📜

๒๑. ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา

อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยาณกถาวณฺณนา

๗๓๗. วิปสฺสนาจารสฺส มตฺถกปฺปตฺติยา สงฺขารุเปกฺขาาณํ สิขาปฺปตฺตา วิปสฺสนา. สิขาปฺปตฺติ ปนสฺส อุทยพฺพยาณาทีนํ อตฺตฏฺมานํวเสน ชาตาติ อาห ‘‘อฏฺนฺนํ ปน าณานํ วเสน สิขาปฺปตฺตา วิปสฺสนา’’ติ. โอฬาริโกฬาริกสฺส สจฺจปฏิจฺฉาทกโมหตมสฺส วิคมเนน สจฺจปฺปฏิเวธานุกูลตฺตา ‘‘สจฺจานุโลมิกาณ’’นฺติ อนุโลมาณมาห. ตานิ ปน าณานิ สรูปโต ทสฺเสตุํ ‘‘อฏฺนฺนนฺติ จา’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ อุทยพฺพยทสฺสเนน สงฺขารานํ อนิจฺจลกฺขณํ, ตทนุสาเรน อิตรลกฺขณานิ จ วิภาเวนฺตีเยว อุทยพฺพยานุปสฺสนา ปวตฺตตีติ กตฺวา ‘‘วีถิปฏิปนฺนวิปสฺสนาสงฺขาตํ อุทยพฺพยานุปสฺสนาาณ’’นฺติ วุตฺตนฺติ เกจิ. ตยิทํ ตสฺส สพฺพโส ตีรณปริฺาภาวเมว มฺมาเนหิ วุตฺตํ. กิฺจาปิ หิ อุทยพฺพยาณํ ตีรณปริฺนฺโตคธเมว, อุทยพฺพยาทีนํ ปน ชานนฏฺเน, ปจฺจกฺขโต ทสฺสนฏฺเน จ าณทสฺสนานิ, อุทยพฺพยาณาทีนิ. ตานิเยว ปฏิปกฺขโต วิสุทฺธตฺตา าณทสฺสนวิสุทฺธิ, สา เอว อริยมคฺโค ปฏิปชฺชติ เอตายาติ ปฏิปทา จาติ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ วุตฺตํ. ตํ ปน อุปฺปนฺนมตฺตํ อปฺปคุณํ สนฺธาย วุตฺตํ. ปคุณฺหิ นิจฺจสฺาทิปหานสิทฺธิยา ปหานปริฺาย อธิฏฺานภูตํ. ยโต ตทวิคเมน อฏฺารสสุ มหาวิปสฺสนาสุ เอกจฺจา อธิคตา เอว โหนฺติ. น หิ อุทยพฺพยานํ ปจฺจกฺขโต ปฏิเวเธน วินา สามฺาการานํ ตีรณมตฺเตน สาติสยํ ปฏิปกฺขปหานํ สมฺภวติ. อสติ จ ปฏิปกฺขปหาเน กุโต าณาทีนํ วชิรมิว อวิหตเวคตา, ติขิณวิสทาทิตา วา. ตสฺมา ปคุณภาวปฺปตฺตํ อุทยพฺพยาณํ ปหานปริฺาปกฺขิยเมว ทฏฺพฺพํ. สพฺพสงฺขารานํ ภงฺคสฺเสว อนุปสฺสนา ภงฺคานุปสฺสนา, ตเทว าณํ ภงฺคานุปสฺสนาาณํ. ยถาภูตทสฺสาวี ภายติ เอตสฺมาติ ภยํ, เตภูมกธมฺมา, เตสุ ภยโต อุปฏฺิเตสุ ภายิตพฺพาการคาหิาณํ ภยตุปฏฺานาณํ. มุฺจิตุํ อิจฺฉตีติ มุฺจิตุกมฺยํ, จิตฺตํ, ปุคฺคโล วา, ตสฺส ภาโว มุฺจิตุกมฺยตา , ตเทว าณํ มุฺจิตุกมฺยตาาณํ. ปุน ปฏิสงฺขานากาเรน ปวตฺตํ าณํ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ. นิรเปกฺขตาย สงฺขารานํ อุเปกฺขนวเสน ปวตฺตาณํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ. ตสฺมาติ ยสฺมา อุปกฺกิเลสวิมุตฺตํ อุทยพฺพยาณาทินววิธาณํ ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธิ, ตสฺมา.

๗๓๘. ‘‘อุปกฺกิเลสวิมุตฺต’’นฺติ วิเสสเนน วิภาวิตมตฺถํ อนวพุชฺฌนฺโต โจทโก ‘‘ปุน อุทยพฺพยาเณ โยโค กิมตฺถิโย’’ติ ปุจฺฉติ. ตตฺถ กิมตฺถิโยติ กึ ปโยชโน นิรตฺถโก, ปเคว นิพฺพตฺติตตฺตา ปกฺกสฺส ปจนํ วิยาติ อธิปฺปาโย. อถ วา ลกฺขณสลฺลกฺขณาทิเหตุปฏิปาฏิคฺคหณวเสน ตมตฺถํ าเปตุกาโม อาจริโยว กเถตุกมฺยตาวเสน ‘‘กิมตฺถิโย’’ติ ปุจฺฉติ. ลกฺขณสลฺลกฺขณตฺโถติ อนิจฺจาทิลกฺขณานํ สมฺมเทว อุปธารณตฺโถ. ตตฺถ การณํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อุทยพฺพยาณํ หี’’ติอาทิมาห. นนุ จ อุทยพฺพยาณํ นาม สงฺขารานํ อุทยพฺพยเมว ปสฺสติ, น อนิจฺจาทิลกฺขณตฺตยํ, เตน กถํ อนิจฺจตาทิลกฺขณตฺตยสลฺลกฺขณํ โหตีติ? น โข ปเนตํ เอวํ ทฏฺพฺพํ ‘‘อุทยพฺพยาณํ ลกฺขณตฺตยวิสยํ โหตี’’ติ. อุทยพฺพเย ปน ปฏิวิทฺเธ อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ตโต ‘‘ยทนิจฺจํ, ตํ ทุกฺขํ. ยํ ทุกฺขํ, ตทนตฺตา’’ติ (สํ. นิ. ๓.๑๕; ๔๕, ๗๗; ๔.๑, ๔; ปฏิ. ม. ๒.๑๐) อิตรลกฺขณมฺปิ. อถ วา อุทยพฺพยคฺคหเณน หุตฺวา อภาวากาโร, อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนากาโร, อวสวตฺตนากาโร จ วิภูตตโร โหตีติ การณภาเวน อุทยพฺพยาเณ โยคสฺส ลกฺขณตฺตยสลฺลกฺขณตฺถตา เวทิตพฺพา, น สมฺมุเขเนว. เหฏฺาติ มคฺคามคฺคาณทสฺสนวิสุทฺธิโต เหฏฺา. ตฺหิ โอภาสาทิอุปฺปตฺติเหตุตาย ติกฺขํ วิสทํ หุตฺวา ปวตฺตมฺปิ ทิฏฺิอาทีหิ อุปกฺกิลิฏฺตฺตา กุณฺํ อวิสทเมว ชาตํ. เตนาห ‘‘ทสหิ…เป… นาสกฺขี’’ติ.

๗๓๙. อมนสิการาติ เหตุมฺหิ นิสฺสกฺกวจนํ. ‘‘กิสฺส อมนสิการา’’ติ หิ อิทํ ‘‘เกน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา’’ติ ปุจฺฉิตสฺส ปฏิจฺฉาทกสฺส เหตุปุจฺฉา. สนฺตติยา หิสฺส ปฏิจฺฉนฺนตฺตา อนิจฺจลกฺขณํ น อุปฏฺาติ, สา จ สนฺตติ อุทยพฺพยามนสิกาเรน ปฏิจฺฉาทิกา ชาตา. อิริยาปเถหิ ปฏิจฺฉนฺนตฺตา ทุกฺขลกฺขณํ น อุปฏฺาติ, เต จ อิริยาปถา อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนามนสิกาเรน ปฏิจฺฉาทกา ชาตา. ฆเนน ปฏิจฺฉนฺนตฺตา อนตฺตลกฺขณํ น อุปฏฺาติ, เต จ ฆนา นานาธาตุวินิพฺโภคามนสิกาเรน ปฏิจฺฉาทกา ชาตาติ. อุทยพฺพยํ ปสฺสโต น อุทยาวตฺถา วยาวตฺถํ ปาปุณาติ, วยาวตฺถา วา อุทยาวตฺถํ. อฺโว อุทยกฺขโณ, อฺโว วยกฺขโณติ เอโกปิ ธมฺโม ขณวเสน เภทโต อุปฏฺาติ, ปเคว อตีตาทิโกติ อาห ‘‘อุทยพฺพยํ ปน…เป… อุปฏฺาตี’’ติ. ตตฺถ สนฺตติยา วิโกปิตายาติ ปุพฺพาปริเยน ปวตฺตมานานํ ธมฺมานํ อฺโฺภาวสลฺลกฺขเณน สนฺตติยา อุคฺฆาฏิตาย. น หิ สมฺมเทว อุทยพฺพยํ สลฺลกฺเขนฺตสฺส ธมฺมา สมฺพนฺธภาเวน อุปฏฺหนฺติ, อถ โข อโยสลากา วิย อสมฺพนฺธภาเวนาติ สุฏฺุตรํ อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏํ โหติ.

อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนํ มนสิ กตฺวาติ ยถาปริคฺคหิตอุทยพฺพยวเสน สงฺขารานํ นิรนฺตรํ ปฏิปีฬิยมานตํ วิพาธิยมานตํ มนสิ กริตฺวา. อิริยาปเถ อุคฺฆาฏิเตติ อิริยาปเถ ลพฺภมานทุกฺขปฏิจฺฉาทกภาเว อุคฺฆาฏิเต. เอกสฺมิฺหิ อิริยาปเถ อุปฺปนฺนสฺส ทุกฺขสฺส วิโนทกํ อิริยาปถนฺตรํ ตสฺส ปฏิจฺฉาทกํ วิย โหติ, เอวํ เสสาปีติ อิริยาปถานํ ตํตํทุกฺขปฏิจฺฉาทกภาเว ยาถาวโต าเต เตสํ ทุกฺขปฏิจฺฉาทกภาโว อุคฺฆาฏิโต นาม โหติ สงฺขารานํ นิรนฺตรํ ทุกฺขาภิตุนฺนตาย ปากฏภาวโต. เตนาห ‘‘ทุกฺขลกฺขณํ ยาถาวสรสโต อุปฏฺาตี’’ติ. นานาธาตุโยติ นานาวิธา ปถวีอาทิธาตุโย นานาวิเธ สภาวธมฺเม. วินิพฺภุชิตฺวาติ ‘‘อฺา ปถวีธาตุ, อฺา อาโปธาตู’’ติอาทินา, ‘‘อฺโ ผสฺโส, อฺา เวทนา’’ติอาทินา จ วิสุํ วิสุํ กตฺวา. ฆนวินิพฺโภเค กเตติ สมูหฆเน, กิจฺจารมฺมณฆเน จ ปเภทิเต. ยา เหสา อฺมฺูปตฺถทฺเธสุ สมุทิเตสุ รูปารูปธมฺเมสุ เอกตฺตาภินิเวสวเสน อปริมทฺทิตสงฺขาเรหิ คยฺหมานา สมูหฆนตา, ตถา เตสํ เตสํ ธมฺมานํ กิจฺจเภทสฺส สติปิ ปฏินิยตภาเว เอกโต คยฺหมานา กิจฺจฆนตา, ตถา สารมฺมณธมฺมานํ สติปิ อารมฺมณกรณเภเท เอกโต คยฺหมานา อารมฺมณฆนตา จ, ตา ธาตูสุ าเณน วินิพฺภุชิตฺวา ทิสฺสมานา หตฺเถน ปริมชฺชิยมาโน เผณปิณฺโฑ วิย วิลยํ คจฺฉนฺติ, ‘‘ยถาปจฺจยํ ปวตฺตมานา สุฺา เอเต ธมฺมา ธมฺมมตฺตา’’ติ อนตฺตลกฺขณํ ปากฏตรํ โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘นานาธาตุโย…เป… อุปฏฺาตี’’ติ.

๗๔๐. ธุวภาวปฏิกฺเขปโต น นิจฺจนฺติ อนิจฺจํ, ขนฺธปฺจกํ. ยถาห ‘‘รูปํ โข, ราธ, อนิจฺจํ, เวทนา… สฺา… สงฺขารา… วิฺาณํ อนิจฺจ’’นฺติ (สํ. นิ. ๓.๑๗๒). ตตฺถ การณํ วทนฺโต ‘‘อุปฺปาทวยฺถตฺตภาวา’’ติ อาห. อุปฺปาโท นิพฺพตฺติลกฺขณํ, วโย วิปริณามลกฺขณํ, อฺถตฺตํ ชรา, เตสํ สพฺภาวโตติ อตฺโถ. หุตฺวา อภาวโตติ อุปฺปชฺชิตฺวา วินสฺสนโต. เอตฺถ จ ปุริเมน ชาติชรามรณสพฺภาวโต อนิจฺจนฺติ ทสฺเสติ, ทุติเยน ปากภาววิทฺธํสาภาวโต. ยสฺส ภาเวน ขนฺธปฺจกํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ วุจฺจติ, ตํ อนิจฺจลกฺขณนฺติ ทสฺเสตุํ ‘‘อุปฺปาทวยฺถตฺต’’นฺติอาทิ วุตฺตํ. เตน หิ ตํ ‘‘อนิจฺจ’’นฺติ ลกฺขียติ. อาการวิกาโรติ อาการวิกติ. อภาวากาโร หิ วิกติรูเปน ลพฺภติ, วิรูปตฺตา น อุปฺปาทากาโร. อาการวิกาโรติ วา อาการวิเสโส. หุตฺวา อภาโว หิ ปากภาวโต ภินฺโน วิทฺธํสาภาวตฺตา ตตฺถ จ อนิจฺจลกฺขณํ นิรุฬฺหํ. อนิจฺจากาโร หิ ทุกฺขานตฺตากาเรหิ วิย อุปฺปาทาการโต จ วิสิฏฺโ. ตถา หิ สทฺทสฺส วิทฺธํสาภาโว สงฺขตภาเวนปิ สาธียติ.

สงฺขตภาโว จ อตฺถโต อุปฺปาทวนฺตตา. อุปฺปาโท จ ปากภาวสาธิตา ธรมานาวตฺถา. อิมินา นเยน ทุกฺขานตฺตาลกฺขณานิ เวทิตพฺพานิ. อปิจ ยถา นิจฺจปฏิกฺเขปโต อนิจฺจนฺติ นิจฺจาการปฏิกฺเขปโต ยถาวุตฺโต อภาวาการสงฺขาโต อนิจฺจากาโร อนิจฺจลกฺขณํ, เอวํ สุขปฏิกฺเขปโต ทุกฺขนฺติ สุขาการปฏิกฺเขปโต อภิณฺหปฏิปีฬนาการสงฺขาโต ทุกฺขากาโร ทุกฺขลกฺขณํ, ตถา อตฺตปฏิกฺเขปโต อนตฺตาติ อตฺตาการปฏิกฺเขปโต อวสวตฺตนาการสงฺขาโต อนตฺตากาโร อนตฺตลกฺขณนฺติ ทฏฺพฺพํ. เต ยิเม ตโยปิ อาการา อสภาวธมฺมตฺตา ขนฺธปริยาปนฺนา น โหนฺติ. ขนฺเธหิ วินา อนุปลพฺภนียโต ขนฺธวินิมุตฺตาปิ น โหนฺติ. ขนฺเธ ปน อุปาทาย โวหารวเสน ลพฺภมานา ตทาทีนววิภาวนาย วิเสสการณภูตา ตชฺชาปฺตฺติวิเสสาติ เวทิตพฺพา.

ตยิทํ สพฺพมฺปีติ ยถาวุตฺตลกฺขณตฺตยฺเจว ลกฺขิตพฺพฺจ ขนฺธปฺจกํ. ‘‘อุทยพฺพยานุปสฺสนาาเณน ยาถาวสรสโต สลฺลกฺเขตี’’ติ อิทํ ตทตฺเถ ตพฺโพหารวเสน วุตฺตํ. อุทยพฺพยาณตฺถฺหิ ลกฺขณารมฺมณิกวิปสฺสนา ‘‘อุทยพฺพยาณ’’นฺติ กถิตา. น หิ อุทยพฺพยาณํ ทุกฺขลกฺขณาทิวิสยํ . ตพฺพิสยตฺเต วา อุทยพฺพยาณเมว น สิยา, อุทยพฺพยาณํ ปน ติกฺขํ, วิสทฺจ กาตุกาเมน ลกฺขณตฺตยตีรณเมว กาตพฺพํ. ปริกมฺมสทิสฺเหตํ ตสฺส. เอส นโย เสสาเณสุปีติ.

อุปกฺกิเลสวิมุตฺตอุทยพฺพยาณํ นิฏฺิตํ.

ภงฺคานุปสฺสนาาณกถาวณฺณนา

๗๔๑. วหตีติ ปวตฺตติ. าณสฺส ติกฺขภาโว ภาวนาย ปคุณภาเวน. ปคุณา จ ภาวนา วิกฺเขปาภาวโต อารมฺมเณ อปฺปิตา วิย ปวตฺตตีติ าณสฺส ติกฺขภาเวน สงฺขารานํ ลหุอุปฏฺานตา ทสฺสิตา. สงฺขาเรสุ ปน อุทยพฺพยวเสน ลหุํ ลหุํ อุปฏฺหนฺเตสุ อุทยทสฺสนฺจ ‘‘อุปฺปาทวโต วินาโส’’ติ ยาวเทว วยทสฺสนตฺถํ ตสฺส นิพฺพิทาวหตฺตาติ วเย เอวสฺส อาโภคสมนฺนาหาโร มนสิกาโร ปวตฺตติ, เตน อุปฺปาทาทึ มุฺจิตฺวา วยเมวารพฺภ าณํ อุปฺปชฺชติ. เตน วุตฺตํ ‘‘อุปฺปาทํ วา’’ติอาทิ. ตตฺถ อุปฺปาทนฺติ นิพฺพตฺติวิการํ. ิตินฺติ ิติปฺปตฺตํ, ชรนฺติ อตฺโถ. ปวตฺตนฺติ อุปาทินฺนกปฺปวตฺตํ. นิมิตฺตนฺติ สงฺขารนิมิตฺตํ. ยํ สงฺขารานํ สมุทยาทิฆนวเสน, สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สวิคฺคหานํ วิย อุปฏฺานํ, ตํ สงฺขารนิมิตฺตํ. เกจิ ปน ‘‘ปวตฺตํ นาม สงฺขารานํ อวิจฺเฉเทน ปวตฺตนํ อุปฺปาโทว, นิมิตฺตํ นาม อุปฺปนฺนานํ วิชฺชมานตา านปรมฺปรา, ตสฺมา อุปฺปาทเมว คณฺหาติ เจ, ปวตฺตํ คณฺหาติ นาม. ิตึเยว คณฺหาติ เจ, นิมิตฺตํ คณฺหาติ นามา’’ติ วทนฺติ, ตํ ‘‘อุปฺปาทํ วา’’ติอาทิวจเนน วิรุชฺฌติ. น หิ อสติ เภเท วิกปฺโป ยุตฺโต. น สมฺปาปุณาติ อคฺคหณโต. กึ ปน สมฺปาปุณาตีติ อาห ‘‘ขย…เป… สนฺติฏฺตี’’ติ. ตตฺถ นิโรธสทฺโท อนุปฺปาเทปิ ทิสฺสตีติ เภทสทฺเทน วิเสสิตํ, เภทสทฺโท วิเสสวาจโกปิ โหตีติ วยสทฺเทน วิเสสิตํ, โสปิ อนิโรธวาจโกปิ อตฺถีติ ขยสทฺเทน วิเสสิตํ, ขยวยเภทสงฺขาเต ขณิกนิโรเธติ อตฺโถ. สติ สนฺติฏฺตีติ สติสีเสน าณมาห. เอตสฺมึ าเนติ อุปกฺกิเลสวินิมุตฺตสฺส อุทยพฺพยาณสฺส ติกฺขภาวาปตฺติยํ วุตฺตนเยน อุทยมฺปิ มุฺจิตฺวา วยสฺเสว มนสิการกาเล.

อารมฺมณปฏิสงฺขาติ รูปเวทนาทิอารมฺมณํ ขยวยวเสเนว ปฏิสงฺขาย. ยการโลเปน หิ นิทฺเทโส ‘‘สยํ อภิฺา’’ติอาทีสุ (ที. นิ. ๑.๒๘, ๔๐๕) วิย. ยถาวุตฺตสฺส วา อารมฺมณสฺส ขยวยเภทวเสน ปฏิสงฺขา อารมฺมณปฏิสงฺขา. ภงฺคานุปสฺสเนติ โย ตทารมฺมณสฺส จิตฺตสฺส ภงฺโค, ตสฺส อนุปสฺสเน. ปฺาติ ปการโต ชานนา. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ อิทาเนว สํวณฺณียติ.

๗๔๒. ยํ กิฺจิ อารมฺมณนฺติ รูปํ ยาว ชรามรณนฺติ วิปสฺสิตพฺพภาเวน คหิตํ สพฺพํ สงฺขารคตมาห . ปฏิสงฺขานํ นาม ชานนํ, ตฺจ ภงฺคานุปสฺสนาย อธิปฺเปตตฺตา ภงฺคโต ทสฺสนเมวาติ อาห ‘‘ชานิตฺวา ขยโต วยโต ทิสฺวาติ อตฺโถ’’ติ. ตสฺส าณสฺสาติ สมฺพนฺโธ.

รูปารมฺมณเมว รูปารมฺมณตา ยถา ‘‘เทโว เอว เทวตา’’ติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปารมฺมณํ จิตฺต’’นฺติ วุตฺตํ. รูปารมฺมณตาติ วา ภุมฺมตฺเถ ปจฺจตฺตวจนนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘อถ วา รูปารมฺมณภาเว’’ติ อาห. อปเรน จิตฺเตน ภงฺคํ อนุปสฺสตีติ วิปสฺสนาวิสยํ ภงฺคานุปสฺสนมาห. เอวฺหิ ภงฺคานุปสฺสนา ปคุณา โหติ, อารมฺมณฺจสฺส วิภูตตรํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. าตนฺติ อารมฺมณมาห อนุปสฺสนาวเสน าตตฺตา. าณนฺติ อนุปสฺสนาาณํ. อุโภปิ วิปสฺสตีติ ตทุภยมฺปิ ขยโต วยโต วิปสฺสตีติ. อยํ เหตฺถ สงฺเขปตฺโถ – รูปสฺส ยาว ชรามรณสฺส ขยโต วยโต ทสฺสนํ อารมฺมณปฏิสงฺขาตํ, ทสฺสนกาณสฺส ขยโต วยโต ทสฺสนํ อารมฺมณปฏิสงฺขาย ภงฺคสฺส อนุปสฺสนนฺติ อุภยตฺถ ปฺา. ปุริมํ วา ตทภาเว อภาวโต ปจฺฉิมายํ ปกฺขิปิตฺวา ปจฺฉิมา เอว ปฺา วิปสฺสเน าณนฺติ.

