📜
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
วิสุทฺธิมคฺค-มหาฏีกา
(ปโม ภาโค)
คนฺถารมฺภกถา
สทฺธมฺมรํสิมาลี ¶ ¶ โย, วิเนยฺยกมลากเร;
วิโพเธสิ มหาโมห-ตมํ หนฺตฺวาน สพฺพโส.
าณาติสยพิมฺพํ ตํ, วิสุทฺธกรุณารุณํ;
วนฺทิตฺวา นิรุปกฺเลสํ, พุทฺธาทิจฺจํ มโหทยํ.
โลกาโลกกรํ ธมฺมํ, คุณรสฺมิสมุชฺชลํ;
อริยสงฺฆฺจ สมฺผุลฺลํ, วิสุทฺธกมลากรํ.
วนฺทนาชนิตํ ¶ ปฺุํ, อิติ ยํ รตนตฺตเย;
หตนฺตราโย สพฺพตฺถ, หุตฺวาหํ ตสฺส เตชสา.
สมฺปนฺนสีลาจาเรน, ธีมตา สุจิวุตฺตินา;
อชฺเฌสิโต ทาานาคตฺเถเรน ถิรเจตสา.
วิสุทฺธจริโต นาโถ, ยํ วิสุทฺธิมนุตฺตรํ;
ปตฺวา เทเสสิ กรุณาสมุสฺสาหิตมานโส.
ตสฺสา อธิคมูปาโย, วิสุทฺธนยมณฺฑิโต;
วิสุทฺธิมคฺโค โย วุตฺโต, สุวิสุทฺธปทกฺกโม.
สุวิสุทฺธํ อสํกิณฺณํ, นิปุณตฺถวินิจฺฉยํ;
มหาวิหารวาสีนํ, สมยํ อวิโลมยํ.
ตสฺส ¶ นิสฺสาย โปราณํ, กถามคฺคํ อนากุลํ;
ตนฺตินยานุคํ สุทฺธํ, กริสฺสามตฺถวณฺณนํ.
อิติ อากงฺขมานสฺส, สทฺธมฺมสฺส จิรฏฺิตึ;
วิภชนฺตสฺส ตสฺสตฺถํ, นิสามยถ สาธโวติ.
นิทานาทิกถาวณฺณนา
๑. สฺวายํ วิสุทฺธิมคฺโค ยํ สุตฺตปทํ นิสฺสาย ปฏฺปียติ, ตํ ตาว นิกฺขิปิตฺวา ตสฺส นิทานาทินิทฺธารณมุเขน นานปฺปการโต อตฺถํ สํวณฺเณตุํ ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ธมฺมํ สํวณฺเณนฺเตน หิ อาทิโต ตสฺส นิทานํ วตฺตพฺพํ, ตโต ปโยชนํ ปิณฺฑตฺโถ ปทตฺโถ สมฺพนฺโธ อธิปฺปาโย โจทนา โสธนํ วตฺตพฺพํ. ตถา เจว อาจริเยน ปฏิปนฺนํ. เอตฺถ หิ ภควนฺตํ กิราติอาทิ เทสนาย นิทานปโยชนนิทฺธารณํ, วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺสนฺติอาทิ ปิณฺฑตฺถนิทฺธารณํ ¶ , สีเล ตฺวาติอาทิ ปทตฺถสมฺพนฺธาธิปฺปายวิภาวนา, กึ สีลนฺติอาทิ โจทนา, ตโต ปรํ โสธนํ, สมาธิปฺากถาสุปิ เอเสว นโย. กสฺมา ปเนตฺถ วิสฺสชฺชนคาถา อาทิมฺหิ นิกฺขิตฺตา, น ปุจฺฉาคาถา. ปุจฺฉาปุพฺพิกา หิ วิสฺสชฺชนาติ? วุจฺจเต – ตทตฺถสฺส มงฺคลภาวโต, สาสนสฺส อาทิกลฺยาณาทิภาววิภาวนโต, ภยาทิอุปทฺทวนิวารเณน อนฺตรายวิธมนโต, อุปริ สํวณฺเณตพฺพธมฺมสงฺคหโต จาติ เวทิตพฺพํ.
เอตฺถาห – กสฺมา ปนายํ วิสุทฺธิมคฺคกถา วตฺถุปุพฺพิกา อารทฺธา, น สตฺถุโถมนาปุพฺพิกาติ? วุจฺจเต – วิสุํ อสํวณฺณนาทิภาวโต. สุมงฺคลวิลาสินีอาทโย วิย หิ ทีฆนิกายาทีนํ นายํ วิสุํ สํวณฺณนา, น ปกรณนฺตรํ วา อภิธมฺมาวตารสุมตาวตาราทิ วิย. ตาสํเยว ปน สุมงฺคลวิลาสินีอาทีนํ วิเสสภูตา. เตเนวาห ‘‘มชฺเฌ วิสุทฺธิมคฺโค’’ติอาทิ (ที. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา; ม. นิ. อฏฺ. ๑.คนฺถารมฺภกถา; สํ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถา; อ. นิ. อฏฺ. ๑.๑.คนฺถารมฺภกถา). อถ วา โถมนาปุพฺพิกาปิ จายํ กถา น วตฺถุปุพฺพิกาวาติ ทฏฺพฺพํ. สาสเน หิ วตฺถุกิตฺตนํ น โลเก วิย เกวลํ โหติ, สาสนสมฺปตฺติกิตฺตนตฺตา ปน สตฺถุ อวิปรีตธมฺมเทสนาภาววิภาวเนน สตฺถุคุณสํกิตฺตนํ อุลฺลิงฺคนฺตเมว ปวตฺตติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘เอตฺตาวตา ติสฺโส สิกฺขา’’ติอาทิ. โสตาปนฺนาทิภาวสฺส จ การณนฺติ เอตฺถ หิ อาทิ-สทฺเทน สพฺพสกทาคามิอนาคามิโน ¶ วิย สพฺเพปิ อรหนฺโต สงฺคยฺหนฺติ วิภาคสฺส อนุทฺธฏตฺตา. เตน ติณฺณมฺปิ โพธิสตฺตานํ นิพฺเพธภาคิยา สีลาทโย อิธ ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิวจเนน สงฺคหิตาติ ทฏฺพฺพํ. ติณฺณมฺปิ หิ เนสํ จริมภเว วิเสสโต สํสารภยิกฺขณํ, ยถาสกํ สีเล ปติฏฺาย สมถวิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา ตณฺหาชฏาวิชฏนปฏิปตฺติ จ สมานาติ. อถ วา ‘‘โส อิมํ วิชฏเย ชฏ’’นฺติ สาธารณวจเนน สาติสยํ, นิรติสยฺจ ตณฺหาชฏาวิชฏนํ คหิตํ. ตตฺถ ยํ นิรติสยํ สวาสนปฺปหานตาย. เตน สตฺถุ ปหานสมฺปทา กิตฺติตา โหติ, ตนฺนิมิตฺตา าณสมฺปทา จ. ตทุภเยน นานนฺตริกตาย อานุภาวสมฺปทาทโยปีติ. เอวมฺปิ โถมนาปุพฺพิกายํ กถาติ เวทิตพฺพํ. อถ วา โถมนาปุพฺพิกา เอวายํ กถาติ ทฏฺพฺพํ, ‘‘สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร’’ติอาทินา สตฺถุ โถมนํ ปุรกฺขตฺวา สํวณฺณนาย อารทฺธตฺตา. สา ปนายํ ยสฺมา ปุจฺฉนฺตสฺส อชฺฌาสยานุรูปํ พฺยากรณสมตฺถตาย วิภาวนวเสน ปวตฺติตา, อาจิณฺณฺเจตํ อาจริยสฺส ยทิทํ สํวณฺเณตพฺพธมฺมานุกูลํ สํวณฺณนารมฺเภ สตฺถุ อภิตฺถวนํ. ตสฺมา ¶ อิมินา การเณน เอวเมตฺถ โถมนา ปวตฺติตาติ. โถมนาการสฺส วุจฺจมานสฺส การณํ อุทฺธรนฺเตน ปมํ วิสฺสชฺชนคาถํ นิกฺขิปิตฺวา ตสฺสา นิทานโจทนามุเขน ปุจฺฉาคาถํ สรูปโต จ อตฺถโต จ ทสฺเสตฺวา ตสฺสา ปุจฺฉาย อวิปรีตพฺยากรณสมตฺถภาวาวโชตนํ ภควโต โถมนํ ปุรกฺขตฺวา ยถาธิปฺเปตธมฺมสํวณฺณนา กตา. เตนาห ‘‘สีเล ปติฏฺายา’’ติอาทิ. ตตฺถ คาถาย อตฺโถ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.
อิตีติอาทีสุ อิตีติ อยํ อิติ-สทฺโท เหตุ ปริสมาปนาทิปทตฺถวิปริยายปการาวธารณนิทสฺสนาทิอเนกตฺถปฺปเภโท. ตถา เหส ‘‘รุปฺปตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา ‘รูป’นฺติ วุจฺจตี’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๓.๗๙) เหตุมฺหิ อาคโต. ‘‘ตสฺมาติห เม, ภิกฺขเว, ธมฺมทายาทา ภวถ, มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ, โน อามิสทายาทา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๙) ปริสมาปเน. ‘‘อิติ วา อิติ เอวรูปา นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา ปฏิวิรโต’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๑๙๗) อาทิอตฺเถ. ‘‘มาคณฺฑิโยติ ตสฺส พฺราหฺมณสฺส สงฺขา สมฺา ปฺตฺติ โวหาโร นามํ ¶ นามกมฺมํ นามเธยฺยํ นิรุตฺติ พฺยฺชนํ อภิลาโป’’ติอาทีสุ (มหานิ. ๗๓, ๗๕) ปทตฺถวิปริยาเย. ‘‘อิติ โข, ภิกฺขเว, สปฺปฏิภโย พาโล, อปฺปฏิภโย ปณฺฑิโต. สอุปทฺทโว พาโล, อนุปทฺทโว ปณฺฑิโต. สอุปสคฺโค พาโล, อนุปสคฺโค ปณฺฑิโต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๑๒๔) ปกาเร. ‘‘อตฺถิ อิทปฺปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ ปุฏฺเน สตา, อานนฺท, อตฺถีติสฺส วจนียํ, กึปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิติ เจ วเทยฺย, ชาติปจฺจยา ชรามรณนฺติ อิจฺจสฺส วจนีย’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๒.๙๖) อวธารเณ, สนฺนิฏฺาเนติ อตฺโถ. ‘‘อตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยเมโก อนฺโต, นตฺถีติ โข, กจฺจาน, อยํ ทุติโย อนฺโต’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๒.๑๕; ๓.๙๐) นิทสฺสเน. อิธาปิ นิทสฺสเน ทฏฺพฺโพ, ปกาเรติปิ วตฺตุํ วฏฺฏเตว. ปโม ปน อิติ-สทฺโท ปริสมาปเน ทฏฺพฺโพ. หีติ อวธารเณ. อิทนฺติ อาสนฺนปจฺจกฺขวจนํ ยถาธิคตสฺส สุตฺตปทสฺส อภิมุขีกรณโต.
