📜
๕. เสสกสิณนิทฺเทสวณฺณนา
อาโปกสิณกถาวณฺณนา
๙๑. ยถาวิตฺถาริตสฺส ¶ ¶ อตฺถสฺส อติเทโสปิ วิตฺถารฏฺาเนเยว ติฏฺตีติ อาห ‘‘วิตฺถารกถา โหตี’’ติ. อาโปกสิณนฺติ อาโปกสิณชฺฌานํ, อาโปกสิณกมฺมฏฺานํ วา. สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพนฺติ ปถวีกสิณกมฺมฏฺาเน วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพํ. เอตฺตกมฺปีติ ‘‘กเต วา อกเต วาติ สพฺพํ วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ เอตฺตกมฺปิ อวตฺวา. สามุทฺทิเกน โลณุทเกน ภริโต ชลาสโย โลณี. นีลาทิวณฺณสงฺกรปริหรณตฺถํ ‘‘สุทฺธวตฺเถน คหิต’’นฺติ วุตฺตํ. อฺนฺติ ภูมึ สมฺปตฺตํ. ตถารูปนฺติ ยาทิสํ อากาสชํ อุทกํ, ตาทิสํ. เตนาห ‘‘วิปฺปสนฺนํ อนาวิล’’นฺติ, ยํ ปน อุทกนฺติ สมฺพนฺโธ. ‘‘น วณฺโณ ปจฺจเวกฺขิตพฺโพ’’ติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปถวีกสิณกถายํ วุตฺตเมว. ลกฺขณํ ปน อิธ ปคฺฆรณลกฺขณํ เวทิตพฺพํ.
วุตฺตนเยเนวาติ ปถวีกสิณภาวนายํ วุตฺตนเยเนว. ตรงฺคุฏฺานาทิ, เผณมิสฺสตาทิ จ อิธ กสิณโทโส. โสติ โยคาวจโร. ตสฺสาติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺส.
เตโชกสิณกถาวณฺณนา
๙๒. สินิทฺธานิ สิเนหวนฺตานิ. สารทารูนิ น เผคฺคุทารูนิ. ชาลาย จิรฏฺิตตฺถํ สินิทฺธสารทารุคฺคหณํ. ฆฏิกํ ฆฏิกํ กตฺวาติ ขนฺธโส กริตฺวา. อาลิมฺเปตฺวาติ ชาเลตฺวา. ฆนชาลายาติ อวิรฬวเสน ปวตฺตอคฺคิชาลายํ.
ปตนสทิสนฺติ ปตมานสทิสํ. อกเต คณฺหนฺตสฺสาติ วุตฺตนเยน ยถา กสิณมณฺฑลํ ปฺายติ, เอวํ อนภิสงฺขเต เกวเล เตชสฺมึ นิมิตฺตํ คณฺหนฺตสฺส.
วาโยกสิณกถาวณฺณนา
๙๓. วุตฺตฺเหตนฺติ ¶ เอตฺถ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ, ยสฺมาติ อตฺโถ. ตสฺส ‘‘ตสฺมา’’ติ อิมินา สมฺพนฺโธ. อุจฺฉคฺคนฺติ อุจฺฉุเขตฺเต ยถาิตานํ อคฺคํ. เอริตนฺติ ¶ วาเตน จลิตํ. สเมริตนฺติ สพฺพโส จลิตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘วาโยกสิณํ…เป… อุปลกฺเขตี’’ติ เอวํ วุตฺตํ อฏฺกถายํ, ตสฺมา. สมสีสฏฺิตนฺติ อุปริ ปตฺตานํ วเสน สมสีสํ หุตฺวา