📜
๒๑. ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทโส
อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยาณกถา
๗๓๗. อฏฺนฺนํ ¶ ¶ ปน าณานํ วเสน สิขาปฺปตฺตา วิปสฺสนา, นวมฺจ สจฺจานุโลมิกาณนฺติ อยํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม. อฏฺนฺนนฺติ เจตฺถ อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ วีถิปฏิปนฺนวิปสฺสนาสงฺขาตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณํ, ภงฺคานุปสฺสนาาณํ, ภยตุปฏฺานาณํ, อาทีนวานุปสฺสนาาณํ, นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ, มฺุจิตุกมฺยตาาณํ, ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ, สงฺขารุเปกฺขาาณนฺติ อิมานิ อฏฺ าณานิ เวทิตพฺพานิ. นวมํ สจฺจานุโลมิกาณนฺติ อนุโลมสฺเสตํ อธิวจนํ. ตสฺมา ตํ สมฺปาเทตุกาเมน อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ อุทยพฺพยาณํ อาทึ กตฺวา เอเตสุ าเณสุ โยโค กรณีโย.
๗๓๘. ปุน อุทยพฺพยาเณ โยโค กิมตฺถิโยติ เจ? ลกฺขณสลฺลกฺขณตฺโถ. อุทยพฺพยาณํ หิ เหฏฺา ทสหิ อุปกฺกิเลเสหิ อุปกฺกิลิฏฺํ หุตฺวา ยาถาวสรสโต ติลกฺขณํ สลฺลกฺเขตุํ นาสกฺขิ. อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ ปน สกฺโกติ. ตสฺมา ลกฺขณสลฺลกฺขณตฺถเมตฺถ ปุน โยโค กรณีโย.
๗๓๙. ลกฺขณานิ ปน กิสฺส อมนสิการา เกน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น อุปฏฺหนฺติ? อนิจฺจลกฺขณํ ตาว อุทยพฺพยานํ อมนสิการา สนฺตติยา ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น อุปฏฺาติ. ทุกฺขลกฺขณํ อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส อมนสิการา อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น อุปฏฺาติ. อนตฺตลกฺขณํ นานาธาตุวินิพฺโภคสฺส อมนสิการา ฆเนน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา น อุปฏฺาติ. อุทยพฺพยมฺปน ปริคฺคเหตฺวา สนฺตติยา วิโกปิตาย อนิจฺจลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ. อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนํ มนสิกตฺวา อิริยาปเถ อุคฺฆาฏิเต ทุกฺขลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ. นานาธาตุโย วินิพฺภุชิตฺวา ฆนวินิพฺโภเค กเต อนตฺตลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาติ.
๗๔๐. เอตฺถ ¶ จ อนิจฺจํ, อนิจฺจลกฺขณํ, ทุกฺขํ, ทุกฺขลกฺขณํ, อนตฺตา, อนตฺตลกฺขณนฺติ อยํ วิภาโค เวทิตพฺโพ. ตตฺถ อนิจฺจนฺติ ขนฺธปฺจกํ. กสฺมา? อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา ¶ , หุตฺวา อภาวโต วา. อุปฺปาทวยฺถตฺตํ อนิจฺจลกฺขณํ หุตฺวา อภาวสงฺขาโต วา อาการวิกาโร.
‘‘ยทนิจฺจํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) วจนโต ปน ตเทว ขนฺธปฺจกํ ทุกฺขํ. กสฺมา? อภิณฺหปฏิปีฬนา, อภิณฺหปฏิปีฬนากาโร ทุกฺขลกฺขณํ.
‘‘ยํ ทุกฺขํ ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕) ปน วจนโต ตเทว ขนฺธปฺจกํ อนตฺตา. กสฺมา? อวสวตฺตนโต, อวสวตฺตนากาโร อนตฺตลกฺขณํ.
ตยิทํ สพฺพมฺปิ อยํ โยคาวจโร อุปกฺกิเลสวิมุตฺเตน วีถิปฏิปนฺนวิปสฺสนาสงฺขาเตน อุทยพฺพยานุปสฺสนาาเณน ยาถาวสรสโต สลฺลกฺเขติ.
อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยาณํ นิฏฺิตํ.
ภงฺคานุปสฺสนาาณกถา
๗๔๑. ตสฺเสวํ สลฺลกฺเขตฺวา ปุนปฺปุนํ ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ รูปารูปธมฺเม ตุลยโต ตีรยโต ตํ าณํ ติกฺขํ หุตฺวา วหติ, สงฺขารา ลหุํ อุปฏฺหนฺติ, าเณ ติกฺเข วหนฺเต สงฺขาเรสุ ลหุํ อุปฏฺหนฺเตสุ อุปฺปาทํ วา ิตึ วา ปวตฺตํ วา นิมิตฺตํ วา น สมฺปาปุณาติ. ขยวยเภทนิโรเธเยว สติ สนฺติฏฺติ. ตสฺส ‘‘เอวํ อุปฺปชฺชิตฺวา เอวํ นาม สงฺขารคตํ นิรุชฺฌตี’’ติ ปสฺสโต เอตสฺมึ าเน ภงฺคานุปสฺสนํ นาม วิปสฺสนาาณํ อุปฺปชฺชติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘กถํ อารมฺมณปฏิสงฺขา ภงฺคานุปสฺสเน ปฺา วิปสฺสเน าณํ? รูปารมฺมณตา จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชติ, ตํ อารมฺมณํ ปฏิสงฺขา ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสติ ¶ . อนุปสฺสตีติ กถํ อนุปสฺสติ? อนิจฺจโต อนุปสฺสติ โน นิจฺจโต, ทุกฺขโต อนุปสฺสติ โน สุขโต, อนตฺตโต อนุปสฺสติ โน อตฺตโต, นิพฺพินฺทติ โน นนฺทติ, วิรชฺชติ โน รชฺชติ, นิโรเธติ โน สมุเทติ, ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยติ.
‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหติ. ทุกฺขโต อนุปสฺสนฺโต สุขสฺํ, อนตฺตโต อนุปสฺสนฺโต อตฺตสฺํ, นิพฺพินฺทนฺโต ¶ นนฺทึ, วิรชฺชนฺโต ราคํ, นิโรเธนฺโต สมุทยํ ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหติ.
‘‘เวทนารมฺมณตา…เป… สฺารมฺมณตา… สงฺขารารมฺมณตา… วิฺาณารมฺมณตา… จกฺขารมฺมณตา…เป… ชรามรณารมฺมณตา จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชติ…เป… ปฏินิสฺสชฺชนฺโต อาทานํ ปชหติ.
‘‘วตฺถุสงฺกมนา เจว, ปฺาย จ วิวฏฺฏนา;
อาวชฺชนาพลฺเจว, ปฏิสงฺขาวิปสฺสนา.
‘‘อารมฺมณอนฺวเยน, อุโภ เอกววตฺถนา;
นิโรเธ อธิมุตฺตตา, วยลกฺขณวิปสฺสนา.
‘‘อารมฺมณฺจ ปฏิสงฺขา, ภงฺคฺจ อนุปสฺสติ;
สฺุโต จ อุปฏฺานํ, อธิปฺาวิปสฺสนา.
‘‘กุสโล ตีสุ อนุปสฺสนาสุ, จตสฺโส จ วิปสฺสนาสุ;
ตโย อุปฏฺาเน กุสลตา, นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตี’’ติ.
‘‘ตํ าตฏฺเน าณํ, ปชานนฏฺเน ปฺา, เตน วุจฺจติ ‘อารมฺมณปฏิสงฺขา ภงฺคานุปสฺสเน ปฺา วิปสฺสเน าณ’’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๑-๕๒).
๗๔๒. ตตฺถ ¶ อารมฺมณปฏิสงฺขาติ ยํกิฺจิ อารมฺมณํ ปฏิสงฺขาย ชานิตฺวา, ขยโต วยโต ทิสฺวาติ อตฺโถ. ภงฺคานุปสฺสเน ปฺาติ ตสฺส, อารมฺมณํ ขยโต วยโต ปฏิสงฺขาย อุปฺปนฺนสฺส าณสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสเน ยา ปฺา, อิทํ วิปสฺสเน าณนฺติ วุตฺตํ. ตํ กถํ โหตีติ อยํ ตาว กเถตุกมฺยตาปุจฺฉาย อตฺโถ. ตโต ยถา ตํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปารมฺมณตา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ รูปารมฺมณตา จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชตีติ รูปารมฺมณํ จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชติ. อถ วา รูปารมฺมณภาเว จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชตีติ อตฺโถ. ตํ อารมฺมณํ ปฏิสงฺขาติ ตํ รูปารมฺมณํ ปฏิสงฺขาย ชานิตฺวา, ขยโต วยโต ทิสฺวาติ อตฺโถ. ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ เยน จิตฺเตน ตํ รูปารมฺมณํ ขยโต วยโต ทิฏฺํ, ตสฺส จิตฺตสฺส อปเรน จิตฺเตน ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ อตฺโถ. เตนาหุ โปราณา ‘‘าตฺจ าณฺจ อุโภปิ วิปสฺสตี’’ติ.
เอตฺถ ¶ จ อนุปสฺสตีติ อนุ อนุ ปสฺสติ, อเนเกหิ อากาเรหิ ปุนปฺปุนํ ปสฺสตีติ อตฺโถ. เตนาห – ‘‘อนุปสฺสตีติ กถํ อนุปสฺสติ. อนิจฺจโต อนุปสฺสตี’’ติอาทิ.
ตตฺถ ยสฺมา ภงฺโค นาม อนิจฺจตาย ปรมา โกฏิ, ตสฺมา โส ภงฺคานุปสฺสโก โยคาวจโร สพฺพํ สงฺขารคตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโต. ตโต อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา, ทุกฺขสฺส จ อนตฺตตฺตา ตเทว ทุกฺขโต อนุปสฺสติ, โน สุขโต. อนตฺตโต อนุปสฺสติ โน อตฺตโต.
ยสฺมา ปน ยํ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา, น ตํ อภินนฺทิตพฺพํ. ยฺจ อนภินนฺทิตพฺพํ, น ตตฺถ รชฺชิตพฺพํ. ตสฺมา เอตสฺมึ ภงฺคานุปสฺสนานุสาเรน ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตา’’ติ ทิฏฺเ สงฺขารคเต นิพฺพินฺทติ, โน นนฺทติ. วิรชฺชติ, โน รชฺชติ. โส เอวํ อรชฺชนฺโต โลกิเกเนว ตาว าเณน ราคํ นิโรเธติ, โน สมุเทติ. สมุทยํ น กโรตีติ อตฺโถ.
อถ วา โส เอวํ วิรตฺโต ยถา ทิฏฺํ สงฺขารคตํ, ตถา อทิฏฺมฺปิ อนฺวยาณวเสน นิโรเธติ ¶ , โน สมุเทติ. นิโรธโตว มนสิกโรติ. นิโรธเมวสฺส ปสฺสติ, โน สมุทยนฺติ อตฺโถ.
โส เอวํ ปฏิปนฺโน ปฏินิสฺสชฺชติ, โน อาทิยติ. กึ วุตฺตํ โหติ? อยมฺปิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนา ตทงฺควเสน สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิ กิเลสานํ ปริจฺจชนโต, สงฺขตโทสทสฺสเนน จ ตพฺพิปรีเต นิพฺพาเน ตนฺนินฺนตาย ปกฺขนฺทนโต ปริจฺจาคปฏินิสฺสคฺโค เจว ปกฺขนฺทนปฏินิสฺสคฺโค จาติ วุจฺจติ. ตสฺมา ตาย สมนฺนาคโต ภิกฺขุ ยถาวุตฺเตน นเยน กิเลเส ปริจฺจชติ, นิพฺพาเน จ ปกฺขนฺทติ. นาปิ นิพฺพตฺตนวเสน กิเลเส อาทิยติ, น อโทสทสฺสิตาวเสน สงฺขตารมฺมณํ. เตน วุจฺจติ ‘‘ปฏินิสฺสชฺชติ โน อาทิยตี’’ติ.
๗๔๓. อิทานิสฺส เตหิ าเณหิ เยสํ ธมฺมานํ ปหานํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโต นิจฺจสฺํ ปชหตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นนฺทินฺติ สปฺปีติกํ ตณฺหํ. เสสํ วุตฺตนยเมว.
๗๔๔. คาถาสุ ¶ ปน วตฺถุสงฺกมนาติ รูปสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ปุน เยน จิตฺเตน ภงฺโค ทิฏฺโ, ตสฺสาปิ ภงฺคทสฺสนวเสน ปุริมวตฺถุโต อฺวตฺถุสงฺกมนา. ปฺาย จ วิวฏฺฏนาติ อุทยํ ปหาย วเย สนฺติฏฺนา. อาวชฺชนาพลฺเจวาติ รูปสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ปุน ภงฺคารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคทสฺสนตฺถํ อนนฺตรเมว อาวชฺชนสมตฺถตา. ปฏิสงฺขาวิปสฺสนาติ เอสา อารมฺมณปฏิสงฺขาภงฺคานุปสฺสนา นาม.
๗๔๕. อารมฺมณอนฺวเยน อุโภ เอกววตฺถนาติ ปจฺจกฺขโต ทิฏฺสฺส อารมฺมณสฺส อนฺวเยน อนุคมเนน ยถา อิทํ, ตถา อตีเตปิ สงฺขารคตํ ภิชฺชิตฺถ, อนาคเตปิ ภิชฺชิสฺสตีติ เอวํ อุภินฺนํ เอกสภาเวเนว ววตฺถาปนนฺติ อตฺโถ.
