📜

๑. สีลนิทฺเทสวณฺณนา

สีลสรูปาทิกถาวณฺณนา

. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. อเนกคุณสงฺคาหเกนาติ อธิสีลสิกฺขาทีนํ, อฺเสฺจ อเนเกสํ คุณานํ สงฺคาหเกน. สีลสมาธิปฺามุเขนาติ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติอาทีสุ (ธ. ป. ๒๗๗; เถรคา. ๖๗๖; เนตฺติ. ๕) วิย วิปสฺสนามตฺตาทิมุเขน สงฺเขปโต อเทเสตฺวา สีลสมาธิปฺามุเขน เทสิโตปิ, สตฺตตึสายปิ วา โพธิปกฺขิยธมฺมานํ วิสุทฺธิมคฺคนฺโตคธตฺตา ตตฺถ สีลสมาธิปฺา มุขํ ปมุขํ กตฺวา เทสิโตปิ. เอเตน สีลสมาธิปฺาสุ อวเสสโพธิปกฺขิยธมฺมานํ สภาวโต, อุปการโต จ อนฺโตคธภาโว ทีปิโตติ เวทิตพฺพํ. อติสงฺเขปเทสิโตเยว โหติ สภาววิภาคาทิโต อวิภาวิตตฺตา. นาลนฺติ น ปริยตฺตํ น สมตฺถํ. สพฺเพสนฺติ นาติสงฺเขปนาติวิตฺถารรุจีนมฺปิ, วิปฺจิตฺุเนยฺยานมฺปิ วา. สงฺเขปเทสนา หิ สํขิตฺตรุจีนํ, อุคฺฆฏิตฺูนํเยว จ อุปการาย โหติ, น ปนิตเรสํ. อสฺส วิสุทฺธิมคฺคสฺส. ปุจฺฉนฏฺเน ปฺหา, กิริยา กรณํ กมฺมํ, ปฺหาว กมฺมํ ปฺหากมฺมํ, ปุจฺฉนปโยโค.

กึ สีลนฺติ สรูปปุจฺฉา. เกนฏฺเน สีลนฺติ เกน อตฺเถน สีลนฺติ วุจฺจติ, ‘‘สีล’’นฺติ ปทํ กํ อภิเธยฺยํ นิสฺสาย ปวตฺตนฺติ อตฺโถ. ตยิทํ สีลํ สภาวโต, กิจฺจโต, อุปฏฺานาการโต, อาสนฺนการณโต จ กถํ ชานิตพฺพนฺติ อาห ‘‘กานสฺส ลกฺขณรสปจฺจุปฏฺานปทฏฺานานี’’ติ. ปฏิปตฺติ นาม ทิฏฺานิสํเส เอว โหตีติ อาห ‘‘กิมานิสํส’’นฺติ. กติวิธนฺติ ปเภทปุจฺฉา. วิภาควนฺตานํ หิ สภาววิภาวนํ วิภาคทสฺสนมุเขเนว โหตีติ. โวทานํ วิสุทฺธิ. สา จ สํกิเลสมลวิมุตฺติ. ตํ อิจฺฉนฺเตน ยสฺมา อุปายโกสลฺลตฺถินา อนุปายโกสลฺลํ วิย สํกิเลโส ชานิตพฺโพติ อาห ‘‘โก จสฺส สํกิเลโส’’ติ.

ตตฺราติ ตสฺมึ, ตสฺส วา ปฺหากมฺมสฺส. วิสฺสชฺชนนฺติ วิวรณํ. ปุจฺฉิโต หิ อตฺโถ อวิภาวิตตฺตา นิคูฬฺโห มุฏฺิยํ กโต วิย ติฏฺติ. ตสฺส วิวรณํ วิสฺสชฺชนํ วิภูตภาวการณโต. ปาณาติปาตาทีหีติ เอตฺถ ปาโณติ โวหารโต สตฺโต, ปรมตฺถโต ชีวิตินฺทฺริยํ. ตสฺส สรเสเนว ปตนสภาวสฺส อนฺตเร เอว อติว ปาตนํ อติปาโต, สณิกํ ปติตุํ อทตฺวา สีฆํ ปาตนนฺติ อตฺโถ, อติกฺกมฺม วา สตฺถาทีหิ อภิภวิตฺวา ปาตนํ อติปาโต, ปาณฆาโต. อาทิสทฺเทน อทินฺนาทานาทึ สงฺคณฺหาติ. เตหิ ปาณาติปาตาทีหิ ทุสฺสีลฺยกมฺเมหิ. วิรมนฺตสฺสาติ สมาทานวิรติวเสน, สมฺปตฺตวิรติวเสน จ โอรมนฺตสฺส. วตฺตปฏิปตฺตินฺติ อุปชฺฌายวตฺตาทิวตฺตกรณํ. เจตนาทโย ธมฺมาติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ ปาฬิวเสน วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เจตยตีติ เจตนา, อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเมหิ สทฺธึ อารมฺมเณ อภิสนฺทหตีติ อตฺโถ. เจตนาย อนุกูลวเสเนว หิ ตํสมฺปยุตฺตา ธมฺมา อารมฺมเณ ปวตฺตนฺติ. เจตนา กามํ กุสลตฺติกสาธารณา, อิธ ปน สีลเจตนา อธิปฺเปตาติ กตฺวา ‘‘กุสลา’’ติ เวทิตพฺพา. เจตสิ นิยุตฺตํ เจตสิกํ, จิตฺตสมฺปยุตฺตนฺติ อตฺโถ. เจตนาย สติปิ เจตสิกตฺเต ‘‘เจตนา สีล’’นฺติ วิสุํ คหิตตฺตา ตทฺเมว วิรติอนภิชฺฌาทิกํ เจตสิกํ สีลํ ทฏฺพฺพํ โคพลีพทฺทาเยน. สํวรณํ สํวโร. ยถา อกุสลา ธมฺมา จิตฺเต น โอตรนฺติ, ตถา ปิทหนํ. อวีติกฺกโม วีติกฺกมสฺส ปฏิปกฺขภูตา อวีติกฺกมวเสน ปวตฺตจิตฺตเจตสิกา. ตตฺถ เจตนา สีลํ นามาติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส สุตฺตปทสฺส วิวรณํ. วิรมนฺตสฺส เจตนาติ วิรติสมฺปยุตฺตํ ปธานภูตํ เจตนมาห. ปูเรนฺตสฺส เจตนาติ วตฺตปฏิปตฺติอายูหินี. วิรมนฺตสฺส วิรตีติ วิรติยา ปธานภาวํ คเหตฺวา วุตฺตํ.

เอตฺถ หิ ยทา ‘‘ติวิธา, ภิกฺขเว, กายสฺเจตนา กุสลํ กายกมฺม’’นฺติอาทิ (กถา. ๕๓๙) วจนโต ปาณาติปาตาทีนํ ปฏิปกฺขภูตา ตพฺพิรติวิสิฏฺา เจตนา ตถาปวตฺตา ปธานภาเวน ปาณาติปาตาทิปฏิวิรติสาธิกา โหติ, ตทา ตํสมฺปยุตฺตา วิรติอนภิชฺฌาทโย จ เจตนาปกฺขิกา วา, อพฺโพหาริกา วาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เจตนาสีลํ วุตฺตํ. ยทา ปน ปาณาติปาตาทีหิ สงฺโกจํ อาปชฺชนฺตสฺส ตโต วิรมณากาเรน ปวตฺตมานา เจตนาวิสิฏฺา วิรติ, อนภิชฺฌาทโย จ ตตฺถ ตตฺถ ปธานภาเวน กิจฺจสาธิกา โหนฺติ, ตทา ตํสมฺปยุตฺตา เจตนา วิรติอาทิปกฺขิกา วา โหติ, อพฺโพหาริกา วาติ อิมมตฺถํ สนฺธาย เจตสิกสีลํ วุตฺตํ.

อิทานิ สุตฺเต อาคตนเยน กุสลกมฺมปถวเสน เจตนาเจตสิกสีลานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปชหนฺตสฺสาติ สมาทานวเสน ‘‘อิโต ปฏฺาย น กริสฺสามี’’ติ สมฺปตฺตวตฺถุกานิปิ อนชฺฌาจรเณน ปชหนฺตสฺส. สตฺต กมฺมปถเจตนาติ ปาณาติปาตาทิปหานสาธิกา ปฏิปาฏิยา สตฺต กุสลกมฺมปถเจตนา. อภิชฺฌาทิวเสน ยํ ปรทารคมนาทิ กรียติ, ตสฺส ปหายกา อนภิชฺฌาทโย สีลนฺติ อาห ‘‘เจตสิกํ สีลํ นาม อนภิชฺฌา…เป… สมฺมาทิฏฺิธมฺมา’’ติ. ยถา หิ อภิชฺฌาพฺยาปาทวเสน มิจฺฉาจารปาณาติปาตาทโย กรียนฺติ, เอวํ มิจฺฉาทิฏฺิวเสนาปิ เต ปุตฺตมุขทสฺสนาทิอตฺถํ กรียนฺติ. เตสฺจ ปชหนกา อนภิชฺฌาทโยติ. ปาติโมกฺขสํวโร จาริตฺตวาริตฺตวิภาคํ วินยปริยาปนฺนํ สิกฺขาปทสีลํ. สติสํวโร มนจฺฉฏฺานํ อินฺทฺริยานํ อารกฺขา, สา จ ตถาปวตฺตา สติเยว. าณสํวโร ปฺา. ขนฺติสํวโร อธิวาสนา, สา จ ตถาปวตฺตา อโทสปธานา ขนฺธา, อโทโส เอว วา. วีริยสํวโร กามวิตกฺกาทีนํ วิโนทนวเสน ปวตฺตํ วีริยํ. ปาติโมกฺขสํวรสติสํวราทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.

โสตานีติ ตณฺหาทิฏฺิอวิชฺชาทุจฺจริตอวสิฏฺกิเลสโสตานิ. ‘‘โสตานํ สํวรํ พฺรูมี’’ติ วตฺวา ‘‘ปฺาเยเต ปิธิยฺยเร’’ติ วจเนน โสตานํ สํวโร ปิทหนํ สมุจฺเฉทนํ าณนฺติ วิฺายติ.

อิทมตฺถิกตํ มนสิ กตฺวา เยน าเณน โยนิโส ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจยา ปฏิเสวียนฺติ. ตํ ปจฺจยปฏิเสวนมฺปิ าณสภาวตฺตา เอตฺเถว าณสํวเร เอว สโมธานํ สงฺคหํ คจฺฉติ. ขมติ อธิวาเสตีติ ขโม. อุปฺปนฺนนฺติ ตสฺมึ ตสฺมึ อารมฺมเณ ชาตํ นิพฺพตฺตํ. กามวิตกฺกนฺติ กามูปสํหิตํ วิตกฺกํ. นาธิวาเสตีติ จิตฺตํ อาโรเปตฺวา อพฺภนฺตเร น วาเสติ. อาชีวปาริสุทฺธิปีติ พุทฺธปฏิกุฏฺํ มิจฺฉาชีวํ ปหาย อนวชฺเชน ปจฺจยปริเยสเนน สิชฺฌนกํ อาชีวปาริสุทฺธิสีลมฺปิ เอตฺเถว วีริยสํวเร เอว สโมธานํ คจฺฉติ วีริยสาธนตฺตา. เอตฺถ จ ยถา าณํ ตณฺหาทิโสตานํ ปวตฺตินิวารณโต ปิทหนฏฺเน สํวรณโต สํวโร จ, ปรโต ปวตฺตนกคุณานํ อาธาราทิภาวโต สีลนฏฺเน สีลํ , เอวํ ขนฺติ อนธิวาสเนน อุปฺปชฺชนกกิเลสานํ อธิวาสเนน สํวรณโต สํวโร จ, ขมนเหตุ อุปฺปชฺชนกคุณานํ อาธาราทิภาวโต สีลนฏฺเน สีลํ, วีริยํ วิโนเทตพฺพานํ ปาปธมฺมานํ วิโนทเนน สํวรณโต สํวโร จ, วิโนทนเหตุ อุปฺปชฺชนกคุณานํ อาธาราทิภาวโต สีลนฏฺเน สีลนฺติ เวทิตพฺพํ. ยถา ปน ปาติโมกฺขสีลาทิ ตสฺส ตสฺส ปาปธมฺมสฺส ปวตฺติตุํ อปฺปทานวเสน สํวรณํ ปิทหนํ, ตํ อุปาทาย สํวโร, เอวํ อสมาทินฺนสีลสฺส อาคตวตฺถุโต วิรมณมฺปีติ อาห ‘‘ยา จ ปาปภีรุกานํ…เป… สํวรสีลนฺติ เวทิตพฺพ’’นฺติ. น วีติกฺกมติ เอเตนาติ อวีติกฺกโม. ตถาปวตฺโต กุสลจิตฺตุปฺปาโท.

. อวเสเสสุ ปน ปฺเหสุ. สมาธานํ สณฺปนํ. ทุสฺสีลฺยวเสน หิ ปวตฺตา กายกมฺมาทโย สมฺปติ, อายติฺจ อหิตทุกฺขาวหา, น สมฺมา ปิตาติ อสณฺปิตา วิปฺปกิณฺณา วิสฏา จ นาม โหนฺติ, สุสีลฺยวเสน ปน ปวตฺตา ตพฺพิปริยายโต สณฺปิตา อวิปฺปกิณฺณา อวิสฏา จ นาม โหนฺติ ยถา ตํ โอกฺขิตฺตจกฺขุตา อพาหุปฺปจาลนาทิ. เตนาห ‘‘กายกมฺมาทีนํ สุสีลฺยวเสน อวิปฺปกิณฺณตาติ อตฺโถ’’ติ. เอเตน สมาธิกิจฺจโต สีลนํ วิเสเสติ. ตสฺส หิ สมาธานํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อวิกฺเขปเหตุตา. อิทํ กายกมฺมาทีนํ สณฺปนํ สํยมนํ. อุปธารณํ อธิฏฺานํ มูลภาโว. ตถา หิสฺส อาทิจรณาทิภาโว วุตฺโต. เตน ปถวีธาตุกิจฺจโต สีลนํ วิเสสิตํ โหติ. สา หิ สหชาตรูปธมฺมานํ สนฺธารณวเสน ปวตฺตติ. อิทํ ปน อนวชฺชธมฺมานํ มูลาธิฏฺานภาเวน. เตนาห ‘‘กุสลานํ ธมฺมาน’’นฺติอาทิ. ตตฺถ กุสลธมฺมา นาม สปุพฺพภาคา มหคฺคตานุตฺตรา ธมฺมา. อฺเ ปน อาจริยา. สิรฏฺโติ ยถา สิรสิ ฉินฺเน สพฺโพ อตฺตภาโว วินสฺสติ, เอวํ สีเล ภินฺเน สพฺพํ คุณสรีรํ วินสฺสติ. ตสฺมา ตสฺส อุตฺตมงฺคฏฺโ สีลฏฺโ. ‘‘สิโร สีส’’นฺติ วา วตฺตพฺเพ นิรุตฺตินเยน ‘‘สีล’’นฺติ วุตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. สีตลฏฺโ ปริฬาหวูปสมนฏฺโ. เตน ต-การสฺส โลปํ กตฺวา นิรุตฺตินเยเนว ‘‘สีล’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสติ. ตถา หิทํ ปโยคสมฺปาทิตํ สพฺพกิเลสปริฬาหวูปสมกรํ โหติ. เอวมาทินาติ อาทิ-สทฺเทน สยนฺติ อกุสลา เอตสฺมึ สติ อปวิฏฺา โหนฺตีติ สีลํ, สุปนฺติ วา เตน วิหตุสฺสาหานิ สพฺพทุจฺจริตานีติ สีลํ, สพฺเพสํ วา กุสลธมฺมานํ ปเวสารหสาลาติ สีลนฺติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

. ‘‘สีลนฏฺเน สีล’’นฺติ ปุพฺเพ สทฺทตฺถุทฺธาเรน ปกาสิโตปิ ภาวตฺโถ เอวาติ อาห ‘‘สีลนํ ลกฺขณํ ตสฺสา’’ติ. น หิ ตสฺส เจตนาทิเภทภินฺนสฺส อนวเสสโต สงฺคาหโก ตโต อฺโ อตฺโถ อตฺถิ, โย ลกฺขณภาเวน วุจฺเจยฺย. นนุ จ อเนกเภทสงฺคาหกํ สามฺลกฺขณํ นาม สิยา, น วิเสสลกฺขณนฺติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘สนิทสฺสนตฺตํ รูปสฺส, ยถา ภินฺนสฺสเนกธา’’ติ.

ยถา หิ นีลาทิวเสน อเนกเภทภินฺนสฺสาปิ รูปายตนสฺส สนิทสฺสนตฺตํ วิเสสลกฺขณํ ตทฺธมฺมาสาธารณโต. น อนิจฺจตาทิ วิย, รุปฺปนํ วิย วา สามฺลกฺขณํ, เอวมิธาปิ ทฏฺพฺพํ. กึ ปเนตํ สนิทสฺสนตฺตํ นาม? ทฏฺพฺพตา จกฺขุวิฺาณสฺส โคจรภาโว. ตสฺส ปน รูปายตนโต อนฺตฺเตปิ อฺเหิ ธมฺเมหิ รูปายตนํ วิเสเสตุํ อฺํ วิย กตฺวา สห นิทสฺสเนน สนิทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. ธมฺมสภาวสามฺเน หิ เอกีภูเตสุ ธมฺเมสุ โย นานตฺตกโร สภาโว, โส อฺํ วิย กตฺวา อุปจริตุํ ยุตฺโต. เอวํ หิ อตฺถวิเสสาวโพโธ โหตีติ. อถ วา ‘‘สห นิทสฺสเนนา’’ติ เอตฺถ ตพฺภาวตฺโถ สห-สทฺโท ยถา นนฺทิราคสหคตาติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๔; ปฏิ. ม. ๒.๓๐).

ทุสฺสีลฺยวิทฺธํสนรสนฺติ กายิกอสํวราทิเภทสฺส ทุสฺสีลฺยสฺส วิธมนกิจฺจํ. อนวชฺชรสนฺติ อคารยฺหสมฺปตฺติกํ อครหิตพฺพภาเวน สมฺปชฺชนกํ, อวชฺชปฏิปกฺขภาเวน วา สมฺปชฺชนกํ. ลกฺขณาทีสูติ ลกฺขณรสาทีสุ วุจฺจมาเนสุ กิจฺจเมว, สมฺปตฺติ วา รโสติ วุจฺจติ, น รสายตนรสาทีติ อธิปฺปาโย. เกจิ ปน ‘‘กิจฺจเมวา’’ติ อวธารณํ ตสฺส อิตรรสโต พลวภาวทสฺสนตฺถนฺติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, กิจฺจเมว, สมฺปตฺติ เอว วา รโสติ อิมสฺส อตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

โสเจยฺยปจฺจุปฏฺานนฺติ กายาทีหิ สุจิภาเวน ปจฺจุปฏฺาติ. คหณภาวนฺติ คเหตพฺพภาวํ. เตน อุปฏฺานาการฏฺเน ปจฺจุปฏฺานํ วุตฺตํ, ผลฏฺเน ปน อวิปฺปฏิสารปจฺจุปฏฺานํ, สมาธิปจฺจุปฏฺานํ วา. สีลํ หิ สมฺปติเยว อวิปฺปฏิสารํ ปจฺจุปฏฺาเปติ, ปรมฺปราย สมาธึ. อิมสฺส ปน อานิสํสผลสฺส อานิสํสกถายํ วกฺขมานตฺตา อิธ อคฺคหณํ ทฏฺพฺพํ. เกจิ ปน ผลสฺส อนิจฺฉิตตฺตา อิธ อคฺคหณนฺติ วทนฺติ, ตทยุตฺตํ ผลสฺส อเนกวิธตฺตา, โลกิยาทิสีลสฺสาปิ วิภชิยมานตฺตา. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘นิสฺสิตานิสฺสิตวเสนา’’ติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๐). ยถา ปถวีธาตุยา กมฺมาทิ ทูรการณํ, เสสภูตตฺตยํ อาสนฺนการณํ, ยถา จ วตฺถสฺส ตนฺตวายตุริเวมสลากาทิ ทูรการณํ, ตนฺตโว อาสนฺนการณํ, เอวํ สีลสฺส สทฺธมฺมสฺสวนาทิ ทูรการณํ, หิริโอตฺตปฺปมสฺส อาสนฺนการณนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘หิโรตฺตปฺปฺจ ปนา’’ติอาทิ. หิโรตฺตปฺเป หีติอาทิ ตสฺส อาสนฺนการณภาวสาธนํ. ตตฺถ อุปฺปชฺชติ สมาทานวเสน, ติฏฺติ อวีติกฺกมวเสนาติ เวทิตพฺพํ.

สีลานิสํสกถาวณฺณนา

. อวิปฺปฏิสาราทีติ เอตฺถ วิปฺปฏิสารปฏิปกฺโข กุสลจิตฺตุปฺปาโท อวิปฺปฏิสาโร. โส ปน วิเสสโต ‘‘ลาภา วต เม, สุลทฺธํ วต เม, ยสฺส เม สุปริสุทฺธํ สีล’’นฺติ อตฺตโน สีลสฺส ปจฺจเวกฺขณวเสน ปวตฺโตติ เวทิตพฺโพ. อาทิ-สทฺเทน ปาโมชฺชโภคสมฺปตฺติกิตฺติสทฺทาทึ สงฺคณฺหาติ. อวิปฺปฏิสารตฺถานีติ อวิปฺปฏิสารปฺปโยชนานิ. กุสลานีติ อนวชฺชานิ. อวิปฺปฏิสารานิสํสานีติ อวิปฺปฏิสารุทฺทยานิ. เอเตน อวิปฺปฏิสาโร นาม สีลสฺส อุทฺทยมตฺตํ, สํวฑฺฒิตสฺส รุกฺขสฺส ฉายาปุปฺผสทิสํ. อฺโ เอว ปนาเนน นิปฺผาเทตพฺโพ สมาธิอาทิคุโณติ ทสฺเสติ.

สีลวโต สีลสมฺปทายาติ ปริสุทฺธํ ปริปุณฺณํ กตฺวา สีลสฺส สมฺปาทเนน สีลวโต, ตาย เอว สีลสมฺปทาย. อปฺปมาทาธิกรณนฺติ อปฺปมาทการณา. โภคกฺขนฺธนฺติ โภคราสึ. กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตีติ ‘‘อิติปิ สีลวา, อิติปิ กลฺยาณธมฺโม’’ติ สุนฺทโร ถุติโฆโส อุฏฺหติ, โลกํ ปตฺถรติ. วิสารโทติ อตฺตนิ กิฺจิ ครหิตพฺพํ อุปวทิตพฺพํ อปสฺสนฺโต วิคตสารชฺโช นิพฺภโย. อมงฺกุภูโตติ อวิลกฺโข. อสมฺมูฬฺโหติ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๒๔๘) วิปฺปฏิสาราภาวโต, กุสลกมฺมาทีนํเยว จ ตทา อุปฏฺานโต อมูฬฺโห ปสนฺนมานโส เอว กาลํกโรติ. กายสฺส เภทาติ อุปาทินฺนกฺขนฺธปริจฺจาคา, ชีวิตินฺทฺริยสฺส อุปจฺเฉทา. ปรํ มรณาติ จุติโต อุทฺธํ. สุคตินฺติ สุนฺทรํ คตึ. เตน มนุสฺสคติปิ สงฺคยฺหติ. สคฺคนฺติ เทวคตึ. สา หิ รูปาทีหิ วิสเยหิ สุฏฺุ อคฺโคติ สคฺโค, โลกิยติ เอตฺถ อุฬารํ ปุฺผลนฺติ โลโกติ จ วุจฺจติ.

อากงฺเขยฺย เจติ ยทิ อิจฺเฉยฺย. ปิโย จ อสฺสนฺติ ปิยายิตพฺโพ ปิยจกฺขูหิ ปสฺสิตพฺโพ เปมนิโย ภเวยฺยนฺติ อตฺโถ. มนาโปติ สพฺรหฺมจารีนํ มนวฑฺฒนโก, เตสํ วา มเนน ปตฺตพฺโพ, เมตฺตจิตฺเตน ผริตพฺโพติ วุตฺตํ โหติ. ครูติ ครุฏฺานิโย ปาสาณฉตฺตสทิโส. ภาวนีโยติ ‘‘อทฺธา อยมายสฺมา ชานํ ชานาติ, ปสฺสํ ปสฺสตี’’ติ สมฺภาวนีโย. สีเลสฺเววสฺส ปริปูรการีติ จตุปาริสุทฺธิสีเลสุ เอว ปริปูรการี อสฺส, อนูนการี ปริปูรณากาเรน สมนฺนาคโต ภเวยฺย. ‘‘อาทินา นเยนา’’ติ เอเตน ‘‘อชฺฌตฺตํ เจโตสมถมนุยุตฺโต อนิรากตชฺฌาโน วิปสฺสนาย สมนฺนาคโต พฺรูเหตา สุฺาคาราน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๖๕) เอวมาทิเก สีลโถมนสุตฺตาคเต สตฺตรส สีลานิสํเส สงฺคณฺหาติ.

อิทานิ น เกวลมิเม เอว อวิปฺปฏิสาราทโย, อถ โข อฺเปิ พหู สีลานิสํสา วิชฺชนฺตีติ เต ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สาสเนติ อิมสฺมึ สกลโลกิยโลกุตฺตรคุณาวเห สตฺถุสาสเน. อาจารกุลปุตฺตานํ ยํ สีลํ วินา ปติฏฺา อวฏฺานํ นตฺถิ, ตสฺส เอวํ มหานุภาวสฺส สีลสฺส อานิสํสานํ ปริจฺเฉทํ ปริมาณํ โก วเท โก วตฺตุํ สกฺกุเณยฺยาติ อตฺโถ. เอเตน สพฺเพสํเยว โลกิยโลกุตฺตรานํ คุณานํ สีลเมว มูลภูตนฺติ ทสฺเสตฺวา ตโต ปรมฺปิ มลวิโสธเนน, ปริฬาหวูปสมเนน, สุจิคนฺธวายเนน, สคฺคนิพฺพานาธิคมูปายภาเวน, โสภาลงฺการสาธนตาย ภยวิธมเนน, กิตฺติปาโมชฺชชเนน จ สีลสทิสํ อฺํ สตฺตานํ หิตสุขาวหํ นตฺถีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น คงฺคา’’ติอาทิกา คาถา อภาสิ.

ตตฺถ สรภูติ เอกา นที, ‘‘ยํ โลเก สรภู’’ติ วทนฺติ. นินฺนคา วาจิรวตีติ ‘‘อจิรวตี’’ติ เอวํนามิกา นที, วาติ สพฺพตฺถ วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ. เตน อวุตฺตา โคธาวรีจนฺทภาคาทิกา สงฺคณฺหาติ. ปาณนฏฺเน ปาณีนํ สตฺตานํ ยํ มลํ สีลชลํ วิโสธยติ, ตํ มลํ วิโสเธตุํ น สกฺกุณนฺติ คงฺคาทโย นทิโยติ ปมคาถาย น-การํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. หาราติ มุตฺตาหารา. มณโยติ เวฬุริยาทิมณโย. อริยนฺติ วิสุทฺธํ. สีลสมุฏฺาโน กิตฺติสทฺโท คนฺโธ มโนหรภาวโต, ทิสาสุ อภิพฺยาปนโต จ ‘‘สีลคนฺโธ’’ติ วุตฺโต. โส หิ ปฏิวาเตปิ ปวตฺตติ. เตนาห ภควา ‘‘สตฺจ คนฺโธ ปฏิวาตเมตี’’ติ (ธ. ป. ๕๔; อ. นิ. ๓.๘๐; มิ. ป. ๕.๔.๑). โทสานํ พลํ นาม วตฺถุชฺฌาจาโร, ตํ เตสํ กาตุํ อเทนฺตํ สีลํ โทสานํ พลํ ฆาเตตีติ เวทิตพฺพํ.

สีลปฺปเภทกถาวณฺณนา

๑๐. ‘‘กติวิธ’’นฺติ เอตฺถ วิธ-สทฺโท โกฏฺาสปริยาโย ‘‘เอกวิเธน รูปสงฺคโห’’ติอาทีสุ วิย, ปการตฺโถ วา, กติปฺปการํ กิตฺตกา สีลสฺส ปการเภทาติ อตฺโถ. สีลนลกฺขเณนาติ สีลนสงฺขาเตน สภาเวน.

จรนฺติ เตน สีเลสุ ปริปูรการิตํ อุปคจฺฉนฺตีติ จริตฺตํ, จริตฺตเมว จาริตฺตํ. วาริตโต เตน อตฺตานํ ตายนฺติ รกฺขนฺตีติ วาริตฺตํ. อธิโก สมาจาโร อภิสมาจาโร, ตตฺถ นิยุตฺตํ, โส วา ปโยชนํ เอตสฺสาติ อาภิสมาจาริกํ. อาทิ พฺรหฺมจริยสฺสาติ อาทิพฺรหฺมจริยํ, ตเทว อาทิพฺรหฺมจริยกํ. วิรมติ เอตาย, สยํ วา วิรมติ, วิรมณํ วา วิรติ, น วิรตีติ อวิรติ. นิสฺสยตีติ นิสฺสิตํ, น นิสฺสิตนฺติ อนิสฺสิตํ. ปริยนฺโต เอตสฺส อตฺถีติ ปริยนฺตํ, กาเลน ปริยนฺตํ กาลปริยนฺตํ, ยถาปริจฺฉินฺโน วา กาโล ปริยนฺโต เอตสฺสาติ กาลปริยนฺตํ. ยาว ปาณนํ ชีวนํ โกฏิ เอตสฺสาติ อาปาณโกฏิกํ. อตฺตโน ปจฺจเยหิ โลเก นิยุตฺตํ, ตตฺถ วา วิทิตนฺติ โลกิยํ. โลกํ อุตฺตรตีติ โลกุตฺตรํ.

ปจฺจยโต, ผลโต จ มชฺฌิมปณีเตหิ นิหีนํ, เตสํ วา คุเณหิ ปริหีนนฺติ หีนํ. อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปธานภาวํ นีตนฺติ ปณีตํ. อุภินฺนเมว เวมชฺเฌ ภวํ มชฺฌิมํ. อตฺตาธิปติโต อาคตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. เสสปททฺวเยปิ เอเสว นโย. ตณฺหาย, ทิฏฺิยา วา ปรามฏฺํ ปธํสิตนฺติ ปรามฏฺํ. ตปฺปฏิกฺเขปโต อปรามฏฺํ. ปฏิปฺปสฺสทฺธกิเลสํ ปฏิปฺปสฺสทฺธํ. สิกฺขาสุ ชาตํ, เสกฺขสฺส อิทนฺติ วา เสกฺขํ. ปรินิฏฺิตสิกฺขากิจฺจตาย อเสกฺขธมฺมปริยาปนฺนํ อเสกฺขํ. ตทุภยปฏิกฺเขเปน เนวเสกฺขนาเสกฺขํ. หานํ ภชติ, หานภาโค วา เอตสฺส อตฺถีติ หานภาคิยํ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อปฺปปริมาณตฺตา ปริยนฺตวนฺตํ, ปาริสุทฺธิวนฺตฺจ สีลํ ปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลํ. อนปฺปปริมาณตฺตา อปริยนฺตํ, ปาริสุทฺธิวนฺตฺจ สีลํ อปริยนฺตปาริสุทฺธิสีลํ. สพฺพโส ปุณฺณํ, ปาริสุทฺธิวนฺตฺจ สีลํ ปริปุณฺณปาริสุทฺธิสีลํ.

