📜

๒๐. มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

สมฺมสนาณกถาวณฺณนา

๖๙๒. เอวํมคฺคฺจ อมคฺคฺจ ตฺวา ิตํ าณนฺติ อยํ อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตา วีถิปฏิปนฺนา วิปสฺสนาปฺา อริยมคฺคสฺส ปุพฺพภาคมคฺโค, อยํ โอภาสาทิเภโท ทสวิโธ อุปกฺกิเลโส น มคฺโคติ เอวํ มคฺคฺจ อมคฺคฺจ ยาถาวโต ววตฺถเปตฺวา ิตํ าณํ.

อตีตาทิวเสน อเนกเภทภินฺเน ธมฺเม กลาปโต สงฺขิปิตฺวา สมฺมสนํ กลาปสมฺมสนํ, อยํ กิร ชมฺพุทีปวาสีนํ อภิลาโป. ‘‘ยํ กิฺจิ รูป’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๓๖๑; ๒.๑๑๓; ๓.๘๖; อ. นิ. ๔.๑๘๑) นเยน หิ ธมฺมานํ วิปสฺสนา นยวิปสฺสนา, อยํ กิร ตมฺพปณฺณิทีปวาสีนํ อภิลาโป. เตเนวาห ‘‘กลาปสมฺมสนสงฺขาตาย นยวิปสฺสนายา’’ติ. ตาว-สทฺโท กมตฺโถ, เตน สมฺมสนปฺปการานํ พหุเภทตํ ทีเปติ. พหุภาวโต หิ เตสํ ปมํ นยวิปสฺสนาย โยคารมฺภํ อนุสาสติ ‘‘นยวิปสฺสนาย ตาว โยโค กรณีโย’’ติ. กสฺมาติ โจทกวจนํ. ตสฺสายํ อธิปฺปาโย – ยทิ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิ สมฺปาเทตพฺพา, อถ กสฺมา ‘‘นยวิปสฺสนาย อาทิโต โยโค กาตพฺโพ’’ติ วุตฺตนฺติ. อิตโร ตสฺสายํ อธิคมูปาโยติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อารทฺธวิปสฺสกสฺสา’’ติอาทิมาห. เตเนตํ ทสฺเสติ ‘‘วิปสฺสนาย สติ อุทยพฺพยาณุปฺปาโท, อุทยพฺพยาเณ สติ โอภาสาทิอุปกฺกิเลสสมฺภโว, ตโต มคฺคามคฺคววตฺถานํ, ตสฺมา ตสฺส อาทิโตว อารมฺภสฺส สมฺภโว นตฺถีติ วิปสฺสนา ปมํ อารทฺธพฺพา’’ติ. เอวมฺปิ ปมํ นยวิปสฺสนาว กสฺมา อารทฺธพฺพาติ อาห ‘‘วิปสฺสนาย จ กลาปสมฺมสนํ อาที’’ติ. ตฺหิ อตีตาทิเภทภินฺนานํ ธมฺมานํ สงฺขิปิตฺวา ววตฺถานวเสน ปวตฺตนโต อาทิกมฺมิกสฺส สุกรํ สมฺมสนนฺติ อาทิภูตํ.

ตสฺมาติ อาทิภูตตฺตา. อถ วา ตสฺมาติ ยสฺมา อารทฺธวิปสฺสกสฺส…เป… กลาปสมฺมสนํ อาทิ, ตสฺมา. เอตนฺติ กลาปสมฺมสนํ. อปิจาติอาทิ กลาปสมฺมสนสฺเสว วิปสฺสนาย อาทิภาเว อุปจยเหตุทสฺสนํ. อุทยพฺพยาณปริโยสานา ตีรณปริฺา, อสมฺปตฺเต เอว จ อุทยพฺพยาเณ มคฺคามคฺคววตฺถานํ โหตีติ อาห ‘‘ตีรณปริฺาย วตฺตมานายา’’ติ. กลาปสมฺมสเน ตาว โยโค กาตพฺโพติ เอตฺถาปิ ตสฺเสว ปมารมฺเภ การณํ วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺพํ. ยสฺมา กลาปสมฺมสนํ นาม เอกวิสุทฺธิยมฺปิ น อนฺโตคธํ, เอกจฺเจ จ ตํ อนามสิตฺวาว วิปสฺสนาจารํ วณฺเณนฺติ. เอวํ สนฺเตปิ ตํ สุตฺตนฺเตสุ เอกเทเสน, อนวเสสโต จ ทสฺสิตํ. ปฏิสมฺภิทายํ อาทิกมฺมิกานํ มนสิการสุกรตาย วิปสฺสนาย อาทิภาเวน ปิตํ. วิปสฺสนฺตสฺส จ โอภาสาทีสุ อุปฺปนฺเนสุ มคฺคามคฺคาณสมฺภโว, ตสฺมา ‘‘ตํ สมฺปาเทตุกาเมนา’’ติอาทินา อยํ วิจาโร กโตติ ทฏฺพฺพํ.

๖๙๓. ตตฺราติ ตสฺมึ ตีรณปริฺาย าตปริฺานนฺตรภาเว, ตาสุ วา ปริฺาสุ. วินิจฺฉโยติ สรูปโต, กิจฺจโต, ภูมิโต จ สนฺนิฏฺานํ. โลกุตฺตราปิ ปุริมสฺมึ สจฺจทฺวเย มคฺคสมฺปยุตฺตา ติวิธาปิ ปริฺา กิจฺจวเสน ลพฺภตีติ ‘‘โลกิยปริฺา’’ติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. สภาวธมฺมานํ ลกฺขณสลฺลกฺขณโต เยฺยอภิมุขา ปฺา อภิฺาปฺา. าตฏฺเติ าตภาวนิมิตฺตํ. อภิฺเยฺยสฺส ชานนเหตุ ‘‘าณ’’นฺติ วุจฺจติ. ปริฺาปฺาติ อนิจฺจาทิลกฺขณานิ ปริจฺฉิชฺช ชานนปฺา. ตีรณฏฺเติ สมฺมสนภาวเหตุ. ปหานปฺาติ ปหาตพฺพสฺส ปชหนปฺา. เวทยิตาทิลกฺขณวิธุรตาย รุปฺปนลกฺขณํ ปจฺจตฺตลกฺขณํ วุตฺตํ. เตสํเยว ปจฺจตฺตลกฺขณสลฺลกฺขณวเสน คหิตธมฺมานํเยว. ยถา ปถวีผสฺสาทีนํ กกฺขฬผุสนาทิลกฺขณานิ ตีสุปิ ขเณสุ สลฺลกฺขิตพฺพานิ ปฏินิยตรูปตาย สภาวสิทฺธาเนว หุตฺวา คยฺหนฺติ, น เอวมนิจฺจตาทิลกฺขณานิ. ตานิ ปน ภงฺคุทยพฺพยปีฬาวสวตฺตนาการมุเขน คเหตพฺพโต สมาโรปิตรูปานิ วิย คยฺหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘สามฺลกฺขณํ อาโรเปตฺวา’’ติ. โลกิยปริฺานํเยว อธิปฺเปตตฺตา ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาว ‘‘ปหานปริฺา’’ติ วุตฺตา.

สงฺขารปฏิจฺเฉทโตติ นามรูปววตฺถานโต, ยา ‘‘ทิฏฺิวิสุทฺธี’’ติ วุตฺตา. เกจิ ปน ‘‘ขนฺธาทีนํ วิปสฺสนาย ภูมิภาวโต สพฺโพปิ ขนฺธาทิวิจาโร สงฺขารปริจฺเฉโท’’ติ วทนฺติ. ‘‘ปจฺจตฺตลกฺขณปฏิเวธสฺเสว อาธิปจฺจ’’นฺติ อิมินา นามรูปปจฺจยปริคฺคหปฺานํ ตีรณปหานาสมตฺถตํ ทสฺเสติ . ตาสมฺปิ ปน ‘‘นมนลกฺขณํ นามํ, รุปฺปนลกฺขณํ รูป’’นฺติ อรูปรูปานํ สาธารณาการสลฺลกฺขณวเสน ปวตฺติยา เอเกนากาเรน ตีรณปริยาโย, ทิฏฺิกงฺขาวิกฺขมฺภเนน ปหานปริยาโย ลพฺภตีติ สิยา ตีรณปหาเนสุปิ อาธิปจฺจนฺติ วทนฺติ. อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน ปน ยถา ทิฏฺิวิสุทฺธิยาว สงฺขารปริจฺเฉทตา, เอวํ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนาย เอว ตีรณปหานกิจฺจตา เวทิตพฺพา. เอวํ หิ ติสฺโสปิ ปริฺา ววตฺถิตา โหนฺติ, อฺถา สงฺกาโร สิยา. ตีรณปริฺาย ภูมิ ตตฺถ ปฺาย อนิจฺจตาทิลกฺขณสนฺตีรณโต. เตนาห ‘‘เอตสฺมึ…เป… อาธิปจฺจ’’นฺติ. กามํ อุทยพฺพยาณมฺปิ กฺจิ มิจฺฉาภินิเวสํ ปชหติ, ตสฺส ปน อถามคตตฺตา น สาติสยํ ปหานนฺติ วุตฺตํ ‘‘ภงฺคานุปสฺสนํ อาทึ กตฺวา อุปริ ปหานปริฺาย ภูมี’’ติ. อนิจฺจโต อนุปสฺสนฺโตติ อนิจฺจาการโต สงฺขาเร อนุปสฺสนฺโต สมฺมสนฺโต. นิจฺจสฺนฺติ ‘‘เต นิจฺจา สสฺสตา’’ติ ปวตฺตํ มิจฺฉาสฺํ. สฺาสีเสน ทิฏฺิจิตฺตานมฺปิ คหณํ ทฏฺพฺพํ. เอเสว นโย อิโต ปเรสุปิ. นิพฺพินฺทนฺโตติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิสมฺภูตาย นิพฺพิทานุปสฺสนาย สงฺขาเร นิพฺพิชฺชนวเสน ปสฺสนฺโต. นนฺทินฺติ สปฺปีติกตณฺหํ. วิรชฺชนฺโตติ วิราคานุปสฺสนาย วิรชฺชนวเสน ยถา สงฺขาเรสุ ราโค นุปฺปชฺชติ, เอวํ อนุปสฺสนฺโต. ตถาภูโต หิ ราคํ ปชหตีติ วุจฺจติ. นิโรเธนฺโตติ นิโรธานุปสฺสนาย ยถา สงฺขารา นิรุชฺฌนฺติเยว, น อายตึ ปุนพฺภววเสน อุปฺปชฺชนฺติ, เอวํ อนุปสฺสนฺโต. ตถาภูโต หิ สงฺขารานํ สมุทยํ ปชหติ นาม อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนโต. ปฏินิสฺสชฺชนฺโตติ ปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาย ยถา สงฺขารา น ปุน อาทิยนฺติ, เอวํ โวสฺสชฺชนฺโต. เตนาห ‘‘อาทานํ ปชหตี’’ติ, นิจฺจาทิวเสน วา คหณํ วิสฺสชฺเชตีติ อตฺโถ. สาธิตตฺตาติ สมฺปาทิตตฺตา. อิตราติ ตีรณปหานปริฺา. เอวํ ปริฺา นิทฺทิสิตฺวา ปริฺากฺกมวเสนปิ กงฺขาวิตรณานนฺตรํ ‘‘กลาปสมฺมสเน โยโค กาตพฺโพ’’ติ ยฺวายมตฺโถ วุตฺโต, ตํ นิคมวเสน ปจฺจาหรนฺโต ‘‘เตน วุตฺต’’นฺติอาทิมาห, ตํ วุตฺตตฺถเมว.

๖๙๔. ตตฺราติ ตสฺมึ กลาปสมฺมสเน วิภาเวตพฺเพ, ตสฺส วา กลาปสมฺมสนสฺส อาทิภาเว. อยํ ปาฬีติ ทสฺสิยมานํ ปฏิสมฺภิทามคฺคปาฬิมาห. ตตฺถ สงฺขิปิตฺวา ววตฺถาเน ปฺาติ อตีตาทิเภทภินฺเน ธมฺเม เอกโต สงฺคเหตฺวา อนิจฺจาทิวเสน วินิจฺฉเย สาเธตพฺเพ ตํสาธนียา ปฺา. สมฺมสเน อนิจฺจตาทิวเสน ตีรเณ าณนฺติ ปวุจฺจติ, สา กถํ โหตีติ อตฺโถ. ววตฺถาเน สมฺมสเนติ จ นิปฺผาเทตพฺเพ ภุมฺมวจนํ. ยํ กิฺจิ รูปนฺติอาทีนิ ปทานิ เหฏฺา วุตฺตตฺถาเนว. สพฺพํ รูปํ อนิจฺจโต ววตฺถเปตีติอาทีนิ ปน ยสฺมา ปรโต วณฺณิยิสฺสนฺติ, ตสฺมา ตตฺเถว เนสํ อตฺถํ วิภาวยิสฺสาม.

ปาฬิววตฺถานํ ปน เอวํ เวทิตพฺพํ – เอตฺถ หิ อาทิกมฺมิกานํ วิปสฺสนามนสิการสุขตฺถํ ‘‘ยํ กิฺจิ รูป’’นฺติอาทินา ปมํ ตาว ปฺจกฺขนฺธา อตีตาทิวิภาคมุเขน คหิตา, เต ปน ขนฺธา ยสฺมา ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตธมฺมวเสน วิภาคํ ลพฺภนฺติ, ตสฺมา ตทนนฺตรํ ทฺวารฉกฺกาทิวเสน ทส ฉกฺกา คหิตา. ยสฺมา ปน ลกฺขเณสุ อนตฺตลกฺขณํ ทุกฺขวิภาคํ, ตสฺมา ตสฺส วิภาวนาย ฉ ธาตุโย คหิตา. ตโต เยสุ กสิเณสุ อิโต พาหิรกานํ อตฺตาภินิเวโส, ตานิ อิเมสํ ฌานานํ อารมฺมณภาเวน อุปฏฺานาการมตฺตานีติ ทสฺสนตฺถํ ทส กสิณานิ คหิตานิ. ตโต ทุกฺขานุปสฺสนาย ปริวารภาเวน ปฏิกฺกูลาการวเสน ทฺวตฺตึส โกฏฺาสา คหิตา. ปุพฺเพ ขนฺธวเสน สงฺเขปโต คหิตา ธมฺมา นาติสงฺเขปวิตฺถารนเยน, วิตฺถารนเยน จ มนสิ กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ ทฺวาทสายตนานิ, อฏฺารส ธาตุโย จ คหิตา. เตสุ อิเม ธมฺมา สติปิ สุฺนิรีหอพฺยาปารภาเว ธมฺมสภาวโต อาธิปจฺจวเสน ปวตฺตนฺตีติ อนตฺตลกฺขณวิภาวนตฺถํ อินฺทฺริยานิ คหิตานิ. เอวํ อเนกเภทภินฺนาปิเม ธมฺมา ภูมิตฺตยปริยาปนฺนตาย ติวิธาว โหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ติสฺโส ธาตุโย คหิตา.

เอตฺตาวตา นิมิตฺตํ ทสฺเสตฺวา ปวตฺตํ ทสฺเสตุํ กามภวาทโย นว ภวา คหิตา. เอตฺตเก อภิฺเยฺยวิเสเส ปวตฺตมนสิการโกสลฺเลน สณฺหสุขุเมสุ นิพฺพตฺติตมหคฺคตธมฺเมสุ มนสิกาโร ปวตฺเตตพฺโพติ ทสฺสนตฺถํ ฌานปฺปมฺารุปฺปานิ คหิตานิ. ตตฺถ ฌานานิ นาม วุตฺตาวเสสารมฺมณานิ รูปาวจรชฺฌานานิ. ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนวิภาคโต อิเม ธมฺมา ภินฺทิตฺวา มนสิ กาตพฺพาติ ทสฺสนตฺถํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺคานิ คหิตานิ. ปจฺจยาการมนสิกาโร หิ ลกฺขณตฺตยํ สุเขน, สุฏฺุตรฺจ วิภาเวติ, ตสฺมา ปจฺฉโต คหิโต. เอวเมเต สมฺมสนียภาเวน คหิตา ขนฺธาทิวเสน โกฏฺาสโต ปฺจวีสติวิธา. ปเภทโต ปน อตีตาทิเภทํ อนามสิตฺวาว คยฺหมานา ทฺวีหิ อูนานิ ทฺเวสตานิ โหนฺติ.

ตตฺถ อนิจฺจโต ววตฺถเปตีติอาทิโก ปโม ลกฺขณววตฺถาปนวาโร. อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติอาทิโก ทุติโย เหตุวาโร ลกฺขณานํ เหตุกิตฺตนโต. อนิจฺจํ สงฺขตนฺติอาทิโก ปน เหตุปติฏฺาปนวาโร ปากฏภาวสลฺลกฺขณโต. ขยฏฺเนาติ หิ ขยสภาวโต ยสฺมา รูปํ ขยสภาวํ อุปฺปชฺชิตฺวา ขยํ วยํ เภทํ คจฺฉติ, ตสฺมา อนิจฺจนฺติ อตฺโถ. ภยฏฺเนาติ ภายิตพฺพภาวโต ยสฺมา รูปํ ปภงฺคุรตาย ภยานกํ, ตสฺมา ทุกฺขนฺติ. เตนาห ภควา ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ (สํ. นิ. ๓๐.๑๕, ๔๕, ๔๖, ๗๖, ๘๕; ๒.๔.๑๔; ปฏิ. ม. ๒.๑๐). อสารกฏฺเนาติ อสารกภาวโต, อตฺตสารวิรหโตติ อตฺโถ. ตติยวาเร ปน ‘‘รูปํ อนิจฺจ’’นฺติ วตฺวา ตสฺส เหตุํ ปติฏฺาเปตุํ ‘‘สงฺขต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. ยสฺมา สเมจฺจ สมฺภูย ปจฺจเยหิ กตํ, อนุรูเป จ ปจฺจเย ปฏิจฺจ, น วินา เตหิ สมํ, สมฺมา จ อุปฺปนฺนํ, ตสฺมา ขยวยวิราคนิโรธธมฺมนฺติ. น หิ ปจฺจยนิพฺพตฺตํ อนิรุชฺฌนกํ นาม อตฺถิ. เตนาห ภควา ‘‘ยํ ตํ รูปํ ชาตํ ภูตํ สงฺขตํ ปโลกธมฺมํ, ตํ วต มา ปลุชฺชีติ เนตํ านํ วิชฺชตี’’ติ (สํ. นิ. ๕.๓๗๙). เอเตน อนิจฺจา ปถวีธาตุ ปจฺจยนิพฺพตฺตตฺตา ตทฺํ ปจฺจยนิพฺพตฺตํ วิยาติ ทสฺเสติ. เอส นโย เสสธมฺเมสุปิ.

อิทานิ อนฺวยโต, พฺยติเรกโต จ สงฺขตธมฺมานํ อนิจฺจตํ ปติฏฺาเปตุํ ‘‘ชาติปจฺจยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนิจฺจลกฺขณสฺเสว เจตฺถ ปติฏฺาปนํ ตสฺมึ ปติฏฺาปิเต เสสลกฺขณทฺวยสฺสปิ ปติฏฺาปนสิทฺธิโต.

อิมินา เปยฺยาเลน อิเม ธมฺมราสโย สํขิตฺตาติ สมฺพนฺโธ. ‘‘ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตา ธมฺมา, ปฺจกฺขนฺธา’’ติ อิทํ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส ‘‘จกฺขุํ, ภิกฺขเว, อภิฺเยฺย’’นฺติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๓; สํ. นิ. ๔.๔๖) ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺเต ธมฺเม ทสฺเสตฺวา เตสํ ปฺจหิ ขนฺเธหิ สงฺคหิตตํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปํ อภิฺเยฺยํ…เป… วิฺาณํ อภิฺเยฺย’’นฺติ อาคตตฺตา วุตฺตํ. ปฏิสมฺภิทายํ (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) ปน ‘‘ยํ กิฺจิ รูป’’นฺติอาทินา ปมํ ปฺจกฺขนฺเธ ทสฺเสตฺวา ‘‘จกฺขุ’’นฺติอาทินา ทฺวารารมฺมเณหิ สทฺธึ ทฺวารปฺปวตฺตา ธมฺมา ทสฺสิตา. ตถาทสฺสเน การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว.

กสฺมา ปเนตฺถ อิเม ธมฺมราสโย สํขิตฺตาติ ปาฬิยํ วิตฺถารโต อาคตตฺตาติ ทสฺเสนฺโต ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิมาห. เตเนวาห ‘‘ตํ ตตฺถ…เป… สํขิตฺต’’นฺติ. ตตฺถ นฺติ อภิฺเยฺยํ. เอตฺถาติ อภิฺเยฺยนิทฺเทเส. ‘‘วิฺาณํ มโน ธมฺมา’’ติอาทินา ตตฺถ ตตฺถ โกฏฺาเส เย โลกุตฺตรธมฺมา อาคตา. เกจิ ปน ‘‘เอตฺถาติ ปฏิสมฺภิทาย’’นฺติ วทนฺติ, ตํ น สุนฺทรํ. สมฺมสนุปคา เอว หิ ธมฺมา ปฏิสมฺภิทายํ คหิตา สมฺมสนวารสฺส อธิปฺเปตตฺตา, น อภิฺเยฺยนิทฺเทเส (ปฏิ. ม. ๑.๓; สํ. นิ. ๔.๔๖) วิย สพฺเพว อภิฺเยฺยา ธมฺมา. เย รูปารูปธมฺมา. ยสฺสาติ โยคิโน. เตสุ เตน สมฺมสนํ อารภิตพฺพํ ยถาปากฏํ วิปสฺสนาภินิเวโสติ กตฺวา. ปจฺฉา ปน อนุปฏฺหนฺเตปิ อุปาเยน อุปฏฺหาเปตฺวา อนวเสสโตว สมฺมสิตพฺพา.

๖๙๕. ‘‘อตีตํ รูปํ อนิจฺจ’’นฺติอาทินา อนิจฺจโต สมฺมสนสฺส อตีตาทิวิภาคา ปวตฺติฏฺานภูตาติ อาห ‘‘เอกาทสหิ โอกาเสหี’’ติ. ววตฺถาปนํ นาม สนฺนิฏฺานํ. อนิจฺจโต สนฺนิฏฺานฺเจตฺถ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วิปสฺสนาวาติ อาห ‘‘อนิจฺจนฺติ สมฺมสตี’’ติ.

กถนฺติ สมฺมสนากาโร ปุจฺฉิโตติ ตํ ปรโต อิเธว ปาฬิยํ ทุติยวาเร วุตฺตนเยเนวาติ สงฺเขเปเนว วิสฺสชฺเชติ. อิทานิ ตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘วุตฺตฺเหต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ หี-ติ เหตุอตฺเถ นิปาโต. ยสฺมา ‘‘รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺนํ อนิจฺจํ ขยฏฺเนา’’ติ เอวํ วุตฺตํ, ตสฺมา อิมินา วุตฺตนเยน อนิจฺจนฺติ สมฺมสตีติ โยชนา.

เอวมฺปิ สงฺเขโปเยวาติ วิภชิตฺวา ทสฺเสตุํ ‘‘เอสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อตีเตติ อตีเต ภเว. อาทิกมฺมิกสฺส หิ อิทํ สมฺมสนวิธานํ, ตสฺมา ภววเสน อทฺธาเภโท อธิปฺเปโต. เตนาห ‘‘นยิมํ ภวํ สมฺปตฺตนฺตี’’ติ. เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – ยํ อตีตภเว ปริยาปนฺนํ รูปํ, ตํ อตีเตเยว ภเว ขีณํ, ตโต น อิมํ ภวํ สมฺปตฺตํ, ตสฺมา อนิจฺจํ ขยฏฺเน ขยสภาวตฺตาติ สมฺมสตีติ. เอส นโย ยํ อนาคตนฺติอาทีสุปิ.