เอตฺถาติ ‘‘ตสฺส จิตฺตสฺส…เป… ภงฺคํ อนุปสฺสตี’’ติ เอตฺถ. อเนเกหิ อากาเรหีติ อนิจฺจโต อนุปสฺสนาทีหิ อเนเกหิ อากาเรหิ. อนุ-สทฺโท ‘‘ภิยฺโย’’ติ เอตสฺมึ อตฺเถติ อาห ‘‘ปุนปฺปุนํ ปสฺสตี’’ติ.

อิธ สงฺขตธมฺโม นาม ชาติชรามรณปกติโก, ตสฺส ชาติ อาทิโกฏิ, ชรา มชฺฌิมโกฏิ, มรณํ โอสานโกฏิ. ตตฺถ กิฺจาปิ อุปฺปาทาทิติวิธมฺปิ สงฺขตลกฺขณตาย อนิจฺจลกฺขณํ, ตถาปิ ชาติชราสุ ทิฏฺาสุ น ตถา อนิจฺจลกฺขณํ ปากฏํ หุตฺวา อุปฏฺาติ ยถา วยกฺขเณติ อาห ‘‘ภงฺโค นาม อนิจฺจตาย ปรมา โกฏี’’ติ, อุตฺตมา โกฏิ ปริโยสานโกฏีติ อตฺโถ. ยถา หิ ชราธมฺมํ, มรณธมฺมเมว จ ชายตีติ ชาติ อนิจฺจตาย อาทิ โกฏิ, ตถา ชาติธมฺมํ, มรณธมฺมเมว จ ชีรตีติ ชรา มชฺฌิมา โกฏิ, ชาติธมฺมํ, ชราธมฺมเมว จ ภิชฺชตีติ ภงฺโค ปรมา โกฏีติ. อนิจฺจโต อนุปสฺสตีติ น กลาปโต สมฺมสนฺโต วิย ‘‘อนิจฺจํ ขยฏฺเนา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๔๘) อนุมานวเสน, นาปิ อารทฺธวิปสฺสโก วิย อุทยคฺคหณปุพฺพกวยทสฺสนวเสน, อถ โข อุทยพฺพยาณานุภาเวน ปจฺจกฺขโต อุปฏฺิเตสุ อุทยวเยสุ วุตฺตนเยน อุทยํ มุฺจิตฺวา ภงฺคทสฺสนวเสเนว อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, เอวํ อนุปสฺสโต ปนสฺส นิจฺจคาหสฺส เลโสปิ นตฺถีติ อาห ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ. ตถา เหส นิจฺจสฺํ ปชหตีติ วุจฺจติ. เอตฺถ จ ‘‘อนิจฺจโต เอว อนุปสฺสตี’’ติ เอว-กาโร ลุตฺตนิทฺทิฏฺโติ เตน นิวตฺติตมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘โน นิจฺจโต’’ติ วุตฺตํ. น เจตฺถ ทุกฺขโต อนุปสฺสนาทินิวตฺตนมาสงฺกิตพฺพํ ปฏิโยคีนิวตฺตนปรตฺตา, เอว-การสฺส อุปริ เทสนารุฬฺหตฺตา จ ตาสํ. ทุกฺขโต อนุปสฺสตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย.

อนิจฺจโต ตาว อนุปสฺสนา ภงฺคานุปสฺสกสฺส ยุตฺตา ‘‘ภงฺโค นาม อนิจฺจตาย ปรมา โกฏี’’ติ, ทุกฺขาทิโต ปน กถนฺติ อาห ‘‘อนิจฺจสฺส ทุกฺขตฺตา’’ติอาทิ. เอเตน ยํ อนิจฺจํ, ตํ เอกนฺตโต ทุกฺขํ อนตฺตา, ตโต จ น อภินนฺทนิยาทิรูปํ. ตสฺมา อุปริ นิพฺพตฺเตตพฺพโต าณปริกมฺมตฺถฺจ อิตราสมฺปิ ฉนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน อนุปสฺสตีติ ทสฺเสติ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสติ, โน นิจฺจโตติอาทินา วิสุํ ทสฺสนกิจฺจํ นตฺถิ, ภงฺคทสฺสเนเนว สพฺพํ ทิฏฺํ โหตี’’ติ วทนฺติ, ตํ ภงฺคานุปสฺสนาย มตฺถกปฺปตฺติยํ ยุตฺตํ, ตโต ปน ปุพฺพภาเค อเนกาการโวการา อนุปสฺสนา อิจฺฉิตพฺพาว. อฺถา ‘‘อนิจฺจโต อนุปสฺสตี’’ติอาทิกา (ปฏิ. ม. ๑.๕๑) ปาฬิ, ‘‘อเนเกหิ อากาเรหิ ปุนปฺปุนํ ปสฺสตี’’ติ อาคตา ตสฺสา อฏฺกถา จ วิโรธิตา สิยา. ตเทว อนิจฺจโต ทิฏฺเมว สพฺพสงฺขารคตํ.

น ตํ อภินนฺทิตพฺพนฺติ ตํ สงฺขารคตํ ตณฺหาทิฏฺาภินนฺทนวเสน ‘‘เอตํ มม, เอโส เม อตฺตา’’ติ น อภินนฺทิตพฺพํ. น ตตฺถ รฺชิตพฺพนฺติ ตตฺถ สงฺขารคเต รฺชนวเสน น ปวตฺติตพฺพํ, กามราโค, ภวราโค วา น ปวตฺเตตพฺโพติ อตฺโถ. ราคํ นิโรเธตีติ ราคํ วิกฺขมฺภนนิโรธํ ปาเปติ, วิกฺขมฺเภตีติ อตฺโถ. เตนาห ‘‘โลกิเกเนว ตาว าเณนา’’ติ. สติ จ วิกฺขมฺภเน กถํ สมุทโยติ อาห ‘‘โน สมุเทติ, สมุทยํ น กโรตี’’ติ.

เอวํ วิรตฺโตติ เอวํ ภงฺคานุปสฺสนานุสาเรน วิรตฺโต. ยถา ทิฏฺํ สมฺปติ อุปฏฺิตํ สงฺขารคตํ นิโรเธติ นิโรธํ มนสิ กโรติ, อทิฏฺมฺปิ อตีตานาคตํ อนฺวยาณวเสน ยถา อิทํ เอตรหิ, เอวํ อิตเรปีติ อนุมินนฺโต นิโรเธติ มนสิกตสฺสาปิ นิโรธํ กโรติ. โน สมุเทตีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย, โน สมุทยํ มนสิ กโรตีติ อตฺโถ.

เอวํ ปฏิปนฺโนติ เอวํ วุตฺตปฺปกาเรน อนิจฺจานุปสฺสนาทิวเสน ปฏิปนฺโน. สทฺธึ ขนฺธาภิสงฺขาเรหิกิเลสานํ ปริจฺจชนโตติ ขนฺเธหิ, อภิสงฺขาเรหิ จ สห กิเลสานํ ปชหนโต. กิเลเส หิ ปชหนฺโต ตนฺนิมิตฺตกกมฺมํ, ตโต นิพฺพตฺตนเก ขนฺเธ จ ปชหติ นาม. สงฺขตโทสทสฺสเนนาติ สงฺขตธมฺเมสุ อนิจฺจทุกฺขตาทิอาทีนวทสฺสเนน. ตพฺพิปรีเตติ นิจฺจสุขาทิสภาเว. ตนฺนินฺนตายาติ ตทธิมุตฺตตาย. ปฏินิสฺสคฺคสทฺโท ปริจฺจาคตฺโถ, ปกฺขนฺทนตฺโถ จาติ ปฏินิสฺสคฺคสฺส ทุวิธตา วุตฺตา. ตตฺถ ปกฺขนฺทนํ อธิมุจฺจนํ. ยถาวุตฺเตนาติ ตทงฺคาทิปฺปหานปฺปกาเรน, ตนฺนินฺนปฺปกาเรน จ. นิพฺพตฺตนวเสนาติ อุปฺปาทนวเสน. นิพฺพตฺเตนฺโต หิ กิเลเส อาทิยตีติ เต อนิพฺพตฺเตนฺโต กิเลเส น อาทิยติ นาม. อโทสทสฺสิตาวเสนาติ โทสานํ อทสฺสาวิภาเวน. สงฺขตารมฺมณํ อาทิยตีติ โยชนา. อนาทีนวทสฺสิตาย หิ สงฺขาเร อาทิยตีติ อาทีนวทสฺสิตาย เต น อาทิยติ น คณฺหาติ.

๗๔๓. อสฺสาติ โยคิโน. เตหิ าเณหีติ อนิจฺจานุปสฺสนาทิาเณหิ. นฺติ ปหานํ. นิจฺจสฺนฺติ นิจฺจคาหํ, สฺาสีเสน นิทฺเทโส. สุขสฺํ อตฺตสฺนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สปฺปีติกํ ตณฺหนฺติ สอุปฺปิลาวิตํ อภิปตฺถนํ.

๗๔๔. ‘‘วตฺถุสงฺกมนา’’ติ เอตฺถ วิปสฺสนาย ปวตฺติฏฺานภาวโต รูปาทิอารมฺมณํ ‘‘วตฺถู’’ติ อธิปฺเปตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘รูปสฺสา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ สงฺกมนาติ วิปสฺสนาภาวสามฺโต เอกตฺตนเยน วุตฺตํ , อฺถา อฺเทว รูปภงฺควิสยํ าณํ, อฺเทว ตทารมฺมณจิตฺตภงฺควิสยนฺติ กุโต สงฺกมนา. ปฺาวิวฏฺฏนายปิ เอเสว นโย. ปฺายาติ อุทยพฺพยทสฺสนวเสน ปวตฺตมานาย วิปสฺสนาปฺาย. วยสฺเสว คหณวเสน อุทยโต วินิวฏฺฏนา. เตนาห ‘‘อุทยํ ปหาย วเย สนฺติฏฺนา’’ติ. ‘‘อนนฺตรเมว อาวชฺชนสมตฺถตา’’ติ อิมินา ภงฺคานุปสฺสนาย ปคุณพลวภาวมาห.

๗๔๕. อุโภติ ทิฏฺาทิฏฺภาเวน ทฺเวปิ อารมฺมณานิ. เอกววตฺถนาติ ขณภงฺคุรตาย สมานาติ ววตฺถาปนา.

สํวิชฺชมานมฺหีติ ปจฺจกฺขโต อุปลพฺภมาเน ปจฺจุปฺปนฺเน. วิสุทฺธทสฺสโนติ ภงฺคทสฺสนสฺส ปริพนฺธวิธมเนน วิสุทฺธาโณ, สุวิสุทฺธภงฺคทสฺสโนติ อตฺโถ. ตทนฺวยํ เนตีติ ตสฺส ปจฺจุปฺปนฺนสงฺขารภงฺคทสฺสิโน าณสฺส อนฺวยํ อนุคตภูตํ าณํ ปวตฺเตติ. กตฺถ ปน ปวตฺเตตีติ อาห ‘‘อตีตนาคเต’’ติ, อตีเต, อนาคเต จ สงฺขารคเต. สพฺเพปีติอาทิ ตสฺส ปวตฺตนาการทสฺสนํ.

ภงฺคสงฺขาเต นิโรเธ, น นิพฺพานสงฺขาเตติ อธิปฺปาโย. เอสาติ ยา อารมฺมณนฺวเยน อุโภ ทิฏฺาทิฏฺเ ขณภงฺคุรตาย เอกภาเวน ววตฺถาปนา, เอสา วยลกฺขเณ วิปริณามลกฺขเณ วิปสฺสนา ภงฺคานุปสฺสนาติ อตฺโถ.

๗๔๖. อารมฺมณฺจ ปฏิสงฺขาติอาทิ ภงฺคานุปสฺสนาย ทุปฺปฏิวิชฺฌตฺตา วุตฺตสฺเสวตฺถสฺส ทฬฺหีกรณํ. ตยิทํ ภงฺคทสฺสนํ สงฺขารานํ อวสวตฺตนาวโพธเนน อนตฺตลกฺขณปฏิเวธายาติ ตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สุฺโต จ อุปฏฺาน’’นฺติ อาห. อารมฺมณสฺส หิ ภงฺคารมฺมณจิตฺตสฺส จ ภงฺคมนุปสฺสโต วิเสสโต สงฺขารา สุฺา หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. เตนาห ‘‘ตสฺเสว’’นฺติอาทิ.

น จตฺถิ อฺโติ เอตฺถ อิมสฺมึ โลเก อฺโ ขนฺธวินิมุตฺโต อตฺตา นาม โกจิ นตฺถิ. เตสํ ขยํ ปสฺสตีติ เตสํ ธมฺมานํ ขเณ ขเณ อุปฏฺหนฺตํ ภงฺคํ ปสฺสติ. ยถาวุตฺตาย อปฺปมาทปฏิปตฺติยา อปฺปมตฺโต. ยถา กึ? มณึว วิชฺฌํ วชิเรน โยนิโส ยถา นาม กุสโล ปุริโส อุปาเยน มณึ วิชฺฌนฺโต มณิสฺส ฉิทฺทเมว ปสฺสติ มนสิ กโรติ , น มณิสฺส วณฺณาทึ, เอวเมว สงฺขารานํ นิรนฺตรํ ภงฺคเมว โยนิโส มนสิ กโรติ, น สงฺขาเรติ อธิปฺปาโย. ยถา วา วชิเรน มณึ วิชฺฌนฺตสฺส วิทฺธฏฺานํ น ปุน รุหติ, เอวํ วชิรสทิเสน ภงฺคานุปสฺสนาาเณน ภงฺเค ทิฏฺเ น ปุน นิจฺจคาโห รุหติ, เอวํ ภงฺคเมว ปสฺสตีติ อตฺโถ.

ยา จ อารมฺมณปฏิสงฺขาติ ‘‘รูปารมฺมณตา จิตฺตํ อุปฺปชฺชิตฺวา ภิชฺชติ, ตํ อารมฺมณํ ปฏิสงฺขา’’ติ (ปฏิ. ม. ๑.๕๑) เอวมาคตา ยา จ อารมฺมณปฏิสงฺขา, ‘‘ตสฺส จิตฺตสฺส ภงฺคํ อนุปสฺสตี’’ติ เอวํ วุตฺตา ยา จ ภงฺคานุปสฺสนา, ‘‘สงฺขาราว ภิชฺชนฺติ, เตสํ เภโท มรณํ, น อฺโ โกจิ อตฺถี’’ติ เอวํ วุตฺตํ ยฺจ สุฺโต อุปฏฺานํ, อยํ เอวํ ติธา วุตฺตาปิ อธิปฺาวิปสฺสนา นามาติ อตฺโถ.

๗๔๗. อนิจฺจานุปสฺสนาทีสูติ อนิจฺจทุกฺขานตฺตานุปสฺสนาสุ. นิพฺพิทาทีสูติ นิพฺพิทาวิราคนิโรธปฏินิสฺสคฺคานุปสฺสนาสุ . ตโย อุปฏฺาเนติ อนิจฺจาทิวเสน ติวิเธ อุปฏฺาเน. ขยโต วยโต อุปฏฺานฺหิ อนิจฺจโต อุปฏฺานํ, ภยโต อุปฏฺานํ ทุกฺขโต, สุฺโต อุปฏฺานํ อนตฺตโตติ. ทิฏฺีสูติ ทิฏฺินิมิตฺตํ น เวธติ. ตา หิ อสํหีรตาย น จลติ.

๗๔๘. ทุพฺพลภาชนสฺส วิยาติ ตินฺตอามมตฺติกาภาชนสฺส วิย เภทเมว ปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถ จ ทุพฺพลภาชนูปมา สรสภิทุรตาทสฺสนตฺถํ, วิปฺปกิริยมานสุขุมรชูปมา อฺมฺํ อสมฺพนฺธตาทสฺสนตฺถํ, ภิชฺชิยมานติลูปมา ขเณ ขเณ ภิชฺชนกภาวทสฺสนตฺถนฺติ ทฏฺพฺพา. เภทเมวาติ วินาสเมว ปสฺสติ อุปฺปาทาทีนํ อคฺคหณโต. เอวเมวาติ ยถา อุทกพุพฺพุฬกานิ อุทกตลาทิปจฺจยํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนานิ น จิรฏฺิติกานิ สีฆํ สีฆํ ภิชฺชนฺติ, เอวเมว สพฺเพ รูปารูปธมฺมา กมฺมาทิปจฺจยํ ปฏิจฺจ อุปฺปนฺนา ขณฏฺิติกา สีฆํ สีฆํ ภิชฺชนฺตีติ เภทเมว ปสฺสติ. ตุริตตุริตฺหิ เนสํ เภททสฺสนตฺถํ ‘‘ภิชฺชนฺติ ภิชฺชนฺตี’’ติ อาเมฑิตวจนํ.

มรีจิปิ อิตฺตรกาลิกาว, นิสฺสยปพนฺธวเสน ปน จิรตรุปฏฺานนฺติ ‘‘ยถา ปสฺเส มรีจิก’’นฺติ วุตฺตํ, น อยาถาวุปฏฺานโตว. โลกนฺติ ขนฺธโลกํ. มจฺจุราชา น ปสฺสติ อรหตฺตาธิคเมน ปุนพฺภวาภาวโต.

๗๔๙. ภวทิฏฺิปฺปหานนฺติ สสฺสตทิฏฺิยา วิกฺขมฺภนํ. น หิ นิรนฺตรํ ภงฺคเมว ปสฺสโต สสฺสตทิฏฺิยา อวสโร อตฺถิ. ตโต เอว ชีวิเต นิราลยตฺตา ชีวิตนิกนฺติปริจฺจาโค. สทาติ สพฺพกาลํ รตฺตินฺทิวํ. ภาวนาย ยุตฺตปฺปยุตฺตตา. อิจฺฉาจารานํ ทูรีภาวโต วิสุทฺธาชีวิตา. อุสฺสุกฺกปฺปหานํ กิจฺจากิจฺเจสุ อพฺยาวฏตา ติพฺพสํเวคตฺตา. วิคตภยตา กุโตจิปิ นิพฺภยตา อตฺตสิเนหาภาวโต. ขนฺติโสรจฺจปฏิลาโภ อนิจฺจตาย สุทิฏฺตฺตา. ปนฺตเสนาสเนสุ อธิกุสเลสุ จ อรติยา, กามคุเณสุ รติยา จ สหนโต อภิภวนโต อรติรติสหนตา.

อิมานิ อฏฺคฺคุณมุตฺตมานีติ ลิงฺควิปลฺลาเสน วุตฺตํ. -กาโร จ ปทสนฺธิกโร, ภวทิฏฺิปฺปหานาทิเก อิเม อฏฺ อุตฺตมานิสํเสติ อตฺโถ. ตหินฺติ ตตฺถ ภงฺคานุปสฺสนายนฺติ อตฺโถ.

ภงฺคานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.

ภยตุปฏฺานาณกถาวณฺณนา

๗๕๐. สพฺพสงฺขารานนฺติ เตภูมกานํ สพฺพสงฺขารานํ. อธิการวเสน หิ ปเทสสพฺพวิสโย อิธ สพฺพสทฺโท. อาเสวนฺตสฺสาติ อาทรวเสน เสวนฺตสฺส ปวตฺเตนฺตสฺส. ภาเวนฺตสฺสาติ วฑฺเฒนฺตสฺส พฺรูเหนฺตสฺส. พหุลีกโรนฺตสฺสาติ ปุนปฺปุนํ กโรนฺตสฺส ยุฺชนฺตสฺส. ปเภทกาติ ขเณ ขเณ ภิชฺชนวเสน ปเภทกา. อาชีวิกา พฺยาธิอาทินิมิตฺตํ มริตุกามสฺส, อมริตุกามสฺสาปิ สูรสฺส ภายิตพฺพมฺปิ น ภยโต อุปฏฺาตีติ ‘‘สุเขน ชีวิตุกามสฺส ภีรุกปุริสสฺสา’’ติ วุตฺตํ. ยถา ภีรุกชาติกสฺส สีหาทโย สนฺตาสนิมิตฺตํ ภยานกภาวโต, ตถา โยคิโน ภงฺคโต ทิสฺสมานา สงฺขาราติ อาห ‘‘สีห…เป… อุปฏฺหนฺตี’’ติ. ปจฺจุปฺปนฺนาติ อทฺธาปจฺจุปฺปนฺนา โอฬาริกา ทีฆตรปพนฺธา, ขณปจฺจุปฺปนฺนา สุขุมตรา อิตฺตรกาลา, สนฺตติปจฺจุปฺปนฺนา มชฺฌิมา อิธ อาทิโต ปริคฺคเหตพฺพา. ภยโต ภายิตพฺพโต อุปติฏฺนเกสุ าณํ ภยตุปฏฺานาณํ.

ยถา อิตฺถิยา ปุตฺตานํ สีสสฺส ฉินฺนตา ฉิชฺชมานตา คยฺหมานา ภยาวหา, เอวํ โยคิโน ติยทฺธคตานํ สงฺขารานํ นิโรธา คยฺหมานาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกิสฺสา กิร อิตฺถิยา’’ติอาทิ วุตฺตํ.

ยถา ปูติภูตํ โอทนาทิ น สภาเวน ติฏฺติ วินสฺสติ, เอวํ ยสฺสา อิตฺถิยา วิชาตวิชาตา ปุตฺตา น ชีวนฺติ มรนฺติ เอว, สา ‘‘ปูติปชา’’ติ วุตฺตา. ปูติปชาคฺคหณฺเจตฺถ วิเสสโต คพฺภคตมรณจินฺตาทสฺสเนน โยคิโน อนาคตสงฺขารนิโรธสนฺนิฏฺานทสฺสนตฺถํ. อตีตปจฺจุปฺปนฺนสงฺขารนิโรโธ หิสฺส สุปากโฏ เอวาติ น โส อุปมาย สาเธตพฺโพ. อนฺติมภวิกสฺส จ โยคิโน สตฺตกฺขตฺตุํ ปรมาทิภาวิโน อตีเต ทุกฺขพหุตาย, อนาคตทุกฺขปริตฺตตาย จ ทสฺสนตฺถํ พหุปชาว อิตฺถี นิทสฺสิตา.

ตตฺถ ยถา ตสฺสา นว ปุตฺตา มตา, เอวํ อชฺฌตฺตาทิปฺปเภทา อตีตา สงฺขารา, วุสิตปุพฺพา วา นว สตฺตาวาสา ทฏฺพฺพา, มียมานปุตฺโต วิย ปจฺจุปฺปนฺนา สงฺขารา, ปวตฺตมาโน วา สตฺตาวาโส ทฏฺพฺโพ. อชาตปุตฺโต วิย อนาคตา สงฺขารา, ภาวี วา สตฺตาวาโส ทฏฺพฺโพ. เอวมวฏฺิเต ยเทเก ทสปุตฺตมาตรํ อคฺคเหตฺวา นวปุตฺตมาตุคฺคหณํ สาตฺถกนฺติ วทนฺติ, ตทปาหตํ โหติ . ทารกานํ มรณสฺส จิรกาลิกตฺตา มรณานุสฺสรณนฺติ วุตฺตํ. คพฺภคโต อปฺปจฺจกฺขตาย ภาวีปกฺเขเยว ติฏฺตีติ อธิปฺปาเยน กุจฺฉิคโต อนาคตสงฺขารฏฺานิโย วุตฺโต. เอตสฺมึ ขเณติ ภงฺคทสฺสนมุเขน สงฺขารานํ ภยานกภาเวน อุปฏฺานกฺขเณ.

