวทิตพฺพา. เอวํ ตาว มชฺฌิมภาณกา.
สํยุตฺตภาณกา ปน รูปสนฺตติ อรูปสนฺตตีติ ทฺเว สนฺตติโย วตฺวา อุทกํ อกฺกมิตฺวา คตสฺส ยาว ตีเร อกฺกนฺตอุทกเลขา น วิปฺปสีทติ, อทฺธานโต อาคตสฺส ยาว กาเย อุสุมภาโว น วูปสมฺมติ, อาตปา อาคนฺตฺวา คพฺภํ ปวิฏฺสฺส ยาว อนฺธการภาโว น วิคจฺฉติ, อนฺโตคพฺเภ กมฺมฏฺานํ มนสิ กริตฺวา ทิวา วาตปานํ วิวริตฺวา โอโลเกนฺตสฺส ยาว อกฺขีนํ ผนฺทนภาโว น วูปสมฺมติ, อยํ รูปสนฺตติ นาม. ทฺเว ตโย ชวนวารา อรูปสนฺตติ นามาติ วตฺวา ตทุภยมฺปิ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นามาติ วทนฺติ.
เอกภวปริจฺฉินฺนํ ปน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ยํ สนฺธาย ภทฺเทกรตฺตสุตฺเต ‘‘โย จาวุโส, มโน เย จ ธมฺมา อุภยเมตํ ปจฺจุปฺปนฺนํ, ตสฺมึ เจ ปจฺจุปฺปนฺเน ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธํ โหติ วิฺาณํ, ฉนฺทราคปฺปฏิพทฺธตฺตา วิฺาณสฺส ตทภินนฺทติ, ตทภินนฺทนฺโต ปจฺจุปฺปนฺเนสุ ธมฺเมสุ สํหีรตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๘๔) วุตฺตํ. สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนฺเจตฺถ อฏฺกถาสุ อาคตํ. อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ สุตฺเต.
ตตฺถ เกจิ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ จิตฺตํ เจโตปริยาณสฺส อารมฺมณํ โหตีติ วทนฺติ. กึ การณา? ยสฺมา อิทฺธิมโต จ ปรสฺส จ เอกกฺขเณ จิตฺตํ อุปฺปชฺชตีติ. อิทฺจ เนสํ โอปมฺมํ, ยถา อากาเส ขิตฺเต ปุปฺผมุฏฺิมฺหิ อวสฺสํ เอกํ ปุปฺผํ เอกสฺส วณฺเฏน วณฺฏํ ปฏิวิชฺฌติ, เอวํ ปรสฺส จิตฺตํ ชานิสฺสามีติ ราสิวเสน มหาชนสฺส จิตฺเต อาวชฺชิเต อวสฺสํ เอกสฺส จิตฺตํ เอเกน จิตฺเตน อุปฺปาทกฺขเณ วา ิติกฺขเณ วา ภงฺคกฺขเณ วา ปฏิวิชฺฌตีติ. ตํ ปน วสฺสสตมฺปิ วสฺสสหสฺสมฺปิ อาวชฺชนฺโต เยน จ จิตฺเตน อาวชฺชติ ¶ , เยน จ ชานาติ. เตสํ ทฺวินฺนํ สหานาภาวโต อาวชฺชนชวนานฺจ อนิฏฺฏฺาเน นานารมฺมณภาวปฺปตฺติโทสโต อยุตฺตนฺติ อฏฺกถาสุ ปฏิกฺขิตฺตํ.
สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ ¶ ปน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนฺจ อารมฺมณํ โหตีติ เวทิตพฺพํ. ตตฺถ ยํ วตฺตมานชวนวีถิโต อตีตานาคตวเสน ทฺวิตฺติชวนวีถิปริมาเณ กาเล ปรสฺส จิตฺตํ, ตํ สพฺพมฺปิ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนํ นาม. ‘‘อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนํ ปน ชวนวาเรน ทีเปตพฺพ’’นฺติ สํยุตฺตฏฺกถายํ วุตฺตํ. ตํ สุฏฺุ วุตฺตํ.