ยํ พหิทฺธา, ตมฺปิ พหิทฺธา เอว ขียติ, น อชฺฌตฺตภาวํ คจฺฉตีติ อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติ, ยํ โอฬาริกํ, ตมฺปิ ตตฺเถว ขียตีติ อนิจฺจํ ขยฏฺเนาติอาทินา โยเชตพฺพํ.

อิทํ สพฺพมฺปีติ อิทํ อตีตาทิเภทสฺส รูปสฺส สมฺมสนโต สพฺพํ เอกาทสวิธมฺปิ สมฺมสนํ เอกํ สมฺมสนํ อนิจฺจโต สมฺมสนนฺติ กตฺวา.

นฺติ ตํ เอกาทสวิธมฺปิ รูปํ. สปฺปฏิภยตายาติ ภยานกตาย. ภยาวหํ โหตีติ อปฺปหีนวิปลฺลาสสฺส ‘‘อหํ วินสฺสามิ, มม สนฺตกํ วินสฺสตี’’ติ จินฺเตนฺตสฺส ภยชนกํ โหติ. สีโหปมสุตฺเต เทวานํ วิยาติ สีโหปมสุตฺเต เทสิยมาเน เทวานํ วิย. ตตฺถ หิ –

‘‘ยทา ตถาคโต โลเก อุปฺปชฺชติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ…เป… โส ธมฺมํ เทเสติ ‘อิติ รูปํ, อิติ รูปสฺส สมุทโย, อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม. อิติ เวทนา… อิติ สฺา… อิติ สงฺขารา… อิติ วิฺาณํ, อิติ วิฺาณสฺส สมุทโย, อิติ วิฺาณสฺส อตฺถงฺคโม’ติ. เยปิ เต, ภิกฺขเว, เทวา ทีฆายุกา วณฺณวนฺโต สุขพหุลา อุจฺเจสุ วิมาเนสุ จิรฏฺิติกา, เตปิ ตถาคตสฺส ธมฺมเทสนํ สุตฺวา เยภุยฺเยน ภยํ สํเวคํ สนฺตาสํ อาปชฺชนฺติ ‘อนิจฺจาว กิร โภ มยํ สมานา นิจฺจมฺหาติ อมฺิมฺห, อทฺธุวาว…เป… อสสฺสตาว กิร โภ มยํ สมานา สสฺสตมฺหาติ อมฺิมฺห, มยมฺปิ กิร โภ อนิจฺจา อทฺธุวา อสสฺสตา สกฺกายปริยาปนฺนา’’’ติ (สํ. นิ. ๓.๗๘; อ. นิ. ๔.๓๓) –

เอวํ เทวานํ ภยุปฺปตฺติ อาคตา.

ขนฺธปฺจกํ, ตเทกเทโส วา อตฺตวาทีหิ ‘‘อตฺตา’’ติ ปริกปฺปียติ, ตฺจ เอกนฺตโต อนิจฺจํ, ทุกฺขฺจาติ อาห ‘‘ยฺหิ อนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติอาทิ. ตีสุ ทุกฺขตาสุ สงฺขารทุกฺขตาว พฺยาปินี, ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺข’’นฺติ จ อธิปฺเปตาติ วุตฺตํ ‘‘อนิจฺจตํ วา อุทยพฺพยปฏิปีฬนํ วา’’ติ. อตฺตา อภวิสฺสาติ ‘‘การโก เวทโก สยํวสี’’ติ เอวํภูโต อตฺตา อภวิสฺสาติ อธิปฺปาโย. เอวฺหิ สติ รูปสฺส อาพาธาย สํวตฺตนํ อยุชฺชมานกํ สิยา. ยถา รูปกฺขนฺเธ อเภทโต ติวิธํ สมฺมสนํ, เภทโต เตตฺตึสวิธํ, เอวํ เวทนากฺขนฺธาทีสุปีติ อิมมตฺถํ ‘‘เอส นโย’’ติ อติทิสติ. เตน ขนฺธวเสน ตาว เภทโต ปฺจสฏฺิอธิกา สตํ สมฺมสนวารา ทสฺสิตา โหนฺติ. อิมินา นเยน ทฺวารฉกฺกาทีสุปิ ยถารหํ สมฺมสนเภโท เวทิตพฺโพ.

๖๙๖. นิยมโต สงฺขตาทิเภทํ โหตีติ เอกํเสน สงฺขตตาทิวิเสสวนฺตํ โหติ อสงฺขตาทิสภาเว อนิจฺจตาย อสมฺภวโต. อสฺสาติ อนิจฺจสฺส. ปริยายทสฺสนตฺถนฺติ เววจนทสฺสนตฺถํ, ตํ ปน ‘‘ขยธมฺม’’นฺติอาทีนํ วเสน เวทิตพฺพํ, น ปุริมานํ ติณฺณํ. น หิ ตเทว ตสฺส ปริยาโย โหติ, นาปิ สงฺขตปฏิจฺจสมุปฺปนฺนปทานิ หุตฺวา อภาวทีปนโต ปากภาวทีปนโต. ปากภาวทีปเนน ปน อนิจฺจตาย สาธนปกฺเข ติฏฺนฺติ. เตเนว หิ สพฺเพสํ ปทานํ ปริยายตาภาวโต ‘‘นานากาเรหิ วา’’ติ วิกปฺปนฺตรํ คหิตํ. มนสิการปฺปวตฺตีทสฺสนตฺถนฺติ อนิจฺจตาย อุปพฺรูหนมนสิการปวตฺติทสฺสนตฺถํ.

จตฺตารีสาการอนุปสฺสนากถาวณฺณนา

๖๙๗. โสติ โยคาวจโร. ตสฺสาติ ยถาวุตฺตเภทสฺส อนิจฺจตาทิสมฺมสนสฺส. ถิรภาวตฺถายาติ ทฬฺหภาวตฺถาย อนิจฺจาทิอาการสฺส ปุนปฺปุนํ มนสิกาโร วิย พหุลีการภาวโต. ยํ ตํ ภควตา เอตสฺส วิภงฺเค อนิจฺจาทิสมฺมสนํ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ. อนุโลมิกนฺติ อริยมคฺคาธิคมสฺส อนุกูลํ. ขนฺตินฺติ าณขนฺตึ. าณฺหิ วิสยสภาวํ โอคาเหตฺวา ววตฺถาเน ขมติ สหตีติ ขนฺตีติ วุจฺจติ. สมฺมตฺตนิยามนฺติ อริยมคฺคํ. โส หิ สมฺมาทิฏฺิอาทิสมฺมตฺตฺเจว อนิวตฺติธมฺมตาย นิยาโม จาติ วุจฺจติ. ‘‘อาทินา นเยนา’’ติ อิมินา ‘‘ปฺจกฺขนฺเธ ทุกฺขโต ปสฺสนฺโต อนุโลมิกํ ขนฺตึ ปฏิลภติ, ขนฺธานํ นิโรโธ สุขํ นิพฺพานนฺติ ปสฺสนฺโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมตี’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๘) เอวมาทิโก ปาเสโส โรคาทิปฏิปกฺขโยชนาวเสน วิตฺถาเรตพฺโพ. ‘‘ขนฺธานํ นิโรโธ นิจฺจํ นิพฺพาน’’นฺติ วจเนน สงฺขารานํ ทุกฺขโรคตาทิปฏิปกฺโข นิพฺพานสฺส สุขาโรคฺยาทิภาโว ‘‘อาทินา นเยนา’’ติ เอตฺถ นยคฺคหเณน ทีปิโตติ. อวเสโส สพฺโพ ปาโ ปกาสิโต เอว โหตีติ.

กามฺเจตํ จตฺตารีสาย อากาเรหิ สมฺมสนํ อนุโลมาเณ ภาเวตพฺพวิธานํ. เตนาห ‘‘อนุโลมาณํ วิภชนฺเตน…เป… วุตฺต’’นฺติ, อิโต ปฏฺาย ปน กตปริจยสฺเสว กิจฺจาวหํ โหตีติ อิธาปิ วุตฺตนฺตีติ ทฏฺพฺพํ. ตสฺสาปีติ น เกวลํ กลาปสมฺมสนสฺเสว, อถ โข ยถาทสฺสิตสฺส จตฺตาลีสปฺปเภทสฺส อนิจฺจาทิสมฺมสนสฺสปิ. ตฺหิ อนุโลมิกขนฺติปฏิลาภาย, สมฺมตฺตนิยาโมกฺกมนาย จ สํวตฺตนโต เอกํสโต อิจฺฉิตพฺพํ. วุตฺตฺหิ –

‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กฺจิ สงฺขารํ นิจฺจโต สมนุปสฺสนฺโต อนุโลมิกาย ขนฺติยา สมนฺนาคโต ภวิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, อนุโลมิกาย ขนฺติยา อสมนฺนาคโต สมฺมตฺตนิยามํ โอกฺกมิสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ, สมฺมตฺตนิยามํ อโนกฺกมมาโน โสตาปตฺติผลํ วา…เป… อรหตฺตํ วา สจฺฉิกริสฺสตีติ เนตํ านํ วิชฺชติ. โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ สพฺพสงฺขาเร อนิจฺจโต สมนุปสฺสนฺโต’’ติ (อ. นิ. ๖.๙๘; ปฏิ. ม. ๓.๓๖) –

อาทิ สุกฺกปกฺโข วิตฺถาเรตพฺโพ. ตถา ‘‘โส วต, ภิกฺขเว, ภิกฺขุ กฺจิ สงฺขารํ สุขโต, ทุกฺขโต, กฺจิ ธมฺมํ อตฺตโต, อนตฺตโต’’ติ (ปฏิ. ม. ๓.๓๖) วิตฺถาเรตพฺโพ.

๖๙๘. เอเกกํ ขนฺธํ อนิจฺจาทิสมฺมสนสฺส วเสน สมฺมสตีติ สมฺพนฺโธ. ตสฺส ปน สมฺมสนสฺส ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ สาธารณตาย ‘‘เอเกกํ ขนฺธ’’นฺติ วุตฺตํ. อนจฺจนฺติกตายาติ อจฺจนฺติกตาภาวโต, อสสฺสตตายาติ อตฺโถ. สสฺสตฺหิ อจฺจนฺติกํ ปราย โกฏิยา อภาวโต. อาทิอนฺตวนฺตตายาติ ปุพฺพาปรโกฏิวนฺตตาย, อุทยพฺพยธมฺมโตติ อตฺโถ. อนิจฺจโต สมฺมสตีติ สมฺพนฺโธ. เอส นโย สพฺพตฺถ.

อนิจฺจโตติ จ อทฺธุวโต. เอตฺหิ น นิจฺจํ, ขณิกตาย อสทาภาวิตาย วา น อิจฺจํ น อุปคนฺตพฺพนฺติ อนิจฺจํ. อุปฺปาทวยปฏิปีฬนตายาติ อุปฺปาเทน, วเยน จ ปติ ปติ ขเณ ขเณ ตํสมงฺคิโน วิพาธนสภาวตฺตา, เตหิ วา สยเมว วิพาเธตพฺพตฺตา. อุทยพฺพยวนฺโต หิ ธมฺมา อภิณฺหํ เตหิ ปฏิปีฬิตา เอว โหนฺติ, ยา ปีฬนา ‘‘สงฺขารทุกฺขตา’’ติ วุจฺจติ. ทุกฺขวตฺถุตายาติ ติวิธสฺสาปิ ทุกฺขสฺส, สํสารทุกฺขสฺส จ อธิฏฺานภาวโต. ปจฺจยยาปนียตายาติ ยถารหํ ปจฺจเยหิ ยาเปตพฺพตาย. โรคมูลตายาติ มูลพฺยาธิ วิย อนุพนฺธพฺยาธีนํ มูลภาวโต, ปททฺวเยนาปิ ยาปฺยโรคสทิสโตติ ทสฺเสติ. ยาปฺยพฺยาธิ หิ โรโค อิตโร อาพาโธติ. ทุกฺขตาสูลโยคิตายาติ ติวิธทุกฺขตาสงฺขาเตน รุชฺชเนน ยุชฺชตาย. กิเลสาสุจิปคฺฆรณตายาติ ยถารหมารมฺมณวเสน, สมนฺนาคมวเสน จ ราคาทิกิเลสาสุจิวิสฺสนฺทนโต. อหุตฺวา สมฺภวโต อุปฺปตฺติยา อุทฺธุมาตตา.

อนฺโตตุทนตายาติ อพฺภนฺตเร ตุทนโต. ทุกฺขเวทนาทโย วิย หิ อิเม สงฺขารา อตฺตภาวสฺส อพฺภนฺตรคตา เอว อุทยพฺพยวเสน ตุทนฺติ. อริยมคฺคสณฺฑาเสน วินา นีหริตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย ทุนฺนีหรณียตา ตณฺหาทิฏฺาภินิเวสทฬฺหภาวโต. อฆนฺติ ปาปํ วิย อริยชเนหิ วิครหิตพฺพํ. สตฺตานํ อนตฺถชนนโต อวฑฺฒิอาวหํ, ปาปสฺส จ วตฺถุภูตํ ขนฺธปฺจกนฺติ อาห ‘‘วิครห…เป… อฆโต’’ติ. อเสริภาวชนกตายาติ ปรวสตาชนนโต. ยถา คิลาโน อฺเหิ สํเวสนวุฏฺาปนาทินา ปรปฏิพทฺธสรีรวุตฺติโก อเสรี, เอวเมเตปิ อเสริภาวชนกา. อวสตายาติ อวสวตฺตนโต. ยถา ปโรสตนฺโต ปุริโส ปรสฺส วสํ น คจฺฉติ, เอวํ สุภสุขาทิภาเวน วเส วตฺเตตุํ อสกฺกุเณยฺยโต. อวิเธยฺยตายาติ ‘‘มา ชีรถ, มา มียถา’’ติอาทินา วิธาตุํ อสกฺกุเณยฺยโต. ปลุชฺชนตายาติ พฺยาธิอาทีหิ ปกาเรหิ ฉิชฺชนโต วินสฺสนโต. เตหิ เอว วา อาพฺยสนโต. พฺยสนตฺโถ หิ โลกสทฺโท, ปสทฺโท ภุสตฺโถ ทฏฺพฺโพ. พฺยาธิอาทีหิ จ ขนฺธานํ พฺยสนนฺติ. พฺยสนาวหภาเวน เอตีติ อีติ, อาคนฺตุกานํ อกุสลปกฺขิยานํ พฺยสนเหตูนํ เอตํ อธิวจนํ. ขนฺธา จ เอทิสาติ อาห ‘‘อเนกพฺยสนาวหตาย อีติโต’’ติ.

อุปทฺทวตีติ อุปทฺทโว, อนตฺถํ ชเนนฺโต อภิภวติ อชฺโฌตฺถรตีติ อตฺโถ, ราชทณฺฑาทีนํ เอตํ อธิวจนํ. ขนฺธา จ เอทิสาติ วุตฺตํ ‘‘อวิทิตานํ…เป… อุปทฺทวโต’’ติ. ทิฏฺธมฺมิกสมฺปรายิกภยาวหโต, อภยปฏิปกฺขโต จ ขนฺธา ภยนฺติ อาห ‘‘สพฺพภยานํ…เป… ภยโต’’ติ. พหิทฺธา าติพฺยสนาทีหิ, อชฺฌตฺตํ ราคาทีหิ อนตฺเถหิ อุปสชฺชนฏฺเน, อุปสคฺคสทิสตาย จ อุปสคฺโค. อุปสคฺโคติ จ เทวตูปสํหารวเสน ปวตฺโต พฺยาธิอาทิอนตฺโถ. โส อตฺถกาเมน มุหุตฺตมฺปิ น อชฺฌุเปกฺขิตพฺโพ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อเนเกหิ…เป… อุปสคฺคโต’’ติ. โทสูปสฏฺตายาติ อารมฺมณโต, สมฺปโยคโต จ ราคาทิโทเสหิ อุเปตตาย. โลกธมฺมา ลาภาทิเหตุกา อนุนยปฏิฆา, เตหิ, พฺยาธิอาทีหิ จ อนวฏฺิตตา ปจลิตตา.

อุปกฺกเมนาติ อตฺตโน, ปรสฺส วา ปโยเคน. สรเสนาติ สภาเวน. ปภงฺคุปคมนสีลตา ภิทุรตา. สพฺพาวตฺถนิปาติตายาติ รุกฺขผลํ วิย อติตรุณกาลโต ปฏฺาย สพฺพาสุ อวตฺถาสุ นิปตนสีลตาย. อนิปตสฺสปิ สพฺเพน สพฺพํ อสารตาย ถิรภาวสฺส อภาวตาย. ถิรฺหิ ธุวํ นาม โหติ. ตายิตุํ รกฺขิตุํ อสมตฺถตาย น ตายโนติ อตายโน, ตพฺภาโว อตายนตา. ตาณาสีสาย อุปคตสฺส อลพฺภเนยฺยเขมตา. ทุกฺขภีติยา อุปลียนาธิปฺปาเยน อลฺลียิตุํ. ทุกฺขนิวตฺตนํ เลณกิจฺจํ. ชาติอาทิภยานํ หึสนํ วิธมนํ ภยสารกตฺตํ. ยถาปริกปฺปิเตหีติ ปรมตฺถโต อวิชฺชมาเนหิ พาเลหิ ปริกปฺปิตปฺปกาเรหิ. ริตฺตตายาติ วิวิตฺตตาย, วิรหิตตายาติ อตฺโถ. อนฺโตสาราภาโว ริตฺตตา. สา เอว จ ตุจฺฉตาติ อาห ‘‘ริตฺตตาเยว ตุจฺฉโต’’ติ. อปฺปกตฺตาติ ปริตฺตตฺตา, ลามกตฺตา วา. ธุวสาราภาวาทีหิ สทฺธึ อตฺตสาราภาวํ ริตฺตปเทน วตฺวา นิพฺพตฺติตมตฺตสาราภาวเมว สุฺปเทน ทสฺเสตุํ ‘‘สามิ…เป… สุฺโต’’ติ วุตฺตํ. ยถา เกนจิ สามิอาทิลกฺขเณน อตฺตนา สุฺา เอเต, เอวํ สยมฺปิ อตํสภาโวติ อาห ‘‘สยฺจ…เป… อนตฺตโต’’ติ. น อตฺตาติ หิ อนตฺตาติ.

ปวตฺติทุกฺขตายาติ ภวปวตฺติทุกฺขภาวโต. ภวปวตฺติ จ ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ อนิจฺจาทิอากาเรน ปวตฺตนเมว, โส จ อาทีนโว. ยถาห ‘‘ยํ, ภิกฺขเว, ปฺจุปาทานกฺขนฺธา อนิจฺจา ทุกฺขา วิปริณามธมฺมา. อยํ, ภิกฺขเว, ปฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ อาทีนโว’’ติ. เตนาห ‘‘ทุกฺขสฺส จ อาทีนวตายา’’ติ. อาทีนนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ยถา ‘‘เอกมนฺต’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๑๖๕), อติวิย กปณนฺติ อตฺโถ. ภุสตฺโถ หิ อยํ อา-กาโร. ยถา ‘‘ทฺวิธา ฉิทฺทกํ วิจฺฉิทฺทก’’นฺติ เอตฺถ ทฺวิ-สทฺทสฺส อตฺเถ วิ-สทฺโท, เอวมิธาปีติ อาห ‘‘ทฺเวธา ปริณามปกติตาย วิปริณามธมฺมโต’’ติ. วิปริณาโม จ วิปรีตสภาวาปตฺติ. ทุพฺพลตายาติ สรสภิทุรตาย พลาภาวโต. ทุพฺพลมฺปิ กิฺจิ มุทุกมฺมฺาภาเวน ทุปฺปธํสิยา. อิเม ปน สุปธํสิยา เอวาติ อาห ‘‘เผคฺคุ วิย สุขภฺชนียตาย จา’’ติ. อฆสฺส ปาปสฺส เหตุตา อฆเหตุตา. ขนฺธปฏิพทฺธเมว หิ สพฺพํ กิพฺพิสนฺติ. อิเม รูปาทโย สุขเหตุ, น ทุกฺขเหตูติ ชนิตวิสฺสาสานํ หนนสีลตาย, ขนฺเธสุ หิ ‘‘เอตํ มมา’’ติ คาหวเสน สตฺตา พฺยสนํ ปาปุณนฺติ, วิสฺสาสํ วา หนนฺตีติ วิสฺสาสฆาติโน, ตพฺภาวโต.

วิคตภวตายาติ อปคตวฑฺฒิตาย. วิภวตณฺหา, วิภวทิฏฺิ จ วิภโว อุตฺตรปทโลเปน, ตโต วิภวโต, ปิตุสทิสสฺส วา สภาวเหตุโน วิภวโต วินาสโต สมฺภูตตาย. อาสวานํ อารมฺมณาทินา ปจฺจยภาโว อาสวปทฏฺานตา. พีชาทิโก อสาธารโณ เหตุ, ภูตสลิลาทิโก สาธารโณ ปจฺจโย. เอส นโย อชฺฌตฺเตปิ. เตหิ สเมจฺจ สมฺภูย กโต สงฺขโต. มจฺจุมารสฺส อธิฏฺานภาเวน, กิเลสมารสฺส ปจฺจยภาเวน สํวฑฺฒนโต อามิสภูตตา, ขนฺธาปิ ขนฺธานํ อามิสภูตา ปจฺจยภาเวน สํวฑฺฒนโต, ตทนฺโตคธา อภิสงฺขารา. เทวปุตฺตมารสฺส ปน ‘‘มเมต’’นฺติ อธิมานวเสน อามิสภาโวติ ขนฺธาทิมารานมฺปิ อิเมสํ ยถารหํ อามิสภูตตา วตฺตพฺพา. ธมฺมสทฺโท ‘‘ชาติธมฺมาน’’นฺติอาทีสุ (ม. นิ. ๓.๓๗๓; ปฏิ. ม. ๑.๓๓) วิย ปกติอตฺโถ , ‘‘ธมฺมปฏิสมฺภิทา’’ติอาทีสุ (วิภ. ๗๑๘ อาทโย) วิย เหตุอตฺโถ จาติ อาห ‘‘ชาติชราพฺยาธิมรณปกติตาย, โสกปริเทวอุปายาสเหตุตายา’’ติ. สํกิเลสตฺตยคฺคหเณน ตเทกฏฺานํ ทสนฺนํ กิเลสวตฺถูนมฺปิ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ. ตทารมฺมณาปิ หิ ธมฺมา ตทนติวตฺตนโต สํกิเลสิกา เอว. ตถา ขุทฺทา, ตณฺหา, ชฏาทีสุ สรีรสฺส, สํกิเลสสฺส จ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

จตฺตารีสาปิ สมฺมสนานิ ตีสุ อนุปสฺสนาสุ อนฺโตคธาเนวาติ ตทนฺโตคธภาวํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนิจฺจานุปสฺสนานิ สรูปโต , ปริยายโต จ อนิจฺจภาววิภาวนโต. เอส นโย อิตเรสุปิ. ‘‘อสารกโต’’ติ อิทํ นิจฺจสาราภาววิภาวนํ.

เอตฺตาวตา กลาปโต ธมฺเม สงฺคเหตฺวา นยโต สมฺมสนมตฺตํ ทสฺสิตํ, น ตาว อนุปทธมฺมวิปสฺสนา วิหิตาติ ‘‘สมฺมสนารมฺภวิธาน’’นฺติ. วุตฺตํ.

อินฺทฺริยติกฺขการณนวกกถาวณฺณนา

๖๙๙. เอกจฺจสฺส ติกฺขินฺทฺริยสฺส มหาปฺสฺส นยวิปสฺสนาวเสเนว อุทยพฺพยาณํ อุปฺปชฺชติ, อิตรสฺส นุปฺปชฺชติ. ตํ สนฺธาย ‘‘ยสฺส ปน…เป… น สมฺปชฺชตี’’ติ วุตฺตํ. อุทยพฺพยาณุปฺปตฺติ หิ อิธ นยวิปสฺสนาย สมฺปชฺชนนฺติ อธิปฺเปตํ. เตน ‘‘นวหากาเรหิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ ภวนฺติ…เป… อนฺตรา จ อพฺโพสาเนนา’’ติ เอวํ วุตฺตานํ นวนฺนํ อาการานํ วเสน อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ กตฺวา สปฺปายานิ เสวมาเนน สมฺมสิตพฺพนฺติ สมฺพนฺโธ.