๑๑. วุตฺตนเยนาติ ‘‘สีลนฏฺเน สีล’’นฺติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๗) เหฏฺา วุตฺเตน นเยน. อิทํ กตฺตพฺพนฺติ ปฺตฺตสิกฺขาปทปูรณนฺติ อิทํ อาภิสมาจาริกํ กตฺตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ เอวํ ปฺตฺตสฺส สิกฺขาปทสีลสฺส ปูรณํ. สิกฺขาปทสีลํ หิ ปูเรนฺโต สิกฺขาปทมฺปิ ปูเรติ ปาเลติ นาม. สิกฺขา เอว วา สิกฺขิตพฺพโต, ปฏิปชฺชิตพฺพโต จ สิกฺขาปทํ. ตสฺส ปูรณนฺติปิ โยเชตพฺพํ. อิทํ น กตฺตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตสฺส อกรณนฺติ อิทํ ทุจฺจริตํ น กตฺตพฺพนฺติ ภควตา ปฏิกฺขิตฺตสฺส อกรณํ วิรมณํ. จรนฺติ ตสฺมินฺติ ตสฺมึ สีเล ตํสมงฺคิโน จรนฺตีติ สีลสฺส อธิกรณตํ วิภาเวนฺโต เตสํ ปวตฺติฏฺานภาวํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘สีเลสุ ปริปูรการิตาย ปวตฺตนฺตี’’ติ. วาริตนฺติ อิทํ น กตฺตพฺพนฺติ ปฏิกฺขิตฺตํ อกปฺปิยํ . ตายนฺตีติ อกรเณเนว ตายนฺติ. เตนาติ วาริตฺตสีลมาห. วาเรติ วา สตฺถา เอตฺถ, เอเตน วาติ วาริตํ, สิกฺขาปทํ. ตํ อวิโกเปนฺโต ตายนฺติ เตนาติ วาริตฺตํ. สทฺธาวีริยสาธนนฺติ สทฺธาย, อุฏฺานวีริเยน จ สาเธตพฺพํ. น หิ อสทฺโธ, กุสีโต จ วตฺตปฏิปตฺตึ ปริปูเรติ, สทฺโธ เอว สตฺถารา ปฏิกฺขิตฺเต อณุมตฺเตปิ วชฺเช ภยทสฺสาวี สมาทาย สิกฺขติ สิกฺขาปเทสูติ อาห ‘‘สทฺธาสาธนํ วาริตฺต’’นฺติ.

อธิสีลสิกฺขาปริยาปนฺนตฺตา อภิวิสิฏฺโ สมาจาโรติ อภิสมาจาโรติ อาห ‘‘อุตฺตมสมาจาโร’’ติ. อภิสมาจาโรว อาภิสมาจาริกํ, ยถา เวนยิโกติ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๘) อธิปฺปาโย. อภิสมาจาโร อุกฺกฏฺนิทฺเทสโต มคฺคสีลํ, ผลสีลฺจ, ตํ อารพฺภ อุทฺทิสฺส ตทตฺถํ ตปฺปโยชนํ ปฺตฺตํ อาภิสมาจาริกํ. สุปริสุทฺธานิ ตีณิ กายกมฺมานิ, จตฺตาริ วจีกมฺมานิ, สุปริสุทฺโธ อาชีโวติ อิทํ อาชีวฏฺมกํ. ตตฺถ กามํ อาชีวเหตุกโต สตฺตวิธทุจฺจริตโต วิรติ สมฺมาอาชีโวติ โสปิ สตฺตวิโธ โหติ, สมฺมาชีวตาสามฺเน ปน ตํ เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. อถ วา ติวิธกุหนวตฺถุสนฺนิสฺสยโต มิจฺฉาชีวโต วิรตึ เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺโต ‘‘อาชีโว สุปริสุทฺโธ’’ติ. เสฏฺจริยภาวโต มคฺโค เอว พฺรหฺมจริยนฺติ มคฺคพฺรหฺมจริยํ, ตสฺส. อาทิภาวภูตนฺติ อาทิมฺหิ ภาเวตพฺพตํ นิปฺผาเทตพฺพตํ ภูตํ ปตฺตํ อาทิภาวภูตํ. กิฺจาปิ เทสนานุกฺกเมน สมฺมาทิฏฺิ อาทิ, ปฏิปตฺติกฺกเมน ปน อาชีวฏฺมกสีลํ อาทีติ. ตสฺส สมฺปตฺติยาติ อาภิสมาจาริกสฺส สมฺปชฺชเนน ปริปูรเณน อาทิพฺรหฺมจริยกํ สมฺปชฺชติ. โย หิ ลหุกานิปิ อปฺปสาวชฺชานิ ปริวชฺเชติ, โส ครุกานิ มหาสาวชฺชานิ พหฺวาทีนวานิ ปริวชฺเชสฺสตีติ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ. สุตฺตํ ปน เอตมตฺถํ พฺยติเรกวเสน วิภาเวติ. ตตฺถ ธมฺมนฺติ สีลํ. ตํ หิ อุปริคุณวิเสสานํ ธารณฏฺเน ธมฺโมติ วุจฺจติ.

วิรติสีลสฺส อิตรสีเลน สติปิ สมฺปโยคาทิเก อสมฺมิสฺสกตาทสฺสนตฺถํ ‘‘เวรมณิมตฺต’’นฺติ วุตฺตํ.

‘‘นิสฺสิตานิสฺสิตวเสนา’’ติ เอตฺถ ลพฺภมานนิสฺสยํ ตาว ทสฺเสตุํ ‘‘นิสฺสโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตณฺหาจริเตน นิสฺสยิตพฺพโต ตณฺหาว ตณฺหานิสฺสโย. ตถา ทิฏฺินิสฺสโย. ทิฏฺิจริโต หิ อสติปิ ทิฏฺิยา ตณฺหาวิรเห ทิฏฺินิสฺสิโตว ปวตฺตติ. เทโวติ จตุมหาราชสกฺกสุยามาทิปากฏเทวมาห . เทวฺตโรติ อปากฏํ. ตณฺหํ เอว นิสฺสิตนฺติ ตณฺหานิสฺสิตํ. ตณฺหาย นิสฺสิตนฺติ จ เกจิ วทนฺติ. เตสํ ‘‘ทฺเว นิสฺสยา’’ติอาทินา วิรุชฺฌติ. สุทฺธิทิฏฺิยาติ ‘‘อิติ สํสารสุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ เอวํ ปวตฺตทิฏฺิยา, โลกุตฺตรํ สีลนฺติ อธิปฺปาโย. ตสฺเสวาติ โลกุตฺตรสฺเสว สมฺภารภูตํ การณภูตํ, วิวฏฺฏูปนิสฺสยนฺติ อตฺโถ.

กาลปริจฺเฉทํ กตฺวาติ ‘‘อิมฺจ รตฺตึ, อิมฺจ ทิว’’นฺติอาทินา (อ. นิ. ๘.๔๑) วิย กาลวเสน ปริจฺเฉทํ กตฺวา. กาลปริจฺเฉทํ อกตฺวา สมาทินฺนมฺปิ อนฺตราวิจฺฉินฺนํ สมฺปตฺตวิรติวเสน ยาวชีวํ ปวตฺติตมฺปิ อาปาณโกฏิกํ น โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยาวชีวํ สมาทิยิตฺวา ตเถว ปวตฺติต’’นฺติ วุตฺตํ.

ลาภยสาติองฺคชีวิตวเสนาติ ลาภยสานํ อนุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทนวเสน, อุปฺปนฺนานํ รกฺขณวเสน เจว วฑฺฒนวเสน จ าติองฺคชีวิตานํ อวินาสนวเสน. กึ โส วีติกฺกมิสฺสตีติ โย วีติกฺกมาย จิตฺตมฺปิ น อุปฺปาเทติ, โส กายวาจาหิ วีติกฺกมิสฺสตีติ กึ อิทํ, นตฺเถตนฺติ อตฺโถ. ปฏิกฺเขเป หิ อยํ กึ-สทฺโท.

อารมฺมณภาเวน วโณ วิย อาสเว กามาสวาทิเก ปคฺฆรตีติ สมฺปโยคภาวาภาเวปิ สหาสเวหีติ สาสวํ. เตภูมกธมฺมชาตนฺติ สีลํ ตปฺปริยาปนฺนนฺติ อาห ‘‘สาสวํ สีลํ โลกิย’’นฺติ. ภววิเสสา สมฺปตฺติภวา. วินโยติ วินยปริยตฺติ, ตตฺถ วา อาคตสิกฺขาปทานิ. ปาโมชฺชํ ตรุณปีติ. ยถาภูตาณทสฺสนํ สปจฺจยนามรูปทสฺสนํ, ตทธิฏฺานา วา ตรุณวิปสฺสนา. นิพฺพิทาติ นิพฺพิทาาณํ. เตน พลววิปสฺสนมาห. วิราโค มคฺโค. วิมุตฺติ อรหตฺตผลํ. วิมุตฺติาณทสฺสนํ ปจฺจเวกฺขณา. กถาติ วินยกถา. มนฺตนาติ วินยวิจารณา. อุปนิสาติ ยถาวุตฺตการณปรมฺปราสงฺขาโต อุปนิสฺสโย. โลกุตฺตรํ มคฺคผลจิตฺตสมฺปยุตฺตํ อาชีวฏฺมกสีลํ. ตตฺถ มคฺคสีลํ ภวนิสฺสรณาวหํ โหติ, ปจฺจเวกฺขณาณสฺส จ ภูมิ, ผลสีลํ ปน ปจฺจเวกฺขณาาณสฺเสว ภูมิ.

๑๒. หีนาธิมุตฺติวเสน ฉนฺทาทีนมฺปิ หีนตา. ปณีตาธิมุตฺติวเสน ปณีตตา. ตทุภยเวมชฺฌตาวเสน มชฺฌิมตา. ยเถว หิ กมฺมํ อายูหนวเสน หีนาทิเภทภินฺนํ โหติ, เอวํ ฉนฺทาทโยปิ ปวตฺติอาการวเสน. โส จ เนสํ ปวตฺติอากาโร อธิมุตฺติเภเทนาติ ทฏฺพฺพํ. ยสกามตายาติ กิตฺติสิโลกาภิรติยา, ปริวาริจฺฉาย วา. ‘‘กถํ นาม มาทิโส อีทิสํ กเรยฺยา’’ติ ปาปชิคุจฺฉาย อริยภาวํ นิสฺสาย. อนุปกฺกิลิฏฺนฺติ อตฺตุกฺกํสนปรวมฺภนาหิ, อฺเหิ จ อุปกฺกิเลเสหิ อนุปกฺกิลิฏฺํ. ภวโภคตฺถายาติ ภวสมฺปตฺติอตฺถฺเจว โภคสมฺปตฺติอตฺถฺจ. อตฺตโน วิโมกฺขตฺถาย ปวตฺติตนฺติ สาวกปจฺเจกโพธิสตฺตสีลมาห. สพฺพสตฺตานํ วิโมกฺขตฺถายาติ สพฺพสตฺตานํ สํสารพนฺธนโต วิโมจนตฺถาย. ปารมิตาสีลํ มหาโพธิสตฺตสีลํ. ยา กรุณูปายโกสลฺลปริคฺคหิตา มหาโพธึ อารพฺภ ปวตฺตา ปรมุกฺกํสคตโสเจยฺยสลฺเลขา เทสกาลสตฺตาทิวิกปฺปรหิตา สีลปารมิตา.

อนนุรูปนฺติ อสารุปฺปํ. อตฺตา เอว ครุ อธิปติ เอตสฺสาติ อตฺตครุ, ลชฺชาธิโก. อตฺตาธิปติโต อาคตํ อตฺตาธิปเตยฺยํ. โลโก อธิปติ ครุ เอตสฺสาติ โลกาธิปติ, โอตฺตปฺปาธิโก. ธมฺโม นามายํ มหานุภาโว เอกนฺตนิยฺยานิโก, โส จ ปฏิปตฺติยาว ปูเชตพฺโพ. ตสฺมา ‘‘นํ สีลสมฺปทาย ปูเชสฺสามี’’ติ เอวํ ธมฺมมหตฺตํ ปูเชตุกาเมน.

ปรามฏฺตฺตาติ ปราภววเสน อามฏฺตฺตา. ตณฺหาทิฏฺิโย หิ ‘‘อิมินาหํ สีเลน เทโว วา ภวิสฺสามิ เทวฺตโร วา, อิมินา เม สีเลน สํสารสุทฺธิ ภวิสฺสตี’’ติ ปวตฺตสฺส สีลํ ปรามสนฺติโย ตํ ปราภวํ ปาเปนฺติ มคฺคสฺส อนุปนิสฺสยภาวกรณโต. ปุถุชฺชนกลฺยาณกสฺสาติ ปุถุชฺชเนสุ กลฺยาณกสฺส. โส หิ ปุถุชฺชโนว หุตฺวา กลฺยาเณหิ สีลาทีหิ สมนฺนาคโต. ปรามสนกิเลสานํ วิกฺขมฺภนโต, สมุจฺฉินฺทนโต จ เตหิ น ปรามฏฺนฺติ อปรามฏฺํ. ตสฺส ตสฺส กิเลสทรถสฺส ปฏิปฺปสฺสมฺภนโต วูปสมนโต ปฏิปฺปสฺสทฺธํ.

กตปฏิกมฺมนฺติ วุฏฺานเทสนาหิ ยถาธมฺมํ กตปฏิการํ. เอวํ หิ ตํ สีลํ ปฏิปากติกเมว โหติ. เตนาห ‘‘ตํ วิสุทฺธ’’นฺติ. ‘‘กตปฏิกมฺม’’นฺติ อิมินา จ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺส’’นฺติ อธิฏฺานมฺปิ สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘อจฺฉมํสํ นุ โข, สูกรมํสํ นุ โข’’ติอาทินา วตฺถุมฺหิ วา, ‘‘ปาจิตฺติยํ นุ โข, ทุกฺกฏํ นุ โข’’ติอาทินา อาปตฺติยา วา, ‘‘มยา ตํ วตฺถุ วีติกฺกนฺตํ นุ โข, น นุ โข วีติกฺกนฺต’’นฺติอาทินา อชฺฌาจาเร วา เวมติกสฺส สํสยาปนฺนสฺส. วิโสเธตพฺพํ ยถาธมฺมํ ปฏิกมฺเมน. วิมติ เอว เวมติกํ, ตสฺมึ เวมติเก สติ, วิมติยา อุปฺปนฺนายาติ อตฺโถ. วิมติ ปฏิวิเนตพฺพาติ สยํ วา ตํ วตฺถุํ วิจาเรตฺวา, วินยธเร วา ปุจฺฉิตฺวา กงฺขา วิโนเทตพฺพา. นิกฺกงฺเขน ปน กปฺปิยํ เจ กาตพฺพํ, อกปฺปิยํ เจ ฉฑฺเฑตพฺพํ. เตนาห ‘‘อิจฺจสฺส ผาสุ ภวิสฺสตี’’ติ.

‘‘จตูหิอริยมคฺเคหี’’ติอาทินา มคฺคผลปริยาปนฺนํ สีลํ มคฺคผลสมฺปยุตฺตํ วุตฺตํ. สมุทาเยสุ ปวตฺตโวหารา อวยเวสุปิ ปวตฺตนฺตีติ. เสสนฺติ สพฺพํ โลกิยสีลํ.

ปกติปีติ สภาโวปิ. สุขสีโล สขิโล สุขสํวาโส. เตน ปริยาเยนาติ ปกติอตฺถวาจกตฺเถน. เอกจฺจํ อพฺยากตํ สีลํ อิธาธิปฺเปตสีเลน เอกสงฺคหนฺติ อกุสลสฺเสวายุชฺชมานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺถ อกุสล’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตถา หิ เสกฺขตฺติกํ อิธ คหิตํ, อิธ น อุปนีตํ กุสลตฺติกนฺติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนเยเนวาติ วุตฺเตเนว นเยน กุสลตฺติกํ อคฺคเหตฺวา หีนตฺติกาทีนํ ปฺจนฺนํ ติกานํ วเสน อสฺส สีลสฺส ติวิธตา เวทิตพฺพา.

๑๓. โยธาติ โย อิธ. วตฺถุวีติกฺกเมติ อาปตฺติยา วตฺถุโน วีติกฺกมเน อชฺฌาจาเร. กามสงฺกปฺปาทโย นว มหาวิตกฺกา มิจฺฉาสงฺกปฺปา. เอวรูปสฺสาติ เอทิสสฺส. ตสฺส หิ สีลวนฺเต อนุปสงฺกมิตฺวา ทุสฺสีเล เสวนฺตสฺส ตโต เอว เตสํ ทิฏฺานุคตึ อาปชฺชเนน ปณฺณตฺติวีติกฺกเม อโทสทสฺสาวิโน มิจฺฉาสงฺกปฺปพหุลตาย มนจฺฉฏฺานิ อินฺทฺริยานิ อรกฺขโต สีลํ เอกํเสเนว หานภาคิยํ โหติ, น ิติภาคิยํ, กุโต วิเสสาทิภาคิยตา. สีลสมฺปตฺติยาติ สีลปาริปูริยา จตุปาริสุทฺธิสีเลน. อฆฏนฺตสฺส อุตฺตรีติ อุตฺตริ วิเสสาธิคมาย อวายมนฺตสฺส. ิติภาคิยํ สีลํ ภวติ อสมาธิสํวตฺตนิยตฺตา. สมฺปาทิเต หิ สมาธิสฺมึ สีลสฺส สมาธิสํวตฺตนิยตา นิจฺฉิยติ. สมาธตฺถายาติ สมถวเสน สมาธานตฺถาย. นิพฺพิทนฺติ วิปสฺสนํ. พลววิปสฺสนาทสฺสนตฺถํ นิพฺพิทาคหณํ ตาวตาปิ สีลสฺส นิพฺเพธภาคิยภาวสิทฺธิโต.

ยานิ จ สิกฺขาปทานิ เนสํ รกฺขิตพฺพานีติ สมฺพนฺโธ, ตานิ ปน อสาธารณปฺตฺติโต อฺานิ. เนสนฺติ ‘‘รกฺขิตพฺพานี’’ติ ปทํ อเปกฺขิตฺวา กตฺตริ สามิวจนํ, เตหิ ภิกฺขูหีติ อตฺโถ. สติ วา อุสฺสาเหติ อุสฺสกฺกิตฺวา สีลานิ รกฺขิตุํ อุสฺสาเห สติ. ทสาติ สามเณเรหิ รกฺขิตพฺพสีลมาห ฆฏิการาทีนํ วิย. อฏฺาติ นจฺจาทิมาลาทิเวรมณึ เอกํ กตฺวา สพฺพปจฺฉิมวชฺชานิ อฏฺ.

อวีติกฺกโมติ ปฺจนฺนํ สีลานํ อวีติกฺกโม. ปกติสีลนฺติ สภาวสีลํ. ตตฺรูปปตฺตินิยตํ หิ สีลํ อุตฺตรกุรุกานํ. มริยาทาจาริตฺตนฺติ ตสฺส ตสฺส สาวชฺชสฺส อกรเณ มริยาทภูตํ, ตตฺถ ตตฺถ กุลาทีสุ ปุพฺพปุริเสหิ ปิตํ จาริตฺตํ. กุลเทสปาสณฺฑธมฺโม หิ ‘‘อาจารสีล’’นฺติ อธิปฺเปตํ. ตตฺถ กุลธมฺโม ตาว พฺราหฺมณาทีนํ อมชฺชปานาทิ, เทสธมฺโม เอกจฺจชนปทวาสีนํ อหึสนาทิ, ปาสณฺฑธมฺโม ติตฺถิยานํ ยมนิยมาทิ. ติตฺถิยมตํ หิ ทิฏฺิปาเสน, ตณฺหาปาเสน จ เฑติ ปวตฺตติ, ปาสํ วา พาธํ อริยวินยสฺส เฑตีติ ‘‘ปาสณฺฑ’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘ปกติยา สีลวตี โหตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๐) วจนโต โพธิสตฺตมาตุ ปฺจสิกฺขาปทสีลํ ปริปุณฺณเมว. อิทํ ปน อุกฺกํสคตํ โพธิสตฺตปิตริปิ จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ อสํกิลิฏฺํ ‘‘ธมฺมตาสีล’’นฺติ วุตฺตํ. กามคุณูปสํหิตนฺติ กามโกฏฺาเสสุ อสฺสาทูปสํหิตํ กามสฺสาทคธิตํ. ธมฺมตาสีลนฺติ ธมฺมตาย การณนิยาเมน อาคตํ สีลํ. สีลปารมึ หิ ปรมุกฺกํสํ ปาเปตฺวา กุจฺฉิคตสฺส มหาโพธิสตฺตสฺส สีลเตเชน คุณานุภาเวน โพธิสตฺตมาตุ สรเสเนว ปรมสลฺเลขปฺปตฺตํ สีลํ โหติ. มหากสฺสปาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน ภทฺทาทิเก สงฺคณฺหาติ. เต กิร สุจิรํ กาลํ สุปริสุทฺธสีลา เอว หุตฺวา อาคตา. เตนาห ‘‘สุทฺธสตฺตาน’’นฺติ. ตาสุ ตาสุ ชาตีสูติ สีลวราชมหึสราชาทิชาตีสุ. ปุพฺเพ ปุริมชาติยํ สิทฺโธ เหตุ เอตสฺสาติ ปุพฺพเหตุกสีลํ. อิทํ ปน ปกติสีลาทิสมาทาเนน วินา อวีติกฺกมลกฺขณํ สมฺปตฺตวิรติสงฺคหํ ทฏฺพฺพํ.

ยํ ภควตา เอวํ วุตฺตํ สีลนฺติ สมฺพนฺโธ. อิธาติ วกฺขมานสีลปริปูรกสฺส ปุคฺคลสฺส สนฺนิสฺสยภูตสาสนปริทีปนํ, อฺสาสนสฺส จ ตถาภาวปฏิเสธนํ. วุตฺตํ เหตํ ‘‘อิเธว, ภิกฺขเว, สมโณ…เป… สุฺา ปรปฺปวาทา สมเณภิ อฺเหี’’ติ (ที. นิ. ๒.๒๑๔; ม. นิ. ๑.๑๓๙; อ. นิ. ๔.๒๔๑). ภิกฺขูติ ตสฺส สีลสฺส ปริปูรกปุคฺคลปริทีปนํ. ปาติโมกฺขสํวรสํวุโตติ อิทมสฺส ปาติโมกฺขสีเล ปติฏฺิตภาวปริทีปนํ. วิหรตีติ อิทมสฺส ตทนุรูปวิหารสมงฺคิภาวปริทีปนํ. อาจารโคจรสมฺปนฺโนติ อิทํ ปาติโมกฺขสํวรสฺส, อุปริอธิคนฺตพฺพคุณานฺจ อุปการกธมฺมปริทีปนํ. อณุมตฺเตสุ วชฺเชสุ ภยทสฺสาวีติ อิทํ ปาติโมกฺขโต อจวนภาวปริทีปนํ. สมาทายาติ สิกฺขาปทานํ อนวเสสโต อาทานปริทีปนํ. สิกฺขตีติ สิกฺขาย สมงฺคิภาวปริทีปนํ . สิกฺขาปเทสูติ สิกฺขิตพฺพธมฺมปริทีปนํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.

โสติ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ปติฏฺิตภิกฺขุ. เตน ยาทิสสฺส อินฺทฺริยสํวรสีลํ อิจฺฉิตพฺพํ, ตํ ทสฺเสติ. จกฺขุนาติ ยโต โส สํวโร, ตํ ทสฺเสติ. รูปนฺติ ยตฺถ โส สํวโร, ตํ ทสฺเสติ. ทิสฺวา น นิมิตฺตคฺคาหี โหติ นานุพฺยฺชนคฺคาหีติ สํวรสฺส อุปายํ ทสฺเสติ. ยตฺวาธิกรณ…เป… อนฺวาสฺสเวยฺยุนฺติ สํวรสฺส ปฏิปกฺขํ ตตฺถ อาทีนวํ ทสฺเสติ. สํวราย ปฏิปชฺชตีติ ปเคว สติยา อุปฏฺเปตพฺพตํ ทสฺเสติ. รกฺขติ จกฺขุนฺทฺริยนฺติ สติยา อุปฏฺาปนเมว จกฺขุนฺทฺริยสฺส อารกฺขาติ ทสฺเสติ. จกฺขุนฺทฺริเย สํวรํ อาปชฺชตีติ ตถาภูตา สติเยเวตฺถ สํวโรติ ทสฺเสติ. วีติกฺกมสฺส วเสนาติ สมฺพนฺโธ. ฉนฺนํ สิกฺขาปทานนฺติ ‘‘อาชีวเหตุ อาชีวการณา อสนฺตํ อภูตํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมํ อุลฺลปตี’’ติอาทินา อาคตานํ ฉนฺนํ ปาราชิกาทิปฏิสํยุตฺตานํ สิกฺขาปทานํ. สามนฺตชปฺปนาทินา ติวิเธน กุหนวตฺถุนา วิมฺหาปนํ กุหนา. อตฺตานํ, ทายกํ วา อุกฺขิปิตฺวา ยถา โส กิฺจิ ททาติ, เอวํ กถนํ ลปนา. นิมิตฺตํ วุจฺจติ ปจฺจยทานสฺุปฺปาทกํ กายวจีกมฺมํ, เตน นิมิตฺเตน จรติ, นิมิตฺตํ วา กโรตีติ เนมิตฺติโก, ตสฺส ภาโว เนมิตฺติกตา. คนฺธาทโย วิย ลาภาย ปเรสํ อกฺโกสนาทินา นิปิสตีติ นิปฺเปโส, นิปฺเปโสว นิปฺเปสิโก, ตสฺส ภาโว นิปฺเปสิกตา. มหิจฺฉตาย อตฺตนา ลทฺธลาเภน ปรโต ลาภปริเยสนา ลาเภน ลาภํ นิชิคีสนตา. เอวมาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อนุปฺปิยภาณิตาจาฏุกมฺยตาทึ สงฺคณฺหาติ. ปฏิสงฺขาเนน ปจฺจเวกฺขณาย ปริสุทฺโธ อสํกิลิฏฺโ ปฏิสงฺขานปริสุทฺโธ. จตฺตาโร ปจฺจยา ปริภุฺชียนฺติ เอเตนาติ จตุปจฺจยปริโภโค, ตถาปวตฺตา อนวชฺชเจตนา.

ปาติโมกฺขสํวรสีลวณฺณนา

๑๔. ตตฺราติ เตสุ ปาติโมกฺขสํวราทีสุ. อาทิโต ปฏฺายาติ ‘‘อิธ ภิกฺขู’’ติอาทินา (วิภ. ๕๐๘; ที. นิ. ๑.๑๙๔) อาคตเทสนาย อาทิโต ปภุติ. วินิจฺฉยกถาติ ตตฺถ สํสยวิธมเนน วินิจฺฉยาวหา กถา. ปมสฺส อตฺถสฺส สพฺพสาธารณตฺตา อสาธารณํ ปพฺพชิตาเวณิกํ ปริยายํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ฉินฺนภินฺนปฏธราทิตาย วา’’ติ อาห. เอวํ หิสฺส ปริปุณฺณปาติโมกฺขสํวรโยคฺยตา ทสฺสิตา โหติ. ภินฺนปฏธราทิภาโว จ นาม ทลิทฺทสฺสาปิ นิคฺคหิตสฺส โหตีติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘สทฺธาปพฺพชิโต’’ติ วตฺวา ปฏิปตฺติยา โยคฺยภาวทสฺสนตฺถํ ‘‘กุลปุตฺโต’’ติ วุตฺตํ. อาจารกุลปุตฺโต วา หิ ปฏิปชฺชิตุํ สกฺโกติ ชาติกุลปุตฺโต วา. สิกฺขาปทสีลนฺติ จาริตฺตวาริตฺตปฺปเภทํ สิกฺขาปทวเสน ปฺตฺตํ สีลํ. โยติ อนิยมนิทฺเทโส โย โกจิ ปุคฺคโล. นฺติ วินยปริยาปนฺนํ สีลํ. นฺติ ปุคฺคลํ. โมกฺเขติ สหการิการณภาวโต. อปาเย ภวานิ อาปายิกานิ. อาทิ-สทฺเทน ตทฺํ สพฺพสํสารทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ. สํวรณํ กายวจีทฺวารานํ ปิทหนํ. เยน เต สํวุตา ปิหิตา โหนฺติ, โส สํวโร. ยสฺมา ปน โส สตฺตนฺนํ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อวีติกฺกโม วีติกฺกมปฏิปกฺโขติ กตฺวา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘กายิกวาจสิกสฺส อวีติกฺกมสฺเสตํ นาม’’นฺติ. ปาติโมกฺขสํวเรน สํวุโตติ ปาติโมกฺขสํวเรน ปิหิตกายวจีทฺวาโร. ตถาภูโต จ ยสฺมา ตํ อุเปโต เตน จ สมงฺคี นาม โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุปคโต สมนฺนาคโตติ อตฺโถ’’ติ.

