📜
๒๒. าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา
ปมมคฺคาณกถาวณฺณนา
๘๐๖. อิทานิ ¶ ¶ าณทสฺสนวิสุทฺธิยา นิทฺเทเส อนุปฺปตฺเต สา ยสฺส าณสฺส อนนฺตรํ อุปฺปชฺชติ, ตํ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘อิโต ปรํ โคตฺรภุาณํ โหตี’’ติ อาห. อิโต ปรนฺติ อิโต อนุโลมาณโต อุปริ. ตนฺติ โคตฺรภุาณํ. เนว ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธึ ภชติ อนิจฺจาทิวเสน สงฺขารานํ อคฺคหณโต. น าณทสฺสนวิสุทฺธึ ภชติ สติปิ นิพฺพานารมฺมณตฺเต กิเลสานํ อเขปนโต. ตโต เอเวตํ วิฺาณธาตูนํ วิสยํ อุทฺเทสนฺตํ ทสฺสนกิจฺจํ กโรนฺตํ กิริยมโนธาตุ วิย มคฺคสฺส อาวชฺชนฏฺานิยํ วุจฺจติ. อนฺตราติ ฉฏฺสตฺตมวิสุทฺธีนํ เวมชฺเฌ. อพฺโพหาริกเมว โหติ อุภยวิสุทฺธิลกฺขณตาภาวโต. ตถาปิ วุฏฺานคามินิยา ปริโยสานตาย วิปสฺสนาปกฺขิกํ. เตเนวสฺส ตํโสตปติตตา. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาโสเต…เป… สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ. เอเตนสฺส ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิภชนํ ทสฺเสติ. โสตสฺส อริยสฺสอาทิโต ปชฺชนํ โสตาปตฺติ, โส เอว มคฺโค, โสตํ วา อริยํ อาทิโต ปชฺชติ อธิคจฺฉตีติ โสตาปตฺติ, ปมโก. ตสฺส มคฺโค โสตาปตฺติมคฺโค. ปฏิสนฺธิวเสน สกิเทว อิมํ มนุสฺสโลกํ อาคจฺฉตีติ สกทาคามี, ตสฺส มคฺโค สกทาคามิมคฺโค. ปฏิสนฺธิวเสน กามภวํ น อาคจฺฉตีติ อนาคามี, ตสฺส มคฺโค อนาคามิมคฺโค. กิเลสาทีนํ หนนาทินา อรหํ, อคฺคมคฺคฏฺโ. ตสฺส ภาโว อรหตฺตํ, โส เอว มคฺโคติ อรหตฺตมคฺโค. จตูสุ มคฺเคสุ าณํ เอกชฺฌํ คเหตฺวา าณทสฺสนวิสุทฺธิ นาม.
เตหิ ตีหิปีติ เหฏฺา ติณฺณํ อนุโลมาณานํ วุตฺตตฺตา วุตฺตํ, ตีสุ วา ทฺวินฺนํ อนฺโตคธตฺตา. ตีหิปีติ วา วิกปฺปนฺตรสมฺปิณฺฑนตฺโถ ปิ-สทฺโท, เตน ตีหิปิ ทฺวีหิปีติ วุตฺตํ โหติ. อตฺตโน พลานุรูเปนาติ อตฺตโน อตฺตโน อานุภาวานุกูลํ. ปมฺหิ อนุโลมาณํ สพฺโพฬาริกํ, ทุติยํ ตโต นาติโอฬาริกํ, ตติยํ ตโต นาติโอฬาริกํ ตมํ อนฺตรธาเปติ. อถ วา พลานุรูเปนาติ เหฏฺา ¶ สงฺขารุเปกฺขาย อาหิตพลานุรูเปน ¶ . ปุพฺพาภิสงฺขารวเสน หิ อนุโลมาณสฺสาปิ มคฺคาณสฺส วิย สทฺธาวิมุตฺตทิฏฺิปฺปตฺตานํ ปวตฺติอาการสิทฺโธ อตฺเถว มุทุติกฺขตาวิเสโส. ปลิโพธโต อุปฏฺาติ ปลิโพธภาวปฏิจฺฉาทกสฺส ตมสฺส อนฺตรธาปิตตฺตา. ‘‘อาเสวนนฺเต’’ติ อิมินา ทุติยสฺส วา ตติยสฺส วา อนุโลมาณสฺส อนนฺตรํ โคตฺรภุาณุปฺปตฺติ, น ปมสฺสาติ ทสฺเสติ ตสฺส อนาเสวนตฺตา. น หิ อลทฺธาเสวนํ โคตฺรภุาณํ อุปฺปาเทตุํ สกฺโกติ. นิมิตฺตาทิวิรหโต, ตพฺพิธุรโต จ ‘‘อนิมิตฺต’’นฺติอาทินา นิพฺพานํ วิเสสิตํ. ปุถุชฺชนโคตฺตนฺติ อริเยหิ อสมฺมิสฺสํ ปุถุชฺชนสมฺํ. โคตฺตนฺติ หิ เอกวํสชานํ สมานา สมฺา, เอวํ อิธาปีติ. ปุถุชฺชนสงฺขนฺติ ตสฺเสว เววจนํ, ปุถุชฺชนภูมินฺติ ปุถุชฺชนวตฺถุํ. เอกนฺติกตาย เอกวารเมว จ อุปฺปชฺชนโต อปุนราวฏฺฏกํ.
พหิทฺธา วุฏฺานวิวฏฺฏเนติ อสงฺขตธาตุยา พหิภาวโต พหิทฺธาสฺิตา สงฺขารคตา วุฏฺานภูเต วิวฏฺฏเน นิปฺผชฺชมาเน ปฺา. อภิภุยฺยตีติ อภิภวติ. ปกฺขนฺทตีติ อนุปวิสติ. เอตฺถ จ ‘‘อุปฺปาทํ อภิภุยฺยตี’’ติอาทินา ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนํ ตทติกฺกมนมาห. ‘‘อนุปฺปาทํ ปกฺขนฺทตี’’ติอาทินา อริยโคตฺตภาวนํ ตทุภยภาวโต.
๘๐๗. เอกาวชฺชนานํ นานาวีถิตา นตฺถีติ น ตํนิเสธนาย เอกวีถิคฺคหณํ, อถ โข นานารมฺมณานมฺปิ เอกาวชฺชนานํ นานาวีถิตา นตฺถีติ ทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพํ. มหามาติกนฺติ มหนฺตํ อุทกวาหกํ. ลงฺฆิตฺวาติ อโนตรนฺโต เอว อติกฺกมิตฺวา. อุลฺลงฺฆิตฺวาติ อุปริภาเคเนว ลงฺฆิตฺวา. นินฺนโปณปพฺภารตา อุตฺตรุตฺตรวิสิฏฺา นินฺนตาว.
อฏฺหิ าเณหิ อนุกฺกเมน อาหิตวิเสสํ อนุโลมาณํ นิพฺพานารมฺมณสฺส าณสฺส ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถํ ชาตนฺติ อาห ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสนาทินา เวเคน ธาวิตฺวา’’ติ. รูปํ อเนกสนฺตติสมฺพนฺธตาย อเนกวฏฺฏรจิตา รชฺชุ วิย โหตีติ วุตฺตํ ‘‘รูปรชฺชุํ วา’’ติ. อตฺตภาวสฺส รุกฺขฏฺานิยตาย วุตฺตตฺตา ตํสมฺพนฺธทณฺฑฏฺานิยตา เวทนาทีสุ เอกสฺเสว ยุตฺตา, น เวทนาทิสมุทายสฺสาติ วุตฺตํ ‘‘เวทนาทีสุ อฺตรทณฺฑํ วา’’ติ. อนุโลมาวชฺชเนนาติ อนุโลมสฺส อาวชฺชเนน. เยน อาวชฺชเนน อนุโลมาณํ อุปฺปชฺชติ, เตน ตํ อารมฺมณํ. ‘‘ปเมน อนุโลมจิตฺเตน อุลฺลงฺฆิตฺวา’’ติ อิทํ สกฺกายตีรสฺส ตสฺส อติกฺกมนารมฺภตาย ¶ วุตฺตํ. ‘‘ทุติเยน นิพฺพานนินฺนโปณปพฺภารมานโส’’ติ อิทํ ตสฺส สพฺพสงฺขารโต สาติสยํ อลคฺคํ หุตฺวา ¶ วิสงฺขาเร อลฺลีนภาวโต วุตฺตํ. นิพฺพาเน อารมฺมณกรณวเสน ปตติ โยคาวจโร. เอการมฺมเณติ เอกวารํเยว อาลมฺพิเต อารมฺมเณ. เตนาห ‘‘อลทฺธาเสวนตายา’’ติ. เตน เอการมฺมเณ อาเสวนา อุปการวตี, น ตถา นานารมฺมเณติ ทสฺเสติ.
๘๐๘. ตตฺราติ อนุโลมโคตฺรภูนํ อิตรีตรกิจฺจากรเณ. นกฺขตฺตโยคนฺติ นกฺขตฺเตน จนฺทสฺส โยคํ, นกฺขตฺตโยควิภาวนิยํ วา กาลํ, ทิวสนฺติ อตฺโถ.
ตตฺถาติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ.
เอวํ นิพฺพตฺตาหีติ อนุโลมาณานิ วิย สงฺขาเร อนาลมฺพิตฺวา อหํ วิย นิพฺพานารมฺมเณ วตฺตาหีติ มคฺคสฺส โคตฺรภุนา ทินฺนสฺามฺุจนํ, อนุพนฺธนฺจ นิพฺพานารมฺมณกรณเมว สนฺธาย วุตฺตํ.
๘๐๙. ตตฺราติ ตสฺมึ โคตฺรภุนา ทินฺนสฺํ อมฺุจิตฺวา วิย เตน คหิตารมฺมเณเยว วตฺติตฺวา มคฺคสฺส โลภกฺขนฺธาทินิพฺพิชฺฌเน. อุสุํ อสติ ขิปฺปตีติ อิสฺสาโส, ธนุคฺคโห. สรโคจรฏฺานํ นาม อฏฺอุสภมตฺตํ. ตฺจ โข ทูเร ปาติโน มชฺฌิมปุริสสฺส วเสน จตุหตฺถาย ยฏฺิยา วีสติยฏฺิ อุสภํ, เตน อฏฺอุสภมตฺเต ปเทเส หตฺถวเสน จตฺตารีสาธิกฉสตหตฺเถ ปเทเส. ผลกสตนฺติ อสนสารมยํ ผลกสตํ. กุมฺภการจกฺกสทิเส จกฺกยนฺเต. อาวิชฺฌิตฺวาติ ภเมตฺวา. ทณฺฑกฆฏฺฏนาย อุปฺปาเทตพฺพสทฺโท ทณฺฑกสฺา. ผลกสตวินิวิชฺฌนสฺส ปจฺจยภูตา ทณฺฑกสฺา วิย โคตฺรภุาณํ โลภกฺขนฺธาทินิพฺพิชฺฌนสฺส มคฺคาณสฺส ปจฺจยภาวโต. อิสฺสาโส วิย มคฺคาณํ นิพฺพิชฺฌิตพฺพนิวิชฺฌนโต.
๘๑๐. อฏฺมภวโต ปฏฺาย นิพฺพตฺตนกํ อนมตคฺคสํสารวฏฺฏทุกฺขสมุทฺทํ โสเสติ. สทฺธาธนํ สีลธนํ หิริธนํ โอตฺตปฺปธนํ สุตธนํ จาคธนํ ปฺาธนนฺติ อิเมสํ สตฺตนฺนํ อริยธนานํ. สมฺมุขีภาวนฺติ ปจฺจกฺขสิทฺธึ. ปาณาติปาตาทิปฺจเวรานิ ¶ เจว ปฺจวีสติมหาภยานิ จาติ สพฺพเวรภยานิ. อฺเสฺจ รตนตฺตเย นิวิฏฺสทฺธาทีนํ. สมุทาเย ปวตฺโต โสตาปตฺติมคฺคสทฺโท ตเทกเทเสปิ ปวตฺตตีติ อาห ‘‘โสตาปตฺติมคฺเคน สมฺปยุตฺตํ าณ’’นฺติ.
ปมมคฺคาณํ นิฏฺิตํ.
โสตาปนฺนปุคฺคลกถาวณฺณนา
๘๑๑. ตสฺเสว ¶ โสตาปตฺติมคฺคจิตฺตสฺส. กามฺเจตฺถ นาติติกฺขปฺสฺส ทฺเว, ติกฺขปฺสฺส ตีณิ ผลจิตฺตานิ โหนฺติ, อวิเสสโต ปน คหิตสฺส มคฺคสฺส วเสน ‘‘ทฺเว, ตีณิ วา’’ติ วุตฺตํ. สมาธิมานนฺตริกฺมาหูติ ยํ อตฺตโน ปวตฺติสมนนฺตรํ นิยเมเนว ผลปฺปทานโต อานนฺตริกสมาธีติ อาหูติ อตฺโถ. อนนฺตรเมว ปวตฺตนกํ ผลํ อนนฺตรํ, ตตฺถ นิยุตฺโต, ตํ วา ปโยชนํ เอตสฺสาติ อานนฺตริโก, มคฺโค.
อาเสวนนฺเตติ อาเสวนโต อนฺเต, อาเสวนลาภิโน อนุโลมาณสฺส อนนฺตรนฺติ อตฺโถ. ลทฺธาเสวนเมว อนุโลมํ โคตฺรภุํ อุปฺปาเทติ. อุปริ ปน ฉ, สตฺต วา ชวนานิ ปวตฺตนฺติ, ตสฺมา จตฺตาริ ผลจิตฺตานิ โหนฺตีติ วเทยฺยาติ อาห ‘‘สตฺตจิตฺตปรมา จ เอกาวชฺชนวีถี’’ติ.
ตํ ปน น สารโต ปจฺเจตพฺพนฺติ โยชนา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว.
