📜

๒๒. าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทโส

ปมมคฺคาณกถา

๘๐๖. อิโต ปรํ โคตฺรภุาณํ โหติ, ตํ มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยตฺตา เนว ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธึ น าณทสฺสนวิสุทฺธึ ภชติ, อนฺตรา อพฺโพหาริกเมว โหติ. วิปสฺสนาโสเต ปติตตฺตา ปน วิปสฺสนาติ สงฺขํ คจฺฉติ. โสตาปตฺติมคฺโค สกทาคามิมคฺโค อนาคามิมคฺโค อรหตฺตมคฺโคติ อิเมสุ ปน จตูสุ มคฺเคสุ าณํ าณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.

ตตฺถ ปมมคฺคาณํ ตาว สมฺปาเทตุกาเมน อฺํ กิฺจิ กาตพฺพํ นาม นตฺถิ. ยฺหิ อเนน กาตพฺพํ สิยา, ตํ อนุโลมาวสานํ วิปสฺสนํ อุปฺปาเทนฺเตน กตเมว. เอวํ อุปฺปนฺนอนุโลมาณสฺส ปนสฺส เตหิ ตีหิปิ อนุโลมาเณหิ อตฺตโน พลานุรูเปน ถูลถูเล สจฺจปฏิจฺฉาทเก ตมมฺหิ อนฺตรธาปิเต สพฺพสงฺขารคเตสุ จิตฺตํ น ปกฺขนฺทติ, น สนฺติฏฺติ, นาธิมุจฺจติ, น สชฺชติ, น ลคฺคติ, น พชฺฌติ. ปทุมปลาสโต อุทกํ วิย ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ. สพฺพํ นิมิตฺตารมฺมณมฺปิ สพฺพํ ปวตฺตารมฺมณมฺปิ ปลิโพธโต อุปฏฺาติ. อถสฺส สพฺพสฺมึ นิมิตฺตปวตฺตารมฺมเณ ปลิโพธโต อุปฏฺิเต อนุโลมาณสฺส อาเสวนนฺเต อนิมิตฺตํ อปฺปวตฺตํ วิสงฺขารํ นิโรธํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กุรุมานํ ปุถุชฺชนโคตฺตํ ปุถุชฺชนสงฺขํ ปุถุชฺชนภูมึ อติกฺกมมานํ อริยโคตฺตํ อริยสงฺขํ อริยภูมึ โอกฺกมมานํ นิพฺพานารมฺมเณ ปมาวฏฺฏนปมาโภคปมสมนฺนาหารภูตํ มคฺคสฺส อนนฺตรสมนนฺตราเสวนอุปนิสฺสยนตฺถิวิคตวเสน ฉหิ อากาเรหิ ปจฺจยภาวํ สาธยมานํ สิขาปฺปตฺตํ วิปสฺสนาย มุทฺธภูตํ อปุนราวฏฺฏกํ อุปฺปชฺชติ โคตฺรภุาณํ.

ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –

‘‘กถํ พหิทฺธา วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา โคตฺรภุาณํ? อุปฺปาทํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภุ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาสํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภุ. พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภุ. อนุปฺปาทํ ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภุ. อปฺปวตฺตํ…เป… อนุปายาสํ นิโรธํ นิพฺพานํ ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภุ. อุปฺปาทํ อภิภุยฺยิตฺวา อนุปฺปาทํ ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภู’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๙) สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพํ.

๘๐๗. ตตฺรายํ เอกาวชฺชเนน เอกวีถิยํ ปวตฺตมานานมฺปิ อนุโลมโคตฺรภูนํ นานารมฺมเณ ปวตฺตนาการทีปิกา อุปมา – ยถา หิ มหามาติกํ ลงฺฆิตฺวา ปรตีเร ปติฏฺาตุกาโม ปุริโส เวเคน ธาวิตฺวา มาติกาย โอริมตีเร รุกฺขสาขาย พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตํ รชฺชุํ วา ยฏฺึ วา คเหตฺวา อุลฺลงฺฆิตฺวา ปรตีรนินฺนโปณปพฺภารกาโย หุตฺวา ปรตีรสฺส อุปริภาคํ ปตฺโต ตํ มุฺจิตฺวา เวธมาโน ปรตีเร ปติตฺวา สณิกํ ปติฏฺาติ, เอวเมวายํ โยคาวจโรปิ ภวโยนิคติฏฺิตินิวาสานํ ปรตีรภูเต นิพฺพาเน ปติฏฺาตุกาโม อุทยพฺพยานุปสฺสนาทินา เวเคน ธาวิตฺวา อตฺตภาวรุกฺขสาขาย พนฺธิตฺวา โอลมฺพิตํ รูปรชฺชุํ วา เวทนาทีสุ อฺตรทณฺฑํ วา อนิจฺจนฺติ วา ทุกฺขนฺติ วา อนตฺตาติ วาติ อนุโลมาวชฺชเนน คเหตฺวา ตํ อมุฺจมาโนว ปเมน อนุโลมจิตฺเตน อุลฺลงฺฆิตฺวา ทุติเยน ปรตีรนินฺนโปณปพฺภารกาโย วิย นิพฺพานนินฺนโปณปพฺภารมานโส หุตฺวา ตติเยน ปรตีรสฺส อุปริภาคํ ปตฺโต วิย อิทานิ ปตฺตพฺพสฺส นิพฺพานสฺส อาสนฺโน หุตฺวา ตสฺส จิตฺตสฺส นิโรเธน ตํ สงฺขารารมฺมณํ มุฺจิตฺวา โคตฺรภุจิตฺเตน วิสงฺขาเร ปรตีรภูเต นิพฺพาเน ปตติ. เอการมฺมเณ ปน อลทฺธาเสวนตาย เวธมาโน โส ปุริโส วิย น ตาว สุปฺปติฏฺิโต โหติ, ตโต มคฺคาเณน ปติฏฺาตีติ.

๘๐๘. ตตฺถ อนุโลมํ สจฺจปฏิจฺฉาทกํ กิเลสตมํ วิโนเทตุํ สกฺโกติ, น นิพฺพานมารมฺมณํ กาตุํ. โคตฺรภุ นิพฺพานเมว อารมฺมณํ กาตุํ สกฺโกติ, น สจฺจปฏิจฺฉาทกํ ตมํ วิโนเทตุํ. ตตฺรายํ อุปมา – เอโก กิร จกฺขุมา ปุริโส ‘‘นกฺขตฺตโยคํ ชานิสฺสามี’’ติ รตฺติภาเค นิกฺขมิตฺวา จนฺทํ ปสฺสิตุํ อุทฺธํ อุลฺโลเกสิ, ตสฺส วลาหเกหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา จนฺโท น ปฺายิตฺถ. อเถโก วาโต อุฏฺหิตฺวา ถูลถูเล วลาหเก วิทฺธํเสติ. อปโร มชฺฌิเม, อปโร สุขุเมติ. ตโต โส ปุริโส วิคตวลาหเก นเภ จนฺทํ ทิสฺวา นกฺขตฺตโยคํ อฺาสิ.

ตตฺถ ตโย วลาหกา วิย สจฺจปฏิจฺฉาทกถูลมชฺฌิมสุขุมํ กิเลสนฺธการํ, ตโย วาตา วิย ตีณิ อนุโลมจิตฺตานิ, จกฺขุมา ปุริโส วิย โคตฺรภุาณํ, จนฺโท วิย นิพฺพานํ, เอเกกสฺส วาตสฺส ยถากฺกเมน วลาหกวิทฺธํสนํ วิย เอเกกสฺส อนุโลมจิตฺตสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกตมวิโนทนํ, วิคตวลาหเก นเภ ตสฺส ปุริสสฺส วิสุทฺธจนฺททสฺสนํ วิย วิคเต สจฺจปฏิจฺฉาทเก ตเม โคตฺรภุาณสฺส วิสุทฺธนิพฺพานทสฺสนํ.

ยเถว หิ ตโย วาตา จนฺทปฏิจฺฉาทเก วลาหเกเยว วิทฺธํเสตุํ สกฺโกนฺติ, น จนฺทํ ทฏฺุํ, เอวํ อนุโลมานิ สจฺจปฏิจฺฉาทกํ ตมฺเว วิโนเทตุํ สกฺโกนฺติ, น นิพฺพานํ ทฏฺุํ. ยถา โส ปุริโส จนฺทเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ, น วลาหเก วิทฺธํเสตุํ, เอวํ โคตฺรภุาณํ นิพฺพานเมว ทฏฺุํ สกฺโกติ, น กิเลสตมํ วิโนเทตุํ. เตเนว เจตํ มคฺคสฺส อาวชฺชนนฺติ วุจฺจติ. ตฺหิ อนาวชฺชนมฺปิ สมานํ อาวชฺชนฏฺาเน ตฺวา ‘‘เอวํ นิพฺพตฺตาหี’’ติ มคฺคสฺส สฺํ ทตฺวา วิย นิรุชฺฌติ. มคฺโคปิ เตน ทินฺนสฺํ อมุฺจิตฺวาว อวีจิสนฺตติวเสน ตํ าณํ อนุปฺปพนฺธมาโน อนิพฺพิทฺธปุพฺพํ อปทาลิตปุพฺพํ โลภกฺขนฺธํ โทสกฺขนฺธํ โมหกฺขนฺธํ นิพฺพิชฺฌมาโนว ปทาลยมาโนว นิพฺพตฺตติ.

๘๐๙. ตตฺรายํ อุปมา – เอโก กิร อิสฺสาโส อฏฺอุสภมตฺเต ปเทเส ผลกสตํ ปาเปตฺวา วตฺเถน มุขํ เวเตฺวา สรํ สนฺนหิตฺวา จกฺกยนฺเต อฏฺาสิ. อฺโ ปุริโส จกฺกยนฺตํ อาวิชฺฌิตฺวา ยทา อิสฺสาสสฺส ผลกํ อภิมุขํ โหติ, ตทา ตตฺถ ทณฺฑเกน สฺํ เทติ. อิสฺสาโส ทณฺฑกสฺํ อมุฺจิตฺวาว สรํ ขิปิตฺวา ผลกสตํ นิพฺพิชฺฌติ. ตตฺถ ทณฺฑกสฺํ วิย โคตฺรภุาณํ, อิสฺสาโส วิย มคฺคาณํ. อิสฺสาสสฺส ทณฺฑกสฺํ อมุฺจิตฺวาว ผลกสตนิพฺพิชฺฌนํ วิย มคฺคาณสฺส โคตฺรภุาเณน ทินฺนสฺํ อมุฺจิตฺวาว นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิพฺพิทฺธปุพฺพานํ อปทาลิตปุพฺพานํ โลภโทสโมหกฺขนฺธานํ นิพฺพิชฺฌนปทาลนํ.

๘๑๐. น เกวลฺเจส มคฺโค โลภกฺขนฺธาทีนํ นิพฺพิชฺฌนเมว กโรติ, อปิจ โข อนมตคฺคสํสารวฏฺฏทุกฺขสมุทฺทํ โสเสติ, สพฺพอปายทฺวารานิ ปิทหติ, สตฺตนฺนํ อริยธนานํ สมฺมุขีภาวํ กโรติ, อฏฺงฺคิกํ มิจฺฉามคฺคํ ปชหติ, สพฺพเวรภยานิ วูปสเมติ, สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส โอรสปุตฺตภาวํ อุปเนติ , อฺเสฺจ อเนกสตานํ อานิสํสานํ ปฏิลาภาย สํวตฺตตีติ เอวํ อเนกานิสํสทายเกน โสตาปตฺติมคฺเคน สมฺปยุตฺตํ าณํ โสตาปตฺติมคฺเค าณนฺติ.