ิตํ. เวฬุํ วา รุกฺขํ วาติ เอตฺถาปิ ‘‘สมสีสํ ิตํ ฆนปตฺตเวฬุํ วา ฆนปตฺตรุกฺขํ วา’’ติ อาเนตฺวา โยเชตพฺพํ. เอกงฺคุลาทิปฺปมาเณสุ เกเสสุ รสฺสภาวโต, ทีฆตเรสุ โอลมฺพนโต, วิรเฬสุ อนุปฺปเวสโต วาตปฺปหาโร น ปฺายตีติ จตุรงฺคุลปฺปมาณคฺคหณํ, ฆนคฺคหณฺจ กตํ. เอตสฺมึ าเน ปหรตีติ สตึ เปตฺวาติ อุจฺฉคฺคาทีนํ ปจลนาการคฺคหณมุเขน เตสํ ปหารเก วาตสงฺฆาเต สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ตตฺถ สตึ เปตฺวาติ ตสฺมึ กายปเทสสฺส สงฺฆฏฺฏนวเสน ปวตฺเต วายุปิณฺเฑ สงฺฆฏฺฏนาการคฺคหณมุเขน สตึ อุปฏฺเปตฺวา. ‘‘อุสุมวฏฺฏิสทิส’’นฺติ เอเตน ปุริมกสิณสฺส วิย อิมสฺสาปิ นิมิตฺตสฺส สํวิคฺคหตํ ทสฺเสติ. ‘‘นิจฺจล’’นฺติ อิมินา นิจฺจลภาโวเยว อุคฺคหนิมิตฺตโต อิมสฺส วิเสโสติ ปฏิภาคนิมิตฺตสฺสาปิ อุสุมวฏฺฏิสทิสตาว วิภาวิตา โหติ.
นีลกสิณกถาวณฺณนา
๙๔. อฺชนราชิวฏฺฏาทิ วณฺณธาตุยา วา. ตถารูปํ มาลาคจฺฉนฺติ อวิรฬวิกสิตนีลวณฺณปุปฺผสฺฉนฺนํ ปุปฺผคจฺฉํ. อิตเรนาติ อกตาธิกาเรน. คิริกณฺณิกคฺคหเนน นีลํ คิริกณฺณิกมาห. กรณฺฑปฏลํ สมุคฺคปิธานํ. ปตฺเตหิเยวาติ นีลุปฺปลาทีนํ เกสรวณฺฏานิ อปเนตฺวา เกวเลหิ ปตฺเตหิเยว. ปูเรตพฺพนฺติ นีลวณฺณํ วตฺถํ คเหตฺวา ภณฺฑิกํ วิย พนฺธิตฺวา ยถา นีลมณฺฑลํ หุตฺวา ปฺายติ, ตถา จงฺโกฏกํ วา กรณฺฑปฏลํ วา ปูเรตพฺพํ. มุขวฏฺฏิยํ วา อสฺสาติ อสฺส จงฺโกฏกสฺส, กรณฺฑปฏลสฺส วา มุขวฏฺฏิยํ พนฺธิตพฺพํ. มณิตาลวณฺฏํ อินฺทนีลมณิมยํ ตาลวณฺฏํ.
ปีตกสิณกถาวณฺณนา
๙๕. ปีตกสิเณ มาลาคจฺฉนฺติ อิกฺกฏาทิมาลาคจฺฉํ. หริตาลํ, มโนสิลา วา ธาตุ. ปตฺตงฺคปุปฺเผหีติ ¶ ปตฺตงฺคนามิกา ปีตวณฺณปุปฺผา เอกา คจฺฉชาติ, ตสฺส ปุปฺเผหิ. อาสนปูชนฺติ เจติยงฺคเณ กตํ อาสนปูชํ ¶ . กณิการปุปฺผาทินาติ อาทิ-สทฺเทน อากุลิกิงฺกิราตปุปฺผาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
โลหิตกสิณกถาวณฺณนา
๙๖. โลหิตมณิ โลหิตงฺคมณิอาทิ. โลหิตธาตุ เครุกชาติหิงฺคุลิกาทิ.
โอทาตกสิณกถาวณฺณนา
๙๗. โอทาตกสิเณ มาลาคจฺฉนฺติ นนฺทิยาวตฺตาทิมาลาคจฺฉํ. ธาตุ กกฺกฏิมุตฺตเสติกาทิ.