อปโร นโย – กิเลสานํ พลวภาวโต, ปาปกิริยาย สุกรภาวโต, ปุฺกิริยาย จ ทุกฺกรภาวโต พหุกฺขตฺตุํ อปาเยสุ ปตนสีโลติ ปาตี, ปุถุชฺชโน. อนิจฺจตาย วา ภวาทีสุ กมฺมเวคกฺขิตฺโต ฆฏิยนฺตํ วิย อนวฏฺาเนน ปริพฺภมนโต คมนสีโลติ ปาตี, มรณวเสน วา ตมฺหิ ตมฺหิ สตฺตนิกาเย อตฺตภาวสฺส ปาตนสีโลติ ปาตี, สตฺตสนฺตาโน, จิตฺตเมว วา. ตํ ปาตินํ สํสารทุกฺขโต โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. จิตฺตสฺส หิ วิโมกฺเขน สตฺโต ‘‘วิมุตฺโต’’ติ วุจฺจติ. วุตฺตํ หิ ‘‘จิตฺตโวทานา วิสุชฺฌนฺตี’’ติ, ‘‘อนุปาทาย อาสเวหิ จิตฺตํ วิมุตฺต’’นฺติ (มหาว. ๒๘) จ. อถ วา อวิชฺชาทินา เหตุนา สํสาเร ปตติ คจฺฉติ ปวตฺตตีติ ปาตี, ‘‘อวิชฺชานีวรณานํ สตฺตานํ ตณฺหาสํโยชนานํ สนฺธาวตํ สํสรต’’นฺติ (สํ. นิ. ๒.๑๒๔) หิ วุตฺตํ. ตสฺส ปาติโน สตฺตสฺส ตณฺหาทิสํกิเลสตฺตยโต โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ . ‘‘กณฺเกาโฬ’’ติอาทีนํ วิยสฺส สมาสสิทฺธิ เวทิตพฺพา. อถ วา ปาเตติ วินิปาเตติ ทุกฺเขติ ปาติ, จิตฺตํ. วุตฺตํ หิ ‘‘จิตฺเตน นียติ โลโก, จิตฺเตน ปริกสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๖๒). ตสฺส ปาติโน โมกฺโข เอเตนาติ ปาติโมกฺขํ, ปตติ วา เอเตน อปายทุกฺเข, สํสารทุกฺเข จาติ ปาตี, ตณฺหาทิสํกิเลโส. วุตฺตํ หิ ‘‘ตณฺหา ชเนติ ปุริสํ (สํ. นิ. ๑.๕๕-๕๗), ตณฺหาทุติโย ปุริโส’’ติ (อิติวุ. ๑๕, ๑๐๕; อ. นิ. ๔.๙; มหานิ. ๑๙๑; จูฬนิ. ปารายนานุคีติคาถานิทฺเทส) จ อาทิ. ตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ. อถ วา ปตติ เอตฺถาติ ปาตีนิ, ฉ อชฺฌตฺติกพาหิรานิ อายตนานิ. วุตฺตํ หิ ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน, ฉสุ กุพฺพติ สนฺถว’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๗๐; สุ. นิ. ๑๗๑). ตโต ฉอชฺฌตฺติกพาหิรายตนสงฺขาตโต ปาติโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ. อถ วา ปาโต วินิปาโต อสฺส อตฺถีติ ปาตี, สํสาโร. ตโต โมกฺโขติ ปาติโมกฺขํ, อถ วา สพฺพโลกาธิปติภาวโต ธมฺมิสฺสโร ภควา ‘‘ปตี’’ติ วุจฺจติ. มุจฺจติ เอเตนาติ โมกฺโข, ปติโน โมกฺโข เตน ปฺตฺตตฺตาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. สพฺพคุณานํ วา มูลภาวโต อุตฺตมฏฺเน ปติ จ โส ยถาวุตฺเตนตฺเถน โมกฺโข จาติ ปติโมกฺโข, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ปาติโมกฺขนฺติ มุขเมตํ ปมุขเมต’’นฺติ (มหาว. ๑๓๕) วิตฺถาโร.

อถ วา ป-อิติ ปกาเร, อตี-ติ อจฺจนฺตตฺเถ นิปาโต, ตสฺมา ปกาเรหิ อจฺจนฺตํ โมกฺเขตีติ ปาติโมกฺขํ. อิทํ หิ สีลํ สยํ ตทงฺควเสน, สมาธิสหิตํ ปฺาสหิตฺจ วิกฺขมฺภนวเสน, สมุจฺเฉทวเสน จ อจฺจนฺตํ โมกฺเขติ โมเจตีติ ปาติโมกฺขํ, ปติ ปติ โมกฺโขติ วา ปติโมกฺโข, ตมฺหา ตมฺหา วีติกฺกมโทสโต ปจฺเจกํ โมกฺโขติ อตฺโถ, ปติโมกฺโข เอว ปาติโมกฺขํ. โมกฺโขติ วา นิพฺพานํ, ตสฺส โมกฺขสฺส ปฏิพิมฺพภูโตติ ปติโมกฺโข. สีลสํวโร หิ สูริยสฺส อรุณุคฺคมนํ วิย นิพฺพานสฺส อุทยภูโต ตปฺปฏิภาโค วิย ยถารหํ กิเลสนิพฺพาปนโต, ปติโมกฺโขเยว ปาติโมกฺขํ. อถ วา โมกฺขํ ปติ วตฺตติ, โมกฺขาภิมุขนฺติ วา ปติโมกฺขํ, ปติโมกฺขเมว ปาติโมกฺขนฺติ เอวเมตฺถ ปาติโมกฺข-สทฺทสฺส อตฺโถ เวทิตพฺโพ. อิริยตีติ อตฺตภาวํ ปวตฺเตติ. ‘‘วิหรตี’’ติ อิมินา ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิตสฺส ภิกฺขุโน อิริยาปถวิหาโร ทสฺสิโต. ปาฬิยนฺติ ฌานวิภงฺคปาฬิยํ (วิภ. ๕๐๘ อาทโย).

ตตฺถ กามํ สมณจารํ, สมณโคจรฺจ ทสฺเสตุํ ‘‘อาจารโคจรสมฺปนฺโน’’ติ วุตฺตํ, ยถา ปน มคฺคํ อาจิกฺขนฺโต ‘‘วามํ มุฺจ, ทกฺขิณํ คณฺหา’’ติ วชฺเชตพฺพปุพฺพกํ คเหตพฺพํ วเทยฺย, ยถา วา สสีสนฺหาเนน ปหีนเสทมลชลฺลิกสฺส มาลาคนฺธวิเลปนาทิวิภูสนสํวิธานํ ยุตฺตรูปํ, เอวํ ปหีนปาปธมฺมสฺส กลฺยาณธมฺมสมาโยโค ยุตฺตรูโปติ ‘‘อตฺถิ อาจาโร, อตฺถิ อนาจาโร’’ติ ทฺวยํ อุทฺทิสิตฺวา อนาจารํ ตาว วิภชิตุํ ‘‘ตตฺถ กตโม อนาจาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กายิโก วีติกฺกโมติ ติวิธํ กายทุจฺจริตํ. วาจสิโก วีติกฺกโมติ จตุพฺพิธํ วจีทุจฺจริตํ. กายิกวาจสิโกติ ตทุภยํ.

เอวํ อาชีวฏฺมกสีลสฺส วีติกฺกโม ทสฺสิโต. อิทานิ มานสํ อนาจารํ ทสฺเสตุํ ‘‘สพฺพมฺปิ ทุสฺสีลฺยํ อนาจาโร’’ติ วตฺวา ตตฺถ เอกจฺจิยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อิเธกจฺโจ เวฬุทาเนน วา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เวฬุทาเนนาติ ปจฺจยุปฺปาทนตฺเถน เวฬุทาเนน. ปตฺตทานาทีสุปิ เอเสว นโย. เวฬูติ มนุสฺสานํ ปโยชนาวโห โย โกจิ เวฬุทณฺโฑ. ปตฺตํ คนฺธิกาทีนํ คนฺธปลิเวนาทิอตฺถํ วา, ตาลนาฬิเกราทิปตฺตํ วา. ปุปฺผํ ยํ กิฺจิ มนุสฺสานํ ปโยชนาวหํ. ตถา ผลํ. สินานํ สิรีสจุณฺณาทินฺหานิยจุณฺณํ. มตฺติกาปิ เอตฺเถว สงฺคหํ คจฺฉติ. ทนฺตกฏฺํ ยํ กิฺจิ มุขโสธนตฺถํ ทนฺตโปนํ. จาฏุกมฺยตา อตฺตานํ ทาสํ วิย นีจฏฺาเน เปตฺวา ปรสฺส ขลิตวจนํ สณฺเปตฺวา ปิยกามตาย ปคฺคยฺหวจนํ. มุคฺคสูปฺยตาติ มุคฺคสูปสมตา สจฺจาลิเกน ชีวิตกปฺปนํ. ยถา หิ มุคฺคสูเป ปจฺจนฺเต พหู มุคฺคา ปจฺจนฺติ, กติปยา น ปจฺจนฺติ, เอวํ สจฺจาลิเกน ชีวิตกปฺปเน พหุ อลิกํ โหติ, อปฺปกํ สจฺจนฺติ. ปริภฏตีติ ปริภโฏ, ปเรสํ ทารเก ปริหรนฺโต. ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, สา เอว ปาริภฏฺยตา, อลงฺกรณาทินา กุลทารกปริหรณสฺเสตํ นามํ. เตสํ เตสํ คิหีนํ คามนฺตรเทสนฺตราทีสุ สาสนปฏิสาสนหรณํ ชงฺฆเปสนิกํ. อฺตรฺตเรนาติ เอเตสํ วา เวฬุทานาทีนํ เวชฺชกมฺมภณฺฑาคาริกกมฺมปิณฺฑปฏิปิณฺฑกมฺมสงฺฆุปฺปาทเจติยุปฺปาทปฏฺปนาทีนํ วา มิจฺฉาชีเวน ชีวิตกปฺปนกกมฺมานํ เยน เกนจิ . พุทฺธปฏิกุฏฺเนาติ พุทฺเธหิ ครหิเตน ปฏิสิทฺเธน. มิจฺฉาชีเวนาติ น สมฺมาอาชีเวน. อยํ วุจฺจติ อนาจาโรติ อยํ สพฺโพปิ ‘‘อนาจาโร’’ติ กถียติ. อาจารนิทฺเทโส วุตฺตปฏิปกฺขนเยเนว เวทิตพฺโพ.

โคจรนิทฺเทเสปิ ปมํ อโคจรสฺส วจเน การณํ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. โคจโรติ ปิณฺฑปาตาทีนํ อตฺถาย อุปสงฺกมิตุํ ยุตฺตฏฺานํ. อยุตฺตฏฺานํ อโคจโร. เวสิยา โคจโร อสฺสาติ เวสิยาโคจโร, มิตฺตสนฺถววเสน อุปสงฺกมิตพฺพฏฺานนฺติ อตฺโถ. เวสิยา นาม รูปูปชีวินิโย, ตา มิตฺตสนฺถววเสน น อุปสงฺกมิตพฺพา, สมณภาวสฺส อนฺตรายกรตฺตา, ปริสุทฺธาสยสฺสาปิ ครหเหตุโต, ตสฺมา ทกฺขิณาทานวเสน สตึ อุปฏฺเปตฺวาว อุปสงฺกมิตพฺพา. วิธวา วุจฺจนฺติ มตปติกา, ปวุตฺถปติกา วา. ถุลฺลกุมาริกาติ มหลฺลิกา อนิวิฏฺกุมาริโย, ปณฺฑกาติ นปุํสกา. เต หิ อุสฺสนฺนกิเลสา อวูปสนฺตปริฬาหา โลกามิสสนฺนิสฺสิตกถาพหุลา, ตสฺมา น อุปสงฺกมิตพฺพา. ภิกฺขุนิโย นาม อุสฺสนฺนพฺรหฺมจริยา. ตถา ภิกฺขูปิ. เตสํ อฺมฺํ วิสภาควตฺถุภาวโต สนฺถววเสน อุปสงฺกมเน กติปาเหเนว พฺรหฺมจริยนฺตราโย สิยา, ตสฺมา น อุปสงฺกมิตพฺพา. คิลานปุจฺฉนาทิวเสน อุปสงฺกมเน สโตการินา ภวิตพฺพํ. ปานาคารนฺติ สุราปานฆรํ. ตํ โสณฺฑชเนหิ อวิวิตฺตํ โหติ. ตตฺถ เตหิ โสณฺฑตาทิวเสน น อุปสงฺกมิตพฺพํ พฺรหฺมจริยนฺตรายกรตฺตา. สํสฏฺโ วิหรติ ราชูหีติอาทีสุ ราชาโน นาม เย รชฺชมนุสาสนฺติ. ราชมหามตฺตา ราชิสฺสริยสทิสาย อิสฺสริยมตฺตาย สมนฺนาคตา. ติตฺถิยาติ วิปรีตทสฺสนา พาหิรกปริพฺพาชกา. ติตฺถิยสาวกาติ เตสุ ทฬฺหภตฺตา ปจฺจยทายกา. อนนุโลมิเกน สํสคฺเคนาติ ติสฺสนฺนํ สิกฺขานํ อนนุโลมิเกน ปจฺจนีกภูเตน สํสคฺเคน สํสฏฺโ วิหรติ, เยน พฺรหฺมจริยนฺตรายํ วา สลฺเลขปริหานึ วา ปาปุณาติ.

อิทานิ อปเรนปิ ปริยาเยน อโคจรํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ วา ปน ตานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อสฺสทฺธานีติ พุทฺธาทีสุ สทฺธาวิรหิตานิ. ตโต เอว อปฺปสนฺนานิ, กมฺมกมฺมผลสทฺธาย วา อภาเวน อสฺสทฺธานิ. รตนตฺตยปฺปสาทาภาเวน อปฺปสนฺนานิ. อกฺโกสกปริภาสกานีติ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสกานิ เจว ภยทสฺสเนน สนฺตชฺชนกานิ จ. อตฺถํ น อิจฺฉนฺติ อนตฺถเมว อิจฺฉนฺตีติ อนตฺถกามานิ. หิตํ น อิจฺฉนฺติ อหิตเมว อิจฺฉนฺตีติ อหิตกามานิ. ผาสุ น อิจฺฉนฺติ อผาสุํเยว อิจฺฉนฺตีติ อผาสุกกามานิ. โยคกฺเขมํ นิพฺภยํ น อิจฺฉนฺติ, อโยคกฺเขมเมว อิจฺฉนฺตีติ อโยคกฺเขมกามานิ. ภิกฺขูนนฺติ เอตฺถ สามเณรานมฺปิ สงฺคโห. ภิกฺขุนีนนฺติ เอตฺถ สิกฺขมานสามเณรีนํ. สพฺเพสํ หิ สาสนิกานํ อนตฺถกามตาทีปนปทมิทํ วจนํ. ตถารูปานิ กุลานีติ ตาทิสานิ ขตฺติยกุลาทีนิ. เสวตีติ นิสฺสาย ชีวติ. ภชตีติ อุปสงฺกมติ. ปยิรุปาสตีติ ปุนปฺปุนํ อุปคจฺฉติ. อยํ วุจฺจตีติ อยํ เวสิยาทิโก, ราชาทิโก, อสฺสทฺธกุลาทิโก จ ตํ ตํ เสวนฺตสฺส ติปฺปกาโรปิ อยุตฺโต โคจโรติ อโคจโร. เอตฺถ หิ เวสิยาทิโก ปฺจกามคุณนิสฺสยโต อโคจโร. ยถาห ‘‘โก จ, ภิกฺขเว, ภิกฺขุโน อโคจโร ปรวิสโย? ยทิทํ ปฺจ กามคุณา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๒). ราชาทิโก สมณธมฺมสฺส อนุปนิสฺสยโต, ลาภสกฺการาสนิวิจกฺกนิปฺโปถนทิฏฺิวิปตฺติเหตุโต จ. อสฺสทฺธกุลาทิโก สทฺธาหานิจิตฺตสนฺตาสาวหโต อโคจโร.

โคจรนิทฺเทเส ‘‘น เวสิยาโคจโร’’ติอาทีนิ วุตฺตปฏิปกฺขวเสน เวทิตพฺพานิ. โอปานภูตานีติ อุทปานภูตานิ ภิกฺขุสงฺฆสฺส, ภิกฺขุนีสงฺฆสฺส จ จตุมหาปเถ ขตโปกฺขรณี วิย ยถาสุขํ โอคาหนกฺขมานิ. กาสาวปชฺโชตานีติ ภิกฺขูนํ, ภิกฺขุนีนฺจ นิวตฺถปารุตกาสาวานํเยว ปภาหิ เอโกภาสานิ. อิสิวาตปฏิวาตานีติ เคหํ ปวิสนฺตานํ , นิกฺขมนฺตานฺจ ภิกฺขุภิกฺขุนีสงฺขาตานํ อิสีนํ จีวรวาเตน เจว สมิฺชนปสารณาทิชนิตสรีรวาเตน จ ปฏิวาตานิ ปวายิตานิ วินิทฺธุตกิพฺพิสานิ วา.

อิทานิ นิทฺเทเส อาคตนเยนาปิ อาจารโคจเร ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ปาติโมกฺขสีลนิทฺเทเส. อิมินาปิ นเยนาติ อิทานิ วุจฺจมานวิธินาปิ. สงฺฆคโตติ สงฺฆสนฺนิปาตํ คโต. อจิตฺตีการกโตติ อกตจิตฺตีกาโร, อกตคารโวติ อตฺโถ. ฆฏฺฏยนฺโตติ สรีเรน, จีวเรน วา ฆํสนฺโต. ปุรโตปิ ติฏฺติ อจิตฺตีการกโตติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. ิตโกปีติ อุปริ ติฏฺนฺโต วิย อาสนฺนตรฏฺาเน ิตโกปิ ภณติ. พาหาวิกฺเขปโกติ พาหุํ วิกฺขิปนฺโต. อนุปาหนานนฺติ อนาทเร สามิวจนํ. สอุปาหโนติ อุปาหนารุฬฺโห. เถเร ภิกฺขู อนุปขชฺชาติ เถรานํ ภิกฺขูนํ ิตฏฺานํ อนุปวิสิตฺวา เตสํ อาสนฺนตรฏฺานํ อุปคนฺตฺวา. กฏฺํ ปกฺขิปติ อคฺคิกุณฺเฑ. โวกฺกมฺมาติ ปสฺสโต อติกฺกมิตฺวา. คูฬฺหานิ สภาวโต ปฏิจฺฉนฺนานิ สาณิปาการาทินา ปฏิจฺฉาทิตานิ. อนาปุจฺฉาติ อนาปุจฺฉิตฺวา. อสฺสาติ อนาจารสฺส.

อปิจ ภิกฺขูติอาทิ สพฺพสฺเสว ภิกฺขุโน อาจารทสฺสนวเสน ปวตฺตํ อฏฺกถาวจนํ, น นิทฺเทสปาฬิ. สทฺธาสีลสุตจาคาทิคุณเหตุโก ครุภาโว ครุกรณํ วา คารโว, สห คารเวนาติ สคารโว. ครุฏฺานิเยสุ คารวสารชฺชาทิวเสน ปฏิสฺสายนา ปติสฺสา, สปฺปติสฺสวปฏิปตฺติ. สห ปติสฺสายาติ สปฺปติสฺโส. สวิเสสํ หิริมนตาย, โอตฺตปฺปิภาเวน จ หิโรตฺตปฺปสมฺปนฺโน. เสขิยธมฺมปาริปูริวเสน สุนิวตฺโถ สุปารุโต. ปาสาทิเกนาติ ปสาทาวเหน, อิตฺถมฺภูตลกฺขเณ เจตํ กรณวจนํ. เอเสว นโย อิโต ปเรสุปิ ฉสุ ปเทสุ. อภิกฺกนฺเตนาติ อภิกฺกเมน. อิริยาปถสมฺปนฺโนติ สมฺปนฺนอิริยาปโถ. เตน เสสอิริยาปถานมฺปิ ปาสาทิกตมาห. อินฺทฺริเยสุ คุตฺตทฺวาโรติ จกฺขุนฺทฺริยาทีสุ ฉสุ ทฺวาเรสุ สุสํวิหิตารกฺโข. โภชเน มตฺตฺูติ ปริภุฺชิตพฺพโต โภชนสฺิเต จตุพฺพิเธปิ ปจฺจเย ปริเยสนปฏิคฺคหณปริโภคาทิวเสน สพฺพโส ปมาณฺู. ชาคริยมนุยุตฺโตติ ปุพฺพรตฺตาปรรตฺตํ ภาวนามนสิการสงฺขาตํ ชาคริยํ สาตจฺจการิตาวเสน อนุ อนุ ยุตฺโต ตตฺถ ยุตฺตปยุตฺโต. สติสมฺปชฺเน สมนฺนาคโตติอาทิ ยถาวุตฺตสฺส อาจารสฺส สมฺภารทสฺสนํ. ตตฺถ อปฺปิจฺโฉติ นิอิจฺโฉ. สนฺตุฏฺโติ ยถาลาภาทิวเสน สนฺโตเสน ตุฏฺโ. สกฺกจฺจการีติ อาทรการี. ครุจิตฺตีการพหุโลติ ครุฏฺานิเยสุ ครุกรณพหุโล. อยํ วุจฺจติ อาจาโรติ อยํ สคารวตาทิ อตฺถกาเมหิ อาจริตพฺพโต อาจาโร.

สีลาทีนํ คุณานํ อุปนิสฺสยภูโต อุปนิสฺสยโคจโร. สติสงฺขาโต จิตฺตสฺส อารกฺขภูโต เอว โคจโร อารกฺขโคจโร. กมฺมฏฺานสงฺขาโต จิตฺตสฺส อุปนิพนฺธนฏฺานภูโต โคจโร อุปนิพนฺธโคจโร. อปฺปิจฺฉตาทีหิ ทสหิ วิวฏฺฏนิสฺสิตาย กถาย วตฺถุภูเตหิ คุเณหิ สมนฺนาคโต ทสกถาวตฺถุคุณสมนฺนาคโต. ตโต เอว กลฺยาโณ สุนฺทโร มิตฺโตติ กลฺยาณมิตฺโต. ตสฺส ลกฺขณํ ปรโต อาคมิสฺสติ. อสฺสุตํ สุตฺตเคยฺยาทึ. สุณาตีติ สุตมยํ าณํ อุปฺปาเทติ. สุตํ ปริโยทาเปตีติ ตเมว ยถาสุตํ อวิสทตาย อปริโยทาตํ ปุนปฺปุนํ ปริปุจฺฉนาทินา วิโสเธติ นิชฺชฏํ นิคุมฺพํ กโรติ. ตตฺถ จ เย กงฺขฏฺานิยา ธมฺมา, เตสุ สํสยํ ฉินฺทนฺโต กงฺขํ วิตรติ. กมฺมกมฺมผเลสุ, รตนตฺตเย จ สมฺมาทิฏฺิยา อุชุกรเณน ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ. ตโต เอว จ ทุวิธายปิ สทฺธาสมฺปทาย จิตฺตํ ปสาเทติ. อถ วา ยถาสุตํ ธมฺมํ ปริโยทเปตฺวา ตตฺถาคเต รูปารูปธมฺเม ปริคฺคเหตฺวา สปจฺจยํ นามรูปํ ปริคฺคณฺหนฺโต สตฺตทิฏฺิวงฺกวิธมเนน ทิฏฺึ อุชุํ กโรติ. ธมฺมานํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตามตฺตทสฺสเนน ตีสุปิ อทฺธาสุ กงฺขํ วิตรติ. ตโต ปรํ จ อุทยพฺพยาณาทิวเสน วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา อริยภูมึ โอกฺกมนฺโต อเวจฺจปสาเทน รตนตฺตเย จิตฺตํ ปสาเทติ. ตถาภูโตว ตสฺส กลฺยาณมิตฺตสฺส อนุสิกฺขเนน สทฺธาทีหิ คุเณหิ น หายติ, อฺทตฺถุ วฑฺฒเตว. เตนาห ‘‘ยสฺส วา’’ติอาทิ.

อนฺตรฆรนฺติ อนฺตเร อนฺตเร ฆรานิ เอตฺถ, ตํ เอตสฺสาติ วา ‘‘อนฺตรฆร’’นฺติ ลทฺธนามํ โคจรคามํ ปวิฏฺโ. ตตฺถ ฆเร ฆเร ภิกฺขาปริเยสนาย วีถึ ปฏิปนฺโน. โอกฺขิตฺตจกฺขูติ เหฏฺาขิตฺตจกฺขุ. กิตฺตเกน ปน โอกฺขิตฺตจกฺขุ โหตีติ อาห ‘‘ยุคมตฺตทสฺสาวี’’ติ. สุสํวุโตติ สํยโต. ยถา ปเนตฺถ สุสํวุโต นาม โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘น หตฺถึ โอโลเกนฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยตฺถาติ เยสุ สติปฏฺาเนสุ. จิตฺตํ ภาวนาจิตฺตํ. อุปนิพนฺธตีติ อุปเนตฺวา นิพนฺธติ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘ยถา ถมฺเภ นิพนฺเธยฺย, วจฺฉํ ทมํ นโร อิธ;

พนฺเธยฺเยวํ สกํ จิตฺตํ, สติยารมฺมเณ ทฬฺห’’นฺติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๑๗; ที. นิ. อฏฺ. ๒.๓๗๔; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๑๐๗; ปารา. อฏฺ. ๒.๑๖๕; ปฏิ. ม. อฏฺ. ๒.๑.๑๖๓);

สติปฏฺานานํ อุปนิพนฺธโคจรภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สโก เปตฺติโก วิสโยติ อตฺตโน ปิตุ สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส สนฺตโก, เตน ทิฏฺโ ทสฺสิโต จ วิสโย.

อณุปฺปมาเณสูติ ปรมาณุปฺปมาเณสุ. อสฺจิจฺจอาปนฺนเสขิยอกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสูติ อสฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิเยสุ อกุสลจิตฺตุปฺปาทาทิเภเทสูติ เอวํ อสฺจิจฺจคฺคหณํ เสขิยวิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. เสขิยคฺคหเณน เจตฺถ วตฺตกฺขนฺธกาทีสุ (จูฬว. ๓๕๖ อาทโย) อาคตวตฺตาทีนมฺปิ คหณํ. เตปิ หิ สิกฺขิตพฺพฏฺเน ‘‘เสขิยา’’ติ อิจฺฉิตา. ตถา หิ มาติกายํ ปาราชิกาทีนํ วิย เสขิยานํ ปริจฺเฉโท น กโต. เอวฺจ กตฺวา ‘‘อสฺจิจฺจ อาปนฺนเสขิยา’’ติ อสฺจิจฺจคฺคหณํ สมตฺถิตํ โหติ. น หิ มาติกายํ อาคเตสุ ปฺจสตฺตติยา เสขิเยสุ โนสฺาวิโมกฺโข นาม อตฺถิ, อสฺจิจฺจคฺคหเณเนว เจตฺถ อสติอชานนานมฺปิ สงฺคโห กโต. เกจิ ปเนตฺถ อสิฺจิจฺจ อาปนฺนคฺคหเณน อจิตฺตกาปตฺติโย คหิตาติ วทนฺติ, ตํ เตสํ มติมตฺตํ, ครุกาปตฺตีสุปิ กาสฺจิ อจิตฺตกภาวสพฺภาวโต, อธิฏฺานาวิกมฺมสฺส, เทสนาวิกมฺมสฺเสว วา สพฺพลหุกสฺส วชฺชสฺส อิธาธิปฺเปตตฺตา. เตนาห ‘‘ยานิ ตานิ วชฺชานิ อปฺปมตฺตกานิ โอรมตฺตกานิ ลหุกานิ ลหุสมฺมตานี’’ติอาทิ. อาทิสทฺเทน ปาติโมกฺขสํวรวิสุทฺธตฺถํ อนติกฺกมนียานํ อนาปตฺติคมนียานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ภยทสฺสนสีโลติ ปรมาณุมตฺตํ วชฺชํ อฏฺสฏฺิโยชนสตสหสฺสุพฺเพธสิเนรุปพฺพตสทิสํ กตฺวา ทสฺสนสภาโว, สพฺพลหุกํ วา ทุพฺภาสิตมตฺตํ ปาราชิกสทิสํ กตฺวา ทสฺสนสภาโว. ยํ กิฺจีติ มูลปฺตฺติอนุปฺตฺติสพฺพตฺถปฺตฺติปเทสปฺตฺติอาทิเภทํ ยํ กิฺจิ สิกฺขิตพฺพํ ปฏิปชฺชิตพฺพํ ปูเรตพฺพํ สีลํ. สมฺมา อาทายาติ สมฺมเทว สกฺกจฺจํ, สพฺพโส จ อาทิยิตฺวา. อยํ ปน อาจารโคจรสมฺปทา กึ ปาติโมกฺขสีเล ปริยาปนฺนา, อุทาหุ อปริยาปนฺนาติ? ปริยาปนฺนา. ยทิ เอวํ กสฺมา ปุน วุตฺตาติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ.

อินฺทฺริยสํวรสีลวณฺณนา

๑๕. อินฺทฺริยสํวรสีลํ ปาติโมกฺขสํวรสีลสฺส สมฺภารภูตํ, ตสฺมึ สติเยว อิจฺฉิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘โสติ ปาติโมกฺขสํวรสีเล ิโต ภิกฺขู’’ติ. สมฺปาทิเต หิ เอตสฺมึ ปาติโมกฺขสํวรสีลํ สุคุตฺตํ สุรกฺขิตเมว โหติ, สุสํวิหิตกณฺฏกวติ วิย สสฺสนฺติ. การณวเสนาติ อสาธารณการณสฺส วเสน. อสาธารณการณวเสน หิ ผลํ อปทิสียติ, ยถา ยวงฺกุโร เภริสทฺโทติ. นิสฺสยโวหาเรน วา เอตํ นิสฺสิตวจนํ, ยถา มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตีติ. รูปนฺติ รูปายตนํ. จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวาติ เอตฺถ ยทิ จกฺขุ รูปํ ปสฺเสยฺย, อฺวิฺาณสมงฺคิโนปิ ปสฺเสยฺยุํ, น เจตํ อตฺถิ, กสฺมา? อเจตนตฺตา จกฺขุสฺส. เตนาห ‘‘จกฺขุ รูปํ น ปสฺสติ อจิตฺตกตฺตา’’ติ. อถ วิฺาณํ รูปํ ปสฺเสยฺย, ติโรกุฏฺฏาทิคตมฺปิ นํ ปสฺเสยฺย อปฺปฏิฆภาวโต, อิทมฺปิ นตฺถิ สพฺพสฺส วิฺาณสฺส ทสฺสนาภาวโต. เตนาห ‘‘จิตฺตํ น ปสฺสติ อจกฺขุกตฺตา’’ติ. ตตฺถ ยถา จกฺขุสนฺนิสฺสิตํ วิฺาณํ ปสฺสติ, น ยํ กิฺจิ. ตฺจ เกนจิ กุฏฺฏาทินา อนฺตริเต น อุปฺปชฺชติ, ยตฺถ อาโลกสฺส วิพนฺโธ. ยตฺถ ปน น วิพนฺโธ ผลิกคพฺภปฏลาทิเก, ตตฺถ อนฺตริเตปิ อุปฺปชฺชเตว. เอวํ วิฺาณาธิฏฺิตํ จกฺขุ ปสฺสติ, น ยํ กิฺจีติ วิฺาณาธิฏฺิตํ จกฺขุํ สนฺธาเยตํ วุตฺตํ ‘‘จกฺขุนา รูปํ ทิสฺวา’’ติ.

ทฺวารารมฺมณสงฺฆฏฺเฏติ ทฺวารสฺส อารมฺมเณน สงฺฆฏฺเฏ สติ, จกฺขุสฺส รูปารมฺมเณ อาปาถคเตติ อธิปฺปาโย. ปสาทวตฺถุเกน จิตฺเตนาติ จกฺขุปสาทวตฺถุเกน ตนฺนิสฺสาย ปวตฺเตน วิฺาเณน, ยํ ‘‘จกฺขุวิฺาณ’’นฺติ วุจฺจติ. ปสฺสตีติ โอโลเกติ. จกฺขุปสาทสนฺนิสฺสเย หิ วิฺาเณ อาโลกานุคฺคหิตํ รูปารมฺมณํ สนฺนิสฺสยคุเณน โอภาเสนฺเต ตํสมงฺคิปุคฺคโล ‘‘รูปํ ปสฺสตี’’ติ วุจฺจติ. โอภาสนฺเจตฺถ อารมฺมณสฺส ยถาสภาวโต วิภาวนํ, ยํ ‘‘ปจฺจกฺขโต คหณ’’นฺติ วุจฺจติ. อุสุนา ลกฺขสฺส เวเธ สิชฺฌนฺเต ตสฺส สมฺภารภูเตน ธนุนา วิชฺฌตีติ วจนํ วิย วิฺาเณน รูปทสฺสเน สิชฺฌนฺเต จกฺขุนา รูปํ ปสฺสตีติ อีทิสี สสมฺภารกถา นาเมสา โหติ. สสมฺภารา กถา สสมฺภารกถา, ทสฺสนสฺส การณสหิตาติ อตฺโถ. สสมฺภารสฺส วา ทสฺสนสฺส กถา สสมฺภารกถา. ตสฺมาติ ยสฺมา เกวเลน จกฺขุนา, เกวเลน วา วิฺาเณน รูปทสฺสนํ นตฺถิ, ตสฺมา.