วุตฺตมฺปิ เจตํ โปราเณหิ –
‘‘สํวิชฺชมานมฺหิ วิสุทฺธทสฺสโน,
ตทนฺวยํ เนติ อตีตนาคเต;
สพฺเพปิ ¶ สงฺขารคตา ปโลกิโน,
อุสฺสาวพินฺทู สูริเยว อุคฺคเต’’ติ.
นิโรเธ อธิมุตฺตตาติ เอวํ อุภินฺนํ ภงฺควเสน เอกววตฺถานํ กตฺวา ตสฺมิฺเว ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ อธิมุตฺตตา ตคฺครุตา ตนฺนินฺนตา ตปฺโปณตา ตปฺปพฺภารตาติ อตฺโถ. วยลกฺขณวิปสฺสนาติ เอสา วยลกฺขณวิปสฺสนา นามาติ วุตฺตํ โหติ.
๗๔๖. อารมฺมณฺจ ปฏิสงฺขาติ ปุริมฺจ รูปาทิอารมฺมณํ ชานิตฺวา. ภงฺคฺจ อนุปสฺสตีติ ตสฺสารมฺมณสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ตทารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสติ. สฺุโต จ อุปฏฺานนฺติ ตสฺเสวํ ภงฺคํ อนุปสฺสโต ‘‘สงฺขาราว ภิชฺชนฺติ, เตสํ เภโท มรณํ, น อฺโ โกจิ อตฺถี’’ติ สฺุโต อุปฏฺานํ อิชฺฌติ.
เตนาหุ ¶ โปราณา –
‘‘ขนฺธา นิรุชฺฌนฺติ น จตฺถิ อฺโ,
ขนฺธาน เภโท มรณนฺติ วุจฺจติ;
เตสํ ขยํ ปสฺสติ อปฺปมตฺโต,
มณึว วิชฺฌํ วชิเรน โยนิโส’’ติ.
อธิปฺาวิปสฺสนาติ ยา จ อารมฺมณปฏิสงฺขา ยา จ ภงฺคานุปสฺสนา ยฺจ สฺุโต อุปฏฺานํ, อยํ อธิปฺาวิปสฺสนา นามาติ วุตฺตํ โหติ.
๗๔๗. กุสโล ตีสุ อนุปสฺสนาสูติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีสุ ตีสุ เฉโก ภิกฺขุ. จตสฺโส จ วิปสฺสนาสูติ นิพฺพิทาทีสุ จ จตูสุ วิปสฺสนาสุ. ตโย อุปฏฺาเน กุสลตาติ ขยโต วยโต สฺุโตติ อิมสฺมิฺจ ติวิเธ อุปฏฺาเน กุสลตาย. นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตีติ สสฺสตทิฏฺิอาทีสุ นานปฺปการาสุ ทิฏฺีสุ น เวธติ.
๗๔๘. โส เอวํ อเวธมาโน ‘‘อนิรุทฺธเมว นิรุชฺฌติ, อภินฺนเมว ภิชฺชตี’’ติ ปวตฺตมนสิกาโร ¶ ทุพฺพลภาชนสฺส วิย ภิชฺชมานสฺส, สุขุมรชสฺเสว วิปฺปกิริยมานสฺส, ติลานํ วิย ภชฺชิยมานานํ สพฺพสงฺขารานํ อุปฺปาทฏฺิติปวตฺตนิมิตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา เภทเมว ปสฺสติ. โส ยถา นาม จกฺขุมา ปุริโส โปกฺขรณีตีเร วา นทีตีเร วา ิโต ถูลผุสิตเก เทเว วสฺสนฺเต อุทกปิฏฺเ มหนฺตมหนฺตานิ อุทกพุพฺพุฬกานิ อุปฺปชฺชิตฺวา อุปฺปชฺชิตฺวา สีฆํ สีฆํ ภิชฺชมานานิ ปสฺเสยฺย, เอวเมว สพฺเพ สงฺขารา ภิชฺชนฺติ ภิชฺชนฺตีติ ปสฺสติ. เอวรูปํ หิ โยคาวจรํ สนฺธาย วุตฺตํ ภควตา –
‘‘ยถา พุพฺพุฬกํ ปสฺเส, ยถา ปสฺเส มรีจิกํ;
เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ. (ธ. ป. ๑๗๐);
๗๔๙. ตสฺเสวํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา ภิชฺชนฺติ ภิชฺชนฺตี’’ติ อภิณฺหํ ปสฺสโต อฏฺานิสํสปริวารํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ พลปฺปตฺตํ โหติ. ตตฺริเม อฏฺานิสํสา – ภวทิฏฺิปฺปหานํ, ชีวิตนิกนฺติปริจฺจาโค, สทายุตฺตปยุตฺตตา, วิสุทฺธาชีวิตา, อุสฺสุกฺกปฺปหานํ, วิคตภยตา, ขนฺติโสรจฺจปฏิลาโภ, อรติรติสหนตาติ.
เตนาหุ ¶ โปราณา –
‘‘อิมานิ อฏฺคฺคุณมุตฺตมานิ,
ทิสฺวา ตหึ สมฺมสเต ปุนปฺปุนํ;
อาทิตฺตเจลสฺสิรสูปโม มุนิ,
ภงฺคานุปสฺสี อมตสฺส ปตฺติยา’’ติ.
ภงฺคานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.
ภยตุปฏฺานาณกถา
๗๕๐. ตสฺเสวํ สพฺพสงฺขารานํ ขยวยเภทนิโรธารมฺมณํ ภงฺคานุปสฺสนํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส ¶ พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติิติสตฺตาวาเสสุ ปเภทกา สงฺขารา สุเขน ชีวิตุกามสฺส ภีรุกปุริสสฺส สีหพฺยคฺฆทีปิอจฺฉตรจฺฉยกฺขรกฺขสจณฺฑโคณจณฺฑกุกฺกุรปภินฺนมทจณฺฑหตฺถิโฆรอาสีวิสอสนิวิจกฺกสุสานรณภูมิชลิตองฺคารกาสุอาทโย วิย มหาภยํ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. ตสฺส ‘‘อตีตา สงฺขารา นิรุทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺติ, อนาคเต นิพฺพตฺตนกสงฺขาราปิ เอวเมว นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ปสฺสโต เอตสฺมึ าเน ภยตุปฏฺานาณํ นาม อุปฺปชฺชติ.
ตตฺรายํ อุปมา – เอกิสฺสา กิร อิตฺถิยา ตโย ปุตฺตา ราชปราธิกา, เตสํ ราชา สีสจฺเฉทํ อาณาเปสิ. สา ปุตฺเตหิ สทฺธึ อาฆาตนํ อคมาสิ. อถสฺสา เชฏฺปุตฺตสฺส สีสํ ฉินฺทิตฺวา มชฺฌิมสฺส ฉินฺทิตุํ อารภึสุ. สา เชฏฺสฺส สีสํ ฉินฺนํ มชฺฌิมสฺส จ ฉิชฺชมานํ ทิสฺวา กนิฏฺมฺหิ อาลยํ วิสฺสชฺชิ ‘‘อยมฺปิ เอเตสฺเว สทิโส ภวิสฺสตี’’ติ. ตตฺถ ตสฺสา อิตฺถิยา เชฏฺปุตฺตสฺส ฉินฺนสีสทสฺสนํ วิย โยคิโน อตีตสงฺขารานํ นิโรธทสฺสนํ, มชฺฌิมสฺส ฉิชฺชมานสีสทสฺสนํ วิย ปจฺจุปฺปนฺนานํ นิโรธทสฺสนํ, ‘‘อยมฺปิ เอเตสฺเว สทิโส ภวิสฺสตี’’ติ กนิฏฺปุตฺตมฺหิ อาลยวิสฺสชฺชนํ วิย ‘‘อนาคเตปิ นิพฺพตฺตนกสงฺขารา ภิชฺชิสฺสนฺตี’’ติ อนาคตานํ นิโรธทสฺสนํ. ตสฺเสวํ ปสฺสโต เอตสฺมึ าเน อุปฺปชฺชติ ภยตุปฏฺานาณํ.
อปราปิ อุปมา – เอกา กิร ปูติปชา อิตฺถี ทส ทารเก วิชายิ. เตสุ นว มตา, เอโก หตฺถคโต มรติ, อปโร กุจฺฉิยํ. สา นว ทารเก ¶ มเต ทสมฺจ มียมานํ ทิสฺวา กุจฺฉิคเต อาลยํ วิสฺสชฺชิ ‘‘อยมฺปิ เอเตสฺเว สทิโส ภวิสฺสตี’’ติ. ตตฺถ ตสฺสา อิตฺถิยา นวนฺนํ ทารกานํ มรณานุสฺสรณํ วิย โยคิโน อตีตสงฺขารานํ นิโรธทสฺสนํ, หตฺถคตสฺส มียมานภาวทสฺสนํ วิย โยคิโน ปจฺจุปฺปนฺนานํ นิโรธทสฺสนํ, กุจฺฉิคเต อาลยวิสฺสชฺชนํ วิย อนาคตานํ นิโรธทสฺสนํ. ตสฺเสวํ ปสฺสโต เอตสฺมึ ขเณ อุปฺปชฺชติ ภยตุปฏฺานาณํ.
๗๕๑. ภยตุปฏฺานาณํ ปน ภายติ น ภายตีติ? น ภายติ. ตฺหิ อตีตา สงฺขารา นิรุทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺติ, อนาคตา นิรุชฺฌิสฺสนฺตีติ ตีรณมตฺตเมว โหติ. ตสฺมา ยถา นาม จกฺขุมา ปุริโส นครทฺวาเร ติสฺโส องฺคารกาสุโย โอโลกยมาโน สยํ น ภายติ, เกวลํ หิสฺส ‘‘เย เย เอตฺถ นิปติสฺสนฺติ, สพฺเพ อนปฺปกํ ทุกฺขมนุภวิสฺสนฺตี’’ติ ตีรณมตฺตเมว โหติ. ยถา วา ปน จกฺขุมา ปุริโส ขทิรสูลํ อโยสูลํ สุวณฺณสูลนฺติ ปฏิปาฏิยา ¶ ปิตํ สูลตฺตยํ โอโลกยมาโน สยํ น ภายติ, เกวลํ หิสฺส ‘‘เย เย อิเมสุ สูเลสุ นิปติสฺสนฺติ, สพฺเพ อนปฺปกํ ทุกฺขมนุภวิสฺสนฺตี’’ติ ตีรณมตฺตเมว โหติ, เอวเมว ภยตุปฏฺานาณํ สยํ น ภายติ, เกวลํ หิสฺส องฺคารกาสุตฺตยสทิเสสุ, สูลตฺตยสทิเสสุ จ ตีสุ ภเวสุ ‘‘อตีตา สงฺขารา นิรุทฺธา, ปจฺจุปฺปนฺนา นิรุชฺฌนฺติ, อนาคตา นิรุชฺฌิสฺสนฺตี’’ติ ตีรณมตฺตเมว โหติ. ยสฺมา ปนสฺส เกวลํ สพฺพภวโยนิคติิตินิวาสคตา สงฺขารา พฺยสนาปนฺนา สปฺปฏิภยา หุตฺวา ภยโต อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา ภยตุปฏฺานนฺติ วุจฺจติ.
เอวํ ภยโต อุปฏฺาเน ปนสฺส อยํ ปาฬิ –
‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต กึ ภยโต อุปฏฺาติ? ทุกฺขโต. อนตฺตโต มนสิกโรโต กึ ภยโต อุปฏฺาตีติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต นิมิตฺตํ ภยโต อุปฏฺาติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต ปวตฺตํ ภยโต อุปฏฺาติ. อนตฺตโต มนสิกโรโต นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจ ภยโต อุปฏฺาตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗).
ตตฺถ ¶ นิมิตฺตนฺติ สงฺขารนิมิตฺตํ. อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนานํ สงฺขารานเมเวตํ อธิวจนํ. อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต หิ สงฺขารานํ มรณเมว ปสฺสติ, เตนสฺส นิมิตฺตํ ภยโต อุปฏฺาติ. ปวตฺตนฺติ รูปารูปภวปวตฺติ. ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต หิ สุขสมฺมตายปิ ปวตฺติยา อภิณฺหปฏิปีฬนภาวเมว ปสฺสติ, เตนสฺส ปวตฺตํ ภยโต อุปฏฺาติ. อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต ปน อุภยมฺเปตํ สฺุคามํ วิย มรีจิคนฺธพฺพนคราทีนิ วิย จ ริตฺตํ ตุจฺฉํ สฺุํ อสฺสามิกํ อปริณายกํ ปสฺสติ. เตนสฺส นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจ อุภยํ ภยโต อุปฏฺาตีติ.
ภยตุปฏฺานาณํ นิฏฺิตํ.
อาทีนวานุปสฺสนาาณกถา
๗๕๒. ตสฺส ตํ ภยตุปฏฺานาณํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติิติสตฺตาวาเสสุ ¶ เนว ตาณํ, น เลณํ, น คติ, นปฺปฏิสรณํ ปฺายติ. สพฺพภวโยนิคติิตินิวาสคเตสุ สงฺขาเรสุ เอกสงฺขาเรปิ ปตฺถนา วา ปรามาโส วา น โหติ. ตโย ภวา วีตจฺจิกงฺคารปุณฺณองฺคารกาสุโย วิย, จตฺตาโร มหาภูตา โฆรวิสอาสีวิสา วิย, ปฺจกฺขนฺธา อุกฺขิตฺตาสิกวธกา วิย, ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ สฺุคาโม วิย, ฉ พาหิรายตนานิ คามฆาตกโจรา วิย, สตฺต วิฺาณฏฺิติโย, นว จ สตฺตาวาสา เอกาทสหิ อคฺคีหิ อาทิตฺตา สมฺปชฺชลิตา สโชติภูตา วิย จ, สพฺเพ สงฺขารา คณฺฑภูตา โรคภูตา สลฺลภูตา อฆภูตา อาพาธภูตา วิย จ นิรสฺสาทา นิรสา มหาอาทีนวราสิภูตา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ.