๘๑๒. เอตฺตาวตาติ ปมมคฺคานนฺตรํ ผลสฺส อุปฺปตฺติมกฺเกน. ภุสํ ปมตฺโตปีติ เทวรชฺชจกฺกวตฺติรชฺชาทิปมาทฏฺานํ อาคมฺม ภุสํ ปมตฺโตปิ. เยสํ ยถาวุตฺตอาวชฺชนชวนจิตฺตานํ อุปฺปตฺติยา เอส โสตาปนฺโน ปจฺจเวกฺขติ นามาติ อธิปฺปาโย.
เอเตเนว ปสงฺเคน เสสานํ อริยานํ ปจฺจเวกฺขณานิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ.
อุกฺกฏฺปริจฺเฉโทเยว ¶ เจโส, ยทิทํ ปฺจนฺนํ, จตุนฺนฺจ ปจฺจเวกฺขณานํ ทสฺสนนฺติ อตฺโถ. ‘‘อภาเวเนวา’’ติ เอเตน ปหีนาวสิฏฺกิเลสปจฺจเวกฺขณสมตฺถตา กสฺสจิ โหติ, กสฺสจิ น โหตีติ ทสฺเสติ. โลโภ เอว โลภธมฺโม.
ทุติยมคฺคาณกถาวณฺณนา
๘๑๓. กามราคพฺยาปาทานํ ตนุภาวายาติ เอเตสํ กิเลสานํ ตนุภาวตฺถํ. ตตฺถ ทฺวีหิ การเณหิ ตนุภาโว อธิจฺจุปฺปตฺติยา, ปริยุฏฺานมนฺทตาย จ. สกทาคามิสฺส หิ วฏฺฏานุสาริมหาชนสฺส ¶ วิย กิเลสา อภิณฺหํ น อุปฺปชฺชนฺติ, กทาจิ กทาจิ วิรฬาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ. ตถา อุปฺปชฺชนฺตาปิ มทฺทนฺตา ฉาเทนฺตา อนฺธการํ กโรนฺตา น อุปฺปชฺชนฺติ, ทฺวีหิ ปน มคฺเคหิ ปหีนตฺตา มนฺทมนฺทา ตนุกาการา หุตฺวา อุปฺปชฺชนฺติ. เกจิ ปน ‘‘สกทาคามิสฺสาปิ กิเลสา จิเรน อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปชฺชนฺตาปิ พหลาว อุปฺปชฺชนฺติ. ตถา หิสฺส ปุตฺตธีตโร ทิสฺสนฺตี’’ติ, ตํ อการณํ วตฺถุปฏิเสวเนน วินาปิ คพฺภคฺคหณสพฺภาวโต. ตสฺมา วุตฺตนเยเนว ทฺวีหิ การเณหิ เตสํ ตนุภาโว เวทิตพฺโพ. ทุติยายาติ คณนวเสนปิ ทุติยาย, อุปฺปตฺติวเสนปิ ทุติยาย ภูมิยา. ปตฺติยาติ สามฺผลสฺส ปฏิลาภาย. ตฺหิ สมฺปยุตฺตานํ นิสฺสยภาวโต เต ธมฺมา ภวนฺติ เอตฺถาติ ภูมิ. ยสฺมา วา สมาเนปิ โลกุตฺตรภาเว สยมฺปิ ภวติ อุปฺปชฺชติ, น นิพฺพานํ วิย อปาตุภูตํ, ตสฺมาปิ ‘‘ภูมี’’ติ วุจฺจติ. โยคํ กโรตีติ วิปสฺสนาภิโยคํ กโรติ. ‘‘นวหากาเรหิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ ภวนฺตี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๒.๖๙๙) วุตฺตนเยเนว ยทคฺเคน อินฺทฺริยานํ ติกฺขตํ สมฺปาเทติ, ตทคฺเคน พลานิ, โพชฺฌงฺคานิ จ ปฏุตรภาวํ อาปาเทนฺโต อินฺทฺริยพลโพชฺฌงฺคานิ สโมธาเนตฺวา ลกฺขณตฺตยตีรณวเสน าเณน ปริมทฺทติ. ตตฺถ อปราปรํ าณํ จาเรนฺโต ปริวตฺเตติ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาวีถึ โอคาหตี’’ติ. วุตฺตนเยเนวาติ อุทยพฺพยาณาทีนํ อุปฺปาทเน วุตฺตนเยน. โคตฺรภุอนนฺตรนฺติ เอตฺถ โคตฺรภุ วิย โคตฺรภุ. ปมมคฺคปุเรจาริกาณฺหิ ปุถุชฺชนโคตฺตาภิภวนโต, อริยโคตฺตภวนโต จ นิปฺปริยายโต โคตฺรภูติ วุจฺจติ, อิทํ ปน ตํสทิสตาย ปริยายโต โคตฺรภุ. เอกจฺจสํกิเลสวิสุทฺธิยา ¶ , ปน อจฺจนฺตวิสุทฺธิยา อารมฺมณกรณโต จ โวทานนฺติ วุจฺจติ. เตนาห ปฏฺาเน ‘‘อนุโลมํ โวทานสฺส อนนฺตรปจฺจเยน ปจฺจโย’’ติ (ปฏฺา ๑.๑.๔๑๗). ยสฺมา ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค อุปฺปาทาทิอภิภวนตฺถํ อุปาทาย ‘‘อฏฺ โคตฺรภุธมฺมา สมาธิวเสน อุปฺปชฺชนฺติ, ทส โคตฺรภุธมฺมา วิปสฺสนาวเสน อุปฺปชฺชนฺตี’’ติอาทีสุ (ปฏิ. ม. ๑.๖๐) โคตฺรภุนาเมเนเวตํ อาคตํ, ตสฺมา อิธาปิ ‘‘โคตฺรภุอนนฺตร’’นฺติ วุตฺตนฺติ ทฏฺพฺพํ.
ทุติยาณํ นิฏฺิตํ.
ตติยมคฺคาณกถาวณฺณนา
๘๑๔. สกิเทวาติ ¶ เอกวารํเยว. ‘‘อิมํ โลกํ อาคนฺตฺวา’’ติ อิมินา ปฺจสุ สกทาคามีสุ จตฺตาโร วชฺเชตฺวา เอโกว คหิโต. เอกจฺโจ อิธ สกทาคามิผลํ ปตฺวา อิเธว โลเก ปรินิพฺพาติ, เอกจฺโจ อิธ ปตฺวา เทวโลเก ปรินิพฺพาติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา ตตฺเถว ปรินิพฺพาติ, เอกจฺโจ เทวโลเก ปตฺวา อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพาติ. อิเม จตฺตาโรปิ อิธ น คหิตา. โย ปน อิธ ปตฺวา เทวโลเก ยาวตายุกํ วสิตฺวา ปุน อิธูปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพาติ, อยํ เอโกว อิธ คหิโตติ เวทิตพฺโพ.
กามราคพฺยาปาทานํ อนวเสสปฺปหานายาติ เตสํเยว สกทาคามิมคฺเคน ตนุกตานํ สํโยชนานํ นิรวเสสปฺปหานาย. ปฏิสนฺธิวเสน กามภวสฺส อนาคมนโต อนาคามี.
ตติยาณํ นิฏฺิตํ.
จตุตฺถมคฺคาณกถาวณฺณนา
๘๑๕. โอปปาติโกติ อุปปาตโยนิโก. อิมินาสฺส คพฺภเสยฺยา ปฏิกฺขิตฺตา. ตตฺถ ปรินิพฺพายีติ ตตฺถ สุทฺธาวาเส ปรินิพฺพายิตา. อนาวตฺติธมฺโม ตสฺมา โลกาติ ปฏิสนฺธิคฺคหณวเสน ตสฺมา โลกา อิธ ¶ อนาวตฺตนสภาโว, พุทฺธทสฺสนธมฺมสฺสวนานํ ปนตฺถาย อาคมนํ โหติเยว.
รูปราคอรูปราคมานอุทฺธจฺจอวิชฺชานํ อนวเสสปฺปหานายาติ เอเตสํ ปฺจนฺนํ อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานํ นิสฺเสสปฺปชหนตฺถาย. ตตฺถ รูปภเว ฉนฺทราโค รูปราโค. อรูปภเว ฉนฺทราโค อรูปราโค. มาโน อรหตฺตมคฺควชฺฌมาโน. ตถา อุทฺธจฺจาวิชฺชา.
จตุตฺถาณํ นิฏฺิตํ.
อรหนฺตปุคฺคลกถาวณฺณนา
๘๑๖. มหาขีณาสโวติ ¶ มหานุภาวตานิพนฺธนํ ปูชาวจนเมตํ, น อุปาทายวจนํ ยถา ‘‘มหาโมคฺคลฺลาโน’’ติ. น หิ จูฬขีณาสโว นาม อตฺถิ. อนฺติมเทหํ ธาเรตีติ อนฺติมเทหธารี. ขนฺธกิเลสาภิสงฺขารภารานํ โอหิตตฺตา โอโรปิตตฺตา โอหิตภาโร. อนุปฺปตฺโต สทตฺถํ สกตฺถนฺติ อนุปฺปตฺตสทตฺโถ. สทตฺโถติ จ อรหตฺตํ เวทิตพฺพํ. ตฺหิ อตฺตุปนิพนฺธนฏฺเน, อตฺตานํ อวิชหนฏฺเน, อตฺตโน ปรมตฺถฏฺเน จ อตฺตโน อตฺถตฺตา สกตฺโถติ วุจฺจติ. ปริกฺขีณานิ ทสปิ ภวสํโยชนานิ เอตสฺสาติ ปริกฺขีณภวสํโยชโน. ขนฺธาทิอตฺถํ สมฺมา อฺาย วิมุตฺโตติ สมฺมทฺาวิมุตฺโต. อคฺโค จ โส ทกฺขิเณยฺโย จ, อคฺคทกฺขิณํ วา อรหตีติ อคฺคทกฺขิเณยฺโย.
โพธิปกฺขิยกถาวณฺณนา
๘๑๗. จตุนฺนํ มคฺคาณานํ วเสน จตุาณาย. อานุภาววิชานนตฺถนฺติ สติปฏฺานปาริปูริอาทิกสฺส อานุภาวสฺส โพธนตฺถํ.
ปริปุณฺณา โพธิปกฺขิยา เอตสฺสาติ ปริปุณฺณโพธิปกฺขิโย, มคฺโค. ตสฺส ภาโว ปริปุณฺณโพธิปกฺขิยภาโว. วุฏฺานพเลหิ สมฺปยุตฺตตาว วุฏฺานพลสมาโยโค, เย สํโยชนาทโย เยน ปมมคฺคาทินา ปหาตพฺพา.
๘๑๘. พุชฺฌนฏฺเน ¶ วา โพโธ, มคฺคจิตฺตุปฺปาโท. ตสฺส พุชฺฌนกิริยาย อนุคุณภาวโต ปกฺเข ภวาติ โพธิปกฺขิยา.
๘๑๙. เตสุ โพธิปกฺขิเยสุ. อารมฺมเณสูติ กายาทิอารมฺมเณสุ. โอกฺขนฺทิตฺวาติ อนุปวิสิตฺวา. ปกฺขนฺทิตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ. อุปฏฺานโตติ อสุภาการาทิคฺคหณวเสน อุปคนฺตฺวา อวฏฺานโต. กายาทีสุ อสุภาการาทิคฺคหณํ ปุพฺพภาคสติปฏฺานวเสน สุภสฺาทิปหานกิจฺจสาธนํ มคฺคสติปฏฺานวเสน เวทิตพฺพํ. ตตฺถ หิ เอกาว สติ จตุกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตติ.
๘๒๐. ปทหนฺตีติ ¶ วายมนฺติ, กายจิตฺตานิ ปคฺคณฺหนฺติ วา. อโสภาเหตูนํ สํกิเลสธมฺมานํ ปชหเนน, โสภาเหตูนฺจ โวทานธมฺมานํ ภาวเนน โสภนํ, สุนฺทรนฺติ อตฺโถ. เสฏฺภาวาวหนโตติ ปาสํสตมภาวสาธนโต. ปธานภาวการณโตติ อุตฺตมภาวเหตุโต.
๘๒๑. ปุพฺเพ วุตฺเตนาติ อิทฺธิวิธาณนิทฺเทเส (วิสุทฺธิ. ๒.๓๖๙) วุตฺเตน. อิชฺฌนฏฺโ นิปฺผชฺชนฏฺโ, ปฏิลาภสมฺปทา วา, เยน วา อิชฺฌนฺติ อิทฺธา วุทฺธา อุกฺกํสคตา โหนฺติ, ตํ อิชฺฌนํ. สมาธิปธานสงฺขารปมุขา มคฺคธมฺมา อิธ ‘‘อิทฺธี’’ติ อธิปฺเปตา. ปุพฺพงฺคมฏฺโ อธิปติปจฺจยภาโว. ตสฺมา โสตาปตฺติมคฺโค อิชฺฌตีติ อิทฺธิ, ตสฺมา สมฺปยุตฺตา ฉนฺทาทโย ปุพฺพงฺคมฏฺเน ปาโท. ตสฺสา เอว ผลภูตาย วุฏฺานคามินิยา ฉนฺทาทโย ปุพฺพภาคการณฏฺเน ปาโท. โสติ อิทฺธิปาโท. อิเม โลกุตฺตราวาติ อิเม ยถาวุตฺตา ฉนฺทาทโย อุตฺตรจูฬภาชนีเย อาคตนเยน โลกุตฺตรา เวทิตพฺพา. ฉนฺทาทิอธิปติวเสน ปฏิลทฺธธมฺมาปิ ผสฺสาทโย อิทฺธิปาทา โหนฺตีติ อตฺโถ. กามฺเจตฺถ อิทฺธิปาโท โน อธิปติ, อธิปติ วา โน อิทฺธิปาโท นาม นตฺถิ, ยถา ปน เอกสฺมึ รชฺเช รชฺชารเหสุ จตูสุ ราชกุมาเรสุ เอกสฺมึ กาเล เอโกว รชฺชมนุสาสติ, น สพฺเพ, เอวํ เอกเมกสฺมึ จิตฺตุปฺปาเท เอโกว อธิปติ, อิทฺธิปาโท จ โหตีติ เวทิตพฺโพ.
