📜

๔. ปถวีกสิณนิทฺเทสวณฺณนา

๕๑. ผาสุโหตีติ อาวาสสปฺปายาทิลาเภน มนสิการผาสุตา ภาวนานุกูลตา โหติ. ปริโสเธนฺเตนาติ เตสํ เตสํ คณฺิฏฺานานํ ฉินฺทนวเสน วิโสเธนฺเตน. อกิลมนฺโตเยวาติ อกิลนฺตกาโย เอว. สติ หิ กายกิลมเถ สิยา กมฺมฏฺานมนสิการสฺส อนฺตราโยติ อธิปฺปาโย. คณฺิฏฺานนฺติ อตฺถโต, อธิปฺปายโต จ ทุพฺพินิเวธตาย คณฺิภูตํ านํ. ฉินฺทิตฺวาติ ยาถาวโต อตฺถสฺส, อธิปฺปายสฺส จ วิภาวเนน ฉินฺทิตฺวา, วิภูตํ สุปากฏํ กตฺวาติ อธิปฺปาโย. สุวิสุทฺธนฺติ สุฏฺุ วิสุทฺธํ, นิคุมฺพํ นิชฺชฏนฺติ อตฺโถ.

อนนุรูปวิหารวณฺณนา

๕๒. อฺตเรนาติ อฺตเรนาปิ, ปเคว อเนเกหีติ อธิปฺปาโย. มหนฺตภาโว มหตฺตํ. ตถา เสเสสุ. โสณฺฑวา โสณฺฑี. ตถา ปณฺณนฺติอาทีสุ. โพธิองฺคณาทีสุ กาตพฺพํ อิธ ‘‘วตฺต’’นฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘ปานียฆฏํ วา ริตฺต’’นฺติ. นิฏฺิตายาติ ปวิฏฺปวิฏฺานํ ทาเนน ปริกฺขีณาย. ชิณฺณวิหาเรปิ ยตฺร ภิกฺขู เอวํ วทนฺติ ‘‘อายสฺมา, ยถาสุขํ สมณธมฺมํ กโรตุ, มยํ ปฏิชคฺคิสฺสามา’’ติ. เอวรูเป วิหาตพฺพนฺติ อยมฺปิ นโย ลพฺภติ, วุตฺตนยตฺตา ปน น วุตฺโต.

มหาปถวิหาเรติ มหาปถสมีเป วิหาเร. ภาชนทารุโทณิกาทีนีติ รชนภาชนานิ, รชนตฺถาย ทารุ, ทารุมยโทณิกา, รชนปจนฏฺานํ, โธวนผลกนฺติ เอวมาทีนิ. สากหาริกาติ สากหารินิโย อิตฺถิโย. วิสภาคสทฺโท กามคุณูปสํหิโต คีตสทฺโทติ วทนฺติ, เกวโลปิ อิตฺถิสทฺโท วิสภาคสทฺโท เอว. ตตฺราติ ปุปฺผวนฺเต วิหาเร. ตาทิโสเยวาติ ‘‘ตตฺถสฺส กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา’’ติอาทินา ยาทิโส ปณฺณวนฺเต วิหาเร อุปทฺทโว วุตฺโต, ตาทิโสเยว. ‘‘ปุปฺผหาริกาโย ปุปฺผํ โอจินนฺติโย’’ติ ปน วตฺตพฺพํ. อยมิธ วิเสโส.

ปตฺถนีเยติ ตตฺถ วสนฺเตสุ สมฺภาวนาวเสน อุปสงฺกมนาทินา ปตฺเถตพฺเพ. เตนาห ‘‘เลณสมฺมเต’’ติ. ทกฺขิณาคิรีติ มคธวิสเย ทกฺขิณาคิรีติ วทนฺติ.

วิสภาคารมฺมณานิ อิฏฺานิ, อนิฏฺานิ จ. อนิฏฺานํ หิ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ฆเฏหิ นิฆํสนฺติโย’’ติอาทิ วุตฺตํ. ทพฺพูปกรณโยคฺคา รุกฺขา ทพฺพูปกรณรุกฺขา.

โย ปน วิหาโร. ขลนฺติ ธฺกรณฏฺานํ. คาโว รุนฺธนฺติ ‘‘สสฺสํ ขาทึสู’’ติ. อุทกวารนฺติ เกทาเรสุ สสฺสานํ ทาตพฺพอุทกวารํ. อยมฺปีติ มหาสงฺฆโภโคปิ วิหาโร. วาริยมานา กมฺมฏฺานิเกน ภิกฺขุนา.

สมุทฺทสามุทฺทิกนทีนิสฺสิตํ อุทกปฏฺฏนํ. มหานครานํ อายทฺวารภูตํ อฏวิมุขาทินิสฺสิตํ ถลปฏฺฏนํ. อปฺปสนฺนา โหนฺติ. เตนสฺส ตตฺถ ผาสุวิหาโร น โหตีติ อธิปฺปาโย. มฺมานา ราชมนุสฺสา.

สโมสรเณนาติ อิโต จิโต สฺจรเณน. ปปาเตติ ปปาตสีเส ตฺวา คายิ ‘‘คีตสทฺเทน อิธาคตํ ปปาเต ปาเตตฺวา ขาทิสฺสามี’’ติ. เวเคน คเหตฺวาติ เวเคนาคนฺตฺวา ‘‘กุหึ ยาสี’’ติ ขนฺเธ คเหตฺวา.

ยตฺถาติ ยสฺมึ วิหาเร, วิหารสามนฺตา วา น สกฺกา โหติ กลฺยาณมิตฺตํ ลทฺธุํ, ตตฺถ วิหาเร โส อลาโภ มหาโทโสติ โยชนา.

ปนฺถนินฺติ ปนฺเถ นีโต ปวตฺติโตติ ปนฺถนี, มคฺคนิสฺสิโต วิหาโร. ตํ ปนฺถนึ. โสณฺฑินฺติ โสณฺฑิสหิโต วิหาโร โสณฺฑี, ตํ โสณฺฑึ. ตถา ปณฺณนฺติอาทีสุ. นครนิสฺสิตํ นครนฺติ วุตฺตํ อุตฺตรปทโลเปน ยถา ‘‘ภีมเสโน ภีโม’’ติ. ทารุนาติ ทารุนิสฺสิเตน สห. วิสภาเคนาติ โย วิสภาเคหิ วุสียติ, วิสภาคานํ วา นิวาโส, โส วิหาโร วิสภาโค. เตน วิสภาเคน สทฺธึ. ปจฺจนฺตนิสฺสิตฺจ สีมานิสฺสิตฺจ อสปฺปายฺจ ปจฺจนฺตสีมาสปฺปายํ. ยตฺถ มิตฺโต น ลพฺภติ, ตมฺปีติ สพฺพตฺถ าน-สทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. อิติ วิฺายาติ ‘‘ภาวนาย อนนุรูปานี’’ติ เอวํ วิชานิตฺวา.

อนุรูปวิหารวณฺณนา

๕๓. อยํอนุรูโป นามาติ อยํ วิหาโร ภาวนาย อนุรูโป นาม. นาติทูรนฺติ โคจรฏฺานโต อฑฺฒคาวุตโต โอรภาคตาย น อติทูรํ. นาจฺจาสนฺนนฺติ ปจฺฉิเมน ปมาเณน โคจรฏฺานโต ปฺจธนุสติกตาย น อติอาสนฺนํ. ตาย จ ปน นาติทูรนาจฺจาสนฺนตาย, โคจรฏฺานํ ปริสฺสยาทิรหิตมคฺคตาย จ คมนสฺส จ อาคมนสฺส จ ยุตฺตรูปตฺตา คมนาคมนสมฺปนฺนํ. ทิวสภาเค มหาชนสํกิณฺณตาภาเวน ทิวา อปฺปากิณฺณํ. อภาวตฺโถ หิ อยํ อปฺป-สทฺโท ‘‘อปฺปิจฺโฉ’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๑.๓๓๖) วิย. รตฺติยํ ชนาลาปสทฺทาภาเวน รตฺตึ อปฺปสทฺทํ. สพฺพทาปิ ชนสนฺนิปาตนิคฺโฆสาภาเวน อปฺปนิคฺโฆสํ. อปฺปกสิเรนาติ อกสิเรน สุเขเนว. สีลาทิคุณานํ ถิรภาวปฺปตฺติยา เถรา. สุตฺตเคยฺยาทิ พหุ สุตํ เอเตสนฺติ พหุสฺสุตา. วาจุคฺคตกรเณน, สมฺมเทว ครูนํ สนฺติเก อาคมิตภาเวน จ อาคโต ปริยตฺติธมฺมสงฺขาโต อาคโม เอเตสนฺติ อาคตาคมา. สุตฺตาภิธมฺมสงฺขาตสฺส ธมฺมสฺส ธารเณน ธมฺมธรา. วินยสฺส ธารเณน วินยธรา. เตสํเยว ธมฺมวินยานํ มาติกาย ธารเณน มาติกาธรา. ตตฺถ ตตฺถ ธมฺมปริปุจฺฉาย ปริปุจฺฉติ. อตฺถปริปุจฺฉาย ปริปฺหติ วีมํสติ วิจาเรติ. อิทํ, ภนฺเต, กถํ อิมสฺส โก อตฺโถติ ปริปุจฺฉนปริปฺหาการทสฺสนํ. อวิวฏฺเจว ปาฬิยา อตฺถํ ปเทสนฺตรปาฬิทสฺสเนน อาคมโต วิวรนฺติ. อนุตฺตานีกตฺจ ยุตฺติวิภาวเนน อุตฺตานีกโรนฺติ. กงฺขฏฺานิเยสุ ธมฺเมสุ สํสยุปฺปตฺติยา เหตุตาย คณฺิฏฺานภูเตสุ ปาฬิปเทเสสุ ยาถาวโต วินิจฺฉยทาเนน กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺติ. เอตฺถ จ ‘‘นาติทูรํ, นาจฺจาสนฺนํ, คมนาคมนสมฺปนฺน’’นฺติ เอกํ องฺคํ, ‘‘ทิวา อปฺปากิณฺณํ, รตฺตึ อปฺปสทฺทํ อปฺปนิคฺโฆส’’นฺติ เอกํ, ‘‘อปฺปฑํสมกสวาตาตปสรีสปสมฺผสฺส’’นฺติ เอกํ, ‘‘ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน วิหรนฺตสฺส…เป… ปริกฺขารา’’ติ เอกํ, ‘‘ตสฺมึ โข ปน เสนาสเน เถรา…เป… กงฺขํ ปฏิวิโนเทนฺตี’’ติ เอกํ. เอวํ ปฺจ องฺคานิ เวทิตพฺพานิ.

ขุทฺทกปลิโพธวณฺณนา

๕๔. ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉเท ปโยชนํ ปรโต อาคมิสฺสติ. อคฺคฬอนุวาตปริภณฺฑทานาทินา ทฬฺหีกมฺมํ วา. ตนฺตจฺเฉทาทีสุ ตุนฺนกมฺมํ วา กาตพฺพํ.

ภาวนาวิธานวณฺณนา

๕๕. สพฺพกมฺมฏฺานวเสนาติ อนุกฺกเมน นิทฺทิสิยมานสฺส จตฺตาลีสวิธสฺส สพฺพสฺส กมฺมฏฺานสฺส วเสน. ปิณฺฑปาตปฏิกฺกนฺเตนาติ ปิณฺฑปาตปริโภคโต ปฏินิวตฺเตน, ปิณฺฑปาตภุตฺตาวินา โอนีตปตฺตปาณินาติ อตฺโถ. ภตฺตสมฺมทํ ปฏิวิโนเทตฺวาติ โภชนนิมิตฺตํ ปริสฺสมํ วิโนเทตฺวา. อาหาเร หิ อาสยํ ปวิฏฺมตฺเต ตสฺส อาคนฺตุกตาย เยภุยฺเยน สิยา สรีรสฺส โกจิ ปริสฺสโม, ตํ วูปสเมตฺวา. ตสฺมึ หิ อวูปสนฺเต สรีรเขเทน จิตฺตํ เอกคฺคตํ น ลเภยฺยาติ. ปวิวิตฺเตติ ชนวิวิตฺเต. สุขนิสินฺเนนาติ ปลฺลงฺกํ อาภุชิตฺวา อุชุํ กายํ ปณิธาย นิสชฺชาย สุขนิสินฺเนน. วุตฺตฺเหตนฺติ ยํ ‘‘กตาย วา’’ติอาทินา ปถวิยา นิมิตฺตคฺคหณํ อิธ วุจฺจติ, วุตฺตํ เหตํ โปราณฏฺกถายํ.

อิทานิ ตํ อฏฺกถาปาฬึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปถวีกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถายํ สงฺเขปตฺโถ – ปถวีกสิณํ อุคฺคณฺหนฺโตติ อุคฺคหนิมิตฺตภาเวน ปถวีกสิณํ คณฺหนฺโต อาทิยนฺโต, อุคฺคหนิมิตฺตภูตํ ปถวีกสิณํ อุปฺปาเทนฺโตติ อตฺโถ. อุปฺปาทนฺเจตฺถ ตถานิมิตฺตสฺส อุปฏฺาปนํ ทฏฺพฺพํ. ปถวิยนฺติ วกฺขมานวิเสเส ปถวีมณฺฑเล. นิมิตฺตํ คณฺหาตีติ ตตฺถ จกฺขุนา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตํ วิย ภาวนาาเณน วกฺขมานวิเสสํ ปถวีนิมิตฺตํ คณฺหาติ. ‘‘ปถวิย’’นฺติ วตฺวาปิ มณฺฑลาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส. กเตติ วกฺขมานวิธินา อภิสงฺขเตติ อตฺโถ. วา-สทฺโท อนิยมตฺโถ. อกเตติ ปากติเก ขลมณฺฑลาทิเก ปถวีมณฺฑเล. สานฺตเกติ สอนฺตเก เอว, สปริจฺเฉเท เอวาติ อตฺโถ. สาวธารณฺเหตํ วจนํ. ตถา หิ เตน นิวตฺติตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน อนนฺตเก’’ติ วุตฺตํ. สโกฏิเยติอาทีนิปิ ตสฺเสว เววจนานิ. สุปฺปมตฺเต วาติอาทีสุ สุปฺปสราวานิ สมปฺปมาณานิ อิจฺฉิตานิ. เกจิ ปน วทนฺติ ‘‘สราวมตฺตํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลํ โหติ, สุปฺปมตฺตํ ตโต อธิกปฺปมาณนฺติ. กิตฺติมํ กสิณมณฺฑลํ เหฏฺิมปริจฺเฉเทน สราวมตฺตํ, อุปริมปริจฺเฉเทน สุปฺปมตฺตํ, น ตโต อโธ, อุทฺธํ วาติ ปริตฺตปฺปมาณเภทสงฺคณฺหนตฺถํ ‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’ติ วุตฺต’’นฺติ. ยถาอุปฏฺิเต อารมฺมเณ เอกงฺคุลมตฺตมฺปิ วฑฺฒิตํ อปฺปมาณเมวาติ วุตฺโตวายมตฺโถ. เกจิ ปน ‘‘ฉตฺตมตฺตมฺปิ กสิณมณฺฑลํ กาตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ.

โสตํ นิมิตฺตํ สุคฺคหิตํ กโรตีติ โส โยคาวจโร ตํ ปถวีมณฺฑลํ สุคฺคหิตํ นิมิตฺตํ กโรติ. ยทา จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกตฺวา ตตฺถ นิมิตฺตํ คเหตฺวา นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺเชนฺตสฺส อุมฺมีเลตฺวา โอโลกิตกฺขเณ วิย อุปฏฺาติ, ตทา สุคฺคหิตํ กโรติ นาม. อเถตฺถ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา อพหิคเตน มานเสน ปุนปฺปุนํ สลฺลกฺเขนฺโต สูปธาริตํ อุปธาเรติ นาม. เอวํ อุปธาริตํ ปน นํ ปุนปฺปุนํ อาวชฺเชนฺโต มนสิ กโรนฺโต ตเมวารพฺภ อาเสวนํ ภาวนํ พหุลํ ปวตฺเตนฺโต สุววตฺถิตํ ววตฺถเปติ นาม. ตสฺมึ อารมฺมเณติ เอวํ สุคฺคหิตกรณาทินา สมฺมเทว อุปฏฺิเต ตสฺมึ ปถวีกสิณสฺิเต อารมฺมเณ. จิตฺตํ อุปนิพนฺธตีติ อตฺตโน จิตฺตํ อุปจารชฺฌานํ อุปเนตฺวา นิพนฺธติ อฺารมฺมณโต วินิวตฺตํ กโรติ. อทฺธา อิมายาติอาทิ อานิสํสทสฺสาวิตาทสฺสนํ.

อิทานิ ยถาทสฺสิตสฺส อฏฺกถาปาสฺส อตฺถปฺปกาสเนน สทฺธึ ภาวนาวิธึ วิภาเวตุกาโม อกเต ตาว นิมิตฺตคฺคหณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถ เยน อตีตภเวปี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ อฏฺกถาปาเ. จตุกฺกปฺจกชฺฌานานีติ จตุกฺกปฺจกนยวเสน วทติ. ปุฺวโตติ ภาวนามยปุฺวโต. อุปนิสฺสยสมฺปนฺนสฺสาติ ตาทิเสเนว อุปนิสฺสเยน สมนฺนาคตสฺส. ขลมณฺฑเลติ มณฺฑลากาเร ธฺกรณฏฺาเน. ตํานปฺปมาณเมวาติ โอโลกิตฏฺานปฺปมาณเมว.

อวิราเธตฺวาติ อวิรชฺฌิตฺวา วุตฺตวิธินา เอว. นีลปีตโลหิตโอทาตสมฺเภทวเสนาติ นีลาทิวณฺณาหิ มตฺติกาหิ ปจฺเจกํ, เอกชฺฌฺจ สํสคฺควเสน. คงฺคาวเหติ คงฺคาโสเต. สีหฬทีเป กิร ราวณคงฺคา นาม นที, ตสฺสา โสเตน ฉินฺนตฏฏฺาเน มตฺติกา อรุณวณฺณา. ตํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘คงฺคาวเห มตฺติกาสทิสาย อรุณวณฺณายา’’ติ. อรุณวณฺณาย อรุณนิภาย, อรุณปฺปภาวณฺณายาติ อตฺโถ.

เอวํ กสิณโทเส ทสฺเสตฺวา อิทานิ กสิณกรณาทิเก เสสากาเร ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺจ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. สํหาริมนฺติ สํหริตพฺพํ คเหตฺวา จรณโยคฺคํ. ตตฺรฏฺกนฺติ ยตฺร กตํ, ตตฺเถว ติฏฺนกํ. วุตฺตปฺปมาณนฺติ ‘‘สุปฺปมตฺเต วา สราวมตฺเต วา’’ติ วุตฺตปฺปมาณํ. วฏฺฏนฺติ มณฺฑลสณฺานํ. ปริกมฺมกาเลติ นิมิตฺตุคฺคหณาย ภาวนากาเล. เอตเทวาติ ยํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลวิตฺถารํ, เอตเทว ปมาณํ สนฺธาย ‘‘สุปฺปมตฺตํ วา สราวมตฺตํ วา’’ติ วุตฺตํ. สุปฺปํ หิ นาติมหนฺตํ, สราวฺจ มหนฺตํ จาฏิปิธานปฺปโหนกนฺติ สมปฺปมาณํ โหติ.

๕๖. ตสฺมาติ ปริจฺเฉทตฺถาย วุตฺตตฺตา. เอวํ วุตฺตปมาณํ ปริจฺเฉทนฺติ ยถาวุตฺตปฺปมาณํ วิทตฺถิจตุรงฺคุลวิตฺถารํ ปริจฺเฉทํ กตฺวา, เอวํ วุตฺตปฺปมาณํ วา กสิณมณฺฑลํ วิสภาควณฺเณน ปริจฺเฉทํ กตฺวา. รุกฺขปาณิกาติ กุจนฺทนาทิรุกฺขปาณิกา อรุณวณฺณสฺส วิสภาควณฺณํ สมุฏฺเปติ. ตสฺมา ตํ อคฺคเหตฺวาติ วุตฺตํ. ปกติรุกฺขปาณิกา ปน ปาสาณปาณิกาคติกาว. นินฺนุนฺนตฏฺานาภาเวน เภรีตลสทิสํ กตฺวา. ตโต ทูรตเรติอาทิ ยถาวุตฺตโต ปเทสโต, ปีโต จ อฺสฺมึ อาทีนวทสฺสนํ. กสิณโทสาติ หตฺถปาณิปทาทโย อิธ กสิณโทสา.

วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘อฑฺฒเตยฺยหตฺถนฺตเร ปเทเส, วิทตฺถิจตุรงฺคุลปาทเก ปีเ’’ติ จ วุตฺตวิธินาว. กาเมสุ อาทีนวนฺติ ‘‘กามา นาเมเต อฏฺิกงฺกลูปมา นิรสฺสาทฏฺเน, ติณุกฺกูปมา อนุทหนฏฺเน, องฺคารกาสูปมา มหาภิตาปฏฺเน, สุปินกูปมา อิตฺตรปจฺจุปฏฺานฏฺเน, ยาจิตกูปมา ตาวกาลิกฏฺเน, รุกฺขผลูปมา สพฺพงฺคปจฺจงฺคปลิภฺชนฏฺเน, อสิสูนูปมา อธิกุฏฺฏนฏฺเน, สตฺติสูลูปมา วินิวิชฺฌนฏฺเน, สปฺปสิรูปมา สปฏิภยฏฺเนา’’ติอาทินา (ปาจิ. อฏฺ. ๔๑๗; ม. นิ. อฏฺ. ๑.๒๓๔) ‘‘อปฺปสฺสาทา กามา พหุทุกฺขา พหุปายาสา’’ติอาทินา (ปาจิ. ๔๑๗; ม. นิ. ๑.๒๓๔; ๒.๔๒) ‘‘กามสุขฺจ นาเมตํ พหุปริสฺสยํ, สาสงฺกํ, สภยํ, สํกิลิฏฺํ, มีฬฺหปริโภคสทิสํ, หีนํ, คมฺมํ, โปถุชฺชนิกํ, อนริยํ, อนตฺถสํหิต’’นฺติอาทินา จ อเนกาการโวการํ วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ อาทีนวํ โทสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา. กามนิสฺสรเณติ กามานํ นิสฺสรณภูเต, เตหิ วา นิสฺสเฏ. อคฺคมคฺคสฺส ปาทกภาเวน สพฺพทุกฺขสมติกฺกมสฺส อุปายภูเต. เนกฺขมฺเมติ ฌาเน. ชาตาภิลาเสน สฺชาตจฺฉนฺเทน. ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต ภควา อวิปรีตธมฺมเทสนตฺตา, สฺวากฺขาโต ธมฺโม เอกนฺตนิยฺยานิกตฺตา, สุปฺปฏิปนฺโน สงฺโฆ ยถานุสิฏฺํ ปฏิปชฺชนโต’’ติ เอวํ พุทฺธธมฺมสงฺฆคุณานุสฺสรเณน รตนตฺตยวิสยํ ปีติปาโมชฺชํ ชนยิตฺวา. เนกฺขมฺมํ ปฏิปชฺชติ เอตายาติ เนกฺขมฺมปฏิปทา, สอุปจารสฺส ฌานสฺส, วิปสฺสนาย, มคฺคสฺส, นิพฺพานสฺส จ อธิคมการณนฺติ อตฺโถ. ปุพฺเพ ปน ปมชฺฌานเมว เนกฺขมฺมนฺติ วุตฺตตฺตา วุตฺตาวเสสา สพฺเพปิ เนกฺขมฺมธมฺมา. ยถาห –

‘‘ปพฺพชฺชา ปมํ ฌานํ, นิพฺพานํ จ วิปสฺสนา;

สพฺเพปิ กุสลา ธมฺมา, ‘เนกฺขมฺม’นฺติ ปวุจฺจเร’’ติ. (อิติวุ. อฏฺ. ๑๐๙);

ปวิเวกสุขรสสฺสาติ จิตฺตวิเวกาทิวิเวกชสฺส สุขรสสฺส. เอวเมเตหิ ปฺจหิ ปเทหิ ‘‘อานิสํสทสฺสาวี’’ติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺพํ. สเมน อากาเรนาติ อติอุมฺมีลนอติมนฺทาโลจนานิ วชฺเชตฺวา นาติอุมฺมีลนนาติมนฺทาโลจนสงฺขาเตน สเมน อาโลจนากาเรน. นิมิตฺตํ คณฺหนฺเตนาติ ปถวีกสิเณ จกฺขุนา คหิตนิมิตฺตํ มนสา คณฺหนฺเตน. ภาเวตพฺพนฺติ ตถาปวตฺตํ นิมิตฺตคฺคหณํ วฑฺเฒตพฺพํ อาเสวิตพฺพํ พหุลีกาตพฺพํ.

จกฺขุ กิลมติ อติสุขุมํ, อติภาสุรฺจ รูปคตํ อุปนิชฺฌายโต วิย. อติวิภูตํ โหติ อตฺตโน สภาวาวิภาวโต. ตถา จ วณฺณโต วา ลกฺขณโต วา อุปติฏฺเยฺย. เตน วุตฺตํ ‘‘เตนสฺส นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชตี’’ติ. อวิภูตํ โหติ คชนิมฺมีลเนน เปกฺขนฺตสฺส รูปคตํ วิย. จิตฺตฺจ ลีนํ โหติ ทสฺสเน มนฺทพฺยาปารตาย โกสชฺชปาตโต. เตนาห ‘‘เอวมฺปิ นิมิตฺตํ นุปฺปชฺชตี’’ติ. อาทาสตเล มุขนิมิตฺตทสฺสินา วิยาติ ยถา อาทาสตเล มุขนิมิตฺตทสฺสี ปุริโส น ตตฺถ อติคาฬฺหํ อุมฺมีลติ, นาปิ อติมนฺทํ, น อาทาสตลสฺส วณฺณํ ปจฺจเวกฺขติ, นาปิ ลกฺขณํ มนสิ กโรติ. อถ โข สเมน อากาเรน โอโลเกนฺโต อตฺตโน มุขนิมิตฺตเมว ปสฺสติ, เอวเมว อยมฺปิ ปถวีกสิณํ สเมน อากาเรน โอโลเกนฺโต นิมิตฺตคฺคหณปฺปสุโตเยว โหติ, เตน วุตฺตํ ‘‘สเมน อากาเรนา’’ติอาทิ. น วณฺโณ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพติ โย ตตฺถ ปถวีกสิเณ อรุณวณฺโณ, โส น จินฺเตตพฺโพ. จกฺขุวิฺาเณน ปน คหณํ น สกฺกา นิวาเรตุํ. เตเนเวตฺถ ‘‘น โอโลเกตพฺโพ’’ติ อวตฺวา ปจฺจเวกฺขณคฺคหณํ กตํ. น ลกฺขณํ มนสิ กาตพฺพนฺติ ยํ ตตฺถ ปถวีธาตุยา ถทฺธลกฺขณํ, ตํ น มนสิ กาตพฺพํ.

