📜

๑๖. อินฺทฺริยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา

อินฺทฺริยวิตฺถารกถาวณฺณนา

๕๒๕. พาวีสตีติ คณนปริจฺเฉโท. อินฺทฺริยานีติ ปริจฺฉินฺนธมฺมนิทสฺสนํ. จกฺขุนฺทฺริยนฺติอาทิ เตสํ สรูปทสฺสนํ. ตตฺถ จกฺขุทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรติ จกฺขุทฺวารภาเว ตํทฺวาริเกหิ อตฺตโน อินฺทภาวํ ปรมิสฺสรภาวํ การยตีติ จกฺขุนฺทฺริยํ. ตฺหิ เต รูปคฺคหเณ อตฺตานํ อนุวตฺเตติ, เต จ ตํ อนุวตฺตนฺติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. ตสฺมา โสตฆานชิวฺหากายทฺวาเร อินฺทฏฺํ กาเรตีติ. กายินฺทฺริยํ. วิชานนลกฺขเณ อินฺทฏฺํ กาเรตีติ มนินฺทฺริยํ. อิตฺถิภาวลกฺขเณ, ปริสภาวลกฺขเณ, อนุปาลนลกฺขเณ, สุขลกฺขเณ, ทุกฺขลกฺขเณ, โสมนสฺสลกฺขเณ, โทมนสฺสลกฺขเณ, อุเปกฺขาลกฺขเณ, อธิโมกฺขลกฺขเณ, ปคฺคหลกฺขเณ, อุปฏฺานลกฺขเณ, อวิกฺเขปลกฺขเณ, ทสฺสนลกฺขเณ, อนฺาตํ สฺสามีติ ปวตฺเต ชานนลกฺขเณ, าตานํ เอว ธมฺมานํ ปุน อาชานเน อฺาตาวิภาเว อินฺทฏฺํ กาเรตีติ อฺาตาวินฺทฺริยํ.

วิชานิยาติ วิชาเนยฺย. ภูมิโต จาติ -สทฺโท อวุตฺตสมฺปิปณฺฑนตฺโถ, เตน ตาวตฺวํ สงฺคณฺหาติ, ตํ ปน ตาวตฺวํ ปรโต วณฺณยิสฺสาม. อสมฺมสนุปคานมฺปิ อตฺถิภาวโต ทฏฺพฺพตา อิธ น คหิตา.

ปุพฺพภาเคติ อริยมคฺคโต ปุพฺพภาเค. อนฺาตนฺติ น อฺาตํ น อธิคตํ. นิจฺจตาย นตฺถิ เอตสฺส มตํ ภงฺโค, น วา เอตสฺมึ อธิคเต มรณนฺติ อมตํ, ปชฺชิตพฺพโต ปทฺจาติ อมตปทํ นิพฺพานํ. ‘‘เอวํ ปฏิปนฺนสฺส อุปฺปชฺชนโต’’ติ เอเตน ปุพฺพภาควเสเนตํ อินฺทฺริยํ เอวํ โวหรียตีติ ทสฺเสติ. อาชานนโตติ ปมมคฺเคน ทิฏฺมริยาทํ อนติกฺกมิตฺวาว ชานนโต. เยน ตํสมงฺคิปุคฺคโล, ตํสมฺปยุตฺตธมฺมา วา อฺาตาวิโน โหนฺติ , โส อฺาตาวิภาโว ปรินิฏฺิตกิจฺจชานนขีณาสวสฺส ภาวภูโต หุตฺวา อุปฺปตฺติโต ‘‘ขีณาสวสฺส อุปฺปชฺชนโต’’ติ วุตฺตํ.

ลิงฺเคติ คเมติ าเปตีติ ลิงฺคํ, ลิงฺคียติ วา เอเตนาติ ลิงฺคํ. กึ ลิงฺเคติ, กึ วา ลิงฺคียตีติ? อินฺทํ, อินฺโท วา. อินฺทสฺส ลิงฺค อินฺทลิงฺคํ, อินฺทลิงฺคสฺส อตฺโถ ตํสภาโว อินฺทลิงฺคฏฺโ, อินฺทลิงฺคเมว วา อินฺทฺริยสทฺทสฺส อตฺโถติ อินฺทลิงฺคฏฺโ. สชฺชิตํ อุปฺปาทิตนฺติ สิฏฺํ, อินฺเทน สิฏฺํ อินฺทสิฏฺํ. ชุฏฺํ เสวิตํ. กมฺมสงฺขาตสฺส อินฺทสฺส ลิงฺคานิ, เตน จ สิฏฺานีติ กมฺมชาเนว โยเชตพฺพานิ, น อฺานิ, เต จ ทฺเว อตฺถา กมฺเม เอว โยเชตพฺพา, อิตเร จ ภควติ เอวาติ อาห ‘‘ยถาโยค’’นฺติ. เตนาติ ภควโต, กมฺมสฺส จ อินฺทตฺตา. เอตฺถาติ เอเตสุ อินฺทฺริเยสุ. อุลฺลิงฺเคนฺติ าเปนฺติ ปกาเสนฺติ ผลสมฺปตฺติวิปตฺตีหิ การณสมฺปตฺติวิปตฺติอวโพธโต. ‘‘โส ตํ นิมิตฺตํ อาเสวตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๙.๓๕) โคจรกรณมฺปิ อาเสวนา วุตฺตาติ อาห ‘‘กานิจิ โคจราเสวนายา’’ติ. ตตฺถ สพฺเพสํ โคจริกาตพฺพตฺเตปิ ‘‘กานิจี’’ติ วจนํ อวิปสฺสิตพฺพานํ พหุลํ มนสิกรเณน อนาเสวนียตฺตา. ปจฺจเวกฺขนามตฺตเมว หิ เตสุ โหตีติ. ‘‘ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๑๗๐) ภาวนา อาเสวนาติ วุตฺตาติ ภาเวตพฺพานิ สทฺธาทีนิ สนฺธายาห ‘‘กานิจิ ภาวนาเสวนายา’’ติ.

อาธิปจฺจํ อินฺทฺริยปจฺจยภาโว. อสติปิ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเว อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานํ, อตฺตโน อตฺตโน ปจฺจยวเสน ปวตฺตมาเน ตํสหิตสนฺตาเน อฺากาเรน อปฺปวตฺตมาเนหิ ลิงฺคาทีหิ อนุวตฺตนียภาเว อาธิปจฺจํ. อิมสฺมึ จ อตฺเถ อินฺทนฺติ ปริมิสฺสริยํ กโรนฺติจฺเจว อินฺทฺริยานิ. จกฺขาทีสุ ทสฺสิเตน นเยน อฺเสฺจ ชีวิตาทีนํ ตทนุวตฺตีสุ อาธิปจฺจํ ยถารหํ โยเชตพฺพํ.

อโมโหเยว น วิสุํ จตฺตาโร ธมฺมา, ตสฺมา ตสฺส สงฺขารกฺขนฺธกถายํ วิภาวิตานิ ลกฺขณาทีนิ เตสฺจ เวทิตพฺพานีติ อธิปฺปาโย. เสสานิ ตตฺถ ขนฺธนิทฺเทเส ลกฺขณาทีหิ อรูเปเนว อาคตานิ.

๕๒๖. สตฺตานํ อริยภูมิปฏิลาโภ ภควโต เทสนาย สาธารณํ, ปทานฺจ ปโยชนนฺติ อาห ‘‘อชฺฌตฺตธมฺเม ปริฺายา’’ติอาทิ. อฺเสมฺปิ อินฺทฺริยานํ อตฺตภาวปริยาปนฺนตาย สติปิ อตฺตภาวปฺาปนาย มูลภาวโต จกฺขาทีนํ สาติสยา อตฺตภาวปริยาปนฺนาติ วุตฺตํ ‘‘อตฺตภาวปริยาปนฺนานิ จกฺขุนฺทิยาทีนี’’ติ (วิภ. อฏฺ. ๒๑๙). อภิธมฺมฏฺกถายํ อิตฺถิปุริสินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยเทสนากฺกโม วุตฺโตติ อิธาปิ ‘‘ตโต ชีวิตินฺทฺริย’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ อินฺทฺริยยมกเทสนาย (ยม. ๓.อินฺทฺริยยมก.๑ อาทโย) สเมติ. อินฺทฺริยวิภงฺเค (วิภ. ๒๑๙ อาทโย) ปน มนินฺทฺริยานนฺตรํ ชีวิตินฺทฺริยํ วุตฺตํ, ตํ ปุริมปจฺฉิมานํ อชฺฌาตฺติกพาหิรานํ อนุปาลกภาวทีปนตฺถํ เตส มชฺเฌ วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. ยฺจ กิฺจิ เวทยิตํ, สพฺพํ ตํ ทุกฺขํ. ยาว จ ทุวิธตฺตภาวานุปาลกสฺส ชีวิตินฺทฺริยสฺส ปวตฺติ, ตาว ทุกฺขภูตานํ เอเตสํ เวทยิตานํ อนิวตฺตีติ าปนตฺถํ, เตน จ จกฺขาทีนํ ทุกฺขานุพนฺธตาย ปริฺเยฺยตํ าเปติ. ปฏิปตฺติทสฺสนตฺถนฺติ ปุพฺพภาคปฏิปตฺติทสฺสนตฺถํ. ตสฺเสวาติ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยสฺเสว. ตโต อนนฺตรํ ภาเวตพฺพตฺตาติ ภาวนามคฺคสมฺปยุตฺตํ อฺินฺทฺริยํ สนฺธาย วุตฺตํ. ทสฺสนานฺตรา หิ ภาวนาติ.

เภโทติ อิธ สภาวโต เภโท อธิปฺเปโต, น ภูมิปุคฺคลาทิวเสนาติ อาห ‘‘เสสานํ อเภโท’’ติ. นนุ จ ชีวิตินฺทฺริยสฺส อนุปาลนลกฺขณํ สภาโว, เตนสฺส ทุวิธสฺสาปิ อเภโทติ? สจฺจเมตํ, ตสฺส ปน รูปารูปสภาวกโต เภโท คหิโต, น เอวํ เสสานํ โกจิ เภโท อตฺถีติ เตสํ อเภโทติ เภทาภาโว วุตฺโต. นนุ เจตฺถ เวทนา, ปฺา จ ภินฺทิตฺวา วุตฺตาติ? น, ยถา เทสิเตสุ พาวีสติยา อินฺทฺริเยสุ เภทาเภทสฺส อธิปฺเปตตฺตา.

๕๒๗. จกฺขุนฺทฺริยาทีนํ สติปิ ปุเรชาตาทิปจฺจยภาเว อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพเมว กิจฺจํ กิจฺจนฺติ วุตฺตํ ตสฺส อนฺสาธารณตฺตา, อินฺทฺริยกถาย จ อธิกตตฺตา. อตฺตโน ติกฺขมนฺทาทิอากาโร อตฺตากาโร, ตสฺส อนุวตฺตาปนํ อตฺตาการานุวตฺตาปนํ. เตนาห ‘‘ติกฺขมนฺทาทิสงฺขาตอตฺตาการานุวตฺตาปน’’นฺติ. อถ วา ติกฺขมนฺทาทิสงฺขาตสฺส จ อตฺตาการสฺส จ อนุวตฺตาปนํ ติกฺข…เป… วตฺตาปนํ. วิสุํ อตฺตาการคฺคหเณน เจตฺถ รูปาวภาสนาทิกสฺส สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. จกฺขุนฺทฺริยสฺส หิ รูปาภิหนนโยคฺยตาสงฺขาเต รูปาวภาสนสามตฺถิเย อสติ น กทาจิปิ จกฺขุวิฺาณสฺส ทสฺสนกิจฺจํ สมฺภวติ. เอส นโย โสตินฺทฺริยาทีสุปิ. ปุพฺพงฺคมภาเวน มนินฺทฺริยสฺส วสาวตฺตาปนํ โหติ, น อฺเสํ. ตํสมฺปยุตฺตานิปิ หิ อินฺทฺริยานิ ตพฺพเสเนว หุตฺวา อตฺตโน อตฺตโน อินฺทฺริยกิจฺจํ สาเธนฺติ เจตสิกภาวโต , น เตสํ วเสน มนินฺทฺริยํ . อยฺหิสฺส ปุพฺพงฺคมตา. สพฺพตฺถ จ อินฺทฺริยปจฺจยภาเวน สาเธตพฺพนฺติ อธิกาโร อนุวตฺตตีติ ทฏฺพฺโพ. สติปิ อนุปฺปาทเน, อนุปตฺถมฺภเน จ ตปฺปจฺจยานํ ตปฺปวตฺตเน นิมิตฺตภาโว อนุวิธานํ.

ฉาเทตฺวา ผริตฺวา อุปฺปชฺชมานา สุขทุกฺขเวทนา สหชาตธมฺเม อภิภวิตฺวา อชฺโชตฺถริตฺวา สยเมว ปากฏา โหติ, สหชาตธมฺมา จ ตสฺสา วเสน สุขทุกฺขพาวปฺปตา วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘ยถาสกํ โอฬาริกาการานุปาปน’’นฺติ. อสนฺตสฺส, อปณีตสฺสปิ อกุสลตพฺพิปากาทิสมฺปยุตฺตสฺส ยถารหํ มชฺฌตฺตาการานุปาปนํ โยเชตพฺพํ. สมานชาติเยหิ วา สุขทุกฺเขหิ สนฺตปณีตาการานุปาปนํ ทฏฺพฺพํ. ปฏิปกฺขาภิภวนนฺติ อสฺสทฺธิยาทิปฏิปกฺขาภิภวนํ. ปสนฺนาการาทาติ ปสนฺนปคฺคหิตอุปฏฺิตสมาหิตทสฺสนาการานุปาปนํ ยถากฺกมํ สทฺธาทีนํ. พฺยาปาทาทีติ อาทิ-สทฺเทน อุทฺธมฺภาคิยสํโยชนานิ คหิตานิ. มคฺคสมฺปยุตฺตสฺเสว จ อฺินฺทฺริยสฺส กิจฺจํ ทสฺสิตํ. เตเนว จ ผลสมฺปยุตฺตสฺส ตํตํสํโยชนปฺปฏิปฺปสฺสทฺธิปหานกิจฺจตา ทสฺสิตา โหตีติ. กตสพฺพกิจฺจสฺส อฺาตาวินฺทฺริยํ อฺสฺส กาตพฺพสฺส อภาวา อมตาภิมุขเมว ตพฺภาวปจฺจโย จ โหติ, น อิตรานิ วิย กิจฺจนฺตรปสุตํ. เตนาห ‘‘อมตาภิมุขภาวปจฺจยตา จา’’ติ.

๕๒๘. ภูมิโต วินิจฺฉโย อุตฺตานตฺโถ เอว. เอตฺถาห – กสฺมา ปน เอตฺตเกเนว อินฺทฺริยานิ วุตฺตานิ, เอตานิ เอว จ วุตฺตานีติ? อาธิปจฺจฏฺวเสน, อาธิปจฺจํ นาม อิสฺสริยนฺติ วุตฺตเมเวตํ. ตยิทํ อาธิปจฺจํ อตฺตโน อตฺตโน กิจฺเจ, ผเล จาติ อฺเสมฺปิ สภาวธมฺมานํ กสฺมา น ลพฺภติ? ปจฺจยาธีนวุตฺติกา หิ ปจฺจยุปฺปนฺนาติ สิยา ผลเหตุธมฺเมสุ อนุวตฺตนานุวตฺตนียตาติ? สจฺจเมตํ, ตถาปิ อตฺถิ เตสํ วิเสโส. สฺวายํ ‘‘จกฺขุวิฺาณาทิปฺปวตฺติยฺหิ จกฺขาทีนํ สิทฺธมาธิปจฺจ’’นฺติอาทินา (วิภ. อฏฺ. ๒๑๙) อฏฺกถายํ ทสฺสิโตเยว. อปิจ ขนฺธปฺจเก ยายํ สตฺตปฺตฺติ, ตสฺสา วิเสสนิสฺสโย ‘‘ฉ อชฺฌตฺติกานิ อายตนานี’’ติ ตานิ ตาว อาธิปจฺจตฺตํ อุปาทาย ‘‘จกฺขุนฺทฺริยํ…เป…มนินฺทฺริย’’นฺติอาทิโต (วิภ. ๒๑๙) วุตฺตานิ. สฺวายํ อตฺตภาโว อิเมสํ วเสน ‘‘อิตฺถี ปุริโส’’ติ สมฺํ ลภตีติ ทสฺสนตฺถํ ภาวทฺวยํ. ตยิเม อุปาทินฺนธมฺมา เยน ธมฺเมน ปวตฺตนฺติ, อยํ โส ธมฺโม เตสํ ิติเหตูติ ทสฺสนตฺถํ ชีวิตินฺทฺริยํ. สฺวายํ สตฺตสฺิโต ธมฺมปุฺโช ปพนฺธวเสน ปวตฺตมาโน อิมาหิ เวทนาหิ สํกิลิสฺสตีติ ทสฺสนตฺถํ เวทนาปฺจกํ. ตโต วิสุทฺธิกามานํ โวทานสมฺภารทสฺสนตฺถํ สทฺธาทิปฺจกํ. สมฺภวโวทานสมฺภารา อิเมหิ วิสุชฺชนฺติ, วิสุทฺธิปฺปตฺตา นิฏฺิตกิจฺจาว โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริยาทีนิ ตีณิ วุตฺตานิ. สพฺพตฺถ ‘‘อาธิปจฺจตฺตํ อุปาทายา’’ติ ปทํ โยเชตพฺพํ. เอตฺตาวตา อธิปฺเปตตฺถสิทฺธีติ อฺเสํ อคฺคหณํ.

