📜

๙. พฺรหฺมวิหารนิทฺเทสวณฺณนา

เมตฺตาภาวนากถาวณฺณนา

๒๔๐. เมตฺตํ พฺรหฺมวิหารํ. ภาเวตุกาเมนาติ อุปฺปาเทตุกาเมน ปจฺจเวกฺขิตพฺโพติ สมฺพนฺโธ. สุขนิสินฺเนนาติ วิสมํ อนิสีทิตฺวา ปลฺลงฺกาภุชเนน สุขนิสินฺเนน.

กสฺมาติ ปจฺจเวกฺขณาย การณปุจฺฉา, อฺํ อธิคนฺตุกาเมน อฺตฺถ อาทีนวานิสํสปจฺจเวกฺขณา กิมตฺถิยาติ อธิปฺปาโย. เมตฺตา นาม อตฺถโต อโทโส. ตถา หิ อโทสนิทฺเทเส ‘‘เมตฺติ เมตฺตายนา เมตฺตายิตตฺต’’นฺติ (ธ. ส. ๑๐๖๒) นิทฺทิฏฺํ. ขนฺตีติ จ อิธ อธิวาสนกฺขนฺติ อธิปฺเปตา. สา ปน อตฺถโต อโทสปฺปธานา จตฺตาโร อรูปกฺขนฺธาติ เมตฺตาย สิชฺฌมานาย ติติกฺขาขนฺติ สิทฺธา เอว โหตีติ อาห ‘‘ขนฺติ อธิคนฺตพฺพา’’ติ. เตน ขนฺติยํ อานิสํสปจฺจเวกฺขณา สตฺถิกาวาติ ทสฺเสติ. อภิภูโต ปริยุฏฺาเนน. ปริยาทินฺนจิตฺโต กุสลุปฺปตฺติยา โอกาสาลาเภน. อาทีนโว ทฏฺพฺโพ ปาณฆาตาทิวเสน ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกาทิอนตฺถมูลภาวโต.

ขนฺตี ปรมํ ตโปติ ปราปการสหนาทิกา ติติกฺขลกฺขณา ขนฺติ อุตฺตมํ ตโป อกตฺตพฺพากรณกตฺตพฺพกรณลกฺขณาย สมฺมาปฏิปตฺติยา มูลภาวโต. ขนฺติพลํ พลานีกนฺติ ปรมํ มงฺคลภูตา ขนฺติ เอว พลํ เอตสฺสาติ ขนฺติพลํ. วุตฺตฺหิ ‘‘ขนฺติพลา สมณพฺราหฺมณา’’ติ. โทสาทิปฏิปกฺขวิธมนสมตฺถตาย อนีกภูเตน เตเนว จ ขนฺติพเลน พลานีกํ. ขนฺตฺยา ภิยฺโย น วิชฺชตีติ อตฺตโน ปเรสฺจ อนตฺถปฏิพาหโน, อตฺถาวโห จ ขนฺติโต อุตฺตริ อปสฺสโย นตฺถิ.

วิเวจนตฺถายาติ วิกฺขมฺภนตฺถาย. ขนฺติยา สํโยชนตฺถาย อตฺตานนฺติ อธิปฺปาโย. ภาวนํ ทูเสนฺตีติ โทสา, ปุคฺคลาเยว โทสา ปุคฺคลโทสา. เยสุ ภาวนา น สมฺปชฺชติ, อฺทตฺถุ วิปชฺชเตว, เต เอว วุตฺตา. ปมนฺติ วกฺขมาเนน โกฏฺาสโต โกฏฺาสนฺตรุปสํหรณนเยน วินา สพฺพปมํ.

ปิยายิตพฺโพ ปิโย, ตปฺปฏิปกฺโข อปฺปิโย. โส สงฺเขปโต ทุวิโธ อตฺถสฺส อการโก, อนตฺถสฺส การโกติ. ตตฺถ โย อตฺตโน, ปิยสฺส จ อนตฺถสฺส การโก, โส เวริปุคฺคโล ทฏฺพฺโพ. โย ปน อตฺตโน, ปิยสฺส จ อตฺถสฺส อการโก, อปฺปิยสฺส จ อตฺถสฺส การโก, ‘‘อตฺถํ เม นาจรี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๓๗), ‘‘อปฺปิยสฺส เม อมนาปสฺส อตฺถํ อจรี’’ติอาทินา จ อาฆาตวตฺถุภูโต, โส อปฺปิโย, อนนุกูลวุตฺติโก อนิฏฺโติ อตฺโถ. ลิงฺควิสภาเคติ อิตฺถิลิงฺคาทินา ลิงฺเคน วิสทิเส. โอธิโสติ ภาคโส. ‘‘ติสฺส ทตฺตา’’ติอาทินา โอธิสกนฺติ อตฺโถ.

อิทานิ ยถาวุตฺเตสุ ฉสุ ปุคฺคเลสุ อภาเวตพฺพตาย การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อปฺปิยํ หี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ อปฺปิยํ หิ ปิยฏฺาเน เปนฺโต กิลมตีติ โทเสน ภาวนาย สปริสฺสยตมาห. อปฺปิยตา หิ ปิยภาวสฺส อุชุปฏิปกฺขา, น จ ตสฺส ปิยฏฺาเน ปเนน วินา ภาวนา สิชฺฌติ. อติปฺปิยสหายกํ มชฺฌตฺตฏฺาเน เปนฺโต กิลมตีติ ราเคน ภาวนาย สปริสฺสยตมาห อติปฺปิยสหายสฺส เคหสฺสิตเปมฏฺานภาวโต. เตนาห ‘‘อปฺปมตฺตเกปี’’ติอาทิ. มชฺฌตฺตํ อิฏฺานิฏฺตาหิ มชฺฌสภาวํ เนว ปิยํ นาปฺปิยนฺติ อตฺโถ. ครุฏฺาเน ปิยฏฺาเน จ เปนฺโต กิลมติ มชฺฌตฺเต สมฺภาวนียปิยายิตพฺพตานํ อภาวา. น หิ อชฺฌุเปกฺขิตพฺเพ ภาวนียตา, มนาปตา วา ปจฺจุปฏฺาติ, ปิยครุภาวสมฺปนฺเน จ ปมํ เมตฺตา ภาเวตพฺพา. โกโธ อุปฺปชฺชติ โกฏฺาสนฺตรภาวานุปนยนโต.

ตเมวาติ วิสภาคลิงฺคเมว. ลิงฺคสภาเคติ อวิเสเสตฺวา ‘‘ปิยปุคฺคเล’’ติ อาห. ภิตฺติยุทฺธมกาสีติ สีลํ อธิฏฺาย ปิหิตทฺวาเร คพฺเภ สยนปีเ นิสีทิตฺวา เมตฺตํ ภาเวนฺโต เมตฺตามุเขน อุปฺปนฺนราเคน อนฺธีกโต ภริยาย สนฺติกํ คนฺตุกาโม ทฺวารํ อสลฺลกฺเขตฺวา ภิตฺตึ ภินฺทิตฺวาปิ นิกฺขมิตุกามตาย ภิตฺตึ ปหริ. เตนาห ‘‘เมตฺตายนามุเขน ราโค วฺเจตี’’ติ (เนตฺติ. อฏฺ. ๒๑), ‘‘อนฺธตมํ ตทา โหติ, ยํ ราโค สหเต นร’’นฺติ จ.

อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺเน อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนภูเต ธรมานตาย ปจฺจกฺขโต วิย อุปลพฺภมาเน ขนฺธปฺปพนฺเธ อิธ สตฺตาทิคฺคหณํ, น ติยทฺธคเตติ อาห ‘‘กาลกเต ปนา’’ติอาทิ. กสฺมา ปน กาลกเต เมตฺตาภาวนา น อิชฺฌตีติ? เมตฺตาพฺยาปารสฺส อโยคฺยฏฺานภาวโต. น หิ มตปุคฺคโล หิตูปสํหารารโห. ยตฺถ สติ สมฺภเว ปโยคโต หิตูปสํหาโร ลพฺเภยฺย, ตตฺเถว มานโส หิตูปสํหาโร ยุชฺเชยฺย. ทุกฺขาปนยนโมทปฺปวตฺตีสุปิ เอเสว นโยติ กรุณาภาวนาทีนมฺปิ กาลกเต อนิชฺฌนํ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ. อฺตฺถ ปคุณเมตฺตาฌาโน อาจริยสฺส กาลกตภาวํ อชานนฺโต ตํ เมตฺตาย ผริตุกาโม ‘‘อาจริยํ อารพฺภ เมตฺตํ อารภตี’’ติ วุตฺโต. เตนาห ‘‘ปคุณาว เม เมตฺตาฌานสมาปตฺตี’’ติ. นิมิตฺตนฺติ อารมฺมณํ. คเวสาหีติ ‘‘ยํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺสเมตฺตํ อารภสิ, โส ชีวติ น ชีวตี’’ติ ชานาหีติ อตฺโถ. เมตฺตายนฺโตติ เมตฺตํ กโรนฺโต, เมตฺตํ ภาเวนฺโตติ อตฺโถ.

๒๔๑. อตฺตนิ ภาวนา นาม สกฺขิภาวตฺถาติ นานาวิธสุขานุพนฺธอนวชฺชสุขอพฺยาเสกสุขาทิ ยํ อตฺตนิ อุปลพฺภติ, ตํ นิทสฺเสนฺโต ตสฺส วตฺตมานตาย อาห ‘‘อหํ สุขิโต โหมี’’ติ. สรีรสุขํ นาม อเนกนฺติกํ, อีทิสสฺส ปุคฺคลสฺส อโนกาสํ จิตฺตทุกฺขนฺติ ตทภาวํ สนฺธายาห ‘‘นิทฺทุกฺโขติ วา’’ติ. โหมีติ สมฺพนฺโธ. ตถา อเวโรติอาทีสุ, วิเสสโต จ ทุกฺขาภาเว สุขสฺา. สา ปนายํ นิทฺทุกฺขตา เวรีนํ ปุคฺคลานํ เวรสฺิตานํ ปาปธมฺมานํ อภาวโต, วิเสสโต พฺยาปาทวิรหโต อีฆสฺิตาย อีติยา อภาวโต, อนวชฺชกายิกสุขสมงฺคิตาย จ โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อเวโร อพฺยาปชฺโช อนีโฆ สุขี’’ติ. อตฺตานํ ปริหรามีติ เอวํภูโต หุตฺวา มม อตฺตภาวํ ปวตฺเตมิ, ยาเปมีติ อตฺโถ.

เอวํ สนฺเต ยํ วิภงฺเค วุตฺตํ, ตํ วิรุชฺฌตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ สนฺเตติ เอวํ สติ, ยทิ อตฺตนิปิ เมตฺตา ภาเวตพฺพาติ อตฺโถ. ‘‘ยํ วิภงฺเค วุตฺต’’นฺติ วตฺวา วิภงฺคเทสนาย สมานคติกํ สุตฺตปทํ อาหรนฺโต ‘‘กถฺจ ภิกฺขู’’ติอาทิมาห. ตสฺสตฺโถ ปรโต อาคมิสฺสติ.

นฺติ วิภงฺคาทีสุ วจนํ. อปฺปนาวเสนาติ อปฺปนาวหภาวนาวเสน. อิทนฺติ ‘‘อหํ สุขิโต โหมี’’ติอาทิวจนํ. สกฺขิภาววเสนาติ อหํ วิย สพฺเพ สตฺตา อตฺตโน สุขกามา, ตสฺมา เตสุ มยา อตฺตนิ วิย สุขูปสํหาโร กาตพฺโพติ เอวํ ตตฺถ อตฺตานํ สกฺขิภาเว ปนวเสน. เตนาห ‘‘สเจปิ หี’’ติอาทิ. กสฺมา ปน อตฺตนิ ภาวนา อปฺปนาวหา น โหตีติ? อตฺตสิเนหวเสน สปริสฺสยภาวโต. โกฏฺาสนฺตเร ปน ภาวิตภาวนสฺส ตตฺถาปิ สีมสมฺเภโท โหติเยว.

สพฺพา ทิสาติ อนวเสสา ทสปิ ทิสา. อนุปริคมฺม เจตสาติ จิตฺเตน ปริเยสนวเสน อนุคนฺตฺวา. เนวชฺฌคา ปิยตรมตฺตนา กฺวจีติ สพฺพุสฺสาเหน ปริเยสนฺโต อติสเยน อตฺตโต ปิยตรํ อฺํ สตฺตํ กตฺถจิ ทิสาย เนว อธิคจฺเฉยฺย น ปสฺเสยฺย. เอวํ ปิโย ปุถุ อตฺตา ปเรสนฺติ เอวํ กสฺสจิ อตฺตโต ปิยตรสฺส อนุปลพฺภนวเสน ปุถุ วิสุํ วิสุํ เตสํ เตสํ สตฺตานํ อตฺตา ปิโย. ตสฺมา เตน การเณน, อตฺตกาโม อตฺตโน หิตสุขํ อิจฺฉนฺโต, ปรํ สตฺตํ อนฺตมโส กุนฺถกิปิลฺลิกมฺปิ, น หึเส น หเนยฺย, น วิเหเยฺยาติ อตฺโถ.

อยํ นโยติ สพฺเพหิ สตฺเตหิ, อตฺตโน จ ปิยตรภาวํ นิทสฺเสตฺวา เตสุ กรุณายนํ วทตา ภควตา สุเขสิตาย ‘‘อตฺตานํ สกฺขิภาเว เปตฺวา สตฺเตสุ เมตฺตา ภาเวตพฺพา’’ติ เมตฺตาภาวนาย นยทสฺสนํ กตเมวาติ อตฺโถ.

๒๔๒. สุขปวตฺตนตฺถนฺติ สุเขน อกิจฺเฉน เมตฺตาย ปวตฺตนตฺถํ. ยฺวาสฺสาติ โย ปุคฺคโล อสฺส โยคิโน. ปิโยติ อิฏฺโ. มนาโปติ มนวฑฺฒนโก. ครูติ คุณวิเสสวเสน ครุกาตพฺโพ. ภาวนีโยติ สมฺภาเวตพฺโพ. อาจริยมตฺโตติ สีลาทินา อาจริยปฺปมาโณ. ปิยวจนาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน อตฺถจริยาทิเก สงฺคณฺหาติ. สีลสุตาทีนีติ อาทิ-สทฺเทน สทฺธาทิเก, ธุตธมฺมชาคริยานุโยคาทิเก จ สงฺคณฺหาติ.

กามนฺติ ยุตฺตปฺปตฺตการิตาสุขสิทฺธิทีปโนยํ นิปาโต. เตเนตํ ทีเปติ – ตาทิสํ ปุคฺคลํ อุทฺทิสฺส ภาวนํ อารภนฺโต โยคี ยุตฺตปฺปตฺตการี, สุเขน จสฺส ตตฺถ ภาวนา อิชฺฌติ, เตน ปน โยคินา ตาวตา สนฺโตโส น กาตพฺโพติ. เตนาห ‘‘อปฺปนา สมฺปชฺชตี’’ติอาทิ. สีมาสมฺเภทนฺติ มริยาทาปนยนํ, อตฺตา ปิโย มชฺฌตฺโต เวรีติ วิภาคากรณนฺติ อตฺโถ. ตทนนฺตรนฺติ ตโต ปิยมนาปครุภาวนียโต, ตตฺถ วา เมตฺตาธิคมโต อนนฺตรํ. อติปฺปิยสหายเก เมตฺตา ภาเวตพฺพาติ สมฺพนฺโธ, ครุฏฺานีเย ปฏิลทฺธํ เมตฺตามนสิการํ อติปฺปิยสหายเก อุปสํหริตพฺพนฺติ อตฺโถ. สุขูปสํหารกตสฺส ตํ โหติ ปเคว ปฏิปกฺขธมฺมานํ วิกฺขมฺภิตตฺตา. อติปฺปิยสหายกโต อนนฺตรํ มชฺฌตฺเต เมตฺตา ภาเวตพฺพา มชฺฌตฺตํ ปิยครุฏฺาเน เปตุํ สุกรภาวโต. ‘‘อติปฺปิยสหายกโต’’ติ จ อิทํ ปุริมาวตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ. ปคุณมนสิการาธิคมโต ปฏฺาย หิสฺส โสปิ ปิยฏฺาเน เอว ติฏฺติ. มชฺฌตฺตโต เวรีปุคฺคเลติ มชฺฌตฺตปุคฺคเล เมตฺตายนฺเตน ตตฺถ ปคุณมนสิการาธิคเมน ปิยภาวํ อุปสํหริตฺวา ตทนนฺตรํ เวรีปุคฺคลํ ภาวนาย มชฺฌตฺเต เปตฺวา ตโต มชฺฌตฺตโต ปิยภาวูปสํหาเรน เวรีปุคฺคเล เมตฺตา ภาเวตพฺพา. ‘‘เวรีปุคฺคเล’’ติ จ อิทํ ปุริมาวตฺถํ คเหตฺวา วุตฺตํ. เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส มุทุํ กมฺมนิยํ จิตฺตํ กตฺวาติ ปิยครุฏฺานีโย, อติปฺปิโย, มชฺฌตฺโต, เวรีติ จตูสุ ปุคฺคลโกฏฺาเสสุ ปมํ ตาว ปิยครุฏฺานีเย เมตฺตาภาวนํ อธิคนฺตฺวา วสีภาวปฺปตฺติยา ตถาปวตฺตํ จิตฺตํ โกฏฺาสนฺตรูปสํหารตฺถํ มุทุํ กมฺมนิยํ กตฺวา ตทนนฺตรํ อติปฺปิยสหาเย อติปฺปิยภาวํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปิยภาวมตฺเต จิตฺตํ เปนฺเตน ภาวนา อุปสํหริตพฺพา, ตมฺปิ วสีภาวาปาทเนน มุทุํ กมฺมนิยํ กตฺวา ตทนนฺตรํ มชฺฌตฺเต อุทาสินภาวํ วิกฺขมฺเภตฺวา ปิยภาวํ อุปฏฺเปตฺวา ภาวนา อุปสํหริตพฺพา, ปุน ตมฺปิ วสีภาวาปาทเนน มุทุํ กมฺมนิยํ กตฺวา ตทนนฺตรํ เวริมฺหิ เวรีสฺํ วิกฺขมฺเภตฺวา มชฺฌตฺตภาวูปฏฺปนมุเขน ปิยภาวํ อุปฺปาเทนฺเตน ภาวนา อุปสํหริตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘ตทนนฺตเร ตทนนฺตเร อุปสํหริตพฺพ’’นฺติ, ฌานจิตฺตํ อุปเนตพฺพํ อุปฺปาเทตพฺพนฺติ อตฺโถ.

เวรีปุคฺคโล วา นตฺถิ กมฺมพเลน วา เอตรหิ ปโยคสมฺปตฺติยา วา สพฺพโส อนตฺถกรสฺส อภาวโต. มหาปุริสชาติกตฺตาติ มหาปุริสสภาวตฺตา จิรกาลปริจยสมิทฺธขนฺติเมตฺตานุทฺทยาทิคุณสมฺปนฺนตาย อุฬารชฺฌาสยตฺตาติ อตฺโถ. ตาทิโส หิ สพฺพสโห ปราปราธํ ติณายปิ น มฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อนตฺถํ กโรนฺเตปิ ปเร เวรีสฺาว นุปฺปชฺชตี’’ติ. เตนาติ เตน โยคินา. อตฺถิ เวรีปุคฺคโลติ สมฺพนฺโธ.

๒๔๓. ปุริมปุคฺคเลสูติ ปิยาทีสุ ฌานสฺส อารมฺมณภูเตสุ ปุริเมสุ ปุคฺคเลสุ. เมตฺตํ สมาปชฺชิตฺวาติ ปฏิฆํ วิกฺขมฺเภตฺวา อุปฺปาทิตํ เมตฺตาฌานํ สมาปชฺชิตฺวา. เมตฺตายนฺเตน ปฏิฆํ ปฏิวิโนเทตพฺพนฺติ เอตฺถ เกจิ ปน ‘‘อุปจารชฺฌานํ สมฺปาเทตฺวา’’ติ อตฺถํ วทนฺติ, เตสํ อุปจารชฺฌานโต วุฏฺานมฺปิ อิจฺฉิตพฺพํ สิยา ‘‘วุฏฺหิตฺวา’’ติ วุตฺตตฺตา. ปุพฺเพ ตสฺมึ ปุคฺคเล อสติยา อมนสิกาเรน ปฏิฆํ อนุปฺปาเทนฺตสฺส สาธารณโต ตํ วิกฺขมฺเภตฺวา ฌานสฺส อุปฺปาทนํ, สมาปชฺชนฺจ วุตฺตํ. อิทานิ ปน ตํ อนุสฺสรนฺตสฺสปิ มนสิ กโรนฺตสฺสปิ ยถา ปฏิฆํ น อุปฺปชฺชติ, ตํ วิธึ ทสฺเสตุํ อิทํ วุตฺตํ ‘‘ตํ ปุคฺคลํ เมตฺตายนฺเตน ปฏิฆํ วิโนเทตพฺพ’’นฺติ. เมตฺตายนเมว หิ อิธ ปฏิฆวิโนทนํ อธิปฺเปตํ. น นิพฺพาตีติ น วูปสมฺมติ.