๘๒๒. อสฺสทฺธิยํ ¶ สทฺธาปฏิปกฺขา อกุสลา ธมฺมา, อวตฺถุคโต ปสาทปติรูปโก มิจฺฉาธิโมกฺโข วา. โกสชฺชํ ถินมิทฺธปธาโน อกุสลจิตฺตุปฺปาโท. ปมาโท สติสมฺโมโส ตถาปวตฺตา อกุสลา ขนฺธา. อภิภวนสงฺขาเตน อธิปติยฏฺเนาติ อสฺสทฺธิยาทีนํ อภิภวนโต อภิภวนนฺติ วตฺตพฺเพน อธิโมกฺขปคฺคหอุปฏฺานอวิกฺเขปปชานนสฺส เอกลกฺขเณน สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ อธิปติยฏฺเน. อสฺสทฺธิยาทีหิ จาติ จ-สทฺโท สมุจฺจยตฺโถ อฏฺานปฺปยุตฺโต, ตสฺมา อกมฺปิยฏฺเน จ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ ถิรภาเวน จ พลนฺติ เอวเมตฺถ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ.
๘๒๓. พุชฺฌนกสตฺตสฺสาติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปฏิวิชฺฌนกสตฺตสฺส. โย เหโส โลกุตฺตรมคฺคกฺขเณ อุปฺปชฺชมานาย สติอาทิธมฺมสามคฺคิยา กรณภูตาย พุชฺฌติ กิเลสสนฺตานนิทฺทาย อุฏฺหติ, จตฺตาริ วา อริยสจฺจานิ ปฏิวิชฺฌติ, นิพฺพานเมว วา สจฺฉิกโรตีติ ¶ โพธีติ วุจฺจติ อริยสาวโก, ตสฺส โพธิสฺส พุชฺฌนกสตฺตสฺส องฺคาติ โพชฺฌงฺคา. นิยฺยานิกฏฺเนาติ วฏฺฏโต นิสฺสรณฏฺเน.
๘๒๔. ปุพฺพภาเค นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺตีติ สมฺพนฺโธ. จุทฺทสวิเธนาติ อานาปานอิริยาปถจตุสมฺปชฺปฏิกฺกูลมนสิการธาตุมนสิการปพฺพานิ, นว สิวถิกปพฺพานิ จาติ เอวํ จุทฺทสวิเธน. กายํ ปริคฺคณฺหโต จ กายานุปสฺสนาสติปฏฺานํ ลพฺภติ, น เวทนาทโย ปริคฺคณฺหโต. เอส นโย เสเสสุปิ. ‘‘สุขํ เวทน’’นฺติอาทินาติ วา ‘‘สามิส’’นฺติอาทินาติ วา ‘‘นิรามิส’’นฺติอาทินาติ วา เอวํ นววิเธน. สราคโทสโมหสํขิตฺตมหคฺคตสมาหิตสอุตฺตรวิมุตฺตปทานํ สปฏิปกฺขานํ วเสน โสฬสวิเธน. นีวรณุปาทานกฺขนฺธายตนโพชฺฌงฺคสจฺจปพฺพานํ วเสน ปฺจวิเธน. อิมสฺมึ อตฺตภาเวติ ปจฺจุปฺปนฺเน อตฺตภาเว. อนุปฺปนฺนปุพฺพนฺติ อตฺตโน อภูตปุพฺพํ. ปรสฺส อุปฺปนฺนํ อกุสลํ ทิสฺวา ตนฺนิมิตฺตฺจ วธพนฺธารหาทีนีติ อธิปฺปาโย. ตสฺสาติ ตาทิสสฺส. ภวติ หิ ตํสทิเสปิ ตพฺโพหาโร ยถา ‘‘ตานิเยว โอสธานี’’ติ. ตสฺส ปหานายาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ฌานวิปสฺสนา อิโต อฺสฺมึ อตฺตภาเว อุปฺปนฺนปุพฺพาปิ สิยุนฺติ วุตฺตํ ‘‘อิมสฺมึ อตฺตภาเว อนุปฺปนฺนปุพฺพ’’นฺติ, ฉนฺทิทฺธิปาทสมฺมาวาจานํเยว คหณํ. เตสุ วุตฺเตสุ เสสิทฺธิปาทเสสวิรติโย อตฺถโต ¶ วุตฺตาว โหนฺตีติ ลกฺขณหารวเสน อยมตฺโถ เวทิตพฺโพ. เอวํ นานาจิตฺเตสุ ลพฺภนฺติ ปุพฺพภาเค เอเต สติปฏฺานสมฺมปฺปธานอิทฺธิปาทา. จตุนฺนํ าณานนฺติ จตุนฺนํ อริยมคฺคาณานํ. กามํ สพฺเพปิ โพธิปกฺขิยธมฺมา มคฺคจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนาว, ตถาปิ สาติสโย สมฺมปฺปธานพฺยาปาโร มคฺคกฺขเณติ วุตฺตํ ‘‘ผลกฺขเณ เปตฺวา จตฺตาโร สมฺมปฺปธาเน’’ติ. อวเสสา เตตฺตึส ลพฺภนฺติ, เต จ โข ปริยายโต, น นิปฺปริยายโตติ อธิปฺปาโย.
๘๒๕. เสเสสุ ปนาติ อิทฺธิปาทาทีสุ ปฺจสุ โกฏฺาเสสุ. ยถา สติวีริเยสุ ‘‘สติปฏฺานํ สมฺมปฺปธาน’’นฺติ สงฺขิปนวเสน หาปนํ, ‘‘กายานุปสฺสนา’’ติอาทิวิภาคทสฺสนวเสน วฑฺฒนํ อตฺถิ, อีทิสํ หาปนวฑฺฒนํ นตฺถีติ อตฺโถ.
๘๒๖. อิทานิ สพฺเพสุ เอว ยถารหํ ลพฺภมานวิภาคทสฺสนตฺถํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ เตสูติ สตฺตตึสาย โพธิปกฺขิยธมฺเมสุ. ฉทฺธาติ เอกธา ทฺเวธา จตุธา ปฺจธา อฏฺธา นวธาติ เอวํ ฉปฺปกาเรน เต ภวนฺติ.
ฉนฺทิทฺธิปาทาทิวเสนาติ ¶ ฉนฺโท ฉนฺทิทฺธิปาทวเสเนว, จิตฺตํ จิตฺติทฺธิปาทวเสเนว, ปีติปสฺสทฺธิอุเปกฺขา โพชฺฌงฺควเสเนว, สงฺกปฺปาทโย มคฺควเสเนวาติ เอวํ นว เอกวิธาว โหนฺติ.
จุทฺทเสว อสมฺภินฺนาติ สติ วีริยํ ฉนฺโท จิตฺตํ ปฺา สทฺธา สมาธิ ปีติ ปสฺสทฺธิ อุเปกฺขา สมฺมาสงฺกปฺโป สมฺมาวาจา สมฺมากมฺมนฺโต สมฺมาอาชีโวติ อิเม อสมฺภินฺนา ปทนฺตรสมฺเภเทน วินา อคฺคหิตคฺคหเณน คยฺหมานา จุทฺทเสว จ สภาวธมฺมา. จุทฺทสาติ จ อุกฺกํสปริจฺเฉเทน วุตฺตํ. ตฺจ โข ปมชฺฌานิกมคฺคจิตฺตุปฺปาทวเสน, ทุติยชฺฌานิเก ปน สมฺมาสงฺกปฺปาภาวโต เตรส, ตติยจตุตฺถปฺจมชฺฌานิเกสุ ปีติสมฺโพชฺฌงฺคาภาวโต ทฺวาทส โหนฺติ. ‘‘สตฺตตึสปฺปเภทโต’’ติ อิทมฺปิ อุกฺกํสวเสเนว วุตฺตํ, อวกํสโต ปน วุตฺตนเยน เอกสฺมึ ขเณ ฉตฺตึส, ปฺจตึส โหนฺติ, จตุนฺนํ อธิปตีนํ เอกชฺฌํ อนุปฺปชฺชนโต เอกสฺมึ ขเณ เอกสฺเสว อิทฺธิปาทสฺส สมฺภโวติ ทฺวตฺตึส จ โหนฺตีติ เวทิตพฺพํ.
สตฺตตึสปเภทโต ¶ กถนฺติ อาห ‘‘สกิจฺจนิปฺผาทนโต’’ติอาทิ, เอกจฺจสฺส สภาวโต เอกสฺสาปิ อตฺตโน อานุภาวานุรูปกายานุปสฺสนาทิตํตํกิจฺจสาธนโตติ อตฺโถ. สรูเปน จ วุตฺติโตติ อเภทสฺส จิตฺติทฺธิปาทาทิกสฺส สรูเปเนว ปวตฺตนโต จ.
เอตฺถาติ าณทสฺสนวิสุทฺธิยํ. กสฺมา ปน โพธิปกฺขิเยสุ ฌานโกฏฺาโส น คหิโต, นนุ ฌานรหิโต อริยมคฺโค นตฺถีติ? สจฺจํ นตฺถิ, ตโต เอว น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘โพธิปกฺขิเยสุ ฌานํ น คหิต’’นฺติ ลกฺขณูปนิชฺฌานลกฺขณสฺส ฌานสฺส มคฺคคฺคหเณเนว คหิตตฺตา. ตฺหิ สนฺธาย ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวตี’’ติอาทิ (ธ. ส. ๒๗๗, ๓๔๓ อาทโย) วุตฺตํ. อารมฺมณูปนิชฺฌานลกฺขณสฺส ปเนตฺถ สมฺภโว เอว นตฺถิ. อปโร นโย – กสฺมา ปน โพธิปกฺขิเยสุ ฌานโกฏฺาโส น คหิโต, นนุ ฌานรหิโต อริยมคฺโค นตฺถิ, น จ ตํ ปฏิปทา วิย เอกนฺตปุพฺพภาคิยํ, นาปิ เอกจฺจปฏิสมฺภิทา วิย มคฺคนิสฺสนฺโท, อถ โข มคฺคจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺโน, ยโต ‘‘โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวตี’’ติ (ธ. ส. ๒๗๗, ๓๔๓ อาทโย) วุตฺตํ, มคฺคมคฺคปริวารธมฺมา จ โพธิปกฺขิยธมฺมาติ? วุจฺจเต – ยํ ตาว วุตฺตํ ฌานรหิโต อริยมคฺโค นตฺถี’’ติ, ตตฺถ น อริยมคฺคสมฺปโยคมตฺเตน ฌานสฺส โพธิปกฺขิยตา ¶ ลพฺภติ อติปฺปสงฺคโต. อาหาราทีนมฺปิ หิ โพธิปกฺขิยตา อาปชฺเชยฺยาติ. เอเตน มคฺคจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนตา โพธิปกฺขิยภาวสฺส อการณนฺติ ทสฺสิตํ โหติ.
ยํ ปน วุตฺตํ ‘‘มคฺคมคฺคปริวารธมฺมา จ โพธิปกฺขิยา’’ติ, ตตฺถ ปริวารฏฺโ กึ สหปวตฺติอตฺโถ, อุทาหุ ปริกฺขารฏฺโติ? ยทิ ปุริโม ปกฺโข, โส ปเคว นิลฺโลจิโต. อถ ทุติโย, อิทํ วิจาเรตพฺพํ. กถํ ปวตฺตมานํ ฌานํ มคฺคสฺส ปริกฺขาโร? ยทิ สหชาตาทิปจฺจยภาเวน, เอวํ สติ ผสฺสาทีนมฺปิ มคฺคปริกฺขารตา อาปชฺชติ. อถ ปฏิปกฺขวิธํสเนน, น สพฺเพ ฌานธมฺมา ปฏิปกฺขวิธํสนสมตฺถา. น หิ วิจาโร, เวทนา จ กสฺสจิ สํกิเลสธมฺมสฺส อุชุปฏิปกฺขภาเวน ปวตฺตนฺติ. ยํ ปน เปฏเก ‘‘สุขํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส, วิจาโร วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโข’’ติ วุตฺตํ, ตํ ปริยาเยน วุตฺตํ. น หิ สุขํ สยํ อุทฺธจฺจกุกฺกุจฺจสฺส ปฏิปกฺโข, ปฏิปกฺขสฺส ปน สมาธิสฺส ปจฺจยตาย ปฏิปกฺโข. น จ วิจาโร ปฺา วิย, อธิโมกฺโข วิย วา วิจิกิจฺฉาย ปฏิปกฺโข, ปฏิปกฺขสฺส ปฏิรูปตาย ปน ปฏิปกฺโข ¶ วุตฺโต. ตถา ปีติปิ น พฺยาปาทสฺส อโทโส วิย อุชุปฏิปกฺโข, อโทสสมฺปโยคโต ปน ปฏิปกฺโข วุตฺโต. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ ปริยาเยน วุตฺต’’นฺติ. วิตกฺกสมาธโย เอว ปน ฌานธมฺเมสุ อุชุกํ ปฏิปกฺขวิธํสนสมตฺถาติ ปฏิปกฺขวิทฺธํสนสมตฺถสฺส ปริปุณฺณสฺส ฌานโกฏฺาสสฺส อภาวโต น จสฺส โพธิปกฺขิเยสุ สงฺคโห กโต. ยสฺมา ปน สมฺมาสงฺกปฺโป, สมฺมาสมาธิ จ มคฺคปริยาปนฺนา ฌานธมฺมา, ตสฺมา เต สนฺธาย ตํสมฺปยุตฺตตาย วา อิตเรปิ คเหตฺวา ปริยาเยน วุตฺตํ ปาฬิยํ ‘‘ยสฺมึ สมเย โลกุตฺตรํ ฌานํ ภาเวติ นิยฺยานิก’’นฺติอาทิ (ธ. ส. ๒๗๗).