อถ วา ปวตฺตินิวตฺตีนํ นิสฺสราทิทสฺสนตฺตมฺปิ เอตานิเยว วุตฺตานิ. ปวตฺติยา หิ วิเสสโต มูลนิสฺสยภูตานิ ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ. ยถาห ‘‘ฉสุ โลโก สมุปฺปนฺโน’’ติอาทิ (สุ. นิ. ๑๗๑). ตสฺส อุปฺปตฺติ อิตฺถิปุริสินฺทฺริเยหิ วิสภาควตฺถุสราคนิมิตฺเตหิ เยภุยฺเยน สตฺตกายสฺส อภินิพฺพตฺติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ติณฺณํ โข, มหาราช, สนฺนิปาตา คพฺภสฺส อวกฺกนฺติ โหติ มาตา จ อุตุนี โหติ, คนฺธพฺโพ จ ปจฺจุปฏฺิโต โหติ, มาตาปิตโร จ สนฺนิปติตา โหนฺตี’’ติอาทิ (ม. นิ. ๑.๔๐๘; มิ. ป. ๔.๑.๖). อวฏฺานํ ชีวิตินฺทฺริเยน เตน อนุปาเลตพฺพโต. เตนาห ‘‘อายุ ิติ ยปนา ยาปนา’’ติอาทิ (ธ. ส. ๑๙). อุปโภโค เวทนาหิ. เวทนาวเสน หิ อิฏฺาทิสพฺพวิสยูปโภโค. ยถาห ‘‘เวทยติ เวทยตีติ โข, ภิกฺขเว, ตสฺมา เวทนาติ วุจฺจตี’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๕๐). เอวํ ปวตฺติยา นิสฺสยสมุปฺปาทฏฺิติสมฺโภคทสฺสนตฺตํ จกฺขุนฺทฺริยํ ยาว อุเปกฺขินฺทฺริยนฺติ จุทฺทสินฺทฺริยานิ เทสิตานิ. ยถา เจตานิ ปวตฺติยา, เอวํ อิตรานิ นิวตฺติยา. วิวฏฺฏสนฺนิสฺสิเตน หิ นิพฺพตฺติตานิ สทฺธาทีนิ ปฺจินฺทฺริยานิ นิวตฺติยา นิสฺสโย. อุปฺปาโท อนฺาตฺสฺสามีตินฺทฺริเยน ตสฺส นิวตฺติวเสน ปมํ อุปฺปชฺชนโต. อวฏฺานํ อฺินฺทฺริเยน, อุปโภโค อฺาตาวินฺทฺริเยน อคฺคผลสมุปโภคโต. ขีณาสวาหิ วิสวิตาย นิพฺพุติสุขํ ปริภุชฺชนฺติ. เอวมฺปิ เอตานิ เอว อินฺทฺริยานิ เทสิตานิ. เอตฺตาวตา ยถาธิปฺเปตตฺถสิทฺธิโต อฺเสํ อคฺคหณํ. อิมินาว เนสํ เทสนากฺกโมปิ สํวณฺณิโตติ เวทิตพฺโพติ.

อินฺทฺริยนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

สจฺจวิตฺถารกถาวณฺณนา

๕๒๙. อริยสทฺเทน วิเสสนํ อกตฺวา เกวลํ สจฺจสทฺเทน อุทฺธิฏฺานิปิ อริยสจฺจานิ เอวาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘สจฺจานีติ จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ติ อาท. สมาฺโชตนา หิ วิเสเส อวติฏฺติ, วิเสสตฺถินา จ วิเสโส อนุปยุชฺชิตพฺโพติ. อริยสจฺเจสุ วา วิจาริเตสุ อิตรานิปิ อตฺถโต วิจาริตาเนว โหนฺตีติ วิปสฺสนาย จ ภูมิภูตานิ, อริยสจฺจาเนวาติ จ กตฺวา ‘‘สจฺจานี’’ติ อุทฺธริตฺวาปิ ‘‘จตฺตาริ อริยสจฺจานี’’ติ วุตฺตํ.

สาสนกฺกโมติ อริยสจฺจานิ วุจฺจนฺติ, อริยสจฺจเทสนา วา. สกลฺหิ สาสนํ ภควโต วจนํ สจฺจวินิมุตฺตํ นตฺถิ ปวตฺตินิวตฺติตทุภยเหตุสนฺทสฺสนวเสน ปวตฺตนโต. ตสฺมา สจฺเจสุ กมติ, สีลสมาธิปฺาสงฺขาตํ วา สาสนํ เอเตสุ กมติ, ปริฺาทิกิจฺจสาธนวเสน ปวตฺตติ, ตสฺมา กมติ เอตฺถาติ กโม, กึ กมติ? สาสนํ. สาสนสฺส กโม ‘‘สาสนกฺกโม’’ติ สจฺจานิ สาสนปฺปวตฺติฏฺานานิ วุจฺจนฺติ, ตํเทสนา จ ตพฺโพหาเรนาติ.

ตถาติ ตํสภาวา ทุกฺขาทิสภาวา. อวิตถาติ อมุสาสภาวา พาธนาทิภาเวน ภูตสภาวา. อนฺถาติ อฺาการรหิตา อพาธนาทิอาการวิวิตฺตา. ทุกฺขทุกฺขตาตนฺนิมิตฺตตาหิ อธิฏฺิตตฺตา ปีฬนฏฺโ. สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตภาโว สงฺขตฏฺโ. ทุกฺขทุกฺขตาตนฺนิมิตฺตตาหิ ปริทหนํ, กิเลสทาหสมาโยโค วา สนฺตาปฏฺโ. ชราย, มรเณน จาติ ทฺเวทา วิปริณาเมตพฺพตา วิปริณามฏฺโ. เอตฺถ จ ปีฬนฏฺโ ทุกฺขสฺส สรเสเนว อาวิภวนากาโร, อิตเร ยถากฺกมํ สมุทยมคฺคนิโรธทสฺสเนหิ อาวิภวนาการาติ อยํ จตุนฺนมฺปิ วิเสโส. ตตฺรตฺราภินนฺทนวเสน พฺยาปิตฺวา อูหนํ ราสิกรณํ ทุกฺขสฺส นิพฺพตฺตนํ อายูหนํ อาการสฺส พฺยาปนตฺถตฺตา. อาคจฺฉติ สมุทยโตติ วา อายํ, ทุกฺขํ, ตสฺส อูหนํ ปวตฺตนํ อายูหนํ, อยํ สรเสเนว อาวิภวนากาโร. นิททาติ ทุกฺขนฺติ นิทานํ, ‘‘อิทํ ตํ ทุกฺข’’นฺติ สมฺปฏิจฺฉาเปนฺตํ วิย สมุฏฺาเปตีติ อตฺโถ. อยํ นิทานฏฺโ ทุกฺขทสฺสเนน อาวิภวนากาโร. สํสารทุกฺเขน สํโยชนํ สํโยคฏฺโ. มคฺคาธิคมนนิวารณํ ปลิโพธฏฺโ. อิเม จ สํโยคปลิโพธฏฺา นิโรธมคฺคทสฺสเนหิ อาวิภวนาการา. นิสฺสรนฺติ สตฺตา เอตฺถ, สยเมว วา นิสฺสฏํ วิสํยุตฺตํ สพฺพสงฺขเตหิ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺคภาวโตติ นิสฺสรนํ. อยมสฺส สภาเวน อาวิภวนากาโร, อิตเร วิเวกาสงฺขาตามตฏฺฏา, สมุทยกฺขรอปจฺจยอวินาสิตา วา สมุทยมคฺคทุกฺขทสฺสเนน อาวิภวนาการา.

สํสารโต นิคฺคมนํ นิยฺยานํ. อยมสฺส สรเสน อาวิภวนากาโร. ปริโพธูปจฺเฉทเนน นิพฺพานาธิคโมว นิพฺพานนิมิตฺตตฺตา มคฺคสฺส เหตุฏฺโ. ปฺาปธานตฺตา จสฺส นิพฺพานทสฺสนํ, จตุสจฺจทสฺสนํ วา ทสฺสนฏฺโ. จตุสจฺจทสฺสเน, กิเลสทุกฺขสนฺตาปวูปสมเน จ อาธิปจฺจํ กโรนฺติ มคฺคธมฺมา สมฺปยุตฺตธมฺเมสูติ โส มคฺคสฺส อาธิปเตยฺยฏฺโ. วิเสสโต วา อาลมฺพนาธิปติภูตา มคฺคธมฺมา โหนฺติ ‘‘มคฺคาธิปติโน’’ติ (ธ. ส. ติกมาติกา ๑๖) วจนโตติ โส เตสํ อากาโร อาธิปเตยฺยฏฺโ. เอเต เหตุทสฺสนาธิปเตยฺยฏฺา สมุทยนิโรธทุกฺขทสฺสเนหิ อาวิภวนาการา. เอวมาทิ อาหาติ สมฺพนฺโธ. อภิสมยฏฺโติ อภิสเมตพฺพฏฺโ. อภิสมยสฺส วา วิสยภูโต อตฺโถ อภิสมยฏฺโ. อถ วา อภิสมยสฺส ปวตฺติอากาโร อภิสมยฏฺโ. โส เจตฺถ อภิสเมตพฺเพน ปีฬนาทินา ทสฺสิโตติ ทฏฺพฺโพ.

๕๓๐. กุจฺฉิตํ ขํ ทุกฺขํ, คารยฺหํ หุตฺวา อสารนฺติ อตฺโถ.

‘‘สมาคโม สเมต’’นฺติอาทีสุ เกวลสฺส อาคมสทฺทสฺส, เอต-สทฺทสฺส จ ปโยเค สํโยคตฺถสฺส อนุปลพฺภนโต, สํ-สทฺทสฺส จ สํโยเค อุปลพฺภนโต ‘‘สํโยคํ ทีเปตี’’ติ อาห อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ ตทตฺถโชตกตาสิทฺธิโต. อุปฺปนฺนํ อุทิตนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อย-สทฺโท คติอตฺเถ สิทฺโธ เหตุสทฺโทวิย การณํ ทีเปติ. อตฺตโน ผลนิปฺผาทเนน อยติ ปวตฺตติ, เอติ วา เอตสฺมา ผลนฺติ อโยติ, สํโยเค อุปฺปตฺติการณํ สมุทโยติ. เอตฺถ วิสุํ ปยุชฺชมานาปิ อุปสคฺคสทฺทา สธาตุกํ สํโยคตฺถํ, อุปฺปาทตฺถฺจ ทีเปนฺติ, กิริยาวิเสสกตฺตาติ เวทิตพฺพา.

‘‘อภาโวเอตฺถ โรธสฺสาติ นิโรโธ’’ติ เอเตน นิพฺพานสฺส ทุกฺขวิวิตฺตภาวํ ทสฺเสติ. สมธิคเต ตสฺมึ ตทธิคมโต ปุคฺคลสฺส โรธาภาโว ปวตฺติสงฺขาตสฺส โรธสฺส ปฏิปกฺขภูตาย นิวตฺติยา อธิคตตฺตาติ. เอตสฺมิฺจ อตฺเถ อภาโว เอตสฺมึ โรธสฺสาติ นิโรโธ อิจฺเจว ปทสมาโส. ทุกฺขาภาโว ปเนตฺถ ปุคฺคลสฺส, น นิพฺพานสฺเสว. อนุปฺปาโท เอว นิโรโธ อนุปฺปาทนิโรโธ. อายตึ ภวาทีสุ อปฺปวตฺติ, น ปน ภงฺโคติ ภงฺควาจกํ นิโรธสทฺทํ นิวตฺเตตฺวา อนุปฺปาทวาจกํ คณฺหาติ. เอตสฺมึ อตฺเถ การเณ ผลูปจารํ กตฺวา นิโรธปจฺจโย นิโรโธติ วุตฺโต.

ปฏิปทา จ โหติ ปุคฺคลสฺส ทุกฺขนิโรทปฺปตฺติยา. นนุ จ สา เอว ทุกฺขนิโรทปฺปตฺตีติ ตสฺสา เอว สา ปฏิปทาติ น ยุชฺชตีติ? น ปุคฺคลาธิคมสฺส ปตฺติภาเวน, เยหิ โส อธิคจฺฉติ, เตสํ การณภูตานํ ปฏิปทาภาเวน จ วุตฺตตฺตา. สจฺฉิ กิริยาสจฺฉิกรณธมฺมานฺหิ อฺตฺถาภาเวปิ ปุคฺคลสจฺฉิกิริยาธมฺมภาเวหิ นานตฺตํ กตฺวา นิทฺเทโส กโตติ. อถ วา ยํ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา นิฏฺานํ ผลํ, สยฺจ ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติภูตํ, ตสฺส อภิสมยภูตาย ทุกฺขนิโรธปฺปตฺติยา ปฏิปทตา ทฏฺพฺพา.

๕๓๑. พุทฺธาทโย อริยา ปฏิวิชฺฌนฺตีติ เอตฺถ ปฏิวิทฺธกาเล ปวตฺตํ พุทฺธาทิโวหารํ ‘‘อคมา ราชคหํ พุทฺโธ’’ติอาทีสุ (สุ. นิ. ๔๑๐) วิย ภาวินิ ภูเต วิย อุปจาโรติ ปุริมกาเลปิ อาโรเปตฺวา ‘‘พุทฺธาทโย’’ติ วุตฺตํ. เต หิ พุทฺธาทโย จตูหิ มคฺเคหิ ปฏิวิชฺฌนฺตีติ. ตสฺมา อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตีติ เอตฺถ อริยปฏิวิชฺฌิตพฺพานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ ปุริมปเท อุตฺตรปทโลโป อริยสจฺจานีติ วุจฺจนฺตีติ อตฺโถ. ตถาคเตน หิ สยํ อธิคตตฺตา, ปเวทิตตฺตา, ตโต เอว จ อฺเหิ อธิคมนีรตฺตา ตานิ ตสฺส โหนฺตีติ. อริยภาวสิทฺธิโตปีติ เอตฺถ อริยสาธกานิ สจฺจานิ อริยสจฺจานีติ ปุพฺเพ วิย อุตฺตรปทโลโป ทฏฺพฺโพ. อริยานิ สจฺจานีติปีติ เอตฺถ อวิตถภาเวน อรณียตฺตา อธิคนฺตพฺพตฺตา อริยานิ, อริยสมฺา วา อวิสํวาทเก อวิตเถ นิรุฬฺหา ทฏฺพฺพา.

๕๓๒. พาธนลกฺขณนฺติ เอตฺถ ทุกฺขทุกฺขตนฺนิมิตฺตภาโว, อุทยวยปฏิปีฬิตภาโว วา พาธนํ. ภวาทีสุ ชาติอาทิวเสน, จกฺขุโรคาทิวเสน จ อเนกทา ทุกฺขสฺส ปวตฺตนเมว ปุคฺคลสฺส สนฺตาปนํ, ตทสฺส กิจฺจํ รโสติ สนฺตาปนรสํ. ปวตฺตินิวตฺตีสุ สํสารวิโมกฺเขสุ ปวตฺติ หุตฺวา คยฺหตีติ ปวตฺติปจฺจุปฏฺานํ. ปภวติ เอตสฺมา ทุกฺขํ นิพฺพตฺตติ, ปุริมภเวน ปจฺฉิมภโว ฆฏิโต สํยุตฺโต หุตฺวา ปวตฺตตีติ ปภาโว. ‘‘เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต, นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุน’’นฺติ (ธ. ป. ๓๓๘; เนตฺติ. ๓๐) เอวํ ปุนปฺปุนํ อุปฺปาทนํ อนุปจฺเฉทกรณํ. ภวนิสฺสรณนิวารณํ ปลิโพโธ. ตณฺหกฺขยาทิภาเวน สพฺพทุกฺขสนฺตตา สนฺติ. อจฺจุติรสนฺติ อจฺจุติสมฺปตฺติกํ อจวนกิจฺจํ วา. กิจฺจนฺติ จ จวนาภาวํ กิจฺจมิว กตฺวา ปริยาเยน วุตฺตํ, อจวนฺจสฺส สภาวาปริจฺจชนํ อวิการิตา ทฏฺพฺพา. ปฺจกฺขนฺธนิมิตฺตสุฺตาย อวิคฺคหํ หุตฺวา คยฺหตีติ อนิมิตฺตปจฺจุปฏฺานํ. อนุสยสมุจฺฉินฺทเนน สํสารจารกโต นิคฺคมนูปายภาโว นิยฺยานํ. สพฺพกิเลสานํ อนุปฺปาทนิโรธนํ กิเลสปฺปหานกรณํ. นิมิตฺตโต, ปวตฺตโต จ จิตฺตสฺส วุฏฺานํ หุตฺวา คยฺหตีติ วุฏฺานปจฺจุปฏฺานํ.

๕๓๓. อสุวณฺณาทิ สุวณฺณาทิ วิย ทิสฺสมานํ มายาติ วตฺถุสพฺภาวา ตสฺสา วิปรีตตา วุตฺตา. อุทกํ วิย ทิสฺสมานา ปน มรีจิ อุปคตานํ ตุจฺฉา. วตฺถุมตฺตมฺปิ ตสฺสา น ทิสฺสตีติ วิสํวาทิกา วุตฺตา. มรีจิมายาอตฺตวิธุโร ภาโว ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว. อริยาณสฺสาติ อริยสฺส อวิตถคฺคาหกสฺส าณสฺส, เตน ปฏิเวธาณํ วิย ปจฺจเวกฺขณาณมฺปิ คหิตํ โหติ. เตสํ โคจรภาโว ปฏิวิชฺชิตพฺพตา, อารมฺมณภาโว จ ทฏฺพฺโพ. อคฺคิลกฺขณํ อุณฺหตฺตํ. ตฺหิ กตฺถจิ กฏฺาทิอุปาทานเภเท วิสํวาทกํ, วิปรีตํ, อภูตํ วากทาจิปิ น โหติ. ‘‘ชาติธมฺมา ชราธมฺมา, อโถ มรณธมฺมิโน’’ติ (อ. นิ. ๓.๓๙; ๕.๕๗) เอวํ วุตฺตา ชาติอาทิกา โลกปกติ. เอกจฺจานํ ติรจฺฉานานํ ติริยํ ทีฆตา, มนุสฺสาทีนํ อุทฺธํ ทีฆตา, วุทฺธินิฏฺํ ปตฺตานํ ปุน อวฑฺฒนนฺติ เอวมาทิกา จ โลกปกตีติ วทนฺติ. ตจฺฉาวิปรีตภูตภาเวสุ ปจฺฉิโม ตถตา. ปโม อวิตถตา, มชฺฌิโม อนฺตตาติ อยเมเตสํ วิเสโส,

ทุกฺขาอฺํ น พาธก นฺติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ ตณฺหาปิ ชาติ วิย ทุกฺขนิมิตฺตตาย พาธิกาติ? น, พาธกปฺปภวภาเวน วิสุํ คหิตตฺตา. เอวมฺหิ ปวตฺติ, ปวตฺติเหตุ จ อสงฺกรโต โพธิตา โหนฺติ. อถ วา ชาติอาทีนํ วิย ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาโว, ทุกฺขทุกฺขตา จ พาธกตา, น ทุกฺขปฺปภวตาติ นตฺถิ ตณฺหาย ปภวภาเวน วิสุํ คหิตาย พาธกภาวปสงฺโค. เตนาห ‘‘ทุกฺขา อฺํ น พาธก’’นฺติ. พาธกตฺตนิยาเมนาติ ทุกฺขํ พาธกเมว, ทุกฺขเมว พาธกนฺติ เอวํ ทฺวิธาปิ พาธกตฺตาวธารเนนาติ อตฺโถ. พาธกตฺตนิยาเมนาติ หิ พาธกสฺส, พาธกตฺเต จ นิยาเมน. ยตา พาธกตฺตสฺส ทุกฺเข นิยตตา, เอวํ ทุกฺขสฺส จ พาธกตฺเต นิยตตาติ.