กถํ? สุเขน ชีวิตุกามสฺส ภีรุกปุริสสฺส รมณียาการสณฺิตมฺปิ สวาฬกมิว วนคหนํ, สสทฺทูลา วิย คุหา, สคาหรกฺขสํ วิย อุทกํ, สมุสฺสิตขคฺคา วิย ปจฺจตฺถิกา, สวิสํ วิย โภชนํ, สโจโร วิย มคฺโค, อาทิตฺตมิว อคารํ, อุยฺยุตฺตเสนา วิย รณภูมิ. ยถา หิ โส ปุริโส เอตานิ สวาฬกวนคหนาทีนิ อาคมฺม ภีโต สํวิคฺโค โลมหฏฺชาโต สมนฺตโต อาทีนวเมว ปสฺสติ, เอวเมวายํ โยคาวจโร ¶ ภงฺคานุปสฺสนาวเสน สพฺพสงฺขาเรสุ ภยโต อุปฏฺิเตสุ สมนฺตโต นิรสํ นิรสฺสาทํ อาทีนวเมว ปสฺสติ. ตสฺเสวํ ปสฺสโต อาทีนวาณํ นาม อุปฺปนฺนํ โหติ. ยํ สนฺธาย อิทํ วุตฺตํ –
‘‘กถํ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ? อุปฺปาโท ภยนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. ปวตฺตํ ภยนฺติ… นิมิตฺตํ ภยนฺติ… อายูหนา ภยนฺติ… ปฏิสนฺธิ ภยนฺติ… คติ ภยนฺติ… นิพฺพตฺติ ภยนฺติ… อุปปตฺติ ภยนฺติ… ชาติ ภยนฺติ… ชรา ภยนฺติ… พฺยาธิ ภยนฺติ… มรณํ ภยนฺติ… โสโก ภยนฺติ… ปริเทโว ภยนฺติ… อุปายาโส ภยนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. อนุปฺปาโท เขมนฺติ สนฺติปเท าณํ. อปฺปวตฺตํ…เป… อนุปายาโส เขมนฺติ สนฺติปเท าณํ. อุปฺปาโท ภยํ, อนุปฺปาโท เขมนฺติ สนฺติปเท าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส ภยํ, อนุปายาโส เขมนฺติ สนฺติปเท าณํ.
‘‘อุปฺปาโท ทุกฺขนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส ทุกฺขนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. อนุปฺปาโท สุขนฺติ สนฺติปเท ¶ าณํ. อปฺปวตฺตํ…เป… อนุปายาโส สุขนฺติ สนฺติปเท าณํ. อุปฺปาโท ทุกฺขํ, อนุปฺปาโท สุขนฺติ สนฺติปเท าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส ทุกฺขํ, อนุปายาโส สุขนฺติ สนฺติปเท าณํ.
‘‘อุปฺปาโท สามิสนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส สามิสนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. อนุปฺปาโท นิรามิสนฺติ สนฺติปเท าณํ. อปฺปวตฺตํ…เป… อนุปายาโส นิรามิสนฺติ สนฺติปเท าณํ. อุปฺปาโท สามิสํ, อนุปฺปาโท นิรามิสนฺติ สนฺติปเท าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส สามิสํ, อนุปายาโส นิรามิสนฺติ สนฺติปเท าณํ.
อุปฺปาโท ¶ ‘‘สงฺขาราติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส สงฺขาราติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณํ. อนุปฺปาโท นิพฺพานนฺติ สนฺติปเท าณํ. อปฺปวตฺตํ…เป… อนุปายาโส นิพฺพานนฺติ สนฺติปเท าณํ. อุปฺปาโท สงฺขารา, อนุปฺปาโท นิพฺพานนฺติ สนฺติปเท าณํ. ปวตฺตํ…เป… อุปายาโส สงฺขารา, อนุปายาโส นิพฺพานนฺติ สนฺติปเท าณํ.
‘‘อุปฺปาทฺจ ปวตฺตฺจ, นิมิตฺตํ ทุกฺขนฺติ ปสฺสติ;
อายูหนํ ปฏิสนฺธึ, าณํ อาทีนเว อิทํ.
‘‘อนุปฺปาทํ อปฺปวตฺตํ, อนิมิตฺตํ สุขนฺติ จ;
อนายูหนา อปฺปฏิสนฺธิ, าณํ สนฺติปเท อิทํ.
‘‘อิทํ อาทีนเว าณํ, ปฺจาเนสุ ชายติ;
ปฺจาเน สนฺติปเท, ทส าเณ ปชานาติ;
ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตา, นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตี’’ติ.
‘‘ตํ าตฏฺเน าณํ. ปชานนฏฺเน ปฺา. เตน วุจฺจติ ‘‘ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๓).
๗๕๓. ตตฺถ ¶ อุปฺปาโทติ ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺติ. ปวตฺตนฺติ ตถา อุปฺปนฺนสฺส ปวตฺติ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ สงฺขารนิมิตฺตํ. อายูหนาติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธีติ อายตึ อุปฺปตฺติ. คตีติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตีติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตีติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ธ. ส. ๑๒๘๙, ๑๒๙๑) เอวํ วุตฺตา วิปากปฺปวตฺติ. ชาตีติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตา ภวปจฺจยา ชาติ. ชรามรณาทโย ปากฏา เอว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว อาทีนวาณสฺส วตฺถุวเสน วุตฺตา. เสสา เตสํ เววจนวเสน. นิพฺพตฺติ ชาตีติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ. คติ อุปปตฺตีติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส. ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ. เตนาห –
‘‘อุปฺปาทฺจ ปวตฺตฺจ, นิมิตฺตํ ทุกฺขนฺติ ปสฺสติ;
อายูหนํ ปฏิสนฺธึ, าณํ อาทีนเว อิท’’นฺติ จ.
‘‘อิทํ อาทีนเว าณํ, ปฺจาเนสุ ชายตี’’ติ จ.
อนุปฺปาโท ¶ เขมนฺติ สนฺติปเท าณนฺติอาทิ ปน อาทีนวาณสฺส ปฏิปกฺขาณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ภยตุปฏฺาเนน วา อาทีนวํ ทิสฺวา อุพฺพิคฺคหทยานํ อภยมฺปิ อตฺถิ เขมํ นิราทีนวนฺติ อสฺสาสชนนตฺถมฺปิ เอตํ วุตฺตํ. ยสฺมา วา ปนสฺส อุปฺปาทาทโย ภยโต สูปฏฺิตา โหนฺติ, ตสฺส ตปฺปฏิปกฺขนินฺนํ จิตฺตํ โหติ, ตสฺมา ภยตุปฏฺานวเสน สิทฺธสฺส อาทีนวาณสฺส อานิสํสทสฺสนตฺถมฺเปตํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ.
เอตฺถ จ ยํ ภยํ, ตํ ยสฺมา นิยมโต ทุกฺขํ. ตํ วฏฺฏามิสโลกามิสกิเลสามิเสหิ อวิปฺปมุตฺตตฺตา สามิสเมว. ยฺจ สามิสํ, ตํ สงฺขารมตฺตเมว. ตสฺมา ‘‘อุปฺปาโท ทุกฺขนฺติ ภยตุปฏฺาเน ปฺา อาทีนเว าณ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เอวํ สนฺเตปิ ภยากาเรน ทุกฺขากาเรน สามิสากาเรนาติ เอวํ อาการนานตฺตโต ปวตฺติวเสเนเวตฺถ นานตฺตํ เวทิตพฺพํ.
ทสาเณ ปชานาตีติ อาทีนวาณํ ปชานนฺโต อุปฺปาทาทิวตฺถุกานิ ปฺจ, อนุปฺปาทาทิวตฺถุกานิ ปฺจาติ ทส าณานิ ปชานาติ ปฏิวิชฺฌติ สจฺฉิกโรติ. ทฺวินฺนํ าณานํ กุสลตาติ อาทีนวาณสฺส เจว สนฺติปทาณสฺส จาติ อิเมสํ ทฺวินฺนํ กุสลตาย. นานาทิฏฺีสุ ¶ น กมฺปตีติ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานาทิวเสน ปวตฺตาสุ ทิฏฺีสุ น เวธติ. เสสเมตฺถ อุตฺตานเมวาติ.
อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.
นิพฺพิทานุปสฺสนาาณกถา
๗๕๔. โส เอวํ สพฺพสงฺขาเร อาทีนวโต ปสฺสนฺโต สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสคเต สเภทเก สงฺขารคเต นิพฺพินฺทติ อุกฺกณฺติ นาภิรมติ.
เสยฺยถาปิ นาม, จิตฺตกูฏปพฺพตปาทาภิรโต สุวณฺณราชหํโส อสุจิมฺหิ จณฺฑาลคามทฺวารอาวาเฏ นาภิรมติ, สตฺตสุ มหาสเรสุเยว อภิรมติ, เอวเมว อยมฺปิ โยคีราชหํโส สุปริทิฏฺาทีนเว สเภทเก สงฺขารคเต นาภิรมติ. ภาวนารามตาย ปน ภาวนารติยา สมนฺนาคตตฺตา สตฺตสุ อนุปสฺสนาสุเยว รมติ.
ยถา ¶ จ สุวณฺณปฺชเร ปกฺขิตฺโต สีโห มิคราชา นาภิรมติ, ติโยชนสหสฺสวิตฺถเต ปน หิมวนฺเตเยว รมติ, เอวมยํ โยคีสีโห ติวิเธ สุคติภเวปิ นาภิรมติ, ตีสุ ปน อนุปสฺสนาสุเยว รมติ.
ยถา จ สพฺพเสโต สตฺตปติฏฺโ อิทฺธิมา เวหาสงฺคโม ฉทฺทนฺโต นาคราชา นครมชฺเฌ นาภิรมติ, หิมวติ ฉทฺทนฺตทหคหเนเยว อภิรมติ, เอวมยํ โยคีวรวารโณ สพฺพสฺมิมฺปิ สงฺขารคเต นาภิรมติ, อนุปฺปาโท เขมนฺติอาทินา นเยน ทิฏฺเ สนฺติปเทเยว อภิรมติ, ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโส โหตีติ.
นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.
๗๕๕. ตํ ปเนตํ ปุริเมน าณทฺวเยน อตฺถโต เอกํ. เตนาหุ โปราณา –
‘‘ภยตุปฏฺานํ ¶ เอกเมว ตีณิ นามานิ ลภติ, สพฺพสงฺขาเร ภยโต อทฺทสาติ ภยตุปฏฺานํ นาม ชาตํ. เตสุเยว สงฺขาเรสุ อาทีนวํ อุปฺปาเทตีติ อาทีนวานุปสฺสนา นาม ชาตํ. เตสุเยว สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทมานํ อุปฺปนฺนนฺติ นิพฺพิทานุปสฺสนา นาม ชาต’’นฺติ.
ปาฬิยมฺปิ วุตฺตํ – ‘‘ยา จ ภยตุปฏฺาเน ปฺา, ยฺจ อาทีนเว าณํ, ยา จ นิพฺพิทา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗).
มฺุจิตุกมฺยตาาณกถา
๗๕๖. อิมินา ปน นิพฺพิทาาเณน อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส นิพฺพินฺทนฺตสฺส อุกฺกณฺนฺตสฺส อนภิรมนฺตสฺส สพฺพภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสคเตสุ สเภทเกสุ สงฺขาเรสุ เอกสงฺขาเรปิ จิตฺตํ น สชฺชติ, น ลคฺคติ, น พชฺฌติ, สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มุจฺจิตุกามํ นิสฺสริตุกามํ โหติ. ยถา กึ? ยถา นาม ชาลพฺภนฺตรคโต มจฺโฉ, สปฺปมุขคโต มณฺฑูโก, ปฺชรปกฺขิตฺโต วนกุกฺกุโฏ, ทฬฺหปาสวสคโต มิโค, อหิตุณฺฑิกหตฺถคโต สปฺโป, มหาปงฺกปกฺขนฺโท กฺุชโร, สุปณฺณมุขคโต ¶ นาคราชา, ราหุมุขปฺปวิฏฺโ จนฺโท, สปตฺตปริวาริโต ปุริโสติ เอวมาทโย ตโต ตโต มุจฺจิตุกามา นิสฺสริตุกามาว โหนฺติ, เอวํ ตสฺส โยคิโน จิตฺตํ สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มุจฺจิตุกามํ นิสฺสริตุกามํ โหติ. อถสฺส เอวํ สพฺพสงฺขาเรสุ วิคตาลยสฺส สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มุจฺจิตุกามสฺส อุปฺปชฺชติ มฺุจิตุกมฺยตา าณนฺติ.
มฺุจิตุกมฺยตาาณํ นิฏฺิตํ.
ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณกถา
๗๕๗. โส เอวํ สพฺพภวโยนิคติฏฺิตินิวาสคเตหิ สเภทเกหิ สงฺขาเรหิ มุจฺจิตุกาโม สพฺพสฺมา สงฺขารคตา มุจฺจิตุํ ปุน เต เอวํ สงฺขาเร ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา ปริคฺคณฺหาติ.