วุฏฺานพลสมาโยคกถาวณฺณนา
๘๒๗. วุฏฺานํ นิมิตฺตโต, ปวตฺตโต จ วุฏฺานํ. พลสมาโยโค สมถวิปสฺสนาพเลหิ สมฺปยุตฺตตา. ปริฺาภิสมยาทิวเสน ทุกฺขาทีสุ วิเสสทสฺสนฏฺเน มคฺคปฺาปิ วิปสฺสนาติ วุจฺจตีติ ‘‘โลกิยวิปสฺสนา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. เตเนวาห ‘‘วุฏฺานฏฺเน สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๒.๕). นิมิตฺตารมฺมณตฺตา เนวนิมิตฺตา วุฏฺาติ, ปวตฺติ…เป… ฉินฺทนโต น ปวตฺตา วุฏฺาตีติ โยชนา. ตตฺถ นิมิตฺตโต วุฏฺานํ สงฺขารนิมิตฺตํ นิสฺสชฺชิตฺวา นิพฺพานารมฺมณกรณํ. ปวตฺตโต วุฏฺานํ เหตุนิโรเธน อายตึ วิปากปฺปวตฺตสฺส ¶ อนุปฺปวตฺติธมฺมตาปาทนํ. เตนาห ‘‘สมุทยสฺส อสมุจฺฉินฺทนโต ปวตฺตา น วุฏฺาตี’’ติ.
ทุภโตติ อุภโต, ท-การาคมํ กตฺวา เอวํ วุตฺตํ. ทุภาติ วา ปทนฺตรเมเวตํ อุภยสทฺเทน สมานตฺถํ. ทสฺสนฏฺเนาติ ปริฺาภิสมยาทิลกฺขเณน จตุสจฺจทสฺสนฏฺเน. มิจฺฉาทิฏฺิยาติ ทฺวาสฏฺิปฺปเภทายปิ มิจฺฉาทิฏฺิยา. ตทนุวตฺตกกิเลเสหีติ อปายคมนียตาย ตสฺสา มิจฺฉาทิฏฺิยา อนุวตฺตเกหิ วิจิกิจฺฉาทิกิเลเสหิ. ขนฺเธหีติ เอตฺถาปิ ตทนุวตฺตกสทฺโท อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺโพ. เต จ มิจฺฉาทิฏฺิอาทิปจฺจยา อุปฺปชฺชนารหา เวทิตพฺพา. มิจฺฉาสงฺกปฺปาติอาทีสุปิ ตทนุวตฺตกกิเลเสหิ จ ขนฺเธหิ จ วุฏฺาติ. พหิทฺธา จ สพฺพนิมิตฺเตหิ วุฏฺาตีติ ปาฬิ สํขิตฺตา. ยถา มิจฺฉาทิฏฺิมิจฺฉาสงฺกปฺปา, เอวํ มิจฺฉาวาจาทโยปิ อปายคมนียา เอว เวทิตพฺพา. มิจฺฉาวาจากมฺมนฺตาชีวา เจตนาสภาวา. มิจฺฉาสติ ตถาปวตฺตา จตฺตาโร ขนฺธา. อุปริมคฺคตฺตเย สมฺมาทิฏฺิ ตํตํมคฺควชฺฌา ¶ มานโต วุฏฺาติ. โส หิ ‘‘อหมสฺมี’’ติ ปวตฺติยา ทิฏฺิฏฺานิโย, มิจฺฉามคฺคโต ปเนตฺถ วุฏฺานํ อนุทฺธริตฺวา ตํตํมคฺควชฺฌสํโยชนานุสเยเหว วุฏฺานํ อุทฺธฏํ.
อณุสหคตาติ อณุภาวํ คตา ปตฺตา, ตนุภูตาติ อตฺโถ.
๘๒๘. เอวํ วุฏฺานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ พลสมาโยคํ ทสฺเสตุํ ‘‘โลกิยานฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. สมถพลํ อธิกํ โหติ สมาธิภาวนาภาวโต. วิปสฺสนาพลํ อธิกํ โหติ าณุตฺตรตฺตา วิปสฺสนาภาวนาย. สมานภาเวน ยุเค นทฺธา พทฺธา วิย โหนฺตีติ ยุคนทฺธา. เตนาห ‘‘อฺมฺํ อนติวตฺตนฏฺเนา’’ติ, กิจฺจโต อนูนาธิกภาเวนาติ อตฺโถ. ตโต เอว สมาโยโคติ สมปริจฺเฉทโยโคติ อตฺโถ.
สมาธิปฏิปกฺขทสฺสนตฺถํ ‘‘อุทฺธจฺจสหคตกิเลเสหี’’ติ วุตฺตํ, อุทฺธจฺจปธาเนหิ กิเลเสหีติ อธิปฺปาโย. อวิกฺเขโป สมาธีติ สมุจฺฉินฺทเนน วิกฺเขปสฺส อุชุปฏิปกฺขภูโต สมาธิ. นิโรธโคจโรติ นิพฺพานารมฺมโณ. วุฏฺานฏฺเนาติ วุฏฺานกภาเวน นิมิตฺตโต, ปวตฺตโต จ วุฏฺหมานวเสน. เอกรสาติ สมานกิจฺจา.
ปหาตพฺพธมฺมปหานกถาวณฺณนา
๘๒๙. เย ¶ ธมฺมาติ เย สํกิเลสธมฺมา. สํโยชนาทีสุ สํโยชนฏฺเน พนฺธนฏฺเน สํโยชนานิ, วิพาธนฏฺเน, อุปตาปนฏฺเน วา กิเลสา, มิจฺฉาสภาวาติ มิจฺฉตฺตา, โลเก ธมฺมา โลกปริยาปนฺนา ธมฺมาติ โลกธมฺมา, มจฺเฉรสฺส ภาโว, กมฺมํ วาติ มจฺฉริยํ, วิปรีตฏฺเน วิปลฺลาสา, คนฺถนฏฺเน คนฺถา, อยุตฺตา คตีติ อคติ, อาสวนฺตีติ อาสวา, โอหนนฺตีติ โอฆา, โยชนฏฺเน โยคา, นีวรนฺตีติ นีวรณานิ, ธมฺมสภาวํ อติกฺกมฺม ปรโต อามสนฺตีติ ปรามาสา, ภุสํ อาทิยนฺตีติ อุปาทานานิ, อปฺปหีนภาเวน สนฺตาเน อนุ อนุ เสนฺตีติ อนุสยา, มลีนภาวกรณฏฺเน มลา, อกุสลกมฺมานิ จ ตานิ สุคติทุคฺคตีนํ, ตตฺถ นิพฺพตฺตนกสุขทุกฺขานฺจ ปถา จาติ อกุสลกมฺมปถา, จิตฺตํ อุปฺปชฺชติ เอตฺถาติ จิตฺตุปฺปาโท, จิตฺตเจตสิกราสิ ¶ , อกุสโล จ โส จิตฺตุปฺปาโท จาติ อกุสลจิตฺตุปฺปาโทติ อกุสลสทฺทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
ขนฺเธหิ ขนฺธานนฺติ อิธโลกกฺขนฺเธหิ ปรโลกกฺขนฺธานํ. ยาวฺหิ เตติ เต รูปราคาทโย ยาว ปวตฺตนฺติ น สมุจฺฉิชฺชนฺติ, ตาว เอเตสํ ขนฺธผลทุกฺขานํ อนุปรโม อวิจฺเฉโทติ. เอเตน เตสํ สํโยชนตฺถํ วิภาเวติ. อุทฺธนฺติ รูปารูปภเวสุ, ตติยมคฺคุปฺปตฺติยา วา อุทฺธํ. อุทฺธํ ภชนฺตีติ อุทฺธํภาคา, รูปารูปภวา, เตสํ อวิจฺเฉทเหตุตาย หิตานิ อุทฺธํภาคิยานิ.
กิลิสฺสนฺติ, กิเลเสนฺติ จาติ ทุวิธมฺปิ อตฺถํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สยํ สํกิลิฏฺตฺตา’’ติอาทิมาห.
มิจฺฉาวิมุตฺติ ‘‘โลกถูปิกาทีสุ โมกฺโข’’ติ ปวตฺตมิจฺฉาวิโมกฺโข. อภินิวิสนาทิวเสน มิจฺฉา วิปรีตํ น สมฺมา ปวตฺตนโต มิจฺฉาาณํ โมโหว.
โลกปฺปวตฺติยาติ ขนฺธปฺปวตฺติยํ สติ. อนุปรมธมฺมกตฺตาติ ปฺุปาปวเสน อปราปรํ อวิจฺฉิชฺชนโต. ‘‘ลาภเหตุโก ลาโภ’’ติอาทินา การโณปจาเรน.
อาวาเส มจฺฉริยํ, อาวาสเหตุกํ วา มจฺฉริยํ อาวาสมจฺฉริยํ.
ตโยติ ¶ วตฺถุํ อภินฺทิตฺวา วุตฺตํ, ภินฺทิตฺวา ปน วุจฺจมาเน ทฺวาทส โหนฺติ.
คนฺถกรณํ การณภาเวน ปฏิพทฺธตากรณํ คนฺถนนฺติ ตํ รูปกาเยปิ ลพฺภตีติ อาห ‘‘นามกายสฺส เจว รูปกายสฺส จา’’ติ. ตตฺถ พฺยาปาทสฺสาปิ อภิสชฺชนุปนยฺหวเสน ปวตฺตนโต คนฺถนฏฺโ เวทิตพฺโพ, ยโต ตสฺส ปฏิฆสํโยชนภาโว วุตฺโต.
ฉนฺทโทสโมหภเยหีติ ฉนฺทโทสโมหภยเหตุ. ตฺหีติ อกตฺตพฺพกรณํ, กตฺตพฺพากรณฺจ.
สวนาติ ปวตฺตนโต. สวนโตติ กิเลสาสุจิภาเวน วิสฺสนฺทนโต. ปุน สวนโตติ ปสวนโต.
อากฑฺฒนฏฺเน ¶ , ทุรุตฺตรณฏฺเน จาติ เอเตน โอฆา วิย โอฆาติ ทสฺเสติ. อารมฺมเณน, ทุกฺเขน จ วิโยคสฺส อปฺปทานสงฺขาเตน โยชนฏฺเน โยคาติ ทสฺเสติ, สํกิเลสกรณฏฺเนาติ อตฺโถ. เตสฺเวาติ กามราคาทีนํเยว. เต หิ โสตวเสน วตฺตมานา โสโต วิย โสตปติเต สตฺเต อปายสมุทฺทํ ปาเปนฺติ, สํสารสมุทฺทโต จ สีสํ อุกฺขิปิตุํ น เทนฺติ, ยถาคหิตฺจ อารมฺมณํ วิสฺสชฺชิตุํ น เทนฺติ, ยาทิสฺจ ปาปํ กตฺวา ทุกฺขปฺปตฺเต ปุนปิ ตาทิเสน โยเชนฺติ.
จิตฺตสฺสาติ กุสลจิตฺตสฺส, วิเสสโต ฌานจิตฺตสฺส. อาทิโต วรณํ อาวรณํ. กิเลสวาสนํ เนตฺวา วรณํ นีวรณํ. กุฏฺฏกวาฏาทีหิ วิย ปิทหนํ ปฏิจฺฉาทนํ, ตํ ปน กุสลาทีนิ สงฺคณฺหิตุํ, ปริฺาตุํ, าตฺุจ อปฺปทานวเสน ทฏฺพฺพํ.
ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส สภาวนฺติ กายาทิกสฺส ตสฺส ตสฺส ธมฺมสฺส อสุภาทิสภาวํ. อภูตํ สภาวนฺติ สุภาทิสภาวํ.
ถามคตฏฺเนาติ ถามคตภาเวน. ถามคตนฺติ จ อนฺสาธารโณ กามราคาทีนํ สภาโว ทฏฺพฺโพ. เยน เต เอว ภควตา ‘‘อนุสยา’’ติ วุตฺตา. อนุสยนฺจ มคฺเคน อปฺปหีนภาเวน ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหตา. เตนาห ‘‘ปุนปฺปุนํ กามราคาทีนํ อุปฺปตฺติเหตุภาเวน อนุเสนฺติเยวา’’ติ.
ทุมฺโมจนียภาเวน ¶ ปวตฺตึ สนฺธายาห ‘‘เตลฺชนกลลํ วิยา’’ติ.
๘๓๐. เสสาติ อนปายคมนียา. สุขุมา กามราคปฏิฆาติ สมฺพนฺโธ. จตุตฺถาณวชฺฌา เอวาติ อวธารเณน ปมาณาทิวชฺฌตา นิวตฺตียติ. ตยิทํ นิยมทสฺสนํ อฺตฺถาปิ เนตพฺพนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปรโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ‘‘นิยมํ น กริสฺสามา’’ติ เอเตน นิยเม อกเต เหฏฺิมมคฺควชฺฌตาปิ อนฺุาตา เอว โหตีติ.
โลภ…เป… จตุตฺถาณวชฺฌานีติอาทีสุ ปมาณาทีหิ หตาปายคมนียาทิภาวานีติ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อาทิสทฺเทน โอฬาริกสุขุมตา คหิตา.
ยเสติ ปริวาเร.
อคตีสุ ¶ ฉนฺทาทโย กิฺจาปิ อุปริมคฺควชฺฌา, ตถาปิ ตํมูลกสฺส อกตฺตพฺพกรณสฺส, กตฺตพฺพากรณสฺส จ อปายคมนียตาย ปมมคฺควชฺฌา.