อนุสารโตติ อนุคมนโต, ปจฺจเวกฺขณโตติ อตฺโถ. ฆฏิตพฺพนฺติ วายมิตพฺพํ.

ตฺจ โข ฆฏนํ วายมนํ. อิมินา อิทานิ วกฺขมาเนน อากาเรน.

อุภโต ทฺวีสุ าเนสุ ทณฺโฑ เอตสฺสาติ อุภโตทณฺฑกํ, เตน. โอจรกา ลามกาจารา ปาปปุริสา. ตตฺราปีติ เตสุปิ องฺคมงฺคานิ โอกฺกนฺเตสุปิ. เตนาติ มโนปโทเสน. น สาสนกโร. สพฺพปาปสฺส อกรณํ หิ สาสนํ. ตสฺเสวาติ ตโตปิ. นิสฺสกฺเก หิ อิทํ สามิวจนํ, สมุจฺจเย จ เอว-สทฺโท, ปมํ กุทฺธปุริสโตปีติ อตฺโถ. เตนาติ กุชฺฌเนน. ปาปิโยติ ปาปตโร. สารมฺภาทิกสฺส กิเลสานุพนฺธสฺส วตฺถุภาวโต โกธสฺส สาวชฺชตํ ตฺวาปิ กุชฺฌนโต สเจ โกเธ อนวชฺชสฺี กุทฺธสฺส ปุคฺคลสฺส น ปฏิกุชฺเฌยฺยาติ เกจิ. อุภินฺนนฺติ ทฺวินฺนํ ปุคฺคลานํ. เตนาห ‘‘อตฺตโน จ ปรสฺส จา’’ติ. อถ วา อุภินฺนนฺติ อุภเยสํ โลกานํ, อิธโลกปรโลกานนฺติ อตฺโถ.

สปตฺตกนฺตาติ ปฏิสตฺตูหิ อิจฺฉิตา. สปตฺตกรณาติ เตหิ กาตพฺพา. โกธนนฺติ กุชฺฌนสีลํ. โกธนายนฺติ โกธโน อยํ, อยนฺติ จ นิปาตมตฺตํ. โกธปเรโตติ โกเธน อนุคโต, ปราภิภูโต วา. ทุพฺพณฺโณว โหตีติ ปกติยา วณฺณวาปิ อลงฺกตปฏิยตฺโตปิ มุขวิการาทิวเสน วิรูโป เอว โหติ เอตรหิ, อายตึ จาติ. โกธาภิภวสฺส เอกนฺติกมิทํ ผลนฺติ ทีเปตุํ ‘‘ทุพฺพณฺโณ วา’’ติ อวธารณํ กตฺวา ปุน ‘‘โกธาภิภูโต’’ติ วุตฺตํ. น ปจุรตฺโถติ น ปหูตธโน. น โภควาติ อุปโภคปริโภควตฺถุรหิโต. น ยสวาติ น กิตฺติมา.

ฉวาลาตนฺติ ฉวทหนาลาตํ, จิตกายํ สนฺตชฺชนุมฺมุกฺกนฺติปิ วทนฺติ. อุภโตปทิตฺตนฺติ อุโภสุ โกฏีสุ ทฑฺฒํ. มชฺเฌ คูถคตนฺติ เวมชฺฌฏฺาเน สุนขสฺส วา สิงฺคาลสฺส วา อุหเทน คูเถน มกฺขิตํ. กฏฺตฺถนฺติ ทารุกิจฺจํ. เนว ผรติ น สาเธติ. ตถูปมาหนฺติ ตถูปมํ ตาทิสํ อหํ. อิมนฺติ ‘‘โส จ โหติ อภิชฺฌาลู’’ติอาทินา (อิติวุ. ๙๒) เหฏฺา วุตฺตํ สนฺธาย สตฺถา วทติ, ตสฺมา กาเมสุ ติพฺพสาราคตาทินา สีลรหิตนฺติ อธิปฺปาโย. อิธ ปน พฺยาปนฺนจิตฺตํ ปทุฏฺมนสงฺกปฺปตาวเสน โยเชตพฺพํ.

โส ทานิ ตฺวนฺติอาทิ ยถาวุตฺเตหิ สุตฺตปเทหิ อตฺตโน โอวทนาการทสฺสนํ.

๒๔๔. โย โย ธมฺโมติ กายสมาจาราทีสุ โย โย สุจริตธมฺโม. วูปสนฺโตติ สํยโต. ปริสุทฺโธติ กิเลสมลวิคเมน วิสุทฺโธ. กิเลสทาหาภาเวน วา อุปสนฺโต, อนวชฺชภาเวน ปริสุทฺโธ, กายสมาจารสฺเสว อุปสโม จิรกาลํ สํยตกายกมฺมตาย เวทิตพฺโพ. เอวํ เสเสสุปิ.

เตติ วจีมโนสมาจาเร.

โสติ อุปสนฺตวจีสมาจาโร ปุคฺคโล. ปฏิสนฺถารกุสโลติ ยถา ปเรหิ ฉิทฺทํ น โหติ, เอวํ ปฏิสนฺถรเณ กุสโล. สขิโลติ อธิวาสนขนฺติสงฺขาเตน สขิลภาเวน สมนฺนาคโต. สุขสมฺภาโสติ ปิยกโถ. สมฺโมทโกติ สมฺโมทนียกถาย สมฺโมทนสีโล. อุตฺตานมุโขติ วิกุณิตมุโข อหุตฺวา ปีติโสมนสฺสวเสน วิกสิตมุโข. ปุพฺพภาสีติ เยน เกนจิ สมาคโต ปฏิสนฺถารวเสน ปมํเยว อาภาสนสีโล. มธุเรน สเรน ธมฺมํ โอสาเรติ สรภฺวเสน. สรภาณํ ปน กโรนฺโต ปริมณฺฑเลหิ ปริปุณฺเณหิ ปเทหิ จ พฺยฺชเนหิ จ อพฺยากุเลหิ ธมฺมกถํ กเถติ.

สพฺพชนสฺส ปากโฏ สกฺกจฺจกิริยายาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘โย หี’’ติอาทิ. โอกปฺเปตฺวาติ สทฺทหิตฺวา. โอกปฺปนลกฺขณา หิ สทฺธา. โอหิตโสโตติ อวหิตโสโต, สุสฺสุสนฺโตติ อตฺโถ. อฏฺึกตฺวา อตฺถํ กตฺวา, อตฺถิโก วา หุตฺวา.

‘‘เอโกปิ น วูปสนฺโต โหตี’’ติ ปาโ, เอวรูโป ปุคฺคโล นิรยโต นิรยํ อุปปชฺชนฺโต พหุกาลํ ตตฺเถว สํสรตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺมหานิรยโสฬสอุสฺสทนิรยปริปูรโก ภวิสฺสตี’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ สฺชีวาทโย อฏฺ มหานิรยา. อวีจิมหานิรยสฺส ทฺวาเร ทฺวาเร จตฺตาโร จตฺตาโร กตฺวา กุกฺกุฬาทโย โสฬส อุสฺสทนิรยา. การุฺํ อุปฏฺเปตพฺพํ มหาทุกฺขภาคิภาวโต. ยสฺมึ ปุคฺคเล อวิเหสาภูตา ทุกฺขาปนยนกามตา อุปติฏฺติ, ตตฺถ ปฏิโฆ อโนกาโสวาติ อาห ‘‘การุฺมฺปิ ปฏิจฺจ อาฆาโต วูปสมฺมตี’’ติ.

อิมสฺส จ อตฺถสฺสาติ ‘‘โย โย ธมฺโม’’ติอาทินา วุตฺตสฺส อตฺถสฺส.

๒๔๕. ยํ เวรี ทุกฺขาเปตุํ สกฺโกติ, โส ตสฺส วเสน ‘‘อตฺตโน วิสเย’’ติ วุตฺโต ภิกฺขุโน กาโย. กินฺติ กึ การณํ. ตสฺสาติ เวริโน. อวิสเยติ ทุกฺขํ อุปฺปาเทตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อโคจเร. สจิตฺเตติ อตฺตโน จิตฺเต. มหานตฺถกรนฺติ อิธโลกตฺถปรโลกตฺถปรมตฺถานํ วิราธนวเสน มหโต วิปุลสฺส, นานาวิธสฺส จ ทิฏฺธมฺมิกาทิเภทสฺส อนตฺถสฺส การณํ. มูลนิกนฺตนนฺติ สีลสฺส มูลานิ นาม หิโรตฺตปฺปขนฺติเมตฺตานุทฺทยา, เตสํ ฉินฺทนํ. โกโธ หิ อุปฺปชฺชมาโนว ปาณาติปาตาทิวเสน หิโรตฺตปฺปาทีนิ อุจฺฉินฺทติ. ชโฬติ อนฺธพาโล.

อนริยํกมฺมนฺติ เวรินา กตมหาปราธมาห. โย สยนฺติ โย ตฺวํ สยมฺปิ. โทเสตุกาโมติ โกธํ อุปฺปาเทตุกาโม. ยทิ กริ ยทิ อกาสิ. โทสุปฺปาเทนาติ โทสสฺส อุปฺปาทเนน. ทุกฺขํ ตสฺส จ นามาติ ทุกฺขฺจ นาม ตสฺส อปราธกสฺส. นามาติ อสมฺภาวเน นิปาโต, เตน ตสฺส การณํ อเนกนฺติกนฺติ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘กาหสิ วา น วา’’ติ, กริสฺสสิ น วา กริสฺสสีติ อตฺโถ. อหิตํ มคฺคนฺติ อตฺตโน อหิตาวหํ ทุคฺคติมคฺคํ.

อฏฺาเนติ โทโส ตว อปฺปิยสฺส การาปโก, สตฺตุ ปน ตสฺส วสวตฺติตาย ทาสสทิโสติ อฏฺานํ ปจฺจาปกิริยาย. ตสฺมา ตเมว โทสํ ฉินฺทสฺสุ อุจฺฉินฺท. ขณิกตฺตาติ อุทยวยปริจฺฉินฺโน อตฺตโน ปวตฺติกาลสงฺขาโต ขโณ เอเตสํ อตฺถีติ ขณิกา, ตพฺภาวโต ขณปภงฺคุภาวโตติ อตฺโถ. กสฺส ทานีธ กุชฺฌสีติ อปราธกสฺส สนฺตาเน เยหิ ขนฺเธหิ เต อปราโธ กโต, เต ตํขณํเยว สพฺพโส นิรุทฺธา. อิทานิ ปน อฺเ ติฏฺนฺตีติ กสฺส ตฺวํ อิธ กุชฺฌสิ. น หิ ยุตฺตํ อนปราเธสุ กุชฺฌนนฺติ อธิปฺปาโย. ตํ วินา กสฺส โส กเรติ โย ปุคฺคโล ยสฺส ทุกฺขํ กโรติ, ตํ ทุกฺขกิริยาย วิสยภูตํ ปุคฺคลํ วินา กสฺส นาม โส ทุกฺขการโก ทุกฺขํ กเร กเรยฺย. สยมฺปิ ทุกฺขเหตุ ตฺวมิตีติ เอวํ สยมฺปิ ตฺวํ เอตสฺส ทุกฺขสฺส เหตุ, เอวํ สมาเน ตสฺส ตุยฺหฺจ ตสฺส ทุกฺขสฺส เหตุภาเว กึ การณา ตสฺส กุชฺฌสิ น ตุยฺหนฺติ อตฺโถ.

๒๔๖. ปรโลเกปิ อนุคามิภาวโต กมฺมํเยว สกํ สนฺตกํ เอเตสนฺติ กมฺมสฺสกา, เตสํ ภาโว กมฺมสฺสกตา. ปจฺจเวกฺขณา นาม นิเสธนตฺถา, นิเสธนฺจ ภาวิโน กมฺมสฺสาติ อาห ‘‘ยํ กมฺมํ กริสฺสสี’’ติ. ปฏิฆวเสน ปน ปวตฺตกมฺมํ ปากฏภาวโต อาสนฺนํ, ปจฺจกฺขฺจาติ อาห ‘‘อิทฺจา’’ติ. -สทฺโท พฺยติเรเก, โส ตสฺส กมฺมสฺส ผลนิสฺสนฺเทน ‘‘เนว สมฺมาสมฺโพธิ’’นฺติอาทินา พฺยติเรกโต วุจฺจมานเมวตฺถํ โชเตติ. เนว สมตฺถนฺติ สมฺพนฺโธ. นิรเย นิยุตฺตํ, ชาตนฺติ วา เนรยิกํ. อตฺตานํเยว โอกิรติ โทสรเชนาติ อธิปฺปาโย.

๒๔๗. สตฺถุปุพฺพจริยคุณา ปจฺจเวกฺขิตพฺพา, สตฺถุ คารเวนาปิ ปฏิฆํ วูปสเมยฺยาติ.

โพธิสตฺโตปิ สมาโน นนุ เต สตฺถา จิตฺตํ นปฺปทูเสสิ, ปเคว อภิสมฺพุทฺโธติ อธิปฺปาโย. เทวิยา ปทุฏฺเนาติ เทวิยา สทฺธึ ปทุพฺภินา มิจฺฉาจารวเสน อปรทฺเธน. ยตฺถ สุสาเน ฉวสรีรํ ฉฑฺฑียติ, ตํ อามกสุสานํ. นิขฺมาโนติ นิขณิยมาโน. ปุริสการํ กตฺวาติ อาวาฏโต นิกฺขมนตฺถาย พาหุพเลน ปุริสการํ กตฺวา. ยกฺขานุภาเวนาติ อฑฺฑวินิจฺฉเยน อาราธิตจิตฺตสฺส ยกฺขสฺส อานุภาเวน. สิริคพฺภนฺติ วาสาคาเร.

อาสีเสเถวาติ ยถาธิปฺเปเต อตฺเถ ายโต อนวชฺชโต อาสํ กเรยฺย. น นิพฺพินฺเทยฺยาติ ‘‘เอวํ กิจฺฉาปนฺนสฺส เม กุโต โสตฺถิภาโว’’ติ น นิพฺพินฺเทยฺย. วุตฺตฺหิ ‘‘อาปทาสุ โข, มหาราช, ถาโม เวทิตพฺโพ’’ติ (อุทา. ๕๓). ยถา อิจฺฉินฺติ เยน ปกาเรน กสฺสจิ ปีฬํ อกตฺวา รชฺเช ปติฏฺิตํ อตฺตานํ อิจฺฉึ, ตถา อหํ อหุนฺติ ปสฺสามิ. โวติ หิ นิปาตมตฺตํ.

กาสิรฺาติ กลาพุนา กาสิราเชน. สกณฺฏกาหีติ อยกณฺฏเกหิ สกณฺฏกาหิ.

มหลฺลโกติ วุทฺโธ วโยอนุปฺปตฺโต. รุชฺฌนฺตีติ นิรุชฺฌนฺติ.

จิตฺตปริคฺคณฺหนกาโลติ วิเสวนํ กาตุํ อทตฺวา จิตฺตสฺส สมฺมเทว ทมนกาโล.

ปุถุสลฺเลนาติ วิปุเลน สลฺเลน. นาโคติ หตฺถินาโค. วธีติ วิชฺฌิ, มาเรสีติ วา อตฺโถ. อิมํ านํ อาคนฺตฺวา มยิ เอวํ กรณํ นาม น ตว วเสน โหติ, ตสฺมา กสฺส วา รฺโ, ราชมตฺตสฺส วา อยํ ปโยโค อุยฺโยชนาติ อตฺโถ.

ฉพฺพณฺณรสฺมีติ นีลปีตโลหิตาทิวเสน ฉพฺพณฺณมยูขา. ฉพฺพณฺณกิรณวนฺตทนฺตตาย หิ เต หตฺถี ‘‘ฉทฺทนฺตา’’ติ วุจฺจนฺติ, น ฉทฺทนฺตวนฺตตาย.

ฉาโตติ ชิฆจฺฉิโต. ขาเทยฺยาติ ขาเทยฺยํ, อยเมว วา ปาโ. อาหิโตติ สุหิโต. สมฺพลนฺติ มคฺคาหารํ. ตํ ปน ยสฺมา อุปจาเรน ปถสฺส หิตนฺติ วุจฺจติ, ตสฺมา ‘‘ปาเถยฺย’’นฺติปิ วุตฺตํ. ‘‘มิตฺตทุพฺภี วตายํ อนฺธพาโล’’ติ การุฺเน อสฺสุปุณฺเณหิ เนตฺเตหิ ตํ ปุริสํ อุทิกฺขมาโน.

มา อยฺโยสิ เม ภทนฺเตติ เอตฺถ มาติ นิปาตมตฺตํ, มาติ วา ปฏิกฺเขโป, เตน อุปริ เตน กาตพฺพํ วิปฺปการํ ปฏิเสเธติ. อยฺโย เมติ อยฺยิรโก ตฺวํ มม อติถิภาวโต. ภทนฺเตติ ปิยสมุทาจาโร. ตฺวํ นาเมตาทิสํ กรีติ ตฺวมฺปิ เอวรูปํ อกาสิ นาม.

ติรจฺฉานภูโตปิ ปน มหากปิ หุตฺวา เขมนฺตภูมึ สมฺปาเปสีติ โยชนา.

เปฬาย ปกฺขิปนฺเตปีติ ขุทฺทกาย เปฬาย ปาเทหิ โกเฏตฺวา ปกฺขิปนฺเตปิ. มทฺทนฺเตปีติ ทุพฺพลภาวกรณตฺถํ นานปฺปกาเรหิ มทฺทนฺเตปิ. อลมฺปาเนติ เอวํนามเก อหิตุณฺฑิเก.

ปีตํ วาติ เอตฺถ วา-สทฺโท อวุตฺตตฺถวิกปฺเป, เตน โอทาตมฺชิฏฺาทึ อวุตฺตํ สงฺคณฺหาติ. จิตฺตานุวตฺตนฺโตติ จิตฺตํ อนุวตฺตนฺโต. โหมิ จินฺติตสนฺนิโภ เอวมยํ พหุลาภํ ลภตูติ. อานุภาเวน ปน ถลํ กเรยฺย อุทกํ…เป… ฉาริกํ กเร. เอวํ ปน ยทิ จิตฺตวสี เหสฺสํ…เป… อุตฺตมตฺโถ น สิชฺฌตีติ ตทา อตฺตนา ตตฺถ ทิฏฺํ อาทีนวํ ทสฺเสติ ภควา. ตตฺถ อุตฺตมตฺโถติ พุทฺธภาวมาห. โภชปุตฺเตหีติ ลุทฺทปุตฺเตหิ.

อฬาราติ เยน สยํ ตทา ลุทฺทหตฺถโต โมจิโต, ตํ สตฺถวาหํ นาเมน อาลปติ. อติกสฺสาติ นาสาย อาวุตรชฺชุํ อากฑฺฒิตฺวา. สมฺปริคยฺหาติ กาฬเวตฺตลตาทีหิ สพฺพโส ปริคฺคเหตฺวา, อจฺฉริยานิ ทุสฺสหานํ สหนวเสนาติ อธิปฺปาโย.

อติวิย อยุตฺตํ อปฺปติรูปํ ปฏิฆจิตฺตุปฺปาทเนน เกนจิ อปฺปฏิสมขนฺติคุณสฺส สตฺถุสาสนาโวกฺกมนปฺปสงฺคโต.

๒๔๘. ‘‘อนมตคฺโคยํ, ภิกฺขเว, สํสาโร’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๒.๑๒๔; ๓.๙๙, ๑๐๐; ๓.๕.๕๒๐; กถา. ๗๕) อาคตานิ สุตฺตปทานิ อนมตคฺคสทฺโท, ตทตฺโถ วา เอเตสนฺติ อนมตคฺคิยานิ.