ปมมคฺคาณํ นิฏฺิตํ.

โสตาปนฺนปุคฺคลกถา

๘๑๑. อิมสฺส ปน าณสฺส อนนฺตรํ ตสฺเสว วิปากภูตานิ ทฺเว ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺติ. อนนฺตรวิปากตฺตาเยว หิ โลกุตฺตรกุสลานํ ‘‘สมาธิมานนฺตริกฺมาหู’’ติ (ขุ. ปา. ๖.๕) จ ‘‘ทนฺธํ อานนฺตริกํ ปาปุณาติ อาสวานํ ขยายา’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๖๒) จ อาทิ วุตฺตํ. เกจิ ปน เอกํ ทฺเว ตีณิ จตฺตาริ วา ผลจิตฺตานีติ วทนฺติ, ตํ น คเหตพฺพํ.

อนุโลมสฺส หิ อาเสวนนฺเต โคตฺรภุาณํ อุปฺปชฺชติ. ตสฺมา สพฺพนฺติเมน ปริจฺเฉเทน ทฺวีหิ อนุโลมจิตฺเตหิ ภวิตพฺพํ. น หิ เอกํ อาเสวนปจฺจยํ ลภติ, สตฺตจิตฺตปรมา จ เอกาวชฺชนวีถิ. ตสฺมา ยสฺส ทฺเว อนุโลมานิ, ตสฺส ตติยํ โคตฺรภุ จตุตฺถํ มคฺคจิตฺตํ ตีณิ ผลจิตฺตานิ โหนฺติ. ยสฺส ตีณิ อนุโลมานิ, ตสฺส จตุตฺถํ โคตฺรภุ ปฺจมํ มคฺคจิตฺตํ ทฺเว ผลจิตฺตานิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ทฺเว ตีณิ วา ผลจิตฺตานิ อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ.

เกจิ ปน ยสฺส จตฺตาริ อนุโลมานิ, ตสฺส ปฺจมํ โคตฺรภุ ฉฏฺํ มคฺคจิตฺตํ เอกํ ผลจิตฺตนฺติ วทนฺติ, ตํ ปน ยสฺมา จตุตฺถํ ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ตโต ปรํ อาสนฺนภวงฺคตฺตาติ ปฏิกฺขิตฺตํ. ตสฺมา น สารโต ปจฺเจตพฺพํ.

๘๑๒. เอตฺตาวตา จ ปเนส โสตาปนฺโน นาม ทุติโย อริยปุคฺคโล โหติ. ภุสํ ปมตฺโตปิ หุตฺวา สตฺตกฺขตฺตุํ เทเวสุ จ มนุสฺเสสุ จ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตสฺส กรณสมตฺโถ โหติ. ผลปริโยสาเน ปนสฺส จิตฺตํ ภวงฺคํ โอตรติ, ตโต ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา มคฺคปจฺจเวกฺขณตฺถาย อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ, ตสฺมึ นิรุทฺเธ ปฏิปาฏิยา สตฺต มคฺคปจฺจเวกฺขณชวนานีติ. ปุน ภวงฺคํ โอตริตฺวา เตเนว นเยน ผลาทีนํ ปจฺจเวกฺขณตฺถาย อาวชฺชนาทีนิ อุปฺปชฺชนฺติ. เยสํ อุปฺปตฺติยา เอส มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ผลํ ปจฺจเวกฺขติ, ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, อวสิฏฺกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ, นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ.

โส หิ ‘‘อิมินา วตาหํ มคฺเคน อาคโต’’ติ มคฺคํ ปจฺจเวกฺขติ, ตโต ‘‘อยํ เม อานิสํโส ลทฺโธ’’ติ ผลํ ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา ปหีนา’’ติ ปหีนกิเลเส ปจฺจเวกฺขติ. ตโต ‘‘อิเม นาม เม กิเลสา อวสิฏฺา’’ติ อุปริมคฺคตฺตยวชฺเฌ กิเลเส ปจฺจเวกฺขติ. อวสาเน จ ‘‘อยํ เม ธมฺโม อารมฺมณโต ปฏิวิทฺโธ’’ติ อมตํ นิพฺพานํ ปจฺจเวกฺขติ. อิติ โสตาปนฺนสฺส อริยสาวกสฺส ปฺจ ปจฺจเวกฺขณานิ โหนฺติ. ยถา จ โสตาปนฺนสฺส, เอวํ สกทาคามิอนาคามีนมฺปิ. อรหโต ปน อวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณํ นาม นตฺถีติ. เอวํ สพฺพานิปิ เอกูนวีสติ ปจฺจเวกฺขณานิ นาม.

อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทเยว เจโส. ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณฺหิ เสกฺขานมฺปิ โหติ วา น วา. ตสฺส หิ ปจฺจเวกฺขณสฺส อภาเวเนว มหานาโม ภควนฺตํ ปุจฺฉิ ‘‘โกสุ นาม เม ธมฺโม อชฺฌตฺตํ อปฺปหีโน, เยน เม เอกทา โลภธมฺมาปิ จิตฺตํ ปริยาทาย ติฏฺนฺตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๗๕) สพฺพํ วิตฺถารโต เวทิตพฺพํ.

ทุติยมคฺคาณกถา

๘๑๓. เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปน โส โสตาปนฺโน อริยสาวโก ตสฺมิฺเว วา อาสเน นิสินฺโน, อปเรน วา สมเยน กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวาย ทุติยาย ภูมิยา ปตฺติยา โยคํ กโรติ. โส อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา ตเทว รูปเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณเภทํ สงฺขารคตํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ าเณน ปริมทฺทติ, ปริวตฺเตติ, วิปสฺสนาวีถึ โอคาหติ. ตสฺเสวํ ปฏิปนฺนสฺส วุตฺตนเยเนว สงฺขารุเปกฺขาวสาเน เอกาวชฺชเนน อนุโลมโคตฺรภุาเณสุ อุปฺปนฺเนสุ โคตฺรภุอนนฺตรํ สกทาคามิมคฺโค อุปฺปชฺชติ. เตน สมฺปยุตฺตํ าณํ สกทาคามิมคฺเค าณนฺติ.

ทุติยาณํ นิฏฺิตํ.

ตติยมคฺคาณกถา

๘๑๔. อิมสฺสาปิ าณสฺส อนนฺตรํ วุตฺตนเยเนว ผลจิตฺตานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺตาวตา เจส สกทาคามี นาม จตุตฺโถ อริยปุคฺคโล โหติ สกึเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตกรณสมตฺโถ. ตโต ปรํ ปจฺจเวกฺขณํ วุตฺตนยเมว.

เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา จ โส สกทาคามี อริยสาวโก ตสฺมิฺเว วา อาสเน นิสินฺโน อปเรน วา สมเยน กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานาย ตติยาย ภูมิยา ปตฺติยา โยคํ กโรติ, โส อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา ตเทว สงฺขารคตํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ าเณน ปริมทฺทติ, ปริวตฺเตติ, วิปสฺสนาวีถึ โอคาหติ. ตสฺเสวํ ปฏิปนฺนสฺส วุตฺตนเยเนว สงฺขารุเปกฺขาวสาเน เอกาวชฺชเนน อนุโลมโคตฺรภุาเณสุ อุปฺปนฺเนสุ โคตฺรภุอนนฺตรํ อนาคามิมคฺโค อุปฺปชฺชติ, เตน สมฺปยุตฺตํ าณํ อนาคามิมคฺเค าณนฺติ.

ตติยาณํ นิฏฺิตํ.

จตุตฺถมคฺคาณกถา

๘๑๕. อิมสฺสปิ าณสฺส อนนฺตรํ วุตฺตนเยเนว ผลจิตฺตานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺตาวตา เจส อนาคามี นาม ฉฏฺโ อริยปุคฺคโล โหติ โอปปาติโก ตตฺถปรินิพฺพายี อนาวตฺติธมฺโม ปฏิสนฺธิวเสน อิมํ โลกํ ปุน อนาคนฺตา. ตโต ปรํ ปจฺจเวกฺขณํ วุตฺตนยเมว.

เอวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา จ โส อนาคามี อริยสาวโก ตสฺมิฺเว วา อาสเน นิสินฺโน, อปเรน วา สมเยน รูปารูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานาย จตุตฺถาย ภูมิยา ปตฺติยา โยคํ กโรติ, โส อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา ตเทว สงฺขารคตํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ าเณน ปริมทฺทติ, ปริวตฺเตติ, วิปสฺสนาวีถึ โอคาหติ. ตสฺเสวํ ปฏิปนฺนสฺส วุตฺตนเยเนว สงฺขารุเปกฺขาวสาเน เอกาวชฺชเนน อนุโลมโคตฺรภุาเณสุ อุปฺปนฺเนสุ โคตฺรภุอนนฺตรํ อรหตฺตมคฺโค อุปฺปชฺชติ, เตน สมฺปยุตฺตํ าณํ อรหตฺตมคฺเค าณนฺติ.

จตุตฺถาณํ นิฏฺิตํ.

อรหนฺตปุคฺคลกถา

๘๑๖. อิมสฺสปิ าณสฺส อนนฺตรํ วุตฺตนเยเนว ผลจิตฺตานิ เวทิตพฺพานิ. เอตฺตาวตา เจส อรหา นาม อฏฺโม อริยปุคฺคโล โหติ มหาขีณาสโว อนฺติมเทหธารี โอหิตภาโร อนุปฺปตฺตสทตฺโถ ปริกฺขีณภวสํโยชโน สมฺมาทฺา วิมุตฺโต สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโยติ.

อิติ ยํ ตํ วุตฺตํ ‘‘โสตาปตฺติมคฺโค สกทาคามิมคฺโค อนาคามิมคฺโค อรหตฺตมคฺโคติ อิเมสุ ปน จตูสุ มคฺเคสุ าณํ าณทสฺสนวิสุทฺธิ นามา’’ติ, ตํ อิมานิ อิมินา อนุกฺกเมน ปตฺตพฺพานิ จตฺตาริ าณานิ สนฺธาย วุตฺตํ.

โพธิปกฺขิยกถา

๘๑๗. อิทานิ อิมิสฺสาเยว จตุาณาย าณทสฺสนวิสุทฺธิยา อานุภาววิชานนตฺถํ –

ปริปุณฺณโพธิปกฺขิย, ภาโว วุฏฺานพลสมาโยโค;

เย เยน ปหาตพฺพา, ธมฺมา เตสํ ปหานฺจ.

กิจฺจานิ ปริฺาทีนิ, ยานิ วุตฺตานิ อภิสมยกาเล;

ตานิ จ ยถาสภาเวน, ชานิตพฺพานิ สพฺพานีติ.

๘๑๘. ตตฺถ ปริปุณฺณโพธิปกฺขิย, ภาโวติ โพธิปกฺขิยานํ ปริปุณฺณภาโว. จตฺตาโร สติปฏฺานา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา, จตฺตาโร อิทฺธิปาทา, ปฺจินฺทฺริยานิ, ปฺจ พลานิ, สตฺต โพชฺฌงฺคา, อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโคติ หิ อิเม สตฺตตึส ธมฺมา พุชฺฌนฏฺเน โพโธติ ลทฺธนามสฺส อริยมคฺคสฺส ปกฺเข ภวตฺตา โพธิปกฺขิยา นาม. ปกฺเข ภวตฺตาติ อุปการภาเว ิตตฺตา.