ทิสฺวา คเหตพฺพตฺตา ‘‘วณฺณํ อมุฺจิตฺวา’’ติ วตฺวาปิ วณฺณวเสเนตฺถ อาโภโค น กาตพฺโพ, โส ปน วณฺโณ นิสฺสยคติโก กาตพฺโพติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘นิสฺสยสวณฺณํ กตฺวา’’ติ. นิสฺสเยน สมานาการสนฺนิสฺสิโต โส วณฺโณ ตาย ปถวิยา สมานคติกํ กตฺวา, วณฺเณน สเหว ‘‘ปถวี’’ติ มนสิ กาตพฺพนฺติ อตฺโถ. อุสฺสทวเสน ปณฺณตฺติธมฺเมติ ปถวีธาตุยา อุสฺสนฺนภาเวน สตฺติโต อธิกภาเวน สสมฺภารปถวิยํ ‘‘ปถวี’’ติ โย โลกโวหาโร, ตสฺมึ ปณฺณตฺติธมฺเม จิตฺตํ ปฏฺเปตฺวา ‘‘ปถวี, ปถวี’’ติ มนสิ กาตพฺพํ. ยทิ โลกโวหาเรน ปณฺณตฺติมตฺเต จิตฺตํ เปตพฺพํ, นามนฺตรวเสนปิ ปถวี มนสิ กาตพฺพา ภเวยฺยาติ, โหตุ, โก โทโสติ ทสฺเสนฺโต ‘‘มหี เมทินี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ยมิจฺฉตีติ ยํ นามํ วตฺตุํ อิจฺฉติ, ตํ วตฺตพฺพํ. ตฺจ โข ยทสฺส สฺานุกูลํโหติ ยํ นามํ อสฺส โยคิโน ปุพฺเพ ตตฺถ คหิตสฺาวเสน อนุกูลํ ปจุรตาย, ปคุณตาย วา อาคจฺฉติ, ตํ วตฺตพฺพํ. วตฺตพฺพนฺติ จ ปมสมนฺนาหาเร กสฺสจิ วจีเภโทปิ โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ, อาจริเยน วา วตฺตพฺพตํ สนฺธาย. กึ วา พหุนา, ปากฏภาโวเยเวตฺถ ปมาณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. กาเลน อุมฺมีเลตฺวา กาเลน นิมฺมีเลตฺวาติ กิฺจิ กาลํ จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา นิมิตฺตคฺคหณวเสน ปถวีมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ปุน กิฺจิ กาลํ จกฺขุํ นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺชิตพฺพํ. เยนากาเรน โอโลเกตฺวา คหิตํ, เตนากาเรน ปุน ตํ สมนฺนาหริตพฺพํ.

๕๗. อาปาถมาคจฺฉตีติ มโนทฺวาริกชวนานํ โคจรภาวํ อุปคจฺฉติ. ตสฺส อุคฺคหนิมิตฺตสฺส. น ตสฺมึ าเน นิสีทิตพฺพํ. กสฺมา? ยทิ อุคฺคหนิมิตฺเต ชาเตปิ ปถวีมณฺฑลํ โอโลเกตฺวา ภาเวติ, ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติ น สิยา. สมีปฏฺเน จ น โอโลเกตุํ น สกฺกา. เตน วุตฺตํ ‘‘อตฺตโน วสนฏฺานํ ปวิสิตฺวา’’ติอาทิ. นิสฺสทฺทภาวาย เอกปฏลิกูปาหนาคหณํ, ปริสฺสยวิโนทนตฺถํ กตฺตรทณฺฑคฺคหณํ. สเจ นสฺสติ, อถาเนน ภาเวตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. วกฺขมาเนสุ อสปฺปาเยสุ เกนจิเทว อสปฺปาเยน การณภูเตน. นิมิตฺตํ อาทายาติ ยถาชาตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ คเหตฺวา. สมนฺนาหริตพฺพนฺติ อาวชฺชิตพฺพํ นิมิตฺตนฺติ อธิปฺปาโย, สมฺมา วา อนุ อนุ อาหริตพฺพํ กมฺมฏฺานนฺติ อตฺโถ. ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตนฺติ ตกฺกนโต, สวิเสสํ ตกฺกนโต จ ‘‘ตกฺโก, วิตกฺโก’’ติ จ เอวํ ลทฺธนาเมน ภาวนาจิตฺตสมฺปยุตฺเตน สมฺมาสงฺกปฺเปน อาหนนปริยาหนนกิจฺเจน อปราปรํ วตฺตมาเนน กมฺมฏฺานํ อาหตํ, ปริยาหตฺจ กาตพฺพํ, พลปฺปตฺตวิตกฺโก มนสิกาโร พหุลํ ปวตฺเตตพฺโพติ อตฺโถ. เอวํ กโรนฺตสฺสาติ เอวํ กมฺมฏฺานํ ตกฺกาหตํ วิตกฺกาหตํ กโรนฺตสฺส. ยถา ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหติ, เอวํ อนุยุฺชนฺตสฺส. อนุกฺกเมนาติ ภาวนานุกฺกเมน. ยทา สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ สุวิสทานิ ติกฺขานิ ปวตฺตนฺติ, ตทา อสฺสทฺธิยาทีนํ ทูรีภาเวน สาติสยถามปฺปตฺเตหิ สตฺตหิ พเลหิ ลทฺธูปตฺถมฺภานิ วิตกฺกาทีนิ กามาวจราเนว ฌานงฺคานิ พหูนิ หุตฺวา ปาตุภวนฺติ. ตโต เอว เตสํ อุชุวิปจฺจนีกภูตา กามจฺฉนฺทาทโย สทฺธึ ตเทกฏฺเหิ ปาปธมฺเมหิ วิทูรี ภวนฺติ, ปฏิภาคนิมิตฺตุปฺปตฺติยา สทฺธึ ตํ อารพฺภ อุปจารชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นีวรณานิ วิกฺขมฺภนฺตี’’ติอาทิ. ตตฺถ สนฺนิสีทนฺตีติ สมฺมเทว สีทนฺติ, อุปสมนฺตีติ อตฺโถ.

อิมสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส. องฺคุลิปทปาณิปทาทิโก กสิณโทโส. อาทาสมณฺฑลูปมาทีหิ อุคฺคหนิมิตฺตโต ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส สุปริสุทฺธตํ, สณฺหสุขุมตฺจ ทสฺเสติ. ตฺจ โข ปฏิภาคนิมิตฺตํ เนว วณฺณวนฺตํ น สณฺานวนฺตํ อปรมตฺถสภาวตฺตา. อีทิสนฺติ วณฺณสณฺานวนฺตํ. ติลกฺขณพฺภาหตนฺติ อุปฺปาทาทิลกฺขณตฺตยานุปวิฏฺํ, อนิจฺจตาทิลกฺขณตฺตยงฺกิตํ วา. ยทิ น ปเนตํ ตาทิสํ วณฺณาทิวนฺตํ, กถํ ฌานสฺส อารมฺมณภาโวติ อาห ‘‘เกวลฺหี’’ติอาทิ. สฺชนฺติ ภาวนาสฺาชนิตํ, ภาวนาสฺาย สฺชาตมตฺตํ. น หิ อสภาวสฺส กุโตจิ สมุฏฺานํ อตฺถิ. เตนาห ‘‘อุปฏฺานาการมตฺต’’นฺติ.

๕๘. วิกฺขมฺภิตาเนว สนฺนิสินฺนาว, น ปน ตทตฺถํ อุสฺสาโห กาตพฺโพติ อธิปฺปาโย. ‘‘อุปจารสมาธินา’’ติ วุตฺเต อิตโรปิ สมาธิ อตฺถีติ อตฺถโต อาปนฺนนฺติ ตมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ทุวิโธ หิ สมาธี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ทฺวีหากาเรหีติ ฌานธมฺมานํ ปฏิปกฺขทูรีภาโว, ถิรภาวปฺปตฺติ จาติ อิเมหิ ทฺวีหิ การเณหิ. อิทานิ ตานิ การณานิ อวตฺถามุเขน ทสฺเสตุํ ‘‘อุปจารภูมิยํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุปจารภูมิยนฺติ อุปจาราวตฺถายํ. ยทิปิ ตทา ฌานงฺคานิ ปฏุตรานิ มหคฺคตภาวปฺปตฺตานิ น อุปฺปชฺชนฺติ, เตสํ ปน ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิกฺขมฺภเนน จิตฺตํ สมาธิยติ. เตนาห ‘‘นีวรณปฺปหาเนน จิตฺตํ สมาหิตํ โหตี’’ติ. ปฏิลาภภูมิยนฺติ ฌานสฺส อธิคมาวตฺถายํ. ตทา หิ อปฺปนาปตฺตานํ ฌานธมฺมานํ อุปฺปตฺติยา จิตฺตํ สมาธิยติ. เตนาห ‘‘องฺคปาตุภาเวนา’’ติ. จิตฺตํ สมาหิตํ โหตีติ สมฺพนฺโธ.

น ถามชาตานีติ น ชาตถามานิ, น ภาวนาพลํ ปตฺตานีติ อตฺโถ. จิตฺตนฺติ ฌานจิตฺตํ. เกวลมฺปิ รตฺตึ เกวลมฺปิ ทิวสํ ติฏฺตีติ สมาปตฺติเวลํ สนฺธายาห. อุปจารภูมิยํ นิมิตฺตวฑฺฒนํ ยุตฺตนฺติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘นิมิตฺตํ วฑฺเฒตฺวา’’ติ. ลทฺธปริหานีติ ลทฺธอุปจารชฺฌานปริหานิ. นิมิตฺเต อวินสฺสนฺเต ตทารมฺมณฌานมฺปิ อปริหีนเมว โหติ, นิมิตฺเต ปน อารกฺขาภาเวน วินฏฺเ ลทฺธํ ลทฺธํ ฌานมฺปิ วินสฺสติ ตทายตฺตวุตฺติโต. เตนาห ‘‘อารกฺขมฺหี’’ติอาทิ.

สตฺตสปฺปายวณฺณนา

๕๙. ‘‘ถาวรฺจ โหตี’’ติ วตฺวา ยถา ถาวรํ โหติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สติ อุปฏฺาติ, จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ วุตฺตํ. ยถาลทฺธฺหิ นิมิตฺตํ ตตฺถ สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา เอกคฺคตํ วินฺทนฺตสฺส ถิรํ นาม โหติ, สุรกฺขิตฺจ. สติ-คฺคหเณน เจตฺถ สมฺปชฺํ, สมาธิคฺคหเณน วีริยฺจ สงฺคหิตํ โหติ นานนฺตริยภาวโต. ตตฺถาติ เตสุ อาวาเสสุ. ตีณิ ตีณีติ เอเกกสฺมึ อาวาเส อวุตฺถอวุตฺถฏฺาเน วสนนิยาเมน ตโย ตโย ทิวเส วสิตฺวา.

อุตฺตเรน วา ทกฺขิเณน วาติ วุตฺตํ คมนาคมเน สูริยาภิมุขภาวนิวารณตฺถนฺติ. สหสฺสธนุปฺปมาณํ ทิยฑฺฒโกสํ.

ทฺวตฺตึส ติรจฺฉานกถาติ ราชกถาทิเก (ที. นิ. ๑.๑๗; ม. นิ. ๒.๒๒๓; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๐; อ. นิ. ๑๐.๖๙; ปาจิ. ๕๐๘) สนฺธายาห. ตา หิ ปาฬิยํ สรูปโต อนาคตาปิ อรฺปพฺพตนทีทีปกถา อิติ-สทฺเทน สงฺคเหตฺวา สคฺคโมกฺขานํ ติรจฺฉานภาวโต ‘‘ทฺวตฺตึส ติรจฺฉานกถา’’ติ วุตฺตา. ทสกถาวตฺถุนิสฺสิตนฺติ ‘‘อปฺปิจฺฉตา, สนฺตุฏฺิ, ปวิเวโก, อสํสคฺโค, วีริยารมฺโภ, สีล, สมาธิ, ปฺา, วิมุตฺติ, วิมุตฺติาณทสฺสน’’นฺติ อิมานิ อปฺปิจฺฉกถาทีนํ วตฺถูนิ, ตนฺนิสฺสิตํ ภสฺสํ สปฺปายํ.

อติรจฺฉานกถิโกติ นติรจฺฉานกถิโก, ติรจฺฉานกถา วิธุรํ ธมฺมิกํ กมฺมฏฺานปฏิสํยุตฺตเมว กถํ กเถตีติ อธิปฺปาโย. สีลาทิคุณสมฺปนฺโนติ สีลสมาธิอาทิคุณสมฺปนฺโน. โย หิ สมาธิกมฺมฏฺานิโก, สมาธิกมฺมฏฺานสฺส วา ปารํ ปตฺโต, โส อิมสฺส โยคิโน สปฺปาโย. เตนาห ‘‘ยํ นิสฺสายา’’ติอาทิ. กายทฬฺหีพหุโลติ กายสฺส สนฺตปฺปนโปสนปฺปสุโต. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘ยาวทตฺถํ อุทราวเทหกํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขํ ปสฺสสุขํ มิทฺธสุขํ อนุยุตฺโต วิหรตี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๒๐; ม. นิ. ๑.๑๘๖; อ. นิ. ๕.๒๐๖).

โภชนํ เยภุยฺเยน มธุรมฺพิลรสวเสน สตฺตานํ อุปโยคํ คจฺฉติ ทธิอาทีสุ ตถา ทสฺสนโต. กฏุกาทิรสา ปน เกวลํ อภิสงฺขารกา เอวาติ อาห ‘‘กสฺสจิ มธุรํ, กสฺสจิ อมฺพิลํ สปฺปายํ โหตี’’ติ.

ยสฺมึ อิริยาปเถ อาธารภูเต, วตฺตมาเน วา, ยสฺมึ วา อิริยาปเถ ปวตฺตมานสฺส. นิมิตฺตาเสวนพหุลสฺสาติ นิมิตฺเต อาเสวนาพหุลสฺส ปฏิภาคนิมิตฺเต วิสยภูเต ภาวนามนสิการํ พหุลํ อาเสวนฺตสฺส, นิมิตฺตสฺส วา โคจราเสวนวเสน อาเสวนาพหุลสฺส. เยน หิ ภาเวนฺตสฺส ภาวนาเสวนา, เตน โคจราเสวนาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ.

ทสวิธอปฺปนาโกสลฺลวณฺณนา

๖๐. น โหติ อปฺปนา. เยน วิธินา อปฺปนายํ กุสโล โหติ, โส ทสวิโธ วิธิ อปฺปนาโกสลฺลํ, ตนฺนิพฺพตฺตํ วา าณํ. วตฺถุวิสทกิริยโตติ วตฺถูนํ วิสทภาวกรณโต อปฺปนาโกสลฺลํ อิจฺฉิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ.

๖๑. จิตฺตเจตสิกานํ หิ ปวตฺติฏฺานภาวโต สรีรํ, ตปฺปฏิพทฺธานิ จีวราทีนิ จ อิธ ‘‘วตฺถูนี’’ติ อธิปฺเปตานิ. ตานิ ยถา จิตฺตสฺส สุขาวหานิ โหนฺติ, ตถา กรณํ เตสํ วิสทภาวกรณํ. เตน วุตฺตํ ‘‘อชฺฌตฺติกพาหิราน’’นฺติอาทิ. สรีรํ วาติ วา-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต, สรีรํ เสทมลคฺคหิตํ วา อฺเน วา อวสฺสุตกิจฺเจน วิพาธิตนฺติ อธิปฺปาโย. เสนาสนํ วาติ วา-สทฺเทน ปตฺตาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. นนุ จายํ นโย ขุทฺทกปลิโพธุปจฺเฉเทน สงฺคหิโต, ปุน กสฺมา วุตฺโตติ? สจฺจํ สงฺคหิโต, โส จ โข ภาวนาย อารมฺภกาเล. อิธ ปน อารทฺธกมฺมฏฺานสฺส อุปจารชฺฌาเน ตฺวา อปฺปนาปริวาสํ วสนฺตสฺส กาลนฺตเร ชาเต ตถาปฏิปตฺติ อปฺปนาโกสลฺลาย วุตฺตา. อวิสเท สติ, วิสยภูเต วา. กถํ ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส ตานิ วิสโย? อนฺตรนฺตรา ปวตฺตนกจิตฺตุปฺปาทวเสเนวํ วุตฺตํ. เต หิ จิตฺตุปฺปาทา จิตฺเตกคฺคตาย อปริสุทฺธภาวาย สํวตฺตนฺติ. จิตฺตเจตสิเกสุ นิสฺสยาทิปจฺจยภูเตสุ. าณมฺปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑเน. เตน ‘‘น เกวลํ ตํ วตฺถุเยว, อถ โข ตสฺมึ อปริสุทฺเธ าณมฺปิ อปริสุทฺธํ โหตี’’ติ ทสฺสิตํ. ตํสมฺปยุตฺตานํ ปน อปริสุทฺธตา อวุตฺตสิทฺธา, าณสฺส จ วิสุํ คหณํ อปฺปนาย พหุการตฺตา. ตถา หิ ฌานํ ‘‘ทนฺธาภิฺํ, ขิปฺปาภิฺ’’นฺติ าณมุเขน นิทฺทิฏฺํ. นิสฺสยนิสฺสโยปิ นิสฺสโยตฺเวว วุจฺจตีติ อาห ‘‘ทีปกปลฺลิกวฏฺฏิเตลานิ นิสฺสายา’’ติ. าเณ อวิสเท วิปสฺสนาภาวนา วิย สมาธิภาวนาปิ ปริทุพฺพลา โหตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อปริสุทฺเธน าเณนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กมฺมฏฺานนฺติ สมถกมฺมฏฺานํ อาห. วุฑฺฒึ องฺคปาตุภาเวน, วิรูฬฺหึ คุณภาเวน, เวปุลฺลํ สพฺพโส วสิภาวปฺปตฺติยา เวทิตพฺพํ. วิสเท ปนาติ สุกฺกปกฺโข, ตสฺส วุตฺตวิปริยาเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๖๒. สมภาวกรณนฺติ กิจฺจโต อนูนาธิกภาวกรณํ. ยถาปจฺจยํ สทฺเธยฺยวตฺถุสฺมึ อธิโมกฺขกิจฺจสฺส ปฏุตรภาเวน, ปฺาย อวิสทตาย, วีริยาทีนํ จ สิถิลตาทินา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ. เตนาห ‘‘อิตรานิ มนฺทานี’’ติ. ตโตติ ตสฺมา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาวโต, อิตเรสฺจ มนฺทตฺตา. โกสชฺชปกฺเข ปติตุํ อทตฺวา สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปคฺคณฺหนํ อนุพลปฺปทานํ ปคฺคโห, ปคฺคโหว กิจฺจํ, ปคฺคหกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกตีติ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อารมฺมณํ อุปคนฺตฺวา านํ, อนิสฺสชฺชนํ วา อุปฏฺานํ, วิกฺเขปปฏิปกฺโข. เยน วา สมฺปยุตฺตา อวิกฺขิตฺตา โหนฺติ, โส อวิกฺเขโป. รูปคตํ วิย จกฺขุนา เยน ยาถาวโต วิสยสภาวํ ปสฺสติ, ตํ ทสฺสนกิจฺจํ กาตุํ น สกฺโกติ พลวตา สทฺธินฺทฺริเยน อภิภูตตฺตา. สหชาตธมฺเมสุ หิ อินฺทฏฺํ กาเรนฺตานํ สหปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ เอกรสตาวเสเนว อตฺถสิทฺธิ, น อฺถา. ตสฺมาติ วุตฺตเมวตฺถํ การณภาเวน ปจฺจามสติ . นฺติ สทฺธินฺทฺริยํ. ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณนาติ ยสฺส สทฺเธยฺยวตฺถุโน อุฬารตาทิคุเณ อธิมุจฺจนสฺส สาติสยปฺปวตฺติยา สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตสฺส ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนาทิวิภาคโต ยาถาวโต วีมํสเนน. เอวฺหิ เอวํธมฺมตานเยน สภาวรสโต ปริคฺคยฺหมาเน สวิปฺผาโร อธิโมกฺโข น โหติ, ‘‘อยํ อิเมสํ ธมฺมานํ สภาโว’’ติ ปริชานนวเสน ปฺาพฺยาปารสฺส สาติสยตฺตา. ธุริยธมฺเมสุ หิ ยถา สทฺธาย พลวภาเว ปฺาย มนฺทภาโว โหติ, เอวํ ปฺาย พลวภาเว สทฺธาย มนฺทภาโว โหตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หาเปตพฺพ’’นฺติ.

ตถา อมนสิกาเรนาติ เยนากาเรน ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, เตนากาเรน ภาวนาย อนนุยุฺชนโตติ วุตฺตํ โหติ. อิธ ทุวิเธน สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว, อตฺตโน วา ปจฺจยวิเสสโต กิจฺจุตฺตริเยน, วีริยาทีนํ วา มนฺทกิจฺจตาย. ตตฺถ ปมวิกปฺเป หาปนวิธิ ทสฺสิโต, ทุติยวิกปฺเป ปน ยถา มนสิ กโรโต วีริยาทีนํ มนฺทกิจฺจตาย สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ ชาตํ, ตถา อมนสิกาเรน วีริยาทีนํ ปฏุกิจฺจภาวาวเหน มนสิกาเรน สทฺธินฺทฺริยํ เตหิ สมรสํ กโรนฺเตน หาเปตพฺพํ. อิมินา นเยน เสสินฺทฺริเยสุปิ หาปนวิธิ เวทิตพฺโพ.

วกฺกลิตฺเถรวตฺถูติ โส หิ อายสฺมา สทฺธาธิมุตฺตตาย กตาธิกาโร สตฺถุ รูปกายทสฺสนปฺปสุโต เอว หุตฺวา วิหรนฺโต สตฺถารา ‘‘กึ เต, วกฺกลิ, อิมินา ปูติกาเยน ทิฏฺเน? โย โข, วกฺกลิ, ธมฺมํ ปสฺสติ, โส มํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๗) โอวทิตฺวา กมฺมฏฺาเน นิโยชิโตปิ ตํ อนนุยุฺชนฺโต ปณามิโต อตฺตานํ วินิปาเตตุํ ปปาตฏฺานํ อภิรุหิ. อถ นํ สตฺถา ยถานิสินฺโนว โอภาสํ วิสชฺเชนฺโต อตฺตานํ ทสฺเสตฺวา –

‘‘ปาโมชฺชพหุโล ภิกฺขุ, ปสนฺโน พุทฺธสาสเน;

อธิคจฺเฉ ปทํ สนฺตํ, สงฺขารูปสมํ สุข’’นฺติ. (ธ. ป. ๓๘๑) –

คาถํ วตฺวา ‘‘เอหิ วกฺกลี’’ติ อาห. โส เตน อมเตเนว อภิสิตฺโต หฏฺตุฏฺโ หุตฺวา วิปสฺสนํ ปฏฺเปสิ. สทฺธาย ปน พลวภาวโต วิปสฺสนาวีถึ น โอตริ. ตํ ตฺวา ภควา อินฺทฺริยสมตํ ปฏิปาเทนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา อทาสิ. โส สตฺถารา ทินฺนนเยน วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา มคฺคปฏิปาฏิยา อรหตฺตํ ปาปุณิ. เตน วุตฺตํ ‘‘วกฺกลิตฺเถรวตฺถุ เจตฺถ นิทสฺสน’’นฺติ.

อิตรกิจฺจเภทนฺติ อุปฏฺานาทิกิจฺจวิเสสํ. ปสฺสทฺธาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. หาเปตพฺพนฺติ ยถา สทฺธินฺทฺริยสฺส พลวภาโว ธมฺมสภาวปจฺจเวกฺขเณน หายติ, เอวํ วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตา ปสฺสทฺธิอาทิภาวนาย หายติ, สมาธิปกฺขิยตฺตา ตสฺสา. ตถา หิ สา สมาธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ โกสชฺชปาตโต รกฺขนฺตี วีริยาทิภาวนา วิย วีริยินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตํ อุทฺธจฺจปาตโต รกฺขนฺตี เอกํสโต หาเปติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ปสฺสทฺธาทิภาวนาย หาเปตพฺพ’’นฺติ.

โสณตฺเถรสฺส วตฺถูติ (มหาว. ๒๔๓) สุกุมารสฺส โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ. โส หิ อายสฺมา สตฺถุ สนฺติเก กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สีตวเน วิหรนฺโต ‘‘มม สรีรํ สุขุมาลํ, น จ สกฺกา สุเขเนว สุขํ อธิคนฺตุํ, กายํ กิลเมตฺวาปิ สมณธมฺโม กาตพฺโพ’’ติ านจงฺกมเมว อธิฏฺาย ปธานมนุยุฺชนฺโต ปาทตเลสุ โผเฏสุ อุฏฺิเตสุปิ เวทนํ อชฺฌุเปกฺขิตฺวา ทฬฺหํ วีริยํ กโรนฺโต อจฺจารทฺธวีริยตาย วิเสสํ นิพฺพตฺเตตุํ นาสกฺขิ. สตฺถา ตตฺถ คนฺตฺวา วีโณวาเทน โอวทิตฺวา วีริยสมตาโยชนวิธึ ทสฺเสนฺโต กมฺมฏฺานํ โสเธตฺวา คิชฺฌกูฏํ คโต. เถโรปิ สตฺถารา ทินฺนนเยน วีริยสมตํ โยเชนฺโต วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปตฺวา อรหตฺเต ปติฏฺาสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘โสณตฺเถรสฺส วตฺถุ ทสฺเสตพฺพ’’นฺติ.

เสเสสุปีติ สติสมาธิปฺินฺทฺริเยสุปิ. เอกสฺสาติ เอเกกสฺส. สามฺนิทฺเทโสวายํ ทฏฺพฺโพ. เอวํ ปฺจนฺนํ อินฺทฺริยานํ ปจฺเจกํ อธิมตฺตตาย ปน หาปนวเสน สมตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ตตฺถ เยสํ วิเสสโต อสาธารณโต, สาธารณโต จ สมตา อิจฺฉิตพฺพา, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสโต ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถาติ เอเตสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ. สมตนฺติ สทฺธาปฺานํ อฺมฺํ อนูนานธิกภาวํ. ตถา สมาธิวีริยานํ . ยถา หิ สทฺธาปฺานํ วิสุํ วิสุํ ธุริยธมฺมภูตานํ กิจฺจโต อฺมฺานติวตฺตนํ วิเสสโต อิจฺฉิตพฺพเมว, ยโต เนสํ สมธุรตาย อปฺปนา สมฺปชฺชตีติ, เอวํ สมาธิวีริยานํ โกสชฺชอุทฺธจฺจปกฺขิกานํ สมรสตาย สติ อฺมฺูปตฺถมฺภนโต สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อนฺตทฺวยปาตาภาเวน สมฺมเทว อปฺปนา อิชฺฌติ.