กตากตากุสลากุสลวิสยํ ยํ วิปฺปฏิสารภูตํ กุกฺกุจฺจํ, ตํ อิธ ตติยาณวชฺฌํ วุตฺตํ. ยํ ปน ‘‘กุกฺกุจฺจปกตตาย อาปตฺติมาปชฺชตี’’ติ (ปาจิ. อฏฺ. ๔๓๘; กงฺขา. อฏฺ. นิทานวณฺณนา) วุตฺตํ กุกฺกุจฺจํ, ตํ สนฺธาย ‘‘กุกฺกุจฺจวิจิกิจฺฉา โสตาปตฺติมคฺเคน ปหียนฺตี’’ติ (ธ. ส. อฏฺ. ๑๑๗๖) อฏฺสาลินิยํ วุตฺตํ. ตสฺมา ทฺวินฺนํ วจนานํ อธิปฺปาโย เวทิตพฺโพ. อฺเสุปิ เอทิเสสุ าเนสุ อธิปฺปาโย มคฺคิตพฺโพ, น วิโรธโต ปจฺเจตพฺโพ. โอฬาริกานวเสสปฺปหานํ วา สนฺธาย กุกฺกุจฺจสฺส ปมตติยาณวชฺฌตา วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ. ‘‘ภควตา ปฏิกฺขิตฺตํ อนุวสิตฺวา อนุวสิตฺวา อาวสถปิณฺฑํ ภฺุชิตุ’’นฺติ, ‘‘กุกฺกุจฺจายนฺโต น ปฏิคฺคเหสี’’ติ (ปาจิ. ๒๐๔) ปน อาคตํ กุกฺกุจฺจํ, น นีวรณํ อรหโต อุปฺปชฺชนโต, นีวรณปฏิรูปกํ ปน ‘‘กปฺปติ น กปฺปตี’’ติ วีมํสนภูตํ วินยกุกฺกุจฺจํ นาม, ตํ ตถาปวตฺตจิตฺตุปฺปาโทว.
กามราคปฏิฆานุสยา อณุสหคตา ตติยาณวชฺฌา. โอฬาริกานํ ปน ทุติยาณวชฺฌตา เหฏฺา วุตฺตนยาว.
จิตฺตุปฺปาทคฺคหเณน ¶ เจตฺถ มกฺขปฬาสมายาสาเยฺยปมาทถมฺภสารมฺภาทีนํ สงฺคโห กโตติ ทฏฺพฺพํ.
๘๓๑. อผโล วายาโมติ เอตฺถ อตีตานํ ตาว ปชหเน อผโล โหตุ วายาโม นิรุทฺธตฺตา, อนาคตานํ ปน กถนฺติ เตสมฺปิ วกฺขมานํ อวิปรีตมตฺถํ อชานนฺโต นตฺถิตามตฺตํ คเหตฺวา โจเทติ, ตถาปิ ‘‘อผโล’’ติ ปุพฺเพ ปหาตพฺพานํ นตฺถิตาย โจทนา กตา, อิทานิ ปหานสฺส. ยทิ หิ ปหานํ อตฺถิ, กถํ ปหาตพฺพา สนฺติ? อถ ปหาตพฺพา สนฺติ, กถํ ปหานํ โหติ? ปหาตพฺพา จ สนฺติ, ปหานฺจ โหตีติ วิปฺปฏิสิทฺธเมตํ. กสฺมา? ปหาตพฺเพสุ สนฺเตสุ ปหานสฺส อสมฺภวโต ตทุปโค วายาโม อผโล อาโลกตมานํ สหาวฏฺาเน สติ อาโลกสฺส อผลตา วิย. อถาปิ กถฺจิ ปหานํ สิยา? สํกิเลสิกา จ มคฺคภาวนา อาปชฺชติ ปหาตพฺพปหายกานํ สหาวฏฺานโต ¶ . วิปฺปยุตฺตตา วา กิเลสานํ จิตฺตวิปฺปยุตฺตสงฺขารวาทีนํ วิปฺปยุตฺตสงฺขารานํ วิยาติ อธิปฺปาโย. ตํ ปน เนสํ วาทีนํ ยถา มติมตฺตํ, เอวมิธาปีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘น จ ปจฺจุปฺปนฺนกิเลโส จิตฺตวิปฺปยุตฺโต นาม อตฺถี’’ติ. อรูปธมฺมา หิ เอกวตฺถุกาทิภาเวน วตฺตมานา ขณตฺตยปริยาปนฺนา ปจฺจุปฺปนฺนา, เต กถํ จิตฺเตน วิปฺปยุตฺตา นาม สิยุํ, ตสฺมา นตฺเถว วิปฺปยุตฺตตา กิเลสานํ. อาเวณิกาติ อสาธารณา, สยเมว อุปฺปาทิตา ปาฬิ อนารุฬฺหาติ อธิปฺปาโย. ปาฬิยํเยว หิ ปฏิกฺขิตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. สฺวายํ ปุคฺคโล. หฺจีติ ยทิ.
วินิพทฺโธติ มาเนน ปตฺถทฺธจิตฺโต. ปรามฏฺโติ มิจฺฉาภินิวิฏฺโ. ถามคโตติ ถามคตกิเลโส ถิรภาวคตานุสโย. เตน หิ นตฺถิ มคฺคภาวนาติ ยสฺมา ตีสุปิ กาเลสุ กิเลสานํ ปหานํ น ยุชฺชติ, ติกาลิกา จ กิเลสา, ตสฺมา นตฺถิ มคฺคภาวนา, ตาย สาเธตพฺพํ กิจฺจํ นตฺถีติ อตฺโถ. ‘‘น หิ นตฺถิ มคฺคภาวนา’’ติอาทินา จตุกฺขตฺตุํ วุตฺตสฺส ปฏิกฺเขปสฺส ปฏิกฺเขโป. อิทํ วุตฺตํ ‘‘ปาฬิยํเยว หี’’ติอาทึ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.
เอวเมวาติ ยถา อชาตผเล ตรุณรุกฺเข มูเล ฉินฺเน อสติ เฉทเน อายตึ อุปฺปชฺชนารหานิ เฉทนปจฺจยา อนุปฺปชฺชมานานิ วินฏฺานิ นาม โหนฺติ, เอวเมว มคฺคภาวนาย อสติ อุปฺปชฺชนารหา กิเลสา มคฺคภาวนาย อนุปฺปชฺชมานา ‘‘ปหีนา’’ติ วุจฺจนฺตีติ อุปมาสํสนฺทนํ เวทิตพฺพํ. อุปฺปาโทติ อุปฺปาทสีเสน อุปฺปาทวนฺโต ขนฺธา วุตฺตา. อนุปฺปาเทติ ¶ นิพฺพาเน. อชาตาเยว น ชายนฺติ, ตสฺมา ปหีนา นาม โหนฺตีติ ‘‘นตฺถิ กิเลสปฺปหาน’’นฺติ ปรวาทินา กโต ปฏิกฺเขโป ‘‘น หี’’ติ ปฏิกฺขิตฺโต. เต ปน เนว อุปฺปชฺชิตฺวา วิคตา, นาปิ ภวิสฺสนฺติ, น จ อุปฺปนฺนาติ ‘‘อตีเต กิเลเส ปชหตี’’ติอาทิ น วตฺตพฺพนฺติ ทสฺเสติ. เหตุนิโรธาติ ทุกฺขเหตูนํ กิเลสานํ นิโรธา. ทุกฺขนิโรโธติ อายตึ อุปฺปชฺชนกทุกฺขสฺส นิโรโธ. อุปฺปาทปวตฺตนิมิตฺตายูหนา ปจฺจุปฺปนฺนภววเสน คหิตา.
๘๓๒. เอเตนาติ ‘‘อชาตาเยว น ชายนฺตี’’ติอาทิวจเนน. วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตํ อุปาทานกฺขนฺธปฺจกสงฺขาตํ ภูมิปวตฺติฏฺานํ ลทฺธวนฺโต ภูมิลทฺธา ยถา ‘‘อคฺคิอาหิโต’’ติ, ลทฺธภูมิกาติ อตฺโถ ¶ . วตฺตมานาทิอุปฺปนฺนวิธุรตาย ภูมิลทฺธุปฺปนฺนา เอว นาม เตติ วุตฺตํ.
๘๓๓. อนุภวิตฺวา, ภวิตฺวา จ อปคตํ ภูตาปคตํ. อนุภูตภูตา หิ ภูตตาสามฺเน ภูตสทฺเทน วุตฺตา. สามฺเมว หิ อุปสคฺเคน วิเสสียตีติ. อนุภูตสทฺโท จ กมฺมวจนิจฺฉาย อภาวโต อนุภาวกวาจโก ทฏฺพฺโพ. วิกปฺปคาหวเสน ราคาทีหิ, ตพฺพิปกฺเขหิ จ อกุสลํ, กุสลฺจ อารมฺมณรสํ อนุภวติ, น วิปาโก กมฺมเวคกฺขิตฺตตฺตา, นาปิ กิริยา อเหตุกานํ อติทุพฺพลตาย, สเหตุกานฺจ ขีณกิเลสสฺส ฉฬงฺคุเปกฺขาวโต อุปฺปชฺชมานานํ อติสนฺตวุตฺติตฺตา. เอตฺถ จ ปุริมนเย กุสลากุสลเมว วตฺตุํ อธิปฺปายวเสน ‘‘ภูตาปคต’’นฺติ วุตฺตํ. ยํ ‘‘อุปฺปนฺนานํ อกุสลานํ ธมฺมานํ ปหานาย อุปฺปนฺนานํ กุสลานํ ธมฺมานํ ิติยา’’ติ (สํ. นิ. ๕.๖๕๑-๖๖๒; วิภ. ๓๙๐-๓๙๑) เอตฺถ ‘‘อุปฺปนฺน’’นฺติ คเหตฺวา ตํสทิสานํ ปหานํ, วุทฺธิ จ วุตฺตา. ปจฺฉิมนเย จ-สทฺเทน กุสลากุสลฺจ อากฑฺฒิตฺวา สพฺพํ สงฺขตํ วุตฺตํ ภุตฺวาปคตภาวาภิธานาธิปฺปาเยน. วิปจฺจิตุํ โอกาสกรณวเสน อุปฺปตฺติตํ อตีตํ กมฺมฺจ ตโต อุปฺปชฺชิตุํ อารทฺโธ วิปาโก จ อนาคโต โอกาสกตุปฺปนฺโนติ วุตฺโต โอกาโส กโต เอเตน, โอกาโส กโต เอตสฺสาติ จ อตฺถทฺวยวเสน, ยํ อุปฺปนฺนสทฺเทน วินาปิ วิฺายมานํ อุปฺปนฺนํ สนฺธาย ‘‘นาหํ, ภิกฺขเว, สฺเจตนิกานํ กมฺมาน’’นฺติอาทิ (อ. นิ. ๑๐.๒๑๗, ๒๑๙) วุตฺตํ.
ตาสุ ตาสุ ภูมีสูติ มนุสฺสเทวาทิอตฺตภาวสงฺขาเตสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ. ตสฺมึ ตสฺมึ สนฺตาเน ¶ อนุปฺปตฺติธมฺมตํ อนาปาทิตตาย อสมูหตํ. อสมูหตตฺตาเยว หิสฺส นตฺถีติ นวตฺตพฺพตาย อุปฺปนฺนโวหาโร.
๘๓๔. ‘‘กา ภูมิ, โก วา ภูมิลทฺโธ’’ติ อาสงฺกํ นิวตฺเตตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ‘‘วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตา’’ติ เอเตน ขนฺธานํ อปริฺาตตํ ทสฺเสติ, น อารมฺมณภาวมตฺตํ เตภูมกคฺคหเณเนว ตสฺส สิทฺธตฺตา. อปริฺาตา หิ ขนฺธา กิเลสานํ ภูมีติ อธิปฺเปตา. ขนฺเธสุ วตฺถุภูเตสุ. อารมฺมณวเสนาติ อารมฺมณกรณวเสน. อตีตานาคเต, ปเคว ปจฺจุปฺปนฺเนติ อธิปฺปาโย. ตนฺติ ตํ อฺสนฺตานคตํ ¶ กิเลสชาตํ. ตโต อฺสฺมึ สนฺตาเน อารมฺมณกรณมตฺเตน ภูมิลทฺธํ นาม ยทิ สิยาติ สมฺพนฺโธ. ตสฺสาติ กิเลสชาตสฺส. อปฺปเหยฺยโต ปรสนฺตติปติตตฺตา น โกจิ ภวมูลํ ปชเหยฺย. ภูมิลทฺธฺหิ อนุสยิตํ นาม โหตีติ อธิปฺปาโย. วตฺถุวเสนาติ อุปฺปตฺติฏฺานวเสน. ยตฺถ ยตฺถ ภเว, สนฺตาเน วา. ปริฺาตานํ อภูมิภาวโต ‘‘อปริฺาตา’’ติ วุตฺตํ. อุปฺปาทโต ปภุตีติ เตสํ ขนฺธานํ อุปฺปชฺชนโต ปฏฺาย. กิเลสานํ อปฺปหีนภาวํ เปตฺวา อฺสฺส การณสฺส อภาวโต เตสุ ขนฺเธสุ กิเลสชาตํ อนุเสติ, ตสฺมา ตํ อนุสยิตํ กิเลสชาตํ, เตเนว อนุสยนสงฺขาเตน อปฺปหีนฏฺเน ภูมิลทฺธนฺติ เวทิตพฺพํ.