๘๑๙. เตสุ เตสุ อารมฺมเณสุ โอกฺขนฺทิตฺวา ปกฺขนฺทิตฺวา อุปฏฺานโต ปฏฺานํ. สติเยว ปฏฺานํ สติปฏฺานํ. กายเวทนาจิตฺตธมฺเมสุ ปนสฺสา อสุภ-ทุกฺข-อนิจฺจ-อนตฺตาการคหณวเสน สุภ-สุข-นิจฺจ-อตฺต-สฺาปหานกิจฺจสาธนวเสน จ ปวตฺติโต จตุธา เภโท โหติ. ตสฺมา จตฺตาโร สติปฏฺานาติ วุจฺจนฺติ.

๘๒๐. ปทหนฺติ เอเตนาติ ปธานํ. โสภนํ ปธานํ สมฺมปฺปธานํ. สมฺมา วา ปทหนฺติ เอเตนาติ สมฺมปฺปธานํ. โสภนํ วา ตํ กิเลสวิรูปตฺตวิรหโต ปธานฺจ หิตสุขนิปฺผาทกตฺเตน เสฏฺภาวาวหนโต ปธานภาวการณโต จาติ สมฺมปฺปธานํ. วีริยสฺเสตํ อธิวจนํ. ตยิทํ อุปฺปนฺนานุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ปหานานุปฺปตฺติกิจฺจํ อนุปฺปนฺนุปฺปนฺนานฺจ กุสลานํ อุปฺปตฺติฏฺิติกิจฺจํ สาธยตีติ จตุพฺพิธํ โหติ, ตสฺมา จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ วุจฺจนฺติ.

๘๒๑. ปุพฺเพ วุตฺเตน อิชฺฌนฏฺเน อิทฺธิ. ตสฺสา สมฺปยุตฺตาย ปุพฺพงฺคมฏฺเน ผลภูตาย ปุพฺพภาคการณฏฺเน จ อิทฺธิยา ปาโทติ อิทฺธิปาโท. โส ฉนฺทาทิวเสน จตุพฺพิโธ โหติ, ตสฺมา จตฺตาโร อิทฺธิปาทาติ วุจฺจนฺติ. ยถาห – ‘‘จตฺตาโร อิทฺธิปาทา ฉนฺทิทฺธิปาโท จิตฺติทฺธิปาโท วีริยิทฺธิปาโท วีมํสิทฺธิปาโท’’ติ (วิภ. ๔๕๗). อิเม โลกุตฺตราว. โลกิยา ปน ‘‘ฉนฺทฺเจ ภิกฺขุ อธิปตึ กริตฺวา ลภติ สมาธึ, ลภติ จิตฺตสฺส เอกคฺคตํ. อยํ วุจฺจติ ฉนฺทสมาธี’’ติอาทิวจนโต (วิภ. ๔๓๒) ฉนฺทาทิอธิปติวเสน ปฏิลทฺธธมฺมาปิ โหนฺติ.

๘๒๒. อสฺสทฺธิยโกสชฺชปมาทวิกฺเขปสมฺโมหานํ อภิภวนโต อภิภวนสงฺขาเตน อธิปติยฏฺเน อินฺทฺริยํ. อสฺสทฺธิยาทีหิ จ อนภิภวนียโต อกมฺปิยฏฺเน พลํ. ตทุภยมฺปิ สทฺธาทิวเสน ปฺจวิธํ โหติ, ตสฺมา ปฺจินฺทฺริยานิ ปฺจ พลานีติ วุจฺจนฺติ.

๘๒๓. พุชฺฌนกสตฺตสฺส ปน องฺคภาเวน สติอาทโย สตฺต โพชฺฌงฺคา. นิยฺยานิกฏฺเน จ สมฺมาทิฏฺิอาทโย อฏฺ มคฺคงฺคา โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺต โพชฺฌงฺคา อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ.

๘๒๔. อิติ อิเม สตฺตตึส โพธิปกฺขิยธมฺมา ปุพฺพภาเค โลกิยวิปสฺสนาย วตฺตมานาย จุทฺทสวิเธน กายํ ปริคฺคณฺหโต จ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, นววิเธน เวทนํ ปริคฺคณฺหโต จ เวทนานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, โสฬสวิเธน จิตฺตํ ปริคฺคณฺหโต จ จิตฺตานุปสฺสนาสติปฏฺานํ, ปฺจวิเธน ธมฺเม ปริคฺคณฺหโต จ ธมฺมานุปสฺสนาสติปฏฺานํ. อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ปรสฺส อุปฺปนฺนํ อกุสลํ ทิสฺวา ‘‘ยถา ปฏิปนฺนสฺเสตํ อุปฺปนฺนํ, น ตถา ปฏิปชฺชิสฺสามิ เอวํ เม เอตํ นุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ, ตสฺส อนุปฺปาทาย วายมนกาเล ปมํ สมฺมปฺปธานํ. อตฺตโน สมุทาจารปฺปตฺตํ อกุสลํ ทิสฺวา ตสฺส ปหานาย วายมนกาเล ทุติยํ. อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพํ ฌานํ วา วิปสฺสนํ วา อุปฺปาเทตุํ วายมนฺตสฺส ตติยํ. อุปฺปนฺนํ ยถา น ปริหายติ, เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาเทนฺตสฺส จตุตฺถํ สมฺมปฺปธานํ. ฉนฺทํ ธุรํ กตฺวา กุสลุปฺปาทนกาเล ฉนฺทิทฺธิปาโท. มิจฺฉาวาจาย วิรมณกาเล สมฺมาวาจาติ เอวํ นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ. อิเมสํ ปน จตุนฺนํ าณานํ อุปฺปตฺติกาเล เอกจิตฺเต ลพฺภนฺติ. ผลกฺขเณ เปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน อวเสสา เตตฺตึส ลพฺภนฺติ.

๘๒๕. เอวํ เอกจิตฺเต ลพฺภมาเนสุ เจเตสุ เอกาว นิพฺพานารมฺมณา สติ กายาทีสุ สุภสฺาทิปฺปหานกิจฺจสาธนวเสน จตฺตาโร สติปฏฺานาติ วุจฺจติ. เอกเมว จ วีริยํ อนุปฺปนฺนานํ อนุปฺปาทาทิกิจฺจสาธนวเสน จตฺตาโร สมฺมปฺปธานาติ วุจฺจติ. เสเสสุ ปน หาปนวฑฺฒนํ นตฺถิ.

๘๒๖. อปิจ เตสุ –

นว เอกวิธา เอโก, ทฺเวธาถ จตุ ปฺจธา;

อฏฺธา นวธา เจว, อิติ ฉทฺธา ภวนฺติ เต.

นว เอกวิธาติ ฉนฺโท, จิตฺตํ, ปีติ, ปสฺสทฺธิ, อุเปกฺขา, สงฺกปฺโป, วาจา, กมฺมนฺโต, อาชีโวติ อิเม นว ฉนฺทิทฺธิปาทาทิวเสน เอกวิธาว โหนฺติ, น อฺํ โกฏฺาสํ ภชนฺติ. เอโก ทฺเวธาติ สทฺธา อินฺทฺริย, พลวเสน ทฺเวธา ิตา. อถ จตุ ปฺจธาติ อถฺโ เอโก จตุธา, อฺโ ปฺจธา ิโตติ อตฺโถ. ตตฺถ สมาธิ เอโก อินฺทฺริย, พล, โพชฺฌงฺค, มคฺคงฺควเสน จตุธา ิโต. ปฺา เตสฺจ จตุนฺนํ อิทฺธิปาทโกฏฺาสสฺส จ วเสน ปฺจธา. อฏฺธา นวธา เจวาติ อปโร เอโก อฏฺธา, เอโก นวธา ิโตติ อตฺโถ. จตุสติปฏฺาน, อินฺทฺริย, พล, โพชฺฌงฺค, มคฺคงฺควเสน สติ อฏฺธา ิตา. จตุสมฺมปฺปธาน, อิทฺธิปาท, อินฺทฺริย, พล, โพชฺฌงฺค, มคฺคงฺควเสน วีริยํ นวธาติ. เอวํ –

จุทฺทเสว อสมฺภินฺนา, โหนฺเตเต โพธิปกฺขิยา;

โกฏฺาสโต สตฺตวิธา, สตฺตตึสปฺปเภทโต.

สกิจฺจนิปฺผาทนโต, สรูเปน จ วุตฺติโต;

สพฺเพว อริยมคฺคสฺส, สมฺภเว สมฺภวนฺติ เตติ.

เอวํ ตาเวตฺถ ปริปุณฺณโพธิปกฺขิยภาโว ชานิตพฺโพ.

วุฏฺานพลสมาโยคกถา

๘๒๗. วุฏฺานพลสมาโยโคติ วุฏฺานฺเจว พลสมาโยโค จ. โลกิยวิปสฺสนา หิ นิมิตฺตารมฺมณตฺตา เจว ปวตฺติการณสฺส จ สมุทยสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต เนว นิมิตฺตา น ปวตฺตา วุฏฺาติ. โคตฺรภุาณํ สมุทยสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต ปวตฺตา น วุฏฺาติ. นิพฺพานารมฺมณโต ปน นิมิตฺตา วุฏฺาตีติ เอกโต วุฏฺานํ โหติ. เตนาห ‘‘พหิทฺธาวุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา โคตฺรภุาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๑๐). ตถา ‘‘อุปฺปาทา วิวฏฺฏิตฺวา อนุปฺปาทํ ปกฺขนฺทตีติ โคตฺรภุ, ปวตฺตา วิวฏฺฏิตฺวา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๙) สพฺพํ เวทิตพฺพํ. อิมานิ ปน จตฺตาริปิ าณานิ อนิมิตฺตารมฺมณตฺตา นิมิตฺตโต วุฏฺหนฺติ, สมุทยสฺส สมุจฺฉินฺทนโต ปวตฺตา วุฏฺหนฺตีติ ทุภโต วุฏฺานานิ โหนฺติ.

เตน วุตฺตํ –

‘‘กถํ ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา มคฺเค าณํ?

‘‘โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิยา วุฏฺาติ, ตทนุวตฺตกกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺาติ, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหิ วุฏฺาติ. เตน วุจฺจติ ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา มคฺเค าณํ. อภินิโรปนฏฺเน สมฺมาสงฺกปฺโป มิจฺฉาสงฺกปฺปา…เป… ปริคฺคหฏฺเน สมฺมาวาจา มิจฺฉาวาจาย. สมุฏฺานฏฺเน สมฺมากมฺมนฺโต. โวทานฏฺเน สมฺมาอาชีโว. ปคฺคหฏฺเน สมฺมาวายาโม . อุปฏฺานฏฺเน สมฺมาสติ. อวิกฺเขปฏฺเน สมฺมาสมาธิ มิจฺฉาสมาธิโต วุฏฺาติ, ตทนุวตฺตกกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺาติ, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหิ วุฏฺาติ. เตน วุจฺจติ ‘ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา มคฺเค าณ’นฺติ.

‘‘สกทาคามิมคฺคกฺขเณ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ…เป… อวิกฺเขปฏฺเน สมฺมาสมาธิ โอฬาริกา กามราคสํโยชนา ปฏิฆสํโยชนา โอฬาริกา กามราคานุสยา ปฏิฆานุสยา วุฏฺาติ…เป….

‘‘อนาคามิมคฺคกฺขเณ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ…เป… อวิกฺเขปฏฺเน สมฺมาสมาธิ อนุสหคตา กามราคสํโยชนา ปฏิฆสํโยชนา อนุสหคตา กามราคานุสยา ปฏิฆานุสยา วุฏฺาติ…เป….

‘‘อรหตฺตมคฺคกฺขเณ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ…เป… อวิกฺเขปฏฺเน สมฺมาสมาธิ รูปราคา อรูปราคา มานา อุทฺธจฺจา อวิชฺชาย มานานุสยา ภวราคานุสยา อวิชฺชานุสยา วุฏฺาติ, ตทนุวตฺตกกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺาติ, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหิ วุฏฺาติ. เตน วุจฺจติ ‘ทุภโต วุฏฺานวิวฏฺฏเน ปฺา มคฺเค าณ’’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๖๑).