‘‘พลวสทฺโธ หี’’ติอาทิ นิทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ – โย พลวติยา สทฺธาย สมนฺนาคโต อวิสทาโณ, โส มุทฺธปฺปสนฺโน โหติ, น อเวจฺจปฺปสนฺโน. ตถา หิ โส อวตฺถุสฺมึ ปสีทติ เสยฺยถาปิ ติตฺถิยสาวกา. เกราฏิกปกฺขนฺติ สาเยฺยปกฺขํ ภชติ. สทฺธาหีนาย ปฺาย อติธาวนฺโต ‘‘เทยฺยวตฺถุปริจฺจาเคน วินา จิตฺตุปฺปาทมตฺเตนปิ ทานมยํ ปุฺํ โหตี’’ติอาทีนิ ปริกปฺเปติ เหตุปฏิรูปเกหิ วฺจิโต. เอวํภูโต ปน สุกฺขตกฺกวิลุตฺตจิตฺโต ปณฺฑิตานํ วจนํ นาทิยติ, สฺตฺตึ น คจฺฉติ. เตนาห ‘‘เภสชฺชสมุฏฺิโต วิย โรโค อเตกิจฺโฉ โหตี’’ติ. ยถา เจตฺถ สทฺธาปฺานํ อฺมฺวิรโห น อตฺถาวโห อนตฺถาวโห จ, เอวมิธาปิ สมาธิวีริยานํ อฺมฺวิรโห น อวิกฺเขปาวโห วิกฺเขปาวโห จาติ เวทิตพฺพํ. โกสชฺชํ อภิภวติ, เตน อปฺปนํ น ปาปุณาตีติ อธิปฺปาโย. อุทฺธจฺจํ อภิภวตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ตทุภยนฺติ ตํ สทฺธาปฺาทฺวยํ, สมาธิวีริยทฺวยฺจ. สมํ กาตพฺพนฺติ สมรสํ กาตพฺพํ.

สมาธิกมฺมิกสฺสาติ สมถกมฺมฏฺานิกสฺส. เอวนฺติ เอวํ สนฺเต, สทฺธาย เตสํ พลวภาเว สตีติ อตฺโถ. สทฺทหนฺโตติ ‘‘ปถวี ปถวี’’ติ มนสิกรณมตฺเตน กถํ ฌานุปฺปตฺตีติ อจินฺเตตฺวา ‘‘อทฺธา สมฺมาสมฺพุทฺเธน วุตฺตวิธิ อิชฺฌิสฺสตี’’ติ สทฺทหนฺโต สทฺธํ ชเนนฺโต. โอกปฺเปนฺโตติ อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย อธิมุจฺจนวเสน โอกปฺเปนฺโต ปกฺขนฺทนฺโต. เอกคฺคตา พลวตี วฏฺฏติ สมาธิปธานตฺตา ฌานสฺส. อุภินฺนนฺติ สมาธิปฺานํ, สมาธิกมฺมิกสฺส สมาธิโน อธิมตฺตตาปิ อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘สมตายปี’’ติ, สมภาเวนาปีติ อตฺโถ. อปฺปนาติ อิธาธิปฺเปตอปฺปนา. ตถา หิ ‘‘โหติเยวา’’ติ สาสงฺกํ วทติ , โลกุตฺตรปฺปนา ปน เตสํ สมภาเวเนว อิจฺฉิตา. ยถาห – ‘‘สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๑, ๕).

ยทิ วิเสสโต สทฺธาปฺานํ, สมาธิวีริยานฺจ สมตา อิจฺฉิตา, กถํ สตีติ อาห ‘‘สติ ปน สพฺพตฺถ พลวตี วฏฺฏตี’’ติ. สพฺพตฺถาติ ลีนุทฺธจฺจปกฺเขสุ ปฺจสุ อินฺทฺริเยสุ. อุทฺธจฺจปกฺขิเย คณฺหนฺโต ‘‘สทฺธาวีริยปฺาน’’นฺติ อาห. อฺถาปีติ จ คเหตพฺพา สิยา. ตถา หิ ‘‘โกสชฺชปกฺเขน สมาธินา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาหี’’ติ. สา สติ. สพฺเพสุ ราชกมฺเมสุ นิยุตฺโต สพฺพกมฺมิโก. เตน การเณน สพฺพตฺถ อิจฺฉิตพฺพตฺเถน. อาห อฏฺกถายํ. สพฺพตฺถ นิยุตฺตา สพฺพตฺถิกา, สพฺเพน วา ลีนุทฺธจฺจปกฺขิเยน โพชฺฌงฺคคฺคหเณน อตฺเถตพฺพา สพฺพตฺถิยา, สพฺพตฺถิยาว สพฺพตฺถิกา. จิตฺตนฺติ กุสลจิตฺตํ. ตสฺส หิ สติ ปฏิสรณํ ปรายณํ อปฺปตฺตสฺส ปตฺติยา อนธิคตสฺส อธิคมาย. เตนาห ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติอาทิ.

๖๓. จิตฺเตกคฺคตานิมิตฺตสฺสาติ จิตฺเตกคฺคตาย นิมิตฺตสฺส, จิตฺเตกคฺคตาสงฺขาตสฺส จ นิมิตฺตสฺส. จิตฺตสฺส หิ สมาหิตาการํ สลฺลกฺเขตฺวา สมถนิมิตฺตํ รกฺขนฺโตเยว กสิณนิมิตฺตํ รกฺขติ. ตสฺมา ปถวีกสิณาทิกสฺสาติ อาทิ-สทฺเทน น เกวลํ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺเสว, อถ โข สมถนิมิตฺตสฺสาปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. นฺติ รกฺขณโกสลฺลํ. อิธ อปฺปนาโกสลฺลกถายํ ‘‘นิมิตฺตโกสลฺล’’นฺติ อธิปฺเปตํ, กรณภาวนาโกสลฺลานํ ปเคว สิทฺธตฺตาติ อธิปฺปาโย.

๖๔. อติสิถิลวีริยตาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ปโมทนสํเวชนวิปริยาเย สงฺคณฺหาติ. ลีนนฺติ สงฺกุจิตํ โกสชฺชปกฺขปติตํ. จิตฺตนฺติ ภาวนาจิตฺตํ. ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคาทโย ภาเวตีติ เอตฺถ ‘‘ตโย’’ติ ปทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ยถา ปน เต ภาเวตพฺพา, ตํ สยเมว วกฺขติ.

ปริตฺตนฺติ อปฺปกํ. อุชฺชาเลตุกาโมติ ปทีเปตุกาโม. อุทกวาตํ ทเทยฺยาติ อุทกมิสฺสํ วาตํ อุปเนยฺย. อกาโลติ นกาโล, อยุตฺตกาโล วา. สติอาทิธมฺมสามคฺคิสงฺขาตาย โพธิยา พุชฺฌติ เอตายาติ กตฺวา, ตํสมงฺคิโน วา พุชฺฌตีติ โพธิโน โยคิโน องฺคนฺติ โพชฺฌงฺโค , ปสตฺโถ, สุนฺทโร วา โพชฺฌงฺโค สมฺโพชฺฌงฺโค . กายจิตฺตทรถวูปสมลกฺขณา ปสฺสทฺธิเยว สมฺโพชฺฌงฺโค ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค, ตสฺส ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺคสฺส. สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคาทีสุปิ เอเสว นโย. อยํ ปน วิเสโส – สมาธิสฺส ตาว ปทตฺถลกฺขณานิ เหฏฺา อาคตาเนว. อุปปตฺติโต อิกฺขตีติ อุเปกฺขา. สา ปนายํ อตฺถโต ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว อิธ โพชฺฌงฺคุเปกฺขา เวทิตพฺพา. ทุสมุฏฺาปยนฺติ สมุฏฺาเปตุํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยํ. ธมฺมานํ, ธมฺเมสุ วา วิจโย ธมฺมวิจโย, ปฺาติ อตฺโถ. วีรสฺส ภาโว, กมฺมํ วา, วิธินา วา อีเรตพฺพํ ปวตฺเตตพฺพนฺติ วีริยํ, อุสฺสาโห. ปีเณติ กายํ, จิตฺตํ จ สนฺตปฺเปตีติ ปีติ.

ยํ ยํ สกํ ยถาสกํ, อตฺตโน อตฺตโนติ อตฺโถ. อาหารวเสนาติ ปจฺจยวเสน. ภาวนาติ อุปฺปาทนา, วฑฺฒนา จ. กุสลากุสลาติ โกสลฺลสมฺภูตฏฺเน กุสลา, ตปฺปฏิปกฺขโต อกุสลา. เย อกุสลา, เต สาวชฺชา. เย กุสลา, เต อนวชฺชา. อกุสลา หีนา, อิตเร ปณีตา. กุสลาปิ วา หีเนหิ ฉนฺทาทีหิ อารทฺธา หีนา, อิตเร ปณีตา. กณฺหาติ กาฬกา จิตฺตสฺส อปภสฺสรภาวกรณา, สุกฺกาติ โอทาตา จิตฺตสฺส ปภสฺสรภาวกรณา. กณฺหาภิชาติเหตุโต วา กณฺหา, สุกฺกาภิชาติเหตุโต สุกฺกา. เต เอว สปฺปฏิภาคา. กณฺหา หิ อุชุวิปจฺจนีกตาย สุกฺเกหิ สปฺปฏิภาคา. ตถา สุกฺกาปิ อิตเรหิ. อถ วา กณฺหา จ สุกฺกา จ สปฺปฏิภาคา จ กณฺหสุกฺกสปฺปฏิภาคา. สุขา หิ เวทนา ทุกฺขาย เวทนาย สปฺปฏิภาคา, ทุกฺขา จ เวทนา สุขาย สปฺปฏิภาคาติ. อนุปฺปนฺนสฺสาติ อนิพฺพตฺตสฺส. อุปฺปาทายาติ อุปฺปาทนตฺถาย. อุปฺปนฺนสฺสาติ นิพฺพตฺตสฺส. ภิยฺโยภาวายาติ ปุนปฺปุนภาวาย. เวปุลฺลายาติ วิปุลภาวาย. ภาวนายาติ วฑฺฒิยา. ปาริปูริยาติ ปริปูรณตฺถาย.

ตตฺถาติ ‘‘อตฺถิ ภิกฺขเว’’ติอาทินา ทสฺสิตปาเ. สภาวสามฺลกฺขณปฏิเวธวเสนาติ เอกชฺฌํ กตฺวา คหเณ อนวชฺชสุขวิปากาทิกสฺส วิสุํ วิสุํ ปน ผุสนาทิกสฺส สภาวลกฺขณสฺส, อนิจฺจาทิกสฺส สามฺลกฺขณสฺส จ ปฏิวิชฺฌนวเสน. ปวตฺตมนสิกาโรติ กุสลาทีนํ ตํตํสภาวลกฺขณาทิกสฺส ยาถาวโต อวพุชฺฌนวเสน อุปฺปนฺนชวนจิตฺตุปฺปาโท. โส หิ อวิปรีตมนสิการตาย ‘‘โยนิโสมนสิกาโร’’ติ วุตฺโต. ตทาโภคตาย อาวชฺชนาปิ ตคฺคติกาว. รุปฺปนลกฺขณาทิกมฺปิ อิธ สามฺลกฺขเณเนว สงฺคหิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. กุสลกิริยาย อาทิอารมฺภวเสน ปวตฺตวีริยํ ธิติสภาวตาย ‘‘ธาตู’’ติ วุตฺตนฺติ อาห ‘‘อารมฺภธาตูติ ปมวีริยํ วุจฺจตี’’ติ. ลทฺธาเสวนํ วีริยํ พลปฺปตฺตํ หุตฺวา ปฏิปกฺขํ วิธมตีติ อาห ‘‘โกสชฺชโต นิกฺขนฺตตฺตา ตโต พลวตร’’นฺติ. อธิมตฺตาธิมตฺตตรานํ ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิธมนสมตฺถํ ปฏุปฏุตราทิภาวปฺปตฺตํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ปรํ ปรํ านํ อกฺกมนโต ตโตปิ พลวตร’’นฺติ. ติฏฺติ ปวตฺตติ เอตฺถาติ านิยา, ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส านิยา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา. าตพฺโพ วา านิโย, ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค านิโย เอเตสูติ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยา, อปราปรํ วตฺตมานา ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสมฺปยุตฺตา ธมฺมา. ยสฺมา ปน เตสุ ปีติเยว ปีติสมฺโพชฺฌงฺคสฺส วิเสสการณํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปีติยา เอว เอตํ นาม’’นฺติ. อุปฺปาทกมนสิกาโรติ ยถา มนสิ กโรโต อนุปฺปนฺโน ปีติสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺโน จ วฑฺฒติ, ตถา ปวตฺตมนสิกาโร.

ปริปุจฺฉกตาติ ปริโยคาเหตฺวา ปุจฺฉกภาโว. ปฺจปิ หิ นิกาเย อุคฺคเหตฺวา อาจริเย ปริยุปาสิตฺวา ตสฺส ตสฺส อตฺถํ ปริปุจฺฉนฺตสฺส, เต วา สห อฏฺกถาย ปริโยคาเหตฺวา ยํ ยํ ตตฺถ คณฺิฏฺานํ, ตํ ตํ ‘‘อิทํ, ภนฺเต, กถํ, อิมสฺส โก อตฺโถ’’ติ ปุจฺฉนฺตสฺส ธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺโค อุปฺปชฺชตีติ. วตฺถุวิสทกิริยา อินฺทฺริยสมตฺตปฏิปาทนา สงฺเขปโต, วิตฺถารโต จ ปกาสิตา เอว. ตตฺถ ปน สมาธิสํวตฺตนิยภาเวน อาคตา, อิธ ปฺาสํวตฺตนิยภาเวน. ยทคฺเคน หิ สมาธิสํวตฺตนิกา, ตทคฺเคน ปฺาสํวตฺตนิกา สมาธิสฺส าณปจฺจุปฏฺานโต. ‘‘สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๙; ๕.๑๐๗๑) วุตฺตํ. ทุปฺปฺปุคฺคลปริวชฺชนา นาม ทุปฺปฺานํ มนฺทพุทฺธีนํ ภตฺตนิกฺขิตฺตกากมํสนิกฺขิตฺตสุนขสทิสานํ โมมูหปุคฺคลานํ ทูรโต ปริจฺจชนา. ปฺวนฺตปุคฺคลเสวนา นาม ปฺาย กตาธิการานํ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทาทีสุ กุสลานํ อริยานํ, วิปสฺสนากมฺมิกานํ วา มหาปฺานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนํ. คมฺภีราณจริยปจฺจเวกฺขณาติ คมฺภีราเณหิ จริตพฺพานํ ขนฺธายตนธาตาทีนํ, สจฺจปจฺจยาการาทิทีปนานํ วา สุฺตาปฏิสํยุตฺตานํ สุตฺตนฺตานํ ปจฺจเวกฺขณา. ตทธิมุตฺตตาติ ปฺาธิมุตฺตตา, ปฺาย นินฺนโปณปพฺภารตาติ อตฺโถ.

อปายาทีติ อาทิ-สทฺเทน ชาติอาทึ อตีเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, อนาคเต วฏฺฏมูลกํ ทุกฺขํ, ปจฺจุปฺปนฺเน อาหารปริเยฏฺิมูลกฺจ ทุกฺขํ สงฺคณฺหาติ. วีริยายตฺตสฺส โลกิยโลกุตฺตรวิเสสสฺส อธิคโม เอว อานิสํโส, ตสฺส ทสฺสนสีลตา วีริยายตฺต…เป… ทสฺสิตา. สปุพฺพภาโค นิพฺพานคามิมคฺโค คมนวีถิ คนฺตพฺพา ปฏิปชฺชิตพฺพา ปฏิปทาติ กตฺวา . ทายกานํ มหปฺผลภาวกรเณน ปิณฺฑาปจายนตาติ ปจฺจยทายกานํ อตฺตนิ การสฺส อตฺตโน สมฺมาปฏิปตฺติยา มหปฺผลการภาวสฺส กรเณน ปิณฺฑสฺส ภิกฺขาย ปฏิปูชนา. อิตรถาติ อามิสปูชาย. กุสีตปุคฺคลปริวชฺชนตาติ อลสานํ ภาวนาย นามมตฺตมฺปิ อชานนฺตานํ กายทฬฺหีพหุลานํ ยาวทตฺถํ ภุฺชิตฺวา เสยฺยสุขาทิอนุยุฺชนกานํ ติรจฺฉานกถิกานํ ปุคฺคลานํ ทูรโต ปริจฺจชนา. อารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตาติ ‘‘ทิวสํ จงฺกเมน นิสชฺชายา’’ติอาทินา (วิภ. ๕๑๙; อ. นิ. ๓.๑๖) ภาวนารมฺภวเสน อารทฺธวีริยานํ ทฬฺหปรกฺกมานํ ปุคฺคลานํ กาเลน กาลํ อุปสงฺกมนา. สมฺมปฺปธานปจฺจเวกฺขณตาติ จตุพฺพิธสมฺมปฺปธานานุภาวสฺส ปจฺจเวกฺขณตา. ตทธิมุตฺตตาติ ตสฺมึ วีริยสมฺโพชฺฌงฺเค อธิมุตฺติ สพฺพิริยาปเถสุ นินฺนโปณปพฺภารตา. เอตฺถ จ ถินมิทฺธวิโนทนกุสีตปุคฺคลปริวชฺชนอารทฺธวีริยปุคฺคลเสวนตทธิมุตฺตตา ปฏิปกฺขวิธมนปจฺจยูปสํหารวเสน, อปายาทิภยปจฺจเวกฺขณาทโย สมุตฺเตชนวเสน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคสฺส อุปฺปาทกา ทฏฺพฺพา.

พุทฺธาทีสุ ปสาทสิเนหาภาเวน ถุสขรหทยา ลูขปุคฺคลา, ตพฺพิปริยาเยน สินิทฺธปุคฺคลา เวทิตพฺพา. พุทฺธาทีนํ คุณปริทีปนา สมฺปสาทนียสุตฺตาทโย (ที. นิ. ๓.๑๔๑ อาทโย) ปสาทนียสุตฺตนฺตา. อิเมหิ อากาเรหีติ ยถาวุตฺเตหิ กุสลาทีนํ สภาวสามฺลกฺขณปฏิวิชฺฌนาทิอากาเรหิ เจว ปริปุจฺฉกตาทิอากาเรหิ จ. เอเต ธมฺเมติ เอเต กุสลาทีสุ โยนิโสมนสิการาทิเก เจว ธมฺมตฺถฺุตาทิเก จ.

๖๕. อจฺจารทฺธวีริยตาทีหีติ อติวิย ปคฺคหิตวีริยตาทีหิ. อาทิ-สทฺเทน สํเวชนปโมทนาทึ สงฺคณฺหาติ. อุทฺธตนฺติ สมาธิอาทีนํ มนฺทตาย อวูปสนฺตํ. ทุวูปสมยนฺติ วูปสเมตุํ สมาธาตุํ อสกฺกุเณยฺยํ.

ตํอาการํ สลฺลกฺเขตฺวาติ เยนากาเรน อสฺส โยคิโน ปสฺสทฺธิ สมาธิ อุเปกฺขาติ อิเม ปสฺสทฺธิอาทโย ธมฺมา ปุพฺเพ ยถารหํ ตสฺมึ ตสฺมึ กาเล อุปฺปนฺนปุพฺพา, ตํ จิตฺตตํสมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปสฺสทฺธาการํ, สมาหิตาการํ, อชฺฌุเปกฺขิตาการฺจ อุปลกฺเขตฺวา อุปธาเรตฺวา. ตีสุปิ ปเทสูติ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, กายปฺปสฺสทฺธี’’ติอาทินา อาคเตสุ ตีสุปิ วากฺเยสุ, เตหิ วา ปกาสิเตสุ ตีสุ ธมฺมโกฏฺาเสสุ. ยถาสมาหิตาการํ สลฺลกฺเขตฺวา คยฺหมาโน สมโถ เอว สมถนิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘สมถนิมิตฺตนฺติ จ สมถสฺเสเวตมธิวจน’’นฺติ. นานารมฺมเณ ปริพฺภมเนน วิวิธํ อคฺคํ เอตสฺสาติ พฺยคฺโค, วิกฺเขโป. ตถา หิ โส อนวฏฺานรโส, ภนฺตตาปจฺจุปฏฺาโน จ วุตฺโต. เอกคฺคตาภาวโต พฺยคฺคปฏิปกฺโขติ อพฺยคฺโค, สมาธิ. โส เอว นิมิตฺตนฺติ ปุพฺเพ วิย วตฺตพฺพํ. เตนาห ‘‘อวิกฺเขปฏฺเน จ ตสฺเสว อพฺยคฺคนิมิตฺตนฺติ อธิวจน’’นฺติ.

สรีราวตฺถํ ตฺวา มตฺตโส ปริภุตฺโต ปณีตาหาโร กายลหุตาทีนํ สมุฏฺาปเนน ปสฺสทฺธิยา ปจฺจโย โหติ, ตถา อุตุสปฺปายํ, อิริยาปถสปฺปายฺจ เสวิตํ, ปโยโค จ กายิโก ปวตฺติโตติ อาห ‘‘ปณีตโภชนเสวนตา’’ติอาทิ. ปโยคสมตาทีนํ อภาเวน สทรถกายจิตฺตา ปุคฺคลา สารทฺธปุคฺคลา. วุตฺตวิปริยาเยน ปสฺสทฺธกายา ปุคฺคลา เวทิตพฺพา.

นิรสฺสาทสฺสาติ ภาวนสฺสาทรหิตสฺส. ภาวนา หิ วีถิปฏิปนฺนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสวตี ปวตฺตมานา จิตฺตสฺส อสฺสาทํ อุปสมสุขํ อาวหติ, ตทภาวโต นิรสฺสาทํ จิตฺตํ โหติ. สทฺธาสํเวควเสนาติ สทฺธาวเสน, สํเวควเสน จ. สมฺปหํสนตาติ สมฺมเทว ปหํสนตา สํเวชนปุพฺพกปสาทุปฺปาทเนน ภาวนา จิตฺตสฺส โตสนา. สมฺมาปวตฺตสฺสาติ ลีนุทฺธจฺจวิรเหน, สมถวีถิปฏิปตฺติยา จ สมํ, สวิเสสฺจ ปวตฺติยา สมฺมเทว ปวตฺตสฺส ภาวนาจิตฺตสฺส. อชฺฌุเปกฺขนตาติ ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ อพฺยาวฏตา. ฌานวิโมกฺขปจฺจเวกฺขณตาติ ปมาทีนิ ฌานานิ ปจฺจนีกธมฺเมหิ สุฏฺุ วิมุตฺตตาทินา เตเยว วิโมกฺขา เตสํ ‘‘เอวํ ภาวนา, เอวํ สมาปชฺชนา, เอวํ อธิฏฺานํ, เอวํ วุฏฺานํ, เอวํ สํกิเลโส, เอวํ โวทาน’’นฺติ ปติ ปติ อเวกฺขณา.

สตฺตมชฺฌตฺตตาติ สตฺเตสุ ปิยฏฺานิเยสุปิ คหฏฺปพฺพชิเตสุ มชฺฌตฺตากาโร อชฺฌุเปกฺขนา. สงฺขารมชฺฌตฺตตาติ อชฺฌตฺติเกสุ จกฺขาทีสุ, พาหิเรสุ ปตฺตจีวราทีสุ มชฺฌตฺตากาโร อชฺฌุเปกฺขนา. สตฺตสงฺขารานํ มมายนํ สตฺตสงฺขารเกลายนํ. อิเมหากาเรหีติ อิเมหิ ยถาวุตฺเตหิ กายจิตฺตานํ ปสฺสทฺธาการสลฺลกฺขณาทิอากาเรหิ เจว สปฺปายาหารเสวนาทิอากาเรหิ จ. เอเต ธมฺเมติ เอเต ปสฺสทฺธิอาทิธมฺเม.

๖๖. ปฺาปโยคมนฺทตายาติ ปฺาพฺยาปารสฺส อปฺปภาเวน. ยถา หิ ทานสีลานิ อโลภาโทสปฺปธานานิ , เอวํ ภาวนา อโมหปฺปธานา วิเสสโต อปฺปนาวหา. ตตฺถ ยทา ปฺา น พลวตี โหติ, ตทา ภาวนาจิตฺตสฺส อนภิสงฺขโต วิย อาหาโร ปุริสสฺส อภิรุจึ น ชเนติ, เตน ตํ นิรสฺสาทํ โหติ. ยทา จ ภาวนา ปุพฺเพนาปรํ วิเสสาวหา น โหติ สมฺมเทว อวีถิปฏิปตฺติยา, ตทา อุปสมสุขสฺส อลาเภน จิตฺตํ นิรสฺสาทํ โหติ. ตทุภยํ สนฺธายาห ‘‘ปฺาปโยคมนฺทตายา’’ติอาทิ. นฺติ จิตฺตํ. ชาติชราพฺยาธิมรณานิ ยถารหํ สุคติยํ, ทุคฺคติยฺจ โหนฺตีติ ตทฺเมว ปฺจวิธพนฺธนาทิขุปฺปิปาสาทิอฺมฺวิพาธนาทิเหตุกํ อปายทุกฺขํ ทฏฺพฺพํ. ตยิทํ สพฺพํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ ปจฺจุปฺปนฺนภวนิสฺสิตํ คหิตนฺติ อตีเต, อนาคเต จ กาเล วฏฺฏมูลกทุกฺขานิ วิสุํ คหิตานิ. เย ปน สตฺตา อาหารูปชีวิโน, ตตฺถ จ อุฏฺานผลูปชีวิโน, เตสํ อฺเหิ อสาธารณํ ชีวิตทุกฺขํ อฏฺมํ สํเวควตฺถุ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

อสฺสาติ จิตฺตสฺส. อลีนนฺติอาทีสุ โกสชฺชปกฺขิยานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อลีนํ. อุทฺธจฺจปกฺขิกานํ ธมฺมานํ อนธิมตฺตตาย อนุทฺธตํ. ปฺาปโยคสมฺปตฺติยา, อุปสมสุขาธิคเมน จ อนิรสฺสาทํ. ปุพฺเพนาปรํ สวิเสสํ ตโต เอว อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ, สมถวีถิปฏิปนฺนฺจ. ตตฺถ อลีนตาย ปคฺคเห, อนุทฺธตตาย นิคฺคเห, อนิรสฺสาทตาย สมฺปหํสเน น พฺยาปารํ อาปชฺชติ. อลีนานุทฺธตตาย หิ อารมฺมเณ สมปฺปวตฺตํ อนิรสฺสาทตาย สมถวีถิปฏิปนฺนํ. สมปฺปวตฺติยา วา อลีนํ อนุทฺธตํ, สมถวีถิปฏิปตฺติยา อนิรสฺสาทนฺติ ทฏฺพฺพํ.