ตํ วินา นาฺโตติ สติปิ อวเสสกิเลสอวเสสากุสลสาสวกุสลมูลาวเสสสาสวกุสลธมฺมานํ ทุกฺขเหตุภาเว น ตณฺหาย วินา เตสํ ทุกฺขเหตุภาโว อตฺถิ, เตหิ ปน วินาปิ ตณฺหาย ทุกฺขเหตุภาโว อตฺถิ กุสเลหิ วินา อกุสเลหิ รูปาวจราทิกุสเลหิ วินา กามาวจราทีหิ จ ตณฺหาย ทุกฺขนิพฺพตฺตกตฺตา. สนฺตภาวสฺส, สนฺตภาเว วา นิยาโม สนฺตภาวนิยาโม, เตน สนฺตภาวนิยาเมน. ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตาติ ทฺวิธาปิ นิยาเมน ตจฺโฉ นิยฺยานภาโว เอตสฺส, น มิจฺฉามคฺคสฺส วิย วิปรีตตาย, น โลกิยมคฺคสฺส วิย วา อเนกนฺติกตาย อตจฺโฉติ ตจฺฉนิยฺยานภาโว, มคฺโค, ตสฺส ภาโว ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตํ, ตสฺมา ตจฺฉนิยฺยานภาวตฺตา. สพฺพตฺถ ทฺวิธาปิ นิยาเมน ตจฺฉาวิปรีตภูตภาโว วุตฺโตติ อาห ‘‘อิติ ตจฺฉาวิปลฺลาสา’’ติอาทิ.

๕๓๔. สจฺจสทฺทสฺส สมฺภวนฺตานํ อตฺถานํ อุทฺธรณํ, สมฺภวนฺเต วา อตฺเถ วตฺวา อธิปฺเปตสฺส อตฺถสฺส อุทฺธรณํ นิทฺธารณํ อตฺถุทฺวาโร. วิรติสจฺเจติ มุสาวาทวิรติยํ. น หิ อฺวิรตีสุ สจฺจสทฺโท นิรุฬฺโห. เย ปน ‘‘วิรติสจฺจํ สมาทานวิรตี’’ติ วทนฺติ, เตสมฺปิ น สมาทานมตฺตํ วิรติสจฺจํ, อถ โข สมาทานาวิสํวาทนํ. ตํ ปน ปฏิฺาสจฺจํ มุสาวาทวิรติเยว โหติ. ‘‘อิทเมว สจฺจํ, โมฆมฺ’’นฺติ (ม. นิ. ๒.๑๘๗, ๒๐๒-๒๐๓, ๔๒๗; ๓.๒๗-๒๙) ปวตฺตา ทิฏฺิ ‘‘สจฺจ’’นฺติ อภินิวิสนวุตฺติยา ทิฏฺิสจฺจํ. อโมสธมฺมตฺตา นิพฺพานํ ปรมตฺถสจฺจํ. ‘‘อโมสธมฺมํ นิพฺพานํ, ตทริยา สจฺจโต วิทู’’ติ (สุ. นิ. ๗๖๓) หิ วุตฺตํ, ตสฺส ปน ตํสมฺปาปกสฺส จ มคฺคสฺส ปชานนา ปฏิเวโธ อวิวาทการณนฺติ ทฺวยมฺปิ ‘‘เอกํ หิ สจฺจํ น ทุติยมตฺถิ, ยสฺมึ ปชา โน วิวเท ปชาน’’นฺติ อิมิสฺสา (สุ. นิ. ๘๙๐; มหานิ. ๑๑๙) คาถาย ‘‘สจฺจ’’นฺติ วุตฺตํ.

๕๓๕. ‘‘เนตํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ เอเตน ชาติอาทีนํ ทุกฺขอริยสจฺจภาเว อวิปรีตตํ ทสฺเสติ เอกนฺเตเนว พาธกภาวโต. ‘‘อฺํ ทุกฺขํ อริยสจฺจนฺติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ อิมินา ทุกฺขอริยสจฺจภาวสฺส ชาติอาทีสุ นิยตตํ ทสฺเสติ อนฺตฺถภาวโต. สเจปิ กถฺจิ โกจิ เอวํจิตฺโต อาคจฺเฉยฺย, ปฺาปเน ปน สหธมฺเมน าปเน อตฺตโน วาทสฺส ปติฏฺาปเน สมตฺโถ นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อหเมตํ…เป… ปฺเปสฺสามีติ อาคจฺเฉยฺย, เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. ชาติอาทีนํ อนฺถตา อฺสฺส จ ตตาภูตสฺส อภาโวเยเวตฺถ านาภาโว. สเจปิ โกจิ อาคจฺเฉยฺย อาคจฺฉตุ, านํ ปน นตฺถีติ อยเมตฺถ สุตฺตตฺโถ. เอส นโย ทุติยสุตฺเตปิ. ตตฺถ ปน อตฺตภาวปฏิลาเภเนว สตฺตานํ ชาติอาทีนํ ปตฺติ, สมฺมุขีภาโว จ โหตีติ สมฺปตฺตตฺตา, ปจฺจกฺขตา จ ปมตา, ยโต ตํ ภควตา ปมํ เทสิตํ, ตนฺนิมิตฺตตา ทุติยตา, ตทุปสมตา ตติยตา, ตํสมฺปาปกตา จตุตฺถตาติ ทฏฺพฺพา.

‘‘เอตปรมโต’’ติ เอเตน จตูหิ อริยสจฺเจหิ ปวตฺติอาทีนํ อนวเสสปริยาทานมาห. นิพฺพุติกาเมน ปริชานนาทีหิ อฺํ กิฺจิ กิจฺจํ กาตพฺพํ นตฺติ, ธมฺมาณกิจฺจํ วา อิโต อฺํ นตฺถิ, ปริฺเยฺยาทีนิ จ เอตปรมาเนวาติ จตฺตาริเยว วุตฺตานิ. ตณฺหาย อาทีนวทสฺสาวีนํ วเสน ตณฺหาวตฺถุอาทีนํ เอตปรมตายาติ วุตฺตํ. ตถา อาลเย ปฺจกามคุณสงฺขาเต, สกลวตฺถุกามสงฺขาเต, ภวตฺตยสงฺขาเต วา ทุกฺเข โทสทสฺสาวีนํ วเสน อาลยาทีนํ เอเตปรมตายาติ วุตฺตํ.

๕๓๖. ‘‘โอฬาริกตฺตา’’ติ อิทํ ชาติอาทีนํ ทุกฺขภาวสฺส ปจุรชนปากฏตามตฺตํ สนฺธาย วุตฺตํ, น อริเยน าเณน ปฏิวิชฺฌิตพฺพาการํ. นฺติ ทุกฺขํ. อกตนฺติ อนิพฺพตฺติตํ, อนิปฺผาทิตการณนฺติ อธิปฺปาโย. การเณ หิ สิทฺเธ ผลํ สิทฺธเมว โหติ. ‘‘เนว อกตํ อาคจฺฉตี’’ติ จ อิมินา อเหตุวาทํ ปฏิกฺขิปติ. ‘‘น อิสฺสรนิมฺมานาทิโต’’ติ เอเตน ปชาปติปุริสปกติกาลาทิวาเท ปฏิกฺขิปติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ. ‘‘สเหตุเกน ทุกฺเขนา’’ติ เอเตน ทุกฺขทสฺสเนน ชนิตสฺส สํเวคสฺส สํวฑฺฒนมาห. ทุกฺขสฺส หิ สเหตุกภาวสวเสน พลวสํเวโค ชายติ ยาวายํ เหตุ, ตาว อิทํ ทุกฺขํ อวิจฺเฉเทน ปวตฺตตีติ. อสฺสาสชนนตฺถํ นิโรธนฺติ สํเวคชาตสฺส อสฺสาสํ ชเนตุํ นิโรธสจฺจมาห. นิพฺพินฺนสํสารทุกฺขสฺส หิ นิโรธกถา วุจฺจมานา อติวิย อติวิย อสฺสาสํ สฺชเนติ.

๕๓๗. เย เต ชาติอาทโย ธมฺมา ภควตา วุตฺตาติ สมฺพนฺโธ. กสฺมา ปเนตฺถ พฺยาธิ น คหิโตติ? อเนกนฺตภาวโต. ตถา หิ โส กทาจิ, เกสฺจิ จ นตฺถิ. ยถาห ‘‘ตโย โรคา ปุเร อาสุํ, อิจฺฉา อนสนํ ชรา’’ติ (สุ. นิ. ๓๑๓). พากุลตฺเตราทีนํ โส นาโหสิเยว, ทุกฺขคฺคหเณน วา พฺยาธิ เอตฺถ หิโตวาติ ทฏฺพฺพํ. ปรมตฺถโต หิ ธาตุกฺโขภปจฺจยํ กายิกํ ทุกฺขํ พฺยาธีติ. อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ เอกํ โกฏฺาสํ กตฺวา ‘‘ทฺวาทส ธมฺมา’’ติ วุตฺตํ. กามตณฺหาภาวสามฺเน เอกชฺฌํ กตฺวา ‘‘ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจ’’นฺติ อฺเ อนฺโตคธเภเท อนามสิตฺวา เอกรูเปน คหิตาปิ ตณฺหา สสฺสตทิฏฺิสหคตา, อุจฺเฉททิฏฺิสหคตา, ทิฏฺิวิรหิตา เกวลํ กามสฺสาทภูตา จาติ ติธาว ภินฺทิตฺวา วุตฺตา. ‘‘อยเมว อริโย อฏฺงฺคิโก มคฺโค’’ติ มคฺคสจฺจภาเวน เอกชฺฌํ กตฺวา วุตฺตาปิ สภาวโต ภินฺนา เอว เต ธมฺมาติ อาห ‘‘อฏฺ ธมฺมา’’ติ.

สจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

ทุกฺขนิทฺเทสกถาวณฺณนา

ชาตินิทฺเทสวณฺณนา

ภเวติ อาทานนิกฺเขปปริจฺฉินฺโน ธมฺมปฺปพนฺโธ ภโว, ตสฺมึ ภเว. โส หิ ชายติ เอตฺถ โยนิคติอาทิวิภาโคติ ชาตีติ วุจฺจติ, ชายนฺติ เอตฺถ สตฺตา สมานนฺวยาติ ชาติ, นิกาโย. สงฺขตลกฺขเณติ ยตฺถ กตฺถจิ อุปฺปาเท. โส หิ ชนนฏฺเน ชาติ. ปฏิสนฺธิยนฺติ ปฏิสนฺธิจิตฺตกฺขเณ . สมฺปาติชาโตติ เอตฺถ ชาติสทฺเทน ลพฺภมานํ มาตุกุจฺฉิโต นิกฺขมนสงฺขาตํ ชายนตฺถํ สนฺธายาห ‘‘ปสูติย’’นฺติ, อภิชาติยนฺติ อตฺโถ. ชายติ เอตาย ขตฺติยาทิสมฺาติ ชาติ, กุลํ.

๕๓๘. สยนฺติ เอตฺถาติ เสยฺยา, มาตุกุจฺฉิสงฺขาโต คพฺโภ เสยฺยา เอเตสนฺติ คพฺภเสยฺยกา, อณฺฑชา, ชลาพุชา จ. อิตเรสนฺติ สํเสทชานํ, โอปปาติกานฺจ. อยมฺปิ จาติ ‘‘ปฏิสนฺธิขนฺเธสฺเววา’’ติ อนนฺตรํ วุตฺตกถาปิ, ปเคว ‘‘ปฏิสนฺธิโต ปฏฺายา’’ติ วุตฺตกถายํ. เตนาห ‘‘เตสํ เตสํ ปมปาตุภาโว ชาตี’’ติ.

อุมฺมุชฺชนวเสน คยฺหตีติ อุมฺมุชฺชนปจฺจุปฏฺานํ. วกฺขมานวิภาคํ ทุกฺขวิจิตฺตตํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ ทุกฺขวิจิตฺตตาปจฺจุปฏฺานา.

๕๓๙. ‘‘กสฺมา ปนา’’ติ วทโต โจทกสฺสายมธิปฺปาโย – เอกนฺตทุกฺเข นิรเย ตาว ชาติทุกฺขา โหตุ, อฺาสุปิ วา ทุคฺคตีสุ ปาปกมฺมสมุฏฺานโต สุขสํวตฺตนิยกมฺมสมุฏฺานาสุ ปน สุคตีสุ กถนฺติ. อิตโร ‘‘นายํ ชาติ สภาวทุกฺขวเสน ทุกฺขาติ วุตฺตา, น หิ กาจิ ปฏิสนฺธิ ทุกฺขเวทนาสมฺปยุตฺตา อตฺถิ, อถ โข ทุกฺขสฺส อธิฏฺานภาวโต’’ติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อเนเกสํ ทุกฺขานํ วตฺถุภาวโต’’ติอาทิมาห. อทุกฺขสภาวมฺปิ ปริยายโต ทุกฺขนฺติ วุจฺจตีติ ทุกฺขสภาวํ ทุกฺขสทฺเทน วิเสเสตฺวา วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขทุกฺข’’นฺติ ยถา รูปรูปนฺติ.

ทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโตติ ‘‘อหุ วต เม, ตํ วต นาโหสี’’ติ เจตสิกทุกฺขุปฺปตฺติเหตุโต.

‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๕, ๔๕, ๗๖, ๗๗, ๘๕; ๒.๔.๑, ๔) วจนโต เตภูมกา สงฺขารา สงฺขารทุกฺขํ, ตตฺถ การณมาห ‘‘อุทยพฺพยปฺปฏิปาฬิตตฺตา’’ติ. ยฺหิ อภิณฺหํ ปฏิปีฬิตํ, ตํ ทุกฺขมนตาย ทุกฺขนฺติ, วิปสฺสนาจารสฺส อธิปฺเปตตฺตา เตภูมกคฺคหณํ.

ทุกฺขทุกฺขนฺติ ทุกฺขโทมสฺสุปายาเส วทติ. ‘‘ชาติปิ ทุกฺขา’’ติอาทินา (วิภ. ๑๙๐) ทุกฺขสจฺจวิภงฺเค อาคตํ.

ภควตาปีติ อนาวรณาณวตา อจฺจริยาปริเมยฺยเทสนาโกสลฺลวตา ภควตาปิ. อุปมาวเสนติ องฺคารกาสูปมาทิอุปมาวเสน.

๕๔๐. ปุณฺฑรีกาทีสูติ อาทิ-สทฺเทน น มณิกนกรชตปวาฬาทิรตนสนฺนิจฺจเย, นาปิ อณฺฑชเมณฺฑชวายชาติเก สุภมนุฺสยนตเล, นาปิ รตนมยกุฏฺฏิมมโนหเร ปาสาทตเล, นาปิ สิตฺตสมฺมฏฺกุสุโมปหารวติ ปาสาทูปจาเร, นาปิ มุตฺตาชาลสทิสวาลิกาวิกิณฺเณ วิวิฏงฺคเณ, นาปิ หริตกมฺพลสทิสมุทุสทฺทลสโมตเล ภูมิภาเคติ เอวมาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ปรมสมฺพาเธติ อติวิย สมฺพาเธ. ติพฺพนฺธกาเรติ พหลนฺธกาเร. ปิตฺตเสมฺหปุพฺพรุหิรคูโถทริยาทิ นานากุณปสมฺพาเธ. มาตา ยทิ วีสติวสฺสา, อถ ตึส, จตฺตาลีสาทิวสฺสา, ตตฺตกํ กาลํ อโธตวจฺจกูปสทิสตาย อธิมตฺตเชคุจฺเฉ. ปูติมจฺฉา ทิ สพฺพํ น สทิสูปมฺมํ ตสฺส วาตาทิวเสน เอกจฺจทุคฺคนฺธาปคมสพฺภาวโต. ทส มาเสติ อจฺจนฺตสํโยเค อุปโยควจนํ, เยภุยฺยวเสน วุตฺตํ ตโต ภิยฺโยปิ เอกจฺจานํ ตตฺถาวฏฺานสมฺภวโต . อตฺตโน อโธมุขํ ปิตสงฺกุจิตหตฺถทฺวยสฺส อุกฺกุฏิกสฺเสว นิสีทโต สมิชฺชนปฺปสารณาทิรหิโต.

อภิมุขํ กฑฺฒนํ อากฑฺฒนํ. ปริโต สมนฺตโต กฑฺฒนํ ปริกฑฺฒนํ. เหฏฺา ธุนนํ โอธูนนํ. นิธาย นิธาย ธูนนํ นิทฺธูนนํ. อากฑฺฒนาทิสทิสฺเจตฺถ ‘‘อากฑฺฒนาที’’ติ วุตฺตํ. ตรุณวณสทิสํ อติวิย สุขุมาลํ คพฺภคตํ สรีรํ สีตาทิอปฺปกมฺปิ น สหตีติ สีตนรกูปปนฺนตาทิ นิทสฺสิตํ. ตฺหิ ตสฺส อติวิย สีตํ, อติวิย อุณฺหฺจ หุตฺวา อุปติฏฺติ. สรีรํ วาสิยาทีหิ ตจฺเฉตฺวา ขาราวเสจนกรณํ ขาราปฏิจฺฉกํ. ทุกฺขุปฺปตฺติฏฺาเนติ คพฺภาสยสฺิตํ ตติยํ อาวฏฺฏํ สนฺธายาห.

ปริวตฺเตตฺวาติ อุทฺธํปาทอโธสีสภาเวน ปริวตฺเตตฺวา. อิทํ วิชายนมูลกํ ทุกฺขํ, เยน มรณทุกฺเขน จ อฏฺฏิตา เวทนาปฺปตฺตา สตฺตา กติปยมาสมตฺตาติกฺกนฺตมฺปิ ปวตฺตึ วิสฺสรนฺติ, มหนฺธการํ มหาวิทุคฺคํ ปกฺขนฺธา วิย โหนฺติ.

วเธนฺตสฺสาติ โสจนปริเทวนสีสปฏิหนนาทินา พาเธนฺตสฺส. ขุปฺปิปาสา หิ อาตปาวฏฺานาทินา จ อาตาปนํ. ปฺจคฺคิตาปนาทินา ปริตาปนํ.

อิมสฺสาติ ยถาวุตฺตสฺส สตฺตวิธสฺส. สพฺพสฺสาปีติ คพฺภกาลาทีสุ ตาปนมทฺทนาทินิรยคฺคิทาหาทิสฺชนิตสฺส สกลสฺสาปิ. วตฺถุเมว โหติ ตทภาเว อภาวโต. เตเนวาห ‘‘ชาเยถ โน เจ’’ติอาทิ.

๕๔๑. วิจิตฺตนฺติ วิวิธํ, อจฺฉริยํ วา.

อิติ ชาตินิทฺเทสวณฺณนา.

ชรานิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๒. สงฺขาตลกฺขณนฺติ ‘‘ิตสฺส อฺถตฺต’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๓๘; อ. นิ. ๓.๔๗; กถา. ๒๑๔) วุตฺตํ ขณิกชรํ สนฺธายาห. ขณฺฑิจฺจาทิสมฺมโตติ ขณฺฑิจฺจปาลิจฺจวลิตฺตจตาทินา สมฺโต. สาติ ขนฺธปุราณภาวสฺิตา ปากฏชรา. ขนฺธปริปาโก เอกภวปริยาปนฺนานํ ขนฺธานํ ปุราณภาโว.

