📜

๖. อสุภกมฺมฏฺานนิทฺเทสวณฺณนา

อุทฺธุมาตกาทิปทตฺถวณฺณนา

๑๐๒. ‘‘อวิฺาณกาสุเภสู’’ติ อิทํ อุทฺธุมาตกาทีนํ สภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ. ตสฺมา ภูตกถนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, น สวิฺาณกอสุภสฺส อกมฺมฏฺานภาวโต. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘น เกวลํ มตสรีร’’นฺติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๒๒). อุทฺธํ ชีวิตปริยาทานาติ ชีวิตกฺขยโต อุปริ มรณโต ปรํ. สมุคฺคเตนาติ อุฏฺิเตน. อุทฺธุมาตตฺตาติ อุทฺธํ อุทฺธํ ธุมาตตฺตา สูนตฺตา. อุทฺธุมาตเมว อุทฺธุมาตกนฺติ -กาเรน ปทวฑฺฒนมาห อนตฺถนฺตรโต ยถา ‘‘ปีตกํ โลหิตก’’นฺติ. ปฏิกฺกูลตฺตาติ ชิคุจฺฉนียตฺตา. กุจฺฉิตํ อุทฺธุมาตํ อุทฺธุมาตกนฺติ กุจฺฉนตฺเถ วา อยํ -กาโรติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ยถา ‘‘ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉตี’’ติ (มหาว. ๒๘๕; ปริ. ๓๒๕; ที. นิ. ๒.๑๔๙; อ. นิ. ๕.๒๑๓). ตถารูปสฺสาติ ‘‘ภสฺตา วิย วายุนา’’ติอาทินา ยถารูปํ วุตฺตํ, ตถารูปสฺส.

เสตรตฺเตหิ ปริภินฺนํ วิมิสฺสิตํ นีลํ วินีลํ, ปุริมวณฺณวิปริณามภูตํ วา นีลํ วินีลํ.

ปริภินฺนฏฺาเนสุ กากกงฺกาทีหิ. วิสฺสนฺทมานปุพฺพนฺติ วิสฺสวนฺตปุพฺพํ, ตหํ ตหํ ปคฺฆรนฺตปุพฺพนฺติ อตฺโถ.

อปธาริตนฺติ วิวฏํ อุคฺฆาฏิตํ. ขิตฺตนฺติ ฉฑฺฑิตํ, โสณสิงฺคาลาทีหิ วิสุํ กตฺวา ขาทเนน สรีรสงฺฆาตโต ลุฺจิตฺวา ตหํ ตหํ ฉฑฺฑิตํ. วิวิธํ ขิตฺตนฺติ วิกฺขิตฺตํ.

ปุริมนเยนาติ ‘‘วิวิธํ ขิตฺต’’นฺติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน. สตฺเถน หนิตฺวาติ เวรีหิ ขคฺคกรวาลาทินา สตฺเถน ปหริตฺวา. วุตฺตนเยนาติ ‘‘อฺเน หตฺถ’’นฺติอาทินา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน.

อพฺภนฺตรโต นิกฺขมนฺเตหิ กิมีหิ ปคฺฆรนฺตกิมิกุลํ ปุฬวกนฺติ อาห ‘‘กิมิปริปุณฺณสฺสา’’ติ.

อุทฺธุมาตกาทีนิ อามกสุสานาทีสุ ฉฑฺฑิตาสุภานิ. นิสฺสายาติ ปฏิจฺจ ตานิปิ อารพฺภ. นิมิตฺตานนฺติ อุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตานํ. เอตาเนว อุทฺธุมาตกาทีเนว นามานิ.

อุทฺธุมาตกกมฺมฏฺานวณฺณนา

๑๐๓. ภาเวตุกาเมนาติ อุปฺปาเทตุกาเมน. เตนาติ อาจริเยน. อสฺสาติ โยคิโน. อสุภนิมิตฺตตฺถายาติ อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคณฺหนตฺถาย, อสุเภ วา อุคฺคหนิมิตฺตสฺส อตฺถาย. คมนวิธานนฺติ คมนวิธิ. เยน วิธินา คนฺตพฺพํ, โส วิธิ. อุคฺคหนิมิตฺตสฺส อุปฺปนฺนกาลโต ปฏฺาย ปถวีกสิเณ วุตฺตํ ปฏิปชฺชนวิธึ สนฺธายาห ‘‘อปฺปนาวิธานปริโยสาน’’นฺติ.

๑๐๔. ตาวเทวาติ สุตกฺขเณเยว. อติตฺเถน ปุณฺณนทีอาทึ ปกฺขนฺทนฺเตน วิย อนุปวิสนฺเตน วิย. เกทารโกฏิยาติ เกทารมริยาทาย. วิสภาครูปนฺติ เขตฺตรกฺขิกาทิวิสภาควตฺถุรูปํ. สรีรนฺติ อุทฺธุมาตกกเฬวรํ. อธุนามตนฺติ อจิรมตํ อุทฺธุมาตกภาวํ อปฺปตฺตํ. ตกฺกยตีติ สมฺภาเวติ ภาริยํ กตฺวา น มฺติ.

๑๐๕. รูปสทฺทาทีติ เอตฺถ อมนุสฺสานํ รูเปหิ, สีหพฺยคฺฆาทีนํ สทฺทาทีหิ, อมนุสฺสานมฺปิ วา รูปสทฺทาทีหิ. ตถา สีหพฺยคฺฆาทีนนฺติ ยถารหํ โยเชตพฺพํ. อนิฏฺารมฺมณาภิภูตสฺสาติ เภรวาทิภาเวน อนิฏฺเหิ อารมฺมเณหิ อภิภูตสฺส อชฺโฌตฺถฏสฺส. น ปฏิสณฺาตีติ วิทาหวเสน อาสเย น ติฏฺติ, อุจฺฉฑฺเฑตพฺพํ โหตีติ อตฺโถ. อฺโติ อมนุสฺสาทีนํ วเสน วา อฺถา วา วุตฺตปฺปการโต อฺโ อาพาโธ โหติ. โสติ สงฺฆตฺเถโร, อภิฺาตภิกฺขุ วา. ยสฺสาเนน อาโรจิตํ, โส. กตกมฺมาติ กตเถยฺยกมฺมา. อกตกมฺมาติ เถยฺยกมฺมํ กาตุกามา. กตกมฺมา ปน อิธาธิปฺเปตา. ตสฺมา เตติ กตกมฺมา โจรา. สห โอฑฺเฒนาติ สโหฑฺฒํ, เถเนตฺวา คหิยมานภณฺเฑน สทฺธินฺติ อตฺโถ. ยชมาโนติ ยฺํ ยชนฺโต ยฺสามิโก. ‘‘อทฺธา อิมาย ปฏิปตฺติยา ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ ปีติโสมนสฺสํ อุปฺปาเทตฺวา.

เอวํ คมนวิธานํ เอกเทเสน วตฺวา อิทานิ อฏฺกถาสุ อาคตนเยน ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺกถาสุ วุตฺเตน วิธินา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อุคฺคณฺหนฺโตติ อุคฺคณฺหนเหตุ. เอโกติ อยํ เอก-สทฺโท อสหายตฺโถ, น อฺาทิอตฺโถติ ‘‘อทุติโย’’ติ วุตฺตํ. ยถา วณฺณาทิโต ววตฺถานํ เอกํสโต สมุทิตเมว อิจฺฉิตพฺพํ สพฺพตฺถกภาวโต, น ตถา สนฺธิอาทิโตติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘วณฺณโตปี’’ติอาทินา ฉสุ าเนสุ สมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท คหิโต. ปุน เอโก อทุติโยติอาทิ คหิตนิมิตฺตสฺส โยคิโน นิวตฺติตฺวา วสนฏฺานคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. ตพฺภาคิยฺเวาติ ตปฺปกฺขิยํเยว อสุภนิมิตฺตมนสิการสหิตเมว. อาสนํ ปฺเปตีติ นิสชฺชํ กปฺเปติ. ยํ ปน ‘‘อสุภนิมิตฺตทิสาภิมุเข ภูมิปฺปเทเส’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๑๓) วกฺขติ, ตมฺปิ อิมเมวตฺถํ สนฺธาย วุตฺตํ. น หิ เกวเลน ทิสาภิมุขภาเวน กิฺจิ อิชฺฌติ.