ตตฺรายํ ทีปนา, อิทฺธิมา ปรสฺส จิตฺตํ ชานิตุกาโม อาวชฺชติ, อาวชฺชนํ ขณปจฺจุปฺปนฺนํ อารมฺมณํ กตฺวา เตเนว สห นิรุชฺฌติ. ตโต จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ. เยสํ ปจฺฉิมํ อิทฺธิจิตฺตํ, เสสานิ กามาวจรานิ, เตสํ สพฺเพสมฺปิ ตเทว นิรุทฺธํ จิตฺตมารมฺมณํ โหติ, น จ ตานิ นานารมฺมณานิ โหนฺติ, อทฺธาวเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณตฺตา. เอการมฺมณตฺเตปิ จ อิทฺธิจิตฺตเมว ปรสฺส จิตฺตํ ชานาติ, น อิตรานิ. ยถา จกฺขุทฺวาเร จกฺขุวิฺาณเมว รูปํ ปสฺสติ, น อิตรานีติ. อิติ อิทํ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนสฺส เจว อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนสฺส จ วเสน ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ โหติ. ยสฺมา วา สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนมฺปิ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺเนเยว ปตติ, ตสฺมา อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนวเสเนเวตํ ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณนฺติ เวทิตพฺพํ. ปรสฺส จิตฺตารมฺมณตฺตาเยว ปน พหิทฺธารมฺมณํ โหตีติ เอวํ เจโตปริยาณสฺส อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๔๑๗. ปุพฺเพนิวาสาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ กามาวจรกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. รูปาวจรารูปาวจรกฺขนฺธานุสฺสรณกาเล มหคฺคตารมฺมณํ. อตีเต อตฺตนา ปเรหิ วา ภาวิตมคฺคํ สจฺฉิกตผลฺจ อนุสฺสรณกาเล อปฺปมาณารมฺมณํ. ภาวิตมคฺคเมว อนุสฺสรณกาเล มคฺคารมฺมณํ. นิยมโต ปเนตํ อตีตารมฺมณเมว.
ตตฺถ กิฺจาปิ เจโตปริยาณยถากมฺมุปคาณานิปิ อตีตารมฺมณานิ โหนฺติ, อถ โข เตสํ เจโตปริยาณสฺส สตฺตทิวสพฺภนฺตราตีตํ จิตฺตเมว อารมฺมณํ. ตฺหิ อฺํ ขนฺธํ วา ขนฺธปฏิพทฺธํ วา น ชานาติ. มคฺคสมฺปยุตฺตจิตฺตารมฺมณตฺตา ปน ปริยายโต มคฺคารมฺมณนฺติ ¶ วุตฺตํ. ยถากมฺมุปคาณสฺส จ อตีตํ เจตนามตฺตเมว อารมฺมณํ. ปุพฺเพนิวาสาณสฺส ปน อตีตา ขนฺธา ขนฺธปฏิพทฺธฺจ กิฺจิ อนารมฺมณํ นาม นตฺถิ ¶ . ตฺหิ อตีตกฺขนฺธขนฺธปฏิพทฺเธสุ ธมฺเมสุ สพฺพฺุตฺาณคติกํ โหตีติ อยํ วิเสโส เวทิตพฺโพ. อยเมตฺถ อฏฺกถานโย. ยสฺมา ปน ‘‘กุสลา ขนฺธา อิทฺธิวิธาณสฺส เจโตปริยาณสฺส ปุพฺเพนิวาสานุสฺสติาณสฺส ยถากมฺมุปคาณสฺส อนาคตํสาณสฺส อารมฺมณปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๐๔) ปฏฺาเน วุตฺตํ. ตสฺมา จตฺตาโรปิ ขนฺธา เจโตปริยาณยถากมฺมุปคาณานํ อารมฺมณา โหนฺติ. ตตฺราปิ ยถากมฺมุปคาณสฺส กุสลากุสลา เอวาติ.