อเชหิ คมนมคฺโค อชปโถ. สงฺกู ลคฺคาเปตฺวา เต อาลมฺพิตฺวา คมนมคฺโค สงฺกุปโถ. สงฺกูติ องฺกุสากาเรน กตทีฆทณฺโฑ วุจฺจติ. อาทิ-สทฺเทน ปปาตมคฺคทุคฺคมคฺคาทิเก สงฺคณฺหาติ. อุภโตพฺยูฬฺเหติ สมฺปหารตฺถํ ทฺวีหิปิ ปกฺเขหิ คาฬฺหสนฺนาเห. อฺานิ จ ทุกฺกรานิ กริตฺวา ธนาสาย ปพฺพตวิทุคฺคนทีวิทุคฺคาทิปกฺขนฺทนวเสนาติ อธิปฺปาโย. มํ โปเสสิ, อุปการํ อกาสิ, ตตฺร นปฺปติรูปํ มนํ ปทูเสตุนฺติ เอวํ จิตฺตํ อุปฺปาเทตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. เอวํ จิตฺตุปฺปาทนฺจ เอตรหิ ทิสฺสมาเนน ปุตฺตาทีนํ โปสนาทินา อตีตสฺส อนุมานโต คหณวเสน เวทิตพฺพํ.

๒๔๙. เมตฺตายาติ เมตฺตาสงฺขาตาย, เมตฺตาสหิตาย วา. เจโตวิมุตฺติยาติ จิตฺตสมาธาเน. อาเสวิตายาติ อาทเรน เสวิตาย. ภาวิตายาติ วฑฺฒิตาย. พหุลีกตายาติ ปุนปฺปุนํ กตาย. ยานีกตายาติ ยุตฺตยานํ วิย กตาย. วตฺถุกตายาติ อธิฏฺานวตฺถุํ วิย กตาย. อนุฏฺิตายาติ อธิฏฺิตาย. ปริจิตายาติ ปริจิณฺณาย จิณฺณวสีภาวาย. สุสมารทฺธายาติ สุฏฺุ สมฺปาทิตาย. ปาฏิกงฺขาติ อิจฺฉิตพฺพา อวสฺสํภาวิโน. เสสํ ปรโต อาคมิสฺสติ.

๒๕๐. ธาตุวินิพฺโภโคติ สสมฺภารสงฺเขปาทินา ธาตูนํ วินิพฺภุชนํ. อปราโธ นาม อปรชฺฌนฺตสฺส ปุคฺคลสฺส รูปธมฺมมุเขน คยฺหตีติ กตฺวา อาห ‘‘กึ เกสานํ กุชฺฌสี’’ติอาทิ, เกสาทิวินิมุตฺตสฺส อปรชฺฌนกสฺส ปุคฺคลสฺส อภาวโต. อิทานิ นิพฺพตฺติตปรมตฺถธมฺมวเสเนว วินิพฺโภควิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘อถ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ปฺจกฺขนฺเธ อุปาทาย, ทฺวาทสายตนานิ อุปาทายาติ ปจฺเจกํ อุปาทาย-สทฺโท โยเชตพฺโพ. โกธสฺส ปติฏฺานฏฺานํ น โหตีติ ยถา อารคฺเค สาสปสฺส, อากาเส จ จิตฺตกมฺมสฺส ปติฏฺานฏฺานํ นตฺถิ, เอวมสฺส ‘‘เวรี’’ติ ปริกปฺปิเต ปุคฺคเล โกธสฺส ปติฏฺานฏฺานํ น โหติ, เกสาทีนํ อกุชฺฌิตพฺพโต, ตพฺพินิมุตฺตสฺส จ ปุคฺคลสฺส อภาวโต.

๒๕๑. สํวิภาโคติ อามิสสํวิภาโค. ปรสฺสาติ ปจฺจตฺถิกสฺส. ภินฺนาชีโวติ อปริสุทฺธาชีโว. ตสฺเสวํ กโรโตติ เอวํ สํวิภาคํ กโรนฺตสฺส ตสฺส ทายกสฺส. อิตรสฺสาติ ปฏิคฺคาหกสฺส. ‘‘มม มาตราอุปาสิกายทินฺโน’’ติ อิทํ ‘‘ธมฺมิยลาโภ’’ติ เอตสฺส การณวจนํ. เตน ปน ตสฺส อาคมนสุทฺธึ ทสฺเสติ.

สพฺพตฺถสาธกนฺติ ‘‘อตฺตตฺโถ ปรตฺโถ ทิฏฺธมฺมิโก อตฺโถ สมฺปรายิโก อตฺโถ’’ติ (มหานิ. ๖๙; จูฬนิ. โมฆราชมาณวปุจฺฉานิทฺเทส ๘๕; ปฏิ. ม. ๓.๕) เอวมาทีนํ สพฺเพสํ อตฺถานํ, หิตานํ, ปโยชนานฺจ นิปฺผาทกํ. อุนฺนมนฺติ ทายกา. นมนฺติ ปฏิคฺคาหกา.

๒๕๒. เอวนฺติ ยถาวุตฺเตหิ กกจูปโมวาทานุสฺสรณาทีหิ อตฺตโน โอวทนากาเรหิ. วูปสนฺตปฏิฆสฺสาติ ปฏิสงฺขานพเลน วิโนทิตาฆาตสฺส. ตสฺมิมฺปีติ เวรีปุคฺคเลปิ. เวรี-คหเณเนว เจตฺถ อปฺปิยปุคฺคลสฺสาปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ เวริมฺหิ เมตฺตาย สิทฺธาย ตสฺมิมฺปิ เมตฺตาสิทฺธิโต, ปิยโต ปน อติปฺปิยสหายกสฺส วิสุํ คหณํ อาสนฺนปจฺจตฺถิกสฺส ทุพฺพินิโมจยภาวทสฺสนตฺถํ. เมตฺตาวเสนาติ เมตฺตายนวเสน. สมจิตฺตตนฺติ หิตูปสํหาเรน สมานจิตฺตตํ. สีมาสมฺเภโท สา เอว สมจิตฺตตา. อิมสฺมึ ปุคฺคเลติ เมตฺตากมฺมฏฺานิกปุคฺคเล. นิสินฺเนติ ภาเวนภาวลกฺขเณ ภุมฺมํ.

หิตมชฺฌตฺเตติ ปิเย, มชฺฌตฺเต จ. จตุพฺพิเธติ จตุพฺพิเธ ชเน, ยตฺถ กตฺถจีติ อธิปฺปาโย. นานตฺตนฺติ ปิยมชฺฌตฺตาทินานากรณํ. หิตจิตฺโตว ปาณินนฺติ เกวลํ สตฺเตสุ หิตจิตฺโต เอวาติ ปวุจฺจติ, น ปน ‘‘เมตฺตาย นิกามลาภี’’ติ วา ‘‘กุสลี’’ติ วา ปวุจฺจติ. กสฺมา? ยสฺมา อตฺตาทีสุ ปสฺสติ นานตฺตนฺติ. กสฺมา ปนายํ หิตจิตฺโต กุสลีติ น วุจฺจตีติ? สาติสยสฺส กุสลสฺส วเสน กุสลิภาวสฺส อธิปฺเปตตฺตา. อิมสฺส จ ปุคฺคลสฺส เมตฺตาภาวนา น วิเสสวตี. อถ วา น นิกามลาภี เมตฺตาย ยโต อตฺตาทีสุ ปสฺสติ นานตฺตํ. กุสลีติ ปวุจฺจติ, ยสฺมา หิตจิตฺโตว ปาณินนฺติ เอวเมตฺถ อตฺโถ ทฏฺพฺโพ. คามสีมาทโย วิย คามนฺตราทีหิ สตฺตสงฺขาเต เมตฺตาวิสเย ภาวนาย ปุพฺเพ อฺมฺํ อสํกิณฺณมริยาทารูเปน ิตตฺตา อตฺตาทโย อิธ สีมา นามาติ อาห ‘‘จตสฺโส สีมาโย’’ติ. สมฺภินฺนา โหนฺตีติ เอตฺถ วุตฺตํ สมฺเภทํ ทสฺเสตุํ ‘‘สมํ ผรติ เมตฺตายา’’ติอาทิ วุตฺตํ. มหาวิเสโสติ มหนฺโต ภาวนาย วิเสโส อติสโย. ปุริเมน ปุริมโต อตฺตาทินานตฺตทสฺสินา. น นายตีติ น ายติ.

๒๕๓. นิมิตฺตนฺติ ยถา กสิณกมฺมฏฺานาทีสุ ตํตํกสิณมณฺฑลาทิปริคฺคหมุเขน ภาวนาวเสน ลทฺธํ อุคฺคหนิมิตฺตํ นิสฺสาย ฌานสฺส โคจรภาเวน ปฏิภาคนิมิตฺตํ อุปติฏฺติ, น เอวมิธ อุปฏฺิตํ นิมิตฺตํ นาม อตฺถิ. โย ปนายํ ยถาวุตฺโต สีมาสมฺเภโท ลทฺโธ, สฺเวว นิมิตฺตํ วิยาติ นิมิตฺตํ. ตสฺมึ หิ ลทฺเธ ภาวนาย สาติสยตฺตา นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ, กิเลสา สนฺนิสินฺนาว, อุปจารสมาธินา จิตฺตํ สมาหิตเมว. เตนาห ‘‘นิมิตฺตฺจ อุปจารฺจ ลทฺธํ โหตี’’ติ. ตเมว นิมิตฺตนฺติ สีมาสมฺเภทวเสน ปวตฺตสมถนิมิตฺตํ. อปฺปกสิเรเนว อกิจฺเฉเนว, ปเคว ปริปนฺถสฺส วิโสธิตตฺตา.

เอตฺตาวตาติ เอตฺตเกน ภาวนานุโยเคน. อเนน โยคินา. ปฺจงฺควิปฺปหีนนฺติอาทีนํ ปทานํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโต เอว.

‘‘ปมชฺฌานาทีนํ อฺตรวเสนา’’ติ อิทํ วกฺขมานาย วิกุพฺพนาย เตสํ สาธารณตาย วุตฺตํ. อปฺปนาปฺปตฺตจิตฺตสฺเสว น อุปจารมตฺตลาภิโน. ปคุณพลวภาวาปาทเนน เวปุลฺลาทิวิเสสปฺปตฺตสฺส โอธิโส, อโนธิโส จ ทิสาผรณาทิวเสน ฌานสฺส ปวิชมฺภนา วิกุพฺพนา วิวิธา กิริยาติ กตฺวา.

๒๕๔. เมตฺตาสหคเตนาติ อุปฺปาทโต ยาว ภงฺคา เมตฺตาย สห ปวตฺเตน สํสฏฺเน สมฺปยุตฺเตนาติ อตฺโถ. ยสฺมา ปน ตํ วุตฺตนเยน เมตฺตาย สหคตํ, ตาย เอกุปฺปาทาทิวิธินา สมฺมเทว อาคตํ โหติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เมตฺตาย สมนฺนาคเตนา’’ติ. เจโต-สทฺโท ‘‘อธิเจตโส’’ติอาทีสุ (ปาจิ. ๑๕๓; อุทา. ๓๗) สมาธิปริยาโยปิ โหตีติ ตโต วิเสเสตุํ ‘‘เจตสาติ จิตฺเตนา’’ติ วุตฺตํ. เอตนฺติ เอตํ ปทํ. ทิโสธิปริคฺคโห สตฺโตธิปริคฺคหมุเขเนว โหตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘เอกิสฺสา ทิสาย ปมปริคฺคหิตํ สตฺตํ อุปาทายา’’ติ. ทิสาสุ หิ ิตสตฺตา ทิสาคหเณน คหิตา. เตนาห ‘‘เอกทิสาปริยาปนฺนสตฺตผรณวเสน วุตฺต’’นฺติ. ผรณฺจ สารมฺมณสฺส ธมฺมสฺส อตฺตโน อารมฺมณสฺส ผสฺสนา ปจฺจกฺขโต ทสฺสนํ คหณํ อารมฺมณกรณเมวาติ อาห ‘‘ผริตฺวาติ ผุสิตฺวา อารมฺมณํ กตฺวา’’ติ. พฺรหฺมวิหาราธิฏฺิตนฺติ เมตฺตาฌานุปตฺถมฺภิตํ. ตถาติ นิยมนํ. ตํ อนิยมาเปกฺขสมฺพนฺธีภาวโต อุปมาการนิยมนํ. ทุติยนฺติ อุปเมยฺยทสฺสนํ, อุปเมยฺยฺจ นาม อุปมํ, เตน สมฺพนฺธฺจ วินา นตฺถีติ ตทุภยมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา ปุรตฺถิมาทีสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตถา ทุติยนฺติ เอตฺถ ผริตฺวา วิหรตีติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. เอวํ ตติยํ จตุตฺถนฺติ เอตฺถาปิ. ตทนนฺตรนฺติ จ ผรณาเปกฺขํ อนนฺตรคฺคหณํ, น ผริตพฺพทิสาเปกฺขํ ทิสานํ อนิทฺทิฏฺรูปตฺตา. ผรณานุกฺกเมน หิ ตาสํ ทุติยาทิตา, น สรูปโต. เตเนวาห ‘‘ยํ กิฺจิ เอกํ ทิส’’นฺติ. อิตีติ เอวํ ยถาวุตฺตํ จตสฺโส, เอวํ อุทฺธํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘เอเตเนว นเยนา’’ติ. อิทมฺปิ อิติ-สทฺทสฺเสว อตฺถทสฺสนํ. ปาฬิยํ (ม. นิ. ๓.๓๐๙; ๓.๒๓๐; วิภ. ๖๔๒) อโธ ติริยนฺติ เอตฺถ ปิ-สทฺโท ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ ทสฺเสตุํ ‘‘อโธทิสมฺปิ ติริยํ ทิสมฺปี’’ติ วุตฺตํ. เอเตเนว ‘‘ทุติย’’นฺติอาทีสุปิ ปิ-สทฺทสฺส ลุตฺตนิทฺทิฏฺตา ทีปิตาติ เวทิตพฺพํ. เอวเมวาติ อิทมฺปิ อิติ-สทฺทสฺเสว อตฺถทสฺสนํ. เอตฺถ จ ‘‘อโธ’’ติ อิมินา ยถา นิรเยสุ, นาคภวนาทีสุ, ยตฺถ ตตฺถ วา อตฺตโน เหฏฺิมทิสาย สตฺตา คยฺหนฺติ, เอวํ ‘‘อุทฺธ’’นฺติ อิมินา เทวโลเก, ยตฺถ ตตฺถ วา อตฺตโน อุปริมทิสายํ สตฺตา คหิตาติ เวทิตพฺพํ.

มชฺฌตฺตาทีติ อาทิ-สทฺเทน อิตฺถิปุริสอริยานริยเทวมนุสฺสาทิเก ปเภเท สงฺคณฺหาติ. อีสกมฺปิ พหิ อวิกฺขิปมาโนติ อปฺปกมฺปิ กมฺมฏฺานโต พหิ วิกฺเขปํ อนาปชฺชนฺโต หิตูปสํหารโต อฺถา โถกมฺปิ อวตฺตมาโน. สพฺพตฺตตายาติ วา สพฺเพน อตฺตภาเวน ยถา สพฺพภาเวน อตฺตนิ อตฺตโน อตฺตภาเว หิเตสิตา, เอวํ สพฺพธิ สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาย ผริตฺวา วิหรตีติ อตฺโถ. เมตฺตาย วุจฺจมานตฺตา สตฺตวิสโย สพฺพ-สทฺโท, โส จ ทีฆํ กตฺวา วุตฺโต, ตสฺมา สพฺพสตฺตกายสงฺขาตา ปชา เอตสฺส อตฺถีติ สพฺพาวนฺโตติ ปทตฺถโต ทสฺเสนฺโต ‘‘สพฺพาวนฺตนฺติ สพฺพสตฺตวนฺต’’นฺติ อาห. เอตฺถ จ สพฺพธีติ ทิโสธินา, เทโสธินา จ อโนธิโสผรณํ วุตฺตํ, สพฺพตฺตตาย สพฺพาวนฺตนฺติ สตฺโตธินา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘อโนธิโส ทสฺสนตฺถ’’นฺติ . เอกเมวตฺถํ ปการโต ปริยาเยนฺติ าเปนฺตีติ ปริยายา, เววจนานิ. วิปุลาทิสทฺทา เจตฺถ ตาทิสาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘วิปุเลนาติ เอวมาทิปริยายทสฺสนโต’’ติ. ปริยายทสฺสเน จ ปุพฺเพ คหิตปทานิปิ ปุน คยฺหนฺติ, ยถา ‘‘สทฺธา สทฺทหนา’’ติ (ธ. ส. ๑๒) เอตฺถ วุตฺตมฺปิ สทฺธาปทํ ปุน อินฺทฺริยาทิปริยายทสฺสเน ‘‘สทฺธา สทฺธินฺทฺริย’’นฺติ (ธ. ส. ๑๒) วุตฺตํ. ตถาสทฺโท วา อิติสทฺโท วา น วุตฺโตติ ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติ เอตสฺส อนุวตฺตโก ตถา-สทฺโท จ อิติ-สทฺโท จ เตสํ ผรณานนฺตราทิฏฺานํ อฏฺานนฺติ กตฺวา เต น วุตฺตาติ ปุน ‘‘เมตฺตาสหคเตน เจตสาติ วุตฺต’’นฺติ อตฺโถ. วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปุน วจนํ นิคมนนฺติ อาห ‘‘นิคมนวเสน วา เอตํ วุตฺต’’นฺติ. นนุ จ สมาปนวเสน วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ปุน วจนํ นิคมนนฺติ? นายํ โทโส โอธิโสอโนธิโสผรณานํ สมาปเน เอว วุตฺตตฺตา. วิปุเลนาติ มหนฺเตน, มหตฺตฺจสฺส อสุภกมฺมฏฺานาทีสุ วิย อารมฺมณสฺส เอกเทสเมว อคฺคเหตฺวา อนวเสสคฺคหณวเสนาติ อาห ‘‘ผรณวเสน วิปุลตา ทฏฺพฺพา’’ติ.

กิเลสวิกฺขมฺภนสมตฺถตาทีหิ มหตฺตํ คตํ, มหนฺเตหิ วา อุฬารจฺฉนฺทจิตฺตวีริยปฺเหิ คตํ ปฏิปนฺนนฺติ มหคฺคตํ. ตยิทํ ยสฺมา เอกนฺตโต รูปาวจรํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ภูมิวเสน มหคฺคต’’นฺติ. นิรุฬฺโห หิ รูปารูปาวจเรสุ มหคฺคตโวหาโร. ปคุณวเสนาติ ปการโต คุณิตํ พหุลีกตํ ปคุณํ, ตสฺส วเสน, สุภาวิตภาเวนาติ อตฺโถ. ตํ หิ ปมาณํ คเหตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย อปฺปมาณํ นาม โหติ. อปฺปมาณสตฺตารมฺมณวเสนาติ อปริมาณสตฺตารมฺมณกรณวเสน. สยมฺปิ เวรรหิตตฺตา, ตํสมงฺคิโน เวราภาวเหตุตฺตา จ อเวรํ. ตยิทํ ทฺวยํ ยโต ลภติ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘พฺยาปาทปจฺจตฺถิกปฺปหาเนนา’’ติ วุตฺตํ. เจตโส พฺยาปตฺติวเสน หนนโต พฺยาปชฺชํ, เจตสิกํ อสาตํ, ตทภาวโต อพฺยาปชฺชํ. เตนาห ‘‘นิทฺทุกฺข’’นฺติ. ตํ ปนสฺส อพฺยาปชฺชตฺตํ ปฺจวิฺาณาทีนํ วิย น สภาวโต, อถ โข ปจฺจตฺถิกวิเวกโตติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โทมนสฺสปฺปหานโต’’ติ อาห. อยนฺติ อิธ ยถานีตํ อปฺปมฺาวิภงฺเค (วิภ. ๖๔๒), เตสุ เตสุ จ สุตฺตปเทเสสุ (ม. นิ. ๑.๔๕๙; ๒.๓๐๙, ๓๑๕) อาคตํ เมตฺตาพฺรหฺมวิหารวิกุพฺพนมาห.

