📜
๒๓. ปฺาภาวนานิสํสนิทฺเทโส
อานิสํสปกาสนา
๘๕๔. ยํ ¶ ¶ ปน วุตฺตํ ‘‘ปฺาภาวนาย โก อานิสํโส’’ติ, ตตฺถ วทาม. อยฺหิ ปฺาภาวนา นาม อเนกสตานิสํสา. ตสฺสา ทีเฆนาปิ อทฺธุนา น สุกรํ วิตฺถารโต อานิสํสํ ปกาเสตุํ. สงฺเขปโต ปนสฺสา นานากิเลสวิทฺธํสนํ, อริยผลรสานุภวนํ, นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนสมตฺถตา, อาหุเนยฺยภาวาทิสิทฺธีติ อยมานิสํโส เวทิตพฺโพ.
นานากิเลสวิทฺธํสนกถา
๘๕๕. ตตฺถ ยํ นามรูปปริจฺเฉทโต ปฏฺาย สกฺกายทิฏฺาทีนํ วเสน นานากิเลสวิทฺธํสนํ วุตฺตํ, อยํ โลกิกาย ปฺาภาวนาย อานิสํโส. ยํ อริยมคฺคกฺขเณ สํโยชนาทีนํ วเสน นานากิเลสวิทฺธํสนํ วุตฺตํ, อยํ โลกุตฺตราย ปฺาภาวนาย อานิสํโสติ เวทิตพฺโพ.
ภีมเวคานุปติตา, อสนีว สิลุจฺจเย;
วายุเวคสมุฏฺิโต, อรฺมิว ปาวโก.
อนฺธการํ วิย รวิ, สเตชุชฺชลมณฺฑโล;
ทีฆรตฺตานุปติตํ, สพฺพานตฺถวิธายกํ.
กิเลสชาลํ ปฺา หิ, วิทฺธํสยติ ภาวิตา;
สนฺทิฏฺิกมโต ชฺา, อานิสํสมิมํ อิธ.
ผลสมาปตฺติกถา
๘๕๖. อริยผลรสานุภวนนฺติ ¶ น เกวลฺจ กิเลสวิทฺธํสนฺเว, อริยผลรสานุภวนมฺปิ ปฺาภาวนาย อานิสํโส. อริยผลนฺติ หิ โสตาปตฺติผลาทิ สามฺผลํ วุจฺจติ. ตสฺส ทฺวีหากาเรหิ รสานุภวนํ โหติ. มคฺควีถิยฺจ ผลสมาปตฺติวเสน จ ปวตฺติยํ. ตตฺราสฺส มคฺควีถิยํ ปวตฺติ ทสฺสิตาเยว.
๘๕๗. อปิจ ¶ เย ‘‘สํโยชนปฺปหานมตฺตเมว ผลํ นาม, น โกจิ อฺโ ธมฺโม อตฺถี’’ติ วทนฺติ, เตสํ อนุนยตฺถํ อิทํ สุตฺตมฺปิ ทสฺเสตพฺพํ – ‘‘กถํ ปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธิปฺา ผเล าณํ? โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ทสฺสนฏฺเน สมฺมาทิฏฺิ มิจฺฉาทิฏฺิยา วุฏฺาติ, ตทนุวตฺตกกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺาติ, พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหิ วุฏฺาติ. ตมฺปโยคปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา อุปฺปชฺชติ สมฺมาทิฏฺิ, มคฺคสฺเสตํ ผล’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๖๓) วิตฺถาเรตพฺพํ.
‘‘จตฺตาโร มคฺคา อปริยาปนฺนา, จตฺตาริ จ สามฺผลานิ, อิเม ธมฺมา อปฺปมาณารมฺมณา’’ (ธ. ส. ๑๔๒๒). ‘‘มหคฺคโต ธมฺโม อปฺปมาณสฺส ธมฺมสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๒.๑๒.๖๒) เอวมาทีนิปิ เจตฺถ สาธกานิ.
๘๕๘. ผลสมาปตฺติยํ ปวตฺติทสฺสนตฺถํ ปนสฺส อิทํ ปฺหากมฺมํ – กา ผลสมาปตฺติ, เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺติ, กสฺมา สมาปชฺชนฺติ, กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ านํ, กถํ วุฏฺานํ, กึ ผลสฺส อนนฺตรํ, กสฺส จ ผลํ อนนฺตรนฺติ?
๘๕๙. ตตฺถ กา ผลสมาปตฺตีติ ยา อริยผลสฺส นิโรเธ อปฺปนา.
๘๖๐. เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺตีติ สพฺเพปิ ปุถุชฺชนา น สมาปชฺชนฺติ. กสฺมา? อนธิคตตฺตา. อริยา ปน สพฺเพปิ สมาปชฺชนฺติ. กสฺมา? อธิคตตฺตา. อุปริมา ปน เหฏฺิมํ น สมาปชฺชนฺติ, ปุคฺคลนฺตรภาวุปคมเนน ปฏิปฺปสฺสทฺธตฺตา. เหฏฺิมา จ อุปริมํ, อนธิคตตฺตา. อตฺตโน อตฺตโนเยว ปน ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ อิทเมตฺถ สนฺนิฏฺานํ.
เกจิ ปน ‘‘โสตาปนฺนสกทาคามิโนปิ น สมาปชฺชนฺติ. อุปริมา ทฺเวเยว สมาปชฺชนฺตี’’ติ ¶ วทนฺติ. อิทฺจ เตสํ การณํ, เอเต หิ สมาธิสฺมึ ปริปูรการิโนติ. ตํ ปุถุชฺชนสฺสาปิ อตฺตนา ปฏิลทฺธโลกิยสมาธิสมาปชฺชนโต อการณเมว. กิฺเจตฺถ การณาการณจินฺตาย. นนุ ปาฬิยํเยว วุตฺตํ – ‘‘กตเม ทส โคตฺรภุธมฺมา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ? โสตาปตฺติมคฺคปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ…เป… อุปายาสํ พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภุ. โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย สกทาคามิมคฺคํ ¶ …เป… อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย… สฺุตวิหารสมาปตฺตตฺถาย… อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… พหิทฺธา สงฺขารนิมิตฺตํ อภิภุยฺยตีติ โคตฺรภู’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๖๐). ตสฺมา สพฺเพปิ อริยา อตฺตโน อตฺตโน ผลํ สมาปชฺชนฺตีติ นิฏฺเมตฺถ คนฺตพฺพํ.