เนกฺขมฺมปฏิปทนฺติ ฌานปฏิปตฺตึ. สมาธิอธิมุตฺตตาติ สมาธินิพฺพตฺตเน ฌานาธิคเม ยุตฺตปฺปยุตฺตตา. สา ปน ยสฺมา สมาธึ ครุํ กตฺวา ตตฺถ นินฺนโปณปพฺภารภาเวน ปวตฺติยา โหติ, ตสฺมา ‘‘สมาธิครู’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๖๗. ปฏิลทฺเธ นิมิตฺตสฺมึ เอวํ หิ สมฺปาทยโต อปฺปนาโกสลฺลํ อิมํ อปฺปนา สมฺปวตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. สาติ อปฺปนา. หิตฺวา หีติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา านเมตํ น วิชฺชติ, ตสฺมา จิตฺตปฺปวตฺติอาการํ ภาวนาจิตฺตสฺส ลีนุทฺธตาทิวเสน ปวตฺติอาการํ สลฺลกฺขยํ อุปธาเรนฺโต. สมตํ วีริยสฺเสว วีริยสฺส สมาธินา สมรสตํเยว โยชเยถ. กถํ ปน โยชเยถาติ อาห ‘‘อีสกมฺปี’’ติอาทิ. ตตฺถ ลยนฺติ ลีนภาวํ, สงฺโกจนฺติ อตฺโถ. ยนฺตนฺติ คจฺฉนฺตํ , ปคฺคณฺเหเถว สมภาวายาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อจฺจารทฺธํ นิเสเธตฺวา สมเมว ปวตฺตเย’’ติ. กถํ ปน สมเมว ปวตฺตเยติ อาห ‘‘เรณุมฺหี’’ติอาทิ. ยถาติ เรณุอาทีสุ ยถา มธุกราทีนํ ปวตฺติ อุปมาภาเวน อฏฺกถายํ สมฺมวณฺณิตา, เอวํ ลีนุทฺธตภาเวหิ โมจยิตฺวา วีริยสมตาโยชเนน นิมิตฺตาภิมุขํ มานสํ ปฏิปาทเย ปฏิภาคนิมิตฺตาภิมุขํ ภาวนาจิตฺตํ สมฺปาเทยฺยาติ อตฺโถ.

นิมิตฺตาภิมุขปฏิปาทนวณฺณนา

๖๘. ตตฺราติ ตสฺมึ ‘‘เรณุมฺหี’’ติอาทินา วุตฺตคาถาทฺวเย. อตฺถทีปนา อุปมูปเมยฺยตฺถวิภาวนา. อเฉโกติ อกุสโล. ปกฺขนฺโทติ ธาวิตุํ อารทฺโธ. วิกสนกฺขเณเยว สรสํ กุสุมปราคํ โหติ, ปจฺฉา วาตาทีหิ ปริปตติ, วิรสํ วา โหติ. ตสฺมา นิวตฺตเน เรณุ ขียตีติ อาห ‘‘ขีเณ เรณุมฺหิ สมฺปาปุณาตี’’ติ. ปุปฺผราสินฺติ รุกฺขสาขาสุ นิสฺสิตํ ปุปฺผสฺจยํ.

สลฺลกตฺตอนฺเตวาสิเกสูติ สลฺลกตฺตอาจริยสฺส อนฺเตวาสิเกสุ. อุทกถาลคเตติ อุทกถาลิยํ ปิเต. สตฺถกมฺมนฺติ สิราเวธนาทิสตฺถกมฺมํ. ผุสิตุมฺปิ อุปฺปลปตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. สเมนาติ ปุริมกา วิย ครุํ, มนฺทฺจ ปโยคํ อกตฺวา สมปฺปมาเณน ปโยเคน. ตตฺถาติ อุปฺปลปตฺเต. ปริโยทาตสิปฺโปติ สุวิสุทฺธสิปฺโป นิปฺผนฺนสิปฺโป.

มกฺกฏกสุตฺตนฺติ ลูตสุตฺตํ. นิยามโก นาวาสารถี. ลงฺการนฺติ กิลฺชาทิมยํ นาวากฏสารกํ. เตเลน อฉฑฺเฑนฺโต นาฬึ ปูเรตีติ สราวาทิคเตน เตเลน อฉฑฺเฑนฺโต สุขุมจฺฉิทฺทกํ เตลนาฬึ ปูเรติ. เอวเมวาติ ยถา เต อาทิโต วุตฺตมธุกรสลฺลกตฺตอนฺเตวาสิสุตฺตากฑฺฒกนิยามกเตลปูรกา เวเคน ปโยคํ กโรนฺติ, เอวเมว โย ภิกฺขุ ‘‘สีฆํ อปฺปนํ ปาปุณิสฺสามี’’ติ คาฬฺหํ วีริยํ กโรติ, โย มชฺเฌ วุตฺตมธุกราทโย วิย วีริยํ น กโรติ, อิเม ทฺเวปิ วีริยสมตาภาเวน อปฺปนํ ปาปุณิตุํ น สกฺโกนฺติ. โย ปน อวสาเน วุตฺตมธุกราทโย วิย สมปฺปโยโค, อยํ อปฺปนํ ปาปุณิตุํ สกฺโกติ วีริยสมตาโยคโตติ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอโก ภิกฺขู’’ติอาทิ. ลีนํ ภาวนาจิตฺตนฺติ อธิปฺปาโย.

ปมชฺฌานกถาวณฺณนา

๖๙. เอวนฺติ วุตฺตปฺปกาเรน. วีริยสมตาโยชนวเสน วีถิปฏิปนฺนํ ภาวนามานสํ ปฏิภาคนิมิตฺเตเยว ปนวเสน นิมิตฺตาภิมุขํ ปฏิปาทยโต อสฺส โยคิโน. อิชฺฌิสฺสตีติ สมิชฺฌิสฺสติ, อุปฺปชฺชิสฺสตีติ อตฺโถ. อนุโยควเสนาติ ภาวนาวเสน. เสสานีติ เสสานิ ตีณิ, จตฺตาริ วา. ปกติจิตฺเตหีติ ปากติเกหิ กามาวจรจิตฺเตหิ. พลว…เป… จิตฺเตกคฺคตานิ ภาวนาพเลน ปฏุตรสภาวปฺปตฺติยา. ปริกมฺมตฺตาติ ปฏิสงฺขารกตฺตา. ยทิ อาสนฺนตฺตา อุปจารตา, โคตฺรภุโน เอว อุปจารสมฺา สิยาติ อาห ‘‘สมีปจาริตฺตา วา’’ติ. อนจฺจาสนฺโนปิ หิ นาติทูรปวตฺตี สมีปจารี นาม โหติ. อปฺปนํ อุเปจฺจ จรนฺตีติ อุปจารานิ. อิโต ปุพฺเพ ปริกมฺมานนฺติ นานาวชฺชนวีถิยํ ปริกมฺมานํ. เอตฺถาติ เอเตสุ ปริกมฺมุปจารานุโลมสฺิเตสุ. สพฺพนฺติมนฺติ ตติยํ, จตุตฺถํ วา. ปริตฺตโคตฺตาภิภวนโตติ ปริตฺตสฺส โคตฺตสฺส อภิภวนโต. คํตายตีติ หิ โคตฺตํ, ‘‘ปริตฺต’’นฺติ ปวตฺตมานํ อภิธานํ, พุทฺธิฺจ เอกํสิกวิสยตาย รกฺขตีติ ปริตฺตโคตฺตํ. ยถา หิ พุทฺธิ อารมฺมณภูเตน อตฺเถน วินา น ปวตฺตติ, เอวํ อภิธานํ อภิเธยฺยภูเตน. ตสฺมา โส ตานิ ตายติ รกฺขตีติ วุจฺจติ. ตํ ปน มหคฺคตานุตฺตรวิธุรํ กามตณฺหาย โคจรภูตํ กามาวจรธมฺมานํ อาเวณิกรูปํ ทฏฺพฺพํ. มหคฺคตโคตฺเตปิ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ภาวนโตติ อุปฺปาทนโต.

อวิเสเสน สพฺเพสํ สพฺพา สมฺาติ ปมนโย คหิตคฺคหณํ โหตีติ อาห ‘‘อคฺคหิตคฺคหเณนา’’ติอาทิ. นานาวชฺชนปริกมฺมเมว ปริกมฺมนฺติ อธิปฺปาเยน ‘‘ปมํ วา อุปจาร’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. จตุตฺถํ อปฺปนาจิตฺตํ, ปฺจมํ วา อปฺปนาจิตฺตํ ปุพฺเพ วุตฺตนเยน สเจ จตุตฺถํ โคตฺรภุ โหตีติ อตฺโถ. ปฺจมํ วาติ วา-สทฺโท อนิยเม. สฺวายํ อนิยโม อิมินา การเณนาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺจ โข ขิปฺปาภิฺทนฺธาภิฺวเสนา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ขิปฺปาภิฺสฺส จตุตฺถํ อปฺเปติ, ทนฺธาภิฺสฺส ปฺจมํ. กสฺมา ปน จตุตฺถํ, ปฺจมํ วา อปฺเปติ, น ตโต ปรนฺติ อาห ‘‘ตโต ปรํ ชวนํ ปตตี’’ติ. ตโต ปฺจมโต ปรํ ฉฏฺํ, สตฺตมฺจ ชวนํ ปตนฺตํ วิย โหติ ปริกฺขีณชวตฺตาติ อธิปฺปาโย.

ยถา อลทฺธาเสวนํ ปมชวนํ ทุพฺพลตฺตา โคตฺรภุํ น อุปฺปาเทติ, ลทฺธาเสวนํ ปน พลวภาวโต ทุติยํ, ตติยํ วา โคตฺรภุํ อุปฺปาเทติ, เอวํ ลทฺธาเสวนตาย พลวภาวโต ฉฏฺํ, สตฺตมมฺปิ อปฺเปตีติ เถรสฺส อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘ตสฺมา ฉฏฺเปิ สตฺตเมปิ อปฺปนา โหตี’’ติ. นฺติ เถรสฺส วจนํ. สุตฺตสุตฺตานุโลมอาจริยวาเทหิ อนุปตฺถมฺภิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อตฺตโนมติมตฺต’’นฺติ. ‘‘ปุริมา ปุริมา กุสลา ธมฺมา’’ติ (ปฏฺา. ๑.๑.๑๒) ปน สุตฺตปทมการณํ อาเสวนปจฺจยลาภสฺส พลวภาเว อเนกนฺติกตฺตา. ตถา หิ อลทฺธาเสวนาปิ ปมเจตนา ทิฏฺธมฺมเวทนียา โหติ, ลทฺธาเสวนา ทุติยเจตนา ยาว ฉฏฺเจตนา อปราปริยเวทนียา. จตุตฺถปฺจเมสุเยวาติอาทิ วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ยุตฺติทสฺสนมุเขน นิคมนตฺถํ วุตฺตํ. ตตฺถ ยทิ ฉฏฺสตฺตมํ ชวนํ ปติตํ นาม โหติ ปริกฺขีณชวตฺตา, กถํ สตฺตมชวนเจตนา อุปปชฺชเวทนียา, อานนฺตริยา จ โหตีติ? นายํ วิเสโส อาเสวนปจฺจยลาเภน พลปฺปตฺติยา. กิฺจรหิ กิริยาวตฺถาวิเสสโต. กิริยาวตฺถา หิ อารมฺภมชฺฌปริโยสานวเสน ติวิธา. ตตฺถ จ ปริโยสานาวตฺถาย สนฺนิฏฺาปกเจตนาภาเวน อุปปชฺชเวทนียาทิตา โหติ, น พลวภาเวนาติ ทฏฺพฺพํ. ปฏิสนฺธิยา อนนฺตรปจฺจยภาวิโน วิปากสนฺตานสฺส อนนฺตรปจฺจยภาเวน ตถา อภิสงฺขตตฺตาติ จ วทนฺติ. ตสฺมา ฉฏฺสตฺตมานํ ปปาตาภิมุขตาย ปริกฺขีณชวตา น สกฺกา นิวาเรตุํ. ตถา หิ ‘‘ยถา หิ ปุริโส’’ติอาทิ วุตฺตํ.

สาจ ปน อปฺปนา. อทฺธานปริจฺเฉโทติ กาลปริจฺเฉโท. โส ปเนตฺถ สตฺตสุ าเนสุ กตฺถจิ อปริมาณจิตฺตกฺขณตาย, กตฺถจิ อติอิตฺตรขณตาย นตฺถีติ วุตฺโต. น เหตฺถ สมฺปุณฺณชวนวีถิ อทฺธา ลพฺภติ. เตเนวาห ‘‘เอตฺถ มคฺคานนฺตรผล’’นฺติอาทิ. เสสฏฺาเนสูติ ปมปฺปนา, โลกิยาภิฺา, มคฺคกฺขโณ, นิโรธา วุฏฺหนฺตสฺส ผลกฺขโณติ เอเตสุ จตูสุ าเนสุ.

เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ภาวนากฺกเมน เอส โยคาวจโร ปมํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรติ. เอวํ วิหรตา จ อเนน ตเทว ปมํ ฌานํ อธิคตํ โหติ ปถวีกสิณนฺติ สมฺพนฺโธ.

๗๐. ตตฺถาติ ตสฺมึ ฌานปาเ. วิวิจฺจิตฺวาติ วิสุํ หุตฺวา. เตนาห ‘‘วินา หุตฺวา อปกฺกมิตฺวา’’ติ, ปชหนวเสน อปสกฺกิตฺวาติ อตฺโถ. วิวิจฺเจว กาเมหีติ เอตฺถ ‘‘วิวิจฺจา’’ติ อิมินา วิเวจนํ ฌานกฺขเณ กามานํ อภาวมตฺตํ วุตฺตํ. ‘‘วิวิจฺเจวา’’ติ ปน อิมินา เอกํสโต กามานํ วิเวเจตพฺพตาทีปเนน ตปฺปฏิปกฺขตา ฌานสฺส, กามวิเวกสฺส จ ฌานาธิคมูปายตา ทสฺสิตา โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปมํ ฌาน’’นฺติอาทึ วตฺวา ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘กถ’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘อนฺธกาเร สติ ปทีโปภาโส วิยา’’ติ เอเตน ยถา ปทีโปภาสาภาเวน รตฺติยํ อนฺธการาภิภโว, เอวํ ฌานาภาเวน สตฺตสนฺตติยํ กามาภิภโวติ ทสฺเสติ.

เอตนฺติ ปุพฺพปเทเยว อวธารณวจนํ. น โข ปน เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘กาเมหิ เอวา’’ติ อวธารณสฺส อกตตฺตา. นิสฺสรนฺติ นิคฺคจฺฉนฺติ เอเตน, เอตฺถ วาติ นิสฺสรณํ. เก นิคฺคจฺฉนฺติ? กามา, เตสํ กามานํ นิสฺสรณํ ปหานํ ตนฺนิสฺสรณํ, ตโต. กถํ ปน สมาเน วิกฺขมฺภเน กามานเมเวตํ นิสฺสรณํ, น พฺยาปาทาทีนนฺติ โจทนํ ยุตฺติโต, อาคมโต จ โสเธตุํ ‘‘กามธาตู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กามธาตุสมติกฺกมนโตติ สกลสฺสปิ กามภวสฺส สมติกฺกมปฏิปทาภาวโต. เตน อิมสฺส ฌานสฺส กามปริฺาภาวมาห. กามราคปฏิปกฺขโตติ วกฺขมานวิภาคสฺส กิเลสกามสฺส ปจฺจตฺถิกภาวโต. เตน ยถา เมตฺตา พฺยาปาทสฺส, กรุณา วิหึสาย, เอวมิทํ ฌานํ กามราคสฺส อุชุวิปจฺจนีกภูตนฺติ ทสฺเสติ. เอวมตฺตโน ปวตฺติยา, วิปากปฺปวตฺติยา จ กามราคโต, กามธาตุโต จ วินิวตฺตสภาวตฺตา อิทํ ฌานํ วิเสสโต กามานเมว นิสฺสรณํ. สฺวายมตฺโถ ปาคโต เอวาติ อาห ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ. กามฺเจตมตฺถํ ทีเปตุํ ปุริมปเทเยว อวธารณํ คหิตํ, อุตฺตรปเทปิ ปน ตํ คเหตพฺพเมว ตถา อตฺถสมฺภวโตติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุตฺตรปเทปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิโตติ กามจฺฉนฺทโต. เอส นิยโม. สาธารณวจเนนาติ อวิเสสวจเนน. ตทงฺควิกฺขมฺภนสมุจฺเฉทปฺปฏิปสฺสทฺธินิสฺสรณวิเวกา ตทงฺควิเวกาทโย. จิตฺตกายอุปธิวิเวกา จิตฺตวิเวกาทโย. ตโย เอว อิธ ฌานกถายํ ทฏฺพฺพา สมุจฺเฉทวิเวกาทีนํ อสมฺภวโต.

นิทฺเทเสติ มหานิทฺเทเส (มหานิ. ๑, ๗). ตตฺถ หิ ‘‘อุทฺทานโต ทฺเว กามา – วตฺถุกามา กิเลสกามา จา’’ติ อุทฺทิสิตฺวา ‘‘ตตฺถ กตเม วตฺถุกามา? มนาปิยา รูปา…เป… มนาปิยา โผฏฺพฺพา’’ติอาทินา วตฺถุกามา นิทฺทิฏฺา. เต ปน กามียนฺตีติ กามาติ เวทิตพฺพา. ตตฺเถวาติ นิทฺเทเส เอว. วิภงฺเคติ ฌานวิภงฺเค (วิภ. ๕๖๔). ปตฺถนากาเรน ปวตฺโต ทุพฺพโล โลโภ ฉนฺทนฏฺเน ฉนฺโท, ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค, ตโตปิ พลวตโร พหลราโค ฉนฺทราโค. นิมิตฺตานุพฺยฺชนานิ สงฺกปฺเปติ เอเตนาติ สงฺกปฺโป, ตถาปวตฺโต โลโภ, ตโต พลวา รฺชนฏฺเน ราโค, สงฺกปฺปนวเสเนว ปวตฺโต ตโตปิ พลวตโร สงฺกปฺปราโคติ. สฺวายํ ปเภโท เอกสฺเสว โลภสฺส ปวตฺติอาการวเสน, อวตฺถาเภทวเสน จ เวทิตพฺโพ ยถา ‘‘วจฺโฉ ทมฺโม พลีพทฺโท’’ติ. อิเม กิเลสกามา. กาเมนฺตีติ กามา, กาเมนฺติ เอเตหีติ วา.

เอวฺหิ สตีติ เอวํ อุภเยสมฺปิ กามานํ สงฺคเห สติ. วตฺถุกาเมหิปีติ ‘‘วตฺถุกาเมหิ วิวิจฺเจวา’’ติปิ อตฺโถ ยุชฺชตีติ เอวํ ยุชฺชมานตฺถนฺตรสมุจฺจยตฺโถ ปิ-สทฺโท, น กิเลสกามสมุจฺจยตฺโถ. กสฺมา? อิมสฺมึ อตฺเถ กิเลสกาเมหิ วิเวกสฺส ทุติยปเทน วุตฺตตฺตา. เตนาติ วตฺถุกามวิเวเกน. กายวิเวโก วุตฺโต โหติ ปุตฺตทาราทิปริคฺคหวิเวกทีปนโต. ปุริเมนาติ กายวิเวเกน. เอตฺถาติ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ, วิวิจฺจ อกุสเลหิ ธมฺเมหี’’ติ เอตสฺมึ ปททฺวเย, อิโต วา นิทฺธาริเต วิเวกทฺวเย. อกุสล-สทฺเทน ยทิปิ กิเลสกามา, สพฺพากุสลาปิ วา คหิตา, สพฺพถา ปน กิเลสกาเมหิ วิเวโก วุตฺโตติ อาห ‘‘ทุติเยน กิเลสกาเมหิ วิเวกวจนโต’’ติ. ทุติเยนาติ จ จิตฺตวิเวเกนาติ อตฺโถ. เอเตสนฺติ ยถาวุตฺตานํ ทฺวินฺนํ ปทานํ, นิทฺธารเณ เจตํ สามิวจนํ. ตณฺหาทิสํกิเลสานํ วตฺถุโน ปหานํ สํกิเลสวตฺถุปฺปหานํ. โลลภาโว นาม ตตฺถ ตตฺถ รูปาทีสุ ตณฺหุปฺปาโท, ตสฺส เหตุ วตฺถุกามา เอว เวทิตพฺพา. พาลภาโว อวิชฺชา, ทุจฺจินฺติตจินฺติตาทิ วา, ตสฺส อโยนิโสมนสิกาโร, สพฺเพปิ วา อกุสลา ธมฺมา เหตุ. กามคุณาธิคมเหตุปิ ปาณาติปาตาทิอสุทฺธปโยโค โหตีติ ตพฺพิเวเกน ปโยคสุทฺธิ วิภาวิตา. ตณฺหาสํกิเลสโสธเนน, วิวฏฺฏูปนิสฺสยสํวฑฺฒเนน จ อชฺฌาสยวิโสธนํ อาสยโปสนํ. กาเมสูติ นิทฺธารเณ ภุมฺมํ.

อเนกเภโทติ กามาสวกามราคสํโยชนาทิวเสน, รูปตณฺหาทิวเสน จ อเนกปฺปเภโท. กามจฺฉนฺโทเยวาติ กามสภาโวเยว ฉนฺโท, น กตฺตุกมฺยตาฉนฺโท, นาปิ กุสลจฺฉนฺโทติ อธิปฺปาโย. ฌานปฏิปกฺขโตติ ฌานสฺส ปฏิปกฺขภาวโต ตํเหตุ ตนฺนิมิตฺตํ วิสุํ วุตฺโต. อกุสลภาวสามฺเน อคฺคเหตฺวา วิสุํ สรูเปน คหิโต. ยทิ กิเลสกาโมว ปุริมปเท วุตฺโต, กถํ พหุวจนนฺติ อาห ‘‘อเนกเภทโต’’ติอาทิ.

อฺเสมฺปิ ทิฏฺิมานอหิริกาโนตฺตปฺปาทีนํ, ตํสหิตผสฺสาทีนฺจ. อุปริ วุจฺจมานานิ ฌานงฺคานิ อุปริฌานงฺคานิ, เตสํ อตฺตโน ปจฺจนีกานํ ปฏิปกฺขภาวทสฺสนโต ตปฺปจฺจนีกนีวรณวจนํ. นีวรณานิ หิ ฌานงฺคปจฺจนีกานิ เตสํ ปวตฺตินิวารณโต. สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺสปฏิปกฺโข ราคปฺปณิธิยา อุชุวิปจฺจนีกภาวโต, นานารมฺมเณหิ ปโลภิตสฺส ปริพฺภมนฺตสฺส จิตฺตสฺส สมาธานโต จ. ปีติ พฺยาปาทสฺส ปฏิปกฺขา ปาโมชฺเชน สมานโยคกฺเขมตฺตา. วิตกฺโก ถินมิทฺธสฺส ปฏิปกฺโข โยนิโส สงฺกปฺปนวเสน สวิปฺผารปวตฺติโต. สุขํ อวูปสมานุตาปสภาวสฺส อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปฏิปกฺขํ วูปสนฺตสีตลสภาวตฺตา. วิจาโร วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโข อารมฺมเณ อนุมชฺชนวเสน ปฺาปฏิรูปสภาวตฺตา. มหากจฺจานตฺเถเรน เทสิตํ ปิฏกานํ สํวณฺณนา เปฏกํ, ตสฺมึ เปฏเก.

ปฺจกามคุณเภทวิสยสฺสาติ รูปาทิปฺจกามคุณวิเสสวิสยสฺส. อาฆาตวตฺถุเภทาทิวิสยานนฺติ พฺยาปาทวิเวกวจเนน ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๐; อ. นิ. ๙.๒๙; วิภ. ๙๖๐) อาทิอาฆาตวตฺถุเภทวิสยสฺส โทสสฺส, โมหาธิเกหิ ถินมิทฺธาทีหิ วิเวกวจเนน ปฏิจฺฉาทนวเสน ทุกฺขาทิปุพฺพนฺตาทิเภทวิสยสฺส โมหสฺส วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต. กามราคพฺยาปาทตเทกฏฺถินมิทฺธาทิวิกฺขมฺภกฺเจตํ สพฺพากุสลปฏิปกฺขสภาวตฺตา. สพฺพกุสลานํ เตน สภาเวน สพฺพากุสลปฺปหายกํ โหติ, โหนฺตมฺปิ กามราคาทิวิกฺขมฺภนสภาวเมว โหติ ตํสภาวตฺตาติ อวิเสเสตฺวา นีวรณากุสลมูลาทีนํ ‘‘วิกฺขมฺภนวิเวโก วุตฺโต โหตี’’ติ อาห.

๗๑. ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานานํ สภาวธมฺมานํ นตฺถิ กาจิ วสวตฺติตาติ วสวตฺติภาวนิวารณตฺถํ ‘‘วิตกฺกนํ วิตกฺโก’’ติ วุตฺตํ. ตยิทํ ‘‘วิตกฺกนํ อีทิสมิท’’นฺติ อารมฺมณสฺส ปริกปฺปนนฺติ อาห ‘‘อูหนนฺติ วุตฺตํ โหตี’’ติ. ยสฺมา จิตฺตํ วิตกฺกพเลน อารมฺมณํ อภินิรุฬฺหํ วิย โหติ, ตสฺมา โส อารมฺมณาภินิโรปนลกฺขโณ วุตฺโต. ยถา หิ โกจิ ราชวลฺลภํ, ตํสมฺพนฺธินํ มิตฺตํ วา นิสฺสาย ราชเคหํ อาโรหติ อนุปวิสติ, เอวํ วิตกฺกํ นิสฺสาย จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ยทิ เอวํ, กถํ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหตีติ? วิตกฺกพเลเนว. ยถา หิ โส ปุริโส ปริจเยน เตน วินาปิ นิราสงฺโก ราชเคหํ ปวิสติ, เอวํ ปริจเยน วิตกฺเกน วินาปิ อวิตกฺกํ จิตฺตํ อารมฺมณํ อาโรหติ. ปริจเยนาติ จ สนฺตาเน ปวตฺตวิตกฺกภาวนาสงฺขาเตน ปริจเยน. วิตกฺกสฺส หิ สนฺตาเน อภิณฺหํ ปวตฺตสฺส วเสน จิตฺตสฺส อารมฺมณาภิรุหณํ จิรปริจิตํ. เตน ตํ กทาจิ วิตกฺเกน วินาปิ ตตฺถ ปวตฺตเตว. ยถา ตํ าณสหิตํ หุตฺวา สมฺมสนวเสน จิรปริจิตํ กทาจิ าณวิรหิตมฺปิ สมฺมสนวเสน ปวตฺตติ, ยถา วา กิเลสสหิตํ หุตฺวา ปวตฺตํ สพฺพโส กิเลสรหิตมฺปิ ปริจเยน กิเลสวาสนาวเสน ปวตฺตติ, เอวํสมฺปทมิทํ ทฏฺพฺพํ. อาทิโต, อภิมุขํ วา หนนํ อาหนนํ. ปริโต, ปริวตฺเตตฺวา วา อาหนนํ ปริยาหนนํ. ‘‘รูปํ รูปํ, ปถวี ปถวี’’ติ อาโกเฏนฺตสฺส วิย ปวตฺติ ‘‘อาหนนํ, ปริยาหนน’’นฺติ จ เวทิตพฺพํ. อานยนํ จิตฺตสฺส อารมฺมเณ อุปนยนํ, อากฑฺฒนํ วา.