วุตฺตนฺติ อยํ วุตฺต-สทฺโท สอุปสคฺโค, อนุปสคฺโค จ วปฺปนวาปสมีกรณเกโสหารณชีวิตวุตฺติปมุตฺตภาวปาวจนปวตฺติตอชฺเฌสนกถนาทีสุ ทิสฺสติ. ตถา หิ อยํ –
‘‘คาโว ¶ ตสฺส ปชายนฺติ, เขตฺเต วุตฺตํ วิรูหติ;
วุตฺตานํ ผลมสฺนาติ, โย มิตฺตานํ น ทุพฺภตี’’ติ. –
อาทีสุ (ชา. ๒.๒๒.๑๙) วปฺปเน อาคโต. ‘‘โน จ โข ปฏิวุตฺต’’นฺติอาทีสุ (ปารา. ๒๘๙) อฏฺทนฺตกาทีหิ วาปสมีกรเณ. ‘‘กาปฏิโก มาณโว ทหโร วุตฺตสิโร’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๒.๔๒๖) เกโสหารเณ. ‘‘ปนฺนโลโม ปรทตฺตวุตฺโต มิคภูเตน เจตสา วิหรตี’’ติอาทีสุ (จูฬว. ๓๓๒) ชีวิตวุตฺติยํ. ‘‘เสยฺยถาปิ นาม ปณฺฑุปลาโส พนฺธนา ปวุตฺโต อภพฺโพ หริตตฺถายา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๕๙; ปารา. ๙๒; ปาจิ. ๖๖๖; มหาว. ๑๒๙) พนฺธนโต ปมุตฺตภาเว. ‘‘เยสมิทํ เอตรหิ โปราณํ มนฺตปทํ คีตํ ปวุตฺตํ สมิหิต’’นฺติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘๕; ม. นิ. ๒.๔๒๗; มหาว. ๓๐๐) ปาวจนภาเวน ปวตฺติเต. โลเก ปน ‘‘วุตฺโต คุโณ วุตฺโต ปารายโน’’ติอาทีสุ อชฺเฌสเน. ‘‘วุตฺตํ โข ¶ ปเนตํ ภควตา ‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ, มา อามิสทายาทา’ติ’’อาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๐) กถเน. อิธาปิ กถเน เอว ทฏฺพฺโพ. ตสฺมา ‘‘อิติ หิ เอวเมว อิทํ สุตฺตํ เทสิต’’นฺติ ยถานิกฺขิตฺตํ คาถํ เทสิตภาเวน นิทสฺเสติ. ตสฺสา วา เทสิตาการํ อวธาเรติ.
กสฺมาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกํ. ปนาติ วจนาลงฺการมตฺตํ. อุภเยนาปิ การณํ ปุจฺฉติ. เอตนฺติ ยถาวุตฺตํ สุตฺตปทํ ปจฺจามสติ. วุตฺตนฺติ ปุจฺฉานิมิตฺตํ. ตทตฺถสฺส อตฺตโน พุทฺธิยํ วิปริวตฺตมานตํ อุปาทาย ‘‘อิท’’นฺติ วตฺวา ปุน ภควตา ภาสิตาการํ สนฺธาย ‘‘เอต’’นฺติ วุตฺตํ. สกเลน ปนาเนน วจเนน เทสนาย นิทานํ โชติตํ โหติ. ปรโต ตสฺสา เทสกเทสกาลปฏิคฺคาหเก วิภาเวตุํ ‘‘ภควนฺตํ กิรา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กิราติ อนุสฺสวนตฺเถ นิปาโต. เตน วุจฺจมานสฺสตฺถสฺส อนุ อนุ สุยฺยมานตํ ทีเปติ. รตฺติภาเคติ รตฺติยา เอกสฺมึ โกฏฺาเส, มชฺฌิมยาเมติ อธิปฺปาโย. เวสฺสวณาทโย วิย อปากฏนามเธยฺยตฺตา อฺตโร. เทโว เอว เทวปุตฺโต. สํสยสมุคฺฆาฏตฺถนฺติ วิจิกิจฺฉาสลฺลสมุทฺธรณตฺถํ ปุจฺฉีติ โยชนา. ‘‘สํสยสมุคฺฆาฏตฺถ’’นฺติ จ อิมินา ปฺจสุ ปุจฺฉาสุ อยํ วิมติจฺเฉทนาปุจฺฉาติ ทสฺเสติ. เยน อตฺเถน ตณฺหา ‘‘ชฏา’’ติ วุตฺตา, ตเมว อตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ชาลินิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สา หิ อฏฺสตตณฺหาวิจริตปฺปเภโท อตฺตโน อวยวภูโต เอว ชาโล เอติสฺสา อตฺถีติ ‘‘ชาลินี’’ติ วุจฺจติ.
อิทานิสฺสา ¶ ชฏากาเรน ปวตฺตึ ทสฺเสตุํ ‘‘สา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ รูปาทีสุ อารมฺมเณสูติ ตสฺสา ปวตฺติฏฺานมาห, รูปาทิฉฬารมฺมณวินิมุตฺตสฺส ตณฺหาวิสยสฺส อภาวโต. เหฏฺุปริยวเสนาติ กทาจิ รูปารมฺมเณ กทาจิ ยาว ธมฺมารมฺมเณ กทาจิ ธมฺมารมฺมเณ กทาจิ ยาว รูปารมฺมเณติ เอวํ เหฏฺา, อุปริ จ ปวตฺติวเสน. เทสนากฺกเมน เจตฺถ เหฏฺุปริยตา ทฏฺพฺพา. กทาจิ กามภเว กทาจิ รูปภเว กทาจิ อรูปภเว กทาจิ วา อรูปภเว…เป… กทาจิ กามภเวติ เอวเมตฺถ เหฏฺุปริยวเสน ปวตฺติ เวทิตพฺพา. สพฺพสงฺขารานํ ขเณ ขเณ ภิชฺชนสภาวตฺตา อปราปรุปฺปตฺติ เอตฺถ สํสิพฺพนนฺติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต’’ติ. ‘‘สํสิพฺพนฏฺเนา’’ติ อิทํ เยน สมฺพนฺเธน ชฏา วิยาติ ชฏาติ ¶ ชฏาตณฺหานํ อุปมูปเมยฺยตา, ตํทสฺสนํ. อยํ เหตฺถ อตฺโถ – ยถา ชาลิโน เวฬุคุมฺพสฺส สาขา, โกสสฺจยาทโย จ อตฺตนา อตฺตโน อวยเวหิ สํสิพฺพิตา วินทฺธา ‘‘ชฏา’’ติ วุจฺจนฺติ, เอวํ ตณฺหาปิ สํสิพฺพนสภาเวนาติ, ‘‘สํสิพฺพิตฏฺเนา’’ติ วา ปาโ, อตฺตนาว อตฺตโน สํสิพฺพิตภาเวนาติ อตฺโถ. อยํ หิ ตณฺหา โกสการกิมิ วิย อตฺตนาว อตฺตานมฺปิ สํสิพฺพนฺตี ปวตฺตติ. เตนาห ภควา ‘‘รูปตณฺหา โลเก ปิยรูปํ สาตรูปํ, เอตฺเถสา ตณฺหา อุปฺปชฺชมานา อุปฺปชฺชติ, เอตฺถ นิวิสมานา นิวิสตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๘๖; วิภ. ๒๐๓). อิเม สตฺตา ‘‘มม อิท’’นฺติ ปริคฺคหิตํ วตฺถุํ อตฺตนิพฺพิเสสํ มฺมานา อพฺภนฺตริมํ กโรนฺติ. อพฺภนฺตรตฺโถ จ อนฺโตสทฺโทติ สกปริกฺขาเร อุปฺปชฺชมานาปิ ตณฺหา ‘‘อนฺโตชฏา’’ติ วุตฺตา. ปพฺพชิตสฺส ปตฺตาทิ, คหฏฺสฺส หตฺถิอาทิ สกปริกฺขาโร.
‘‘อตฺตา’’ติ ภวติ เอตฺถ อภิมาโนติ อตฺตภาโว, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. สรีรนฺติ เกจิ. มม อตฺตภาโว สุนฺทโร, อสุกสฺส วิย มม อตฺตภาโว ภเวยฺยาติ วา อาทินา สกอตฺตภาวาทีสุ ตณฺหาย อุปฺปชฺชมานากาโร เวทิตพฺโพ. อตฺตโน จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ. อตฺตโน, ปเรสฺจ รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ. ปเรสํ สพฺพานิ วา, สปรสนฺตติปริยาปนฺนานิ วา จกฺขาทีนิ อชฺฌตฺติกายตนานิ. ตถา รูปาทีนิ พาหิรายตนานิ. ปริตฺตมหคฺคตภเวสุ ปวตฺติยาปิ ตณฺหาย อนฺโตชฏาพหิชฏาภาโว เวทิตพฺโพ. กามภโว หิ กสฺสจิปิ กิเลสสฺส อวิกฺขมฺภิตตฺตา กถฺจิปิ อวิมุตฺโต อชฺฌตฺตคฺคหณสฺส วิเสสปจฺจโยติ ‘‘อชฺฌตฺตํ, อนฺโต’’ติ จ วุจฺจติ. ตพฺพิปริยายโต รูปารูปภโว ‘‘พหิทฺธา, พหี’’ติ จ. เตนาห ภควา ‘‘อชฺฌตฺตสํโยชโน ปุคฺคโล, พหิทฺธาสํโยชโน ปุคฺคโล’’ติ (อ. นิ. ๒.๓๗). วิสยเภเทน, ปวตฺติอาการเภเทน จ อเนกเภทภินฺนมฺปิ ตณฺหํ ¶ ชฏาภาวสามฺเน เอกนฺติ คเหตฺวา ‘‘ตาย เอวํ อุปฺปชฺชมานาย ชฏายา’’ติ วุตฺตํ. สา ปน ‘‘ปชา’’ติ วุตฺตสตฺตสนฺตานปริยาปนฺนา เอว หุตฺวา ปุนปฺปุนํ ตํ ชเฏนฺตี วินนฺธนฺตี ปวตฺตตีติ อาห ‘‘ชฏาย ชฏิตา ปชา’’ติ. ตถา หิ ปรมตฺถโต ยทิปิ อวยวพฺยติเรเกน สมุทาโย นตฺถิ, เอกเทโส ปน สมุทาโย นาม น โหตีติ อวยวโต สมุทายํ ภินฺนํ กตฺวา อุปมูปเมยฺยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา นาม ¶ เวฬุชฏาทีหิ…เป… สํสิพฺพิตา’’ติ อาห. อิมํ ชฏนฺติ สมฺพนฺโธ. ตีสุ ธาตูสุ เอกมฺปิ อเสเสตฺวา สํสิพฺพเนน เตธาตุกํ ชเฏตฺวา ิตํ. เตนสฺสา มหาวิสยตํ, วิชฏนสฺส จ สุทุกฺกรภาวมาห. ‘‘วิชเฏตุํ โก สมตฺโถ’’ติ อิมินา ‘‘วิชฏเย’’ติ ปทํ สตฺติอตฺถํ, น วิธิอาทิอตฺถนฺติ ทสฺเสติ.