๘๖๑. กสฺมา สมาปชฺชนฺตีติ ทิฏฺธมฺมสุขวิหารตฺถํ. ยถา หิ ราชา รชฺชสุขํ, เทวตา ทิพฺพสุขํ อนุภวนฺติ, เอวํ อริยา ‘‘อริยํ โลกุตฺตรสุขํ อนุภวิสฺสามา’’ติ อทฺธานปฺปริจฺเฉทํ กตฺวา อิจฺฉิติจฺฉิตกฺขเณ ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชนฺติ.
๘๖๒. กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ านํ, กถํ วุฏฺานนฺติ ทฺวีหิ ตาว อากาเรหิ อสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ – นิพฺพานโต อฺสฺส อารมฺมณสฺส อมนสิการา นิพฺพานสฺส จ มนสิการา. ยถาห – ‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา สมาปตฺติยา สพฺพนิมิตฺตานฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘).
๘๖๓. อยมฺปเนตฺถ สมาปชฺชนกฺกโม. ผลสมาปตฺตตฺถิเกน หิ อริยสาวเกน รโหคเตน ปฏิสลฺลีเนน อุทยพฺพยาทิวเสน สงฺขารา วิปสฺสิตพฺพา. ตสฺส ปวตฺตานุปุพฺพวิปสฺสนสฺส สงฺขารารมฺมณโคตฺรภุาณานนฺตรา ผลสมาปตฺติวเสน นิโรเธ จิตฺตํ อปฺเปติ. ผลสมาปตฺตินินฺนตาย เจตฺถ เสกฺขสฺสาปิ ผลเมว อุปฺปชฺชติ, น มคฺโค.
เย ปน วทนฺติ ‘‘โสตาปนฺโน ‘ผลสมาปตฺตึ สมาปชฺชิสฺสามี’ติ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา สกทาคามี โหติ. สกทาคามี จ อนาคามี’’ติ, เต วตฺตพฺพา ‘‘เอวํ สติ อนาคามี อรหา ภวิสฺสติ, อรหา ปจฺเจกพุทฺโธ, ปจฺเจกพุทฺโธ จ พุทฺโธ. ตสฺมา น กิฺจิ เอตํ, ปาฬิวเสเนว จ ปฏิกฺขิตฺต’’นฺติปิ น คเหตพฺพํ. อิทเมว ปน คเหตพฺพํ – เสกฺขสฺสาปิ ผลเมว ¶ อุปฺปชฺชติ, น มคฺโค. ผลฺจสฺส สเจ อเนน ปมชฺฌานิโก มคฺโค อธิคโต โหติ. ปมชฺฌานิกเมว อุปฺปชฺชติ. สเจ ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิโก, ทุติยาทีสุ อฺตรชฺฌานิกเมวาติ. เอวํ ตาวสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ.
๘๖๔. ‘‘ตโย ¶ โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา ิติยา สพฺพนิมิตฺตานฺจ อมนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา มนสิกาโร, ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘) วจนโต ปนสฺสา ตีหากาเรหิ านํ โหติ. ตตฺถ ปุพฺเพ จ อภิสงฺขาโรติ สมาปตฺติโต ปุพฺเพ กาลปริจฺเฉโท. ‘‘อสุกสฺมึ นาม กาเล วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปริจฺฉินฺนตฺตา หิสฺสา ยาว โส กาโล นาคจฺฉติ, ตาว านํ โหติ. เอวมสฺสา านํ โหตีติ.
๘๖๕. ‘‘ทฺเว โข, อาวุโส, ปจฺจยา อนิมิตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา วุฏฺานาย สพฺพนิมิตฺตานฺจ มนสิกาโร, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา อมนสิกาโร’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๘) วจนโต ปนสฺสา ทฺวีหากาเรหิ วุฏฺานํ โหติ. ตตฺถ สพฺพนิมิตฺตานนฺติ รูปนิมิตฺตเวทนาสฺาสงฺขารวิฺาณนิมิตฺตานํ. กามฺจ น สพฺพาเนเวตานิ เอกโต มนสิกโรติ สพฺพสงฺคาหิกวเสน ปเนตํ วุตฺตํ. ตสฺมา ยํ ภวงฺคสฺส อารมฺมณํ โหติ, ตํ มนสิกโรโต ผลสมาปตฺติวุฏฺานํ โหตีติ เอวมสฺสา วุฏฺานํ เวทิตพฺพํ.
๘๖๖. กึ ผลสฺส อนนฺตรํ, กสฺส จ ผลํ อนนฺตรนฺติ ผลสฺส ตาว ผลเมว วา อนนฺตรํ โหติ, ภวงฺคํ วา. ผลํ ปน อตฺถิ มคฺคานนฺตรํ, อตฺถิ ผลานนฺตรํ, อตฺถิ โคตฺรภุอนนฺตรํ, อตฺถิ เนวสฺานาสฺายตนานนฺตรํ. ตตฺถ มคฺควีถิยํ มคฺคานนฺตรํ, ปุริมสฺส ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ ปจฺฉิมํ ผลานนฺตรํ. ผลสมาปตฺตีสุ ปุริมํ ปุริมํ โคตฺรภุอนนฺตรํ. โคตฺรภูติ เจตฺถ อนุโลมํ เวทิตพฺพํ. วุตฺตฺเหตํ ปฏฺาเน – ‘‘อรหโต อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย. เสกฺขานํ อนุโลมํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗). เยน ผเลน นิโรธา วุฏฺานํ โหติ, ตํ เนวสฺานาสฺายตนานนฺตรนฺติ. ตตฺถ เปตฺวา มคฺควีถิยํ อุปฺปนฺนํ ผลํ อวเสสํ สพฺพํ ผลสมาปตฺติวเสน ปวตฺตํ นาม. เอวเมตํ มคฺควีถิยํ ผลสมาปตฺติยํ วา อุปฺปชฺชนวเสน,
ปฏิปฺปสฺสทฺธทรถํ ¶ , อมตารมฺมณํ สุภํ;
วนฺตโลกามิสํ สนฺตํ, สามฺผลมุตฺตมํ.