โส ¶ สพฺพสงฺขาเร อนจฺจนฺติกโต, ตาวกาลิกโต, อุปฺปาทวยปริจฺฉินฺนโต, ปโลกโต, จลโต, ปภงฺคุโต, อทฺธุวโต, วิปริณามธมฺมโต, อสฺสารกโต, วิภวโต, สงฺขตโต, มรณธมฺมโตติอาทีหิ การเณหิ อนิจฺจาติ ปสฺสติ.
อภิณฺหปฏิปีฬนโต, ทุกฺขมโต, ทุกฺขวตฺถุโต, โรคโต, คณฺฑโต, สลฺลโต, อฆโต, อาพาธโต, อีติโต, อุปทฺทวโต, ภยโต, อุปสคฺคโต, อตาณโต, อเลณโต, อสรณโต, อาทีนวโต, อฆมูลโต, วธกโต, สาสวโต, มารามิสโต, ชาติธมฺมโต, ชราธมฺมโต, พฺยาธิธมฺมโต, โสกธมฺมโต, ปริเทวธมฺมโต, อุปายาสธมฺมโต, สํกิเลสิกธมฺมโตติอาทีหิ การเณหิ ทุกฺขาติ ปสฺสติ.
อชฺโต, ทุคฺคนฺธโต, เชคุจฺฉโต, ปฏิกฺกูลโต, อมณฺฑนารหโต, วิรูปโต, พีภจฺฉโตติอาทีหิ การเณหิ ทุกฺขลกฺขณสฺส ปริวารภูตโต อสุภโต ปสฺสติ.
ปรโต, ริตฺตโต, ตุจฺฉโต, สฺุโต, อสฺสามิกโต, อนิสฺสรโต, อวสวตฺติโตติอาทีหิ การเณหิ อนตฺตโต ปสฺสติ.
๗๕๘. เอวฺหิ ¶ ปสฺสตาเนน ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขารา ปริคฺคหิตา นาม โหนฺติ. กสฺมา ปนายเมเต เอวํ ปริคฺคณฺหาตีติ? มฺุจนสฺส อุปายสมฺปาทนตฺถํ.
ตตฺรายํ อุปมา – เอโก กิร ปุริโส ‘‘มจฺเฉ คเหสฺสามี’’ติ มจฺฉขิปฺปํ คเหตฺวา อุทเก โอฑฺฑาเปสิ โส ขิปฺปมุเขน หตฺถํ โอตาเรตฺวา อนฺโตอุทเก สปฺปํ คีวาย คเหตฺวา ‘‘มจฺโฉ เม คหิโต’’ติ อตฺตมโน อโหสิ. โส ‘‘มหา วต มยา มจฺโฉ ลทฺโธ’’ติ อุกฺขิปิตฺวา ปสฺสนฺโต โสวตฺถิกตฺตยทสฺสเนน สปฺโปติ สฺชานิตฺวา ภีโต อาทีนวํ ทิสฺวา คหเณ นิพฺพินฺโน มฺุจิตุกาโม หุตฺวา มฺุจนสฺส อุปายํ กโรนฺโต อคฺคนงฺคุฏฺโต ปฏฺาย หตฺถํ นิพฺเพเตฺวา พาหุํ อุกฺขิปิตฺวา อุปริสีเส ทฺเว ตโย วาเร อาวิชฺฌิตฺวา สปฺปํ ทุพฺพลํ กตฺวา ‘‘คจฺฉ ทุฏฺ สปฺปา’’ติ นิสฺสชฺชิตฺวา เวเคน ตฬากปาฬึ อารุยฺห ‘‘มหนฺตสฺส วต โภ สปฺปสฺส มุขโต มุตฺโตมฺหี’’ติ อาคตมคฺคํ โอโลกยมาโน อฏฺาสิ.
ตตฺถ ¶ ตสฺส ปุริสสฺส ‘‘มจฺโฉ’’ติ สปฺปํ คีวาย คเหตฺวา ตุฏฺกาโล วิย อิมสฺสาปิ โยคิโน อาทิโตว อตฺตภาวํ ปฏิลภิตฺวา ตุฏฺกาโล, ตสฺส ขิปฺปมุขโต สีสํ นีหริตฺวา โสวตฺถิกตฺตยทสฺสนํ วิย อิมสฺส ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา สงฺขาเรสุ ติลกฺขณทสฺสนํ, ตสฺส ภีตกาโล วิย อิมสฺส ภยตุปฏฺานาณํ. ตโต อาทีนวทสฺสนํ วิย อาทีนวานุปสฺสนาาณํ, คหเณ นิพฺพินฺทนํ วิย นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ. สปฺปํ มฺุจิตุกามตา วิย มฺุจิตุกมฺยตาาณํ, มฺุจนสฺส อุปายกรณํ วิย ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน สงฺขาเรสุ ติลกฺขณาโรปนํ. ยถา หิ โส ปุริโส สปฺปํ อาวิชฺฌิตฺวา ทุพฺพลํ กตฺวา นิวตฺเตตฺวา ฑํสิตุํ อสมตฺถภาวํ ปาเปตฺวา สุมุตฺตํ มฺุจติ, เอวมยํ โยคาวจโร ติลกฺขณาโรปเนน สงฺขาเร อาวิชฺฌิตฺวา ทุพฺพเล กตฺวา ปุน นิจฺจสุขสุภอตฺตากาเรน อุปฏฺาตุํ อสมตฺถตํ ปาเปตฺวา สุมุตฺตํ มฺุจติ. เตน วุตฺตํ ‘‘มฺุจนสฺส อุปายสมฺปาทนตฺถํ เอวํ ปริคฺคณฺหาตี’’ติ.
๗๕๙. เอตฺตาวตา ตสฺส อุปฺปนฺนํ โหติ ปฏิสงฺขาาณํ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘อนิจฺจโต ¶ มนสิกโรโต กึ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชติ? ทุกฺขโต. อนตฺตโต มนสิกโรโต กึ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชติ? อนิจฺจโต มนสิกโรโต นิมิตฺตํ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต ปวตฺตํ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชติ. อนตฺตโต มนสิกโรโต นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจ ปฏิสงฺขา าณํ อุปฺปชฺชตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗).
เอตฺถ จ นิมิตฺตํ ปฏิสงฺขาติ สงฺขารนิมิตฺตํ ‘‘อทฺธุวํ ตาวกาลิก’’นฺติ อนิจฺจลกฺขณวเสน ชานิตฺวา. กามฺจ น ปมํ ชานิตฺวา ปจฺฉา าณํ อุปฺปชฺชติ, โวหารวเสน ปน ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจ ธมฺเม จ อุปฺปชฺชติ มโนวิฺาณ’’นฺติอาทีนิ (ม. นิ. ๓.๔๒๑) วิย เอวํ วุจฺจติ. เอกตฺตนเยน วา ปุริมฺจ ปจฺฉิมฺจ เอกํ กตฺวา เอวํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อิมินา นเยน อิตรสฺมิมฺปิ ปททฺวเย อตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.
สงฺขารุเปกฺขาาณกถา
๗๖๐. โส ¶ เอวํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาเณน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา สฺุา’’ติ ปริคฺคเหตฺวา ปุน ‘‘สฺุมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’’ติ (ม. นิ. ๓.๖๙) ทฺวิโกฏิกํ สฺุตํ ปริคฺคณฺหาติ. โส เอวํ เนว อตฺตานํ, น ปรํ กิฺจิ อตฺตโน ปริกฺขารภาเว ิตํ ทิสฺวา ปุน ‘‘นาหํ กฺวจนิ, กสฺสจิ กิฺจนตสฺมึ, น จ มม กฺวจนิ, กิสฺมิฺจิ กิฺจนตตฺถี’’ติ ยา เอตฺถ จตุโกฏิกา สฺุตา กถิตา, ตํ ปริคฺคณฺหาติ.
กถํ? อยฺหิ นาหํ กฺวจนีติ กฺวจิ อตฺตานํ น ปสฺสติ. กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ อตฺตโน อตฺตานํ กสฺสจิ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ น ปสฺสติ. ภาติฏฺาเนวา ภาตรํ, สหายฏฺาเน วา สหายํ, ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารํ มฺิตฺวา อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม-สทฺทํ ตาว เปตฺวา น จ กฺวจนีติ ปรสฺส จ อตฺตานํ กฺวจิ นปสฺสตีติ ¶ อยมตฺโถ. อิทานิ มม-สทฺทํ อาหริตฺวา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนตตฺถีติ โส ปรสฺส อตฺตา มม กิสฺมิฺจิ กิฺจนภาเว อตฺถีติ น ปสฺสตีติ. อตฺตโน ภาติฏฺาเน วา ภาตรํ, สหายฏฺาเน วา สหายํ ปริกฺขารฏฺาเน วา ปริกฺขารนฺติ กิสฺมิฺจิ าเน ปรสฺส อตฺตานํ อิมินา กิฺจนภาเวน อุปเนตพฺพํ น ปสฺสตีติ อตฺโถ. เอวมยํ ยสฺมา เนว กตฺถจิ อตฺตานํ ปสฺสติ, น ตํ ปรสฺส กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ ปสฺสติ, น ปรสฺส อตฺตานํ อตฺตโน กิฺจนภาเว อุปเนตพฺพํ ปสฺสติ. ตสฺมาเนน จตุโกฏิกา สฺุตา ปริคฺคหิตา โหตีติ.
๗๖๑. เอวํ จตุโกฏิกํ สฺุตํ ปริคฺคเหตฺวา ปุน ฉหากาเรหิ สฺุตํ ปริคฺคณฺหาติ. กถํ? จกฺขุ สฺุํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา นิจฺเจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธมฺเมน วา…เป… มโน สฺุโ. รูปา สฺุา…เป… ธมฺมา สฺุา. จกฺขุวิฺาณํ…เป… มโนวิฺาณํ. จกฺขุสมฺผสฺโสติ เอวํ ยาว ชรามรณา นโย เนตพฺโพ.
๗๖๒. เอวํ ฉหากาเรหิ สฺุตํ ปริคฺคเหตฺวา ปุน อฏฺหากาเรหิ ปริคฺคณฺหาติ. เสยฺยถิทํ – รูปํ อสารํ นิสฺสารํ สาราปคตํ นิจฺจสารสาเรน วา ธุวสารสาเรน วา สุขสารสาเรน ¶ วา อตฺตสารสาเรน วา นิจฺเจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธมฺเมน วา. เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ… จกฺขุ…เป… ชรามรณํ อสารํ นิสฺสารํ สาราปคตํ นิจฺจสารสาเรน วา ธุวสารสาเรน วา สุขสารสาเรน วา อตฺตสารสาเรน วา นิจฺเจน วา ธุเวน วา สสฺสเตน วา อวิปริณามธมฺเมน วา. ยถา นโฬ อสาโร นิสฺสาโร สาราปคโต. ยถา เอรณฺโฑ… ยถา อุทุมฺพโร… ยถา เสตวจฺโฉ… ยถา ปาฬิภทฺทโก… ยถา เผณปิณฺโฑ… ยถา อุทกพุพฺพุฬํ… ยถา มรีจิ… ยถา กทลิกฺขนฺโธ… ยถา มายา อสารา นิสฺสารา สาราปคตา, เอวเมว รูปํ…เป… ชรามรณํ อสารํ นิสฺสารํ สาราปคตํ นิจฺจสารสาเรน วา…เป… อวิปริณามธมฺเมน วาติ (จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๘).
๗๖๓. โส ¶ เอวํ อฏฺหากาเรหิ สฺุตํ ปริคฺคเหตฺวา ปุน ทสหากาเรหิ ปริคฺคณฺหาติ, รูปํ ริตฺตโต ปสฺสติ. ตุจฺฉโต… สฺุโต… อนตฺตโต… อนิสฺสริยโต… อกามการิยโต… อลพฺภนียโต… อวสวตฺตกโต… ปรโต… วิวิตฺตโต ปสฺสติ. เวทนํ…เป… วิฺาณํ ริตฺตโต…เป… วิวิตฺตโต ปสฺสตีติ.
๗๖๔. เอวํ ทสหากาเรหิ สฺุตํ ปริคฺคเหตฺวา ปุน ทฺวาทสหากาเรหิ ปริคฺคณฺหาติ. เสยฺยถิทํ – รูปํ น สตฺโต, น ชีโว, น นโร, น มาณโว, น อิตฺถี, น ปุริโส, น อตฺตา, น อตฺตนิยํ. นาหํ, น มม, น อฺสฺส, น กสฺสจิ. เวทนา…เป… วิฺาณํ น กสฺสจีติ (จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๘).
๗๖๕. เอวํ ทฺวาทสหากาเรหิ สฺุตํ ปริคฺคณฺหิตฺวา ปุน ตีรณปริฺาวเสน ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหิ สฺุตํ ปริคฺคณฺหาติ, รูปํ อนิจฺจโต… ทุกฺขโต… โรคโต… คณฺฑโต… สลฺลโต… อฆโต… อาพาธโต… ปรโต… ปโลกโต… อีติโต… อุปทฺทวโต… ภยโต… อุปสคฺคโต… จลโต… ปภงฺคุโต… อทฺธุวโต… อตาณโต… อเลณโต… อสรณโต… อสรณีภูตโต… ริตฺตโต… ตุจฺฉโต… สฺุโต… อนตฺตโต… อนสฺสาทโต… อาทีนวโต… วิปริณามธมฺมโต… อสฺสารกโต… อฆมูลโต… วธกโต… วิภวโต… สาสวโต… สงฺขตโต… มารามิสโต… ชาติธมฺมโต… ชราธมฺมโต… พฺยาธิธมฺมโต… มรณธมฺมโต… โสกปริเทวทุกฺขโทมนสฺสอุปายาสธมฺมโต… สมุทยโต… อตฺถงฺคมโต… อนสฺสาทโต ¶ … อาทีนวโต… นิสฺสรณโต ปสฺสติ. เวทนํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจโต…เป… นิสฺสรณโต ปสฺสติ.