๘๒๘. โลกิยานฺจ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ ภาวนากาเล สมถพลํ อธิกํ โหติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ ภาวนากาเล วิปสฺสนาพลํ. อริยมคฺคกฺขเณ ปน ยุคนทฺธา เต ธมฺมา ปวตฺตนฺติ อฺมฺํ อนติวตฺตนฏฺเน. ตสฺมา อิเมสุ จตูสุปิ าเณสุ อุภยพลสมาโยโค โหติ. ยถาห –

‘‘อุทฺธจฺจสหคตกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺหโต จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิกฺเขโป สมาธิ นิโรธโคจโร, อวิชฺชาสหคตกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺหโต อนุปสฺสนฏฺเน วิปสฺสนา นิโรธโคจรา. อิติ วุฏฺานฏฺเน สมถวิปสฺสนา เอกรสา โหนฺติ, ยุคนทฺธา โหนฺติ, อฺมฺํ นาติวตฺตนฺตีติ. เตน วุจฺจติ วุฏฺานฏฺเน สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๕).

เอวเมตฺถ วุฏฺานพลสมาโยโค เวทิตพฺโพ.

ปหาตพฺพธมฺมปหานกถา

๘๒๙. เยเยน ปหาตพฺพา ธมฺมา, เตสํ ปหานฺจาติ อิเมสุ ปน จตูสุ าเณสุ เย ธมฺมา เยน าเณน ปหาตพฺพา, เตสํ ปหานฺจ ชานิตพฺพํ. เอตานิ หิ ยถาโยคํ สํโยชนกิเลสมิจฺฉตฺตโลกธมฺมมจฺฉริยวิปลฺลาสคนฺถอคติอาสวโอฆโยคนีวรณปรามาสอุปาทานอนุสยมลอกุสลกมฺมปถจิตฺตุปฺปาทสงฺขาตานํ ธมฺมานํ ปหานกรานิ.

ตตฺถ สํโยชนานีติ ขนฺเธหิ ขนฺธานํ ผเลน กมฺมสฺส ทุกฺเขน วา สตฺตานํ สํโยชกตฺตา รูปราคาทโย ทส ธมฺมา วุจฺจนฺติ. ยาวฺหิ เต, ตาว เอเตสํ อนุปรโมติ. ตตฺราปิ รูปราโค อรูปราโค มาโน อุทฺธจฺจํ อวิชฺชาติ อิเม ปฺจ อุทฺธํนิพฺพตฺตนกขนฺธาทิสํโยชกตฺตา อุทฺธํภาคิยสํโยชนานิ นาม. สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส กามราโค ปฏิโฆติ อิเม ปฺจ อโธนิพฺพตฺตนกขนฺธาทิสํโยชกตฺตา อโธภาคิยสํโยชนานิ นาม.

กิเลสาติ สยํ สํกิลิฏฺตฺตา สมฺปยุตฺตธมฺมานฺจ สํกิเลสิกตฺตา โลโภ โทโส โมโห มาโน ทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา ถินํ อุทฺธจฺจํ อหิริกํ อโนตฺตปฺปนฺติ อิเม ทส ธมฺมา.

มิจฺฉตฺตาติ มิจฺฉาปวตฺตนโต มิจฺฉาทิฏฺิ มิจฺฉาสงฺกปฺโป มิจฺฉาวาจา มิจฺฉากมฺมนฺโต มิจฺฉาอาชีโว มิจฺฉาวายาโม มิจฺฉาสติ มิจฺฉาสมาธีติ อิเม อฏฺ ธมฺมา. มิจฺฉาวิมุตฺติมิจฺฉาาเณหิ วา สทฺธึ ทส.

โลกธมฺมาติ โลกปฺปวตฺติยา สติ อนุปรมธมฺมกตฺตา ลาโภ อลาโภ ยโส อยโส สุขํ ทุกฺขํ นินฺทา ปสํสาติ อิเม อฏฺ. อิธ ปน การโณปจาเรน ลาภาทิวตฺถุกสฺส อนุนยสฺส อลาภาทิวตฺถุกสฺส ปฏิฆสฺส เจตํ โลกธมฺมคฺคหเณน คหณํ กตนฺติ เวทิตพฺพํ.

มจฺฉริยานีติ อาวาสมจฺฉริยํ กุลมจฺฉริยํ ลาภมจฺฉริยํ ธมฺมมจฺฉริยํ วณฺณมจฺฉริยนฺติ อิมาสุ อาวาสาทีสุ อฺเสํ สาธารณภาวํ อสหนากาเรน ปวตฺตานิ ปฺจ มจฺฉริยานิ.

วิปลฺลาสาติ อนิจฺจทุกฺขอนตฺตอสุเภสุเยว วตฺถูสุ ‘‘นิจฺจํ สุขํ อตฺตา สุภ’’นฺติ เอวํ ปวตฺโต สฺาวิปลฺลาโส จิตฺตวิปลฺลาโส ทิฏฺิวิปลฺลาโสติ อิเม ตโย.

คนฺถาติ นามกายสฺส เจว รูปกายสฺส จ คนฺถนโต อภิชฺฌาทโย จตฺตาโร. ตถา หิ เต อภิชฺฌา กายคนฺโถ, พฺยาปาโท กายคนฺโถ, สีลพฺพตปรามาโส กายคนฺโถ, อิทํสจฺจาภินิเวโส กายคนฺโถ อิจฺเจว วุตฺตา.

อคตีติ ฉนฺทโทสโมหภเยหิ อกตฺตพฺพกรณสฺส, กตฺตพฺพากรณสฺส จ อธิวจนํ. ตฺหิ อริเยหิ อคนฺตพฺพตฺตา อคตีติ วุจฺจติ.

อาสวาติ อารมฺมณวเสน อาโคตฺรภุโต, อาภวคฺคโต จ สวนา, อสํวุเตหิ วา ทฺวาเรหิ ฆฏฉิทฺเทหิ อุทกํ วิย สวนโต นิจฺจปคฺฆรณฏฺเน สํสารทุกฺขสฺส วา สวนโต กามราคภวราคมิจฺฉาทิฏฺิอวิชฺชานเมตํ อธิวจนํ.

ภวสาคเร อากฑฺฒนฏฺเน ทุรุตฺตรณฏฺเน จ โอฆาติปิ, อารมฺมณวิโยคสฺส เจว ทุกฺขวิโยคสฺส จ อปฺปทานโต โยคาติปิ เตสฺเว อธิวจนํ.

นีวรณานีติ จิตฺตสฺส อาวรณนีวรณปฏิจฺฉาทนฏฺเน กามจฺฉนฺทาทโย ปฺจ.

ปรามาโสติ ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สภาวํ อติกฺกมฺม ปรโต อภูตํ สภาวํ อามสนากาเรน ปวตฺตนโต มิจฺฉาทิฏฺิยา เอตํ อธิวจนํ.

อุปาทานานีติ สพฺพากาเรน ปฏิจฺจสมุปฺปาทนิทฺเทเส วุตฺตานิ กามุปาทานาทีนิ จตฺตาริ.

อนุสยาติ ถามคตฏฺเน กามราคานุสโย, ปฏิฆ, มาน, ทิฏฺิ, วิจิกิจฺฉา, ภวราค, อวิชฺชานุสโยติ เอวํ วุตฺตา กามราคาทโย สตฺต . เต หิ ถามคตตฺตา ปุนปฺปุนํ กามราคาทีนํ อุปฺปตฺติเหตุภาเวน อนุเสนฺติเยวาติ อนุสยา.

มลาติ เตลฺชนกลลํ วิย สยฺจ อสุทฺธตฺตา, อฺเสฺจ อสุทฺธภาวกรณโต โลภโทสโมหา ตโย.

อกุสลกมฺมปถาติ อกุสลกมฺมภาเวน เจว ทุคฺคตีนฺจ ปถภาเวน ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ กาเมสุมิจฺฉาจาโร มุสาวาโท ปิสุณวาจา ผรุสวาจา สมฺผปฺปลาโป อภิชฺฌา พฺยาปาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ทส.

อกุสลจิตฺตุปฺปาทาติ โลภมูลา อฏฺ โทสมูลา ทฺเว โมหมูลา ทฺเวติ อิเม ทฺวาทส.

๘๓๐. อิติ เอเตสํ สํโยชนาทีนํ ธมฺมานํ เอตานิ ยถาโยคํ ปหานกรานิ. กถํ? สํโยชเนสุ ตาว สกฺกายทิฏฺิ วิจิกิจฺฉา สีลพฺพตปรามาโส อปายคมนียา จ กามราคปฏิฆาติ เอเต ปฺจ ธมฺมา ปมาณวชฺฌา, เสสา กามราคปฏิฆา โอฬาริกา ทุติยาณวชฺฌา, สุขุมา ตติยาณวชฺฌา, รูปราคาทโย ปฺจปิ จตุตฺถาณวชฺฌา เอว. ปรโตปิ จ ยตฺถ ยตฺถ เอวสทฺเทน นิยมํ น กริสฺสาม. ตตฺถ ตตฺถ ยํ ยํ ‘‘อุปริาณวชฺโฌ’’ติ วกฺขาม, โส โส ปุริมาเณหิ หตาปายคมนียาทิภาโวว หุตฺวา อุปริาณวชฺโฌ โหตีติ เวทิตพฺโพ.

กิเลเสสุ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉา ปมาณวชฺฌา, โทโส ตติยาณวชฺโฌ, โลภโมหมานถินอุทฺธจฺจอหิริกอโนตฺตปฺปานิ จตุตฺถาณวชฺฌานิ.

มิจฺฉตฺเตสุ มิจฺฉาทิฏฺิ มุสาวาโท มิจฺฉากมฺมนฺโต มิจฺฉาอาชีโวติ อิเม ปมาณวชฺฌา, มิจฺฉาสงฺกปฺโป ปิสุณวาจา ผรุสวาจาติ อิเม ตติยาณวชฺฌา, เจตนาเยว เจตฺถ วาจาติ เวทิตพฺพา. สมฺผปฺปลาปมิจฺฉาวายามสติสมาธิวิมุตฺติาณานิ จตุตฺถาณวชฺฌานิ.

โลกธมฺเมสุ ปฏิโฆ ตติยาณวชฺโฌ, อนุนโย จตุตฺถาณวชฺโฌ, ยเส จ ปสํสาย จ อนุนโย จตุตฺถาณวชฺโฌติ เอเก. มจฺฉริยานิ ปมาณวชฺฌาเนว.

วิปลฺลาเสสุ อนิจฺเจ นิจฺจํ, อนตฺตนิ อตฺตาติ จ สฺาจิตฺตทิฏฺิวิปลฺลาสา, ทุกฺเข สุขํ, อสุเภ สุภนฺติ ทิฏฺิวิปลฺลาโส จาติ อิเม ปมาณวชฺฌา, อสุเภ สุภนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา ตติยาณวชฺฌา, ทุกฺเข สุขนฺติ สฺาจิตฺตวิปลฺลาสา จตุตฺถาณวชฺฌา.

คนฺเถสุ สีลพฺพตปรามสอิทํสจฺจาภินิเวสกายคนฺถา ปมาณวชฺฌา, พฺยาปาทกายคนฺโถ ตติยาณวชฺโฌ, อิตโร จตุตฺถาณวชฺโฌ.

อคติ ปมาณวชฺฌาว.

อาสเวสุ ทิฏฺาสโว ปมาณวชฺโฌ, กามาสโว ตติยาณวชฺโฌ, อิตเร ทฺเว จตุตฺถาณวชฺฌา. โอฆโยเคสุปิ เอเสว นโย.