อิตฺถิปุริสนิมิตฺตํ วาติ เอตฺถ อิตฺถิสนฺตานนิสฺสิตรูปมุเขน คยฺหมานํ สณฺานํ ถนมํสาวิสทตา นิมฺมสฺสุมุขตา เกสพนฺธนวตฺถคฺคหณํ อวิสทฏฺานคมนาทิ จ สพฺพํ ‘‘อิตฺถี’’ติ สฺชานนสฺส การณภาวโต อิตฺถินิมิตฺตํ. วุตฺตวิปริยายโต ปุริสนิมิตฺตํ เวทิตพฺพํ. สุภนิมิตฺตาทิกํ วาติ เอตฺถ ราคุปฺปตฺติเหตุภูโต อิฏฺากาโร สุภนิมิตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน ปฏิฆนิมิตฺตาทีนํ สงฺคโห. โส ปน โทสุปฺปตฺติอาทิเหตุภูโต อนิฏฺาทิอากาโร เวทิตพฺโพ. กามฺเจตฺถ ปาฬิยํ อภิชฺฌาโทมนสฺสาว สรูปโต อาคตา, อุเปกฺขานิมิตฺตสฺสาปิ ปน สงฺคโห อิจฺฉิตพฺโพ, อสมเปกฺขเนน อุปฺปชฺชนกโมหสฺสาปิ อสํวรภาวโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘มุฏฺสจฺจํ วา อฺาณํ วา’’ติ. อุเปกฺขานิมิตฺตนฺติ เจตฺถ อฺาณุเปกฺขาย วตฺถุภูตํ อารมฺมณํ, ตฺจสฺส อสมเปกฺขนวเสน เวทิตพฺพํ. เอวํ สงฺเขปโต ราคโทสโมหานํ การณํ ‘‘สุภนิมิตฺตาทิก’’นฺติ วุตฺตํ. เตนาห ‘‘กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺต’’นฺติ. ทิฏฺมตฺเตเยว สณฺาตีติ ‘‘ทิฏฺเ ทิฏฺมตฺตํ ภวิสฺสตี’’ติ (อุทา. ๑๐) สุตฺเต วุตฺตนเยน วณฺณายตเน จกฺขุวิฺาเณน, วีถิจิตฺเตหิ จ คหิตมตฺเตเยว ติฏฺติ, น ตโต ปรํ กิฺจิ สุภาทิอาการํ ปริกปฺเปติ. ปากฏภาวกรณโตติ ปริพฺยตฺตภาวกรณโต วิภูตภาวกรณโต. วิสภาควตฺถุโน หิ หตฺถาทิอวยเวสุ สุภาทิโต ปริกปฺเปนฺตสฺส อปราปรํ ตตฺถ อุปฺปชฺชมานา กิเลสา ปริพฺยตฺตา โหนฺตีติ เต เตสํ อนุพฺยฺชนา นาม. เต ปน ยสฺมา ตถา ตถา สนฺนิวิฏฺานํ ภูตุปาทายรูปานํ สนฺนิเวสากาโร. น หิ ตํ มุฺจิตฺวา ปรมตฺถโต หตฺถาทิ นาม โกจิ อตฺถิ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘หตฺถปาท…เป… อาการํ น คณฺหาตี’’ติ. กึ ปน คณฺหาตีติ อาห ‘‘ยํ ตตฺถ ภูตํ, ตเทว คณฺหาตี’’ติ. ยํ ตสฺมึ สรีเร วิชฺชมานํ เกสโลมาทิ ภูตุปาทายมตฺตํ วา, ตเทว ยาถาวโต คณฺหาติ. ตตฺถ อสุภาการคหณสฺส นิทสฺสนํ ทสฺเสนฺโต ‘‘เจติยปพฺพตวาสี’’ติอาทินา มหาติสฺสตฺเถรวตฺถุํ อาหริ.

ตตฺถ สุมณฺฑิตปสาธิตาติ สุฏฺุ มณฺฑิตา ปสาธิตา จ. อาภรณาทีหิ อาหาริเมหิ มณฺฑนํ. สรีรสฺส อุจฺฉาทนาทิวเสน ปฏิสงฺขรณํ ปสาธนนฺติ วทนฺติ, อาภรเณหิ, ปน วตฺถาลงฺการาทีหิ จ อลงฺกรณํ ปสาธนํ. อูนฏฺานปูรณํ มณฺฑนํ. วิปลฺลตฺถจิตฺตาติ ราควเสน วิปรีตจิตฺตา. โอโลเกนฺโตติ เถโร กมฺมฏฺานมนสิกาเรเนว คจฺฉนฺโต สทฺทกณฺฏกตฺตา ปุพฺพภาคมนสิการสฺส หสิตสทฺทานุสาเรน ‘‘กิเมต’’นฺติ โอโลเกนฺโต. อสุภสฺนฺติ อฏฺิกสฺํ. อฏฺิกกมฺมฏฺานํ หิ เถโร ตทา ปริหรติ. อรหตฺตํ ปาปุณีติ เถโร กิร ตสฺสา หสนฺติยา ทนฺตฏฺิทสฺสเนเนว ปุพฺพภาคภาวนาย สุภาวิตตฺตา ปฏิภาคนิมิตฺตํ, สาติสยฺจ อุปจารชฺฌานํ ลภิตฺวา ยถาิโตว ตตฺถ ปมชฺฌานํ อธิคนฺตฺวา ตํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา มคฺคปรมฺปราย อาสวกฺขยํ ปาปุณิ. ปุพฺพสฺํ อนุสฺสรีติ ปุพฺพกํ ยถารทฺธํ กาเลน กาลํ อนุยุฺชิยมานํ อฏฺิกกมฺมฏฺานํ อนุสฺสริ สมนฺนาหริ. อนุมคฺคนฺติ อนุปถํ ตสฺสา ปทานุปทํ. เถรสฺส กิร ภาวนาย ปคุณภาวโต ทนฺตฏฺิทสฺสเนเนว ตสฺสา สกลสรีรํ อฏฺิกสงฺฆาตภาเวน อุปฏฺาสิ. น ตํ ‘‘อิตฺถี’’ติ วา ‘‘ปุริโส’’ติ วา สฺชานิ. เตนาห ‘‘นาภิชานามิ…เป… มหาปเถ’’ติ.

‘‘ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตู’’ติ วตฺวา ปุน ‘‘ตสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส สติกวาเฏน ปิทหนตฺถายา’’ติ วุตฺตํ, น อสํวรสฺสาติ. ยทิทํ ยํ จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ อภิชฺฌาทิอนฺวาสฺสวนํ ทสฺสิตํ, ตํ อสํวุตจกฺขุนฺทฺริยสฺเสว เหตุ ปวตฺตํ ทสฺสิตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. จกฺขุทฺวาริกสฺส หิ อภิชฺฌาทิอนฺวาสฺสวนสฺส ตํทฺวาริกวิฺาณสฺส วิย จกฺขุนฺทฺริยํ ปธานการณํ. จกฺขุนฺทฺริยสฺส อสํวุตตฺเต สติ เต อนฺวาสฺสวนฺตีติ อสํวริยมานจกฺขุนฺทฺริยเหตุโก โส อสํวโร ตถา วุตฺโตติ. ยตฺวาธิกรณนฺติ หิ ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยสฺส การณาติ อตฺโถ. กีทิสสฺส จ การณาติ? อสํวุตสฺส, กิฺจ อสํวุตํ? ยสฺส จกฺขุนฺทฺริยาสํวรสฺส เหตุ อภิชฺฌาทโย อนฺวาสฺสวนฺติ, ตสฺส สํวรายาติ อยเมตฺถ โยชนา.

ชวนกฺขเณ ปน สเจ ทุสฺสีลฺยํ วาติอาทิ ปุน อวจนตฺถํ อิเธว สพฺพํ วุตฺตนฺติ ฉสุ ทฺวาเรสุ ยถาสมฺภวํ เวทิตพฺพํ. น หิ ปฺจทฺวาเร กายวจีทุจฺจริตสงฺขาตํ ทุสฺสีลฺยํ อตฺถิ, ตสฺมา ทุสฺสีลฺยาสํวโร มโนทฺวารวเสน, เสสาสํวโร ฉทฺวารวเสน โยเชตพฺโพ. มุฏฺสจฺจาทีนํ หิ สติปฏิปกฺขากุสลธมฺมาทิภาวโต สิยา ปฺจทฺวาเร อุปฺปตฺติ, น ตฺเวว กายิกวาจสิกวีติกฺกมภูตสฺส ทุสฺสีลฺยสฺส ตตฺถ อุปฺปตฺติ, ปฺจทฺวาริกชวนานํ อวิฺตฺติชนกตฺตา. ทุสฺสีลฺยาทโย เจตฺถ ปฺจ อสํวรา สีลสํวราทีนํ ปฺจนฺนํ สํวรานํ ปฏิปกฺขภาเวน วุตฺตา. ตสฺมึ สตีติ ตสฺมึ อสํวเร สติ.

ยถากินฺติ เยน ปกาเรน ชวเน อุปฺปชฺชมาโน อสํวโร ‘‘จกฺขุนฺทฺริเย อสํวโร’’ติ วุจฺจติ, ตํ นิทสฺสนํ กินฺติ อตฺโถ. ยถาติอาทินา นครทฺวาเร อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ฆราทีนํ อสํวุตตา วิย ชวเน อสํวเร สติ ตํสมฺพนฺธานํ ทฺวาราทีนํ อสํวุตตาติ เอวํ อฺาสํวเร อฺาสํวุตตา สามฺเมว นิทสฺเสติ, น ปุพฺพาปรสามฺํ, อนฺโตพหิสามฺํ วา. สติ วา ทฺวารภวงฺคาทิเก ปุน อุปฺปชฺชมานํ ชวนํ พาหิรํ วิย กตฺวา นครทฺวารสมานํ วุตฺตํ , อิตรฺจ อนฺโตนคเร ฆราทิสมานํ. ปจฺจยภาเวน หิ ปุริมนิปฺผนฺนํ ชวนกาเล อสนฺตมฺปิ ภวงฺคาทิ จกฺขาทิ วิย ผลนิปฺผตฺติยา สนฺตํเยว นาม โหติ. น หิ ธรมานํเยว ‘‘สนฺต’’นฺติ วุจฺจติ. ‘‘พาหิรํ วิย กตฺวา’’ติ จ ปรมตฺถโต ชวนสฺส พาหิรภาเว, อิตรสฺส จ อพฺภนฺตรภาเว อสติปิ ‘‘ปภสฺสรมิทํ, ภิกฺขเว, จิตฺตํ, ตฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิลิฏฺ’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑.๔๙) วจนโต อาคนฺตุกภูตสฺส กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชมานสฺส ชวนสฺส พาหิรภาโว, ตพฺพิธุรสภาวสฺส อิตรสฺส อพฺภนฺตรภาโว เอเกน ปริยาเยน โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. ชวเน วา อสํวเร อุปฺปนฺเน ตโต ปรํ ทฺวารภวงฺคาทีนํ อสํวรเหตุภาวาปตฺติโต. อสํวรสฺส หิ อุปฺปตฺติยา ทฺวารภวงฺคาทีนํ ตสฺส เหตุภาโว ปฺายตีติ. นครทฺวารสทิเสน ชวเนน ปวิสิตฺวา ทุสฺสีลฺยาทิโจรานํ ทฺวารภวงฺคาทีสุ มุสนํ กุสลภณฺฑวินาสนํ กถิตํ. ยสฺมึ หิ ทฺวาเร อสํวโร อุปฺปชฺชติ, โส ตตฺถ ทฺวาราทีนํ สํวรูปนิสฺสยภาวํ อุปจฺฉินฺทนฺโตเยว ปวตฺตตีติ. ทฺวารภวงฺคาทีนํ ชวเนน สห สมฺพนฺโธ เอกสนฺตติปริยาปนฺนโต ทฏฺพฺโพ.

เอตฺถ จ จกฺขุทฺวาเร รูปารมฺมเณ อาปาถคเต นิยมิตาทิวเสน กุสลากุสลชวเน สตฺตกฺขตฺตุํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺเณ ตทนุรูปเมว มโนทฺวาริกชวเน ตสฺมึเยวารมฺมเณ สตฺตกฺขตฺตุํเยว อุปฺปชฺชิตฺวา ภวงฺคํ โอติณฺเณ ปุน ตสฺมึเยว ทฺวาเร ตเทวารมฺมณํ นิสฺสาย ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติอาทินา ววตฺถเปนฺตํ ปสาทรชฺชนาทิวเสน สตฺตกฺขตฺตุํ ชวนํ ชวติ. เอวํ ปวตฺตมานํ ชวนํ สนฺธาย ‘‘ชวเน ทุสฺสีลฺยาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ ตสฺมึ อสํวเร สติ ทฺวารมฺปิ อคุตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

ตสฺมึ ปน ชวเน. สีลาทีสูติ สีลสํวรสติสํวราณสํวรขนฺติสํวรวีริยสํวเรสุ อุปฺปนฺเนสุ. ยถา หิ ปเคว สติอารกฺขํ อนุปฏฺเปนฺตสฺส ทุสฺสีลฺยาทีนํ อุปฺปตฺติ, เอวํ ปเคว สติอารกฺขํ อุปฏฺเปนฺตสฺส สีลาทีนํ อุปฺปตฺติ เวทิตพฺพา. สทฺทาทีสุปิ ยถารหํ นิมิตฺตานุพฺยฺชนานิ เวทิตพฺพานิ. โสตวิฺาเณน หิ สทฺทํ สุตฺวา ‘‘อิตฺถิสทฺโท’’ติ วา ‘‘ปุริสสทฺโท’’ติ วา อิฏฺานิฏฺาทิกํ วา กิเลสวตฺถุภูตํ นิมิตฺตํ น คณฺหาติ, สุตมตฺเต เอว สณฺาติ. โย จ คีตสทฺทาทิกสฺส กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนโต ‘‘อนุพฺยฺชน’’นฺติ ลทฺธโวหาโร มนฺทตาราทิวเสน ววตฺถิโต ฉชฺชาทิเภทภินฺโน อากาโร, ตมฺปิ น คณฺหาตีติ. เอวํ คนฺธาทีสุปิ ยถารหํ วตฺตพฺพํ. มโนทฺวาเร ปน สาวชฺชนภวงฺคํ มโนทฺวารํ ตสฺมึ ทฺวาเร ธมฺมารมฺมเณ อาปาถคเต ตํ ชวนมนสาว วิฺาย วิชานิตฺวาติอาทินา โยเชตพฺพํ. กิเลโส อนุพนฺโธ เอตสฺสาติ กิเลสานุพนฺโธ, โส เอว นิมิตฺตาทิคาโห, ตโต ปริวชฺชนลกฺขณํ กิเลสานุพนฺธนิมิตฺตาทิคฺคาหปริวชฺชนลกฺขณํ. อาทิ-สทฺเทน อนุพฺยฺชนํ สงฺคณฺหาติ.

อาชีวปาริสุทฺธิสีลวณฺณนา

๑๖. วุตฺเตติ อิเธว อุทฺเทสวเสน ปุพฺเพ วุตฺเต. ตถา หิ ‘‘อาชีวเหตุ ปฺตฺตานํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทาน’’นฺติ ปทุทฺธารํ กตฺวา ตานิ ปาฬิวเสเนว ทสฺเสตุํ ‘‘ยานิ ตานี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยานิ ตานิ เอวํ ปฺตฺตานิ ฉ สิกฺขาปทานีติ สมฺพนฺโธ. อาชีวเหตูติ ชีวิกนิมิตฺตํ, ‘‘เอวาหํ ปจฺจเยหิ อกิลมนฺโต ชีวิสฺสามี’’ติ อธิปฺปาเยน. อาชีวการณาติ ตสฺเสว เววจนํ. ปาปิจฺโฉติ ปาปิกาย อสนฺตคุณสมฺภาวนิจฺฉาย สมนฺนาคโต. อิจฺฉาปกโตติ อิจฺฉาย อปกโต อุปทฺทุโต, อภิภูโต วา. อสนฺตนฺติ อวิชฺชมานํ. อภูตนฺติ อนุปฺปนฺนํ. อนุปฺปนฺนตฺตา หิ ตสฺส ตํ อสนฺตนฺติ ปุริมสฺส ปจฺฉิมํ การณวจนํ. อุตฺตริมนุสฺสธมฺมนฺติ อุตฺตริมนุสฺสานํ อุกฺกฏฺปุริสานํ ธมฺมํ, มนุสฺสธมฺมโต วา อุตฺตริ อุกฺกฏฺํ. อุลฺลปตีติ อุคฺคตายุโก ลปติ. สีลํ หิ ภิกฺขุโน อายุ, ตํ ตสฺส ตถาลปนสมกาลเมว วิคจฺฉติ. เตนาห ‘‘อาปตฺติ ปาราชิกสฺสา’’ติ ปาราชิกสงฺขาตา อาปตฺติ อสฺส, ปาราชิกสฺิตสฺส วา วีติกฺกมสฺส อาปชฺชนํ อุลฺลปนนฺติ อตฺโถ. สฺจริตฺตํ สมาปชฺชตีติ สฺจรณภาวํ อาปชฺชติ, อิตฺถิยา วา ปุริสมตึ, ปุริสสฺส วา อิตฺถิมตึ อาโรเจตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อิเมสํ ฉนฺนํ สิกฺขาปทานํ วีติกฺกมสฺส วเสนา’’ติ สมฺพนฺโธ เหฏฺา ทสฺสิโต เอว.

กุหนาติอาทีสูติ เหฏฺา อุทฺทิฏฺปาฬิยาว ปทุทฺธาโร. อยํ ปาฬีติ อยํ วิภงฺเค (วิภ. ๘๖๑) อาคตา นิทฺเทสปาฬิ.

๑๗. จีวราทิปจฺจยา ลพฺภนฺตีติ ลาภา. เต เอว สกฺกจฺจํ อาทรวเสน ทิยฺยมานา สกฺการา. ปตฺถฏยสตา กิตฺติสทฺโท. ตํ ลาภฺจ สกฺการฺจ กิตฺติสทฺทฺจ. สนฺนิสฺสิตสฺสาติ เอตฺถ ตณฺหานิสฺสโย อธิปฺเปโตติ อาห ‘‘ปตฺถยนฺตสฺสา’’ติ. อสนฺตคุณทีปนกามสฺสาติ อสนฺเต อตฺตนิ อวิชฺชมาเน สทฺธาทิคุเณ สมฺภาเวตุกามสฺส. อสนฺตคุณสมฺภาวนตาลกฺขณา, ปฏิคฺคหเณ จ อมตฺตฺุตาลกฺขณา หิ ปาปิจฺฉตา. อิจฺฉาย อปกตสฺสาติ ปาปิกาย อิจฺฉาย สมฺมาอาชีวโต อเปโต กโตติ อปกโต. ตถาภูโต จ อาชีวูปทฺทเวน อุปทฺทุโตติ กตฺวา อาห ‘‘อุปทฺทุตสฺสาติ อตฺโถ’’ติ.

กุหนเมว ปจฺจยุปฺปาทนสฺส วตฺถูติ กุหนวตฺถุ. ติวิธมฺเปตํ ตตฺถ อาคตํ ตสฺส นิสฺสยภูตาย อิมาย ปาฬิยา ทสฺเสตุนฺติ เอวมตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตทตฺถิกสฺเสวาติ เตหิ จีวราทีหิ อตฺถิกสฺเสว. ปฏิกฺขิปเนนาติ จีวราทีนํ ปฏิกฺขิปนเหตุ. อสฺสาติ ภเวยฺย. ปฏิคฺคหเณน จาติ -สทฺเทน ปุพฺเพ วุตฺตํ ปฏิกฺขิปนํ สมุจฺจิโนติ.

ภิยฺโยกมฺยตนฺติ พหุกามตํ. นฺติ กิริยาปรามสนํ, ตสฺมา ‘‘ธาเรยฺยา’’ติ เอตฺถ ยเทตํ สงฺฆาฏึ กตฺวา ธารณํ, เอตํ สมณสฺส สารุปฺปนฺติ โยชนา. ปาปณิกานีติ อาปณโต ฉฑฺฑิตานิ. นนฺตกานีติ อนฺตรหิตานิ โจฬขณฺฑานิ. อุจฺจินิตฺวาติ อุฺฉเนน จินิตฺวา สงฺคเหตฺวา. อุฺฉาจริยายาติ อุฺฉาจริยาย ลทฺเธน. คิลานสฺส ปจฺจยภูตา เภสชฺชสงฺขาตา ชีวิตปริกฺขารา คิลานปจฺจยเภสชฺชปริกฺขารา. ปูติมุตฺตนฺติ ปุราณสฺส, อปุราณสฺส จ สพฺพสฺส โคมุตฺตสฺเสตํ นามํ. ปูติมุตฺเตนาติ ปูติภาเวน มุตฺเตน ปเรหิ ฉฑฺฑิเตน, ปูติภูเตน วา โคมุตฺเตน. ธุตวาโทติ ปเรสมฺปิ ธุตคุณวาที. สมฺมุขีภาวาติ สมฺมุขโต วิชฺชมานตฺตา, ลพฺภมานตายาติ อตฺโถ.

อตฺตานํ อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคมสฺส สามนฺเต กตฺวา ชปฺปนํ สามนฺตชปฺปนํ. มเหสกฺโขติ มหานุภาโว, อุตฺตริมนุสฺสธมฺมาธิคเมนาติ อธิปฺปาโย. ‘‘มิตฺโต’’ติ สามฺโต วตฺวา ปุน ตํ วิเสเสติ ‘‘สนฺทิฏฺโ สมฺภตฺโต’’ติ . ทิฏฺมตฺโต หิ มิตฺโต สนฺทิฏฺโ. ทฬฺหภตฺติโก สมฺภตฺโต. สหาโยติ สห อายนโก, สขาติ อตฺโถ. สตฺตปทิโน หิ ‘‘สขา’’ติ วุจฺจนฺติ. วิหาโร ปาการปริจฺฉินฺโน สกโล อาวาโส. อฑฺฒโยโค ทีฆปาสาโท, ครุฬสณฺานปาสาโทติปิ วทนฺติ. ปาสาโท จตุรสฺสปาสาโท. หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนปาสาโท. กูฏาคารํ ทฺวีหิ กณฺณิกาหิ กตฺตพฺพปาสาโท. อฏฺโฏ ปฏิราชูนมฺปิ ปฏิพาหนโยคฺโย จตุปฺจภูมโก ปฏิสฺสยวิเสโส. มาโฬ เอกกูฏสงฺคหิโต อเนกโกณวนฺโต ปฏิสฺสยวิเสโส. อุทฺทณฺโฑ อคพฺภิกา เอกทฺวารา ทีฆสาลาติ วทนฺติ. อปเร ปน ภณนฺติ – วิหาโร นาม ทีฆมุขปาสาโท. อฑฺฒโยโค เอกปสฺเสน ฉทนกเสนาสนํ. ตสฺส กิร เอกปสฺเส ภิตฺติ อุจฺจตรา โหติ, อิตรปสฺเส นีจา, เตน ตํ เอกปสฺสฉทนกํ โหติ. ปาสาโท อายตจตุรสฺสปาสาโท. หมฺมิยํ มุณฺฑจฺฉทนํ จนฺทิกงฺคณยุตฺตํ. คุหา เกวลา ปพฺพตคุหา. เลณํ ทฺวารพทฺธํ. กูฏาคารํ โย โกจิ กณฺณิกาพทฺธปาสาโท. อฏฺโฏ พหลภิตฺติเคหํ. ยสฺส โคปานสิโย อคฺคเหตฺวา อิฏฺกาหิ เอว ฉทนํ โหติ. อฏฺฏาลกากาเรน กรียตีติปิ วทนฺติ. มาโฬ วฏฺฏากาเรน กตเสนาสนํ. อุทฺทณฺโฑ เอโก ปฏิสฺสยวิเสโส. โย ‘‘ภณฺฑสาลา, อุโทสิต’’นฺติปิ วุจฺจติ. อุปฏฺานสาลา สนฺนิปตนฏฺานํ.

กุจฺฉิตรชภูตาย ปาปิจฺฉตาย นิรตฺถกํ กายวจีวิปฺผนฺทนิคฺคณฺหนํ โกรชํ, ตํ เอตสฺส อตฺถีติ โกรชิโก, โกหฺเน สํยตกาโย, อติวิย, อภิณฺหํ วา โกรชิโก โกรชิกโกรชิโก. อติปริสงฺกิโตติ เกจิ. อติวิย กุโห กุหกกุหโก, สาติสยวิมฺหาปโกติ อตฺโถ. อติวิย ลโป ลปนโก ลปกลปโก. มุขสมฺภาวิโกติ โกรชิกโกรชิกาทิภาเวน ปวตฺตวจเนหิ อตฺตโน มุขมตฺเตน อฺเหิ สมฺภาวิโก. โส เอวรูโป เอวรูปตาย เอว อตฺตานํ ปรํ วิย กตฺวา ‘‘อยํ สมโณ’’ติอาทีนิ กเถติ. คมฺภีรนฺติอาทิ ตสฺสา กถาย อุตฺตริมนุสฺสธมฺมปฏิพทฺธตาย วุตฺตํ.

สมฺภาวนาธิปฺปายกเตนาติ ‘‘กถํ นุ โข มํ ชโน ‘อริโย’ติ วา ‘วิเสสลาภี’ติ วา สมฺภาเวยฺยา’’ติ อิมินา อธิปฺปาเยน กเตน. คมนํ สณฺเปตีติ วิเสสลาภีนํ คมนํ วิย อตฺตโน คมนํ สกฺกจฺจํ เปติ , สโต สมฺปชาโนว คจฺฉนฺโต วิย โหติ. ปณิธายาติ ‘‘อรหาติ มํ ชานนฺตู’’ติ จิตฺตํ สณฺเปตฺวา, ปตฺเถตฺวา วา. สมาหิโต วิยาติ ฌานสมาธินา สมาหิโต วิย. อาปาถกชฺฌายีติ มนุสฺสานํ อาปาถฏฺาเน สมาธิสมาปนฺโน วิย นิสีทนฺโต อาปาถเก ชนสฺส ปากฏฏฺาเน ฌายี. อิริยาปถสงฺขาตนฺติ อิริยาปถสณฺปนสงฺขาตํ.

ปจฺจยปฏิเสวนสงฺขาเตนาติ อโยนิโส อุปฺปาทิตานํ ปจฺจยานํ ปฏิเสวนนฺติ เอวํ กถิเตน, เตน วา ปจฺจยปฏิเสวเนน สงฺขาตพฺเพน กถิตพฺเพน. อฺํ วิย กตฺวา อตฺตโน สมีเป ภณนํ สามนฺตชปฺปิตํ. อา-การสฺส รสฺสตฺตํ กตฺวา ‘‘อฏฺปนา’’ติ วุตฺตํ. กุหนํ กุโห, ตสฺส อยนา ปวตฺติ กุหายนา, กุหสฺส วา ปุคฺคลสฺส อยนา คติ กิริยา กุหายนา. กุเหติ, กุเหน วา อิโตติ กุหิโต, กุหโก.

ปุฏฺสฺสาติ ‘‘โก ติสฺโส, โก ราชปูชิโต’’ติ ปุฏฺสฺส. อุทฺธํ กตฺวาติ อุกฺขิปิตฺวา วิภวสมฺปตฺติอาทินา ปคฺคเหตฺวา.

อุนฺนหนาติ อุทฺธํ อุทฺธํ พนฺธนา ปลิเวนา. ทฺเว กิร ภิกฺขู เอกํ คามํ ปวิสิตฺวา อาสนสาลาย นิสีทิตฺวา เอกํ กุมาริกํ ปกฺโกสึสุ. ตาย อาคตาย ตตฺเรโก เอกํ ปุจฺฉิ ‘‘อยํ, ภนฺเต, กสฺส กุมาริกา’’ติ? ‘‘อมฺหากํ อุปฏฺายิกาย เตลกนฺทริกาย ธีตา, อิมิสฺสา มาตา มยิ เคหํ คเต สปฺปึ ททมานา ฆเฏเนว เทติ, อยมฺปิ มาตา วิย ฆเฏน เทตี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๘๖๒) อุกฺกาเจสิ. อิมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘เตลกนฺทริกวตฺถุ เจตฺถ วตฺตพฺพ’’นฺติ.

ธมฺมานุรูปา วาติ มตฺตาวจนานุรูปํ วา. มตฺตาวจนํ หิ ‘‘ธมฺโม’’ติ วุจฺจติ. ยถาห ‘‘สุภาสิตํ อุตฺตมมาหุ สนฺโต, ธมฺมํ ภเณ นาธมฺมํ ตํ ทุติย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๑๓; สุ. นิ. ๔๕๒). เตน พหุํ วิปฺปลปนมาห, สจฺจโต วา อฺา สุภาสิตา วาจา ‘‘ธมฺโม’’ติ เวทิตพฺโพ. มุคฺคสูปสทิสกมฺโม ปุคฺคโล มุคฺคสูปฺโย. เตนาห ‘‘อยํ ปุคฺคโล มุคฺคสูปฺโยติ วุจฺจตี’’ติ. ปริภฏสฺส กมฺมํ ปาริภฏฺยํ, ตเทว ปาริภฏฺยตา.

นิมิตฺเตน จรนฺโต, ชีวนฺโต วา นิมิตฺตโก, ตสฺส ภาโว เนมิตฺติกตา. อตฺตโน อิจฺฉาย ปกาสนํ โอภาโส. โก ปน โสติ ? ‘‘อชฺช ภิกฺขูนํ ปจฺจยา ทุลฺลภา ชาตา’’ติอาทิกา ปจฺจยปฏิสํยุตฺตกถา. อิจฺฉิตวตฺถุสฺส สมีเป กถนํ สามนฺตชปฺปา.

อกฺโกสนภเยนาปิ ทเทยฺยาติ ทสหิ อกฺโกสวตฺถูหิ อกฺโกสนํ. ตถา วมฺภนาทโย. อุเปกฺขนา อุปาสกานํ ทายกาทิภาวโต พหิ ฉฑฺฑนา. ขิปนาติ เขปวจนํ. ตํ ปน อวหสิตฺวา วจนํ โหตีติ อาห ‘‘อุปฺปณฺฑนา’’ติ. ปาปนาติ อทายกตฺตสฺส, อวณฺณสฺส วา ปติฏฺาปนํ. ปเรสํ ปิฏฺิมํสขาทนสีโล ปรปิฏฺิมํสิโก, ตสฺส ภาโว ปรปิฏฺิมํสิกตา. อพฺภงฺคนฺติ อพฺภฺชนํ. นิปิสิตฺวา คนฺธมคฺคนา วิยาติ อนิปฺปิสิเต อลพฺภมานสฺส คนฺธสฺส นิปิสเน ลาโภ วิย ปรคุเณ อนิปฺปิสิเต อลพฺภมานานํ ปจฺจยานํ นิปิสเนน ลาโภ ทฏฺพฺโพติ.