๒๕๕. ‘‘ตถา’’ติ อิมินา อิมิสฺสา ‘‘ปฺจหากาเรหิ, สตฺตหากาเรหิ, ทสหากาเรหี’’ติ อาการวิภาเคน ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๒.๒๒) วุตฺตาย จ วิกุพฺพนาย มชฺเฌ ภินฺนสุวณฺณสฺส วิย เภทาภาวมุปสํหรติ โอธิโสผรณอโนธิโสผรณทิสาผรณวเสน เทสนาย อาคตตฺตา. เกวลํ ปเนตฺถ ปฏิสมฺภิทามคฺเค (ปฏิ. ม. ๒.๒๒) วิย สตฺโตธิ น คหิโตติ อยเมว วิเสโส. ยมฺปีติ วิกุพฺพนํ สนฺธายาห.

อิทานิ เภทาภาวทสฺสนมุเขน อุทฺเทสโต อานีตํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬึ นิทฺเทสโต ทสฺเสตฺวา ตสฺสา อนุตฺตานปทวณฺณนํ กาตุํ ‘‘ตตฺถ จา’’ติอาทิมาห.

๒๕๖. ตตฺถ สพฺเพ สตฺตาติ สพฺพ-สทฺโท กามํ ปเทสสพฺพวิสโย, น สพฺพสพฺพวิสโย ยถา ‘‘สพฺพํ ชานาตีติ สพฺพฺุตฺาณ’’นฺติ (ปฏิ. ม. ๑.๑๑๙-๑๒๐), ‘‘สตฺตา’’ติ ปน ปเทน ปริจฺฉินฺนํ อตฺตโน วิสยํ อเสเสตฺวาว ปริยาทิยตีติ อาห ‘‘อนวเสสปริยาทานเมต’’นฺติ.

ตตฺราติ ตสฺมึ รูเป. สตฺโตติ สชฺชนกิจฺเจน ฉนฺทาทิปริยาเยน โลเภน อาสตฺโต ลคฺโค. ตตฺราติ วา กรเณ ภุมฺมํ, เตน ฉนฺทาทินาติ อตฺโถ.

ยทิ สตฺตตาย สตฺตา, กถํ วีตราเคสูติ อาห ‘‘รุฬฺหีสทฺเทนา’’ติอาทิ. อวีตราเคสุ รุฬฺเหน, อวีตราเคสุ วา ปวตฺติตฺวา อินฺทฺริยพทฺธขนฺธสนฺตานตาย ตํสทิเสสุ วีตราเคสุ รุฬฺเหน สทฺเทน. อถ วา กิฺจิ นิมิตฺตํ คเหตฺวา สติปิ อฺสฺมึ ตนฺนิมิตฺตยุตฺเต กตฺถจิ วิสเย สมฺมุติยา จิรกาลตาย นิมิตฺตวิรเหปิ ปวตฺติ รุฬฺหี นาม ยถา ‘‘คจฺฉนฺตีติ คาโว’’ติ, เอวํ สตฺตสทฺทสฺสาปิ รุฬฺหีภาโว ทฏฺพฺโพ. ภูตปุพฺพคติยา วา วีตราเคสุ สตฺตโวหาโร ทฏฺพฺโพ. สตฺวโยคโตติ เอตฺถ สตฺวํ นาม พุทฺธิ, วีริยํ, เตโช วา, เตน โยคโต สตฺตา, ยถา ‘‘นีลคุณโยคโต นีโล ปโฏ’’ติ.

ปาณนฺติ เอเตนาติ ปาณนํ, อสฺสาสปสฺสาสา, ตสฺส กมฺมํ ปาณนตา, ตาย, อสฺสาสปสฺสาสสมฺปโยเคนาติ อตฺโถ. ภูตตฺตาติ กมฺมกิเลเสหิ ชาตตฺตา. ปูรณโต, คลนโต จ ปุคฺคลาติ เนรุตฺตา. สตฺตา หิ นิพฺพตฺตนฺตา ตํตํสตฺตนิกายํ ปูเรนฺตา วิย โหนฺติ, สพฺพาวตฺถนิปาติตาย จ คลนฺติ จวนฺตีติ อตฺโถ. อปริฺาตวตฺถุกานํ ‘‘อตฺตา’’ติ ภวติ เอตฺถ อภิธานํ, จิตฺตฺจาติ อตฺตภาโว, สรีรํ, ขนฺธปฺจกเมว วา. ตนฺติ ขนฺธปฺจกํ . อุปาทายาติ คเหตฺวา อุปาทานํ นิสฺสยํ กตฺวา. ปฺตฺติมตฺตสมฺภวโตติ ปรมตฺถโต อสนฺเตปิ สตฺตสฺิเต ปฺตฺติมตฺเตน สมฺภวโต.

ยถา จ สตฺตาติ วจนนฺติ ยถา สตฺต-สทฺโท ยถาวุตฺเตนฏฺเน นิปฺปริยายโต ปเทสวุตฺติปิ รุฬฺหีวเสน อนวเสสปริยาทายโก. เสสานิปีติ ปาณาทิวจนานิปิ. ตานิปิ หิ รูปารูปภวูปคจตุตฺถชฺฌานาทิสมงฺคีนํ อสฺสาสปสฺสาสาภาวโต อวินิปาตธมฺมานํ ปุคลนสฺส อภาวโต ปเทสวุตฺตีนิ. รุฬฺหีวเสน อาโรเปตฺวา ยถาวุตฺตาย รุฬฺหิยา วเสน กตฺถจิ วิสเย อวิชฺชมานมฺปิ ปาณปุคฺคลภาวํ อาโรเปตฺวา. ยทิ สาธารณโต สตฺตเววจนานีติ คเหตฺวา อโนธิโสผรณา เมตฺตา วุจฺจติ, อถ กสฺมา ปฺจเหว อากาเรหิ วุตฺตาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘กามฺจา’’ติอาทิ. เกจิ ปนาหุ ‘‘น โข ปเนตานิ ‘‘สตฺตา’’ติอาทีนิ ปทานิ เววจนตามตฺตํ อุปาทาย คหิตานิ, ยโต ชนฺตุอาทีนมฺปิ คหณํ อาปชฺเชยฺย, อตฺถวิเสสํ ปน นิมิตฺตภูตํ อุปาทาย คหิตานี’’ติ, เต สนฺธายาห ‘‘เย ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ อตฺถโตติ สชฺชนฏฺเน สตฺตา, ปาณนฏฺเน ปาณาติ เอวมาทิอตฺถโต. เตสํ ตํ มติมตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อโนธิโสผรณา วิรุชฺฌตี’’ติ. กสฺมา? เกจิ สตฺตา, เกจิ ปาณา, เกจิ ปุคฺคลาติ อาปชฺชนโต. ตถา อตฺถํ อคฺคเหตฺวาติ สตฺตาทิสทฺทา สปฺปเทสวิสยาติ เอวมตฺถํ อคฺคเหตฺวา ปุพฺเพ วุตฺตนเยน นิปฺปเทสวิสยาติ เอวมตฺถํ คเหตฺวาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘อิเมสู’’ติอาทิ. ปฺจสุ อากาเรสูติ ‘‘สพฺเพ สตฺตา’’ติอาทินา ปาฬิยํ (ปฏิ. ม. ๒.๒๒) อาคเตสุ ปฺจสุ ภาวนากาเรสุ. อฺตรวเสนาติ ยสฺส กสฺสจิ วเสน.

๒๕๗. อิทานิ ทฺวาวีสติยา ภาวนากาเรสุ อปฺปนา ปริคฺคเหตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. พฺยาปาทรหิตาติ โทมนสฺสพฺยาปาทรหิตา. ตสฺมาติ ยสฺมา น เกวลํ ยถาวุตฺตอาการวิภาคมตฺตโต อปฺปนาวิภาโค, ตสฺมา. อิเมสุปิ ปเทสูติ ‘‘สพฺเพ สตฺตา อเวรา โหนฺตู’’ติอาทิโกฏฺาเสสุปิ. ยํ ยํ ปากฏํ โหตีติ ยทิปิ ปุพฺพภาเค ตตฺถ ตตฺถ อภินิเวเส อเนกโกฏฺาสวเสเนว มนสิการํ ปวตฺเตติ, ภาวนาย สมิชฺฌนกฺขเณ ปน ตตฺถ ยํ ปคุณตรตาย สุปากฏํ โหติ, ตสฺส วเสน อปฺปนา โหติ, ยถา ตํ ทฺวตฺตึสากาเร. ตตฺถ ปน อารมฺมณํ, อิธ ภาวนากาโรติ อยเมว วิเสโส. จตุนฺนนฺติ จตุนฺนํ จตุนฺนํ. พฺยาปนิจฺฉาโลเปน หิ นิทฺทิฏฺํ. เอส นโย เสเสสุปิ.

ลิงฺควเสนวุตฺตํ เตสํ ปจุรโต ลพฺภมานตฺตา. ตติยา ปน ปกติ ยทิปิ ปมทุเกน น สงฺคหิตา, ทุติยทุเกน ปน ติเกน จ สงฺคหิตา เอว.

อิติ สพฺพานิปีติ อโนธิโสผรเณ วีสติ, โอธิโสผรเณ อฏฺวีสติ, ทิสาผรเณ จตฺตาริ สตานิ, อสีติ จาติ เอวํ สพฺพานิปิ. สต-สทฺทาเปกฺขาย นปุํสกนิทฺเทโส.

๒๕๘. เอวํ เมตฺตาภาวนํ วิภาเวตฺวา อิทานิ ตตฺถ อานิสํเส วิภาเวตุํ ‘‘อิตี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เสสา ชนาติ เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยา อลาภิโน. สมฺปริวตฺตมานาติ ทกฺขิเณน ปสฺเสน อสยิตฺวา สพฺพโส ปริวตฺตมานา. กากจฺฉมานาติ ฆุรุฆุรุปสฺสาสวเสน วิสฺสรํ กโรนฺตา. สุขํ สุปตีติ เอตฺถ ทุวิธาสุปนา สยเน ปิฏฺิปฺปสารณลกฺขณา, กิริยามยจิตฺเตหิ อโวกิณฺณภวงฺคปฺปวตฺติลกฺขณา จ. ตตฺถายํ อุภยถาปิ สุขเมว สุปติ. ยสฺมา สณิกํ นิปชฺชิตฺวา องฺคปจฺจงฺคานิ สโมธาย ปาสาทิเกน อากาเรน สยติ, นิทฺโทกฺกมเนปิ ฌานํ สมาปนฺโน วิย โหติ. เตนาห ‘‘เอวํ อสุปิตฺวา’’ติอาทิ.

นิทฺทากาเล สุขํ อลภิตฺวา ทุกฺเขน สุตฺตตฺตา เอว ปฏิพุชฺฌนกาเล สรีรเขเทน นิตฺถุนนํ, วิชมฺภนํ, อิโต จิโต วิปริวตฺตนฺจ โหตีติ อาห ‘‘นิตฺถุนนฺตา วิชมฺภนฺตา สมฺปริวตฺตนฺตา ทุกฺขํ ปฏิพุชฺฌนฺตี’’ติ. อยํ ปน สุเขน สุตฺตตฺตา สรีรเขทาภาวโต นิตฺถุนนาทิรหิโตว ปฏิพุชฺฌติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวํ อปฺปฏิพุชฺฌิตฺวา’’ติอาทิ. สุขปฏิโพโธ จ สรีรวิการาภาเวนาติ อาห ‘‘สุขํ นิพฺพิการ’’นฺติ.

‘‘ภทฺทกเมวสุปินํ ปสฺสตี’’ติ อิทํ อนุภูตปุพฺพวเสน, เทวตูปสํหารวเสน จสฺส ภทฺทกเมว สุปินํ โหติ, น ปาปกนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. เตนาห ‘‘เจติยํ วนฺทนฺโต วิยา’’ติอาทิ. ธาตุกฺโขภเหตุกมฺปิ จสฺส พหุลํ ภทฺทกเมว สิยา เยภุยฺเยน จิตฺตชรูปานุคุณตาย อุตุอาหารชรูปานํ.

อุเร อามุตฺตมุตฺตาหาโร วิยาติ คีวาย พนฺธิตฺวา อุเร ลมฺพิตมุตฺตาหาโร วิยาติ เกหิจิ วุตฺตํ. ตํ เอกาวลิวเสน วุตฺตํ สิยา, อเนกรตนาวลิสมูหภูโต ปน มุตฺตาหาโร อํสปฺปเทสโต ปฏฺาย ยาว กฏิปฺปเทสสฺส เหฏฺาภาคา ปลมฺพนฺโต อุเร อามุกฺโกเยว นาม โหติ.

ตตฺเถวาติ ปาฏลิปุตฺเตเยว. สกฺกา นิสีทิตุํ วา นิปชฺชิตุํ วา เทสสฺส เขมตาย, ตสฺส ตสฺส ปเทสสฺส รมณียตาย จ.

ทสาว อนฺโต ทสนฺโต, วตฺถสฺส โอสานนฺโต.

สมปฺปวตฺตวาสนฺติ ตตฺถ ตตฺถ วิหาเร สมปฺปวตฺตวตฺตวาสํ. เถโร กิร อตฺตนา ปวิฏฺปวิฏฺวิหาเร ‘‘อหเมตฺถ อาคนฺตุโก’’ติ อจินฺเตตฺวา ตตฺถ ตตฺถ ยถารหํ อตฺตนา กาตพฺพวตฺตานิ ปริปูเรนฺโต เอว วิหาสิ. อปเร ปน ภณนฺติ สพฺพสตฺเตสุ สมปฺปวตฺตเมตฺตาวิหารวาสํ. อยํ หิ เถโร อรหตฺตาธิคมโต ปุพฺเพปิ เมตฺตาวิหารี อโหสิ.

วนนฺตเร ิโตติ เถโร กิร ตถา สมปฺปวตฺตวาสวเสน จรมาโน เอกทิวสํ อฺตรํ รมณียํ วนนฺตรํ ทิสฺวา ตตฺถ อฺตรสฺมึ รุกฺขมูเล สมาปตฺตึ สมาปชฺชิตฺวา ยถาปริจฺเฉเทน ตโต อุฏฺิโต อตฺตโน คุณาวชฺชนเหตุเกน ปีติโสมนสฺเสน อุทาเนนฺโต ‘‘ยาวตา อุปสมฺปนฺโน’’ติ คาถํ อภาสิ. ตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘วนนฺตเร ิโต’’ติ ปมคาถา ปิตา. ตตฺถ คชฺชมานโกติ สีหคชฺชิตํ คชฺชนฺโต. คุณเมสนฺโตติ อตฺตโน คุณสมุทยํ คเวสนฺโต ปจฺจเวกฺขนฺโต.

มณิลรุกฺเข นิวาสิตาย ตํ เทวตํ ‘‘มณิลิยา’’ติ โวหรนฺติ, ตสฺมา สา เทวตาปิ ‘‘อหํ, ภนฺเต, มณิลิยา’’ติ อาห. รุกฺขเทวตานํ หิ เยภุยฺเยน นิวาสรุกฺขวเสน โวหาโร ยถา ผนฺทนเทวตาติ. ตตฺเถวาติ จิตฺตลปพฺพเตเยว.

‘‘พลวปิยจิตฺตตายา’’ติ อิมินา พลวปิยจิตฺตตามตฺเตนปิ สตฺถํ น กมติ, ปเคว เมตฺตาย เจโตวิมุตฺติยาติ ทสฺเสติ.

ขิปฺปเมว จิตฺตํ สมาธิยติ เกนจิ ปริปนฺเถน ปริหีนชฺฌานสฺส พฺยาปาทสฺส ทูรสมุสฺสาริตภาวโต ขิปฺปเมว สมาธิยติ. อาสวานํ ขยายาติ เกจิ. เสสํ สุวิฺเยฺยเมว. เอตฺถ จ กิฺจาปิ อิโต อฺกมฺมฏฺานวเสน อธิคตชฺฌานานมฺปิ สุขสุปนาทโย อานิสํสา ลพฺภนฺติ, ยถาห –

‘‘สุขํ สุปนฺติ มุนโย, อชฺฌตฺตํ สุสมาหิตา;

สุปฺปพุทฺธํ ปพุชฺฌนฺติ, สทา โคตมสาวกา’’ติ. –

จ อาทิ, ตถาปิเม อานิสํสา พฺรหฺมวิหารลาภิโน อนวเสสา ลพฺภนฺติ พฺยาปาทาทีนํ อุชุวิปจฺจนีกภาวโต พฺรหฺมวิหารานํ. เตเนวาห ‘‘นิสฺสรณํ เหตํ, อาวุโส, พฺยาปาทสฺส, ยทิทํ เมตฺตา เจโตวิมุตฺตี’’ติอาทิ (ที. นิ. ๓.๓๒๖; อ. นิ. ๖.๑๓). พฺยาปาทาทิวเสน จ สตฺตานํ ทุกฺขสุปนาทโยติ ตปฺปฏิปกฺขภูเตสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ สิทฺเธสุ สุขสุปนาทโย หตฺถคตา เอว โหนฺตีติ.

กรุณาภาวนาวณฺณนา

๒๕๙. กรุณนฺติ กรุณาพฺรหฺมวิหารํ. นิกฺกรุณตายาติ วิเหสาย, ‘‘อิเธกจฺโจ ปาณินา วา เลฑฺฑุนา วา ทณฺเฑน วา สตฺเถน วา อฺตรฺตเรน วา สตฺตานํ วิเหนชาติโก โหตี’’ติ เอวํ วุตฺตวิเหเนติ อตฺโถ. อาทีนวนฺติ โทสํ. ยถา ตถา สตฺตานํ วิเหนาย ปาปโก วิปาโก อิธ เจว สมฺปราเย จ. ตถา หิ โย สตฺเต ชีวิตา โวโรปเนน วา องฺคปจฺจงฺคจฺเฉทเนน วา ธนชานิยา วา อลาภาย วา อวาสาย วา อนตฺถาย วา อยสตฺถาย วา ปริสํสกฺกเนน วา อนฺตมโส ยถาวชฺชทสฺสเนนปิ วิเหเติ, ตสฺส โส ปมาทวิหาโร ทิฏฺเว ธมฺเม อลาภายปิ โหติ, ลทฺธสฺส ปริหานายปิ โหติ, ตนฺนิมิตฺตํ ปาปโก กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคจฺฉติ, อวิสารโท ปริสํ อุปสงฺกมติ มงฺกุภูโต, สมฺมูฬฺโห กาลํ กโรติ, กายสฺส เภทา ทุคฺคติ ปาฏิกงฺขา, สุคติยมฺปิ มนุสฺสภูโต ทุชฺชจฺโจปิ โหติ นีจกุลิโก, ทุพฺพณฺโณปิ โหติ ทุทฺทสิโก, พหฺวาพาโธปิ โหติ โรคพหุโล, ทุคฺคโตปิ โหติ อปฺปนฺนปาโน, อปฺปายุโกปิ โหติ ปริตฺตชีวิโตติ เอวมาทิอเนกานตฺถานุพนฺธิตา วิเหสาย ปจฺจเวกฺขิตพฺพา, ตปฺปฏิปกฺขโต กรุณาย อานิสํสา ปจฺจเวกฺขิตพฺพา. เตน วุตฺตํ ‘‘นิกฺกรุณตาย อาทีนวํ กรุณาย จ อานิสํสํ ปจฺจเวกฺขิตฺวา’’ติ. ‘‘ปิโย หี’’ติอาทินา ปมํ ปิยปุคฺคลาทีสุ อนารมฺภสฺส การณมาห. ปิยํ หิ ปุคฺคลํ กรุณายิตุมารภนฺตสฺส น ตาว ปิยภาโว วิคจฺฉติ, อวิคเต จ ตสฺมึ กุโต กรุณายนา. เตนาห ‘‘ปิยฏฺาเนเยว ติฏฺตี’’ติ. เสสปุคฺคเลสุปิ เอเสว นโย. ลิงฺควิสภาคกาลกตานํ อเขตฺตภาเว การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

ยตฺถ ปน ปมํ อารภิตพฺพา, ตํ ปาฬินเยเนว ทสฺเสตุํ ‘‘กถฺจ ภิกฺขู’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ทุคฺคตนฺติ ทลิทฺทํ. โส หิ โภคปาริชุฺโต สุขสาธนานํ อภาเวน ทุกฺขํ คโต อุปคโต ทุคฺคโตติ วุจฺจติ. อถ วา ทุคฺคตนฺติ ทุกฺเขน สมงฺคิภาวํ คตํ. ทุรุเปตนฺติ กายทุจฺจริตาทีหิ อุเปตํ. คติกุลรูปาทิวเสน วา ตมภาเว ิโต ทุคฺคโต. กายทุจฺจริตาทีหิ อุเปตตฺตา ตมปรายณภาเว ิโต ทุรุเปโตติ เอวเมตฺถ อตฺโถ เวทิตพฺโพ. ปรมกิจฺฉปฺปตฺตนฺติ อติวิย กิจฺฉมาปนฺนํ มหาพฺยสนํ นิมุคฺคํ. อปฺเปว นามาติ สาธุ วต.