๘๓๕. ตตฺถ จ ภูมิภูเตสุ ขนฺเธสุ น สพฺเพ สพฺเพสํ วตฺถู โหนฺติ, อถ โข วิเสโส อตฺถีติ ตํ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘ยสฺส เยสู’’ติอาทิ. ตตฺถ ยสฺสาติ ยสฺส ปุคฺคลสฺส. เยสูติ สติปิ อชฺฌตฺตภาวสามฺเ เยสุ อตีตาทิกามาวจราทิเภทภินฺเนสุ ขนฺเธสุ. เต เอว ยถานุสยิตา ขนฺธา. กึ ปเนเต กิเลสา อารมฺมณํ กโรนฺตา วิย ปริจฺฉิชฺช ปริจฺฉิชฺช อนุเสนฺตีติ? ยโต เต เอว ขนฺธา เตสํ กิเลสานํ วตฺถูติ วุตฺตา, น เหว โข อนุสยานํ วตฺถุํ ปริจฺฉิชฺช ปวตฺติ อตฺถิ. อตีตาทิกามาวจราทิวเสน ปน ยถาปริจฺฉินฺเน วตฺถุสฺมึ โย กิเลสานํ อปฺปหีนฏฺโ, โส ปริจฺฉิชฺช ปวตฺโต วิย โหตีติ ‘‘อตีตกฺขนฺเธสู’’ติอาทิ วุตฺตํ. เตน วตฺถุวเสน ภูมิลทฺธํ โหตีติ วตฺถุเภเทน สิยา ตสฺส เภโทติ ทสฺเสติ. ตถาววตฺถิตภาวโต เอว หิ ‘‘อฺตโร โลลชาติโก ตํ รสปถวึ องฺคุลิยา สายี’’ติอาทิวจนํ (ที. นิ. ๓.๑๒๐) กามาวจรกฺขนฺเธสุ อนุสยิตานํ รสตณฺหาทีนํ รูปารูปาวจรกฺขนฺเธ อติกฺกมิตฺวา ปุน กามาวจรกฺขนฺธวตฺถุกตํ วิภาเวติ. เตนาห ‘‘ตถา กามาวจรกฺขนฺเธสู’’ติอาทิ ¶ . ยถา เจตฺถ รูปารูปาวจรกฺขนฺเธ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺติ, เอวํ กามาวจรกฺขนฺเธ อติกฺกมิตฺวา ปวตฺติ โหตีติ อาห ‘‘เอส นโย รูปารูปาวจเรสู’’ติ.
ปริยุฏฺานาภิภวนวเสน จ กิเลสานํ อนุสยนฏฺโ อนุมียติ ตทภาเว อภาวโต. ยสฺส เย อนุสยา ปหีนา, เตสํ วตฺถุ เตน ¶ สมติกฺกนฺตํ ปริฺาตตฺตาติ กุโต เนสํ ภูมิสมฺาติ ทสฺเสตุํ วุตฺตํ ‘‘โสตาปนฺนาทีสุ ปนา’’ติอาทิ. อิธ วฏฺฏมูลกิเลสาติ อนุสยา อธิปฺเปตา, น อวิชฺชา, ภวตณฺหา จ. ยํ กิฺจิ เจตนาเจตสิกเภทํ, กายิกาทิเภทํ วา. อิตีติ เอวํ, อปฺปหีนานุสยตฺตาติ อธิปฺปาโย. อสฺสาติ ปุถุชฺชนสฺส. เต ปเนเต อนุสยา อตีตาทิกามาวจราทิวเสน ยถาปริจฺฉินฺเน ตตฺถ ตตฺถ วตฺถุสฺมึ อนุสยนฺตาปิ เต เต ปฺจุปาทานกฺขนฺเธ อวิภาเคเนว วตฺถุํ กตฺวา อนุเสนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตสฺเสตํ วฏฺฏมูล’’นฺติอาทิมาห.
๘๓๖. อิทานิ ตมตฺถํ อนฺวยพฺยติเรกวเสน อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ปถวีรสาทิ วิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. รุกฺขคจฺฉลตาทีนํ ปจฺจยภูโต สสมฺภารปถวิยา รโส ปถวีรโส. อาโปรเสปิ เอเสว นโย. สาขา นาม ขุทฺทกสาขา. ปสาโข วิฏโป. รุกฺขปเวณินฺติ รุกฺขปราปรํ. สนฺตานยมาเนติ อปราปรํ อนุปฺปพนฺธนฺเต.
มณฺฑูกกณฺฏโกติ เอโก มจฺฉกณฺฏโกติ วทนฺติ. อนุปาทาโนติ ปหีนจตุรุปาทาโน, รูปาทีสุ วา กิฺจิปิ อคณฺหนฺโต.
๘๓๗. อิธ สมุทาจาโร นาม ลทฺธตฺตลาภตาติ ขณตฺตยสมงฺคิสมุทาจารุปฺปนฺนนฺติ อาห ‘‘วตฺตมานุปฺปนฺนเมว สมุทาจารุปฺปนฺน’’นฺติ. ปุพฺพภาเค อนุปฺปชฺชมานมฺปีติ ตสฺมึ อาปาถคเต อารมฺมเณ อาทิโต ปวตฺตชวนวาเรสุ อนุปฺปชฺชมานมฺปิ. อธิคฺคหิตตฺตาติ อโยนิโสมนสิกาเรน อภิรุยฺห คหิตตฺตา, ทฬฺหํ คหิตตฺตาติ อตฺโถ. อปรภาเคติ อปรสฺมึ กาลภาเค, กาลนฺตเรติ อตฺโถ. เอกนฺเตน อุปฺปตฺติโตติ ปจฺจยสมวาเย สติ ตถา อโยนิโสมนสิการสฺส ตตฺถ นิพฺพตฺตตฺตา นิยเมน อุปฺปชฺชนโต. กลฺยาณิคาเมติ เอวํนามเก คาเม. โรหเณ กิร อภิรูปานํ อิตฺถีนํ อุปฺปตฺติฏฺานตาย โส คาโม ตถา วุจฺจติ. จิตฺตสนฺตติมนารุฬฺหนฺติ ปจฺจุปฺปนฺนตํ ปฏิเสเธติ. ‘‘อุปฺปตฺตินิวารกสฺส เหตุโน อภาวา’’ติ เอเตน ปจฺจเย ¶ สติ ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหตาย อวิกฺขมฺภิตสฺส อุปฺปนฺนตาปริยาโยติ ทสฺเสติ. นนุ จ อสมูหตุปฺปนฺนมฺปิ ปจฺจเย สติ อุปฺปชฺชนารหเมว? สจฺจเมตํ, ปหานวิเสสภาวกโต ¶ ปน เนสํ เภโท. ยถา อวิกฺขมฺภิตาสมูหตภูมิลทฺธุปฺปนฺนํ สติ ปจฺจยสมวาเย อุปฺปชฺชนารหํ, เอวํ อารมฺมณาธิคฺคหิตุปฺปนฺนมฺปีติ ติวิธสฺสาปิ ภูมิลทฺเธน เอกสงฺคหตา วุตฺตา.
๘๓๘. อกุสลมฺปิ ภูตาปคตุปฺปนฺนํ อตีตตฺตา น ปหาตพฺพํ, ตถา เอกจฺจํ โอกาสกตุปฺปนฺนํ อิตรํ อปฺปหาตพฺพโต, เสสทฺวยํ ขณตฺตยสมงฺคิภาวโตติ อาห ‘‘อมคฺควชฺฌตฺตา’’ติ. เกนจีติ จตูสุ มคฺคาเณสุ เกนจิ. ตสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส จตุพฺพิธสฺสปิ อุปฺปนฺนสฺส. ตํ อุปฺปนฺนภาวํ วินาสยมานนฺติ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทเนน อุปฺปชฺชนารหตํ วินาเสนฺตํ. ปมํ โลกิยาเณน ยถาพลํ ปหีนเมว โลกุตฺตราณํ ปชหตีติ โลกิยคฺคหณํ กตํ.
ปริฺาทิกิจฺจกถาวณฺณนา
๘๓๙. สจฺจาภิสมยกาลสฺมินฺติ จตุนฺนํ อริยสจฺจานํ ปฏิวิชฺฌนกฺขเณ. วุตฺตานีติ ‘‘ทุกฺขํ ปริฺเยฺย’’นฺติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๐๙๙), ‘‘โย, ภิกฺขเว, ทุกฺขํ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) จ วุตฺตานิ. ยถาสภาเวนาติ อวิปรีตสภาเวน. ‘‘ชานิตพฺพานี’’ติ วตฺวา เตสํ ชานนวิธึ อุปมาวเสน อฏฺกถายํ ตาว วุตฺตนเยน ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ.
ตตฺถ ยถา ปทีโปติอาทิ เอกสฺส าณสฺส เอกกฺขเณ จตฺตาริ กิจฺจานิ กถํ สมฺภวนฺติ. น หิ ตาทิสํ กิฺจิ โลเก ทิฏฺํ อตฺถิ, น จ วจนํ ลพฺภตีติ อนฺโตลีนโจทนํ มนสิ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘ปริฺาภิสมเยนา’’ติ. อนวเสสโต ปริจฺฉิชฺช ชานนสงฺขาเตน ปฏิวิชฺฌเนน อภิสเมติ อสมฺโมหวเสน ปฏิวิชฺฌติ. ปหานาภิสมเยนาติ สมุจฺเฉทปฺปหานสงฺขาเตน ปฏิวิชฺฌเนน อสมฺโมหโต อภิสเมติ. มคฺคํ ภาวนาภิสมเยนาติ มคฺคาณํ สมฺมาสงฺกปฺปาทิเสสมคฺคํ สหชาตาทิปจฺจยตาวเสน ภาวนาภิสมเยน. อภิสเมติ ปุพฺพภาคภาวนาสมฺภูเตน อริยมคฺคภาวนาสงฺขาเตน ปฏิวิชฺฌเนน อภิสเมติ อฏฺงฺคิกํ มคฺคํ อสมฺโมหโต ¶ ปฏิวิชฺฌติ. มคฺคาณฺหิ สมฺปยุตฺตธมฺเมสุ สมฺโมหํ วิทฺธํเสนฺตํ อตฺตนิปิ สมฺโมหํ วิทฺธํเสติเยว. นิโรธนฺติ นิพฺพานํ. สจฺฉิกิริยาภิสมเยนาติ ปจฺจกฺขกรณสงฺขาเตน ปฏิวิชฺฌเนน. ปาปุณาตีติ ¶ อธิคจฺฉติ. สฺวายํ อธิคโม ทสฺสนปฏิเวโธติ อาห ‘‘ปสฺสติ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ.
‘‘นิโรธํ…เป… ปฏิวิชฺฌตี’’ติ เอเตน นิโรธสจฺจเมกํ อารมฺมณปฏิเวเธน จตฺตาริปิ สจฺจานิ อสมฺโมหปฏิเวเธน มคฺคาณํ ปฏิวิชฺฌตีติ เอวํ ยุตฺติวเสน วิภาวิตํ เอกปฏิเวธํ อาคเมนปิ สาเธตุํ ‘‘วุตฺตมฺปิ เจต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘สพฺพํ เวทิตพฺพ’’นฺติ อิมินา ‘‘โย ทุกฺขสมุทยํ ปสฺสติ, โส ทุกฺขมฺปิ ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) อาคตํ สมุทยํ สจฺจาทิมูลกํ โยชนํ สงฺคณฺหาติ.
น เจตํ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตํ, อถ โข เอกปฏิเวธเมวาติ ทสฺเสนฺเตน ‘‘มคฺคสมงฺคิสฺส าณํ, ทุกฺเขเปตํ าณ’’นฺติอาทินา (วิภ. ๗๙๔; ปฏิ. ม. ๑.๑๐๙) อปรํ สุตฺตปทํ อานีตํ. ตถา หิ ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสติ…เป… ปฏิปทมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกสจฺจทสฺสนสมงฺคิโน อฺสจฺจทสฺสนสมงฺคิภาววิจารณาย ตมตฺถํ สาเธตุํ อายสฺมตา ควมฺปติตฺเถเรน วุตฺตํ, ปจฺเจกฺจ สจฺจตฺตยทสฺสนโยชนา กตา. อฺถา กมาภิสมเย ปุริมทิฏฺสฺส ปุน อทสฺสนโต สมุทยาทึ ปสฺสโต ทุกฺขาทิทสฺสนํ ปุน อวตฺตพฺพํ สิยา, วุจฺจมาเน จ สพฺพทสฺสนํ ทสฺสนนฺตรปรมนฺติ ทสฺสนานุปรโม เอว สิยาติ.
นิสฺสยภาวเหตุตาย ทุกฺขปริฺาย วฏฺฏิฌาปนสทิสตา, ปฏิปกฺขวิทฺธํสนตาย สมุทยปฺปหานสฺส อนฺธการวิธมนสทิสตา, าณาโลกปริพฺรูหนตาย มคฺคภาวนาย อาโลกวิทฺธํสนสทิสตา, เตน เตน มคฺเคน ยถา ยถา นิโรธสฺส สจฺฉิกิริยา, ตถา ตถา กิเลสสฺเนหปริยาทานํ โหตีติ นิโรธสจฺฉิกิริยาย สฺเนหปริยาทานสทิสตา การณูปจาเรน วุตฺตา.
๘๔๐. โอภาเสตีติ ปกาเสติ. กิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธินฺติ สพฺพกิเลสทรถปริฬาหวูปสมภาวโต กิเลสานํ ปฏิปฺปสฺสทฺธิภูตํ.
๘๔๑. อปฺเปตีติ ¶ ปปฺโปติ. ทุกฺขปริฺาย สกฺกายตีรสมติกฺกมภาวโต โอริมตีรปฺปหานสทิสตา, มคฺคภาวนาย สตฺตตฺตึสโพธิปกฺขิยธมฺมาวหนตาย ภณฺฑวหนสทิสตา.
๘๔๒. ปวตฺตํ ¶ าณํ อสฺสาติ ปวตฺตาโณ, มคฺโค. อสฺส มคฺคสฺส.
ตถฏฺเนาติ ตถสภาเวน, ปีฬนาทิอวิปรีตสภาเวนาติ อตฺโถ. เอกปฏิเวธานีติ เอกชฺฌํ ปฏิวิชฺฌิตพฺพาการานิ.