สมนฺตา นิมิตฺตุปลกฺขณาติ อุทฺธุมาตกสฺส สมนฺตา ปาสาณาทินิมิตฺตสลฺลกฺขณา. อสมฺโมหตฺถาติ อุคฺคหนิมิตฺเต อุปฏฺิเต อุปฺปชฺชนกสมฺโมหวิคมตฺถา. เอกาทสวิเธนาติ วณฺณาทิวเสน เอกาทสวิเธน. อุปนิพนฺธนตฺโถติ อสุภารมฺมเณ จิตฺตํ อุปเนตฺวา นิพนฺธนตฺโถ. วีถิสมฺปฏิปาทนตฺถาติ กมฺมฏฺานวีถิยา สมฺมเทว ปฏิปาทนตฺถา. ปุฺกิริยวตฺถุ อธิคตํ โหตีติ สมฺพนฺโธ.

๑๐๖. ตสฺมาติ ยสฺมา อสุภนิมิตฺตสฺส อุคฺคณฺหนํ อริยมคฺคปทฏฺานสฺส ปมชฺฌานสฺส อธิคมุปาโย, ยสฺมา วา ‘‘อสุภนิมิตฺตํ อุคฺคณฺหนฺโต เอโก อทุติโย คจฺฉตี’’ติ วุตฺตํ, ตสฺมา. จิตฺตสฺตฺตตฺถายาติ สรีรสภาวสลฺลกฺขเณน, สํเวคชนเนน จ อตฺตโน จิตฺตสฺส สฺตฺติอตฺถํ สฺาปนตฺถํ. ‘‘จิตฺตสฺตตฺถายา’’ติ วา ปาโ, กิเลสวเสน อสํยตสฺส จิตฺตสฺส สํยมนตฺถํ ทมนตฺถํ, น กมฺมฏฺานตฺถนฺติ อตฺโถ. กมฺมฏฺานสีเสนาติ กมฺมฏฺาเนน สีสภูเตน, ตํ อุตฺตมงฺคํ ปธานํ การณํ กตฺวา. มูลกมฺมฏฺานนฺติ ปกติยา อตฺตนา กาเลน กาลํ ปริหริยมานํ พุทฺธานุสฺสติอาทิสพฺพตฺถกกมฺมฏฺานํ. ‘‘กมฺมฏฺานสีเสน คจฺฉามี’’ติ ตํ อวิสฺสชฺเชตฺวา. เตนาห ‘‘ตํ มนสิกโรนฺเตเนวา’’ติ. สูปฏฺิตภาวสมฺปาทเนนาติ มูลกมฺมฏฺาเน สุฏฺุ อุปฏฺิตภาวสฺส สมฺปาทเนน. เอวํ หิ สติ อสมฺมุฏฺา นาม โหติ. พหิทฺธา ปุถุตฺตารมฺมเณ อปฺปวตฺติตฺวา กมฺมฏฺาเนเยว ปวตฺตมานํ มานสํ อพหิคตํ นาม. ตถาภูเตน จาเนน รูปินฺทฺริยานิ อปฺปวตฺตกิจฺจานิ กตานิ โหนฺตีติ อาห ‘‘มนจฺฉฏฺานํ…เป… คนฺตพฺพ’’นฺติ.

ทฺวารํ สลฺลกฺเขตพฺพนฺติ วิหาเร ปุรตฺถิมาทีสุ ทิสาสุ อสุกทิสาย อิทํ ทฺวารํ, ตโต เอว ตาย ทิสาย สลฺลกฺขิเตน อสุกทฺวาเรน นิกฺขนฺโตมฺหีติ ทฺวารํ อุปธาเรตพฺพํ. ตโตติ ทฺวารสลฺลกฺขณโต ปจฺฉา. เยน มคฺเคน คจฺฉติ สยํ. นิมิตฺตฏฺานนฺติ อสุภนิมิตฺตสฺส คณฺหนฏฺานํ. อาหารํ ฉฑฺฑาเปยฺยาติ วมนํ การาเปยฺย. กณฺฏกฏฺานนฺติ กณฺฏกวนฺตํ านํ.

๑๐๗. ทิสา ววตฺถเปตพฺพาติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘เอกสฺมึ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ขายตีติ อุปฏฺาติ. กมฺมนิยนฺติ ภาวนาย กมฺมกฺขมํ. อุพฺพาฬฺหสฺสาติ พาธิตสฺส. วิธาวตีติ นานารมฺมเณ วิสรติ. อุกฺกมฺมาติ อุชุกํ อนุวาตโต อปกฺกมฺม. มตกเฬวรํ ปุถุชฺชนสฺส เยภุยฺเยน ภยโต อุปฏฺาตีติ อาห ‘‘อจฺจาสนฺเน ภยมุปฺปชฺชตี’’ติ. อนุปาทนฺติ ปาทสมีปํ. ยตฺถ ิตสฺส สุเขน โอโลเกตุํ สกฺกา, ตํ โอโลเกนฺตสฺส ผาสุกฏฺานํ.

๑๐๘. สมนฺตาติ สมนฺตโต. ปุน สมนฺตาติ สามนฺตา สมีเป. กจฺฉโกติ กาฬกจฺฉโก, ‘‘ปิลกฺโข’’ติปิ วทนฺติ. กปีตโนติ ปิปฺปลิรุกฺโข. สินฺทีติ ขุทฺทกขชฺชุรี. กรมนฺทาทโย ปากฏา เอว. สามาติ สามลตา. กาฬวลฺลีติ กาฬวณฺณา อปตฺติกา เอกา ลตาชาติ. ปูติลตาติ ชีวนวลฺลิ, ยา ‘‘คโลจี’’ติ วุจฺจติ.

๑๐๙. ตํ นิมิตฺตกรณาทิ อิเธว ยถาวุตฺเต ปาสาณาทินิมิตฺตกรเณ เอว อนฺโตคธํ ปริยาปนฺนํ. สนิมิตฺตํ กโรตีติ สห นิมิตฺตํ กโรติ, อสุภํ ปาสาณาทินิมิตฺเตน สห กโรติ ววตฺถเปติ. อถ วา อสุภนิมิตฺตํ, ปาสาณาทินิมิตฺตฺจ สห เอกชฺฌํ กโรนฺโต ววตฺถเปนฺโต ‘‘สนิมิตฺตํ กโรตี’’ติ วุตฺโต. สมานกาลตาทีปเกน หิ สห-สทฺเทน อยํ สมาโส ยถา ‘‘สจกฺกํ เทหี’’ติ. ตยิทํ นิมิตฺตกรณํ อปราปรํ สลฺลกฺขเณน โหติ, น เอกวารเมวาติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ววตฺถเปนฺโต หิ สนิมิตฺตํ กโรตี’’ติ. ทฺเวติ ปาสาณาสุภนิมิตฺตานิ. สมาเสตฺวา สงฺคเหตฺวา เอกชฺฌํ กตฺวา. สารมฺมณนฺติ อสุภารมฺมเณน สทฺธึ ปาสาณาทึ สมานารมฺมณํ กโรติ, สห วา อารมฺมณํ กโรติ, เอการมฺมณํ วิย อุภยํ อารมฺมณํ กโรติ, เอกชฺฌํ วิย จ อปราปรํ สลฺลกฺเขนฺโต ปาสาณาทึ, อสุภนิมิตฺตฺจาติ ทฺวยํ อารมฺมณํ กโรตีติ อตฺโถ.

อตฺตนิโยติ สโก. วณิตนฺติ สูนํ. สภาเวน สรเสนาติ อุทฺธุมาตกภาวสงฺขาเตน อตฺตโน ลกฺขเณน, ปเรสํ ชิคุจฺฉุปฺปาทนสงฺขาเตน อตฺตโน กิจฺเจน จ, สภาโว เอว วา ตถา นิปฺผชฺชนโต ‘‘รโส’’ติ วุตฺโต.