เตนาติ โยคินา. นวหากาเรหีติ วกฺขมาเนหิ นวหิ อากาเรหิ. อินฺทฺริยานีติ สทฺธาทีนิ อินฺทฺริยานิ. ติกฺขานีติ ติขิณานิ วิสทานิ สูรานิ. อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานนฺติ ขเณ ขเณ อุปฺปนฺนานํ อุปฺปนฺนานํ. สงฺขารานนฺติ วิปสฺสิยมานานํ รูปารูปธมฺมานํ. ขยเมวาติ ปมํ อุปฺปาทํ ทิสฺวา ตํ มุฺจิตฺวา ขยเมว ภงฺคเมว ปสฺสติ. ตสฺส ตถาขยทสฺสนปสุตสฺส วิปสฺสนาปฺา ติกฺขา สูรา วหติ, อิตรานิ จ อินฺทฺริยานิ. ตตฺถาติ ขยทสฺสเน. สกฺกจฺจกิริยายาติ อาทรการิตาย, ยถา ขยทสฺสนปรเมเนว วิปสฺสนาาณํ ปวตฺตติ, เอวํ ตํ อาทรชาโต สมฺปาเทติ. สาตจฺจกิริยายาติ อวิจฺเฉทกิริยาย, ยถา วิปสฺสนาาณํ ขยทสฺสนวเสน นิรนฺตรเมว ปวตฺตติ, เอวํ ยุตฺตปฺปยุตฺโต นํ สมฺปาเทติ. สปฺปายกิริยายาติ อนุรูปกิริยาย อาวาสาทิสตฺตวิธสปฺปายาเสวนกิริยาย . นิมิตฺตคฺคาเหนาติ ยถา มนสิกโรนฺตสฺส วิปสฺสนาสมาธิ อุปฺปนฺโน, ตสฺส อาการสฺส สลฺลกฺขณวเสน สมถนิมิตฺตคฺคหเณน สมฺปาเทตีติ สมฺพนฺโธ. อนุปวตฺตนตายาติ อนุรูปโต ปวตฺตเนน ภาวนาจิตฺตสฺส ลีนภาเว ปีติวีริยธมฺมวิจยสมฺโพชฺฌงฺคานํ อุทฺธตภาเว ปสฺสทฺธิสมาธิอุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคานํ พฺรูหเนนาติ อตฺโถ. กาเย จ ชีวิเต จ อนเปกฺขตนฺติ อตฺตโน กาเย อสุจิภาเวน พาหิรกอวิฺาณกกุณเป วิย ชีวิเต อหิตาวหปจฺจตฺถิเก วิย นิรเปกฺขจิตฺตํ อุปฏฺเปติ. ตตฺถ จ อภิภุยฺย เนกฺขมฺเมนาติ ตสฺมึ กายจิตฺเต อนเปกฺขภาเวน อินฺทฺริยานํ ติกฺขภาวาปาทเนน อุปฺปนฺนํ อุปฺปนฺนํ ทุกฺขํ วีริเยน อภิภวิตฺวา ภาวนํ สมฺปาเทติ. อนฺตราติ ยถาธิปฺเปตาย ภาวนาสิทฺธิยา อนฺตราว. อพฺโพสาเนนาติ อสงฺโกจเนน.

เอวํ วุตฺตานนฺติ เอวํ ‘‘นวหากาเรหิ อินฺทฺริยานิ ติกฺขานิ ภวนฺตี’’ติอาทินา อฏฺกถายํ วุตฺตานํ. เอตฺถ จ ยถา นาม สุขุมานํ มุตฺตาปวาฬาทีนํ วิชฺฌเน สุขุมตเรน เวธเนน ภวิตพฺพํ, เอวเมว สณฺหสุขุมานํ รูปารูปธมฺมานํ, ปจฺจยสฺส จ ปริคฺคณฺหเน ติกฺเขน าเณน ภวิตพฺพํ. เตสํ ปน ขยวยทสฺสเน ติกฺขตเรน ภวิตพฺพํ. ติกฺขตรตา จสฺส นิสานสิลายํ สณฺหมฏฺตาย กรเณน วิย ผรสุธาราย นิสิตภาวาปาทเนน อินฺทฺริยานํ ติกฺขภาวาปาทเนน สาเธตพฺพา. ตฺจ เยหิ นวหิ อากาเรหิ โหติ, เตสุ ขณิกานํ สงฺขารานํ ขเณ ขเณ ภิชฺชนาการทสฺสนํ ปมํ วุตฺตํ ‘‘อุปฺปนฺนุปฺปนฺนานํ สงฺขารานํ ขยเมว ปสฺสตี’’ติ. อสติ าณสฺส ติกฺขตรภาเว ตทภาวโต เสสินฺทฺริยติกฺขตา ตสฺส สมฺภารภาวโต วุตฺตา, อวินาภาวโต วา. สกฺกจฺจกิริยาทิคฺคหณํ ปน ตสฺส อุปายทสฺสนํ. อสปฺปายานิ โภชนาทีนิ อนุปยุชฺชนาทิวเสน วชฺเชตฺวา สปฺปายานิ มตฺตโส เสวมาเนน. รูปารูปธมฺมานํ อจฺจนฺตวิธุรตาย เอกชฺฌํ อสมฺมสิตพฺพตฺตา, ตถา สมฺมสนสฺส จ อิธ อนธิปฺเปตตฺตา ‘‘กาเลน รูปํ สมฺมสิตพฺพํ, กาเลน อรูป’’นฺติ วุตฺตํ. ตตฺถาปิ จ รูปสฺส โอฬาริกตาย สุวิฺเยฺยตฺตา ปมํ สมฺมสิตพฺพตา วุตฺตา. นิพฺพตฺติ ปสฺสิตพฺพาติ ปมํ ตาว อาคมานุสารโต อนุมานวเสน ทฏฺพฺพา. ตโต ปรํ อนุกฺกเมน พลปฺปตฺเต ภาวนาาเณ ปจฺจกฺขโตปิ ทิสฺสตีติ.

รูปนิพฺพตฺติปสฺสนาการกถาวณฺณนา

๗๐๐. สพฺเพสนฺติ กามาวจราทิอณฺฑชาทิเภทภินฺนานํ สพฺเพสํ สตฺตานํ. ปมํ กมฺมโต นิพฺพตฺตติ ตํมูลกตฺตา อุตุชาทิรูปานํ. ปรโต ปวตฺตนกกายทสกาทิวเสน ลพฺภมานํ ปพนฺธตฺตยํ, สนฺตติสีสํ วา สนฺธาย ‘‘ติสนฺตติวเสนา’’ติ วุตฺตํ.

ทนฺธํ มนฺทํ จิเรน นิโรโธ เอตสฺสาติ ทนฺธนิโรธํ สตฺตรสจิตฺตกฺขณายุกตฺตา. เตนาห ‘‘ครุปริวตฺตี’’ติ. เตนาติ ตสฺมา, ยสฺมา ‘‘ตโต สีฆตรํ โข, ภิกฺขเว, อายุสงฺขารา ขียนฺตี’’ติ (สํ. นิ. ๒.๒๒๘) วจนโต รูปธมฺมาปิ อิตฺตรกาลา เอว, อรูปธมฺมา ปน เตหิ สาติสยํ อิตฺตรกาลา, ตสฺมา อาห ภควาติ อตฺโถ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วิจาริตเมว. เตหิ สทิสาติ จิตฺตสฺส อุปฺปาทภงฺคกฺขเณหิ สทิสา. สพฺเพสมฺปิ หิ สงฺขารานํ อุปฺปาทภงฺคกฺขเณสุ วิสทิสตา นตฺถิ, สมานกาลาว เต. านปฺปตฺตนฺติ ิติกฺขณปฺปตฺตํ. เตนาติ ทุติยภวงฺคจิตฺเตน. วตฺถุรูปํ เอกสฺส จิตฺตสฺส นิสฺสโย หุตฺวา อฺสฺส น โหติ เปตฺวา มรณาสนฺนํ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘เตน สทฺธิ’’นฺติอาทิ.

เอวํ ปฏิสนฺธิโต ปฏฺาย ยาว จุติจิตฺตสฺส อุปฺปตฺติ, ตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ นิโรธํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺสา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ านกฺขเณติ ปฏิสนฺธิจิตฺตสฺส ิติกฺขเณ. ยาว ปวตฺติ นาม อตฺถีติ ยาว สํสารปฺปวตฺติ นาม อตฺถิ, ยาว วา จิตฺตสฺส ปวตฺติ นาม อตฺถิ. อสฺูปปตฺติยฺหิ นตฺถิ จิตฺตปฺปวตฺตีติ. รูปูปปตฺติยํ สํเสทชา โอปปาติกสทิสาติ โอปปาติกานํเยว คหณํ. โอปปาติกานมฺปีติ ปิ-สทฺเทน วา สํเสทเช สมฺปิณฺเฑติ. สตฺตสนฺตติวเสนาติ จกฺขุทสกาทีนํ สตฺตนฺนํ สนฺตติสีสานํ วเสน.

๗๐๑. ตตฺถาติ กมฺมโต รูปปวตฺติยํ. นานากฺขณิกกมฺมปจฺจยภูตํเยว อิธ กมฺมนฺติ อธิปฺเปตนฺติ อาห ‘‘กมฺมํ นาม กุสลากุสลเจตนา’’ติ. ชีวิตนวกํ จกฺขุทสกาทิอนฺโตคธเมว กตฺวา ‘‘สมสตฺตติรูป’’นฺติ วุตฺตํ. ตํ วา จกฺขุทสกาทิ วิย สุขปริคฺคหํ น โหตีติ. ตเทวาติ ยถาวุตฺตํ วิปากกฺขนฺธกฏตฺตารูปมาห. กมฺมฺหิ กมฺมชสฺส ชนกํ, ปริปาจกมฺปิ โหติ ชีวิตินฺทฺริยสฺส, กมฺมชคฺคิโน จ วเสน อนุรกฺขณสพฺภาวโต, อาหาราทิปฏิลาภเหตุตาย อุปตฺถมฺภกนิมิตฺตโต จ. เตนาห ‘‘อุปตฺถมฺภกปจฺจโยปิ โหตี’’ติ. อุปตฺถมฺภกปจฺจยตา จสฺส อุปนิสฺสยปจฺจยวเสเนว เวทิตพฺพา. กมฺมํ ปจฺจโย เอตสฺสาติ กมฺมปจฺจยํ, ตเทว จิตฺตํ, ตํ สมุฏฺานํ เอตสฺสาติ กมฺมปจฺจยจิตฺตสมุฏฺานํ. วิปากเจตสิกานมฺปิ กมฺมปจฺจยจิตฺตสมุฏฺานตา วตฺตพฺพา, น วา วตฺตพฺพา กมฺมสมุฏฺานกมฺมปจฺจยคฺคหเณน คหิตตฺตา. านปฺปตฺตา โอชา อฺํ โอชฏฺมกํ สมุฏฺาเปติ อาหารานุคเต สรีเรติ คเหตพฺพํ.

ตตฺราปีติ กมฺมสมุฏฺานาหารสมุฏฺาเนปิ โอชฏฺมเก. จตสฺโส วา ปฺจ วา ปวตฺติโย ฆเฏตีติ สทิสสนฺตติวเสน จตสฺโส วา ปฺจ วา รูปกลาปปฺปวตฺติโย สนฺตาเนติ. พาหิรปจฺจยวิเสเสน ปน วิสทิสา พหูปิ ปวตฺติโย ฆเฏตีติ วทนฺติ. ยถา กมฺมปจฺจยาหารสมุฏฺาเน ปเวณิฆฏนา, เอวํ กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺาเนปีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมปจฺจยอุตุสมุฏฺานํ นามา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ ยถา ตตฺถ ตตฺถ โกฏฺาเส ปรมฺปรปฺปวตฺตึ ทสฺเสนฺเตน อกมฺมชา ทุติยาทิปวตฺติโย อสมฺเภเทน ทสฺสิตา, เอวํ กมฺมชาหารสมุฏฺานอุตุวเสน, กมฺมชอุตุสมุฏฺานาหารวเสน, กมฺมปจฺจยจิตฺตชาหารอุตุสมุฏฺานอุตุอาหารวเสน จ สมฺเภทวเสนาปิ รูปปฺปวตฺติ ทสฺเสตพฺพาติ วทนฺติ. ตตฺถ กมฺมชโต ปวตฺตอาหารา วิเสสปจฺจยลาเภ สติ ยถาวุตฺตปริมาณาหิ ปวตฺตีหิ อุทฺธมฺปิ ปวตฺติโย น ฆเฏนฺตีติ น สกฺกา วตฺตุํ. ตถา หิ ‘‘ทส ทฺวาทส วาเร ปวตฺตึ ฆเฏตี’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๐๓), ‘‘เอวํ ทีฆมฺปิ อทฺธานํ อนุปาทินฺนปกฺเข ตฺวาปิ อุตุสมุฏฺานํ ปวตฺตติ เอวา’’ติ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๐๔) จ วกฺขติ.

๗๐๒. ชนกาชนกา มตาติ ปุริมกา ติโกฏฺาสสงฺคหิตา ชนกา, ปจฺฉิมโกฏฺาสิกา ‘‘โสฬสา’’ติ วุตฺตา อชนกาติ มตา าตา. กุสลกิริยโตติ กุสลโต จ กิริยโต จ. อิริยาย กายิกกิริยาย ปวตฺติฏฺานตาย ปถภาวโต อิริยาปโถ, คมนาทิ, อตฺถโต ตทวตฺถา รูปปฺปวตฺติ. กามฺเจตฺถ รูปวินิมุตฺโต อิริยาปโถ, วิฺตฺติ จ นตฺถิ, ตถาปิ น สพฺพํ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตํ อิริยาปถูปตฺถมฺภกํ, วิฺตฺติวิการุปฺปาทกฺจ โหติ. ยํ ปน จิตฺตํ วิฺตฺติชนกํ, ตํ เอกํสโต อิตรสฺส ชนกํ อวินาภาวโต, ตถา อิริยาปถูปตฺถมฺภกํ รูปสฺส. เอตสฺส วิเสสสฺส ทสฺสนตฺถํ ‘‘รูปํ, อิริยาปถํ, วิฺตฺติฺจา’’ติ สมุจฺจโย กโต. วิปากวชฺชานีติ เอตฺถ วิปากาภิฺาทฺวยวชฺชานีติ วตฺตพฺพํ ตทฺเสํเยว เสสคฺคหเณน คเหตพฺพตฺตา. น วา วตฺตพฺพํ เสสคฺคหเณเนว อภิฺาจิตฺตานมฺปิ นิวตฺเตตพฺพโต. น วิฺตฺตึ ชนยนฺติ มหคฺคตกุสลาทีนํ สนฺตภาเวน อวิปฺผาริกภาวโต. วิปฺผาริกเมว หิ กามาวจรกุสลาทิวิฺตฺตึ สมุฏฺาเปติ, อิริยาปถูปตฺถมฺภกานิ ปน โหนฺติ สติปิ สนฺตภาเว ฌานเวเคน สอุสฺสาหตฺตา, ยโต เตสํ ชวนกิจฺจตา. ปฺจ ภวงฺคจิตฺตานีติ สมฺพนฺโธ. รูปเมว ชนยนฺติ, น อิริยาปถํ นิรุสฺสาหสนฺตภาเวน ปริทุพฺพลภาวโต. กิริยามยจิตฺเตหิ อวิมิสฺสภวงฺคปฺปวตฺติกาเล ขนฺธาทิสรีราวยวานํ นิจฺจลภาเวนาวฏฺานํ. ตถา หิ อพฺโพกิณฺเณ ภวงฺเค ปวตฺตมาเน องฺคานิ โอสีทนฺติ ปวิฏฺานิ วิย โหนฺติ. ‘‘ทฺวตฺตึสา’’ติ ปน อาทินา วุตฺเตสุ ชาครณจิตฺเตสุ วตฺตมาเนสุ องฺคานิ อุปตฺถทฺธานิ ยถาปวตฺตอิริยาปถภาเวเนว ปวตฺตนฺตีติ. ทฺเวปฺจวิฺาณานิ สพฺพทุพฺพลตาย รูปํ น ชเนนฺติ. ปฏิสนฺธิจิตฺตํ วตฺถุทุพฺพลตาย. ขีณาสวานํ จุติจิตฺตนฺติ เอตฺถ –

‘‘กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตสฺส อุปฺปาทกฺขเณ ยสฺส จิตฺตสฺส อนนฺตรา กามาวจรานํ ปจฺฉิมจิตฺตํ อุปฺปชฺชิสฺสติ, รูปาวจเร อรูปาวจเร ปจฺฉิมภวิกานํ, เย จ รูปาวจรํ อรูปาวจรํ อุปปชฺชิตฺวา ปรินิพฺพายิสฺสนฺติ, เตสํ จวนฺตานํ เตสํ วจีสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสติ, โน จ เตสํ กายสงฺขาโร นิรุชฺฌิสฺสตี’’ติ (ยม. ๒.สงฺขารยมก.๘๘) –

ปน วจนโต อฺเสมฺปิ จุติจิตฺตํ รูปํ น สมุฏฺาเปตีติ วิฺายติ. น หิ รูปสมุฏฺาปกจิตฺตสฺส คพฺภคตตาทิวิพนฺธาภาเว กายสงฺขาราสมุฏฺาปเน การณํ อตฺถิ, น จ ยุตฺตํ จุโต จ จิตฺตสมุฏฺานรูปฺจสฺส ปวตฺตติ, นาปิ ‘‘จุติจิตฺตํ รูปํ สมุฏฺาเปตี’’ติ ปาฬิ อตฺถิ, ‘‘ขีณาสวาน’’นฺติ, ปน วิเสสนํ อปฺปฏิสนฺธิกนิโรเธน นิรุชฺฌนฺตสฺส เตสํ จุติจิตฺตสฺส รูปสมุฏฺาปนํ ปากฏนฺติ กตฺวา กตนฺติ ทฏฺพฺพํ. โสฬส จิตฺตานีติ ปริจฺฉิชฺช คหณํ เตสํ รูปชนเน เอกํสโต นิยเมตพฺพตฺตา, อฺานิ ปน พหูนิ อรูเป อุปฺปนฺนานิ อโนกาสคตตฺตา รูปํ น ชเนนฺติเยว. น ิติกฺขเณ, ภงฺคกฺขเณ วา รูปํ ชเนนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อุปฺปาทกฺขเณ ปน พลวํ อนนฺตราทิปจฺจยลาภโต.

ยถา ปถวีอาทโย รูปธมฺมา จิตฺตเหตุกา จิตฺตสมุฏฺานา, เอวํ เวทนาทโยปีติ วุตฺตํ ‘‘จิตฺตสมุฏฺานํ นาม ตโย อรูปิโน ขนฺธา, สทฺทนวก’’นฺติอาทิ. เตเนวาห – ‘‘กตเม ธมฺมา จิตฺตสมุฏฺานา? เวทนากฺขนฺโธ สฺากฺขนฺโธ สงฺขารกฺขนฺโธ กายวิฺตฺติ วจีวิฺตฺตี’’ติ (ธ. ส. ๑๒๐๑, ๑๕๓๕). ตตฺถ กายวิฺตฺติอาทีนํ จิตฺตสมุฏฺานตา ปริยายโต วุตฺตาติ เวทิตพฺพา เตสํ อนิปฺผนฺนตฺตา. ‘‘เอวํ วุตฺตํ จตุสมุฏฺานรูป’’นฺติ อิมินา อตํสมุฏฺานสฺเสว จิตฺตชรูปสฺส จิตฺตปจฺจยตา ทสฺสิตา. ยถา ปน กมฺมปจฺจยํ ทสฺสิตํ , เอวํ จิตฺตปจฺจเย คยฺหมาเน ตํสมุฏฺานรูปสฺส, สหชาตเวทนาทีนฺจ จิตฺตปจฺจยตา สิยา. จิตฺตสมุฏฺานจิตฺตปจฺจเย ปน อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ปจฺฉาชาตปจฺจยวเสเนว จิตฺตปจฺจยํ อุทฺธฏนฺติ ทฏฺพฺพํ. จิตฺตสมุฏฺานอุตุอาหาเรหิ กมฺมสมุฏฺานอุตุอาหารา พลวนฺโต โหนฺตีติ เตสํ วเสน จตุปฺจปวตฺติฆฏนํ วุตฺตํ, จิตฺตสมุฏฺานานํ ปน วเสน ทฺวตฺติปฺปวตฺติฆฏนํ ตํปากติกจิตฺตวเสน, มหคฺคตานุตฺตรจิตฺตวเสน ปน พหุตราปิ ปวตฺติโย อิจฺฉิตพฺพา. ตํนิพฺพตฺตานํ จิตฺตชรูปานํ อุฬารปณีตภาวโต.

๗๐๓. ‘‘อุปาทินฺนํ กมฺมชรูปํ ปจฺจยํ ลภิตฺวา’’ติ เอเตน พหิทฺธา อนุปาทินฺนโอชา รูปาหรณกิจฺจํ น กโรตีติ ทสฺเสติ. ปจฺจยลาโภ จสฺส กมฺมชภูตสนฺนิสฺสยตาวเสนาติ อาห ‘‘ตตฺถ ปติฏฺายา’’ติ. ตตฺถ กมฺมปจฺจยจิตฺตสมุฏฺานาทิรูปสฺสปิ กมฺมมูลกตฺตา สิยา กมฺมชปริยาโยติ ตํนิวตฺตนตฺถํ ‘‘อุปาทินฺน’’นฺติ วิเสเสตฺวา วุตฺตํ. อาหารปจฺจยสฺส อาหาโร น เกวลํ อุปตฺถมฺภโกว, อถ โข ชนโกปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘จตุสมุฏฺานรูป’’นฺติ วุตฺตํ. ‘‘ทส ทฺวาทส วาเร’’ติ วตฺวา กถํ อิมสฺเสว ทส ทฺวาทส วาเร ปวตฺติฆฏนาติ อนุโยคํ สนฺธายาห ‘‘เอกทิวสํ ปริภุตฺตาหาโร’’ติอาทิ. ทารกสฺส สรีรํ ผริตฺวาติ นาภิมูลานุคตาหิ รสหรณีหิ ผริตฺวา, อฺถา ชลาพุอนฺตริเก กาเย มกฺขนาวเสน น สมฺมาวินิโยโค อาหารสฺส สมฺภวตีติ.

อุปาทินฺนโก อนุปาทินฺนโกติ ทุวิเธ อาหาเร ปุพฺเพ อนุปาทินฺนโก อาหารปจฺจยอาหาโร ทสฺสิโตติ อิตรํ ทสฺเสตุํ ‘‘กมฺมชาหาโร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตํ กมฺมปจฺจยาหารสมุฏฺาเน วุตฺตนยเมว. เตนาห ‘‘จตสฺโส วา ปฺจ วา ปวตฺติโย ฆเฏตี’’ติ. อาหารปจฺจยอุตุโนปิ อุตุปจฺจยาหารสฺส วิย ทส ทฺวาทส วาเร ปวตฺติฆฏนา เวทิตพฺพา. วุตฺตนยตฺตา น อุทฺธตนฺติ วทนฺติ. เสสานนฺติ กมฺมจิตฺตอุตุสมุฏฺานานํ ติสนฺตติรูปานํ. กพฬีการาหาโร หิ อฺาหารสมุฏฺิตสฺส, ติสนฺตติรูปานฺจ อุปตฺถมฺภกวเสน อตฺตนา อุปฺปาทิตสฺส ชนโก หุตฺวา ปจฺจโย โหติ. เอวํ อาหารปจฺจโย โหนฺโตเยว อตฺถิอวิคตวเสนาปิ ปจฺจโย โหติ, นิสฺสยภาโว ปน ปฏฺานนเยน นตฺถิ. อาหารปจฺจยา ปวตฺตมานานิ รูปานิ อาหารนิสฺสยานิ นาม โหนฺตีติ สุตฺตนฺตนเยน วุตฺโตติ ทฏฺพฺโพ. ปรโต อุตุโน นิสฺสยโชตนายปิ เอเสว นโย.