วเธถ นนฺติ ‘‘ฆาเตถ นํ โจร’’นฺติ เอวํ ปหิตาย รฺโ อาณาย ขาทนียมฺปิ…เป… เทนฺติ ‘‘อิทาเนว มาริยมาโน เอตฺตกมฺปิ สุขํ ลภตู’’ติ. สุสชฺชิโตติ สุขานุภวเน สนฺนทฺโธ.

เอเตเนว อุปาเยนาติ เยน เยน วิธินา เอตรหิ ยถาวุตฺเต ปรมกิจฺฉาปนฺเน อายตึ วา ทุกฺขภาคิมฺหิ ปุคฺคเล กรุณายิตุํ กรุณา อุปฺปาทิตา, เอเตเนว นเยน. ปิยปุคฺคเลติ ปิยายิตพฺพปุคฺคเล. เอตรหิ วา ทิสฺสมานํ อายตึ วา ภาวินึ ทุกฺขปฺปตฺตึ คเหตฺวา กรุณา ปวตฺเตตพฺพาติ สมฺพนฺโธ. มชฺฌตฺตเวรีสุปิ เอเสว นโย. โย หิ โส กรุณาย วตฺถุภูโต ทุวิโธ ปุคฺคโล วุตฺโต, กามํ ตตฺถ กรุณาภาวนา สุเขเนว อิชฺฌติ, อิมินา ปน ภิกฺขุนา ตตฺถ ภาวนํ ปคุณตรํ กตฺวา สีมาสมฺเภทํ กาตุํ ตทนนฺตรํ ปิยปุคฺคเล, ตโต มชฺฌตฺเต, ตโต เวริปุคฺคเล กรุณา ภาเวตพฺพา. ภาเวนฺเตน จ เอเกกสฺมึ โกฏฺาเส มุทุํ กมฺมนิยํ จิตฺตํ กตฺวา ตทนนฺตเร ตทนนฺตเร อุปสํหริตพฺพํ. ยสฺส ปน เวริปุคฺคโล วา นตฺถิ, มหาปุริสชาติกตฺตา วา อนตฺถํ กโรนฺเตปิ เวริสฺาว นุปฺปชฺชติ, เตน มชฺฌตฺเต เม จิตฺตํ กมฺมนิยํ ชาตํ, อิทานิ เวริมฺหิ อุปสํหรามีติ พฺยาปาโรว น กาตพฺโพ. ยสฺส ปน อตฺถิ, ตํ สนฺธายาห ‘‘สเจ ปนา’’ติอาทิ.

ตตฺถ ปุพฺเพ วุตฺตนเยเนวาติ เมตฺตากมฺมฏฺานิกสฺส (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๐ อาทโย) วุตฺตนเยน. ตํ เมตฺตาย วุตฺตนเยเนว. วูปสเมตพฺพนฺติ ‘‘อถาเนน ปุริมปุคฺคเลสู’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๓), ‘‘กกจูปมโอวาทาทีนํ อนุสฺสรโต’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๓) จ เมตฺตาภาวนาย วุตฺเตน นเยน ตํ ปฏิฆํ วูปสเมตพฺพํ. เอวํ เอตรหิ มหาทุกฺขปฺปตฺเต สุขิเตปิ อกตกุสลตาย อายตึ ทุกฺขปฺปตฺติยา วเสน กรุณายนวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ กตกลฺยาเณปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘โยปิ เจตฺถา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตสนฺติ พฺยสนานํ. วฏฺฏทุกฺขํ อนติกฺกนฺตตฺตาติ สมฺมาสมฺพุทฺเธนาปิ อกฺขาเนน ปริโยสาเปตุํ อสกฺกุเณยฺยสฺส อนาคตสฺส อาปายิกสฺส สุคตีสุปิ ชาติชราทิเภทสฺสาติ อปริมิตสฺส สํสารทุกฺขสฺส อนติกฺกนฺตภาวโต. สพฺพถาปิ กรุณายิตฺวาติ ทุกฺขปฺปตฺติยา, สุขปฺปตฺติยา อกตกุสลตาย วา กตากุสลตาย วาติ สพฺพปกาเรนปิ กรุณาย วตฺถุภาวสฺส สลฺลกฺขเณน ตสฺมึ ตสฺมึ ปุคฺคเล กรุณํ กตฺวา กรุณาภาวนํ วฑฺเฒตฺวา. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘อถาเนน ปุนปฺปุนํ เมตฺตายนฺเตนา’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๒๔๓) เมตฺตาภาวนายํ วุตฺเตน นเยน. ตํ นิมิตฺตนฺติ สีมาสมฺเภทวเสน ปวตฺตํ สมถนิมิตฺตํ. เมตฺตาย วุตฺตนเยเนวาติ ยถา เมตฺตาภาวนายํ ‘‘อปฺปกสิเรเนวา’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๓) ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน อปฺปนา ‘‘เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๒๕๓-๒๕๔) ตสฺสา วฑฺฒนา จ วุตฺตา, เอวมิธ กรุณาภาวนายํ ติกจตุกฺกชฺฌานวเสน อปฺปนา เวทิตพฺพา จ วฑฺเฒตพฺพา จ, ตเถวสฺสา วฑฺฒนาวิธิปิ เวทิตพฺพาติ อธิปฺปาโย. วุตฺตนเยเนวาติ อวธารเณน ‘‘ปมํ เวริปุคฺคโล กรุณายิตพฺโพ’’ติ อิทํ ยถา ปาฬิวิรุทฺธํ, เอวํ ยุตฺติวิรุทฺธมฺปีติ อิมมตฺถํ ทีเปติ. ปมํ หิ เวรึ สมนุสฺสรโต โกโธ อุปฺปชฺเชยฺย, น กรุณา. อตฺตาปิ สกฺขิภาเวน กรุณายนวเสน คเหตพฺโพ, โส กิมิติ ปจฺฉา คยฺหตีติ. ‘‘อปฺปนา วฑฺเฒตพฺพา’’ติ อิมินา จ อปฺปนาปฺปตฺตจิตฺตสฺเสว ‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา เอกํ ทิสํ ผริตฺวา วิหรตี’’ติอาทินา (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗, ๕๐๙; ๒.๓๐๙, ๓๑๕, ๔๕๒, ๔๗๑; ๓.๒๓๐) วุตฺตวิกุพฺพนา อิชฺฌตีติ อยมตฺโถ ทสฺสิโต.

กรุณาปทมตฺตเมว จสฺสา ปาฬิยา วิเสโสติ ตํ อนามสิตฺวา ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตวิกุพฺพนา, เมตฺตาย วุตฺตอานิสํสา จ อิธ ลพฺภนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโต ปรํ…เป… เวทิตพฺพา’’ติ วุตฺตํ. ตตฺถ ตโต ปรนฺติ ‘‘กรุณาสหคเตน เจตสา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗, ๕๐๙; ๒.๓๐๙, ๓๑๕, ๔๕๒, ๔๗๑; ๓.๒๓๐) วุตฺตวิกุพฺพนโต อุปริ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

มุทิตาภาวนาวณฺณนา

๒๖๐. ปิยปุคฺคลาทีสูติ ปิยมชฺฌตฺตเวรีสุ น อารภิตพฺพา. มุทิตาภาวนาติ วิภตฺตึ ปริณาเมตฺวา โยชนา. น หีติอาทิ ตตฺถ การณวจนํ. ปิยภาวมตฺเตนาติ เอตฺถ มตฺต-สทฺโท วิเสสนิวตฺติ อตฺโถ, เตน โสมนสฺสปฏิสนฺธิกตาทิสิทฺธา นิจฺจปฺปหํสิตมุขตา, ปุพฺพภาสิตา, สุขสมฺภาสตา, สขิลตา, สมฺโมทกตาติ เอวมาทิเก มุทิตาย ปทฏฺานภูเต วิเสเส อุลฺลิงฺเคติ, อีทิเสหิ วิเสเสหิ วิรหิโตติ วุตฺตํ โหติ. เอว-กาเรน ปน ปิยปุคฺคลสฺส สุขสมปฺปิตตาทึ, มุทิตาย จ เหตุภูตํ ปโมทปฺปวตฺตึ นิวตฺเตติ. ปิยปุคฺคเลปิ หิ ปรมาย สมฺปตฺติยา ปมุทิเต หฏฺตุฏฺเ ภิกฺขุโน มุทิโตกาสํ ลเภยฺย. วกฺขติ หิ ‘‘ปิยปุคฺคลํ วา’’ติอาทิ. อาทิโต มชฺฌตฺตปุคฺคลํ อนุสฺสรนฺตสฺส อุทาสินตา สณฺาติ, เวรึ สมนุสฺสรนฺตสฺส โกโธ อุปฺปชฺชติ. เตนาห ‘‘ปเคว มชฺฌตฺตเวริโน’’ติ.

ปโมทปฺปวตฺติยา โสณฺฑสทิโส สหาโย โสณฺฑสหาโย. มุทิตมุทิโตวาติ ปสาทโสมฺมตาย อติวิย มุทิโต เอว. ปสาเท หิ อิทํ อาเมฑิตํ. เอวํ อฏฺกถานเยน อาทิโต มุทิตาภาวนาย วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปาฬินเยน ทสฺเสตุํ ‘‘ปิยปุคฺคลํ วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สุขิตนฺติ สฺชาตสุขํ, สุขปฺปตฺตนฺติ อตฺโถ. สชฺชิตนฺติ สุขานุภวเน สนฺนทฺธํ ปฏิยตฺตสุขสาธนํ. อโห สาธูติ ตสฺส สตฺตสฺส สมฺปตฺติยํ สมฺปชฺปุพฺพปโมทนาการทสฺสนํ. ปุน อโห สุฏฺูติ ตสฺส ปโมทนสฺส พหุลีการทสฺสนํ. ปิยํ มนาปนฺติ เอตฺถ มนาป-คฺคหเณน ปาฬิยมฺปิ อติปฺปิยสหายโก อธิปฺเปโตติ เอเก.

อตีเตติ ตสฺมึเยว อตฺตภาเว อตีเต. อนาคเตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. น หิ ภวนฺตรคเต พฺรหฺมวิหารภาวนา รุหติ. ยทิ เอวํ, อตีตานาคเต กถนฺติ? นายํ โทโส. ‘‘โส เอวายํ ทตฺโต ติสฺโส’’ติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนตาย วิชฺชมานภาเวน คเหตพฺพโต. กถํ ปนสฺส อนาคเต สมฺปตฺติ อารมฺมณํ โหตีติ? อาเทสาทิโต, ปจฺจุปฺปนฺนาย วา ปโยคสมฺปตฺติยา อนุมานโต ลทฺธาย คเหตพฺพโต.

ปิยปุคฺคเลติ โสณฺฑสหายสฺิเต อติปฺปิยปุคฺคเล, ปิยปุคฺคเล จ. ทุวิโธปิ เจส อิธ ปิยภาวสามฺโต ‘‘ปิยปุคฺคโล’’ติ วุตฺโต. อนุกฺกเมนาติ อติปฺปิยปุคฺคโล ปิยปุคฺคโล มชฺฌตฺโต เวรีติ จตูสุ โกฏฺาเสสุ เอเกกสฺมึ กมฺมฏฺานํ ปคุณํ, มุทุํ, กมฺมนิยฺจ กตฺวา เสเสสุ อุปสํหรณานุกฺกเมน. กิฺจาปิ จตูสุ ชเนสุ สมจิตฺตตาว สีมาสมฺเภโท สีมา สมฺภิชฺชติ เอตายาติ กตฺวา. ภาวนาย ปน ตถา พหุโส ปวตฺตมานาย ปุริมสิทฺธํ เหตุํ, อิตรํ ผลฺจ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘สมจิตฺตตาย สีมาสมฺเภทํ กตฺวา’’ติ. ยถาวุตฺตสีมาภาโว วา สีมาสมฺเภโทติ วุตฺตํ ‘‘สมจิตฺตตาย สีมาสมฺเภทํ กตฺวา’’ติ. เสสเมตฺถ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

อุเปกฺขาภาวนาวณฺณนา

๒๖๑. อุเปกฺขาภาวนนฺติ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารภาวนํ. ยสฺมา ปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยนิสฺสนฺโท จตุตฺถพฺรหฺมวิหาโร, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เมตฺตาทีสุ ปฏิลทฺธติกจตุกฺกชฺฌาเนนา’’ติ. ปคุณตติยชฺฌานาติ สุภาวิตํ วสีภาวํ ปาปิตํ ปคุณํ, ตถารูปา ตติยพฺรหฺมวิหารชฺฌานโต. อปฺปคุณํ หิ อุปริฌานสฺส ปทฏฺานํ น โหติ. จตุกฺกนยวเสน เจตฺถ ตติยคฺคหณํ. สุขิตา โหนฺตูติอาทิวเสนาติ อาทิ-สทฺเทน ‘‘นิทฺทุกฺขา โหนฺตู’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. สตฺตเกลายนํ สตฺเตสุ มมายนํ มมตฺตกรณํ, ตถา มนสิกาเรน โยโค สตฺตเกลายนมนสิการยุตฺตตฺตํ, ตสฺมา. เมตฺตาทีนํ ราคเคหสฺสิตโทมนสฺสโสมนสฺสานํ อาสนฺนวุตฺติตาย ยถารหํ ปฏิฆานุนยสมีปจาริตา เวทิตพฺพา. อถ วา ‘‘สุขิตา โหนฺตุ, ทุกฺขโต มุจฺจนฺตุ โมทนฺตู’’ติ หิเตสิตภาวปฺปตฺติยา ติสฺสนฺนมฺปิ อนุนยสฺส อาสนฺนจาริตา. สติ จ ตพฺพิปริยาเย โลหิตปฺปโกเป ปุพฺโพ วิย ลทฺโธกาสเมเวตฺถ ปฏิฆนฺติ อวิเสเสน ตาสํ ปฏิฆานุนยสมีปจาริตา ทฏฺพฺพา.

‘‘โสมนสฺสโยเคน โอฬาริกตฺตา’’ติ อิทํ ตติยชฺฌานสฺส วเสน วุตฺตํ, ตโต วุฏฺิตสฺส อิทมาทีนวทสฺสนนฺติ. เมตฺตาทิวเสน ปน โอฬาริกภาเว วุจฺจมาเน วิตกฺกวิจารปีติโยเคเนว โอฬาริกตา วตฺตพฺพา สิยา, ตาหิปิ ตาสํ สมาโยคสมฺภวโต, อุเปกฺขาย จ ตทภาวโต. น วา วตฺตพฺพา ตติยชฺฌานิกานํเยว เมตฺตาทีนํ อิธาธิปฺเปตตฺตา, ตํตํฌานสมติกฺกเมเนว จ ตํตํฌานิกา เมตฺตาทโยปิ สมติกฺกนฺตา เอว นาม โหนฺติ, ฌานสามฺเน วิย เมตฺตาทิสามฺเน โวหารมตฺตํ. ปุริมาสูติ เมตฺตากรุณามุทิตาสุ. สนฺตภาวโตติ ยถาวุตฺตสตฺตเกลายนาทิอนุปสนฺตภาวาภาวโต อุเปกฺขาย สนฺตภาวโต. ‘‘สนฺตภาวโต’’ติ จ อิทํ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ. สุขุมตา ปณีตตา วิทูรกิเลสตา วิปุลผลตาติ เอวมาทโยปิ อุเปกฺขาย อานิสํสา ทฏฺพฺพา. ปกติมชฺฌตฺโตติ กิฺจิ การณํ อนเปกฺขิตฺวา ปกติยา สภาเวเนว อิมสฺส ภิกฺขุโน อุทาสินปกฺเข ิโต. อชฺฌุเปกฺขิตฺวาติ อตฺตนา กตกมฺมวเสเนว อยมายสฺมา อาคโต คจฺฉติ จ, ตฺวมฺปิ อตฺตนา กตกมฺมวเสเนว อาคโต คจฺฉสิ จ, น ตสฺส ตว ปโยเคน กิฺจิ สุขํ วา อุปเนตุํ, ทุกฺขํ วา อปเนตุํ ลพฺภา, เกวลํ ปเนตํ จิตฺตสฺส อนุชุกมฺมํ, ยทิทํ เมตฺตายนาทินา สตฺเตสุ เกลายนํ. พุทฺธาทีหิ อริเยหิ คตมคฺโค เจส อปณฺณกปฏิปทาภูโต, ยทิทํ สพฺพสตฺเตสุ มชฺฌตฺตตาติ เอวํ ปฏิปกฺขชิคุจฺฉามุเขน มชฺฌตฺตตาย สมุปชาตคารวพหุมานาทโร ตํ ปุคฺคลํ ปุนปฺปุนํ อชฺฌุเปกฺขติ, ตตฺถ จ สวิเสสํ อุเปกฺขํ ปจฺจุปฏฺเปติ, ตสฺส ตถา ปฏิปชฺชโต ปกติยาปิ อุทาสินตฺตา สาติสยํ ตตฺถ มชฺฌตฺตตา สณฺาติ . ภาวนาพเลน นีวรณานิ วิกฺขมฺภิตาเนว โหนฺติ, กิเลสา สนฺนิสินฺนา เอว โหนฺติ, โส ตํ อุเปกฺขํ ปิยปุคฺคลาทีสุ อุปสํหรติ. เตนาห ‘‘อุเปกฺขา อุปฺปาเทตพฺพา. ตโต ปิยปุคฺคลาทีสู’’ติ. เอกํ ปุคฺคลนฺติ เอตฺถ อฺตฺโถ เอก-สทฺโท ‘‘อิตฺเถเก อภิวทนฺตี’’ติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๒๗) วิย. เอกวจเนเนว เจตฺถ สงฺขฺยาวิเสโส สิทฺโธ, ตสฺมา อฺํ เอกํ ปุคฺคลนฺติ อยเมตฺถ อตฺโถ. เตน อตฺตานํ นิวตฺเตติ. ‘‘เนว มนาป’’นฺติ อิมินา ปิยปุคฺคลํ, อติปฺปิยสหายกฺจ นิวตฺเตติ, อตฺตานมฺปิ วา อตฺตนิ อมนาปตาย อภาวโต. ‘‘น อมนาป’’นฺติ อิมินา อปฺปิยํ, เวริปุคฺคลฺจ, ปาริเสสโต มชฺฌตฺตปุคฺคลสฺส คหณํ อาปนฺนํ. อิติ ‘‘เอกํ ปุคฺคลํ เนว มนาปํ นามนาป’’นฺติ อิมินา อตฺตโน, ปิยาทีนฺจ ปฏิกฺเขปมุเขน อุทาสินปุคฺคลํ ทสฺเสติ.

วุตฺตนเยนาติ ‘‘ยฺวาสฺส ปกติมชฺฌตฺโต’’ติอาทินา อนนฺตรํ วุตฺเตน นเยน. อตฺตสิเนหสฺส พลวภาวโต เวริโตปิ อตฺตนิ มชฺฌตฺตตาย ทุรูปสํหารตฺตา ‘‘อิเมสุ จ อตฺตนิ จา’’ติ อตฺตา ปจฺฉา วุตฺโต. ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘อยํ สมาปตฺติ อาสนฺนปีติปจฺจตฺถิกา’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๑.๘๗) ปถวีกสิเณ วุตฺตนเยน. ยํ หิ เหฏฺา ‘‘ปคุณตติยชฺฌานา วุฏฺายา’’ติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๑.๘๗) วุตฺตํ, ตํ เหฏฺา ตีสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ, จตุตฺถพฺรหฺมวิหาเร จ อาทีนวานิสํสทสฺสนวเสน วุตฺตํ. อิทํ ปน ตติยชฺฌาเน อาทีนวํ, จตุตฺถชฺฌาเน จ อานิสํสํ ทิสฺวา จตุตฺถาธิคมาย โยคํ กโรนฺตสฺส จตุตฺถชฺฌานสฺส อุปฺปชฺชนาการทสฺสนํ. ตสฺมา ตตฺถ วุตฺตํ ‘‘ปถวีสทฺทํ อปเนตฺวา ตเทว นิมิตฺตํ อารมฺมณํ กตฺวา มโนทฺวาราวชฺชนํ อุปฺปชฺชตี’’ติอาทินา โยเชตพฺพํ.

ปถวีกสิณาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน เสสกสิณานิ, อสฺสาสปสฺสาสนิมิตฺตฺจ สงฺคณฺหาติ. กามํ กสิณานาปาเนสุ อุปฺปนฺนสฺสาปิ ตติยชฺฌานสฺส อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาเรน รูปาวจรชฺฌานาทิตาย อตฺเถว สภาคตา, ตํ ปน อการณํ อารมฺมณสฺส วิสทิสตายาติ อาห ‘‘อารมฺมณวิสภาคตายา’’ติ. นนุ จ อฺถาว กสิณาทิภาวนา, อฺถา พฺรหฺมวิหารภาวนาติ ภาวนาวเสนาปิ ยถาวุตฺตชฺฌานานํ อตฺเถว วิสทิสตาติ? สจฺจเมตํ, ภาวนาวเสน ปน วิสทิสตา อนุปฺปตฺติยา น เอกนฺติกํ การณํ. ตถา หิ อฺถาว เมตฺตาทิภาวนา , อฺถา อุเปกฺขาภาวนา. ตถาปิ สตฺเตสุ ยถาปวตฺติตํ หิเตสิตาทิอาการํ พฺยติเรกมุเขน อามสนฺตี, ตโต วินิวตฺตมานรูเปน อชฺฌุเปกฺขนากาเรน พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา ปวตฺตติ. ตถา หิ วกฺขติ ‘‘กมฺมสฺสกา สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา สุขิตา วา ภวิสฺสนฺตี’’ติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๑.๒๖๓). อารมฺมณสภาคตาปิ เจตฺถ อตฺถีติ เมตฺตาทิวเสน ปฏิลทฺธตติยชฺฌานสฺส อิชฺฌติ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร. เตน วุตฺตํ ‘‘เมตฺตาทีสู’’ติอาทิ. ตตฺถ เมตฺตาทีสูติ เมตฺตาทีสุ นิปฺผาเทตพฺเพสุ, เมตฺตาทิวเสนาติ อตฺโถ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว.

ปกิณฺณกกถาวณฺณนา

๒๖๒. พฺรหฺมุตฺตเมนาติ เอตฺถ สมฺมุติพฺรหฺมาโน อุปปตฺติพฺรหฺมาโน วิสุทฺธิพฺรหฺมาโนติ ติวิธา พฺรหฺมาโน.

‘‘สมฺปนฺนํ สาลิเกทารํ, สุวา ภุฺชนฺติ โกสิย;

ปฏิเวเทมิ เต พฺรหฺเม, น เน วาเรตุมุสฺสเห. (ชา. ๑.๑๔.๑);

ปริพฺพช มหาพฺรหฺเม, ปจนฺตฺเปิ ปาณิโน’’ติ. (ปาจิ. ๖๔๗) –

จ เอวมาทีสุ หิ พฺรหฺมสทฺเทน สมฺมุติพฺรหฺมาโน วุตฺตา.

‘‘อปารุตา เตสํ อมตสฺส ทฺวารา,

เย โสตวนฺโต ปมุฺจนฺตุ สทฺธํ;

วิหึสสฺี ปคุณํ น ภาสึ,

ธมฺมํ ปณีตํ มนุเชสุ พฺรหฺเม’’.

‘‘อถ โข พฺรหฺมา สหมฺปตี’’ติ (ที. นิ. ๒.๗๑; ม. นิ. ๑.๒๘๓; ๒.๓๔๐; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๙) จ เอวมาทีสุ พฺรหฺมสทฺเทน อุปปตฺติพฺรหฺมาโน วุตฺตา. ‘‘พฺรหฺมจกฺกํ ปวตฺเตตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๑๔๘; สํ. นิ. ๒.๒๑; อ. นิ. ๔.๘; ๕.๑๑; ปฏิ. ม. ๒.๔๔) วจนโต ‘‘พฺรหฺม’’นฺติ อริยธมฺโม วุจฺจติ, ตโต นิพฺพตฺตตฺตา อวิเสเสน สพฺเพปิ อริยา วิสุทฺธิพฺรหฺมาโน นาม ปรมตฺถพฺรหฺมตาย. วิเสสโต ปน ‘‘พฺรหฺมาติ, ภิกฺขเว, ตถาคตสฺเสตํ อธิวจน’’นฺติ วจนโต สมฺมาสมฺพุทฺโธ อุตฺตมพฺรหฺมา นาม สเทวเก โลเก พฺรหฺมภูเตหิ คุเณหิ อุกฺกํสปารมิปฺปตฺติโต. อิติ พฺรหฺมานํ อุตฺตโม, พฺรหฺมา จ โส อุตฺตโม จาติ วา พฺรหฺมุตฺตโม, ภควา. เตน กถิเต ‘‘โส เมตฺตาสหคเตน เจตสา’’ติอาทินา (ที. นิ. ๑.๕๕๖; ๓.๓๐๘; ม. นิ. ๑.๗๗, ๔๕๙, ๕๐๙; ๒.๓๐๙, ๓๑๕, ๔๕๑, ๔๗๑) ตตฺถ ตตฺถ เวเนยฺยานํ เทสิเต. อิตีติ เอวํ ยถาวุตฺเตน ภาวนากฺกเมน เจว อตฺถวณฺณนากฺกเมน จ วิทิตฺวา ชานิตฺวา. ปกิณฺณกกถาปิ วิฺเยฺยาติ ปุพฺเพ วิย อสาธารณํ ตํตํพฺรหฺมวิหารปฏินิยตเมว อตฺถํ อคฺคเหตฺวา สาธารณภาวโต ตตฺถ ตตฺถ ปกิณฺณกํ วิสฏํ อตฺถํ คเหตฺวา ปวตฺติตา ปกิณฺณกกถาปิ วิชานิตพฺพา.

เมชฺชตีติ ธมฺมโต อฺสฺส กตฺตุนิวตฺตนตฺถํ ธมฺมเมว กตฺตารํ กตฺวา นิทฺทิสติ. สินิยฺหตีติ เอตฺถ สตฺเตสุ พฺยาปชฺชนวเสน ลูขภาวสฺส ปฏิปกฺขภูตํ าณปุพฺพงฺคมํ หิตาการปวตฺติวเสน สิเนหนํ ทฏฺพฺพํ, น ตณฺหายนวเสน. ตํ หิ โมหปุพฺพงฺคมํ ลุพฺภนสภาวํ, อิทํ ปน อทุสฺสนสภาวํ อโลภสมฺปยุตฺตํ. นนุ จ ตณฺหาสิเนโหปิ พฺยาปาทวิโรธี เตน สหานวฏฺานโต. ยทิปิ เตน สห เอกสฺมึ จิตฺเต นปฺปวตฺตติ, วิโรธี ปน น โหติ อปฺปหายกโต. เมชฺชตีติ มิตฺโต, หิตชฺฌาสโย ขนฺธปฺปพนฺโธ, ตปฺปริยาปนฺนตาย มิตฺเต ภวา, มิตฺเต วา อารมฺมณภูเต ปิเย ปุคฺคเล ภวา, มิตฺตสฺส เอสา ปวตฺติ เมชฺชนวเสน วาติ เวทิตพฺพา.

กโรตีติ กรุณา, กึ กโรติ, เกสํ, กึ นิมิตฺตนฺติ อาห ‘‘ปรทุกฺเข สติ สาธูนํ หทยกมฺปน’’นฺติ. กมฺปนนฺติ จ ปเรสํ ทุกฺขํ ทิสฺวา ตสฺส อปเนตุกามสฺส อสหนากาเรน จิตฺตสฺส อฺถตฺตํ. ตยิทํ สปฺปุริสานํเยว โหตีติ อาห ‘‘สาธูน’’นฺติ. สปฺปุริสา หิ สปรหิตสาธเนน ‘‘สาธู’’ติ วุจฺจนฺติ. วินาเสตีติ อทสฺสนํ คเมติ, อปเนตีติ อตฺโถ. เตเนตฺถ หึสนํ อปนยนนฺติ ทสฺเสติ. ปรทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา หิ กรุณา. ผรณวเสนาติ ผุสนวเสน, อารมฺมณกรณวเสนาติ อตฺโถ. อารมฺมณกรณฺเจตฺถ ทุกฺขิเตสุ ทุกฺขาปนยนากาเรเนวาติ ทฏฺพฺพํ.

โมทนฺติ ตายาติ โมทนกิริยาย มุทิตาย กรณภาวนิทฺเทโส, สฺวายํ อุปจารสิทฺโธ, มุทิตาวินิมุตฺโต นตฺถิ ตตฺถ โกจิ กตฺตาติ ตเมว กตฺตุภาเวน นิทฺทิสติ ‘‘สยํ วา โมทตี’’ติ, อยมฺปิ อุปจารนิทฺเทโสว. ธมฺมานํ อวสวตฺตนโตติ วสวตฺติภาวนิวารณตฺถํ ‘‘โมทนมตฺตเมว วา ตนฺติ มุทิตา’’ติ อาห.

ปิยาทีสุ ปกฺขปาตุปจฺเฉทนมุเขน อุทาสินภาวสงฺขาตา อุปปตฺติโต อิกฺขา อุเปกฺขา. เตนาห ‘‘อเวรา โหนฺตู’’ติอาทิ. ตตฺถ อุเปกฺขตีติ กตฺตุนิทฺเทเส การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

๒๖๓. หิโต นาม อตฺถจโร, ตสฺมา หิตาการปฺปวตฺติลกฺขณาติ สตฺตานํ หิตจรณากาเรน ปวตฺติลกฺขณา, หิตาการสฺส วา ปวตฺตนลกฺขณา. หิตูปสํหารรสาติ สตฺเตสุ หิตสฺส อุปนยนกิจฺจา, อุปนยนสมฺปตฺติกา วา. ‘‘อนตฺถํ เม อจรี’’ติอาทินา (ธ. ส. ๑๒๓๗; วิภ. ๙๐๙) ปวตฺตนกสฺส อาฆาตสฺส วินยนากาเรน ปจฺจุปติฏฺติ, าณสฺส โคจรภาวํ คจฺฉติ, ยตฺถ วา สยํ อุปฺปชฺชติ, ตตฺถ อาฆาตวินยนํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อาฆาตวินยปจฺจุปฏฺานา. อมนาปานมฺปิ สตฺตานํ ปฏิกฺกูเล อปฺปฏิกฺกูลสฺิตารูเปน, ปเคว มนาปานํ ยํ มนาปภาวทสฺสนํ, ตถาปวตฺโต โยนิโสมนสิกาโร, ตํ ปทฏฺานํ เอติสฺสาติ มนาปภาวทสฺสนปทฏฺานา. พฺยาปาทูปสโมติ พฺยาปาทสฺส วิกฺขมฺภนวเสน วูปสโม. สมฺปตฺตีติ สมฺปชฺชนํ สมฺมเทว นิพฺพตฺติ. สิเนหสมฺภโวติ ตณฺหาสิเนหสฺส อุปฺปตฺติ. วิปตฺตีติ วินาโส. เมตฺตามุเขน หิ ราโค วฺเจติ.

กรุณาทีนํ ลกฺขณาทีสุ อิมินา นเยน อตฺโถ เวทิตพฺโพ. วิเสสมตฺตเมว วณฺณยิสฺสาม. สตฺตานํ ปวตฺตทุกฺขสฺส อปนยนากาโร. อปนยนํ ปน โหตุ วา มา วา, โย ทุกฺขาปนยนากาโร, ตถาปวตฺติลกฺขณา ทุกฺขาปนยนาการปฺปวตฺติลกฺขณา. อปเนตุกามตาย ปเรสํ ทุกฺขสฺส อสหนํ อนธิวาสนํ ปรทุกฺขาสหนํ. น วิหึสา อวิหึสา, สตฺตานํ อวิเหนํ. ตํ ปจฺจุปฏฺเปติ, วิหึสาย วา ปฏิปกฺขภาเวน ปจฺจุปติฏฺตีติ อวิหึสาปจฺจุปฏฺานา. วิหึสูปสโมติ เอตฺถ วิหึสนฺติ เอตาย สตฺเต, วิหึสนํ วา เนสํ ตนฺติ วิหึสา , สตฺตานํ วิเหนากาเรน ปวตฺโต กรุณาย ปฏิปกฺขภูโต ปฏิฆจิตฺตุปฺปาโท. กรุณามุเขน โสโก วฺเจตีติ อาห ‘‘โสกสมฺภโว วิปตฺตี’’ติ.

ปโมทนลกฺขณาติ ปรสมฺปตฺติยา ปโมทนลกฺขณา. อนิสฺสายนรสาติ อิสฺสายนสฺส อุสูยนสฺส ปฏิปกฺขภาวกิจฺจา. สตฺตานํ สมฺปตฺติยา, ปนฺตเสนาสเนสุ, อธิกุสลธมฺเมสุ จ อสหนํ อรมณํ อรติอิจฺเจว สงฺคหํ คจฺฉติ, ตสฺสา วิหนนากาเรน ปจฺจุปติฏฺติ, ตสฺส วา วิฆาตํ วูปสมํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ อรติวิฆาตปจฺจุปฏฺานา.

ปหาโส เคหสิตปีติวเสน ปหฏฺภาโว อุปฺปิลาวิตตฺตํ. สตฺเตสุ สมภาวทสฺสนรสาติ ปิยาทิเภเทสุ สพฺพสตฺเตสุ อุทาสินวุตฺติยา สมภาวสฺเสว ทสฺสนกิจฺจา, อุปปตฺติโต อิกฺขณโต สมภาเวเนว เตสํ คหณกิจฺจาติ อตฺโถ. สตฺเตสุ ปฏิกฺกูลาปฏิกฺกูลาการานํ อคฺคหณโต ตตฺถ ปฏิฆานุนยานํ วูปสมนากาเรน วุตฺติยา เตสํ วูปสมํ วิกฺขมฺภนํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ ปฏิฆานุนยวูปสมปจฺจุปฏฺานา. เอวํ ปวตฺตกมฺมสฺสกตาทสฺสนปทฏฺานาติ เอตฺถ ‘‘เอว’’นฺติ อิมินา พฺยติเรกมุเขน หิตูปสํหารทุกฺขาปนยนสมฺปตฺติปโมทนากาเรน ปจฺจามสนฺโต เมตฺตาทีนํ ติสฺสนฺนํ ปวตฺติอาการปฏิเสธนมุเขน ปวตฺตํ กมฺมสฺสกตาาณํ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส อาสนฺนการณํ, น ยํ กิฺจีติ ทสฺเสติ.

๒๖๔. วิปสฺสนาสุขฺเจว ภวสมฺปตฺติ จาติ เอตฺถ ทิฏฺธมฺมสุขวิหาโร จาติ วตฺตพฺพํ. ตมฺปิ หิ เนสํ สาธารณปโยชนํ. ตถา ‘‘สุขํ สุปตี’’ติอาทโย (อ. นิ. ๘.๑; ๑๑.๑๕) เอกาทสานิสํสา. เต ปน เหฏฺา วุตฺตา เอวาติ อิธ น คหิตา.

นิสฺสรติ อปคจฺฉติ เอเตนาติ นิสฺสรณํ, ปหายกํ. กามฺเจเตหิ ปฺจปิ นีวรณานิ, ตเทกฏฺา จ ปาปธมฺมา วิกฺขมฺภนวเสน ปหียนฺติ, อุชุวิปจฺจนีกทสฺสนวเสน ปน พฺยาปาทาทโย ปาฬิยํ (ที. นิ. ๓.๓๒๖; อ. นิ. ๖.๑๓) วุตฺตา. เอวฺจ กตฺวา ราคนิสฺสรณตาวจนํ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส สุฏฺุ สมตฺถิตํ ทฏฺพฺพํ.

๒๖๕. เอตฺถาติ เอเตสุ พฺรหฺมวิหาเรสุ. เมตฺตา สตฺเตสุ ยถารหํ ทานปิยวจนาทิสีลสุตาทิคุณคหณวเสน ปวตฺตติ. เตน วุตฺตํ ‘‘สตฺตานํ มนาปภาวทสฺสนปทฏฺานา’’ติ. ราโคปิ ตตฺถ ยถา ตถา คุณคฺคหณมุเขเนว ปวตฺตติ มนาปสฺาปโลภโตติ อาห ‘‘คุณทสฺสนสภาคตายา’’ติ. ตสฺมา มิตฺตมุขสปตฺโต วิย ตุลฺยากาเรน ทูสนโต ราโค เมตฺตาย อาสนฺนปจฺจตฺถิโก, โส ลหุํ โอตารํ ลภติ สติสมฺโมสมตฺเตนาปิ เมตฺตํ อปนีย ตสฺสา วตฺถุสฺมึ อุปฺปชฺชนารหตฺตา . ตโตติ ราคโต, ราคสฺส วา โอตารลาภโต. สภาควิสภาคตายาติ สภาคสฺส, สภาเคน วา วิสภาคตาย. สตฺเตสุ หิ มนาปาการคาหิโน เมตฺตาสภาคสฺส ตพฺพิปรีตสภาโว พฺยาปาโท เตน วิสภาโค. ตสฺมา โส โอตารํ ลภมาโน จิเรเนว ลเภยฺยาติ ปุริสสฺส ทูเร ิตสปตฺโต วิย เมตฺตาย ทูรปจฺจตฺถิโก. ตโตติ พฺยาปาทโต. นิพฺภเยนาติ อนุสฺสงฺกนปริสงฺกเนน, ลทฺธปติฏฺาย เมตฺตาย พฺยาปาเทน ทุปฺปธํสิยตฺตาติ อธิปฺปาโย. เตนาห ‘‘เมตฺตายิสฺสตี’’ติอาทิ.

อิฏฺานนฺติ ปิยานํ. กนฺตานนฺติ กมนียานํ. มนาปานนฺติ มนวฑฺฒนกานํ. ตโต เอว มโน รเมนฺตีติ มโนรมานํ. โลกามิสปฏิสํยุตฺตานนฺติ ตณฺหาสนฺนิสฺสิตานํ. อปฺปฏิลาภโต สมนุปสฺสโตติ อปฺปฏิลาเภน อหมิเม น ลภามีติ ปริตสฺสโต. อตีตนฺติ อติกฺกนฺตํ. นิรุทฺธนฺติ นิโรธปฺปตฺตํ. วิปริณตนฺติ สภาววิคเมน วิคตํ. สมนุสฺสรโตติ อนุตฺถุนนวเสน จินฺตยโต. เคหสิตนฺติ กามคุณนิสฺสิตํ. ‘‘อาทินา’’ติ อิมินา ‘‘โสตวิฺเยฺยานํ สทฺทาน’’นฺติ เอวมาทึ สงฺคณฺหาติ. วิปตฺติทสฺสนสภาคตายาติ เยสุ สตฺเตสุ โภคาทิวิปตฺติทสฺสนมุเขน กรุณา ปวตฺตติ, เตสุ ตนฺนิมิตฺตเมว อโยนิโส อาโภเค สติ ยถาวุตฺตโทมนสฺสมุเขน โสโก อุปฺปชฺเชยฺย, โส กรุณาย อาสนฺนปจฺจตฺถิโก. โสโก หิ อิธ โทมนสฺสสีเสน วุตฺโต. สภาควิสภาคตายาติ เอตฺถ สตฺเตสุ ทุกฺขาปนยนกามตาการสฺส กรุณาสภาคสฺส เตสุ ทุกฺขูปนยนากาโร วิเหสาสภาโว วิสภาโคติ ตาย สภาควิสภาคตาย สา โอตารํ ลภมานา จิเรเนว ลเภยฺยาติ ปุริสสฺส ทูเร ิตสปตฺโต วิย กรุณาย ทูรปจฺจตฺถิกา วุตฺตา.

สมฺปตฺติทสฺสนสภาคตายาติ เยสุ สตฺเตสุ โภคาทิสมฺปตฺติทสฺสนมุเขน มุทิตา ปวตฺตติ, เตสุ ตนฺนิมิตฺตเมว อโยนิโส อาโภเค สติ ‘‘จกฺขุวิฺเยฺยานํ รูปาน’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๓.๓๐๖) วุตฺตโสมนสฺสมุเขน ปหาโส อุปฺปชฺเชยฺย, โส จ มุทิตาย อาสนฺนปจฺจตฺถิโก. ปหาโส หิ อิธ โสมนสฺสสีเสน วุตฺโต. สภาควิสภาคตายาติ โภคาทิสมฺปตฺตีหิ มุทิเตสุ สตฺเตสุ ปโมทนาการสฺส มุทิตาสภาคสฺส ตตฺถ อนภิรมนาการา อรติ วิสภาคาติ ตาย สภาควิสภาคตาย สา โอตารํ ลภมานา จิเรเนว ลเภยฺยาติ ปุริสสฺส ทูเร ิตสปตฺโต วิย มุทิตาย ทูรปจฺจตฺถิกา วุตฺตา. ปมุทิโต จาติอาทิ มุทิตาย สิทฺธาย อยมฺปิ อรติ น โหตีติ ลทฺธพฺพคุณทสฺสนวเสน วุตฺตํ, น อิธาธิปฺเปตอรตินิคฺคหทสฺสนวเสน. กายจิตฺตวิเวกปฏิปกฺขาย วา อรติยา วิกฺขมฺภิตาย มุทิตาย ปฏิปกฺขา อรติ สุวิกฺขมฺภเนยฺยา โหตีติ ทสฺสนตฺถํ เอกเทเสน อรติ ทสฺสิตาติ ทฏฺพฺพํ. อธิกุสลธมฺเมสูติ สมถวิปสฺสนาธมฺเมสุ.