อนุสฺจรณํ อนุปริพฺภมนํ. สฺวายํ วิเสโส สนฺตานมฺหิ ลพฺภมาโน เอว สนฺตาเน ปากโฏ โหตีติ ทฏฺพฺโพ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อนุมชฺชนํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อนุมสนํ, ปริมชฺชนนฺติ อตฺโถ. ตถา หิ วิจาโร ‘‘ปริมชฺชนหตฺโถ วิย, สฺจรณหตฺโถ วิยา’’ติ จ วุตฺโต. ตตฺถาติ อารมฺมเณ. สหชาตานํ อนุโยชนํ อารมฺมเณ อนุวิจารณสงฺขาตอนุมชฺชนวเสเนว เวทิตพฺพํ. อนุปฺปพนฺธนํ อารมฺมเณ จิตฺตสฺส อวิจฺฉินฺนสฺส วิย ปวตฺติ. ตถา หิ โส ‘‘อนุสนฺธานตา’’ติ (ธ. ส. ๘) นิทฺทิฏฺโ. เตเนว จ ‘‘ฆณฺฑานุรโว วิย, ปริพฺภมนํ วิยา’’ติ จ วุตฺโต.

กตฺถจีติ ปมชฺฌาเน, ปริตฺตจิตฺตุปฺปาเทสุ จ. วิจารโต โอฬาริกฏฺเน, วิจารสฺเสว จ ปุพฺพงฺคมฏฺเน อนุรวโต โอฬาริโก, ตสฺส จ ปุพฺพงฺคโม ฆณฺฑาภิฆาโต วิย วิตกฺโก. ยถา หิ ฆณฺฑาภิฆาโต ปมาภินิปาโต โหติ, เอวํ อารมฺมณาภิมุขนิโรปนฏฺเน วิตกฺโก เจตโส ปมาภินิปาโต โหติ. อภิฆาต-คฺคหเณน เจตฺถ อภิฆาตโช สทฺโท คหิโตติ เวทิตพฺโพ. วิปฺผารวาติ วิจลนยุตฺโต สปริปฺผนฺโท. ปริพฺภมนํ วิย ปริสฺสยาภาววีมํสนตฺถํ. อนุปฺปพนฺเธน ปวตฺติยนฺติ อุปจาเร วา อปฺปนายํ วา สนฺตาเนน ปวตฺติยํ. ตตฺถ หิ วิตกฺโก นิจฺจโล หุตฺวา อารมฺมณํ อนุปวิสิตฺวา วิย ปวตฺตติ, น ปมาภินิปาเต. ปากโฏ โหตีติ วิตกฺกสฺส วิเสโส อภินิโรปนากาโร โอฬาริกตฺตา ปมชฺฌาเน ปากโฏ โหติ, ตทภาวโต ปฺจกนเย ทุติยชฺฌาเน วิจารสฺส วิเสโส อนุมชฺชนากาโร ปากโฏ โหติ.

วาลณฺฑุปกํ เอฬกโลมาทีหิ กตจุมฺพฏกํ. อุปฺปีฬนหตฺโถติ ปิณฺฑสฺส อุปฺปีฬนหตฺโถ. ตสฺเสว อิโต จิโต จ สฺจรณหตฺโถ. มณฺฑลนฺติ กํสภาชนาทีสุ กิฺจิ มณฺฑลํ วฏฺฏเลขํ กโรนฺตสฺส. ยถา ปุปฺผผลสาขาทิอวยววินิมุตฺโต อวิชฺชมาโนปิ รุกฺโข ‘‘สปุปฺโผ สผโล’’ติ โวหรียติ, เอวํ วิตกฺกาทิองฺควินิมุตฺตํ อวิชฺชมานมฺปิ ฌานํ ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติ โวหรียตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘รุกฺโข วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฌานภาวนาย ปุคฺคลวเสน เทเสตพฺพตฺตา ‘‘อิธ ภิกฺขุ วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทินา ปุคฺคลาธิฏฺาเนน ฌานานิ อุทฺทิฏฺานีติ. ยทิปิ วิภงฺเค ปุคฺคลาธิฏฺานา เทสนา กตา, อตฺโถ ปน ตตฺราปิ วิภงฺเคปิ ยถา อิธ ‘‘อิมินา จ วิตกฺเกนา’’ติอาทินา ธมฺมวเสน วุตฺโต, เอวเมว ทฏฺพฺโพ, ปรมตฺถโต ปุคฺคลสฺเสว อภาวโตติ อธิปฺปาโย. อตฺโถ…เป… ทฏฺพฺโพ ฌานสมงฺคิโน วิตกฺกวิจารสมงฺคิตาทสฺสเนน, ฌานสฺเสว จ สวิตกฺกสวิจารตาย วุตฺตตฺตาติ เอวํ วา เอตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ.

วิเวกาติ วิเวกา เหตุภูตาติ วิเวก-สทฺทสฺส ภาวสาธนตํ สนฺธายาห. วิเวเกติ กตฺตุสาธนตํ, กมฺมสาธนตํ วา. ‘‘วิวิตฺโต’’ติ หิ อิมินา นีวรเณหิ วินาภูโต เตหิ วิเวจิโตติ จ สาธนทฺวยมฺปิ สงฺคหิตเมวาติ.

๗๒. ปีณยตีติ ตปฺเปติ, วฑฺเฒติ วา. สมฺปิยายนลกฺขณาติ ปริตุสฺสนลกฺขณา. ปีณนรสาติ ปริพฺรูหนรสา. ผรณรสาติ ปณีตรูเปหิ กายสฺส พฺยาปนรสา. อุทคฺคภาโว โอทคฺยํ. ขุทฺทิกา ลหุํ โลมหํสนมตฺตํ กตฺวา ภินฺนา น ปุน อุปฺปชฺชติ. ขณิกา พหุลํ อุปฺปชฺชติ. อุพฺเพคโต ผรณา นิจฺจลตฺตา, จิรฏฺิติกตฺตา จ ปณีตตรา. เจติยงฺคณํ คนฺตฺวาติ ปุณฺณวลฺลิกวิหาเร เจติยงฺคณํ คนฺตฺวา. ปกติยา ทิฏฺารมฺมณวเสนาติ ปุพฺเพ มหาเจติยํ คหิตารมฺมณวเสน. จิตฺรเคณฺฑุโก วิจิตฺรากาเรน กตเคณฺฑุโก. อุปนิสฺสเยติ สมีเป, ตสฺส วา วิหารสฺส นิสฺสยภูเต, โคจรฏฺานภูเตติ อตฺโถ.

ฆราชิเรติ เคหงฺคเณ. ปพฺพตสิขเร กตเจติยํ ‘‘อากาสเจติย’’นฺติ วุตฺตํ. คหิตนิมิตฺเตเนวาติ เจติยวนฺทนํ, ธมฺมสฺสวนฺจ อุทฺทิสฺส ‘‘ธฺา วติเม’’ติอาทินา คหิตกุสลนิมิตฺเตเนว การณภูเตน. คหิตํ วา นิมิตฺตํ เอเตนาติ คหิตนิมิตฺตํ, วุตฺตากาเรน ปวตฺตจิตฺตํ, เตน คหิตนิมิตฺเตเนว จิตฺเตน สห. ปกฺขนฺทนฺติ อนุปวิฏฺํ. อนุปริปฺผุฏนฺติ อนุ อนุ สมนฺตโต ผุฏํ, สพฺพโส อนุวิสฏนฺติ อตฺโถ.

ปสฺสทฺธิยา นิมิตฺตภาเวน คพฺภํ คณฺหนฺตี. ปริปาจนวเสน ปริปากํ คจฺฉนฺตี. อปฺปนาสมฺปยุตฺตาว ปีติ อปฺปนาสมาธิปูริกา. ขณิกสมาธิปูริกา จ อุปจารสมาธิปูริกา จ อปฺปนาสมาธิสฺส วิทูรตราติ ตทุภยํ อนามสนฺโต ‘‘ตาสุ ยา อปฺปนาสมาธิสฺสา’’ติอาทิมาห . สมาธิสมฺปโยคํ คตาติ ปุพฺเพ อุปจารสมาธินา สมฺปยุตฺตา หุตฺวา อนุกฺกเมน วฑฺฒิตฺวา อปฺปนาสมาธินา สมฺปโยคํ คตา.

๗๓. สุขยตีติ สุขํ, อตฺตนา สมฺปยุตฺตธมฺเม ลทฺธสฺสาเท กโรตีติ อตฺโถ. สฺวายํ กตฺตุนิทฺเทโส ปริยายลทฺโธ ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุ นิวตฺตนตฺโถ, นิปฺปริยาเยน ปน ภาวสาธนเมว ลพฺภตีติ ‘‘สุขนํ สุข’’นฺติ วุตฺตํ. อิฏฺสภาวตฺตา ตํสมงฺคีปุคฺคลํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม วา อตฺตนิ สาทยตีติ สาตํ ท-การสฺส ต-การํ กตฺวา. สาตํ ‘‘มธุร’’นฺติ วทนฺติ. สาตํ ลกฺขณํ เอตสฺสาติ สาตลกฺขณํ. อุปพฺรูหนํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สํวฑฺฒนํ. ทุกฺขํ วิย อวิสฺสชฺเชตฺวา อทุกฺขมสุขา วิย อนชฺฌุเปกฺขิตฺวา อนุ อนุ คณฺหนํ, อุปการิตา วา อนุคฺคโห. กตฺถจิ ปมชฺฌานาทิเก. ปฏิลาภตุฏฺีติ ปฏิลาภวเสน อุปฺปชฺชนกตุฏฺิ. ปฏิลทฺธรสานุภวนนฺติ ปฏิลทฺธสฺส อารมฺมณรสสฺส อนุภวนนฺติ สภาวโต ปีติสุขานิ วิภชิตฺวา ทสฺเสติ. ยตฺถ ปีติ, ตตฺถ สุขนฺติ วิตกฺกสฺส วิย อิตเรน ปีติยา สุเขน อจฺจนฺตสํโยคมาห. ‘‘ยตฺถ สุขํ, ตตฺถ น นิยมโต ปีตี’’ติ วิจารสฺส วิย วิตกฺเกน สุขสฺส ปีติยา อนจฺจนฺตสํโยคํ. เตน อจฺจนฺตานจฺจนฺตสํโยคิตาย ปีติสุขานํ วิเสสํ ทสฺเสติ. กํ ตาเรนฺติ เอตฺถาติ กนฺตารํ, นิรุทกมรุฏฺานํ. วนเมว วนนฺตํ. ตสฺมึ ตสฺมึ สมเยติ อิฏฺารมฺมณสฺส ปฏิลาภสมเย, ปฏิลทฺธสฺส รสานุภวนสมเย, วนจฺฉายาทีนํ สวนทสฺสนสมเย, ปเวสปริโภคสมเย จ. ปากฏภาวโตติ ยถากฺกมํ ปีติสุขานํ วิภูตภาวโต.

วิเวกชํ ปีติสุขนฺติ เอตฺถ ปุริมสฺมึ อตฺเถ วิเวกชนฺติ ฌานํ วุตฺตํ. ปีติสุขสทฺทโต จ อตฺถิอตฺถวิเสสโต ‘‘อสฺส ฌานสฺส, อสฺมึ วา ฌาเน’’ติ เอตฺถ -กาโร ทฏฺพฺโพ. ทุติเย ปีติสุขเมว วิเวกชํ. ‘‘วิเวกชํปีติสุข’’นฺติ จ อฺปทตฺถสมาโส, ปจฺจตฺตนิทฺเทสสฺส จ อโลโป กโต. โลเป วา สติ ‘‘วิเวกชปีติสุข’’นฺติ ปาโติ อยํ วิเสโส.

อุปสมฺปชฺชาติ เอตฺถ อุป-สํ-สทฺทา ‘‘อุปลพฺภติ, สํภุฺชตี’’ติอาทีสุ วิย นิรตฺถกาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปคนฺตฺวา’’ติอาทึ วตฺวา ปุน เตสํ สาตฺถกภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปสมฺปาทยิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ, ตสฺมา ปตฺวา, สาเธตฺวาติ วา อตฺโถ. อิริยนฺติ กิริยํ. วุตฺติอาทีนิ ตสฺเสว เววจนานิ. ปาลนาติ หิ เอกํ อิริยาปถพาธนํ อิริยาปถนฺตเรหิ รกฺขณา.

ปฺจงฺควิปฺปหีนาทิวณฺณนา

๗๔. ปฺจ องฺคานิ วิกฺขมฺภนวเสน ปหีนานิ เอตสฺสาติ ปฺจงฺควิปฺปหีนํ. ‘‘อคฺยาหิโต’’ติ เอตฺถ อาหิต-สทฺทสฺส วิย วิปฺปหีน-สทฺทสฺเสตฺถ ปรวจนํ ทฏฺพฺพํ, ปฺจหิ องฺเคหิ วิปฺปหีนนฺติ วา ปฺจงฺควิปฺปหีนํ. นนุ อฺเปิ อกุสลา ธมฺมา อิมินา ฌาเนน ปหียนฺติ, อถ กสฺมา ปฺจงฺควิปฺปหีนตาว วุจฺจตีติ อาห ‘‘กิฺจาปี’’ติอาทิ. ฌานลาภิโนปิ อฌานสมงฺคิกาเล ฌานปฏิปกฺขโลภจิตฺตาทีนํ ปวตฺติสพฺภาวโต ‘‘ฌานกฺขเณ’’ติ วุตฺตํ. ปหียนฺตีติ วิคจฺฉนฺติ, นปฺปวตฺตนฺตีติ อตฺโถ. เอกตฺตารมฺมเณติ ปถวีกสิณาทิวเสน เอกสภาเว, เอกคฺคตาสงฺขาเต เอกตฺตาวเห วา อารมฺมเณ. นฺติ ตํ นานาวิสยปโลภิตํ จิตฺตํ. กามธาตุปฺปหานายาติ นานาวิสยสมูปพฺยูฬฺหาย กามธาตุยา ปหานาย สมติกฺกมาย ปฏิปทํ ฌานํ นปฺปฏิปชฺชติ. นิรนฺตรนฺติ วิกฺเขเปน อนนฺตริตํ, สหิตนฺติ อตฺโถ. อกมฺมฺนฺติ อกมฺมนียํ, ภาวนากมฺมสฺส อโยคฺยนฺติ อตฺโถ. อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจปเรตนฺติ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺเจน อภิภูตํ. ปริพฺภมติ อนวฏฺานโต, อวฏฺานสฺส สมาธานสฺส อภาวโตติ อตฺโถ. วิจิกิจฺฉาย อุปหตนฺติ สาติสยสฺส วิจารสฺส อภาวโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ นุ โข ภควา, น นุ โข’’ติ, ‘‘ปถวี ปถวี’’ติอาทินา มนสิกาเรน, ‘‘ฌานํ สิยา นุ โข, น นุ โข’’ติอาทินา จ ปวตฺตาย วิจิกิจฺฉาย อุปหตํ. นาโรหติ อปฺปฏิปตฺตินิมิตฺตตฺตา. วิเสเสน ฌานนฺตรายกรตฺตาติ สมาธิอาทีนํ อุชุวิปจฺจนีกภาเวน ฌานาธิคมสฺส อนฺตรายกรณโต.

เตหีติ ฌานาธิคมสฺส ปจฺจยภูเตหิ วิตกฺกวิจาเรหิ. อวิกฺเขปาย สมฺปาทิตปฺปโยคสฺสาติ ตโต เอวํ สมาธานาย นิปฺผาทิตภาวนาปโยคสฺส. เจตโส ปโยคสมฺปตฺติสมฺภวาติ ยถาวุตฺตภาวนาปโยคสมฺปตฺติสมุฏฺานา. ปีติ ปีณนํ ภาวนาวเสน ตปฺปนํ. อุปพฺรูหนํ ภาวนาวเสน ปริวุทฺธึ เจตโส กโรตีติ สมฺพนฺโธ. นฺติ จิตฺตํ. สเสสสมฺปยุตฺตธมฺมนฺติ อวสิฏฺผสฺสาทิธมฺมสหิตํ, สมํ สมฺมา จ อาธิยตีติ สมฺพนฺโธ. อินฺทฺริยสมตาวเสน สมํ, ปฏิปกฺขธมฺมานํ. ทูรีภาเว ลีนุทฺธจฺจาภาเวน สมฺมา จ เปตีติ อตฺโถ. เอกคฺคตา หิ สมาธานกิจฺเจน จิตฺตํ, สมฺปยุตฺตธมฺเม จ อตฺตานํ อนุวตฺตาเปนฺตี ฌานกฺขเณ สาติสยํ สมาหิเต กโรตีติ. อุปฺปตฺติวเสนาติ ยถาปจฺจยํ อุปฺปชฺชนวเสน . เอเตสุ วิตกฺกาทีสุ ฌานํ อุปฺปนฺนํ นาม โหติ ตตฺเถว ฌานโวหารโต. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทินาปิ อุปมาวเสน ตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ.

ปกติจิตฺตโตติ ปากติกกามาวจรจิตฺตโต. สุวิสเทนาติ สุฏฺุ วิสเทน, ปฏุตเรนาติ อตฺโถ. สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพาวยววนฺตํ, อนวเสสนฺติ อตฺโถ. อปฺผุฏนฺติ อสมฺผุฏฺํ. อารมฺมเณสุ ผุสิตาติ อปฺปนาวเสน ปวตฺตมานา จิตฺเตกคฺคตา สมนฺตโต อารมฺมณํ ผรนฺตี วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. กสฺมา ปเนตฺถ ฌานปาเ อคฺคหิตา จิตฺเตกคฺคตา คหิตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ จิตฺเตกคฺคตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถาติ เตสุ ฌานงฺเคสุ. น นิทฺทิฏฺาติ สรูปโต น นิทฺทิฏฺา, สามฺโต ปน ฌานคฺคหเณน คหิตา. เอวํ วุตฺตตฺตาติ สรูเปเนว วุตฺตตฺตา, องฺคเมว จิตฺเตกคฺคตาติ สมฺพนฺโธ. เยน อธิปฺปาเยนาติ เยน วิตกฺกาทีหิ สห วตฺตนฺตํ ธมฺมํ ทีเปตุํ ตสฺส ปกาสนาธิปฺปาเยน ‘‘สวิตกฺกํ สวิจาร’’นฺติอาทินา อุทฺเทโส กโต. โส เอว อธิปฺปาโย เตน ภควตา วิภงฺเค ‘‘จิตฺเตกคฺคตา’’ติ นิทฺทิสนฺเตน ปกาสิโต. ตสฺมา สา ฌานปาเ อคฺคหิตาติ น จินฺเตตพฺพํ.

ติวิธกลฺยาณวณฺณนา

๗๕. อาทิมชฺฌปริโยสานวเสนาติ ฌานสฺส อาทิมชฺฌปริโยสานวเสน. ลกฺขณวเสนาติ เตสํเยว อปฺปนายํ ลกฺขิตพฺพภาววเสน.

ตตฺราติ ตสฺมึ กลฺยาณตาลกฺขณานํ วิภาวเน. ปฏิปทาวิสุทฺธีติ ปฏิปชฺชติ ฌานํ เอตายาติ ปฏิปทา, โคตฺรภุปริโยสาโน ปุพฺพภาคิโย ภาวนานโย. ปริปนฺถโต วิสุชฺฌนํ วิสุทฺธิ, ปฏิปทาย วิสุทฺธิ ปฏิปทาวิสุทฺธิ. สา ปนายํ ยสฺมา ฌานสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ลพฺภติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธิ อาที’’ติ. อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ วิโสเธตพฺพตาทีนํ อภาวโต ฌานปริยาปนฺนาย ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจนิปฺผตฺติยา อนุพฺรูหนา. สา ปนายํ วิเสสโต ฌานสฺส ิติกฺขเณ ลพฺภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา มชฺเฌ’’ติ. สมฺปหํสนาติ ตตฺถ ธมฺมานํ อนติวตฺตนาทิสาธกสฺส าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติวเสน ปริโยทปนา. สา ปน ยสฺมา ฌานสฺส โอสานกฺขเณ ปากฏา โหติ , ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. อิมานิ ตีณิ ลกฺขณานีติ ปริปนฺถโต จิตฺตสฺส วิสุชฺฌนากาโร , มชฺฌิมสฺส สมถนิมิตฺตสฺส ปฏิปชฺชนากาโร, ตตฺถ ปกฺขนฺทนากาโรติ อิมานิ ตีณิ ฌานสฺส อาทิโต อุปฺปาทกฺขเณ อปฺปนาปตฺติลกฺขณานิ เตหิ อากาเรหิ วินา อปฺปนาปตฺติยา อภาวโต, อสติ จ อปฺปนาย ตทภาวโต. อาทิกลฺยาณฺเจว วิสุทฺธิปฏิปทตฺตา. ยถาวุตฺเตหิ ลกฺขเณหิ สมนฺนาคตตฺตา, สมฺปนฺนลกฺขณตฺตา จ ติลกฺขณสมฺปนฺนฺจ. อิมินา นเยน มชฺฌปริโยสานลกฺขณานฺจ โยชนา เวทิตพฺพา.

สมฺภรียติ ฌานํ เอเตนาติ สมฺภาโร, นานาวชฺชนปริกมฺมํ. สห สมฺภาเรนาติ สสมฺภาโร, โส เอว สสมฺภาริโก. อุปจาโรติ เอกาวชฺชนูปจารมาห. ปคฺคหาทิกิจฺจสฺส ปุพฺพภาเค ภาวนาย เอว สาธิตตฺตา ยา ตตฺถ เอกาวชฺชนูปจาเร สิทฺธา อชฺฌุเปกฺขนา, สา ฌานกฺขเณ ปริพฺรูหิตา นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุเปกฺขานุพฺรูหนา นาม อปฺปนา’’ติ. ยถาธิคตํ ฌานํ นิสฺสาย โย ปหฏฺากาโร จิตฺตสฺส ปริโตโส, ตํ ปจฺจเวกฺขณาวเสน ปวตฺตํ สนฺธายาห ‘‘สมฺปหํสนา นาม ปจฺจเวกฺขณา’’ติ. เอเกติ อภยคิริวาสิโน. เต หิ เอวํ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทิเก วณฺณยนฺติ, ตทยุตฺตํ. ตถา หิ สติ อชฺฌานธมฺเมหิ ฌานสฺส คุณสํกิตฺตนํ นาม กตํ โหติ. น หิ ภูมนฺตรํ ภูมนฺตรปริยาปนฺนํ โหติ. ปาฬิยา เจตํ วิรุทฺธนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอกตฺตคตํ จิตฺตนฺติ อินฺทฺริยานํ เอกรสภาเวน, เอกคฺคตาย จ สิขาปฺปตฺติยา ตทนุคุณํ เอกตฺตํ คตนฺติ เอกตฺตคตํ, สสมฺปยุตฺตํ อปฺปนาปตฺตจิตฺตํ. ตสฺเสว ปฏิปทาวิสุทฺธิปกฺขนฺทตาทิ อนนฺตรเมว วุจฺจติ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอกสฺมึเยว อปฺปนาจิตฺตกฺขเณ ปฏิปทาวิสุทฺธิอาทิ ปาฬิยํ วุตฺตํ, ตสฺมา อาคมนวเสนาติ ปริกมฺมาคมนวเสน. อนติวตฺตนาทีติ อาทิ-สทฺเทน อินฺทฺริเยกรสตาตทุปควีริยวาหนาเสวนานิ สงฺคณฺหาติ. ปริโยทาปกสฺสาติ ปริโสธกสฺส ปภสฺสรภาวกรสฺส. อนติวตฺตนาทิภาวสาธนเมว เจตฺถ าณสฺส กิจฺจนิปฺผตฺติ เวทิตพฺพา.

ตสฺมินฺติ ตสฺมึ วาเร, จตุปฺจจิตฺตปริมาณาย อปฺปนาวีถิยนฺติ อตฺโถ. ตโต ปริปนฺถโต. จิตฺตํ วิสุชฺฌตีติ ยทิปิ อาคมนํ คเหตุํ อวิเสเสน วิย วุตฺตํ, ปริกมฺมวิสุทฺธิโต ปน อปฺปนาวิสุทฺธิ สาติสยาว. เตนาห ‘‘วิสุทฺธตฺตา’’ติอาทิ. อาวรณวิรหิตํ หุตฺวาติ เยนาวรเณน อาวฏตฺตา จิตฺตํ ตโต ปุพฺเพ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชิตุํ น สกฺโกติ, เตน วิวิตฺตํ หุตฺวา, ตํ วิกฺขมฺเภตฺวาติ อตฺโถ. ลีนุทฺธจฺจสงฺขาตานํ อุภินฺนํ อนฺตานํ อนุปคมเนน มชฺฌิโม, สวิเสสํ ปจฺจนีกธมฺมานํ วูปสมนโต สมโถ, โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต นิมิตฺตฺจาติ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ. เตนาห ‘‘สมปฺปวตฺโต อปฺปนาสมาธิเยวา’’ติ. ตทนนฺตรํ ปน ปุริมจิตฺตนฺติ ตสฺส อปฺปนาจิตฺตสฺส อนนฺตรปจฺจยภูตํ ปุริมํ จิตฺตํ, โคตฺรภุจิตฺตนฺติ อตฺโถ. เอกสนฺตติปริณามนเยนาติ ยถา ‘‘ตเทว ขีรํ ทธิสมฺปนฺน’’นฺติ, เอวํ สติปิ ปริตฺตมหคฺคตภาวเภเท, ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนภาวเภเท จ เอกิสฺสา เอว สนฺตติยา ปริณามูปคมนนเยน เอกตฺตนยวเสน. ตถตฺตนฺติ ตถภาวํ อปฺปนาสมาธิวเสน สมาหิตภาวํ. เอวํ ปฏิปนฺนตฺตาติ วุตฺตากาเรน ปฏิปชฺชมานตฺตา. ยสฺมิฺหิ ขเณ ตถตฺตํ มชฺฌิมํ สมถนิมิตฺตํ ปฏิปชฺชติ, ตสฺมึเยว ขเณ ตถตฺตุปคมเนน อปฺปนาสมาธินา สมาหิตภาวูปคมเนน ตตฺถ ปกฺขนฺทติ นาม. ปุริมจิตฺเตติ อปฺปนาจิตฺตสฺส ปุริมสฺมึ จิตฺเต โคตฺรภุจิตฺเต. วิชฺชมานาการนิปฺผาทิกาติ ตสฺมึ จิตฺเต วิชฺชมานานํ ปริปนฺถวิสุทฺธิมชฺฌิมสมถปฏิปตฺติปกฺขนฺทนาการานํ นิปฺผาทิกา, เตนากาเรน นิปฺผชฺชมานาติ อตฺโถ. เตเยว หิ อาการา ปจฺจยวิเสสโต ฌานกฺขเณ นิปฺผชฺชมานา ‘‘ปฏิปทาวิสุทฺธี’’ติ ลทฺธสมฺา ฌานสฺส ตํ วิเสสํ นิปฺผาเทนฺตา วิย วุตฺตา. อุปฺปาทกฺขเณเยวาติ อตฺตลาภเวลายเมว. ยทิ เอวํ, กถํ เต อาการา นิปฺผชฺชนฺตีติ อาห ‘‘อาคมนวเสนา’’ติ.