อตฺตโน ขนฺธานุสฺสรณกาเล ปเนตํ อชฺฌตฺตารมฺมณํ. ปรสฺส ขนฺธานุสฺสรณกาเล พหิทฺธารมฺมณํ. ‘‘อตีเต วิปสฺสี ภควา อโหสิ. ตสฺส มาตา พนฺธุมตี, ปิตา พนฺธุมา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๒.๑๒) นเยน นามโคตฺตปถวีนิมิตฺตาทิอนุสฺสรณกาเล นวตฺตพฺพารมฺมณํ โหติ. นามโคตฺตนฺติ เจตฺถ ขนฺธูปนิพนฺโธ สมฺมุติสิทฺโธ พฺยฺชนตฺโถ ทฏฺพฺโพ, น พฺยฺชนํ. พฺยฺชนฺหิ สทฺทายตนสงฺคหิตตฺตา ปริตฺตํ โหติ. ยถาห ‘‘นิรุตฺติปฏิสมฺภิทา ปริตฺตารมฺมณา’’ติ (วิภ. ๗๔๙). อยเมตฺถ อมฺหากํ ขนฺติ. เอวํ ปุพฺเพนิวาสาณสฺส อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๔๑๘. ทิพฺพจกฺขุาณํ ปริตฺตปจฺจุปฺปนฺนอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ ยสฺมา รูปํ อารมฺมณํ กโรติ, รูปฺจ ปริตฺตํ, ตสฺมา ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. วิชฺชมาเนเยว จ รูเป ปวตฺตตฺตา ปจฺจุปฺปนฺนารมฺมณํ. อตฺตโน กุจฺฉิคตาทิรูปทสฺสนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ. ปรสฺส รูปทสฺสนกาเล พหิทฺธารมฺมณนฺติ เอวํ ทิพฺพจกฺขุาณสฺส จตูสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๔๑๙. อนาคตํสาณํ ปริตฺตมหคฺคตอปฺปมาณมคฺคอนาคตอชฺฌตฺตพหิทฺธานวตฺตพฺพารมฺมณวเสน อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ ‘‘อยํ อนาคเต กามาวจเร นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. ‘‘รูปาวจเร อรูปาวจเร วา นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ. ‘‘มคฺคํ ภาเวสฺสติ, ผลํ สจฺฉิกริสฺสตี’’ติ ชานนกาเล ¶ อปฺปมาณารมฺมณํ. ‘‘มคฺคํ ภาเวสฺสติ’’จฺเจว ชานนกาเล มคฺคารมฺมณํ. นิยมโต ปน ตํ อนาคตารมฺมณเมว.
ตตฺถ ¶ กิฺจาปิ เจโตปริยาณมฺปิ อนาคตารมฺมณํ โหติ, อถ โข ตสฺส สตฺตทิวสพฺภนฺตรานาคตํ จิตฺตเมว อารมฺมณํ. ตฺหิ อฺํ ขนฺธํ วา ขนฺธปฏิพทฺธํ วา น ชานาติ. อนาคตํสาณสฺส ปุพฺเพนิวาสาเณ วุตฺตนเยน อนาคเต อนารมฺมณํ นาม นตฺถิ. ‘‘อหํ อมุตฺร นิพฺพตฺติสฺสามี’’ติ ชานนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ. ‘‘อสุโก อมุตฺร นิพฺพตฺติสฺสตี’’ติ ชานนกาเล พหิทฺธารมฺมณํ. ‘‘อนาคเต เมตฺเตยฺโย ภควา อุปฺปชฺชิสฺสติ (ที. นิ. ๓.๑๐๗). สุพฺรหฺมา นามสฺส พฺราหฺมโณ ปิตา ภวิสฺสติ. พฺรหฺมวตี นาม พฺราหฺมณี มาตา’’ติอาทินา ปน นเยน นามโคตฺตชานนกาเล ปุพฺเพนิวาสาเณ วุตฺตนเยเนว น วตฺตพฺพารมฺมณํ โหตีติ เอวํ อนาคตํสาณสฺส อฏฺสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา.
๔๒๐. ยถากมฺมุปคาณํ ปริตฺตมหคฺคตอตีตอชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณวเสน ปฺจสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺตติ. กถํ? ตฺหิ กามาวจรกมฺมชานนกาเล ปริตฺตารมฺมณํ โหติ. รูปาวจรารูปาวจรกมฺมชานนกาเล มหคฺคตารมฺมณํ. อตีตเมว ชานาตีติ อตีตารมฺมณํ. อตฺตโน กมฺมํ ชานนกาเล อชฺฌตฺตารมฺมณํ. ปรสฺส กมฺมํ ชานนกาเล พหิทฺธารมฺมณํ โหติ. เอวํ ยถากมฺมุปคาณสฺส ปฺจสุ อารมฺมเณสุ ปวตฺติ เวทิตพฺพา. ยฺเจตฺถ อชฺฌตฺตารมฺมณฺเจว พหิทฺธารมฺมณฺจาติ วุตฺตํ, ตํ กาเลน อชฺฌตฺตํ กาเลน พหิทฺธา ชานนกาเล อชฺฌตฺตพหิทฺธารมฺมณมฺปิ โหติเยวาติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
อภิฺานิทฺเทโส นาม
เตรสโม ปริจฺเฉโท.