ทุกฺขสฺส ปีฬนฏฺโติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา พุทฺธานุสฺสติวณฺณนายํ (วิสุทฺธิ. มหาฏี. ๑.๑๔๔) วุตฺตเมว. เอกสงฺคหิตานีติ เอเกเนว สงฺคหิตานิ. เกน? ตถฏฺเน, สจฺจฏฺเนาติ อตฺโถ. ยํ เอกสงฺคหิตนฺติอาทิ าณสฺส เอกปฏิเวธทสฺสนํ. มคฺคาณฺหิ นิโรธเมว อารมฺมณํ กโรนฺตมฺปิ โย โส ทุกฺขาทีสุ ตจฺฉาวิปลฺลาสภูตภาวสงฺขาโต สจฺจฏฺโ, ตปฺปฏิจฺฉาทกสมฺโมหวิทฺธํสเนน ตํ ยาถาวโต ปฏิวิชฺฌนฺตํ ปจฺจกฺขํ กโรนฺตเมว ปวตฺตติ. ยโต อปรภาเค ปีฬนาทโย โสฬสปิ สจฺจฏฺา อริยสฺส หตฺถามลกํ วิย ยาถาวโต อุปฏฺหนฺติ.
๘๔๓. อตฺถาติ าเณน อรณียโต อตฺถาติ ลทฺธสมฺา อาการา. อฺสจฺจทสฺสนวเสนาติ สมุทยาทิสจฺจนฺตรทสฺสนวเสน. อาวิภาวโตติ ปกาสภาวโต. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เย อาการา ทุกฺขาทีสุ สภาววเสน, สจฺจนฺตรทสฺสนวเสน จ อาวิภวนฺติ, เต ปีฬนาทโย จตฺตาโรเยวาติ โสฬเสว วุตฺตา, น อฺเติ. อยมตฺโถ อิธาธิปฺเปโตติ กถมิทํ วิฺายตีติ อาห ‘‘ตตฺถ กตมํ ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทิ. เตเนตํ ทสฺเสติ – ยสฺมา ปาฬิยํ วิสุํ วิสุํ อารมฺมณกรณวเสนปิ สจฺจาณํ วุตฺตํ กิจฺจนิพฺพตฺติวเสนปิ, ตสฺมา วิฺายติ ‘‘สภาวโต, สจฺจนฺตรทสฺสนโต จ สจฺจานํ อาการา อาวิภวนฺตี’’ติ.
กิจฺจนิพฺพตฺติวเสน ทสฺสนํ อาวิภาวโต ทสฺสนสทิสนฺติ ตํ อนามสิตฺวา อิตรเมว ทสฺเสนฺโต ‘‘ตตฺถา’’ติอาทิมาห. ตตฺถาติ เตสุ ทฺวีสุ ทสฺสเนสุ. อายูหิตนฺติ ปิณฺฑวเสน นิพฺพตฺติตํ. ยฺหิ กิฺจิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ นาม, สพฺพํ ตํ สมุทิตเมว นิพฺพตฺตตีติ. สงฺขตนฺติ ปจฺจยนฺตเรหิ สเมจฺจ สมฺภูย กตํ. ราสิกตนฺติ ปฺุชกตํ. อเนกเมว หิ ปจฺจยุปฺปนฺนํ เอกชฺฌํ ¶ นิพฺพตฺตมานํ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ราสิกตํ วิย โหตีติ. ตสฺมาติ สมุทเยน อายูหิตตฺตา. อสฺสาติ ทุกฺขสจฺจสฺส. ยสฺมึ สนฺตาเน อุปฺปนฺโน ¶ , ตสฺส กิเลสสนฺตาปหโร. สยมฺปิ กิเลสปริฬาหาภาวโต สุสีตโล. สนฺตาปฏฺโ อาวิภวติ อุฬารทสฺสเนน ตทฺสฺส อนุฬารภาโว วิยาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อายสฺมโต’’ติอาทิ. อวิปริณามธมฺมสฺส นิจฺจสภาวสฺส วตฺตพฺพเมว นตฺถิ ปฏิปกฺขโต อาวิภวนาการสฺส สุขสิทฺธิโต.
นิทานฏฺโ อาวิภวติ อิทมสฺส นิททาตีติ. สํโยคปลิโพธฏฺา ปฏิปกฺขวเสน อาวิภวนาการาติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘วิสํโยคภูตสฺสา’’ติอาทิ. กิเลสทุกฺเขหิ สํโยชนฏฺโ สํโยคฏฺโ. สํสารจารเก ปลิพุทฺธนฏฺโ ปลิโพธฏฺโ.
กิเลสสงฺคณิกาทิวเสน อวิเวกภูตสฺส. วิเวกฏฺโ อุปธิวิเวกตา. สพฺพสงฺขารวิวิตฺตตา อสงฺขตภาโวติ เอวํ อจฺฉริยพฺภุตสภาโวปิ อริยมคฺโค สงฺขโต เอว, อยเมว จ เอโก อสงฺขโตติ นิโรธสฺส อสงฺขตภาโว สุปากโฏ โหติ. ทุกฺขํ วิสํ มรณธมฺมโต ตสฺส อคทภูตํ อมตํ นิพฺพานํ.
‘‘มคฺโค’’ติ สมฺภาเวตพฺพตํ ปตฺโต สุขุมสนฺตภาเวน อุปฏฺิโต นิกนฺติภูโตปิ นายํ สมุทโย เหตุ นิพฺพานสฺส ปตฺติยา. อยํ อริยมคฺโค เหตูติ มคฺคามคฺคาณทสฺสเน วุตฺตนเยน มคฺคสฺส เหตุฏฺโ อาวิภวติ. นิโรธทสฺสเนนาติ อติวิย นิปุณสฺส ปรมคมฺภีรสฺส นิโรธสจฺจสฺส ทสฺสเนน. เตนาห ‘‘ปรมสุขุมานี’’ติอาทิ. ทุกฺขทสฺสเนนาติ อติวิย อาทีนวปฺปตฺติยา วิปุลตราทีนวสฺส ทุกฺขสจฺจสฺส ทสฺสเนน. ตปฺปฏิปกฺขโต อาธิปเตยฺยฏฺโ. เตนาห ‘‘อเนกโรคาตุร…เป… อุฬารภาโว วิยา’’ติ. เอวเมเต ยถารหํ อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ สจฺเจสุ อาวิภวนาการา วิภาวิตา.
เอเกกสฺสาติ เอเกกสฺส อตฺถสฺส, ปีฬนายูหนนิสฺสรณนิยฺยานฏฺเ สนฺธายาห. ติณฺณํ ติณฺณนฺติ สงฺขตาทิอตฺเถ. เย ปน วาทิโน. นานาภิสมยนฺติ นานาาเณน อภิสมยํ, จตุนฺนํ สจฺจานํ นานากฺขเณ นานาาเณน ปฏิวิชฺฌนนฺติ อตฺโถ. ยทิ หิ มคฺคาณสฺส จตูสุ สจฺเจสุ นานาภิสมโย สิยา, ทุกฺขทสฺสนาทีหิ ปมมคฺคาทีหิ ปหาตพฺพานํ สํโยชนตฺตยาทีนํ ¶ เอกเทสปฺปหานํ อาปชฺชติ. ตถา จ สติ เอกเทสโสตาปตฺติมคฺคฏฺตาทิปฺปสงฺโค. ตํตํทสฺสนานนฺตรฺจ ¶ ตํตํผเลน ภวิตพฺพนฺติ ตํตํปเหยฺยกิเลสปฏิปฺปสฺสทฺธิภูตานํ ผลานํ มคฺคานํ วิย จตุกฺกตา สิยา. ตถา จ สติ เอกเทสโสตาปนฺนตาทิปฺปสงฺโค. กิฺจ ภิยฺโย – ยทิ มคฺคาณสฺส นานาภิสมโย สิยา, อฺเน าเณน ทุกฺขํ ปสฺสติ. อฺเน สมุทยํ, อฺเน นิโรธํ, อฺเน มคฺคํ, เอวํ สติ มคฺคกิจฺจํ อปริปุณฺณเมว สิยา. มคฺคทสฺสเนน หิ ทฺวยคติ, เตเนว วา ตสฺส ทสฺสนํ, อฺเน วาติ. ตตฺถ ปโม ตาว ปกฺโข น ยุชฺชติ อตฺตนิ ปวตฺติยา อสมฺภวโต. น หิ เตเนว องฺคุลคฺเคน ตเมว ปรามสิตุํ สกฺกา. อถ อฺเน อนวฏฺานปฺปสงฺโค ‘‘เยน มคฺคํ ปสฺสติ, โสปิ มคฺโค. ตมฺปิ เยน ปสฺสติ, โสปิ มคฺโค’’ติ. ตสฺมา เอกาภิสมยโต ยถาวุตฺโต อสมฺโมหปฏิเวโธว ยุตฺโต. อปิจ ปริจฺฉินฺทิตพฺพํ, สมุจฺฉินฺทิตพฺพฺจ สจฺจทฺวยํ อารพฺภ ปวตฺตมานสฺส มคฺคาณสฺส ปริจฺฉินฺทนสมุจฺฉินฺทนานิ น สมฺภวนฺติ ตโต อนิสฺสรณโต. น หิ ทุกฺขปริฺาสมุทยปฺปหานานิ ทุกฺขสมุทยสจฺจารมฺมเณน าเณน กาตุํ สกฺกุเณยฺยานิ. นิพฺพานารมฺมเณน ปน ตตฺถ, อิตรทฺวเย จ สมฺโมหํ วิทฺธํเสนฺเตน สกฺกา กาตุนฺติ เอกาภิสมโย เอว ยุตฺโต. อยํ ปน อตฺโถ ปาฬิยํ อาคโต เอวาติ ‘‘เตสํ อุตฺตรํ อภิธมฺเม กถาวตฺถุสฺมึ วุตฺตเมวา’’ติ.
ปริฺาทิปฺปเภทกถาวณฺณนา
๘๔๕. อภิฺาปฺาติอาทีนํ อตฺโถ เหฏฺา วุตฺโตเยว. อปิจ สุตมยาย, จินฺตามยาย, เอกจฺจภาวนามยาย จ อภิวิสิฏฺาย ปฺาย าตา อภิฺาตา. อาเวณิกา ภูมิ ปริฺนฺตรานํ อวิสยภาวโต. น หิ นามรูปปริจฺเฉทปจฺจยปริคฺคหณวเสน ตีรณปริฺาทีนํ ปวตฺติ อตฺถิ.
๘๔๖. อนุโลมาณมฺปิ อนิจฺจาทิวเสเนว สงฺขาเร อารพฺภ ปวตฺตติ, ปเคว ปฏิสงฺขานุปสฺสนาทโยติ อาห ‘‘ยาว อนุโลมา อาเวณิกา ภูมี’’ติ. กามฺเจตฺถ ตีรณปริฺาภูมิยํ าตปฺปหานปริฺาโยปิ ลทฺธาวสรา, ตตฺถ ปน ยถา ตีรณปริฺา สาติสยํ กิจฺจการี, น ตถา อิตราติ อาเวณิกคฺคหณํ.
๘๔๗. นิปฺปริยาเยน ¶ ปหานปริฺา นาม มคฺคาณนฺติ ‘‘ยาว มคฺคาณา ภูมี’’ติ วุตฺตํ ¶ . อยํ อิธ อธิปฺเปตาติ อิธ อภิสมยกาเล กิจฺจวิจาเร อยํ ปหานปริฺา อธิปฺเปตา ตทตฺถตฺตา เสสปริฺานํ. เตนาห ‘‘ยสฺมา วา’’ติอาทิ.
ตทตฺถาเยวาติ ปหานปริฺตฺถา เอว. อถ วา ตทตฺถาเยวาติ ปหานตฺถา เอว. อถ วา ตทตฺถาเยวาติ มคฺคตฺถา เอว. าตตีรณปริฺา หิ ยาวเทว มคฺคาธิคมตฺถาย ปวตฺตา. นิยมโต าตา เจว ตีริตา จ โหนฺติ าตตีริตภาเวหิ วินา ปหานาภาวโต, ปหานสิทฺธิยฺจ าตตีริตภาวสิทฺธิโต. มคฺคาณฺหิ ทุกฺเข ปริฺาภิสมยวเสน ปวตฺตมานํ ตสฺส สภาวลกฺขณํ วิย สามฺลกฺขณมฺปิ ปฏิวิชฺฌตีติ วุจฺจติ ตปฺปฏิจฺฉาทกสมฺโมหวิทฺธํสนโต. เตนาห ‘‘ปริฺตฺตยมฺปิ…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ.
๘๔๘. ปริฺา วิยาติ ติวิธตาสามฺํ นิทสฺเสติ, น ปริฺาปหาตพฺพตาสามฺํ วิกฺขมฺภนปฺปหานสฺส อริปฺากิจฺจภาวโต. กามจฺฉนฺทาทโย ยถา น จิตฺตํ ปริยุฏฺาย ติฏฺนฺติ, เอวํ ปริยุฏฺานสฺส นิเสธนํ อปฺปวตฺติกรณํ วิกฺขมฺภนํ, วิกฺขมฺภนเมว ปหานํ วิกฺขมฺภนปฺปหานํ. ปากฏตฺตาติ ‘‘อยํ อพฺยาปนฺนจิตฺโต วิคตถินมิทฺโธ’’ติอาทินา (อ. นิ. ๔.๑๙๘) ปเรสมฺปิ ปากฏตฺตา. ‘‘น สหสา จิตฺตํ อชฺโฌตฺถรนฺตี’’ติ อิทํ ปฏิลทฺธมตฺตสฺส ฌานสฺส วเสน วุตฺตํ, สุภาวิเต ปน ปคุณชฺฌาเน ยาว จริมกจิตฺตมฺปิ น อชฺโฌตฺถรนฺเตว. อถ วา ฌานสฺส ปุพฺพภาเคปีติ ฌานาธิคมตฺถาย ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา. ปจฺฉาภาเคปีติ ฌานํ ลภิตฺวา อฺกิจฺจปฺปสุตสฺสปิ. วิตกฺกาทโยติ วิตกฺกวิจารปีติสุขรูปสฺาทโย. ทุติยชฺฌานาทีนํ ปฏิปกฺขา ทุติยาทีสุ อปฺปิเตสุเยว วิกฺขมฺภนฺติ, ตโต ตโต วุฏฺิตมตฺตสฺส ปน ปวตฺตนฺติ ปริตฺตจิตฺตวเสเนว วุฏฺหนโต.