ตสฺสาติ จิตฺตสฺส. ‘‘วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ ปาฬิยํ (ปฏิ. ม. ๑.๑๕๘) ปุคฺคลาธิฏฺาเนน อาคตาติ ‘‘พฺยาปารํ อกโรนฺโต’’ติ อาห. สมถปฏิปตฺติตถตฺตุปคมนฺจ อิธ สมถภาวาปตฺติเยวาติ อาห ‘‘สมถภาวูปคมเนนา’’ติ. กิเลสสํสคฺคํ ปหาย เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺสาติ ปุพฺเพ ‘‘กถํ นุ โข กิเลสสํสคฺคํ ปชเหยฺย’’นฺติ ปฏิปนฺนสฺส อิทานิ สมถปฏิปตฺติยา ตสฺส ปหีนตฺตา กิเลสสงฺคณิกาภาเวน เอกตฺเตน อุปฏฺิตสฺส ฌานจิตฺตสฺส. ปริปนฺถวิสุทฺธิมชฺฌิมสมถปฏิปตฺติปกฺขนฺทเนหิ วุทฺธิปฺปตฺติยา อนุพฺรูหิเต ฌานจิตฺเต ลทฺโธกาสา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา สมฺปยุตฺเตสุ สมวาหิตภาเวน ปวตฺตมานา เต อนุพฺรูเหนฺตี วิย โหตีติ อาห ‘‘ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาย กิจฺจวเสน อุเปกฺขานุพฺรูหนา เวทิตพฺพา’’ติ.

เย ปเนเต ยุคนทฺธธมฺมาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ฌานจิตฺเต. อฺมฺานติวตฺตนวเสน กิจฺจกรณโต ยุเค นทฺธา พทฺธา วิย ยุคนทฺธา. วิมุตฺติรเสนาติ วิมุจฺจนกิจฺเจน, วิมุจฺจนสมฺปตฺติยา วา. เอส โยคี. วาหยตีติ ปวตฺเตติ. อสฺสาติ ฌานจิตฺตสฺส. ตสฺมึ ขเณติ ภงฺคกฺขเณ. อุปฺปาทกฺขเณ อตีเต หิ ิติกฺขณโต ปฏฺาย อาเสวนา ปวตฺตติ นาม. เต อาการาติ อฺมฺานติวตฺตนาทโย ตตฺถ ธมฺมานํ ปวตฺติอาการา. อาเสวนาปิ หิ อาเสวนปจฺจยภาวีนํ ธมฺมานํ ปวตฺติอากาโรเยว. สํกิเลสโวทาเนสูติ สมาธิปฺานํ สมรสตาย อกรณํ ภาวนาย สํกิเลโส, กรณํ โวทานํ. ตถา เสเสสุปิ. เอวเมเตสุ สํกิเลสโวทาเนสุ ตํ ตํ อาทีนวํ โทสํ อานิสํสํ คุณํ ปุเรตรํ ปาฏิหาริยาเณน ทิสฺวา ยถา อฺมฺานติวตฺตนาทโย โหนฺติ, ตถา ภาวนาย สมฺปหํสิตตฺตา เตเนว าเณน วิโสธิตตฺตา. วิโสธนํ เหตฺถ สมฺปหํสนํ. เต อาการา ยสฺมา นิปฺผนฺนา, ตสฺมา ‘‘ธมฺมานํ…เป… เวทิตพฺพาติ วุตฺต’’นฺติ ลกฺขณสํวณฺณนาย อาทิมฺหิ วุตฺตํ นิคมนวเสน ทสฺเสติ.

‘‘ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหตี’’ติ โก สมฺพนฺโธ. กสฺมา สมฺปหํสนาว ปริโยสานนฺติ วุตฺตา, น อุเปกฺขานุพฺรูหนาติ โจทนํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ภาวนาจิตฺเต. อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหตีติ อปฺปนากาเล ภาวนาย สมปฺปวตฺติยา, ปฏิปกฺขสฺส จ ปหานโต ปคฺคหาทีสุ พฺยาปารสฺส อกาตพฺพโต อชฺฌุเปกฺขนาว โหติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘สมเย จิตฺตสฺส อชฺฌุเปกฺขนา, วิสุทฺธํ จิตฺตํ อชฺฌุเปกฺขตี’’ติ จ อาทิ. สา ปนายํ อชฺฌุเปกฺขนา าณสฺส กิจฺจสิทฺธิยา โหติ, วิเสสโต าณสาธนตฺตา อปฺปนาพฺยาปารสฺสาติ ผเลน การณานุมานาเยน. ยสฺมา อุเปกฺขาวเสน าณํ ปากฏํ โหติ, ตสฺมา าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสานนฺติ วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ.

อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปาฬิยา สมตฺเถตุํ ‘‘ยถาหา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตถาปคฺคหิตํ จิตฺตนฺติ ยถา ภาวนาจิตฺตํ โกสชฺชปกฺเข น ปตติ, ตถา วีริยสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ พหุลีการวเสน ปคฺคหิตํ. สาธุกํ อชฺฌุเปกฺขตีติ ปคฺคณฺหนฺเตนาปิ สมาธิสฺส วีริยสมตาโยชนวเสน ปคฺคหิตตฺตา สกฺกจฺจํ อชฺฌุเปกฺขติ, ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขา โอกาสํ ลภติ. ตํ ปน อชฺฌุเปกฺขนํ อุเปกฺขาวเสน ปุพฺเพ ปวตฺตปาริหาริยปฺาวเสน อปฺปนาปฺาย กิจฺจาธิกตาติ อาห ‘‘ปฺาวเสน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตี’’ติ. ตสฺส อธิมตฺตตฺตา เอว อชฺฌุเปกฺขนฺตสฺเสว นานาสภาเวหิ นีวรณปมุเขหิ กิเลเสหิ อปฺปนาจิตฺตํ วิมุจฺจติ. วิโมกฺขวเสน วิมุจฺจนวเสน. ปฺาวเสนาติ ปุพฺเพ ปวตฺตปาริหาริยปฺาวเสน. วิมุตฺตตฺตาติ นานากิเลเสหิ วิมุตฺตตฺตา เอว. เต ธมฺมา สทฺธาทโย, วิเสสโต สทฺธาปฺาวีริยสมาธโย เอกรสา สมานกิจฺจา โหนฺติ. เอวมยํ อินฺทฺริยานํ เอกรสฏฺเน ภาวนา นิปฺผชฺชมานา าณพฺยาปาโรติ อาห ‘‘าณกิจฺจภูตา สมฺปหํสนา ปริโยสาน’’นฺติ. เอวํ ติวิธาย ปฏิปทาวิสุทฺธิยา ลทฺธวิเสสาย ติวิธาย อุเปกฺขานุพฺรูหนาย สาติสยํ ปฺินฺทฺริยสฺส อธิมุตฺตภาเวน จตุพฺพิธาปิ สมฺปหํสนา สิชฺฌตีติ อาคมนุเปกฺขา าณกิจฺจวเสน ทสปิ อาการา ฌาเน เอว เวทิตพฺพา.

คณนานุปุพฺพตาติ คณนานุปุพฺพตาย, คณนานุปุพฺพตามตฺตํ วา ปมนฺติ อิทนฺติ อตฺโถ. เตน เทสนากฺกมํ อุลฺลิงฺเคติ. ‘‘ปมํ อุปฺปนฺนนฺติ ปม’’นฺติ อิมินา ปฏิปตฺติกฺกมํ, อุปฺปนฺนนฺติ หิ อธิคตนฺติ อตฺโถ. ‘‘ปมํ สมาปชฺชิตพฺพนฺติ ปม’’นฺติ อิทํ ปน น เอกนฺตลกฺขณนฺติ อฏฺกถายํ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๖๐) ปฏิสิทฺธตฺตา อิธ น คหิตํ. อารมฺมณูปนิชฺฌานํ ลกฺขณูปนิชฺฌานนฺติ ทุวิเธ ฌาเน อิธาธิปฺเปตชฺฌานเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อารมฺมณูปนิชฺฌานโต’’ติ วุตฺตํ. ปถวีกสิณสงฺขาตสฺส อตฺตโน อตฺตโน อารมฺมณสฺส รูปํ วิย จกฺขุนา อุปนิชฺฌายนโต. ปจฺจนีกฌาปนโตติ นีวรณาทีนํ ปจฺจนีกธมฺมานํ ทหนโต วิกฺขมฺภนวเสน ปชหนโต. สกลฏฺเนาติ เหฏฺา วุตฺตนเยน กเต วา อกเต วา ปริจฺฉิชฺช คหิเต ปถวีภาเค ปถวีมณฺฑเล สกลารมฺมณกรณฏฺเน. น หิ ตสฺส เอกเทสมารมฺมณํ กรียติ. ปถวีกสิณสนฺนิสฺสยตาย นิมิตฺตํ ปถวีกสิณํ ยถา ‘‘มฺจา อุกฺกุฏฺึ กโรนฺตี’’ติ. ตํสหจรณโต ฌานํ ปถวีกสิณํ ยถา ‘‘กุนฺตา ปจรนฺตี’’ติ.

จิรฏฺิติสมฺปาทนวณฺณนา

๗๖. ลกฺขฏฺาเน ิตํ สเรน วาลํ วิชฺฌตีติ วาลเวธี. อิธ ปน อเนกธา ภินฺนสฺส วาลสฺส อํสุํ วิชฺฌนฺโต ‘‘วาลเวธี’’ติ อธิปฺเปโต. เตนวาลเวธินา. สูเทนาติ ภตฺตกาเรน. ‘‘อาการา ปริคฺคเหตพฺพา’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุกุสโลติ สุฏฺุ เฉโก. ธนุคฺคโหติ อิสฺสาโส. กมฺมนฺติ โยคฺยํ. อกฺกนฺตปทานนฺติ วิชฺฌนกาเล อกฺกมนวเสน ปวตฺตปทานํ. อาการนฺติ ธนุชิยาสรานํ คหิตาการํ. ปริคฺคณฺเหยฺยาติ อุปธาเรยฺย. โภชนสปฺปายาทโยติ อาทิ-สทฺโท อวุตฺตาการานมฺปิ สงฺคาหโก ทฏฺพฺโพ. เตน อุตุภาวนานิมิตฺตาทีนมฺปิ ปริคฺคณฺหนํ วุตฺตํ โหติ. ตสฺมินฺติ ตสฺมึ ตรุณสมาธิมฺหิ.

ภตฺตารนฺติ สามินํ, ภตฺตเวตนาทีหิ โปสกนฺติ อตฺโถ. ปริวิสนฺโตติ โภเชนฺโต. ตสฺส รุจฺจิตฺวา ภุฺชนาการํ สลฺลกฺเขตฺวา ตสฺส อุปนาเมนฺโตติ โยชนา. อยมฺปิ โยคี. อธิคตกฺขเณ โภชนาทโย อากาเรติ ปุพฺเพ ฌานสฺส อธิคตกฺขเณ กิจฺจสาธเก โภชนาทิคเต อากาเร. คเหตฺวาติ ปริคฺคเหตฺวา สลฺลกฺเขตฺวา. นฏฺเ นฏฺเ สมาธิมฺหิ ปุนปฺปุนํ อปฺปนาย.

มหานสวิชฺชาปริจเยน ปณฺฑิโต. ตตฺถ วิสทาณตาย พฺยตฺโต. านุปฺปตฺติกกโอสลฺลโยเคน กุสโล. นานจฺจเยหีติ นานจฺจเยหิ นานาสภาเวหิ, นานารเสหีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อมฺพิลคฺเคหี’’ติอาทิ. สูเปหีติ พฺยฺชเนหิ. อมฺพิลคฺเคหีติ อมฺพิลโกฏฺาเสหิ, เย วา อมฺพิลรสา หุตฺวา อคฺคภูตา, เตหิ จตุรมฺพิลาทิมิสฺเสหิ. เอส นโย ติตฺตกคฺคาทีสุปิ. ขาริเกหีติ วาติงฺคณกฬีราทิมิสฺเสหิ. นิมิตฺตนฺติ อาการํ รุจฺจนวเสน ภุฺชนาการํ. อุคฺคณฺหาตีติ อุปรูปริ คณฺหาติ อุปธาเรติ. อิมสฺส วา สูเปยฺยสฺส อตฺถาย หตฺถํ อภิหรติ. อภิหารานนฺติ อภิมุเขน หริตพฺพานํ ปณฺณาการานํ, ปูชาภิหารานํ วา. นิมิตฺตํ อุคฺคณฺหาตีติ ‘‘เอวํ เม จิตฺตํ สมาหิตํ อโหสี’’ติ นิมิตฺตํ คณฺหาติ สลฺลกฺเขติ.

สมาธิปริปนฺถานนฺติ สมาธิสฺส ปริปนฺถภูตานํ. ธมฺมานนฺติ กามจฺฉนฺทาทินีวรณธมฺมานํ. สุวิโสธิตตฺตาติ สุฏฺุ วิโสธิตตฺตา, วิกฺขมฺภนวเสเนว สมฺมเทว ปหีนตฺตาติ อตฺโถ. กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน อสุภมนสิการเนกฺขมฺมานิสํสปจฺจเวกฺขณาทีนิ สงฺคณฺหาติ. เนกฺขมฺมคุณทสฺสเนนาปิ หิ ตสฺส วิพนฺธภูเต กามจฺฉนฺเท อาทีนโว วิเสสโต ปากโฏ โหตีติ. กายทุฏฺุลฺลนฺติ กายทรถํ สารทฺธกายตํ. เตน กายจิตฺตานํ สารมฺภนิมิตฺตสฺส พฺยาปาทนีวรณสฺส น วิโสธนมาห. อารมฺภธาตุมนสิการาทีติ อาทิ-สทฺเทน วีริยสมฺโพชฺฌงฺคนิมิตฺตานํ, อาโลกสฺาทีนฺจ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สมถนิมิตฺตมนสิการาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมาธิสมฺโพชฺฌงฺคฏฺานิยานํ ธมฺมานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อฺเปิ สมาธิปริปนฺเถติ วิจิกิจฺฉาฏฺานิเย, มทมานาทิเก จ สนฺธายาห. อาสยนฺติ วสนกสุสิรํ. สุปริสุทฺธนฺติ อาสงฺกนียตฺตาภาเวน สุฏฺุ ปริสุทฺธํ. เอตฺถาห – นนุ จายํ ปเคว กามาทีนวํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา สมถปฏิปทํ ปฏิปนฺโน อุปจารกฺขเณเยว ฌาเนน นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตานิ, อถ กสฺมา ปุน กามาทีนวปจฺจเวกฺขณาทิ คหิตนฺติ? สจฺจเมตํ. ตํ ปน ปหานมตฺตนฺติ ฌานสฺส จิรฏฺิติยา อติสยปหานตฺถํ ปุน คหิตํ.

อุทฺธจฺจมิทฺธนฺติ กุกฺกุจฺจํ, ถินฺจ ตเทกฏฺตาย คหิตเมวาติ กตฺวา วุตฺตํ. สุทฺธนฺตคโตติ สุปริสุทฺธปริยนฺตํ สพฺพโส วิโสธิตโกณปริยนฺตํ อุยฺยานํ คโต. ตหึ รเมติ ตสฺมึ ฌาเน รเมยฺย ทิวสภาคมฺปิ ฌานสมงฺคี เอว ภเวยฺย.

จิตฺตภาวนาเวปุลฺลตฺถนฺติ สมาธิภาวนาย วิปุลภาวาย. ยถา หิ ภาวนาวเสน นิมิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ, เอวมสฺส ภาวนาวเสเนว วฑฺฒนมฺปิ. ตสฺมา เอกงฺคุลาทิวเสน นิมิตฺตํ วฑฺเฒนฺตสฺส ปุนปฺปุนํ พหุลีกาเรน ฌานํ ภาวนาปิ วุทฺธึ วิรุฬฺหึ เวปุลฺลํ อาปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘จิตฺตภาวนาเวปุลฺลตฺถฺจ ยถาลทฺธํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ วฑฺเฒตพฺพ’’นฺติ. ตสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส.

นิมิตฺตวฑฺฒนนยวณฺณนา

๗๗. ตตฺราติ สามิอตฺเถ ภุมฺมวจนํ, ตสฺสาติ อตฺโถ. อวฑฺเฒตฺวาติ ยถา กุมฺภกาโร มตฺติกาย ปตฺตํ กโรนฺโต ปมํ อปริจฺฉินฺทิตฺวาว ปตฺตํ วฑฺเฒติ, เอวํ ปตฺตวฑฺฒนโยเคน ปตฺตวฑฺฒนยุตฺติยา อวฑฺเฒตฺวา ปูวิกสฺส ปูววฑฺฒนํ. ภตฺตสฺส อุปริ ภตฺตปกฺขิปนํ ภตฺตวฑฺฒนํ. วตฺถสฺส ตินฺตสฺส อฺฉนาทิ ทุสฺสวฑฺฒนํ. ปจฺเจกํ โยค-สทฺโท โยเชตพฺโพ. อปริจฺฉินฺทิตฺวา น วฑฺเฒตพฺพํ สปริจฺเฉเท เอว ภาวนาปวตฺติโต. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘สานฺตเก โน อนนฺตเก’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๕๕).

หํสโปตกาติ ชวนหํสโปตกา. อุกฺกูลํ อุนฺนตฏฺานํ. วิกูลํ นินฺนฏฺานํ. นทีโสเตน กตํ วิทุคฺคํ นทีวิทุคฺคํ. วิสมากาเรน ิโต ปพฺพตปเทโส ปพฺพตวิสโม.

ถูลานิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ ปจฺจเวกฺขณาพาหุลฺเลน วิภูตภาวโต. ทุพฺพลานิ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ ปคุณพลวภาวสฺส อนาปาทิกตฺตา. อุปริ อุสฺสุกฺกนายาติ ภาวนาย อุปริ อาโรหนาย, ทุติยชฺฌานาธิคมายาติ อตฺโถ.

ปพฺพเตยฺยาติ ปพฺพเต พหุลจารินี. อเขตฺตฺูติ อโคจรฺู. สมาธิปริปนฺถานํ วิโสธนานภิฺาตาย พาโล. ฌานสฺส ปคุณภาวาปาทนเวยฺยตฺติยสฺส อภาเวน อพฺยตฺโต. อุปริฌานสฺส ปทฏฺานภาวานวโพเธน อเขตฺตฺู. สพฺพถาปิ สมาปตฺติโกสลฺลาภาเวน อกุสโล. สมาธินิมิตฺตสฺส วา อนาเสวนาย พาโล. อภาวนาย อพฺยตฺโต. อพหุลีกาเรน อเขตฺตฺู. สมฺมเทว อนธิฏฺานโต อกุสโลติ โยเชตพฺพํ. อุภโต ภฏฺโติ อุภยโต ฌานโต ภฏฺโ. โส หิ อปฺปคุณตาย น สุปฺปติฏฺิตตาย สอุสฺสาโหปิ วินาสโต, อสามตฺถิยโต จ ฌานทฺวยโต ปริหีโน. จิณฺณวสินาติ อาเสวิตวสินา.

ปฺจวสีกถาวณฺณนา

๗๘. วสนํ วสีติ ธาตุนิทฺเทสตาย กิริยานิทฺเทโสติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘วสิโย’’ติ, ยถารุจิ ปวตฺติโยติ อตฺโถ. อาวชฺชนาย วสี, อาวชฺชนาวเสน วา วสี อาวชฺชนวสี. ฌานํ อาวชฺชิตุํ ยตฺถ ยตฺถ ปเทเส อิจฺฉา ยตฺถิจฺฉกํ. ยทา ยทา, ยสฺมึ ยสฺมึ วา ฌานงฺเค อิจฺฉา ยทิจฺฉกํ. ยาว ยาว อิจฺฉา ยาวทิจฺฉกํ, ท-กาโร ปทสนฺธิกโร. ‘‘ยาวา’’ติ จ อิทํ พหูนํ ชวนวารานํ นิรนฺตรํ วิย ตถาปวตฺตนํ สนฺธาย วุตฺตํ, น เอกเมว. โส หิ ปริจฺฉินฺนจิตฺตกฺขโณติ. อาวชฺชนาย ทนฺธายิตตฺตํ นตฺถีติ วุตฺตนเยน ยตฺถ กตฺถจิ าเน ยทา ยทา ยํ กิฺจิ ฌานงฺคํ อาวชฺเชนฺตสฺส ยถิจฺฉิตํ กาลํ อาวชฺชนาย อาวชฺชนปฺปวตฺติยา ทนฺธายิตตฺตํ วิตฺถายิตตฺตํ, จิรายิตตฺตํ วา นตฺถิ. เอวํ อาวชฺชนวสี สิทฺธา นาม โหตีติ อตฺโถ. เสสาติ วุฏฺานอธิฏฺานปจฺจเวกฺขณาวสิโย.

องฺคสมุทายภาวโต ฌานสฺส ฌาเน อาวชฺชนวสึ นิปฺผาเทตุกาเมน ปฏิปาฏิยา ฌานงฺคานิ อาวชฺเชตพฺพานีติ อาห ‘‘ปมํ วิตกฺกํ อาวชฺชยโต’’ติ. ยทิปิ อาวชฺชนเมเวตฺถ อิจฺฉิตํ อาวชฺชนวสิยา อธิปฺเปตตฺตา, อาวชฺชนาย ปน อุปฺปนฺนาย ชวเนหิ ภวิตพฺพํ. ตานิ จ โข อาวชฺชนตปฺปรตาย จิตฺตาภินีหารสฺส ยถาวชฺชิตฌานงฺคารมฺมณานิ กติปยาเนว โหนฺติ, น ปริปุณฺณานีติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺการมฺมณาเนว จตฺตาริ ปฺจ วา ชวนานิ ชวนฺตี’’ติ. จตฺตาริ ติกฺขินฺทฺริยสฺส. ปฺจ นาติติกฺขินฺทฺริยสฺสาติ ทฏฺพฺพํ. นิรนฺตรนฺติ วิสภาเคหิ นิรนฺตรํ. อยํ ปนาติ ภวงฺคทฺวยนฺตริตา จตุชวนจิตฺตา ยถาวุตฺตา อาวชฺชนวสี. อฺเสํ วา ธมฺมเสนาปติอาทีนํ. เอวรูเป กาเลติ อุฏฺาย สมุฏฺาย ลหุตรํ อาวชฺชนวสีนิพฺพตฺตนกาเล. สา จ โข อิตฺตรา ปริตฺตกาลา, น สตฺถุ ยมกมหาปาฏิหาริเย วิย จิรตรปฺปพนฺธวตี. ตถา หิ ตํ สาวเกหิ อสาธารณํ วุตฺตํ. อธิคเมน สมํ สสมฺปยุตฺตสฺส ฌานสฺส สมฺมา อาปชฺชนํ ปฏิปชฺชนํ สมาปชฺชนํ, ฌานสมงฺคิตา.

สีฆนฺติ เอตฺถ สมาปชฺชิตุกามตานนฺตรํ ทฺวีสุ ภวงฺเคสุ อุปฺปนฺเนสุ ภวงฺคํ อุปจฺฉินฺทิตฺวา อุปฺปนฺนาวชฺชนานนฺตรํ สมาปชฺชนํ สีฆํ สมาปชฺชนสมตฺถตา. อยฺจ มตฺถกปฺปตฺตา สมาปชฺชนวสี สตฺถุ ธมฺมเทสนายํ ลพฺภติ. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ‘‘โส โข อหํ, อคฺคิเวสฺสน, ตสฺสา เอว กถาย ปริโยสาเน ตสฺมึเยว ปุริมสฺมึ สมาธินิมิตฺเต อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ เอโกทึ กโรมิ สมาทหามิ เยนสฺสุทํ นิจฺจกปฺปํ วิหรามี’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๘๗). อิโต สีฆตรา หิ สมาปชฺชนวสี นาม นตฺถิ. ชุณฺหาย รตฺติยา นโวโรปิเตหิ เกเสหิ กโปตกนฺทรายํ วิหรนฺตสฺส อายสฺมโต สาริปุตฺตสฺส ยกฺเขน มหนฺตมฺปิ ปพฺพตกูฏํ ปทาเลตุํ สมตฺเถ ปหาเร สีเส ทินฺเน สมาปชฺชนมฺเปตฺถ นิทสฺเสตพฺพํ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘ตทา เถโร ตสฺส ปหรณสมเย สมาปตฺตึ อปฺเปสี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๓๗๔). ปาฬิยํ ปน ‘‘อฺตรํ สมาธึ สมาปชฺชิตฺวา นิสินฺโน’’ติ (อุทา. ๓๔) วุตฺตํ. อิเม ปน เถรา ‘‘สมาปตฺติโต วุฏฺานสมกาลํ เตน ปหาโร ทินฺโน’’ติ วทนฺติ.

อจฺฉรามตฺตนฺติ องฺคุลิโผฏมตฺตํ ขณํ. เปตุนฺติ เสตุ วิย สีฆโสตาย นทิยา โอฆํ เวเคน ปวตฺติตุํ อทตฺวา ยถาวุตฺตกฺขณํ ฌานํ เปตุํ สมตฺถตา. อภิภุยฺย ปนํ, อธิฏฺานํ วิยาติ วา อธิฏฺานํ. ตตฺถ วสี อธิฏฺานวสี. ตเถว ลหุํ วุฏฺาตุนฺติ อจฺฉรามตฺตํ วา ทสจฺฉรามตฺตํ วา ลหุํ ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺาตุํ สมตฺถตา. ภวงฺคจิตฺตุปฺปตฺติเยว เหตฺถ ฌานโต วุฏฺานํ นาม. เอตฺถ จ ยถา ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานํ เปสฺสามี’’ติ ปุพฺพปริกมฺมวเสน อธิฏฺานสมตฺถตา อธิฏฺานวสี, เอวํ ‘‘เอตฺตกเมว ขณํ ฌานสมงฺคี หุตฺวา ฌานโต วุฏฺหิสฺสามี’’ติ ปุพฺพปริกมฺมวเสน วุฏฺานสมตฺถตา วุฏฺานวสี เวทิตพฺพา, ยา สมาปตฺติ ‘‘วุฏฺานกุสลตา’’ติ วุจฺจติ. ตทุภยทสฺสนตฺถนฺติ อธิฏฺานวุฏฺานวสีทสฺสนตฺถํ.