เอวํ ‘‘อนฺโตชฏา’’ติอาทินา ปุฏฺโ ปน อสฺส เทวปุตฺตสฺส อิมํ คาถมาหาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘เอทิโสว อิมํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชยฺยา’’ติ สตฺถารํ คุณโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สพฺพธมฺเมสูติ อตีตาทิเภทภินฺเนสุ สพฺเพสุ เยฺยธมฺเมสุ. อปฺปฏิหตาณจาโรติ อนวเสสเยฺยาวรณปฺปหาเนน นิสฺสงฺคจารตฺตา นวิหตาณปวตฺติโก. เอเตน ตีสุ กาเลสุ อปฺปฏิหตาณตาวิภาวเนน อาทิโต ติณฺณํ อาเวณิกธมฺมานํ คหเณเนว ตเทกลกฺขณตาย ตทวินาภาวโต จ ภควโต เสสาเวณิกธมฺมานมฺปิ คหิตภาโว เวทิตพฺโพ. ทิพฺพนฺติ กามคุณาทีหิ กีฬนฺติ ลฬนฺติ, เตสุ วา วิหรนฺติ, วิชยสมตฺถตาโยเคน ปจฺจตฺถิเก วิเชตุํ อิจฺฉนฺติ, อิสฺสริยธนาทิสกฺการทานคฺคหณํ, ตํตํอตฺถานุสาสนฺจ กโรนฺตา โวหรนฺติ, ปฺุาติสยโยคานุภาวปฺปตฺตาย ชุติยา โชตนฺติ, ยถาธิปฺเปตฺจ วิสยํ อปฺปฏิฆาเตน คจฺฉนฺติ, ยถิจฺฉิตนิปฺผาทเน จ สกฺโกนฺตีติ เทวา. อถ วา เทวนียา ตํตํพฺยสนนิตฺถรณตฺถิเกหิ สรณํ ปรายณนฺติ คมนียา, อภิตฺถวนียา วา, โสภาวิเสสโยเคน กมนียาติ วา เทวา. เต ติวิธา – สมฺมุติเทวา อุปปตฺติเทวา วิสุทฺธิเทวาติ. ภควา ปน นิรติสยาย อภิฺากีฬาย อุตฺตเมหิ ทิพฺพพฺรหฺมอริยวิหาเรหิ สปรสนฺตานคตปฺจวิธมารวิชยิจฺฉานิปฺผตฺติยา จิตฺติสฺสริยสตฺตธนาทิสมฺมาปฏิปตฺติ อเวจฺจปสาทสกฺการทานคฺคหณสงฺขาเตน, ธมฺมสภาวปุคฺคลชฺฌาสยานุรูปานุสาสนีสงฺขาเตน จ โวหาราติสเยน ปรมาย ปฺาสรีรปฺปภาสงฺขาตาย ชุติยา, อนฺสาธารณาย าณสรีรคติยา, มารวิชยสพฺพสพฺพฺุคุณปรหิตนิปฺผาทเนสุ อปฺปฏิหตาย สตฺติยา จ สมนฺนาคตตฺตา สเทวเกน โลเกน ‘‘สรณ’’นฺติ คมนียโต, อภิตฺถวนียโต, ภตฺติวเสน กมนียโต จ สพฺเพ ¶ เต เทเว เตหิ คุเณหิ อภิภุยฺย ิตตฺตา เตสํ เทวานํ เสฏฺโ อุตฺตโม เทโวติ เทวเทโว. สพฺพเทเวหิ ¶ ปูชนียตโร เทโวติ วา, วิสุทฺธิเทวภาวสฺส วา สพฺพฺุคุณาลงฺการสฺส วา อธิคตตฺตา อฺเสํ เทวานํ อติสเยน เทโวติ เทวเทโว.
อปริมาณาสุ โลกธาตูสุ อปริมาณานํ สกฺกานํ, มหาพฺรหฺมานฺจ คุณาภิภวนโต อธิโก อติสโย อติเรกตโร วา สกฺโก พฺรหฺมา จาติ สกฺกานํ อติสกฺโก พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา. าณปฺปหานเทสนาวิเสเสสุ สเทวเก โลเก เกนจิ อวิกฺขมฺภนียฏฺานตาย กุโตจิปิ อุตฺรสฺตาภาวโต จตูหิ เวสารชฺเชหิ วิสารโทติ จตุเวสารชฺชวิสารโท. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส เต ปฏิชานโต อิเม ธมฺมา อนภิสมฺพุทฺธาติ ตตฺร วต มํ สมโณ วา…เป… เวสารชฺชปฺปตฺโต วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๑๕๐; อ. นิ. ๔.๘). านาานาณาทีหิ ทสหิ าณพเลหิ สมนฺนาคตตฺตา ทสพลธโร. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อิธ ตถาคโต านฺจ านโต, อฏฺานฺจ อฏฺานโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๒๑; วิภ. ๘๐๙). ยํ กิฺจิ เยฺยํ นาม, ตตฺถ สพฺพตฺเถว อนาวฏาณตาย อนาวรณาโณ. ตฺจ สพฺพํ สมนฺตโต สพฺพาการโต หตฺถตเล อามลกํ วิย ปจฺจกฺขโต ทสฺสนสมตฺเถน าณจกฺขุนา สมนฺนาคตตฺตา สมนฺตจกฺขุ, สพฺพฺูติ อตฺโถ. อิเมหิ ปน ทฺวีหิ ปเทหิ ปจฺฉิมานิ ทฺเว อสาธารณาณานิ คหิตานิ. ภาคฺยวนฺตตาทีหิ การเณหิ ภควา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วิตฺถารโต อาคมิสฺสติ.
เอตฺถ จ ‘‘สพฺพธมฺเมสุ อปฺปฏิหตาณจาโร’’ติ อิมินา ติยทฺธารุฬฺหานํ ปุจฺฉานํ ภควโต พฺยากรณสมตฺถตาย ทสฺสิตาย กึ เทวตานมฺปิ ปุจฺฉํ พฺยากาตุํ สมตฺโถ ภควาติ อาสงฺกาย ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘เทวเทโว’’ติ วุตฺตํ. เทวานํ อติเทโว สกฺโก เทวานมินฺโท เทวตานํ ปฺหํ วิสฺสชฺเชติ, ‘‘ตโต อิมสฺส โก วิเสโส’’ติ จินฺเตนฺตานํ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘สกฺกานํ อติสกฺโก’’ติ วุตฺตํ. สกฺเกนปิ ปุจฺฉิตมตฺถํ สนงฺกุมาราทโย พฺรหฺมาโน วิสฺสชฺเชนฺติ, ‘‘ตโต อิมสฺส โก อติสโย’’ติ จินฺเตนฺตานํ ตนฺนิวตฺตนตฺถํ ‘‘พฺรหฺมานํ อติพฺรหฺมา’’ติ วุตฺตํ. อยํ จสฺส วิเสโส จตุเวสารชฺชทสพลาเณหิ ปากโฏ ชาโตติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘จตุ…เป… ¶ ธโร’’ติ วุตฺตํ. อิมานิ จ าณานิ อิมสฺส าณทฺวยสฺส อธิคเมน สเหว สิทฺธานีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อนาวรณาโณ สมนฺตจกฺขู’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ าณทฺวยํ ปฺุาณสมฺภารูปจยสิทฺธาย ภคฺคโทสตาย สิทฺธนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ภควา’’ติ อโวจาติ. เอวเมเตสํ ¶ ปทานํ คหเณ ปโยชนํ, อนุปุพฺพิ จ เวทิตพฺพา. ยํ ปเนตํ ปจฺฉิมํ อนาวรณาณํ สพฺพฺุตฺาณนฺติ าณทฺวยํ, ตํ อตฺถโต อภินฺนํ. เอกเมว หิ ตํ าณํ วิสยปวตฺติมุเขน อฺเหิ อสาธารณภาวทสฺสนตฺถํ ทฺวิธา กตฺวา วุตฺตํ. อนวเสสสงฺขตาสงฺขตสมฺมุติธมฺมารมฺมณตาย สพฺพฺุตฺาณํ, ตตฺถาวรณาภาวโต นิสฺสงฺคจารมุปาทาย ‘‘อนาวรณาณ’’นฺติปิ วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต พุทฺธานุสฺสตินิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๓ อาทโย) วกฺขาม.
๒. มหนฺเต สีลกฺขนฺธาทิเก เอสี คเวสีติ มเหสิ, ภควา. เตน มเหสินา. วณฺณยนฺโตติ วิวรนฺโต วิตฺถาเรนฺโต. ยถาภูตนฺติ อวิปรีตํ. สีลาทิเภทนนฺติ สีลสมาธิปฺาทิวิภาคํ. สุทุลฺลภนฺติ อฏฺกฺขณวชฺชิเตน นวเมน ขเณน ลทฺธพฺพตฺตา สุฏฺุ ทุลฺลภํ. สีลาทิสงฺคหนฺติ สีลาทิกฺขนฺธตฺตยสงฺคหํ. อริยมคฺโค หิ ตีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิโต สปฺปเทสตฺตา นครํ วิย รชฺเชน, น ตโย ขนฺธา อริยมคฺเคน นิปฺปเทสตฺตา. วุตฺตฺเหตํ ‘‘น โข, อาวุโส วิสาข, อริเยน อฏฺงฺคิเกน มคฺเคน ตโย ขนฺธา สงฺคหิตา; ตีหิ จ โข, อาวุโส วิสาข, ขนฺเธหิ อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค สงฺคหิโต’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒). กิเลสโจเรหิ อปริปนฺถนียตาย เขมํ. อนฺตทฺวยปริวชฺชนโต, มายาทิกายวงฺกาทิปฺปหานโต จ อุชุํ. สพฺเพสํ สํกิเลสธมฺมานํ มารณวเสน คมนโต ปวตฺตนโต, นิพฺพานสฺส มคฺคนโต, นิพฺพานตฺถิเกหิ มคฺคิตพฺพโต จ มคฺคํ. วิสุทฺธิยาติ นิพฺพานาย, วิสุทฺธิภาวาย วา, อรหตฺตายาติ อตฺโถ.