นิกตฺตุํ อปฺเปน ลาเภน พหุกํ วฺเจตฺวา คเหตุํ อิจฺฉนํ นิชิคีสนํ, ตสฺส ภาโว นิชิคีสนตา. ตสฺเสว อิจฺฉนสฺส ปวตฺติอากาโร, ตํสหชาตํ วา คเวสนกมฺมํ.

องฺคนฺติ หตฺถปาทาทิองฺคานิ อุทฺทิสฺส ปวตฺตํ วิชฺชํ. นิมิตฺตนฺติ นิมิตฺตสตฺถํ. อุปฺปาตนฺติ อุกฺกาปาตทิสาฑาห-ภูมิจาลาทิอุปฺปาตปฏิพทฺธวิชฺชํ. สุปินนฺติ สุปินสตฺถํ. ลกฺขณนฺติ อิตฺถิปุริสานํ ลกฺขณชานนสตฺถํ. มูสิกจฺฉินฺนนฺติ วตฺถาทีนํ อสุกภาเค มูสิกจฺเฉเท สติ อิทํ นาม ผลํ โหตีติ ชานนกสตฺถํ. ปลาสคฺคิอาทีสุ อิมินา นาม อคฺคินา หุเต อิทํ นาม โหตีติ อคฺคิวเสน โหมวิธานํ อคฺคิโหมํ. อิมินา นเยน ทพฺพิโหมํ เวทิตพฺพํ. อาทิ-สทฺเทน ถุสโหมาทีนํ, อฺเสฺจ สุตฺเต อาคตานํ มิจฺฉาชีวานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วีริยสาธนตฺตา อาชีวปาริสุทฺธิสีลสฺส ‘‘ปจฺจยปริเยสนวายาโม’’ติ วุตฺตํ. ตสฺส ปาริสุทฺธิ อนวชฺชภาโว, เยน ธมฺเมน สเมน ปจฺจยลาโภ โหติ. น หิ อลโส าเยน ปจฺจเย ปริเยสิตุํ สกฺโกตีติ.

ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลวณฺณนา

๑๘. ปฏิสงฺขาติ อยํ ‘‘สยํ อภิฺา’’ติอาทีสุ (มหาว. ๑๑) วิย ย-การโลเปน นิทฺเทโส. โยนิโสติ เจตฺถ อุปายตฺโถ โยนิโส-สทฺโทติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อุปาเยน ปเถนา’’ติ. ‘‘ปฏิสงฺขาย ตฺวา’’ติ วตฺวา ตยิทํ ปฏิสงฺขานํ ปจฺจเวกฺขณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ อตฺโถ’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยถา หิ ปจฺจเวกฺขิตฺวาติ สีตปฏิฆาตาทิกํ ตํ ตํ ปโยชนํ ปติ ปติ อเวกฺขิตฺวา, าเณน ปสฺสิตฺวาติ อตฺโถ, เอวํ ปฏิสงฺขายาติ ตเทว ปโยชนํ ปติ ปติ สงฺขาย, ชานิตฺวาติ อตฺโถ. าณปริยาโย หิ อิธ สงฺขา-สทฺโทติ. เอตฺถ จ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส’’ติอาทิ กามํ ปจฺจยปริโภคกาเลน วุจฺจติ, ธาตุวเสน ปน ปฏิกูลวเสน วา ปจฺจเวกฺขณาย ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ สุชฺฌตีติ อปเร. ภิชฺชตีติ เกจิ. เอเก ปน ปมํ เอว ปริยตฺตนฺติ วทนฺติ, วีมํสิตพฺพํ. ‘‘จีวร’’นฺติ เอกวจนํ เอกตฺตมตฺตํ วาจกนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘อนฺตรวาสกาทีสุ ยํ กิฺจี’’ติ วุตฺตํ, ชาติสทฺทตาย ปน ตสฺส ปาฬิยํ เอกวจนนฺติ ยตฺตกานิ จีวรานิ โยคินา ปริหริตพฺพานิ, เตสํ สพฺเพสํ เอกชฺฌํ คหณนฺติ สกฺกา วิฺาตุํ, ยํ กิฺจีติ วา อนวเสสปริยาทานเมตํ, น อนิยมวจนํ. ‘‘นิวาเสติ วา ปารุปติ วา’’ติ วิกปฺปนํ ปน ปฏิเสวนปริยายสฺส ปริโภคสฺส วิภาคทสฺสนนฺติ ตํ ปฺเปตฺวา สยนนิสีทน-จีวรกุฏิกรณาทิวเสนาปิ ปริโภคสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

ปโยชนานํ มริยาทา ปโยชนาวธิ, ตสฺส ปริจฺฉินฺทนวเสน โย นิยโม, ตสฺส วจนํ ปโยชนา…เป… วจนํ. อิทานิ ตํ นิยมํ วิวริตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺตกเมว หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวธารเณน ลีฬาวิภูสาวิลมฺพนานฏมฺพราทิวเสน วตฺถปริโภคํ นิเสเธติ. เตนาห ‘‘น อิโต ภิยฺโย’’ติ. ลีฬาวเสน หิ เอกจฺเจ สตฺตา วตฺถานิ ปริทหนฺติ เจว อุปสํวิยนฺติ จ. ยถา ตํ โยพฺพเน ิตา นาคริกมนุสฺสา. เอกจฺเจ วิภูสนวเสน, ยถา ตํ รูปูปชีวินิอาทโย. วิลมฺพนวเสน วิลมฺพกา. นฏมฺพรวเสน โภชาทโย. อชฺฌตฺตธาตุกฺโขโภ สีตโรคาทิอุปฺปาทโก. อุตุปริณามนวเสนาติ อุตุโน ปริวตฺตนวเสน วิสภาคสีตอุตุสมุฏฺาเนน. วา-สทฺเทน เหมนฺตาทีสุ หิมปาตาทิวเสน ปวตฺตสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ, น อุปฺปาเทติ สีตนฺติ อธิปฺปาโย. ยทตฺถํ ปน ตํ วิโนทนํ, ตํ มตฺถกปฺปตฺตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สีตพฺภาหเต’’ติอาทิ วุตฺตํ. สพฺพตฺถาติ ‘‘อุณฺหสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทีสุ สพฺเพสุ เสสปโยชเนสุ. ยทิปิ สูริยสนฺตาโปปิ อุณฺโหว, ตสฺส ปน อาตปคฺคหเณน คหิตตฺตา ‘‘อคฺคิสนฺตาปสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอกจฺโจ ทาวคฺคิสนฺตาโป กายํ จีวเรน ปฏิจฺฉาเทตฺวา สกฺกา วิโนเทตุนฺติ อาห ‘‘ตสฺส วนทาหาทีสุ สมฺภโว เวทิตพฺโพ’’ติ. ฑํสาติ ปิงฺคลมกฺขิกา. เต ปน ยสฺมา ฑํสนสีลา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ฑํสนมกฺขิกา’’ติ. สปฺปาทโยติ สปฺปสตปทิอุณฺณนาภิสรพูวิจฺฉิกาทโย. ผุฏฺสมฺผสฺโสติ ผุฏฺวิสมาห. ติวิธา หิ สปฺปา – ทฏฺวิสา ผุฏฺวิสา ทิฏฺวิสา. เตสุ ปุริมกา ทฺเว เอว คหิตา. สตปทิอาทีนมฺปิ ตาทิสานํ สงฺคณฺหนตฺถํ. นิยตปโยชนํ เอกนฺติกํ, สพฺพกาลิกฺจ ปโยชนํ. หิรี กุปฺปติ นิลฺลชฺชตา สณฺาติ. เตนาห ‘‘วินสฺสตี’’ติ. กูปาวตรณํ วา ปฏิจฺฉาทนํ อรหตีติ โกปินํ. หิริยิตพฺพฏฺเน หิรี จ ตํ โกปินฺจาติ หิริโกปินนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. ตสฺส จาติ -สทฺโท ปุพฺเพ วุตฺตปโยชนานํ สมฺปิณฺฑนตฺโถ.

ยํ กิฺจิ อาหารนฺติ ขาทนียโภชนียาทิเภทํ ยํ กิฺจิ อาหริตพฺพวตฺถุํ. ปิณฺฑาย ภิกฺขาย อุลตีติ ปิณฺโฑโล, ตสฺส กมฺมํ ปิณฺโฑลฺยํ. เตน ปิณฺโฑลฺเยน ภิกฺขาจริยาย. ปติตตฺตาติ ปกฺขิปิตตฺตา. ปิณฺฑปาโต ปตฺเต ปกฺขิตฺตภิกฺขาหาโร. ปิณฺฑานํ วา ปาโตติ ฆเร ฆเร ลทฺธภิกฺขานํ สนฺนิปาโต. ‘‘นตฺถิ ทวา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. อฏฺ. ๓.๓๐๕) สหสา กิริยาปิ ‘‘ทวา’’ติ วุจฺจติ, ตโต วิเสสนตฺถํ ‘‘ทวตฺถํ, กีฬานิมิตฺตนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ อาห. มุฏฺิกมลฺลา มุฏฺิยุทฺธยุชฺฌนกา. อาทิ-สทฺเทน นิพุทฺธยุชฺฌนกาทีนํ คหณํ. พลมทนิมิตฺตนฺติ พลํ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกมโท พลมโท. ตํ นิมิตฺตํ, พลสฺส อุปฺปาทนตฺถนฺติ อตฺโถ. โปริสมทนิมิตฺตนฺติ โปริสมโท วุจฺจติ ปุริสมาโน ‘‘อหํ ปุริโส’’ติ อุปฺปชฺชนกมาโน. อสทฺธมฺมเสวนาสมตฺถตํ นิสฺสาย ปวตฺโต มาโน, ราโค เอว วา โปริสมโทติ เกจิ. ตํ นิมิตฺตํ. อนฺเตปุริกา ราโชโรธา. สพฺเพสํ สนฺนิเวสโยคฺยตาย เวสิโย รูปูปชีวินิโย. มณฺฑนํ นาม อิธาวยวปาริปูรีติ อาห ‘‘องฺคปจฺจงฺคานํ ปีณภาวนิมิตฺต’’นฺติ, ปริพฺรูหนเหตูติ อตฺโถ. นฏา นาม รงฺคนฏา. นจฺจกา ลงฺฆกาทโย. วิภูสนํ โสภาสมุปฺปาทนนฺติ อาห ‘‘ปสนฺนจฺฉวิวณฺณตานิมิตฺต’’นฺติ.

เอตํ ปทํ. โมหูปนิสฺสยปฺปหานตฺถนฺติ โมหสฺส อุปนิสฺสยตาปหานาย. ทวา หิ โมเหน โหติ, โมหฺจ วฑฺเฒตีติ ตสฺสา วชฺชเนน โมหสฺส อนุปนิสฺสยตา. โทสูปนิสฺสยปฺปหานตฺถนฺติ อิทํ พลมทสฺส, ปุริสมทสฺส จ โทสเหตุโน วเสน วุตฺตํ, อิตรสฺส ปน วเสน ‘‘ราคูปนิสฺสยปฺปหานตฺถ’’นฺติ วตฺตพฺพํ. มณฺฑนวิภูสนปฏิกฺเขโป สิยา โมหูปนิสฺสยปฺปหานายปิ, ราคูปนิสฺสยตาย ปน อุชุปฏิปกฺโขติ วุตฺตํ ‘‘ราคูปนิสฺสยปฺปหานตฺถ’’นฺติ. ยทิปิ เอกจฺจสฺส ทวมเท อารพฺภ ปรสฺส ปฏิฆสํโยชนาทีนํ อุปฺปตฺติ โหติเยว มโนปโทสิกเทวาทีนํ วิย, อตฺตโน ปน ทวมเท อารพฺภ เยสํ สวิเสสํ ราคโมหมานาทโย ปาปธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ. เต สนฺธาย ‘‘อตฺตโน สํโยชนุปฺปตฺติปฏิเสธนตฺถ’’นฺติ วตฺวา มณฺฑนวิภูสนานิ ปฏิจฺจ สวิเสสํ ปรสฺสปิ ราคโมหาทโย ปวตฺตนฺตีติ ‘‘ปรสฺสปิ สํโยชนุปฺปตฺติปฏิเสธนตฺถ’’นฺติ วุตฺตํ. อโยนิโส ปฏิปตฺติยาติ เอตฺถ กามสุขลฺลิกานุโยคํ มุฺจิตฺวา สพฺพาปิ มิจฺฉาปฏิปตฺติ อโยนิโส ปฏิปตฺติ. ปุริเมหิ ทฺวีหิ ปเทหิ อโยนิโส ปฏิปตฺติยา, ปจฺฉิเมหิ ทฺวีหิ กามสุขลฺลิกานุโยคสฺส ปหานํ วุตฺตนฺติ วทนฺติ. ‘‘จตูหิปิ เจเตหี’’ติ ปน วจนโต สพฺเพหิ อุภินฺนมฺปิ ปหานํ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. กามกีฬาปิ ทวนฺโตคธา โหติเยว, ปุริสมโทปิ กามสุขลฺลิกานุโยคสฺส เหตุเยวาติ.

จาตุมหาภูติกสฺสาติ จตุมหาภูเต สนฺนิสฺสิตสฺส. รูปกายสฺสาติ จตุสนฺตติรูปสมูหสฺส. ิติยาติ ิตตฺถํ. สา ปนสฺส ิติ ปพนฺธวเสน อิจฺฉิตาติ อาห ‘‘ปพนฺธฏฺิตตฺถ’’นฺติ. ปวตฺติยาติ ชีวิตินฺทฺริยปฺปวตฺติยา. ตถา หิ ชีวิตินฺทฺริยํ ‘‘ยาปนา วตฺตนา’’ติ (ธ. ส. ๑๙, ๖๓๔) จ นิทฺทิฏฺํ. ตสฺสา จ อวิจฺเฉโท อาหารูปโยเคน โหติ. กายสฺส จิรตรํ ยาว อายุกปฺโป, ตาว อวตฺถานํ ยาปนาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิรกาลฏฺิตตฺถํ วา’’ติ อาห. อิทานิ วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ฆรูปตฺถมฺภมิวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถายํ โยชนา – ยถา ชิณฺณฆรสามิโก ฆรสฺส อุปตฺถมฺภนํ กโรติ ตสฺส อปตนตฺถํ, ยถา จ สากฏิโก อกฺขพฺภฺชนํ กโรติ ตสฺส สมฺปวตฺตนตฺถํ, เอวเมส โยคี กายสฺส ิตตฺถํ, ยาปนตฺถฺจ ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ ปริภุฺชตีติ. เอเตน ิติ นาม อปตนํ ยาปนา ปวตฺตีติ ทสฺเสติ. น ทวมทมณฺฑนวิภูสนตฺถนฺติ อิทํ ‘‘ยาวเทวา’’ติ อวธารเณน นิวตฺติตตฺถทสฺสนํ. ติฏฺนฺติ อุปาทินฺนธมฺมา เอตายาติ ิติ, อายูติ อาห ‘‘ิตีติ ชีวิตินฺทฺริยสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ. ตถา หิ ตํ อายุ ‘‘ิตี’’ติ นิทฺทิฏฺํ, ิติยา ยาปนายาติ กายสฺส ิติเหตุตาย ‘‘ิตี’’ติ ลทฺธโวหารสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺตนตฺถนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ชีวิตินฺทฺริยปวตฺตาปนตฺถ’’นฺติ. อาพาธฏฺเนาติ วิพาธนฏฺเน, โรคฏฺเน วา. ชิฆจฺฉาปรมา หิ โรคา. อุปรมตฺถนฺติ วูปสมตฺถํ. วณาเลปนมิว วณิโก. อุณฺหสีตาทีสุ อภิภวนฺเตสุ ตปฺปฏิการํ สีตุณฺหํ วิย ปฏิเสวตีติ สมฺพนฺโธ. มคฺคพฺรหฺมจริยํ เปตฺวา สิกฺขตฺตยสงฺคหา สาสนาวจริตพฺพา อนุสาสนี สาสนพฺรหฺมจริยนฺติ อาห ‘‘สกลสาสนพฺรหฺมจริยสฺส จ มคฺคพฺรหฺมจริยสฺส จา’’ติ. อนุคฺคหณตฺถนฺติ อนุ อนุ คณฺหนตฺถํ สมฺปาทนตฺถํ. กายพลํ นิสฺสายาติ ยถาสมารทฺธํ คุณวิเสสปาริปูริเหตุภูตํ กายพลมตฺตํ นิสฺสาย. เตนาห ‘‘สิกฺขตฺตยานุโยควเสนา’’ติอาทิ. กนฺตารนิตฺถรณตฺถิกา ชายมฺปติกา, นทีสมุทฺทนิตฺถรณตฺถิกา จ ปุตฺตมํสาทีนิ ยถา อคิทฺธา อมุจฺฉิตา เกวลํ ตํ ตํ อตฺถสิทฺธิเมว อเวกฺขนฺตา ปฏิเสวนฺติ เตหิ วินา อสิชฺฌนโต, เอวมยมฺปิ เกวลํ ภวกนฺตารนิตฺถรณตฺถิโก อคิทฺโธ อมุจฺฉิโต เตน วินา อสิชฺฌนโต ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวตีติ อุปมาสํสนฺทนํ.

อิตีติ ปการตฺเถ นิปาตปทํ. เตน ปฏิเสวิยมานสฺส ปิณฺฑปาตสฺส ปฏิเสวนากาโร คยฺหตีติ อาห ‘‘เอวํ อิมินา ปิณฺฑปาตปฏิเสวเนนา’’ติ. ปุราณนฺติ โภชนโต ปุริมกาลิกตฺตา ปุราตนํ. ปฏิหงฺขามีติ ปฏิหนิสฺสามิ. นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามีติ ปฏิเสวตีติ โยชนา. กีทิสํ, กถฺจาติ อาห ‘‘อปริมิต…เป… อฺตโร วิยา’’ติ. อปริมิตํ อปริมาณํ โภชนํ ปจฺจโย เอติสฺสาติ อปริมิตโภชนปจฺจยา, ตํ อปริมิตโภชนปจฺจยํ อตฺตโน คหณีเตชปมาณโต อติกฺกนฺตปมาณโภชนเหตุกนฺติ อตฺโถ. โย พหุํ ภุฺชิตฺวา อตฺตโน ธมฺมตาย อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ‘‘อาหร หตฺถ’’นฺติ วทติ, อยํ อาหรหตฺถโก. โย ภุฺชิตฺวา อจฺจุทฺธุมาตกุจฺฉิตาย อุฏฺิโตปิ สาฏกํ นิวาเสตุํ น สกฺโกติ, อยํ อลํสาฏโก. โย ภุฺชิตฺวา อุฏฺาตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว ปริวตฺตติ, อยํ ตตฺรวฏฺฏโก. โย ยถา กาเกหิ อามสิตุํ สกฺกา, เอวํ ยาว มุขทฺวารํ อาหาเรติ, อยํ กากมาสโก. โย ภุฺชิตฺวา มุเข สนฺธาเรตุํ อสกฺโกนฺโต ตตฺเถว วมติ, อยํ ภุตฺตวมิตโก. เอเตสํ อฺตโร วิย. อถ วา ปุราณเวทนา นาม อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ ‘‘ปฏิหนิสฺสามี’’ติ ปฏิเสวติ. นวเวทนา นาม อติภุตฺตปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา. ตํ ‘‘น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ ปฏิเสวติ. อถ วา นวเวทนา นาม อภุตฺตปจฺจเยน อุปฺปชฺชนกเวทนา, ตสฺสา อนุปฺปนฺนาย อนุปฺปชฺชนตฺถเมว ปฏิเสวติ. อภุตฺตปจฺจยา อุปฺปชฺชนกาติ เจตํ ขุทฺทาย วิเสสนํ. ยสฺสา อปฺปวตฺติ โภชเนน กาตพฺพา, ตสฺสา ทสฺสนตฺถํ. อภุตฺตปจฺจเยน, ภุตฺตปจฺจเยน จ อุปฺปชฺชนกานุปฺปชฺชนกเวทนาสุ ปุริมา ยถาปวตฺตา ชิฆจฺฉานิมิตฺตา เวทนา. สา หิ อภุฺชนฺตสฺส ภิยฺโยปวฑฺฒนวเสน อุปฺปชฺชติ. ปจฺฉิมาปิ ขุทฺทานิมิตฺตาว องฺคทาหสูลาทิเวทนา ปวตฺตา. สา หิ ภุตฺตปจฺจยา ปุพฺเพ อนุปฺปนฺนาว นุปฺปชฺชิสฺสตีติ อยเมตาสํ วิเสโส. วิหึสานิมิตฺตตา เจตาสํ วิหึสาย วิเสโส.

ยา เวทนา. อธุนาติ เอตรหิ. อสปฺปายาปริมิตโภชนํ นิสฺสายาติ อสปฺปายาปริมิตสฺส อาหารสฺส ภุฺชนปโยคํ อาคมฺม อุปฺปชฺชตีติ อตฺโถ. ปุราณกมฺมปจฺจยวเสนาติ ปุพฺเพ ปุริมชาติยํ กตตฺตา ปุราณสฺส กมฺมสฺส ปจฺจยตาวเสน ปโยควิปตฺตึ อาคมฺม อุปฺปชฺชนารหตาย ตํ วชฺเชตฺวา ปโยคสมฺปตฺติยา อุปฏฺาปนํ ทุกฺขเวทนาปจฺจยฆาโต, ปฏิหนนฺจ โหตีติ อาห ‘‘ตสฺสา ปจฺจยํ วินาเสนฺโต ตํ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามี’’ติ. อยุตฺตปริโภโค ปจฺจเย อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริโภโค. โส เอว กตูปจิตกมฺมตาย กมฺมูปจโย. ตํ นิสฺสาย ปฏิจฺจ อายตึ อนาคเต กาเล อุปฺปชฺชนโต ยา จายํ ‘‘นวเวทนา’’ติ วุจฺจตีติ โยชนา. ยุตฺตปริโภควเสนาติ ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปจฺจยานํ ปริโภควเสน, ตสฺสา นวเวทนาย มูลํ อยุตฺตปริโภคกมฺมํ อนิพฺพตฺเตนฺโต สพฺเพน สพฺพํ อนุปฺปาเทนฺโต. เอตฺตาวตาติ ‘‘อิติ ปุราณ’’นฺติอาทินา วุตฺเตน ปททฺวเยน. ‘‘วิหึสูปรติยา’’ติอาทินา วา ปทจตุกฺเกน ยุตฺตปริโภคสงฺคโห ปพฺพชิตานุจฺฉวิกสฺส ปจฺจยปริโภคสฺส วุตฺตตฺตา. อตฺตกิลมถานุโยคปฺปหานํ ชิฆจฺฉาทิทุกฺขปฏิฆาตสฺส ภาสิตตฺตา. ฌานสุขาทีนํ ปจฺจยภูตสฺส กายสุขสฺส อวิสฺสชฺชนโต ธมฺมิกสุขาปริจฺจาโค จ ทีปิโต โหติ.

อสปฺปายาปริมิตูปโยเคน ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเฉทโก, อิริยาปถภฺชนโก วา สิยา ปริสฺสโย, สปฺปายปริมิตูปโยเคน ปน โส น โหติ. ตถา สติ จิรกาลปฺปวตฺติสงฺขาตา สรีรสฺส ยาตฺรา ยาปนา ภวิสฺสตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปริมิตปริโภเคน…เป… ภวิสฺสตี’’ติ อาห. โย โรโค สาทฺโธ อสาทฺโธ จ น โหติ, โส ยาปฺยโรโค, โส เอตสฺส อตฺถีติ ยาปฺยโรคี. โส หิ นิจฺจกาลํ เภสชฺชํ อุปเสวติ, ตถา อยมฺปีติ. ยทิ ยาตฺราปิ ยาปนา, ปุพฺเพปิ ‘‘ยาปนายา’’ติ วุตฺตํ, โก เอตฺถ วิเสโสติ? ปุพฺเพ ‘‘ยาปนายา’’ติ ชีวิตินฺทฺริยยาปนา อธิปฺเปตา, อิธ ปน จตุนฺนมฺปิ อิริยาปถานํ อวิจฺเฉทสงฺขาตา ยาปนา ยาตฺราติ อยเมตฺถ วิเสโส. พุทฺธปฏิกุฏฺเน มิจฺฉาชีเวน ปจฺจยปริเยสนา อยุตฺตปริเยสนา. ทายกเทยฺยธมฺมานํ, อตฺตโน จ ปมาณํ อชานิตฺวา ปฏิคฺคหณํ, สทฺธาเทยฺยวินิปาตนตฺถํ วา ปฏิคฺคหณํ อยุตฺตปฏิคฺคหณํ, เยน วา อาปตฺตึ อาปชฺชติ. อปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริโภโค อยุตฺตปริโภโค. เตสํ ปริวชฺชนํ ธมฺเมน สเมน ปจฺจยุปฺปาทนาทิวเสน เวทิตพฺพํ. ธมฺเมน หิ ปจฺจเย ปริเยสิตฺวา ธมฺเมน ปฏิคฺคเหตฺวา ปจฺจเวกฺขิตฺวา ปริภุฺชนํ อนวชฺชตา นาม.

อรตีติ อุกฺกณฺา. ปนฺตเสนาสเนสุ, อธิกุสลธมฺเมสุ จ อนภิรติ. ตนฺทีติ ปจลายิกา นิทฺทา. วิชมฺภิตาติ ถินมิทฺธาภิภเวน กายสฺส วิชมฺภนา. วิฺูหิ ครหา วิฺูครหา. เอกจฺโจ หิ อนวชฺชํเยว สาวชฺชํ กโรติ, ‘‘ลทฺธํ เม’’ติ ปมาณาธิกํ ภุฺชิตฺวา ตํ ชีราเปตุํ อสกฺโกนฺโต อุทฺธํวิเรจนอโธวิเรจนาทีหิ กิลมติ, สกลวิหาเร ภิกฺขู ตสฺส สรีรปฏิชคฺคนเภสชฺชปริเยสนาปสุตา โหนฺติ. อฺเ เต ‘‘กึ อิท’’นฺติ ปุจฺฉิตฺวา ‘‘อสุกสฺส อุทรํ อุทฺธุมาต’’นฺติอาทีนิ สุตฺวา ‘‘นิจฺจกาลเมส เอวํปกติโก อตฺตโน กุจฺฉิปมาณํ นาม น ชานาตี’’ติ นินฺทนฺติ, เอวํ อนวชฺชํเยว สาวชฺชํ กโรติ. เอวํ อกตฺวา ‘‘อนวชฺชตา จ ภวิสฺสตี’’ติ ปฏิเสวติ. อตฺตโน หิ ปกติอคฺคิพลาทึ ชานิตฺวา ‘‘เอวํ เม อรติอาทีนํ อภาเวน กายสุขตา, อครหิตพฺพตา จ ภวิสฺสตี’’ติ ปมาณยุตฺตเมว ปฏิเสวติ. ยาวตโก โภชเนน อตฺโถ, ตสฺส สาธเนน ยาวทตฺถํ อุทรสฺส ปริปูรเณน อุทราวเทหกํ โภชนํ ยาวทตฺถอุทราวเทหกโภชนํ, ตสฺส ปริวชฺชเนน. เสยฺยาย สยเนน ลทฺธพฺพสุขํ เสยฺยสุขํ, อุโภหิ ปสฺเสหิ สมฺปริวตฺตนกํ สยนฺตสฺส อุปฺปชฺชนสุขํ ปสฺสสุขํ , มิทฺเธน นิทฺทายเนน อุปฺปชฺชนสุขํ มิทฺธสุขํ, เตสํ เสยฺย…เป… สุขานํ ปหานโต จตุนฺนํ อิริยาปถานํ โยคฺยภาวสฺส ปฏิปาทนํ กายสฺส จตุอิริยาปถโยคฺยภาวปฏิปาทนํ, ตโต. สุโข อิริยาปถวิหาโร ผาสุวิหาโร. ปจฺฉิเม วิกปฺเป, สพฺพวิกปฺเปสุ วา วุตฺตํ ผาสุวิหารลกฺขณํ อาคเมน สมตฺเถตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตีสุปิ วิกปฺเปสุ อาหารสฺส อูนปริโภควเสเนว หิ ผาสุวิหาโร วุตฺโตติ.

เอตฺตาวตาติ ‘‘ยาตฺรา’’ติอาทินา วุตฺเตน ปทตฺตเยน. ‘‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ ปโยชนปริคฺคหทีปนา. ยาตฺรา หิ นํ อาหารูปโยคํ ปโยเชตีติ. ธมฺมิกสุขาปริจฺจาคเหตุโก ผาสุวิหาโร มชฺฌิมา ปฏิปทา อนฺตทฺวยปริวชฺชนโต. อิมสฺมึ ปน าเน อฏฺ องฺคานิ สโมธาเนตพฺพานิ – ‘‘เนว ทวายา’’ติ เอกํ องฺคํ, ‘‘น มทายา’’ติ เอกํ, ‘‘น มณฺฑนายา’’ติ เอกํ, ‘‘น วิภูสนายา’’ติ เอกํ, ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา ยาปนายา’’ติ เอกํ, ‘‘วิหึสูปรติยา พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’’ติ เอกํ, ‘‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามิ, นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ เอกํ, ‘‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ. ‘‘อนวชฺชตา จ ผาสุวิหาโร จา’’ติ อยเมตฺถ โภชนานิสํโส. มหาสิวตฺเถโร ปนาห ‘‘เหฏฺา จตฺตาริ องฺคานิ ปฏิกฺเขโป นาม, อุปริ ปน อฏฺงฺคานิ สโมธาเนตพฺพานี’’ติ. ตตฺถ ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติ เอกํ องฺคํ, ‘‘ยาปนายา’’ติ เอกํ, ‘‘วิหึสูปรติยา’’ติ เอกํ, ‘‘พฺรหฺมจริยานุคฺคหายา’’ติ เอกํ, ‘‘อิติ ปุราณฺจ เวทนํ ปฏิหงฺขามี’’ติ เอกํ, ‘‘นวฺจ เวทนํ น อุปฺปาเทสฺสามี’’ติ เอกํ, ‘‘ยาตฺรา จ เม ภวิสฺสตี’’ติ เอกํ, ‘‘อนวชฺชตา จา’’ติ เอกํ. ผาสุวิหาโร ปน โภชนานิสํโสติ. เอวํ อฏฺงฺคสมนฺนาคตํ อาหารํ อาหาเรนฺโต ปฏิสงฺขา โยนิโส ปิณฺฑปาตํ ปฏิเสวติ นาม.