วุตฺตมฺปิ เจตํ – ‘‘รูปํ อนิจฺจโต…เป… นิสฺสรณโต ปสฺสนฺโต สฺุโต โลกํ อเวกฺขติ. เวทนํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจโต…เป… นิสฺสรณโต ปสฺสนฺโต สฺุโต โลกํ อเวกฺขติ’’.
‘‘สฺุโต โลกํ อเวกฺขสฺสุ, โมฆราช สทา สโต;
อตฺตานุทิฏฺึ อูหจฺจ, เอวํ มจฺจุตโร สิยา;
เอวํ โลกํ อเวกฺขนฺตํ, มจฺจุราชา น ปสฺสตี’’ติ. (สุ. นิ. ๑๑๒๕; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๘);
๗๖๖. เอวํ ¶ สฺุโต ทิสฺวา ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต ภยฺจ นนฺทิฺจ วิปฺปหาย สงฺขาเรสุ อุทาสีโน อโหสิ มชฺฌตฺโต, อหนฺติ วา มมนฺติ วา น คณฺหาติ วิสฺสฏฺภริโย วิย ปุริโส.
ยถา นาม ปุริสสฺส ภริยา ภเวยฺย อิฏฺา กนฺตา มนาปา, โส ตาย วินา มุหุตฺตมฺปิ อธิวาเสตุํ น สกฺกุเณยฺย, อติวิย นํ มมาเยยฺย, โส ตํ อิตฺถึ อฺเน ปุริเสน สทฺธึ ิตํ วา นิสินฺนํ วา กเถนฺตึ วา หสนฺตึ วา ทิสฺวา กุปิโต อสฺส อนตฺตมโน, อธิมตฺตํ โทมนสฺสํ ปฏิสํเวเทยฺย. โส อปเรน สมเยน ตสฺสา อิตฺถิยา โทสํ ทิสฺวา มฺุจิตุกาโม หุตฺวา ตํ วิสฺสชฺเชยฺย, น นํ มมาติ คณฺเหยฺย. ตโต ปฏฺาย ตํ เยนเกนจิ สทฺธึ ยํกิฺจิ กุรุมานํ ทิสฺวาปิ เนว กุปฺเปยฺย, น โทมนสฺสํ อาปชฺเชยฺย, อฺทตฺถุ อุทาสีโนว ภเวยฺย มชฺฌตฺโต. เอวเมวายํ สพฺพสงฺขาเรหิ มฺุจิตุกาโม หุตฺวา ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต อหํ มมาติ คเหตพฺพํ อทิสฺวา ภยฺจ นนฺทิฺจ วิปฺปหาย สพฺพสงฺขาเรสุ อุทาสีโน โหติ มชฺฌตฺโต.
ตสฺส เอวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต ตีสุ ภเวสุ จตูสุ โยนีสุ ปฺจสุ คตีสุ สตฺตสุ วิฺาณฏฺิตีสุ ¶ นวสุ สตฺตาวาเสสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ, อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ.
เสยฺยถาปิ นาม ปทุมปลาเส อีสกโปเณ อุทกผุสิตานิ ปติลียนฺติ ปติกุฏนฺติ ปติวตฺตนฺติ น สมฺปสาริยนฺติ, เอวเมว…เป… เสยฺยถาปิ นาม กุกฺกุฏปตฺตํ วา นหารุททฺทุลํ วา อคฺคิมฺหิ ปกฺขิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ (อ. นิ. ๗.๔๙), เอวเมว ตสฺส ตีสุ ภเวสุ จิตฺตํ…เป… อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. อิจฺจสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณํ นาม อุปฺปนฺนํ โหติ.
๗๖๗. ตํ ปเนตํ สเจ สนฺติปทํ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, สพฺพํ สงฺขารปฺปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานเมว ปกฺขนฺทติ. โน เจ นิพฺพานํ สนฺตโต ¶ ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ สงฺขารารมฺมณเมว หุตฺวา ปวตฺตติ สามุทฺทิกานํ ทิสากาโก วิย. สามุทฺทิกา กิร วาณิชกา นาวํ อาโรหนฺตา ทิสากากํ นาม คณฺหนฺติ, เต ยทา นาวา วาตกฺขิตฺตา วิเทสํ ปกฺขนฺทติ, ตีรํ น ปฺายติ, ตทา ทิสากากํ วิสฺสชฺเชนฺติ. โส กูปกยฏฺิโต อากาสํ ลงฺฆิตฺวา สพฺพา ทิสา จ วิทิสา จ อนุคนฺตฺวา สเจ ตีรํ ปสฺสติ, ตทภิมุโขว คจฺฉติ. โน เจ ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ อาคนฺตฺวา กูปกยฏฺึเยว อลฺลียติ. เอวเมว สเจ สงฺขารุเปกฺขาาณํ สนฺติปทํ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ, สพฺพํ สงฺขารปฺปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานเมว ปกฺขนฺทติ. โน เจ ปสฺสติ, ปุนปฺปุนํ สงฺขารารมฺมณเมว หุตฺวา ปวตฺตติ.
ตทิทํ สุปฺปคฺเค ปิฏฺํ วฏฺฏยมานํ วิย. นิพฺพฏฺฏิตกปฺปาสํ วิหนมานํ วิย นานปฺปการโต สงฺขาเร ปริคฺคเหตฺวา ภยฺจ นนฺทิฺจ ปหาย สงฺขารวิจินเน มชฺฌตฺตํ หุตฺวา ติวิธานุปสฺสนาวเสน ติฏฺติ. เอวํ ติฏฺมานํ ติวิธวิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา สตฺตอริยปุคฺคลวิภาคาย ปจฺจโย โหติ.
๗๖๘. ตตฺริทํ ติวิธานุปสฺสนาวเสน ปวตฺตนโต ติณฺณํ อินฺทฺริยานํ อาธิปเตยฺยวเสน ติวิธวิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชติ นาม. ติสฺโส หิ อนุปสฺสนา ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ วุจฺจนฺติ. ยถาห –
‘‘ตีณิ ¶ โข ปนิมานิ วิโมกฺขมุขานิ โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺติ, สพฺพสงฺขาเร ปริจฺเฉทปริวฏุมโต สมนุปสฺสนตาย, อนิมิตฺตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, สพฺพสงฺขาเรสุ มโนสมุตฺเตชนตาย, อปฺปณิหิตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, สพฺพธมฺเม ปรโต สมนุปสฺสนตาย, สฺุตาย จ ธาตุยา จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตาย, อิมานิ ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ โลกนิยฺยานาย สํวตฺตนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๙).
ตตฺถ ปริจฺเฉทปริวฏุมโตติ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จ. อนิจฺจานุปสฺสนํ หิ ‘‘อุทยโต ปุพฺเพ สงฺขารา นตฺถี’’ติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา เตสํ คตึ สมนฺเนสมานํ ‘‘วยโต ปรํ น คจฺฉนฺติ, เอตฺเถว อนฺตรธายนฺตี’’ติ ปริวฏุมโต สมนุปสฺสติ. มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตาย ¶ . ทุกฺขานุปสฺสเนน หิ สงฺขาเรสุ จิตฺตํ สํเวเชติ. ปรโต สมนุปสฺสนตายาติ ‘‘นาหํ, น มมา’’ติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตาย. อิติ อิมานิ ตีณิ ปทานิ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ วเสน วุตฺตานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนว ตทนนฺตเร ปฺหวิสฺสชฺชเน วุตฺตํ – ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต ขยโต สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ. ทุกฺขโต มนสิกโรโต ภยโต สงฺขารา อุปฏฺหนฺติ. อนตฺตโต มนสิกโรโต สฺุโต สงฺขารา อุปฏฺหนฺตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๙).
๗๖๙. กตเม ปน เต วิโมกฺขา, เยสํ อิมานิ อนุปสฺสนานิ มุขานีติ? อนิมิตฺโต, อปฺปณิหิโต, สฺุโตติ เอเต ตโย. วุตฺตํ เหตํ ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อธิโมกฺขพหุโล อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ. ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล อปฺปณิหิตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภติ. อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล สฺุตวิโมกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๓).
เอตฺถ จ อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค. โส หิ อนิมิตฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา อนิมิตฺโต. กิเลเสหิ จ วิมุตฺตตฺตา วิโมกฺโข. เอเตเนว นเยน อปฺปณิหิตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อปฺปณิหิโต. สฺุตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต สฺุโตติ เวทิตพฺโพ.
๗๗๐. ยํ ปน อภิธมฺเม ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิกํ อปจยคามึ ¶ ทิฏฺิคตานํ ปหานาย ปมาย ภูมิยา ปตฺติยา วิวิจฺเจว กาเมหิ ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ อปฺปณิหิตํ สฺุต’’นฺติ (ธ. ส. ๓๔๓ อาทโย) เอวํ วิโมกฺขทฺวยเมว วุตฺตํ, ตํ นิปฺปริยายโต วิปสฺสนาคมนํ สนฺธาย. วิปสฺสนาาณํ หิ กิฺจาปิ ปฏิสมฺภิทามคฺเค –
‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาาณํ นิจฺจโต อภินิเวสํ มฺุจตีติ สฺุโต วิโมกฺโข. ทุกฺขานุปสฺสนาาณํ สุขโต อภินิเวสํ. อนตฺตานุปสฺสนาาณํ อตฺตโต อภินิเวสํ มฺุจตีติ ¶ สฺุโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๙) เอวํ อภินิเวสํ มฺุจนวเสน สฺุโต วิโมกฺโขติ จ,
‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาาณํ นิจฺจโต นิมิตฺตํ มฺุจตีติ อนิมิตฺโต วิโมกฺโข. ทุกฺขานุปสฺสนาาณํ สุขโต นิมิตฺตํ, อนตฺตานุปสฺสนาาณํ อตฺตโต นิมิตฺตํ มฺุจตีติ อนิมิตฺโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๙) เอวํ นิมิตฺตํ มฺุจนวเสน อนิมิตฺโต วิโมกฺโขติ จ,
‘‘อนิจฺจานุปสฺสนาาณํ นิจฺจโต ปณิธึ มฺุจตีติ อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข. ทุกฺขานุปสฺสนาาณํ สุขโต ปณิธึ. อนตฺตานุปสฺสนาาณํ อตฺตโต ปณิธึ มฺุจตีติ อปฺปณิหิโต วิโมกฺโข’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๙) เอวํ ปณิธึ มฺุจนวเสน อปฺปณิหิโต วิโมกฺโขติ จ –
วุตฺตํ. ตถาปิ ตํ สงฺขารนิมิตฺตสฺส อวิชหนโต น นิปฺปริยาเยน อนิมิตฺตํ. นิปฺปริยาเยน ปน สฺุตฺเจว อปฺปณิหิตฺจ. ตสฺส จ อาคมนวเสน อริยมคฺคกฺขเณ วิโมกฺโข อุทฺธโฏ. ตสฺมา อปฺปณิหิตํ สฺุตนฺติ วิโมกฺขทฺวยเมว วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. อยํ ตาเวตฺถ วิโมกฺขกถา.
๗๗๑. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘สตฺตอริยปุคฺคลวิภาคาย ปจฺจโย โหตี’’ติ, ตตฺถ สทฺธานุสารี, สทฺธาวิมุตฺโต, กายสกฺขิ, อุภโตภาควิมุตฺโต, ธมฺมานุสารี, ทิฏฺิปฺปตฺโต, ปฺาวิมุตฺโตติ ¶ อิเม ตาว สตฺต อริยปุคฺคลา, เตสํ วิภาคาย อิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ ปจฺจโย โหติ.
๗๗๒. โย หิ อนิจฺจโต มนสิกโรนฺโต อธิโมกฺขพหุโล สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โส โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี โหติ. เสเสสุ สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต.
๗๗๓. โย ปน ทุกฺขโต มนสิกโรนฺโต ปสฺสทฺธิพหุโล สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โส สพฺพตฺถ กายสกฺขิ นาม โหติ. อรูปชฺฌานํ ปน ปตฺวา อคฺคผลปฺปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต นาม โหติ.
๗๗๔. โย ¶ ปน อนตฺตโต มนสิกโรนฺโต เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภติ, โส โสตาปตฺติมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี โหติ. ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺโตติ.
‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลภติ, เตน วุจฺจติ สทฺธานุสารี’’ติ.
ตถา ‘‘อนิจฺจโต มนสิกโรโต สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา โสตาปตฺติผลํ สจฺฉิกตํ โหติ, เตน วุจฺจติ สทฺธาวิมุตฺโต’’ติอาทิ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๑).
‘‘สทฺทหนฺโต วิมุตฺโตติ สทฺธาวิมุตฺโต. ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโตติ กายสกฺขิ. ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทิฏฺิปฺปตฺโต. สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตีติ สทฺธาวิมุตฺโต. ฌานผสฺสํ ปมํ ผุสติ ปจฺฉา นิโรธํ นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ กายสกฺขิ. ‘ทุกฺขา สงฺขารา, สุโข นิโรโธ’ติ าตํ โหติ ทิฏฺํ วิทิตํ สจฺฉิกตํ ผุสิตํ ปฺายาติ ทิฏฺิปฺปตฺโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๑).