๗๕๑. น ภายติ าณสฺส ภายนากาเรน อปฺปวตฺตนโต. ปฏิฆจิตฺตุปฺปาทวเสน หิ ภายนํ, าณํ ปน ภายิตพฺพวตฺถุํ ภายิตพฺพนฺติ ยาถาวโต ชานาติ. เตนาห ‘‘อตีตา…เป… ตีรณมตฺตเมวา’’ติ, ติสฺโส องฺคารกาสุโย อติตาเปน ติกฺขมชฺฌมุทุเภทาติ อธิปฺปาโย. กามภวาทีนฺหิ ติณฺณํ ภวานํ นิทสฺสนภาเวน ตาสํ คหณํ, ตถา ขทิราทิสูลตฺตยสฺส อปฺปณีตาทิภาวโต. เตนาห ‘‘เกวลํ หี’’ติอาทิ. อสฺสาติ าณสฺส. พฺยสนาปนฺนาติ นานาวิธวิปุลานตฺถปติตา. ภยโตติ ภายิตพฺพโต.

สงฺขารนิมิตฺตนฺติ ‘‘สงฺขารานํ สมูหาทิฆนวเสน, สกิจฺจปริจฺเฉทตาย จ สวิคฺคหานํ วิย อุปฏฺาน’’นฺติ วุตฺโตวายมตฺโถ. สงฺขารานํ ปน ตถา อุปฏฺานํ สงฺขารวินิมุตฺตํ น โหตีติ อาห ‘‘อตีตา…เป… อธิวจน’’นฺติ. มรณเมวาติ ภงฺคเมว. เตนาติ ภงฺคทสฺสเนน. ขเณ ขเณ ภงฺคเมว ปสฺสโต หิ นิมิตฺตสฺิตํ สงฺขารคตํ อนิจฺจตาย วุตฺตนเยน สปฺปฏิภยํ หุตฺวา อุปฏฺาติ. ปวตฺตํ นาม กามํ สพฺพา ภวปวตฺติ, มตฺถกปฺปตฺตาย ปน ภงฺคานุปสฺสนาย สพฺพภเวสุ อภิณฺหสมฺปฏิปีฬนสฺส สุฏฺุตรํ อุปฏฺานโต สนฺตสุขาภิมตาปิ ภวา ทุกฺขสภาวตาย ภยโต อุปฏฺหนฺตีติ ทสฺสนตฺถํ ‘‘ปวตฺตนฺติ รูปารูปภวปวตฺตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อุภยนฺติ นิมิตฺตํ, ปวตฺตฺจ. ทฺวยมฺปิ หิ ตํ อตฺตสุฺเมว หุตฺวา อุปฏฺหตีติ.

ภยตุปฏฺานาณํ นิฏฺิตํ.

อาทีนวานุปสฺสนาาณกถาวณฺณนา

๗๕๒. ตาณนฺติ สงฺขารเหตุกา อนตฺตโต รกฺขณํ. เนว ปฺายติ สพฺพภวาทีนํ สาทีนวตาย เอกสทิสตฺตา. เลณนฺติ ตสฺส ปริหรณตาณาย อุปลียนํ. คตีติ ตทตฺถํ คนฺตพฺพฏฺานํ. ปฏิสรณนฺติ ตสฺเสว ปฏิสรณฏฺานํ. ปตฺถนาติ อาสีสนา น โหติ. เอเตน ‘‘เนตํ มมา’’ติ ตณฺหาคาหาภาวมาห. ปรามาโสติ ทิฏฺิปรามาโส. เตน ‘‘เอโส เม อตฺตา’’ติ ทิฏฺิคาหาภาวมาห. ตณฺหาคาหาภาเวเนว เจตฺถ ‘‘เอโสหมสฺมี’’ติ มานคาหาภาโวปิ วุตฺโตเยว โหติ, วา-สทฺทคฺคหเณน วา.

อิทานิ ปตฺถนาทีนมภาเว การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘ตโย ภวา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ ตโย ภวา องฺคารกาสุโย วิย ชาติอาทิทุกฺขาธิฏฺานภาเวน มหาภิตาปตาย. จตฺตาโร มหาภูตา กฏฺมุขปูติมุขอคฺคิมุขสตฺถมุขสงฺขาตา โฆรวิสอาสีวิสา วิย กายสฺส ถทฺธตาวิสฺสนฺทนทาหจฺเฉททุกฺขวิธานโต วิเสสโต, อวิเสสโต ปน อาสยโต, วิสวิการโต, อนตฺถทานโต, ทุรุปจารโต, ทุราสทโต, อกตฺุโต, อวิเสสการิโต, อเนกาทีนวูปทฺทวโต จ. ‘‘จตฺตาโร อาสีวิสา อุคฺคเตชา โฆรวิสาติ โข, ภิกฺขเว , จตุนฺเนตํ มหาภูตานํ อธิวจน’’นฺติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) หิ วุตฺตํ. ปฺจกฺขนฺธา เอกกฺขนฺธเภเท อฺกฺขนฺธานวฏฺานโต. อฺมฺาฆาตนโต, มรณทุกฺขาวหนโต จ อุกฺขิตฺตาสิกวธกา วิย. วุตฺตมฺปิ เจตํ ‘‘อุกฺขิตฺตาสิโก วธโกติ โข, ภิกฺขเว, ปฺจนฺเนตํ อุปาทานกฺขนฺธานํ อธิวจน’’นฺติ. ฉ อชฺฌตฺติกายตนานิ อตฺตตฺตนิยภาเวน คหิตานิปิ ตโต ริตฺตภาวโต สุฺคาโม วิย โภชนาทิคยฺหุปคเมตฺถ อตฺถีติ ปวิฏฺสุฺคาโม วิย. ตถา หิ วุตฺตํ –

‘‘สุฺคาโมติ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ อชฺฌตฺติกานํ อายตนานํ อธิวจนํ. จกฺขุโต เจปิ นํ, ภิกฺขเว, ปณฺฑิโต พฺยตฺโต เมธาวี อุปปริกฺเขยฺย, ริตฺตกฺเว ขายติ, ตุจฺฉกฺเว ขายติ, สุฺกฺเว ขายตี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๓๘) –

อาทิ. ฉ พาหิรายตนานิ คามฆาตกโจรา วิย สพฺพถาปิ ฆาตกภาวโต. เตเนวาห ‘‘โจรา คามฆาตกาติ โข, ภิกฺขเว, ฉนฺเนตํ พาหิรานํ อายตนานํ อธิวจนํ. จกฺขุ, ภิกฺขเว, หฺติ มนาปามนาเปสุ รูเปสู’’ติอาทิ. ราคคฺคิอาทีหิ เอกาทสหิ อคฺคีหิ. วุตฺตฺเหตํ –

‘‘จกฺขุ, ภิกฺขเว, อาทิตฺตํ. เกน อาทิตฺตํ? ราคคฺคินา โทสคฺคินา โมหคฺคินา ชาติยา ชราย มรเณน โสเกหิ ปริเทเวหิ ทุกฺเขหิ โทมนสฺเสหิ อุปายาเสหี’’ติ (สํ. นิ. ๔.๒๘) –

อาทิ . สงฺขารานํ คณฺฑาทิสทิสตา เหฏฺา วุตฺตาเยว. นิรสฺสาทาติ อสฺสาเทตพฺพรหิตา ทุกฺขสภาวตฺตา. นิรสาติ สมฺปตฺติรหิตา วิปตฺติปริโยสานตฺตา. สพฺพตฺถ ยถา เหฏฺา นิรสฺสาทา นิรสา มหาอาทีนวราสิภูตา หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ สมฺพนฺโธ, เอวํ อุปริปิ ‘‘สวาฬกมิว วนคหน’’นฺติอาทีสุ ตํ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ.

สสทฺทูลาติ สพฺยคฺฆา. คาหา กุมฺภิลาทโย. รกฺขโส ทกรกฺขโส. ‘‘นิรสํ นิรสฺสาท’’นฺติ อิมินา อาทีนวสฺส อพฺโพกิณฺณตํ ทสฺเสติ. ตถา หิสฺส โยคิโน สพฺเพสุ ภวาทีสุ สพฺเพปิ สงฺขารา นิสฺสคฺคโต นิรนฺตรํ สปฺปฏิภยาว หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ. ยฺจ สปฺปฏิภยํ, ตํ สาทีนวํ. เตนาห ‘‘ตสฺเสว’’นฺติอาทิ.

นฺติ อาทีนวาณํ. อิทํ วุตฺตนฺติ อิทํ ทสวตฺถุกํ ทฺวาทสวารปฏิมณฺฑิตํ อนฺวยพฺยติเรกวเสน ตสฺเสว ปทภาชนํ ปฏิสมฺภิทายํ วุตฺตํ.

อุปฺปาโท ภยนฺติ สงฺขารานํ อุปฺปาโท อเขมฏฺเน ภยวตฺถุตาย ภยํ. อุปฺปาทมูลกฺหิ สพฺพํ ตํ สพฺพวตฺถุกนฺติ สพฺยสนํ. ปวตฺตํ ภยนฺติอาทีสุปิ เอเสว นโย. นตฺถิ เอตสฺส อุปฺปาโท, น วา เอตสฺมึ อธิคเต สงฺขารานํ อายตึ อุปฺปาโทติ อนุปฺปาโท, นิพฺพานํ. ตฺจ สพฺพโส ภยาภาวโต ปรมสฺสาสภูตตฺตา นิพฺภยฏฺเน เขมนฺติ. สนฺติปเทติ สพฺพสงฺขารูปสมภูเต อมตปเท. อปฺปวตฺตนฺติอาทีหิปิ ปวตฺตาทิปฏิกฺเขปมุเขน นิพฺพานเมว วทติ. ปวตฺติยํ อาทีนวํ ทิสฺวา ตทนนฺตรเมว นิวตฺติยํ อานิสํสทสฺสนวเสน สีฆํ วิปสฺสนํ อุสฺสุกฺกาเปนฺตานํ วเสน ‘‘อุปฺปาโท ภยํ, อนุปฺปาโท เขม’’นฺติ ตติยวาโร วุตฺโต. เอเสว นโย ฉฏฺวาราทีสุปิ. เอตฺถ จ อุปฺปาโท วิเสโส, ภยํ วิเสสิตพฺพํ สามฺภาวโตติ สติปิ ทฺวินฺนํ ปทานํ สมานาธิกรณภาเว ลิงฺคเภโท คหิโต. ยถา ‘‘ทุกฺขสมุทโย อริยสจฺจ’’นฺติ (ที. นิ. ๓.๓๕๔; ม. นิ. ๓.๓๗๔). เอส นโย ‘‘คติ ภย’’นฺติอาทีสุปิ.

อุปฺปาโท สงฺขาราติ เอตฺถ ปน สพฺเพสํ สงฺขารานํ อุปฺปาทํ สามฺเน คเหตฺวา สงฺขารา เภทโต วิหิตา สพฺพตฺถกเมว เตสํ วิภาคโต วิปสฺสิยมานตฺตาติ วจนเภโท กโต.

อายูหนํ ปฏิสนฺธึ ‘‘ทุกฺข’’นฺติ ปสฺสตีติ สมฺพนฺโธ. าณํ อาทีนเว อิทนฺติ อาทีนเว วิสยภูเต อิทํ ปฺจวตฺถุกํ าณํ เวทิตพฺพํ. าณํ สนฺติปเทติ สนฺติปเท นินฺนาทิภาเวน ิตํ อิทํ าณนฺติ อตฺโถ.

๗๕๓. กมฺมปจฺจยา ปจฺจุปฺปนฺนภเว อุปฺปชฺชมานานํ สงฺขารานํ อุปฺปาโท ปากฏตโร หุตฺวา อุปฏฺาตีติ อาห ‘‘ปุริมกมฺมปจฺจยา อิธ อุปฺปตฺตี’’ติ. ปวตฺตํ นาม อิธ ปวตฺติยํ ธมฺมปฺปวตฺตีติ อาห ‘‘อุปฺปนฺนสฺส ปวตฺตี’’ติ. สพฺพมฺปีติ ติยทฺธคตํ รูปารูปํ อชฺฌตฺตพหิทฺธาทิวิภาคํ สพฺพมฺปิ. กมฺมนฺติ เอตรหิ ปวตฺตํ กมฺมํ. เอตฺถ จ อุปฺปาทปวตฺตอายูหนคฺคหเณน ปจฺจุปฺปนฺนทฺธปริยาปนฺนา สงฺขารา คหิตา, ปฏิสนฺธิคฺคหเณน อนาคตทฺธปริยาปนฺนา อุปาทิตฺตา. อุปฺปาทคฺคหเณน จ อตีตทฺธปริยาปนฺนา กมฺมสงฺขารา อุลฺลิงฺคตฺตา. นิมิตฺตคฺคหเณน ปน สพฺเพปิ คหิตา. ยาย คติยา สา ปฏิสนฺธิ โหติ สา นิรยาทิเภทา คติ สุจริตทุจฺจริตวเสน คนฺตพฺพตฺตา, สา ปนตฺถโต ตํตํกมฺมนิยมิตา ภวสมฺารหา วิปากกฺขนฺธา, กฏตฺตา จ รูปนฺติ เวทิตพฺพา. ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนนฺติ สพฺเพสมฺปิ ขนฺธานํ นิพฺพตฺตนํ. ปากฏา เอว สจฺจวิภงฺเค ลกฺขณาทิวเสน นิทฺทิฏฺตฺตา. วตฺถุวเสนาติ อารมฺมณสงฺขาตปวตฺติฏฺานวเสน. ยทิ เต ปฺเจว วตฺถุภาเวน อิจฺฉิตา, อถ กสฺมา เสสา วุตฺตาติ อาห ‘‘เสสา เตสํ เววจนวเสนา’’ติ. เตน วิปสฺสกานํ าณวิปฺผารสฺส วิสยสํวฑฺฒนตฺถํ เทสนา วฑฺฒิตาติ ทสฺเสติ.

อนฺวยโต ทสฺสิตสฺส อาทีนวาณสฺส พฺยติเรกโต ทสฺสนตฺถํ ปฏิปกฺขาณทสฺสนํ ‘‘ยตฺถ อุปฺปาโท นตฺถิ, ตตฺถ สพฺเพน สพฺพํ ภยมฺปิ นตฺถี’’ติ. ‘‘ภยตุปฏฺาเนน วา’’ติอาทินา ปวตฺตึ ทสฺเสตฺวา นิวตฺติทสฺสนํ พุทฺธานํ, อนุพุทฺธานฺจ อาจิณฺณเมตํ ยถา ปุริมํ สจฺจทฺวยํ ทสฺเสตฺวา นิโรธสจฺจเทสนาติ ทสฺเสติ. ยถา โลเก กสฺสจิ อาทีนวทสฺสนํ นิรตฺถกมฺปิ โหติ, น ตถา อิทํ, อิทํ ปน สาตฺถกเมวาติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘ยสฺมา วา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตปฺปฏิปกฺขนินฺนํ จิตฺตํ โหติ ทาหาภิภูตสฺส สีตนินฺนตา วิย สุฏฺุ ทิฏฺาทีนวโต เอกํเสน มุฺจิตุกมฺยตาภาวโต.

ภยนฺติ ภายิตพฺพํ. ‘‘นิยมโต ทุกฺข’’นฺติ เอเตนสฺส ทุกฺขภาเวน ภายิตพฺพตาติ ภายิตพฺพตา ทุกฺขภาวํ น พฺยภิจรตีติ ทสฺเสติ. วฏฺฏามิสํ อุปาทินฺนกฺขนฺธาติ วทนฺติ. ติวิธมฺปิ วฏฺฏํ, วฏฺฏสนฺนิสฺสิตฺจ วฏฺฏามิสํ. กิเลเสหิ อามสิตพฺพโต โลกามิสํ, ปฺจ กามคุณา . กิเลสา เอว กิเลสามิสํ. สงฺขารมตฺตเมวาติ เอตฺถ เอว-สทฺเทน วิสงฺขารํ นิวตฺเตติ. น หิ ตตฺถ สามิสตาเลโสปิ อตฺถีติ. มตฺต-สทฺเทน ปน อปริปุณฺณตํ วิภาเวติ. น หิ สพฺพสงฺขารคตํ สามิสนฺติ. ตสฺมาติ ‘‘ภย’’นฺติ วุตฺตสฺส ทุกฺขาทิภาเวน นิยตตฺตา. ยทิ ยํ ภยํ, ตํ ทุกฺขาทิสภาวเมว, ตถา สติ ภยาทีสุ เอเกเนว อตฺถสิทฺธิ. กสฺมา สพฺพานิ คหิตานีติ อนุโยคํ มนสิ กตฺวา อาห ‘‘เอวํ สนฺเตปี’’ติอาทิ. ยถา เตสุ เอว สงฺขาเรสุ อนิจฺจโต ทุกฺขโต อนตฺตโต ปวตฺติวเสน อาการนานตฺตโต อนุปสฺสนานานตฺตํ, เอวํ ภยาการาทิอาการนานตฺตโต ปวตฺติวเสเนเวตฺถ าณสฺส นานตฺตํ. ตตฺถ ภยากาเรน ปวตฺตํ าณํ ภยตุปฏฺานาณํ, อิตราการวเสน ปวตฺตํ อาทีนวาณนฺติ ทฏฺพฺพํ.

ยสฺมา อาทีนวาณสฺส วิสยภาเวน วุตฺตา ปนฺนรสาปิ อตฺถา อุปฺปาทาทีสุ ปฺจสฺเวว อนฺโตคธา, ตตฺถ จ าณํ อนฺวยพฺยติเรกวเสน ปวตฺตนโต ทสวิธํ โหติ. ตสฺมา อาห ‘‘ทส าเณ ปชานาตี’’ติ. ปชานนฺจ สาติสยํ วิสยคตสมฺโมหวิคเมน อสมฺมูฬฺหํ, อตฺตนิปิ อสมฺมูฬฺหเมวาติ อตฺตานมฺปิ ปชานนฺตํ วิย โหตีติ กตฺวา วุตฺตํ. เตนาห ‘‘ปฏิวิชฺฌติ สจฺฉิกโรตี’’ติ. ทฺวินฺนนฺติ ทฺวีสุ กุสลสทฺทโยเคน หิ ภุมฺมตฺเถ สามิวจนํ ยถา ‘‘กุสลา นจฺจคีตสฺสา’’ติ (ชา. ๒.๒๒.๙๔). กุสลตาติ กรเณ ปจฺจตฺตวจนนฺติ อาห ‘‘ทฺวินฺนํ กุสลตายา’’ติ. ทฺวินฺนนฺติ วา ทฺวินฺนํ าณานํ วเสนาติ อตฺโถ. ปวตฺติยา ยาถาวโต ทิฏฺตาย ตปฺปฏิปกฺขโต สนฺติปทํ สุวินิจฺฉิตเมว หุตฺวา อุปฏฺาติ. เตนสฺส จิตฺตํ ปรมทิฏฺธมฺมนิพฺพานาทิมิจฺฉาคาหวเสน น วิจลติ. ตตฺถ สุปริทิฏฺาทีนวตฺตาติ อาห ‘‘นานาทิฏฺีสุ น กมฺปตี’’ติอาทิ. เสสเมตฺถ อุตฺตานตฺถเมว.

อาทีนวานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.

นิพฺพิทานุปสฺสนาาณกถาวณฺณนา

๗๕๔. สงฺขารคเตติ สพฺพสฺมึ เตภูมเก สงฺขาเร. นิพฺพินฺทตีติ าณนิพฺพิเทน นิพฺเพทํ อาปชฺชติ. ตถาภูโต จ ตตฺถ อุกฺกณฺนฺโต, อนภิรมนฺโต จ นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อุกฺกณฺติ นาภิรมตี’’ติ.

ตตฺถ อนภิรมณสฺส อุปมํ ทสฺเสตุํ ‘‘เสยฺยถาปี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อโนตตฺตทหํ ปริกฺขิปิตฺวา ิเตสุ ทฺวิโยชนสตุพฺเพเธสุ ยถากฺกมํ สานุอฺชนรชตสุวณฺณสตฺตรตนมเยสุคนฺธมาทนกาฬเกลาสสุทสฺสนจิตฺตกูฏเภเทสุ ปฺจสุ หิมวโต มหาสิขเรสุ ปจฺฉิโม จิตฺตกูฏปพฺพโต นาม. สีหปปาตาทีสุ สตฺตสุ มหาสเรสุ.

สุวณฺณปฺชเรติ สุวณฺณมเย สีหปฺชเร. ปกฺขิตฺโตติ นิรุทฺโธ. ติวิเธ สุคติภเวติ กามสุคติอาทิเก ติวิเธ สมฺปตฺติภเว.

หตฺถปาทวาลวตฺถิโกเสหิ ภูมิผุสเนหิ สตฺตหิ ปติฏฺิโตติ สตฺตปติฏฺโ. นครมชฺเฌ นาภิรมติ ทฺวารปฺชรนาฬนาทิอวพาธนภเยน. ทิฏฺเติ อธิมุตฺติปุพฺพเกน อนฺวยทสฺสเนน ทิฏฺเ. เตนาห ‘‘ตนฺนินฺนตปฺโปณตปฺปพฺภารมานโส’’ติ.

นิพฺพิทานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.

๗๕๕. ตํ ปเนตนฺติ นิพฺพิทาาณมาห. าณทฺวเยนาติ ภยตุปฏฺานาทีนวานุปสฺสนาาณทฺวเยน. ยสฺมา ภยโต ทิสฺสมานา เอว สงฺขารา มหาทีนวา, นิพฺพินฺทิตพฺพา จ หุตฺวา อุปฏฺหนฺติ, ตสฺมา เอกมฺปิ ตํ าณํ ตถาภาวนาพลปฺปตฺติยา อวตฺถาวิเสสยุตฺตํ ติวิธกิจฺจสามตฺถิยวนฺตํ โหตีติ วุตฺตํ ‘‘อตฺถโต เอก’’นฺติ. เตนาห ‘‘สพฺพสงฺขาเร’’ติอาทิ.

ตยิทํ ตาสํ อนุปสฺสนานํ มตฺถกปฺปตฺติวเสน วุตฺตํ, อาทิมฺหิ ปน ภินฺนสภาวา เอว ปวตฺตนฺติ. อุปฺปาเทสีติ ปาตฺวากาสิ, วิภาเวสีติ อตฺโถ.

มุฺจิตุกมฺยตาาณกถาวณฺณนา

๗๕๖. น สชฺชติ พหฺวาทีนวตาย ทิฏฺตฺตา. มุฺจิตุกามํ นิสฺสริตุกามํ โหติ อนาทิกาลิกสฺส ขนฺธสฺส ปริฺายมานตฺตา. มุฺจิตุกามตา ตโต อตฺตานํ นิพฺเพเธตุกามตา นิสฺสริตุกามตา อปคนฺตุกามตา. ปฺชรปกฺขิตฺโตติ ปฺชเรน สโมรุทฺโธ. เอวมาทโยติ อาทิ-สทฺเทน อาทิตฺตองฺคารอุปสฏฺเทสพฺยาฬสาปทากุลวนคหนาทีนํ สงฺคโห ทฏฺพฺโพ.

มุฺจิตุกมฺยตาาณํ นิฏฺิตํ.

ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณกถาวณฺณนา

๗๕๗. ‘‘สพฺพภว…เป… มุฺจิตุกาโม’’ติ วตฺวา ปุน สพฺพสฺมา สงฺขารคตาติ สพฺพคฺคหณํ สาติสยมุตฺติทสฺสนตฺถํ อธิกวจนํ อฺมตฺถํ โพเธตีติ. ยฺหิ สงฺขาเรหิ อนนุพนฺธสฺส มุฺจนํ, ตํ สาติสยํ มุฺจนํ. ตํ ปน วุจฺจมานาย ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย โหตีติ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘ปุน เต เอวํ สงฺขาเร’’ติอาทิ วุตฺตํ. ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา สงฺขารปริคฺคณฺหนํ ปุพฺเพปิ กตนฺติ ปุนคฺคหณํ. ภวาทิคตสฺส สงฺขารสฺส อปริตุลิตสฺส อภาวโต ‘‘เต’’ติ วุตฺตํ. อนุปสฺสนาการสฺส อปุพฺพสฺสปิ อตฺถิตาย ‘‘เอว’’นฺติ วุตฺตํ. อิทานิ วุจฺจมานากาเรนาติ หิ อตฺโถ. สงฺขารานํ ปริคฺคณฺหนํ นาม ปริปุณฺณลกฺขณวเสเนว โหตีติ ‘‘ติลกฺขณํ อาโรเปตฺวา’’ติ วุตฺตํ.

อนจฺจนฺติกโตติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. ปเมน อาทิ-สทฺเทน ‘‘อาทิอนฺตวนฺตโต นิจฺจปฏิกฺเขปโต’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห.

ทุติเยน ‘‘อุทยพฺพยปฏิปีฬนโต สุขปฏิกฺเขปโต’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห.

อชฺโตติ อมนุฺโต, อโสภนโต วา. เชคุจฺฉโตติ ‘‘ธี’’ติ ชิคุจฺฉิตพฺพโต. ปฏิกฺกูลโตติ อภิรุจิยา ปฏิโลมเนน ปฏิกฺกูลภาวโต. น มณฺฑเนน หตา อมณฺฑนหตา, อมณฺฑเนน สกฺกา เอเตสํ สุภภาวํ หนฺตุนฺติ อตฺโถ. อมณฺฑเนน วา เตสํ อสุภตา ปากฏา โหตีติ อมณฺฑนหตา. มณฺฑเนน วา น หนฺตพฺพสภาวา ‘‘อสูริยปสฺสา’’ติ วิย อมณฺฑนหตา. ตโต อมณฺฑนหตภาวโตติ รูปสงฺขาเร สนฺธาย วทติ. วิรูปโตติ อสุนฺทรโต. ปฏิฆสํโยชนวตฺถุตาย ปสฺสนฺเต อตฺตนิ พนฺธตีติ พีภจฺฉํ อติวิย วิรูปํ. ยํ ทิฏฺมตฺตเมว โทมนสฺสุปฺปตฺตินิมิตฺตํ โหติ. อชฺชิคุจฺฉนียตา หิ คูถํ วิย ปริจฺจชิตพฺพํ วา พีภจฺฉํ. อิธ อาทิ-สทฺเทน ‘‘อสุจิโต อมนาปโต’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห.

จตุตฺเถน อาทิ-สทฺเทน ‘‘อปริณายกโต อตฺตปฏิกฺเขปโต’’ติ เอวมาทีนํ สงฺคโห.

๗๕๘. อยนฺติ โยคาวจโร. มุฺจนสฺสาติ ปุน อนนุพนฺธนตฺถํ สุมุตฺตมุฺจนสฺส. อุปายสมฺปาทนตฺถนฺติ อนิจฺจาทิวเสน สุฏฺุ ปริคฺคณฺหนํ ปริมทฺทนา อุปาโย, ตสฺส สาธนตฺถํ.

มจฺฉคหณตฺถํ อุทเก ตตฺถ ตตฺถ ขิปนฺติ เอตนฺติ ขิปฺปํ, มจฺฉานํ คหณกูฏปํ. โอฑฺฑาเปสีติ โอสาเรสิ, ขิปีติ อตฺโถ. สปฺปนฺติ กณฺหสปฺปํ. คหเณติ ยถาคหิตํ สปฺปํ อฉฑฺเฑตฺวา คหเณ. หตฺถํ นิพฺเพเตฺวาติ สปฺเปน อตฺตโน โภเคน เวิตํ หตฺถปเทสํ นิพฺเพเตฺวา โมเจตฺวา. อาวิชฺฌิตฺวา อาเวิกปฺปหาปเนน ภเมตฺวา. นิสฺสชฺชิตฺวาติ ฉฑฺเฑตฺวา.

ตตฺถาติอาทิ อุปมาสํสนฺทนํ. ตตฺถ อาทิโตวาติ วิฺุตํ ปตฺตกาเล. ฆนวินิพฺโภคํ กตฺวาติ กมฺมฏฺานํ คเหตฺวา สมูหาทิฆนคฺคหณํ ภินฺทิตฺวา. สุมุตฺตนฺติ ภาวนปุํสกนิทฺเทโส ‘‘วิสมํ จนฺทิมสูริยา ปริวตฺตนฺตี’’ติอาทีสุ (อ. นิ. ๔.๗๐) วิย. สงฺขารานํ นิจฺจาทิอากาเรน อุปฏฺาตุํ อสมตฺถตา อนิจฺจสฺาทิเภทาย วิปสฺสนาย สาติสยํ พลวภาวปฺปตฺติยา, สา จ สงฺขารานํ อนิจฺจาทิอาการสฺส สุฏฺุตรํ สลฺลกฺขเณนาติ อาห ‘‘ติลกฺขณาโรปเนน…เป… ปาเปตฺวา’’ติ. ยถา หิ นิพฺพุทฺธกรเณ พลวตเรน ปฏิมลฺเลน ตตฺถ ตตฺถ มุฏฺิปฺปหาราทินา วิมถิโต อิตโร เตน ยุชฺฌิตุํ อสมตฺถตํ ปาปิโต โหติ. น เกวลํ อสมตฺถตํ ปาปิโตว โหติ, อถ โข มรณมตฺตํ ทุกฺขํ วา มรณํ วา ปาปุณาติ, เอวเมเตปิ สงฺขารา เอวํ ทุพฺพลภาวํ ปาปิตา อุปริาณานุภาเวน นิพฺพิเสวนตํ, สพฺพโส ภงฺคฺจ ปาปุณนฺตีติ.

๗๕๙. เอตฺตาวตาติ เอวํ ‘‘อนจฺจนฺติกโต’’ติอาทินา ปโรจตฺตาลีสาย อากาเรหิ สงฺขารานํ อนิจฺจาทิภาวสลฺลกฺขณวสปฺปวตฺเตน ปฏิสงฺขาเนน.

อนิจฺจโต มนสิกโรโตติอาทีสุ ยํ วตฺตพฺพํ, ตํ ภยตุปฏฺานกถายํ (วิสุทฺธิ. ๒.๗๕๐) วุตฺตนยเมว.

อยํ ปน วิเสโส – ‘‘ปฏิสงฺขา’’ติ ปทสฺส ‘‘ชานิตฺวา’’ติ อตฺถํ วตฺวา ปฏิสงฺขานุปฺปชฺชนกิริยานํ สมานขณตฺตา อสติปิ ปุพฺพาปรกาลตฺเต สทฺทโวหารมตฺเตน เอวํ วุตฺตนฺติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กาม’’นฺติอาทิมาห. เตน ‘‘กุสลํ ธมฺมํ ปฏิจฺจ กุสโล ธมฺโม อุปฺปชฺชติ เหตุปจฺจยา (ปฏฺา. ๑.๑.๕๓), นิหนฺตฺวา ติมิรํ สพฺพํ, อุคฺคโตยํ ทิวากโร’’ติ จ เอวมาทีสุ วิย สมานกาลวเสนายํ สทฺทปโยโคติ. ตถา มนฺจ ธมฺเม จ ปมํ ปฏิจฺจ ปจฺฉา น มโนวิฺาณสฺส อุปฺปตฺติ, เอวมิธาปีติ ทสฺเสตุํ ‘‘มนฺจ ปฏิจฺจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. เอทิโส สทฺทปโยโค เยภุยฺเยน โลเก ปุพฺพกาลวเสเนว ทิสฺสตีติ ปุพฺพกาลวเสเนว อิธาปิ ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘เอกตฺตนเยน วา…เป… เวทิตพฺพ’’นฺติ อาห. ตสฺสตฺโถ – อปราปรํ อุปฺปนฺเนสุ าเณสุ ปุริมสฺส วเสน ปฏิสงฺขานกิริยา, ตทฺสฺส วเสน อุปฺปชฺชนกิริยา จ โยเชตพฺพา, น จ ตานิ เภทโต อเปกฺขิตพฺพานิ เอกสนฺตานปติตตาย เอกตฺตนยวเสน คหิตตฺตาติ. อิตรสฺมึ ปททฺวเยติ ‘‘ปวตฺตํ ปฏิสงฺขา, นิมิตฺตฺจ ปวตฺตฺจ ปฏิสงฺขา’’ติ อิมสฺมึ ปททฺวเย.

ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ นิฏฺิตํ.

สงฺขารุเปกฺขาาณกถาวณฺณนา

๗๖๐. สงฺขารานํ อนิจฺจทุกฺขาการาทิปริคฺคณฺหนวเสน ปวตฺตมฺปิ ปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณํ วิเสสโต อนตฺตาการปริคฺคณฺหนปธานนฺติ วุตฺตํ ‘‘สพฺเพ สงฺขารา สุฺาติ ปริคฺคเหตฺวา’’ติอาทิ. ตสฺมิฺหิ สติ สจฺจสมฺปฏิเวโธ อิชฺฌติ, น อสติ. ตทภาวโต หิ อนิจฺจทุกฺขลกฺขณปฺาปกมฺปิ สรภงฺคสตฺถาราทีนํ สาสนํ อนิยฺยานิกเมว ชาตํ. อถ วา เตสํ นิจฺจสาราทีหิ ริตฺตกํ สนฺธาย ‘‘สพฺเพ สงฺขารา สุฺาติ ปริคฺคเหตฺวา’’ติ วุตฺตํ. ยฺหิ ยโต ริตฺตกํ, ตํ เตน สุฺนฺติ. สงฺขารานํ อตฺตสุฺตาย ทุวิฺเยฺยภาวโต อเนกวารํ ปฏิวิทฺธายปิ สุฺตานุปสฺสนาย ทฬฺหีภาวาปาทนตฺถํ ‘‘ปุน สุฺมิท’’นฺติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ยทคฺเคน สงฺขารา อนตฺตตา, ตทคฺเคน อนตฺตนิยา. สติ หิ อตฺตนิ อตฺตนิเยน ภวิตพฺพนฺติ วุตฺตํ ‘‘สุฺมิทํ อตฺเตน วา อตฺตนิเยน วา’’ติ. ทฺวิโกฏิกนฺติ ทฺวิอํสิกํ, อตฺตานํ เนว ทิสฺวา าณจกฺขุนา ปจฺจกฺขโต, อนุมานโต จ ตสฺส อนุปลพฺภนียโตติ อธิปฺปาโย. ปรํ อฺํ สตฺตํ, สงฺขารํ วา ปริกฺขารภาเว อตฺตโน สุขทุกฺขสาธนภาเว ิตํ น ทิสฺวาติ โยชนา. ปุน ปริคฺคณฺหาตีติ สมฺพนฺโธ. เอตฺถาติ เอตสฺมึ สุฺตานุปสฺสนาธิกาเร.

กฺวจีติ กตฺถจิ าเน, กาเล, ธมฺเม วา. อถ วา กฺวจีติ อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธา วา. อตฺตโน อตฺตานนฺติ สกตฺตานํ. ‘‘อยํ โข ภวํ พฺรหฺมา มหาพฺรหฺมา…เป… เสฏฺโ สชิตา วสี ปิตา ภูตภพฺยาน’’นฺติอาทินา (ที. นิ. ๑.๔๒) ปเรหิ ปริกปฺปิตํ อตฺตานฺจ กสฺสจิ กิฺจนภูตํ น ปสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘กสฺสจี’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปรสฺสาติ ‘‘ปรชาติ, ปโร ปุริโส’’ติ จ เอวํ คหิตสฺส. น จ มม กฺวจนีติ เอตฺถ มม-สทฺโท อฏฺาเน ปยุตฺโตติ อาห ‘‘มม-สทฺทํ ตาว เปตฺวา’’ติ. ปรสฺส จาติ อตฺตโต อฺสฺส. ‘‘ปโร ปุริโส’’ติ เอวํภูโต อตฺโถ มมตฺถาย ิโต, ตสฺส วเสน มยฺหํ สพฺพํ สิชฺฌตีติ เอวํ เอกจฺจทิฏฺิคติกปริกปฺปิตวเสน ปรํ อตฺตานํ ตฺจ อตฺตโน กิฺจนภูตํ น ปสฺสตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘น จ กฺวจนี’’ติอาทิมาห. เอตฺถ จ นาหํ กฺวจนีติ สกอตฺตโน อภาวํ ปสฺสติ. น กสฺสจิ กิฺจนตสฺมินฺติ สกอตฺตโน เอว กสฺสจิ อนตฺตนิยตํ ปสฺสติ. น จ มมาติ เอตํ ทฺวยํ ยถาสงฺขฺยํ สมฺพนฺธิตพฺพํ. อตฺถีติ ปจฺเจกํ. น จ กฺวจนิ ปรสฺส อตฺตา อตฺถีติ ปรสฺส อตฺตโน อภาวํ ปสฺสติ. ตสฺส ปรสฺส อตฺตโน มม กิฺจนตา น จตฺถีติ ปรสฺส อตฺตโน อนตฺตนิยตํ ปสฺสติ. เอวํ อชฺฌตฺตํ, พหิทฺธา จ ขนฺธานํ อตฺตตฺตนิยสุฺตา สุทฺธสงฺขารปุฺชตา จตุโกฏิกสุฺตาปริคฺคณฺหเนน ทิฏฺา โหติ. เตน วุตฺตํ ‘‘เอวมย’’นฺติอาทิ.

๗๖๑. ‘‘ฉหากาเรหี’’ติอาทินา นิทฺเทสาทีสุ ตตฺถ ตตฺถ อาคเต ปกาเร สุฺตานุปสฺสนาย ปริพฺรูหนํ สงฺคเหตฺวา ทสฺเสติ. ตตฺถ ฉหากาเรหีติ ฉหิ คหณากาเรหิ, คเหตพฺพากาเรหิ วา. นิจฺเจนาติ ‘‘นิจฺโจ’’ติ ปริกปฺปิเตน อตฺตนา วา อฺเน วา เกนจิ. นิจฺเจนาติ วา นิจฺจภาเวน. ธุวาทโย ‘‘นิจฺโจ’’ติ คหิตสฺเสว คเหตพฺพาการา. ตพฺพิภาเคน หิ อิมสฺส ฉกฺกตา. ตตฺถ นิจฺจตา นาม กูฏฏฺตา. ธุวภาโว ถิรตา. สทา ภาวิตา สสฺสตตา. นิพฺพิการตา อวิปริณามธมฺมตา. ยาว ชรามรณาติ เปยฺยาลํ อกตฺวา ปริโยสานปทเมว ทสฺเสติ.

๗๖๒. น สารนฺติ อสารํ, นตฺถิ เอตสฺส สารนฺติ นิสฺสารํ. สารโต อปคตํ, สารํ วา ตโต อปคตนฺติ สาราปคตํ. เกจิ ปเนตฺถ ‘‘นิจฺจสารสาเรน วา สุขสารสาเรน วา อตฺตสารสาเรน วา’’ติ ปาฬีติ อธิปฺปาเยน ‘‘อสารํ นิสฺสารํ สาราปคต’’นฺติ ปทตฺตยํ เอโก สุฺตาปริคฺคหากาโร, อฺถา สตฺเตว อาการา สิยุํ, น อฏฺาติ วทนฺติ. อปเร ปน ‘‘สุภสารสาเรนาติปิ ปาฬิยํ อตฺถีติ ‘อสารํ นิสฺสารํ สาราปคต’นฺติ อิทํ ปทตฺตยํ ‘นิจฺจสารสาเรนา’ติอาทีสุ ปจฺเจกํ โยเชตพฺพ’’นฺติ วทนฺติ. เสตวจฺโฉติ เสตวรุณโก. ‘‘มินรุกฺโข’’ติปิ วทนฺติ. ปาฬิภทฺทโกติ กึสุโก.

๗๖๓. นิจฺจสาราทีนํ อภาวโต ริตฺตโต ปสฺสติ. ปริตฺตโต, ลามกตฺตา วา ตุจฺฉโต. อตฺตสาราภาเวน สุฺโต. สยํ อนตฺตตาย อนตฺตโต. อิสฺสริยสฺส อภาวโต, เกนจิ อิสฺสริยํ กาเรตุํ อสกฺกุเณยฺยตาย จ อนิสฺสริยโต. เผณปิณฺเฑน ภาชนาทึ กาตุกามสฺส วิย รูปสฺส นิจฺจตาทึ กาตุกามสฺส ตํ น สิชฺฌติ, สกอิจฺฉาวเสน วา กาจิ กิริยา นตฺถีติ อกามการิยโต. ‘‘เอวํ รูปํ โหตุ, มา เอว’’นฺติ อลพฺภนียโต. สยํ อฺสฺส วเส น วตฺตติ, นาปิ อฺํ อตฺตโน วเส วตฺเตตีติ อวสวตฺตกโต. ยสฺมึ สนฺตาเน สยํ ตสฺส ปโร วิย อวิเธยฺยตาย ปรโต. การกาทิ วิย การเณหิ, ผเลน จ วิวิตฺตโต. น หิ การเณน ผลํ, ผเลน วา การณํ สคพฺภํ ติฏฺติ. เอส นโย เวทนาทีสุปิ.

๗๖๔. รูปํ น สตฺโตติอาทีสุ โย โลกโวหาเรน สตฺโต, รูปํ โส น โหตีติ อยมตฺโถ อิธ นาธิปฺเปโต ตสฺสาวุตฺตสิทฺธตฺตา. น หิ โลโก รูปมตฺตํ ‘‘สตฺโต’’ติ โวหรติ, พาหิรกปริกปฺปิโต ปน อตฺตา ‘‘สตฺโต’’ติ อธิปฺเปโต. โส หิ เตหิ รูปาทีสุ สตฺตวิสตฺตตาย ปเรสํ สฺชาปนฏฺเน ‘‘สตฺโต’’ติ วุจฺจติ, รูปํ โส น โหตีติ อตฺโถ. สุฺตาปริคฺคณฺหนฺเหตนฺติ. เอส นโย น ชีโวติอาทีสุปิ. ตตฺถ ชีวนฏฺเน ชีโว. นรนฏฺเน เนตุภาเวน นโร. ‘‘อหมสฺมี’’ติ มานุปฺปตฺติฏฺานตาย มาโน เอตฺถ วาติ ปวตฺตตีติ มานโว. ถิยติ เอตฺถ คพฺโภติ อิตฺถี. ปธานภาเวน ปุริ เสตีติ ปุริโส. อาหิโต อหํมาโน เอตฺถาติ อตฺตา. ปจฺจตฺตํ ตสฺส ตสฺส อหํการวตฺถุตาย ‘‘อห’’นฺติ จ ทิฏฺิคติเกหิ อตฺตา วุจฺจติ, รูปํ ปน ตาทิสํ น โหตีติ สุฺตาปริคฺคณฺหนวิธึ ทสฺเสตุํ ‘‘รูปํ น สตฺโต’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตสฺมา อฏฺหิปิ ปเทหิ รูปสฺส อตฺตสุฺตาว ทสฺสิตา. อิตเรหิ จตูหิ ตสฺส กิฺจนตาภาโว. ตตฺถ น มมาติ มยฺหํ อตฺตโน สนฺตกํ น โหติ, ตถา อฺสฺส อตฺตโน สนฺตกํ น โหติ, กสฺสจิปิ อตฺตโน สนฺตกํ น โหติ อตฺตโนเยว อภาวโต. ‘‘น อตฺตนิย’’นฺติ ปเทน ปกาสิโต เอวตฺโถ ปริยายนฺตเรหิ ตีหิปิ ปเทหิ ปกาสิโต. เอส นโย เวทนาทีสุปิ.

๗๖๕. เหฏฺา กลาปสมฺมสนสฺส ทฬฺหภาวาย วุตฺตสมฺมสนนยาปิ สุฺตานุปสฺสนาย ทฬฺหภาวาย สํวตฺตนฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ตีรณปริฺาวเสนา’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ภยสฺส อหึสเนน อสรณโต. ‘‘สรณ’’นฺติ คเหตุํ อยุตฺตตาย อสรณีภูตโต. ‘‘อนสฺสาทโต’’ติ อิทํ ปาฬิยํ นตฺถิ. สติ จ เตจตฺตาลีส อาการา สิยุํ. รูปปฺปวตฺติยํ สพฺพาทีนวูปลทฺธิยา อาทีนวโต. ‘‘สมุทยโต อตฺถงฺคมโต’’ติ อิทํ ทฺวยํ ยถา อนิจฺจโต ทสฺสนํ ปนาฬิกาย, นิจฺจสารวิรหทีปเนน วา สุฺตาวิภาวนํ โหติ, เอวํ สุฺตาวิภาวนนฺติ กตฺวา วุตฺตํ. ตถา ‘‘ยํ โข รูปํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สุขํ โสมนสฺสํ, อยํ รูปสฺส อสฺสาโท’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๖) ทสฺสนํ ปจฺจยปจฺจยุปฺปนฺนตาวิภาวเนน สุฺตาวิภาวนํ. ‘‘ยํ รูปํ อนิจฺจํ ทุกฺขํ วิปริณามธมฺมํ, อยํ รูปสฺส อาทีนโว’’ติ (สํ. นิ. ๓.๒๖) จ ทสฺสนํ นิจฺจตาทิสุฺตาภาวนโต. ตถา ‘‘โย รูเป ฉนฺทราควินโย ฉนฺทราคปฺปหานํ, อิทํ รูปสฺส นิสฺสรณ’’นฺติ เอวํ สมุทยาทิทสฺสนานํ, อิตเรสฺจ ยถารหํ สุฺตานุปสฺสนานุพฺรูหนตา ทฏฺพฺพา. ยํ ปน อาทีนวโต ทสฺสนํ, ปุพฺเพ วตฺวาปิ ปุน วจนํ อสฺสาทปฏิกฺเขปโต ทสฺสนํ สนฺธาย วุตฺตนฺติ เวทิตพฺพํ. เสสํ เหฏฺา วุตฺตนยเมว. เวทนาทีสุปิ ทฺวาจตฺตาลีส อาการา เนตพฺพาติ อาห ‘‘เวทนํ…เป… วิฺาณํ อนิจฺจโต…เป… นิสฺสรณโต ปสฺสตี’’ติ.