ยถาภูตํ อชานนฺตาติ เอวํ สีลวิสุทฺธิอาทิวิสุทฺธิปรมฺปราย อธิคนฺตพฺโพ เอวรูโป เอวํกิจฺจโก เอวมตฺโถติ ยาถาวโต อนวพุชฺฌนฺตา. สกลสํกิเลสโต, สํสารโต จ สุทฺธึ วิมุตฺตึ กาเมนฺติ ปตฺเถนฺตีติ สุทฺธิกามา. อปิ-สทฺโท สมฺภาวเน. เตน น เกวลํ สีลมตฺเตน ปริตุฏฺา, อถ โข วิสุทฺธิกามาปิ สมานาติ ทสฺเสติ. อิธาติ อิมสฺมึ สาสเน. ภาวนาย ยุตฺตปยุตฺตตาย โยคิโน วายมนฺตาปิ วิสุทฺธึ ¶ อุทฺทิสฺส ปโยคํ ปรกฺกมํ กโรนฺตาปิ อุปายสฺส อนธิคตตฺตา วิสุทฺธึ นาธิคจฺฉนฺตีติ โยชนา. เตสนฺติ โยคีนํ. กามฺจายํ วิสุทฺธิมคฺโค สมนฺตภทฺทกตฺตา สวนธารณปริจยาทิปสุตานํ สพฺเพสมฺปิ ปาโมชฺชกโร, โยคีนํ ปน สาติสยํ ปโมทเหตูติ อาห ‘‘เตสํ ปาโมชฺชกรณ’’นฺติ. พาหิรกนิกายนฺตรลทฺธีหิ อสมฺมิสฺสตาย สุฏฺุ วิสุทฺธวินิจฺฉยตฺตา สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ. มหาวิหารวาสีนนฺติ อตฺตโน อปสฺสยภูตํ นิกายํ ทสฺเสติ ¶ . เทสนานยนิสฺสิตนฺติ ธมฺมสํวณฺณนานยสนฺนิสฺสิตํ. เอตฺถ จ ‘‘เตสํ ปาโมชฺชกรณ’’นฺติอาทินา สพฺพสํกิเลสมลวิสุทฺธตาย วิสุทฺธึ นิพฺพานํ ปตฺเถนฺตานํ โยคีนํ เอกํเสน ตทาวหตฺตา ปาโมชฺชกโร าณุตฺตเรหิ สมฺมาปฏิปนฺเนหิ อธิฏฺิตตฺตา สุฏฺุ สมฺมา วิสุทฺธวินิจฺฉโย มหาวิหารวาสีนํ กถามคฺโคติ ทสฺเสติ. สกฺกจฺจํ เม ภาสโต สกฺกจฺจํ นิสามยถาติ โยเชตพฺพํ.
เอตฺถ จ ‘‘อิมิสฺสา ทานิ คาถายา’’ติ อิมินา วิสุทฺธิมคฺคภาสนสฺส นิสฺสยํ, ‘‘กถิตาย มเหสินา’’ติ อิมินา ตสฺส ปมาณภาวํ, ‘‘ยถาภูตํ อตฺถํ สีลาทิเภทน’’นฺติ อิมินา อวิปรีตปิณฺฑตฺถํ, ‘‘สุทุลฺลภํ…เป… โยคิโน’’ติ อิมินา นิมิตฺตํ, ‘‘เตสํ ปาโมชฺชกรณ’’นฺติ อิมินา ปโยชนํ, ‘‘วณฺณยนฺโต อตฺถํ, สุวิสุทฺธวินิจฺฉยํ มหาวิหารวาสีนํ เทสนานยนิสฺสิตํ, สกฺกจฺจ’’นฺติ จ อิมินา กรณปฺปการํ ทสฺเสตฺวา ‘‘วิสุทฺธิกามา สพฺเพปิ, นิสามยถ สาธโว’’ติ อิมินา ตตฺถ สกฺกจฺจสวเน สาธุชเน นิโยเชติ. สาธุกํ สวนปฏิพทฺธา หิ สาสนสมฺปตฺติ.
๓. วจนตฺถวิภาวเนน ปเวทิตวิสุทฺธิมคฺคสามฺตฺถสฺส วิสุทฺธิมคฺคกถา วุจฺจมานา อภิรุจึ อุปฺปาเทตีติ ปทตฺถโต วิสุทฺธิมคฺคํ วิภาเวตุํ ‘‘ตตฺถ วิสุทฺธี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ยทิทํ ‘‘วิสุทฺธิมคฺคํ ภาสิสฺส’’นฺติ เอตฺถ วิสุทฺธิมคฺคปทํ วุตฺตํ, ตตฺถ. สพฺพมลวิรหิตนฺติ สพฺเพหิ ราคาทิมเลหิ, สพฺเพหิ สํกิเลสมเลหิ จ วิรหิตํ วิวิตฺตํ. ตโต เอว อจฺจนฺตปริสุทฺธํ, สพฺพทา สพฺพถา จ วิสุทฺธนฺติ อตฺโถ. ยถาวุตฺตํ วิสุทฺธึ มคฺคติ คเวสติ อธิคจฺฉติ เอเตนาติ วิสุทฺธิมคฺโค. เตนาห ‘‘มคฺโคติ อธิคมูปาโย วุจฺจตี’’ติ. วิสุทฺธิมคฺโคติ จ นิปฺปริยาเยน โลกุตฺตรมคฺโค เวทิตพฺโพ, ตทุปายตฺตา ปน ปุพฺพภาคมคฺโค, ตนฺนิสฺสโย กถาปพนฺโธ จ ตถา วุจฺจติ.
สฺวายํ ¶ วิสุทฺธิมคฺโค สตฺถารา เทสนาวิลาสโต, เวเนยฺยชฺฌาสยโต จ นานานเยหิ เทสิโต, เตสุ อยเมโก นโย คหิโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘โส ปนาย’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ กตฺถจีติ กิสฺมิฺจิ สุตฺเต. วิปสฺสนามตฺตวเสเนวาติ อวธารเณน สมถํ นิวตฺเตติ. โส หิ ตสฺสา ปฏิโยคี, น สีลาทิ. มตฺต-สทฺเทน จ วิเสสนิวตฺติอตฺเถน สวิเสสํ สมาธึ นิวตฺเตติ. โส อุปจารปฺปนาเภโท วิปสฺสนายานิกสฺส เทสนาติ กตฺวา น สมาธิมตฺตํ. น หิ ¶ ขณิกสมาธึ วินา วิปสฺสนา สมฺภวติ. วิปสฺสนาติ จ ติวิธาปิ อนุปสฺสนา เวทิตพฺพา, น อนิจฺจานุปสฺสนาว. น หิ อนิจฺจทสฺสนมตฺเตน สจฺจาภิสมโย สมฺภวติ. ยํ ปน คาถายํ อนิจฺจลกฺขณสฺเสว คหณํ กตํ, ตํ ยสฺส ตเทว สุฏฺุตรํ ปากฏํ หุตฺวา อุปฏฺาติ, ตาทิสสฺส วเสน. โสปิ หิ อิตรํ ลกฺขณทฺวยํ วิภูตตรํ กตฺวา สมฺมสิตฺวา วิเสสํ อธิคจฺฉติ, น อนิจฺจลกฺขณเมว.
สพฺเพ สงฺขาราติ สพฺเพ เตภูมกสงฺขารา, เต หิ สมฺมสนียา. อนิจฺจาติ น นิจฺจา อทฺธุวา อิตฺตรา ขณภงฺคุราติ. ปฺายาติ วิปสฺสนาปฺาย. ปสฺสติ สมฺมสติ. อถ ปจฺฉา อุทยพฺพยาณาทีนํ อุปฺปตฺติยา อุตฺตรกาลํ. นิพฺพินฺทติ ทุกฺเขติ ตสฺมึเยว อนิจฺจาการโต ทิฏฺเ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา’’ติ วุตฺเต เตภูมเก ขนฺธปฺจกสงฺขาเต ทุกฺเข นิพฺพินฺทติ นิพฺพิทาาณํ ปฏิลภติ. เอส มคฺโค วิสุทฺธิยาติ เอส นิพฺพิทานุปสฺสนาสงฺขาโต วิราคาทีนํ การณภูโต นิพฺพานสฺส อธิคมูปาโย.
ฌานปฺาวเสนาติ สมถวิปสฺสนาวเสน. ฌานนฺติ เจตฺถ วิปสฺสนาย ปาทกภูตํ ฌานํ อธิปฺเปตํ. ยมฺหีติ ยสฺมึ ปุคฺคเล. ฌานฺจ ปฺา จาติ เอตฺถายมตฺโถ – โย ปุคฺคโล ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา ตํ อุสฺสุกฺกาเปติ. ส เว นิพฺพานสนฺติเกติ โส พฺยตฺตํ นิพฺพานสฺส สมีเป เอกนฺตโต นิพฺพานํ อธิคจฺฉตีติ.
กมฺมนฺติ มคฺคเจตนา. สา หิ อปจยคามิตาย สตฺตานํ สุทฺธึ อาวหติ. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิ. สีลนฺติ สมฺมาวาจากมฺมนฺตา. ชีวิตมุตฺตมนฺติ สมฺมาอาชีโว. ธมฺโมติ อวเสสา จตฺตาโร อริยมคฺคธมฺมา. อถ วา กมฺมนฺติ สมฺมากมฺมนฺตสฺส คหณํ. ‘‘ยา จาวุโส วิสาข, สมฺมาทิฏฺิ, โย จ ¶ สมฺมาสงฺกปฺโป, อิเม ธมฺมา ปฺากฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๒) วจนโต. วิชฺชาติ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปานํ คหณํ. ธมฺโมติ สมาธิ ‘‘เอวํธมฺมา เต ภควนฺโต อเหสุ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๓๗๘) วิย. ตคฺคหเณเนว ‘‘โย จาวุโส วิสาข, สมฺมาวายาโม, ยา จ สมฺมาสติ, โย จ สมฺมาสมาธิ, อิเม ธมฺมา สมาธิกฺขนฺเธ สงฺคหิตา’’ติ วจนโต สมฺมาวายามสตีนมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. สีลนฺติ สมฺมาวาจาชีวานํ. ชีวิตมุตฺตมนฺติ เอวรูปสฺส อริยปุคฺคลสฺส ชีวิตํ อุตฺตมํ ชีวิตนฺติ เอวเมตฺถ อฏฺงฺคิโก อริยมคฺโค วุตฺโตติ เวทิตพฺโพ.
สีลาทิวเสนาติ ¶ สีลสมาธิปฺาวีริยวเสน. สพฺพทาติ สมาทานโต ปภุติ สพฺพกาลํ. สีลสมฺปนฺโนติ จตุปาริสุทฺธิสีลสมฺปทาย สมฺปนฺโน สมนฺนาคโต. ปฺวาติ โลกิยโลกุตฺตราย ปฺาย สมนฺนาคโต. สุสมาหิโตติ ตํสมฺปยุตฺเตน สมาธินา สุฏฺุ สมาหิโต. อารทฺธวีริโยติ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย, กุสลานํ ธมฺมานํ อุปสมฺปทาย ปคฺคหิตวีริโย. ปหิตตฺโตติ นิพฺพานํ ปติเปสิตตฺตตาย กาเย จ ชีวิเต จ นิรเปกฺขจิตฺโต. โอฆนฺติ กาโมฆาทิจตุพฺพิธมฺปิ โอฆํ, สํสารมโหฆเมว วา.