๗๗๗. อิตเรสุ ¶ ปน จตูสุ สทฺธํ อนุสรติ, สทฺธาย วา อนุสรติ คจฺฉตีติ สทฺธานุสารี. ตถา ปฺาสงฺขาตํ ธมฺมํ อนุสรติ, ธมฺเมน วา อนุสรตีติ ธมฺมานุสารี. อรูปชฺฌาเนน เจว อริยมคฺเคน จาติ อุภโตภาเคน วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต. ปชานนฺโต วิมุตฺโตติ ปฺาวิมุตฺโตติ เอวํ วจนตฺโถ เวทิตพฺโพติ.
สงฺขารุเปกฺขาาณํ.
๗๗๘. ตํ ปเนตํ ปุริเมน าณทฺวเยน อตฺถโต เอกํ. เตนาหุ โปราณา – ‘‘อิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ เอกเมว ตีณิ นามานิ ลภติ, เหฏฺา ¶ มฺุจิตุกมฺยตาาณํ นาม ชาตํ, มชฺเฌ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นาม, อนฺเต จ สิขาปฺปตฺตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ นาม’’.
‘‘กถํ มฺุจิตุกมฺยตา-ปฏิสงฺขา-สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ? อุปฺปาทํ มฺุจิตุกมฺยตา-ปฏิสงฺขา-สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ. ปวตฺตํ…เป… นิมิตฺตํ…เป… อุปายาสํ มฺุจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขา-สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณํ. อุปฺปาโท ทุกฺขนฺติ…เป… ภยนฺติ…เป… สามิสนฺติ…เป… อุปฺปาโท สงฺขาราติ…เป… อุปายาโส สงฺขาราติ มฺุจิตุกมฺยตา-ปฏิสงฺขา-สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๔).
๗๘๐. ตตฺถ มฺุจิตุกมฺยตา จ สา ปฏิสงฺขา จ สนฺติฏฺนา จาติ มฺุจิตุกมฺยตา-ปฏิสงฺขา-สนฺติฏฺนา. อิติ ปุพฺพภาเค นิพฺพิทาาเณน นิพฺพินฺนสฺส อุปฺปาทาทีนิ ปริจฺจชิตุกามตา มฺุจิตุกามตา. มฺุจนสฺส อุปายกรณตฺถํ มชฺเฌ ปฏิสงฺขานํ ปฏิสงฺขา. มฺุจิตฺวา อวสาเน อชฺฌุเปกฺขนํ สนฺติฏฺนา. ยํ สนฺธาย ‘‘อุปฺปาโท สงฺขารา, เต สงฺขาเร อชฺฌุเปกฺขตีติ สงฺขารุเปกฺขา’’ติอาทิ (ปฏิ. ม. ๑.๕๔) วุตฺตํ. เอวํ เอกเมวิทํ าณํ.
๗๘๑. อปิจ อิมายปิ ปาฬิยา อิทํ เอกเมวาติ เวทิตพฺพํ. วุตฺตํ เหตํ – ‘‘ยา จ มฺุจิตุกมฺยตา, ยา จ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา, ยา จ สงฺขารุเปกฺขา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา, พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗).
๗๘๒. เอวํ ¶ อธิคตสงฺขารุเปกฺขสฺส ปน อิมสฺส กุลปุตฺตสฺส วิปสฺสนา สิขาปฺปตฺตา วุฏฺานคามินี โหติ. สิขาปฺปตฺตา วิปสฺสนาติ วา วุฏฺานคามินีติ วา สงฺขารุเปกฺขาทิาณตฺตยสฺเสว เอตํ นามํ. สา หิ สิขํ อุตฺตมภาวํ ปตฺตตฺตา สิขาปฺปตฺตา. วุฏฺานํ คจฺฉตีติ วุฏฺานคามินี. วุฏฺานํ วุจฺจติ พหิทฺธานิมิตฺตภูตโต อภินิวิฏฺวตฺถุโต เจว อชฺฌตฺตปวตฺตโต จ วุฏฺหนโต มคฺโค, ตํ คจฺฉตีติ วุฏฺานคามินี, มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยตีติ อตฺโถ.
๗๘๓. ตตฺรายํ อภินิเวสวุฏฺานานํ อาวิภาวตฺถาย มาติกา – อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตา วุฏฺาติ, อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ ¶ , พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ, พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตา วุฏฺาติ, รูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ, รูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ, อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ, อรูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ, เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ, อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ, อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต, อนตฺตโต วุฏฺาติ, ทุกฺขโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต, อนิจฺจโต, อนตฺตโต วุฏฺาติ, อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา อนตฺตโต, อนิจฺจโต, ทุกฺขโต วุฏฺาติ.
๗๘๔. กถํ? อิเธกจฺโจ อาทิโตว อชฺฌตฺตสงฺขาเรสุ อภินิวิสติ, อภินิวิสิตฺวา เต ปสฺสติ. ยสฺมา ปน น สุทฺธอชฺฌตฺตทสฺสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ โหติ, พหิทฺธาปิ ทฏฺพฺพเมว, ตสฺมา ปรสฺส ขนฺเธปิ อนุปาทิณฺณสงฺขาเรปิ อนิจฺจํ ทุกฺขมนตฺตาติ ปสฺสติ. โส กาเลน อชฺฌตฺตํ สมฺมสติ, กาเลน พหิทฺธา. ตสฺเสวํ สมฺมสโต อชฺฌตฺตํ สมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ. อยํ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา อชฺฌตฺตา วุฏฺาติ นาม.
สเจ ปนสฺส พหิทฺธา สมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ, อยํ อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา วุฏฺาติ นาม. เอส นโย พหิทฺธา อภินิวิสิตฺวา พหิทฺธา จ อชฺฌตฺตา จ วุฏฺาเนปิ.
๗๘๕. อปโร อาทิโตว รูเป อภินิวิสติ, อภินิวิสิตฺวา ภูตรูปฺจ อุปาทารูปฺจ ราสึ กตฺวา ปสฺสติ. ยสฺมา ปน น สุทฺธรูปทสฺสนมตฺเตเนว วุฏฺานํ โหติ, อรูปมฺปิ ทฏฺพฺพเมว. ตสฺมา ตํ รูปํ อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปนฺนํ เวทนํ สฺํ สงฺขาเร วิฺาณฺจ ‘‘อิทํ อรูป’’นฺติ อรูปํ ปสฺสติ. โส กาเลน รูปํ สมฺมสติ, กาเลน อรูปํ ¶ . ตสฺเสวํ สมฺมสโต รูปสมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ, อยํ รูเป อภินิวิสิตฺวา รูปา วุฏฺาติ นาม.
สเจ ปนสฺส อรูปสมฺมสนกาเล วิปสฺสนา มคฺเคน สทฺธึ ฆฏิยติ, อยํ อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา วุฏฺาติ นาม. เอส นโย อรูเป อภินิวิสิตฺวา อรูปา จ รูปา จ วุฏฺาเนปิ.
๗๘๖. ‘‘ยํกิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๙๘) เอวํ อภินิวิสิตฺวา เอวเมว วุฏฺานกาเล ปน เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ นาม.
๗๘๗. เอโก ¶ อาทิโตว อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสติ. ยสฺมา ปน น อนิจฺจโต สมฺมสนมตฺเตเนว วุฏฺานํ โหติ, ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสิตพฺพเมว, ตสฺมา ทุกฺขโตปิ อนตฺตโตปิ สมฺมสติ. ตสฺเสวํ ปฏิปนฺนสฺส อนิจฺจโต สมฺมสนกาเล วุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา อนิจฺจโต วุฏฺาติ นาม.
สเจ ปนสฺส ทุกฺขโต อนตฺตโต สมฺมสนกาเล วุฏฺานํ โหติ, อยํ อนิจฺจโต อภินิวิสิตฺวา ทุกฺขโต, อนตฺตโต วุฏฺาติ นาม. เอส นโย ทุกฺขโต อนตฺตโต อภินิวิสิตฺวา เสสวุฏฺาเนสุปิ.
๗๘๘. เอตฺถ จ โยปิ อนิจฺจโต อภินิวิฏฺโ, โยปิ ทุกฺขโต, โยปิ อนตฺตโต, วุฏฺานกาเล จ อนิจฺจโต วุฏฺานํ โหติ. ตโยปิ ชนา อธิโมกฺขพหุลา โหนฺติ, สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสาริโน โหนฺติ, สตฺตสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺตา. สเจ ปน ทุกฺขโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา ปสฺสทฺธิพหุลา โหนฺติ, สมาธินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, สพฺพตฺถ กายสกฺขิโน โหนฺติ. ยสฺส ปเนตฺถ อรูปชฺฌานํ ปาทกํ, โส อคฺคผเล อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ. อถ เนสํ อนตฺตโต วุฏฺานํ โหติ, ตโยปิ ชนา เวทพหุลา โหนฺติ, ปฺินฺทฺริยํ ปฏิลภนฺติ, สฺุตวิโมกฺเขน วิมุจฺจนฺติ, ปมมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสาริโน โหนฺติ, ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺตา อคฺคผเล ปฺาวิมุตฺตาติ.
๗๘๙. อิทานิ ¶ สทฺธึ ปุริมปจฺฉิมาเณหิ อิมิสฺสา วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย อาวิภาวตฺถํ ทฺวาทส อุปมา เวทิตพฺพา. ตาสํ อิทํ อุทฺทานํ –
‘‘วคฺคุลี กณฺหสปฺโป จ, ฆรํ โค ยกฺขิ ทารโก;
ขุทฺทํ ปิปาสํ สีตุณฺหํ, อนฺธการํ วิเสน จา’’ติ.
อิมา จ อุปมา ภยตุปฏฺานโต ปภุติ ยตฺถ กตฺถจิ าเณ ตฺวา อาหริตุํ วฏฺเฏยฺยุํ. อิมสฺมึ ปน าเน อาหริยมานาสุ ภยตุปฏฺานโต ยาว ผลาณํ สพฺพํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา อิเธว อาหริตพฺพาติ วุตฺตา.
๗๙๐. วคฺคุลีติ ¶ เอกา กิร วคฺคุลี ‘‘เอตฺถ ปุปฺผํ วา ผลํ วา ลภิสฺสามี’’ติ ปฺจสาเข มธุกรุกฺเข นิลียิตฺวา เอกํ สาขํ ปรามสิตฺวา น ตตฺถ กิฺจิ ปุปฺผํ ผลํ วา คยฺหุปคํ อทฺทส. ยถา จ เอกํ, เอวํ ทุติยํ, ตติยํ, จตุตฺถํ. ปฺจมมฺปิ สาขํ ปรามสิตฺวา นาทฺทส. สา ‘‘อผโล วตายํ รุกฺโข, นตฺเถตฺถ กิฺจิ คยฺหุปค’’นฺติ ตสฺมึ รุกฺเข อาลยํ วิสฺสชฺเชตฺวา อุชุกาย สาขาย อารุยฺห วิฏปนฺตเรน สีสํ นีหริตฺวา อุทฺธํ อุลฺโลเกตฺวา อากาเส อุปฺปติตฺวา อฺสฺมึ ผลรุกฺเข นิลียติ.
ตตฺถ วคฺคุลิ วิย โยคาวจโร ทฏฺพฺโพ, ปฺจสาโข มธุกรุกฺโข วิย ปฺจุปาทานกฺขนฺธา, ตตฺถ วคฺคุลิยา นิลียนํ วิย โยคิโน ขนฺธปฺจเก อภินิเวโส, ตสฺสา เอเกกํ สาขํ ปรามสิตฺวา กิฺจิ คยฺหุปคํ อทิสฺวา อวเสสสาขาปรามสนํ วิย โยคิโน รูปกฺขนฺธํ สมฺมสิตฺวา ตตฺถ กิฺจิ คยฺหุปคํ อทิสฺวา อวเสสกฺขนฺธสมฺมสนํ, ตสฺสา ‘‘อผโล วตายํ รุกฺโข’’ติ รุกฺเข อาลยวิสฺสชฺชนํ วิย โยคิโน ปฺจสุปิ ขนฺเธสุ อนิจฺจลกฺขณาทิทสฺสนวเสน นิพฺพินฺนสฺส มฺุจิตุกมฺยตาทิาณตฺตยํ, ตสฺสา อุชุกาย สาขาย อุปริ อาโรหนํ วิย โยคิโน อนุโลมํ, สีสํ นีหริตฺวา อุทฺธํ อุลฺโลกนํ วิย โคตฺรภุาณํ, อากาเส อุปฺปตนํ วิย มคฺคาณํ, อฺสฺมึ ผลรุกฺเข นิลียนํ วิย ผลาณํ.
๗๙๑. กณฺหสปฺปุปมา ปฏิสงฺขาาเณ วุตฺตาว. อุปมาสํสนฺทเน ปเนตฺถ สปฺปวิสฺสชฺชนํ วิย ¶ โคตฺรภุาณํ, มฺุจิตฺวา อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺตสฺส านํ วิย มคฺคาณํ, คนฺตฺวา อภยฏฺาเน านํ วิย ผลาณนฺติ อยํ วิเสโส.