๗๐๔. กมฺมสมุฏฺานาทิวเสน จตุพฺพิธายปิ เตโชธาตุยา รูปุปฺปาทเน สมตฺถภาวโต ‘‘อุตุ นาม จตุสมุฏฺานา เตโชธาตู’’ติ วุตฺตํ. เอส ทุวิโธ โหตีติ เอส อุตุ เตโชธาตุภาวาวิเสเสปิ ติกฺขมนฺทตาวิเสเสน อุณฺโห, สีโตติ ทุวิโธ โหติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วิจาริตเมว. ยทิปิ อุตุ อุปาทินฺนเกน วินาปิ รูปํ สมุฏฺาเปติ, อินฺทฺริยพทฺเธ ปน เตน วินา ตสฺส รูปุปฺปาทนํ นตฺถีติ อาห ‘‘อุปาทินฺนกํ ปจฺจยํ ลภิตฺวา’’ติ. เตนาห ‘‘จตุสมุฏฺาโน อุตู’’ติ. อุตุสมุฏฺาโนเยว หิ อุตุ อุปาทินฺนเกน วินา รูปํ สมุฏฺาเปติ. อุตุปจฺจยํ นาม จตุสมุฏฺานิกํ รูปํ. ยฺหิ อุตุสมุฏฺานํ ปนฺนรสวิธํ รูปํ, ยฺจ ตทฺติสนฺตติรูปํ, ตสฺส สพฺพสฺสปิ สภาโค อุตุอุปตฺถมฺภกปจฺจโย โหตีติ. ยสฺมา วิสภาโค อุตุ หิมาทิ วิย ปทุมาทีนํ วิสทิสรูปุปฺปตฺติเหตุภูตํ ปุริมรูปํ วินาเสนฺตํ วิย โหติ, ตสฺมา สภาคํ, วิสภาคฺจ เอกชฺฌํ คเหตฺวา วุตฺตํ ‘‘อุตุ จตุสมุฏฺานิกรูปานํ ปวตฺติยา จ วินาสสฺส จ ปจฺจโย โหตี’’ติ.

ทีฆมฺปิ อทฺธานนฺติ ‘‘ทส ทฺวาทส วาเร’’ติ อฺสฺส วุตฺตปริจฺเฉทโต ทีฆมฺปิ กาลํ. อุตุ หิ สภาคสนฺตติวเสน ลทฺธปจฺจยํ จิรตรมฺปิ กาลํ สทิสาการํ รูปปฺปวตฺตึ สนฺตาเนติ อุปาทินฺนกสนฺนิสฺสเยน วินา, ปเคว อิตรถา. เตนาห ‘‘อนุปาทินฺนปกฺเข ตฺวาปี’’ติ, มํสวินิมุตฺตเกสโลมนขจมฺมขิลติลกาทิวเสน ชีวมานสรีเร อฺตฺถ มตกเฬวราทิวเสนาติ อธิปฺปาโย. รูปสฺส นิพฺพตฺติยา ทิฏฺาย ตสฺส ภงฺโคปิ ทิฏฺโเยว โหติ อิตฺตรกาลตฺตา ธมฺมปฺปวตฺติยาติ อาห ‘‘นิพฺพตฺตึ ปสฺสนฺโต กาเลน รูปํ สมฺมสติ นามา’’ติ. น หิ นิพฺพตฺติมตฺตทสฺสนํ สมฺมสนํ นาม โหติ, อุทยพฺพยทสฺสนฺจ อธิกตนฺติ. เอส นโย อิโต ปเรสุปิ นิพฺพตฺติคฺคหเณสุ.

อรูปนิพฺพตฺติปสฺสนาการกถาวณฺณนา

๗๐๕. โลกิยจิตฺตุปฺปาทวเสเนวาติ อวธารณํ อิตรสฺส อวิสยตฺตา.

นิพฺพตฺตติ ตํตํภววเสน. ตเทว เอกูนวีสติปฺปเภทํ จิตฺตํ ภวงฺควเสน นิพฺพตฺตตีติ สมฺพนฺโธ. ตถา จุติวเสน ตทารมฺมณวเสนาติ เอตฺถาปิ. ตตฺถาติ เตสุ เอกูนวีสติจิตฺตุปฺปาเทสุ. อนนฺตรจิตฺตโต ปฏฺายาติอาทินาปิ ปวตฺติเยว วุตฺตา.

โส ปน ปฏิสนฺธิจิตฺตานํเยว ปวตฺติยํ ปวตฺตนากาโรติ สุทฺธปฺปวตฺติจิตฺตานํ อุปฺปตฺตึ ทสฺเสนฺโต ‘‘ปวตฺเต ปนา’’ติอาทิมาห. อสมฺภินฺนตฺตาติ อวินฏฺตฺตา. ‘‘อสมฺภินฺนตฺตา จกฺขุสฺสา’’ติอาทินา สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘จกฺขุปสาทสฺส หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ‘‘ิติปฺปตฺตเมวา’’ติ อิมินา ยถา นิรุชฺฌมานํ รูปํ กสฺสจิ ปจฺจโย น โหติ, เอวํ อุปฺปชฺชมานมฺปีติ ทสฺเสติ. จกฺขุวิฺาณํ อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. เอวํ เสเสสุปิ. กามาวจรกุสลากุสลกิริยจิตฺเตสุ เอกํ วา ปฺจ, สตฺต วา ชวนานิ หุตฺวา อุปฺปชฺชตีติ สมฺพนฺโธ. อุเปกฺขาสหคตาเหตุกํ จิตฺตํ วาติ วา-สทฺทํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. โวฏฺพฺพนฺหิ สนฺธาย เอวํ วุตฺตํ, ตํ ปน ทุติยโมฆวารวเสน เวทิตพฺพํ. ปฺจ ชวนานิ สุตฺตมุจฺฉิตาทิกาเล, สตฺต ปากติกกาเล เวทิตพฺพานิ. ชวนารมฺมณานุรูปนฺติ ‘‘ติเหตุกํ เจ ชวนํ, ติเหตุกํ, ทฺวิเหตุกํ วา’’ติอาทินา, ‘‘อิฏฺํ เจ อารมฺมณํ, โสมนสฺสสหคต’’นฺติอาทินา จ ชวนสฺส, อารมฺมณสฺส จ อนุรูปํ. เสสทฺวาเรสูติ โสตทฺวาราทิเสสทฺวาเรสุ.

อนุกฺกเมนาติ อุทยพฺพยาณาธิคมานุกฺกเมน ปฺาภาวนํ สมฺปาเทติ อรหตฺตํ อธิคจฺฉติ.

รูปสตฺตกสมฺมสนกถาวณฺณนา

๗๐๖. รูเปสุ มนสิการสตฺตกํ รูปสตฺตกํ, รูปธมฺเมสุ สตฺตหากาเรหิ มนสิ กาโรตีติ อตฺโถ. เอวํ อรูปสตฺตกมฺปิ เวทิตพฺพํ. อิเมหิ อากาเรหีติ อิเมหิ อาทานนิกฺเขปนมนสิการาทิปฺปกาเรหิ, อิเมหิ วา ยถาวุตฺตโกฏฺาเสหิ. อาโรเปตฺวาติ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา.

อาทานนิกฺเขปนโตติ ภวสฺส คหณวิสฺสชฺชนโต, ชาติโต, มรณโต จาติ อตฺโถ. วโยวุฑฺฒตฺถคามิโตติ วยสา วุฑฺฒสฺส อตฺถคามิภาวโต, อตฺถงฺคมโต อิจฺเจว อตฺโถ. อาหารโตติ อาหารเหตุ , รูปสฺส ปจฺจยภูตอาหารโตติ อตฺโถ. อยโลหาทิภูมิปาสาณาทิเภทํ วิวิธวณฺณสณฺานํ กมฺมานเปกฺขํ สภาวสิทฺธํ รูปํ ธมฺมตารูปํ. สตฺตาติ สตฺตธา สตฺตหากาเรหิ. วิปสฺสตีติ ตํ ตํ โกฏฺาสํ ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา วิปสฺสติ สมฺมสติ.

‘‘ภาราทานํ ทุขํ โลเก’’ติ วจนโต ขนฺธภารสฺส อาทิโต คหณนฺติ กตฺวา ‘‘อาทานนฺติ ปฏิสนฺธี’’ติ อาห. ‘‘สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ, ภูตา โลเก สมุสฺสย’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๒๒๐; สํ. นิ. ๑.๑๘๖) ปน วจนโต ขนฺธภารนิกฺเขโปติ กตฺวา ‘‘นิกฺเขปนนฺติ จุตี’’ติ วุตฺตํ. ‘‘โย จิรํ ชีวติ, โส วสฺสสต’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๗; สํ. นิ. ๑.๑๔๕-๑๔๖; อ. นิ. ๗.๗๔) วจนโต ตโต อูนาธิกภาโว อปฺปมาณนฺติ วุตฺตํ ‘‘เอกํ วสฺสสตํ ปริจฺฉินฺทิตฺวา’’ติ. เอตฺถนฺตเร สพฺเพ สงฺขาราติ เอตสฺมึ อาทานนิกฺเขปนฺตเร ปวตฺตา สพฺเพ ภูตุปาทายรูปปฺปเภทา สงฺขารา. รูปธมฺเมสุ หิ อิทํ สมฺมสนวิธานนฺติ. ‘‘อนิจฺจา’’ติ คหิตมตฺตํ ยุตฺติโต หทเย ปติฏฺาปนตฺถํ ‘‘กสฺมา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อุปฺปาทวยวตฺติโตติ อุปฺปชฺชนวเสน, นิรุชฺฌนวเสน จ ปวตฺตนโต, อหุตฺวา สมฺภวโต หุตฺวา วยูปคมนโตติ อตฺโถ. วิปริณามโตติ สนฺตานสฺส ปุริมุตฺตรวิสทิสภาวโตติ วทนฺติ. ตํ วสฺสสตปริจฺฉินฺเน รูเป อิทํ สมฺมสนนฺติ อธิปฺปาเยเนว วุตฺตํ สิยา, ชรามรเณน วิปริณาเมตพฺพโตติ อตฺโถ. อสติปิ ธมฺมเภเท อวตฺถาเภโท อิจฺฉิตพฺโพ. น หิ อุปฺปาทาวตฺถา เอว ภงฺคาวตฺถาติ ยุตฺตา. ตถา หิ วุตฺตํ ‘‘ชราย เจว มรเณน จาติ ทฺเวธา ปริณามปกติตายา’’ติ. สภาววิคโม เอว วา เอตฺถ วิปริณาโม. ขณิกตา ตาวกาลิกตา. นิจฺจสภาวาภาโว เอว นิจฺจปฏิกฺเขโป. อนิจฺจธมฺมา หิ เตเนว อตฺตโน สภาเวน ชานนฺตานํ นิจฺจตํ ปฏิกฺขิปนฺติ นาม. ยโต น นิจฺจนฺติ อนิจฺจํ, อุปฺปาทกฺขเณ ยทวตฺถา สงฺขารา, น ตทวตฺถา ิติกฺขเณติ อวตฺถนฺตรปฺปตฺติยา ายติ เตสํ กิลมนากาโรติ อาห ‘‘ิติยํ ชราย กิลมนฺตี’’ติ, สฺวายมตฺโถ ปากฏชราย เวทิตพฺโพ. เย ปน สงฺขารานํ ิตึ น สมฺปฏิจฺฉนฺติ, ตตฺถ วตฺตพฺพํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ธมฺมานํ สภาโว นาม ทุรติกฺกโม ชรานนฺตรํ ภงฺโคติ อาห ‘‘ชรํ ปตฺวา อวสฺสํ ภิชฺชนฺตี’’ติ. ตสฺมาติ ยสฺมา อุปฺปาทชราภงฺควเสน สงฺขารานํ นิรนฺตรพาธตา, ตโต จ เนสํ ทุสฺสหตาย ทุกฺขมตา, ติสฺสนฺนํ ทุกฺขตานํ, สํสารทุกฺขสฺส จ อธิฏฺานตาย ทุกฺขวตฺถุตา, ตสฺมา. อภิณฺห…เป… ทุกฺขาติ โยชนา.

‘‘สุขปฏิกฺเขปโต’’ติ อิทํ วุตฺตนยเมว. ิตึ มา ปาปุณนฺตุ, อุปฺปชฺชมานากาเรเนว ปวตฺตนฺตูติ อธิปฺปาโย. ‘‘อุปฺปนฺนา’’ติ อิมินา อุปฺปาทกฺขณสมงฺคิตา วุตฺตา. านปฺปตฺตา มา ชีรนฺตูติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ อตฺถโต ิติ เอว ชราติ? สจฺจเมตํ, ชราวเสน ปน โย กิลมโถ, โส อิธ ชราคฺคหเณน คหิโตติ ทฏฺพฺพํ. มา ภิชฺชนฺตูติ นิจฺจตํ อาสีสติ. กสฺสจิ ธมฺมิสฺสรสฺสาปิ ภควโต วสวตฺติภาโว นตฺถิ. น หิ ลกฺขณฺถตฺตํ เกนจิ กาตุํ สกฺกา. ภาวฺถตฺตเมว หิ อิทฺธิวิสโย. สุฺา สงฺขารา เตน ตีสุ าเนสุ วสวตฺตนากาเรน. ตสฺมาติ วุตฺตการณปรามสนํ. สุฺโตติ นิวาสีการกเวทกอธิฏฺายกวิรเหน ตโต สุฺโต, น นิสฺสภาวโตติ เอกจฺจปริกปฺปิตสภาวสุฺโต. อสฺสามิกโตติ สามิภูตสฺส กสฺสจิ อภาวโต. เอเตน อนตฺตนิยตํ ทสฺเสติ. อวสวตฺติโตติ ยถาวุตฺตวสวตฺติภาวาภาวโต. อตฺตปฏิกฺเขปโตติ ปรปริกปฺปิตสฺส อตฺตโน ปฏิกฺขิปนโต. ‘‘สุฺโต’’ติอาทินา หิ ธมฺมานํ พาหิรกปริกปฺปิตอตฺตวิรโห วุตฺโต, อิมินา ปน อตํสภาวโต อตฺตา น โหตีติ.

๗๐๗. เอตฺถ จ ‘‘อุปฺปาทวยวตฺติโต’’ติอาทินา จตูหิ การเณหิ อนิจฺจา, ‘‘อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนโต’’ติอาทินา จตูหิ การเณหิ ทุกฺขา, ‘‘สุฺโต’’ติอาทินา จตูหิ การเณหิ อนตฺตาติ รูปธมฺเม นิรุฬฺหํ ลกฺขณตฺตยํ ปุพฺเพ อตฺตนา อสลฺลกฺขิตํ สลฺลกฺเขตฺวา สมฺมสนฺโต ตํ ตตฺถ อาโรเปตีติ วุจฺจติ. ตถา ปนาเนน อาทานนิกฺเขปนวเสน สมฺมสิตตฺตา อาห ‘‘รูเป ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา’’ติ.

ตตฺถ จ ยสฺมา อนิจฺจลกฺขณคฺคหณปุพฺพกํ ทุกฺขลกฺขณคฺคหณํ, ทุกฺขลกฺขณคฺคหณปุพฺพกํ วา อนตฺตลกฺขณคฺคหณํ. อนิจฺจลกฺขณฺเจตฺถ รูปเภเทน ทสฺสิยมานํ ยโถฬาริกโต ทีเปตพฺพนฺติ ตํ วสฺสสตปริจฺเฉเทน ปมํ ทสฺเสนฺเตน วสฺสสตํ ิตสฺส ‘‘ทส วา วีสติ วา’’ติอาทินา วิภชิตฺวา อนุกฺกเมน ยาวอุทฺธรณาทิโกฏฺาสวเสน รูปสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา ตโต ‘‘อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา’’ติ ติลกฺขณาโรปนํ วโยวุฑฺฒตฺถงฺคมโต สมฺมสนนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตเมว วสฺสสต’’นฺติอาทินา วยวเสน รูปสฺส สมฺมสนวิธิ อารทฺโธ. ตตฺถ ยสฺมา โอฬาริกวเสเนวายํ อาทิโต รูปเภโท คยฺหติ, ตสฺมา น วสฺสสตํ สมโกฏฺาสวเสน วิภตฺตํ, มชฺฌิมาวตฺถาย วา ตถารูปตฺตา มชฺฌิมวเย เอกํ วสฺสํ วฑฺฒิตํ.

๗๐๘. มนฺทตาพาหุลฺเลน ปวตฺตํ วสฺสานํ ทสกํ มนฺททสกํ. เอส นโย เสเสสุปิ.

ตทาติ ปเม วสฺสทสเก. โสติ ปุคฺคโล. จปโลติ อนวฏฺิตกิริยตาย ตรโล. เตน โมมูหภาวโต วิเสเสติ. น เหส นวมทสเก วิย โมมูหภาเวน มนฺโท, อถ โข จปลตายาติ. เตนาห ‘‘กุมารโก’’ติ. ตติเย ทสเก มํสปาริปูริยา ยถารหํ ฉวิวณฺโณ วิปฺปสีทตีติ อาห ‘‘วณฺณายตนํ เวปุลฺลํ ปาปุณาตี’’ติ. จตุตฺเถ ทสเก อฏฺีนํ, นฺหารูนฺจ ถิรภาวปฺปตฺติยา พลฺจ ถาโม จ เวปุลฺลํ ปาปุณาติ. ปฺจเม ทสเก โยพฺพนมทสฺส ทูรีภาเวน เยภุยฺเยน กิเลสตนุตาย ปฺา ยถารหํ สุวิสทา โหติ. ขิฑฺฑาย รติ ขิฑฺฑารติ. กปลฺลิกาทินิสฺสยวิเสเสน ปทีปสฺส สุทฺธตาทิ วิย นิสฺสยวิเสเสน ปฺจมฉฏฺทสเกสุ ปฺาย พุทฺธิหานิโย เวทิตพฺพา. ปุรโต ปพฺภาโร โหติ กฏิสนฺธิคีวาสนฺธีนํ วเสน รสฺสสฺสาปิ, ปเคว ทีฆสฺส. ปพฺภาโรติ จ ครุภาเวน ปลมฺพโก. โมมูโห โหติ สติปฺาวิปฺปวาสโต. สยนพหุโลว โหติ านาทิวเสน สรีรภารํ วหิตุํ อสกฺโกนฺโต.

๗๐๙. ติณฺณํ ติณฺณํ วสฺสานนฺติ เยภุยฺยตาย วุตฺตํ. จตุวสฺสิโกปิ หิ เอโก โกฏฺาโส โหตีติ. ทฺวิสตํ โกฏฺาเส กตฺวา เอเกกอยนวเสนาติปิ เวทิตพฺพํ.

วสฺสาเน ปวตฺตรูปนฺติ สมฺพนฺโธ.

ตํ ปน วสฺสานํ ทฺวิธา สมตฺตํ, น ปุพฺเพ วิย จตุมาสนฺติ อาห ‘‘ทฺเวมาส’’นฺติ. อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ. โส ปน วสฺสาโน อุตุ สาวณโปฏฺปาทมาสา, อสฺสยุชกตฺติกมาสา สรโท, มิคสิรผุสฺสมาสา เหมนฺโต, มาฆผคฺคุนมาสา สิสิโร, จิตฺตเวสาขมาสา วสนฺโต, เชฏฺาสฬฺหมาสา คิมฺโห อุตูติ เวทิตพฺโพ. ฉ โกฏฺาเส กตฺวาติ ทสทสนาฏิกาวเสน ฉ โกฏฺาเส กตฺวา.

๗๑๐. อภิมุขํ ปุรโต กมนํ อภิกฺกโม. ปฏินิวตฺตนวเสน กมนํ ปฏิกฺกโม. อามุขํ โลกนํ อาโลกนํ. วิวิธํ อิโต จิโต จ โลกนํ วิโลกนํ. หตฺถปาทานํ สงฺกุจนํ สมิฺชนํ. อายมนํ ปสารณํ.

ปาทุทฺธรณกาเลติ ทุติยปาทุทฺธรณกาเล. ปาทสฺสาติ อุทฺธฏปาทสฺส. โอมตฺตาติ สตฺติโต หีนปฺปมาณา. เตนาห ‘‘มนฺทา’’ติ. อิตราติ เตโชวาโยธาตุโย. ยถา ปาทสฺส อุทฺธรณํ สิชฺฌติ, ตถา ปวตฺตจิตฺตสมุฏฺานรูเปสุ เอกํสโต เตโชวาโยธาตูนํ อธิมตฺตตา อิจฺฉิตพฺพา สลฺลหุกสภาวตาย ตาสํ. ตโต เอว จ อิตราสํ โอมตฺตตา ครุสภาวตฺตา. ตํสมฺพนฺธตฺตา ปน เสสํ ติสมุฏฺานรูปํ ตคฺคติกเมว โหติ. กายวจีวิฺตฺติปวตฺติยํ วาโยปถวีอธิมตฺตตา อิมสฺส อตฺถสฺส นิทสฺสนนฺติ ทฏฺพฺพํ. ปุรโต หรเณ, ปจฺฉโต หรเณ จ อุทฺธรเณ วิย สลฺลหุกสภาวรูปปฺปวตฺตีติ ตาสํเยว ทฺวินฺนํ ธาตูนํ อธิมตฺตตา อิจฺฉิตพฺพาติ อาห ‘‘ตถา อติหรณวีติหรเณสู’’ติ. ยถา อุทฺธรณาทีสุ สลฺลหุกสภาวตฺตา ปจฺฉิมานํ ทฺวินฺนํ ธาตูนํ กิจฺจํ อธิกํ โหติ, อิตราสํ หีนํ, เอวํ โวสฺสชฺชนาทีสุ ตีสุ ครุสภาวตฺตา ปุริมานํ ทฺวินฺนํ กิจฺจํ อธิกํ โหติ, อิตราสํ หีนนฺติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘โวสฺสชฺชเน’’ติอาทิ.

ตทุปาทายรูปานีติ ตา ธาตุโย นิสฺสาย ปวตฺตอุปาทารูปานิ. เอตฺเถวาติ อุทฺธรเณเยว. เตนาห ‘‘อติหรณํ อปฺปตฺวา’’ติ. อิตีติ เอวํ. ตตฺถ ตตฺถาติ ตสฺมึ ตสฺมึ อุทฺธรณาทิโกฏฺาเส. ปพฺพํปพฺพนฺติอาทิ เตสํ ธมฺมานํ โกฏฺาสนฺตรสงฺกราภาวทสฺสนํ. ตฏตฏายนฺตาติ ตฏตฏายนฺติ วิย, เตน เนสํ ปวตฺติกฺขณสฺส อิตฺตรตํ ทสฺเสติ.

๗๑๑. อสฺสาติ สมฺมสนสฺส. ทารุติณุกฺกาทีสูติ ทารุอุกฺกาติณุกฺกาทีสุ. ‘‘กึ อนฺธพาล เอกฆนํ สตตํ สพฺพทาภาวึ เอกนฺติ มฺสี’’ติ อธิปฺปาเยนาห ‘‘กิเมตฺถ มนาป’’นฺติ. อิทมฺปีติ ยทิทํ เตลวฏฺฏิกฺขเยน ปทีปสฺส อปฺายนํ วุตฺตํ, อิทมฺปิ. องฺคุลงฺคุลนฺตเรติ องฺคุลิยา มิตํ องฺคุลนฺติ องฺคุลปฺปมาเณ ปเทเสติ อตฺโถ. ตนฺตุโน อวยวเลสภูตํ ปรมสุขุมภาวปฺปตฺตํ อํสุํ สนฺธายาห ‘‘อํสุํ ปน มุฺจิตฺวา’’ติ.

ตตฺถาติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. ตตฺถ กามํ อุปเมยฺเย วิย อุปมายํ ปากโฏ กาลเภโท นตฺถิ, เอกโกฏฺาสคตํ ปน โกฏฺาสนฺตรํ น ปาปุณาตีติ เอตฺตาวตา อุปมาภาโว เวทิตพฺโพ. อุปมายมฺปิ วา ตาว ยาวาติ กาลสฺส เภทมตฺตา ลพฺภเตวาติ ตสฺสา คหเณ กาลเภทวเสนาปิ อุปมา โยเชตพฺพา.

๗๑๒. ปุพฺเพ อาทานนิกฺเขปาทิวเสน จตุสนฺตติรูปํ สงฺฆริตฺวา ทสฺสิตํ, อิทานิ อาหารสมุฏฺานาทิวเสน ภินฺทิตฺวา ทสฺเสนฺโต ‘‘ตเทว รูปํ วิสงฺขริตฺวา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ วิสงฺขริตฺวา วิภชิตฺวา. ‘‘วิสงฺฆริตฺวา’’ติ วา ปาโ, อยเมวตฺโถ. อาหารมยนฺติ อาหาเรน นิพฺพตฺตํ. ฌตฺตนฺติ มิลาตํ. กิลนฺตนฺติ ขินฺนํ. ธาตนฺติ ติตฺตํ. ปีณิตนฺติ มํสูปจยสมฺปตฺติยา ปีณิตํ. ตโต เอว มุทุ. สินิทฺธนฺติ สินิทฺธจฺฉวิตาย สณฺหํ. ตโต เอว ผสฺสวนฺตํ.

๗๑๓. อุณฺหกาเล สมุฏฺิตํ รูปนฺติ อุณฺหสนฺตาเปน สนฺตตฺตํ รูปํ สนฺธายาห. สีตอุตุนาติ สปฺปาเยน สีตอุตุนา.

๗๑๔. อายตนทฺวารวเสนาติ อายตนสงฺขาตทฺวารวเสน. กมฺมทฺวารนิวตฺตนตฺถํ อายตนคฺคหณํ. กายทฺวาเรติ ปสาทกายทฺวาเร. มโนทฺวารํ นาม สาวชฺชนํ ภวงฺคํ. ตสฺส นิสฺสยภาวโต หทยวตฺถุํ สนฺธาย นิสฺสิตโวหาเรน ‘‘มโนทฺวาเร’’ติ วุตฺตํ, ยตฺถ มโนทฺวารุปฺปตฺติ.

๗๑๕. โสมนสฺสิตโทมนสฺสิตวเสนาติ โสมนสฺสิตโทมนสฺสิตปุคฺคลวเสน, โสมนสฺสิตโทมนสฺสิตกาลวเสน วา.

อยมตฺโถติ อยํ อิทานิ วุจฺจมาโน สงฺขารานํ อติอิตฺตรขณตาสงฺขาโต อตฺโถ.

ชีวิตนฺติ ชีวิตินฺทฺริยํ. สุขทุกฺขาติ สุขทุกฺขเวทนา. อุเปกฺขาปิ หิ สุขทุกฺขาสุ เอว อนฺโตคธา อิฏฺานิฏฺภาวโต. อตฺตภาโวติ ชีวิตเวทนาวิฺาณานิ เปตฺวา อวสิฏฺธมฺมา วุตฺตา. สฺาติ เกจิ. เกวลาติ อตฺตนา นิจฺจภาเวน วา อโวมิสฺสา. เอกจิตฺตสมายุตฺตาติ เอเกเกน จิตฺเตน สหิตา. ลหุโส วตฺตเต ขโณติ วุตฺตนเยน เอกจิตฺตกฺขณิกตาย ลหุโก อติอิตฺตโร ชีวิตาทีนํ ขโณ วตฺตติ.

จุลฺลาสีติสหสฺสานิ กปฺปนฺติ จตุราสีติสหสฺสปริมาณํ กปฺปํ, อจฺจนฺตสํโยเค เอตํ อุปโยควจนํ. กปฺปนฺติ จ สามฺวเสน เอกวจนํ. มรูติ เทวา. ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สโมหิตาติ เอวํ จิรชีวิโนปิ เต ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สหิตา หุตฺวา น ติฏฺนฺติ. อิทํ วุตฺตํ โหติ – เตสมฺปิ สนฺตาเน ชีวิตาทีนิ ทฺวีหิ จิตฺเตหิ สห น ติฏฺนฺติ, เอเกน จิตฺเตน สห อุปฺปนฺนานิ เตเนว สห นิรุชฺฌนโต ยาว ทุติยา น ติฏฺนฺตีติ.

เย นิรุทฺธา มรนฺตสฺสาติ จวนฺตสฺส สตฺตสฺส จุติจิตฺเตน สทฺธึ นิรุทฺธาติ วตฺตพฺพา เย ขนฺธา. ติฏฺมานสฺส วา อิธาติ เย วา อิธ ปวตฺติยํ ติฏฺนฺตสฺส ธรนฺตสฺส ภงฺคปฺปตฺติยา นิรุทฺธกฺขนฺธา. สพฺเพปิ สทิสา เต สพฺเพปิ เอกสทิสา อตฺถงฺคตา อปฺปฏิสนฺธิกา ปุน อาคนฺตฺวา ปฏิสนฺธานาภาเวน วิคตา. ยถา หิ จุติกฺขนฺธา น นิพฺพตฺตนฺติ, เอวํ ตโต ปุพฺเพปิ ขนฺธา. ตสฺมา เอกจิตฺตกฺขณิกํ สตฺตานํ ชีวิตนฺติ อธิปฺปาโย.

อนนฺตรา จ เย ภคฺคาติ เย สงฺขารา อนนฺตรเมว ภคฺคา นิรุทฺธา. เย จ ภคฺคา อนาคเตติ เย จ สงฺขารา อนาคเต ภคฺคา ภฺชนสีลา ภิชฺชิสฺสนฺติ. ตทนฺตรา นิรุทฺธานนฺติ เตสํ อตีตานาคตานํ อนฺตรา เวมชฺเฌ ปจฺจุปฺปนฺนตํ ปตฺวา นิรุทฺธานํ ภคฺคานํ. เวสมํ นตฺถิ ลกฺขเณติ เตสํ ติวิธานมฺปิ ภงฺคลกฺขณนิมิตฺตํ วิสมตา วิสทิสตา นตฺถิ.

อนิพฺพตฺเตนน ชาโตติ อนุปฺปนฺเนน จิตฺเตน ชาโต น โหติ, อชาโต นาม โหติ. ปจฺจุปฺปนฺเนน วตฺตมาเนน จิตฺเตน ชีวติ ชีวมาโน นาม โหติ. จิตฺตภงฺคา มโต โลโกติ จุติจิตฺตสฺส วิย สพฺพสฺสปิ ตสฺส ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคปฺปตฺติยา อยํ โลโก ปรมตฺถโต มโต นาม โหติ นิรุทฺธสฺส อปฺปฏิสนฺธิกตฺตา. เอวํ สนฺเตปิ ปฺตฺติ ปรมตฺถิยา ยายํ ตํ ตํ สนฺตํ สนิสฺสยํ จิตฺตํ อุปาทาย ‘‘ติสฺโส ชีวติ, ผุสฺโส ชีวตี’’ติ เอวํ วจนปฺปวตฺติยา วิสยภูตา สนฺตานปฺตฺติ, สา เอตฺถ ปรมตฺถิยา ปรมตฺถภูตา. ตถา หิ วทนฺติ ‘‘นามโคตฺตํ น ชีรตี’’ติ (สํ. นิ. ๑.๗๖).

อนิธานคตา ภคฺคาติ เย ภคฺคา, น เต กตฺถจิ นิธานํ คตา, อถ โข อภาวเมว คตา. ปุฺโช นตฺถิ อนาคเต ยโต อาคจฺเฉยฺยุํ วตฺตมานภาวํ. นิพฺพตฺตา เยปีติ เย ปฏิลทฺธตฺตภาวา ปจฺจุปฺปนฺนา, เตปิ อารคฺเค สาสปูปมา ติฏฺนฺติ. ยถา นาม สูจิยํ ิตายํ สาสโป ขิตฺโต ตสฺสา สิขํ ผุฏฺมตฺโต วิคจฺฉติ น ติฏฺติ, เอวํ สงฺขารา อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชนฺติ, น เตสํ อวฏฺานํ อตฺถีติ.

ภงฺโคเนสํ ปุรกฺขโตติ เตสํ นิพฺพตฺตธมฺมานํ ภงฺโค นาม ปุรโต เอว กโต, เอกํสภาวี น อปสกฺกตีติ อตฺโถ. ปุราเณหีติ ปุริมเกหิ อตีเตหิ.

อทสฺสนโตติ อปสฺสิตพฺพโต. อายนฺตีติ อาคจฺฉนฺติ. ‘‘อุปฺปชฺชนฺตี’’ติ อิมินาปิ กุโตจิ ราสิโต อาคมนาภาวเมวาห. ภคฺคา คจฺฉนฺตุทสฺสนนฺติ ภคฺคาปิ กตฺถจิ อุปคมนาภาวโต สพฺเพน สพฺพํ อทสฺสนํ อภาวเมว คจฺฉนฺติ. ตตฺถ นิทสฺสนมาห ‘‘วิชฺชุปฺปาโท…เป… วยนฺติ จา’’ติ.

๗๑๖. ‘‘วิวฏฺฏกปฺปโต ปฏฺาย อุปฺปชฺชนกรูป’’นฺติ อิมินา สยเมว อุปฺปชฺชนกธมฺมตาย ‘‘ธมฺมตารูป’’นฺติ อนฺวตฺถนามตํ ทสฺเสติ. อยโลหาทีสุ อโย นาม กาฬโลหํ. โลหํ นาม ชาติโลหํ วิชาติโลหํ กิตฺติมโลหํ ปิสาจโลหนฺติ จตุพฺพิธํ. ตตฺถ อโย รชตํ สุวณฺณํ ติปุ สีสํ ตมฺพโลหํ เวกนฺตกโลหนฺติ อิมานิ สตฺต ชาติโลหานิ. นาคนาสิกโลหํ วิชาติโลหํ. กํสโลหํ วฏฺฏโลหํ หารกูฏนฺติ ตีณิ กิตฺติมโลหานิ. โมรกฺขกาทิ ปิสาจโลหํ. ตตฺถ ตมฺพโลหํ เวกนฺตกนฺติ อิเมหิ ทฺวีหิ ชาติโลเหหิ สทฺธึ เสสํ สพฺพมฺปิ อิธ ‘‘โลห’’นฺติ คหิตนฺติ. ติปูติ เสตติปุ. สีสนฺติ กาฬติปุ. สุวณฺณํ อากรุปฺปนฺนรสวิทฺธาทิเภทํ. มุตฺตา สามุทฺทิกมุตฺตาทิ. มณีติ เวฬุริยโลหิตงฺคมสารคลฺลานิ เปตฺวา อวเสโส สพฺโพ มณิวิเสโส. เวฬุริโย วํสวณฺณมณิ. สงฺโข สามุทฺทิกสงฺโข. สิลาติ กาฬสิลาปณฺฑุสิลาทิเภทา สพฺพาปิ รตนสมฺมตสิลา. ปวาฬํ นาม วฏฺฏุมํ วิทฺธมํ. โลหิตงฺคํ รตฺตมณิ. มสารคลฺลํ กพรมณิ. ภูมิอาทโย ปากฏาว. ตทสฺสาติ ตํ ธมฺมตารูปํ อสฺส โยคิโน.

ตรุณปลฺลววณฺณนฺติ อมฺพาทีนํ ตรุณปลฺลเวน สมานวณฺณํ. สภาครูปสนฺตตินฺติ วณฺณาทินา สมานภาคํ รูปสนฺตานํ. อนุปฺปพนฺธาปยมานนฺติ เหตุผลปรมฺปราย สมฺพนฺธนวเสน ปวตฺตนฺติ.

โสติ โยคี. นฺติ อโสกรุกฺขปณฺณํ. ปริคฺคเหตฺวาติ าเณน ปริจฺฉิชฺช คเหตฺวา. อิมินา นเยนาติ อิมินา อโสกปณฺเณ วุตฺเตน นเยน. สพฺพมฺปิ อยโลหาทิเภทํ ธมฺมตารูปํ. ตมฺปิ หิ สีตกาเล สีตลํ, อุณฺหกาเล สูริยสนฺตาเปน อุณฺหตรํ โหติ. ตตฺถ สีตภาเวน ปวตฺตํ รูปํ อุณฺหํ อุณฺหภาเวน ปวตฺตํ รูปํ สีตํ น ปาปุณาติ. ตตฺถ ตตฺเถว ตฏตฏายนฺตํ ภิชฺชตีติอาทินา โยเชตพฺพํ.

อรูปสตฺตกสมฺมสนกถาวณฺณนา

๗๑๗. กลาปโตติ อรูปธมฺมกลาปโต.

ยสฺมา ตตฺถ ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา สพฺพจิตฺตุปฺปาทสาธารณา สุปากฏา, สุวิฺเยฺยา จ, ตสฺมา เตสํ วเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘กลาปโตติ ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา’’ติ อาห. เย อิเม สมฺมสเน อุปฺปนฺนา ผสฺสปฺจมกา ธมฺมา, สพฺเพ เต วินฏฺาติ สมฺพนฺโธ.

ปวตฺตํ จิตฺตนฺติ สตฺตสุ าเนสุ สมฺมสนวเสน ปวตฺตํ จิตฺตํ. สมฺมสนฺโตติ เอกชฺฌํ คเหตฺวา สมฺมสนฺโต. ตํ ยุตฺตตรนฺติ ตํ อริยวํสกถายํ วุตฺตํ ยุตฺตตรํ อาสนฺนภาเวน วิภูตตรํ รูปสตฺตเก สมฺมสนํ สห คเหตฺวา สมฺมสนสฺส วุตฺตตฺตา. อปิจ รูปสตฺตเก สมฺมสนสฺส รูปธมฺเมสุ สาติสยํ ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา ปวตฺตตฺตา ตพฺพิสยํ อรูปสมฺมสนํ สาติสยํ อนิจฺจาทิลกฺขณปฺปฏิเวธาย สมฺปวตฺตตีติ ตํ ยุตฺตตรํ, น ปน อปุพฺพเกสาทิสมฺมสนํ กตฺวา ตพฺพิสยํ ปวตฺติตํ. ตถา สติ กมฺมฏฺานํ นวํ นวํ เอว สิยา, ปุพฺเพ คหิตํ สมฺมสนวิสยํ ฉฑฺเฑตฺวา อฺสฺส สมฺมสนวิสยสฺส คณฺหนโต. เสสานิปีติ ยมกโต สมฺมสนาทีนิปิ. เตเนวาติ อริยวํสกถานเยเนว.

๗๑๘. ตมฺปิ จิตฺตนฺติ อาทานนิกฺเขปโต สมฺมสนวเสน ปวตฺตจิตฺตุปฺปาทมฺปิ. จิตฺตสีเสน หิ นิทฺเทโส. เอส นโย สพฺพตฺถ. ยมกโต สมฺมสติ นาม นามรูปธมฺเม อารพฺภ ยุคฬวเสน สมฺมสนสฺส ปวตฺตนโต. อยฺหิ ปุพฺเพ รูปสตฺตกวเสน สมฺมสิตฺวา ิโตปิ อิทานิ อาทานนิกฺเขปาทิวเสน สมฺมสิตฺวาว ตํ สมฺมสติ. ขณิกโต สมฺมสนาทีสุปิ เอเสว นโย.

๗๑๙. เอตมฺปีติ เอตํ จตุตฺถสมฺมสนจิตฺตมฺปิ. ปมจิตฺตนฺติ อาทานนิกฺเขปาทิวเสน รูปํ สมฺมสิตจิตฺตํ, ยํ รูปปริคฺคาหกจิตฺตนฺติ อธิปฺเปตํ. สมฺมสิตสมฺมสิตจิตฺตสมฺมสเนน เตสํ ขณิกภาวสฺส วิภาวนโต อิทํ สมฺมสนํ ‘‘ขณิกโต สมฺมสน’’นฺติ วุตฺตํ.

๗๒๐. อิทเมว จ สมฺมสนํ ทิคุณิตํ อเนกสมฺมสนปฏิปาฏิสมฺภวโต ‘‘ปฏิปาฏิโต สมฺมสน’’นฺติ วุตฺตํ. วฏฺเฏยฺยาติ สมฺภเวยฺย. ตถา สติ ปฏิปาฏิสมฺมสนปสุตา เอว ภาวนา สิยา, น มูลกมฺมฏฺานุปการี, น จายํ สมาปตฺติจาโร. ยสฺมา จ ตตฺตเกน รูปธมฺเมสุ, อรูปธมฺเมสุ จ อนิจฺจาทิลกฺขณานิ สุฏฺุ วิภูตานิ โหนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘ยาว ทสมจิตฺตสมฺมสนา…เป… เปตพฺพ’’นฺติ. เปตพฺพนฺติ จ น เอกาทสมํ ทฺวาทสเมน สมฺมสิตพฺพนฺติ ปฏิปาฏิโต สมฺมสนสฺส ปริจฺเฉททสฺสนปรํ, น ตโต สมฺมสนโต โอรมนทสฺสนปรํ, ตสฺมา ปุนปิ รูปํ ปริคฺคเหตฺวา ยาว ทสมจิตฺตสมฺมสนา ภาวนมนุยุฺชเตว. วุตฺตนฺติ อริยวํสกถายํ วุตฺตํ.

๗๒๑. วิสุํ สมฺมสนนโย นาม นตฺถีติ อนิจฺจาทิมนสิการวินิมุตฺโต อฺโ วิปสฺสนามนสิกาโร นตฺถิ. วิปสฺสนาย จ ทิฏฺิอาทิวิกฺขมฺภนา อิธ ทิฏฺิอุคฺฆาฏนาทโยติ อธิปฺเปตา. วิปสฺสนาย เอว หิ ปวตฺติวิเสเสน ทิฏฺิอุคฺฆาฏนาทโย อิชฺฌนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยํ ปเนต’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ สตฺตสฺาติ สตฺตา อตฺถีติ อุปฺปชฺชนกสฺา. ทุพฺพลาย อตฺตทิฏฺิยา สหคตสฺาติปิ วทนฺติ. สตฺตสฺํ อุคฺฆาฏิตจิตฺเตนาติ สตฺตสฺาย วิกฺขมฺภนวเสน ปวตฺตจิตฺเตน ทิฏฺิ นุปฺปชฺชติ, สฺาวิปลฺลาสเหตุอุปฺปชฺชนกา จิตฺตทิฏฺิวิปลฺลาสา ตทภาเวน โหนฺตีติ. มาโน นาม โย ทิฏฺูปนิสฺสโย อปายคมนีโย, โส ทิฏฺิยา วิกฺขมฺภิตาย วิกฺขมฺภิโต เอว โหติ, ทิฏฺิยา สมุจฺฉินฺนาย สมุจฺฉิชฺชนโตติ อาห ‘‘ทิฏฺิอุคฺฆาฏิต…เป… มาโน นุปฺปชฺชตี’’ติ. มาโน วิกฺขมฺภิยมาโน ตณฺหาย ปวตฺตึ นิวาเรติ, อภิมตวิสเยสุ เอว ตณฺหาย ปวตฺตนโตติ วุตฺตํ ‘‘มานสมุคฺฆาฏิต…เป… ตณฺหา นุปฺปชฺชตี’’ติ. ตณฺหาติ อิธ สุขุมา นิกนฺติ อธิปฺเปตาติ อาห ‘‘ตณฺหาย…เป… ปริยาทินฺนา นาม โหตี’’ติ.

อยํ นโยติ อิทานิ วุจฺจมาโน สมฺมสนวิธิ.

มม วิปสฺสนาติ อิมสฺสาปิ อตฺตนิยสฺิตาย วิปสฺสนาย สามิภูโต อตฺตา ปรามสียตีติ ทิฏฺิคาหตาติ ตถา ‘‘คณฺหโต หิ ทิฏฺิสมุคฺฆาฏนํ นาม น โหตี’’ติ วุตฺตํ. กามฺจายํ ทิฏฺิวิสุทฺธิกงฺขาวิตรณวิสุทฺธิสมธิคเมน วิสุทฺธทิฏฺิโก, มคฺเคน ปน อสมุคฺฆาฏิตตฺตา อโนฬาริกาย จ ทิฏฺิยา วเสเนวํ วุตฺตํ.

สุฏฺูติ สมฺมา. มนาปนฺติ จ กิริยาวิเสสนํ, มนวฑฺฒนากาเรนาติ อตฺโถ. อุภเยนาปิ วิปสฺสนาวิสยํ อธิมานมาห. เตน วุตฺตํ ‘‘มานสมุคฺฆาโฏ นาม น โหตี’’ติ.

วิปสฺสิตุํ สกฺโกมีติ ตตฺถ สมตฺถตาปเทเสน คุณวิเสสโยคโต วิปสฺสนาย อสฺสาเทตพฺพตา ทสฺสียติ, จิตฺตํ วิปสฺสิตุํ สกฺโกมิ. ตสฺมา วิปสฺสนฺโต เอว กาลํ วีตินาเมสฺสามีติ วิปสฺสนํ อสฺสาเทนฺตสฺสาติ โยชนา.

ยสฺมา ทิฏฺิสมุคฺฆาฏนํ นาเมตฺถ วิเสสโต อนตฺตานุปสฺสนาย โหติ, ตสฺมา ตํ ทสฺเสนฺเตน ‘‘สเจ สงฺขารา’’ติอาทินา อนตฺตานุปสฺสนาวิธึ วตฺวา ยสฺมา ปน อนตฺตโต อนุปสฺสนฺเตน สงฺขารา อนิจฺจโตปิ ทุกฺขโตปิ อนุปสฺสิตพฺพา เอว ตทุปพฺรูหนโต, ตสฺมา ‘‘หุตฺวา อภาวฏฺเนา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยสฺมา มานสมุคฺฆาฏนํ นาม อนิจฺจานุปสฺสนาย โหติ. ขเณ ขเณ ภิชฺชนเก สงฺขาเร ปสฺสนฺตสฺส กุโต มานสฺส อวสโร. อนิจฺจสฺา ภาเวตพฺพา อสฺมิมานสมุคฺฆาฏายาติ หิ วุตฺตํ.

ยสฺมา นิกนฺติปริยาทานํ นาม ทุกฺขานุปสฺสนาย โหติ. น หิ สภาวโต, ทุกฺขวตฺถุโต จ ทุกฺขภูเต สงฺขาเร ปสฺสนฺตสฺส ตตฺถ อีสกมฺปิ อภิรโต โหติ. อสฺสาทานุปสฺสิโน หิ ตตฺถ ตณฺหา อุปฺปชฺเชยฺย. เสสํ อนตฺตลกฺขเณ วุตฺตนยเมว. อยํ ปเนตฺถ สงฺเขปตฺโถ – วุตฺตนเยน ปฏิปาฏิโต สมฺมสนํ ปสุตสฺส โยคิโน ยทา อนตฺตานุปสฺสนา ติกฺขา สูรา วิสทา ปวตฺตติ, อิตรา ทฺเวปิ ตทนุคติกา, ตทาเนน ทิฏฺิอุคฺฆาฏนํ กตํ โหติ. อตฺตทิฏฺิมูลิกา หิ สพฺพา ทิฏฺิโย. อนตฺตานุปสฺสนา จ อตฺตทิฏฺิยา อุชุปฏิปกฺขา.

ยทา ปน อนิจฺจานุปสฺสนา ติกฺขา สูรา วิสทา ปวตฺตติ, อิตรา ทฺเวปิ ตทนุคติกา , ตทาเนน มานสมุคฺฆาฏนํ กตํ โหติ. สติ หิ นิจฺจคาเห มานชปฺปนา ‘‘อิทํ นิจฺจํ, อิทํ ธุว’’นฺติอาทินา (ม. นิ. ๑.๕๐๑) พกพฺรหฺมุโน วิย. อนิจฺจานุปสฺสนา จ นิจฺจคาหสฺส อุชุปฏิปกฺขา.