เอกายโนติ เอกมคฺโค. มคฺคปริยาโย หิ อิธ อยน-สทฺโท, ตสฺมา เอกปถภูโต อยํ, ภิกฺขเว, มคฺโค, น ทฺเวธาปถภูโตติ อตฺโถ. เอกํ วา นิพฺพานํ อยติ คจฺฉตีติ เอกายโน, เอเกน วา คณสงฺคณิกํ ปหาย วิเวกฏฺเน อยิตพฺโพ ปฏิปชฺชิตพฺโพติ เอกายโน, อยนฺติ เตนาติ วา อยโน, เอกสฺส เสฏฺสฺส ภควโต อยโนติ เอกายโน, เตน อุปฺปาทิตตฺตา, เอกสฺมึ วา อิมสฺมึเยว ธมฺมวินเย อยโนติ เอกายโน. สตฺตานํ วิสุทฺธิยาติ ราคาทิมเลหิ, อภิชฺฌาวิสมโลภาทิอุปกฺกิเลเสหิ จ สตฺตานํ วิสุทฺธตฺถาย วิสุชฺฌนตฺถาย. ยทิทนฺติ นิปาโต, เย อิเมติ อตฺโถ. ปุพฺเพ สรณลกฺขเณน มคฺคฏฺเน จ มคฺโคติ วุตฺตสฺเสว กายาทิวิสยเภเทน จตุพฺพิธตฺตา ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา’’ติ วุตฺตํ. สมฺมปฺปธานาทีสูติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อปฺปมาทาภิรติอาทีนํ สงฺคโห เวทิตพฺโพ ¶ . อปฺปมาทาภิรติอาทิวเสนาปิ หิ กตฺถจิ วิสุทฺธิมคฺโค เทสิโต. ยถาห –
‘‘อปฺปมาทรโต ภิกฺขุ, ปมาเท ภยทสฺสิ วา;
อภพฺโพ ปริหานาย, นิพฺพานสฺเสว สนฺติเก’’ติ. (ธ. ป. ๓๒);
๔. ตตฺราติ ตสฺสํ คาถายํ. อุปริ วุจฺจมานา คาถาย วิตฺถารสํวณฺณนา นิทฺเทสปฏินิทฺเทสฏฺานิยา, ตโต สํขิตฺตตรา อตฺถวณฺณนา อุทฺเทสฏฺานิยาติ อาห ‘‘อยํ สงฺเขปวณฺณนา’’ติ. ยถาอุทฺทิฏฺสฺส หิ อตฺถสฺส นิทฺเทสปฏินิทฺเทสา สุกรา, สุโพธา จ โหนฺตีติ. สีเล ปติฏฺายาติ เอตฺถ สีเลติ กุสลสีเล. ยทิปิ ‘‘กตเม จ, ถปติ, อกุสลา สีลา’’ติอาทีสุ อกุสลา ธมฺมาปิ สีลนฺติ อาคตา. วุจฺจมานาย ปน จิตฺตปฺาภาวนาย อธิฏฺานาโยคฺยตาย กิริยสีลานมฺปิ อสมฺภโว, กุโต อิตเรสนฺติ กุสลสีลเมเวตฺถ อธิปฺเปตํ. สีลํ ปริปูรยมาโนติอาทีสุ ปริปูรยมาโนติ ปริปาเลนฺโต, ปริวฑฺเฒนฺโต วา, สพฺพภาเคหิ สํวรนฺโต ¶ , อวีติกฺกมนฺโต จาติ อตฺโถ. ตถาภูโต หิ ตํ อวิชหนฺโต ตตฺถ ปติฏฺิโต นาม โหติ. ‘‘สีเล’’ติ หิ อิทํ อาธาเร ภุมฺมํ. ปติฏฺายาติ ทุวิธา ปติฏฺา นิสฺสยูปนิสฺสยเภทโต. ตตฺถ อุปนิสฺสยปติฏฺา โลกิยา, อิตรา โลกุตฺตรา อภินฺทิตฺวา คหเณ. ภินฺทิตฺวา ปน คหเณ ยถา โลกิยจิตฺตุปฺปาเทสุ สหชาตานํ, ปุริมปจฺฉิมานฺจ วเสน นิสฺสยูปนิสฺสยปติฏฺา สมฺภวติ, เอวํ โลกุตฺตเรสุ เหฏฺิมมคฺคผลสีลวเสน อุปนิสฺสยปติฏฺาปิ สมฺภวติ. ‘‘ปติฏฺายา’’ติ จ ปทสฺส ยทา อุปนิสฺสยปติฏฺา อธิปฺเปตา, ตทา ‘‘สทฺธํ อุปนิสฺสายา’’ติอาทีสุ (ปฏฺา. ๑.๑.๔๒๓) วิย ปุริมกาลกิริยาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. เตนาห ‘‘ปุพฺเพว โข ปนสฺส กายกมฺมํ วจีกมฺมํ อาชีโว สุปริสุทฺโธ โหตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๔๓๑). ยทา ปน นิสฺสยปติฏฺา อธิปฺเปตา, ตทา ‘‘จกฺขฺุจ ปฏิจฺจา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๐๔; ๓.๔๒๑; สํ. นิ. ๔.๖๐) วิย สมานกาลกิริยาวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. สมฺมาวาจาทโย หิ อตฺตนา สมฺปยุตฺตานํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนํ สหชาตวเสเนว นิสฺสยปจฺจยา โหนฺตีติ.
นรติ ¶ เนตีติ นโร, ปุริโส. ยถา หิ ปมปกติภูโต สตฺโต, อิตราย ปกติยา เสฏฺฏฺเน ปุริ อุจฺเจ าเน เสติ ปวตฺตตีติ ‘‘ปุริโส’’ติ วุจฺจติ, เอวํ นยนฏฺเน ‘‘นโร’’ติ วุจฺจติ. ปุตฺตภาตุภูโตปิ หิ ปุคฺคโล มาตุเชฏฺภคินีนํ เนตุฏฺาเน ติฏฺติ, ปเคว อิตโร อิตราสํ. นเรน โยคโต, นรสฺส อยนฺติ วา นารี, อิตฺถี. สาปิ เจตฺถ กามํ ตณฺหาชฏาวิชฏนสมตฺถตา อตฺถิ, ปธานเมว ปน สตฺตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘นโร’’ติ อาห ยถา ‘‘สตฺถา เทวมนุสฺสาน’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๕๗, ๒๕๕). อฏฺกถายํ ปน อวิภาเคน ปุคฺคลปริยาโย อยนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘นโรติ สตฺโต’’ติ วุตฺตํ. สปฺโติ วิปากภูตาย สห ปฺาย ปวตฺตตีติ สปฺโ. ตาย หิ อาทิโต ปฏฺาย สนฺตานวเสน พหุลํ ปวตฺตมานาย อยํ สตฺโต สวิเสสํ ‘‘สปฺโ’’ติ วตฺตพฺพตํ อรหติ. วิปากปฺาปิ หิ สนฺตานวิเสสเนน ภาวนาปฺุปฺปตฺติยา อุปนิสฺสโย โหติ อเหตุกทฺวิเหตุกานํ ตทภาวโต. สมฺปชฺสงฺขาตาย จ ตํตํกิจฺจการิกาย ปฺาย วเสน ‘‘สปฺโ’’ติ วตฺตุํ วฏฺฏติ. อฏฺกถายํ ปน นิปก-สทฺเทน ปาริหาริกปฺา คยฺหตีติ วิปากปฺาวเสเนเวตฺถ อตฺโถ วุตฺโต. กมฺมชติเหตุกปฏิสนฺธิปฺายาติ กมฺมชาย ติเหตุกปฏิสนฺธิยํ ปฺายาติ เอวํ ติเหตุก-สทฺโท ปฏิสนฺธิ-สทฺเทน สมฺพนฺธิตพฺโพ, น ปฺา-สทฺเทน. น หิ ปฺา ติเหตุกา อตฺถิ. ปฏิสนฺธิโต ปภุติ ปวตฺตมานา ปฺา ‘‘ปฏิสนฺธิยํ ปฺา’’ติ วุตฺตา ตํมูลกตฺตา, น ปฏิสนฺธิกฺขเณ ปวตฺตา เอว.
จินฺเตติ ¶ อารมฺมณํ อุปนิชฺฌายตีติ จิตฺตํ, สมาธิ. โส หิ สาติสยํ อุปนิชฺฌานกิจฺโจ. น หิ วิตกฺกาทโย วินา สมาธินา ตมตฺถํ สาเธนฺติ, สมาธิ ปน เตหิ วินาปิ สาเธตีติ. ปคุณพลวภาวาปาทเนน ปจฺจเยหิ จิตํ, ตถา สนฺตานํ จิโนตีติปิ จิตฺตํ, สมาธิ. ปมชฺฌานาทิวเสน จิตฺตวิจิตฺตตาย, อิทฺธิวิธาทิจิตฺตกรเณน จ สมาธิ จิตฺตนฺติ วินาปิ ปโรปเทเสนสฺส จิตฺตปริยาโย ลพฺภเตว. อฏฺกถายํ ปน จิตฺต-สทฺโท วิฺาเณ นิรุฬฺโหติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสีเสน เหตฺถ สมาธิ นิทฺทิฏฺโ’’ติ. ยถาสภาวํ ปกาเรหิ ชานาตีติ ปฺา. สา ยทิปิ กุสลาทิเภทโต พหุวิธา. ‘‘ภาวย’’นฺติ ปน วจนโต ภาเวตพฺพา อิธาธิปฺเปตาติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิปสฺสน’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ภาวย’’นฺติ จ อิทํ ปจฺเจกํ ¶ โยเชตพฺพํ ‘‘จิตฺตฺจ ภาวยํ, ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ. ตยิทํ ทฺวยํ กึ โลกิยํ, อุทาหุ โลกุตฺตรนฺติ? โลกุตฺตรนฺติ ทฏฺพฺพํ อุกฺกฏฺนิทฺเทสโต. ตํ หิ ภาวยมาโน อริยมคฺคกฺขเณ ตณฺหาชฏํ สมุจฺเฉทวเสน วิชเฏตีติ วุจฺจติ, น โลกิยํ. นานนฺตริยภาเวน ปเนตฺถ โลกิยาปิ คหิตาว โหนฺติ โลกิยสมถวิปสฺสนาย วินา ตทภาวโต. สมถยานิกสฺส หิ อุปจารปฺปนาปฺปเภทํ สมาธึ อิตรสฺส ขณิกสมาธึ, อุภเยสมฺปิ วิโมกฺขมุขตฺตยํ วินา น กทาจิปิ โลกุตฺตราธิคโม สมฺภวติ. เตนาห ‘‘สมาธิฺเจว วิปสฺสนฺจ ภาวยมาโน’’ติ. ตตฺถ ยทา โลกิยา สมถวิปสฺสนา อธิปฺเปตา, ตทา ‘‘ภาวย’’นฺติ อิทํ ภาวนากิริยาย เหตุภาวกถนํ, ภาวนาเหตูติ อตฺโถ. ตํภาวนาเหตุกา หิ วิชฏนกิริยาติ. ยทา ปน โลกุตฺตรา อธิปฺเปตา, ตทา เกวลํ วตฺตมานภาวนิทฺเทโส. ตทุภยภาวนาสมกาลเมว หิ ตณฺหาชฏาวิชฏนํ.