๗๙๒. ฆรนฺติ ฆรสามิเก กิร สายํ ภฺุชิตฺวา สยนํ อารุยฺห นิทฺทํ โอกฺกนฺเต ฆรํ อาทิตฺตํ, โส ปพุชฺฌิตฺวา อคฺคึ ทิสฺวา ‘‘ภีโต สาธุ วตสฺส สเจ อฑยฺหมาโน นิกฺขเมยฺย’’นฺติ โอโลกยมาโน มคฺคํ ทิสฺวา นิกฺขมิตฺวา เวเคน เขมฏฺานํ คนฺตฺวา ิโต. ตตฺถ ฆรสามิกสฺส ภฺุชิตฺวา สยนํ อารุยฺห นิทฺโทกฺกมนํ วิย พาลปุถุชฺชนสฺส ขนฺธปฺจเก ‘‘อหํ มมา’’ติ คหณํ. ปพุชฺฌิตฺวา อคฺคึ ทิสฺวา ภีตกาโล วิย สมฺมาปฏิปทํ ปฏิปชฺชิตฺวา ลกฺขณํ ทิสฺวา ภยตุปฏฺานาณํ, นิกฺขมนมคฺคํ โอโลกนํ วิย มฺุจิตุกมฺยตาาณํ ¶ , มคฺคทสฺสนํ วิย อนุโลมํ, นิกฺขมนํ วิย โคตฺรภุาณํ, เวเคน คมนํ วิย มคฺคาณํ, เขมฏฺาเน านํ วิย ผลาณํ.
๗๙๓. โคติ เอกสฺส กิร กสฺสกสฺส รตฺติภาเค นิทฺทํ โอกฺกนฺตสฺส วชํ ภินฺทิตฺวา โคณา ปลาตา, โส ปจฺจูสสมเย ตตฺถ คนฺตฺวา โอโลเกนฺโต เตสํ ปลาตภาวํ ตฺวา อนุปทํ คนฺตฺวา รฺโ โคเณ อทฺทส. เต ‘‘มยฺหํ โคณา’’ติ สลฺลกฺเขตฺวา อาหรนฺโต ปภาตกาเล ‘‘น อิเม มยฺหํ โคณา, รฺโ โคณา’’ติ สฺชานิตฺวา ‘‘ยาว มํ ‘โจโร อย’นฺติ คเหตฺวา ราชปุริสา น อนยพฺยสนํ ปาเปนฺติ, ตาวเทว ปลายิสฺสามี’’ติ ภีโต โคเณ ปหาย เวเคน ปลายิตฺวา นิพฺภยฏฺาเน อฏฺาสิ. ตตฺถ ‘‘มยฺหํ โคณา’’ติ ราชโคณานํ คหณํ วิย พาลปุถุชฺชนสฺส ‘‘อหํ มมา’’ติ ขนฺธานํ คหณํ, ปภาเต ‘‘ราชโคณา’’ติ สฺชานนํ วิย โยคิโน ติลกฺขณวเสน ขนฺธานํ ‘‘อนิจฺจา ทุกฺขา อนตฺตา’’ติ สฺชานนํ, ภีตกาโล วิย ภยตุปฏฺานาณํ, วิสฺสชฺชิตฺวา คนฺตุกามตา วิย มฺุจิตุกมฺยตา, วิสฺสชฺชนํ วิย โคตฺรภุ, ปลายนํ วิย มคฺโค, ปลายิตฺวา อภยเทเส านํ วิย ผลํ.
๗๙๔. ยกฺขีติ เอโก กิร ปุริโส ยกฺขินิยา สทฺธึ สํวาสํ กปฺเปสิ, สา รตฺติภาเค ‘‘สุตฺโต อย’’นฺติ มนฺตฺวา อามกสุสานํ คนฺตฺวา มนุสฺสมํสํ ขาทติ. โส ‘‘กุหึ เอสา คจฺฉตี’’ติ อนุพนฺธิตฺวา มนุสฺสมํสํ ขาทมานํ ทิสฺวา ตสฺสา อมนุสฺสิภาวํ ตฺวา ‘‘ยาว มํ น ขาทติ, ตาว ปลายิสฺสามี’’ติ ภีโต เวเคน ปลายิตฺวา เขมฏฺาเน อฏฺาสิ. ตตฺถ ยกฺขินิยา สทฺธึ สํวาโส วิย ขนฺธานํ ‘‘อหํ มมา’’ติ คหณํ, สุสาเน มนุสฺสมํสํ ขาทมานํ ¶ ทิสฺวา ‘‘ยกฺขินี อย’’นฺติ ชานนํ วิย ขนฺธานํ ติลกฺขณํ ทิสฺวา อนิจฺจาทิภาวชานนํ, ภีตกาโล วิย ภยตุปฏฺานํ, ปลายิตุกามตา วิย มฺุจิตุกมฺยตา, สุสานวิชหนํ วิย โคตฺรภุ, เวเคน ปลายนํ วิย มคฺโค, อภยเทเส านํ วิย ผลํ.
๗๙๕. ทารโกติ เอกา กิร ปุตฺตคิทฺธินี อิตฺถี, สา อุปริปาสาเท นิสินฺนาว อนฺตรวีถิยํ ทารกสทฺทํ สุตฺวา ‘‘ปุตฺโต นุ โข เม เกนจิ วิเหิยตี’’ติ เวคสา คนฺตฺวา ‘‘อตฺตโน ปุตฺโต’’ติ สฺาย ปรปุตฺตํ อคฺคเหสิ. สา ‘‘ปรปุตฺโต อย’’นฺติ สฺชานิตฺวา โอตฺตปฺปมานา อิโต จิโต ¶ จ โอโลเกตฺวา ‘‘มา เหว มํ โกจิ ‘ทารกโจรี อย’นฺติ วเทยฺยา’’ติ ทารกํ ตตฺเถว โอโรเปตฺวา ปุน เวคสา ปาสาทํ อารุยฺห นิสีทิ. ตตฺถ อตฺตโน ปุตฺตสฺาย ปรปุตฺตสฺส คหณํ วิย ‘‘อหํ มมา’’ติ ปฺจกฺขนฺธคหณํ, ‘‘ปรปุตฺโต อย’’นฺติ สฺชานนํ วิย ติลกฺขณวเสน ‘‘นาหํ, น มมา’’ติ สฺชานนํ, โอตฺตปฺปนํ วิย ภยตุปฏฺานํ, อิโต จิโต จ โอโลกนํ วิย มฺุจิตุกมฺยตาาณํ, ตตฺเถว ทารกสฺส โอโรปนํ วิย อนุโลมํ, โอโรเปตฺวา อนฺตรวีถิยํ ิตกาโล วิย โคตฺรภุ, ปาสาทารูหนํ วิย มคฺโค, อารุยฺห นิสีทนํ วิย ผลํ.
๗๙๖. ขุทฺทํ ปิปาสํ สีตุณฺหํ, อนฺธการํ วิเสน จาติ อิมา ปน ฉ อุปมา วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ิตสฺส โลกุตฺตรธมฺมาภิมุขนินฺนโปณปพฺภารภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตา. ยถา หิ ขุทฺทาย อภิภูโต สุชิฆจฺฉิโต ปุริโส สาทุรสํ โภชนํ ปตฺเถติ, เอวเมวายํ สํสารวฏฺฏชิฆจฺฉาย ผุฏฺโ โยคาวจโร อมตรสํ กายคตาสติโภชนํ ปตฺเถติ.
ยถา จ ปิปาสิโต ปุริโส ปริสุสฺสมานกณฺมุโข อเนกงฺคสมฺภารํ ปานกํ ปตฺเถติ, เอวเมวายํ สํสารวฏฺฏปิปาสาย ผุฏฺโ โยคาวจโร อริยํ อฏฺงฺคิกมคฺคปานกํ ปตฺเถติ.
ยถา ปน สีตสมฺผุฏฺโ ปุริโส อุณฺหํ ปตฺเถติ, เอวเมวายํ สํสารวฏฺเฏ ตณฺหาสิเนหสีเตน ผุฏฺโ โยคาวจโร กิเลสสนฺตาปกํ มคฺคเตชํ ปตฺเถติ.
ยถา จ อุณฺหสมฺผุฏฺโ ปุริโส สีตํ ปตฺเถติ, เอวเมวายํ สํสารวฏฺเฏ เอกาทสคฺคิสนฺตาปสนฺตตฺโต โยคาวจโร เอกาทสคฺคิวูปสมํ นิพฺพานํ ปตฺเถติ.
ยถา ¶ ปน อนฺธการปเรโต ปุริโส อาโลกํ ปตฺเถติ, เอวเมวายํ อวิชฺชนฺธกาเรน โอนทฺธปริโยนทฺโธ โยคาวจโร าณาโลกํ มคฺคภาวนํ ปตฺเถติ.
ยถา จ วิสสมฺผุฏฺโ ปุริโส วิสฆาตนํ เภสชฺชํ ปตฺเถติ, เอวเมวายํ กิเลสวิสสมฺผุฏฺโ โยคาวจโร กิเลสวิสนิมฺมถนํ อมโตสธํ นิพฺพานํ ปตฺเถติ. เตน วุตฺตํ – ‘‘ตสฺเสวํ ชานโต เอวํ ปสฺสโต ¶ ตีสุ ภเวสุ…เป… นวสุ สตฺตาวาเสสุ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ ปติวตฺตติ น สมฺปสาริยติ. อุเปกฺขา วา ปาฏิกุลฺยตา วา สณฺาติ. เสยฺยถาปิ นาม ปทุมปลาเส อีสกโปเณ’’ติ สพฺพํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ.
๗๙๗. เอตฺตาวตา จ ปเนส ปติลีนจโร นาม โหติ, ยํ สนฺธาย วุตฺตํ –
‘‘ปติลีนจรสฺส ภิกฺขุโน,
ภชมานสฺส วิวิตฺตมาสนํ;
สามคฺคิยมาหุ ตสฺส ตํ,
โย อตฺตานํ ภวเน น ทสฺสเย’’ติ. (สุ. นิ. ๘๑๖; มหานิ. ๔๕);
เอวมิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ โยคิโน ปติลีนจรภาวํ นิยเมตฺวา อุตฺตริ อริยมคฺคสฺสาปิ โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคปฏิปทาวิโมกฺขวิเสสํ นิยเมติ. เกจิ หิ เถรา โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคานํ วิเสสํ ปาทกชฺฌานํ นิยเมตีติ วทนฺติ. เกจิ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา ขนฺธา นิยเมนฺตีติ วทนฺติ. เกจิ ปุคฺคลชฺฌาสโย นิยเมตีติ วทนฺติ. เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ ปุพฺพภาควุฏฺานคามินิวิปสฺสนาว นิยเมตีติ เวทิตพฺพา.
๗๙๘. ตตฺรายํ อนุปุพฺพิกถา – วิปสฺสนานิยเมน หิ สุกฺขวิปสฺสกสฺส อุปฺปนฺนมคฺโคปิ, สมาปตฺติลาภิโน ฌานํ ปาทกํ อกตฺวา อุปฺปนฺนมคฺโคปิ, ปมชฺฌานํ ปาทกํ กตฺวา ปกิณฺณกสงฺขาเร สมฺมสิตฺวา อุปฺปาทิตมคฺโคปิ ปมชฺฌานิกาว โหนฺติ. สพฺเพสุ สตฺต โพชฺฌงฺคานิ อฏฺ มคฺคงฺคานิ ปฺจ ฌานงฺคานิ โหนฺติ. เตสํ หิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ หุตฺวา วุฏฺานกาเล สงฺขารุเปกฺขาภาวํ ปตฺวา โสมนสฺสสหคตา ¶ โหติ. ปฺจกนเย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคสุ ยถากฺกเมเนว ฌานํ จตุรงฺคิกํ ติวงฺคิกํ ทุวงฺคิกฺจ โหติ. สพฺเพสุ ปน สตฺต มคฺคงฺคานิ โหนฺติ. จตุตฺเถ ฉ โพชฺฌงฺคานิ. อยํ วิเสโส ปาทกชฺฌานนิยเมน เจว วิปสฺสนานิยเมน จ โหติ. เตสมฺปิ หิ ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตาปิ อุเปกฺขาสหคตาปิ โหติ. วุฏฺานคามินี โสมนสฺสสหคตาว. ปฺจมชฺฌานํ ¶ ปาทกํ กตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺเค ปน อุเปกฺขาจิตฺเตกคฺคตาวเสน ทฺเว ฌานงฺคานิ โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคานิ ฉ สตฺต เจว. อยมฺปิ วิเสโส อุภยนิยมวเสน โหติ. อิมสฺมึ หิ นเย ปุพฺพภาควิปสฺสนา โสมนสฺสสหคตา วา อุเปกฺขาสหคตา วา โหติ. วุฏฺานคามินี อุเปกฺขาสหคตาว. อรูปชฺฌานานิ ปาทกํ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺเคปิ เอเสว นโย. เอวํ ปาทกชฺฌานโต วุฏฺาย เยเกจิ สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา นิพฺพตฺติตมคฺคสฺส อาสนฺนปเทเส วุฏฺิตสมาปตฺติ อตฺตโน สทิสภาวํ กโรติ ภูมิวณฺโณ วิย โคธาวณฺณสฺส.
๗๙๙. ทุติยตฺเถรวาเท ปน ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺาย เย เย สมาปตฺติธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต โหติ, ตํตํสมาปตฺติสทิโสว โหติ. ตตฺราปิ จ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.
๘๐๐. ตติยตฺเถรวาเท อตฺตโน อตฺตโน อชฺฌาสยานุรูเปน ยํ ยํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา เย เย ฌานธมฺเม สมฺมสิตฺวา มคฺโค นิพฺพตฺติโต, ตํตํฌานสทิโสว โหติ. ปาทกชฺฌานํ ปน สมฺมสิตชฺฌานํ วา วินา อชฺฌาสยมตฺเตเนว ตํ น อิชฺฌติ. สฺวายมตฺโถ นนฺทโกวาทสุตฺเตน (ม. นิ. ๓.๓๙๘ อาทโย) ทีเปตพฺโพ. เอตฺถาปิ จ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ. เอวํ ตาว สงฺขารุเปกฺขา โพชฺฌงฺคมคฺคงฺคฌานงฺคานิ นิยเมตีติ เวทิตพฺพา.