อิติ ชรานิทฺเทสวณฺณนา.

มรณนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๓. สงฺขตลกฺขณนฺติ สงฺขารานํ วยสฺิตํ ขณิกมรณมาห. ยํ สนฺธายาติ ยํ ขณิกมรณํ สนฺธาย, ‘‘ชรามรณํ ทฺวีหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิต’’นฺติ (ธาตุ. ๗๑) เอตฺถ ‘‘มรณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ อตฺโถ. นฺติ ชีวิตินฺทฺริยุปจฺเจทสฺิตํ ปากฏมรณํ. ‘‘จวน’’นฺติ ลกฺขิตพฺพตาย จุติลกฺขณํ. วิโยครสนฺติ ยถาธิคเตหิ สตฺตสงฺขาเรหิ วิโยชนรสํ. ยถูปปนฺนาย คติยา วิปฺปวาสวเสน คยฺหตีติ คติวิปฺปวาสปจฺจุปฏฺานํ.

ปาปสฺสาติ ปาปโยเคน ปาปสฺส, อุปจิตปาปกมฺมสฺสาติ อตฺโถ. ปาปกมฺมาทินิมิตฺตนฺติ ปาปกมฺมกมฺมนิมิตฺตคตินิมิตฺตสงฺขาตํ มรณกาเล อุปฏฺิตํ อกุสลวิปาการมฺมณํ. ตมฺหิ ปสฺสนฺตสฺเสว กสฺสจิ อนุภวนฺตสฺส วิย มหาทุกฺขํ โหติ. ภทฺทสฺสาติ ภทฺทกมฺมสฺส, กตกุสลสฺสาติ อตฺโถ. ตสฺส ปน กามํ อิฏฺเมว อารมฺมณํ อุปฏฺาติ, ปิยวิปฺปโยควตฺถุกํ ปน มหนฺตํ ทุกฺขํ อารมฺมณํ อุปฏฺาติ, ปิยวิปฺปโยควตฺถุกํ ปน มหนฺตํ ทุกฺขํ อุปฺปชฺชตีติ อาห ‘‘อสหนฺตสฺส วิโยคํ ปิยวตฺถุก’’นฺติ. อวิเสสโตติ ปาปสฺส, ภทฺทสฺส จ สามฺโต. ‘‘อวิเสสโต’’ติ วตฺวาปิ ‘‘สพฺเพส’’นฺติ วจนํ ตํ อิทํ ทุกฺขํ ปริมทฺทิตสงฺขารานํ เอกจฺจานํ ขีณาสวานมฺปิ โหติเยวาติ ทสฺสนตฺถํ. วิตุชฺชมานมมฺมานนฺติ สนฺธิพนฺธนาวจฺเฉทกวายุนา วิชฺฌิยมานมมฺมฏฺานานํ.

อิติ มรณนิทฺเทสวณฺณนา.

โสกนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๔. โสติ โสโก. อตฺถโต โทมนสฺสเมว โหติ เจตสิกนฺตราภาวโต. โทมนสฺสวิเสโส ปน โหติ วิสยวิเสเส ปวตฺติอาการวิเสสสพฺภาวโตติ ตํ วิเสสํ ลกฺขณาทิโต ทสฺเสตุํ ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนฺโต นิชฺฌานํ จิตฺตสนฺตาโป. ปริชฺฌาปนํ ราคโทสปริฬาหวิสิฏฺํ ทหนํ. กตากตกุสลากุสลวิสยํ วิปฺปฏิสารากาเรน ปวตฺตํ อนุโสจนํ กุกฺกุจฺจํ, าติพฺยสนาทิวิสยํ เกวลํ จิตฺตสนฺถาปภูตํ อนุโสจนํ โสโกติ อนุโสจนปจฺจุปฏฺานตฺเตปิ อยเมเตสํ วิเสโส.

วิสปีตํ สลฺลํ วิสสลฺลํ. โสกวเสน อติสาราทิ พฺยาธิปิ โหติ, โสกพหุลสฺส สรีรํ น จิรสฺเสว ชีรติ, พลวโสกาภิภูโต มรณมฺปิ ปาปุณาตีติ อาห ‘‘สมาวหติ จ พฺยาธิชรามรณเภทน’’นฺติ.

อิติ โสกนิทฺเทสวณฺณนา.

ปริเทวนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๕. วจีปลาโปติ วาจาวิปฺปลาโป, โส อตฺถโต สทฺโท เอว. ภิยฺโยติ โสกทุกฺขโต อุปริ. โสกสมุฏฺาโน หิ ปริเทโว.

อิติ ปริเทวนิทฺเทสวณฺณนา.

ทุกฺขนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๖. ชาติอาทีนมฺปิ ยถารหํ ทุกฺขวตฺถุทุกฺขทุกฺขตาหิ สติปิ ทุกฺขภาเว กายสฺส ปีฬนวเสน อิทํ สวิเสสํ ทุกฺขมนฺติ อาห ‘‘ทุกฺขนฺติ วิเสสโต วุตฺต’’นฺติ.

อิติ ทุกฺขนิทฺเทสวณฺณนา.

โทมนสฺสนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๗. มโนวิฆาตรสนฺติ พฺยาปาทสมฺปโยควเสน มนโส วิหฺนกิจฺจํ. เจโตทุกฺขสมปฺปิตาติ เจตสิกทุกฺขสมงฺคิโน. อาวฏฺฏนฺตีติ อามุขํ วฏฺฏนฺติ, ยํทิสาภิมุขํ ปติตา, ตํทิสาภิมุขา เอว วฏฺฏนฺติ. วิวฏฺฏนฺตีติ วิปริวตฺตนวเสน วฏฺฏนฺติ. อุทฺธํปาทํ ปปตนฺตีติ อุทฺธํมุขปาทา หุตฺวา ปตนฺติ. สตฺถํ อาหรนฺตีติ อตฺตโน สรีรสฺส วิชฺฌนเภทนวเสน สตฺถํ อุปเนนฺติ.

อิติ โทมนสฺสนิทฺเทสวณฺณนา.

อุปายาสนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๘. โทโสเยวาติ กายจิตฺตานํ อายาสนวเสน โทสสฺเสว ปวตฺติอากาโรติ อตฺโถ, ยโต ภุโส อายาโสติ อุปายาโสติ วุจฺจติ ยถา ภุสมาทานํ อุปาทานนฺติ. เอโก ธมฺโมติ จุทฺทสหิ อกุสลเจตสิเกหิ อฺโ เอโก เจตสิกธมฺโม, ยํ ‘‘วิสาโท’’ติ จ วทนฺติ. นิตฺถุนนวเสน สมฺปชฺชนโต นิตฺถุนนรโส, กาเย วา นิตฺถุนนกรณกิจฺโจ. ‘‘สงฺขารทุกฺขภาวโต’’ติ วตฺวา โส ปเนตฺถ สาติสโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘จิตฺตปริทหนโต, กายวิสาทนโต จา’’ติ อาห.

เอเต จ โสกปริเทวุปายาสา วิฺตฺติยา วินา, สห จ ยถาปจฺจยํ โทมนสฺสจิตฺตุปฺปาทสฺส ปวตฺติอาการวิเสโสติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ปาโก วิยาติ รชนาทิโน ปจิตพฺพวตฺถุโน ปาโก วิย.

อิติ อุปายาสนิทฺเทสวณฺณนา.

อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา

๕๔๙. สโมธานํ สมาคโม. กายิกทุกฺขจิตฺตวิฆาตาทิอนตฺถานํ อตฺถิภาวสฺส ปจฺจุปฏฺาโน อนตฺถภาวปจฺจุปฏฺาโน.

เตสํ อปฺปิยานํ กายิกวาจสิกปโยคสงฺขาโต อุปกฺกโม ตทุปกฺกโม, ตโต สมฺภูโต ตทุปกฺกมสมฺภูโต.

อิติ อปฺปิยสมฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา.

ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา

๕๕๐. อุปทฺทวภาเวน ปจฺจุปติฏฺตีติ พฺยสนปจฺจุปฏฺาโน.

อิติ ปิยวิปฺปโยคนิทฺเทสวณฺณนา.

อิจฺฉิตาลาภนิทฺเทสวณฺณนา

๕๕๑. อิจฺฉิตาลาโภ นาม ยสฺส กสฺสจิ อตฺตนา อิจฺฉิตสฺส วตฺถุโน อลาโภ. ‘‘ยมฺปิจฺฉํ น ลภตี’’ติ หิ วุตฺตํ. มตฺถกปฺปตฺตํ ปน อิจฺฉิตาลาภํ ทสฺเสตุํ ปาฬิยํ ‘‘ชาติธมฺมานํ สตฺตาน’’นฺติอาทินา นิทฺทิฏฺนฺติ ตเมว ทสฺเสตุํ ‘‘อโห วตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อิจฺฉาวาติ เอตฺถ อิจฺฉาสหิโต อลาโภวาติ จ วทนฺติ. ตปฺปริเยสนรสาติ เตสํ อลพฺภเนยฺยวตฺถูนํ ปริเยสนรสา. อปฺปตฺติ อลาโภ.

อิติ อิจฺฉิตาลาภนิทฺเทสวณฺณนา.

ปฺจุปาทานกฺขนฺธนิทฺเทสวณฺณนา

๕๕๒. ยํวุตฺตมิธาติ อิธ สจฺจนิทฺเทเส ยํ สรูปโต วุตฺตํ. อวุตฺตนฺติ อฺตฺถ ทุกฺขกฺขนฺธพาลปณฺฑิตสุตฺตาทีสุ วุตฺตมฺปิ อิธ สรูปโต อวุตฺตํ. ตฺจ สพฺพํ อิเม อุปาทานกฺขนฺเธ วินา น ลพฺภตีติ ตตฺถ ขนฺธสนฺนิสฺสยเมว ทุกฺขํ ขนฺเธ วิพาธตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อินฺทนมิว ปาวโก’’ติ วุตฺตํ. ยถา วา ลกฺขํ ปหรณปหารสฺส วตฺถุ, เอวํ ขนฺธา สํสารทุกฺขสฺส. ยถา จ โครูปํ ฑํสมกสาทิวิพาธาย, ยถา จ เขตฺตํ นิปฺผนฺนสสฺสลายนสฺส, คาโม จ คามฆาตกวิพาธาย, เอวํ ขนฺธา ชาติอาทิทุกฺขสฺส วตฺถูติ ทสฺเสตุํ ‘‘ลกฺขมิวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เยภุยฺเยน โลเก วิพาธกา วิพาเธตพฺพาธีนา น โหนฺติ, อิเม ปน วิพาเธตพฺพาธีนา เอวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ติณลตาทีนี’’ติ วุตฺตํ. กามํ อนาทิมติ สํสาเร อาทิ นาม กสฺสจิ นตฺถิ, เอกภวปริจฺฉินฺนสฺส ปน ขนฺธสนฺตานสฺส วเสน วุตฺตํ ‘‘อาทิทุกฺขํ ชาตี’’ติ. เตเนวาห ‘‘ปริโยสานทุกฺขํ มรณ’’นฺติ. น เหตฺถ สมุจฺเฉทมรณเมว อธิปฺเปตํ. มรณสฺส อนฺติเก อาสนฺเน ชาตํ ทุกฺขํ มารณนฺติกทุกฺขํ. ปริทยฺหนํ จิตฺตสนฺตาโป. ลาลปฺปนํ อติวิย วิปฺปลาโป. อนุตฺถุนนํ อนฺโต นิชฺฌายนํ. เอกเมกนฺติ ชาติอาทีนํ อนฺตรเภทภินฺนานํ, ชาติอาทีนเมว วา อุปาทานกฺขนฺธปฺจกานํ วา เอกเมกํ. สงฺขิปิตฺวาติ สมาเสตฺวา, สามฺนิทฺเทเสน วา สงฺเขปํ กตฺวา.

อิติ ทุกฺขนิทฺเทสกถาวณฺณนา.

สมุทยนิทฺเทสกถาวณฺณนา

๕๕๓. ปุนพฺภวกรณํ ปุนพฺภโว อุตฺตรปทโลเปน, ยถา วา อปูปภกฺขนสีโล อาปูปิโก, เอวํ ปุนพฺภวกรณสีลา, ปุนพฺภวํ วา ผลํ อรหติ, โส วา เอติสฺสา ปโยชนนฺติ โปโนภวิกา. นนฺทนโต, รฺชนโต จ นนฺทีราคภาวํ สพฺพาสุ อวตฺถาสุ อปจฺจกฺขาย วุตฺติยา นนฺทีราคสหคตา. ตาย จ สตฺตา ตตฺถ ตตฺถ ภวาทิเก กิมิกีฏปฏงฺคาทิอตฺตภาเวปิ นนฺทนฺติ, รูปาภินนฺทนาทิภูตาย รฺชนฺติ จาติ ตตฺรตตฺราภินนฺทินี. เตนาห ‘‘นนฺทีราเคน สหคตา’’ติอาทิ. ตพฺภาวตฺโถ หิ เอส สหคตสทฺโท. กามภววิภวเภทวเสน ปวตฺติยา กามตณฺหา, ภวตณฺหา, วิภวตณฺหา จ เวทิตพฺพา. กามตณฺหาทิเภทํ อนามสิตฺวา เกวลํ ตณฺหาภาเวเนว เอกภาวคฺคหเณน เอกตฺตํ อุปเนตฺวา กสฺสจิปิ สตฺตสฺส เกนจิ สทิสตาภาวโต ตํตํวิจิตฺตภาวชนกกมฺมนิปฺผาทเนน อติวิจิตฺตสภาวา สกลสฺส ทุกฺขสฺส เหตุภาวโต ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจํ.

กสฺมา ปเนตฺถ ตณฺหาว สมุทยสจฺจํ วุตฺตาติ? วิเสสเหตุภาวโต. อวิชฺชา หิ ภเวสุ อาทีนวํ ปฏิจฺฉาเทนฺตี, ทิฏฺิอาทิอุปาทานฺจ ตตฺถ ตตฺถ อภินิวิสมานํ ตณฺหํ อภิวฑฺเฒนฺตี โทสาทโยปิ กมฺมสฺส การณํ โหนฺติ, ตณฺหา ปน ตํตํภวโยนิคติวิฺาณฏฺิติสตฺตาวาสสตฺตนิกายกุลโภคิสฺสริยาทิวิจิตฺตตํ อภิปตฺเถนฺตี, กมฺมวิจิตฺตตาย อุปนิสฺสยตํ กมฺมสฺส จ สหายภาวํ อุปคจฺฉนฺตี ภวาทิวิจิตฺตตํ นิยเมติ, ตสฺมา ทุกฺขสฺส วิเสสเหตุภาวโต อฺเสุปิ อวิชฺชาอุปาทานกมฺมาทีสุ สุตฺเต (ที. นิ. ๒.๔๐๐; ม. นิ. ๑.๑๓๓; ๓.๓๗๔) อภิธมฺเม (วิภ. ๒๐๓) จ อวเสสกิเลสากุสลมูลาทีสุ วุตฺเตสุ ทุกฺขเหตูสุ วิชฺชมาเนสุ ตณฺหาว สมุทยสจฺจนฺติ วุตฺตาติ เวทิตพฺพํ.

อิติ สมุทยนิทฺเทสกถาวณฺณนา.

นิโรธนิทฺเทสกถาวณฺณนา

๕๕๔. ตสฺสาเยวาติ ยทคฺเคน ตณฺหา สมุทยสจฺจนฺติ วุตฺตา, ตทคฺเคน ตสฺสาเยวาติ อวธารณํ. สติ หิ ปธานเหตุนิโรเธ ตทฺเหตู นิรุทฺธาเยว โหนฺตีติ พฺยาธินิมิตฺตวูปสมเนน พฺยาธิวูปสโม วิย เหตุนิโรเธน ผลนิโรโธติ อาห ‘‘สมุทยนิโรเธน ทุกฺขนิโรโธ’’ติ. น อฺถาติ ยถาวุตฺตสฺส อตฺถสฺส เอกนฺติกตํ ทสฺเสติ.

อนุปทฺทเวติ ปาณกวิชฺฌนสตฺถปฺปหาราทิอุปทฺทวรหิเต. ตโต เอว ทฬฺเห ถิเร. สาขาทิเฉทเนน ฉินฺโนปิ. ตณฺหานุสเยติ กามราคภวราคานุสเย. อนูหเตติ อสมุปฆาฏิเต.

ยถา สีโห เยนตฺตนิ สโร ขิตฺโต, ตตฺเถว อตฺตโน พลํ ทสฺเสติ, น สเร, ตถา พุทฺธานํ การเณ ปฏิปตฺติ, น ผเล. ยถา ปน สารเมยฺยา เกนจิ เลฑฺฑุปฺปหาเร ทินฺเน ภุสฺสนฺตา เลฑฺฑุํ ขาทนฺติ, น ปหารทายเก อุฏฺหนฺติ, เอวํ อฺติตฺถิยา ทุกฺขํ นิโรเธตุกามา กายจฺเฉทมนุยุฺชนฺติ, น กิเลสนิโรธนนฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘สีหสมานวุตฺติโน’’ติอาทิ วุตฺตํ.

๕๕๕. วิรชฺชติ ปลุชฺชติ ฉิชฺชติ สมุทโย เอเตนาติ วิราโค วุจฺจติ มคฺโค. วิรชฺชนํ ปลุชฺชนํ สมุจฺฉินฺทนํ วิราโคติ ปหานํ วุจฺจติ. ตสฺมาติ ยสฺมา ปหานปริยาโย วิราคสทฺโท, นิโรธสทฺโท จ, ตสฺมา. อนุสยสมุคฺฆาตโต อเสโส วิราโค อเสโส นิโรโธติ สมฺพนฺธนียํ. จาคาทิปทานิปิ คเหตฺวา วทติ สพฺพาเนว เอตานีติ. ยสฺมา นิพฺพานํ วุจฺจติ, น ทุกฺขสฺส นิรุชฺฌนมตฺตํ, ตสฺมา ตณฺหาย อเสสวิราคนิโรธาทิปทานิปิ นิพฺพานเววจนานีติ. วุตฺตเมวตฺถํ สมตฺเถติ ‘‘ยสฺมา ปนา’’ติอาทิ. ยถา วิราคาทิปทานิ นิพฺพาเน ยุชฺชนฺติ, ตํทสฺสนํ. ตตฺถ ตํ อาคมฺมาติ ตํ นิพฺพานํ อารมฺมณกรณวเสน ปตฺวา. ตณฺหา วิรชฺชตีติ อริยมคฺเคน อจฺจนฺตวิราควเสน ตณฺหา วิรชฺชียติ. นิรุชฺฌตีติ นิโรธียติ, เตน วิราคนิโรธสทฺทานํ อธิกรณสาธนตมาห. ตเทวาติ นิพฺพานเมว. จาคาทโย โหนฺตีติ จาคาทิเหตุํ ผลโวหาเรน วทติ. ‘‘กามคุณาลเยสู’’ติ โปตฺถเกสุ ลิขนฺติ, ‘‘กามคุณาลยาทีสู’’ติ ปน ปาโ.