ยตฺถ ยตฺถาติ ภุมฺมนิทฺเทเสน เสน-สทฺทสฺส อธิกรณตฺถวุตฺติมาห. ตถา อาสน-สทฺทสฺสาติ. อฑฺฒโยคาทิมฺหีติ อาทิ-สทฺเทน ปาสาทาทึ, มฺจาทิฺจ สงฺคณฺหาติ. ยตฺถ ยตฺถ วิหาเร วา อฑฺฒโยคาทิมฺหิ วา อาสตีติ วิหารอฑฺฒโยคาทิเก อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อิธ อาทิ-สทฺเทน ปีสนฺถตาทีนมฺปิ สงฺคโห เวทิตพฺโพ. ปริสหนฏฺเนาติ อภิภวนฏฺเน, วิพาธนฏฺเนาติ อตฺโถ. อุตุเยว อุตุปริสฺสโยติ สีตุณฺหาทิอุตุเยว อสปฺปาโย วุตฺตนเยน อุตุปริสฺสโย. ตสฺส อุตุปริสฺสยสฺส วิโนทนตฺถํ, อนุปฺปนฺนสฺส อนุปฺปาทนตฺถํ, อุปฺปนฺนสฺส วูปสมนตฺถฺจาติ อตฺโถ. นานารมฺมณโต ปฏิสํหริตฺวา กมฺมฏฺานภูเต เอกสฺมึเยว อารมฺมเณ จิตฺตสฺส สมฺมเทว ลยนํ ปฏิสลฺลานํ, ตตฺถ อาราโม อภิรติ ปฏิสลฺลานาราโม, ตทตฺถํ. เสนาสนํ หิ วิวิตฺตํ โยคิโน ภาวนานุกูลํ สุฺาคารภาวโต. ตํ ปเนตํ อตฺถทฺวยํ วิภาเวตุํ ‘‘โย สรีราพาธจิตฺตวิกฺเขปกโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกีภาวสุขตฺถนฺติ เอกีภาวเหตุกํ สุขํ เอกีภาวสุขํ, ตทตฺถํ. คณสงฺคณิกกิเลสสงฺคณิกาภาเวน อุปฺปชฺชนกสุขํ.

ยทิ อุตุเยว อุตุปริสฺสโย, ‘‘อุตุ จ สีตุณฺห’’นฺติ สีตุณฺหปฏิฆาตํ วตฺวา อุตุปริสฺสยวิโนทนํ กสฺมา วุตฺตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘กามฺจา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘นิยตํ อุตุปริสฺสยวิโนทน’’นฺติ เอเตน ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตาย อุณฺหสฺส ปฏิฆาตายา’’ติ เอตฺถ วุตฺตํ สีตุณฺหํ อนิยตํ กทาจิ กทาจิ อุปฺปชฺชนกํ, อุตุปริสฺสโย ปน สพฺพทาภาวี อธิปฺเปโตติ ทสฺเสติ. วุตฺตปฺปกาโรติ ‘‘สีตาทิโก, อสปฺปาโย’’ติ จ เอวํ วุตฺตปฺปกาโร วิวฏงฺคณรุกฺขมูลาทีสุ นิสินฺนสฺส อปริคุตฺติยา อสํวุตทฺวาราทิตาย ปากฏปริสฺสยา, อสปฺปายรูปทสฺสนาทินา อปากฏปริสฺสยา จ ภิกฺขุสฺส กายจิตฺตานํ อาพาธํ กเรยฺยุํ. ยตฺถ คุตฺเต เสนาสเน อาพาธํ น กโรนฺติ. เอวํ ชานิตฺวาติ อุภยปริสฺสยรหิตนฺติ เอวํ ตฺวา ปฏิเสวนฺโต ภิกฺขุ เวทิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ.

ธาตุกฺโขภลกฺขณสฺส, ตํเหตุกทุกฺขเวทนาลกฺขณสฺส วา โรคสฺส ปฏิปกฺขภาโว ปฏิอยนฏฺโ. เตนาห ‘‘ปจฺจนีกคมนฏฺเนาติ อตฺโถ’’ติ, วูปสมนฏฺเนาติ วุตฺตํ โหติ. ยสฺส กสฺสจีติ สปฺปิอาทีสุ ยสฺส กสฺสจิ. สปฺปายสฺสาติ หิ ตสฺส วิการวูปสเมนาติ อธิปฺปาโย. ภิสกฺกสฺส กมฺมํ เตน วิธาตพฺพโต. เตนาห ‘‘เตน อนุฺาตตฺตา’’ติ. นครปริกฺขาเรหีติ นครํ ปริวาเรตฺวา รกฺขณเกหิ. วิวฏปริกฺเขโป ปริกฺขา อุฑฺฑาโป ปากาโร เอสิกา ปลิโฆ ปาการปตฺถณฺฑิลนฺติ สตฺต ‘‘นครปริกฺขารา’’ติ วทนฺติ. สีลปริกฺขาโรติ สุวิสุทฺธสีลาลงฺกาโร . อริยมคฺโค หิ อิธ ‘‘รโถ’’ติ อธิปฺเปโต. ตสฺส จ สมฺมาวาจาทโย อลงฺการฏฺเน ‘‘ปริกฺขาโร’’ติ วุตฺตา. ชีวิตปริกฺขาราติ ชีวิตสฺส ปวตฺติการณานิ. สมุทาเนตพฺพาติ สมฺมา อุทฺธํ อุทฺธํ อาเนตพฺพา ปริเยสิตพฺพา. ปริวาโรปิ โหติ อนฺตรายานํ ปริโต วารณโต. เตนาห ‘‘ชีวิต…เป… รกฺขณโต’’ติ.

ตตฺถ อนฺตรนฺติ วิวรํ, โอกาโสติ อตฺโถ. เวริกานํ อนฺตรํ อทตฺวา อตฺตโน สามิกานํ ปริวาเรตฺวา ิตเสวกา วิย รกฺขณโต. อสฺสาติ ชีวิตสฺส. การณภาวโตติ จิรปฺปวตฺติยา การณภาวโต. รสายนภูตํ หิ เภสชฺชํ สุจิรมฺปิ กาลํ ชีวิตํ ปวตฺเตติเยว. ยทิปิ อนุปฺปนฺนา เอว ทุกฺขเวทนา เภสชฺชปริโภเคน ปฏิหฺนฺติ, น อุปฺปนฺนา ตาสํ สรเสเนว ภิชฺชนโต, อุปฺปนฺนสทิสา ปน ‘‘อุปฺปนฺนา’’ติ วุจฺจนฺติ. ภวติ หิ ตํสทิเสสุ ตพฺโพหาโร, ยถา สา เอว ติตฺติริ, ตานิเยว โอสธานีติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนานนฺติ ชาตานํ ภูตานํ นิพฺพตฺตาน’’นฺติ. สฺจยโต ปฏฺาย โส ธาตุกฺโขโภ สมุฏฺานํ เอเตสนฺติ ตํสมุฏฺานา. ‘‘ทุกฺขเวทนา’’ติ วตฺวา สา อกุสลสภาวาปิ อตฺถีติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘อกุสลวิปากเวทนา’’ติ วุตฺตํ. พฺยาพาธนฏฺเน พฺยาพาโธ, พฺยาพาโธว พฺยาพชฺฌํ, ทุกฺขนฺติ อตฺโถ. นตฺถิ เอตฺถ พฺยาพชฺฌนฺติ อพฺยาพชฺฌํ, นิทฺทุกฺขตา. เตนาห ‘‘อพฺยาพชฺฌปรมตายา’’ติ นิทฺทุกฺขปรมตายาติ. ตํ ทุกฺขนฺติ โรคนิมิตฺตกํ ทุกฺขํ.

จีวราทีนํ ปจฺจยานํ นิสฺสยนํ ปริโภโค เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เต ปฏิจฺจ นิสฺสายา’’ติ วตฺวา ‘‘ปริภุฺชมานา’’ติ วุตฺตํ. ปวตฺตนฺตีติ ชีวนฺติ. ชีวนมฺปิ หิ ปวตฺตนํ, ยโต ชีวิตินฺทฺริยํ ‘‘ปวตฺตนรส’’นฺติ วุจฺจติ.

จตุปาริสุทฺธิสมฺปาทนวิธิวณฺณนา

๑๙. เอวํ ปาติโมกฺขสํวราทิเภเทน นิทฺทิฏฺํ สีลํ ปุน สาธนวิภาเคน ทสฺเสตุํ ‘‘เอวเมตสฺมิ’’นฺติอาทิมารทฺธํ. ตตฺถ สาธียติ สมฺปาทิยติ เอเตนาติ สาธนํ, สทฺธา สาธนํ เอตสฺสาติ สทฺธาสาธโน. นนุ จ วีริยสติปฺาหิปิ วินา ปาติโมกฺขสํวโร น สิชฺฌตีติ? สจฺจํ น สิชฺฌติ, สทฺธาย ปน วิเสสเหตุภาวํ สนฺธาย เอวํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห

‘‘สาวกวิสยาตีตตฺตาสิกฺขาปทปฺตฺติยา’’ติ. ครุกลหุกาทิเภเท โอติณฺเณ วตฺถุสฺมึ ตสฺส ตสฺส อปราธสฺส อนุรูปํ สิกฺขาปทปฺาปนํ นาม สาวกานํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโย. สิกฺขาปทปฺาปนํ ตาว ติฏฺตุ, ตสฺส กาโลปิ นาม สาวกานํ อวิสโย, พุทฺธานํ เอว วิสโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สิกฺขาปทปฺตฺติยาจนปฏิกฺเขโป เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ อาห. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อาคเมหิ ตฺวํ สาริปุตฺต, อาคเมหิ ตฺวํ สาริปุตฺต, ตถาคโตว ตตฺถ กาลํ ชานิสฺสตี’’ติ (ปารา. ๒๑). ตตฺถ จ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ. เตน ‘‘อปฺตฺตํ น ปฺเปม, ปฺตฺตํ น สมุจฺฉินฺทาม, ยถาปฺตฺเตสุ สิกฺขาปเทสุ สมาทาย วตฺตามา’’ติ (ปารา. ๕๖๕) เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สทฺธายาติ สทฺทหเนน สตฺถริ, ธมฺเม จ สทฺธาย ปจฺจุปฏฺาปเนน. ชีวิเตปิ ปเคว ชีวิตปริกฺขาเรติ อธิปฺปาโย.

กิกีว อณฺฑนฺติ กิกีสกุณิกา วิย อตฺตโน อณฺฑํ. สา กิร ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา อณฺฑเมว รกฺขติ. จมรีว วาลธินฺติ จมรีมิโค วิย อตฺตโน วาลธึ. จมรีมิคา กิร พฺยาเธน ปริปาติยมานา ชีวิตมฺปิ ปริจฺจชิตฺวา กณฺฑกคุมฺพาทีสุ ลคฺคํ อตฺตโน วาลเมว รกฺขนฺติ. ปิยํว ปุตฺตํ เอกกนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา หิ เอกปุตฺตโก กุฏุมฺพิโก ตํ เอกปุตฺตํ, เอกนยโน จ ตํ เอกนยนํ สุฏฺุตรํ รกฺขติ. ตเถว สีลํ อนุรกฺขมานกาติ อนุกมฺปนวเสน วุตฺตํ. สุเปสลาติ สุฏฺุ ปิยสีลา. สทา สพฺพกาลํ ทหรมชฺฌิมเถรกาเลสุ. ฉนฺนมฺปิ คารวานํ วเสน สคารวา, ครุการวนฺโตติ อตฺโถ.

เอวเมว โขติ ยถา มหาสมุทฺโท ิตธมฺโม เวลํ นาติกฺกมติ, เอวเมว. มม สาวกาติ อริยสาวเก สนฺธายาห. เต หิ ธุวสีลา. อิมสฺมึ อตฺเถติ ชีวิตเหตุปิ สีลสฺส อวีติกฺกมเน.

มหาวตฺตนิอฏวี นาม วิฺฌาฏวี. หิมวนฺตปสฺเส อฏวีติ เกจิ. เถรนฺติ นามโคตฺตวเสน อปฺาตํ เอกํ เถรํ. นิปชฺชาเปสุํ คนฺตฺวา กสฺสจิ มา อาโรเจยฺยาติ.

ปูติลตายาติ คโฬจิลตาย. สมสีสีติ ชีวิตสมสีสี. ยสฺส หิ กิเลสสีสํ อวิชฺชํ มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตมคฺโค ปริยาทิยติ, ตโต เอกูนวีสติเม ปจฺจเวกฺขณาเณ ปติฏฺาย ภวงฺโคตฺตรเณ วฏฺฏสีสํ ชีวิตินฺทฺริยํ จุติจิตฺตํ ปริยาทิยติ, โส อิมาย วารสมตาย ‘‘ชีวิตสมสีสี’’ติ วุจฺจติ. โส จ เถโร ตถา ปรินิพฺพายิ. เตน วุตฺตํ ‘‘สมสีสี หุตฺวา ปรินิพฺพายี’’ติ. อภยตฺเถโร กิร มหาภิฺโ. ตสฺมา เจติยํ การาเปสีติ วทนฺติ. อปฺเปวาติ อปฺเปว นาม อตฺตโน ชีวิตมฺปิ ชเหยฺย, น ภินฺเทติ น ภินฺเทยฺย, น วีติกฺกเมยฺย.

สติยาอธิฏฺิตานนฺติ ปเคว อุปฏฺิตาย สติยา อารกฺขวเสน อธิฏฺิตานํ อินฺทฺริยานํ. อนนฺวาสฺสวนียโตติ ทฺวารภาเวน อภิชฺฌาทีหิ อนนุพนฺธิตพฺพโต. วรนฺติ เสฏฺํ. ตตฺตายาติ อุณฺหาย. อาทิตฺตายาติ อาทิโต ปฏฺาย ทิตฺตาย. สมฺปชฺชลิตายาติ สมนฺตโต ชลนฺติยา. สโชติภูตายาติ เอกชาลีภูตาย. สมฺปลิมฏฺนฺติ สพฺพโส อามฏฺํ, อฺจิตนฺติ อตฺโถ. น ตฺเวว วรนฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. รูเปสูติ รูปารมฺมเณสุ. อนุพฺยฺชนโส นิมิตฺตคฺคาโหติ กิเลสานํ อนุ อนุ พฺยฺชนวเสน อุปฺปาทเนน ปากฏีกรณวเสน สุภาทินิมิตฺตคฺคาโห, อถ วา อนุพฺยฺชนโสติ หตฺถปาทาทิอนุพฺยฺชนโต, นิมิตฺตคฺคาโหติ อิตฺถิปุริสาทิสุภาทินิมิตฺตคฺคหณํ. จกฺขุทฺวาราทิปวตฺตสฺสาติ จกฺขุทฺวาราทีหิ ปวตฺตสฺส. วิฺาณสฺสาติ ชวนวิฺาณสฺส. นิมิตฺตาทิคฺคาหํ นิเสเธนฺเตน สมฺปาเทตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. อสํวิหิตสาขาปริวารนฺติ สมฺมา อวิหิตวติปริกฺเขปํ. ปรสฺสหารีหีติ ปรสนฺตกาวหารเกหิ โจเรหิ. สมติวิชฺฌตีติ สพฺพโส อติวิชฺฌติ อนุปวิสติ.

รูเปสูติ รูปเหตุ รูปนิมิตฺตํ. อุปฺปชฺชนกอนตฺถโต รกฺข อินฺทฺริยนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุ. เอเต หิ ทฺวาราติ เอเต จกฺขาทิทฺวารา. สติกวาเฏน อสํวุตตฺตา วิวฏา. ตโต เอว อรกฺขิตา. กิเลสุปฺปตฺติยา เหตุภาเวน ตํสมงฺคินํ หนนฺตีติ การณูปจาเรเนว วุตฺตํ. เอเต วา รูปาทโย. กิเลสานํ อารมฺมณภูตา ทฺวารา จกฺขาทิทฺวารา. เต กีทิสา วิวฏา อรกฺขิตา อสํวุตจกฺขาทิเหตุํ ตํสมงฺคินํ หนนฺตีติ การณูปจาเรเนว วุตฺตํ. อคารนฺติ เคหํ. ทุจฺฉนฺนนฺติ น สมฺมา ฉาทิตํ. อภาวิตนฺติ โลกุตฺตรภาวนารหิตํ.

สมฺปาทิเตติอาทิสฺส โวทานปกฺขสฺส อตฺโถ วุตฺตวิปริยาเยน เวทิตพฺโพ. อยํ ปน สพฺพโส กิเลสานํ อนุปฺปาโท อติอุกฺกฏฺเทสนา มคฺเคนาคตสทิสตฺตา. สมฺปาเทตพฺโพติ ‘‘น ปุเนวํ กริสฺส’’นฺติ อธิฏฺานสุทฺธิยา สมฺปาเทตพฺโพ.

อธุนาปพฺพชิเตนาติ น จิรปพฺพชิเตน, นวปพฺพชิเตนาติ อตฺโถ. กามราเคน ฑยฺหามีติ กามราคคฺคินา ปริฑยฺหามิ. โส จ ปน ทาโห อิทานิ จิตฺตคโตติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘จิตฺตํ เม ปริฑยฺหตี’’ติ. สาธูติ อายาจนา. นิพฺพาปนนฺติ ตสฺส นิพฺพาปนุปายํ. โคตมาติ เถรํ โคตฺเตน อาลปติ.

สฺายวิปริเยสาติ ‘‘อสุเภ สุภ’’นฺติ ปวตฺตสฺาวิปริเยสเหตุ วิปรีตสฺานิมิตฺตํ. นิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ กีทิสํ? ราคูปสฺหิตํ ราคุปฺปตฺติเหตุภูตํ สุภนิมิตฺตํ ปริวชฺเชหิ น มนสิ กโรหิ. น เกวลํ สุภนิมิตฺตสฺสามนสิกาโร เอว, อถ โข อสุภภาวนาย อตฺตโน จิตฺตํ ภาเวหิ. กถํ? เอกคฺคํ สุสมาหิตํ ยถา ตํ อสุภารมฺมเณ วิกฺเขปาภาเวน เอกคฺคํ, สุฏฺุ อปฺปิตภาเวน สุสมาหิตฺจ โหติ, เอวํ ภาเวหีติ. เอวํ สมถภาวนาย กามราคสฺส วิกฺขมฺภนํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สมุจฺเฉทนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สงฺขาเร ปรโต ปสฺสาติ สพฺเพปิ สงฺขาเร อวิเธยฺยกตาย ‘‘ปเร’’ติ ปสฺส. อนิจฺจตาย ปน อุทยพฺพยปฏิปีฬิตตฺตา ทุกฺขโต, อนตฺตสภาวตฺตา, อตฺตวิรหโต จ โน อตฺตโต ปสฺส. เอวํ ลกฺขณตฺตยํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒนฺโต มคฺคปฏิปาฏิยา จตุตฺถมคฺเคน สพฺพโส นิพฺพาเปหิ มหาราคํ เตภูมกสฺส อภิภวนโต มหาวิสยตาย มหาราคํ วูปสเมหิ. ยถา เอตรหิ, เอวํ มา ฑยฺหิตฺโถ ปุนปฺปุนนฺติ ทฬฺหตรํ ราควิโนทเน นิโยเชสิ.

เอวํ อินฺทฺริยสํวรสีลสฺส สมฺปาทเน วิธึ ทสฺเสตฺวา เอวํ ตํ สุสมฺปาทิตํ โหตีติ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทินา ตตฺถ ปริปูรการิโน เถเร นิทสฺเสติ. ตตฺถ ‘‘เลณํ น อุลฺโลกิตปุพฺพ’’นฺติ อิทํ สพฺพตฺเถว เถรสฺส ยุคมตฺตทสฺสิตาย วุตฺตํ. กึ ปน เถโร เสนาสนํ น โสเธติ ? ‘‘อุลฺโลกา ปมํ โอหาเรตพฺพ’’นฺติ หิ วุตฺตํ, อนฺเตวาสิกาทโย เอว กิรสฺส เสนาสนํ โสเธนฺติ. อสฺส นาครุกฺขสฺส.

ตสฺมึ คาเมติ มหาคาเม. ตรุณา ถฺปิวนกา ปุตฺตธีตโร ยาสํ ตา ตรุณปุตฺตา, ตาสํ. ลฺชาเปสีติ ถนปฏฺฏิกาย ถเน พนฺธาเปตฺวา ราชมุทฺทิกาย ลฺชาเปสิ. ราชา เถรํ จิรตรํ ทฏฺุํ กาลวิกฺเขปํ กโรนฺโต ‘‘สฺเว สีลานิ คณฺหิสฺสามี’’ติ อาห. เถโร รฺโ จ เทวิยา จ วนฺทนกาเล สตฺตาการมตฺตํ คณฺหาติ. อิตฺถี ปุริโสติ ปน วิเวกํ น กโรติ. เตนาห ‘‘ววตฺถานํ น กโรมี’’ติ. ‘‘อโห สุปริสุทฺธสีโล วตายํ อยฺโย’’ติ ทณฺฑทีปิกํ คเหตฺวา อฏฺาสิ. อติปริสุทฺธํ ปากฏนฺติ สปฺปายลาเภน กมฺมฏฺานํ อติวิย ปริสุทฺธํ วิภูตํ อโหสิ. สกลํ ปพฺพตํ อุนฺนาทยนฺโตติ ปถวิกมฺปเนน สกลํ ปพฺพตํ เอกํ นินฺนาทํ กโรนฺโต. ตนฺนิวาสิเทวตานํ สาธุการทาเนนาติ เกจิ. ภนฺโตติ อนวฏฺิโต. พาโลติ ตรุณทารโก. อุตฺรสฺโตติ าตเกหิ วินาภาเวน สนฺตฺรสฺโต.

วิสคณฺฑกโรโคติ ถนกนฺทฬโรคมาห. มาสโรคาทิโกปิ วิสคณฺฑกโรโคติ วทนฺติ. ยโต ปพฺพชิโต, ตโต ปฏฺาย ปพฺพชิตกาลโต ปภุตีติ อตฺโถ. อินฺทฺริยานีติ อินฺทฺริยสํวรสีลานิ. เตสุ หิ ภินฺเนสุ อินฺทฺริยานิปิ ภินฺนานีติ วุจฺจนฺติ อารกฺขาภาวโต, อินฺทฺริยาเนว วา นิมิตฺตานุพฺยฺชนคฺคาหสฺส ทฺวารภูตานิ ภินฺนานิ นาม ตํสมงฺคิโน อนตฺถุปฺปตฺติโต, วิปริยายโต อภินฺนานีติ เวทิตพฺพานิ. อินฺทฺริยานํ วา อโยนิโส อุปสํหาโร เภทนํ, โยนิโส อุปสํหาโร อเภทนนฺติ อปเร. มิตฺตตฺเถโรวาติ มหามิตฺตตฺเถโร วิย. วเรติ เสฏฺเ.

ตถา วีริเยนาติ ตถา-สทฺเทน วีริยํ วิเสเสติ. ยถา สติ อนวชฺชลกฺขณาว อินฺทฺริยสํวรสาธนํ, ตถา วีริยํ อนวชฺชลกฺขณํ อาชีวปาริสุทฺธิสาธนนฺติ. วีริยาเปกฺขเมว วิเสสนํ ทฏฺพฺพํ. เตเนวาห ‘‘สมฺมาอารทฺธวีริยสฺสา’’ติ. อยุตฺตา เอสนา อเนสนา, ยถาวุตฺตมิจฺฉาชีวสงฺคหา. สา เอว สตฺถุสาสนสฺส น ปติรูปาติ อปฺปติรูปํ, ตํ อเนสนํ อปฺปติรูปํ. อถ วา ปติรูปวิโรธินี อปฺปติรูปา, ปริคฺคหิตธุตงฺคสฺส ธุตงฺคนิยมวิโรธินี ยสฺส กสฺสจิ สลฺเลขวิโกปินี ปฏิปตฺติ. อิมสฺมึ ปกฺเข จ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ, อเนสนํ, อปฺปติรูปฺจ ปหายาติ. ปฏิเสวมาเนน ปริวชฺชยตา สมฺปาเทตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ปริสุทฺธุปฺปาเท’’ติ อิมินาว ธมฺมเทสนาทีนํ ปริสุทฺธาย สมุฏฺานตา ทีปิตา โหตีติ ‘‘ธมฺมเทสนาทีหิ จสฺส คุเณหิ ปสนฺนาน’’นฺติ วุตฺตํ. อาทิ-สทฺเทน พาหุสจฺจวตฺตปริปูรณอิริยาปถสมฺปตฺติอาทีนํ คหณํ เวทิตพฺพํ. ธุตคุเณ จสฺส ปสนฺนานนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปิณฺฑปาตจริยาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน มิตฺตสุหชฺชปํสุกูลจริยาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ธุตงฺคนิยมานุโลเมนาติ ตํตํธุตงฺคนิยตาย ปฏิปตฺติยา อนุโลมวเสน, อวิโกปนวเสนาติ อตฺโถ. มหิจฺฉสฺเสว มิจฺฉาชีเวน ชีวิกา, น อปฺปิจฺฉสฺส. อปฺปิจฺฉตาย อุกฺกํสคตาย มิจฺฉาชีวสฺส อสมฺภโว เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกพฺยาธิวูปสมตฺถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปูติหริตกีติ ปูติมุตฺตปริภาวิตํ, ปูติภาเวน วา ฉฑฺฑิตํ หริตกํ. อริยวํโส เอตสฺส อตฺถีติ, อริยวํเส วา นิยุตฺโตติ อริยวํสิโก, ปจฺจยเคธสฺส ทูรสมุสฺสาริตตฺตา อุตฺตโม จ โส อริยวํสิโก จาติ อุตฺตมอริยวํสิโก. ยสฺส กสฺสจีติ ปริคฺคหิตาปริคฺคหิตธุตงฺเคสุ ยสฺส กสฺสจิ.

นิมิตฺตํ นาม ปจฺจเย อุทฺทิสฺส ยถา อธิปฺปาโย ายติ เอวํ นิมิตฺตกมฺมํ. โอภาโส นาม อุชุกเมว อกเถตฺวา ยถา อธิปฺปาโย วิภูโต โหติ, เอวํ โอภาสนํ. ปริกถา นาม ปริยาเยน กถนํ. ตถา อุปฺปนฺนนฺติ นิมิตฺตาทิวเสน อุปฺปนฺนํ.

ทฺวารํ ทินฺนนฺติ โรคสีเสน ปริโภคสฺส ทฺวารํ ทินฺนํ. ตสฺมา อโรคกาเลปิ ปริภุฺชิตุํ วฏฺฏติ, อาปตฺติ น โหตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘กิฺจาปิ อาปตฺติ น โหตี’’ติอาทิ. น วฏฺฏตีติ สลฺเลขปฏิปตฺติยํ ิตสฺส น วฏฺฏติ, สลฺเลขํ โกเปตีติ อธิปฺปาโย. ‘‘อาชีวํ ปน โกเปตี’’ติ อิมินาว เสนาสนปฏิสํยุตฺตธุตงฺคธรสฺส นิมิตฺตาทโย น วฏฺฏนฺตีติ วทนฺติ. ตทฺธุตงฺคธรสฺสาปิ น วฏฺฏนฺติเยวาติ อปเร. อกโรนฺโตติ ยถาสกํ อนุฺาตวิสเยปิ อกโรนฺโต. อฺตฺเรวาติ เปตฺวา เอว.

คณวาสํ ปหาย อรฺายตเน ปฏิปฺปสฺสทฺธิวิเวกสฺส มุทฺธภูตาย อคฺคผลสมาปตฺติยา วิหรนฺโต มหาเถโร ‘‘ปวิเวกํ พฺรูหยมาโน’’ติ วุตฺโต. อุทรสนฺนิสฺสิโต วาตาพาโธ อุทรวาตาพาโธ. อสมฺภินฺนํ ขีรํ เอตสฺสาติ อสมฺภินฺนขีรํ, ตเทว ปายาสนฺติ อสมฺภินฺนขีรปายาสํ, อุทเกน อสมฺมิสฺสขีเรน ปกฺกปายาสนฺติ อตฺโถ. ตสฺสาติ ปายาสสฺส. อุปฺปตฺติมูลนฺติ ‘‘คิหิกาเล เม, อาวุโส, มาตา สปฺปิมธุสกฺกราทีหิ โยเชตฺวา อสมฺภินฺนขีรปายาสํ อทาสิ, เตน เม ผาสุ อโหสี’’ติ อตฺตโน วจีนิจฺฉารณสงฺขาตํ อุปฺปตฺติเหตุํ. ‘‘อปริโภคารโห ปิณฺฑปาโต’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ เถรสฺส โอภาสนาทิจิตฺตุปฺปตฺติเยว นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, อชฺฌาสยํ ปน อชานนฺตา เอกจฺเจ ปุถุชฺชนา ตถา มฺเยฺยุํ, อนาคเต จ สพฺรหฺมจาริโน เอวํ มม ทิฏฺานุคตึ อาปชฺเชยฺยุนฺติ ปฏิกฺขิปิ. อปิจ มหาเถรสฺส ปรมุกฺกํสคตา สลฺเลขปฏิปตฺติ. ตถา หิ ทหรภิกฺขุโน ‘‘กสฺส สมฺปนฺนํ น มนาป’’นฺติ (ปาจิ. ๒๐๙, ๒๕๗, ๖๑๒, ๑๒๒๘, ๑๒๓๔; จูฬว. ๓๔๓) วจนํ นิสฺสาย ยาว ปรินิพฺพานา ปิฏฺขาทนียํ น ขาทติ.

วจีวิฺตฺติวิปฺผาราติ วจีนิจฺฉารณเหตุ. อตฺถวิฺาปนวเสน ปวตฺตมาโน หิ สทฺโท อสติปิ วิฺตฺติยา ตสฺส เกนจิ ปจฺจเยน ปจฺจยภาเว วจีวิฺตฺติวเสเนว ปวตฺตตีติ ‘‘วจีวิฺตฺติวิปฺผาโร’’ติ วุจฺจติ. ภุตฺโตติ ภุตฺตวา สเจ ภเวยฺยํ อหํ. สาติ อสฺส. อการโลเปน หิ นิทฺเทโส ‘‘เอวํส เต’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๗) วิย. อนฺตคุณนฺติ อนฺตโภโค. พหิ จเรติ อาสยโต นิกฺขมิตฺวา โคจรคฺคหณวเสน พหิ ยทิ วิจเรยฺย. ปรมปฺปิจฺฉํ ทสฺเสตุํ โลกโวหาเรเนวมาห. โลเก หิ อยุตฺตโภชนํ โอทริยํ ครหนฺตา เอวํ วทนฺติ ‘‘กึสุ นาม ตสฺส อนฺตานิ พหิ จรนฺตี’’ติ. อาราเธมีติ อาทิโต ปฏฺาย ราเธมิ, วเส วตฺเตมีติ อตฺโถ.