๑๑๐. ฉพฺพิเธน นิมิตฺตํ คเหตพฺพนฺติ วณฺณาทินา ฉปฺปกาเรน ตาว อุทฺธุมาตกอสุภนิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. เกจิ ‘‘กเฬวรสฺส ทีฆรสฺสาทิปฺปมาเณน สทฺธึ สตฺตวิเธนา’’ติ วทนฺติ, ตํ อฏฺกถายํ นตฺถิ. ลิงฺคโตติ เอตฺถ ลิงฺคํ นาม วโย ลิงฺคํ, น ถนมสฺสุอาทิ อิตฺถิปุริสลิงฺคนฺติ ทสฺเสนฺเตน ‘‘อิตฺถิลิงฺคํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ิตสฺส สตฺตสฺส อิทํ สรีรนฺติ สมฺพนฺโธ. อุทฺธุมาตกสณฺานวเสเนว, น ปากติกสณฺานวเสน. เอเตน ยทิ ตตฺถ โกจิ อนุทฺธุมาตกภาวปฺปตฺโต ปเทโส สิยา, โส น คเหตพฺโพติ ทสฺเสติ. โอฬาริกาวยววเสน อิทํ สณฺานววตฺถานํ, น สุขุมาวยววเสนาติ สีสสณฺานาทิกํ นววิธเมว สณฺานํ คหิตํ.

อิมิสฺสา ทิสายาติ อิมิสฺสา ปุรตฺถิมาย, ทกฺขิณปจฺฉิมอุตฺตราย ทิสาย, อนุทิสาย วา ิโตติ โยชนา. อิมสฺมึ นาม โอกาเส หตฺถาติ อิมสฺมึ นาม ภูมิปฺปเทเส อิมสฺส กเฬวรสฺส หตฺถา ิตาติ ววตฺถเปตพฺพนฺติ โยชนา.

อโธ ปาทตเลนาติอาทิ นาภิยา เหฏฺา อโธ, ตโต อุทฺธํ อุปรีติ อิมสฺส ววตฺถานสฺส วเสน วุตฺตํ. หตฺถปริจฺเฉโท เหฏฺา องฺคุลิอคฺเคน อุปริ อํสกูฏสนฺธินา ติริยํ ตจปริยนฺเตน คเหตพฺโพ. เอส นโย ปาทปริจฺเฉทาทีสุปิ. ยตฺตกํ วา ปน านํ คณฺหตีติ สเจ สพฺพํ สรีรํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา คเหตุํ น สกฺโกติ, ปเทโส ตสฺส อุทฺธุมาโต, โส ยตฺตกํ สรีรปฺปเทสํ อุทฺธุมาตกวเสน าเณน ปริคฺคณฺหาติ, ตตฺตกเมว ยถาปริคฺคหิตเมว. อิทํ อีทิสนฺติ อิทํ หตฺถาทิกํ อีทิสํ เอวมาการํ. อุทฺธุมาตกนฺติ ยถาสภาวโต ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ. วิสภาเค สรีเร อารมฺมณนฺติ กมฺมฏฺานํ ปฏิกฺกูลากาโร น อุปฏฺาติ น ขายติ, สุภโต อุปฏฺเหยฺย. เตนาห ‘‘วิปฺผนฺทนสฺเสว ปจฺจโย โหตี’’ติ, กิเลสปริปฺผนฺทนสฺเสว นิมิตฺตํ โหตีติ อตฺโถ. อุคฺฆาฏิตาปีติ อุทฺธุมาตภาวปฺปตฺตาปิ, สพฺพโส กุถิตสรีราปีติ วา อตฺโถ. สฺวายมตฺโถ ปมปาราชิเก (ปารา. ๖๗ อาทโย) วินีตวตฺถูหิ ทีเปตพฺโพ.

๑๑๑. อาเสวิตกมฺมฏฺาโนติ อสุภกมฺมฏฺาเน กตปริจโย. โสสานิกงฺคาทีนํ วเสน ปริหตธุตงฺโค. จตุธาตุววตฺถานวเสน ปริมทฺทิตมหาภูโต. สลกฺขณโต าเณน ปริคฺคหิตสงฺขาโร. ปจฺจยปริคฺคหวเสน ววตฺถาปิตนามรูโป. สลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย อุกฺกํสเนน สุฺตานุปสฺสนาพเลน อุคฺฆาฏิตสตฺตสฺโ. วิปสฺสนาย ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิสมฺปาปเนน กตสมณธมฺโม. ตโต เอว สพฺพโส กุสลวาสนาย, กุสลภาวนาย จ ปูรเณน วาสิตวาสโน ภาวิตภาวโน. วิวฏฺฏูปนิสฺสยกุสลพีเชน สพีโช. าณสฺส ปริปกฺกภาเวน าณุตฺตโร. ยถาวุตฺตาย ปฏิปตฺติยา กิเลสานํ ตนุกรเณน อปฺปกิเลโส. โอโลกิโตโลกิตฏฺาเนเยวาติ อุทฺธุมาตกาทิอสุภสฺส ยตฺถ ยตฺถ โอโลกิโตโลกิตฏฺาเน เอว, ตาทิสสฺส กาลวิเสโส, อสุภสฺส ปเทสวิเสโส วา อเปกฺขิตพฺโพ นตฺถีติ อตฺโถ. โน เจ เอวํ อุปฏฺาตีติ เอวํ ยถาวุตฺตปุริสวิเสสสฺส วิย ปฏิภาคนิมิตฺตํ โน เจ อุปฏฺาติ. เอวํ ฉพฺพิเธนาติ เอวํ วุตฺตากาเรน วณฺณาทิวเสน ฉพฺพิเธน. ปุนปีติ ปิ-สทฺโท สมฺปิณฺฑนตฺโถ. เตน นิมิตฺตคฺคหณวิธึ สมฺปิณฺเฑติ, น ปฺจวิธตํ. ฉพฺพิเธน หิ ปุพฺเพ นิมิตฺตคฺคหณํ วิหิตํ.

๑๑๒. อสีติสตสนฺธิโตติ สพฺเพปิ สนฺธโย ตทาปิ อตฺเถวาติ ทสฺสนตฺถํ วตฺวา อุทฺธุมาตภาเวน เยภุยฺเยน น ปฺายนฺติ. เย ปน ปฺายนฺติ, เต ววตฺถเปตพฺพาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุทฺธุมาตเก ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตโย ทกฺขิณหตฺถสนฺธีติ อํสกปฺปรมณิพนฺธานํ วเสน ตโย ทกฺขิณหตฺถสนฺธโย. ตถา วามหตฺถสนฺธโย. กฏิชณฺณุโคปฺผกานํ วเสน ตโย ทกฺขิณปาทสนฺธโย. ตถา วามปาทสนฺธโย. เอโก กฏิสนฺธีติ กฏิยา สทฺธึ ปิฏฺิกณฺฏกสนฺธึ สนฺธาย วทติ. หตฺถนฺตรนฺติ ทกฺขิณหตฺถทกฺขิณปสฺสานํ, วามหตฺถวามปสฺสานฺจ อนฺตรํ วิวรํ. ปาทนฺตรนฺติ อุภินฺนํ ปาทานํ เวมชฺฌํ. อุทรนฺตรนฺติ นาภิฏฺานสฺิตํ กุจฺฉิเวมชฺฌํ, อุทรสฺส วา อพฺภนฺตรํ. กณฺณนฺตรนฺติ กณฺณฉิทฺทํ. อิติ-สทฺโท อาทิอตฺโถ, เตน นาสจฺฉิทฺทาทีนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. อกฺขีนํ, มุขสฺส จ วเสนาปิ วิวรํ ลพฺภเตวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อกฺขีนมฺปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมนฺตโตติ เอวํ สนฺธิอาทิโต อุทฺธุมาตกํ ววตฺถเปนฺตสฺส เจ นิมิตฺตํ อุปติฏฺติ, อิจฺเจตํ กุสลํ. โน เจ, สมนฺตโต ววตฺถเปตพฺพนฺติ ววตฺถาปนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สกลสรีเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ าณํ จาเรตฺวาติ สพฺพตฺถกเมว สรีรํ อาวชฺเชตฺวา ตตฺถ ปฏิกฺกูลาการสหิตํ อุทฺธุมาตกภาวํ อารพฺภ นิรนฺตรํ ภาวนาาณํ ปวตฺเตตฺวา. ยํ านนฺติ เอวํ ปน าณํ จาเรนฺตสฺส ตสฺมึ สรีเร โย ปเทโส วิภูโต หุตฺวา อุทฺธุมาตกากาเรน วิภูตภาเวน อุปฏฺาติ. อุทรปริโยสานํ อุปริมสรีรํ.