‘‘อาตาปี นิปโก’’ติ อิทํ ยถาวุตฺตภาวนาย อุปการกธมฺมกิตฺตนํ. กมฺมฏฺานํ อนุยฺุชนฺตสฺส หิ วีริยํ สติ สมฺปชฺนฺติ อิเม ตโย ธมฺมา พหูปการา. วีริยูปตฺถทฺธฺหิ กมฺมฏฺานํ สติสมฺปชฺานุปาลิตํ น ปริปตติ, อุปริ จ วิเสสํ อาวหติ. ปติฏฺาสิทฺธิยา เจตฺถ สทฺธาสิทฺธิ, สทฺธูปนิสฺสยตฺตา สีลสฺส, วีริยาทิสิทฺธิยา จ. น หิ สทฺเธยฺยวตฺถุํ อสทฺทหนฺตสฺส ยถาวุตฺตวีริยาทโย สมฺภวนฺติ, ตถา สมาธิปิ. ยถา หิ เหตุภาวโต วีริยาทีหิ สทฺธาสิทฺธิ, เอวํ ผลภาวโต เตหิ สมาธิสิทฺธิ. วีริยาทีสุ หิ สมฺปชฺชมาเนสุ สมาธิ สมฺปนฺโนว โหติ อสมาหิตสฺส ตทภาวโต. กถํ ปเนตฺถ สติสิทฺธิ? นิปกคฺคหณโต. ติกฺขวิสทภาวปฺปตฺตา หิ สติ ‘‘เนปกฺก’’นฺติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘ปรเมน สติเนปกฺเกน สมนฺนาคโต’’ติ. อฏฺกถายํ ปน ‘‘เนปกฺกํ ปฺา’’ติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต. ตคฺคหเณเนว ¶ สติปิ คหิตาว โหติ. น หิ สติวิรหิตา ปฺา อตฺถีติ. อปเร ปน ‘‘สปฺโ’’ติ อิมินาว ปาริหาริกปฺาปิ คยฺหตีติ ‘‘นิปโก’’ติ ปทสฺส ‘‘สโต’’ติ อตฺถํ วทนฺติ. ยทิปิ กิเลสานํ ปหานํ อาตาปนํ, ตํ สมฺมาทิฏฺิอาทีนมฺปิ อตฺเถว. อาตปฺปสทฺโท วิย ปน อาตาปสทฺโท วีริเยเยว ¶ นิรุฬฺโหติ อาห ‘‘อาตาปีติ วีริยวา’’ติ. อถ วา ปฏิปกฺขปฺปหาเน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อพฺภุสฺสหนวเสน ปวตฺตมานสฺส วีริยสฺส สาติสยํ ตทาตาปนนฺติ วีริยเมว ตถา วุจฺจติ, น อฺเ ธมฺมา. อาตาปีติ จายมีกาโร ปสํสาย, อติสยสฺส วา ทีปโก. วีริยวาติ วา-สทฺโทปิ ตทตฺโถ เอว ทฏฺพฺโพ. เตน สมฺมปฺปธานสมงฺคิตา วุตฺตา โหติ. เตนาห ‘‘กิเลสานํ อาตาปนปริตาปนฏฺเนา’’ติ. อาตาปนคฺคหเณน เจตฺถ อารมฺภ ธาตุมาห อาทิโต วีริยารมฺโภติ กตฺวา, ปริตาปนคฺคหเณน นิกฺกมปรกฺกมธาตุโย สพฺพโส ปฏิปกฺขโต นิกฺขนฺตตํ, อุปรูปริ วิเสสปฺปตฺติฺจ อุปาทาย. นิปยติ วิโสเสติ ปฏิปกฺขํ, ตโต วา อตฺตานํ นิปาติ รกฺขตีติ นิปโก, สมฺปชาโน. กมฺมฏฺานสฺส ปริหรเณ นิยุตฺตาติ ปาริหาริกา.
อภิกฺกมาทีนิ สพฺพกิจฺจานิ สาตฺถกสมฺปชฺาทิวเสน ปริจฺฉิชฺช เนตีติ สพฺพกิจฺจปริณายิกา. กมฺมฏฺานสฺส วา อุคฺคโห ปริปุจฺฉา ภาวนารมฺโภ มนสิการวิธิ, ตตฺถ จ สกฺกจฺจการิตา สาตจฺจการิตา สปฺปายการิตา นิมิตฺตกุสลตา ปหิตตฺตตา อนฺตราอสงฺโกโจ อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา วีริยสมตาปาทนํ วีริยสมตาโยชนนฺติ เอวมาทีนํ สพฺเพสํ กิจฺจานํ ปริณายิกา สพฺพกิจฺจปริณายิกา. ภยํ อิกฺขตีติ ภิกฺขูติ สาธารณโต ภิกฺขุลกฺขณกถเนน ปฏิปตฺติยาว ภิกฺขุภาโว, น ภิกฺขกภินฺนปฏธราทิภาเวนาติ ทสฺเสติ. เอวํ หิ กตกิจฺจานํ สามเณราทีนํ, ปฏิปนฺนานฺจ อปพฺพชิตานมฺปิ สงฺคโห กโต โหติ. อิธ ปน ปฏิปชฺชนกวเสน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภินฺทติ ปาปเก อกุสเล ธมฺเมติ วา ภิกฺขุ. โส อิมํ วิชฏเยติ โย นโร สปฺปฺโ สีเล ปติฏฺาย อาตาปี นิปโก จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวยนฺติ วุตฺโต, โส ภิกฺขุ อิมํ ตณฺหาชฏํ วิชฏเยติ สมฺพนฺโธ. อิทานิ ตมฺปิ วิชฏนํ เวฬุคุมฺพวิชฏเนน อุปเมตฺวา ทสฺเสตุํ คาถาย ยถาวุตฺเต สีลาทิธมฺเม ‘‘อิมินา จ สีเลนา’’ติอาทินา ปจฺจามสติ. ตตฺถ ยสฺมา โยคาวจรสนฺตานคตา นานากฺขณิกา มิสฺสกา สีลาทิธมฺมา คาถาย คหิตา, ตสฺมา เต เอกจฺจํ คณฺหนฺโต ‘‘ฉหิ ธมฺเมหิ สมนฺนาคโต’’ติ อาห. น หิ เต ฉ ธมฺมา เอกสฺมึ สนฺตาเน เอกสฺมึ ขเณ ¶ ลพฺภนฺติ. ยสฺมา จ ปุคฺคลาธิฏฺาเนน คาถา ภาสิตา, ตสฺมา ปุคฺคลาธิฏฺานเมว อุปมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เสยฺยถาปิ นาม ปุริโส’’ติอาทิมาห ¶ . ตตฺถ สุนิสิตนฺติ สุฏฺุ นิสิตํ, อติวิย ติขิณนฺติ อตฺโถ. สตฺถสฺส นิสานสิลายํ นิสิตตรภาวกรณํ, พาหุพเลน จสฺส อุกฺขิปนนฺติ อุภยมฺเปตํ อตฺถาปนฺนํ กตฺวา อุปมา วุตฺตาติ ตทุภยํ อุปเมยฺเย ทสฺเสนฺโต ‘‘สมาธิสิลายํ สุนิสิตํ…เป… ปฺาหตฺเถน อุกฺขิปิตฺวา’’ติ อาห. สมาธิคุเณน หิ ปฺาย ติกฺขภาโว. เตนาห ภควา ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๔). วีริยฺจสฺสา อุปตฺถมฺภกํ ปคฺคณฺหนโต. วิชเฏยฺยาติ วิชเฏตุํ สกฺกุเณยฺย. วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาย หิ วตฺตมานาย โยคาวจโร ตณฺหาชฏํ วิชเฏตุํ สมตฺโถ นาม. วิชฏนํ เจตฺถ สมุจฺเฉทวเสน ปหานนฺติ อาห ‘‘สฺฉินฺเทยฺย สมฺปทาเลยฺยา’’ติ. ทกฺขิณํ อรหตีติ ทกฺขิเณยฺโย, อคฺโค จ โส ทกฺขิเณยฺโย จาติ อคฺคทกฺขิเณยฺโย, อคฺคา วา ทกฺขิณา อคฺคทกฺขิณา, ตํ อรหตีติ อคฺคทกฺขิเณยฺโย.
๕. ตตฺราติ ตสฺสํ คาถายํ. อยนฺติ ‘‘นโร’’ติ จ ‘‘ภิกฺขู’’ติ จ วุตฺโต โยคาวจโร. ปุน ตตฺราติ ตสฺสํ ปฺายํ. อสฺสาติ ภิกฺขุโน. กตฺตริ เจตํ สามิวจนํ, อเนนาติ อตฺโถ. กรณียํ นตฺถิ วิเสสาธานสฺส ติเหตุกปฏิสนฺธิปฺาย อภาวโต. เตนาห ‘‘ปุริมกมฺมานุภาเวเนว หิสฺส สา สิทฺธา’’ติ. เตนาติ โยคินา. ภาวนายํ สตตปวตฺติตวีริยตาย สาตจฺจการินา. ปฺาวเสนาติ ยถาวุตฺตเนปกฺกสงฺขาตปฺาวเสน. ยํ กิฺจิ กตฺตพฺพํ, ตสฺส สพฺพสฺส สมฺปชานวเสเนว กรณสีโล, ตตฺถ วา สมฺปชานกาโร เอตสฺส อตฺถิ, สมฺปชานสฺส วา อสมฺโมหสฺส การโก อุปฺปาทโกติ สมฺปชานการี, เตน สมฺปชานการินา. อตฺราติ อสฺสํ คาถายํ. สีลาทิสมฺปาทเน วีริยสฺส เตสํ องฺคภาวโต ตํ วิสุํ อคฺคเหตฺวา ‘‘สีลสมาธิปฺามุเขนา’’ติ วุตฺตํ.
‘‘วิสุทฺธิมคฺคํ ทสฺเสตี’’ติ อวิภาคโต เทสนาย ปิณฺฑตฺถํ วตฺวา ปุน ตํ วิภาคโต ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตาวตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตฺตาวตาติ เอตฺตกาย เทสนาย. สิกฺขาติ สิกฺขิตพฺพฏฺเน สิกฺขา. สิกฺขนํ เจตฺถ อาเสวนํ ทฏฺพฺพํ. สีลาทิธมฺเมหิ สํวรณาทิวเสน อาเสวนฺโต เต สิกฺขตีติ ¶ วุจฺจติ. สาสนนฺติ ปฏิปตฺติสาสนํ. อุปนิสฺสโย พลวการณํ. วชฺชนํ อนุปคมนํ. เสวนา ภาวนา. ปฏิปกฺโขติ ปหายกปฏิปกฺโข. ยทิปิ คาถายํ ‘‘สีเล’’ติ สามฺโต วุตฺตํ, น ‘‘อธิสีเล’’ติ. ตํ ปน ตณฺหาชฏาวิชฏนสฺส ปติฏฺาภูตํ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘สีเลน อธิสีลสิกฺขา ปกาสิตา’’ติ. ภวคามิ หิ สีลํ สีลเมว, วิภวคามิ ¶ สีลํ อธิสีลสิกฺขา. สามฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺตีติ. เอส นโย เสสสิกฺขาสุปิ.