นีวรเณสุ วิจิกิจฺฉานีวรณํ ปมาณวชฺฌํ, กามจฺฉนฺโท พฺยาปาโท กุกฺกุจฺจนฺติ ตีณิ ตติยาณวชฺฌานิ, ถินมิทฺธอุทฺธจฺจานิ จตุตฺถาณวชฺฌานิ.

ปรามาโส ปมาณวชฺโฌว.

อุปาทาเนสุ สพฺเพสมฺปิ โลกิยธมฺมานํ วตฺถุกามวเสน กามาติ อาคตตฺตา รูปารูปราโคปิ กามุปาทาเน ปตติ, ตสฺมา ตํ จตุตฺถาณวชฺฌํ, เสสานิ ปมาณวชฺฌานิ.

อนุสเยสุ ทิฏฺิวิจิกิจฺฉานุสยา ปมาณวชฺฌาว, กามราคปฏิฆานุสยา ตติยาณวชฺฌา, มานภวราคาวิชฺชานุสยา จตุตฺถาณวชฺฌา.

มเลสุ โทสมลํ ตติยาณวชฺฌํ, อิตรานิ จตุตฺถาณวชฺฌานิ.

อกุสลกมฺมปเถสุ ปาณาติปาโต อทินฺนาทานํ มิจฺฉาจาโร มุสาวาโท มิจฺฉาทิฏฺีติ อิเม ปมาณวชฺฌา , ปิสุณวาจา ผรุสวาจา พฺยาปาโทติ ตโย ตติยาณวชฺฌา, สมฺผปฺปลาปาภิชฺฌา จตุตฺถาณวชฺฌา.

อกุสลจิตฺตุปฺปาเทสุ จตฺตาโร ทิฏฺิคตสมฺปยุตฺตา วิจิกิจฺฉาสมฺปยุตฺโต จาติ ปฺจ ปมาณวชฺฌาว, ทฺเว ปฏิฆสมฺปยุตฺตา ตติยาณวชฺฌา, เสสา จตุตฺถาณวชฺฌาติ.

ยฺจ เยน วชฺฌํ, ตํ เตน ปหาตพฺพํ นาม. เตน วุตฺตํ ‘‘อิติ เอเตสํ สํโยชนาทีนํ ธมฺมานํ เอตานิ ยถาโยคํ ปหานกรานี’’ติ.

๘๓๑. กึ ปเนตานิ เอเต ธมฺเม อตีตานาคเต ปชหนฺติ อุทาหุ ปจฺจุปฺปนฺเนติ. กึ ปเนตฺถ ยทิ ตาว อตีตานาคเต, อผโล วายาโม อาปชฺชติ. กสฺมา? ปหาตพฺพานํ นตฺถิตาย. อถ ปจฺจุปฺปนฺเน, ตถาปิ อผโล, วายาเมน สทฺธึ ปหาตพฺพานํ อตฺถิตาย, สํกิเลสิกา จ มคฺคภาวนา อาปชฺชติ, วิปฺปยุตฺตตา วา กิเลสานํ, น จ ปจฺจุปฺปนฺนกิเลโส จิตฺตวิปฺปยุตฺโต นาม อตฺถีติ. นายํ อาเวณิกา โจทนา. ปาฬิยํเยว หิ ‘‘สฺวายํ กิเลเส ปชหติ, อตีเต กิเลเส ปชหติ, อนาคเต กิเลเส ปชหติ, ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ วตฺวา, ปุน ‘‘หฺจิ อตีเต กิเลเส ปชหติ, เตนหิ ขีณํ เขเปติ, นิรุทฺธํ นิโรเธติ, วิคตํ วิคเมติ, อตฺถงฺคตํ อตฺถงฺคเมติ. อตีตํ ยํ นตฺถิ, ตํ ปชหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑) จ วตฺวา, ‘‘น อตีเต กิเลเส ปชหตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

ตถา ‘‘หฺจิ อนาคเต กิเลเส ปชหติ, เตนหิ อชาตํ ปชหติ, อนิพฺพตฺตํ ปชหติ, อนุปฺปนฺนํ ปชหติ, อปาตุภูตํ ปชหติ. อนาคตํ ยํ นตฺถิ, ตํ ปชหตี’’ติ จ วตฺวา, ‘‘น อนาคเต กิเลเส ปชหตี’’ติ ปฏิกฺขิตฺตํ.

ตถา ‘‘หฺจิ ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหติ, เตนหิ รตฺโต ราคํ ปชหติ. ทุฏฺโ โทสํ, มูฬฺโห โมหํ, วินิพทฺโธ มานํ, ปรามฏฺโ ทิฏฺึ, วิกฺเขปคโต อุทฺธจฺจํ, อนิฏฺงฺคโต วิจิกิจฺฉํ, ถามคโต อนุสยํ ปชหติ. กณฺหสุกฺกา ธมฺมา ยุคนทฺธาว วตฺตนฺติ. สํกิเลสิกา มคฺคภาวนา โหตี’’ติ จ วตฺวา, ‘‘น อตีเต กิเลเส ปชหติ, น อนาคเต, น ปจฺจุปฺปนฺเน กิเลเส ปชหตี’’ติ สพฺพํ ปฏิกฺขิปิตฺวา, ‘‘เตนหิ นตฺถิ มคฺคภาวนา, นตฺถิ ผลสจฺฉิกิริยา , นตฺถิ กิเลสปฺปหานํ, นตฺถิ ธมฺมาภิสมโย’’ติ ปฺหาปริโยสาเน ‘‘น หิ นตฺถิ มคฺคภาวนา…เป… นตฺถิ ธมฺมาภิสมโย’’ติ ปฏิชานิตฺวา ‘‘ยถา กถํ วิยา’’ติ วุตฺเต อิทํ วุตฺตํ –

‘‘เสยฺยถาปิ ตรุโณ รุกฺโข อชาตผโล, ตเมนํ ปุริโส มูเล ฉินฺเทยฺย, เย ตสฺส รุกฺขสฺส อชาตผลา, เต อชาตาเยว น ชายนฺติ, อนิพฺพตฺตาเยว น นิพฺพตฺตนฺติ, อนุปฺปนฺนาเยว น อุปฺปชฺชนฺติ, อปาตุภูตาเยว น ปาตุภวนฺติ, เอวเมว อุปฺปาโท เหตุ อุปฺปาโท ปจฺจโย กิเลสานํ นิพฺพตฺติยาติ อุปฺปาเท อาทีนวํ ทิสฺวา อนุปฺปาเท จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ, อนุปฺปาเท จิตฺตสฺส ปกฺขนฺทตฺตา เย อายูหนปจฺจยา กิเลสา นิพฺพตฺเตยฺยุํ, เต อชาตาเยว น ชายนฺติ…เป… อปาตุภูตาเยว น ปาตุภวนฺติ, เอวํ เหตุนิโรธา ทุกฺขนิโรโธ. ปวตฺตํ เหตุ…เป… นิมิตฺตํ เหตุ…เป… อายูหนา เหตุ…เป… อนายูหเน จิตฺตสฺส ปกฺขนฺทตฺตา เย อายูหนปจฺจยา กิเลสา นิพฺพตฺเตยฺยุํ, เต อชาตาเยว…เป… อปาตุภูตาเยว น ปาตุภวนฺติ, เอวํ เหตุนิโรธา ทุกฺขนิโรโธ. เอวํ อตฺถิ มคฺคภาวนา, อตฺถิ ผลสจฺฉิกิริยา, อตฺถิ กิเลสปฺปหานํ, อตฺถิ ธมฺมาภิสมโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๒๑).

๘๓๒. เอเตน กึ ทีปิตํ โหติ? ภูมิลทฺธานํ กิเลสานํ ปหานํ ทีปิตํ โหติ. ภูมิลทฺธา ปน กึ อตีตานาคตา อุทาหุ ปจฺจุปฺปนฺนาติ. ภูมิลทฺธุปฺปนฺนา เอว นาม เต.

๘๓๓. อุปฺปนฺนํ หิ วตฺตมานภูตาปคโตกาสกตภูมิลทฺธวเสน อเนกปฺปเภทํ. ตตฺถ สพฺพมฺปิ อุปฺปาทชราภงฺคสมงฺคิสงฺขาตํ วตฺตมานุปฺปนฺนํ นาม. อารมฺมณรสํ อนุภวิตฺวา นิรุทฺธํ อนุภูตาปคตสงฺขาตํ กุสลากุสลํ อุปฺปาทาทิตฺตยํ อนุปฺปตฺวา นิรุทฺธํ ภูตาปคตสงฺขาตํ เสสสงฺขตฺจ ภูตาปคตุปฺปนฺนํ นาม. ‘‘ยานิสฺส ตานิ ปุพฺเพกตานิ กมฺมานี’’ติ (ม. นิ. ๓.๒๔๘) เอวมาทินา นเยน วุตฺตํ กมฺมํ อตีตมฺปิ สมานํ อฺํ วิปากํ ปฏิพาหิตฺวา อตฺตโน วิปากสฺโสกาสํ กตฺวา ิตตฺตา ตถา กโตกาสฺจ วิปากํ อนุปฺปนฺนมฺปิ สมานํ เอวํ กเต โอกาเส เอกนฺเตน อุปฺปชฺชนโต โอกาสกตุปฺปนฺนํ นาม. ตาสุ ตาสุ ภูมีสุ อสมูหตํ อกุสลํ ภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ นาม.

๘๓๔. เอตฺถ จ ภูมิยา ภูมิลทฺธสฺส จ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ. ภูมีติ หิ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา เตภูมกา ปฺจกฺขนฺธา. ภูมิลทฺธํ นาม เตสุ ขนฺเธสุ อุปฺปตฺติรหํ กิเลสชาตํ. เตนหิ สา ภูมิ ลทฺธา นาม โหตีติ ตสฺมา ภูมิลทฺธนฺติ วุจฺจติ, สา จ โข น อารมฺมณวเสน. อารมฺมณวเสน หิ สพฺเพปิ อตีตานาคเต ปริฺาเตปิ จ ขีณาสวานํ ขนฺเธ อารพฺภ กิเลสา อุปฺปชฺชนฺติ มหากจฺจานอุปฺปลวณฺณาทีนํ ขนฺเธ อารพฺภ โสเรยฺยเสฏฺิ นนฺทมาณวกาทีนํ วิย. ยทิ จ ตํ ภูมิลทฺธํ นาม สิยา, ตสฺส อปฺปเหยฺยโต น โกจิ ภวมูลํ ปชเหยฺย. วตฺถุวเสน ปน ภูมิลทฺธํ เวทิตพฺพํ. ยตฺถ ยตฺถ หิ วิปสฺสนาย อปริฺาตา ขนฺธา อุปฺปชฺชนฺติ, ตตฺถ ตตฺถ อุปฺปาทโต ปภุติ เตสุ วฏฺฏมูลํ กิเลสชาตํ อนุเสติ. ตํ อปฺปหีนฏฺเน ภูมิลทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.