๘๔๙. ‘‘ปทีเปน อนฺธการสฺส วิยา’’ติ อิทํ ปฏิปกฺเขน ปหีนภาวทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. ปฏิปกฺโข หิ ปทีโป อนฺธการสฺส, ฆฏปฺปหาโร ปน เสวาลสฺส น ปฏิปกฺโข, เกวลํ ปวตฺตินิวารณมตฺตเมว กโรตีติ. เตน อสติปิ อุชุวิปจฺจนีกตาย ทุติยชฺฌานาทีนํ วิตกฺกาทีนํ วิกฺขมฺภนสฺส ตํ นิทสฺสนํ สุฏฺุตรํ ยุชฺชติ. ‘‘วิปสฺสนาย อวยวภูเตนา’’ติ อิทํ อิธาธิกตตทงฺคปฺปหานสฺส ¶ ทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ. สีลวิโสธนาทินาปิ หิ ตทงฺคปฺปหานํ โหติเยวาติ. าณงฺเคนาติ าณสงฺขาเตน การเณน. ตทงฺเคน ตทงฺคสฺส ปหานํ ตทงฺคปฺปหานํ. สติ วิชฺชมาเน ขนฺธปฺจกสงฺขาเต กาเย, สยํ วา ตตฺถ สติ ทิฏฺิ สกฺกายทิฏฺิ, ‘‘รูปํ อตฺตโต ¶ สมนุปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๓.๘๑; ๔.๓๔๕) นเยน วุตฺตา อตฺตานุทิฏฺิ. โสฬสวตฺถุกา, อฏฺวตฺถุกา จ กงฺขาว มลํ กงฺขามลํ. สมูหคาหสฺสาติ ‘‘อตฺตา อตฺตนิย’’นฺติ เอวํ ปวตฺตสมูหคหณสฺส ปหานํ กลาปสมฺมสเนน เอกาทสสุ โอกาเสสุ ปกฺขิปิตฺวา วิกิรณวเสน ขนฺธานํ ทสฺสนโต. อสฺสาทสฺายาติ ปฺจกฺขนฺเธ อสฺสาทนวเสน ปวตฺตมิจฺฉาสฺาย. อปฺปฏิสงฺขานสฺสาติ ปฏิสงฺขานปฏิปกฺขสฺส โมหสฺส. อนุเปกฺขนสฺสาติ อเปกฺขาย. สงฺขาเรสุ นิจฺจาทิคาโห สจฺจปฏิโลมคาโห มคฺคสจฺจาธิคมสฺส วิโลมนโต. สาทีนเวสุ อนาทีนวสฺิตา, อนาทีนเว จ สาทีนวสฺิตา สจฺจปฏิโลมคาโหติ จ วทนฺติ.
เอวํ วิสุทฺธิกฺกเมน ตทงฺคปฺปหานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อฏฺารสมหาวิปสฺสนาวเสนปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยํ วา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ยํ วา ปน ปหานนฺติ สมฺพนฺโธ.
๘๕๐. วุตฺตเมว ‘‘สพฺพํ สงฺขารคตํ อนิจฺจโต อนุปสฺสตี’’ติอาทินา (วิสุทฺธิ. ๒.๗๔๒).
สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณานํ วเสน ฆนคฺคหณํ ฆนสฺา, ตสฺสา ฆนสฺาย.
นิโรเธ อธิมุตฺตตา, ตายาติ ติยทฺธคตานํ สงฺขารานํ นิโรธเมว ทิสฺวา ตตฺถ อธิมุจฺจนวเสน ปวตฺตปฺา, ตาย. อายูหนสฺสาติ อภิสงฺขรณสฺส.
ตํ ตํ ปริจฺเฉทนฺติ อาทานนิกฺเขปาทิกํ ตํ ตํ ปริจฺเฉทํ. อฺถาปวตฺติทสฺสนนฺติ วุตฺตปริจฺเฉทโต ปุพฺเพ, ปจฺฉา จ อฺาการปฺปวตฺติยา ทสฺสนํ, อวตฺถาวิเสสปฺปวตฺติทสฺสนํ วา. ธุวสฺายาติ ถิรภาวคฺคหณสฺส.
สาราทานาภินิเวสสฺสาติ ¶ อสาเรสุ สารคหณาภินิเวสสฺส.
สํสยมิจฺฉาาณานํ วเสน สมฺมุยฺหนํ สมฺโมโห, โส เอว อภินิเวโสติ สมฺโมหาภินิเวโส. สงฺขาเรสุ เลณตาณภาวคฺคหณํ อาลยาภินิเวโส, อตฺถโต ภวนิกนฺติ.
ยถา ¶ จิตฺตํ สงฺขาเร มฺุจิตฺวา วิวฏฺฏํ นิพฺพานํ ปกฺขนฺทติ, ตถา ปวตฺตนโต สงฺขารุเปกฺขา จ อนุโลมฺจ ‘‘วิวฏฺฏานุปสฺสนา’’ติ วุตฺตํ. นิวิฏฺภาเวน โอคาฬฺหภาเวน ปวตฺตสํโยชนาทิกิเลสา เอว กิเลสาภินิเวโส. นิพฺเพธภาคิยํ สมาธินฺติ วิปสฺสนาสมาธิมาห.
๘๕๑. อสนิวิจกฺกํ อสนิมณฺฑลํ. เอวํ ปหานนฺติ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนมาห. กมฺมกิเลสานํ, สพฺเพสมฺปิ วา สงฺขารานํ ขยํ นิโรธํ คจฺฉตีติ ขยคามี, อริยมคฺโค. โลกุตฺตรคฺคหเณเนว สิทฺเธปิ ขยคามิคฺคหณํ วณฺณภณนตฺถํ. สมุจฺเฉทปฺปหานเมวาติ อวธารณํ นิปฺปริยายตํ อุปาทาย. ตทตฺถาเนวาติ สมุจฺเฉทปฺปหานตฺถาเนว. เตน วิกฺขมฺภนตทงฺคปฺปหานานํ มคฺคสมฺภารตมาห เตหิ วินา อสิชฺฌนโต. อถ วา ตทตฺถาเนวาติ มคฺคตฺถาเนว. เตน ตทตฺถตาย เตสํ ตํกิจฺจตํ ทสฺเสติ. เตนาห ‘‘ตสฺมา’’ติอาทิ. ตเมวตฺถํ อุปมาย ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิราชานํ วธิตฺวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ยมฺปิ ตโต ปุพฺเพ กตนฺติ ยํ ตโตรชฺชปฺปตฺติโต ปุพฺเพ กตํ ปจฺจนฺตสาธนทุคฺควิทฺธํสนาทิ. ยถา อิทฺจิทฺจ รฺา กตนฺติเยว วุจฺจติ, เอวํ โลกิยาเณน สาธิตานิปิ วิกฺขมฺภนตทงฺคปฺปหานานิ สมุจฺเฉทปฺปหานวเสน ปวตฺตสฺส มคฺคสฺส กิจฺจภาเวน วุจฺจนฺติ, ตทตฺถตาย, เตสํ ตํสนฺตติปติตตาย จ มคฺคสฺสาติ เวทิตพฺพา.
๘๕๒. โลกิยสฺส, โลกิยา วา สจฺฉิกิริยา โลกิยสจฺฉิกิริยา. เอวํ โลกุตฺตรสจฺฉิกิริยา เวทิตพฺพา. ลาภีมฺหีติ ลาภี อมฺหิ. ตถา วสีมฺหีติ เอตฺถาปิ. ปจฺจกฺขโต าณผสฺเสนาติ ปจฺจกฺขโต อารมฺมณกรณสงฺขาเตน าณผสฺสเนน. ‘‘ปจฺจกฺขโต’’ติ จ อิมินา อนุมานโต อารมฺมณกรณํ นิวตฺเตติ, ‘‘อีทิสมิท’’นฺติ ปจฺจเวกฺขณวเสน ปจฺจกฺขโต ชานนํ เหตฺถ ‘‘าณผสฺโส’’ติ อธิปฺเปโต. ผสฺสิตาติ าเณน ผุฏฺา.
ฌานมคฺคผลานิ ¶ วิย อตฺตโน สนฺตาเน อนุปฺปาเทตฺวาปิ ตปฺปฏิจฺฉาทกสมฺโมหวิทฺธํสนวเสน ตถาวิทฺธํสนปวตฺตาณํ อปรปฺปจฺจยาณํ.
ปสฺสนฺโต ปจฺจกฺขโต ชานนฺโต. อมโตคธนฺติ อมตปริยาปนฺนํ, อมตสงฺขาตนฺติ อตฺโถ.
โสตาปตฺติมคฺโค ปมํ นิพฺพานทสฺสนโต ทสฺสนํ, เตน ทสฺสเนน สจฺฉิกิริยา ทสฺสนสจฺฉิกิริยา. กิฺจาปิ โคตฺรภุาณํ ตโต ปมตรํ นิพฺพานํ ปสฺสติ, อาลมฺพนกรณโต ¶ ทิสฺวา กตฺตพฺพกิจฺจากรณโต ปน น ทสฺสนนฺติ วุจฺจติ. สา ทุวิธาปีติ สา ทสฺสนภาวนาวเสน ทุวิธาปิ สจฺฉิกิริยา. ทสฺสนภาวนาวเสนาติ ทสฺสนมคฺคภาวนามคฺควเสน. เตน อมคฺควเสน ปวตฺตนิพฺพานสฺส ปจฺจเวกฺขณสจฺฉิกิริยํ นิวตฺเตติ. นิพฺพานสฺสาติ ปน อิมินา มคฺคผเลสุ ปจฺจเวกฺขณสจฺฉิกิริยํ. อิมสฺส าณสฺสาติ อิมสฺส ยถาธิคตสฺส โลกุตฺตราณสฺส.
๘๕๓. อภิมตาติ อธิปฺเปตา. ภาวนา นาม อุปฺปาทนา, สนฺตานปริภาวนา จาติ ตทุภยํ ทสฺเสนฺโต ‘‘โลกิยาน’’นฺติอาทิมาห. ยทคฺเคน หิ โลกิยา กุสลาทโย อุปฺปาทิตา, วฑฺฒิตา จ, ตทคฺเคนสฺส สีลภาวนา, กายภาวนา, จิตฺตภาวนา, ปฺาภาวนา จ โลกิยา นิปฺผาทิตา โหติ, ตาย จ สนฺตาโนปิ ปริภาวิโตติ. ตาสุ โลกิยโลกุตฺตรภาวนาสุ อิธ าณทสฺสนวิสุทฺธิกถายํ โลกุตฺตรภาวนา อธิปฺเปตา, น อิตรา ตสฺสา สมฺภารภาวโต. จตุพฺพิธมฺเปตํ าณนฺติ เอตํ จตุพฺพิธมฺปิ อริยมคฺคาณํ โลกุตฺตรานิ สมฺมาวาจาทิเภทานิ สีลาทีนิ อุปฺปาเทติ. กถํ? สหชาตาทิปจฺจยตาย. สีลาทีนีติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน สมาธิสฺส คหณํ, น ปฺาย. น หิ ตเทว ตํ อุปฺปาเทติ, มคฺคจิตฺตุปฺปาโท ปน อุปฺปาเทติ. ตทนฺโตคธภาวา สมฺมาสงฺกปฺโป. โส หิ ปฺจกฺขนฺธสงฺคหิโตติ วทนฺติ. สีลาทีนีติ วา ผลสีลาทีนมฺปิ คหณนฺติ ปฺายปิ คหณํ ยุชฺชติเยว. สหชาตปจฺจยาทิตายาติ เอตฺถ อาทิ-สทฺเทน อนนฺตรปจฺจยาทิตายปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. เตหิ จ สนฺตานํ วาเสตีติ เตหิ สมุจฺฉินฺทนปฏิปสฺสมฺภนวเสน ปวตฺเตหิ โลกุตฺตเรหิ สีลาทีหิ อริยปุคฺคโล อตฺตโน สนฺตานํ ปริภาเวติ. ยํ นิสฺสาย ปราวุตฺตีติ วทนฺติ. ยถา ปริฺตฺตยมฺปิ ¶ ปหานตฺตยมฺปิ มคฺคาณสฺส กิจฺจนฺติ วุตฺตํ ปริยาเยน, น เอวมิธ. อิธ ปน โลกุตฺตรภาวนาว อสฺส มคฺคาณสฺส กิจฺจํ. น เหตฺถ ภาวนาย ปริยาโย ลพฺภตีติ อวธารณํ. เตน โลกิยภาวนํ นิวตฺเตติ.
เอวํ สรูเปเนว อาคตายาติ ‘‘จิตฺตํ ภาวย’’นฺติ สมาธิ วิย จิตฺตสีเสน อนาคนฺตฺวา ‘‘ปฺํ ภาวย’’นฺติ เอวํ สรูเปเนว อาคตาย ปฺาย. ยํ วุตฺตํ อุทฺเทสวเสน. เอตฺตาวตา ตํ วิตฺถาริตํ โหติ. อยฺจ ปฺโห วิสฺสชฺชิโต โหตีติ สมฺพนฺโธ.
าณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.
อิติ พาวีสติมปริจฺเฉทวณฺณนา.