๕๕๖. ตยิทนฺติอาทิ น โปราณปาโ, สจฺจตฺถทีปเน ปน วุตฺตนิยาเมน ตโต อาเนตฺวา ปจฺฉา ปิตํ. ตถา หิ ปุพฺเพ วุตฺตานิปิ ลกฺขณาทีนิ ปุนปิ วุตฺตานิ. สํสารทุกฺขโต นิพฺพินฺนมานสสฺส อสฺสาสํ กโรนฺโต วิย โหตีติ อสฺสาสกรณรสํ. ราคาทิสพฺพปปฺจวูปสมนิมิตฺตตาย นิปฺปปฺจตํ ปจฺจุปฏฺเปตีติ นิปฺปปฺจปจฺจุปฏฺานํ.

๕๕๗. นตฺเถว นิพฺพานนฺติ ยทิ สามฺโต ปฏิฺา, อตฺตนา อธิปฺเปตนิพฺพานสฺสปิ อภาโว อาปชฺชติ, ตถา สติ ปฏิฺาวิโรโธ. อถ ปราภิมตํ นิพฺพานํ ปติ, เอวํ สติ ธมฺมิอสิทฺธิ, ตโต จ นิสฺสยาสิทฺโธ เหตุ. อนุปลพฺภนียโตติ กึ ปจฺจกฺขโต, อุทาหุ อนุมานโต? ปุริมสฺมึ ปกฺเข จกฺขาทีหิ อเนกนฺติกตา, ทุติยสฺมึ ปรํ ปติ อสิทฺโธ เหตุ. เตนาห ‘‘น, อุปาเยน อุปลพฺภนียโต’’ติอาทิ. ตตฺถ ยถา เจโตปริยาณลาภิโน เอว อริยา ปเรสํ โลกุตฺตรจิตฺตํ ชานนฺติ, ตตฺถาปิ จ อรหา เอว สพฺเพสํ, น สพฺเพ, เอวํ นิพฺพานมฺปิ สีลสมาธิปฺาสงฺขาตสมฺมาปฏิปตฺติภูเตน อุปาเยน อุปลพฺภตีติ อตฺถวจนํ เจตํ ทฏฺพฺพํ, น ปโยควจนํ. ตํ ปรโต อาวิ ภวิสฺสติ.

๕๕๘. นตฺถีติ น วตฺตพฺพํ, อริเยหิ อุปลพฺภนียโตติ อธิปฺปาโย. สํสารโต สํวิคฺคมานสา สมฺมาปฏิปตฺติยา นิพฺพานํ อธิคจฺฉนฺตีติ สพฺพสมยสิทฺโธยํ นโย. ตตฺถ สาสนิกเมว นิสฺสาย วทติ ‘‘ปฏิปตฺติยา วฺจุภาวาปชฺชนโต’’ติ. เตนาห ‘‘อสติ หี’’ติอาทิ. สมฺมาทิฏฺิปุเรชวายาติ สมฺมาทิฏฺิปุพฺพงฺคมาย. ปุพฺพงฺคมตา จสฺสา ปธานภาวโต. ตถา หิ สา ปมํ เทสนารุฬฺหา, น สพฺพปมํ อุปฺปชฺชนโต. น จายํ สมฺมาปฏิปตฺติ วฺฌา, นิพฺพานปาปนโต นิพฺพานสฺส สมฺปาปกโต. ตว มเตน ปน นิพฺพานสฺเสว อภาวโต วฺฌภาโว อาปชฺชตีติ โยชนา. อภาวปาปกตฺตาติ สมฺมาปฏิปตฺติยา กิเลสสมุจฺฉินฺทนมุเขน ขนฺธานํ อภาวสมฺปาปกภาวโต, น วฺฌภาวาปตฺตีติ เจ วเทยฺยาสีติ อตฺโถ. อิติ ปฏิกฺเขเป. ยํ ตยา ‘‘อภาวปาปกตฺตา’’ติ วทนฺเตน ขนฺธาภาโว นิพฺพานนฺติ ปฏิฺาตํ, ตํ น. กสฺมา? อตีตานาคตาภาเวปิ นิพฺพานปฺปตฺติยา อภาวโต. อตีตานาคตา หิ ขนฺธา น สนฺตีติ ตสฺมึ อภาเว นิพฺพานํ อธิคตํ นาม สิยา, โส ปน นตฺถีติ. น เกวลํ อตีตานาคตานเมว, อถ โข วตฺตมานานมฺปีติ ติยทฺธคตานํ สพฺเพสํ ขนฺธานํ อภาโว นิพฺพานํ. น หิ ตํ เอกเทสาภาโว ภวิตุํ ยุตฺตนฺติ วตฺตมานา เจ, น น สนฺติ, น สนฺติ เจ, น วตฺตมานาติ ‘‘วตฺตมานา, น สนฺติ จา’’ติ วิปฺปฏิสิทฺธเมตนฺติ อาห ‘‘น, เตสํ…เป… ปชฺชนโต’’ติ.

กิฺจ ภิยฺโย – ยทิ วตฺตมานาภาโว นิพฺพานํ, ยทา อริยมคฺโค วตฺตติ, ตทา ตสฺส นิสฺสยภูตา ขนฺธา วตฺตมานาติ กตฺวา ตทา นิพฺพานสฺส อภาโว สิยา. ตถา จ สติ มคฺคกฺขเณปิ นิพฺพานสจฺฉิกิริยาย อภาโว อาปชฺชตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วตฺตมาน…เป… โทสโต’’ติ อาห. น มยํ สพฺเพสํเยว อวตฺตมานตาย นิพฺพานํ วทาม. กิฺจรหีติ, ตทา มคฺคกฺขเณ กิเลสานํ อวตฺตมานตฺตา, ตสฺมา น โทโส ยถาวุตฺตโทสาภาโวติ? ยทิ กิเลสานํ อวตฺตมานตาสงฺขาโต อภาโว นิพฺพานํ, เอวํ สติ อริยมคฺคสฺส นิรตฺถกตา อาปชฺชติ มคฺคกฺขณโต ปุพฺเพปิ ตทภาวสิทฺธิโต. เตนาห ‘‘อริยมคฺคสฺสา’’ติอาทิ. ตสฺมา อการณเมตนฺติ ยสฺมา น นิพฺพานสฺส อนุปลพฺภนียตา, อภาวมตฺตตา, ปฏิปตฺติยา วฺฌภาโว, อตีตานาคตาภาเว นิพฺพานาธิคโม จ อาปชฺชติ, วตฺตมานานํ อภาโวปิ น สมฺภวติ , ปเคว กิเลสานํ อวตฺตมานตา, อริยมคฺคสฺส จ นิรตฺถกภาวาปตฺติ, ตสฺมา นิพฺพานสฺส อภาวสาธนตฺถํ ยทิทํ ‘‘อนุปลพฺภนียโต, อภาวปาปกตฺตา, ตทา กิเลสานํ อวตฺตมานตฺตา’’ติ จ การณํ วุตฺตํ, อการณเมตํ, อยุตฺติเรสาติ อตฺโถ.

๕๕๙. อาทิวจนโตติ อาทิ-สทฺเทน อวสิฏฺํ ชมฺพุขาทกสุตฺตปเทสํ (สํ. นิ. ๔.๓๑๔ อาทโย), อฺมฺปิ อสงฺขตาย ธาตุยา นิทฺเทสปาฬึ สงฺคณฺหาติ. ตถา หิ ‘‘นิพฺพานํ นิพฺพานนฺติ, อาวุโส สาริปุตฺต, วุจฺจติ, กตมํ นุ โข, อาวุโส, นิพฺพานนฺติ? โย โข, อาวุโส, ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย, อิทํ วุจฺจติ นิพฺพาน’’นฺติ ชมฺพุขาทกสุตฺเต (สํ. นิ. ๔.๓๑๔ อาทโย), ‘‘ตตฺถ กตมา อสงฺขตา ธาตุ? ราคกฺขโย โทสกฺขโย โมหกฺขโย’’ติ (วิภ. ๑๘๔) อายตนวิภงฺเค วุตฺตํ. ตตฺรายมตฺโถ – นิพฺพานํ อสงฺขตา ธาตุ อสงฺขตสภาโว ธมฺโม. ยสฺมา ตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺติ, ตสฺมา ราคกฺขโย, โทสกฺขโย, โมหกฺขโยติ จ วุจฺจตีติ. อาคมฺมาติ จ สพฺพสงฺขาเรหิ นิพฺพินฺนสฺส วิสงฺขารนินฺนสฺส โคตฺรภุนา วิวฏฺฏิตมานสสฺส มคฺเคน สจฺฉิกรเณนาติ อตฺโถ. สจฺฉิกิริยมานฺหิ ตํ อธิคนฺตฺวา อารมฺมณปจฺจยภูตฺจ ปฏิจฺจ อธิปติปจฺจยภูเต จ ตสฺมึ ปรมสฺสาสภาเวน วินิมุตฺตสงฺขารสฺส ปรมคติภาเวน จ ปติฏฺานภูเต ปติฏฺาย ขยสงฺขาโต มคฺโค ราคาทโย เขเปตีติ ตํสจฺฉิกรณาภาเว ราคาทีนํ อนุปฺปตฺตินิโรธคมนาภาวา ตํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺตีติ วุจฺจนฺติ. เอกํเสน เจตํ เอวํ สมฺปฏิจฺฉิตพฺพํ, อิตรถา ยถารุตวเสน ปาฬิยา อตฺเถ คยฺหมาเน พหู โทสา อาปชฺชนฺตีติ เต ทสฺเสตุํ ‘‘อรหตฺตสฺสาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อรหตฺตฺหิ อคฺคผลปมุขา จตฺตาโร ขนฺธาติ น ตสฺส ราคาทิขยมตฺตตา ยุตฺตา. ตมฺปิ หิ…เป… นิทฺทิฏฺํ. ตตฺถ ยถา ราคาทีนํ ขีณนฺเต อุปฺปนฺนตฺตา อรหตฺตํ ‘‘ราคกฺขโย’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺนฺติ สุตฺตสฺส เนยฺยตฺถตฺตา. เอวํ นิพฺพานํ อาคมฺม ราคาทโย ขียนฺตีติ นิพฺพานํ ‘‘ราคกฺขโย’’ติอาทินา นิทฺทิฏฺนฺติ อิมสฺสาปิ สุตฺตสฺส เนยฺยตฺถตา เวทิตพฺพา. นิพฺพานสฺส ราคาทิกฺขยมตฺตตาย พหูโทสา อาปชฺชนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘กิฺจ ภิยฺโย’’ติอาทิ อารทฺธํ.

ตตฺถ อิตฺตรกาลาทิปฺปตฺติโทสโตติ ราคาทีนํ ขยมตฺตตาย ปริตฺตกาลตา, สงฺขตลกฺขณตา, ปโยเคน วินา สรเสเนว อธิคนฺธพฺพตา, ราคาทีหิ อปริมุตฺตตา, อาทิตฺตตา, ทุกฺขตา, อนุปสนฺตตา, พหุภาโว, โอฬาริกตา, โคตฺรภุมคฺคานํ อนารมฺมณตาติ เอวมาทิโทสาปชฺชนโต . ราคสฺเสว ขโย ราคกฺขโย, น โทสาทีนํ. ตถา โทสกฺขยาทโยปีติ อฺโ ราคกฺขโย, อฺโ โทสกฺขโย, อฺโ โมหกฺขโยติ ติณฺณํ อกุสลมูลานํ ขยภูตานิ ตีณิ นิพฺพานานิ, จตุนฺนํ อุปาทานานํ ขเย จตฺตาริ, ปฺจนฺนํ นีวรณานํ ขเย ปฺจ, ฉนฺนํ ตณฺหากายานํ ขเย ฉ, สตฺตนฺนํ อนุสยานํ ขเย สตฺต, อฏฺนฺนํ มิจฺฉตฺตานํ ขเย อฏฺ, นวนฺนํ ตณฺหามูลกานํ ขเย นว, ทสนฺนํ สํโยชนานํ ขเย ทส, ทิยฑฺฒกิเลสสหสฺสสฺส ขเย ปาฏิเยกฺกํ นิพฺพานนฺติ พหูนิ นิพฺพานานิ โหนฺติ. ราคาทิกฺขโย นาม อนฺธพาลานมฺปิ ปากโฏ, อนฺตมโส ทีปิมิคมกฺกฏาทีนมฺปิ สุวิฺเยฺโยติ โอฬาริกํ นิพฺพานํ โหติ. โคตฺรภุกฺขเณ กิเลสกฺขยสฺส อภาวโต, มคฺคกฺขเณ จ อขีณตฺตา, อารมฺมณกรณสฺส จ อสมฺภโว เอว. ตสฺส นิพฺพานภาวโตติ สพฺพปริโยสานสฺส ราคาทิกฺขยสฺส นิพฺพานภาวโต. ยโต ขยโต ปฏฺาย ราคาทีนํ ปวตฺติ น โหติ, โส ‘‘อยํ นามา’’ติ นิยเมตพฺโพ มคฺคผลาณานํ อารมฺมณภูโต นตฺถีติ อาห ‘‘น ตาทิสสฺส ขยสฺส อภาวโต’’ติ.

กิฺจ ภิยฺโย – โย ปจฺฉิมภวโต ตติยตฺตภาเวเยว ราคาทีสุ อาทีนวํ ทิสฺวา ฌานภาวนาย เต วิกฺขมฺเภตฺวา อปริหีนชฺฌาโน กาลํ กตฺวา พฺรหฺมโลกํ อุปปนฺโน, ตตฺถ ยาวตายุกํ ตฺวา อิธาคโตปิ กาเมสุ วีตราโคว หุตฺวา ปพฺพชิตฺวา อรหตฺตํ ปตฺโต, โย จ ปมวเย เอว ราคาทิโต นิพฺพินฺโน เต จ ฌาเนน วิกฺขมฺเภตฺวา ปจฺฉิมวเย อรหตฺตํ ปตฺโต, เตสํ ราคาทีนํ วิกฺขมฺภนโต ปฏฺาย อนุปฺปชฺชนโต นิโรธสทิสตาย อนุปฺปตฺติเยว นิโรโธ. เต นิพฺพานปฺปตฺตา นาม สิยุํ, น จ โหนฺติ, ตสฺมา น ตาทิสสฺส ขยสฺส นิพฺพานภาโว. ตสฺสาปิ อิตฺตรกาลตาทิโทสสมาโยโค เอวาติ อาห ‘‘ภาเวปิจา’’ติอาทิ .

ยทิ ‘‘ขโย’’ติ วจนโต ยโต ขยโต ปฏฺาย ราคาทีนํ อปฺปวตฺติ, ตํ ขยมตฺตํ นิพฺพานํ มฺสิ, เอวํ สติ ‘‘ขเย าณ’’นฺติอาทีสุ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๔๒; ๑๓๘๒) ‘‘ขโย’’ติ วุตฺตตฺตา ตทุปฺปตฺติโต ปฏฺาย จ ราคาทีนํ อนุปฺปตฺตีติ มคฺคสฺสาปิ นิพฺพานภาวาปตฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อริยมคฺคสฺส จา’’ติอาทิมาห.

ยถา นิรุทฺธา น สนฺติ, เอวํ อนุปฺปนฺนาปีติ อภาวสามฺโต นิโรธสทิสตาย อนุปฺปตฺติ เอว นิโรโธ อนุปฺปตฺตินิโรโธ. อยฺหิ มคฺเคน เขเปตพฺพากาโร, ยทิทํ อุปฺปชฺชนารหสฺส อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนนฺติ ‘‘ขโย’’ติ จ วุจฺจตีติ. ตํ อิตรขยโต วิเสเสนฺโต ‘‘อนุปฺปตฺตินิโรธสงฺขาตสฺส ปน ขยสฺสา’’ติ อาห. อนิปฺผนฺนตา ปน ตสฺส ขยสฺส ปริยาเยน อุปนิสฺสยตฺตาติ วุตฺตํ. อนุปฺปตฺตินิโรธกฺขยกรสฺส หิ มคฺคสฺส อารมฺมณภูตํ นิพฺพานํ อตฺถโต ตสฺส อุปนิสฺสโย วิยาติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. ตทุปจาเรนาติ อตฺถโต ผลภูตขยโวหาเรน. ผลูปจาเรน หิ การณํ โวหรียติ ยถา ‘‘อายุ ฆตํ, เสมฺโห คุโฬ’’ติ จ.

อสฺสาติ นิพฺพานสฺส. ‘‘อิทมฺปิ โข านํ สุทุทฺทส’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๖-๖๗; ม. นิ. ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) ปจฺจเวกฺขโต ภควโต อปฺโปสฺสุกฺกภาวาวหนโต. ‘‘ตฺหิ เต, มาคณฺฑิย, อริยํ จกฺขุํ นตฺถิ, เยน ตฺวํ อริเยน จกฺขุนา อาโรคฺยํ ชาเนยฺยาสิ, นิพฺพานํ ปสฺเสยฺยาสี’’ติ (ม. นิ. ๒.๒๑๘) วจนโต อริเยน จกฺขุนา ปสฺสิตพฺพํ.

๕๖๐. ยทิ นิพฺพานํ นาม สภาวธมฺโม อตฺถิ สตฺตสนฺตานปริยาปนฺโน จ, อถ กสฺมา จตุมหาปเถ สภา วิย สพฺพสาธารณา น ลพฺภตีติ อาห ‘‘มคฺคสมงฺคินา ปตฺตพฺพโต อสาธารณ’’นฺติ. ‘‘อสุกสฺส สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส กาเล อุปฺปนฺน’’นฺติ เอวํ ปุริมาย โกฏิยา อภาวโต อปฺปภวํ. มคฺคภาเวติ อริยมคฺคสฺส อตฺถิภาเว. ภาวโต วิชฺชมานโต ลทฺธพฺพโต.

อณุอาทีนนฺติ อณุปกติกาลปุริสาทีนํ. นิจฺจภาวาปตฺตีติ สสฺสตภาวสิทฺธิ. กูฏฏฺนิจฺจตา หิ อิธาธิปฺเปตา. เหตุโน อภาวาติ อุปปตฺติยา สาธนเหตุโน อภาวา. นิจฺจา เต อณุอาทโย. นิพฺพานสฺสนิจฺจตฺตาติ อเปกฺขธมฺมตฺตาติ เหตุลกฺขณานุปปตฺติ. ‘‘อณุอาทีนํ อสิทฺธตฺตา’’ติ เอเตน ‘‘นิจฺจา อณุอาทโย’’ติ ปฏิฺาย ธมฺมิอสิทฺธิ, ตโต จ นิสฺสยาสิทฺโธ เหตูติ ทสฺเสติ.