๘๓๕. ตตฺถ จ ยสฺส เยสุ ขนฺเธสุ อปฺปหีนฏฺเน อนุสยิตา กิเลสา, ตสฺส เต เอว ขนฺธา เตสํ กิเลสานํ วตฺถุ, น อฺเสํ สนฺตกา ขนฺธา. อตีตกฺขนฺเธสุ จ อปฺปหีนานุสยิตานํ กิเลสานํ อตีตกฺขนฺธาว วตฺถุ, น อิตเร. เอส นโย อนาคตาทีสุ. ตถา กามาวจรกฺขนฺเธสุ อปฺปหีนานุสยิตานํ กิเลสานํ กามาวจรกฺขนฺธาว วตฺถุ, น อิตเร. เอส นโย รูปารูปาวจเรสุ. โสตาปนฺนาทีสุ ปน ยสฺส ยสฺส อริยปุคฺคลสฺส ขนฺเธสุ ตํ ตํ วฏฺฏมูลํ กิเลสชาตํ เตน เตน มคฺเคน ปหีนํ, ตสฺส ตสฺส เต เต ขนฺธา ปหีนานํ เตสํ เตสํ วฏฺฏมูลกิเลสานํ อวตฺถุโต ภูมีติ สงฺขํ น ลภนฺติ. ปุถุชฺชนสฺส สพฺพโสว วฏฺฏมูลกิเลสานํ อปฺปหีนตฺตา ยํกิฺจิ กริยมานํ กมฺมํ กุสลํ อกุสลํ วา โหติ. อิจฺจสฺส กมฺมกิเลสปจฺจยา วฏฺฏํ วฏฺฏติ. ตสฺเสตํ วฏฺฏมูลํ รูปกฺขนฺเธเยว, น เวทนากฺขนฺธาทีสุ. วิฺาณกฺขนฺเธเยว วา, น รูปกฺขนฺธาทีสูติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อวิเสเสน ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ อนุสยิตตฺตา.

๘๓๖. กถํ? ปถวีรสาทิ วิย รุกฺเข. ยถา หิ มหารุกฺเข ปถวีตลํ อธิฏฺาย ปถวีรสฺจ อาโปรสฺจ นิสฺสาย ตปฺปจฺจยา มูลขนฺธสาขปสาขปลฺลวปลาสปุปฺผผเลหิ วฑฺฒิตฺวา นภํ ปูเรตฺวา ยาว กปฺปาวสานา พีชปรมฺปราย รุกฺขปเวณึ สนฺตานยมาเน ิเต ตํ ปถวีรสาทิ มูเลเยว, น ขนฺธาทีสุ…เป… ผเลเยว วา, น มูลาทีสูติ น วตฺตพฺพํ. กสฺมา? อวิเสเสน สพฺเพสุ มูลาทีสุ อนุคตตฺตาติ.

ยถา ปน ตสฺเสว รุกฺขสฺส ปุปฺผผลาทีสุ นิพฺพินฺโน โกจิ ปุริโส จตูสุ ทิสาสุ มณฺฑูกกณฺฏกํ นาม วิสกณฺฏกํ อาโกเฏยฺย, อถ โส รุกฺโข เตน วิสสมฺผสฺเสน ผุฏฺโ ปถวีรสอาโปรสานํ ปริยาทิณฺณตฺตา อปฺปสวนธมฺมตํ อาคมฺม ปุน สนฺตานํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺกุเณยฺย, เอวเมว ขนฺธปวตฺติยํ นิพฺพินฺโน กุลปุตฺโต ตสฺส ปุริสสฺส จตูสุ ทิสาสุ รุกฺเข วิสโยชนํ วิย อตฺตโน สนฺตาเน จตุมคฺคภาวนํ อารภติ. อถสฺส โส ขนฺธสนฺตาโน เตน จตุมคฺควิสสมฺผสฺเสน สพฺพโส วฏฺฏมูลกกิเลสานํ ปริยาทิณฺณตฺตา กิริยภาวมตฺตอุปคตกายกมฺมาทิสพฺพกมฺมปฺปเภโท หุตฺวา อายตึ ปุนพฺภวานภินิพฺพตฺตนธมฺมตํ อาคมฺม ภวนฺตรสนฺตานํ นิพฺพตฺเตตุํ น สกฺโกติ. เกวลํ จริมวิฺาณนิโรเธน นิรินฺธโน วิย ชาตเวโท อนุปาทาโน ปรินิพฺพายติ, เอวํ ภูมิยา ภูมิลทฺธสฺส จ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.

๘๓๗. อปิจ อปรมฺปิ สมุทาจารอารมฺมณาธิคฺคหิตอวิกฺขมฺภิตอสมูหตวเสน จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ. ตตฺถ วตฺตมานุปฺปนฺนเมว สมุทาจารุปฺปนฺนํ. จกฺขาทีนํ ปน อาปาถคเต อารมฺมเณ ปุพฺพภาเค อนุปฺปชฺชมานมฺปิ กิเลสชาตํ อารมฺมณสฺส อธิคฺคหิตตฺตา เอว อปรภาเค เอกนฺเตน อุปฺปตฺติโต อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ, กลฺยาณิคาเม ปิณฺฑาย จรโต มหาติสฺสตฺเถรสฺส วิสภาครูปทสฺสเนน อุปฺปนฺนกิเลสชาตํ วิย. สมถวิปสฺสนานํ อฺตรวเสน อวิกฺขมฺภิตํ กิเลสชาตํ จิตฺตสนฺตติมนารูฬฺหมฺปิ อุปฺปตฺตินิวารกสฺส เหตุโน อภาวา อวิกฺขมฺภิตุปฺปนฺนํ นาม. สมถวิปสฺสนาวเสน ปน วิกฺขมฺภิตมฺปิ อริยมคฺเคน อสมูหตตฺตา อุปฺปตฺติธมฺมตํ อนตีตตาย อสมูหตุปฺปนฺนนฺติ วุจฺจติ, อากาเสน คจฺฉนฺตสฺส อฏฺสมาปตฺติลาภิโน เถรสฺส กุสุมิตรุกฺเข อุปวเน ปุปฺผานิ อุจฺจินนฺตสฺส มธุเรน สเรน คายโต มาตุคามสฺส คีตสวเนน อุปฺปนฺนกิเลสชาตํ วิย. ติวิธมฺปิ เจตํ อารมฺมณาธิคฺคหิตาวิกฺขมฺภิตอสมูหตุปฺปนฺนํ ภูมิลทฺเธเนว สงฺคหํ คจฺฉตีติ เวทิตพฺพํ.

๘๓๘. อิจฺเจตสฺมึ วุตฺตปฺปเภเท อุปฺปนฺเน ยเทตํ วตฺตมานภูตาปคโตกาสกตสมุทาจารสงฺขาตํ จตุพฺพิธํ อุปฺปนฺนํ, ตํ อมคฺควชฺฌตฺตา เกนจิปิ าเณน ปหาตพฺพํ น โหติ. ยํ ปเนตํ ภูมิลทฺธารมฺมณาธิคฺคหิตอวิกฺขมฺภิตอสมูหตสงฺขาตํ อุปฺปนฺนํ, ตสฺส ตํ อุปฺปนฺนภาวํ วินาสยมานํ ยสฺมา ตํ ตํ โลกิยโลกุตฺตราณํ อุปฺปชฺชติ, ตสฺมา ตํ สพฺพมฺปิ ปหาตพฺพํ โหตีติ. เอวเมตฺถ เย เยน ปหาตพฺพา ธมฺมา, เตสํ ปหานฺจ ชานิตพฺพํ.

ปริฺาทิกิจฺจกถา

๘๓๙.

กิจฺจานิ ปริฺาทีนิ, ยานิ วุตฺตานิ อภิสมยกาเล;

ตานิ จ ยถาสภาเวน, ชานิตพฺพานิ สพฺพานีติ.

สจฺจาภิสมยกาลํ หิ เอเตสุ จตูสุ าเณสุ เอเกกสฺส เอกกฺขเณ ปริฺา ปหานํ สจฺฉิกิริยา ภาวนาติ เอตานิ ปริฺาทีนิ จตฺตาริ กิจฺจานิ วุตฺตานิ, ตานิ ยถาสภาเวน ชานิตพฺพานิ. วุตฺตํ เหตํ โปราเณหิ –

‘‘ยถา ปทีโป อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ กิจฺจานิ กโรติ, วฏฺฏึ ฌาเปติ, อนฺธการํ วิธมติ, อาโลกํ ปริวิทํเสติ, สิเนหํ ปริยาทิยติ, เอวเมว มคฺคาณํ อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ สจฺจานิ อภิสเมติ, ทุกฺขํ ปริฺาภิสมเยน อภิสเมติ, สมุทยํ ปหานาภิสมเยน อภิสเมติ, มคฺคํ ภาวนาภิสมเยน อภิสเมติ, นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมติ. กึ วุตฺตํ โหติ? นิโรธํ อารมฺมณํ กริตฺวา จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปาปุณาติ ปสฺสติ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ.

วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธมฺปิ ปสฺสติ, ทุกฺขนิโรธคามินึ ปฏิปทมฺปิ ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) สพฺพํ เวทิตพฺพํ.

อปรมฺปิ วุตฺตํ ‘‘มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ, ทุกฺเขเปตํ าณํ, ทุกฺขสมุทเยเปตํ าณํ, ทุกฺขนิโรเธเปตํ าณํ, ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทายเปตํ าณ’’นฺติ (วิภ. ๗๙๔; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๙).

ตตฺถ ยถา ปทีโป วฏฺฏึ ฌาเปติ, เอวํ มคฺคาณํ ทุกฺขํ ปริชานาติ. ยถา อนฺธการํ วิธมติ, เอวํ สมุทยํ ปชหติ. ยถา อาโลกํ ปริวิทํเสติ, เอวํ สหชาตาทิปจฺจยตาย สมฺมาสงฺกปฺปาทิธมฺมสงฺขาตํ มคฺคํ ภาเวติ. ยถา สิเนหํ ปริยาทิยติ, เอวํ กิเลสปริยาทานํ นิโรธํ สจฺฉิกโรตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

๘๔๐. อปโร นโย – ยถา สูริโย อุทยนฺโต อปุพฺพํ อจริมํ สห ปาตุภาวา จตฺตาริ กิจฺจานิ กโรติ, รูปคตานิ โอภาเสติ, อนฺธการํ วิธมติ, อาโลกํ ทสฺเสติ, สีตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภติ, เอวเมว มคฺคาณํ…เป… นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมติ. อิธาปิ ยถา สูริโย รูปคตานิ โอภาเสติ, เอวํ มคฺคาณํ ทุกฺขํ ปริชานาติ. ยถา อนฺธการํ วิธมติ, เอวํ สมุทยํ ปชหติ. ยถา อาโลกํ ทสฺเสติ, เอวํ สหชาตาทิปจฺจยตาย มคฺคํ ภาเวติ. ยถา สีตํ ปฏิปฺปสฺสมฺเภติ, เอวํ กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธึ นิโรธํ สจฺฉิกโรตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

๘๔๑. อปโร นโย – ยถา นาวา อปุพฺพํ อจริมํ เอกกฺขเณ จตฺตาริ กิจฺจานิ กโรติ, โอริมตีรํ ปชหติ, โสตํ ฉินฺทติ, ภณฺฑํ วหติ, ปาริมตีรํ อปฺเปติ, เอวเมว มคฺคาณํ…เป… นิโรธํ สจฺฉิกิริยาภิสมเยน อภิสเมติ. เอตฺถาปิ ยถา นาวา โอริมตีรํ ปชหติ, เอวํ มคฺคาณํ ทุกฺขํ ปริชานาติ. ยถา โสตํ ฉินฺทติ, เอวํ สมุทยํ ปชหติ. ยถา ภณฺฑํ วหติ, เอวํ สหชาตาทิปจฺจยตาย มคฺคํ ภาเวติ. ยถา ปาริมตีรํ อปฺเปติ, เอวํ ปาริมตีรภูตํ นิโรธํ สจฺฉิกโรตีติ เอวํ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ.