พาลกรธมฺมโยคโต พาลสฺส. อตฺตหิตปรหิตพฺยามูฬฺหตาย มูฬฺหสฺส. ปุถูนํ กิเลสาทีนํ ชนนาทีหิ การเณหิ ปุถุชฺชนสฺส. กิเลโสธีนํ มคฺโคธีหิ อชิตตฺตา อโนธิชินสฺส, โอธิชินา วา เสกฺขา โอธิโสว กิเลสานํ ชิตตฺตา. เตน อิมสฺส โอธิชิตภาวํ ปฏิกฺขิปติ. สตฺตมภวาทิโต อุทฺธํ ปวตฺตนวิปากสฺส อชิตตฺตา อวิปากชินสฺส, วิปากชินา วา อรหนฺโต อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา. เตนสฺส อเสกฺขตฺตํ ปฏิกฺขิปติ. อเนกาทีนเว สพฺเพสมฺปิ ปาปธมฺมานํ มูลภูเต สมฺโมเห อาทีนวานํ อทสฺสนสีลตาย อนาทีนวทสฺสาวิโน. อาคมาธิคมาภาวา อสฺสุตวโต. เอทิโส เอกํเสน อนฺธปุถุชฺชโน นาม โหตีติ ตสฺส อนฺธปุถุชฺชนภาวทสฺสนตฺถํ ปุนปิ ‘‘ปุถุชฺชนสฺสา’’ติ วุตฺตํ. เอวรูปาติ วุตฺตากาเรน สมฺโมหปุพฺพิกา. รูปํ สา นาติวตฺตตีติ รูปานํ สมติกฺกมนาย การณํ น โหติ, รูปารมฺมเณ กิเลเส นาติวตฺตตีติ อธิปฺปาโย. โสมนสฺสโทมนสฺสรหิตํ อฺาณเมว อฺาณุเปกฺขา. โทสคุณาวิจารณวเสน สภาคตฺตาติ ยถา พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา เมตฺตาทโย วิย สตฺเตสุ หิตูปสํหาราทิวเสน คุณโทเส อวิจาเรนฺตี เกวลํ อชฺฌุเปกฺขนวเสเนว ปวตฺตติ, เอวํ อฺาณุเปกฺขา สตฺเตสุ วิชฺชมานมฺปิ คุณโทสํ อจินฺเตนฺตี เกวลํ อชฺฌุเปกฺขนวเสเนว ปวตฺตตีติ โทสคุณาวิจารณวเสน สภาคา. ตสฺมา สา ลหุํ โอตารํ ลภตีติ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขาย อาสนฺนปจฺจตฺถิกา วุตฺตา. สภาควิสภาคตายาติ อิฏฺานิฏฺเสุ มชฺฌตฺตาการสฺส อุเปกฺขาสภาคสฺส ตตฺถ อนุโรธวิโรธปวตฺติอาการา ราคปฏิฆา วิสภาคาติ ตาย สภาควิสภาคตาย เต โอตารํ ลภมานา จิเรเนว ลเภยฺยุนฺติ ปุริสสฺส ทูเร ิตสปตฺโต วิย อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส ทูรปจฺจตฺถิกา วุตฺตา.

๒๖๖. กตฺตุกามตา ฉนฺโท อาทิ ‘‘ฉนฺทมูลกา กุสลา ธมฺมา’’ติ (อ. นิ. ๘.๘๓) วจนโต, อถ วา สตฺเตสุ หิเตสิตาทุกฺขาปนยนกามตาทินา อนวชฺชาภิปตฺถนาวเสน ปวตฺตนโต ‘‘กตฺตุกามตา ฉนฺโท อาที’’ติ วุตฺตํ. อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโรปิ หิ สตฺเตสุ อนิรากตหิตจฺฉนฺโทเยว ‘‘ตตฺถ อพฺยาวฏตา อปณฺณกปฏิปทา’’ติ อชฺฌุเปกฺขนากาเรน ปวตฺตติ มาตา วิย สกิจฺจปสุเต ปุตฺเต. นีวรณาทีติ อาทิ-สทฺเทน ตเทกฏฺกิเลสานํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. กตฺถจิ สตฺตคฺคหณมฺปิ สงฺขารคฺคหณเมว โหติ ปุคฺคลาธิฏฺานาย เทสนาย ยถา ‘‘สพฺเพ สตฺตา อาหารฏฺิติกา’’ติ (อ. นิ. ๑๐.๒๗; ขุ. ปา. ๔.๑), น เอวมิธาติ อาห ‘‘ปฺตฺติธมฺมวเสน เอโก วา สตฺโต อเนเก วา สตฺตา อารมฺมณ’’นฺติ. ปฺตฺติธมฺมวเสนาติ ปฺตฺติสงฺขาตธมฺมวเสน. กามฺเจตฺถ ‘‘สุขิตา โหนฺตู’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๒๓) ภาวนายํ สุขาทิคฺคหณมฺปิ ลพฺภติ. ตํ ปน ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา’’ติ (ธ. ป. ๒๕๕; เถรคา. ๖๗๖; เนตฺติ. ๕) วิปสฺสนาย อนิจฺจลกฺขณคหณํ วิย อปฺปธานภูตํ, สตฺตปฺตฺติ เอว ปธานภาเวน คยฺหตีติ ทฏฺพฺพํ. อุปจาเร วา ปตฺเต อารมฺมณวฑฺฒนํ ตตฺถาปิ สีมาสมฺเภทสิทฺธิโตติ อธิปฺปาโย.

เอกมาวาสํ ปริจฺฉินฺทิตฺวาติ เอตฺถ ‘‘สตฺเต เมตฺตาย ผริสฺสามี’’ติ เอวํ าเณน ปริจฺเฉทํ กตฺวา เอกา รจฺฉา ปริจฺฉินฺทิตพฺพาติ โยชนา. รจฺฉาคหเณน รจฺฉาวาสิโน สตฺตา คหิตา ยถา เอกํ ทิสนฺติ. เอวํ สพฺพตฺถ.

๒๖๗. กสิณานํ นิสฺสนฺโทติ กสิณชฺฌานานํ นิสฺสนฺทผลสทิสา อารุปฺปา อรูปชฺฌานานิ, กสิณชฺฌานานํ ปาริปูริยาว สิชฺฌนโต. เตหิ วินา อสิชฺฌนโตติ เกจิ. สมาธินิสฺสนฺโทติ รูปชฺฌานสมาธีนํ, เหฏฺิมานํ ติณฺณํ อรูปชฺฌานสมาธีนฺจ นิสฺสนฺโท ปฏิปาฏิยา เต อธิคนฺตฺวาว ปฏิลภิตพฺพโต . วิปสฺสนานิสฺสนฺโท วิปสฺสนานุภาเวน ลทฺธพฺพโต, วิปสฺสนาวเสเนว จ สมาปชฺชิตพฺพโต. สมถวิปสฺสนานิสฺสนฺโท นิโรธสมาปตฺติ. ยถาห ‘‘ทฺวีหิ พเลหิ สมนฺนาคตตฺตา’’ติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๒.๘๖๘). ‘‘ปุริมพฺรหฺมวิหารตฺตยนิสฺสนฺโท’’ติ อิมินา เมตฺตาทิวเสน ตีณิ ฌานานิ อธิคนฺตฺวา ิตสฺเสว อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโร, น อิตรสฺสาติ ทสฺเสติ. ตเมวตฺถํ อุปมาย ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

๒๖๘. สิยาติ วุจฺจมานากาเรน สิยา กสฺสจิ ปริวิตกฺโก. เอตฺถาติ เอเตสุ เมตฺตาทีสุ พฺรหฺมวิหารตา เวทิตพฺพา, อิตรกมฺมฏฺานานิ อตฺตหิตปฏิปตฺติมตฺตานิ. อิมานิ ปน ‘‘สพฺเพ สตฺตา สุขิตา โหนฺตู’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๒๒) ปรหิตปฏิปตฺติภูตานิ. ตสฺมา สตฺเตสุ สมฺมา ปฏิปตฺติภาเวน เสฏฺา เอเต วิหารา. พฺรหฺมาโนติ อุปปตฺติพฺรหฺมาโน. เต หิ อิธ ฌานภาวนาย วินีวรณจิตฺตา หุตฺวา พฺรหฺมโลเก อุปฺปนฺนา ตตฺถ ยาวตายุกํ วินีวรณจิตฺตาว โหนฺติ. ตสฺมา ‘‘นิทฺโทสจิตฺตา วิหรนฺตี’’ติ วทนฺติ. พฺรหฺมาโนติ วา สกลพุทฺธคุณเหตุภูตานํ ทานปารมิตาทีนํ พุทฺธกรธมฺมานํ ปริปูรณวเสน พฺรูหิตคุณา มหาสตฺตา โพธิสตฺตา. เต หิ สพฺพสตฺตานํ หิเตสเนน, อหิตาปนยเนน, สมฺปตฺติปโมทเนน, สพฺพตฺถ วิวชฺชิตาคติคมนมชฺฌตฺตภาวาธิฏฺาเนน จ นิทฺโทสจิตฺตา วิหรนฺติ. เอวนฺติ ยถา เต อุปปตฺติพฺรหฺมาโน, มหาโพธิสตฺตพฺรหฺมาโน วา, เอวํ เอเตหิ พฺรหฺมวิหาเรหิ สมฺปยุตฺตา สมงฺคีภูตา.

๒๖๙. จตสฺโสวาติอาทิปฺหสฺสาติ จตสฺโสติอาทิกสฺส ติวิธสฺส ปฺหสฺส. วิสุทฺธิมคฺคาทิวสาติ เอตฺถ พฺยาปาทสํกิเลสาทิโต วิสุชฺฌนุปาโย วิสุทฺธิมคฺโค. อาทิ-สทฺเทน หิตูปสํหาราทิมนสิการวิเสสา สงฺคหิตา. อาสํ เมตฺตาทีนํ. อปฺปมาเณติ ปมาณรหิเต. เยนาติ เยน การเณน. นฺติ ตสฺมา. -กาโร ปทสนฺธิกโร.

พฺยาปาทพหุลสฺส วิสุทฺธิมคฺโคติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ, อุชุวิปจฺจนีกภาวโตติ อธิปฺปาโย. เอส นโย เสเสสุปิ. ปกฺขปาตวเสน อนาภุชนมนาโภโค มชฺฌตฺตากาโรติ อธิปฺปาโย. ยฺวายํ จตุพฺพิโธ สตฺเตสุ มนสิกาโร วุตฺโต, ตเมว อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา จ ยถา มาตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ วุตฺตสฺสาปิ หิตูปสํหาราทิอตฺถสฺส อุปเมยฺยภาวํ อุปเนตฺวา ทสฺเสตุํ อตฺถุปนยนตฺโถ ‘‘ยสฺมา จา’’ติ -สทฺโท. ปริยาเยติ วาเร, ตสฺมึ ตสฺมึ กิจฺจวเสน ปริวตฺตนกฺกเมติ อตฺโถ. อพฺยาวฏาติ อนุสฺสุกฺกา. ตถาติ ยถา มาตา ทหราทีสุ ปุตฺเตสุ, ตถา สพฺพสตฺเตสุ เมตฺตาทิวเสน เมตฺตายนาทิวสิเกน ภวิตพฺพนฺติ โยชนา. ตสฺมาติ ยสฺมา สพฺเพปิ สํกิเลสธมฺมา ยถารหํ โทสโมหราคปกฺขิยา, เตหิ จ วิสุชฺฌนุปาโย อปฺปมฺา, หิตูปสํหาราทิวเสน จตุพฺพิโธ จ สตฺเตสุ มนสิกาโร, ตสฺมา วิสุทฺธิมคฺคาทิวสา จตสฺโสว อปฺปมฺา. จตสฺโสปิ เอตา ภาเวตุกาเมน น เอเกกนฺติ อธิปฺปาโย. สติ หิ สพฺพสงฺคเห กเมน ภวิตพฺพํ. หิเตสิตา เมตฺตายนนฺติ อาห ‘‘เอวํ ปตฺถิตหิตาน’’นฺติ. สมฺภาเวตฺวา วาติ ‘‘อิมาย ปฏิปตฺติยา อยํ นิรยาทีสุ นิพฺพตฺเตยฺยา’’ติ ปริกปฺเปตฺวา วา. ทุกฺขาปนยนากอารปฺปวตฺติวเสน ปฏิปชฺชิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ. ตโต ปรนฺติ ตโต หิตาการปฺปวตฺติอาทิโต ปรํ. กตฺตพฺพาภาวโตติ จตุตฺถสฺส ปการสฺส กตฺตพฺพสฺส อภาวโต. อยํ กโมติ อยํ อิมาสํ อปฺปมฺานํ เยภุยฺเยน ปวตฺตนกฺกโมติ กตฺวา วุตฺตํ, น ‘‘อิมินาว กเมน เอตาสํ ปวตฺติ, น อฺถา’’ติ. เมตฺตาทีนํ หิ ติสฺสนฺนํ ภาวนานํ กมนิยโม นตฺถิ, ยํ วา ตํ วา ปมํ ภาเวตุํ ลพฺภา, เทสนากฺกมวเสน วา เอวํ วุตฺตํ.

เอกสตฺตสฺสาปีติ เอกสฺสาปิ สตฺตสฺส. อปฺปฏิภาคนิมิตฺตตฺตา ปริจฺเฉทคฺคหณํ นตฺถิ, น จ สมฺมุติสจฺจวเสน ปวตฺตํ สตฺตคฺคหณํ ปริจฺฉินฺนรูปาทิคฺคหณํ โหตีติ อปฺปนาปฺปตฺติยา อปรามาสสตฺตคฺคหณมุทฺธภูตานํ เมตฺตาทีนํ เอกสตฺตารมฺมณานมฺปิ อปฺปมาณโคจรตา วุตฺตา. เอวํ ปมาณํ อคฺคเหตฺวาติ ยถา อุทฺธุมาตกาทีสุ อติเรกุทฺธุมาตกาทิภาวปฺปตฺเต ปเทเส นิมิตฺตํ คยฺหติ, เอวํ ปมาณํ อคฺคเหตฺวา. สกลผรณวเสนาติ นิรวเสสผรณวเสน.

๒๗๐. นิสฺสรณตฺตาติ เอตฺถ ยํ ยสฺส นิสฺสรณํ, ตํ ตสฺส อุชุปฏิปกฺขภูตเมว โหติ. ยถา กามานํ เนกฺขมฺมํ, รูปานํ อารุปฺปา, สงฺขารานํ นิพฺพานํ , เอวํ โทมนสฺสสหิตานํ พฺยาปาทวิหึสารตีนํ นิสฺสรณภูตา เมตฺตากรุณามุทิตา น โสมนสฺสรหิตา โหนฺติ. นิสฺสรณคฺคหเณเนว จ ปุพฺพภาคิยานํ ตาสํ อุเปกฺขาสมฺปโยโคปิ อนุฺาโตติ ทฏฺพฺพํ อนิสฺสรณภาวโต. ตถา หิ อฏฺวีสติยา จิตฺตุปฺปาเทสุ กรุณามุทิตานํ ปวตฺตึ อาจริยา อิจฺฉนฺติ. น หิ พฺรหฺมวิหารุเปกฺขา อุเปกฺขาเวทนํ วินา วตฺตติ ปาริสุทฺธิอุเปกฺขา วิย. น หิ กทาจิ ปาริสุทฺธิอุเปกฺขา เวทนุเปกฺขํ วินา วตฺตตีติ.

๒๗๑. สาตสหคตนฺติ สุขสหคตํ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘ตโต ตฺวํ ภิกฺขู’’ติอาทิกาย (อ. นิ. ๘.๖๓) เทสนาย จตุนฺนมฺปิ อปฺปมฺานํ สวิตกฺกาทิภาโว วิย อุเปกฺขาสหคตภาโวปิ วิฺายติ, ตสฺมา. จตสฺโสปิ อปฺปมฺา จตุกฺกปฺจกชฺฌานิกาติ โจทกสฺส อธิปฺปาโย. เอวฺหิ สตีติ ยทิ มูลสมาธิมฺหิ วุตฺตมตฺถํ อนนฺตรํ วุตฺตตาย พฺรหฺมวิหาเรสุ ปกฺขิปติ, เอวํ สนฺเต กายานุปสฺสนาทโยปิ จตุกฺกปฺจกชฺฌานิกา สิยุํ, น ปน โหนฺติ วิปสฺสนาวเสน เทสิตตฺตาติ อธิปฺปาโย, โหนฺตุ กายานุปสฺสนาทโย อานาปานภาวนาวเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานิกาติ วเทยฺยาติ อาสงฺกนฺโต อาห ‘‘เวทนาทีสู’’ติอาทิ. พฺยฺชนจฺฉายามตฺตํ คเหตฺวาติ ‘‘เมตฺตา เม เจโตวิมุตฺติ ภาวิตา ภวิสฺสตี’’ติอาทีหิ พฺยฺชเนหิ ปกาสิโต เอว จิตฺตสมาธิ ‘‘อชฺฌตฺตํ เม จิตฺตํ ิตํ ภวิสฺสตี’’ติอาทีหิปิ พฺยฺชเนหิ ปกาสิโตติ พฺยฺชนโต ลพฺภมานสมาธิจฺฉายามตฺตํ คเหตฺวา อุภยตฺถ ลพฺภมานํ อธิปฺปายํ อคฺคเหตฺวาติ อตฺโถ. สุตฺตตฺถํ หิ อฺถา วทนฺโต อยถาวาทิตาย สตฺถารํ อปวทนฺโต นาม โหติ. เตนาห ‘‘มา ภควนฺตํ อพฺภาจิกฺขี’’ติ.

๒๗๒. ‘‘ตยิมํ โทสํ ปริหริตุกาเมน น สพฺพํ สุตฺตํ นีตตฺถเมว, ตสฺมา ครุกุลโต อธิปฺปาโย มคฺคิตพฺโพ’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘คมฺภีรํ หี’’ติอาทึ วตฺวา ตตฺถ อาทิโต ปฏฺาย อธิปฺปายํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยฺหี’’ติอาทิมาห. อายาจิตา ธมฺมเทสนา เอเตนาติ อายาจิตธมฺมเทสโน, ตํ อายาจิตธมฺมเทสนํ. เอวเมวาติ ครหเน นิปาโต, มุทา เอวาติ อตฺโถ. อชฺฌตฺตนฺติ โคจรชฺฌตฺเต, กมฺมฏฺานารมฺมเณติ อตฺโถ . ยสฺมา จิตฺเตกคฺคตา นาม สสนฺตติปริยาปนฺนา โหติ, ตสฺมา อตฺถวณฺณนายํ ‘‘นิยกชฺฌตฺตวเสนา’’ติ วุตฺตํ. จิตฺตํ ิตํ ภวิสฺสตีติ พหิทฺธา อวิกฺขิปฺปมานํ เอกคฺคภาเว ิตํ ภวิสฺสติ. ตโต เอว สุสณฺิตํ, สุฏฺุ สมาหิตนฺติ อตฺโถ. อุปฺปนฺนาติ อวิกฺขมฺภิตา. ปาปกาติ ลามกา. อกุสลา ธมฺมาติ กามจฺฉนฺทาทโย อโกสลฺลสมฺภูตฏฺเน อกุสลา ธมฺมา. จิตฺตํ ปริยาทาย ปวตฺติตุํ โอกาสาทาเนน กุสลจิตฺตํ เขเปตฺวา น จ สฺสนฺตีติ โยชนา. อิมินา ยถาวุตฺตสฺส สมาธานสฺส การณมาห.