มหาติสฺสตฺเถโร กิร ทุพฺภิกฺขกาเล มคฺคํ คจฺฉนฺโต ภตฺตจฺเฉเทน, มคฺคกิลมเถน จ กิลนฺตกาโย ทุพฺพโล อฺตรสฺส ผลิตสฺส อมฺพสฺส มูเล นิปชฺชิ, พหูนิ อมฺพผลานิ ตหํ ตหํ ปติตานิ โหนฺติ. ตตฺเถโก วุฑฺฒตโร อุปาสโก เถรสฺส สนฺติกํ อุปคนฺตฺวา ปริสฺสมํ ตฺวา อมฺพปานํ ปาเยตฺวา อตฺตโน ปิฏฺึ อาโรเปตฺวา วสนฏฺานํ เนติ. เถโร –

‘‘น ปิตา นปิ เต มาตา, น าติ นปิ พนฺธโว;

กโรเตตาทิสํ กิจฺจํ, สีลวนฺตสฺส การณา’’ติ. (วิสุทฺธิ. ๑.๒๐) –

อตฺตานํ โอวทิตฺวา สมฺมสนํ อารภิตฺวา วิปสฺสนํ วฑฺเฒตฺวา ตสฺส ปิฏฺิคโต เอว มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ สจฺฉากาสิ. อิมํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘อมฺพขาทกมหาติสฺสตฺเถรวตฺถุปิ เจตฺถ กเถตพฺพ’’นฺติ. สพฺพถาปีติ สพฺพปฺปกาเรนปิ อเนสนวเสน, จิตฺตุปฺปตฺติวเสนปิ, ปเคว กายวจีวิปฺผนฺทิตวเสนาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อเนสนายา’’ติอาทิ.

อปจฺจเวกฺขิตปริโภเค อิณปริโภคอาปตฺติอาทีนวสฺส, ตพฺพิปริยายโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภเค อานิสํสสฺส จ ทสฺสนํ อาทีนวานิสํสทสฺสนํ. ตสฺส ปน ปจฺจยาธิการตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปจฺจเยสู’’ติ. การณการณมฺปิ หิ การณภาเวน วุจฺจติ ยถา ติเณหิ ภตฺตํ สิทฺธนฺติ. เยน การเณน ภิกฺขุโน อปจฺจเวกฺขิตปริโภโค นาม สิยา, ตสฺมึ วชฺชิเต ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ สิชฺฌติ, วิสุชฺฌติ จาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปจฺจยเคธนฺติ เคธคฺคหเณเนว สมฺโมโหปิ คหิโตติ ทฏฺพฺโพ เตน สห ปวตฺตนโต, ตทุปนิสฺสยโต จ. ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺเนติ อิทํ ปจฺจยานํ อาคมนสุทฺธิทสฺสนํ, น ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลวิสุทฺธิทสฺสนํ. ปจฺจยานํ หิ อิทมตฺถิตํ อุปธาเรตฺวา ปริภุฺชนํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ. ยสฺมา ปน เต ปจฺจยา ายาธิคตา เอว ภิกฺขุนา ปริภุฺชิตพฺพา, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ธมฺเมน สเมน อุปฺปนฺเน ปจฺจเย’’ติ. ยถาวุตฺเตน วิธินาติ ‘‘สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; มหานิ. ๒๐๖) วุตฺตวิธินา.

ธาตุวเสนวาติ ‘‘ยถาปจฺจยํ วตฺตมานํ ธาตุมตฺตเมเวตํ, ยทิทํ จีวราทิ, ตทุปภุฺชโก จ ปุคฺคโล’’ติ เอวํ ธาตุมนสิการวเสน วา. ปฏิกูลวเสน วาติ ปิณฺฑปาเต ตาว อาหาเร ปฏิกูลสฺาวเสน, ‘‘สพฺพานิ ปน อิมานิ จีวราทีนิ อชิคุจฺฉนียานิ, อิมํ ปูติกายํ ปตฺวา อติวิย ชิคุจฺฉนียานิ ชายนฺตี’’ติ เอวํ ปฏิกูลมนสิการวเสน วา. ตโต อุตฺตรีติ ปฏิลาภกาลโต อุปริ. อนวชฺโชวปริโภโค อาทิโตว ปฺาย ปริโสธิตตฺตา อธิฏฺหิตฺวา ปิตปตฺตจีวรานํ วิยาติ. ปจฺจเวกฺขณาย อาทิสุทฺธิทสฺสนปรเมตํ, น ปริโภคกาเล ปจฺจเวกฺขณปฏิกฺเขปปรํ. เตนาห ‘‘ปริโภคกาเลปี’’ติอาทิ. ตตฺราติ ตสฺมึ ปริโภคกาเล ปจฺจเวกฺขเณ. สนฺนิฏฺานกโรติ อสนฺเทหกโร เอกนฺติโก.

เถยฺยปริโภโค นาม อนรหสฺส ปริโภโค. ภควตาปิ อตฺตโน สาสเน สีลวโต ปจฺจยา อนุฺาตา, น ทุสฺสีลสฺส. ทายกานมฺปิ สีลวโต เอว ปริจฺจาโค, น ทุสฺสีลสฺส. อตฺตโน การานํ มหปฺผลภาวสฺส ปจฺจาสีสนโต. อิติ สตฺถารา อนนุฺาตตฺตา, ทายเกหิ จ อปริจฺจตฺตตฺตา ทุสฺสีลสฺส ปริโภโค เถยฺยาย ปริโภโค เถยฺยปริโภโค. อิณวเสน ปริโภโค อิณปริโภโค, ปฏิคฺคาหกโต ทกฺขิณาวิสุทฺธิยา อภาวโต อิณํ คเหตฺวา ปริโภโค วิยาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ ‘‘สีลวโต’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ. จีวรํ กายโต โมเจตฺวา ปริโภเค ปริโภเค ปุเรภตฺต…เป… ปจฺฉิมยาเมสุ ปจฺจเวกฺขิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตถา อสกฺโกนฺเตน ยถาวุตฺตกาลวิเสสวเสน เอกทิวเส จตุกฺขตฺตุํ ติกฺขตฺตุํ ทฺวิกฺขตฺตุํ สกึเยว วา ปจฺจเวกฺขิตพฺพํ. สเจ อรุณํ อุคฺคจฺฉติ, อิณปริโภคฏฺาเน ติฏฺติ. หิยฺโย ยํ มยา จีวรํ ปริภุตฺตํ, ตํ ยาวเทว สีตสฺส ปฏิฆาตาย…เป… หิริโกปีนปฏิจฺฉาทนตฺถํ. หิยฺโย โย มยา ปิณฺฑปาโต ปริภุตฺโต, โส ‘‘เนว ทวายา’’ติอาทินา สเจ อตีตปริโภคปจฺจเวกฺขณํ น กเรยฺยาติ วทนฺติ, ตํ วีมํสิตพฺพํ. เสนาสนมฺปิ ปริโภเค ปริโภเคติ ปเวเส ปเวเส. สติปจฺจยตาติ สติยา ปจฺจยภาโว ปฏิคฺคหณสฺส, ปริโภคสฺส จ ปจฺจเวกฺขณสติยา ปจฺจยภาโว ยุชฺชติ, ปจฺจเวกฺขิตฺวาว ปฏิคฺคเหตพฺพํ, ปริภุฺชิตพฺพฺจาติ อตฺโถ. เตเนวาห ‘‘สตึ กตฺวา’’ติอาทิ. เอวํ สนฺเตปีติ ยทิปิ ทฺวีสุปิ าเนสุ ปจฺจเวกฺขณา ยุตฺตา, เอวํ สนฺเตปิ. อปเร ปนาหุ – สติ ปจฺจยตาติ สติ เภสชฺชปริโภคสฺส ปจฺจยภาเว, สติ ปจฺจเยติ อตฺโถ. เอวํ สนฺเตปีติ ปจฺจเย สติปีติ. ตํ เตสํ มติมตฺตํ. ตถา หิ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลํ ปจฺจเวกฺขณาย วิสุชฺฌติ, น ปจฺจยสฺส ภาวมตฺเตน.

เอวํ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตสีลสฺส วิสุทฺธึ ทสฺเสตฺวา เตเนว ปสงฺเคน สพฺพาปิ วิสุทฺธิโย ทสฺเสตุํ ‘‘จตุพฺพิธา หิ สุทฺธี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สุชฺฌติ เอตายาติ สุทฺธิ, ยถาธมฺมํ เทสนาว สุทฺธิ เทสนาสุทฺธิ. วุฏฺานสฺสาปิ เจตฺถ เทสนาย เอว สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ฉินฺนมูลาปตฺตีนํ ปน อภิกฺขุตาปฏิฺาว เทสนา. อธิฏฺานวิสิฏฺโ สํวโรว สุทฺธิ สํวรสุทฺธิ. ธมฺเมน สเมน ปจฺจยานํ ปริเยฏฺิ เอว สุทฺธิ ปริเยฏฺิสุทฺธิ. จตูสุปิ ปจฺจเยสุ วุตฺตวิธินา ปจฺจเวกฺขณาว สุทฺธิ ปจฺจเวกฺขณสุทฺธิ. เอส ตาว สุทฺธีสุ สมาสนโย. สุทฺธิมนฺเตสุ ปน เทสนา สุทฺธิ เอตสฺสาติ เทสนาสุทฺธิ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. สุทฺธิ-สทฺโท ปน วุตฺตนโยว. เอวนฺติ สํวรเภทํ สนฺธายาห. ปหายาติ วชฺเชตฺวา, อกตฺวาติ อตฺโถ.

ทาตพฺพฏฺเน ทายํ, ตํ อาทิยนฺตีติ ทายาทา. อนนุฺาเตสุ สพฺเพน สพฺพํ ปริโภคาภาวโต, อนุฺาเตสุ เอว จ ปริโภคสมฺภวโต ภิกฺขูหิ ปริภุฺชิตพฺพปจฺจยา ภควโต สนฺตกา. ‘‘ธมฺมทายาทา เม, ภิกฺขเว, ภวถ มา อามิสทายาทา. อตฺถิ เม ตุมฺเหสุ อนุกมฺปา ‘กินฺติ เม สาวกา ธมฺมทายาทา ภเวยฺยุํ โน อามิสทายาทา’’’ติ (ม. นิ. ๑.๒๙) เอวํ ปวตฺตํ ธมฺมทายาทสุตฺตฺจ เอตฺถ เอตสฺมึ อตฺเถ สาธกํ.

อวีตราคานํ ตณฺหาปรวสตาย ปจฺจยปริโภเค สามิภาโว นตฺถิ, ตทภาเวน วีตราคานํ ตตฺถ สามิภาโว ยถารุจิปริโภคสมฺภวโต. ตถา หิ เต ปฏิกูลมฺปิ อปฺปฏิกูลากาเรน, อปฺปฏิกูลมฺปิ ปฏิกูลากาเรน, ตทุภยมฺปิ วชฺเชตฺวา อชฺฌุเปกฺขนากาเรน ปจฺจเย ปริภุฺชนฺติ, ทายกานฺจ มโนรถํ ปริปูเรนฺติ. เตนาห ‘‘เต หิ ตณฺหาย ทาสพฺยํ อตีตตฺตา สามิโน หุตฺวา ปริภุฺชนฺตี’’ติ.

สพฺเพสนฺติ อริยานํ, ปุถุชฺชนานฺจ. กถํ ปุถุชฺชนานํ อิเม ปริโภคา สมฺภวนฺติ? อุปจารวเสน. โย หิ ปุถุชฺชนสฺสาปิ สลฺเลขปฏิปตฺติยํ ิตสฺส ปจฺจยเคธํ ปหาย ตตฺถ ตตฺถ อนุปลิตฺเตน จิตฺเตน ปริโภโค, โส สามิปริโภโค วิย โหติ. สีลวโต ปน ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค ทายชฺชปริโภโค วิย โหติ, ทายกานํ มโนรถสฺส อวิราธนโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ทายชฺชปริโภเคเยว วา สงฺคหํ คจฺฉตี’’ติ. กลฺยาณปุถุชฺชนสฺส ปริโภเค วตฺตพฺพเมว นตฺถิ, ตสฺส เสกฺขสงฺคหโต. เสกฺขสุตฺตํ (สํ. นิ. ๕.๑๓) เหตสฺสตฺถสฺส สาธกํ. เตนาห ‘‘สีลวาปิหี’’ติอาทิ. ปจฺจนีกตฺตาติ ยถา อิณายิโก อตฺตโน รุจิยา อิจฺฉิตเทสํ คนฺตุํ น ลภติ, เอวํ อิณปริโภคยุตฺโต โลกโต นิสฺสริตุํ น ลภตีติ ตปฺปฏิปกฺขตฺตา สีลวโต ปจฺจเวกฺขิตปริโภโค อาณณฺยปริโภโคติ อาห ‘‘อาณณฺยปริโภโค วา’’ติ. เอเตน นิปฺปริยายโต จตุปริโภควินิมุตฺโต วิสุํเยวายํ ปริโภโคติ ทสฺเสติ. อิมาย สิกฺขายาติ สีลสงฺขาตาย สิกฺขาย. กิจฺจการีติ ปฏิฺานุรูปํ ปฏิปชฺชนโต ยุตฺตปตฺตการี.

อิทานิ ตเมว กิจฺจการิตํ สุตฺตปเทน วิภาเวตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วิหารนฺติ ปติสฺสยํ. สยนาสนนฺติ มฺจาทึ. อุภเยนปิ เสนาสนเมว วุตฺตํ. อาปนฺติ อุทกํ. สงฺฆาฏิรชูปวาหนนฺติ ปํสุมลาทิโน สงฺฆาฏิคตรชสฺส โธวนํ. สุตฺวาน ธมฺมํ สุคเตน เทสิตนฺติ จีวราทีสุ ‘‘ปฏิสงฺขา โยนิโส จีวรํ ปฏิเสวติ สีตสฺส ปฏิฆาตายา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; อ. นิ. ๖.๕๘; มหานิ. ๒๐๖) นเยน ภควตา เทสิตํ ธมฺมํ สุตฺวา. สงฺขาย เสเว วรปฺสาวโกติ ‘‘ปิณฺฑ’’นฺติ วุตฺตํ ปิณฺฑปาตํ, วิหาราทิปเทหิ วุตฺตํ เสนาสนํ, ‘‘ปิปาสาเคลฺสฺส วูปสมนโต ปานียมฺปิ คิลานปจฺจโย’’ติ อาปมุเขน ทสฺสิตํ คิลานปจฺจยํ, สงฺฆาฏิยาทิจีวรนฺติ จตุพฺพิธํ ปจฺจยํ สงฺขาย ‘‘ยาวเทว อิมสฺส กายสฺส ิติยา’’ติอาทินา (ม. นิ. ๑.๒๓; ๒.๒๔; ๓.๗๕; สํ. นิ. ๔.๑๒๐; อ. นิ. ๖.๕๘; ๘.๙; ธ. ส. ๑๓๕๕) นเยน ปจฺจเวกฺขิตฺวา. เสเว เสวิตุํ สกฺกุเณยฺย อุตฺตมปฺสฺส ภควโต สาวโก เสโข วา ปุถุชฺชโน วา.

ยสฺมา จ สงฺขาย เสวี วรปฺสาวโก, ตสฺมา หิ ปิณฺเฑ…เป… โปกฺขเร วาริพินฺทุ, ตถา โหติ. กาเลนาติ อริยานํ โภชนกาเล. ลทฺธาติ ลภิตฺวา. ปรโตติ อฺโต ทายกโต. อนุคฺคหาติ อนุกมฺปาย พหุมฺหิ อุปนีเต มตฺตํ โส ชฺา ชาเนยฺย สตตํ สพฺพกาลํ อุปฏฺิโต อุปฏฺิตสฺสติ. อาเลปนรูหเน ยถาติ เภสชฺชเลปเนน วณสฺส รุหเน วิย, มตฺตํ ชาเนยฺยาติ โยชนา. อาหเรติ อาหเรยฺย. ‘‘อาหเรยฺยาหาร’’นฺติ วา ปาโ. ยาปนตฺถนฺติ สรีรสฺส ยาปนาย. อมุจฺฉิโตติ ตณฺหามุจฺฉาย อมุจฺฉิโต เคธํ ตณฺหํ อนาปนฺโน.

อตฺตโน มาตุลสฺส สงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺเสว นามสฺส คหิตตฺตา ภาคิเนยฺยสงฺฆรกฺขิตสามเณโร. สาลิกูรนฺติ สาลิภตฺตํ. สุนิพฺพุตนฺติ สุสีตลํ. อสฺโตติ อปจฺจเวกฺขณํ สนฺธายาห. สพฺพาสวปริกฺขีโณติ ปริกฺขีณสพฺพาสโว.

ปมสีลปฺจกวณฺณนา

๒๐. ปริยนฺโต เอเตสํ อตฺถีติ ปริยนฺตานิ, ปริยนฺตานิ สิกฺขาปทานิ เยสํ เต ปริยนฺตสิกฺขาปทา, เตสํ ปริยนฺตสิกฺขาปทานํ. อุปสมฺปนฺนานนฺติ เปตฺวา กลฺยาณปุถุชฺชนเสกฺขาเสกฺเข ตทฺเสํ อุปสมฺปนฺนานํ. สามฺโชตนาปิ หิ วิเสเส ติฏฺติ. กุสลธมฺเม ยุตฺตานนฺติ วิปสฺสนาจาเร ยุตฺตปยุตฺตานํ. เสกฺขธมฺมา ปริยนฺตา ปรมา มริยาทา เอตสฺสาติ เสกฺขปริยนฺโต. นามรูปปริจฺเฉทโต, กุสลธมฺมสมาทานโต วา ปน ปฏฺาย ยาว โคตฺรภู, ตาว ปวตฺตกุสลธมฺมปฺปพนฺโธ เสกฺขธมฺเม อาหจฺจ ิโต เสกฺขปริยนฺโต. เสกฺขธมฺมานํ วา เหฏฺิมนฺตภูตา สิกฺขิตพฺพา โลกิยา ติสฺโส สิกฺขา เสกฺขปริยนฺโต, ตสฺมึ เสกฺขปริยนฺเต. ปริปูรการีนนฺติ กิฺจิปิ สิกฺขํ อหาเปตฺวา ปูเรนฺตานํ. อุปริวิเสสาธิคมตฺถํ กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขานํ. ตโต เอว สีลปาริปูริอตฺถํ ปริจฺจตฺตชีวิตานํ. ทิฏฺิสํกิเลเสน อปรามสนียโต ปาริสุทฺธิวนฺตํ สีลํ อปรามฏฺปาริสุทฺธิสีลํ. กิเลสานํ สพฺพโส ปฏิปฺปสฺสทฺธิยา ปาริสุทฺธิวนฺตํ สีลํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิปาริสุทฺธิสีลํ.

อนุปสมฺปนฺนานํ อเสกฺขานํ, เสกฺขานํ, กลฺยาณปุถุชฺชนานฺจ สีลํ มหานุภาวตาย อานุภาวโต อปริยนฺตเมวาติ อาห ‘‘คณนวเสน สปริยนฺตตฺตา’’ติ. กายวาจานํ สํวรณโต, วินยนโต จ สํวรวินยา. เปยฺยาลมุเขน นิทฺทิฏฺาติ ตตฺถ ตตฺถ สตฺถารา เทสิตวิตฺถารนเยน ยถาวุตฺตคณนโต นิทฺทิฏฺา. สิกฺขาติ สีลสงฺขาตา สิกฺขา. วินยสํวเรติ วินยปิฏเก. คณนวเสน สปริยนฺตมฺปิ อุปสมฺปนฺนานํ สีลนฺติ เหฏฺา วุตฺตํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยํ กิฺจิ หิ อุปสมฺปนฺเนน สิกฺขิตพฺพํ สีลํ นาม, ตตฺถ กสฺสจิปิ อนวเสสโต อนวเสสวเสน. สมาทานภาวนฺติ สมาทานสพฺภาวํ. ลาภ…เป… วเสน อทิฏฺปริยนฺตภาโว ลาภาทิเหตุ สีลสฺส อวีติกฺกโม.

ธนํ จเช องฺควรสฺส เหตุ ปาริปนฺถิกโจราทีหิ อุปทฺทุโต. องฺคํ จเช ชีวิตํ รกฺขมาโน สปฺปทฏฺาทิกาเล. องฺคํ ธนํ ชีวิตฺจาปิ สพฺพํ, จเช นโร ธมฺมมนุสฺสรนฺโต สุตโสมมหาโพธิสตฺตาทโย วิย. เตนาห ‘‘อิมํ สปฺปุริสานุสฺสตึ อวิชหนฺโต’’ติ. ชิฆจฺฉาปริสฺสเมน ชีวิตสํสเย สติปิ. สิกฺขาปทํ อวีติกฺกมฺมาติ อสฺสามิเกสุ อมฺพผเลสุ ภูมิยํ ปติเตสุ สมีเปเยว สนฺเตสุปิ ปฏิคฺคาหกาภาเวน อปริภุฺชนฺโต ปฏิคฺคหณสิกฺขาปทํ อวีติกฺกมิตฺวา.

สีลวนฺตสฺสาติ สีลวนฺตภาวสฺส การณา, สีลวนฺตสฺส วา ตุยฺหํ เอตาทิสํ อํเสน วาหณาทิกํ กิจฺจํ กโรติ, การณา สีลสฺสาติ อธิปฺปาโย. สุโธตชาติมณิ วิยาติ จตูสุ ปาสาเณสุ สมฺมเทว โธตชาติมณิ วิย. มหาสงฺฆรกฺขิตภาคิเนยฺยสงฺฆรกฺขิตตฺเถรานํ วิยาติ มหาสงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺส, ตสฺเสว ภาคิเนยฺยสงฺฆรกฺขิตตฺเถรสฺส วิย จ. ‘‘กิมตฺถํ มยํ อิธาคตา’’ติ มหาชนสฺส วิปฺปฏิสาโร ภวิสฺสตีติ อธิปฺปาโย. อจฺฉริกายาติ องฺคุลิโผฏเนน. อสติยาติ สติสมฺโมเสน. อฺาณปกตนฺติ อฺาเณน อปรชฺฌิตฺวา กตํ, อชานิตฺวา กตนฺติ อตฺโถ.

อปฺปสฺสุโตปิ เจ โหตีติ สุตฺตเคยฺยาทิสุตรหิโต โหติ เจ. สีเลสุ อสมาหิโตติ ปาติโมกฺขสํวราทิสีเลสุปิ น สมฺมา ปติฏฺิโต โหติ เจ. นาสฺส สมฺปชฺชเต สุตนฺติ อสฺส สีลรหิตสฺส ปุคฺคลสฺส สุตํ อตฺตโน, ปเรสฺจ กตฺถจิ ภวสมฺปตฺติอาวหํ น โหติ. ‘‘ทุสฺสีโลยํ ปุริสปุคฺคโล’’ติ หิ สิกฺขากามา น ตสฺส สนฺติกํ อุปสงฺกมนฺติ. พหุสฺสุโตปิ เจติ เอตฺถ เจ-ติ นิปาตมตฺตํ. ปสํสิโตติ ปสํสิโต เอว นาม.

ราควเสน อปรามฏฺคหเณน ตณฺหาปรามาสาภาวมาห. ตถารูปนฺติ ราควเสน อปรามฏฺํ. ภินฺทิตฺวาติ หนิตฺวา. สฺเปสฺสามีติ สฺตฺตึ กริสฺสามิ, อปฺปกํ เวลํ มํ วิสฺเสชฺเชตุนฺติ อธิปฺปาโย. อฏฺฏิยามีติ ชิคุจฺฉามิ. หรายามีติ ลชฺชามิ.

ปลิปนฺโนติ สีทนฺโต, สมฺมกฺขิโต วา. สีเลเนว สทฺธึ มริสฺสามีติ สีลํ อวินาเสนฺโต เตน สเหว มริสฺสามิ, น อิทานิ กทาจิปิ ตํ ปริจฺจชิสฺสามิ. สติ หิ ภวาทาเน สีเลน วิโยโค สิยา, ภวเมว นาทิยิสฺสามีติ อธิปฺปาโย. โรคํ สมฺมสนฺโตติ โรคภูตํ เวทนํ เวทนามุเขน เสสารูปธมฺเม, รูปธมฺเม จ ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนฺโต.

รุปฺปโตติ วิการํ อาปาทิยมานสรีรสฺส. ปริสุสฺสตีติ สมนฺตโต สุสฺสติ. ยถา กึ? ปุปฺผํ ยถา ปํสุนิ อาตเป กตํ สูริยาตปสนฺตตฺเต ปํสุนิ ปิตํ สิรีสาทิปุปฺผํ วิยาติ อตฺโถ. อชฺนฺติ อมนุฺํ ชิคุจฺฉนียํ. ชฺสงฺขาตนฺติ พาเลหิ ‘‘ชฺ’’นฺติ เอวํ กิตฺติตํ. ชฺรูปํ อปสฺสโตติ ยถาภูตํ อปฺปสฺสโต อวิทฺทสุโน ‘‘ชฺ’’นฺติ ปสํสิตํ. ธิรตฺถุมนฺติ ธิ อตฺถุ อิมํ, ธิ-สทฺทโยเคน สพฺพตฺถ อุปโยควจนํ, อิมสฺส ปูติกายสฺส ธิกาโร โหตูติ อตฺโถ. ทุคฺคนฺธิยนฺติ ทุคฺคนฺธิกํ ทุคฺคนฺธวนฺตํ. ยตฺถ ยถาวุตฺเต ปูติกาเย ราคเหตุ ปมตฺตา ปมาทํ อาปนฺนา. ปชาติ สตฺตา. หาเปนฺติ มคฺคํ สุคตูปปตฺติยาติ สุคตูปปตฺติยา มคฺคํ, สีลมฺปิ หาเปนฺติ, ปเคว ฌานาทินฺติ อธิปฺปาโย. เกวลํ ‘‘อรหนฺโต’’ติ วตฺตพฺพา สาวกขีณาสวา, อิตเร ปน ปจฺเจกพุทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺธาติ สห วิเสสเนนาติ อาห ‘‘อรหนฺตาทีน’’นฺติ. สพฺพทรถปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิยาติ สพฺพกิเลสทรถปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิยา.

ทุติยสีลปฺจกวณฺณนา

ปาณาติปาตาทีนนฺติ อาทิ-สทฺเทน อทินฺนาทานาทีนํ อคฺคมคฺควชฺฌกิเลสปริโยสานานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปหานาทีติ อาทิ-สทฺเทน เวรมณิอาทีนํ จตุนฺนํ. เกสุจิ โปตฺถเกสุ ‘‘ปหานวเสนา’’ติ ลิขนฺติ, สา ปมาทเลขา. ปาณาติปาตสฺส ปหานํ สีลนฺติ หิโรตฺตปฺปกรุณาโลภาทิปมุเขน เยน กุสลจิตฺตุปฺปาเทน ปาณาติปาโต ปหียติ, ตํ ปาณาติปาตสฺส ปหานํ สีลนฏฺเน สีลํ. ตถา ปาณาติปาตา วิรติ เวรมณี สีลํ. ปาณาติปาตสฺส ปฏิปกฺขเจตนา เจตนา สีลํ. ปาณาติปาตสฺส สํวรณํ ปเวสทฺวารปิธานํ สํวโร สีลํ. ปาณาติปาตสฺส อวีติกฺกมนํ อวีติกฺกโม สีลํ. อทินฺนาทานสฺสาติอาทีสุปิ เอเสว นโย. อภิชฺฌาทีนํ ปน อนภิชฺฌาทิวเสน ปหานํ เวทิตพฺพํ. เวรมณี เจตนา ตํสมฺปยุตฺตา สํวราวีติกฺกมา ตปฺปมุขา ธมฺมา.

เอวํ ทสกุสลกมฺมปถวเสน ปหานสีลาทีนิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายานํ อฏฺนฺนํ สมาปตฺตีนํ, อฏฺารสนฺนํ มหาวิปสฺสนานํ, อริยมคฺคานฺจ วเสน ตานิ ทสฺเสตุํ ‘‘เนกฺขมฺเมนา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เนกฺขมฺเมนาติ อโลภปฺปธาเนน กุสลจิตฺตุปฺปาเทน. กุสลา หิ ธมฺมา กามปฏิปกฺขา อิธ ‘‘เนกฺขมฺม’’นฺติ อธิปฺเปตา. เตนาห ‘‘กามจฺฉนฺทสฺส ปหานํ สีล’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ปหานสีลาทีนิ เหฏฺา วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพานิ. วิเสสเมว วกฺขาม. อพฺยาปาเทนาติ เมตฺตาย. อาโลกสฺายาติ วิภูตํ กตฺวา มนสิกรเณน อุปฏฺิตอาโลกสฺชานเนน . อวิกฺเขเปนาติ สมาธินา. ธมฺมววตฺถาเนนาติ กุสลาทิธมฺมานํ ยาถาวนิจฺฉเยน. สปจฺจยนามรูปววตฺถาเนนาติปิ วทนฺติ.

เอวํ กามจฺฉนฺทาทินีวรณปฺปหาเนน ‘‘อภิชฺฌํ โลเก ปหายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๓๘) วุตฺตาย ปมชฺฌานาธิคมสฺส อุปายภูตาย ปุพฺพภาคปฏิปทาย วเสน ปหานสีลาทีนิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ สอุปายานํ อฏฺสมาปตฺติอาทีนํ วเสน ทสฺเสตุํ ‘‘าเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นามรูปปริคฺคหกงฺขาวิตรณานํ หิ วิพนฺธภูตสฺส โมหสฺส ทูรีกรเณน าตปริฺาย ิตสฺส อนิจฺจสฺาทโย สิชฺฌนฺติ. ตถา ฌานสมาปตฺตีสุ อภิรตินิมิตฺเตน ปาโมชฺเชน. ตตฺถ อนภิรติยา วิโนทิตาย ฌานาทีนํ สมธิคโมติ สมาปตฺติวิปสฺสนานํ อรติวิโนทนอวิชฺชาปทาลนาทินา อุปาโยติ วุตฺตํ ‘‘าเณน อวิชฺชาย, ปาโมชฺเชน อรติยา’’ติ. อุปฺปฏิปาฏินิทฺเทโส ปน นีวรณสภาวาย อวิชฺชาย เหฏฺานีวรเณสุปิ สงฺคหทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ.

‘‘ปเมนฌาเนน นีวรณาน’’นฺติอาทีสุ กถํ ฌานานํ สีลภาโว, กถํ วา ตตฺถ วิรติยา สมฺภโว. สุวิสุทฺธกายกมฺมาทิกสฺส หิ จิตฺตสมาทานวเสน อิมานิ ฌานานิ ปวตฺตนฺติ, น ปริตฺตกุสลานิ วิย กายกมฺมาทิวิโสธนวเสน, นาปิ มคฺคผลธมฺมา วิย ทุจฺจริตทุราชีวสมุจฺเฉทปฏิปฺปสฺสมฺภนวเสนาติ? สจฺจเมตํ. มหคฺคตธมฺเมสุ นิปฺปริยาเยน นตฺถิ สีลนฏฺโ, กุโต วิรมณฏฺโ. ปริยาเยน ปเนตํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โก ปน โส ปริยาโย? ยทคฺเคน มหคฺคตา กุสลธมฺมา ปฏิปกฺเข ปชหนฺติ, ตทคฺเคน ตโต โอรตา. เต จ ยถา จิตฺตํ นาโรหนฺติ, เอวํ สํวุตา นาม โหนฺติ. ปริยุฏฺานสงฺขาโต มโนทฺวาเร วีติกฺกโม นตฺถิ เอเตสูติ อวีติกฺกมาติ จ วุจฺจนฺติ, เจตนา ปน ตํสมฺปยุตฺตาติ. โสยมตฺโถ ปรโต อาคมิสฺสติ. เอวฺจ กตฺวา วิตกฺกาทิปหานวจนมฺปิ สมตฺถิตํ โหติ. น หิ นิปฺปริยายโต สีลํ กุสลธมฺมานํ ปหายกํ ยุชฺชติ, น เจตฺถ อกุสลวิตกฺกาทโย อธิปฺเปตา. กิฺจาปิ ปมชฺฌานูปจาเรเยว ทุกฺขสฺส, จตุตฺถชฺฌานูปจาเร จ สุขสฺส ปหานํ โหติ, อติสยปหานํ ปน สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘จตุตฺเถน ฌาเนน สุขทุกฺขานํ ปหาน’’นฺติ. ‘‘อากาสานฺจายตนสมาปตฺติยา’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ อารุปฺปกถายํ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๗๕ อาทโย) อาคมิสฺสติ.