โอชวนฺเตน สุจินา, สุเขน อภิสนฺทิตํ;
เยน สาตาติสาเตน, อมเตน มธุํ วิย.
ตํ ¶ สุขํ ตสฺส อริยสฺส, รสภูตมนุตฺตรํ;
ผลสฺส ปฺํ ภาเวตฺวา, ยสฺมา วินฺทติ ปณฺฑิโต.
ตสฺมา อริยผลสฺเสตํ, รสานุภวนํ อิธ;
วิปสฺสนาภาวนาย, อานิสํโสติ วุจฺจติ.
นิโรธสมาปตฺติกถา
๘๖๗. นิโรธสมาปตฺติสมาปชฺชนสมตฺถตาติ น เกวลฺจ อริยผลรสานุภวนํเยว, อยํ ปน นิโรธสมาปตฺติยา สมาปชฺชนสมตฺถตาปิ อิมิสฺสา ปฺาภาวนาย อานิสํโสติ เวทิตพฺโพ.
ตตฺริทํ นิโรธสมาปตฺติยา วิภาวนตฺถํ ปฺหากมฺมํ – กา นิโรธสมาปตฺติ, เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺติ, กตฺถ สมาปชฺชนฺติ, กสฺมา สมาปชฺชนฺติ, กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหติ, กถํ านํ, กถํ วุฏฺานํ, วุฏฺิตสฺส กึนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, มตสฺส จ สมาปนฺนสฺส จ โก วิเสโส, นิโรธสมาปตฺติ กึ สงฺขตา อสงฺขตา โลกิยา โลกุตฺตรา นิปฺผนฺนา อนิปฺผนฺนาติ?
๘๖๘. ตตฺถ กา นิโรธสมาปตฺตีติ ยา อนุปุพฺพนิโรธวเสน จิตฺตเจตสิกานํ ธมฺมานํ อปฺปวตฺติ. เก ตํ สมาปชฺชนฺติ, เก น สมาปชฺชนฺตีติ สพฺเพปิ ปุถุชฺชนา, โสตาปนฺนา, สกทาคามิโน, สุกฺขวิปสฺสกา จ อนาคามิโน, อรหนฺโต น สมาปชฺชนฺติ. อฏฺสมาปตฺติลาภิโน ปน อนาคามิโน, ขีณาสวา จ สมาปชฺชนฺติ. ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ¶ , ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา, โสฬสหิ าณจริยาหิ, นวหิ สมาธิจริยาหิ วสีภาวตา ปฺา นิโรธสมาปตฺติยา าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. มาติกา ๑.๓๔) หิ วุตฺตํ. อยฺจ สมฺปทา เปตฺวา อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อนาคามิขีณาสเว อฺเสํ นตฺถิ. ตสฺมา เตเยว สมาปชฺชนฺติ, น อฺเ.
๘๖๙. กตมานิ ปเนตฺถ ทฺเว พลานิ…เป… กตมา วสีภาวตาติ? น เอตฺถ กิฺจิ อมฺเหหิ วตฺตพฺพํ อตฺถิ. สพฺพมิทํ เอตสฺส อุทฺเทสสฺส นิทฺเทเส วุตฺตเมว. ยถาห –
‘‘ทฺวีหิ ¶ พเลหีติ ทฺเว พลานิ สมถพลํ วิปสฺสนาพลํ. กตมํ สมถพลํ? เนกฺขมฺมวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิกฺเขโป สมถพลํ. อพฺยาปาทวเสน… อาโลกสฺาวเสน… อวิกฺเขปวเสน…เป… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิอสฺสาสวเสน… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสิปสฺสาสวเสน จิตฺตสฺส เอกคฺคตา อวิกฺเขโป สมถพลนฺติ. เกนฏฺเน สมถพลํ? ปมชฺฌาเนน นีวรเณ น กมฺปตีติ สมถพลํ. ทุติยชฺฌาเนน วิตกฺกวิจาเร…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยา อากิฺจฺายตนสฺาย น กมฺปตีติ สมถพลํ. อุทฺธจฺเจ จ อุทฺธจฺจสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปติ น จลติ น เวธตีติ สมถพลํ. อิทํ สมถพลํ.
‘‘กตมํ วิปสฺสนาพลํ? อนิจฺจานุปสฺสนา วิปสฺสนาพลํ. ทุกฺขานุปสฺสนา… อนตฺตานุปสฺสนา… นิพฺพิทานุปสฺสนา… วิราคานุปสฺสนา… นิโรธานุปสฺสนา… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา วิปสฺสนาพลํ. รูเป อนิจฺจานุปสฺสนา…เป… รูเป ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา วิปสฺสนาพลํ. เวทนาย… สฺาย… สงฺขาเรสุ… วิฺาเณ… จกฺขุสฺมึ…เป… ชรามรเณ อนิจฺจานุปสฺสนา. ชรามรเณ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา วิปสฺสนาพลนฺติ. เกนฏฺเน วิปสฺสนาพลํ? อนิจฺจานุปสฺสนาย นิจฺจสฺาย น กมฺปตีติ วิปสฺสนาพลํ. ทุกฺขานุปสฺสนาย สุขสฺาย น กมฺปตีติ… อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสฺาย น กมฺปตีติ… นิพฺพิทานุปสฺสนาย นนฺทิยา น กมฺปตีติ… วิราคานุปสฺสนาย ราเค น กมฺปตีติ… นิโรธานุปสฺสนาย สมุทเย น กมฺปตีติ… ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย อาทาเน น กมฺปตีติ วิปสฺสนาพลํ. อวิชฺชาย ¶ จ อวิชฺชาสหคตกิเลเส จ ขนฺเธ จ น กมฺปติ น จลติ น เวธตีติ วิปสฺสนาพลํ. อิทํ วิปสฺสนาพลํ.
‘‘ตโย จ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ กตเมสํ ติณฺณนฺนํ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา? ทุติยชฺฌานํ สมาปนฺนสฺส วิตกฺกวิจารา วจีสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ. จตุตฺถํ ฌานํ สมาปนฺนสฺส อสฺสาสปสฺสาสา กายสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ. สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺนสฺส สฺา จ เวทนา จ จิตฺตสงฺขารา ปฏิปฺปสฺสทฺธา โหนฺติ. อิเมสํ ติณฺณนฺนํ สงฺขารานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา.