ยทา ปน ทุกฺขานุปสฺสนา ติกฺขา สูรา วิสทา ปวตฺตติ, อิตรา ทฺเวปิ ตทนุคติกา, ตทาเนน นิกนฺติปริยาทานํ กตํ โหติ. สติ หิ สุขสฺาย ตณฺหาคาโหว, ทุกฺขานุปสฺสนา จ นิกนฺติยา อุชุปฏิปกฺขา. เอวํ ติสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ กิจฺจวิเสสวเสน ทิฏฺิอุคฺฆาฏนาทีนิ โหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อิติ อยํ วิปสฺสนา อตฺตโน อตฺตโน าเนเยว ติฏฺตี’’ติ. อนุปสฺสนานํ ยถารหํ สกกิจฺจกรณฺหิ สกฏฺาเนเยว านํ, ตสฺมา วิสุํ สมฺมสนนโย นตฺถีติ น วตฺตพฺพนฺติ อธิปฺปาโย.

๗๒๒. สพฺพาการโตติ อิธ วิย เอกเทเสน อวตฺวา สพฺพาการโต สรูปโต, กิจฺจโต จ อนวเสสโต วตฺตพฺพา. อิเธวาติ ตีรณปริฺายเมว. เอกจฺจานํเยเวตฺถ อนุปสฺสนานํ ปฏิลาโภติ อาห ‘‘เอกเทสํ ปฏิวิชฺฌนฺโต’’ติ, ตา ปน สยเมว สรูปโต ทสฺเสสฺสติ . ตปฺปฏิปกฺเข ธมฺเมติ ยา อนุปสฺสนา อิธ สมฺภวนฺติ, ตาสํ ปฏิปกฺเข ธมฺเม นิจฺจสฺาทิเก ปชหติ วิกฺขมฺเภติ.

ขยานุปสฺสนนฺติ สงฺขารานํ ขณภงฺคานุปสฺสนํ. ภาเวนฺโตติ วฑฺเฒนฺโต. ฆนสฺนฺติ สนฺตติสมูหกิจฺจารมฺมณานํ วเสน เอกตฺตคฺคหณํ. ขยานุปสฺสนนฺติ หุตฺวา อภาวานุปสฺสนนฺติ วทนฺติ. ยาย ปฺาย ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวา ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) ปสฺสติ, สา ขยานุปสฺสนา. ภงฺคานุปสฺสนโต ปฏฺาย ตสฺสา ปาริปูรีติ ฆนสฺาย ปหานํ โหติ, ตโต ปุพฺเพ อปริปุณฺณตาย ตํ น โหติ. เอวมฺตฺถาปีติ ปริปุณฺณาปริปุณฺณตา ปหานตีรณปริฺาสุ วิปสฺสนาปฺาย ทฏฺพฺพา. ปจฺจกฺขโต, อนฺวยโต จ สงฺขารานํ ภงฺคํ ทิสฺวา ตตฺเถว ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ อธิมุตฺตตา วยานุปสฺสนา, ตาย อายูหนํ ปชหติ. ยทตฺถํ, ยาย จ อายูหติ, ตสฺมึ ปวตฺเต ตณฺหาย จสฺส จิตฺตํ น นมตีติ. เตน วุตฺตํ ‘‘วยานุปสฺสนํ ภาเวนฺโต อายูหนํ ปชหตี’’ติ. ชาตสฺส ชรามรเณหิ ทฺวิธา ปริณามทสฺสนํ, รูปสตฺตกาทิวเสน วา ปริคฺคหิตสฺส ตํตํปริจฺเฉทโต ปรํ อฺภาวทสฺสนํ วิปริณามานุปสฺสนา, ตาย ธุวสฺํ ถิรภาวคหณํ ปชหติ.

อนิมิตฺตานุปสฺสนาทโย อนิจฺจานุปสฺสนาทโย เอว. นิมิตฺตนฺติ สนฺตติยํ, สมูเห จ เอกตฺตสฺาย คยฺหมานํ กาลนฺตราวฏฺายิภาเวน, นิจฺจภาเวน จ สงฺขารานํ สกิจฺจปริจฺเฉทตาย สวิคฺคหํ วิย อุปฏฺานมตฺตํ. ปณิธินฺติ สุขปตฺถนํ, ราคาทิปณิธึ วา, อตฺถโต ตณฺหาวเสน สงฺขาเรสุ นินฺนตํ. อภินิเวสนฺติ อตฺตาภินิเวสํ. เอเตสฺหิ นิมิตฺตาทีนํ ปฏิปกฺขภาเวน อนิจฺจานุปสฺสนาทโย อนิมิตฺตาทินาเมหิ วุตฺตาติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีหิ ปหาตพฺพา นิจฺจสฺาทโย วิย นิมิตฺตคฺคาหาทโยว ปฏิปกฺขาติ ทฏฺพฺพา. รูปาทิอารมฺมณํ ตฺวา ตทารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ ทิสฺวา สงฺขารา เอว ภิชฺชนฺติ, สงฺขารานํ มรณํ, น อฺโ โกจิ อตฺถีติ ภงฺควเสน สุฺตํ คเหตฺวา ปวตฺตา วิปสฺสนา อธิปฺา จ สา ธมฺเมสุ จ วิปสฺสนาติ อธิปฺาธมฺมวิปสฺสนา, ตาย นิจฺจสาราทิอาทานวเสน ปวตฺตํ อภินิเวสํ สตณฺหํ ทิฏฺึ ปชหติ. ยถาภูตาณทสฺสนํ นาม สปฺปจฺจยนามรูปทสฺสนํ. เตน ‘‘อโหสึ นุ โข อหมตีตมทฺธาน’’นฺติ (ม. นิ. ๑.๑๘; สํ. นิ. ๒.๒๐) เอวมาทิกํ, ‘‘อิสฺสรโต โลโก สมฺภวตี’’ติ เอวมาทิกฺจ สมฺโมหาภินิเวสํ ปชหติ. ภยตุปฏฺานวเสน อุปฺปนฺนํ สพฺพภวาทีสุ อาทีนวทสฺสนาณํ อาทีนวานุปสฺสนา, ตาย กสฺสจิปิ อาลยนิสฺสยอทสฺสนโต อาลยาภินิเวสํ ตถาปวตฺตํ ตณฺหํ ปชหติ. สงฺขารานํ มุฺจนสฺส อุปายภูตํ ปฏิสงฺขาาณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนา, ตาย อนิจฺจาทีสุ อปฺปฏิสงฺขาตตฺตา ปฏิสงฺขานสฺส ปฏิปกฺขภูตํ อวิชฺชํ ปชหติ. สงฺขารุเปกฺขา, อนุโลมาณฺจ วิวฏฺฏานุปสฺสนา. ตสฺสา หิ วเสน ตสฺส ปทุมปลาเส อุทกพินฺทุ วิย สพฺพสงฺขาเรหิ จิตฺตํ ปติลียติ ปติกุฏติ, ตสฺมา ตาย สํโยคาภินิเวสํ กามสํโยคาทิกิเลสปฺปวตฺตึ ปชหติ. อนิจฺจานุปสฺสนาทโย สตฺต อนุปสฺสนา เหฏฺา อตฺถโต วิภตฺตาติ, ปรโต จ สํวณฺณียนฺตีติ อิธ น วุตฺตา.

ตาสูติ อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ. อิมินาติ โยคินา. ตสฺมาติ อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยวเสน สงฺขารานํ ทิฏฺตฺตา. ตํทสฺสนฺหิ อนิจฺจาทิอนุปสฺสนาติ. ปฏิวิทฺธาติ ปฏิลทฺธา. ยทคฺเคน หิ าเณน สวิสโย ปฏิวิทฺโธ, ตทคฺเคน ตํ ปฏิลทฺธํ นาม โหติ. พฺยฺชนเมว นานํ ยถา ‘‘รุกฺโข ปาทโป ตรู’’ติ. ตาปิ อนิมิตฺตาปณิหิตสุฺตานุปสฺสนา.

สพฺพาปิ วิปสฺสนา, ตสฺมา เอกเทเสน ปฏิวิทฺธา โหนฺตีติ อธิปฺปาโย. กงฺขาวิตรณวิสุทฺธิยาเอว สงฺคหิตํ, ตสฺมา ตํ ปเคว สิทฺธนฺติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘อิทมฺปิ ทฺวยํ ปฏิวิทฺธเมว โหตี’’ติ. เสเสสุ นิพฺพิทานุปสฺสนาทีสุ ทสสุ. ‘‘กิฺจิ ปฏิวิทฺธํ กิฺจิ อปฺปฏิวิทฺธ’’นฺติ อิมินา เตสํ เอกเทสปฏิเวธมาห. อนิจฺจานุปสฺสนาย หิ สิทฺธาย นิโรธานุปสฺสนา, ขยานุปสฺสนา, วยานุปสฺสนา, วิปริณามานุปสฺสนา จ เอกเทเสน สิทฺธา นาม โหนฺติ, ทุกฺขานุปสฺสนาย สิทฺธาย นิพฺพิทานุปสฺสนา, อาทีนวานุปสฺสนา จ, อนตฺตานุปสฺสนาย สิทฺธาย อิตราติ.

อุทยพฺพยาณกถาวณฺณนา

๗๒๓. ปรโต ปฏิปทาาณทสฺสนกถายํ อพฺภาทิวิคเมน อากาสสฺส วิย, ปงฺกมลวิคเมน อุทกสฺส วิย, กาฬกาปคเมน สุวณฺณสฺส วิย สํกิเลสวิคเมน าณสฺส ปริสุทฺธีติ อาห ‘‘นิจฺจสฺาทีนํ ปหาเนน วิสุทฺธาโณ’’ติ. อเนกาการโวการสงฺขาเรสุ ลกฺขณตฺตยสลฺลกฺขณสมฺมสนสฺส กตตฺตา วุตฺตํ ‘‘สมฺมสนาณสฺส ปารํ คนฺตฺวา’’ติ. ตตฺถ สมฺมสนาณสฺสาติ นยวิปสฺสนาสงฺขาตสฺส กลาปสมฺมสนาณสฺส. ตสฺเสว หิ ถิรภาวาย อิตเร สมฺมสนวิเสสาติ วทนฺติ. สมฺมสนาณสฺสาติ วา กลาปสมฺมสนาทิสมฺมสนาณสฺส. อนุปทธมฺมวิปสฺสนาย สทิสา หิ สา. ตาย หิ ทิฏฺิอุคฺฆาฏนาทิ สมฺภวตีติ. วิตฺถารโต ภาวนาวิธานํ ปรโต วตฺตุกาโม ‘‘สงฺเขปโต ตาว อารภตี’’ติ อาห. สงฺเขปโต หิ อารมฺโภ อาทิกมฺมิกสฺส สุกโร. ตตฺราติ สงฺเขเปน อารมฺเภ.

กถนฺติ กเถตุกมฺยตาปุจฺฉา. ยํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนานํ…เป… อุทยพฺพยานุปสฺสเน าณ’’นฺติ วุตฺตํ, ตํ กถํ าตพฺพนฺติ เจติ อตฺโถ. สนฺตติปจฺจุปฺปนฺเน, ขณปจฺจุปฺปนฺเน วา ธมฺเม อุทยพฺพยทสฺสนาภินิเวโส กาตพฺโพ, น อตีตานาคเตติ วุตฺตํ ‘‘ปจฺจุปฺปนฺนานํ ธมฺมาน’’นฺติ. อุทยทสฺสนฺเจตฺถ ยาวเทว วยทสฺสนตฺถนฺติ วยทสฺสนสฺส ปธานตํ ทสฺเสตุํ ‘‘วิปริณามานุปสฺสเน ปฺา’’ติ วตฺวา ตํ ปน วยทสฺสนํ อุทยทสฺสนปุพฺพกนฺติ อาห ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสเน าณ’’นฺติ.

ชาตนฺติ นิพฺพตฺตํ ปฏิลทฺธตฺตภาวํ. อยํ หิ ชาตสทฺโท ขณตฺตยสมงฺคิตํ สนฺธาย วุตฺโต ‘‘เย ธมฺมา ชาตา ภูตา’’ติอาทีสุ (ธ. ส. ๑๐๔๖) วิย, น อตีตํ

‘‘เย เต ชาตา น เต สนฺติ, เย น ชาตา ตตฺเถว เต;

ลทฺธตฺตภาวา โน ภคฺคา, เตว สนฺติ สภาวโต’’ติ. –

อาทีสุ วิย, นาปิ ชาตตามตฺตํ ‘‘ยํ ตํ ชาตํ ภูตํ สงฺขต’’นฺติอาทีสุ วิย. เตนาห ‘‘ชาตํ รูปํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติ (ที. นิ. ๒.๒๐๗; สํ. นิ. ๕.๓๗๙), ปจฺจุปฺปนฺนรูปํ นาม ชาตํ ขณตฺตยปริยาปนฺนนฺติ อตฺโถ. ตํ ปน อาทิโต ทุปฺปริคฺคหนฺติ สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนวเสน วิปสฺสนาภินิเวโส กาตพฺโพ. ตสฺสาติ รูปสฺส. ปจฺจยลกฺขณปปฺจํ อนามสิตฺวา นิพฺพตฺติลกฺขณํ อุทโยติ นิพฺพตฺตนสฺิตํ สงฺขตลกฺขณํ อุทโย อุปฺปาโท. วิปริณามลกฺขณํ วโยติ วิปริณามสฺิตํ สงฺขตลกฺขณํ วโย วินาโส. อนุปสฺสนาาณนฺติ ยา อุทยสฺส, วยสฺส จ อนุเปกฺขนา, ตํ าณํ. กิฺจาปิ กลาปสมฺมสนาทีสุ ชาติชรามรณสีเสน ชาติชรามรณวนฺโต ธมฺมา วุตฺตา, อิธ ปน อุทยพฺพยาณนิทฺเทเส ‘‘ชาติ ปจฺจุปฺปนฺนา, ตสฺสา นิพฺพตฺติลกฺขณํ อุทโย, วิปริณามลกฺขณํ วโย’’ติอาทินา (ปฏิ. ม. ๑.๔๙) วุจฺจมาเน ชาติชรามรณานํ ชาติชรามรณวนฺตตา, นิปฺผนฺนตา จ อนุฺาตา วิย โหตีติ ตํ ปริหริตุํ ปฏิจฺจสมุปฺปาทงฺเคสุ ภวปริโยสานาว เทสนา กตา.

โสติ โยคี. อิมินา ปาฬินเยนาติ อิมาย ‘‘ชาตํ รูปํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทินา ทสฺสิตาย ปาฬิคติยา. ชาตินฺติ น ปสูตึ, น จ ปมาภินิพฺพตฺติมตฺตํ, อถ โข อุปฺปาทํ นิพฺพตฺติวิการํ. สฺวายํ วิกาโร ยสฺมา สงฺขารานํ อภินวาวฏฺานชรา วิย นวภาวาปคโมติ อาห ‘‘อภินวาการ’’นฺติ. สมนุปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. อนุปฺปนฺนสฺส ราสิ วา นิจโย วา นตฺถิ ยโต อาคจฺเฉยฺย อุปฺปชฺชมานํ อลทฺธตฺตภาวสฺส สพฺเพน สพฺพํ อวิชฺชมานตฺตา. เตนาห ‘‘อุปฺปชฺชมาน…เป… นตฺถี’’ติ. ยถา อนาคเต อทฺธนิ อิเม ธมฺมา สพฺเพน สพฺพํ นตฺถิ, เอวํ อตีเตปิ อทฺธนีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘นิรุชฺฌมานสฺสาปี’’ติอาทึ วตฺวา อวิชฺชมานานํเยว รูปารูปธมฺมานํ เหตุปจฺจยสมวาเย อุปฺปาโท, อุปฺปชฺชิตฺวา จ สพฺพโส อภาวูปคโมติ อิมมตฺถํ สมุทายคตํ ตเทกเทสภูตาย อุปมาย วิภาเวตุํ ‘‘ยถา ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ราสิโตติ ราสิภาเวน สมุสฺสิโต ปุฺโช ราสิ. ยถา ตถา ปิณฺฑิภูโต นิจโย. ภูมิยํ นิทหิตฺวา ปิตํ นิธานํ. อุปวีเณติ เอเตนาติ อุปวีณํ, วีณาวาทนํ.

๗๒๔. เอวํ สงฺเขปโต อุทยพฺพยมนสิการวิธึ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ปุน ยานี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อวิชฺชาสมุทยาติ อวิชฺชาย อุปฺปาทา, อตฺถิภาวาติ อตฺโถ. นิโรธวิโรธีหิ อุปฺปาโท อตฺถิภาววาจโกปิ โหตีติ วุตฺโตวายมตฺโถ. ตสฺมา ปุริมภวสิทฺธาย อวิชฺชาย สติ อิมสฺมึ ภเว รูปสฺส อุปฺปาโท โหตีติ อตฺโถ. ปจฺจยสมุทยฏฺเนาติ ปจฺจยสฺส อุปฺปนฺนภาเวน, อตฺถิภาวโตติ อตฺโถ. อวิชฺชาทีหิ จ ตีหิ อตีตกาลิกานิ เตสํ สหการีการณภูตานิ อุปาทานาทีนิปิ คหิตาเนวาติ ทฏฺพฺพํ.

ปวตฺติปจฺจเยสุ กพฬีการาหารสฺส พลวตาย โส เอว คหิโต ‘‘อาหารสมุทยา’’ติ. ตสฺมึ ปน คหิเต ปวตฺติปจฺจยตาสามฺเน อุตุจิตฺตานิปิ คหิตาเนว โหนฺตีติ จตุสมุฏฺานิกรูปสฺส ปจฺจยโต อุทยทสฺสนํ วิภาวิตเมวาติ ทฏฺพฺพํ. อวิชฺชาตณฺหุปนิสฺสยสหิเตเนว กมฺมุนา รูปกายสฺส นิพฺพตฺติ. อสติ จ อวิชฺชุปนิสฺสยาย ภวนิกนฺติยา ชาติยา อสมฺภโว เอวาติ. ยถา จ รูปสฺส อวิชฺชาตณฺหุปนิสฺสยตา, เอวํ เวทนาทีนมฺปิ ทฏฺพฺพา. อาหาโร ปน อุปฺปนฺนสฺส รูปสฺส โปสโก, กพฬีการาหารสฺส อธิปฺเปตตฺตา, กามธาตาธิฏฺานตฺตา จ เทสนาย. อุกฺกํสนิทฺเทเสน วา อาหารคฺคหณํ. ‘‘นิพฺพตฺติลกฺขณ’’นฺติอาทินา กาลวเสน อุทยทสฺสนมาห. ตตฺถ อทฺธานวเสน ปเคว อุทยํ ปสฺสิตฺวา ิโต อิธ สนฺตติวเสน ทิสฺวา อนุกฺกเมน ขณวเสน ปสฺสติ. ปฺจ ลกฺขณานีติ อวิชฺชา ตณฺหา กมฺมํ อาหาโรติ อิเมสํ ปจฺจยานํ อตฺถิตาสงฺขาตลกฺขณานิ เจว รูปสฺส นิพฺพตฺติลกฺขณฺจาติ อิมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ. เตสํ อตฺถิตา หิ รูปสฺส อุทโย ลกฺขียติ เอเตหีติ ลกฺขณานีติ วุจฺจนฺติ. นิพฺพตฺติ ปน สงฺขตลกฺขณเมวาติ.

อวิชฺชานิโรธา รูปนิโรโธติ อคฺคมคฺคาเณน อวิชฺชาย อนุปฺปาทนิโรธโต อนาคตสฺส รูปสฺส อนุปฺปาทนิโรโธ โหติ ปจฺจยาภาเว อภาวโต. ปจฺจยนิโรธฏฺเนาติ อวิชฺชาสงฺขาตสฺส อนาคเต อุปฺปชฺชนกรูปปจฺจยสฺส นิรุทฺธภาเวน. ตณฺหานิโรธา กมฺมนิโรธาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อาหารนิโรธาติ ปวตฺติปจฺจยสฺส กพฬีการาหารสฺส อภาเว. รูปนิโรโธติ ตํสมุฏฺานรูปสฺส อภาโว โหติ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยานุสาเรน เวทิตพฺพํ. วิปริณามลกฺขณนฺติ ภงฺคกาลวเสน เตสํ วยทสฺสนํ. ตสฺมา ตํ อทฺธาวเสน ปเคว ปสฺสิตฺวา ิโต อิธ สนฺตติวเสน ทิสฺวา อนุกฺกเมน ขณวเสน ปสฺสติ. ปฺจ ลกฺขณานีติ อิธ อวิชฺชาทีนํ จตุนฺนํ ปจฺจยานํ อนุปฺปาทนิโรโธ, รูปสฺส ขณนิโรโธ จาติ อิมานิ ปฺจ ลกฺขณานิ. เตสฺหิ อนุปฺปาทนิโรโธ, รูปสฺส อจฺจนฺตนิโรโธ ลกฺขียติ เอเตหีติ ลกฺขณานีติ วุจฺจนฺติ.

วิปริณาโม สงฺขตลกฺขณเมว. เอส นโย เวทนากฺขนฺธาทีสุ. อยํ ปน วิเสโส – ‘‘ผุฏฺโ เวเทติ, ผุฏฺโ สฺชานาติ, ผุฏฺโ เจเตตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๙๓), ‘‘ผสฺสปจฺจยา เวทนา, จกฺขุสมฺผสฺสชา เวทนา, สฺา, เจตนา’’ติ, จ วจนโต ผสฺโส เวทนา (วิภ. ๒๓๑) สฺา สงฺขารกฺขนฺธานํ ปวตฺติปจฺจโย, ตํนิโรธา จ เตสํ นิโรโธ, มหาปทาน (ที. นิ. ๒.๖๐) มหานิทานสุตฺเตสุ, อภิธมฺเม จ อฺมฺปจฺจยวาเร ‘‘นามรูปปจฺจยา วิฺาณ’’นฺติ (กถา. ๗๑๙) วจนโต นามรูปํ วิฺาณสฺส ปวตฺติปจฺจโย, ตํนิโรธา ตสฺส นิโรโธติ วุตฺตํ ‘‘ผสฺสสมุทยา เวทนาสมุทโย’’ติอาทิ.

เอตฺถ จ เกจิ ตาว อาหุ ‘‘อรูปกฺขนฺธานํ อุทยพฺพยทสฺสนํ อทฺธาสนฺตติวเสเนว, น ขณวเสนา’’ติ. เตสํ มเตน ขณโต อุทยพฺพยทสฺสนเมว น สิยา. อปเร ปนาหุ ‘‘ปจฺจยโต อุทยพฺพยทสฺสเน อตีตาทิวิภาคํ อนามสิตฺวา สพฺพสาธารณโต อวิชฺชาทิปจฺจยา เวทนาสมฺภวํ ลพฺภมานตํ ปสฺสติ, น อุปฺปาทํ. อวิชฺชาทิอภาเว จ ตสฺสา อสมฺภวํ อลพฺภมานตํ ปสฺสติ, น ภงฺคํ. ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเน ปจฺจุปฺปนฺนานํ อุปฺปาทํ, ภงฺคฺจ ปสฺสตี’’ติ, ตํ ยุตฺตํ. สนฺตติวเสน หิ รูปารูปธมฺเม อุทยโต, วยโต จ มนสิ กโรนฺตสฺส อนุกฺกเมน ภาวนาย พลปฺปตฺตกาเล าณสฺส ติกฺขวิสทภาวปฺปตฺติยา ขณโต อุทยพฺพยา อุปฏฺหนฺตีติ. อยฺหิ ปมํ ปจฺจยโต อุทยพฺพยํ มนสิ กโรนฺโต อวิชฺชาทิเก ปจฺจยธมฺเม วิสฺสชฺเชตฺวา อุทยพฺพยวนฺเต ขนฺเธ คเหตฺวา เตสํ ปจฺจยโต อุทยพฺพยทสฺสนมุเขน ขณโตปิ อุทยพฺพยํ มนสิ กโรติ.