อนิจฺจสฺส, อนิจฺจนฺติ วา อนุปสฺสนา อนิจฺจานุปสฺสนา. เตภูมิกธมฺมานํ อนิจฺจตํ คเหตฺวา ปวตฺตาย วิปสฺสนาเยตํ นามํ. นิจฺจสฺายาติ ‘‘สงฺขตธมฺมา นิจฺจา สสฺสตา’’ติ เอวํ ปวตฺตาย มิจฺฉาสฺาย, สฺาคฺคหเณเนว ทิฏฺิจิตฺตานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอส นโย อิโต ปราสุปิ. นิพฺพิทานุปสฺสนายาติ สงฺขาเรสุ นิพฺพินฺทนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. นนฺทิยาติ สปฺปีติกตณฺหาย. วิราคานุปสฺสนายาติ วิรชฺชนากาเรน ปวตฺตาย อนุปสฺสนาย. ราคสฺสาติ สงฺขาเรสุ ราคสฺส. นิโรธานุปสฺสนายาติ สงฺขารานํ นิโรธสฺส อนุปสฺสนาย. ยถา วา สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว, อายตึ ปุนพฺภววเสน น อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ อนุปสฺสนา นิโรธานุปสฺสนา. เตเนวาห ‘‘นิโรธานุปสฺสนาย นิโรเธติ โน สมุเทตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๘๓). มุฺจิตุกามตาย หิ อยํ พลปฺปตฺตา. สงฺขารานํ ปฏินิสฺสชฺชนากาเรน ปวตฺตา อนุปสฺสนา ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนา. ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา หิ อยํ . อาทานสฺสาติ นิจฺจาทิวเสน คหณสฺส. สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณวเสน เอกตฺตคหณํ ฆนสฺา, ตสฺสา ฆนสฺาย. อายูหนสฺสาติ อภิสงฺขรณสฺส. สงฺขารานํ อวตฺถาทิวิเสสาปตฺติ วิปริณาโม. ธุวสฺายาติ ถิรภาวคหณสฺส. นิมิตฺตสฺสาติ สมูหาทิฆนวเสน สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สงฺขารานํ สวิคฺคหตาย. ปณิธิยาติ ราคาทิปณิธิยา, ตณฺหาวเสน สงฺขาเรสุ นินฺนตายาติ อตฺโถ. อภินิเวสสฺสาติ อตฺตานุทิฏฺิยา. อนิจฺจทุกฺขาทิวเสน สพฺพเตภูมกธมฺมติรณา อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา. สาราทานาภินิเวสสฺสาติ อสาเรสุ สารคหณวิปลฺลาสสฺส. ยถาภูตาณทสฺสนํ ถิรภาวปตฺตา อนิจฺจาทิอนุปสฺสนาว. อุทยพฺพยาณนฺติ เกจิ. สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนนฺติ อปเร. ‘‘อิสฺสรกุตฺตาทิวเสน โลโก สมุปฺปนฺโน’’ติ อภินิเวโส สมฺโมหาภินิเวโส. อุจฺเฉทสสฺสตาภินิเวโสติ เกจิ. ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติอาทินยปฺปวตฺตา (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐; มหานิ. ๑๗๔) สํสยาปตฺติ สมฺโมหาภินิเวโสติ อปเร. สงฺขาเรสุ ตาณเลณภาวคหณํ อาลยาภินิเวโส. ‘‘อาลยรตา อาลยสมฺมุทิตา’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๗; ม. นิ. ๑.๒๘๑; ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) วจนโต อาลโย ตณฺหา. สา เอว จกฺขาทีสุ, รูปาทีสุ จ อภินิวิสนวเสน ปวตฺติยา อาลยาภินิเวโสติ อปเร. ‘‘เอวํ ิตา เต สงฺขารา ปฏินิสฺสชฺชียนฺตี’’ติ ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา. อปฺปฏิสงฺขา ปฏิสงฺขาย ปฏิปกฺขภูตา โมหปฺปธานา อกุสลธมฺมา. วฏฺฏโต วิคตตฺตา วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ, ตตฺถ นินฺนภาวสงฺขาเตน อนุปสฺสเนน ปวตฺติ วิวฏฺฏานุปสฺสนา, สงฺขารุเปกฺขา เจว อนุโลมาณฺจ. สฺโคาภินิเวโส สํยุชฺชนวเสน สงฺขาเรสุ อภินิวิสนํ.

ทิฏฺเกฏฺานนฺติ ทิฏฺิยา สหเชกฏฺานฺจ ปหาเนกฏฺานฺจ. โอฬาริกานนฺติ อุปริมคฺควชฺเฌ กิเลเส อุปาทาย วุตฺตํ. อฺถา ทสฺสเนน ปหาตพฺพาปิ ทุติยมคฺควชฺเฌหิ โอฬาริกา. อณุสหคตานนฺติ อณุภูตานํ, อิทํ เหฏฺิมมคฺควชฺเฌ อุปาทาย วุตฺตํ. สพฺพกิเลสานนฺติ อวสิฏฺสพฺพกิเลสานํ. น หิ ปมมคฺคาทีหิ ปหีนา กิเลสา ปุน ปหียนฺติ.

‘‘จิตฺตสฺสอวิปฺปฏิสาราย สํวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ สํวโร อวิปฺปฏิสารตฺถาย. ‘‘อวิปฺปฏิสารตฺถานิ โข, อานนฺท, กุสลานิ สีลานี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๑) วจนโต เจตโส อวิปฺปฏิสารตฺถาย ภวนฺติ. อวิปฺปฏิสาโร ปาโมชฺชตฺถาย. ‘‘โยนิโส มนสิ กโรโต ปาโมชฺชํ ชายตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๕๙) วจนโต ปาโมชฺชาย สํวตฺตนฺติ. ปาโมชฺชํ ปีติยา. ‘‘ปมุทิตสฺส ปีติ ชายตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต ปีติยา สํวตฺตนฺติ. ปีติ ปสฺสทฺธตฺถาย. ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต ปสฺสทฺธิยา สํวตฺตนฺติ. ปสฺสทฺธิ สุขตฺถาย. ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต โสมนสฺสาย สํวตฺตนฺตีติ. ‘‘สุขตฺถาย สุขํ เวเทตี’’ติ เจตฺถ โสมนสฺสํ ‘‘สุข’’นฺติ วุตฺตํ. อาเสวนายาติ สมาธิสฺส อาเสวนาย. นิรามิเส หิ สุเข สิทฺเธ ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; อ. นิ. ๓.๙๖; ๖.๑๐; ๑๑.๑๒) วจนโต สมาธิ สิทฺโธเยว โหติ, ตสฺมา สมาธิสฺส อาเสวนาย ปคุณพลวภาวาย สํวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. ภาวนายาติ ตสฺเสว สมาธิสฺส วฑฺฒิยา. พหุลีกมฺมายาติ ปุนปฺปุนํ กิริยาย. อลงฺการายาติ ตสฺเสว สมาธิสฺส ปสาธนภูตสทฺธินฺทฺริยาทินิปฺผตฺติยา อลงฺการาย สํวตฺตนฺติ. ปริกฺขารายาติ อวิปฺปฏิสาราทิกสฺส สมาธิสมฺภารสฺส สิทฺธิยา ตสฺเสว สมาธิสฺส ปริกฺขาราย สํวตฺตนฺติ. สมฺภารตฺโถ หิ อิธ ปริกฺขาร-สทฺโท. ‘‘เย จ โข อิเม ปพฺพชิเตน ชีวิตปริกฺขารา สมุทาเนตพฺพา’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๑๙๑) วิย สมฺภาโรติ จ ปจฺจโย เวทิตพฺโพ. กามฺจายํ ปริกฺขาร-สทฺโท ‘‘รโถ สีลปริกฺขาโร’’ติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๔) อลงฺการตฺโถ. ‘‘สตฺตหิ นครปริกฺขาเรหิ สุปริกฺขตฺตํ โหตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๗.๖๗) ปริวารตฺโถ วุตฺโต. อิธ ปน อลงฺการปริวารานํ วิสุํ คหิตตฺตา ‘‘สมฺภารตฺโถ’’ติ วุตฺตํ . ปริวารายาติ มูลการณภาเวเนว สมาธิสฺส ปริวารภูตสติวีริยาทิธมฺมวิเสสสาธเนน ปริวารสมฺปตฺติยา สํวตฺตนฺติ. ปาริปูริยาติ วสีภาวสมฺปาปเนน, วิปสฺสนาย ปทฏฺานภาวาปาทเนน จ ปริปุณฺณภาวสาธนโต สมาธิสฺส ปาริปูริยา สํวตฺตนฺติ.

เอวํ สุปริสุทฺธสีลมูลกํ สพฺพาการปริปูรํ สมาธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ‘‘สมาหิโต ปชานาติ ปสฺสติ, ยถาภูตํ ชานํ ปสฺสํ นิพฺพินฺทติ, นิพฺพินฺทํ วิรชฺชติ , วิราคา วิมุจฺจตี’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๒; ส. นิ. ๓.๑๔) วจนโต สีลมูลกานิ สมาธิปทฏฺานานิ ปโยชนานิ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกนฺตนิพฺพิทายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. นิพฺพิทาย หิ ทสฺสิตาย ตสฺสา ปทฏฺานภูตํ ยถาภูตาณทสฺสนํ ทสฺสิตเมว โหติ, ตสฺมึ อสติ นิพฺพิทาย อสิชฺฌนโต. นิพฺพิทาทโย อตฺถโต วิภตฺตา เอว. ยถาภูตาณทสฺสนนฺติ ปเนตฺถ สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ อธิปฺเปตํ. เอวเมตฺถ อมตมหานิพฺพานปริโยสานํ สีลสฺส ปโยชนํ ทสฺสิตนฺติ เวทิตพฺพํ.

อิทานิ ปหานาทีสุ สีลตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ปชหนํ อนุปฺปาทนิโรโธ ปหานนฺติ ตสฺส ภาวสาธนตํ สนฺธาย ‘‘ปหานนฺติ โกจิ ธมฺโม นาม นตฺถี’’ติ วุตฺตํ. ยถา ปนสฺส ธมฺมภาโว สมฺภวติ, ตถา เหฏฺา สํวณฺณิตเมว. เอวํ หิสฺส สีลภาโว สุฏฺุ ยุชฺชติ. ตํ ตํ ปหานนฺติ ‘‘ปาณาติปาตสฺส ปหานํ, อทินฺนาทานสฺส ปหาน’’นฺติ เอวํ วุตฺตํ ตํ ตํ ปหานํ. ตสฺส ตสฺส กุสลธมฺมสฺสาติ ปาณาติปาตสฺส ปหานํ เมตฺตาทิกุสลธมฺมสฺส, อทินฺนาทานสฺส ปหานํ จาคาทิกุสลธมฺมสฺสาติ เอวํ ตสฺส ตสฺส กุสลธมฺมสฺส. ปติฏฺานฏฺเนาติ ปติฏฺานภาเวน. ปหานํ หิ ตสฺมึ สติ โหติ, อสติ น โหติ, ตสฺส ‘‘ปติฏฺาน’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภตีติ กตฺวา ยสฺมึ สนฺตาเน ปาณาติปาตาทโย ตสฺส ปกมฺปเหตโวติ ตปฺปหานํ วิกมฺปาภาวกรเณน จ สมาธานํ วุตฺตํ. เอวํ เสสปหาเนสุปิ วตฺตพฺพํ. สมาธานํ สณฺปนํ, สํยมนํ วา. อิตเร จตฺตาโรติ เวรมณิอาทโย จตฺตาโร ธมฺมา น ปหานํ วิย โวหารมตฺตนฺติ อธิปฺปาโย. ตโต ตโตติ ตมฺหา ตมฺหา ปาณาติปาตาทิโต. ตสฺส ตสฺสาติ ปาณาติปาตาทิกสฺส สํวรณวเสน, ตสฺส ตสฺส วา สํวรสฺส วเสน. ตทุภยสมฺปยุตฺตเจตนาวเสนาติ เวรมณีหิ, สํวรธมฺเมหิ จ สมฺปยุตฺตาย เจตนาย วเสน. ตํ ตํ อวีติกฺกมนฺตสฺสาติ ตํ ตํ ปาณาติปาตาทึ อวีติกฺกมนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส, ธมฺมสมูหสฺส วา วเสน เจตโส ปวตฺติสพฺภาวํ สนฺธาย วุตฺตา. ตสฺมา เอกกฺขเณปิ ลพฺภนฺตีติ อธิปฺปาโย.

สีลสํกิเลสโวทานวณฺณนา

๒๑. สํกิลิสฺสติ เตนาติ สํกิเลโส. โก ปน โสติ อาห ‘‘ขณฺฑาทิภาโว สีลสฺส สํกิเลโส’’ติ. โวทายติ วิสุชฺฌติ เอเตนาติ โวทานํ, อขณฺฑาทิภาโว. ลาภยสาทีติ อาทิ-สทฺเทน าติองฺคชีวิตาทีนํ สงฺคโห. สตฺตสุ อาปตฺติกฺขนฺเธสุ อาทิมฺหิ วา อนฺเต วา เวมชฺเฌติ จ อิทํ เตสํ อุทฺเทสาทิปาฬิวเสน วุตฺตํ. น หิ อฺโ โกจิ อาปตฺติกฺขนฺธานํ อนุกฺกโม อตฺถิ. ขณฺฑนฺติ ขณฺฑวนฺตํ, ขณฺฑิตํ วา. ฉิทฺทนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ปริยนฺเต ฉินฺนสาฏโก วิยาติ วตฺถนฺเต, ทสนฺเต วา ฉินฺนวตฺถํ วิย.

เอวนฺติ อิทานิ วุจฺจมานากาเรน. เมถุนสํโยควเสนาติ ราคปริยุฏฺาเนน สทิสภาวาปตฺติยา มิถุนานํ อิทนฺติ เมถุนํ, นิพนฺธนํ. เมถุนวเสน สมาโยโค เมถุนสํโยโค. อิธ ปน เมถุนสํโยโค วิยาติ เมถุนสํโยโค, ตสฺส วเสน. อิธาติ อิมสฺมึ โลเก. เอกจฺโจติ เอโก. สมโณ วา พฺราหฺมโณ วาติ ปพฺพชฺชามตฺเตน สมโณ วา ชาติมตฺเตน พฺราหฺมโณ วา. ทฺวยํทฺวยสมาปตฺตินฺติ ทฺวีหิ ทฺวีหิ สมาปชฺชิตพฺพํ, เมถุนนฺติ อตฺโถ. น เหว โข สมาปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. อุจฺฉาทนํ อุพฺพตฺตนํ. สมฺพาหนํ ปริมทฺทนํ. สาทิยตีติ อธิวาเสติ. ตทสฺสาเทตีติ ตํ อุจฺฉาทนาทึ อภิรมติ. นิกาเมตีติ อิจฺฉติ. วิตฺตินฺติ ตุฏฺึ. อิทมฺปิ โขติ เอตฺถ อิทนฺติ ยถาวุตฺตํ สาทิยนาทึ ขณฺฑภาวาทิวเสน เอกํ กตฺวา วุตฺตํ. ปิ-สทฺโท วกฺขมานํ อุปาทาย สมุจฺจยตฺโถ. โข-สทฺโท อวธารณตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยเทตํ พฺรหฺมจารีปฏิฺสฺส อสติปิ ทฺวยํทฺวยสมาปตฺติยํ มาตุคามสฺส อุจฺฉาทนนฺหาปนสมฺพาหนสาทิยนาทิ, อิทมฺปิ เอกํเสน ตสฺส พฺรหฺมจริยสฺส ขณฺฑาทิภาวาปาทนโต ขณฺฑมฺปิ ฉิทฺทมฺปิ สพลมฺปิ กมฺมาสมฺปีติ. เอวํ ปน ขณฺฑาทิภาวาปตฺติยา โส อปริสุทฺธํ พฺรหฺมจริยํ จรติ, น ปริสุทฺธํ, สํยุตฺโต เมถุนสํโยเคน, น วิสํยุตฺโต. ตโต จสฺส น ชาติอาทีหิ ปริมุตฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ วุจฺจตี’’ติอาทิมาห.

สฺชคฺฆตีติ กิเลสวเสน มหาหสิตํ หสติ. สํกีฬตีติ กายสํสคฺควเสน กีฬติ. สํเกลายตีติ สพฺพโส มาตุคามํ เกลายนฺโต วิหรติ. จกฺขุนาติ อตฺตโน จกฺขุนา. จกฺขุนฺติ มาตุคามสฺส จกฺขุํ. อุปนิชฺฌายตีติ อุเปจฺจ นิชฺฌายติ โอโลเกติ. ติโรกุฏฺฏาติ กุฏฺฏสฺส ปรโต. ตถา ติโรปาการา. มตฺติกามยา ภิตฺติ กุฏฺฏํ, อิฏฺกามยา ปากาโรติ วทนฺติ. ยา กาจิ วา ภิตฺติ โปริสโต ทิยฑฺฒรตนุจฺจปฺปมาณา กุฏฺฏํ, กุฏฺฏโต อธิโก ปากาโร.

อสฺสาติ พฺรหฺมจารีปฏิฺสฺส. ปุพฺเพติ วตสมาทานโต ปุพฺเพ. กามคุเณหีติ กามโกฏฺาเสหิ. สมปฺปิตนฺติ สุฏฺุ อปฺปิตํ สหิตํ. สมงฺคีภูตนฺติ สมนฺนาคตํ. ปริจารยมานนฺติ กีฬนฺตํ, อุปฏฺหิยมานํ วา. ปณิธายาติ ปตฺเถตฺวา. สีเลนาติอาทีสุ ยมนิยมาทิสมาทานวเสน สีลํ. อวีติกฺกมวเสน วตํ. อุภยมฺปิ สีลํ. ทุกฺกรจริยวเสน ปวตฺติตํ วตํ. ตํตํอกิจฺจสมฺมตโต วา นิวตฺติลกฺขณํ สีลํ. ตํตํสมาทานวโต เวสโภชนกิจฺจกรณาทิวิเสสปฏิปตฺติ วตํ. สพฺพถาปิ ทุกฺกรจริยา ตโป. เมถุนวิรติ พฺรหฺมจริยํ.

สพฺพโสติ อนวเสสโต, สพฺเพสํ วา. อเภเทนาติ อวีติกฺกเมน. อปราย จ ปาปธมฺมานํ อนุปฺปตฺติยา, คุณานํ อุปฺปตฺติยา สงฺคหิโตติ โยชนา. ตตฺถ กุชฺฌนลกฺขโณ โกโธ. อุปนนฺธนลกฺขโณ อุปนาโห. ปเรสํ คุณมกฺขนลกฺขโณ มกฺโข. ยุคคฺคาหลกฺขโณ ปฬาโส. ปรสมฺปตฺติอุสูยนลกฺขณา อิสฺสา. อตฺตสมฺปตฺตินิคูหนลกฺขณํ มจฺฉริยํ. สนฺตโทสปฏิจฺฉาทนลกฺขณา มายา. อสนฺตคุณสมฺภาวนลกฺขณํ สาเยฺยํ. จิตฺตสฺส ถทฺธภาวลกฺขโณ ถมฺโภ. กรณุตฺตริยลกฺขโณ สารมฺโภ. อุนฺนติลกฺขโณ มาโน. อพฺภุนฺนติลกฺขโณ อติมาโน. มชฺชนลกฺขโณ มโท. จิตฺตโวสคฺคลกฺขโณ ปมาโท. อาทิ-สทฺเทน โลภโมหวิปรีตมนสิการาทีนํ สงฺคโห.

อิทานิ ‘‘อขณฺฑาทิภาโว ปนา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยานิ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อนุปหตานีติ อนุปทฺทุตานิ. วิวฏฺฏูปนิสฺสยตาย ตณฺหาทาสพฺยโต โมจเนน ภุชิสฺสภาวกรณํ. อวิฺูนํ อปฺปมาณตฺตา วุตฺตํ ‘‘วิฺูหิ ปสตฺถตฺตา’’ติ. สมาธิสํวตฺตนํ วา เอเตสํ ปโยชนํ, สมาธิสํวตฺตเน วา นิยุตฺตานีติ สมาธิสํวตฺตนิกานิ. นิทฺทาเนน สสฺสสมฺปตฺติ วิย ปฏิปกฺขวิคเมน สีลสมฺปทา, สา จ ตตฺถ สติ โทสทสฺสเนติ อาห ‘‘สีลวิปตฺติยา จ อาทีนวทสฺสเนนา’’ติ. นิสมฺมการีนํ ปโยชนครุกตาย ทิฏฺคุเณเยว สมฺมาปฏิปตฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สีลสมฺปตฺติยา จ อานิสํสทสฺสเนนา’’ติ.

ตตฺถ สีลวิปตฺติยา อาทีนโว สีลสมฺปทาย เหฏฺา ทสฺสิตอานิสํสปฏิปกฺขโต เวทิตพฺโพ, ตํ สุวิฺเยฺยนฺติ อวิตฺถาเรตฺวา ปการนฺตเรหิ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติ อารทฺธํ. ตตฺถ ยถา สีลสมฺปทา สตฺตานํ มนุฺภาวการณํ, เอวํ สีลวิปตฺติ อมนุฺภาวการณนฺติ อาห ‘‘ทุสฺสีโล…เป… เทวมนุสฺสาน’’นฺติ. อนนุสาสนีโย ชิคุจฺฉิตพฺพโต. ทุกฺขิโตติ สฺชาตทุกฺโข. วิปฺปฏิสารีติ ‘‘อกตํ วต เม กลฺยาณ’’นฺติอาทินา ปจฺจานุตาปี. ทุพฺพณฺโณติ คุณวณฺเณน, กายวณฺเณน จ วิรหิโต. อสฺสาติ ทุสฺสีลสฺส. สมฺผสฺสิตานํ ทุกฺโข ทุกฺขาวโห สมฺผสฺโส เอตสฺสาติ ทุกฺขสมฺผสฺโส. คุณานุภาวาภาวโต อปฺปํ อคฺฆตีติ อปฺปคฺโฆ. อเนกวสฺสคณิกคูถกูโป วิยาติ อเนกวสฺสสมูเห สฺจิตุกฺการาวาโฏ วิย. ทุพฺพิโสธโน โสเธตุํ อสกฺกุเณยฺโย. ฉวาลาตํ ฉวฑาเห สนฺตชฺชนุมฺมุกฺกํ. อุภโต ปริพาหิโรติ สามฺโต, คิหิโภคโต จ ปริหีโน. สพฺเพสํ เวรี, สพฺเพ วา เวรี เอตสฺสาติ สพฺพเวรี, โส เอว สพฺพเวริโก, ปุริโส. สํวาสํ นารหตีติ อสํวาสารโห. สทฺธมฺเมติ ปฏิปตฺติสทฺธมฺเม, ปฏิเวธสทฺธมฺเม จ.

‘‘อคฺคิกฺขนฺธปริยาเย วุตฺตทุกฺขภาคิตายา’’ติ สงฺเขเปน วุตฺตมตฺถํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ทุสฺสีลานฺหี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ปฺจกามคุณปริโภคสุเข, ปเรหิ กยิรมานวนฺทนมานนาทิสุเข จ อสฺสาเทน คธิตจิตฺตา ปฺจกาม…เป… คธิตจิตฺตา, เตสํ. เต ยถาวุตฺตสุขสฺสาทา ปจฺจยา เอตสฺสาติ ตปฺปจฺจยํ. ทุกฺขนฺติ สมฺพนฺโธ.

ปสฺสถ โนติ ปสฺสถ นุ, อปิ ปสฺสถ. มหนฺตนฺติ วิปุลํ. อคฺคิกฺขนฺธนฺติ อคฺคิสมูหํ. อาทิตฺตนฺติ ปทิตฺตํ. สมฺปชฺชลิตนฺติ สมนฺตโต ปชฺชลิตํ อจฺฉิวิปฺผุลิงฺคานิ มุจฺจนฺตํ. สโชติภูตนฺติ สปภํ สมนฺตโต อุฏฺิตาหิ ชาลาหิ เอกปฺปภาสมุทยภูตํ. ตํ กึ มฺถาติ ตํ อิทานิ มยา วุจฺจมานมตฺถํ กึ มฺถาติ อนุมติคหณตฺถํ ปุจฺฉติ. อาลิงฺเคตฺวาติ อุปคูหิตฺวา. อุปนิสีเทยฺยาติ เตเนว อาลิงฺคเนน อุเปจฺจ นิสีเทยฺย. ยทตฺถเมตฺถ สตฺถา อคฺคิกฺขนฺธาลิงฺคนํ, กฺาลิงฺคนฺจ อาเนสิ, ตมตฺถํ วิภาเวตุํ ‘‘อาโรจยามี’’ติอาทิมาห . ตตฺถ อาโรจยามีติ อามนฺเตมิ. โวติ ตุมฺเห. ปฏิเวทยามีติ ปโพเธมิ. ทุสฺสีลสฺสาติ นิสฺสีลสฺส สีลวิรหิตสฺส. ปาปธมฺมสฺสาติ ทุสฺสีลตฺตา เอว หีนชฺฌาสยตาย ลามกสภาวสฺส. อสุจิสงฺกสฺสรสมาจารสฺสาติ อปริสุทฺธกายสมาจาราทิตาย อสุจิสฺส หุตฺวา สงฺกาย สริตพฺพสมาจารสฺส. ทุสฺสีโล หิ กิฺจิเทว อสารุปฺปํ ทิสฺวา ‘‘อิทํ อสุเกน กตํ ภวิสฺสตี’’ติ ปเรสํ อาสงฺกนีโยว โหติ, เกนจิเทว วา กรณีเยน มนฺตยนฺเต ภิกฺขู ทิสฺวา ‘‘กจฺจิ นุ โข อิเม มยา กตํ กมฺมํ ชานิตฺวา มนฺเตนฺตี’’ติ อตฺตโนเยว สงฺกาย สริตพฺพสมาจาโรติ. ปฏิจฺฉนฺนกมฺมนฺตสฺสาติ ลชฺชิตพฺพตาย ปฏิจฺฉาเทตพฺพกมฺมนฺตสฺส. อสฺสมณสฺสาติ น สมณสฺส. สลากคฺคหณาทีสุ ‘‘อหมฺปิ สมโณ’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย สมณปฏิฺสฺส. อเสฏฺจาริตาย อพฺรหฺมจาริสฺส. อุโปสถาทีสุ ‘‘อหมฺปิ พฺรหฺมจารี’’ติ มิจฺฉาปฏิฺาย พฺรหฺมจาริปฏิฺสฺส. ปูตินา กมฺเมน สีลวิปตฺติยา อนฺโต อนุปวิฏฺตฺตา อนฺโตปูติกสฺส. ฉหิ ทฺวาเรหิ ราคาทิกิเลสานุวสฺสเนน ตินฺตตฺตา อวสฺสุตสฺส. สฺชาตราคาทิกจวรตฺตา, สีลวนฺเตหิ ฉฑฺเฑตพฺพตฺตา จ กสมฺพุชาตสฺส. อคฺคิกฺขนฺธูปมาย หีนูปมภูตายาติ อตฺโถ. เตนาห ภควา – ‘‘เอตเทว ตสฺส วร’’นฺติ. ภควา ทุกฺขํ ทสฺเสตฺวา ทุกฺขํ ทสฺเสตีติ สมฺพนฺโธ.

วาฬรชฺชุยาติ วาเฬหิ กตรชฺชุยา. สา หิ ขรตรา โหติ. ฆํเสยฺยาติ ปธํสนวเสน ฆํเสยฺย. เตลโธตายาติ เตเลน นิสิตาย. ปจฺโจรสฺมินฺติ ปติอุรสฺมึ อุราภิมุขํ, อุรมชฺเฌติ อธิปฺปาโย. อโยสงฺกุนาติ สณฺฑาเสน. เผณุทฺเทหกนฺติ เผณํ อุทฺเทเหตฺวา, อเนกวารํ เผณํ อุฏฺเปตฺวาติ อตฺโถ.

อคฺคิกฺขนฺธาลิงฺคนทุกฺขโตปิ อธิมตฺตทุกฺขตาย กฏุกภูตํ ทุกฺขํ ผลํ เอตสฺสาติ อคฺคิกฺขนฺธาลิงฺคนทุกฺขาธิกทุกฺขกฏุกผลํ. กามสุขํ อวิชหโต ภินฺนสีลสฺส ทุสฺสีลสฺส กุโต ตสฺส สุขํ นตฺเถวาติ อธิปฺปาโย. สาทเนติ สาทิยเน. นฺติ อฺชลิกมฺมสาทนํ. อสีลิโนติ ทุสฺสีลสฺส. อุปหตนฺติ สีลพฺยสเนน อุปทฺทุตํ. ขตนฺติ กุสลมูลานํ ขณเนน ขตํ, ขณิตํ วา คุณํ สรีเรติ อธิปฺปาโย. สพฺพภเยหีติ อตฺตานุวาทาทิสพฺพภเยหิ. อุปจารชฺฌานํ อุปาทาย สพฺเพหิ อธิคมสุเขหิ.

วุตฺตปฺปการวิปรีตโตติ สีลวิปตฺติยํ วุตฺตาการปฏิปกฺขโต ‘‘มนาโป โหติ เทวมนุสฺสาน’’นฺติอาทินา. กายคนฺโธปิ ปาโมชฺชํ, สีลวนฺตสฺส ภิกฺขุโน. กโรติ อปิ เทวานนฺติ เอตฺถ ‘‘คนฺโธ อิสีนํ จิรทิกฺขิตาน’’นฺติอาทิกา (ชา. ๒.๑๗.๕๕) คาถา วิตฺถาเรตพฺพา. อวิฆาตีติ อปฺปฏิฆาตี. วธพนฺธาทิปริกิเลสา ทิฏฺธมฺมิกา อาสวา อุปทฺทวา. สมฺปรายิกทุกฺขานํ มูลํ นาม ทุสฺสีลฺยํ. อนฺตมติกฺกนฺตํ อจฺจนฺตํ, อจฺจนฺตํ สนฺตา อจฺจนฺตสนฺตา กิเลสปริฬาหสงฺขาตทรถานํ อภาเวน สพฺพทา สนฺตา. อุพฺพิชฺชิตฺวาติ าณุตฺราเสน อุตฺตสิตฺวา. โวทาเปตพฺพนฺติ วิโสเธตพฺพํ.

สีลนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ ปมปริจฺเฉทวณฺณนา.