‘‘โสฬสหิ ¶ าณจริยาหีติ กตมาหิ โสฬสหิ าณจริยาหิ? อนิจฺจานุปสฺสนา าณจริยา. ทุกฺขา… อนตฺตา… นิพฺพิทา… วิราคา… นิโรธา… ปฏินิสฺสคฺคา… วิวฏฺฏานุปสฺสนา าณจริยา. โสตาปตฺติมคฺโค าณจริยา. โสตาปตฺติผลสมาปตฺติ าณจริยา. สกทาคามิมคฺโค…เป… อรหตฺตผลสมาปตฺติ าณจริยา. อิมาหิ โสฬสหิ าณจริยาหิ.
‘‘นวหิ สมาธิจริยาหีติ กตมาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ? ปมชฺฌานํ สมาธิจริยา. ทุติยชฺฌานํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติ สมาธิจริยา. ปมชฺฌานปฏิลาภตฺถาย วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปฏิลาภตฺถาย วิตกฺโก จ วิจาโร จ ปีติ จ สุขฺจ จิตฺเตกคฺคตา จ. อิมาหิ นวหิ สมาธิจริยาหิ.
‘‘วสีติ ปฺจ วสิโย – อาวชฺชนวสี, สมาปชฺชนวสี, อธิฏฺานวสี, วุฏฺานวสี, ปจฺจเวกฺขณวสี. ปมชฺฌานํ ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ อาวชฺชติ, อาวชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ อาวชฺชนวสี. ปมชฺฌานํ ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ สมาปชฺชติ, สมาปชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ สมาปชฺชนวสี…เป… อธิฏฺาติ อธิฏฺาเน…เป… วุฏฺาติ วุฏฺาเน…เป… ปจฺจเวกฺขติ ปจฺจเวกฺขณาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ ปจฺจเวกฺขณวสี. ทุติยํ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ยตฺถิจฺฉกํ ยทิจฺฉกํ ยาวติจฺฉกํ อาวชฺชติ ¶ …เป… ปจฺจเวกฺขติ. ปจฺจเวกฺขณาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ ปจฺจเวกฺขณวสี. อิมา ปฺจ วสิโย’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๓).
๘๗๐. เอตฺถ จ ‘‘โสฬสหิ าณจริยาหี’’ติ อุกฺกฏฺนิทฺเทโส เอส. อนาคามิโน ปน จุทฺทสหิ าณจริยาหิ โหติ. ยทิ เอวํ สกทาคามิโน ทฺวาทสหิ โสตาปนฺนสฺส จ ทสหิ กึ น โหตีติ? น โหติ, สมาธิปาริพนฺธิกสฺส ปฺจ กามคุณิกราคสฺส อปฺปหีนตฺตา. เตสํ หิ โส อปฺปหีโน. ตสฺมา สมถพลํ น ปริปุณฺณํ โหติ, ตสฺมึ อปริปูเร ทฺวีหิ พเลหิ สมาปชฺชิตพฺพํ นิโรธสมาปตฺตึ พลเวกลฺเลน สมาปชฺชิตุํ น สกฺโกนฺติ. อนาคามิสฺส ปน โส ปหีโน, ตสฺมา เอส ปริปุณฺณพโล ¶ โหติ. ปริปุณฺณพลตฺตา สกฺโกติ. เตนาห ภควา – ‘‘นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส เนวสฺานาสฺายตนกุสลํ ผลสมาปตฺติยา อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗). อิทฺหิ ปฏฺาเน มหาปกรเณ อนาคามิโนว นิโรธา วุฏฺานํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ.
๘๗๑. กตฺถ สมาปชฺชนฺตีติ ปฺจโวการภเว. กสฺมา? อนุปุพฺพสมาปตฺติสพฺภาวโต. จตุโวการภเว ปน ปมชฺฌานาทีนํ อุปฺปตฺติ นตฺถิ. ตสฺมา น สกฺกา ตตฺถ สมาปชฺชิตุนฺติ. เกจิ ปน ‘‘วตฺถุสฺส อภาวา’’ติ วทนฺติ.
๘๗๒. กสฺมา สมาปชฺชนฺตีติ สงฺขารานํ ปวตฺติเภเท อุกฺกณฺิตฺวา ทิฏฺเว ธมฺเม อจิตฺตกา หุตฺวา ‘‘นิโรธํ นิพฺพานํ ปตฺวา สุขํ วิหริสฺสามา’’ติ สมาปชฺชนฺติ.
๘๗๓. กถฺจสฺสา สมาปชฺชนํ โหตีติ สมถวิปสฺสนาวเสน อุสฺสกฺกิตฺวา กตปุพฺพกิจฺจสฺส เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรธยโต, เอวมสฺส สมาปชฺชนํ โหติ. โย หิ สมถวเสเนว อุสฺสกฺกติ, โส เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปตฺวา ติฏฺติ. โย ปน วิปสฺสนาวเสเนว อุสฺสกฺกติ, โส ผลสมาปตฺตึ ปตฺวา ติฏฺติ. โย ปน อุภยวเสเนว อุสฺสกฺกิตฺวา ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ นิโรเธติ, โส ตํ สมาปชฺชตีติ อยเมตฺถ สงฺเขโป.
๘๗๔. อยํ ปน วิตฺถาโร – อิธ ภิกฺขุ นิโรธํ สมาปชฺชิตุกาโม กตภตฺตกิจฺโจ สุโธตหตฺถปาโท ¶ วิวิตฺเต โอกาเส สุปฺตฺตมฺหิ อาสเน นิสีทติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย ปริมุขํ สตึ อุปฏฺเปตฺวา, โส ปมํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต วิปสฺสติ.
วิปสฺสนา ปเนสา ติวิธา โหติ – สงฺขารปริคณฺหนกวิปสฺสนา, ผลสมาปตฺติวิปสฺสนา, นิโรธสมาปตฺติวิปสฺสนาติ. ตตฺถ สงฺขารปริคณฺหนกวิปสฺสนา มนฺทา วา โหตุ ติกฺขา วา, มคฺคสฺส ปทฏฺานํ โหติเยว. ผลสมาปตฺติวิปสฺสนา ¶ ติกฺขาว วฏฺฏติ มคฺคภาวนาสทิสา. นิโรธสมาปตฺติวิปสฺสนา ปน นาติมนฺทนาติติกฺขา วฏฺฏติ. ตสฺมา เอส นาติมนฺทาย นาติติกฺขาย วิปสฺสนาย เต สงฺขาเร วิปสฺสติ.