๕๖๑. ยถาวุตฺตยุตฺติสพฺภาวโตติ ‘‘อปฺปภวตฺตา’’ติ อตฺตนา วุตฺตํ เหตุํ สนฺธายาห. อปฺปภวตา จสฺส อปจฺจยตาย ทฏฺพฺพา, ตาย ตสฺส ปุริมาย โกฏิยา อภาโว. ‘‘รูปสภาวาติกฺกมโต’’ติ เอเตน ยถา รูปธมฺมานํ รุปฺปนสภาโว, ปฏิฆาตวนฺตตาย กลาปโส วุตฺติยา ปเทสสมฺพนฺโธ จ สภาโว, เอวํ นิพฺพานสฺส กตฺถจิ ปฏิฆาโต, สปฺปเทสตา จ นตฺถีติ ทสฺเสติ. น หิ นิพฺพานํ ‘‘อสุกทิสาย, อสุกเทเส’’ติ วา นิทฺทิสียติ, ยโต ตํ อปฺปติฏฺเมวาติ.

‘‘อสิถิล…เป… คมนียโต’’ติ เอเตน นิพฺพานสฺส อริยานํ ปจฺจกฺขสิทฺธตํ ทสฺเสติ. ‘‘สพฺพฺุวจนโต’’ติ เอเตน ตทฺเสํ อนุมานสิทฺธตํ, ตทุภเยน ‘‘อนุปลพฺภนียโต’’ติ ปนสฺส เหตุโน อสิทฺธตํ ทสฺเสติ. ปรมตฺเถน นาวิชฺชมานํ วิชฺชมานเมวาติ ยถารทฺธมตฺถํ นิคเมตฺวา ตทตฺถสาธนํ อาคมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติ-. อาทิมาห.

ตตฺถ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตนฺติ (อุทา. ๗๓; เนตฺติ. ๔๑) จตฺตาริปิ ปทานิ อฺมฺเววจนานิ. อถ วา เวทนาทโย วิย เหตุปจฺจยสมวายสงฺขาตาย การณสามคฺคิยา น ชาตํ น นิพฺพตฺตนฺติ อชาตํ. การเณน วินา, สยเมว จ น ภูตํ น ปาตุภูตํ น อุปฺปนฺนนฺติ อภูตํ. เอวํ อชาตตฺตา, อภูตตฺตา จ เยน เกนจิ การเณน น กตนฺติ อกตํ. ชาตภูตกตภาโว จ นาม รูปาทีนํ สงฺขตธมฺมานํ โหติ, น อสงฺขตภาวสฺส นิพฺพานสฺสาติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อสงฺขต’’นฺติ วุตฺตํ. ปฏิโลมโต วา สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตนฺติ สงฺขตํ, ตถา น สงฺขตํ สงฺขตลกฺขณรหิตนฺติ จ อสงฺขตนฺติ เอวํ อเนเกหิ การเณหิ นิพฺพตฺติตภาเว ปฏิสิทฺเธ ‘‘ปกติวาทีนํ ปกติ วิย สิยา นุ โข เอเกเนว การเณน เอตํ กต’’นฺติ อาสงฺกายํ เกนจิ น กตนฺติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อกต’’นฺติ วุตฺตํ. เอวํ อปจฺจยมฺปิ สมานํ ‘‘สยเมว นุ โข อิทํ ภูตํ ปาตุภูต’’นฺติ อาสงฺกายํ ตํ นิวตฺตนตฺถํ ‘‘อภูต’’นฺติ วุตฺตํ. อยฺเจตสฺส อสงฺขตากตาภูตภาโว สพฺเพน สพฺพํ อชาติธมฺมตฺตาติ ทสฺเสตุํ ‘‘อชาต’’นฺติ วุตฺตํ.

เอวเมตฺถ สตฺถา ปรมตฺถโต นิพฺพานสฺส อตฺถิภาวํ ปเวเทสิ. ปเวเทนฺโต จ ‘‘อหํ ธมฺมิสฺสโร ธมฺมสฺสามี’’ติ น อตฺตโน อาณามตฺเตน ปเวเทสิ, อปิจ โข ปน ปทปรเม อนุกมฺปมาโน ยุตฺติโตปิ ปเวเทสิ. ยถาห –

‘‘โน เจตํ, ภิกฺขเว, อภวิสฺส อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, นยิธ ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺาเยถ. ยสฺมา จ โข, ภิกฺขเว, อตฺถิ อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขตํ, ตสฺมา ชาตสฺส ภูตสฺส กตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ ปฺายตี’’ติ (อุทา. ๗๓; เนตฺติ. ๔๑).

ตสฺสตฺโถ – ภิกฺขเว, ยทิ อชาตาทิสภาวา อสงฺขตา ธาตุ น อภวิสฺส น สิยา, อิธ โลเก ชาตาทิสภาวสฺส รูปาทิกฺขนฺธปฺจกสงฺขาตสฺส สงฺขตสฺส นิสฺสรณํ อนวเสสวูปสโม น ปฺาเยยฺย น อุปลพฺเภยฺย น สมฺภเวยฺย. นิพฺพานฺหิ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺตมานา สมฺมาทิฏฺิอาทโย อริยมคฺคธมฺมา อนวเสสํ สํกิเลเส สมุจฺฉินฺทนฺติ, เตเนตฺถ สพฺพสฺสาปิ วฏฺฏทุกฺขสฺส อปคโม นิสฺสรณํ ปฺายติ. เอวํ พฺยติเรกวเสน นิพฺพานสฺส อตฺถิภาวํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ อนุคมนวเสนปิ ตํ ทสฺเสตฺวา นิคเมตุํ ‘‘ยสฺมา จ โข’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺสตฺโถ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

เอตฺถ จ ยสฺมา ‘‘อปฺปจฺจยา ธมฺมา อสงฺขตา ธมฺมา (ธ. ส. ทุกมาติกา ๗-๘). อตฺถิ, ภิกฺขเว, ตทายตนํ, ยตฺถ เนว ปถวี (อุทา. ๗๑). อิทมฺปิ โข านํ สุทุทฺทสํ, ยทิทํ สพฺพสงฺขารสมโถ สพฺพูปธิปฏินิสฺสคฺโค (ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๗; ม. นิ. ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๒.๑๗๒; มหาว. ๗-๘). อสงฺขตฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามิ อสงฺขตคามินิฺจ ปฏิปท’’นฺติอาทีหิ (สํ. นิ. ๔.๓๖๖) อเนเกหิ สุตฺตปเทหิ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาต’’นฺติ (อุทา. ๗๓; เนตฺติ. ๔๑) อิมินา จ สุตฺตปเทน นิพฺพานธาตุยา ปรมตฺถโต สพฺภาโว สพฺพโลกํ อนุกมฺปมาเนน สมฺมาสมฺพุทฺเธน ปกาสิโต, ตสฺมา ยทิปิ กตฺถ อปจฺจกฺขการีนมฺปิ สาสเน อภิปฺปสนฺนานํ วิฺูนํ สํสโย นตฺถิเยว. เย ปน ปรเนยฺยพุทฺธิโน ปุคฺคลา, เตสํ วิมติวิโนทนตฺถํ อยเมตฺถ อธิปฺปายนิทฺธารณมุเขน ยุตฺติวิจารณา.

ยถา ปริฺเยฺยตาย สอุตฺตรานํ กามานํ, รูปานฺจ ปฏิปกฺขภูตํ ตพฺพิธุรสภาวํ นิสฺสรณํ ปฺายติ, เอวํ สภาวานํ สพฺเพสมฺปิ สงฺขตธมฺมานํ ปฏิปกฺขภูเตน ตพฺพิธุรสภาเวน นิสฺสรเณน ภวิตพฺพํ. ยฺจ ตํ นิสฺสรณํ, สา อสงฺขตา ธาตุ. กิฺจ ภิยฺโย – สงฺขตธมฺมารมฺมณวิปสฺสนาาณํ, อปิจ อนุโลมาณํ กิเลเส ตทงฺควเสน ปชหติ, น สมุจฺเฉทวเสน ปชหิตุํ สกฺโกติ. ตถา สมฺมุติสจฺจารมฺมณํ ปมชฺฌานาทีสุ าณํ วิกฺขมฺภนวเสเนว กิเลเส ปชหติ, น สมุจฺเฉทวเสน. อิติ สงฺขตธมฺมารมฺมณสฺส, สมฺมุติสจฺจารมฺมณสฺส จ าณสฺส กิเลสานํ สมุจฺเฉทปฺปหาเน อสมตฺถภาวโต เตสํ สมุจฺเฉทปฺปหานกรสฺส อริยมคฺคาณสฺส ตทุภยวิปรีตสภาเวน อารมฺมเณน ภวิตพฺพํ, สา อสงฺขตา ธาตุ.

ตถา ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อชาตํ อภูตํ อกตํ อสงฺขต’’นฺติ (อุทา. ๗๓; เนตฺติ. ๔๑) เอวมาทิ นิพฺพานสฺส ปรมตฺถโต อตฺถิภาวโชตกวจนํ อวิปรีตตฺถํ ภควตา ภาสิตตฺตา. ยฺหิ ภควตา ภาสิตํ, ตํ อวิปรีตตฺถํ ยถา ตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา, สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา, สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา’’ติ (ม. นิ. ๑.๓๕๓, ๓๕๖; ธ. ป. ๒๗๗-๒๗๙; เถรคา. ๖๗๖-๖๗๘; เนตฺติ. ๕), ตถา นิพฺพานสทฺโท กตฺถจิ วิสเย ยถาภูตปรมตฺถวิสโย อุปจารวุตฺติสพฺภาวโต. เสยฺยถาปิ สีหสทฺโทติ เอวมาทีหิ นเยหิ ยุตฺติโตปิ อสงฺขตาย ธาตุยา ปรมตฺถโต อตฺถิภาโว เวทิตพฺโพ.

อปโร นโย – ยทิ ปน นิพฺพานํ อภาวมตฺตเมว สิยา, ตสฺส ‘‘คมฺภีโร ทุทฺทโส ทุรนุโพโธ สนฺโต ปณีโต อตกฺกาวจโร นิปุโณ ปณฺฑิตเวทนีโย’’ติ (ที. นิ. ๒.๖๔, ๖๗; ม. นิ. ๒.๓๓๗; สํ. นิ. ๑.๑๗๒; มหาว. ๗-๘) คมฺภีราทิตา, ‘‘อสงฺขตฺจ โว, ภิกฺขเว, ธมฺมํ เทเสสฺสามี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๔.๓๖๖) อสงฺขตาทิตา, ‘‘อพฺยากตา ธมฺมา อปจฺจยาธมฺมา’’ติอาทินา อพฺยากตธมฺมาทิตา จ น วตฺตพฺพา สิยา. น หิ อภาวสฺส โกจิ สภาโว อตฺถิ, เยน โส คมฺภีราสงฺขตาทิอาการโต วิฺาเยยฺย. อภาโว หิ อภาโว เอว, กุโต ตสฺส คมฺภีราสงฺขาตาทิภาวสมฺพนฺโธ. กิฺจายมภาโว สพฺเพสํ กิเลสานํ สพฺพสตฺตสนฺตานคตานํ เอโก วา ภเวยฺย อเนโก วา. ยทิ เอโก, เอเกเนว มคฺเคน สพฺพกิเลสาภาโว กโต, สจฺฉิกโต จาติ อฺสฺส, อฺเสฺจ มคฺคานํ นิรตฺถกตาติ น สิยา มคฺคพหุตา, เอกชฺฌฺจ สพฺพสตฺตานํ นิพฺพานาธิคโม อาปชฺชติ. สิยา ปเนวํ เอโก เอว โส นิพฺพานสฺิโต กิเลสาภาโว, โส ปน น มคฺเคหิ กาตพฺโพ, อถ โข สจฺฉิกาตพฺโพติ. เอวํ สติ วิเสสโต มคฺคสฺส นิรตฺถกตา อาปชฺชติ, กิเลสานํ อปฺปหานโตติ เอโกปิ มคฺโค น สิยา. อสติ จ กิเลสปฺปหาเน ทุกฺขสฺส อนุปจฺเฉทนโต กิเลสาภาวสจฺฉิกิริยา กิมตฺถิยา สิยา, อถ ปน มคฺคานํ สนฺตานคตสํโยชนตฺตยปฺปหานาทิปฏินิยตกิจฺจตาย จตูสุ มคฺเคสุ ปาฏิเยกฺกํ กิเลสาภาโว. เอวํ สติ สภาวปเภเทน วินา น พหุภาโวติ โส กิเลสกฺขยปริยาเยน วุตฺโต สภาวธมฺโม เอว สิยา.

เยสํ อภาโว, ตปฺปเภเทน อภาเว เภโทปจาโรติ เจ? เยสํ อภาโว, เตสํ สสภาวตาย ตสฺส สภาโวปจาโรปิ สิยา. ตถา จ เต สํกิเลสสงฺขตตาทิโต กิเลสสงฺขตตาทิอุปจาราปิ สิยุํ. โน เจ เต อิจฺฉิตา, ตปฺปเภเทน เภโทปจาโรปิ น อิจฺฉิตพฺโพ. น จ ปโหติ อุปจริโต พหุภาโว อตฺถโต พหุภาวาย. น หิ ชลํ อนลนฺติ อุปจริตํ ทหติ, ปจติ วา. เอกตฺตปฺหมฺปิ จายมภาโว อสภาวตาย น สหตีติ น สกฺกา วตฺตุํ นตฺถิภาวสามฺโต อเภทโวหาโร ยุตฺตรูโปติ. เอกตฺเต จ ปุพฺเพ วุตฺตา เอว โทสา, พหุภาเว ปน สติ วุตฺตนเยเนว สิทฺธา สภาวธมฺมตา. สภาวธมฺมตฺเตปิ จ พหุภาโว วิย ภาวํ ภาโวปิ พหุภาวํ น พฺยภิจเรยฺยาติ นิพฺพานสฺส พหุภาวปสงฺโค สิยาติ เจ? น พหุภาวสฺเสว อภาวปฺปสงฺคโต. ยทิ หิ ยถา กกฺขฬตา ภาวํ, เอวํ ภาโวปิ กกฺขฬตํ น พฺยภิจเรยฺย. เอวํ สติ สพฺเพสํ ภาวานํ ปถวีภาวาปตฺติโต กุโต ภาวสฺส พหุภาโว, ตสฺมา โลกโวหารานํ วิจิตฺตตาย ยทิปิ พหุตา ภาวาเปกฺขา, ภาวตา ปน น พหุตาเปกฺขาติ น ภาวสฺส สโต นิพฺพานสฺส พหุภาโว ‘‘เอกา นิฏฺา น ปุถุ นิฏฺา’’ติ วจนโต. เอกสฺมึเยว จ ทสฺสนภาวนาทฺวยํ สมฺภวติ.

ปรินิพฺพุตานํ ปจฺเจกํ นิพฺพานภาเว สตฺตสนฺตานนิยตํ นาม นิพฺพานํ สิยา. ตถา จ สติ สงฺขตตาทิโทสานติวตฺติเยว, กิเลสปฺปหานํ วา มคฺคกิจฺจํ กิเลสานํ อภาโว. ตสฺส จ เอกตฺเต น มคฺคพหุตา กิจฺจนฺตรสฺส กตฺตพฺพสฺส อภาวโต. มคฺคพหุภาโว จ มคฺเคหิ สจฺฉิกาตพฺเพ เอกสฺมึ ธมฺเม อินฺทฺริยานํ อปาฏวปาฏวปาฏวตรปาฏวตมภาเวน สจฺฉิกิริยาวิเสเสน กิเลสานํ ปหานเภเทน โหตีติ นิพฺพานสฺส สภาวธมฺมตฺเต เอว สิยา. อภาโวปิ จ กิเลสานํ มคฺเคน สกิจฺจกตาย กาตพฺโพ เอว สิยา, น สจฺฉิกาตพฺโพ. โก หิ สภาโว อภาวสฺส? โย สจฺฉิกาตพฺโพ สิยา, โส เจ นิพฺพานํ เอเกเนว มคฺเคน สพฺพกิเลสานํ อภาโว เอโก อภินฺโน กาตพฺโพ อาปนฺโน. อฺถา มคฺควเสน จตุพฺพิธภาเว นิพฺพานสฺส จตุพฺพิธภาวปฺปสงฺโค, นิพฺพานวิเสสปฺปสงฺโค จ อาปชฺเชยฺยาติ มคฺคกิจฺจสฺส เอกตฺเตน มคฺคพหุตา สิยา. พหุภาเว ปน เตสํ โส วุตฺตนเยน เอกสฺมึ ธมฺเม สจฺฉิกิริยาวิเสสโตติ สิทฺธา นิพฺพานสฺส สภาวธมฺมตา. ขยาธิคนฺตพฺพตาย ปเนตํ ‘‘ขโย’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ขเย าณ’’นฺติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๑๔๒; ๑๓๘๒) หิ วจนโต อริยมคฺโค ขโย นาม. เตน เจตํ อธิคนฺตพฺพํ สจฺฉิกาตพฺพํ, ตสฺมา ‘‘ขโย’’ติ วุตฺตนฺติ.

อิติ นิโรธนิทฺเทสกถาวณฺณนา.

มคฺคนิทฺเทสกถาวณฺณนา

๕๖๒. อฏฺธมฺมาติ ‘‘กตมํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา อริยสจฺจ’’นฺติ อารภิตฺวา ‘‘สมฺมาทิฏฺี’’ติอาทินา ปาฬิยํ (วิภ. ๒๐๕) ทุกฺขนิโรธคามินิปฏิปทานิทฺเทเส อาคตา, ตเมว จ ปาฬึ อาเนตฺวา อุทฺเทสวเสน อิธ จ วุตฺตา สมฺมาทิฏฺิอาทโย อฏฺ ธมฺมา อตฺถโต ปกาสิตา, น มคฺคสจฺจนิทฺเทสวเสนาติ อธิปฺปาโย. ยทิ อตฺถโต ปกาสิตา, กิมตฺถิยํ ปน อิธ กถนนฺติ อาห ‘‘อิธ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ ‘‘เอกกฺขเณ ปวตฺตมานาน’’นฺติ อิทํ โลกิยกุสลจิตฺตุปฺปาเทสุ วิรติโย นานากฺขณิกา เอว โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ. เสสมคฺคธมฺมา ปน ตตฺถาปิ เอกชฺฌํ อุปฺปชฺชนฺติเยว. วิเสสาวโพธนตฺถนฺติ ปฏิปกฺขสมุคฺฆาตาทิปวตฺติอาการวิเสสสฺส อวโพธนตฺถํ. วิตฺถารโต มคฺคกถา ปรโต อาวิ ภวิสฺสตีติ อาห ‘‘สงฺเขปโต’’ติ. จตุสจฺจปฏิเวธาย ปฏิปนฺนสฺสาติ ยถา จตุสจฺจาภิสมโย โหติ, เอวํ สพฺพโส ปุพฺพภาคปฏิปตฺติยา ปริปูรณวเสน ปฏิปนฺนสฺส. อริยมคฺคสงฺขาตสฺส โยคสฺส สพฺภาวโต โยคิโน. กามํ อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาเต ตเทกฏฺกิเลสานํ เลโสปิ นาวสิสฺสติ, วิชฺชาย ปน อวิชฺชา อุชุวิปจฺจนีกธมฺโมติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาตก’’นฺติ วุตฺตํ. ปรโต มิจฺฉาสงฺกปฺปาทิคฺคหเณปิ เอเสว นโย. ธาตุปฺปกาสนรสาติ ปรมตฺถปกาสนรสา, จตุสจฺจวิภาวนกิจฺจาติ อตฺโถ. มคฺคธมฺมานํ ปฏิปกฺขวิธมนากาโร สาติสยํ ปากโฏ หุตฺวา อุปฏฺาตีติ อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาตกตํ สมฺมาทิฏฺิยา วตฺวาปิ อวิชฺชนฺธการวิทฺธํสนปจฺจุปฏฺานตา วุตฺตา.