๘๔๒. เอวํ สจฺจาภิสมยกาลสฺมึ เอกกฺขเณ จตุนฺนํ กิจฺจานํ วเสน ปวตฺตาณสฺส ปนสฺส โสฬสหากาเรหิ ตถฏฺเน จตฺตาริ กิจฺจานิ เอกปฏิเวธานิ โหนฺติ. ยถาห –

‘‘กถํ ตถฏฺเน จตฺตาริ กิจฺจานิ เอกปฏิเวธานิ? โสฬสหิ อากาเรหิ ตถฏฺเน จตฺตาริ กิจฺจานิ เอกปฏิเวธานิ. ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโ, สงฺขตฏฺโ, สนฺตาปฏฺโ, วิปริณามฏฺโ, ตถฏฺโ. สมุทยสฺส อายูหนฏฺโ, นิทานฏฺโ, สํโยคฏฺโ, ปลิโพธฏฺโ, ตถฏฺโ. นิโรธสฺส นิสฺสรณฏฺโ, วิเวกฏฺโ, อสงฺขตฏฺโ, อมตฏฺโ, ตถฏฺโ. มคฺคสฺส นิยฺยานฏฺโ, เหตุฏฺโ, ทสฺสนฏฺโ, อธิปเตยฺยฏฺโ, ตถฏฺโ. อิเมหิ โสฬสหิ อากาเรหิ ตถฏฺเน จตฺตาริ สจฺจานิ เอกสงฺคหิตานิ. ยํ เอกสงฺคหิตํ, ตํ เอกตฺตํ. ยํ เอกตฺตํ, ตํ เอเกน าเณน ปฏิวิชฺฌตีติ จตฺตาริ สจฺจานิ เอกปฏิเวธานี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑๑).

๘๔๓. ตตฺถ สิยา ยทา ทุกฺขาทีนํ อฺเปิ โรคคณฺฑาทโย อตฺถา อตฺถิ, อถ กสฺมา จตฺตาโรเยว วุตฺตาติ. เอตฺถ วทาม, อฺสจฺจทสฺสนวเสน อาวิภาวโต. ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺเข าณํ? ทุกฺขํ อารพฺภ ยา อุปฺปชฺชติ ปฺา ปชานนา’’ติอาทินา (วิภ. ๗๙๔; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๙) หิ นเยน เอเกกสจฺจารมฺมณวเสนาปิ สจฺจาณํ วุตฺตํ. ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสติ, สมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) นเยน เอกํ สจฺจํ อารมฺมณํ กตฺวา เสเสสุปิ กิจฺจนิปฺผตฺติวเสนาปิ วุตฺตํ.

ตตฺถ ยทา เอเกกํ สจฺจํ อารมฺมณํ กโรติ, ตทา สมุทยทสฺสเนน ตาว สภาวโต ปีฬนลกฺขณสฺสาปิ ทุกฺขสฺส, ยสฺมา ตํ อายูหนลกฺขเณน สมุทเยน อายูหิตํ สงฺขตํ ราสิกตํ, ตสฺมาสฺส โส สงฺขตฏฺโ อาวิภวติ. ยสฺมา ปน มคฺโค กิเลสสนฺตาปหโร สุสีตโล, ตสฺมาสฺส มคฺคสฺส ทสฺสเนน สนฺตาปฏฺโ อาวิภวติ อายสฺมโต นนฺทสฺส อจฺฉราทสฺสเนน สุนฺทริยา อนภิรูปภาโว วิย. อวิปริณามธมฺมสฺส ปน นิโรธสฺส ทสฺสเนนสฺส วิปริณามฏฺโ อาวิภวตีติ วตฺตพฺพเมเวตฺถ นตฺถิ.

ตถา สภาวโต อายูหนลกฺขณสฺสาปิ สมุทยสฺส, ทุกฺขทสฺสเนน นิทานฏฺโ อาวิภวติ อสปฺปายโภชนโต อุปฺปนฺนพฺยาธิทสฺสเนน โภชนสฺส พฺยาธินิทานภาโว วิย. วิสํโยคภูตสฺส นิโรธสฺส ทสฺสเนน สํโยคฏฺโ. นิยฺยานภูตสฺส จ มคฺคสฺส ทสฺสเนน ปลิโพธฏฺโติ.

ตถา นิสฺสรณลกฺขณสฺสาปิ นิโรธสฺส, อวิเวกภูตสฺส สมุทยสฺส ทสฺสเนน วิเวกฏฺโ อาวิภวติ. มคฺคทสฺสเนน อสงฺขตฏฺโ, อิมินา หิ อนมตคฺคสํสาเร มคฺโค นทิฏฺปุพฺโพ, โสปิ จ สปฺปจฺจยตฺตา สงฺขโตเยวาติ อปฺปจฺจยธมฺมสฺส อสงฺขตภาโว อติวิย ปากโฏ โหติ. ทุกฺขทสฺสเนน ปนสฺส อมตฏฺโ อาวิภวติ, ทุกฺขํ หิ วิสํ, อมตํ นิพฺพานนฺติ.

ตถา นิยฺยานลกฺขณสฺสาปิ มคฺคสฺส, สมุทยทสฺสเนน ‘‘นายํ เหตุ นิพฺพานสฺส ปตฺติยา, อยํ เหตู’’ติ เหตุฏฺโ อาวิภวติ. นิโรธทสฺสเนน ทสฺสนฏฺโ, ปรมสุขุมานิ รูปานิ ปสฺสโต ‘‘วิปฺปสนฺนํ วต เม จกฺขู’’นฺติ จกฺขุสฺส วิปฺปสนฺนภาโว วิย. ทุกฺขทสฺสเนน อธิปเตยฺยฏฺโ, อเนกโรคาตุรกปณชนทสฺสเนน อิสฺสรชนสฺส อุฬารภาโว วิยาติ เอวเมตฺถ สลกฺขณวเสน เอเกกสฺส, อฺสจฺจทสฺสนวเสน จ อิตเรสํ ติณฺณํ ติณฺณํ อาวิภาวโต เอเกกสฺส จตฺตาโร จตฺตาโร อตฺถา วุตฺตา. มคฺคกฺขเณ ปน สพฺเพ เจเต อตฺถา เอเกเนว ทุกฺขาทีสุ จตุกิจฺเจน าเณน ปฏิเวธํ คจฺฉนฺตีติ. เย ปน นานาภิสมยํ อิจฺฉนฺติ, เตสํ อุตฺตรํ อภิธมฺเม กถาวตฺถุสฺมึ วุตฺตเมว.

ปริฺาทิปฺปเภทกถา

๘๔๔. อิทานิ ยานิ ตานิ ปริฺาทีนิ จตฺตาริ กิจฺจานิ วุตฺตานิ, เตสุ –

ติวิธา โหติ ปริฺา, ตถา ปหานมฺปิ สจฺฉิกิริยาปิ;

ทฺเว ภาวนา อภิมตา, วินิจฺฉโย ตตฺถ าตพฺโพ.

๘๔๕. ติวิธา โหติ ปริฺาติ าตปริฺา ตีรณปริฺา ปหานปริฺาติ เอวํ ปริฺา ติวิธา โหติ. ตตฺถ ‘‘อภิฺาปฺา าตฏฺเน าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๒๐) เอวํ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เย เย ธมฺมา อภิฺาตา โหนฺติ, เต เต ธมฺมา าตา โหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๕) เอวํ สงฺเขปโต, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺยํ. กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ อภิฺเยฺยํ? จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒) นเยน วิตฺถารโต วุตฺตา าตปริฺา นาม. ตสฺสา สปฺปจฺจยนามรูปาภิชานนา อาเวณิกา ภูมิ.

๘๔๖. ‘‘ปริฺาปฺา ตีรณฏฺเน าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๒๑) เอวํ อุทฺทิสิตฺวา ปน ‘‘เย เย ธมฺมา ปริฺาตา โหนฺติ, เต เต ธมฺมา ตีริตา โหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๕) เอวํ สงฺเขปโต, ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, ปริฺเยฺยํ. กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ ปริฺเยฺยํ? จกฺขุํ, ภิกฺขเว, ปริฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๒๑) นเยน วิตฺถารโต วุตฺตา ตีรณปริฺา นาม. ตสฺสา กลาปสมฺมสนโต ปฏฺาย อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ตีรณวเสน ปวตฺตมานาย ยาว อนุโลมา อาเวณิกา ภูมิ.

๘๔๗. ‘‘ปหานปฺา ปริจฺจาคฏฺเน าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๒๒) เอวํ ปน อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เย เย ธมฺมา ปหีนา โหนฺติ, เต เต ธมฺมา ปริจฺจตฺตา โหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๕) เอวํ วิตฺถารโต วุตฺตา ‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตา ปหานปริฺา. ตสฺสา ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ยาว มคฺคาณา ภูมิ, อยํ อิธ อธิปฺเปตา.

ยสฺมา วา าตตีรณปริฺาโยปิ ตทตฺถาเยว, ยสฺมา จ เย ธมฺเม ปชหติ, เต นิยมโต าตา เจว ตีริตา จ โหนฺติ, ตสฺมา ปริฺาตฺตยมฺปิ อิมินา ปริยาเยน มคฺคาณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.

๘๔๘. ตถา ปหานมฺปีติ ปหานมฺปิ หิ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ สมุจฺเฉทปฺปหานนฺติ ปริฺา วิย ติวิธเมว โหติ. ตตฺถ ยํ สเสวาเล อุทเก ปกฺขิตฺเตน ฆเฏน เสวาลสฺส วิย เตน เตน โลกิยสมาธินา นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วิกฺขมฺภนํ, อิทํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ นาม. ปาฬิยํ ปน ‘‘วิกฺขมฺภนปฺปหานฺจ นีวรณานํ ปมํ ฌานํ ภาวยโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๔) นีวรณานฺเว วิกฺขมฺภนํ วุตฺตํ, ตํ ปากฏตฺตา วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. นีวรณานิ หิ ฌานสฺส ปุพฺพภาเคปิ ปจฺฉาภาเคปิ น สหสา จิตฺตํ อชฺโฌตฺถรนฺติ, วิตกฺกาทโย อปฺปิตกฺขเณเยว. ตสฺมา นีวรณานํ วิกฺขมฺภนํ ปากฏํ.

๘๔๙. ยํ ปน รตฺติภาเค สมุชฺชลิเตน ปทีเปน อนฺธการสฺส วิย เตน เตน วิปสฺสนาย อวยวภูเตน าณงฺเคน ปฏิปกฺขวเสเนว ตสฺส ตสฺส ปหาตพฺพธมฺมสฺส ปหานํ, อิทํ ตทงฺคปฺปหานํ นาม. เสยฺยถิทํ – นามรูปปริจฺเฉเทน ตาว สกฺกายทิฏฺิยา. ปจฺจยปริคฺคเหน อเหตุวิสมเหตุทิฏฺิยา เจว กงฺขามลสฺส จ. กลาปสมฺมสเนน ‘‘อหํ มมา’’ติ สมูหคาหสฺส. มคฺคามคฺคววตฺถาเนน อมคฺเค มคฺคสฺาย. อุทยทสฺสเนน อุจฺเฉททิฏฺิยา. วยทสฺสเนน สสฺสตทิฏฺิยา. ภยตุปฏฺาเนน สภเย อภยสฺาย. อาทีนวทสฺสเนน อสฺสาทสฺาย. นิพฺพิทานุปสฺสเนน อภิรติสฺาย. มุฺจิตุกมฺยตาย อมุฺจิตุกามภาวสฺส. ปฏิสงฺขาเนน อปฺปฏิสงฺขานสฺส. อุเปกฺขาย อนุเปกฺขนสฺส. อนุโลเมน สจฺจปฏิโลมคาหสฺส ปหานํ.