ตโต ทุติยํ ฌานํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร ตเถว วิปสฺสติ. ตโต ตติยํ ฌานํ…เป… ตโต วิฺาณฺจายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย ตตฺถ สงฺขาเร ตเถว วิปสฺสติ. ตถา อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย จตุพฺพิธํ ปุพฺพกิจฺจํ กโรติ – นานาพทฺธอวิโกปนํ, สงฺฆปฏิมานนํ, สตฺถุปกฺโกสนํ, อทฺธานปริจฺเฉทนฺติ.
๘๗๕. ตตฺถ นานาพทฺธอวิโกปนนฺติ ยํ อิมินา ภิกฺขุนา สทฺธึ เอกาพทฺธํ น โหติ, นานาพทฺธํ หุตฺวา ิตํ ปตฺตจีวรํ วา มฺจปีํ วา นิวาสเคหํ วา อฺํ วา ปน กิฺจิ ปริกฺขารชาตํ, ตํ ยถา น วิกุปฺปติ, อคฺคิอุทกวาตโจรอุนฺทูราทีนํ วเสน น วินสฺสติ, เอวํ อธิฏฺาตพฺพํ.
ตตฺริทํ อธิฏฺานวิธานํ ‘‘อิทฺจ อิทฺจ อิมสฺมึ สตฺตาหพฺภนฺตเร มา อคฺคินา ฌายตุ, มา อุทเกน วุยฺหตุ, มา วาเตน วิทฺธํสตุ, มา โจเรหิ หริยตุ, มา อุนฺทูราทีหิ ขชฺชตู’’ติ. เอวํ อธิฏฺิเต ตํ สตฺตาหํ ตสฺส น โกจิ ปริสฺสโย โหติ.
อนธิฏฺหโต ปน อคฺคิอาทีหิ วินสฺสติ มหานาคตฺเถรสฺส วิย. เถโร กิร มาตุอุปาสิกาย คามํ ปิณฺฑาย ปาวิสิ. อุปาสิกา ยาคุํ ทตฺวา อาสนสาลาย นิสีทาเปสิ. เถโร นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสีทิ. ตสฺมึ นิสินฺเน อาสนสาลาย อคฺคินา คหิตาย เสสภิกฺขู อตฺตโน อตฺตโน นิสินฺนาสนํ คเหตฺวา ปลายึสุ. คามวาสิกา สนฺนิปติตฺวา ¶ เถรํ ทิสฺวา ‘‘อลสสมโณ’’ติ อาหํสุ. อคฺคิ ติณเวณุกฏฺานิ ฌาเปตฺวา เถรํ ปริกฺขิปิตฺวา อฏฺาสิ. มนุสฺสา ฆเฏหิ อุทกํ อาหริตฺวา นิพฺพาเปตฺวา ฉาริกํ อปเนตฺวา ปริภณฺฑํ กตฺวา ปุปฺผานิ วิกิริตฺวา นมสฺสมานา อฏฺํสุ. เถโร ปริจฺฉินฺนกาลวเสน วุฏฺาย เต ทิสฺวา ‘‘ปากโฏมฺหิ ชาโต’’ติ เวหาสํ อุปฺปติตฺวา ปิยงฺคุทีปํ อคมาสิ. อิทํ นานาพทฺธอวิโกปนํ นาม.
ยํ เอกาพทฺธํ โหติ นิวาสนปาวุรณํ วา นิสินฺนาสนํ วา, ตตฺถ วิสุํ อธิฏฺานกิจฺจํ นตฺถิ. สมาปตฺติวเสเนว นํ รกฺขติ อายสฺมโต สฺชีวสฺส วิย ¶ . วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อายสฺมโต สฺชีวสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธิ, อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส สมาธิวิปฺผารา อิทฺธี’’ติ.
๘๗๖. สงฺฆปฏิมานนนฺติ สงฺฆสฺส ปฏิมานนํ อุทิกฺขนํ. ยาว เอโส ภิกฺขุ อาคจฺฉติ, ตาว สงฺฆกมฺมสฺส อกรณนฺติ อตฺโถ. เอตฺถ จ น ปฏิมานนํ เอตสฺส ปุพฺพกิจฺจํ, ปฏิมานนาวชฺชนํ ปน ปุพฺพกิจฺจํ. ตสฺมา เอวํ อาวชฺชิตพฺพํ ‘‘สเจ มยิ สตฺตาหํ นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน สงฺโฆ อุตฺติกมฺมาทีสุ กิฺจิเทว กมฺมํ กตฺตุกาโม โหติ, ยาว มํ โกจิ ภิกฺขุ อาคนฺตฺวา น ปกฺโกสติ, ตาวเทว วุฏฺหิสฺสามี’’ติ. เอวํ กตฺวา สมาปนฺโน หิ ตสฺมึ สมเย วุฏฺาติเยว.
โย ปน เอวํ น กโรติ, สงฺโฆ จ สนฺนิปติตฺวา ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก ภิกฺขุ กุหิ’’นฺติ ‘‘นิโรธสมาปนฺโน’’ติ วุตฺเต สงฺโฆ กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสติ ‘‘คจฺฉ นํ สงฺฆสฺส วจเนน ปกฺโกสาหี’’ติ. อถสฺส เตน ภิกฺขุนา สวนูปจาเร ตฺวา ‘‘สงฺโฆ ตํ อาวุโส ปฏิมาเนตี’’ติ วุตฺตมตฺเตว วุฏฺานํ โหติ. เอวํ ครุกา หิ สงฺฆสฺส อาณา นาม. ตสฺมา ตํ อาวชฺชิตฺวา ยถา สยเมว วุฏฺาติ, เอวํ สมาปชฺชิตพฺพํ.