วุตฺตมฺปิ จ นิทฺเทเส เอตํ สุฺตาปริคฺคณฺหนกถาสนฺทสฺสนํ ‘‘อสุกาย ปาฬิยา อยํ นิทฺเทโส’’ติ ทสฺสนตฺถํ, ตสฺส ผลสนฺทสฺสนตฺถฺจ.

๗๖๖. เอวํ ตีรณปริฺาวเสน ปจฺเจกํ ขนฺเธสุ ทฺวาจตฺตาลีสาย อากาเรหิ สุฺตํ ปริคฺคเหตฺวาปิ ติวิธานุปสฺสนาวเสเนว ภาวนํ อนุยุฺชนฺตสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณุปฺปตฺตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘เอวํ สุฺโต’’ติอาทิมาห. ตตฺถ ปริคฺคณฺหนฺโตติ สมฺมสนฺโต. ภยฺจ นนฺทิฺจ วิปฺปหายาติ อชฺฌุเปกฺขกตาย สงฺขารานํ วิปตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกภยฺเจว เตสํ สมฺปตฺตึ นิสฺสาย อุปฺปชฺชนกปีติฺจ ปชหิตฺวา. อถ วา ภยตุปฏฺานวเสน อุปฺปชฺชนกาณภยฺจ สมฺมสนวเสน อุปฺปชฺชนกปีติสงฺขาตํ นนฺทิฺจ ปหาย. น หิ สพฺพโส สุฺตาย ทิฏฺาย ภยนนฺทีนํ อวสโร อตฺถิ, อถ โข อุเปกฺขาว สณฺาติ. เตนาห ‘‘สงฺขาเรสุ อุทาสีโน โหตี’’ติ. ตตฺถ เยน มิจฺฉาคาเหน อนุทาสีนตา สิยา, ตทภาวํ ทสฺเสนฺโต ‘‘อหนฺติ วา มมนฺติ วา น คณฺหาตี’’ติ อาห. อิทานิสฺส อุทาสีนตาย อุปมํ ทสฺเสนฺโต ‘‘วิสฺสฏฺภริโย วิย ปุริโส’’ติอาทิมาห.

ตตฺถ อนุทาสีนตาปุพฺพิกา อุทาสีนตา วุจฺจมานา อิธ โอปมฺมตฺถํ ผรตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อิฏฺา กนฺตา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อติวิย นํ มมาเยยฺย อิตฺถีนํ สาเยฺยกูเฏยฺยวงฺเกยฺยาทีนํ อชานนโต. มุฺจิตุกาโม หุตฺวาติ มุฺจิตุกาโมว หุตฺวา, ตํ วิสฺสชฺเชยฺย นิรเปกฺขตาย วเสเนวาติ อธิปฺปาโย. อยํ โยคาวจโร. มุฺจิตุกามตาย อุทฺธํ ยาว สงฺขารุเปกฺขาาณํ น อุปฺปชฺชติ, ตาว ปวตฺตา วิปสฺสนา ปฏิสงฺขานุปสฺสนา เอวาติ อาห ‘‘ปฏิสงฺขานุปสฺสนาย สงฺขาเร ปริคฺคณฺหนฺโต’’ติ.

ปติลียตีติ เอกปสฺเสน นิลียติ นิลีนํ วิย โหติ. ปติกุฏตีติ สงฺกุจติ. ปฏิวฏฺฏตีติ วิวฏฺฏติ. น สมฺปสาริยตีติ น วิสรติ, อภิรติวเสน น ปกฺขนฺทตีติ อตฺโถ.

อิจฺจสฺสาติ อิติ เอวํ อสฺส โยคิโน.

๗๖๗. ติกฺขวิสทสูรภาเวน สงฺขาเรสุ อชฺฌุเปกฺขเน สิชฺฌมาเน ตํ ปเนตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ อเนกวารํ ปวตฺตมานํ ปริปากคมเนน อนุโลมาณสฺส ปจฺจยภาวํ คจฺฉนฺตํ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสติ นาม. ตถาภูตฺจ สพฺพํ สงฺขารปฺปวตฺตํ วิสฺสชฺเชตฺวา นิพฺพานเมว ปกฺขนฺทติ นาม. ตยิทํ อิธ าณํ อนุโลมโคตฺรภุาเณหิ สทฺธึ เอกตฺตํ เนตฺวา วุตฺตํ เอกตฺตนยวเสน . โน เจ นิพฺพานํ สนฺตโต ปสฺสตีติ ตาว สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส อปริปกฺกตเมวาห. สมุทฺทํ ตรนฺตีติ สามุทฺทิกา, สํยตฺติกา. ทิสาชานนโก กาโก ทิสากาโก, ลกฺขณมตฺตฺเจตํ โย โกจิ ตาทิโส สกุนฺโต เวทิตพฺโพ. วิเทสนฺติ อเทสํ สมุทฺเท อปริจิตฏฺานํ. อนุคนฺตฺวาติ อนุ อนุ คนฺตฺวา.

ตยิทํ วิปสฺสนาาณํ. ปิฏฺํ วฏฺฏยมานํ วิยาติ ถูลถูลโต วิเวจนวเสน นิปฺโผฏิยมานํ สณฺหํ สณฺหํ ปิฏฺจุณฺณํ วิย. นิพฺพฏฺฏิตกปฺปาสนฺติ นิพฺพฏฺฏิตพีชํ กปฺปาสํ. วิหนมานํ วิยาติ ธนุเกน วิหฺมานํ วิย. อุปมาทฺวเยนปิ ปุนปฺปุนํ สมฺมสเนน วิปสฺสนาาณสฺส สุขุมตรภาวาปตฺติมาห. ยถา ยถา หิ วิปสฺสนาภาวนาพเลน ติกฺขา, วิสทา, สูรา จ โหติ, ตถา ตถา สุขุมตราปิ โหตีติ. สงฺขารวิจินเนติ ปวิจยสฺส สิขาปฺปตฺตตาย สงฺขาเรสุ วิย เตสํ วิจินเนปิ อุทาสีนํ หุตฺวา ติวิธานุปสฺสนาวเสน ติฏฺติ ปการนฺตรสฺส อภาวโต. ‘‘สตฺตธา อฏฺารสธา’’ติอาทินา วิภตฺตาปิ หิ อนุปสฺสนาปการา อนิจฺจานุปสฺสนาทีสฺเวว ตีสุ อนฺโตคธาติ มตฺถกปฺปตฺตา วิปสฺสนา ตาสํ เอว วเสน ติฏฺติ.

๗๖๘. ตตฺราติ ตสฺมึ วิโมกฺขมุขภาวาปชฺชเน, อริยปุคฺคลวิภาคปจฺจยตฺเถ จ. อิทํ วิปสฺสนาาณํ. ติณฺณํ อินฺทฺริยานนฺติ สทฺธินฺทฺริยสมาธินฺทฺริยปฺินฺทฺริยานํ. อาธิปเตยฺยวเสนาติ สมฺปยุตฺตธมฺมานํ อธิปติภาววเสน. อนิจฺจานุปสฺสนาพหุลสฺส หิ สทฺธินฺทฺริยํ พลวํ โหติ, ทุกฺขานุปสฺสนาพหุลสฺส สมาธินฺทฺริยํ, อนตฺตานุปสฺสนาพหุลสฺส ปฺินฺทฺริยนฺติ ติสฺสนฺนํ อนุปสฺสนานํ วเสน พลวตรภาวํ ปตฺตานิ อิมานิ ตีณิ อินฺทฺริยานิ วิโมกฺขมุขภาวํ อาปาเทนฺตีติ อาห ‘‘ติวิธานุปสฺสนา…เป… อาปชฺชติ นามา’’ติ. ติวิธวิโมกฺขมุขภาวนฺติ เอตฺถ เก ปน ตโย วิโมกฺขา, กานิ วา ตีณิ วิโมกฺขมุขานีติ อนฺโตลีเน อนุโยเค วิโมกฺขมุขาธีนตฺตา วิโมกฺขาธิคมสฺส วิโมกฺขมุขานิ ตาว ทสฺเสนฺโต ‘‘ติสฺโส หิ…เป… วุจฺจนฺตี’’ติ วตฺวา อยฺจ อตฺโถ ปาฬิโต เอว วิฺายตีติ ทสฺเสนฺโต ‘‘ยถาหา’’ติอาทิมาห.

โลกนิยฺยานายาติ โลกโต นิกฺขมนาย, สตฺตโลกสฺส วา วฏฺฏทุกฺขโต นิกฺขมนาย. ปริจฺเฉทปริวฏุมโตติ อุทยพฺพยวเสน ปริจฺเฉทโต เจว ปริวฏุมโต จ. สมนุปสฺสนตายาติ สมฺมเทว อนุ อนุ ปสฺสนาย สํวตฺตนฺตีติ สมฺพนฺโธ. อนิจฺจานุปสฺสนา หิ สงฺขาเร อาทิโต อุทเยน, อนฺตโต วเยน ปริจฺฉินฺเน ปสฺสติ. อาทิอนฺตวนฺตตาย หิ เต อนิจฺจาติ. อนิมิตฺตาย จ ธาตุยาติ สพฺพสงฺขารนิมิตฺตวิรหโต ‘‘อนิมิตฺตา’’ติ ลทฺธนามาย อสงฺขตาย ธาตุยา. จิตฺตสมฺปกฺขนฺทนตายาติ ปริจฺฉินฺทิตฺวา อนุโลมาณาทิภาเวน สมฺมเทว อธิจิตฺตสฺส อนุปวิสนตฺถาย. อปฺปณิหิตายาติ ราคปณิธิอาทีนํ อภาเวน ‘‘อปฺปณิหิตา’’ติ ลทฺธนามาย. สุฺตายาติ อตฺตสุฺตาย ‘‘สุฺตา’’ติ ลทฺธนามาย.

คตินฺติ นิพฺพตฺตึ. สงฺขารานํ สภาววิภาวเนน สํเวชิยมานํ จิตฺตํ สมฺมาปฏิปตฺติยํ สมุตฺเตชิตํ นาม โหตีติ อาห ‘‘มโนสมุตฺเตชนตายาติ จิตฺตสํเวชนตายา’’ติ. มมํกาเรน อตฺตนิยสฺิตสฺส วตฺถุโน สามิภูโต อตฺตา ปมํ ปรามสียติ, ตโต อตฺตนิยนฺติ อาห ‘‘นาหํ, น มมาติ เอวํ อนตฺตโต สมนุปสฺสนตายา’’ติ. ตีณิ ปทานีติ ปริจฺเฉทปริวฏุม, มโนสมุตฺเตชน, สมนุปสฺสนปทานีติ วทนฺติ, ‘‘สพฺพสงฺขาเร’’ติอาทีนิ ปน ตีณิ วากฺยานิ ตีณิ ปทานีติ เวทิตพฺพานิ. เตเนวาติ อนิจฺจานุปสฺสนาทีนํ วเสน เตสํ ติณฺณํ ปทานํ วุตฺตตฺตา เอว. ปฺหวิสฺสชฺชเนติ ‘‘อนิจฺจโต มนสิ กโรโต กถํ สงฺขารา อุปฏฺหนฺตี’’ติ ปฺหสฺส วิสฺสชฺชเน.

๗๖๙. เอวํ วิโมกฺขมุขานิ ทสฺเสตฺวา อิทานิ วิโมกฺเข ทสฺเสตุํ ‘‘กตเม ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อนิจฺจโต มนสิ กโรนฺโตติ อนิจฺจานุปสฺสนํ อนุยุฺชนฺโต. อธิโมกฺขพหุโลติ สทฺธินฺทฺริยพหุโล. ยสฺส วิเสสโต อนิจฺจานุปสฺสนา ติกฺขา สูรา โหติ, ตสฺส สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ. ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา’’ติ หิ อาทิโต สทฺธามตฺตเกน ปฏิปชฺชิตฺวา วิปสฺสนาย อุกฺกํสคตาย ตรุปลฺลวาทีสุ วิย มณิกนกาทีสุปิ เตสํ อนิจฺจตํ สาติสยํ ปจฺจกฺขโต ปสฺสโต ‘‘สมฺมาสมฺพุทฺโธ วต โส ภควา’’ติ สตฺถริ สทฺธา พลวตี ปวตฺตตีติ โส อธิโมกฺขพหุโล, อธิมตฺตสทฺโธ จ โหติ. ตสฺส อนิจฺจานุปสฺสนาพหุลตาย อนิจฺจาการโต วุฏฺานํ โหตีติ โส ‘‘อนิมิตฺตํ วิโมกฺขํ ปฏิลภตี’’ติ วุตฺตํ. ปสฺสทฺธิพหุโลติ ทุกฺขานุปสฺสนํ อนุยุฺชนฺโต ‘‘ทุกฺขา สงฺขารา, ตปฺปฏิปกฺขโต สุโข นิโรโธ’’ติ จ มนสิการวเสน นิพฺพานสฺส สนฺตปณีตสุขภาวํ อธิมุจฺจนฺโต อภิณฺหํ ปีติปาโมชฺชสมาโยคโต ปสฺสทฺธิพหุโล โหติ. ตโต จ อธิมตฺตสมาธินฺทฺริยปฏิลาเภน ราคปณิธิยา ทูรีภาวโต อปฺปณิหิตวิโมกฺขสมธิคโม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘ทุกฺขโต…เป… ปฏิลภตี’’ติ. เวทพหุโลติ อนตฺตานุปสฺสนํ อนุยุฺชนฺโต อตฺตสุฺตาย นิปุณาณวิสยตฺตา าณพหุโล โหติ. ตโต จ อธิมตฺตปฺินฺทฺริยปฏิลาเภน โมหสฺส ทูรีภาวโต สุฺตวิโมกฺขสมธิคโม โหตีติ อาห ‘‘อนตฺตโต…เป… ปฏิลภตี’’ติ.

โย อนิจฺจานุปสฺสนาย นิมิตฺตวเสน สงฺขาเร ปริคฺคเหตฺวา วิปสฺสนํ อนุยุฺชนฺโต ยตฺถ อิทํ สงฺขารนิมิตฺตํ สพฺพโส นตฺถิ, ตํ ‘‘อนิมิตฺตํ นิพฺพาน’’นฺติ อนิมิตฺตากาเรน อธิมุจฺจนฺโต วุฏฺานคามินิมคฺเคน ฆเฏติ. ตสฺส มคฺโค อนิมิตฺตโต นิพฺพานํ สจฺฉิกโรตีติ วุจฺจตีติ อาห ‘‘อนิมิตฺตากาเรน นิพฺพานํ อารมฺมณํ กตฺวา ปวตฺโต อริยมคฺโค’’ติ. สฺวายํ นิพฺพานสฺส อนิมิตฺตากาโร เนว มคฺเคน กโต, น วิปสฺสนาย, อถ โข สภาวสิทฺโธ. ตทารมฺมณตาย จ มคฺโค อนิมิตฺโตติ วุจฺจตีติ ทสฺเสนฺโต อาห ‘‘อนิมิตฺตาย ธาตุยา อุปฺปนฺนตฺตา อนิมิตฺโต’’ติ. โย ทุกฺขานุปสฺสนาวเสน ปณิธิยา ทูรีภาวกรเณน อปฺปณิหิตํ อธิมุจฺจนฺโต , โย อนตฺตานุปสฺสนาวเสน อตฺตูปลทฺธิยา ทูรีภาวกรเณน สุฺตํ อธิมุจฺจนฺโตติ จ อาทินา โยเชตพฺพํ. เตนาห ‘‘เอเตเนว นเยนา’’ติอาทิ.

๗๗๐. ยทิ อริยมคฺโค ติวิธมฺปิ วิโมกฺขนามํ ลภติ, อถ กสฺมา อภิธมฺเม วิโมกฺขทฺวยเมว อาคตนฺติ โจทนํ สนฺธายาห ‘‘ยํ ปนา’’ติอาทิ. ตตฺถ นฺติ อภิธมฺเม วิโมกฺขทฺวยวจนํ. นิปฺปริยายโต วิปสฺสนาคมนํ สนฺธายาติ อุชุกเมว วิปสฺสนโต มคฺคสฺส นามาคมนํ สนฺธาย วุตฺตํ. กสฺมา? อนิมิตฺตวิปสฺสนา อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ. กามํ สุตฺเต ‘‘อนิมิตฺตฺจ ภาเวหิ, มานานุสยมุชฺชหา’’ติ (สุ. นิ. ๓๔๔) อนิมิตฺตวิปสฺสนา กถิตา, สา ปน นิจฺจนิมิตฺตธุวนิมิตฺตอตฺตนิมิตฺตานิ อุคฺฆาเฏนฺตีปิ สยํ นิมิตฺตธมฺเมสุ เอว จรตีติ สนิมิตฺตาว โหตีติ. อปิจ อภิธมฺโม นาม ปรมตฺถเทสนา, อนิมิตฺตมคฺคสฺส จ ปรมตฺถโต เหตุเวกลฺลเมว. อนิจฺจานุปสฺสนาวเสน หิ อนิมิตฺตวิโมกฺโข กถิโต. ตตฺถ จ สทฺธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ, ตํ อริยมคฺเค เอกงฺคมฺปิ น โหติ, อมคฺคงฺคตฺตา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ น สกฺโกติ. อิตเรสุ ทุกฺขานุปสฺสนาย วเสน อปฺปณิหิตวิโมกฺโข, อนตฺตานุปสฺสนาย วเสน สุฺตวิโมกฺโข.

เตสุ อปฺปณิหิตวิโมกฺเขน สมาธินฺทฺริยํ, สุฺตวิโมกฺเขน ปฺินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหตีติ ตานิ อริยมคฺคสฺส องฺคตฺตา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ ทาตุํ สกฺโกนฺติ, น อนิมิตฺตมคฺโค ตทภาวโตติ เกจิ. เย ปน วทนฺติ ‘‘อนิมิตฺตมคฺโค อาคมนโต นามํ อลภนฺโตปิ สคุณโต จ อารมฺมณโต จ นามํ ลภตี’’ติ, เตสํ มเตน อปฺปณิหิตสุฺตมคฺคาปิ สคุณโต เอว, อารมฺมณโต เอว จ นามํ ลเภยฺยุนฺติ? ตํ อยุตฺตํ. กสฺมา? มคฺโค หิ ทฺวีหิ การเณหิ นามํ ลภติ สรสโต จ ปจฺจนีกโต จาติ, สภาวโต จ ปฏิปกฺขโต จาติ อตฺโถ. อปฺปณิหิตมคฺโค หิ ราคปณิธิอาทีหิ วิมุตฺโต, สุฺตมคฺโค ราคาทีหิ สุฺโ เอวาติ เต สรสโต นามํ ลภนฺติ. ตถา อปฺปณิหิตมคฺโค ปณิธิสฺส ปฏิปกฺโข, สุฺตมคฺโค อตฺตาภินิเวสสฺส เอวาติ เต ปจฺจนีกโต นามํ ลภนฺติ, อนิมิตฺตมคฺโค ปน ราคาทินิมิตฺตานํ, นิจฺจนิมิตฺตาทีนํ วา อภาเวน สรสโต เอว นามํ ลภติ, โน ปจฺจนีกโต. น หิ โส สงฺขารนิมิตฺตารมฺมณาย อนิจฺจานุปสฺสนาย ปฏิปกฺโข, สา ปนสฺส อนุโลมภาเว ิตาติ สพฺพถาปิ อภิธมฺมปริยาเยน อนิมิตฺตมคฺโค น ลพฺภติ. เตน วุตฺตํ ‘‘ตํ นิปฺปริยายโต วิปสฺสนาคมนํ สนฺธายา’’ติ.

ยสฺมา สุตฺตนฺตปริยาเยน อนิมิตฺตมคฺโค ลพฺภติ. วุฏฺานคามินี หิ วิปสฺสนา ยํ ยํ สมฺมสนฺตี วุฏฺานํ คจฺฉติ, ตสฺส ตสฺส วเสน อาคมนียฏฺาเน ตฺวา อตฺตโน มคฺคสฺส นามํ เทติ, ตตฺถ อนิจฺจโต วุฏฺหนฺตสฺส มคฺโค อนิมิตฺโต โหติ, ทุกฺขโต วุฏฺหนฺตสฺส อปฺปณิหิโต, อนตฺตโต วุฏฺหนฺตสฺส สุฺโต, ตสฺมา สุตฺตนฺตสํวณฺณนา เอสาติ กตฺวา อิธ ตโยปิ วิโมกฺขา อุทฺธฏา. ยํ ปน ปฏิสมฺภิทามคฺเค อภินิเวสนิมิตฺตปณิธิมุฺจนํ อุปาทาย ติสฺสนฺนมฺปิ อนุปสฺสนานํ ตทาคมนวเสน ตทนฺวยสฺส มคฺคสฺส จ สุฺตวิโมกฺขาทิภาโว นิทฺทิฏฺโ, ตสฺส ปริยายภาเว วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสตุํ ‘‘วิปสฺสนาาณํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. วิปสฺสนาาณํ ปฏิสมฺภิทามคฺเค ‘‘อปฺปณิหิโต, วิโมกฺโข’’ติ จ กิฺจาปิ วุตฺตนฺติ สมฺพนฺโธ.

อนิจฺจานุปสฺสนาาณนฺติ ‘‘อนิจฺจา สงฺขารา’’ติ อนุปสฺสนาวเสน ปวตฺตาณํ. นิจฺจโต อภินิเวสํ มุฺจตีติ ‘‘เต นิจฺจา’’ติ นิจฺจาการโต ปวตฺตมิจฺฉาภินิเวสวิทฺธํสนวเสน, ตทนฺวยํ ปน มคฺคาณํ สมุจฺเฉทวเสน มุฺจติ. อิตีติ ตสฺมา. อนิจฺจาภินิเวสโต ริตฺตตาย, วิมุตฺตตาย จ สุฺโต วิโมกฺโข. เสสปเทสุปิ เอเสว นโย.

นฺติ ติวิธํ วิปสฺสนาาณํ. ตตฺถ ยสฺส ปริยายโต, ยสฺส จ นิปฺปริยายโต นามลาโภ, ตํ ทสฺเสตุํ ‘‘สงฺขารนิมิตฺตสฺสา’’ติอาทิ วุตฺตํ. น นิปฺปริยาเยน, อถ โข ปริยาเยนาติ อตฺโถ. ตสฺมาติ นิปฺปริยายกถาภาวโต. วิโมกฺขทฺวยเมว วุตฺตํ อภิธมฺเมติ อธิปฺปาโย. เอตฺถาติ เอตสฺมึ วิปสฺสนาธิกาเร. ‘‘ติวิธวิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา’’ติ เอตสฺมึ วา อุทฺเทสวจเน.