วินิจฺฉยกถาวณฺณนา

๑๑๓. วินิจฺฉยกถาติ วินิจฺฉยสหิตา อตฺถวณฺณนา. ยถาวุตฺตนิมิตฺตคฺคาหวเสนาติ วณฺณาทิโต, สนฺธิอาทิโต จ วุตฺตปฺปการอุทฺธุมาตกนิมิตฺตคฺคหณวเสน. สุฏฺุ นิมิตฺตํ คณฺหิตพฺพนฺติ ยถา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฏฺหติ, เอวํ สมฺมเทว อสุภนิมิตฺตํ คเหตพฺพํ. อิทานิ ตเมว นิมิตฺตสฺส สุฏฺุ คหณาการํ อุปทิสนฺโต ‘‘สตึ สูปฏฺิตํ กตฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ เอวํ ปุนปฺปุนํ กโรนฺเตนาติ ยถา ‘‘อิมาย ปฏิปทาย ชรามรณโต มุจฺจิสฺสามี’’ติ สฺชาตาทเรน สติสมฺปชฺฺจ สุฏฺุ อุปฏฺเปตฺวา อุทฺธุมาตกอสุภํ ปมํ อาวชฺชิตํ, เอวํ ปุนปฺปุนํ ตตฺถ อาวชฺชนํ กโรนฺเตน. สาธุกํ อุปธาเรตพฺพฺเจว ววตฺถเปตพฺพฺจาติ สกฺกจฺจํ สติยา สลฺลกฺเขตพฺพฺเจว ปฺาย นิจฺเฉตพฺพฺจ. สติ หิ ‘‘ธารณา’’ติ นิทฺทิฏฺา, ธารณฺเจตฺถ สลฺลกฺขณํ. ปฺา ‘‘ปวิจโย’’ติ (ธ. ส. ๑๖) นิทฺทิฏฺา, ปวิจโย เจตฺถ นิจฺฉโยติ. อถ วา อุปธาเรตพฺพนฺติ สติปุพฺพงฺคมาย ปฺาย อุปลกฺเขตพฺพํ . น หิ กทาจิ สติรหิตา ปฺา อตฺถิ. ววตฺถเปตพฺพนฺติ ปฺาปุพฺพงฺคมาย สติยา นิจฺฉินิตพฺพํ. ปฺาสหิตา เอว หิ สติ อิธาธิปฺเปตา, น ตพฺพิรหิตา. อทฺธกฺขิอปงฺคาทิวเสนาปิ โอโลกนํ อตฺถีติ ‘‘อุมฺมีเลตฺวา โอโลเกตฺวา’’ติ วุตฺตํ. เตน ปริพฺยตฺตเมว โอโลกนํ ทสฺเสติ. เอวํ ปุนปฺปุนํ กโรนฺตสฺสาติ วุตฺตปฺปกาเรน จกฺขุํ อุมฺมีเลตฺวา โอโลกนํ, นิมฺมีเลตฺวา อาวชฺชนฺจ อปราปรํ อเนกวารํ กโรนฺตสฺส. อุคฺคหนิมิตฺตนฺติ อุทฺธุมาตเก อุคฺคณฺหนนิมิตฺตํ. สุคฺคหิตนฺติ สุฏฺุ คหิตํ. ยถา น วินสฺสติ น ปมุฏฺํ โหติ, เอวํ คหิตํ. เอกสทิสนฺติ สมานสทิสํ. สมานตฺโถ หิ อยํ เอก-สทฺโท, ยถา ‘‘อริยวินเยติ วา, สปฺปุริสวินเยติ วา, เอเสเส เอเก เอกฏฺเ สเม สมภาเค ตชฺชาเต ตฺเ วา’’ติ.

อาคมนกาเลติ วิหารโต สุสานํ อุทฺทิสฺส อาคมนกาเล. วุตฺตนเยเนวาติ อติเทสวเสน ทีปิตมฺปิ อตฺถํ ‘‘เอกเกนา’’ติอาทินา สรูปโต ทสฺเสติ. ตตฺถ ตเทว กมฺมฏฺานนฺติ อุทฺธุมาตกกมฺมฏฺานํ. มูลกมฺมฏฺานนฺติ เอเก, ตทยุตฺตํ. อุปฏฺิตนิมิตฺตํ หิ กมฺมฏฺานํ วิสฺสชฺเชตฺวา กมฺมฏฺานนฺตรมนสิกาโร รฺโ รชฺชํ ฉฑฺเฑตฺวา วิเทสคมนํ วิยาติ. อาคเตนาติ อตฺตโน วสนฏฺานํ อาคเตน.

๑๑๔. อเวลายนฺติ สฺฌาเวลาทิอยุตฺตเวลายํ. พีภจฺฉนฺติ วิรูปํ. เภรวารมฺมณนฺติ เวตาฬสทิสํ ภยานกํ วิสยํ. วิกฺขิตฺตจิตฺโตติ ภีรุกปุริโส วิย ปิสาจาทึ ทิสฺวา จิตฺตวิกฺเขปํ ปตฺโต. อุมฺมตฺตโก วิยาติ ยกฺขุมฺมตฺตโก วิย เอกจฺโจ โหติ. ฌานวิพฺภนฺตโกติ ฌานโต วิจฺจุตโก สีลวิพฺภนฺตกมนฺตวิพฺภนฺตกา วิย. สนฺถมฺเภตฺวาติ อุปฺปนฺนปริตฺตาสวูปสมเนน วิคตกมฺปตาย นิจฺจโล หุตฺวา. สตึ สูปฏฺิตนฺติอาทิ สนฺถมฺภนสฺส อุปายทสฺสนํ. มตสรีรํ อุฏฺหิตฺวา อนุพนฺธนกํ นาม นตฺถิ อสติ ตาทิเส มนฺตปฺปโยเค. โสปิ อุทฺธุมาตกาทิภาวมปฺปตฺเต อวินฏฺรูเป เอว อิชฺฌติ, ตถา เทวตาธิคฺคโห, น เอวรูเปติ อธิปฺปาโย. สฺโชติ ภาวนาปริกปฺปสฺาย ชาโต. ตโต เอว สฺาสมฺภโว สฺามตฺตสมุฏฺาโน. ตาสํ วิโนเทตฺวาติ นิมิตฺตุปฏฺานนิมิตฺตํ อุปฺปนฺนจิตฺตสนฺตาสํ วุตฺตปฺปกาเรน วิโนเทตฺวา วูปสเมตฺวา . ‘‘อิทานิ ตว ปริสฺสโม สปฺผโล ชาโต’’ติ หาสํ ปีตึ ปโมทนํ อุปฺปาเทตฺวา. จิตฺตํ สฺจราเปตพฺพนฺติ ภาวนาจิตฺตํ ปวตฺเตตพฺพํ มนสิกาตพฺพํ.

นิมิตฺตคฺคาหนฺติ นิมิตฺตสฺส อุคฺคณฺหนํ, อุคฺคหนิมิตฺตํ. สมฺปาเทนฺโตติ สาเธนฺโต นิปฺผาเทนฺโต. กมฺมฏฺานํ อุปนิพนฺธตีติ ภาวนํ ยถาวุตฺเต นิมิตฺเต อุปเนนฺโต นิพนฺธติ. โยคกมฺมํ หิ โยคิโน สุขวิเสสานํ การณภาวโต ‘‘กมฺมฏฺาน’’นฺติ อธิปฺเปตํ, โยคกมฺมสฺส วา ปวตฺติฏฺานตาย ยถาอุปฏฺิตนิมิตฺตํ กมฺมฏฺานํ, ตํ ภาวนาจิตฺเต อุปนิพนฺธติ. ตํ ปนสฺส อุปนิพนฺธนํ สนฺธาย จิตฺตํ สฺจราเปตพฺพํ. เอวํ ‘‘วิเสสมธิคจฺฉตี’’ติ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺส หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ตสฺสาติ โยคิโน, ตสฺส วา อุทฺธุมาตกาสุภสฺส. มานสํ จาเรนฺตสฺสาติ ภาวนาจิตฺตํ อปราปรํ ปวตฺเตนฺตสฺส, อุคฺคหนิมิตฺตํ ปุนปฺปุนํ มนสิ กโรนฺตสฺสาติ อตฺโถ.