ตตฺถาติ ตสฺมึ นิมฺมิตปพฺพเต ตสฺส วิวเร. กิฺจาปิ เอกํเยว ตํ อภิฺาจิตฺตํ เยน ปพฺพตํ นิมฺมิเนยฺย, อภิฺาปาทกสฺส ปน ฌานสฺส ลหุตรํ ปนํ, วุฏฺานฺจ อิธ นิทสฺสิตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘เอตฺตกา อิทฺธิมนฺตา เอกํ อุปฏฺากํ ครุฬโต รกฺขิตุํ น สกฺขึสู’’ติ คารยฺหา อสฺสาม.

อาวชฺชนานนฺตรานีติ อาวชฺชนวสีภาวาย ยถากฺกมํ วิตกฺกาทีนํ ฌานงฺคานํ อาวชฺชนาย ปรโต ยานิ ชวนานิ ปวตฺตานิ, ตานิ เตสํ ปจฺจเวกฺขณานิ. ยทคฺเคน อาวชฺชนวสีสิทฺธิ, ตทคฺเคน ปจฺจเวกฺขณาวสีสิทฺธิ เวทิตพฺพา.

ทุติยชฺฌานกถาวณฺณนา

๗๙. นีวรณปฺปหานสฺส ตปฺปมตาย อาสนฺนนีวรณปจฺจตฺถิกา. ถูลํ นาม วิปุลมฺปิ เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียนฺติ อาห ‘‘โอฬาริกตฺตา องฺคทุพฺพลา’’ติ. สนฺตโต มนสิ กริตฺวาติ ปมชฺฌานํ วิย อโนฬาริกงฺคตฺตา, สนฺตธมฺมสมงฺคิตาย จ ‘‘สนฺต’’นฺติ มนสิ กตฺวา. เย หิ ธมฺมา ทุติยชฺฌาเน ปีติสุขาทโย, กามํ เต ปมชฺฌาเนปิ สนฺติ, เตหิ ปน เต สนฺตตรา เจว ปณีตตรา จ ภวนฺตีติ. นิกนฺตินฺติ นิกามนํ, อเปกฺขนฺติ อตฺโถ. ปริยาทายาติ เขเปตฺวา. จตฺตาริ ปฺจาติ วา-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. ทุติยชฺฌานํ เอตสฺส อตฺถีติ ทุติยชฺฌานิกํ. วุตฺตปฺปการาเนวาติ ปมชฺฌาเน วุตฺตปฺปการานิเยว, ปริกมฺมาทินามกานีติ อตฺโถ.

๘๐. วูปสมาติ วูปสมเหตุ, วูปสโมติ เจตฺถ ปหานํ อธิปฺเปตํ, ตฺจ วิตกฺกวิจารานํ. อติกฺกโม อตฺถโต ทุติยชฺฌานกฺขเณ อนุปฺปาโทติ อาห ‘‘สมติกฺกมา’’ติอาทิ. กตเมสํ ปเนตฺถ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม อธิปฺเปโต, กึ ปมชฺฌานิกานํ, อุทาหุ ทุติยชฺฌานิกานนฺติ. กิฺเจตฺถ ยทิ ปมชฺฌานิกานํ, นตฺถิ เตสํ วูปสโม. น หิ กทาจิ ปมชฺฌานํ วิตกฺกวิจารรหิตํ อตฺถิ. อถ ทุติยชฺฌานิกานํ, เอวมฺปิ นตฺเถว วูปสโม, สพฺเพน สพฺพํ เตสํ ตตฺถ อภาวโตติ? วุจฺจเต – เยหิ วิตกฺกวิจาเรหิ ปมชฺฌานสฺส โอฬาริกตา, เตสํ สมติกฺกมา ทุติยสฺส ฌานสฺส สมธิคโม, น สภาวโต อโนฬาริกานํ ผสฺสาทีนํ สมติกฺกมาติ อยมตฺโถ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอเตน ทีปิโต. ตสฺมา ‘‘กึ ปมชฺฌานิกานํ วิตกฺกวิจารานํ วูปสโม อิธาธิปฺเปโต, อุทาหุ ทุติยชฺฌานิกาน’’นฺติ เอทิสี โจทนา อโนกาสาว. ยสฺมา ทิฏฺาทีนวสฺส ตํตํฌานกฺขเณ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนํ วูปสมนํ อธิปฺเปตํ. วิตกฺกาทโย เอว ฌานงฺคภูตา ตถา กรียนฺติ, น ตํสมฺปยุตฺตา ผสฺสาทโย, ตสฺมา วิตกฺกาทีนํเยว วูปสมาทิวจนํ ายาคตํ. ยสฺมา ปน วิตกฺกาทีนํ วิย ตํสมฺปยุตฺตธมฺมานมฺปิ เอเตน ‘‘เอตํ โอฬาริก’’นฺติ อาทีนวทสฺสนํ สุตฺเต อาคตํ, ตสฺมา อวิเสเสน วิตกฺกาทีนํ, ตํสหคตานฺจ วูปสมาทิเก วตฺตพฺเพ วิตกฺกาทีนํเยว วูปสโม วุจฺจมาโน อธิกวจนํ อฺํ อตฺถํ โพเธตีติ กตฺวา กิฺจิ วิเสสํ ทีเปตีติ ทสฺเสตุํ อฏฺกถายํ ‘‘โอฬาริกสฺส ปนา’’ติอาทิ คหิตนฺติ อิธ ‘‘เยหิ วิตกฺกวิจาเรหี’’ติอาทิ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ปีติยา จ วิราคา’’ติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา วิตกฺกวิจารปีติสุขสมติกฺกมวจนานิ โอฬาริโกฬาริกงฺคสมติกฺกมา ทุติยาทิอธิคมทีปกานีติ เตสํ เอกเทสภูตํ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนํ ตํทีปกํ วุตฺตํ. วิสุํ วิสุํ ิเตปิ หิ วิตกฺกวิจารสมติกฺกมวจนาทิเก ปเหยฺยงฺคนิทฺเทสตาสามฺเน จิตฺเตน สมูหโต คหิเต วิตกฺกวิจารวูปสมวจนสฺส ตเทกเทสตา ทฏฺพฺพา. อยฺจ อตฺโถ อวยเวน สมุทาโยปลกฺขณนเยน วุตฺโต. อถ วา วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว ตํสมติกฺกมา ทุติยาธิคมทีปเกน ปีติวิราคาทิวจนานํ ปีติอาทิสมติกฺกมา ตติยาทิอธิคมทีปกตา ทีปิตา โหตีติ ตสฺส ตํทีปกตา วุตฺตา.

นิยกชฺฌตฺตมธิปฺเปตํ น อชฺฌตฺตชฺฌตฺตาทิ. ตตฺถ การณมาห ‘‘วิภงฺเค ปนา’’ติอาทิ. นีลวณฺณโยคโต นีลวตฺถํ วิยาติ นีลโยคโต วตฺถํ นีลํ วิยาติ อธิปฺปาโย. เยน สมฺปสาทเนน โยคา ฌานํ สมฺปสาทนํ. ตสฺมึ ทสฺสิเต ‘‘สมฺปสาทนํ ฌาน’’นฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ตํโยคา ฌาเน ตํสทฺทปฺปวตฺติ ทสฺสิตาติ อวิโรโธ ยุตฺโต. เอโกทิภาเว กถนฺติ เอโกทิมฺหิ ทสฺสิเต เอโกทิภาวํ ฌานนฺติ สมานาธิกรณนิทฺเทเสเนว ฌานสฺส เอโกทิวฑฺฒนตา วุตฺตา โหตีติ เจ? ‘‘เอโกทิภาว’’นฺติ ปทํ อุทฺธริตฺวา เอโกทิสฺส นิทฺเทโส น กาตพฺโพ สิยาติ เอโกทิภาวสทฺโท เอว สมาธิมฺหิ ปวตฺโต สมฺปสาทนสทฺโท วิย ฌาเน ปวตฺตตีติ ยุตฺตํ. อิมสฺมิฺจ อตฺถวิกปฺเปติ ‘‘เจตโส สมฺปสาทยตี’’ติ เอตสฺมึ ปกฺเข ‘‘เจตโส’’ติ จ อุปโยคตฺเถ สามิวจนํ. ปุริมสฺมินฺติ ‘‘สมฺปสาทนโยคโต ฌานํ สมฺปสาทน’’นฺติ วุตฺตปกฺเข. เจตโสติ สมฺพนฺเธ สามิวจนํ.

เสฏฺโปิ โลเก ‘‘เอโก’’ติ วุจฺจติ ‘‘ยาว ปเร เอกาหํ เต กโรมี’’ติอาทีสุ. เอโก อทุติโย ‘‘เอกากีภิ ขุทฺทเกหิ ชิต’’นฺติอาทีสุ อสหายตฺโถปิ เอก-สทฺโท ทิฏฺโติ อาห ‘‘เอโก อสหาโย หุตฺวา’’ติ. สทฺธาทโยปิ กามํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สาธารณโต, อสาธารณโต จ ปจฺจยา โหนฺติเยว, สมาธิ ปน ฌานกฺขเณ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อวิกฺเขปลกฺขเณ อินฺทฏฺกรเณน สาติสยํ ปจฺจโย โหตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สมฺปยุตฺตธมฺเม…เป… อธิวจน’’นฺติ อาห.

‘‘สมฺปสาทนํ , เจตโส เอโกทิภาว’’นฺติ วิเสสนทฺวยํ ฌานสฺส อติสยวจนิจฺฉาวเสน คหิตํ. สฺวายมติสโย ยถา อิมสฺมึ ฌาเน ลพฺภติ, น ตถา ปมชฺฌาเนติ อิมํ วิเสสํ ทสฺเสตุํ ‘‘นนุ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อารมฺมเณ อาหนนปริยาหนนวเสน, อนุมชฺชนอนุโยชนวเสน จ ปวตฺตมานา ธมฺมา สติปิ นีวรณปฺปหาเนน กิเลสกาลุสฺสิยาปคเม สมฺปยุตฺตานํ กฺจิ โขภํ กโรนฺตา วิย เตหิ จ เต น สนฺนิสินฺนา โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘วิตกฺกวิจารกฺโขเภน น สุปฺปสนฺน’’นฺติ. ขุทฺทิกา อูมิโย วีจิโย. มหติโย ตรงฺคา. สติปิ อินฺทฺริยสมตฺเต, วีริยสมตาย จ เตเนว โขเภน, สมฺปสาทาภาเวน จ สมาธิปิ น สุฏฺุ ปากโฏ พหเล วิย ชเล มจฺโฉ. ยถาวุตฺตกฺโขโภ เอว ปลิโพโธ. เอวํ วุตฺเตนาติ ยสฺสา สทฺธาย วเสน สมฺปสาทนํ, ยสฺสา จ จิตฺเตกคฺคตาย วเสน เอโกทิภาวนฺติ จ ฌานํ วุตฺตํ. ตาสํ เอว ‘‘สทฺทหนา’’ติอาทินา ปวตฺติอาการสฺส วิเสสวิภาวนาวเสน วุตฺเตน. เตน วิภงฺคปาเน. ‘‘สมฺปสาทนโยคโต, สมฺปสาทนโต วา สมฺปสาทนํ, เอโกทึ ภาเวตีติ เอโกทิภาวนฺติ ฌานํ วุตฺต’’นฺติ เอวํ ปวตฺตา อยํ อตฺถวณฺณนา น วิรุชฺฌติ. ยถา ปน อวิโรโธ, โส วุตฺโต เอว.

๘๑. สนฺตาติ สมํ นิโรธํ คตา. สมิตาติ ภาวนาย สมํ คมิตา นิโรธิตา. วูปสนฺตาติ ตโต เอว สุฏฺุ อุปสนฺตา. อตฺถงฺคตาติ อตฺถํ วินาสํ คตา. อพฺภตฺถงฺคตาติ อุปสคฺเคน ปทํ วฑฺเฒตฺวา วุตฺตํ. อปฺปิตาติ วินาสํ คมิตา. โสสิตาติ ปวตฺติสงฺขาตสฺส สนฺตานสฺส อภาเวน โสสํ สุกฺขภาวํ อิตา. พฺยนฺติกตาติ วิคตนฺตกตา.

อยมตฺโถติ ภาวนาย ปหีนตฺตา วิตกฺกวิจารานํ อภาโว. โจทเกน วุตฺตมตฺถํ สมฺปฏิจฺฉิตฺวา ปริหริตุํ ‘‘เอวเมตํ สิทฺโธวายมตฺโถ’’ติ วตฺวา ‘‘น ปเนต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เอตนฺติ ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ เอตํ วจนํ. ตทตฺถทีปกนฺติ ตสฺส วิตกฺกวิจาราภาวมตฺตสงฺขาตสฺส อตฺถสฺส ทีปกํ. อยฺเหตฺถ อตฺโถ – ทุติยชฺฌานาทิอธิคมูปายทีปเกน อชฺฌตฺตสมฺปสาทนตาย, เจตโส เอโกทิภาวตาย จ เหตุทีปเกน, อวิตกฺกอวิจารภาวเหตุทีปเกน จ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนเนว วิตกฺกวิจาราภาโว ทีปิโตติ กึ ปุน อวิตกฺกอวิจารวจเนน กเตนาติ? น, อทีปิตตฺตา. น หิ วิตกฺกวิจารวูปสมวจเนน วิตกฺกวิจารานํ อปฺปวตฺติ วุตฺตา โหติ. วิตกฺกวิจาเรสุ หิ ตณฺหาปฺปหานํ เอเตสํ วูปสมนํ, เย จ สงฺขาเรสุ ตณฺหาปฺปหานํ กโรนฺติ, เตสุ มคฺเคสุ, ปหีนตณฺเหสุ จ ผเลสุ สงฺขารปวตฺติ โหติ เอว , เอวเมวิธาปิ วิกฺขมฺภิตวิตกฺกวิจารตณฺหสฺส ทุติยชฺฌานสฺส วิตกฺกวิจารสมฺปโยโค ปุริเมน น นิวาริโต สิยาติ ตํนิวารณตฺถํ, อาวชฺชิตุกามตาทิอติกฺกโมว เตสํ วูปสโมติ ทสฺสนตฺถฺจ ‘‘อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ วุตฺตํ. ปมมฺปีติ ปมํ ฌานมฺปิ.

‘‘ทุติยํ อุปฺปนฺนนฺติปิ ทุติย’’นฺติ วตฺตุํ วฏฺฏติเยว. น ตถา อิมสฺส วิตกฺกวิจาราติ ยถา ปมชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณ นีวรณานิ ปหียนฺติ, ตถา อิมสฺส ทุติยชฺฌานสฺส อุปจารกฺขเณ วิตกฺกวิจารา น ปหียนฺติ อสํกิลิฏฺสภาวตฺตา, อุปจารภาวนาย จ เต ปหาตุํ อสมตฺถภาวโต. ยทิปิ ตาย เตสุ ตณฺหา ปหียติ, น ปน สวิเสสํ. สวิเสสฺหิ ตตฺถ ตณฺหาปฺปหานํ อปฺปนาย เอว โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อปฺปนากฺขเณเยวา’’ติอาทิ. ปหานงฺคตาปิ อติสยปฺปหานวเสเนว เวทิตพฺพา ยถา นีวรณานํ ปมชฺฌานสฺส. ตสฺมาติ ยสฺมา ติวงฺคเมเวตํ ฌานํ, ตสฺมา. นฺติ วิภงฺเค วจนํ. รถสฺส ปณฺฑุกมฺพลํ วิย สมฺปสาโท ฌานสฺส ปริกฺขาโร, น ฌานงฺคนฺติ อาห ‘‘สปริกฺขารํ ฌานํ ทสฺเสตุ’’นฺติ.

ตติยชฺฌานกถาวณฺณนา

๘๒. อุปฺปิลาวิตนฺติ กามฺจายํ ปริคฺคเหสุ อปริจฺจตฺตเปมสฺส อนาทีนวทสฺสิโน ตณฺหาสหคตาย ปีติยา ปวตฺติอากาโร, อิธ ปน ทุติยชฺฌานปีติ อธิปฺเปตา. ตถาปิ สพฺพโส ปีติยํ อวิรตฺตํ, สาปิ อนุพนฺเธยฺยาติ วุตฺตํ. อุปฺปิลาวิตํ วิยาติ วา อุปฺปิลาวิตํ. อาทีนวํ หิ ตตฺถ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ เอวํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.

๘๓. วิรชฺชนํ วิราโค. ตํ ปน วิรชฺชนํ นิพฺพินฺทนมุเขน หีฬนํ วา ตปฺปฏิพทฺธราคปฺปหานํ วาติ ตทุภยํ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตปฺปการาย ปีติยา ชิคุจฺฉนํ วา สมติกฺกโม วา’’ติ อาห. วุตฺตปฺปการายาติ ‘‘ยเทว ตตฺถ ปีตี’’ติอาทินา วุตฺตปฺปการาย. สมฺปิณฺฑนํ สมุจฺจโย.

มคฺโคติ อุปาโย. ตทธิคมายาติ ตติยมคฺคาธิคมาย.

๘๔. อุปปตฺติโตติ สมวาหิตภาเวน ปติรูปโต. ฌานุเปกฺขาปิ สมวาหิตเมว อนฺโตนีตํ กตฺวา ปวตฺตตีติ อาห ‘‘สมํ ปสฺสตี’’ติ. วิสทายาติ ปริพฺยตฺตาย สํกิเลสวิคเมน. วิปุลายาติ มหติยา สาติสยํ มหคฺคตภาวปฺปตฺติยา. ถามคตายาติ ปีติวิคเมน ถิรภาวปฺปตฺตาย.

ปริสุทฺธปกติ ขีณาสวปกติ นิกฺกิเลสตา. สตฺเตสุ กมฺมสฺสกตาทสฺสนเหตุโก สมภาวทสฺสนากาโร มชฺฌตฺตากาโร พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา.

สหชาตธมฺมานนฺติ นิทฺธารเณ สามิวจนํ. สมปฺปวตฺติยา ภาวนาย วีถิปฏิปนฺนาย อลีนานุทฺธตา นิรสฺสาทตาย ปคฺคหนิคฺคหสมฺปหํสเนสุ พฺยาปาราภาวโต สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ มชฺฌตฺตาการภูตา โพชฺฌงฺคุเปกฺขา.

อุเปกฺขานิมิตฺตนฺติ เอตฺถ ลีนุทฺธจฺจปกฺขปาตรหิตํ มชฺฌตฺตํ วีริยํ อุเปกฺขา. ตเทว ตํ อาการํ คเหตฺวา ปวตฺเตตพฺพสฺส ตาทิสสฺส วีริยสฺส นิมิตฺตภาวโต อุเปกฺขานิมิตฺตํ ภาวนาย สมปฺปวตฺติกาเล อุเปกฺขียตีติ อุเปกฺขา, วีริยเมว อุเปกฺขา วีริยุเปกฺขา.

‘‘ปมํ ฌานํ ปฏิลาภตฺถาย นีวรเณ…เป… เนวสฺานาสฺายตนสมาปตฺตึ ปฏิลาภตฺถาย อากิฺจฺายตนสฺํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๗) เอวมาคตา อิมา อฏฺ สมาธิวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. ‘‘โสตาปตฺติมคฺคํ ปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรํ พฺยาธึ มรณํ โสกํ ปริเทวํ อุปายาสํ. โสตาปตฺติผลสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ…เป… อรหตฺตมคฺคํ ปฏิลาภตฺถาย อุปฺปาทํ…เป… อุปายาสํ…เป… อรหตฺตผลสมาปตฺตตฺถาย สุฺตาวิหารสมาปตฺตตฺถาย อนิมิตฺตวิหารสมาปตฺตตฺถาย อุปฺปาทํ ปวตฺตํ นิมิตฺตํ อายูหนํ ปฏิสนฺธึ คตึ นิพฺพตฺตึ อุปปตฺตึ ชาตึ ชรํ พฺยาธึ มรณํ โสกํ ปริเทวํ อุปายาสํ ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนา ปฺา สงฺขารุเปกฺขาสุ าณ’’นฺติ เอวมาคตา อิมา ทส วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺติ. เอตฺถ จ ปมชฺฌานาทีหิ วิกฺขมฺภิตานิ นีวรณวิตกฺกวิจาราทีนิ ปฏิสงฺขาย สภาวโต อุปปริกฺขิตฺวา สนฺนิฏฺานวเสน ติฏฺมานา นีวรณาทิปฏิสงฺขาสนฺติฏฺนา ทิฏฺาทีนวตฺตา เตสํ คหเณ อุปฺปาทเน อชฺฌุเปกฺขนฺตี วิปสฺสนาปฺา คหเณ มชฺฌตฺตภูตา อุเปกฺขา.

ตตฺถ อุปฺปาทนฺติ ปุริมกมฺมปจฺจยา ขนฺธานํ อิธ อุปฺปตฺติมาห. ปวตฺตนฺติ ตถาอุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตึ. นิมิตฺตนฺติ สพฺพมฺปิ เตภูมกสงฺขารคตํ นิมิตฺตภาเวน อุปฏฺานโต. อายูหนนฺติ อายตึ ปฏิสนฺธิเหตุภูตํ กมฺมํ. ปฏิสนฺธินฺติ อายตึ อุปฺปตฺตึ. คตินฺติ ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ. นิพฺพตฺตินฺติ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. อุปปตฺตินฺติ ‘‘สมาปนฺนสฺส วา อุปปนฺนสฺส วา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๗๒) เอตฺถ ‘‘อุปปนฺนสฺสา’’ติ วุตฺตวิปากปฺปวตฺตึ. ชาตินฺติ ชราทีนํ ปจฺจยภูตํ ภวปจฺจยา ชาตึ. ชราพฺยาธิมรณาทโย ปากฏา เอว. เอตฺถ จ อุปฺปาทาทโย ปฺเจว สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส วิสยวเสน วุตฺตา, เสสา เตสํ เววจนวเสน. ‘‘นิพฺพตฺติ, ชาตี’’ติ อิทฺหิ ทฺวยํ อุปฺปาทสฺส เจว ปฏิสนฺธิยา จ เววจนํ, ‘‘คติ, อุปปตฺติ จา’’ติ อิทํ ทฺวยํ ปวตฺตสฺส, ชราทโย นิมิตฺตสฺสาติ เวทิตพฺพํ. อปฺปณิหิตวิโมกฺขวเสน มคฺคุปฺปตฺติเหตุภูตา จตสฺโส, ตถา ผลสมาปตฺติยา จตสฺโส, สุฺตวิหารอนิมิตฺตวิหารวเสน ทฺเวติ ทส สงฺขารุเปกฺขา.

ยาติ วิปสฺสนาปฺา. ยทตฺถีติ ยํ อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยํ อุปลพฺภติ. ยํ ภูตนฺติ ยํ ปจฺจยนิพฺพตฺตตฺตา ภูตํ ขนฺธปฺจกํ. ตํ ปชหตีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ นิจฺจสฺาทโย ปชหนฺโต สมฺมเทว ทิฏฺาทีนวตฺตา ตปฺปฏิพทฺธจฺฉนฺทราคปฺปหาเนน ปชหติ, ยถา อายตึ อาทานํ น โหติ, ตถา ปฏิปตฺติยา ปชหติ. ตถาภูโต จ ตตฺถ อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. วิจินเนติ อนิจฺจาทิวเสน สมฺมสเนปิ.

สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สมปฺปวตฺติเหตุตาย สมวาหิตภูตา. นีวรณวิตกฺกวิจาราทิสพฺพปจฺจนีเกหิ วิมุตฺตตฺตา สพฺพปจฺจนีกปริสุทฺธา. เตสํ วูปสนฺตตฺตา ปจฺจนีกวูปสมเนปิ อพฺยาปารภูตา อพฺยาปารภาเวน ปวตฺตา, อพฺยาปารตํ วา ปตฺตา.

ยทิ อตฺถโต เอกา, กถมยํ เภโทติ อาห ‘‘เตน เตนา’’ติอาทิ. ตสฺมาติ ยสฺมา สติปิ สภาวโต อเภเท เยหิ ปน ปจฺจยวิเสเสหิ สฺวายมิมาสํ อวตฺถาเภโท, เตสํ เอกชฺฌํ อปฺปวตฺติโต น ตาสํ อเภโท, เอกชฺฌํ วา ปวตฺติ, ตสฺมา. เตนาห ‘‘ยตฺถ ฉฬงฺคุเปกฺขา’’ติอาทิ.

เอกีภาโวติ เอกตา. สติปิ มชฺฌตฺตาภาวสามฺเ วิสยเภเทน ปนสฺสา เภโท. ยมตฺถํ สนฺธาย ‘‘กิจฺจวเสน ทฺวิธา ภินฺนา’’ติ วุตฺตํ, ตํ วิตฺถารโต ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถา หี’’ติอาทิมาห. อยํ วิปสฺสนุเปกฺขา. ยํ สนฺธาย วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘ยทตฺถิ ยํ ภูตํ, ตํ ปชหติ, อุเปกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ (ม. นิ. ๓.๗๑; อ. นิ. ๗.๕๕). ตตฺถ ยทตฺถิ ยํ ภูตนฺติ ขนฺธปฺจกํ, ตํ มุฺจิตุกมฺยตาาเณน ปชหติ. ทิฏฺโสวตฺติกตฺตยสฺส สพฺพลกฺขณวิจินเน วิย ทิฏฺลกฺขณตฺตยสฺส ภูตสฺส สงฺขารลกฺขณวิจินเน อุเปกฺขํ ปฏิลภติ. สงฺขารานํ อนิจฺจาทิลกฺขณสฺส สุทิฏฺตฺตา เตสํ วิจินเน มชฺฌตฺตภูตาย วิปสฺสนุเปกฺขาย สิทฺธาย ตถา ทิฏฺาทีนวานํ เตสํ คหเณปิ อชฺฌุเปกฺขนา สิทฺธาว โหติ, สพฺพโส วิสงฺขารนินฺนตฺตา อชฺฌาสยสฺส.

อนาโภครสาติ ปณีตสุเขปิ ตสฺมึ อวนติปฏิปกฺขกิจฺจาติ อตฺโถ. อพฺยาปารปจฺจุปฏฺานาติ สติปิ สุขปารมิปฺปตฺติยํ ตสฺมึ สุเข อพฺยาวฏา หุตฺวา ปจฺจุปติฏฺติ, สมฺปยุตฺตานํ วา ตตฺถ อพฺยาปารํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อตฺโถ. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ โขภํ, อุปฺปิลวฺจ อาวหนฺเตหิ วิตกฺกาทีหิ อภิภูตตฺตา อปริพฺยตฺตํ. ตตฺถ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย กิจฺจํ. ตทภาวโต อิธ ปริพฺยตฺตํ.

นิฏฺิตา ‘‘อุเปกฺขโก จ วิหรตี’’ติ เอตสฺส

สพฺพโส อตฺถวณฺณนา.