๘๗๗. สตฺถุปกฺโกสนนฺติ อิธาปิ สตฺถุปกฺโกสนาวชฺชนเมว อิมสฺส กิจฺจํ. ตสฺมา ตมฺปิ เอวํ อาวชฺชิตพฺพํ ‘‘สเจ มยิ สตฺตาหํ นิโรธํ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺเน สตฺถา โอติณฺณวตฺถุสฺมึ สิกฺขาปทํ วา ปฺเปติ, ตถารูปาย วา อตฺถุปฺปตฺติยา ธมฺมํ เทเสติ, ยาว มํ ¶ โกจิ อาคนฺตฺวา น ปกฺโกสติ, ตาวเทว วุฏฺหิสฺสามี’’ติ. เอวํ กตฺวา นิสินฺโน หิ ตสฺมึ สมเย วุฏฺาติเยว.
โย ปน เอวํ น กโรติ, สตฺถา จ สงฺเฆ สนฺนิปติเต ตํ อปสฺสนฺโต ‘‘อสุโก ภิกฺขุ กุหิ’’นฺติ ‘‘นิโรธสมาปนฺโน’’ติ วุตฺเต กฺจิ ภิกฺขุํ เปเสติ ‘‘คจฺฉ นํ มม วจเนน ปกฺโกสา’’ติ. อถสฺส เตน ภิกฺขุนา สวนูปจาเร ตฺวา ‘‘สตฺถา อายสฺมนฺตํ อามนฺเตตี’’ติ วุตฺตมตฺเตว วุฏฺานํ โหติ. เอวํ ครุกํ หิ สตฺถุปกฺโกสนํ, ตสฺมา ตํ อาวชฺชิตฺวา ยถา สยเมว วุฏฺาติ, เอวํ สมาปชฺชิตพฺพํ.
๘๗๘. อทฺธานปริจฺเฉโทติ ชีวิตทฺธานสฺส ปริจฺเฉโท. อิมินา ภิกฺขุนา อทฺธานปริจฺเฉเท สุกุสเลน ภวิตพฺพํ. อตฺตโน ‘‘อายุสงฺขารา สตฺตาหํ ¶ ปวตฺติสฺสนฺติ น ปวตฺติสฺสนฺตี’’ติ อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตพฺพํ. สเจ หิ สตฺตาหพฺภนฺตเร นิรุชฺฌนเก อายุสงฺขาเร อนาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชติ, นาสฺส นิโรธสมาปตฺติ มรณํ ปฏิพาหิตุํ สกฺโกติ. อนฺโตนิโรเธ มรณสฺส นตฺถิตาย อนฺตราว สมาปตฺติโต วุฏฺาติ. ตสฺมา เอตํ อาวชฺชิตฺวาว สมาปชฺชิตพฺพํ. อวเสสํ หิ อนาวชฺชิตุมฺปิ วฏฺฏติ. อิทํ ปน อาวชฺชิตพฺพเมวาติ วุตฺตํ.
๘๗๙. โส เอวํ อากิฺจฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวา วุฏฺาย อิมํ ปุพฺพกิจฺจํ กตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ. อเถกํ วา ทฺเว วา จิตฺตวาเร อติกฺกมิตฺวา อจิตฺตโก โหติ, นิโรธํ ผุสติ. กสฺมา ปนสฺส ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปริจิตฺตานิ น ปวตฺตนฺตีติ? นิโรธสฺส ปโยคตฺตา. อิทฺหิ อิมสฺส ภิกฺขุโน ทฺเว สมถวิปสฺสนาธมฺเม ยุคนทฺเธ กตฺวา อฏฺ สมาปตฺติอาโรหนํ อนุปุพฺพนิโรธสฺส ปโยโค, น เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺติยาติ นิโรธสฺส ปโยคตฺตา ทฺวินฺนํ จิตฺตานํ อุปริ น ปวตฺตนฺติ.
โย ปน ภิกฺขุ อากิฺจฺายตนโต วุฏฺาย อิทํ ปุพฺพกิจฺจํ อกตฺวา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชติ, โส ปรโต อจิตฺตโก ภวิตุํ น สกฺโกติ, ปฏินิวตฺติตฺวา ปุน อากิฺจฺายตเนเยว ปติฏฺาติ. มคฺคํ อคตปุพฺพปุริสูปมา เจตฺถ วตฺตพฺพา –
เอโก ¶ กิร ปุริโส เอกํ มคฺคํ อคตปุพฺโพ อนฺตรา อุทกกนฺทรํ วา คมฺภีรํ อุทกจิกฺขลฺลํ อติกฺกมิตฺวา ปิตํ จณฺฑาตปสนฺตตฺตปาสาณํ วา อาคมฺม ตํ นิวาสนปาวุรณํ อสณฺเปตฺวาว กนฺทรํ โอรูฬฺโห ปริกฺขารเตมนภเยน ปุนเทว ตีเร ปติฏฺาติ. ปาสาณํ อกฺกมิตฺวาปิ สนฺตตฺตปาโท ปุนเทว โอรภาเค ปติฏฺาติ. ตตฺถ ยถา โส ปุริโส อสณฺปิตนิวาสนปาวุรณตฺตา กนฺทรํ โอติณฺณมตฺโตว, ตตฺตปาสาณํ อกฺกนฺตมตฺโต เอว จ ปฏินิวตฺติตฺวา โอรโตว ปติฏฺาติ, เอวํ โยคาวจโรปิ ปุพฺพกิจฺจสฺส อกตตฺตา เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปนฺนมตฺโตว ปฏินิวตฺติตฺวา อากิฺจฺายตเน ปติฏฺาติ.
ยถา ปน ปุพฺเพปิ ตํ มคฺคํ คตปุพฺพปุริโส ตํ านํ อาคมฺม เอกํ สาฏกํ ทฬฺหํ นิวาเสตฺวา อปรํ หตฺเถน คเหตฺวา กนฺทรํ อุตฺตริตฺวา ตตฺตปาสาณํ ¶ วา อกฺกนฺตมตฺตกเมว กริตฺวา ปรโต คจฺฉติ, เอวเมวํ กตปุพฺพกิจฺโจ ภิกฺขุ เนวสฺานาสฺายตนํ สมาปชฺชิตฺวาว ปรโต อจิตฺตโก หุตฺวา นิโรธํ ผุสิตฺวา วิหรติ.
๘๘๐. กถํ านนฺติ เอวํ สมาปนฺนาย ปนสฺสา กาลปริจฺเฉทวเสน เจว อนฺตราอายุกฺขยสงฺฆปฏิมานนสตฺถุปกฺโกสนาภาเวน จ านํ โหติ.