ตถา สมฺปนฺนทิฏฺิโนติ ยถา อวิชฺชานุสยสมุคฺฆาโต โหติ, ตถา มคฺคสมฺมาทิฏฺิยา สมฺปนฺนทิฏฺิโน. เอวฺหิ จตุสจฺจปฏิเวธาย ปฏิปนฺนสฺส โยคิโนติ อิมมตฺถํ ตถา-สทฺโท อุปสํหรติ. นิพฺพานารมฺมณตา ปน ตํสมฺปยุตฺตวจเนเนว โพธิตา. มิจฺฉาสงฺกปฺปนิฆาตกนฺติ กามสงฺกปฺปาทิมิจฺฉาสงฺกปฺปสมุจฺเฉทกํ. อปฺปนารโสติ นิพฺพานารมฺมเณ มคฺคจิตฺตสฺส สมุปฺปาทวเสน ปวตฺตนโต อปฺปนากิจฺโจ.

ตถา ปสฺสโต วิตกฺกยโต จาติ วุตฺตปฺปการาย สมฺมาทิฏฺิยา ปสฺสโต, นิพฺพานารมฺมเณ จ สมฺมาสงฺกปฺเปน จิตฺตํ อภินิโรปยโต. วจีทุจฺจริตสมุคฺฆาติกาติ จตุพฺพิธสฺสปิ วจีทุจฺจริตสฺส สมุจฺเฉทิกา. มุสาวาทาทีนํ วิสํวาทนาทิกิจฺจตาย ลูขานํ อปริคฺคาหกานํ ปฏิปกฺขภาวโต สินิทฺธภาเวน สมฺปยุตฺตธมฺมานํ ปริคฺคาหกสภาวา สมฺมาวาจาติ อาห ‘‘สา ปริคฺคหลกฺขณา’’ติ. กายิกกิริยา กิฺจิ กตฺตพฺพํ สมุฏฺาเปติ, สยฺจ สมุฏฺหนํ ฆฏนํ โหตีติ สมฺมากมฺมนฺตสงฺขาตา วิรติปิ สมุฏฺานสภาวา วุตฺตา. สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา อุกฺขิปนํ สมุฏฺาปนํ กายิกกิริยาย ภารุกฺขิปนํ วิย.

อสฺสาติ โยคิโน. ตสฺมึ สติ วิสุชฺฌนโต วิสุทฺธิภูตา. ชีวมานสฺส สตฺตสฺส, สมฺปยุตฺตธมฺมานํ วา สุทฺธิ โวทานํ, อาชีวสฺเสว วา ชีวิตินฺทฺริยวุตฺติยา . ายาชีวสฺส อพุทฺธปฏิกุฏฺาย สมฺมาชีวิกาย ปวตฺติเหตุตาย ายาชีวปวตฺติรโส. อิมสฺส หิ ปวตฺติโต ปฏฺาย มิจฺฉาชีโว น ปวตฺตตีติ.

สพฺพากุสลวิทฺธํสโกปิ สมฺมาวายาโม อุชุปฏิปกฺขทสฺสนวเสน โกสชฺชสมุจฺเฉทโก วุตฺโต. สํกิเลสปกฺขโตปิ ตสฺส ปคฺคณฺหนํ ปคฺคโห. กายาทีสุ สุภาทิอาการุปธารณวเสน ปวตฺตา สุภสฺาทิปุพฺพงฺคมา อกุสลกฺขนฺธา มิจฺฉาสติ, ตสฺสา วิทฺธํสโน มิจฺฉาสติวินิทฺธุนโน. อสมฺโมโสติ สมฺโมสวิทฺธํสนโต ตปฺปฏิปกฺโข. อารมฺมณสฺส ยถาสภาวสลฺลกฺขณํ อุปฏฺานํ. ‘‘อารกฺขปจฺจุปฏฺานา’’ติ, ‘‘สตารกฺเขน เจตสา’’ติ (ที. นิ. ๓.๓๔๘) จ วจนโต วิเสสโต สติ กุสลจิตฺตสฺส อารกฺขาติ อาห ‘‘สติยา สํรกฺขิยมานจิตฺตสฺสา’’ติ.

๕๖๓. สจฺจาณสฺสาติ สจฺจานิ อารพฺภ ปวตฺตนกาณสฺส, น ปฏิเวธาณํ วิย สกิเทว พุชฺฌติ, อถ โข ปุนปฺปุนํ อุปฺปชฺชนโต อนุ อนุ โพโธ อนุโพโธ, อนุสฺสวาการปริวิตกฺกทิฏฺินิชฺฌานกฺขนฺติอนุคโต วา โพโธ อนุโพโธ, ตเทว าณนฺติ อนุโพธาณํ. น หิ ตํ ปจฺจกฺขโต พุชฺฌติ, อนุสฺสวาทิวเสน ปน กปฺปนมุเขน พุชฺฌติ. กิจฺจโตติ ปริชานนาทิโต. ตํกิจฺจกรเณเนว หิ ปริฺเยฺยาทีนิ วิย ตานิปิ ตสฺส ปากฏานิ โหนฺติ. วิวฏฺฏานุปสฺสนาย หิ สงฺขาเรหิ ปติลียมานมานสสฺส อุปฺปชฺชมานํ มคฺคาณํ วิสงฺขารํ ทุกฺขนิสฺสรณํ อารมฺมณํ กตฺวา ทุกฺขํ ปริจฺฉินฺทติ, ทุกฺขคตฺจ ตณฺหํ ปชหติ, นิโรธฺจ สจฺฉิกโรติ ผุสติ. อาทิจฺโจ วิย ปภาย สมฺมาสงฺกปฺปาทีหิ สห สมุปฺปนฺนํ ตํ มคฺคํ ภาเวติ, น จ สงฺขาเร อมุฺจิตฺวา ปวตฺตมาเนน าเณน เอตํ สพฺพํ กาตุํ สกฺกา นิมิตฺตปวตฺเตหิ อวุฏฺิตตฺตา. ตสฺมา เอตานิ กิจฺจานิ กโรนฺตํ ตํ าณํ ทุกฺขาทีนิ วิภาเวติ ตตฺถ สมฺโมหนิวตฺตเนนาติ ‘‘จตฺตาริปิ สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌตี’’ติ วุตฺตํ, เอกปฏิเวเธนาติ อธิปฺปาโย.

ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตีติ กาลนฺตรทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เจ? น, ‘‘โย นุ โข, อาวุโส, ทุกฺขํ ปสฺสติ, ทุกฺขสมุทยมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐) เอกทสฺสิโน อฺตฺตยทสฺสิตาวิจารณายํ ตํสาธนตฺถํ อายสฺมตา ควมฺปติตฺเถเรน อิมสฺส สุตฺตสฺส อานีตตฺตา, ปจฺเจกฺจ สจฺเจสุ ทิสฺสมาเนสุ อฺตฺตยทสฺสนสฺส โยชิตตฺตา. อฺถา อนุปุพฺพาภิสมเย ปุริมทิฏฺสฺส ปจฺฉา อทสฺสนโต สมุทยาทิทสฺสิโน ทุกฺขาทิทสฺสิตา น โยเชตพฺพา สิยา. โยชิตา จ สา ‘‘โย ทุกฺขสมุทยํ ปสฺสติ, ทุกฺขมฺปิ โส ปสฺสตี’’ติอาทินา (สํ. นิ. ๕.๑๑๐๐). โลกิยํ สจฺจาณํ. ตตฺถ โลกิยาเณ. ปริยุฏฺานสงฺขาโต อภิภโว ปริยุฏฺานาภิภโว, ตสฺส วเสน. สุทฺธสงฺขารปุฺชมตฺตทสฺสนโต สกฺกายทิฏฺิปริยุฏฺานํ นิวตฺเตติ. ‘‘โลกสมุทยํ โข, กจฺจาน, ยถาภูตํ สมฺมปฺปฺาย ปสฺสโต ยา โลเก นตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕) วจนโต สมุทยทสฺสนํ เหตุผลปพนฺธาวิจฺเฉททสฺสนโต ปริยุฏฺานาภิภววเสน ปวตฺตมานํ อุจฺเฉททิฏฺึ นิวตฺเตติ. ‘‘โลกนิโรธํ โข…เป… ปสฺสโต ยา โลเก อตฺถิตา, สา น โหตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๑๕) วจนโต นิโรธทสฺสนํ เหตุนิโรธา ผลนิโรธทสฺสนโต สสฺสตทิฏฺึ นิวตฺเตติ. อตฺตการสฺส ปจฺจกฺขทสฺสนโต มคฺคทสฺสนํ ‘‘นตฺถิ อตฺตกาเร, นตฺถิ ปรกาเร, นตฺถิ ปุริสกาเร’’ติอาทิกํ (ที. นิ. ๑.๑๖๘) อกิริยทิฏฺึ ปชหติ. ‘‘นตฺถิ เหตุ, นตฺถิ ปจฺจโย สตฺตานํ สํกิเลสาย, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา สํกิลิสฺสนฺติ, นตฺถิ เหตุ…เป… วิสุทฺธิยา, อเหตู อปฺปจฺจยา สตฺตา วิสุชฺฌนฺตี’’ติอาทิกา (ที. นิ. ๑.๑๖๘; ม. นิ. ๒.๑๐๑, ๒๒๗; สํ. นิ. ๓.๒๑๒) อเหตุกทิฏฺิ จ อิธ อกิริยาทิฏฺิคฺคหเณเนว คหิตาติ ทฏฺพฺพา. สาปิ หิ วิสุทฺธิมคฺคทสฺสเนน ปหียตีติ. ทุกฺเข าณํ สมุทยผลสฺส ทุกฺขสฺส อทฺธุวาทิภาวํ ปสฺสตีติ ผเล วิปฺปฏิปตฺตึ นิวตฺเตติ.

อิสฺสโร โลกํ ปวตฺเตติ สชฺเชติ นิวตฺเตติ สํหรตีติ อิสฺสรการณิโน วทนฺติ. ปธานโต โลโก อาวิ ภวติ, ตตฺเถว จ ปติลียตีติ ปธานการณิโน.

‘‘กาโล กโรติ ภูตานิ, กาโล สํหรตี ปชา;

กาโล สุตฺเต ชาครติ, กาโล หิ ทุรติกฺกโม’’ติ. –

กาลวาทิโน. กณฺฏกสฺส ติขิณภาโว วิย, กปิฏฺผลาทีนํ ปริมณฺฑลตา วิย, มิคปกฺขิสรีสปาทีนํ วิจิตฺตตา วิย จ สภาเวเนว โลโก สมฺโภติ, วิโภติ จาติ สภาววาทิโน. อาทิ-สทฺเทน อณูหิ โลโก ปวตฺตติ, สพฺพํ ปุพฺเพกตเหตุ, โลโก นิยโต อจฺเฉชฺชสุตฺตาวุตาเภชฺชมณิสทิโส, น เอตฺถ กสฺสจิ ปุริสกาโรติ นิยติวาทิโน.

‘‘ยทิจฺฉาย ปวตฺตนฺติ, ยทิจฺฉาย นิวตฺตเร;

ยทิจฺฉาย สุขํ ทุกฺขํ, ตสฺมา ยาทิจฺฉกี ปชา’’ติ. –

ยทิจฺฉาวาทิโน, เย อธิจฺจสมุปฺปตฺติวาทิโนติ จ วุจฺจนฺติ. เอวมาทิอการณวาทสงฺคโห ทฏฺพฺโพ. รามุทกอาฬาราทีนํ วิย, อรูปโลเก นิคณฺานํ วิย จ โลกถูปิกายํ อปวคฺโค โมกฺโขติ คหณํ อปวคฺคคาโห. อาทิ-สทฺเทน ปธานสฺส อปฺปวตฺติ, คุณวิยุตฺตสฺส อตฺตโน สกตฺตนิ อวฏฺานํ, พฺรหฺมุนา สโลกตา, สมีปตา, สํโยโค, ทิฏฺธมฺมนิพฺพานวาทาติ เอวมาทีนํ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอตฺถ จ ปธานสฺส อปฺปวตฺติ มหตาทิภาเวน อปริณาโม, อนภิพฺยตฺติ วา. ‘‘อหมฺโ, ปกติ อฺา’’ติ เอวํ ปวตฺตปกติปุริสนฺตรชานเนน อตฺตสุขทุกฺขโมเหสุ อวิภาคคฺคหเณ กิร นิวตฺติเต วุตฺตนเยน ปธานํ นปฺปวตฺตติ, โส วิโมกฺโขติ กาปิลา. คุณวิยุตฺตสฺสาติ พุทฺธิสุขทุกฺขอิจฺฉาโทสปฺปยตฺตธมฺมาธมฺมสงฺขาเรหิ นวหิ อตฺตคุเณหิ วิยุตฺตสฺสาติ กณาทมตานุสาริโน. สโลกตา พฺรหฺมุนา สมานโลกตา. สมีปตา ตสฺส สมีปปฺปวตฺติตา. สํโยโค เตน เอกีภาวูปคมนํ. ‘‘อินฺทฺริยตปฺปนปุตฺตมุขทสฺสนาทีหิ วินา อปวคฺโค นตฺถี’’ติ คเหตฺวา ตถา ปวตฺตนํ กามสุขลฺลิกานุโยโค. อนสนเกสลุฺจนาทิตปจริยาย นคฺคสีลโคสีลกุกฺกุรสีลาทีหิ จ อตฺตปริตาปเนน โมกฺโข โหตีติ อตฺตกิลมโถ.

สฺวายํ สพฺโพ มิจฺฉาคาโห สจฺจาเณ สติ ปติฏฺํ น ลภตีติ วุตฺตเมวตฺถํ สงฺคณฺหนฺโต ‘‘โลเก โลกปฺปภเว’’ติ คาถมาหาติ.

าณกิจฺจโต วินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๖๔. เสสาสพฺพธมฺมาติ เสสา เอกาสีติ โลกิยธมฺมา. อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ ทฺวาทสสุ อายตเนสุ กามภววิภวตณฺหาวเสน ทฺวาทสติกา ฉตฺตึส ตณฺหาวิจริตานิ, ขุทฺทกวตฺถุวิภงฺเค วา อาคตนเยน กาลวิภาคํ อนามสิตฺวา วุตฺตานิ. ตทามสเน หิ อฏฺสตํ โหนฺติ. อสมฺมิสฺสนฺติ เอกกตฺตา เกนจิ อสมฺมิสฺสํ, กุโต ตทนฺโตคธปฺปเภโทติ อธิปฺปาโย. วีมํสิทฺธิปาทาทีนํ โพธิปกฺขิยานํ สติปิ กิจฺจนานตฺเต อตฺถโต เอกตฺตา สมฺมาทิฏฺิยา สงฺคโหติ สมฺมาทิฏฺิมุเขน ตทนฺโตคธตา วุตฺตา.

ตโย เนกฺขมฺมวิตกฺกาทโยติ โลกิยกฺขเณ อโลภเมตฺตากรุณาสมฺปโยควเสน ภินฺนา, มคฺคกฺขเณ โลภพฺยาปาทวิหึสาสมุจฺเฉทนวเสน ตโยติ เอโกปิ วุตฺโต. เอส นโย สมฺมาวาจาทีสุ. อปฺปิจฺฉตาสนฺตุฏฺิตานํ ปน ภาเว สมฺมาอาชีวสมฺภวโต เตน เตสํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ภวนฺตเรปิ ชีวิตเหตุปิ อริเยหิ อวีติกฺกมนียตฺตา อริยกนฺตานํ สมฺมาวาจาทิสีลานํ คหเณน เยน สทฺธาหตฺเถน ตานิ คเหตพฺพานิ, โส สทฺธาหตฺโถ คหิโต เอว โหตีติ ตโต อนฺานิ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลานิ ตตฺถ อนฺโตคธานิ วุตฺตานิ. ฉนฺโท ปน สทฺธานุคุโณติ กตฺวา ฉนฺทิทฺธิปาทสฺสาปิ ตทนฺโตคธตา วุตฺตา. เตสํ อตฺถิตายาติ สทฺธินฺทฺริยสทฺธาพลฉนฺทิทฺธิปาทานํ อตฺถิตาย สีลสฺส อตฺถิภาวโต ติวิเธนาปิ สีเลน เต ตโยปิ คหิตาติ ตตฺถ อนฺโตคธา. จิตฺตสมาธีติ จิตฺติทฺธิปาทํ วทติ. ‘‘จิตฺตํ ปฺฺจ ภาวย’’นฺติ (สํ. นิ. ๑.๒๓, ๑๙๒; เปฏโก. ๒๒; มิ. ป. ๒.๑.๙) หิ จิตฺตมุเขน สมาธิ วุตฺโตติ สมาธิมุเขน จิตฺตมฺปิ วตฺตพฺพตํ อรหติ. จิตฺติทฺธิปาทภาวนาย ปน สมาธิปิ อธิมตฺโต โหตีติ วีมํสิทฺธิปาทาทิวจนํ วิย จิตฺติทฺธิปาโทติ อวตฺวา อิธ ‘‘จิตฺตสมาธี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘ปีติมนสฺส กาโย ปสฺสมฺภติ, ปสฺสทฺธกาโย สุขํ เวเทติ, สุขิโน จิตฺตํ สมาธิยตี’’ติ (ที. นิ. ๑.๔๖๖; ๓.๓๕๙; สํ. นิ. ๕.๓๗๖; อ. นิ. ๓.๙๖; ๑๑.๑๒) วจนโต สมาธิอุปการา ปีติปสฺสทฺธิโย, ตสฺมา สมาธิคฺคหเณน คหิตา. อุเปกฺขา ปน สมาธิอุปการกโต, ตํสทิสกิจฺจโต จ. ตสฺมา สมาธิสีเสน เอเตสํ อนฺโตคธตา ทฏฺพฺพา.