๑๑๕. ‘‘วีถิสมฺปฏิปาทนตฺถา’’ติ ปทสฺส ‘‘กมฺมฏฺานวีถิยา สมฺปฏิปาทนตฺถา’’ติ อตฺถํ วตฺวา ตํ ปน กมฺมฏฺานวีถึ, ตสฺสา จ สมฺปฏิปาทนวิธึ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ กติมีติ ปกฺขสฺส กตมี, กึ ทุติยา, ตติยาทีสุ วา อฺตราติ อตฺโถ. ตุณฺหีภูเตน คนฺตุํ น วฏฺฏติ ปุจฺฉนฺตานํ จิตฺตสฺส อฺถตฺตปริหรณตฺถํ. อปฺปสนฺนานฺหิ ปสาทาย, ปสนฺนานฺจ ภิยฺโยภาวาย สาสนสมฺปฏิปตฺติ. นสฺสตีติ น ทิสฺสติ , น อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. ‘‘อาคนฺตุกปฏิสนฺถาโร กาตพฺโพ’’ติ อิมินา อาคนฺตุกวตฺตํ เอกเทเสน ทสฺสิตนฺติ ‘‘อวเสสานิปี’’ติ วตฺวา อาคนฺตุกวตฺตํ ปริปุณฺณํ คเหตุํ ปุน อาคนฺตุกคฺคหณํ กตํ. คมิกวตฺตาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อาวาสิกอนุโมทนปิณฺฑจาริกอนุโมทนปิณฺฑจาริกอารฺิกเสนาสนวจฺจกุฏิวตฺตาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. วตฺตกฺขนฺธเก (จูฬว. ๓๕๖) หิ อาคตานิ มหาวตฺตานิ อิธ ‘‘ขนฺธกวตฺตานี’’ติ วุตฺตานิ. ตชฺชนียกมฺมกตาทิกาเล ปน ปาริวาสิกาทิกาเล จ จริตพฺพานิ อิมสฺส ภิกฺขุโน อสมฺภวโต อิธ นาธิปฺเปตานิ. นิมิตฺตํ วา อนฺตรธายตีติ สุสาเน ิตํ อสุภนิมิตฺตํ อุทฺธุมาตกภาวาปคเมน อนฺตรธายติ. เตนาห ‘‘อุทฺธุมาตก’’นฺติอาทิ. ตสฺมาติ เตน การเณน, อิมสฺส กมฺมฏฺานสฺส ทุลฺลภตฺตาติ อตฺโถ. นิสีทิตฺวา ปจฺจเวกฺขิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ.

นิมิตฺตํ คเหตุํ คมเน วิย นิมิตฺตํ คเหตฺวา นิวตฺตเนปิ ยถาสลฺลกฺขิตทิสาทิปจฺจเวกฺขณํ ยาว นิมิตฺตวินาสา ปวตฺติตกิริยาย อวิจฺเฉเทน อุปธารณตฺถํ. สติ หิ ตสฺส นิรนฺตรูปธารเณ วิหารํ ปวิสิตฺวา นิสินฺนกาเล กมฺมฏฺานสฺส อุปฏฺิตากาโร สมถนิมิตฺตสฺส คหเณ จิตฺตสฺส สมาหิตากาโร วิย ปากโฏ หุตฺวา อุปติฏฺเยฺยาติ. เตนาห ‘‘ตสฺเสวํ…เป… วีถึ ปฏิปชฺชตี’’ติ. ปุริมากาเรน นิมิตฺตสฺส ปากฏภาเวน อุปฏฺิตตฺตา ปุริมากาเรเนว กมฺมฏฺานมนสิกาโร ภาวนาวีถึ ปฏิปชฺชติ.

๑๑๖. อุทฺธุมาตกํ นาม อติวิย อสุจิทุคฺคนฺธเชคุจฺฉปฏิกฺกูลํ พีภจฺฉํ ภยานกฺจ, เอวรูเป อารมฺมเณ ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส เอวํ อาพทฺธปริกมฺมสฺส ถิรีภูตสฺเสว โยคิโน อธิปฺปาโย สมิชฺฌตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อานิสํสทสฺสาวี’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอวนฺติ เอวเมว วุตฺตปฺปกาเรเนว อานิสํสทสฺสาวินา. ตํ รกฺเขยฺยาติ ‘‘อทฺธา อิมินา สุขํ ชีวิสฺสามี’’ติ อตฺตโน ชีวิตํ วิย ตํ มณิรตนํ รกฺเขยฺย. จตุธาตุกมฺมฏฺานิโกติอาทิ เนสํ กมฺมฏฺานานํ สุลภตาทสฺสนํ. ตตฺถ จตุธาตุกมฺมฏฺานิโกติ จตุธาตุกมฺมฏฺานํ วา ตตฺถ วา นิยุตฺโต, จตุธาตุกมฺมฏฺานํ วา ปริหรนฺโต. อิตรานีติ วุตฺตาวสิฏฺานิ อนุสฺสติพฺรหฺมวิหาราทีนิ. ตํ นิมิตฺตนฺติ ตํ ยถาลทฺธํ อุคฺคหนิมิตฺตํ. ‘‘รกฺขิตพฺพ’’นฺติ วตฺวา รกฺขณวิธึ ปุน ทสฺเสตุํ ‘‘รตฺติฏฺาเน’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๑๑๗. นานา กรียติ เอเตนาติ นานากรณํ, เภโท. พีภจฺฉํ เภรวทสฺสนํ หุตฺวา อุปฏฺาติ มนสิการสฺส อนุฬารตาย, อนุปสนฺตตาย จ อารมฺมณสฺส. ตพฺพิปริยายโต ‘‘ปฏิภาคนิมิตฺตํ ถูลงฺคปจฺจงฺคปุริโส วิย อุปฏฺาตี’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. พหิทฺธาติ โคจรชฺฌตฺตโต พหิทฺธา. กามานํ อมนสิการาติ อสุภภาวนานุภาเวน กามสฺาย ทูรสมุสฺสาริตตฺตา กามคุเณ อารพฺภ มนสิการสฺเสว อภาวา. อมนสิการาติ วา มนสิการปฏิปกฺขเหตุ. ยาย หิ กามสฺาย วเสน สตฺตา กาเม มนสิ กโรนฺติ, ตสฺสา ปฏิปกฺขภูตา อสุภสฺา กามานํ อมนสิกาโร, ตนฺนิมิตฺตนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘วิกฺขมฺภนวเสน กามจฺฉนฺโท ปหียตี’’ติ. ปฏิภาคนิมิตฺตารมฺมณาย หิ อสุภสฺาย สทฺธึ พลปฺปตฺโต สมาธิ อุปฺปชฺชมาโนว กามจฺฉนฺทํ วิกฺขมฺเภติ, อนุโรธมูลโก อาฆาโต มูลการเณ วิกฺขมฺภิเต วิกฺขมฺภิโตเยว โหตีติ อาห ‘‘อนุนย…เป… ปหียตี’’ติ. น หิ กทาจิ ปหีนานุนยสฺส พฺยาปาโท สมฺภวติ. ยถาวุตฺตอสุภสฺาสหคตา หิ ปีติ สาติสยา ปวตฺตมานาว พฺยาปาทํ วิกฺขมฺเภนฺตี ปวตฺตติ. ตถา อารทฺธวีริยตายาติ ยถา อุปจารชฺฌานํ อุปฺปชฺชติ, ตถา กมฺมฏฺานมนสิการวเสน ปคฺคหิตวีริยตาย. วีริยฺหิ ปคฺคณฺหนฺตสฺส สมฺมาสงฺกปฺโป มิจฺฉาสงฺกปฺปํ วิย สวิปฺผารตาย ถินมิทฺธํ วิกฺขมฺเภนฺตเมว อุปฺปชฺชติ.