สีเลนาติ อธิสีลสิกฺขาภูเตน สีเลน. ตํ หิ อนฺสาธารณตาย สาสนสฺส อาทิกลฺยาณตํ ปกาเสติ, น ยมนิยมาทิมตฺตํ. เตน วุตฺตํ ‘‘สีลฺจ สุวิสุทฺธํ, สพฺพปาปสฺส อกรณ’’นฺติ จ. กุสลานนฺติ มคฺคกุสลานํ. กุสลานนฺติ วา อนวชฺชานํ. เตน อริยผลธมฺมานมฺปิ สงฺคโห สิทฺโธ โหติ. สพฺพปาปสฺส อกรณนฺติ สพฺพสฺสาปิ สาวชฺชสฺส อกิริยา อนชฺฌาปชฺชนํ. เอเตน จาริตฺตวาริตฺตเภทสฺส สพฺพสฺส สีลสฺส คหณํ กตํ โหติ. กตฺตพฺพากรณมฺปิ หิ สาวชฺชเมวาติ. อาทิวจนโตติ คาถายํ วุตฺตสมาธิปฺานํ อาทิมฺหิ วจนโต. อาทิภาโว จสฺส ตมฺมูลกตฺตา อุตฺตริมนุสฺสธมฺมานํ. อาทีนํ วา วจนํ อาทิวจนํ. อาทิสทฺเทน เจตฺถ ‘‘สีลํ สมาธิ ปฺา จ, วิมุตฺติ จ อนุตฺตรา’’ติ (ที. นิ. ๒.๑๘๖) เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สีลสฺส วิสุทฺธตฺตา วิปฺปฏิสาราทิเหตูนํ ทูรีกรณโต อวิปฺปฏิสาราทิคุณาวหํ. ‘‘อวิปฺปฏิสาราทิคุณาวหตฺตา’’ติ เอเตน น เกวลํ สีลสฺส กลฺยาณตาว วิภาวิตา, อถ โข อาทิภาโวปีติ ทฏฺพฺพํ. ตถา หิสฺส สุตฺเต (ปริ. ๓๖๖) อวิปฺปฏิสาราทีนํ วิมุตฺติาณปริโยสานานํ ปรมฺปรปจฺจยตา วุตฺตา. สมาธินาติ อธิจิตฺตสิกฺขาภูเตน สมาธินา. สกลํ สาสนํ สงฺคเหตฺวา ปวตฺตาย คาถาย อาทิปเทน อาทิมฺหิ ปฏิปชฺชิตพฺพสฺส สีลสฺส, ตติยปเทน ปริโยสาเน ปฏิปชฺชิตพฺพาย ปฺาย คหิตตฺตา มชฺเฌ ปฏิปชฺชิตพฺโพ สมาธิ ปาริเสสโต ทุติยปเทน คยฺหตีติ ‘‘กุสลสฺส อุปสมฺปทาติอาทิวจนโต หิ สมาธิ สาสนสฺส มชฺเฌ’’ติ วุตฺตํ, น กุสลสทฺทสฺส สมาธิปริยายตฺตา. ปุพฺพูปนิสฺสยวโต หิ สมาหิตตาทิอฏฺงฺคสมนฺนาคเมน อภินีหารกฺขมตา สมาธิสฺส อิทฺธิวิธาทิคุณาวหตฺตํ, อคฺคมคฺคปฺาย อธิคตาย ยทตฺถํ ปพฺพชติ, ตํ ปริโยสิตนฺติ ปฺา สาสนสฺส ¶ ปริโยสานํ. เตนาห ภควา ‘‘สิกฺขานิสํสมิทํ, ภิกฺขเว, พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ สทฺธาธิปเตยฺยํ ปฺุตฺตรํ วิมุตฺติสาร’’นฺติ (อ. นิ. ๔.๒๔๕). สกํ จิตฺตํ สจิตฺตํ, สจิตฺตสฺส สพฺพโส กิเลสานํ สมุจฺฉินฺทเนน วิโสธนํ สจิตฺตปริโยทาปนํ. เอวํ ปน ปฺากิจฺเจ มตฺถกปฺปตฺเต อุตฺตริ กรณียาภาวโต สาสนสฺส ปฺุตฺตรตา เวทิตพฺพา. ตาทิภาวาวหนโตติ ยาทิโส อิฏฺเสุ, ลาภาทีสุ จ อนุนยาภาวโต, ตาทิโส อนิฏฺเสุ, อลาภาทีสุ จ ปฏิฆาภาวโต. ตโต เอว วา ยาทิโส อนาปาถคเตสุ อิฏฺานิฏฺเสุ, ตาทิโส อาปาถคเตสุปีติ ตาที. ตสฺส ภาโว ตาทิภาโว, ตสฺส อาวหนโต. วาเตนาติ ¶ วาตเหตุ. น สมีรตีติ น จลติ. น สมิฺชนฺตีติ น ผนฺทนฺติ, กุโต จลนนฺติ อธิปฺปาโย.
ตถาติ ยถา สีลาทโย อธิสีลสิกฺขาทีนํ ปกาสกา, ตถา เตวิชฺชตาทีนํ อุปนิสฺสยสฺสาติ เตสํ ปกาสนาการูปสํหารตฺโถ ตถา-สทฺโท. ยสฺมา สีลํ วิสุชฺฌมานํ สติสมฺปชฺพเลน, กมฺมสฺสกตาณพเลน จ สํกิเลสมลโต วิสุชฺฌติ ปาริปูริฺจ คจฺฉติ, ตสฺมา สีลสมฺปทา สิชฺฌมานา อุปนิสฺสยสมฺปตฺติภาเวน สติพลํ, าณพลฺจ ปจฺจุปฏฺเปตีติ ตสฺสา วิชฺชตฺตยูปนิสฺสยตา เวทิตพฺพา สภาคเหตุสมฺปาทนโต. สติเนปกฺเกน หิ ปุพฺเพนิวาสวิชฺชาสิทฺธิ, สมฺปชฺเน สพฺพกิจฺเจสุ สุทิฏฺการิตาปริจเยน จุตูปปาตาณานุพนฺธาย ทุติยวิชฺชาสิทฺธิ, วีติกฺกมาภาเวน สํกิเลสปฺปหานสพฺภาวโต วิวฏฺฏูปนิสฺสยตาวเสน อชฺฌาสยสุทฺธิยา ตติยวิชฺชาสิทฺธิ. ปุเรตรํ สิทฺธานํ สมาธิปฺานํ ปาริปูรึ วินา สีลสฺส อาสวกฺขยาณูปนิสฺสยตา สุกฺขวิปสฺสกขีณาสเวหิ ทีเปตพฺพา. สมาธิปฺา วิย อภิฺาปฏิสมฺภิทานํ สีลํ น สภาคเหตูติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๓.๕; ๔.๙๙; เนตฺติ. ๔๐; มิ. ป. ๒.๑.๑๔) วจนโต สมาธิสมฺปทา ฉฬภิฺตาย อุปนิสฺสโย. ปฺา วิย ปฏิสมฺภิทานํ สมาธิ น สภาคเหตูติ วุตฺตํ ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ. ‘‘โยคา เว ชายเต ภูรี’’ติ (ธ. ป. ๒๘๒) วจนโต ปุพฺพโยเคน, ครุวาสเทสภาสากโอสลฺลอุคฺคหปริปุจฺฉาทีหิ จ ปริภาวิตา ปฺาสมฺปตฺติ ปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส อุปนิสฺสโย ¶ ปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธิโยปิ ปฺาสมฺปตฺติสนฺนิสฺสยาติ ปฺาย อนธิคนฺตพฺพสฺส วิเสสสฺส อภาวโต, ตสฺสา จ ปฏิสมฺภิทาปเภทสฺส เอกนฺติกการณโต เหฏฺา วิย ‘‘น ตโต ปร’’นฺติ อวตฺวา ‘‘น อฺเน การเณนา’’ติ วุตฺตํ.
เอตฺถ จ ‘‘สีลสมฺปตฺติฺหิ นิสฺสายา’’ติ วุตฺตตฺตา ยสฺส สมาธิวิชมฺภนภูตา อนวเสสา ฉ อภิฺา น อิชฺฌนฺติ, ตสฺส อุกฺกฏฺปริจฺเฉทวเสน น สมาธิสมฺปทา อตฺถีติ. สติปิ วิชฺชานํ อภิฺเกเทสภาเว สีลสมฺปตฺติสมุทาคตา เอว ติสฺโส วิชฺชา คหิตา. ยถา หิ ปฺาสมฺปตฺติสมุทาคตา จตสฺโส ปฏิสมฺภิทา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส มคฺเคเนว อิชฺฌนฺติ, มคฺคกฺขเณ เอว ตาสํ ปฏิลภิตพฺพโต, เอวํ สีลสมฺปตฺติสมุทาคตา ติสฺโส วิชฺชา สมาธิสมฺปตฺติสมุทาคตา จ ฉ อภิฺา อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺส มคฺเคเนว อิชฺฌนฺตีติ มคฺคาธิคเมเนว ¶ ตาสํ อธิคโม เวทิตพฺโพ. ปจฺเจกพุทฺธานํ, สมฺมาสมฺพุทฺธานฺจ ปจฺเจกโพธิสมฺมาสมฺโพธิสมธิคมสทิสา หิ อิเมสํ อริยานํ อิเม วิเสสาธิคมาติ. วินยสุตฺตาภิธมฺเมสุ สมฺมาปฏิปตฺติยา เตวิชฺชตาทีนํ อุปนิสฺสยตาปิ ยถาวุตฺตวิธินา เวทิตพฺพา.
สมฺปนฺนสีลสฺส กามเสวนาภาวโต สีเลน ปมนฺตวิวชฺชนํ วุตฺตํ. เยภุยฺเยน หิ สตฺตา กามเหตุ ปาณาติปาตาทิวเสนาปิ อสุทฺธปโยคา โหนฺติ. ฌานสุขลาภิโน กายกิลมถสฺส สมฺภโว เอว นตฺถีติ สมาธินา ทุติยนฺตวิวชฺชนํ วุตฺตํ ฌานสมุฏฺานปณีตรูปผุฏกายตฺตา. ปฺายาติ มคฺคปฺาย. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน หิ เอกํสโต อริยมคฺโคว มชฺฌิมา ปฏิปตฺติ นาม. เอวํ สนฺเตปิ โลกิยปฺาวเสนปิ อนฺตทฺวยวิวชฺชนํ วิภาเวตพฺพํ.