๘๕. ‘‘สรตีติ สโต’’ติ ปทสฺส กตฺตุสาธนตมาห. สมฺปชานาตีติ สมฺมเทว ปชานาติ. สรณํ จินฺตนํ อุปฏฺานํ ลกฺขณเมติสฺสาติ สรณลกฺขณา. สมฺมุสฺสนปฏิปกฺโข อสมฺมุสฺสนํ, ตํ กิจฺจํ เอติสฺสาติ อสมฺมุสฺสนรสา. กิเลเสหิ อารกฺขา หุตฺวา ปจฺจุปติฏฺติ, ตโต วา อารกฺขํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อารกฺขปจฺจุปฏฺานา. อสมฺมุยฺหนํ สมฺมเทว ปชานนํ, สมฺโมหปฏิปกฺโข วา อสมฺโมโห. ตีรณํ กิจฺจสฺส ปารคมนํ. ปวิจโย วีมํสา.

กามํ อุปจารชฺฌานาทีนิ อุปาทาย ปมทุติยชฺฌานานิปิ สุขุมาเนว, อิมํ ปน อุปริฌานํ อุปาทาย ‘‘โอฬาริกตฺตา’’ติ วุตฺตํ. สา จ โอฬาริกตา วิตกฺกาทิถูลงฺคตาย เวทิตพฺพา. เกจิ ‘‘พหุเจตสิกตายา’’ติ จ วทนฺติ . คติ สุขา โหติ ตตฺถ ฌาเนสูติ อธิปฺปาโย. อพฺยตฺตํ ตตฺถ สติสมฺปชฺกิจฺจํ ‘‘อิทํ นาม ทุกฺกรํ กรียตี’’ติ วตฺตพฺพสฺส อภาวโต. โอฬาริกงฺคปฺปหาเนน สุขุมตฺตาติ อยมตฺโถ กามํ ทุติยชฺฌาเนปิ สมฺภวติ, ตถาปิ เยภุยฺเยน อวิปฺปโยคีภาเวน วตฺตมาเนสุ ปีติสุเขสุ ปีติสงฺขาตสฺส โอฬาริกงฺคสฺส ปหาเนน สุขุมตาย อิธ สาติสโย สติสมฺปชฺพฺยาปาโรติ วุตฺตํ ‘‘ปุริสสฺสา’’ติอาทิ. ปุนเทว ปีตึ อุปคจฺเฉยฺยาติ หานภาคิยํ ฌานํ สิยา ทุติยชฺฌานเมว สมฺปชฺเชยฺยาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ปีติสมฺปยุตฺตเมว สิยา’’ติ. ‘‘อิทฺจ อติมธุรํ สุข’’นฺติ ตติยชฺฌานสุขํ สนฺธายาห. อติมธุรตา จสฺส ปหาโสทคฺยสภาวาย ปีติยา อภาเวเนว เวทิตพฺพา. อิทนฺติ ‘‘สโต, สมฺปชาโน’’ติ ปททฺวยํ.

ตสฺมา เอตมตฺถํ ทสฺเสนฺโตติ ยสฺมา ตสฺส ฌานสมงฺคิโน ยํ นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตํ โส ปฏิสํเวเทยฺย. ยํ วา ตนฺติ อถ วา ยํ ตํ ยถาวุตฺตํ นามกายสมฺปยุตฺตํ สุขํ. ตํสมุฏฺาเนน ตโต สมุฏฺิเตน อติปณีเตน รูเปน อสฺส ฌานสมงฺคิโน รูปกาโย ยสฺมา ผุโฏ. ยสฺส รูปกายสฺส ผุฏตฺตา ฌานา วุฏฺิโตปิ ฌานสมงฺคี กายิกํ สุขํ ปฏิสํเวเทยฺย. ตสฺมา เอตํ เจตสิกกายิกสุขปฏิสํเวทนสงฺขาตํ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ อาหา’’ติ โยชนา. อยฺเหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – นามกาเยน เจตสิกสุขํ, กายิกสุขเหตุรูปสมุฏฺาปเนน กายิกสุขฺจ ฌานสมงฺคี ปฏิสํเวเทตีติ วุจฺจติ. ผุฏตฺตาติ พฺยาปิตตฺตาติ อตฺโถ. ยถา หิ อุทเกน ผุฏสรีรสฺส ตาทิเส นาติปจฺจนีเก วาตาทิโผฏฺพฺเพ ผุเฏ สุขํ อุปฺปชฺชติ, เอวเมเตหิ ผุฏสรีรสฺสาติ. อปโร นโย – สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ เอตฺถ กถมาโภเคน วินา สุขปฏิสํเวทนาติ โจทนายํ ‘‘กิฺจาปิ…เป… เอวํ สนฺเตปี’’ติ. ยสฺมา ตสฺส นามกาเยน สมฺปยุตฺตํ สุขํ, ตสฺมา สุขฺจ กาเยน ปฏิสํเวเทตีติ โยชนา. อิทานิ สหาปิ อาโภเคน สุขปฏิสํเวทนํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ วา ต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.

๘๖. นฺติ เหตุอตฺเถ นิปาโต, ยสฺมาติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘ยํฌานเหตู’’ติ. ‘‘อาจิกฺขนฺตี’’ติอาทีนิ ปทานิ กิตฺตนตฺถานีติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘ปสํสนฺตีติ อธิปฺปาโย’’ติ. กินฺตีติ ปสํสนาการปุจฺฉา. เอทิเสสุ าเนสุ สติคฺคหเณเนว สมฺปชฺมฺปิ คหิตํ โหตีติ อิธ ปาฬิยํ สติยา เอว คหิตตฺตา เอวํ อุปฏฺิตสติตาย ‘‘สติมา’’ อิจฺเจว วุตฺตํ, ‘‘สมฺปชาโน’’ติ เหฏฺา วุตฺตตฺตา วา.

ฌานกฺขเณ เจตสิกสุขเมว ลพฺภตีติ ‘‘สุขํ นามกาเยน ปฏิสํเวเทตี’’ติ จ วุตฺตํ. ตติยนฺติคณนานุปุพฺพตาติ อิโต ปฏฺาย ทุติยตติยชฺฌานกถาหิ อวิเสโส, วิเสโส จ วุตฺโตติ.

จตุตฺถชฺฌานกถาวณฺณนา

๘๗. อิทานิ นิพฺพตฺติตวิเสสํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อยํ ปน วิเสโส’’ติ วตฺวา ‘‘ยสฺมา’’ติอาทิมาห. อาเสวนปจฺจเยน ปจฺจโย น โหติ, อนิฏฺเ าเน ปทนฺตรสงฺคหิตสฺส อาเสวนปจฺจยตฺตาภาวโต. อทุกฺขมสุขาย เวทนาย อุปฺปชฺชิตพฺพํ สาติสยํ สุขวิราคภาวนาภาวโต. ตานีติ อปฺปนาวีถิยํ ชวนานิ สนฺธายาห.

๘๘. ‘‘ปุพฺเพวา’’ติ วุตฺตตฺตา กทา ปน เตสํ ปหานํ โหตีติ โจทนายํ อาห ‘‘จตุนฺนํ ฌานานํ อุปจารกฺขเณ’’ติ. เอวํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ปหานกฺกโม นาม ปหายกธมฺมานํ อุปฺปตฺติปฏิปาฏิ. เตน ปน วุจฺจมาเน ‘‘ทุกฺขํ โทมนสฺสํ สุขํ โสมนสฺส’’นฺติ วตฺตพฺพํ สิยา. กสฺมา อิโต อฺถา วจนนฺติ อาห ‘‘อินฺทฺริยวิภงฺเค’’ติอาทิ. อถ กสฺมา ฌาเนสฺเวว นิโรโธ วุตฺโตติ สมฺพนฺโธ.

กตฺถ จุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยนฺติ อตฺตโน ปจฺจเยหิ อุปฺปนฺนํ ทุกฺขินฺทฺริยํ. กตฺถ จ อปริเสสํ นิรุชฺฌตีติ นิโรธฏฺานํ ปุจฺฉติ. เตน ‘‘กตฺถา’’ติ ปุจฺฉายํ, ‘‘เอตฺถา’’ติ วิสฺสชฺชเนปิ เหตุมฺหิ ภุมฺมวจนํ ทฏฺพฺพํ. ฌานานุภาวนิมิตฺตํ หิ อนุปฺปชฺชนฺตํ ‘‘ทุกฺขินฺทฺริยํ อปริเสสํ นิรุชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ. อติสยนิโรโธ สุฏฺุ ปหานํ อุชุปฏิปกฺเขน วูปสโม.

นานาวชฺชเนติ เยน อาวชฺชเนน อปฺปนาวีถิ, ตโต ภินฺนาวชฺชเน, อเนกาวชฺชเน วา. อปฺปนาวีถิยฺหิ อุปจาโร เอกาวชฺชโน, อิตโร อเนกาวชฺชโน อเนกกฺขตฺตุํ ปวตฺตนโต. วิสมนิสชฺชาย อุปฺปนฺนกิลมโถ วิสมาสนุปตาโป. ปีติผรเณนาติ ปีติยา ผรณรสตฺตา, ปีติสมุฏฺานานํ วา ปณีตรูปานํ กายสฺส พฺยาปนโต วุตฺตํ. เตนาห ‘‘สพฺโพ กาโย สุโขกฺกนฺโต โหตี’’ติ. วิตกฺกวิจารปจฺจเยปีติ ปิ-สทฺโท อฏฺานปฺปยุตฺโต, โส ‘‘ปหีนสฺสา’’ติ เอตฺถ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ ‘‘ปหีนสฺสาปิ โทมนสฺสินฺทฺริยสฺสา’’ติ. เอตํ โทมนสฺสินฺทฺริยํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ตสฺส มยฺหํ อติจิรํ วิตกฺกยโต วิจารยโต กาโยปิ กิลมิจิตฺตมฺปิ อุหฺี’’ติ วจนโต กายจิตฺตเขทานํ วิตกฺกวิจารปฺปจฺจยตา เวทิตพฺพา . ‘‘วิตกฺกวิจารภาเว อุปฺปชฺชติ โทมนสฺสินฺทฺริย’’นฺติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตีติ ตตฺถ ทุติยชฺฌานูปจาเร อสฺส โทมนสฺสสฺส อุปฺปตฺติ ภเวยฺย.

เอตฺถ จ ยเทเก ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ วทนฺเตน ฌานลาภีนมฺปิ โทมนุสฺสุปฺปตฺติ อตฺถีติ ทสฺสิตํ โหติ. เตน จ อนีวรณสภาโว โลโภ วิย โทโสปิ อตฺถีติ ทีเปติ. น หิ โทเสน วินา โทมนสฺสํ ปวตฺตติ. น เจตฺถ ปฏฺานปาฬิยา วิโรโธ จินฺเตตพฺโพ. ยสฺมา ตตฺถ ปริหีนํ ฌานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานํ โทมนสฺสํ ทสฺสิตํ, อปริหีนชฺฌานมารมฺมณํ กตฺวา อุปฺปชฺชมานสฺส โทมนสฺสสฺส อสมฺภวโต. ฌานลาภีนํ สพฺพโส โทมนสฺสํ นุปฺปชฺชตีติ จ น สกฺกา วตฺตุํ, อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อปิ ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา. น เหว โข โส ปหีนชฺฌาโน อโหสีติ วทนฺติ, ตํ อยุตฺตํ อนีวรณสภาวสฺส โทสสฺส อภาวโต. ยทิ สิยา, รูปารูปาวจรสตฺตานมฺปิ อุปฺปชฺเชยฺย, น จ อุปฺปชฺชติ. ตถา หิ ‘‘อรูเป กามจฺฉนฺทนีวรณํ ปฏิจฺจ ถินมิทฺธนีวรณํ อุทฺธจฺจนีวรณํ อวิชฺชานีวรณ’’นฺติอาทีสุ พฺยาปาทกุกฺกุจฺจนีวรณานิ อนุทฺธฏานิ. น เจตฺถ นีวรณตฺตา ปริหาโร, กามจฺฉนฺทาทีนมฺปิ อนีวรณานํเยว นีวรณสทิสตาย นีวรณปริยายสฺส วุตฺตตฺตา. ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘อฏฺสมาปตฺติลาภิโน อปิ ตสฺส อุปฺปนฺนตฺตา’’ติ, ตมฺปิ อการณํ อุปฺปชฺชมาเนน จ โทมนสฺเสน ฌานโต ปริหายนโต. ลหุเกน ปน ปจฺจเยน ปริหีนํ ตาทิสา อปฺปกสิเรเนว ปฏิปากติกํ กโรนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ‘‘ตตฺถสฺส สิยา อุปฺปตฺตี’’ติ อิทํ ปน ปริกปฺปวจนํ อุปจารกฺขเณ โทมนสฺสสฺส อปฺปหีนภาวทสฺสนตฺถํ. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘น ตฺเวว อนฺโตอปฺปนาย’’นฺติ. ยทิ ปน ตทา โทมนสฺสํ อุปฺปชฺเชยฺย, ปมชฺฌานมฺปิสฺส ปริหีนเมวาติ ทฏฺพฺพํ. ปหีนมฺปิ โสมนสฺสินฺทฺริยํ ปีติ วิย น ทูเรติ กตฺวา ‘‘อาสนฺนตฺตา’’ติ วุตฺตํ. นานาวชฺชนูปจาเร ปหีนมฺปิ ปหานงฺคํ ปฏิปกฺเขน อวิหตตฺตา อนฺตรนฺตรา อุปฺปชฺเชยฺย วาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปนาปฺปตฺตายา’’ติอาทิมาห. ตาทิสาย อาเสวนาย อิจฺฉิตพฺพตฺตา ยถา มคฺควีถิโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา สทิสานุปสฺสนาว ปวตฺตนฺติ, เอวมิธาปิ อปฺปนาวารโต ปุพฺเพ ทฺเว ตโย ชวนวารา อุเปกฺขาสหคตาว ปวตฺตนฺตีติ วทนฺติ.

สมาหฏาติ สมานีตา, สงฺคเหตฺวา วุตฺตาติ อตฺโถ. สุขทุกฺขานิ วิย อโนฬาริกตฺตา อวิภูตตาย สุขุมา. ตโต เอว อนุมินิตพฺพสภาวตฺตา ทุวิฺเยฺยา. ทุฏฺสฺสาติ ทุฏฺปโยคสฺส, ทุทฺทมฺมสฺสาติ อตฺโถ. สกฺกา โหติ เอสา คาหยิตุํ อฺาโปหนนเยนาติ อธิปฺปาโย.

อทุกฺขมสุขายเจโตวิมุตฺติยาติ อิทเมว จตุตฺถชฺฌานํ ทฏฺพฺพํ. ปจฺจยทสฺสนตฺถนฺติ อธิคมสฺส อุปายภูตปจฺจยทสฺสนตฺถํ. เตนาห ‘‘ทุกฺขปฺปหานาทโย หิ ตสฺสา ปจฺจยา’’ติ. ทุกฺขปฺปหานาทโยติ จ โสปจารา ปมชฺฌานาทโยเวตฺถ อธิปฺเปตา.

ปหีนาติ วุตฺตา ‘‘ปฺจนฺนํ โอรมฺภาคิยานํ สํโยชนานํ ปริกฺขยา’’ติ. เอตาติ สุขาทโย เวทนา.

โสมนสฺสํ ราคสฺส ปจฺจโย. วุตฺตฺหิ ‘‘สุขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ราคานุสโย อนุเสตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖๕). โทมนสฺสํ โทสสฺส ปจฺจโย. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทุกฺขาย โข, อาวุโส วิสาข, เวทนาย ปฏิฆานุสโย อนุเสตี’’ติ. สุขาทิฆาเตนาติ สุขาทีนํ ปหาเนน. อสฺส ฌานสฺส.

น ทุกฺขนฺติ อทุกฺขํ, ทุกฺขวิธุรํ. ยสฺมา ตตฺถ ทุกฺขํ นตฺถิ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขาภาเวนา’’ติ. อสุขนฺติ เอตฺถปิ เอเสว นโย. เอเตนาติ ทุกฺขสุขปฏิกฺเขปวจเนน. ‘‘ปฏิปกฺขภูต’’นฺติ อิทํ อิธ ตติยเวทนาย ทุกฺขาทีนํ สมติกฺกมวเสน ปตฺตพฺพตฺตา วุตฺตํ, น กุสลากุสลานํ วิย อุชุวิปจฺจนีกตาย. อิฏฺานิฏฺวิปรีตสฺส มชฺฌตฺตารมฺมณสฺส, อิฏฺานิฏฺวิปรีตํ วา มชฺฌตฺตากาเรน อนุภวนลกฺขณา อิฏฺานิฏฺวิปรีตานุภวนลกฺขณา. ตโต เอว มชฺฌตฺตรสา. อวิภูตปจฺจุปฏฺานาติ สุขทุกฺขานิ วิย น วิภูตาการา , ปิฏฺิปาสาเณ มิคคตมคฺโค วิย เตหิ อนุมาตพฺพา อวิภูตากาโรปฏฺานา. สุขนิโรโธ นาม อิธ จตุตฺถชฺฌานูปจาโร, โส ปทฏฺานํ เอติสฺสาติ สุขนิโรธปทฏฺานา.

๘๙. ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลเปเนตํ สมาสปทนฺติ อาห ‘‘อุเปกฺขาย ชนิตสติปาริสุทฺธิ’’นฺติ. สพฺพปจฺจนีกธมฺมปริสุทฺธาย ปจฺจนีกสมเนปิ อพฺยาวฏาย ปาริสุทฺธิอุเปกฺขาย วตฺตมานาย จตุตฺถชฺฌาเน สติ สมฺปหํสนปฺา วิย สุปริสุทฺธา, สุวิสทา จ โหตีติ อาห ‘‘ยา จ ตสฺสา สติยา ปาริสุทฺธิ, สา อุเปกฺขาย กตา, น อฺเนา’’ติ. ยทิ ตตฺรมชฺฌตฺตตา อิธ ‘‘อุเปกฺขา’’ติ อธิปฺเปตา, กถํ สติเยว ‘‘ปริสุทฺธา’’ติ วุตฺตาติ อาห ‘‘น เกวล’’นฺติอาทิ.

เอวมฺปิ กสฺมา อยเมว สติ ‘‘อุเปกฺขาสติปาริสุทฺธี’’ติ วุตฺตาติ อนุโยคํ สนฺธาย ‘‘ตตฺถ กิฺจาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ เหฏฺา ตีสุ ฌาเนสุ วิชฺชมานายปิ ตตฺรมชฺฌตฺตตาย ปจฺจนีกาภิภวโต, สหายปจฺจยเวกลฺลโต จ อปาริสุทฺธิ, ตถา ตํสมฺปยุตฺตานํ. ตทภาวโต อิธ ปาริสุทฺธีติ อิมมตฺถํ รูปกวเสน ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สูริยปฺปภาภิภวาติ สูริยปฺปภาย อภิภุยฺยมานตฺตา. อติกฺขตาย จนฺทเลขา วิย รตฺติปิ โสมฺมสภาวา สภาคาย รตฺติยเมว จ จนฺทเลขา สมุชฺชลตีติ สา ตสฺสา สภาคาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โสมฺมภาเวน จ อตฺตโน อุปการกตฺเตน วา สภาคาย รตฺติยา’’ติ อาห.

‘‘เอกวีถิย’’นฺติ อิทํ ตตฺถ โสมนสฺสสฺส เอกํเสน อภาวโต วุตฺตํ, น ตโต ปุริมตเรสุ เอกํเสน ภาวโต. ยถา ปน วิตกฺกาทโย ทุติยาทิชฺฌานกฺขเณเยว ปหียนฺติ, น เตสํ เอกวีถิยํ ปุริมชวเนสุ, น เอวเมตนฺติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. จตุกฺกชฺฌาเนติ จตุกฺกนยวเสน นิพฺพตฺติตชฺฌานจตุกฺเก.

ปฺจกชฺฌานกถาวณฺณนา

๙๐. ตตฺถาติ ปมชฺฌาเน. จตุกฺกนยสฺส ทุติยชฺฌาเน วิยาติ จตุกฺกนยสมฺพนฺธินิ ทุติยชฺฌาเน วิย. ตํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวาติ จตุกฺกนเย ทุติยํ ‘‘อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ, อวิตกฺกํ อวิจาร’’นฺติ จ เอวํ ทฺวิธา ภินฺทิตฺวา ปฺจกนเย ทุติยฺเจว ตติยฺจ โหติ อภิธมฺเมติ (ธ. ส. ๑๖๘) อธิปฺปาโย. สุตฺตนฺเตสุ ปน สรูปโต ปฺจกนโย น คหิโต.

กสฺมา ปเนตฺถ นยทฺวยวิภาโค คหิโตติ? อภิธมฺเม นยทฺวยวเสน ฌานานํ เทสิตตฺตา. กสฺมา จ ตตฺถ ตถา ตานิ เทสิตานิ? ปุคฺคลชฺฌาสยโต, เทสนาวิลาสโต จ. สนฺนิปติตเทวปริสาย กิร เยสํ ยถาเทสิเต ปมชฺฌาเน วิตกฺโก เอว โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, อิตเร สนฺตโต. เตสํ อชฺฌาสยวเสน จ จตุรงฺคิกํ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ ฌานํ เทสิตํ. เยสํ วิจาโร, เยสํ ปีติ, เยสํ สุขํ โอฬาริกโต อุปฏฺาสิ, อิตเร สนฺตโต. เตสํ เตสํ อชฺฌาสยวเสน ตติยาทีนิ ฌานานิ เทสิตานิ. อยํ ตาว ปุคฺคลชฺฌาสโย.

ยสฺสา ปน ธมฺมธาตุยา สุปฺปฏิวิทฺธตฺตา ภควา ยสฺมา เทสนาวิลาสปฺปตฺโต, ตสฺมา าณมหนฺตตาย เทสนาย สุกุสโล ยํ ยํ องฺคํ ลพฺภติ, ตสฺส ตสฺส วเสน ยถารุจึ เทสนํ นิยาเมนฺโต จตุกฺกนยวเสน, ปฺจกนยวเสน จ. ตตฺถ จ ปฺจงฺคิกํ ปมํ, จตุรงฺคิกํ ทุติยํ, ติวงฺคิกํ ตติยํ, ทุวงฺคิกํ จตุตฺถํ, ทุวงฺคิกเมว ปฺจมํ ฌานํ เทเสสีติ อยํ เทสนาวิลาโส. เอตฺถ จ ปฺจกนเย ทุติยชฺฌานํ จตุกฺกนเย ทุติยชฺฌานปกฺขิกํ กตฺวา วิภตฺตํ ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๘). กสฺมา? เอกตฺตกายนานตฺตสฺีสตฺตาวาสผลตาย ทุติยชฺฌาเนน สมานผลตฺตา, ปมชฺฌานสมาธิโต ชาตตฺตา จ. ปมชฺฌานเมว หิ ‘‘กาเมหิ อกุสเลหิ จ วิวิตฺต’’นฺติ ตทภาวา น อิธ ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหิ วิวิจฺจ อกุสเลหี’’ติ สกฺกา วตฺตุํ, นาปิ ‘‘วิเวกช’’นฺติ. สุตฺตนฺตเทสนาสุ จ ปฺจกนเย ทุติยตติยชฺฌานานิ ทุติยชฺฌานเมว ภชนฺติ วิตกฺกวูปสมา วิจารวูปสมา อวิตกฺกตฺตา, อวิจารตฺตา จ. เอวฺจ กตฺวา สุตฺตนฺตเทสนายปิ ปฺจกนโย ลพฺภเตวาติ สิทฺธํ โหติ. นนุ สุตฺตนฺเต จตฺตาริเยว ฌานานิ วิภตฺตานีติ ปฺจกนโย น ลพฺภตีติ? น, ‘‘สวิตกฺกสวิจาโร สมาธี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๐๕) สมาธิตฺตยาปเทเสน ปฺจกนยสฺส ลพฺภมานตฺตา. จตุกฺกนยนิสฺสิโต ปน กตฺวา ปฺจกนโย วิภตฺโตติ สุตฺตนฺตเทสนายปิ ปฺจกนโย นิทฺธาเรตพฺโพ. ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา’’ติ หิ วิตกฺกสฺส, วิจารสฺส, วิตกฺกวิจารานฺจ ‘‘วิตกฺกวิจาราน’’นฺติ สกฺกา วตฺตุํ. ตถา ‘‘อวิตกฺกํ, อวิจาร’’นฺติ จ วินา, สห จ วิจาเรน วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกํ, สห, วินา จ วิตกฺเกน วิจารปฺปหาเนน อวิจารนฺติ อวิตกฺกํ, อวิจารํ, อวิตกฺกฺจ อวิจารฺจาติ วา ติวิธมฺปิ สกฺกา สงฺคเหตุํ.

ทุติยนฺติ จ วิตกฺกรหิเต, วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต จ ายาคตา เทสนา ทุติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา, วิจารมตฺตรหิเตปิ ทฺวยปฺปหานาธิคตสมานธมฺมตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ปฺจกนยนิทฺเทเส ทุติเย วูปสนฺโตปิ วิตกฺโก สหายภูตวิจาราวูปสเมน น สมฺมา วูปสนฺโตติ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิเต วิย วิจารวูปสเมเนว ตทุปสมํ, เสสธมฺมานํ สมานตฺจ ทสฺเสนฺเตน ‘‘วิตกฺกวิจารานํ วูปสมา อชฺฌตฺตํ สมฺปสาทนํ เจตโส เอโกทิภาวํ อวิตกฺกํ อวิจารํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ตติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ ตติยํ จตุกฺกนเย ทุติเยน นิพฺพิเสสํ วิภตฺตํ. ทุวิธสฺสาปิ สหายวิรเหน, อฺถา จ วิตกฺกปฺปหาเนน อวิตกฺกตฺตํ, สมาธิชํ ปีติสุขตฺตฺจ สมานนฺติ สมานธมฺมตฺตาปิ ทุติยนฺติ นิทฺเทโส . วิจารมตฺตมฺปิ หิ วิตกฺกวิจารทฺวยรหิตํ วิย ‘‘ยสฺมึ สมเย รูปูปปตฺติยา มคฺคํ ภาเวติ อวิตกฺกํ วิจารมตฺตํ สมาธิชํ ปีติสุขํ ทุติยํ ฌานํ อุปสมฺปชฺช วิหรตี’’ติ (ธ. ส. ๑๖๘) อวิตกฺกํ สมาธิชํ ปีติสุขนฺติ วิภตฺตํ. ปมชฺฌาเน วา สหจารีสุ วิตกฺกวิจาเรสุ เอกํ อติกฺกมิตฺวา ทุติยมฺปิ ตตฺรฏฺเมว โทสโต ทิสฺวา อุภยมฺปิ สหาติกฺกมนฺตสฺส ปฺจกนเย ตติยํ วุตฺตํ, ตติยํ อธิคนฺตพฺพตฺตา. ปมโต อนนฺตรภาเวน ปนสฺส ทุติยภาโว จ อุปฺปชฺชตีติ. กสฺมา ปเนวํ สรูปโต ปฺจกนโย น วิภตฺโตติ? วิเนยฺยชฺฌาสยโต. ยถานุโลมเทสนา หิ สุตฺตนฺตเทสนาติ.

ปถวีกสิณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ จตุตฺถปริจฺเฉทวณฺณนา.