อาโลกกสิณกถาวณฺณนา
๙๘. ตถา อสกฺโกนฺเตนาติ ยถา สูริยาโลกาทิวเสน โอภาสนิมิตฺตุปฺปาทนํ วุตฺตํ, ตสฺส โอภาสมณฺฑลสฺส น จิรฏฺิติตาย ตถา นิมิตฺตุปฺปาทนํ กาตุํ อสกฺโกนฺเตน. ฆฏมุเขน นิคฺคจฺฉนกโอภาสสฺส มหนฺตภาวโต ‘‘ฆฏมุขํ ปิทหิตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ภิตฺติมุขนฺติ ภิตฺติอภิมุขํ. อุฏฺิตมณฺฑลสทิสนฺติ ภิตฺติอาทีสุ อุฏฺิตปากติกอาโลกมณฺฑลสทิสํ. ฆนวิปฺปสนฺนํ อาโลกปฺุชสทิสนฺติ ภควโต พฺยามปฺปภา วิย พหโล, วิปฺปสนฺโน จ หุตฺวา ปฺุชภูโต อาโลโก อตฺถิ เจ, ตํสทิโสติ อตฺโถ.
ปริจฺฉินฺนากาสกสิณกถาวณฺณนา
๙๙. ฉิทฺทสทิสเมว โหตีติ เยหิ ภิตฺติปริยนฺตาทีหิ ปริจฺฉินฺนํ, ตํ ฉิทฺทํ, ตํสทิสํ, เตนวากาเรน อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ‘‘วฑฺฒิยมานมฺปิ น วฑฺฒตี’’ติ อุคฺคหนิมิตฺตสฺส อวฑฺฒนียตํ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ. สพฺพมฺปิ หิ อุคฺคหนิมิตฺตํ วฑฺฒิยมานํ น วฑฺฒติเยว. สติปิ จ วฑฺเฒตุกามตายํ วฑฺฒนา น สมฺภวติ ภาวนาย ปริทุพฺพลตฺตา. ภาวนาวเสน หิ นิมิตฺตวฑฺฒนา ¶ . ปฏิภาคนิมิตฺตํ ปน ตสฺมึ อุปฺปนฺเน ภาวนา ถิราติ กตฺวา ‘‘วฑฺฒิยมานํ วฑฺฒตี’’ติ วุตฺตํ.
กิฺจาปิ ¶ ปาฬิยํ ‘‘ปถวีกสิณาทีนิ รูปฌานารมฺมณานิ อฏฺเว กสิณานิ สรูปโต อาคตานิ, โอทาตกสิเณ ปน อาโลกกสิณํ, อากาสกสิเณ จ ปริจฺฉินฺนากาสกสิณํ อนฺโตคธํ กตฺวา เทสนา กตา’’ติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘อิติ กสิณานิ ทสพโล, ทส ยานิ อโวจา’’ติ. ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยาติ ปุพฺเพ วิย อสาธารณํ ตสฺมึ ตสฺมึ กสิเณ ปฏินิยตเมว อตฺถํ อคฺคเหตฺวา อสาธารณโต, สาธารณโต จ ตตฺถ ตตฺถ ปกิณฺณกํ วิสฏํ อตฺถํ คเหตฺวา ปวตฺตา ปกิณฺณกกถาปิ วิชานิตพฺพา.
ปกิณฺณกกถาวณฺณนา
๑๐๐. อาทิภาโวติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน ยสฺส กสฺสจิ ปถวีปกฺขิยสฺส วตฺถุโน นิมฺมานาทึ สงฺคณฺหาติ. านนิสชฺชาทิกปฺปนํ วาติ เอตฺถาปิ ‘‘อากาเส วา อุทเก วา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ปริตฺตอปฺปมาณนเยนาติ นีลาทิวณฺณํ อนามสิตฺวา ปริตฺตอปฺปมาณนเยเนว. เอวมาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน สรีรโต อุทกธารานิมฺมานาทึ สงฺคณฺหาติ.
ยเทว โส อิจฺฉติ ตสฺส ฑหนสมตฺถตาติ พหูสุ กปฺปาสปิจุสารทารุอาทีสุ เอกชฺฌํ ราสิภูเตสุ ิเตสุ ยํ ยเทว อิจฺฉติ, ตสฺส ตสฺเสว ฑหนสมตฺถตา. อิธ อาทิ-สทฺเทน อนฺธการวิธมนาทึ สงฺคณฺหาติ.