อนฺโตคธานํ ปเภทวินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๖๕. ภาโรวิย ทุกฺขสจฺจํ วิฆาตกตฺตา, สํหรณียวเสน วิหนฺตภาวโตติ อตฺโถ. ภาราทานมิว ตตฺถ ตตฺถ ภเว อุปฺปชฺชนกวิฆาตสฺส เหตุภาวโต. ภารนิกฺเขปนมิว ปวตฺติทุกฺขวูปสมภาวโต . โรโค วิย, ทุพฺภิกฺขมิว จ พาธกตฺตา. โรคนิทานํ วิย, ทุพฺพุฏฺิ วิย จ ปภวลกฺขณตฺตา. ทุพฺพุฏฺีติ จ อวสฺสนํ วา อติวสฺสนํ วา. โรควูปสโม วิย, สุภิกฺขมิว จ สนฺติลกฺขณตฺตา, สุขภาวโต. ‘‘นิพฺพานํ ปรมํ สุข’’นฺติ (ธ. ป. ๒๐๓-๒๐๔) หิ วุตฺตํ. เภสชฺชมิว, สุวุฏฺิ วิย จ ทุกฺขสฺส เหตุปจฺเฉทโต, ตสฺส จ อปคมูปายภาวโต. นิยฺยานลกฺขณฺหิ มคฺคสจฺจํ. อนิฏฺภาวโต, สาสงฺกสปฺปฏิภยโต จ ทุกฺขํ เวริวิสรุกฺขภยโอริมตีรูปมํ. เวรํ พฺยาปาโท, ปจฺจตฺถิกภาโว วา. เวรสมุคฺฆาโต เวรวูปสโม เมตฺตา. เวรสมุคฺฆาตุปาโย สงฺคหวตฺถูนิ.

อุปมาโต วินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๖๖. เอส นโย สมุทยาทีสูติ อตฺถิ เจตฺถ สมุทโย, น อริยสจฺจํ, อตฺถิ อริยสจฺจํ, น สมุทโย, อตฺถิ สมุทโย เจว อริยสจฺจฺจ, อตฺถิ เนว สมุทโย น อริยสจฺจนฺติ. เสสสจฺจทฺวเยปิ เอเสว นโย. น อริยสจฺจํ ปริฺเยฺยปหาตพฺพาสงฺขตนิยฺยานภาวาภาวโต. อิตรํ ปน อริยสจฺจทฺวยนฺติ สมุทยมคฺคสจฺจทฺวยมาห. สิยา ทุกฺขํ สงฺขารทุกฺขตาย. เตนาห ‘‘อนิจฺจโต’’ติ. ตถตฺเตนาติ ตถสภาเวน, ปริฺเยฺยภาเวนาติ อตฺโถ. เอเตน ตํ อริยสจฺจทฺวยํ ‘‘สิยา ทุกฺขํ, น อริยสจฺจํ, สิยา อริยสจฺจํ, น ทุกฺข’’นฺติ อิมมตฺถํ ทสฺเสติ. อริยสจฺจสทฺทปรา หิ ทุกฺขาทิสทฺทา ปริฺเยฺยาทิภาวํ วทนฺติ. เตเนว อริยสจฺจสทฺทานเปกฺขํ ทุกฺขสทฺทํ สนฺธาย มคฺคสมฺปยุตฺตสามฺผลธมฺมานํ อาทิปทสงฺคโห วุตฺโต, อริยสจฺจสทฺทาเปกฺขํ ปน สนฺธาย จตุตฺถปทสงฺคโห.

สพฺพากาเรนาติ สพฺพปฺปกาเรน. ยถา มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมาทโย เอกงฺควิกลา, เอวํ อหุตฺวา สพฺพงฺคโยเคน ทุกฺขตาย เจว อริยสจฺจตาย จาติ อตฺโถ. ‘‘อุปาทานกฺขนฺธปฺจก’’นฺติ วุตฺเต ตณฺหายปิ สงฺคโห สิยาติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อฺตฺร ตณฺหายา’’ติ วุตฺตํ ตสฺสา วิสุํ อริยสจฺจภาวโต. สมุทยาทีสุ อวเสสกิเลสาทโย ปภวฏฺเน สมุทโย, น อริยสจฺจํ สุตฺตนฺตสํวณฺณนา อยนฺติ กตฺวา . นิโรโธ อริยสจฺจํ, น สมุทโย. อิตรํ ปน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา สมุทโย อตฺตโน ผลสฺส ปจฺจยฏฺเน, น ปน ยสฺส ปหานาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเตน, สพฺพากาเรน ปน ตณฺหาสมุทโย เจว อริยสจฺจฺจ. มคฺคสมฺปยุตฺตธมฺมา, สามฺผลานิ จ ยสฺส ปหานาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเตน เนว สมุทโย, น อริยสจฺจํ. สงฺขารนิโรโธ, นิโรธสมาปตฺติ จ นิโรโธ, น อริยสจฺจํ. สมุทโย อริยสจฺจํ, น นิโรโธ. อิตรํ ปน อริยสจฺจทฺวยํ สิยา นิโรโธ ขณนิโรธสพฺภาวโต, น ปน ยสฺส สจฺฉิกิริยาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเตน. สพฺพากาเรน ปน อสงฺขตา ธาตุ นิโรโธ เจว อริยสจฺจฺจ. เสสํ วุตฺตนยเมว. อริยมคฺคโต อฺานิ มคฺคานิ มคฺโค, น อริยสจฺจํ. นิโรโธ อริยสจฺจํ, น มคฺโค. อิตรํ ปน สจฺจทฺวยํ สิยา มคฺโค ภวคามินิปฏิปทาภาวโต, น ปน ยสฺส ภาวนาย ภควติ พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ ตถตฺเตน, สพฺพากาเรน ปน นิโรธคามินิปฏิปทา มคฺโค เจว อริยสจฺจฺจ. เสสํ วุตฺตนยเมว.

จตุกฺกโต วินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

๕๖๗. สุฺานีติ เวทกาทีหิ พาหิรกปริกปฺปิเตหีติ อธิปฺปาโย. ทุกฺขฺหิ เวทนียมฺปิ สนฺตํ เวทกรหิตํ, เกวลํ ปน ตสฺมึ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ปวตฺตมาเน ทุกฺขํ เวเทตีติ โวหารมตฺตํ โหติ. เอส นโย อิตเรสุปิ.

‘‘ทุกฺขเมวา’’ติ อวธารเณน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘น โกจิ ทุกฺขิโต’’ติ วุตฺตํ. กิริยาว วิชฺชตีติ สมุทยสจฺจํ สนฺธาย วทติ. ปุริมสจฺจทฺวยสฺส วิปากวฏฺฏกมฺมวฏฺฏสงฺคหโต การกสฺส วา ทุกฺขสจฺจสภาวมาห. กาตพฺพาปิ หิ กิริยา การกรหิตา เกวลํ อตฺตโน ปจฺจเยหิ ตาย ปวตฺตมานาย ทุกฺขสฺิเต ธมฺมปฺปพนฺเธ กิริยํ กโรตีติ โวหารมตฺตํ โหติ. นิพฺพุตคมเกสุปิ เอเสว นโย. ‘‘มคฺโค อตฺถี’’ติ วตฺตพฺเพ ‘‘มคฺคมตฺถี’’ติ โอการสฺส อภาโว กโตติ ทฏฺพฺพํ. คมโกติ นิพฺพุตึ คนฺตา.

กิเลสาสุจิปคฺฆรณฏฺเน สาสวตา อสุภตาติ กตฺวา อนาสวตฺตา นิโรธมคฺคา สุภา เอว. ทุกฺขาทีนํ ปริยาเยน สมุทยาทิภาโว จ อตฺถิ , น ปน นิโรธภาโว, นิโรธสฺส วา น ทุกฺขาทิภาโวติ นิโรธาวเสสตฺตยานํ น อฺมฺสมงฺคิตาติ อาห ‘‘นิโรธสุฺานิ วา’’ติอาทิ.

สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโตติ โปโนภวิกาย ตณฺหาย ปุนพฺภวสฺส อภาวโต. ยถา วา ปกติวาทีนํ วิการา อวิการิภาวโต, ปุพฺเพ ปติปลีนา จ ปกติภาเวเนว ติฏฺนฺติ, น เอวํ สมุทยสมฺปยุตฺตมฺปิ ทุกฺขํ สมุทยภาเวน ติฏฺตีติ อาห ‘‘สมุทเย ทุกฺขสฺสาภาวโต’’ติ . มคฺเค จ นิโรธสฺส อภาวโตติ สมฺพนฺโธ. ยถา อวิภตฺเตหิ วิกาเรหิ มหาหงฺการตมฺมตฺตวิเสสินฺทฺริยภูตวิเสเสหิ ปกติภาเวเนว ิเตหิ ปกติ สคพฺภา อิจฺฉิตา ปกติวาทีหิ, เอวํ น ผเลน สคพฺโภ เหตูติ อตฺโถ. ‘‘ทุกฺขสมุทยานํ นิโรธมคฺคานฺจ อสมวายา’’ติ เอตํ วิวรนฺโต อาห ‘‘น เหตุสมเวตํ เหตุผล’’นฺติอาทิ. ตตฺถ ‘‘อิธ ตนฺตูสุ ปโฏ, กปาเลสุ ฆโฏ, พีรเณสุ กโฏ ทฺวีสุ อณูสุ ทฺวิอณุก’’นฺติอาทินา อิธ วุทฺธิโวหารชนโก อวิสุํ สิทฺธานํ สมฺพนฺโธ สมวาโย, เตน สมวาเยน การเณสุ ทฺวีสุ อณูสุ ทฺวิอณุกํ ผลํ สมเวตํ เอกีภูตมิว สมฺพทฺธํ, ตีสุ อณูสุ ติอณุกนฺติ เอวํ มหาปถวีมหาอุทกมหาอคฺคิมหาวาตกฺขนฺธปริยนฺตํ ผลํ อตฺตโน การเณสุ สมเวตนฺติ สมวายวาทิโน วทนฺติ. เอวํ ปน วทนฺเตหิ อปริมาเณสุ การเณสุ มหาปริมาณํ เอกํ ผลํ สมเวตํ อตฺตโน อนฺโตคเธหิ การเณหิ สคพฺภํ อสุฺนฺติ วุตฺตํ โหติ. เอวมิธ สมวายาภาวา ผเล เหตุ นตฺถีติ เหตุสุฺํ ผลนฺติ อตฺโถ.

สุฺโต วินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ มคฺคนิทฺเทสกถาวณฺณนา.

เอกวิธาทิวินิจฺฉยกถาวณฺณนา

๕๖๘. ปวตฺติภาวโตติ สํสารสฺส ปวตฺติภาวโต. จตุอาหารเภทโตติ จตุอาหารปฺปจฺจยวิเสสโต. เอเตน จตฺตาโร กพฬีการาทิอาหารวิเสเส, อชฺโฌหรณียวตฺถุ, สฬายตน, อวิชฺชา, อภิสงฺขารสงฺขาเต ตปฺปจฺจยภูตธมฺมวิเสเส จ สงฺคณฺหาติ , โอชฏฺมกรูป, เวทนา, ปฏิสนฺธิวิฺาณ, นามรูปสงฺขาเต ตนฺนิพฺพตฺตธมฺมวิเสเส จ.

ปวตฺตกภาวโต ปวตฺติทุกฺขสฺส. รูปาภินนฺทนาทิเภโท รูปกฺขนฺธาทิอภินนฺทนเภโท, รูปารมฺมณาทิวเสนาปีติ วทนฺติ. รูปตณฺหาทีนํ ปจฺเจกํ อเนกเภทตฺตา ฉ ตณฺหากายา, เตสํ เภทโต.

อุปาทาเนหิ อุปาทียตีติ อุปาทิ, อุปาทานกฺขนฺธปฺจกํ. ตนฺนิสฺสรณภูตํ นิพฺพานํ, ตสฺส วูปสโม ตํสนฺตีติ กตฺวา ตสฺส ยาว ปจฺฉิมํ จิตฺตํ, ตาว เสสตํ, ตโต ปรํ อนวเสสตฺจ อุปาทาย สอุปาทิเสสนิพฺพานธาตุ, นิรุปาทิเสสนิพฺพานธาตูติ ทฺวิธา โวหรียติ. ยถา จายํ เภโท โวหารโต, เอวมิตเรปีติ เต กติปเย ทสฺเสตุํ ‘‘ติวิโธ’’ติอาทิ วุตฺตํ. อฺถา เอกสฺส สโต นิพฺพานสฺส กุโต เภโทติ.

สมถวิปสฺสนาเภทโตติ เอตฺถ สมฺมาทิฏฺิสมฺมาสงฺกปฺปา วิปสฺสนา, อิตเร สมถาติ วทนฺติ. สีลมฺปิ หิ สมถสฺส อุปการกตฺตา สมถคฺคหเณน คยฺหตีติ เตสํ อธิปฺปาโย. อถ วา ยานทฺวยสฺส วเสน ลทฺโธ มคฺโค สมโถ วิปสฺสนาติ อาคมนวเสน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. อยนฺติ อริยมคฺโค. สปฺปเทสตฺตาติ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอกเทสตฺตาติ อตฺโถ. เอกเทโส หิ ปทิสฺสติ อวยวภาเวน อปทิสียตีติ ปเทโส, อตฺตโน สมุทายํ ปติ สห ปเทเสนาติ สปฺปเทโสติ วุจฺจติ ยถา ‘‘สนิทสฺสนา ธมฺมา’’ติ (ธ. ส. ทุกมาติกา ๙), สีลกฺขนฺธาทโย จ สพฺพโลกิยโลกุตฺตรสีลาทิสงฺคาหกา, อริยมคฺโค โลกุตฺตโร เอวาติ ตเทกเทโส โหติ.

สชาติโตติ สมานชาติโต, วจีทุจฺจริตวิรติอาทิเภเทสุ สมานาย สีลชาติยาติ อตฺโถ.

โอนตสหาโย วิย วายาโม ปคฺคหกิจฺจสามฺโต. อํสกูฏํ ทตฺวา ิตสหาโย วิย สติ อปิลาปนวเสน นิจฺจลภาวกรณสามฺโต. สชาติโตติ สวิตกฺกสวิจาราทิเภเทสุ สมานาย สมาธิชาติยาติ อตฺโถ. กิริยโตติ สมาธิอนุรูปกิริยโต. ตโต เอว หิ ‘‘จตฺตาโร สติปฏฺานา สมาธินิมิตฺตา, จตฺตาโร สมฺมปฺปธานา สมาธิปริกฺขารา’’ติ (ม. นิ. ๑.๔๖) สติวายามานํ สมาธิสฺส นิมิตฺตปริกฺขารภาโว วุตฺโต.

อาโกเฏนฺเตน วิยาติ ‘‘อนิจฺจํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา ปฺากิจฺจสทิเสน กิจฺเจน สมนฺตโต โกเฏนฺเตน วิย, ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเน, ทุกฺขํ ภยฏฺเนา’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) ปริวตฺเตนฺเตน วิย จ อาทาย อูหิตฺวา ทินฺนเมว ปฺา ปฏิวิชฺฌติ. ทฺวินฺนํ สมานกาลตฺเตปิ ปจฺจยภาเวน สมฺมาสงฺกปฺปสฺส ปุริมกาลสฺส วิย นิทฺเทโส กโต. สชาติโตติ ‘‘ทุกฺเข าณ’’นฺติอาทีสุ (สํ. นิ. ๕.๘) สมานาย ปฺาชาติยา. กิริยโตติ เอตฺถ ปฺาสทิสํ กิจฺจํ ‘‘กิริยา’’ติ วุตฺตํ, ปุพฺเพ ปน สมาธิอุปการกํ ตทนุรูปกิจฺจนฺติ อยเมตฺถ วิเสโส.

‘‘สพฺพํ , ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๔๖) วจนโต จตฺตาริปิ อภิมุขํ ปจฺจกฺขโต าตพฺพานิ, อภิวิสิฏฺเน วา าเณน าตพฺพานีติ อภิฺเยฺยานิ.

๕๖๙. อฺมฺํ สภาคานีติ อฺมฺสมานภาคานิ, สทิสรูปานีติ อตฺโถ.

ทุรภิสมฺภวตรนฺติ อภิสมฺภวิตุํ สาเธตุํ อสกฺกุเณยฺยตรํ, สตฺติวิฆาเตน ทุรธิคมนฺติ อตฺโถ. อสนนฺติ กณฺฑํ. อติปาเตยฺยาติ ขิเปยฺย. โกฏิยาติ กณฺฑสฺส โกฏิยา วาลคฺเคน. โกฏินฺติ วาลสฺเสว โกฏึ. ปฏิวิชฺเฌยฺยาติ ปฏิมุขภาเวน วิชฺเฌยฺย.

พาธกปภวสนฺตินิยฺยานลกฺขเณหิ ววตฺถานํ สลกฺขณววตฺถานํ. ทุรวคาหตฺเถน คมฺภีรตฺตาติ โอฬาริกา ทุกฺขสมุทยา. ติรจฺฉานคตานมฺปิ หิ ทุกฺขํ, อาหาราทีสุ จ อภิลาโส ปากโฏ. ปีฬนาทิอายูหนาทิวเสน ปน ‘‘อิทํ ทุกฺขํ, อิทมสฺส การณ’’นฺติ ยาถาวโต โอคาหิตุํ อสกฺกุเณยฺยตฺตา คมฺภีรา. สณฺหสุขุมธมฺมตฺตา นิโรธมคฺคา สภาวโต เอว คมฺภีรฏฺเน ทุรวคาหา. เตเนว อุปฺปนฺเน มคฺเค นตฺถิ นิโรธมคฺคานํ อนวคาโหติ. นิพฺพานมฺปิ มคฺเคน อธิคนฺตพฺพตฺตา ตสฺส ผลนฺติ อปทิสียตีติ อาห ‘‘ผลาปเทสโต’’ติ. วุตฺตฺเหตํ ‘‘ทุกฺขนิโรเธ าณํ อตฺถปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙). มคฺโคปิ นิโรธสฺส สมฺปาปกภาวโต ‘‘เหตู’’ติ อปทิสียตีติ อาห ‘‘เหตุอปเทสโต’’ติ. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘ทุกฺขนิโรธคามินิยา ปฏิปทาย าณํ ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติ (วิภ. ๗๑๙).

อิติ เอวํ ปกาเรหีติ อิติ วิชฺาติ สมฺพนฺโธ. ตตฺถ อิติสทฺเทน วิชานนกฺกมํ ทสฺเสติ. เอวํ ปกาเรหีติ เอวํ-สทฺเทน วิชานนการณภูเตน เอว.

สภาควิสภาคโตวินิจฺฉยวณฺณนา นิฏฺิตา.

อินฺทฺริยสจฺจนิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ โสฬสมปริจฺเฉทวณฺณนา.