๗๗๑. เตสํ วิภาคายาติ เตสํ ยถาวุตฺตานํ สตฺตนฺนํ อริยปุคฺคลานํ สทฺธานุสาริอาทิภาเวน วิภตฺตสภาวตาย.

๗๗๒. สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภตีติ สทฺธานุสาริภาวิตาการณภูตํ อธิมตฺตํ สทฺธินฺทฺริยํ ปฏิลภติ. อธิโมกฺขพหุลตาย, สทฺธินฺทฺริยาธิมตฺตตาย จ การณํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อปิจ อยเมตฺถ สงฺเขปตฺโถ – อนิจฺจาการสลฺลกฺขณสฺส สทฺธาภิพุทฺธิยา อุปนิสฺสยภาวโต ตทนฺวเย มคฺเค สทฺธา ติกฺขตรา โหติ, เตน อฏฺมโก สทฺธานุสารี นาม โหติ. เสเสสุ สตฺตสุ าเนสูติ ปมผลโต ปฏฺาย ยาว อคฺคผลา สตฺตสุ าเนสุ. ‘‘สตฺตสุ าเนสู’’ติ กสฺมา วุตฺตํ, นนุ เสเสสุ ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต, อคฺคผเล ปน สจายํ อรูปชฺฌานลาภี, อุภโตภาควิมุตฺโต โหติ, โน เจ อรูปชฺฌานลาภี, ปฺาวิมุตฺโต, น สทฺธาวิมุตฺโต. อภิธมฺเม หิ –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล ‘อิทํ ทุกฺข’นฺติ ยถาภูตํ ปชานาติ, ‘อยํ ทุกฺขสมุทโย’ติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรโธ’ติ, ‘อยํ ทุกฺขนิโรธคามินี ปฏิปทา’ติ ยถาภูตํ ปชานาติ. ตถาคตปฺปเวทิตา จสฺส ธมฺมา ปฺาย ทิฏฺา โหนฺติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ, โน จ โข ยถาทิฏฺิปฺปตฺตสฺส. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘) –

เอกจฺจาสวปริกฺขยวจนโต สทฺธาวิมุตฺตสฺส เสกฺขภาโว วิฺายติ, น อเสกฺขภาโว. อฏฺกถายฺจ ‘‘ทฺเว ธุรานิ, ทฺเว อภินิเวสา, ทฺเว สีสานี’’ติ วจนโต นตฺถิ อรหโต สทฺธาวิมุตฺตตาติ? สจฺจเมตํ นิปฺปริยายโต. นิปฺปริยายกถา หิ อภิธมฺโม, อิธ ปน ปริยาเยน เอวํ วุตฺตํ. ยทิ ปริยายโต อรหโต สทฺธาวิมุตฺตตา, โก ปน โส ปริยาโย? สทฺธาวิมุตฺตนฺวยตา. โย หิ อคฺคมคฺคกฺขเณ สทฺธาวิมุตฺโต โหติ, โส อคฺคผลกฺขเณปิ ตทนฺวยตาย สทฺธาวิมุตฺโตติ ปฏิสมฺภิทามคฺเค ปริยาเยน วุตฺโตติ อิธาปิ ตเถว วุตฺตํ. อถ วา สทฺธาวิมุตฺตสทิสตาย อรหา สทฺธาวิมุตฺโต. กา ปเนตฺถ สทิสตา? ยถา สทฺธาวิมุตฺตสฺส เสกฺขสฺส กิเลสกฺขโย กุณฺเน อสินา กทลิจฺเฉทสทิโส ‘‘โน จ โข ยถาทิฏฺิปฺปตฺตสฺสา’’ติ วจนโต, เอวํ ตทนฺวยสฺสาปิ อรหโตติ อยเมตฺถ สทิสตา. กึ ปน เนสํ กิเลสปหาเน นานตฺตํ อตฺถีติ? นตฺถิ. อถ กสฺมา สทฺธาวิมุตฺโต ทิฏฺิปฺปตฺตํ น ปาปุณาตีติ? อาคมนียนานตฺเตน. ทิฏฺิปฺปตฺโต หิ อาคมนมฺหิ กิเลเส วิกฺขมฺเภนฺโต อปฺปกสิเรน อกิลมนฺโต วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ, สทฺธาวิมุตฺโต กิจฺเฉน กสิเรน วิกฺขมฺเภตุํ สกฺโกติ. อปิจ ปฺายปิ เนสํ เวมตฺตตา. สา จ ยาวติกา ลพฺภเตวาติ วทนฺติ. เอวฺจ กตฺวา ปมมคฺคาทีสุ สติปิ อินฺทฺริยสมตฺเต สทฺธาทีนํ ติกฺขตาวจนมฺปิ สมตฺถิตํ โหติ.

๗๗๓. โสติ ทุกฺขโต วุฏฺิโต. สพฺพตฺถาติ อฏฺสุปิ าเนสุ. นนุ จ อฏฺกถายํ ‘‘ทฺเว ธุรานี’’ติ นิยมิตตฺตา ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี วา สิยา, ธมฺมานุสารี วา? อิธ น สทฺธานุสารี ยุตฺโต, กายสกฺขิตาปิ อรหโต นตฺถิ. อภิธมฺเม หิ –

‘‘กตโม จ ปุคฺคโล กายสกฺขี? อิเธกจฺโจ ปุคฺคโล อฏฺ วิโมกฺเข กาเยน ผุสิตฺวา วิหรติ, ปฺาย จสฺส ทิสฺวา เอกจฺเจ อาสวา ปริกฺขีณา โหนฺติ. อยํ วุจฺจติ ปุคฺคโล กายสกฺขี’’ติ (ปุ. ป. ๒๐๘) –

เอกจฺจาสวปริกฺขยวจนโต กายสกฺขิโน เสกฺขภาโวว วิฺายตีติ? สจฺจเมตํ นิปฺปริยายโต, อิธ ปน ปริยาเยน วุตฺตํ. โก ปน โส ปริยาโยติ? กายสกฺขิสทิสตา. อุปจารรูปชฺฌานสมาธิโต หิ สาติสยํ อรูปสมาธิสมฺผสฺสํ ลทฺธา นิพฺพตฺตีติ เอกจฺจาสวปริกฺขยํ อุปาทาย ‘‘กายสกฺขี’’ติ วตฺตพฺพปุคฺคเลน สาติสยสมาธิสมฺผสฺสตทธิฏฺานาสวปริกฺขยสามฺํ อเปกฺขิตฺวา กายสกฺขี วิย กายสกฺขีติ อรหา ปฏิสมฺภิทามคฺเค วุตฺโตติ อิธาปิ ตเมว นยํ คเหตฺวา อรหโตปิ กายสกฺขิตา วุตฺตา. สุตฺตนฺตสํวณฺณนา เหสาติ. นิปฺปริยาเยน ปน ปมผลโต ปฏฺาย ฉสุ าเนสุ กายสกฺขี นาม โหติ, โส จ โข อฏฺสมาปตฺติลาภี, น วิปสฺสนายานิโก สุกฺขวิปสฺสโก, อุปจารมตฺตลาภี, รูปชฺฌานมตฺตลาภี วา. ปสฺสทฺธิพหุโลติ จ ปสฺสทฺธิสีเสน สมาธิ วุตฺโตติ สาติสยสมาธิลาภี สมถยานิโกว อธิปฺเปโต, สมถยานิกสฺเสว จ กายสกฺขิภาโว เหฏฺา วุตฺโต. อรูปชฺฌานนฺติ จตุพฺพิธํ อรูปชฺฌานํ. ตตฺถ ปน เอกมฺปิ ลทฺธา อรหตฺตํ ปตฺโต อุภโตภาควิมุตฺโต เอว โหตีติ อิมมตฺถํ ทสฺเสตุํ ‘‘อรูปชฺฌาน’’มิจฺเจว วุตฺตํ, น ‘‘จตฺตาริ อรูปชฺฌานานี’’ติ. เตนายํ จตุนฺนํ อรูปสมาปตฺตีนํ, นิโรธสมาปตฺติยา จ วเสน ปฺจวิโธ โหติ. เอส นโย กายสกฺขิมฺหิปิ. ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโตติ อุภโตภาควิมุตฺโต.

๗๗๔. ปฺวโต นิปุณตรา, คมฺภีรา จ อตฺถา ปากฏา หุตฺวา อุปฏฺหนฺตีติ อนตฺตโต มนสิ กโรโต เวทพหุลตา, ปฺินฺทฺริยปฏิลาโภ จ วุตฺโต. ธมฺมานุสารี โหติ ปฺินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา. ปฺา หิ อิธ ‘‘ธมฺโม’’ติ อธิปฺเปตา ‘‘สจฺจํ ธมฺโม ธิติ จาโค’’ติอาทีสุ วิย (ชา. ๑.๑.๕๗).

๗๗๕. ยสฺสา ปาฬิยา วเสน อิธ อริยปุคฺคลสฺส สทฺธาวิมุตฺตาทิภาโว วุตฺโต, ตํ ปาฬึ ทสฺเสตุํ ‘‘วุตฺตํ เหต’’นฺติอาทิ อารทฺธํ, ตํ สุวิฺเยฺยเมว.

๗๗๖. ‘‘สทฺธินฺทฺริยสฺส อธิมตฺตตฺตา สทฺธาวิมุตฺโต’’ติ เอวมาทิอตฺถสฺส สาธกํ อปรมฺปิ วุตฺตํ. ‘‘สทฺทหนฺโต วิมุตฺโต’’ติ เอเตน สพฺพถา อวิมุตฺตสฺส สทฺธามตฺเตน วิมุตฺตภาวทสฺสเนน สทฺธาวิมุตฺตสฺส เสกฺขภาวเมว วิภาเวติ. สทฺธาวิมุตฺโตติ วา สทฺธาย อธิมุตฺโตติ อตฺโถ.

ผุฏฺนฺตํ สจฺฉิกโตติ ผุฏฺานํ อนนฺตรํ ผุฏฺนฺโต, ผุฏฺานํ อรูปชฺฌานานํ อนนฺตโร กาโลติ อธิปฺปาโย, อจฺจนฺตสํโยเค เจตํ อุปโยควจนํ, ผุฏฺานนฺตรกาลเมว สจฺฉิกรณูปาเยน สจฺฉิกาตพฺพํ สจฺฉากาสีติ วุตฺตํ โหติ. ภาวนปุํสกํ วา เอตํ ยถา ‘‘เอกมนฺต’’นฺติ (ปารา. ๒). โย หิ อรูปชฺฌาเนน รูปกายโต, นามกาเยกเทสโต จ วิกฺขมฺภนวิโมกฺเขน วิมุตฺโต, เตน นิโรธสงฺขาโต วิโมกฺโข อาโลจิโต ปกาสิโต วิย โหติ, น ปน กาเยน สจฺฉิกโต, นิโรธํ ปน อารมฺมณํ กตฺวา เอกจฺเจสุ อาสเวสุ เขปิเตสุ เตน โส สจฺฉิกโตว โหติ. ตสฺมา โส สจฺฉิกาตพฺพํ ยถาอาโลจิตํ นามกาเยน สจฺฉากาสีติ กายสกฺขีติ วุจฺจติ, น ตุ วิมุตฺโต เอกจฺจานํ อาสวานํ อปริกฺขีณตฺตา. ทิฏฺนฺตํ ปตฺโตติ ทสฺสนสงฺขาตสฺส โสตาปตฺติมคฺคาณสฺส อนนฺตรํ ปตฺโตติ วุตฺตํ โหติ. ปมผลโต ปฏฺาย หิ ยาว อคฺคมคฺคา ทิฏฺิปฺปตฺโตติ. ‘‘ทิฏฺิยา ปตฺโต’’ติ วา ปาโ, จตุสจฺจทสฺสนสงฺขาตาย ทิฏฺิยา นิโรธํ ปตฺโตติ อตฺโถ. อิเม จ สทฺธาวิมุตฺตาทโย ตโย ปรมตฺถโต อปริโยสิตาณกิจฺจาติ ตํ นยํ ทสฺเสตุํ ‘‘สทฺทหนฺโต วิมุจฺจตี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ฌานผสฺสนฺติ สาติสยํ ฌานผสฺสํ. เตน อรูปชฺฌานผสฺโส สงฺคหิโต โหติ.

‘‘ทุกฺขา สงฺขาราติ าตํ โหตี’’ติ อิมินา ทุกฺขสจฺจปฏิเวธมาห, ‘‘สุโข นิโรโธติ าตํ โหตี’’ติ อิมินา นิโรธสจฺจปฏิเวธํ. ตทุภเยน จ สมุทยมคฺคสจฺจปฏิเวธํ นานนฺตริยกภาวโต. ‘‘าตํ โหตี’’ติ อิมินา ทุติยมคฺคกิจฺจํ, ‘‘ทิฏฺํ โหตี’’ติ อิมินา ตติยมคฺคกิจฺจํ, ‘‘วิทิตํ โหตี’’ติ อิมินา จตุตฺถมคฺคกิจฺจํ, ‘‘สจฺฉิกต’’นฺติ อิมินา ปมผลกิจฺจํ, ‘‘ผุสิต’’นฺติ อิมินา เสสผลทฺวยกิจฺจํ. อิติ ทิฏฺิปฺปตฺตสฺส มคฺคผลาณพฺยาปารทสฺสนานิ อิมานิ ปทานีติ วทนฺติ.

๗๗๗. อิตเรสูติ สทฺธานุสาริอาทิปเทสุ. สทฺธํ อนุสรตีติ อาคมนียฏฺาเน ิตํ สทฺธํ อนุคจฺฉติ. ยถา สา ติกฺขา สูรา อโหสิ , มคฺคกฺขเณปิ ตทนุรูปเมว ปวตฺเตตีติ อตฺโถ. สทฺธาย วา อนุสรตีติ สทฺธาย การณภูตาย สจฺจปฏิเวธสฺส อนุรูปํ สรติ คจฺฉติ, ปฏิปชฺชตีติ อตฺโถ. ทฺวีหิปิ อตฺถวิกปฺเปหิ สทฺธาย อธิมตฺตตํเยว วิภาเวติ. ธมฺมานุสารีติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. อุภโตภาควิมุตฺโตติ ทฺวีหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺโต, รูปกายโต จ นามกายโต จ วิกฺขมฺภนวเสน, สมุจฺเฉทวเสน จ วิมุตฺโตติ อตฺโถ. อรูปชฺฌาเนน รูปกายโต จ นามกาเยกเทสโต จ วิมุตฺโต, อริยมคฺเคน นามกายโต วิมุตฺโตติ อุโภหิ ภาเคหิ ทฺเว วาเร วิมุตฺตตฺตา อุภโตภาควิมุตฺโต. ปชานนฺโต วิมุตฺโตติ ปมชฺฌานผสฺเสน วินา ปริชานนาทิปฺปกาเรหิ จตฺตาริ อริยสจฺจานิ ชานนฺโต ปฏิวิชฺฌนฺโต เตสํ กิจฺจานํ มตฺถกปฺปตฺติยา นิฏฺิตกิจฺจตาย วิเสเสน มุตฺโตติ วิมุตฺโต.

อยํ ปเนตฺถ นิปฺปริยายโต สงฺเขปกถา – ยสฺส อนิจฺจาการโต วุฏฺานํ โหติ, โส อธิโมกฺขพหุโล สทฺธินฺทฺริยสฺส ติกฺขภาเวน ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี นาม โหติ, มชฺเฌ ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต. อคฺคผลกฺขเณ ปฺาวิมุตฺโต นาม โหติ. ตถา ยสฺส ทุกฺขาการโต วุฏฺานํ โหติ, ตสฺส ปสฺสทฺธิพหุลตาย สมาธินฺทฺริยํ อธิมตฺตํ โหติ ทุกฺขุปนิสาย สทฺธายปิ ติพฺพตรตฺตา, ธุรนิยมโต จ. โสปิ ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี เอว โหติ, มชฺเฌ ฉสุ าเนสุ สทฺธาวิมุตฺโต, อนฺเต ปฺาวิมุตฺโต จ โหติ. ยสฺส ปน อนตฺตาการโต วุฏฺานํ โหติ, โส เวทพหุโล ปฺินฺทฺริยสฺส ติกฺขภาเวน ปมมคฺคกฺขเณ ธมฺมานุสารี เอว โหติ, มชฺเฌ ฉสุ าเนสุ ทิฏฺิปฺปตฺโต, อนฺเต ปฺาวิมุตฺโต เอว โหติ. อิเม ปน น อฏฺวิโมกฺขลาภิโน, อฏฺวิโมกฺขลาภี ปน ปมมคฺคกฺขเณ สทฺธานุสารี วา ธมฺมานุสารี วา สิยา. มชฺเฌ ฉสุ าเนสุ กายสกฺขี, ปริโยสาเน อุภโตภาควิมุตฺโตติ.

สงฺขารุเปกฺขาาณํ.

๗๗๘. ยํ ตํ วิโมกฺขมุขภาวํ อาปชฺชิตฺวา สตฺตอริยปุคฺคลวิภาคาย จ ปจฺจโย โหตีติ วุตฺตํ, ตํ ปเนตํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ. ปุริเมน าณทฺวเยนาติ มุฺจิตุกมฺยตาปฏิสงฺขานุปสฺสนาาณทฺวเยน อตฺถโตเอกํ, ปวตฺติอาการเภทโต นานนฺติ อธิปฺปาโย. ยถาวุตฺตมตฺถํ อฏฺกถาย, ปาฬิยา จ สาเธตุํ ‘‘เตนาหู’’ติอาทิ วุตฺตํ. มุฺจิตุกมฺยตามุฺจนุปายกรณาณานิปิ สงฺขาเรสุ อุทาสีนภาเวเนว ปวตฺตนโต สงฺขารุเปกฺขาสมฺาเนว โหนฺตีติ วุตฺตํ ‘‘อิทํ สงฺขารุเปกฺขาาณํ เอกเมว ตีณิ นามานิ ลภตี’’ติ. เตน สงฺขารุเปกฺขาโวหาโร มุฺจิตุกมฺยตาทิาณสมุทายวิสโยติ ทสฺเสติ.

๗๘๐. อุปฺปาทาทีนีติ อุปฺปาทปวตฺตาทิอปเทเสน วุตฺเต สงฺขาเร. ปริจฺจชิตุกามตาติ ตปฺปฏิพนฺธฉนฺทราคปฺปหาเนน วิสฺสชฺชิตุกามตา. ปฏิสงฺขานนฺติ ปุนปฺปุนํ ตีรณํ. มุฺจิตฺวาติ นิราลยภาวาปตฺติยา อเปกฺขาวิสฺสชฺชนวเสน วิสฺสชฺชิตฺวา. อวสาเนติ ตถากรณสฺส อุตฺตรกาลํ. ยาว นิพฺพานสมฺปกฺขนฺทนา น อิชฺฌติ, ตาว วิจินเนปิ อุทาสีนตาย าณสฺส สนฺตานวเสน ปวตฺตึ สนฺธายาห ‘‘อชฺฌุเปกฺขนํ สนฺติฏฺนา’’ติ. เอวนฺติ อชฺฌุเปกฺขนาการสามฺโต ‘‘มุฺจิตุกมฺยตา จ สา สนฺติฏฺนา จา’’ติ วุตฺตากาเรน.

๗๘๑. อิเม ธมฺมาติ อิเม าณสงฺขาตา ธมฺมา, าณปริยาโย วา อิธ ธมฺม-สทฺโท, ตสฺมา อิมานิ าณานีติ อตฺโถ. เอกตฺตาติ เอกสภาวา.

๗๘๒. วุฏฺานคามินี โหติ วุฏฺานคมนโต. สงฺขารุเปกฺขาทิาณตฺตยสฺสาติ สงฺขารุเปกฺขานุโลมโคตฺรภุสฺิตสฺส าณตฺตยสฺส. กิจฺจวเสน ปวตฺติฏฺานวเสนปิ โลกิยาณานํ อุปริ ิตตฺตา วุตฺตํ ‘‘อุตฺตมภาวํ ปตฺตตฺตา’’ติ. นิมิตฺตภูตโตติ วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตโต ขนฺธปฺจกโต. เตนาห ‘‘อภินิวิฏฺวตฺถุโต’’ติ. ตฺหิ วิปสฺสนาย โคจรกรณสงฺขาเตน อภินิเวเสน อภินิวิฏฺวตฺถุนฺติ ปวุจฺจติ. ตํ ปเนตํ สสนฺตติปริยาปนฺนมฺปิ ปรโต ทิฏฺิตาย ‘‘พหิทฺธา’’ติ วุตฺตํ. ตเทว หิ ‘‘พหิทฺธา สพฺพนิมิตฺตานี’’ติ ตตฺถ ตตฺถ วุจฺจติ. อชฺฌตฺตปวตฺตโตติ สสนฺตาเน มิจฺฉาทิฏฺิปวตฺตนอาทิโต, ตทนุวตฺตกกิเลสกฺขนฺเธหิ จ. ตฺหิ สสนฺตติยํ กิเลสปฺปวตฺตภาวโต, ตนฺนิมิตฺตํ อสติ มคฺคภาวนาย อุปฺปชฺชนกอุปาทินฺนกฺขนฺธปวตฺตภาวโต จ ตถา วุตฺตํ. วุฏฺหนฺจ เนสํ อารมฺมณากรณํ, อายตึ อนุปฺปตฺติธมฺมตาปาทนฺจ. ฆฏิยติ อตฺตโน อนนฺตรเมว มคฺคสมุปฺปตฺติโต.

๗๘๓. ตตฺราติ ตสฺมึ ‘‘อภินิวิฏฺวตฺถุโต วุฏฺหนโต’’ติ สงฺเขปวจเน. อชฺฌตฺตพหิทฺธา รูปารูปปปฺจกฺขนฺธลกฺขณตฺตยวเสน อยํ มาติกา อุทฺเทโส. อชฺฌตฺตํ อภินิวิสิตฺวาติ สสนฺตติปริยาปนฺเนสุ ขนฺเธสุ วิปสฺสนํ ปฏฺเปตฺวา. ‘‘อชฺฌตฺตา วุฏฺาตี’’ติ อิทํ วุฏฺานคามินิยา อชฺฌตฺตธมฺมารมฺมณตฺตา ปริยายโต วุตฺตํ, นิปฺปริยายโต ปน มคฺโค สพฺพโตปิ วุฏฺาติ. พหิทฺธา วุฏฺาตีติอาทีสุปิ เอเสว นโย. เอกปฺปหาเรนาติ เอกชฺฌํ, ตํ ปน อชฺฌตฺตาทิวิภาคํ อกตฺวา ‘‘ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺม’’นฺติ (ที. นิ. ๑.๒๙๘; สํ. นิ. ๕.๑๐๘๑; มหาว. ๑๖; ปฏิ. ม. ๒.๓๐) อวิภาเคน วุฏฺานคามินิยา ปวตฺติวเสน เวทิตพฺพํ, ตยิทํ สตฺถุ สมฺมุขา เทสนานุสาเรน าณํ เปเสนฺตสฺส าณุตฺตรสฺส สมฺภวตีติ วทนฺติ.