ตสฺส ยทา าณํ ติกฺขํ วิสทํ หุตฺวา ปวตฺตติ, ตทา รูปารูปธมฺมา ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชนฺตา, ภิชฺชนฺตา จ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวมฺปิ รูปสฺส อุทโย’’ติอาทิ. ตตฺถ เอวมฺปิ รูปสฺส อุทโยติ เอวํ วุตฺตนเยน อวิชฺชาสมุทยาปิ. ตณฺหา…เป… กมฺม…เป… อาหารสมุทยาปิ รูปสฺส สมฺภโว. เอวมฺปิ รูปสฺส วโยติ เอวํ วุตฺตนเยเนว อวิชฺชานิโรธาปิ ตณฺหา…เป… อาหารนิโรธาปิ รูปสฺส วโย อนุปฺปาโทติ ปจฺจยโต วิตฺถาเรน มนสิการํ กโรติ. เอวมฺปิ รูปํ อุเทตีติ เอวํ วุตฺตนเยน นิพฺพตฺติลกฺขณํ ปสฺสนฺโตปิ กมฺมสมุฏฺานรูปมฺปิ อาหารอุตุจิตฺตสมุฏฺานรูปมฺปิ อุเทติ อุปฺปชฺชติ นิปฺปชฺชตีติ. เอวํ วุตฺตนเยเนว วิปริณามลกฺขณํ ปสฺสนฺโต กมฺมสมุฏฺานรูปมฺปิ อาหารอุตุจิตฺตสมุฏฺานรูปมฺปิ เวติ นิรุชฺฌตีติ ขณโต วิตฺถาเรน มนสิการํ กโรตีติ โยชนา.

๗๒๕. เอวํ มนสิ กโรโต น ยาว อุทยพฺพยาณํ อุปฺปชฺชติ, ตาว อุทยพฺพยา สุฏฺุ ปากฏา น โหนฺตีติ กตฺวา วุตฺตํ ‘‘อิติ กิริเม ธมฺมา…เป… ปฏิเวนฺตี’’ติ, นยทสฺสนวเสน วา เอวํ วุตฺตํ. ปมฺหิ ปจฺจุปฺปนฺนธมฺมานํ อุทยพฺพยํ ทิสฺวา อถ อตีตานาคเต นยํ เนติ. ทุกฺขาทิสจฺจปฺปเภทา, อนุโลมาทิปฏิจฺจสมุปฺปาทปฺปเภทา, เอกตฺตาทินยปฺปเภทา, อนิจฺจตาทิลกฺขณปฺปเภทา จ สจฺจปฏิจฺจสมุปฺปาทนยลกฺขณปฺปเภทา. ปฏิจฺจสมุปฺปาทคฺคหเณเนว เจตฺถ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนธมฺมานมฺปิ คหณํ, เตสมฺปิ อตฺตโน ผลํ ปติ ปฏิจฺจ สมุปฺปาทภาวโต.

๗๒๖. นฺติ กรเณ ปจฺจตฺตวจนํ, เยน าเณนาติ อตฺถํ วทนฺติ. นฺติ วา กิริยาปรามสนํ. ขนฺธานํ สมุทยํ ปสฺสติ, ขนฺธานํ นิโรธํ ปสฺสตีติ เอตฺถ ยเทตํ ทสฺสนนฺติ อตฺโถ. ยํ ปนาติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. เอตฺถ จ ยถา อวิชฺชาทิสมุทยนิโรธโต ขนฺธานํ สมุทยนิโรธสฺส อฺตฺตา ‘‘อวิชฺชาสมุทยา รูปสมุทโย’’ติอาทิวจนเภโท (ปฏิ. ม. ๑.๕๐) กโต, น เอวํ นิพฺพตฺติวิปริณามลกฺขเณหิ ขนฺธานํ อุทยพฺพยสฺส เภโท อตฺถิ อภินฺนาธิกรณตฺตาติ ‘‘นิพฺพตฺติลกฺขณวิปริณามลกฺขณานิ ปสฺสนฺโต ขนฺธานํ อุทยพฺพยํ ปสฺสตี’’ติ วจนเภทํ อกตฺวา วุตฺตํ. อุปฺปตฺติกฺขเณเยว หีติ หิ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา อุปฺปาทกฺขเณเยว นิพฺพตฺติลกฺขณํ, ภงฺคกฺขเณเยว จ วิปริณามลกฺขณํ, ตสฺมา ตานิ ปสฺสนฺโต ขณโต ขนฺธานํ อุทยพฺพเย ปสฺสติ นามาติ ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทินา วุตฺตเมวตฺถํ ปากฏตรํ กโรติ.

๗๒๗. อิจฺจสฺเสวนฺติ เอตฺถ อิติ-สทฺโท เหตุอตฺโถ. ยสฺมา ‘‘อวิชฺชา สมุทยา’’ติอาทิ ปจฺจยโต ขนฺธานํ อุทยพฺพยทสฺสนํ, ‘‘นิพฺพตฺติลกฺขณ’’นฺติอาทิ ขณโต, ตสฺมาติ อตฺโถ. อสฺสาติ โยคิโน. เอวนฺติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. เย ปน ‘‘อิจฺจสฺส ปจฺจยโต’’ติ ปนฺติ, เตสํ อิตีติ วุตฺตปฺปการปรามสนํ. ชนกาวโพธโตติ ขนฺธานํ ชนกสฺส อวิชฺชาทิปจฺจยสฺส อวพุชฺฌนโต . ชาติทุกฺขาวโพธโตติ ชาติสงฺขาตสฺส ทุกฺขสฺส อวพุชฺฌนโต. ทุกฺขสจฺจํ ปากฏํ โหติ เอกเทสทสฺสเนน ปพฺพตสมุทฺทาทิทสฺสนกานํ วิย. มรณทุกฺขาวโพธโตติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. ‘‘ปจฺจยานุปฺปาเทนา’’ติ เอเตน ปจฺจยานํ อนุปฺปาทนิโรโธ อิธ ปจฺจยนิโรโธติ ทสฺเสติ. ปจฺจยวตนฺติ ปจฺจยโต อุปฺปชฺชนกานํ. ยฺจสฺส อุทยพฺพยทสฺสนนฺติ ยํ อสฺส โยคิโน ปจฺจยโต, ขณโต จ อุทยพฺพยานํ ทสฺสนํ. ตตฺถ อสมฺโมโห, ตปฺปธาโน วา วิตกฺกาทิธมฺมปุฺโช มคฺโค วายํ โลกิโกติ นิยฺยานานุโลมโต โลกิโก มคฺโค เอวายํ. อิติ ตสฺมา มคฺคสจฺจํ ปากฏํ โหติ สภาวาวโพธโต. เตนาห ‘‘ตตฺร สมฺโมหวิฆาตโต’’ติ, ตทงฺควเสนาติ อตฺโถ. อถ วา ยถาวุตฺโต สมฺมาทิฏฺิสงฺขาโต มคฺโค อริยมคฺคสฺส อุปายภูโต อสมฺโมหสภาโว อตฺตานมฺปิ ปกาเสติ ปทีโป วิยาติ มคฺคสจฺจํ ปากฏํ โหติ. สฺวายํ ปากฏภาโว โมหนฺธการวิธมเนนาติ อาห ‘‘ตตฺร สมฺโมหวิฆาตโต’’ติ.

๗๒๘. ‘‘อวิชฺชาปจฺจยา’’ติอาทิโก อนุโลโม ปฏิจฺจสมุปฺปาโท ปวตฺติยา อนุโลมนโต. ‘‘อวิชฺชาสมุทยา’’ติอาทินา อวิชฺชาทีสุ สนฺเตสูติ อยมตฺโถ วุตฺโตติ อาห ‘‘อิมสฺมึ สติ อิทํ โหตีติ อวโพธโต’’ติ. ปวตฺติยา วิโลมนโต ‘‘อวิชฺชายตฺเวว อเสสวิราคนิโรธา’’ติอาทิโก ปฏิโลโม ปฏิจฺจสมุปฺปาโท. เต จ สงฺขตา ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนา ‘‘ชรามรณํ, ภิกฺขเว, อนิจฺจํ สงฺขตํ ปฏิจฺจสมุปฺปนฺน’’นฺติอาทิวจนโต (สํ. นิ. ๒.๒๐). ปฏิจฺจสมุปฺปนฺนสฺส จ ปากฏตา ปจฺจยาการปากฏตาย เอว ‘‘อิมสฺเสตํ ผล’’นฺติ อวโพธโต.

๗๒๙. ปุริมปุริมานํ นิโรโธ อุตฺตรุตฺตรานํ อุปฺปาทานุพนฺโธติ อยมตฺโถ ปจฺจยโต อุทยทสฺสเนน สิชฺฌมาโน เอกตฺตนยาธิคมาย โหติ. ยโต ‘‘อฺโ กโรติ, อฺโ ปฏิสํเวทยตี’’ติอาทิ (สํ. นิ. ๒.๑๗) โวหารสิทฺธิยา อุจฺเฉททิฏฺิยา อโนกาสตา. เตนาห ‘‘เหตุผลสมฺพนฺเธนา’’ติอาทิ. สงฺขารา ขเณ ขเณ อุปฺปชฺชนฺตีติ อยมตฺโถ ขณโต อุทยทสฺสเนน สิชฺฌมาโน นานตฺตนยาธิคมาย โหติ. ยโต ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนานํ สภาวเภทาวโพธโต ‘‘โส กโรติ, โส ปฏิสํเวทยตี’’ติอาทินยปฺปวตฺตาย สสฺสตทิฏฺิยา อโนกาสตา. เตนาห ‘‘ขณโต อุทยทสฺสเนนา’’ติอาทิ. ปจฺจยโตอุทยพฺพยทสฺสเนน ปจฺจเย สติ ผลสฺส ภาโว, อสติ อภาโวติ อิมสฺส อตฺถสฺส สิทฺธิยา อตฺถิตามตฺเตเนว เต ธมฺมา การณนฺติ อพฺยาปารนโย ปากโฏ โหติ. ยโต อตฺตทิฏฺิยา อโนกาสตา วสวตฺติตาย อลพฺภเนยฺยโต . เตน วุตฺตํ ‘‘ธมฺมาน’’นฺติอาทิ. อวสวตฺติภาโว ปรายตฺตตา, สา จ สปฺปจฺจยตาย เวทิตพฺพา. ปจฺจยโต อุทยทสฺสเนน เตหิ เตหิ ปจฺจเยหิ อิเม ธมฺมา อุปฺปชฺชนฺติ, อุปฺปชฺชมานา จ ปจฺจยานุรูปเมว อุปฺปชฺชนฺตีติ เหตุผลสฺส เหตุอนุรูปโต สิทฺธิยา อกิริยทิฏฺิยา อโนกาสตาวาติ อาห ‘‘ปจฺจยโต ปนา’’ติอาทิ. สติ การเณ กุโต อกิริยวาโท. กโรตีติ หิ การณํ.

๗๓๐. ปจฺจยโต อุทยํ ปสฺสโต ปจฺจเย สติ สภาเว สติ ผลสฺส สมฺภโวติ อตฺถิตามตฺเตน อุปการกตาติ สงฺขตานํ นิรีหตา, อสติ จ อภาโวติ ปจฺจยาธีนวุตฺติตา จ วิฺายมานา อตฺตสุฺตํ วิภาเวตีติ อาห ‘‘ปจฺจยโต จสฺส…เป… ตาวโพธโต’’ติ. อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏํ โหติ ขณโต อุทยพฺพยทสฺสเนน สงฺขารานํ อุทยพฺพยโต ปริจฺฉินฺนตาย วิฺายมานตฺตา. เตนาห ‘‘หุตฺวา อภาวาวโพธโต’’ติ. อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺฌนฺหิ หุตฺวา อภาโว. ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิเวโก อตีตานาคตภาวสุฺตา. น หิ สงฺขารา ขณตฺตยโต ปุพฺเพ, ปจฺฉา จ วิชฺชนฺติ, ตสฺมา ปุพฺพนฺตาปรนฺตวิเวกาวโพธโตติ อาทิอนฺตวนฺตตาปฏิเวธโตติ อตฺโถ. ทุกฺขลกฺขณมฺปิ ปากฏํ โหติ อุทยพฺพยทสฺสเนนาติ สมฺพนฺโธ. อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชนฺตา สงฺขารา อุปฺปาทโต อุทฺธํ ชราภงฺคาวตฺถนฺตรุปฺปตฺติยา นิรนฺตรํ วิพาธียนฺเตว. สา จ เนสํ วิพาธิยมานตา สมฺมา อุทยพฺพยทสฺสเนน วิภูตา โหตีติ อาห ‘‘ทุกฺข…เป… โพธโต’’ติ.

สภาวลกฺขณมฺปีติ อุทยพฺพยทสฺสเนน น เกวลํ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณเมว, อถ โข ปถวีผสฺสาทีนํ กกฺขฬผุสนาทิสฺิตํ สภาวสงฺขาตํ ลกฺขณมฺปิ ปากภาววิทฺธํ สภาวาวจฺฉินฺนํ ปากฏํ โหติ. เตนาห ‘‘อุทยพฺพยปริจฺฉินฺนาวโพธโต’’ติ. สภาวลกฺขเณติ สภาวสฺิเต ลกฺขเณ, ตํตํธมฺมานํ สลกฺขเณ. สงฺขตลกฺขณสฺส ตาวกาลิกตฺตมฺปีติ อุปฺปาทาทิสงฺขตลกฺขณสฺส อุปฺปาทกฺขณาทิปริตฺตกาลิกตาปิ ขณนฺตรานวฏฺานโต ตสฺส. เตนาห ‘‘อุทยกฺขเณ’’ติอาทิ. อุทยวยมตฺตคฺคหณฺเจตฺถ อุทยพฺพยทสฺสนวเสเนว อิมสฺส าณสฺส ปวตฺตนโต, น ิติกฺขณสฺส อภาวา.

๗๓๑. น เกวลฺจ นิจฺจนวา, อถ โข ปริตฺตกาลฏฺายิโน. กถนฺติ อาห ‘‘สูริยุคฺคมเน’’ติอาทิ. ตตฺถ อุทเก ทณฺเฑน กตเลขา อุทเก ทณฺฑราชิ. อุสฺสาวพินฺทุอาทโย ปฺจ กิจฺจาปิ อุตฺตรุตฺตริ อติปริตฺตฏฺายิภาวทสฺสนตฺถํ นิทสฺสิตา, ตถาปิ เต ทนฺธนิโรธา เอว นิทสฺสิตา, ตโตปิ ลหุตรนิโรธตฺตา สงฺขารานํ. ตถา หิ คมนสฺสาทานํ เทวปุตฺตานํ เหฏฺุปริยาเยน ปฏิมุขํ ธาวนฺตานํ สิรสิ ปาเท จ พนฺธขุรธารา สนฺนิปาตโตปิ สีฆตโร รูปธมฺมานํ นิโรโธ วุตฺโต, ปเคว อรูปธมฺมานํ. น เกวลํ นิจฺจนวา, นาปิ ปริตฺตกาลฏฺายิโนว, อถ โข อสารา. กถนฺติ อาห ‘‘มายา’’ติอาทิ. มายาทโย หิ มณิอาทิวเสน ทิสฺสมานา อตํสภาวตาย อสารา. ตตฺถ มนฺโตสธภาวิตา อินฺทชาลาทิกา มายา. มิคตณฺหิกา มรีจิ. สุปินเมว สุปินนฺตํ. มณฺฑลากาเรน อาวิชฺฌิยมานํ อลาตเมว อลาตจกฺกํ. คนฺธพฺพเทวปุตฺตานํ กีฬนิจฺฉาวเสน นครํ วิย อากาเส อุปฏฺานมตฺตํ คนฺธพฺพนครํ.

เอตฺตาวตาติ ยฺวายํ ‘‘ชาตํ รูปํ ปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทิปาฬินยานุสาเรน (ปฏิ. ม. ๑.๔๙), ‘‘ยํ กิฺจิ รูปํ อตีตานาคตปจฺจุปฺปนฺน’’นฺติอาทิปาฬินยานุสาเรน (ม. นิ. ๑.๓๔๗, ๓๖๑; ๒.๑๑๓; ๓.๘๖, ๘๙; ปฏิ. ม. ๑.๔๘) วา ยาว อุทยพฺพยปฏิเวธา ภาวนาวิธิ อารทฺโธ, เอตฺตาวตา. กลาปสมฺมสนาทิโกปิ หิ สพฺโพ ภาวนาวิธิ อุทยพฺพยาณุปฺปาทนสฺเสว, น ปริสปริสรีรกรพนฺโธติ. วยธมฺมเมวาติ ภิชฺชนสภาวเมว. วยํ อุเปติ อตฺตโน ธมฺมตาย. ยฺหิ อุปกฺกเมน วินสฺสตีติ วุจฺจติ, ตมฺปิ อตฺตโน ธมฺมตาย เอว วินสฺสติ อเหตุกตฺตา วินาสสฺส. อุปกฺกมเหตุ ปน วิสทิสุปฺปาโท โหติ. อิมินา อากาเรนาติ ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๖; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) หิ วุตฺตํ, ตสฺมา วยํ อนาลมฺพิตฺวาปิ ‘‘วยธมฺมเมว อุปฺปชฺชตี’’ติ อุทยสฺส, ‘‘อุปฺปนฺนฺจ อิทํ วยํ อุเปตี’’ติ วยสฺส จ อิมินา ยถาวุตฺเตน ปจฺจกฺขกรณากาเรน. อธุนา อุปฺปนฺนํ, น ตาว พลปฺปตฺตนฺติ อาห ‘‘ตรุณวิปสฺสนาาณ’’นฺติ. กลาปสมฺมสนาทิวเสน ปวตฺตํ สมฺมสนํ น นิปฺปริยาเยน วิปสฺสนาสมฺํ ลภติ, อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิวเสน ปวตฺตเมว ลภตีติ อาห ‘‘ยสฺสาธิคมา อารทฺธวิปสฺสโกติ สงฺขํ คจฺฉตี’’ติ.

วิปสฺสนุปกฺกิเลสกถาวณฺณนา

๗๓๒. อิมาย อุทยพฺพยานุปสฺสนาสงฺขาตาย ตรุณวิปสฺสนาย วเสน, น อารทฺธวิปสฺสนานํ ภงฺคานุปสฺสนาทิสงฺขาตาย ตรุณวิปสฺสนาย, นาปิ นิพฺพิทานุปสฺสนาทิสงฺขาตาย พลววิปสฺสนาย วเสนาติ อตฺโถ. น หิ ตทา วิปสฺสนุปกฺกิเลสา อุปฺปชฺชนฺตีติ. อารทฺธวิปสฺสกสฺสาติ จ อารทฺธวิปสฺสกสฺเสวาติ เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโ. เตนาห ‘‘วิปสฺสนุปกฺกิเลสา หี’’ติอาทิ. ทิฏฺิคาหาทิวตฺถุภาเวน วิปสฺสนํ อุปกฺกิเลสนฺตีติ วิปสฺสนุปกฺกิเลสา. ‘‘อริยสาวกสฺสา’’ติ อิทํ อุกฺกฏฺนิทฺเทเสน วุตฺตํ พลววิปสฺสนาปตฺตสฺสาปิ อนุปฺปชฺชนโต. วิปฺปฏิปนฺนกสฺสาติ สีลวิปตฺติอาทิวเสน ยถา ตถา วิปฺปฏิปนฺนกสฺส. ตสฺส ปน ปฏิปตฺติยา ครหิตพฺพตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิปฺปฏิปนฺนกสฺสา’’ติ อาห. -สทฺโท อุปริปททฺวเยปิ โยเชตพฺโพ. นิกฺขิตฺตกมฺมฏฺานสฺสาติ วิปสฺสนํ อารภิตฺวา อนฺตรา โวสานํ อาปนฺนสฺส. กุสีตปุคฺคลสฺสาติ สีลสมฺปนฺนสฺเสว โกสชฺเชน ภาวนํ อนนุยุฺชนฺตสฺส. อถ วา วิปฺปฏิปนฺนกสฺสาติ วิปสฺสนาภาวนาสงฺขาตาย สมฺมาปฏิปตฺติยา อภาเวน วิครหิตปฏิปตฺติกสฺส. วิปสฺสนาปฏิปตฺติเยว หิ สสมฺภารา ปุพฺพภาเค สมฺมาปฏิปตฺติ, ตทฺา วิปฺปฏิปตฺติ, สา จ ตตฺถ นิกฺขิตฺตธุรสฺส โหติ. นิกฺขิตฺตธุรตา จ โกสชฺเชนาติ วุตฺตํ ‘‘นิกฺขิตฺตกมฺมฏฺานสฺส กุสีตปุคฺคลสฺสา’’ติ. ยุตฺตปฺปยุตฺตสฺสาติ โยเคน าเณน ภาวนมนุยุฺชนฺตสฺส. สา ปน ยุตฺตปฺปยุตฺตตา สมถวเสนาปิ โหตีติ อาห ‘‘อารทฺธวิปสฺสกสฺสา’’ติ. อุปฺปชฺชนฺติเยว น นุปฺปชฺชนฺติ อฺถา มคฺคามคฺคาณสฺเสว อสมฺภวโต.

โอภาสาทีสุ ‘‘อริยธมฺโม’’ติ ปวตฺตํ อุทฺธจฺจํ วิกฺเขโป ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน ธมฺมุทฺธจฺเจน วิปสฺสนาวีถิโต อุกฺกมเนน วิรูปํ คหิตํ ปวตฺติตํ มานสํ ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตมานสํ. โอภาโส ธมฺโมติ การณูปจาเรนาห, อีทิสํ โอภาสํ วิสฺสชฺเชนฺโต มม อริยมคฺโคติ อตฺโถ. โอภาสํ อาวชฺชติ ‘‘นิพฺพาน’’นฺติ วา ‘‘มคฺโค’’ติ วา ‘‘ผล’’นฺติ วา. นิพฺพานนฺติ คณฺหนฺโต ตตฺถ ปวตฺตธมฺเม มคฺคผลภาเวน คณฺหาติ, าณาทิเก ปน มคฺคผลภาเวเนว คณฺหาติ. ตโต วิกฺเขโป อุทฺธจฺจนฺติ ตโต โอภาสเหตุ โย วิกฺเขโป, ตํ อุทฺธจฺจนฺติ อตฺโถ. ‘‘อุทฺธจฺเจน วิคฺคหิตมานโส’’ติ สงฺเขปโต วุตฺตมตฺถํ วิวริตุํ ‘‘อนิจฺจโต’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ตตฺถ อนิจฺจ…เป… นปฺปชานาติ ‘‘มคฺคํ ปตฺโตสฺมี’’ติ สฺาย อนิจฺจตาทิวเสน มนสิการสฺเสว อภาวโต. อยฺจ อตฺโถ –

‘‘โย หิ โกจิ, อาวุโส, ภิกฺขุ วา ภิกฺขุนี วา มม สนฺติเก อรหตฺตปฺปตฺตึ พฺยากโรติ, สพฺโพ โส จตูหิ มคฺเคหิ, เอเตสํ วา อฺตเรน. กตเมหิ จตูหิ? อิธาวุโส, ภิกฺขุ สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาเวติ, ตสฺส สมถปุพฺพงฺคมํ วิปสฺสนํ ภาวยโต มคฺโค สฺชายติ, โส ตํ มคฺคํ อาเสวติ ภาเวติ พหุลีกโรติ. ตสฺส ตํ มคฺคํ อาเสวโต…เป… กโรโต สํโยชนานิ ปหียนฺติ อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺติ.

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุ วิปสฺสนาปุพฺพงฺคมํ สมถํ ภาเวติ…เป… สมถวิปสฺสนํ ยุคนทฺธํ ภาเวติ…เป….