ยํ วา ปน อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาย. ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาย. อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาย. นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิยา. วิราคานุปสฺสนาย ราคสฺส. นิโรธานุปสฺสนาย สมุทยสฺส. ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทานสฺส. ขยานุปสฺสนาย ฆนสฺาย. วยานุปสฺสนาย อายูหนสฺส. วิปริณามานุปสฺสนาย ธุวสฺาย. อนิมิตฺตานุปสฺสนาย นิมิตฺตสฺส. อปฺปณิหิตานุปสฺสนาย ปณิธิยา. สุฺตานุปสฺสนาย อภินิเวสสฺส. อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาย สาราทานาภินิเวสสฺส. ยถาภูตาณทสฺสเนน สมฺโมหาภินิเวสสฺส. อาทีนวานุปสฺสนาย อาลยาภินิเวสสฺส. ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย อปฺปฏิสงฺขาย. วิวฏฺฏานุปสฺสนาย สํโยคาภินิเวสสฺส ปหานํ. อิทมฺปิ ตทงฺคปฺปหานเมว.

๘๕๐. ตตฺถ ยถา อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ สตฺตหิ นิจฺจสฺาทีนํ ปหานํ โหติ, ตํ ภงฺคานุปสฺสเน วุตฺตเมว.

ขยานุปสฺสนาติ ปน ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ เอวํ ขยํ ปสฺสโต าณํ. เตน ฆนสฺาย ปหานํ โหติ.

วยานุปสฺสนาติ –

อารมฺมณานฺวเยน, อุโภ เอกววตฺถานา;

นิโรเธ อธิมุตฺตตา, วยลกฺขณวิปสฺสนาติ. –

เอวํ วุตฺตา ปจฺจกฺขโต เจว อนฺวยโต จ สงฺขารานํ ภงฺคํ ทิสฺวา ตสฺมิฺเว ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ อธิมุตฺตตา, ตาย อายูหนสฺส ปหานํ โหติ. เยสํ หิ อตฺถาย อายูเหยฺย, ‘‘เต เอวํ วยธมฺมา’’ติ วิปสฺสโต อายูหเน จิตฺตํ น นมติ.

วิปริณามานุปสฺสนาติ รูปสตฺตกาทิวเสน ตํ ตํ ปริจฺเฉทํ อติกฺกมฺม อฺถาปวตฺติทสฺสนํ. อุปฺปนฺนสฺส วา ชราย เจว มรเณน จ ทฺวีหากาเรหิ วิปริณามทสฺสนํ, ตาย ธุวสฺาย ปหานํ โหติ.

อนิมิตฺตานุปสฺสนาติ อนิจฺจานุปสฺสนาว, ตาย นิจฺจนิมิตฺตสฺส ปหานํ โหติ.

อปฺปณิหิตานุปสฺสนาติ ทุกฺขานุปสฺสนาว, ตาย สุขปณิธิสุขปตฺถนาปหานํ โหติ.

สุฺตานุปสฺสนาติ อนตฺตานุปสฺสนาว, ตาย ‘‘อตฺถิ อตฺตา’’ติ อภินิเวสสฺส ปหานํ โหติ.

อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาติ

‘‘อารมฺมณฺจ ปฏิสงฺขา, ภงฺคฺจ อนุปสฺสติ;

สุฺโต จ อุปฏฺานํ, อธิปฺา วิปสฺสนา’’ติ. –

เอวํ วุตฺตา รูปาทิอารมฺมณํ ชานิตฺวา ตสฺส จ อารมฺมณสฺส ตทารมฺมณสฺส จ จิตฺตสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ‘‘สงฺขาราว ภิชฺชนฺติ, สงฺขารานํ มรณํ, น อฺโ โกจิ อตฺถี’’ติ ภงฺควเสน สุฺตํ คเหตฺวา ปวตฺตา วิปสฺสนา. สา อธิปฺา จ ธมฺเมสุ จ วิปสฺสนาติ กตฺวา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนาติ วุจฺจติ, ตาย นิจฺจสาราภาวสฺส จ อตฺตสาราภาวสฺส จ สุฏฺุ ทิฏฺตฺตา สาราทานาภินิเวสสฺส ปหานํ โหติ.

ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ สปฺปจฺจยนามรูปปริคฺคโห, เตน ‘‘อโหสึ นุ โข อหํ อตีตมทฺธาน’’นฺติอาทิวเสน เจว, ‘‘อิสฺสรโต โลโก สมฺโภตี’’ติอาทิวเสน จ ปวตฺตสฺส สมฺโมหาภินิเวสสฺส ปหานํ โหติ.

อาทีนวานุปสฺสนาติ ภยตุปฏฺานวเสน อุปฺปนฺนํ สพฺพภวาทีสุ อาทีนวทสฺสนาณํ, เตน ‘‘กิฺจิ อลฺลียิตพฺพํ น ทิสฺสตี’’ติ อาลยาภินิเวสสฺส ปหานํ โหติ.

ปฏิสงฺขานุปสฺสนาติ มุฺจนสฺส อุปายกรณํ ปฏิสงฺขาาณํ, เตน อปฺปฏิสงฺขาย ปหานํ โหติ.

วิวฏฺฏานุปสฺสนาติ สงฺขารุเปกฺขา เจว อนุโลมฺจ. ตทา หิสฺส จิตฺตํ อีสกโปเณ ปทุมปลาเส อุทกพินฺทุ วิย สพฺพสฺมา สงฺขารคตา ปติลียติ, ปติกุฏติ, ปติวตฺตตีติ วุตฺตํ. ตสฺมา ตาย สํโยคาภินิเวสสฺส ปหานํ โหติ, กามสํโยคาทิกสฺส กิเลสาภินิเวสสฺส กิเลสปฺปวตฺติยา ปหานํ โหตีติ อตฺโถ. เอวํ วิตฺถารโต ตทงฺคปฺปหานํ เวทิตพฺพํ. ปาฬิยํ ปน ‘‘ตทงฺคปฺปหานฺจ ทิฏฺิคตานํ นิพฺเพธภาคิยํ สมาธึ ภาวยโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๔) สงฺเขเปเนว วุตฺตํ.

๘๕๑. ยํ ปน อสนิวิจกฺกาภิหตสฺส รุกฺขสฺส วิย อริยมคฺคาเณน สํโยชนาทีนํ ธมฺมานํ ยถา น ปุน ปวตฺติ, เอวํ ปหานํ, อิทํ สมุจฺเฉทปฺปหานํ นาม. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมุจฺเฉทปฺปหานฺจ โลกุตฺตรํ ขยคามิมคฺคํ ภาวยโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๔) . อิติ อิเมสุ ตีสุ ปหาเนสุ สมุจฺเฉทปฺปหานเมว อิธ อธิปฺเปตํ. ยสฺมา ปน ตสฺส โยคิโน ปุพฺพภาเค วิกฺขมฺภนตทงฺคปฺปหานานิปิ ตทตฺถาเนว, ตสฺมา ปหานตฺตยมฺปิ อิมินา ปริยาเยน มคฺคาณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ. ปฏิราชานํ วธิตฺวา รชฺชํ ปตฺเตน หิ ยมฺปิ ตโต ปุพฺเพ กตํ, สพฺพํ ‘‘อิทฺจิทฺจ รฺา กต’’นฺติเยว วุจฺจติ.

๘๕๒. สจฺฉิกิริยาปีติ โลกิยสจฺฉิกิริยา โลกุตฺตรสจฺฉิกิริยาติ ทฺเวธา ภินฺนาปิ โลกุตฺตราย ทสฺสนภาวนาวเสน เภทโต ติวิธา โหติ. ตตฺถ ‘‘ปมสฺส ฌานสฺส ลาภีมฺหิ, วสีมฺหิ, ปมชฺฌานํ สจฺฉิกตํ มยา’’ติอาทินา (ปารา. ๒๐๓-๒๐๔) นเยน อาคตา ปมชฺฌานาทีนํ ผสฺสนา โลกิยสจฺฉิกิริยา นาม. ผสฺสนาติ อธิคนฺตฺวา ‘‘อิทํ มยา อธิคต’’นฺติ ปจฺจกฺขโต าณผสฺเสน ผุสนา. อิมเมว หิ อตฺถํ สนฺธาย ‘‘สจฺฉิกิริยา ปฺา ผสฺสนฏฺเ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๒๔) อุทฺทิสิตฺวา ‘‘เย เย ธมฺมา สจฺฉิกตา โหนฺติ, เต เต ธมฺมา ผสฺสิตา โหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๕) สจฺฉิกิริยนิทฺเทโส วุตฺโต.

อปิจ อตฺตโน สนฺตาเน อนุปฺปาเทตฺวาปิ เย ธมฺมา เกวลํ อปรปฺปจฺจเยน าเณน าตา, เต สจฺฉิกตา โหนฺติ. เตเนว หิ ‘‘สพฺพํ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺพํ. กิฺจ, ภิกฺขเว, สพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ? จกฺขุ, ภิกฺขเว, สจฺฉิกาตพฺพ’’นฺติอาทิ (ปฏิ. ม. ๑.๒๙) วุตฺตํ.

อปรมฺปิ วุตฺตํ ‘‘รูปํ ปสฺสนฺโต สจฺฉิกโรติ. เวทนํ…เป… วิฺาณํ ปสฺสนฺโต สจฺฉิกโรติ. จกฺขุํ…เป… ชรามรณํ…เป… อมโตคธํ นิพฺพานํ ปสฺสนฺโต สจฺฉิกโรตีติ. เย เย ธมฺมา สจฺฉิกตา โหนฺติ, เต เต ธมฺมา ผสฺสิตา โหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๙).

ปมมคฺคกฺขเณ ปน นิพฺพานทสฺสนํ ทสฺสนสจฺฉิกิริยา. เสสมคฺคกฺขเณสุ ภาวนาสจฺฉิกิริยาติ. สา ทุวิธาปิ อิธ อธิปฺเปตา. ตสฺมา ทสฺสนภาวนาวเสน นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยา อิมสฺส าณสฺส กิจฺจนฺติ เวทิตพฺพํ.

๘๕๓. ทฺเวภาวนา อภิมตาติ ภาวนา ปน โลกิยภาวนา โลกุตฺตรภาวนาติ ทฺเวเยว อภิมตา. ตตฺถ โลกิยานํ สีลสมาธิปฺานํ อุปฺปาทนํ, ตาหิ จ สนฺตานวาสนํ โลกิยภาวนา. โลกุตฺตรานํ อุปฺปาทนํ, ตาหิ จ สนฺตานวาสนํ โลกุตฺตรภาวนา. ตาสุ อิธ โลกุตฺตรา อธิปฺเปตา. โลกุตฺตรานิ หิ สีลาทีนิ จตุพฺพิธมฺเปตํ าณํ อุปฺปาเทติ. เตสํ สหชาตปจฺจยาทิตาย เตหิ จ สนฺตานํ วาเสตีติ โลกุตฺตรภาวนาวสฺส กิจฺจนฺติ.

เอวํ –

กิจฺจานิ ปริฺาทีนิ, ยานิ วุตฺตานิ อภิสมยกาเล;

ตานิ จ ยถาสภาเวน, ชานิตพฺพานิ สพฺพานีติ.

เอตฺตาวตา จ –

‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ. –

เอวํ สรูเปเนว อาภตาย ปฺาภาวนาย วิธานทสฺสนตฺถํ ยํ วุตฺตํ ‘‘มูลภูตา ทฺเว วิสุทฺธิโย สมฺปาเทตฺวา สรีรภูตา ปฺจ วิสุทฺธิโย สมฺปาเทนฺเตน ภาเวตพฺพา’’ติ, ตํ วิตฺถาริตํ โหติ. กถํ ภาเวตพฺพาติ อยฺจ ปฺโห วิสฺสชฺชิโตติ.

อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค

ปฺาภาวนาธิกาเร

าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทโส นาม

พาวีสติโม ปริจฺเฉโท.