จิตฺเตกคฺคตามตฺโตติ ภาวนมนุยุตฺเตน ปฏิลทฺธมตฺตํ นาติสุภาวิตํ สมาธานํ. ตํ ปน อุปริ วุจฺจมานานํ สมาธิวิเสสานํ มูลการณภาวโต ‘‘มูลสมาธี’’ติ วุตฺโต. สฺวายํ จิตฺเตกคฺคตามตฺโต ‘‘อชฺฌตฺตเมว จิตฺตํ สณฺเปมิ สนฺนิสาเทมิ เอโกทึ กโรมิ สมาทหามี’’ติอาทีสุ วิย ขณิกสมาธิ อธิปฺเปโต. ยเถว หิ อฺตฺถาปิ ‘‘อารทฺธํ โข ปน เม, ภิกฺขเว, วีริยํ อโหสิ อสลฺลีนํ…เป… สมาหิตํ จิตฺตํ เอกคฺค’’นฺติ (อ. นิ. ๘.๑๑; ปารา. ๑๑) วตฺวา ‘‘วิวิจฺเจว กาเมหี’’ติอาทิวจนโต (อ. นิ. ๘.๑๑) ปมํ วุตฺตจิตฺเตกคฺคตา ‘‘ขณิกสมาธี’’ติ วิฺายติ, เอวมิธาปีติ. โส เอว สมาธีติ มูลสมาธิมาห.

อสฺสาติ ภิกฺขุโน, อสฺส วา มูลสมาธิสฺส. ภาวนนฺติ วฑฺฒนํ. อยํ สมาธีติ จ มูลสมาธิเยว อธิปฺเปโต. เอวํ ภาวิโตติ ยถา อรณิสหิเตน อุปฺปาทิโต อคฺคิ โคมยจุณฺณาทีหิ วฑฺฒิโต โคมยคฺคิอาทิภาวํ ปตฺโตปิ อรณิสหิเตน อุปฺปาทิตมูลคฺคีตฺเวว วุจฺจติ, เอวมิธาปิ มูลสมาธิ เอว เมตฺตาทิวเสน วฑฺฒิโตติ กตฺวา วุตฺตํ.

อฺเสุปิ อารมฺมเณสุ ปถวีกสิณาทีสุ. ตตฺถ ยถา เมตฺตาภาวนาปุพฺพงฺคเมน ภาวนานเยน ปถวีกสิณาทีสุ สวิตกฺกาทิภาววเสน จตุกฺกปฺจกชฺฌานสมฺปาปนวิธินา มูลสมาธิสฺส ภาวนา วุตฺตา, เอวํ กรุณาทิภาวนาปุพฺพงฺคมํ ปถวีกสิณาทีสุปิ ภาวนาวิธึ ทสฺเสตฺวา ปจฺฉา กายานุปสฺสนาทิปุพฺพงฺคมํ ภาวนาวิธึ ทสฺเสนฺโต อาสวกฺขยาย ธมฺมํ เทเสสิ. เตน วุตฺตํ ‘‘กรุณา เม เจโตวิมุตฺตี’’ติอาทิ. ยทิ เอวํ ธมฺมานุปสฺสนาปริโยสานาย เทสนาย อรหตฺตาธิคมาย กมฺมฏฺานสฺส กถิตตฺตา ปุน ‘‘ตโต ตฺวํ, ภิกฺขุ, อิมํ สมาธึ สวิตกฺกมฺปี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๘.๖๓) กสฺมา วุตฺตนฺติ? ธมฺมานุปสฺสนาย มตฺถกปฺปตฺติทสฺสนตฺถํ. สา หิ สงฺขารุเปกฺขาภาเวน วตฺตมานา ยถาวุตฺตชฺฌานธมฺเม สมฺมสนฺตี วิเสสโต มตฺถกปฺปตฺตา นาม โหติ. ผลสมาปตฺติภูมิทสฺสนตฺถํ วุตฺตนฺติ เกจิ.

ปุน ยโต โข เตติอาทิ อรหตฺตปฺปตฺติโต อุทฺธํ ลทฺธพฺพผาสุวิหารทสฺสนํ. ตตฺถ คคฺฆสีติ คมิสฺสสิ. ตสฺมาติ ยสฺมา ‘‘สวิตกฺกมฺปี’’ติอาทิกา เทสนา เมตฺตาทีนํ อารมฺมณโต อฺสฺมึ อารมฺมเณ สมาธึ สนฺธาย วุตฺตา, น อปฺปมฺา, ตสฺมา. ‘‘ตเถวา’’ติอาทินา คนฺถนฺตเรนปิ ตเมวตฺถํ สมตฺเถติ. ตตฺถ ตเถวาติ ติกจตุกฺกชฺฌานวเสเนว. อภิธมฺเมติ จิตฺตุปฺปาทกณฺเฑ (ธ. ส. ๒๕๑ อาทโย), อปฺปมฺาวิภงฺคาทีสุ (วิภ. ๖๘๔ อาทโย) จ ตตฺถ ตตฺถ อภิธมฺมปฺปเทเสสุ.

๒๗๓. สุภปรมาทิวเสนาติ สุภ-สทฺโท ‘‘สุภนฺเตว อธิมุตฺโต โหตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๒๑๒; อ. นิ. ๘.๖๖) เอวํ วุตฺตสุภวิโมกฺขํ สนฺธาย วุตฺโต อุตฺตรปทโลเปน. ปรม-สทฺโท อุกฺกํสตฺโถ. สุโภ สุภวิโมกฺโข ปรโม อุกฺกํโส ปรมา โกฏิ เอติสฺสาติ สุภปรมา, เมตฺตาเจโตวิมุตฺติ, ตโต ปรํ ตาย สาเธตพฺพํ นตฺถีติ อตฺโถ. อสาธารณสฺส อตฺถสฺส อธิปฺเปตตฺตา วิปสฺสนาสุขาทโย อิธ อนวสรา. อิตเรตรวิสิฏฺาเปเต วิเสสา, ปเคว ปเรหิ. เตนาห ‘‘อฺมฺํ อสทิโส อานุภาววิเสโส เวทิตพฺโพ’’ติ. วิเสเสตฺวาติ อฺมฺํ วิสิฏฺํ กตฺวา.

ตสฺสตสฺส อุปนิสฺสยตฺตาติ สุภวิโมกฺขาทิกสฺส ตสฺส ตสฺส วิโมกฺขสฺส ปกตูปนิสฺสยวเสน อุปนิสฺสยปจฺจยภาวโต. อิทานิ ตมตฺถํ ปากฏตรํ กตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เมตฺตาวิหาริสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อสฺส เมตฺตาวิหาริสฺส จิตฺตํ อุปสํหรโตติ สมฺพนฺโธ. อปฺปฏิกฺกูลปริจยาติ เมตฺตาภาวนาวเสน สตฺตสฺิเต ยตฺถ กตฺถจิ อารมฺมเณ อปฺปฏิกฺกูลากาเรเนว คหณสฺส ปริจิตตฺตา. ตสฺส สงฺขารภูตมฺปิ ยํ กิฺจิ อารมฺมณํ อปฺปฏิกฺกูลากาเรเนว ปจฺจุปติฏฺติ, ปเคว สภาวโต. ‘‘อปฺปฏิกฺกูล’’นฺติ ตตฺถสฺส จิตฺตํ อภิรติวเสน นิราสงฺกํ ปวตฺตติ, ปจฺจนีกธมฺเมหิ จ สุเขน, สุฏฺุ จ วิมุจฺจติ, ยตสฺส ฌานสฺส วิโมกฺขปริยาโย วุตฺโต. เตนาห ‘‘อปฺปฏิกฺกูเลสู’’ติอาทิ. ยถาวุตฺโต จ อตฺโถ อนตฺถจรณาทิอธิปฺปาเยน สเจตเน อารมฺมเณ อาฆาตํ อุปฺปาเทนฺตสฺส ปฏิกฺกูลปริจยา อเจตเนปิ วาตาตปาทิเก อาฆาตุปฺปตฺติยา วิภาเวตพฺโพ. น ตโต ปรนฺติ ตโต สุภวิโมกฺขโต ปรํ กสฺสจิ วิโมกฺขสฺส อุปนิสฺสโย น โหตีติ อตฺโถ.

อภิหนนฺติ เอเตนาติ อภิฆาโต, ทณฺโฑ อภิฆาโต ยสฺส ตํ ทณฺฑาภิฆาตํ, ตํ อาทิ ยสฺส ตํ ทณฺฑาภิฆาตาทิ, ทณฺฑาภิฆาตาทิ รูปํ นิมิตฺตํ ยสฺส ตํ ทณฺฑาภิฆาตาทิรูปนิมิตฺตํ. กึ ปน ตนฺติ อาห ‘‘สตฺตทุกฺข’’นฺติ, ทณฺฑปฺปหาราทิชนิตํ กรชรูปเหตุกํ สตฺตานํ อุปฺปชฺชนกทุกฺขนฺติ อตฺโถ. รูเป อาทีนโว สุปริวิทิโต โหติ กรุณาวิหาริสฺส รูปนิมิตฺตตฺตา, ทุกฺขสฺส กรุณาย จ ปรทุกฺขาสหนรสตฺตาติ อธิปฺปาโย. ตตฺถ อากาเส. จิตฺตํ ปกฺขนฺทติ สพฺพโส รูปานํ อภาโว วิวรมปคโมติ.

เตน เตนาติอาทีสุ อยํ โยชนา – เตน เตน โภคสมฺปตฺติอาทินา ปาโมชฺชการเณน ปมุทิตานํ สตฺตานํ อุปฺปนฺนปาโมชฺชวิฺาณํ สมนุปสฺสนฺตสฺส โยคิโน ‘‘สาธุ วตายํ สตฺโต ปโมทตี’’ติ มุทิตาย ปวตฺติสมฺภวโต ปมุทิตวิฺาณสฺส ทสฺสเนน วิฺาณคฺคหณปริจิตํ จิตฺตํ โหตีติ.

อนุกฺกมาธิคตนฺติ อากาสกสิณวชฺเช ยตฺถ กตฺถจิ กสิเณ รูปาวจรชฺฌานาธิคมานุกฺกเมน รูปวิราคภาวนาย อธิคตํ. อากาสนิมิตฺตํ โคจโร เอตสฺสาติ อากาสนิมิตฺตโคจรํ, ตสฺมึ อากาสนิมิตฺตโคจเร ปมารุปฺปวิฺาเณ. จิตฺตํ อุปสํหรโตติ ทุติยารุปฺปาธิคมาย ภาวนาจิตฺตํ เนนฺตสฺส, ตถา ภาวยโตติ อตฺโถ. ตตฺถาติ ตสฺมึ ปมารุปฺปวิฺาเณ. จิตฺตนฺติ วิฺาณฺจายตนจิตฺตํ. ปกฺขนฺทตีติ อนุปวิสติ วิโมกฺขภาเวน อปฺเปติ.

อาโภคาภาวโตติ ‘‘สุขิตา โหนฺตู’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๒.๒๓) สุขาสีสนาทิวเสน อาภุชนาภาวโต. สตฺตานํ สุขาสีสนาทิวเสน ปวตฺตมานา เมตฺตาทิภาวนาว ปรมตฺถคฺคหณมุเขน สตฺเต อารมฺมณํ กโรติ, อุเปกฺขาภาวนา ปน ตถา อปฺปวตฺติตฺวา เกวลํ อชฺฌุเปกฺขนวเสเนว สตฺเต อารมฺมณํ กโรตีติ อาห ‘‘อุเปกฺขาวิหาริสฺส สุขทุกฺขาทิปรมตฺถคฺคาหวิมุขภาวโต อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขํ จิตฺตํ โหตี’’ติ. นนุ จ ‘‘กมฺมสฺสกา สตฺตา, เต กสฺส รุจิยา สุขิตา วา ภวิสฺสนฺตี’’ติอาทินา ปฏิกฺเขปวเสนปิ ปรมตฺถคฺคหณมุเขเนว อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหาโรปิ สตฺเต อารมฺมณํ กโรตีติ? สจฺจเมตํ, ตํ ปน ภาวนาย ปุพฺพภาเค, มตฺถกปฺปตฺติยํ ปน เกวลํ อชฺฌุเปกฺขนวเสเนว สตฺเต อารมฺมณํ กโรตีติ สวิเสสํ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเน เอว วิสเย ตสฺส ปวตฺติ. อวิชฺชมานคฺคหณทุกฺขตา จ อชฺฌุเปกฺขนวเสน อปฺปนาปฺปตฺติยา อปรามาสสตฺตคฺคหณมุทฺธภูตตาย เวทิตพฺพา. เสสํ วุตฺตนยเมว.

๒๗๔. สพฺพาเปตาติ สพฺพาปิ เอตา อปฺปมฺา. ทานาทีนนฺติ ปารมิภาวปฺปตฺตานํ ทานาทีนํ พุทฺธกรธมฺมานํ. สพฺพกลฺยาณธมฺมานนฺติ สพฺเพสํ อนวชฺชธมฺมานํ, สมตึสาย ปารมิตานํ, ตนฺนิมิตฺตานํ พุทฺธยานิยานฺจ, สพฺเพหิ วา สุนฺทรสภาวานํ. น หิ โลกิยธมฺมา พุทฺธกรธมฺเมหิ อานุภาวโต อุกฺกฏฺา นาม อตฺถิ, พุทฺธธมฺเมสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถิ. ปริปูริกาติ ปริวุทฺธิกรา. อธิฏฺานานิ วิย หิ อปฺปมฺา สพฺพาสํ ปารมิตานํ ปาริปูริกรา. ‘‘หิตชฺฌาสยตายา’’ติอาทินา เมตฺตาพฺรหฺมวิหาราทีนํ อุเปกฺขาพฺรหฺมวิหารสฺส อธิฏฺานภาวทสฺสนมุเขน จตูหิ อปฺปมฺาหิ อตฺตโน สนฺตานสฺส ปเคว อภิสงฺขตตฺตา มหาโพธิสตฺตา ทานาทิปารมิโย ปูเรตุํ สมตฺถา โหนฺติ, นาฺถาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อิมสฺส ทาตพฺพํ, อิมสฺส น ทาตพฺพนฺติ นิทสฺสนมตฺตํ ทฏฺพฺพํ, ‘‘อิทํ ทาตพฺพํ, อิทํ น ทาตพฺพนฺติ จ วิภาคํ อกตฺวา’’ติ วตฺตพฺพโต. เทยฺยปฏิคฺคาหกวิกปฺปรหิตา หิ ทานปารมิตา. ยถาห –

‘‘ยถาปิ กุมฺโภ สมฺปุณฺโณ, ยสฺส กสฺสจิ อโธกโต;

วมเตวุทกํ นิสฺเสสํ, น ตตฺถ ปริรกฺขตี’’ติ. (พุ. วํ. ๒.๑๑๘);

‘‘สพฺพสตฺตาน’’นฺติ อิทํ ‘‘สุขนิทาน’’นฺติ อิมินาปิ สมฺพนฺธิตพฺพํ, ‘‘เทนฺตี’’ติ อิมินา จ. เตน เทยฺยธมฺเมน วิย ทานธมฺเมนาปิ มหาสตฺตานํ โลกสฺส พหูปการตา วุตฺตา โหติ, ตถา ตสฺส ปริณามนโต. ตทตฺถทีปนตฺถํ หิ ‘‘วิภาคํ อกตฺวา’’ติ วตฺวาปิ ‘‘สพฺพสตฺตาน’’นฺติ วุตฺตํ. เตสนฺติ สพฺพสตฺตานํ. อุปฆาตนฺติ เอตฺถาปิ ‘‘วิภาคํ อกตฺวา’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. อยํ เหตฺถ ปทโยชนา – วิภาคํ อกตฺวา อุปฆาตํ ปริวชฺชยนฺตา สพฺพสตฺตานํ สุขนิทานํ สีลํ สมาทิยนฺตีติ. สตฺตกาลวิกปฺปรหิตา หิ สีลปารมิตา, โลกตฺถเมว จสฺส ผลํ ปริณมียติ. เนกฺขมฺมํ ภชนฺตีติ ปพฺพชฺชํ อุปคจฺฉนฺติ. ปพฺพชิตสฺส หิ สพฺพโส สีลํ ปริปูรติ, น คหฏฺสฺส. อิธาปิ ‘‘วิภาคํ อกตฺวา สพฺพสตฺตานํ สุขนิทาน’’นฺติ อิทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. น หิ โพธิสตฺตา กาลวิภาคํ กตฺวา ปพฺพชฺชํ อนุติฏฺนฺติ, สีลํ วา สมาทิยนฺติ, นิทสฺสนมตฺตฺเจตํ ฌานาทิเนกฺขมฺมภชนสฺสาปิ อิจฺฉิตพฺพตฺตา. สพฺพสตฺตานํ สุขนิทานตา เหฏฺา วุตฺตนยาว. เอส นโย เสเสสุปิ. หิตาหิเตสูติ อตฺถานตฺเถสุ. อสมฺโมหตฺถายาติ สมฺโมหวิทฺธํสนาย. ปฺํ ปริโยทเปนฺตีติ โยควิหิตํ วิชฺชาฏฺานาทึ อสฺสุตํ สุณนฺตา สุตํ โวทเปนฺตา อหํการมมํการาทึ วิธุนนฺตา าณํ วิโสเธนฺติ. ‘‘อหํ มมา’’ติ วิกปฺปรหิตา หิ ปฺาปารมิตา. หิตสุขตฺถายาติ สตฺตานํ หิตสุขาทิวุทฺธิยตฺถเมว. นิจฺจนฺติ สตตํ อวิจฺเฉเทน ปฏิปกฺเขน อโวกิณฺณํ. วีริยมารภนฺตีติ ยถา สตฺตานํ อนุปฺปนฺนํ หิตสุขํ อุปฺปชฺชติ, อุปฺปนฺนํ อภิวฑฺฒติ, เอวํ ปรกฺกมํ กโรนฺติ. สงฺโกจวิกฺเขปรหิตา หิ วีริยปารมิตา. ‘‘วีรภาวํ ปตฺตาปี’’ติ อิมินา อปรทฺธานํ นิคฺคหสมตฺถตํ ทสฺเสติ. นานปฺปการกํ อปราธํ ขมนฺตีติ มมฺมจฺเฉทนากาเรน อตฺตนิ ปวตฺติตํ นานาวิธํ อปราธํ สหนฺติ. อตฺตปรวิกปฺปวิรหิตา หิ โทสสหนา ขนฺติปารมิตา.

ปฏิฺํ น วิสํวาเทนฺตีติ อวิสํวาทนสามฺเน สพฺพสฺสปิ อนริยโวหารสฺส อกรณมาห. ปฏิฺาเต, อปฏิฺาเต จ ทิฏฺาทิเก มิจฺฉาวิกปฺปรหิตา หิ สจฺจปารมิตา. อวิจลาธิฏฺานาติ ยถาสมาทินฺเนสุ ทานาทิธมฺเมสุ นิจฺจลาธิฏฺายิโน อจลสมาทานาธิฏฺานา, สมาทินฺเนสุ จ พุทฺธกรธมฺเมสุ สมฺมเทว อวฏฺานํ อธิฏฺานปารมิตา. เตสูติ สตฺเตสุ. อวิจลายาติ ปฏิปกฺเขน อกมฺปนียาย. เอวนฺติ ยถาวุตฺเตน สตฺเตสุ หิตชฺฌาสยตาทิอากาเรน. ยถา จ พฺรหฺมวิหาราธิฏฺานา ปารมิโย, เอวํ อธิฏฺานาธิฏฺานาปิ. ตถา หิ ยถาปฏิฺํ ปรานุคฺคหาย ปารมีนํ อนุฏฺาเนน สจฺจาธิฏฺานํ, ตปฺปฏิปกฺขปริจฺจาคโต จาคาธิฏฺานํ, ปารมีหิ สจิตฺตุปสมโต อุปสมาธิฏฺานํ, ตาหิ ปรหิตูปายโกสลฺลโต ปฺาธิฏฺานํ. เอวํ ปจฺเจกมฺปิ ปารมิตาสุ ยถารหํ เนตพฺพํ. อยเมตฺถ สงฺเขโป, วิตฺถารโต ปน ปารมิตาสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรมตฺถทีปนิยํ จริยาปิฏกวณฺณนายํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ, อติวิตฺถารภเยน น วิตฺถารยิมฺห. ตถา ทสพลาณาทิเกติ. เอตาว โหนฺตีติ เอตา โหนฺติ เอวาติ โยชนา.

พฺรหฺมวิหารนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ นวมปริจฺเฉทวณฺณนา.