วิปฺปฏิสาโร ปจฺฉานุตาโป, ตปฺปฏิปกฺขโต อวิปฺปฏิสาโร ทรถปริฬาหาภาเวน จิตฺตสฺส นิพฺพุตตา. ตสฺส อวิปฺปฏิสารสฺส ปจฺจยภูตํ สีลํ, ตํสหคตา ตทุปนิสฺสยา จ ปีติปสฺสทฺธิสุขาทโย สภาวโต, เหตุโต จ สนฺตสภาวา, เตสํ อนุยุฺชเนน อวูปสนฺตสภาวํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตีติ อาห ‘‘อวิปฺปฏิสารกรสนฺตธมฺมานุโยควเสน อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ ปหียตี’’ติ. ภาวนาย หิ ปุพฺเพนาปรํ วิเสสํ อาวหนฺติยา ยํ สาติสยํ สุขํ ลพฺภติ, ตํ อนุปสนฺตสภาวํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจํ วิกฺขมฺเภนฺตเมว อุปฺปชฺชติ. อธิคตวิเสสสฺสาติ ยถาธิคตสฺส ภาวนาวิเสสสฺส. ปจฺจกฺขตายาติ ปฏิปชฺชนฺตสฺส โยคิโน ปจฺจกฺขภาวโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา, โย เอวรูปึ สมฺมาปฏิปตฺตึ เทเสตี’’ติ ปฏิปตฺติเทสเก สตฺถริ. ปฏิปตฺติยนฺติ ปฏิปชฺชมานชฺฌานปฏิปตฺติยํ. ปฏิปตฺติผเลติ ตาย สาเธตพฺเพ โลกิยโลกุตฺตรผเล. วิจิกิจฺฉา ปหียติ ธมฺมนฺวยวิจาราหิตพเลน วิจารพเลน. อิติ ปฺจ นีวรณานิ ปหียนฺตีติ เอวํ ปฏิภาคนิมิตฺตปฏิลาภสมกาลเมว เหฏฺา ปวตฺตภาวนานุภาวนิปฺผนฺเนหิ สมาธิอาทีหิ กามจฺฉนฺทาทีนิ ปฺจ นีวรณานิ วิกฺขมฺภนวเสน ปหียนฺติ. น หิ ปฏิปกฺเขน วินา ปหาตพฺพสฺส ปหานํ สมฺภวติ, ปฏิปกฺขา จ สมาธิอาทโย กามจฺฉนฺทาทีนํ. ยถาห เปฏเก ‘‘สมาธิ กามจฺฉนฺทสฺส ปฏิปกฺโข’’ติอาทิ.

เตเนว จ ‘‘อิเมหิ เตสํ นีวรณานํ ปหาน’’นฺติ ปหานปริทีปนมุเขน ฌานงฺคานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตสฺมิฺเว จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตสฺมิฺเว จาติ ยํ ตํ ยถาอุปฏฺิตํ อุคฺคหนิมิตฺตํ ภินฺทิตฺวา วิย อุปฏฺิตํ, ตสฺส ปฏิจฺฉนฺนภูตํ ปฏิภาคนิมิตฺตํ, ตสฺมิฺเว นิมิตฺเต. เจตโสติ อตฺตนา สมฺปยุตฺตจิตฺตสฺส. อภินิโรปนลกฺขโณติ อาโรปนลกฺขโณ, อปฺปนาสภาโวติ อตฺโถ. นิมิตฺตานุมชฺชนํ ปฏิภาคนิมิตฺเต อนุวิจรณํ. อารมฺมเณ หิ ภมรสฺส ปทุมสฺสูปริ อนุปริพฺภมนํ วิย วิจารสฺส อนุวิจารณากาเรน ปวตฺติ อนุมชฺชนกิจฺจํ. วิเสโส เอว อธิคนฺตพฺพโต วิเสสาธิคโม, ปฏิลทฺโธ จ โส วิเสสาธิคโม จาติ ปฏิ…เป… คโม, ตปฺปจฺจยา ตํเหตุกา ปฏิลทฺธวิเสสาธิคมปจฺจยา ปีติ. ปีติมนสฺส ปีติสหิตจิตฺตสฺส. ปสฺสทฺธิสมฺภวโตติ กายจิตฺตปสฺสทฺธีนํ สํสิชฺฌนโต. ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภตี’’ติ หิ วุตฺตํ. ปสฺสทฺธินิมิตฺตํ ปสฺสทฺธิเหตุกํ สุขํ ‘‘ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวทิยตี’’ติ วจนโต. สุขนิมิตฺตา สุขปจฺจยา เอกคฺคตา. ‘‘สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; อ. นิ. ๓.๙๖; ๑๑.๑๒) หิ วุตฺตํ. อิติ ฌานงฺคานิ ปาตุภวนฺตีติ เอวํ เอตานิ วิตกฺกาทีนิ ฌานงฺคานิ ตสฺมึเยว นิมิตฺเต อุปฺปชฺชนฺติ. ปมชฺฌานปฏิพิมฺพภูตนฺติ ปมชฺฌานสฺส ปฏิจฺฉนฺนภูตํ. ตงฺขณฺเว ปฏิภาคนิมิตฺตปฏิลาภสมกาลเมว อุปจารชฺฌานมฺปิ นิพฺพตฺตติ, น นีวรณปฺปหานเมวาติ อธิปฺปาโย.

วินีลกาทิกมฺมฏฺานวณฺณนา

๑๑๘. วินีลกาทีสุปิ กมฺมฏฺาเนสุ. ลกฺขณํ วุตฺตนฺติ ยํ ตํ นิมิตฺตคฺคหณลกฺขณํ วุตฺตํ. วุตฺตนเยเนวาติ อุทฺธุมาตเก วุตฺตนเยเนว. สห วินิจฺฉเยน, อธิปฺปาเยน จาติ สวินิจฺฉยาธิปฺปายํ. ตํ สพฺพํ ลกฺขณํ เวทิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.

กพรกพรวณฺณนฺติ เยภุยฺเยน สพลวณฺณํ. อุสฺสทวเสนาติ รตฺตเสตนีลวณฺเณสุ อุสฺสทสฺส วณฺณสฺส วเสน.

สนฺนิสินฺนนฺติ นิจฺจลภาเวเนว สพฺพโส ถิรตํ.

โจราฏวิยนฺติ โจเรหิ ปริยุฏฺิตอรฺเ. ยตฺถาติ ยสฺมึ อาฆาตเน. ฉินฺนปุริสฏฺาเนติ ฉินฺนปุริสวนฺเต าเน. นานาทิสายํ ปติตมฺปีติ ฉินฺนํ หุตฺวา สรีรสฺส ขณฺฑทฺวยํ วิสุํ ทิสาสุ ปติตมฺปิ. เอกาวชฺชเนนาติ เอกสมนฺนาหาเรน. อาปาถมาคจฺฉตีติ เอกชฺฌํ อาปาถํ อาคจฺฉติ. วิสฺสาสํ อาปชฺชตีติ อเชคุจฺฉิตํ อุปคจฺเฉยฺย เสยฺยถาปิ ฉวฑาหโก. สหตฺถา อปรามสเน ชิคุจฺฉา สณฺาติเยวาติ อาห ‘‘กตฺตรยฏฺิยา วา ทณฺฑเกน วา…เป… อุปนาเมตพฺพ’’นฺติ. วิจฺฉิทฺทกภาวปฺายนตฺถํ เอกงฺคุลนฺตรกรณํ. อุปนาเมตพฺพนฺติ อุปเนตพฺพํ.

ขายิตสทิสเมวาติ ขายิตาสุภสทิสเมว. องฺคุลงฺคุลนฺตรนฺติ วิวิธํ ขิตฺตํ สรีราวยวํ องฺคุลนฺตรํ องฺคุลนฺตรํ. กตฺวา วาติ กตฺตรยฏฺิยา วา ทณฺฑเกน วา สยํ กตฺวา วา.

ลทฺธปฺปหารานนฺติ ลทฺธาวุธปฺปหารานํ มุขโตติ สมฺพนฺโธ. มุขโตติ ปหาราทิมุขโต. ปคฺฆรมานกาเลติ โลหิตํ ปคฺฆรมานกาเล. โลหิตกํ ลพฺภตีติ โยชนา.

นฺติ ปุฬวกํ. เตสูติ โสณาทิสรีเรสุ. อฏฺิกนฺติ อฏฺิกอสุภํ นานปฺปการโต วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. ปุริมนเยเนวาติ ปุพฺเพ อุทฺธุมาตเก วุตฺตนเยเนว.