วายุคติยา คมนํ วายุคติคมนํ, อติสีฆคมนํ. อิธ อาทิ-สทฺเทน ยทิจฺฉิตเทสนฺตรํ ปาปุณนาทึ สงฺคณฺหาติ.
สุวณฺณนฺติ อธิมุจฺจนา สุวณฺณภาวาธิฏฺานํ เสยฺยถาปิ อายสฺมา ปิลินฺทวจฺโฉ (ปารา. ๖๑๙-๖๒๐) ติณณฺฑุปคปาสาทาทีนํ. วุตฺตนเยนาติ สุวณฺณทุพฺพณฺณนเยน.
วณฺณกสิเณสุ ¶ ตตฺถ ตตฺถ อาทิ-สทฺเทน นีโลภาสนิมฺมานาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปถวีปพฺพตาทีติ อาทิ-สทฺเทน สมุทฺทาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.
สพฺพาเนว ¶ ทสปิ กสิณานิ. อิมํ ปเภทํ ลภนฺตีติ อิมํ วฑฺฒนาทิวิเสสํ ปาปุณนฺติ. เอโกติ เอกจฺโจ. สฺชานาตีติ ภาวนาปฺาย สฺชานาติ. อาทิ-สทฺเทน ‘‘อาโปกสิณ’’นฺติอาทิปาฬึ สงฺคณฺหาติ.
อุปริคคนตลาภิมุขํ ‘‘ปถวีกสิณเมโก สฺชานาตี’’ติ ปาฬิปทานิ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. ตฺจ โข วฑฺฒนวเสน. เตนาห ‘‘เอกจฺโจ หิ อุทฺธเมว กสิณํ วฑฺเฒตี’’ติ. เหฏฺาภูมิตลาภิมุขนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. ปุพฺเพ วฑฺฒนกาเล ปโยชนํ อนเปกฺขิตฺวา วฑฺเฒนฺตานํ วเสน วุตฺตตฺตา อิทานิ ‘‘เตน เตน วา การเณน เอวํ ปสาเรตี’’ติ อาห, กสิณํ วฑฺเฒตีติ อตฺโถ. ยถา กินฺติ อาห ‘‘อาโลกมิว ทิพฺพจกฺขุนา รูปทสฺสนกาโม’’ติ. อุทฺธฺเจ รูปํ ทฏฺุกาโม อุทฺธํ อาโลกํ ปสาเรติ, อโธ เจ รูปํ ทฏฺุกาโม อโธ อาโลกํ ปสาเรติ, สมนฺตโต เจ รูปํ ทฏฺุกาโม สมนฺตโต อาโลกํ ปสาเรติ, เอวมยํ กสิณนฺติ อตฺโถ.
เอกสฺสาติ ปถวีกสิณาทีสุ เอเกกสฺส. อฺภาวานุปคมนตฺถนฺติ อฺกสิณภาวานุปคมนทีปนตฺถํ, น อฺํ ปถวีอาทิ. น หิ อุทเกน ิตฏฺาเน สสมฺภารปถวี อตฺถิ. อฺโ กสิณสมฺเภโทติ อาโปกสิณาทินา สงฺกโร. สพฺพตฺถาติ สพฺเพสุ อาโปกสิณาทีสุ เสสกสิเณสุ. เอกเทเส อฏฺตฺวา อนวเสเสน ผรณปฺปมาณสฺส อคฺคหณโต ผรณํ อปฺปมาณํ. เตเนว หิ เนสํ กสิณสมฺา. ตถา จาห ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ. ตตฺถ เจตสา ผรนฺโตติ ภาวนาจิตฺเตน อาลมฺพนํ กโรนฺโต. ภาวนาจิตฺตฺหิ กสิณํ ปริตฺตํ วา วิปุลํ วา เอกกฺขเณ สกลเมว มนสิ กโรติ, น เอกเทสนฺติ.