สีลํ ตํสมงฺคิโน กามสุคตีสุเยว นิพฺพตฺตาปนโต จตูหิ อปาเยหิ วิมุตฺติยา การณนฺติ อาห ‘‘สีเลน อปายสมติกฺกมนุปาโย ปกาสิโต โหตี’’ติ. น หิ ปาณาติปาตาทิปฏิวิรติ ทุคฺคติปริกิเลสํ อาวหติ. สมาธิ ตํสมงฺคิโน มหคฺคตภูมิยํเยว นิพฺพตฺตาปเนน สกลกามภวโต วิโมเจตีติ วุตฺตํ ‘‘สมาธินา กามธาตุสมติกฺกมนุปาโย ปกาสิโต โหตี’’ติ. น หิ กามาวจรกมฺมสฺส อนุพลปฺปทายีนํ กามจฺฉนฺทาทีนํ วิกฺขมฺภกํ ฌานํ กามธาตุปริกิเลสาวหํ โหติ. น เจตฺถ อุปจารชฺฌานํ นิทสฺเสตพฺพํ, อปฺปนาสมาธิสฺส ¶ อธิปฺเปตตฺตา. นาปิ ‘‘สีเลเนว อติกฺกมิตพฺพสฺส อปายภวสฺส สมาธินา อติกฺกมิตพฺพตา’’ติ วจโนกาโส. สุคติภวมฺปิ อติกฺกมนฺตสฺส ทุคฺคติสมติกฺกมเน กา กถาติ. สพฺพภวสมติกฺกมนุปาโยติ กามภวาทีนํ นวนฺนมฺปิ ภวานํ สมติกฺกมนุปาโย สีลสมาธีหิ อติกฺกนฺตาปิ ภวา อนติกฺกนฺตา เอว, การณสฺส อปหีนตฺตา. ปฺาย ปนสฺส สุปฺปหีนตฺตา เต สมติกฺกนฺตา เอว.
ตทงฺคปฺปหานวเสนาติ ทีปาโลเกเนว ตมสฺส ปฺุกิริยวตฺถุคเตน เตน เตน กุสลงฺเคน ตสฺส ตสฺส อกุสลงฺคสฺส ปหานวเสน. สมาธินา วิกฺขมฺภนปฺปหานวเสนาติ อุปจารปฺปนาเภเทน สมาธินา ปวตฺตินิวารเณน ฆฏปฺปหาเรเนว ชลตเล เสวาลสฺส เตสํ เตสํ นีวรณาทิธมฺมานํ ปหานวเสน. ปฺายาติ อริยมคฺคปฺาย. สมุจฺเฉทปฺปหานวเสนาติ จตุนฺนํ อริยมคฺคานํ ภาวิตตฺตา ตํตํมคฺควโต อตฺตโน สนฺตาเน ‘‘ทิฏฺิคตานํ ปหานายา’’ติอาทินา (ธ. ส. ๒๗๗) วุตฺตสฺส ¶ สมุทยปกฺขิยสฺส กิเลสคณสฺส อจฺจนฺตํ อปฺปวตฺติสงฺขาตสมุจฺฉินฺทนปฺปหานวเสน.
กิเลสานํ วีติกฺกมปฏิปกฺโขติ สํกิเลสธมฺมานํ, กมฺมกิเลสานํ วา โย กายวจีทฺวาเรสุ วีติกฺกโม อชฺฌาจาโร, ตสฺส ปฏิปกฺโข สีเลน ปกาสิโต โหติ, อวีติกฺกมสภาวตฺตา สีลสฺส. โอกาสาทานวเสน กิเลสานํ จิตฺเต กุสลปฺปวตฺตึ ปริยาทิยิตฺวา อุฏฺานํ ปริยุฏฺานํ. ตํ สมาธิ วิกฺขมฺเภตีติ อาห ‘‘สมาธินา ปริยุฏฺานปฏิปกฺโข ปกาสิโต โหตี’’ติ, สมาธิสฺส ปริยุฏฺานปฺปหายกตฺตา. อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน อนุ อนุ สยนโต การณลาเภ อุปฺปตฺติรหา อนุสยา, เต ปน อนุรูปํ การณํ ลทฺธา อุปฺปชฺชนารหา ถามคตา กามราคาทโย สตฺต กิเลสา เวทิตพฺพา. เต อริยมคฺคปฺาย สพฺพโส ปหียนฺตีติ อาห ‘‘ปฺาย อนุสยปฏิปกฺโข ปกาสิโต โหตี’’ติ.
กายทุจฺจริตาทิ ทุฏฺุ จริตํ, กิเลเสหิ วา ทูสิตํ จริตนฺติ ทุจฺจริตํ, ตเมว ยตฺถ อุปฺปนฺนํ, ตํ สนฺตานํ สํกิเลเสติ วิพาธติ, อุปตาเปติ จาติ สํกิเลโส, ตสฺส วิโสธนํ สีเลน ตทงฺควเสน ปหานํ วีติกฺกมปฏิปกฺขตฺตา สีลสฺส. ตณฺหาสํกิเลสสฺส วิโสธนํ วิกฺขมฺภนวเสน ¶ ปหานํ ปริยุฏฺานปฏิปกฺขตฺตา สมาธิสฺส, ตณฺหาย จสฺส อุชุวิปจฺจนิกภาวโต. ทิฏฺิสํกิเลสสฺส วิโสธนํ สมุจฺเฉทวเสน ปหานํ อนุสยปฏิปกฺขตฺตา ปฺาย, ทิฏฺิคตานฺจ อยาถาวคาหีนํ ยาถาวคาหินิยา ปฺาย อุชุวิปจฺจนิกภาวโต.
การณนฺติ อุปนิสฺสยปจฺจโย. สีเลสุ ปริปูรการีติ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส อาทิภูตตฺตา อาทิพฺรหฺมจริยกานํ ปาราชิกสงฺฆาทิเสสสงฺขาตานํ มหาสีลสิกฺขาปทานํ อวีติกฺกมนโต ขุทฺทานุขุทฺทกานํ อาปชฺชเน สหสาว เตหิ วุฏฺาเนน สีเลสุ ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ ปริปูรํ สมตฺถํ กโรตีติ สีเลสุ ปริปูรการี. ตถา สกทาคามีติ ‘‘สีเลสุ ปริปูรการี’’ติ เอตํ อุปสํหรติ ตถา-สทฺเทน. เอเต หิ ทฺเว อริยา สมาธิปาริปนฺถิกานํ กามราคพฺยาปาทานํ ปฺาปาริปนฺถิกสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกโมหสฺส สพฺพโส อสมูหตตฺตา สมาธึ, ปฺฺจ ภาเวนฺตาปิ สมาธิปฺาสุ ยํ กตฺตพฺพํ, ตํ มตฺตโส ปมาเณน ปเทสมตฺตเมว กโรนฺตีติ สมาธิสฺมึ, ปฺาย จ มตฺตโส การิโน ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิโน’’อิจฺเจว วุจฺจนฺติ. อนาคามี ¶ ปน กามราคพฺยาปาทานํ สมุจฺฉินฺนตฺตา สมาธิสฺมึ ปริปูรการี. อรหา สพฺพโส สมฺโมหสฺส สุสมูหตตฺตา ปฺาย ปริปูรการี.
วุตฺตํ เหตํ ภควตา (อ. นิ. ๓.๘๗) –
‘‘อิธ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ มตฺตโส การี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ สิกฺขาปทานิ, ตานิ อาปชฺชติปิ วุฏฺาติปิ. ตํ กิสฺส เหตุ? น หิ เมตฺถ, ภิกฺขเว, อภพฺพตา วุตฺตา. ยานิ จ โข ตานิ สิกฺขาปทานิ อาทิพฺรหฺมจริยกานิ พฺรหฺมจริยสารุปฺปานิ, ตตฺถ ธุวสีโล จ โหติ ิตสีโล จ, สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา โสตาปนฺโน โหติ อวินิปาตธมฺโม นิยโต สมฺโพธิปรายโณ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ…เป… โส ติณฺณํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา ราคโทสโมหานํ ตนุตฺตา สกทาคามี โหติ. สกิเทว อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา ทุกฺขสฺสนฺตํ กโรติ. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี ¶ โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย มตฺตโส การี. โส ยานิ ตานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ…เป… อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกา. อิธ ปน, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สีเลสุ ปริปูรการี โหติ, สมาธิสฺมึ ปริปูรการี, ปฺาย ปริปูรการี. โส ยานิ ตานิ ขุทฺทานุขุทฺทกานิ…เป… สิกฺขติ สิกฺขาปเทสุ. โส อาสวานํ ขยา…เป… อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ.
‘‘กถ’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา สิกฺขาทิเก วิภชิตฺวา วุตฺตเมวตฺถํ นิคเมตุํ ‘‘เอว’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฺเ จาติ ตโย วิเวกา, ตีณิ กุสลมูลานิ, ตีณิ วิโมกฺขมุขานิ, ตีณิ อินฺทฺริยานีติ เอวมาทโย, สิกฺขตฺติกาทีหิ อฺเ จ คุณตฺติกา. เอวรูปาติ ยาทิสกา สิกฺขตฺติกาทโย อิธ สีลาทีหิ ปกาสิตา โหนฺติ, เอทิสา.
เอตฺถ หิ วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิตสฺส สีลสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา สีเลน กายวิเวโก ปกาสิโต โหติ, สมาธินา จิตฺตวิเวโก, ปฺาย อุปธิวิเวโก. ตถา สีเลน อโทโส กุสลมูลํ ปกาสิตํ โหติ, ติติกฺขปฺปธานตาย, อปรูปฆาตสภาวตาย จ สีลสฺส. สมาธินา อโลโภ ¶ กุสลมูลํ, โลภปฏิปกฺขโต, อโลภปธานตาย จ สมาธิสฺส. ปฺาย ปน อโมโหเยว. สีเลน จ อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ ปกาสิตํ โหติ. อโทสปฺปธานํ หิ สีลสมฺปทํ นิสฺสาย โทเส อาทีนวทสฺสิโน อนิจฺจานุปสฺสนา สุเขเนว อิชฺฌติ, อนิจฺจานุปสฺสนา จ อนิมิตฺตวิโมกฺขมุขํ. สมาธินา อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ. ปฺาย สฺุตวิโมกฺขมุขํ. อโลภปฺปธานํ หิ กามนิสฺสรณํ สมาธิสมฺปทํ นิสฺสาย กาเมสุ อาทีนวทสฺสิโน ทุกฺขานุปสฺสนา สุเขเนว อิชฺฌติ, ทุกฺขานุปสฺสนา จ อปฺปณิหิตวิโมกฺขมุขํ. ปฺาสมฺปทํ นิสฺสาย อนตฺตานุปสฺสนา สุเขเนว อิชฺฌติ, อนตฺตานุปสฺสนา จ สฺุตวิโมกฺขมุขํ. ตถา สีเลน อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยํ ปกาสิตํ โหติ. ตํ หิ สีเลสุ ปริปูรการิโน อฏฺมกสฺส อินฺทฺริยํ. สมาธินา อฺินฺทฺริยํ. ตํ หิ อุกฺกํสคตํ สมาธิสฺมึ ปริปูรการิโน อนาคามิโน, อคฺคมคฺคฏฺสฺส จ อินฺทฺริยํ. ปฺาย อฺาตาวินฺทฺริยํ ปกาสิตํ โหติ. ตทุปฺปตฺติยา หิ อรหา ปฺาย ปริปูรการีติ. อิมินา นเยน อฺเ จ เอวรูปา คุณตฺติกา สีลาทีหิ ปกาเสตพฺพา.