๗๘๔. สุทฺธอชฺฌตฺตทสฺสนมตฺเตเนว มคฺควุฏฺานํ น โหติ มมํการวตฺถุโนปิ ปริฺเยฺยตฺตา มคฺคสงฺขาตํ วุฏฺานํ, มคฺเคน วา วุฏฺานํ มคฺควุฏฺานํ.

๗๘๕. ราสึ กตฺวาติ ภูตุปาทายวเสน ทุวิธํ อนฺตรเภทวเสน อเนกเภทมฺปิ ‘‘รุปฺปนฏฺเน รูป’’นฺติ ปิณฺฑโต คเหตฺวา. ยถา รูเป วิปสฺสนาภินิเวโส เยภุยฺเยน วิปสฺสนายานิกสฺส, เอวํ อรูเป วิปสฺสนาภินิเวโส เยภุยฺเยน สมถยานิกสฺส โหติ. อภินิเวโสติ จ วิปสฺสนาย ปุพฺพภาเค กตฺตพฺพนามรูปปริจฺเฉโท เวทิตพฺโพ. ตสฺมา ปมํ รูปปริคฺคณฺหนํ รูเป อภินิเวโส. เอส นโย เสเสสุปิ.

๗๘๖. ยํ กิฺจิ สมุทยธมฺมํ, สพฺพํ ตํ นิโรธธมฺมนฺติ กามํ อุทยพฺพยปริคฺคณฺหนํ อภินิเวโสติ ทสฺสิตํ, ยถาอุปฏฺิเต ปน รูปารูปธมฺเม, เตสฺจ ปจฺจเย ปริคฺคเหตฺวา สงฺเขเปเนว วิปสฺสนาาณํ จาเรนฺโต าณุตฺตโร ยถานิสินฺโนว าณปฏิปาฏิยา ขิปฺปเมว สจฺจานิ ปฏิวิชฺฌนฺโต เอกปฺปหาเรน ปฺจหิ ขนฺเธหิ วุฏฺาติ นาม. อฺถา เอเกเนว โลกิยจิตฺเตน ปฺจนฺนํ ขนฺธานํ ปริคฺคหปริชานนาทีนํ อสมฺภวโต. น หิ สนิทสฺสนสปฺปฏิฆาทึ เอกชฺฌํ อารมฺมณํ กาตุํ สกฺกา. ยสฺส ปน เอกวารํ าเณน ผสฺสิตํ, ปุน ตํ ผสฺสิตพฺพเมว, ตาทิสสฺส วเสน วุตฺตนฺติ วทนฺติ.

๗๘๘. เอตฺถ จ อภินิเวโส อการณํ วุฏฺานเมว ปมาณํ, ตสฺมา เหฏฺา วุตฺตวิโมกฺขอริยปุคฺคลวิภาคาปิ วุฏฺานวเสน สมฺภวนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘เอตฺถ จ โยปี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ ตโยปิ ชนาติ วุฏฺานวเสน เภเท อสติปิ อภินิเวสวเสเนว ลทฺธํ เภทํ คเหตฺวา วุตฺตํ.

๗๘๙. สทฺธึปุริมปจฺฉิมาเณหีติ ภยตุปฏฺานาทิปุริมาเณหิ เจว โคตฺรภุอาทิปจฺฉิมาเณหิ จ สห. อุทฺทานนฺติ อุทฺเทโส.

ยตฺถ กตฺถจิ…เป… วฏฺเฏยฺยุํ ตํตําณฏฺานิยสฺส อุปมาวตฺถุโน ลพฺภนโต. อิมสฺมึ ปน าเนติ อิมสฺมึ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาปเทเส. สพฺพนฺติ สพฺพํ าณํ, สพฺพํ วา าณกิจฺจํ ปากฏํ โหติ เวมชฺเฌ ตฺวา วิภาวิยมานตฺตา. วุตฺตา วิสุทฺธิกถายํ.

๗๙๐. นิลียิตฺวาติ อุปวิสิตฺวา. ปรามสิตฺวาติ วีมํสิตฺวา.

คยฺหุปคํ อทิสฺวาติ คหณโยคฺคํ นิจฺจสาราทึ อทิสฺวา. จิตฺตสฺส วงฺกภาวกรานํ มายาทีนํ สุฏฺุ วิกฺขมฺภเนน อนุโลมสฺส อุชุกสาขาสทิสตา. นิพฺพานาโลจนโต โคตฺรภุาณสฺส อุทฺธํ อุลฺโลกนสทิสตา. อปฺปติฏฺเ นิพฺพาเน ปติฏฺิตตฺตา มคฺคาณสฺส อากาเส อุปฺปตนสทิสตา.

๗๙๑. สปฺปวิสฺสชฺชนํ วิย โคตฺรภุาณํ สพฺพสงฺขารคตํ วิสฺสชฺชิตฺวา นิพฺพานสฺส อาลมฺพนโต. อาคตมคฺคํ โอโลเกนฺตสฺส านํ วิย มคฺคาณํ อสมฺโมหปฏิเวธวเสน อตฺตโนปิ ทสฺสนโต. อภยฏฺาเน านนฺติ อภยฏฺานํ สมฺปตฺตมาห, น ตสฺส ปาปุณปฏิปตฺตึ.

๗๙๒. อตฺตตฺถาทีนํ อนวพุชฺฌนโต ‘‘อหํ, มมา’’ติ คหณสฺส นิทฺโทกฺกมนสทิสตา. มุฺจิตุกมฺยตาคฺคหเณเนว ปฏิสงฺขา สนฺติฏฺนาปิ คหิตา. ติสฺสนฺนมฺปิ ตาสํ สํสารโต นิกฺขมนาธิมุตฺตตาย นิกฺขมนมคฺโคโลกนสทิสตา. มคฺเค ทิฏฺเ มคฺคปฏิปตฺติ วิย อนุโลเม สิทฺเธ มคฺโค สิทฺโธ เอวาติ อนุโลมสฺส มคฺคทสฺสนสทิสตา. สงฺขารนิมิตฺตโต นิกฺขนฺตตฺตา อาทิตฺตฆรโต นิกฺขมนํ วิย โคตฺรภุาณํ. เวเคนคมนํวิย มคฺคาณํ วิสฺสชฺเชตพฺพคเหตพฺพปเทเสสุ สาธนกิจฺจวิเสสโยคโต.

๗๙๓. ปรโต น มมายิตพฺพโต จ ปสฺสิตพฺพานํ ขนฺธานํ ‘‘อหํ, มมา’’ติ คหณสฺส ราชโคณานํ สกคหณสทิสตา วุตฺตา.

๗๙๔. สภเย อภยทสฺสนเหตุตาย ขนฺธานํ ‘‘อหํ, มมา’’ติ คหณสฺส ยกฺขินิยา สํวาสสทิสตา. สุสานวิชหนํ วิย สงฺขารสุสานํ วิชหิตฺวา นิพฺพานารมฺมณวเสน ปวตฺตํ โคตฺรภุ.

๗๙๕. ปุตฺตคิทฺธินีติ ปุตฺตวจฺฉลา. โอตฺตปฺปมานาติ สารชฺชยมานา. โอฬาริกโอฬาริกโลภกฺขนฺธาทิวิกฺขมฺภเนน สงฺขารปริจฺจชนโต อนุโลมสฺส ตตฺเถว ทารโกโรปนสทิสตา.

๗๙๖. วุฏฺานคามินิยา…เป… ทสฺสนตฺถํ วุตฺตา, น ปุริมาสุ วิย ภยตุปฏฺานาทีสุ ิตสฺส ภายนาทิอาการทสฺสนตฺถนฺติ อธิปฺปาโย. อปราปรุปฺปตฺติโต, จิรานุพนฺธโต, ทุสฺสหโต จ วฏฺฏทุกฺขสทิสํ ชิฆจฺฉาทุกฺขนฺติ อาห ‘‘สํสารวฏฺฏชิฆจฺฉายา’’ติ. กายคตาสติ เอว โภชนํ กายคตาสติโภชนํ. สา ปเนตฺถ มคฺคสมฺปยุตฺตา สมฺมาสติ กายานุปสฺสนาทิกิจฺจสาธนวเสน อมตรสปริโภคตาย จ ‘‘อมตรสํ กายคตาสติโภชน’’นฺติ วุตฺตา. เตนาห ภควา ‘‘อมตํ เต, ภิกฺขเว, ปริภุฺชนฺติ, เย กายคตาสตึ ปริภุฺชนฺตี’’ติอาทิ (อ. นิ. ๑.๖๐๐).

ผลรสามลกสิงฺคีเวรมุคฺคมาสาทิ อเนกงฺคสมฺภารํ.

กปณาเสริภาวาทิกรเณน ตณฺหาสิเนหสฺส สีตสทิสตา. มคฺคเตชนฺติ อริยมคฺคสงฺขาตํ อินฺทคฺคึ.

ราคคฺคิอาทโย เอกาทสคฺคี วูปสมนฺติ เอตฺถาติ เอกาทสคฺคิวูปสมํ, นิพฺพานํ.

อนฺธการปเรโตติ จตุรงฺคสมนฺนาคเตน อนฺธกาเรน กิฺจิ อตฺตตฺถํ วา ปรตฺถํ วา กาตุํ อสกฺกุเณยฺยภาเวน อภิภูโต. าณมโย อาโลโก เอติสฺสาติ าณาโลกา, มคฺคภาวนา.

อมตภูตํ , อมตภาวสาธกํ วา โอสธํ อมโตสธํ, นิพฺพานํ. เหฏฺา อตฺตนา วุตฺตเมว สงฺขารุเปกฺขาพฺยาปารํ นิคมนวเสน ทสฺเสนฺโต ‘‘เตน วุตฺต’’นฺติอาทิมาห.

๗๙๗. นิราลยตาย ตณฺหาวเสน ภวาทีสุ อวิสฏชฺฌาสโย หุตฺวา ตโต สงฺกุจิตจิตฺโต ปติลีนภาเวน จรติ ปวตฺตตีติ ปติลีนจโร, ตสฺส ปติลีนจรสฺส. สํสาเร ภยสฺส อิกฺขนตาย ภิกฺขุโน กายจิตฺตวิเวกสิทฺธิยา วิวิตฺตมาสนํ ภชมานสฺส. สามคฺคิยนฺติ ยุตฺตํ, ปติรูปนฺติ อตฺโถ. ภวเนติ กามภวาทิเก ติวิเธปิ ภเว. โส หิ อิธ ภวนฏฺเน ภวนฺติ วุตฺโต. น ทสฺสเยติ อนุปฺปชฺชนวเสน น ทสฺเสยฺย. ตสฺส ตํ อทสฺสนํ สามคฺคิยนฺติ พุทฺธาทโย อริยา อาหูติ โยชนา.

นิยเมตฺวาติ นิยตํ เอกํสิกํ กตฺวา. โพชฺฌงฺควิเสสํ, มคฺคงฺควิเสสํ, ฌานงฺควิเสสํ, ปฏิปทาวิเสสํ, วิโมกฺขวิเสสนฺติ วิเสสสทฺโท ปจฺเจกํ โยเชตพฺโพ. วิเสสนฺติ ฉสตฺตภาโว สตฺตฏฺภาโว ปฺจาทิภาโวติ อิมํ ยถากฺกมํ โพชฺฌงฺคาทีนํ อริยมคฺเค ลพฺภมานเภทํ. ปาทกชฺฌานนฺติ มคฺคสฺส อาสนฺนวุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย ปทฏฺานภูตํ ฌานํ. วิปสฺสนาย อารมฺมณภูตาติ มคฺคาสนฺนาย เอว วุฏฺานคามินิยา วิปสฺสนาย โคจรภูตา วิปสฺสิตา. ปุคฺคลชฺฌาสโยติ อุภินฺนํ เภเท สติ วิปสฺสกสฺส อชฺฌาสโย. เอตฺถ จ ปมํ เกจีติ วุตฺโต ติปิฏกจูฬนาคตฺเถโร. ทุติยํ เกจีติ วุตฺโต โมรวาปีวาสิมหาทตฺตตฺเถโร. ตติยํ เกจีติ วุตฺโต ติปิฏกจูฬาภยตฺเถโร.

เตสมฺปิ วาเทสุ อยํ ปุพฺพภาควุฏฺานคามินิวิปสฺสนา นิยเมติเยวาติ เวทิตพฺพา. กสฺมา? วิปสฺสนานิยเมเนว หิ ปมตฺเถรวาเทปิ อปาทกปมชฺฌานปาทกมคฺคา ปมชฺฌานิกาว โหนฺติ, อิตเร จ ทุติยชฺฌานิกาทิมคฺคา ปาทกชฺฌานวิปสฺสนานิยเมหิ ตํตํฌานิกาว ตโต ตโต ทุติยาทิปาทกชฺฌานโต อุปฺปนฺนสฺส สงฺขารุเปกฺขาาณสฺส ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภาวโต, อิตรสฺส จ อตพฺภาวโต. ยถา หิ มคฺคาสนฺนาย วิปสฺสนาย โสมนสฺสสหคตตฺเต มคฺคสฺส ปมาทิฌานิกตา จ อุเปกฺขาสหคตตฺเต ปฺจมชฺฌานิกตา เอว จ โหติ, ตโต จ โพชฺฌงฺคาทีนํ วิเสโสติ เตสํ นิยมเน อาสนฺนการณํ, ปธานการณฺจ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา, น เอวํ ปาทกชฺฌานาทโย. ยสฺมา ปน ปาทกชฺฌาเนน วินา วิปสฺสนาว อิมํ ยถาวุตฺตวิเสสํ นิยเมตุํ น สกฺโกติ, วุตฺตนเยน ปน ปธานการณํ โหติเยว, ตสฺมา ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนาว นิยเมตี’’ติ อวตฺวา ‘‘วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา นิยเมติเยวา’’ติ วุตฺตํ. เอวํ เสสวาเทสุปิ วิปสฺสนานิยโม ยถาสมฺภวํ โยเชตพฺโพ. ยถา หิ ปาทกชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ อสมาปชฺชิตุกามตาวิราคภาวนาภูตา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อธิฏฺานภูเตน ปาทกชฺฌาเนน อาหิตวิเสสา มคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสนิยามิกา โหติ, เอวํ อารมฺมณภูตสมฺมสิตชฺฌานาติกฺกนฺตานํ องฺคานํ ชิคุจฺฉนาการวิราคภาวนาภูตา สมฺมสิตชฺฌาเนน อาหิตวิเสสา, อุภยสพฺภาเว อชฺฌาสยวเสน ตโต อฺตเรน อาหิตวิเสสา จ วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา มคฺคสฺส โพชฺฌงฺคาทิวิเสสํ นิยเมตีติ.

๗๙๘. ตตฺร ตสฺมึ โพชฺฌงฺคาทิวิเสสนิยมเน. อฌานลาภี สุทฺธวิปสฺสนายานิโกว สุกฺขวิปสฺสโก. โส หิ ฌานสิเนเหน วิปสฺสนาย อสินิทฺธภาวโต สุกฺขา ลูขา วิปสฺสนา เอตสฺสาติ สุกฺขวิปสฺสโกติ วุจฺจติ. ปกิณฺณกสงฺขาเรติ ปาทกชฺฌานโต อฺเ สงฺขาเร. เตน ปาทกชฺฌานสงฺขาเรสุ สมฺมสิเตสุ วตฺตพฺพเมว นตฺถีติ ทสฺเสติ. ‘‘ปมํ ฌานํ ปาทกํ กตฺวา’’ติ หิ วุตฺตํ. เอตฺถ จ สุกฺขวิปสฺสกาทิคฺคหณํ วิปสฺสนานิยมสฺส เอกนฺติกภาวทสฺสนตฺถํ. น หิ วุฏฺานคามินึ วินา เกวลํ ปาทกชฺฌานาทโย นิยมเหตู ทิฏฺา, วุฏฺานคามินี ปน ปาทกชฺฌานาทีนํ อภาเวปิ สุกฺขวิปสฺสกาทีนํ มคฺคสฺส ปมชฺฌานิกภาวเหตุ, ตสฺมา สา โพชฺฌงฺคาทิวิเสสนิยมเน เอกนฺติกเหตูติ. อิทานิ ยถาวุตฺตมตฺถํ ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘เตสํ หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อยํ วิเสโสติ อยํ ฌานาทีนํ จตุรงฺคิกาทิวิเสโส, น ปุพฺเพ วิย วิปสฺสนานิยเมเนว, อถ โข ปาทกชฺฌานนิยเมน เจว วิปสฺสนานิยเมน จ. เตสมฺปีติ ปฺจกนเย ทุติยตติยจตุตฺถชฺฌานานิ ปาทกานิ กตฺวา อุปฺปาทิตมคฺคานมฺปิ. ‘‘อาสนฺนปเทเส’’ติ อิมินา วิปสฺสเกน อนฺตรนฺตรา ปวิฏฺสมาปตฺติยา วเสน อยํ วิเสโส นตฺถีติ ทสฺเสติ.

๗๙๙. ตตฺราปิจาติ ทุติยตฺเถรวาเทปิ. ตํตํสมาปตฺติสทิสตา ตํตํสมฺมสิตสงฺขารวิปสฺสนานิยเมหิ โหติ. ตตฺราปิ หิ วิปสฺสนา ตํตํวิราคาวิราคภาวนาภาเวน โสมนสฺสสหคตา, อุเปกฺขาสหคตา จ หุตฺวา ฌานงฺคาทินิยมํ มคฺคสฺส กโรตีติ เอวํ วิปสฺสนานิยโม วุตฺตนเยเนว เวทิตพฺโพ.

๘๐๐. นฺติ ตํตํฌานสทิสภวํ. สฺวายมตฺโถ ปาทกชฺฌานสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสเยหิ วินา อชฺฌาสยมตฺเตน อสิชฺฌนํ อุปนิสฺสเยน วินา สงฺกปฺปมตฺเตน สกทาคามิผลาทีนํ อสิชฺฌนทีปเกน นนฺทโกวาเทน ทีเปตพฺโพ. ตตฺถ หิ ยถา โสตาปนฺนายปิ ปริปุณฺณสงฺกปฺปตํ วทนฺเตน ภควตา ‘‘ยสฺส ยสฺส อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตสฺเสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาฺสฺสา’’ติ เตน เตน ปริปุณฺณสงฺกปฺปตา โหติ, น ตโต ปรํ, สงฺกปฺปสพฺภาเว สติปิ อสิชฺฌนโตติ อยมตฺโถ ทีปิโต, เอวมิธาปิ ยสฺส ยสฺส ทุติยาทิฌานิกสฺส มคฺคสฺส ยถาวุตฺโต อุปนิสฺสโย อตฺถิ, ตสฺส ตสฺเสว อชฺฌาสโย นิยามโก, นาฺสฺส สติปิ ตสฺมึ อสิชฺฌนโต. อิมสฺมึ ปน วาเท ปาทกสมฺมสิตชฺฌานุปนิสฺสยสพฺภาเว อชฺฌาสโย เอกนฺเตน โหติ ตํตํผลูปนิสฺสยสพฺภาเว ตํตํสงฺกปฺโป วิยาติ ตทภาวาภาวโต ‘‘อชฺฌาสโย นิยเมตี’’ติ วุตฺตํ. เอตฺถาปีติ ตติยตฺเถรวาเทปิ. วุตฺตนเยเนวาติ ‘‘ยโต ยโต สมาปตฺติโต วุฏฺายา’’ติอาทินา วุตฺตนเยน. ตสฺมา ‘‘ตตฺราปิ หิ วิปสฺสนา’’ติอาทินา อิธ วุตฺตนเยน ตทตฺโถ เวทิตพฺโพ.

๘๐๑. เอวํ วิปสฺสนาย โพชฺฌงฺคาทินิยามิกตํ ทสฺเสตฺวา อิทานิ ปฏิปทาทินิยามิกตํ ทสฺเสนฺโต ‘‘สเจ ปนาย’’นฺติอาทิมาห. ตตฺถ อยนฺติ สงฺขารุเปกฺขา วุตฺตา. สาปิ หิ กามํ ‘‘อิมํ วารํ โรเจสุ’’นฺติ เอตฺถ กลาปสมฺมสนาวสาเน อุทยพฺพยานุปสฺสนาย ปวตฺตมานาย อุปฺปนฺนสฺส วิปสฺสนุปกฺกิเลสสฺส ติกฺขตฺตุํ วิกฺขมฺภเนน กิจฺฉตาวารํ ทุกฺขาปฏิปทาติ โรเจสุนฺติ วทนฺติ, อฏฺกถายํ ปน ‘‘วิปสฺสนาาเณ ติกฺเข สูเร ปสนฺเน วหนฺเต อุปฺปนฺนํ วิปสฺสนานิกนฺตึ ทุกฺเขน กสิเรน กิลมนฺโต ปริยาทิยตี’’ติ วุตฺตตฺตา ปุพฺพภาเค มุฺจิตุกมฺยตาทิภาเวน ปวตฺตมานา สงฺขารุเปกฺขา อตฺตโน ปฏิปกฺเข กิจฺเฉน กสิเรน วิกฺขมฺเภนฺตี ทุกฺขาปฏิปทาปกฺเขเยว ติฏฺตีติ. เตนาห ‘‘อาทิโต กิเลเส วิกฺขมฺภยมานา’’ติอาทิ. เกจิ ปน ‘‘เยน าเณน วิปสฺสนุปกฺกิเลสา วิกฺขมฺภิตา, เตน สทฺธึ อิทํ าณํ เอกตฺตนยวเสน เอกํ กตฺวา ‘อาทิโต กิเลเส วิกฺขมฺภยมานา’ติ วุตฺต’’นฺติ วทนฺติ. สปฺปโยเคนาติ จิตฺตปฺปโยคสงฺขาเตน สอุสฺสาหเนน. สสงฺขาเรนาติ ตสฺเสว เววจนํ. อุภเยนาปิ วิกฺขมฺภนสฺส กิจฺฉสิทฺธิเมว วทติ. วิปริยาเยนาติ อทุกฺเขน อปฺปโยเคน อสงฺขาเรน. มคฺคสฺิตํ อิจฺฉิตฏฺานํ อนุคนฺตฺวา ปริวสติ วิปฺปวสติ เอตฺถาติ ปริวาโส, วิปสฺสนา ปริวาโส เอตสฺส อตฺถีติ วิปสฺสนาปริวาโส, มคฺคปาตุภาโว, ตํ ปน สีฆํ กุรุมานา ขิปฺปาภิฺา นาม โหตีติ วุตฺตํ ‘‘สณิก’’นฺติ. กุรุมานา อยํ สงฺขารุเปกฺขาติ โยชนา. ยโต มคฺโค อาคจฺฉติ, ตํ อาคมนียฏฺานํ, ตสฺมึ อาคมนียฏฺาเน. มคฺคสฺส ปภวฏฺาเน ตฺวา นามํ เทตีติ สมฺพนฺโธ. ทุกฺขาปฏิปทาทนฺธาภิฺาทิวิปสฺสนานโย อฺโ, อฺโ เอว มคฺโคติ อาห ‘‘อตฺตโน อตฺตโน มคฺคสฺสา’’ติ. เตน อาคมนโต ลทฺธนาเมน ‘‘ทุกฺขาปฏิปทา ทนฺธาภิฺา’’ติอาทีนิ จตฺตาริ นามานิ ลภติ. น หิ มคฺคสฺส สรสโต เอทิสํ นามํ อตฺถิ.