๑๑๙. นฺติ อฏฺิกํ. น อุปฏฺาตีติ สภาวโต น อุปฏฺาติ, ปฏิกฺกูลวเสน น อุปฏฺาตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘โอทาตกสิณสมฺเภโท โหตี’’ติ. อฏฺิเก ปมวยาทิสํลกฺขณํ น สกฺกาติ ‘‘ลิงฺคนฺติ อิธ หตฺถาทีนํ นาม’’นฺติ วุตฺตํ. อฏฺิกสงฺขลิกา ปน ‘‘อยํ ทหรสฺส, อยํ โยพฺพเน ิตสฺส, อยํ อวยเวหิ วุทฺธิปตฺติสฺสา’’ติ เอวํ วยวเสน ววตฺถเปตุํ สกฺกุเณยฺยาว, อพฺยาปิตาย ปน น คหิตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยทิปิ อฏฺิกสงฺขลิกายํ สนฺธิโต ววตฺถาปนํ ลพฺภติ, อฏฺิเก ปน น ลพฺภตีติ ตสฺส อนิยตภาวทีปนตฺถํ กมวิลงฺฆนํ กตฺวา ‘‘ตสฺส ตสฺส อฏฺิโน นินฺนฏฺานถลฏฺานวเสนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ นินฺนฏฺานํ นาม อฏฺิโน วินตปฺปเทโส. ถลฏฺานํ อุนฺนตปฺปเทโส. ฆฏิตฆฏิตฏฺานวเสนาติ อนุปคตนฺหารุพนฺธานํ, อิตเรสฺจ อฺมฺํ สํกิลิฏฺสํกิลิฏฺฏฺานวเสน. อนฺตรวเสนาติ อฺมฺสฺส อนฺตรวเสน, สุสิรวเสน จ. สพฺพตฺเถวาติ สกลาย อฏฺิสงฺขลิกาย, สพฺพสฺมึ วา อฏฺิเก.

๑๒๐. เอตฺถาติ เอตสฺมึ อฏฺิกาสุเภ. ยุชฺชมานวเสน สลฺลกฺเขตพฺพนฺติ ยํ นิมิตฺตคฺคหณํ ยตฺถ ยุชฺชติ, ตํ ตตฺถ อุคฺคณฺหนตฺถํ นิมิตฺตคฺคหณวเสน อุปลกฺเขตพฺพํ. สกลายาติ อนวเสสภาคาย ปริปุณฺณาวยวาย. สมฺปชฺชติ นิมิตฺตุปฏฺานวเสน. เตสูติ อฏฺิกสงฺขลิกฏฺิเกสุ. วุตฺตํ อฏฺกถายํ. นฺติ ‘‘เอกสทิสเมวา’’ติ วจนํ. เอกสฺมึ อฏฺิเก ยุตฺตนฺติ อิทํ ยถา วินีลกาทีสุ อุภินฺนํ นิมิตฺตานํ ยถารหํ วณฺณวิเสสโต, ปริปุณฺณาปริปุณฺณโต, สวิวราวิวรโต, จลาจลโต จ วิเสโส ลพฺภติ, น เอวเมตสฺสาติ กตฺวา วุตฺตํ, น ปน สพฺเพน สพฺพํ วิเสสาภาวโต. เตเนวาห ‘‘เอกฏฺิเกปิ จา’’ติอาทิ. ตตฺถ พีภจฺเฉนาติ สุวิภูตอฏฺิรูปตฺตา อฏฺิภาเวเนว วิรูเปน. ภยานเกนาติ เตเนว ปากติกสตฺตานํ ภยาวเหน. ปีติโสมนสฺสชนเกนาติ สณฺหมฏฺภาเวน อุปฏฺานโต, ภาวนาย จ สวิเสสตฺตา ปีติยา, โสมนสฺสสฺส จ อุปฺปาทเกน. เตเนวาห ‘‘อุปจาราวหตฺตา’’ติ.

อิมสฺมึ โอกาเสติ อุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตานํ วุตฺตฏฺาเน. ทฺวารํ ทตฺวา วาติ ‘‘ปฏิกฺกูลภาเวเยว ทิฏฺเ นิมิตฺตํ นาม โหตี’’ติ เอตฺตเก เอว อฏฺตฺวา อนนฺตรเมว ‘‘ทุวิธํ อิธ นิมิตฺต’’นฺติอาทินา อุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตานิ วิภชิตฺวา วจเนน ยถาวุตฺตสฺส นิมิตฺตวิภาคสฺส ทฺวารํ ทตฺวาว วุตฺตํ. นิพฺพิกปฺปนฺติ ‘‘สุภ’’นฺติ วิกปฺเปน นิพฺพิกปฺปํ, อสุภนฺตฺเววาติ อตฺโถ. วิจาเรตฺวาติ ‘‘เอกสฺมึ อฏฺิเก ยุตฺต’’นฺติอาทินา วิจาเรตฺวา.

มหาติสฺสตฺเถรสฺสาติ เจติยปพฺพตวาสีมหาติสฺสตฺเถรสฺส. นิทสฺสนานีติ ทนฺตฏฺิกมตฺตทสฺสเนน สกลสฺสาปิ ตสฺสา อิตฺถิยา สรีรสฺส อฏฺิสงฺฆาตภาเวน อุปฏฺานาทีนิ เอตฺถ อฏฺิกกมฺมฏฺาเน อุคฺคหปฏิภาคนิมิตฺตานํ วิเสสวิภาวนานิ อุทาหรณานิ.

สุภคุโณติ สวาสนานํ กิเลสานํ ปหีนตฺตา สุปริสุทฺธคุโณ. ทสสตโลจเนนาติ สหสฺสกฺเขน เทวานมินฺเทน. โส หิ เอกาสเนเนว สหสฺสอตฺถานํ วิจารณสมตฺเถน ปฺาจกฺขุนา สมนฺนาคตตฺตา ‘‘สหสฺสกฺโข’’ติ วุจฺจติ. ถุตกิตฺตีติ ‘‘โย ธีโร สพฺพธิ ทนฺโต’’ติอาทินา (มหาว. ๕๘) อภิตฺถุตกิตฺติสทฺโท.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

๑๒๑. อุชุปฏิปกฺเขน ปหีนภาวํ สนฺธายาห ‘‘สุวิกฺขมฺภิตราคตฺตา’’ติ. อสุภปฺปเภโทติ อุทฺธุมาตกาทิอสุภวิภาโค. สรีรสภาวปฺปตฺติวเสนาติ สรีรสฺส อตฺตโน สภาวูปคมนวเสน. สรีรฺหิ วินสฺสมานํ อฺรูเปน ิตสฺส รกฺขสสฺส วิย สภาวปฺปตฺติวเสเนว วินสฺสติ. ราคจริตเภทวเสนาติ ราคจริตวิภาควเสน. ยทิ สรีรสภาวปฺปตฺติวเสน อยมสุภปฺปเภโท วุตฺโต, มหาสติปฏฺานาทีสุ (ที. นิ. ๒.๓๗๒ อาทโย; ม. นิ. ๑.๑๐๕ อาทโย) กถํ นวปฺปเภโทติ? โส สรสโต เอว สภาวปฺปตฺติวเสน วุตฺโต, อยํ ปน ปรูปกฺกเมนาปิ. ตตฺถ จ อิธาคเตสุ ทสสุ อสุเภสุ เอกจฺจาเนว คหิตานิ, อฏฺิกฺจ ปฺจวิธา วิภตฺตํ. ตานิ จ วิปสฺสนาวเสน, อิมานิ สมถวเสนาติ ปากโฏยํ เภโทติ.