๘๘๑. กถํ วุฏฺานนฺติ อนาคามิสฺส อนาคามิผลุปฺปตฺติยา, อรหโต อรหตฺตผลุปฺปตฺติยาติ เอวํ ทฺเวธา วุฏฺานํ โหติ.
๘๘๒. วุฏฺิตสฺส กึนินฺนํ จิตฺตํ โหตีติ นิพฺพานนินฺนํ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘สฺาเวทยิตนิโรธสมาปตฺติยา วุฏฺิตสฺส โข, อาวุโส วิสาข, ภิกฺขุโน วิเวกนินฺนํ จิตฺตํ โหติ วิเวกโปณํ วิเวกปพฺภาร’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๔๖๔).
๘๘๓. มตสฺส จ สมาปนฺนสฺส จ โก วิเสโสติ อยมฺปิ อตฺโถ สุตฺเต วุตฺโตเยว. ยถาห – ‘‘ยฺวายํ, อาวุโส, มโต กาลงฺกโต, ตสฺส กายสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, วจีสงฺขารา… จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, อายุ ปริกฺขีโณ, อุสฺมา วูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ ปริภินฺนานิ. โย จายํ ภิกฺขุ สฺาเวทยิตนิโรธํ สมาปนฺโน, ตสฺสปิ กายสงฺขารา ¶ นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, วจีสงฺขารา… จิตฺตสงฺขารา นิรุทฺธา ปฏิปฺปสฺสทฺธา, อายุ อปริกฺขีโณ, อุสฺมา อวูปสนฺตา, อินฺทฺริยานิ อปริภินฺนานี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๗).
๘๘๔. นิโรธสมาปตฺติ สงฺขตาติอาทิปุจฺฉายํ ปน สงฺขตาติปิ อสงฺขตาติปิ โลกิยาติปิ โลกุตฺตราติปิ น วตฺตพฺพา. กสฺมา? สภาวโต นตฺถิตาย. ยสฺมา ปนสฺสา สมาปชฺชนฺตสฺส วเสน สมาปนฺนา นาม โหติ, ตสฺมา นิปฺผนฺนาติ วตฺตุํ วฏฺฏติ, โน อนิปฺผนฺนา.
อิติ สนฺตํ สมาปตฺตึ, อิมํ อริยนิเสวิตํ;
ทิฏฺเว ธมฺเม นิพฺพานมิติสงฺขํ อุปาคตํ;
ภาเวตฺวา อริยํ ปฺํ, สมาปชฺชนฺติ ปณฺฑิตา.
ยสฺมา ตสฺมา อิมิสฺสาปิ, สมาปตฺติสมตฺถตา;
อริยมคฺเคสุ ปฺาย, อานิสํโสติ วุจฺจตีติ.
อาหุเนยฺยภาวาทิสิทฺธิกถา
๘๘๕. อาหุเนยฺยภาวาทิสิทฺธีติ ¶ น เกวลฺจ นิโรธสมาปตฺติยา สมาปชฺชนสมตฺถตาว, อยํ ปน อาหุเนยฺยภาวาทิสิทฺธิปิ อิมิสฺสา โลกุตฺตรปฺาภาวนาย อานิสํโสติ เวทิตพฺโพ. อวิเสเสน หิ จตุพฺพิธายปิ เอติสฺสา ภาวิตตฺตา ภาวิตปฺโ ปุคฺคโล สเทวกสฺส โลกสฺส อาหุเนยฺโย โหติ ปาหุเนยฺโย ทกฺขิเณยฺโย อฺชลีกรณีโย อนุตฺตรํ ปฺุกฺเขตฺตํ โลกสฺส.
๘๘๖. วิเสสโต ปเนตฺถ ปมมคฺคปฺํ ตาว ภาเวตฺวา มนฺทาย วิปสฺสนาย อาคโต มุทินฺทฺริโยปิ สตฺตกฺขตฺตุปรโม นาม โหติ, สตฺตสุคติภเว สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. มชฺฌิมาย วิปสฺสนาย อาคโต มชฺฌิมินฺทฺริโย โกลํโกโล นาม โหติ, ทฺเว วา ตีณิ วา กุลานิ ¶ สนฺธาวิตฺวา สํสริตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. ติกฺขาย วิปสฺสนาย อาคโต ติกฺขินฺทฺริโย เอกพีชี นาม โหติ, เอกฺเว มานุสกํ ภวํ นิพฺพตฺเตตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ.
๘๘๗. ทุติยมคฺคปฺํ ภาเวตฺวา สกทาคามี นาม โหติ, สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ.
๘๘๘. ตติยมคฺคปฺํ ภาเวตฺวา อนาคามี นาม โหติ. โส อินฺทฺริยเวมตฺตตาวเสน อนฺตราปรินิพฺพายี, อุปหจฺจปรินิพฺพายี, อสงฺขารปรินิพฺพายี, สสงฺขารปรินิพฺพายี, อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ปฺจธา. อิธ วิหายนิฏฺโ โหติ. ตตฺถ อนฺตราปรินิพฺพายีติ ยตฺถ กตฺถจิ สุทฺธาวาสภเว อุปปชฺชิตฺวา อายุเวมชฺฌํ อปฺปตฺวาว ปรินิพฺพายติ. อุปหจฺจปรินิพฺพายีติ อายุเวมชฺฌํ อติกฺกมิตฺวา ปรินิพฺพายติ. อสงฺขารปรินิพฺพายีติ อสงฺขาเรน อปฺปโยเคน อุปริมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ. สสงฺขารปรินิพฺพายีติ สสงฺขาเรน สปฺปโยเคน อุปริมคฺคํ นิพฺพตฺเตติ. อุทฺธํโสโต อกนิฏฺคามีติ ยตฺถุปปนฺโน, ตโต อุทฺธํ ยาว อกนิฏฺภวา อารุยฺห ตตฺถ ปรินิพฺพายติ.