สา ปนายํ วุตฺตปฺปเภทา ปฏิปทา. นานา โหตีติ วิสุํ วิสุํ โหติ. เอกสฺส ภิกฺขุโน จตูสุปิ มคฺเคสุ เอกาว โหตีติ นิยโม นตฺถิ จลนโต. อเหสุนฺติ วุตฺตํ, อมฺหากํ ภควนฺตํ สนฺธาย โหนฺตีติ ปน วตฺตพฺพํ. สพฺเพสมฺปิ หิ สมฺมาสมฺพุทฺธานํ จตฺตาโรปิ มคฺคา สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิฺาว โหนฺตีติ. ปฏิปทาปสงฺเคน อธิปติมฺปิ ทสฺเสตุํ ‘‘ยถา จา’’ติอาทิ วุตฺตํ. อธิปตโยติ ฉนฺทาทิอธิปตโย. ปุพฺพาภิสงฺขารานุรูปฺหิ มคฺโค ปจฺเจกํ ฉนฺทาธิปเตยฺโย วา โหติ วีริยาทีสุ อฺตราธิปเตยฺโย วา, น กสฺสจิ นิยโม อตฺถิ. เตนาห ‘‘กสฺสจิ ภิกฺขุโน’’ติอาทิ.

๘๐๒. ปุพฺเพ วุตฺตปฺปการโต สาติสยํ กตฺวา อนวเสสโต มคฺคสฺส นามลาเภ การณํ ทสฺเสตุํ ‘‘อปิจา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ สรเสนาติ สภาเวน อตฺตโน ปวตฺติวิเสเสน. ปจฺจนีเกนาติ ปฏิปกฺขวเสน. สคุเณนาติ อตฺตโน คุณวเสน.

กามฺเจตฺถ ยถา อาคมเนน วินา สคุเณน, อารมฺมเณน จ มคฺคสฺส นามลาโภ อววตฺถิโต, เอวํ ปจฺจนีเกน วินา สรเสเนว นามลาโภ, ตถาปิ สรสาทโย ปจฺเจกํ นามลาภสฺส การณเมวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘สรเสน วา’’ติอาทินา สพฺพตฺถ อนิยมตฺโถ วา-สทฺโท วุตฺโต. เต จ อสงฺกรโต ทสฺเสตุํ ‘‘สเจ หี’’ติอาทิ อารทฺธํ. ตตฺถ สมฺมสิตฺวาติ สมฺมสนเหตุ. เหตุอตฺโถ หิ อยํ ตฺวา-สทฺโท ‘‘ฆตํ ปิวิตฺวา พลํ โหติ, สีหํ ทิสฺวา ภยํ โหตี’’ติอาทีสุ วิย, มคฺคกตฺตุกาย วุฏฺานกิริยาย เอกนฺติกเหตุภูตา สงฺขารุเปกฺขา ผลูปจาเรน ‘‘วุฏฺาตี’’ติ วุตฺตา. ยสฺมา วา สงฺขารุเปกฺขาติ วุฏฺานคามินิยา เอตํ อุปลกฺขณํ, ตทนฺโตคธฺจ โคตฺรภุาณํ นิมิตฺตโต วุฏฺาติ, ตสฺมา วุตฺตํ เอกตฺตนเยน ‘‘สมฺมสิตฺวา วุฏฺาตี’’ติ. อนิมิตฺตวิโมกฺเขน วิมุจฺจตีติ อนิมิตฺตสฺิเตน วิมุจฺจเนน วิมุจฺจติ, ‘‘มคฺโค’’ติ อาเนตฺวา สมฺพนฺธิตพฺพํ. วิมุจฺจตีติ วา ตํสมงฺคี อริยปุคฺคโล. เสสทฺวเยปิ เอเสว นโย. อิทํ สรสโต นามํ นามาติ อิทํ นิมิตฺตาทิวิรหโต อนิมิตฺตํ อปฺปณิหิตํ สุฺตนฺติ ติวิธมฺปิ มคฺคสฺส สภาวโต สิทฺธนามํ นาม.

เอสาติ มคฺโค. โส จ โข ปุพฺพภาคมคฺเคน สทฺธึ เอกํ กตฺวา วุตฺโต เอกตฺตนเยน. อิทํ ปจฺจนีกโต นามํ นามาติ อิทํ นิจฺจนิมิตฺตาทีนํ ปณิธิยา, อตฺตสฺาย จ ปหานวเสน ลทฺธํ มคฺคสฺส อนิมิตฺตาทินามตฺตยํ ปฏิปกฺขโต สิทฺธนามํ นาม.

สุฺตฺตาติ วิวิตฺตตฺตา. น หิ มคฺเค ราคาทโย สนฺติ. รูปนิมิตฺตาทีนนฺติ รูปนิมิตฺตเวทนานิมิตฺตาทีนํ คเหตพฺพานนฺติ อธิปฺปาโย. ราคนิมิตฺตาทีนนฺติ เอตฺถาปิ เอเสว นโย. สวิคฺคหานํ วิย อุปฏฺานฺเหตฺถ นิมิตฺตนฺติ อธิปฺเปตํ. อิทมสฺส สคุณโต นามนฺติ อิทํ ราคาทิวิวิตฺตตฺตา รูปนิมิตฺตาทิปณิธิอาทิอภาววเสน อสฺส มคฺคสฺส สคุณโต สิทฺธํ นามํ.

สฺวายนฺติ โส อยํ มคฺโค. สุฺตนฺติ สพฺพสงฺขารสุฺโต, อตฺตสุฺโต จ สุฺตํ. สพฺพสงฺขารนิมิตฺตาภาวโต อนิมิตฺตํ. ตณฺหาปณิธิอาทีนํ อภาเวน อปฺปณิหิตํ. อิทมสฺส อารมฺมณโต นามนฺติ ยถา สุขารมฺมณํ รูปํ ‘‘สุข’’นฺติ วุจฺจติ, เอวํ สุฺตาทินามสฺส นิพฺพานสฺส อารมฺมณกรณโต อิทํ อสฺส มคฺคสฺส สุฺตาทิเภทํ อารมฺมณโต สิทฺธํ นามํ.

๘๐๓. อนตฺตานุปสฺสนา อตฺตสุฺตาย ทิฏฺตฺตา สรสโต สุฺตา นาม. ตสฺสา สุฺตาวิปสฺสนาย มคฺโค วิปสฺสนาคมเนน สุฺโต. อนิมิตฺตา นาม นิจฺจนิมิตฺตาทีนํ อุคฺฆาฏนโต. อิทํ ปน มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ น อภิธมฺมปริยาเยน ลพฺภติ. กึ การณํ? อภิธมฺเม สรสํ อนามสิตฺวา ปจฺจนีกโต นามลาภโต. โย หิ สคุณารมฺมเณหิ นามลาโภ, โส สรสปฺปธาโน โหติ, สรเสเนว จ นามลาเภ สพฺพมคฺคานํ สุฺตาทิภาโวติ ววตฺถานํ น สิยา. ตสฺมา อภิธมฺเม สติปิ ทฺวีหิปิ การเณหิ อนิมิตฺตนามลาเภ ปจฺจนีกโตว นามววตฺถานกรณํ คยฺหตีติ ตทภาวา น ลพฺภติ. อถ วา น ลพฺภตีติ อฺนิรเปกฺเขหิ สคุณารมฺมเณหิ น ลพฺภติ. กึ การณํ? อภิธมฺเม สรสปจฺจนีเกหิ สหิเตหิ นามลาภโต. ปจฺจนีกฺหิ ววตฺถานกรณํ อนเปกฺขิตฺวา เกวลสฺส สรสสฺส นามเหตุภาโว อภิธมฺเม นตฺถิ, อววตฺถานาปตฺติโต. ตสฺมา อตฺตาภินิเวสปณิธิปฏิปกฺขวิปสฺสนานุโลมา มคฺคา สติปิ สรสนฺตเร ปจฺจนีกสหิเตน สรเสน นามํ ลภนฺติ. อนิมิตฺตมคฺคสฺส ปน วิปสฺสนา นิมิตฺตปฏิปกฺขา น โหติ, สยํ นิมิตฺตคฺคหณโต นิมิตฺตคฺคหณานิวารณาติ ตทนุโลโม มคฺโคปิ น นิมิตฺตสฺส ปฏิปกฺโข. ยทิ สิยา, นิมิตฺตคตวิปสฺสนายปิ ปฏิปกฺโข สิยา, ตสฺมา วิชฺชมาโนปิ สรโส ววตฺถานกรปจฺจนีกาภาวา อภิธมฺเม อนิมิตฺตนามทายโก น คยฺหตีติ. ยทิ เอวํ, อนิจฺจานุปสฺสนานุโลโม มคฺโค อภิธมฺเม อสงฺคหิโต สิยาติ? น, สุทฺธิกปฏิปทานเย ตสฺส สงฺคหิตตฺตา. ตสฺมา เอว หิ โส วุตฺโต. สุตฺตนฺเต ปน ปริยายเทสนตฺตา สคุณารมฺมณมตฺเตนปิ นามํ คยฺหตีติ อาห ‘‘สุตฺตนฺตปริยาเยน ลพฺภตี’’ติ. ยํ ปเนตฺถ วตฺตพฺพํ, ตํ เหฏฺา วุตฺตเมว. อาคมนวเสนปิ มคฺคสฺส อนิมิตฺตนามํ ลพฺภติเยวาติ ทสฺเสตุํ ‘‘ตตฺรา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. อาคมนียฏฺาเนติ อาคมนปฏิปทาาเน. เสสํ วุตฺตนยตฺตา อุตฺตานเมวาติ.

สงฺขารุเปกฺขาาณํ นิฏฺิตํ.

อนุโลมาณกถาวณฺณนา

๘๐๔. อธิโมกฺขสทฺธาติ ปสาทภูโต วตฺถุคโต นิจฺฉโย อธิโมกฺโข. ตสฺมา ตถาภูตา ภาวนาวิเสเสน กิจฺจโต อธิมตฺตตาย พลวตรา นิพฺพตฺตติ. สุปคฺคหิตนฺติ สุฏฺุ ปคฺคหิตํ. อสลฺลีนํ ปฏุตรภาเวน ปฏิปกฺขวิธมนสมตฺถํ วีริยํ โหติ. สูปฏฺิตาติ ติกฺขตรตาย อารมฺมณาภิมุขภาเวน สุฏฺุ อุปฏฺิตา สติ โหติ. สุสมาหิตนฺติ ปสฺสทฺธิสุขานํ สาติสยตาย สุฏฺุ สมาหิตํ อารมฺมเณ สมฺมเทว ปิตํ อปฺปิตํ วิย โหติ. ติกฺขตราติ อนุโลมาณุปฺปตฺติยา ปจฺจโย ภวิตุํ สมตฺถภาเวน สาติสยํ ติกฺขา สูรา. สงฺขารานํ วิจินเนปิ มชฺฌตฺตภูตสงฺขารุเปกฺขา ปฺา อุปฺปชฺชติ. อนิจฺจาติ วา…เป… สมฺมสิตฺวา ภวงฺคํ โอตรตีติ อนิจฺจาทีสุ เอเกนากาเรน สมฺมสนฺตี สตฺตกฺขตฺตุํ ปวตฺติตฺวา ภิชฺชนฺตี ภวงฺคํ โอติณฺณา นาม โหติ ตโต ปรํ ภวงฺคสฺส วาโรติ กตฺวา. สงฺขารุเปกฺขาย กตนเยเนวาติ อนิจฺจาทินา อาลมฺพนกรณนเยเนว, น สมฺมสิตนเยน. เตนาห ‘‘อารมฺมณํ กุรุมาน’’นฺติ. อาวฏฺเฏตฺวาติ นิวตฺเตตฺวา จิตฺตสฺส ภวงฺควเสน วตฺติตุํ อทตฺวา. วิสทิสจิตฺตปวตฺติสงฺขาตาย วีจิยา อภาเวน อวีจิกา, จิตฺตสนฺตติ. กิริยมโนธาตุยา หิ ภวงฺเค อาวฏฺฏิเต กิริยมยจิตฺตปวตฺติวิปากจิตฺตุปฺปตฺติยา สวีจิกา สนฺตรา, น เอวํ มโนทฺวาราวชฺชเนนาติ วุตฺตํ ‘‘อวีจิกํ จิตฺตสนฺตตึ อนุปฺปพนฺธมาน’’นฺติ. ตเถวาติ ยถา อตีตาสุ ทฺวตฺตึสชวนวีถีสุ สงฺขารุเปกฺขา ‘‘อนิจฺจา’’ติ วา ‘‘ทุกฺขา’’ติ วา ‘‘อนตฺตา’’ติ วา สงฺขาเร อารมฺมณมกาสิ, ตเถว. ปริกมฺมนฺติ วุจฺจติ มคฺคสฺส ปริกมฺมตฺตา ปฏิสงฺขารกตฺตา . อุปจารนฺติ วุจฺจติ มคฺคสฺส อาสนฺนตฺตา, สมีปจาริกตฺตา วา. อนุโลมตฺตํ สยเมว วทติ.

อยฺจ นโย กามํ มคฺควีถิยํ ปมชวนสฺส ปฏิสงฺขรณฏฺโ, ทุติยสฺส ตโต อาสนฺนฏฺโ, ตติยสฺส เหฏฺิมุปริมานํ อนุโลมฏฺโ จ ยุตฺโตติ วุตฺโต, ตถาปิ สพฺเพสมฺปิ อิมา สมฺา สมฺภวนฺตีติ ทสฺเสตุํ ‘‘อวิเสเสน ปนา’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อาเสวนนฺติ อาทเรน เสวนํ. ปุริมภาคปจฺฉิมภาคานนฺติ เหฏฺิมานํ, อุปริมานฺจ ธมฺมโกฏฺาสานํ. อฏฺนฺนนฺติ อุทยพฺพยาณาทีนํ อฏฺนฺนํ. สพฺพาปิ วิปสฺสนา ลกฺขณตฺตยสมฺมสนกิจฺจาว , อิทมฺปิ ตเถวาติ วุตฺตํ ‘‘ตถกิจฺจตายา’’ติ. อุปรีติ มคฺเค. โพธิปกฺขิยธมฺมานํ ตถกิจฺจตาย อนุโลเมติ สมฺโมสาทิปฏิปกฺขวิธมนโต. อิทานิ อนุโลมาณสฺส ตทุภยกิจฺจานุโลมํ วิตฺถารโต ทสฺเสตุํ ‘‘ตฺหี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อนุโลมาณํ สจฺจปฏิจฺฉาทกโมหกฺขนฺธาทีนํ สาติสยํ วิธมเนน โลกิยาเณสุ อุกฺกํสปริยนฺตคตํ, ตโต เอว เหฏฺา นิพฺพตฺติตอุทยพฺพยาณาทีนมฺปิ กิจฺจํ ปฏิปกฺขทูรีภาเวน อตฺถโต สาเธนฺตเมว หุตฺวา ปวตฺตติ, ตถาปวตฺตมานฺจ เตสํ กิจฺจํ อนุโลเมนฺตํ วิย โหตีติ อาห ‘‘อุทยพฺพยวนฺตานํ…เป… ตถกิจฺจตาย อนุโลเมตี’’ติ. ตตฺถ ‘‘ภยโต อุปฏฺิต’’นฺติ อิมินาปิ อารมฺมณสีเสน าณพฺยาปารเมว วทติ สปฺปฏิภยานํ สงฺขารานํ ยถาสภาวทสฺสนทีปนโต. เสเสสุ ปน สตฺตสุปิ าเนสุ าณพฺยาปาโรว ทสฺสิโต. ยสฺมา เอตํ อนุโลมาณํ อนิจฺจาทีสุ อฺตรลกฺขณวเสเนว สงฺขาเร อารพฺภ ปวตฺตติ, ตสฺมา วุตฺตํ ‘‘อนิจฺจลกฺขณาทิวเสน สงฺขาเร อารพฺภ ปวตฺตตฺตา’’ติ. ตาย ปฏิปตฺติยาติ ยา สา อนุโลมาณสฺส ถูลถูลสจฺจปฏิจฺฉาทกสํกิเลสวิกฺขมฺภนปฏิปตฺติ, ตาย. น หิ อนุโลมาเณ ตถา อนุปฺปนฺเน โคตฺรภุาณํ นิพฺพานํ อาลมฺพิตุํ สกฺโกติ, โคตฺรภุาเณ วา อนุปฺปนฺเน มคฺคาณํ อุปฺปชฺชตีติ.

วุตฺตมตฺถํ โอปมฺเมน ปากฏตรํ กาตุํ ‘‘ยถา หี’’ติอาทิ วุตฺตํ. ตตฺถ อฏฺนฺนํ โวหาริกมหามตฺตานํ อคติคมนํ ปหาย ตํตํวินิจฺฉยกรณํ วิย อฏฺนฺนํ าณานํ ยถาสกํ ปฏิปกฺขํ ปหาย สงฺขาเรสุ อุทยพฺพยาทิปฏิปตฺติ, รฺโ มชฺฌตฺตภาโว วิย อนุโลมาณสฺส ปุริมปจฺฉิมธมฺมโกฏฺาสสฺส อนุกูลตา. เตเนวาติ เหฏฺิมาณานํ อนุโลมนมุเขน อุปริโพธิปกฺขิยานํ อนุโลมนโตเยว. สจฺจานุโลมิกนฺติ วุจฺจติ มคฺคสจฺจสฺส อนุโลมิกตฺตา.

อนุโลมาณํ นิฏฺิตํ.

วุฏฺานคามินีวิปสฺสนากถาวณฺณนา

๘๐๕. กิฺจิ อสงฺขตารมฺมณมฺปิ าณํ วุฏฺานคามินิยา เอกสงฺคหนฺติ กตฺวา ‘‘สงฺขารารมฺมณายา’’ติ วิเสสนํ กตํ. ตฺหิ วิเสสโต วุฏฺานํ อริยมคฺคํ คจฺฉติ อุเปตีติ วุฏฺานคามินีติ วตฺตพฺพตํ ลภติ. เตนาห ‘‘สพฺเพน สพฺพ’’นฺติอาทิ. อสมฺโมหตฺถนฺติ ตตฺถ ตตฺถ สุตฺเต ปริยายนฺตเรหิ อาคตาย สมฺโมหาภาวตฺถํ. สุตฺตสํสนฺทนาติ สุตฺตานํ เตสํ เตสํ สุตฺตปทานํ อนุสนฺทานํ.

เย โลกิเย สงฺขาเร อารพฺภ อนุโลมปริโยสานา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา ปวตฺตติ, ตํสนฺนิสฺสิตา ตปฺปฏิพทฺธา ตณฺหา เตหิ วินา อปฺปวตฺตนโต ตมฺมยา นาม, ตมฺมยาว ตมฺมยตา, ตมฺมยา วา ตณฺหาสมฺปยุตฺตา ขนฺธา, เตสํ ภาโว ตมฺมยตา, สา เอว ตณฺหา. ตปฺปฏิปกฺขา วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อตมฺมยตา. เตน วุตฺตํ อฏฺกถายํ ‘‘ตมฺมยตา นาม ตณฺหา, ตสฺสา ปริยาทิยนโต วุฏฺานคามินิวิปสฺสนา อตมฺมยตาติ วุจฺจตี’’ติ (ม. นิ. อฏฺ. ๓.๓๑๐). นิสฺสายาติ ตํ อตมฺมยตํ นิสฺสยํ กตฺวา, ภาเวตฺวาติ อตฺโถ. เอกตฺตาติ เอตฺถ อยํ ปาฬิ ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา รูเปสุ…เป… โผฏฺพฺเพสุ, อยํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา นานตฺตา นานตฺตสิตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๑๐), สยมฺปิ นานาสภาวา, นานารมฺมณนิสฺสิตา จาติ อตฺโถ. สา ปน สมาธิสมฺปยุตฺตา วิปสฺสนุเปกฺขา เวทิตพฺพา. ‘‘อตฺถิ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา อากาสานฺจายตนนิสฺสิตา…เป… เนวสฺานาสฺายตนนิสฺสิตา, อยํ, ภิกฺขเว, อุเปกฺขา เอกตฺตา เอกตฺตสิตา’’ติ (ม. นิ. ๓.๓๑๐). ยา หิ ตํตํอรูปจิตฺตุปฺปาทปริยาปนฺนา อุเปกฺขา, สา เอกสภาวตฺตา, เอการมฺมณตฺตา จ เอกตฺตา, เอกตฺตสิตา จาติ วุจฺจติ, สา ปน ตํตํฌานสหคตเวทนุเปกฺขา จ ตทารมฺมณวิปสฺสนุเปกฺขา จาติ วทนฺติ. ตํ ปชหถาติ ตทารมฺมณกิเลสปหาเนน ปชหถ. เตนาห ‘‘ตํ สมติกฺกมถา’’ติ.

นิพฺพิทาติ วุฏฺานคามินี. ตตฺถ หิ สุตฺเต วิรชฺชตีติ มคฺคกิจฺจมาห, วิมุจฺจตีติ ผลกิจฺจํ.

สุสิมสุตฺตํ นิทานวคฺเค. ตตฺถ ธมฺมฏฺิติาณํ วุฏฺานคามินีติ วุตฺตา ธมฺมฏฺิติยํ ปฏิจฺจสมุปฺปาเท อสมฺมุยฺหนวเสน ปวตฺตนโต. นิพฺพาเน าณนฺติ มคฺคาณมาห.

สฺา โข, โปฏฺปาทาติ เอตฺถ กามํ ‘‘สฺา’’อิจฺเจว วุจฺจติ, ปุพฺเพ ปน ‘‘สฺคฺคํ ผุสตี’’ติ วุตฺตตฺตา อาห ‘‘สฺคฺคนฺติ วุตฺตา’’ติ.

ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธีติ ตเทกเทสภูตา วุฏฺานคามินี วุตฺตา. สมุทาเยสุ หิ ปวตฺตา โวหารา อวยเวสุปิ ปวตฺตนฺตีติ. ปาริสุทฺธิปธานิยงฺคนฺติ ปาริสุทฺธิยา ปธานการณํ.

ตีหิ นาเมหีติ อนุโลมโคตฺรภุโวทานสงฺขาเตหิ ตีหิ นาเมหิ.

กิตฺติตาติ โถมิตา อริยมคฺคาธิฏฺานตาย. มหนฺตานํ สีลกฺขนฺธาทีนํ เอสนฏฺเน มเหสินา สมฺมาสมฺพุทฺเธน. สนฺตกิเลสตาย สนฺตา. โยคนฺติ ภาวนํ, ภาวนาภิโยคํ วา.

ปฏิปทาาณทสฺสนวิสุทฺธินิทฺเทสวณฺณนา นิฏฺิตา.

อิติ เอกวีสติมปริจฺเฉทวณฺณนา.