อิเมสํ ปน ทสฺสนมฺปิ อสุภภาวสามฺเน สติปิ อวิเสสโต ราคจริตานํ สปฺปายภาเว ยํ วุตฺตํ ‘‘ราคจริตเภทวเสน จา’’ติ, ตํ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘วิเสสโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. สูนภาเวน สุสณฺิตมฺปิ สรีรํ ทุสฺสณฺิตเมว โหตีติ อุทฺธุมาตกสรีเร สณฺานวิปตฺตึ ทีเปตีติ อาห ‘‘สรีรสณฺานวิปตฺติปฺปกาสนโต’’ติ. สณฺานสมฺปตฺติยํ รตฺโต สณฺานราคี, ตสฺส สปฺปายํ สณฺานราคสฺส วิกฺขมฺภนุปายภาวโต. กาโย เอว กายวโณ, ตตฺถ ปฏิพทฺธสฺส นิสฺสิตสฺส. สุสิรภาวปฺปกาสนโตติ สุสิรสฺส วิวรสฺส อตฺถิภาวปฺปกาสนโต. สรีเร ฆนภาวราคิโนติ สรีเร องฺคปจฺจงฺคานํ ถิรภาวํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชนกราควโต. วิกฺเขปปฺปกาสนโตติ โสณสิงฺคาลาทีหิ อิโต จิโต จ วิกฺเขปสฺส ปกาสนโต องฺคปจฺจงฺคลีลาราคิโน สปฺปายํ. อีทิสานํ กิร อนวฏฺิตรูปานํ อวยวานํ โก ลีฬาวิลาโสติ วิราคสมฺภวโต. สงฺฆาตเภทวิการปฺปกาสนโตติ สงฺฆาตสฺส องฺคปจฺจงฺคานํ สํหตภาวสฺส สุสมฺพนฺธตาย เภโท เอว วิกาโร สงฺฆาตเภทวิกาโร, ตสฺส ปกาสนโต. โลหิตํ มกฺขิตํ หุตฺวา ปฏิกฺกูลภาโว โลหิตมกฺขิตปฏิกฺกูลภาโว, ตสฺส ปกาสนโต. มมตฺตราคิโนติ ‘‘มม อย’’นฺติ อุปฺปชฺชนกราควโต. ทนฺตสมฺปตฺติราคิโนติ ทนฺตสมฺปตฺติยํ รชฺชนสีลสฺส.

กสฺมา ปเนตฺถ อุทฺธุมาตกาทิเก ปมชฺฌานเมว อุปฺปชฺชติ, น ทุติยาทีนีติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. อปริสณฺิตชลายาติ โสตวเสน ปวตฺติยา สมนฺตโต อฏฺิตชลาย อสนฺนิสินฺนสลิลาย. อริตฺตพเลนาติ ปาชนทณฺฑพเลน. ทุพฺพลตฺตา อารมฺมณสฺสาติ ปฏิกฺกูลภาเวน อตฺตนิ จิตฺตํ เปตุํ อสมตฺถภาโว อารมฺมณสฺส ทุพฺพลตา. ปฏิกฺกูเล หิ อารมฺมเณ สรสโต จิตฺตํ ปวตฺติตุํ น สกฺโกติ, อภินิโรปนลกฺขเณน ปน วิตกฺเกน อภินิโรปิยมานเมว จิตฺตํ เอกคฺคตํ ลภติ. น วินา วิตกฺเกนาติ วิตกฺกรหิตานิ ทุติยาทิชฺฌานานิ ตตฺถ ปติฏฺํ น ลภนฺติ. เตนาห ‘‘วิตกฺกพเลเนวา’’ติอาทิ.

ยทิ ปฏิกฺกูลภาวโต อุทฺธุมาตาทิอารมฺมเณ ทุติยาทิชฺฌานานิ น ปวตฺตนฺติ, เอวํ สนฺเต ปมชฺฌาเนนาปิ ตตฺถ น อุปฺปชฺชิตพฺพํ. น หิ ตตฺถ ปีติโสมนสฺสานํ สมฺภโว ยุตฺโตติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ปฏิกฺกูเลปิ จ เอตสฺมิ’’นฺติอาทิ. ตตฺถ อานิสํสทสฺสาวิตานีวรณสนฺตาปโรควูปสมานํ ยถากฺกมํ ปุปฺผจฺฉฑฺฑก, วมนวิเรจนอุปมา โยเชตพฺพา.

๑๒๒. ยถาวุตฺตการเณน ทสธา ววตฺถิตมฺปิ สภาวโต เอกวิธเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ทสวิธมฺปิ เจต’’นฺติอาทึ วตฺวา สฺวายํ สภาโว ยถา อวิฺาณเกสุ, เอวํ สวิฺาณเกสุปิ ลพฺภเตว. ตสฺมา ตตฺถาปิ โยนิโสมนสิการวโต ภาวนา อิชฺฌเตวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตเทตํ อิมินา ลกฺขเณนา’’ติอาทิมาห. เอตฺถาติ เอตสฺมึ ชีวมานกสรีเร. อลงฺกาเรนาติ ปฏิชคฺคนปุพฺพเกน อลงฺกรเณน. น ปฺายติ ปจุรชนสฺสาติ อธิปฺปาโย. อติเรกติสตอฏฺิกสมุสฺสยํ ทนฺตฏฺิเกหิ สทฺธึ, เตหิ ปน วินา ‘‘ติมตฺตานิ อฏฺิสตานี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๑.๑๙๐) กายคตาสติยํ วกฺขติ. ฉิทฺทาวฉิทฺทนฺติ ขุทฺทานุขุทฺทฉิทฺทวนฺตํ. เมทกถาลิกา เมทภริตภาชนํ. นิจฺจุคฺฆริตปคฺฆริตนฺติ นิจฺจกาลํ อุปริ, เหฏฺา จ วิสฺสวนฺตํ. เวมตฺตนฺติ นานตฺตํ. นานาวตฺเถหีติ นานาวณฺเณหิ วตฺเถหิ. หิริยา ลชฺชาย โกปนโต วินาสนโต หิริโกปินํ, อุจฺจารปสฺสาวมคฺคํ. ยาถาวสรสนฺติ ยถาภูตํ สภาวํ. ยาถาวโต รสียติ ายตีติ หิ รโส, สภาโว. รตินฺติ อภิรตึ อภิรุจึ. อตฺตสิเนหสงฺขาเตน ราเคน รตฺตา อตฺตสิเนหราครตฺตา. วิหฺมาเนนาติ อิจฺฉิตาลาเภน วิฆาตํ อาปชฺชนฺเตน.

กึสุกนฺติ ปาลิภทฺทกํ, ปลาโสติ เกจิ, สิมฺพลีติ อปเร. อติโลลุโปติ อติวิย โลลสภาโว . อทุนฺติ เอตํ. นฺติ เกสาทิสรีรโกฏฺาสํ. มุจฺฉิตาติ โมหิตา, มุจฺฉาปาปิกาย วา ตณฺหาย วเสน มุจฺฉํ ปตฺตา. สภาวนฺติ ปฏิกฺกูลภาวํ.

อุกฺกรูปโมติ อุจฺจารปสฺสาวฏฺานสโม, วจฺจกูปสโม วา. จกฺขุภูเตหีติ จกฺขุํ ปตฺเตหิ ปฏิลทฺธปฺาจกฺขุเกหิ, โลกสฺส วา จกฺขุภูเตหิ. อลฺลจมฺมปฏิจฺฉนฺโนติ อลฺลจมฺมปริโยนทฺโธ.

ทพฺพชาติเกนาติ อุตฺตริมนุสฺสธมฺเม ปฏิลทฺธุํ ภพฺพรูเปน. ยตฺถ ยตฺถ สรีเร, สรีรสฺส วา ยตฺถ ยตฺถ โกฏฺาเส. นิมิตฺตํ คเหตฺวาติ อสุภาการสฺส สุฏฺุ สลฺลกฺขณวเสน ยถา อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปชฺชติ, เอวํ อุคฺคณฺหนวเสน นิมิตฺตํ คเหตฺวา, อุคฺคหนิมิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวาติ อตฺโถ. กมฺมฏฺานํ อปฺปนํ ปาเปตพฺพนฺติ ยถาลทฺเธ อุคฺคหนิมิตฺเต กมฺมํ กโรนฺเตน ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปฺปาเทตฺวา อุปจารชฺฌาเน ิเตน ตเมว ภาวนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺเตน อสุภกมฺมฏฺานํ อปฺปนํ ปาเปตพฺพํ. อธิคตปฺปโน หิ ปมชฺฌาเน ิโต ตเมว ฌานํ ปาทกํ กตฺวา วิปสฺสนํ อารภิตฺวา สงฺขาเร สมฺมสนฺโต นจิรสฺเสว สพฺพาสเว เขเปตีติ.

อสุภกมฺมฏฺานนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ ฉฏฺปริจฺเฉทวณฺณนา.