๘๐๑. สเจ ปนายํ อาทิโต กิเลเส วิกฺขมฺภยมานา ทุกฺเขน สปฺปโยเคน สสงฺขาเรน วิกฺขมฺเภตุํ อสกฺขิ, ทุกฺขาปฏิปทา นาม โหติ. วิปริยาเยน สุขาปฏิปทา. กิเลเส ปน วิกฺขมฺเภตฺวา วิปสฺสนาปริวาสํ มคฺคปาตุภาวํ สณิกํ กุรุมานา ทนฺธาภิฺา นาม โหติ. วิปริยาเยน ขิปฺปาภิฺา. อิติ อยํ สงฺขารุเปกฺขา อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ เทติ. เตน มคฺโค จตฺตาริ นามานิ ลภติ.
สา ¶ ¶ ปนายํ ปฏิปทา กสฺสจิ ภิกฺขุโน นานา โหติ, กสฺสจิ จตูสุปิ มคฺเคสุ เอกาว. พุทฺธานํ ปน จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺาว อเหสุํ. ตถา ธมฺมเสนาปติสฺส. มหาโมคฺคลฺลานตฺเถรสฺส ปน ปมมคฺโค สุขาปฏิปโท ขิปฺปาภิฺโ อโหสิ. อุปริ ตโย ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา. ยถา จ ปฏิปทา, เอวํ อธิปตโยปิ กสฺสจิ ภิกฺขุโน จตูสุ มคฺเคสุ นานา โหนฺติ. กสฺสจิ จตูสุปิ เอกาว. เอวํ สงฺขารุเปกฺขา ปฏิปทาวิเสสํ นิยเมติ. ยถา ปน วิโมกฺขวิเสสํ นิยเมติ, ตํ ปุพฺเพ วุตฺตเมว.
๘๐๒. อปิจ มคฺโค นาม ปฺจหิ การเณหิ นามํ ลภติ สรเสน วา ปจฺจนีเกน วา สคุเณน วา อารมฺมเณน วา อาคมเนน วา. สเจ หิ สงฺขารุเปกฺขา อนิจฺจโต สงฺขาเร สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ ทุกฺขโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. สเจ อนตฺตโต สมฺมสิตฺวา วุฏฺาติ, สฺุตวิโมกฺเขน วิมุจฺจติ. อิทํ สรสโต นามํ นาม.
ยสฺมา ปเนส อนิจฺจานุปสฺสนาย สงฺขารานํ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา นิจฺจนิมิตฺตธุวนิมิตฺตสสฺสตนิมิตฺตานิ ปชหนฺโต อาคโต, ตสฺมา อนิมิตฺโต. ทุกฺขานุปสฺสนาย ปน สุขสฺํ ปหาย ปณิธึ ปตฺถนํ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิโต. อนตฺตานุปสฺสนาย อตฺตสตฺตปุคฺคลสฺํ ปหาย สงฺขารานํ สฺุโต ทิฏฺตฺตา สฺุโตติ อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นาม.
ราคาทีหิ ปเนส สฺุตฺตา สฺุโต, รูปนิมิตฺตาทีนํ ราคนิมิตฺตาทีนฺเว วา อภาเวน อนิมิตฺโต, ราคปณิธิอาทีนํ อภาวโต อปฺปณิหิโตติ อิทมสฺส สคุณโต นามํ.
สฺวายํ สฺุํ อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตฺจ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กโรตีติปิ สฺุโต อนิมิตฺโต อปฺปณิหิโตติ วุจฺจติ. อิทมสฺส อารมฺมณโต นามํ.
๘๐๓. อาคมนํ ปน ทุวิธํ วิปสฺสนาคมนํ มคฺคาคมนฺจ. ตตฺถ มคฺเค วิปสฺสนาคมนํ ลภติ, ผเล มคฺคาคมนํ. อนตฺตานุปสฺสนา หิ สฺุตา นาม, สฺุตวิปสฺสนาย มคฺโค สฺุโต, อนิจฺจานุปสฺสนา อนิมิตฺตา นาม ¶ , อนิมิตฺตวิปสฺสนาย ¶ มคฺโค อนิมิตฺโต. อิทํ ปน นามํ น อภิธมฺมปริยาเยน ลพฺภติ, สุตฺตนฺตปริยาเยน ลพฺภติ. ตตฺร หิ โคตฺรภุาณํ อนิมิตฺตํ นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา อนิมิตฺตนามกํ หุตฺวา สยํ อาคมนียฏฺาเน ตฺวา มคฺคสฺส นามํ เทตีติ วทนฺติ. เตน มคฺโค อนิมิตฺโตติ วุตฺโต. มคฺคาคมเนน ปน ผลํ อนิมิตฺตนฺติ ยุชฺชติเยว. ทุกฺขานุปสฺสนา สงฺขาเรสุ ปณิธึ สุกฺขาเปตฺวา อาคตตฺตา อปฺปณิหิตา นาม, อปฺปณิหิตวิปสฺสนาย มคฺโค อปฺปณิหิโต, อปฺปณิหิตมคฺคสฺส ผลํ อปฺปณิหิตํ. เอวํ วิปสฺสนา อตฺตโน นามํ มคฺคสฺส เทติ, มคฺโค ผลสฺสาติ อิทํ อาคมนโต นามํ. เอวมยํ สงฺขารุเปกฺขา วิโมกฺขวิเสสํ นิยเมตีติ.
สงฺขารุเปกฺขาาณํ นิฏฺิตํ.
อนุโลมาณกถา
๘๐๔. ตสฺส ตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อาเสวนฺตสฺส ภาเวนฺตสฺส พหุลีกโรนฺตสฺส อธิโมกฺขสทฺธา พลวตรา นิพฺพตฺตติ, วีริยํ สุปคฺคหิตํ โหติ, สติ สูปฏฺิตา, จิตฺตํ สุสมาหิตํ, ติกฺขตรา สงฺขารุเปกฺขา อุปฺปชฺชติ. ตสฺส ‘‘ทานิ มคฺโค อุปฺปชฺชิสฺสตี’’ติ สงฺขารุเปกฺขา สงฺขาเร อนิจฺจาติ วา ทุกฺขาติ วา อนตฺตาติ วา สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรติ. ภวงฺคานนฺตรํ สงฺขารุเปกฺขาย กตนเยเนว สงฺขาเร อนิจฺจาติ วา ทุกฺขาติ วา อนตฺตาติ วา อารมฺมณํ กุรุมานํ อุปฺปชฺชติ มโนทฺวาราวชฺชนํ. ตโต ภวงฺคํ อาวฏฺเฏตฺวา อุปฺปนฺนสฺส ตสฺส กิริยจิตฺตสฺสานนฺตรํ อวีจิกํ จิตฺตสนฺตตึ อนุปฺปพนฺธมานํ ตเถว สงฺขาเร อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ ปมํ ชวนจิตฺตํ, ยํ ปริกมฺมนฺติ วุจฺจติ. ตทนนฺตรํ ตเถว สงฺขาเร อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ ทุติยํ ชวนจิตฺตํ, ยํ อุปจารนฺติ วุจฺจติ. ตทนนฺตรมฺปิ ตเถว สงฺขาเร อารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชติ ตติยํ ชวนจิตฺตํ, ยํ อนุโลมนฺติ วุจฺจติ. อิทํ เนสํ ปาฏิเยกฺกํ นามํ.
อวิเสเสน ปน ติวิธมฺเปตํ อาเสวนนฺติปิ ปริกมฺมนฺติปิ อุปจารนฺติปิ อนุโลมนฺติปิ วตฺตุํ วฏฺฏติ. กิสฺสานุโลมํ? ปุริมภาคปจฺฉิมภาคานํ. ตฺหิ ปุริมานํ อฏฺนฺนํ ¶ วิปสฺสนาาณานํ ตถกิจฺจตาย จ อนุโลเมติ, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ. ตฺหิ อนิจฺจลกฺขณาทิวเสน สงฺขาเร อารพฺภ ¶ ปวตฺตตฺตา, ‘‘อุทยพฺพยวนฺตานํเยว วต ธมฺมานํ อุทยพฺพยาณํ อุปฺปาทวเย อทฺทสา’’ติ จ, ‘‘ภงฺควนฺตานํเยว วต ภงฺคานุปสฺสนํ ภงฺคํ อทฺทสา’’ติ จ, ‘‘สภยํเยว วต ภยตุปฏฺานสฺส ภยโต อุปฏฺิต’’นฺติ จ, ‘‘สาทีนเวเยว วต อาทีนวานุปสฺสนํ อาทีนวํ อทฺทสา’’ติ จ, ‘‘นิพฺพินฺทิตพฺเพเยว วต นิพฺพิทาาณํ นิพฺพินฺน’’นฺติ จ, ‘‘มฺุจิตพฺพมฺหิเยว วต มฺุจิตุกมฺยตาาณํ มฺุจิตุกามํ ชาต’’นฺติ จ, ‘‘ปฏิสงฺขาตพฺพํเยว วต ปฏิสงฺขาาเณน ปฏิสงฺขาต’’นฺติ จ, ‘‘อุเปกฺขิตพฺพํเยว วต สงฺขารุเปกฺขาย อุเปกฺขิต’’นฺติ จ อตฺถโต วทมานํ วิย อิเมสฺจ อฏฺนฺนํ าณานํ ตถกิจฺจตาย อนุโลเมติ, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตาย ปฏิปตฺติยา ปตฺตพฺพตฺตา.
ยถา หิ ธมฺมิโก ราชา วินิจฺฉยฏฺาเน นิสินฺโน โวหาริกมหามตฺตานํ วินิจฺฉยํ สุตฺวา อคติคมนํ ปหาย มชฺฌตฺโต หุตฺวา ‘‘เอวํ โหตู’’ติ อนุโมทมาโน เตสฺจ วินิจฺฉยสฺส อนุโลเมติ, โปราณสฺส จ ราชธมฺมสฺส, เอวํสมฺปทมิทํ เวทิตพฺพํ. ราชา วิย หิ อนุโลมาณํ, อฏฺ โวหาริกมหามตฺตา วิย อฏฺ าณานิ, โปราโณ ราชธมฺโม วิย สตฺตตึส โพธิปกฺขิยา. ตตฺถ ยถา ราชา ‘‘เอวํ โหตู’’ติ วทมาโน โวหาริกานฺจ วินิจฺฉยสฺส, ราชธมฺมสฺส จ อนุโลเมติ, เอวมิทํ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขาเร อารพฺภ อุปฺปชฺชมานํ อฏฺนฺนฺจ าณานํ ตถกิจฺจตาย อนุโลเมติ, อุปริ จ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺมานํ. เตเนว สจฺจานุโลมิกาณนฺติ วุจฺจตีติ.
อนุโลมาณํ นิฏฺิตํ.
วุฏฺานคามินีวิปสฺสนากถา
๘๐๕. อิทฺจ ปน อนุโลมาณํ สงฺขารารมฺมณาย วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ปริโยสานํ โหติ. สพฺเพน สพฺพํ ปน โคตฺรภุาณํ วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ปริโยสานํ. อิทานิ ตสฺสาเยว วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย อสมฺโมหตฺถํ อยํ สุตฺตสํสนฺทนา เวทิตพฺพา.
อยฺหิ วุฏฺานคามินี วิปสฺสนา สฬายตนวิภงฺคสุตฺเต ‘‘อตมฺมยตํ, ภิกฺขเว, นิสฺสาย อตมฺมยตํ อาคมฺม ยายํ อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา, ตํ ปชหถ ตํ สมติกฺกมถา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๑๐) เอวํ อตมฺมยตาติ วุตฺตา.
อลคทฺทสุตฺตนฺเต ‘‘นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ, วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๔๕) เอวํ นิพฺพิทาติ วุตฺตา.
สุสิมสุตฺตนฺเต ‘‘ปุพฺเพ โข, สุสิม, ธมฺมฏฺิติาณํ, ปจฺฉา นิพฺพาเน าณ’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๗๐) เอวํ ธมฺมฏฺิติาณนฺติ วุตฺตา.
โปฏฺปาทสุตฺตนฺเต ‘‘สฺา โข, โปฏฺปาท, ปมํ อุปฺปชฺชติ, ปจฺฉา าณ’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๔๑๖) เอวํ สฺคฺคนฺติ วุตฺตา.
ทสุตฺตรสุตฺตนฺเต ‘‘ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺค’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙) เอวํ ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ วุตฺตา.
ปฏิสมฺภิทามคฺเค ‘‘ยา จ มฺุจิตุกมฺยตา ยา จ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา ยา จ สงฺขารุเปกฺขา, อิเม ธมฺมา เอกตฺถา พฺยฺชนเมว นาน’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๒๗) เอวํ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตา.
ปฏฺาเน ‘‘อนุโลมํ โคตฺรภุสฺส, อนุโลมํ โวทานสฺสา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๑๗) เอวํ ตีหิ นาเมหิ วุตฺตา.
รถวินีตสุตฺตนฺเต ‘‘กึ ปนาวุโส, ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธตฺถํ ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๕๗) เอวํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วุตฺตา.
อิติเนเกหิ ¶ ¶ นาเมหิ, กิตฺติตา ยา มเหสินา;
วุฏฺานคามินี สนฺตา, ปริสุทฺธา วิปสฺสนา.
วุฏฺาตุกาโม สํสาร-ทุกฺขปงฺกา มหพฺภยา;
กเรยฺย สตตํ ตตฺถ, โยคํ ปณฺฑิตชาติโกติ.
อิติ สาธุชนปาโมชฺชตฺถาย กเต วิสุทฺธิมคฺเค
ปฺาภาวนาธิกาเร
ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทโส นาม
เอกวีสติโม ปริจฺเฉโท.