๑๐๑. อานนฺตริยกมฺมสมงฺคิโนติ ปฺจสุ อานนฺตริยกมฺเมสุ เยน เกนจิ สมนฺนาคตา. นิยตมิจฺฉาทิฏฺิกาติ อเหตุกทิฏฺิ อกิริยทิฏฺิ นตฺถิกทิฏฺีติ ตีสุ มิจฺฉาทิฏฺีสุ ยาย กายจิ นิยตาย มิจฺฉาทิฏฺิยา สมนฺนาคตา. อุภโตพฺยฺชนกปณฺฑกาติ อุภโตพฺยฺชนกา, ปณฺฑกา จ. กามฺเจเต อเหตุกปฏิสนฺธิกตฺตา วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา โหนฺติ, ตถาปิ ติพฺพกิเลสตฺตา กิเลสาวรเณน สมนฺนาคตา วุตฺตา. อเหตุกทฺวิเหตุกปฏิสนฺธิกาติ อเหตุกปฏิสนฺธิกา ¶ , ทฺวิเหตุกปฏิสนฺธิกา จ. ทุเหตุกปฏิสนฺธิกานมฺปิ หิ อริยมคฺคปฏิเวโธ, ฌานปฏิลาโภ ¶ จ นตฺถิ, ตสฺมา เตปิ วิปากาวรเณน สมนฺนาคตา เอว.
อปจฺจนีกปฏิปทายนฺติ มคฺคสฺส อนุโลมปฏิปทายํ สจฺจานุโลมิกายํ วิปสฺสนายํ. อจฺฉนฺทิกาติ ‘‘กตฺตุกมฺยตาฉนฺทรหิตา’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ วุตฺตํ, ตมฺปิ นิพฺพานาธิคมตฺถเมว กตฺตุกมฺยตาฉนฺทํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อุตฺตรกุรุกาปิ มนุสฺสา มาราทโย วิย อจฺฉนฺทิกฏฺานํ ปวิฏฺา นิพฺพุติฉนฺทรหิตตฺตา. ทุปฺปฺาติ ภวงฺคปฺาย ปริหีนา. ‘‘ภวงฺคปฺาย ปริปุณฺณายปิ ยสฺส ภวงฺคํ โลกุตฺตรสฺส ปาทกํ น โหติ, โสปิ ทุปฺปฺโเยวา’’ติ สมฺโมหวิโนทนิยํ วุตฺตํ. ยสฺมึ หิ ภวงฺเค วตฺตมาเน ตํสนฺตติยํ โลกุตฺตรํ นิพฺพตฺตติ, ตํ ตสฺส ปาทกํ นาม โหติ.
กุสเลสุ ธมฺเมสูติ อนวชฺชธมฺเมสุ, สุขวิปากธมฺเมสุ วา. โอกฺกมิตุนฺติ อธิคนฺตุํ. กสิเณเยวาติ กสิณกมฺมฏฺาเนเยว. เอเตสนฺติ กมฺมาวรณสมนฺนาคตาทีนํ. ตสฺมาติ ยสฺมา เอเต วิปากนฺตรายาทโย เอวํ อตฺถชานิกรา, อนตฺถเหตุภูตา จ, ตสฺมา. ติณฺณเมว เจตฺถ อนฺตรายานํ คหณํ อิตรสฺส สปฺปฏิการตฺตา, กมฺมนฺตรายปกฺขิกตฺตา วาติ ทฏฺพฺพํ. สปฺปุริสูปนิสฺสยาทีหีติ อาทิ-สทฺเทน ตชฺชํ โยนิโสมนสิการาทึ สงฺคณฺหาติ. สทฺธนฺติ กมฺมผลสทฺธํ, รตนตฺตยสทฺธฺจ. ฉนฺทนฺติ ภาวนานุโยเค ติพฺพกตฺตุกมฺยตาสงฺขาตํ กุสลจฺฉนฺทํ. ปฺนฺติ ปาริหาริยปฺํ. วฑฺเฒตฺวาติ ยถา ภาวนา อิชฺฌติ, ตถา ปริพฺรูเหตฺวา. ยํ ปเนตฺถ อตฺถโต น วิภตฺตํ, ตํ สุวิฺเยฺยตฺตา, เหฏฺา วุตฺตนยตฺตา จ น วิภตฺตํ.
เสสกสิณนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ ปฺจมปริจฺเฉทวณฺณนา.