๘๘๙. จตุตฺถมคฺคปฺํ ภาเวตฺวา โกจิ สทฺธาวิมุตฺโต โหติ, โกจิ ปฺาวิมุตฺโต โหติ, โกจิ อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ, โกจิ เตวิชฺโช, โกจิ ฉฬภิฺโ, โกจิ ปฏิสมฺภิทปฺปเภทปฺปตฺโต มหาขีณาสโว. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘มคฺคกฺขเณ ปเนส ตํ ชฏํ วิชเฏติ นาม ¶ . ผลกฺขเณ วิชฏิตชโฏ สเทวกสฺส โลกสฺส อคฺคทกฺขิเณยฺโย โหตี’’ติ.
เอวํ อเนกานิสํสา, อริยปฺาย ภาวนา;
ยสฺมา ตสฺมา กเรยฺยาถ, รตึ ตตฺถ วิจกฺขโณ.
สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;
อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏนฺติ. –
อิมิสฺสา ¶ คาถาย สีลสมาธิปฺามุเขน เทสิเต วิสุทฺธิมคฺเค สานิสํสา ปฺาภาวนา ปริทีปิตา โหตีติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
ปฺาภาวนาธิกาเร
ปฺาภาวนานิสํสนิทฺเทโส นาม
เตวีสติโม ปริจฺเฉโท.
นิคมนกถา
๘๙๑. เอตฺตาวตา ¶ จ –
‘‘สีเล ปติฏฺาย นโร สปฺโ, จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยํ;
อาตาปี นิปโก ภิกฺขุ, โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’’นฺติ. –
อิมํ คาถํ นิกฺขิปิตฺวา ยทโวจุมฺห –
‘‘อิมิสฺสา ทานิ คาถาย, กถิตาย มเหสินา;
วณฺณยนฺโต ยถาภูตํ, อตฺถํ สีลาทิเภทนํ.
‘‘สุทุลฺลภํ ลภิตฺวาน, ปพฺพชฺชํ ชินสาสเน;
สีลาทิสงฺคหํ เขมํ, อุชุํ มคฺคํ วิสุทฺธิยา.
‘‘ยถาภูตํ อชานนฺตา, สุทฺธิกามาปิ เย อิธ;
วิสุทฺธึ นาธิคจฺฉนฺติ, วายมนฺตาปิ โยคิโน.
‘‘เตสํ ¶ ปาโมชฺชกรณํ, สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ;
มหาวิหารวาสีนํ, เทสนานยนิสฺสิตํ.
‘‘วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺสํ, ตํ เม สกฺกจฺจ ภาสโต;
วิสุทฺธิกามา สพฺเพปิ, นิสามยถ สาธโว’’ติ.
สฺวายํ ภาสิโต โหติ.
เตสํ สีลาทิเภทานํ, อตฺถานํ โย วินิจฺฉโย;
ปฺจนฺนมฺปิ นิกายานํ, วุตฺโต อฏฺกถานเย.
สมาหริตฺวา ตํ สพฺพํ, เยภุยฺเยน สนิจฺฉโย;
สพฺพสงฺกรโทเสหิ, มุตฺโต ยสฺมา ปกาสิโต.
ตสฺมา วิสุทฺธิกาเมหิ, สุทฺธปฺเหิ โยคิหิ;
วิสุทฺธิมคฺเค เอตสฺมึ, กรณีโยว อาทโรติ.
วิภชฺชวาทิเสฏฺานํ ¶ , เถริยานํ ยสสฺสินํ;
มหาวิหารวาสีนํ, วํสชสฺส วิภาวิโน.
ภทนฺตสงฺฆปาลสฺส, สุจิสลฺเลขวุตฺติโน;
วินยาจารยุตฺตสฺส, ยุตฺตสฺส ปฏิปตฺติยํ.
ขนฺติโสรจฺจเมตฺตาทิ-คุณภูสิตเจตโส;
อชฺเฌสนํ คเหตฺวาน, กโรนฺเตน อิมํ มยา.
สทฺธมฺมฏฺิติกาเมน ¶ , โย ปตฺโต ปฺุสฺจโย;
ตสฺส เตเชน สพฺเพปิ, สุขเมธนฺตุ ปาณิโน.
วิสุทฺธิมคฺโค เอโส จ, อนฺตรายํ วินา อิธ;
นิฏฺิโต อฏฺปฺาส-ภาณวาราย ปาฬิยา.
ยถา ตเถว โลกสฺส, สพฺเพ กลฺยาณนิสฺสิตา;
อนนฺตรายา อิชฺฌนฺตุ, สีฆํ สีฆํ มโนรถาติ.
๘๙๕. ปรม วิสุทฺธ สทฺธา พุทฺธิ วีริย ปฏิมณฺฑิเตน สีลาจารชฺชว มทฺทวาทิคุณสมุทยสมุทิเตน สกสมย สมยนฺตรคหนชฺโฌคาหณสมตฺเถน ปฺาเวยฺยตฺติยสมนฺนาคเตน ติปิฏกปริยตฺติเภเท สาฏฺกเถ สตฺถุสาสเน อปฺปฏิหตาณปฺปภาเวน มหาเวยฺยากรเณน กรณสมฺปตฺติชนิตสุขวินิคฺคตมธุโรทารวจนลาวณฺณยุตฺเตน ยุตฺตมุตฺตวาทินา วาทีวเรน มหากวินา ฉฬภิฺาปฏิสมฺภิทาทิ เภทคุณปฏิมณฺฑิเต อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม อปฺปฏิหตพุทฺธีนํ เถรวํสปฺปทีปานํ เถรานํ มหาวิหารวาสีนํ วํสาลงฺการภูเตน วิปุลวิสุทฺธพุทฺธินา พุทฺธโฆโสติ ครูหิ คหิตนามเธยฺเยน เถเรน มุทนฺตเขทกวตฺตพฺเพน กโต วิสุทฺธิมคฺโค นาม.
ตาว ติฏฺตุ โลกสฺมึ, โลกนิตฺถรเณสินํ;
ทสฺเสนฺโต กุลปุตฺตานํ, นยํ สีลาทิสุทฺธิยา.
ยาว ¶ พุทฺโธติ นามมฺปิ, สุทฺธจิตฺตสฺส ตาทิโน;
โลกมฺหิ โลกเชฏฺสฺส, ปวตฺตติ มเหสิโนติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กตา วิสุทฺธิมคฺคกถา,
ปาฬิคณนาย ปน สา อฏฺปฺาสภาณวารา โหตีติ.
วิสุทฺธิมคฺคปกรณํ นิฏฺิตํ.