‘‘ปุน จปรํ, อาวุโส, ภิกฺขุโน ธมฺมุทฺธจฺจวิคฺคหิตํ มานสํ โหติ, โหติ โส, อาวุโส, สมโย ยํ ตํ จิตฺตํ อชฺฌตฺตเมว สนฺติฏฺติ สนฺนิสีทติ เอโกทิ โหติ สมาธิยติ, ตสฺส มคฺโค สฺชายติ…เป… อนุสยา พฺยนฺตีโหนฺตี’’ติ (อ. นิ. ๔.๑๗๐) –

อิมินา สุตฺตปเทเนว เวทิตพฺโพ. เอตฺถ หิ จตุตฺถมคฺควิสฺสชฺชเน ยถาวุตฺตมคฺคผลนิพฺพานธมฺมา ธมฺโม. ตตฺถ อุทฺธจฺจํ ‘‘อธิคตมคฺคาทิโกหมสฺมี’’ติ อมคฺคาทีสุ วิกฺเขโป ธมฺมุทฺธจฺจํ, เตน อุปทฺทุตํ วิคฺคหิตมานสํ โหติ. นิกนฺติ โอภาสาทีสุ อเปกฺขา สุขุมรูปา ตณฺหา, สา วิปสฺสนาภิรติอากาเรน อุปฏฺหนฺตี อธิมานิเกน ‘‘ธมฺโม’’ติ คยฺหตีติ อาห ‘‘นิกนฺติ ‘ธมฺโม’ติ นิกนฺตึ อาวชฺชตี’’ติ.

๗๓๓. วิปสฺสโนภาโสติ วิปสฺสนาจิตฺตสมุฏฺิตํ, สสนฺตติปติตํ อุตุสมุฏฺานฺจ ภาสุรํ รูปํ. ตตฺถ วิปสฺสนาจิตฺตสมุฏฺิตํ โยคิโน สรีรฏฺเมว ปภสฺสรํ หุตฺวา ติฏฺติ, อิตรํ สรีรํ มุฺจิตฺวา าณานุภาวานุรูปํ สมนฺตโต ปตฺถรติ, ตํ ตสฺเสว ปฺายติ, เตน ผุฏฺโกาเส รูปคตมฺปิ ปสฺสติ, ปสฺสนฺโต จ จกฺขุวิฺาเณน ปสฺสติ, อุทาหุ มโนวิฺาเณนาติ วีมํสิตพฺพนฺติ วทนฺติ. ทิพฺพจกฺขุลาภิโน วิย ตํ มโนวิฺาณวิฺเยฺยเมวาติ วุตฺตํ วิย ทิสฺสตีติ. วิปสฺสนาวีถิ นาม ปฏิปาฏิยา ปวตฺตมานา วิปสฺสนาว. อุกฺกนฺตา นาม โหติ โยคินา ‘‘มคฺคปฺปตฺโตมฺหี’’ติ อธิมาเนน วิสฺสฏฺตฺตา, ตสฺส วา โยคิโน วิปสฺสนา ตโต เอว วีถิ อุกฺกนฺตา นาม โหติ. มูลกมฺมฏฺานนฺติ วิปสฺสนเมวาห.

เวมตฺตตายาติ อปฺปวิปุลตาวเสน วิสทิสตาย. อสฺสาติ โอภาสสฺส. ทฺวีหิ กุฏฺเฏหิ ปริจฺฉินฺนํ เคหํ ทฺวิกุฏฺฏเคหํ. ตสฺส กิร อพฺภนฺตเรปิ เอกา ภิตฺติ โหติ พหิปิ, อุภินฺนํ อนฺตเร อนุปริยายปถํ โหติ, สายนฺเห ตตฺถ สนฺถริตานิ ปฺจวณฺณานิ กุสุมานิ, วิสทาณสฺส โอภาเสน ผริตฏฺาเน รูปคตฺจ ทิพฺพจกฺขุโน วิย ปฺายนฺติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ภนฺเต มยฺห’’นฺติอาทิ.

เอวํ โอภาสสฺส เวมตฺตตาย วตฺถุํ ทสฺเสตฺวา จิรกาลวิปฺปลมฺพเน วตฺถุํ ทสฺเสตุํ ‘‘อยํ ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อยํ ปน วิปสฺสนุปกฺกิเลโสติ วกฺขมานปฺปการํ สนฺธายาห, น สพฺพํ. โสติ โส สมถวิปสฺสนาลาภี อธิมานิโก.

ทิวาสเนติ ทิวาฏฺาเน นิสีทิตพฺพอาสเน. ปมํ ‘‘ปฺหํ ปุจฺฉิสฺสามี’’ติ จินฺติตตฺตา วุตฺตํ ‘‘ปฺหํ, ภนฺเต, ปุจฺฉิตุํ อาคโตมฺหี’’ติ.

ปจฺฉา อุปาเยน ปุถุชฺชนภาวํ วิฺาเปตฺวา กมฺมฏฺาเน นิโยเชสฺสามีติ จินฺติตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อวสฺสโย ภวิสฺสามิจฺเจวาหํ อาคโต’’ติ, ตสฺส จ ปธานตฺตา สาวธารณํ กตฺวา วุตฺตํ. อยํ ธมฺโมติ อยํ อริยมคฺคานุคโต ปฏิสมฺภิทาธมฺโมติ เถรสฺส อชฺฌาสยวเสน วทติ. สมาธินฺติ อภิฺาสมาธึ. อฺจิตกณฺโณติ นิจฺจลฏฺปิตกณฺณปุโฏ. ปลายิตุํ อารทฺโธ ภเยน. เตนาห ‘‘เถโร กิร โทสจริโต’’ติ. โทสจริตสฺส หิ สูรสฺสาปิ สหสา ภยํ อุปฺปชฺชติ. เตนสฺส ขีณาสวตฺเถโร อชฺฌาสยํ ตฺวา ‘‘อิมินา อุปาเยน ปุถุชฺชนภาวํ ชานาเปสฺสามี’’ติ หตฺถินิมฺมาปนาทิมกาสิ. โทสจริตตฺตา หิ เถโร ขิปฺปํ ปฏิวิชฺฌิ. ขิปฺปวิราคี หิ โทสจริโต.

๗๓๔. ตสฺสาติ อุทยพฺพยาณํ มตฺถกํ ปาเปนฺตสฺส โยคิโน. ‘‘เอวมฺปิ รูปํ อุเทติ, เอวมฺปิ รูปํ เวตี’’ติอาทินา อุทยพฺพยานุปสฺสนเมเวตฺถ ตุลนํ, ตีรณฺจ เวทิตพฺพํ. ยถา เทวานมินฺเทน ขิตฺตํ วชิรํ อโมฆํ, อปฺปฏิหตฺจ โหติ, เอวมิทมฺปิ าณํ นิปุณํ อุทยพฺพยทสฺสเนติ วุตฺตํ ‘‘วิสฺสฏฺอินฺทวชิรมิวา’’ติอาทิ. ตตฺถ ติขิณนฺติ อกุณฺํ. สูรนฺติ เตชวนฺตํ. อติวิสทนฺติ นิสิตภาเวน อติวิย ปฏุตรํ าณํ อุปฺปชฺชติ. ตถา หิเนน โยคี ‘‘มคฺคปฺปตฺโตสฺมี’’ติ มฺติ.

วิปสฺสนาปีตีติ วิปสฺสนาจิตฺตสมฺปยุตฺตา ปีติ. ขุทฺทกาทโย ปีติโย เหฏฺา วณฺณิตา เอว. ยสฺมา อุทยพฺพยานุปสฺสนาย วีถิปฏิปนฺนาย อนุกฺกเมน ปฺจ ปีติโย อุปฺปชฺชนฺติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อยํ ปฺจ…เป… อุปฺปชฺชตี’’ติ. มตฺถกปฺปตฺเตน ปน อุทยพฺพยาเณน สทฺธึ ผรณาปีติเยว โหติ. อุปจารปฺปนากฺขณโต อฺทาปิ หิ ผรณาปีติ โหติเยว. เตนาห ‘‘สกลสรีรํ ปูรยมานา อุปฺปชฺชตี’’ติ.

ปสฺสทฺธิอาทีนิ ฉ ยุคฬกานิ อฺมฺาวิโยคินีติ ปสฺสทฺธิยา อุปฺปนฺนาย อิตราปิ อุปฺปนฺนา เอว โหนฺตีติ กิจฺจทสฺสนมุเขน ตา สพฺพาปิ ทสฺเสนฺโต ‘‘กายจิตฺตานํ เนว ทรโถ, น คารว’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ กายคฺคหเณน รูปกายสฺสปิ คหณํ เวทิตพฺพํ, น เวทนาทิกฺขนฺธตฺตยสฺเสว. กายปฺปสฺสทฺธิอาทโย หิ รูปกายสฺสาปิ ทรถาทินิมฺมทฺทิกาติ. กายจิตฺตานิ ปสฺสทฺธานิ…เป… อุชุกานิเยว โหนฺติ เตสํ อปสฺสทฺธาทิภาวสฺส เหตุภูตานํ อุทฺธจฺจาทิถินมิทฺธาทิทิฏฺิมานาทิเสสนีวรณาทิอสฺสทฺธิยาทิมายาสาเถยฺยาทิสํกิเลสธมฺมานํ วิธมนวเสน ตทา วิปสฺสนาจิตฺตุปฺปาทสฺส ปวตฺตนโต. ตสฺมึ สมเยติ ตสฺมึ อุทยพฺพยาณุปฺปตฺติสมเย. มนุสฺสานํ อยนฺติ มานุสี, มนุสฺสโยคฺคา กามสุขรติ, ตาทิเสหิ มนุสฺสวิเสเสหิ อนุภวิตพฺพตานติวตฺตนโต ทิพฺพา รติปิ สงฺคหิตา, มานุสีสทิสตาย กามสุขภาเวน ทิพฺพา รติปิ วา, ตสฺสา อติกฺกนฺตตาย น มานุสีติ อมานุสี.

สุฺาคารนฺติ ยํ กิฺจิ วิวิตฺตํ เสนาสนํ, วิปสฺสนํ เอว วา. สาปิ หิ นิจฺจภาวาทิสุฺตาย, โยคิโน สุขสนฺนิสฺสยตาย จ ‘‘สุฺาคาร’’นฺติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. จิตฺตสฺส อนุปสฺสนกรานํ กิเลสานํ วิคเมน สนฺตจิตฺตสฺส. สํสาเร ภยสฺส อิกฺขเนน ภิกฺขุโน. สมฺมา าเยน รูปารูปธมฺมานํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาทิวเสน วิปสฺสโต. สมฺมสโต อนารทฺธวิปสฺสนานํ มนุสฺสานํ อวิสยตาย อมานุสี. วิปสฺสนาปีติสุขสฺิตา รติ โหตีติ อยเมตฺถ คาถาย สงฺเขปตฺโถ. ทุติยคาถา ปน อุทยพฺพยาณเมว สนฺธาย วุตฺตา. ตตฺถ ยโต ยโตติ รูปโต วา อรูปโต วา.

วิปสฺสนาสุขนฺติ วิปสฺสนาจิตฺตสมฺปยุตฺตํ เจตสิกสุขํ. ยสฺมา ตํสมุฏฺิเตหิ อติปณีตรูเปหิ สพฺโพ กาโย ปริผุโฏ, ปริพฺรูหิโต จ โหติ. ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘สกลสรีรํ อภิสนฺทยมาน’’นฺติ.

อธิโมกฺโขติ สทฺธา, น เยวาปนกาธิโมกฺโขติ อธิปฺปาโย. สา เจตฺถ น กมฺมผลํ, รตนตฺตยํ วา สทฺทหนวเสน ปวตฺตา, อถ โข กิเลสกาลุสฺสิยาปคเมน สมฺปยุตฺตานํ อติวิย ปสนฺนภาวเหตุภูตา. เตนาห ‘‘วิปสฺสนาสมฺปยุตฺตา…เป… สทฺธา อุปฺปชฺชตี’’ติ.

ปุริมุปฺปนฺนภาวนาพลสํสิทฺธํ สมปฺปวตฺตํ วีริยํ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ สํกิเลสปกฺขโต โกสชฺชโต ปคฺคณฺหนโต ปคฺคโห. เตนาห ‘‘ปคฺคโหติ วีริย’’นฺติอาทิ.

สุปฏฺิตาติ สภาวสลฺลกฺขเณน อารมฺมเณ สุฏฺุ อุปฏฺิตา. สุปติฏฺิตาติ ปฏิปกฺขวิคเมน เตน อจลนียตาย สุฏฺุ ปติฏฺิตา. ตโต เอว นิขาตา วิย อจลา. อจลภาเวเนว ปพฺพตราชสทิสาติ ตีหิปิ ปเทหิ สุปติฏฺิตเมว ทสฺเสติ. โสติ โยคาวจโร. ยํ ยํ านนฺติ ยํ ยํ อตฺตโน อุปติฏฺานฏฺานํ รูปํ วา อรูปํ วา. โอกฺขนฺทิตฺวาติ อนุปวิสิตฺวา. ปกฺขินฺทิตฺวาติ ตสฺเสว เววจนํ. ทิพฺพจกฺขุโน ปริภณฺฑภูตสฺส ยถากมฺมูปคาณสฺส อุปฏฺหนฺเต ปรโลกสฺิเต สตฺเต สนฺธายาห ‘‘ทิพฺพจกฺขุโน ปรโลโก วิยา’’ติ น ทิพฺพจกฺขุโน ปรโลกวิสยตฺตา. วณฺณายตนวิสยฺหิ ตนฺติ. อสฺส สติ อุปฏฺาติ ขายติ, อุปติฏฺตีติ วา อตฺโถ. ยทคฺเคน หิ สติ อารมฺมณํ โอกฺขนฺทิตฺวา อุปติฏฺติ, ตทคฺเคน อารมฺมณมฺปิสฺส โอกฺขนฺทิตฺวา อุปติฏฺตีติ วุจฺจติ.

วิจินิตวิสยตฺตา สงฺขารานํ วิจินเน มชฺฌตฺตภาเวน ิตา วิปสฺสนุเปกฺขา. สา ปน อตฺถโต ตถาปวตฺตา ตตฺรมชฺฌตฺตุเปกฺขาว. มโนทฺวาราวชฺชนจิตฺตสมฺปยุตฺตา เจตนา อาวชฺชเน อชฺฌุเปกฺขนวเสน ปวตฺติยา ‘‘อาวชฺชนุเปกฺขา’’ติ วุตฺตา. อุทยพฺพยานํ สุฏฺุตรํ อุปฏฺานโต ตทนุปสฺสนายํ มชฺฌตฺตภูตา อิธ วิปสฺสนุเปกฺขา นาม. เต ปน อุทยพฺพยา สพฺพสงฺขารานนฺติ อาห ‘‘สพฺพสงฺขาเรสุ มชฺฌตฺตภูตา’’ติ. อาวชฺชนาย อินฺทวชิรตตฺตนาราจสทิสตา, สูรติกฺขภาโว จ สพฺพฺุตฺาณปุเรจรา วิย ตทนุจราณสฺส ตถาภาเวน ทฏฺพฺพา.

วิปสฺสนานิกนฺตีติ วิปสฺสนาย นิกามนา อเปกฺขา. โอภาสาทโย วิปสฺสนาย วิชมฺภนภูตา ตสฺสา อลงฺกาโร วิย โหนฺตีติ อาห ‘‘โอภาสาทิปฏิมณฺฑิตายา’’ติ. อาลยนฺติ อเปกฺขํ. สุขุมา, สนฺตาการาติ สุขุมาการา, สนฺตาการา จ, สา จสฺสา สุขุมสนฺตาการตา ภาวนาย สาติสยปฺปวตฺติยา, ยโต กิเลสภาโวปิสฺสา ทุวิฺเยฺโย โหติ. เตนาห ‘‘ยา นิกนฺติ กิเลโสติ…เป… โหตี’’ติ.

เอเตสุปีติ ยถาทสฺสิเตสุ าณาทีสุปิ. ‘‘อฺตรสฺมึ อุปฺปนฺเน’’ติ อิทํ อุปฺปนฺเน อฺตรสฺมึ ‘‘มคฺคปฺปตฺโตมฺหี’’ติอาทิคฺคหณทสฺสนตฺถํ วุตฺตํ, น อฺตรฺตรสฺเสว อุปฺปชฺชนโต. น วาปิ หิ อุปกฺกิเลสา เอกกฺขเณปิ อุปฺปชฺชนฺติ, ปจฺจเวกฺขณา ปน วิสุํ วิสุํ โหติ. ‘‘น วต เม อิโต ปุพฺเพ เอวรูปา นิกนฺติ อุปฺปนฺนปุพฺพา’’ติ อิทํ ธมฺมสภาวทสฺสนวเสน วุตฺตํ, น ปน ตทา โยคิโน ตถาจิตฺตปฺปวตฺติวเสน. น หิ โส ตทา ตํ ‘‘นิกนฺตี’’ติ ชานาติ, ตถา สติ ตพฺพิสยสฺส ‘‘มคฺคปฺปตฺโตมฺหี’’ติอาทิคฺคหณสฺส อสมฺภโว เอว. ตสฺมา เอวมสฺส สิยา ‘‘น วต เม เอวรูปา ภาวนาภิรติ อุปฺปนฺนปุพฺพา, อทฺธา มคฺคปฺปตฺโตมฺหี’’ติ.

๗๓๕. อุปกฺกิเลสวตฺถุตายาติ นิปฺปริยายโต ทิฏฺิมานตณฺหา อิธ อุปกฺกิเลสา เตสํ วตฺถุตาย อุปฺปตฺติฏฺานตาย. น สภาวโตติ อาห ‘‘น อกุสลตฺตา’’ติ. ยถา ปน โอภาสาทโย, เอวํ นิกนฺติปิ ทิฏฺิคาหาทีนํ านํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุปกฺกิเลสวตฺถุ จา’’ติ. วตฺถุวเสเนวาติ คาเห อนามสิตฺวา คาหานํ วตฺถุตาวเสเนว. อตฺตวาที หิ ‘‘อหํพุทฺธินิพนฺธโน’’ติ ปริกปฺปิโต อตฺตา โอภาสสฺส สามิภูโต ‘‘มมา’’ติ สามิวจนสฺส วิสยภาเวน คหิโตติ อาห ‘‘มม โอภาโส อุปฺปนฺโนติ คณฺหโต หิ ทิฏฺิคาโห’’ติ. โอภาสสฺส มนาปคฺคหณมุเขน เตน อตฺตานํ เสยฺยาทิโต ทหตีติ วุตฺตํ ‘‘มนาโป วต โอภาโส อุปฺปนฺโนติ คณฺหโต มานคาโห’’ติ. อสฺสาทยโตติ สมฺปิยายโต. เตสนฺติ ทิฏฺิคาหาทิสฺิตานํ อุปกฺกิเลสานํ วเสน. โอภาสาทีสูติ โอภาสาทินิมิตฺตํ. กมฺปนํ ยถารทฺธวิปสฺสนาย อฏฺตฺวา วิกฺเขปาปตฺติ, สา จ โอภาสาทีสุ ตณฺหาทิคาโหติ ทสฺเสนฺโต ‘‘โอภาสาทีสุ กมฺปติ…เป… สมนุปสฺสตี’’ติ อาห.

โอภาสนิมิตฺตํ จิตฺตํ วิกมฺปตีติ สมฺพนฺโธ. โอภาเส วา วิสยภูเต อุปกฺกิเลเสหิ จิตฺตํ วิกมฺปตีติ โยชนา. เตนาห ‘‘เยหิ จิตฺตํ ปเวธตี’’ติ. เสเสสุปิ เอเสว นโย. อุปฏฺาเนติ สติยํ. อุเปกฺขาย จาติ วิปสฺสนุเปกฺขาย จ.

มคฺคามคฺคววตฺถานกถาวณฺณนา

๗๓๖. กุสโล ปนาติอาทีสุ กมฺมฏฺานโกสลฺลโยเคน กุสโล. ปริปกฺกาณตาย ปณฺฑิโต. อาคมพฺยตฺติยา พฺยตฺโต. อุปกฺกิเลสตพฺพิโสธเนสุ อาทีนวานิสํสาวโพธโยคโต พุทฺธิสมฺปนฺโน. อยํ โข โสติ โย โส อาจริเยน กมฺมฏฺานทานกาเล อุทยพฺพยาณุปฺปตฺติสมเย อุปฺปชฺชตีติ วุตฺโต, อยํ โข โส โอภาโส อุปฺปนฺโนติ อุปกฺกิเลสวตฺถุภาวววตฺถานํ ทสฺเสตฺวา อิทานิสฺส วิปสฺสนาย วิสยภาวูปนยนวิธึ ทสฺเสนฺโต ‘‘โส โข ปนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปมนเย อนิจฺจลกฺขณวิภาวนเมว ทสฺสิตํ, ตสฺมึ สิทฺเธ อิตรมฺปิ ลกฺขณทฺวยํ สิทฺธเมว โหติ. ทุติยนเย ปน โอภาสาทิเก นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกทิฏฺิคาหาทีนํ อุคฺฆาฏนสมุคฺฆาฏนปริยาทานวเสน มนสิการวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ โอภาโส อตฺตา ภเวยฺยา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อรูปสตฺตเก ‘‘สเจ สงฺขารา อตฺตา ภเวยฺยุ’’นฺติอาทิ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๒๑) สพฺพสงฺขารสงฺคณฺหนวเสน สามฺโต วุตฺตํ, อิธ โอภาสาทิวเสน สงฺขาเร วิภชฺช วุตฺตํ. เสโส มนสิการวิธิ ตตฺถ วุตฺตนโยวาติ อาห ‘‘สพฺพํ อรูปสตฺตเก วุตฺตนเยน วิตฺถาเรตพฺพ’’นฺติ.

โอภาสํ ‘‘เนตํ มมา’’ติ สมนุปสฺสนฺโต ตณฺหาคาหโต จิตฺตํ วิโสเธติ, ‘‘เนโสหมสฺมี’’ติ สมนุปสฺสนฺโต มานคาหโต, ‘‘น เมโส อตฺตา’’ติ สมนุปสฺสนฺโต ทิฏฺิคาหโต. เตนาห ‘‘โอภาสํ เนตํ มมา’’ติอาทิ. เอส นโย าณาทีสุปิ.

อิมานิ ทส านานีติ อิมานิ ยถาวุตฺตานิ โอภาสาทีนิ ทส อุปกฺกิเลสการณานิ. ปฺา ยสฺส ปริจฺจิตาติ ยสฺส โยคิโน ปฺา โอภาสาทีสุ อนิจฺจตาทิคฺคหณวเสน ปริจิตวตี ปริคฺคเหตฺวา อุปปริกฺขิตฺวา ิตา. ธมฺมุทฺธจฺจสฺส สมคฺคภาวชานเนน ธมฺมุทฺธจฺจกุสโล โหติ.

วีถิปฏิปนฺนนฺติ อุทยพฺพยานุปสฺสนาวเสน วิปสฺสนาวีถิปฏิปนฺนํ.

ทิฏฺิวิสุทฺธิยนฺติ ทิฏฺิวิสุทฺธิยํ อธิคตายํ, ทิฏฺิวิสุทฺธิาเณน วา ทิฏฺิยา วิโสธเน ทุกฺขสจฺจสฺส ววตฺถานํ กตํ โหติ ทุกฺขสจฺจปริยาปนฺนสฺส นามรูปสฺส ววตฺถานโต. นามรูปสฺส ปจฺจยา นามรูปสมุทยปกฺขิยาติ อาห ‘‘กงฺขา…เป… สมุทยสจฺจสฺส ววตฺถานํ กต’’นฺติ. อภิธมฺมนเยน หิ สพฺพกิเลสา, กมฺมฺจ สมุทยสจฺจํ. อิมิสฺสนฺติ อิมายํ. สมฺมาติ อวิปรีตํ. มคฺคสฺสาติ อริยมคฺคสฺส อุปายภูตมคฺคสฺส.

มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ วีสติมปริจฺเฉทวณฺณนา.